แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 49 10. ทุนชุมชน 1. ทุนทางกายภาพ 1.1 แม่น้ าคอกควาย ประวัติความเป็นมา บรรพบุรุษรุ่นปู่และรุ่นย่าเล่าให้ฟ๎งต่อ ๆ กันมาว่า “แม่น้ าคอกควาย” เป็นแม่น้ าที่ไหลมาจากต้นน้ าในเขตป่าตะวันตกห้วยขาแข้ง ไหลมารวมกับล าห้วยล าธารสาย เล็ก ๆ หลายสาย จนเป็นแม่น้ าขนาดใหญ่ ไหลผ่านต าบลคอกควาย ผ่านป่าสงวนห้วยป่าคอกควาย และไหล ผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์แห่งนี้ ดังนั้น แม่น้ าคอกควายจึงเป็นแม่น้ าสายส าคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชน ช่วงเวลาที่ส าคัญ “แม่น้ าคอกควาย” ในอดีตที่ป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ มีความเชื่อกันว่า ในแม่น้ าคอกควายช่วงที่ไหลผ่านบริเวณชุมชนไซเบอร์แห่งนี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งช่วงเวลาที่งดงาม น่าจดจ า และช่วงเวลาที่เลวร้ายที่ไม่น่าจดจ า เช่น ในฤดูแล้งบางปีน้ าในแม่น้ าคอกควายแทบจะแห้ง จนแทบจะ ไม่มีน้ าไว้บริโภค ไม่มีน้ าท าการเกษตร ส่วนช่วงฤดูฝนในบางปีที่มีปริมาณจ้ าฝนมาก น้ าในแม่น้ าไหลเชี่ยวกราก ท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน สร้างความเสียให้กับชาวบ้านพอสมควร มีอยู่ปีหนึ่งฝนตกหนัก น้ าป่าไหลหลากจากภูเขารอบ ๆ ชุมชน ลงสู่แม่น้ าคอกควาย ท าให้มีลูกจ้างที่มารับจ้างนายทุนท าสวนท าไร่อยู่ รอบ ๆ ชุมชนบ้านไซเบอร์กว่า 20 คน ได้สูญเสียชีวิตไปกับวิกฤติการณ์อุทกภัยในครั้งนั้น และยังคงเป็นฝ๎นร้าย ชาวไซเบอร์ที่มีการเล่าสืบต่อกันมา สู่ลูกหลานรุ่นสู่รุ่น คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน “แม่น้ าคอกควาย” เป็นเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์มาตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้และน้ าในการท าเกษตร ผู้คนในชุมชนมีความผูกพันกับแม่น้ าสายนี้มาอย่างยาวนาน และจะยังคงมีความผูกพันกันตลอดไป สถานการณ์ป๎จจุบัน “แม่น้ าคอกควาย” เป็นแม่น้ าขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านไซเบอร์และอยู่ใกล้กับชุมชนมาก ดังนั้น ในปีใดที่มีปริมาณน้ าฝนมากน้ าจะเอ่อล้นท่วมที่อยู่อาศัยของ ชุมชนและท่วมเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน ที่ส าคัญแม่น้ ามักจะไหลเปลี่ยนทิศ ท าให้กัดเซาะริมตลิ่งกินเนื้อที่ไร่ สวนของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แม่น้ ากว้างขึ้น แถมพัดพากองทรายจ านวนมากมาทับถมอยู่ในบริเวณนี้ การสืบทอดและความยั่งยืน “แม่น้ าคอกควาย” มีปริมาณน้ าลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็น เพราะว่าผืนป่าต้นน้ าและผืนป่าที่อยู่ระหว่างทางที่แม่น้ าไหลผ่านนั้นค่อย ๆ ลดจ านวนน้อยลงไปเรื่อย ๆ จึงไม่ สามารถที่จะดูดซับความชุ่มชื้นของสายน้ าสายนี้เอาไว้ได้ตลอดปี ในฤดูแล้งจึงมีน้ าในแม่น้ าน้อยมากจนเกือบแห้ง จึงสามารถพูดได้ว่า การสืบทอดทรัพยากรน้ าในชุมชนแห่งนี้ยังไม่มีความยั่งยืนเท่าที่ควร ชาวบ้านยังต้องพึ่งบ่อน้ า บาดาลในการด ารงชีวิตอยู่หลายเดือนต่อปีดังนั้น สิ่งที่ควรเร่งด าเนินการในการบ ารุงรักษาแหล่งน้ าแห่งนี้ คือ ควรเร่งให้มีการปลูกป่าทดแทนป่าที่ถูกท าลายไปกับการท าการเกษตรโดยเร่งด่วน น้ าตกสาวน้อย
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 50 แม่น้ าคอกควาย 1.2 ป่าสงวนแห่งชาติ ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ. 2528 กรมป่าไม้ได้ประกาศเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทับซ้อนพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท ากินของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ในพื้นที่จังหวัด อุทัยธานีหลายชุมชน ไม่เว้นแม้แต่ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านไซเบอร์แห่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่ที่เคยท ามาหากิน พื้นที่ที่มี ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการท าไร่หมุนเวียนตามวิถีชนเผ่าแห่งกะเหรี่ยงชนอย่างอิสรเสรี ซึ่งได้มีการสืบสานกัน มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ช่วงเวลาที่ส าคัญ เมื่อปี พ.ศ. 2528 หลังการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลา และห้วยป่าคอกควาย ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกทาง ธรรมชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมหลายอ าเภอในจังหวัดอุทัยธานี เกิดผลกระทบกับกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์อย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่บนพื้นที่ราบสูงหรือในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นจุดเริ่มต้นของการ สร้างป๎ญหาความขัดแย้งระหว่างกฎหมายรัฐกับชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในหลายพื้นที่ ในจังหวัดอุทัยธานี มาจนถึงป๎จจุบัน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงรู้ดีว่าคุณค่าของป่าไม้มีมากมายเพียงใด ดัง ค าพูดที่ว่า “ที่ไหนมีป่า ที่นั่นมีกะเหรี่ยง” และ “ที่ไหนมีกะเหรี่ยงที่นั่นมีป่า” ชาวกะเหรี่ยงเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ รักป่ามากที่สุด หมู่บ้านกะเหรี่ยงทุกหมู่บ้านที่จะมีป่าชุมชนหรือป่าตามภูเขาที่อยู่รายรอบหมู่บ้านกะเหรี่ยง ที่โอบล้อม ชุมชนกะเหรี่ยง แสดงถึงการรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี สถานการณ์ป๎จจุบัน แม้ป๎จจุบันนี้ป่าชุมชนหรือป่าไม้ตามไหล่เขาและบนภูเขารอบ ๆ ชุมชน จะลดลงไปมากหากเทียบกับอดีต แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ป่าอยู่ร้อยละ 15 – 20 ของพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท า กินในป๎จจุบัน เพียงพอที่จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านไซเบอร์ เอาไว้เป็นแหล่งอาหารและ สร้างความชุ่มชื้นให้แก่ชุมชน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 51 ป่าชุมชนไซเบอร์ 2. ทุนมนุษย์ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ไซเบอร์มีปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน ปราชญ์ชาวบ้านด้านการ แสดงพื้นบ้านและดนตรีพื้นบ้าน ปราชญ์ชาวบ้านด้านการเกษตร ปราชญ์ด้านเครื่องจักสาน ปราชญ์ชาวบ้าน ด้านการทอผ้า มีเจ้าวัด (ผู้น าแห่งจิตวิญญาณ) และมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าอยู่มาก ถึงแม้จะมีประชากร เพียง 28 ครัวเรือนเท่านั้น ช่วงเวลาที่ส าคัญ ปราชญ์ชาวบ้านทุกคนได้ท าคุณประโยชน์ให้กับชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ ตลอดมารุ่นสู่รุ่น กว่า 150 ปี บนเส้นทางของปราชญ์ชาวบ้าน จวบจนถึงป๎จจุบัน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านทุกคนเป็นผู้ท าคุณประโยชน์ต่อชุมชน อย่างอเนกอนันต์ เป็นที่พึ่งทางกายด้วยการเป็นหมอสมุนไพร ได้ช่วยชาวบ้านยามทุกข์ร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นที่ พึ่งทางใจด้วยการเป็นเจ้าวัดหรือผู้น าแห่งจิตวิญญาณ รวมถึงผู้อาวุโสในชุมชนที่ช่วยท าให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ที่ส าคัญไปกว่านั้น ได้อนุรักษ์วิถีศิลปินพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ ได้อนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดวัฒนธรรม ประเพณีของชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ดีงามมาจนถึงทุกวันนี้ สถานการณ์ป๎จจุบัน ในป๎จจุบันนี้ปราชญ์ชาวบ้านหลายคนอายุมากแล้ว แต่ยังคงแข็งแรงและ เดินได้คล่องแคล่ว พูดจาเสียงดังฟ๎งชัด และได้ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ตามความรู้ความสามารถและ ทักษะวิชาชีพที่ตนมีอยู่ ส่วนศิลปินพื้นบ้านและบทเพลงพื้นบ้านนั้น ไม่ค่อยมีเวทีให้ท าการแสดง จึงไม่ได้ ถ่ายทอดให้ลูกหลานได้เรียนรู้ ผู้น าชุมชนควรเร่งด าเนินการจัดให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้าน รุ่นอาวุโสไปสู่ลูกหลานเยาวชนรุ่นใหม่โดยเร็ว ก่อนที่องค์ความรู้เหล่านี้จะสูญหายไปตลอดกาล การสืบทอดและความยั่งยืน ไม่ค่อยได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านสู่ เยาวชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมุนไพร ประเพณีวัฒนธรรม วิถีการท าไร่หมุนเวียน เครื่องจักสาน รวมถึงไม่ได้ ถ่ายทอดความรู้เรื่องศิลปะการแสดงพื้นบ้าน บทเพลงพื้นบ้าน และนิทานพื้นบ้านให้แก่ลูกหลาน หากไม่เร่ง ด าเนินการถ่ายทอดให้ลูกหลาน เกรงว่าอาจสูญหายไปในอนาคตอันใกล้นี้ 3. ทุนทางวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.1 การทอผ้ากะเหรี่ยงและเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยง ประวัติความเป็นมา ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านไซเบอร์ทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งกายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์อยู่เป็นประจ าในการด ารงวิถีชีวิตในป๎จจุบัน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 52 แต่ทุกคนมีชุดกะเหรี่ยงของตนติดบ้านไว้ หากแม้นเมื่อไหร่ที่ผู้น าชุมชนต้องการให้สวมใส่ชุดกะเหรี่ยงทุกคน พร้อมที่จะหยิบขึ้นมาสวมใส่ได้ทันที เพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ ช่วงเวลาที่ส าคัญ การแต่งกายด้วยผ้าทอกะเหรี่ยงโปว์ จะแต่งในหลายวาระ เช่น เทศกาล ขึ้นปีใหม่ชาวกะเหรี่ยงโปว์ งานไหว้เจดีย์ของชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ งานสงกรานต์และประเพณีรดน้ าขอพร ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยง พิธีกรรมการกินข้าวใหม่ งานแต่งงาน งานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนชุมชน กะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ เป็นต้น คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน เครื่องแต่งกายและการแต่งกายของชาวกะเหรี่ยงโปว์เป็น เครื่องแบบที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ ที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และมอบไว้ให้ลูกหลานได้ สืบทอดต่อ ๆ กันไป ถึงแม้ว่าป๎จจุบันจะไม่ค่อยได้สวมใส่ในชีวิตประจ าวัน แต่ชาวกะเหรี่ยงโปว์ทุกคนมีความรัก และมีความผูกพันกับเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยงโปว์ และมีความภาคภูมิใจในชาติพันธุ์ของตนทุกครั้งที่ได้สวมใส่ การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ทุกคนรักและหวงแหนใน ประเพณีวัฒนธรรม อัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมของตนเอง การแต่งกายกะเหรี่ยงไซเบอร์ 3.2 อาหารกะเหรี่ยง มีประวัติความเป็นมา คือ ชาวกะเหรี่ยงโปว์ไม่ว่าจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ แห่งหนต าบลใดก็ตาม มักจะน าวัฒนธรรมเรื่องอาหารการกินซึ่งเป็นมรดกภูมิป๎ญญาทางวัฒนธรรมติดตัวไปด้วย และชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์แห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน ได้ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดเรื่องอาหาร การกินของชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ได้รับมรดกภูมิป๎ญญามาจากบรรพบุรุษ ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่รุ่นสู่รู่นอย่าง ต่อเนื่อง และทุกวันนี้ทุกครัวเรือนยังคงท าอาหารกะเหรี่ยงเป็นทุกครัวเรือน ช่วงเวลาที่ส าคัญ การท าอาหารกะเหรี่ยงนั้นท าได้ง่าย ท าได้ทุกวัน สามารถท าได้ในทุกฤดูกาล และเป็นรายการอาหารที่สามารถหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงได้ง่ายในท้องถิ่น มีขั้นตอนและวิธีการปรุงที่ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และส่วนใหญ่มีรสชาติเผ็ดร้อนคล้ายอาหารของคนไทยพื้นเมืองทั่วไป คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน อาหารพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์มีคุณค่าทาง โภชนาการครบ 5 หมู่ และมีความส าคัญต่อการด ารงชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์ มีการสืบทอดจากอดีตถึง ป๎จจุบัน และมีการถ่ายทอดสู่ลูกหลานในอนาคตอย่างยั่งยืน สถานการณ์ป๎จจุบัน ได้รับอิทธิพลเรื่องอาหารการกินจากโลกภายนอกอย่างมากมาย แถมสื่อ ดิจิตอลและสื่อออนไลน์ยังโหมกระหน่ าใส่ลูกหลานชาวกะเหรี่ยงอย่างหนักหน่วง ท าให้ชาวกะเหรี่ยงวัยกลางคน และเยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถท าอาหารไทยและอาหารสากลได้หลายอย่าง แต่เชื่อได้ว่าชาวกะเหรี่ยงจะยังคง อนุรักษ์วัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ ได้อย่างมั่นคงยั่งยืนสืบไป
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 53 การสืบทอดและความยั่งยืน ป๎จจุบันนี้ชาวกะเหรี่ยงโปว์รุ่นพ่อรุ่นแม่หรือรุ่นปู่รุ่นย่ายังคงสอน ลูกหลานให้ด ารงวิถีชีวิตแบบกะเหรี่ยงโปว์ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ ท าให้มั่นใจได้ว่ามรดกภูมิป๎ญญา ทางวัฒนธรรมด้านอาหารของกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ จะด ารงคงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป ข้าวเหนียวหัวหงอก 3.3 ขนบธรรมเนียมประเพณีกะเหรี่ยงโปว์ ประวัติและความเป็นมา ชุมชนบ้านไซเบอร์ แห่งนี้เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ที่ส าคัญแห่งหนึ่ง เพราะในชุมชนแห่งนี้มีเจ้าวัดหรือผู้น าแห่ง จิตวิญญาณ จ านวน 1 คน คือ นายทองอินทร์ บูโกรก เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อและความ ศรัทธาแห่งวิถีกะเหรี่ยงโปว์ดั้งเดิม ท าให้ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม ตามวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้ ช่วงเวลาที่ส าคัญ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์มีการด ารงชีวิตด้วยวิถีวัฒนธรรมแบบ กะเหรี่ยงโปว์ตามแบบอย่างบรรพบุรุษได้สมบูรณ์มาก โดยมีวัฒนธรรมภายนอกเข้ามาแทรกแซงวิถีชีวิตได้เพียง เล็กน้อย คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้อย่างมั่นคง สถานการณ์ป๎จจุบัน ในปีหนึ่ง ๆ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์จะมีการรวมตัวกันเพื่อจัดงาน ประเพณีวัฒนธรรมหลายครั้งตามปฏิทินประเพณีและพิธีกรรมที่ชุมชนได้ตกลงร่วมกัน ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านไซเบอร์จึงร่วมกันแสดงอัตลักษณ์วัฒนธรรมกันอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงถึงพลังของมวลชนชาวกะเหรี่ยงโปว์ ในด้านของความเชื่อและความศรัทธาในวิถีวัฒนธรรมของตนเอง การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานรากฐาน วัฒนธรรมของชนเผ่ากะเหรี่ยงเอาไว้ได้ระดับดีมาก รวมถึงได้ร่วมกันรักษาอุดมการณ์ของชาวกะเหรี่ยงเรื่อง คนกับป่าเอาไว้ได้ 4. ทุนทางเศรษฐกิจ พืชเศรษฐกิจ ประวัติความเป็นมา คือ ในอดีตบรรพบุรุษในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ แห่งนี้นิยมปลูกข้าวไร่เป็นหลัก ที่ส าคัญเป็นการปลูกข้าวไร่ตามวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่าการท าไร่ หมุนเวียน ทั้งนี้ การท าไร่หมุนเวียนจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้ในไร่หมุนเวียน โดยไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด ในอดีต จะมีการจ าหน่ายพริกกะเหรี่ยง ฟ๎กทอง และของป่าเพียงเล็กน้อย เพื่อน าเงินมาซื้อเกลือไว้บริโภคในครัวเรือน เพราะในยุคนั้นถือว่าเกลือ มีความส าคัญมาก
