วิชาเศรษฐศาสตร์ ส22103

แผนการจัดการเรียนรู้

รายวชิ า เศรษฐศาสตร2์ รหัสวิชา ส22103
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

ผู้สอน
นางสาวพนิดา สอนโคตร

โรงเรียนหนองบวั พิทยาคาร
สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเลย หนองบวั ลำภู

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาพื้นฐาน
รายวิชา เศรษฐศาสตร์ 2 รหัสวิชา ส22103
เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

คำอธบิ ายรายวชิ า

อธิบายความหมายและความสำคัญปัจจยั ทมี่ ีอทิ ธิพลต่อการออมและการลงทุน ปัญหาการออมและ
การลงทนุ วธิ ีการจัดการบริหารเงินออมและการลงทุนภาคครัวเรอื น หลักการผลติ สินค้าและการบริการอยา่ ง
มปี ระสิทธิภาพ การผลิตสินค้าในท้องถิน่ โดยนำเทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ และการบริการ หลักการผลติ
สินคา้ และการบริการในท้องถ่ิน ท้งั ดา้ นเศรษฐกิจ สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม พรอ้ มทง้ั ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในการผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารในท้องถนิ่

โดยใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย กระบวนการสร้าง
ความตระหนักตามหลกั คา่ นิยม 12 ประการ ข้อ 9 และกระบวนการคิดตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ฝกึ ฝนอบรมท้ังในหลกั สูตรและนอกหลักสตู รอยา่ งมีจุดมงุ่ หมายให้
ผ้เู รยี นทำงานเป็นและมงี านทำในทีส่ ุดเพื่อ สามารถนำไปปฏบิ ตั ใิ นการดำเนินชีวติ ได้ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม
ค่านิยมทด่ี ีงามและสามารถดำเนินชีวติ ในสังคมได้อยา่ งสันติสุข

รหสั ตัวช้ีวัด
ส3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม 2/4

รวมท้ังสิน้ 4 ตวั ช้วี ดั

โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาพ้ืนฐาน
รหัสวิชา ส22103
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 0.5 หน่วยกิต
รายวชิ า เศรษฐศาสตร์ 2
เวลา 20 ชวั่ โมง

ท่ี ชอื่ หน่วย รหัสตวั ชี้วัด สาระสำคัญ เวลา คะแนน
การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง)

1 การออมและ ส3.1 ม.2/1 การออมกบั การลงทนุ มคี วามสมั พันธ์กันเพราะการเกบ็ 8 25

การลงทุน ออมเงนิ ไปลงทนุ จะเป็นการสรา้ งผลตอบแทนใหเ้ พิ่มขึน้ ได้

เงนิ ออมเป็นส่วนหนงึ่ ของการลงทุนเพื่อให้เงนิ ออม

เหล่าน้ันเพิ่มขึน้ สามารถสร้างความม่นั คงในการดำเนินชีวิต

2 การผลติ ส 3.1 ม.2/2 การผลิตในทางเศรษฐศาสตร์หมายถึง กระบวนการแปร 6 20
4 15
สนิ ค้าและ สภาพทรัพย์ ปจั จัยการผลิตที่มีอยู่อยา่ งจำกัด ได้แก่ ท่ีดนิ
บริการ แรงงาน ทุน และการการประกอบการ การผลิตสนิ คา้ และ
บรกิ ารมี 3 ข้นั ตอน คือ การผลิตขัน้ ปฐมภมู ิ ขัน้ ทุติยภูมิ

ขัน้ ตติยภมู กิ ารนำเทคโนโลยีมาใชใ้ นการผลติ สนิ ค้าและ

บริการใหม้ คี ุณภาพและนำส่งออกไปยังตา่ งประเทศ

3 เศรษฐกจิ ส 3.1 ม.2/3 หลกั การและเปา้ หมายปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ

พอเพียงกับ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ตามทางสายกลาง 3 ห่วง 2

การผลิต เงือ่ นไข สร้างความมั่นคง ส่งผลใหเ้ ศรษฐกิจของชมุ ชนมี

สินค้าและ ความเข้มแขง็ และคนในชุมชนมคี วามเปน็ อยู่ ทด่ี ี สำรวจ

บริการใน และวิเคราะหป์ ัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถ่นิ

ทอ้ งถน่ิ ประยุกต์ใช้ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและบริการใน

ท้องถ่นิ

สอบกลางภาคเรยี น 1 20

รวมระหวา่ งภาคเรยี น 19 80

สอบปลายภาคเรยี น 1 20

รวมตลอดภาคเรียน 20 100

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18

กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เศรษฐกิจพอเพยี งกับการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร เวลา 4 ชว่ั โมง

เร่ือง การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถ่นิ เวลา 1 ชว่ั โมง

ผูส้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบวั พิทยาคาร

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั
ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลติ ในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 อธิบายหลักการและเปา้ หมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ (K)
2.2 ประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการผลิตสนิ ค้าและบริการในท้องถ่นิ ได้ (P)

3. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรยี นรู้
3.2 อยู่อย่างพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคญั

4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. สาระสำคญั

ในทอ้ งถิ่นตา่ ง ๆ ของไทย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่เกษตรกรสว่ นใหญข่ าดแคลน
ที่ดินทำกิน ประกอบกับการทำเกษตรกรรมต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ จึงไม่ได้รับผลเท่าที่ควร ส่งผลให้
ความเป็นอยู่ไม่ค่อยดี เกิดการว่างงานตามฤดูกาล เพื่อแก้ปัญหาหลาย ๆ ปัญหาของท้องถิ่นไทยได้น้อมนำแนว
พระราชดำริหลักการของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างท้องถิ่นให้เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ในภาวะ
เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่ผลิตให้เพียงพอกับการบริโภคในครัวเรือน และผลิตสินค้าและ
บรกิ ารเพือ่ การค้า เพ่อื เพิม่ รายได้ มเี งนิ ออม เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของทอ้ งถ่ิน

6. สาระการเรยี นรู้

6.1 ความพอประมาณ
6.2 ความมีเหตุผล
6.3 การมภี มู คิ ุม้ กันในตัวทด่ี ี
6.4 ความรอบรู้
6.5 คุณธรรม
7. จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น

1. ครูถามนักเรียนว่าถ้าเรามีจิตใจที่เข้มแข็งเราสามารถใช้จิตใจที่เข้มแข็งของเราต่อต้านการ
ทจุ ริตไดอ้ ย่างไร

