The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรวิทย์-ม.ปลาย (ปรับปรุง 2566 )

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pinyo1154, 2023-07-25 19:16:22

หลักสูตรวิทย์-ม.ปลาย (ปรับปรุง 2566)

หลักสูตรวิทย์-ม.ปลาย (ปรับปรุง 2566 )

Keywords: หลักสูตร

248 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว32223 รายวิชาเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 กรด – เบส ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินส เตด–ลาวรี เมื่อกรดหรือเบส ละลายน้ำหรือทำปฏิกิริยากับสาร อื่น จะมีการถ่ายโอนโปรตอน ระหว่างสารตั้งต้นที่เป็นกรดและ เบส เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็น โมเลกุลหรือไอออนที่เป็นคู่กรดเบสของสารตั้งต้นนั้น โดยสารที่ เป็นคู่กรด-เบสกันจะมีโปรตอน ต่างกัน ๑ โปรตอน กรดและเบส แต่ละชนิดสามารถแตกตัวในน้ำ ได้แตกต่างกัน กรดแก่หรือเบสแก่ สามารถแตกตัวเป็นไอออนในน้ำ ได้เกือบสมบูรณ์ ส่วนกรดอ่อน หรือเบสอ่อนแตกตัวเป็นไอออน ได้น้อย 27 35 2 เคมีไฟฟ้า ข้อ10 ข้อ11 ข้อ12 ข้อ13 ข้อ14 ข้อ15 ข้อ16 ข้อ17 ข้อ18 เคมีไฟฟ้าเป็นการศึกษาเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงระหว่างพลังงาน ไฟฟ้าและการเกิดปฏิกิริยาเคมี ที่มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนแล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลข ออกซิเดชัน ซึ่งเป็นเลขที่แสดง ประจุไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าสมมติ ของอะตอมธาตุ เรียกปฏิกิริยา ชนิดนี้ว่า ปฏิกิริยารีดอกซ์ 27 35 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


249 คำอธิบายรายวิชา รหัส ว32243 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย โครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ ที่โครงกระบวนการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร การแลกเปลี่ยนแก๊สของสิ่งมีชีวิต โครงสร้างที่ใช้ในการ แลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สของมนุษย์การทำ งานของปอด เปรียบเทียบระบบหมุนเวียน เลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียนเลือด หมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือด ส่วนประกอบและหน้าที่ของน้ำ เหลือง เปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม การสร้างภูมิคุ้มกันและความผิดปกติของ ภูมิคุ้มกัน การกำจัดของเสียออกจากร่างกายของสิ่งมีชีวิต หน้าที่ของไตและความผิดปกติของไต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิต ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ ที่ไม่มีทางเดินอาหาร สัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์และสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบ สมบูรณ์ 2. สังเกต อธิบาย การกินอาหารของ ไฮดรา และพลานาเรีย 3. อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร ภายใน ระบบย่อยอาหารของมนุษย์ 4. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างที่ทำ หน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลา นาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง ปลา กบ และนก 5. สังเกต และอธิบายโครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำ นม 6. สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปลี่ยน แก๊สของ มนุษย์ 7. อธิบายการทำ งานของปอด และทดลองวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์ 8. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียน เลือดแบบ ปิด 9. สังเกตและอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือดกับความเร็วในการไหลของเลือด 10. อธิบายโครงสร้างและการทำ งานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์


250 11. สังเกตและอธิบายโครงสร้างหัวใจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำ นม ทิศทางการไหลของเลือด ผ่านหัวใจของมนุษย์และเขียนแผนผังสรุปการหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ 12. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ พลาสมา 13. อธิบายหมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือดในหมู่เลือดระบบ ABO และหมู่เลือดระบบ Rh 14. อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของน้ำ เหลือง รวมทั้งโครงสร้างและหน้าที่ ของ หลอดน้ำ เหลือง และต่อมน้ำ เหลือง 15. สืบค้นข้อมูล อธิบายและเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำ ลายสิ่งแปลกปลอมแบบ ไม่จำ เพาะและแบบจำ เพาะ 16. สืบค้นข้อมูล อธิบายและเปรียบเทียบการสร้างภูมิคุ้มกันก่อเอง และภูมิคุ้มกันรับมา 17. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำ ให้เกิดเอดส์ภูมิแพ้การสร้าง ภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง 18. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ในการกำ จัดของเสียออกจาก ร่างกาย ของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง 19. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของไต และโครงสร้างที่ใช้ลำ เลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย 20. อธิบายกลไกการทำ งานของหน่วยไตในการกำ จัดของเสียออกจากร่างกาย และเขียนแผนผัง สรุป ขั้นตอนการกำ จัดของเสียออกจากร่างกายโดยหน่วยไต 21. สืบค้นข้อมูล อธิบายและยกตัวอย่างเกี่ยวกับความผิดปกติของไตอันเนื่องมาจากโรคต่าง ๆ รวมทั้งหมด 21 ผลการเรียนรู้


251 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว32243 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 13 ระบบย่อย อาหาร ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 สัตว์มีโครงสร้างและกระบวนการใน การย่อยอาหารแตกต่าง การย่อย อาหารมีทั้งการย่อยภายนอกเซลล์ และการย่อยภายในเซลล์มนุษย์มี ทางเดินอาหารประกอบด้วย ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำ ไส้เล็ก ลำ ไส้ใหญ่และทวารหนัก กระบวนการเปลี่ยนแปลงอาหาร ประกอบด้วย การกิน การย่อยซึ่งมี การย่อยเชิงกลและ การย่อยทางเคมี 9 10 14 ระบบ หายใจ ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 สัตว์แต่ละชนิดมีโครงสร้างที่ใช้ในการ แลกเปลี่ยนแก๊สแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ กับความซับซ้อนของ โครงสร้างของ ร่างกาย สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมใช้ปอดใน การแลกเปลี่ยนแก๊ส 10 14 15 ระบบ หมุนเวียน เลือดและ ระบบน้ำ เหลือง ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 สิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนจะมี การแลกเปลี่ยนสารระหว่างเซลล์กับ สิ่งแวดล้อมโดยตรง ในขณะที่ สิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างซับซ้อนจะมี ระบบหมุนเวียนเลือดทำ หน้าที่ ลำเลียงสารไปยังส่วน ต่างๆ ของ ร่างกาย ระบบหมุนเวียนเลือดของ มนุษย์ประกอบด้วย หัวใจ หลอด เลือด และเลือด ระบบน้ำ เหลือง ประกอบด้วยน้ำ เหลือง หลอดน้ำ เหลือง และต่อมน้ำ เหลือง 12 18


252 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 16 ระบบ ภูมิคุ้มกัน ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ร่างกายจะมีกลไกการต่อต้านหรือทำ ลายสิ่งแปลกปลอมแบบ ไม่จำ เพาะ และแบบจำ เพาะในกรณีที่ระบบ ภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สามารถทำ หน้าที่ได้ซึ่งอาจเกิดจาก ความ ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันหรือการ ได้รับเชื้อไวรัสบางชนิด ก็จะส่งผลเสีย ต่อการดำ รงชีวิตหรือ อาจเสียชีวิตได้ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มี2 แบบคือ ภูมิคุ้มกันรับมาและ ภูมิคุ้มกันก่อเอง 12 14 17 ระบบ ขับถ่าย ข้อ 18 ข้อ 19 ข้อ 20 ข้อ 21 สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีโครงสร้างหรือ อวัยวะสำ หรับกำ จัดของเสีย แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการ และสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ ไตของ มนุษย์ประกอบด้วยหน่วยไตที่ทำ หน้าที่กำ จัดของเสียที่มีไนโตรเจน เป็นองค์ประกอบโดย ผ่านกลไกการ สร้างปัสสาวะไตยัง ทำ หน้าที่รักษา ดุลยภาพของน้ำ ดุลยภาพของกรดเบสในเลือด และดุลยภาพของแร่ธาตุ ในร่างกาย 10 14 รวมระหว่างภาค 54 70 สอบกลางภาค/สอบปลายภาค 3/3 70/30 รวม 60 100


