วิชาเศรษฐศาสตร์ ส22103

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑ์การให้คะแนน

รายการประเมิน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ด้านการคิดที่ปรากฏ
1. ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา 3 นกั เรียนมเี หตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้เป็นอยา่ งดี
ต่าง ๆ ได้ 2 นักเรียนมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้บ้าง
1 นักเรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ ได้น้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรียนมีการจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ ได้ 2 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นกั เรียนมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นักเรยี นศกึ ษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาเพ่มิ เติมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเติม แสวงหาความรู้ในการแก้ปัญหาเพม่ิ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาได้เลก็ นอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นักเรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อยา่ งดี
2 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่ือนได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนึงถึง 1 นักเรียนสามารถตดั สินใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพอ่ื น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื 3 นักเรยี นวางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ในชั้นเรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู น่ื เปน็ อยา่ งดี
2 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นในช้นั เรียนบา้ ง
บางครง้ั โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน
1 นักเรยี นไม่สนใจวการางแผนช่วยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลีย่ นความ
คดิ เห็นในชัน้ เรยี น

เกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ
ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 การออมและการลงทนุ เวลา 8 ชว่ั โมง

เรื่อง การบรหิ ารจดั การเงินออมของภาคครัวเรือนและหลกั เกณฑ์ท่คี วรพิจารณาในการออม เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรยี นหนองบวั พิทยาคาร

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด
ส 3.1 ม.2/1 วเิ คราะหป์ ัจจยั ทมี่ ีผลต่อการลงทนุ และการออม

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 บอกความสำคัญของการออมและการลงทุนได้ (K)
2.2 ระบปุ ัญหาของการออมและการลงทุนของไทย และเสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขได้ (P)

3. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรียนรู้
3.2 อยู่อยา่ งพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคญั

4.1 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

5. สาระสำคญั

การออมเงนิ สามารถเพิ่มพูนรายได้ให้แก่เราและครอบครวั ได้ เช่น ให้ผลตอบแทนในรปู ดอกเบ้ยี หากเราฝาก
ไว้กับธนาคารหรือสถาบนั การเงิน และเนอ่ื งจากการออมเงินมีทงั้ ระยะสั้นและระยะยาว ดงั นั้นจึงต้องมีการบริหาร
จัดการการออมเงินของภาคครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดเป้าหมายการออม หรือการทำบัญชีครัวเรือน
บญั ชีรายรับ - รายจ่ายประจำเดือน หรอื จะนำเงินออมไปลงทุนทำใหเ้ กิดประโยชนเ์ พ่ิมมากขน้ึ ทง้ั น้ีการจะออมเงิน
นั้นจะต้องพิจารณาด้วยว่าเงินออมของเราจะมีความปลอดภัยหรือไม่ มีสภาพคล่องของเงินหรือไม่ มีความสะดวก
มอี ัตราผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่

6. สาระการเรยี นรู้

6.1 การออม

6.1.1 การบริหารจัดการเงนิ ออมของภาคครวั เรือน
6.1.2 หลักเกณฑท์ ี่ควรพิจารณาในการออม
6.1.3 ปญั หาการออมในสงั คมไทย

7. จัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยการจดั การเรยี นรู้แบบ 4MAT
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
ข้นั ท่ี 1 ข้นั การสรา้ งประสบการณ์ ใหน้ กั เรียนเห็นคณุ ค่าของเรอ่ื งทจี่ ะเรยี น
1. ครูนำสนทนาด้วยคำพูดที่ให้นักเรียนคิดตาม เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการ

ออมเงินและรู้จักการบริหารเงินออม ว่า “ตัวนักเรียนเองและครอบครัวของนักเรียนมกี ารกำหนดเป้าหมายการ
ออม การวางแผนการออมหรือไม่ เพราะหากวันหนึ่งถ้านักเรียนหรอื ครอบครัวมีความจำเป็นในการใช้เงินอย่าง
เร่งด่วน นกั เรยี นจะช่วยเหลือตนเองได้หรือไม่”

ขัน้ สอน
ขนั้ ที่ 2 การวิเคราะห์ประสบการณ์ เป็นการสะทอ้ นความคดิ ของนักเรยี นจากประสบการณ์เพื่อให้

ผู้เรียนยอมรบั เปดิ ใจในเรือ่ งท่จี ะเรียน
2. ครูผู้สอนอธิบายเกี่ยวกับปัญหาการออมเงินในสังคมไทยหลัก ๆ คือ การที่ประชาชนไทยส่วน

ใหญ่ยังมีรายได้ต่ำจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม, คนส่วนใหญ่ขาดความรู้ในเรื่องการออมเงิน, สถาบัน
การเงินส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองทำให้พื้นที่ชนบทขาดสถาบันการเงินที่คนจะไปออมเงินไ ด้ รวมถึง
เศรษฐกิจตกตำ่ ทำให้คนไม่มเี งนิ ออม

3. ครูเสนอแนวทางการบริหารจดั การเงินออมภายในครวั เรือนโดยให้ภายในครวั เรือนตั้งเป้าหมาย
การออม และทำบญั ชีครัวเรอื น บัญชรี ายรับ - รายจา่ ยประจำเดือน เพอื่ ใหเ้ งนิ ออมทร่ี วบรวมได้สามารถนำไปใช้
จ่ายตามแผนทก่ี ำหนดไวอ้ ย่างรัดกุม

ขั้นที่ 3 การพัฒนาประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด เมื่อผู้เรียนเห็นคุณค่าในเรื่องที่จะเรียน
แล้ว ครูผูส้ อนจดั กิจกรรมท่สี ามารถสร้างความคดิ รวบยอดขึน้ ได้เอง

4. ครใู หน้ กั เรียนนำชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ขึ้นมาและ
เปดิ ไปหนา้ ท่ี 5 ให้ผ้เู รียนวางแผนการใชจ้ า่ ยของกรณีตวั อยา่ งในใบกจิ กรรมที่ 1.2

ขั้นท่ี 4 การพฒั นาความรคู้ วามคดิ ผู้สอนกระตุ้นใหผ้ ู้เรียนพฒั นาต่อยอดความคิดเพิ่มมากขึ้น
5. หลังจากที่ผู้เรียนสามารถวางแผนการใช้จ่ายของกรณีตัวอย่างในใบกิจกรรมที่ 1.2 ผ่านวิธีการ
ทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายประจำเดือนได้แล้วนั้น ขั้นต่อไปให้ผู้เรียนวางแผนการทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย
ประจำเดือนของครอบครัวตนเองในใบกจิ กรรมที่ 1.3 เพื่อสะทอ้ นการสร้างนสิ ยั การออม
ขน้ั ที่ 5 การปฏบิ ัติตามแนวคิดท่ีไดเ้ รียนรู้ ผูส้ อนให้นกั เรยี นนำความรทู้ ี่ไดเ้ รยี นมาปฏิบตั ิจริง
6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรยี นไดว้ างแผนการใช้จ่ายภายในครอบครวั ของตนเองอย่างเตม็ ที่ลงใยใบ
กจิ กรรมท่ี 1.4 ของชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ วิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