ขั้นสอน
2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบคำถาม หลังจากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การต่อต้านการทุจริต

นั้นต้องอาศยั ความพอเพียงเป็นท่ีต้ัง ถา้ เรามคี วามพอเพียงเกดิ ข้ึนแลว้ ตอ่ มาความมีเหตผุ ล ความคุ้มกันในตัว
ท่ีดี ความรอบรู้และคุณธรรมจะตามมา

3. ครูนำภาพท้องถิ่นที่ไม่ประสบผลสำเร็จในการผลิตสินค้าให้นักเรียนดู และอธิบายเพิ่มว่า
ท้องถน่ิ ดงั กลา่ วเปน็ ท้องถิ่นทีข่ าดความสามัคคี ไมเ่ ห็นประโยชน์สว่ นรวมทำใหเ้ กิดปญั หาโกงธรุ กิจในท้องถนิ่

4. ครูและนกั เรยี นเสนอวธิ ีการแก้ไขปญั หาดังกลา่ ว
5. ครูให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเองมาสร้าง
เปน็ สินคา้ หรือบรกิ ารในรปู แบบใหม่ โดยตอ้ งมกี ารประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการ
ครบทุกด้านไมว่ ่าจะเป็น ความพอเพยี ง ความมีเหตผุ ล ความค้มุ กนั ในตวั ทด่ี ี ความรอบร้แู ละคณุ ธรรม

ข้นั สรปุ และการนำไปใช้
6. ครูสรุปถึงวิธีการสร้างสรรค์สินค้าให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องเริ่มจากความพอดี

พอประมาณก่อน เพราะหากเราพอใจในสิ่งที่เราทำแล้ว เราจะเห็นคุณค่าและมีความสุข มีความพอในแบบ
ของเราเอง

8. สื่อการเรยี นรู้

8.1 ใบกจิ กรรมที่ 3.5
8.4 หนงั สือเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
8.5 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

9. แหล่งทีม่ าของขอ้ มลู
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปีท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: อักษรเจรญิ ทัศน์

10. การวดั ผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60
1 . เ ข ้ า ใ จ ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ใช้ พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์

เ ศ ร ษ ฐ ก ิ จ พ อ เ พ ี ย ง ใ ช้ รายบคุ คล รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
ชีวติ ประจำวันได้ (K)
รอ้ ยละ 60
2. ประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจ ตรวจใบกิจกรรมท่ี 3.5 แบบเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 3.5 ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
พอเพียงในการผลิตสินค้าและ ผ่านเกณฑ์
ผา่ นเกณฑ์ใน
บรกิ ารในท้องถนิ่ ได้ (P) ระดบั ดีขน้ึ ไป
ผ่านเกณฑ์ใน
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ระดับดีขึ้นไป

ใฝเ่ รียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรยี นรู้

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง

ม่งุ มนั่ ในการทำงาน (A) ประสงคม์ งุ่ มนั่ ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งมน่ั ในการทำงาน

5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน

ในการคิด (A) การคดิ การคิด

6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน

ในการแกป้ ญั หา การแก้ปัญหา การแก้ปัญหา

11. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื …………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วันที่………เดอื น…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงชื่อ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธ์ิ)

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วนั ท่ี………เดือน………พ.ศ………….

บันทกึ แสดงความคิดเหน็ ของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธพิ์ ล ชารี)

รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ
วนั ที่………..เดือน…………….พ.ศ……….

ใบกจิ กรรมที่ 3.5

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรพั ยากรธรรมชาติในท้องถ่ินของตนเองมาสรา้ งเป็น
สินคา้ หรือบริการในรปู แบบใหม่ โดยตอ้ งมีการประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงในการผลติ สนิ คา้ และบริการ
(คะแนน 10 คะแนน)

ช่ือผลงาน ................................................................................

ตดิ รปู

1. สินค้าประเภท ............................................................................................................................. ....................
2. แหล่งที่ตั้งของสินค้าหรือบริการ ......................................................................... .............................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ทำไมนักเรียนถึงสนใจนำทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวมาสร้างเป็นสินค้าหรือบริการ ......................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. มกี ารประยกุ ตใ์ ชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงในการผลิตสนิ คา้ และบริการอย่างไรบา้ ง
4.1 ด้านความพอประมาณ ............................................................................................................ ......................
...................................................................................................... .......................................................................
4.2 ด้านความมีเหตุผล............................................................................................................. ............................
.................................................................................................................................................. ...........................
4.3 ด้านมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ..................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. ................................................
4.4 ความรอบรู้ ................................................................................................................................. ..................
............................................................................................................................. ................................................
4.5 คุณธรรม .................................................................... ...............................................................................
.............................................................................................................................................................................

เฉลยใบกิจกรรมท่ี 3.5
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรัพยากรธรรมชาติในทอ้ งถ่นิ ของตนเองมาสรา้ งเปน็
สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในรปู แบบใหม่ โดยต้องมีการประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ สนิ ค้าและบริการ
(คะแนน 10 คะแนน)