253 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว32202 รายวิชาการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 จ ำนวน 40 ชั่วโมง จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาหลักการความเป็นมาของภาษาคอมพิวเตอร์ โครงสร้างภาษาคอมพิวเตอร์ลักษณะเด่นและด้อย ของภาษาคอมพิวเตอร์ ประเภทของข้อมูล และขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องมือ ผังงาน (Flowchart) การออกแบบโปรแกรม องค์ประกอบของคำสั่ง การคำนวณและเปรียบเทียบ ขั้นตอนการทำงาน ของโอเปอเรชั่นคำนวณ คำสั่งต่าง ๆ ในภาษาคอมพิวเตอร์ ฟังก์ชันเบื้องต้น การเขียนโปรแกรมงานต่าง ๆ โดย ใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ปฏิบัติ การเขียนผังงาน (Flowchart) และการพัฒนาโปรแกรมตามขั้นตอน 5 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การทดสอบโปรแกรม และการจัดทำเอกสาร ประกอบด้วย ภาษาใดภาษาหนึ่งกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างงานอย่างมีความรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ นำความรู้และทักษะจากการปฏิบัติไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์ได้ 2. บอกลักษณะเด่นและด้อยของภาษาคอมพิวเตอร์แต่ละประเภทได้ 3. บอกขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมตามขั้นตอนได้ 4. อธิบายการเขียนแผนผังงาน (Flowchart) ได้ 5. สามารถเลือกเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ได้ 6. มีทักษะในการใช้คำสั่ง กระบวนการเขียนโปรแกรมตามขั้นตอนได้ 7. ออกแบบโปรแกรมขนาดเล็กได้ 8. สามารถสร้างชิ้นงานอย่างมีความรับผิดชอบ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีจิตสำนึก


254 โครงสร้ำงรำยวิชำ รหัสวิชา ว32202 รายวิชาการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 จ ำนวน 40 ชั่วโมง จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 1 ความรู้ เบื้องต้น เกี่ยวกับ โปรแกรม ภาษา ข้อ 1. ข้อ2. ภาษาคอมพิวเตอร์หมายถึง ภาษาใดๆ ที่ผู้ใช้งานใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ด้วยกัน แล้ว คอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่ง นั้นได้ คำนี้มักใช้เรียกแทนภาษา โปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถแบ่ง ออกเป็นสองกลุ่มคือ ภาษาระดับสูง (high level) และภาษาระดับต่ำ (low level) 10 20 2 ขั้นตอนการ พัฒนา โปรแกรม ข้อ3. ข้อ4. ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม ประกอบด้วย 1. การวิเคราะห์ปัญหา 2. การออกแบบโปรแกรม 3. การเขียนโปรแกรมด้วย ภาษาคอมพิวเตอร์ 4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม 5. การทำเอกสารประกอบโปรแกรม 6. การบำรุงรักษาโปรแกรม 10 20 3 การเขียน โปรแกรม ข้อ 5. ข้อ 6. การเขียนโปรแกรมมีทั้งหมด 8 ตอน 1. พื้นฐานโปรแกรมภาษา C (Introduction to C Programming) 2. การเขียนโปรแกรมทางเลือก (Selection Structures) 10 20


255 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 3. การเขียนโปรแกรมแบบ วนซ้ำ (Repetition & Loop) 4. ฟังก์ชัน และการเขียนโปรแกรมแยก เป็นโมดูล (Functions & Modular Programming) 5. ตารางอาเรย์ (Arrays) 6. ตัวแปรพอยเตอร์ (Pointers) 7. ตัวแปรสตริง (String) 8. โครงสร้างสตักเจอร์ (Structure) 4 การสร้าง ชิ้นงาน ข้อ8. -เขียนโปรแกรม หาพื้นที่สี่เหลียม สามเหลี่ยม, และหาสูตรคูณ 6 10 รวมระหว่างภาค 36 70 สอบกลางภาค/สอบปลายภาค 2/2 70/30 รวม 40 100


256 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา I32282 รายวิชา การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์ จากรายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้าและ สร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก โดย เขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการเป็นภาษาไทยเป็นความยาว จำนวน 4,000 คำ หรือเป็นภาษาอังกฤษ ความยาว 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย ทั้งใน ประเทศ และต่างประเทศ เรียบเรียงและถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการ นำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย และมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียน รายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและ ถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ นำความรู้และทักษะจากการปฏิบัติไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง 2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 4,000 คำ หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คำ 3. นำเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว หรือกลุ่ม โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่ หลากหลาย 4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนา หรือการวิพากษ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ แก่สาธารณะ รวม 5 ผลการเรียนรู้


257 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา I32282 รายวิชา การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน 1 วางโครงร่าง การเขียนงาน เชิงวิชาการ 1 -วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบ -.วิธีการเขียนโครงร่าง 6 30 2 เขียนรายงาน การศึกษา ค้นคว้าเชิง วิชาการ 2 -เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิง วิชาการภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ 20 40 3 เผยแพร่ ผลงานสู่ สาธารณะ 3 4 5 -นำเสนอข้อค้นพบ -การเลือกใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย -เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ -ถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ 10 30 รวมเวลาเรียน 36 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 2/2 80/20 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


258 ค ำอธิบำยรำยวิชำ รหัสวิชำ ว32205 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ ไฟฟ้าสถิต ปรากฏการณ์ธรรมชาติของไฟฟ้า ประจุไฟฟ้า กฎการอน ุรักษ์ การเหนี่ยวน าไฟฟ้า แรงระหว่างประจุและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า เส้นแรงไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ และความจุ การน าความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าสถิตไปใช้ประโยชน์ กระแสไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า และความต่างศักย์พลังงานในวงจรไฟฟ้า การต่อตัวต้านทานและแบตเตอรี่ การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง เบื้องต้น เครื่องวัดไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก การประยุกต์ความสัมพันธ์ ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวน าและแรงเคลื่อนที่ไฟฟ้าเหนี่ยวน ามอเตอร์และ เครื่องก าเนิดไฟฟ้า หม้อแปลง ค่าของปริมาณที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับ ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ และ ตัวเหนี ่ยวน าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ก าลังไฟฟ้าในวงจรกระแสสลับ การค านวณหาพลังงานไฟฟ้าของ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน วงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การส ารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถน าเสนอ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค ่าของการน าไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจมีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและน าความ รูไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืนมีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรมและคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการสื ่อสารสองภาษาล ้าหน้าทางความคิดผลิตงานอย ่าง สร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ รหัสตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ ว 6.3 ม.5/1, ว 6.3 ม.5/2, ว 6.3 ม.5/3, ว 6.3 ม.5/4, ว 6.3 ม.5/5, ว 6.3 ม.5/6, ว 6.3 ม.5/7, ว 6.3 ม.5/8, ว 6.3 ม.5/9, ว 6.3 ม.5/10, ว 6.3 ม.5/11 รวมทั้งหมด 11 ตัวชี้วัด ผลกำรเรียนรู้ 1. ทดลองและอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการเหนี่ยว นาไฟฟ้าสถิต 2. อธิบายและค านวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคูลอมบ์ 3. อธิบายและค านวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่กระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ในสนามไฟฟ้า รวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนื่องจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์


259 4. อธิบายและค านวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสองต าแหน่งใดๆ 5. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์และความจุ ของตัวเก็บประจุและอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุและความจุสมมูล รวมทั้งค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง 6. น าความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และปรากฏการณ์ใน ชีวิตประจ าวัน 7. อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน อิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวน า ความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน ากับความเร็วลอยเลื่อนของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนในลวดตัว นาและพื้นที่หน้าตัดของลวดตัวนา และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 8. อธิบายกฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พื้นที่หน้าตัด และสภาพ ต้านทานของตัวนาโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอธิบายและค านวณ ความต้านทานสมมูลเมื่อน าตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน 9. ทดลอง อธิบายและค านวณอีเอ็มเอฟของแหล่งก าเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและค านวณ พลังงานไฟฟ้า และก าลังไฟฟ้า 10. ทดลองและค านวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซึ่งประกอบด้วยแบตเตอรี่และตัวต้านทาน 11. อธิบายการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า


260 โครงสร้ำงรำยวิชำ รหัสวิชำ ว32205 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียน มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน 1 ไฟฟ้าสถิต ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ข้อที่ 6 - ทดลองและอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทาง ไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการ เหนี่ยวนาไฟฟ้าสถิต - อธิบายและค านวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคู ลอมบ์ - อธิบายและค านวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่ กระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ใน สนามไฟฟ้า รวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนื่องจาก ระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ - อธิบายและค านวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสอง ต าแหน่งใด ๆ - อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์ และความจุของตัวเก็บประจุและอธิบายพลังงาน สะสมในตัวเก็บประจุและความจุสมมูล รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง - น าความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทา งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวัน 30 40 2 ไฟฟ้า กระแส ข้อที่ 7 ข้อที่ 8 ข้อที่ 9 ข้อที่ 10 ข้อที่ 11 - อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน อิสระและ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน า ความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน ากับความเร็วลอยเลื่อน ของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของ อิเล็กตรอนในลวดตัวนาและพื้นที่หน้าตัดของ ลวดตัวนา และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 30 40


