321321321321321 ที่ ชอื่ - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมิน
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรปุ
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ท่ีปรากฏ
รายการประเมนิ 3 นกั เรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ได้นอ้ ย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแตง่ ออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมีความคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานไดส้ ะอาด
1 นักเรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้อยา่ งเต็มท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกิจกรรมการเรยี นรู้บ้างบางคร้งั
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นกั เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรยี นรู้น้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรียนมีการสอบถามและสืบคน้ เนื้อหาท่ีใชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นักเรยี นมีการสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ชใ้ นการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรียนไม่สนใจที่จะสืบค้นเนือ้ หาทีใ่ ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นักเรยี นชว่ ยกนั วางแผน แลกเปลีย่ นความคดิ เห็นในการหาคำตอบ
2 นักเรยี นหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไมม่ ีการแลกเปลีย่ นความคิดเห็นกบั เพื่อน
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑ์การตัดสิน
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
รายการประเมิน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ด้านการคิดท่ีปรากฏ
1. ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ญั หา 3 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้เปน็ อย่างดี
ต่าง ๆ ได้ 2 นกั เรียนมีเหตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้บ้าง
1 นกั เรียนมีเหตุผลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้น้อย
2. สามารถแก้ปญั หาและ 3 นกั เรียนมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดมี าก
อปุ สรรคต่าง ๆ ท่เี ผชญิ ได้ 2 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรียนมีการจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้นอ้ ย
3. แสวงหาความรู้ ประยุกต์ 3 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแกป้ ัญหาเพ่ิมเติมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ความรูม้ าใชใ้ นการปอ้ งกัน 2 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรู้ในการแกป้ ญั หาเพม่ิ เติมได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรูใ้ นการแก้ปัญหาได้เล็กน้อย
4. สามารถตัดสินใจได้ 3 นกั เรยี นสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพ่อื นไดเ้ ป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพือ่ นได้
5. ตดั สินใจโดยคำนึงถงึ 1 นกั เรียนสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มีการวางแผนการทำงานกบั เพ่อื น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 3 นักเรียนวางแผนชว่ ยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ในชนั้ เรยี นโดย
คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่นเปน็ อย่างดี
2 นกั เรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มกี ารแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นในชัน้ เรียนบ้าง
บางครง้ั โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน
1 นักเรยี นไมส่ นใจวการางแผนช่วยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปล่ียนความ
คดิ เห็นในชัน้ เรยี น
เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตดั สนิ
ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร เวลา 6 ชว่ั โมง
เรอื่ ง การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั
ส 3.1 ม.2/2 อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้า
และบรกิ าร
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2.1 อธิบายความหมาย ความสำคัญและหลกั การผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสทิ ธภิ าพ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปจั จยั ที่มีผลต่อการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร (P)
3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รยี นรู้
3.2 มุ่งมน่ั ในการทำงาน
4. สมรรถนะสำคัญ
4.1 ความสามารถในการคิด
5. สาระสำคัญ
การนำเทคโนโลยีมาใชใ้ นการผลิตสินค้าและบริการมีความสำคัญมากในปัจจุบนั เพราะ เทคโนโลยจี ะช่วย
ให้ผลติ สนิ คา้ ไดใ้ นปริมาณที่มากขึน้ รวดเรว็ สามารถออกแบบรปู ทรงต่าง ๆ ได้สวยงาม เชน่ การใชเ้ ครื่องจักรกล
ในการผลิตสินค้า ใช้ระบบคอมพิวเตอร์กับงานสำนักงาน งานออกแบบผลิตภัณฑ์ การควบคุมกระบวนการผลิต
เปน็ ต้น ท้งั นี้จะต้องใหเ้ หมาะสมกับการผลติ สินค้าและบริการแต่ละประเภท และทรพั ยากรทีน่ ำมาใช้ในการผลิต
นั้น ๆ ดว้ ย จะตอ้ งคำนึงถึงความปลอดภยั ของผู้ใช้ ไมเ่ กดิ มลภาวะตอ่ สิง่ แวดล้อม หรอื เปน็ อนั ตรายต่อมนษุ ย์
6. สาระการเรียนรู้
6.1 การนำเทคโนโลยมี าใช้ในการผลติ สินค้าและบรกิ าร
7. จดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยกรณตี ัวอย่าง
ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรียน
1. ครูนำโฆษณาสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยมมาให้นักเรียนดู แล้วตั้งคำถามกระตุ้นให้
นักเรียนชว่ ยกันแสดงความคิดเหน็ ว่า “เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าและบริการในโฆษณาที่ได้ดู นักเรียนคิดว่า
มอี ะไรบา้ ง”
ขน้ั สอน
2. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกันอภิปราย และแสดงความคดิ เห็นถึงวิธกี ารท่ีผ้ผู ลิตนำเทคโนโลยีตา่ ง ๆ มา
ใช้ในการผลติ สินค้าและบริการ
3. ครูยกกรณตี วั อยา่ งการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีการผลิตสนิ ค้าอย่างเหมาะสมของการผลติ “อิชิตัน”
ซง่ึ เป็นโรงงานการผลติ สนิ คา้ ท่เี ป็นตัวอย่างทด่ี ีภายใตเ้ ทคโนโลยีการผลติ ท่ีทนั สมัยท่ีสุดในโลกที่เป็นมิตรและให้
ความเคารพตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มของอิชติ นั กรนี แฟคทอรี่ ในชือ่ “ตนั แลนด์ ดินแดนแหง่ ความสมดุล”
4. ครูสร้างสถานการณ์สมมติให้นักเรียนเป็นผู้ผลิต “กระเป๋าสตางค์” แล้วให้นักเรียนช่วย
วิเคราะห์ถึงแนวทางการเลือกใช้เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าดังกล่าว ลงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา
เศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ในตอนที่ 2 ของใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ตอนที่ 2)
ขน้ั สรปุ และการนำไปใช้
5. ครสู รปุ ถงึ ปัจจัยสำคญั ในการเลือกใชผ้ ลิตสนิ ค้าและบริการทีค่ วรคำนงึ ถึงมากท่ีสุด คือ จะต้อง
ไม่เกดิ มลภาวะต่อส่ิงแวดล้อม และคำนงึ ถึงปริมาณการผลิต คุณภาพของการผลิต การใหผ้ ลตอบแทนที่คุ้มค่า
ตามลำดับ
8. สอ่ื การเรยี นรู้
8.1 ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ตอนท่ี 2)
8.2 ภาพการทำโรงงานอิชิตนั (ตนั แลนด์ ดนิ แดนแหง่ ความสมดลุ )
8.3 หนังสือเรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
8.4 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูร้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
9. แหลง่ ที่มาของข้อมูล
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: อักษรเจริญทัศน์
10. การวัดผลและประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60
1.อธิบายความหมาย พฤติกรรมการทำงานรายกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์
ความสำคัญและหลักการผลิต รายกลมุ่ ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
สินค้าและบริการอย่างมี ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
ประสิทธภิ าพ (K) รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
2. วิเคราะห์ปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ การ ตรวจใบกิจกรรมท่ี 2.3 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 2.3 ผา่ นเกณฑ์ใน
ระดบั ดีขึน้ ไป
ผลติ สนิ ค้าและบริการ (P)
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง
ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รยี นรู้ ประสงคใ์ ฝเ่ รยี นรู้
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง
มงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) ประสงคม์ ุ่งม่นั ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งมัน่ ในการทำงาน
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการใช้เทคโนโลยี (A) การใชเ้ ทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี
11. บันทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ …………………………………….
(นางสาวพนิดา สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี………เดือน…………..พ.ศ………
ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวุธ ไชยสิทธิ์)
หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
วนั ท่ี………เดือน………พ.ศ………….
บันทกึ แสดงความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชื่อ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)
รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
วนั ท่ี………..เดอื น…………….พ.ศ……….
)
ใบกจิ กรรมท่ี 2.3
ตอนที่ 2 ให้นักเรยี นระบปุ ัจจัยในการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยขี องผูป้ ระกอบการใหถ้ กู ต้องสมบูรณ์
............................................................ ปจั จัยในการเลอื กใช้ ............................................................
............................................................ เทคโนโลยใี นการผลติ ............................................................
............................................................ ของผู้ประกอบการ ............................................................
.................................................. ..................................................
............................................................
............................................................ ............................................................
............................................................ ............................................................
............................................................
..................................................
..................................................
เฉลยใบกจิ กรรมที่ 2.3
ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรยี นระบปุ ัจจัยในการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยขี องผูป้ ระกอบการใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์
ราคา มคี วามเหมาะสมหรือไม่ ถ้าหาก ปจั จยั ในการเลือกใช้ ประสิทธภิ าพ ตอ้ งใช้เทคโนโลยที ี่ดมี ี
ต้นทุนเทคโนโลยสี งู จะทำให้ราคา เทคโนโลยใี นการผลติ ประสิทธิภาพ เพ่ือการผลิตจะไดม้ ี
สนิ คา้ สงู ตาม ของผู้ประกอบการ มาตรฐาน
ความพร้อมของผูป้ ระกอบ มีความ ความปลอดภัย
พรอ้ มของสถานท่ีติดตัง้ เครื่องจักร เทคโนโลยีจะต้องมีความปลอดภยั ใน
มีบุคลากรท่ีมคี วามรู้คอยดูแล การใช้ รวมถงึ ปลอดภยั ต่อลกู คา้ ด้วย
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้านความมุ่งมัน่ ในการทำงาน
ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมนิ สรปุ
1. ีมความรับผิดชอบในหน้า ่ีท เ ็ปนประจำ (3) 5. อดทนเ ่ืพอให้งานสำเร็จตาม ผ่าน
การงาน บางคร้ัง (2) เป้าหมาย ไ ่มผ่าน
2. ตั้งใจและเอาใจใส่ต่อการ
ปฏิบัติหน้า ่ที ี่ทได้รับมอบหมาย น้อย (1)
3. ทำงาน ้ดวยความเ ีพยร
พยายาม รวมคะแนน (15 คะแนน)
4. ปรับปรุงและ ัพฒนาการ
ทำงานให้ ีด ึ้ขน ้ดวยตนเอง
เ ็ปนประจำ (3)
บางค3รั้ง (2)
2 น้อย (1)
เป็นประจำ (3)
บางคร้ัง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ
ดีมาก ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงตำ่ กวา่ 2 คะแนน
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงตำ่ กวา่ 0 คะแนน
พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน
ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ที่ปรากฏ
รายการประเมนิ 3 นักเรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ได้เป็นอยา่ งดี
1. คิดแยกแยะและวเิ คราะห์ 2 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สังเคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเด็น
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคดิ แยกแยะ วิเคราะห์ ไดน้ อ้ ย
3 นกั เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งออกแบบผลงานได้สะอาดเรียบร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นกั เรียนมีความคิดสรา้ งสรรค์ ตกแต่งผลงานได้สะอาด
1 นักเรยี นมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรียบร้อย
3. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 3 นกั เรียนรว่ มแสดงความคิดเหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อย่างเต็มท่ี
2 นักเรยี นรว่ มแสดงความคดิ เห็นตามกิจกรรมการเรยี นรูบ้ ้างบางคร้ัง
4. คิดวางแผนการทำงาน 1 นักเรียนร่วมแสดงความคดิ เหน็ ตามกิจกรรมการเรยี นรนู้ ้อย
อย่างกระตือรอื รน้ 3 นักเรียนมีการสอบถามและสืบค้นเนื้อหาทใ่ี ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นกั เรียนมีการสบื คน้ เนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกจิ กรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นักเรียนไม่สนใจที่จะสบื ค้นเนื้อหาท่ใี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เหน็ 3 นักเรยี นชว่ ยกนั วางแผน แลกเปลีย่ นความคิดเห็นในการหาคำตอบ
2 นักเรยี นหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไมม่ ีการแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ กับเพ่อื น
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตดั สนิ
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60)
สรปุ
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การผลติ สินค้าและบรกิ าร เวลา 6 ชว่ั โมง
เรอื่ ง ลกั ษณะการผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารของไทย เวลา 1 ช่วั โมง
ผ้สู อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรียนท่ี 1 โรงเรยี นหนองบัวพิทยาคาร
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
ส 3.1 ม.2/2 อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้า
และบรกิ าร
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 อธบิ ายความหมาย ความสำคัญและหลักการผลติ สินค้าและบรกิ ารอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ (K)
2.2 สำรวจการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น เสนอแนะหลักการผลิตสินค้าและบริการ
อย่างมีประสิทธิภาพ (P)
3. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝเ่ รียนรู้
3.2 ม่งุ ม่ันในการทำงาน
4. สมรรถนะสำคัญ
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5. สาระสำคญั
การผลิตสินค้าและบริการของไทยในแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ความเจริญก้าวหน้าทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งการผลิตสนิ ค้าและบริการใน
ท้องถิ่นปัจจุบันมี 2 ลักษณะ ได้แก่ การผลิตแบบดั้งเดิม เป็นการผลิตที่ใช้แรงงานคนในท้องถิ่น ได้รับการ
ถ่ายทอดภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ใชว้ ิธีการผลติ ง่าย ๆ และการผลิตแบบสมยั ใหม่ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการผลติ
6. สาระการเรยี นรู้
6.1 ลกั ษณะการผลติ สนิ คา้ และบริการของไทย
6.1.1 การผลิตสินคา้ และบรกิ ารในภาคเหนอื
6.1.2 การผลติ สนิ คา้ และบริการในภาคกลาง
6.1.3 การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื
6.1.4 การผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคใต้
7. จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยการบรรยาย
ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูนำภาพผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการที่มีชื่อเสียงจากภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยมาให้
นักเรียนดู แล้วช่วยกันบอกว่ามาจากภาคใด เช่น ผ้าไหมมัดหมี่จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสื่อกระจูดจาก
ภาคใต้ รม่ บ่อสร้างจากภาคเหนือ เป็นต้น
ข้ันสอน
2. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันในการผลิตสินค้าและบริการของไทยทั้ง 4 ภาค เกี่ยวกับ
ลกั ษณะเดน่ ของการผลติ ตลอดจนลักษณะของแต่ละท้องถนิ่
3. ครูให้นักเรียนสรุปลักษณะการผลิตสินค้าและบริการของไทยทั้ง 4 ภาคลงในชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ใบกิจกรรมท่ี 2.4
4. ระหวา่ งการทำใบกิจกรรมท่ี 2.4 ครูนำภาพสนิ ค้าและบริการของไทยท้ัง 4 ภาคที่โดดเด่นเป็น
เอกลกั ษณ์ให้นักเรยี นดเู พม่ิ เตมิ และบอกถงึ เหตุผลในการผลติ สินคา้ และบริการแตล่ ะชนดิ
ขนั้ สรปุ และการนำไปใช้
5. ครูสรุปถึงการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นไทยส่วนใหญ่จะเป็นการนำทรัพยากรที่มีอยู่ใน
ท้องถิ่นมาทำการผลิต ส่วนใหญ่เป็นการผลิตในครัวเรือนเป็นการผลิตที่ค่อนข้างจำกัด ใช้เทคโนโลยีการผลิต
นอ้ ย และมตี ลาดรองรบั สินค้านอ้ ย ดงั นน้ั ควรจะนำเทคโนโลยหี รือปัจจยั อื่น ๆ มาส่งเสริมการขายดว้ ย
8. สื่อการเรยี นรู้
8.1 ใบกิจกรรมที่ 2.4
8.2 หนงั สือเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
8.3 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
9. แหลง่ ที่มาของข้อมลู
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจริญทัศน์
10. การวัดผลและประเมนิ ผล
จุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60
1.อธบิ ายความหมาย พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์
ความสำคญั และหลักการผลติ รายบุคคล ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
สนิ คา้ และบรกิ ารอยา่ งมี
ร้อยละ 60
ประสทิ ธภิ าพ (K) ผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
2. สำรวจการผลิตสนิ คา้ และ ตรวจใบกิจกรรมท่ี 2.4 แบบเฉลยใบกิจกรรมท่ี 2.4 ผา่ นเกณฑ์
ผา่ นเกณฑ์ใน
บริการในท้องถ่นิ เสนอแนะ ระดบั ดีขึน้ ไป
ผา่ นเกณฑ์ใน
หลักการผลติ สินคา้ และบรกิ าร ระดับดขี นึ้ ไป
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ (P)
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง
ใฝ่เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง
มงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A) ประสงคม์ งุ่ มั่นในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งม่ันในการทำงาน
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการคิด (A) การคดิ การคดิ
6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา
11. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหน่ง ครู
วันที่………เดือน…………..พ.ศ………
ข้อเสนอแนะ / ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
ลงช่อื ……………………………………
(นายคฑาวุธ ไชยสิทธ์ิ)
หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
วันที่………เดือน………พ.ศ………….
บนั ทกึ แสดงความคดิ เห็นของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงช่อื …………………………….………..............…………
(นายพฤทธิ์พล ชารี)
รองผู้อำนวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ
วันที่………..เดือน…………….พ.ศ……….
ใบกิจกรรมท่ี 2.4
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นระบลุ กั ษณะการผลิตสนิ ค้าและบริการของไทยทง้ั 4 ภาคใหถ้ กู ตอ้ งสมบรู ณ์
ภาคเหนอื
ภาคกลาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
ภาคใต้
เฉลยใบกิจกรรมที่ 2.4
คำชี้แจง ให้นักเรียนระบุลักษณะการผลิตสินคา้ และบริการของไทยท้ัง 4 ภาคให้ถูกต้องสมบูรณ์
การทำรม่ บ่อสรา้ ง ภาคเหนอื ธุรกจิ ทอ่ งเทย่ี วภเู ขา ดอย
การผลติ สนิ ค้าและบริการในภาคเหนอื มี
ความหลากหลายตามลักษณะภมู ปิ ระเทศ
ทเี่ ปน็ พืน้ ที่สูงและภเู ขา เช่น มธี ุรกจิ
ท่องเท่ียวภูเขา มีการทำรม่ บ่อสรา้ ง ลำไย
อบแห้ง
การทำนาปลกู ข้าว ภาคกลาง การทำอุตสาหกรรมต่าง ๆ
มลี กั ษณะเด่น คือ การผลติ เกษตรกรรม
เน่อื งจากมพี นื้ ทีล่ มุ่ เหมาะแกก่ าร
เพาะปลกู และยงั มีการผลิตใน
ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เชน่ รถยนต์
เครื่องใช้ไฟฟา้ ต่าง ๆ
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
มพี น้ื ทร่ี าบกวา้ งใหญท่ ำใหส้ ่วนใหญ่มี
อาชพี เพาะปลูก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ
ยังมีการทำหัตถกรรม เชน่ การทอผา้
เครือ่ งจกั รสาน ทำเส่อื ฯลฯ
การทำนาปลูกข้าว การทอผา้ ไหม
การปลกู ยางพารา ภาคใต้ ธรุ กิจท่องเทยี่ วทะเล
ภาคใตม้ ีทรัพยากรธรรมชาติทีอ่ ดุ ม
สมบรู ณ์ มที ัง้ พ้นื ทที่ ่เี หมาะแก่การ
เพาะปลูก ยางพารา ขา้ ว ผลไมต้ ่าง ๆ ยงั
มพี น้ื ทีต่ ิดกับทะเลทำให้สามารถสรา้ ง
สินคา้ และบรกิ ารบรเิ วณทะเลไดอ้ กี ด้วย
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มีความกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้านความมุ่งมัน่ ในการทำงาน
ที่ ชื่อ - สกุล รายการประเมนิ สรปุ
1. ีมความรับผิดชอบในหน้า ่ีท เ ็ปนประจำ (3) 5. อดทนเ ่ืพอให้งานสำเร็จตาม ผ่าน
การงาน บางคร้ัง (2) เป้าหมาย ไ ่มผ่าน
2. ตั้งใจและเอาใจใส่ต่อการ
ปฏิบัติหน้า ่ที ี่ทได้รับมอบหมาย น้อย (1)
3. ทำงาน ้ดวยความเ ีพยร
พยายาม รวมคะแนน (15 คะแนน)
4. ปรับปรุงและ ัพฒนาการ
ทำงานให้ ีด ึ้ขน ้ดวยตนเอง
เ ็ปนประจำ (3)
บางค3รั้ง (2)
2 น้อย (1)
เป็นประจำ (3)
บางคร้ัง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)
เ ็ปนประจำ (3)
บางครั้ง (2)
น้อย (1)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ
ดีมาก ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงตำ่ กวา่ 2 คะแนน
ดี ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 9-12 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึงตำ่ กวา่ 0 คะแนน
พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 5 - 8 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ต่ำกว่า 0 คะแนน
ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 4 คะแนน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคัญดา้ นการคดิ ทปี่ รากฏ
รายการประเมนิ 3 นักเรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คดิ แยกแยะและวิเคราะห์ 2 นักเรียนสามารถคดิ แยกแยะ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ไดบ้ า้ งบางประเดน็
ได้ 1 นักเรียนสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ ได้น้อย
3 นกั เรยี นมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ตกแตง่ ออกแบบผลงานได้สะอาดเรยี บร้อย
2. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2 นักเรียนมีความคิดสรา้ งสรรค์ ตกแตง่ ผลงานได้สะอาด
1 นักเรยี นมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ แตข่ าดความสะอาดเรียบร้อย
3. คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 3 นกั เรยี นร่วมแสดงความคิดเห็นตามกจิ กรรมการเรียนรู้อยา่ งเตม็ ท่ี
2 นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เห็นตามกจิ กรรมการเรยี นรู้บ้างบางคร้ัง
4. คดิ วางแผนการทำงาน 1 นักเรยี นรว่ มแสดงความคดิ เห็นตามกจิ กรรมการเรยี นรนู้ ้อย
อย่างกระตือรือร้น 3 นกั เรยี นมกี ารสอบถามและสืบค้นเนื้อหาทใี่ ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นกั เรียนมกี ารสบื ค้นเนื้อหาที่ใช้ในการทำกิจกรรม
5. มีการแลกเปลย่ี นความ 1 นกั เรยี นไม่สนใจทจ่ี ะสืบค้นเนอื้ หาที่ใช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เห็น 3 นกั เรียนช่วยกันวางแผน แลกเปลย่ี นความคดิ เห็นในการหาคำตอบ
2 นกั เรยี นหาคำตอบด้วยตนเอง ไม่มีการแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กบั เพอ่ื น
1 นักเรียนไม่สนใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารตดั สิน
ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
รายการประเมิน คะแนน/สมรรถนะสำคัญด้านการคดิ ท่ปี รากฏ
1. ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ญั หา 3 นกั เรยี นมเี หตผุ ลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาไดเ้ ป็นอย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้บา้ ง
1 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้น้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรียนมกี ารจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างดีมาก
อปุ สรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญได้ 2 นกั เรียนมีการจัดลำดบั มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นกั เรียนมีการจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้นอ้ ย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นักเรยี นศกึ ษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรู้ในการแกป้ ัญหาเพิ่มเตมิ ได้เป็นอยา่ งดี
ความรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั 2 นกั เรียนศกึ ษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรใู้ นการแก้ปญั หาเพิม่ เตมิ ได้
และแก้ไข 1 นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ แสวงหาความรู้ในการแก้ปัญหาได้เลก็ น้อย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นักเรียนสามารถตัดสนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพอื่ นไดเ้ ป็น
เหมาะสมตามวัย อย่างดี
2 นกั เรียนสามารถตัดสินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกบั เพอื่ นได้
5. ตัดสินใจโดยคำนึงถึง 1 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกบั เพือ่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรยี นวางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ มกี ารแลกเปลยี่ นความคิดเห็นในช้นั เรยี นโดย
คำนึงถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ืน่ เปน็ อย่างดี
2 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ในชัน้ เรียนบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อนื่
1 นักเรยี นไมส่ นใจวการางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปลยี่ นความ
คดิ เห็นในชั้นเรียน
เกณฑ์การประเมิน เกณฑก์ ารตัดสิน
ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60)
สรุป
ผา่ น ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 15
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาฯ วิชา เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
เวลา 4 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เศรษฐกิจพอเพยี งกับการผลิตสินคา้ และบรกิ าร เวลา 1 ชั่วโมง
เรือ่ ง หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โรงเรยี นหนองบัวพทิ ยาคาร
ผสู้ อน นางสาวพนิดา สอนโคตร ภาคเรยี นท่ี 1
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2.1 อธิบายหลกั การและเปา้ หมายของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ (K)
2.2 ประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงเพือ่ ให้อย่ใู นสงั คมไทยได้อยา่ งมีความสุข (P)
3. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรยี นรู้
3.2 อยอู่ ยา่ งพอเพียง
4. สมรรถนะสำคัญ
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. สาระสำคัญ
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรชั ญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราช
ดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อเน้นย้ำให้คนไทยรอดพ้นจากวิกฤตและสามารถ
ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมีเป้าหมายในการใช้ชีวิตบน
พืน้ ฐานของการรจู้ กั ตนเอง ใชช้ วี ติ อย่างพอเพียง สามารถพ่ึงพาตนเองและพึ่งพาซึ่งกันและกนั ได้
6. สาระการเรียนรู้
6.1 หลักการของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6.1.1 หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
6.1.2 เปา้ หมายของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
7. จัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยการบรรยาย
ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูนำสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจไทย พ.ศ. 2540 โดยยกตัวอย่างข่าว หรือ
บทความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็น
เหตกุ ารณท์ ส่ี ่งผลกระทบตอ่ คนไทยหลายดา้ น เชน่ ธรุ กจิ ลม้ ละลาย ปดิ กจิ การ คนตกงาน เป็นตน้
ขัน้ สอน
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการต่อต้านการทุจริต
โดยอาศัยความพอเพียงเป็นหลัก เช่น การพอประมาณในสิ่งที่ตนมี แสวงหาในสิ่งที่ตนพึงพอใจ ไม่โลภ ให้
นักเรียนพอใจในความพอดี พอประมาณและมีเหตุผล โดยมุ่งให้นักเรียนมีจิตใจที่เข้มแข็ง STRONG จิต
พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจรติ
3. ครใู ห้นักเรยี นวิเคราะห์หลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข ลงในชุดกจิ กรรมการ
เรยี นรวู้ ชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ใบกจิ กรรมที่ 3.1
4. ครูอธิบายเป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้คนไทยอยู่ในสังคมไทยได้อย่างมี
ความสุขทกุ ระดับ ไม่วา่ จะเปน็ ระดบั ครอบครวั ระดบั ชมุ ชน และระดับสงั คม
5. ครูให้นักเรียนสรุปเป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 3 ระดับ ลงในชุดกิจกรรมการ
เรียนรวู้ ชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ใบกิจกรรมที่ 3.2
ขั้นสรปุ และการนำไปใช้
6. ครูให้นักเรียนนำเป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งที่ทำให้ตนเองมีความสขุ ไปปรับใชใ้ น
ครอบครัว ชุมชน และสังคมต่อไป และย้ำถึงการมีจิตใจที่เข้มแข็ง การมีความพอเพียง ความโปร่งใส เพ่ือ
ต่อตา้ นการทจุ ริต
7. ครูสรุปว่า “การที่เรามีเหตุผล จะช่วยให้เราห่างไกลการทุจริต และถ้าเรามีความรู้เราจะ
แยกแยะได้ว่าสิ่งไหนคือการต่อต้านการทุจริต และสิ่งไหนคือการทุจริต ดังนั้นนักเรียนต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง
และมีจิตใจที่พอเพียงในสงิ่ ทตี่ นมี”
8. สอ่ื การเรยี นรู้
8.1 ใบกจิ กรรมที่ 3.1
8.2 ใบกจิ กรรมท่ี 3.2
8.3 หนังสือเรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
8.4 ชุดกจิ กรรมการเรียนรรู้ ายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
9. แหลง่ ท่มี าของขอ้ มูล
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทัศน์
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบเฉลยใบกิจกรรมที่ 3.1 ร้อยละ 60
1. อธบิ ายหลกั การและเปา้ หมาย ตรวจใบกิจกรรมที่ 3.1 ผ่านเกณฑ์
แบบเฉลยใบกิจกรรมที่ 3.2
ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
(K)
2. ประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจ ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.2
พอเพียงเพื่อให้อยู่ในสังคมไทย
ไดอ้ ย่างมคี วามสุข (P)
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ (A) ประสงคใ์ ฝเ่ รียนรู้ ประสงคใ์ ฝเ่ รยี นรู้ รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์ใน
ระดบั ดีข้ึนไป
มุ่งม่ันในการทำงาน (A) ประสงคม์ งุ่ มนั่ ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งม่ันในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ใน
ระดับดีข้ึนไป
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ใน
ในการคดิ (A) การคดิ การคดิ
6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญใน
ในการแกป้ ญั หา การแกป้ ญั หา การแก้ปัญหา
11. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื …………………………………….
(นางสาวพนิดา สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี………เดือน…………..พ.ศ………
ข้อเสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสทิ ธิ์)
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วนั ที่………เดอื น………พ.ศ………….
บนั ทึกแสดงความคิดเหน็ ของผบู้ ริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)
รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
วันท่ี………..เดือน…………….พ.ศ……….
ใบกิจกรรมที่ 3.1
คำช้ีแจง ให้นักเรียนวเิ คราะห์ขอ้ ความที่กำหนดใหต้ ามหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ความมเี หตุผล การมีภมู คิ ้มุ กัน
การมคี ุณธรรม
ความรอบรู้ ความพอประมาณ
เฉลยใบกจิ กรรมที่ 3.1
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวิเคราะห์ขอ้ ความท่ีกำหนดให้ตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง
ความมีเหตุผล การมีคุณธรรม การมภี มู ิคุ้มกนั
การตัดสินใจเกยี่ วกับระดับความ ความตระหนักในคุณธรรม มีความ การเตรียมตวั ให้พร้อมที่จะรับ
พอเพยี งนั้นต้องมเี หตุผล โดย ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มคี วามอดทน มี ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงใน
พิจารณาจากปัจจยั ที่เก่ียวขอ้ งและ ความเพยี ร ใชส้ ติปัญญาในการ ด้านต่าง ๆ ท่ีจะเกิดขน้ึ โดย
คำนึงถึงผลที่คาดว่าจะไดร้ ับหรือ ดำเนินชวี ติ ไมโ่ ลภ ขณะเดยี วกนั ก็ คำนึงถึงการเปลย่ี นแปลงด้าน
ผลทีจ่ ะเกิดขึน้ จากการกระทำ ไมต่ ระหนี่ ตา่ ง ๆ และความเป็นไปได้ของ
น้ัน ๆ ด้วยความรอบคอบ สถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีคาดวา่ จะ
เกดิ ขึ้นในระยะเวลาท่ีตา่ งกนั
ความรอบรู้ ความพอประมาณ
มคี วามรู้ ความสามารถเก่ยี วกับ ความพอดีที่ไมน่ ้อยเกินไปและไม่
วิชาการตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องรอบ มากเกินไป คือไมส่ ุดโต่ง และ
ดา้ น และมีความรู้ โดยการนำ จะตอ้ งไม่สรา้ งความเดือดร้อน
ความรู้ในสาขาวชิ าต่าง ๆ ท่ีศึกษา ไม่เบยี ดเบยี นทัง้ ตนเองและผ้อู ่ืน
มาเช่ือมโยง วางแผนการทำงานใน
เรอื่ งต่าง ๆ จนกระท่ังไปส่กู าร
ปฏิบตั ิอย่างเปน็ ขัน้ ตอน และ
ประสบความสำเร็จ
ใบกิจกรรมที่ 3.2
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสรุปเป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำใหค้ นไทยอยู่ในสังคมไทยได้อยา่ งมคี วามสขุ
ทุกระดับตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้อง
ระดับครอบครัว
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
ระดบั ชมุ ชน
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
ระดบั สังคม
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................
เฉลยใบกิจกรรมที่ 3.2
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นสรุปเปา้ หมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งที่ทำใหค้ นไทยอยู่ในสงั คมไทยได้อยา่ งมคี วามสขุ
ทุกระดับต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง
ระดับครอบครัว
สมาชกิ ในครอบครัวมีความเป็นอยูท่ ด่ี ี พ่ึงพาตนเอง
ได้ มคี วามสุขทั้งทางกายและใจ ดำเนินชวี ิตโดยไม่
เบยี ดเบียนตนเองและผู้อื่น ไมเ่ ปน็ หนี้ท่ไี ม่สามารถ
ชำระคนื ได้ มีเงินเหลอื เป็นเงินออมสำหรบั ครอบครวั
ระดับชุมชน
รวมกลุ่มในการสร้างงานสร้างอาชพี เพือ่ สรา้ งความ
เข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจของชุมชน รวมกลุ่มทำ
ประโยชนเ์ พ่ือสว่ นรวม สามารถนำทรพั ยากรซ่ึงเปน็
ทุนของชุมชนมาใชอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เพื่อใหเ้ กดิ
ความเป็นอยู่ทพ่ี อเพยี งของชุมชนโดยรวม
ระดับสงั คม
สังคมมคี วามเข้มแข็ง มีการสร้างงานสรา้ งอาชีพที่
มนั่ คง สมาชิกในสังคมมคี วามเป็นอยูท่ ่ดี ี มีการ
แลกเปลี่ยนความรู้ เขา้ รับการศกึ ษาอบรม
ร่วมกนั สืบทอดภูมปิ ัญญาและรว่ มกนั พัฒนาตาม
แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อสรา้ งเป็นเครือข่าย
ทัง้ ในและนอกสงั คม
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมิน 1 ท่ี ชือ่ - สกลุ
2
3
3
5
6
7
8
9
ปรับปรุง ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 4 คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหว่าง 5 - 8 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนงึ่ ต่ำกวา่ 0 คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนงึ่ ต่ำกวา่ 0 คะแนน ดีมาก ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งต่ำกว่า 2 คะแนน เป็นประจำ (3) 1. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมี แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์อยู่อย่างพอเพียง
บางค3รั้ง (2) การเก็บออมเงิน รายการประเมิน
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. ใชท้ รัพย์สินและสิ่งของของ
บางครั้ง (2) โรงเรยี นอย่างประหยดั
นอ้ ย (1)
เกณฑก์ ารตดั สนิ เป็นประจำ (3) 3. ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่าง
บางครงั้ (2) ประหยดั และรู้คณุ ค่า
นอ้ ย (1)
เปน็ ประจำ (3) 4. ปฏบิ ตั ิตนและตัดสินใจ
บางครง้ั (2) ด้วยความรอบคอบมีเหตุผล
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
ปรบั ตัวเพ่อื อยู่ใน สงั คมได้
บางครงั้ (2) อย่างมี ความสุข
น้อย (1)
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผา่ น สรุป
ไมผ่ ่าน
321321321321321 ที่ ชอ่ื - สกลุ
1
2 1. คดิ แยกแยะและ แบบประเมินสมรรถนะสำคัญในการคิด
3 วิเคราะหไ์ ด้ รายการประเมนิ
4
5 2. มคี วามคิด
6 สรา้ งสรรค์
7
8 3. คดิ อยา่ งมี
9 วิจารณญาณ
10
11 4. คิดวางแผน
12 การทำงานอยา่ ง
13 กระตือรือร้น
14 5. มีการแลกเปลีย่ น
15 ความคดิ เหน็
16
17 รวม (15 คะแนน)
18 ผา่ น
19 ไมผ่ ่าน
20
สรุป
เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคดิ ท่ีปรากฏ
รายการประเมนิ 3 นักเรียนสามารถคดิ แยกแยะ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
1. คดิ แยกแยะและวิเคราะห์ 2 นักเรยี นสามารถคิดแยกแยะ วิเคราะห์ สังเคราะห์ได้บา้ งบางประเดน็
ได้ 1 นกั เรียนสามารถคิดแยกแยะ วเิ คราะห์ ได้นอ้ ย
3 นกั เรยี นมีความคิดสรา้ งสรรค์ ตกแตง่ ออกแบบผลงานได้สะอาดเรยี บร้อย
2. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ 2 นกั เรยี นมีความคดิ สรา้ งสรรค์ ตกแตง่ ผลงานไดส้ ะอาด
1 นักเรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ แต่ขาดความสะอาดเรยี บร้อย
3. คดิ อย่างมีวิจารณญาณ 3 นกั เรียนร่วมแสดงความคิดเหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้อยา่ งเต็มท่ี
2 นักเรียนรว่ มแสดงความคิดเห็นตามกิจกรรมการเรยี นรู้บ้างบางครัง้
4. คดิ วางแผนการทำงาน 1 นักเรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ตามกจิ กรรมการเรียนรู้น้อย
อยา่ งกระตือรอื รน้ 3 นกั เรยี นมีการสอบถามและสืบคน้ เน้ือหาทใ่ี ชใ้ นการทำกิจกรรม
2 นกั เรยี นมกี ารสืบค้นเนอื้ หาท่ใี ชใ้ นการทำกจิ กรรม
5. มีการแลกเปลี่ยนความ 1 นกั เรียนไมส่ นใจท่ีจะสบื ค้นเนือ้ หาทใ่ี ช้ในการทำกิจกรรม
คดิ เห็น 3 นกั เรียนช่วยกันวางแผน แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ในการหาคำตอบ
2 นักเรยี นหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไมม่ กี ารแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ กบั เพื่อน
1 นักเรยี นไมส่ นใจหาคำตอบ
เกณฑก์ ารประเมิน
สรุป เกณฑก์ ารตัดสนิ
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60)
ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 0 - 7 คะแนน
321321321321321 ท่ี ช่ือ - สกุล
1
2 1. ใช้เหตผุ ลในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ในการแกป้ ญั หา
3 แกป้ ัญหาต่าง ๆ ได้ รายการประเมนิ
3
5 2. สามารถแก้ปัญหา
6 และอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี
7
8 เผชิญได้
9
10 3. แสวงหาความรู้
11 ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ใน
12 การป้องกนั และแกไ้ ข
13
13 4. สามารถตดั สนิ ใจได้
15 เหมาะสมตามวยั
16
17 5. ตดั สนิ ใจโดย
18 คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ
19
20 ตนเองและผู้อ่ืน
รวม (15 คะแนน)
สรปุ
ผา่ น
ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารให้คะแนน
รายการประเมนิ คะแนน/สมรรถนะสำคญั ดา้ นการคิดทีป่ รากฏ
1. ใช้เหตผุ ลในการแก้ปญั หา 3 นักเรียนมเี หตุผลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปัญหาได้เปน็ อย่างดี
ตา่ ง ๆ ได้ 2 นกั เรยี นมีเหตผุ ลในการแก้ปญั หาตา่ ง ๆ และหาทางออกของปญั หาได้บ้าง
1 นักเรยี นมีเหตุผลในการแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้น้อย
2. สามารถแกป้ ัญหาและ 3 นกั เรยี นมกี ารจัดลำดับ มีการวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งดีมาก
อุปสรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้ 2 นักเรยี นมกี ารจดั ลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้
1 นักเรยี นมกี ารจัดลำดบั มกี ารวางแผนการแก้ไขปัญหาได้นอ้ ย
3. แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ 3 นกั เรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความร้ใู นการแกป้ ัญหาเพิม่ เติมไดเ้ ป็นอย่างดี
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกัน 2 นักเรียนศึกษาเพิ่มเตมิ แสวงหาความรู้ในการแก้ปญั หาเพม่ิ เตมิ ได้
และแก้ไข 1 นกั เรียนศึกษาเพ่ิมเติม แสวงหาความรู้ในการแก้ปญั หาได้เล็กน้อย
4. สามารถตดั สินใจได้ 3 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพื่อนได้เป็น
เหมาะสมตามวยั อย่างดี
2 นักเรียนสามารถตดั สนิ ใจเองได้ และมีการวางแผนการทำงานกับเพื่อนได้
5. ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถงึ 1 นักเรยี นสามารถตัดสนิ ใจเองได้น้อย และไม่มกี ารวางแผนการทำงานกับเพือ่ น
ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ 3 นกั เรียนวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นในชั้นเรียนโดย
คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ นื่ เปน็ อยา่ งดี
2 นักเรยี นวางแผนช่วยกันหาคำตอบ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช้ันเรยี นบ้าง
บางคร้ัง โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่
1 นักเรียนไม่สนใจวการางแผนชว่ ยกนั หาคำตอบ และไม่สนใจแลกเปล่ียนความ
คดิ เหน็ ในชัน้ เรียน
เกณฑ์การประเมนิ เกณฑก์ ารตดั สิน
ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 8 - 15 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60)
สรุป
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 0 - 7 คะแนน
ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16
กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วชิ า เศรษฐศาสตร์ 2 (ส22103) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพยี งกับการผลติ สนิ ค้าและบริการ เวลา 4 ช่ัวโมง
เร่อื ง วเิ คราะห์การผลิตสินค้าและบรกิ ารในท้องถนิ่ เวลา 1 ชว่ั โมง
ผสู้ อน นางสาวพนดิ า สอนโคตร ภาคเรยี นที่ 1 โรงเรียนหนองบัวพทิ ยาคาร
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั
ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 อธบิ ายหลักการและเปา้ หมายของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ (K)
2.2 วเิ คราะห์ปัญหาการผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารในทอ้ งถิ่นได้ (P)
3. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.1 ใฝ่เรียนรู้
3.2 อย่อู ย่างพอเพียง
4. สมรรถนะสำคัญ
4.1 ความสามารถในการคิด
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. สาระสำคญั
ในทอ้ งถนิ่ ต่าง ๆ ของไทย ประชากรสว่ นใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม แต่เกษตรกรส่วนใหญข่ าดแคลน
ที่ดินทำกิน ประกอบกับการทำเกษตรกรรมต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ จึงไม่ได้รับผลเท่าที่ควร ส่งผลให้
ความเป็นอยู่ไม่ค่อยดี เกิดการว่างงานตามฤดูกาล เพื่อแก้ปัญหาหลาย ๆ ปัญหาของท้องถิ่นไทยได้น้อมนำแนว
พระราชดำริหลักการของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างท้องถิ่นให้เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ในภาวะ
เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่ผลิตให้เพียงพอกับการบริโภคในครัวเรือน และผลิตสินค้าและ
บริการเพอ่ื การค้า เพือ่ เพิม่ รายได้ มีเงนิ ออม เป็นการแก้ปญั หาเศรษฐกจิ ของทอ้ งถ่ิน
6. สาระการเรยี นรู้
6.1 วิเคราะหก์ ารผลิตสินค้าและบรกิ ารในทอ้ งถิ่น
6.1.1 รปู แบบของการผลิตสินค้าและบรกิ ารในท้องถ่ิน
6.1.2 การผลิตขนาดกลางและขนาดย่อมหรอื SMEs
6.1.3 ปัญหาของการผลิตสินคา้ และบรกิ ารในทอ้ งถนิ่
7. จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กรณีตวั อย่าง
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูให้นักเรียนดูภาพผลิตภัณฑ์ OTOP ของท้องถิ่นต่าง ๆ แล้วตั้งคำถามกระตุ้นความสนใจใน
ผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถิ่น เชน่ “ภาพดงั กลา่ วเป็นภาพอะไร และมคี วามสำคญั อยา่ งไร”
ขั้นสอน
2. ครูยกกรณีตัวอย่าง คือ “ดร.เกริก มีมุ่งกิจ” โดยเป็นบุคคลที่ช่วยพัฒนาท้องถิ่นเขานำต้นไม้
470 ชนิดปลูกลงบนพื้นที่เกษตร 50 ไร่ และสามารถสร้างรายได้จากการตัดแต่ง เก็บกิ่งไม้มาเผาถ่าน กล่ัน
นำ้ สม้ ควนั ไม้ ฯลฯ เปน็ การผลติ สินคา้ ในท้องถิ่นทไ่ี มซ่ ับซ้อน มีเปา้ หมายสำคัญ คอื รายไดข้ องครอบครวั
3. จากการศึกษากรณีตัวอย่าง ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถ่ิน
ทง้ั 3 ระดบั ได้แก่
2.1 การผลติ ในครวั เรอื น
2.2 การรวมกลมุ่ ในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ OTOP
2.3 การผลติ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มหรอื SMEs
ลงในชดุ กิจกรรมการเรยี นรูว้ ิชาเศรษฐศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ในใบกิจกรรมที่ 3.3
4. ครใู หน้ กั เรียนประยุกต์ “STRONG จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต” เข้ากบั เนื้อหาการรวมกลุ่ม
ทางเศรษฐกิจทั้ง 3 ระดับ หากการผลิตทั้ง 3 ระดับจะเจริญก้าวหน้าได้นั้นต้องอาศัยความพอเพียงอย่างไร
เพือ่ ไมใ่ หม้ ปี ญั หาการทุจริต
5. ครสู ุ่มนกั เรียนแต่ละกลุม่ ตอบคำถามดงั กล่าว และครสู รุปว่า “การผลติ ทุกอย่างทง้ั 3 ระดับไม่
ว่าจะเป็นการผลิตในครัวเรือน การรวมกลุ่มในรูปแบบต่าง ๆ และการรวมกลุ่ม SMEs นั้นย่อมเกิดปัญหาใน
ท้องถิ่น ดังนั้นการเริ่มต้นอันดับแรกทุกคนจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง โปร่งใส พร้อมพัฒนาท้องถิ่น ไม่ยอม
แสวงหาอำนาจในทางที่ผิด หรือการทุจริตนั่นเอง หากเราทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือกัน พร้อมที่จะมุ่งไป
ข้างหนา้ ยอ่ มทำใหก้ ารทุจริตนั่นหายไป”
ขน้ั สรปุ และการนำไปใช้
6. ครูให้นักเรียนลองคิดทบทวนว่าตนเองสามารถพัฒนาท้องถิ่นของตนเองควบคู่ไปกับการผลิต
สนิ ค้าและบริการในทอ้ งถนิ่ ได้อย่างไรโดยอาศัยความพอเพยี ง
8. สอ่ื การเรยี นรู้
8.1 ใบกิจกรรมท่ี 3.3
8.2 บุคคลตัวอยา่ งทีผ่ ลติ สินคา้ ทีช่ ่วยพฒั นาท้องถิ่น
8.3 หนังสอื เรียนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
8.4 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรรู้ ายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
9. แหลง่ ท่มี าของข้อมลู
ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ และคณะ. (ม.ป.ป.). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: อักษรเจรญิ ทศั น์
10. การวัดผลและประเมินผล
จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60
1. อธิบายหลักการและเป้าหมาย ตรวจใบกจิ กรรมที่ 3.3 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 3.3 ผ่านเกณฑ์
ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ ร้อยละ 60
ผ่านเกณฑ์
(K)
รอ้ ยละ 60
2. วิเคราะห์ปัญหาการผลิต ตรวจใบกิจกรรมท่ี 3.4 แบบเฉลยใบกจิ กรรมที่ 3.4 ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
สินค้าและบริการในท้องถิ่นได้ ผ่านเกณฑ์
ผ่านเกณฑ์ใน
(P) ระดับดีข้ึนไป
ผ่านเกณฑ์ใน
3. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง ระดบั ดขี ้ึนไป
ใฝ่เรยี นรู้ (A) ประสงคใ์ ฝ่เรียนรู้ ประสงคใ์ ฝ่เรยี นรู้
4. มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึง แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง
ม่งุ ม่ันในการทำงาน (A) ประสงคม์ งุ่ มน่ั ในการทำงาน ประสงคม์ ุ่งมนั่ ในการทำงาน
5. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมินสมรรถนะสำคัญใน
ในการคิด (A) การคดิ การคดิ
6. มีสมรรถนะทางความสามารถ การประเมินสมรรถนะสำคัญใน แบบประเมินสมรรถนะสำคัญใน
ในการแกป้ ญั หา การแก้ปัญหา การแก้ปัญหา
11. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้
ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื …………………………………….
(นางสาวพนดิ า สอนโคตร)
ตำแหนง่ ครู
วันท่ี………เดอื น…………..พ.ศ………
ข้อเสนอแนะ / ความคิดเห็นของหวั หนา้ กลุม่ สาระฯ
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
………………………………………………………...……………………………………………………………………………………………………
……………...……………………………………………………………………………………………………………………...………………………
……………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………
(นายคฑาวธุ ไชยสทิ ธิ์)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
วันที่………เดอื น………พ.ศ………….
บนั ทึกแสดงความคดิ เหน็ ของผู้บริหารกลุ่มงานวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงชือ่ …………………………….………..............…………
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)
รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
วันท่ี………..เดือน…………….พ.ศ……….
ใบกิจกรรมท่ี 3.3
คำชี้แจง ให้นักเรยี นวิเคราะห์การผลติ สนิ คา้ และบริการในท้องถนิ่ ได้แก่ การผลิตในครวั เรือน การรวมกลุ่ม รูปแบบตา่ ง ๆ
และการผลติ ในลักษณะอตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดงั นี้
1. การผลติ ในครวั เรือน
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เชน่ ......................................................................................................
2. การรวมกลมุ่ รปู แบบต่าง ๆ OTOP
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เช่น ......................................................................................................
3. การผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
เช่น ......................................................................................................
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 3.3
คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์การผลิตสินคา้ และบริการในท้องถน่ิ ไดแ้ ก่ การผลติ ในครวั เรอื น การรวมกลมุ่
รปู แบบต่าง ๆ และการผลติ ในลักษณะอตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดงั น้ี
1. การผลิตในครัวเรอื น
เป็นการผลติ ทค่ี นในครอบครัวเดียวกันรว่ มกันผลติ สินค้าและบริการ
เพ่อื เปน็ รายไดข้ องครอบครวั มีเป้าหมายสำคัญ คือ รายได้ของ
ครอบครัว
เช่น รา้ นขายข้าวแกง รา้ นกว๋ ยเต๋ียว ร้านขายของชำ เคร่อื งจักรสาน
2. การรวมกลมุ่ รปู แบบตา่ ง ๆ OTOP
การรวมกล่มุ ผลติ สนิ คา้ และบริการในท้องถ่ินเป็นการรวมกลมุ่ กนั
เพอื่ สรา้ งความเข้มแข็งในการผลติ สรา้ งอำนาจต่อรองในตลาด
เชน่ กลมุ่ OTOP ผลิตสินค้าพ้นื เมือง การรวมกลุ่มทอผ้าพนื้ เมือง
3. การผลติ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม หรอื SMEs
SMEs (Small and Medium Enterprise) เปน็ กจิ การท่ี
ดำเนนิ การผลิตหรือบรกิ ารในชุมชนท่เี หมาะกบั แนวคดิ เศรษฐกจิ
พอเพยี ง คือ
ข้ันท่ี 1 การผลิตแบบพ่ึงพาตนเอง ไมเ่ ปน็ หน้ี มีเงนิ ออม
ข้นั ท่ี 2 รวมตวั เป็นกลุม่ เปน็ สหกรณ์ องคก์ รชมุ ชน ช่วยเหลือกัน
ขั้นท่ี 3 เชื่อมโยงกับการทำธุรกจิ โดยสร้างเครือข่ายวสิ าหกิจ รว่ มมอื
กับองค์กรอ่นื ๆ ภายในประเทศ เช่น บรษิ ัทขนาดใหญ่ ธนาคาร
เช่น การผลติ เคร่อื งประดับสง่ ออก การทำขนมอบแหง้ ส่งออก ฯลฯ
ใบกจิ กรรมท่ี 3.4
คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นสรุปปญั หาของการผลิตสนิ ค้าและบริการในทอ้ งถน่ิ ในรูปแบบของแผนผังความคิด
1. ………………………………………… 2. ………………………………………… 3. …………………………………………
…………………………………………… …………………………………………… ……………………………………………
….. ….. …..
ปญั หาของการ
ผลิตสนิ คา้ และ
บริการในท้องถิ่น
4. ………………………………………… 5. ………………………………………… 6. …………………………………………
…………………………………………… …………………………………………… ……………………………………………
….. ….. …..
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 3.4
คำชแี้ จง ให้นักเรียนสรปุ ปญั หาของการผลติ สินคา้ และบริการในท้องถน่ิ ในรูปแบบของแผนผังความคดิ
1. การขาดแคลนเงนิ ทุน 2. ขาดบุคลากรที่มคี วามรู้ 3. ร้านค้าปลีกขนาดใหญเ่ ข้ามา
ความสามารถในการผลิต เปิดกิจการในทอ้ งถ่นิ
สินค้าและบริการในท้องถิ่น การผลิตสินค้าในท้องถิ่นส่วน มที ัง้ หา้ งค้าปลกี ขนาดใหญ่ของ
เป็นการรวมกลุ่มขนาดเล็ก ๆ ใหญ่เป็นการผลิตแบบดั้งเดิม ชาวต่างชาติและรา้ นสะดวกซื้อ
มีเงินทุนน้อย ขาดความ คือสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ได้มี ทเ่ี ปิด 24 ช่ัวโมง มีการจัดรา้ น
เชื่อมั่นในการกู้เงินมาลงทุน การนำกรรมวิธีใหม่ ๆ มาใช้ สวยงาม คนท้องถิน่ ให้ความ
ตอ่ ยอดธรุ กิจ ทำใหไ้ ด้ผลผลิตจำนวนน้อย สนใจไปใช้บรกิ าร
ปญั หาของการ
ผลติ สนิ คา้ และ
บรกิ ารในท้องถ่ิน
4. มีการใช้เทคโนโลยีใน 5. ช่องทางของตลาดมีน้อย 6. ขาดการช่วยเหลือและ
การผลิตนอ้ ย สนบั สนุนจากรฐั บาล
เนื่องจากการผลิตส่วนใหญ่จะ
การผลิตในท้องถิ่นเป็นธุรกิจ จำกัดอยู่ในท้องถิ่น ไม่มี รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้
ขนาดเล็ก มีเงินทุนน้อย ขาด เครือข่ายตลาดภายนอก ขาด อย่างทั่วถึง งบประมาณที่ใช้
แคลนบุคลากรที่มีความรู้ทาง ผู้มีความรู้ในการวางแผน ในการสนับสนุนมีจำกัด
เทคโ นโ ลยี ประกอบกั บ การตลาด การประชาสมั พนั ธ์
เครื่องจักรราคาแพง จึงมี
เงินทุนไมเ่ พียงพอ
ระดับคุณภาพ 1 ที่ ชอ่ื - สกุล
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ 0 คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่งึ ตำ่ กว่า 0 คะแนน ดีเย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนง่ึ ต่ำกวา่ 2 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์การตัดสนิ เป็นประจำ (3) 1. มคี วามตงั้ ใจและเอาใจใส่ใน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้
บางค3รั้ง (2) การเรียนรู้ รายการประเมนิ
2 น้อย (1)
เปน็ ประจำ (3) 2. สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการ
บางครั้ง (2) เรยี นรู้ตา่ ง ๆ
นอ้ ย (1) 3. มคี วามกระตอื รือร้นในการ
เป็นประจำ (3) ทำงานและการเรยี นรู้
บางครงั้ (2)
4. ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก
นอ้ ย (1) แหลง่ ตา่ ง ๆ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ ง
เปน็ ประจำ (3) เหมาะสม
บางครง้ั (2)
น้อย (1)
เป็นประจำ (3) 5. สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้
บางครงั้ (2) วเิ คราะห์ ขอ้ มลู จากสิ่งท่เี รยี นรู้
น้อย (1) สรปุ เป็น องค์ความรู้
รวมคะแนน (15 คะแนน)
ผ่าน สรุป
ไมผ่ ่าน