ชอื่ ผลงาน เห็ดทอดกรอบ 3 รสสุดแซบ่

1. สินคา้ ประเภท .............................อาหารแปรรปู .............................................................................................
2. แหล่งทีต่ ้ังของสนิ ค้าหรอื บรกิ าร ชุมชนหาดสวรรค์ หม่ทู ่ี 9 ตำบลหนองบวั อำเภอเมือง
จังหวัดหนองบวั ลำภู 39000
3. ทำไมนกั เรยี นถงึ สนใจนำทรัพยากรธรรมชาตดิ ังกลา่ วมาสร้างเปน็ สนิ คา้ หรอื บริการ เพราะชาวบ้านในชมุ ชน
สว่ น ใหญ่ทำอาชพี เพาะปลกู ฟาร์มเห็ดเปน็ สว่ นใหญ่ ข้าพเจ้าจงึ สนใจตอ่ ยอดจากการขายเห็ดสด เป็นเหด็ แปรรปู
โดยการทอดกรอบปรุงรสเปน็ ของว่างท่มี ีประโยชน์ทง้ั ต่อเด็กและผใู้ หญ่
4. มีการประยุกตใ์ ชเ้ ศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งไรบ้าง
4.1 ด้านความพอประมาณ มกี ารวางแผนการผลิตอยา่ งเป็นระบบ มีการวางแผนอย่างระมัดระวงั และยังใช้
วัตถดุ ิบในท้องถิ่นให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด
4.2 ด้านความมีเหตผุ ล วางแผนถึงกำไรในการผลิตเพื่อใหธ้ ุรกจิ เห็ดกรอบ 3 รสสุดแซบ่ สามารถที่จะทำรายได้
ใหก้ ับครอบครวั ได้ และวางแผนเกี่ยวกับตลาดในการรองรับขายท้ังตลาดออนไลน์และตลาดท่วั ไป
4.3 ดา้ นมีภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทีด่ ี มีการวางแผนการผลิตอย่างระมดั ระวัง ค่อยเปน็ ค่อยไป เสาะแสวงหาชอ่ งทางการ
กระจายสนิ คา้ ใหม่ ๆ และหาแนวทางในการเพ่มิ มลู ค่าสินค้นคา้ อยูเ่ สมอ
4.4 ความรอบรู้ นำความรจู้ ากวชิ าทเ่ี รียนมาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม้ ีความน่าสนใจ และนำความร้ทู เ่ี รียนมาวาง
แผนการผลิตให้อยา่ งเหมาะสม
4.5 คณุ ธรรม มีการคำนงึ ถึงคุณภาพสินค้า และความสะอาด ปลอดภยั ของผ้บู รโิ ภคอยตู่ ลอดเวลา โดยเปลีย่ น
น้ำมนั ในการทอดเห็ดอยเู่ สมอ รวมถึงไม่เอาเปรียบผ้บู รโิ ภคและรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มอยู่เสมอ

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

ชอื่ ..............................................................................ช้ัน...................เลขที่...................

คำชีแ้ จง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกับความเป็นจรงิ

พฤติกรรมทส่ี ังเกต 3 คะแนน 1
2

1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็

2. มคี วามกระตือรือร้นในการทำงาน

3. รับผิดชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมาย

4. มขี ั้นตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ

5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤติกรรมที่ทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทท่ี ำเปน็ บางครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน

13-15 ดี

9-12 ปานกลาง (ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60)

5-8 ปรับปรงุ

ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ

เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ที่ ช่ือ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10

ปรับปรุง ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1)

เกณฑก์ ารตัดสนิ เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20

สรุป

เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทป่ี รากฏ
รายการประเมนิ 3 นกั เรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ได้น้อย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานไดส้ ะอาด
1 นกั เรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรบู้ ้างบางคร้งั
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้น้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรยี นมีการสอบถามและสืบคน้ เน้ือหาทีใ่ ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นักเรียนมกี ารสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรียนไม่สนใจที่จะสืบค้นเนื้อหาทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นกั เรยี นช่วยกนั วางแผน แลกเปลยี่ นความคิดเห็นในการหาคำตอบ
2 นกั เรียนหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไม่มีการแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กบั เพื่อน
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ

เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เป็นอยา่ งดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นักเรยี นมกี ารจดั ลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาเพิ่มเติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพมิ่ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาได้เล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพอื่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในชัน้ เรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ในช้นั เรยี นบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เหน็ ในชัน้ เรียน

เกณฑ์การประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 การออมและการลงทุน เวลา 8 ช่วั โมง

เรื่อง ความหมายและความสำคญั ของการออม เวลา 1 ชว่ั โมง

ผู้สอน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนหนองบวั พิทยาคาร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
ส 3.1 ม.2/1 วเิ คราะหป์ จั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การลงทุนและการออม

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 บอกความสำคัญของการออมและการลงทุนได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ การออมและการลงทุนได้ (P)

3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.1 อยู่อย่างพอเพียง
3.2 ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

4. สมรรถนะสำคญั

4.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

5. สาระสำคัญ

การออมเงินหรือการออมทรัพย์ หมายถึง การนำรายได้ส่วนหนึ่งที่เหลือจากการใช้จ่ายไปฝากไว้กับ
ธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ นำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อหุ้นของธุรกิจต่าง ๆ หรือซื้อ
หลักทรัพย์อื่น ๆ เพื่อหวังผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย เงินปันผล และกำไร สำหรับเงินออมดังกล่าว สถาบัน
การเงินต่าง ๆ จะนำไปลงทนุ แสวงหาผลประโยชน์ ขยายธรุ กจิ การค้า และรฐั บาลกจ็ ะนำไปใช้จา่ ยเพือ่ การพัฒนา
ประเทศ เงนิ ออมของบคุ คลในระบบเศรษฐกจิ ก็จะถูกนำไปใชเ้ พอ่ื การลงทนุ ใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ เศรษฐกิจต่อไป

6. สาระการเรยี นรู้

6.1 การออม
6.1.1 ความหมายของการออม
6.1.2 ความสำคัญของการออมเงิน

7. จดั กิจกรรมการเรยี นร้โู ดยใช้กรณีตวั อยา่ ง
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครูนำกระปุกออมสินหรือรูปกระปุกออมสินที่มีเงินอยู่ในกระปุกมาให้นักเรียนดูแล้วถาม

คำถามว่า “นักเรียนสามารถใช้ประโยชน์กับสิ่งนี้ได้อย่างไร” และ “นักเรียนมีวิธีเพิ่มเงินออมในกระปุกนี้ได้
อยา่ งไร”

ขัน้ สอน
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความหมายของการออมเงินในปัจจุบัน และชี้ให้เห็นถึง

ความสำคัญในการออมเงินเพื่อใช้จ่ายอนาคตและเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น ลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชา
เศรษฐศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ในใบกิจกรรมที่ 1.1

3. ครผู สู้ อนนำเสนอกรณีตวั อยา่ งโดยนำข่าวหรือเหตุการณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ในสงั คมท่ีสรา้ งความเสียหาย
ต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น เหตุการณ์ภัยธรรมชาติ มาเล่าให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์
เหตุการณ์การดำเนินชีวิตในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าว และตอบคำถาม 2 ข้อลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชา
เศรษฐศาสตร์

3.1 หากนักเรยี นเปน็ ผ้ปู ระสบภัยธรรมชาตจิ ะมีวธิ กี ารใชจ้ า่ ยในชว่ งเวลาดังกลา่ วอย่างไร
และจะหาเงินมาจากท่ไี หนเพื่อนำมาซ่อมแซมบา้ น

