- ๑๔๐ -
จ. เจา้ หนา้ ทสี าธารณูปโภคของเมอื งคือผู้ทีทาํ ประโยชนใ์ หก้ บั หน่วยทีทาํ การรบในพืนทีสิง
ปลกู สรา้ ง โดยเป็ นผูจ้ ัดเตรียมแผนผงั ของระบบนาํ เสียและระบบไฟฟ้ า รวมทงั ขอ้ มูลตา่ งๆ ของเมืองที
สาํ คัญ ในการพิจารณาใชร้ ะบบนาํ เสีย ซึงอาจมีหลุมของก๊าซมีเทนทีเป็นพิษตอ่ มนุษยแ์ ละเจา้ หนา้ ที
สาธารณปู โภคของเมอื งจะเป็นผูใ้ หค้ าํ แนะนาํ หนว่ ยถึงพืนทอี นั ตรายและวิธีการหลีกเลียง
๕ – ๒๓ ระบบหาพิกดั ด้วยดาวเทียม
ระบบเครืองหาพิกดั ดว้ ยดาวเทียมส่วนใหญจ่ ะใชเ้ ทคนิคของสามเหลียม โดยการใชด้ าวเทยี ม
คาํ นวณหาตาํ แหน่ง และจากการทดสอบในขนั ตน้ พบวา่ ระบบเครืองหาพิกดั ดว้ ยดาวเทียมไมไ่ ดร้ บั ผล
กระทบจากพืนทสี ิงปลกู สรา้ งขนาดเล็ก เชน่ หมบู่ า้ น แตใ่ นพืนทสี ิงปลกู สร้างขนาดใหญ่ทีมีอาคาร ตึกสูง
ตาํ ผสมกนั จะลดขีดความสามารถของเครืองมือหาพิกดั จากดาวเทยี ม และจะส่งผลมากขึนเมอื นาํ เครืองมือ
เขา้ ไปในอาคารใหญ่หรือนาํ ลงไปใตด้ ิน
๕ - ๒๔ ภาพถ่ายทางอากาศ
ภาพถ่ายทางอากาศในปัจจบุ นั สามารถใชเ้ สริมกบั แผนทีทางทหารของเมอื งหรือใช้ทดแทนได้
เป็นอยา่ งดี เพราะแผนทที างภมู ศิ าสตร์และแผนทีทางทหารของเมอื งอาจมคี วามลา้ สมยั เนืองจากทาํ การ
รวบรวมผลิตมาเป็นเวลาหลายปี โดยภาพถา่ ยทางอากาศทเี พิงได้มาจะแสดงถึงความเปลียนแปลงทถี กู
แทนทตี งั แตห่ ้วงทีแผนทไี ดท้ าํ การผลิต รวมไปถึงอาคารทถี ูกทาํ ลาย ถนนทถี ูกปิดกนั โดยเศษซากอิฐทหี กั
พงั ตลอดจนการเตรียมการตงั รบั ของขา้ ศกึ ซึงขอ้ มลู ข่าวสารจะสมบรู ณ์เมอื ใชภ้ าพถา่ ยทางอากาศร่วมกบั
แผนที
ตอนที ๕
การพราง
เพือชยั ชนะและความอยู่รอดในสนามรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง หน่วยจะตอ้ งทาํ การพราง
เพิมเติมจากการกาํ บงั และการซอ่ นพราง และเพือใหม้ คี วามเหมาะสมในการพรางบุคคล การบรรทกุ และ
เครืองมอื ยทุ โธปกรณ์ ทหารจะตอ้ งศึกษาพนื ทีสภาพแวดลอ้ มและปรับปรุงทีตงั ใหก้ ลมกลืนกบั ภมู ิ-
ประเทศ
๕ – ๒๕ ข้อมูลทเี ป็ นประโยชน์
วสั ดุทีใชใ้ นการพรางทีตงั ควรใชเ้ ทา่ ทีจาํ เป็น เพราะวสั ดุทีเหลอื จะเปิ ดเผยทตี งั ซึงวสั ดุทีใช้
ควรมาจากหลายๆ แหล่ง ตวั อยา่ งเช่น การตงั รบั ในอาคารทมี ถี นนดํา ไมต่ อ้ งทาแถบสีพรางอาคาร
ดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ ง และดา้ นหลงั
ก. ภายในอาคารมีทีซ่อนจาํ นวนมาก ยานเกราะสามารถหาทีตงั แยกโดดเดียวในทางลอดซุ้ม
โรงงานอุตสาหกรรมเลก็ ๆ หรือในสถานีกระจายเสียง โดยใชต้ ึก หิน หรือกาํ แพงอิฐหนาเป็นเครือง
ป้ องกนั จากการยิงเลง็ ตรงและซอ่ นพรางเส้นทางเคลอื นที
- ๑๔๑ -
ข. หลงั จากทาํ การพรางเรียบรอ้ ยแลว้ ทหารจะตอ้ งตรวจทีตงั จากมมุ มองของขา้ ศึก และตรวจ
ตราเป็นประจาํ เพอื ใหก้ ารพรางดูเป็นธรรมชาติและซอ่ นพรางทีตังอยตู่ ลอดเวลา หากผิดธรรมชาติจะตอ้ ง
ปรับปรุงหรือเปลียนวสั ดใุ หม่
ค. ทีตงั จะตอ้ งทาํ การพรางใหด้ ีขึนเรือยๆ ซึงงานจะตอ้ งกระทาํ อยา่ งตอ่ เนืองจนกวา่ การพราง
จะสําเร็จ หากข้าศกึ มคี วามไดเ้ ปรียบทางอากาศจะตอ้ งทาํ งานในเวลากลางคนื สําหรับวตั ถุสะทอ้ นแสง
หรือสีทสี วา่ งดึงดูดความสนใจจากทางอากาศจะตอ้ งหาทซี อ่ นไว้
ง. ทหารจะตอ้ งสวมเสือเนืองจากผิวหนงั จะสะทอ้ นแสงและดึงดดู ความสนใจข้าศกึ แมแ้ ตผ่ ิว
ดาํ ก็สะทอ้ นแสงจากนาํ มนั ตามธรรมชาติ
จ. การใชส้ ีพรางหนา้ จะมีใชต้ ามมาตรฐาน ๓ แบบ มีแทง่ สี ๒ เฉดสี หากไม่มใี หใ้ ชจ้ ุกกอ๊ ก
เผาไฟ ถ่าน หรือเขมา่ ไฟ ในการลดความสวา่ งสีผิวทีเปิดเผย และการใชโ้ คลนเป็นทางเลือกสุดทา้ ย
เนอื งจากจะหลดุ ล่อนจากผิวหนงั ออกเมือแหง้ และเป็นอนั ตรายกบั ผิวหนงั จากเชือแบคทเี รีย
๕ - ๒๖ การใช้ร่มเงา
อาคารในพืนทีสิงปลกู สร้าง มรี ่มเงาทีมดื ทึบ เหมาะสาํ หรบั การซ่อนพรางยานพาหนะและ
ยทุ โธปกรณ์ (รูปที ๕-๔๓) ทหารจะตอ้ งหลกี เลียงการใชพ้ ืนทที ไี มม่ ีร่มเงา โดยยานพาหนะจะตอ้ ง
เคลือนทีเป็นระยะๆ เนืองจากการเปลียนตาํ แหนง่ ของเงาในหว้ งเวลากลางวนั การเขา้ ทีตงั ในอาคารจะให้
การซอ่ นพรางทดี ีกวา่
- ๑๔๒ -
รูปที ๕ - ๔๓ การใช้ร่มเงาในการซ่อนพราง
ก. ทหารจะต้องหลีกเลียงพืนทีสวา่ งรอบๆ หนา้ ตา่ งและชอ่ งกาํ แพง ซึงการยิงจากทรี ่มภายใน
หอ้ งจะช่วยการพรางไดด้ กี วา่ (รูปที ๕-๔๔)
ข. ผา้ ม่านและผา้ ขดั หนงั ช่วยเพิมการซ่อนพรางใหท้ หารภายในหอ้ ง หากผา้ มา่ นดูกลมกลืนกับ
พืนที หา้ มใชแ้ สงไฟในหอ้ ง
- ๑๔๓ -
ไม่เห็นแสงปากลาํ กลอ้ ง
จากภายนอก
รูปที ๕ - ๔๔ การซ่อนพรางภายในอาคาร
๕ – ๒๗ สีและลวดลาย
รูปแบบมาตรฐานการพรางโดยการทาสียุทโธปกรณ์ ไมค่ ่อยไดผ้ ลในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง ได้แก่
การทาํ ใหส้ ีทึบ ทาํ ใหห้ มอง ทาํ สีเข้มซอ่ นอยูใ่ นเงามืด เนืองจากการทาสียานพาหนะใหมก่ อ่ นเข้าพืนทมี กั
กระทาํ ไมไ่ ด้ สาํ หรับการทาสีสวา่ งแบบพืนทรายสามารถใชฝ้ ่ ุนหรือโคลน
- ๑๔๔ -
ก. ความตอ้ งการลดการตดั กบั ฉากหลงั ของหมวกเหล็กและยทุ โธปกรณ์ส่วนตวั ในพืนทสี ิงปลกู
สรา้ งกระทาํ เช่นเดียวกบั พืนทอี ืนๆ แตก่ ารใชส้ ีแบบกระสอบป่านหรือผา้ ใบจะไดผ้ ลกวา่ การพรางแบบ
ใบไม้ (รูปที ๕-๔๕) ซึงสีทีดีทีสุดคือสีนาํ ตาล สีแทน และสีเทา ทนี ิยมมากกวา่ การใช้สีเขียว ซึงใชพ้ ราง
ไดใ้ นบางพนื ที
รูปที ๕ - ๔๕ การพรางหมวกเหล็กด้วยเศษผ้ากระสอบ
ข. ทีตงั อาวธุ ยงิ ควรใชผ้ า้ ห่มเปี ยก (รูปที ๕-๔๖) ผา้ ใบ หรือเสือผา้ เพือป้ องกนั ฝ่ ุนทเี กิดขณะทาํ
การยงิ
ค. ทีตงั บงั คบั การและทตี งั การส่งกําลงั สามารถทาํ การพรางไดง้ ่ายหากตงั อยใู่ ตด้ ิน โดยเสา
อากาศสามารถตอ่ สายขึนไปชนั บนหรืออาคารทีสูงกว่าขนึ อยกู่ ับขีดความสามารถในการใชง้ าน รวมทงั
สายโทรศพั ท์สนามควรวางลอดในทอ่ สายไฟ ในทอ่ นาํ เสีย หรือผา่ นในอาคาร
ง. ทหารควรพิจารณาถึงฉากหลงั เพือใหแ้ น่ใจวา่ มีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและไม่ทาํ
ตวั ตดั กบั ฉากหลงั หรือเสน้ ขอบฟ้ า และเพือทาํ ใหก้ ารพรางของข้าศกึ ไมไ่ ดผ้ ล ทหารจะตอ้ งระวงั ความ
ผิดพลาดของการพราง ดงั ต่อไปนี
การเคลอื นไหวของรถบรรทกุ หรือสิงอนื ๆ
แสงสะทอ้ นในร่มเงา
สีหรือลวดลายทผี ิดธรรมชาติ
แสงไฟจากปากลาํ กลอ้ ง ควนั หรือฝ่ ุน
เสียงและกลินทีผิดธรรมชาติ
- ๑๔๕ -
การเคลอื นที
นํา
ผา้ ห่มเปี ยก
รูปที ๕ - ๔๖ การใช้ผ้าห่มเปี ยกเพือป้ องกันฝ่ ุนทฟี ้ ุงกระจาย
จ. ทีตงั ลวงสามารถใชไ้ ดผ้ ลเพือใหข้ า้ ศึกไขวเ้ ขวและเปิดเผยทตี งั จากการยงิ
ฉ. พืนทีสิงปลกู สร้างเออื อาํ นวยทีกาํ บงั ทรัพยากรสําหรับการพราง และทีตงั ทมี กี ารซอ่ นพราง ซึง
มกี ฎพืนฐานในการกาํ บงั การพราง และการซอ่ นพราง ทคี วรยดึ ถือ ดงั นี
๑) ใชภ้ ูมิประเทศและเปลียนนิสยั การพรางใหเ้ ขา้ กับสภาวะแวดลอ้ ม
๒) ทาํ การพรางอาคารสาํ หรับการลวง
๓) ปรบั ปรงุ ทีตงั อยา่ งตอ่ เนือง โดยเสริมความแข็งแรงทตี งั ดว้ ยกระสอบทรายหรือวสั ดุป้องกนั
ในการลดแรงระเบิดและสะเกด็ ระเบิด
๔) รักษาความเป็นธรรมชาตขิ องพืนที
๕) ทาํ การซอ่ นเร้นทตี งั โดยการเคลือนยา้ ยซากปรักหกั พงั ใหน้ ้อยทีสุดสาํ หรับพืนการยิง
๖) เลือกป้อมยงิ ในจดุ ทไี มเ่ ด่น
หมายเหตุ : พึงระลึกเสมอวา่ กาํ ลงั พลทีมีการกาํ บงั และการซอ่ นพรางจะมีความไดเ้ ปรียบกวา่ ผูท้ ไี มท่ าํ
- ๑๔๖ -
บทที ๖
การสนับสนุนการรบ
การสนบั สนนุ การรบ ไดแ้ ก่ การยิงสนบั สนนุ และการเตรียมการสิงอุปกรณต์ ่างๆ ทีเป็นเครืองมอื
ชว่ ยในการรบ อนั ประกอบด้วย ปื นใหญ่สนาม การป้ องกนั ภยั ทางอากาศ การบนิ (มา้ อากาศเป็นส่วน
นอ้ ย) ทหารช่าง สารวตั รทหาร การติดตอ่ สือสาร สงครามอิเลก็ ทรอนิกส์ และนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี
๖ – ๑ เครืองยงิ ลูกระเบิด (ค.)
เครืองยงิ ลูกระเบดิ เป็นอาวุธทีมใี ชแ้ พร่หลายและตอบสนองการยงิ เล็งจาํ ลองของผูบ้ งั คบั กองพนั
และผู้บงั คับกองร้อยมากทสี ุด ในภารกิจการสนบั สนนุ การยงิ ใหก้ บั หนว่ ยดาํ เนินกลยทุ ธอ์ ยา่ งใกลช้ ิดและ
ทนั ทีทนั ใด ซึงเครืองยิงลกู ระเบิดมคี วามเหมาะสมในการรบในพืนทสี ิงปลกู สรา้ งเป็นอยา่ งดี เนืองจากมี
อตั ราการยิงสูง มีมุมตกสงู และระยะยิงใกลส้ ุดสนั โดยผบู้ งั คบั กองพนั และผูบ้ งั คบั กองรอ้ ยจะตอ้ งวาง
แผนการสนบั สนนุ เครืองยงิ ลกู ระเบิดทจี ดั ทาํ โดยนายทหารการยงิ สนับสนนุ ใหเ้ ป็ นส่วนหนึงของระบบ
การยงิ สนับสนุนทงั หมด (ดขู อ้ มูลรายละเอยี ดเพิมเติมเกยี วกบั เทคนิคการ ใชเ้ครืองยิงลูกระเบิด จาก รส.
๗-๙๐)
ก. หน้าทขี องหน่วยเครืองยงิ ลูกระเบิด หน่วยเครืองยิงลกู ระเบิดมหี นา้ ทใี นการยิงข่ม เพอื
สนบั สนุนการดาํ เนินกลยทุ ธ์ โดยเฉพาะในการตอ่ ตา้ นทหารราบเดินเทา้ ซึง ค. สามารถใชใ้ นการยิงกาํ บงั
ยิงตดั รอน ยิงข่ม หรือยิงส่องสวา่ งระหวา่ งการปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื ง โดยการยิงของ ค. จะยบั ยงั
การยงิ และการเคลือนทีของขา้ ศกึ เพอื ใหก้ าํ ลงั ฝ่ ายเราสามารถดาํ เนินกลยทุ ธ์ไปยงั ตาํ แหนง่ ทีมีความ
ไดเ้ ปรียบ การรวมอาํ นาจการยงิ อยา่ งไดผ้ ลของ ค. เข้ากบั การดาํ เนินกลยุทธ์ของทหารราบเดินเทา้ เป็น
หวั ใจของความสาํ เร็จในการรบในพืนทีสิงปลูกสรา้ งของกองรอ้ ยปื นเลก็ และหน่วยระดับกองพนั
ข. การเลือกทีตงั ยิง การเลือกทตี งั ยิงของเครืองยิงลกู ระเบดิ ขึนอยกู่ บั ขนาดของอาคาร ขนาดของ
พืนทีเมือง และภารกิจ รวมทงั สามารถใชเ้ ศษอิฐเศษหนิ สร้างเชงิ เทนิ สําหรับเป็นทีตงั ยิง
๑) การใช้โครงสร้างทีมอี ยู่ (เช่น โรงรถ อาคารสาํ นักงาน หรือสะพานลอย) เพอื ปิ ดบงั ทตี งั ยิง
เป็นขอ้ แนะนาํ สาํ หรบั การป้ องกนั สูงสุดและการใชค้ วามพยายามในการซ่อนพรางนอ้ ยทสี ุด โดยการใช้
เครืองกาํ บงั อยา่ งถูกตอ้ งจะเพิมความสามารถในการอยรู่ อด ถา้ เครืองยิงลูกระเบิดตอ้ งทาํ การยงิ ด้วยมุมยิง
เกิน ๘๘๕ มลิ เลียม ในการกวาดลา้ งดา้ นหนา้ เครืองกาํ บงั จะลดภยั คกุ คามจากกองรอ้ ยต่อตา้ น ป. ของ
ขา้ ศึก ซึงหลกั การนีสามารถใชไ้ ดท้ งั ในการเขา้ ตแี ละการตงั รับ
๒) เครืองยงิ ลกู ระเบดิ ไมส่ ามารถตงั ยิงบนพืนคอนกรีตโดยตรง แต่สามารถใชก้ ระสอบทรายรอง
๒-๓ ชัน ใหด้ า้ นหลงั ชิดขอบหรือชิดผนงั กาํ แพงและเพิมกระสอบทรายรอบๆ แผ่นฐานความกวา้ งอยา่ ง
นอ้ ยเทา่ กบั กระสอบทราย ๑ ถุง
- ๑๔๗ -
๓) ปกติจะไมต่ งั ยิง ค. บนดาดฟ้ าอาคารอนั ก่อใหเ้ กิดจดุ ออ่ น เนืองจากไม่มีทีกาํ บงั รวมทงั ไมค่ วร
ตงั ยิงในอาคารทีหลงั คาเสียหาย เวน้ แตไ่ ด้ตรวจสอบความมนั คงแข็งแรงของอาคารแลว้ เนืองจากแรงดนั
สามารถทาํ อนั ตรายกบั กาํ ลังพล และแรงกระแทกทีพนื จะทาํ ใหพ้ ืนเสียหายหรือทาํ ใหอ้ าคารถล่มได้
ค. การตดิ ต่อสือสาร ควรเพิมการใชก้ ารสือสารทางสาย พลนาํ สาร และทศั นสัญญาณ อย่างไรก็
ตาม การติดตอ่ สือสารระหวา่ งผูต้ รวจการณ์หน้า หน่วยยงิ สนบั สนนุ และศนู ย์อาํ นวยการยิง และส่วนยิง
เครืองยงิ ลูกระเบดิ ควรใชก้ ารสือสารทางสายเป็นหลกั กรณีทแี ต่ละส่วนอยใู่ กลก้ ัน รวมทงั การส่งคลืน
วิทยุระบบ เอฟ.เอ็ม. (FM) ในพืนทีสิงปลูกสรา้ งอาจมคี วามผดิ พลาดไมแ่ นน่ อน เนืองจากโครงสรา้ งจะลด
ระยะการรับสง่ วทิ ยุ แต่การใชเ้ สาอากาศระยะไกลบริเวณชนั บนของอาคารจะชว่ ยเพิมความสามารถใน
การติดต่อ สือสารและเพิมโอกาสในความอยรู่ อดของพนกั งานวิทยุ ซึงเทคนิคอืนสามารถนําประยกุ ต์ใช้
ในการเพิมการรับส่งวิทยุ ไดแ้ ก่ การใช้ระบบการสือสารของพลเรือนทีมีอยเู่ พือเสริมความสามารถในการ
สือสารของหน่วย
ง. การรบกวนสนามแม่เหล็ก ในสภาพแวดลอ้ มของเมือง เครืองมือทกี อ่ ใหเ้ กิดสนามแม่เหลก็
ทงั หมดจะไดร้ ับผลกระทบจากโครงสรา้ งเหล็กโดยรอบสายไฟฟ้ า และรถยนต์ โดยระยะใกลส้ ุดในการ
ใชเ้ ข็มทิศ เอ็ม.๒ (M2) (รส.๒๓-๙๐) ยากทีจะกาํ หนดได้ สาํ หรับการแกป้ ญั หานี มุมภาคทิศเหนอื จะหาได้
จากระยะไปยงั จดุ เล็ง จากมุมภาคทศิ เหนือนใี หน้ าํ ค่ามุมภาคทศิ เหนอื กลบั มาหกั ลบออก ผลตา่ งจะเป็ น
ดชั นีบนมาตราสีแดง และหมนุ เครืองยงิ จนกระทงั เสน้ เล็งทางดิงทาบทบั จดุ เล็ง ซึงลกั ษณะสําคญั เชน่
ทิศทางของถนนสามารถนํามาใช้แทนระยะไปยงั จดุ เล็งได้
จ. กระสุนระเบดิ แรงสูง ในระหวา่ งการปฏิบตั ิการทางทหารในเมือง การยิงกระสุนระเบิดแรงสูง
ของเครืองยงิ ลูกระเบดิ จะใชม้ ากกวา่ กระสุนชนิดอืนของอาวธุ เล็งจาํ ลอง ซึงการใช้เครืองยงิ ลกู ระเบิด
ตามปกติและแพร่หลายมากทสี ุด ไดแ้ ก่ การยิงรบกวนและขดั ขวาง โดยหนึงในการสนบั สนนุ ทีสาํ คญั
ทีสุดคือ การขดั ขวางการส่งเสบียง ความพยายามในการส่งกลบั และการเพิมเติมกาํ ลงั ในแนวหลงั ของ
ขา้ ศกึ ทอี ยหู่ ลงั ทมี นั ตงั รับทีอยขู่ ้างหนา้ และแมว้ า่ การยิงของเครืองยิงลกู ระเบิดมกั กาํ หนดเป้ าหมายบริเวณ
ถนนและพืนทีโล่ง แต่รูปอาการกระจายของการยงิ เล็งจาํ ลองมกั สง่ ผลไปถกู อาคารหลายนดั ดงั นนั ผูน้ าํ
หนว่ ยจะตอ้ งใหค้ วามสนใจขณะทาํ การวางแผนการยงิ เครืองยิงลูกระเบดิ ระหวา่ งการปฏิบตั ิการทางทหาร
ในเมือง เพอื ใหเ้ กิดความเสียหายขา้ งเคียงนอ้ ยทีสุด
๑) กระสุนระเบดิ แรงสูง โดยเฉพาะเครืองยงิ ลูกระเบิดวถิ ีโคง้ ขนาด ๑๒๐ มม. จะใหผ้ ลดีเมอื ใช้
กบั โครงสรา้ งอาคารขนาดเบาในเมอื ง แตไ่ มส่ ามารถใชอ้ ย่างไดผ้ ลในการทาํ ลายคอนกรีตเสริมเหล็กทพี บ
ในพืนทเี มืองใหญ่
๒) เมือใชก้ ระสุนระเบิดแรงสูงในการต่อสใู้ นเมอื ง จะใชเ้ ฉพาะชนวนกระทบแตกเทา่ นนั
สาํ หรับชนวนแตกอากาศใกลเ้ ป้ าหมายสมควรหลีกเลียง เนืองจากลักษณะของพืนทสี ิงปลกู สร้างอาจทาํ ให้
- ๑๔๘ -
การทาํ งานของชนวนแตกก่อนกาํ หนด อยา่ งไรก็ตามสามารถใชช้ นวนนีในการโจมตีเป้ าหมาย เช่น ที
ตรวจการณท์ ีอยบู่ นดาดฟ้ าอาคาร
๓) ในห้วงสงครามโลกครังที ๒ และความขดั แยง้ ในตะวนั ออกกลางทผี า่ นมา การยิงกระสุน
ระเบดิ แรงสูงของเครืองยิงลกู ระเบดิ ขนาดเบา สามารถใชไ้ ดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางระหวา่ งการปฏิบตั ิการทาง
ทหารในเมอื ง เพือทาํ ให้ขา้ ศกึ ละเว้นการใชถ้ นน สวนสาธารณะ และลานจตั รุ ัส
ฉ. การส่องสว่าง ในการเขา้ ตี การยิงกระสุนส่องสวา่ งวางแผนใหร้ ะเบดิ เหนือทหี มายเพอื ใหก้ าํ ลงั
ขา้ ศกึ อยใู่ ตแ้ สงสว่าง หากทาํ การส่องสวา่ งหลังเป้ าหมายจะเกดิ เงาบริเวณขา้ ศึก สาํ หรับการตงั รบั จะวาง
แผนการส่องสวา่ งด้านหลงั ของฝ่ ายเราเพือกอ่ ใหเ้ กิดเงาของฝ่ายเราและแสงสวา่ งส่องไปยงั ขา้ ศึก ซึง
อาคารจะลดผลในการส่องสวา่ งเนอื งจากเงาของอาคาร ดงั นนั การส่องสวา่ งอยา่ งต่อเนืองจะกระทาํ ใกลก้ บั
พิกดั ระหวา่ งผูต้ รวจการณห์ นา้ กับศนู ยอ์ าํ นวยการยิง เพือกอ่ ใหเ้ กิดผลการส่องสว่างเหนอื ทมี นั ตงั รับ
ขณะทีกาํ ลงั ขา้ ศกึ เขา้ สู่อาคาร
ช. ข้อพิจารณาพิเศษ เมือวางแผนการใช้เครืองยิงลูกระเบิด ผู้บงั คับหน่วยจะตอ้ งพิจารณา
ดงั ตอ่ ไปนี
๑) ผูต้ รวจการณ์หนา้ ควรวางตวั บนดาดฟ้ าของอาคาร เพือใหไ้ ดผ้ ลสาํ เร็จในการค้นหาเป้ าหมาย
และการปรบั การยงิ มากทีสุด
๒) ผูบ้ งั คับหนว่ ยจะต้องมคี วามเขา้ ใจผลการทาํ ลายของกระสนุ เพอื ประมาณการความตอ้ งการ
ใชก้ ระสุนทียิงพร้อมกนั ณ ทีหมายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งใหค้ รอบคลุมทหี มายเฉพาะ รวมทงั ผลของกระสุนควนั
