The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by อาราดา ลักษณ์นารา, 2022-09-15 00:47:09

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.1

6. สมรรถนะการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น

6.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ

6.2.1 ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
6.2.2 ทักษะความคิดสร้างสรรค์
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6.4.1 กระบวนการปฏิบัติ
6.4.2 กระบวนการทำงานกลุ่ม
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6.5.1 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสืบค้นขอ้ มลู

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการจัดการเรยี นรู้แบบการปฏบิ ตั ิ)

ข้ันที่ 1 สงั เกต รบั รู้
1. ครูเปิดโปรแกรม Power Point ใบความรทู้ ี่ 3.3 พร้อมกับอธิบายประเภทของ

ข้อความใหน้ กั เรยี นฟัง จากนั้นครเู ปดิ โปรแกรม Photoshop ขน้ึ มา และให้นักเรยี นศกึ ษาเครอ่ื งมือกลุ่ม
Type พรอ้ มกับสงั เกตเคร่ืองมอื ต่าง ๆ (Q1)

2. ครใู ห้นกั เรียนคิดว่าการเคร่ืองมอื ในการสร้างอักษรมีกแี่ บบ อะไรบา้ ง แตล่ ะแบบ
เหมาะกับงานด้านใด ใช้งานอยา่ งไร จากนั้นครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นร้จู ัก (Q2)

ขั้นท่ี 2 ทำตามแบบ
3. นักเรียนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการสร้างและปรับแต่งแบบอักษรจากใบความรู้ที่

3.2 จากอนิ เทอรเ์ น็ต หรอื สือ่ อ่ืนๆ แล้วให้นักเรยี นบนั ทกึ ความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาลงในสมดุ บันทกึ (Q3)
4. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามปญั หาหรอื ข้อสงสัยเก่ียวกบั การสร้างและปรับแต่ง

แบบอกั ษร (Q4)
5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างแบบอักษร

จากน้ันให้นักเรยี นทุกคนปฏิบัติตามครู โดยครูทำใหด้ ูและให้นักเรียนปฏิบตั ิตามทีละขน้ั ตอน (Q5)

6. ครูถามนักเรียนว่าเราสามารถปรับรูปแบบอักษรได้กี่แบบ สามารถปรับแต่งได้
อย่างไรบ้าง แลว้ ครเู ฉลยคำตอบพร้อมกับอธิบายเพิม่ เติมใหน้ ักเรยี นทุกคนเข้าใจถึงหนา้ ทแี่ ละวิธกี ารใช้งาน
ของเคร่ืองมือแตล่ ะชนดิ (Q6)

ขัน้ ที่ 3 ทำเองโดยไมม่ ีแบบ
7. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบกิจกรรมที่ 3.3 เรื่อง การสร้างและปรับแต่งแบบอักษร

หากนักเรยี นเกิดประสบปัญหาหรอื มีขอ้ สงสัยให้ปรึกษาครูทนั ที แล้วให้ครูอธิบายให้นกั เรียนทกุ คนเขา้ ใจ
(Q7-Q8)

ข้ันท่ี 4 ฝกึ ทำให้ชำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน

ใชเ้ คร่อื งมือต่างๆ ทีม่ ีอยู่ในโปรแกรมตามทตี่ นเองชอบหรอื สนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน

พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)

8. ชดุ คำถามกระต้นุ เพ่อื ปลูกฝงั หลกั คิดพอเพียง
คำถามกระตนุ้ คดิ เพ่อื ปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพยี งกอ่ นเรยี น
Q1 ความมีเหตุผล : หากนกั เรยี นตอ้ งการสร้างอกั ษรด้วยโปรแกรม Photoshop นักเรียนสามารถทำได้
หรือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตุ้นคิดเพอื่ ปลูกฝงั หลกั คิดพอเพยี งระหว่างเรียน
Q3 เงือ่ นไขความรู้ : นักเรยี นอธบิ ายประเภทและข้นั ตอนการสร้างแบบอักษรได้ ไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร
Q4 มติ ิทางสังคม : นกั เรยี นพบปญั หาอะไรบา้ งหรือไม่ ไดข้ อความช่วยเหลอื จากเพื่อนหรอื ไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตวั ที่ดี: หลังจากที่นักเรยี นศึกษามาแล้วเบ้ืองต้น นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรือไม่
Q6 เงื่อนไขความรู้: เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างแบบอักษรแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร เครื่องมือแต่ละ
เครื่องมอื ทน่ี กั เรยี นใชอ้ ยูน่ ีม้ ีหน้าทอี่ ยา่ งไรบ้าง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรียนเลอื กใช้เคร่อื งมอื ใดบ้างในการทำงาน
Q8 เงอ่ื นไขความรู้ : หลังจากทนี่ กั เรยี นฝกึ ทำด้วยตนเองแล้ว นกั เรียนประสบปัญหาอะไรบา้ ง
คำถามกระตนุ้ คดิ เพอ่ื ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงหลังเรียน
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มติ ิวัตถุ : นกั เรยี นเข้าใจการสร้างสร้างแบบอักษรหรอื ไม่ สามารถเลือกใช้ได้ตรงตามชนิดของภาพท่ี
จะนำไปใชห้ รอื ไม่

Q11 มติ ดิ ้านส่ิงแวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรียน นักเรยี นคดิ วา่ เรื่องนีม้ ีความนา่ สนใจอยา่ งไร
Q12 มติ ิวฒั นธรรม : นักเรยี นคิดว่าเพ่อื นคนใดมีผลงานที่น่าชนื่ ชม และนกั เรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้รับ
วันนไ้ี ปใชป้ ระโยชนอ์ ะไรไดบ้ า้ ง

9. วสั ดุอปุ กรณ์ /สื่อ /แหล่งเรียนรู้

9.1 โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูลใบความรูท้ ี่ 3.3 เร่ือง การสรา้ งและปรับแต่งแบบอักษร
9.2 ใบกจิ กรรมที่ 3.3 เรื่อง การสรา้ งและปรับแต่งแบบอักษร
9.3 จอ Projector
9.4 เครือ่ งคอมพิวเตอร์ท่ีตดิ ตั้งโปรแกรม Photoshop และเชือ่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็
9.5 เว็บไซต์สำหรับค้นข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผู้สอนคอมพิวเตอร์
9.7 หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ หอ้ งสมุด

10. ชน้ิ งาน หรอื ภาระงาน

10.1 ใบกจิ กรรมท่ี 3.3 เรอ่ื ง การสร้างและปรับแตง่ แบบอกั ษร
10.2 บนั ทกึ สรุปบทเรียน

11. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดผลและประเมินผล

ดา้ น วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์การวัดและ
ประเมินผล

ความรู้ (K) - ตรวจกิจกรรมท่ี 3.3 - ใบกิจกรรมท่ี 3.3 ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่า

รอ้ ยละ 80

ทักษะกระบวนการ (P) - ตรวจกิจกรรมท่ี 3.3 - แบบตรวจกิจกรรมที่ ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่า

3.3 ร้อยละ 80

คณุ ลักษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไป

รายบุคคล พฤติกรรมรายบคุ คล

เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล : ระดบั คุณภาพ 1 = น้อย, ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง, ระดบั คุณภาพ 3 = มาก

12. ความเห็นรองผู้อำนวยการ

ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนร้ขู อง………………………………………………………………..…… แล้วมคี วาม
คิดเหน็ ดงั น้ี

๑. กระบวนการเรียนรู้
 มีความสอดคลอ้ ง เหมาะสมกับความสนใจและความถนดั ของนกั เรียน
 ไมส่ อดคลอ้ งและยังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น ควรปรบั ปรุง

๒. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้
 ทเ่ี น้นผ้เู รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
 ท่ียังไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป

๓. การวัดผลและประเมนิ ผล
 ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์
 ไม่หลากหลาย และไม่สอดคล้องกบั มาตรฐานของหลกั สตู ร ควรปรับปรุง

๔. ความเหมาะสมในการนำแผนการจดั การเรยี นรู้ ไปใชจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้
 สามารถนำไปใช้จัดการเรียนรูไ้ ด้จริง
 ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใชจ้ ดั การเรียนรู้

๕. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่อื ...............................................
(นางสาวชฎาพร ชว่ ยชู)

รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

13. ความเหน็ ผู้อำนวยการ

 อนุมตั ใิ หน้ ำไปใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
 ไม่อนุมตั ิให้นำไปใชจ้ ดั การเรียนการสอน เพราะ.................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

...............................................
(นายประยงค์ อินนุพฒั น์)
ผู้อำนวยการโรงเรยี นสรุ าษฎรธ์ านี ๒

14. บันทกึ หลงั สอน

จากการจัดกิจกรรมการเรยี นร้กู ลุ่มสาระการเรยี นรู้.........................................................................
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่.ี ................. หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่.ี .............. เรือ่ ง...................................................................
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่............. เรอ่ื ง.................................................................................................... สอน
เมื่อวันที่....................เดือน..........................................พ.ศ. ................... เป้าหมายการจัดกิจกรรมก าร
เรยี นรู้ คือ เพ่ือใหน้ กั เรียนระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท.่ี ....................... จำนวนทั้งหมด....................คน มีความรู้
ความสามารถ เรอ่ื ง................................................................................. จากผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่า นักเรียนร้อยละ...................มีความรู้ ความเข้าใจผ่านเกณฑ์การประเมิน และที่นักเรียนจำนวน
...........คน คิดเป็นร้อยละ................. ยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน เพราะนักเรียนไม่สามารถ
................................................................................................ตามที่กำหนดได้ จากการวิเคราะห์นกั เรยี น
เป็นรายบุคคล และจากการตรวจผลงาน เรื่อง...................................... ...................................................
ของนักเรียนทั้ง...............คน พบว่า นักเรียนขาดทักษะในเรื่อง.............................. ..........................
............................................................................................................................. ในฐานะครูผู้สอนวิชา
.....................................................................................จำเปน็ ต้องแก้ไขปัญหาดงั กล่าวของนกั เรียน เพ่ือให้
นักเรียน มีความสามารถในเรื่อง.........................................................................และเพื่อให้นกั เรียนผ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ และบรรลุตัวชี้วัดที่..................................................ที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการ
เรียนรู้ที่.......................

ขอ้ ค้นพบและข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ …………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ........................................... ครผู ู้สอน
(นางสาวลักษณ์นารา ทองมาก)
..……/…………../…………

ใบกจิ กรรมที่ 3.3
เรือ่ ง การสรา้ งและปรับแต่งแบบอักษร

ชอ่ื -สกลุ .......................................................................ชัน้ .................... เลขท.ี่ ...............กลุ่มท…ี่ ………...
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นออกแบบการ์ดวันแม่ คนละ 1 ชนิ้ โดยใส่รปู ภาพและข้อความให้สวยงาม
กำหนดขนาด

กว้าง = 6 inches
สงู = 4 inches
Resolution = 72 pixel/inch / 72 Color (แล้วแต่การนำไปใช้)
Color mode = CMYK color / RGB Color (แล้วแตก่ ารนำไปใช้)
Background contents = white

เกณฑก์ ารประเมินช้นิ งาน

ประเด็น เกณฑ์การใหค้ ะแนน

การ 5 4 3 2 1
- รูปภาพสมั พันธ์
ประเมิน - รูปภาพมสี ีสัน กับเนอื้ หา
สวยงาม
1. รปู แบบ - รปู แบบชนิ้ งาน - รปู แบบแปลกใหม่ - มขี นาด - รปู ภาพ - เลอื กภาพที่
สมั พันธ์ กบั นำมา
ชิ้นงาน ถกู ตอ้ งตามที่ น่าสนใจ เหมาะสม เน้ือหา แตง่ กับเทคนิคที่
ใชม้ คี วามขัดแยง้
กำหนด - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพมีสีสนั - เลอื กภาพท่ี กันชนิ้ งานหลัง
นำมาแต่งกับ การแต่งภาพดูไม่
- รปู แบบแปลก - รูปภาพมีสีสนั สวยงาม เทคนิคทใี่ ช้ สมจริง
มคี วามขดั แยง้
ใหม่ น่าสนใจ สวยงาม - รูปภาพสัมพนั ธ์ กัน

- รูปภาพมีสีสนั - รปู ภาพสัมพันธ์ กบั กบั เนื้อหา

สวยงาม เน้อื หา

- รูปภาพสัมพันธ์

กับเน้ือหา

2. การนำ - เลือกภาพท่นี ำมา - เลือกภาพท่ีนำมา - เลือกภาพที่

ความร้เู ร่ือง แต่งและใชเ้ ทคนิค แต่งและใชเ้ ทคนคิ นำมา

เทคนิคการ ได้เหมาะสม ไดเ้ หมาะสม ช้นิ งาน แตง่ กับเทคนิคท่ี

แตง่ ภาพ ช้ินงาน หลังการแต่งภาพดู ใช้

มาใช้ใน หลังการแต่งภาพ ไม่สมจริง แตง่ มาก/ มีความเหมาะสม

ชิน้ งาน ดูสมจรงิ น้อยเกนิ ไป กัน

3. เวลา สง่ ชิน้ งานภายใน - ส่งช้นิ งานช้ากว่า - สง่ ช้นิ งานช้ากว่า - ส่งช้ินงานช้า - สง่ ช้ินงานชา้

เวลาทก่ี ำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั กวา่ กำหนด 3 กวา่ กำหนดเกนิ

วัน 3 วนั

เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ประเด็นการ คำอธิบายระดับคะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
มีวนิ ัย
เข้าห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ ห้องเรยี นเรียนตรงเวลา เขา้ หอ้ งเรียนสาย ไม่ปฏิบัติ
ใฝ่เรยี นรู้ ตามขอ้ ตกลงของห้องเรยี น
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของ ปฏิบัตกิ ิจกรรมไมค่ รบทกุ
กิจกรรม
ห้องเรยี นเป็นปกติวิสัยและเป็น หอ้ งเรียน แตป่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม

แบบอยา่ งท่ีดี ปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ ไม่ครบทุกกิจกรรม

ทุกกิจกรรมตามทีก่ ำหนดไว้

แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การ แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการ แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการ
เรยี นรตู้ ่างๆ มีการจดบันทกึ
ความรูอ้ ย่างเป็นระบบสรปุ เรยี นรูต้ ่างๆ เรียนรู้ต่างๆ
ความรูไ้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล
มกี ารจดบันทึกความรู้ แตไ่ ม่มีการจดบันทกึ ความรู้

มงุ่ มัน่ ในการทำงาน มคี วามตั้งใจและพยายามในการ มคี วามตงั้ ใจและพยายามใน ไมม่ ีความต้ังใจในการทำงาน
ทำงานเพือ่ ใหพ้ น้ ๆไปหรือ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย มี การทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย ทำงานไม่เสร็จ

ความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่อ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้

อุปสรรคเพอื่ ให้งานสำเรจ็ ลลุ ว่ ง ต่ออุปสรรค แตง่ านเสร็จไม่

ทันตามเวลาท่กี ำหนด ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด

ซ่ือสตั ย์สุจรติ ไม่คัดลอกคำตอบหรือผลงาน คดั ลอกคำตอบหรือผลงาน คัดลอกคำตอบหรือผลงาน
ของผอู้ ่นื ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งและ ของผู้อ่ืนเปน็ บางคร้งั ให้ ของผู้อนื่ เป็นประจำ ให้
เปน็ จริง เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ดี ้าน ข้อมูลทถี่ ูกต้อง เป็นจรงิ ขอ้ มลู ที่เปน็ เท็จ ขาดความ
ความซือ่ สัตย์ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื ปฏิบัติต่อผู้อื่นดว้ ยความ ความซ่ือตรง
ดว้ ยความซ่ือตรง ซอ่ื ตรง

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

ประเดน็ การ คำอธบิ ายระดบั คะแนน
ประเมิน
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน มคี วามสามารถ
การส่ือสาร มคี วามสามารถในการรบั – มีความสามารถในการ ในการรับ – สง่
สาร
ความสามารถใน ส่งสาร สามารถถา่ ยทอด รับ – สง่ สาร สามารถ
การคิด มคี วามสามารถ
ความร/ู้ ความคิด/ความ ถ่ายทอดความร/ู้ ในการคิด
ความสามารถใน
การแกป้ ัญหา เข้าใจของตนเองโดยใชภ้ าษา ความคดิ /ความเขา้ ใจ สามารถ
แกป้ ัญหาที่
ความสามารถใน และวิธีการท่ีเหมาะสม ของตนเองโดยใชภ้ าษา เกิดขน้ึ ได้บา้ ง
การใชท้ กั ษะชีวติ
รวมทั้งวิเคราะหแ์ สดงความ และวิธีการทีเ่ หมาะสม เรยี นรู้ด้วย
ความสามารถใน ตนเองได้
การใชเ้ ทคโนโลยี คดิ เห็นอย่างมีเหตุผล
เลือกและใช้
มีความสามารถในการคิด มีความสามารถในการ เทคโนโลยีในการ
ทำงานได้
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์

และคิดนอกกรอบอยา่ ง

สร้างสรรค์

สามารถแก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นได้ สามารถแกป้ ัญหาที่

ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา เกดิ ขนึ้ ได้ ใช้เหตผุ ลใน

แสวงหาความรู้และประยกุ ต์ การแก้ปญั หา

ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา

เรียนร้ดู ้วยตนเองได้ เรยี นร้ดู ้วยตนเอง และ

เหมาะสมตามวยั สามารถ สามารถทำงานรว่ มกบั

ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ และ ผอู้ ่ืนได้

สามารถนำความรูไ้ ปใช้

ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั

เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ด้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี

อยา่ งเหมาะสม มีทักษะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มี

กระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนการทาง

มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการ เทคโนโลยี

ใช้เทคโนโลยี



เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

การสรา้ งงานใหม่ และการนำภาพเขา้ มาใชง้ าน

การสรา้ งและกำหนดขนาดไฟล์งานใหม่

ในกรณีที่เราต้องการสร้างไฟล์งานใหม่ ให้คลิกเมนู File -> New และให้ผู้ใช้กาหนดขนาดของ
ไฟล์งานใหม่โดยระบุชื่อไฟล์งาน ในช่อง Name ขนาดความสูงความกว้างของพื้นที่ทำงาน ในส่วน
ImageSize ตามความต้องการ กำหนดลักษณะพื้นหลังในส่วน Contents โดย White (สีขาว),
BackgroundColor (สีท่เี รากำหนด) , Transparent (สีพน้ื แบบ - โปร่งใส,ไมแ่ สดงสพี น้ื โล่ง)

การเปดิ ไฟล์ใหมข่ น้ึ มาทางาน

1. Click ท่ีเมนู File 2. เลอื กคาสัง่ New หรอื กด Ctrl + N 3. จะปรากฏหน้าต่าง New

Name ตง้ั ชือ่ ใหก้ บั งาน

Preset ชอ่ งสำหรบั เลือกพืน้ ที่ ท่โี ปรแกรมกำหนดมาให้

Width ความกว้าง ซงึ่ มีหนว่ ยต่าง ๆ เช่น Pixel ,เซนตเิ มตร ,นิ้ว

Height ความสงู ซึ่งมหี น่วยต่าง ๆ เช่น Pixel , เซนติเมตร ,น้วิ

Resolution คา่ ความละเอยี ด ( ซึง่ ความละเอยี ดบนหน้าจอ = 72)

color mode เลือกชนดิ ของระบบสี

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

การเปดิ ไฟล์ภาพ

เมื่อเรามรี ูปภาพ เช่น ภาพถ่ายซง่ึ ตอ้ งการนามาปรับแต่งเพ่ิมเตมิ เราจะต้องทำการเปิดไฟล์รูปภาพน้ัน
ขึ้นมา จากนั้นค่อยกำหนดรูปแบบการปรับแต่งตามความต้องการการเปิดไฟล์รูปภาพทำได้โดยคลิกที่
เมนูFile>Open จะปรากฏวินโดว์ Open จากคลกิ เลอื กชอื่ ไฟล์รปู ภาพท่ีต้องการเมอื่ ได้ภาพทต่ี ้องการแล้วให้
คลกิ ท่ีปุ่ม Open ถา้ ตอ้ งการยกเลกิ ใหค้ ลกิ ที่ปมุ่ Cancel

- การเปิด File jpegต่างๆ
การเปิดไฟล์ใหมข่ นึ้ มาทำงาน

1. Click ที่เมนู File
2. เลอื กคาสั่ง Open หรอื กด Ctrl +O
3 จะปรากฏหนา้ ตา่ งเพ่อื หาไฟลข์ ้นึ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์
ภาพแสดงการคน้ หาและเลอื กไฟลท์ ีต่ ้องการเปดิ
4. จะได้ไฟล์ภาพท่ีเราตอ้ งการ

การยอ่ -ขยายภาพ

1. เราต้องการแก้ไขขนาดรปู ภาพท่ีเราไดเ้ ปดิ ขึ้นมาใหต้ รงกบั ความต้องการให้คลกิ ทเ่ี มนู
Image->Image Size จะปรากฏวินโดว์ Image Size จากนั้นให้กำหนดขนาดของรูปภาพเปิดภาพที่เรา
ตอ้ งการจะย่อหรอื ขยาย ขนาด ดว้ ยโปรแกรม Photoshop CS6

2. ไปทีเ่ มนู Image => Image Size หรอื กดปมุ่ Alt + Ctrl = I

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

3. จากรูปจะได้คา่ ดังน้ี
- Pixel Dimensions จะมีขนาดอยู่ 306.8k ที่ขนาดกว้างยาว 283x370pixel
- Document Size จะอยู่ที่ 9.99x13.04cm (เราสามารถปรบั เปล่ียนหน่วยเป็นนิ้ว,%,mm
หรือ

อย่างอื่นก็ได้)

- Resolution โดยทวั่ ไปถ้าเป็นรปู ที่ใช้ตาม web social ต่างๆ เรามักจะใช้แค่ 72
ppi (pixelperinch) แต่ถ้าเป็นตามขนาดงานพิมพ์แล้วแค่ตรงนี้ควรจะสูงๆไว้ก่อนเพ่ือความละเอียดของงาน

- ควรจะเลอื ก Constrain Proportions ไว้ทุกคร้งั เพื่อที่จะคงอัตราส่วนกว้าง-ยาวเอาไว้ คราวนี้
เราจะเพม่ิ หรือขนาดรูป กส็ ามารถทำไดเ้ ลยโดยการปรับแก้ท่ีชอ่ งตามท่ีได้อธบิ ายด้านบน ตามวัตถปุ ระสงค์ของ
เราแกเ้ สร็จก็เซฟงานไดเ้ ลย

4. ในการเซฟไฟล์ โปรแกรม Photoshop CS 6 จะถามเราอกี ครง้ั ในเรื่องของคณุ ภาพไฟลว์ ่าจะเอา
ขนาดไหน(ตามรูป) ใน ตัวอย่างจะเลอื กแค่ 8 ก็พอเพียงพอแลว้ โดยคา่ ยิง่ มากขนาดไฟลก์ ็จะใหญข่ ึ้นตาม

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

การบันทกึ งานบนั ทกึ ไฟล์ Photoshop(.PSD)
การแก้ไขไฟล์ภาพโดยการสร้างกราฟิก เพิ่มการตัดต่อหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะของไฟล์ภาพที่มีผล

กบั โครงสร้างเดมิ ของภาพเม่อื เลอื กคำสั่ง File > Save จะแสดงไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Save As ขึ้นมาโดยจะเลือก
รูปแบบของไฟล์เป็น Photoshop (*.PSD, *.PDD) เปน็ ค่าพ้ืนฐานดังน้ี

คุณสมบัตขิ องไฟล์ PSD จะเกบ็ รายละเอยี ดการทำงานต่าง ๆ เชน่ เลเยอร์, ฟอนตแ์ ละเสน้ พาธ ไว้ได้
อย่าง ครบถ้วนช่วยให้การนำไฟล์ภาพกลับมาแก้ไขทำได้ง่ายในขณะที่ไฟล์ประเภทอื่นจะเก็บข้อมูลเหล่าน้ี
ไม่ไดห้ รือไดเ้ พียงบางส่วน

บนั ทกึ ไฟล์ทบั ของเดมิ
การเปิดไฟลภ์ าพมาตกแต่งสี,แสงเงาหรือกำหนดค่าเอฟเฟ็กต์ให้กับภาพแต่ไม่ได้ใช้คำสั่งเกี่ยวกับการสร้างเลเยอร์(เล

เยอร์คอื ชั้นทจ่ี ัดวางรูปภาพ)หรือสร้างกราฟิกอื่นๆเพ่ิมเติมในภาพเมื่อเลือกคำสั่ง File>Saveโปรแกรมจะให้บันทึกทบั ชื่อไฟล์เดิม
รปู แบบเดิม(จะไมม่ ีไดอะล็อกบ๊อกซ์SaveAs เปิดขึ้นมาหากไม่ต้องการให้ทับไฟลเ์ ดิมต้องคลิก เลือกคาส่ัง File>SaveAs )

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

บันทึกเป็นไฟล์รูปแบบอ่ืนๆ
นอกจากการบันทกึ เป็นไฟล์ .psd และบนั ทึกลงในรปู แบบของไฟล์ต้นฉบันเดมิ แล้วยังบนั ทกึ ไฟล์

ภาพเก็บไวใ้ นรูปแบบอ่นื ๆ ไดต้ ามต้องการ โดยคลกิ เลอื กคำสง่ั File > Save As แล้วเลอื กรูปแบบของ
ไฟลใ์ นชอ่ ง Format ซง่ึ จะมรี ปู แบบไฟล์ให้เลอื กหลายแบบดังภาพ

การเลิกใช้งานโปรแกรม
เมอ่ื เราตอ้ งการเลกิ ใชง้ านโปรแกรม Adobe Photoshop ดำเนินการดังนี้
- คลกิ เลือกคำสงั่ File --> Exit หรอื คลิกเมาส์ท่ีเครอื่ งหมาย
- จากน้ันโปรแกรมจะปดิ โดยอัตโนมตั ิ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

การกำหนดขนาดและความละเอยี ดของภาพ

รจู้ กั การกำหนดขนาดของงานทเ่ี ราต้องการจะสร้าง
File > New หรอื กดป่มุ Ctrl+N กไ็ ดค้ รบั

ปรากฏหนา้ ตา่ ง New ตามภาพดา้ นล่าง โดยมรี ายละเอียดดงั นี้

Name : นกั เรยี น สามารถตัง้ ชอื่ ไฟลท์ ่ีตอ้ งการได้ทันที แต่หากยงั ไมต่ ้องการต้งั กใ็ ช้ช่อื ที่ใหม้ า ไดก้ ่อน
Untitled-1

Preset : ใช้สำหรบั เลอื กลักษณะของงานทคี่ ุณต้องการจะทำ เช่น สรา้ งเวบ็ ไซต์ หรือ ทำรปู ภาพ
Width : กำหนดหนว่ ยความกว้างให้กบั ช้นิ งาน (หนว่ ยดา้ นหลงั เลอื กได้หลายลักษณะให้เหมาะสม
กับงาน)

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

Height : กำหนดความสูงใหก้ ับช้นิ งาน (หนว่ ยด้านหลังเลือกได้หลายลักษณะให้เหมาะสมกบั งาน)
Resolution : เปน็ การกำหนดความละเอยี ดให้กับชน้ิ งานหากเปน็ งานเว็บไซต์ 72 pixels/Inch ทีใ่ ห้
มาก็สามารถใช้งานได้ แต่ถ้าเปน็ งานรูปภาพกำหนดเปน็ 300 pixels/Inch (ย้ำว่าไมใ่ ช่สตู รตายตัวนะครับ ลอง
เอาไปประยุกตต์ ามความเหมาะสม)
Color Mode : เลือกโหมดสีท่ตี ้องการ หากต้องการทำงานรปู ภาพธรรมดาผมเลือก RGB Color แต่
ถ้าตอ้ งการทำงานป้ายโฆษณาลองเลือก CMYK ดูสจี ะถกู ตอ้ งมากกวา่
Background Contents : คา่ เดมิ กำหนดมาเป็นสีขาว นอกจากนี้ยังมีค่าอกี 2 ค่าให้เลือก น่นั คอื
Background Color (เลอื กตามสพี ื้นหลัง) และ Transparent (เน้นท่ีทำภาพแบบไมม่ พี ้นื หลงั )
เพยี งเทา่ น้ีเรากก็ ำหนดรายละเอยี ดต่าง ๆ เสรจ็ แล้ว พร้อมสำหรับการทำงานข้ันตอ่ ไป

ร้จู กั กบั ค่าความละเอยี ดของภาพ (Resolution)
Resolution คอื คา่ ความละเอยี ดของภาพ ๆ หนึ่งซ่ึงกำหนดเปน็ จำนวนเม็ดสี (pixels) ต่อหนึง่ หน่วย

ความยาวของภาพ ตัวเช่น หากภาพน้ันมคี ่า Resolution = 150 pixels/inches แสดงวา่ ในพนื้ ที่ 1 ตารางนวิ้
ของภาพน้นั ประกอบไปดว้ ยเมด็ สจี ำนวน 150 สี (Pixels) เป็นตน้

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

ภาพที่มคี วามละเอยี ด Resolution ตำ่ ภาพท่มี คี วามละเอียด Resolution สูง
(มีจำนวนเมด็ สีน้อย) (มีจำนวนเม็ดสมี ากกว่าในขณะทีม่ พี น้ื ท่ีเทา่ กนั )

ทำไมเราต้องกำหนดคา่ Resolution

- ในการทำงานนน้ั จะตอ้ งอ้างองิ ถงึ คา่ อยู่เสมอเพ่อื ให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งานประเภทต่าง ๆ
นอกจากน้ันยงั เกย่ี วข้องกบั ขนาดไฟล์งานอกี ด้วย เพราะงานทีม่ คี า่ Resolution สงู กจ็ ะมขี นาดของไฟลใ์ หญ่
ข้ึนตามไปดว้ ย ซึ่งอาจทำใหเ้ กิดปญั หาในการทำงาน เช่น ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคณุ ประมวลผลชา้ ลงใน

กรณที ี่ สเปคเคร่อื งไมส่ งู นกั ซงึ่ หน่วยของ Resolution ที่ใชก้ ันอยู่ 2 แบบคือ

pixels/inch จำนวนหรือปริมาณของเมด็ สี ในพืน้ ท่ี 1 ตารางนิ้ว
pixels/cm จำนวนหรอื ปรมิ าณของเม็ดสี ในพืน้ ที่ 1 ตารางเซ็นติเมตร
ค่า Resolution ทเี่ รานิยมใช้คือ จำนวนพิเซลต่อน้ิว หรือ pixels/inch ( ppi ) นั่นเอง

ภาพขนาด 1024x768 Resolution = 300 ppi
ขนาดไฟล์ 2.87M เมือ่ ขยาย 200 เท่า

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

ภาพขนาด 1024x768 Resolution = 72 ppi
ขนาดไฟล์ 169 k เมอ่ื ขยาย 200 เท่า

นอกจากภาพท่ีมีคา่ Resolution สงู จะใชค้ วามคมชัดกว่าแล้ว ขนาดไฟลง์ านกจ็ ะใหญ่กวา่ ด้วย

กำหนดค่า Resolution
ในการใช้งานทว่ั ๆ ไปเรามกั กำหนดความละเอียดของงานหรือค่า Resolution อย่ทู ี่ 100-1150 ppi

(pixels/inch) แต่สำหรบั การทำงานเก่ยี วกับเวบ็ ไซตน์ น้ั เราจำเป็นต้องใช้งานทีม่ ีความละเอยี ดน้อยเพ่ือใหม้ ี
การแสดงผลทรี่ วดเร็ว จึงมกั ใช้คา่ Resolution = 72 ppi

สำหรับการออกแบบสิ่งพมิ พเ์ รามักจะกำหนหดค่า Resolution อย่ทู ่ี 300-350 ppi เพราะต้องการ
ความคมชัดในการแสดงผลสงู เช่น งานออกแบบสิ่งพิมพ์ งานนิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ และสมุดภาพการ
ตงั้ คา่ ของ Resolution ให้ไปที่ Image - Image size

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

การสรา้ งและตกแต่งขอ้ ความ

ชุดเครือ่ งมอื สำหรบั การสรา้ งขอ้ ความ
ปัจจุบันการสร้างงานกราฟิกจะนำตัวอักษรหรือขอ้ ความมาประกอบกัน เพื่อสื่อสารให้ผู้รับสารเข้าใจได้ดี
ยิ่งขึ้น เช่น การทำโปสเตอร์โฆษณาสินค้าที่ติดอยู่ตามร้านค้าหรือตามรถโดยสารโปรแกรม Adobe
PhotoShop จึงมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการสร้างตัวอักษรหรือข้อความ ซึ่งสามารถใช้งานง่ายและ
สามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ คร่อื งมือต่าง ๆ เพ่ือสร้างข้อความกราฟกิ ใหเ้ ขา้ กบั ชิ้นงานไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

9.1 การใชเ้ ครื่องมอื TEXT สร้างตัวอกั ษร

กลุ่มของเครื่องมือ Text ประกอบด้วย Horizontal Type, Vertical Type, Horizontal Type Mask
และ Vertical Type Mask ดังรูป

9.2 การใช้ HORIZONTAL TYPE TOOL
การสรา้ งตัวอกั ษรโดยใช้ Horizontal Type Tool จะเป็นการสรา้ งตวั อักษรแบบธรรมดาท่ัวไป ซึ่งมี

ขนั้ ตอน ดังนี้
1.สร้างไฟล์รูปภาพใหม่โดยคลิกที่เมนู File -> New เลือกขนาดของพื้นที่การทำงานตามต้องการ

จากนั้นคลกิ ท่ีปุม่ OK
2. คลิกท่เี ครื่องมือ Horizontal Type Tool จากน้นั นำไปคลิกบนพ้ืนท่ีการทำงานแลว้ พิมพ์ข้อความลง

ไป เชน่ คำว่า “กราฟิก”
3. ปรบั เปล่ยี นรูปแบบข้อความที่ออปชนั บาร์ ซึ่งมรี ายละเอียดดงั นี้

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

9.3 การใช้ VERTICAL TYPE TOOL
การสร้างตัวอกั ษรโดยใช้ Vertical Type Tool จะเป็นการสร้างตัวอกั ษรแบบแนวตง้ั ซ่ึงมขี ้นั ตอนดังนี้
1.สร้างไฟล์รูปภาพใหม่โดยคลิกที่เมนู File -> New เลือกขนาดของพื้นที่การทำงานตามต้องการ

จากนัน้ คลิกทปี่ ุ่ม OK
2. คลิกที่เครื่องมือ Vertical Type Tool จากนั้นนำไปคลิกบนพื้นทีก่ ารทำงานแลว้ พิมพ์ข้อความลงไป

เช่น คำว่า “Vertical”
3. ปรับเปลี่ยนออปชนั ตามต้องการ

เอกสารประกอบการเรียน วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

9.4 การใช้ HORIZONTAL TYPE MASK TOOL
การสรา้ งตวั อักษรโดยใช้ Horizontal Type Mask Tool จะเปน็ การสร้างตัวอกั ษรแบบแนวนอนแต่จะ

เป็นลักษณะการ Selection ข้อความที่พิมพ์ไว้เพื่อให้สามารถเลือกพื้นที่หรือสีของข้อความได้ ซึ่งมีขั้นตอน
ดงั น้ี

1. เปดิ ไฟลภ์ าพทตี่ อ้ งการสรา้ งเปน็ ข้อความ
2. คลิกที่เครื่องมือ Horizontal Type Mask Tool จากนั้นนำไปคลิกบนพื้นที่การทำงานแล้วพิมพ์
ข้อความ เชน่ คำว่า “GRAPHIC” สังเกตภาพจะจางลง ดังรูป
3. กดปุ่ม Alt ที่คีย์บอร์ดแล้วคลิกที่เครื่องมือ Move Tool เพื่อคัดลอกข้อความ จากนั้นคลิกเมาส์
ด้านซา้ ยคา้ งไวท้ ีข่ อ้ ความแลว้ ลากไปวางบนตำแหนง่ ทต่ี อ้ งการ หรอื
4. คลิกที่เมนู Edit -> Copy แล้วคลิกตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นคลิกที่เมนู Edit ->Paste จะได้ผล
ลัพธิด์ ังรปู

9.5 การใช้ VERTICAL TYPE MASK TOOL
การสรา้ งตวั อักษรโดยใช้ Vertical Type Mask Tool จะเปน็ การสร้างตัวอกั ษรแบบแนวตัง้ มีขั้นตอน

การใชเ้ หมือนกบั Horizontal Type Mask Tool

9.6 การปรบั แตง่ เลเยอรใ์ หส้ วยงาม LAYER STYLE

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

การปรับแต่งเลเยอร์ด้วยรูปแบบต่างๆ ของเลเยอร์ หรือ ที่เรียกว่า Layer Style นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ
แต่ละแบบเมื่อนำมาใช้ในการปรับแต่งภาพแล้วจะทำใหภ้ าพที่ออกมาดูแปลกตา และสวยงามอย่างเหลือเช่อื
แตล่ ะภาพจะใช้ Laye Style ตวั เดยี ว หรอื หลายตวั รวมกนั ก็แลว้ แตค่ วามตอ้ งการในการแต่งภาพ ของแต่ละ
ภาพ หรอื ผู้แต่ง ไมก่ ำหนดตายตวั

การใชง้ าน Layer Style
1.1 เลือก Layer ทตี่ อ้ งการ
1.2 คลกิ ทเี่ มนู Layer เลอื ก Layer Style จะพบรายการเมนู ดงั รปู
1.3 คลิกที่รายการ Layer Style ที่ตอ้ งการ

รูปแบบของ Layer Style
Inner Shadow = การเพม่ิ เงาให้กับภาพ ลักษณะของเงาจะเปน็ การเพม่ิ กับสว่ นภายในของภาพ
Drop Shadow = การเพ่มิ เงาให้กับภาพ ลักษณะของเงาจะเป็นการเพ่ิมกบั ส่วนภายนอกของภาพ
Bevel and Emboss = การเพมิ่ ระดับใหก้ บั ภาพ เชน่ ความนูน ความโคง้ ความลึก ความเอียง โดย

การใชแ้ สง และ เงา
Outer Glow = การเพมิ่ แสงใหก้ บั ภาพ ลักษณะของแสงจะเป็นการเพ่มิ กบั สว่ นภายนอกของภาพ
Inner Glow = การเพม่ิ แสงใหก้ ับภาพ ลกั ษณะของแสงจะเป็นการเพ่ิมกบั ส่วนภายในของภาพ
Color Overlay = การเพิ่มสใี หก้ ับภาพ
Gradient Overlay = การเพ่ิม Gradient ใหก้ ับภาพ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

Pattern Overlay = การเพิม่ Pattern ใหก้ ับภาพ
Stroke = การเพิม่ เส้นขอบให้กบั ภาพ
Satin = การเพม่ิ ลวดลายใหก้ ับภาพ

การกำหนดค่าเพม่ิ เติมด้วย Option ต่างๆ ของ Blending and Layer Style
Blending Option : ส่วนนี้ต้องทำความรู้จัก เพราะ Layer Style แต่ละแบบจะถูกควบคุมด้วยส่วนนี้

อีกครงั้ หน่งึ Option การตั้งคา่ ของ Blending Option และ Layer Style แต่ละแบบ ไดร้ วบรวมไว้ที่ด้านล่าง
ใหแ้ ลว้ ตอ้ งการใช้ตัวใหน กใ็ หด้ จู ากรายการเหลา่ นแ้ี ล้วนำมาใชป้ รับแตง่ ภาพ ดงั นี้

Blend Mode = ใชส้ ำหรับต้ังค่า Blending ใหก้ บั ภาพ
Opacity = ปรับคา่ ความทบึ แสง และ เงา กระทบทุกสว่ นของภาพ
Angle = ปรับมุมของแสง หรือ เงา ที่มีผลกับภาพ (90 องศา ถ้าเปรียบเทียบกับนาฬิกา จะเท่ากบั
12 นาฬกิ า)
Fill Opacity = การปรบั ค่าความทึบแสง หรอื เงา แตจ่ ะไมก่ ระทบถึง สว่ นทเ่ี ป็น Layer Style
Knockout = มีตวั เลือกใหส้ ามแบบ None, Shallow, Deep หนา้ ทขี่ องมนั คือการทำใหม้ องทะลุลง
ไปยงั เลเยอร์ล่างได้ ทั้งน้กี ารใชง้ านจะต้องร่วมกบั การปรับ Fill Opacity ดว้ ย
Use Global Light = แสง และ เงา ที่มีผลเหมือนกันกับทุก Layer Style (ใช้กับ Drop Shadow,
Inner Shadow, Bevel & Emboss)
Distance = ระยะของแสง หรือ เงา
Chokes = ปรบั ความชดั ความเขม้ ของ แสง หรอื เงา
Spread = ปรบั ความชัด ความเข้ม ของ แสง หรือ เงา
Size = ขนาดความเบลอ ความอ่อนโยน ของแสง หรอื เงา
Contour = เส้นแสดงลักษณะรูปร่าง ของ แสง หรือ เงา (รูปภาพที่แสดงในไอคอนของ Contour
หมายถึงลักษณะกร๊าฟ ส่วนที่เป็นสีเทา คือ ส่วนของเส้นกร๊าฟ ส่วนที่เป็นสีขาว เป็นส่วนที่อยู่นอกเหนือ
เส้นกร๊าฟ ด้านซ้ายแสดงส่วนทีอ่ ยู่นอกเหนือของ Effect ด้านขวาแสดงส่วนที่อยูใ่ นส่วนของ Effect ด้านล่าง
เปน็ สว่ นของ Transparency ดา้ นบนเป็นสว่ นของ Opacity
Anti-aliased = ความเรยี บ ของ แสง หรอื เงา
Noise = เป็นการทำให้ แสง หรอื เงา คลา้ ยกบั การพน่ สเปรย์
Layer Knocks Out Drop Shadow = ถ้าไม่เลือกออปชั่นน้ี จะทำให้การปรับแต่งของเลเยอร์นั้น
แสดงเฉพาะส่วนที่เปน็ Drop Shadow เทา่ น้ัน
Tecnique = ใช้ควบคมุ ความออ่ นโยน หรือ ความกระดา้ ง ของ แสง หรือ เงา
Range = ความกวา้ งของ เส้นแสดงลกั ษณะรูปร่าง (Contour)
Source = ส่วนทเ่ี ริ่มแสดง แสง หรือ เงา
Gross Contour = การปรบั ท่มี ีผลต่อความสอ่ งสว่าง หรอื Luminosity

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์

Depth = ความลึกของ แสง และ เงา
Direction = ทิศทางการแสดงผล ประกอบด้วย Up คอื แสง และ เงา จะส่องจากลา่ งข้ึนบน Down
แสดงกลบั กนั ทั้งนต้ี ้องข้นึ อยกู่ บั มมุ (Angle) ของ แสง และ เงา ทีต่ งั้ คา่ ไว้ดว้ ย
Soften = ปรบั คา่ ความออ่ นโยนในการแสดง
Altitude = ตำแหน่งความสงู ของ แสง และ เงา ตำแหนง่ ย่ิงสูง แสง และ เงา ก็จะย่ิงน้อย
Highlight Mode = ค่า Blend Mode ในส่วนของแสง
Shadow Mode = ค่า Blend Mode ในส่วนของเงา
Position = ตำแหน่งการแสดงผล
Fill Type = ประเภทท่ีจะเติมให้กับภาพ เช่น เตมิ สี Gradient หรือ Pattern
Color = สที ี่จะเติม
Gradient = การเตมิ สแี บบการไลส่ ี
Pattern = การเติมภาพด้วยรปู แบบ Pattern
Texture = คือการใส่ Pattern
Scale = ขนาดของสี
Make Default = การตั้งคา่ การปรบั Layer Style แตล่ ะแบบให้เปน็ คา่ เริ่มต้น
Reset to Default = การตั้งค่าใหม่สำหรับค่า Layer Style ที่มีการเปลี่ยนแปลง กลับไปใช้ค่า
เร่ิมต้นท่โี ปรแกรมต้ังไว้
Style = รูปแบบการแสดงของ Bevel and Emboss มดี ว้ ยกันหลายแบบ
Inner Bevel = แสดงจากขอบเข้าส่ดู า้ นใน
Outer Bevel = แสดงจากขอบออกสดู่ า้ นนอก
Emboss = แบง่ การแสดงระหว่างด้านใน และ ดา้ นนอก ฝง่ั ละ 50%
Pillow Emboss = แสดงผลจากรูปแบบของ Emboss แต่จะะแสดงโดย แสง และ เงา ส่วนละ
50% ในขอบเดียวกัน
Stroke Emboss = จะมีผลตอ่ เม่ือรปู น้ันมีการใส่ Stroke

คียล์ ดั ของ Layer Style ทำได้โดยการกดป่มุ Ctrl + ตวั เลข
Ctrl + 0 = Stroke
Ctrl + 1 = Drop Shadow
Ctrl + 2 = Inner Shadow
Ctrl + 3= Outer Glow
Ctrl + 4 = Inner Glow
Ctrl + 5 = Bevel&Emboss
Ctrl + 6 = Satin

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

Ctrl + 7 = Color Overlay
Ctrl + 8 = Gradient Overlay
Ctrl + 9 = Pattern Overlay

9.7 ขัน้ ตอนการใสข่ อ้ ความในภาพอยา่ งง่าย

เร่ิมจากเปดิ ภาพทตี่ ้องการใส่ตัวอกั ษรขน้ึ มา

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

1.คลกิ เลือกเคร่ืองมอื Type Tool
2.คลกิ ในภาพบรเิ วณที่ตอ้ งการพมิ พ์

1.เลอื กแบบอักษร ขนาด การจัดรปู แบบ และสขี องอกั ษร
2.พิมพ์ข้อความทีต่ ้องการ

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จ เราจะใส่ Effect ใหก้ บั ข้อความกัน โดยไปคลิกท่ีดา้ นลา่ งของแถบ Layer เป็นการ Add
Layer Style จะมแี ถบขนึ้ มาให้เลอื ก Style คลิกที่ Stroke เพือ่ ใส่เสน้ ขอบใหก้ บั ตวั อกั ษร

เมอ่ื คลกิ ที่ Stroke แลว้ จะขึน้ Layer Style ใหเ้ ราตง้ั ค่าเสน้ ขอบ
Size คอื ขนาดของเส้นขอบ
Position คอื ตำแหนง่ ของเส้นขอบจะมี Outside, Inside และ Center
Blend Mode คือเลอื ก Mode ท่ีจะใชป้ กติจะเป็น Normal

เอกสารประกอบการเรียน วิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

Opacity คือความโปรง่ ใสของเสน้ ขอบ
Fill Type คือการเติมลักษณะเสน้ ขอบ มใี ห้เลอื กคอื Color เป็นสตี ามปกติ Gradient คอื แบบไล่สี และ
Pattern คอื เป็นสตี ามรูปแบบ จะมีแบบให้เลอื ก
ในทนี่ ้เี ราจะเติมแบบ Color คือเปน็ สพี ้ืนๆ ธรรมดา เสรจ็ แลว้ กด OK

ใ น ก ร ณ ี ท ี ่ ต ้ อ ง ก า ร ใ ส่ Style อ ย ่ า ง อ ื ่ น เ พ ิ ่ ม ใ ห ้ ค ล ิ ก ท่ี Style น ั ้ น ท ี ่ แ ถ บ ด ้ า น ข ้ า ง ไ ด้
หรือหากกด OK ไปแล้วและยังไม่ได้เลือก Effect อื่น ก็ไปเลือกใหม่ตามขึ้นตอนด้านบนได้
ในที่นเ้ี ราจะคลกิ เพ่ิมเงา Drop Shadow

เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สรา้ งสรรค์

หลังจากที่เลือก Style ต่างๆ แล้ว ที่แถบ Layer จะปรากฏ Style หรือ Effects ที่เราใส่ทั้งหมดหากต้องการ
เปล่ียนแปลงแก้ไข Effects ใด ก็ดั ับเบล้ิ คลิกที่ Effects นน้ั ได้
ตามตวั อย่างเราจะไปตั้งค่าเงาใหม่ กด็ บั เบ้ิลคลกิ ท่ี Drop Shadow

จะขนึ้ หนา้ Layer Style มาให้เราตั้งค่า
Blend Mode คอื การเลอื ก Mode ตา่ งๆ ปกติจะเป็น Multiply และเลือกสีของเงา
Opacity คือความโปรงแสงของเงา
Angle คือการกำหนดทิศทางของเงา
Distance คือระยะทางที่เงาทอดตวั หรอื ระยะห่างระหว่างเงากบั ตัวอกั ษรนัน่ เอง
Spread คอื การขยายของเงารอบๆ ถ้าค่ามากจะทำใหเ้ งาไม่เปน็ ตวั อักษรทีอ่ ่านได้
Size คือขนาดของเงา
Contour คือรูปแบบลกั ษณะของเงา
Noice คอื ความชัดของเงา หากเพม่ิ Noice จะมีลกั ษณะเป็นจุดเล็กๆ

เอกสารประกอบการเรียน วชิ า โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ รา้ งสรรค์

ในกรณีทต่ี ้องการเพิม่ รปู ภาพหรือ Logo ทีท่ ำไว้แลว้
1.ให้เปดิ ภาพนนั้ เข้ามา
2.คลิกเลือกเครื่องมอื Move Tool
3.คลกิ ภาพที่เปดิ ขน้ึ มาแลว้ ลากมาวางลงในภาพ

สามารถย่อขยายภาพท่ีนำมาใสโ่ ดยกด Ctrl T หรอื Edit> Free Transform
ตวั อกั ษรก็สามารถย่อขยายขนาดได้โดยใชค้ ำสง่ั นีเ้ ช่นกัน(อย่าลมื คลกิ เปล่ียน Layer ท่ีต้องการทำด้วย)

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

จัดวางตำแหน่งตามที่ต้องการ โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื Move Tool ก็จะไดภ้ าพที่มีตัวอักษรตามตอ้ งการ
จากนัน้ อยา่ ลืม Save เปน็ .JPEG

การใส่ตัวอักษรทำได้ไม่ยาก และมีวิธีท่จี ะทำตัวอักษรในหลายๆ รูปแบบ
ไวจ้ ะเขยี นวธิ กี ารทำตัวอกั ษรในรูปแบบต่างๆ ไวใ้ นตอนต่อๆ ไปนะคะ

เอกสารประกอบการเรยี น วิชา โปรแกรมคอมพิวเตอรส์ รา้ งสรรค์

ตวั อย่างภาพท่ใี สต่ วั อกั ษรและรูปภาพแล้ว

ผังโครงสร้างหน่วยการเรียนรู้เพอื่ เสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพียง
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้การสรา้ งองค์ความร้พู น้ื ฐาน

ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 20 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 (2 ชว่ั โมง) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 (2 ชั่วโมง)
เร่อื ง การปรับรปู ทรงของภาพ เรื่อง การเลอื กพื้นที่บนภาพและการแยกวัตถอุ อกจากฉากหลัง
ผลการเรยี นรู้
ผลการเรียนรู้ 6. ใช้เครอื่ งมือในการตัดและตกแตง่ ภาพประกอบการสร้างชิน้ งานได้
6. ใช้เคร่ืองมือในการตดั และตกแตง่ ภาพประกอบการสร้างชนิ้ งานได้ 7. ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพือ่ สรา้ งสรรค์งานได้อยา่ ง
7. ใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพอื่ สร้างสรรคง์ านได้อย่าง ถกู ต้องสวยงาม และเหมาะสม
ถกู ตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 10 (4 ชวั่ โมง) หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4
เรอ่ื ง การสร้างเอฟเฟ็คพิเศษด้วยฟิลเตอร์ เรือ่ ง การสร้างสรรคช์ ้ินงาน
ผลการเรียนรู้
6. ใช้เคร่อื งมือในการตดั และตกแต่งภาพประกอบการสร้างช้นิ งานได้ (6 แผน 20 ชวั่ โมง)
7. ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พ่อื สรา้ งสรรคง์ านได้อยา่ ง Photoshop เป็นโปรแกรมที่สามารถรองรับงาน
ถกู ตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม ด้านต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งมีคุณสมบัติในการ
ออกแบบภาพกราฟิก ตกแตง่ ภาพท่ัวไป และชิน้ งานอืน่ ๆ
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 11 (4 ชวั่ โมง) ไดม้ ากมาย
เร่อื ง การตกแต่งและรีทชั ภาพ

ผลการเรยี นรู้
6. ใช้เคร่ืองมือในการตดั และตกแต่งภาพประกอบการสร้างช้ินงานได้
7. ใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่ือสร้างสรรคง์ านได้อยา่ ง
ถูกตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 12 (2 ชว่ั โมง) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 13 (6ชัว่ โมง)
เรอ่ื ง การสร้างวัตถสุ ะทอ้ นบนพืน้ มนั เงา เรอ่ื ง การออกแบบสอื่ ส่ิงพมิ พ์
ผลการเรยี นรู้
6. ใช้เครอ่ื งมือในการตดั และตกแตง่ ภาพประกอบการสร้างชิ้นงานได้ ผลการเรยี นรู้
7. ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พ่ือสร้างสรรค์งานได้อยา่ ง
ถกู ตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม 6. ใช้เคร่ืองมือในการตัดและตกแต่งภาพประกอบการสร้างชิน้ งานได้
7. ใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พ่อื สร้างสรรคง์ านไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิน้ งาน

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั 1. ใบกิจกรรมที่ 4.1

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ใบกิจกรรมท่ี 4.2

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 3. ใบกิจกรรมท่ี 4.3

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ 4. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 4. ใบกิจกรรมที่ 4.4

ชีวิต 5. ใบกิจกรรมท่ี 4.5

5. ความสามารถในการใช้ 6. ใบกิจกรรมที่ 4.6

เทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การสรา้ งสรรค์ชิ้นงาน รหัสวชิ า ว20233
รายวิชาโปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ ร้างสรรค์ 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลาเรียน 20 ชั่วโมง
ภาคเรียนท่ี 1

1. ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั

1. ใช้เคร่ืองมอื ในการตัดและตกแตง่ ภาพประกอบการสร้างชิ้นงานได้
2. ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพือ่ สร้างสรรคง์ านได้อย่างถกู ตอ้ งสวยงาม และเหมาะสม

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

Photoshop เปน็ โปรแกรมทีส่ ามารถรองรับงานดา้ นตา่ ง ๆ ได้อยา่ งหลากหลาย ทั้งการออกแบบ
ภาพกราฟกิ ตกแตง่ ภาพถ่ายดิจิตอล ออกแบบสรา้ งเวบ็ ไซต์ เตรยี มภาพสำหรับโทรศพั ท์มือถอื และอุปกรณ์
พกพา เอกสารอิเล็กทรอนกิ ส์ และสง่ิ พมิ พ์ ตลอดจนถงึ คณุ สมบัติในการปรบั แตง่ และตัดตอ่ วีดโี อ

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 การเลอื กพ้ืนทบ่ี นภาพและการแยกวัตถอุ อกจากฉากหลัง
3.2 การปรบั รูปทรงของภาพ
3.3 การสรา้ งเอฟเฟ็คพิเศษดว้ ยฟิลเตอร์
3.4 การตกแต่งและรีทชั ภาพ
3.5 การสร้างวตั ถุสะทอ้ นบนพ้ืนมนั เงา
3.6 การออกแบบสือ่
4. สมรรถนะการเรยี นร้ขู องผู้เรียน

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด

4.2.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
4.2.2 ทกั ษะความคดิ สรา้ งสรรค์

4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

4.4.1 กระบวนการปฏิบัติ
4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

4.5.1 การใชเ้ ทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูล
5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

5.1 มวี นิ ยั
5.1.1 มีความรับผิดชอบ มีความตง้ั ใจทำงานและติดตามผลงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
5.1.2. มรี ะเบียบวนิ ยั และปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ท่กี ำหนด
5.1.3 มีความตรงต่อเวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหม่ันเพียร
6.1.5 รจู้ กั เสียสละและมีความเห็นใจผูอ้ ืน่

5.2 ใฝ่เรียนรู้
5.2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ
5.2.2 มีการจดบันทกึ ความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ
5.2.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล

5.3 มุ่งม่ันในการทำงาน
5.3.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย
5.3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จลลุ ่วง

5.4 มีความซือ่ สัตย์
5.4.1 ไมค่ ัดลอกคำตอบหรอื ผลงานของผอู้ ืน่
5.4.2 ให้ข้อมูลทีถ่ กู ต้องและเปน็ จริง เป็นแบบอย่างท่ีดดี า้ นความซ่อื สัตย์
5.4.2 ปฏิบตั ติ ่อผู้อนื่ ด้วยความซื่อตรง

6. ชนิ้ งาน หรอื ภาระงาน

6.1 ใบกิจกรรมท่ี 4.1 เรอ่ื ง การเลือกพื้นท่ีบนภาพและการแยกวัตถุออกจากฉากหลงั
6.2 ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 เรอ่ื ง การปรับรูปทรงของภาพ
6.3 ใบกจิ กรรมที่ 4.3 เรอ่ื ง การสร้างเอฟเฟค็ พเิ ศษด้วยฟิลเตอร์
6.4 ใบกิจกรรมที่ 4.4 เรื่อง การตกแตง่ และรีทัชภาพ
6.5 ใบกจิ กรรมที่ 4.5 เรื่อง การสรา้ งวตั ถุสะทอ้ นบนพ้ืนมันเงา

6.6 ใบกิจกรรมที่ 4.6 เรอื่ ง การออกแบบสอ่ื (ปกแฟ้มสะสมผลงาน)

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 8 ใชก้ ระบวนการจัดการเรยี นรู้แบบการปฏบิ ตั ิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 ใชก้ ระบวนการจดั การเรียนรู้แบบการปฏบิ ัติ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 ใช้กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบการปฏิบตั ิ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 11 ใชก้ ระบวนการจัดการเรยี นรู้แบบการปฏบิ ตั ิ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 ใช้กระบวนการจดั การเรยี นรู้แบบการปฏิบัติ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 ใช้กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบการปฏิบัติ

8. วัสดุอุปกรณ์ /สื่อ /แหล่งเรียนรู้ (หนังสือ/เอกสารประกอบการสอน/ใบงาน/ใบความรู้/สถานที่จริง/
ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ /สถานประกอบการ/อนิ เตอรเ์ น็ตฯลฯ)

8.1 ส่ือ power point
8.2 ใบกจิ กรรม
8.3 จอ Projector
8.4 เครื่องคอมพวิ เตอร์ทตี่ ดิ ตง้ั โปรแกรม Photoshop และเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เน็ต
8.5 เวบ็ ไซต์ http://webkruboy.wordpress.com
8.6 เว็บไซต์สำหรบั คน้ ขอ้ มูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
8.7 เว็บไซต์ http://comkrutae.wordpress.com
8.8 หอ้ งปฏิบัตกิ ารคอมพิวเตอร์ หอ้ งสมุด

9. การวัดและประเมินผล

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ด้าน วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารวัดและ
ความรู้ (K) ประเมินผล
- ตรวจกจิ กรรม 4.1 - ใบกจิ กรรมท่ี 4.1
- ตรวจกิจกรรม 4.2 - ใบกิจกรรมที่ 4.2 ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า
- ตรวจกจิ กรรม 4.3 - ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 ร้อยละ 80
- ตรวจกจิ กรรม 4.4 - ใบกจิ กรรมที่ 4.4
- ตรวจกิจกรรม 4.5 - ใบกจิ กรรมท่ี 4.5

- ตรวจกิจกรรม 4.6 - ใบกิจกรรมที่ 4.6

ทักษะกระบวนการ (P) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป

ภายในกลุ่ม พฤตกิ รรมภายในกลุ่ม

คุณลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป

รายบุคคล พฤติกรรมรายบคุ คล

เกณฑ์การวดั และประเมินผล : ระดับคุณภาพ 1 = น้อย, ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคณุ ภาพ 3 = มาก

แนวทางทค่ี รูนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชจ้ ัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การสรา้ งสรรคช์ ิ้นงาน ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง

ครผู ู้สอนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ ดังนี้

ความรู้ทค่ี รูตอ้ งมีก่อนสอน คณุ ธรรมของครใู นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

- มคี วามรเู้ ก่ียวกับผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั - มคี วามรักเมตตาศิษย์

- มคี วามรเู้ กี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ เนื้อหาในเรอื่ งที่จะสอน รปู แบบ - มคี วามรับผิดชอบ

เทคนิค วิธีการสอน จติ วิทยาการเรียนรู้ - ตรงต่อเวลา

- การใชส้ ่อื และแหลง่ เรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล - มีความยุตธิ รรม
- มคี วามอดทน

- มคี วามมุ่งม่ันเอาใจใสใ่ นการสอน

ประเด็น พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี

- ผูส้ อนมีการวเิ คราะหห์ ลกั สูตร - เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นได้เรยี นรตู้ รงตามผล - ลำดับเนอ้ื หาจากงา่ ยไปหายาก

กำหนดเนื้อหาไดส้ อดคลอ้ งกบั การเรยี นรูค้ รบถ้วนตามกระบวนการ เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเกิดความอยากเรยี นรู้

เน้ือหา ผลการเรียนรู้ เหมาะกบั เวลา วยั - การเลือกใช้ข้อมูลในการจดั ทำงาน - เตรียมเนอื้ หาให้ครอบคลมุ ตามผล
และความสามารถของผู้เรยี น ของผเู้ รียนเหมาะสมกบั เนอ้ื หาและ การเรยี นรู้

วยั ของผเู้ รยี น - มีการเตรยี มเน้ือหาและใบงาน

อยา่ งดีก่อนจัดการเรียนการสอน

- กำหนดเวลาอยา่ งเหมาะสมกับ - สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม - วางแผนการทำงานลว่ งหนา้

เวลา เน้อื หาและ กิจกรรม อย่างมีประสทิ ธภิ าพ - มีการจดั สรรเวลาใหส้ ัมพนั ธก์ บั
กิจกรรมการเรยี นรู้

- เหมาะสมกับเวลาและ - การเลือกวิธกี ารจดั การเรียนการ - มกี ารวางแผนการจัดการเรียนรู้

กล่มุ ผูเ้ รียน สอนทเ่ี หมาะกบั เนื้อหาและเร่ืองที่ ล่วงหน้า

การจดั กจิ กรรม - จดั กิจกรรมท่ีเนน้ รูปธรรมสร้าง จะสอน - เตรียมกิจกรรมใหม้ ีความยดื หยุน่

สื่อ-อุปกรณ์- นสิ ัยความพอเพียง - ออกแบบกจิ กรรมการเรียนได้ เพ่ือให้งานเสร็จตามเวลาที่กำหนด
แหลง่ เรียนรู้
เหมาะสมกับสภาพผู้เรยี น
การประเมิน
- เตรียมสือ่ ให้เพยี งพอกบั - ใช้สื่อในการกระตนุ้ ความสนใจ - ศกึ ษาลกั ษณะของผู้เรียนกอ่ น

จำนวนผ้เู รยี น เสริมสร้างให้ผู้เรยี นเข้าใจในบทเรยี น เตรียมสอ่ื / อปุ กรณ์

- จดั แหล่งเรยี นรูไ้ ดเ้ หมาะสมกับ ไดง้ ่ายข้ึน - เตรยี มสือ่ หรอื อุปกรณส์ ำรอง

กิจกรรม เนือ้ หาและความสนใจ - เลอื กสอ่ื ท่เี หมาะสมกบั เป้าหมาย - ผู้สอนทดลองใชส้ อ่ื และทำความ

ของผ้เู รยี น เนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้และความ เข้าใจการใชแ้ หล่งเรียนรู้

สนใจของผเู้ รยี น

- ออกแบบการวัดและ - ประเมินผลการเรียนใหต้ รงกับผล - ศึกษาและสร้างเคร่ืองมือวดั ผลให้

ประเมนิ ผลไดเ้ หมาะสมกบั ผล การเรียนรู้และคณุ ภาพของผู้เรยี น ตรงตามผลการเรยี นรแู้ ละผา่ นการ

การเรียนรู้ กจิ กรรม และผ้เู รยี น ตรวจสอบคณุ ภาพ

ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี นจากการจัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรือ่ ง การสรา้ งสรรค์ช้ินงาน ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง

1. ผเู้ รยี นได้ฝึกคดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลัก ปศพพ. ดังนี้

ความรทู้ นี่ กั เรยี นตอ้ งมีกอ่ น คุณธรรมของนกั เรียน

- ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ - นักเรยี นต้องมีความรับผดิ ชอบ ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น
- ความคดิ สร้างสรรค์ - นักเรยี นต้องมีระเบยี บวินัย มีความซื่อสัตย์ ตรงตอ่ เวลา
- มคี วามมงุ่ ม่นั ในการทำงาน

หลกั พอประมาณ หลักมเี หตผุ ล หลักการสร้างภูมคิ ุม้ กนั ในตัวทดี่ ี

- รจู้ กั ค้นหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ - ใชท้ รพั ยากรในการทำงานอยา่ งคุ้มค่าและ - รู้จกั บทบาท หน้าท่แี ละปฏบิ ัติหน้าท่ีที่

- สามารถแบง่ เวลาได้ เหมาะกับ เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ได้รบั มอบหมายได้อย่างถกู ตอ้ ง

กิจกรรมและภาระงาน และทำงานท่ี - รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ืน่ และยอมตับ เหมาะสม และทำกิจกรรมไดอ้ ยา่ งมี

ได้รบั มอบหมายไดท้ นั ตามเวลาที่ ตอ่ ความคิดเห็นท่แี ตกตา่ งอย่างมีเหตผุ ล ประสทิ ธภิ าพ

กำหนด - การแบง่ เวลา ภาระหนา้ ที่ทีเ่ หมาะสมกบั - มกี ารวางแผนการทำงานอย่างเป็น

- ใช้ทรพั ยากรในการทำงานอย่าง ความสามารถของแต่ละคนทำใหป้ ฏบิ ตั ิ ระบบ

คมุ้ คา่ และเกดิ ประโยชนส์ งู สุด หน้าที่ไดค้ รบถว้ นและมคี ุณภาพ - มีจิตสำนึกตอ่ บทบาท หนา้ ท่ี ความ

- สามารถทำกจิ กรรมได้ตรงกบั วัย รับผดิ ชอบและมีจติ อาสาในการช่วยผูอ้ น่ื

และความสามารถของแตล่ ะคนได้ และสังคม

อย่างเหมาะสม

2. ผลลัพธ์ทีเ่ กิดขนึ้ กบั ผ้เู รยี นจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี งสู่ 4 มิติ ดังนี้

ผลลพั ธ์ อย่อู ย่างพอเพยี ง...สมดุลและพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลงในด้านต่าง ๆ

วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

- มีความร้เู บอ้ื งตน้ - กระบวนในการทำกจิ กรรม - มคี วามรูใ้ นการรักษา - รรู้ ะเบียบ แบบแผน
ต่าง ๆ ทมี่ รี ่วมกนั
ความรู้ องคป์ ระกอบต่างๆ ร่วมกับผอู้ น่ื วัสดุ อปุ กรณ์และ
เกีย่ วกบั โปรแกรม
สถานท่ีในการทำงาน

Photoshop

- มีทกั ษะ ในการจัดทำ - มที กั ษะในการทำงาน - การดูแลรักษาวัสดุ - รจู้ กั การปฏบิ ตั ิตนให้
ชนิ้ งานใหม้ ีความเรียบร้อย ร่วมกนั และการมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ อปุ กรณ์และสิ่งของทีใ่ ช้ อย่ใู นระเบยี บ แบบแผน
ทักษะ ถกู ต้องและสวยงาม ระหวา่ งเพอ่ื น กับเพื่อน ในการทำงานรวมท้งั ต่าง ๆ ท่มี รี ่วมกัน

รกั ษาความสะอาดของ
สถานที่

คา่ นิยม - ใช้ทรพั ยากรต่าง ๆ ทมี่ ี - ตระหนักถงึ ผลประโยชน์ - มจี ิตสาธารณะในการ - ยอมระเบียบ แบบแผน
อย่ไู ดอ้ ยา่ งคมุ้ ค่ามาก ของส่วนรวมมากกวา่ ดแู ลรกั ษาความสะอาด กฎ กติกา ตา่ ง ๆ ที่มี
ที่สดุ ประโยชน์ของตนเอง ของสถานท่ี รว่ มกัน

แผนการจดั การเรียนรูบ้ ูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

โรงเรียนสรุ าษฎรธ์ านี ๒

แผนการเรยี นรู้ที่ 8 เรื่อง การเลอื กพ้นื ทบี่ นภาพและการแยกวตั ถอุ อกจากฉากหลงั จำนวน 2 ชั่วโมง

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา โปรแกรมคอมพวิ เตอร์สร้างสรรค์ 1 รหัสวชิ า ว20233

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง การสรา้ งสรรคช์ ้นิ งาน จำนวนช่ัวโมงของหน่วย 20 ชวั่ โมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เป้าหมายการเรียนรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ใช้เครือ่ งมือในการตัดและตกแต่งภาพประกอบการสร้างชนิ้ งานได้
1.2 ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพอ่ื สรา้ งสรรคง์ านไดอ้ ยา่ งถูกต้องสวยงาม และเหมาะสม

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้สู่ผลการเรยี นรู้

2.1 นกั เรียนสามารถบอกชอื่ เครื่องมอื และบอกหน้าที่การทำงานของเครอื่ งมือได้ (K)
2.2 นักเรยี นเลือกใช้เคร่ืองมือในการแยกวตั ถอุ อกจากฉากหลังได้ (P)
2.3 นักเรียนสามารถสรา้ งชน้ิ งานได้สวยงามและเหมาะสม (P)
2.4 นกั เรยี นใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มคี วามรับผดิ ชอบในการทำงานให้เสร็จตามเวลา (A)

3. สาระสำคญั

การเลือกพื้นที่บนภาพและการแยกวัตถอุ อกจากฉากหลังของภาพ นับเป็นขึ้นตอนหนึ่งทีส่ ำคญั
ในการตดั ต่อภาพ และการสรา้ งกราฟิกใหม่ ๆ ขึน้ มาจากภาพเดิมทีม่ อี ยู่ เช่น ถ้าจะย้ายนางแบบจากภาพที่
ถ่ายในอาคารให้ยืนอยู่ที่ชายทะเล เราก็จะแต่งแยกภาพตัวนางแบบคนนั้นออกมาจากฉากหลังเดิมก่อน
แล้วจงึ นำไปวางซอ้ นไวบ้ นฉากหลังใหม่

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 การเลอื กพื้นที่บนภาพ
4.1.1 การเลอื กพ้ืนท่บี นภาพด้วยเครื่องมือกลมุ่ marquee
4.1.2 การเลอื กพนื้ ท่ีบนภาพด้วยเครือ่ งมือกลุม่ Lasso

4.1.3 การเลือกพ้ืนทีบ่ นภาพด้วยเครอ่ื งมือ Quick Selection
4.2 การแยกวตั ถอุ อกจากฉากหลัง

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

5.1 มีวินัย
5.1.1 มีความรับผิดชอบ มีความต้ังใจทำงานและติดตามผลงานที่ได้รบั มอบหมาย
5.1.2. มรี ะเบยี บวินัยและปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ทกี่ ำหนด
5.1.3 มีความตรงตอ่ เวลา
5.1.4 มีความอดทนขยันหมัน่ เพียร
6.1.5 ร้จู ักเสียสละและมีความเห็นใจผอู้ น่ื

5.2 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ
5.2.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ
5.2.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมีเหตุผล

5.3 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
5.3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย
5.3.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ใหง้ านสำเร็จลุล่วง

5.4 มีความซ่อื สัตย์
5.4.1 ไม่คดั ลอกคำตอบหรือผลงานของผู้อ่ืน
5.4.2 ใหข้ ้อมลู ท่ถี กู ตอ้ งและเปน็ จริง เป็นแบบอย่างทด่ี ดี ้านความซ่ือสัตย์
5.4.2 ปฏบิ ตั ิต่อผ้อู ืน่ ดว้ ยความซื่อตรง

6. สมรรถนะการเรียนรขู้ องผู้เรียน

6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคดิ

6.2.1 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
6.2.2 ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์
6.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
6.4.1 กระบวนการปฏบิ ัติ

6.4.2 กระบวนการทำงานกลมุ่
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6.5.1 การใช้เทคโนโลยใี นการสืบค้นขอ้ มูล

กิจกรรมการเรียนรู้

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการจดั การเรียนรู้แบบการปฏิบัติ)

ขั้นท่ี 1 สังเกต รบั รู้
1. ครูเปิดโปรแกรม Power Point ใบความรู้ที่ 4.1 พร้อมกับอธิบายขั้นตอนการเลือก

พน้ื ทบ่ี นภาพและการแยกวตั ถุออกจากฉากหลังให้นักเรยี นฟัง จากน้นั ครูเปดิ โปรแกรม Photoshop ขนึ้ มา
และให้นักเรียนศึกษาเครื่องมือในการเลือกพื้นที่บนภาพและแยกวัตถุออกจากฉากหลัง พร้อมกับสังเกต
การใชเ้ ครอ่ื งมอื ต่าง ๆ (Q1)

2. ครูให้นกั เรียนคดิ วา่ การเลือกพื้นที่บนภาพและการแยกวตั ถุออกจากฉากหลัง ควรใช้
เครื่องมือกลมุ่ ใด จากนั้นครูอธิบายใหน้ ักเรยี นรู้จกั (Q2)

ขนั้ ท่ี 2 ทำตามแบบ
3. นักเรียนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเลือกพื้นที่บนภาพและการแยกวัตถุออกจาก

ฉากหลังจากใบความร้ทู ี่ 4.1 จากอินเทอร์เน็ต หรอื สื่ออน่ื ๆ แล้วใหน้ กั เรียนบันทึกความรทู้ ไี่ ด้จากการศึกษา
ลงในสมุดบันทึก (Q3)

4. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามปญั หาหรือข้อสงสยั เก่ยี วกบั การเลอื กพ้นื ที่บนภาพ
และการแยกวตั ถุออกจากฉากหลงั (Q4)

5. นักเรียนเปิดโปรแกรม Photoshop และศกึ ษาเครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการเลือกพ้นื ท่ีบนภาพ
และแยกวัตถอุ อกจากฉากหลงั จากนั้นให้นกั เรยี นทุกคนปฏิบัติตามครู โดยครูทำให้ดูและให้นกั เรียนปฏิบัติตาม
ทลี ะข้นั ตอน (Q5)

6. ครถู ามนักเรยี นว่าการเลือกพื้นที่บนภาพและการแยกวัตถุออกจากฉากหลังสามารถ
ทำได้ก่วี ิธี ใชเ้ ครอื่ งมอื กลมุ่ ใดบา้ ง แล้วครูอธิบายเพิ่มเติมพร้อมกับทำตัวอย่างให้นักเรยี นดู เพื่อให้นักเรียน
ทกุ คนเขา้ ใจถึงหน้าทแ่ี ละวิธีการใช้งานของเครอื่ งมือแตล่ ะชนดิ (Q6)

ขัน้ ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ
7. ครูให้นักเรียนทุกคนทำใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง การเลือกพื้นที่บนภาพและการแยก

วัตถุออกจากฉากหลงั หากนกั เรยี นเกิดประสบปญั หาหรือมีขอ้ สงสัยใหป้ รึกษาครทู นั ที แลว้ ใหค้ รูอธิบายให้
นักเรยี นทุกคนเข้าใจ (Q7-Q8)

ขั้นท่ี 4 ฝกึ ทำให้ชำนาญ
8. นักเรียนฝึกฝนการใช้โปรแกรม Photoshop ให้เกิดความชำนาญ โดยให้นักเรียน

ใชเ้ ครื่องมอื ต่างๆ ทม่ี ีอยู่ในโปรแกรมตามที่ตนเองชอบหรือสนใจ (Q9-Q10)
9. ครูตรวจสอบความถูกต้องและประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกคน

พร้อมทั้งแนะนำส่วนที่ต้องแก้ไข และชื่นชมนักเรียนที่ทำได้ถูกต้องกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเป็นตัวอย่าง
(Q11-Q12)

8. ชดุ คำถามกระตนุ้ เพ่ือปลกู ฝังหลักคิดพอเพียง

คำถามกระตนุ้ คิดเพ่อื ปลูกฝงั หลกั คดิ พอเพียงก่อนเรียน
Q1 ความมีเหตุผล : หากนักเรียนต้องการเลือกพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งบนภาพ หรือต้องเอาแยกรูปภาพออก
จากฉากหลงั นักเรียนสามารถทำไดห้ รือไม่
Q2 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมีความรู้เพียงพอในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้หรือไม่อย่างไร
คำถามกระตุ้นคิดเพอื่ ปลกู ฝงั หลกั คดิ พอเพียงระหว่างเรียน
Q3 เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนบอกเครื่องมือท่ีใช้ในการเลือกพ้ืนที่บนภาพและแยกวัตถุออกจากฉากหลัง
ได้หรือไม่
Q4 มิตทิ างสังคม : นักเรียนพบปัญหาอะไรบา้ งหรือไม่ ได้ขอความช่วยเหลือจากเพ่อื นหรอื ไม่
Q5 การมีภูมิคุ้มกันในตวั ที่ดี: หลังจากที่นักเรยี นศึกษามาแล้วเบ้ืองตน้ นักเรียนสามารถปฏิบัติตามครไู ด้
หรือไม่
Q6 เงื่อนไขความรู้: เครื่องมือที่ใช้ในการเลือกพื้นที่บนภาพและแยกวัตถุออกจากฉากหลัง แต่ละกลุ่ม
เคร่อื งมอื แตกตา่ งกนั อย่างไร และเคร่ืองมอื ใดเหมาะกบั งานรปู แบบใดบ้าง
Q7 ความพอประมาณ : นักเรียนคิดว่าเครื่องมือใดเหมาะกับการเลือกพื้นที่สำหรับเปลี่ยนสีรูปภาพ
มากทส่ี ดุ
Q8 เงื่อนไขความรู้ : หลังจากท่นี ักเรียนฝกึ ทำดว้ ยตนเองแลว้ นกั เรียนประสบปญั หาอะไรบา้ ง
คำถามกระตุน้ คดิ เพื่อปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียงหลังเรยี น
Q9 เงื่อนไขคุณธรรม : การทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จนั้น นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมด้านใดบ้าง
Q10 มิติวัตถุ : นักเรียนเข้าใจการเลือกพื้นที่และการแยกวัตถุออกจากฉากหลังหรือไม่ สามารถเลือกใช้
เครอื่ งมือไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่
Q11 มิติดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม : ในภาพรวมของการเรียน นกั เรียนคิดวา่ เรือ่ งนี้มคี วามนา่ สนใจอย่างไร
Q12 มิตวิ ัฒนธรรม : นักเรียนคิดว่าเพ่ือนคนใดมีผลงานทนี่ ่าชืน่ ชม และนักเรยี นสามารถนำความรู้ที่ได้รับ
วันนีไ้ ปใช้ประโยชน์อะไรไดบ้ า้ ง

9. วสั ดุอุปกรณ์ /สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้

9.1 โปรแกรมนำเสนอข้อมูลใบความรู้ที่ 4.1 เรื่อง การเลือกพื้นที่บนภาพและการแยกวัตถุ
ออกจากฉากหลงั

9.2 ใบกจิ กรรมที่ 4.1 เรอื่ ง การเลอื กพืน้ ทีบ่ นภาพและการแยกวัตถุออกจากฉากหลัง
9.3 จอ Projector
9.4 เครื่องคอมพวิ เตอรท์ ี่ติดตัง้ โปรแกรม Photoshop และเช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ต
9.5 เวบ็ ไซต์สำหรับค้นข้อมูล เช่น http://www.google.com, http://www.yahoo.com
9.6 ผู้สอนคอมพิวเตอร์
9.7 หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ หอ้ งสมดุ

10. ชนิ้ งาน หรือ ภาระงาน

10.1 ใบกจิ กรรมที่ 4.1 เร่อื ง การเลอื กพืน้ ท่ีบนภาพและการแยกวัตถุออกจากฉากหลงั
10.2 บันทกึ สรปุ บทเรยี น

11. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั ผลและประเมนิ ผล

ด้าน วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารวัดและ
ประเมนิ ผล

ความรู้ (K) - ตรวจกิจกรรมท่ี 4.1 - ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า

รอ้ ยละ 80

ทกั ษะกระบวนการ (P) - ตรวจกิจกรรมท่ี 4.1 - แบบตรวจกิจกรรมท่ี ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่

4.1 รอ้ ยละ 80

คุณลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป

รายบุคคล พฤติกรรมรายบุคคล

เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล : ระดบั คุณภาพ 1 = น้อย, ระดับคณุ ภาพ 2 = ปานกลาง, ระดับคุณภาพ 3 = มาก


Click to View FlipBook Version