261 หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียน มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน - อธิบายกฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต้านทานกับความยาว พื้นที่หน้าตัด และ สภาพต้านทานของตัวนาโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง อธิบายและค านวณความต้านทานสมมูลเมื่อน า ตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน - ทดลอง อธิบายและค านวณอีเอ็มเอฟของ แหล่งก าเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและ ค านวณพลังงานไฟฟ้า และก าลังไฟฟ้า - ทดลองและค านวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อ แบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวงจรไฟฟ้า กระแสตรงซึ่งประกอบด้วยแบตเตอรี่และตัว ต้านทาน - อธิบายการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงาน ไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนอง ความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า รวมเวลำเรียน 54 80 ระหว่ำงภำค/ปลำยภำค 3/3 80/20 รวม 60 100


262 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว32224 รายวิชาเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด-ลาวรี และลิวอิส คำนวณความสามารถในการแตก ตัวหรือความแรงของกรดและเบส ค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของ สารละลายกรดและเบส ศึกษาเลขออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ ตัวออกซิไดส์ ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน และครึ่งปฏิกิริยารีดักชันของปฏิกิริยารีดอกซ์ เปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ การเขียนและการดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชันและวิธีครึ่งปฏิกิริยา ศึกษาเซลล์เคมีไฟฟ้าและ การเขียนแผนภาพเซลล์ คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ ศึกษาหลักการทำงานของเซลล์ปฐมภูมิและ เซลล์ทุติยภูมิ หลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้ บริสุทธิ์และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ โดยใชกระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูล การสังเกต อภิปรายและการทดลอง เพื่อให้ เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและมีค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรู ไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร คุณธรรมจริยธรรม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 5.2 : เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการ เกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด–เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด–ลาวรี และลิวอิส 2. ระบุคู่กรด–เบสของสารตามทฤษฎีกรด–เบสของเบรินสเตด–ลาวรี 3. คำนวณและเปรียบเทียบความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส 4. คำนวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน หรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด และเบส 5. คำนวณเลขออกซิเดชันและระบุปฏิกิริยาที่เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ 6. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมทั้งเขียนครึ่ง ปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชันของปฏิกิริยารีดอกซ์


263 7. ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกสิไดส์และเขียนแสดงปฏิกิริยา รีดอกซ์ 8. ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชัน และวิธีครึ่งปฏิกิริยา 9. ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟ้า และเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์ 10. คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า และ ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น 11. อธิบายหลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิ และเซลล์ทุติยภูมิ 12. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการ ชุบโลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู้


264 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว32224 รายวิชาเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 กรด – เบส ข้อที่1 ข้อที่2 ข้อที่3 ข้อที่4 สารละลายกรด (acid solution) คือ สารละลายที่กรดละลายในน้ำ สามารถแตกตัวให้ ไฮโดรเจนไอออน (H + ) สมบัติของสารละลายกรด 1. มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำมะนาว (กรดซิตริก) 2. ทดสอบโดยการใช้กระดาษลิตมัส จะเปลี่ยนแปลงจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง 3. ทำปฏิกิริยากับโลหะได้แก๊ส ไฮโดรเจน (H2 ) 4.กรดทำปฏิกิริยากับสารประกอบ คาร์บอเนตได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) เสมอ 5. สารละลายกรดสามารถนำไฟฟ้าได้ 6. ทำปฏิกิริยากับเบสได้เกลือและน้ำ กรดแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. กรดอินทรีย์เป็นกรดที่ได้จากสิ่งมีชีวิต มักพบในพืชหรือสัตว์ เพราะมีต้น กำเนิดมาจากสิ่งมีชีวิตนั่นเอง 2. กรดอนินทรีย์ (กรดแร่ธาตุ) เป็นกรดที่ เกิดจากแร่ธาตุ ไม่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต ดังนั้นอำนาจการกัดกร่อนจึงสูงกว่า กรดอินทรีย์ สารละลายเบส (base solution) คือ สารละลายที่เบสละลายในน้ำ สามารถแตกตัวให้ไฮดรอกไซด์ไอออน (OH- ) เมื่อละลายน้ำ 16 30


265 หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 4. ทำปฏิกิริยากับเกลือแอมโมเนีย (NH4Y) Y = ธาตุโลหะ เช่น คลอรีน (Cl) ได้เป็นแอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl) จะได้น้ำและแอมโมเนีย (NH3 ) เป็นผลิตภัณฑ์เสมอ 5. ไม่ทำปฏิกิริยากับโลหะ ยกเว้น อะลูมิเนียม (Al) ที่เมื่อทำปฏิกิริยาแล้ว จะได้แก๊สไฮโดรเจน (H2 ) 6. ผสมกับน้ำมันหรือไขมัน จะได้สบู่ และกลีเซอรอล เรียกปฏิกิริยานี้ว่า ปฏิกิริยาการเกิดสบู่ (saponification reaction) 7. สารละลายเบสนำไฟฟ้าได้ 8. ทำปฏิกิริยากับกรดได้เกลือและน้ำ 2 เคมีไฟฟ้า ข้อที่ 5 ข้อที่6 ข้อที่7 ข้อที่ 8 ข้อที่9 ข้อที่ 10 ข้อที่11 ข้อที่12 ปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นปฏิกิริยาที่ อะตอมของธาตุหรือไอออนเสีย อิเล็กตรอนแล้วเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น ส่วนปฏิกิริยารีดักชันเป็นปฏิกิริยาที่ อะตอมของธาตุหรือไอออนรับ อิเล็กตรอนแล้วเลขออกซิเดชันลดลง ธาตุหรือไอออนที่เสียอิเล็กตรอนแล้วมี เลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น เรียกว่า ตัวรีดิวซ์ ส่วนธาตุหรือไอออนที่รับ อิเล็กตรอนแล้วมีเลขออกซิเดชันลดลง เรียกว่า ตัวออกซิไดส์ เซลล์ไฟฟ้าเคมีจำแนกเป็น 2 ประเภทคือเซลล์กัลป์วานิก และ เซลล์อิเล็กโทรไลต์ 20 40 รวมเวลาเรียน 36 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 2/2 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 40 100


266 คำอธิบายรายวิชา รหัส ว32244 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ การหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนา สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสาร สองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้าง และกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มี ทางเดินอาหาร สัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์และสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ 2. สังเกตอธิบาย การกินอาหารของไฮดราและพลานาเรีย 3. อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้าง หน้าที่กระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร ภายในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ 4. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง ปลา กบ และนก 5. สังเกต และอธิบายโครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม 6. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊ส และกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ของมนุษย์ 7. อธิบายการทำงานของปอดและทดลองวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์ 8. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียน เลือดแบบปิด 9. สังเกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลือด และการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรปุความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือด กับความเร็วในการไหลของเลือด 10. อธิบายโครงสร้างและการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ 11. สังเกตและอธิบายโครงสร้างหัวใจของสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ทิศทางการไหลของเลือด ผ่านหัวใจของมนุษย์ และเขียนแผนผังสรุปการหมุนเวียนเลือดของมนุษย์


267 12. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ พลาสมา 13. อธิบายหมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือด ในระบบ ABO และระบบ Rh 14. อธิบายและสรุปเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของน้ำเหลือง รวมทั้งโครงสร้างและหน้าที่ ของหลอดน้ำเหลืองและต่อมน้ำเหลือง 15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่ จำเพาะและแบบจำเพาะ 16. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบการสร้างภูมิคุ้มกันก่อเองและภูมิคุ้มกันรับมา 17. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้เกิดเอดส์ภูมิแพ้ การสร้างภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง 18. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบ โครงสร้างและหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจาก ร่างกายของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง 19. อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของไต และโครงสร้างที่ใช้ลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย 20. อธิบายกลไกการทำงานของหน่วยไตในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และเขียนแผนผังสรุป ขั้นตอนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายโดยหน่วยไต 21. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างเกี่ยวกับความผิดปกติของไตอันเนื่องมาจากโรคต่างๆ รวมทั้งหมด 21 ผลการเรียนรู้