ขัน้ ท่ี 6 การสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานของตนเอง
7. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสรา้ งสรรค์ผลงานดังกล่าวไดอ้ ย่างเต็มที่ เพือ่ ฝึกทักษะกระบวนการคิด
แก้ปัญหา การวางแผนการใชจ้ า่ ยในครอบครัว

ข้นั สรปุ และการนำไปใช้

ขั้นที่ 7 การวเิ คราะห์ผลงานและแนวทางในการนำไปประยุกตใ์ ช้
8. ครูผู้สอนชมเชยการทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายประจำเดือน และส่งเสริมให้ผู้เรียนนำวิธีการ
ดังกลา่ วไปวางแผนการออมในครัวเรอื น
9. ครูผู้สอนอธิบายหลักเกณฑ์ท่ีควรพิจารณาในการออมเพิม่ เติม เพื่อให้นักเรยี นสามารถใช้ในการ
วางแผนการออมเงนิ ตอ่ ไปได้
ข้ันท่ี 8 การแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด
10. ให้ผู้เรียนนำบัญชีรายรับ - รายจ่ายประจำเดือนมาแลกเปลี่ยนเพื่อนในชั้นเรียน เพื่อที่จะได้
แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ว่ามีความเหมาะสมในการใชจ้ ่ายจำเปน็ หรอื ไมจ่ ำเป็น

8. สื่อการเรยี นรู้

8.1 ใบกจิ กรรมท่ี 1.2
8.2 ใบกิจกรรมท่ี 1.3
8.3 หนงั สือเรยี นรายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
8.4 ชุดกจิ กรรมการเรียนรูร้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2

9. แหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: อักษรเจรญิ ทศั น์

10. การวัดผลและประเมนิ ผล

จุดประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
แบบเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60
1. บอกความสำคัญของการออม ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 1.2 ผา่ นเกณฑ์

และการลงทนุ ได้ (K)

2. ระบปุ ญั หาของการออมและ ตรวจใบกิจกรรมท่ี 1.3 แบบเฉลยใบกิจกรรมท่ี 1.3 รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
การลงทนุ ของไทย และ
ร้อยละ 60
เสนอแนะแนวทางการแก้ไขได้ ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
(P) ผ่านเกณฑ์
ผ่านเกณฑ์ใน
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ฝ่ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง ระดับดีข้นึ ไป

เรยี นรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รยี นรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง

อย่อู ยา่ งพอเพียง (A) ประสงคอ์ ย่อู ยา่ งพอเพียง ประสงค์อย่อู ยา่ งพอเพยี ง

5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ใน

ในการแกป้ ญั หา (A) การแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา

11. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้

ผลการจัดการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอุปสรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื …………………………………….
(นางสาวพนิดา สอนโคตร)
ตำแหน่ง ครู

วนั ที่………เดอื น…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เห็นของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ

……………………………………………………………………………………………...…………………………………………………………………
……………………………………………………...…………………………………………………………………………………………………………
………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………
……………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธิ์)

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
วันที่………เดอื น………พ.ศ………….

บนั ทึกแสดงความคดิ เหน็ ของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………......................................

ลงช่อื …………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์พิ ล ชารี)

รองผูอ้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ
วนั ที่………..เดอื น…………….พ.ศ……….

ใบกิจกรรมที่ 1.2

คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นข้อความตอ่ ไปนี้แลว้ ชว่ ยคณุ พ่อของหนูดีวางแผนการใชจ้ ่ายในครอบครวั โดยการทำบัญชี
ครวั เรอื นประจำเดือนลงในตารางที่กำหนดให้

ครอบครัวของหนูดปี ระกอบด้วยพอ่ แม่ พ่ีหนนู า ซ่งึ พ่ีหนนู ากำลงั เรยี นระดับปริญญาตรี และคณุ ยาย

อายุ 90 ปี สุขภาพร่างกายไม่คอ่ ยแขง็ แรง คุณพ่อมีอาชพี รับจ้าง มรี ายได้เดือนละ 15,000 บาท คณุ

แมม่ ีอาชพี ค้าขาย มรี ายได้เดือนละ 7,000 บาท คุณพ่อมภี าระต้องจา่ ยค่าผ่อนบ้านเดือนละ 3,500

รายได้ของครอบครัว บาท
รายจ่ายของครอบครวั

รายรบั บาท รายจา่ ย บาท

รวมเป็นเงิน รวมเป็นเงิน

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.2

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอ่านขอ้ ความตอ่ ไปน้ีแลว้ ช่วยคณุ พ่อของหนดู วี างแผนการใช้จ่ายในครอบครวั โดยการทำบญั ชี
ครวั เรือนประจำเดือนลงในตารางทกี่ ำหนดให้

ครอบครวั ของหนูดีประกอบด้วยพอ่ แม่ พีห่ นนู า ซึ่งพีห่ นนู ากำลงั เรยี นระดับปรญิ ญาตรี และคุณยาย
อายุ 90 ปี สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแขง็ แรง คุณพ่อมีอาชพี รับจ้าง มีรายได้เดือนละ 15,000 บาท คุณ
แม่มีอาชพี ค้าขาย มรี ายได้เดือนละ 7,000 บาท คุณพ่อมภี าระต้องจา่ ยคา่ ผ่อนบา้ นเดือนละ 3,5000

บาท

รายไดข้ องครอบครวั รายจ่ายของครอบครัว

รายรบั บาท รายจา่ ย บาท

เงนิ เดอื นคุณพ่อ 15,000 คา่ ผอ่ นบ้าน 3,500

รายไดข้ องคุณแม่ 7,000 คา่ พาหนะ 3,000

คา่ น้ำ 300

ค่าไฟ 1,000

ค่าโทรศพั ท์ 300

ค่าอาหาร 5,000

คา่ เล่าเรียนบุตร 5,000

คา่ รักษาพยาบาล 1,000

ค่าใชจ้ า่ ยอ่นื ๆ 1,000

รวมเปน็ เงนิ 22,000 รวมเปน็ เงนิ 20,100

ใบกิจกรรมท่ี 1.3

คำช้แี จง ให้นักเรยี นจดั ทำบัญชีครัวเรอื น รายรบั – รายจ่ายประจำเดือนของครอบครัวตนเอง
(คะแนนเก็บ 10 คะแนน)

