12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ
ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี
๑. กระบวนการเรียนรู้
มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง
๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง
๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
สามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรูไ้ ด้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้
๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ
อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
...............................................
(นายประยงค์ อินนุพฒั น์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒
14. บันทกึ หลงั สอน
จากการจดั กิจกรรมการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้.........................................................................
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่.................. หนว่ ยการเรยี นรู้ท.ี่ .............. เรอื่ ง...................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ .่ี ............ เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................ ... เป้าหมายการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ คอื เพอื่ ให้นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่........................ จำนวนทัง้ หมด....................คน มคี วามรู้
ความสามารถ เรื่อง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นักเรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเป็นตอ้ งแก้ไขปญั หาดงั กลา่ วของนักเรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพือ่ ให้นักเรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวช้ีวัดที่..................................................ทีก่ ำหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนร้ทู .ี่ ......................
ข้อค้นพบและขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ........................................... ครผู ูส้ อน
(นางสาวลักษณน์ ารา ทองมาก)
..……/…………../…………
ใบกิจกรรมท่ี 4.1
เร่อื ง การเลือกพ้นื ที่บนภาพและการแยกวัตถอุ อกจากฉากหลัง
ช่อื -สกลุ .......................................................................ช้ัน.................... เลขท.่ี ...............กลุม่ ท…ี่ ………...
ตอนท่ี 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำรูปทค่ี รูกำหนดให้ มาเลือกพื้นทีบ่ นภาพ โดยใช้เครอื่ งมอื ต่อไปนี้
เครอ่ื งมือกลมุ่ marquee
เคร่ืองมอื กลุ่ม Lasso
เครื่องมือ Quick Selection
ตอนท่ี 2
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนนำรูปทคี่ รกู ำหนดให้ มาลบพ้นื ทอี่ อกจากฉากหลงั
กำหนดขนาดช้ินงาน
กว้าง = 1024 Pixel
สูง = 768 pixel
Resolution = 72 pixel/inch
Color mode = RGB color
Background contents = white
แบบสังเกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทำกิจกรรมของนกั เรยี น
รายการ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบตั ิ
1. เร่ิมต้นงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพอื่ เมอ่ื ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนุกสนานและเตม็ ใจ
5. มีสว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอื่ นในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง
รวมคะแนน
หมายเหตุ
1. ขอ้ ใดท่นี ักเรียนปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน
2. เกณฑ์การประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดังน้ี
7 คะแนน ดีมาก
5-6 คะแนน ดี
3-4 คะแนน พอใช้
1-2 คะแนน ควรปรบั ปรุง
3. ครูอาจสมุ่ เลือกนักเรียนเท่าที่สามารถสังเกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะคร้งั โดยหมุนเวยี นไปจนครบ
ทุกคนในหอ้ ง
เกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน
ประเดน็ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
การ 5 4 3 2 1
- รปู ภาพสัมพันธ์
ประเมนิ กบั เนอ้ื หา
1. รปู แบบ - รูปแบบช้ินงาน - รปู แบบแปลก - มขี นาด - รูปภาพมีสีสนั - เลือกภาพที่
นำมา
ชน้ิ งาน ถกู ต้องตามที่ ใหม่ นา่ สนใจ เหมาะสม สวยงาม แตง่ กบั เทคนคิ ที่
ใช้มคี วามขัดแย้ง
กำหนด - มขี นาด - รปู ภาพมสี ีสนั - รปู ภาพ กนั ชิ้นงานหลงั
การแตง่ ภาพดไู ม่
- รูปแบบแปลก เหมาะสม สวยงาม สัมพันธ์ กบั สมจริง
ใหม่ น่าสนใจ - รปู ภาพมสี ีสัน - รูปภาพสมั พนั ธ์ เนื้อหา - สง่ ชนิ้ งานชา้
กว่ากำหนดเกิน
- รูปภาพมสี ีสัน สวยงาม กับเนือ้ หา 3 วนั
สวยงาม - รูปภาพสัมพนั ธ์
- รปู ภาพสมั พันธ์ กบั เน้ือหา
กับเนื้อหา
2. การนำ - เลือกภาพทน่ี ำมา - เลอื กภาพท่ี - เลอื กภาพท่ี - เลือกภาพท่ี
ความร้เู รื่อง แต่งและใช้เทคนคิ นำมา นำมา นำมาแตง่ กับ
เทคนิคการ ไดเ้ หมาะสม แต่งและใช้เทคนิค แตง่ กับเทคนิคที่ เทคนิคที่ใช้
แต่งภาพ ชน้ิ งาน ไดเ้ หมาะสม ใช้ มีความขัดแยง้
มาใช้ใน หลังการแต่งภาพ ชน้ิ งาน มีความเหมาะสม กัน
ชิ้นงาน ดสู มจริง หลังการแตง่ ภาพ กัน
ดไู ม่สมจริง แตง่
มาก/
นอ้ ยเกนิ ไป
3. เวลา ส่งชน้ิ งานภายใน - สง่ ชิ้นงานชา้ - สง่ ชิ้นงานชา้ กวา่ - ส่งชิน้ งานชา้
เวลาท่ีกำหนด กวา่ กำหนด 1 วนั กำหนด 2 วัน กวา่ กำหนด 3
วนั
เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ประเด็นการ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เข้าห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรียนสาย ไม่ปฏบิ ตั ิ
ใฝ่เรยี นรู้ ตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไมค่ รบทุก
กิจกรรม
ห้องเรยี นเป็นปกติวิสัยและเป็น หอ้ งเรียน แตป่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม
แบบอยา่ งท่ีดี ปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ ไม่ครบทุกกิจกรรม
ทุกกิจกรรมตามทีก่ ำหนดไว้
แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ
เรยี นรตู้ ่างๆ มีการจดบันทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรยี นรูต้ ่างๆ เรียนรู้ต่างๆ
ความรูไ้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบันทึกความรู้ แตไ่ ม่มีการจดบันทกึ ความรู้
มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามตั้งใจและพยายามในการ มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน ไมม่ ีความตัง้ ใจในการทำงาน
ทำงานเพ่ือใหพ้ ้นๆไปหรือ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มี การทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ทำงานไม่เสรจ็
ความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่อ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้
อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลลุ ว่ ง ต่ออุปสรรค แตง่ านเสร็จไม่
ทันตามเวลาท่กี ำหนด ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด
ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คดั ลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงาน
ของผอู้ ่นื ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและ ของผู้อ่ืนเปน็ บางคร้งั ให้ ของผู้อนื่ เป็นประจำ ให้
เปน็ จริง เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ดี ้าน ข้อมูลทถี่ ูกต้อง เป็นจรงิ ขอ้ มลู ที่เป็นเท็จ ขาดความ
ความซือ่ สัตย์ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื ปฏิบัติต่อผู้อื่นดว้ ยความ ความซ่ือตรง
ดว้ ยความซ่ือตรง ซอ่ื ตรง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใชภ้ าษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใช้ภาษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
และคิดนอกกรอบอยา่ ง
สร้างสรรค์
สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่
ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตุผลใน
แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา
ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา
เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ
เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั
ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้
สามารถนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั
เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี
กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง
มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี
ใช้เทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู้บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
โรงเรียนสรุ าษฎรธ์ านี ๒
แผนการเรียนรู้ท่ี 9 เรื่อง การปรบั รูปทรงของภาพ จำนวน 2 ชวั่ โมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์ 1 รหัสวิชา ว20233
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การสร้างสรรคช์ นิ้ งาน จำนวนช่วั โมงของหนว่ ย 20 ชั่วโมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป้าหมายการเรียนรู้
