The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s.aekapop, 2021-10-25 10:09:25

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Keywords: แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

เอกสารประกอบการสอน

ตวั อยา่ งการกระทาของบคุ คลท่ีแสดงถงึ การเหน็ คณุ ค่า อนุรกั ษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี
การแขง่ ขนั เรือยาวประเพณีจงั หวดั สิงหบ์ รุ ี ครงั้ ที่ 27 ประจาปี 2557 ชิงถ้วยพระราชทาน
ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี

นายอรรถพล วรรณกิจ ผ้อู านวยการการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย สานักงานลพบรุ ีกลา่ วว่า ในอดตี แมน่ ้ำลำ
คลองคอื ทำงสญั จรหลกั เปรยี บไดด้ งั่ ถนนหนทำงในปัจจุบนั ชวี ติ คนไทยจงึ ผกู พนั กบั สำยน้ำอย่ำงแนบแน่น แมน่ ้ำลำคลอง
จงึ เป็นแหล่งกำเนิดขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวฒั นธรรมอนั ดงี ำมของทอ้ งถน่ิ ไทย และชำวบำ้ นในพน้ื ทจ่ี งั หวดั สงิ หบ์ ุรี
สว่ นใหญ่ใชเ้ รอื เป็นพำหนะในกำรเดนิ ทำง ทงั้ กำรคำ้ กำรประกอบพธิ กี รรมทำงศำสนำ และกำรสญั จรไปมำของประชำชน
ทวั่ ไป นบั ไดว้ ่ำกำรใชเ้ รอื เป็นหนทำงทส่ี ะดวกทส่ี ุดในสมยั นนั้ และฤดนู ้ำหลำกของทกุ ปีหรอื ชว่ งเทศกำลออกพรรษำทำงวดั
และชำวบำ้ นไดจ้ ดั กจิ กรรมงำนบญุ ตำ่ งๆ อำทิ กำรทำบญุ ตกั บำตร ฟังธรรมเทศนำ และพฒั นำวดั นอกจำกนนั้ ยงั มกี จิ กรรม
กำรแขง่ ขนั เรอื ยำวทร่ี วมกลมุ่ ชำวบำ้ นจำกทอ้ งถนิ่ ต่ำงๆ นำเรอื ยำวและทมี แขง่ ขนั ทฝ่ี ึกซอ้ มกนั อย่ำงดมี ำประชนั ฝีพำยกนั
ในช่วงเวลำดงั กลำ่ ว และสบื ทอดขนบธรรมเนยี มประเพณมี ำจนถงึ ปัจจุบนั โดยเป็นทม่ี ำของกำรแขง่ ขนั เรอื ยำวประเพณี
กำรแขง่ ขนั เรอื ยำวประเพณจี งั หวดั สงิ หบ์ รุ จี ดั ขน้ึ เพอ่ื เป็นกำรส่งเสรมิ และอนุรกั ษ์วฒั นธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณีอนั ดี
งำม และเกมกฬี ำพน้ื บำ้ นทม่ี มี ำในอดตี ใหค้ งอยคู่ ่ทู อ้ งถนิ่ อกี ทงั้ เป็นกำรสง่ เสรมิ กำรทอ่ งเทย่ี วในจงั หวดั และพฒั นำ
เศรษฐกจิ ทอ้ งถนิ่
ที่มา : http://www.tiewpakklang.com/news/lopburi/14653/

ตวั อยา่ งการกระทาของบคุ คลที่แสดงถงึ การเหน็ คณุ คา่ อนุรกั ษ์ และสืบสานศิลปวฒั นธรรม
ไฉน ครม. “ประยุทธ”์ จงึ ต้องสวมชดุ ผา้ ไทย

เมอ่ื เหลำ่ คณะรฐั มนตรี (ครม.) ถอื ฤกษง์ ำมยำมดสี วมชดุ ไทยสสี นั หลำกตำเขำ้ ประชุมงำนทท่ี ำเนียบรฐั บำล พรอ้ ม
เพรยี งกนั โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ พล.อ.ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชำ นำยกรฐั มนตรี พรอ้ มคณะทหำรกลำ้ พำกนั สวมชุดผำ้ ไทยสฟี ้ำ
กนั เป็นขบวน ซง่ึ ปัจจบุ นั จะเหน็ ชดุ รปู แบบแขนสนั้ และแขนยำวอย่บู อ่ ยครงั้ เมอ่ื พล.อ.เปรม ตณิ สลู ำนนท์ องคมนตรไี ด้
ปรำกฏตวั ต่อสำธำรณชน โดยชดุ ดงั กล่ำวมชี ่อื วำ่ “ไทยพระราชนิยม” ซง่ึ ทผ่ี ำ่ นมำชำวไทยมกี ำรแต่งกำยทเ่ี ป็น
ลกั ษณะเฉพำะของตนเองมำชำ้ นำน และมวี วิ ฒั นำกำรสบื ตอ่ กนั มำเป็นลำดบั ส่วนหน่งึ ไดร้ บั กำรถ่ำยทอดวฒั นธรรมกำร
แตง่ กำยจำกตำ่ งประเทศจนถงึ ปัจจบุ นั ซง่ึ สว่ นใหญ่นยิ มกำรแตง่ กำยแบบตะวนั ตกเป็นแบบสำกลนยิ ม แต่ในบำงโอกำสก็
ไมเ่ หมำะสมกบั สภำพภูมอิ ำกำศของประเทศ ชุดไทยพระรำชนยิ มจงึ เป็นอกี ทำงเลอื กหน่งึ ในกำรแตง่ กำยของชำวไทยยคุ
ปัจจบุ นั เพอ่ื ใชส้ วมใส่ในโอกำสสำคญั ตำ่ งๆ อกี ทงั้ กำรสวมใสย่ งั แสดงออกถงึ ควำมเป็นเอกลกั ษณ์ของชนชำตไิ ทย
เน่อื งจำกมคี วำมเหมำะสมกบั สภำพแวดลอ้ ม ดนิ ฟ้ำ อำกำศ และสำมำรถเลอื กใชเ้ น้อื ผำ้ ทผ่ี ลติ ไดเ้ องในประเทศ เชน่ ผำ้
ไหม ผำ้ ฝ้ำย ซง่ึ เป็นกำรส่งเสรมิ อำชพี กำรทอผำ้ ไทย และก่อใหเ้ กดิ รำยไดแ้ ละเงนิ ทนุ หมนุ เวยี นภำยในประเทศอกี ทำงหน่งึ
โดยชดุ ไทยพระรำชนยิ มของชำยและหญงิ มหี ลำยแบบ ซง่ึ จะคดั เลอื กเฉพำะแบบทส่ี ะดวกใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และโอกำส
สำคญั ทส่ี ำมำรถนำแบบไปประยกุ ตแ์ ละปรบั ปรงุ ใหเ้ หมำะสมกบั บุคลกิ ภำพของแต่ละบุคคล
ท่ีมา : http://www.thairath.co.th/content/449073

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

ตวั อยา่ งการกระทาของบคุ คลท่ีแสดงถึงการเหน็ คณุ ค่า อนุรกั ษ์ และสืบสานภมู ิปัญญาไทย
“นวดไทย” ยงั ไปไดส้ วย...ในตลาดโลก

“คม ชดั ลกึ ” สปั ดำหน์ ้ขี อชวนไปคุยกบั ปรดี ำ ตงั้ ตรงจติ ร ทป่ี รกึ ษำศูนยส์ ุขภำพเชตวนั ทำยำทรุ่นสอง ทด่ี ำเนนิ
กจิ กำรโรงเรยี นตอ่ จำก “กำธร ตงั้ ตรงจติ ร” ผเู้ ป็นบดิ ำ ผบู้ ุกเบกิ วงกำรวชิ ำนวดแผนไทย และทำให้ “นวดวดั โพธ”ิ์ เป็นทร่ี จู้ กั
ไปทวั่ โลก มชี ำวตำ่ งชำตเิ รอื นหมน่ื เดนิ ทำงมำร่ำเรยี นวชิ ำนวดไทยท่ี “โรงเรยี นแพทยแ์ ผนโบรำณวดั พระเชตพุ นฯ”
(วดั โพธ)ิ์ คุณปรดี ำร่ำเรยี นมำดำ้ นเภสชั กรรม เป็นเภสชั ศำสตรบณั ฑติ เมอ่ื ปี 2507 และทำงำนกบั บรษิ ทั ขำยยำของตำ่ งชำติ
มำตลอด โดยมหี น้ำทข่ี ำยยำใหแ้ ก่โรงพยำบำลและคลนิ กิ ตอ่ มำศกึ ษำตอ่ ระดบั ปรญิ ญำโททม่ี หำวทิ ยำลยั ลองไอสแ์ ลนด์
สหรฐั อเมรกิ ำ และกลบั มำทำงำนในตำแหน่งผชู้ ว่ ยผจู้ ดั กำรบรษิ ทั เวชภณั ฑไ์ บเออร์ จำกดั ทำไดส้ ำมสป่ี ี จงึ ออกมำตงั้
หจก.ไทยเมดแิ คร์ ตงั้ โรงงำนผลติ เครอ่ื งสำอำงในช่อื บรษิ ทั เมดคิ อส จำกดั และบรษิ ทั บนี ำควนิ จำกดั ตำมลำดบั โรงเรยี น
แพทยแ์ ผนโบรำณวดั พระเชตพุ นฯ (วดั โพธ)ิ์ กอ่ ตงั้ ขน้ึ เม่อื ปี 2498 ตำมดำรขิ องสมเดจ็ พระอรยิ วงศำคตญำณ สมเดจ็
พระสงั ฆรำช (ป่นุ ปณุ ณสริ )ิ เพ่อื เป็นศนู ยก์ ลำงแหง่ กำรเรยี นรดู้ ำ้ นกำรแพทยแ์ ผนโบรำณ ทงั้ วชิ ำเภสชั กรรม, เวชกรรม
และกำรผดุงครรภไ์ ทย ต่อมำปี 2505 ไดเ้ ปิดสอนวชิ ำกำรนวดแผนโบรำณ ตำมกระแสรบั สงั ่ ของพระบำท สมเดจ็ พระ
เจำ้ อย่หู วั ทท่ี รงถำมกบั คณะครวู ำ่ “โรงเรยี นมกี ำรสอนนวดดว้ ยหรอื ไม่” และจำกกระแสพระรำชดำรสั ดงั กลำ่ วเป็นผลใหม้ ี
กำรรวบรวมควำมรเู้ กย่ี วกบั กำรนวดมำจดั ทำเป็นหลกั สตู ร และเรมิ่ เปิดสอนโดย กำธร ตงั้ ตรงจติ ร อดตี นำยกสมำคมแพทย์
แผนโบรำณ ไดจ้ ดั ทำตำรำกำรนวดฉบบั มำตรฐำนขน้ึ โดยเชญิ อำจำรยส์ อนนวดในวดั โพธเิ์ ขำ้ รว่ มประชมุ สมั มนำ จดั วำง
แนว จดั ผงั และลำดบั กำรนวดใหผ้ ำ่ นจดุ แนวเสน้ ประธำนทงั้ สบิ เพอ่ื ใชเ้ ป็นทำ่ นวดมำตรฐำนสำหรบั กำรเรยี นกำรสอน
ซง่ึ ตำรำกำรนวดน้ยี งั คงใชเ้ ป็นมำตรฐำนสำหรบั กำรเรยี นกำรสอนอยจู่ นถงึ ปัจจุบนั
ท่ีมา : http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140803/189377.html

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความเป็ นไทย

บตั รภาพ



ภาพการแข่งเรือ ภาพการแห่เทียนพรรษา

ภาพการปลอ่ ยโคมลอย ภาพการแสดงโขน

ภาพการราไทย ภาพการตกั บาตรดอกไม้

ที่มา : ภำพท่ี 1 http://org.thaipbs.or.th/org_news/activities/article134646.ece?id=15
1 2 ภำพท่ี 2 http://travel.mthai.com/region/63467.html
3 4 ภำพท่ี 3 http://travel.mthai.com/news/97252.html
5 6 ภำพท่ี 4 http://www.hiclasssociety.com/?p=43106
http://nirachabim.blogspot.com/2014/07/blog-post.html
ภำพท่ี 5 http://www.ody-news.com/จ-ชยั นำถ-เชญิ เทย่ี วชมมห/ั
ภำพท่ี 6

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 คณุ ค่าของการปฏิบตั ิตน 1 ชวั่ โมง
ตามขนบธรรมเนียม ประเพณี

ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 3 เหน็ คุณคำ่ อนุรกั ษ์ และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) วเิ ครำะหค์ ณุ คำ่ ของกำรปฏบิ ตั ติ นตำมขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภูมปิ ัญญำไทยได้

2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ีได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรปฏบิ ตั ติ นตำมขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย และมวี นิ ยั ในตนเองนนั้ เป็น
สง่ิ ทม่ี คี ุณค่ำและเป็นสว่ นสำคญั ทแ่ี สดงถงึ ควำมเป็นไทย

3 สาระการเรยี นรู้

1. ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญำไทย
2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความเป็ นไทย

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม 4) รกั ควำมเป็นไทย

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
2) รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณไี ทยอนั งดงำม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั กำรแสดงออกถงึ กำรอนุรกั ษ์ประเพณไี ทย เช่น เพลงเตน้ กำ
รำเคยี ว เพลงเกย่ี วขำ้ ว และเพลงงำมแสงเดอื น เป็นตน้

เพลงเกี่ยวข้าว

เกย่ี วเถดิ นะแมเ่ ก่ยี ว โยน้ ๆ เกย่ี วเถดิ นะแมเ่ ก่ยี ว

อย่ำมวั ชะแงแ้ ลเหลยี ว เดยี๋ วเคยี วจะเกย่ี วกอ้ ยเอย

เพลงงามแสงเดือน

งำมแสงเดอื นมำเยอื นสอ่ งหลำ้ งำมใบหน้ำเม่อื อยวู่ งรำ
งำมแสงเดอื นมำเยอื นสอ่ งหลำ้ งำมใบหน้ำเม่อื อยวู่ งรำ
เรำเลน่ เพอ่ื สนุก เปลอ้ื งทกุ ขม์ วิ ำยระกำ
ขอใหเ้ ล่นฟ้อนรำ เพอ่ื สำมคั คเี อย

2. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะหเ์ พลง แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) เพลงน้มี สี ำระสำคญั เกย่ี วกบั อะไร
2) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ อะไรจำกเพลงน้ี

3. สมำชกิ แต่ละคู่ (ค่เู ดมิ จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 8) นำผลทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ เก่ยี วกบั ตวั อยำ่ ง
กำรกระทำของบคุ คลทแ่ี สดงถงึ กำรเหน็ คุณค่ำ อนุรกั ษ์ และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี
ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญำไทยในชวั่ โมงทแ่ี ลว้ มำเล่ำใหส้ มำชกิ ค่อู น่ื ในกลุ่มเดมิ ฟัง

4. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ ครำะหค์ ณุ ค่ำของขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภูมปิ ัญญำไทยทม่ี ผี ลตอ่ กำรดำเนินชวี ติ ของชำวไทย แลว้ เขยี นเป็นผงั มโนทศั น์

5. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผงั มโนทศั น์หน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ อน่ื ผลดั กนั แสดงควำมช่นื ชม
ตอ่ กลุม่ ผนู้ ำเสนอ เช่น
- กล่มุ ท่ี 1 นำเสนอผงั มโนทศั น์ กลุ่มท่ี 2 แสดงควำมช่นื ชม
- กลมุ่ ท่ี 2 นำเสนอผงั มโนทศั น์ กลมุ่ ท่ี 3 แสดงควำมช่นื ชม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความเป็ นไทย

- กลุ่มท่ี 3 นำเสนอผงั มโนทศั น์ กล่มุ ท่ี 4 แสดงควำมช่นื ชม
- กลมุ่ ท่ี 4 นำเสนอผงั มโนทศั น์ กลมุ่ ท่ี 5 แสดงควำมชน่ื ชม
- กลมุ่ ท่ี 5 นำเสนอผงั มโนทศั น์ กลุ่มท่ี 1 แสดงควำมชน่ื ชม
ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
6. นกั เรยี นและครูชว่ ยกนั สรปุ คุณค่ำและควำมสำคญั ของกำรปฏบิ ตั ติ นตำมขนบธรรมเนียม ประเพณี
ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญำไทย
7. นกั เรยี นแต่ละคนทำกจิ กรรมอนุรกั ษ์และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภมู ปิ ัญญำไทยลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู ำม
ระยะเวลำทก่ี ำหนด

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุม่ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 12 ประกำร
ม่งุ มนั ่ ในกำรทำงำน และรกั ควำมเป็นไทย
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม และรกั ษำวฒั นธรรม
ประเพณีไทยอนั งดงำม

8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) เพลง

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

เอกสารประกอบการสอน

เพลงเต้นการาเคียว
เพลงมา
ชำย : มำกนั เถดิ นำงเอย เอย๋ รำ แมม่ ำมำรมึ ำ แมม่ ำ (ซ้า) มำเถดิ เเม่นุชน้อง พจ่ี ะเป็นฆอ้ งใหน้ ้องเป็นป่ี ตอ้ ยตะรดิ ตดิ๊ ตอด

น้ำเเหง้ น้ำหยอดทต่ี รงลน้ิ ป่ี มำเถดิ นะ แมม่ ำ มำรมึ ำแมม่ ำ มำเตน้ กำย่ำหญำ้ กนั ในนำน้เี อย
หญงิ : มำกนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พ่อมำมำรมึ ำ พ่อมำ ฝนกระจำยปลำยนำ แลว้ น้องจะมำอยำ่ งไรเอย
เพลงไป
ชำย : ไปกนั เถดิ นำงเอย เอย๋ รำ แมไ่ ปไปรไึ ป แม่ไป ไปชมุ นุมกนั ทใ่ี นป่ำ ไปชมพฤกษำกนั ในไพร ไปชม ชะนผี ไี พรกนั

เล่นทใ่ี นดงเอย
หญงิ : ไปกนั เถดิ นำยเอย เอ๋ยรำ พอ่ ไปไปรไึ ป พอ่ ไป น้องเดนิ ขยกิ จกิ ไหล่ ตำมกน้ พช่ี ำยไปเอย
เพลงเดิน
ชำย : เดนิ กนั เถดิ นำงเอย เอย๋ รำ แม่เดนิ เดนิ รเึ ดนิ แมเ่ ดนิ ย่ำงเทำ้ ขน้ึ โคก เสยี งโพระดกมนั เกรนิ่ (ซ้า) จะชวนหมนู่ ้อง

ไปทอ้ งพะเนนิ ชมเลน่ ใหเ้ พลนิ ใจเอย
หญงิ : เดนิ กนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พอ่ เดนิ เดนิ รเึ ดนิ พอ่ เดนิ หนทำงกร็ กระหกระเหนิ แลว้ น้องจะเดนิ อยำ่ งไรเอย
เพลงรา
ชำย : รำกนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แม่รำรำรรึ ำ แมร่ ำ ใส่เสอ้ื ดี แมห่ ม่ แตส่ ดี อกขำ น้อยหรอื แน่แม่ชำ่ งรำ แม่เชอ้ื ระบำเกำ่ เอย
หญงิ : รำกนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พอ่ รำรำรรึ ำ พ่อรำ มหำหงสล์ งต่ำ ตำ่ งคนต่ำงรำไปเอย
เพลงรอ่ น
ชำย : ร่อนกนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แม่รอ่ นรอ่ นรรึ อ่ น แมร่ อ่ น (ซ้า) รปู ร่ำงเหมอื นนำงระบำ แมเ่ อย๋ ชำ่ งรำ แม่คุณชำ่ งร่อน

(ซ้า) ออ้ นแอน้ แขนออ่ น รปู ร่ำงเหมอื นมอญรำเอย
หญงิ : ร่อนกนั เถดิ นำยเอย เอ๋ยรำ พ่อรอ่ นร่อนรรึ ่อน พอ่ รอ่ น สนี วลออ่ นๆ ร่อนแต่ลมบนลมเอย
เพลงบิน
ชำย : บนิ กนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แมบ่ นิ บนิ รบึ นิ สองตนี กระทบื ดนิ ใครเลยจะบนิ ไปไดอ้ ย่ำงเจำ้ (ซ้า) ใสง่ อบขำวๆ

รำกำขำ้ วงำมเอย
หญงิ : บนิ กนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พ่อบนิ บนิ รบึ นิ พ่อบนิ มหำหงสท์ รงศลี บนิ ไปตำมลมเอย
เพลงยกั
ชำย : ยกั กนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แมย่ กั ยกั รยึ กั แม่ยกั ยกั ตน้ื กระไรตดิ กกึ ยกั ลกึ กระไรตดิ กกั (ซ้า) แมห่ งสท์ องน้องรกั

ยกั ใหห้ มดวงเอย
หญงิ : ยกั กนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ พ่อยกั ยกั รยึ กั พ่อยกั (ซ้า) อย่ำเขำ้ มำใกลน้ ้องนักจะโดนเคยี วควกั ตำเอย
เพลงย่อง
ชำย : ย่องกนั เถดิ นำงเอย เอย๋ รำ เเมย่ อ่ งย่องรยึ ่อง แมย่ อ่ ง บุกพงอะไรเเกรกๆ สองมอื ก็ แหวกนัยน์ตำกม็ อง (ซ้า)

พบฝงู ละมงั ่ กวำงทอง พวกเรำกจ็ อ้ งยงิ เอย
หญงิ : ยอ่ งกนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พ่อยอ่ งย่องรยึ อ่ ง พ่อย่อง ฝงู ละมงั ่ กวำงทองย่องมำกนิ ถวั ่ เอย

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

เพลงยา่ ง
ชำย : ยำ่ งกนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แมย่ ำ่ งยำ่ งรยึ ่ำง แม่ยำ่ ง ยำ่ งเถดิ ยำ่ งเถดิ แม่ยำ่ ง ย่ำงรยึ ำ่ งแมย่ ำ่ ง เจอะเสอื พก่ี จ็ ะยงิ

เจอะกระทงิ พก่ี จ็ ะย่ำง (ซ้า) ไมว่ ำ่ เน้อื เสอื เน้อื ชำ้ งจะย่ำงไปฝำกเมยี เอย
หญงิ : ยำ่ งกนั เถดิ นำยเอย เอ๋ยรำ พอ่ ยำ่ งย่ำงรยึ ่ำง พ่อยำ่ งเน้อื เสอื เน้อื ชำ้ ง ย่ำงไปฝำกเมยี เอย
เพลงแถ
ชำย : เเถกนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แม่แถแถรแึ ถ แม่เเถ (ซ้า) จะลงหนองไหน พจ่ี ะไปหนองนัน้ เเน่ (ซ้า) นกกระสำ

ปลำกระเเห เเถใหต้ ดิ ดนิ เอย
หญงิ : แถกนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พ่อแถเเถรแึ ถ พอ่ แถ (ซ้า) นกกระสำปลำกระแห แถมำลงหนองเอย
เพลงถอง
ชำย : ถองกนั เถดิ นำงเอย เอ๋ยรำ แมถ่ องถองรถึ อง แมถ่ อง (ซ้า) ถองรถึ องแมถ่ อง ถองซถิ องแม่ถอง คอยขยบั จบั จอ้ ง

ถองใหถ้ กู นำงเอย
หญงิ : ถองกนั เถดิ นำยเอย เอย๋ รำ พ่อถองถองรถึ อง (ซ้า) กลำ้ ดกี เ็ ขำ้ มำลอง จะโดนกระบองตเี อย

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 10 การร่วมกนั อนุรกั ษแ์ ละสืบสาน 1 ชวั่ โมง
ขนบธรรมเนียม ประเพณี

ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย

1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 3 เหน็ คณุ คำ่ อนุรกั ษ์ และสบื สำนขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมเกย่ี วกบั กำรอนุรกั ษ์และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภมู ปิ ัญญำไทย

2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ีได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ชำวไทยทกุ คนควรเหน็ คณุ ค่ำ อนุรกั ษ์ และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และ
ภมู ปิ ัญญำไทย ตลอดทงั้ มวี นิ ยั ในตนเองซง่ึ เป็นสว่ นสำคญั ทแ่ี สดงถงึ ควำมเป็นไทย

3 สาระการเรยี นรู้

1. ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญำไทย
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความเป็ นไทย

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม 4) รกั ควำมเป็นไทย

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
2) รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. สมำชกิ แต่ละคนในกล่มุ เดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) ผลดั กนั เลำ่ ควำมประทบั ใจในกำรกระทำ
ของบคุ คลทเ่ี ป็นแบบอยำ่ งในกำรอนุรกั ษ์และสบื สำนขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม
และภมู ปิ ัญญำไทยใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ช่อื บุคคล
2) กำรกระทำ
3) สง่ิ ทน่ี กั เรยี นประทบั ใจ
4) ผลของกำรกระทำของบุคคลนนั้
5) สง่ิ ทน่ี กั เรยี นสำมำรถนำไปเป็นแบบอยำ่ ง

2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรเล่ำของเพอ่ื นเป็นผลงำนรวมของกลุ่มตำมประเดน็
ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ตวั อยำ่ งหรอื พฤตกิ รรมของบคุ คลทแ่ี สดงถงึ กำรอนุรกั ษ์และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี
ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญำไทย
2) สงิ่ ทน่ี กั เรยี นสำมำรถนำไปเป็นแบบอย่ำง

3. ตวั แทนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
4. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั วำงแผนกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงถงึ กำรอนุรกั ษแ์ ละสบื สำนขนบธรรมเนยี ม

ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย เช่น
- กำรมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมดำ้ นขนบธรรมเนียมและประเพณีในทอ้ งถน่ิ เช่น งำนวนั สงกรำนต์

งำนวนั ลอยกระทง และงำนวนั สำคญั ทำงศำสนำ เป็นตน้
- กำรยกยอ่ งเชดิ ชผู ทู้ รงภูมปิ ัญญำไทยในดำ้ นตำ่ งๆ
- กำรแตง่ กำยอยำ่ งเหมำะสม
- กำรใชภ้ ำษำไทยอย่ำงถูกต้อง
5. นกั เรยี นแต่ละคนเลอื กปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ทม่ี วี ตั ถุประสงคใ์ นกำรอนุรกั ษแ์ ละสบื สำนขนบธรรมเนียม
ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทยตำมควำมเหมำะสม แลว้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
ลงในสมดุ บนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

6. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ คุณคำ่ ของขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย
และแนวทำงกำรปฏบิ ตั อิ ย่ำงถกู ตอ้ ง

7. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ประกวดกำรเผยแพร่ควำมเป็นไทยลงในกจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ ควำมเป็นไทย
และคดิ ชุดกำรแสดง และวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นลงในกจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ เยำวชนไทยในศตวรรษท่ี 21
จำกหนงั สอื กจิ กรรม แลว้ รำยผลต่อครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

8. นกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1

• ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบตั ิตนที่แสดงออกถงึ ความเป็นไทย แลว้ บนั ทึกผลการ
ปฏิบตั ิ เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู ามกาหนดเวลาท่ีตกลงกนั โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) การมสี ว่ นร่วมและแนะนาผอู้ นื่ ใหอ้ นุรกั ษม์ ารยาทไทย
2) การปฏบิ ตั ติ นและแนะนาผอู้ นื่ ใหม้ คี วามเออ้ื เฟ้ือเผอื่ แผแ่ ละเสยี สละตอ่ สงั คม
3) การเหน็ คุณค่า อนุรกั ษ์ และสบื สานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาไทย
4) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
5) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้าที่

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
รอ้ ยละ 60 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
มงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน และรกั ควำมเป็นไทย แบบประเมนิ แบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ น
ทแ่ี สดงออกถงึ ควำมเป็นไทย
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม และรกั ษำวฒั นธรรม
ประเพณีไทยอนั งดงำม

ตรวจแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1

ตรวจแบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
ควำมเป็นไทย

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตนที่แสดงออกถงึ ความเป็นไทย

ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 กำรมสี ว่ นรว่ มและแนะนำผอู้ น่ื ใหอ้ นุรกั ษ์
มำรยำทไทย

2 กำรปฏบิ ตั ติ นและแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ คี วำม
เออ้ื เฟ้ือเผอ่ื แผ่และเสยี สละตอ่ สงั คม

3 กำรเหน็ คุณค่ำ อนุรกั ษ์ และสบื สำนขนบธรรมเนียม
ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญำไทย

4 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร
อดทน

5 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ
หน้ำท่ี

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็ นไทย

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำนของนกั เรยี นตำมรำยกำรทก่ี ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 นำเสนอเน้อื หำในผลงำนไดถ้ กู ตอ้ ง
2 กำรลำดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 กำรนำเสนอมคี วำมน่ำสนใจ
4 กำรมสี ว่ นร่วมของสมำชกิ ในกลมุ่
5 กำรตรงต่อเวลำ

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่ำ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสาเรจ็ รวม
ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ในการทางาน รบั ผิดชอบ เวลา เรยี บร้อย ของงาน 20
คะแนน

43214321432143214321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่ำ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม

ชอ่ื กลมุ่ ชนั้

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 กำรแบ่งหน้ำทก่ี นั อย่ำงเหมำะสม
2 ควำมร่วมมอื กนั ทำงำน
3 กำรแสดงควำมคดิ เหน็
4 กำรรบั ฟังควำมคดิ เหน็
5 ควำมมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั

รวม

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะสาคญั รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ของผเู้ รยี น 4321
1.1 ใชภ้ ำษำถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ
1. ความสามารถ และทศั นะของตนเองดว้ ยกำรพดู และกำรเขยี น
ในการสื่อสาร
1.2 พดู เจรจำต่อรอง

1.3 เลอื กรบั หรอื ไม่รบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำร

1.4 เลอื กใชว้ ธิ กี ำรส่อื สำร

2. ความสามารถ 2.1 คดิ พน้ื ฐำน (กำรคดิ วเิ ครำะห)์
ในการคิด 2.2 คดิ ขนั้ สงู (กำรคดิ สงั เครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ)

3. ความสามารถ 3.1 ใชก้ ระบวนกำรแกป้ ัญหำโดยวเิ ครำะหป์ ัญหำ วำงแผนในกำรแกป้ ัญหำ
ในการแก้ปัญหา ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ ตรวจสอบ และสรุปผล

3.2 ผลลพั ธข์ องกำรแกป้ ัญหำ

4. ความสามารถ 4.1 นำกระบวนกำรเรยี นรทู้ ห่ี ลำกหลำยไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ในการใช้ 4.2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและเรยี นรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื ง
ทกั ษะชีวิต 4.3 ทำงำนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ

4.4 จดั กำรกบั ปัญหำและควำมขดั แยง้ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ ง
เหมำะสม

4.5 ปรบั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม

4.6 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื

5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นำตนเองและสงั คม
ในการใช้เทคโนโลยี 5.2 มที กั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ

............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
54 - 64 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
43 - 53 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
32 - 42 พอใช้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
ให้ 1 คะแนน ต่ำกวำ่ 32 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชำติ รอ้ งเพลงชำตไิ ด้ และอธบิ ำยควำมหมำยของ
เพลงชำติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตำมสทิ ธแิ ละหน้ำทข่ี องนักเรยี น
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต
1.3 ใหค้ วำมรว่ มมอื รว่ มใจ ในกำรทำงำนกบั สมำชกิ ในโรงเรยี น
3. มวี ินัย
รบั ผิดชอบ 1.4 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทส่ี รำ้ งควำมสำมคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน
4. ใฝ่ เรยี นรู้
1.5 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงศำสนำทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ของศำสนำ
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
1.6 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถำบนั
พระมหำกษตั รยิ ต์ ำมทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอำย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำควำมผดิ ทำตำม
สญั ญำทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยควำมซอ่ื ตรง ไมห่ ำประโยชน์ในทำงทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง

3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลำในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
และรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน

4.1 แสวงหำขอ้ มลู จำกแหล่งกำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ

4.2 มกี ำรจดบนั ทกึ ควำมรอู้ ยำ่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ควำมรไู้ ดอ้ ย่ำงมเี หตุผล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ
และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี และใชเ้ วลำอยำ่ งเหมำะสม

5.2 ใชท้ รพั ยำกรของส่วนรวมอยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยควำมรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอำเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทำผดิ พลำด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321

5.5 วำงแผนกำรเรยี น กำรทำงำนและกำรใชช้ วี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐำนของ
ควำมรู้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำร

5.6 รเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม และสภำพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ
ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข

6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วำมตงั้ ใจและพยำยำมในกำรทำงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
ทางาน 6.2 มคี วำมอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ ำนสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในกำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำไทย

7.2 เหน็ คุณค่ำและปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรมไทย

8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงำน

8.2 อำสำทำงำน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื

8.3 ดแู ล รกั ษำทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน

8.4 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสำธำรณประโยชน์ของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้

ต่ำกว่ำ 54 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน ค่านิ ยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ

คาชี้แจง : ให้ นักเรียน ประเมนิ ตนเองในระหว่ำงเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องค่ำนยิ มทน่ี ำไปใช้ และบอกเหตุผล
วำ่ นำไปใชอ้ ยำ่ งไร

ช่อื ชนั้ เลขท่ี

ข้อที่ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ค่านิ ยมท่ีนาไปใช้ นาไปใช้อย่างไร

1 มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์

2 ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม

3 กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู ำจำรย์

4 ใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

5 รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม

6 มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปัน

7 เขำ้ ใจเรยี นรกู้ ำรเป็นประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง

8 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคำรพกฎหมำย เคำรพผใู้ หญ่

9 มสี ติ รตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั
ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั

10 รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั

11 มคี วำมเขม้ แขง็ ทงั้ รำ่ งกำยและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อำนำจ
ฝ่ำยต่ำหรอื กเิ ลส มคี วำมละอำย เกรงกลวั ต่อบำปตำมหลกั
ศำสนำ

12 คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและของชำตมิ ำกกว่ำ
ผลประโยชน์ของตนเอง

แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตำแหน่ง

นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมผลกำรเรยี นรขู้ องหน่วยกำรเรยี นรตู้ อ่ ไปน้ี ข้อ 1-3, 10

 ดำ้ นควำมรู้

(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้

 ระดบั คณุ ภำพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คณุ ภำพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภำพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภำพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ปัญหำ/อปุ สรรค

 แนวทำงกำรแกไ้ ข

แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว

อ่านข้อความที่กาหนด แลว้ ตอบคาถาม ขอ้ 1-4 อ่านกรณีศกึ ษาที่กาหนด แล้วตอบคาถาม ขอ้ 5-7

อกี 1 สปั ดาหจ์ ะมกี ารจดั งานรนื่ เรงิ ทโี่ รงเรยี น โดยมี สวยและสาวชวนฟ้าและฝนไปรว่ มกจิ กรรมกบั ชมรม
การแสดงของแตล่ ะกลุ่ม กลมุ่ ของเก๋ไดร้ บั การคดั เลอื กให้ รกั ษป์ ่าทกุ คนชว่ ยกนั ปลูกป่า จากนนั้ กพ็ ากนั ไปศกึ ษา
เป็นพธิ กี รในงาน กลมุ่ ของตมั้ จดั การแสดงประเพณีลอย ดงู านทหี่ มบู่ า้ นพอเพยี ง ชาวบา้ นไดส้ าธติ การละเลน่ และ
กระทง กลมุ่ ของโกท้ าหน้าทฝี่ ่ายสถานที่พวกเขาออกแบบ การประกอบอาชพี จากวสั ดุธรรมชาตทิ หี่ าไดใ้ นทอ้ งถนิ่
ฉากเป็นรปู บา้ นทรงไทย สว่ นกลุ่มของหวานจะจดั แสดง สวยและฝนไดอ้ ดุ หนุนซ้อื ของซงึ่ เป็นผลติ ภณั ฑข์ อง
แฟชนั่ โชวเ์ ครอื่ งแต่งกายไทยสมยั ต่างๆ ชาวบา้ นเป็นการสง่ เสรมิ อาชพี

1. ใครจะตอ้ งเตรยี มตวั ในกำรฝึกมำรยำทไทยใหถ้ ูกตอ้ ง 5. กำรกระทำใดจดั ว่ำเป็นกำรเสยี สละต่อสงั คม
มำกทส่ี ุด ก. กำรปลกู ตน้ ไม้
ก. โก้ และสมำชกิ ในกลุ่มของตมั้ ข. กำรช่วยซ้อื เสอ้ื ผำ้
ข. ตมั้ และสมำชกิ ในกลุม่ ของโก้ ค. กำรสง่ เสรมิ รำยได้
ค. เก๋ และสมำชกิ ในกล่มุ ของหวำน ง. กำรเป็นสมำชกิ ชมรม
ง. หวำน และสมำชกิ ในกลุ่มของโก้
6. บุคคลใดมพี ฤตกิ รรมทแ่ี นะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมเสยี สละ
2. งำนครงั้ น้ี ใครมบี ทบำทสำคญั ในกำรแนะนำผอู้ น่ื เกย่ี วกบั ก. ฟ้ำและฝน
มำรยำทในกำรพดู มำกทส่ี ดุ ข. สำวและฟ้ำ
ก. เก๋ ค. ฝนและสวย
ข. โก้ ง. สวยและสำว
ค. ตมั้
ง. หวำน 7. ใครมกี ำรกระทำทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ คณุ ค่ำของภมู ปิ ัญญำ
ไทย
3. หวำนจะมสี ่วนร่วมแนะนำใหผ้ อู้ น่ื อนุรกั ษ์ควำมเป็นไทย ก. ฟ้ำและฝน
ในดำ้ นใด ข. สำวและฝน
ก. แฟชนั่ โชว์ ค. ฝนและสวย
ข. กำรส่อื สำร ง. สวยและสำว
ค. กำรแต่งกำย
ง. ควำมอ่อนน้อม 8. กำรอย่รู ่วมกนั ในคำ่ ยเยำวชนอยำ่ งสงบสขุ ทุกคนจะตอ้ ง
มคี ุณธรรมใด
4. ใครมสี ว่ นสำคญั ในกำรอนุรกั ษแ์ ละสบื สำนขนบธรรมเนียม ก. ควำมสำมคั คี
ประเพณี และศลิ ปวฒั นธรรมมำกทส่ี ดุ ข. กำรตรงต่อเวลำ
ก. ตมั้ ค. กำรทำกจิ กรรมกลมุ่ รว่ มกนั
ข. เก๋ และโก้ ง. ควำมเออ้ื เฟ้ือเผอ่ื แผแ่ ละเสยี สละ
ค. โก้ และหวำน
ง. ตมั้ โก้ และหวำน

9. ดำวและเดอื นชวนกนั ไปสถำนสงเครำะหเ์ ดก็ กำพรำ้ 10. สมำชกิ ในค่ำยเยำวชนมกี จิ กรรมทเ่ี น้นควำมเป็นไทย
เพ่อื ไปช่วยตวิ วชิ ำภำษำองั กฤษใหก้ บั เดก็ ๆ ตำมสญั ญำ ในเรอ่ื งใด
ถงึ แมว้ ำ่ จะตอ้ งใชเ้ วลำนำน ดำวและเดอื นกเ็ ตม็ ใจ ก. งำนร่นื เรงิ แบบไทยในวนั ปิดค่ำยเยำวชน
กำรกระทำของฝนและฟ้ำสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ข. กำรอย่รู ่วมกนั ดว้ ยควำมสำมคั คกี ลมเกลยี ว
ก. ควำมจรงิ ใจ ค. แบบอยำ่ งของเยำวชนยุคใหมท่ ใ่ี สใ่ จวฒั นธรรม
ข. กำรเออ้ื เฟ้ือ ง. อนุรกั ษ์และสบื สำนขนบธรรมเนียม ประเพณี
ค. ควำมอดทน และวฒั นธรรม
ง. ควำมซอ่ื สตั ย์

ผลการเรยี นรู้ ขอ้ 1-3,10
ได้คะแนน คะแนนเตม็

10

เฉลย

1. ค 2. ก 3. ค 4. ง 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ข 10. ง

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 1 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 ความรกั ชาติ

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 4 เป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) วเิ ครำะหก์ ำรกระทำทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตไิ ด้
2) วเิ ครำะหผ์ ลของกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำตไิ ด้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรทช่ี ำวไทยทุกคนไดแ้ สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตซิ ง่ึ สำมำรถทำไดห้ ลำยวธิ ี รวมถงึ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ี
วนิ ยั ในตนเอง ยอ่ มสง่ ผลดตี ่อกำรสรำ้ งควำมมนั่ คงและกำรพฒั นำประเทศชำติ

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- ควำมรกั ชำติ

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นอ่ำนข่ำวชำวกะเหรย่ี งอพยพล้ภี ยั ในภำคเหนอื ของไทย ไม่แน่ใจว่ำปลอดภยั พอจะกลบั บำ้ น
ไดห้ รอื ยงั

2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ ครำะหข์ ำ่ ว แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ปัญหำสำคญั ในขำ่ วไดแ้ กอ่ ะไรบำ้ ง
2) สำเหตสุ ำคญั ของปัญหำคอื อะไร
3) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จำกเหตุกำรณ์ในข่ำวอย่ำงไร

3. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเหน็ ควำมสำคญั ของกำรเป็นชำตทิ ม่ี ดี นิ แดนและอธปิ ไตยเป็นของตนเอง
ซง่ึ ทุกคนในชำตจิ ะตอ้ งร่วมกนั รกั ษำไว้

4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 6 คน ตำมควำมสมคั รใจ แลว้ รว่ มกนั สบื คน้ ขอ้ มลู บุคคลหรอื กลมุ่ บุคคลทม่ี ี
กำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ

5. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั นำขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ มำวเิ ครำะหต์ ำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) บุคคลหรอื กลมุ่ บุคคลนนั้ คอื ใคร
2) บคุ คลหรอื กลมุ่ บุคคลแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำตอิ ย่ำงไร
3) กำรแสดงออกนนั้ มผี ลดตี อ่ ประเทศชำตอิ ย่ำงไร
4) นกั เรยี นสำมำรถนำแบบอย่ำงไปประยกุ ตป์ ฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยำ่ งไร

6. ตวั แทนแต่ละกล่มุ นำเสนอผลกำรวเิ ครำะหห์ น้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะ
เพม่ิ เตมิ

7. นกั เรยี นแต่ละคนบอกกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ โดยเขยี นเป็นแผนผงั ลงในกจิ กรรม
ฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ

8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ควำมสำคญั ของชำติ และกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ 12 ประกำร
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ
เลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขอ้ มลู บคุ คลหรอื กลุ่มบุคคลทม่ี กี ำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ
3) ตวั อย่ำงขำ่ ว

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์

เอกสารประกอบการสอน

ตวั อยา่ งขอ้ มูลบุคคลหรอื กลมุ่ บุคคลที่มีการแสดงออกถึงความรกั ชาติ
เรยี กไดว้ ำ่ หลงั จำกมกี ำรคดั คำ้ น พ.ร.บ. นริ โทษกรรมยำวมำถงึ กำรโคน่ ระบอบทกั ษณิ และคดั คำ้ นกำรเลอื กตงั้
2 กุมภำพนั ธ์ 2557 กม็ บี รรดำเหลำ่ ดำรำ-ศลิ ปินหลำยตอ่ หลำยคนออกมำแสดงจุดยนื อย่ำงมำกมำย บำ้ งกข็ น้ึ ปรำศรยั
บำ้ งกโ็ พสตเ์ ฟซบุ๊กแสดงควำมคดิ เหน็ ตำ่ งๆ เป็นจำนวนมำก
ขณะเดยี วกบั ดำรำ-ศลิ ปินหลำยทำ่ นกไ็ มเ่ หน็ ดว้ ย ประกำศจะใชส้ ทิ ธใิ์ ชเ้ สยี งในกำรเลอื กตงั้ ครงั้ น้ี โดยเม่อื ชว่ งเชำ้
ทผ่ี ำ่ นมำ ทรำย เจรญิ ปรุ ะ ดำรำชอ่ื ดงั กไ็ ดต้ บเทำ้ เขำ้ ใชส้ ทิ ธเิ์ ลอื กตงั้ เป็นทเ่ี รยี บรอ้ ยแลว้ ท่ี จ.นนทบรุ ี ขณะทน่ี ้องเมย์
รชั นกกเ็ ป็นอกี คนหน่งึ ทไ่ี ม่พลำดกำรใชส้ ทิ ธคิ์ รงั้ น้ี
นอกจำกน้ยี งั มี หนุ่ย อำพล ลำพนู นกั รอ้ งรอ็ คเกอรช์ ่อื ดงั ขณะท่ี เสก โลโซ กค็ วงภรรยำมำใชส้ ทิ ธเิ์ ลือกตงั้ รวมถงึ
เพชร กรณุ พล เทยี นสวุ รรณ และบุ๋ม ปนัดดำ วงศผ์ ดู้ ี กอ็ อกมำรกั ษำสทิ ธขิ์ องตนเองเชน่ กนั ทำ้ ยสดุ กบั พธิ กี รวยั รนุ่ สดุ
แนวอยำ่ ง จอหน์ วญิ ญู วงศส์ รุ วฒั น์ ทไ่ี ดอ้ อกมำใชส้ ทิ ธเิ์ ช่นกนั ส่วนจะมดี ำรำคนไทยมำใชส้ ทิ ธบิ์ ำ้ ง ทมี งำนจะเกำะตดิ
ใหไ้ ดท้ รำบกนั

ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/97241

ตวั อยา่ งข่าว

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์

ชาวกะเหรี่ยงอพยพลภี้ ยั ในภาคเหนือของไทย ไมแ่ น่ใจวา่ ปลอดภยั พอจะกลบั บา้ นไดห้ รอื ยงั

ชาวพมา่ นับแสนอพยพหนีการสู้รบและการปราบปรามของรฐั บาลมาอยใู่ นคา่ ยผ้ลู ภี้ ยั ในภาคเหนือของ
ประเทศไทยหลายสิบปี แลว้ และแม้วา่ จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมอื งในพมา่ แต่ชาวกะเหร่ียงจากพมา่ ยงั ไม่
แน่ใจวา่ ปลอดภยั พอท่ีจะกลบั บา้ นได้หรือยงั

ทพ่ี รมแดนไทย-พม่ำ ยงั มผี ลู้ ภ้ี ยั ชำวพมำ่ 120,000 คน พำนกั อยใู่ นค่ำยผลู้ ภ้ี ยั 9 แหง่ รวมทงั้ ทแ่ี มส่ อด ซง่ึ เป็น
คำ่ ยใหญ่ทส่ี ุด กอ่ ตงั้ ขน้ึ มำเม่อื 30 ปีทแ่ี ลว้ ส่วนใหญข่ องผลู้ ภ้ี ยั เป็นชำวกะเหรย่ี งทห่ี ลบหนีกำรสรู้ บและกำรละเมดิ สทิ ธิ
มนุษยชนทบ่ี ำ้ นเกดิ ของตน ซง่ึ ดำเนนิ มำเป็นเวลำกวำ่ หกสบิ ปีแลว้

Moe So Fah หนุ่มชำวกะเหรย่ี งวยั 19 ปี บอกว่ำเม่อื ก่อนไดร้ บั กำรปันขำ้ วเพยี งพอ เวลำน้ถี กู ลดปรมิ ำณขำ้ วลง
แตจ่ ะออกไปหำงำนทำชว่ ยตนเองนอกคำ่ ยไม่ได้ เพรำะถำ้ ถกู ตำรวจจบั จะถกู ปรบั เป็นเงนิ หน่งึ พนั หรอื สองพนั บำท
สำเหตมุ ำจำกกำรทป่ี ระเทศและองคก์ รนำนำชำตทิ บ่ี รจิ ำคเงนิ ช่วยเหลอื เชน่ The Border Consortium ลดควำม
ช่วยเหลอื เพรำะเหน็ วำ่ พมำ่ เปิดประเทศแลว้ ซง่ึ ส่งผลกระทบถงึ ปรมิ ำณขำ้ วทป่ี ันสว่ นใหก้ บั ผลู้ ภ้ี ยั ดว้ ย

