ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ที่ ช่ือ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10
ปรับปรุง ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั
นอ้ ย (1)
เกณฑก์ ารตัดสนิ เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
นอ้ ย (1)
เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทป่ี รากฏ
รายการประเมนิ 3 นกั เรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ได้น้อย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานไดส้ ะอาด
1 นกั เรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรบู้ ้างบางคร้งั
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้น้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรยี นมีการสอบถามและสืบคน้ เน้ือหาทีใ่ ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นักเรียนมกี ารสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรียนไม่สนใจที่จะสืบค้นเนื้อหาทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นกั เรยี นช่วยกนั วางแผน แลกเปลยี่ นความคิดเห็นในการหาคำตอบ
2 นกั เรียนหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไม่มีการแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กบั เพื่อน
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เป็นอยา่ งดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นักเรยี นมกี ารจดั ลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาเพิ่มเติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพมิ่ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาได้เล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพอื่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในชัน้ เรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ในช้นั เรยี นบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เหน็ ในชัน้ เรียน
เกณฑ์การประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ
สรุป ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
ผ่าน
ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพยี งกับการผลติ สนิ ค้าและบริการ เวลา 4 ช่ัวโมง
เร่อื ง วเิ คราะห์การผลิตสินค้าและบรกิ ารในท้องถนิ่ เวลา 1 ชว่ั โมง
ผสู้ อน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรยี นที่ 1 โรงเรียนหนองบัวพทิ ยาคาร
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั
ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 อธบิ ายหลักการและเปา้ หมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปัญหาการผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิ่นได้ (P)
3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรียนรู้
3.2 อย่อู ย่างพอเพียง
4. สมรรถนะสำคัญ
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. สาระสำคญั
ในทอ้ งถนิ่ ต่าง ๆ ของไทย ประชากรสว่ นใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม แต่เกษตรกรส่วนใหญข่ าดแคลน
ที่ดินทำกิน ประกอบกับการทำเกษตรกรรมต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ จึงไม่ได้รับผลเท่าที่ควร ส่งผลให้
ความเป็นอยู่ไม่ค่อยดี เกิดการว่างงานตามฤดูกาล เพื่อแก้ปัญหาหลาย ๆ ปัญหาของท้องถิ่นไทยได้น้อมนำแนว
พระราชดำริหลักการของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างท้องถิ่นให้เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ในภาวะ
เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่ผลิตให้เพียงพอกับการบริโภคในครัวเรือน และผลิตสินค้าและ
บริการเพอ่ื การค้า เพือ่ เพิม่ รายได้ มีเงนิ ออม เป็นการแก้ปญั หาเศรษฐกจิ ของทอ้ งถ่ิน
6. สาระการเรียนรู้
6.1 วเิ คราะห์การผลติ สนิ ค้าและบริการในทอ้ งถน่ิ
6.1.1 รูปแบบของการผลติ สินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่
6.1.2 การผลติ ขนาดกลางและขนาดย่อมหรอื SMEs
6.1.3 ปัญหาของการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารในท้องถน่ิ
7. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยการอภปิ รายกลุ่มย่อย
ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น
1. ครูให้นักเรียนดูภาพท้องถิ่นในจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมกับถามนักเรียนว่า “นักเรียนคิดว่า
ทอ้ งถิ่นของเรามีปญั หาทีส่ ง่ ผลตอ่ การผลติ สินคา้ และบริการในท้องถน่ิ อย่างไร”
ขัน้ สอน
2. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มกลุ่มละ 5 คน จากนั้นให้วิเคราะห์ปัญหาของการผลิตสนิ ค้าและบริการ
ในท้องถิ่นลงในชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิชาเศรษฐศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ในใบกิจกรรมที่ 3.4