รายไดข้ องครอบครวั รายจ่ายของครอบครัว

รายรับ บาท รายจา่ ย บาท

รวมเป็นเงนิ รวมเปน็ เงิน

สรุปแล้วครอบครัวนกั เรียนมรี ายจา่ ยตอ่ เดือน เทา่ กับ ................................................................ บาท และมี
รายรับต่อเดือน เท่ากับ ................................................ บาท และมเี งนิ ออมคงเหลือต่อเดือน เทา่ กับ
.............................................. บาท และจะมีเงนิ ออมคงเหลือต่อปี เท่ากับ ...................................... บาท

เฉลยใบกิจกรรม 1.3

คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนจดั ทำบัญชคี รัวเรอื น รายรับ – รายจ่ายประจำเดือนของครอบครวั ตนเอง
(คะแนนเกบ็ 10 คะแนน)

รายไดข้ องครอบครวั รายจ่ายของครอบครัว

รายรบั บาท รายจา่ ย บาท

เฉลย

พิจารณาคำตอบของนักเรียนรายบุคคล
โดยใหส้ ามารถสรุปเงินออมคงเหลือในแต่ละเดอื นไดอ้ ย่างถูกต้อง

รวมเป็นเงิน รวมเปน็ เงนิ

สรปุ แลว้ ครอบครวั นกั เรียนมีรายจา่ ยตอ่ เดือน เทา่ กับ ................................................................ บาท และมี
รายรับต่อเดือน เทา่ กับ ................................................ บาท และมีเงินออมคงเหลือต่อเดอื น เทา่ กับ
.............................................. บาท และจะมีเงนิ ออมคงเหลือต่อปี เทา่ กับ ...................................... บาท

ระดับคณุ ภาพ 1 ที่ ช่ือ - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ปรับปรงุ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึง่ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กว่า 2 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน

เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ด้านใฝเ่ รยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน

ปรับปรงุ ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ชือ่ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนงึ่ ต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ตำ่ กว่า 2 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์อยู่อย่างพอเพียง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรุป
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแก้ปัญหา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคัญด้านการคิดท่ปี รากฏ
1. ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา 3 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ต่าง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมเี หตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดบ้ า้ ง
1 นักเรยี นมเี หตุผลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้น้อย
2. สามารถแกป้ ญั หาและ 3 นกั เรียนมีการจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชญิ ได้ 2 นักเรียนมกี ารจดั ลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรียนมีการจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้นอ้ ย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพ่ิมเติมได้เป็นอย่างดี
ความรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั 2 นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเติม แสวงหาความรูใ้ นการแก้ปัญหาเพิม่ เติมได้
และแก้ไข 1 นักเรียนศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรูใ้ นการแก้ปญั หาได้เล็กน้อย
4. สามารถตดั สนิ ใจได้ 3 นักเรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพ่ือนไดเ้ ป็น
เหมาะสมตามวัย อยา่ งดี
2 นกั เรยี นสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพอ่ื นได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนึงถงึ 1 นกั เรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้น้อย และไม่มีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 3 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลีย่ นความคิดเห็นในชัน้ เรยี นโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืนเป็นอยา่ งดี
2 นักเรียนวางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในชั้นเรยี นบา้ ง
บางครัง้ โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
1 นักเรยี นไม่สนใจวการางแผนช่วยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลีย่ นความ
คดิ เห็นในช้นั เรียน

เกณฑ์การประเมิน เกณฑก์ ารตดั สนิ
ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5

กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 การออมและการลงทนุ เวลา 8 ชัว่ โมง

เรอ่ื ง การลงทนุ เวลา 1 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรยี นที่ 1 โรงเรียนหนองบวั พิทยาคาร

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ัด

ส 3.1 ม.2/1 วเิ คราะห์ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการลงทนุ และการออม
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

2.1 บอกความสำคญั ของการออมและการลงทนุ ได้ (K)
2.2 วิเคราะหป์ ัจจยั ที่มีผลต่อการออมและการลงทนุ ได้ (P)

3. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รียนรู้
3.2 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคญั
4.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. สาระสำคญั

การลงทุนเป็นวิธีการหน่ึงทีส่ ร้างผลตอบแทนให้กับครัวเรือนได้อย่างมาก เช่น การนำเงินออมไปลงทุนใน
พันธบัตรรัฐบาล นำไปลงทุนซื้อหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่าง ๆ ของธุรกิจ ซึ่งการลงทุนจะช่วยทำให้ผู้ลงทุนได้รับ
ผลตอบแทนที่สงู กว่าเงินออม ช่วยใหธ้ รุ กิจตา่ ง ๆ ขยายกจิ การและไดผ้ ลมากย่งิ ขึน้ และชว่ ยใหร้ ัฐบาลมีเงินทุนไป
ใช้ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งแหล่งที่มาของเงินทุนมาจาก การควบคุมการใช้จ่ายโดยการจัดทำงบประมาณ
ครวั เรอื น การประหยดั โดยไม่ใชจ้ ่ายในสิ่งทไ่ี ม่จำเป็น การหารายไดพ้ ิเศษเพื่อนำเงินไปลงทุน และการออมโดยวิธี
บังคับของทางราชการหรอื รฐั วิสาหกิจ

6. สาระการเรียนรู้
6.1 ลงทุน
6.1.1 ความหมายและความสำคัญของการลงทุน
6.1.2 แหล่งทมี่ าของเงนิ ลงทุน

7. จดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยการบรรยาย
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน
1. ครยู กตวั อยา่ งนักธุรกิจรุ่นใหม่ท่ีประสบความสำเร็จ มาอภปิ รายถงึ วธิ ีการคดิ มุมมอง หลักการ

ในการตัดสินใจการลงทุน การวางแผนการลงทุน เพอ่ื ใหเ้ ปน็ แรงบนั ดาลใจให้กบั ผเู้ รยี น

ข้นั สอน
2. ครูผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายเกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของการลงทุน จากนั้นสรุป

ลงในชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิชาเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ในใบกจิ กรรมท่ี 1.4
3. ครูผ้สู อนสรปุ ท่มี าแหลง่ เงินทนุ ในประเทศไทยออกเปน็ 5 แหลง่ ได้แก่
3.1 เงนิ ออมจากครัวเรือน
3.2 สถาบันการเงินในประเทศ
3.3 เงนิ ลงทนุ จากต่างประเทศ
3.4 การออมโดยวธิ กี ารหกั เงินสะสมหรือเงนิ สำรองเลีย้ งชีพของข้าราชการ
3.5 การกยู้ ืมเงนิ จากต่างประเทศ
จากนั้นให้นักเรียนสรุปลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ในใบ

กิจกรรมท่ี 1.5
4. ครูผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมถึงความสำคัญของการลงทุนเพื่อเป็นการสร้างรายได้ สร้าง

ผลตอบแทน สร้างเงนิ ออมของตนเองหรอื ครอบครัวให้เพ่ิมมากข้ึน

ขั้นสรปุ และการนำไปใช้

5. ครูผู้สอนให้ยกตวั อย่างข้อสอบ O-net เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ของนักเรยี น
5.1 ขอ้ ใดเปน็ การลงทนุ จากตา่ งประเทศ
1. ชาวญี่ปนุ่ ซ้ือธรุ กิจของคนไทย
2. ชาวฝรง่ั เศสซือ้ พนั ธบัตรรัฐบาลไทย
3. ชาวอเมริกนั ซอ้ื รถยนตท์ ่ผี ลิตในไทย
4. ชาวสิงคโปรซ์ ้ือห้นุ ในตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย

8. สอ่ื การเรียนรู้

8.1 ใบกิจกรรมท่ี 1.4
8.2 ใบกิจกรรมที่ 1.5
8.3 หนงั สือเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2
8.4 ชดุ กิจกรรมการเรียนรรู้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2

9. แหลง่ ทม่ี าของข้อมูล
ตรี ณ พงศ์มฆพฒั น์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน เศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: อักษรเจรญิ ทัศน์
10. การวัดผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60
1. บอกความสำคัญของการออม ตรวจใบกิจกรรมที่ 1.6 แบบเฉลยใบกิจกรรมที่ 1.6 ผา่ นเกณฑ์

และการลงทุนได้ (K) รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
2. วเิ คราะห์ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ การ ตรวจใบกิจกรรมที่ 1.8 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 1.8 รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
ออมและการลงทุนได้ (P) รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ฝ่ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ใน
ระดบั ดีข้นึ ไป
เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รยี นรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง

อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง (A) ประสงคอ์ ยู่อยา่ งพอเพยี ง ประสงค์อยู่อย่างพอเพยี ง

5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมินสมรรถนะสำคัญใน

ในการแกป้ ัญหา (A) การแก้ปญั หา การแก้ปัญหา

11. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้

ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหน่ง ครู

วันที่………เดือน…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงช่ือ……………………………………
(นายคฑาวุธ ไชยสิทธิ์)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
วันท่ี………เดือน………พ.ศ………….

บนั ทึกแสดงความคดิ เหน็ ของผ้บู รหิ ารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................

ลงชือ่ …………………………….………..............…………
(นายพฤทธพิ์ ล ชารี)

รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
วันที่………..เดือน…………….พ.ศ……….

ใบกิจกรรมที่ 1.4

คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง

1. การลงทนุ หมายถงึ อะไร เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการลงทุน

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. การออมทรัพย์กบั การลงทุนมคี วามสัมพันธ์กนั อย่างไร

....................................................................................................................................................... .......................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

3. การออมทรัพย์กบั การลงทุนตา่ งกนั อยา่ งไร

............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
.......................................................................................................................... ....................................................

4. ปัจจัยสำคัญทีม่ ีผลต่อการลงทนุ มีอะไรบ้าง

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................... ..........

5. ปญั หาสำคญั ท่เี กิดจากการลงทุนในประเทศไทยมีอะไรบ้าง

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.4

คำชี้แจง ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้อง

1. การลงทุน หมายถึงอะไร เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการลงทุน

การลงทุน หมายถึง การนำเงินทเ่ี กบ็ ออมไว้ไปสรา้ งผลตอบแทนให้จำนวนเงินเพิม่ มากข้ึน
สาเหตุท่ีมกี ารลงทุน เชน่ เพื่อใหผ้ ู้ลงทนุ ได้รับผลตอบแทนมากขน้ึ ชว่ ยให้ธุรกจิ ต่าง ๆ มีสภาพคล่องทางการเงนิ
ฯลฯ

2. การออมทรัพย์กับการลงทุนมคี วามสัมพันธ์กันอย่างไร

การออมทรัพย์โดยการเก็บเงินไว้เพียงอยา่ งเดยี วไมไ่ ด้ทำใหเ้ งนิ นน้ั เพ่ิมมูลค่าได้ ดงั น้ัน การนำเงินไปลงทนุ จงึ จะ
สามารถเพิ่มมูลคา่ ของเงินได้ เพ่ือให้เกิดผลตอบแทนจากการออม

3. การออมทรัพยก์ บั การลงทุนตา่ งกันอยา่ งไร
การออมทรัพย์ เปน็ การเก็บสะสมเงินทีละเล็กละนอ้ ยจากรายได้ท่ีเหลือจากการใช้จ่ายให้เพม่ิ ขน้ึ
การลงทุน เปน็ การนำเงนิ ออมท่ีเกบ็ สะสมไว้ไปสร้างผลตอบแทนทส่ี ูงกวา่ การออม เช่น การลงทุนทำธุรกิจ

4. ปจั จัยสำคัญที่มผี ลตอ่ การลงทุนมีอะไรบา้ ง

1) ผลตอบแทนและความเสย่ี ง การลงทุนในทรัพย์สินหรือหลักทรัพยต์ า่ ง ๆ เชน่ พันธบตั รรฐั บาล ห้นุ ทนุ ท่ดี นิ ผู้
ลงทุนหวังจะได้รบั ผลตอบแทนสูง ๆ และมีความเสยี่ งตำ่ หากรัฐบาลกำหนดอัตราดอกเบ้ียพนั ธบตั รรฐั บาลสงู นกั
ลงทุนจะหนั มาซือ้ พนั ธบตั รมากขึน้ หากอตั ราดอกเบี้ยของพันธบัตรตำ่ แต่อตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ สงู ธุรกิจ
ก็จะจา่ ยเงินปนั ผลให้ผถู้ ือหุ้นมากขน้ึ
2) คา่ ของเงนิ เป็นตวั กำหนดการลงทนุ ในแตล่ ะช่วงเวลา ในช่วงใดที่ค่าของเงินไม่เปล่ยี นแปลงมากนกั ผู้ลงทุนสว่ น
ใหญ่มักจะลงทุนในการซื้อพันธบัตร แตถ้ า้ คา่ ของเงนิ เปลยี่ นแปลงมากผู้ลงทนุ จะหนั กลับไปลงทนุ ในธรุ กิจท่เี สยี่ ง
มากขนึ้ เพราะตอ้ งการทจี่ ะได้รบั ผลตอบแทนสูงและคุ้มกบั ความเส่ียงเกยี่ วกับค่าของเงิน
3) จำนวนทรัพย์สินทจ่ี ำหน่ายในตลาด ถา้ มากก็จะจูงใจให้ผู้ลงทุนตดั สนิ ใจลงทนุ ได้มากขึ้น
4) การคาดคะเนเกย่ี วกบั เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในอนาคต เช่น ถา้ คาดการณ์ภาวะเศรษฐกจิ จะขยายตัวเพม่ิ ขน้ึ อยา่ ง
ต่อเน่ือง ธุรกิจตา่ ง ๆ จะจำหน่ายสินค้าและบริการได้มากขึ้น แนวโนม้ ของกำไรจะเพ่ิมข้ึน
5) ปจั จัยสว่ นตวั ของผ้ลู งทนุ เชน่ อายุของผ้ลู งทนุ นสิ ยั ส่วนตัวของผู้ลงทนุ สภาพครอบครัวของผู้ลงทุน

