แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 1 แผนที่จังหวัดอุทัยธานี แผนที่ต าบลทองหลาง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 2 ภูมิประเทศ พื้นที่ในต าบลทองหลางส่วนใหญ่เป็นที่ราบและเป็นที่ราบสูง เหมาะแก่การเกษตร ผืนดินส่วนใหญ่ เป็นดินร่วนปนทราย พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่ส่วนหนึ่งของต าบลทองหลาง เป็นพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ท าให้พื้นที่บริเวณนี้มีผืนป่าที่สมบูรณ์ และ มีเทือกเขาจ านวนมากขึ้นสลับซับซ้อนเรียงรายกระจายอยู่ทั่วทั้งต าบล จึงเป็นที่หมายตาและเป็นเป้าหมายของ กลุ่มชาติพันธุ์ที่ชอบอาศัยอยู่บนพื้นที่สูง เช่น กะเหรี่ยง ละว้า เป็นต้น สภาพสังคม ประชาชนในพื้นที่ต าบลทองหลาง มีการด ารงชีวิตแบบวิถีชาวพุทธ มีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ท าให้เกิดความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกัน นอกจากนี้ ประชาชนในต าบลทุกคนมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกัน ปฏิบัติตนตามแนวพระราชด าริ ด้วยการน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการ ด ารงชีวิต การปกครอง ต าบลทองหลาง มีจ านวน 8 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง หมู่ 2 บ้านสมอทอง หมู่ 3 บ้านละว้า หมู่ 4 บ้านโป่งข่อย หมู่ 5 บ้านหนองผักแผว หมู่ 6 บ้านป่าบัว หมู่ 7 บ้านคลองหวาย หมู่ 8 บ้านภูเหม็น พื้นที่ที่มีชุมชนชาติพันธุ์ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง มีชุมชนชาติพันธุ์ 4 ชุมชน 1. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง 2. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ 3. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน 4. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท หมู่ 3 บ้านละว้า มีชุมชนชาติพันธุ์ 3 ชุมชน 1. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านอีซ่า 2. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านกุดจะเลิด 3. ชุมชนละว้าบ้านละหว้าใหม่คอกควาย หมู่ 7 บ้านคลองหวาย มีชุมชนชาติพันธุ์ 1 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองหวาย หมู่ 8 บ้านภูเหม็น มีชุมชนชาติพันธุ์ 1 ชุมชนใหญ่ ได้แก่ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็น รวมทั้งสิ้น 9 ชุมชน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 3 หมู่ 1 บ้าน ไซเบอร์ บ้านคลอง แห้ง บ้านภู เหม็นโท บ้าน คลองเคียน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 4 แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สร้างและผู้มีส่วนร่วม 1.1 ผู้เรียบเรียงข้อมูล* กิตติพัฒน์ อธิวัฒน์ธนาวงศ์ 1.2 วันที่จัดท าข้อมูล 1/09/2566 1.3 ผู้ตรวจสอบข้อมูล พรทิพย์ ก าเหนิดแจ้ง 1.4 วันที่ตรวจสอบข้อมูล 27/11/2566 2. ชื่อชุมชน 2.1 ชื่อทางการ* บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี 2.2 ชื่อท้องถิ่น กลุ่มชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง 2.3 ความเป็นมาของชื่อ ชุมชน นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร ข้าราชการบ านาญสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (หัวหน้าเขตพัฒนาทางสังคม) ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยง โปว์ที่ชาวบ้านคลองแห้งให้ความเคารพนับถือ เล่าให้ฟ๎งว่า มีชาวกะเหรี่ยงโปว์ หลายกลุ่มได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจากชุมชนกะเหรี่ยงโปว์หลายแห่งในพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานี เช่น จากบ้านเจ้าวัด ต าบลเจ้าวัด อ าเภอบ้านไร่ จากบ้านทุ่งน้อย ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต ชาวกะเหรี่ยงจากต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ ชาวกะเหรี่ยงจากบ้านภูเหม็น บ้านคลองหวาย บ้านคลองเคียน บ้านอีซ่า บ้าน กุดจะเลิด ต าบลทองหลาง รวมถึงกะเหรี่ยงโปว์จากต าบลแก่นมะกรูด อ าเภอ บ้านไร่ และบางส่วนย้ายมาจากจังหวัดตาก สุพรรณบุรีและจังหวัดกาญจนบุรี ย้ายมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ โดยแต่ละกลุ่มทยอยย้ายเข้ามาในห้วงเวลาที่ แตกต่างกัน ทั้งนี้ คนเฒ่าคนแก่ในชุมชนเล่าให้ฟ๎งต่อ ๆ กันมาว่า ชุมชนกะเหรี่ยง โปว์แห่งนี้น่าจะตั้งอยู่ที่นี่ไม่ต่ ากว่า 200 ปีมาแล้ว พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่ม เชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบชุมชน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและ ของป่ามากมายในผืนป่าไม้เบญจพรรณและป่าไม้ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับการท าไร่หมุนเวียนแบบวิถี ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บริเวณนี้มีแม่น้ าคลองแห้งไหลผ่านชุมชน เป็นแม่น้ าที่ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้ และท าการเกษตรมาแต่ครั้งอดีตกาล แม่น้ าคลองแห้งนี้ ในปีใดที่ฝนแล้งหรือฝน ไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ าในแม่น้ าแห้งขอดคลองผืนดินของเกษตรกรก็แห้งแล้งด้วย ไม่มีน้ าท าการเกษตร แม่น้ าสายนี้จึงได้ชื่อว่า “แม่น้ าคลองแห้ง” และเป็นที่มา ของชื่อชุมชนที่ชื่อว่า “ชุมชนคลองแห้ง” 2.4 ประเภทชุมชน ☐ ชุมชนเมือง/ชาวเมือง ☒ ชุมชนชนบท ☒ ชุมชนชาติพันธุ์ ☐ เครือข่ายชุมชน (กลุ่มทางสังคม/องค์กรทาง สังคม) ☐ ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ☐ ชุมชนอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม แฟลต อพาร์ทเม้นท์
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 5 2.5 จุดเด่นชุมชน 1. ใจกลางชุมชนมีต้นมะขามยักษ์อายุกว่าร้อยปี เป็นเสมือนศูนย์รวมความเชื่อ และจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง (ป๎จจุบันนี้ต้นไม้นี้ตายไปแล้ว) 2. ในชุมชนบ้านคลองแห้งมีต้นไทรขนาดใหญ่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ป๎จจุบันเป็น รุกขมรดกทางวัฒนธรรม เป็นศูนย์รวมความเชื่อและจิตวิญญาณของชุมชน เป็น ต้นไม้ที่คนในชุมชนใช้ในการประกอบพิธีค้ าต้นไทรประจ าปี 3. มีแม่น้ าคลองแห้งเป็นแหล่งน้ ากินน้ าใช้ และเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน มีความส าคัญต่อการด ารง วิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง 4. มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล ที่ชาวกะเหรี่ยงบ้านคลองแห้ง ใช้บริการด้านสุขภาพ 5. มีโรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยาเป็นสถานศึกษาส าหรับลูกหลาน ชาวชาวกะเหรี่ยง ท าให้ลูกหลานไม่ต้องไปเรียนห่างไกลบ้าน 6. วัดคลองแห้งวัฒนาราม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกะเหรี่ยงโปว์ เป็น สถานที่ประกอบศาสนกิจและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน 3. ที่ตั้ง 3.1 จังหวัด* อุทัยธานี 3.2 อ าเภอ/เขต* ห้วยคต 3.3 ต าบล/แขวง* ทองหลาง 3.4 หมู่บ้าน บ้านคลองแห้ง 3.5 รหัสไปรษณีย์ 61170 3.6 ที่อยู่ (หมู่ที่, ถนน) หมู่ที่ 1 3.7 ละติจูด* 15.30372509 3.8 ลองจิจูด* 99.47838753 3.9 ประเภทเขตการ ปกครองส่วนท้องถิ่น ☐ เทศบาลนคร ระบุ………… ☐ เทศบาลเมือง ระบุ……………… ☐ เทศบาลต าบล ระบุ……… ☒ องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ☐ กรุงเทพมหานคร ☐ เมืองพัทยา 4. ความเป็นมา: ประวัติศาสตร์ชุมชน นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร ข้าราชการบ านาญชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่เกิดและเติบโตที่บ้านคลองแห้งและเป็น ผู้อาวุโสที่ชาวกะเหรี่ยงคลองแห้งให้ความเคารพนับถือ กล่าวว่า ในยุคบุกเบิกมีชาวกะเหรี่ยงโปว์หลายกลุ่ม ได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจากชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่งทั้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและต่างจังหวัด โดยใน จังหวัดอุทัยธานีมีหลายกลุ่ม เช่น บ้านภูเหม็น บ้านไซเบอร์ บ้านคลองแห้ง บ้านอีซ่า บ้านกุดจะเลิด ต าบล ทองหลาง กลุ่มกะเหรี่ยงโปว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต าบลแก่นมะกรูด ต าบลคอกควาย ต าบลห้วยแห้ง อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นต้น บางส่วนย้ายมาจากต่างจังหวัด เช่น บ้านตะเพินคี่ ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี บางกลุ่มย้ายมาจากจังหวัดตากและจังหวัดกาญจนบุรี ย้ายมาอาศัยอยู่รวมกันในบริเวณนี้ ชุมชนแห่งนี้น่าจะมีอายุไม่ต่ ากว่า 200 ปี พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบชุมชน อุดมสมบูรณ์ ไปด้วยของป่ามากมาย ในผืนป่าไม้เบญจพรรณและป่าไม้ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 6 พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับการท าไร่หมุนเวียนแบบวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์ บริเวณนี้มีแม่น้ าคลองแห้งไหลผ่าน แม่น้ าสายนี้เปรียบเสมือนกับเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน ท าให้วิถีชีวิตของคนในชุมชน มีความผูกพัน กับสายน้ าสายนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค และเป็นแหล่งน้ าส าหรับการท า การเกษตรมาแต่ครั้งอดีต คนในชุมชนเล่าให้ฟ๎งอีกว่า ในอดีตชุมชนแห่งนี้มีต้นมะขามขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวม ความเชื่อของชุมชน แต่ป๎จจุบันนี้ต้นมะขามตายไปแล้ว มีต้นไทรขึ้นมาทดแทนต้นหนึ่ง ป๎จจุบันนี้เป็นต้นไม้ ที่ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งใช้เป็นต้นไม้ในการประกอบพิธีค้ าต้นไทรประจ าปี ต้นไทรบ้านคลองแห้ง ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย โซน 3 พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นที่ราบลุ่มเชิงเขา หุบเขา และมีภูเขาขนาดไม่สูงมากนักล้อมรอบชุมชน มีเนินเขาขนาดสูงต่ าสลับซับซ้อน ลดหลั่นกันไปเป็นจ านวนมาก ป่าชุมชนบ้านคลองแห้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 7 ในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจ านวนมากกว่า 100 หลังคาเรือน มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่า มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์โอบล้อมชุมชน ผู้คนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในอดีตฤดูฝน เคยมีน้ าหลากบ้างเป็นบางครั้ง น้ าเอ่อท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอยู่บ้าง ฤดูแล้งบางปีก็แล้ง เป็นพิเศษแล้งยาวนานจนท ามาหากินไม่ได้ ที่ท ากินก็มีจ านวนจ ากัด ไม่เพียงพอต่อการแบ่งให้ลูกหลานท ามาหากิน ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงย้ายออกจากชุมชนไปเป็นจ านวนมาก ท าให้ในป๎จจุบันนี้คงเหลืออยู่เพียง 55 ครัวเรือน เท่านั้น บ้านเรือนบ้านคลองแห้ง 1 บ้านเรือนบ้านคลองแห้ง 2 ชุมชนบ้านคลองแห้งแห่งนี้เคยมีเจ้าวัดหรือผู้น าแห่งจิตวิญญาณ จ านวน 1 คน ชื่อนายไต๊ไล คลองแห้ง ท าหน้าที่เจ้าวัด ราว ๆ ปีพุทธศักราช 2508 – 2509 เมื่อท่านถึงแก่กรรมไปแล้วก็ไม่มีเจ้าวัดอีกเลยจวบจน ป๎จจุบัน แต่ยังคงมีซากเจดีย์เจ้าวัดเป็นเนินดินให้เห็น ในอดีตเป็นสถานที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีไหว้เจดีย์ เป็นประจ าทุกปี ป๎จจุบันหากชาวบ้านคนใดที่จะไปไหว้เจดีย์จะเดินทางไปไหว้เจดีย์ร่วมกับชุมชนที่ยังมีเจ้าวัด เช่น บ้านภูเหม็น บ้านไซเบอร์ หรือแก่นมะกรูด และเนื่องจากชุมชนบ้านคลองแห้งไม่มีเจ้าวัด จึงให้ผู้อาวุโสที่มี ความรู้ในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของวิถีชีวิตกะเหรี่ยงโปว์ช่วยประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น การโกนจุก การตั้งชื่อ การเปลี่ยนชุดของเด็กหญิงสู่วัยสาว การกินข้าวใหม่ ประเพณีท าขนมจีนขี้เหนียว การแต่งงาน พิธีกรรมศพ พิธีกรรมป๎กสะเดิ่งในชุมชน และป๎กสะเดิ่งในท้องไร่ท้องนาเพื่อให้ได้ผลผลิตมากและ คุณภาพดี เป็นต้น ชุมชนแห่งนี้มีวัดคลองแห้งวัฒนารามเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมค าสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นที่ประกอบศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในชุมชน ป๎จจุบันนี้มีพระสงฆ์ จ าพรรษาจ านวน 5 รูป ในยุคแรกที่มีพระสงฆ์เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา จะเป็นลักษณะของพระธรรมจาริก และมีการผลัดเปลี่ยนพระธรรมจาริกต่อ ๆ กันมาหลายรุ่น ภายหลังมีชาวบ้านศรัทธาพระพุทธศาสนาจ านวนมาก ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างที่พักสงฆ์และสร้างเป็นวัดในระยะต่อมา และนิมนต์พระสงฆ์มาจ าวัดถาวรจนถึง ป๎จจุบัน คาดว่าผ่านกาลเวลามาแล้วกว่า ๆ 5 ทศวรรษ
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 8 วัดคลองแห้งวัฒนาราม 1 วัดคลองแห้งวัฒนาราม 2 ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งมีโรงเรียนอยู่ในชุมชน ชื่อว่า โรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา เป็น โรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ เด็กเล็กบ้านคลองแห้ง ที่รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนอีกด้วย จึงถือว่าเป็นความโชคดีของชุมชนแห่งนี้ ที่มี สถานศึกษาไว้รองรับบุตรหลาน ซึ่งต่างกับอีกหลายชุมชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงบ้านคลองแห้ง ที่ไม่มี สถานศึกษาในชุมชนของตนเอง ต้องเดินทางมาเรียนที่ชุมชนบ้านคลองแห้งแห่งนี้ ศูนย์เด็กเล็กบ้านคลองแห้ง โรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา ในชุมชนแห่งนี้มีแหล่งบริการทางสาธารณสุข จ านวน 1 แห่ง ในอดีตเรียกกันว่า “สถานีอนามัย บ้านคลองแห้ง” แต่ป๎จจุบันได้รับการยกระดับเป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล” เป็น สถานพยาบาลที่ดูแลชาวกะเหรี่ยงโปว์ในชุมชนบ้านคลองแห้งและชุมชนกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านคลองเคียน ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านภูเหม็นโท และชุมชน กะเหรี่ยงบ้านกุดจะเลิด เป็นต้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 9 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล การคมนาคมสัญจร ในอดีตชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ยังไม่มีถนนหนทางที่สะดวกในการ เดินทางสัญจร ผู้คนในชุมชนบ้านคลองแห้งต้องเดินเท้าไปตามทางเท้า ข้ามภูเขา ป่าไม้ ล าธาร เพื่อที่จะไปท า ธุรกรรมที่อ าเภอ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 1 วัน พักค้าง 1 คืน และเดินทางกลับอีก 1 วัน จึงจะกลับ ถึงบ้าน หากจะต้องเดินทางไปที่ตัวจังหวัด จะต้องเดินเท้าถึง 2 วัน พักระหว่างทาง 1 คืน และเดินทางกลับอีก 2 วัน จึงจะกลับถึงบ้าน แถมเส้นทางก็เต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ป่า แมลงมีพิษ รวมถึงการเดินทางที่ยากล าบากในช่วง ฤดูฝน หากเจ็บป่วยหนักต้องพึ่งหมอยาสมุนไพรในชุมชนเป็นหลัก เพราะการที่จะเดินทางไปถึงโรงพยาบาล เป็นเรื่องที่ยากมาก และเสี่ยงกับการเสียชีวิตระหว่างเดินทางสูง ต่อมาเมื่อทางการเข้ามาพัฒนาถนนหนทาง มีถนนลูกรังเข้ามาถึงชุมชน บ้านคลองแห้งเริ่มมีรถโดยสารประจ าทางเป็นรถรางไม้ 6 ล้อ รับ-ส่งผู้คนในชุมชน ไปที่ ตลาดทุ่งนา ต าบลเขาบางแกรก อ าเภอหนองฉาง 1 จุด และเดินทางไปที่ตัวจังหวัดอุทัยธานี อีก 1 จุด ป๎จจุบันนี้ไม่มีรถโดยสารประจ าทางแล้ว หากคนในชุมชนที่จะเดินทางไปท าธุรกรรมในตัวอ าเภอหรือจังหวัด ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งป๎จจุบันในชุมชนมีรถยนต์จ านวนมาก ส่วนรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ป๎จจุบันมีกันทุกครัวเรือน หรือไม่ก็อาศัยเพื่อนบ้านไป เป็นต้น และด้วยความที่ชุมชนแห่งนี้มีถนนสายหลัก ที่เชื่อมต่อระหว่างอ าเภอบ้านไร่ – อ าเภอลานสัก ส่งผลให้ชุมชนแห่งนี้มีการเดินทางสัญจรที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ถนนสายอ าเภอบ้านไร่ – อ าเภอลานสัก
