The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อาราดา ลักษณ์นารา, 2022-09-15 00:47:09

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

โมเดล RGB ตามหลกั การแสดงสขี องเคร่ืองคอมพิวเตอร์

ภาพแสดงแสงสีแดง เขยี ว และ น้ำเงนิ ที่ผสมกันเป็นสีต่าง ๆ
โมเดล RGB เกิดจากการรวมกันของสเปกตรัมของแสงสีแดง (Red) , เขียว (green) , และน้ำเงิน
(Blue) ในสัดส่วนความเข้มข้นที่แตกต่างกัน โดยจุดที่แสงทั้งสามสีรวมกันจะเป็นสีขาว นิยมเรียกการผสมสี
แบบนี้วา่ “Additive Color” แสงสี RGB มกั จะถูกใช้สำหรบั การส่องแสงทง้ั บนจอภาพทีวีและจอคอมพิวเตอร์
ซง่ึ สร้างจากสารที่ทำให้เกดิ แสงสแี ดงสีเขียว และสีน้ำเงนิ ทำให้สีดูสวา่ งกวา่ ความเป็นจริง
โมเดล CMYK ตามหลักการแสดงสขี องเคร่ืองพิมพ์

ภาพแสดงหมกึ พิมพ์ ฟา้ บานเยน็ เหลอื ง และสีดำ
โมเดล CMYK มีแหล่งกำเนิดสีอยู่ที่การซึมซับ (Absorb) ของหมึกพิมพ์บนกระดาษ โดยมีสีพื้นฐาน
คือ สีฟ้า (Cyan) สีบานเย็น (Magenta) และสีเหลือง (Yellow) โดยเรียกการผสมสีทั้ง 3 สีข้างต้นว่า
“Subtractive color” แตส่ ี CMY กไ็ ม่สามารถผสมรวมกนั ใหไ้ ด้สีบางสี เช่น สีน้ำตาล จึงตอ้ งมกี ารเพ่ิม สีดำ
(Black) ลงไปฉะน้นั เม่ือรวมกนั ทงั้ 4 สี คอื CMYK สีทีไ่ ดจ้ ากการพิมพ์ จึงจะครอบคลมุ ทุกสี

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

โมเดล Lab ตามมาตรฐานของ CIE

ภาพ โมเดล Lab
โมเดล Lab เปน็ ค่าสที ่กี ำหนดข้ึนโดย CIE (commission Internationale d ́ Eclairage)ใหเ้ ปน็ มาตรฐาน
กลางของการวดั สีทกุ รปู แบบครอบคลุมทุกสีใน RGB และ CMYK และใชไ้ ด้กบั สีที่เกิดจากอุปกรณ์ทุกอย่างไม่
ว่าจะเปน็ จอคอมพิวเตอรเ์ ครอื่ งพิมพ์ เคร่ืองสแกนและอ่ืน ๆ ส่วนประกอบของโหมดสนี ี้ได้แก่

L หมายถึง ค่าความสว่าง (Luminance)
a หมายถึง ส่วนประกอบที่แสดงการไลส่ ีจากสีเขยี วไปยังสีแดง
b หมายถงึ สว่ นประกอบทแ่ี สดงการไล่สีจากสีน้ำเงนิ ถงึ สเี หลอื ง

โมเดลการมองเห็นสใี นโปรแกรม Photoshop
จากการมองเห็นสดี ดยท่ัวไปมาสูห่ ลักการมองเห็นสใี น Photoshop ทเี่ ราเรียกวา่ “ โหมด

(MOde)”ซงึ่ โหมดของสใี นPhotoshop จะแบง่ ออกเปน็ 3 กลุม่ ดงั นี้
กล่มุ ที่ 1 โหมดท่ีอา้ งองิ ตามโดมเดล
กลุ่มท่ี 2 โหมดท่ถี กู กำหนดข้นึ มาพเิ ศษหรอื ท่เี รียกว่า “ โหมด Specialozed”
กล่มุ ท่ี 3 โหมดสผี สมท่ีเรียกว่า “โหมด Blending”

ตวั อย่างโหมดทีอ่ า้ งองิ ตามโมเดล Lab
โหมด RGB

ใชห้ ลกั การโหมดของโมเดล RGB โดยมีการกำหนดค่าความเขม้ ขน้ ของสีแดง เขยี ว และนำ้ เงนิ ท่ีมา
ผสมกนั ในแต่ละจุดสี เป็นคา่ ต้ังแต่ 0 ถึง 255 ตัวอย่างเช่น สี Bright Red เกิดจาก R (สีแดง) ที่ 246 และ G

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

(สเี ขียว) ท่ี20 และ B (สีนำ้ เงนิ ท่ี 50) ภาพที่เกดิ จากโหมด RGB จะเปน็ การซ้อนภาพสี 3 ชัน้ ชน้ั ละสี ซงึ่ เรา
เรียกช้นั ของสีเหล่าน้ีว่า “Channel” โดยจะมสี ีท่ีแตกตา่ งเกิดขน้ึ ถงึ 16.7 ล้านสี หรือ

ภาพในโหมด RGB ซึง่ เกดิ จากการผสมของแสงสี แดง เขยี ว และนำ้ เงนิ

ภาพแสงสีแดง Red

แสงสเี ขยี ว Green

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

แสงสนี ำ้ เงิน Blue
โหมด CMYK

ใช้หลักการของโมเดล CMYK โดยมีการกำหนดคา่ สีจากเปอร์เซน็ ต์ความเข้มข้นของสีแตล่ ะสีท่ีมาผสมกัน
เช่น สี Bright Red เกดิ จาก C= 2%, M=93%, Y=90%, และ K=0% (หรือสีขาว)

ภาพในโหมด CMYK ซึง่ เกดิ จากการผสมของหมกึ สี Cyan,Magenta,Yellow และ Black

ภาพในโหมดสฟี ้า (Cyan)

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

ภาพในโหมด สบี านเย็น (Magenta)
ภาพในโหมดสีดำ ( Black)

ภาพในโหมดสเี หลือง (Yellow)

เอกสารประกอบการเรียน วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

จติ วิทยาเก่ียวกับสี
1.สแี ดง (ชื่อเสียง ลาภยศ)
ความหมาย

ความรัก ความหลงใหล ความตืน่ เต้น ความกระตอื รอื ร้น ความสนใจ ความเรว็ ไฟ ความรอ้ น สงคราม
พลัง ความมีชีวิตชีวา ความโกรธ ความก้าวร้าว อันตราย ความมุ่งมาด ความเป็นผู้นำ ความแค้น และความ
กลา้ หาญ
พลังของสีแดง

สีแดงจะสื่อถึงพลังงานทางเพศชาย ช่วยกระตุ้นการเจริญอาหารและความรู้สึกทางเพศ เพิ่มการขับ
เหงื่อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญและความดันโลหิต ช่วยทำให้วัตถุสิ่งของโดดเด่นและสะดุดตา ทำให้ประสาท
สัมผัสตื่นตัวและทำให้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่เร็วขึ้นค่ะ ส่วนในด้านความเชื่อของหลักฮวงจุ้ย สีแดงมีพลัง
อำนาจปอ้ งกันพลังงานท่ไี ม่ดหี รือสง่ิ ช่วั ร้ายได้ แต่ต้องระวงั การใช้สีแดงในการเจรจาต่อรองและสถานการณ์ที่
ตึงเครียดดว้ ย

2.สีน้ำเงิน – สีฟา้ (ปัญญาความรู้)
ความหมาย

ความสงบ ความเงียบ ความมั่นคง ความศรัทธา ความมีระเบียบ ความจริง ความสุขุม ความเชื่อถอื
ความจงรักภักดี ความเยือกเยน็ ความราบร่นื ความเป็นเอกภาพ ความเปน็ อนุรกั ษน์ ยิ ม แรงบันดาลใจ
พลังของสนี ้ำเงิน - สีฟ้า

โทนสีนี้จะใหค้ วามรู้สึกสงบเย็นทีส่ ุด ช่วยทำให้ผ่อนคลายและทำให้จติ ใจของเพือ่ นๆรู้สึกสงบดว้ ยคะ่
เนื่องจากเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย นอกจากนั้นยังเป็นสีโปรดของผู้คนทั่วโลกมากกว่าคร่งึ
และยังถูกเลือกใหเ้ ป็น ‘สีทีป่ ลอดภัย’ ท่สี ดุ ในกรณที ่คี ุณไม่แนใ่ จวา่ จะใช้สีอะไรดีอีกด้วยค่ะ โทนสีฟา้ จะกระตุ้น
ความคิดสรา้ งสรรค์และอสิ ระ ส่วนโทนสนี ้ำเงินน้นั จะสื่อถงึ ฐานะของสงั คมช้นั สูง และความรำ่ รวย สนี ำ้ เงนิ เข้ม
แสดงออกถึงความรู้ ความเฉลียวฉลาด ตรรกะเหตุผล และความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงเหมาะมากๆเลยค่ะหากจะ
นำมาใช้เกย่ี วกับงานหรอื ในสถานท่ที ำงาน เพราะจะชว่ ยสรา้ งบรรยากาศสขุ มุ และเปน็ มอื อาชีพ

3.สีเขียว (ครอบครัวและสังคม)
ความหมาย

ธรรมชาติ ชีวติ มนษุ ยชาติ การเร่ิมตน้ ความสดช่ืน ความปลอดภยั อาหาร ความอดุ มสมบูรณ์ ความ
เป็นอมตะ การเจริญงอกงาม การเติบโต การดูแล การรักษาเยียวยา ความเห็นอกเห็นใจ การควบคุม ความ
สมดลุ ทางกายและใจ ความสัมพนั ธท์ ี่ดี
พลงั ของสีเขยี ว

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

สเี ขยี วชว่ ยกระต้นุ ให้เพื่อนๆรู้สึกสดชนื่ ลดความเหนด็ เหนอื่ ย คลายความตึงเครยี ด ความต่นื ตระหนก
และความวิตกกังวลลงไปค่ะ อีกท้ังยงั เป็นสัญลกั ษณ์สากลของคำวา่ ‘ผ่าน’ หรือ ‘ไปได’้ ดว้ ยนะ สเี ขยี วสามารถ
ชว่ ยเพ่อื นๆผอ่ นคลายสายตา และระบบประสาท สีเขยี วเขม้ ชว่ ยในเรือ่ งการมองเห็นและสมาธิ นอกจากนนั้ ยัง
มพี ลังช่วยให้จิตใจภายในสงบ ช่วยพฒั นาอารมณ์และพฤตกิ รรม สือ่ ถึงเกียรตยิ ศ ความร่ำรวยและเงิน สีเขียว
ออ่ นนนั้ จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ในขณะท่ีสีเขยี วมะนาวอ่อนจะสื่อถึงความอ่อนแรง

4.สีเหลือง (สขุ ภาพและความสมดุล)
ความหมาย

ความรื่นเริงเบิกบานใจ ความสุข ความสดใสร่าเริง พลัง อนาคต การมองโลกในแง่ดี อุดมคติ
จินตนาการ ความหวัง แสงสว่าง ฤดูร้อน ปัญญา ปรัชญา ความคิดสร้างสรรค์ ความไม่จริงใจ ความขี้ขลาด
การทรยศ ความริษยา ความเจบ็ ปว่ ย อันตราย
พลงั ของสเี หลือง

สีเหลืองเป็นสีที่ช่วยในเรือ่ งของการเจริญอาหาร การกระตุ้นสมองและความจำ และช่วยสร้างความ
มน่ั ใจ และยังเปน็ สที ี่ช่วยเรื่องการคิดวเิ คราะห์และการใช้เหตุผลอีกด้วยคะ่ สเี หลืองเขม้ จะช่วยเพื่อนๆกระตุ้น
ความรู้สึกและความคิดถึงอนาคตที่สดใสและดียิ่งขึ้น แต่สีเหลืองหม่นจะให้ความรู้สึกเจ็บป่วยอ่อนแอค่ะ
ในทางจิตวิทยาสีเหลืองชว่ ยเชอ่ื มตอ่ ความคิดในจิตใต้สำนกึ ของเรา สีเหลอื งเป็นสญั ลกั ษณ์สากลของการเตือน
ให้ระวงั และเปน็ สีทสี่ ง่ พลังงานออกไปสูส่ มองของเราไดไ้ วที่สดุ อกี ด้วย

5.สสี ้ม (จิตวิญญาณและความรู)้
ความหมาย

พลงั ความกระตือรอื ร้น ความมีชวี ติ ชีวา ความสนุกสนาน การผจญภยั ความอบอนุ่ ความยตุ ิธรรม
ความรอบรู้ มารยาท ความหลงใหล ความมเี สนห่ ์ ความสุข ความมั่นใจ ความปรารถนา การเกบ็ เก่ียว ฤดูใบไม้
ผลิ
พลังของสสี ้ม

สีส้มเป็นสีท่ีช่วยกระตุ้นพลังงานและความสดชื่นคะ่ สื่อไปถึงการมองโลกในแง่ดี ไปจนถึงสุขภาพท่ดี ี
เฉกเช่นความฉ่ำสมบรู ณ์ของผลส้ม สีส้มสื่อถึงรสชาติและชว่ ยกระตุ้นใหเ้ จริญอาหาร สีส้มเป็นแห่งความสนุก
และการผจญภัยค่ะ ทั้งยังช่วยจุดประกายการสื่อสารท่ีดี สีส้มช่วยกระตุ้นการทำงานของจิตใจและช่วยเพ่ิม
ปริมาณการส่งผ่านของอากาศไปสู่สมอง ช่วยกระตุ้นเรื่องการจัดระบบหรือความเป็นระเบียบสิ่งต่างๆ
นอกจากนั้นยังมีพลังดึงดูดความสนใจโดยเฉพาะเด็กๆ ช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และกระตุ้น
ความหวิ ไดเ้ ป็นอย่างดี

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

6.สีมว่ ง (ความรำ่ รวยร่งุ โรจน์)
ความหมาย

ฐานนั ดรศักด์ิ จติ วิญญาณ ความสูงส่ง ความหรูหรา การเฉลิมฉลอง เวทมนตร์คาถา ความลกึ ลบั
ความเพ้อฝัน สตปิ ัญญา การเปลยี่ นแปลง การหลุดพ้น การปรงุ แต่ง ความโหดรา้ ย ความสง่างาม ความ
เย่อหยง่ิ อวดดี ความโอ้อวด ความเศรา้ โศก การไว้อาลัย
พลังของสีม่วง

สีม่วงเป็นสีที่ช่วยในการทำสมาธิ และยังช่วยให้นอนหลับลึกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ กระตุ้นความ
สร้างสรรค์ทางความฝันและสติปญั ญา และทส่ี ำคัญยังช่วยสงบจิตใจทีว่ า้ วุ่นได้ด้วยนะคะ สมี ว่ งเข้มส่ือถึงความ
หรูหรา แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้าโศก อาลัยอาวรณ์ และความขุ่นเคืองใจค่ะ ในส่วนของสีม่วงอ่อนช่วย
กระตุ้นความรู้สึกความอ่อนไหว โรแมนติก ความคิดสร้างสรรค์ ยังไม่หมดเท่านี้นะคะสีม่วงยังช่วยเติมเต็ม
ความคิดและความปรารถนาภายใน ส่อื ถงึ ความเห็นอกเห็นใจ เช่ือมโยงกับพลังงานทางจติ วิญญาณและพลังจิต
ผูห้ ญิงส่วนใหญ่จะชอบสีม่วงออ่ นค่ะ ในขณะท่ีผู้ชายชอบสีม่วงเข้มมากกวา่

7.สชี มพู (ความสมั พนั ธแ์ ละชีวิตค)ู่
ความหมาย

ความนุม่ นวล ความออ่ นโยน ความไรเ้ ดยี งสา ความอ่อนเยาว์ การดูแลเอาใจใส่ การทะนุถนอม ความ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จิตใจดี ความหวาน ความบอบบาง นางฟ้า เพศหญิง ความรัก ความเอ็นดู หัวใจ มิตรภาพ
เสนห่ ์ สุขภาพทีด่ ี ความออ่ นไหวทางอารมณ์ ความไม่เป็นผูใ้ หญ่
พลังของสีชมพู

สีชมพมู พี ลงั ในการรกั ษา โดยเฉพาะกบั ผู้ทีม่ ปี ัญหาทางอารมณ์ค่ะท้งั น้สี ีชมพูยังช่วยใหจ้ ิตใจสงบ ผ่อน
คลายและอ่อนโยนข้นึ ได้อกี ด้วยคะ่ สชี มพชู ว่ ยกระต้นุ ใหร้ ู้สึกถึงความรัก ความชื่นชม และความน่าทะนุถนอม
สีชมพูจะดึงดูดความอ่อนเยาว์ ความมั่นใจ ความกระปรี้กระเปร่า และความสนุกสนาน ส่วนสีชมพูอ่อนจะ
ดึงดูดความออ่ นหวาน ความสวยงาม ความเสน่หาท่นี ุ่มนวล ความอ่อนโยน และความรักแบบไม่มีเงอื่ นไข

8.สขี าว (เด็กและความคิดสร้างสรรค)์
ความหมาย

ความบริสุทธิ์ สันติภาพ ความสงบสุข ความดี ความเรียบง่าย ความสะอาด ความไร้เดียงสา ความ
อ่อนเยาว์ ความหลุดพ้น ความว่างเปล่า ความเบา ความเท่าเทียม การเกิด การแต่งงาน ความตาย
สถานพยาบาล หิมะ การปลอดเชอ้ื โรค ความเย็น ฤดหู นาว
พลงั ของสีขาว

สีขาวมีพลังช่วยสร้างสมดุลให้กับการตัดสินใจค่ะ และแน่นอนค่ะสร้างความรู้สึกสะอาด ปลอดภัย
และเรียบง่าย โดยทร่สีขาวจะสื่อถึงความสมบรู ณ์แบบ ความเปิดเผย ความจริง ความมีเมตตา การรักษา แง่

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

บวก ช่วยชำระล้างความคิดและความรู้สึก รวมไปถึงจิตวิญญาณ และพลังด้านลบ ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับ
ความคิดใหม่ๆ แต่ในด้านลบสีขาวยังสื่อถึงความรู้สึกหนาว เบื่อหน่าย จืดชืด และไม่มีความสุข หากใช้มาก
เกินไปอาจทำให้รูส้ กึ ว่างเปล่าและเหงาได้

9.สดี ำ (ตัวตนและหน้าทีก่ ารงาน)
ความหมาย

พลงั อำนาจ ความรอบรู้ ความลึกซึง้ ความน่าเกรงขาม ความเป็นทางการ ความหรูหรา ความทกุ ข์
ความเศร้า ความโกรธ ความตาย การมองโลกในแงร่ ้าย การบังคับควบคมุ ความมืด ความลึกลับ ความกลัว
ความชว่ั ร้าย
พลังของสีดำ

สดี ำเปน็ สอี มตะคลาสสคิ สือ่ ถงึ ความรู้สึกลกึ ลับและไมเ่ ป็นที่ร้จู ัก แตก่ ย็ งั เป็นสียอดนิยมของใคร
หลายๆคนนะคะ สีดำชว่ ยส่งเสริมเรื่องการควบคมุ ตนเองและความเปน็ อิสระ สือ่ ถึงสิ่งทมี่ องไม่เห็น ความชั่ว
รา้ ย และความมดื ในขณะเดียวกนั ก็ใหค้ วามรู้สึกหรูหรา ราคาแพง มรี สนิยมอีกดว้ ย สีดำเป็นสที ่ีดึงดูดพลงั งาน
ดา้ นลบ หากใช้มากเกินไปจะทำใหร้ ูส้ กึ อึดอัด ไมส่ บายใจ และสามารถสรา้ งบรรยากาศทไ่ี ม่เป็นมติ ร การ
ครอบงำ และการสิน้ สดุ

10.สนี ำ้ ตาล (สุขภาพและความสมั พนั ธใ์ นครอบครัว)
ความหมาย

ความเปน็ มติ ร ความอบอุน่ ความจรงิ ใจ ความแข็งแรง ความซ่อื สัตย์ ความไว้ใจ สขุ ภาพ ความย่ังยนื
ความทนทาน ความเรียบง่าย ความเป็นผ้ใู หญ่ ความเสมอภาค
พลังของสนี ้ำตาล

สีน้ำตาลจะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเข้าได้กับแทบทุกสี ให้ความรู้สึกสมบูรณ์เชื่อมโยงกับ
ธรรมชาติแวดล้อม ความมั่นคง ความไม่ไร้สาระ และความสมถะติดดนิ นอกจากนั้นสีน้ำตาลสื่อถึงความเปน็
เจ้าข้าวเจ้าของ ความพิถีพิถัน ความเป็นระเบียบ ความรู้สกึ เป็นครอบครัว การเป็นส่วนหนึ่ง ความปรองดอง
ความสะดวกสบาย และรสนิยมทีด่ ใี นการใช้ชีวิตไปจนถงึ ความมีสไตล์ เปา้ หมายและโชคทางการเงิน ในขณะท่ี
ใหพ้ ลังทางดา้ นลบ ได้แก่ ความร้สู กึ เฉ่อื ยชา ตระหน่ี ความเศรา้ ความนา่ เบ่ือและการขาดอารมณ์ขัน

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

11.สเี ทา (มิตร ผูอ้ ปุ ถัมภ์ และการเดนิ ทาง)
ความหมาย

ความอ่อนน้อมถ่อมตน ศักดิ์ศรี ความเสถียร ความมั่นคง ความเป็นทางการ ความมีระเบียบ
สติปัญญา ความเชื่อถือ ความจงรักภักดี ความเป็นผู้ใหญ่ ความมีอายุ ความเศร้า ความน่าเบื่อ ความเป็น
อนรุ กั ษน์ ยิ ม
พลังของสีเทา

สีเทานี้จะค่อนข้างส่งผลนอ้ ยกวา่ สีอื่นๆค่ะ สีเทามีพลังทำให้จิตใจสงบและมัน่ คง แต่ก็อาจทำให้รู้สกึ
ลังเลในการตัดสินใจได้ สีเทาเป็นสีที่ไม่ก่อเกิดอารมณ์จึงอาจทำให้รู้สึกด้านชาไร้ชีวิตชีวาค่ะ ท้ังนี้พลังงานที่
ดึงดูดน้ันจะต่างกันไปตามระดับความเขม้ ของสี สีเทาเชื่อมโยงกบั การมีไหวพรบิ ปญั ญา การมีความนอบน้อม
การเกบ็ ตวั และการมวี ฒุ ิภาวะ สอื่ ถึงความมีศักดศิ์ รี ความสงา่ งาม ความมีระดบั และการประนีประนอม สเี ทา
เปน็ สีทไี่ ม่เรยี กร้องความสนใจและช่วยเป็นพนื้ หลังขับใหส้ อี น่ื โดดเด่น ซ่งึ สามารถช่วยสร้างความรู้สึกผอ่ นคลาย
และสงบเยน็ ใหก้ บั จิตใจ สีเทาอ่อนน้นั จะสื่อถงึ ผหู้ ญิง ในขณะท่ีสเี ทาเข้มสอ่ื ถงึ ผู้ชาย

12.สที อง (ความมั่งคัง่ และความหรูหรา)
ความหมาย

ความหรูหรา ความมีระดับ ความสูงส่ง ความสำเร็จ ความเปิดเผย ความรอบรู้ ความมั่นใจ ชัยขนะ
คณุ ธรรม ความเมตตา ความใจกว้าง ความต้งั ใจ มนต์ขลัง การหลงตัวเอง ความอิจฉา การหลอกลวง
พลงั ของสที อง

สีนี้คงเปน็ สีโปรดของใครหลายๆคนนะคะ สีทองบ่งบอกถงึ คุณคา่ รสนยิ ม ความเจรญิ รุ่งเรือง และพลงั
อำนาจของเพศชาย สีทองทำให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆสว่างสดใส ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและดึงดูดความร่ำรวย
นอกจากนัน้ ยังนำมาซ่งึ ความสุขสมหวงั ความสำเร็จในชวี ิต อำนาจ มติ รภาพ และการมองโลกในแงด่ ี สุขภาพ
ที่ดี การใช้สีทองอย่างสมดุลจะช่วยให้เป็นที่รักและเข้าถึงจิตวญิ ญาณ ช่วยพัฒนาจิตวิญญาณ วุฒิภาวะ และ
ปญั ญา แตห่ ากใช้มากเกินไปจะดงึ ดูดความเหย่อหยิง่ ทะนงตน ความเป็นวัตถนุ ยิ ม ความโลภ ความไม่ไวใ้ จและ
ความเป็นคนช่างเรยี กรอ้ งอีกดว้ ย

13.สีเงิน (ความสงา่ งาม)
ความหมาย

ความหรูหรา เกียรติยศ ความสง่างาม ความมีน้ำใจ ความเข้าถึง ความกระจ่างชัด ความอ่อนโยน
ความอ่อนไหว ความสร้างสรรค์ เทคโนโลยี ความทันสมัย ความเป็นระบบระเบียบ ความเยือกเย็น ความเฉย
ชา การปกปดิ ความร้สู ึก

เอกสารประกอบการเรียน วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

พลังของสเี งิน
สีเงินมีพลังช่วยลดความตื่นเต้น ซึ่งนั่นก็เป็นอิทธพิ ลสืบเนื่องมาจากสีเทาค่ะ พลังของสีเงินนะคะจะ

ช่วยทำให้รู้สึกสงบทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ และทางอารมณ์ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาฮอร์โมนที่ขาดความ
สมดุล สีเงินสื่อถึงวิสัยทัศน์ ภูมิปัญญา พลังจิต ความรู้แจ้ง และที่สำคัญเลยค่ะสีเงินดึงดูดความร่ำรวย
เช่นเดียวกับสีทอง สีเงินเปน็ สีที่ช่วยเปน็ กระจกสะทอ้ นใหค้ ุณเห็นจติ วิญญาณและตัวตนของคุณในมุมมองคน
อื่น ช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณและญาณหยั่งรู้ รวมไปถึงช่วยให้การสื่อสารดีขึ้นและมีพลังในการชำระล้างจิต
วิญญาณและพลังงานด้านลบอกี ดว้ ย

ผงั โครงสร้างหนว่ ยการเรียนรู้เพ่อื เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะอย่อู ย่างพอเพียง
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้การสรา้ งองค์ความรู้พืน้ ฐาน

ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 6 ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 (2 ชั่วโมง) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เร่ือง รู้จกั โปรแกรม Photoshop รูจ้ กั กบั โปรแกรม Photoshop

และสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม (2 แผน 6 ชัว่ โมง)
Photoshop
Photoshop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe
ผลการเรียนรู้ ที่ใช้สำหรับตกแต่งภาพถ่ายและภาพกราฟิก ได้อย่างมี
2. อธิบายความสามารถ ส่วนประกอบ ประสิทธิ์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสิ่งพิมพ์ นิตยสาร
และเรียกใชเ้ ครื่องมอื ต่าง ๆ ของโปรแกรมได้ และงานด้านมัลติมีเดีย อีกทั้งยังสามารถretouching
ตกแต่งภาพและสร้างภาพ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสูงมาก
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 (4 ช่ัวโมง) ในขณะนี้ เราสามารถนำโปรแกรมPhotoshop ในการ
เรือ่ ง ชดุ เครอื่ งมอื และการใชง้ านใน แตง่ ภาพ การใส่ Effect ต่าง ๆใหก้ ับภาพและตัวหนังสือ
การทำภาพขาวดำและการทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน
โปรแกรม Photoshop การนำภาพต่าง ๆ มารวมกัน การ Retouch ตกแต่งภาพ
ผลการเรียนรู้ เป็นต้น
2. อธบิ ายความสามารถ สว่ นประกอบ
และเรยี กใชเ้ ครื่องมอื ตา่ ง ๆ ของโปรแกรมได้ โปรแกรม Photoshop มเี ครื่องมอื พ้ืนฐานด้านสี
การเลือกพื้นที่ การใช้ภาพสำเร็จรูป การสร้าง effect
ให้ layer ทห่ี ลากหลาย แต่ในการสร้างงานหนึ่งชิ้นขนึ้ มา
ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับ
เป้าหมายของงานชิน้ น้ัน

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ภาระงาน/ชิน้ งาน

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินยั 1. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง สว่ นประกอบต่าง ๆ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ของโปรแกรม Photoshop
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 2. ใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง ชดุ เคร่อื งมือและการใช้
4. ความสามารถในการใช้ทักษะ 4. อยอู่ ย่างพอเพยี ง งานในโปรแกรม Photoshop
ชีวติ
5. ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 รู้จักกบั โปรแกรม Photoshop รหัสวิชา ว20233
รายวชิ าโปรแกรมคอมพิวเตอรส์ ร้างสรรค์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลาเรียน 6 ช่วั โมง
ภาคเรียนท่ี 1

1. ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวัง

อธิบายความสามารถ ส่วนประกอบและเรียกใชเ้ ครื่องมอื ตา่ ง ๆ ของโปรแกรมได้
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

Photoshop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ท่ีใช้สำหรับตกแต่งภาพถ่ายและภาพกราฟิก ได้
อย่างมีประสิทธิ์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และงานด้านมัลติมีเดีย อีกทั้งยังสามารถ
retouching ตกแต่งภาพและสร้างภาพ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสูงมากในขณะนี้ เราสามารถนำโปรแกรม
Photoshop ในการแต่งภาพ การใส่ Effect ต่าง ๆใหก้ บั ภาพและตวั หนงั สอื การทำภาพขาวดำและการทำ
ภาพถ่ายเป็นภาพเขียน การนำภาพตา่ ง ๆ มารวมกนั การRetouch ตกแตง่ ภาพ เป็นต้น

โปรแกรม Photoshop มีเครื่องมือพื้นฐานด้านสีการเลอื กพืน้ ที่ การใช้ภาพสำเร็จรปู การสร้าง
effect ให้ layer ที่หลากหลาย แต่ในการสร้างงานหนึ่งชิ้นข้ึนมา ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใชเ้ ครื่องมอื ทัง้ หมด
ซึ่งขึน้ อยกู่ ับเปา้ หมายของงานชิน้ น้ัน

3. สาระการเรียนรู้

3.1 รูจ้ ักโปรแกรม Photoshop และสว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมPhotoshop
3.2 ชดุ เครือ่ งมอื และการใชง้ านในโปรแกรม Photoshop

4. สมรรถนะการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

4.2.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
4.2.2 ทกั ษะความคดิ สรา้ งสรรค์

4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

4.4.1 กระบวนการปฏิบตั ิ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

4.5.1 การใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูล

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

5.1 มีวนิ ยั
5.1.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีความตง้ั ใจทำงานและติดตามผลงานทไ่ี ด้รบั มอบหมา
5.1.2 มีระเบียบวินยั และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
5.1.3 มีความตรงต่อเวลา
5.1.4 มคี วามอดทนขยันหมัน่ เพียร
5.1.5 รู้จักเสยี สละและมคี วามเห็นใจผอู้ ่นื

5.2 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
5.2.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ
5.2.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล

5.3 มุ่งมน่ั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
5.3.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ให้งานสำเร็จลลุ ่วง

5.4 อยู่อย่างพอเพียง
5.4.1 รู้จกั การวางตวั และตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล
5.4.2 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น ส่งิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า เกบ็ รกั ษา

ดูแลอยา่ งดแี ละใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

6. ชน้ิ งาน หรือ ภาระงาน

6.1 ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop
6.2 ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง ชุดเครอื่ งมือและการใชง้ านในโปรแกรม Photoshop

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5E
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4 ใชก้ ระบวนการจัดการเรยี นรู้แบบโมเดลซปิ ปา

8. วสั ดอุ ปุ กรณ์ /ส่ือ /แหลง่ เรยี นรู้ (หนังสือ/เอกสารประกอบการสอน/ใบงาน/ใบความรู้/สถานทจี่ ริง/ภูมิ
ปญั ญาทอ้ งถิน่ /สถานประกอบการ/อนิ เตอร์เน็ตฯลฯ)

8.1 ส่ือ power point
8.2 ใบงาน
8.3 จอ Projector
8.4 เคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ี่ติดตง้ั โปรแกรม Photoshop และเชือ่ มต่ออนิ เทอร์เน็ต
8.5 เวบ็ ไซต์ http://webkruboy.wordpress.com
8.6 เว็บไซตส์ ำหรบั ค้นข้อมูล เชน่ http://www.google.com, http://www.yahoo.com
8.7 เว็บไซต์ http://comkrutae.wordpress.com
8.8 หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ ห้องสมุด

9. การวดั และประเมินผล

การวัดผลและประเมินผล

ดา้ น วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารวัดและ
ความรู้ (K) ประเมินผล
- ตรวจใบงาน 2.1 - ใบงานที่ 2.1
- ตรวจใบงาน 2.2 - ใบงานท่ี 2.2 ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่
รอ้ ยละ 80

ทักษะกระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป

ภายในกลมุ่ พฤติกรรมภายในกลุม่

คุณลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไป

รายบคุ คล พฤตกิ รรมรายบุคคล

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล : ระดับคุณภาพ 1 = น้อย, ระดบั คณุ ภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคณุ ภาพ 3 = มาก

แนวทางที่ครนู ำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชจ้ ัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง รู้จกั กบั โปรแกรม Photoshop ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 6 ช่วั โมง

ครผู ูส้ อนนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ ดงั น้ี

ความรูท้ คี่ รูตอ้ งมีก่อนสอน คณุ ธรรมของครูในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

- มีความร้เู ก่ียวกับผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง - มคี วามรกั เมตตาศษิ ย์

- มคี วามร้เู กย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ เน้ือหาในเร่อื งท่ีจะสอน รปู แบบ - มีความรบั ผดิ ชอบ

เทคนิค วิธีการสอน จิตวิทยาการเรียนรู้ - ตรงต่อเวลา

- การใช้ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล - มีความยุติธรรม
- มคี วามอดทน

- มคี วามมงุ่ มนั่ เอาใจใส่ในการสอน

ประเด็น พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ที่ดี

- ผู้สอนมกี ารวิเคราะห์หลักสูตร - เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นไดเ้ รียนร้ตู รงตามผล - ลำดับเนื้อหาจากง่ายไปหายาก

กำหนดเนื้อหาได้สอดคลอ้ งกบั การเรียนรคู้ รบถว้ นตามกระบวนการ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นเกิดความอยากเรียนรู้

เนอ้ื หา ผลการเรียนรู้ เหมาะกบั เวลา วยั - การเลอื กใชข้ อ้ มูลในการจดั ทำงาน - เตรยี มเน้อื หาให้ครอบคลุมตามผล
และความสามารถของผู้เรียน ของผู้เรยี นเหมาะสมกบั เนอ้ื หาและ การเรยี นรู้

วัยของผู้เรยี น - มีการเตรียมเนื้อหาและใบงาน

อย่างดีก่อนจัดการเรียนการสอน

- กำหนดเวลาอย่างเหมาะสมกับ - สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม - วางแผนการทำงานลว่ งหน้า

เวลา เนือ้ หาและ กจิ กรรม อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ - มกี ารจัดสรรเวลาใหส้ มั พันธก์ บั
กจิ กรรมการเรียนรู้

- เหมาะสมกบั เวลาและ - การเลอื กวธิ กี ารจดั การเรียนการ - มกี ารวางแผนการจัดการเรยี นรู้

กลุม่ ผู้เรยี น สอนทเี่ หมาะกับเนอ้ื หาและเรอ่ื งท่ี ล่วงหน้า

การจัดกจิ กรรม - จดั กจิ กรรมท่ีเนน้ รูปธรรมสรา้ ง จะสอน - เตรียมกจิ กรรมให้มคี วามยืดหยุ่น

ส่ือ-อุปกรณ์- นสิ ัยความพอเพียง - ออกแบบกิจกรรมการเรยี นได้ เพ่อื ใหง้ านเสรจ็ ตามเวลาทกี่ ำหนด
แหล่งเรยี นรู้
เหมาะสมกบั สภาพผู้เรยี น
การประเมิน
- เตรียมส่อื ใหเ้ พยี งพอกบั - ใชส้ ื่อในการกระต้นุ ความสนใจ - ศกึ ษาลักษณะของผเู้ รียนกอ่ น

จำนวนผูเ้ รียน เสริมสร้างให้ผเู้ รียนเข้าใจในบทเรยี น เตรียมสื่อ/ อปุ กรณ์

- จดั แหล่งเรยี นรู้ได้เหมาะสมกับ ได้งา่ ยข้ึน - เตรยี มสอ่ื หรอื อปุ กรณส์ ำรอง

กิจกรรม เนอ้ื หาและความสนใจ - เลอื กสื่อทเี่ หมาะสมกับเปา้ หมาย - ผสู้ อนทดลองใช้สอ่ื และทำความ

ของผู้เรยี น เนื้อหา กิจกรรมการเรียนร้แู ละความ เข้าใจการใชแ้ หล่งเรียนรู้

สนใจของผเู้ รยี น

- ออกแบบการวัดและ - ประเมนิ ผลการเรียนใหต้ รงกับผล - ศึกษาและสร้างเคร่อื งมอื วัดผลให้

ประเมนิ ผลได้เหมาะสมกับผล การเรยี นรู้และคณุ ภาพของผู้เรียน ตรงตามผลการเรียนรแู้ ละผ่านการ

การเรยี นรู้ กจิ กรรม และผูเ้ รียน ตรวจสอบคุณภาพ

ผลทีจ่ ะเกิดขึน้ กับผเู้ รยี นจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง รู้จักกับโปรแกรม Photoshop ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 6 ชั่วโมง

1. ผูเ้ รียนได้ฝึกคดิ และฝกึ ปฏิบัตติ ามหลกั ปศพพ. ดงั นี้

ความรทู้ ีน่ ักเรยี นต้องมีก่อน คณุ ธรรมของนักเรียน

- ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ - นกั เรียนต้องมีความรบั ผดิ ชอบ ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น
- ความคดิ สรา้ งสรรค์ - นกั เรยี นต้องมรี ะเบียบวนิ ยั มีความซอ่ื สัตย์ ตรงต่อเวลา
- มคี วามมงุ่ มน่ั ในการทำงาน

หลกั พอประมาณ หลักมเี หตุผล หลักการสร้างภูมิคุ้มกันในตวั ทดี่ ี

- ร้จู กั คน้ หาความรเู้ พ่ิมเตมิ - ใช้ทรพั ยากรในการทำงานอยา่ งคมุ้ ค่าและ - รจู้ ักบทบาท หนา้ ทแ่ี ละปฏิบตั ิหน้าทีท่ ี่

- สามารถแบ่งเวลาได้ เหมาะกบั เกิดประโยชนส์ งู สดุ ไดร้ ับมอบหมายไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

กจิ กรรมและภาระงาน และทำงานท่ี - รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู ่ืน และยอมตับ เหมาะสม และทำกิจกรรมได้อยา่ งมี

ไดร้ ับมอบหมายได้ทนั ตามเวลาที่ ตอ่ ความคิดเหน็ ทีแ่ ตกต่างอยา่ งมีเหตุผล ประสิทธิภาพ

กำหนด - การแบ่งเวลา ภาระหน้าทที่ เ่ี หมาะสมกบั - มีการวางแผนการทำงานอย่างเป็น

- ใช้ทรพั ยากรในการทำงานอยา่ ง ความสามารถของแตล่ ะคนทำใหป้ ฏบิ ัติ ระบบ

คุ้มคา่ และเกดิ ประโยชนส์ งู สุด หนา้ ทีไ่ ดค้ รบถ้วนและมีคุณภาพ - มจี ติ สำนึกตอ่ บทบาท หน้าที่ ความ

- สามารถทำกิจกรรมได้ตรงกับวยั รบั ผิดชอบและมจี ิตอาสาในการช่วยผ้อู นื่

และความสามารถของแต่ละคนได้ และสงั คม

อยา่ งเหมาะสม

2. ผลลัพธท์ เี่ กิดขน้ึ กับผ้เู รียนจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงสู่ 4 มติ ิ ดังนี้

ผลลัพธ์ อยอู่ ย่างพอเพยี ง...สมดุลและพรอ้ มรับการเปลยี่ นแปลงในดา้ นต่าง ๆ

วตั ถุ สงั คม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม

- มคี วามรเู้ บอ้ื งตน้ - กระบวนในการทำกจิ กรรม - มคี วามรู้ในการรักษา - ร้รู ะเบยี บ แบบแผน
ตา่ ง ๆ ทม่ี รี ่วมกนั
ความรู้ องคป์ ระกอบตา่ งๆ รว่ มกับผู้อืน่ วัสดุ อุปกรณแ์ ละ
เก่ียวกบั โปรแกรม
สถานทใ่ี นการทำงาน

Photoshop

- มีทักษะ ในการจดั ทำ - มที กั ษะในการทำงาน - การดแู ลรักษาวัสดุ - ร้จู กั การปฏบิ ตั ติ นให้
ช้นิ งานให้มีความเรยี บร้อย รว่ มกันและการมีปฏิสมั พันธ์ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ ของทใี่ ช้ อยูใ่ นระเบยี บ แบบแผน
ทกั ษะ ถูกต้องและสวยงาม ระหว่างเพื่อน กบั เพื่อน ในการทำงานรวมทัง้ ตา่ ง ๆ ท่มี รี ่วมกนั

รักษาความสะอาดของ
สถานท่ี

คา่ นยิ ม - ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มี - ตระหนักถงึ ผลประโยชน์ - มจี ิตสาธารณะในการ - ยอมระเบียบ แบบแผน
อยู่ได้อย่างคุ้มคา่ มาก ของสว่ นรวมมากกว่า ดแู ลรักษาความสะอาด กฎ กติกา ต่าง ๆ ทีม่ ี
ทีส่ ุด ประโยชนข์ องตนเอง ของสถานที่ รว่ มกัน

แผนการจัดการเรียนร้บู ูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

โรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒

แผนการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ร้จู กั กับโปรแกรม และส่วนประกอบ ของโปรแกรม Photoshop จำนวน 2 ชว่ั โมง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ ร้างสรรค์ 1 รหสั วชิ า ว20233

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง รจู้ กั กับโปรแกรม Photoshop จำนวนชัว่ โมงของหนว่ ย 6 ชว่ั โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปา้ หมายการเรยี นรู้

1. ผลการเรียนรู้

อธบิ ายความสามารถ ส่วนประกอบ และเรยี กใชเ้ ครือ่ งมอื ต่าง ๆ ของโปรแกรมได้

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สู่ผลการเรยี นรู้

2.1 นักเรียนบอกความหมาย ความสำคญั และการเข้าใช้งานโปแกรม Photoshop ได้ (K)
2.2 นกั เรียนบอกชนิดของงานทีเ่ กดิ จากโปรแกรม Photoshop ได้ (K)
2.3 นักเรียนบอกสว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop ได้ (K)
2.4 นกั เรียนเรยี กใช้เครอื่ งมอื ต่าง ๆ ได้ (P)
2.4 นักเรียนมคี วามรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้เสร็จตามเวลา (A)

3. สาระสำคญั

Photoshop เป็นโปรแกรมสำหรบั สรา้ งและตกแตง่ ภาพทีม่ ชี ื่อเสียงและได้รบั ความนิยมมากท่ีสุด
อันเน่ืองมาจากคุณสมบัติเด่นซง่ึ มอี ยอู่ ย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถจัดการกับไฟล์สารพัดชนิดที่
ใช้ในงานประเภทต่าง ๆ ทงั้ รูปทจี่ ะนำไปผา่ นกระบวนการพิมพ์ และรูปท่นี ำไปใช้ในเว็บเพจหรือส่งผ่านส่ือ
อิเล็กทรอนิคส์ มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการแก้ไขตกแต่งภาพและการสร้างเอฟเฟ็คเศษต่าง ๆ
มเี ครือ่ งมือที่มีประสิทธิภาพและความยดื หยนุ่ สูง สามารถบนั ทึกขัน้ ตอนทต่ี ้องทำซำ้ ๆ ไว้เรียกใช้ภายหลัง
ตลอดจนมีผู้ผลิตปลั๊กอิน (plug-in) ให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งปลั๊กอินก็คือโปรแกรมเสริมสำหรับช่วยให้การ
ทำงานท่ซี บั ซอ้ นสำเรจ็ ลงไดอ้ ยา่ งรวดเรว็

การทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมเป็นพื้นฐาน
ที่ดีที่จะนำไปสู่การใช้งานโปรแกรมในระดับสูง เพราะจะทำให้เรามีความคล่องตัวเป็นอย่างมาก
ในการทำงานที่มีความสลับ ซับซ้อนมาก ๆ เราจะมาทำความรู้จักกับหน้าตา และส่วนต่าง ๆ

ของ Photoshop กัน เมื่อเราเปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมาเราก็เห็นพื้นที่ทำงานของโปรแกรม
Photoshop ถกู เปดิ ขึ้นมา ซ่ึงภายในจะประกอบ ไปด้วยส่วนการทำงานหลกั ดงั ต่อไปน้ี

- เมนูบาร์ (Menu Bar)
- แทบ็ ช่อื ไฟลภ์ าพ
- พ้นื ทใี่ นการทำงานของ Photoshop (Workspace)
- กลอ่ งเคร่อื งมอื (Toolbox)
- ออปชัน่ บาร์ (Option Bar)
- พาเนล (Panel)
- ทลู พาเนล (tool Panel)

4. สาระการเรียนรู้

4.1 รจู้ กั กับโปรแกรม Photoshop
4.2 สว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

5.1 มีวินัย
5.1.1 มคี วามรบั ผิดชอบ มีความตัง้ ใจทำงานและติดตามผลงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
5.1.2. มีระเบียบวินัยและปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
5.1.3 มคี วามตรงตอ่ เวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหมน่ั เพียร
6.1.5 ร้จู ักเสียสละและมีความเหน็ ใจผู้อน่ื

5.2 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ
5.2.2 มกี ารจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ
5.2.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล

5.3 มุง่ มน่ั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย
5.3.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็ ลลุ ว่ ง

5.4 มีความซื่อสตั ย์

5.4.1 ไม่คดั ลอกคำตอบหรือผลงานของผ้อู ื่น
5.4.2 ให้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ งและเป็นจรงิ เป็นแบบอย่างท่ดี ีด้านความซอ่ื สัตย์
5.4.2 ปฏิบตั ิต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง

6. สมรรถนะการเรียนร้ขู องผู้เรยี น

6.1 ความสามารถในการส่อื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด

6.2.1 ทักษะการคิดวิเคราะห์
6.2.2 ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์
6.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
6.4.1 กระบวนการปฏิบตั ิ
6.4.2 กระบวนการทำงานกลุม่
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6.5.1 การใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมลู

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูเปิดโปรแกรม Photoshop ใหน้ กั เรียนดแู ล้วต้งั ประเดน็ คำถามนักเรยี น (Q1)
2. ครอู ธิบายให้นักเรยี นเข้าใจเก่ียวกับโปรแกรม Photoshop และส่วนประกอบต่าง ๆ

ของโปรแกรม Photoshop (Q2)
ข้นั ที่ 2 ขั้นสำรวจคน้ หา (Explore)
3. ครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 3 คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่ม

ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่องส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop จากใบความรู้ที่ 2.1
ในโปรแกรม Power point ทค่ี รเู ตรียมมาให้ (Q3)

ขน้ั ท่ี 3 ข้ันอธบิ ายความรู้ (Explain)
4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มช่วยกันอธิบายความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาให้เพื่อนในกลุ่มฟัง

แล้วผลัดกันซกั ถามข้อสงสัยจนทกุ คนในกลุ่มมีความรู้ความเข้าใจท่ถี กู ต้อง ตรงกนั (Q4)

5. สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม
Photoshop (Q5-Q6)

6. ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 2.1 หนา้ ชน้ั เรียน (Q7-Q8)
ขน้ั ท่ี 4 ข้ันขยายความเขา้ ใจ (Expand)

7. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของ
โปรแกรม Photoshop ตามประเดน็ ทก่ี ำหนด แล้วครสู มุ่ ตัวแทนแต่ละกลมุ่ นำเสนอคำตอบของกลมุ่ ตนเอง
หน้าช้นั เรยี น (Q9)

ขัน้ ที่ 5 ขน้ั ตรวจสอบผล (Evaluate)
8. นักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้เรื่อง ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Photoshop (Q10)
9. ครูตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียน โดยพิจารณาจากการทำใบงาน

และการสรปุ ความรเู้ รอ่ื ง ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Photoshop (Q11-Q12)

8. ชดุ คำถามกระตุน้ เพอ่ื ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียง

คำถามกระต้นุ คิดเพื่อปลูกฝงั หลกั คิดพอเพยี งกอ่ นเรียน
Q1 ความมีเหตุผล : หากให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบ
ต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop ไดห้ รอื ไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตุ้นคดิ เพอ่ื ปลกู ฝังหลกั คิดพอเพียงระหว่างเรยี น
Q3 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนอธิบายความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop
ไดห้ รอื ไม่ อย่างไร
Q4 ความมีเหตุผล : จากการศึกษา เรื่อง ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop นักเรียนได้
อะไรบา้ ง
Q5 ความพอประมาณ : นักเรียนเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และแบ่งเนื้อหาได้เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร
Q6 การมภี มู คิ ุม้ กันในตวั ทด่ี ี : นกั เรียนมีการแบ่งงานภายในกลุ่ม และวางแผนในการทำงานอย่างไร
คำถามกระตนุ้ คดิ เพือ่ ปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพียงหลงั เรยี น
Q7 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q8 มิติวัตถุ : การทำกิจกรรมการเรยี นรู้ในวันนีม้ ปี ระโยชน์ด้านใด อย่างไรบา้ ง
Q9 มิตทิ างสังคม : การทำงานกลุม่ มีปญั หาหรือไม่ นกั เรียนมีแนวทางในการแก้ปัญหานนั้ อยา่ งไร
Q10 มิติด้านสงิ่ แวดล้อม : ในการทำงานเปน็ กลุ่มสง่ ผลตอ่ การบริหารงานภายในกลมุ่ หรอื ไม่
Q11 มิติวัฒนธรรม : ความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop ที่นักเรียนศึกษา
มาสามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรียนได้อยา่ งไร

Q12 มิติด้านวัตถุ : ในการจัดทำบันทึกหลังการเรียนนักเรียนสามารถนำวัสดุอุปกรณ์มาประยุกต์ใช้ได้
หรือไม่

9. วัสดุอุปกรณ์ /สื่อ /แหล่งเรยี นรู้

9.1 โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูลใบความรู้ท่ี 2.1 เรือ่ ง รูจ้ ักโปรแกรม Photoshop และส่วนประกอบต่าง ๆ
ของโปรแกรม Photoshop

9.2 ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Photoshop
9.3 จอ Projector
9.4 เครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ ี่ตดิ ตัง้ โปรแกรม Photoshop และเชอ่ื มตอ่ อินเทอร์เน็ต
9.5 เวบ็ ไซต์สำหรับค้นข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผ้สู อนคอมพวิ เตอร์
9.7 ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ หอ้ งสมดุ

10. ชิ้นงาน หรอื ภาระงาน

10.1 ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สว่ นประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Photoshop
10.2 บนั ทึกสรุปบทเรียน

11. การวัดและประเมินผล

การวัดผลและประเมินผล

ด้าน วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์การวัดและ
ประเมนิ ผล

ความรู้ (K) - ตรวจใบงาน 2.1 - ใบงานที่ 2.1 ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่

รอ้ ยละ 80

ทักษะกระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ข้ึนไป

ทำงาน การทำงาน

คุณลกั ษณะ (A) - สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป

ทำงาน การทำงาน

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล : ระดบั คณุ ภาพ 1 = นอ้ ย, ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคณุ ภาพ 3 = มาก

12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ

ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี

๑. กระบวนการเรียนรู้
 มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
 ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง

๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
 ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
 ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป

๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
 ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
 ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง

๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
 สามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรูไ้ ด้จริง
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้

๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)

รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ

 อนุมัตใิ ห้นำไปใชจ้ ัดการเรียนการสอนได้
 ไมอ่ นุมัติใหน้ ำไปใช้จัดการเรยี นการสอน เพราะ.................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

...............................................
(นายประยงค์ อินท์นุพฒั น์)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนสรุ าษฎรธ์ านี ๒

14. บันทกึ หลงั สอน

จากการจดั กิจกรรมการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้.........................................................................
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่.................. หนว่ ยการเรยี นรู้ท.ี่ .............. เรอื่ ง...................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ .่ี ............ เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................ ... เป้าหมายการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ คอื เพอื่ ให้นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่........................ จำนวนทัง้ หมด....................คน มคี วามรู้
ความสามารถ เรื่อง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นักเรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเป็นตอ้ งแก้ไขปญั หาดงั กลา่ วของนักเรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพือ่ ให้นักเรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวช้ีวัดที่..................................................ทีก่ ำหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนร้ทู .ี่ ......................

ข้อค้นพบและขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ........................................... ครผู ูส้ อน
(นางสาวลักษณน์ ารา ทองมาก)
..……/…………../…………

ใบงานที่ 2.1
เรื่อง ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Photoshop

ช่ือ-สกลุ .......................................................................ชั้น.................... เลขท่.ี ...............กลมุ่ ท…่ี ………...
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเตมิ คำตอบและอธิบายหน้าทข่ี องแต่ละตำแหน่งใหถ้ ูกตอ้ ง (10 คะแนน)

1 2
4

3 7
5 6

1…………………………………………………. คือ……………………………………………………………………………………..………
2…………………………………………………. …………………………………………………………………………………….……………
3………………………………………………….
4…………………………………………………. คือ……………………………………………………………………………………..………
5…………………………………………………. …………………………………………………………………………………….……………
6………………………………………………….
7…………………………………………………. คือ……………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………….……………

คอื ……………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………….……………

คอื ……………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………….……………

คอื ……………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………….……………

คอื ……………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………….……………

เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ประเด็นการ คำอธบิ ายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เขา้ ห้องเรียนเรยี นตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรยี นตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรยี นสาย ไม่ปฏบิ ัติตาม
ใฝ่เรยี นรู้ ขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น ปฏบิ ัติ
ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงของ ปฏิบัติตามข้อตกลงของ กิจกรรมไมค่ รบทุกกจิ กรรม

หอ้ งเรยี นเป็นปกตวิ ิสัยและเป็น ห้องเรียน แต่ปฏบิ ัติกิจกรรม

แบบอย่างท่ีดี ปฏิบตั ิกิจกรรมได้ ไมค่ รบทกุ กจิ กรรม

ทกุ กจิ กรรมตามทก่ี ำหนดไว้

แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การ
เรียนรตู้ ่างๆ มีการจดบนั ทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรียนรูต้ า่ งๆ เรียนรูต้ า่ งๆ
ความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบนั ทกึ ความรู้ แตไ่ มม่ กี ารจดบนั ทกึ ความรู้

มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามต้งั ใจและพยายามในการ มีความตัง้ ใจและพยายามใน ไมม่ คี วามต้ังใจในการทำงาน
ทำงานเพอ่ื ให้พ้นๆไปหรอื ทำงาน
ทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย มี การทำงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ไมเ่ สรจ็

ความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้

อุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสำเร็จลลุ ว่ ง ต่ออปุ สรรค แตง่ านเสรจ็ ไม่

ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด ทนั ตามเวลาทกี่ ำหนด

ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงานของ
ของผ้อู ่นื ใหข้ อ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งและ ของผู้อ่นื เปน็ บางครง้ั ให้ ผู้อนื่ เปน็ ประจำ ให้ขอ้ มูลที่เป็น
เป็นจริง เปน็ แบบอย่างทดี่ ีด้าน ข้อมลู ที่ถกู ตอ้ ง เป็นจรงิ เท็จ ขาดความความซ่ือตรง
ความซ่อื สัตย์ ปฏบิ ตั ิต่อผู้อืน่ ปฏิบัตติ ่อผ้อู ืน่ ดว้ ยความ
ดว้ ยความซอื่ ตรง ซือ่ ตรง

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใชภ้ าษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใชภ้ าษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์

และคิดนอกกรอบอยา่ ง

สร้างสรรค์

สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่

ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตผุ ลใน

แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา

ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา

เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ

เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั

ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้

สามารถนำความรูไ้ ปใช้

ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั

เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี

อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี

กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง

มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี

ใช้เทคโนโลยี

แผนการจดั การเรยี นรบู้ ูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

โรงเรยี นสรุ าษฎร์ธานี ๒

แผนการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง ชุดเครื่องมอื และการใชง้ านในโปรแกรม Photoshop จำนวน 4 ช่วั โมง

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ ร้างสรรค์ 1 รหสั วชิ า ว20233

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง รู้จกั กับโปรแกรม Photoshop จำนวนชั่วโมงของหน่วย 6 ชัว่ โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปา้ หมายการเรียนรู้

1. ผลการเรยี นรู้

อธิบายความสามารถ ส่วนประกอบ และเรียกใชเ้ คร่อื งมือตา่ ง ๆ ของโปรแกรมได้

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ู่ผลการเรยี นรู้

2.1 นักเรียนอธิบายความสามารถของชุดเครือ่ งมอื ในโปรแกรม Photoshop ได้ (K)
2.2 นกั เรียนสามารถเลือกใช้ชดุ เคร่ืองมือในโปรแกรม Photoshop ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (P)
2.3 นักเรยี นมีความรับผดิ ชอบในการทำงานใหเ้ สร็จตามเวลา (A)

3. สาระสำคญั

เครื่องมือต่าง ๆ ใน Toolbox จะถูกจัดวางเอาไว้โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะการใช้งาน
ซึ่งนอกจากเครื่องมือที่เห็นในตอนเริ่มต้นแล้ว ในบางเครื่องมือยังมีปุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือ
ในหมวดเดยี วกันซ่อนอยู่อีก โดยการแบ่งกลุ่มของเคร่อื งมือจะแบง่ ไดด้ งั รายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี

1. กลุ่มคำสงั่ Selection เพ่อื เลือกพ้ืนทีใ่ นสว่ นตา่ ง ๆ ของภาพ
2. กลุ่มคำสงั่ Edit สำหรับปรับแต่งระบายสี การลบบางสว่ น
3. กลุม่ คำสั่งเกี่ยวกับการสรา้ งตัวอกั ษร วาดภาพ
4. คำสั่ง view ใช้ย่อ ขยาย ดูชนิ้ งาน
5. คำส่ังเลอื กสี Foreground หรอื Background
6. คำส่งั Quick Mash คำสงั่ เกีย่ วกบั หน้าจอ

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 ร้จู กั ชดุ เครอื่ งมือต่าง ๆ ใน Toolbox ของโปรแกรม Photoshop
4.2 การใช้งานเครือ่ งมือต่าง ๆ ใน Toolbox

5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

5.1 มีวนิ ยั
5.1.1 มีความรับผดิ ชอบ มีความตงั้ ใจทำงานและติดตามผลงานที่ได้รบั มอบหมาย
5.1.2. มีระเบยี บวนิ ยั และปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์ท่กี ำหนด
5.1.3 มคี วามตรงต่อเวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหม่ันเพียร
6.1.5 รจู้ ักเสยี สละและมคี วามเห็นใจผ้อู น่ื

5.2 ใฝเ่ รียนรู้
5.2.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ
5.2.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ
5.2.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล

5.3 มุ่งมน่ั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
5.3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลุลว่ ง

5.4 มีความซ่ือสัตย์
5.4.1 ไมค่ ดั ลอกคำตอบหรอื ผลงานของผอู้ ืน่
5.4.2 ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้องและเปน็ จรงิ เปน็ แบบอย่างที่ดีดา้ นความซอ่ื สัตย์
5.4.2 ปฏบิ ตั ิต่อผู้อืน่ ดว้ ยความซอ่ื ตรง

6. สมรรถนะการเรยี นรูข้ องผู้เรยี น

6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด

6.2.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

6.2.2 ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

6.4.1 กระบวนการปฏบิ ัติ
6.4.2 กระบวนการทำงานกล่มุ
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.5.1 การใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มลู

กิจกรรมการเรียนรู้

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบโมเดลซิปปา)

ขน้ั ท่ี 1 ทบทวนความรู้เดมิ
1. ครถู ามนักเรยี นเกย่ี วกับส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Photoshop (Q1)

ขั้นที่ 2 แสวงหาความร้ใู หม่
2. ครูอธบิ ายใหน้ กั เรียนเข้าใจเก่ียวกบั ชุดเครอ่ื งมือและการใชง้ านในโปรแกรม Photoshop (Q2)

3. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรูเ้ ร่ือง ชุดเครื่องมือและการใช้งานในโปรแกรม
Photoshop จากโปรแกรม Power Point ใบความรู้ที่ 2.2 ที่ครูเตรียมมาให้ และศึกษาเพิ่มเติมจาก
อนิ เทอรเ์ นต็ (Q3-Q4)

ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเขา้ ใจขอ้ มลู /ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรใู้ หม่กับความร้เู ดมิ
4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเป็นพื้นฐานในการทำ

ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง ชุดเครอ่ื งมือและการใช้งานในโปรแกรม Photoshop (Q5-Q6)
ขน้ั ท่ี 4 แลกเปล่ยี นความรคู้ วามเขา้ ใจกับกลมุ่
5. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มผลัดกันนำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 2.2 ของตนเองใหเ้ พอื่ น

ในกลุ่มฟัง แลว้ อธบิ ายแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ จนทุกคนในกลุ่มมคี วามรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงกัน
(Q7-Q8)

6. ครูสมุ่ ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอคำตอบในใบงานที่ 2.2 หน้าชัน้ เรยี น (Q9)
ขัน้ ท่ี 5 สรุปและจัดระเบยี บความรู้

7. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียนสรุปความรู้เรื่อง ชุดเครื่องมือและการใช้งาน
ในโปรแกรม Photoshop (Q10)

ข้นั ที่ 6 ปฏิบตั แิ ละ/หรือแสดงผลงาน

8. สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นกับครูวา่ หากตอ้ งการสรา้ งงานแบบนี้
ควรใช้เคร่อื งมอื ชนดิ ไหน และให้นกั เรียนแตล่ ะคนสร้างชิ้นงานเป็นของตนเอง (Q11-Q12)

ขนั้ ท่ี 7 ประยุกต์ใชค้ วามรู้
9. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ช้ในบทเรยี นตอ่ ๆ ไป

เพ่อื จะได้มีความรู้ความเข้าใจในบทเรียนตา่ งๆ มากยิ่งขนึ้ (Q11-Q12)

8. ชดุ คำถามกระต้นุ เพือ่ ปลูกฝังหลกั คิดพอเพียง

คำถามกระตนุ้ คิดเพอ่ื ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงกอ่ นเรียน
Q1 ความมีเหตุผล : หากเปิดรูปเครือ่ งมอื ในโปรแกรม Photoshop ให้นักเรียนดู นักเรียนสามารถบอก
คุณสมบัตขิ องเครือ่ งมือนน้ั ไดห้ รือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร

คำถามกระตุ้นคดิ เพื่อปลกู ฝังหลักคดิ พอเพยี งระหวา่ งเรียน
Q3 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนอธิบายความรู้เกี่ยวกับชุดเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Photoshop
ไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร
Q4 ความมีเหตุผล : จากการศึกษา เรื่อง ชุดเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Photoshop นักเรียนได้
อะไรบา้ ง
Q5 ความพอประมาณ : นักเรียนเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และแบ่งเนื้อหาได้เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร
Q6 การมภี มู ิคุม้ กันในตวั ทด่ี ี : นกั เรียนมีการแบง่ งานภายในกล่มุ และวางแผนในการทำงานอยา่ งไร
คำถามกระตนุ้ คิดเพอื่ ปลกู ฝงั หลักคิดพอเพียงหลงั เรียน
Q7 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q8 มิตวิ ัตถุ : การทำกิจกรรมการเรยี นรู้ในวันนม้ี ีประโยชนด์ ้านใด อย่างไรบา้ ง
Q9 มิตทิ างสังคม : การทำงานกล่มุ มีปญั หาหรอื ไม่ นักเรยี นมแี นวทางในการแก้ปญั หานน้ั อยา่ งไร
Q10 มติ ิด้านส่งิ แวดล้อม : ในการทำงานเป็นกลุ่มส่งผลตอ่ การบริหารงานภายในกล่มุ หรือไม่
Q11 มิติวัฒนธรรม : ความรู้เกี่ยวกับชุดเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Photoshop ที่นักเรียนศึกษา
มาสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรียนได้อย่างไร
Q12 มิติด้านวัตถุ : ในการจัดทำบันทึกหลังการเรียนนักเรียนสามารถนำวัสดุอุปกรณ์มาประยุกต์ใช้ได้
หรอื ไม่

9. วสั ดอุ ุปกรณ์ /สือ่ /แหล่งเรยี นรู้

9.1 โปรแกรมนำเสนอข้อมูลใบความรู้ที่ 2.2 เรื่อง ชุดเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม Photoshop
9.2 ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ชุดเครื่องมอื ต่าง ๆ ในโปรแกรม Photoshop
9.3 จอ Projector
9.4 เครื่องคอมพิวเตอร์ทตี่ ิดตงั้ โปรแกรม Photoshop และเช่ือมตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ต
9.5 เว็บไซต์สำหรับคน้ ข้อมูล เชน่ http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผสู้ อนคอมพิวเตอร์
9.7 ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ ห้องสมดุ

10. ชิ้นงาน หรือ ภาระงาน

10.1 ใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง ชุดเครือ่ งมือตา่ ง ๆ ในโปรแกรม Photoshop
10.2 บันทกึ สรปุ บทเรียน

11. การวัดและประเมินผล

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ด้าน วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์การวัดและ
ประเมินผล

ความรู้ (K) - ตรวจใบงาน 2.2 - ใบงานที่ 2.2 ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่า

ร้อยละ 80

ทกั ษะกระบวนการ (P) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไป

ภายในกล่มุ พฤตกิ รรมภายในกลุ่ม

คุณลักษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไป

รายบุคคล พฤตกิ รรมรายบคุ คล

เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล : ระดบั คณุ ภาพ 1 = น้อย, ระดบั คณุ ภาพ 2 = ปานกลาง, ระดบั คุณภาพ 3 = มาก

12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ

ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี

๑. กระบวนการเรียนรู้
 มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
 ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง

๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
 ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
 ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป

๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
 ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
 ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง

๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
 สามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรูไ้ ด้จริง
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้

๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)

รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ

 อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
 ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

...............................................
(นายประยงค์ อินนุพฒั น์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒

14. บันทกึ หลงั สอน

จากการจดั กิจกรรมการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้.........................................................................
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่.................. หนว่ ยการเรยี นรู้ท.ี่ .............. เรอื่ ง...................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ .่ี ............ เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................ ... เป้าหมายการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ คอื เพอื่ ให้นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่........................ จำนวนทัง้ หมด....................คน มคี วามรู้
ความสามารถ เรื่อง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นักเรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเป็นตอ้ งแก้ไขปญั หาดงั กลา่ วของนักเรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพือ่ ให้นักเรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวช้ีวัดที่..................................................ทีก่ ำหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนร้ทู .ี่ ......................

ข้อค้นพบและขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ........................................... ครผู ูส้ อน
(นางสาวลักษณน์ ารา ทองมาก)
..……/…………../…………

ใบงานท่ี 2.2
เรือ่ ง ชดุ เครื่องมือและการใชง้ านในโปรแกรม Photoshop

ช่ือ-สกลุ .......................................................................ชนั้ .................... เลขท.ี่ ...............กลุ่มท…่ี ………...
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นบอกชื่อและการใชง้ านเครอ่ื งมือในโปรแกรม Photoshop ท่กี ำหนดให้

(10 คะแนน)

ข้อ ลกั ษณะเคร่อื งมือ ชอื่ การใชง้ าน
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ประเด็นการ 3 คะแนน คำอธบิ ายระดับคะแนน 1 คะแนน
ประเมิน 2 คะแนน

มวี ินัย เข้าห้องเรยี นเรยี นตรงเวลา เข้าห้องเรียนเรยี นตรง เข้าหอ้ งเรียนสาย ไม่

ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงของ เวลา ปฏิบัติตามข้อตกลง ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงของ

หอ้ งเรียนเปน็ ปกตวิ ิสัยและ ของหอ้ งเรียน แต่ปฏิบตั ิ ห้องเรียน ปฏบิ ัติ

เปน็ แบบอย่างทด่ี ี ปฏิบัติ กิจกรรมไม่ครบทุก กจิ กรรมไม่ครบทกุ

กิจกรรมได้ทกุ กจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรม

ตามท่กี ำหนดไว้

ใฝ่เรยี นรู้ แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่
การเรยี นร้ตู า่ งๆ มกี ารจด การเรียนรู้ตา่ งๆ การเรียนรู้ตา่ งๆ
บนั ทึกความรูอ้ ย่างเป็น
ระบบสรปุ ความรูไ้ ด้อยา่ งมี มีการจดบนั ทกึ ความรู้ แตไ่ มม่ ีการจดบันทกึ
เหตุผล ความรู้

มุ่ง มั่น ใน ก าร มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน มีความตัง้ ใจและพยายาม ไมม่ คี วามตั้งใจในการ

ทำงาน การทำงานที่ไดร้ บั ในการทำงานทีไ่ ดร้ บั ทำงาน ทำงานเพ่อื ให้

มอบหมาย มคี วามอดทน มอบหมาย มีความอดทน พ้นๆไปหรอื ทำงานไม่

และไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรค และไม่ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค เสร็จ

เพื่อใหง้ านสำเรจ็ ลุลว่ งทนั แต่งานเสรจ็ ไมท่ ันตาม

ตามเวลาท่ีกำหนด เวลาที่กำหนด

ซอื่ สัตยส์ จุ รติ ไมค่ ัดลอกคำตอบหรอื คดั ลอกคำตอบหรือ คัดลอกคำตอบหรือ
ผลงานของผอู้ ่ืน ให้ข้อมูลที่ ผลงานของผูอ้ ื่นเป็น ผลงานของผูอ้ ื่นเปน็
ถกู ตอ้ งและเปน็ จรงิ เปน็ บางครง้ั ให้ขอ้ มลู ที่ ประจำ ใหข้ ้อมูลท่ีเปน็
แบบอยา่ งท่ีดีด้านความ

ประเดน็ การ 3 คะแนน คำอธิบายระดับคะแนน 1 คะแนน
ประเมนิ 2 คะแนน

ซ่อื สัตย์ ปฏบิ ัติตอ่ ผู้อ่ืนดว้ ย ถูกต้อง เปน็ จริง ปฏิบตั ิ เท็จ ขาดความความ

ความซื่อตรง ต่อผอู้ น่ื ด้วยความซอื่ ตรง ซื่อตรง

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

ประเด็นการ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมนิ
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การสอ่ื สาร มีความสามารถในการรบั – มคี วามสามารถในการ ในการรบั – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รบั – ส่งสาร สามารถ
การคิด มีความสามารถ
ความร/ู้ ความคดิ /ความ ถ่ายทอดความร้/ู ในการคดิ
ความสามารถใน
การแก้ปัญหา เข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ญั หาที่
และวธิ ีการที่เหมาะสม ของตนเองโดยใช้ภาษา เกดิ ขึน้ ไดบ้ ้าง

รวมทั้งวเิ คราะหแ์ สดงความ และวิธกี ารทีเ่ หมาะสม

คิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล

มคี วามสามารถในการคิด มคี วามสามารถในการ

วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์

และคดิ นอกกรอบอย่าง

สร้างสรรค์

สามารถแกป้ ัญหาท่ีเกิดขนึ้ ได้ สามารถแกป้ ญั หาที่

ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา เกิดข้นึ ได้ ใชเ้ หตผุ ลใน

แสวงหาความร้แู ละประยุกต์ การแก้ปญั หา

ความรมู้ าใช้ในแกไ้ ขปญั หา

ประเดน็ การ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมนิ
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน เรยี นรู้ดว้ ย
การใช้ทักษะชวี ิต เรยี นรดู้ ้วยตนเองได้ เรียนรู้ด้วยตนเอง และ ตนเองได้

ความสามารถใน เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานร่วมกบั เลอื กและใช้
การใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยใี นการ
ทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ และ ผูอ้ ืน่ ได้ ทำงานได้

สามารถนำความรูไ้ ปใช้

ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั

เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้ เลือกและใช้เทคโนโลยี

อยา่ งเหมาะสม มีทกั ษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี

กระบวนการทางเทคโนโลยี ทักษะกระบวนการทาง

มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการ เทคโนโลยี

ใชเ้ ทคโนโลยี

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

เรียนรูแ้ ละเริม่ ตน้ ใชง้ านโปรแกรม Adobe

PhotoshPophเปo็นtโปoรแsกhรมoสำหpรับCสรS้าง5และตกแต่งภาพทีม่ ีช่ือเสยี งและได้รบั ความนิยมมากที่สุด อัน

เนื่องมาจากคุณสมบัติเดน่ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถจัดการกบั ไฟล์สารพัดชนิดที่ใช้ใน
งานประเภทต่าง ๆ ทั้งรูปที่จะนำไปผ่านกระบวนการพิมพ์ และรูปที่นำไปใช้ในเว็บเพจหรือส่งผ่านสื่อ
อิเล็กทรอนิคส์ มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการแก้ไขตกแต่งภาพ และการสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษต่าง ๆ มี
เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูง สามารถบันทึกขั้นตอนที่ต้องทำซ้ำ ๆ ไว้เรียกใช้ภายหลัง
ตลอดจนมีผผู้ ลิตปลั๊กอนิ (plug-in) ใหเ้ ปน็ จำนวนมาก ซ่ึงปลกั๊ อินก็คือโปรแกรมเสรมิ สำหรับช่วยให้การทำงาน
ที่ซับซ้อนสำเร็จลงได้อย่างรวดเรว็ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของงานประเภทต่าง ๆ ซึ่งคุณสามารถใช้ Photoshop
ช่วยจัดการไดอ้ ย่างงา่ ยดาย

• แกไ้ ขภาพถา่ ย ทบ่ี กพรอ่ งหรอื มตี ำหนเิ ช่นปรบั สีท่ีเพีย้ น ปรับแสงเงาที่สว่างหรือมืดเกินไป
ลบแสงแฟลชทส่ี ะทอ้ นในดวงตา

• ตกแต่งภาพ เช่น ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป ลบองค์ประกอบที่รกรุงรัง ปรับภาพให้
เบลอหรือคมชัด ปรับผิวกายนางแบบให้ขาวนวลและขจัดไฝฝ้าต่าง ๆ ขจัดเม็ดสีที่เกิดในภาพที่สแกนจาก
ส่ิงพมิ พ์

• ดัดแปลงภาพ เช่น ทำภาพใหม่ให้กลายเป็นภาพสซี ีเปียแบบโบราณ หรือแปลงภาพเก่า ๆ
ที่เป็นขาวดำให้กลายเป็นภาพสี เปลี่ยนภาพคนให้อ้วนขึ้น-ผอมลง หรือเด็ก-แก่กว่าที่เป็นจริง

• ใส่เอฟเฟ็คต์พิเศษ ให้ภาพ เช่น ทำให้เหมือนกำลังมองภาพผ่านกระจกชนิดและลายตา่ ง
ๆ หรือเหมือนเงาสะทอ้ นในน้ำ เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดูคลา้ ยภาพวาดดว้ ยเคร่ืองมือหลากหลายชนิด ใส่ประกาย
แสงหรอื เงาให้วัตถุ ทำวตั ถแุ บน ๆ ใหด้ เู ปน็ 3 มิติ เปลย่ี นโทนสีของภาพ

• สร้างภาพกราฟิก ซึ่งผสมผสานระหว่างภาพถ่าย ข้อความ และภาพวัตถุหรือเอฟเฟ็กต์
พิเศษที่สร้างขึ้นใน Photoshop เพื่อใช้ในงานผลิตส่ือโฆษณา ทำปกหนังสือหรือนติ ยสาร หรือใช้ตกแต่งเว็บ
เพจ

ความเป็นมาของ Photoshop

Photoshop เป็นโปรแกรมของบริษัท Adobe (“อะ-โด-บี้”) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน
กราฟิก และอุตสาหกรรมการพิมพ์รายสำคัญ รวมถึงเป็นผู้คิดค้นภาษา PostScript และไฟล์แบบ PDF
(Portable Document Format) ที่ใช้กันในวงการพิมพ์และการจัดรูปแบบเอกสารบนอินเตอรเ์ น็ตด้วย
ดังนั้น Photoshop จึงสามารถทำงานร่วมและแลกเปลี่ยนไฟล์กบั โปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้ทำงานด้านกราฟิกได้
อย่างกว้างขวาง เช่น โปรแกรม Illustrator, PageMaker และ Acrobat ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของ Adobe
เ ช ่ น กั น

Photoshop ออกเวอร์ช่ันแรกในปี 1990 และได้รบั การพฒั นาตอ่ เนื่องมาเรอ่ื ย ๆ เป็นเวอร์ชน่ั 2,2.5,

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

3, 4, 5, 5.5 และ 6 ,7 ,CS2,CS3CS4 จนกระทั่งล่าสุดคือเวอร์ชั่น CS5 ในขณะนี้ โดยมีขีดความสามารถ
ใหม่ๆ สำหรับการจัดการกับภาพขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง คือ Adobe Bridge CS 5 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับ
จัดการภาพถ่ายของเรา ซึ่งทำหน้าท่เี หมือนการทำงานใน Explorer หรือบางอย่างอาจจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ
เช่น การจัดกลุ่มภาพ การแสดงรายละเอียดของภาพ เช่น กล้องที่ใช้ถ่ายด้วยเลนส์แบบไหน โฟกัสเท่าไร ค่า
white balance เท่าไร เป็นต้น และที่สำคัญคือสามารถดูตัวอย่างไฟล์ภาพของ Photoshop นามสกุล .psd
ได้ โดยไมต่ อ้ งเปดิ ดใู น Photoshop และยังมคี ำสง่ั อตั โนมตั ทิ ่ีสามารถเลือกใช้กบั ไฟลภ์ าพไดอ้ ีกดว้ ย

 ความสามารถพืน้ ฐานของ Adobe Photoshop ทคี่ วรทราบ

ตกแตง่ หรอื แกไ้ ขรปู ภาพ
ตดั ตอ่ ภาพบางสว่ น หรอื ท่เี รียกวา่ crop ภาพ
เปลีย่ นแปลงสขี องภาพ จากสหี นง่ึ เปน็ อีกสหี นึ่งได้
สามารถลากเสน้ แบบฟรสี ไตล์ หรือใส่รูปภาพ สีเ่ หล่ยี ม วงกลม หรือสรา้ งภาพไดอ้ ยา่ งอสิ ระ
มกี ารแบง่ ช้นั ของภาพเปน็ Layer สามารถเคลื่อนย้ายภาพไดเ้ ป็นอิสระต่อกนั
การทำ cloning ภาพ หรือการทำภาพซ้ำในรปู ภาพเดียวกัน
เพมิ่ เติมขอ้ ความ ใส่ effect ของขอ้ ความได้
Brush หรอื แปรงทาสี ทสี่ ามารถเลือกรปู แบบสำเร็จรูปในการสร้างภาพได้และอนื่ ๆ อีกมากมา

 ความสามารถของโปรแกรม Photoshop

มีอยู่มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึงแต่ที่เป็นความสามารถหลักๆของตัวโปรแกรมเองจะถูกแบ่งเป็น 2
เรอื่ ง คือ แก้ไขตกแตง่ ภาพถ่าย:งานน้ีเป็นงานถนัดของ Photoshop เชน่ การแกไ้ ขภาพท่ีมือให้สว่างการลบ
ริ้วรอยทไี่ ม่ตอ้ งการ ออกจากภาพรวมถงึ ตดั ต่อนาภาพหลายๆภาพมารวมกันโดยในส่วนน้ีจะเรียกว่าเป็นส่วน
ของงานรีทัชออกแบบ สร้างสรรค์งานกราฟิก:ใช้ Photoshop ช่วยในการสร้างภาพสามิติความสามารถใน
ส่วนนจี้ ะเปน็ เร่อื งของการขีดๆ เขียนๆออกแบบสร้างงานกราฟกิ เช่นการวาภาพตัวการ์ตนู หรือการออกแบบ
ส่ือสิ่งพมิ พ์ชนิดตา่ งๆ

1. งานออกแบบสงิ่ พมิ พ์
ในงานออกแบบสิ่งพมิ พ์ทุกชนิด เช่น การออกแบบภาพสามมิติ , ออกแบบโลโก้ , แบนเนอร์,โบร
ชวั ร์,นามบตั ร, ใบปลวิ , แผ่นพบั , หนงั สือ, แคตาลอกสนิ ค้า ,โปสเตอร์, ป้ายโฆษณา, ป้ายหนา้ รา้ นเรา
สามารถใชโ้ ปรแกรมPhotoshopช่วยในการทำงานได้เป็นอยา่ งดี
2. งานออกแบบเว็บไซต์

เพื่อใหเ้ ว็บไซตจ์ ำเป็นอย่างย่ิงที่ต้องมีภาพกราฟิกท่ีสวยงามน่าสนใจทั้งการตกแต่งดว้ ยภาพขนาดต่าง ๆการสร้างโลโก้
ประกอบเว็บไซต์การสร้างตัวอักษรซ่ึงการทำงานเหล่านีจ้ ำเป็นที่จะต้องใช้โปรแกรม Photoshop ช่วยในการออกแบบ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

3. งานแก้ไขซ่อมแซมภาพ
ภาพต้นฉบับที่เราได้มาในบางครั้งมขี ้อบกพรอ่ งหลายๆ อย่าง เป็นต้นว่า ภาพมืดเกินไปภาพมรี อย
ขรุขระหรือมี Noise, ภาพเบลอเกินไปเป็นต้น การที่เราจะนะภาพที่มีข้อบกพร่องเหล่านี้มาใช้งาน
จำเป็นต้องทำการแก้ไขและซอ่ มแซมภาพดังกลา่ วก่อนเพอ่ื ให้ภาพทม่ี คี วามสมบูรณ์เหมาะสมกบั งาน
4. งานตัดตอ่ ดัดแปลงภาพหรือสร้างสรรค์งานกราฟิกสมัยใหม่
งานกราฟิกปจั จุบนั ผสานเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวนั จนเปน็ เร่อื งทไี่ มไ่ กลตวั ไม่ว่าจะเป็นถุงใส่ของปก
ซีดปี ฏิทนิ ตัง้ โตะ๊ หน้าจอคอมพวิ เตอร์เว็บไซตห์ นงั สือปกวารสารนิตยสารการ์ดป้ายประชาสัมพันธ์เคร่ืองหมาย
สัญลักษณ์งานเหล่านี้ก็เกิดจากการใช้งานโปรแกรมช่วยในการออกแบบนาภาพมาสร้างสรรค์งานกราฟิกท่ี
สวยงามมปี ระโยชน์ใชส้ อยทีด่ ตี ลอดจนมีแนวคดิ ในการออกแบบทด่ี ี

 รจู้ ักสว่ นประกอบ Photoshop CS5

การทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมเป็นพื้นฐานที่ดีที่จะ
นำไปสู่การใช้งานโปรแกรมในระดบั สงู เพราะจะทำให้เรามคี วามคล่องตัวเปน็ อยา่ งมากในการทำงานที่มีความ
สลับซับซ้อนมาก ๆ เราจะมาทำความรู้จักกับหน้าตา และส่วน ต่าง ๆ ของ Photoshop CS5 กัน เมื่อเรา
เปิดโปรแกรม Photoshop CS5 ขึ้นมาเราก็เห็นพื้นที่ทำงานของโปรแกรม Photoshop CS5 ถูกเปิด
ข้นึ มา ซง่ึ ภายในจะประกอบ ไปดว้ ยส่วนการทำงานหลักดังตอ่ ไปน้ี

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

 Menu Bar เป็นแถบกลุ่มคำสง่ั ท่บี รรจคุ ำสัง่ สำหรบั การทำงานท้งั หมดใน Photoshop CS5 โดยจะแบง่
ออกเป็น 11 หมวดหมู่ด้วยกันตาม กลุ่มชนิดของการใชง้ าน
 Option Bar เป็นแถบสำหรับแสดงส่วนตั วเลือกหรือส่วนปรับแต่งเสริมการทำงานของ

เครอื่ งมือ (Tool) ทเี่ ราเลือกใชง้ านจากใน Toolbox
 Toolbox เป็นกล่องสำหรับเก็บเครื่องมือสำหรับใช้ทำงานกับพื้นที่ทำงาน โดยจะประกอบได้ ด้วย
เครอื่ งมอื หลาย ๆ ชนิดด้วยกัน
 Active Image Area หรือ พื้นที่แสดงภาพ เป็นส่วนกรอบแสดงภาพสำหรับทำงาน หรือพื้นที่ ทำงาน
สามารถเปิดขึ้นมาได้หลาย ๆ กรอบพื้นที่ทำงาน พร้อม ๆ กัน แต่สามารถเลือกทำงานได้ทีละกรอบทำงาน
เทา่ น้ัน
 Panel เปน็ สว่ นหนา้ ต่างย่อย ๆ สำหรับอำนวยความสะดวกในการทำงาน และเป็นสว่ นควบคมุ ส่วนยอ่ ย
ในการทำงานต่าง ๆ ด้วย เช่น การกำหนดสี, กำหนดการทำงาน Layer หรือ Channel สีของภาพ การ
แสดงและจดั การบันทึกการทำงาน (History) เปน็ ตน้ ซ่ึงในแตล่ ะ Panel ยงั ประกอบไปดว้ ย Tab หวั ขอ้ ยอ่ ย
ต่าง ๆ ตามแต่ละสว่ นของการทำงาน
 Application Bar (แอพพลิเคชั่นบาร์) เป็นแถบเครื่องมือที่เก็บปุ่มคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ เอาไว้ เช่น
เปิดโปรแกรม Bridge หมุนพื้นที่ทำงาน , ย่อ-ขยายภาพ , จัดเรียงวินโดวส์ภาพ และจัดองค์ประกอบของ
เครื่องมือตามพื้นที่ใช้งาน (Workspace) ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาในส่วนของ Photoshop CS5

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

 Workspace (พื้นที่ใช้งาน) เป็นการเลือกพื้นที่การทำงานของ Photoshop ซึ่งเพิ่มเติมในเวอร์ช่ัน
CS5 ซึ่งเปน็ การจัดพ้นื ทใ่ี หเ้ หมาะสมกับการทำงาน
 Menu Bar (แถบเมน)ู

แถบเมนูหรือ Menu Bar นั้นเปน็ แถบสำหรับเลือกคำส่ังทำงาน โดยจะอยทู่ างด้านบนของโปรแกรม
ซ ึ ่ ง ก า ร ใ ช ้ง า น Menu Bar ใ น Photoshop CS5 น ั ้ น ก ็จ ะ เ หม ื อ น ก ั น ก ั บ โ ปร แ ก ร มใ ช ้ง าน
อืน่ ๆ โดยใน Photoshop CS5 น้ัน Menu Bar จะถูกแบ่งออกเปน็ 11 กลมุ่ คำสงั่ ด้วยกนั คอื

1. File ชดุ กลมุ่ คำสงั่ ท่เี กย่ี วข้องกับไฟลร์ ูปภาพ เช่น สร้างไฟลใ์ หม่ ไม่วา่ จะเปน็ คำสง่ั สร้างพืน้ ทีท่ ำงาน
ใหม่ คำสง่ั ปิดพ้นื ท่ีทำงาน คำสั่งบนั ทกึ เปิด หรอื ปิดภาพ

2. Edit รวมคำสั่งที่ใช้สำหรับแก้ไขภาพ และปรับแต่งการทำงานของโปรแกรมเบื้องต้น เช่น
คดั ลอก , วาง , ยกเลกิ คำสงั่ ,แกไ้ ขเคร่ืองมือ

3. Image ชุดกลุ่มคำสั่งเกี่ยวข้องกับการจัดการแก้ไขภาพ โดยจะเป็นการจัดการแก้ไขรูปภาพ
ทัง้ หมด (ทุก Layer ในพน้ื ทีท่ ำงาน) เชน่ การแก้ไข ขนาดของภาพ การทำสำเนาภาพรวมทง้ั การเพ่ิม Layer
พิเศษชนิดต่าง ๆ ลงไปในภาพ

4. Layer ชุดกลุ่มคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานต่างๆของLayer ไม่ว่า จะเป็นการ
สำเนาเพมิ่ หรือ ลบ Layerชนิดตา่ ง ๆ ในภาพ รวมทั้งการ ย้ายตำแหน่งลำดบั ชัน้ ของ Layer

5. Select ชุดกลุ่มคำส่ังที่เกี่ยวข้องกับการเลือกพื้นท่ีแบบตา่ ง ๆ ในพื้นทีท่ ำงานรวมไปถึงการแกไ้ ข
พื้นทท่ี ี่เราเลือกไปแล้วด้วย

6. Filter ชุดกล่มุ คำส่งั สำหรบั เลือกใชง้ าน Filter แบบต่าง ๆ ลงไปในภาพ
7. Analysis เมนูสำหรับการเรียกใช้และปรับแต่งเครื่องมือนักวัดระยะ และคำนวณพื้นที่ (เฉพาะ
CS5 รุ่น Extended)
8. 3 D ชุดกลุ่มคำสงั่ ท่รี วมคำส่งั ทใ่ี ช้กับภาพแบบ 3 มิติ ซง่ึ เปน็ คำสั่งที่ เพิ่มเติมในเวอรช์ น่ั CS5
9.View ชดุ กลมุ่ คำสงั่ ที่เกยี่ วขอ้ งกบั การกำหนดมุมมองในพื้นท่ีทำงาน เช่น การเปิดหรือปิดเสน้ Gird
การเปดิ หรือปดิ การทำ Snap ในพืน้ ทที่ ำงาน การยอ่ หรอื ขยายมมุ มองของภาพ
10. Window ชุดกลุ่มคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการเปิดหรือปิดหน้าต่างหรือ Palette ต่าง ๆ ในพื้นที่
ทำงาน
11. Help ชุดกลมุ่ คำสงั่ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การเลือกตวั ชว่ ยพเิ ศษตา่ งๆ สำหรบั เปดิ ดขู ้อมูลช่วยเหลือและ
คำแนะนำในการทำงาน

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

เครอ่ื งมอื ต่าง ๆ ของโปรแกรม Adobe Photoshop
CS5

1.เคร่อื งมอื กลุ่มเลือกภาพ (Selection Tools) ประกอบดว้ ย

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

2. เครื่องมือกลุ่มตกแตง่ และแก้ไขภาพ (Retouching Tools) ประกอบด้วย

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์


Click to View FlipBook Version