5. ปญั หาสำคัญท่ีเกิดจากการลงทุนในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
ประชากรไทยมีรายได้ต่ำ ส่วนใหญข่ าดความรใู้ นเร่อื งการลงทนุ / ความผวั ผวนของภาวะเศรษฐกิจ กรณี
เศรษฐกิจตกตำ่ ทำใหร้ าคาของห้นุ หรอื หลักทรัพยล์ ดลง

ใบกิจกรรมที่ 1.5
คำช้ีแจง ให้นักเรียนบอกแหล่งทมี่ าของเงนิ ลงทนุ ในประเทศไทยและให้เติมลงในแผนผงั ให้สมบูรณ์
ตอนท่ี 1

แหล่งที่มาของเงินทุนใน
ประเทศไทย

ตอนท่ี 2
1. นกั เรียนสามารถนำหลกั การออมและการลงทุนไปใช้ในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างไร
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................... ........................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

เฉลยใบกิจกรรมที่ 1.5
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นบอกแหล่งที่มาของเงินลงทุนในประเทศไทยและให้เติมลงในแผนผงั ให้สมบูรณ์
ตอนที่ 1

เงนิ ออมจากครวั เรือน

แหล่งทีม่ าของเงนิ ทุนใน สถาบันการเงินในประเทศ
ประเทศไทย
เงนิ ลงทนุ จากตา่ งประเทศ

การออมโดยวิธีการหกั เงินสะสม
หรือเงนิ สำรองเล้ยี งชีพของข้าราชการ

การกู้ยืมเงนิ จากต่างประเทศ

ตอนที่ 2
1. นักเรียนสามารถนำหลักการออมและการลงทนุ ไปใช้ในชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งไร
สามารถนำหลกั การออมไปใชโ้ ดยการสร้างนสิ ัยการออมต้ังแต่เปน็ นกั เรียน เร่มิ จากการบริหารรายรบั ทไ่ี ด้จาก
ครอบครวั ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั เม่ือมีเงินเก็บกน็ ำไปฝากธนาคาร
หลักการลงทุน สามารถนำไปใชไ้ ดโ้ ดยการพิจารณาถึงผลตอบแทน ความเส่ียงในการลงทุน และเลือกลงทนุ ใน
สถาบนั การเงนิ ท่ีใหผ้ ลตอบแทนสงู มีความเสี่ยงตำ่

ระดับคุณภาพ 1 ท่ี ชื่อ - สกลุ
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ปรับปรงุ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึง่ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมิน
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรปุ
ไมผ่ ่าน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ช่ือ - สกุล
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

รายการประเมิน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ด้านการคิดท่ปี รากฏ
1. ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ญั หา 3 นกั เรยี นมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดเ้ ป็นอย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดบ้ ้าง
1 นักเรยี นมเี หตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรียนมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญได้ 2 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมีการจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้นอ้ ย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรูใ้ นการแกป้ ัญหาเพ่มิ เติมได้เปน็ อย่างดี
ความรมู้ าใช้ในการป้องกนั 2 นกั เรียนศึกษาเพิ่มเติม แสวงหาความรู้ในการแก้ปญั หาเพมิ่ เตมิ ได้
และแก้ไข 1 นกั เรยี นศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแก้ปัญหาได้เล็กน้อย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพ่อื นไดเ้ ป็น
เหมาะสมตามวัย อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตัดสนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพื่อนได้
5. ตัดสินใจโดยคำนึงถึง 1 นักเรียนสามารถตดั สินใจเองไดน้ ้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกับเพือ่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่ 3 นกั เรียนวางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ มกี ารแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นในช้นั เรยี นโดย
คำนึงถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ่ืนเป็นอย่างดี
2 นกั เรียนวางแผนช่วยกนั หาคำตอบ มกี ารแลกเปลย่ี นความคิดเห็นในชน้ั เรียนบ้าง
บางครง้ั โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
1 นักเรยี นไมส่ นใจวการางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลีย่ นความ
คดิ เห็นในชนั้ เรียน

เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60)
สรุป
ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 8 คะแนน
ไม่ผ่าน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6

กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การออมและการลงทนุ เวลา 8 ช่ัวโมง

เรื่อง ประเภทและปจั จยั การลงทนุ เวลา 1 ช่วั โมง

ผู้สอน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนหนองบัวพทิ ยาคาร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
ส 3.1 ม.2/1 วิเคราะหป์ ัจจัยทีม่ ผี ลต่อการลงทุนและการออม

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 บอกความสำคญั ของการออมและการลงทนุ ได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปัจจัยทีม่ ีผลตอ่ การออมและการลงทุนได้ (P)

3. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรยี นรู้
3.2 อย่อู ย่างพอเพียง

4. สมรรถนะสำคัญ

4.1 ความสามารถในการแกป้ ัญหา

5. สาระสำคัญ

การลงทุนแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ การลงทุนเพื่อการบริโภค การลงทุนในธุรกิจ และการลงทุน
ในหลักทรัพย์ จุดมุ่งหมายของการลงทุน คือ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุด ณ ระดับความเสี่ยงหนง่ึ
หรอื เพอื่ ลดความเสีย่ งให้ตำ่ ท่สี ุด ณ ระดับอตั ราผลตอบแทนหนึง่ การตดั สินใจว่าจะเลือกลงทนุ ประเภทใด ควรที่
จะพิจารณาหลักเกณฑต์ ่อไปนเ้ี ป็นแนวทางในการเลือกลงทุน ได้แก่ ความปลอดภยั ของเงนิ ลงทนุ ความเหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงมูลค่า เสถียรภาพของรายได้ ความคล่องตัวในการซื้อขาย ภาษีที่ต้องชำระ การได้รับ
ผลประโยชน์ด้านภาษอี นั เน่ืองมาจากการลงทุน และควรมีการลงทุนไวห้ ลาย ๆ ประเภทเพื่อลดความเสีย่ ง

6. สาระการเรยี นรู้

6.1 ลงทนุ

6.1.1 ประเภทของการลงทนุ
6.1.2 หลักเกณฑท์ ีค่ วรคำนึงในการลงทุน
6.1.3 ปจั จยั ทีก่ ำหนดการลงทุน

7. จดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยการบรรยาย
ขั้นนำเข้าส่บู ทเรียน
1. ครูและนักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างธุรกิจการลงทุนของคนไทยและของชาวต่างชาติที่อยู่ใน