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 10 ถนนคอนกรีตในชุมชนบ้านคลองแห้ง ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง ถนนคอนกรีต ไฟฟ้า ชาวกะเหรี่ยงชุดแรกย้ายเข้าอาศัย มีที่พักสงฆ์ ประปา เข้ามาในชุมชน อยู่ในบริเวณชุมชนคลองแห้ง บ้านคลองแห้ง ท าให้คุณภาพชีวิต ราวปี 2390 มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ของคนในชุมชนดีขึ้น 2555 2300 2400 2500 2550 2566 มีถนนลูกรังเข้ามา มีศูนย์เด็กเล็ก ชุมชนเลิกท าไร่หมุนเวียน ในชุมชน ท าให้ สอนเด็กและเยาวชน หันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว การคมนาคมสะดวกขึ้น ในบ้านคลองแห้ง และพืชเศรษฐกิจแทน ราวปี 2405 ปี พ.ศ. 2520 เช่น ข้าวโพด สับปะรด มีการประกาศพื้นที่ชุมชน เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2528
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 11 ชาวบ้านยุคบุกเบิกเข้ามาตั้งถิ่นฐานในชุมชน ทางการท าถนนลูกรังเข้าสู่ชุมชน ข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนเสื้อผ้า ประกาศพื้นที่ป่าสงวนทับที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินชาวบ้าน ชาวบ้านเลิกท าไร่หมุนเวียน ชาวบ้านหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไฟฟ้าเข้ามาชุมชน ถนนคอนกรีตเข้าชุมชน ชาวบ้านย้ายออกจากชุมชน กว่า 50 ครัวเรือน มีผู้ใหญ่บ้านที่ทางการแต่งตั้ง น้ าประปาเข้าชุมชน มีระบบสุขาภิบาล/ห้องน้ า/ส้วม ตั้งหมู่บ้าน สาธารณูปโภค เปลี่ยนแปลง สงครามโลก แผนพัฒนา ศก. เริ่มศก. ยุค ศก. ยุคพัฒนา ป๎จจุบัน การปกครอง ครั้งที่ 2 ฉบับที่ 1 ฟองสบู่ ฟองสบู่ สาธารณูปโภค 2366 2415 2450 2475 2484 2488 2504 2533 2540 2555 2560 2566 2525 2528 2528 5. แผนที่และสภาพแวดล้อมชุมชน - ระยะทางจากอ าเภอถึงชุมชนบ้านคลองแห้ง 20 กิโลเมตร - ระยะทางจากจังหวัดถึงชุมชนบ้านคลองแห้ง 68 กิโลเมตร - ระยะทางจากกรุงเทพถึงชุมชนคลองแห้ง 252 กิโลเมตร - เดินทางได้ทางบกทางเดียว คือ การคมนาคมสัญจรโดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านละว้า หมู่ 3 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านกระแหน่ หมู่ 9 ต าบลบ้านไร่ อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านภูเหม็น หมู่ 8 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านไซเบอร์ หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 12 สภาพพื้นที่ทางกายภาพ /ขนาดพื้นที่ชุมชน/พื้นที่สาธารณะ/การสาธารณูปโภคชุมชน พื้นที่ชุมชนบ้านคลองแห้ง ร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา มีเนินเขาจ านวนมากที่มีความสลับซับซ้อน อยู่รายรอบชุมชนทั่วบริเวณพื้นที่ท ากิน พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นพื้นที่ท าการเกษตร พื้นที่ร้อยละ 20 เป็นที่อยู่อาศัยที่ตั้งชุมชน และพื้นที่ร้อยละ 20 เป็นพื้นที่ป่าไม้ ภูเขา แม่น้ าคลองแห้ง และพื้นที่ป่าชุมชน ป๎จจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่ในชุมชน จ านวน 55 ครัวเรือน สภาพพื้นที่ทางกายภาพบ้านคลองแห้ง การด ารงวิถีชีวิต ในอดีตชาวบ้านปลูกพืชผักในไร่หมุนเวียนไว้กินเอง เช่น ผักกาด กวางตุ้ง คะน้า แตงกวา ผักชี พริก และพืชผักสวนครัวอีกมากมายไม่น้อยกว่า 50 ชนิด เอาไว้บริโภคในการด ารงชีพ มีการ เลี้ยงสัตว์เพื่อการด ารงชีพเล็กน้อย เช่น เป็ด ไก่ หมู แพะ เป็นต้น เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องใช้เงินในการด ารงชีพ ดังนั้น ในอดีตจึงไม่ได้ปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ มีเพียงจ าหน่ายพริกหรือของป่าเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อน ามา ซื้อเกลือไว้บริโภคเท่านั้น เพราะเกลือในสมัยนั้นส าคัญต่อการด ารงชีวิตมาก ป๎จจุบันไม่มีการท าไร่หมุนเวียน แล้ว เนื่องจากพื้นที่ท าการเกษตรมีจ านวนจ ากัด ชุมชนต้องแบ่งที่ดินเพื่อปลูกข้าวไร่ไว้กิน พื้นที่ที่เหลือก็จะปลูก พืชเกษตรเชิงเดี่ยวไว้ขายแลกเงินมาใช้ในครัวเรือน เช่น มันส าปะหลัง ข้าวโพด สับปะรด ยางพารา ปาล์ม เป็นต้น สถานที่ส าคัญทางสังคมและวัฒนธรรม ส่วนใหญ่จะมีการนัดพบพูดคุยหารือเรื่องส าคัญในบ้านของ ผู้อาวุโสหรือบ้านผู้น าชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มหารือกันอย่างไม่เป็นทางการตามบ้านต่าง ๆ แต่หาก เป็นการประชุมหารืออย่างเป็นทางการแล้ว จะไปประชุมกันที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หรือที่องค์การบริหาร ส่วนต าบล หรือที่อ าเภอห้วยคต โดยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน จะเป็นตัวแทนเดินทางไปเข้าร่วมประชุมกับส่วนราชการ แล้วจะน าข่าวสารมาบอกกับลูกบ้านทุกคน ให้ได้รับทราบข่าวสารทางราชการโดยพร้อมเพรียงกัน ป๎จจุบันนี้ที่อยู่อาศัยของชุมชน รวมทั้งพื้นที่ท าการเกษตรของคนในชุมชน ล้วนเป็นพื้นที่ของป่าสงวน แห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย โซนซีซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2528 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นการประกาศพื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติหลังจากที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยและท ามาหากินมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี และภายหลังการ ประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่รัฐแจ้งให้คนในชุมชนจับจองพื้นที่เพื่อแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ที่ชัดเจน โดยให้ชาวบ้านท าไร่อยู่กับที่ ไม่อนุญาตให้ท าไร่หมุนเวียนดังเช่นในอดีตอีกต่อไป จึงท าให้พื้นที่ ไร่หมุนเวียนลดลง ฟื้นคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มขึ้น ดังนั้น วิถีชีวิตการท าไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงโปว์ จึงเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจในเวลาต่อมา
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 13
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 14 6. ประชากร ระบบเครือญาติและชาติพันธุ์ - ประชากรมีจ านวน 55 ครัวเรือน - ประชากรทั้งหมด 193 คน - ประชากรชาย 97 คน - ประชากรหญิง 96 คน - ประชากรทั้งหมดเป็นเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์193 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ระบบเครือญาติ ประชากรในชุมชนทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั้งสิ้น อาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวขยายที่ มีผู้คนหลากหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน มีเพียงบางส่วนที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยว จากรากฐานความสัมพันธ์เชิง เครือญาติจะเห็นว่าสังคมมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างกัน โดยปกติทั่วไปประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์ส่วนใหญ่ มักจะใช้นามสกุลเดียวกันทั้งหมู่บ้าน โดยใช้ชื่อหมู่บ้านเป็นชื่อนามสกุล นอกเสียจากบุคคลที่ย้ายมาจากหมู่บ้าน อื่น ๆ และที่มีนามสกุลอยู่แล้ว ก็ใช้นามสกุลเดิมของตนเองต่อไป และคนนามสกุลเดียวกันก็สามารถที่จะ แต่งงานกันได้ หากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีสายเลือดที่ใกล้ชิดที่มาจากบรรพบุรุษเดียวกัน กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่พูดภาษาอื่นที่อาศัยอยู่ในชุมชน กะซอง ก่อ (อึมปี้) กะยัน กะแย กะเลิง กูย ก ามุ ขแมร์ลือ คะฉิ่น จีน จีนยูนนาน ชอง ซะโอจ ซ าเร โซ่ ทะวืง ญ้อ ญัฮกุร เยอ ดาราอาง ไตหย่า ไทขึน ไทด า ไทเบิ้ง ไทยโคราช ไทยวน ไทโย้ย ไทใหญ่ บรู บีซู ปกาเกอะญอ ปลัง ปะโอ ผู้ไท โพล่ว ไทยพวน ม้ง มละบริ มอแกน มอแกลน มอญ มานิ มลายู ยอง ละว้า ลัวะ(ปรัย) ลัวะ ลาวครั่ง ลาวแง้ว ลาวเวียง ลาหู่ ลีซู ไทลื้อ เวียด แสก โส้ อ่าข่า อาเคอะ อิ้วเมี่ยน อูรักลาโว้ย โอก๋อง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 15 7. โครงสร้างทางสังคม: องค์กรชุมชนและกลุ่มอาชีพ 7.1 กลุ่มที่เป็นทางการ 7.1.1 กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในอดีตชุมชนบ้านคลองแห้ง เคยมีการรวมตัวกันเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการออมทรัพย์ และใช้ในการระดมทุนไว้ให้คนในชุมชนได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ ทางการเกษตรในอัตราดอกเบี้ยต่ า ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง แต่เมื่อรัฐบาลได้จัดให้มีกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิตจึงค่อย ๆ เริ่มถอนตัวออกจากสมาชิก ไปเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านแทน ป๎จจุบันนี้ไม่มีสมาชิกกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์แล้ว 7.1.2 กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ ประชาชนในชุมชนมีการรวมตัวกันในนามกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ทั้งชุมชน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพของครอบครัวสมาชิก โดยให้ครอบครัวสมาชิกจ่ายเงิน ฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัวละ 50 บาท ต่อ 1 ศพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของทาญาติผู้เสียชีวิตในการ จัดงานศพ แต่หากสมาชิกรายใดพอมีทุนทรัพย์ก็มากสามารถจ่ายมากกว่า 50 บาท ด้วยความสมัครใจ 7.1.3 กลุ่มเงินทุน ธ.ก.ส. ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 – 5 คน เพื่อยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. ในการท าการเกษตร โดยแลกเปลี่ยนกันค้ าประกันภายในกลุ่ม ป๎จจุบันนี้มีอยู่หลายกลุ่มที่ยังคงเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. อย่างเหนียวแน่น 7.2 กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ 7.2.1 กลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มกันอย่างไม่เป็นทางการส าหรับกลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์โดยจะ ใช้เวลาหลังจากเสร็จภารกิจการท าการเกษตร จะมานั่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มตามใต้ถุนบ้านหรือใต้ต้นไม้ นั่งทอผ้า กะเหรี่ยงโปว์ซึ่งเป็นผ้าทอมือที่ใช้กี่เอวในการทอผ้า ส่วนใหญ่จะเป็นการทอผ้าไว้ตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ใช้ในครัวเรือน ไม่ได้ทอผ้าเพื่อการจ าหน่ายหรือเพื่อท าการตลาดแต่อย่างใด 7.2.2 กลุ่มประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรม ทุก ๆ ครั้งที่มีประเพณีวัฒนธรรมและการท าพิธีกรรมในชุมชนบ้านคลองแห้ง จะมีการ รวมกลุ่มของคนในชุมชนจ านวนมาก มีผู้อาวุโสที่ชาวบ้านนับถือท าหน้าที่เป็นผู้น าในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ โดยสมาชิกของกลุ่มเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ ชุมชนมีความ ร่วมแรงร่วมใจกันสืบสานประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรมตามแบบวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์ได้อย่างเข้มแข็ง มีความยั่งยืนทางวัฒนธรรม 7.2.3 กลุ่มพลังศรัทธาพระพุทธศาสนา มีชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งกลุ่มหนึ่งที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนารวมตัว กันไปท าบุญที่วัดคลองแห้งวัฒนารามเป็นประจ าทุกวันธรรมสวนะ ท าให้ชาวบ้านได้มีสถานที่ในการพูดคุยเรื่อง การท ามาหากิน เรื่องสัพเพเหระ เรื่องประเพณีวัฒนธรรม และหารือกันเรื่องการท าการเกษตร เป็นต้น ทั้งนี้ มีการเชื่อมโยงปฏิสัมพันธ์ของคนในชุมชน ก่อให้เกิดความรักความผูกพันกันความสามัคคีของคนในชุมชน 7.2.4 กลุ่มท าการเกษตร ผู้คนในชุมชนมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครือญาติ 4 – 5 ครัวเรือน ที่เป็นกลุ่มบ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อช่วยเหลือกันทางการเกษตร เช่น มีการรวมตัวกันลงแขกปลูกข้าว ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกขุดมันส าปะหลัง เป็นต้น โดยจะเป็นลักษณะการเอาแรงกัน เริ่มจากบ้านหนึ่ง หมุนเวียนไปจนครบทุกบ้านในกลุ่มสมาชิก เพื่อลดต้นทุนในการท าการเกษตร
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 16 8. วิถีชีวิต: ปฏิทินชุมชนและชีวิตประจ าวัน 8.1 วิถีชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม 8.1.1 ประเพณีกินข้าวใหม่ หลังจากที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวไร่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะน าข้าวไร่ขึ้นเก็บในยุ้งฉาง ทุกบ้าน ที่ปลูกข้าวไร่ จะมีการประกอบพิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นรายหลังคาเรือน หรือบางกลุ่มอาจจะประกอบ พิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นกลุ่มญาติพี่น้อง ป๎จจุบันยังมีการประกอบพิธีกรรมกินข้าวใหม่ทั้งสองรูปแบบ โดยการ จัดเตรียมข้าวปลาอาหาร ส ารับอาหารหวาน-คาว ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบพิธี และไม่เป็น อาหารที่ต้องห้าม เชิญเจ้าวัดประกอบพิธีด้วยการน าทุกคนในครอบครัวกล่าวขอบคุณและขอขมาเครื่องมือ ทางการเกษตรต่าง ๆ ที่มีส่วนโดยตรงในการท าให้ข้าวไร่ได้ผลผลิตดี หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีรับประทาน อาหารหวาน-คาวร่วมกัน ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ข้าวไร่เป็นอาหารหลักของชาวกะเหรี่ยงโปว์ มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ป๎จจุบันประชากรร้อยละ 50 ยังคงท าข้าวไร่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเลี้ยงดูคนในครอบครัว ดังนั้น พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าว จึงยังคงถูกรักษาเอาไว้ได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ตอนปลูกข้าว ตอนที่ใบข้าวเริ่มโค้งงอลงมาถึงพื้นดิน ตอนข้าวออกรวง และตอนเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งล้วนแต่มี พิธีกรรมในการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอให้ได้ผลผลิตข้าวจ านวนมาก ๆ และผลผลิตมีคุณภาพที่ดี อ.วรจักร กลุ่ม ฌามปนกิจ กลุ่ม ธ.ก.ส. กลุ่มกองทุน หมู่บ้าน กลุ่ม การเกษตร กลุ่มประเพณี วัฒนธรรม
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 17 8.1.2 ประเพณีวันสงกรานต์ เมื่อถึงวันสงกรานต์ ผู้คนในชุมชนจะมีการรวมตัวกัน ณ บ้านของปราชญ์ชาวบ้าน บ้านผู้อาวุโส หรือบ้านของผู้น าชุมชน เป็นต้น และจะเชิญชวนผู้อาวุโสทั้งหญิงและชายในชุมชนเข้าร่วมพิธีรดน้ าขอพร โดย เจ้าวัดและปราชญ์ชาวบ้านจะให้พรกับลูกหลาน หลังจากนั้นผู้น าชุมชนและลูกบ้านจะร่วมกันรดน้ าขอพร ผู้อาวุโสทีละคนจนครบทุกคน ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากคนไทยพื้นเมือง ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ประเพณีสงกรานต์นั้น เดิมทีเป็นของคนไทย พื้นเมือง แต่ป๎จจุบันได้แผ่อิทธิพลเข้ามาสู่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านคลองแห้ง ซึ่งเห็นว่าเป็น ประเพณีที่ดีงามและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ที่ให้ความเคารพต่อผู้อาวุโสในชุมชน จึงได้น าประเพณีดังกล่าวนี้มาสืบสานอย่างต่อเนื่องจนถึงป๎จจุบัน 8.1.3 ประเพณีลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีลอยกระทง ของ คนไทยพื้นเมือง มีความสอดคล้องกับวิถีชุมชนที่ต้องการให้มีการขอขมาพระแม่คงคา เพื่อให้คนในชุมชน ได้มีน้ ากินน้ าใช้ มีน้ าในการท าการเกษตรตลอดปี และถือเอาวันขึ้น 15 ค่ า เดือน 12 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง ของคนไทย เป็นวันลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ด้วย ซึ่งลักษณะกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์จะมีความ แตกต่างจากกระทงของคนไทย คือ กระทงจะมีขนาดใหญ่เป็นทรงสี่เหลี่ยมท ามาจากต้นกล้วยและกาบกล้วย ในกระทงจะมีอาหารหวาน-คาวที่ไม่เป็นอาหารต้องห้าม มีดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องสักการบูชาอื่น ๆ โดยจะ ท าเพียงกระทงเดียว ช่วยกันหามไปลอยกระทงในแม่น้ าคลองแห้ง เพื่อขอขมาพระแม่คงคา ที่ได้ใช้น้ าไปอย่าง รู้คุณค่าบ้างไม่รู้คุณค่าบ้าง ได้น าสิ่งสกปรกมาทิ้งในแม่น้ าบ้าง และขอพรให้มีน้ ากินน้ าใช้ตลอดปี 8.2 วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ 8.2.1 การเตรียมดินเพาะปลูก หลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวไร่และผลผลิตทางการเกษตร ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมของทุกปี ก็จะเข้าสู่การเตรียมพื้นที่ส าหรับเตรียมการเพาะปลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม จะต้องมีการเตรียมดิน เช่น ถากถางวัชพืชหลังเก็บเกี่ยว เผาซากวัชพืช ไถบุกไถแปร พลิกหน้าดินขึ้นมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่สะสมใต้ดิน และฆ่าไข่ของตัวหนอนและเพลี้ยชนิดต่าง ๆ ที่เป็น ศัตรูพืช เพื่อให้ดินมีความพร้อมส าหรับการเพาะปลูกรอบใหม่ 8.2.2 การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เมื่อเตรียมดินเสร็จก็จะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ราว ๆ เดือนเมษายน ถึงเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นเกษตรกรจะดูแลพืชผลทางการเกษตรต่อไปอีกราว ๆ 4 – 6 เดือน จึงจะได้เวลา เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในแต่ละชนิด ดังนั้น ในช่วงของการดูแลพืชผลทางการเกษตร จึงถือได้ว่าเป็น ช่วงที่ส าคัญมาก เพราะเกษตรกรต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจก็คือ แมลง เพลี้ย หนอน ตั๊กแตน ฯลฯ อีกทั้ง โรคเกี่ยวกับพืชต่าง ๆ เช่น เชื้อรา โรคใบไหม้ ใบหงิก เป็นต้น รวมถึงวัชพืชต่าง ๆ ในแปลงเกษตรด้วย ที่ล้วน แต่ต้องมีการก าจัดอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ผลผลิตจึงจะได้ปริมาณมาก และผลผลิตดีมีคุณภาพ ในช่วงนี้จะมี พิธีกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชาวกะเหรี่ยงบ้านคลองแห้ง คือ การป๎กสะเดิ่งไหว้ผีป่าหรือไหว้ผีเจ้าที่ เพื่อขอให้ การเพาะปลูกได้ผลผลิตที่ดี มีผลผลิตมาก ๆ แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ และไม่มีโรคภัยรบกวน ซึ่งพิธีกรรมนี้ จะท าในขณะที่ใบข้าวหรือพืชผลในไร่ มีใบชุดแรกที่เติบโตและโค้งงอลงมาจรดผิวดิน 8.2.3 การเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร เมื่อพืชผลทางการเกษตรได้เวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะข้าวไร่ ชาวบ้านจะท าการ เกี่ยวข้าวชุดหนึ่งมาท าพิธีกินข้าวใหม่ เสร็จแล้วจึงจะเก็บเกี่ยวข้าวไร่ทั้งหมดที่ยังอยู่ในไร่มาเก็บไว้ในยุ้งฉาง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 18 กิจกรรม/เหตุการณ์ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. หมายเหตุ ปฏิทินเศรษฐกิจ เตรียมดินเพาะปลูก พืชเชิงเดี่ยวโดยรวม ฤดูเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ปลูกข้าวไร่ มันส าปะหลัง ดูแลพืชผลเกษตรในไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลเกษตร ฤดูเกี่ยวข้าว หาหน่อไม้ หาเห็ดโคน ปฏิทินวัฒนธรรม ประเพณีกินข้าวใหม่ พิธีค้ าต้นไทร/ต าขมิ้น พิธีรดน้ าขอพรผู้ใหญ่ พิธีผูกแขนด้ายเหลือง พิธีป๎กสะเดิ่งครัวเรือน ก่อเจดีย์ทราย/เรียกฝน พิธีป๎กสะเดิ่งไร่ข้าว พิธีป๎กสะเดิ่งในล าห้วย ต าขนมจีนขี้เหนียว ชุมชนต้นน้ าท าก่อน พิธีสู่ขวัญข้าว ประเพณีลอยกระทง ประเพณี “พิบือโย” 9. ประวัติชีวิต: ปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้น าชุมชน/บุคคลส าคัญของชุมชน 9.1 ชื่อ นายวรจักร นามสกุล วุฒิกาญจนวัชร อายุ 66 ปี เกิด 16 สิงหาคม พ.ศ. 2500 ที่อยู่บ้านเลขที่ 125 ชุมชนบ้านคลองแห้ง หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร เป็นผู้อาวุโสในชุมชนที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ด้านประวัติศาสตร์ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง มีความรู้ความสามารถด้านการเป็นพิธีกรและพิธีการ ทั้งพิธีการของคนไทยพื้นเมือง และพิธีการของชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง รวมถึงเป็นศาสนพิธีกร ปฏิบัติศาสนพิธีทางพระพุทธศาสนา ปฏิบัติหน้าที่ศาสนพิธีประจ าทุกวันธรรมสวนะ ณ วัดคลองแห้งวัฒนาราม ชีวประวัติ นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร เกิดที่บ้านคลองแห้ง หมู่ 3 ต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ จังหวัด อุทัยธานี ป๎จจุบันบ้านคลองแห้งเปลี่ยนมาสังกัดอยู่กับ หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต เนื่องจากอ าเภอ ห้วยคตแยก การปกครองออกมาจากอ าเภอบ้านไร่ ท่านจบการศึกษา พกส. บรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการ ครูที่โรงเรียนชุมชนบ้านกุดจะเลิด ในปี พ.ศ. 2524 หลังจากนั้นย้ายไปสอนที่โรงเรียนบ้านใหม่คลองอังวะ ต าบล แก่นมะกรูด อ าเภอบ้านไร่ เป็นระยะเวลา 4 ปี ในระดับชั้น ป.1 – 4 ซึ่งขณะนั้นต าบลแก่นมะกรูดเป็นพื้นที่สีแดง นอกจากนี้ ท่านสามารถดึงเยาวชนที่เห็นความส าคัญของการศึกษากลับเข้ามาเรียนหนังสือ ท าให้บุตรหลาน สามารถอ่านออกเขียนได้ ต่อมาท่านขออาสามาสอนที่โรงเรียนบ้านคลองแห้ง จนสามารถสร้างโรงเรียนบ้าน คลองแห้งวิทยาส าเร็จ โดยสรุป ท่านสามารถสร้างโรงเรียนได้ถึง 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านใหม่คลองอังวะ
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 19 และโรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา หลังจากนั้นท่านได้โอนย้ายเป็นผู้อ านวยการศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จังหวัดอุทัยธานี และมีความก้าวหน้าในหน้าที่ราชการตามล าดับ สุดท้ายท่านมาเกษียณอายุราชการที่ต าแหน่ง หัวหน้าเขตพัฒนาสังคมในปี พ.ศ. 2560 นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร เล่าให้ฟ๎งว่า ท่านใช้ชีวิตในชุมชนบ้านคลองแห้งแห่งนี้มาตลอดชีวิต มีเพียง บางช่วงชีวิตที่ท่านต้องจากบ้านไปท างานต่างจังหวัดเท่านั้น ที่ท าให้ท่านไม่ได้อยู่บ้าน ชุมชนแห่งนี้มีวิถีการด าเนิน ชีวิตที่เรียบง่าย ตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบันไม่มีเหตุการณ์หรือวิกฤติการณ์ที่จะต้องจดจ าเป็นพิเศษที่เกิดขึ้นกับตน หรือเกิดขึ้นกับชุมชนแห่งนี้เลย ตนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตั้งแต่เด็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่งงานครองเรือน และใช้ ชีวิตมาจนถึงอายุ 66 ปีในป๎จจุบัน นายวรจักร วุฒิกาญจนวัชร 9.2 ชื่อ นายอ่อนจันทร์นามสกุล กระแหน่อายุ 54 ปี เกิดวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2512 ที่อยู่บ้านเลขที่ 6/3 ชุมชนคลองแห้ง หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายอ่อนจันทร์ กระแหน่ เป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาก ทั้งยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการเกษตร เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ครอบครัวที่ประสบความส าเร็จในการท าการเกษตร ท าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นแบบอย่างให้กับครอบครัวอื่น ๆ ในการท าการเกษตร ป๎จจุบันนี้เป็นที่ปรึกษาด้านการเกษตรของชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ด้านประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อตามวิถีชีวิตกะเหรี่ยงโปว์ เป็นผู้น าในการรวบรวมสมาชิกลูกบ้านร่วม ประกอบพิธีกรรม เช่น ประเพณีกินข้าวใหม่ ประเพณีค้ าต้นไทร เป็นต้น ชีวประวัติ นายอ่อนจันทร์ กระแหน่ เกิดที่บ้านคลองแห้ง หมู่ 3 ต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ ซึ่งป๎จจุบันนี้บ้าน คลองแห้งขึ้นอยู่กับหมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต ในวัยเด็กเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนน้ าพุ และ เรียนต่อระดับมัธยมศึกษาจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนหนองฉางวิทยา ป๎จจุบันด ารงต าแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี โดยได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี พ.ศ. 2544 ตอนนั้นอายุ 32 ปี จนถึงป๎จจุบันด ารงต าแหน่งผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว 22 ปี วิกฤติการณ์ที่สะเทือนขวัญตัวเองและชาวบ้านบ้านคลองแห้งเป็นอย่างมาก คือ เมื่อปี พ.ศ. 2528 มีฝนตกหนัก 7 วัน 7 คืน ท าให้น้ าป่าไหลหลากทั่วบริเวณชุมชนบ้านไซเบอร์และชุมชนบ้านคลองแห้ง ส่งผลให้
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 20 กลุ่มลูกจ้างของนายทุนที่มารับสัมปทานท าน้ ามันต้นยางนาอยู่ในบริเวณนี้เสียชีวิตไปจ านวน 21 คน ท าให้ ชาวบ้านขวัญเสียมาก และยังคงเป็นที่กล่าวขานกันอยู่จวบจนถึงป๎จจุบัน นายอ่อนจันทร์ กระแหน่ ผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี 9.3 ชื่อ นายสะอาด นามสกุล น้ าพุอายุ 68 ปี เกิดปีพ.ศ. 2498 ที่อยู่บ้านเลขที่ 143 ชุมชนบ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายสะอาด น้ าพุ เกิดที่บ้านน้ าพุ ป๎จจุบันอยู่ในพื้นที่อ าเภอบ้านไร่ และอยู่อาศัยที่บ้านน้ าพุจนอายุ 13 ปี พ่อแม่พาย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองหวาย ป๎จจุบันนี้คือหมู่ 7 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต แต่งงานตอนอายุ 18 ปี และได้พาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองแห้งแห่งนี้ตอนอายุ 25 ปี เคยด ารงต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยด ารงต าแหน่งอยู่ได้ราว ๆ สัก 10 ปี ก็ล้มป่วยด้วยโรคกระดูกทับเส้นท าให้เดินไม่ได้ ขาลีบ เป็นผู้ป่วยติดเตียงและต้องมีลูกหลานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ป๎จจุบันมีบุตร 6 คน มีหลาน 12 คน และมีเหลน 2 คน ชีวประวัติ นายสะอาด น้ าพุ เป็นปราชญ์ชาวบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในการจักสาน สามารถสานเครื่องไม้ เครื่องมือในการท ามาหากินที่ท าจากไม้ไผ่และหวายได้อย่างคล่องแคล่ว ป๎จจุบันไม่ได้ท าแล้วเนื่องจากสภาพ ร่างกายไม่เอื้ออ านวย แต่สามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานได้ นอกจากนี้ ยังมีความรู้เรื่องยาสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นก่อนส่งโรงพยาบาลได้โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรงมากนัก รวมถึงยังสามารถแนะน าเรื่องการท ามาหากินแบบวิถีชีวิตเกษตรกรรมได้ตามประสบการณ์ที่มี และยังเคยเป็น ผู้ช่วยท าพิธีกรรมตามความเชื่อแบบกะเหรี่ยงโปว์อีกด้วย นายสะอาด น้ าพุ
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 21 10. ทุนชุมชน 1. ทุนทางกายภาพ 1.1 แม่น้ าคลองแห้ง ประวัติความเป็นมา “แม่น้ าคลองแห้ง” เป็นแม่น้ าที่มีแหล่งต้นน้ าอยู่ใน พื้นที่เขตป่าตะวันตกห้วยขาแข้ง ไหลลงมารวมกับล าห้วยล าธารสายเล็ก ๆ หลายสาย จนเป็นแม่น้ าขนาดใหญ่ ไหลผ่านต าบลคอกควายของอ าเภอบ้านไร่ ผ่านป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าคอกควาย และไหลผ่านชุมชน กะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ ดังนั้น แม่น้ าคลองแห้งจึงเป็นแม่น้ าสายส าคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน บ้านคลองแห้ง ช่วงเวลาที่ส าคัญ “แม่น้ าคลองแห้ง” ในฤดูแล้งบางปีน้ าในแม่น้ าแทบจะแห้ง จนแทบไม่มีน้ า ไว้บริโภค ไม่มีน้ าท าการเกษตร น้ าแห้งขอดคลองจนเป็นที่มาของแม่น้ าคลองแห้ง ส่วนช่วงฤดูฝนในบางปีที่มี ปริมาณน้ าฝนมาก น้ าในแม่น้ าไหลเชี่ยวหลากท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน สร้างความ เสียหายให้กับชาวบ้านพอสมควร ดังเช่นในปี พ.ศ. 2528 ที่น้ าป่าไหลหลากท่วมพื้นที่บ้านไซเบอร์และ บ้านคลองแห้งจนลูกจ้างของนายทุนที่มารับท าสัมปทานท าน้ ามันต้นยางนา ต้องสังเวยชีวิตไปถึง 21 ศพ คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน “แม่น้ าคลองแห้ง” เป็นเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งมาตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้และน้ าในการท าการเกษตร สถานการณ์ป๎จจุบัน “แม่น้ าคลองแห้ง” เป็นแม่น้ าขนาดเล็กที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองแห้งและอยู่ใกล้กับชุมชนมาก เป็นแหล่งน้ ากินน้ าใช้ของผู้คนในชุมชน บางปีน้ าแล้งน้ าก็แห้งขอด บางปีน้ ามากก็หลากท่วมเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านบ้าง หมุนเวียนกันอยู่แบบนี้ ชาวบ้านจึงแก้ป๎ญหาด้วยการ ขุดบ่อน้ าบาดาล ใช้น้ าบาดาลในการบริโภคและท าการเกษตรมากกว่าการใช้น้ าจากแม่น้ าคลองแห้ง การสืบทอดและความยั่งยืน “แม่น้ าคลองแห้ง” มีปริมาณน้ าลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งอาจ เป็นเพราะว่า ผืนป่าต้นน้ าและผืนป่าที่อยู่ระหว่างทางที่แม่น้ าไหลผ่านนั้น ค่อย ๆ ลดจ านวนลงไปเรื่อย ๆ จึงไม่ สามารถ ที่จะดูดซับความชุ่มชื้นของสายน้ าสายนี้เอาไว้ได้ตลอดปี ในฤดูแล้งจึงมีน้ าในแม่น้ าน้อยมากจนเกือบ แห้งดังนั้น สิ่งที่ควรเร่งด าเนินการในการบ ารุงรักษาแหล่งน้ าแหล่งนี้ คือ ควรเร่งให้มีการปลูกป่าทดแทนพื้นที่ ป่าที่ถูกท าลายไปกับการท าการเกษตร 1.2 ป่าสงวนแห่งชาติ ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ. 2528 กรมป่าไม้ได้ประกาศเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทับซ้อนพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท ากินของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ในพื้นที่จังหวัด อุทัยธานีหลายชุมชน รวมถึงชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยท ามาหากินและ เป็นพื้นที่ท าไร่หมุนเวียนตามวิถีชนเผ่าแห่งกะเหรี่ยงชนอย่างอิสรเสรี ซึ่งได้มีการสืบสานกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ กาล แต่แล้ววันหนึ่งพอรู้ตัวอีกทีที่ดินของชาวบ้านที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่ ของป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควายไปเสียแล้ว น่าเสียดายที่ดินของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมมา ราว ๆ 50 - 100 ไร่ต่อครัวเรือน หลังจากได้ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแล้ว รัฐได้จัดสรรให้ชาวบ้านได้มีที่ท ากิน ในพื้นที่ของตนเองเพียงครัวเรือนละ 20 – 30 ไร่ และห้ามไม่ให้ท าไร่หมุนเวียนตามวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยงอีกต่อไป เนื่องจากรัฐมองว่าเป็นการบุกรุกท าลายป่า เพราะต้องใช้ที่ดินจ านวนมากในการท าไร่หมุนเวียน ดังนั้น การท าไร่ หมุนเวียนตามวิถีบรรพบุรุษแห่งกะเหรี่ยงโปว์จึงสิ้นสุดลง และไม่มีการอนุรักษ์สืบสานการท าไร่หมุนเวียนอีกเลย จวบจนป๎จจุบัน ช่วงเวลาที่ส าคัญ เมื่อปีพ.ศ. 2528 หลังการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลา และห้วยป่าคอกควาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งแหล่งมรดกโลกทาง ธรรมชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมหลายอ าเภอในจังหวัดอุทัยธานี ส่งผลให้เกิดผลกระทบกับกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง โปว์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์มีความผูกพันกับป่า หมู่บ้านส่วนใหญ่ มักอาศัยอยู่
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 22 บนพื้นที่ราบสูงหรือในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้ การประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของรัฐนั้นมีเป้าหมาย เพื่อเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสมบูรณ์ไว้เป็นทรัพยากรของชาติ แต่ชาวกะเหรี่ยงต้องการท าไร่หมุนเวียนเพื่อการ ด ารงชีพและรักษามรดกภูมิป๎ญญาของบรรพบุรุษ ท าให้เป้าประสงค์ของฝ่ายรัฐและของชุมชน ที่มีความ ต้องการในผืนดินเดียวกัน แต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของจุดเริ่มต้นของป๎ญหาความขัดแย้ง ระหว่างกฎหมายรัฐกับชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ในหลายพื้นที่ในจังหวัดอุทัยธานีมาจนถึงป๎จจุบัน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์รู้ดีว่าคุณค่าของป่าไม้มีมากมายเพียงใด ดังค าพูดที่ว่า “ที่ไหนมีป่า ที่นั่นมีกะเหรี่ยง” และ “ที่ไหนมีกะเหรี่ยงที่นั่นมีป่า” ค าพูดนี้ยังคงเป็นความจริงมา จนถึงทุกวันนี้แบบที่ไม่มีวันจะเสื่อมสลาย ดังจะเห็นได้จาก บรรดาทุกกลุ่มชาติพันธุ์ที่ชอบอาศัยอยู่บนพื้นที่ราบ สูงหรือที่ในอดีตเรียกกันว่ากลุ่มชาวเขานั้น ชาวกะเหรี่ยงเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่รักษาผืนป่าได้มากที่สุด ดังจะเห็น ได้ว่าหมู่บ้านกะเหรี่ยงทุกหมู่บ้านจะมีป่าชุมชนหรือป่าตามภูเขาอยู่เสมอ รอบ ๆ หมู่บ้านกะเหรี่ยงทุกแห่งจะ โอบล้อมไปด้วยป่าชุมชน และห่อหุ้มไปด้วยสีเขียวของความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ สถานการณ์ป๎จจุบัน แม้ป๎จจุบันนี้ป่าชุมชนหรือป่าไม้ตามไหล่เขาบนภูเขารอบ ๆ ชุมชนจะ ลดลงไปมากหากเทียบกับป่าชุมชนในอดีต แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ป่าอยู่ร้อยละ 15 – 20 ของพื้นที่ที่อยู่อาศัยและ พื้นที่ท ากิน เพียงพอที่จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านคลองแห้ง และเก็บรักษาเอาไว้เป็น แหล่งอาหารป่าและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ชุมชนต่อไป 2. ทุนมนุษย์ ชุมชนบ้านคลองแห้งมีปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิป๎ญญาชาวบ้าน ผู้อาวุโสผู้มีภูมิรู้ที่อยู่ในชุมชนที่ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมากมาย รวมถึงชาวกะเหรี่ยงทุกคนในชุมชนก็เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า ขยันขันแข็งในการท ามาหากิน และที่ส าคัญชาวกะเหรี่ยงได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการด าเนินชีวิต ท าให้ผู้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วงเวลาที่ส าคัญ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งได้ร่วมกันสืบสาน รักษา ประเพณีอันดีงาม ของบรรพบุรุษเอาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านและผู้อาวุโสที่ได้รับการยอมรับนับถือมีจ านวน มากและทุกคนเป็นผู้ท าคุณประโยชน์ต่อชุมชนอย่างอเนกอนันต์เป็นที่พึ่งทางกายด้วยการเป็นหมอสมุนไพรได้ ช่วยชาวบ้านยามทุกข์ร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นที่พึ่งทางใจด้วยการเป็นที่ปรึกษาด้านการประกอบพิธีกรรม รวมถึง ผู้อาวุโสในชุมชนหลายคนที่ช่วยท าให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขที่ส าคัญไปกว่านั้น ได้อนุรักษ์วิถี ศิลปินพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ซึ่งได้อนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีของชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ดีงาม มาจนถึงป๎จจุบัน สถานการณ์ป๎จจุบัน ในป๎จจุบันนี้ปราชญ์ชาวบ้านหลายคนอายุมากแล้ว แต่ยังคงแข็งแรงและ เดินได้คล่องแคล่ว พูดจาเสียงดังฟ๎งชัด แม้จะพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดก็ตาม ความจ าดีไม่มีหลงลืม และยังคง ช่วยเหลือชาวบ้านอยู่อย่างต่อเนื่อง ตามความรู้ความสามารถและทักษะชีวิตที่ตนมีส่วนศิลปินพื้นบ้านและ บทเพลงพื้นบ้านไม่ค่อยมีเวทีให้ท าการแสดง จึงไม่ค่อยได้ถ่ายทอดให้ลูกหลานได้เรียนรู้ผู้น าชุมชนควรเร่ง ด าเนินการจัดให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านรุ่นอาวุโส ไปสู่ลูกหลานเยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยเร็ว ก่อนที่องค์ความรู้เหล่านี้จะสูญหายไปตลอดกาล การสืบทอดและความยั่งยืน ต้องยอมรับว่า ไม่ค่อยได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ ชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสมุนไพร ประเพณีวัฒนธรรม วิถีการท าไร่หมุนเวียน เครื่องจักสาน รวมถึงไม่ได้ถ่ายทอด องค์ความรู้เรื่องศิลปะการแสดงพื้นบ้านและบทเพลงพื้นบ้านและนิทานพื้นบ้านให้แก่ลูกหลาน หากไม่เร่ง ด าเนินการถ่ายทอด ให้ลูกหลาน เกรงว่าอาจสูญหายไปในอนาคตอันใกล้นี้
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 23 3. ทุนทางวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.1 การทอผ้ากะเหรี่ยงและเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยง ประวัติความเป็นมา ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองแห้งทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งกายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์อยู่เป็นประจ าในการด ารงวิถีชีวิตใน ป๎จจุบัน แต่ทุกคนมีชุดกะเหรี่ยงของตนเองติดบ้านไว้หากแม้นเมื่อไหร่ที่ผู้น าชุมชนต้องการให้สวมใส่ชุด กะเหรี่ยง ทุกคนพร้อมที่จะหยิบขึ้นมาสวมใส่ได้ทันทีเพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์รวมถึงทุกครั้ง ที่มีการรวมตัวกันเพื่อไปร่วมกิจกรรมในตัวอ าเภอหรือตัวจังหวัด ทุกคนจะสวมใส่ชุดประจ ากลุ่มชาติพันธุ์ กะเหรี่ยงโปว์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของชาติพันธุ์ต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างภาคภูมิใจ ช่วงเวลาที่ส าคัญ การแต่งกายด้วยผ้าทอกะเหรี่ยงโปว์ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งจะแต่ง กายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์เต็มรูปแบบโดยพร้อมเพรียงกันในหลายวาระ เช่น เทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวกะเหรี่ยง โปว์ งานไหว้เจดีย์ของชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านใกล้เคียง งานสงกรานต์และประเพณีรดน้ าขอพรผู้อาวุโส ชาวกะเหรี่ยงพิธีกรรมการกินข้าวใหม่ งานแต่งงาน งานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนชุมชน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน เครื่องแต่งกายและการแต่งกายของชาวกะเหรี่ยงโปว์ เป็นเครื่องแบบที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และมอบไว้ให้ลูกหลานได้ สืบทอดต่อ ๆ กันไป ถึงแม้ว่าป๎จจุบันจะไม่ค่อยได้สวมใส่ในชีวิตประจ าวัน แต่ชาวกะเหรี่ยงโปว์ทุกคนมีความรัก และ มีความผูกพันกับเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยงโปว์และมีความภาคภูมิใจในชาติพันธุ์ของตนทุกครั้งที่ได้สวมใส่ การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านคลองแห้งทุกคนรักและหวงแหน ในประเพณีวัฒนธรรม อัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมของตนเอง ทุกคนพร้อมใจกันที่จะร่วมกันอนุรักษ์และ สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพชนได้สรรค์สร้างไว้ด้วยการอนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น การทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ 3.2 อาหารกะเหรี่ยง มีประวัติความเป็นมา คือ ชาวกะเหรี่ยงโปว์ไม่ว่าจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ แห่งหนต าบลใดก็ตาม มักจะน าวัฒนธรรมเรื่องอาหารการกินซึ่งเป็นมรดกภูมิป๎ญญาทางวัฒนธรรมติดตัวไปด้วย เสมอ และชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน ได้ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดเรื่อง อาหารการกินของชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ได้รับมอบมรดกภูมิป๎ญญามาจากบรรพบุรุษ ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่รุ่นสู่รุ่น อย่างต่อเนื่อง และทุกวันนี้ทุกครัวเรือนยังคงท าอาหารกะเหรี่ยงเป็น ช่วงเวลาที่ส าคัญ การท าอาหารกะเหรี่ยงนั้นท าได้ง่าย ท าได้ทุกวัน โดยจะมีเพียงอาหารบางรายการ บางประเภทเท่านั้น ที่มีข้อต้องห้ามส าหรับพิธีกรรมใดพิธีกรรมหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วสามารถท าได้ในทุกฤดูกาล
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 24 และเป็นอาหารที่สามารถหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงได้ง่ายในท้องถิ่น มีขั้นตอนและวิธีการปรุงที่ไม่ยุ่งยาก และ ส่วนใหญ่มีรสชาติเผ็ดร้อนคล้ายอาหารของคนไทยพื้นเมืองทั่วไป คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน อาหารพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ชุมชนกลุ่มบ้านคลองแห้งมี คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ และมีความส าคัญต่อวิถีการด ารงชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์ มีการสืบทอดจาก อดีตถึงป๎จจุบัน และมีการถ่ายทอดสู่ลูกหลานในป๎จจุบันและในอนาคตอย่างยั่งยืนสืบไป สถานการณ์ป๎จจุบัน ถึงแม้ว่าชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งจะได้รับอิทธิพลเรื่องอาหาร การกินจากโลกภายนอกในยุคโลกาภิวัตน์อย่างมากมาย แถมสื่อดิจิตอลและสื่อออนไลน์ยังโหมกระหน่ าใส่ ลูกหลานชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งอย่างหนักหน่วง ท าให้ชาวกะเหรี่ยงวัยกลางคนและเยาวชนคนรุ่นใหม่ หันไปท าอาหารไทยและอาหารสากล แต่เชื่อได้ว่าชาวกะเหรี่ยงโปว์จะยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านอาหาร การกินที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ได้อย่างมั่นคงยั่งยืนสืบไป การสืบทอดและความยั่งยืน ป๎จจุบันนี้ชาวกะเหรี่ยงโปว์รุ่นพ่อรุ่นแม่หรือรุ่นปู่รุ่นย่ายังคงสอน ลูกหลานให้ด ารงวิถีชีวิตแบบกะเหรี่ยงโปว์อยู่เสมอ ท าให้มั่นใจได้ว่าการถ่ายทอดมรดกภูมิป๎ญญาทางวัฒนธรรม ด้านอาหารของกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง จะด ารงคงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป แกงไก่ใส่หยวกกล้วย 3.3 ขนบธรรมเนียมประเพณีกะเหรี่ยงโปว์ ประวัติและความเป็นมา ชุมชนบ้านคลองแห้ง เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ที่ส าคัญอีกแห่งหนึ่ง ด้วยชุมชนแห่งนี้จะอยู่ปะปนกับชุมชนของคน ไทยพื้นเมือง ซึ่งได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมจากชุมชนเมืองค่อนข้างมาก แต่คนในชุมชนส่วนหนึ่งยังคงมีความ เชื่อและความศรัทธาแห่งวิถีชีวิตกะเหรี่ยงโปว์ดั้งเดิม ท าให้ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งยังคงรักษาประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามตามวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ช่วงเวลาที่ส าคัญ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งมีการด ารงชีวิตด้วยวิถีวัฒนธรรมแบบ กะเหรี่ยงโปว์ตามแบบอย่างบรรพบุรุษได้ตามสมควร เพราะมีวัฒนธรรมจากภายนอกเข้ามาแทรกแซงวิถีชีวิต ชาวกะเหรี่ยงโปว์ค่อนข้างมาก คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้จ านวนหนึ่ง เช่น ประเพณีค้ าต้นไทร เสื้อผ้าอาภรณ์ อาหารการกิน เป็นต้น สถานการณ์ป๎จจุบัน ในปีหนึ่ง ๆ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งจะมีการรวมตัวกันเพื่อจัด งานประเพณีวัฒนธรรมหลายครั้งตามปฏิทินประเพณีและพิธีกรรมที่ชุมชนได้ตกลงร่วมกัน ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 25 บ้านคลองแห้งจึงร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ชาติพันธุ์ เพื่อแสดงถึงพลังของมวลชนชาวกะเหรี่ยงในด้านของ ความเชื่อและความศรัทธาในวิถีวัฒนธรรมของตนเอง การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานรากฐาน วัฒนธรรมของชนเผ่ากะเหรี่ยงเอาไว้ได้พอสมควร 4. ทุนทางเศรษฐกิจ พืชเศรษฐกิจ ประวัติความเป็นมา ในอดีตบรรพบุรุษของชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง แห่งนี้นิยมปลูกข้าวไร่เป็นหลัก เป็นการปลูกข้าวไร่ตามวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยงที่เรียกว่าการท าไร่หมุนเวียน เป็นการ ปลูกไว้กินในครัวเรือนในหนึ่งรอบปีปฏิทินเท่านั้น ไม่ได้ปลูกเพื่อการจ าหน่าย ทั้งนี้ การท าไร่หมุนเวียนจะปลูก พืชผักสวนครัวชนิดต่าง ๆ ไว้ในไร่หมุนเวียนด้วย ส่วนเนื้อสัตว์ก็หาจากป่า หรือเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ไว้ตาม บ้านเรือนไว้เพื่อการบริโภค โดยไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด ในอดีตจะมีการจ าหน่ายเพียงพริกกะเหรี่ยง ฟ๎กทอง และของป่าเพียงเล็กน้อย เพื่อน าเงินมาซื้อเกลือไว้บริโภคในครัวเรือน เพราะในยุคนั้นถือว่าเกลือมีความส าคัญ มากกว่าเงินทอง ช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง จากยุคการท าไร่หมุนเวียนไปสู่การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืช เศรษฐกิจ ได้แก่ ยุคที่ที่ดินท ากินของชุมชนถูกประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่า คอกควาย ชาวบ้านได้รับการจัดสรรที่ดินจ านวนจ ากัดมาก ไม่เพียงพอกับการท าไร่หมุนเวียน ประกอบกับความ เจริญทางวัตถุเริ่มแพร่หลายเข้ามาสู่ชุมชน ท าให้ชาวบ้านจ าเป็นต้องใช้เงินเป็นป๎จจัยหลักในการด ารงชีพ การปลูก พืชเพื่อการบริโภคดังเช่นในอดีต จึงเปลี่ยนมาเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจเพื่อการจ าหน่าย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ผู้คนปลูกพืชเพื่อการด ารงชีพ หรือ ป๎จจุบันที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อการจ าหน่ายและน าเงินมาใช้ในชีวิตประจ าวัน ทั้งสองแนวทางล้วนมีคุณค่าและมี ความหมายต่อชีวิตของผู้คนในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง สถานการณ์ป๎จจุบัน ชาวบ้านนิยมปลูกพืชเศรษฐกิจจ าพวก ข้าวโพด มันส าปะหลัง ปาล์ม อ้อย สับปะรด เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่โตเร็ว ทนแล้ง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี การสืบทอดและความยั่งยืน การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเติบโตอย่าง รวดเร็ว และจะยังคงด ารงอยู่เช่นนี้ต่อไปในอนาคตอีกหลายทศวรรษข้างหน้า 5. ทุนทางสังคม/การเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง ประวัติความเป็นมา คือ จากอดีตถึงป๎จจุบันชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองแห้งให้ความส าคัญกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมากดังจะเห็นได้ว่า ชาวบ้าน ได้มีการตั้งผู้ปกครองชุมชนอย่างไม่เป็นทางการขึ้นมาดูแลความสงบสุขของชุมชน ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังไม่มี ผู้ใหญ่บ้านที่ภาครัฐแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งในระยะต่อมาภาครัฐได้มีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ขึ้นมาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในชุมชน ชาวบ้านก็ยังให้ ความร่วมมือและมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นอย่างดี ด้วยการไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง และปฏิบัติตามธรรมนูญ ของชุมชนอย่างเข้มแข็ง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความเคารพในระบอบประชาธิปไตย ช่วงเวลาที่ส าคัญ ตั้งแต่ที่ชุมชนแห่งนี้มีผู้ใหญ่บ้านที่เป็นทางการ ชาวบ้านให้ความเคารพและ ยอมรับในตัวผู้น าชุมชนทุกรุ่นทุกยุคทุกสมัย รวมถึงในระยะหลังที่ภาครัฐก าหนดให้ประชาชนมาลงคะแนน เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ไม่เคยมีป๎ญหาหรือความขัดแย้งในการเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้านแสดงให้เห็นว่าชาวบ้านเคารพในกติกาของบ้านเมือง มีส่วนร่วมทางการเมือง และยอมรับการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 26 คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชุมชนแห่งนี้ผ่านช่วงเวลาที่ยากล าบากจากอดีตจนถึง ป๎จจุบัน ผ่านเหตุการณ์ร้ายและดีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี ผ่านการปกครองโดยผู้น าชุมชนทั้งที่เป็น ทางการและไม่เป็นทางการ เข้าใจในวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีส่วนร่วมและพร้อมให้ความร่วมมือในทุก ๆ ครั้ง ที่มีปรากฏการณ์ทางการเมืองในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมเรียนรู้และปรับตัวกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจ และรู้คุณค่า สถานการณ์ป๎จจุบัน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง เป็นชุมชนขนาดกลางที่มีประชากร เพียง 55 ครัวเรือน ภาครัฐจึงต้องน าจ านวนประชากรจากชุมชนใกล้เคียงหลายกลุ่มมารวมกัน จึงกลายเป็น หมู่บ้านขนาดใหญ่ในนามของหมู่ที่ 1 บ้านคลองแห้งต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี โดยผู้คนจาก ชุมชนต่าง ๆ ให้การยอมรับให้ชุมชนบ้านคลองแห้งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่เป็นทางการ เพื่อดูแลความเรียบร้อยและ ความสงบสุขของคนในชุมชนบ้านคลองแห้ง ส่วนชุมชนบ้านคลองเคียนรับต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน การสืบทอดและความยั่งยืน นับว่าเป็นความโชคดีที่ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ มีการสืบทอดการเมืองและการปกครองด้วยความเรียบร้อยตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน ไม่เคยมีความขัดแย้ง และ ไม่เคยเสียเลือดเนื้อกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา และจะมีการด ารงรักษาไว้ซึ่ง ประชาธิปไตยและความสงบเรียบร้อยเช่นนี้ตลอดไป 11. ภาษา ภาษาพูดพื้นถิ่น ได้แก่ ภาษากะเหรี่ยงโปว์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในครัวเรือนและใช้ในการพูด ในชุมชนบ้านคลองแห้ง และใช้ในการสื่อสารกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์จากท้องถิ่นอื่น ๆ ทั่วประเทศ ที่ใช้ภาษาพูดเดียวกัน ส่วนภาษาที่เป็นทางการ ภาษาราชการ หรือภาษาที่ใช้สื่อสารกับบุคคลทั่วไปในสังคม คือ ภาษาไทย ภาษาเขียน ได้แก่ ภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั่วประเทศ และกะเหรี่ยงโปว์จากทั่วโลก ซึ่งใช้สื่อสารกันเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ ลักษณะของตัวอักษรมีรากฐาน มาจากภาษาธิเบตและภาษาเมียนมาร์เป็นหลัก และผ่านการใช้มายาวนานหลายศตวรรษ สถานการณ์ปัจจุบัน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งในป๎จจุบัน มีผู้ที่สามารถใช้ภาษาเขียนกะเหรี่ยง โปว์ ได้จ านวนน้อยมาก เนื่องจากเยาวชนกะเหรี่ยงโปว์และประชาชนชาวกะเหรี่ยงโปว์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทย เป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่มีโอกาสได้รับการศึกษาภาคบังคับจากภาครัฐ ส่วนใหญ่จึงสามารถเขียนภาษาไทยได้ และนิยมใช้ภาษาไทยมากกว่า จึงท าให้ภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ค่อย ๆ เลือนหายไปจากวิถีชีวิต ดังนั้น ชาว กะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งในป๎จจุบัน เหลือไม่ถึงร้อยละ 5 ของประชากร ที่สามารถเขียนภาษากะเหรี่ยงโปว์ได้ ส าหรับภาษาพูดกะเหรี่ยงโปว์ยังคงมีประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์ร้อยละ 80 ที่สามารถพูดได้ เนื่องจาก ชาวกะเหรี่ยงโปว์ให้ความส าคัญกับภาษาพูด และพยายามสอนให้ลูกหลานเยาวชนพูด ส่งผลให้ชาว กะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งพูดภาษากะเหรี่ยงโปว์ได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านภาษาพูด เอาไว้ได้เป็นอย่างดี วัตถุทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษา ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งไม่มีใครเก็บรักษา หนังสือใบลานที่เป็นภาษากะเหรี่ยงโปว์ไว้ได้ มีแต่สมุดจดบันทึกเก่า ๆ ที่ปราชญ์ชาวบ้านใช้ในการบันทึกเหตุการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ ในชุมชน เช่น นิทานพื้นบ้าน บทเพลงกล่อมลูก ประวัติศาสตร์ชุมชน องค์ความรู้วิถีการ ด ารงชีวิตแบบกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น 12. สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และการมีส่วนร่วม ด้านการเมืองการปกครอง ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึง ป๎จจุบัน โดยในยุคแรกมีการปกครองโดยผู้น าชุมชนอย่างไม่เป็นทางการ เป็นผู้อาวุโสหรือปราชญ์ชาวบ้านที่เป็น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 27 ที่ยอมรับในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งเป็นผู้ปกครอง ดูแลทุกข์สุขและความสงบเรียบร้อยในชุมชน ต่อมามีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านจากภาครัฐมาดูแลราษฎร และภายหลังเปลี่ยนมาเป็นการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล มาช่วยผู้ใหญ่บ้านในการดูแลและเสนอขอรับการ จัดสรรงบประมาณในการพัฒนาชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือกับผู้น าชุมชนเป็นอย่างดีในการ เลือกตั้งทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติ ได้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือระดับท้องถิ่น ไม่เคยมีป๎ญหา ความขัดแย้ง ไม่มีการเรียกร้องหรือร้องเรียนใด ๆ ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ ด้านเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงวิถีการด าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากอดีตถึงป๎จจุบัน จากอดีต เป็นการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อการด ารงชีพ มีการค้าขายพริก ฟ๎กทองหรือของป่าเพียงเล็กน้อย เพื่อหาเงินไว้ซื้อ เกลือไว้บริโภคในครัวเรือน ต่อมาชาวบ้านถูกจ ากัดที่ดินท ากิน เนื่องจากการประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทับ ซ้อนที่ดินท ากินของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ด้วยการบริหารจัดการพื้นที่ที่มีอยู่อย่าง จ ากัด ดังนั้น ในยุค 5 ทศวรรษหลังสุดที่ผ่านมา ผู้คนในชุมชนจึงหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจ เพื่อ หาเงินซึ่งเป็นป๎จจัยหลักมาใช้ในการด ารงชีพ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง ด้านสังคมและประชากร ประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งมีการเปลี่ยนแปลงในหลายช่วงเวลา กล่าวคือ ในระยะแรกที่มีชาวกะเหรี่ยงโปว์เข้ามาบุกเบิกพื้นที่ท ากินในบริเวณบ้านคลองแห้งแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่ ครัวเรือน เมื่อครอบครัวเหล่านี้ได้มาอยู่อาศัยและท ากินในผืนดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้บอกต่อไปยังญาติ ๆ ที่อยู่ในชุมชนอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง และญาติ ๆ จากต่างจังหวัด ท าให้มีผู้คนจาก ทั่ว ทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาอยู่ที่ชุมชนบ้านคลองแห้งกว่า 100 ครัวเรือน ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น ชุมชนแห่งนี้ประสบป๎ญหาภัยแล้ง ด้วยเหตุที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ท าให้การท ามาหากินไม่ดีดังเช่นในอดีต กอปรกับภาครัฐได้ประกาศพื้นที่นี้เป็นป่าสงวนแห่งชาติทับที่ท ากินของชาวบ้าน และรัฐจัดสรรที่ดินท ากินให้ ชาวบ้าน โดยจ ากัดเพียงครอบครัวละ 25 – 35 ไร่ ท าให้ชาวบ้านไม่สามารถท าไร่หมุนเวียนซึ่งเป็นภูมิป๎ญญา ที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพชนได้ ส่งผลให้ชาวบ้านทยอยย้ายออกไปจากชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ท าให้ป๎จจุบัน มีประชากรเหลือเพียง 55 ครัวเรือน ด้านสิทธิพลเมืองและสถานะบุคคล ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งย้ายมาจากหลายพื้นที่ทั้งในพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานีและต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มีสิทธิในสัญชาติอยู่แล้วก่อนย้ายมาอยู่ที่คลองแห้ง ผู้คนในชุมชนจึง ไม่มีป๎ญหาเรื่องสิทธิในสัญชาติ ดังนั้น ทุกคนจึงมีสัญชาติไทยและเชื้อชาติไทย มีบัตรประชาชน มีสิทธิพลเมือง ขั้นพื้นฐานครบถ้วนทุกประการ รวมถึงได้รับสวัสดิการแห่งรัฐเทียบเท่าประชาชนคนไทยทุกคน ได้รับการศึกษา ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ได้รับการบริการทางสาธารณสุขเท่าเทียมกันกับที่คนไทยคนหนึ่งพึงได้รับ ท าให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีตามที่ชาวกะเหรี่ยงโปว์พึงประสงค์ ด้านระบบสาธารณูปโภค ในอดีตที่ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งแห่งนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอย่าง อุดมสมบูรณ์อยู่นั้น ระบบสาธารณูปโภคที่รัฐจัดให้ไม่มี แต่ชุมชนก็อาศัยภูมิป๎ญญาในการด ารงชีวิตท าให้สามารถ ด าเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข เช่น ใช้ประปาภูเขา ใช้น้ าจากแม่น้ าคลองแห้งในการบริโภค ใช้น้ ามันจากต้นยางนา ในการจุดตะเกียงแทนไฟฟ้า ใช้ถนนทางเดินเท้าในการสัญจร ต่อมาเมื่อชุมชนบ้านคลองแห้งมีประชากรมากขึ้น รัฐจึงเข้ามาช่วยเหลือด้วยการท าประปาหมู่บ้าน ไฟฟ้า ถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเตอร์เน็ท ท าให้มีระบบสาธารณูปโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี ด้านสาธารณสุข/ระบบสุขภาวะ ในอดีตระบบสาธารณสุขเข้าไม่ถึงชุมชน จึงท าให้คนในชุมชนต้อง เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย วัณโรค ท้องร่วง ฯลฯ แต่ป๎จจุบันชาวบ้านคลองแห้งได้รับสวัสดิการ จากภาครัฐเกี่ยวกับการสาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนคนไทยทุกคน และมีห้องน้ าห้องส้วมที่ถูกสุขอนามัย ทุกครัวเรือน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 28 ด้านการศึกษา ในอดีตเยาวชนชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งได้รับการศึกษาในลักษณะการศึกษา ผู้ใหญ่ เนื่องจากไม่มีโรงเรียนในชุมชน ต่อมามีการสร้างโรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา สร้างศูนย์เด็กเล็ก ท าให้ เด็กและเยาวชนทุกคนในชุมชนบ้านคลองแห้งได้รับการศึกษาภาคบังคับ เด็กและเยาวชนที่มีความประสงค์จะ เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จะไปเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจ าอ าเภอ ส่วนมากจะเรียนจบร้อย ละ 80 และเยาวชนบางส่วนจะได้เรียนต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งมีประมาณร้อยละ 10 ทั้งนี้ เยาวชนที่ไม่ได้เรียน ต่อมัธยมศึกษา ตอนปลาย หรือเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายแล้วแต่ไม่ได้เรียนต่อระดับปริญญาตรีมักจะออกมา หางานท า บ้างก็เข้ากรุงเทพเพื่อหางานท าช่วยเหลือพ่อแม่ และแต่งงานสร้างครอบครัวไปในที่สุด จึงถือว่าเป็น ความท้าทายของภาครัฐและผู้น าชุมชน ในการหาวิธีการให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรี กันทุกคนหรืออย่างน้อยให้มีผู้เรียนจบปริญญาตรีจ านวนเพิ่มขึ้นกว่าป๎จจุบัน ด้านวัฒนธรรม ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งส่วนหนึ่งปรารถนาที่จะให้คนในชุมชนร่วมกันรักษา อัตลักษณ์ชาติพันธุ์ให้คงอยู่ ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่มีการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทัดทานวัฒนธรรมจากภายนอกได้ซึ่งวัฒนธรรมจากภายนอกชุมชนนั้นมี ความทันสมัยและเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด สามารถเข้ามาแทรกซึมวิถีวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ใน ทุกมิติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท าให้วัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ค่อย ๆ เลือนหายไปทีละน้อย โดยที่เจ้าของ วัฒนธรรมไม่ทันรู้ตัว กว่าจะรู้ตัววัฒนธรรมกะเหรี่ยงก็ถูกกลืนกินหายไปมากแล้ว เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเยาวชนชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง ส่วนหนึ่งหลงลืมวัฒนธรรมของตนเอง อีกส่วนหนึ่งพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่ได้ถ่ายทอดให้ป๎จจุบันนี้อัตลักษณ์วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ของชุมชนนี้ จะรับรู้กันในกลุ่มคนวัย กลางคนและผู้สูงอายุเท่านั้น เด็กและเยาวชนแทบจะไม่รู้ความเป็นมา และในอนาคตอันใกล้นี้มีแนวโน้มที่ วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งอาจสูญหายไปแบบสิ้นเชิง จึงเป็นความท้าทายของภาครัฐ ผู้น าชุมชน และผู้สูงอายุในชุมชน ว่าจะมีวิธีอนุรักษ์สืบสานอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ให้ คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านานได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษา การทอผ้า การแต่งกาย วัฒนธรรม ประเพณีความเชื่อ พิธีกรรม อาหาร สมุนไพร ฯลฯ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามค าพูดที่กล่าวว่า “ที่ไหนมีกะเหรี่ยง ที่นั่นมีป่า” และ “ที่ไหน มีป่า ที่นั่นมีกะเหรี่ยง” ในอดีตนั้นอาจจะใช่ แต่ป๎จจุบันนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป ดังเช่น ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้าน คลองแห้ง แห่งนี้ ในยุคบุกเบิกยอมรับว่าที่ดินผืนนี้เป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากจริง ๆ เพราะเป็นกลุ่มเทือกเขา ที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงมาจากผืนป่าตะวันตกมรดกโลกป่าห้วยขาแข้ง ต่อมาเมื่อมีประชากรย้ายถิ่นฐาน เข้ามาอยู่ จ านวนมาก ท าให้ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ถูกแปรสภาพเป็นที่อยู่อาศัย ไร่หมุนเวียน สวน และไร่เกษตรเชิงเดี่ยว ของคนในชุมชน และจากฝีมือของนายทุนที่มาท าไร่ท าสวนในบริเวณนี้จากระยะเวลาที่ล่วงเลยมากว่า 2 ศตวรรษ ผืนป่าตามธรรมชาติและผืนป่าชุมชนเหลือเพียงร้อยละ 20 ของพื้นที่ นับว่าเป็นความโชคดีของ นโยบายภาครัฐที่ได้มีการประกาศพื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย กอปรกับมี การจ ากัดที่ดินท ากินของราษฎร จึงท าให้เหลือพื้นป่าเอาไว้รักษาระบบนิเวศ ท าให้ฝนยังตกต้องตามฤดูกาล จึง เป็นเรื่องท้าทายส าหรับภาครัฐ ท้องถิ่น ท้องที่ และราษฎรในพื้นที่ ว่าจะมีวิธีบริหารจัดการพื้นที่ท ากินและผืน ป่าเสื่อมโทรมให้เกิดความสมดุลทางระบบนิเวศได้อย่างไร ในกรณีชุมชนที่มีพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ท ากิน พื้นที่พิธีกรรม พื้นที่ใช้ประโยชน์ และพื้นที่อนุรักษ์ทับซ้อน กับพื้นที่อื่นของรัฐหรือเอกชน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระบุ............. อุทยานแห่งชาติ ระบุ...................... เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ระบุ.............................. ป่าสงวนแห่งชาติ ระบุ (ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย)
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 29 วนอุทยาน ระบุ..................................... พื้นที่อนุรักษ์อื่น ๆ ระบุ...................... พื้นที่หน่วยงานรัฐ ระบุ............................ พื้นที่ทับซ้อนเอกชน ระบุ.................................... ที่ดินสาธารณะ ระบุ……………………………… การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและนอกชุมชน เพื่อรับมือกับสถานการณ์หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งเป็นชุมชนที่ผู้คนในชุมชนมีความรัก ความสามัคคี ความ ผูกพัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ าหนึ่งใจเดียวกันตลอดมา นับตั้งแต่มีการก่อตั้งชุมชน ดังนั้น ทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บ้านการเมือง ภัยธรรมชาติ ภัยคุกคาม การต่อรอง ราคาพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น คนในชุมชนจะมีความร่วมมือร่วมใจกันช่วยกันแก้ไขวิกฤติต่าง ๆ ให้ผ่านพ้น ไป เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวม แนวทางแก้ไขปัญหาและรับมือกับความท้าทาย ผู้น าชุมชนที่ภาครัฐแต่งตั้ง เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน ต าบลทองหลาง และผู้น าที่เป็นผู้อาวุโสที่ชาวบ้านเคารพนับถือ และกลุ่มผู้น าชุมชนที่เป็นหัวใจส าคัญในแต่ละด้าน เช่น คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. ผู้น ากองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ จะเป็นแกนน าในการเชิญสมาชิกลูกบ้านประชุม เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็น ก าหนดแนวทางในการแก้ไขป๎ญหาและรับมือกับความท้าทายจากวิกฤติการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และหากแม้นชาวบ้านช่วยกันเต็มความสามารถแล้ว ยังไม่สามารถแก้ป๎ญหาวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ได้ ผู้น าชุมชนที่ภาครัฐแต่งตั้ง จะน าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปหารือหรือรายงานให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทราบ ตามล าดับชั้น เพื่อหาวิธีแก้ไขป๎ญหาให้ชุมชนต่อไป การรวมกลุ่มและการสร้างเครือข่าย ในชุมชนมีเครือข่ายที่เป็นทางการเล็กน้อย เช่น เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน เครือข่ายเงินกู้ ธกส. เครือข่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ เป็นต้น และส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายที่ไม่เป็นทางการ เช่น การรวมตัวกันทอผ้า กะเหรี่ยงเป็นกลุ่มย่อย ๆ กลุ่มละ 4 – 5 ครัวเรือน เครือข่ายพิธีกรรมจะมีการรวมกลุ่มกันท าพิธีกรรมเป็นกลุ่ม ย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะรวมตัวกันในนามเครือญาติสนิท เครือข่ายหาของป่าจะมีการรวมตัว 4 – 5 คน ต่อหนึ่ง กลุ่ม หาของป่ามาบริโภคหรือจ าหน่าย เครือข่ายพิธีกรรมงานอวมงคลช่วยเหลือกันในยามที่บ้านใด บ้านหนึ่งมี การสูญเสียชีวิต สรุปแล้ว ชุมชนยังคงมีการสร้างเครือข่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเครือข่ายที่เป็นทางการและ ไม่เป็นทางการ เพื่อขับเคลื่อนวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งให้สงบสุขร่มเย็นสืบไป บทบาทของหน่วยงาน/องค์กรภายนอกที่เข้ามามีส่วนร่วม จากอดีตถึงป๎จจุบันมีหน่วยงานภายนอกที่เป็นภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้งหลายหน่วยงาน เช่น อ าเภอห้วยคต องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี ส านักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานี เกษตรอ าเภอห้วยคต เป็นต้น ส าหรับบุคคลหรือองค์กรเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วม เช่น สถาบันธรรมชาติพัฒนา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่เข้ามามีส่วนร่วมในพัฒนาชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง เป็นต้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 30 แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สร้างและผู้มีส่วนร่วม 1.1 ผู้เรียบเรียงข้อมูล* กิตติพัฒน์ อธิวัฒน์ธนาวงศ์ 1.2 วันที่จัดท าข้อมูล 10/09/2566 1.3 ผู้ตรวจสอบข้อมูล พรทิพย์ ก าเหนิดแจ้ง 1.4 วันที่ตรวจสอบข้อมูล 27/11/2566 2. ชื่อชุมชน 2.1 ชื่อทางการ* บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี 2.2 ชื่อท้องถิ่น กลุ่มชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ 2.3 ความเป็นมาของชื่อ ชุมชน นายเนซ่า คลองเคียน ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ชาวบ้านกลุ่มบ้านไซเบอร์ ให้ความเคารพนับถือ เล่าให้ฟ๎งว่า มีชาวกะเหรี่ยงโปว์หลายกลุ่มได้อพยพโยกย้าย ถิ่นฐานมาจากชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่ง เช่น บ้านภูเหม็น บ้านคลองเคียน บ้าน คลองแห้ง บ้านอีซ่า บ้านกุดจะเลิด ต าบลทองหลาง จังหวัดอุทัยธานี และ บางส่วนย้ายมาจากบ้านตะเพินคี่ ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัด สุพรรณบุรี มาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ โดยแต่ละกลุ่มทยอยย้ายเข้ามาในห้วงเวลาที่ แตกต่างกัน ห่างกัน 5 – 10 ปี และมีการพูดต่อ ๆ กันมาว่า น่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่ต่ ากว่า 200 ปีมาแล้ว พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบ ชุมชน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของป่ามากมาย ในผืนป่าไม้เบญจพรรณและป่าไม้ ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับ การท าไร่หมุนเวียนแบบวิถีชาวกะเหรี่ยงโปว์ บริเวณนี้มีแม่น้ าคอกควายไหลผ่าน ชุมชน เป็นแม่น้ าที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน วิถีคน ในชุมชนผูกพันกับสายน้ าแห่งนี้มาก เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ าที่ใช้ในการอุปโภค บริโภคและท าการเกษตรมาแต่ครั้งอดีตกาล คนในชุมชนเล่าให้ฟ๎งว่า ในอดีต ใจกลางชุมชนแห่งนี้เคยมีต้นไทรขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี มีผึ้งหลายฝูงมา สร้างรังผึ้งอยู่บนต้นไทรต้นนี้ในคราวเดียวกันรวมกว่า 30 รัง ชาวกะเหรี่ยงโปว์ แห่พากันไปตีผึ้ง ได้น้ าผึ้งมามากมาย จนชาวบ้านพากันยึดเป็นอาชีพ และ สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นกอบเป็นก า ต่อมาก็มีผึ้งมาท ารังอยู่เป็น ประจ า แต่ทยอยมาทีละรังสองรัง ไม่ได้มาคราวละมาก ๆ ดังเช่นในอดีต ดังนั้น คนมีอาชีพตีผึ้งในภาษากะเหรี่ยงโปว์ เรียกกันว่า “ไม๊เบอ” ทางการจึงเรียก ชุมชนกระเหรี่ยงโปว์แห่งนี้ว่า “ไซเบอร์” ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ 2.4 ประเภทชุมชน ☐ ชุมชนเมือง/ชาวเมือง ☒ ชุมชนชนบท ☒ ชุมชนชาติพันธุ์ ☐ เครือข่ายชุมชน (กลุ่มทางสังคม/องค์กรทาง สังคม) ☐ ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ☐ ชุมชนอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม แฟลต อพาร์ทเม้นท์
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 31 2.5 จุดเด่นชุมชน 1. ใจกลางชุมชนบ้านไซเบอร์ มีต้นไทรขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ตั้งโดดเด่น สง่าอยู่ในบริเวณหมู่บ้าน เป็นเสมือนศูนย์รวมความเชื่อและจิตวิญญาณของผู้คน ในชุมชน และเป็นแหล่งประกอบพิธีกรรมค้ าต้นไทรของชุมชน 2. ในชุมชนบ้านไซเบอร์มีแม่น้ าคอกควายที่ไหลผ่านชุมชนเป็นระยะทาง กว่า 800 เมตร ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน 3. บริเวณใกล้ ๆ กับชุมชนมีน้ าตกไซเบอร์ที่มีความงดงาม เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวล าดับต้น ๆ ของจังหวัดอุทัยธานี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว จ านวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวทุกปี แต่ป๎จจุบันได้ปิดปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว น้ าตกไซเบอร์ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าชม เนื่องจาก ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต ในบริเวณน้ าตกเป็นประจ าทุกปี ทางการจึงต้องปิดปรับปรุงจนกว่าจะเชื่อมั่นได้ ว่ามีความปลอดภัยสูงสุด จึงจะพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดด าเนินการ ต่อไป 4. ชุมชนแห่งนี้มีเจ้าวัดที่เป็นผู้น าแห่งจิตวิญญาณ ชื่อว่า “นายทองอินทร์ บูโกก” และมีพิธีกรรมไหว้เจดีย์เป็นประจ าทุกปี 3. ที่ตั้ง 3.1 จังหวัด* อุทัยธานี 3.2 อ าเภอ/เขต* ห้วยคต 3.3 ต าบล/แขวง* ทองหลาง 3.4 หมู่บ้าน บ้านคลองแห้ง 3.5 รหัสไปรษณีย์ 61170 3.6 ที่อยู่ (หมู่ที่, ถนน) หมู่ที่ 1 3.7 ละติจูด* 15.30372509 3.8 ลองจิจูด* 99.47838753 3.9 ประเภทเขตการ ปกครองส่วนท้องถิ่น ☐ เทศบาลนคร ระบุ………… ☐ เทศบาลเมือง ระบุ……………… ☐ เทศบาลต าบล ระบุ……… ☒ องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ☐ กรุงเทพมหานคร ☐ เมืองพัทยา 4. ความเป็นมา: ประวัติศาสตร์ชุมชน นายเนซ่า คลองเคียน ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ชาวบ้านกลุ่มบ้านไซเบอร์ ให้ความเคารพนับถือ เล่าให้ ฟ๎งว่า ในยุคบุกเบิกมีชาวกะเหรี่ยงโปว์หลายกลุ่มได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาจากชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่งทั้งใน จังหวัดอุทัยธานีและต่างจังหวัด โดยในจังหวัดอุทัยธานีมีหลายกลุ่ม เช่น บ้านภูเหม็น บ้านคลองเคียน บ้าน คลองแห้ง บ้านอีซ่า บ้านกุดจะเลิด ต าบลทองหลาง จังหวัดอุทัยธานี กลุ่มกะเหรี่ยงโปว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต าบล แก่นมะกรูด ต าบลคอกควาย ต าบลห้วยแห้ง อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นต้น บางส่วนย้ายมาจาก ต่างจังหวัด เช่น บ้านตะเพินคี่ ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ายมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ โดย ที่แต่ละกลุ่มทยอยย้ายเข้ามาในห้วงเวลาที่แตกต่างกัน พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบ ชุมชน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของป่ามากมายในผืนป่าไม้เบญจพรรณและป่าไม้ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบที่เต็ม ไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับการท าไร่หมุนเวียนแบบวิถีชาวกะเหรี่ยงโปว์ และบริเวณนี้ มีแม่น้ าคอกควายไหลผ่านชุมชน คนในชุมชนเล่าให้ฟ๎งว่า ในอดีตใจกลางชุมชนแห่งนี้เคยมีต้นไทรขนาดใหญ่
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 32 อายุกว่า 100 ปี มีผึ้งหลายฝูงมาสร้างรังผึ้งอยู่บนต้นไทรต้นนี้ในคราวเดียวกันรวมกว่า 30 รัง ชาวกะเหรี่ยง โปว์แห่พากันไปตีผึ้ง ได้น าผึ้งมามากมายจนชาวบ้านพากันยึดเป็นอาชีพ และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน เป็นกอบเป็นก า ต่อมาก็มีผึ้งมาท ารังอยู่เป็นประจ า แต่ทยอยมาทีละรังสองรัง ไม่ได้มาคราวละมาก ๆ ดังเช่นใน อดีต จนทุกวันนี้ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ก็ยังคงคุ้นเคยกับการเก็บน้ าผึ้งสร้างรายได้ตลอดมา แม่น้ าคอกควาย สภาพแวดล้อมบ้านไซเบอร์ ในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจ านวนมากกว่า 100 หลังคาเรือน มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่า มี ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์โอบล้อมชุมชน ผู้คนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ต่อมามีช่วง ระยะเวลาหนึ่งที่ชุมชนแห่งนี้เกิดอุทกภัยหนักบริเวณใกล้ ๆ น้ าตกไซเบอร์ มีดินถล่ม น้ าหลาก ท าให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 20 คน ส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนในชุมชนเป็นอย่างมาก คิดกันว่าคงจะเกิดอาเพศกับผืนดินแห่งนี้ เป็นลางไม่ดี จึงท าให้ผู้คนในชุมชนย้ายออกไปจากชุมชนเป็นจ านวนมาก และในป๎จจุบันนี้คงเหลืออยู่เพียง 28 หลังคาเรือนเท่านั้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 33 บ้านเรือนบ้านไซเบอร์ บริเวณใกล้ ๆ กับชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์นี้ มีน้ าตกไซเบอร์ที่มีความงดงาม ในอดีตเคยเป็น แหล่งท่องเที่ยวล าดับต้น ๆ ของจังหวัดอุทัยธานี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจ านวนมาก และเดินทาง มาท่องเที่ยวทุกปี แต่ป๎จจุบันนี้ได้ปิดปรับปรุง ไม่อนุญาตให้ใครเข้าชม เนื่องจาก ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว เสียชีวิตในบริเวณน้ าตกเป็นประจ าทุกปี ทางการจึงต้องปิดปรับปรุงจนกว่าจะเชื่อมั่นได้ว่ามีความปลอดภัย สูงสุด จึงจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการด าเนินการต่อไป น้ าตกไซเบอร์ ในบริเวณใกล้น้ าตกไซเบอร์มีน้ าตกอีกแห่งหนึ่งที่มีความงดงามไม่แพ้กัน คือ “น้ าตกสาวน้อย” แต่มี ความสูงของชั้นน้ าตกที่ต่ ากว่า และมีปริมาณน้ าน้อยกว่าน้ าตกไซเบอร์เล็กน้อย อยู่ห่างจากวัดไซเบอร์ไม่กี่ร้อยเมตร เริ่มมีนักท่องเที่ยวรู้จัก และเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวจ านวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ าตกไซเบอร์ปิดให้ เข้าชม นักท่องเที่ยวจึงหันมาเข้าชมน้ าตกสาวน้อยกันมากขึ้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 34 น้ าตกสาวน้อย ชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้มีเจ้าวัดหรือผู้น าแห่งจิตวิญญาณ จ านวน 1 คน ชื่อ นายทองอินทร์ บูโกรก มี เจดีย์เจ้าวัด จ านวน 1 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีไหว้เจดีย์เป็นประจ าทุกปี และมีการสืบทอด ประเพณีไหว้เจดีย์สืบต่อกันมาจนถึงป๎จจุบัน เจ้าวัดนอกจากจะเป็นผู้น าในการประกอบพิธีไหว้เจดีย์ ยังคอย ดูแลทุกข์สุขของคนในชุมชน หากมีใครเจ็บป่วยและลักษณะอาการเชื่อได้ว่าเกิดจากภูตผีปีศาจหรือผีเจ้าที่ เจ้าวัดก็จะขจัดป๎ดเป่า ให้ นอกจากนี้ เจ้าวัดยังเป็นผู้น าในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของวิถีกะเหรี่ยงโปว์ นายทองอินทร์ บูโกรก ชุมชนแห่งนี้มีวัดไซเบอร์เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในชุมชน ป๎จจุบันนี้มีพระครูสุทัศน์ เป็นเจ้าอาวาส นอกจากวัดไซเบอร์จะเป็นแหล่งปฏิบัติศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา วัดแห่งนี้ยังได้รับการประกาศเป็นส านักปฏิบัติธรรมไซเบอร์อีกด้วย พี่น้องชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์นิยมมา ท าบุญที่วัดไซเบอร์แห่งนี้ เพราะวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ชุมชนแห่งนี้ตั้งขึ้น และใน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 35 อดีตเคยมีพระสงฆ์ที่เป็นชาวกะเหรี่ยงโปว์มาจ าวัดอยู่หลายต่อหลายรุ่น วัดกับชุมชนจึงพึ่งพาอาศัยกัน แต่ ป๎จจุบันนี้วัดแห่งนี้เก่าแก่มาก มีสภาพช ารุดทรุดโทรม และผุพังไปตามกาลเวลา ท่านเจ้าอาวาสวัดก าลัง เร่ง ระดมป๎จจัยจากศรัทธามหาชนในการเร่งบูรณปฏิสังขรณ์ ให้ศาสนสถานภายในวัดสามารถใช้ในการประกอบ ศาสนกิจได้ดังเดิม ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาและใช้ป๎จจัยมากพอสมควรจึงจะสามารถบูรณปฏิสังขรณ์ให้มีสภาพ กลับมาใช้งานได้ดังเดิม วัดไซเบอร์ 1 วัดไซเบอร์ 2 วัดไซเบอร์ 3 วัดไซเบอร์ 4 ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์เคยมีโรงเรียนศูนย์เด็กเล็กในชุมชนราว ๆ 17 ปีก่อน และเปิดได้เพียง 2 – 3 ปีก็ปิดตัวไป เนื่องจากมีเด็กเรียนน้อยและชุมชนอยู่ห่างไกลจากความเจริญ ท าให้ไม่มีคุณครูอาสาสมัคร มาสอนเด็ก ๆ ดังนั้น เด็กที่มีอายุถึงเกณฑ์เรียนหนังสือ จะไปเรียนหนังสือกันที่บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชน บ้านไซเบอร์ราว ๆ 5 กิโลเมตร ในอดีตบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงโปว์ชุมชนบ้านไซเบอร์ ได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม ตามแบบวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้อย่างยั่งยืน แต่ป๎จจุบันถูกกลืนกินหายไปเป็นจ านวนมาก เนื่องจาก ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์แห่งนี้อยู่ใกล้กับชุมชนของคนไทยพื้นเมืองที่อยู่รอบ ๆ ชุมชน การคมนาคมสัญจรในอดีต ไม่มีถนนหนทางที่สะดวกในการเดินสัญจร ผู้คนในชุมชนต้องเดินเท้าไปตาม ทางเท้า ข้ามภูเขา ป่าไม้ ล าธาร เพื่อที่จะไปท าธุรกรรม ที่อ าเภอ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 1 วัน พัก ค้าง 1 คืน และเดินทางกลับอีก 1 วัน จึงจะกลับถึงบ้าน หากจะต้องเดินทางไปที่ตัวจังหวัด จะต้องเดินเท้าถึง 2 วัน พักระหว่างทาง 1 คืน และเดินทางกลับอีก 2 วัน จึงจะกลับถึงบ้าน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 36 ถนนคอนกรีตบ้านไซเบอร์ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ ถนนคอนกรีต ไฟฟ้า ชาวกะเหรี่ยงชุดแรกย้ายเข้าอาศัย มีพระธรรมจาริกมาเผยแผ่ ประปา เข้ามาในชุมชน อยู่ในบริเวณชุมชนไซเบอร์ พระพุทธศาสนาในชุมชน ท าให้คุณภาพชีวิต ราวปี 2390 ราวปี 2540 ของคนในชุมชนดีขึ้น 2555 2300 2400 2500 2550 2566 มีถนนลูกรังเข้ามา เกิดอุทกภัยหนัก เกิดอุทกภัยน้ าท่วมบ้านเรือน ในชุมชน ท าให้ มีคนเสียชีวิต และเรือกสวนไร่นาเสียหาย การคมนาคมสะดวกขึ้น 20 คน ท าให้ผู้คนย้ายออกจากชุมชน ราวปี 2435 ปี พ.ศ. 2528 ไปมาก
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 37 ชาวกะเหรี่ยงโปว์ชุดแรกย้ายมาตั้งถิ่นฐาน ทางการท าถนนลูกรังเข้าสู่ชุมชน ข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนเสื้อผ้า ประกาศพื้นที่ป่าสงวนทับที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินชาวบ้าน ชาวบ้านเลิกท าไร่หมุนเวียน ชาวบ้านหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไฟฟ้าเข้ามาชุมชน ถนนคอนกรีตเข้าชุมชน ชาวบ้านย้ายออกจากชุมชน กว่า 50 ครัวเรือน ชุมชนมีผู้ใหญ่บ้านที่ทางการแต่งตั้ง น้ าประปาเข้าชุมชน มีระบบสุขาภิบาล/ห้องน้ า/ส้วม เกิดอุทกภัยมีคนตาย 21 คน ตั้งหมู่บ้าน สาธารณูปโภค เปลี่ยนแปลง สงครามโลก แผนพัฒนา ศก. เริ่มศก. ยุค ศก. ยุคพัฒนา ป๎จจุบัน การปกครอง ครั้งที่ 2 ฉบับที่ 1 ฟองสบู่ ฟองสบู่ สาธารณูปโภค 2415 2450 2475 2484 2488 2504 2533 2540 2555 2560 2566 2525 2528 2528 5. แผนที่และสภาพแวดล้อมชุมชน - ระยะทางจากอ าเภอถึงชุมชนบ้านไซเบอร์ 29 กิโลเมตร - ระยะทางจากจังหวัดถึงชุมชน 86 กิโลเมตร - ระยะทางจากกรุงเทพถึงชุมชน 261 กิโลเมตร - เดินทางได้ทางบกทางเดียว คือ การคมนาคมสัญจรโดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านอีซ่า หมู่ 3 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศใต้ ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้ง ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านตลิ่งสูง หมู่ 3 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 38 สภาพพื้นที่ทางกายภาพ /ขนาดพื้นที่ชุมชน/พื้นที่สาธารณะ/การสาธารณูปโภคชุมชน พื้นที่ชุมชนบ้านไซเบอร์ ร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา มีเทือกเขาส าคัญ เช่น เทือกเขาปาดู่ เทือกเขา ลุงเป๋าไต๋และมีเนินเขาจ านวนมากที่มีความสลับซับซ้อนอยู่รอบ ๆ ชุมชน พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นพื้นที่ ท าการเกษตร พื้นที่ร้อยละ 20 เป็นที่อยู่อาศัยเป็นที่ตั้งชุมชน และพื้นที่ร้อยละ 20 เป็นพื้นที่ป่าไม้ ภูเขา แม่น้ า คอกควาย น้ าตกไซเบอร์ น้ าตกสาวน้อย และพื้นที่ป่าชุมชน ป๎จจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่ในชุมชน จ านวน 28 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรบ้านไซเบอร์ พื้นที่ชุมชนบ้านไซเบอร์ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ มีแม่น้ าสายส าคัญไหลผ่านชุมชน ชื่อว่า “แม่น้ าคอกควาย” มีต้นก าเนิด มาจากเทือกเขาบริเวณเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ในพื้นที่มรดกโลกห้วยขอแข้ง มีระยะทางเฉพาะช่วง ที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงบ้านอีซ่า ประมาณ 500 – 700 เมตร มีน้ าไหลผ่านตลอดทั้งปี ชาวบ้านมีน้ าอุปโภค บริโภคและท าการเกษตรตลอดทั้งปี แม่น้ าคอกควาย ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ มีต้นไม้ใหญ่ที่ชาวบ้านเก็บรักษาไว้คู่บ้านคู่ชุมชน เป็นเสมือน จิตวิญญาณซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์ เป็นความผูกพันระหว่างป่าและต้นไม้กับชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ดูแล กันมากว่า 100 ปีคือต้นไทร ชาวกะเหรี่ยงโปว์จะท าพิธีกรรมค้ าต้นไทร ปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้เทพยาดาประจ า ต้นไม้คุ้มครองครอบครัวคนในชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดทั้งไป
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 39 ต้นไทรชุมชนไซเบอร์ บรรพบุรุษยุคแรกที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ เห็นว่าผืนดินบริเวณนี้มีความ อุดมสมบูรณ์มีเนินเขาและเชิงเขาที่ไม่สูงชันมากนัก เหมาะแก่การท าไร่หมุนเวียนตามแบบวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยง มีป่าไม้นานาพรรณ มีแม่น้ าคอกควายเป็นแหล่งน้ าอุปโภคบริโภค เรียกได้ว่าสภาพแวดล้อมมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน จึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานสร้างชุมชนอยู่ในบริเวณนี้จวบจนป๎จจุบัน ในอดีตปลูกเพียงข้าวไร่ในไร่หมุนเวียนรวมถึง พืชผักที่จ าเป็นในการด ารงชีวิต เช่น ผักกาด กวางตุ้ง คะน้า แตงกวา ผักชี พริก และพืชผักสวนครัวอีกมากมาย ไม่น้อยกว่า 50 ชนิด เอาไว้บริโภคในการด ารงชีพ มีการจ าหน่ายพริกหรือของป่าเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อน ามาซื้อ เกลือไว้บริโภคเท่านั้น ป๎จจุบันไม่มีการท าไร่หมุนเวียนแล้ว เนื่องจากพื้นที่ท าการเกษตรมีจ านวนจ ากัด ผู้คนใน ชุมชนมีการปลูกไร่ข้าวไว้กินในหนึ่งรอบปี พื้นที่ที่เหลือก็จะปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยวไว้ขายแลกเงินมาใช้ใน ครัวเรือน เช่น มันส าปะหลัง ข้าวโพด สับปะรด ยางพารา ปาล์ม เป็นต้น สถานที่ส าคัญทางสังคมและวัฒนธรรม ส่วนใหญ่จะมีการนัดพบพูดคุยหารือเรื่องส าคัญในบ้านของ ผู้อาวุโสของชุมชน หรือบ้านผู้น าชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มหารือกันอย่างไม่เป็นทางการตามบ้านต่าง ๆ แต่หากเป็นการประชุมหารืออย่างเป็นทางการแล้ว จะไปประชุมกันที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หรือที่องค์การ บริหารส่วนต าบล หรือที่อ าเภอ ป๎จจุบันนี้ที่อยู่อาศัยของชุมชน รวมทั้งพื้นที่ท าการเกษตรของคนในชุมชน ล้วนเป็นพื้นที่ของป่าสงวน แห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย โซนซี ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2528 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นการประกาศพื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติหลังจากที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยและท ามาหากินมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี และภายหลังการ ประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่รัฐแจ้งให้คนในชุมชนจับจองพื้นที่เพื่อแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ที่ชัดเจน โดยให้ชาวบ้านท าไร่อยู่กับที่ ไม่อนุญาตให้ท าไร่หมุนเวียนอีกต่อไป
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษVersion 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน”
ษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) 40
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 41 6. ประชากร ระบบเครือญาติ และชาติพันธุ์ (กลุ่มกะเหรี่ยงบ้านกุดจะเลิด) - ประชากรมีจ านวน 28 ครัวเรือน - ประชากรทั้งหมด 98 คน - ประชากรชาย 49 คน - ประชากรหญิง 49 คน - ประชากรทั้งหมดเป็นเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 98 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ระบบเครือญาติ ประชากรในชุมชนทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั้งสิ้น อยู่ร่วมกันแบบครอบครัวขยาย ที่มีผู้คนหลากหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน มีเพียงบางส่วนที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยว โดยปกติทั่วไป ประชากรชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่ในชุมชนมักจะใช้นามสกุลเดียวกันทั้งหมู่บ้าน และส่วนใหญ่จะใช้ชื่อหมู่บ้าน เป็นชื่อนามสกุล นอกจากจะย้ายมาจากหมู่บ้านอื่นในขณะที่มีนามสกุลอยู่แล้ว ก็ใช้นามสกุลเดิมของตนเอง ต่อไป กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่พูดภาษาอื่นที่อาศัยอยู่ในชุมชน กะซอง ก่อ (อึมปี้) กะยัน กะแย กะเลิง กูย ก ามุ ขแมร์ลือ คะฉิ่น จีน จีนยูนนาน ชอง ซะโอจ ซ าเร โซ่ ทะวืง ญ้อ ญัฮกุร เยอ ดาราอาง ไตหย่า ไทขึน ไทด า ไทเบิ้ง ไทยโคราช ไทยวน ไทโย้ย ไทใหญ่ บรู บีซู ปกาเกอะญอ ปลัง ปะโอ ผู้ไท โพล่ว ไทยพวน ม้ง มละบริ มอแกน มอแกลน มอญ มานิ มลายู ยอง ละว้า ลัวะ(ปรัย) ลัวะ ลาวครั่ง ลาวแง้ว ลาวเวียง ลาหู่ ลีซู ไทลื้อ เวียด แสก โส้ อ่าข่า อาเคอะ อิ้วเมี่ยน อูรักลาโว้ย โอก๋อง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษVersion 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน”
ษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) 42
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 43 7. โครงสร้างทางสังคม: องค์กรชุมชนและกลุ่มอาชีพ 7.1 กลุ่มที่เป็นทางการ 7.1.1 กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในอดีตชุมชนบ้านไซเบอร์ เคยมีการรวมตัวกันเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการออมทรัพย์ และใช้ในการระดมทุนไว้ให้คนในชุมชนได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ ทางการเกษตรในอัตราดอกเบี้ยต่ า ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง แต่เมื่อรัฐบาลได้จัดให้มีกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิตกลุ่มบ้านไซเบอร์จึงค่อย ๆ เริ่มถอนตัวออกจาก สมาชิก ไปเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลแทน 7.1.2 กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ ประชาชนในชุมชนมีการรวมตัวกันในนามกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ทั้งชุมชน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพของครอบครัวสมาชิก โดยให้ครอบครัวสมาชิกจ่ายเงิน ฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัวละ 50 บาท ต่อ 1 ศพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของทายาทผู้เสียชีวิต 7.1.3 กลุ่มสินเชื่อ ธ.ก.ส. ชาวบ้านจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 – 5 คน ยื่นของสินเชื่อทางการเกษตรกับ ธ.ก.ส. โดยหมุนเวียนกันค้ าประกันซึ่งกันและกัน โดย ธ.ก.ส. ให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ า ยืดระยะเวลาช าระนาน และบาง รัฐบาล ก็มีนโยบายพักช าระหนี้เกษตรกร เพื่อช่วยเหลือสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง 7.2 กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ 7.2.1 กลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ มีการรวมกลุ่มกันอย่างไม่เป็นทางการส าหรับกลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ หลังจากเสร็จ ภารกิจจากการท าการเกษตร จะมานั่งรวมกันเป็นกลุ่มตามใต้ถุนบ้านหรือใต้ต้นไม้นั่งทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ซึ่งเป็น ผ้าทอมือที่ใช้ กี่เอวในการทอผ้า ส่วนใหญ่จะเป็นการทอผ้าไว้ตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ใช้ในครัวเรือน ไม่ได้ทอผ้าเพื่อ การจ าหน่ายหรือเพื่อท าการตลาดแต่อย่างใด 7.2.2 กลุ่มประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรม มีการรวมตัวกันเพื่อจัดงานประเพณีวัฒนธรรมและการท าพิธีกรรมในชุมชนไซเบอร์ จะมีการรวมกลุ่มของคนในชุมชน โดยมีเจ้าวัดทองอินทร์ บูโกรก ซึ่งเป็นผู้น าแห่งจิตวิญญาณ และประกอบพิธีกรรม ตามความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 7.2.3 กลุ่มพลังศรัทธา มีชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์กลุ่มหนึ่งที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมตัวกันไปท าบุญที่วัดไซเบอร์ซึ่งเป็นวัดในชุมชนไซเบอร์เป็นประจ าทุกวันธรรมสวนะ ท าให้ชาวบ้านได้มี สถานที่ในการพูดคุยเรื่องการท ามาหากิน เรื่องสัพเพเหระ เรื่องประเพณีวัฒนธรรม และหารือกันเรื่องการท า การเกษตร เป็นต้น 7.2.4 กลุ่มท าการเกษตร ผู้คนในชุมชนมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครือญาติ 4 – 5 หลังคาเรือน ที่เป็นกลุ่มบ้านใกล้เรือนเคียงกัน จะมีการรวมตัวช่วยเหลือกันทางการเกษตร เช่น มีการรวมตัวกัน ลงแขกปลูกข้าวไร่ ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกขุดมันส าปะหลัง เป็นต้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 44 8. วิถีชีวิต: ปฏิทินชุมชนและชีวิตประจ าวัน ในรอบปีของผู้คนในชุมชนบ้านไซเบอร์ มีวิถีทางเศรษฐกิจที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ดังต่อไปนี้ 8.1 วิถีชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม 8.1.1 ประเพณีกินข้าวใหม่ หลังจากที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวไร่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะน าข้าวไร่ขึ้นเก็บในยุ้งฉาง ทุกบ้านที่ปลูกข้าวไร่ จะมีการประกอบพิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นรายหลังคาเรือน หรือบางกลุ่มอาจจะประกอบ พิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นกลุ่มญาติพี่น้อง โดยการจัดเตรียมข้าวปลาอาหาร ส ารับอาหารหวาน-คาว ที่มี คุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบพิธี เมื่อเตรียมอาหารหวาน-คาวเรียบร้อยแล้ว เชิญเจ้าวัดประกอบพิธีด้วย การน าทุกคนในครอบครัวกล่าวขอบคุณและขอขมาเครื่องมือทางการเกษตรต่าง ๆ ที่ท าให้ข้าวไร่ได้ผลผลิตดี 8.1.2 ประเพณีวันสงกรานต์ เมื่อถึงวันสงกรานต์ ผู้คนในชุมชนจะมีการรวมตัวกัน ณ บ้านของปราชญ์ชาวบ้าน บ้านผู้อาวุโส หรือบ้านของผู้น าชุมชน เป็นต้น และจะเชิญชวนผู้อาวุโสทั้งหญิงและชายในชุมชนเข้าร่วมพิธีรดน้ าขอพร โดย เจ้าวัดและปราชญ์ชาวบ้านอาวุโสจะให้พรกับลูกหลาน หลังจากนั้นผู้น าชุมชนและลูกบ้านจะร่วมกันรดน้ าขอ พรผู้อาวุโสจนครบทุกคน ชราเอง ปราชญ์ ชาวบ้าน กลุ่ม ฌามปนกิจ กลุ่ม ธ.ก.ส. กลุ่มออม ทรัพย์ กลุ่มกองทุน หมู่บ้าน กลุ่ม การเกษตร กลุ่มประเพณี วัฒนธรรม
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 45 ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ประเพณีสงกรานต์นั้น เดิมทีเป็นของคนไทย พื้นเมือง แต่ป๎จจุบันได้แผ่อิทธิพลเข้ามาสู่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ กลุ่มบ้านไซเบอร์ ซึ่งเห็นว่าเป็นประเพณี ที่ดีงามและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ ในการแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสในชุมชน จึงได้น าประเพณีดังกล่าวนี้มาสืบสานอย่างต่อเนื่องจนถึงป๎จจุบัน 8.1.3 ประเพณีไหว้เจดีย์ ในชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ มีเจ้าวัดหรือผู้น าแห่งจิตวิญญาณ จ านวน 1 คน และได้ ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามวิถีแห่งกะเหรี่ยงโปว์มาอย่างยาวนาน คนในชุมชนบ้านไซเบอร์ยังคงมีความเชื่อ และความศรัทธาเกี่ยวกับเจ้าวัดไม่เสื่อมคลาย ยังคงมีการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อแบบวิถีชาวกะเหรี่ยง โปว์อย่างต่อเนื่อง 8.1.4 ประเพณีลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ ได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีลอยกระทง ของคนไทยพื้นเมือง ซึ่งเป็นความสอดคล้องของผู้น าแห่งจิตวิญญาณที่ต้องการให้มีการขอขมาพระแม่คงคาที่ท า ให้คนในชุมชนได้มีน้ ากินน้ าใช้ มีน้ าในการท าการเกษตรตลอดปี และถือเอาวันขึ้น 15 ค่ า เดือน 12 ซึ่งตรงกับ วันลอยกระทงของคนไทย เป็นวันลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ด้วย กระทงจะมีขนาดใหญ่เป็นทรงสี่เหลี่ยม ที่ท ามาจากต้นกล้วยและกาบกล้วย ในกระทงจะมีอาหารหวาน-คาวที่ไม่เป็นอาหารต้องห้าม มีดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องสักการบูชาอื่น ๆ ตามสมควร โดยทั้งหมู่บ้านจะท าเพียงกระทงเดียว ช่วยกันหามไปลอยกระทงใน แม่น้ าคอกควาย เพื่อขอขมาพระแม่คงคา 8.2 วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ 8.2.1 การเตรียมดินเพาะปลูก หลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวไร่และผลผลิตทางการเกษตร ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมของทุกปี ก็จะเข้าสู่การเตรียมพื้นที่ส าหรับเตรียมการเพาะปลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม จะต้องมีการเตรียมดิน เช่น ถากถางวัชพืชหลังเก็บเกี่ยว เผาซากวัชพืช ไถบุก ไถแปรพลิกหน้าดินขึ้นมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่สะสมใต้ดิน และฆ่าไข่ของตัวหนอนและเพลี้ยชนิดต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูพืช เพื่อให้ดินมีความพร้อมส าหรับการเพาะปลูกรอบใหม่ 8.2.2 การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เมื่อเตรียมดินเสร็จก็จะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ราว ๆ เดือนเมษายน ถึงเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้นเกษตรกรจะดูแลพืชผลทางการเกษตรต่อไปอีกราว ๆ 4 – 6 เดือน จึงจะได้เวลา เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในแต่ละชนิด ดังนั้น ในช่วงของการดูแลพืชผลทางการเกษตร จึงถือได้ว่าเป็น ช่วงที่ส าคัญมาก 8.2.3 การเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร เมื่อพืชผลทางการเกษตรได้เวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะข้าวไร่ ชาวบ้านจะท าการ เกี่ยวข้าวชุดหนึ่งมาท าพิธีกินข้าวใหม่ เสร็จแล้วจึงจะเก็บเกี่ยวข้าวไร่ทั้งหมดที่ยังอยู่ในไร่มาเก็บไว้ในยุ้งฉาง เพื่อ เอาไว้บริโภคภายในครัวเรือนตลอดระยะเวลา 1 ปี
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 46 กิจกรรม/เหตุการณ์ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. หมายเหตุ ปฏิทินเศรษฐกิจ เตรียมดินเพาะปลูก พืชเชิงเดี่ยวโดยรวม ฤดูเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ปลูกข้าวไร่ มันส าปะหลัง ดูแลพืชผลเกษตรในไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลเกษตร ฤดูเกี่ยวข้าว หาหน่อไม้ หาเห็ดโคน ปฏิทินวัฒนธรรม ประเพณีกินข้าวใหม่ พิธีค้ าต้นไทร/ต าขมิ้น พิธีรดน้ าขอพรผู้ใหญ่ พิธีผูกแขนด้ายเหลือง พิธีป๎กสะเดิ่งครัวเรือน ก่อเจดีย์ทราย/เรียกฝน พิธีป๎กสะเดิ่งไร่ข้าว พิธีป๎กสะเดิ่งในล าห้วย ต าขนมจีนขี้เหนียว ชุมชนต้นน้ าท าก่อน พิธีสู่ขวัญข้าว ประเพณีลอยกระทง ประเพณี “พิบือโย” 9. ประวัติชีวิต: ปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้น า/บุคคลส าคัญของชุมชน 9.1 ชื่อ นายเนซ่า นามสกุล คลองเคียน อายุ 96 ปี เกิด พ.ศ. 2470 ที่อยู่บ้านเลขที่ 167/2 ชุมชนไซเบอร์ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายเนซ่า คลองเคียน เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ส าหรับโรคภัยที่มีกระบวนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และโรคภัยที่ไม่มีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้หวัด เป็นต้น มีความรู้เรื่องบทสวดคาถาอาคมที่ใช้ส าหรับประกอบพิธีกรรมพื้นถิ่นในระดับหนึ่ง จึงเป็น เสมือนผู้ช่วยผู้น าแห่งจิตวิญญาณของชุมชน เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการแสดงพื้นบ้าน เช่น ร าตง และการขับร้อง บทเพลงพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการเกษตรคอยสอนให้ลูกหลาน ท ามาหากิน และเป็นปราชญ์ด้านเครื่องจักสานสอนให้ลูกหลานท าเครื่องมือเครื่องใช้จากไม้ไผ่ไว้ใช้เอง ในครัวเรือน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ชีวประวัติ นายเนซ่า คลองเคียน ไม่ทราบวันเกิดและเดือนเกิดที่แน่ชัด แต่ตามบัตรประชาชนเกิดในปี พ.ศ. 2470 เกิดที่บ้านตะเพินคี่ ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองเคียนตอนยัง เด็กราว ๆ 6 – 7 ขวบเห็นจะได้ และย้ายมาอยู่ที่ชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ตอนอายุ 22 ปี มีลูกจ านวน 5 คน มีภรรยาชื่อนางนุ คลองเคียน ซึ่งถึงแก่กรรมไปเมื่อ 4 ปีก่อน ในปีนี้ลูกสาวคนโตที่ไปแต่งงานอยู่บ้านตะเพินคี่
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 47 ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางมาอยู่เป็นเพื่อนและคอยดูแลพ่อเฒ่าที่บ้านไซเบอร์ ป๎จจุบันอายุ 96 ปี ในวัยเด็กไม่ได้เรียนหนังสือไทย แต่ได้เรียนภาษากะเหรี่ยงโปว์ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน จนแตกฉาน สามารถช่วยสอนหนังสือให้ลูกหลานที่อยากเรียนรู้ภาษากะเหรี่ยงได้เป็นอย่างดี นายเนซ่า คลองเคียน เล่าให้ฟ๎งว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ เกิดเหตุภัยพิบัติอุทกภัย น้ าหลากรุนแรงในบริเวณพื้นที่ป่าทางเหนือใกล้ ๆ กับชุมชน มีผู้คนที่เดินทางมาเป็นลูกจ้างนายทุนที่มาท าสวนปาล์ม และสวนยางพารา และท าน้ ามันยางจากต้นยางนาในบริเวณนี้ เสียชีวิตไปกว่า 20 คน ถึงแม้ว่าจะไม่มี ชาวกะเหรี่ยงโปว์สูญเสียชีวิตในคราวนั้น แต่ผู้คนในชุมชนก็รู้สึกเศร้าสลดและเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่น้อยบ้างก็ว่าอาจจะเป็นการเกิดอาเพศร้ายในชุมชน บ้างก็ว่าเทวดาอารักษ์คงลงโทษผู้ที่เข้ามาท าลายป่า บ้างก็ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็มีผู้คนจ านวนหนึ่งได้ย้ายออกจาก ชุมชนไป ด้วยกลัวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก นายเนซ่า คลองเคียน 9.2 ชื่อ นายชราเอง นามสกุล ภูเหม็น อายุ 79 ปี เกิด พ.ศ. 2487 ที่อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ชุมชนไซเบอร์ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายชราเอง ภูเหม็น เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ส าหรับโรคภัยที่มีกระบวนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และโรคภัยที่ไม่มีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้หวัด เป็นต้น เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการแสดงพื้นบ้านและดนตรีพื้นบ้าน เช่น การเป่าแคน ร าตง และ การขับร้องบทเพลงพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น ชีวประวัติ นายชราเอง ภูเหม็น ไม่ทราบวันเกิดและเดือนเกิดที่แน่ชัด แต่ตามบัตรประชาชนเกิดในปี พ.ศ. 2487 เกิดที่บ้านอีซ่า ต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีในสมัยนั้น ย้ายมาอยู่ที่บ้านภูเหม็นตอนอายุ 19 ปี มาแต่งงานกับสาวชาวภูเหม็น และอาศัยอย ู ่ในชุมชนบ้านภูเหม็นได้ 1 ปี จากนั้นได้พาครอบครัวย้ายมาตั้ง ถิ่นฐานท ามาหากินที่ชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ตอนอายุ 20 ปี มีภรรยาชื่อ นางโว ภูเหม็น และมีลูกด้วยกันจ านวน 7 คน ส่วนใหญ่แต่งงานแล้ว และแยกครอบครัวไปด าเนินชีวิตของตัวเอง แต่ยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนไซเบอร์แห่งนี้ ลุงชราเอง ในวัยเด็กไม่ได้เรียนหนังสือไทย แต่ได้เรียนภาษากะเหรี่ยงโปว์ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนจนแตกฉาน สามารถช่วยสอนภาษากะเหรี่ยงให้ลูกหลานที่อยากเรียนรู้ภาษากะเหรี่ยงได้เป็นอย่างดี
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 48 นายชราเอง ภูเหม็น 9.3 ชื่อ นางโว นามสกุล ภูเหม็น อายุ 79 ปี เกิด พ.ศ. 2487 ที่อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ชุมชนไซเบอร์ หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นางโว ภูเหม็น เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ส าหรับโรคภัยที่มีกระบวนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และโรคภัยที่ไม่มีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้หวัด รวมถึงการเป็นหมอต าแยช่วยท าคลอดให้กับสตรีในชุมชนบ้านไซเบอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็น ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแสดงพื้นบ้าน เช่น ร าตง และการขับร้องบทเพลงพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น เป็น ปราชญ์ชาวบ้านด้านงานบ้านงานเรือน เช่น การท าอาหารกะเหรี่ยงโปว์ บทบาทของสตรีชาวกะเหรี่ยงโปว์ ในการครองเรือน แถมยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ และยังคงสอนให้ลูกหลานรวมถึง ลูกสะใภ้ทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ไว้ใส่ในชีวิตประจ าวัน ใส่ในเทศกาลประเพณีและวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ ชีวประวัติ นางโว ภูเหม็น ไม่ทราบวันเกิดและเดือนเกิดที่แน่ชัด แต่ตามบัตรประชาชนเกิดในปี พ.ศ. 2487 เกิด ที่บ้านภูเหม็น ต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีในสมัยนั้น และได้แต่งงานกับนายชราเอง ภูเหม็น ตอน อายุ 19 ปีและพักอาศัยอยู่บ้านภูเหม็นอีก 1 ปีหลังจากแต่งงานแล้ว และหลังจากนั้นได้ย้ายตามสามีมาตั้ง ถิ่นฐานท ามาหากิน ที่ชุมชนบ้านไซเบอร์แห่งนี้ตอนอายุ 20 ปี และลูกด้วยกันจ านวน 7 คน ส่วนใหญ่ลูก ๆ แต่งงานแล้ว และแยกครอบครัวไปด าเนินชีวิตของตัวเอง นางโว ภูเหม็น