ฟอสฟอรัสดบั เบลิ ยพู ี (WP) หรือแอลพี (LP) อาจกอ่ ใหเ้ กดิ มา่ นควนั ทีไมต่ อ้ งการหรือการจาํ กดั ทศั นวิสยั
ซึงรบกวนแผนทางยทุ ธวธิ ี
๓) ผู้ตรวจการณห์ นา้ จะตอ้ งสามารถคาํ นวณหว้ งอับกระสุน ทอี าวธุ ยงิ เล็งจาํ ลองไมส่ ามารถยงิ ถึง
ทีระดับพืนดินอนั เนอื งมาจากอาคารสิงปลูกสรา้ ง ซึงเป็นทีทีขา้ ศกึ มีความปลอดภยั สาํ หรับเครืองยงิ ลูก
ระเบดิ หว้ งอบั กระสุนจะอยู่ทีประมาณ ๑/๒ ของความสูงอาคาร
๔) พลยิงเครืองยิงลกู ระเบิดควรวางแผนเตรียมการการป้องกนั ตนเอง
๕) ผู้บงั คับหนว่ ยจะต้องใหข้ อ้ พิจารณาพิเศษวา่ จะใหเ้ ครืองยิงลูกระเบดิ เคลือนทีไปทีไหน เมือไร
ขณะทียงั สามารถทาํ การยิงอยา่ งทนั ทีทนั ใด เพือสนับสนนุ แผนทางยุทธวิธี ซึงการรบในพนื ทสี ิงปลูกสร้าง
ส่งผลกระทบในทางตรงขา้ มตอ่ ขีดความสามารถของเครืองยิงลกู ระเบิดสาํ หรับการเคลือนทีสืบเนืองจากกอง
เศษวสั ดุและลกั ษณะความคบั แคบในการปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื ง
๖ - ๒ ปื นใหญ่สนาม
กองพันทหารปื นใหญ่สนาม ตามปกติจะไดร้ ับมอบหมายภารกิจทางยุทธวิธีในการสนบั สนนุ โดยตรง
ใหก้ ับกองพลนอ้ ยดาํ เนินกลยทุ ธ์ ในระดับกองรอ้ ยอาจไมไ่ ดร้ ับมอบหมายใหส้ นบั สนนุ กองพนั เฉพาะกิจ แต่
จะใช้การขึนสมทบแทน
- ๑๔๙ -
ก. มาตรการประสานการยิงสนับสนุนทีเหมาะสมควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนืองจากการรบในพืนที
สิงปลูกสร้างส่งผลตอ่ กาํ ลงั ฝ่ ายตรงข้ามทีทาํ การต่อสูใ้ นการรบประชิด ขณะทาํ การวางแผนการยิงสนบั สนนุ
ในพืนทีสิงปลูกสรา้ งผูบ้ งั คับกองพนั โดยการประสานกบั นายทหารการยิงสนับสนุนจะตอ้ งพิจารณาในเรือง
ตอ่ ไปนี
๑)การค้นหาเป้าหมายอาจมคี วามยุ่งยากมากขึน เนอื งจากลกั ษณะภมู ิประเทศมกี ารกาํ บงั และการซ่อน
พรางเพิมขึน การตรวจการณ์ทางภาคพนื ดินในพืนทสี ิงปลกู สร้างกระทาํ ไดจ้ าํ กดั ดงั นนั ผูต้ รวจการณ์หน้าควร
วางตัวบนดาดฟ้ าของอาคาร และการปรับการยิงกระทาํ ได้ยากเนืองจากอาคารปิดกนั การมองเห็นตาํ บลกระสุน
ตกนดั ทีจะปรับจึงควรใชว้ ิธีการปรับการยิงทางขา้ ง
๒) กระสุนนดั แรกจะถูกปรับจนกระทงั ตําบลกระสุนตกกระทบบนถนนทีตงั ฉากกับขอบหนา้ ทีมนั
การใชก้ ระสุนแตกอากาศจะดีทีสุดสําหรับปรับการยิง ซึงการปรับต้องกระทาํ โดยเสียง เมอื กระสุนกระทบกบั
ถนนทตี ังฉากจะทาํ การปรับระยะ เมือได้ระยะทถี ูกตอ้ งจะทาํ การยกทางขา้ งไปยงั เป้ าหมาย โดยพลยิงจะทาํ การ
ยิงอยา่ งไดผ้ ล
๓) ขอ้ พิจารณาพิเศษทีจะตอ้ งใหจ้ ะเกียวกับการใช้รว่ มกนั ของชนิดของกระสุนและชนวน ขณะทผี ล
ของกระสุนถูกจาํ กัดโดยอาคาร
ก) การใชช้ นวนเวลา VT จะต้องใชอ้ ย่างระมดั ระวงั เพือหลีกเลียงการระเบดิ ก่อนเวลา
ข) การยิงเล็งจาํ ลองอาจกอ่ ใหเ้ กิดเศษอิฐเศษหินจากซากปรกั หกั พงั
ค) ผลใกลช้ ิดทีเกิดกบั ขา้ ศกึ และกาํ ลงั ทีไมเ่ ป็ นมิตรทีอยใู่ นทีแคบ ต้องการการประสานงานอย่าง
รอบคอบ
ง) กระสุน WP อาจกอ่ ให้เกิดไฟและควนั ทีไมพ่ ึงประสงค์
จ) ชนวนถว่ งเวลาอาจใช้ในการเจาะสนามเพลาะ
ฉ)กระสุนส่องสว่างสามารถใช้อยา่ งไดผ้ ล แตค่ วรใหก้ าํ ลังฝ่ ายเราอยใู่ นเงามืดและส่องสว่างไปยงั
ขา้ ศึก ซึงอาคารสูงอาจบดบงั ผลของการส่องสวา่ ง
ช) เวลาทีมอี ยู่ เทคนิคขา่ วกรอง และอาวธุ นาํ วถิ ีทีปรับปรุงขีดความสามารถ ใชไ้ ดผ้ ลในการกวาด
ลา้ งทีตงั ข้าศกึ ผตู้ รวจการณ์ และเสาอากาศบนหลงั คา
ซ) ลมทีแปรปรวนจะลดผลของการใชค้ วนั
ด) ทนุ่ ระเบิดโปรยหว่าน อาจใชใ้ นการหนว่ งเหนียวการเคลือนทขี องขา้ ศกึ ซึงท่นุ ระเบิดโปรย
หวา่ นจะลดผลลงเมือยิงไปยงั พืนแข็ง
๔) ทีหมายจะกาํ หนดไดย้ ากในภมู ิประเทศในเมือง เนืองจากขา้ ศึกมีทตี งั ทมี กี ารกาํ บงั และซ่อนพราง
รวมทงั ชอ่ งทางเคลือนทีจาํ นวนมาก โดยขา้ ศกึ อาจอยบู่ นหลังคาอาคาร และอาจใช้ทอ่ นาํ เสียหรือระบบเส้นทาง
ใตด้ ิน ซึงผู้ตรวจการณ์ทางอากาศจะมีประโยชนอ์ ย่างมากในการกาํ หนดทตี งั เป้ าหมาย เพราะสามารถมองเหน็
ลึกลงไปตรวจพบการเคลอื นที ทตี งั บนหลงั คาและสนามเพลาะ และเป้ าหมายควรวางแผนกําหนดไวบ้ น
- ๑๕๐ -
หลงั คา เพอื กวาดลา้ งผูต้ รวจการณห์ นา้ ของขา้ ศกึ เครืองมือติดตอ่ สือสารและ เรดาห์ รวมทงั ถนนหลกั ทาง
แยก และป้ อมปราการทงั ทรี ูแ้ ละดเู หมือนวา่ จะมีขา้ ศกึ อยู่ การใช้ปื นใหญ่ในการยงิ เล็งตรงเพือทาํ ลายสนาม
เพลาะ ควรพิจารณาถึงมาตรการจาํ กดั ในการประสานการยิงสนับสนุน (เช่น พืนทีจาํ กัดการยิง หรือพืนทีหา้ ม
ยิง) ทีอาจนาํ มาบงั คบั ใช้เพือป้องกนั ความเสียหายแก่พลเรือนและจดุ เชอื มตอ่ สาธารณูปโภคทสี ําคญั
๕) ปื นใหญว่ ถิ ีโคง้ อตั ตาจร ขนาด๑๕๕ มม. และ ๘ นิวใชอ้ ยา่ งไดผ้ ลในการทาํ ลายตดั รอนเป้ าหมาย
ทีเป็ นคอนกรีตโดยการยิงเล็งตรงดว้ ยกระสุนเจาะเกราะ-คอนกรีต ขนาด ๑๕๕ มม. และ ๘ นิว สามารถเจาะ
ทะลุคอนกรีต ๓๖ นิว และ ๕๖ นิว ทีระยะ ๒,๒๐๐ เมตร ตามลาํ ดบั ซึงปื นใหญ่วถิ ีโคง้ เหลา่ นี จะตอ้ งไดร้ ับ
การคมุ้ กันอย่างใกลช้ ิดเมือทาํ การยิงเล็งตรง เนืองจากไมม่ ขี ีดความสามารถในการป้ องกันตนเองขอ้ จาํ กัด
ไดแ้ ก่ชนิดของกระสุนปื นใหญ่ทฝี ่ ายเราเลือกใชใ้ นการลดเศษซากปรักหกั พงั บนเส้นทางเคลือนที
๖)ผูต้ รวจการณห์ นา้ จะตอ้ งสามารถกาํ หนดหว้ งอับกระสุนไดว้ ่าอยทู่ ใี ด และมีขนาดเทา่ ใดทอี าวธุ ยิง
เล็งจาํ ลองไมส่ ามารถยิงถึงทีระดบั พืนดนิ อนั เนืองมาจากอาคารสิงปลกู สร้าง ซึงเป็ นทีทีขา้ ศึกมีความปลอดภยั
จากการยิงเลง็ จาํ ลอง สําหรับเครืองยิงลูกระเบิดและปื นใหญ่มมุ ยิงสูง หว้ งอบั กระสุนจะอยทู่ ีประมาณ ๑/๒
ของความสูงอาคาร
๗) ผูต้ รวจการณ์ทางอากาศ จะใชอ้ ยา่ งไดผ้ ลในการมองจากดา้ นหลงั อาคารมายงั แนวหน้าของทหาร
ฝ่ ายเราไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และใชก้ ารปรบั การยิงแบบขนั บนั ไดจะเป็ นประโยชน์อยา่ งมาก เนืองจากสามารถ
มองเห็นการปรับตําบลกระสุนตกบริเวณด้านหลงั อาคาร นอกจากนีผู้ตรวจการณท์ างอากาศ ยงั สามารถส่งต่อ
คาํ ขอยงิ เมือการติดตอ่ สือสารลดประสิทธิภาพลงอนั เนืองมาจากสายไฟฟ้ าหรือการปิ ดบงั จากอาคาร
๘) เรดาห์สามารถกาํ หนดทีตงั ปื นใหญแ่ ละเครืองยงิ ลูกระเบิดในสภาพแวดลอ้ มในเมือง เนืองจากมี
เปอร์เซน็ ต์ของการยิงมมุ สูงมาก หากเรดาห์ตดิ ตงั ใกลก้ ับดา้ นหลงั ของอาคารสูงจะลดผลการคน้ หาลงมา
ข. การใชก้ ารยิงแตกอากาศเป็ นวิธีทใี ชไ้ ดผ้ ลในการกวาดลา้ งพลซุ่มยิงบริเวณดา้ นบนของหลงั คา
กระสุนระเบดิ แรงสูงชนวนถ่วงเวลา ใชส้ ําหรับตอ่ ตา้ นกําลงั ขา้ ศึกบริเวณชนั บนของอาคาร แต่เนืองจากที
กาํ บงั เหนือศีรษะทีเกิดจากอาคารทาํ ใหก้ ระสุนบงั เกิดผลนอ้ ยตอ่ ขา้ ศึกทีอย่ชู นั ลา่ งๆ ของอาคาร (แผนและการ
ใชป้ ื นใหญ่สนามในปฏิบตั ิการเข้าตีและการตงั รับ ดไู ด้จาก บทที ๓ และบทที ๔)
๖ - ๓ ปื นเรือ
เมือหน่วยปฏิบตั ิการภายใตร้ ะยะยิงสนบั สนนุ ของปื นใหญ่ ปื นเรือสามารถใช้อยา่ งได้ผลในการยิง
สนบั สนุน โดยชดุ ติดตอ่ ประสานงานการใชอ้ าวธุ สนบั สนุน ( SALT) ของกองร้อยนายทหารติดต่อปืนเรือและ
กาํ ลังทางอากาศ (ANGLICO) จะถูกจดั ขึนสมทบใหก้ บั กองพนั ซึงชดุ ติดตอ่ ประสานงานการใช้อาวธุ
สนบั สนุนจะประกอบดว้ ยส่วนติดต่อประสานงานทีปฏิบตั ิการอยทู่ ี ทก.พนั . และ ๒ ชุดควบคุมการยงิ อยทู่ ี
หน่วยระดบั กองร้อย ดํารงการติดตอ่ สือสารจากเรือสู่ฝังและเป็นชดุ ประสานการปฏิบตั ิใหก้ บั ปื นเรือที
สนบั สนุน โดยชดุ ติดต่อประสานงานการใชอ้ าวธุ สนบั สนุนจะประสานการปฏิบตั ิใหก้ บั ปื นเรือทีสนับสนุน
ใหก้ ับหน่วยกองพนั ยิงสนบั สนุน
- ๑๕๑ -
๖ - ๔ ยุทธวิธีทางอากาศ
ขณะทาํ การสู้รบในพืนทีสิงปลกู สร้าง กองพนั อาจไดร้ บั การสนบั สนุนจากทหารอากาศ ทหารเรือ
นาวิกโยธิน หรือหน่วยพนั ธมิตรและเครืองบินโจมตี
ก.การใชก้ ารสนับสนุนทางอากาศใกลช้ ิด ขึนอยกู่ บั ปัจจยั ตอ่ ไปนี
๑) การตกตะลึงและการกระทบกระแทก การทิงระเบดิ จากทางอากาศอยา่ งหนัก ทาํ ใหฝ้ ่ ายเข้าตีมี
ความไดเ้ ปรียบ ซึงอาการตกตะลึงและการกระทบกระแทกจะลดผลการปฏิบตั ิของฝ่ ายตงั รับรวมทงั เป็นการ
ทาํ ลายทีมนั ตังรบั
๒) เศษอิฐเศษหินและซากปรักหักพัง เศษซากปรักหกั พงั ทเี กิดจากการโจมตีทางอากาศจะเพิมการ
กาํ บงั ใหใ้ หก้ ับฝ่ ายตงั รับ ขณะทีกอ่ ใหเ้ กิดสิงกีดขวางหลกั สําหรบั การเคลือนทขี องกําลงั ฝ่ ายเขา้ ตี
๓) ความใกล้ชิดกบั กําลังฝ่ ายเรา ระยะทใี กลช้ ิดของกาํ ลังฝ่ ายตรงข้ามและกาํ ลงั ฝ่ายเราอาจตอ้ งการใช้
กระสุนนําวถิ ี และอาจตอ้ งการการผละจากการรบชวั คราวของกาํ ลงั ฝ่ ายเราในการปะทะ ซึงเครืองบิน
ซี-๑๓๐ (C-130) เป็นฐานปื นของอาวธุ ทางอากาศทถี ูกเลอื กสรรในการปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื ง ในกรณีที
อนั ตรายใกลฝ้ ่ายเราโดยยทุ ธวธิ ีทางอากาศชนิดอืนไมส่ ามารถใชไ้ ด้
๔) ประชาชนในท้องถินหรือสาธารณูปโภคหลกั การใชอ้ าวธุ ทางอากาศอาจมีขอ้ จาํ กัดจากพลเรือน
ทีมอี ยหู่ รือความตอ้ งการในการรกั ษาไวซ้ ึงระบบสาธารณูปโภคในเมอื ง
๕) การตรวจการณ์ภาคพนื ดนิ จาํ กัด เมือการตรวจการณ์ภาคพนื ดินมีจาํ กดั อาจมคี วามตอ้ งการใช้
ผูค้ วบคมุ อากาศยานหน้าจากอากาศยาน
ข. การสนบั สนนุ ทางอากาศใกลช้ ิด อาจใชใ้ นระหวา่ งปฏิบตั กิ ารเขา้ ตี เพอื
สนบั สนนุ การแยกเมอื งใหโ้ ดดเดียวโดยขดั ขวางเสน้ ทางเขา้ ออก
สนบั สนนุ หน่วยเขา้ ตีโดยลดจาํ นวนจดุ ตา้ นทานของขา้ ศกึ ดว้ ยกระสุนชีเป้ า
ปฏบิ ตั ิการลาดตระเวนทางอากาศยทุ ธวิธีและเตรียมขอ้ มลู ขา่ วกรองของการกาํ หนดทตี งั ขา้ ศกึ
เครืองมอื และกาํ ลงั ของขา้ ศึก
ค. การสนบั สนนุ ทางอากาศใกลช้ ิด อาจใชใ้ นระหวา่ งปฏิบตั ิการตงั รบั เพือ
โจมตีรูปขบวนการเขา้ ตีของขา้ ศึกและการรวมกาํ ลงั ของขา้ ศกึ นอกพืนทีสิงปลกู สรา้ ง
เตรียมการสนบั สนุนกระสุนนาํ วิถีในการตีโตต้ อบสาํ หรบั ฟื นฟจู ดุ ต้านทานของฝ่ ายเรา
๖ – ๕ การป้ องกันภยั ทางอากาศ
หลกั นิยมพืนฐานของการป้ องกนั ภยั ทางอากาศคงไมม่ ีการเปลยี นแปลงเมอื หน่วยปฏิบตั ิการในเมอื ง
โดยหลกั การดงั เดิมของการผสมผสานระบบอาวธุ ความเป็นกลมุ่ กอ้ น ความคลอ่ งแคล่ว และการรวมกาํ ลงั
ไดถ้ กู นาํ มาประยกุ ตใ์ ช้เป็นคณุ สมบตั ิในการป้ องกนั ภยั ทางอากาศ
ก. ในการพฒั นาแผนป้ องกนั ภยั ทางอากาศ ผูบ้ งั คบั หน่วยภาคพืนดินจะตอ้ งพจิ ารณา ในเรืองต่อไปนี
- ๑๕๒ -
๑) เป้าหมายทางอากาศของขา้ ศกึ เช่น สายการติดตอ่ สือสารทีสาํ คญั ถนน โครงขา่ ยทางรถไฟ
และสะพาน ซึงปกตจิ ะพบในบริเวณรอบๆ พืนทสี ิงปลูกสร้าง
๒) ทตี งั ยงิ ทดี ี สาํ หรบั ระบบขีปนาวธุ ป้องกนั ภยั ทางอากาศระยะไกล อาจคน้ หาและเขา้ ยดึ ครองได้
ยากในพืนทสี ิงปลกู สรา้ ง ทาํ ใหจ้ าํ กดั จาํ นวนอาวธุ ทีผูบ้ งั คบั หน่วยสามารถใชไ้ ด้
๓) การเคลอื นทรี ะหวา่ งทีตงั ยงิ ในพืนทีสิงปลูกสร้างกระทาํ ไดจ้ าํ กดั
๔) ระบบอาวธุ ยงิ ระยะไกล สามารถครอบคลมุ จากทตี งั ยงิ ไปจนถึงบริเวณขอบนอกของเมอื งหรือ
ไกลกวา่
๕) เรดาห์ทถี ูกปกคลุมและการติดต่อสือสารทถี กู ลดประสิทธิภาพลง จะลดเวลาแจง้ เตือนในการ
ป้ องกนั ภยั ทางอากาศลง มาตรการควบคุมการป้องกนั ภยั ทางอากาศจะตอ้ งแกไ้ ขปรับปรุงใหส้ ามารถ
ตอบสนองตอ่ สภาวะการแจง้ เตือนทีลดลงนี
ข. การกาํ หนดทีตังของ ปตอ.วลั แคน ในพืนทสี ิงปลูกสรา้ งจะถูกจาํ กดั มากกวา่ ในทโี ลง่ แจง้ ทปี ราศจาก
สิงปกคลุม เชน่ สวนสาธารณะ ทงุ่ นา และลานสถานรี ถไฟ โดย ปตอ.วลั แคน ลากจงู (แยกออกจากส่วน
ขบั เคลอื น) อาจใช้ ฮ. ยกหิวเขา้ ทีตงั บริเวณหลงั คาในพืนทีสิงปลกู สร้างหนาแนน่ เพือเตรียมการป้องกนั
ตอ่ ตา้ นการโจมตีทางอากาศในทกุ ทิศทาง ซึงความสาํ เร็จจะเกดิ ขึนจากการคาดคะเนระยะทียึดครองของพืนที
และภยั คกุ คามทางอากาศของขา้ ศึก
ค. ปตอ.สตงิ เกอร์ ทาํ การป้ องกนั ให้กบั กองพนั เหมอื นกนั ในทกุ ปฏิบตั ิการ เมือจะใชใ้ นพืนทีสิงปลูก
สรา้ ง หลงั คาจะใชเ้ ป็นทีตงั ยิงทดี ีทีสุด
ง. ปื นกลหนกั ทีติดตงั บนหลงั คา สามารถใชเ้ พิมเติมการป้ องกนั ภยั ทางอากาศได้
๖ – ๖ การบินทหารบก
การสนบั สนนุ การบนิ ทหารบกในการปฏิบตั ิการในเมอื ง ประกอบดว้ ย การโจมตี การตรวจการณ์
การใชง้ านทวั ไป และ ฮ.ขนส่ง ใช้สาํ หรับการเคลือนทีทางอากาศหรือปฏิบตั ิการโจมตีทางอากาศ การ
บงั คบั บญั ชาและการควบคุม การตรวจการณ์ การลาดตระเวน การปฏิบตั ิการเกียวกบั เครืองมอื รับ
สัญญาณเซนเซอร์ การโจมตี การถ่ายทอดสัญญาณวิทยุ และการส่งกลบั สายแพทย์ โดยเมือใชก้ ารบนิ
ทหารบก ผบู้ งั คับบญั ชาจะตอ้ งพิจารณาเกียวกบั สถานการณ์ทางอากาศของข้าศกึ การป้ องกนั ภยั ทาง
อากาศของขา้ ศึก ภูมปิ ระเทศในเมอื งหรือทใี กลเ้ คียง และความมงุ่ หมายในการใช้ทหารทางบกและทหาร
อากาศทีมีอยู่
ก. ภารกจิ การเข้าตี ภารกิจของการบนิ ทหารบก ในการสนบั สนนุ ปฏิบตั ิการเขา้ ตีในเมือง
ประกอบดว้ ย
๑) ปฏิบตั ิการโจมตีทางอากาศ เพอื รักษาความปลอดภยั ของภูมิประเทศสาํ คญั ในเมอื งและที
ใกลเ้ คียงรวมทงั ทีหมายสาํ คญั เมอื พืนทีมีการป้องกนั อยา่ งเบาบางหรือการยิงของขา้ ศึกไดย้ ตุ ิลง
- ๑๕๓ -
๒) การใช้อาวธุ ทางอากาศของ ฮ. โจมตี สนบั สนนุ แผนการดาํ เนินกลยทุ ธ์ของผูบ้ งั คบั บญั ชาใน
พืนทสี ิงปลกู สร้างหรือพืนทีใกลเ้ คยี ง
๓) การเคลือนทีทางอากาศ และการสง่ กลบั สายแพทย์
๔) การบงั คับบญั ชาและการควบคุม โดยเตรียมการเขา้ แทนทีของส่วนบงั คบั บญั ชาอยา่ งรวดเร็ว
ไปยงั พืนทีวกิ ฤตและฐานการบงั คบั บญั ชาสง่ ทางอากาศ
๕) การถ่ายทอดสญั ญาณทางอากาศ
๖) ปฏิบตั ิการรวบรวมข่าวสาร
๗) การยิงตอ่ สูย้ านเกราะระยะไกล
ข. ภารกจิ การตังรับ ภารกิจของการบนิ ทหารบก ในการสนบั สนนุ ปฏิบตั ิการตงั รับในเมือง
ประกอบดว้ ย
๑) การยงิ ตอ่ สูย้ านเกราะระยะไกล
๒) การวางหรือเปลียนทตี งั กาํ ลังพล (ชุดต่อสู้รถถงั และกองหนุน)
๓) การรวมกาํ ลงั และรวมอาํ นาจการยงิ อยา่ งรวดเร็ว
๔) การร่นถอยของกาํ ลังฝ่ ายเรา
๕) การสนบั สนนุ การช่วยรบ
๖) การบงั คบั บญั ชาและการควบคุม
๗) การติดตอ่ สือสาร
๘) การรวบรวมข่าวสาร
๖ - ๗ เฮลคิ อปเตอร์
ความไดเ้ ปรียบได้มาจากการโจมตีทางอากาศบนหลงั คา โดยกอ่ นปฏิบตั ิภารกิจควรตรวจตราบน
หลงั คาเพือให้แนใ่ จวา่ ไมม่ ีเครืองกีดขวาง เช่น สายไฟฟ้ า เสาโทรศพั ท์ เสาอากาศ ทนุ่ ระเบดิ และลวดของ
ขา้ ศึกทสี ร้างความเสียหายใหก้ บั ฮ. และกาํ ลังพล ซึงในเมอื งสมยั ใหมห่ ลายเมือง อาคารสาํ นักงานมกั จะมี
ลานจอด ฮ. บนหลงั คา ทีจะใชเ้ ป็นทีร่อนลงของ ฮ. ส่วนอาคารอืนๆ เชน่ อาคารจอดรถปกติจะแขง็ แรง
พอทจี ะรับนาํ หนกั เฮลิคอปเตอร์ โดยในการส่งลงกําลงั พลเขา้ ไปในอาคารสามารถทาํ ไดโ้ ดยการไตเ่ ชือก
ลงทางดิงจาก ฮ. หรือกระโดดออกมาจาก ฮ. ทีบนิ ลอยตวั เหนอื หลงั คา
ก. การโจมตีย่อย หน่วยทหารขนาดเลก็ จะตอ้ งส่งลงบนหลงั คาของอาคารสําคญั ความสาํ เร็จขึนอยู่
กบั การเปิ ดเผยตวั ใหน้ อ้ ยทีสุด รวมทงั การยิงข่มไปยงั ทกุ ทีมนั ของขา้ ศกึ ทีสามารถทาํ การยิงมายงั ฮ. ซึง
ขึนอยกู่ บั ลกั ษณะของหลงั คา กําลงั พลทีไต่เชือกลงทางดิงจาก ฮ. จะมีความไดเ้ปรียบมากกวา่ การลงจอด
บนหลงั คา เนืองจากมีความปลอดภยั และเชือถือไดม้ ากกวา่ การโดดออกมาจาก ฮ. ทีบนิ ร่อนตาํ โดยถา้