ประเทศไทย แล้วครูถาม “การที่นักลงทุนต่าง ๆ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย มีปัจจัยใดสนับสนุนการลงทุน
บา้ ง”

ขัน้ สอน
2. จากคำถามนำเข้าสู่บทเรยี นดังกล่าว ครูเสนอคำตอบเพ่ิมเติมว่า “ปจั จยั ที่สนับสนุนการลงทุน

ในประเทศไทยนั้น ได้แก่ การมีกฎหมายคุ้มครองการลงทุนอย่างถูกต้อง มีกลุ่มลูกค้าที่ทำให้ธุรกิจมีกำไร
รว่ มกนั มรี ะบบคมนาคมขนสง่ ที่สะดวกทันสมัย เป็นต้น”

3. ครูและนักเรียนอภิปรายประเภทของการลงทุนและความเสี่ยงในการลงทุนต่าง ๆ ลงในชุด
กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ใบกิจกรรมที่ 1.5

4. ครูสรุปประเภทของการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดที่เหมาะสมต่อการลงทุน คือ การซื้อ
พันธบัตรรัฐบาล เพราะ ได้รับผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำกับ
ธนาคารพาณิชย์ มีความเส่ยี งน้อย เพราะ รัฐบาลเป็นผูค้ ้ำประกัน

5. ครูและนักเรียนสรุปปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ใบกิจกรรมที่ 1.6 พร้อมกับทบทวนความรู้การออมเงิน โดยเปรียบเทียบปัจจยั ที่มผี ลต่อ
การออมและปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การลงทนุ

ขัน้ สรุปและการนำไปใช้

6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย หลังจากนั้นครูสรุปว่าการออมเงินไว้กับที่บ้านจะไม่
เกิดประโยชน์ แต่หากเราเอาเงินออมไปฝากธนาคารรับดอกเบี้ย หรือเอาเงินออมไปลงทุนขยายธุรกิจ การค้า
จะทำใหเ้ งนิ ออมของเราถูกนำไปใชเ้ พ่ือการลงทนุ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อเศรษฐกจิ ต่อไปได้

8. สื่อการเรยี นรู้

8.1 ใบกจิ กรรมที่ 1.5
8.2 หนงั สอื เรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
8.3 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

9. แหลง่ ท่มี าของข้อมูล
ตีรณ พงศ์มฆพฒั น์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: อักษรเจรญิ ทศั น์

10. การวัดผลและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60
1. บอกความสำคัญของการออม ตรวจใบกจิ กรรมที่ 1.5 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 1.5 ผ่านเกณฑ์

และการลงทนุ ได้ (K) ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
2. วิเคราะหป์ จั จยั ที่มผี ลตอ่ การ ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 1.6 แบบเฉลยใบกิจกรรมที่ 1.6 รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
ออมและการลงทนุ ได้ (P) รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ฝ่ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์ใน
ระดับดีข้นึ ไป
เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรยี นรู้

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง

อยอู่ ยา่ งพอเพียง (A) ประสงคอ์ ยอู่ ย่างพอเพียง ประสงค์อยู่อย่างพอเพยี ง

5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมินสมรรถนะสำคัญใน

ในการแก้ปญั หา (A) การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา

11. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

ผลการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู

วนั ที่………เดือน…………..พ.ศ………

ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงช่อื ……………………………………
(นายคฑาวุธ ไชยสิทธิ์)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วันที่………เดือน………พ.ศ………….

บนั ทึกแสดงความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................

ลงชือ่ …………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)

รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ
วันท่ี………..เดอื น…………….พ.ศ……….

ใบกจิ กรรมท่ี 1.5

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์ข้อมูลท่ีกำหนดให้ จากนัน้ นำหมายเลขและขอ้ ความไปเรียงลำดบั ในพรี ะมดิ

การลงทนุ โดยเรียงลำดับการลงทนุ จากความเสี่ยงสูงสดุ สคู่ วามเสยี่ งต่ำสุด และให้เลือกวิธีการลงทุนที่สนใจ
มา 1 วธิ ี พร้อมบอกเหตผุ ล

1. พนั ธบัตรรฐั บาล 2. กองทนุ รวม 3. หุน้

4. อสงั หารมิ ทรัพย์ 5. บญั ชเี งินฝากประจำ 6. บัญชเี งินฝากออมทรัพย์

.......
...........
...................
..................................
..........................................
...............................................

ข้าพเจ้าเลือกลงทนุ โดยการ .......................................................... เพราะ ...........................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.5

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลท่ีกำหนดให้ จากนั้นนำหมายเลขและขอ้ ความไปเรยี งลำดบั ในพรี ะมิด
การลงทุน โดยเรียงลำดับการลงทุนจากความเส่ยี งสูงสุดสู่ความเส่ยี งต่ำสุด และใหเ้ ลือกวิธกี ารลงทนุ ทส่ี นใจ
มา 1 วธิ ี พร้อมบอกเหตผุ ล

1. พันธบตั รรัฐบาล 2. กองทนุ รวม 3. หุ้น

4. อสังหาริมทรัพย์ 5. บัญชีเงนิ ฝากประจำ 6. บัญชเี งินฝากออมทรัพย์

3.
ห้นุ

4.
อสงั หารมิ ทรพั ย์

2. กองทนุ รวม

5. บัญชีเงินฝากประจา

6. บญั ชเี งินฝากออมทรพั ย์

1. พนั ธบตั รรัฐบาล

ข้าพเจ้าเลือกลงทุนโดยการ ซื้อพันธบตั รรฐั บาล เพราะ ได้รบั ผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบย้ี สูงกวา่ ฝากออม
ทรัพย์ หรือฝากเงินแบบประจำกบั ธนาคารพาณชิ ย์ มคี วามเสยี่ งน้อย เน่อื งจากรัฐบาลเป็นผคู้ ำ้ ประกนั

ใบกิจกรรมท่ี 1.6

คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ การออมและการลงทนุ แลว้ นำคำตอบใสใ่ นตารางวิเคราะห์ปจั จยั ที่มี
ผลต่อการออมและการลงทนุ

ปัจจยั ทม่ี ีผลต่อการออม ปจั จัยทม่ี ผี ลตอ่ การลงทุน

1. ความปลอดภยั ของเงินท่ีออม 1. ผลตอบแทนและความเส่ยี ง
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
2. สภาพคล่องของเงินออม 2. คา่ ของเงิน
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
3. ความสะดวก 3. จำนวนทรัพย์สนิ ทจ่ี ำหน่ายในตลาด
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
4. ผลตอบแทนจากการออม 4. การคาดคะเนเก่ียวกับเหตุการณต์ า่ ง ๆ
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................

เฉลยใบกจิ กรรมที่ 1.6

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อการออมและการลงทนุ แลว้ นำคำตอบใสใ่ นตารางวเิ คราะหป์ จั จัยท่มี ี

ผลต่อการออมและการลงทนุ

ปัจจัยที่มีผลต่อการออม ปจั จยั ทม่ี ีผลต่อการลงทนุ

1. ความปลอดภัยของเงินท่ีออม 1. ผลตอบแทนและความเส่ยี ง
การท่ีเราจะนำเงนิ ออมไปแสวงหาผลประโยชน์โดย ในการลงทนุ ใด ๆ กต็ าม ผ้ลู งทุนมคี วามต้องการ
การฝากเงินกบั ธนาคารหรือสถาบนั การเงินอื่น ๆ ผลตอบแทนที่สงู คุ้มคา่ และมีความเสี่ยงต่ำทส่ี ดุ
เราต้องพิจารณาถึงความปลอดภยั ของเงินออมเป็น ...............................................................................
อันดับแรก ...............................................................................
2. สภาพคลอ่ งของเงนิ ออม 2. ค่าของเงนิ
เราสามารถนำเงินออมไปใช้ในยามท่เี ราต้องการได้ เป็นตวั กำหนดการลงทนุ ในแตล่ ะชว่ งเวลา ช่วงท่ี
อยา่ งสะดวกสบายไดห้ รือไม่ ค่าเงินมีอำนาจซื้อไมเ่ ปล่ียนแปลงมาก ผ้ลู งทนุ ส่วน
............................................................................... ใหญจ่ ะลงทุนในการซ้ือพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้
............................................................................... และช่วงเวลาที่ค่าเงนิ เปล่ียนแปลงมากผูล้ งทนุ
............................................................................... จะลงทนุ ในธุรกิจทีเ่ ส่ยี งมากข้ึน
3. ความสะดวก 3. จำนวนทรพั ย์สินท่ีจำหน่ายในตลาด
เราพิจารณาจากการให้บรกิ ารวา่ มีเง่ือนไขในการ ถ้าตลาดมีทรัพย์สินต่าง ๆ ของรฐั บาล ธรุ กจิ และ
ออมทม่ี ีความสะดวกรวดเรว็ ไมย่ ุง่ ยาก และไม่ทำให้ องค์กรต่าง ๆ ออกมาจำหนา่ ยในท้องตลาดมากขึ้น
ผอู้ อมเสยี เวลา ก็จะจงู ใจให้ผู้ลงทุนตัดสินใจลงทนุ ได้มากขน้ึ
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
4. ผลตอบแทนจากการออม 4. การคาดคะเนเกี่ยวกบั เหตุการณต์ า่ ง ๆ
ได้รบั อัตราดอกเบย้ี หรอื เงินปันผลในอัตราท่มี ีความ ในอนาคตเม่ือนกั ลงทนุ คาดการณ์วา่ ภาวะเศรษฐกจิ
เหมาะสมกบั ระยะเวลา ในอนาคตจะขยายตัวเพ่มิ มากขึน้ อยา่ งต่อเนื่อง
............................................................................... ธรุ กิจต่าง ๆ จะจำหนา่ ยสินค้าและบรกิ ารได้เพิม่
............................................................................... มากข้ึน
............................................................................... ...............................................................................

ระดับคุณภาพ 1 ท่ี ชื่อ - สกลุ
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ปรับปรงุ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึง่ ต่ำกว่า 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมิน
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรปุ
ไมผ่ ่าน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ช่ือ - สกุล
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคัญด้านการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นกั เรยี นมเี หตุผลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้เปน็ อย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นักเรียนมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจดั ลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นกั เรียนมีการจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นกั เรียนมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรยี นศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาเพิม่ เติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรยี นศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาเพม่ิ เติมได้
และแก้ไข 1 นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรูใ้ นการแกป้ ัญหาไดเ้ ล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นักเรยี นสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นไดเ้ ปน็
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรยี นสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอ่ื นได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นกั เรยี นสามารถตดั สินใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกับเพอ่ื น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในช้นั เรียนโดย
คำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรียนวางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ ในชน้ั เรยี นบา้ ง
บางครง้ั โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เห็นในชน้ั เรียน

เกณฑ์การประเมนิ

สรุป เกณฑ์การตัดสนิ
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 7 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การออมและการลงทุน เวลา 8 ชั่วโมง

เร่ือง ปญั หาการลงทนุ ในประเทศไทย เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบัวพทิ ยาคาร

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั
ส 3.1 ม.2/1 วิเคราะหป์ จั จัยทีม่ ผี ลต่อการลงทุนและการออม

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 อธบิ ายการบริหารจัดการการลงทุนในภาคครัวเรอื นได้ (K)
2.2 ระบุปญั หาของการออมและการลงทุนของไทยและเสนอแนวทางการแก้ไขได้ (P)

3. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รยี นรู้
3.2 อยู่อย่างพอเพยี ง

4. สมรรถนะสำคญั

4.1 ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. สาระสำคัญ

การลงทุนในประเทศไทยมีปัญหาและอุปสรรค เน่อื งมาจาก ประชากรไทยมีรายไดต้ ่ำ ประชากรส่วนใหญ่
ยังขาดความรู้ในด้านการลงทุน การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลในแต่ละรุ่นมีปริมาณเงินจำกัด ความผันผวนของ
ภาวะเศรษฐกิจ การเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นในบางกรณีก็เป็นไปเพ่ือเก็งกำไร รวมถึงภาค
ชนบทยังมีการลงทุนที่น้อย เนื่องจากครัวเรือนในชนบทส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ รายได้ส่วนใหญ่ใช้จ่ายเพื่อการ
บรโิ ภคในชีวิตประจำวนั บางครัวเรอื นมรี ายได้ไม่เพียงพอกบั รายจา่ ยทำให้ไม่มเี งินออมและยังต้องเป็นหนี้

6. สาระการเรียนรู้

6.1 การลงทนุ

6.1.1 ปญั หาการลงทุนในประเทศไทย

7. จัดกจิ กรรมการเรียนร้โู ดยการยกกรณีตวั อยา่ ง
ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครถู ามนักเรียนว่า “นักเรยี นคดิ ว่าปัญหาการลงทนุ ในประเทศไทยมีอะไรบ้าง” จากน้ันครูเริ่ม

เขา้ สกู่ ารสอนดว้ ยวธิ กี ารยกตัวอยา่ งข่าวเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ท่ีมีผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศไทย

ข้นั สอน
2. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ในประเทศ ที่เป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศไทย

เช่น ปัญหาน้ำท่วมในภาคกลางและกรงุ เทพฯ ปัญหาการเมือง ปัญหาเมืองอุตสาหกรรม ปัญหามลพิษทางนำ้
มา 4 สถานการณ์ท่ีเป็นปญั หา

3. ครูให้นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะหว์ ่าปัญหาทง้ั 4 ปัญหาส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศไทย
อย่างไรบ้าง และเสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหาแนวทางการแกป้ ัญหาร่วมกัน

4. ครูให้นักเรียนตอบคำถามใบงานปัญหาและอุปสรรคการลงทุนในประเทศลงในหน้าบันทึก
เพม่ิ เตมิ ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2

ข้ันสรุปและการนำไปใช้

5. ครูสรุปสถานการณ์ที่ยกตัวอย่างทั้ง 4 สถานการณ์ที่เป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน
ประเทศไทยว่าปัญหาทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมาล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์เป็นหลัก หากเราต้องการให้
ประเทศไทยมเี ศรษฐกจิ ท่เี จรญิ กา้ วหน้าต้องเร่ิมจากคนในประเทศกอ่ น

8. สอื่ การเรียนรู้

8.1 ภาพกรณีตวั อยา่ ง
8.2 หนงั สือเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
8.3 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูร้ ายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2

9. แหล่งท่ีมาของขอ้ มูล
ตรี ณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เศรษฐศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี

2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจริญทัศน์

10. การวัดผลและประเมินผล

จดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์

1. อธิบายการบริหารจัดการการ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานเปน็ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน รอ้ ยละ 60

ลงทุนในภาคครัวเรอื นได้ (K) รายบุคคล เปน็ รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์

2. ระบุปัญหาของการออมและ ตรวจใบงานปัญหาและอปุ สรรค แบบเฉลยใบงานปัญหาและ ร้อยละ 60

การลงทุนของไทยและเสนอแนว การลงทุนในประเทศ อุปสรรคการลงทุนในประเทศ ผ่านเกณฑ์

ทางการแก้ไขได้ (P)

3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง รอ้ ยละ 60

ใฝเ่ รียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์

4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ร้อยละ 60

อยู่อยา่ งพอเพียง (A) ประสงคอ์ ยู่อยา่ งพอเพียง ประสงค์อย่อู ยา่ งพอเพียง ผา่ นเกณฑ์

5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญด้าน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน ผ่านเกณฑ์ใน

ในการแกป้ ญั หา (A) การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา ระดบั ดขี ้ึนไป

11. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้

ผลการจัดการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู

วนั ท่ี………เดอื น…………..พ.ศ………

ข้อเสนอแนะ / ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ

……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………

ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธิ์)

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วันท่ี………เดอื น………พ.ศ…………

บันทกึ แสดงความคดิ เหน็ ของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
วันท่ี………..เดอื น…………….พ.ศ……….

ใบงานปัญหาและอุปสรรคการลงทนุ ในประเทศ

1. การลงทนุ ในภาคครวั เรือนและภาคธุรกิจของประเทศไทย มีปญั หาและอปุ สรรคอยา่ งไรบา้ ง

............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................. ...................
............................................................................................................. .......................................................................

2. ให้นกั เรยี นเสนอแนะแนวทางการแก้ปญั หาและอปุ สรรคการลงทนุ ในประเทศไทย

................................................................................................................ ....................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................... .....................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

เฉลยใบงานปญั หาและอุปสรรคการลงทุนในประเทศ

1. การลงทนุ ในภาคครัวเรือนและภาคธรุ กิจของประเทศไทย มีปญั หาและอปุ สรรคอยา่ งไรบ้าง

1) ประชากรไทยมีรายไดต้ ่ำ
2) ประชากรส่วนใหญ่ยงั ขาดความรใู้ นด้านการลงทนุ
3) การจดั จำหน่ายพันธบัตรของรัฐบาลในแต่ละรุ่นมีปริมาณเงินจำกัด
4) ความผนั ผวนของภาวะทางเศรษฐกจิ
5) การเข้ามาลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ยห์ รือตลาดหุ้นในบางกรณีก็เปน็ ไปเพือ่ เกง็ กำไร
6) ภาคชนบทยังมีการลงทุนน้อย
............................................................................................................................................................................... .....

2. ใหน้ ักเรยี นเสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหาและอุปสรรคการลงทนุ ในประเทศไทย

เนอ่ื งจากรายได้ของคนไทยมีจำกัด ขาดการวางแผนการใชเ้ งนิ อย่างรัดกมุ ทำใหป้ ระชาชนทอี่ ย่หู า่ งไกลมีการลงทนุ
ที่น้อย ดังน้นั จะตอ้ งสรา้ งความเช่อื มม่นั ใหก้ ับนักธุรกจิ มาลงทนุ ในประเทศไทยด้วยการกระตุ้นการออมเงิน และให้
ประชาชนนำเงินออมไปลงทนุ เพื่อหาผลตอบแทนทส่ี งู ขน้ึ ก่อน เมื่อภายในประเทศมีความเช่ือมัน่ มากพอกจ็ ะ
สามารถดงึ ดดู นักลงทนุ จากต่างประเทศเข้ามาได้
........................................................................................... .........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9

10

ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนงึ่ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9 - 12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13 - 15 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ

เกณฑ์การตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมิน
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)

น้อย (1)

เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน

ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ท่ี ช่ือ - สกุล
2
3
3
5
6
7
8
9
10

พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ ยู่อย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั

นอ้ ย (1) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
เป็นประจำ (3) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
บางครงั้ (2)

นอ้ ย (1)

เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)

รวมคะแนน (15 คะแนน)

ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน

321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคัญด้านการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นกั เรยี นมเี หตุผลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้เปน็ อย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นักเรียนมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจดั ลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นกั เรียนมีการจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นกั เรียนมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรยี นศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาเพิม่ เติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรยี นศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาเพม่ิ เติมได้
และแก้ไข 1 นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรูใ้ นการแกป้ ัญหาไดเ้ ล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นักเรยี นสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นไดเ้ ปน็
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรยี นสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอ่ื นได้
5. ตัดสนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นกั เรยี นสามารถตดั สินใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกับเพอ่ื น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในช้นั เรียนโดย
คำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรียนวางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ ในชน้ั เรยี นบา้ ง
บางครง้ั โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เห็นในชน้ั เรียน

เกณฑ์การประเมนิ

สรุป เกณฑ์การตัดสนิ
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 7 คะแนน

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

ชอื่ ..............................................................................ช้ัน...................เลขที่...................

คำชีแ้ จง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกับความเป็นจรงิ

พฤติกรรมทีส่ ังเกต 3 คะแนน 1
2

1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็

2. มคี วามกระตือรือร้นในการทำงาน

3. รับผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

4. มขี ั้นตอนในการทำงานอย่างเป็นระบบ

5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤติกรรมที่ทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำเปน็ บางครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมท่ีทำนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน

13 - 15 ดี

9 - 12 ปานกลาง (ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60)

5 - 8 ปรับปรงุ