268 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว32244 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 13 การย่อย อาหารของ สัตว์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 รา มีการปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยอาหาร นอกเซลล์ ส่วนอะมีบาและพารามีเซียมมี การย่อยอาหารภายในฟูดแวคิวโอลโดย เอนไซม์ในไลโซโซม ฟองน้ำไม่มีทางเดิน อาหาร ไฮดราและพลานาเรียมีทางเดิน อาหารแบบไม่สมบูรณ์จะกินอาหารและขับ กากอาหารออกทางเดียวกัน ไส้เดือนดิน แมลง สัตวไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่และ สัตว์มีกระดูกสันหลังจะมีทางเดินอาหาร แบบสมบูรณ์ 8 15 14 ระบบ หายใจ ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ไส้เดือนดินมีการแลกเปลี่ยนแก๊สผ่านเซลล์ บริเวณผิวหนังที่เปียกชื้น แมลงมีการ แลกเปลี่ยนแก๊สโดยผ่านทางท่อลม ปลาเป็น สัตว์น้ำมีการแลกเปลี่ยนแก๊สที่ละลายอยู่ใน น้ำผ่านเหงือก สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกใช้ ปอดและผิวหนังในการแลกเปลี่ยนแก๊ส สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยน้ำนมอาศัยปอดในการแลกเปลี่ยนแก๊ส ระหว่างถุงลมกับหลอดเลือดฝอย และ บริเวณเซลล์ของเนื้อเยื่อต่างๆ 8 15 15 ระบบ หมุนเวียน เลือดและ ระบบ น้ำเหลือง ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและสัตว์ที่มีโครงสร้าง ร่างกายไม่ซับซ้อนมีการลำเลียงสารต่างๆ โดยการแพร่ระหว่างเซลล์กับสิ่งแวดล้อม สัตว์ที่มีโครงสร้างร่างกายซับซ้อนจะมีการ ลำเลียงสารโดยระบบหมุนเวียนเลือด ซึ่ง ประกอบด้วยหัวใจ หลอดเลือด และเลือด 9 15


269 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน ระบบหมุนเวียนเลือดมี 2 แบบคือ ระบบหมนุเวียนเลือดแบบเปิด และระบบ หมุนเวียนเลือดแบบปิด หมู่เลือดของมนุษย์ จำแนกตามระบบ ABO ไดเ้ป็นเลือดหมู่ A, B, AB และ O ระบบน้ำเหลือง ประกอบด้วยน้ำเหลือง หลอดน้ำเหลืองและ ต่อมน้ำเหลือง โดยทำหน้าที่นำน้ำเหลือง กลับเข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือด 16 ระบบ ภูมิคุ้มกัน ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 กลไกที่ร่างกายต่อต้านหรือทำลายสิ่ง แปลกปลอม มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบจำเพาะ และแบบไม่จำเพาะ ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ ที่ผิวหนังช่วยป้องกันและยับยั้งการเจริญ ของจุลินทรีย์บางชนิด 5 10 17 ระบบ ขับถ่าย ข้อ 18 ข้อ 19 ข้อ 20 ข้อ 21 อะมีบาและพารามีเซียมเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์ เดียว ที่มีคอนแทรกไทล์แวคิวโอลทำหน้าที่ ในการกำจัดและรักษาดุลยภาพของน้ำและ แร่ธาตุในเซลล์ ฟองน้ำและไฮดรามีเซลล์ ส่วนใหญ่สัมผัสกับน้ำโดยตรง ของเสียจึงถูก กำจัดออกโดยการแพร่สู่สภาพแวดล้อม พลานาเรียใช้เฟลมเซลล์ซึ่งกระจายอยู่ 2 ข้าง ตลอดความยาวของลำตัวทำหน้าที่ ขับถ่ายของเสีย ไส้เดือนดินใช้เนฟริเดียม แมลงใช้มัลพิเกียนทิวบูล และสัตว์มีกระดูก สันหลังใช้ไตในการขับถ่ายของเสีย 6 15 36 70 2/2 20/30 40 100


270 ค ำอธิบำยรำยวิชำ รหัสวิชำ ว32206 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่5 เวลำ 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ ไฟฟ้าสถิต ปรากฏการณ์ธรรมชาติของไฟฟ้า ประจุไฟฟ้า กฎการอนุรักษ์ ประจุไฟฟ้า การเหนี่ยวน าไฟฟ้า แรงระหว่างประจุและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า เส้นแรงไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ และความจุการน าความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าสถิตไปใช้ประโยชน์กระแสไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้า และความต่างศักย์ พลังงานในวงจรไฟฟ้า การต่อตัวต้านทานและแบตเตอรี่การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้า กระแสตรงเบื้องต้น เครื่องวัดไฟฟ้า ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก การประยุกต์ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวน าและแรงเคลื่อนที่ไฟฟ้าเหนี่ยวน า มอเตอร์และเครื่องก าเนิดไฟฟ้า หม้อแปลง ค่าของปริมาณ ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับ ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวน าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ก าลังไฟฟ้าในวงจรกระแสสลับ การค านวณหา พลังงานไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน วงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้การส ารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถน าเสนอ สื่อสาร สิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจมีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและน าความรู ไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรมและคานิยม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล ้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง สร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการ เรียนรู้ รหัสตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ ว 6.3 ม.5/1, ว 6.3 ม.5/2, ว 6.3 ม.5/3, ว 6.3 ม.5/4, ว 6.3 ม.5/5, ว 6.3 ม.5/6, ว 6.3 ม.5/7, ว 6.3 ม.5/8, ว 6.3 ม.5/9, ว 6.3 ม.5/10, ว 6.3 ม.5/11 รวมทั้งหมด 1 ตัวชี้วัด ผลกำรเรียนรู้ 1. ทดลองและอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการเหนี่ยว นาไฟฟ้าสถิต 2. อธิบายและค านวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคูลอมบ์


271 3. อธิบายและค านวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่กระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ในสนามไฟฟ้า รวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนื่องจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ 4. อธิบายและค านวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสองต าแหน่งใดๆ 5. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์และความจุ ของตัวเก็บประจุและอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุและความจุสมมูล รวมทั้งค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง 6. น าความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และปรากฏการณ์ใน ชีวิตประจ าวัน 7. อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน อิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวน า ความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน ากับความเร็วลอยเลื่อนของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนในลวดตัว นาและพื้นที่หน้าตัดของลวดตัวนา และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 8. อธิบายกฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พื้นที่หน้าตัด และสภาพ ต้านทานของตัวนาโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอธิบายและค านวณ ความต้านทานสมมูลเมื่อน าตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน 9. ทดลอง อธิบายและค านวณอีเอ็มเอฟของแหล่งก าเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและค านวณ พลังงานไฟฟ้า และก าลังไฟฟ้า 10. ทดลองและค านวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซึ่งประกอบด้วยแบตเตอรี่และตัวต้านทาน 11. อธิบายการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า


272 โครงสร้ำงรำยวิชำ รหัสวิชำ ว32206 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีชั้น มัธยมศึกษำปีที่5 เวลำ 40 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.0 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียน มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน 1 ไฟฟ้าสถิต ข้อที่1 ข้อที่2 ข้อที่3 ข้อที่4 ข้อที่5 ข้อที่6 - ทดลองและอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทาง ไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสีกันและการ เหนี่ยวนาไฟฟ้าสถิต - อธิบายและค านวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคู ลอมบ์ - อธิบายและค านวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าที่ กระทากับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ใน สนามไฟฟ้า รวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนื่องจาก ระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ - อธิบายและค านวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสอง ต าแหน่งใด ๆ - อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์ และความจุของตัวเก็บประจุและอธิบายพลังงาน สะสมในตัวเก็บประจุและความจุสมมูล รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง - น าความรู้เรื่องไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทา งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และ ปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวัน 20 40 2 ไฟฟ้า กระแส ข้อที่7 ข้อที่8 ข้อที่9 ข้อที่10 ข้อที่11 - อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน อิสระและ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน า ความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวน ากับความเร็วลอยเลื่อน ของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของ อิเล็กตรอนในลวดตัวนาและพื้นที่หน้าตัดของ ลวดตัวนา และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 20 40


273 หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียน มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน - อธิบายกฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต้านทานกับความยาว พื้นที่หน้าตัด และ สภาพต้านทานของตัวนาโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง อธิบายและค านวณความต้านทานสมมูลเมื่อน า ตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนาน - ทดลอง อธิบายและค านวณอีเอ็มเอฟของ แหล่งก าเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและ ค านวณพลังงานไฟฟ้า และก าลังไฟฟ้า - ทดลองและค านวณอีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อ แบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนาน รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวงจรไฟฟ้า กระแสตรงซึ่งประกอบด้วยแบตเตอรี่และตัว ต้านทาน - อธิบายการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงาน ไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนอง ความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า รวมเวลำเรียน 36 80 ระหว่ำงภำค/ปลำยภำค 2/2 80/20 รวม 40 100