3.2 หากนกั เรียนมีเงินออม จะสามารถชว่ ยให้ดำเนนิ ชีวิตในช่วงเวลาดงั กล่าวไดอ้ ยา่ งไร
4. ครูนำประสบการณ์ด้านเงินออมที่ช่วยเหลือบุคคลอื่น หรือพัฒนาชีวิตตนเองถ่ายทอดให้
นกั เรียนฟงั เพ่ิมเติม โดยใหน้ ักเรียนมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น

ข้นั สรปุ และการนำไปใช้

5. ครูและนักเรียนร่วมสรุปความสำคัญของการออมเงินและวิธีการปฏิบัติตนเพื่อที่จะได้มาซ่ึง
เงินออม เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัยในการใช้จ่าย มีนิสัยการออมที่ดี มีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น และ
เพอ่ื ให้ครอบครัวมีความมั่นคงในอนาคต

8. สอื่ การเรียนรู้

8.1 กระปกุ ออมสิน

8.2 ใบกิจกรรมท่ี 1.2
8.3 หนงั สอื เรียนรายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2
8.4 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ วชิ าเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
8.5 กรณตี ัวอย่างภาพขา่ วหรือเหตกุ ารณ์ท่สี ร้างความเสียหายในสังคม

9. แหลง่ ท่ีมาของข้อมูล
ตีรณ พงศม์ ฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน เศรษฐศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทศั น์

10. การวดั ผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60
1. บอกความสำคัญของการออม ตรวจใบกิจกรรมท่ี 1.1 แบบเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.1 ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60
และการลงทนุ ได้ (K) ผา่ นเกณฑ์

2. วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการ ตรวจคำถามจากกรณีตัวอยา่ ง แบบเฉลยคำถามจากกรณี รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
ออมและการลงทนุ ได้ (P) เกิดขึ้นในสงั คมทส่ี ร้างความ ตัวอย่าง ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
เสยี หายต่อชีวิตและทรัพยส์ นิ ผา่ นเกณฑ์ใน
ระดบั ดขี นึ้ ไป
จำนวน 2 ขอ้ ผ่านเกณฑ์ใน
ระดบั ดขี ้นึ ไป
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง

อยอู่ ย่างพอเพียง (A) ประสงคอ์ ยู่อยา่ งพอเพียง ประสงค์อย่อู ยา่ งพอเพยี ง

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง

มุง่ มนั่ ในการทำงาน (A) ประสงคม์ ุ่งมน่ั ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งม่ันในการทำงาน

5. มสี มรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั

ในการแกป้ ัญหา (A) การแก้ปัญหา ในการแก้ปัญหา

6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมนิ สมรรถนะสำคัญในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญ

ในการใชท้ ักษะชีวิต (A) ใช้ทกั ษะชีวิต ในการใชท้ ักษะชวี ติ

11. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหน่ง ครู

วันท่ี………เดือน…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงช่ือ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสทิ ธิ์)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วนั ที่………เดอื น………พ.ศ………….

บนั ทกึ แสดงความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................

ลงช่ือ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธิ์พล ชารี)

รองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ
วนั ที่………..เดอื น…………….พ.ศ……….

ใบกจิ กรรมท่ี 1.1

คำชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกต้องสมบูรณ์

1. คำวา่ “ออมทรัพย์” หมายถงึ อะไร เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องมีการออมทรัพย์

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. การออมทรัพยช์ ่วยสรา้ งความมัน่ คงใหก้ ับครวั เรือนอย่างไร

............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................. ................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. แรงจูงใจในการออมเงนิ ของบุคคลในครัวเรือนมีอะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. การออมทรัพยจ์ ะประสบความสำเร็จต้องอาศยั ปจั จัยสำคญั อะไรบ้าง
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
5. เพราะเหตุใดสังคมไทยจงึ มีปัญหาเร่อื งการออมทรพั ย์
...................................................................................................................................................... ........................
........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................... ..........................................

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.1

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้องสมบูรณ์

1. คำวา่ “ออมทรัพย์” หมายถึงอะไร เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการออมทรัพย์
“ออมทรัพย์” หมายถึง การมรี ายได้สว่ นที่เหลือจากการใชจ้ า่ ย สาเหตทุ ่ีต้องมีการออมทรพั ย์เพื่อช่วยให้ครัวเรือน
มี ความมน่ั คง มรี ายไดม้ ากขึ้น ช่วยยกระดบั มาตรฐานการครองชพี ให้สูงขึน้ และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. การออมทรัพยช์ ว่ ยสรา้ งความมน่ั คงใหก้ บั ครวั เรือนอยา่ งไร
เพ่อื เป็นค่าใชจ้ ่ายฉกุ เฉินของครอบครัว เชน่ เจบ็ ป่วย ตกงาน เป็นการสะสมทรัพย์สนิ ให้แกส่ มาชกิ ในอนาคต เป็น
คา่ ใชจ้ ่ายในการพัฒนาสมาชิก เชน่ ค่าศึกษาเลา่ เรยี นบตุ ร คา่ เสื้อผา้ เครอื่ งแต่งกาย เปน็ ต้น
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. แรงจงู ใจในการออมเงินของบุคคลในครวั เรอื นมีอะไรบ้าง
รายได้ : ถา้ รายได้มากอยากทีจ่ ะออมเงนิ มาก ถา้ รายได้นอ้ ยกอ็ อมเงินไดน้ ้อย
ผลตอบแทนจากการออม : เช่น ดอกเบี้ย ค่าของเงิน
เทคโนโลยกี ารให้บริการทางการเงินทท่ี ันสมัย สะดวกสบาย รวดเรว็ เกดิ การอำนวยความสะดวกอย่างรวดเรว็
............................................................................................................................. .................................................
4. การออมทรัพย์จะประสบความสำเร็จตอ้ งอาศัยปัจจยั สำคญั อะไรบา้ ง
1) ความปลอดภัยของเงินที่ออม การที่เราจะนำเงินออมไปแสวงหาผลประโยชน์ต้องพิจารณาถึงความปลอดภัย
ของเงินออมเป็นอันดบั แรก
2) สภาพคล่องของเงนิ เราสามารถนำเงินที่ออมไว้มาใช้ในยามจำเป็นได้หรือไม่
3) เราได้ผลตอบแทนจากการออมในอตั ราท่ีมีความเหมาะสมกบั ระยะเวลาและความเส่ียงหรอื ไม่
5. เพราะเหตใุ ดสงั คมไทยจึงมีปัญหาเรื่องการออมทรัพย์
1) ประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศมีรายไดต้ ่ำ
2) สถาบันการเงนิ มกั กระจกุ ตวั อยใู่ นตัวเมือง ทำให้ประชาชนในชนบทขาดแหลง่ ออมเงนิ
3) มีช่องว่างระหว่างการออมเงินมากเกินไป เนื่องจากประมาณเงินออมมีน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณเงินทีต่ ้องการ
ใช้ในการลงทนุ ในแต่ละปี

ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ 1 ที่ ชื่อ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10

ไมผ่ ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนงึ่ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดีเยย่ี ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่ึงต่ำกว่า 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1)

เกณฑ์การตดั สิน เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี

บางครงั้ (2) ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
น้อย (1) อย่างมี ความสุข

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความมุ่งมน่ั ในการทำงาน

ท่ี ชื่อ - สกลุ รายการประเมิน สรปุ

1. ีมความรับผิดชอบในหน้า ่ีท เ ็ปนประจำ (3) 5. อดทนเ ่ืพอให้งานสำเร็จตาม ผ่าน
การงาน บางคร้ัง (2) เป้าหมาย ไ ่มผ่าน
2. ตั้งใจและเอาใจใส่ต่อการ
ปฏิบัติหน้า ่ที ี่ทได้รับมอบหมาย น้อย (1)
3. ทำงาน ้ดวยความเ ีพยร
พยายาม รวมคะแนน (15 คะแนน)
4. ปรับปรุงและ ัพฒนาการ
ทำงานให้ ีด ึ้ขน ้ดวยตนเอง

เ ็ปนประจำ (3)
บางค3รั้ง (2)
2 น้อย (1)
เป็นประจำ (3)
บางคร้ัง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ

ระดับคุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 2 คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน

ไม่ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ด้านการคดิ ท่ปี รากฏ
1. ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา 3 นักเรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เปน็ อย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมเี หตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้บ้าง
1 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแก้ปัญหาและ 3 นักเรียนมีการจัดลำดับ มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อปุ สรรคต่าง ๆ ท่เี ผชญิ ได้ 2 นกั เรยี นมีการจดั ลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดับ มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยุกต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแกป้ ัญหาเพิม่ เติมได้เปน็ อย่างดี
ความร้มู าใชใ้ นการป้องกนั 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความร้ใู นการแกป้ ัญหาเพม่ิ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรยี นศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาได้เล็กนอ้ ย
4. สามารถตัดสินใจได้ 3 นักเรยี นสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพื่อนไดเ้ ป็น
เหมาะสมตามวัย อย่างดี
2 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอ่ื นได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรียนสามารถตัดสินใจเองไดน้ ้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพื่อน
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่ 3 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นในช้ันเรยี นโดย
คำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ื่นเป็นอยา่ งดี
2 นกั เรยี นวางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ มีการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นในชน้ั เรียนบ้าง
บางคร้งั โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื
1 นักเรยี นไม่สนใจวการางแผนช่วยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นในช้ันเรียน

เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ
ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 60)
สรปุ
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0-8 คะแนน
ไม่ผ่าน

321321321321321 ท่ี ชอ่ื - สกุล
1
2 1. เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ รายการประเมนิ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการใชท้ กั ษะชวี ิต
3 อย่างเหมาะสมตามวัย
3
5 2. สามารถทำงานกลุม่
6 ร่วมกับผู้อืน่ ได้
7
8 3. นำความรู้ทีไ่ ด้ไปใช้
9 ประโยชน์ใน
10 ชวี ิตประจำวัน
11
12 4. จัดการปญั หาและ
13 ความขดั แย้งได้
13 เหมาะสม
15
16 5. หลกี เลยี่ งพฤติกรรม
17 ท่ไี ม่พึงประสงค์ที่ส่งผล
18
19 กระทบตอ่ ตนเอง
20 รวม (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

รายการประเมิน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทีป่ รากฏ

1. เรียนรดู้ ้วยตนเองได้อยา่ ง 3 นกั เรียนมีความสนใจในการเรยี นร้แู ละแสวงหาความรู้เพ่ิมเตมิ เป็นอยา่ งดี

เหมาะสมตามวยั 2 นกั เรียนมคี วามสนใจในการเรยี นรแู้ ละแสวงหาความร้เู พ่ิมเติมบ้าง

1 นักเรยี นมคี วามสนใจในการเรียนรแู้ ละแสวงหาความร้เู พิ่มเติมน้อย

2. สามารถทำงานกลุ่มร่วมกับ 3 นกั เรยี นร่วมแสดงความคดิ เห็นและทำงานกลมุ่ ในชน้ั เรียนไดเ้ ปน็ อย่างดี

ผ้อู นื่ ได้ 2 นักเรยี นร่วมแสดงความคดิ เห็นและทำงานกล่มุ ในช้ันเรยี นบา้ ง

1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคิดเห็นและทำงานกล่มุ ในช้นั เรยี นนอ้ ย

3. นำความรู้ที่ได้ไปใช้ 3 นักเรยี นนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั เป็นอย่างดี

ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน 2 นกั เรยี นนำความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันบา้ ง

1 นักเรียนนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันนอ้ ย

4. จัดการปัญหาและความ 3 นักเรยี นวางแผนการแกไ้ ขปญั หาและความขดั แย้งได้อย่างเหมาะสม

ขัดแย้งได้อยา่ งเหมาะสม 2 นักเรียนวางแผนการแก้ไขปญั หาได้

1 นักเรยี นไม่สามารถวางแผนการแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งได้

5. หลกี เลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่พึง 3 นกั เรียนแยกแยะพฤติกรรมท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมตอ่ ตนเองไดเ้ ปน็ อย่างดี

ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ 2 นักเรียนแยกแยะพฤติกรรมท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมต่อตนเองได้บ้าง

ตนเอง 1 นักเรียนแยกแยะพฤติกรรมที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมตอ่ ตนเองไดน้ ้อย

สรปุ เกณฑ์การตดั สิน
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60)
ไม่ผ่าน
เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 7 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การออมและการลงทนุ เวลา 8 ช่วั โมง

เรื่อง ปจั จยั และเป้าหมายของการออม เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบวั พทิ ยาคาร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด
ส 3.1 ม.2/1 วเิ คราะห์ปจั จัยท่ีมีผลต่อการลงทุนและการออม

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 บอกความสำคัญของการออมและการลงทนุ ได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการออมและการลงทนุ ได้ (P)

3. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รียนรู้
3.2 อย่อู ยา่ งพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคัญ

4.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. สาระสำคญั

การออมเงินเป็นผลมาจากการบริหารจัดการรายได้ที่ดี มีการวางแผนการใช้เงิน การออมนับเป็นสิ่งที่ดีที่
จะช่วยแก้ปญั หาความเดือดร้อนทางการเงนิ ท่อี าจเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งคาดไมถ่ ึงของบุคคลและครวั เรือน เงนิ ออมจึงจะ
ช่วยสร้างเสริมรายได้ในอนาคตและช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว แต่ก็ออมจะมากหรือนอ้ ยขึ้นอย่กู ับ
ปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้ ผลตอบแทน ค่าของเงิน นิสัยการใช้จ่ายของบุคคล เทคโนโลยีทางการเงิน ระบบการ
ให้สวัสดิการหลังเกษียณอายุ เปน็ ต้น

6. สาระการเรียนรู้
6.1 การออม
6.1.1 ปัจจัยของการออมเงนิ
6.1.2 เปา้ หมายของการออมเงนิ

7. จัดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยการใชเ้ กมบงิ โก
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับเป้าหมายของการออมแต่ละเป้าหมาย และถามนักเรียนว่า

“การออมเงินของนกั เรยี นมีเป้าหมายเพื่ออะไร”

ข้นั สอน
2. ครูและนักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างเป้าหมายของการออมเงินแต่ละอย่าง เช่น การท่องเที่ยว

การใช้จา่ ยยามจำเปน็ การเกษยี ณอายุ ฯลฯ และชใี้ หเ้ ห็นถงึ การมีเป้าหมายในการออมเงิน
3. ครูให้นักเรียนเขียนเป้าหมายการออมของตนเองจำนวน 10 ข้อ ลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้

วิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 หน้า 27
4. ครูจัดกจิ กรรมเกมบงิ โก “เปา้ หมายเงนิ ออม”

กตกิ าการเลน่
- ครูแจกกระดาษตารางบิงโกให้กับนกั เรยี นคนละ 1 แผน่ ใหน้ กั เรยี นเขียนชอ่ื ช้นั เลขท่ี

ไว้ด้านบนของกระดาษ

ได้แจกให้ - ครูให้นกั เรียนดเู ป้าหมายของการออมเงนิ จำนวน 50 เปา้ หมาย
- ครูให้นกั เรียนเลือกเปา้ หมายของการออมเงนิ จำนวน 24 เป้าหมายลงในตารางบงิ โกท่ี

- ครสู ุ่มจบั ฉลากบงิ โกเป้าหมายของการออมเงินจนกวา่ จะเจอผ้โู ชคดบี งิ โก
- ผทู้ ่บี งิ โกจะได้รบั คะแนนสะสม 2 คะแนน

- นักเรียนที่มีเป้าหมายของการออมเงินเรียงกันตามแนวต่อไปนี้ จะต้องกล่าวคำ

วา่ “บิงโก”

ขัน้ สรุปและการนำไปใช้

5. ครูและนักเรียนสรุปประโยชน์ของการออมเงินซึ่งจะส่งผลต่อเป้าหมายในอนาคต หากเรามี
มีการวางแผนการใชจ้ า่ ย มกี ารวางเป้าหมายของการออมจะทำให้เราเจอความสุขท่ีแทจ้ ริง

8. ส่ือการเรียนรู้

8.1 เกมบิงโก “เปา้ หมายการออม”
8.2 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
8.3 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2

9. แหล่งที่มาของข้อมลู
ตีรณ พงศ์มฆพฒั น์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน เศรษฐศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทศั น์

10. การวดั ผลและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เครอื่ งมือ เกณฑ์

1. บอกความสำคัญของการออม เกมบิงโก “เป้าหมายการออม” ตรวจกระดาษบิงโก “เป้าหมาย ร้อยละ 60

และการลงทุนได้ (K) การออม” ผ่านเกณฑ์

2. วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการ ตรวจใบคำถามปัจจัยการออมเงิน แบบเฉลยใบคำถามปัจจัยการ ร้อยละ 60

ออมและการลงทนุ ได้ (P) ของคนไทยจำนวน 2 ขอ้ ออมเงนิ ของคนไทยจำนวน 2 ข้อ ผ่านเกณฑ์

3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ร้อยละ 60

ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
อย่อู ย่างพอเพยี ง (A) ประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพียง ประสงค์อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ผ่านเกณฑ์ใน
ระดับดีขึน้ ไป
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ใน

ในการแก้ปัญหา (A) การแก้ปญั หา การแก้ปัญหา

11. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู

วนั ที่………เดอื น…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธิ์)

หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วันที่………เดือน………พ.ศ………….

บนั ทึกแสดงความคดิ เห็นของผูบ้ ริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................

ลงชื่อ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธิ์พล ชารี)

รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
วนั ท่ี………..เดอื น…………….พ.ศ……….

กระดาษบงิ โก “เปา้ หมายการออม”

ตารางเป้าหมายการออมสำหรบั กจิ กรรมบงิ โก

1. ดูหนัง 26. เทยี่ วต่างประเทศ
2. ซือ้ กระเปา๋ 27. ซื้อนาฬิกา
3. ซอื้ บา้ น 28. ซอ้ื รถยนต์
4. ซ้ือจกั รยาน 29. ซ้ือกล้อง
5. ใช้ยามเจ็บป่วย 30. ใช้ยามตกงาน
6. ใชต้ อนเกษยี ณอายุ 31. ซอื้ เสอ้ื ผา้
7. ใชไ้ ปหาหมอ 32. ใช้เรียนต่อ
8. ไปเทยี่ วญ่ีปุน่
9. ซอ้ื โทรศพั ท์ 33. ไปซื้ออปุ กรณก์ ารเรยี น
10. ซอ้ื คอนโด 34. ซื้อตกุ๊ ตา
11. ขอแฟนแตง่ งาน 35. ซ้อื มอไซด์
12. ซ้ือทวี ี
13. ซือ้ คอมพิวเตอร์ 36. พาครอบครวั ไปทะเล
14. เปดิ ร้านชานมไข่มุก 37. ซ้ือเตาอบ
15. ซอ้ื ทดี่ ิน
16. เลย้ี งดูพ่อแม่ 38. ซอ้ื เครื่องพมิ พ์
17. ซ้อื แอร์ 39. เปดิ ร้านกาแฟ
18. เรยี นตอ่ ตา่ งประเทศ 40. ทำสวนอง่นุ
19. ไปเที่ยวรอบโลก 41. ซือ้ I - Pad
20. ทำธรุ กจิ สว่ นตัว 42. เปิดร้านเบเกอร์รี่
21. ซอ้ื ต๋วั คอนเสริ ์ต 43. เรยี นพเิ ศษเพิ่มเตมิ
22. ใช้ตอนจำเปน็
23. ใหพ้ อ่ แม่ 44. ซอ้ื ตู้เยน็
24. ซ้อื หนงั สือเรียน 45. ซ้อื รองเท้า
25. เอาไวเ้ ลี้ยงพอ่ แม่ 46. ไปเกาหลี
47. ไปอเมรกิ า
48. ไปจับมือ BNK48
49. ซ้ือของใช้จำเปน็
50. เอาไวท้ ำตามความฝัน

ระดับคุณภาพ 1 ท่ี ชื่อ - สกลุ
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ปรับปรงุ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึง่ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรปุ
ไมผ่ ่าน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ช่ือ - สกุล
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ด้านการคดิ ทีป่ รากฏ
1. ใชเ้ หตุผลในการแก้ปัญหา 3 นักเรียนมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เป็นอย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรียนมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดบ้ า้ ง
1 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ญั หาและ 3 นักเรยี นมีการจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดีมาก
อุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ ได้ 2 นกั เรียนมีการจดั ลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นกั เรียนมกี ารจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นักเรยี นศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ัญหาเพ่ิมเติมได้เป็นอยา่ งดี
ความรู้มาใช้ในการปอ้ งกนั 2 นักเรยี นศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแกป้ ญั หาเพิม่ เตมิ ได้
และแก้ไข 1 นกั เรยี นศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ัญหาไดเ้ ลก็ น้อย
4. สามารถตดั สนิ ใจได้ 3 นักเรียนสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพ่อื นไดเ้ ปน็
เหมาะสมตามวัย อย่างดี
2 นกั เรยี นสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตดั สินใจเองไดน้ ้อย และไม่มีการวางแผนการทำงานกบั เพ่ือน
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่ 3 นกั เรยี นวางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ มกี ารแลกเปล่ียนความคิดเห็นในชั้นเรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ื่นเปน็ อยา่ งดี
2 นักเรียนวางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ มกี ารแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นในชัน้ เรยี นบา้ ง
บางครัง้ โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนช่วยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นในช้ันเรียน

เกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารตัดสนิ
ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 8-15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นรอ้ ยละ 60)
สรุป
ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0-7 คะแนน
ไมผ่ า่ น

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การออมและการลงทนุ เวลา 8 ช่วั โมง

เรื่อง ปจั จยั และเป้าหมายของการออม เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบวั พทิ ยาคาร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด
ส 3.1 ม.2/1 วเิ คราะห์ปจั จัยท่ีมีผลต่อการลงทุนและการออม

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 บอกความสำคัญของการออมและการลงทนุ ได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการออมและการลงทนุ ได้ (P)

3. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รียนรู้
3.2 อย่อู ยา่ งพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคัญ

4.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. สาระสำคญั

การออมเงินเป็นผลมาจากการบริหารจัดการรายได้ที่ดี มีการวางแผนการใช้เงิน การออมนับเป็นสิ่งที่ดีที่
จะช่วยแก้ปญั หาความเดือดร้อนทางการเงนิ ท่อี าจเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งคาดไมถ่ ึงของบุคคลและครวั เรือน เงนิ ออมจึงจะ
ช่วยสร้างเสริมรายได้ในอนาคตและช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว แต่ก็ออมจะมากหรือนอ้ ยขึ้นอย่กู ับ
ปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้ ผลตอบแทน ค่าของเงิน นิสัยการใช้จ่ายของบุคคล เทคโนโลยีทางการเงิน ระบบการ
ให้สวัสดิการหลังเกษียณอายุ เปน็ ต้น

6. สาระการเรียนรู้
6.1 การออม
6.1.1 ปัจจัยของการออมเงนิ
6.1.2 เปา้ หมายของการออมเงนิ

7. จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยการบรรยาย
ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครูใหน้ กั เรียนคาดการณ์แนวโน้มและโอกาสในการออมเงินของบคุ คลในสงั คม โดยยกตัวอย่าง

“ระหว่างนักร้องระดับโลก” กับ “พนักงานทั่วไป” ว่าใครมีความสามารถในการออมเงินได้มากกว่ากัน
ขน้ั สอน
2. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันว่าหากผู้มีรายได้สูงไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักธุรกิจระดับโลก

นักแสดงที่มีความนิยมจะมีรายได้สูงทำให้มีโอกาสในการออมเงินสูงกว่าคนที่มีรายได้น้อยอย่างเช่นลูกจ้าง
ทว่ั ไป หรอื พนักงานบรษิ ทั ตา่ ง ๆ เนื่องมาจากรายได้เหลอื่ มลำ้ ที่แตกต่างกนั อย่างมาก

3. ครูอธบิ ายเก่ียวกบั ปัจจัยของการออมเงิน วา่ เงินออมวา่ จะมากหรอื น้อยขึ้นอยู่กบั ปัจจัยต่อไปนี้
3.1 รายได้ของบคุ คล
3.2 ผลตอบแทนท่ผี ้อู อมจะได้รับจากการออม
3.3 คา่ ของเงนิ
3.4 นิสยั การใช้จ่ายสว่ นตวั ของแตล่ ะบุคคล
3.5 การคาดคะเนเกย่ี วกบั เหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต
3.6 เทคโนโลยีของการใหบ้ รกิ ารทางการเงนิ
3.7 ระบบการให้สวสั ดิการหลงั การเกษียณอายุ

4. ครูผู้สอนอธิบายเป้าหมายของการออม นอกจากจะเพื่อประโยชน์ระยะสั้นและระยะยาวแล้ว
ช่วงอายุยงั มผี ลต่อการออมด้วย เช่น การออมในวัยทำงานจะเป็นการออมเพ่ือความสุขของตน เช่น ซื้อรถ ซ้ือ
บ้าน ใช้จ่ายตามความต้องการต่าง ๆ แต่การออมในวัยการกลางคนจะเป็นการออมเพื่อความมั่นคงของ
ครอบครัวในอนาคต

5. ครูผู้สอนให้นกั เรยี นสำรวจเงนิ ออมของตนเองวา่ มีเทา่ ใด และปจั จยั ใดบ้างมผี ลตอ่ การออมเงิน
ของนักเรียน จากนั้นศึกษาการออมเงินของคนไทย และตอบคำถามลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชา
เศรษฐศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2

5.1 ปัจจัยท่มี ผี ลตอ่ การออมเงนิ ของคนไทยมีอะไรบ้างและมีผลตอ่ บุคคลอย่างไร
5.2 ทำไมคนไทยจงึ มโี อกาสในการออมเงินไมเ่ ท่ากนั จนทำใหเ้ กิดช่องวา่ งระหวา่ งคนรวย
กบั คนจน

ขนั้ สรปุ และการนำไปใช้

6. ครูและนักเรียนร่วมสรุปการวางแผนการใช้เงิน รวมถึงการออมเงินอย่างมีเป้าหมาย เพื่อจะ
ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงในอนาคตของแต่ละบุคคล

7. ครูมอบหมายชิ้นงานประจำหน่วยที่ 1 จำนวน 10 คะแนน เรื่อง “แผนผังความคิดการสร้าง
นสิ ัยการออม” ลงในชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ วิชาเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2

8. สอื่ การเรียนรู้

8.1 ใบคำถามปัจจัยการออมเงินของคนไทย
8.2 หนังสอื เรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
8.3 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ วิชาเศรษฐศาสตร์
9. แหลง่ ทีม่ าของขอ้ มูล
ตรี ณ พงศม์ ฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน เศรษฐศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี
2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทศั น์

10. การวัดผลและประเมนิ ผล

จุดประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์

1. บอกความสำคัญของการออม ตรวจใบกิจกรรม แบบเฉลยใบกิจกรรม ร้อยละ 60

และการลงทุนได้ (K) ผา่ นเกณฑ์

2. วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการ ตรวจใบคำถามปัจจัยการออมเงิน แบบเฉลยใบคำถามปัจจัยการ ร้อยละ 60

ออมและการลงทนุ ได้ (P) ของคนไทยจำนวน 2 ข้อ ออมเงนิ ของคนไทยจำนวน 2 ขอ้ ผ่านเกณฑ์

3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ฝ่ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ใน
ระดับดีขนึ้ ไป
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง (A) ประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง ประสงค์อย่อู ยา่ งพอเพยี ง

5. มสี มรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ใน

ในการแก้ปัญหา (A) การแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา

11. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้

ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ปญั หาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ …………………………………….
(นางสาวพนิดา สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วันท่ี………เดอื น…………..พ.ศ………

ข้อเสนอแนะ / ความคดิ เห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………

ลงช่อื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธิ์)

หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วนั ที่………เดอื น………พ.ศ…………

บันทึกแสดงความคิดเหน็ ของผ้บู ริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………….………..............…………
(นายพฤทธิพ์ ล ชารี)

รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
วนั ที่………..เดอื น…………….พ.ศ………….

ใบกจิ กรรม

คำชแี้ จง ให้นกั เรียนบอกวิธกี ารสรา้ งนสิ ัยการออมของตนลงในแผนผงั ความคดิ พร้อมกับตกแต่งใหส้ วยงาม
(คะแนนเกบ็ 10 คะแนน)

เฉลยใบกิจกรรม
คำชี้แจง ให้นักเรยี นบอกวธิ ีการสร้างนสิ ัยการออมของตนลงในแผนผงั ความคิด พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม
(คะแนนเกบ็ 10 คะแนน)

ขน้ึ อยูก่ ับดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอนโดยแนวทางการตอบจะต้องทำให้จรงิ และมีผลต่อการออมเงนิ
แสดงให้เหน็ ถึงนสิ ัยในการออมเงินของนกั เรยี นเป็นอย่างดี

ใบคำถาม

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาการออมเงินของคนไทย และตอบคำถามลงในชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้วชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

1. ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ การออมเงินของคนไทยมีอะไรบ้างและมผี ลตอ่ บุคคลอย่างไร
...................................................................................................... .........................................................
...............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................... ..........
.............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

2. ทำไมคนไทยจึงมโี อกาสในการออมเงินไมเ่ ทา่ กันจนทำใหเ้ กิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน
...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................. ..................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ .............................

เฉลยใบคำถาม

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาการออมเงินของคนไทย และตอบคำถามลงในชุดกิจกรรมการ
เรียนรวู้ ิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2

1. ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการออมเงินของคนไทยมอี ะไรบ้างและมีผลต่อบุคคลอย่างไร
การออมเงนิ ของคนไทยจะมากหรือน้อยขน้ึ อยู่กับปัจจยั ต่าง ๆ ดังน้ี
1. รายไดส้ ุทธิส่วนบุคคล
2. ผลตอบแทนทีผ่ อู้ อมจะไดร้ ับจากการออม
3. คา่ ของเงิน
4. นสิ ยั การใชจ้ า่ ยส่วนตวั ของแตล่ ะคน
5. การคาดคะเนเกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในอนาคต
6. เทคโนโลยีของการให้บริการทางการเงิน
7. ระบบการใหส้ วสั ดกิ ารหลงั การเกษียณอายุ

2. ทำไมคนไทยจงึ มโี อกาสในการออมเงินไมเ่ ท่ากันจนทำให้เกดิ ช่องวา่ งระหวา่ งคนรวยกับคนจน
1. รายได้ของแต่ละบุคคลไม่เท่ากนั ทำให้โอกาสในการออมเงินไมเ่ ทา่ กนั
2. ความจำเป็นในการใช้จ่ายของแต่ละคนแตกต่างกัน ตามนิสัยการใช้จ่ายเงินของแต่ละบุคคล หากบาง

คนมนี ิสัยประหยดั มัธยัสถจ์ ะทำใหม้ เี งินออมมาก แต่หากบางคนมนี สิ ัยใช้จา่ ยฟ่มุ เฟอื ยจะทำให้มเี งนิ ออมน้อย
3. วินัยการวางแผนทางการเงนิ ของแตล่ ะคนไม่เหมือนกัน หากเรามีการวางแผนการใช้จ่ายที่ดีย่อมจะทำ

ให้มโี อกาในการออมเงินสงู กวา่
.............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................... .......
.

ระดับคุณภาพ 1 ท่ี ชื่อ - สกลุ
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ปรับปรงุ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึง่ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรปุ
ไมผ่ ่าน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ช่ือ - สกุล
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน