The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by themeenmagic, 2022-01-03 11:10:58

EPREP book

ผลการศึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการ PrEP ที่

รับยาต่อเนื่องตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึงปัจจุบัน พบว่า ประวัติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP ของผู้รับบริการที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.2 ให้ข้อมูลว่าไม่เคยใช้สาร

เสพติดมาก่อน สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลว่าเคยใช้สารเสพติดมาก่อน ให้ข้อมูลว่าไม่ได้ใช้กระบอกฉีดยาหรือเข็มฉีดยา
ร่วมกับผู้อื่น ในส่วนพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 มีจำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับ

ก่อนกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ 17.6 มีจำนวนคู่นอนลดลง พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่ร้อยละ

63.2 มีการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ 24.5 มีการใช้ถุงยางอนามัย

ลดลง และในส่วนของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 77.9 ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทาง

เพศสัมพันธ์มาก่อน มีเพียงร้อยละ 21.1 พบความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลงเทียบกับก่อนกิน
ยา PrEP และร้อยละ 1.0 พบความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พอ ๆ กับก่อนกิน PrEP

ในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่า ประวัติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP พบบ่อยกว่าในส่วนของผู้รับบริการจากฝั่งโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 80.0

ให้ข้อมูลว่าไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ในกลุ่มผู้ที่ให้ข้อมูลว่าเคยใช้สารเสพติดมาก่อนส่วนใหญ่ร้อยละ 92.3


ื่
ให้ข้อมูลว่าไม่ได้ใช้กระบอกฉีดยาหรือเข็มฉีดยาร่วมกับผู้อน ในส่วนพฤติกรรมการมีเพศสัมพนธ์ ส่วนใหญ่ร้อย
ละ 61.1 มีจำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ 21.1 มีจำนวนคู่นอนลดลง
พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.9 มีการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับก่อนกินยา

PrEP รองลงมาร้อยละ 27.8 มีการใช้ถุงยางอนามัยลดลง และในส่วนของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ส่วนใหญ่ร้อยละ 80.0 ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน มีเพียงร้อยละ 17.8 ที่พบความถี่การเป็น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลงเทียบกับก่อนกินยา PrEP และร้อยละ 2.2 พบความถี่การเป็นโรคติดต่อทาง

เพศสัมพันธ์พอ ๆ กับก่อนกิน PrEP ดังตารางที่ 2.19


ตารางที่ 2.19 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เทียบกับก่อนกินยา PrEP

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 204) (n = 90)
พฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ

ก่อนกินยา PrEP
- ไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิดมาก่อน 188 (92.2%) 72 (80.0%)

- เคยใช้ แต่หยุดแล้วหลังเริ่มกินยา PrEP 9 (4.4%) 5 (5.6%)
- ยังใช้อยู่ แต่ใช้น้อยลงกว่าเดิม 6 (2.9%) 9 (10.0%)

- ใช้ยาเสตติดเหมือนที่เคยใช้ก่อนกินยา PrEP 0 (0.0%) 2 (2.2%)
- ใช้ยาเสพติดถี่มากขึ้นเทียบกับก่อนกินยา PrEP 1 (0.5%) 2 (2.2%)




[98] บทที่ 3 ผลการวิจัย

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 204) (n = 90)
ในกลุ่มที่ใช้สารเสพติด
พฤติกรรมการใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อ

เทียบกับก่อนกินยา PrEP

- ไม่ได้ใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นเลย 7 (100.0%) 12 (92.3%)
- ยังคงใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น 0 (0.0%) 1 (7.7%)
พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP

- จำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP 153 (75.0%) 55 (61.1%)

- จำนวนคู่นอนเพิ่มขึ้นเทียบกับก่อนกินยา PrEP 15 (7.4%) 16 (17.8%)
- จำนวนคู่นอนลดลงเทียบกับก่อนกินยา PrEP 36 (17.6%) 19 (21.1%)
พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยของท่านเวลามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อ

เทียบกับก่อนกินยา PrEP

- ไม่ค่อยใช้หรือใช้ถุงยางอนามัยลดลงเมื่อเทียบกับ 50 (24.5%) 25 (27.8%)
ก่อนกินยา PrEP
- ใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับก่อนกินยา 129 (63.2%) 53 (58.9%)

PrEP
- ใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเทียบกับก่อนกิน 25 (12.3%) 12 (13.3%)

ยา PrEP
ประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา

PrEP
- ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน 159 (77.9%) 72 (80.0%)

- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลง 43 (21.1%) 16 (17.8%)
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พอ ๆ กับ 2 (1.0%) 2 (2.2%)

ก่อนกินยา PrEP
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยขึ้น 0 (0.0%) 0 (0.0%)

กว่าก่อนกินยา PrEP























รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [99]

กลุ่ม 4: กลุ่มผู้รับบริการ PrEP แบบกินทุกวันที่ต่อเนื่องและมาขอหยุดยาที่คลินิก (n = 20)

ผลการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการ PrEP แบบกินทุกวันที่มาขอหยุดยาที่คลินิกจำนวน 20 คน

แบ่งเป็นผู้รับบริการที่หน่วยบริการประเภทโรงพยาบาลจำนวน 16 คนและประเภท KPLHS จำนวน 4 คน

พบว่าผู้รับบริการที่โรงพยาบาลมีระยะเวลากินยา PrEP ติดต่อกันเฉลี่ย 6.38 เดือน เหตุผลที่ทำให้เลือกกินยา

PrEP ในช่วงที่ผ่านมาอนดับแรกคืออยากกินยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์หรือความ
เสี่ยงอื่น ๆ (ร้อยละ 75.0) รองลงมาเป็นไม่สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้สม่ำเสมอทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ (ร้อย

ละ 37.5) และรองลงมาเป็นเพราะคู่นอน คนรักปัจจุบันติดเชื้อเอชไอวีอยู่ จึงขอกินยาเพอป้องกนตนเอง (ร้อย

ื่
ละ 25.0)

สำหรับผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่ามีระยะเวลากินยา PrEP ติดต่อกันเฉลี่ย 5.25 เดือน เหตุผลที่ทำ
ให้เลือกกินยา PrEP อันดับแรกคืออยากกินยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์หรือความ

เสี่ยงอื่น ๆ (ร้อยละ 100.0) รองลงมาเป็นเพราะช่วงนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพราะมีคู่นอนหลายคนหรือคู่นอนมี

พฤติกรรมเสี่ยงสูงง (ร้อยละ 25.0) และไม่สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้สม่ำเสมอทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ (ร้อย

ละ 25.0)

ในส่วนผลการศึกษาการกินยา PrEP ในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มผู้รับบริการที่โรงพยาบาลพบว่าส่วนใหญ่

ร้อยละ 81.3 กินยาได้เกือบครบทุกวัน (โดยเฉลี่ย 6-7 เม็ดต่อสัปดาห์) และส่วนใหญ่ไม่ระบุว่ามีอาการข้างเคียง
จากการกินยาหรือไม่ ในผู้ที่มีอาการข้างเคียงส่วนใหญ่ร้อยละ 66.7 อาการข้างเคียงที่พบมีอาการปานกลาง

กระทบการดำเนินชีวิตประจำวันบางครั้ง บางคนไม่ได้จัดการอะไร ปล่อยให้อาการหายเอง บางคนหยุดยาใน

บางคน และบางคนซื้อยามารับประทานเอง สำหรับผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่าให้ข้อมูลว่ากินยาได้เกือบครบ

ทุกวัน กินยาได้สม่ำเสมอลืมบ้างบางวัน ลืมกินยาบ่อย ๆ และไม่ได้กินยาเลยเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน และส่วน


ใหญ่ไม่ระบุว่ามีอาการข้างเคียงจากการกินยาหรือไม่ ในผู้ที่มีอาการขางเคียงให้ข้อมูลว่าอาการข้างเคียงที่พบมี
อาการเล็กน้อย ไม่กระทบการดำเนินชีวิตประจำวัน
สำหรับเหตุผลที่ขอหยุดยา PrEP ในครั้งนี้ พบผู้รับบริการที่โรงพยาบาลให้เหตุผลอันดับแรกเป็นเพราะ

คิดว่าตนเองไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อเอชไอวี (ร้อยละ 68.8) รองลงมาเป็นเพราะวิตก

กังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยา PrEP (ร้อยละ 18.8) และไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน (ร้อย


ละ18.8) ในขณะที่ผู้รับบริการที่ KPLHS ให้เหตุผลอันดับแรกเป็นเพราะคิดว่าตนเองไม่มความเสี่ยงหรือมีความ

เสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อเอชไอวี (ร้อยละ 75.0) และสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพนธ์ (ร้อยละ
75.0) และไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน และเป็นเพราะไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางกลับมารับยา

ต่อทุกครั้งที่หน่วยบริการ (ร้อยละ 25.0) ดังตารางที่ 2.20









[100] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ตารางที่ 2.20 ประวัติการกินยาPrEP ผลข้างเคียงจากยาที่ผ่านมาและเหตุผลที่ขอหยุดยา

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 16) (n = 4)

ระยะเวลาที่กินยาPrEPติดต่อกัน (เดือน)
- Mean, SD 6.38 (6.334) 5.25 (5.315)

- Median 4.00 4.00
min = 1, max = 23 min = 1, max = 12

- จำนวนคนที่กินน้อยกว่า 6 เดือน 9 (56.3%) 2 (50.0%)
- จำนวนคนที่กิน 6-12 เดือน 5 (31.2%) 1 (25.0%)

- จำนวนคนที่กินนานกว่า 12 เดือน 2 (12.5%) 1 (25.0%)
เหตุผลที่ทำให้เลือกกินยา PrEP ในช่วงที่ผ่านมา

- อยากกินยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 12 (75.0%) 4 (100.0%)
จากการมีเพศสัมพันธ์หรือความเสี่ยงอื่น ๆ

- ไม่สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้สม่ำเสมอทุก 6 (37.5%) 1 (25.0%)
ครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์

- คู่นอน/คนรักปัจจุบันติดเชื้อเอชไอวีอยู่ จึงขอ 4 (25.0%) 0 (0.0%)
กินยาเพื่อป้องกันตนเอง

- ช่วงนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพราะมีคู่นอน 1 (6.3%) 1 (25.0%)
หลายคนหรือคู่นอนมีพฤติกรรมเสี่ยงสูง

- หมอ/พยาบาลแนะนำให้กินยาป้องกัน 1 (6.3%) 0 (0.0%)
เพราะตนเองมีพฤติกรรมเสี่ยงสูง

- เหตุผลอื่น ๆ ไม่ระบุ 3 (18.8%) 0 (0.0%)
การกินยา PrEP ในช่วงที่ผ่านมา

- กินยาได้เกือบครบทุกวัน (โดยเฉลี่ย 6-7 เม็ด 13 (81.3%) 1 (25.0%)
ต่อสัปดาห์)

- กินยาได้สม่ำเสมอ ลืมบ้างบางวัน (โดยเฉลี่ย 1 (6.3%) 1 (25.0%)
4-5 เม็ดต่อสัปดาห์)

- ลืมกินยาบ่อย ๆ (โดยเฉลี่ย 1-3 เม็ดต่อ 1 (6.3%) 1 (25.0%)
สัปดาห์)

- ไม่ได้กินยาเลย 1 (6.3%) 1 (25.0%)
อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากยา PrEP ในช่วงที่ผ่านมา
การมีอาการข้างเคียงจากการกินยา PrEP ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา

(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

- ไม่ระบุ 13 (81.3%) 3 (75.0%)





รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [101]

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 16) (n = 4)
- มีอาการข้างเคียง 3 (18.7%) 1 (25.0%)
กลุ่มที่มีอาการข้างเคียง

ผลกระทบของอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

- มีอาการเล็กน้อย ไม่กระทบการดำเนิน 0 (0.0%) 1 (100.0%)
ชีวิตประจำวัน
- มีอาการปานกลาง กระทบการดำเนิน 2 (66.7%) 0 (0.0%)

ชีวิตประจำวันบ้างบางครั้ง
- มีอาการมาก กระทบการดำเนิน 1 (33.3%) 0 (0.0%)

ชีวิตประจำวันตลอดเวลา
วิธีการจัดการเมื่อเกิดอาการข้างเคียงจากการรับประทานยา

- ไม่ได้จัดการอะไร ปล่อยให้อาการหายเอง 1 (33.3%) 1 (100.0%)
- หยุดรับประทานยาในบางวัน 1 (33.3%) 0 (0.0%)

- พบแพทย์เพื่อรับการรักษาอาการ 0 (0.0%) 0 (0.0%)
- ซื้อยามารับประทานรักษาอาการเอง 1 (33.3%) 0 (0.0%)

เหตุผลที่ขอหยุดยา PrEP ในครั้งนี้ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
- คิดว่าตนเองไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยง 11 (68.8%) 3 (75.0%)

ต่ำมากที่จะติดเชื้อเอชไอวี
- ไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน 3 (18.8%) 0 (0.0%)

- วิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยาPrEP 3 (18.8%) 0 (0.0%)
- สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งที่มี 2 (12.5%) 3 (75.0%)

เพศสัมพันธ์
- แพทย์แนะนำให้หยุดยา PrEP เพราะมี 2 (12.5%) 0 (0.0%)

อาการข้างเคียงจากยา
- กลัวว่ากินยาไปนาน ๆ หากติดเชื้อไอชไอวี 1 (6.3%) 0 (0.0%)

เชื้อจะดื้อต่อยาได้
- ไม่พึงพอใจคุณภาพบริการจากบุคลากรที่ 1 (6.3%) 0 (0.0%)

แนะนำยาPrEPในหน่วยบริการนี้
- คู่นอน/คนรักไม่สนับสนุนให้กินยา PrEP 1 (6.3%) 0 (0.0%)

- ไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางกลับมารับยาต่อ 0 (0.0%) 1 (25.0%)
ทุกครั้งที่หน่วยบริการ

- เหตุผลอื่น ๆ ไม่ระบุ 2 (12.5%) 0 (0.0%)






[102] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ผลการศึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการ PrEP

แบบกินทุกวันที่มาขอหยุดยาที่คลินิก พบว่า ประวัติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบ

กับก่อนกินยา PrEP ของผู้รับบริการที่โรงพยาบาล ร้อยละ 100.0 ให้ข้อมูลว่าไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ใน

ส่วนพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 มีจำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP
และรองลงมามีจำนวนคู่นอนลดลงและเพิ่มขึ้นสัดส่วนเท่า ๆ กันร้อยละ 12.5 พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย

ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 มีการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ 18.8 มี

การใช้ถุงยางอนามัยลดลง และในส่วนของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.3 ไม่เคยเป็น

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน ที่เหลือร้อยละ 18.7 พบความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลง

เทียบกับก่อนกินยา PrEP
ในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่า ประวัติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP พบได้บ่อยกว่าผู้รับบริการจากฝั่งโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 ให้ข้อมูลว่า

ไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ในกลุ่มผู้ที่ให้ข้อมูลว่าเคยใช้สารเสพติดมาก่อนร้อยละ 100.0 ให้ข้อมูลว่าไม่ได้ใช้

กระบอกฉีดยาหรือเข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ในส่วนพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.0 มีจำนวนคู่

นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP และรองลงมามีจำนวนคู่นอนลดลงและเพิ่มขึ้นสัดส่วนเท่า ๆ กัน

ร้อยละ 25.0 พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.0 มีการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับ
ก่อนกินยา PrEP ที่เหลือมีการใช้ถุงยางอนามัยลดลงและเพิ่มขึ้นพอ ๆ กันร้อยละ 25.0 และในส่วนของการ

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ร้อยละ 100.0 ให้ข้อมูลว่าไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน ดังตาราง

ที่ 2.21



ตารางที่ 2.21 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เทียบกับก่อนกินยา PrEP

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 16) (n = 4)

พฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP
- ไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิดมาก่อน 16 (100.0%) 3 (75.0%)

- เคยใช้ แต่หยุดแล้วหลังเริ่มกินยา PrEP 0 (0.0%) 0 (0.0%)
- ยังใช้อยู่ แต่ใช้น้อยลงกว่าเดิม 0 (0.0%) 0 (0.0%)

- ใช้ยาเสตติดเหมือนที่เคยใช้ก่อนกินยา PrEP 0 (0.0%) 1 (25.0%)
- ใช้ยาเสพติดถี่มากขึ้นเทียบกับก่อนกินยา PrEP 0 (0.0%) 0 (0.0%)

กลุ่มที่ใช้สารเสพติด
พฤติกรรมการใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ
ก่อนกินยา PrEP

- ไม่ได้ใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นเลย 0 (0%) 1 (100.0%)




รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [103]

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 16) (n = 4)
- ยังคงใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น 0 (0%) 0 (0.0%)
พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP

- จำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP 12 (75.0%) 2 (50.0%)

- จำนวนคู่นอนเพิ่มขึ้นเทียบกับก่อนกินยา PrEP 2 (12.5%) 1 (25.0%)
- จำนวนคู่นอนลดลงเทียบกับก่อนกินยา PrEP 2 (12.5%) 1 (25.0%)

พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา
PrEP

- ไม่ค่อยใช้หรือใช้ถุงยางอนามัยลดลงเมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP 3 (18.8%) 1 (25.0%)
- ใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP 12 (75.0%) 2 (50.0%)
- ใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเทียบกับก่อนกินยา PrEP 1 (6.3%) 1 (25.0%)

ประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับก่อนกินยา PrEP

- ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน 13 (81.3%) 4 (100.0%)
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลง 3 (18.7%) 0 (0.0%)
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พอ ๆ กับก่อนกินยา 0 (0.0%) 0 (0.0%)

PrEP

- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยขึ้นกว่าก่อนกินยา 0 (0.0%) 0 (0.0%)
PrEP








































[104] บทที่ 3 ผลการวิจัย

กลุ่ม 5: กลุ่มผู้รับบริการ PrEP แบบกินทุกวัน ที่หยุดกินยานานกว่า 1 เดือนขึ้นไปและขาดการติดต่อ/ไม ่

กลับมาที่หน่วยบริการอีก (n = 35)

ผลการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการ PrEP แบบกินทุกวันที่หยุดกินยานานกว่า 1 เดือนขึ้นไปและ

ไม่กลับมาที่หน่วยบริการอีกจำนวน 35 คน แบ่งเป็นผู้รับบริการที่หน่วยบริการประเภทโรงพยาบาลจำนวน 11
คนและประเภท KPLHS จำนวน 24 คน พบว่าผู้รับบริการที่โรงพยาบาลมีระยะเวลากินยา PrEP ติดต่อกัน

เฉลี่ย 2.09 เดือน ระยะเวลาที่หยุดกิน PrEP เฉลี่ย 6.55 เดือน เหตุผลที่หยุดยา PrEP ในครั้งหลังสุด อันดับ

แรกคือคิดว่าตนเองไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อเอชไอวี (ร้อยละ 36.4) รองลงมาเป็น

เพราะไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน (ร้อยละ 18.2)

สำหรับผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่ามีระยะเวลากินยาPrEPติดต่อกันเฉลี่ย 1.92 เดือน ระยะเวลาที่
หยุดกิน PrEP เฉลี่ย 6.04 เดือน เหตุผลที่หยุดยา PrEP ในครั้งหลังสุด อันดับแรกคือคิดว่าตนเองไม่มีความ

เสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำมากทจะติดเชื้อเอชไอวี (ร้อยละ62.5) รองลงมาเป็นเพราะไม่สะดวกที่จะต้องเดินทาง
ี่
กลับมารับยาต่อทุกครั้งที่หน่วยบริการ (ร้อยละ 29.2) และรองลงมาเป็นเพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง

จากยา PrEP (ร้อยละ 16.7) และไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน (ร้อยละ 16.7) ดังตารางที่ 2.22



ตารางที่ 2.22 การตัดสินใจหยุดยา PrEP

โรงพยาบาล KPLHS
ตัวแปร
(n = 11) (n = 24)
ระยะเวลาที่กินยา PrEP ติดต่อกันในครั้งหลังสุดนี้

(เดือน)
- Mean (SD) 2.09 (1.446) 1.92 (1.381)

- Median 2.00 1.00
Min = 1, max = 6 Min = 1, max = 6

- จำนวนคนที่กินน้อยกว่า 6 เดือน 10 (90.9%) 23 (95.8%)
- จำนวนคนที่กิน 6-12 เดือน 1 (9.1%) 1 (4.2%)

- จำนวนคนที่กินนานกว่า 12 เดือน 0 (0.0%) 0 (0.0%)
ระยะเวลาที่หยุดกินยา PrEP (เดือน)

- Mean (SD) 6.55 (8.190) 6.04 (2.789)
- Median 4.00 7.00

Min = 1, max = 30 Min = 1, max = 10
- จำนวนคนที่หยุดน้อยกว่า 6 เดือน 8 (72.7%) 9 (37.5%)

- จำนวนคนที่หยุด 6-12 เดือน 2 (18.2%) 15 (62.5%)
- จำนวนคนที่หยุดนานกว่า 12 เดือน 1 (9.1%) 0 (0.0%)





รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [105]

เหตุผลที่หยุดยา PrEP ในครั้งหลังสุด

- คิดว่าตนเองไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำ 4 (36.4%) 15 (62.5%)
มากที่จะติดเชื้อเอชไอวี
- ไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางกลับมารับยาต่อทุก 4 (36.4%) 7 (29.2%)

ครั้งที่หน่วยบริการ

- ไม่ชอบที่จะต้องพยายามกินยาประจำทุกวัน 2 (18.2%) 4 (16.7)
- สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งที่มี 1 (9.1%) 1 (4.2%)
เพศสัมพันธ์

- วิตกกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยา PrEP 1 (9.1%) 4 (16.7)

- เปลี่ยนไปกินยาแบบ on demand 1 (9.1%) 0 (0.0%)
- ย้ายที่อยู่ 1 (9.1%) 0 (0.0%)
- กังวลว่าคนรักหรือคนรู้จักจะสงสัยว่าตนเองเป็น 0 (0.0%) 1 (4.2))

ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
- ผลกระทบจาก COVID-19 0 (0.0%) 1 (4.2%)



ผลการศึกษาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการ PrEP

แบบกินทุกวันที่หยุดกินยานานกว่า 1 เดือนขึ้นไปและไม่กลับมาที่หน่วยบริการอีก พบว่า ประวัติและ
พฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP อยู่ของผู้รับบริการที่โรงพยาบาล

ร้อยละ 90.9 ให้ข้อมูลว่าไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ที่เหลือร้อยละ 9.1 ให้ข้อมูลว่าเคยใช้แต่หยุดแล้ว ในส่วน

พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.5 มีจำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP

ที่เหลือร้อยละ 45.5 มีจำนวนคู่นอนลดลง พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.8 มีการใช้

ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP ที่เหลือร้อยละ 18.2 มีการใช้ถุงยางอนามัยลดลง และ
ในส่วนของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 72.7 ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มา

ก่อน รองลงมาร้อยละ 18.2 มีความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พอ ๆ กับช่วงที่ยังกินยา PrEP และร้อย

ละ 9.1 มีความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลงเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP

ในกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการที่ KPLHS พบว่า ประวัติและพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP อยู่ ร้อยละ 83.3 ให้ข้อมูลว่าไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน ที่เหลือร้อยละ 16.7


ให้ข้อมูลว่าเคยใช้แต่หยุดแล้ว ในส่วนพฤติกรรมการมีเพศสัมพนธ์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 79.2 มีจำนวนคู่นอนยังคง
เท่าเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ 12.5 มีจำนวนคู่นอนลดลง พฤติกรรมการใช้ถุงยาง
อนามัย ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.8 มีการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP รองลงมาร้อยละ

16.7 มีการใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มมากขึ้น และในส่วนของการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ร้อยละ

100.0 ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน ดังตารางที่ 2.23




[106] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ี่
ตารางที่ 2.23 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เทียบกับช่วงทยังกินยา PrEP
โรงพยาบาล KPLHS
คำถาม
(n = 11) (n = 24)

พฤติกรรมการใช้สารเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา
PrEP อย ู่

- ไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิดมาก่อน 10 (90.9%) 20 (83.3%)
- เคยใช้ แต่หยุดแล้วหลังหยุดกินยา PrEP 1 (9.1%) 4 (16.7%)

- ยังใช้อยู่ แต่ใช้น้อยลงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงที่กินยา PrEP 0 (0.0%) 0 (0.0%)
- ใช้ยาเสพติดเหมือนที่เคยใช้ในช่วงกินยา PrEP 0 (0.0%) 0 (0.0%)

- ใช้ยาเสพติดถี่มากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงกินยา PrEP 0 (0.0%) 0 (0.0%)


กลุ่มที่ใช้สารเสพติด
พฤติกรรมการใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นในช่วงที่ผ่าน

มาเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP อย ู่
- ไม่ได้ใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นเลย 0 (0.0%) 0 (0.0%)

- ยังคงใช้กระบอกฉีดยา/เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น 0 (0.0%) 0 (0.0%)
พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา

PrEP อย ู่
- จำนวนคู่นอนยังคงเท่าเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP 6 (54.5%) 19 (79.2%)

- จำนวนคู่นอนเพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP 0 (0.0%) 2 (8.3%)
- จำนวนคู่นอนลดลงเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP 5 (45.5%) 3 (12.5%)

พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อ
เทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP อย ู่

- ไม่ค่อยใช้หรือใช้ถุงยางอนามัยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ยังกินยา 2 (18.2%) 3 (12.5%)
PrEP

- ใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมเทียบกับช่วงที่ยังกินยา PrEP 9 (81.8%) 17 (70.8%)
- ใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงที่ยังกินยา PrEP 0 (0.0%) 4 (16.7%)

ประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ
ช่วงที่ยังกินยา PrEP อย ู่

- ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน 8 (72.7%) 24 (100.0%)
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยลงเทียบกับช่วงที่ยัง 1 (9.1%) 0 (0.0%)

กินยา PrEP
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พอ ๆ กับช่วงที่ยังกินยา 2 (18.2%) 0 (0.0%)

PrEP





รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [107]

โรงพยาบาล KPLHS
คำถาม
(n = 11) (n = 24)
- ความถี่การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยขึ้นกว่าช่วงที่ยังกินยา 0 (0.0%) 0 (0.0%)
PrEP

หมายเหตุ :- เนื่องจากช่วงเวลาในการกระจายแบบสอบถามตอบผ่านทางออนไลน์ โดยเน้นเฉพาะผู้รับบริการ PrEP ที่อยู่ใน


จำนวนเป้าหมาย 2,000 ราย ภายใต้การสนับสนุนงบจาก สปสช. ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง กันยายน 2563 ซึ่งเป็นชวง
ท้ายของปีงบประมาณ 2563 ทำให้การเข้าถึงผู้รับบริการบางกลุ่มที่ตั้งเป้าไว้ มีจำนวนน้อย เช่น ผู้รับบริการรายใหม่ที่เริ่มรับยา
PrEP, ผู้รับบริการที่เสนอแล้วปฏิเสธไม่ขอรับยา PrEP, ผู้รับบริการที่รับยา PrEP แต่หยุดยา PrEP ไปแล้ว ทั้งกลุ่มมาหยุดยาที่

คลินิก หรือ หยุดยาไปโดยขาดการติดต่อกับหน่วยบริการ การติดต่อขอความร่วมมือในการเข้าไปตอบแบบสอบถามผ่านทาง
ระบบออนไลน์จึงทำได้ค่อนข้างลำบาก โดยกลุ่มที่สามารถเชิญเข้ามาตอบได้ค่อนข้างมาก คือ กลุ่มที่รับยา PrEP อย่างต่อเนื่อง

มาจนถึงวันที่ตอบแบบสอบถาม อย่างไรก็ตามการได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจำนวน 513 คน คิดเป็นประมาณ 25% ของ
ผู้รับบริการ PrEP ที่ตั้งเป้าไว้ 2,000 ราย โดยมาจากหน่วยบริการประเภทโรงพยาบาลจำนวน 179 คน จากโรงพยาบาล

ร่วมกับ CBO จำนวน 176 คน และจาก KPLHS จำนวน 158 คน ก็น่าจะสามารถสะท้อนเหตุผลการตัดสินใจกินหรือไม่กินยา
PrEP การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี รวมไปถึงทัศนคติและความคิดเห็นของผู้รับบริการที่มีต่อการ

จัดบริการของหน่วยบริการโดยรวมได้


การวิเคราะห์เชิงคุณภาพข้อมูลผู้รับบริการ

ผลการศึกษาเชิงคุณภาพในกลุ่มผู้รับบริการจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้รับบริการจากหน่วยบริการ

เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจความวิตกกังวลและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ความรู้ความเข้าใจ

เกี่ยวกับ PrEP การตัดสินใจกินหรือไม่กิน PrEP ประสบการณ์การกินยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการ
ติดเชื้อเอชไอวี การใช้สารเสพติด ความพึงพอใจต่อการจัดบริการ PrEP ข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยทำการ

คัดเลือกผู้รับบริการที่ยินดีรับการสัมภาษณ์ จากหน่วยบริการประเภทโรงพยาบาล 4 แห่งและ KPLHS 2 แห่ง

แบ่งผู้รับบริการออกเป็น 4 กลุ่ม ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 16 คนดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้รับบริการที่มารับบริการ PrEP ในครั้งแรกและตัดสินใจกิน PrEP จำนวน 3 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้รับบริการ PrEP ในครั้งแรกและตัดสินใจไม่กิน PrEP จำนวน 3 ราย

กลุ่มที่ 3 ผู้รับบริการ PrEP และหยุดยาไปแล้วขอกลับมารับ PrEP ใหม่อกครั้ง จำนวน 4 ราย
กลุ่มที่ 4 ผู้รับบริการ PrEP ที่ขอหยุดยาทั้งที่มาขอหยุดที่หน่วยบริการและหยุดเอง จำนวน 6 ราย

ผลการวิเคราะห์ขอมูลเชิงคุณภาพโดยการถอดสาระจากการสัมภาษณ์เชิงลึก ได้รายละเอยดแยกตาม


กลุ่มผู้รับบริการดังต่อไปนี้










[108] บทที่ 3 ผลการวิจัย

กลุ่มที่ 1 ผู้รับบริการที่มารับบริการ PrEP ในครั้งแรกและตัดสินใจกิน PrEP จำนวน 3 คน

ความรู้ ความเข้าใจ ความวิตกกังวล และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์

ผู้รับบริการในกลุ่มที่ตัดสินใจกิน PrEP มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวีเป็นอย่างดี รู้เรื่องการ
ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเป็นอย่างดี มีการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีปีละ 1-2 ครั้ง

มีผู้รับการสัมภาษณ์ เป็น MSM 2 รายและเป็นผู้หญิง 1 รายที่มีสามีติดเชื้อเอชไอวี มีความรู้ความ

เข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวีและการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเอชไอวีดีมาก

“ก็ตรวจทุกปีนะ ปีละ 1 ครั้ง เพราะรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยง” MSM 32 ปี
ี่
“สามีเป็นผู้ติดเชื้อ พี่ก็มีความเสี่ยงแหละที่จะติดเชื้อจากสามีพ” หญิง 50 ปี
“ผมตรวจเลือดทุก 6 เดือนนะ มันกังวล ก็เลยตรวจบ่อย ตรวจบ่อยทั้งที่ไม่ได้นอนกับใครเลย” MSM

23 ปี



ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้ที่เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงของ
ตนเองต่อการติดเชื้อเอชไอวี ให้คะแนนความเสี่ยงของตนเองน้อยกว่า 30 คะแนนจาก 100 คะแนน บางคนให้

ข้อมูลว่ามีความเสี่ยงเนื่องจากมีโอกาสที่จะคู่นอนหลายคน แต่มีการป้องกันตนเองอย่างดีโดยการใช้ถุงยาง

ื่
อนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แม้กับคู่นอนประจำ ผู้รับบริการที่รับการสัมภาษณ์ไม่ได้ให้ข้อมูลความเสี่ยงอน
ที่นอกเหนือจากพฤติกรรมทางเพศ

“ผมใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเลยนะ ไม่มีข้อแม้ แม้กับคู่นอนประจำผมก็ใช้” MSM 32 ปี
“กลัวจะติดทั้งเอชไอวีและโรคอื่น ๆ นั่นแหละ ก็เลยทำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง” MSM 32 ปี

“ช่วงที่มีคู่ ก็ใช้ถุงยางทุกครั้งนะครับ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ใช้ เพราะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครมานานแล้ว”

MSM 23 ปี



ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นผู้หญิง ให้คะแนนความเสี่ยงของตนเองไม่ถูก
“ไม่รู้จะให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ดี แต่ก็ไม่กลัวนะ” หญิง 50 ปี

“ถุงยางอนามัยเหรอ ไม่ชอบใช้เลย ส่วนตัวไม่ชอบใช้” หญิง 50 ปี



ผู้รับบริการในกลุ่มนี้บางคนให้คะแนนความเสี่ยงตนเอง 0 คะแนนจาก 100 คะแนน แต่ก็มีความ

ิ่
ต้องการรับยาPrEP โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันตนเองไว้ก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าตนเองจะไปมีความเสี่ยงเพมขึ้น
เมื่อไหร่

“ถึงผมจะไม่เสี่ยงเลยช่วงนี้ ไม่ได้นอนกับใครเลย แต่ก็ขอกินยาPrEPไว้ก่อน ป้องกันไว้ดีกว่า เพราะไม่

รู้ว่าจะมีความเสี่ยงตอนไหน วันไหน” MSM 23 ปี






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [109]

ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP

ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้มีความรู้เกี่ยวกับ PrEP บางคนเป็นผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ บางคนเป็น

เจ้าหน้าที่ของ CBO ที่เคยทำงานเกี่ยวกับเอชไอวีอยู่แล้ว บางคนก็ค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึง
ทราบเรื่อง PrEP จากกลุ่มเพื่อน ทุกคนทราบว่าการกินPrEPจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการป้องกันตนเองจาก

การติดเชื้อเอชไอวีนอกจากการใช้ถุงยางอนามัย

“รู้จักยา PrEPจากการเข้าร่วมงานกับ CBO หนึ่ง และตอนนี้ผมก็ช่วยงานใน CBO นั้นอยู่ด้วย” MSM

32 ปี
ื่

“มีสามีเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี พยาบาลก็แนะนำให้กินPrEPเพอป้องกนการติดเชื้อเอชไอวีจากสามี PrEP
น่าจะช่วยป้องกันได้” หญิง 50 ปี

“ตอนนี้ทำงานกับ CBO รู้จัก PrEP เป็นอย่างดี” MSM 23 ปี



ข้อกังวลเกี่ยวกับ PrEP มีเพียงเรื่องความรับผิดชอบที่จะต้องกินยาทุกวัน และอาจมีผลข้างเคียงจาก
การกินยาในช่วงแรก แต่ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลว่า ตนเองสามารถกินยาได้ดีเป็นประจำทุกวัน



เหตุผลที่ตัดสินใจกินยา PrEP ในครั้งแรก ประสบการณ์การกินยา ผลข้างเคียง

ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้เริ่มกินยา PrEP ติดต่อกันมาประมาณ 2-3 เดือน ทุกคนให้เหตุผลที่

ตัดสินใจกินยา PrEP เหมือน ๆ กัน คือ ตัดสินใจกินยา PrEP เองเพราะต้องการกินยาเพื่อป้องกันไว้ก่อน แม้
ตนเองจะสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง แต่การกินยา PrEP ก็ทำให้อุ่นใจมากกขน เป็นเหมือนการป้องกัน
ึ้
ตนเองเพิ่มอีกหนึ่งชั้น

“ผมตัดสินใจกิน PrEP ด้วยตัวเอง เพราะต้องการป้องกันตัวเองเพิ่มเติมจากการใช้ถุงยางอนามัย”

MSM 32 ปี

“ผมเลือกกิน PrEP เอง เวลากิน PrEP รู้สึกเหมือนมีการป้องกัน 2 ชั้น อุ่นใจ” MSM 23 ปี


สำหรับผู้รับการสัมภาษณ์ 1 คนที่เป็นผู้หญิง กินยาPrEPต่อเนื่องมาได้ 12 เดือน เหตุผลที่กินยา PrEP

คือมีสามีที่ติดเชื้อเอชไอวี และแพทย์พยาบาลแนะนำให้ตนเองตรวจเลือดและรับยา PrEP

“ไม่ได้ตัดสินใจกิน PrEP เองหรอก แพทย์กับพยาบาลแนะนำให้กิน เพราะสามีเป็นผู้ติดเชื้อ” หญิง

50 ปี


มีผู้รับการสัมภาษณ์ 1 คนให้ข้อมูลว่าตนเองมีอาการข้างเคียงจากการกินยา PrEP คือมีอาการปาก

แห้ง กินน้ำเยอะในช่วงแรกที่เริ่มกินยา PrEP หลังจาก 3-4 วันอาการหายไปเอง อาการข้างเคียงไม่ได้รบกวน

การดำเนินชีวิตประจำวัน อีก 1 คนให้ข้อมูลว่ามีอาการปวดหัว คลื่นไส้อาเจียนช่วงแรกและอาการหายไปเอง



[110] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลเหมือนกันว่าเรื่องที่ตนเองกิน PrEP ไม่ใช่ความลับ ไม่รู้สึกว่าต้อง

ปกปิดใคร ไม่ได้มีการเปลี่ยนขวดยา เก็บยาไว้ที่บ้าน ถ้าคนในครอบครัวมาถามว่าเป็นยาอะไรก็สามารถบอก

ตามตรงได้ว่าตนเองกำลังกินยา PrEP อยู่ แต่ในกลุ่มเพื่อนจะทราบกันอยู่แล้วว่าใครกิน PrEP อยู่เพราะสนิท
กัน

“ที่บ้านไม่มีใครทราบว่ากำลังกิน PrEP ก็ไม่ได้ปกปิดอะไรนะครับ ถ้าเค้าถามก็จะบอกว่ากินยา PrEP

อยู่ แต่เค้าไม่ถาม” MSM 32 ปี

“ครอบครัวทราบว่ากำลังกินยา PrEP ทุกคนสนับสนุนให้กินนะ” หญิง 50 ปี
“ไม่เห็นสนใจเลยว่าใครจะคิดยังไง ก็กิน PrEP อยู่ เปิดเผยได้ ใครจะมองยังไงก็ช่างเค้า” MSM 23 ปี



มีผู้รับการสัมภาษณ์ 1 คนที่มีแฟน ให้ข้อมูลว่าสามารถกินยา PrEP ให้แฟนเห็นได้ ไม่ได้ปิดบังอะไร

แต่แฟนไม่เคยถามว่าเป็นยาอะไร คิดว่าถ้าแฟนถามก็จะเล่าให้ฟังและอาจชวนแฟนกินด้วยกัน

“แฟนไม่ทราบว่าผมกิน PrEP แต่ถ้าเค้าถามก็จะบอกและชวนเค้ากินด้วยกัน” MSM 32 ปี


การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลเหมือน ๆ กันว่าในช่วงที่กิน PrEP พฤติกรรมของตนเองเหมือนเดิม

มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเหมือนกับช่วงก่อนกิน PrEP คู่นอนเท่า ๆ เดิม และทุกคนไม่มีใครเป็นผู้ใช้สาร

เสพติดชนิดฉีด


ความตั้งใจในการกิน PrEP

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนบอกว่าตนเองจะกินยา PrEP ไปเรื่อย ๆ ขณะนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องการหยุดยา

เลย

“จะกินตลอดไปนั่นแหละ กินทุกวันไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด” หญิง 50 ปี
“จะกินต่อไปเรื่อย ๆ ยังไม่คิดจะหยุดยาช่วงนี้ แต่ถ้าอนาคตไม่เสี่ยงแล้วก็อาจจะหยุดก็ได้” MSM 32

ปี

“ตั้งใจจะกินไปเรื่อย ๆ จะไม่หยุดกิน” MSM 23 ปี



ความพึงพอใจในบริการ PrEP ของหน่วยบริการ
ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนมีความพึงพอใจในการบริการที่หน่วยบริการดีมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ สถานที่

ความสะดวก ทุกคนมีความเห็นว่าจะรับยาที่หน่วยบริการเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนที่รับยา PrEP








รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [111]

ความสนใจต่อการกิน PrEP ตามความต้องการ

ผู้รับการสัมภาษณ์ให้ความเห็นว่า ไม่เคยทราบเรื่อง PrEP ตามความต้องการ แต่ทุกคนสะดวกที่จะกิน

ยาทุกวันแบบนี้ ยินดีที่จะกินยาทุกวันต่อไป


การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนไม่ได้เป็นผู้ใช้สารเสพติด มีบางคนที่มีการดื่มสุราบ้างบางโอกาส และการดื่ม

สุราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ใด ๆ


ความคิดเห็นอื่นเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดบริการ PrEP

อยากให้มีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชนเรื่อง PrEP ให้มากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย

เช่น ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เป็นต้น เมื่อทุกคนทราบและเข้าใจเรื่อง PrEP มองเห็นประโยชน์ของการกิน

PrEP เพื่อป้องกันตนเอง การกิน PrEP จะกลายเป็นเรื่องปกติ
อยากให้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงยา PrEP ขยายไปตามอำเภอที่ห่างไกล เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย

สามารถเข้าถึงบริการได้



กลุ่มที่ 2 ผู้รับบริการ PrEP ในครั้งแรกและตัดสินใจไม่กิน PrEP จำนวน 3 คน

ความรู้ ความเข้าใจ ความวิตกกังวล และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์
ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้มีทั้งชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและผู้หญิง ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ

เกี่ยวกับเอชไอวีดี มีการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี เป็นประจำ

“ตรวจเลือดปีละ 3-4 ครั้ง ตรวจบ่อยช่วงมีความเสี่ยง เช่น เปลี่ยนคู่นอน ถุงยางแตก ที่ผ่านมาเคยเจอ

ถุงยางแตกปีละประมาณ 3 ครั้ง” Bisexual 26 ปี

“สมัยก่อนเปลี่ยนคู่นอนบ่อย คู่นอนเยอะ ก็เคยเป็นหนองในเมื่อ 4 ปีก่อน” Bisexual 26 ปี



ในส่วนของผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นชายที่มีเพศสัมพนธ์กับชายและหญิงประเมินความเสี่ยงตนเอง 30
คะแนนจาก 100 คะแนน ให้ข้อมูลว่าตนเองมีคู่นอนประจำแต่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยเพราะคบกันมานานมาก

แล้ว และไม่แน่ใจว่าคู่นอนของตนเองจะแอบไปมีคนอื่นหรือไม่ และในบางครั้งตนเองก็ยังมีคู่นอนชั่วคราวด้วย

จึงคิดว่าตนเองก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีได้
“ก็ไว้ใจแฟนนะ คบมานานเลยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย แต่ก็ยังคิดว่าเสี่ยงแหละ เลยให้คะแนนความ

เสี่ยงตัวเอง 30 คะแนนจาก 100 คะแนน เพราะไม่รู้ว่าแฟนแอบไปมีคนอื่นรึเปล่า บางครั้งก็แอบรู้ว่าเค้าไป

นอนกับคนอื่น” Bisexual 26 ปี

“ผมก็มีคู่นอนชั่วคราวนะ แต่ไม่ได้สอดใส่ ส่วนมากเป็น oral sex” Bisexual 26 ปี



[112] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ผู้รับการสัมภาษณ์หนึ่งคนเป็นผู้หญิง ประเมินความเสี่ยงตนเองสูง เพราะมีสามีที่ติดเชื้อเอชไอวี

“รู้ค่ะว่าเสี่ยง สามีติดเชื้อเอชไอวีแต่รับยาต้านไวรัสต่อเนื่องสม่ำเสมอ และก็ป้องกันตัวเอง เอาด้วยการใช้

ถุงยางอนามัยเอา” หญิง 40 ปี


ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP

ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและหญิงให้ข้อมูลว่าตนเองทราบเรื่อง PrEP เพราะ

เจ้าหน้าที่แนะนำตอนตนมาขอรับ PEP ที่หน่วยบริการ ก่อนหน้านี้ไม่ทราบเรื่อง PrEP มาก่อน
“พอมารับ PEP บ่อย ๆ เข้า เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้กิน PrEP ก็เลยรู้จัก PrEP จากที่ไม่เคยรู้มาก่อน”

Bisexual 26 ปี



ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นผู้หญิงที่มีสามีติดเชื้อเอชไอวี ทราบข้อมูลเรื่อง PrEP มานานแล้ว เพราะ

เจ้าหน้าที่เคยแนะนำให้ตนเองรับ PrEP
“พยาบาลอธิบายเรื่อง PrEP ให้ฟังทุกครั้งที่มารับการตรวจพร้อมสามี เข้าใจดีว่ายาช่วยป้องกันการติด

เชื้อเอชไอวีได้” หญิง 40 ปี




เหตุผลที่ตัดสินใจไม่กินยา PrEP

ผู้รับการสัมภาษณ์ให้เหตุผลว่ามีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา PrEP กลัวกระทบกับการ

ดำเนินชีวิตประจำวัน คิดว่าตนเองไม่สามารถทนผลอาการข้างเคียงจากยาได้ นอกจากนี้ยังให้เหตุผลว่าตนเอง
ไม่น่าจะสามารถกินยาทุกวันได้ จึงตัดสินใจยังไม่ขอกินยา PrEP

“ผมรู้นะว่ายา PrEP มีประโยชน์มาก แต่ไม่พร้อมจะกินยาทุกวัน เลยยังไม่กินตอนนี้” Bisexual 26 ปี


ื่
“อีกอย่างนึงนะ ที่ยังไม่อยากกิน PrEP เพราะกลัวแฟนจะเห็นว่ากินยา PrEP แล้วระแวงว่าผมมคนอน
ด้วย” Bisexual 26 ปี


“ไหนจะเรื่องผลข้างเคียงของยาอกล่ะ ตอนกิน PEP ยังเวียนหัวทำงานไม่ได้เลย PrEP ก็คงเหมือนกัน
ป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัยแทนละกัน” Bisexual 26 ปี


“เข้าใจดีนะว่ายาช่วยป้องกนการติดเชื้อเอชไอวีได้ แต่ไม่พร้อมจะกินยาจริง ๆ คิดว่าไม่สามารถกินยา
ทุกวันได้ คงลืมบ่อยเลยแหละ กลัวผลข้างเคียงของยาด้วย เคยเห็นเพื่อนที่ทำงานกินยา PrEP แล้วสิวขึ้นเต็ม

หน้าเลย” หญิง 40 ปี

“อีกเหตุผลหนี่งที่ไม่อยากกินยา PrEP เพราะกลัวคนอื่นเห็นว่ากินยาแล้วจะคิดว่าหนูก็เป็นผู้ติดเชื้อ
เหมือนกัน”หญิง 40 ปี

“ยังไม่อยากกินยาตอนนี้หรอก ขี้เกียจต้องกินทุกวัน น่าจะลืมกินบ่อยแน่นอน” MSM 33 ปี






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [113]

“ตอนนี้คิดว่าผมยังเสี่ยงน้อยอยู่ คิดว่ายังไม่จำเป็นต้องกินยา PrEP” MSM 33 ปี



โอกาสที่จะขอกินยา PrEP ในอนาคต
ผู้รับการสัมภาษณ์ให้ข้อมูลว่าขอประเมินความเสี่ยงตัวเองก่อน และตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีบ่อยครั้ง

ต่อไปก่อน หากวันข้างหน้ารู้สึกว่าตนเองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่านี้ ก็มีโอกาสที่จะขอกินยา PrEP ได้

“ขอประเมินก่อนละกัน ถ้าอีกหน่อยเสี่ยงเพิ่มขึ้น หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะคิดดูอีกที” Bisexual

26 ปี
“ยังไม่ได้คิดว่าอนาคตจะมีโอกาสขอกินยา PrEP รึเปล่า รู้แต่ว่าตอนนี้ยังไม่อยากกิน” หญิง 40 ปี

“ถ้าอนาคตผมมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ก็อาจจะมาขอกิน PrEP ก็ได้ ขอดูอีกทีก็แล้วกัน” MSM 33 ปี



ความสนใจต่อการกินยา PrEP แบบตามความต้องการ

ผู้รับการสัมภาษณ์บางคนเคยทราบเกี่ยวกับยา PrEP แบบตามความต้องการ แต่ถ้าตนเองจะต้องกิน
PrEP ก็คิดว่ากิน PrEP แบบกินทุกวันน่าจะเหมาะสมกว่า



การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด

ผู้รับการสัมภาษณ์เกือบทุกคนไม่เคยใช้สารเสพติด มีเพียง 1 คนเคยทดลองเสพ popper แต่ไม่ติด

ส่วนการดื่มสุรามีการดื่มบ้างตามโอกาส และการดื่มสุราไม่สัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์


ความคิดเห็นอื่นเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดบริการ PrEP

อยากให้มีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชนเรื่อง PrEP ให้มากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย

เช่น ในกลุ่มวัยรุ่น เพิ่มช่องทางการเข้าถึงยา PrEP ให้ง่ายขึ้น เช่น ตามโรงพยาบาลทั่วไป ไม่จำเป็นจะต้องเป็น

โรงพยาบาลที่ดูแลรักษาเอชไอวีก็ได้
อยากให้มีการให้ความรู้เรื่อง PrEP ให้ประชาชนทั่วไปทราบ จะได้เข้าใจว่าคนที่กิน PrEP ไม่ใช่ผู้ติด

เชื้อเอชไอวี



กลุ่มที่ 3 ผู้รับบริการ PrEP และหยุดยาไปแล้วขอกลับมารับ PrEP ใหม่อีกครั้ง จำนวน 4 คน

ความรู้ ความเข้าใจ ความวตกกังวล และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์

ผู้รับบริการในกลุ่มที่ตัดสินใจกินยา PrEP มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวีเป็นอย่างดี รู้เรื่องการ

ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเป็นอย่างดี มีการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีสม่ำเสมอปีละ 1-2 ครั้ง









[114] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นสตรีข้ามเพศหนึ่งคนมารับการตรวจเอชไอวีเพราะเป็นซิฟิลิสเมื่อ 2 ปีก่อน

“ได้ตรวจเอชไอวีเพราะว่าเป็นซิฟลิสก็เลยได้ตรวจ หลังจากเป็นซิฟลิสก็ไม่ค่อยกล้ามีอะไรกับใครอก”


สตรีข้ามเพศ 26 ปี
“ถึงจะไม่ค่อยมีอะไรกับใคร ก็ยังคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงจะติดเชื้อ 50/50” สตรีข้ามเพศ 26 ปี



ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้มีที่เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายให้คะแนนความเสี่ยงของตนเอง 0

คะแนนจาก 100 คะแนน เพราะมีคู่นอนประจำแค่คนเดียวและมีการป้องกันตนเองอย่างดีโดยการใช้ถุงยาง
อนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์

“หนูมีคู่นอนคนเดียว และใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งโดยไม่มข้อแม้ เลยขอให้คะแนนความเสี่ยงตัวเอง

เป็น 0 คะแนน” MSM 28 ปี

“ช่วง 2- 3 ปีก่อนเคยตรวจเลือดหาเอชไอวีเดือนละครั้ง ตรวจบ่อยเพราะเปลี่ยนคู่นอนบ่อย คู่นอน

เยอะ คิดว่าเสี่ยงครับ ช่วงนี้ตรวจปีละครั้งแล้วครับ เพราะมีแฟนเป็นคู่นอนประจำ” MSM 26 ปี
“ที่ผ่านมาเคยคิดว่าตัวเองเสี่ยงนะครับ เพราะเวลาเมาจะไม่ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ แต่ก็

ไม่ได้บ่อยนะครับ แต่ปัจจุบันผมอยู่คนเดียวไม่มีคู่นอนครับ” Bisexual 32 ปี

“แล้วช่วงที่เสี่ยงมาก ๆ ก็เคยตรวจเจอซิฟิลิสนะครับ แต่รักษาหายแล้ว” Bisexual 32 ปี



ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP
ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้มีความรู้เกี่ยวกับ PrEP จากการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึง

ทราบเรื่อง PrEP จากกลุ่มเพื่อน เครือข่าย ทุกคนทราบว่าการกิน PrEP จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการป้องกัน

ตนเองจากการติดเชื้อเอชไอวีนอกจากการใช้ถุงยางอนามัย ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่มีข้อกังวลเกี่ยวกับ

PrEP มีเพียงเรื่องความรับผิดชอบที่จะต้องกินยาทุกวัน


ประสบการณ์การกินยาในครั้งก่อน ผลข้างเคียง ปัญหาอุปสรรค

ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายให้ข้อมูลว่าในการกินยา PrEP ครั้งก่อน ไม่มีปัญหา

อะไร สามารถกินยาได้สม่ำเสมอตรงเวลาทุกวัน

แต่ผู้ที่เป็นสตรีข้ามเพศให้ข้อมูลว่าในการกินยาครั้งก่อน มีอาการข้างเคียงมาก

“มีอาการเวียนศีรษะ ไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ต้องหยุดกินยาบ่อย 2-3 วันต่อสัปดาห์” สตรีข้ามเพศ
26 ปี

“ตอนกิน PrEP เมื่อ 2 ปีก่อน กินไม่นานเพราะมีคลื่นไว้อาเจียนตลอด เวียนหัว ใจสั่นตลอด ทนไม่ได้

เลย เลยหยุดกิน” MSM 26 ปี






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [115]

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลเหมือนกันว่าเรื่องที่ตนเองกินยา PrEP ไม่ใช่ความลับ ไม่รู้สึกว่าต้อง

ปกปิดใคร เพื่อนและคนในครอบครัวสนับสนุนการกินยา PrEP

“บอกครอบครัวเองแหละว่ากินยา PrEP เพราะรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงและสนับสนุนให้กินยา” สตรีข้าม
เพศ 26 ปี

“ครอบครัวไม่รู้นะว่าหนูกินยา PrEP แต่ถ้าถามก็บอกได้ ส่วนเพื่อนสนิทจะรู้ เพราะก็มีเพื่อนสนิทกิน

PrEP เหมือนกัน” MSM 28 ปี

“ตั้งใจไว้เหมือนกันว่าจะบอกคู่นอนเรื่องยา PrEP และจะชวนเค้ากินด้วย” MSM 28 ปี
“ครั้งที่แล้วกินยา PrEP ในโครงการวิจัยครับ กินได้เป็นประจำสม่ำเสมอ ลืมแค่ไม่กี่ครั้ง นอกนั้นไม่มี

ปัญหาอะไร” Bisexual 32 ปี

“ไม่ได้บอกที่บ้านเรื่องที่กินยา PrEP ไม่ได้บอกเรื่องเพศสภาพของตนเอง แต่ไม่ได้กังวลอะไร ถ้าที่บ้าน

ถามก็คิดว่าคุยได้” Bisexual 32 ปี

“ผมไม่เห็นสนใจเลยว่าใครจะคิดยังไงกับผม รวมทั้งเรื่องกินยา PrEP เรื่องเพศสภาพด้วย แคผมเข้าใจ

ตัวเองว่าเป็นยังไง มันก็จบครับ” Bisexual 32 ปี



เหตุผลที่หยุดกินยาในครั้งก่อน

ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายให้เหตุผลที่หยุดกินยา PrEP ครั้งก่อนเป็นเพราะว่า

ตนเองเลิกกับแฟน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใคร จึงคิดว่าไม่มีความเสี่ยงไม่จำเป็นต้องกิน PrEP เพื่อป้องกันตนเอง
ผู้รับการสัมภาษณ์ที่เป็นสตรีข้ามเพศให้เหตุผลที่หยุดยาว่าเป็นเพราะตนเองกินยาได้ไม่ดี มีอาการ

ข้างเคียงเยอะ และมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลของ PrEP ต่อการติดซิฟิลิสของตนเอง


“ก็กังวลเกี่ยวกับซิฟิลิส เหมือนยา PrEP ไม่ได้ช่วยอะไร กิน PrEP ก็รู้สึกว่าในร่างกายก็ยังมีเชื้อซิฟลิส
อยู่ดี” สตรีข้ามเพศ 26 ปี

“มีอาการเวียนศีรษะ ไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ต้องหยุดกินยาบ่อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ เลยกินต่อไม่
ไหว” สตรีข้ามเพศ 26 ปี

“รอบที่แล้วหยุดกินยา PrEP เพราะเลิกกับแฟนก็เลยหยุด” MSM 28 ปี

“ครั้งที่แล้วกินยา PrEP ในโครงการวิจัยครับ พอหมดโครงการก็หยุดยา อีกอย่างกลับมาอยู่บ้าน ไม่ได้

เจอใคร ไม่มีคู่นอน เลยไม่ได้กินยาต่อ” Bisexual 32 ปี


เหตุผลที่ขอกลับมากินยาอีกครั้ง

ผู้รับการสัมภาษณ์ให้เหตุผลที่ขอกลับมากินยาอีกครั้งตรงกันคือต้องการกินเพื่อป้องกันตนเองไว้ก่อน

เพราะไม่แน่ใจว่าตนเองจะเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อไหร่ การกิน PrEP ทำให้มั่นใจมากขึ้น






[116] บทที่ 3 ผลการวิจัย

“อยากกลับมากินยา PrEP รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ กลัวติดเชื้อง่าย กินยา PrEP ก็เหมือนป้องกันการ

ติดเชื้อเอชไอวีสองชั้น” สตรีข้ามเพศ 26 ปี

“รอบนี้พยายามจะกินยาให้ดีขึ้น หยุดยาฮอร์โมนไปก่อนช่วงแรกที่เริ่มกลับมากิน เผื่อจะช่วยลด
อาการข้างเคียงได้” สตรีข้ามเพศ 26 ปี

“ตอนนี้เริ่มมีคู่นอน มีอะไรกัน ก็เลยอยากกินยา PrEP ป้องกันตนเองไว้ อุ่นใจไว้ก่อน” MSM 28 ปี

“ผมกลับมากินอีกครั้ง แม้ว่าตอนนี้ไม่มีแฟน แต่ก็ป้องกันไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะเสี่ยง”

Bisexual 32 ปี


ความตั้งใจในการกินยาในครั้งนี้

ผู้รับการสัมภาษณ์บอกว่าครั้งนี้ตั้งใจจะกินยา PrEP ไปเรื่อย ๆ ยังไม่ได้คิดเรื่องหยุดยาในขณะนี้เลย



การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงตั้งแต่กลับมากินยา PrEP ครั้งนี้เทียบกับช่วงที่หยุดยา
ผู้รับการสัมภาษณ์ให้ข้อมูลเหมือน ๆ กันว่าพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยเหมือนเดิมไม่แตกต่างจาก

เดิม จำนวนคู่นอนไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ไม่เพมขึ้น
ิ่
“หนูใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเหมือนเดิม แต่มีคู่นอนเพิ่มขึ้นนะ เพราะช่วงหยุดยาไม่ได้มีอะไรกับใคร

เลย” MSM 28 ปี


ความพึงพอใจในบริการ PrEP ของหน่วยบริการ

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนมีความพึงพอใจในการบริการที่หน่วยบริการดีมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ ความสะดวก

ทุกคนมีความเห็นว่าจะรับยาที่หน่วยบริการเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนที่รับบริการ



ความสนใจต่อกิน PrEP ตามความต้องการ
ผู้รับการสัมภาษณ์ให้ความเห็นว่า ไม่เคยทราบเรื่อง PrEP ตามความต้องการมาก่อน และสะดวกที่จะ

กินยาทุกวันแบบนี้ ยินดีที่จะกินยาทุกวันต่อไป



การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนไม่ได้เป็นผู้ใช้สารเสพติด มีบางคนที่มีการดื่มสุราบ้างบางโอกาส และการดื่ม
สุราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ใด ๆ










รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [117]

ความคิดเห็นอื่นเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดบริการ PrEP

อยากให้มีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชนเรื่อง PrEP ให้มากขึ้นในวงกว้าง ทุกวันนี้มีการ

ประชาสัมพันธ์เรื่อง PrEP น้อยมาก คนที่ทราบและเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP มีเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น


กลุ่มที่ 4 ผู้รับบริการ PrEP ที่ขอหยุดยา จำนวน 6 คน

ความรู้ ความเข้าใจ ความวิตกกังวล และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์

ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายทั้งหมด มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
เอชไอวีเป็นอย่างดี รู้เรื่องการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเป็นอย่างดี มีการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีปีละ 1-2

ครั้ง มีหนึ่งคนที่ตรวจทุก 3 เดือนเนื่องจากมีความเสี่ยงมากเพราะมีคู่นอนหลายคน

ผู้รับการสัมภาษณ์ ทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงของตนเองต่อการติดเชื้อเอชไอวี ให้คะแนนความเสี่ยง

ของตนเองระหว่าง 20-60 คะแนนจาก 100 คะแนน มีหนึ่งคนให้คะแนนความเสี่ยงตนเองเป็น 0 เนื่องจาก

ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครมาระยะหนึ่งแล้ว ทุกคนป้องกันตนเองอย่างดีโดยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมี
เพศสัมพันธ์ มีหนึ่งคนที่บอกว่าไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยเฉพาะตอนมี oral sex ผู้รับบริการที่รับการสัมภาษณ์

ไม่ได้ให้ข้อมูลความเสี่ยงอื่นที่นอกเหนือจากพฤติกรรมทางเพศ

“คิดว่าผมมีความเสี่ยงนะ เพราะใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอขึ้นอยู่กับว่าคบกันนานมั๊ย ถ้าคบนานก็

ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ถ้าคบไม่นานก็มักจะใช้” MSM 23 ปี

“พี่รู้ว่าตัวเองเสี่ยง แต่ก็ไม่มาก ให้คะแนน 10 คะแนนจาก 100 คะแนนก็แล้วกัน แต่พี่ก็ใช้ถุงยาง
อนามัยทุกครั้งนะ ไม่มีข้อยกเว้น แต่ถ้าแค่ oral sex ก็ไม่ได้ใส่” MSM 38 ปี

“ผมว่าผมเสี่ยงจะติดเชื้อเอชไอวี 50/50 เลยเพราะคู่นอนเยอะ ช่วงนึงรักสนุก แต่ก็ตรวจเลือดบ่อย

ตรวจทุก 3 เดือนเลย” MSM 22 ปี

“เคยเป็นหนองใน ซิฟิลิสนะครับ พอเป็นแล้วก็กลัวทำให้ใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้น” MSM 22 ปี

“คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยง 60 คะแนนจาก 100 คะแนนครับ แต่ก็ใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งครับ”
MSM 30 ปี

“ตอนนี้ไม่มีความเสี่ยงเลย ไม่ได้มีอะไรกับใครมานานแล้ว แต่ก็ยังตรวจเลือดปีละ 1 ครั้ง” MSM 40

ปี

“พอมีคู่นอนประจำ ก็ไม่ค่อยใช้ถุงยางอนามัยครับ แฟนไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบ พอไม่ใช้แล้วมันรู้สึก

ดีกว่าครับ” MSM 26 ปี
“ผมก็คิดว่าตัวเองเสี่ยงเกิน 50% นะครับ เพราะไม่ใช้ถุงยางอนามัย และก็ไม่รู้ว่าคู่นอนจะแอบไปมี

ใครรึเปล่า” MSM 26 ปี









[118] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP

ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้มีความรู้เกี่ยวกับ PrEP บางคนเป็นผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ ทำงาน

เกี่ยวกับPrEP บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ของ CBO ที่เคยทำงานเกี่ยวกับเอชไอวีอยู่แล้ว ที่เหลือก็ค้นหาข้อมูลจาก
แหล่งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงทราบเรื่อง PrEP จากกลุ่มเพื่อนและเครือข่าย ทุกคนทราบว่าการกิน PrEP จะเป็น

อีกช่องทางหนึ่งในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเอชไอวีนอกจากการใช้ถุงยางอนามัย

ข้อกังวลเกี่ยวกับ PrEP มีเพียงเรื่องความรับผิดชอบที่จะต้องกินยาทุกวัน และอาจมีผลข้างเคียงจาก

การกินยาเกี่ยวกับไตและกระดูกได้หากกินยาติดต่อกันไปนาน ๆ
“ยา PrEP มีข้อดีนะ เป็นการป้องกันชั้นที่ 2 ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัย แต่ก็กังวลผลข้างเคียงต่อตับ

ไตในระยะยาว” MSM 22 ปี

“พี่เคยช่วยงานหน่วยงานที่ทำงานด้าน PrEP ตอนนั้นเจอเค้าโดยบังเอิญนะ เลยไปช่วยงาน รู้และ

ื่
เข้าใจเรื่อง PrEP ดี ยินดีถ่ายทอดความรู้เรื่อง PrEP ให้คนอน ๆ ทราบด้วย” MSM 38 ปี
“กิน PrEP นาน ๆ มันต้องตรวจไตตรวจกระดูกนะ ผลข้างเคียงระยะยาวก็น่ากังวล” MSM 30 ปี
“PrEP มีข้อดีนะ ช่วยให้มั่นใจ แต่ก็มีความยุ่งยากที่จะต้องกินทุกวัน ต้องกินตรงเวลา” MSM 40 ปี


เหตุผลที่ตัดสินใจกินยา PrEP ในครั้งก่อน ประสบการณ์การกินยา ผลข้างเคียง

ผู้รับการสัมภาษณ์ในกลุ่มนี้เริ่มกินยา PrEP ติดต่อกันมาประมาณ 1-4 เดือน ทุกคนให้เหตุผลที่

ตัดสินใจกินยา PrEP เหมือน ๆ กัน คือ ตัดสินใจกินยา PrEP เองเพราะต้องการกินยาเพื่อป้องกันไว้ก่อน แม้

ตนเองจะสามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง แต่การกินยา PrEP ก็ทำให้อุ่นใจมากกขึ้น เป็นเหมือนการป้องกัน

ตนเองเพิ่มอกหนึ่งชั้น มีผู้รับการสัมภาษณหนึ่งคน ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าช่วงที่กินยา PrEP เพราะช่วงนั้นตนเอง

รักสนุก มีคู่นอนหลายคนมาก และมีหนึ่งคนที่ให้เหตุผลเพมเติมว่าตนเองทำงานเกี่ยวกับเอชไอวี อยากลองกิน
ิ่
เพื่อเป็นประสบการณ์จะได้แนะนำคนอื่นในเรื่องการกินยา เรื่องอาการข้างเคียงได้อย่างถูกต้องจาก

ประสบการณ์ตรง

“อยากกินยาป้องกันตัวเอง เป็นการป้องกัน 2 ชั้น มั่นใจมากขึ้น” MSM 22 ปี
“ผมว่าผมมีความเสี่ยงก็เลยมาขอรับ PrEP เอง ตัดสินใจมาขอรับเองเลย ทราบข้อมูลจากสื่อว่ามีการ

จ่ายยาป้องกัน ก็เลยมา” MSM 23 ปี

ื่

“พี่ทำงานด้าน PrEP ไง มีความเสี่ยงด้วย ก็เลยอยากลองกนว่าเป็นยังไง จะได้แนะนำคนอนได้ถูกจาก
ประสบการณ์จริงของพี่เอง” MSM 38 ปี
“รู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยง อีกอย่างอยากลองกิน PrEP ให้ทราบว่าเป็นอย่างไร จะได้แนะนำคนอน
ื่
ได้” MSM 30 ปี

“เหตุผลที่ขอกินรอบที่แล้วก็คิดว่าตัวเองเสี่ยง เลยกินป้องกันไว้” MSM 40 ปี








รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [119]

“ตอนนั้นผมรักสนุก คู่นอนเยอะมาก ก็เลยอยากกินยาป้องกันตัวเอง แต่ก็กินได้แค่ช่วงสั้น ๆ เพราะ

ทนผลข้างเคียงไมได้” MSM 26 ปี


มีผู้รับการสัมภาษณ์หนึ่งคนให้ข้อมูลว่าตนเองมีอาการข้างเคียงจากการกินยา PrEP คือมีอาการเวียน

ศีรษะ หลังจาก 3-4 วันอาการหายไปเอง อาการข้างเคียงไม่ได้รบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน นอกนั้นไม่มี

อาการข้างเคียงใด ๆ

ื่

ผู้รับการสัมภาษณทุกคนให้ข้อมูลเหมือนกันว่าเรื่องที่ตนเองกินยา PrEP ไม่ใช่ความลับ เพอนรู้ คู่นอน
รู้ แต่คนในครอบครัวไม่รู้ หากคนในครอบครัวมาถามว่าเป็นยาอะไร ก็สามารถบอกตามตรงได้ว่าตนเองกำลัง
กินยา PrEP อยู่

“ก็บอกให้คนอื่นรู้ได้นะว่ากำลังกิน PrEP ไม่ได้ปิดบังอะไร” MSM 23 ปี

“ตอนพี่กินยา PrEP พี่ก็บอกทุกคนว่าพกิน PrEP อยู่นะ ใครถามก็บอก ใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกับ PrEP
ี่
ก็บอกได้หมดเลย” MSM 40 ปี

“ทุกวันนี้อยู่คนเดียวก็เลยไม่มีใครรู้ว่ากิน PrEP แต่ก็คิดว่าบอกคนอื่นได้นะ” MSM 30 ปี

เหตุผลที่ตัดสินใจหยุดยา PrEP

ผู้รับการสัมภาษณให้เหตุผลคล้าย ๆ กันว่าประเมินตนเองแล้วพบว่าไม่มีความเสี่ยง สามารถใช้ถุงยาง

ได้ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ คู่นอนไม่มากแล้ว มีเพศสัมพันธ์นาน ๆ ครั้ง และมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง
ระยะยาว จึงตัดสินใจขอหยุดยา มีหนึ่งรายที่ทำงานไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถกินยาได้ตรงตามเวลา พอเลื่อน

เวลากินยาบ่อยครั้ง กลัวจะมีปัญหาในอนาคตก็เลยตัดสินใจหยุดยา และทุกคนมีการปรึกษาเจ้าหน้าที่ทีหน่วย

บริการก่อนหยุดยา PrEP

“หยุดยา PrEP เพราะไม่ค่อยเสี่ยงแล้ว ไม่ได้รักสนุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เลิกแล้ว กลัวผลข้างเคียง

ระยะยาวด้วย” MSM 22 ปี
“ผมลืมกินยา PrEP บ่อยมาก เพราะทำงานไม่เป็นเวลา บางครั้งกลางวัน บางครั้งกลางคืน ก็เลยคิดว่า

หยุดกินดีกว่า กลัวมีปัญหาระยะยาว” MSM 23 ปี

“พี่ใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้งและมีคู่นอนประจำ ตอนนั้นกินยา PrEP ให้รู้ว่าเป็นยังไงจากนั้นก็เลย

หยุดยา ปรึกษาพยาบาลก่อนหยุดนะ ไม่ได้หยุดเอง” MSM 38 ปี

“รู้สึกว่าความเสี่ยงน้อย เพราะช่วงหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย และใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง” MSM
30 ปี

“ก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมาระยะหนึ่งแล้ว ก็เลยโทรมาปรึกษาขอหยุดยา” MSM 40 ปี

“ที่หยุดกินยา PrEP เพราะมีคลื่นไส้อาเจียนตลอด เวียนหัว ใจสั่นตลอด ทำงานไม่ได้เลย ทนไม่ได้เลย

ก็เลยขอหยุดกิน” MSM 26 ปี




[120] บทที่ 3 ผลการวิจัย

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงในขณะนี้เมื่อเทียบกับช่วงทกินยา
ี่
ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลเหมือน ๆ กันว่าในช่วงที่หยุดยา พฤติกรรมของตนเองเหมือนเดิม มี

การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเหมือนกับช่วงก่อนกิน PrEP คู่นอนเท่า ๆ เดิม และทุกคนไม่มีใครเป็นผู้ใช้สารเสพ
ติดชนิดฉีด

“ช่วงหยุดยา PrEP การใช้ถุงยางอนามัยไม่เปลี่ยนนะ แต่เป็นหนองในครั้งนึง ทั้งที่หยุดยา PrEP ก็

ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกเลย” MSM 23 ปี

“คู่นอนพี่เท่าเดิมแหละ พี่มีคู่นอนประจำ และพี่ใช้ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง” MSM 38 ปี


ความเป็นไปได้ที่จะกลับมากิน PrEP ใหม่อีกครั้ง

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลว่า ในอนาคตหากประเมินตนเองแล้วมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และตนเอง

มีความพร้อม ก็จะขอกลับมากินยา PrEP อีกครั้งแน่นอน

“ยังไม่ได้คิดเรื่องกลับมากิน PrEP กลัวผลข้างเคียงและไม่สะดวกมารับยาต่อเนื่องด้วย” MSM 22 ปี

“คิดว่าผมยังต้องลืมกินยาเหมือนเดิมอยู่ดี ตอนนี้เลยยังไม่ได้คิดจะกลับมากินยาPrEP อีก” MSM 23
ปี

“ตอนนี้พี่ก็คิดอยู่นะ น่าจะกลับมากินยา PrEP อีกเร็ว ๆ นี้แหละ คิดว่าป้องกันไว้ก็ดีเหมือนกัน” MSM

38 ปี

“ขอคิดดูก่อน ขอประเมินตัวเองเป็นระยะ ๆ ก็แล้วกัน ถ้าเสี่ยงมากขึ้นก็อาจกลับมาขอรับ PrEP อก

ครั้งก็ได้” MSM 30 ปี
“ถ้าอนาคตมีความเสี่ยงเพิ่ม ก็คงขอกิน PrEP อีก” MSM 40 ปี

“ที่จริงก็รู้ว่า PrEP มีประโยชน์ อยากกิน อยากให้มียาที่ผลข้างเคียงน้อย ๆ ออกมาขาย จะได้กินได้”

MSM 26 ปี



ความพึงพอใจในบริการ PrEP ของหน่วยบริการ
ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนมีความพึงพอใจในการบริการที่หน่วยบริการดีมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ สถานที่

ความสะดวก ทุกคนมีความเห็นหากจะกลับมากินยาอีกครั้งก็จะรับยาที่หน่วยบริการเดิมไม่เปลี่ยนที่รับ


ความสนใจต่อกิน PrEP ตามความต้องการ
ผู้รับการสัมภาษณ์ให้ความเห็นว่า ไม่เคยทราบเรื่อง PrEP ตามความต้องการ และยังไม่สนใจ หากจะ

กลับมากินยาก็จะกินแบบทุกวันเหมือนเดิม









รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [121]

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติด

ผู้รับการสัมภาษณ์ทุกคนไม่ได้เป็นผู้ใช้สารเสพติด มีบางคนที่มีการดื่มสุราบ้างบางโอกาส และการดื่ม

สุราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ใด ๆ

ความคิดเห็นอื่นเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดบริการ PrEP

อยากให้มีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ประชาชนเรื่อง PrEP ให้มากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย

ในสถานศึกษา ให้แนะนำนักเรียนนักศึกษาในเรื่อง PrEP ให้เหมือนกับแนะนำเรื่องเพศในวิชาเพศศกษา

การประชาสัมพันธ์ในปัจจุบันรู้กันเองเฉพาะกลุ่ม อยากให้มีการอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่น ๆ เช่น
อสม.ให้มีความรู้เกี่ยวกับ PrEP จะได้ช่วยทำงานได้

อยากให้เพมช่องทางการเข้าถึงยา PrEP ขยายไปตามอำเภอที่ห่างไกล เช่น ในโรงพยาบาลชุมชนหรือ
ิ่
รพสต. ที่มีความพร้อมในการตรวจเลือด เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการใกล้บ้านได้ ไม่

ต้องลำบากเดินทางไกล


ข้อจำกัดของการศึกษาเชิงคุณภาพข้อมูลผู้รับบริการโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก

ในการศึกษาเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้รับบริการในครั้งนี้ หน่วยบริการเป็นผู้เลือก

ผู้รับบริการที่ยินดีให้คณะผู้วิจัยทำการสัมภาษณ์ โดยอาจมีบางราย เลือกจากผู้ที่มีความคุ้นเคยกับหน่วยบริการ

เป็นอย่างดี บางคนเป็นผู้ที่มีช่วยงานด้านเอชไอวีที่หน่วยบริการ เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยบริการเองหรือเป็น
คณะทำงาน ผู้รับการสัมภาษณ์ส่วนใหญ่จึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP เป็นอย่างดี และมีความคิดเห็น

และทัศนคติเกี่ยวกับการกิน PrEP ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะกินหรือไม่กิน อาการข้างเคียงจากการกินยา PrEP เป็น

ปัญหาหนึ่งที่อาจทำให้ผู้มีความเสี่ยง ไม่อยากกินยา หรือ เมื่อกินยาไปแล้วสักระยะ หากทนต่ออาการข้างเคียง

ไม่ได้ ก็อาจเป็นเหตุผลสำคัญให้หยุดการกินยา รวมไปถึงบางรายมีความวิตกอาการข้างเคียงต่อตับต่อไตหาก

กินยาไปนานๆ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการกิน PrEP เป็นเรื่องปกติที่ไม่จำเป็นต้องมีการปกปิด ซึ่งข้อมูลที่ได้
ื่
จากการสัมภาษณ์เชิงลึกอาจมีความแตกต่างจากกลุ่มอน ๆ ที่ไม่ได้เข้ารับการสัมภาษณเชิงลึกในการศึกษาครั้ง

นี้


กล่าวสรุปโดยรวม ผลจากการศึกษาเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกในผู้รับบริการในแต่ละกลุ่มประเภท
ค่อนข้างจะสอดคล้องและช่วยอธิบายเสริมผลการศึกษาเชิงปริมาณผ่านแบบสอบถามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้


















[122] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ส่วนที่ 3 ข้อมูลกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด



บทที่ 3






ผลการวิจัย

































รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [123]

ส่วนที่ 3 ข้อมูลกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด

จากการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณในกลุ่มผู้รับบริการ ทั้งข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้รับบริการ PrEP ภายใต้

โปรแกรม NAP และจากการสำรวจผู้รับบริการโดยตอบแบบสอบถามผ่านระบบออนไลน์ พบว่ามีผู้รับบริการ
จำนวนน้อยมากที่ให้ประวัติว่าตนเองเป็นผู้ใช้สารเสพติด และมีจำนวนน้อยมากที่ให้ประวัติว่าเคยใช้กระบอก

ิ่
ฉีดยาและใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ผู้วิจัยจึงดำเนินการเก็บข้อมูลเพมเติมโดยการทำสนทนากลุ่มและสัมภาษณ์
เชิงลึกกับกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดที่ยินดีให้ข้อมูล ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ดำเนินการเก็บ

ข้อมูลแบบสนทนากลุ่ม 4 กลุ่ม ได้แก่ เครือข่ายผู้ใช้ยาประเทศไทย (Thai Drug User Network- TDN) กลุ่ม

ผู้ใช้สารเสพติดในพื้นที่ชนบทภาคเหนือ กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดในพื้นที่เมืองภาคเหนือ และกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดใน

พื้นที่เมืองภาคใต้ จำนวน 18 ราย และสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ใช้สารเสพติดหรือผู้มีประวัติใช้สารเสพติดจำนวน 4
ราย ผลการศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้



ข้อมูลทั่วไป

กลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมในการสนทนากลุ่มเป็นผู้ใช้สารเสพติดที่มารับบริการบำบัดในสถานบริการ

สาธารณสุขภาครัฐ โดยเป็นกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดในพื้นที่ชนบทและในพื้นที่เมืองภาคเหนือ และกลุ่มผู้ใช้สารเสพ
ติดในพื้นที่เมืองภาคใต้ รวม 18 ราย ส่วนใหญ่มีประวัติใช้สารเสพติดชนิดฉีดและกำลังรับบริการในคลินิกเมทา

โดน บางส่วนอยู่ระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมบำบัด มีอายุระหว่าง 25-30 ปีจำนวน 4 ราย, 31-40 ปีจำนวน 4

ราย, 41-50 ปีจำนวน 6 ราย และเกิน 50 ปีจำนวน 4 ราย สถานภาพโสดจำนวน 5 ราย มีครอบครัวจำนวน

6 ราย และหม้าย/หย่า/แยกจำนวน 7 ราย เชื้อชาติไทยเกือบทั้งหมด มีประชากรชาติพันธ์ 5 ราย

การสัมภาษณ์เชิงลึก 4 ราย ได้แก่ รายที่ 1และ 2 เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย อายุ 26 ปีและ28 ปี
มีประวัติใช้สารเสพติดและเคยกิน PrEP มาก่อน รายที่ 3 เป็นเพศชาย เป็นผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด กำลังกิน

PrEP อยู่ในขณะนี้ มีภรรยาเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี และรายที่ 4 เป็นสาวประเภทสอง อายุ 36 ปี มีประวัติเคยใช้

สารเสพติดและเป็นผู้ต้องขังและเคยกิน PrEP มาก่อน



พฤติกรรมการใช้สารเสพติดและการถูกตีตรา
ผลการศึกษาพฤติกรรมการใช้สารเสพติดและการถูกตีตรา สามารถแยกเป็นหัวข้อย่อยได้ดังต่อไปนี้


วิธีการเสพสารเสพติด เริ่มจากการสูดดมก่อนจากนั้นเปลี่ยนเป็นการฉีด โดยกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดให้
เหตุผลว่า การเสพโดยวิธีฉีดเข้าเส้นเลือดจะมึนเมากว่า ยาออกฤทธิ์เร็วกว่าและอยู่ในร่างกายได้นานกว่าและใช้

เงินน้อยกว่า เมื่อเปลี่ยนมาเสพด้วยวิธีฉีดเข้าเส้นแล้วก็มีแนวโน้มจะฉีดต่อไป ปัจจุบันผู้เสพบางคนนิยมใช้
ื่
ร่วมกันคือทั้งฉีดและวิธีอน เพื่อหวังผลให้ยาออกฤทธ์เร็วและอยู่ได้นาน เนื่องจากการฉีดขึ้นเร็วลงเร็ว ส่วนการ
สูบ/สูดขึ้นช้าลงช้า






[124] บทที่ 3 ผลการวิจัย

“ถ้าฉีดก็ไม่สูบแล้ว โควตายามันไม่เหมือนกัน สูบเปลืองกว่าฉีด ฉีดเมามากกว่า ถ้ามีเงินน้อยฉีดดีกว่า

ปริมาณน้อยมันไม่เมา อยู่ที่ว่าตังในกระเป๋า ตังเยอะก็ใช้เยอะ” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)



“ที่ฉีดคอ ฝิ่นกับเมทาโดน บางคนผสม เมทาโดนกับสะแน็ก บางทีกินเขาไปแล้วไม่อยู่ ก็ต้องฉีด”
(PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่ชนบท)

“บางทกินเข้าไปแล้วไม่อยู่ ก็ต้องฉีด” (PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่ชนบท)
“คนชอบฉีดเพราะมันขึ้นเร็วกว่า ... ออกฤทธิ์นานกว่าสูบ ฉีดมันเข้าเส้นเลือดโดยตรง ถ้าสูบมันจะ

ั้
เปลือง คือควันมันไม่ได้เข้าทงหมด.. (PWUD ชาย 32 ปี พื้นที่เขตเมอง)


“ถ้าสถานการณไม่อำนวยก็กลับไปสูบ เหลือเงินน้อยลงเพราะว่าสูบมันใช้ปริมาณเยอะกว่า เงินไม่พอ
ซื้อ ก็ต้องกลับมาฉีด” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เขตเมอง)

“ฉีด ขึ้นเร็ว ลงเร็ว ส่วนกิน/สูด ขึ้นช้า ลงช้า ปัจจุบันบางคนชอบใช้ร่วมกัน” (PWUD ชาย 32 ปี

พื้นที่เขตเมือง)



การจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดสารเสพติด พบว่ามีความแตกต่างกันตามบริบท ผู้ใช้สารเสพติดที่อยู่

ในพื้นที่ที่มีองค์กรเอกชนด้านยาเสพติดทำงานในพื้นที่ ก็จะเข้าถึงบริการเข็มและกระบอกฉีดยาที่สะอาดได้
มากกว่าเพราะสามารถรับบริการได้ฟรีไม่มค่าใช้จ่าย สามารถไปรับบริการได้ตลอด ส่วนผู้ที่อยู่ในพื้นทเขตเมือง
ี่

ซื้อจากร้านขายยาทั่วไป โดยจะหลีกเลี่ยงร้านที่คนขายชอบสอบถามเหตุผลการซื้อ

“ไม่มีปัญหา เขา (NGO) แจกชุดฉีดยา 1 ชุดมี 5อย่าง มีไซริงจ์ 5 มีสำลี มีช้อน มีน้ำยา...ให้ตลอด

แล้วแต่จะใช้วันละเท่าไหร่” “เมื่อก่อนที่ต้องซื้อจากร้านขายยาอย่างเดียว เข็มอันเดียวใช้เป็นปี (PWUD ชาย

45 ปี พื้นที่เขตเมือง)
“ซื้อเอาตามร้าน เยอะแยะไป” “จะเอาขนาดไหน สั้นยาว เขาอยากได้เงิน เขาไม่ถาม ถ้าร้านไหนถาม

มาก เราก็ไม่ไปซื้อ” (PWUD ชาย 62 ปี พื้นที่เขตเมือง)

“ก็มีถามบ้าง ซื้อไปให้ใคร ซื้อไปทำอะไร ส่วนมากก็จะตอบว่า ซื้อไปให้ญาติ” (PWUD ชาย 32 ปีพื้นที่


เขตเมอง)
“ถ้าถามก็บอกว่า ซื้อไปฉีดยาไก่” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท )


สำหรับกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ชนบทหรือไม่สามารถซื้ออุปกรณ์ฉีดยาได้เองจากร้านขายยา มีการใช้เข็ม

และกระบอกฉีดยาของตนเองซ้ำ และมีการใช้เข็มและกระบอกฉีดยาร่วมกัน

“ใช้เข็มเดิม เป็นเรื่องปกติ เกือบทุกคน..บางครั้งเข็มเดียวก็ใช้ร่วมกันก็มีครับ” (PWUD ชาย 28 ปี

พื้นที่ชนบท)
“ได้มาจากหมอที่เขาไปฉีดยาตามบ้าน ขอเข็มเก่าเขา เอามาต้มเอา” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)







รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [125]

“ไม่ใช้เข็มของคนอื่น ซื้อเอาเอง มาขอหมอที่อนามัย ใช้ครั้งเดียวแล้วล้าง ใช้ซ้ำสองครั้ง” (PWUD

ชาย 43 ปี พื้นที่ชนบท)

“บางครั้งไม่ทันซื้อ ก็เอาเข็มเก่าฉีด มันไม่ค่อยคม เส้น (เลือด) น่าจะเสียไปเรื่อยๆ... บางครั้งไม่มี
หลอดฉีดยาใหม่ ก็ใช้อันเก่า” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“ต้องเอาเข็มมาลับให้คม ลับกับหินลับมีด บางทีก็ลับกับกางเกงก็มี” (PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่ชนบท)

“ผมใช้วิธีลับเข็มกับขวด มันสะอาดหน่อย” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)

“เคยใช้ซ้ำแต่ของตัวเอง ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ใช้ซ้ำ” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“เอาซ่อนไว้คนมันอยากเล่นยาไม่มีอุปกรณ์ มันก็หา มันก็คว้า เราไม่รู้ว่าใครเอาไปใช้บ้าง”(PWUD

ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)


ี่
สำหรับวิธีการทำความสะอาดอุปกรณ์ทใช้ในการฉีดยาเสพติด มีหลากหลายวิธีที่มักจะนิยมใช้กัน อาทิ
เช่น การต้ม การใช้แอลกอโอล์เช็ดทำความสะอาด การใช้หลอดฉีดยาและเข็มดูดน้ำร้อนผ่าน และการเผาเข็ม

ด้วยไฟแช็ค เป็นต้น

“บางครั้งก็มีแอลกอฮอล์ บางครั้งถ้าไม่มี ก็ใช้น้ำร้อนฆ่าเชื้อ” “ไม่ทันต้มก็เผาไฟแช็ค”
(PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“เวลาเราจะใช้ซ้ำ เราต้องใช้น้ำร้อนฆ่าเชื้อก่อน จึงจะใช้ต่อได้ ถึงจะไม่คมไม่เป็นไร แต่ต้องฆ่าเชื้อไว้

ก่อน เอาน้ำร้อนเทใส่แก้ว แล้วดูดขึ้น” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)

“เข็มเก่าก็ล้างน้ำ แล้วเก็บไว้ ถ้าจะใช้อีกทีก็เอามาเช็ด....เอาสำลีเช็ด บางครั้งสำลีไม่สะอาด ก็ใช้เชือก

ฝ้ายเช็ดแทน” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)


สำหรับวิธีการฉีด ยาที่ฉีดจะมีการกรองก่อน โดยพบว่าผู้ใช้ยาฉีดด้วยตนเอง โดยฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่

ที่แขน บางรายใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดที่ขาหนีบ

“ต้องใช้สำลีกรองก่อน...บางทีน้ำสะอาดไม่มี มีแต่น้ำขุ่นก็จำเป็นต้องใช้” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่

ชนบท)
“ประมาณ 2-3 ซีซี..ฉีดเอง .. เคยฉีดที่บ่อเลือด (เส้นเลือดขาหนีบ) เพราะเส้นเลือดมันไปกองกันที่นั่น

เป็นจุดเดียวที่จะแทงง่าย” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“ที่เขาแทง (ฉีด) กัน ก็ใช้เส้นเลือดขาหนีบนี้เหมือนกันหมด.... เวลาเราฉีด ถ้ามันไม่ถูก (เส้น) เลือดมัน

จะพุ่งออกมา ก็เอามือดันไว้ อย่าให้มันพุ่งออกมา.. ถ้าเลือดพุ่งออกมา มันจะมีอาการหนาว เหมือนเป็นไข้”

(PWUD ชาย 41 ปี พื้นที่ชนบท)
“แทงเอง...ของผมไม่ต้องมีสายยางรัดด้วย..ใช้เส้นที่แขนอย่างเดียว ไม่เคยใช้ขาหนีบ” (PWUD ชาย

43 ปี พื้นที่เมือง)



[126] บทที่ 3 ผลการวิจัย

การรับรู้อันตรายจากการฉีดยาเสพติด ผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันในการรับรู้ประเด็น

ที่เป็นอันตรายจากการใช้อุปกรณ์การฉีดที่ไม่สะอาด

“...เคยเห็นละ เลือดไหลไม่หยุด บางคนตายก็มี” “เคยเห็นคนที่ฉีดแล้วตายครับ เคยได้ยินเขาเล่าว่า
พิการก็มี” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“มันมีอาการหนาวน้ำ สั่น เย็น...คิดว่าเกิดจากปริมาณน้ำเข้าทางเส้นเลือดมาก ต้องนอนห่มผ้าสัก 20

นาที...เกิดจากอุปกรณ์ไม่สะอาดด้วย” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“ถ้าใช้เกินขนาด มันจะวูบไป ถ้าวูบ เพื่อนจะช่วยปั๊มช่วยบีบ ก็ขึ้นมา..ใช้เกินขนาดจะน็อคเลย ถึง

ชีวิต เพื่อนผมตายมาเยอะละ” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)



สำหรับอันตรายจากการติดโรค พบว่า ผู้ใช้ยารับรู้ว่า อาจติดเชื้อเอชไอวี และตับอักเสบ ถ้าใช้อปกรณ์
การฉีดร่วมกับคนที่เป็นโรค

ี่
“กลัวเป็นเอดส์ กลัวเป็นโรค กลัวไม่ได้ดูแลพ่อแม่” “ถ้าไม่ใช้อุปกรณ์ทสะอาด ติดเชื้อเอชไอวีแน่นอน
ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบด้วย” (PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่เมือง)

“เพื่อนผมก็ร่วงไปเยอะ ตายเป็นใบไม่ร่วงเลย ตายจากเอดส์นะไม่ใช่ยาเสพติด” (PWUD 62 ปี พื้นที่
เมือง)




การใช้สารเสพติดกับความต้องการทางเพศ กลุ่มตัวอย่างให้ข้อมูลสอดคล้องกนว่า ขึ้นอยู่กับสารที่ใช้
ถ้าเป็นสารประเภทกดประสาท เช่น ฝิ่น เฮโรอีน เมทาโดน จะมีความต้องการทางเพศลดลงชัดเจน แต่ถ้าเป็น

สารประเภทกระตุ้นประสาท เช่น ยาบ้า ยาไอซ์จะมีความต้องการทางเพศมากขึ้น
“..ลดลง ไม่มีความรู้สึกทางเพศ ใครที่เสพยาแล้วมีอารมณ์ทางเพศนี่ ผมว่าไม่ใช่ เป็นสาเหตุที่ทำให้

ครอบครัวเลิกร้างกันก็เพราะยาเสพติดนี่แหละ พูดง่าย ๆ คือเราไม่สามารถให้ความสุขกับเขาได้..มันไม่สูเลย”

(PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“ไม่รู้สึกคิดถึงผู้หญิงสักอย่างเลย อยากจะกินยาอย่างเดียว ร่างกายมันต้องการแบบนั้น เวลาไม่ได้ยา

เจ็บปวด...ชีวิตมีแต่งานกับยา คือ ทำงานแล้วก็เอาตังไปซื้อยา ไม่คิดอย่างอื่นละ” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่
ชนบท)

“ใช้ฝิ่น ความรู้สึกทางเพศจะลดลง ถ้าเป็นยาบ้า ยาไอซ์จะมีอารมณ์ทางเพศ...บางคนก็ผสมกันหลาย

อย่าง บางครั้งก็ขึ้นนะครับ” (PWUD ชาย 25 ปี พื้นที่ชนบท)

“มันเฉย ๆ ไม่มีอารมณ์...ถ้าไม่ใช้ยาก็จะปกติ” (PWUD ชาย 32 ปี พื้นที่เมือง)

“มีหลายอย่าง ถ้าเป็นกลิ่นฟรุ้งฟริ้ง เขาใส่ไอซ์เยอะ เราจะมีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น เราก็จะบอก
ตัวเองว่า ไปหาคู่นอนดีกว่า ถ้าเป็นสีชาเข้ม ๆ ถ้าสูดเข้าไป จะไม่ไปไหนละ คือจะนั่งอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าจับ

โทรศัพท์ก็จับอยู่อย่างนั้น” (PWUD TG 36 ปี พื้นที่เมือง)




รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [127]

“พวกสายฉีดอารมณ์เพศจะมีน้อย แต่ถ้าฉีดไอซ์ ความต้องการทางเพศจะมากขึ้น มีเพศสัมพันธ์ได้

ยาวนาน หลั่งแล้ว มันยังมีอารมณ์อยู่ แต่มันไม่เซ็ทตัวแล้ว” (PWUD TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“ถ้าเราเล่นเฮโออีน เฮโรอีนมันอยู่ในประเภทกดประสาท มันก็กดไปทุกอย่าง กดทั้งความรู้สึกทำให้
เราอยู่แบบไม่มีชีวิตชีวา มันกดไปหมดทุกอย่างไม่มีอารมณ์ทางเพศ แต่ถ้าเราไปเล่นของประเภทที่กระตุ้น

ประสาท อย่าง ยาบ้า อะไรงี้ ก็กระตุ้นทุกอย่าง กระตุ้นทั้งกำลังกาย ทั้งทางเพศ กระตุ้นไปหมดในร่างกายที่

สมองสั่ง” (PWUDชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)



ความเป็นไปได้ในการเลิกเสพยาเสพติด ผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเลิกยาก

เนื่องจากจะมีอาการทรมานมากถ้าไม่ได้ยา บางครั้งเลิกไปแล้ว ก็กลับมาเสพอีกเนื่องจากมีปัญหาชีวิตและถูก
ชักชวนจากเพื่อนที่เคยเสพด้วยกัน แต่ก็มีความเห็นสุดท้ายว่า ต้องพยายามเลิกให้ได้

“ผมเคยเลิกเหมือนกัน เมทาโดนนี่แหละ ไม่ไหวทรมานมาก อาการมันจะออกมาทุกรูปแบบ อ้วก

แน่นหน้าอก หายใจไม่คล่อง น้ำมูกไหล ปวดท้อง ทุกอย่างมันรุมเข้ามา” (PWUD ชาย 62 ปี พื้นที่เมือง)

“ทรมานสุด ๆ ปวดเนื้อ ปวดตัว ปวดหัว อาการนี่สารพัดครับ ละก็ ร่างกายแทบจะไม่มีแรงทำอะไร”

“เคยหยุด 4 วันนี่สุด ๆ ละ จะตายให้ได้” (PWUD ชาย 32 ปี พื้นที่เมือง)
“ปวดกระดูก ปวดไปหมด นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย..เคยหยุดมาเป็นปี หยุดแล้วก็มาเล่นใหม่อก

ผมเคยหยุดสองปี กลับบ้านพอมาเจอกับเพื่อนเก่า ใจไม่แข็ง พูดตรง ๆ บางทีกินเหล้าเมา เจอเพื่อนเจอฝูง”

(PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)

“ผมเคยเลิกมาสองปี เคยไม่มาเอายาที่นี่ หายไปสองปี ..เวลามีปัญหา มันเครียด ก็เลยกลับไปเล่น

เหมือนเดิม” (PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่เมือง)
“ต้องหยุดให้ได้ครับ ลูกยังเล็ก..เมื่อก่อนผมเป็นคนดีมาตลอด แต่โดนเขาดูถูกเยอะ ผมเลยมีปมในใจ ..

ก็เลยหันไปคบกับเพื่อนเกเร ก็เลยติดยา..ผมนี่เกลียดหมู่บ้านผมมากเลยครับ ไม่อยากกลับบ้าน..ตั้งแต่มีลูกก็

เปลี่ยนความคิด...มีครอบครัว มีคนที่รักรออยู่ เราต้องดูแลเขาอยู่ ก็จะมีสติไว้ พยายามคิดให้รอบคอบที่สุด”

(PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่เมือง)


การถูกตีตรา พบว่าผู้ใช้สารเสพติดมีทั้งการตีตราตนเอง และมีประสบการณ์ถูกตีตราแตกต่างกันไป

ส่วนใหญ่ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า สังคมจะมองว่าพวกตนเป็นคนไม่ดี ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับในชุมชน ไม่มี

โอกาสได้เข้าสังคมเพราะมักจะโดนรังเกียจ แต่ก็ยังคิดว่าน่าจะมีบางคนที่เข้าใจ อยากได้โอกาสในสังคมเหมือน

คนทั่วไป รวมทั้งการเข้ารับบริการของโรงพยาบาล

“ส่วนใหญ่เขามองคนติดยาในทางลบ..ใช้คำหยาบ ๆ เช่นเรียกไอ้ขี้ยา ก็น้อยใจหน่อย ๆ แต่ไม่ถึงกับ
เสียใจแต่ไม่สนใจเพราะไม่ได้ขอตังเขามาใช้” (PWUD ชาย 48 ปี พื้นที่เมือง)






[128] บทที่ 3 ผลการวิจัย

“คำพูดไม่เท่าไหร่ ไม่ชอบสายตา ดูแล้วไม่ทราบว่าเขาคิดยังไงกับคนเล่นยา ถ้าเป็นคำพูด เรายังรู้ แต่

สายตาที่เขามองเราไม่รู้เขาคิดยังไง” (PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)

“ของเขาหายเขาก็มองละว่า เอาไปเล่นยา พอของเขาหายเขาก็ว่าเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยเอาของใคร
เลย” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“มีครับ เขาก็มอง แต่ก็แค่มอง อาจจะมองว่า เราเป็นคนไม่ดีนะครับ”

“เขาเจอแผล เขาก็จะรู้ว่า คนนี้ฉีดยา..เราซื้อเข็ม เขาก็ว่าเราเล่นยาอยู่แล้ว” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่

ชนบท)

“..ผมไม่อยากให้เขาปิดกั้นพวกผม ทุกวันนี้ผมว่า คนส่วนใหญ่ปิดกั้นพวกที่ใช้ยาเสพติดทั้งความคิด

และการกระทำ เขาไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ เราเสนอความคิด เขาก็ไม่เอา เข้าไปนั่งประชุมก็ไม่มีสิทธิพูด เขาจะ
ฟังความคิดเห็นของพวกเราน้อย” (PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)

“อยากให้เขามองพวกผมเหมือนคนไข้ทั่วไป ไม่ใช่มองเหมือนเป็นคนไข้ระดับล่าง อยากให้บริการเท่า

เทียมกัน” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“บางครั้งสภาพแวดล้อม เขาก็ไม่ได้ลงโทษเรารุนแรงมากมาย แต่ว่าจิตสำนึกของเรา เราคิดว่าเรา

รวมกลุ่มกับเขาไม่ได้แล้ว มันเหมือนมีปมด้อยอย่างหนึ่ง...เป็นความรู้สึกที่เราคิด เมื่อเราคิดอย่างนั้น มันก็ทำให้
เราไม่อยากไปยุ่งในสังคม คือไม่อยากให้เขารู้ว่า เราเป็นขี้ยาหรือเสพยาเสพติด คือ สิบคนไม่ติด มีเราติดอยู่คน

เดียว เราก็เหมือนเป็นแกะดำในฝูง คือความอายนี่มันจะมาหลอน” (PWUD 45 ปี พื้นที่เมือง)

“ไม่อยากให้เราร่วมสัมมนาด้วย ไม่อยากให้ร่วมดื่ม ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมอะไรด้วย...บางทีต่อต้านเรา

อย่างรุนแรงก็มี...แต่สำหรับคนที่เขาเข้าใจ มองโลกในแง่ดีก็มี มันก็มีทั้งสองอย่าง...มีทั้งคนสมเพชและคน

สงสาร” (PWUD ชาย 62 ปี พื้นที่เมือง)
“ขึ้นอยู่กับมนุษย์สัมพันธ์มากกว่า ถ้าเราดีกับเขา เขาก็ดีกับเรา ถึงเราจะเสพยา แต่เราทำตัวดี มันก็

ไม่ได้มีอะไร เพราะว่าไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครดีครบทุกอย่าง บางคนก็เสพยา บางคนก็ติดเหล้า บุหรี่

มันมีข้อเสียต่าง ๆ กันไป เพียงแต่เราก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน” (PWUD ชาย 32 ปี พื้นที่เมือง)



การรับรู้เรื่องเอชไอวี/เอดส์และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี
ความรู้เกี่ยวกับ เอชไอวี/เอดส์ ผู้ให้ข้อมูลสามารถบอกช่องทางการติดต่อของเอชไอวีทั่วๆไปได้ รับรู้

เรื่องยาต้านไวรัสมาบ้าง แต่ยังมีความเข้าใจว่า สามารถประเมินว่าใครติดเชื้อเอชไอวีได้จากการดูภายนอก

และการรู้จักคุ้นเคยกัน

“เข้าใจเรื่องเอดส์ ตั้งแต่สมัยอยู่ประถมละครับ ทั้งครู ทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสอน..แต่ก่อน ตอนอยู่

ประถมคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว.. รู้ว่ามันติดต่อทางเลือดก็เลยไม่ใช้เข็มร่วมกับใคร“ (PWUD 32 ปี พื้นที่เมือง)
“รู้มานานแล้ว มีองค์กรมาอธิบายเกี่ยวกับการติดต่อ..ติดต่อทางเข็ม ทางเพศสัมพันธ์ ทางบาดแผล”

(PWUD ชาย 34 ปี พื้นที่เมือง)




รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [129]

“ผ่านทางเลือด น้ำลาย เพศสัมพันธ์ ใช้เข็มร่วมกัน” (PWUD ชาย 25 ปี พื้นที่ชนบท)

“เดี๋ยวนี้ ดูเหมือนว่า มียาต้านแล้วครับ ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่...มันไม่น่าหายขาด แต่มันยืดอายุออกไป

ได้” (PWUD ชาย 62 ปี พื้นที่เมือง)
“เรารู้จักเขา เราเคยอยู่ด้วยกันครับ มั่นใจว่าเขาไม่เป็นอะไร...ผมว่าถ้าติดเอดส์ น่าจะดำ จะผอม จะ

แย่กว่าขี้ยาสักหน่อย หรือพอ ๆ กัน...เรามองหน้าตา เราก็รู้ว่าใครติดเอดส์ ผอมหรืออ้วน คนติดเอดส์จะผอม”

(PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)

“เขาว่าคนติดเอดส์ ถ้ากินน้ำมะพร้าว เขาว่าจะมีอาการนะครับ ปวดท้อง” (PWID 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“คือมั่นใจในตัวผู้ชายอ่ะ คนที่ติดเชื้อนี่มันจะดูออก คนที่ไม่ติดเลย กับคนที่ติด มันจะดูกันออก คนที่ติดเชื้อ ผิว

มันจะแห้ง ๆ จะหยาบ ๆ คนที่ไม่ติดเชื้อ ผิวจะออกเรียบ ๆ นุ่ม ๆ ..แต่มันก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงต้องมาตรวจ
เลือด” (PWUD TG 36 ปี พื้นที่เมือง)


อย่างไรก็ตาม มีการให้ข้อมูลว่า ในกลุ่มผู้ใช้ยาจะมีการพูดคุยกันเรื่องเอดส์น้อยมาก หรือไม่มีการพด
ถึงเลย

“ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีใครพูด (เรื่องเอดส์) มีแต่ว่า จะได้เสพ (ยาเสพติด) เมื่อไหร่ เอดส์เอิด เอาไว้ก่อนช่าง

มัน ขอให้ได้เสพก่อน” “...ไม่มีการเซฟ คุณจะติดไม่ติด ก็ไม่รู้ แลกกันอ่ะ คือไม่มีความกลัวแล้ว ความกลัวมัน
หายไปแล้ว พอยาหมดฤทธิ์ละก็กลัวติด” (PWUD TG 36 ปี พื้นที่เมือง)



ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอว ด้านการประเมินตนเองถึงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี พบว่า

ผู้ให้ข้อมูลประเมินตนเองตั้งแต่ไม่เสี่ยงเลยไปจนถึงเสี่ยงเต็มที่ ทั้งความเสี่ยงจากการใช้อุปกรณ์ การฉีดยาเสพ

ติดร่วมกับผู้อื่น แม้จะมีการรับรู้ว่าการใช้อุปกรณ์การฉีดที่ไม่สะอาด หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกับคนอื่นเป็นความ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี แต่โอกาสที่ใช้อุปกรณ์ร่วมกันก็ยังมี คือเมื่อมีความอยากยาหรือการที่เสพร่วมกับ

เพื่อนที่คุ้นเคยกัน และความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับแฟนหรือคู่นอนที่คุ้นเคยกัน


“คิดว่าตนเองเสี่ยง 2% เผื่อไว้บางทีเราเผลอ ไม่ได้คิด ลืม คือเอดส์นี่ติดทางเพศสัมพนธ์ กับทางเลือด
ของผมสองทางนี่ตัดไปเลย ก็เหลือการสัมผัสเลือดผู้ติดเชื้อ เพราะผมชอบเข้าไปช่วยคนที่บาดเจ็บ ทั้ง ๆ ที่ผม

ไม่รู้จัก” (PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)
“ตอนนี้เสี่ยง 10% คือใช้อปกรณ์ร่วมกับเพื่อนที่ติดเชื้อ ขนาดที่รู้ว่าเขาติดเชื้อเอดส์เนี่ยะ เราก็ยังเล่น

มันก็เกรงใจกัน เพราะว่า คือเล่นด้วยกันหลายครั้งตั้งแต่สมัยก่อน เพื่อนเป็นแต่เราไม่เป็น แบบว่าใช้เข็มใหม่ทุก

ครั้ง แต่ว่าใช้ช้อนอันเดียวกัน” (PWUD ชาย 45 ปี พื้นที่เมือง)

“เสี่ยงประมาณ 50% เพราะยังใช้เข็มร่วมกันกับเพื่อน” (PWUD ชาย 25 ปี พื้นที่ชนบท)

“เสี่ยงสัก 50% เพราะว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันกับแฟนตลอด 24 ชั่วโมง อาทิตย์ไหนเขามาหาเราครั้ง
หนึ่ง” (PWUD TG 36 ปี พื้นที่เมือง)






[130] บทที่ 3 ผลการวิจัย

“น่าจะเกินครึ่งหนึ่ง เพราะเคยใช้เข็มร่วมกับคนอื่น ตอนนั้นไม่รู้ มารู้ทีหลังว่าเขาเป็นโรคอะไรสัก

อย่าง” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“ขนาดรู้ว่าคนนี้เป็นเอดส์ ยังไปร่วมเล่นยาด้วยเลย เมื่อก่อน ช่วงจังหวะเสี้ยน มันไม่มีอุปกรณ์
ครบถ้วน” (PWUD ชาย 53 ปี พื้นที่เมือง)

“ผมเสี่ยง 80% เพราะภรรยาเป็น (เอชไอวี) ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยกับภรรยา” (PWUD ชาย 33 ปี

พื้นที่เมือง)

“ผมเสี่ยงเต็ม 100 ทางเพศสัมพันธ์ เพราะผมมั่วหมด..ใช้ถุงยางเหมือนกัน แต่ไม่ใช้ทุกครั้ง ..บางทีครั้ง

แรกอาจจะใช้ ครั้งที่สองอาจจะไม่ได้ใช้ บางทีมันอาจจะแตก..ช่วงนั้นไม่ได้คิด” “กลัวเอดส์เหมือนกันแต่ว่า

เปอร์เซ็นต์น้อย อย่างที่ว่า กลัวอดมากกว่า แล้วประเภทแบบไม่ชอบเกานอกเสื้อ ..ภรรยาไม่ค่อยให้นอน
ออกไปข้างนอกบ่อยกว่า” (PWUD ชาย 48 ปี พื้นที่เมือง)



การใช้ถุงยางอนามัย พบว่าไม่มีการใช้ถุงยางอนามัยที่สม่ำเสมอกับคู่นอน ซึ่งเหตุผลที่ไม่ใช้ถุงยาง

อนามัย คือใช้แล้วไม่ชอบ ไม่มีความสุข ความรู้สึกทางเพศลดลง โดยเฉพาะกับภรรยาหรือคู่นอนที่มี

ความคุ้นเคยกันแล้วจะไม่ใช้

“ครั้งแรก มันต่างคนต่างไม่รู้จักกน ต้องใส่ หรือว่าคุณอาจจะมีเมียแล้ว หรือว่าอาจจะไปสัมผัสกับคน
อื่นที่ติดเชื้อแล้ว..ตอนแรก ๆ ป้องกันค่ะ ครั้งต่อ ๆ มาไม่ใช้ค่ะ มันเหมือนทางลูกรังกับทางเรียบ ถ้าสอดใส่เข้า

ไปแล้ว มันยังไงไม่รู้ มันรู้สึกว่า มันไม่เหมือน” (PWUD/TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“ใช้ถุงยางมันเจ็บ ต้องมีเจลหล่อลื่น ถ้าไม่ใช้ถุงยางต้องใช้เจลหล่อลื่น แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าใช้

ถุงยาง ถ้าใช้ถุงยางต้องใช้เจลหล่อลื่นมาก ในถุงยางปกติมันจะมีน้ำยาหล่อลื่นอยู่แล้ว แต่มันไม่พอ” (PWUD
TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“เคยใช้ เป็นบางครั้ง...ถ้าเป็นคู่นอนจริง ๆ เราก็ไม่ใช้ครับ” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)

“คนที่ใม่ใส่ถุงยางอนามัย คือเขาว่า มันไม่สะดวก ..ผู้หญิงบอกให้ถอดก่อน” (PWUD ชาย 41 ปี พื้นที่

ชนบท)

“ครั้งแรกก็จะใช้ถุงยาง แต่พอครั้งต่อ ๆ มา เขาก็จะขอไม่ให้ใช้ เหมือนเขาไม่อยากใช้ เราเป็นฝ่ายรับ
ตอนแรกเราก็ยังไม่ยอม เขาก็ขอไม่ใช้ได้ไหม ผมก็ไม่ว่าอะไร” (PWUD/MSM 26 ปี พื้นที่ชนบท)



การรับรู้ ความเห็น และประสบการณ์เกี่ยวกับ PrEP

ผู้ให้ข้อมูลแบ่งเป็นสองประเภท คือกลุ่มที่ไม่เคยรับรู้เรื่อง PrEP มาก่อนเลยหรือเคยรู้จากสื่อบ้าง และ

กลุ่มที่เคยได้รับข้อมูลเรื่อง PrEP จากหน่วยงานและ/หรือเคยกินเพร็บมาแล้ว
กลุ่มที่ไม่เคยรับรู้เรื่อง PrEP มาก่อนหรือเคยรู้จากสื่อบ้าง เป็นกลุ่มชายรักต่างเพศหรือเป็นกลุ่มที่มารับ

บริการบำบัดยาเสพติดในสถานบริการที่ไม่มีการจัดบริการ PrEP เมื่อสอบถามความสนใจต่อการรับบริการ




รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [131]

PrEP ในอนาคต พบว่ามีคำตอบที่แตกต่างกัน ทั้งไม่รับบริการเพราะไม่เสี่ยง และสนใจรับบริการเพราะยังมี

ความเสี่ยง บางส่วนมั่นใจว่าผู้ใช้ยาสามารถกิน PrEP ได้สม่ำเสมอ ในขณะที่บางความเห็น ไม่มั่นใจว่าผู้ใช้ยาจะ

สามารถกิน PrEP ได้สม่ำเสมอทุกวัน
“รู้ครับ รู้จากทางอินเตอร์เน็ต” (PWUD ชาย 34 ปี ทำงานในพื้นที่เมือง)

“ผมไม่กินครับ ผมมั่นใจตัวเองว่าไม่เสี่ยง” (PWUD ชาย 27 ปี พื้นที่ชนบท)

“ผมสนใจ ป้องกันตัวเองไว้ก่อน..ถ้ามีใกล้ที่นี่ ก็ยิ่งดีครับ น่าจะมีคนมาใช้บริการเยอะ” (PWUD ชาย

34ปี พื้นที่ชนบท)

“ถ้าเสี่ยงก็ควรกิน” (PWUD ชาย 48 ปี พื้นที่เมือง ประเมินความเสี่ยงต่อเอดส์ของตนเองจาก

เพศสัมพันธ์ 100%)
“เป็นไปได้ ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่มีใครหายจากไวรัสตับอักเสบซี เพราะต้องกินตรงเวลา กินสามขวด

ประมาณสามเดือน” (PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)

“เป็นไปได้ครับ เพราะเวลากินเมทาโดน ผมก็กินประจำ กินแปดโมงตลอด” (PWUD ชาย 34 ปี

ทำงานในพื้นที่เมือง)


ส่วนกลุ่มที่เคยได้รับข้อมูลเรื่อง PrEP จากหน่วยงานและ/หรือเคยกิน PrEP มาแล้ว มี 4 ราย จากการ

สัมภาษณ์เจาะลึกพบว่า มีความเห็นต่อการกิน PrEP ที่แตกต่างกันไป โดยคำตอบที่สอดคล้องกันคือกังวลและ

มีปัญหาจากอาการข้างเคียงจากการกิน PrEP สำหรับการกิน PrEP ให้สม่ำเสมอ แต่ละคนก็มีเทคนิคแตกต่าง

กันไป ได้แก่ ตั้งนาฬิกาในมือถือ กินพร้อมกับยาอื่น และมีคนเตือน

“หนูว่าดีนะ กินไปเถอะ เป็นการป้องกันตัว เวลาจะไปมีอะไรกับคนโน้นคนนี้...เป็นยาคุม เหมือนยา
คุมกำเนิด มันไม่แน่ไม่นอน แบบชีวิตกระเทยเนียะ เดี๋ยวก็ไปนู่น เดี๋ยวก็ไปนี้ กินคุมตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเจอใคร ...

วันนี้ยังไม่เจอใคร แต่พรุ่งนี้ อาจจะเจอ...กินมาสามเดือน ...เพิ่งหยุดไป.กลัวมันไปทำลายตับ ทำลายไต เลยขอ

พักสักเดือนสองเดือน.” (PWUD/TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“ตอนแรกมีเวียนหัวหน่อย ๆ ...กินสามทุ่มทุกวัน เพราะไปทำงานเช้าเลิกดึก เลิกงานสามทุ่ม ก็กินสาม

ทุ่มแล้วนอน” .... “อย่างหนูเป็นคนขี้ลืม จะปลุกนาฬิกาไว้เลย สองทุ่มห้าสิบแปด” “เอายาใส่กระเป๋าติดตัวไว้
เลย ใส่ซองยาอมฟิชเชอแมน ถ้าถึงสามทุ่มก็รู้ว่า เราต้องกินยาแล้วนะ คือมันจะติดเป็นนิสัย” (PWUD/TG 36

ปี พื้นที่เมือง)

“กินไม่ถึงอาทิตย์ กินสองทุ่มทุกวัน อาการข้างเคียงรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว ใจสั่น เหมือนจะ

อ้วกเป็นครั้ง ๆ ทำงานไม่ได้..เวลากินยาก็มีอาการ พอหยุดยาก็ไม่มีอาการ...ตอนแรกกินสองทุ่ม ลอง

เปลี่ยนเป็นกินตอนเที่ยงคืน เที่ยงคืนก็ไม่ไหว ยังมีอาการอยู่ ก็เลยไม่กิน” (PWUD/MSM 26 ปี พื้นที่ชนบท)
“กินเมื่อ 4-5 ปีก่อน ไม่มีอาการข้างเคียง...กินสองทุ่มทุกวันพร้อมกับยาประจำตัว แต่ค่าไตขึ้น เลย

หยุดกิน” (PWUD/MSM 28 ปี พื้นที่เมือง)



[132] บทที่ 3 ผลการวิจัย

“ภรรยาไม่ได้บังคับ ตัดสินใจกินเอง กินมาประมาณ 1 ปี อยากป้องกันตัวเอง...กินสองทุ่ม ไม่ทุกวัน..

ส่วนมากจะลืม....ให้แฟนเป็นคนจัดการ กินพร้อมแฟน.. อยากให้เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้กินให้ได้กิน” ((PWUD ชาย

33 ปี พื้นที่เมือง)



โดยผู้ให้ข้อมูลมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ควรเพิ่มการประชาสัมพนธ์เรื่อง PrEP ให้คนทั่วไปให้เข้าใจ
มากกว่านี้ เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่รับรู้และมีความเข้าใจเรื่อง PrEP มีจำกัดเพียงแค่ในกลุ่มชายรักชายและสาว

ประเภทสอง การที่คนทั่วไปยังไม่รับรู้เรื่อง PrEP มีส่วนทำให้บางคนไม่กล้ากิน PrEP เพราะกลัวถูกเข้าใจผิด

ว่าติดเชื้อเอชไอวี

“อยากให้ผู้ชายใช้ ผู้ชายส่วนใหญ่ ผู้ชายกินเหล้าชอบจะไปมั่ว อยากให้เขาป้องกันไว้ แต่ตอนนี้เพร็
บยังอยู่ในวงเล็ก หนูอยากให้ขยายวงกว้าง...ถ้าเราขยายวงกว้าง คนอื่นก็จะรู้จัก มันจะมีการแนะนำต่อๆกันไป

แต่ตอนนี้สังคมยังแคบ คนที่รู้เรื่องนี้ยังน้อย อยู่ในกลุ่มผู้ชาย กลุ่มกะเทย...ถ้ามีคนรู้เยอะ จะง่ายต่อการที่ใคร ๆ

จะกิน” (PWUD/TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“ปัจจุบัน ยังให้ความรู้ประชาชนทั่วไปเรื่องเพร็บน้อยไป บางคนยังไม่รู้จัก บางคนไม่รู้ว่าต้องไปเอาที่

ไหน ไม่มีสอนในโรงเรียน” (PWUD/MSM 28 ปี พื้นที่เมือง)
“บางคนเขาก็ไม่คิดว่าจะต้องกิน เขาไม่รู้ว่ายาเพร็บคือยาที่กินป้องกันกอนรับเชื้อ เขาก็จะคิดว่าติดเชื้อ

แล้วกิน....ก็มีผลนะครับ คือกลัว อาย กลัวเขาจะไปพูดต่อ ๆ กันว่าคนนี้ติดเชื้อนะ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ติด แต่เรา

กินยาไว้ก่อน...”(PWUD/MSM 26 ปี พื้นที่ชนบท)



สำหรับความเห็นต่อสถานบริการที่จัดบริการ PrEP พบว่าผู้ให้ข้อมูลเสนอให้มีหน่วยจัดบริการกระจาย
ี่
ให้ครอบคลุมหลายพื้นท เช่น ที่โรงพยาบาลตามอำเภอต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้ารับบริการใกล้บ้าน โดยเฉพาะ
ผู้ใช้ยาที่ยังต้องเข้ารับบริการเมทาโดน ต้องไปรับบริการทุกวันหรือทุกสัปดาห์ ไม่สามารถไปไกลจากจุดที่รับยา

เมทาโดนได้และมีความเห็นว่าหากจะมีบริการ PrEP ที่ร้านขายยา ต้องมีบริการที่เป็นมิตร ไม่ตีตรา มีระบบที่

มั่นใจว่าผู้ที่มารับยา PrEP ที่ร้านขายยายังไม่ติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งต้องมีระบบการตรวจติดตามอาการ

ข้างเคียงต่าง ๆ ด้วย
“ถ้ามีที่โรงพยาบาล หนูก็จะไปรับที่โรงพยาบาลเพราะใกล้บ้านกว่า” (PWUD/TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“น่าจะให้ที่โรงพยาบาลควบคู่ไปกับเมทาโดน สถานที่เดียวกัน มันจะได้ไม่สับสนกัน” (PWUD ชาย

43 ปี พื้นที่เมือง)

“ถ้ามีบริการใกล้ที่นี่ ก็ยิ่งดีครับ น่าจะมีคนมาใช้บริการเยอะ” (PWUD ชาย 28 ปี พื้นที่ชนบท)

“หนูว่าเพื่อนสนใจ อย่างน้อยก็อยู่ในโรงบาล ไหน ๆ ก็ไปอยู่แล้ว ถ้ามีทุกอำเภอน่าจะดี ถ้าต้องมาที่นี่
(CBO) มันไกล แต่เราต้องมาเพื่อตัวเรา” (PWUD/TG 36 ปี พื้นที่เมือง)

“อยากให้มีบริการครอบคลุมทุกอำเภอ” (PWUD ชาย 43 ปี พื้นที่เมือง)




รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [133]

“อยากให้ทางสาธารณสุขเนียะ ให้บริการให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ เวลาเรามาสมัครก็ดี มารับยาก็ดี เพราะ

บางคนก็ต้องรีบกลับไปทำงาน” (PWUD ชาย 62 ปี พื้นที่เมือง)

“ถ้ามีที่ร้านขายยาก็ดี แต่มันต้องขยายวงกว้างให้คนรู้...ต้องมีบูธ มีคนชักชวน แนะนำ..” (PWUD/TG
36 ปี พื้นที่เมือง)

“ร้านขายยาถ้าขายอย่างเดียว ไม่เห็นด้วย คงต้องมีการติดตามอาการอน เช่น ภาวะไต...และอกอย่าง
ื่

ก่อนให้ ต้องตรวจเอชไอวีก่อน ซึ่งร้านขายยาไม่น่าจะตรวจได้ อาจสร้างปัญหา อาจส่งผลต่อเชื้อดื้อยา แต่ถ้า

จัดบริการที่โรงพยาบาล ก็เห็นด้วย” (PWUD/MSM 28 ปี พื้นที่เมือง)

“น่าจะมีบริการทั้งองค์กรเอกชน ทั้งโรงพยาบาล เพราะบางคนเขาก็ไม่อยากมาโรงพยาบาล เดินเข้า

มาบอกว่าขอยาเพร็บมันก็รู้สึกยังไงไม่รู้ ...ถ้าเป็นร้านขายยาก็โอเค เพราะบางคนก็ไม่อยากไปที่คนเยอะ ๆ แต่
ต้องมีระบบความลับหน่อย” (PWUD/MSM 26 ปี พื้นที่ชนบท)



สรุปข้อค้นพบจากการศึกษาเชิงคุณภาพในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติด

จากการศึกษาเชิงคุณภาพในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดสามารถสรุปข้อค้นพบที่สำคัญได้เป็น 3 ประเด็นดังนี้

พฤติกรรมการเสพยาเสพติดและการตีตรา
- การเลิกเสพยา เป็นเรื่องยากมาก แต่ก็เป็นความหวังของผู้ใช้ยาที่มีครอบครัว คนที่รักรออยู่

- พฤติกรรมการเสพยาเสพติด เป็นความเสี่ยงร่วมที่พบได้ในผู้มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ทั้งในกลุ่ม

ชายรักชาย TG หรือ ชายรักต่างเพศ

- ผู้ใช้ยาเปลี่ยนวิธีการเสพไปมาระหว่างการสูบ/สูด/กินและฉีด ผู้ที่เคยเสพแบบฉีดมีแนวโน้มจะฉีด

ต่อไป
- ผู้ใช้ยาที่อยู่ในพื้นที่ที่ม NGO ด้านยาเสพติด เข้าถึงอุปกรณ์สะอาดและข้อมูลได้มาก

- ผู้ใช้ยามีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการสนทนากับผู้อื่นที่ไม่รู้จัก จะเห็นจากการหลีกเลี่ยงการไปร้านขายยาที่มี

การสอบถามข้อมูลลูกค้า

- ผู้ใช้ยาชนบทยังใช้อุปกรณ์ซ้ำ ใช้ร่วมกัน ไม่สะอาด และฉีดด้วยวิธีไม่ปลอดภัย

- พบการถูกตีตราและการตีตราตนเอง ในขณะที่ผู้ใช้ยาบางคนมีมุมมองด้านบวกในการใช้ชีวิตแม้ว่าจะ

ถูกตีตรา

การรับรู้เรื่องเอชไอวี/เอดส์ และการประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ผู้ใช้ยาสามารถบอกช่องทางการติดต่อของเอชไอวีทั่วๆไปได้ แต่ยังมีความเข้าใจว่า สามารถประเมิน

การติดเชื้อHIVได้จากการมองภายนอกรวมทั้งการมั่นใจเพราะรู้จักกัน

- รับรู้อันตรายและความเสี่ยงจากการใช้อุปกรณ์การฉีดไม่สะอาด หรือใช้ร่วมกับคนอื่นทั้งอาการที่เกิด

จากการฉีด และการติดโรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ





[134] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ุ้
- มีโอกาสใช้อุปกรณ์การฉีดร่วมกันแม้รู้ว่าเสี่ยง เนื่องจากคนเคยกันหรือเป็นช่วงอยากยา
- ผู้ใช้ยามีความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย

- การใช้ยาเสพติดอาจกระตุ้นหรือยับยั้งความต้องการทางเพศ ขึ้นอยู่กับสารที่เสพ

- มีความสัมพันธ์กันระหว่างการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ และปัญหาสุขภาพจิต


การรับรู้เรื่อง PrEP และข้อเสนอต่อการจัดบริการ PrEP

- ผู้ใช้ยาที่อยู่ในพื้นที่ที่มี CBO ด้านยาเสพติด/หรือ รับบริการยาเสพติดจากโรงพยาบาลที่มีบริการเพร็บ

มีการรับรู้ เรื่องเพร็บ

- ผู้ใช้ยาที่เป็นชายรักชาย สาวประเภทสอง มีการรับรู้ เรื่อง PrEP มากกว่าผู้ใช้ยาที่เป็นชายรักต่างเพศ

- ผู้ใช้ยาสนใจบริการ PrEP และมีความเห็นว่าเป็นไปได้ที่ผู้ใช้ยาจะกิน PrEP ได้สม่ำเสมอ

- เสนอให้มีบริการ PrEP ที่โรงพยาบาลเพราะต้องมีการตรวจเอชไอวีและตรวจติดตามอาการข้างเคียง
อย่างอื่นด้วย และควรกระจายหลายโรงพยาบาลตามอำเภอต่างๆเพอความสะดวกกับผู้รับบริการ
ื่
- เสนอให้จุดบริการ PrEP ใกล้หรือเป็นจุดเดียวกันกับจุดรับเมทาโดน ซึ่งอาจจะเป็นโรงพยาบาล หรือ

องค์กรเอกชน/องค์กรชุมชน เนื่องจากผู้ใช้ยามีข้อจำกัดในการออกไปไกลจากสถานที่รับเมทาโดน

- การมีบริการ PrEP ที่ร้านขายยาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยต้องมีบริการที่เป็นมิตร ไม่ตีตรา มีระบบที่

มั่นใจว่าผู้ที่มารับยา PrEP ที่ร้านขายยายังไม่ติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งต้องมีระบบการตรวจติดตาม

อาการข้างเคียงต่าง ๆ

- ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปนอกเหนือจากกลุ่มชายรักชายและสาวประเภทสอง ให้มี
ความรู้ความเข้าใจเรื่อง PrEP ให้มากขึ้น เพื่อลดการตีตราคนที่กินยา PrEP และง่ายต่อการสื่อสาร

ระหว่างผู้ที่กินเพร็บกับคนรอบข้าง



ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับการจัดบริการ PrEP ในกลุ่มผู้ชาสารเสพติด

1. ขยายวงประชากรเป้าหมายสำหรับรับบริการ PrEP ให้ครอบคลุมผู้เสพยาทุกวิธี ไม่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ยา
เสพติดด้วยวิธีฉีดอย่างเดียว เนื่องจากปัจจุบัน ผู้เสพยามีการใช้วิธีเสพหลายวิธีร่วมกัน

2. กำหนดประเด็นบริการ PrEP ให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดบริการลดอันตรายจากยาเสพติดแบบรอบด้าน

(Harm Reduction) ซึ่งปัจจุบันในส่วนของภาครัฐ งาน Harm Reduction ส่งผ่านนโยบายและการ

สนับสนุนไปทางงานยาเสพติด

3. เพิ่มความสามารถและขยายบทบาทขององค์กร/หน่วยงานที่ให้บริการด้านยาเสพติดทั้งภาครัฐ เอกชน
องค์กรชุมชน ให้มีความรู้ความเข้าใจประเด็นเอชไอวี/เอดส์และ PrEP และสามารถประเมินความเสี่ยง

ให้คำปรึกษา/จัดบริการ/หรือส่งต่อบริการ PrEP ได้






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [135]

4. เพิ่มความสามารถและขยายบทบาทขององค์กรชุมชน/หน่วยงานเอกชน ที่ให้บริการด้านเอดส์

โดยเฉพาะ ที่ทำงานกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ชายรักชาย สตรีข้ามเพศ หรือพนักงานบริการ ให้มี

ความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้สารเสพติดและการลดอนตรายจากการใช้สารเสพติด สามารถประเมิน

พฤติกรรมการใช้สารเสพติดและความเสี่ยงของผู้รับบริการได้ ตลอดจนสามารถให้คำปรึกษา/

จัดบริการ/หรือส่งต่อบริการ PrEP ได้

5. พัฒนาระบบการเชื่อมต่อระหว่างบริการยาเสพติด สุขภาพจิต และบริการเอชไอวี/เอดส์ ของ

โรงพยาบาล สำหรับผู้รับบริการที่อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงซ้อน เพื่อเพื่มความครอบคลุมการเข้าถึงบริการ

เพร็บของผู้รับบริการที่เข้าเกณฑ์

6. ขยายหน่วยบริการ PrEP ให้ครอบคลุมพื้นที่ ทั้งพื้นที่เมืองและชนบท โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีข้อมูลผู้ใช้ยา
เสพติดสูง เนื่องจากผู้ใช้ยาเสพติดมักมข้อจำกัดในการเดินทางออกจากพื้นที่ตนเอง ตลอดจนพจารณา


ความเป็นไปได้ในการจัดบริการเพร็บในหน่วยงานที่จัดบริการยาเสพติดอยู่แล้ว

7. สร้างทัศนคติเชิงบวกต่อผู้ใช้ยาเสพติด ในกลุ่มผู้ให้บริการ โดยเฉพาะคนทำงานเอดส์ และยาเสพติด

รวมทั้งมีกระบวนการด้านจิตสังคมเสริมพลัง สร้างแรงบันดาลใจ ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด เพื่อให้ผู้ใช้ยา

สามารถเขาสู่บริการ Harm reduction และเพร็บได้อย่างต่อเนื่อง
8. ขยายการรับรู้เรื่อง PrEP สู่ประชาชนทั่วไปให้กว้างขวางขึ้น เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ป้องกันการ

เข้าใจผิดว่าผู้ที่กินยา PrEP คือผู้ติดเชื้อ สร้างทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ยา PrEP โดยระมัดระวังเนื้อหา

ของสื่อสาธารณะที่จะสื่อถึงพฤติกรรมและความเสี่ยงของผู้ใช้ PrEP เพราะอาจทำให้เกิดการตีตราได้










































[136] บทที่ 3 ผลการวิจัย

ส่วนที่ 4 ข้อมูลผู้ให้บริการ







บทที่ 3







ผลการวิจัย





























รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [137]

ส่วนที่ 4 ข้อมูลผู้ให้บริการ

ผลการศึกษาการสำรวจทัศนคติและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการให้บริการ PrEP ของบุคคลาการในการ

จัดการบริการ

ลักษณะทางประชากรของผู้ตอบแบบสอบถาม
จากการสำรวจทัศนคติและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการให้บริการ PrEP ของบุคคลากรที่ให้บริการ PrEP

ในการจัดการบริการทั้ง 3 รูปแบบบริการจากหน่วยให้บริการ PrEP ภายใต้สปสช. ทั้ง 50 หน่วย (30 แห่งจาก

หน่วยบริการประเภทโรงพยาบาล, 4 แห่งจากองค์กรภาคประชาสังคมขนาดใหญ่ (Key Population-Led Health

Services; KPLHS), 16 แห่งจากหน่วยให้บริการรูปแบบผสมหรือโรงพยาบาลทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชา

สังคม (Community based organizations; CBO)) โดยใช้แบบสอบถาม online มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
196 คน (110 คนจากโรงพยาบาล 30 แห่ง, 48 คนจากโรงพยาบาลทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชาสัมคม 16

แห่ง, และ 38 คนจาก KPLHS 4 แห่ง) องค์กรภาคประชาสังคมขนาดใหญ่ (KPLHS) 4 แห่ง ได้แก่ สมาคมฟ้าสีรุ้ง

แห่งประเทศไทย (Rainbow Sky Association of Thailand-RSAT), มูลนิธิเพื่อนพนักงานการบริการ (Service


Workers in Group-SWING), มูลนิธิเอ็มพลัส (MPlus), และศูนย์สุขภาพแคร์แมท (Caremat) โดยมูลนิธิเอมพลัส
(MPlus) ดำเนินการจัดให้บริการ PrEP ของสปสช. ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของโรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะที่
ศูนย์สุขภาพแคร์แมท (Caremat) ดำเนินการให้บริการ PrEP ภายใต้สภากาชาดไทย พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม

จากโรงพยาบาลและโรงพยาบาลที่ทำงานร่วมกับ CBO ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (83.64% และ 83.33%) ในขณะที่

ผู้ตอบแบบสอบถามจากองค์กรภาคประชาสังคมส่วนใหญ่มีเพศสภาพโดยกำเนิดเป็นชาย (89.47%, n= 34) โดย

ครึ่งหนึ่งมีเพศสภาพปัจจุบันเป็นเกย์ และประมาณหนึ่งในสี่เป็นสตรีข้ามเพศ อายุเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถาม

ทั้งหมดคือ 42 ปี โดยอายุต่ำสุดถึงสูงสุดอยู่ระหว่าง 21-60 ปี ผู้ตอบแบบสอบถามจากโรงพยาบาลและรูปแบบ

บริการโรงพยาบาลที่ทำงานร่วมกับ CBO มีอายุโดยเฉลี่ย 44 และ 42 ปีตามลำดับ ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม

จาก KPLHS มีอายุเฉลี่ย 34 ปี (ตารางที่ 4.1)
ผู้ให้บริการ PrEP จากหน่วยบริการรูปแบบโรงพยาบาลและโรงพยาบาลที่ทำงานร่วมกับ CBO มีใบ

ประกอบวิชาชีพพยาบาลมากที่สุด (59.09% และ 54.17%) รองลงมาคือเภสัชกร (10.91% และ 18.75%) และ

แพทย์ (5.45% และ 6.25%) ผู้ให้บริการ PrEP จากองค์กรภาคประชาสังคมส่วนใหญ่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ

(92.11%) ในขณะที่ผู้ให้บริการ PrEP จากโรงพยาบาลและรูปแบบบริการแบบผสมมีเพียง 20.91% และ 14.58%

ตามลำดับที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพด้านสาธาณสุข ผู้ให้บริการ PrEP ส่วนใหญ่เคยผ่านการอบรม PrEP มาแล้ว
อย่างน้อย 1 ครั้ง และมาจากหน่วยให้บริการ PrEP ที่มีประสบการณ์ในการจัดบริการ PrEP ตั้งแต่ พ.ศ.2560 หรือ

ก่อนหน้าและมีประสบการณ์ในการให้บริการ PrEP มาอย่างน้อย 3 ปีหรือมากกว่า โดยหน่วยบริการรูปแบบ

องค์กรภาคประชาสังคมทั้งหมดมีการจัดบริการ PrEP ตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2560 (ตารางที่ 4.1)







[138] บทที่ 3 ผลการวิจัย

คะแนนการประเมินตนเองด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยบกับบริการ PrEP

คะแนนเฉลี่ยการประเมินตนเองด้านความรู้ ความเข้าใจเกี่ยบกับบริการ PrEP จาก 0-9 จากผู้ตอบ

แบบสอบถามทั้งหมดเท่ากับ 6.74 คะแนน ในขณะที่คะแนนเฉลี่ยผู้ให้บริการจากโรงพยาบาล, จากโรงพยาบาลที่

ทำงานร่วมกับ CBO และ KPLHS เท่ากับ 6.66 คะแนน, 6.44 คะแนน และ 7.34 คะแนนตามลำดับ โดยทั้ง 3
รูปแบบบริการมีคะแนนเฉลี่ยไม่ต่างกัน (ตารางที่ 4.1)



ตารางที่ 4.1 ข้อมูลพื้นฐานผู้จัดบริการ PrEP ภายใต้สปสช.ที่ตอบแบบสอบถามทัศนคติและปัจจัยที่ม ี

ความสัมพันธ์ต่อการให้บริการ PrEP ของบุคคลาการในการจัดการบริการ

รูปแบบการบริการ ทั้งหมด (%)
โรงพยาบาล รพ.+CBO (%) KPLHS (%) P-
(N=196)
(%) (N=110) (N=48) (N=38) value
MEAN±SD
MEAN±SD* MEAN±SD MEAN±SD

เพศสภาพโดยกำเนิด


ชาย 18 (16.36) 8 (16.67) 34 (89.47) 60 (30.61) < 0.001
หญิง 92 (83.64) 40 (83.33) 4 (10.53) 136 (69.39)

เพศสภาพปัจจุบัน
ชาย 7 (6.36) 6 (12.50) 6 (15.97) 19 (9.69) < 0.001

หญิง 89 (80.91) 39 (81.25) 4 (10.53) 132 (67.35)
เกย์ 8 (7.27) 2 (4.17) 17 (44.74) 27 (13.78)
สตรีข้ามเพศ 3 (2.73) 0 9 (23.68) 12 (6.12)

ชอบทั้งสองเพศ 1 (0.91) 1 (2.08) 1 (2.63) 12 (6.12)
อื่น ๆ เช่น เลสเปี้ยน ชาย 2 (1.82) 0 1 (2.63) 3 (1.53)

แปลงเพศ
อายุ (ปี) (MEAN±SD) 44.22±9.82 42.13± 10.96 34.37± 9.62 41.80±10.70 < 0.001

(Ranges 21-60) (ranges 22-60) (ranges 21-58) (ranges 21-60) (ranges 21-60)
หน่วยงานมีการจ่าย PrEP 108 (98.18) 47 (97.92) 37 (97.37) 192 (97.96) 0.954

โดยตรง
ใบประกอบวิชาชีพ

พยาบาล 65 (59.09) 26 (54.17) 1 (2.63) 92 (46.94) < 0.001
ผู้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ 23 (20.91) 7 (14.58) 35 (92.11) 65 (33.16)

เภสัชกร 12 (10.91) 9 (18.75) 1 (2.63) 22 (11.22)
แพทย์ 6 (5.45) 3 (6.25) 0 9 (4.59)






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [139]

รูปแบบการบริการ
ทั้งหมด (%)
โรงพยาบาล รพ.+CBO (%) KPLHS (%) P-
(N=196)
(%) (N=110) (N=48) (N=38) value
MEAN±SD
MEAN±SD* MEAN±SD MEAN±SD
วิชาชีพสาธารณสุขอื่น ๆ

- เทคนิคการแพทย์ 1 (0.91) 2 (4.17) 0 3 (1.53)
- นักสาธารณสุข 2 (1.82) 1 (2.08) 0 3 (1.53)

- แพทย์แผนโบราณ 1 (0.91) 0 1 (2.63) 2 (1.02)

หน่วยบริการมีการจัดบริการ
PrEP (ปี)

1 ปี 18 (16.36) 2 (4.17) 0 20 (10.20) < 0.001
2 ปี 22 (20.00) 14 (29.17) 0 36 (18.37)

3 ปี 7 (6.36) 21 (43.75) 0 28 (14.29)

> 3 ปี 63 (57.27) 11 (22.92) 38 (100.00) 112 (57.14)
จำนวนครั้งที่เคยรับการอบรม

การจัดบริการ PrEP ตั้งแต่
พ.ศ.2560

ไม่เคย 20 (18.18) 12 (25.00) 1 (2.63) 33 (16.84) 0.158
1 ครั้ง 30 (27.27) 14 (29.17) 9 (23.68) 53 (27.04)

2 ครั้ง 27 (24.55) 6 (12.50) 11 (28.95) 44 (22.45)
3 ครั้ง 10 (9.09) 5 (10.42) 6 (15.79) 21 (10.71)

> 4 ครั้ง 23 (20.91) 11 (22.92) 11 (28.95) 45 (22.96)
ประสบการณ์การดำเนินงาน

(
ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี )
ปี
ไม่มี 7 (6.36) 6 (12.50) 3 (7.89) 16 (8.16) 0.029
< 1 ปี 4 (3.64) 2 (4.17) 3 (7.89) 9 (4.59)