ไดร้ ับการฝึ กมาทหารจะสามารถโรยตวั ลงมาไดโ้ ดยเปิ ดเผยตวั เองนอ้ ยทีสุด
- ๑๕๔ -
ข. การโจมตีใหญ่ สําหรับการโจมตีใหญ่ การร่อนลงบนหลงั คาจะไมส่ ามารถกระทาํ ได้ จงึ ตอ้ งใช้
การร่อนลงบนพืนทีโล่งในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง (สวนสาธารณะ, ลานจอดรถ, สนามกีฬา) ซึงหลายทีมคี วาม
ใหญ่พอสําหรับปฏิบตั ิการโดย ฮ. และมักจะหาไดใ้ นรัศมี ๒ กิโลเมตรจากใจกลางเมือง
ค. การเคลือนทีทางอากาศของกําลังพลและสิงอุปกรณ์ การรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง กาํ ลังพลที
เคลอื นยา้ ยโดย ฮ. อาจเป็นความตอ้ งการหลกั โดยหนว่ ยทรี บปะทะจากอาคารหนึงไปยงั อีกอาคารหนึง
ปกติจะไดร้ บั ความสูญเสียมากกวา่ หน่วยทีทาํ การต่อสูใ้ นภมู ิประเทศเปิด และความสูญเสียจะตอ้ งทาํ การ
ส่งกลับและทดแทนกาํ ลังใหมอ่ ยา่ งรวดเร็ว ในขณะเดียวกนั บนถนนอาจมคี วามแออดั ยดั เยียดเต็มไปด้วย
ยานพาหนะทีส่งเสบยี งเพิมเติมและลาํ เลียงการส่งกลบั และอาจถูกปิ ดกนั โดยหลุมจากการระเบดิ หรือกอง
เศษซากปรกั หกั พงั ทาํ ใหก้ ารใช้ ฮ. เป็นวิธีทีสามารถทาํ การเคลือนยา้ ยกาํ ลงั พลโดยเทคนิคการบินลดั เลาะ
ตามภูมปิ ระเทศและลงจอดในเวลาสนั ๆ บนถนนทีปลอดภยั และปราศจากเครืองกีดขวาง โดยอากาศยาน
จะส่งลงในทีมนั ทีมีการกาํ บงั จากการตอ่ สูช้ วั คราว แล้วบนิ กลบั โดยไมเ่ ปิ ดเผยตวั จากการยิงเลง็ ตรงของ
ขา้ ศกึ และสามารถใชเ้ ทคนิคเดียวกนั นี ในการเคลือนยา้ ยสิงอุปกรณ์ทางอากาศ รวมทงั ภารกิจการส่งกลับ
สายแพทย์
ง. การโจมตีทางอากาศ การโจมตีทางอากาศไปยงั ดินแดนทีขา้ ศกึ ยึดครองกระทาํ ไดย้ ากมาก (รูปที
๖-๑) โดยใชเ้ ทคนคิ การบินลงจอดระยะสนั บริเวณถนนกวา้ งหรือลานยา่ นการคา้ ในขณะที ฮ.โจมตีและ
พลยิงปืนกลทีประตู ฮท. ทาํ การยงิ ข่มไปยงั อาคารสองขา้ งของถนน โดยการยงิ เตรียมตามตารางเวลาของ
ปื นใหญส่ ามารถใชร้ ่วมกบั แผนการโจมตีทางอากาศตามลาํ ดบั ห้วงเวลา ซึงการแสดงลวงการส่งลงทาํ ให้
ขา้ ศกึ เกดิ ความสับสนคิดวา่ เป็นการลงจอดในการโจมตีจริง
- ๑๕๕ -
รูปที ๖ - ๑ การโจมตีทางอากาศในพืนทีสิงปลกู สร้าง
๖ – ๘ ทหารช่าง
ชุดทหารชา่ งสนามใหก้ ารสนบั สนนุ ผบ.พล. และฝ่ ายเสนาธิการ ในเรืองการวิเคราะห์ภมู ปิ ระเทศ
เป็นพิเศษ ผลผลติ และขอ้ มลู ขา่ วสารสาํ หรบั การรบในพนื ทสี ิงปลกู สร้าง ในระหวา่ งการรบทหารชา่ งกอง
พลควรขึนสมทบใหก้ บั ส่วนดาํ เนินกลยุทธ์ทกี ระจายกนั ออกไป ตวั อยา่ งเชน่ หนึงกองรอ้ ยทหารชา่ งขนึ
สมทบกองพลนอ้ ยทเี ขา้ ทาํ การรบ หนึงหมวดทหารชา่ งขนึ สมทบแต่ละกองพนั หรือกองพนั เฉพาะกิจ และ
หนึงหมทู่ หารช่างขึนสมทบกองร้อยหรือชุดกองรอ้ ย โดยคู่มือกิจการใชแ้ รงงานของทหารชา่ งส่วนใหญ่จะ
เสร็จสมบรู ณโ์ ดยหน่วยทหารราบ โดยการเพิมเติมกาํ ลงั จากทหารช่างเครืองมือหนกั ทีใหก้ ารสนบั สนนุ การ
อาํ นวยการทางเทคนิค
ก. ภารกจิ การเข้าตี ในระหวา่ งปฏิบตั ิการเขา้ ตี ทหารชา่ งอาจปฏิบตั ิภารกิจ ตอ่ ไปนี
๑) ดาํ เนินการลาดตระเวนทางเทคนิค เพือกาํ หนดทีตงั ชนิดของเครืองกีดขวางและสนามทนุ่ ระเบดิ
ของขา้ ศกึ และใหค้ าํ แนะนาํ ในการเจาะชอ่ ง
๒) กวาดลา้ งเครืองขดั ขวางปิดกนั และซากปรกั หกั พงั ดว้ ยเครืองมอื เกรดดิน เพือช่วยในการ
เคลือน ทีไปขา้ งหนา้
๓) ใชก้ ารยงิ จากยานรถทหารชา่ งหรือการวางระเบดิ ทาํ ลายดว้ ยมอื เพือทาํ ลายสนามเพลาะและจดุ
ตา้ นทาน ทกี าํ ลงั พลหน่วยดาํ เนินกลยุทธ์ไมม่ ีคุณสมบตั ิในการดาํ เนินการได้
- ๑๕๖ -
๔) ใชร้ ถรบทหารชา่ งทาํ ลายโครงสร้างหรือรือถอนเศษอิฐเศษหิน
๕) วางทนุ่ ระเบดิ เพอื ป้องกนั ดา้ นหลงั และทางปีก
ข. ภารกจิ การเข้าตี ในระหวา่ งปฏิบตั ิการตงั รับในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง ทหารชา่ งอาจปฏิบตั ิภารกจิ
ต่อไปนี
๑) สรา้ งระบบเครืองกีดขวางทีมีความยงุ่ ยากซบั ซอ้ น
๒) ใหค้ าํ แนะนาํ ทางเทคนิคใหก้ บั ผูบ้ งั คับหนว่ ยดาํ เนินกลยุทธ์
๓) เศษอิฐเศษหนิ ของอาคาร
๔) วางทนุ่ ระเบดิ
๕) ชว่ ยเหลือในการเตรียมจดุ ตา้ นทานการตงั รบั
๖) ดาํ รงไวซ้ ึงการตีโตต้ อบ การติดตอ่ สือสาร และเสน้ ทางสง่ กาํ ลงั
๗) เพิมความสะดวกในการเคลือนทีระหวา่ งอาคาร ทางเดินแคบ สะพาน และอืนๆ
๘) ทาํ การรบไดอ้ ยา่ งทหารรบ เมอื จาํ เป็น
ค. การป้ องกันต่อตา้ นยานเกราะ ในสถานการณก์ ารตงั รับ เมอื เผชิญกบั ยานเกราะขนาดหนกั ของขา้ ศกึ
ควรจดั ลาํ ดบั ความเร่งด่วนใหก้ บั การสรา้ งเครืองกีดขวางตอ่ ตา้ นยานเกราะตลอดทงั พืนทสี ิงปลูกสร้าง โดยใช้
วสั ดุทีหาไดใ้ นพนื ที สรา้ งเครืองกีดขวางอยา่ งง่ายและลดความตอ้ งการในการส่งกาํ ลงั ลง และถนนดา้ นหนา้
ของทีมนั ตงั รับทอี ยใู่ นระยะยงิ หวงั ผลของอาวธุ ตอ่ สูร้ ถถงั ควรไดร้ บั การปิ ดกนั ซึงอาวธุ เหลา่ นีใชเ้พิมผลการ
สงั หารให้กบั การยิงตอ่ สูย้ านเกราะ โดยการแยกทหารราบเดินเทา้ ออกจากรถถงั ทีสนบั สนนุ และชว่ ยรงั
หนว่ งทาํ ลายฝ่ายเขา้ ตี สําหรับทนุ่ ระเบดิ ดกั รถถงั ทีมเี ครืองป้ องกนั การกู้ และใชร้ ่วมกับทนุ่ ระเบิดสงั หาร
บคุ คลบริเวณรอบๆ เครืองกีดขวางโดยการคุม้ ครองดว้ ยการยงิ จะช่วยหยดุ ยงั การเขา้ ตีของขา้ ศกึ
๖ – ๙ สารวัตรทหาร
การปฏิบตั ิการของสารวตั รทหารมบี ทบาทสาํ คญั ในการชว่ ยเหลือผูบ้ งั คบั หน่วยทางยทุ ธวิธี ในการ
เผชญิ หนา้ กบั ความทา้ ทายในการรบในพืนทสี ิงปลกู สรา้ ง ดว้ ยภารกิจในสนามรบ ๔ ประการ (การควบคุม
การจราจรในสนามรบ การรกั ษาความปลอดภยั พืนที การปฏิบตั ิตอ่ เชลยศกึ และการใชร้ ะเบยี บและ
กฎหมาย) สารวตั รทหารสามารถใหก้ ารสนบั สนุนไดอ้ ยา่ งหลากหลายกวา้ งขวางในพนื ทีเมือง ซึงการปฏิบตั ิ
ของสารวตั รทหารตอ้ งการการประสานงานอย่างต่อเนืองกับตาํ รวจท้องทีของประเทศเจา้ บา้ น เพือดาํ รงไวซ้ ึง
การควบคุมพลเรือนและการบงั คบั ใชร้ ะเบียบกฎหมาย
ก. หน่วยสารวตั รทหารจะใชม้ าตรการเพือสนับสนนุ การปฏิบตั ิการควบคุมความเสียหายของพืนที ซึง
พบไดบ้ อ่ ยในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง และเนืองจากการปรักหกั พงั ทีมีโอกาสเพิมมากขึน หนว่ ยสารวตั รทหารจะ
รายงาน การปิ ดกนั พืนที และการกาํ หนดเสน้ ทางใหมเ่ พือเป็ นทางเลือกในการใช้เครือข่ายถนน
- ๑๕๗ -
ข. หน่วยสารวตั รทหารจะรักษาความปลอดภยั กิจกรรมสําคญั ไดแ้ ก่ ศนู ยโ์ ทรคมนาคม แหล่งนาํ และ
แหล่งกาํ เนิดไฟฟ้ า และรับผิดชอบการรักษาความปลอดภยั ทีคุมขังสาํ คญั ใน ทก .หลกั ของกองทพั นอ้ ยและที
บญั ชาการกองทพั บกยทุ ธบริเวณ ซึงในพืนทีสิงปลูกสร้างปกติจะใช้เป็นโครงสร้างแข็งแรง
ค. หน่วยสารวตั รทหารจะไดร้ ับมอบงานในการปฏิบตั ิต่อเชลยศกึ และรวบรวมไวด้ า้ นหนา้ ใหไ้ กล
ทีสดุ โดยกาํ หนดเป็ นตําบลรวบรวมเชลยศึกและพืนทีกกั ขงั สาํ หรับกกั ขงั เชลยศกึ และผูต้ อ้ งขงั ทีเป็นพลเรือน
ในหว้ งสันๆ ซึงงานการปฏิบตั ิตอ่ เชลยศึกในพืนทสี ิงปลูกสร้างมีความสําคญั ยิง เนืองจากอตั ราของการจบั กุม
จะมีมากกวา่ ปกติ
ง. ผู้บงั คบั หน่วยจะตอ้ งมีความเชือมนั วา่ การสนับสนุนทหารสารวตั รอาจไมม่ ี ซึงทหารราบจะตอ้ ง
ปฏิบตั ิภารกิจของสารวตั รทหารได้ ดงั ตอ่ ไปนี
๑) การลาดตระเวนเส้นทาง การเลือกเส้นทาง และกาํ หนดทางเลือก คุ้มกนั ขบวน และรักษาความ
ปลอดภยั สายของการสือสาร
๒) การควบคุมเส้นทาง ทางนาํ ไหล และสถานีรถไฟทีมีความสําคญั เป็ นจดุ ปิ ดกนั ของเส้นทางส่ง
กาํ ลังหลัก
๓) รักษาความปลอดภยั ทีตังสําคญั และสาธารณปู โภค รวมถึงศูนยโ์ ทรคมนาคม อาคารทีทาํ การของ
รัฐบาล แหล่งนาํ และแหลง่ ผลิตไฟฟ้ า, ปม C4, ช่องทางส่งนิวเคลียร์หรือเคมี และสถานทีเก็บรักษา และ
ภารกิจอืนในพืนทสี ําคัญ
๔) การควบคุมผูอ้ พยพโดยการประสานงานอยา่ งใกลช้ ดิ กับหนว่ ยงานด้านพลเรือนแห่งชาติของ
ประเทศเจา้ บา้ น (ดูขอ้ มลู เพิมเติม จากบทที ๗)
๕) รวบรวมและพิทกั ษ์เชลยศกึ
๖ – ๑๐ การติดต่อสือสาร
อาคารและสายไฟฟ้ าจะลดระยะของวิทยุ เอฟเอ็ม (FM) ซึงในการแก้ปัญหานี กองพันจะตอ้ งจดั ตงั
สถานีถา่ ยทอดสัญญาณหรือการถ่ายทอดวิทยุ และจะไดผ้ ลดีเมอื ติดตังในพืนทสี ูง รวมทงั ทาํ การพรางเสา
อากาศโดยติดตงั ใกลก้ ับอาคารสูง วิทยุควบคุมระยะไกลทีตดิ ตงั หรือติดเสาอากาศบนหลังคาก็สามารถ
แกป้ ญั หานีได้
ก. ทางสาย การสือสารทางสายเป็นวิธีทีมคี วามปลอดภยั มากกวา่ ในพืนทีสิงปลูกสร้างโดยการวาง
สายเหนือศรี ษะตามเสาหรือวางใตด้ ิน เพือป้ องกนั ความเสียหายทีกระทาํ โดยยานพาหนะ
ข. พลนําสารและทัศนสัญญาณ การสือสารทางพลนาํ สารและทศั นสัญญาณสามารถใช้ไดใ้ นพืนทสี ิง
ปลกู สรา้ ง โดยพลนาํ สารจะตอ้ งวางแผนเรืองเสน้ ทางทีหลีกเลียงการตา้ นทาน ซึงเสน้ ทางและตารางเวลาจะ
ตอ้ งมีความหลากหลาย เพือหลีกเลยี งการกระทาํ ทีเป็ นรูปแบบ สําหรับการใชท้ ศั นสัญญาณจะตอ้ งวางแผนให้
สามารถมองเห็นได้จากอาคาร
- ๑๕๘ -
ค.เสียงสัญญาณ การใช้เสียงสัญญาณในพนื ทีสิงปลกู สรา้ งปกติมกั จะไม่ไดผ้ ล เนืองจากอยใู่ นสภาพ
แวดล้อมทีมเี สียงดงั
ง. ระบบการสือสารทีมีอยู่ กองพันทหารราบสามารถใช้ระบบการติดตอ่ สือสารของพลเรือนและทหาร
ทีมีอยถู่ า้ สามารถตรวจสอบไดว้ า่ มคี วามสมบรู ณแ์ ละปลอดภยั ตวั อยา่ ง คือ ระบบโทรศพั ทข์ องพลเรือน มี
ความเชือถือได้ และเป็ นวธิ ีทีปลอดภยั ถา้ มีระบบการเข้ารหสั และการรับรองฝ่ าย นอกจากนีสือต่างๆ ของพล
เรือนสามารถใชใ้ นการออกอากาศไปยงั สาธารณชน
๑) การแจง้ เตือนใหม้ กี ารอพยพ เส้นทางอพยพ และการแจง้ เตือนฉุกเฉินทีมคี วามมงุ่ หมายเพือ
เตือนหรือให้คาํ แนะนําประชาชนทีจะตอ้ งใหค้ วามร่วมมอื ผา่ นนายทหารกิจการพลเรือน โดยการประกาศ
ควรจะผลิตโดยหน่วยงานพลเรือนของรัฐบาลในทอ้ งถินผา่ นการพิมพห์ รือสือข่าวสารทางอิเล็กทรอนกิ ส์
๒) การใช้สือจากช่องข่าวพืนทีปฏิบตั กิ ารรบอยา่ งทนั ทีทนั ใด สําหรับเรืองทีมีความฉุกเฉิน
มากกวา่ จะตอ้ งประสานงานผา่ นนายทหารกิจการพลเรือน โดยคดั ลอกสําเนาการสือสาร ๑ ชุด ส่งไปยงั
สาํ นกั งานกิจการสาธารณะตามสายการบงั คบั บญั ชา
- ๑๕๙ -
บทที ๗
การสนบั สนุนการช่วยรบและ
ลักษณะทางกฎทหารของการรบ
ระหว่างการรบในพืนทีสิงปลกู สร้างลกั ษณะภูมิประเทศและลกั ษณะของปฏิบตั กิ ารก่อให้เกิดความ
ตอ้ งการพิเศษในระบบการสนบั สนุนการช่วยรบของกองพนั การใช้กระสนุ เพิมขึน อัตราการสูญเสียสูง การ
เคลือนยา้ ยกระทาํ ไดล้ าํ บากเนืองจากกองเศษวสั ดุ และลกั ษณะการกระจายกาํ ลงั ของทกุ ปฏิบตั ิการเป็ นสิงที
ทา้ ทายการสนับสนุนการช่วยรบและการวางแผนของกองพนั การแกป้ ัญหานีจึงตอ้ งการเทคนิคทีเปลียนแปลง
ไปและการวางแผนในทางลึก
ตอนที ๑
การสนับสนนุ การช่วยรบ
การรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง แสดงใหเ้ หน็ ถึงกล่มุ ปัญหาทีแตกต่างกนั แต่การส่งเสบยี งและการเคลือนที
ของหมวดสนบั สนุนมีการเปลียนแปลงนอ้ ยทีสุด สําหรับแนวทางและหนา้ ทีหลกั ของการสนบั สนนุ การช่วย
รบ อธิบายได้ดงั ต่อไปนี
๗ – ๑ แนวทาง
แนวทางในการเตรียมการสนบั สนุนการช่วยรบอย่างไดผ้ ล สาํ หรับหนว่ ยทีทาํ การสู้รบในพืนทีสิงปลูก
สร้าง ได้แก่
ก. การเตรียมการส่งเสบยี งเพือใชใ้ นหน่วยตามปริมาณความต้องการใหใ้ กลท้ ตี งั ทีตอ้ งการการสง่ กาํ ลงั
มากทีสดุ เทา่ ทีเป็นไปได้
ข. การป้ องกันเสบียงและการสนบั สนุนการช่วยรบจากการยิงของขา้ ศึก โดยใชก้ ารกาํ บงั และหลีกเลียง
การตรวจพบ
ค. กระจายและแยกส่วนสนบั สนุนการช่วยรบ โดยเนน้ ความเหมาะสมของ การติดตอ่ สือสาร การบงั คับ
บญั ชาและการควบคมุ การระวงั ป้ องกนั และความใกล้กบั เสน้ ทางส่งกําลังหลกั สาํ หรับการส่งกาํ ลงั เพิมเติม
ง. วางแผนการแยกบรรทกุ และการนาํ ติดตวั ไป
จ. วางแผนการใชก้ ารสนับสนุนจากประเทศเจา้ บา้ นและจากทรัพยส์ ินของประชาชนเมอื ไดร้ ับอนุมตั ิ
และสามารถทาํ ได้
ฉ. ทีตงั หนว่ ยสนบั สนุนอยูไ่ กลไปข้างหนา้ มากทีสุด เมอื สถานการณ์ทางยทุ ธวธิ ีเอืออาํ นวย
ช. วางแผนการรอ้ งขอและจดั การเครืองมือพิเศษ เช่น จรวดเพลิง เอ็ม.๒๐๒ (M202) เชือกไต่มีโยทะกา
บนั ได เป็นต้น
ซ. ทีตงั หนว่ ยสนบั สนุน อยใู่ กลก้ บั เขตทิงของหรือเขตร่อนลงสําหรับการส่งกาํ ลงั เพิมเติมจากกองทพั
นอ้ ยไปยงั หน่วยข้างหนา้ เพือหลีกเลียงการเคลือนยา้ ยบนพืนดิน
- ๑๖๐ -
๗ – ๒ หน้าทีหลัก
หนา้ ทีหลักของการสนบั สนุนการช่วยรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง ไดแ้ ก่ อาวธุ นํามนั เชือเพลิง การ
ซอ่ มบาํ รุง และระบบคนในการรบ
ก. อาวุธ การรบในพืนทีสิงปลกู สร้างมลี ักษณะความสินเปลืองของการใชก้ ระสนุ ในอตั ราสูง ไม่
เพียงแต่ใชส้ าํ หรบั การยิงของทหารเป็นรายบคุ คลทีมากขึน แต่ยงั รวมถึงกระสุนวตั ถรุ ะเบดิ ชนิดอืนๆ ทีมากขึน
ด้วย ไดแ้ ก่ ระเบิดควนั ระเบิดเสียงเทียม และระเบิดสังหารสะเก็ดระเบิดอาวธุ ตอ่ สู้รถถงั ขนาดเบา จรวดต่อสู้
รถถัง เอที ๔ (AT4) ทุ่นระเบดิ เคลยโ์ ม และระเบิดทาํ ลาย ซึงอตั ราในการใชก้ ระสุนในวนั แรกของการรบใน
พืนทีสิงปลูกสร้างอาจเป็ น ๔ เทา่ ของอตั ราปกติ และแมว้ า่ จะลดลงในวนั ตอ่ ๆ มา การใชก้ ็ยงั คงสูงอยู่ ผู้บงั คบั
หนว่ ย และฝอ.๔ จะตอ้ งวางแผนใหเ้ พียงพอต่อการใช้ในอตั ราการใชท้ สี ูงนี โดยแผนจะตอ้ งประกอบด้วย
วิธีการเคลือนยา้ ยกระสุนวตั ถรุ ะเบิดและระเบิดทาํ ลายไปยงั กองรอ้ ยทีอยขู่ า้ งหนา้ สําหรับ รสพ. แบลดลยี ์ และ
รสพ.M113 อาจกําหนดให้ใชส้ ําหรับลาํ เลยี งกระสุนวตั ถุระเบิดกรณีทขี ้าศึกใชก้ องวสั ดุหรือเศษแกว้ เพือ
ทาํ ลายลอ้ ของยานพาหนะทีสญั จรไปมา การแยกการนาํ ไปอาจตอ้ งใชเ้ มือถนนถูกปิดกนั โดยกองเศษวสั ดุ
ข. นํามันเชือเพลิง จาํ นวนนํามนั เชือเพลิงทีกองพนั มีความตอ้ งการระหว่างการรบในพืนทสี ิงปลกู
สรา้ ง ลดลงเป็นจาํ นวนมาก โดยรถรบในพนื ทีสิงปลกู สรา้ งจะใชน้ าํ มนั เชือเพลิงนอ้ ยลง เนืองจากมีการ
เคลือนทีเป็นระยะทางสนั ๆ และมีการเคลือนทีขา้ มภมู ิประเทศนอ้ ยลง สําหรับเครืองมอื ทหารช่างและ
เครืองกาํ เนดิ ไฟฟ้ าจะใช้นาํ มนั เชือเพลิงมากขึนแต่ความตอ้ งการยงั คงนอ้ ย กองรอ้ ยอาจไม่ตอ้ งใชน้ าํ มนั
เชือเพลิงมากในแต่ละวนั แต่เมือตอ้ งการนาํ มนั มกั ประสบปัญหาในการส่งนาํ มนั ไปยงั ยานพาหนะ ซึงใน
ภมู ปิ ระเทศเปิ ด ยานพาหนะทนี าํ มนั หมดสามารถกูค้ ืนในภายหลัง แต่ในพืนทสี ิงปลกู สร้างยานพาหนะ
ชนิดเดียวกนั อาจ สูญหายอยา่ งรวดเร็ว ผู้บงั คบั หนว่ ย และ ฝอ.๔ จะต้องวางแผนและเตรียมการวิธีการ
เคลอื นทแี บบจาํ กดั นาํ มนั เชือเพลิงไปยงั หน่วยรบขา้ งหนา้
ค. การซ่อมบาํ รุง ชุดซ่อมบาํ รุงจะตอ้ งปฏิบตั ิการอยา่ งดีไปขา้ งหนา้ ยงั หน่วยสนบั สนนุ ทสี ู้รบใน
พืนทีสิงปลกู สร้าง แมว้ า่ งานซ่อมบางส่วนอาจทาํ ร่วมกนั กบั พลเรือน แตย่ านพาหนะจาํ นวนมากตอ้ งทาํ
การซอ่ มใกล้ๆ กบั ตําแหน่งทีทาํ การรบ ซึงระเบียบปฏิบตั ิของหน่วยซ่อมแก้และประเมนิ ความเสียหายใน
สนามรบ จะอนญุ าตใหช้ ่างเครืองประดิษฐค์ ิดคน้ และใชง้ านสงู สุดในความเสียหายจากสนามรบ ทาํ การ
วิเคราะห์ และใชเ้ ทคนิคการซอ่ ม เพือนาํ ยานพาหนะทีเสียหายกลบั มาส่สู ภาวะใชง้ านได้ (ดูขอ้ มลู จากคู่มือ
ทางเทคนิค)
๑) การรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ งกอ่ ใหเ้ กิดความตอ้ งการยางลอ้ รถในปริมาณทีสูง
๒) ลกั ษณะฝ่ ุนและความยากลาํ บากของการรบในพืนทสี ิงปลูกสร้าง จะบนั ทอนการ
ติดตอ่ สือสารและเครืองมอื ตรวจการณใ์ นเวลากลางคนื
๓) ช่างอาวุธของหน่วยและเครืองมอื ซอ่ มอาวธุ ประจาํ กายสามารถซอ่ มไดจ้ าํ กดั ซึง ฝอ.๔ ควร
วางแผนสําหรับเพิมความตอ้ งการการซอ่ มบาํ รุงอาวธุ และประสานงานการสนับสนุนการซ่อมบาํ รุงจาก
- ๑๖๑ -
บก.หนว่ ยเหนือ รวมทังผูบ้ งั คบั หน่วยอาจเลือกการซอ่ มแบบยุบรวม และข้ามขนั ตอนรายการหลกั ของ
เครืองมอื และอาวุธภายใตค้ าํ แนะนาํ ของฝ่ ายเสนาธิการ (ฝอ.๓, ฝอ.๔, นายทหารยานยนต์)
ง. คน หน่วยทปี ฏิบตั ิการรบในพนื ทสี ิงปลูกสรา้ งจะตอ้ งคาดหวงั วา่ มอี ัตราการสูญเสียสูง ตามปัจจยั
ทีกล่าวใน รส.๑๐๑-๑๐-๑, เล่ม ๒ จากประสบการณ์หน่วยจะไดร้ ับความสูญเสียรอ้ ยละ ๖.๖ ในวนั แรก
ของการเขา้ ตี และร้อยละ ๓.๕ ในวนั ตอ่ ๆ มา สาํ หรับในการตังรับร้อยละในการวางแผนอตั ราความ
สูญเสียรอ้ ยละ ๓.๕ ในวนั แรก และรอ้ ยละ ๑.๙ ในวนั ตอ่ ๆ มา โดยหนว่ ยทีเขา้ ตีและตงั รับในพืนทีสิง
ปลกู สร้างมปี ระสบการณ์จากการสญู เสีย มากกวา่ ร้อยละ ๖ ซึงรายงานการสูญเสียจะตอ้ งตระเตรียมอยา่ ง
พิถีพิถนั และส่งตอ่ ไปยงั ฝ่ ายธรุ การและกาํ ลงั พลของกองพัน
๑) ฝอ.๑ และผูบ้ งั คับหมวดเสนารกั ษจ์ ะตอ้ งวางแผนการส่งกลับผูบ้ าดเจบ็ ออกจากพนื ทสี ิงปลูก
สรา้ งโดยเร็ว โดยวางแผนทีตงั พยาบาลในแนวหนา้ และเสน้ ทางการส่งกลับและกระจายข่าวใหท้ ราบถึง
หนว่ ยระดับตําสุด รวมทงั คาดคะเนวา่ มอี ตั ราการบาดเจ็บล้มตายทสี ูงขึน อาจตอ้ งการเกณฑ์สะสมสิง
อุปกรณส์ ายแพทยม์ ากขึน และมีเจา้ หนา้ ทีเสนารกั ษ์เพิมขึน จาก บก.หนว่ ยเหนือ
๒) ฝ่ ายธุรการและกาํ ลงั พลของกองพนั ควรดาํ เนินการทดแทนกาํ ลงั พลโดยเร็วและทาํ การขน
ส่งไปยงั หน่วยใหม่ โดยฝ่ ายธรุ การและกาํ ลงั พลของกองพันเป็นผรู้ ับผิดชอบในเรืองคําสงั การบรรจุ การ
รบั ทหารใหม่มายงั กองพัน กาํ หนดหนา้ ทีทหารตามความเร่งด่วนของผูบ้ งั คบั หนว่ ย ใหข้ อ้ มลู ดา้ นกาํ ลงั
พล และเก็บประวตั ิการเจบ็ ป่ วยรวมทงั ส่งตอ่ ไปยงั ทพี ยาบาล นอกจากนียงั รับผดิ ชอบการเพิมรายชือใน
ทาํ เนียบกําลงั พล เตรียมกรอกขอ้ มลู ระบบกาํ ลงั พลมาตรฐานของกองพลของแตล่ ะบคุ คล และดาํ เนิน
กรรมวธิ ีรายชือในกิจกรรมการบริการไปรษณีย์ ฝอ.๑ และฝ่ ายธรุ การและกาํ ลงั พล จะต้องบรรยายสรุป
ใหก้ ับทหารทีมาใหมไ่ ดท้ ราบเกียวกบั สถานการณ์ทางยุทธวิธี การจดั การเลียงดูและการสนบั สนนุ ทาง
การพยาบาลทตี ้องการ การสาํ รวจความขาดแคลนของสิงอุปกรณก์ ารรบทสี ําคญั และการประสาน งาน
การเคลอื นยา้ ยไปยงั หน่วย สาํ หรับการทดแทนควรนาํ จากขบวนสัมภาระพกั ไปขา้ งหน้าพร้อมกับการสง่
หีบหอ่ การส่งกาํ ลงั บาํ รุง โดยติดต่อกบั จ่ากองพนั ของหน่วยใหม่ กรณีไมใ่ ช่การทดแทนตามตารางเวลา
ควรใชต้ าํ บลจา่ ยเป็นจดุ ประสาน
๓) บญั ชีกาํ ลงั พลของหมวดทถี ูกต้องและรายงานยอดกาํ ลงั พลทีถกู ตอ้ ง มคี วามจาํ เป็นในการ
สนบั สนุนการตกลงใจของผู้บงั คบั หมวด ผูบ้ งั คบั กองรอ้ ยและผูบ้ งั คับกองพนั การใชท้ าํ เนียบกาํ ลงั พลจะ
ชว่ ย ผบ.หมวด ในการรักษาความถกู ตอ้ ง และบนั ทึกขอ้ มลู กาํ ลังพลทีเป็ นปจั จบุ นั ส่วนการรายงานตาม
หว้ งระยะเวลาจะใช้เป็นสถิติอตั รากาํ ลงั พลของ ทก.กองรอ้ ย สาํ หรับในหว้ งการรบจะใชก้ ารรายงานด่วน
เมือมีการรอ้ งขอ หรือมกี ารเปลียนแปลงทีสาํ คัญของยอดกาํ ลงั พลเกิดขึน
๔) การใหข้ อ้ มลู รายชือผูบ้ าดเจ็บลม้ ตายจะรายงานทางสายหรือพลนําสารไปยงั บก.ร้อย ในหว้ ง
สถานการณ์ทางยทุ ธวิธีสงบชวั คราว ซึงขอ้ มลู ขา่ วสารนีไมค่ วรส่งผ่านทางวทิ ยุ เนืองจากจะมผี ลกระทบ
ต่อขวญั และกาํ ลงั ใจของหน่วย ทงั ยงั เป็นข่าวสารทีมคี ุณคา่ ต่อขา้ ศกึ ทหารแต่ละคนจะมีความรู้ในการ
- ๑๖๒ -
กรอกแบบ ทบ.๑๑๕๕ เพือรายงานการสูญหายหรือการถกู จบั กุมของทหาร หรือการบาดเจ็บลม้ ตายทีไม่
อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของกองทพั (ดูคาํ แนะนาํ การกรอกแบบฟอร์มรายงาน AR 600-8-1 ) และแบบ ทบ.
๑๑๕๖ ใชร้ ายงานทหารทีถกู สังหาร หรือไดร้ บั บาดเจบ็ (ดูคาํ แนะนําการกรอกแบบฟอร์มรายงาน AR
600-10) หลงั จากรวบรวมและตรวจความถกู ตอ้ งจาก ผบ.หมวด หรือ รอง ผบ.หมวดแล้ว จะส่งต่อแบบ
รายงานไปยงั บก.ร้อย. ซึงแบบฟอร์มนีสามารถให้ขอ้ มลู การบาดเจบ็ ลม้ ตายทีสําคญั และใชใ้ นการ
ประมาณการความตอ้ งการการทดแทนของหมวด
๕) ฝอ.๑ จะตอ้ งประสานกับ ฝอ.๓ และ ฝอ.๔ สาํ หรับการเคลือนยา้ ยกําลงั ทดแทนไปเป็นระยะ
ทางไกลๆ และการแจกจา่ ยสิงอุปกรณต์ ิดตัวทีสูญหาย สําหรับการทดแทนในเวลากลางคืนตอ้ งใชพ้ ลนาํ
ทางเพือนาํ ไปยงั หน่วยใหม่ พร้อมกับนาํ สิงอุปกรณ์สาํ คญั และกระสุนตดิ ไปขา้ งหน้าด้วย
๖) ฝอ.๑ จะตอ้ งเตรียมการจดั การกบั การบาดเจ็บทีไมเ่ พียงแต่ทางร่างกาย แต่ยงั รวมไปถึง
ทางดา้ นจิตใจดว้ ย
ก) การรบทยี ืดเยือในพืนทีสิงปลกู สรา้ งก่อใหเ้ กิดความเครียดอยา่ งไมน่ า่ เชือ ทหารบางคน
แสดงอาการทีไมส่ ามารถรับมอื กับความเครียดได้ การจดั การกบั ความเครียดจึงเป็ นความรับผิดชอบของผู้
บงั คบั หนว่ ยในทกุ ระดบั โดย ฝอ.๑ จะประสานกับเจา้ หนา้ ทีทไี ดร้ ับการฝึ กมาแลว้ เช่น เจา้ หนา้ ทสี าย
แพทย์ และเจา้ หนา้ ทีชุดจดั การศพของหน่วย เพอื สนบั สนนุ หนว่ ยเมือสถานการณ์บงั คบั
ข) สงครามทีมคี วามรุนแรงมากกว่าจะมกี ารสูญเสียมากกวา่ สภาพอากาศทีเลวร้ายมากกวา่
ทาํ ให้ สงครามมรี ะยะเวลานานกวา่ และการรบทที าํ ใหเ้ หนือยลา้ และมีความเครียดมากกวา่ จะมีการ
บาดเจบ็ ลม้ ตายมากกวา่ ดงั นนั ฝ่ ายประชาสัมพนั ธ์ของกองพนั ศลั ยแพทยข์ องกองพลนอ้ ย และเจา้ หนา้ ที
สายแพทย์ทีไดค้ ดั เลือกแลว้ ควรส่งไปขา้ งหน้า เพือป้องกนั การบาดเจบ็ ล้มตายทเี กิดจากผลของ
ความเครียด
ค) ฝอ.๑ ควรวางแผนการพกั ของทหารในหว้ งสันๆ ในพืนทพี ิทกั ษเ์ ขตหลงั ของกองพนั โดย
มอี าหารและเครืองดืมดีๆ และถือโอกาสใหท้ หารไดร้ ับประโยชน์จากขอ้ มลู ข่าวสารทีเชอื ถือได้(ผ่านทาง
ช่องสัญญาณข่าวประชาสมั พนั ธ์) ทาํ ใหท้ หารไดเ้ หน็ ภาพกวา้ งของการรบ ภาพยุทธบริเวณของการ
ปฏิบตั ิการ ภาพของกองทพั บก และความผาสุกของชนในชาตใิ นภาพรวม ซึงการบาํ บดั รักษาปญั หาจาก
ความเครียดดว้ ยวิธีนี กาํ ลงั พลในพืนทกี องพนั ทมี ีรอ้ ยละของการสูญเสียจากความเครียดสูง สามารถกลบั
มาปฏิบตั ิหนา้ ทีได้ มากกวา่ การส่งกลบั ไปยงั พืนทเี ขตหลงั หลงั จากการฟื นฟูแลว้ ควรส่งทหารกลบั ไปยงั
หนว่ ยเดิมเหมือนกับผูป้ ่วยทกุ คนทกี ลบั จากโรงพยาบาล
๗ - ๓ การส่งกาํ ลงั และงานการเคลอื นย้าย
ฝอ.๔ ผู้บงั คบั หมวดสนบั สนุน และนายทหารยานยนตข์ องกองพนั จะแบง่ ความรบั ผิดชอบในการ
ประสานงานการส่งกาํ ลงั และงานการเคลือนยา้ ยในกองพนั การใชก้ ารบรรจหุ ีบหอ่ การส่งกาํ ลงั บาํ รงุ ตาม
อตั ราพกิ ดั เพือผลกั ดนั ไปขา้ งหนา้ เพือส่งไปยงั ส่วนทีบรรจบเป็นหวั ใจสาํ คญั ของความสําเร็จในการส่งกาํ ลงั
- ๑๖๓ -
สิงอุปกรณเ์ พิมเติม โดยหมวดสนบั สนนุ จะมรี ถบรรทกุ และพลขบั ทไี ดร้ ับการฝึกในการเคลือนยา้ ย สป. ไป
ขา้ งหนา้ ซึง สป.บางประเภท รวมทงั วิธีทเี คลือนยา้ ยอาจมคี วามสาํ คญั ยงิ ใหญก่ วา่ ระหวา่ งปฏิบตั กิ ารนอก
เมอื งหรือหมู่บา้ น
ก. สป.๑ (อาหาร) กรรมวธิ ีในการสงั และเคลือนยา้ ยอาหารไปยงั ทตี งั กองพนั ในแนวหนา้ มคี วาม
ยงุ่ ยากซบั ซอ้ นเนอื งจากลกั ษณะการกระจายกาํ ลงั ของการรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง และความตอ้ งการพลงั
งานของทหารทีมมี ากขนึ ส่วนสูทกรรมของกองพนั จะตอ้ งพยายามจดั เตรียมอาหารร้อนๆ
๑) การรบในพืนทีสิงปลกู สร้างไมเ่ พียงแตเ่ ป็นสาเหตุของความเครียดอยา่ งใหญห่ ลวงของทหาร
แตย่ งั ตอ้ งการใชก้ าํ ลงั กายจาํ นวนมาก ซึงทงั ความเครียดและการใชแ้ รงกายเป็นสาเหตุทาํ ใหร้ า่ งกายขาดนาํ
อยา่ งรวดเร็ว แมว้ า่ นาํ ทีติดตวั ไปจะมใี หต้ ลอดเวลา แต่ทหารมกั หาแหลง่ นาํ ในทอ้ งที ทีมกั ถูกปนเปือนจาก
นาํ มนั และสารหลอ่ ลนื ทีรวั ออกมา ของโสโครก เชือโรค หรือซากศพทีไมไ่ ดฝ้ ัง สาํ หรับทหารทีเตรียมนาํ ไว้
ไมเ่ พียงพอจะมีอาการเจ็บป่วยเพราะดืมนาํ จากแหลง่ นาํ สกปรก หรือมีอาการร่างกายขาดนาํ โดยเชือโรคทีมา
จากนาํ สามารถทาํ ใหท้ หารทงั หน่วยทาํ การรบแบบหมดประสิทธิภาพไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
๒) นาํ และของเหลวอืนๆ เพิมเติม เช่น กาแฟ ชา หรือ ซปุ ทตี อ้ งส่งไปยงั แนวหนา้ ทเี ปิ ดเผย
ทตี งั จะตอ้ งทาํ การสนบั สนนุ ในตอนกลางคืน
ข. สป.๒ (สป.ทัวไป) การรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ งสร้างความเหนด็ เหนอื ยเนืองจากเครืองแบบที
สวมและเครืองหอ่ หมุ้ เทา้ โดย ฝอ.๔ ควรเพิมเกณฑส์ ะสมไวใ้ นมอื ของเครืองแบบ รองเทา้ และสิงอุปกรณ์
ประจาํ ตวั ทใี ชใ้ นการรบ เชน่ หนา้ กากป้องกนั และเสือเกราะ สาํ หรับชุดป้ องกนั นชค. มกั ฉีกขาดหรือสึกหรอ
อยา่ งรวดเร็วเมอื สวมใส่ในพืนทีทีมซี ากปรกั หกั พงั ถือเป็นเรืองธรรมดาของการรบในพืนทสี ิงปลกู สรา้ ง ซึง
การสะสมสิงเหลา่ นีมากเป็นพิเศษรวมทงั ไสก้ รองหนา้ กากป้ องกนั ควรมเี ก็บไวใ้ นมือ ส่วนรายการ สป.๒-๔
ทีมีจาํ นวนจาํ กดั อาจหาไดใ้ นทอ้ งถนิ โดยการรวบรวมใชเ้ มอื ไดร้ ับอนุมตั ิและมคี วามเป็นไปได้โดยร้านขาย
ของในพืนทอี าจมเี ครืองมอื เครืองใช้ ตะปู น็อต โซ่ และเครืองมือกอ่ สรา้ งเบา ซึงมปี ระโยชนใ์ นการตงั รับ
หรือลดการยดึ ทีตงั ของขา้ ศึก สําหรบั สายโครงขา่ ยการสือสารในอตั ราอาจขยายเพิมขึนจากสายโทรศพั ท์
ทอ้ งถินและสายไฟฟ้ า
ค. สป.๓ (นํามันและสารหล่อลนื ) นาํ มนั เชือเพลิงจาํ นวนมากทีตอ้ งนาํ จากคลงั ไปใชใ้ นแนวหน้า
โดยใชถ้ งั ขนาด ๕ แกลลอน ซึงสามารถหอบหิวไปไดด้ ว้ ยคนคนเดียวเป็นระยะทางไกลๆ แมแ้ ต่ตอ้ งนาํ ขา้ ม
กองวสั ดไุ ปกต็ าม หากถงั มีการยดึ ตรึงดี โดยการส่งกาํ ลงั สป.๓ ตามอตั ราพิกดั อาจหาไดจ้ ากปัมนาํ มนั ใน
พืนทีและโรงรถ แต่อาจมกี ารปนเปือนหรือคุณภาพตาํ ซึง ฝอ.๔ ควรประสานกับ สธ.๔ กองพลนอ้ ย ในการ
ตรวจสอบคณุ สมบตั ินาํ มนั โดยกาํ ลงั พลทีมคี วามรู้จาก กองพนั สนบั สนนุ หนา้ หรือชดุ สนับสนนุ เป็นพนื ที
ส่วนหนา้
- ๑๖๔ -
ง. สป.๔ (วัสดฉุ ากขัดขวาง) หนว่ ยทที าํ การตงั รับในพืนทีสิงปลกู สรา้ งจะตอ้ งการ สป.๔ นอ้ ยกวา่
ในพืนทอี ืน เนืองจาก สป.ชนดิ นี อาจมีมากทีสุดในพืนที หลงั การประสานความพยายามกบั บก.หน่วยเหนือ
แลว้ ฝอ.๔ ผู้บงั คับหมวดสนบั สนุน และนายทหารช่างสนบั สนนุ สามารถรวบรวมวสั ดสุ ําหรับใช้ในการ
เสริมความแข็งแรงของการตงั รับ โดยใช้รถบรรทกุ สินคา้ รถกูจ้ ากหมวดซ่อมบาํ รุง และเครืองมือก่อสร้างของ
ทหารชา่ ง ทีสามารถใชใ้ นการบรรทกุ และเคลือนยา้ ยวสั ดฉุ ากขดั ขวางได้ตามปกติหน่วยระดบั กองพลหรือ
กองทพั น้อยจะส่งวสั ดุ สป.๔ ไปยงั หน่วยข้างหนา้ ซึงการตงั รับในพืนทีสิงปลกู สรา้ งอาจมคี วามต้องการลวด
หนามหีบเพลงและ/หรือลวดหนาม เพือจาํ กัดการเคลือนทีของทหารราบขา้ ศกึ นอกจากนีการสร้างฉากขดั ขวาง
สามารถใชร้ ถยนต์ รถบสั ทีทิงแล้ว โดยลากมาไวท้ ีตาํ แหน่งทตี ้องการ เปิ ดดา้ นขา้ งและใชโ้ ซ่มดั เพลาติดกนั ไว้
จ. สป.๕ (กระสุน)การรบในพืนทสี ิงปลกู สรา้ งมีการใชก้ ระสุนมากขึนในอตั ราสูง ผูบ้ งั คบั หนว่ ย
ควรวางแผนการส่งกาํ ลังเพิมเติมแต่เนินสําหรับวตั ถุระเบดิ ลกู ระเบิดขวา้ ง กระสุนสาํ หรับปืนเล็ก กระสุน
สําหรับการยิงเลง็ ตรงและการยิงเล็งจําลอง
๑)ในการตังรับ ฝอ.๔ ควรเตรียมสะสมกระสุนในทีเก็บทีกระจายในพืนทีให้ไดม้ ากทีสุดโดยที
เก็บกระสุนควรได้รับการป้ องกันและงา่ ยทีจะเขา้ ไปจากทมี นั ตังรับในแนวหนา้ สําหรับการเขา้ ตี กาํ ลังทีเขา้ ตี
ไมค่ วรนาํ กระสุนไปมากเกินเกณฑก์ ารบรรทุก ซึงตําบลจา่ ยเคลือนทอี าจจดั ตําสุดในระดบั กองร้อย
๒)ผูบ้ งั คบั หนว่ ยและ ฝอ.๔ จะตอ้ งวางแผนการส่งกระสุนอยา่ งตอ่ เนืองไปยงั หนว่ ยนาํ ทีทาํ การรุก
คืบหนา้ โดยอาจบรรทกุ ไปในยานรบหุม้ เกราะใกลก้ บั ดา้ นหลงั หนว่ ยทที ําการรุกคืบหน้า หรือใช้วธิ ีกําหนด
ส่วนทีจะนําไป สําหรับกระสุนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะจรวดยงิ มีลกั ษณะพิเศษโดยเพิมเติมวสั ดหุ ีบห่อ ซึง ฝอ.๔
จะตอ้ งวางแผนให้มีการแกะออกจากหีบห่อก่อนการเคลือนยา้ ยไปยงั แนวหนา้ และการส่งกําลังเพิมเติมโดยใช้
ฮ. (ใชส้ ายยกหิวหีบห่อ)อาจมีความเป็ นไปได้
๓) การแกะกระสุนออกจากหีบหอ่ จาํ นวนมากๆ จะทาํ ใหเ้ สียเวลามาก อาจตอ้ งใช้ความพยายามทงั
หมวดสนบั สนุน และเพิมเติมทหารทีมีอยู่ ถา้ มีการใชว้ ิธีแบง่ ส่วนทจี ะนาํ กระสุนไปยงั แนวหนา้ กาํ ลงั พลหนึง
คนสามารถนาํ ไปได้ ๗๕-๙๐ ปอนด์ โดยใช้หีบห่อหรือเป้ สนาม ขนาดและการบรรทกุ ทีหนกั กวา่ สามารถใช้
เชือกโยงเขา้ กบั เปลพยาบาลโดยใชท้ หาร ๒-๔ คน ซึงการบรรทกุ หนัก ๔๐๐ ปอนด์ สามารถหามไปทีระยะ
ไกลพอสมควรโดยชุด ๔ คน
หมายเหตุ : อยา่ ใชพ้ ลพยาบาลในการแบกหามกระสุนไปยงั แนวหน้าตามวิธีดงั กลา่ ว เพราะเป็ นการฝ่ าฝื น
สนธิสัญญาเจนีวา
ฉ. สป.๘ (สป.สายแพทย์) เนืองจากลกั ษณะการกระจายกาํ ลงั ของการรบในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง การ
ส่งกําลงั ทางการแพทยค์ วรกระจายผ่านไปตามกองพนั ไมใ่ ชก้ ารรวมทีพยาบาลหรือพลพยาบาลแตล่ ะคน
สําหรับทหารเป็ นรายบคุ คล โดยเฉพาะทีไดร้ ับการฝึ กการช่วยชีวิตในสนามรบจะต้องนําผา้ พนั แผล ผา้ ผูกคอ
และชุดยาใชภ้ ายในติดตวั ไปดว้ ย ซึงกองร้อยควรร้องขอเฝื อกและเปลหามคนเจบ็ เพิมเติม
- ๑๖๕ -
๗ – ๔ เสนารักษ์
ฝอ.๑กองพนั ศลั ยแพทยก์ องพนั ผูช้ ่วยแพทย์ และผูบ้ งั คบั หมวดเสนารักษ์ เป็ นผูร้ ับผิดชอบในการ
วางแผนปฏิบตั ิงานทางการแพทย์ของกองพนั ซึงหนา้ ทีสําคัญระหว่างการรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง
ประกอบด้วย เวชกรรมป้ องกนั การรักษาการบาดเจบ็ และการส่งกลบั นอกจากนีควรมีการวางแผนการรักษา
และการส่งกลบั ผู้ป่วยจาก นชค. ซึงอาจเกิดขึนไดใ้ นการรบในพืนทสี ิงปลูกสร้าง
ก. การรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง ไมเ่ พียงทาํ ใหท้ หารบาดเจบ็ จากการรบแตย่ งั เจบ็ ป่ วยจากโรคเรือรัง
ประจาํ ถินในพืนทีปฏิบตั ิการโดยผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งมีมาตรการป้ องกันอยา่ งจริงจงั เพือตอ่ ตา้ นการแพร่
ระบาดของโรคตดิ ตอ่ ซึงหมวดเสนารักษจ์ ะเป็นผู้ใหค้ าํ แนะนําผูบ้ งั คบั หนว่ ยถึงวิธีทดี ีทีสุด ในการส่งเสริม
การป้องกนั โรค
ข. แมว้ ่าเจา้ หนา้ ทีเสนารกั ษ์ทปี กติจดั ขึนสมทบกับหมวดปื นเล็กจะเป็นทหารทไี ดร้ บั การฝึ กมา
อยา่ งดีทสี ุดในการรักษาแผลทีบาดเจ็บ แต่ก็จะมงี านล้นมอื จากจาํ นวนผูบ้ าดเจ็บทีตอ้ งการการดูแล ผู้บงั คบั
หนว่ ยจะตอ้ งฝึ กทหารทีทาํ การคดั เลือกภายในหมวดเพือทาํ หนา้ ทีรักษาอาการบาดเจบ็ เบืองตน้ ซึงงาน
ชว่ ยชีวติ ในสนามรบรวมถึงความพยายามในการช่วยเหลือเพือนของทหารเป็นรายบคุ คล เป็นการลดภาระ
ของพลพยาบาลและทาํ ใหพ้ ลพยาบาลมีโอกาสมงุ่ เนน้ ไปยงั การรักษาการบาดเจบ็ ทีร้ายแรง โดยหมวด
เสนารักษ์ควรวางแผนการระวงั รักษาสาํ หรับการบาดเจ็บเป็ นกลุ่มกอ้ นทีเกิดขึนในการรบในพนื ทีสิงปลูก
สร้าง ซึงเหตกุ ารณ์ทมี กั เกิด ไดแ้ ก่การบาดเจ็บจากการกระแทก บาดเจบ็ ทีตา แผลไฟไหม้และการแตกหัก
ทีเพิมขึน
ค. การเผชญิ กบั ความยงุ่ ยากระหว่างการส่งกลบั ผูบ้ าดเจบ็ จากพืนทีเมอื งมีมากมายและตอ้ งการ
เทคนิคทางเลือกใหมๆ่ รวมถึงระเบียบปฏิบตั ิ โดยแผนการส่งกลบั สายแพทยใ์ นพืนทีเมืองจะตอ้ ง
ประกอบดว้ ย ความตอ้ งการเครืองมือพิเศษ การใช้ชดุ เปลพยาบาล การใชร้ ถพยาบาลและเครืองยก
ช่วยชีวติ การใชร้ ะบบรถพยาบาลวิงไปกลับ และความตอ้ งการการติดต่อสือสารและเทคนิคการคน้ หา
ผูบ้ าดเจบ็
๑) ความตอ้ งการเครืองมอื พเิ ศษ ประกอบด้วย เชือก รอก เปลพยาบาลแบบเขน็ ขวาน ชะแลง
และเครืองมอื อืนๆ ทใี ชท้ บุ ผา่ นสิงกีดขวาง
๒) แมว้ ่าชดุ เปลพยาบาลจะตอ้ งทาํ งานอยา่ งหนกั แต่ยงั ไดร้ ับการเรียกร้องใหเ้ คลือนยา้ ยผู้ป่ วย
ออกจากอาคารทมี โี อกาสเกิดการบาดเจบ็ ในแตล่ ะชนั ของอาคาร ขณะทีกองวสั ดุบนถนน ฉากขดั ขวาง
และการระเบดิ ทาํ ลายถนนจะขดั ขวางการใชร้ ถพยาบาล ซึงตกเป็นภาระหนกั ของชุดเปล เจา้ หนา้ ที
เสนารกั ษ์ทจี ดั ใหก้ บั หน่วยจะตอ้ งลงจากรถพยาบาลเพือทาํ การค้นหาผูบ้ าดเจ็บ อยา่ งไรก็ตามเครืองมอื
ทางการแพทยม์ ีไม่เพียงพอทีจะดาํ เนินการให้สําเร็จภารกิจของการส่งกลบั จึงตอ้ งใชค้ วามช่วยเหลอื จาก
หน่วยสนับสนุน
- ๑๖๖ -
๓) ยานพยาบาลทางอากาศ ถกู จดั ใหม้ ีกวา้ นช่วยชีวติ เพือลาํ เลียงผูบ้ าดเจ็บจากหลงั คาอาคาร
หรือส่งเจา้ หน้าทเี สนารกั ษ์เขา้ ไปยงั ทีทตี อ้ งการ โดยจดุ ออ่ นจากการยงิ ของพลซุม่ ยงิ จะตอ้ งนาํ มาพิจารณา
เปรียบเทียบนําหนกั กบั ความสาํ เร็จของภารกิจในการส่งกลับ นอกจากนีนกั บินจะตอ้ งมีความคุน้ เคยกบั
การบินเหนอื พืนทีสิงปลกู สร้างและสภาพอากาศทตี อ้ งเผชิญ และยานพยาบาลทางอากาศสามารถใช้
บริเวณจดุ แลกเปลยี นรถพยาบาลทปี ลอดภยั สําหรับเวลาการสง่ กลบั เร่งดว่ น
๔) ระบบรถพยาบาลวิงไปกลบั ทตี าํ บลรวบรวม จุดแลกเปลียนรถพยาบาล และจดุ สง่ ต่อ
จะตอ้ งจดั ตงั ขึน โดยทีพยาบาลกองพนั อาจตงั อยใู่ นสวนสาธารณะหรือสนามกีฬาบริเวณขอบของเมือง
หรือข้างนอกพืนทีสิงปลกู สรา้ ง ซึงทงั สองกรณีกองซากปรักหกั พงั และเครืองกีดขวางจะขดั ขวางความ
คลอ่ งแคล่วในการเคลือนทีและทางเขา้ ของส่วนรกั ษาพยาบาล ซึงการจดั ตงั ระบบรถพยาบาลวิงไปกลบั
จะทาํ ใหร้ ะยะทางในการใชช้ ุดเปลพยาบาลเคลือนยา้ ยผูบ้ าดเจบ็ สันลง รวมทงั ช่วยให้เจา้ หนา้ ทีมคี วาม
คุน้ เคยกบั พืนทีเพราะยงั ตอ้ งอย่ใู นพืนทเี พือปฏิบตั ิภารกิจในการคน้ หา กูภ้ ยั ฟื นฟู และส่งกลบั โดยการ
กาํ หนดตาํ บลรวบรวมไวล้ ่วงหนา้ ทาํ ใหท้ หารทีบาดเจ็บแต่ยงั เดินไดส้ ามารถเดินมายงั จดุ เพือความ
พยายามในการสง่ กลบั เร่งด่วน
๕) พืนทีการติดต่อสือสารเป็นปัญหาขดั ขวางการส่งกลบั ผู้บาดเจบ็ ทีใหญ่ทสี ุด เนืองจาก
ลกั ษณะภมู ิประเทศไมอ่ าํ นวยต่อการรับส่งวทิ ยทุ สี ่งในระยะมองเหน็ ดว้ ยตา รวมทงั ทหารแต่ละคนไม่มี
วิทยุส่วนตวั ดงั นนั เมอื มกี ารบาดเจบ็ ภายในอาคาร จึงเป็ นการยากทีจะคน้ พบ การใชร้ ะเบียบปฏิบตั ิประจาํ
ของหนว่ ยจงึ เป็นรูปแบบทางเลอื กในการสือสาร เชน่ การใชแ้ ผ่นผา้ สญั ญาณ หรือการใชส้ ญั ลกั ษณ์
สามารถนาํ มาใชใ้ นการกู้ภยั เร่งด่วนเมือการรบยตุ ลิ ง รวมทงั การค้นหาอยา่ งเป็ นระบบในพืนทหี ลงั สงคราม
อาจต้องนาํ มาใชใ้ นการกภู้ ยั คน้ หาผูบ้ าดเจ็บ
ง. การใชส้ ถานพยาบาลในทอ้ งถิน โรงพยาบาล ความช่วยเหลือจากแพทย์มืออาชีพและเวชภณั ฑ์ อาจ
กระทาํ ได้ระหวา่ งการรบในพืนทีสิงปลูกสรา้ งขนาดใหญ่ ซึงผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งยดึ ถือแนวทางทีกาํ หนดใน
ยทุ ธบริเวณวา่ จะใชส้ ิงอาํ นวยความสะดวกในพืนทไี ดเ้ มือไรและอยา่ งไร กรณีพลเรือนไดร้ ับบาดเจบ็ ในพืนที
การรบ ผู้บงั คบั หน่วยเป็ นผูร้ ับผิดชอบใหค้ วามชว่ ยเหลือเบอื งต้นและใหก้ ารคุม้ ครองโดยไมก่ ่อใหเ้ กิดความ
ยงุ่ ยากกบั การปฏิบตั ิการทางทหาร และผูบ้ งั คับหนว่ ยไมส่ ามารถบงั คับใช้เวชภณั ฑ์ของพลเรือน เวน้ แต่ได้
จดั ทาํ ขอ้ กาํ หนดในการนาํ มาทดแทนเพือการรักษาการบาดเจบ็ ของพลเรือน
จ. ผู้บงั คับหนว่ ยเป็นผูร้ ับผิดชอบในการส่งกลบั ผู้เสียชวี ิต ไปยงั ตําบลรวบรวมศพทใี กลท้ ีสุด ไมว่ ่าจะ
เป็นทหารฝ่ ายเรา พันธมิตร ขา้ ศึก และพลเรือน (ดู รส.๑๐-๖๓ และ ๑-๔๙๗ สําหรับขอ้ มลู เฉพาะในการ
ปฏิบตั ิตอ่ ผเู้สียชีวติ ) ซึงขอ้ พิจารณาทวั ไปในการปฏิบตั ิตอ่ ผูเ้ สียชีวิต ประกอบด้วย
๑) ผู้บญั ชาการยุทธบริเวณมีอาํ นาจอนมุ ตั ิในการฝังศพเร่งด่วน
- ๑๖๗ -
๒) ทรพั ยส์ ินของผู้เสียชวี ิต จะตอ้ งอยกู่ ับศพเพือช่วยพิสูจน์ทราบและความสะดวกในการส่ง
ทรพั ย์สินใหญ้ าติต่อไป ซึงการเก็บของผูต้ ายเอาไวจ้ ะถือว่าเป็ นการขโมยทรัพยส์ ินจะตอ้ งถกู ลงโทษตาม
กฎหมายวา่ ด้วยการพิจารณาคดีในศาลทหาร
๓) การปฏิบตั ิการภายใตส้ ภาวะ นชค. ร่างของผูเ้ สียชีวติ ควรไดร้ บั การทาํ ลายลา้ งพิษ กอ่ นเคลือนยา้ ย
ออกจากพืนทีปนเปื อน เพือป้องกันการติดตอ่ และทาํ ให้มอี าการเจบ็ ป่ วย
๔) การดูแลจดั การศพจะตอ้ งไดร้ บั การฝึ ก หากดูแลจดั การไม่เหมาะสมจะทาํ ใหข้ วญั และกาํ ลงั ใจของ
กาํ ลังพลภายในหนว่ ย รวมทงั พลเรือนลดลง
๗ - ๕ การบริการกําลังพล
การบริการกาํ ลงั พลอย่างถูกตอ้ ง ทนั เวลา ระหวา่ งการรบในพืนทสี ิงปลกู สร้างเป็นเรืองสาํ คัญพอๆ กับ
ในปฏิบตั ิการอืนๆ ซึง ความคบั แคบ ความรุนแรง และความโดดเดียวของการสู้รบเกิดความเครียดกบั ทหาร
เป็นอยา่ งมาก
ก.ฝอ.๑ วางแผนการบริการกาํ ลังพลเพือรักษาขวญั กาํ ลงั ใจและจติ วิญญาณในการสูร้ บของกองพนั
โดยใหก้ ารบริการทีสาํ คญั ทีสุด ดงั นี
การช่วยเหลือด้านศาสนา
การบริการไปรษณีย์
การใหร้ างวลั และเหรียญตรา
การพกั ผ่อนและการพกั ฟืน
การทดแทน
บญั ชีอตั รากาํ ลัง
การรายงานการสูญเสีย
การสนบั สนนุ ดา้ นการเงิน
การสนบั สนนุ และบริการทางกฎหมาย
กิจกรรมการประชาสัมพันธ์
ข. หน่วยอาจประสบความพา่ ยแพ้ หากมีการขโมยหรือทาํ ลายเครืองมือสิงอุปกรณ์ หรือแมแ้ ต่พลเรือนที
เป็นมิตรอาจขโมยเสบียงหรือหาข่าวสารใหก้ บั ขา้ ศกึ จึงควรมกี ารอพยพพลเรือน ถา้ ทาํ ได้ เพือป้องกนั การฉก
ทรพั ยส์ ิน การกอ่ วินาศกรรม และการจารกรรม ซึงการควบคุมพลเรือนปกติจะดําเนินการโดยทหาร
สารวตั รและหนว่ ยกิจการพลเรือน โดยจดั ตงั ตําบลรวบรวมพลเรือนสําหรับผูท้ ีไมเ่ กยี วขอ้ งกบั การรบขึน
ในพืนทีเขตหลงั ซึง ฝอ.๑ จะเป็นผูป้ ระสานขอ้ มลู การควบคมุ พลเรือนกับ ผบ.หนว่ ยเหนือ
- ๑๖๘ -
ตอนที ๒
สถานะทางกฎหมายของการรบ
ผูบ้ งั คับบญั ชาจะตอ้ งทาํ การศกึ ษาเกียวกบั แง่คิดทางกฎหมายของการรบในพืนทีสิงปลูกสรา้ งมา
เป็นอยา่ งดี โดยรวมถงึ การควบคุมพลเรือนกลุ่มใหญ่ การป้ องกนั สาธารณูปโภคทีสาํ คญั และการกิจการ
พลเรือน
๗ – ๖ ผลกระทบจากประชาชนในพนื ทีการรบ
การทีมปี ระชาชนรวมตวั เป็นกลุ่มใหญ่ สามารถขดั ขวางหนว่ งเหนียวการปฏิบตั ิการทางยทุ ธวธิ ี
ไดอ้ ย่างมาก โดยประชาชนทพี ยายามหลบหนีออกจากพนื ทกี ารรบอาจก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบในการปฏิบตั ิ
ทางทหารดงั ต่อไปนี
ก. ความคล่องแคล่ว การหนีของประชาชนทพี ยายามหลบหนีไปตามถนน จะปิ ดกนั การเคลอื นที
ทางทหาร ซึงผูบ้ งั คบั หน่วยควรวางแผนเสน้ ทางการเคลือนทีใหก้ ับพลเรือนโดยใชต้ าํ รวจเป็นผู้ช่วยในการ
ควบคุมการจราจร
ข. อํานาจการยิง การปรากฏตวั ของพลเรือนจะจาํ กัดศกั ยภาพในการใชอ้ าํ นาจการยิงของ
ผูบ้ งั คบั บญั ชาทีมีอยู่ โดยพืนทอี าจถูกกําหนดเป็นพนื ทีหา้ มยงิ เพอื ป้ องกนั พลเรือนไดร้ บั บาดเจบ็ ส่วนใน
พืนทีอืนอาจถกู จาํ กดั ให้ทาํ การยิงไดเ้ ฉพาะปืนเลก็ และการใชร้ ะเบดิ ขวา้ ง แตห่ า้ มใช้ การโจมตีทางอากาศ
ปื นใหญ่ เครืองยิงลูกระเบิด และการใช้เพลิง ซึงการคน้ หาเป้าหมายและภารกิจในการยิงเล็งตรงมคี วาม
ยงุ่ ยากเนืองจากความตอ้ งการในการยืนยนั พิสูจน์ทราบเป้าหมาย โดยรายละเอียดคาํ แนะนาํ ในการใช้
อาํ นาจการยงิ ในพืนทีทีมพี ลเรือนจะประกาศโดยฝ่ ายยทุ ธการของกองพล ซึงสิงทีไมร่ วมอย่ใู นคาํ แนะนํา
จะยึดถอื ตามกฎทวั ไปของการสูร้ บภาคพืนดนิ
ค. การระวังป้ องกนั ควรเพิมการระวงั ป้ องกนั เพือมิใหเ้ กิดเหตกุ ารณ์ ตอ่ ไปนี
กาํ ลังขา้ ศกึ หรือสายลบั ใชพ้ ลเรือนเป็นทีกําบงั
มีพลเรือนเตร็ดเตร่อยรู่ อบๆ พืนทีตงั รับ
มกี ารฉกฉวยเครืองมอื ยุทโธปกรณ์
มกี ารกอ่ วนิ าศกรรม
ง. การใช้เครืองกีดขวาง การปรากฏตัวของพลเรือนและการเคลือนทขี องผูอ้ พยพ มอี ิทธิพลต่อทตี งั
และชนดิ ของเครืองกดี ขวาง ซึงสนามทนุ่ ระเบดิ จะไมอ่ นุญาตใหม้ ีการสร้างบนเสน้ ทางอพยพทกี าํ หนด
หรือหากมีการสร้างจะตอ้ งมียามเฝ้ าจนกวา่ การอพยพจะเสร็จสิน ส่วนกบั ระเบิดและเครืองกีดขวางเพลิง
จะวางไมไ่ ดจ้ นกว่าจะทาํ การอพยพพลเรือน
- ๑๖๙ -
๗ – ๗ อาํ นาจบังคบั บัญชา
ขอ้ จาํ กดั การใชอ้ าํ นาจของผู้บงั คับบญั ชาในทกุ ระดบั ชนั มมี ากกวา่ เจา้ หนา้ ทฝี ่ ายพลเรือนของรฐั
โดยประชาชนจะต้องเชือมนั และเขา้ ใจ ซึงผูบ้ งั คบั บญั ชาจะมีระดับการตกลงใจทจี าํ เป็ นเพอื ใหบ้ รรลุ
ภารกิจ อยา่ งไรก็ตาม ความรับผิดชอบของรัฐบาลประเทศเจา้ บา้ นทีมตี ่อประชากรและดินแดนสง่
ผลกระทบตอ่ อาํ นาจการบงั คับบญั ชาในเรืองสําคัญของทหารกับพลเรือน สาํ หรบั พืนทีทมี ีการระวงั
ป้ องกนั นอ้ ยทีรัฐบาลประเทศเจา้ บา้ นได้รบั ผลกระทบเพียงบางส่วน ผู้บงั คับบญั ชาอาจถูกสงั การให้มี
ความรบั ผิดชอบทีมากกวา่ สาํ หรับความปลอดภยั และการอยดู่ กี ินดีของประชาราษฎร์
๗ – ๘ แหล่งการใช้ประโยชน์
การปฏิบตั ิการในพืนทีทีมีประชากรหนาแนน่ ตอ้ งการการหนั เหของคน เวลา เครืองมอื และการส่ง
กาํ ลังเพอื บรรลุกิจของมนษุ ยชาติ หากรัฐบาลของประเทศเจา้ บา้ นล่มสลาย ผลกระทบทีเกิดกับทรพั ยากรทาง
ทหารจะตอ้ งได้รบั การทดแทน
๗ – ๙ สุขภาพและความผาสุข
การแบง่ แยกและทาํ ลายการบริการด้านสุขภาพและอนามยั ของประชาชนเป็นการเพิมความเสียงอยา่ ง
มากในการตดิ โรคทงั พลเรือนและทหาร
๗ – ๑๐ กฎหมายและระเบียบ
รัฐบาลเจา้ บา้ นอาจไมส่ ามารถควบคุมฝงู ชนได้ โดยทหารอาจตอ้ งสลายกองกาํ ลงั ประชาชนเพอื การ
ป้ องกนั ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทงั การจดั ระเบียบใหม่ซึงกองทพั อาจตอ้ งรักษาสาธารณูปโภคทีสําคญั ต่อการ
ดาํ รงชีวิตใหก้ บั ประเทศเจา้ บา้ น (ดขู อ้ มลู เพิมเติม เกียวกับวิธีการควบคุมพลเรือนทีละเมิดทางแพ่ง จาก
รส.๙-๑๕)
๗ – ๑๑ ความสัมพนั ธ์ระหว่างนายทหารกิจการพลเรือนกับสือ
หนทางทีดีทีสุดในการบรรยายเรืองเกียวกับทหารคือการผ่านสือ ขณะทกี ารเข้าถึงหนว่ ยในสนาม
โดยอิสระเป็นสิงพึงปรารถนา แต่การรักษาความปลอดภยั ของการปฏิบตั ิการ การใหค้ ําแนะนาํ และกฎการ
ปะทะ จดั เป็นความเร่งด่วนอันดบั แรก สือมวลชนทเี ขา้ เยยี มเยียนหน่วยในสนามควรจะมนี ายทหารเป็ นพีเลียง
ซึงนายทหารควรใหร้ ายละเอียดเกียวกับประเภทของหน่วยเนืองจากมีการฝึ กเจา้ หนา้ ทีกิจการพลเรือนในหว้ ง
เวลาสันๆ และจะตอ้ งแนใ่ จวา่ สือทีปฏิบตั ิตามคาํ แนะนาํ หรือกฎการปะทะจะช่วยป้ องกนั ภาพลบของ
สาธารณชนทีจะเป็ นภยั ตอ่ การปฏิบตั ิการหรือวตั ถปุ ระสงค์ของชาติ หากสถานการณ์เอืออํานวยกองพนั ควร
จะจดั ตวั แทนทีจดุ ประสานงานเพือทําความตกลงกับราษฎรในทอ้ งทีเกียวกบั ขอ้ กงั วลของพลเรือน (ปกติจะ
เป็นเรืองความเสียหายจากการดําเนินกลยทุ ธ์)
- ๑๗๐ -
๗-๑๒ หน่วยงานกิจการพลเรือน และการปฏบิ ัติการจิตวิทยา
หน่วยงานกิจการพลเรือนและการปฏิบตั ิการจิตวิทยามีความสาํ คญั และมีบทบาทสําคญั ในการ
ปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื งนบั เป็ นกําลงั สาํ คญั ในการออมกําลงั ไดม้ ากเป็ นทวีคูณ แมว้ า่ ชยั ชนะในการรบใน
เมืองจะมาจากการปฏิบตั ิการทางทหาร แต่การปฏิบตั ิการจติ วทิ ยาและงานกิจการพลเรือนสามารถสร้างความ
สําเร็จในชยั ชนะไดง้ า่ ยกวา่ ซึงการปฏิบตั ิการจิตวิทยาและงานกิจการพลเรือนใหโ้ อกาสในชยั ชนะทีเป็นไปได้
หากใชใ้ นพืนทีเมือง โดยไมก่ อ่ ใหเ้ กิดความสูญเสีย ความทกุ ข์ทรมาน และความร้ายกาจของสงคราม โดยควร
จะรวมไวเ้ป็นองคค์ วามรู้ของการปฏิบตั ิการทางทหารในเมือง ซึงตามปกติแลว้ หน่วยงานกิจการพลเรือนจะจดั
ไวส้ ําหรับสนับสนุนหน่วย เพือช่วยเหลือและดาํ เนินการในการปฏิบตั ิการดา้ นกิจการพลเรือน
ก. ความรบั ผิดชอบหลักของ ฝอ.๕ (ปฏิบตั ิการพลเรือน-ทหาร)ในการปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื งคือ
การประสานงานกิจกรรมทีจาํ เป็น หรือการอพยพพลเรือนออกจากพืนทกี ารรบ ซึงแยกเป็ นความสําเร็จสอง
อยา่ ง แต่สนบั สนนุ กนั
๑) เจา้ หนา้ ทีกิจการพลเรือนจะประสานงานกับสารวตั รทหารและเจา้ หน้าทีตํารวจทอ้ งที ในการจดั ทาํ
แผนการอพยพ ในเรืองเสน้ ทางอพยพและการควบคุมการขา้ มถนนหลวง การนาํ พลเรือนออกจากเส้นทางส่ง
กาํ ลงั ทางทหาร
๒) เจา้ หนา้ ทกี ิจการพลเรือนจะประสานกับผูช้ าํ นาญการกิจการพลเรือน เจา้ หนา้ ทีของรัฐในทอ้ งถิน
สถานีวิทยุและโทรทศั น์ หนังสือพิมพ์ และอืนๆ เพือเผยแพร่แผนการอพยพ
ข. นายทหารปฏิบตั ิการพลเรือน-ทหาร มีความรับผิดชอบในการใหค้ ําแนะนาํ ผูบ้ งั คับบญั ชา เกียวกบั
กฎหมายและหนา้ ทีความชอบธรรมทีมีต่อประชาชน ซึงความรับผิดชอบนสี ามารถบรรลไุ ดโ้ ดยการ
ดาํ เนินการดา้ นกิจการพลเรือนควบคไู่ ปกบั งานดา้ นอนามยั สุขภาพและความผาสุกของประชาชน รวมถึงการ
สรา้ งระบบของนาํ ใหม่ การแจกจา่ ยอาหาร เสือผา้ และเวชภณั ฑ์ ทีมีอยู่ การตงั บคุ คลทดแทน ผูอ้ พยพและ
ค่ายผูถ้ กู อพยพ
ค. หากฝ่ ายปกครองของพลเรือนไมส่ ามารถทาํ หนา้ ทีได้ เพราะถกู ลม้ ลา้ งจากสงคราม เป็นความ
รับผิดชอบของผูบ้ งั คบั หน่วยในการวางแผนการอพยพ และเตรียมการสาํ หรับความผาสุกของประชาราษฎร์
โดยใชท้ รพั ยากรภายในทีมีอยเู่ ทา่ นนั โดยทรัพยากรและสาธารณูปโภคของประเทศเจา้ บา้ นทีมอี ยจู่ ะถกู ใชไ้ ด้
เป็นแหล่งสุดทา้ ยเทา่ นนั
ง. การวางแผนการปฏิบตั ิการจิตวทิ ยาทางยทุ ธวิธี ในปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื ง ไดก้ าํ หนดขึนใน
พืนทีการรบ เพือบรรลุวตั ถุประสงค์ทนั ทีในหว้ งเวลาสนั ๆ โดยเป็นส่วนหนึงของแผนปฏิบตั ิการทางยทุ ธวธิ ี
ทผี ูบ้ งั คบั หนว่ ยทางยทุ ธวธิ ีใชว้ ิธีการทีสามารถทาํ ใหท้ หารขา้ ศกึ ทีจะทาํ การรบ ออ่ นกาํ ลงั ลงและลดผลการ
กระทาํ ของขา้ ศึกในการรบ รวมทงั ช่วยป้ องกนั ประชาชนเขา้ แทรกแซงการปฏิบตั ิการทางทหาร โดยการ
ปฏิบตั ิ การจติ วิทยาไดก้ าํ หนดขึนเพือใชป้ ระโยชนใ์ นการสร้างความอ่อนแอใหก้ บั ขา้ ศกึ ทงั เป็นกลุ่มและเป็น
รายบคุ คล
- ๑๗๑ -
จ. หนว่ ยปฏิบตั ิการจติ วิทยาทีสนบั สนนุ การปฏิบตั ิการทางทหารในเมอื ง จะใชว้ ิธีการเผยแพร่ข่าวสาร
และการโฆษณาชวนเชือผา่ นสือทางโทรทศั น์ วิทยุ การปิดประกาศ ใบปลิวและลาํ โพงขยายเสียง ซึงการใช้
โทรทศั น์ถ่ายทอดเทปบนั ทกึ ภาพ นับเป็นสือในการชกั ชวนทีไดผ้ ลทสี ุด เนืองจากมีขอ้ ดีหลายประการและมี
ความเหมาะสมสาํ หรบั ใชใ้ นสงครามจาํ กัด สงครามทวั ไป และสงครามเยน็ สาํ หรับในพนื ทที ีขาดแคลน
โทรทศั น์ อาจทาํ การแจกจา่ ยไปยงั ทสี าธารณะหรือเลอื กสรรการแจกจา่ ยเป็นส่วนตวั