274 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว32209 รายวิชาการคิดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการแก้ปัญหา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์สมบัติของของไหล ความหนาแน่น ความดัน ความตึงผิวและความหนืด พฤติกรรม ของของไหลทั้งที่อยู่นิ่งและเคลื่อนที่ กฎของพาสคัลและระบบไฮดรอลิก ประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง กฎของพาส คัลและระบบไฮดรอลิกเพื่อออกแบบและประดิษฐ์แขนกลไฮดรอลิก โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการการออกแบบเชิงวิศวกรรม การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นและอธิบายสมบัติของของไหล ความหนาแน่น ความดัน ความตึงผิวและความหนืดของ ของไหล 2. ศึกษาและอธิบายพฤติกรรมของของไหลทั้งที่อยู่นิ่งและเคลื่อนที่ 3. สืบค้นและอธิบายกฎของพาสคัลและระบบไฮดรอลิก 4. สืบค้นและประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง กฎของพาสคัลและระบบไฮดรอลิกเพื่อออกแบบแขนกล ไฮดรอลิก 5. ออกแบบและสร้าง Prototype หรือชิ้นงานต้นแบบ เพื่อนำไปทดสอบในการทำภารกิจตาม สถานการณ์ที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้


275 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว32209 รายวิชาการคิดเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการแก้ปัญหา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ของไหล ข้อที่1 ข้อที่2 - สืบค้นและอธิบายสมบัติของของไหลได้แก่ ความหนาแน่น ความดัน ความตึงผิวและความหนืด พฤติกรรมของของไหลทั้งที่อยู่นิ่งและเคลื่อนที่ อธิบายได้ด้วยหลักและกฎทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้อง 5 25 2 กฎของพาส คัลและ ไฮดรอลิก ข้อที่3 ข้อที่4 - สืบค้นและอธิบายกฎของปาสคัลเพื่อใช้อธิบาย เกี่ยวกับการส่งต่อความดันในของไหล มีหลักการว่า ถ้าเพิ่มความดันให้กับของไหล ที่บรรจุในภาชนะปิด ณ จุดใด ความดันนั้นจะส่งกระจายกันต่อไปทำให้ ทุก ๆ ส่วนของของไหลได้รับความดันที่เพิ่มขึ้น (Increased Pressure) เท่ากันหมด 5 25 3 การ ออกแบบเชิง วิศวกรรม แขนกล ไฮดรอลิก กู้ภัยพิบัติ ข้อที่5 - ออกแบบและประดิษฐ์แขนกลไฮดรอลิก โดยการ ประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง กฎของพาสคัลและ ไฮดรอลิกและสร้าง Prototype หรือชิ้นงานต้นแบบ เพื่อนำไปทดสอบในการทำภารกิจตามสถานการณ์ที่ ได้รับมอบหมาย 10 30 รวมเวลาเรียน 18 80 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 80/20 รวม 20 100


276 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว32245 รายวิชาชีวเคมีของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาหลักการทางชีวเคมี โครงสร้างและหน้าที่ของสารชีวโมเลกุลชนิดต่าง ๆ ในสิ่งมีชีวิต เช่น คาร์โบไฮเดรต ลิพิด โปรตีน และสารพันธุกรรม เช่น ดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ การเปลี่ยนแปลงพลังงานภายใน เซลล์ การสร้างและสลายสารชีวโมเลกุลภายในเซลล์ โดยกระบวนการเมแทบอลิซึม ไปถึงเทคโนโลยีด้าน ชีววิทยาโมเลกุล (molecular biology) และประยุกต์ใช้ในระดับอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ผู้เรียนมี ฐานความรู้สู่ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยใชกระบวนการสืบเสาะหาความรูการสืบคนขอมูล การสังเกต อภิปรายและการทดลอง เพื่อให้ เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและมีค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความรู ไปใชในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร คุณธรรมจริยธรรม เป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความสำคัญของสารชีวโมเลกุลในสิ่งมีชีวิต 2. ระบุและอธิบายกระบวนการสังเคราะห์และบทบาทหน้าที่ของเอนไซม์ในสิ่งมีชีวิต 3. อธิบายกระบวนการเมตาบอลิซึมของสารชีวโมเลกุล 4. อธิบายกระบวนการควบคุมเมตาบอลิซึมของสารชีวโมเลกุล 5. อธิบายเทคโนโลยีด้านชีววิทยาโมเลกุล (molecular biology) เทคโนโลยีอุตสาหกรรมด้านชีวภาพ ที่สำคัญในปัจจุบัน และประยุกต์ใช้ในระดับอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ผู้เรียนมีฐานความรู้สู่ประยุกต์ใช้ใน การดำเนินชีวิตและทางการแพทย์ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้


277 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว32245 รายวิชาชีวเคมีของสิ่งมีชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 0.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ความสำคัญของ สารชีวโมเลกุล ในสิ่งมีชีวิต คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เอนไซม์ กรดนิวคลีอิค ข้อที่1 ข้อที่2 ข้อที่3 ชีวเคมีเป็นวิชาที่ศึกษาถึงส่วนประกอบ ทางเคมีและกระบวนการต่าง ๆ ของ สิ่งมีชีวิตในระดับโมเลกุล แบ่ง การศึกษาออกเป็น 2 ระดับ คือ - ระดับโมเลกุล ศึกษาถึงธรรมชาติและ องค์ประกอบทางเคมีในสิ่งมีชีวิต ได้แก่ การศึกษาการสังเคราะห์โมเลกุลของ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด กรดนิวคลีอิก 12 40 2 เมตาบอลิซึม ของน้ำตาล กลูโคส กรดไขมัน กรดอะมิโน กรดนิวคลีอิค ข้อที่4 - ระดับเมแทบอลิซึม ศึกษาถึงการ เปลี่ยนแปลงชีวโมเลกุลต่าง ๆ โดยมี เอนไซม์เป็นตัวเร่ง การเปลี่ยนแปลง พลังงานที่เกิดจากการแปรรูปทางเคมี ซึ่งเรียกว่า “เมแทบอลิซึม”และการ รักษาสมดุลต่าง ๆ ของร่างกาย 2 20 3 เทคโนโลยีด้าน ชีววิทยาโมเลกุล ข้อที่5 - เทคโนโลยีด้านชีวเคมีโมเลกุลและ การประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ 2 10 รวมเวลาเรียน 16 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 2/2 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


278 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว33204 รายวิชาฟิสิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก การประยุกต์ความสัมพันธ์ ระหว่างกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำและแรงเคลื่อนที่ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ มอเตอร์และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หม้อแปลง ค่าของปริมาณ ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับ ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ และ ตัวเหนี่ยวนำในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ กำลังไฟฟ้าในวงจรกระแสสลับ การคำนวณหาพลังงานไฟฟ้าของ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน วงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย ศึกษาการเกิดคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประโยชน์และโทษที่เกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิดความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจมีความสามารถในการตัดสินใจสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนําความ รูไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเฝาระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรมและคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการสื่อสารสองภาษาล้ำหน้า ทางความคิดผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1.สังเกตและอธิบายเส้นสนามแม่เหล็ก อธิบายและคำนวณฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณที่กำหนด รวมทั้ง สังเกต และอธิบายสนามแม่เหล็กที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเส้นตรง และ โซเลนอยด์ 2. อธิบายและคำนวณแรงแม่เหล็กที่กระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของการเคลื่อนที่ เมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบายแรงระหว่างเส้นลวดตัวนาคู่ขนานที่มีกระแสไฟฟ้า ผ่าน 3. อธิบายหลักการทางานของ แกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งคำนวณปริมาณ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนา กฎการเหนี่ยวนาของฟาราเดย์และคำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนาความรู้เรื่องอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนาไปอธิบายการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า 5. อธิบายและคำนวณความต่างศักย์อาร์เอ็มเอส และกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส 6. อธิบายหลักการทางานและประโยชน์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟ ของหม้อแปลง และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง


279 7. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์แสงโพลาไรส์เชิงเส้น และแผ่นโพลารอยด์รวมทั้งอธิบายการนาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการ ทางานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 8. สืบค้นและอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และ เปรียบเทียบการสื่อสารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดิจิทัล รวม 8 ผลการเรียนรู้


280 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว33204 รายวิชาฟิสิกส์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียน มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 แม่เหล็ก และไฟฟ้า ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ข้อที่ 6 เส้นสนามแม่เหล็ก ฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณที่ กำหนด สนามแม่เหล็กที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวด ตัวนำเส้นตรง และ โซเลนอยด์คำนวณแรงแม่เหล็ก ที่กระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ใน สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทาต่อเส้นลวดที่มี กระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมี ความโค้งของการเคลื่อนที่เมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉาก กับสนามแม่เหล็ก แรงระหว่างเส้นลวดตัวนำคู่ขนาน ที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน การทำงานของแกลแวนอ มิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง การเกิดอีเอ็ม เอฟเหนี่ยวนา กฎการเหนี่ยวนาของฟาราเดย์นำ ความรู้เรื่องอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนาไป การทำงานของ เครื่องใช้ไฟฟ้า ความต่างศักย์อาร์เอ็มเอสและกระแส ไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส หลักการทำงานและประโยชน์ของ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส การแปลง อีเอ็มเอฟของหม้อแปลง 52 50 2 ไฟฟ้า ข้อที่ 7 ข้อที่ 8 การเกิดและลักษณะเฉพาะของ คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์แสงโพลาไรส์เชิงเส้น และแผ่นโพลารอยด์การนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในช่วงความถี่ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการ ทำงานของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องการสื่อสารโดยอาศัย คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และ เปรียบเทียบการสื่อสารด้วยสัญญาณแอนะล็อก สัญญาณดิจิทัล 24 20 รวมระหว่างภาค 76 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 4/4 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 80 100


281 คำอธิบายรายวิชา รหัส ว33224 รายวิชาเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 60 ชั่วโมง1.5 หน่วยกิต ศึกษาสารประกอบอินทรีย์ เปรียบเทียบสารประกอบอินทรีย์กับสารประกอบอนินทรีย์ พันธะคาร์บอนในสารประกอบอินทรีย์ สูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ หมู่ฟังก์ชัน ชื่อของสารประกอบ อินทรีย์ ไอโซเมอร์ สมบัติของสารประกอบอินทรีย์ ปฏิกิริยาเคมีของสารประกอบอินทรีย์ สารประกอบอินทรีย์ ในชีวิตประจำวันการนำไปใช้ประโยชน์ พอลิเมอร์และมอนอเมอร์ ปฏิกิริยาของพอลิเมอร์ โครงสร้างและสมบัติ ของพอลิเมอร์ การปรับปรุงสมบัติของพอลิเมอร์ และการแก้ไขปัญหาขยะจากพอลิเมอร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การ วิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสำรวจตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง การอธิบายปรากฎการณ์ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสาม ที่พบ ในชีวิตประจำวัน 2. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ อินทรีย์ 3. วิเคราะห์โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟังก์ชัน 4. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน ๑ หมู่ตามระบบ IUPAC 5. เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ 6. วิเคราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและ การละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ที่มี หมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน 7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้ปฏิกิริยา กับโบรมีน หรือปฏิกิริยากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต 8. เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน 9. ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน


282 10. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและ อุตสาหกรรม 11. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ 12. วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์รวมทั้ง การนำไปใช้ประโยชน์ 13. ทดสอบ และระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ 14. อธิบายผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติของ พอลิเมอร์ 15. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และ แนวทางแก้ไข รวมทั้งหมด 15 ข้อ


283 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว33224 รายวิชาเคมี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ ความคิดรวมยอด เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 1 เคมี อินทรีย์ ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 สารประกอบอินทรีย์เป็นสารประกอบ ของคาร์บอนส่วนใหญ่พบในสิ่งมีชีวิต มีโครงสร้างหลากหลายและแบ่งได้ หลายประเภท เนื่องจากธาตุคาร์บอน สามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุ คาร์บอนด้วยพันธะเดี่ยว พันธะคู่ พันธะสาม นอกจากนี้ยังสามารถเกิด พันธะโคเวเลนต์กับธาตุอื่น ๆ ได้อีก ด้วย การนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ ประโยชน์อย่างหลากหลาสารประกอบ อินทรีย์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ นำไปใช้เป็นสารตั้งต้นและตัวทำละลาย ในอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ 34 45 2 พอลิเมอร์ ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 พอลิเมอร์เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาด ใหญ่ซึ่งประกอบด้วยหน่วยย่อยที่ เรียกว่า มอนอเมอร์ เชื่อมต่อกันด้วย พันธะโคเวเลนต์โดยมีทั้ง พอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์ สังเคราะห์ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ อาจเป็นปฏิกิริยาแบบควบแน่นหรือ ปฏิกิริยาแบบเติม โครงสร้างของมอนอ เมอร์พอลิเมอร์เป็นโครงสร้าง แบบเส้น แบบกิ่ง หรือแบบร่างแห ภาวะของ ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 2 25 รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


284 คำอธิบายรายวิชา รหัส ว33244 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษา สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาท รอบนอก การทำงานของระบบประสาทโซมาติและระบบประสาทอัตโนวัติ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะรับ สัมผัสของมนุษย์ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับ เคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต การเคลื่อนไหวและการ เคลื่อนที่ของมนุษย์ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศในสัตว์ การเจริญเติบโตระยะ เอ็มบริโอและระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไก่และมนุษย์ หน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่สร้าง ฮอร์โมน พฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ของสัตว์ ความสัมพันธ์ระหว่าง พฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบประสาท โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและ การอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถตัดสินใจนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเฝ้าระวังและพัฒนา สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนมีจิตวิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสอง ภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แมลงและสัตว์มีกระดูกสันหลัง 2. อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ประสาท 3. อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไก การถ่ายทอดกระแสประสาท 4. อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก 5. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมองส่วนหลัง และไขสันหลัง 6. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติ และระบบประสาทอัตโนวัติ 7. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หูจมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตัวอย่างโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และบอกแนวทางในการดูแลป้องกัน และรักษา 8. สังเกต และอธิบายการหาตำแหน่งของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผัสของผิวหนัง 9. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับ เคลื่อนที่ของ แมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไส้เดือนดิน แมลง ปลา และนก


285 10. สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับ การเคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่ของมนุษย์ 11. สังเกต และอธิบายการทำงานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนื้อโครง ร่างที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่ของมนุษย์ 12. สืบค้นข้อมูลอธิบายและยกตัวอย่างการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ในสัตว์ 13. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบสืบพันธุ์ เพศหญิง 14. อธิบายกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่และการปฏิสนธิในมนุษย์ 15. อธิบายการเจริญเติบโตระยะเอ็มบริโอและระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไก่และมนุษย์ 16. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อ ที่สร้างฮอร์โมน 17. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและพฤติกรรมที่ เกิดจากการเรียนรู้ของสัตว์ 18. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบ ประสาท 19. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสื่อสารระหว่างสัตว์ที่ทำให้สัตว์แสดงพฤติกรรม รวม 19 ผลการเรียนรู้


286 โครงสร้างรายวิชา รหัส ว33244 รายวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 18 ระบบ ประสาทและ อวัยวะรับ สัมผัส ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 สัตว์ส่วนใหญ่มีระบบประสาททำ ให้สามารถรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้า ได้เช่น ไฮดรา มีร่างแหประสาท พลา นาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย และแมลงมี ปมประสาทและเส้นประสาท ส่วนสัตว์มี กระดูกสันหลัง มีสมอง ไขสันหลัง ปม ประสาท และเส้นประสาทสมองแบ่ง ออกเป็น ๓ ส่วน คือ สมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง และสมองส่วนหลัง สมองแต่ละส่วนจะควบคุมการทำงาน ของร่างกายแตกต่างกัน ตา หูจมูก ลิ้น และผิวหนัง เป็นอวัยวะรับความรู้สึกที่ รับสิ่งเร้าที่แตกต่างกัน จึงมีความสำคัญ ที่ควรดูแล ป้องกัน และรักษาให้ สามารถทำงานได้เป็นปกติ 15 25 19 การเคลื่อนที่ ของสิ่งมีชีวิต ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบางชนิดเคลื่อนที่ โดยการไหลของไซโทพลาซึม บางชนิด ใช้แฟลเจลลัมหรือซิเลีย ในการเคลื่อนที่ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมงกะพรุน เคลื่อนที่โดยอาศัยการหด ตัวของเนื้อเยื่อบริเวณขอบกระดิ่งและ แรงดันน้ำสัตว์มีกระดูกสันหลัง เช่น ปลา เคลื่อนที่โดยอาศัยการหดตัวและ คลายตัวของกล้ามเนื้อมนุษย์เคลื่อนที่ โดยอาศัยการทำงานของกระดูกและ กล้ามเนื้อซึ่งยึดกันด้วยเอ็นยึดกระดูก 10 12


287 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ผล การเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 20 ต่อมไร้ท่อ ข้อ 16 ฮอร์โมนเป็นสารที่ควบคุมสมดุลต่าง ๆ ของร่างกาย โดยผลิตจากต่อมไร้ท่อ หรือเนื้อเยื่อ โดยต่อมไร้ท่อนี้จะกระจาย อยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ต่อม ไร้ท่อที่สร้างหรือหลั่งฮอร์โมน ไม่มีท่อใน การลำเลียงฮอร์โมนออกจากต่อมจึงถูก ลำเลียงโดยระบบหมุนเวียนเลือดไปยัง อวัยวะเป้าหมายที่จำเพาะเจาะจง 7 6 21 การสืบพันธุ์ และการ เจริญเติบโต ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของสัตว์ เป็นการสืบพันธุ์ที่ไม่มีการรวมของเซลล์ สืบพันธุ์เช่น การแตกหน่อและการงอก ใหม่การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของสัตว์ เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการรวม นิวเคลียสของเซลล์สืบพันธุ์ซึ่งมีทั้งการ ปฏิสนธิภายนอกและการปฏิสนธิภายใน สัตว์บางชนิดมี๒ เพศในตัวเดียวกันแต่ การผสมพันธุ์ส่วนใหญ่จะผสมข้าม ตัวการสืบพันธุ์ของมนุษย์มีกระบวนการ สร้างสเปิร์มจากเซลล์สเปอร์มาโทโก เนียมภายในอัณฑะ และกระบวนการ สร้างเซลล์ไข่จากเซลล์โอโอโกเนียม ภายในรังไข่ 12 15 22 พฤติกรรม ข้อ 17 ข้อ 18 ข้อ 19 พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการ แสดงพฤติกรรม พฤติกรรมที่เป็นมาแต่ กำเนิดแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด เช่น โอเรียนเตชัน (แทก 10 12


288 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ผล การเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน ซิสและไคนีซิส) รีเฟล็กซ์และฟิก แอกชันแพทเทิร์นพฤติกรรมที่เกิด จากการเรียนรู้แบ่งได้เป็นแฮบบิชู เอชัน การฝังใจ การเชื่อมโยง (การ ลองผิดลองถูกและการมีเงื่อนไข) และการใช้เหตุผล ระดับการแสดง พฤติกรรมที่สัตว์แต่ละชนิด แสดงออกจะแตกต่างกันซึ่งเป็นผล มาจากวิวัฒนาการของระบบ ประสาทที่แตกต่างกัน การสื่อสาร เป็นพฤติกรรมทางสังคมแบบหนึ่ง ซึ่งมีหลายวิธีเช่น การสื่อสารด้วย ท่าทางการสื่อสารด้วยเสียง การ สื่อสารด้วยสารเคมีและการสื่อสาร ด้วยการสัมผัสนักวิทยาศาสตร์ หลายท่าน รวมเวลาเรียน 54 70 ระหว่างภาค / ปลายภาค 3/3 70/30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


289 คำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว33261 รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์สมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียน ของน้ำในมหาสมุทร การเกิดเมฆ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา กับการใช้ประโยชน์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย และสรุป โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล อภิปลายและการทดลอง เพื่อให้ เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม ที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการสื่อสารสองภาษาล้ำหน้าทางความคิดผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และร่วมกัน รับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกัน และผลที่มีต่ออุณหภูมิอากาศในแต่ละบริเวณของโลก 2. อธิบายกระบวนการที่ทำให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก 3. อธิบายผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสู่ศูนย์กลาง และ แรงเสียดทานที่มีต่อการหมุนเวียนของอากาศ 4. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ 5. อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการแบ่งชั้นน้ำในมหาสมุทร 6. อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทรและรูปแบบการหมุนเวียนของน้ำ 7. อธิบายผลของการหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อม 8. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพอากาศและการเกิดเมฆ 9. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกี่ยวข้อง 10. อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลสนับสนุน 11.วิเคราะห์และอภิปรายเหตุการณ์ที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และนำเสนอ แนวปฏิบัติของมนุษย์ที่มีส่วนช่วยในการชะลอการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก 12.แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนที่อากาศ 13. วิเคราะห์และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบื้องต้นจากแผนที่อากาศและข้อมูลสารสนเทศ อื่น ๆ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้า อากาศ รวม 13 ผลการเรียนรู้


290 โครงสร้างรายวิชา รหัสวิชา ว33261 รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน 0.5 หน่วยกิต หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 1 สมดุล พลังงานของ โลก ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 -อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการรับและ คายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกัน และผลที่มีต่ออุณหภูมิอากาศในแต่ละ บริเวณของโลก -อธิบายกระบวนการที่ทำให้เกิดสมดุล พลังงานของโลก 3 10 2 การ หมุนเวียน ของอากาศ บนโลก ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 -อธิบายผลของแรงเนื่องจากความแตกต่าง ของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสู่ ศูนย์กลาง และแรงเสียดทานที่มีต่อการ หมุนเวียนของอากาศ -อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตามเขต ละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ 3 10 3 การ หมุนเวียน ของน้ำใน มหาสมุทร ข้อที่ 5 ข้อที่ 6 ข้อที่ 7 -อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการแบ่งชั้นน้ำใน มหาสมุทร -อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของ น้ำในมหาสมุทรและรูปแบบการหมุนเวียน ของน้ำในมหาสมุทร -อธิบายผลของการหมุนเวียนของน้ำใน มหาสมุทรที่มีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อม 3 15 4 การเกิดเมฆ ข้อที่ 8 ข้อที่ 9 -อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพ อากาศและการเกิดเมฆ -อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่างๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกี่ยวข้อง 3 10


291 หน่วย ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการ เรียนรู้ สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด เวลา (ชม.) น้ำหนัก คะแนน 5 การ เปลี่ยนแปล งภูมิอากาศ ข้อที่ 10 ข้อที่ 11 ข้อที่ 12 -อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อม ยกตัวอย่างข้อมูลสนับสนุน -วิเคราะห์และอภิปรายเหตุการณ์ที่เป็นผล จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และ นำเสนอ แนวปฏิบัติของมนุษย์ที่มีส่วนช่วยในการ ชะลอการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก -แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศบน แผนที่อากาศ 4 15 6 ข้อมูล สารสนเทศ ทาง อุตุนิยมวิทย ากับการใช้ ประโยชน์ ข้อที่ 13 -วิเคราะห์และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้า อากาศ เบื้องต้นจากแผนที่อากาศและข้อมูล สารสนเทศอื่น ๆ เพื่อวางแผนในการ ประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิตให้ สอดคล้องกับสภาพลมฟ้า อากาศ 2 10 รวมเวลาเรียน 18 70 ระหว่างภาค/ปลายภาค 1/1 70/30 รวม 20 100


292 ค ำอธิบำยรำยวิชำ รหัสวิชำ ว33206 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่6 เวลำ 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ศึกษาสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็ก โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระท ากับขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเมื่ออยู่ ในสนามแม่เหล็กกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวน าอีเอ็มเอฟเหนี่ยวน า ไฟฟ้ากระแสสลับ ศึกษาความร้อนแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊สของแข็งสภาพยืดหยุ่นของของแข็งความตึงผิวความหนืดของของเหลวความดันในของไหล แรงพยุงของไหลอุดมคติสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูลี โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การส ารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถน าเสนอ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการน าไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เพื่อใหเกิดความรูความคิดความเขาใจมีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทาง วิทยาศาสตร์และน าความรูไปใชในชีวิตของตนเองดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดลอมอยาง ยั่งยืนมีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรมคุณธรรมและคานิยมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล ้าหน้าทาง ความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ 1. สังเกตและอธิบายเส้นสนามแม่เหล็กอธิบายและค านวณฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณที่ก าหนดรวมทั้ง สังเกตและอธิบายสนามแม่เหล็กที่เกิดจาดกระแสไฟฟ้าในลวดตัวน าเส้นตรงและโซเลนอยด์ 2. อธิบายและค านวณแรงแม่เหล็กที่กระท าต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็กแรง แม่เหล็กที่กระท าต่อนเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็กรัศมีความโค้งของการเคลื่อนที่เมื่อ ประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กรวมทั้งอธิบายแรงระหว่างเส้นลวดตัวน าคู่ขนานที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน 3. อธิบายหลักการท างานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงรวมทั้งค านวณปริมาณ ต่างๆที่เกี่ยวข้อง 4. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวน ากฎการเหนี่ยวน าของฟาราเดย์และค านวณปริมาณ ต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้งน าความรู้เรื่องอีเอ็มเอฟเหนี่ยวน าไปอธิบายการท างานของเครื่องใช้ไฟฟ้า 5. อธิบายและค านวณความต่างศักย์อาร์เอ็มเอสและกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส 6. อธิบายหลักการท างานและประโยชน์ของเครื่องก าเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสการแปลงอีเอ็มเอฟ ของหม้อแปลงและค านวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้อง 7. อธิบายและค านวณความร้อนที่ท าให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิ ความร้อนที่ทาให้สสารเปลี่ยนสถานะ และความร้อนที่เกิดจากการถ่ายโอนตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน


293 8. อธิบายกฎของแก๊สอุดมคติและค านวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้อง 9. อธิบายแบบจ าลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และอัตราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของ แก๊ส รวมทั้งค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 10. อธิบายและค านวณงานที่ท าโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างความร้อน พลังงานภายในระบบ และงาน รวมทั้งค านวณปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และนาความรู้เรื่อง พลังงานภายในระบบไปอธิบายหลักการท างานของเครื่องใช้ในชีวิตประจ าวัน 11. อธิบายสภาพยืดหยุ่นและลักษณะการยืดและหดตัวของวัสดุที่เป็นแท่งเมื่อถูกกระท าด้วยแรงค่า ต่าง ๆ รวมทั้ง ทดลอง อธิบายและค านวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และมอดุลัสของยัง และน า ความรู้เรื่องสภาพยืดหยุ่น ไปใช้ในชีวิตประจาวัน 12. อธิบายและค านวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้งอธิบาย หลักการท างานของแมนอมิเตอร์ บารอมิเตอร์ และเครื่องอัดไฮดรอลิก 13. ทดลอง อธิบายและค านวณขนาดแรงพยุงจากของไหล 14. ทดลอง อธิบายและค านวณความตึงผิวของของเหลว รวมทั้งสังเกตและอธิบายแรงหนืดของ ของเหลว 15. อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความต่อเนื่อง และสมการแบร์นูลลี รวมทั้งค านวณ ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และน าความรู้เกี่ยวกับสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูลลีไปอธิบายหลักการ ท างานของอุปกรณ์ต่าง ๆ


294 โครงสร้ำงรำยวิชำ รหัสวิชำ ว33206 รำยวิชำ ฟิสิกส์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน 1 แม่เหล็ก และไฟฟ้า ข้อที่1 ข้อที่2 ข้อที่3 ข้อที่4 ข้อที่5 ข้อที่6 1.สังเกตและอธิบายเส้นสนามแม่เหล็ก อธิบาย และค านวณฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณที่ก าหนด รวมทั้งสังเกต และอธิบายสนามแม่เหล็กที่เกิด จากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเส้นตรง และ โซ เลนอยด์ 2. อธิบายและค านวณแรงแม่เหล็กที่กระท าต่อ อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระท าต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้า ผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของ การเคลื่อนที่เมื่อประจุเคลื่อนที่ตั้งฉากกับ สนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบายแรงระหว่าง เส้นลวดตัวน าคู่ขนานที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน 3. อธิบายหลักการท างานของ แกลแวนอมิเตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งค านวณ ปริมาณต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวน า กฎการเหนี่ยวน าของฟาราเดย์ และค านวณ ปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนาความรู้เรื่อง อีเอ็มเอฟเหนี่ยวน าไปอธิบายการท างานของ เครื่องใช้ไฟฟ้า 5. อธิบายและค านวณความต่างศักย์อาร์เอ็มเอส และกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส 6. อธิบายหลักการท างานและประโยชน์ของ เครื่องก าเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3เฟส การแปลง อีเอ็มเอฟของหม้อแปลง และค านวณปริมาณ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 20 30


295 หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน 2 ความร้อน และแก๊ส ข้อที่7 ข้อที่8 ข้อที่9 ข้อที่10 7. อธิบายและค านวณความร้อนที่ท าให้สสาร เปลี่ยนอุณหภูมิความร้อนที่ทาให้สสารเปลี่ยน สถานะและความร้อนที่เกิดจากการถ่ายโอนตาม กฎการอนุรักษ์พลังงาน 8. อธิบายกฎของแก๊สอุดมคติและค านวณ ปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้อง 9. อธิบายแบบจ าลองของแก๊สอุดมคติทฤษฎีจลน์ ของแก๊สและอัตราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกุล ของแก๊สรวมทั้งค านวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้อง 10 .อธิบายและค านวณงานที่ท าโดยแก๊สใน ภาชนะปิดโดยความดันคงตัวและอธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่างความร้อนพลังงานภายใน ระบบและงานรวมทั้งค านวณปริมาณต่างๆที่ เกี่ยวข้องและน าความรู้เรื่องพลังงานภายใน ระบบไปอธิบายหลักการทางานของเครื่องใช้ใน ชีวิตประจ าวัน 20 20 3 ของแข็ง และของ ไหล ข้อที่11 ข้อที่12 ข้อที่13 ข้อที่14 ข้อที่15 11. อธิบายสภาพยืดหยุ่นและลักษณะการยืด และหดตัวของวัสดุที่เป็นแท่งเมื่อถูกกระท าด้วย แรงค่าต่าง ๆ รวมทั้ง ทดลอง อธิบายและค านวณ ความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และมอ ดุลัสของยัง และน าความรู้เรื่องสภาพยืดหยุ่น ไป ใช้ในชีวิตประจาวัน 12.อธิบายและค านวณความดันเกจ ความดัน สัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้งอธิบาย หลักการท างานของแมนอมิเตอร์ บารอมิเตอร์ และเครื่องอัดไฮดรอลิก 13.ทดลอง อธิบายและค านวณขนาดแรงพยุง จากของไหล 14.ทดลอง อธิบายและค านวณความตึงผิวของ ของเหลว รวมทั้งสังเกตและอธิบายแรงหนืดของ ของเหลว 20 30


296 หน่วยที่ ชื่อหน่วย กำรเรียน มำตรฐำน/ ผลกำรเรียนรู้ สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด เวลำ (ชั่วโมง) น ้ำหนัก คะแนน 15.อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการ ความต่อเนื่อง และสมการแบร์นูลลี รวมทั้ง ค านวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และน าความรู้ เกี่ยวกับสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูล ลีไปอธิบายหลักการทางานของอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมเวลำเรียน 60 80 ระหว่ำงภำค/ปลำยภำค 80/20 รวมตลอดภำคเรียน 60 100


297 คำอธิบายรายวิชา รหัส ว33248 รายวิชา กายวิภาคศาสตร์เบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ความหมายของวิชากายวิภาคศาสตร์คำศัพท์เฉพาะทางเกี่ยวกับโครงร่างของร่างกาย ชนิดของ เนื้อเยื่อโครงร่างของร่างกาย ระบบกล้ามเนื้อ รูปแบบการเคลื่อนไหวของข้อต่อ กลไกการทำงานของระบบ กระดูก คุณสมบัติของกล้ามเนื้อลายและระบบประสาท ตำแหน่งและหน้าที่ของมัดกล้ามเนื้อที่สำคัญ ของ ร่างกาย และความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาท ความหมาย ความสำคัญของวิชากายวิภาคและสรีรวิทยา คำศัพท์ที่ใช้ทางกายวิภาคศาสตร์และ สรีรวิทยา โครงสร้างพื้นฐานของร่างกายมนุษย์รูปร่างลักษณะตำแหน่งและหน้าที่การทำงานของระบบโครง กระดูก ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก ระบบหายใจ ระบบไหลเวียน ระบบทางเดิน อาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อ ทั้งในลักษณะที่ปกติและผิดปกติเมื่อเกิดโรค หรือพิการ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเฝ้าระวังและพัฒนา สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนมีจิตวิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสาร สองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกโดยน้อมนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. ศึกษาระบบแยกส่วน ต่างๆของร่างกาย เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องของอวัยวะ และตําแหน่ง ที่ตั้งโครงร่างของร่างกายเบื้องต้น 2. รู้จักชื่อกระดูกและกล้ามเนื้อที่สำคัญๆ ในร่างกายของคนและสัตว์ 3. เข้าใจระบบหน้าที่การทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อที่สำคัญในร่างกายคนและสัตว์ 4. เข้าใจสัดส่วนร่างกายของมนุษย์ในเพศและวัยต่างๆ 5. เข้าใจหลักการเขียนภาพคนและสัตว์ในลักษณะท่าทางต่างๆ ได้ถูกต้องตามหลักวิชากายวิภาค 6. สำรวจ ตรวจสอบ สืบค้นข้อมูล อธิบาย อภิปราย วิเคราะห์โครงร่างของร่างกาย กลไกการทำงานของ ระบบกระดูก คุณสมบัติของกล้ามเนื้อลายและระบบประสาท ตำแหน่งและหน้าที่ของมัดกล้ามเนื้อที่ สำคัญ ของร่างกาย และความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาท 7. สำรวจอธิบายอภิปราย วิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานของร่างกายมนุษย์ระบบหายใจ ระบบไหลเวียน ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อ ทั้งในลักษณะที่ปกติ และผิดปกติเมื่อเกิดโรคหรือพิการ 8. นำความรู้เรื่องกายวิภาคเบื้องต้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของนักเรียน


Click to View FlipBook Version