3. ครแู ละนกั เรียนสรปุ ถึงปัญหาการผลิตสินค้าและบริการด้านต่าง ๆ และเสรมิ เนื้อหาการทุจริต
ในการผลิตสินค้าและบริการให้นักเรียนทราบ และนำเสนอวธิ กี ารแก้ไขการทจุ รติ นั้น ๆ พร้อมกับให้นักเรียนมี
ความตระหนกั รู้ตอ่ ปัญหาดงั กล่าว หากเกดิ กับการผลิตสินค้าในท้องถนิ่ จะเปน็ อย่างไร
4. ครใู ห้นักเรยี นสรุปหาวธิ ีการแกไ้ ขการทจุ รติ ทเ่ี ป็นปัญหาในการผลติ สินคา้ และบริการ
5. จากนนั้ ให้แต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอแลกเปลีย่ นหน้าชน้ั เรยี น
ขนั้ สรปุ และการนำไปใช้
6. ครูสรุปว่าการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นของไทยยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สืบ
เนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น การขาดแคลนเงินทุนในการขยายกิจการ เป็นการผลิตขนาดครอบครัวเล็ก ๆ
การใช้เทคโนโลยีในการผลติ การโกงผลผลิต การทุจริตในท้องถิ่น ทำให้ไม่สามารถขายแข่งกับสินค้าทีม่ าจาก
อตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีการทำตลาดแบบสมัยใหมไ่ ด้ รวมถงึ สนิ คา้ บางชนดิ มาจากจีนท่ีมีต้นทนุ ตำ่ กว่า เป็น
ตน้
8. ส่ือการเรยี นรู้
8.1 ใบกิจกรรมที่ 3.3
8.2 ใบกิจกรรมที่ 3.4
8.3 บคุ คลตวั อย่างทีผ่ ลิตสินคา้ ท่ชี ว่ ยพัฒนาท้องถน่ิ
8.4 หนงั สือเรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
8.5 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
9. แหล่งท่มี าของข้อมูล
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจริญทศั น์
10. การวดั ผลและประเมินผล
จดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60
1. อธิบายหลักการและเป้าหมาย ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.3 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 3.3 ผ่านเกณฑ์
ของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ (K) ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
2. วิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้า ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.4 แบบเฉลยใบกิจกรรมที่ 3.4 รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
และบริการในท้องถนิ่ ได้ (P) รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ใฝ่ การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ผา่ นเกณฑ์ใน
ระดับดขี ้ึนไป
เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ผ่านเกณฑ์ใน
ระดบั ดขี ้นึ ไป
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง
มงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) ประสงคม์ ุ่งมัน่ ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งมั่นในการทำงาน
5. มีสมรรถนะทางความสามารถใน การประเมินสมรรถนะสำคัญ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญใน
การคิด (A) ในการคดิ การคดิ
6. มีสมรรถนะทางความสามารถใน การประเมินสมรรถนะสำคัญ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
การแก้ปญั หา ในการแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา
11. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื …………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหน่ง ครู
วนั ที่………เดอื น…………..พ.ศ………
ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
ลงชอื่ ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธ์ิ)
หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
วนั ท่ี………เดอื น………พ.ศ………….
บันทกึ แสดงความคดิ เห็นของผูบ้ ริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชอ่ื …………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)
รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
วนั ท่ี………..เดอื น…………….พ.ศ……….
ใบกิจกรรมท่ี 3.3
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์การผลติ สินคา้ และบริการในท้องถ่ิน ไดแ้ ก่ การผลิตในครวั เรอื น การรวมกลุม่
รปู แบบต่าง ๆ และการผลติ ในลกั ษณะอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดงั นี้
1. การผลติ ในครวั เรือน
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เช่น ......................................................................................................
2. การรวมกลุ่มรปู แบบตา่ ง ๆ OTOP
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เช่น ......................................................................................................
3. การผลติ ขนาดกลางและขนาดย่อม หรอื SMEs
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เชน่ ......................................................................................................