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 54 ช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง จากยุคการท าไร่หมุนเวียนไปสู่การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือ พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ยุคที่ที่ดินท ากินของชุมชนถูกประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ชาวบ้านได้รับการจัดสรร ที่ดินจ านวนจ ากัด ไม่เพียงพอกับการท าไร่หมุนเวียน ชาวบ้านจึงเปลี่ยนวิถีเกษตรมาเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว หรือพืชเศรษฐกิจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ผู้คนปลูกพืชเพื่อการด ารงชีพ กับ ป๎จจุบันที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อจ าหน่ายและน าเงินมาด ารงชีพ ทั้งสองแนวทางล้วนมีคุณค่าและมีความหมาย ต่อชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ทั้งสิ้น สถานการณ์ป๎จจุบัน ชาวบ้านนิยมปลูกพืชเศรษฐกิจจ าพวก ข้าวโพด มันส าปะหลัง ปาล์ม อ้อย สับปะรด เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่โตเร็ว ทนแล้ง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี การสืบทอดและความยั่งยืน การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเติบโตอย่าง รวดเร็ว และจะคงด ารงอยู่เช่นนี้ต่อไปในอนาคตอีกหลายทศวรรษ 5. ทุนทางสังคม/การเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง ประวัติความเป็นมา คือ จากอดีตถึงป๎จจุบันชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านไซเบอร์ให้ความส าคัญกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาก ดังจะเห็นได้ว่า ชาวบ้านได้มีการ ตั้งผู้ปกครองชุมชนอย่างไม่เป็นทางการขึ้นมาดูแลความสงบสุขของชุมชน เมื่อครั้งที่ยังไม่มีผู้ใหญ่บ้านที่ภาครัฐ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งในระยะต่อมาภาครัฐได้มีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนต าบล ขึ้นมาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในชุมชน ชาวบ้านยังคงไปใช้สิทธิ์ในการ เลือกตั้งตามสิทธิ์ และปฏิบัติตามธรรมนูญของชุมชนอย่างเข้มแข็ง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและเคารพใน ระบอบประชาธิปไตย ช่วงเวลาที่ส าคัญ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ที่ชุมชนแห่งนี้มีผู้ใหญ่บ้านที่เป็นทางการที่ภาครัฐได้ แต่งตั้งให้ดูแลชุมชน ชาวบ้านให้ความเคารพและยอมรับในตัวผู้น าทุกรุ่นทุกยุคทุกสมัย ประชาชนมาลงคะแนน เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านอย่างเนืองแน่น ไม่เคยมีป๎ญหาความขัดแย้งในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชุมชนแห่งนี้ผ่านช่วงเวลาที่ยากล าบากจากอดีตจนถึง ป๎จจุบัน ผ่านเหตุการณ์ร้ายและดีมาอย่างยาวนานกว่า 150 ปี ผ่านการปกครองโดยผู้น าชุมชนทั้งที่เป็น ทางการและไม่เป็นทางการ เข้าใจในวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีส่วนร่วมและพร้อมให้ความร่วมมือในทุก ๆ ครั้ง สถานการณ์ป๎จจุบัน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ เป็นชุมชนขนาดเล็ก ภาครัฐต้องน า จ านวนประชากรไปนับรวมกับกลุ่มอื่น ๆ อีกหลายกลุ่ม จึงกลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ในนามของหมู่ที่ 1 บ้านคลองแห้ง โดยผู้คนในชุมชนยินยอมให้กลุ่มอื่นเป็นผู้ใหญ่บ้านที่เป็นทางการ และชุมชนบ้านไซเบอร์ รับต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อดูแลความเรียบร้อยและความสงบสุขของคนในชุมชน การสืบทอดและความยั่งยืน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์แห่งนี้มีการสืบทอดการเมืองและ การปกครองด้วยความเรียบร้อยตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน ไม่เคยมีความขัดแย้ง และไม่เคยเสียเลือดเนื้อกับการ เปลี่ยนแปลงการปกครอง และจะมีการด ารงรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยเช่นนี้ตลอดไป 11. ภาษา ภาษาพูดพื้นถิ่น ได้แก่ ภาษากะเหรี่ยงโปว์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในครัวเรือนและใช้ในการพูด ในชุมชนบ้านไซเบอร์ และใช้ในการสื่อสารกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ด้วยกันกับท้องถิ่นอื่น ๆ ภาษาเขียน ได้แก่ ภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั่วประเทศ และกะเหรี่ยงโปว์จากทั่วโลก ลักษณะของตัวอักษรมีรากฐานมาจากภาษาธิเบตและภาษาเมียนมาร์ และมีใช้ มายาวนานหลายศตวรรษแล้ว
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 55 สถานการณ์ปัจจุบัน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์มีผู้ที่สามารถใช้ภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ได้จ านวน น้อยมาก เนื่องจากเยาวชนกะเหรี่ยงโปว์และประชาชนชาวกะเหรี่ยงโปว์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ส าหรับภาษาพูดกะเหรี่ยงโปว์ ยังคงมีประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์ร้อยละ 80 ที่สามารถพูดได้ เนื่องจากชาวกะเหรี่ยงโปว์ให้ความส าคัญกับภาษาพูด และพยายามสอนให้ลูกหลานพูดด้วย วัตถุทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษา ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ไม่มีใครเก็บรักษา หนังสือใบลานที่เป็นภาษากะเหรี่ยงโปว์ไว้ได้ มีแต่สมุดจดบันทึกเก่า ๆ ที่ปราชญ์ชาวบ้านใช้ในการบันทึกเหตุการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ ในชุมชน เช่น นิทานพื้นบ้าน บทเพลงกล่อมลูก ประวัติศาสตร์ชุมชน องค์ความรู้วิถีการ ด ารงชีวิตแบบกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น 12. สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และการมีส่วนร่วม ด้านการเมืองการปกครอง ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึง ป๎จจุบัน โดยในยุคแรกมีการปกครองโดยผู้น าชุมชนอย่างไม่เป็นทางการ เป็นผู้อาวุโสหรือปราชญ์ชาวบ้านที่เป็น ที่ยอมรับในชุมชนเป็นผู้ปกครองดูแลทุกข์สุขและความสงบเรียบร้อยในชุมชน ต่อมามีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านจาก ภาครัฐมาดูแลราษฎร และภายหลังเปลี่ยนมาเป็นการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนต าบล มาช่วยผู้ใหญ่บ้านในการดูแลพัฒนาชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือกับ ผู้น าชุมชนและภาครัฐเป็นอย่างดี ด้านเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงวิถีการด าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากอดีตถึงป๎จจุบัน จากอดีต เป็นการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อการด ารงชีพ มีการค้าขายพริก ฟ๎กทองหรือของป่าเพียงเล็กน้อย เพื่อหาเงินไว้ซื้อ เกลือไว้บริโภคในครัวเรือน ต่อมาชาวบ้านถูกจ ากัดที่ดินท ากิน เนื่องจากการประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทับซ้อนที่ดินท ากินของชาวบ้าน ชาวบ้านจึงต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ด้วยการบริหารจัดการพื้นที่ที่มีอยู่อย่าง จ ากัด โดยการหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจ เพื่อหาเงินมาใช้ในการด ารง ด้านสังคมและประชากร ประชากรกะเหรี่ยงโปว์ในชุมชนกลุ่มบ้านไซเบอร์มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ช่วงเวลา กล่าวคือ ในระยะแรกที่มีชาวกะเหรี่ยงโปว์เข้ามาบุกเบิกพื้นที่ท ากินในบริเวณบ้านไซเบอร์แห่งนี้ มีเพียงไม่กี่ครัวเรือน ได้บอกต่อไปยังญาติ ๆ ที่อยู่ในชุมชนอื่น ๆ ท าให้มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาอยู่ ที่ชุมชนบ้านไซเบอร์เป็นจ านวนมาก ราว ๆ 100 ครัวเรือน ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้นชุมชนแห่งนี้ ประสบอุทกภัย มีผู้คนเสียชีวิตจากเหตุวิกฤติอุทกภัยไปกว่า 20 คน และประสบป๎ญหาภัยแล้งในปีที่ฝนไม่ ตกต้องตามฤดูกาล เคราะห์ซ้ าไปกว่านั้นภาครัฐได้ประกาศพื้นที่นี้เป็นป่าสงวนแห่งชาติทับที่ท ากินของชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านทยอยย้ายออกไปจากชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ท าให้ป๎จจุบันนี้ประชากรเหลือเพียง 28 ครัวเรือน ด้านสิทธิพลเมืองและสถานะบุคคล ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ย้ายมาจากหลาย ๆ ชุมชน ทั้งในจังหวัดอุทัยธานีและต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มีสิทธิในสัญชาติอยู่แล้วก่อนย้ายมาอยู่ที่ไซเบอร์ ผู้คนใน ชุมชนจึงไม่มีป๎ญหาเรื่องสิทธิในสัญชาติ ดังนั้น ทุกคนจึงมีสัญชาติไทยและเชื้อชาติไทย มีบัตรประชาชน มีสิทธิ พลเมืองไทยครบถ้วนทุกประการ ได้รับสวัสดิการแห่งรัฐเทียบเท่าประชาชนคนไทยทุกคนในประเทศ ได้รับ การศึกษาตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ได้รับบริการทางสาธารณสุขเท่าที่คนไทยคนหนึ่งพึงได้รับ ท าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้านระบบสาธารณูปโภค ในอดีตที่ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ไซเบอร์แห่งนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ไม่มีระบบสาธารณูปโภคที่รัฐจัด ชุมชนก็อาศัยภูมิป๎ญญาชาวบ้านในการด ารงชีวิต ต่อมาเมื่อชุมชนบ้านไซเบอร์ มีประชากรมากขึ้น รัฐจึงเข้ามาช่วยเหลือด้วยการท าประปาหมู่บ้าน เดินไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ท าถนนคอนกรีตเข้า หมู่บ้าน มีเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ชุมชน ด้านสาธารณสุข/ระบบสุขภาวะ ในอดีตระบบสาธารณสุขเข้าไม่ถึงชุมชน จึงท าให้คนในชุมชนต้อง เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย วัณโรค ท้องร่วง ฯลฯ แต่ป๎จจุบันชาวบ้านไซเบอร์ได้รับสวัสดิการจาก ภาครัฐด้านสาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนคนไทยทุกคน และมีห้องน้ าห้องส้วมที่ถูกสุขอนามัย
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 56 ด้านการศึกษา ในอดีตเยาวชนกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ได้รับการศึกษาแบบการศึกษาผู้ใหญ่ เนื่องจาก ไม่มีโรงเรียนในชุมชน ต่อมาเริ่มมีโรงเรียนแต่อยู่ห่างไกล มีเพียงเยาวชนบางคนที่ได้รับการศึกษาแต่ ป๎จจุบันนี้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาภาคบังคับ เพราะมีโรงเรียนหลายแห่งที่อยู่ใกล้ ๆ กับชุมชน เด็กและเยาวชนที่มีโอกาสได้เข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียนจบร้อยละ 80 และเยาวชนที่มีโอกาส เรียนระดับปริญญาตรีเรียนจบร้อยละ 10 ด้านวัฒนธรรม ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านไซเบอร์ล้วนยึดมั่นรักษาอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ให้คงอยู่ ด้วย การร่วมกันอนุรักษ์สืบสานสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถ ทัดทานวัฒนธรรมจากภายนอกซึ่งมีความทันสมัยและเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ที่เข้ามาแทรกซึมวิถี วัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ในทุกมิติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท าให้วัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ค่อย ๆ เลือนหายไปทีละน้อย ป๎จจุบันนี้ อัตลักษณ์วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ของชุมชนนี้ จะรับรู้กันในกลุ่มคนวัย กลางคนและผู้สูงอายุเท่านั้น เด็กและเยาวชนแทบจะไม่รู้ความเป็นมา ในอนาคตอันใกล้นี้มีแนวโน้ม ความเป็นไปได้สูงที่วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์อาจสูญหาย จึงเป็นความท้าทายของภาครัฐ ผู้น าชุมชน และผู้สูงอายุในชุมชน ว่าจะอนุรักษ์สืบสาน อัตลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ให้คงอยู่ ต่อไปอย่างไร ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามค าพูดที่กล่าวว่า “ที่ไหนมีกะเหรี่ยง ที่นั่นมีป่า” และ “ที่ไหนมีป่า ที่นั่นมีกะเหรี่ยง” ในอดีตนั้นอาจจะใช่ แต่ป๎จจุบันนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป ดังเช่น ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านไซเบอร์แห่งนี้ ในยุคบุกเบิกยอมรับว่าที่ดินผืนนี้มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากจริง ๆ ต่อมาเมื่อมีประชากรย้ายถิ่น ฐานเข้ามาอยู่จ านวนมาก ท าให้ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ถูกแปรสภาพเป็นที่อยู่อาศัย ไร่หมุนเวียน สวน และไร่ เกษตรเชิงเดี่ยว และจากฝีมือของนายทุนที่มาท าไร่ท าสวนในบริเวณนี้ จากระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเกือบ 2 ศตวรรษ ผืนป่าตามธรรมชาติและผืนป่าชุมชนเหลือเพียงร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด รัฐจึงได้มีการ ประกาศพื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ในกรณีชุมชนที่มีพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ท ากิน พื้นที่พิธีกรรม พื้นที่ใช้ประโยชน์ และพื้นที่อนุรักษ์ทับซ้อน กับพื้นที่อื่นของรัฐหรือเอกชน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระบุ............. อุทยานแห่งชาติ ระบุ...................... เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ระบุ.............................. ป่าสงวนแห่งชาติ ระบุ (ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย) วนอุทยาน ระบุ..................................... พื้นที่อนุรักษ์อื่น ๆ ระบุ...................... พื้นที่หน่วยงานรัฐ ระบุ............................ พื้นที่ทับซ้อนเอกชน ระบุ.................................... ที่ดินสาธารณะ ระบุ……………………………… การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและนอกชุมชน เพื่อรับมือกับสถานการณ์หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์เป็นชุมชนที่ผู้คนในชุมชนมีความรักความสามัคคี ความผูกพัน ความ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ าหนึ่งใจเดียวกันตลอดมา ดังนั้น ทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์วิกฤติ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุบ้านการเมือง ภัยธรรมชาติ ภัยคุกคาม การต่อรองราคาพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น คน ในชุมชนจะมีความร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยกันแก้วิกฤติต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไป เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน แนวทางแก้ไขปัญหาและรับมือกับความท้าทาย
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 57 ผู้น าชุมชนที่ภาครัฐแต่งตั้ง เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ทองหลาง และผู้น าที่เป็นผู้อาวุโสที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ผู้น าแห่งจิตวิญญาณและความเชื่อ และกลุ่มผู้น า ชุมชนที่เป็นหัวใจส าคัญในแต่ละด้าน เช่น คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. ผู้น ากองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ จะเป็นแกนน า ในการเชิญสมาชิกลูกบ้านประชุม เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็น ก าหนดแนวทางในการแก้ไขป๎ญหาและรับมือ กับความท้าทายจากวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การรวมกลุ่มและการสร้างเครือข่าย ในชุมชนมีเครือข่ายที่เป็นทางการเล็กน้อย เช่น เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน เครือข่ายเงินกู้ ธกส. เครือข่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ เป็นต้น ส่วนมากจะเป็นเครือข่ายที่ไม่เป็นทางการ เช่น การรวมตัวกันทอผ้า กะเหรี่ยงเป็นกลุ่มย่อย ๆ กลุ่มละ 4 – 5 ครัวเรือน เครือข่ายพิธีกรรมจะมีการรวมกลุ่มท าพิธีกรรมเป็นกลุ่ม ย่อย ๆ เฉพาะเครือญาติสนิท เครือข่ายหาของป่าจะมีการรวมตัว 4 – 5 คน ต่อหนึ่งกลุ่ม หาของป่ามาบริโภค หรือจ าหน่าย เครือข่ายพิธีกรรมงานอวมงคลช่วยเหลือกันในยามที่บ้านใดบ้านหนึ่งมีการสูญเสียชีวิต บทบาทของหน่วยงาน/องค์กรภายนอกที่เข้ามามีส่วนร่วม จากอดีตถึงป๎จจุบันมีหน่วยงานภายนอกที่เป็นภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน กะเหรี่ยงบ้านไซเบอร์หลายหน่วยงาน เช่น อ าเภอห้วยคต องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ศูนย์พัฒนา ราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี ส านักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานี เกษตรอ าเภอห้วยคต เป็นต้น ส าหรับบุคคล หรือองค์กรเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วม เช่น สถาบันธรรมชาติพัฒนา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ที่เข้ามามี ส่วนร่วมในพัฒนาชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านไซเบอร์ เป็นต้น 13. ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ น่าเสียดายที่น้ าตกไซเบอร์ถูกสั่งปิดมาหลายปีแล้ว ส่งผลให้จังหวัดสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว และท าให้ชุมชนกะเหรี่ยงไซเบอร์สูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ไปด้วย เพราะถ้าหากน้ าตกไซเบอร์เปิดคนใน ชุมชนกะเหรี่ยงไซเบอร์ก็สามารถไปขายของในบริเวณน้ าตกไซเบอร์ได้ เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับ ชุมชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวเองก็อาจจะแวะมาท่องเที่ยวในชุมชนกะเหรี่ยงไซเบอร์ด้วย อาจจะมีการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อีกทางหนึ่งได้เช่นกัน ดังนั้น จึงเห็นว่าหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควร เร่งแก้ไขป๎ญหาที่เกิดขึ้นภายในบริเวณน้ าตกไซเบอร์ และเปิดการท่องเที่ยวน้ าตกไซเบอร์ตามปกติ เพื่อเสริม การท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี เสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 58 แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สร้างและผู้มีส่วนร่วม 1.1 ผู้เรียบเรียงข้อมูล* กิตติพัฒน์ อธิวัฒน์ธนาวงศ์ 1.2 วันที่จัดท าข้อมูล 20/09/2566 1.3 ผู้ตรวจสอบข้อมูล พรทิพย์ ก าเหนิดแจ้ง 1.4 วันที่ตรวจสอบข้อมูล 27/11/2566 2. ชื่อชุมชน 2.1 ชื่อทางการ* บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี 2.2 ชื่อท้องถิ่น กลุ่มชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน 2.3 ความเป็นมาของชื่อ ชุมชน นายบรรเทา คลองแห้ง ผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยงโปว์ที่ชาวบ้านกลุ่มบ้านคลองเคียน ให้ความเคารพนับถือ เล่าให้ฟ๎งว่า มีชาวกะเหรี่ยงโปว์หลายกลุ่มได้อพยพโยกย้าย ถิ่นฐานมาจากชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เช่น บ้านภูเหม็น บ้านคลองหวาย บ้านคลองแห้ง บ้านอีซ่า บ้านกุดจะเลิด รวมถึงกะเหรี่ยงแก่นมะกรูด และบางส่วนย้ายมาจากบ้านตะเพินคี่ ต าบลวังยาว อ าเภอด่านช้าง จังหวัด สุพรรณบุรี มาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ โดยแต่ละกลุ่มทยอยย้ายเข้ามาในห้วงเวลาที่ แตกต่างกัน ห่างกัน 5 – 10 ปี ย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่ต่ ากว่า 200 ปีมาแล้ว พื้นที่ บริเวณนี้เป็นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบชุมชน อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ทรัพยากรธรรมชาติและของป่ามากมาย ในผืนป่าไม้เบญจพรรณและป่าไม้ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับการท าไร่ หมุนเวียนแบบวิถีชาวกะเหรี่ยงโปว์ บริเวณนี้มีแม่น้ าคอกควายไหลผ่านชุมชน เป็น แม่น้ าที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน วิถีคนในชุมชน ผูกพันกับสายน้ าสายนี้มาก เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคและ ท าการเกษตรมาแต่ครั้งอดีตกาล ในอดีตมีต้นตะเคียนหลายต้นกระจายอยู่ทั่ว หมู่บ้าน รวมถึงขึ้นอยู่ตามบริเวณริมล าห้วยสายหลักด้วย ล าห้วยจึงได้ชื่อว่า “ล าห้วยคลองเคียน” ต่อมาต้นตะเคียนค่อย ๆ หายไปทีละต้น ด้วยเหตุที่ กระแสน้ าเปลี่ยนทิศท าให้ต้นตะเคียนบางต้นถูกแช่น้ าจนตาย บางต้นอยู่ตามไร่ ชาวบ้านท าให้ทนแล้งไม่ได้ล้มตายไป บางต้นชาวบ้านตัดไปสร้างบ้านเรือน ป๎จจุบันจึงเหลือต้นตะเคียนไว้ดูต่างหน้าเพียงต้นเดียว เป็นต้นตะเคียนที่มีขนาด ใหญ่ 5 – 6 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี ยืนต้นเด่นสง่าอยู่ใจกลางชุมชน ท าให้ ชาวบ้านพากันเรียกชุมชนแห่งนี้ว่า “บ้านคลองเคียน” มาจนถึงป๎จจุบัน และ ป๎จจุบันนี้ต้นตะเคียนก็ยังคงอยู่กลางชุมชน มีต้นไทรเลื้อยขึ้นรอบต้นตะเคียน ตั้งแต่โคนต้นจนถึงปลายต้น แต่ต้นตะเคียนก็ยังไม่ตาย ยังคงมองเห็นใบของต้น ตะเคียนเป็นหย่อม ๆ สลับกับใบของต้นไทร แต่มองโดยรวมเห็นใบของต้น ตะเคียนชัดเจนกว่าใบของต้นไทร
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 59 2.4 ประเภทชุมชน ☐ ชุมชนเมือง/ชาวเมือง ☒ ชุมชนชนบท ☒ ชุมชนชาติพันธุ์ ☐ เครือข่ายชุมชน (กลุ่มทางสังคม/องค์กรทาง สังคม) ☐ ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ☐ ชุมชนอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม แฟลต อพาร์ทเม้นท์ 2.5 จุดเด่นชุมชน 1. ใจกลางชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมีต้นตะเคียนขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี ตั้งโดดเด่นสง่าอยู่ใจกลางหมู่บ้าน เป็นเสมือนศูนย์รวมความเชื่อและ จิตวิญญาณของผู้คนในชุมชน 2. ในชุมชนบ้านคลองเคียนแห่งนี้ มีล าห้วยคลองเคียนที่ไหลผ่านชุมชน เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน เป็นแหล่งรวมอารยธรรม ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน บริเวณล าห้วยคลองเคียนมีต้นยางน่อง ซึ่ง เป็นต้นไม้ที่ชาวบ้านน ามาท ายาพิษในการล่าสัตว์ 3. มีล าห้วยคอกควายไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน ซึ่งเป็น ล าห้วยที่มีขนาดใหญ่กว่าล าห้วยคลองเคียน มีปริมาณน้ าที่ไหลเวียนมากกว่า และงดงามกว่าล าห้วยคลองเคียน เป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางการเกษตร เป็น แหล่งน้ าอุปโภคบริโภคหลักของคนในชุมชน 4. ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนแห่งนี้ อยู่ลึกและห่างจากถนนสายหลัก สายบ้านไร่ – ลานสัก ระยะทางร่วม 10 กิโลเมตร ชุมชนแห่งนี้จึงรักษา วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์แบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ค่อนข้างดี 3. ที่ตั้ง 3.1 จังหวัด* อุทัยธานี 3.2 อ าเภอ/เขต* ห้วยคต 3.3 ต าบล/แขวง* ทองหลาง 3.4 หมู่บ้าน บ้านคลองแห้ง (ชุมชนคลองเคียน) 3.5 รหัสไปรษณีย์ 61170 3.6 ที่อยู่ (หมู่ที่, ถนน) หมู่ที่ 1 3.7 ละติจูด* 15.30372509 3.8 ลองจิจูด* 99.47838753 3.9 ประเภทเขตการ ปกครองส่วนท้องถิ่น ☐ เทศบาลนคร ระบุ………… ☐ เทศบาลเมือง ระบุ……………… ☐ เทศบาลต าบล ระบุ……… ☒ องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ☐ กรุงเทพมหานคร ☐ เมืองพัทยา 4. ความเป็นมา: ประวัติศาสตร์ชุมชน นายบรรเทา คลองแห้ง เล่าให้ฟ๎งว่า ในยุคบุกเบิกมีชาวกะเหรี่ยงโปว์หลายกลุ่มได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐาน มาจากชุมชนกะเหรี่ยงหลายแห่งทั้งในจังหวัดอุทัยธานีและ ย้ายมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ โดยที่แต่ละกลุ่มทยอย ย้ายเข้ามาในห้วงเวลาที่แตกต่างกัน ห่างกัน 5 – 10 ปี ชุมชนแห่งนี้น่าจะมีอายุไม่ต่ ากว่า 200 ปี พื้นที่บริเวณ นี้เป็นที่ราบเชิงเขาและมีภูเขาล้อมรอบชุมชน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของป่ามากมาย ในผืนป่าไม้เบญจพรรณและ ป่าไม้ผลัดใบ บางจุดเป็นป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะสมกับการท าไร่หมุนเวียน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 60 แบบวิถีชาวกะเหรี่ยงโปว์ บริเวณนี้มีแม่น้ าคอกควายไหลผ่านชุมชน และมีล าห้วยคลองเคียนอีกสายหนึ่งที่ไหลผ่าน ชุมชน ล าห้วยทั้งสองสายเป็นแม่น้ าที่เปรียบเสมือนกับเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน ท าให้วิถีชีวิตของ คนในชุมชนมีความผูกพันกับสายน้ า เพราะเป็นทั้งแหล่งน้ าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค และเป็นแหล่งน้ าส าหรับ การท าการเกษตรมาแต่ครั้งอดีต อีกทั้ง ในอดีตชุมชนแห่งนี้มีต้นตะเคียนขนาดใหญ่จ านวนมากกระจายอยู่เต็ม พื้นที่ บางส่วนอาจล้มตายไปเพราะความแห้งแล้ง บางส่วนคนในชุมชนอาจโค่นน าไปใช้สอย บางส่วนอาจตาย ไปเพราะถูกแช่น้ าเมื่อกระแสน้ าจากล าห้วยทั้งสองสายเปลี่ยนทิศทางไหล แต่ป๎จจุบันยังเหลือต้นตะเคียนขนาดใหญ่ อยู่จ านวน 1 ต้น ขนาด 5 – 6 คนโอบ มีอายุกว่า 100 ปี มีต้นไทรเลื้อยอยู่รอบต้นตะเคียนตั้งแต่โคนต้น จนถึงยอดต้นตะเคียน ข้างบนยอดต้นไม้ทั้งสองต้นนี้มองเห็นทั้งใบของต้นตะเคียนและใบของต้นไทรแยกกัน เป็นหย่อม ๆ แต่เห็นใบของต้นตะเคียนมากกว่า แต่ล าต้นของต้นตะเคียนนั้นถูกต้นไทรห่อจนเกือบมิดชิด จึงเป็นที่มาที่ชาวบ้านเรียกชุมชนแห่งนี้ว่า “บ้านคลองเคียน” มาจนถึงป๎จจุบันนี้ ต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปี ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย โซน 3 พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นที่ราบเชิงเขา หุบเขา และมีภูเขาขนาดไม่สูงมากนักล้อมรอบชุมชน เหมือนอยู่ในแอ่งกระทะ มีเนินเขา ขนาดสูงต่ าสลับซับซ้อนลดหลั่นกันไปเป็นจ านวนมาก ในอดีตชาวบ้านท าไร่หมุนเวียนเพียงอย่างเดียว เป็นการ ปลูกข้าวไร่ไว้กินในครัวเรือน ไม่ได้ปลูกเพื่อการค้าขาย จะมีรายได้บ้างเพียงเล็กน้อยจากการขายพริกกะเหรี่ยง มะพร้าว ข้าวเปลือกหรือของป่าเท่านั้น เพื่อเอาเงินไปซื้อเกลือไว้บริโภคในครัวเรือน ในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจ านวนมากกว่า 100 หลังคาเรือน มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับป่า มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์โอบล้อมชุมชน ผู้คนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ชุมชนแห่งนี้อยู่ลึก เข้าไปห่างจากถนนใหญ่กว่า 10 กิโลเมตร แถมถนนทางเข้าในสมัยก่อนยังเป็นถนนลูกรัง ซึ่งมีความล าบากใน การเดินทางในฤดูฝนมาก ถนนลื่น น้ ากัดเซาะ รถยนต์ขึ้นทางชันล าบาก ในฤดูฝนเคยมีน้ าหลากบ้าง เป็นบางครั้ง น้ าเอ่อท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าง เนื่องจากมีแม่น้ าถึงสองสายที่ไหลผ่านชุมชน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 61 ดังนั้น ปีใดที่มีปริมาณน้ าฝนมากน้ าในแม่น้ าก็จะมากเป็นพิเศษ ฤดูแล้งบางปีก็แล้งเป็นพิเศษยาวนาน ท าการเกษตรไม่ได้ ไฟฟ้าไม่มีใช้ คลื่นโทรศัพท์ไม่มีผู้คนจึงย้ายออกจากชุมชนไปจ านวนมาก ท าให้ในป๎จจุบันนี้ คงเหลืออยู่เพียง 30 ครัวเรือนเท่านั้น สภาพบ้านเรือนบ้านคลองเคียน ในชุมชนบ้านคลองเคียนแห่งนี้ เคยมีเจ้าวัดหรือผู้น าแห่งจิตวิญญาณ จ านวน 2 คน คนที่ 1 ชื่อนาย นองก่องเทอเส้ย (โซ้ยล่ะซ๊ะ) และคนที่ 2 ชื่อ นายนองเตาซ๊ะ (ตะเส้ย) ส าหรับเจ้าวัดคนที่ 2 ยังมีซากเจดีย์ เป็นเนินดินให้เห็นอยู่ใกล้ ๆ กับต้นกรวยตู (ภาษากะเหรี่ยง) ในอดีตเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีไหว้เจดีย์เป็น ประจ าทุกปี ระยะต่อมาพอเจ้าวัดถึงแก่กรรมแล้วก็ไม่มีเจดีย์และไม่มีการไหว้เจดีย์อีกเลยจนป๎จจุบัน ส าหรับ ชาวบ้านคนใดที่จะไปไหว้เจดีย์จะเดินทางไปไหว้เจดีย์ร่วมกับชุมชนไกล้เคียงที่ยังมีเจ้าวัดอยู่ เช่น บ้านภูเหม็น บ้านไซเบอร์หรือแก่นมะกรูด เป็นต้น เนื่องจากชุมชนบ้านคลองเคียนไม่มีเจ้าวัด จึงให้ผู้อาวุโสที่มีความรู้ในการ ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของวิถีกะเหรี่ยงโปว์ช่วยประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ชุมชนแห่งนี้ มีที่พักสงฆ์คลองเคียนเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นศาสนสถานที่ ใช้ในการประกอบศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในชุมชน ป๎จจุบันนี้มี พระอาจารย์สายัณห์ ปุํฺณคโม เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์จ าพรรษา จ านวน 5 รูป ในยุคแรกที่มีพระสงฆ์เข้ามา เผยแผ่พระพุทธศาสนา จะเป็นลักษณะของพระธรรมจาริกก่อน และมีการผลัดเปลี่ยนพระธรรมจาริกต่อ ๆ กัน มาหลายรุ่น ภายหลังมีชาวบ้านศรัทธาพระพุทธศาสนาจ านวนมากขึ้น ชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างที่พักสงฆ์ขึ้น และนิมนต์พระสงฆ์มาจ าวัดถาวร ที่พักสงฆ์ บ้านคลองเคียน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 62 ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนเคยมีโรงเรียนศูนย์เด็กเล็กมาตั้งอยู่ในชุมชนราว ๆ 20 ปีก่อน และ เปิดได้เพียง 2 – 3 ปีก็ปิดตัวไป เนื่องจากมีเด็กเรียนน้อยและชุมชนอยู่ห่างไกลความเจริญ อยู่กลางดงกลางป่า ท าให้ไม่มีครูอาสาสมัครมาสอนเด็ก ๆ ดังนั้น เด็กที่มีอายุถึงเกณฑ์เรียนหนังสือ จะไปเรียนหนังสือกันที่โรงเรียนชุมชน บ้านคลองแห้งต าบลทองหลาง ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนบ้านคลองเคียนราวๆ 10 กิโลเมตร เด็ก ๆ อีกส่วนหนึ่งศูนย์ พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจะพาไปเรียนที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ชัยนาท (โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ชัยนาท 46) ซึ่งเป็นโรงเรียนประจ า จนจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในอดีตบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงโปว์ชุมชนบ้านคลองเคียน ได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม ตามแบบวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้อย่างยั่งยืน แต่ป๎จจุบันถูกกลืนกินหายไปเป็นจ านวนมาก เนื่องจาก ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์แห่งนี้อยู่ใกล้กับชุมชนของคนไทยพื้นเมืองที่อยู่รอบ ๆ ชุมชน จึงท าให้วิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก การคมนาคมสัญจร ในอดีตในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนแห่งนี้ยังไม่มีถนนหนทางที่สะดวก ในการเดินทางสัญจร ผู้คนในชุมชนบ้านคลองเคียนต้องเดินเท้าไปตามทางเท้า ข้ามภูเขา ป่าไม้ ล าธาร เพื่อที่จะ ไปท าธุรกรรมที่อ าเภอ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 1 วัน พักค้าง 1 คืน และเดินทางกลับอีก 1 วัน จึงจะ กลับถึงบ้าน หากจะต้องเดินทางไปที่ตัวจังหวัด จะต้องเดินเท้าถึง 4 วัน พักค้าง 3 คืน จึงจะกลับถึง ต่อมาเมื่อ ทางการเข้ามาพัฒนาถนนหนทาง มีถนนลูกรังเข้ามาถึงชุมชน บ้านคลองเคียนเริ่มมีรถโดยสารประจ าทางเป็น รถรางไม้ 6 ล้อ รับ-ส่งผู้คนในชุมชน ไปที่ตลาดทุ่งนา ต าบลเขาบางแกรก อ าเภอหนองฉาง 1 จุด และเดินทางไป ที่ตัวจังหวัดอุทัยธานี อีก 1 จุด ป๎จจุบันนี้ไม่มีรถโดยสารประจ าทางแล้ว หากคนในชุมชนที่จะเดินทางไปท าธุรกรรมในตัวอ าเภอหรือจังหวัด ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งป๎จจุบันในชุมชนมีรถยนต์ของชาวบ้าน จ านวน 8 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลซึ่งป๎จจุบันมีทุกครัวเรือน หรืออาศัยเพื่อนบ้านไป เป็นต้น และป๎จจุบันนี้ถนนทางเข้าหมู่บ้านส่วนใหญ่ เป็นถนนคอนกรีตแล้ว ยังเหลืออีกไม่กี่กิโลเมตรถนนคอนกรีตก็จะเข้าถึงหมู่บ้านคลองเคียน ถนนคอนกรีตในชุมชนบ้านคลองเคียน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 63 ชาวกะเหรี่ยงโปว์ย้ายมาอยู่บ้านคลองเคียน ทางการท าถนนลูกรังเข้าสู่ชุมชน ข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนเสื้อผ้า ประกาศพื้นที่ป่าสงวนทับที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินชาวบ้าน ชาวบ้านเลิกท าไร่หมุนเวียน ชาวบ้านหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว ถนนคอนกรีตเข้าชุมชน ชาวบ้านย้ายออกจากชุมชน กว่า 50 ครัวเรือน ภาครัฐแต่งตั้งผู้ใหญ่ที่เป็นทางการ น้ าประปาเข้าชุมชน มีระบบสุขาภิบาล/ห้องน้ า/ส้วม ถนนคอนกรีต ไฟฟ้า ชาวกะเหรี่ยงชุดแรกย้ายเข้าอาศัย มีที่พักสงฆ์ ประปา เข้ามาในชุมชน อยู่ในบริเวณชุมชนคลองเคียน บ้านคลองเคียน ท าให้คุณภาพชีวิต ราวปี2390 มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ของคนในชุมชนดีขึ้น 2555 2300 2400 2500 2550 2566 มีถนนลูกรังเข้ามา มีศูนย์เด็กเล็ก ชุมชนเลิกท าไร่หมุนเวียน ในชุมชน ท าให้ สอนเด็กและเยาวชน หันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว การคมนาคมสะดวกขึ้น ในบ้านคลองเคียน และพืชเศรษฐกิจแทน ราวปี 2435 ปี พ.ศ. 2520 เช่น ข้าวโพด สับปะรด ตั้งหมู่บ้าน สาธารณูปโภค เปลี่ยนแปลง สงครามโลก แผนพัฒนา ศก. เริ่มศก. ยุค ศก. ยุคพัฒนา ป๎จจุบัน การปกครอง ครั้งที่ 2 ฉบับที่ 1 ฟองสบู่ ฟองสบู่ สาธารณูปโภค 2366 2415 2450 2475 2484 2488 2504 2533 2540 2555 2560 2566 2525 2528 2528
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 64 ๕. แผนที่และสภาพแวดล้อมชุมชน - ระยะทางจากอ าเภอถึงชุมชนบ้านคลองเคียน 27 กิโลเมตร - ระยะทางจากจังหวัดถึงชุมชน 75 กิโลเมตร - ระยะทางจากกรุงเทพถึงชุมชน 259 กิโลเมตร - เดินทางได้ทางบกทางเดียว คือ การคมนาคมสัญจรโดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านอีซ่า หมู่ 3 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านกระแหน่ หมู่ 9 ต าบลบ้านไร่ อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านภูเหม็น หมู่ 8 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้ง สภาพพื้นที่ทางกายภาพ /ขนาดพื้นที่ชุมชน/พื้นที่สาธารณะ/การสาธารณูปโภคชุมชน พื้นที่ชุมชนบ้านคลองเคียน ร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา มีเนินเขาจ านวนมากที่มีความสลับซับซ้อน อยู่รายรอบชุมชน พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นพื้นที่ท าการเกษตร พื้นที่ร้อยละ 20 เป็นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ ร้อยละ 20 เป็นพื้นที่ป่าชุมชน ภูเขา แม่น้ าคอกควาย ล าห้วยคลองเคียน ป๎จจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่ในชุมชน จ านวน 30 ครัวเรือน คงเหลือเฉพาะญาติที่สนิทชิดเชื้อที่ยังคงป๎กหลักอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน สภาพบ้านเรือนบ้านคลองเคียน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน มีแม่น้ าสายส าคัญไหลผ่านชุมชน จ านวน 2 สาย สายที่หนึ่งคือ “แม่น้ าคอกควาย” มีต้นก าเนิดมาจากเทือกเขาบริเวณเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ในพื้นที่มรดกโลก ห้วยขาแข้ง มีระยะทางเฉพาะช่วงที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงบ้านอีซ่า ประมาณ 500 – 700 เมตร มีน้ าไหล ผ่านตลอดทั้งปี สายที่ 2 คือ “ล าห้วยคลองเคียน” ไหลมาจากเขตพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้งซึ่งเป็นป่าต้นน้ า แม่น้ าคอกควาย
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 65 ล าห้วยคลองเคียน ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน มีต้นไทรในบริเวณชุมชน เป็นเสมือนพื้นที่จิตวิญญาณซึ่งเป็น วิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์ เป็นความผูกพันระหว่างคนกับป่าและต้นไม้โดยชาวกะเหรี่ยงโปว์จะท าพิธีกรรม ค้ าต้นไทร ปีละ 1 ครั้ง ต้นโพธิ์บ้านคลองเคียน บรรพบุรุษยุคแรกที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านคลองเคียนแห่งนี้ เห็นว่าผืนดินบริเวณนี้มีความ อุดมสมบูรณ์มีเนินเขาและเชิงเขาที่ไม่สูงชันมากนัก เหมาะแก่การท าไร่หมุนเวียนตามแบบวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยง มีแม่น้ าคอกควายและล าห้วยคลองเคียนเป็นแหล่งน้ าอุปโภคบริโภค สภาพแวดล้อมมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน จึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานสร้างชุมชนอยู่ในบริเวณนี้จวบจนป๎จจุบัน พื้นที่กิจกรรมทางสังคม ป๎จจุบันชุมชนบ้านคลองเคียน ไม่มีเจ้าวัดหรือผู้น าทางจิตวิญญาณ ดังนั้นคนใน ชุมชนจึงเดินทางไปร่วมพิธีไหว้เจดีย์กับชุมชนใกล้เคียงที่มีเจ้าวัด เช่น บ้านภูเหม็น บ้านไซเบอร์ หรือทางต าบล
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 66 แก่นมะกรูด อ าเภอบ้านไร่ ซึ่งเป็นความเชื่อทางจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยง นอกจากนี้ ประเพณีแบบวิถีชน เผ่ากะเหรี่ยงโปว์ที่เหลืออยู่ เช่น ประเพณีการกินข้าวใหม่ การป๎กสะเดิ่งไว้ตามบ้านและตามไร่ข้าว เพื่อป้องกัน ภูตผีหรือสิ่งชั่วร้ายรังควาน พิธีกรรมบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยมและตามสังคมรอบข้าง นอกจากนี้ ชาวกะเหรี่ยงโปว์ในชุมชนนี้ไม่ค่อยได้สวมใส่เสื้อผ้ากะเหรี่ยงในชีวิตประจ าวันกันแล้ว นิยมสวมใส่เสื้อผ้า ส าเร็จรูปเหมือนคนไทยพื้นเมืองทั่วไป และจะหยิบเสื้อผ้ากะเหรี่ยงโปว์มาใส่ก็ต่อเมื่อมีประเพณีเทศกาลส าคัญที่ ต้องรวมตัวกันในฐานะชนเผ่า หรือกรณีที่ต้องไปร่วมกิจกรรมในเมืองในฐานะตัวแทนชนเผ่ากะเหรี่ยงเท่านั้น สถานที่ส าคัญทางสังคมและวัฒนธรรม ส่วนใหญ่จะมีการนัดพบพูดคุยหารือเรื่องส าคัญในบ้านของ ผู้อาวุโสของชุมชน หรือบ้านผู้น าชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มหารือกันอย่างไม่เป็นทางการตามบ้านต่าง ๆ แต่หากเป็นการประชุมหารืออย่างเป็นทางการแล้ว จะไปประชุมกันที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หรือที่องค์การ บริหารส่วนต าบล หรือที่อ าเภอห้วยคต ป๎จจุบันนี้ที่อยู่อาศัยของชุมชน รวมทั้งพื้นที่ท าการเกษตรของคนในชุมชน ล้วนเป็นพื้นที่ของป่าสงวน แห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย โซนซี ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2528 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นการประกาศพื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติหลังจากที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยและท ามาหากินมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี และภายหลังการ ประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่รัฐแจ้งให้คนในชุมชนจับจองพื้นที่เพื่อแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ ชัดเจน โดยให้ชาวบ้านท าไร่อยู่กับที่ ไม่อนุญาตให้ท าไร่หมุนเวียนดังเช่นในอดีตอีกต่อไป จึงท าให้พื้นที่ท าไร่ หมุนเวียนลดลง ฟื้นคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มขึ้น ดังนั้น วิถีชีวิตการท าไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงโปว์ จึงเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจในเวลาต่อมา
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษVersion 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน”
ษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) 67
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 68 6. ประชากร ระบบเครือญาติ และชาติพันธุ์ (กลุ่มกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน) - ประชากรมีจ านวน 30 ครัวเรือน - ประชากรทั้งหมด 105 คน - ประชากรชาย 53 คน - ประชากรหญิง 52 คน - ประชากรทั้งหมดเป็นเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 105 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ระบบเครือญาติ ประชากรในชุมชนทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ อาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวขยายที่ มีผู้คนหลากหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน มีเพียงบางส่วนที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยว กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่พูดภาษาอื่นที่อาศัยอยู่ในชุมชน (ไม่มี) กะซอง ก่อ (อึมปี้) กะยัน กะแย กะเลิง กูย ก ามุ ขแมร์ลือ คะฉิ่น จีน จีนยูนนาน ชอง ซะโอจ ซ าเร โซ่ ทะวืง ญ้อ ญัฮกุร เยอ ดาราอาง ไตหย่า ไทขึน ไทด า ไทเบิ้ง ไทยโคราช ไทยวน ไทโย้ย ไทใหญ่ บรู บีซู ปกาเกอะญอ ปลัง ปะโอ ผู้ไท โพล่ว ไทยพวน ม้ง มละบริ มอแกน มอแกลน มอญ มานิ มลายู ยอง ละว้า ลัวะ(ปรัย) ลัวะ ลาวครั่ง ลาวแง้ว ลาวเวียง ลาหู่ ลีซู ไทลื้อ เวียด แสก โส้ อ่าข่า อาเคอะ อิ้วเมี่ยน อูรักลาโว้ย โอก๋อง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษVersion 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน”
ษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) 69
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 70 7. โครงสร้างทางสังคม: องค์กรชุมชนและกลุ่มอาชีพ 7.1 กลุ่มที่เป็นทางการ 7.1.1 กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในอดีตชุมชนบ้านคลองเคียน เคยมีการรวมตัวกันเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการ ผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการออมทรัพย์ และใช้ในการระดมทุนไว้ให้คนในชุมชนได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ ทางการเกษตรในอัตราดอกเบี้ยต่ า แต่เมื่อรัฐบาลได้จัดให้มีกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กลุ่ม สหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิตจึงไปสมัครเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลแทน 7.1.2 กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ มีการรวมตัวกันในนามกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ทั้งชุมชน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อ ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพของครอบครัวสมาชิก โดยให้ครอบครัวสมาชิกจ่ายเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ครอบครัวละ 50 บาท ต่อ 1 ศพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของทายาทผู้เสียชีวิตในการจัดงานศพ 7.1.3 กลุ่มสินเชื่อ ธ.ก.ส. มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ กลุ่มละ 4 – 5 คน ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการเกษตรกับ ธ.ก.ส. โดยหมุนเวียนกันค้ าประกันภายในกลุ่ม ป๎จจุบันนี้ชาวบ้านเป็นสมาชิกเกือบทุกครัวเรือน 7.2 กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ 7.2.1 กลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ มีการรวมกลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ หลังจากเสร็จภารกิจจากการท าการเกษตร จะมานั่ง รวมกันเป็นกลุ่มตามใต้ถุนบ้านหรือใต้ต้นไม้ นั่งทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ซึ่งเป็นผ้าทอมือที่ใช้กี่เอวในการทอผ้า ส่วนใหญ่ จะเป็นการทอผ้าไว้ตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ใช้ในครัวเรือน ไม่ได้ทอผ้าเพื่อการจ าหน่าย 7.2.2 กลุ่มประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรม ทุก ๆ ครั้งที่มีประเพณีวัฒนธรรมและการท าพิธีกรรมในชุมชนบ้านคลองเคียน จะมี การรวมกลุ่มของคนในชุมชนจ านวนมาก มีผู้อาวุโสที่ชาวบ้านนับถือท าหน้าที่เป็นผู้น าในการประกอบพิธีกรรมตาม ความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 7.2.3 กลุ่มพลังศรัทธา มีชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนกลุ่มหนึ่งที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมตัวกันไปท าบุญที่ที่พักสงฆ์บ้านคลองเคียนเป็นประจ าทุกวันธรรมสวนะ เป็นสถานที่ในการพูดคุยเรื่องการ ท ามาหากิน เรื่องสัพเพเหระ เรื่องประเพณีวัฒนธรรม และหารือกันเรื่องการท าการเกษตรเป็นต้น 7.2.4 กลุ่มท าการเกษตร เป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครือญาติ 4 – 5 หลังคาเรือน ที่เป็น กลุ่มบ้านใกล้เรือนเคียงกัน รวมตัวช่วยเหลือกันทางการเกษตร เช่น มีการรวมตัวกันลงแขกปลูกข้าวไร่ ลงแขก เกี่ยวข้าว ลงแขกขุดมันส าปะหลัง เป็นต้น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 71 8. วิถีชีวิต: ปฏิทินชุมชนและชีวิตประจ าวัน 8.1 วิถีชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม 8.1.1 ประเพณีกินข้าวใหม่ หลังจากที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวไร่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะน าข้าวไร่ขึ้นเก็บในยุ้งฉาง ทุกบ้านที่ปลูกข้าวไร่ จะมีการประกอบพิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นรายหลังคาเรือน หรือบางกลุ่มอาจจะประกอบ พิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นกลุ่มญาติพี่น้อง โดยการจัดเตรียมข้าวปลาอาหาร ส ารับอาหารหวาน -คาว ที่มี คุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบพิธี เมื่อเตรียมอาหารหวาน-คาวเรียบร้อยแล้ว เชิญผู้อาวุโสประกอบพิธี กล่าวขอบคุณและขอขมาเครื่องมือทางการเกษตรต่าง ๆ ที่ท าให้ข้าวไร่ได้ผลผลิตดี ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ข้าวไร่เป็นอาหารหลักของชาวกะเหรี่ยงโปว์มา ตั้งแต่บรรพบุรุษ ป๎จจุบันประชากรร้อยละ 50 ยังคงท าข้าวไร่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเลี้ยงชีพ ดังนั้น พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าว จึงยังคงถูกรักษาเอาไว้ได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นตอนปลูกข้าว ตอนที่ ใบข้าวเริ่มโค้งงอลงมาถึงพื้นดิน ตอนข้าวออกรวง และตอนเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งล้วนแต่มีพิธีกรรมในการบอกกล่าว เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอให้ได้ผลผลิตมากและมีคุณภาพที่ดี 8.1.2 ประเพณีวันสงกรานต์ เมื่อถึงวันสงกรานต์ ผู้คนในชุมชนจะมีการรวมตัวกัน ณ บ้านของปราชญ์ชาวบ้านหรือ บ้านผู้อาวุโสหรือบ้านของผู้น าชุมชน โดยเชิญชวนผู้อาวุโสทั้งหญิงและชายในชุมชนเข้าร่วมพิธีรดน้ าขอพร โดย ปราชญ์ชาวบ้านหรือผู้อาวุโสจะให้พรกับลูกหลาน ลูกบ้านจะร่วมกันรดน้ าขอพรผู้อาวุโสจนครบทุกคน ถือเป็น อันเสร็จสิ้นพิธีการ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากคนไทยพื้นเมือง บรรทา ปราชญ์ ชาวบ้าน กลุ่ม ฌามปนกิจ กลุ่ม ธ.ก.ส. กลุ่มออม ทรัพย์ กลุ่มกองทุน หมู่บ้าน กลุ่ม การเกษตร กลุ่มประเพณี วัฒนธรรม
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 72 ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ประเพณีสงกรานต์นั้น เดิมทีเป็นของคนไทย พื้นเมือง แต่ป๎จจุบันได้แผ่อิทธิพลเข้ามาสู่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านคลองเคียน 8.1.3 ประเพณีลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ ได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีลอยกระทง ของคนไทยพื้นเมือง ซึ่งเป็นความสอดคล้องของผู้น าแห่งจิตวิญญาณที่ต้องการให้มีการขอขมาพระแม่คงคาที่ท า ให้คนในชุมชนได้มีน้ ากินน้ าใช้ มีน้ าในการท าการเกษตรตลอดปีไม่เคยแห้งเหือดหายไป และถือเอาวันขึ้น 15 ค่ า เดือน 12 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงของคนไทย เป็นวันลอยกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์ด้วย ซึ่งลักษณะกระทงของชาวกะเหรี่ยงโปว์จะมีความแตกต่างจากกระทงของคนไทย คือ กระทงจะมีขนาดใหญ่ เป็นทรงสี่เหลี่ยมท ามาจากต้นกล้วยและกาบกล้วย ในกระทงจะมีอาหารหวาน-คาว มีดอกไม้ธูปเทียน และ เครื่องสักการบูชาอื่น ๆ ตามสมควร โดยทั้งหมู่บ้านจะท าเพียงกระทงเดียว ช่วยกันหามไปลอยกระทงใน แม่น้ าคอกควาย เพื่อขอขมาพระแม่คงคา 8.2 วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ 8.2.1 การเตรียมดินเพาะปลูก การเตรียมพื้นที่ส าหรับเตรียมการเพาะปลูก ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึง เดือนมีนาคม จะต้องมีการเตรียมดิน เช่น ถากถางวัชพืชหลังเก็บเกี่ยว เผาซากวัชพืช ไถบุกและไถแปรเพื่อพลิก หน้าดินขึ้นมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่สะสมใต้ดิน และฆ่าไข่ของตัวหนอนและเพลี้ยชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ดินมี ความพร้อมส าหรับการเพาะปลูกรอบใหม่ 8.2.2 การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร หลังเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม หากฝนตกต้องตามฤดูกาลชาวบ้านจะเพาะปลูกพืชผล ทางการเกษตร หลังจากนั้นเกษตรกรจะดูแลพืชผลทางการเกษตรต่อไปอีกราว ๆ 4 – 6 เดือน จึงจะได้เวลา เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในแต่ละชนิด ในช่วงนี้ จะมีพิธีกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชาวกะเหรี่ยง บ้านคลองเคียน คือ การป๎กสะเดิ่งไหว้ผีป่าหรือไหว้ผีเจ้าที่ เพื่อขอให้การเพาะปลูกได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ และไม่มีโรคภัยรบกวน ซึ่งพิธีกรรมนี้จะท าในขณะที่ใบข้าวหรือพืชผลในไร่ มีใบชุดแรกที่เติบโตและใบโค้งงอลงมาจรดผิวดิน 8.2.3 การเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร เมื่อพืชผลทางการเกษตรได้เวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะข้าวไร่ ชาวบ้านจะท าการ เกี่ยวข้าวชุดหนึ่งมาท าพิธีกินข้าวใหม่ เสร็จแล้วจึงจะเก็บเกี่ยวข้าวไร่ทั้งหมดที่ยังอยู่ในไร่มาเก็บไว้ในยุ้งฉาง เพื่อ เอาไว้บริโภคภายในครัวเรือนตลอดระยะเวลา 1 ปี
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 73 กิจกรรม/เหตุการณ์ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. หมายเหตุ ปฏิทินเศรษฐกิจ เตรียมดินเพาะปลูก พืชเชิงเดี่ยวโดยรวม ฤดูเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ปลูกข้าวไร่ มันส าปะหลัง ดูแลพืชผลเกษตรในไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลเกษตร ฤดูเกี่ยวข้าว หาหน่อไม้ หาเห็ดโคน ปฏิทินวัฒนธรรม ประเพณีกินข้าวใหม่ พิธีค้ าต้นไทร/ต าขมิ้น พิธีรดน้ าขอพรผู้ใหญ่ พิธีผูกแขนด้ายเหลือง พิธีป๎กสะเดิ่งครัวเรือน ก่อเจดีย์ทราย/เรียกฝน พิธีป๎กสะเดิ่งไร่ข้าว พิธีป๎กสะเดิ่งในล าห้วย ต าขนมจีนขี้เหนียว ชุมชนต้นน้ าท าก่อน พิธีสู่ขวัญข้าว ประเพณีลอยกระทง ประเพณี “พิบือโย” 9. ประวัติชีวิต: ปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้น า/บุคคลส าคัญของชุมชน 9.1 ชื่อ นายบรรเทา นามสกุล คลองแห้ง อายุ 65 ปี เกิด พ.ศ. 2499 ที่อยู่บ้านเลขที่ 165 ชุมชนบ้านคลองเคียน หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายบรรเทา คลองแห้ง เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย เบื้องต้นส าหรับโรคภัยที่มีกระบวนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และโรคภัยที่ไม่มีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้หวัด เป็นต้น เป็นปราชญ์ด้านเครื่องจักสาน สอนให้ลูกหลานท าเครื่องมือเครื่องใช้จากไม้ไผ่ ไว้ใช้เองในครัวเรือน นอกจากนี้ยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านพิธีกรรมพื้นฐานและด้านการท าการเกษตรและการ ท ามาหากินด้วยวิถีกะเหรี่ยงโปว์อีกด้วย ชีวประวัติ นายบรรเทา คลองแห้ง ไม่ทราบวันเกิดที่แน่ชัด แต่เกิดเดือนธันวาคม ปีพ.ศ. 2499 เกิดที่บ้านคลองเคียน แต่งานตอนอายุ 18 ปี มีลูกจ านวน 5 คน มีภรรยาชื่อ นางทองค า คลองเคียน ลูก ๆ โตและแต่งงานครองเรือนกัน หมดแล้ว ป๎จจุบันลุงบรรเทามีอายุ 65 ปี ในวัยเด็กไม่ได้เรียนหนังสือไทย แต่ได้เรียนภาษากะเหรี่ยงโปว์ทั้ง ภาษาพูดและภาษาเขียน ลูกหลานลุงบรรเทาส่วนใหญ่ได้ย้ายไปใช้ชีวิตในท้องถิ่นอื่นหลังจากแต่งงาน บุตร บางคนย้ายไปท างานในเมืองหลวง บางคนยังอยู่กับลุงบรรเทา บางคนไปรับราชการที่อื่น
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 74 นายบรรเทา คลองแห้ง เล่าให้ฟ๎งว่า การใช้ชีวิตในชุมชนบ้านคลองเคียนแห่งนี้ มีความราบเรียบ เรียบง่าย ตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบันไม่มีเหตุการณ์วิกฤติที่จะต้องจดจ าเป็นพิเศษที่เกิดขึ้นกับตนหรือเกิดขึ้นในชุมชนแห่งนี้ นายบรรเทา คลองแห้ง 9.2 ชื่อ นางบุญมี นามสกุล คลองแห้ง อายุ 58 ปี เกิด พ.ศ. 2508 ที่อยู่บ้านเลขที่ 17 ชุมชนคลองเคียน หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นางบุญมี คลองแห้ง เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทอผ้ากะเหรียงโปว์ สอนลูกหลานทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ ตามวิถีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพชน เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการแสดง พื้นบ้านและดนตรีพื้นบ้าน เช่น ร าตง และการขับร้องบทเพลงพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็น ปราชญ์ชาวบ้านด้านภาษาพูดและภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ สามารถสอนภาษาพูดและภาษาเขียนได้อย่าง คล่องแคล่ว ชีวประวัติ นางบุญมี คลองแห้ง ไม่ทราบวันเกิดที่แน่ชัด แต่ตามบัตรประชาชนเกิดเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2508 เกิดที่บ้านคลองเคียน และเติบโตที่นี่ แต่งงานกับนายอังปาลี ภูเหม็น ตอนอายุ 20ปี อยู่ที่บ้านคลองเคียนและ มีลูกด้วยกัน 4 คน ลูก ๆ ส่วนใหญ่แต่งงานแล้ว และแยกครอบครัวไปด าเนินชีวิตของตัวเอง แต่ยังคงอาศัยอยู่ใน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน มีเพียงบางคนที่ย้ายไปท างานที่อื่น นางบุญมี คลองแห้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 75 9.3 ชื่อ นางมะวิงติง นามสกุล คลองแก อายุ 70 ปี เกิด พ.ศ. 2496 ที่อยู่บ้านเลขที่ 109 ชุมชนคลองเคียน หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัด อุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นางมะวิงติง คลองแก เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วย เบื้องต้นส าหรับโรคภัยที่มีกระบวนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และโรคภัยที่ไม่มีอาการรุนแรง เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เป็นไข้หวัด รวมถึงเป็นหมอต าแยช่วยท าคลอดให้กับสตรีในชุมชนบ้านคลองเคียน เป็นต้น เป็น ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแสดงพื้นบ้าน เช่น ร าตง และการขับร้องบทเพลงพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ เป็นต้น เป็น ปราชญ์ชาวบ้านด้านงานบ้านงานเรือน เช่น การท าอาหารกะเหรี่ยงโปว์ บทบาทของสตรีชาวกะเหรี่ยงโปว์ใน การครองเรือน และนอกจากนี้ยังเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์อีกด้วย ชีวประวัติ นางมะวิงติง คลองแก ไม่ทราบวันเกิดและเดือนเกิดที่แน่ชัด แต่ตามบัตรประชาชนเกิดในปี พ.ศ. 2496 เกิดที่บ้านคลองเคียน แต่งงานกับนายเอ็งใช๊ คลองแกตอนอายุ 17 ปี และด าเนินวิถีชีวิตอยู่ที่บ้านคลองเคียน มาตลอดชีวิต มีลูกด้วยกันจ านวน 2 คน ลูก ๆ แต่งงานแล้ว และใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนบ้านคลองเคียน นางมะวิงติง คลองแก 10. ทุนชุมชน 1. ทุนทางกายภาพ 1.1 แม่น้ าคอกควาย ประวัติความเป็นมา “แม่น้ าคอกควาย” เป็นแม่น้ าที่มีแหล่งต้นน้ าอยู่ใน พื้นที่เขตป่าตะวันตกห้วยขาแข้ง ไหลลงมารวมกับล าห้วยล าธารสายเล็ก ๆ หลายสาย จนเป็นแม่น้ าขนาดใหญ่ ไหลผ่านต าบลคอกควายของอ าเภอบ้านไร่ ผ่านป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าคอกควาย และไหลผ่านชุมชน กะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนแห่งนี้ดังนั้น แม่น้ าคอกควายจึงเป็นแม่น้ าสายส าคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชนบ้าน คลองเคียนหลายต่อหลายรุ่นมาอย่างยาวนาน ช่วงเวลาที่ส าคัญ “แม่น้ าคอกควาย” ในฤดูแล้งบางปีน้ าในแม่น้ าคอกควายแทบจะแห้ง จนแทบไม่มีน้ าไว้บริโภค ไม่มีน้ าท าการเกษตร ส่วนช่วงฤดูฝนในบางปีที่มีปริมาณน้ าฝนมาก น้ าในแม่น้ าไหล เชี่ยวหลากท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน สร้างความเสียให้กับชาวบ้านพอสมควร
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 76 คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน “แม่น้ าคอกควาย” เป็นเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมาตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้และน้ าในการ ท าการเกษตร ผู้คนในชุมชนมีความผูกพันกับแม่น้ าสายนี้มาอย่างยาวนาน สถานการณ์ป๎จจุบัน “แม่น้ าคอกควาย” เป็นแม่น้ าขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองเคียนและอยู่ใกล้กับชุมชนมาก แม่น้ ามักจะไหลเปลี่ยนทิศ ท าให้กัดเซาะริมตลิ่งกินเนื้อที่ไร่สวนของ ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แม่น้ ากว้างขึ้น แต่ที่ดินในการท าไร่สวนลดลง การสืบทอดและความยั่งยืน “แม่น้ าคอกควาย” เป็นแม่น้ าที่มีปริมาณน้ าลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าผืนป่าต้นน้ าและผืนป่าที่อยู่ระหว่างทางค่อย ๆ ลดจ านวนลงไปเรื่อย ๆ จึงไม่สามารถที่จะดูดซับ ความชุ่มชื้นของสายน้ าเอาไว้ได้ตลอดปี ในฤดูแล้งจึงมีน้ าในแม่น้ าน้อยมากจนเกือบแห้ง จึงสามารถพูดได้ว่าการ รักษาทรัพยากรน้ าในชุมชนแห่งนี้ยังมีความยั่งยืนอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากดังเช่นแต่ก่อน ควรเร่งให้มีการปลูก ป่าทดแทนพื้นที่ป่าที่ถูกท าลายไปกับการท าการเกษตร แม่น้ าคอกควาย 1.2 ล าห้วยคลองเคียน มีประวัติความเป็นมา คือ “ล าห้วยคลองเคียน” เป็นล าห้วยที่มีแหล่ง ต้นน้ าอยู่ในพื้นที่เขตป่าตะวันตกห้วยขาแข้ง ไหลลงมาผ่านหลายพื้นที่และไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองเคียน ดังนั้น ล าห้วยคลองเคียนจึงเป็นสายน้ าสายส าคัญอีกสายหนึ่งที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชน ช่วงเวลาที่ส าคัญ “ล าห้วยคลองเคียน” ในฤดูแล้งบางปีน้ าในล าห้วยคลองเคียนแทบจะแห้ง จนแทบไม่มีน้ าไว้บริโภค ไม่มีน้ าท าการเกษตร ส่วนช่วงฤดูฝนในบางปีมีปริมาณน้ าฝนมาก น้ าในล าห้วยไหล เชี่ยวหลากท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน สร้างความเสียให้กับชาวบ้านพอสมควร คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน “ล าห้วยคลองเคียน” เป็นเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยง ผู้คนในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมาตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้และน้ าในการท า การเกษตรผู้คนในชุมชนมีความผูกพันกับล าห้วยสายนี้มาอย่างยาวนาน สถานการณ์ป๎จจุบัน “ล าห้วยคลองเคียน” มีขนาดเล็กลงและมีน้ าน้อยลงทุกปี โดยเฉพาะใน ฤดูแล้งน้ าในล าห้วยเหลือน้อยจนเกือบแห้ง เวลาหน้าฝนน้ าก็หลากและไหลเชี่ยว ควรต้องมีการปรับปรุงป่าต้นน้ า การสืบทอดและความยั่งยืน “ล าห้วยคลองเคียน” สายน้ านี้มีปริมาณน้ าลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วน หนึ่งเป็นเพราะว่า ผืนป่าต้นน้ าและผืนป่าที่อยู่ระหว่างทางที่ล าห้วยไหลผ่านนั้น ค่อย ๆ ลดจ านวนน้อยลงไป ไม่สามารถที่จะดูดซับความชุ่มชื้นของสายน้ าเอาไว้ได้ตลอดปี ในฤดูแล้งจึงมีน้ าน้อยมากจนเกือบแห้ง ชาวบ้านยัง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 77 ต้องพึ่งบ่อน้ าบาดาลในการด ารงชีวิต ดังนั้น สิ่งที่ควรเร่งด าเนินการในการบ ารุงรักษาแหล่งน้ า คือ ควรเร่งให้มี การปลูกป่าทดแทนพื้นที่ป่าที่ถูกท าลายไปกับการท าการเกษตรโดยเร่งด่วน ล าห้วยคลองเคียน 1.3 ป่าสงวนแห่งชาติ ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ. 2528 กรมป่าไม้ได้ประกาศเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทับซ้อนพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท ากินของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ในพื้นที่จังหวัด อุทัยธานีหลายชุมชน รวมถึงชุมชนกะเหรี่ยงบ้านคลองเคียนแห่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่ที่เคยท ามาหากินและเป็นพื้นที่ ท าไร่หมุนเวียนตามวิถีชนเผ่าแห่งกะเหรี่ยงอย่างอิสรเสรี ซึ่งได้มีการสืบสานกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เป็นที่ น่าเสียดายที่ดินของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมไว้ประมาณ 100 ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งรัฐได้จัดสรรให้ชาวบ้านใหม่โดยมี ที่ท ากินในพื้นที่ของตนเองเพียงครัวเรือนละ 25 – 30 ไร่ และห้ามไม่ให้ท าไร่หมุนเวียนตามวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยง อีกต่อไป ดังนั้นการท าไร่หมุนเวียนตามวิถีบรรพบุรุษแห่งกะเหรี่ยงโปว์จึงสิ้นสุดลง และไม่มีการอนุรักษ์สืบสาน การท าไร่หมุนเวียนกันอีกเลยจวบจนป๎จจุบัน ช่วงเวลาที่ส าคัญ เมื่อปี พ.ศ. 2528 หลังการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลา และห้วยป่าคอกควาย ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ พื้นที่กะเหรี่ยงในหลายอ าเภอในจังหวัดอุทัยธานี เกิดผลกระทบกับกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์อย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นที่ราบสูงหรือในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และ การประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของรัฐนั้นมีเป้าหมายเพื่อเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสมบูรณ์ไว้เป็นทรัพยากร ของชาติ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างป๎ญหาความขัดแย้งระหว่างกฎหมายรัฐกับชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในหลายพื้นที่ในจังหวัดอุทัยธานีมาจนถึงป๎จจุบันนี้ คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์รู้ดีว่าคุณค่าของป่าไม้มีมากมายเพียงใด ดัง ค าพูดที่ว่า “ที่ไหนมีป่า ที่นั่นมีกะเหรี่ยง” และ “ที่ไหนมีกะเหรี่ยงที่นั่นมีป่า” ค าพูดนี้ยังคงเป็นความจริงมาจนถึง ทุกวันนี้แบบที่ไม่มีวันจะเสื่อมสลายไป ดังจะเห็นได้ว่าหมู่บ้านกะเหรี่ยงทุกหมู่บ้านจะมีป่าชุมชนหรือป่า ตามภูเขาอยู่เสมอซึ่งเป็นการรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี สถานการณ์ป๎จจุบัน แม้ป๎จจุบันนี้ป่าชุมชนหรือป่าไม้ตามไหล่เขาและบนภูเขารอบ ๆ ชุมชน จะลดลงไปมากหากเมื่อเทียบกับป่าในอดีต แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ป่าอยู่ร้อยละ 15 – 20 ของพื้นที่ที่อยู่อาศัยและ พื้นที่ท ากินในป๎จจุบัน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 78 ป่าชุมชนบ้านคลองเคียน 2. ทุนมนุษย์ ชุมชนบ้านคลองเคียนทุนที่ส าคัญที่สุดคือทุนมนุษย์ เนื่องจากมีปราชญ์ชาวบ้านด้านสมุนไพร พื้นบ้าน ปราชญ์ด้านพิธีกรรม ปราชญ์ด้านศิลปะและดนตรีพื้นบ้าน ปราชญ์ชาวบ้านด้านการเกษตร ปราชญ์ด้าน ผ้าทอกะเหรี่ยง ปราชญ์ด้านการด ารงวิถีชีวิต ซึ่งทั้งหมดเป็นก าลังส าคัญและเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ในการขับเคลื่อนองคาพยพชุมชนบ้านคลองเคียน ช่วงเวลาที่ส าคัญ ปราชญ์ชาวบ้านทุกด้านได้ท าคุณประโยชน์ให้กับชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้าน คลองเคียนตลอดมาจวบจนถึงป๎จจุบัน ร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน วิถีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาวกะเหรี่ยง โปว์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านและผู้อาวุโสที่ได้รับการยอมรับนับถือ ทุกคนเป็นผู้ท าคุณประโยชน์ต่อชุมชนอย่างอเนกอนันต์ เป็นที่พึ่งทางกายด้วยการเป็นหมอสมุนไพร ได้ช่วย ชาวบ้านยามทุกข์ร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นที่พึ่งทางใจด้วยการเป็นที่ปรึกษาด้านการประกอบพิธีกรรม รวมถึง ผู้อาวุโสในชุมชนหลายคนที่ช่วยท าให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข สถานการณ์ป๎จจุบัน ปราชญ์ชาวบ้านหลายคนอายุมากแล้ว แต่ยังคงแข็งแรงและเดินได้ คล่องแคล่ว พูดจาเสียงดังฟ๎งชัด และยังคงช่วยเหลือชาวบ้านอยู่อย่างต่อเนื่องตามความรู้ความสามารถและ ทักษะวิชาชีพที่ตนมีอยู่ ส่วนศิลปินพื้นบ้านและบทเพลงพื้นบ้านนั้น ไม่ค่อยมีเวทีให้ท าการแสดง จึงไม่ค่อยได้ ถ่ายทอดให้ การสืบทอดและความยั่งยืน ไม่ค่อยได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านให้แก่ เยาวชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมุนไพร ประเพณีวัฒนธรรม วิถีการท าไร่หมุนเวียน เครื่องจักสาน รวมถึงไม่ได้ ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องศิลปะการแสดงพื้นบ้าน บทเพลงพื้นบ้าน และนิทานพื้นบ้านให้แก่ลูกหลาน หากไม่เร่ง ด าเนินการถ่ายทอดให้ลูกหลาน เกรงว่าอาจสูญหายไปในสักวันในอนาคตอันใกล้นี้ 3. ทุนทางวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.1 การทอผ้ากะเหรี่ยงและเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยง ประวัติความเป็นมา ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองเคียนทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งกายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์ในการด ารงวิถีชีวิตในป๎จจุบัน แต่ทุกคนมี ชุดกะเหรี่ยงของตนเอง หากแม้นผู้น าชุมชนต้องการให้สวมใส่ชุดกะเหรี่ยง ทุกคนพร้อมที่จะหยิบขึ้นมาสวมใส่ ได้ทันที เพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 79 ช่วงเวลาที่ส าคัญ การแต่งกายด้วยผ้าทอกะเหรี่ยงโปว์ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนจะ แต่งกายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์เต็มรูปแบบโดยพร้อมเพรียงกัน ในหลายวาระ เช่น เทศกาลขึ้นปีใหม่ชาวกะเหรี่ยงโปว์ งานไหว้เจดีย์ของชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านใกล้เคียง งานสงกรานต์และประเพณีรดน้ าขอพรผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยง พิธีกรรมการกินข้าวใหม่ งานแต่งงาน งานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือน คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน เครื่องแต่งกายและการแต่งกายของชาวกะเหรี่ยงโปว์ เป็นเครื่องแบบที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และมอบไว้ให้ลูกหลานได้ สืบทอดและให้มีความภาคภูมิใจในชาติพันธุ์ของตนทุกครั้งที่ได้สวมใส่ การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์กลุ่มบ้านคลองเคียนทุกคนรักและหวงแหน ในประเพณีวัฒนธรรม อัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมของตนเอง ทุกคนพร้อมใจกันที่จะร่วมกันอนุรักษ์ และ สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพชนได้สรรค์สร้างไว้ และพร้อมที่จะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป การแต่งกายส าหรับเยาวชนกะเหรี่ยงโปว์ 3.2 อาหารกะเหรี่ยง มีประวัติความเป็นมา คือ ชาวกะเหรี่ยงโปว์ไม่ว่าจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ แห่งหนต าบลใดก็ตาม มักจะน าวัฒนธรรมเรื่องอาหารการกินซึ่งเป็นมรดกภูมิป๎ญญาทางวัฒนธรรมติดตัวไปด้วย ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนก็เช่นเดียวกัน ได้ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และสืบทอดเรื่องอาหารการกินของ ชาวกะเหรี่ยงโปว์ และได้ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่รุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาที่ส าคัญ การท าอาหารกะเหรี่ยงนั้นท าได้ง่าย ท าได้ทุกวัน และท าได้ในทุกฤดูกาล เป็นรายการอาหารที่สามารถหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงได้ง่ายในท้องถิ่น มีขั้นตอนและวิธีการปรุงที่ไม่ยุ่งยาก คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน อาหารพื้นบ้านกะเหรี่ยงโปว์ชุมชนกลุ่มบ้านคลองเคียนมี คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ และมีความส าคัญต่อการด ารงชีวิตของชาวกะเหรี่ยงโปว์ สถานการณ์ป๎จจุบัน ถึงแม้ว่าชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนจะได้รับอิทธิพลเรื่องอาหาร การกินจากโลกภายนอกในยุคโลกาภิวัตน์อย่างมากมาย แถมสื่อดิจิตอลและสื่อออนไลน์ยังโหมกระหน่ าใส่ ลูกหลานชาวกะเหรี่ยงโปว์ชุมชนบ้านคลองเคียนอย่างหนักหน่วง ท าให้ชาวกะเหรี่ยงวัยกลางคนและเยาวชน คนรุ่นใหม่หันไปท าอาหารไทยและอาหารสากลกันมาก แต่ชาวกะเหรี่ยงโปว์ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านอาหาร ที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ได้เป็นอย่างดี การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์รุ่นพ่อรุ่นแม่หรือรุ่นปู่รุ่นย่ายังคงสอนลูกหลาน ให้ด ารงวิถีชีวิตแบบกะเหรี่ยงโปว์ ท าให้มั่นใจได้ว่าการถ่ายทอดมรดกภูมิป๎ญญาทางวัฒนธรรมด้านอาหารของ กะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนจะด ารงคงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืน
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 80 แกงปลาดุกข้าวคั่ว 3.3 ขนบธรรมเนียมประเพณีกะเหรี่ยงโปว์ ประวัติและความเป็นมา ชุมชนบ้านคลองเคียน เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ที่ส าคัญแห่งหนึ่ง เพราะในชุมชนแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากชุมชนของคน ไทยพื้นเมือง ได้รับอิทธิพลในการใช้ชีวิตจากชุมชนเมืองค่อนข้างน้อย ที่ส าคัญคนในชุมชนมีความเชื่อและ ความศรัทธาแห่งวิถีกะเหรี่ยงโปว์ดั้งเดิม ท าให้ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรม ที่ดีงามตามวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ช่วงเวลาที่ส าคัญ ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมีการด ารงชีวิตด้วยวิถีวัฒนธรรมแบบ กะเหรี่ยงโปว์ตามแบบอย่างบรรพบุรุษได้สมบูรณ์ ถึงแม้จะมีวัฒนธรรมภายนอกเข้ามาแทรกแซงวิถีชีวิตก็ตาม คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวกะเหรี่ยงโปว์เอาไว้ได้อย่างมั่นคง สถานการณ์ป๎จจุบัน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนจะมีการรวมตัวกันเพื่อจัดงานประเพณี วัฒนธรรมหลายครั้งตามปฏิทินประเพณีและพิธีกรรม ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนจึงร่วมกันแสดง อัตลักษณ์วัฒนธรรมกันอย่างชัดเจน การสืบทอดและความยั่งยืน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานรากฐาน วัฒนธรรมของชนเผ่ากะเหรี่ยงเอาไว้ได้ดี มั่นคงและยั่งยืน 4. ทุนทางเศรษฐกิจ พืชเศรษฐกิจ ประวัติความเป็นมา ในอดีตบรรพบุรุษของชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน นิยมปลูกข้าวไร่ในไร่หมุนเวียน เป็นการปลูกข้าวไร่ไว้กินในครัวเรือน ไม่ได้ปลูกเพื่อการจ าหน่าย ทั้งนี้ การท าไร่ หมุนเวียนจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้ในไร่หมุนเวียนด้วย ไว้เพื่อการบริโภคโดยไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด ช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงจากยุคการท าไร่หมุนเวียนไปสู่การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจ คือ ยุคที่ที่ดินท ากินของชุมชนถูกประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ชาวบ้านได้รับการจัดสรรที่ดินท ากินจ านวนจ ากัดมาก ไม่เพียงพอกับการท าไร่หมุนเวียน ประกอบกับความเจริญ ทางวัตถุเริ่มแพร่หลายเข้ามาสู่ชุมชน ท าให้ชาวบ้านจ าเป็นต้องใช้เงินเป็นป๎จจัยหลักในการด ารงชีพ การปลูกพืช จึงเปลี่ยนมาเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจ คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ผู้คนปลูกพืชเพื่อการด ารงชีพ หรือ ป๎จจุบันที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อจ าหน่าย ทั้งสองแนวทางล้วนมีคุณค่าและมีความหมายต่อชีวิตของผู้คนในชุมชน สถานการณ์ป๎จจุบัน ชาวบ้านนิยมปลูกพืชเศรษฐกิจจ าพวก ข้าวโพด มันส าปะหลัง ปาล์ม อ้อย สับปะรด เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชล้มลุกที่โตเร็ว ทนแล้ง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 81 การสืบทอดและความยั่งยืน การปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเติบโตอย่าง ต่อเนื่องและจะยังคงด ารงอยู่เช่นนี้ต่อไปในอนาคตอีกหลายทศวรรษข้างหน้า 5. ทุนทางสังคม/การเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง ประวัติความเป็นมาจากอดีตถึงป๎จจุบันชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลอง เคียน ให้ความส าคัญกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก เมื่อภาครัฐได้มีการแต่งตั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ขึ้นมาดูแลความสงบเรียบร้อย ชาวบ้านให้ ความร่วมมือและมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นอย่างดี ด้วยการไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง และปฏิบัติตามธรรมนูญของ ชุมชนอย่างเข้มแข็ง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและเคารพในระบอบประชาธิปไตย ช่วงเวลาที่ส าคัญ ชาวบ้านให้ความเคารพและยอมรับในตัวผู้น าชุมชนทุกรุ่น เมื่อภาครัฐ ก าหนดให้ประชาชนมาลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชุมชนแห่งนี้ผ่านช่วงเวลาที่ยากล าบากจากอดีตจนถึง ป๎จจุบัน ผ่านเหตุการณ์ร้ายและดีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี ผ่านการปกครองโดยผู้น าชุมชนทั้งที่เป็น ทางการและไม่เป็นทางการ มีความเข้าใจในวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีส่วนร่วมและพร้อมให้ความร่วมมือ สถานการณ์ป๎จจุบัน ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียน เป็นชุมชนขนาดเล็กที่มีประชากร เพียง 30 ครัวเรือน ภาครัฐต้องน าจ านวนประชากรไปรวมกับกลุ่มอื่น ๆ อีกหลายกลุ่ม จึงเป็นหมู่บ้านในนาม หมู่ที่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี การสืบทอดและความยั่งยืน มีการด าเนินการด้านการเมืองการปกครองด้วยความเรียบร้อย ตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน ไม่เคยมีความขัดแย้ง และไม่เคยเสียเลือดเนื้อกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในทุกยุค ทุกสมัยที่ผ่านมา และจะมีการด ารงรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยและความสงบเรียบร้อยเช่นนี้ตลอดไป 11. ภาษา ภาษาพูดพื้นถิ่น ได้แก่ ภาษากะเหรี่ยงโปว์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในครัวเรือนและใช้ในการพูด ในชุมชนบ้านคลองเคียน และใช้ในการสื่อสารกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์จากท้องถิ่นอื่น ๆ ภาษาเขียน ได้แก่ ภาษาเขียนกะเหรี่ยงโปว์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั่วประเทศ และกะเหรี่ยงโปว์จากทั่วโลก ซึ่งใช้สื่อสารกันเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ สถานการณ์ปัจจุบัน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนในป๎จจุบัน มีผู้ที่สามารถใช้ภาษาเขียนกะเหรี่ยง โปว์ได้จ านวนน้อยมาก ไม่ถึงร้อยละ 5 ของประชากร เนื่องจากเยาวชนกะเหรี่ยงโปว์และประชาชนชาว กะเหรี่ยงโปว์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ส าหรับภาษาพูดกะเหรี่ยงโปว์ ยังคงมีประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์ ร้อยละ 80 ที่สามารถพูดได้ เนื่องจากชาวกะเหรี่ยงโปว์ให้ความส าคัญกับภาษาพูด และพยายามสอนให้ลูกหลาน เยาวชนพูด 12. สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย และการมีส่วนร่วม ด้านการเมืองการปกครอง ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึง ป๎จจุบัน โดยในยุคแรกมีการปกครองโดยผู้น าชุมชนอย่างไม่เป็นทางการ ต่อมามีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านโดยภาครัฐ และภายหลังเปลี่ยนมาเป็นการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ซึ่ง ชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเลือกตั้งทุกระดับ ด้านเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงวิถีการด าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากอดีตถึงป๎จจุบัน จากอดีต เป็นการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อการด ารงชีพ ต่อมาชาวบ้านถูกจ ากัดที่ดินท ากิน เนื่องจากการประกาศพื้นที่ป่า สงวนแห่งชาติทับซ้อนที่ดินท ากิน ผู้คนในชุมชนจึงหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือพืชเศรษฐกิจ
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 82 ด้านสังคมและประชากร ประชากรชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนมีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ช่วงเวลา กล่าวคือ ในระยะแรกที่มีชาวกะเหรี่ยงโปว์เข้ามาบุกเบิกพื้นที่ท ากินในบริเวณบ้านคลองเคียน มีเพียง ไม่กี่ครัวเรือน เมื่อครอบครัวเหล่านี้ได้บอกต่อไปยังญาติ ๆ ท าให้มีชาวกะเหรี่ยงย้ายเข้ามาอยู่ที่ชุมชนบ้านคลองเคียน เป็นจ านวนมาก ราว ๆ 100 ครัวเรือน ต่อมาประสบป๎ญหาภัยแล้งในปีที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ท าให้ การเกษตรไม่ดาเช่นเดิม กอปรกับภาครัฐได้ประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนที่ท ากินของชาวบ้าน และรัฐ จัดสรรที่ท ากินให้ชาวบ้านใหม่ โดยจ ากัดที่ดินท ากินเพียงครอบครัวละ 25 – 30 ไร่ ท าให้ชาวบ้านไม่สามารถ ท าไร่หมุนเวียน ส่งผลให้ชาวบ้านทยอยย้ายออกไปจากชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ท าให้ป๎จจุบันนี้มีประชากร คงเหลือเพียง 30 หลังคาเรือน ด้านสิทธิพลเมืองและสถานะบุคคล ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนย้ายมาจากหลาย ๆ ชุมชนทั้งใน พื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มีสิทธิในสัญชาติอยู่แล้ว ผู้คนในชุมชนจึงไม่มีป๎ญหาเรื่องสิทธิ ในสัญชาติ ทุกคนมีบัตรประชาชน มีสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน รวมถึงได้รับสวัสดิการแห่งรัฐเทียบเท่าประชาชน คนไทยทุกคน ด้านระบบสาธารณูปโภค เมื่อชุมชนบ้านคลองเคียนมีประชากรมากขึ้น รัฐจึงเข้ามาช่วยเหลือด้วยการ ท าประปาหมู่บ้าน ท าถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้าน (ถึงแม้จะยังไม่เสร็จสิ้นตลอดสายก็ตาม) เสียดายที่ยังไม่ได้เดิน ไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน และไม่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งยังต้องพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่อไป ด้านสาธารณสุข/ระบบสุขภาวะ ป๎จจุบันชาวบ้านคลองเคียนได้รับสวัสดิการจากภาครัฐเกี่ยวกับการ สาธารณสุขเท่าเทียมกับประชาชนคนไทยทุกคน และมีห้องน้ าห้องส้วมที่ถูกสุขอนามัยทุกครัวเรือน ด้านการศึกษา ป๎จจุบันนี้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาภาคบังคับ เพราะมีโรงเรียนหลายแห่ง ที่อยู่ใกล้ ๆ กับชุมชน เด็กและเยาวชนที่มีโอกาสได้เข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และเรียนจบร้อยละ 80 และมีเยาวชนบางส่วนที่มีโอกาสเรียนต่อระดับปริญญาตรี และเรียนจบร้อยละ 10 ด้านวัฒนธรรม ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนล้วนยึดมั่นรักษาอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ให้คงอยู่ด้วยการ ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถ ทัดทานวัฒนธรรมจากภายนอกได้ซึ่งมีความทันสมัยและเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด และเข้ามาแทรกซึม วิถีวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ในทุกมิติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท าให้วัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงโปว์ค่อย ๆ เลือนหายไปทีละน้อย ป๎จจุบันนี้ อัตลักษณ์วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโปว์ของชุมชน จะรับรู้กันในกลุ่มคนวัยกลางคน และผู้สูงอายุเท่านั้น เด็กและเยาวชนแทบจะไม่รู้ความเป็นมา จึงเป็นความท้าทายของภาครัฐและผู้น าชุมชนว่า จะมีแนวทางอนุรักษ์สืบสานอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างเอาไว้ให้คงอยู่ต่อไปได้อย่างไร ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในยุคบุกเบิกยอมรับว่าที่ดินผืนนี้เป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มากจริง ๆ ต่อมาเมื่อมีประชากรย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่เป็นจ านวนมาก ท าให้ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ถูกแปรสภาพ เป็นที่อยู่อาศัย ไร่หมุนเวียน สวน และไร่เกษตรเชิงเดี่ยวของคนในชุมชน และจากฝีมือของนายทุนที่มาท าไร่ ท าสวนในบริเวณนี้ ท าให้ผืนป่าตามธรรมชาติและผืนป่าชุมชนเหลือเพียงร้อยละ 20 ของพื้นที่ทั้งหมด ในกรณีชุมชนที่มีพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ท ากิน พื้นที่พิธีกรรม พื้นที่ใช้ประโยชน์ และพื้นที่อนุรักษ์ทับซ้อน กับพื้นที่อื่นของรัฐหรือเอกชน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ระบุ............. อุทยานแห่งชาติ ระบุ...................... เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ระบุ.............................. ป่าสงวนแห่งชาติ ระบุ (ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย) วนอุทยาน ระบุ..................................... พื้นที่อนุรักษ์อื่น ๆ ระบุ......................
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 83 การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและนอกชุมชน เพื่อรับมือกับสถานการณ์หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองเคียนเป็นชุมชนที่มีความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ าหนึ่งใจเดียวกันตลอดมา ทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุบ้านการเมือง ภัยธรรมชาติ หรือภัยคุกคามก็ตาม คนในชุมชนจะ ช่วยกันแก้ไขวิกฤติต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไป โดยมุ่งประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แนวทางแก้ไขปัญหาและรับมือกับความท้าทาย ผู้น าชุมชนที่ภาครัฐแต่งตั้ง เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนต าบล ทองหลาง ผู้น าแห่งจิตวิญญาณและความเชื่อ คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. ผู้น ากองทุนหมู่บ้าน จะเป็นแกนน า ในการเชิญสมาชิกลูกบ้านประชุม เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็น ก าหนดแนวทางในการแก้ไขป๎ญหาและรับมือ กับความท้าทายจากวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การรวมกลุ่มและการสร้างเครือข่าย ในชุมชนมีเครือข่ายที่เป็นทางการ เช่น เครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน เครือข่ายเงินกู้ ธกส. เครือข่าย ฌาปนกิจสงเคราะห์ เป็นต้น และส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายที่ไม่เป็นทางการ เช่น การรวมตัวกันทอผ้ากะเหรี่ยง เครือข่ายพิธีกรรม เครือข่ายหาของป่า เครือข่ายพิธีกรรมงานอวมงคล สรุปแล้ว ชุมชนยังคงมีการสร้างเครือข่าย ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเครือข่ายที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อขับเคลื่อนวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านคลองเคียนให้สงบสุขร่มเย็นสืบไป บทบาทของหน่วยงาน/องค์กรภายนอกที่เข้ามามีส่วนร่วม จากอดีตถึงป๎จจุบันมีหน่วยงานภายนอกที่เป็นภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านคลองเคียนหลายหน่วยงาน เช่น อ าเภอห้วยคต องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ศูนย์ พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี ส านักงานพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี ส านักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานี เกษตรอ าเภอห้วยคต เป็นต้น ส าหรับบุคคลหรือองค์กรเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วม เช่น สถาบันธรรมชาติพัฒนา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน 13. ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ ชุมชนบ้านคลองเคียนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สูญเสียโอกาสในการพัฒนาและสร้าง รายได้จากความเจริญของระบบสาธารณูปโภคเหล่านี้ เพราะความเจริญเหล่านี้จะช่วยเสริมเศรษฐกิจฐานราก ให้เข้มแข็งได้ขึ้นได้
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 84 แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สร้างและผู้มีส่วนร่วม 1.1 ผู้เรียบเรียงข้อมูล* กิตติพัฒน์ อธิวัฒน์ธนาวงศ์ 1.2 วันที่จัดท าข้อมูล 30/09/2566 1.3 ผู้ตรวจสอบข้อมูล พรทิพย์ ก าเหนิดแจ้ง 1.4 วันที่ตรวจสอบข้อมูล 27/11/2566 2. ชื่อชุมชน 2.1 ชื่อทางการ* บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี 2.2 ชื่อท้องถิ่น กลุ่มชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท 2.3 ความเป็นมาของชื่อ ชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท เป็นกลุ่มชุมชนเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 12 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ย้ายมาจากบ้านภูเหม็น หมู่ 8 ต าบลทองหลาง เดิมทีมีคน กลุ่มหนึ่งตั้งใจจะมาสร้างบ้านเล็ก ๆ อยู่กลางไร่ของตัวเอง เพื่อเฝ้าไร่และไล่สัตว์ ที่มากินพืชผลในตอนกลางคืน ต่อมาพื้นที่บริเวณนี้มีความเจริญมากขึ้น มีถนน สายหลักตัดผ่านหน้าชุมชน คือ ถนนสายอ าเภอบ้านไร่ – อ าเภอลานสัก กลุ่มคน กลุ่มนี้จึงตัดสินใจย้ายบ้านจากบ้านภูเหม็น หมู่ 8 ต าบลทองหลาง มาอยู่ที่ชุมชน นี้ถาวรซึ่งขึ้นอยู่กับหมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต ราว ๆ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งใช้ชื่อชุมชนว่า “ภูเหม็นโท” สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะว่าคน กลุ่มนี้ย้ายมาจากบ้านภูเหม็น ก็เปรียบเสมือนเป็นชุมชนภูเหม็นแห่งที่ 2 และ ในชุมชนนี้ มีล าห้วยชื่อว่า “ล าห้วยภูเหม็น” ไหลผ่านชุมชนภูเหม็นโทก่อนที่จะ ไหลไปที่หมู่บ้านภูเหม็น หมู่ 8 ซึ่งไหลมาจากเทือกเขาบริเวณป่าตะวันตกแหล่ง มรดกโลกห้วยขาแข้ง จึงใช้ชื่อชุมชนว่า “บ้านภูเหม็นโท” มาจนถึงป๎จจุบัน 2.4 ประเภทชุมชน ☐ ชุมชนเมือง/ชาวเมือง ☒ ชุมชนชนบท ☒ ชุมชนชาติพันธุ์ ☐ เครือข่ายชุมชน (กลุ่มทางสังคม/องค์กรทาง สังคม) ☐ ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ☐ ชุมชนอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม แฟลต อพาร์ทเม้นท์ 2.5 จุดเด่นชุมชน 1. มีล าห้วยภูเหม็นไหลผ่าน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชนบ้านภูเหม็นโท 2. วัดคลองแห้งวัฒนาราม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านภูเหม็นโท เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน 3. ที่ตั้ง 3.1 จังหวัด* อุทัยธานี 3.2 อ าเภอ/เขต* ห้วยคต 3.3 ต าบล/แขวง* ทองหลาง 3.4 หมู่บ้าน บ้านคลองแห้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 85 3.5 รหัสไปรษณีย์ 61170 3.6 ที่อยู่ (หมู่ที่, ถนน) หมู่ที่ 1 3.7 ละติจูด* 15.30372509 3.8 ลองจิจูด* 99.47838753 3.9 ประเภทเขตการ ปกครองส่วนท้องถิ่น ☐ เทศบาลนคร ระบุ………… ☐ เทศบาลเมือง ระบุ……………… ☐ เทศบาลต าบล ระบุ……… ☒ องค์การบริหารส่วนต าบลทองหลาง ☐ กรุงเทพมหานคร ☐ เมืองพัทยา 4. ความเป็นมา: ประวัติศาสตร์ชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากบ้านภูเหม็น (พุเม้ยง์) หมู่ 8 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต มาอาศัยอยู่บริเวณนี้กว่า 5 ทศวรรษแล้ว มีแต่ญาติพี่น้องที่สนิทกันเท่านั้นที่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และด้วยความที่ กลุ่มชนกะเหรี่ยงที่ย้ายมานี้เป็นชาวภูเหม็น จึงใช้ชื่อชุมชนว่า “ภูเหม็นโท” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นชุมชนบ้านภูเหม็น แห่งที่ 2 ชาวบ้านมีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายในกลุ่มเล็ก ๆ จ านวน 12 ครัวเรือน ขึ้นตรงกับหมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต อยู่ห่างจากชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านคลองแห้ง 3 กิโลเมตร สภาพบ้านเรือนบ้านภูเหม็นโท ชุมชนแห่งนี้ มีวัดคลองแห้งวัฒนารามเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมค าสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นที่ประกอบศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในชุมชน ป๎จจุบันนี้มีพระสงฆ์ จ าวัดจ านวน 5 รูป
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 86 วัดคลองแห้งวัฒนาราม เยาวชนจากชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท จะมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา ซึ่ง เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 นอกจากนี้ ยังมีศูนย์เด็กเล็กบ้าน คลองแห้งที่รับเด็กก่อนวัยเรียนอีกด้วย จึงถือว่าเป็นความโชคดีของชุมชนแห่งนี้ ที่มีสถานศึกษารองรับบุตร โรงเรียนบ้านคลองแห้งวิทยา ชุมชนแห่งนี้มีแหล่งบริการทางสาธารณสุขใกล้บ้าน จ านวน 1 แห่ง ในอดีตเรียกกันว่า “สถานีอนามัยบ้าน คลองแห้ง”แต่ป๎จจุบันได้รับการยกระดับเป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจ าต าบล” เป็นสถานพยาบาลที่ ดูแลชาวกะเหรี่ยงในชุมชนบ้านคลองแห้งและชุมชนกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ชุมชนกะเหรี่ยงบ้าน ไซเบอร์ ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านคลองเคียน ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านภูเหม็นโท และชุมชนกะเหรี่ยงบ้านกุดจะเลิด เป็นต้น การคมนาคมสัญจร ในอดีตชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโทแห่งนี้ยังไม่มีถนนหนทางที่สะดวกในการ เดินทางสัญจร มีถนนลูกรังสายอ าเภอบ้านไร่ – อ าเภอลานสัก ตัดผ่านหน้าชุมชน แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็น ถนนลาดยาง ท าให้การคมนาคมสัญจรสะดวกมากขึ้น ในอดีตเคยมีรถโดยสารวิ่งไปอ าเภอบ้านไร่และอ าเภอลานสัก และไปที่ตัวจังหวัดอุทัยธานี แต่ป๎จจุบันนี้ไม่มีแล้ว ถ้าชาวบ้านมีกิจธุระต้องน ารถยนต์ไปเองหรือติดเพื่อนบ้านไป ถนนสายอ าเภอบ้านไร่ – อ าเภอลานสัก
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 87 ถนนคอนกรีตบ้านภูเหม็นโท ชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท ถนนคอนกรีต ไฟฟ้า มีที่พักสงฆ์ ประปา เข้ามาในชุมชน บ้านคลองแห้ง ท าให้คุณภาพชีวิต มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ของคนในชุมชนดีขึ้น 2555 2300 2400 2500 2550 2566 มีถนนลูกรังเข้ามา มีโรงเรียน ชุมชนเลิกท าไร่หมุนเวียน ในชุมชน ท าให้ สอนเด็กและเยาวชน หันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว การคมนาคมสะดวกขึ้น ในบ้านภูเหม็นโท และพืชเศรษฐกิจแทน ราวปี 2405 ปี พ.ศ. 2520 เช่น ข้าวโพด สับปะรด ชาวบ้านชุดแรกย้ายมาอยู่ที่นี่ ปี พ.ศ. 2528 กรมป่าไม้ ได้ประกาศพื้นที่นี้เป็นเขต ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลา และห้วยป่าคอกควาย
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 88 ประกาศพื้นที่ป่าสงวนทับที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินชาวบ้าน ชาวบ้านอีซ่าเลิกท าไร่หมุนเวียน ชาวบ้านหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไฟฟ้าเข้ามาชุมชน ถนนคอนกรีตเข้าชุมชน ชุมชนบ้านภูเหม็นโทมีผู้ใหญ่บ้านที่มาจากการแต่งตั้ง น้ าประปาเข้าชุมชน มีระบบสุขาภิบาล/ห้องน้ า/ส้วม ชาวภูเหม็นย้ายมาท าไร่ที่บริเวณนี้ ตั้งหมู่บ้าน สาธารณูปโภค เปลี่ยนแปลง สงครามโลก แผนพัฒนา ศก. เริ่มศก. ยุค ศก. ยุคพัฒนา ป๎จจุบัน การปกครอง ครั้งที่ 2 ฉบับที่ 1 ฟองสบู่ ฟองสบู่ สาธารณูปโภค 2415 2450 2475 2484 2488 2504 2533 2540 2555 2560 2566 2528 2528 5. แผนที่และสภาพแวดล้อมชุมชน - ระยะทางจากอ าเภอถึงชุมชนบ้านภูเหม็นโท 23 กิโลเมตร - ระยะทางจากจังหวัดถึงชุมชนบ้านภูเหม็นโท 71 กิโลเมตร - ระยะทางจากกรุงเทพถึงชุมชนบ้านภูเหม็นโท 255 กิโลเมตร - เดินทางได้ทางบกทางเดียว คือ การคมนาคมสัญจรโดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านกระแหน่ หมู่ 9 ต าบลบ้านไร่ อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านภูเหม็น หมู่ 8 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านไซเบอร์ หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แหล่งมรดกโลกห้วยขาแข้ง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 89 สภาพพื้นที่ทางกายภาพ /ขนาดพื้นที่ชุมชน/พื้นที่สาธารณะ/การสาธารณูปโภคชุมชน พื้นที่ชุมชนบ้านภูเหม็นโท พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เป็นพื้นที่ท าการเกษตร พื้นที่ร้อยละ 5 เป็นที่อยู่ อาศัยและเป็นที่ตั้งชุมชน และพื้นที่ร้อยละ 25 เป็นพื้นที่ป่าไม้ ภูเขา ล าห้วยภูเหม็น และพื้นที่ป่าชุมชน ป๎จจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่ในชุมชน จ านวน 12 ครัวเรือน มีล าห้วยภูเหม็นไหลผ่านชุมชนบ้านภูเหม็นโท มีต้นก าเนิดมาจากเทือกเขาบริเวณเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ ป่าห้วยขาแข้ง ในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง มีน้ าไหลผ่านตลอดทั้งปี ล าห้วยภูเหม็น กลุ่มคนที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านภูเหม็นโทแห่งนี้ เห็นว่าผืนดินบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนินเขาและเชิงเขากว้าง ๆ ที่ไม่สูงชันมากนัก เหมาะแก่การท าไร่หมุนเวียนตามแบบวิถีชนเผ่ากะเหรี่ยง มีป่า ไม้นานาพรรณ มีล าห้วยภูเหม็นไหลผ่านส าหรับเป็นแหล่งน้ าอุปโภคบริโภค จึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานสร้างชุมชน อยู่ในบริเวณนี้จวบจนป๎จจุบัน พื้นที่กิจกรรมทางสังคม ป๎จจุบันชุมชนบ้านภูเหม็นโท ไม่มีเจ้าวัดหรือผู้น าทางจิตวิญญาณ ดังนั้น คนใน ชุมชนบางส่วนจึงเดินทางไปร่วมพิธีไหว้เจดีย์ที่ชุมชนใกล้เคียงที่มีเจ้าวัด เช่น บ้านภูเหม็น บ้านไซเบอร์ หรือทางต าบล แก่นมะกรูด อ าเภอบ้านไร่ ซึ่งเป็นความเชื่อทางจิตวิญญาณของชนกะเหรี่ยงโปว์ สถานที่ส าคัญทางสังคมและวัฒนธรรม ส่วนใหญ่จะมีการนัดพบพูดคุยหารือเรื่องส าคัญในบ้านของ ผู้อาวุโสของชุมชน หรือบ้านผู้น าชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการจับกลุ่มหารือกันอย่างไม่เป็นทางการที่วัดคลองแห้ง วัฒนาราม
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษVersion 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน”
ษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) 90
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 91 6. ประชากร ระบบเครือญาติ และชาติพันธุ์ (กลุ่มกะเหรี่ยงบ้านภูเหม็นโท) - ประชากรมีจ านวน 12 ครัวเรือน - ประชากรทั้งหมด 42 คน - ประชากรชาย 21 คน - ประชากรหญิง 21 คน - ประชากรทั้งหมดเป็นเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 42 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ระบบเครือญาติ ประชากรในชุมชนทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ทั้งสิ้น อาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวขยาย ที่มีผู้คนหลากหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน มีเพียงบางส่วนที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยว กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่พูดภาษาอื่นที่อาศัยอยู่ในชุมชน กะซอง ก่อ (อึมปี้) กะยัน กะแย กะเลิง กูย ก ามุ ขแมร์ลือ คะฉิ่น จีน จีนยูนนาน ชอง ซะโอจ ซ าเร โซ่ ทะวืง ญ้อ ญัฮกุร เยอ ดาราอาง ไตหย่า ไทขึน ไทด า ไทเบิ้ง ไทยโคราช ไทยวน ไทโย้ย ไทใหญ่ บรู บีซู ปกาเกอะญอ ปลัง ปะโอ ผู้ไท โพล่ว ไทยพวน ม้ง มละบริ มอแกน มอแกลน มอญ มานิ มลายู ยอง ละว้า ลัวะ(ปรัย) ลัวะ ลาวครั่ง ลาวแง้ว ลาวเวียง ลาหู่ ลีซู ไทลื้อ เวียด แสก โส้ อ่าข่า อาเคอะ อิ้วเมี่ยน อูรักลาโว้ย โอก๋อง
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 92 7. โครงสร้างทางสังคม: องค์กรชุมชนและกลุ่มอาชีพ 7.1 กลุ่มที่เป็นทางการ 7.1.1 กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในอดีตชุมชนบ้านภูเหม็นโทเคยมีการรวมตัวกันเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการออมทรัพย์ และใช้ในการระดมทุนไว้ให้คนในชุมชนได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ ทางการเกษตรในอัตราดอกเบี้ยต่ า ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง แต่เมื่อรัฐบาลได้ จัดให้มีกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ชาวบ้านจึงไปเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลแทน 7.1.2 กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ ประชาชนในชุมชนมีการรวมตัวกันในนามกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ทั้งชุมชน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพของครอบครัวสมาชิก 7.1.3 กลุ่มสินเชื่อ ธ.ก.ส. ชาวบ้านมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ 4 – 5 คนต่อกลุ่ม ขอสินเชื่อการเกษตรจาก ธ.ก.ส. และหมุนเวียนกันค้ าประกันภายในกลุ่ม ป๎จจุบันนี้ยังคงมีอยู่ 2 กลุ่มที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.อย่างเหนียวแน่น 7.2 กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ 7.2.1 กลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ มีการรวมกลุ่มกันอย่างไม่เป็นทางการส าหรับกลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ หลังจากเสร็จ ภารกิจจากการท าการเกษตร จะมานั่งรวมกันเป็นกลุ่มตามใต้ถุนบ้านหรือใต้ต้นไม้ นั่งทอผ้ากะเหรี่ยงโปว์ซึ่งเป็น ผ้าทอมือที่ใช้กี่เอวในการทอผ้า ส่วนใหญ่จะเป็นการทอผ้าไว้ตัดเย็บเสื้อผ้าไว้สวมใส่ในครัวเรือน 7.2.2 กลุ่มประเพณีวัฒนธรรมและพิธีกรรม การท าพิธีกรรมในชุมชนบ้านภูเหม็นโท จะมีการรวมกลุ่มของคนในชุมชน มีผู้อาวุโส ที่ชาวบ้านนับถือท าหน้าที่เป็นผู้น าในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ 7.2.3 กลุ่มพลังศรัทธา ชาวกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโทมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมตัวกันไปท าบุญ ที่วัดคลองแห้งวัฒนารามเป็นประจ าทุกวันธรรมสวนะ ท าให้ชาวบ้านได้มีสถานที่ในการพูดคุยเรื่องการท ามาหากิน เรื่องสัพเพเหระ เรื่องประเพณีวัฒนธรรม และหารือกันเรื่องการท าการเกษตร เป็นต้น 7.2.4 กลุ่มท าการเกษตร ผู้คนในชุมชนมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครือญาติ 4 – 5 หลังคาเรือน รวมตัวช่วยเหลือกันทางการเกษตร เช่น ลงแขกปลูกข้าวไร่ ลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นต้น สมพร ปราชญ์ ชาวบ้าน กลุ่ม ฌามปนกิจ กลุ่ม ธ.ก.ส. กลุ่มออม ทรัพย์ กลุ่มกองทุน หมู่บ้าน กลุ่ม การเกษตร กลุ่มประเพณี วัฒนธรรม
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 93 8. วิถีชีวิต: ปฏิทินชุมชนและชีวิตประจ าวัน 8.1 วิถีชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม - ประเพณีกินข้าวใหม่ หลังจากที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวไร่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะน าข้าวไร่ขึ้นเก็บในยุ้งฉาง ทุกบ้านที่ปลูกข้าวไร่ จะมีการประกอบพิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นรายหลังคาเรือน หรือบางกลุ่มอาจจะประกอบ พิธีกรรมกินข้าวใหม่เป็นกลุ่มญาติพี่น้อง โดยการจัดเตรียมข้าวปลาอาหารที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการประกอบ พิธี เชิญเจ้าวัดหรือผู้อาวุโสประกอบพิธี ด้วยการน าทุกคนในครอบครัวกล่าวขอบคุณและขอขมาเครื่องมือทาง การเกษตรต่าง ๆ ที่ท าให้ข้าวไร่ได้ผลผลิตดี ความสัมพันธ์และอิทธิพลที่มีต่อวิถีชีวิต ข้าวไร่เป็นอาหารหลักของชาวกะเหรี่ยงโปว์ มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ป๎จจุบันประชากรร้อยละ 50 ยังคงท าข้าวไร่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเลี้ยงชีพคนในครอบครัว ดังนั้น พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าว จึงยังคงถูกรักษาเอาไว้ได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ 8.2 วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ 8.2.1 การเตรียมดินเพาะปลูก การเตรียมพื้นที่ส าหรับการเพาะปลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือน มีนาคม จะต้องมีการเตรียมดิน 8.2.2 การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม เป็นฤดูเพาะปลูกพืชผล หลังจากนั้นเกษตรกรจะดูแล พืชผลทางการเกษตรต่อไปอีกราว ๆ 4 – 6 เดือน จึงจะได้เวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในแต่ละชนิด กิจกรรม/เหตุการณ์ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. หมายเหตุ ปฏิทินเศรษฐกิจ เตรียมดินเพาะปลูก พืชเชิงเดี่ยวโดยรวม ฤดูเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด ปลูกข้าวไร่ มันส าปะหลัง ดูแลพืชผลเกษตรในไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลเกษตร ฤดูเกี่ยวข้าว หาหน่อไม้ หาเห็ดโคน ปฏิทินวัฒนธรรม ประเพณีกินข้าวใหม่ พิธีค้ าต้นไทร/ต าขมิ้น พิธีรดน้ าขอพรผู้ใหญ่ พิธีผูกแขนด้ายเหลือง พิธีป๎กสะเดิ่งครัวเรือน ก่อเจดีย์ทราย/เรียกฝน พิธีป๎กสะเดิ่งไร่ข้าว พิธีป๎กสะเดิ่งในล าห้วย ต าขนมจีนขี้เหนียว ชุมชนต้นน้ าท าก่อน พิธีสู่ขวัญข้าว ประเพณีลอยกระทง ประเพณี “พิบือโย”
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 94 9. ประวัติชีวิต: ปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้น า/บุคคลส าคัญของชุมชน ชื่อ นายสมพร นามสกุล คลองแห้ง อายุ 56 ปี เกิดวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2500 ที่อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ชุมชนบ้านภูเหม็นโท หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี บทบาทและความส าคัญในชุมชน ความช านาญ/ทักษะที่มี นายสมพร คลองแห้ง เป็นปราชญ์ชาวบ้านการท าการเกษตร ด้านการจักสาน รวมถึงการประกอบ พิธีกรรมตามแบบวิถีชาวกะเหรี่ยงโปว์ และเป็นศาสนพิธีทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น ชีวประวัติ นายสมพร คลองแห้ง เกิดที่บ้านคลองแห้ง หมู่ 1 ต าบลคอกควาย อ าเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ภายหลังบ้านคลองแห้งเปลี่ยนมาสังกัดอยู่กับ หมู่ 1 ต าบลทองหลาง อ าเภอห้วยคต เนื่องจากอ าเภอห้วยคต แยกตัวออกมาจากอ าเภอบ้านไร่ เมื่ออายุครบ 7 ขวบ ได้ย้ายมาอยู่ที่กลุ่มบ้านภูเหม็นโท และใช้ชีวิตอยู่ที่ชุมชน นี้อย่างต่อเนื่อง ได้แต่งงานมีครอบครัวตอนอายุ 22 ปี มีบุตรธิดาด้วยกัน 5 คน นายสมพร คลองแห้ง 10. ทุนชุมชน 1. ทุนทางกายภาพ 1.1 ล าห้วยภูเหม็น ประวัติความเป็นมา “ล าห้วยภูเหม็น” เป็นแหล่งน้ าที่มีต้นน้ าอยู่ในพื้นที่ เขตป่าตะวันตกมรดกโลกห้วยขาแข้ง ไหลลงมาผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท และไหลต่อไปยังบ้าน ภูเหม็น (พุเม้ยง์) หมู่ ๘ ดังนั้น ล าห้วยภูเหม็นจึงเป็นแหล่งน้ าสายส าคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชนบ้านภูเหม็นโท ช่วงเวลาที่ส าคัญ “ล าห้วยภูเหม็น” ในฤดูแล้งบางปีน้ าในล าห้วยแทบจะแห้ง จนแทบไม่มีน้ า ไว้บริโภค ไม่มีน้ าท าการเกษตร ส่วนช่วงฤดูฝนในบางปีที่มีปริมาณน้ าฝนมาก น้ าในล าห้วยไหลเชี่ยวกรากหลาก ท่วมเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน สร้างความเสียให้กับชาวบ้านพอสมควร คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน “ล าห้วยภูเหม็น” เป็นเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงผู้คน ในชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโทมาแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน เป็นทั้งแหล่งน้ ากินน้ าใช้และน้ าในการท าเกษตร สถานการณ์ป๎จจุบัน “ล าห้วยภูเหม็น” เป็นล าธารขนาดเล็กที่ไหลผ่านชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ บ้านภูเหม็นโท เป็นแหล่งน้ ากินน้ าใช้ของผู้คนในชุมชน บางปีน้ าน้อยชาวบ้านแก้ป๎ญหาด้วยการขุดบ่อน้ าบาดาล การสืบทอดและความยั่งยืน “ล าห้วยภูเหม็น” มีปริมาณน้ าลดลงไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็น เพราะผืนป่าต้นน้ าและผืนป่าที่อยู่ระหว่างทางที่ล าห้วยภูเหม็นไหลผ่านค่อย ๆ ลดจ านวนน้อยลงไปเรื่อย ๆ
แบบฟอร์มข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) Version 1.0 (2023-01-27) *ใช้คู่กับ “คู่มือการกรอกแบบฟอร์มข้อมูลชุมชน” 95 จึงไม่สามารถที่จะดูดซับความชุ่มชื้นของสายน้ าสายนี้เอาไว้ได้ตลอดปี ดังนั้น สิ่งที่ควรเร่งด าเนินการในการ บ ารุงรักษาแหล่งน้ าแหล่งนี้ คือ ควรเร่งให้มีการปลูกป่าทดแทนพื้นที่ป่าที่ถูกท าลายไป 1.2 ป่าสงวนแห่งชาติ ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ. 2528 กรมป่าไม้ได้ประกาศเขตพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งทับซ้อนพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ท ากินของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท ที่ดินของชาวบ้านที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยและที่ดินท ากินทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่ของเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่า ทับเสลาและห้วยป่าคอกควาย รัฐได้จัดสรรให้ชาวบ้านได้มีที่ท ากินในพื้นที่ของตนเองเพียงครัวเรือนละ 20 – 30 ไร่ ช่วงเวลาที่ส าคัญ เมื่อปี พ.ศ. 2528 หลังการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติห้วยป่าทับเสลา และห้วยป่าคอกควาย ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ เกิดผลกระทบกับกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ชาวกะเหรี่ยงโปว์รู้ดีว่าคุณค่าของป่าไม้มีมากมายเพียงใด และ ชาวกะเหรี่ยงเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่รักป่ามากที่สุด หมู่บ้านกะเหรี่ยงทุกหมู่บ้านจะมีป่าชุมชนหรือป่าตาม ภูเขาโอบล้อมชุมชนอยู่เสมอ สถานการณ์ป๎จจุบัน แม้ป๎จจุบันนี้ป่าชุมชนหรือป่าไม้ตามไหล่เขาและบนภูเขารอบ ๆ ชุมชน จะลดลงไปมากหากเทียบกับป่าชุมชนในอดีต แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ป่าอยู่ร้อยละ 15 – 20 ของพื้นที่ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ท ากิน เก็บรักษาเอาไว้เป็นแหล่งอาหารป่าและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ชุมชน 2. ทุนมนุษย์ ชุมชนภูเหม็นโทมีปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนหลายคน บางคนมีความรู้เรื่องการท าการเกษตร บางคนมีความรู้เรื่องพิธีกรรมและความเชื่อ บางคนมีความรู้เรื่องสมุนไพร ซึ่งสามารถที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ท าให้ชุมชนบ้านภูเหม็นโทอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขร่มเย็นตลอดมา ช่วงเวลาที่ส าคัญ ตั้งแต่มีการก่อตั้งชุมชนบ้านภูเหม็นโทแห่งนี้ ราว ๆ ปีพ.ศ. 2500 เป็นต้นมา ชุมชนนี้ล้วนมีทุนมนุษย์ที่มีสมรรถนะและศักยภาพสูง ทุกคนอยู่อาศัยร่วมกันด้วยความรักความสามัคคี คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านทุกคนเป็นผู้ท าคุณประโยชน์ต่อชุมชน อย่างอเนกอนันต์ เป็นที่พึ่งทางกายด้วยการเป็นหมอสมุนไพร ได้ช่วยชาวบ้านยามทุกข์ร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นที่พึ่ง ทางใจด้วยการเป็นที่ปรึกษาด้านการประกอบพิธีกรรม สถานการณ์ป๎จจุบัน ปราชญ์ชาวบ้านหลายคนอายุมากแล้ว ผู้น าชุมชนควรเร่งด าเนินการ จัดให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่ลูกหลานเยาวชนรุ่นใหม่โดยเร็ว ก่อนที่องค์ความรู้เหล่านี้จะสูญหายไป การสืบทอดและความยั่งยืน ไม่ค่อยได้มีถ่ายทอดองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านไปสู่เยาวชน คนรุ่นใหม่ เกรงว่าอาจสูญหายไปอย่างถาวร และไม่เกิดความยั่งยืน 3. ทุนทางวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.1 การทอผ้ากะเหรี่ยงและเครื่องแต่งกายกะเหรี่ยง ประวัติความเป็นมา ชาวกะเหรี่ยงโปว์ บ้านภูเหม็นโทในอดีตทุกบ้านทอผ้าเป็น และมีการทอผ้าอยู่เสมอ แต่ป๎จจุบันนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งกายด้วย ชุดกะเหรี่ยงโปว์อยู่เป็นประจ า แต่ทุกคนมีชุดกะเหรี่ยงของตนเองติดบ้านไว้ เมื่อผู้น าชุมชนต้องการให้สวมใส่ชุด กะเหรี่ยง ทุกคนพร้อมสวมใส่ได้ทันทีเพื่อแสดงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ ช่วงเวลาที่ส าคัญ การแต่งกายด้วยผ้าทอกะเหรี่ยงโปว์ ทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดกะเหรี่ยงโปว์ พร้อมเพรียงกันในหลายวาระ เช่น เทศกาลขึ้นปีใหม่ งานไหว้เจดีย์ งานสงกรานต์ พิธีกรรมการกินข้าวใหม่ งานแต่งงาน งานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนชุมชนกะเหรี่ยงโปว์บ้านภูเหม็นโท เป็นต้น คุณค่าและความหมายที่มีต่อชุมชน เครื่องแต่งกายและการแต่งกายของชาวกะเหรี่ยงโปว์เป็น เครื่องแบบที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นกะเหรี่ยงโปว์ ที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และมอบไว้ให้ลูกหลานได้