หมายเหตุ : ดู ขอ้ มลู เพิมเติมการกิจการพลเรือนจาก รส. ๕๑-๕ และ รส. ๔๑-๑๐
๗ - ๑๓ ฝ่ ายการสารวัตร
คาํ แนะนาํ ฝ่ายการสารวตั ร เป็นมาตรการทีจาํ เป็นสําหรับการควบคุมพลเรือนและใชเ้ ป็นแนวทาง
ดาํ เนินงานของสารวตั รทหารในการสนบั สนุนการปฏิบตั กิ ารควบคมุ ผอู้ พยพ ซึงฝ่ ายการสารวตั รจะประสาน
การปฏิบตั ิกบั ส่วนฝ่ ายอาํ นวยการและหน่วยสนบั สนนุ ในพืนที การปฏิบตั ิการควบคมุ ผูอ้ พยพเป็นความ
รับผิดชอบของ ฝอ.๕ หรือ สธ.๕ ร่วมกบั เจา้ พนกั งานของประเทศเจา้ บา้ นหรือทงั สองฝ่ าย โดยความ
ชว่ ยเหลือของสารวตั รทหารในการแนะนาํ หรือปฏิเสธการยา้ ยทีอยขู่ องพลเรือน การแนะนาํ ทิศทางหรือทาํ
การขดั ขวางการเคลือนยา้ ย และฝ่ ายปกครองของประเทศเจา้ บา้ นจะรับผดิ ชอบในการกาํ หนดเส้นทาง
เคลือนทีทีปลอดภยั ของผอู้ พยพใหอ้ ยหู่ า่ งจากพืนทีปฏิบตั ิการ
หมายเหตุ : ดูหนา้ ทคี วามรับผิดชอบของสารวตั รทหาร ในงานดา้ นกจิ การพลเรือน และการควบคุมพลเรือน
ใน รส. ๑๙-๑
๗ - ๑๔ อํานาจตามกฎหมายของผู้บังคบั บญั ชา และหน้าทคี วามรบั ผิดชอบ
ผูบ้ งั คบั บญั ชาและผูน้ าํ ในทกุ ระดบั มีความรบั ผิดชอบในการป้องกนั ชีวติ และทรพั ย์สินของพล
เรือนใหน้ านทีสดุ เทา่ ทีระยะเวลาในการปฏิบตั ิการทางทหารจะเอืออาํ นวย โดยการฉอ้ โกง ความป่าเถอื น
และการทารุณโหดรา้ ยทีปฏิบตั ิต่อพลเรือน ถอื เป็นขอ้ หา้ มเดด็ ขาดและผูก้ ระทาํ ผิดจะตอ้ งไดร้ ับโทษอยา่ ง
รุนแรง โดยจะตอ้ งปฏิบตั ติ ่อประชาชน ศาสนา และขนบธรรมเนียมประเพณขี องประชาชน ดว้ ยความเคารพ
โดยเฉพาะผหู้ ญงิ จะตอ้ งไดร้ ับการคุม้ ครองเป็นพเิ ศษจากการถกู ข่มขืนทารุณกรรม สําหรับบางสถานการณ์
ของการสูร้ บในเมือง การละเมดิ อาจไมม่ คี วามชดั เจนเหมอื นทไี ดก้ ลา่ วมา ซึงเรืองทีกลา่ วในบทนีเป็นเรืองที
ปกติมกั เกิดขึนในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง และวิธีทีผู้บงั คับหน่วยจดั การใหถ้ ูกตอ้ งตามกฎหมายเพือให้บรรลุ
ภารกิจ
ก. มาตรการควบคุม ผูบ้ งั คับบญั ชาอาจกาํ หนดมาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด เพือการดาํ เนินการ
ใหเ้กิดผล รักษาความมนั คงหรือใหแ้ น่ใจในความปลอดภยั และความผาสุกของประชาชน
๑) การห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาล (เคอร์ฟิ ว) ผู้บงั คบั หนว่ ยทีไดร้ ับมอบภารกิจในการ
ป้ องกนั เมืองควรประกาศใช้เคอร์ฟิ ว เพือช่วยในการควบคุมการจราจรของทหาร อยา่ งไรก็ตาม เคอร์ฟิ วยงั เป็ น
สิงไมถ่ กู กฏหมายหากกําหนดบทลงโทษไวเ้คร่งครัด
- ๑๗๒ -
๒) การอพยพผู้บงั คบั หน่วยอาจต้องการอพยพประชาชนออกจากเมือง หรือจากอาคารหากการ
อพยพมคี วามมุ่งหมาย สาํ หรับความจาํ เป็ นทางทหาร เพิมการรักษาความปลอดภยั หรือเพือความปลอดภยั ของ
ประชาชนผอู้ พยพเอง หากผู้บงั คบั หน่วยไดร้ ับกิจนี จะตอ้ งกาํ หนดเส้นทางเฉพาะสําหรับการอพยพและการ
คุม้ ครองป้ องกัน รวมทงั เตรียมการในเรืองอาหาร เสือผา้ และสิงอาํ นวยความสะดวกเกียวกบั สุขภาพอนามยั
ณ ทหี มายจนกวา่ ผถู้ ูกอพยพจะช่วยเหลือตัวเองได้
๓) การบงั คบั ใช้แรงงาน ตามสนธิสญั ญาเจนีวา ระบุหา้ มใชแ้ รงงานพลเรือนในการสงคราม แตอ่ าจ
ใชไ้ ดก้ ่อนการรบจะเกิดขนึ ในเมือง สาํ หรับแนวทางการใช้แรงงานจากพลเรือนจะถกู กําหนดขึนโดย สธ.๕
กองพล ซึงผูบ้ งั คบั หน่วยอาจบงั คบั ใช้พลเรือนทอี ายเุกิน ๑๘ ปี ใหท้ าํ งาน ถา้ ไมไ่ ดเ้กณฑใ์ หท้ าํ งานทเี กียวขอ้ ง
กบั ปฏิบตั ิการทางทหารซึงงานทีไดร้ ับอนุญาต ประกอบด้วย งานซ่อมแซมสาธารณูปโภคทีไมไ่ ดใ้ ชใ้ นการ
ดาํ เนินการทวั ๆ ไป ของสงคราม และงานบริการใหก้ บั ประชาชนในทอ้ งถิน เชน่ งานดูแลผูบ้ าดเจบ็ และงานฝัง
ศพ นอกจากนีพลเรือนสามารถถูกบงั คบั ใหช้ ่วยเหลือการส่งกลบั และดูแลทหารบาดเจ็บ ตราบใดที
การปฏิบตั ิงานไม่ก่อให้เกิดอนั ตรายทางร่างกาย ส่วนงานทีต้องห้าม ไดแ้ ก่ การขดุ สนามเพลาะสรา้ งทีมนั การ
สร้างป้ อมปราการ การขนยา้ ยเสบยี ง และวตั ถุระเบิด หรือเป็ นผคู้ ุ้มกัน สาํ หรบั พลเรือนทอี าสาสมคั รสามารถ
ใชง้ านนีได้
ข. ประชาชนกลุ่มต่อต้าน ในเหตุการณอ์ ืนๆ ทผี ูบ้ งั คบั บญั ชาจะสามารถทาํ การตอบโตไ้ ด้ คือ ประชาชน
กลมุ่ ต่อต้าน
๑) พลเรือนทีร่วมมากับกองกาํ ลงั ทีมีบตั รประจาํ ตวั และไดร้ ับอนญุ าตให้ปฏิบตั กิ าร เมอื ถูกจบั จะ
ไดร้ ับการปฏิบตั ิเยียงเชลยศึก ตัวอย่าง เช่น ประชาชนทีเป็นสมาชิกลูกเรืออากาศยานทางทหาร ผูส้ ือข่าว
สงคราม ผูร้ บั เหมาการส่งเสบียง และสมาชิกของหนว่ ยแรงงาน หรือองคก์ ารบริการทีรับผิดชอบดแู ลความ
ผาสุขของกองทพั
๒) พลเรือนทีไมใ่ ชเ่ จา้ ของดินแดน ทีจบั อาวุธขนึ ต่อตา้ นผูย้ าํ ยี โดยไมม่ ีเวลาพอในการจดั ตงั กอง
กาํ ลังเป็นรูปแบบทีมีการแต่งกายตามทกี ําหนด และติดเครืองหมายยศชดั เจนสามารถมองเหน็ ในระยะไกล
พกพาอาวธุ อยา่ งเปิ ดเผยและปฏิบตั กิ ารภายใตก้ ฎและประเพณีของสงคราม เมือถกู จบั จะได้รับการปฏิบตั ิเยยี ง
เชลยศึก รวมทงั ประชาชนอืนๆ ทีใหค้ วามช่วยเหลือกบั กลุ่มจะไม่ถือวา่ เป็นผูท้ ีไมเ่ กียวขอ้ งกับการรบ ซึงขึน
อยกู่ บั วา่ เป็ นสมาชิกของกลุ่มตอ่ ตา้ นจริงหรือไม่ แต่จะไดร้ ับการปฏิบตั ิอย่างดีทีสุดในฐานะผูท้ ีเกียวขอ้ งกับ
การรบ จนกวา่ ผูม้ ีอํานาจจากหน่วยเหนือจะตัดสินสถานภาพใหม่
๓) กลุม่ ประชาชนทตี ิดอาวุธทีไมอ่ ยู่ในข่ายของการต่อตา้ นอยา่ งถกู กฎหมาย (ประชาชนทรี ่วมกบั
กองกําลงั และอยใู่ นกลุ่มสันนิบาตทางศาสนา) หรือผู้ทีถูกจบั ไดว้ า่ ได้ลงมอื กอ่ วินาศกรรม ก่อการร้าย หรือ
จารกรรมจะไมถ่ ือวา่ เป็ นผูท้ าํ การสูร้ บอยา่ งถกู ตอ้ งตามกฎหมาย หากถกู จบั ได้จะถูกตดั สินวา่ เป็นอาชญากร
สงครามภายใต้ขอ้ ตกลงของกฎหมายสงครามภาคพืนดิน โดยจะถกู กกั ตวั ไวใ้ นทีทไี ด้รับความสะดวกแยกออก
จากเชลยศึกทีฝ่ ายเราจบั ได้ และมกี ารส่งต่อใหก้ บั สารวตั รทหารโดยเร็ว ซึงการตาํ หนิดว้ ยอาการไมพ่ อใจ
- ๑๗๓ -
การลงโทษเป็ นหมู่ การใชเ้ ป็นตัวประกนั การเฆยี นตี การปลน้ หรือการทาํ ลายทรัพยส์ ินถือเป็นการลงโทษที
ตอ้ งห้าม
๔) กฎหมายสงครามภาคพืนดิน ยอมใหผ้ ู้บงั คบั หนว่ ยควบคุมพลเรือนภายใตเ้ งือนไขการใช้
ทรัพยากรของหน่วยเองดงั ทกี ล่าวมาแลว้ อยา่ งไรกต็ ามความแตกตา่ งทางภาษาและวฒั นธรรมทาํ ให้เกิด
ขอ้ ดีทีจะใชผ้ ู้มอี าํ นาจของชาตินนั ๆ เชน่ ตาํ รวจ ซึงขนึ อยกู่ บั วตั ถุประสงค์ทีตอ้ งการ แต่การใชต้ าํ รวจก็
ไมไ่ ด้ทาํ ใหค้ วามรับผิดชอบของผูบ้ งั คบั หนว่ ยในการคุ้มครองประชาชนในพืนทีลดลง
ค. การป้ องกันทรัพย์สิน โดยปกติ เจา้ หนา้ ทีฝ่ ายพลเรือน อาคารบา้ นเรือนของประชาชน และเมือง
จะอยใู่ นสถานะทีไดร้ ับการคุ้มครองป้ องกนั อย่แู ล้ว ตวั อยา่ ง เช่น จะไมต่ กเป็นเป้าหมายทชี อบธรรม โดยที
อาคารบา้ นเมืองจะสูญเสิยสถานภาพการถกู คุ้มครอง เมอื ผู้มอี าํ นาจตัดสินวา่ ขา้ ศึกไดน้ าํ ไปใชเ้ พือวตั ถุ
ประสงค์ทางทหาร ซึงกรณีสงสัยวา่ จะมกี ารใชเ้ มอื งหรืออาคารเพือทาํ การตงั รับใหข้ จดั ขอ้ สงสัยโดยการ
จดั การลาดตระเวนมใิ ช่ทาํ การยงิ
๑) ถา้ ข้าศึกใชอ้ าคารหรือบางส่วนของเมืองเพือวตั ถปุ ระสงคท์ างทหาร เช่น เป็นจดุ ส่งกาํ ลังหรือ
เป็นจดุ ต้านทาน อาคารหรือบางส่วนของเมอื งนนั จะตกเป็นเป้าหมายอนั ชอบธรรม ซึงก่อนการโจมตี ผู้
บงั คบั หนว่ ยจะตอ้ งตดั สินใจวา่ มคี วามจาํ เป็ นทีจะทาํ การทงิ ระเบิดจากเครืองบินหรือไม่ ในการอ้างเหตผุ ล
วา่ เพียงตอ้ งการผลในการสังหารทาํ ลายเพือวตั ถปุ ระสงค์ทางทหารเทา่ นนั
๒) ตามปกติสถานทีสําคญั ทางศาสนา ทางประวตั ิศาสตร์ โบราณวตั ถแุ ละอาคาร มใิ ช่เป้าหมายที
ถกู กฎหมาย ควรมีการทาํ เครืองหมายโบราณวตั ถุใหเ้ ป็นทสี งั เกต นอกจากนีสถานทพี ยาบาลจะไดร้ ับการ
คุม้ ครองภายใตส้ นธิสัญญากาชาดสากล และหน่วยงาน Red Crescent, Red Lion หรือสัญญลกั ษณ์
Red Star ของ David ซึงตามความจริงแลว้ เครืองหมายสัญลกั ษณ์ทีกล่าวมา ไมไ่ ดท้ าํ ใหค้ วามรับผิดชอบ
ของผูบ้ งั คบั หน่วยในการคุม้ ครองวตั ถุทมี ีคณุ คา่ ทางศาสนา วฒั นธรรม การแพทย์ และประวตั ิศาสตร์
หมดไป
๓) การทีขา้ ศึกนาํ วตั ถุดังกล่าวมาใชใ้ นทางทผี ิด จะอา้ งสถานะในการป้ องกันไม่ได้ เมอื ไรก็ตามที
เกิดขึน ความตอ้ งการหยดุ ยงั การกระทาํ ของของขา้ ศกึ เพือการคุม้ กนั วตั ถแุ ละสถานทจี ะอุบตั ขิ ึนภายใน
หว้ งวลาทีสมควร เชน่ หากผูต้ รวจการณ์หนา้ ขา้ ศึกใชโ้ บสถ์เป็นทีตรวจการณ์ ผูบ้ งั คบั หนว่ ยจะตัดสินใจ
ทาํ ลายในทนั ที เนืองจากหากมีความชกั ชา้ จะทาํ ใหข้ า้ ศกึ ยงั คงใชโ้ บสถ์กระทาํ ความผิดต่อไปหรือหาก
สถานทีศกั ดิสิทธิถูกใชเ้ ป็นจดุ เชือมต่อศูนยโ์ ทรศพั ทจ์ ะใชก้ ารแจง้ เตือนเนืองจากตอ้ งใชเ้ วลาในการรือสาย
และเมอื ถึงเวลาทีตอ้ งทาํ การรอ้ งขอการยงิ ไปยงั เป้ าหมายเหลา่ นัน การทาํ ลายควรจะจาํ กดั ใหน้ อ้ ยทีสุด
เทา่ ทีจาํ เป็นเพือตดั รอนการติดตงั ของขา้ ศกึ เท่านนั
- ๑๗๔ -
๔) การทาํ ลายลา้ ง การใช้ระเบดิ ทาํ ลาย หรือการใชป้ ระโยชน์ทางทหารของอาคารจะไดร้ ับ
อนญุ าตภายใตก้ ฎหมายของสงครามภาคพืนดิน หากความจาํ เป็ นทางทหารทีบีบบงั คบั มีความชดั เจน
ดงั นันการทาํ ลายบา้ นเรือนเพือใหไ้ ด้มาซึงพืนการยิงน่าจะเป็นการกระทาํ ทีถูกกฎหมาย โดยไมร่ วมการ
ทาํ ลายเพือการแกแ้ คน้ ในทาํ นองเดียวกนั การยงิ ไปยงั บา้ นเรือนทกี าํ ลงั ขา้ ศกึ ยึดครองหรือทาํ การตงั รับถือ
เป็นความชอบธรรม
- ๑๗๕ -
บทที ๘
การใช้อาวธุ และผลของอาวุธ
ในบทนีจะกล่าวเพิมเติมเกียวกบั คู่มอื ทางเทคนิค และคู่มือราชการสนามในเรืองขีดความสามารถ
และผลของอาวธุ ทีใชใ้ นการตอ่ ต้านเป้าหมายทวั ๆ ไป โดยมุง่ เน้นเฉพาะในเรืองการพิจารณาการใช้อาวุธ
ในการรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง รวมทงั กล่าวถึงองคร์ วมของอาวธุ ทหารราบและอาวธุ ยิงสนบั สนนุ ใน
การรบ
๘ – ๑ ประสิทธิผลของอาวุธและการทาํ ลาย
ธรรมชาติและลกั ษณะพิเศษของการรบในพนื ทสี ิงปลกู สร้างส่งผลกระทบตอ่ การใชอ้ าวธุ และผล
ของอาวุธ ซึงผูน้ าํ หนว่ ยในทกุ ระดบั จะตอ้ งพิจารณาถงึ ปัจจยั ตา่ งๆ ในการสนธิความหลากหลายเมอื เลือก
ใชอ้ าวุธ ดงั นี
ก. ความแขง็ แกร่ง ความราบรืน และความแบนราบของพืนผิวเป็นลกั ษณะพิเศษของเป้าหมาย
ในเมอื ง เป็นการยากในการทาํ ใหก้ ระสนุ กระทบตงั ฉากกบั พืนผิวเรียบทีมีมมุ เยอื งกับการยิง ทาํ ใหล้ ดผล
ของกระสุนแต่เพิมผลของการกระดอน ซึงความโนม้ เอียงของกระสุนทีพ่งุ แฉลบต่อพืนผิวแข็ง มโี อกาส
สูงถึงรอ้ ยละ ๒๕ ทชี นวนจะจดุ ไม่ระเบิดเมอื ยิงไปยงั พืนทีทีมกี องวสั ดุ
ข. เมอื ระยะของการโจมตีใกล้ ผลของการศึกษาและวิเคราะห์ในอดีต พบว่าร้อยละ ๕ ของ
เป้าหมายมีระยะหา่ งมากกวา่ ๑๐๐ เมตร ประมาณรอ้ ยละ ๙๐ อยใู่ นระยะ ๕๐ เมตร หรือนอ้ ยกวา่ จากทหาร
ทีจาํ แนกเป้ าหมาย ซึงจะมเี ป้ าหมายบคุ คลจาํ นวนนอ้ ยทีสามารถมองเหน็ ในระยะเกินกว่า ๕๐ เมตร ปกติ
จะปรากฏทรี ะยะ ๓๕ เมตร หรือนอ้ ยกวา่ โดยตอ้ งคาํ นึงถึงระยะยงิ ใกลส้ ุดและความปลอดภยั ของกําลงั
พลจากเปลวไฟดา้ นทา้ ยของอาวธุ และผลของสะเก็ดระเบิด
ค. เมอื ระยะเวลาในการโจมตีมีนอ้ ย เป้ าหมายขา้ ศึกจะปรากฏในหว้ งระยะเวลาสนั ๆ โดยเฉพาะ
ขา้ ศึกทยี ึดอาคารสิงปลกู สร้างจะไดร้ ับการคุม้ ครองจากอาํ นาจการยิง และไมถ่ กู โจมตีโดยตรงหรือแมแ้ ต่
ถูกเล็งยิงอยา่ งประณีต
ง. สภาพหลุมบอ่ และความตา่ งระดับเป็นขอ้ จาํ กดั กอ่ ใหเ้ กิดพืนทอี ับกระสุนของอาวธุ บางชนิด
โดยอาคารสงู ทีตงั ในหุบเขาลกึ จะปลอดภยั จากการยงิ เล็งจาํ ลอง อาวธุ บางชนิดสามารถทาํ การยงิ กระสุน
กระดอนแตกใหต้ กหลงั ทกี ําบงั และส่งผลใหเ้ กิดการบาดเจ็บลม้ ตายได้ สําหรับเป้ าหมายโจมตีทีมีมมุ เยอื ง
ทงั ทางดิงและทางระดบั จะตอ้ งใชท้ กั ษะของพลแมน่ ปื นชนั สูง
จ. ควนั ไฟจากอาคารไฟไหม้ฝ่ ุนจากการระเบดิ และร่มเงาของอาคารสูง รวมทงั สภาวะแสงทีส่อง
เขา้ ไปไดน้ อ้ ยในหอ้ ง จะร่วมกนั ลดการมองเห็นและเพิมความรู้สึกโดดเดียว ประกอบกบั กองวสั ดจุ ากซาก
ปรักหกั พงั และทีมนษุ ยส์ รา้ งขนึ ทาํ ใหเ้ ป้ าหมายปรากฏในระยะใกลแ้ ละมองเห็นไม่ชดั
- ๑๗๖ -
ฉ. การต่อสู้ในเมืองมกั เกิดความชลุ มุนสับสน จากหน่วยทหารขนาดเลก็ หลายหน่วยทีเขา้ โจมตี
ในแกนทีบรรจบกนั ก่อใหเ้ กิดความเสียงในการยิงและการแฉลบและสงั หารฝ่ ายเดียวกันเอง ซึงตอ้ งนาํ มา
พิจารณาในขนั ของการวางแผนปฏิบตั กิ าร และกาํ หนดมาตรการควบคุมอยา่ งตอ่ เนอื งเพือลดระดบั ความ
เสียง โดยกําลงั พลและผูน้ าํ หนว่ ยจะตอ้ งดาํ รงอยใู่ นสถานการณ์แหง่ ความระมดั ระวงั และความชดั เจนของ
ในขอ้ กาํ หนดความคืบหนา้ ร่วมกนั ตามระเบยี บปฏิบตั ิประจาํ ของหน่วย เพือหลกี เลียงการสงั หารฝ่ายเดียว
กนั เอง
ช. ทงั ผู้ยงิ และเป้ าหมายอาจอยู่ภายในหรือภายนอกอาคาร หรืออยใู่ นอาคารเดยี วกนั หรือคนละ
อาคาร ธรรมชาติโดยรอบของการรบในพืนทสี ิงปลูกสร้าง ส่งผลตอ่ ผลของอาวธุ แสงจากปากลํากลอ้ ง
และเปลวไฟดา้ นทา้ ย ซึงตอ้ งนาํ มาพิจารณาเหมือนกบั การทาํ ใหก้ ระสุนกระทบเป้ าหมาย
ซ. ตามปกติโครงสรา้ งทมี นุษยส์ ร้างขนึ จะถูกโจมตีกอ่ นทีขา้ ศึกภายในจะถกู โจมตี ดังนนั จะตอ้ ง
เลือกใชอ้ าวธุ และระเบดิ ทาํ ลายใหส้ ามารถทาํ ลายตึกและคอนกรีตมากกวา่ การสังหารบคุ คล
ด. วิศวกรรุ่นใหมไ่ ด้ปรบั ปรุงการออกแบบอาคารสิงก่อสร้างขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ตงั แตส่ งครามโลก
ครงั ที ๒ ใหม้ ีความยดื หยนุ่ ต่อแรงระเบดิ ของการทงิ ระเบิดและการโจมตีจากปื นใหญ่ และแมว้ า่ อาคาร
สมยั ใหมจ่ ะติดไฟง่ายแต่ยงั สามารถรักษาสภาพโครงสรา้ งทีมนั คงใหต้ งั อยไู่ ด้ อาคารสงู ทีถกู ไฟไหมแ้ ลว้
ยงั สามารถใช้ประโยชน์ทางทหารไดโ้ ดยเกอื บจะไม่มีความเสียหายเพิมขึน ซึงโครงสร้างขนาดใหญอ่ าจมี
การไหมน้ าน ๒๔ ถึง ๔๘ ชัวโมง จนกวา่ จะเยน็ ลงพอทีทหารจะเขา้ ไป
ต. อาคารปกติทวั ๆ ไป จะสรา้ งจากอิฐหนา ๑๒-๒๔ นิว ซึงตารางที ๘-๑ เป็นข้อมลู ทพี บใน
อาคารแตล่ ะชนิด
ชนดิ ของอาคาร ความถีทีพบ (ร้อยละ)
หิน หนา ๓๐ นิว ๑
คอนกรีตเสริมเหลก็ หนา ๘-๑๐ นิว ๖.๙
อิฐ หนา ๑๒-๒๔ นิว ๖๓
ไม้ หนา ๖ นิว ๑๖
เหล็กและคอนกรีต หนา ๑๔ นิว (ตกแตง่ แบบหนา) ๒
เหล็กและคอนกรีต หนา ๗ นิว (ตกแต่งแบบบาง) ๑๒
ตารางที ๘-๑ ชนิดของอาคารและความถึในการพบ
- ๑๗๗ -
๘ - ๒ ปลย.เอ็ม.๑๖ (M16) และ ปก.เอ็ม.๒๔๙ (M249)
ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑/เอ็ม.๑๖ เอ.๒ (M16 A1/M16 A2)เป็นอาวธุ ยิงทีใชต้ ามปกติในพืนทีสิงปลกู
สรา้ ง ซึง ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑/เอ็ม.๑๖ เอ.๒ (M16 A1/M16 A2) และ ปก.เอ็ม.๒๔๙ (M249) เป็นอาวุธทใี ช้
ในการสังหารบคุ คลเพอื ยบั ยงั การยิงและการตรวจการณข์ องขา้ ศึก รวมถึงการทะลุทะลวงทกี าํ บงั ทีบอบ
บาง ซึงผูน้ ําหน่วยสามารถใชก้ ารยงิ ส่องวิถีในการกาํ หนดทตี งั เป้ าหมายใหก้ บั อาวุธอืนๆ
ก. การใช้ การรบระยะใกลจ้ ะใชล้ กั ษณะพิเศษทีเด่นชดั ของการรบปะทะในเมอื ง โดยพลยิงตอ้ ง
สามารถทาํ การยิงเป้ าหมายขนาดเลก็ เป้าหมายทเี กิดขึนฉับพลนั จากช่องบงั เกอร์ ช่องหนา้ ตา่ ง และช่องยงิ
จากกาํ แพง โดยตอ้ งการตาํ แหนง่ ทีแน่นอนและแม่นยาํ จากการยิงของอาวธุ ในระบบกึงอตั โนมตั ิ ซึงการ
สงั หารขา้ ศึกผ่านช่องกาํ แพงขนาด ๘ นิว ทรี ะยะ ๕๐ เมตร ถอื เป็นการทา้ ทายอยา่ งยิง แต่สําหรับการรบใน
พืนทีสิงปลกู สรา้ งถือเป็ นเรืองปกติ
๑) เมอื ทาํ การตอ่ สู้ภายในอาคาร ควรใชก้ ารลนั กระสุนครังละ ๓ นดั หรือการยิงเร็วแบบ
กึงอตั โนมตั ิ ในการกดดนั ฝ่ายตงั รับขณะเขา้ ไปในหอ้ ง การลนั กระสุนเป็ นชุดครงั ละ ๓ นดั สามารถใช้ได้
กบั ทกุ เป้ าหมายทพี ิสูจน์ทราบแลว้ และใชไ้ ดก้ บั ทตี งั ของขา้ ศกึ ซึงจะไดผ้ ลมากกวา่ การลนั กระสุนเป็นชดุ
ยาวๆ หรอื ยิงแบบอตั โนมตั ิสาดเขา้ ไปในหอ้ งและควรยิงจากทา่ ยิงใตแ้ ขนหรือประทบั บา่ มใิ ชก่ ารยิงแบบ
ประทบั สะโพก
๒) เมือเป้ าหมายเปิ ดเผยตวั ในอาคาร การโจมตีทไี ดผ้ ลจะใช้เทคนคิ การยงิ เร็วโดยยกอาวธุ ขึน
และลืมตาทงั สองขา้ ง (ดูรายละเอียดทางเทคนิคเพิมเติม ใน รส.๒๓-๙) ซึงการยิงเรว็ อยา่ งแม่นยาํ ไม่
เพียงแตไ่ ดผ้ ลในการสังหารกาํ ลงั ขา้ ศึก แต่ทาํ ใหฝ้ ่ ายเข้าตีมีการยิงทดี ีกว่า
๓) ในพืนทีสิงปลกู สร้าง ซากจากการเผาไหม้สภาพแสงโดยรอบทลี ดลง สภาพความมดื ทึบ
จากความหนาแนน่ ทเี ปลียนไป และควนั ไฟจะสง่ ผลจาํ กดั การมองเห็นในเวลากลางคืนและส่งผลตอ่
เครืองชว่ ยในการมองเหน็ การเลง็ แบบใชห้ ลกั เล็งของการตงั รบั และเทคนคิ การเลง็ เป็นจดุ ในการเขา้ ตี ซึง
ทงั สองวธิ ีใชก้ ารลนั กระสนุ ครังละ ๓ นดั เป็นทกั ษะการยิงในเวลากลางคืนของทหารราบทุกนาย
นอกจากนีการเลง็ โดยใชแ้ สงเลเซอร์บางครงั สามารถใชอ้ ยา่ งไดผ้ ลร่วมกบั กลอ้ งมองในเวลากลางคืน ซึง
ทหารทใี ชก้ ลอ้ งมองควรปฏิบตั ิการเป็นทีมและจะตอ้ งมีทหารอยา่ งนอ้ ยหนึงคน ทีไมส่ วมกลอ้ งมองใน
เวลากลางคืน
ข. อํานาจทะลทุ ะลวงของอาวุธ การทะลุทะลวงของกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. จะไดผ้ ลขึนอยูก่ บั
ระยะของเป้ าหมายและชนิดของวตั ถุทที าํ การยิง เมอื ใช้ เอ็ม.๑๖ เอ.๒ (M16 A2) และ เอม็ .๒๔๙ (M249)
สามารถทะลุทะลวงไดด้ ีกวา่ เอ็ม.๑๖ เอ.๑ (M16 A1)ในการยิงเป้ าหมายระยะไกล ส่วนเป้าหมายระยะใกล้
จะใชไ้ ดผ้ ลเหมอื นกนั สําหรับการยงิ กระสุนขนาด ๕.๕๖ มม.ทีละนดั จะไมส่ ่งผลตอ่ การทาํ ลายวสั ดุ
โครงสรา้ งของอาคาร (แตท่ าํ ลายฝากนั ) เมอื ทาํ การยิงในระยะใกล้เพราะระยะยงิ ใกล้อาํ นาจทะลุทะลวง
ยิงนอ้ ยลง
- ๑๗๘ -
๑) กระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. จะมอี ํานาจทะลุทะลวงสูงสุดทรี ะยะ ๒๐๐ เมตร ทีระยะนอ้ ยกวา่
๒๕ เมตร อาํ นาจทะลุทะลวงยงิ ลดลงอย่างมาก และทีระยะ ๑๐ เมตร อาํ นาจทะลุทะลวงทยี ิงโดย เอ็ม.๑๖
(M16) ไมด่ ี เนืองจากความเคน้ ทีมากมายมหาศาลทีเกิดกับกระสุนทีเคลือนทีเร็วเป็นสาเหตใุ ห้เกิดการหนั
เหเมอื กระทบเป้ าหมาย ซึงความเคน้ เป็นสาเหตุใหก้ ระสุนทยี ิงออกมาเกิดการแตกออกจากกนั เป็นชินๆ
และมขี นาดเลก็ เกินไปสําหรับการทะลุทะลวง
๒) แมก้ ารทะลทุ ะลวงจะลดลงในระยะใกล้แตผ่ นงั ภายในทที าํ จากแผน่ ไมบ้ าง แผ่นหินบางๆ
หรือพลาสติก ไมส่ ามารถต้านทานกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม.ได้ รวมทงั เฟอรน์ ิเจอร์สํานกั งานปกติ เช่น
โตะ๊ เกา้ อี ก็ไมส่ ามารถยบั ยงั กระสุนไดเ้ ชน่ กนั แต่ชนั หนงั สือทมี ีความหนา ๑๘ ถึง ๒๔ นวิ สามารถ
ป้ องกนั ได้
๓) อาคารโครงสร้างไมแ้ ละผนงั อิฐบลอ็ กชนั เดียว สามารถป้ องกนั กระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. ได้
เล็กนอ้ ย ในการกวาดล้างโครงสร้างทหารจะตอ้ งแนใ่ จวา่ ทหารฝ่ ายเดียวกนั จะตอ้ งไมไ่ ด้รบั บาดเจบ็ จากผล
ของกระสุนทีทะลุผนงั พืน หรือเพดาน
๔) กระสุนเจาะเกราะในการทะลุทะลวงเป้าหมายในเมืองทกุ ระยะยงิ จะใชไ้ ดผ้ ลมากกวา่ กระสุน
ธรรมดาเล็กนอ้ ย และยงั มีการแฉลบมากกวา่ กระสุนธรรมดา โดยเฉพาะเมอื เป้ าหมายทีปรากฏมีค่ามุมเยอื ง
สูง
ค. การป้ องกัน อุปสรรคในพืนทีสิงปลูกสรา้ งทสี ามารถยบั ยงั กระสนุ ขนาด ๕.๕๖ มม.ทรี ะยะนอ้ ย
กวา่ ๕๐ เมตร ได้แก่
• กระสอบทรายหนา ๑ ชนั
• ผนงั คอนกรีตหนา ๒ นิว (ไมเ่ สริมเหลก็ )
• ถงั ๕๕ แกลลอน บรรจนุ าํ หรือทราย
• กระป๋ องกระสุนเลก็ บรรจทุ ราย
• อิฐบล็อกบรรจทุ ราย (อิฐบลอ็ กอาจแตกละเอียด)
• แผน่ กระจกบานหนา้ ต่างทีทาํ มุม ๔๕ องศา (เศษกระจกอาจสาดไปดา้ นหลงั )
• อิฐเคลือบ
• ตวั ถังรถยนต์ (ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๑/เอ็ม.๑๖ เอ.๒ (M16 A1/M16 A2) สามารถทะลุเขา้ ไปไดแ้ ต่
ไมท่ ะลอุ อกมา)
ง. การเจาะทะลุกําแพง แมว้ ่าวสั ดุทใี ชใ้ นโครงสรา้ งส่วนใหญจ่ ะตา้ นทานกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม.
ทียิงหนึงนดั ได้ แต่การยงิ อย่างตอ่ เนืองไปยงั ทีเดียวกนั สามารถเจาะโครงสรา้ งบางชนดิ ของเมอื งได้
- ๑๗๙ -
๑) วิธีทีดีทสี ุดในการเจาะผนงั ตึก ได้แก่การยงิ แบบลนั กระสุนเป็นชุดสันๆ (๓-๕ นดั ) เป็นรูปตวั ยู
ระยะจากพลยิงถึงผนงั ทีระยะยิงหวงั ผลใกลส้ ุด ซึงระยะ ๒๕ เมตร จะปลอดภยั จากการแฉลบ โดยสวม
แวน่ ตากนั กระสุน เสือเกราะ และหมวกเหล็ก
๒) กระสุนธรรมดา และกระสุนเจาะเกราะ จะผลิตมาใชด้ ว้ ยเหตผุ ลเดียวกัน แตก่ ระสุนเจาะเกราะ
มโี อกาสทีจะกระดอนกลบั ไปหาผยู้ ิงมากกวา่ ซึงกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. สามารถทาํ ให้เกิดชอ่ งยิง
(เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางกวา้ งประมาณ ๗ นิว) หรือเจาะช่อง (กวา้ งพอใหค้ นลอดได)้ และเมอื ใชก้ บั คอนกรีต
เสริมเหล็ก เอ็ม.๑๖ (M16) และ เอ็ม.๒๔๙ (M249) ไมส่ ามารถตดั เหลก็ เส้นได้
ชนิด การทะลุทะลวง จํานวนกระสุน (ทีต้องการ)
คอนกรีตเสริมเหล็ก หนา ๘ นิว ทะลุ ๓๕
ช่องยงิ ๒๕๐
อิฐ หนา ๑๔ นิว สามชนั ทะลุ ๙๐
ชอ่ งยิง ๑๖๐
อิฐบลอ็ ก หนา ๑๒ นิว ร่วมกบั อิฐเคลือบ ช่องยงิ ๖๐
ชนั เดียว ชอ่ งเจาะ ๒๕๐
อิฐ หนา ๙ นิวสองชัน ทะลุ ๗๐
ช่องยิง ๑๒๐
ตน้ ไม้๑๖ นิว สามชัน หรือผนงั ทอ่ นซงุ ทะลุ* ๑-๓
อิฐบลอ็ ก หนา ๑๒ นิว (บรรจุทราย) ชอ่ งยิง ๓๕
กระสอบทราย หนา ๒๔ นิว สองชนั ทะลุ* ๒๒๐
ประตเู หล็กอ่อน หนา ๓/๘ นิว ทะลุ* ๑
* ทะลุ แต่ไมเ่ กิดชอ่ งยิง
ตารางที ๘-๒ ความสามารถในการทะลทุ ะลวงโครงสร้าง
ของกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. ต่อเป้ าหมายแต่ละชนิดในเมือง (ระยะ ๒๕ ถึง ๑๐๐ เมตร)
๘ - ๓ ปื นกลขนาดกลางและปื นกลหนัก (กว้างปากลํากล้อง ๗.๖๒ มม. และ .๕๐ นิว)
สภาพแวดลอ้ มในเมอื ง ปืนกลบราวนิง .๕๐ กวา้ งปากลาํ กลอ้ ง .๕๐ นิว และ ปื นกล เอ็ม.๖๐ (M60)
ขนาด ๗.๖๒ มม. มใี ช้เป็นจาํ นวนมาก เพราะมีระยะยิงไกล ทาํ การยิงไดแ้ บบอตั โนมตั ิ สามารถยบั ยงั และ
สังหารทาํ ลายต่อเป้ าหมายขา้ ศกึ มกั ใชต้ ลอดแนวยิงป้ องกนั ขนั สุดทา้ ย รวมทงั ใชเ้ จาะทะลโุ ครงสรา้ ง
- ๑๘๐ -
ขนาดเบา ซึงปื นกลกวา้ งปากลาํ กลอ้ ง .๕๐ นิว เป็นชนิดทใี ช้ไดผ้ ลมากทสี ุด กระสุนส่องวิถีจากปืนกลทงั
สองชนิดจะเหมือนกนั เมอื เริมทาํ การยิง แต่ กระสุนส่องวถิ ีของปื นกล .๕๐ นิว มีความเหมาะสมกวา่
ก. การใช้ การพิจารณาใช้ปื นกลในขนั ตน้ ในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง ไดแ้ ก่ ขอ้ จาํ กัดของพนื การยงิ ใน
ระยะไกล แมว้ ่าการตงั ยิงปืนกลควรจะวางในชนั ล่างสุด การยิงกวาดบริเวณชนั ล่างมกั จะถกู กีดขวางโดย
กองวสั ดุ
๑) ปื นกลกวา้ งปากลาํ กลอ้ ง .๕๐ นิว ปกติใชต้ ิดตงั บนยานพาหนะทงั ในการปฏิบตั ิการเขา้ ตีและ
ตงั รับ โดยจะตอ้ งติดตงั บนขาหยงั เอ็ม.๓ สาํ หรับใชใ้ นชนั ลา่ งหรือชันอืนๆ ของอาคาร เมอื ติดตงั บนขา
หยงั จะใชไ้ ดอ้ ย่างแมน่ ยาํ เนืองจากเป็ นอาวุธทีมรี ะยะยิงไกล สามารถใชเ้ พิมเติมกาํ ลงั ใหก้ บั การยิงของพล
ซุ่มยิง
๒) ปื นกล เอ็ม.๖๐ (M60) มีความอุย้ อา้ ยทาํ ให้เกิดความยงุ่ ยากเมือใช้ภายในขณะทาํ การกวาด
ลา้ งอาคาร แต่จะใช้ภายนอกอาคารเพือยบั ยงั และแยกฝ่ ายตงั รับของขา้ ศึกใหโ้ ดดเดียว โดยสามารถทาํ การ
ยงิ ไดท้ งั ท่าประทบั บา่ และประทบั สะโพกเพือผลในการโจมตีและการยงิ เพือยบั ยงั และควรใชส้ ายสะพาย
อาวธุ และกระสุน
๓) เนอื งจากอํานาจทะลุทะลวงทลี ดลง ทาํ ให้ปืนกล เอ็ม.๖๐ (M60) ใชไ้ ดผ้ ลนอ้ ยกวา่ ปื นกล
กวา้ งปากลาํ กลอ้ ง .๕๐ นิว ในการยงิ ต่อเป้ าหมายทีเป็นตึกกอ่ อิฐ แต่การทีมใี ชห้ ลากหลายและมนี าํ หนกั
เบาทาํ ใหเ้ หมาะตอ่ การขยายอาํ นาจการยิงของปื นกลหนกั หรือใชใ้ นพืนทีทีปื นกล .๕๐ ไมส่ ามารถตงั ยงิ
ไดห้ รือใช้ทดแทนปื นกลหนกั ทขี าดแคลน นอกจากนี ปื นกล เอ็ม.๖๐ (M60) สามารถใชต้ ิดตงั บนขาหยงั
เพือการยงิ ทแี มน่ ยาํ ในแนวการยงิ ป้ องกนั ขนั สุดทา้ ย รวมทงั สามารถปรบั เปลียนเป็ นการยิงบนขาทรายได้
อยา่ งรวดเร็วเพือสลับการคุ้มครองพืนการยงิ
ข. การทะลุทะลวงของอาวุธ ความสามารถในการทะลุทะลวงของกระสุนขนาด ๗.๖๒ มม. และ
. ๕๐ นิว เมือทาํ การยงิ หนึงนดั มผี ลมาจากระยะเป้ าหมายและชนิดของวสั ดทุ ีทาํ การยิง ซึงกระสุนขนาด
๗.๖๒ มม. ไดร้ ับผลกระทบจากระยะยงิ ใกล้ นอ้ ยกวา่ กระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. และกระสุนขนาด .๕๐
นิว อาํ นาจทะลุทะลวงจะลดลงนอ้ ยทีสุด
๑) ทีระยะ ๕๐ เมตร กระสุนธรรมดา ขนาด ๗.๖๒ มม. ไมส่ ามารถเจาะทะลผุ า่ นกระสอบทราย
ชนั เดียว โดยสามารถเจาะทะลไุ ด้ทรี ะยะ ๒๐๐ เมตร แต่ไมส่ ามารถเจาะทะลผุ า่ นกระสอบสองชนั ได้
สําหรับกระสุนเจาะเกราะใชก้ บั กระสอบทรายไดด้ ีกวา่ เลก็ นอ้ ย โดยไมส่ ามารถเจาะทะลุผา่ นกระสอบ
ทรายสองชนั แตส่ ามารถทะลทุ ะลวงไดถ้ ึง ๑๐ นิว ทีระยะ ๖๐๐ เมตร
๒) การทะลุทะลวงของกระสนุ ขนาด ๗.๖๒ มม. ดีทสี ุดทรี ะยะ ๖๐๐ เมตร แต่เป้าหมายในเมอื ง
ส่วนใหญ่มรี ะยะใกลก้ วา่ ระยะหวงั ผลไกลสดุ ปกติอยใู่ นระยะ ๒๐๐ เมตร หรือนอ้ ยกวา่ ตาราง ๘-๓
อธิบายถึงความสามารถในการทะลุทะลวงของกระสุนขนาด ๗.๖๒ มม. (ธรรมดา) ๑ นดั ทีระยะใกลก้ วา่
- ๑๘๑ -
ระยะ (เมตร) กระดานไม้สน (นิว) ทรายแห้งหลวม (นิว) อิฐบล็อก (นิว) คอนกรีต (นิว)
๒๕ ๑๓ ๕ ๘๒
๑๐๐ ๑๘ ๔.๕ ๑๐ ๒
๒๐๐ ๔๑ ๗ ๘๒
ตารางที ๘-๓ ความสามารถในการทะลุทะลวงของกระสุนขนาด ๗.๖๒ มม. (ธรรมดา) ๑ นัด
๓) กระสุนปื นกลขนาด .๕๐ จะไดผ้ ลมากทีสุดทรี ะยะไกล (๘๐๐ เมตร) สําหรับเป้ าหมายทีมี
ความแข็ง การทะลุทะลวงจะขนึ อยกู่ ับความเยอื งและระยะ ทงั กระสุนธรรมดาและกระสุนเจาะเกราะจะ
ทะลุทรายหนา ๑๔ นิว หรือ ถงุ ดินหนา ๒๘ นิว ทรี ะยะ ๒๐๐ เมตร กรณีกระสนุ กระทบตงั ฉากกบั เป้า
แบนราบ ตารางที ๘-๔ อธิบาย ผลทะลทุ ะลวงจากการยิงทีมีมุมเยอื ง ๒๕ องศา ของกระสุนขนาด .๕๐
ความหนา (นิว) ระยะ ๑๐๐ เมตร (นัด) ระยะ ๒๐๐ เมตร (นัด)
๒ ๓๐๐ ๑.๒๐๐
๓ ๔๕๐ ๑.๘๐๐
๔ ๖๐๐ ๒.๔๐๐
ตารางที ๘-๔ จํานวนกระสุนทีใช้เจาะทะลุกาํ แพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ทมี ุมเยือง ๒๕ องศา
ค. การป้ องกนั เครืองกาํ บงั ทีป้ องกนั กระสุนกระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. สามารถใชก้ าํ บงั กระสุน
ขนาด ๗.๖๒ มม.ได้ เวน้ แต่กระสุนขนาด ๗.๖๒ มม. สามารถเจาะทะลุบานหนา้ ตา่ งไดท้ ีมมุ เยอื ง ๔๕
องศา รวมถึงอิฐบล็อกกลวงและเจาะทะลุตัวถังรถยนต์ทงั สองดา้ น และเจาะทะลเุ ฟรมไมข้ องอาคารไดง้ า่ ย
ซึงกระสุนขนาด .๕๐ สามารถเจาะทะลุเครืองปิดกนั ธรรมดาทพี บในเมอื ง ยกเวน้ ถงั ๕๕ แกลลอน บรรจุ
ทราย
ง. การเจาะทะลุกําแพง การยงิ อยา่ งต่อเนืองไปยงั ตาํ แหนง่ เดิมสามารถ เจาะทะลผุ นงั ในเมอื งทวั ๆ
ไป ซึงการยงิ ลักษณะนีไมส่ ามารถเจาะทะลโุ ครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กหรือกาํ แพงทีทาํ จากหินตาม
ธรรมชาติ สาํ หรบั ผนงั ภายใน ฉากกนั ฉาบปนู พืน เพดาน เฟอร์นิเจอร์สาํ นกั งาน เครืองใชใ้ นบา้ น และ
เตียงนอน สามารถเจาะทะลุไดง้ า่ ยโดยกระสนุ ขนาด ๗.๖๒ มม. และกระสุน .๕๐ (ตารางที ๘-๕ และ
๘-๖)
- ๑๘๒ -
ชนิด ความหนา (นิว) เส้นผ่าศูนย์กลางช่อง (นิว) จาํ นวนกระสนุ ทีตอ้ งการ
คอนกรี ตเสริมเหลก็ ๘๗ ๑๐๐
ผนงั อฐิ สามชนั ๑๔ ๗ ๑๗๐
คอนกรี ตบลอ็ กและอฐิ เคลือบชนั เดยี ว ๑๒ ๖ และ ๒๔ ๓๐ และ ๒๐๐
อิฐบล็อก (บรรจุ) ๑๒ * ๑๘
ผนงั อฐิ สองชนั ๙* ๔๕
ผนงั กระสอบทรายสองชัน ๒๔ * ๑๑๐
ผนงั ท่อนซงุ ๑๖ * ๑
ประตเู หล็กออ่ น ๓/๘ * ๑
* เจาะทะลโุ ดยไม่เกิดช่องยงิ
ตารางที ๘-๕ ความสามารถในการเจาะทะลุโครงสร้างของ กระสุนขนาด ๗.๖๒ มม. (ธรรมดา นาโต้)
ต่อชนดิ ของเป้ าหมายในเมอื ง (ระยะ ๒๕ เมตร)
๑) ปื นกล เอ็ม.๖๐ (M60) ยากทีจะถือใหน้ ิงในขณะยงิ ซาํ ๆ ไปยงั เป้ าหมายเดิมบริเวณผนงั ทงั
ผงฝ่ ุนจากกระสนุ ทกี ระทบเป้ าทาํ ใหก้ ารเล็งประณีตทาํ ไดย้ าก ดังนนั การตงั ยงิ จากขาหยงั จะไดผ้ ลกวา่
โดยเฉพาะเมอื มกี ระสอบทรายทชี ่วยใหป้ ื นนิง โดยใช้การยิงเป็นชดุ สนั ๆ ๓-๕ นดั เป็นรูปตัวยซู ึงเป็นวิธีที
ดีทีสุด
๒) การเจาะชอ่ งอิฐเคลือบกอ่ ให้เกิดปญั หาเฉพาะสําหรับปื นกล เอ็ม.๖๐ (M60) การเจาะอิฐบลอ็ ก
ของกระสุนมกั เหลือเป็นโครงส่วนทีอิฐบล็อกไมแ่ ตก ทาํ ใหต้ อ้ งใชก้ ระสุนในการทาํ ลายเพิมขึนเนืองจาก
กระสุนส่วนใหญจ่ ะลอดช่องทเี จาะแล้ว อาจตอ้ งเสียเวลาในการใชเ้ ครืองมอื อีเตอร์ ชะแลง หรือขวานใน
การทาํ ลายโครงทีเหลอื เพอื ใหส้ ามารถลอดผ่านช่องเจาะไปได้
๓) ปื นกล .๕๐ นิว สามารถทาํ การยิงไดอ้ ยา่ งแมน่ ยาํ จากขาหยงั โดยใช้ป่มุ ปรบั การยิงทลี ะนดั ซึง
เป็นวิธีทีไดป้ ระสิทธิภาพมากทีสุด ในการเจาะชอ่ งยงิ สาํ หรับการยิงแบบอตั โนมตั ิโดยลนั กระสุนทลี ะ
๓-๕ นดั เป็นรูปตัวยจู ะไดผ้ ลดีในการเจาะชอ่ งลอดผ่าน
ชนดิ - ๑๘๓ - จํานวนกระสุนทีตอ้ งการ
คอนกรี ตเสริมเหลก็ ๕๐
ความหนา (นิว) เส้นผ่าศูนย์กลางช่อง (นิว) ๑๐๐
ผนงั อฐิ สามชนั ๑๐ ๑๒ ๑๔๐
๒๔
คอนกรี ตบลอ็ กและอิฐเคลือบชนั ๑๘ ๗ ๑๕
เดียว ๑๒ ๘ ๕๐
แผน่ เกราะ ๒๖ ๒๕
ผนงั กระสอบทรายสองชนั ๑๒ ๑๐ ๔๕
ผนงั ท่อนซงุ ๓๓ ๑
๑* ๕
* เจาะทะลโุ ดยไม่เกดิ ช่องยิง ๒๔ * ๑
๑๖ *
ตารางที ๘-๖ ความสามารถในการเจาะทะลโุ ครงสร้างของ กระสุนธรรมดาขนาด .๕๐ นิว
ต่อชนดิ ของเป้ าหมายในเมือง (ระยะ ๓๕ เมตร)
๘ - ๔ เครืองยงิ ลกู ระเบดิ ๔๐ มม. (เอ็ม.๒๐๓ (M203) และ เอม็ เค๑๙ (MK19))
ทงั เอ็ม.๒๐๓ (M203) ซึงเป็ นอาวธุ ทีใชป้ ระโยชน์ไดส้ องระบบ และ เอม็ เค ๑๙ (MK19)ปื นกลยงิ
ลกู ระเบดิ สามารถทาํ การยงิ กระสุนระเบดิ แรงสูง และกระสุนระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะ ขนาด ๔๐ มม. ซึง
กระสุนทีใชก้ ับอาวุธนีไมส่ ามารถใช้ร่วมกนั ได้ แต่ลูกระเบดิ และชนวนประกอบทใี ชย้ งิ เป้ าหมายสามารถ
ใชไ้ ดเ้ หมอื นกัน อาวธุ ทงั สองชนิดมีการเล็งและการยงิ ทาํ ลายพืนทไี ดด้ ีเทา่ กับการยบั ยงั ข้าศกึ โดย
เอ็มเค๑๙ (MK19) มอี ตั ราการยิงทสี ูงกวา่ ระยะยงิ ไกลกวา่ แต่ เอ็ม.๒๐๓ (M203) มีนาํ หนกั เบากวา่ มาก
และมคี วามคล่องแคลว่ มากกวา่
ก. การใช้ ขอ้ พิจารณาหลักในการใชล้ ูกระเบิดขนาด ๔๐ มม. ในพืนทีสิงปลูกสร้างคือการทีมีระยะ
ในการตอ่ สูใ้ กล้ ลกู ระเบิดขนาด ๔๐ มม. มีระยะในการใชต้ าํ สุด ๑๔-๒๘ เมตร หากกระทบเป้ าก่อนพรอ้ ม
เริมทาํ งาน จะไมร่ ะเบิด ซึงลกู ระเบดิ แรงสูงและระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะจะมีรศั มีการระเบดิ ทเี ป็นอนั ตราย
ตอ่ กาํ ลงั พล ๕ เมตร ดงั นนั ระยะปลอดภยั ตาํ สุดในการรบคือ ๓๑ เมตร การใชล้ ูกระเบดิ ขนาด ๔๐ มม.
ปราบปรามข้าศึกในอาคาร หรือทาํ ให้บาดเจ็บลม้ ตายจะยิงผ่านเข้าทางชอ่ งหนา้ ตา่ งโดย เอ็มเค๑๙ (MK19)
ใชร้ ะดมยงิ ในอตั ราการยงิ สูงเพือทาํ ลายโครงสรา้ งขนาดเบา เป็นการระดมยงิ ขยายผลความเสียหาย
สําหรับกระสุนระเบิดแรงสูงเจาะเกราะขนาด ๔๐ มม. สามารถเจาะเกราะด้านขา้ ง ด้านหลงั และดา้ นบน
ของรถสายพานลาํ เลยี งพลหุ้มเกราะและยานรบลอ้ หุม้ เกราะรุ่นล่าสุดของรัสเซีย ซึงกาํ ลงั พลสามารถใช้
เอ็ม.๒๐๓ (M203) ยงิ จากชนั บนของอาคารไดอ้ ยา่ งแมน่ ยาํ ไปยงั ส่วนบนของรถหุม้ เกราะ โดยทาํ การยิง
หลายๆ นดั เพือผลในการสังหาร
- ๑๘๔ -
ข. การทะลุทะลวงของอาวุธ ลูกระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะขนาด ๔๐ มม. จะบรรจุดินระเบดิ โพรง
จาํ นวนหนึงเพือการทะลุทะลวงทีดีกวา่ ลกู ระเบิดแรงสูงธรรมดา ทงั ยงั มีลวดบางๆ ห่อหุม้ และแตกเป็น
สะเก็ดระเบดิ จาํ นวนมาก ทาํ ให้เกิดการบาดเจบ็ ล้มตายทีระยะเกินกวา่ ๕ เมตร และเนืองจากระเบดิ จะ
ทาํ งานเมือกระทบเป้าหมาย ผลการทะลทุ ะลวงของกระสุนจะขึนอยกู่ บั ระยะยงิ ซึง ตารางที ๘-๗ อธิบาย
ความสามารถในการทะลุทะลวงของลกู ระเบิดแรงสงู เจาะเกราะ
เป้ าหมาย การทะลุทะลวง (นิว)
กระสอบทราย ๒๐ (สองชนั )
อิฐบล็อกบรรจทุ ราย ๑๖
ทอ่ นไมส้ น ๑๒
แผน่ เกราะ ๒
ตารางที ๘-๗ ความสามารถในการทะลทุ ะลวงของลกู ระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะ
๑) ระเบิดแรงสงู เจาะเกราะขนาด ๔๐ มม. เมอื ทาํ การยงิ เขา้ ไปในหอ้ งดา้ นใน สามารถทะลผุ นงั
กนั หอ้ งภายใน ฉีกไมอ้ ดั ผนงั ปนู ฉาบ กอ่ ให้เกิดช่องใหญพ่ อสําหรับการยงิ ปื นเล็กเขา้ ไป และจะดีกวา่ ถ้า
กระสุนระเบดิ ทะลุเขา้ ไปในหอ้ งและระเบิดผนงั ดา้ นไกล ซึงจะมพี ลังงานมากกวา่ แตจ่ ะสูญเสียการเจาะ
ผนงั ด้านหลงั (ดูรูปที ๘-๑) สะเกด็ ระเบิดทีเกดิ ในหอ้ งจะใหผ้ ลการบาดเจ็บลม้ ตายสูงกว่ารูปแบบการพน่
สาดของดินระเบดิ โพรง
๒) สะเก็ดระเบิดแรงสูงเจาะเกราะ อาจไม่ทะลผุ นงั ดา้ นในเนอื งจากไปกระทบหยดุ ทเี ฟอร์นิเจอร์
กระสอบทราย หมวกเหลก็ และเสือเกราะป้องกนั (เสือคลุมกนั สะเก็ดระเบดิ ) สําหรับเครืองยิงลกู ระเบิด
เอ็ม.๒๐๓ (M203) แบบใชง้ านสองอยา่ งมีคุณสมบตั ิในการยงิ ลกู ระเบิดเขา้ ทางช่องหนา้ ต่างอยา่ งแมน่ ยาํ
ทรี ะยะ ๑๒๕ เมตร และชอ่ งบงั เกอร์ทีระยะ ๕๐ เมตร ซึงเป็นระยะทีลดลงจากมุมเยอื งทเี พิมขึน แต่จาก
ประสบการณ์จากการรบ พบวา่ พลยิง เอ็ม.๒๐๓ (M203) ไมส่ ามารถยงิ เขา้ หนา้ ต่างไดอ้ ย่างแมน่ ยาํ ใน
ระยะ ๕๐ เมตร เมอื ทาํ การเลง็ และยิงอยา่ งรวดเร็ว
ค. การเจาะทะลุกําแพง เอ็ม.๒๐๓ (M203) ไมส่ ามารถทาํ ยิงลูกระเบิดไปยงั ตาํ แหนง่ ของผนงั
ภายนอกทวั ๆ ไป ทตี อ้ งการเจาะ สําหรับ เอ็มเค ๑๙ (MK19) สามารถรวมอํานาจการยิงและประสบ
ความสําเร็จในการเจาะผนงั โดยการยิงจากขาหยงั แบบลอ็ กเหลก็ กลไกทางระดับจะเป็ นวิธีทดี ีทีสุด และ
สามารถใช้ เอ็มเค ๑๙ (MK19) ทาํ การเจาะอิฐ อิฐบล็อกและคอนกรีต โดยลกู ระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะแต่
ละนัดสามารถเจาะอิฐหนา ๖-๘ นวิ ได้ ซึงมีวสั ดชุ นิดเดียวทีไดท้ ดสอบแล้ว วา่ สามารถตา้ นทานการรวม
อาํ นาจการยงิ ของลูกระเบดิ ขนาด ๔๐ มม.ได้ ไดแ้ ก่ หินแข็งทีใชใ้ นการกอ่ สรา้ งอาคารในยโุ รป โดยไม่มี
ขอ้ มลู ปรากฏจาํ นวนกระสุนทที าํ ใหเ้ กิดช่องยิงหรือชอ่ งเจาะเกียวกบั เอ็มเค ๑๙ (MK19) เลย อยา่ งไรก็ตาม
ผลการระเบดิ ของกระสุนดงั กลา่ วควรจะใหผ้ ลมากกวา่ การยงิ ด้วยปื นกล .๕๐ นิว
- ๑๘๕ -
จุดทีเลง็
รูปที ๘-๑ จุดเล็งของลกู ระเบิดแรงสูงเจาะเกราะขนาด ๔๐ มม.
๘ – ๕ อาวุธไร้แรงสะท้อนถอยหลังขนาดเบาและขนาดกลาง
อาวธุ ไรแ้ รงสะทอ้ นถอยหลงั ขนาดเบาและขนาดกลาง จะใชใ้ นการโจมตีเป้าหมายบคุ คลของ
ขา้ ศกึ สนามเพลาะ และยานยนต์หุม้ เกราะขนาดเบา โดยมีขีดจาํ กดั ในการตอ่ ต้านรถถงั หลกั ในสนามรบ
โดยเฉพาะอปุ กรณ์ทมี เี กราะป้องกนั เวน้ แตเ่ มอื ทาํ การโจมตีจากด้านบน ด้านข้าง หรือด้านหลงั ซึง
ประเภทของอาวธุ ดังกลา่ ว ประกอบดว้ ย อาวุธตอ่ สู้รถถงั เอ็ม.๗๒ (M72), เอที ๔ (AT4) หรือ เอที ๘
(AT8) จรวดดรากอน (DRAGON) เอ็ม.๔๗ (M47), ปื นเลก็ ยาวไร้แรงสะทอ้ นถอยหลงั ขนาด ๙๐ มม.
และ ๘๔ มม., อาวธุ โจมตีประทบั บา่ ยงิ อเนกประสงค์ (SMAW) รวมทงั อาวธุ ต่างชาติทีมีอยู่ ไดแ้ ก่
จรวด อาร์พีจี-๗ (RPG-7)
ก. การใช้ นอกจากจะใชท้ าํ ลายยานยนตห์ ุ้มเกราะขนาดเบาแลว้ ปกติจะใชอ้ าวธุ ไร้แรงสะทอ้ นถอย
หลงั ขนาดเบาในการทาํ ลายล้างทีตงั ยงิ ในสนามเพลาะ เนอื งจากไดอ้ อกแบบใหเ้ ป็นอาวุธทีมีหวั รบและมี
เปลวเพลิงนอ้ ย จงึ ไมส่ ่งผลเหมือนอาวธุ ทีมขี นาดหนกั กวา่ เชน่ กระสุนปื นใหญร่ ถถงั และเนืองจากอาวุธ
มนี าํ หนกั เบาทาํ ให้ทหารสามารถนาํ อาวุธต่อสู้รถถงั ขนาดเบาหรืออาวธุ ตอ่ สูร้ ถถงั เอที ๔ (AT4) ติดตวั ไป
ไดค้ รังละมากๆ โดยอาวุธไร้แรงสะทอ้ นถอยหลงั ขนาดเบาสามารถทาํ การยิงจากหลงั คาของอาคารหรือ
จากพืนทีระบายอากาศทตี อ่ เติม
- ๑๘๖ -
๑) อาวธุ ไร้แรงสะทอ้ นถอยหลังขนาดเบาและขนาดกลาง ยกเวน้ อาวธุ โจมตีประทบั บา่ ยิง
อเนกประสงค์ (SMAW) และอาวุธตอ่ สู้รถถงั เอที ๘ (AT8) เป็นอาวธุ ทีติดตงั หัวรบดินระเบิดโพรง ทาํ ให้
รูของผนงั ทีเจาะมขี นาดเลก็ เกินไปทีจะใชเ้ ป็นช่องยิง รวมทงั สะเก็ดระเบิดและการกระจายของอาวธุ จะ
จาํ กดั หวั รบดินระเบดิ โพรงจงึ ไมส่ ามารถทาํ ลายทหารข้าศึกดา้ นหลงั ผนงั ได้ หากไมอ่ ยตู่ รงกบั จุดที
กระสุนตกกระทบ
๒) การทาํ ลายโครงสร้าง อาวธุ ดินระเบิดโพรงควรจะเลง็ ตํากวา่ หรือดา้ นขา้ งของช่องยิงประมาณ
๖ นิว (ดูรูปที ๘-๒) เพือเพิมโอกาสในการสังหารขา้ ศึกดา้ นหลงั ผนัง เนืองจากกระสุนทผี ่านช่องหนา้ ตา่ ง
จะสูญเสียพลังงานด้านหลงั ของกาํ แพงจาํ นวนมาก รวมทงั กระสุนดินระเบิดโพรงไมม่ ขี ดลวดหอ่ หุม้
เหมอื นกระสุนระเบดิ แรงสูงเจาะเกราะขนาด ๔๐ มม. เมือเกิดการระเบดิ จะมสี ะเก็ดเล็กนอ้ ยและมกั ไม่
ส่งผลในการบาดเจบ็ ล้มตาย
รูปที ๘ - ๒ จุดเล็งของอาวุธดินระเบิดโพรงต่อโครงสร้างตึก
๓) การเล็งไปทกี ระสอบทรายมีความแตกตา่ งกนั (ดูรูปที ๘-๓) เนืองจากกระสอบทรายดดู ซบั
พลงั งานจากดินระเบดิ โพรงไดด้ ี ควรเลง็ ไปตรงกลางของชอ่ งยิง หากกระสุนพลาดเป้ าชอ่ งเล็งกย็ งั ทาํ ลาย
ผนงั บงั เกอร์บริเวณใกลๆ้ ทีจะเจาะ
- ๑๘๗ -
จุดทีเลง็
รูปที ๘ - ๓ จุดเลง็ ของอาวธุ ดินระเบิดโพรงต่อกระสอบทราย
๔) อาวธุ ไรแ้ รงสะทอ้ นถอยหลังขนาดเบาและขนาดกลาง จะใชไ้ ดผ้ ลดีในการยิงต่อสู้ยานเกราะ
ในระยะใกลโ้ ดยทาํ การยงิ จากดา้ นบน ดา้ นขา้ ง หรือดา้ นหลงั เมอื ทาํ การยงิ ไปยงั รถถงั ควรยิงไปยงั จดุ ออ่ น
ดงั กล่าว ในลกั ษณะยงิ พรอ้ มกนั หรือการยิงเป็นคู่ ซึงปกติตอ้ งใชก้ ารยงิ หลายนัดเพือผลการสงั หารกาํ ลงั
พลในรถถงั นอกจากการยงิ ถกู ดา้ นบน ดา้ นข้าง หรือดา้ นหลงั เป็ นจดุ ออ่ นทีสุดของยานเกราะแลว้ การยงิ
จากชนั บนของอาคารยงั ป้ องกนั พลยงิ จากการยิงของปื นใหญร่ ถถงั และปื นกลร่วมแกนเพราะรถถงั ไม่
สามารถปรับยกปื นขนึ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ซึงรถสายพานลาํ เลียงพลหุม้ เกราะ บีเอม็ พี-๒ (BMP-2) สามารถ
ปรับยกปื นใหญ่ ๓๐ มม. ขึนเพือโจมตีเป้ าหมายในชนั บนของอาคาร รวมทงั ยานรบลอ้ หุม้ เกราะในชดุ
บีทอี าร์ (BTR) สามารถปรบั ยกปื นใหญ่ยงิ ขึนไปชนั บนร่วมกับปื นกลหนกั ไดเ้ ช่นกัน
๕) ยานรบของทหารราบรุ่นใหม่ ไดแ้ ก่ รถสายพานลาํ เลียงพลหุม้ เกราะ บีเอ็มพี-๒ (BMP-2)
และ ยานรบลอ้ หุม้ เกราะ บีทอี าร์-๘๐ (BTR-80) ไดม้ กี ารปรับปรงุ ใหด้ ีขึนโดยมีระบบป้องกนั อาวธุ ดิน
ระเบิดโพรงทางด้านหน้า ซึงรถถงั หลักหลายชนดิ ใชร้ ูปแบบเกราะสําหรับการตอบโตโ้ ดยเพิมแผน่ เกราะ
หนาเขา้ ไป ทาํ ใหก้ ารยิงจากเหนือศีรษะและระดบั พืนดินไปยงั ยานเกราะไดผ้ ลการสงั หารนอ้ ยมาก และแม้
จะไม่มีเกราะเพิมสําหรับการป้องกนั การทาํ ลายรถถงั รุ่นใหมๆ่ โดยอาวธุ ตอ่ สู้รถถังขนาดเบา สามารถ
กระทาํ ไดย้ าก
๖) เทคนิคการยงิ ทีงา่ ยทสี ุดในการเพิมโอกาสในการยิงถกู เป้าหมายและไดผ้ ลในการสงั หารยาน
เกราะ ไดแ้ ก่ การเพิมค่ามมุ ยงิ ทกี ดลงไป ซึงมุมยงิ กดลง ๔๕ องศาจะเพิมโอกาสของกระสุนนดั แรกทีจะ
ถูกเป้าหมายเป็นสองเทา่ เมือเปรียบเทยี บกบั การยิงในระดบั พืนดิน (ดูรูปที ๘-๔)
้รอยละ - ๑๘๘ -
เป้ าหมาย – รถสายพานลาํ เลียงพลหุ้มเกราะ จอดอยู่นิงในทโี ล่ง มุมโจมตี ๓๐ องศา
๐ ทรี ะดับ
พืนดนิ
ระยะยิง (เมตร)
รูปที ๘-๔ โอกาสในการยงิ ถูกเป้ าหมาย ของอาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบา เอ็ม.๗๒ เอ.๒
(M72 A2) ทีมุมยิงต่างกัน
ข. เปลวเพลิงด้านท้าย ในการใช้อาวธุ ไร้แรงสะทอ้ นถอยหลงั ทกุ ชนิด จะตอ้ งนาํ ลกั ษณะเปลวเพลิง
ดา้ นทา้ ยมาพิจารณาดว้ ย โดยเฉพาะการรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ งพืนทีเปลวเพลิงดา้ นทา้ ยจะเป็นอนั ตราย
มากยิงขึนเนอื งจากมีเศษวสั ดุทีกระจดั กระจาย และชอ่ งทางบงั คับของถนนและซอยแคบ ซึงรูปที ๘-๕
แสดงถึง พืนทีเปลวเพลิงดา้ นทา้ ยของอาวุธไร้แรงสะทอ้ นถอยหลงั ขนาดกลางและขนาดเบาทผี ลิตใน
สหรฐั อเมริกาทีทาํ การยิงในพนื ทีโลง่
- ๑๘๙ -
อาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบา อาวุธต่อสู้รถถัง AT๔
พืนทีอันตราย ๑๕ เมตร อาวุธ พืนทีอันตราย ข.
๖ เมตร พืนทีอันตราย ก. รูปพัด ๙๐๐
พืนทีระวงั ๒๕ เมตร พืนทีปล อดสิ งกี ดขวาง พืนทีปล อดภั ย
จากเปลวเพลิง
๒๕ เมตร เครืองยงิ ประทับบ่า
อาวุธไร้แรงสะท้อนถอยหลงั ขนาด ๙๐ ๒๕ เมตร
มม. พืนทีอันตราย
๒๕ เมตร
พืนทีอันตราย
๕๕ เมตร พืนทีระวงั ๖๐ เมตร
พืนทีระวงั
๑๕ เมตร
รูปที ๘-๕ พืนทเี ปลวเพลงิ ด้านท้ายของอาวุธไร้แรงสะท้อนถอยหลังขนาดเบา
ในพืนทโี ล่งแจ้ง
๑) เมือยิงอาวธุ ไรแ้ รงสะทอ้ นถอยหลงั ในพืนทโี ล่งแจง้ ทหารควรป้ องกันตนเองมิให้เกิดการ
บาดเจ็บจากการเผาไหมแ้ ละเปลวไฟจากดา้ นทา้ ยอาวธุ ยงิ โดยเจา้ หนา้ ทีทกุ นายจะตอ้ งออกห่างจากพืนที
อนั ตราย หากไมส่ ามารถถอนตวั จากพนื ทีเฝ้ าระวงั จะตอ้ งอยู่หลงั ทกี าํ บงั โดยสวมหมวกเหล็ก เสือเกราะ
ป้ องกนั และเครืองป้องกนั ตา สําหรับพลยิงและทหารทีอยู่ในพืนทกี ารยิงควรสวมเครืองป้ องกันเสียง
๒) ตังแตส่ ินสุดสงครามโลกครังที ๒ กองทพั สหรัฐไดด้ าํ เนินการทดสอบผลของการยิงอาวุธไร้
แรงสะทอ้ นถอยหลังในพืนทีปิ ดอยา่ งกวา้ งขวาง โดยเริมเมือปี ค.ศ. ๑๙๔๘ ไดท้ าํ การทดลองกับอาวธุ ไร้
แรงสะทอ้ นถอยหลังทุกชนิดทีมีอยู่ และในปี ค.ศ.๑๙๗๕ หอ้ งทดลองทางวิศวกรรมมนษุ ย์ ในอเบอร์ดีน
โพรวิงกราวน์ รฐั แมรีแลนด์ ได้ทดสอบยิงอาวธุ ต่อสู้รถถงั ขนาดเบา จรวดดรากอน (DRAGON) ปื นไร้
แรงสะทอ้ นถอยหลัง ขนาด ๙๐ มม. และจรวดโทว์ (TOW) จากอาคารตกึ อาคารแบบเฟรม และจาก
บงั เกอร์กระสอบทราย พบวา่ การยิงอาวธุ ในพืนทีปิ ดไมก่ อ่ ให้เกิดอนั ตรายร้ายแรง แมแ้ ต่แรงดนั จาํ นวน
มากก็ไม่ทาํ ใหโ้ ครงสร้างอาคารไดร้ ับความเสียหาย ซึงเป็นเพยี งผลทพี บจากการทดสอบนี