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 3.3
คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์การผลิตสินค้าและบริการในท้องถนิ่ ไดแ้ ก่ การผลิตในครัวเรือน การรวมกล่มุ
รปู แบบต่าง ๆ และการผลติ ในลักษณะอตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดังน้ี
1. การผลิตในครัวเรอื น
เป็นการผลติ ทค่ี นในครอบครัวเดียวกันรว่ มกนั ผลติ สนิ ค้าและบริการ
เพ่อื เปน็ รายไดข้ องครอบครวั มีเป้าหมายสำคญั คือ รายได้ของ
ครอบครัว
เช่น รา้ นขายข้าวแกง รา้ นกว๋ ยเต๋ียว ร้านขายของชำ เคร่ืองจกั รสาน
2. การรวมกลมุ่ รปู แบบตา่ ง ๆ OTOP
การรวมกล่มุ ผลติ สนิ คา้ และบริการในท้องถ่นิ เปน็ การรวมกลมุ่ กัน
เพอื่ สรา้ งความเข้มแข็งในการผลติ สรา้ งอำนาจต่อรองในตลาด
เชน่ กลมุ่ OTOP ผลิตสินค้าพ้นื เมือง การรวมกลุ่มทอผ้าพืน้ เมือง
3. การผลติ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม หรือ SMEs
SMEs (Small and Medium Enterprise) เป็นกิจการท่ี
ดำเนนิ การผลิตหรือบรกิ ารในชุมชนท่เี หมาะกบั แนวคิดเศรษฐกจิ
พอเพยี ง คือ
ข้ันท่ี 1 การผลิตแบบพ่ึงพาตนเอง ไมเ่ ปน็ หนี้ มีเงนิ ออม
ข้นั ท่ี 2 รวมตวั เป็นกลุม่ เปน็ สหกรณ์ องคก์ รชมุ ชน ชว่ ยเหลือกัน
ขั้นท่ี 3 เชื่อมโยงกับการทำธุรกจิ โดยสร้างเครอื ข่ายวิสาหกิจ ร่วมมือ
กับองค์กรอ่นื ๆ ภายในประเทศ เช่น บรษิ ัทขนาดใหญ่ ธนาคาร
เช่น การผลติ เคร่อื งประดับสง่ ออก การทำขนมอบแห้งสง่ ออก ฯลฯ
ใบกจิ กรรมท่ี 3.4
คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นสรุปปญั หาของการผลิตสนิ ค้าและบริการในทอ้ งถน่ิ ในรูปแบบของแผนผังความคิด
1. ………………………………………… 2. ………………………………………… 3. …………………………………………
…………………………………………… …………………………………………… ……………………………………………
….. ….. …..
ปญั หาของการ
ผลิตสนิ คา้ และ
บริการในท้องถิ่น
4. ………………………………………… 5. ………………………………………… 6. …………………………………………
…………………………………………… …………………………………………… ……………………………………………
….. ….. …..
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 3.4
คำชแี้ จง ให้นักเรียนสรปุ ปัญหาของการผลติ สินคา้ และบริการในท้องถน่ิ ในรูปแบบของแผนผังความคดิ
1. การขาดแคลนเงนิ ทุน 2. ขาดบุคลากรที่มคี วามรู้ 3. ร้านค้าปลีกขนาดใหญเ่ ข้ามา
ความสามารถในการผลิต เปิดกิจการในทอ้ งถ่นิ
สินค้าและบริการในท้องถิ่น การผลิตสินค้าในท้องถิ่นส่วน มที ัง้ หา้ งค้าปลกี ขนาดใหญ่ของ
เป็นการรวมกลุ่มขนาดเล็ก ๆ ใหญ่เป็นการผลิตแบบดั้งเดิม ชาวต่างชาติและรา้ นสะดวกซื้อ
มีเงินทุนน้อย ขาดความ คือสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ได้มี ทเ่ี ปิด 24 ช่ัวโมง มีการจัดรา้ น
เชื่อมั่นในการกู้เงินมาลงทุน การนำกรรมวิธีใหม่ ๆ มาใช้ สวยงาม คนท้องถิน่ ให้ความ
ตอ่ ยอดธรุ กิจ ทำใหไ้ ด้ผลผลิตจำนวนน้อย สนใจไปใช้บรกิ าร
ปญั หาของการ
ผลติ สนิ คา้ และ
บรกิ ารในท้องถ่ิน
4. มีการใช้เทคโนโลยีใน 5. ช่องทางของตลาดมีน้อย 6. ขาดการช่วยเหลือและ
การผลิตนอ้ ย สนบั สนุนจากรฐั บาล
เนื่องจากการผลิตส่วนใหญ่จะ
การผลิตในท้องถิ่นเป็นธุรกิจ จำกัดอยู่ในท้องถิ่น ไม่มี รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้
ขนาดเล็ก มีเงินทุนน้อย ขาด เครือข่ายตลาดภายนอก ขาด อย่างทั่วถึง งบประมาณที่ใช้
แคลนบุคลากรที่มีความรู้ทาง ผู้มีความรู้ในการวางแผน ในการสนับสนุนมีจำกัด
เทคโ นโ ลยี ประกอบกั บ การตลาด การประชาสมั พนั ธ์
เครื่องจักรราคาแพง จึงมี
เงินทุนไมเ่ พียงพอ
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน
ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ที่ ช่ือ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10
ปรับปรุง ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั
นอ้ ย (1)
เกณฑก์ ารตัดสนิ เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
นอ้ ย (1)
เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทป่ี รากฏ
รายการประเมนิ 3 นกั เรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ได้น้อย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานไดส้ ะอาด
1 นกั เรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรบู้ ้างบางคร้งั
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้น้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรยี นมีการสอบถามและสืบคน้ เน้ือหาทีใ่ ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นักเรียนมกี ารสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรียนไม่สนใจที่จะสืบค้นเนื้อหาทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นกั เรยี นช่วยกนั วางแผน แลกเปลยี่ นความคิดเห็นในการหาคำตอบ
2 นกั เรียนหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไม่มีการแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กบั เพื่อน