Sally Thompson ผบู้ รหิ ำรองคก์ รกำรกศุ ลน้บี อกวำ่ กำรลดเงนิ ชว่ ยเหลอื เกดิ ขน้ึ ในจงั หวะทไ่ี มด่ เี ลย เจำ้ หน้ำทข่ี อง
The Border Consortium ผนู้ ้บี อกวำ่ ถำ้ ยงั ลดเงนิ ช่วยเหลอื ตอ่ ไปอกี อำจสง่ ผลเสยี ต่อโครงสรำ้ งของค่ำย ในเวลำน้ี
อยำกใหผ้ คู้ นมำรวมตวั กนั เพ่อื เตรยี มตวั สำหรบั อนำคต

อยำ่ งไรกต็ ำม กำรพำนกั อำศยั อยใู่ นค่ำยยงั ใหค้ วำมรสู้ กึ ว่ำมเี สถยี รภำพและควำมมนั ่ คงปลอดภยั แก่ผลู้ ภ้ี ยั
เม่อื เปรยี บเทยี บกบั สภำพกำรณภ์ ำยนอก Ma Yel Pel ผลู้ ภ้ี ยั ชำวกะเหรย่ี งในคำ่ ยทแ่ี มส่ อดใหค้ วำมเหน็ ว่ำถำ้ ตอ้ งกลบั ไป
พมำ่ กค็ วรจะมกี ำรจดั สรรทด่ี นิ ให้ และรบั ประกนั วำ่ จะไมม่ กี ำรละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนอกี

และในขณะทย่ี งั รอคอยกำรปฏริ ปู ทำงกำรเมอื งของพมำ่ กนั อยนู่ ้ี อนำคตของชนเผำ่ ต่ำงๆ ในพมำ่ กย็ งั คงไม่มคี วำม
แน่นอนอยตู่ ่อไป ในขณะทค่ี นรนุ่ ใหม่กำลงั เตบิ โตขน้ึ ในค่ำยผลู้ ภ้ี ยั ตดิ กบั พรมแดนของประเทศบำ้ นเกดิ ของตนเอง

ท่ีมา : http://www.voathai.com/content/burma-karen-refugees/1934174.html

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 การแสดงออกถงึ 1 ชวั่ โมง
ความรกั ชาติ

1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 4 เป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำ่ งในกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำตไิ ด้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเก่ยี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำ่ งในกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ตลอดทงั้ เป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองนนั้ สำมำรถ
ทำไดห้ ลำยแนวทำง ซง่ึ ลว้ นสง่ ผลดตี ่อกำรพฒั นำประเทศชำติ

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- ควำมรกั ชำติ

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นร่วมกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั ควำมรกั ชำติ เชน่ เพลงรกั ชำติ เพลงควำมฝันอนั สงู สดุ เพลงเรำสู้
และเพลงรกั เมอื งไทย เป็นตน้ จำกนนั้ ร่วมกนั วเิ ครำะหบ์ ทเพลง แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) บทเพลงมสี ำระสำคญั เกย่ี วกบั อะไร
2) เพรำะเหตุใด จงึ ตอ้ งมกี ำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ
3) นกั เรยี นมคี วำมรสู้ กึ ต่อบทเพลงน้อี ยำ่ งไร
4) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ อะไรจำกบทเพลงน้ี

2. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั จนิ ตนำกำรเกย่ี วกบั วถิ กี ำรดำเนินชวี ติ ของคนไทย ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ในอดตี
2) ในปัจจบุ นั
3) ในอนำคตอกี 20 ปีขำ้ งหน้ำ

3. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ว่ำ นกั เรยี นจะมสี ว่ นร่วมในกำรสรำ้ งอนำคตทด่ี งี ำมของชำตไิ ด้
อย่ำงไร

4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั เสนอแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
ควำมรกั ชำตหิ ลำยๆ แนวทำง เช่น
- กำรแสดงควำมเคำรพและปฏบิ ตั ติ นอยำ่ งเหมำะสมต่อสญั ลกั ษณ์ของชำติ
- กำรดแู ลรกั ษำโบรำณสถำนและโบรำณวตั ถุของชำติ
- กำรใชส้ นิ คำ้ ทผ่ี ลติ ในประเทศ
- กำรใฝ่หำควำมรอู้ ยเู่ สมอ
- กำรเสยี สละเพอ่ื ชำติ
- กำรรกั ษำสง่ิ แวดลอ้ มและพลงั งำน
- กำรรกั ษำขนบธรรมเนยี ม ประเพณี
- กำรปฏบิ ตั ติ ำมกฎ ระเบยี บ และกฎหมำย
- กำรปกป้องชอ่ื เสยี งของประเทศ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

5. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ เลอื กแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตทิ ต่ี นเองสำมำรถปฏบิ ตั ิ
ไดจ้ รงิ แลว้ วำงแผนกำรปฏบิ ตั ติ น

6. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มนำแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตทิ ต่ี นเองวำงแผนไว้
ไปปฏบิ ตั แิ ละแนะนำผอู้ ่นื ใหป้ ฏบิ ตั ติ ำม แลว้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ลิ งในสมดุ บนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ น
เป็นพลเมอื งดี

7. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นบนั ทกึ ควำมรกั ชำตขิ องตนเองตำมประเดน็ ต่ำงๆ ลงในแบบบนั ทกึ ทก่ี ำหนด
ในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 จำกหนงั สอื กจิ กรรม แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

8. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปผลกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ และผลกำรแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ ี
ควำมรกั ชำติ

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ 12 ประกำร
เลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) เพลง

8.2 แหล่งการเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์

เอกสารประกอบการสอน

เพลงเกี่ยวกบั ความรกั ชาติ
เพลงรกั ชาติ
คาร้อง พลตรหี ลวงวจิ ติ รวาทการ

ควำมรกั อนั ใด แมร้ กั เท่ำไหน กไ็ ม่ยงั ่ ยนื
เชน่ รกั ค่รู กั รกั แทบจะกลนื กลบั กลำยขมขน่ื ลมื ไดภ้ ำยหลงั
แตค่ วำมรกั ชำติ รกั แสนพศิ วำส รกั จนสุดกำลงั
กอ่ เกดิ มำนะ ยอมสละชวี งั รกั จนกระทงั่ หมดเลอื ดเน้อื เรำ
ชวี ติ รำ่ งกำย เรำไมเ่ สยี ดำย ตำยแลว้ กเ็ ผำ
ทุกสง่ิ ยอ่ มคลำด เวน้ แตช่ ำตขิ องเรำ อย่ำใหใ้ ครเขำ้ เหยยี บย่ำทำลำย

เพลงความฝันอนั สงู สุด
บทเพลงพระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช
ขอฝันใฝ่ ในฝันอนั เหลอื เชอ่ื ขอสศู้ กึ ทกุ เม่อื ไมห่ วนั ่ ไหว
ขอทนทกุ ข์ รกุ โรมโหมกำยใจ ขอฝ่ำฟัน ผองภยั ดว้ ยใจทะนง
จะแน่วแน่ แกไ้ ขในสง่ิ ผดิ จะรกั ชำติ จนชวี ติ เป็นผุยผง
จะยอมตำย หมำยใหเ้ กยี รตดิ ำรง จะปิดทอง หลงั องคพ์ ระปฏมิ ำ
ไมท่ อ้ ถอย คอยสรำ้ งสง่ิ ทค่ี วร ไมเ่ รรวน พะวำ้ พะวงั คดิ กงั ขำ
ไมเ่ คอื งแคน้ น้อยใจ ในโชคชะตำ ไมเ่ สยี ดำย ชวี ำ ถำ้ สน้ิ ไป
น่คี อื ปณธิ ำนทห่ี ำญมงุ่ หมำยผดงุ ยุตธิ รรม อนั สดใส
ถงึ ทนทุกข์ ทรมำน นำนเท่ำใด ยงั มนั ่ ใจรกั ชำติ องอำจครนั
โลกมนุษย์ ยอ่ มจะดี กว่ำนแ้ี น่ เพรำะมผี ไู้ ม่ยอมแพ้ แมถ้ กู หยนั
จงยนื หยดั สไู้ ป ใฝ่ประจญั ยอมอำสญั กเ็ พรำะปอง เทอดผองไทย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์

เพลงเราสู้ คารอ้ ง สมภพ จนั ทรประภา

บรรพบุรุษของไทยแตโ่ บรำณ ปกบำ้ นป้องเมอื งคมุ้ เหยำ้
เสยี เลอื ดเสยี เน้อื มใิ ช่เบำ หน้ำทเ่ี รำรกั ษำสบื ไป
ลูกหลำนเหลนโหลนภำยหน้ำ จะไดม้ พี สุธำอำศยั
อนำคตจะตอ้ งมปี ระเทศไทย มยิ อมใหผ้ ใู้ ดมำทำลำย
ถงึ ขฆู่ ำ่ ลำ้ งโคตร-กไ็ ม่หวนั ่ จะสกู้ นั ไมห่ ลบหนหี ำย
สตู้ รงน้ีสทู้ น่ี ่สี จู้ นตำย ถงึ เป็นคนสดุ ทำ้ ยกล็ องดู
บำ้ นเมอื งเรำเรำตอ้ งรกั ษำ อยำกทำลำยเชญิ มำเรำสู้
เกยี รตศิ กั ดขิ ์ องเรำเรำเชดิ ชู เรำสไู้ ม่ถอยจนกำ้ วเดยี ว

เพลงรกั เมอื งไทย

คาร้อง พลตรหี ลวงวจิ ติ รวาทการ

(สรอ้ ย) รกั เมอื งไทย ชชู ำตไิ ทย ทำนุบำรงุ ใหร้ ุง่ เรอื ง สมเป็นเมอื งของไทย
เรำชำวไทยเกดิ เป็นไทยตำยเพอ่ื ไทย ไม่เคยออ่ นน้อมเรำไม่ยอมแพใ้ คร
ศตั รใู จกลำ้ มำแต่ทศิ ใด ถำ้ ขม่ เหงไทย คงจะไดเ้ หน็ ดี
(สรอ้ ย) รกั เมอื งไทย ชชู ำตไิ ทย ทำนุบำรงุ ใหร้ ุ่งเรอื ง สมเป็นเมอื งของไทย
เรำชำวไทยเกดิ เป็นไทยตำยเพอ่ื ไทย เรำรกั เพอ่ื นบำ้ นเรำไม่รำนรุกใคร
แตร่ กั ษำสทิ ธอิ์ สิ สระของไทย ใครทำชำ้ ใจเรำจะไมถ่ อยเลย
(สรอ้ ย) รกั เมอื งไทย ชชู ำตไิ ทย ท่ำนบำรุงใหร้ งุ่ เรอื ง สมเป็นเมอื งของไทย
เรำชำวไทยเกดิ เป็นไทยตำยเพอ่ื ไทย ถำ้ ถูกขม่ เหงแลว้ ไมเ่ กรงผใู้ ด
ดงั งตู วั นิดมพี ษิ เหลอื ใจ เรำรกั เมอื งไทยยง่ิ ชพี เรำเอย

ท่ีมา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jomjom&month=02-09-2007&group=1&gblog=3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 การจดั กิจกรรม 1 ชวั่ โมง
ที่แสดงออกถึงความรกั ชาติ

1 ผลการเรยี นร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 4 เป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่ำงในกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำตไิ ด้
2) แนะนำผอู้ ่นื ใหม้ สี ว่ นรว่ มในกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำตไิ ด้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทแ่ี ละยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำ

ของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรจดั กจิ กรรมทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ มวี นิ ยั ในตนเอง และแนะนำผอู้ ่นื ใหป้ ฏบิ ตั ติ ำมนนั้ จดั เป็นวธิ หี น่งึ
ทจ่ี ะสง่ ผลต่อควำมมนั่ คงและกำรพฒั นำประเทศชำติ

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- ควำมรกั ชำติ

2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์

2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. นกั เรยี นแตล่ ะคนผลดั กนั เล่ำควำมประทบั ใจในบุคคลหรอื กลุ่มบคุ คลทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ

ครเู สนอแนะเพมิ่ เตมิ

2. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) ผลดั กนั เล่ำกำรปฏบิ ตั ติ นท่ีแสดงออกถงึ

ควำมรกั ชำตขิ องตนเองใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง พรอ้ มทงั้ อธบิ ำยผลของกำรกระทำนนั้

3. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรุปผลกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตขิ องสมำชกิ ในกลุม่ จำกนนั้

นำมำเขยี นเป็นผงั มโนทศั น์ แลว้ นำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะ

เพมิ่ เตมิ

4. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ ครำะหพ์ ฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกถงึ ควำมเป็นผรู้ กั ชำติ จำกนนั้ นำหมำยเลขไป

ใสใ่ นชอ่ งทก่ี ำหนดให้ พรอ้ มบอกเหตผุ ลลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม

เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ

5. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รำยแนวทำงกำรแนะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ เชน่

- กำรเชญิ ชวนใหเ้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรมต่ำงๆ ทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ

- กำรนำเสนอขอ้ มลู ขำ่ วสำร กำรกระทำของบุคคลหรอื กลมุ่ บคุ คลทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ

- กำรจดั ทำสอ่ื เผยแพร่

- กำรสนทนำและแนะนำเป็นรำยบุคคล

6. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั จดั กจิ กรรมทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ 1 กจิ กรรม พรอ้ มทงั้ แนะนำผอู้ ่นื

ใหเ้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรมดว้ ย โดยวำงแผนกำรจดั กจิ กรรมตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี

1) ชอ่ื กจิ กรรม 2) วตั ถุประสงค์

3) กำรแบง่ หน้ำทร่ี บั ผดิ ชอบ 4) ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน

5) กำรวดั และประเมนิ ผล

7. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั จดั กจิ กรรมทแ่ี สดงออกถงึ ควำมรกั ชำตแิ ละแนะนำใหผ้ อู้ ่นื เขำ้ ร่วมกจิ กรรม

ตำมแผนทก่ี ำหนด จำกนนั้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั แิ ละหลกั ฐำนประกอบลงในสมุดบนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ น

เป็นพลเมอื งดี แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

8. ครนู ำผลงำนของนกั เรยี นกลุ่มทเ่ี ป็นแบบอย่ำงทด่ี ไี ปจดั ป้ำยนเิ ทศ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรปุ กำร

ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ 12 ประกำร
เลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 4 บคุ คลตวั อย่างที่ยดึ มนั ่ 1 ชวั่ โมง
ในศาสนา

1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 4 เป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) วเิ ครำะหก์ ำรปฏบิ ตั ติ นของบุคคลตวั อย่ำงทย่ี ดึ มนั่ ในศำสนำได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ชำวไทยทุกคนพงึ แสดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำและปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง ซง่ึ จะสง่ ผลดตี ่อ
ผปู้ ฏบิ ตั แิ ละควำมสงบสขุ ของสมำชกิ ในสงั คม

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์

2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนลองคดิ ทบทวนเหตกุ ำรณ์ในอดตี จนถงึ ปัจจบุ นั ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั เรยี นเคยทำควำมดที ต่ี นเองภำคภูมใิ จอย่ำงไรบำ้ ง
2) กำรกระทำดงั กลำ่ วสอดคลอ้ งกบั หลกั ธรรมของศำสนำในเรอ่ื งใด
3) กำรกระทำดงั กลำ่ วมผี ลดตี ่อตนเองอยำ่ งไร

2. นกั เรยี นแต่ละคนบนั ทกึ ควำมดขี องตนเองลงในกระดำษทค่ี รแู จกให้
3. ครใู หอ้ ำสำสมคั รนกั เรยี น 7-8 คน เลำ่ ควำมดที ต่ี นเองบนั ทกึ ใหค้ รแู ละเพอ่ื นฟังหน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ให้

นกั เรยี นทม่ี คี วำมดที แ่ี ตกต่ำงกนั ออกไปนำเสนอเพม่ิ เตมิ
4. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวำ่ ควำมดที น่ี กั เรยี นเคยทำจดั ไดว้ ่ำเป็นกำรแสดงออกถงึ

กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ ซ่งึ เป็นกำรกระทำทด่ี แี ละควรปฏบิ ตั สิ บื ไป
5. นกั เรยี นแตล่ ะคนพจิ ำรณำกำรกระทำทก่ี ำหนดใหว้ ่ำเหมำะสมหรอื ไม่ จำกนนั้ ทำเคร่อื งหมำย ✓

หำกไม่เหมำะสม และแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม แลว้ ใหค้ รู
และนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ
6. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) จบั ค่กู นั สบื คน้ ขอ้ มลู ศำสนิกชนตวั อยำ่ งทม่ี กี ำรปฏบิ ตั ิ
ตนทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ ซง่ึ อำจเป็นบุคคลทน่ี กั เรยี นรจู้ กั หรอื สบื คน้ ขอ้ มลู จำกแหลง่ กำร
เรยี นรตู้ ่ำงๆ เชน่ หนงั สอื พมิ พ์ วำรสำร วทิ ยุ โทรทศั น์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นตน้
7. สมำชกิ แต่ละค่นู ำขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ มำเลำ่ ใหส้ มำชกิ ในกลุ่มฟังตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ชอ่ื บคุ คล
2) กำรศกึ ษำและอำชพี
3) ตวั อยำ่ งกำรปฏบิ ตั ติ น
8. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปขอ้ มลู ศำสนกิ ชนตวั อย่ำงทไ่ี ดจ้ ำกกำรฟังเป็นผลงำนของกลุ่ม แลว้ สรุป
สำระสำคญั หรอื ตวั อย่ำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตริย์

7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ 12 ประกำร
เลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อยำ่ งขอ้ มลู ศำสนิกชนตวั อย่ำงทม่ี กี ำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์

เอกสารประกอบการสอน

ตวั อยา่ งข้อมูลศาสนิกชนตวั อย่างท่ีมีการปฏิบตั ิตนที่แสดงออกถงึ การยดึ มนั ่ ในศาสนา

คุณสรพงศ์ ชำตรี เป็นพุทธมำมกะ ผยู้ ดึ มนั ่ ในหลกั ธรรมคำสอนทำงพระพทุ ธศำสนำอยำ่ งมนั ่ คง ดำรงตนอย่ใู น
ทำน ศลี ภำวนำ ซง่ึ ไดป้ ฎบิ ตั ธิ รรมกบั พระอำจำรยเ์ ปลย่ี น ปัญญำปทโี ป วดั อรญั วเิ วก จ.เชยี งใหม่ ซง่ึ พระอำจำรยไ์ ด้
แนะนำคณุ สรพงศ์ ชำตรี ใหไ้ ปอธษิ ฐำนจติ ขอพรบำรมสี มเดจ็ พระพุฒำจำรย์ (โต พรหมรงั ส)ี วดั ระฆงั ฯ แลว้ กำรงำน
ทกุ อยำ่ งทก่ี งั วลอยจู่ ะสำเรจ็ ดงั ประสงคท์ ุกประกำร เพรำะหลวงป่โู ต มลี กู หลำนเป็นเทพบตุ รเทพธดิ ำ จะไดพ้ ำกนั มำ
กรำบไหวบ้ ชู ำสกั กำระและชว่ ยใหง้ ำนนัน้ ๆ สำเรจ็ ดงั ปรำรถนำ

คุณสรพงศ์ ชำตรี จงึ ไดไ้ ปอธษิ ฐำนจติ ขอบำรมตี ำมทพ่ี ระอำจำรยแ์ นะนำ พรอ้ มทงั้ จะจดั สรำ้ งรปู เหมอื นหลวงปู่
จงึ ไปปรกึ ษำหลวงพ่อพระครปู ลดั นุตร์ รตั นวชิ โย ซง่ึ ปฏบิ ตั ธิ รรมอยทู่ ว่ี ดั ปักแมล่ ำย อ. กำแพงแสน จ. นครปฐม ซง่ึ ทำ่ น
แนะนำใหจ้ ดั สรำ้ งรปู เหมอื นองคใ์ หญ่ทส่ี ดุ ในโลก จงึ คดิ ถงึ พธิ กี ำรหล่อรปู เหมอื นหลวงป่โู ต โดยศกึ ษำประวตั คิ ณุ ควำมดี
ทป่ี รำกฏเป็นประวตั ศิ ำสตร์ 3 สว่ น 3 สถำน คอื ดปี ฐม ดมี ธั ยม และ ดอี ุดมๆ ไดแ้ ก่ ดสี ่วนยอด อนั หมำยถงึ กำรบรหิ ำร
จดั กำรส่วนบุคคล และสว่ นรวมอยำ่ งยอดเยย่ี ม จงึ จดั พธิ เี ททองหล่อส่วนศรษี ะทว่ี ดั ระฆงั โฆสติ ำรำม เมอ่ื วนั ท่ี 22 มถิ ุนำยน
พ.ศ. 2541 ตอ่ มำดสี ว่ นมธั ยม หมำยถงึ กำรศกึ ษำสพั พวทิ ยำอนั เป็นไปในสว่ นปรยิ ตั ปิ ฏบิ ตั ทิ แ่ี จง้ ชดั จงึ ไดป้ ระกอบพธิ ี
เททองหลอ่ สว่ นองคห์ ลวงป่ทู ว่ี ดั บำงขนุ พรหม และดสี ว่ นปฐม หมำยถงึ ดเี รม่ิ แรก คอื มปี ุพเพกตบุญญตำทบ่ี รบิ ูรณ์
พรอ้ มทงั้ ผใู้ หก้ ำเนดิ และวงศำคณำญำติ ซง่ึ ทำใหส้ ำเรจ็ ประโยชน์อยำ่ งอเนกอนนั ต์ จงึ ประกอบพธิ เี ททองหล่อส่วนเทำ้
ตงั้ แต่สะเอวลงมำ ทว่ี ดั เกตุไชยโยวรวหิ ำร จงั หวดั อ่ำงทอง รวม 3 สว่ น 127 ชน้ิ แลว้ นำส่วนนนั้ ๆ มำประกอบเป็น
องคห์ ลวงปู่ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยเม่อื วนั ท่ี 1 เมษำยน พ.ศ. 2543

รปู หล่อองคส์ มเดจ็ พระพฒุ ำจำรย์ (โต พรหมรงั ส)ี หน้ำตกั กวำ้ ง 8 เมตร 1 น้วิ สงู 13 เมตร หนกั 61 ตนั ค่ำกอ่ สรำ้ ง
9 ลำ้ นบำทเศษ และไดจ้ ดั สรำ้ งมหำวหิ ำรเป็นแบบกฎุ ำคำร (เรอื นยอดเจดยี เ์ พ่อื ประดษิ ฐำนพระพทุ ธรปู ) ขน้ึ ถวำย
พรอ้ มทงั้ ซ้อื ทด่ี นิ ประมำณ 150 ไร่ และจดั ภมู ทศั น์ส่วนตำ่ งๆ ตำมควำมเหมำะสม เชน่ สระน้ำ สวนหนิ สวนตน้ ไม้
เป็นตน้ อกี ทงั้ ไดจ้ ดั บรกิ ำรดำ้ นอำหำร และหอ้ งน้ำหอ้ งสขุ ำฟรี เพ่อื บรกิ ำรลกู หลำนหลวงป่ทู ม่ี ำนมสั กำร อกี ส่วนหน่งึ
ไดจ้ ดั ชว่ ยเหลอื สงั คมดำ้ นกำรศกึ ษำและสว่ นรำชกำรต่ำงๆ ทข่ี ออปุ ถมั ภ์ และคนชรำคนไรญ้ ำตขิ ำดทพ่ี ง่ึ ซง่ึ ไดจ้ ดั
ชว่ ยเหลอื ตำมควรแก่กรณี ขณะน้ไี ดใ้ ชจ้ ำ่ ยเงนิ บรจิ ำคในสว่ นต่ำงๆ ไปแลว้ เป็นเงนิ 120 ลำ้ นบำทเศษ แต่กำรดำเนินงำน
ยงั ไม่เสรจ็ ยงั ตอ้ งอำศยั ศรทั ธำจำกลูกหลำนหลวงป่อู กี มำก

จงึ ใคร่ขอเชญิ ชวนศษิ ยำนุศษิ ยผ์ เู้ ป็นลกู หลำนทงั้ หลำย ไดร้ ว่ มบำเพญ็ กศุ ลถวำยแด่สมเดจ็ พระพฒุ ำจำรย์
(โต พรหมรงั ส)ี ณ มหำวหิ ำรสมเดจ็ พระพุฒำจำรย์ (โต พรหมรงั ส)ี อ. สคี ว้ิ จ. นครรำชสมี ำ

ท่ีมา : http://www.holidaythai.com/Thailand-Attractions-2952.htm

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 การปฏิบตั ิตนในการยดึ มนั่ 1 ชวั่ โมง
ในศาสนา

1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 4 เป็นแบบอย่ำงและแนะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ ่นื ใหแ้ สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรปฏบิ ตั ติ นในกำรยดึ มนั่ ในศำสนำและกำรมวี นิ ยั ในตนเองย่อมสง่ ผลดตี ่อวถิ กี ำรดำเนินชวี ติ ของผปู้ ฏบิ ตั ิ

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
3) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์

2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครเู ล่ำกรณีตวั อยำ่ งเรอ่ื ง น้ำท่วม ใหน้ กั เรยี นฟัง

กรณีตวั อย่างเรื่อง น้าท่วม

เหตกุ ำรณ์น้ำท่วมในปีน้ที ำควำมเสยี หำยใหแ้ ก่ประชำชนทงั้ ในกรุงเทพมหำนครและ
ต่ำงจงั หวดั ทำควำมเสยี หำยทงั้ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ เป็นอย่ำงมำก หมบู่ ำ้ นทำนตะวนั เป็นหม่บู ำ้ น
ทไ่ี ดร้ บั ควำมเสยี หำยมำก ระหวำ่ งน้ำท่วมมชี ำวบำ้ นหลำยบำ้ นทข่ี นของหนีน้ำออกจำกหมบู่ ำ้ น
ไม่ทนั แตก่ ไ็ ดร้ บั ควำมชว่ ยเหลอื จำกเพอ่ื นบำ้ นทส่ี ำมำรถขนอำหำรและสงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ อกมำ
ไดท้ นั แลว้ นำมำแบ่งปันกนั เมอ่ื น้ำแหง้ แลว้ ชำวบำ้ นกช็ ว่ ยกนั ทำควำมสะอำดบรเิ วณหม่บู ำ้ น
บรู ณะซอ่ มแซมอำคำร สถำนท่ี ปลูกตน้ ไมย้ นื ตน้ ทำงรำชกำรมำชว่ ยแจกเสบยี งอำหำรบำ้ ง
แต่กไ็ มเ่ พยี งพอ ชำวบำ้ นจงึ ตอ้ งประหยดั ปลกู พชื เป็นอำหำร และออกไปทำงำนนอกหม่บู ำ้ น
เพอ่ื หำรำยไดม้ ำเลย้ี งชวี ติ และครอบครวั

แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ และตอบคำถำมตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี

1) ชำวบำ้ นทำนตะวนั มกี ำรกระทำทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำอย่ำงไร จงยกตวั อยำ่ งประกอบ

2) กำรกระทำดงั กล่ำวของชำวบำ้ นช่วยบรรเทำควำมเดอื ดรอ้ นไดอ้ ยำ่ งไร

2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเหน็ ควำมสำคญั ของกำรยดึ มนั่ ในหลกั ธรรมของศำสนำทใ่ี ชเ้ ป็นแนวทำง

ในกำรปฏบิ ตั ติ น

3. สมำชกิ แต่ละคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) สำรวจพฤตกิ รรมของตนเองว่ำ

กำรกระทำใดทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ และกำรกระทำใดทค่ี วรปรบั ปรุงหรอื พฒั นำ เช่น

- กำรหมนั่ ศกึ ษำควำมรทู้ ก่ี ่อใหเ้ กดิ ปัญญำ - กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ธรรมของศำสนำ

- กำรแสดงควำมเคำรพต่อศำสนำ - กำรแสดงควำมเคำรพตอ่ ศำสนสถำน

- กำรบำรุงรกั ษำศำสนสถำน - กำรเคำรพในศำสนพธิ ี

4. สมำชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ ผลดั กนั เล่ำพฤตกิ รรมของตนเองใหเ้ พอ่ื นในกลุม่ ฟัง จำกนนั้ แสดงควำมช่นื ชม

เพอ่ื นทเ่ี ป็นแบบอย่ำงทด่ี ใี นกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ แลว้ ร่วมกนั วเิ ครำะหก์ ำร

กระทำทค่ี วรปรบั ปรุง พฒั นำ และเสนอแนะแนวทำงในกำรปรบั ปรงุ พฒั นำ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั เสนอแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำทน่ี กั เรยี น
สำมำรถนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้

6. สมำชกิ แต่ละคนในกลุ่มเลอื กแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ จำกนนั้ นำไป
ปฏบิ ตั แิ ละบนั ทกึ ผลลงในแบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมทเ่ี ป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ ่ืนใหย้ ดึ มนั่ ในศำสนำ
แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

7. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั บอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นและสำธติ กำรปฏบิ ตั เิ ป็นผมู้ คี วำมยดึ มนั่ ในศำสนำ
พรอ้ มทงั้ บอกผลจำกกำรปฏบิ ตั ติ นลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 จำกหนงั สอื กจิ กรรม
แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

8. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ผลของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้ยดึ มนั่ ในศำสนำ

7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์

วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ 12 ประกำร
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ
เลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) กรณีตวั อย่ำง

8.2 แหลง่ การเรียนรู้


Click to View FlipBook Version