1-2 ปี 13 (11.82) 12 (25.00) 6 (15.79) 31 (15.82)
2-4 ปี 28 (25.45) 5 (10.42) 12 (31.58) 45 (22.96)

4-10 ปี 26 (23.64) 8 (16.67) 12 (31.58) 46 (23.47)
> 10 ปี 31 (28.18) 13 (27.08) 2 (5.26) 46 (23.47)

จำนวนข้อมูลที่ขาด 1 (0.91) 2 (4.17) 0 3 (1.53)
ประสบการณ์การจัดบริการ

PrEP
)
ปี
(
ไม่มี 19 (17.27) 14 (29.17) 4 (10.53) 37 (18.88) 0.374


[140] บทที่ 3 ผลการวิจัย

รูปแบบการบริการ
ทั้งหมด (%)
โรงพยาบาล รพ.+CBO (%) KPLHS (%) P-
(N=196)
(%) (N=110) (N=48) (N=38) value
MEAN±SD
MEAN±SD* MEAN±SD MEAN±SD
< 1 ปี 15 (13.64) 8 (16.67) 3 (7.89) 26 (13.27)

1-2 ปี 35 (31.82) 14 (29.17) 12 (31.58) 61 (31.12)
2-4 ปี 33 (30.00) 11 (22.92) 15 (39.47) 59 (30.10)

> 4 ปี 7 (6.36) 1 (2.08) 4 (10.53) 12 (6.12)
จำนวนข้อมูลที่ขาด 1 (0.91) 0 0 1 (0.51)

คะแนนเฉลี่ยการประเมิน
ตนเองด้านความรู้ ความเข้าใจ 6.66±1.90 6.44±2.41 7.37±2.00 6.74± 2.07 0.096
เกี่ยบกับบริการ PrEP จาก 0-9

(Ranges 0-9)

หมายเหตุ: *SD: standard deviation


ผู้ให้บริการ PrEP ส่วนใหญ่ให้คะแนนประเมินตนเองด้านความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP มากกว่า 6

จากคะแนนเต็ม 9 คะแนน ผู้ให้บริการจากโรงพยาบาลเกินหนึ่งในสามประเมินความรู้ความเข้าใจตนเองเรื่อง
PrEP ในระดับดีมาก (8-9 คะแนน; 40%) และ ดี (6-7 คะแนน; 35.45%) ในขณะที่ 18.18% ประเมินความรู้ของ

ตนเองอยู่ในระดับพอใช้ (4-5 คะแนน), 3.64% และ 2.73% ประเมินความรู้ตนเองในระดับควรปรับปรุง (2-3

คะแนน) และควรปรับปรุงอย่างยิ่ง (0-1 คะแนน) ตามลำดับ ผู้ให้บริการจากโรงพยาบาลที่ทำงานร่วมกับ CBO

เกือบหนึ่งในสาม (31.25%) และเกือบครึ่งหนึ่ง (45.83%) ประเมินความรู้ตนเองเกี่ยวกับ PrEP อยู่ที่ระดับดีมาก

(8-9 คะแนน) และ ดี (6-7 คะแนน) ตามลำดับ ผู้ให้บริการจากองค์กรภาคประชาสังคมประเมินตนเองด้านความรู้

ความเข้าใจเกี่ยวกับ PrEP สูงสุด (60.53% ในระดับดีมากที่ 8-9 คะแนน, 34.21% ในระดับดีที่ 6-7 คะแนน) โดย
มีเพียง 5.26% ที่ให้ประเมินตนเองในระดับควรปรุงอย่างยิ่งที่ 0-1 คะแนน (รูปที่ 4.1)





















รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [141]

รูปที่ 4.1 คะแนนการประเมินตนเองด้านความรู้ ความเข้าใจเกี่ยบกับบริการ PrEP เปรียบเทียบ 3 รูปแบบ

บริการ

คะแนนการประเมินตนเองด้านความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบริการ PrEP

ในสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ (%)



โรงพยาบาล

โรงพยาบาลท างานร่วมกับ CBO


KPLHS

0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100

KPLHS โรงพยาบาลท างานร่วมกับ CBO โรงพยาบาล
ควรปรับปรุงอย่างยิ่ง (0-1) 5.26 8.33 2.73
ควรปรับปรุง(2-3) 0.00 2.08 3.64
พอใช้ (4-5) 0.00 12.50 18.18
ดี (6-7) 34.21 45.83 35.45
ดีมาก (8-9) 60.53 31.25 40.00


ควรปรับปรุงอย่างยิ่ง (0-1) ควรปรับปรุง(2-3) พอใช้ (4-5) ดี (6-7) ดีมาก (8-9)



สิ่งสนับสนุนที่ต้องการจากกรมควบคุมโรค และสปสช.

มีผู้ให้บริการ PrEP ตอบคำถามด้านสิ่งสนับสนุนที่ต้องการ 3 อันดับแรกจากกรมควบคุมโรค และสปสช.

จำนวน 129 คน (101 คน จากโรงพยาบาล, 28 คน จากองค์กรภาคประชาสัมคม) เมื่อพิจารณาสิ่งสนับสนุนที่
ต้องการเฉพาะในลำดับที่ 1 พบว่าสิ่งสนับสนุนที่ต้องการมากที่สุดเป็นอันดับแรกคือ การสร้างความมั่นใจใน

ประสิทธิภาพและความรู้ความตระหนักเกี่ยวกับยา PrEP (25.58%) รองลงมาคือการจัดอบรมทักษะให้ความรู้

(13.95%), การให้สิทธิ์รับยา PrEP ฟรี โดยไม่จำกัด (9.03%), ปริมาณยาที่เพียงพอ (8.52%), เงินทุนสนับสนุน

(6.98%), อัตรากำลังคน (6.98%) และถุงยางอนามัยฟรี (6.98%) โดยเฉพาะถุงยางอนามัยขนาด size 56 หรือ

ใหญ่กว่า (ตารางที่ 4.2) ความต้องการของผู้ให้บริการในฝั่งโรงพยาบาลและองค์กรภาคประชาสังคมหรือ KPLHS

มีความคล้ายคลึงกัน โดยพบว่าผู้ให้บริการจาก KPLHS มีความต้องการสนับสนุนในการสร้างความมั่นใจใน

ประสิทธิภาพยา PrEP มากที่สุด (21.43%) รองลงมาคือการอบรมทักษะให้ความรู้ (17.86%) ตามด้วยการรับรอง
สมรรถภาพขึ้นทะเบียน และให้สิทธิ์รับ PrEP ฟรี โดยไม่จำกัดจำนวน (10.71%) ในขณะที่ผู้ให้บริการจากฝั่ง

โรงพยาบาลมีความต้องการการสนับสนุนในด้านความมั่นใจในประสิทธิภาพและความตระหนักในยา PrEP มาก

ที่สุด (26.73%) รองลงมากคือการอบรมให้ความรู้ (12.87%) และปริมาณยาที่เพียงพอไม่ขาด stock (9.09%)

ตามลำดับ (ตารางที่ 4.2)



[142] บทที่ 3 ผลการวิจัย

เมื่อจำแนกความต้องการการสนับสนุนจากส่วนกลางเป็น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ ด้านวัสดุ อุปกรณ์

สถานที่ กำลังคน, ด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักเรื่อง PrEP, ด้านระบบการให้บริการ, และด้าน

การจัดอบรมให้ความรู้ ในภาพรวมตามความต้องการของผู้ให้บริการทั้งหมดพบว่ามีความต้องการการสนับสนุนใน

ด้านวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ กำลังคน (36.43%) มากที่สุด รองลงมาคือด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างความ
ตระหนักเรื่อง PrEP (27.91%), ด้านระบบการให้บริการ (18.60%) และด้านการจัดอบรมให้ความรู้ (13.95%)

ตามลำดับ ซึ่งใกล้เคียงกับความต้องการของผู้ให้บริการจากหน่วยบริการประเภทโรงพยาบาล ในขณะที่ผู้ให้บริการ

จาก KPLHS มีความต้องการการสนับสนุนในด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักในเรื่อง PrEP มาก

ที่สุด (32.14%) รองลงมาคือด้านวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ กำลังคน ซึ่งเท่ากับด้านระบบการให้บริการ (25.00%)

ตามมาด้านด้านการจัดอบรมให้ความรู้เพียง 17.86%
เมื่อพิจารณาสิ่งสนับสนุนที่ต้องการจากส่วนกลางรวมกันทั้ง 3 ลำดับ พบว่าสิ่งสนับสนุนที่ผู้ให้บริการ

PrEP จากหน่วยบริการประเภทโรงพยาบาลต้องการมากที่สุดคือด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนัก

เรื่อง PrEP (50.50%) ตามด้วยการอบรมทักษะให้ความรู้เรื่อง PrEP (35.64%), อื่น ๆ ซึ่งรวมถึงค่าตรวจ

ห้องปฏิบัติการ, ค่าเดินทางสำหรับผู้มารับยา PrEP, การทำงานเชิงรุก, ค่าตอบแทนผู้ให้บริการ, การแยกการ

บริการ PrEP ออกจากการให้บริการคลินิกยาต้านไวรัส (26.73%), เงินทุนสนับสนุน (23.76%) และด้านกำลังคน

(20.79%) ส่วนฝั่งผู้ให้บริการจาก KPLHS มีความต้องการการสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์และความ
ตระหนักในเรื่อง PrEP มากที่สุด (60.71%) ตามมาด้วยการอบรมทักษะให้ความรู้ (50.00%), ให้สิทธิ์รับ PrEP ฟรี

โดยไม่จำกัดโควต้า (35.71%), และเงินทุนสนับสนุน (17.86%)

โดยเมื่อจำแนกความต้องการการสนับสนุนจากส่วนกลางทั้ง 3 ลำดับเป็น 4 ประเด็นหลักผู้ให้บริการส่วน

ใหญ่มีความต้องการการสนับสนุนในด้านวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ กำลังคนมากที่สุด (90.70%) รองลงมาคือการ

ประชาสัมพันธ์และความตระหนักในเรื่อง PrEP (55.81%), ระบบการให้บริการ (41.86%) และการอบรมทักษะ

ให้ความรู้เรื่อง PrEP (38.76%) (ตารางที่ 4.2)































รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [143]

ตารางที่ 4.2 สิ่งสนับสนุนที่ต้องการจากจากกรมควบคุมโรค และสปสช.อันดับแรกและ 3 อันดับแรก

รูปแบบการบริการ

สิ่งสนับสนุนอันดับแรกที่ โรงพยาบาล (%) (N=101) KPLHS (%) (N=28) ทั้งหมด (%) (N=129)

ต้องการจากส่วนกลาง* เฉพาะลำดับที่ เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3 เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3
1 รวมทั้ง 3 ลำดับ 1 ลำดับ 1 ลำดับ
[144] บทที่ 3 ผลการวิจัย
การอบรมและทักษะ 13 (12.87) 36 (35.64) 5 (17.86) 14 (50.00) 18 (13.95) 50 (38.76)
วัสดุอุปกรณ์ สถานที่ กำลังคน 40 (39.60) 101 (100) 7 (25.00) 16 (57.14) 47 (36.43) 117 (90.70)

- เงินทุนสนับสนุน 8 (7.92) 24 (23.76) 1 (3.57) 5 (17.86) 9 (6.98) 29 (22.48)
- กำลังคน 7 (6.93) 21 (20.79) 2 (7.14) 3 (10.71) 9 (6.98) 24 (18.6)

- สื่อสำหรับคนไข้ เช่น คลิป
อธิบายเรื่องการทานยา 3 (2.97) 17 (16.83) 2 (7.14) 3 (10.71) 5 (3.88) 20 (15.50)

รับมือกับอาการข้างเคียง
- ถุงยางอนามัยฟรี 9 (8.91) 15 (14.85) 0 1 (3.57) 9 (6.98) 16 (12.40)
- ยาที่เพียงพอไม่ขาด stock 10 (9.09) 13 (12.87) 1 (3.57) 1 (3.57) 11 (8.52) 14 (10.85)

- สถานที่ให้คำปรึกษา 2 (1.98) 6 (5.94) 0 2 (7.14) 2 (1.55) 8 (6.20)

- คู่มือมาตรฐานการดำเนินงาน 1 (0.99) 5 (4.95) 1 (3.57) 1 (3.57) 2 (1.55) 6 (4.65)
ด้าน PrEP
การประชาสัมพันธ์และสร้าง
27 (26.73) 52 (51.49) 9 (32.14) 20 (71.43) 36 (27.91) 72 (55.81)
ความตระหนักเรื่อง PrEP

- สร้างความมั่นใจใน
ประสิทธิภาพยา PrEP, สร้าง 27 (26.73) 51 (50.50) 6 (21.43) 17 (60.71) 33 (25.58) 68 (52.71)
ความรู้ความเข้าใจและ

ตารางที่ 4.2 สิ่งสนับสนุนที่ต้องการจากจากกรมควบคุมโรค และสปสช.อันดับแรกและ 3 อันดับแรก

รูปแบบการบริการ

สิ่งสนับสนุนอันดับแรกที่ โรงพยาบาล (%) (N=101) KPLHS (%) (N=28) ทั้งหมด (%) (N=129)

ต้องการจากส่วนกลาง* เฉพาะลำดับที่ เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3 เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3
1 รวมทั้ง 3 ลำดับ 1 ลำดับ 1 ลำดับ
[144] บทที่ 3 ผลการวิจัย
การอบรมและทักษะ 13 (12.87) 36 (35.64) 5 (17.86) 14 (50.00) 18 (13.95) 50 (38.76)
วัสดุอุปกรณ์ สถานที่ กำลังคน 40 (39.60) 101 (100) 7 (25.00) 16 (57.14) 47 (36.43) 117 (90.70)

- เงินทุนสนับสนุน 8 (7.92) 24 (23.76) 1 (3.57) 5 (17.86) 9 (6.98) 29 (22.48)
- กำลังคน 7 (6.93) 21 (20.79) 2 (7.14) 3 (10.71) 9 (6.98) 24 (18.6)

- สื่อสำหรับคนไข้ เช่น คลิป
อธิบายเรื่องการทานยา 3 (2.97) 17 (16.83) 2 (7.14) 3 (10.71) 5 (3.88) 20 (15.50)

รับมือกับอาการข้างเคียง
- ถุงยางอนามัยฟรี 9 (8.91) 15 (14.85) 0 1 (3.57) 9 (6.98) 16 (12.40)
- ยาที่เพียงพอไม่ขาด stock 10 (9.09) 13 (12.87) 1 (3.57) 1 (3.57) 11 (8.52) 14 (10.85)

- สถานที่ให้คำปรึกษา 2 (1.98) 6 (5.94) 0 2 (7.14) 2 (1.55) 8 (6.20)

- คู่มือมาตรฐานการดำเนินงาน 1 (0.99) 5 (4.95) 1 (3.57) 1 (3.57) 2 (1.55) 6 (4.65)
ด้าน PrEP
การประชาสัมพันธ์และสร้าง
27 (26.73) 52 (51.49) 9 (32.14) 20 (71.43) 36 (27.91) 72 (55.81)
ความตระหนักเรื่อง PrEP

- สร้างความมั่นใจใน
ประสิทธิภาพยา PrEP, สร้าง 27 (26.73) 51 (50.50) 6 (21.43) 17 (60.71) 33 (25.58) 68 (52.71)
ความรู้ความเข้าใจและ

รูปแบบการบริการ
สิ่งสนับสนุนอันดับแรกที่ โรงพยาบาล (%) (N=101) KPLHS (%) (N=28) ทั้งหมด (%) (N=129)

ต้องการจากส่วนกลาง* เฉพาะลำดับที่ เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3 เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3
1 รวมทั้ง 3 ลำดับ 1 ลำดับ 1 ลำดับ

ทัศนคติต่อผู้ใช้ยา PrEP
- การรับรองสมรรถภาพขึ้น

ทะเบียน 0 1 (0.99) 3 (10.71) 3 (10.71) 3 (2.33) 4 (3.10)
ระบบการให้บริการ 17 (16.83) 36 (35.64) 7 (25.00) 18 (64.29) 24 (18.60) 54 (41.86)

- ให้สิทธิ์รับ PrEP ฟรี โดย 9 (8.91) 18 (17.82) 3 (10.71) 10 (35.71) 12 (9.03) 28 (21.71)
ไม่จำกัดจำนวน

- พัฒนาระบบข้อมูลไม่ให ้
ซ้ำซ้อน 5 (4.95) 14 (13.86) 1 (3.57) 3 (10.71) 6 (4.65) 17 (13.18)

- เพิ่มจำนวนศูนย์ให้บริการ
ยา PrEP 3 (2.97) 3 (2.97) 2 (7.14) 3 (10.71) 5 (3.88) 6 (4.56)

- เพิ่มบทบาทของ
KPLHS/CBO ในการจัดการ 0 1 (0.99) 1 (3.57) 2 (7.14) 1 (0.78) 3 (2.33)
ยา PrEP

อื่น ๆ† 4 (3.96) 27 (26.73) 0 3 (10.71) 4 (3.10) 30 (23.26)

หมายเหตุ: *มีผู้ตอบคำถามด้านสิ่งสนับสนุนที่ต้องการจำนวน 129 คน (101 คน จากโรงพยาบาล, 28 คน จากองค์กรภาคประชาสัมคม); † รวมถึงค่าตรวจห้องปฏิบัติการ, ค่าเดินทางสำหรับผู้มารับยา PrEP, การ
ทำงานเชิงรุก, ค่าตอบแทนผู้ให้บริการ, การประสานงานที่มีประสิทธิภาพจาก สปสช., สนับสนุนยา PrEP on demand, ความน่าเชื่อถือในบรรจุภัณฑ์ยา PrEP, บริการ hotline 24 ชั่วโมงตอบปัญหาเกี่ยวกับยา
PrEP






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [145]

รูปแบบการบริการ
สิ่งสนับสนุนอันดับแรกที่ โรงพยาบาล (%) (N=101) KPLHS (%) (N=28) ทั้งหมด (%) (N=129)

ต้องการจากส่วนกลาง* เฉพาะลำดับที่ เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3 เฉพาะลำดับที่ รวมทั้ง 3
1 รวมทั้ง 3 ลำดับ 1 ลำดับ 1 ลำดับ

ทัศนคติต่อผู้ใช้ยา PrEP
- การรับรองสมรรถภาพขึ้น

ทะเบียน 0 1 (0.99) 3 (10.71) 3 (10.71) 3 (2.33) 4 (3.10)
ระบบการให้บริการ 17 (16.83) 36 (35.64) 7 (25.00) 18 (64.29) 24 (18.60) 54 (41.86)

- ให้สิทธิ์รับ PrEP ฟรี โดย 9 (8.91) 18 (17.82) 3 (10.71) 10 (35.71) 12 (9.03) 28 (21.71)
ไม่จำกัดจำนวน

- พัฒนาระบบข้อมูลไม่ให ้
ซ้ำซ้อน 5 (4.95) 14 (13.86) 1 (3.57) 3 (10.71) 6 (4.65) 17 (13.18)

- เพิ่มจำนวนศูนย์ให้บริการ
ยา PrEP 3 (2.97) 3 (2.97) 2 (7.14) 3 (10.71) 5 (3.88) 6 (4.56)

- เพิ่มบทบาทของ
KPLHS/CBO ในการจัดการ 0 1 (0.99) 1 (3.57) 2 (7.14) 1 (0.78) 3 (2.33)
ยา PrEP

อื่น ๆ† 4 (3.96) 27 (26.73) 0 3 (10.71) 4 (3.10) 30 (23.26)

หมายเหตุ: *มีผู้ตอบคำถามด้านสิ่งสนับสนุนที่ต้องการจำนวน 129 คน (101 คน จากโรงพยาบาล, 28 คน จากองค์กรภาคประชาสัมคม); † รวมถึงค่าตรวจห้องปฏิบัติการ, ค่าเดินทางสำหรับผู้มารับยา PrEP, การ
ทำงานเชิงรุก, ค่าตอบแทนผู้ให้บริการ, การประสานงานที่มีประสิทธิภาพจาก สปสช., สนับสนุนยา PrEP on demand, ความน่าเชื่อถือในบรรจุภัณฑ์ยา PrEP, บริการ hotline 24 ชั่วโมงตอบปัญหาเกี่ยวกับยา
PrEP






รายงานการประเมินผลการดำเนินงาน PrEP ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์สปสช. ปีงบประมาณ 2563 [145]


Click to View FlipBook Version