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 ใช้เครอื่ งมอื ในการตัดและตกแต่งภาพประกอบการสร้างชิน้ งานได้
1.2 ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พอื่ สร้างสรรคง์ านได้อย่างถูกต้องสวยงาม และเหมาะสม
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ผู่ ลการเรียนรู้
2.1 นกั เรียนสามารถบอกชือ่ เครื่อมือสำหรับการปรับรูปทรงรูปภาพได้ (K)
2.2 นกั เรยี นสามารถเลือกใช้เครอื่ งมอื สำหรับปรบั รปู ทรงของภาพได้ (P)
2.3 ใฝเ่ รียนรู้ มคี วามมุ่งม่นั ในการทำงาน และมคี วามรับผิดชอบ (A)
3. สาระสำคญั
เราสามารถปรับรูปทรงของภาพทั้งชิ้นในเลเยอร์ หรือเฉพาะบริเวณที่สร้าง selection ไว้
โดยทำได้หลายลักษณะ เช่น ปรับขนาด, หมุน, พลิก, บิดตามแนวใดแนวหนึ่ง, บิดให้เกิดสัดส่วนใกล้ไกล
หรือบิด และดึงภาพอย่างอิสระ สำหรับวิธีปรับก็มีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ การคลิกลากที่ส่วนต่าง ๆ ของ
bounding box และการกำหนดคา่ บนออปชัน่ บาร์
4. สาระการเรยี นรู้
การปรบั รปู ทรงของภาพ โดยคำสงั่ Transform
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 มวี นิ ยั
5.1.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีความตงั้ ใจทำงานและติดตามผลงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
5.1.2. มีระเบียบวินยั และปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์ทกี่ ำหนด
5.1.3 มคี วามตรงตอ่ เวลา
5.1.4 มคี วามอดทนขยันหมนั่ เพียร
6.1.5 รู้จักเสียสละและมีความเหน็ ใจผู้อนื่
5.2 ใฝ่เรยี นรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ
5.2.2 มกี ารจดบันทกึ ความร้อู ย่างเป็นระบบ
5.2.3 สรุปความร้ไู ด้อยา่ งมีเหตุผล
5.3 มุง่ ม่ันในการทำงาน
5.3.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย
5.3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็ ลลุ ่วง
5.4 มคี วามซือ่ สัตย์
5.4.1 ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงานของผอู้ ื่น
5.4.2 ให้ข้อมูลท่ีถกู ตอ้ งและเป็นจรงิ เปน็ แบบอย่างทีด่ ีด้านความซ่อื สัตย์
5.4.2 ปฏบิ ัติตอ่ ผ้อู ่ืนดว้ ยความซื่อตรง
6. สมรรถนะการเรียนร้ขู องผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.2.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
6.2.2 ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์
6.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
6.4.1 กระบวนการปฏิบัติ
6.4.2 กระบวนการทำงานกล่มุ
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6.5.1 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสบื คน้ ขอ้ มูล
กิจกรรมการเรียนรู้
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบการปฏิบัติ)
ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้
1. ครูเปิดโปรแกรม Power Point ใบความรู้ที่ 4.2 พร้อมกับอธิบายขั้นตอนการปรับ
รปู ทรงของภาพให้นกั เรียนฟงั จากนั้นครูเปดิ โปรแกรม Photoshop ขน้ึ มา และใหน้ กั เรยี นศึกษาเคร่ืองมือ
ในการปรบั รูปทรงของภาพ พรอ้ มกับสงั เกตการใชเ้ คร่ืองมอื ต่าง ๆ (Q1)
2. ครูให้นักเรียนคิดว่ารูปภาพสามารถปรับรูปทรงได้กี่แบบ ควรใช้เครื่องมือกลุ่มใด
จากน้นั ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นรูจ้ ัก (Q2)
ขัน้ ท่ี 2 ทำตามแบบ
3. นักเรียนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการปรับรูปทรงของภาพจากใบความรู้ที่ 4.2
จากอินเทอร์เน็ต หรอื สื่ออนื่ ๆ แลว้ ให้นักเรยี นบนั ทึกความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาลงในสมุดบันทกึ (Q3)
4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับรูปทรงของภาพ
(Q4)
5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการปรับรูปทรง
ของภาพ จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทุกคนปฏิบตั ิตามครู โดยครูทำใหด้ ูและให้นกั เรยี นปฏบิ ัติตามทีละขัน้ ตอน (Q5)
6. ครูถามนักเรียนว่าการปรบั รูปทรงของภาพสามารถทำไดก้ ่วี ธิ ี ใชเ้ ครือ่ งมอื กลมุ่ ใดบ้าง
แลว้ ครูอธิบายเพิ่มเติมพรอ้ มกับทำตัวอย่างใหน้ กั เรียนดู เพอื่ ใหน้ ักเรียนทกุ คนเขา้ ใจถงึ หน้าที่และวิธีการใช้
งานของเครือ่ งมือแต่ละชนิด (Q6)
ขั้นท่ี 3 ทำเองโดยไมม่ ีแบบ
7. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบกิจกรรมที่ 4.2 เรื่อง การปรับรูปทรงของภาพ
หากนักเรยี นเกิดประสบปัญหาหรอื มีข้อสงสัยให้ปรึกษาครูทันที แล้วให้ครูอธิบายให้นักเรียนทกุ คนเขา้ ใจ
(Q7-Q8)
ขนั้ ที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน
ใชเ้ ครือ่ งมือต่างๆ ทม่ี ีอยู่ในโปรแกรมตามทต่ี นเองชอบหรอื สนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน
พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)
8. ชดุ คำถามกระตุน้ เพ่ือปลูกฝังหลกั คิดพอเพียง
คำถามกระตนุ้ คิดเพือ่ ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพยี งกอ่ นเรยี น
Q1 ความมเี หตุผล : หากนกั เรยี นต้องการใหภ้ าพทีม่ ีอยู่เปลีย่ นแปลงรูปทรงไปจากลักษณะเดิม นักเรียน
คดิ วา่ เราสามารถปรบั รปู ทรงของภาพนนั้ ให้มีลกั ษณะต่าง ๆ ไดห้ รือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตุ้นคิดเพอ่ื ปลกู ฝังหลกั คดิ พอเพียงระหว่างเรียน
Q3 เง่ือนไขความรู้ : นักเรียนบอกเครื่องมอื ที่ใช้ในการปรบั รปู ทรงของภาพได้หรือไม่
Q4 มิติทางสังคม : นักเรยี นพบปญั หาอะไรบา้ งหรอื ไม่ ไดข้ อความชว่ ยเหลือจากเพอื่ นหรือไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี: หลังจากที่นักเรยี นศึกษามาแล้วเบื้องต้น นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรอื ไม่
Q6 เงื่อนไขความรู้: เครื่องมือที่ใช้ในการปรับรูปทรงของภาพ แต่ละคำสั่ง แตกต่างกันอย่างไร
และเคร่ืองมอื ใดเหมาะกบั งานรูปแบบใดบา้ ง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรยี นคดิ ว่าเครอื่ งมือใดเหมาะกบั การปรบั รูปทรงของภาพบนกลอ่ ง 3 มิติท่ีสุด
เพราะเหตุใด
Q8 เงอ่ื นไขความรู้ : หลังจากท่นี ักเรียนฝกึ ทำด้วยตนเองแลว้ นกั เรียนประสบปัญหาอะไรบา้ ง
คำถามกระตนุ้ คิดเพื่อปลูกฝังหลักคิดพอเพยี งหลงั เรยี น
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มิติวตั ถุ : นักเรยี นเขา้ ใจการปรับรูปทรงของภาพหรอื ไม่ สามารถเลือกใช้เครื่องมือได้ถกู ต้องหรอื ไม่
Q11 มิตดิ า้ นสงิ่ แวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรยี น นักเรียนคดิ วา่ เร่ืองน้ีมคี วามนา่ สนใจอยา่ งไร
Q12 มติ ิวฒั นธรรม : นกั เรียนคดิ ว่าเพอื่ นคนใดมผี ลงานทน่ี ่าช่ืนชม และนักเรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้รับ
วันน้ีไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรได้บา้ ง
9. วัสดุอปุ กรณ์ /สือ่ /แหล่งเรียนรู้
9.1 โปรแกรมนำเสนอขอ้ มลู ใบความรู้ท่ี 4.2 เร่อื ง การปรับรปู ทรงของภาพ
9.2 ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 เรอ่ื ง การปรับรปู ทรงของภาพ
9.3 จอ Projector
9.4 เครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ี่ตดิ ตง้ั โปรแกรม Photoshop และเช่ือมตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็
9.5 เว็บไซต์สำหรับคน้ ข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผสู้ อนคอมพิวเตอร์
9.7 หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ ห้องสมดุ
10. ช้ินงาน หรอื ภาระงาน
10.1 ใบกิจกรรมที่ 4.2 เร่ือง การปรบั รูปทรงของภาพ
10.2 บนั ทกึ สรุปบทเรียน
11. การวัดและประเมินผล
การวัดผลและประเมนิ ผล
ดา้ น วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การวัดและ
ประเมนิ ผล
ความรู้ (K) - ตรวจกิจกรรมที่ 4.2 - ใบกิจกรรมที่ 4.2 ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่
รอ้ ยละ 80
ทกั ษะกระบวนการ (P) - ตรวจกิจกรรมท่ี 4.2 - แบบตรวจกิจกรรมที่ ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่า
4.2 ร้อยละ 80
คุณลกั ษณะ (A) - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2 ขน้ึ ไป
รายบคุ คล พฤติกรรมรายบคุ คล
เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล : ระดบั คณุ ภาพ 1 = นอ้ ย, ระดบั คุณภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคุณภาพ 3 = มาก
12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ
ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี
๑. กระบวนการเรียนรู้
มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง
๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
ทเ่ี น้นผ้เู รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง
๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
สามารถนำไปใช้จัดการเรียนรูไ้ ด้จริง
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้
๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ
อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
...............................................
(นายประยงค์ อินนุพฒั น์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒
14. บันทกึ หลงั สอน
จากการจัดกิจกรรมการเรยี นร้กู ลุ่มสาระการเรยี นรู้.........................................................................
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่.ี ................. หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่.ี .............. เรือ่ ง...................................................................
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่............. เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................... เป้าหมายการจัดกิจกรรมก าร
เรยี นรู้ คือ เพ่ือใหน้ กั เรียนระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท.่ี ....................... จำนวนทั้งหมด....................คน มีความรู้
ความสามารถ เรอ่ื ง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นกั เรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเปน็ ต้องแก้ไขปัญหาดงั กล่าวของนกั เรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพื่อให้นกั เรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวชี้วัดที่..................................................ที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการ
เรียนรู้ที่.......................
ขอ้ ค้นพบและข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ …………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ........................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวลักษณ์นารา ทองมาก)
..……/…………../…………
ใบกจิ กรรมท่ี 4.2
เร่อื ง การปรบั รปู ทรงของภาพ
ช่ือ-สกลุ .......................................................................ช้นั .................... เลขที่................กลุ่มท…่ี ………...
คำชี้แจง ให้นักเรยี นนำรปู ภาพทค่ี รูกำหนดให้ปรับรปู ทรงของภาพ ให้มลี ักษณะดงั น้ี
เกณฑก์ ารประเมินช้นิ งาน
ประเด็น เกณฑ์การใหค้ ะแนน
การ 5 4 3 2 1
- รูปภาพสมั พันธ์
ประเมิน - รูปภาพมสี ีสัน กับเนอื้ หา
สวยงาม
1. รปู แบบ - รปู แบบชนิ้ งาน - รปู แบบแปลกใหม่ - มขี นาด - รปู ภาพ - เลอื กภาพที่
สมั พันธ์ กบั นำมา
ชิ้นงาน ถกู ตอ้ งตามที่ น่าสนใจ เหมาะสม เน้ือหา แตง่ กับเทคนิคที่
ใชม้ คี วามขัดแยง้
กำหนด - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพมีสีสนั - เลอื กภาพท่ี กันชนิ้ งานหลัง
นำมาแต่งกับ การแต่งภาพดูไม่
- รปู แบบแปลก - รูปภาพมีสีสนั สวยงาม เทคนิคทใี่ ช้ สมจริง
มคี วามขดั แยง้
ใหม่ น่าสนใจ สวยงาม - รูปภาพสัมพนั ธ์ กัน
- รูปภาพมีสีสนั - รปู ภาพสัมพันธ์ กบั กับเนื้อหา
สวยงาม เน้อื หา
- รูปภาพสัมพันธ์
กับเน้ือหา
2. การนำ - เลือกภาพท่นี ำมา - เลือกภาพท่ีนำมา - เลือกภาพที่
ความร้เู ร่ือง แต่งและใชเ้ ทคนิค แต่งและใชเ้ ทคนคิ นำมา
เทคนิคการ ได้เหมาะสม ไดเ้ หมาะสม ช้นิ งาน แตง่ กับเทคนิคท่ี
แตง่ ภาพ ช้ินงาน หลังการแต่งภาพดู ใช้
มาใช้ใน หลังการแต่งภาพ ไม่สมจริง แตง่ มาก/ มีความเหมาะสม
ชิน้ งาน ดูสมจรงิ น้อยเกนิ ไป กัน
3. เวลา สง่ ชิน้ งานภายใน - ส่งช้นิ งานช้ากว่า - สง่ ช้นิ งานช้ากว่า - ส่งช้ินงานช้า - สง่ ช้ินงานชา้
เวลาทก่ี ำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กวา่ กำหนด 3 กวา่ กำหนดเกนิ
วัน 3 วนั
เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ประเด็นการ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เข้าห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรียนสาย ไม่ปฏบิ ตั ิ
ใฝ่เรยี นรู้ ตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไมค่ รบทุก
กิจกรรม
ห้องเรยี นเป็นปกติวิสัยและเป็น หอ้ งเรียน แตป่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม
แบบอยา่ งท่ีดี ปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ ไม่ครบทุกกิจกรรม
ทุกกิจกรรมตามทีก่ ำหนดไว้
แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ
เรยี นรตู้ ่างๆ มีการจดบันทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรยี นรูต้ ่างๆ เรียนรู้ต่างๆ
ความรูไ้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบันทึกความรู้ แตไ่ ม่มีการจดบันทกึ ความรู้
มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามตั้งใจและพยายามในการ มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน ไมม่ ีความตัง้ ใจในการทำงาน
ทำงานเพ่ือใหพ้ ้นๆไปหรือ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มี การทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ทำงานไม่เสรจ็
ความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่อ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้
อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลลุ ว่ ง ต่ออุปสรรค แตง่ านเสร็จไม่
ทันตามเวลาท่กี ำหนด ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด
ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คดั ลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงาน
ของผอู้ ่นื ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและ ของผู้อ่ืนเปน็ บางคร้งั ให้ ของผู้อนื่ เป็นประจำ ให้
เปน็ จริง เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ดี ้าน ข้อมูลทถี่ ูกต้อง เป็นจรงิ ขอ้ มลู ที่เป็นเท็จ ขาดความ
ความซือ่ สัตย์ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื ปฏิบัติต่อผู้อื่นดว้ ยความ ความซ่ือตรง
ดว้ ยความซ่ือตรง ซอ่ื ตรง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใชภ้ าษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใช้ภาษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
และคิดนอกกรอบอยา่ ง
สร้างสรรค์
สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่
ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตุผลใน
แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา
ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา
เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ
เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั
ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้
สามารถนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั
เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี
กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง
มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี
ใช้เทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนร้บู ูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรยี นสรุ าษฎร์ธานี ๒
แผนการเรียนรู้ท่ี 10 เร่ือง การสรา้ งเอฟเฟ็คพิเศษด้วยฟลิ เตอร์ จำนวน 2 ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ 1 รหัสวชิ า ว20233
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง การสรา้ งสรรค์ชิ้นงาน จำนวนช่วั โมงของหนว่ ย 20 ชัว่ โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป้าหมายการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้
1.1 ใช้เครอื่ งมือในการตดั และตกแต่งภาพประกอบการสร้างชิน้ งานได้
1.2 ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ สรา้ งสรรคง์ านได้อย่างถกู ต้องสวยงาม และเหมาะสม
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ่ผู ลการเรยี นรู้
2.1 นักเรยี นสามารถบอกช่ือเคร่อื งมอื สำหรับสร้างเอฟเฟค็ ตพ์ ิเศษด้วยฟิลเตอร์ได้ (K)
2.2 นักเรียนสามารถสร้างเอฟเฟ็คตพ์ เิ ศษด้วยฟลิ เตอร์ได้ (P)
2.3 นกั เรยี นสามารถนำการสรา้ งเอฟเฟ็คต์พเิ ศษด้วยฟิลเตอร์มาใช้ไดอ้ ย่างสวยงาม เหมาะสม
(P)
2.4 ใฝ่เรียนรู้ มีความม่งุ มน่ั ในการทำงาน และมีความรบั ผดิ ชอบ (A)
3. สาระสำคัญ
Photoshop มีกลุ่มคำสั่งพิเศษเรียกว่า ฟิลเตอร์ (filter) สำหรับใช้ดัดแปลงภาพหรือสร้าง
เอฟเฟ็คต์พิเศษต่าง ๆ ที่แปลกตา เช่น ทำให้ภาพเบลอ หรือปรับภาพให้คมชัดขึ้น เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดู
คล้ายภาพที่วาดด้วยอุปกรณ์หรือสีชนิดต่าง ๆ บิดเบือนภาพให้เป็นลูกคลื่นหรือหมุนวน เติมพื้นผิวให้กับ
ภาพและอน่ื ๆ อีกมากมาย
4. สาระการเรียนรู้
การสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษด้วยฟิลเตอร์
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 มวี นิ ยั
5.1.1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีความตงั้ ใจทำงานและตดิ ตามผลงานท่ไี ด้รับมอบหมาย
5.1.2. มีระเบยี บวินยั และปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
5.1.3 มคี วามตรงต่อเวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหมนั่ เพียร
6.1.5 รู้จกั เสยี สละและมีความเห็นใจผอู้ นื่
5.2 ใฝเ่ รียนรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ
5.2.2 มีการจดบันทึกความรูอ้ ย่างเป็นระบบ
5.2.3 สรปุ ความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล
5.3 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
5.3.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จลุลว่ ง
5.4 มคี วามซ่ือสตั ย์
5.4.1 ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงานของผูอ้ น่ื
5.4.2 ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกตอ้ งและเป็นจริง เป็นแบบอย่างทด่ี ีด้านความซื่อสัตย์
5.4.2 ปฏบิ ตั ิต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซือ่ ตรง
6. สมรรถนะการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.2.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
6.2.2 ทักษะความคดิ สร้างสรรค์
6.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
6.4.1 กระบวนการปฏิบตั ิ
6.4.2 กระบวนการทำงานกลมุ่
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6.5.1 การใชเ้ ทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มลู
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบการปฏบิ ตั ิ)
ขน้ั ท่ี 1 สังเกต รับรู้
1. ครูเปิดโปรแกรม Power Point ใบความรู้ที่ 4.3 พร้อมกับอธิบายขั้นตอนการสร้าง
เอฟเฟ็คต์พิเศษด้วยฟิลเตอร์ให้นักเรียนฟัง จากนั้นครูเปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา และให้นักเรียน
ศกึ ษาเครือ่ งมอื ในการสร้างเอฟเฟค็ ต์พิเศษดว้ ยฟลิ เตอร์ พร้อมกบั สังเกตการใช้เคร่ืองมอื ต่าง ๆ (Q1)
2. ครูใหน้ กั เรยี นคิดว่ารปู ภาพสามารถสร้างเอฟเฟ็คต์พเิ ศษดว้ ยฟิลเตอร์แบบไหนได้บ้าง
และใชเ้ ครื่องมือใด จากนนั้ ครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นรู้จัก (Q2)
ขน้ั ท่ี 2 ทำตามแบบ
3. นักเรียนศึกษาหาความรู้เกย่ี วกับการสร้างเอฟเฟ็คตพ์ ิเศษดว้ ยฟิลเตอร์จากใบความรู้ท่ี 4.3
จากอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ส่อื อ่นื ๆ แลว้ ให้นกั เรยี นบนั ทกึ ความรทู้ ่ไี ด้จากการศกึ ษาลงในสมุดบนั ทึก (Q3)
4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างเอฟเฟ็คตพ์ ิเศษ
ด้วยฟิลเตอร์ (Q4)
5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเอฟเฟ็คต์
พิเศษด้วยฟิลเตอร์ จากนั้นให้นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามครู โดยครูทำให้ดูและให้นักเรียนปฏิบัติตาม
ทลี ะขัน้ ตอน (Q5)
6. ครูถามนักเรียนว่ารูปลักษณะนี้ควรใช้การสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษด้วยฟิลเตอร์แบบใด
จึงจะเหมาะสม แล้วครูอธิบายเพิ่มเติมพร้อมกับทำตัวอย่างให้นักเรียนดู เพื่อให้นักเรียนทุกคนเข้าใจถึง
หนา้ ทแ่ี ละวิธกี ารใชง้ านของเครอ่ื งมอื แต่ละชนิด (Q6)
ข้ันท่ี 3 ทำเองโดยไม่มแี บบ
7. ครูให้นักเรยี นทุกคนทำใบกจิ กรรมท่ี 4.3 เรอ่ื ง การสร้างเอฟเฟ็คตพ์ ิเศษดว้ ยฟิลเตอร์
หากนักเรยี นเกิดประสบปัญหาหรอื มีขอ้ สงสัยให้ปรึกษาครูทันที แล้วให้ครูอธิบายให้นกั เรียนทุกคนเขา้ ใจ
(Q7-Q8)
ขัน้ ที่ 4 ฝึกทำใหช้ ำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน
ใช้เครือ่ งมอื ตา่ งๆ ทม่ี อี ยู่ในโปรแกรมตามทต่ี นเองชอบหรือสนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน
พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)
8. ชดุ คำถามกระตนุ้ เพอ่ื ปลูกฝังหลกั คิดพอเพียง
คำถามกระตนุ้ คดิ เพ่ือปลูกฝงั หลักคิดพอเพยี งก่อนเรยี น
Q1 ความมีเหตุผล : หากนักเรียนต้องการให้ภาพที่มีอยู่มีลักษณะเหมือนภาพวาด นักเรียนคิดว่าเรา
สามารถทำได้หรือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตนุ้ คิดเพอ่ื ปลูกฝังหลักคิดพอเพียงระหว่างเรียน
Q3 เงื่อนไขความรู้ : นกั เรียนบอกเคร่อื งมอื ทใี่ ชใ้ นการสร้างเอฟเฟ็คตพ์ ิเศษด้วยฟิลเตอร์ได้หรอื ไม่
Q4 มิติทางสงั คม : นักเรยี นพบปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ไดข้ อความช่วยเหลอื จากเพ่ือนหรอื ไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี: หลังจากที่นักเรียนศึกษามาแล้วเบ้ืองต้น นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรือไม่
Q6 เง่อื นไขความรู้: เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการสรา้ งเอฟเฟ็คตพ์ ิเศษด้วยฟลิ เตอร์แต่ละคำสงั่ แตกตา่ งกนั อย่างไร
และเคร่ืองมอื ใดเหมาะกบั งานรปู แบบใดบ้าง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรยี นคดิ วา่ เครือ่ งมือใดเหมาะกับเปลย่ี นรูปภาพในมรี ูปแบบศิลปะที่สดุ เพราะ
เหตุใด
Q8 เงือ่ นไขความรู้ : หลังจากทน่ี ักเรยี นฝึกทำดว้ ยตนเองแลว้ นกั เรยี นประสบปัญหาอะไรบ้าง
คำถามกระต้นุ คิดเพ่อื ปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงหลงั เรียน
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มิติวัตถุ : นักเรียนเข้าใจการสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษด้วยฟิลเตอร์หรือไม่ สามารถเลือกใช้เครื่องมือได้
ถกู ตอ้ งหรือไม่
Q11 มิตดิ ้านส่ิงแวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรยี น นักเรียนคิดวา่ เรอ่ื งน้ีมีความนา่ สนใจอย่างไร
Q12 มติ ิวัฒนธรรม : นักเรียนคดิ วา่ เพ่ือนคนใดมผี ลงานที่น่าช่ืนชม และนักเรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้รับ
วนั นไ้ี ปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
9. วสั ดอุ ุปกรณ์ /สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
9.1 โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูลใบความร้ทู ี่ 4.3 เรอื่ ง การสรา้ งเอฟเฟค็ ตพ์ ิเศษด้วยฟลิ เตอร์
9.2 ใบกิจกรรมท่ี 4.3 เรือ่ ง การสรา้ งเอฟเฟ็คต์พเิ ศษดว้ ยฟลิ เตอร์
9.3 จอ Projector
9.4 เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ต่ี ดิ ตัง้ โปรแกรม Photoshop และเชือ่ มตอ่ อนิ เทอร์เนต็
9.5 เวบ็ ไซต์สำหรับคน้ ข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผ้สู อนคอมพิวเตอร์
10. ชน้ิ งาน หรือ ภาระงาน
10.1 ใบกจิ กรรมที่ 4.3 เรื่อง การสรา้ งเอฟเฟ็คตพ์ เิ ศษด้วยฟิลเตอร์
10.2 บนั ทึกสรปุ บทเรียน
11. การวัดและประเมินผล
การวดั ผลและประเมินผล
ดา้ น วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การวัดและ
ประเมนิ ผล
ความรู้ (K) - ตรวจกจิ กรรมที่ 4.3 - ใบกจิ กรรมที่ 4.3 ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่
ร้อยละ 80
ทักษะกระบวนการ (P) - ตรวจกจิ กรรมท่ี 4.3 - แบบตรวจกิจกรรมท่ี ได้คะแนนไมน่ ้อยกว่า
4.3 รอ้ ยละ 80
คณุ ลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป
รายบุคคล พฤตกิ รรมรายบคุ คล
เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล : ระดับคุณภาพ 1 = นอ้ ย, ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง, ระดบั คณุ ภาพ 3 = มาก
12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ
ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี
๑. กระบวนการเรียนรู้
มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง
๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง
๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
สามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรูไ้ ด้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้
๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ
อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
...............................................
(นายประยงค์ อินนุพัฒน์)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒
14. บันทกึ หลังสอน
จากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนร.ู้ ........................................................................
ช้ันมธั ยมศึกษาปที .่ี ................. หนว่ ยการเรียนรู้ที.่ .............. เรือ่ ง...................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท.่ี ............ เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................... เป้าหมายการจัดกิจกรรมก าร
เรยี นรู้ คือ เพือ่ ให้นักเรียนระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่........................ จำนวนทั้งหมด....................คน มีความรู้
ความสามารถ เร่ือง................................................................................. จากผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวเิ คราะห์นกั เรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครู ผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวของนักเรียน เพื่อให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพื่อให้นักเรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรยี นรู้ และบรรลุตัวช้ีวดั ที่..................................................ทีก่ ำหนดไว้ในแผนการจัดการ
เรียนรู้ท.ี่ ......................
ข้อค้นพบและข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ........................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวลกั ษณน์ ารา ทองมาก)
..……/…………../…………
ใบกจิ กรรมที่ 4.3
เรือ่ ง การสรา้ งเอฟเฟค็ พเิ ศษด้วยฟิลเตอร์
ช่ือ-สกุล.......................................................................ชั้น.................... เลขท่ี................กล่มุ ท…ี่ ………...
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นสร้างเอฟเฟ็คด้วยฟลิ เตอร์จากรูปที่ครูกำหนดให้
ใชค้ ำส่งั Filter Gallery
คำสง่ั Blur
- Gaussain Blur
- Motion Blur
- Radial Blur
แบบสังเกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทำกิจกรรมของนกั เรยี น
รายการ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบตั ิ
1. เริ่มต้นงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพอื่ เมอ่ื ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนุกสนานและเตม็ ใจ
5. มีสว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอื่ นในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง
รวมคะแนน
หมายเหตุ
1. ขอ้ ใดท่นี ักเรียนปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน
2. เกณฑ์การประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดังน้ี
7 คะแนน ดีมาก
5-6 คะแนน ดี
3-4 คะแนน พอใช้
1-2 คะแนน ควรปรบั ปรุง
3. ครูอาจสมุ่ เลือกนักเรียนเท่าที่สามารถสังเกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะคร้งั โดยหมุนเวยี นไปจนครบ
ทุกคนในหอ้ ง
เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน
ประเด็น เกณฑ์การใหค้ ะแนน
การ 5 4 3 2 1
- รูปภาพสมั พันธ์
ประเมิน - รูปภาพมสี ีสัน กับเนอื้ หา
สวยงาม
1. รปู แบบ - รปู แบบชนิ้ งาน - รปู แบบแปลกใหม่ - มขี นาด - รปู ภาพ - เลอื กภาพที่
สมั พันธ์ กบั นำมา
ชิ้นงาน ถกู ตอ้ งตามที่ น่าสนใจ เหมาะสม เน้ือหา แตง่ กับเทคนิคที่
ใชม้ คี วามขัดแยง้
กำหนด - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพมีสีสนั - เลอื กภาพท่ี กันชนิ้ งานหลัง
นำมาแต่งกับ การแต่งภาพดูไม่
- รปู แบบแปลก - รูปภาพมีสีสนั สวยงาม เทคนิคทใี่ ช้ สมจริง
มคี วามขดั แยง้
ใหม่ น่าสนใจ สวยงาม - รูปภาพสัมพนั ธ์ กัน
- รูปภาพมีสีสนั - รปู ภาพสัมพันธ์ กับ กบั เนื้อหา
สวยงาม เน้อื หา
- รูปภาพสัมพันธ์
กับเน้ือหา
2. การนำ - เลือกภาพท่นี ำมา - เลือกภาพท่ีนำมา - เลือกภาพที่
ความร้เู ร่ือง แต่งและใชเ้ ทคนิค แต่งและใชเ้ ทคนคิ นำมา
เทคนิคการ ได้เหมาะสม ไดเ้ หมาะสม ช้นิ งาน แตง่ กับเทคนิคท่ี
แตง่ ภาพ ช้ินงาน หลังการแต่งภาพดู ใช้
มาใช้ใน หลังการแต่งภาพ ไม่สมจริง แตง่ มาก/ มีความเหมาะสม
ชิน้ งาน ดูสมจรงิ น้อยเกนิ ไป กัน
3. เวลา สง่ ชิน้ งานภายใน - ส่งช้นิ งานช้ากว่า - สง่ ช้นิ งานช้ากว่า - ส่งช้ินงานช้า - สง่ ช้ินงานชา้
เวลาทก่ี ำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กวา่ กำหนด 3 กวา่ กำหนดเกนิ
วัน 3 วนั
เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ประเด็นการ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เข้าห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรียนสาย ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ใฝ่เรยี นรู้ ตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไมค่ รบทุก
กิจกรรม
ห้องเรยี นเป็นปกติวิสัยและเป็น หอ้ งเรียน แตป่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม
แบบอยา่ งท่ีดี ปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ ไม่ครบทุกกิจกรรม
ทุกกิจกรรมตามทีก่ ำหนดไว้
แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ
เรยี นรตู้ ่างๆ มีการจดบันทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรยี นรูต้ ่างๆ เรียนรู้ต่างๆ
ความรูไ้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบันทึกความรู้ แตไ่ ม่มีการจดบันทกึ ความรู้
มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามตั้งใจและพยายามในการ มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน ไมม่ ีความตัง้ ใจในการทำงาน
ทำงานเพ่ือใหพ้ ้นๆไปหรือ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มี การทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ทำงานไม่เสรจ็
ความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่อ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้
อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลลุ ว่ ง ต่ออุปสรรค แตง่ านเสร็จไม่
ทันตามเวลาท่กี ำหนด ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด
ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คดั ลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงาน
ของผอู้ ่นื ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและ ของผู้อ่ืนเปน็ บางคร้งั ให้ ของผู้อนื่ เป็นประจำ ให้
เปน็ จริง เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ดี ้าน ข้อมูลทถี่ ูกต้อง เป็นจรงิ ขอ้ มลู ที่เป็นเท็จ ขาดความ
ความซือ่ สัตย์ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื ปฏิบัติต่อผู้อื่นดว้ ยความ ความซ่ือตรง
ดว้ ยความซ่ือตรง ซอ่ื ตรง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใช้ภาษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคดิ มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
และคิดนอกกรอบอยา่ ง
สร้างสรรค์
สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่
ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตุผลใน
แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา
ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา
เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ
เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั
ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้
สามารถนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั
เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี
กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง
มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี
ใช้เทคโนโลยี
แผนการจัดการเรยี นรูบ้ ูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
โรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒
แผนการเรียนรู้ท่ี 11 เร่อื ง การตกแต่งและรที ชั ภาพ จำนวน 4 ชั่วโมง
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์ 1 รหัสวิชา ว20233
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอื่ ง การสร้างสรรค์ช้ินงาน จำนวนช่ัวโมงของหนว่ ย 20 ช่ัวโมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เปา้ หมายการเรยี นรู้
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 ใช้เคร่อื งมอื ในการตัดและตกแตง่ ภาพประกอบการสร้างชน้ิ งานได้
1.2 ใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พ่ือสร้างสรรคง์ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม
2. จุดประสงค์การเรียนรูส้ ผู่ ลการเรยี นรู้
2.1 นักเรียนสามารถบอกช่อื เครือ่ งมือตกแต่งและรีทชั ภาพได้ (K)
2.2 นกั เรยี นสามารถตกแตง่ และรที ชั ภาพได้ (P)
2.3 ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน และมีความรับผิดชอบ (A)
3. สาระสำคญั
ภาพถา่ ยบุคคลมกั จะมีข้อบกพร่องต่าง ๆ ทเ่ี ราตอ้ งการตกแตง่ เชน่ ตวั แบบอาจจะมีสีผิวไม่ขาว
ใส ผวิ ไม่เรียบเนยี น มรี อยตำหนิ เหย่ี วยน่ หรอื ดวงตาแดงเนอ่ื งจากแสงแฟลช นอกจากนีเ้ รายงั อาจต้องการ
เสริมแต่งภาพเพิ่มเติม เช่น ปรับรูปร่างของตัวเองแบบที่อ้วนให้ผอมเพรียว หรือบิดเบือนภาพเพื่อสร้าง
เอฟเฟ็คตแ์ ปลก ๆ เป็นตน้ ซึง่ Photoshop มีเคร่ืองมอื ท่ีเตรียมไวส้ ำหรับงานเหล่านโี้ ดยเฉพาะ
นอกจากการตกแต่งภาพบุคคลแล้ว เครื่องมือเหล่านี้ยังสามารถใช้ตกแต่งหรือสร้างเอฟเฟ็คต์
พิเศษให้กับภาพถ่ายทั่ว ๆ ไป ตลอดจนภาพกราฟิกที่สร้างในคอมพิวเตอร์เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นกับการนำไป
ประยกุ ต์ใช้
4. สาระการเรียนรู้
การตกแต่งและรที ชั ภาพ
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 มวี ินยั
5.1.1 มคี วามรับผดิ ชอบ มีความตงั้ ใจทำงานและตดิ ตามผลงานท่ไี ด้รับมอบหมาย
5.1.2. มีระเบยี บวินยั และปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
5.1.3 มคี วามตรงต่อเวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหมนั่ เพียร
6.1.5 รูจ้ กั เสียสละและมีความเห็นใจผอู้ นื่
5.2 ใฝ่เรียนรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ
5.2.2 มีการจดบันทึกความรูอ้ ย่างเป็นระบบ
5.2.3 สรุปความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล
5.3 ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
5.3.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
5.3.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จลุลว่ ง
5.4 มีความซอ่ื สตั ย์
5.4.1 ไมค่ ัดลอกคำตอบหรือผลงานของผูอ้ น่ื
5.4.2 ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ งและเป็นจริง เป็นแบบอย่างทด่ี ีด้านความซื่อสัตย์
5.4.2 ปฏิบตั ิต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซือ่ ตรง
6. สมรรถนะการเรียนรู้ของผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.2.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
6.2.2 ทักษะความคดิ สร้างสรรค์
6.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
6.4.1 กระบวนการปฏิบตั ิ
6.4.2 กระบวนการทำงานกลมุ่
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6.5.1 การใชเ้ ทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มลู
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบการปฏิบัติ)
ข้ันที่ 1 สงั เกต รับรู้
1. ครูเปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา และให้นักเรียนศึกษาเครื่องมือในการตกแต่ง
และรีทชั ภาพ พรอ้ มกับสังเกตการใชเ้ ครือ่ งมอื ต่าง ๆ (Q1)
2. ครูให้นักเรียนคิดว่ารูปภาพของเราที่มีข้อบกพร่อง สามารถลบข้อบกพร่องนั้นด้วย
โปรแกรม Photoshop ไดห้ รอื ไม่และใช้เคร่ืองมอื ใด จากน้นั ครูอธิบายใหน้ กั เรยี นรู้จกั (Q2)
ข้นั ที่ 2 ทำตามแบบ
3. นกั เรยี นศกึ ษาหาความรู้เกี่ยวกับการตกแตง่ และรีทัชภาพ จากอินเทอร์เนต็ หรือสือ่ อื่นๆ
แล้วใหน้ ักเรยี นบันทึกความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาลงในสมดุ บันทกึ (Q3)
4. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามปญั หาหรอื ข้อสงสัยเกย่ี วกับการตกแต่งและรีทัชภาพ (Q4)
5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการตกแต่งและ
รีทัชภาพ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทกุ คนปฏิบัติตามครู โดยครูทำให้ดแู ละให้นกั เรียนปฏบิ ัติตามทีละขั้นตอน (Q5)
6. ครูถามนักเรียนว่าภาพที่มีข้อบกพร่อง (ดังภาพตัวอย่าง) ควรแก้ไขจุดใดบ้าง และ
ควรใช้เครอื่ งมอื ใดจึงจะเหมาะสม แล้วครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมพร้อมกบั ทำตวั อย่างให้นกั เรยี นดู เพื่อให้นักเรียน
ทุกคนเข้าใจถึงหน้าท่แี ละวธิ กี ารใช้งานของเคร่ืองมอื แต่ละชนดิ (Q6)
ขัน้ ที่ 3 ทำเองโดยไม่มแี บบ
7. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบกิจกรรมที่ 4.4 เรื่อง การตกแต่งและรีทัชภาพ
หากนักเรยี นเกิดประสบปัญหาหรือมีขอ้ สงสัยให้ปรึกษาครูทนั ที แล้วให้ครูอธิบายให้นักเรียนทุกคนเขา้ ใจ
(Q7-Q8)
ขัน้ ท่ี 4 ฝึกทำให้ชำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน
ใชเ้ ครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ท่มี อี ย่ใู นโปรแกรมตามทต่ี นเองชอบหรอื สนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน
พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)
8. ชุดคำถามกระต้นุ เพอ่ื ปลกู ฝงั หลักคิดพอเพียง
คำถามกระตนุ้ คิดเพือ่ ปลูกฝงั หลกั คิดพอเพยี งก่อนเรยี น
Q1 ความมเี หตผุ ล : หากนักเรยี นตอ้ งการลบจุดบกพร่องบนภาพ นักเรียนคิดวา่ เราสามารถทำได้หรือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตนุ้ คดิ เพ่อื ปลูกฝังหลักคดิ พอเพยี งระหวา่ งเรียน
Q3 เงอื่ นไขความรู้ : นักเรยี นบอกเคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการตกแต่งและรที ชั ภาพได้หรอื ไม่
Q4 มิติทางสังคม : นกั เรียนพบปัญหาอะไรบา้ งหรอื ไม่ ไดข้ อความชว่ ยเหลือจากเพอื่ นหรอื ไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี: หลังจากที่นักเรียนศึกษามาแล้วเบื้องต้น นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรือไม่
Q6 เงื่อนไขความรู้: เครื่องมือที่ใช้ในการตกแต่งและรีทัชภาพแต่ละเครื่องมือ แตกต่างกันอย่างไร
และเครื่องมือใดเหมาะกบั งานรูปแบบใดบา้ ง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรียนคิดว่าเครื่องมือใดเหมาะกับเปลี่ยนรูปคนที่มีรูปร่างอ้วนให้ผอมเพรียว
ทส่ี ดุ เพราะเหตุใด
Q8 เงือ่ นไขความรู้ : หลังจากทน่ี ักเรียนฝึกทำดว้ ยตนเองแล้ว นกั เรยี นประสบปัญหาอะไรบา้ ง
คำถามกระตนุ้ คิดเพอ่ื ปลูกฝังหลักคิดพอเพยี งหลังเรยี น
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มิติวัตถุ : นักเรียนเข้าใจการตกแตง่ และรีทัชภาพหรือไม่ สามารถเลือกใชเ้ คร่อื งมอื ได้ถูกตอ้ งหรอื ไม่
Q11 มติ ิด้านสงิ่ แวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรยี น นักเรียนคดิ ว่าเร่อื งนี้มีความนา่ สนใจอย่างไร
Q12 มิตวิ ฒั นธรรม : นกั เรียนคิดว่าเพื่อนคนใดมผี ลงานท่นี า่ ชนื่ ชม และนักเรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้รับ
วนั นไ้ี ปใช้ประโยชนอ์ ะไรได้บา้ ง
9. วสั ดอุ ปุ กรณ์ /สอื่ /แหล่งเรียนรู้
9.1 ใบกิจกรรมท่ี 4.4 เรอื่ ง การตกแตง่ และรที ัชภาพ
9.2 จอ Projector
9.3 เคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ่ตี ดิ ตง้ั โปรแกรม Photoshop และเชอ่ื มต่ออินเทอรเ์ นต็
9.4 เว็บไซต์สำหรับคน้ ข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.5 ผสู้ อนคอมพิวเตอร์
9.6 ห้องปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ หอ้ งสมุด
10. ชนิ้ งาน หรือ ภาระงาน
10.1 ใบกิจกรรมท่ี 4.4 เรื่อง การตกแตง่ และรที ัชภาพ
10.2 บนั ทึกสรปุ บทเรยี น
11. การวัดและประเมินผล
การวดั ผลและประเมนิ ผล
ด้าน วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์การวัดและ
ประเมินผล
ความรู้ (K) - ตรวจกจิ กรรมท่ี 4.4 - ใบกจิ กรรมที่ 4.4 ได้คะแนนไมน่ ้อยกว่า
รอ้ ยละ 80
ทักษะกระบวนการ (P) - ตรวจกจิ กรรมที่ 4.4 - แบบตรวจกิจกรรมท่ี ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่า
4.4 รอ้ ยละ 80
คุณลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป
รายบคุ คล พฤตกิ รรมรายบุคคล
เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล : ระดับคุณภาพ 1 = นอ้ ย, ระดับคณุ ภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคณุ ภาพ 3 = มาก
12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ
ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี
๑. กระบวนการเรียนรู้
มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง
๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง
๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
สามารถนำไปใช้จัดการเรยี นรูไ้ ด้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้
๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ
13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ
อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
...............................................
(นายประยงค์ อินนุพฒั น์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒
14. บันทกึ หลงั สอน
จากการจดั กิจกรรมการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้.........................................................................
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่.................. หนว่ ยการเรยี นรู้ท.ี่ .............. เรอื่ ง...................................................................
แผนการจัดการเรยี นรูท้ .่ี ............ เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................ ... เป้าหมายการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ คอื เพอื่ ให้นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่........................ จำนวนทัง้ หมด....................คน มคี วามรู้
ความสามารถ เรื่อง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นักเรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเป็นตอ้ งแก้ไขปญั หาดงั กลา่ วของนักเรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพือ่ ให้นักเรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวช้ีวัดที่..................................................ทีก่ ำหนดไว้ในแผนการจดั การ
เรียนร้ทู .ี่ ......................
ข้อค้นพบและขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ........................................... ครผู ูส้ อน
(นางสาวลักษณน์ ารา ทองมาก)
..……/…………../…………
ใบกิจกรรมที่ 4.4
เร่อื ง การตกแต่งและรีทัชภาพ
ชอื่ -สกุล.......................................................................ช้ัน.................... เลขท่ี................กลุ่มท…่ี ………...
คำชี้แจง ให้นกั เรียนแตกแตง่ และรที ัชภาพจากรปู ทีค่ รกู ำหนดให้
เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ประเด็นการ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เข้าห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรียนสาย ไม่ปฏบิ ตั ิ
ใฝ่เรยี นรู้ ตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไมค่ รบทุก
กิจกรรม
ห้องเรยี นเป็นปกติวิสัยและเป็น หอ้ งเรียน แตป่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม
แบบอยา่ งท่ีดี ปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ ไม่ครบทุกกิจกรรม
ทุกกิจกรรมตามทีก่ ำหนดไว้
แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ
เรยี นรตู้ ่างๆ มีการจดบันทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรยี นรูต้ ่างๆ เรียนรู้ต่างๆ
ความรูไ้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบันทึกความรู้ แตไ่ ม่มีการจดบันทกึ ความรู้
มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามตั้งใจและพยายามในการ มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน ไมม่ ีความตัง้ ใจในการทำงาน
ทำงานเพ่ือใหพ้ ้นๆไปหรือ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มี การทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ทำงานไม่เสรจ็
ความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่อ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้
อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลลุ ว่ ง ต่ออุปสรรค แตง่ านเสร็จไม่
ทันตามเวลาท่กี ำหนด ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด
ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คดั ลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรอื ผลงาน
ของผอู้ ่นื ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและ ของผู้อ่ืนเปน็ บางคร้งั ให้ ของผู้อนื่ เป็นประจำ ให้
เปน็ จริง เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ดี ้าน ข้อมูลทถี่ ูกต้อง เป็นจรงิ ขอ้ มลู ที่เป็นเท็จ ขาดความ
ความซือ่ สัตย์ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื ปฏิบัติต่อผู้อื่นดว้ ยความ ความซ่ือตรง
ดว้ ยความซ่ือตรง ซอ่ื ตรง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใช้ภาษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคดิ มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
และคิดนอกกรอบอยา่ ง
สร้างสรรค์
สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่
ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตุผลใน
แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา
ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา
เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ
เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั
ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้
สามารถนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั
เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี
กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง
มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี
ใช้เทคโนโลยี
แบบสังเกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทำกิจกรรมของนกั เรยี น
รายการ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบตั ิ
1. เริม่ ต้นงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพอื่ เมอ่ื ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนุกสนานและเตม็ ใจ
5. มสี ว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ช่วยเหลอื แนะนำเพอื่ นในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง
รวมคะแนน
หมายเหตุ
1. ขอ้ ใดท่นี ักเรียนปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน
2. เกณฑ์การประเมินจากแบบสังเกตอาจกำหนด ดังน้ี
7 คะแนน ดีมาก
5-6 คะแนน ดี
3-4 คะแนน พอใช้
1-2 คะแนน ควรปรบั ปรุง
3. ครูอาจสมุ่ เลือกนักเรียนเท่าที่สามารถสังเกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะคร้งั โดยหมุนเวยี นไปจนครบ
ทุกคนในหอ้ ง
เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน
ประเด็น เกณฑ์การใหค้ ะแนน
การ 5 4 3 2 1
- รูปภาพสมั พันธ์
ประเมิน - รูปภาพมสี ีสัน กับเนอื้ หา
สวยงาม
1. รปู แบบ - รปู แบบชนิ้ งาน - รปู แบบแปลกใหม่ - มขี นาด - รปู ภาพ - เลอื กภาพที่
สมั พันธ์ กบั นำมา
ชิ้นงาน ถกู ตอ้ งตามที่ น่าสนใจ เหมาะสม เน้ือหา แตง่ กับเทคนิคที่
ใชม้ คี วามขัดแยง้
กำหนด - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพมีสีสนั - เลอื กภาพท่ี กันชนิ้ งานหลัง
นำมาแต่งกับ การแต่งภาพดูไม่
- รปู แบบแปลก - รูปภาพมีสีสนั สวยงาม เทคนิคทใี่ ช้ สมจริง
มคี วามขดั แยง้
ใหม่ น่าสนใจ สวยงาม - รูปภาพสัมพนั ธ์ กัน
- รูปภาพมีสีสนั - รปู ภาพสัมพันธ์ กับ กบั เนื้อหา
สวยงาม เน้อื หา
- รูปภาพสัมพันธ์
กับเน้ือหา
2. การนำ - เลือกภาพท่นี ำมา - เลือกภาพท่ีนำมา - เลือกภาพที่
ความร้เู ร่ือง แต่งและใชเ้ ทคนิค แต่งและใชเ้ ทคนคิ นำมา
เทคนิคการ ได้เหมาะสม ไดเ้ หมาะสม ช้นิ งาน แตง่ กับเทคนิคท่ี
แตง่ ภาพ ช้ินงาน หลังการแต่งภาพดู ใช้
มาใช้ใน หลังการแต่งภาพ ไม่สมจริง แตง่ มาก/ มีความเหมาะสม
ชิน้ งาน ดูสมจรงิ น้อยเกนิ ไป กัน
3. เวลา สง่ ชิน้ งานภายใน - ส่งช้นิ งานช้ากว่า - สง่ ช้นิ งานช้ากว่า - ส่งช้ินงานช้า - สง่ ช้ินงานชา้
เวลาทก่ี ำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กวา่ กำหนด 3 กวา่ กำหนดเกนิ
วัน 3 วนั
แผนการจัดการเรยี นรู้บูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
โรงเรียนสรุ าษฎร์ธานี ๒
แผนการเรียนร้ทู ่ี 12 เร่ือง การสร้างวตั ถสุ ะท้อนบนพ้นื มันเงา จำนวน 2 ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ รายวิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สร้างสรรค์ 1 รหัสวิชา ว20233
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การสร้างสรรค์ช้นิ งาน จำนวนชวั่ โมงของหนว่ ย 20 ช่วั โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เปา้ หมายการเรยี นรู้
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 ใช้เครอ่ื งมอื ในการตัดและตกแต่งภาพประกอบการสร้างชิ้นงานได้
1.2 ใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพ่ือสร้างสรรค์งานได้อย่างถูกตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ผู่ ลการเรียนรู้
2.1 นกั เรยี นสามารถบอกเครอื่ งมือสำหรบั สร้างวัตถสุ ะท้อนบนพ้ืนมนั เงาได้ (K)
2.2 นกั เรยี นสามารถสรา้ งวตั ถุสะทอ้ นบนพน้ื มนั เงาได้ (P)
2.3 ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน และมีความรบั ผดิ ชอบ (A)
3. สาระสำคญั
การสร้างวตั ถุสะท้อนบนพื้นมันเงา เปน็ การสร้างภาพท่ีเสมือนกับว่าเราวางวตั ถไุ ว้บนพ้ืนกระจก
หรือพื้นที่มีลักษณะมันเงา ซึ่งจะทำให้เห็นภาพสะท้อนของวัตถุนั้นกลับหัว เทคนิคนี้สามารถสร้างความ
น่าสนใจใหก้ ับวตั ถุตา่ ง ๆ หรอื แม้แตข่ อ้ ความ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
4. สาระการเรยี นรู้
การสร้างวัตถุสะท้อนบนพนื้ มันเงา
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 มีวนิ ัย
5.1.1 มีความรับผดิ ชอบ มีความตั้งใจทำงานและตดิ ตามผลงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
5.1.2. มีระเบยี บวนิ ยั และปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ท่กี ำหนด
5.1.3 มคี วามตรงต่อเวลา
5.1.4 มคี วามอดทนขยันหมน่ั เพียร
6.1.5 ร้จู ักเสยี สละและมคี วามเหน็ ใจผู้อนื่
5.2 ใฝ่เรียนรู้
5.2.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ
5.2.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ
5.2.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล
5.3 มุ่งม่นั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
5.3.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสำเรจ็ ลุลว่ ง
5.4 มคี วามซื่อสัตย์
5.4.1 ไม่คดั ลอกคำตอบหรอื ผลงานของผู้อน่ื
5.4.2 ใหข้ ้อมูลทีถ่ กู ตอ้ งและเป็นจริง เป็นแบบอย่างทดี่ ดี ้านความซือ่ สัตย์
5.4.2 ปฏบิ ัติต่อผู้อ่ืนดว้ ยความซื่อตรง
6. สมรรถนะการเรียนรขู้ องผ้เู รียน
6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.2.1 ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
6.2.2 ทกั ษะความคดิ สร้างสรรค์
6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
6.4.1 กระบวนการปฏบิ ัติ
6.4.2 กระบวนการทำงานกลุ่ม
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.5.1 การใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมลู
กิจกรรมการเรียนรู้
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบการปฏิบัติ)
ข้ันท่ี 1 สงั เกต รบั รู้
1. ครูเปิดรปู ตวั อย่างใหน้ ักเรียนดู จากนั้นครเู ปิดโปรแกรม Photoshop ข้ึนมา และให้
นกั เรียนศกึ ษาเครอื่ งมอื ในการสรา้ งวตั ถสุ ะทอ้ นบนพืน้ มันเงา พรอ้ มกบั สงั เกตการใชเ้ ครอื่ งมอื ต่าง ๆ (Q1)
2. ครูให้นักเรียนคิดว่าเราสามารถรูปภาพธรรมดานำมาใส่แสงสะท้อนได้หรือไม่และ
ใชเ้ ครือ่ งมือใด จากนัน้ ครอู ธบิ ายให้นกั เรียนร้จู กั (Q2)
ขน้ั ท่ี 2 ทำตามแบบ
3. นักเรียนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการสร้างวัตถุสะท้อนบนพื้นมันเงาจากอินเทอร์เน็ต
หรือสอ่ื อืน่ ๆ แล้วใหน้ ักเรยี นบันทึกความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาลงในสมุดบนั ทกึ (Q3)
4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างวัตถุสะท้อนบน
พื้นมนั เงา (Q4)
5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศกึ ษาเครือ่ งมือทใี่ ช้ในการสร้างวตั ถุสะท้อน
บนพื้นมันเงา จากนั้นให้นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามครู โดยครูทำให้ดูและให้นักเรียนปฏิบัติตามทีละขั้นตอน
(Q5)
6. ครูถามนักเรียนว่าจากภาพตวั อยา่ งควรใช้เครือ่ งมอื ใดจงึ จะเหมาะสม แลว้ ครอู ธิบาย
เพิ่มเติมพร้อมกับทำตัวอย่างให้นักเรียนดู เพื่อให้นักเรียนทุกคนเข้าใจถึงหน้าที่และวิธีการใช้งาน
ของเคร่อื งมอื แต่ละชนดิ (Q6)
ขน้ั ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ
7. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบกิจกรรมที่ 4.5 เรื่อง การสร้างวัตถุสะท้อนบนพื้นมันเงา
หากนักเรยี นเกิดประสบปัญหาหรือมีข้อสงสัยให้ปรึกษาครูทนั ที แล้วให้ครูอธิบายให้นกั เรียนทุกคนเขา้ ใจ
(Q7-Q8)
ขั้นที่ 4 ฝึกทำใหช้ ำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน
ใชเ้ คร่ืองมอื ต่างๆ ท่ีมอี ยใู่ นโปรแกรมตามทตี่ นเองชอบหรอื สนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน
พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)
8. ชดุ คำถามกระตนุ้ เพื่อปลูกฝงั หลกั คิดพอเพียง
คำถามกระตุ้นคิดเพอ่ื ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงกอ่ นเรียน
Q1 ความมีเหตุผล : หากนักเรียนต้องการสรา้ งภาพสะทอ้ นบนพ้นื มนั เงาใหก้ ับรปู ภาพ นักเรยี นคิดว่าเรา
สามารถทำได้หรอื ไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตุ้นคดิ เพอื่ ปลูกฝงั หลักคดิ พอเพยี งระหว่างเรียน
Q3 เง่อื นไขความรู้ : นักเรยี นบอกเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการสร้างวัตถุสะทอ้ นบนพ้นื มันเงาได้หรือไม่
Q4 มิตทิ างสังคม : นกั เรียนพบปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ได้ขอความชว่ ยเหลอื จากเพ่ือนหรือไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตวั ที่ดี: หลังจากที่นักเรียนศึกษามาแล้วเบ้ืองต้น นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรือไม่
Q6 เง่ือนไขความรู้: เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นการสร้างวัตถสุ ะทอ้ นบนพนื้ มนั เงาแต่ละเครอื่ งมือ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร
และเครือ่ งมือใดเหมาะกบั งานรูปแบบใดบา้ ง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรียนคดิ ว่ารปู ภาพประเภทไหนที่เหมาะกบั การนำมาทำรูปภาพสะทอ้ นบนพื้น
มนั เงา
Q8 เง่อื นไขความรู้ : หลงั จากทนี่ กั เรยี นฝึกทำด้วยตนเองแล้ว นกั เรียนประสบปญั หาอะไรบา้ ง
คำถามกระตนุ้ คดิ เพ่ือปลูกฝงั หลกั คิดพอเพยี งหลังเรยี น
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มิติวัตถุ : นักเรียนเข้าใจการสร้างวัตถุสะท้อนบนพื้นมันเงา หรือไม่ สามารถเลือกใช้เครื่องมือได้
ถกู ต้องหรือไม่
Q11 มติ ิดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรยี น นักเรยี นคดิ ว่าเรือ่ งนมี้ ีความน่าสนใจอย่างไร
Q12 มิติวฒั นธรรม : นักเรียนคิดวา่ เพอื่ นคนใดมผี ลงานที่นา่ ชืน่ ชม และนกั เรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้รับ
วันนี้ไปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรได้บ้าง
9. วสั ดอุ ปุ กรณ์ /สือ่ /แหล่งเรียนรู้
9.1 ใบกจิ กรรมที่ 4.5 เร่อื ง การสร้างวัตถุสะทอ้ นบนพนื้ มันเงา
9.2 จอ Projector
9.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ทีต่ ดิ ตงั้ โปรแกรม Photoshop และเชื่อมต่ออนิ เทอรเ์ นต็
9.4 เว็บไซต์สำหรับค้นข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.5 ผสู้ อนคอมพวิ เตอร์
9.6 หอ้ งปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด