ลบั คมตดั
คมตัด
าเคร่อื งเจยี ระไนลบั คมตดั
สมรรถนะประจาหนว่ ย
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับชนิดและส่วนประกอบ
ของเครอ่ื งเจียระไนลบั คมตดั
2. แสดงความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมือและอุปกรณ์
ที่ใชใ้ นการเจยี ระไนลับคมตดั
3. แสดงความรู้เกี่ยวกับล้อหินและการปาดหน้า
ล้อหนิ เจยี ระไนลบั คมตัด
4. แสดงความรู้เก่ียวกับการลับมีดกลึงปาดหน้า
การลบั มดี กลงึ ปอกขวา และการลบั ดอกสวา่ น
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกชนิดและส่วนประกอบของเคร่ือง
เจียระไนลับคมตัดได้
2. อธิบายวิธีการใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ท่ีใช้
ในการเจียระไนลับคมตดั ได้
3. บอกชนิดของล้อหินและการปาดหน้าล้อหิน
เจยี ระไนลับคมตดั ได้
4. อธิบายหลักความปลอดภัยในการใช้และ
การบารงุ รกั ษาเคร่ืองเจยี ระไนลับคมตัดได้
5. บอกวิธกี ารกลึงปาดหน้าได้
6. บอกวิธกี ารกลึงปอกได้
7. บอกวิธกี ารลบั ดอกสว่านได้
ชนดิ ของเคร่อื งเจียระไนลบั คมต
เคร่อื งเจียระไนแบบตงั้ โตะ๊ (Bench Grinding)
ตดั
)
เคร่อื งเจยี ระไนแบบต้งั พน้ื (Floor Grinding)
ส่วนประกอบของเคร่อื งเจยี ระไน
สวติ ชเ์ ครอื่ ง
ฝาครอบล้อหนิ
แท่นรองรับงาน
โต๊ะรบั งาน
ฐานเครื่อง
นลบั คมตัด
แผ่นกระจกนริ ภยั
ล้อหินเจียระไน
มอเตอร์
ถังน้าหล่อเย็น
เครอื่ งมอื และอปุ กรณท์ ใี่ ช้ในกา
เกจว
ใบวดั มมุ
เกจวดั มุมเกลียวสามเหล่ยี ม
ารเจยี ระไนลบั คมตัด
วดั มุมเกลียวส่ีเหลี่ยมคางหมู
เกจวดั มมุ ดอกสว่าน
ล้อหินและการปาดหน้าลอ้ หนิ เจ
การเลือกลอ้ หนิ เจียระไน • ขนาดเส้นผา่ นศ
• ความหนาของล
• ขนาดเสน้ ผ่านศ
การปรับศนู ยล์ อ้ หนิ ก่อนน่าหินเจียระไน
ให้ได้ศูนย์กอ่ นจึงจะน
การปรับแตง่ หน้าลอ้ หนิ เมื่อล้อหินเจียระไน
เรยี บสมา่ เสมอตอ้ งแ
จยี ระไนลบั คมตัด
ศูนย์กลางโตนอกของล้อหินเจยี ระไน
ล้อหนิ เจียระไน
ศนู ยก์ ลางรูในของลอ้ หนิ เจยี ระไน
นมาใช้ครั้งแรก จะต้องท่าการปรับศูนย์ล้อหินเจียระไน
ะน่าไปตดิ ตง้ั กบั เครอ่ื งเจยี ระไน
นผ่านการใช้งานแล้วอาจไม่คมหรือมีรอยบ่ิน หน้าไม่
แตง่ หนา้ หินให้เรียบพรอ้ มใชง้ านตลอดเวลา
ความปลอดภัยในการใชแ้ ละกา
ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องเจียระไน
• ตรวจสอบความพร้อมของเครือ่ งเจยี ระไนก
• การแตง่ กายต้องรัดกมุ ไมร่ ่มุ ร่าม
• ต้องสวมแวน่ ตานิรภยั ทุกคร้งั ทป่ี ฏบิ ัตงิ าน
• จะตอ้ งมีกระจกนิรภัยและอยใู่ นสภาพพร้อม
• ตอ้ งปรบั ระยะหา่ งแท่นรองรับงานให้อยใู่ นร
• เมอื่ ลอ้ หนิ เจยี ระไนไม่คมหรอื เกิดรอยบิน่ จ
• หา้ มใชผ้ ้าจบั เคร่อื งมอื ตัดหรือช้นิ งานท่นี า่ ม
• ในขณะเริม่ เปิดสวิตชเ์ ครอ่ื งเจยี ระไนเพ่ือปฏ
• เคร่ืองเจยี ระไนทกุ เครอื่ งจะตอ้ งมกี ารติดตง้ั
ารบารงุ รกั ษาเครอ่ื งเจียระไนลบั คมตัด
กอ่ นเปดิ เครอ่ื งใชง้ านทกุ ครง้ั
มใช้งาน เพื่อปอ้ งกันเศษโลหะ
ระยะหา่ งไมเ่ กนิ 3 มิลลิเมตร
จะต้องท่าการแต่งหนา้ ล้อหนิ เจียระไนใหม่
มาเจยี ระไน
ฏบิ ตั งิ านจะต้องระมัดระวงั ไมย่ ืนตรงกบั ลอ้ หินเจยี ระไน
งสายดินเพอื่ ปอ้ งกนั ไฟฟา้ ดดู
ความปลอดภยั ในการใช้และกา
การบา้ รุงรักษาเครอ่ื งเจียระไนลบั คมตดั
• หมนั่ ตรวจดูความเรียบรอ้ ยของเครอ่ื งเจียระ
• ตรวจดูล้อหินเจียระไนวา่ มีรอยร้าวหรือรอย
• ควรดูแลรกั ษามอเตอร์ คอยตรวจสอบเสยี ง
• ตอ้ งตรวจสอบระยะห่างของแทน่ รองรับงาน
• หลงั จากเลิกใช้งานควรปิดสวติ ช์และทา่ ควา
ารบารุงรักษาเคร่ืองเจียระไนลบั คมตดั
ะไนทกุ จุดใหอ้ ยู่ในสภาพดี และพรอ้ มใช้งานเสมอ
ยบน่ิ หรือไม่
งของมอเตอร์ว่ามีเสยี งดังผิดปกติหรอื ไม่
นอยู่เสมอ
ามสะอาดเครื่องเจยี ระไนทุกคร้ัง
ความปลอดภัยในการใชแ้ ละกา
ข้ันตอนการท้างานของเครอ่ื งเจียระไนลบั คมตัด
• เตรียมเคร่ืองมือตัดหรือช้ินงานท่ีต้องการเจ
เข้าใจก่อนลงมือปฏิบตั งิ าน
• ตรวจสอบความพรอ้ มและความเรยี บรอ้ ยข
• เปิดสวิตชต์ า่ งๆ ตามข้นั ตอนให้เครื่องเจยี ระ
• ทา่ การลับมดี ตดั หรือชิ้นงานทเี่ ตรียมไว้ตาม
• เมื่อทา่ งานเสรจ็ กป็ ดิ สวิตชใ์ หเ้ รียบร้อย
• ท่าความสะอาดหลงั จากเลิกใช้งานพร้อมตร
ารบารงุ รกั ษาเคร่อื งเจียระไนลบั คมตดั
จียระไนให้พร้อม ศึกษาวิธีการและหลักการท่างานให้
ของเครือ่ งเจียระไนลบั คมตัดทจ่ี ะใช้
ะไนหมนุ
มขัน้ ตอนที่ได้ศึกษามา
รวจดูความเรียบรอ้ ยของเครอ่ื งเจียระไน
การลบั มดี กลงึ ปาดหน้า
ขัน้ ตอนการลับมีดกลงึ ปาดหนา้
1. ศึกษาแบบงานใหเ้ ข้าใจ
2. ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยของเคร่อื งเจียระไน
3. รา่ งต่าแหน่งท่จี ะท่าการลบั บนมีดกลงึ
4. เปิดสวติ ชเ์ ครือ่ งโดยไมย่ ืนอยูห่ น้าล้อหนิ โดยตรง
5. เคล่ือนคมตัดของมีดกลงึ เขา้ หาล้อหนิ เจียระไนชา้ ๆ
6. ลบั มุมต่างๆ ตามทไ่ี ด้รา่ งต่าแหนง่ ไว้
การลบั มดี กลงึ ปอกขวา
ขั้นตอนการลบั มีดกลึงปอกขวา
1. ศึกษาแบบงานให้เขา้ ใจ
2. ตรวจสอบความเรยี บร้อยของเคร่ืองเจียระไน
3. รา่ งต่าแหนง่ ท่จี ะทา่ การลับบนมีดกลึง
4. ลับมุมต่างๆ ตามที่ได้รา่ งตา่ แหน่งไว้
การลบั ดอกสวา่ น
ขนั้ ตอนการลับดอกสว่าน
1. ตรวจสอบสภาพเครือ่ งเจียระไนก่อนท่าการลับ
2. ปรบั แท่นรองรบั งานให้หา่ งหินเจยี ระไนประมาณ 2-3
3. ตรวจสอบมุมของดอกสวา่ นกอ่ นท่าการลบั
4. จับดอกสว่านใหถ้ กู วิธี เพือ่ ช่วยใหก้ ารหมุนลับดอกสวา่
5. ตอ้ งใหแ้ กนดอกสวา่ นทา่ มุม 59 องศา กับผวิ หน้าหนิ เจ
6. ขณะลับต้องน่าดอกสว่านจุ่มน้่าหล่อเย็นเป็นระยะ เพ
มมุ เทา่ กันตามตอ้ งการ
มลิ ลเิ มตร
านได้สะดวก
จยี ระไน เพ่ือใหไ้ ดม้ ุมท่ปี ลายดอกสว่านที่ถกู ต้อง
พื่อระบายความร้อน ลับดอกสว่านสลับกันทีละข้างจนได้ขนาด
การลบั ดอกสวา่ น
วธิ ีการลับดอกสวา่ น
1. หนิ เจียระไนจะต้องหมนุ เขา้ หาตวั
2. ตรวจสอบมมุ ของดอกสว่าน
3. วางดอกสว่านบนแท่นรองรับ ใช้มือซ้ายจับที่ปลายดอ
กา้ นดอกสวา่ น
4. กดกา้ นดอกสวา่ นลงให้ดา้ นผิวหลบหลังคมตดั ด้านหนา้
5. ลักษณะท่ีคมด้านนอกสัมผัสหน้าหินเจียระไนตอนเ
ขณะลับดอกสว่านต้องจุ่มน่้าระบายความร้อนเป็นระ
และแท่นรองรบั เบาๆ จบั ดา้ นหมุนและกดเขา้ หาหินเจ
อกสว่าน ห่างออกมาประมาณ 40 มิลลิเมตร และมือขวาจับท่ี
า (Flank) สัมผสั หนา้ หนิ เจยี ระไน
เร่ิมเจียระไนด้านผิวหลบหลังคมตัดด้านหน้าของดอกสว่าน
ยะ ไม่ให้ปลายคมจิกดอกสว่านไหม้ กดดอกสว่านกับหน้าหิน
จยี ระไนเพยี งเบาๆ พร้อมกับหมนุ เล็กน้อย
สรุป เคร่ืองเจียระไนลับคมตัดเป็นเครื่อง
ได้อยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ใช้ส่าหรบั ลับคมตัดตา่
ยังสามารถเจียระไนตกแต่งช้ินงานต่างๆ ได้ โ
ลับคมตัด เคร่ืองเจียระไนลับคมตัดโดยทั่วไปส
(Bench Grinding) จะยดึ ตดิ อยกู่ บั โต๊ะเพ่ือเพ
เจียระไนแบบต้ังพื้น (Floor Grinding) จะมีข
ท่าใหเ้ ครอื่ งเจยี ระไนมีความมน่ั คงแขง็ แรงกวา่
งมือกลพื้นฐานชนิดหนึ่งท่ีมีประโยชน์มากสามารถท่างาน
างๆ ของเครื่องมอื ตดั ไดแ้ ก่ มดี กลงึ มดี ไส ดอกสว่าน และ
โดยค่านึงถึงเรื่องความปลอดภัยชนิดของเครื่องเจียระไน
สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือเคร่ืองเจียระไนแบบตั้งโต๊ะ
พิ่มความสูง ตลอดจนความสะดวกในการใช้งาน และเคร่ือง
ขนาดใหญ่กว่าแบบต้ังโต๊ะ มีฐานเครื่องเพื่อใช้ยดึ ติดกับพ้ืน
าเครือ่ งเจยี ระไนแบบตัง้ โต๊ะ
3 เครอ่ื
องเลื่อยกล
สาระสาคญั
การเล่ือย คือการตัดชิ้นงานออกด้วยใบเ
หรือคมสกัดจานวนมากเรียงกันเป็นแถว ฟันเล่ือ
ให้เป็นร่องจนช้ินงานขาดออกจากกัน การเลื่อยจ
ด้วยเลื่อยไฟฟ้า หรือเรียกว่า เลื่อยด้วยเคร่ืองเล
ช้ินงานอุตสาหกรรมมาก เพราะสามารถเลื่อยช
ขนาดเลก็ และขนาดใหญ่
เลื่อยที่มีคมเล็กๆ หลายๆ คม คล้ายคมส่ิว
อยจะกัดช้ินงานพร้อมๆ กัน ทีละหลายฟัน
จาแนกเป็นการเลื่อยด้วยมือ และการเล่ือย
ลื่อยกล ซึ่งมีความจาเป็นสาหรับงานเลื่อย
ชิ้นงานจานวนมากได้รวดเร็วท้ังช้ินงานท่ีมี
สาระการเรียนรู้
1. ชนิดของเครื่องเลื่อยกล
2. สว่ นประกอบที่สาคัญของเครื่องเลอ่ื ยชัก
3. ส่วนประกอบทส่ี าคัญของเครื่องเลือ่ ยสายพ
4. สว่ นประกอบที่สาคัญของเครื่องเลอื่ ยสายพ
5. ส่วนประกอบทส่ี าคัญของเคร่ืองเล่ือยวงเดอื
พานแนวนอน
พานแนวต้งั
อน
สมรรถนะประจาหน่วย
1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับชนิดและความสาคญั ข
2. แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั ส่วนประกอบท่ีสาคัญข
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของเคร
2. บอกส่วนประกอบทสี่ าคัญของเครื่องเลอ่ื ยช
3. บอกส่วนประกอบที่สาคญั ของเครื่องเลื่อยส
4. บอกส่วนประกอบทส่ี าคัญของเคร่อื งเลื่อยส
5. บอกสว่ นประกอบทสี่ าคญั ของเคร่อื งเลอื่ ยว
ของเคร่ืองเลอื่ ย
ของเครอ่ื งเลอื่ ย
รอื่ งเล่ือยได้
ชกั ได้
สายพานแนวนอนได้
สายพานแนวตง้ั ได้
วงเดอื นได้
ชนดิ ของเครอื่ งเลอ่ื ยกล
เครื่องเลอื่ ยชัก (Power Hacksaw)
เคร่อื
องเลอ่ื ยสายพานแนวนอน (Horizontal Bandsaw)
ชนิดของเครอ่ื งเลือ่ ยกล
เคร่อื งเลอ่ื ยวงเดือน (Circular Saw/Radius Saw)
เค
)
คร่อื งเลอ่ื ยสายพานแนวต้งั (Vertical Bandsaw)
สว่ นประกอบทส่ี าคญั ของเครื่อง
โครงเลอื่ ย
ใบเลื่อย
ปากกาจับงาน
มือหมุนปากกาจับชิน้ งาน
ฐานเครื่อง
งเล่อื ยชัก
ระบบป้อนตัด
ระบบหลอ่ เยน็
สวิตชห์ ยุดฉกุ เฉิน
ระบบไฟฟ้าชดุ สง่ กาลงั
แขนตง้ั ระยะงาน
สว่ นประกอบทสี่ าคญั ของเครอ่ื ง
วธิ ีการใช้งานเครอื่ งเลื่อยชัก
• ตรวจสอบความตึงของใบเลอ่ื ยและเลอื กใช้ใ
• วดั ชน้ิ งานให้ไดต้ ามขนาดที่ตอ้ งการและปรบั
• ยกโครงเลื่อยข้นึ และทาการตรวจสอบไฮดร
• กดเปิดสวิตช์เครื่องและเปดิ วาล์วน้ามนั หล่อ
• กดสวิตชป์ ดิ เพือ่ ทดสอบว่าเครอ่ื งหยดุ ทางา
• หมนุ สวิตช์ Emergency ตามทศิ ทางลูกศรเ
• ปรับไฮดรอลกิ เพ่ือกาหนดอตั ราป้อนการตดั
• เม่อื ตัดชิน้ งานขาดแล้วกดสวิตชป์ ิด/Emerg
งเลือ่ ยชกั
ใบเลอ่ื ยใหเ้ หมาะสมกบั วัสดุ
บตัวปรับระยะตดั ชิ้นงานใหช้ นช้นิ งาน
รอลิกเพื่อปรับความเร็วในการตัดชิ้นงาน
อเย็น
านหรือไม่ถ้าหยุดให้ทาการเปิดเครอ่ื งอีกครั้ง
เลก็ นอ้ ยเพือ่ ใหส้ ามารถเปดิ เคร่ืองได้ตามปกติ
ดชนิ้ งาน
gency เคร่อื งเลือ่ ยจะหยุดทางาน แลว้ ยกโครงเล่อื ยข้นึ
ส่วนประกอบที่สาคญั ของเครอื่ ง
การบารุงรกั ษาเครือ่ งเลือ่ ยชกั
• ก่อนใช้เครือ่ งเลอื่ ยชักทกุ คร้ังควรหยอดน้าม
• หลงั เลกิ ใชง้ านทุกคร้ังควรทาความสะอาด แ
• ควรเปลยี่ นนา้ หลอ่ เย็นทุกๆ สัปดาห์
• ตรวจสอบกระบอกสบู นา้ มนั ไฮดรอลิกวา่ ร่วั
• ตรวจสอบสายพาน พูลเลย์ เฟอื งทด ปม๊ั นา้
งเลอื่ ยชัก
มนั หลอ่ ล่ืนตรงบริเวณจดุ ที่เคลอ่ื นที่
และใช้ผ้าคลมุ เครือ่ งปอ้ งกันฝุ่นละออง
วซึมหรอื ไม่
าหลอ่ เย็นเพื่อให้พรอ้ มใช้งาน
สว่ นประกอบท่ีสาคญั ของเครอ่ื ง
ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่อื งเลือ่ ยชัก
• ก่อนใชเ้ คร่อื งเล่ือยชกั ทุกคร้ังต้องตรวจสอบ
• บบี ปากกาจับช้นิ งานใหแ้ น่นก่อนเปดิ สวติ ช์เ
• ห้ามตัดชน้ิ งานที่มีความยาวนอ้ ยกวา่ ปากขอ
• เมอ่ื ต้องการตดั ชิน้ งานยาวๆ ควรมีฐานรองร
• กอ่ นตัดตอ้ งยกใบเลอ่ื ยใหห้ า่ งจากช้ินงานปร
• การปอ้ นตดั ด้วยระบบไฮดรอลกิ มากเกนิ ไป
• เหล็กหล่อ ทองเหลือง ทองแดง และอะลูมิเ
• ไมค่ วรก้มหนา้ เข้าใกลโ้ ครงเลอื่ ยชักขณะจะเ
• ขณะเครือ่ งเลือ่ ยชกั กาลงั ตดั ช้ินงานห้ามหม
งเลื่อยชกั
บความพร้อมของเคร่อื งเสมอ
เครอ่ื งทางาน
องปากกาจับงานเพราะจะทาให้ใบเล่ือยหกั
รับงานมารองรับที่ปลายชิ้นงานทุกครงั้
ระมาณ 10 มิลลเิ มตร
ปจะทาใหใ้ บเลือ่ ยหกั
เนยี มควรหลอ่ เย็นให้ถกู ประเภท
เปดิ สวิตชเ์ ดนิ เคร่อื งเลอื่ ยใหท้ าางาน
มุนถอยปากกาจบั งานออกเปน็ อันขาด
ส่วนประกอบทีส่ าคญั ของเครอื่ ง
ปากกาจบั ชน้ิ งาน สวิต
วาล์วนา้ มันหลอ่ เย็น
มอื หมนุ ลอ็ กปากกา
ปั๊มนา้ มนั หล่อเยน็
งเลื่อยสายพานแนวนอน
ตช์หยุดฉุกเฉิน กระปกุ เกียร์
ชุดพลู เลย์
มอเตอร์
ชดุ กระบอกไฮดรอลกิ
แมกเนติก
ส่วนประกอบท่ีสาคญั ของเครอ่ื ง
วิธกี ารใช้งานเครอ่ื งเลื่อยสายพาน
• ตรวจสอบความตงึ ของใบเล่อื ยและเลือกใชใ้
• ตรวจสอบสายพานความเร็วในการตดั ใหเ้ ห
• ตรวจสอบลกู กลง้ิ ประคองใบเล่อื ยให้อยู่ชดิ ก
• วัดช้ินงานใหไ้ ด้ตามขนาดที่ตอ้ งการ
• ตรวจสอบไฮดรอลกิ เพอ่ื ปรับความเรว็ ในกา
• ปรับไฮดรอลิกเพอ่ื กาหนด Feed การตัดช้ิน
• หลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรลดความตึง
เพอ่ื เพม่ิ อายกุ ารใชง้ าน