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เป็นอยา่ งดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นักเรยี นมกี ารจดั ลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาเพิ่มเติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพมิ่ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาได้เล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพอื่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในชัน้ เรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ในช้นั เรยี นบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เหน็ ในชัน้ เรียน
เกณฑ์การประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18
กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เศรษฐกิจพอเพยี งกับการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร เวลา 4 ชว่ั โมง
เร่ือง การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถ่นิ เวลา 1 ชว่ั โมง
ผูส้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบวั พิทยาคาร
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั
ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลติ ในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 อธิบายหลักการและเปา้ หมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ (K)
2.2 ประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการผลิตสนิ ค้าและบริการในท้องถ่นิ ได้ (P)
3. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรยี นรู้
3.2 อยู่อย่างพอเพยี ง
4. สมรรถนะสำคญั
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. สาระสำคญั
ในทอ้ งถิ่นตา่ ง ๆ ของไทย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่เกษตรกรสว่ นใหญข่ าดแคลน
ที่ดินทำกิน ประกอบกับการทำเกษตรกรรมต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ จึงไม่ได้รับผลเท่าที่ควร ส่งผลให้
ความเป็นอยู่ไม่ค่อยดี เกิดการว่างงานตามฤดูกาล เพื่อแก้ปัญหาหลาย ๆ ปัญหาของท้องถิ่นไทยได้น้อมนำแนว
พระราชดำริหลักการของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างท้องถิ่นให้เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ในภาวะ
เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่ผลิตให้เพียงพอกับการบริโภคในครัวเรือน และผลิตสินค้าและ
บรกิ ารเพือ่ การค้า เพ่อื เพิม่ รายได้ มเี งนิ ออม เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของทอ้ งถ่ิน
6. สาระการเรยี นรู้
6.1 ความพอประมาณ
6.2 ความมีเหตุผล
6.3 การมภี มู คิ ุม้ กันในตัวทด่ี ี
6.4 ความรอบรู้
6.5 คุณธรรม
7. จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูถามนักเรียนว่าถ้าเรามีจิตใจที่เข้มแข็งเราสามารถใช้จิตใจที่เข้มแข็งของเราต่อต้านการ
ทจุ ริตไดอ้ ย่างไร
ขั้นสอน
2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบคำถาม หลังจากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การต่อต้านการทุจริต
นั้นต้องอาศยั ความพอเพียงเป็นท่ีต้ัง ถา้ เรามคี วามพอเพียงเกดิ ข้ึนแลว้ ตอ่ มาความมีเหตผุ ล ความคุ้มกันในตัว
ท่ีดี ความรอบรู้และคุณธรรมจะตามมา
3. ครูนำภาพท้องถิ่นที่ไม่ประสบผลสำเร็จในการผลิตสินค้าให้นักเรียนดู และอธิบายเพิ่มว่า
ท้องถน่ิ ดงั กลา่ วเปน็ ท้องถิ่นทีข่ าดความสามัคคี ไมเ่ ห็นประโยชน์สว่ นรวมทำใหเ้ กิดปญั หาโกงธรุ กิจในท้องถนิ่
4. ครูและนกั เรยี นเสนอวธิ ีการแก้ไขปญั หาดังกลา่ ว
5. ครูให้นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเองมาสร้าง
เปน็ สินคา้ หรือบรกิ ารในรปู แบบใหม่ โดยตอ้ งมกี ารประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการ
ครบทุกด้านไมว่ ่าจะเป็น ความพอเพยี ง ความมีเหตผุ ล ความค้มุ กนั ในตวั ทด่ี ี ความรอบร้แู ละคณุ ธรรม
ข้นั สรปุ และการนำไปใช้
6. ครูสรุปถึงวิธีการสร้างสรรค์สินค้าให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องเริ่มจากความพอดี
พอประมาณก่อน เพราะหากเราพอใจในสิ่งที่เราทำแล้ว เราจะเห็นคุณค่าและมีความสุข มีความพอในแบบ
ของเราเอง
8. สื่อการเรยี นรู้
8.1 ใบกจิ กรรมที่ 3.5
8.4 หนงั สือเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
8.5 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
9. แหล่งทีม่ าของขอ้ มลู
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: อักษรเจรญิ ทัศน์
10. การวดั ผลและประเมินผล
จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60
1 . เ ข ้ า ใ จ ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ใช้ พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์
เ ศ ร ษ ฐ ก ิ จ พ อ เ พ ี ย ง ใ ช้ รายบคุ คล รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
ชีวติ ประจำวันได้ (K)
รอ้ ยละ 60
2. ประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจ ตรวจใบกิจกรรมท่ี 3.5 แบบเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 3.5 ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
พอเพียงในการผลิตสินค้าและ ผ่านเกณฑ์
ผา่ นเกณฑ์ใน
บรกิ ารในท้องถนิ่ ได้ (P) ระดบั ดีขน้ึ ไป
ผ่านเกณฑ์ใน
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ระดับดีขึ้นไป
ใฝเ่ รียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรยี นรู้
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง
ม่งุ มนั่ ในการทำงาน (A) ประสงคม์ งุ่ มนั่ ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งมน่ั ในการทำงาน
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการคิด (A) การคดิ การคิด
6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการแกป้ ญั หา การแก้ปัญหา การแก้ปัญหา
11. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื …………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วันที่………เดอื น…………..พ.ศ………
ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
ลงชื่อ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสิทธ์ิ)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วนั ท่ี………เดือน………พ.ศ………….
บันทกึ แสดงความคิดเหน็ ของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงช่ือ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธพิ์ ล ชารี)
รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ
วนั ที่………..เดือน…………….พ.ศ……….
ใบกจิ กรรมที่ 3.5
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรพั ยากรธรรมชาติในท้องถ่ินของตนเองมาสรา้ งเป็น
สินคา้ หรือบริการในรปู แบบใหม่ โดยตอ้ งมีการประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงในการผลติ สนิ คา้ และบริการ
(คะแนน 10 คะแนน)
ช่ือผลงาน ................................................................................
ตดิ รปู
1. สินค้าประเภท ............................................................................................................................. ....................
2. แหล่งที่ตั้งของสินค้าหรือบริการ ......................................................................... .............................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ทำไมนักเรียนถึงสนใจนำทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวมาสร้างเป็นสินค้าหรือบริการ ......................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
4. มกี ารประยกุ ตใ์ ชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงในการผลิตสนิ คา้ และบริการอย่างไรบา้ ง
4.1 ด้านความพอประมาณ ............................................................................................................ ......................
...................................................................................................... .......................................................................
4.2 ด้านความมีเหตุผล............................................................................................................. ............................
.................................................................................................................................................. ...........................
4.3 ด้านมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ..................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. ................................................
4.4 ความรอบรู้ ................................................................................................................................. ..................
............................................................................................................................. ................................................
4.5 คุณธรรม .................................................................... ...............................................................................
.............................................................................................................................................................................
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 3.5
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานโดยนำเอาทรัพยากรธรรมชาติในทอ้ งถ่นิ ของตนเองมาสรา้ งเปน็
สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในรปู แบบใหม่ โดยต้องมีการประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงในการผลติ สนิ ค้าและบริการ
(คะแนน 10 คะแนน)
ชอื่ ผลงาน เห็ดทอดกรอบ 3 รสสุดแซบ่
1. สินคา้ ประเภท .............................อาหารแปรรปู .............................................................................................
2. แหล่งทีต่ ้ังของสนิ ค้าหรอื บรกิ าร ชุมชนหาดสวรรค์ หม่ทู ่ี 9 ตำบลหนองบวั อำเภอเมือง
จังหวัดหนองบวั ลำภู 39000
3. ทำไมนกั เรยี นถงึ สนใจนำทรัพยากรธรรมชาตดิ ังกลา่ วมาสร้างเปน็ สนิ คา้ หรอื บริการ เพราะชาวบ้านในชมุ ชน
สว่ น ใหญ่ทำอาชพี เพาะปลกู ฟาร์มเห็ดเปน็ สว่ นใหญ่ ข้าพเจ้าจงึ สนใจตอ่ ยอดจากการขายเห็ดสด เป็นเหด็ แปรรปู
โดยการทอดกรอบปรุงรสเปน็ ของว่างท่มี ีประโยชน์ทง้ั ต่อเด็กและผใู้ หญ่
4. มีการประยุกตใ์ ชเ้ ศรษฐกจิ พอเพยี งในการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งไรบ้าง
4.1 ด้านความพอประมาณ มกี ารวางแผนการผลิตอยา่ งเป็นระบบ มีการวางแผนอย่างระมัดระวงั และยังใช้
วัตถดุ ิบในท้องถิ่นให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด
4.2 ด้านความมีเหตผุ ล วางแผนถึงกำไรในการผลิตเพื่อใหธ้ ุรกจิ เห็ดกรอบ 3 รสสุดแซบ่ สามารถที่จะทำรายได้
ใหก้ ับครอบครวั ได้ และวางแผนเกี่ยวกับตลาดในการรองรับขายท้ังตลาดออนไลน์และตลาดท่วั ไป
4.3 ดา้ นมีภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทีด่ ี มีการวางแผนการผลิตอย่างระมดั ระวัง ค่อยเปน็ ค่อยไป เสาะแสวงหาชอ่ งทางการ
กระจายสนิ คา้ ใหม่ ๆ และหาแนวทางในการเพ่มิ มลู ค่าสินค้นคา้ อยูเ่ สมอ
4.4 ความรอบรู้ นำความรจู้ ากวชิ าทเ่ี รียนมาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม้ ีความน่าสนใจ และนำความร้ทู เ่ี รียนมาวาง
แผนการผลิตให้อยา่ งเหมาะสม
4.5 คณุ ธรรม มีการคำนงึ ถึงคุณภาพสินค้า และความสะอาด ปลอดภยั ของผ้บู รโิ ภคอยตู่ ลอดเวลา โดยเปลีย่ น
น้ำมนั ในการทอดเห็ดอยเู่ สมอ รวมถึงไม่เอาเปรียบผ้บู รโิ ภคและรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มอยู่เสมอ
แบบประเมนิ พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
ชอื่ ..............................................................................ช้ัน...................เลขที่...................
คำชีแ้ จง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำเครือ่ งหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกับความเป็นจรงิ
พฤติกรรมทส่ี ังเกต 3 คะแนน 1
2
1. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
2. มคี วามกระตือรือร้นในการทำงาน
3. รับผิดชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมาย
4. มขี ั้นตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบ
5. ใชเ้ วลาในการทำงานอย่างเหมาะสม
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤติกรรมที่ทำเปน็ ประจำ ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมทท่ี ำเปน็ บางครัง้ ให้ 2 คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน
13-15 ดี
9-12 ปานกลาง (ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60)
5-8 ปรับปรงุ
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน
ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ 1 ที่ ช่ือ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
10
ปรับปรุง ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนึ่งตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีมาก ได้คะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึ่งตำ่ กวา่ 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั
นอ้ ย (1)
เกณฑก์ ารตัดสนิ เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
นอ้ ย (1)
เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผา่ น สรปุ
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทป่ี รากฏ
รายการประเมนิ 3 นกั เรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ได้น้อย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานไดส้ ะอาด
1 นกั เรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรบู้ ้างบางคร้งั
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้น้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรยี นมีการสอบถามและสืบคน้ เน้ือหาทีใ่ ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นักเรียนมกี ารสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรียนไม่สนใจที่จะสืบค้นเนื้อหาทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นกั เรยี นช่วยกนั วางแผน แลกเปลยี่ นความคิดเห็นในการหาคำตอบ
2 นกั เรียนหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไม่มีการแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กบั เพื่อน
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ทป่ี รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เป็นอยา่ งดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาต่าง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บา้ ง
1 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไดน้ ้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นักเรยี นมกี ารจดั ลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้น้อย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาเพิ่มเติมไดเ้ ปน็ อย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพมิ่ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรใู้ นการแก้ปัญหาได้เล็กนอ้ ย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื นได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพอื่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในชัน้ เรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่นเป็นอย่างดี
2 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ในช้นั เรยี นบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เหน็ ในชัน้ เรียน
เกณฑ์การประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน