คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วำงแผนกำรเรยี น กำรทำงำนและกำรใชช้ วี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐำนของ
ควำมรู้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำร
5.6 รเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม และสภำพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ
ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข
6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วำมตงั้ ใจและพยำยำมในกำรทำงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
ทางาน 6.2 มคี วำมอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ ำนสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในกำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำไทย
7.2 เหน็ คุณค่ำและปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงำน
8.2 อำสำทำงำน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื
8.3 ดแู ล รกั ษำทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน
8.4 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสำธำรณประโยชน์ของโรงเรยี น
ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้
ต่ำกว่ำ 54 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน ค่านิ ยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ
คาชี้แจง : ให้ นักเรียน ประเมนิ ตนเองในระหว่ำงเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องค่ำนยิ มทน่ี ำไปใช้ และบอกเหตุผล
วำ่ นำไปใชอ้ ยำ่ งไร
ช่อื ชนั้ เลขท่ี
ข้อที่ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ค่านิ ยมท่ีนาไปใช้ นาไปใช้อย่างไร
1 มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2 ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม
3 กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู ำจำรย์
4 ใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
5 รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม
6 มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปัน
7 เขำ้ ใจเรยี นรกู้ ำรเป็นประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง
8 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคำรพกฎหมำย เคำรพผใู้ หญ่
9 มสี ติ รตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั
ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั
10 รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั
11 มคี วำมเขม้ แขง็ ทงั้ รำ่ งกำยและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อำนำจ
ฝ่ำยต่ำหรอื กเิ ลส มคี วำมละอำย เกรงกลวั ต่อบำปตำมหลกั
ศำสนำ
12 คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและของชำตมิ ำกกว่ำ
ผลประโยชน์ของตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
นกั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมผลกำรเรยี นรขู้ องหน่วยกำรเรยี นรตู้ อ่ ไปน้ี ขอ้ 8-10
ดำ้ นควำมรู้
(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้
ระดบั คณุ ภำพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ปัญหำ/อปุ สรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
แบบทดสอบ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว
1. กำรดำรงชวี ติ อยใู่ นประเทศอน่ื ๆ ในภมู ภิ ำคเอเชยี 6. ขอ้ ใดทบ่ี ง่ บอกวำ่ คนไทยไดร้ บั อทิ ธพิ ลควำมหลำกหลำย
ควรปฏบิ ตั ติ นอยำ่ งไร ทำงดำ้ นศำสนำ
ก. ไม่ดหู มน่ิ กำรดำรงชวี ติ ก. ศกึ ษำภำษำจนี
ข. เผยแพร่ประเพณสี งกรำนต์ ข. ใชช้ อ้ น สอ้ ม
ค. เลอื กรบั ประทำนแต่อำหำรไทย ค. พฒั นำกำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำร
ง. แนะนำชำวเอเชยี ใหฝ้ ึกพดู ภำษำไทย ง. มศี ำสนสถำนของศำสนำอ่นื ๆ
2. กำรอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม พหวุ ฒั นธรรมควรดำเนินกำร 7. ขอ้ ใดแสดงถงึ กำรปฏบิ ตั ติ นของผทู้ ท่ี ำหน้ำทเ่ี จรจำ
ในลกั ษณะใด ไกลเ่ กลย่ี
ก. ตำ่ งคนตำ่ งอยู่ ก. เตรยี มกองกำลงั และอำวธุ
ข. ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั ข. ไม่ใหป้ ระเทศยอมเสยี เปรยี บ
ค. ยดึ ถอื ผลประโยชน์ของตนเป็นหลกั ค. ศกึ ษำควำมตอ้ งกำรของคกู่ รณี
ง. มองประเทศอน่ื ๆ วำ่ ดอ้ ยกว่ำประเทศของตน ง. คำนงึ ถงึ ประโยชน์ของประเทศตน
3. ถำ้ นักเรยี นไดเ้ ขำ้ ชมโบรำณสถำนของประเทศอน่ื ๆ 8. ขอ้ ใดเป็นจุดมุ่งหมำยของกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี
ในภมู ภิ ำคเอเชยี นักเรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอย่ำงไร ก. เพ่อื หำตวั แทนมำใหค้ ำปรกึ ษำ
ก. ทำควำมเคำรพดว้ ยกำรไหว้ ข. เพอ่ื ทำขอ้ ตกลงระหวำ่ งประเทศ
ข. ปฏบิ ตั ติ ำมศลี ธรรมอนั ดขี องไทย ค. เพอ่ื กำรเผชญิ หน้ำกนั ของทงั้ สองฝ่ำย
ค. หยบิ เศษโบรำณสถำนเป็นทร่ี ะลกึ ง. เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลประโยชน์กบั ตวั เองมำกทส่ี ุด
ง. ศกึ ษำกฎระเบยี บของโบรำณสถำนกอ่ นเขำ้ ชม
9. สถำนกำรณ์ขอ้ ใดนำไปสคู่ วำมบำดระหว่ำงประเทศ
4. เมอ่ื นักเรยี นมเี พอ่ื นชำวเอเชยี มำอำศยั อย่ดู ว้ ยควรทำ ก. กติ ตศิ กั ดยิ ์ อมรบั ควำมพ่ำยแพ้
อยำ่ งไร ข. พงศเ์ ทพไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมกฎระเบยี บกำรแขง่ ขนั
ก. กล่ำวตอ่ ว่ำชนชำตอิ น่ื ค. เบญกลำ่ ววำ่ กำรแขง่ ขนั กฬี ำเอเชย่ี นเกมสไ์ มย่ ตุ ธิ รรม
ข. สอนใหร้ จู้ กั มำรยำทไทย ง. สำรติ ำไม่รบั เหรยี ญรำงวลั ในกำรแขง่ ขนั กฬี ำ
ค. พำไปท่องเทย่ี วสถำนบนั เทงิ เอเชย่ี นเกมสเ์ น่อื งจำกมองว่ำเจำ้ ภำพไมย่ ุตธิ รรม
ง. เปรยี บเทยี บวฒั นธรรม ประเพณี
10. ควำมขดั แยง้ ระหวำ่ งประเทศเกดิ ผลเสยี ขอ้ ใดมำกทส่ี ดุ
5. กำรปฏบิ ตั ใิ นขอ้ ใดสำมำรถสรำ้ งควำมปรองดอง ก. มปี ระเทศอ่นื เขำ้ มำแทรกแซง
สมำนฉนั ทใ์ นภมู ภิ ำคเอเชยี ได้ ข. เกดิ ควำมเสยี หำยตอ่ ทรพั ยส์ นิ
ก. พจิ ำรณำจดุ ดอ้ ยของแตล่ ะประเทศ ค. มเี ศรษฐกจิ ดำ้ นกำรทอ่ งเทย่ี วตกต่ำ
ข. ไมเ่ ปิดรบั วฒั นธรรมของต่ำงประเทศ ง. ไม่สำมำรถรว่ มมอื กนั พฒั นำประเทศได้
ค. เปรยี บเทยี บควำมเจรญิ ของแต่ละประเทศ
ง. ศกึ ษำทำควำมเขำ้ ใจวฒั นธรรมของแต่ละประเทศ ผลการเรยี นรู้ ขอ้ 8-10
ได้คะแนน คะแนนเตม็
10
เฉลย
1. ก 2. ข 3. ง 4. ข 5. ง 6. ง 7. ค 8. ข 9. ง 10. ง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวนิ ัยในตนเอง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 การสืบหาผมู้ ีวินัยในตนเอง 1 ชวั่ โมง
1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- วเิ ครำะหก์ ำรกระทำของบุคคลทแ่ี สดงถงึ ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หำควำมรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของ
ตนเองได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ผมู้ วี นิ ยั ในตนเองยอ่ มปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หำควำมรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ
หน้ำท่ี และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
3 สาระการเรยี นรู้
• คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
3) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ยั ในตนเอง
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ 2) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
3) ใฝ่เรยี นรู้ 4) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื สว่ นรวม
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบตั รขอ้ ควำมสำนวน สุภำษติ คำพงั เพย และคำคมเกย่ี วกบั ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง
จำกนนั้ ใหน้ กั เรยี นวเิ ครำะห์ แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) สำนวน สุภำษติ คำพงั เพย และคำคมดงั กล่ำวใหข้ อ้ คดิ อะไร และสำมำรถนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้
อยำ่ งไร
2) ถำ้ ทกุ คนปฏบิ ตั ติ นตำมสำนวน สุภำษติ คำพงั เพย และคำคมจะสง่ ผลดอี ยำ่ งไร
2. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวำ่ สำนวน สภุ ำษติ คำพงั เพย และคำคมดงั กลำ่ วสอดคลอ้ งกบั
ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง ซง่ึ ทุกคนควรปฏบิ ตั ติ ำม
3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 6 คน ตำมควำมสมคั รใจ จำกนนั้ จบั คกู่ นั แลว้ สบื คน้ ขอ้ มูลบคุ คลดเี ดน่ ของ
ไทยในสำขำต่ำงๆ ทม่ี คี ุณลกั ษณะเดน่ ในเร่อื ง ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
2) ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร และควำมอดทน
3) กำรใฝ่หำควำมรู้
4) ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
5) กำรยอมรบั ผลกำรกระทำของตนเอง
4. สมำชกิ แต่ละค่ผู ลดั กนั เลำ่ ขอ้ มลู บคุ คลดเี ดน่ ของไทยในสำขำต่ำงๆ ทม่ี คี ุณลกั ษณะเดน่ ในเร่อื ง ควำมมี
วนิ ยั ในตนเอง ทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ ใหเ้ พอ่ื นในกลุม่ ฟัง แลว้ สรปุ จุดเด่นของกำรปฏบิ ตั ติ นของบุคคล
ดงั กล่ำว
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ดสู ถำนกำรณ์ในภำพ แลว้ เขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นตำมคุณลกั ษณะของผมู้ ี
วนิ ยั ในตนเองลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ ใหค้ รแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลย
คำตอบ
6. นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่ำนกรณตี วั อยำ่ งและตอบคำถำม จำกนนั้ เขยี นพฤตกิ รรมของตนเองทแ่ี สดงถงึ ควำม
ขยนั หมนั่ เพยี รลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครู
ตำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวินัยในตนเอง
7 การวดั และประเมินผล
วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ สจุ รติ มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มกำรณ์ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย
ในสง่ิ ทด่ี งี ำมเพ่อื สว่ นรวม และใฝ่หำควำมรู้ 12 ประกำร
หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ขอ้ มลู บุคคลดเี ด่นของไทยในสำขำต่ำงๆ ทม่ี คี ณุ ลกั ษณะเด่นในเร่อื ง ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง
3) บตั รขอ้ ควำม
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวินยั ในตนเอง
เอกสารประกอบการสอน
ขอ้ มลู บุคคลดีเดน่ ของไทยในสาขาต่างๆ ที่มีคณุ ลกั ษณะเดน่ ในเรื่อง ความมีวินัยในตนเอง
นายประทีป สขุ โสภา
ประวตั ิ
นำยประทปี สุขโสภำ เกดิ เม่อื วนั ท่ี 6 เมษำยน พ.ศ. 2489 ทต่ี ำบลย่ำนยำว อำเภอสวรรคโลก จงั หวดั สุโขทยั
บดิ ำช่อื นำยกมล สุขโสภำ อำชพี รบั รำชกำรครู มำรดำช่อื นำงประคอง สขุ โสภำ อำชพี แมบ่ ำ้ น มพี น่ี ้องร่วมบดิ ำมำรดำ
รวม 4 คน ชวี ติ ครอบครวั สมรสกบั นำงพรทพิ ย์ สขุ โสภำ อำชพี รบั รำชกำรครู ปัจจบุ นั อย่บู ำ้ นเลขท่ี 82 หมู่ 2 ตำบล
ย่ำนยำว อำเภอสวรรคโลก จงั หวดั สโุ ขทยั
การศึกษา
ศกึ ษำในระดบั ประถมศกึ ษำทโ่ี รงเรยี นวดั คงุ้ วำรี จงั หวดั สโุ ขทยั ระดบั มธั ยมศกึ ษำทโ่ี รงเรยี นสวรรควทิ ยำ และ
โรงเรยี นสโุ ขทยั วทิ ยำคมตำมลำดบั ปีกำรศกึ ษำ 2508 สำเรจ็ กำรศกึ ษำระดบั ป.กศ. ตน้ จำกวทิ ยำลยั ครพู บิ ลู สงครำม
จงั หวดั พษิ ณุโลก ไดศ้ กึ ษำดว้ ยตนเองจนสอบไดว้ ฒุ ิ พ.ม. แล้วจงึ เขำ้ ศกึ ษำในมหำวทิ ยำลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ พษิ ณุโลก
จนสำเรจ็ กำรศกึ ษำ กศ.บ. ในปีกำรศกึ ษำ 2518
ตาแหน่งหน้าที่ในอดีตและปัจจบุ นั
พ.ศ. 2509-2518 ครอู งคก์ ำรบรหิ ำรส่วนจงั หวดั สโุ ขทยั
พ.ศ. 2519-2520 อำจำรย์ 1 โรงเรยี นศรนี คร จงั หวดั สุโขทยั
พ.ศ. 2521-2522 อำจำรย์ 1 โรงเรยี นหนองปลำหมอวทิ ยำคม จงั หวดั สุโขทยั
พ.ศ. 2523-ปัจจบุ นั ผชู้ ว่ ยอำจำรยใ์ หญ่ ระดบั 6 โรงเรยี นหนองปลำหมอวทิ ยำคม จงั หวดั สุโขทยั
ผลงานดีเด่นสาขานันทนาการ
1. กำรละเล่นพน้ื บำ้ น โดยกำรขบั ทำนองพน้ื บำ้ นประกอบกำรใชก้ รบั กลมสองมอื ในทำนองเพลงขอทำน เพลงแหล่
และกำรขบั เสภำ
2. กำรประกวดวำ่ วไทย ไดจ้ ดั ใหม้ กี ำรประกวดวำ่ วไทยขน้ึ ทบ่ี รเิ วณสนำมหญำ้ โรงเรยี นหนองปลำหมอวทิ ยำคม
อำเภอสวรรคโลก จงั หวดั สุโขทยั
3. งำนอดเิ รก ซง่ึ เป็นงำนสมคั รเลน่ ทท่ี ำในยำมวำ่ ง ไดแ้ ก่
- กำรทำของเล่นจำกเศษวสั ดุ โดยใชเ้ ศษไมเ้ ป็นหลกั ในกำรประดษิ ฐต์ กุ๊ ตำหรอื สตั วต์ ำ่ งๆ เป็นตวั เป็นชดุ หรอื เป็น
กลมุ่ โดยกำรผกู เร่อื งเลำ่ เป็นนิทำนประกอบกำรใชท้ ำนองพน้ื บำ้ นเร่อื ง “ของเล่นเดนิ ทำง” ในสมดุ บนั ทกึ ของ
มลู นธิ เิ ดก็ และหนงั สอื อ่ำนสำหรบั เดก็ ซง่ึ ไดร้ บั รำงวลั หนงั สอื ดเี ดน่ ประจำปี 2533 จำกคณะกรรมกำรพฒั นำ
หนังสอื แหง่ ชำติ พระรำชทำนโดย สมเดจ็ พระเทพรตั นรำชสดุ ำฯ สยำมบรมรำชกมุ ำรี
- กำรสะสมวสั ดุ ไดร้ วบรวมศลิ ปะวตั ถุต่ำงๆ ไวใ้ นโรงเรยี น เพอ่ื ใหเ้ ป็นทศ่ี กึ ษำแก่เยำวชนและบุคคลทวั่ ไป และ
รวบรวมสะสมพระเครอ่ื งสมยั สโุ ขทยั และสมยั อยธุ ยำไวจ้ ำนวนกว่ำ 1,000 องค์ เพ่อื กำรอนุรกั ษ์ และเพอ่ื
กำรศกึ ษำหำควำมรตู้ อ่ ไป
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
ความประพฤติ คณุ ธรรม และศีลธรรม
นำยประทปี สุขโสภำ เป็นคนสุภำพ เรยี บรอ้ ย มคี วำมจรงิ ใจ ไมเ่ หน็ แกป่ ระโยชน์ส่วนตน มคี วำมเป็นกนั เองกบั
บคุ คลทกุ ชนชนั้ รกั ควำมยตุ ธิ รรม มอี ำรมณ์ขนั สุขมุ รอบคอบ ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นคุณธรรมของพรหมวหิ ำรสม่ี ำโดยตลอด
ไม่ด่มื สรุ ำ ไม่สบู บหุ ร่ี และไมเ่ ลน่ กำรพนัน เป็นทย่ี อมรบั นบั ถอื ของบคุ คลทวั่ ไป ชอบชว่ ยเหลอื กจิ กรรมต่ำงๆ ทงั้ ของรฐั
และเอกชนดว้ ยควำมเตม็ ใจ ไดร้ บั เชญิ ใหเ้ ป็นวทิ ยำกรอบรมคุณธรรม และเผยแพรก่ ำรอนุรกั ษม์ รดกไทยอย่เู สมอ
โดยเฉพำะกำรละเลน่ พน้ื เมอื ง และดนตรไี ทยมำกกว่ำ 30 ปี
ตงั้ แต่ พ.ศ. 2500 เป็นตน้ มำ นำยประทปี สุขโสภำ ไดป้ ฏบิ ตั ติ นในกำรอนุรกั ษฟ์ ้ืนฟู และสง่ เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรม
ทอ้ งถนิ่ มำโดยตลอด ทงั้ ในเร่อื งกำรเกบ็ รวบรวม กำรเผยแพรก่ ำรแสดง กำรอบรมสงั ่ สอนนกั เรยี นและประชำชนดว้ ย
ควำมรกั และควำมสมคั รใจทำ โดยไม่เรยี กรอ้ งค่ำตอบแทนใดๆ ทงั้ สน้ิ นอกจำกน้ยี งั ไดต้ งั้ ปณิธำนไวว้ ่ำจะกระทำตนเป็น
ผอู้ นุรกั ษ์ส่งเสรมิ และเผยแพรศ่ ลิ ปวฒั นธรรมไทยจนกวำ่ จะถงึ วำระสุดทำ้ ย จำกประวตั ชิ วี ติ และผลงำนดงั กลำ่ ว
คณะกรรมกำรวฒั นธรรมแหง่ ชำตจิ งึ ประกำศยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตใิ ห้นำยประทปี สขุ โสภำเป็นผมู้ ผี ลงำนดเี ด่นทำง
ดำ้ นวฒั นธรรม สำขำนันทนำกำร (กำรจดั กำร สะสมวสั ดแุ ละกำรละเล่นพน้ื บำ้ น) ประจำปีพุทธศกั รำช 2535
ที่มา : http://www.info.ru.ac.th/province/Sukhotai/prateep.htm
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ยั ในตนเอง
บตั รขอ้ ความ
รอู้ ะไรไม่ส้รู วู้ ิชา
เขน็ ครกขึน้ ภเู ขา
กงเกวียนกาเกวียน
เสียชีพอย่าเสียสตั ย์
คนขยนั ไมม่ ีวนั อดตาย
รกั ดีหามจวั่ รกั ชวั่ หามเสา
ซื่อกินไม่หมด คดกินไมน่ าน
ความซื่อสตั ยเ์ ป็นสมบตั ิของผดู้ ี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวนิ ยั ในตนเอง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 คณุ ค่าของความมีวินัย 1 ชวั่ โมง
ในตนเอง
1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- วเิ ครำะหค์ ณุ ค่ำของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ผมู้ วี นิ ยั ในตนเองย่อมประสบควำมสำเรจ็ ในกำรทำงำนตำมเป้ำหมำยอย่ำงมคี ณุ ภำพ และไดร้ บั กำรยกยอ่ ง
ชมเชยจำกผอู้ น่ื
3 สาระการเรยี นรู้
• คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมวี นิ ยั ในตนเอง
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ 2) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
3) ใฝ่เรยี นรู้ 4) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มกำรณ์ในสง่ิ ทด่ี งี ำมเพอ่ื สว่ นรวม
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง เชน่ เพลงวนิ ยั สรำ้ งคน และเพลงขยนั
เป็นตน้
เพลงวินัยสร้างคน
ทานองเพลง กุหลำบเวยี งพงิ ค์
* ระเบยี บวนิ ยั จำไวค้ ำน้สี รำ้ งคน อย่ำว่นุ วำย หรอื วำ่ สบั สน ฝึกเป็นคน เคร่งครดั วนิ ยั
ไดด้ บิ ไดด้ ี เพรำะว่ำคำน้ี มเี หน็ ทวั่ ไป แวดลอ้ มเรำ ไม่ใกลไ้ มไ่ กล วนิ ยั คมุ้ ครอง รกั ษำ (ซำ้ *)
จะเรอ่ื งกำรงำน กำรเงนิ หรอื ว่ำกำรเรยี น มวี นิ ยั ขยนั หมนั่ เพยี ร คดิ อำ่ นเขยี น กำรพฒั นำ
ปรบั ปรุงแกไ้ ข เอำเรอ่ื งวนิ ยั มำชว่ ยเยยี วยำ สรำ้ งชำตไิ ทย ดว้ ยกนั เถดิ หนำ เกดิ มำ
ตอ้ งหมนั่ ฝึกไว้
ท่ีมา : http://www.oknation.net/blog/Anutip/2012/09/21/entry-1
เพลงขยนั
ทานองเพลง สยำมเมอื งยม้ิ
ขยนั ไวเ้ ถดิ จะเกดิ ผลงำน จติ ใจเบกิ บำน มสี ขุ สำรำญลน้ ปรม่ิ อดทนขยนั สกู้ ำรงำน นงั่ นอน
ฝันหวำนอมยม้ิ เกษมเอมอมิ่ ใจคอสบำย อดทนตอ่ สไู้ ม่อกู้ ำรงำน เป็นทต่ี อ้ งกำรของหวั หน้ำงำน
ทงั้ หลำย หำกใครเกยี จครำ้ นสนั หลงั ยำว ไมว่ ำ่ หนุ่มสำวทม่ี กั งำ่ ย ชอบนอนต่นื สำยตำมใจ
ตอ้ งกำร เล่อื งช่อื ลอื นำม ในควำมอดทนขยนั สำยใยแห่งควำมสมั พนั ธ์ อย่ทู เ่ี ป็นคนขยนั ทำงำน
พำกเพยี รต่อสู้ เรยี นรแู้ ตโ่ บรำณกำล ขอเพยี งสำเรจ็ แห่งงำน ถำ้ ใครเกยี จครำ้ นนัน้ เนรคณุ
ขยนั ไวเ้ ถดิ จะเกดิ ผลงำน ช่วยดลบนั ดำล เบกิ บำนผ่อนคลำยวำ้ วุน่ พำกเพยี รขยนั
อยำ่ งตอ่ เน่อื ง บรรเทำหลำยเรอ่ื งหำยเคอื งข่นุ จติ ใจละมุน อบอุ่นเสมอ
ท่ีมา : http://www.oknation.net/blog/Anutip/2013/09/08/entry-3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี ินยั ในตนเอง
2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ ครำะหส์ ำระสำคญั ของบทเพลง แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) สำระสำคญั ของบทเพลงเกย่ี วกบั อะไร
2) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ อะไรจำกบทเพลง
3) ถำ้ นกั เรยี นนำคุณลกั ษณะสำคญั ในกำรปฏบิ ตั ติ นตำมบทเพลงไปประยกุ ตใ์ ชจ้ ะเกดิ ผลดอี ยำ่ งไร
3. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวำ่ บทเพลงดงั กล่ำวช่วยปลกุ ใจผคู้ นใหม้ กี ำรกระทำทแ่ี สดงถงึ
ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง
4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) นำขอ้ มลู บุคคลดเี ด่นของไทยในสำขำต่ำงๆ ทม่ี ี
คุณลกั ษณะเด่นในเร่อื ง ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง ทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ ในชวั่ โมงทแ่ี ลว้ มำวเิ ครำะห์
แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) บคุ คลดเี ดน่ คอื ใคร
2) บุคคลดงั กล่ำวมผี ลงำนดเี ด่นในเรอ่ื งใด
3) กำรกระทำของบคุ คลดงั กล่ำวสอดคลอ้ งกบั ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเร่อื งใด จงยกตวั อย่ำงประกอบ
4) คณุ ลกั ษณะของบคุ คลดงั กลำ่ วทแ่ี สดงถงึ ควำมมวี นิ ัยในตนเองนนั้ สง่ ผลดตี ่อกำรไดร้ บั กำรคดั เลอื ก
เป็นบุคคลดเี ดน่ อย่ำงไร
5. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลกำรวเิ ครำะหห์ น้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเน้นย้ำให้
นกั เรยี นตระหนกั ถงึ ผลดขี องกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
6. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลดหี รอื คณุ คำ่ ของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน กำรใฝ่หำควำมรู้ ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี และกำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำก
กำรกระทำของตนเอง เช่น
- ประสบควำมสำเรจ็ ในกจิ กำร กำรงำนต่ำงๆ
- ไดร้ บั กำรยกยอ่ ง ชมเชย และเป็นทไ่ี วว้ ำงใจจำกบคุ คลทวั่ ไป
- มคี วำมรกู้ วำ้ งขวำง รอบดำ้ น เป็นพน้ื ฐำนในกำรประกอบอำชพี และกำรอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม
7. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มอ่ำนเหตุกำรณ์ทก่ี ำหนด แลว้ ช่วยกนั หำวธิ กี ำรแกป้ ัญหำลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ
จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ ใหค้ รแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ
8. นกั เรยี นแต่ละคนอำ่ นกรณตี วั อย่ำง จำกนนั้ เขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ
จำกหนงั สอื กจิ กรรม ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวินัยในตนเอง
7 การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ สจุ รติ มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย
ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพ่อื สว่ นรวม และใฝ่หำควำมรู้ 12 ประกำร
หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ขอ้ มลู บคุ คลดเี ด่นของไทยในสำขำต่ำงๆ ทม่ี คี ณุ ลกั ษณะเด่นในเรอ่ื ง ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง
3) เพลง
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมวี นิ ยั ในตนเอง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 การคิดและตดั สินใจ 1 ชวั่ โมง
ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินัย
ในตนเอง
1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- วำงแผนกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงถงึ กำรเป็นผมู้ วี นิ ยั ในกำรดำเนินกจิ กรรมต่ำงๆ ได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรวำงแผนกำรปฏบิ ตั ติ นในกจิ กรรมตำ่ งๆ ของโรงเรยี นและชุมชนอย่ำงมขี นั้ ตอน เป็นระบบ และมวี นิ ยั
ในตนเองนนั้ ยอ่ มสง่ ผลใหก้ ำรดำเนินกจิ กรรมสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำยอยำ่ งมคี ุณภำพ
3 สาระการเรียนรู้
• คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
2) ทกั ษะกำรคดิ ตดั สนิ ใจ
3) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ความมีวินัยในตนเอง
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
3) ใฝ่เรยี นรู้ 4) มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื สว่ นรวม
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครใู หต้ วั แทนนกั เรยี นแสดงบทบำทสมมตเิ รอ่ื ง ใครเป็นผมู้ วี นิ ยั ใหเ้ พอ่ื นดหู น้ำชนั้ เรยี น โดยครซู กั ซอ้ ม
บทบำทกำรแสดงกบั ตวั แทนนกั เรยี นไวล้ ่วงหน้ำ
2. นกั เรยี นผชู้ มกำรแสดงร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั เรยี นคดิ วำ่ ใครปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง จงยกตวั อย่ำง พรอ้ มทงั้ อธบิ ำยเหตผุ ล
2) ผลของกำรกระทำของบคุ คลดงั กล่ำวสง่ ผลดอี ย่ำงไร
3) นกั เรยี นสำมำรถนำแบบอย่ำงกำรกระทำของบุคคลดงั กลำ่ วไปประยกุ ตป์ ฏบิ ตั อิ ย่ำงไร
3. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) คดิ กจิ กรรมทน่ี กั เรยี นสำมำรถเขำ้ ร่วม
และแสดงถงึ ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง เชน่
- กำรร่วมกจิ กรรมกฬี ำสี ซ่งึ มหี น้ำทร่ี บั ผดิ ชอบตำ่ งกนั ไป ไดแ้ ก่ ฝ่ำยกองเชยี ร์ ฝ่ำยเดนิ ขบวน
พำเหรด ฝ่ำยฝึกซอ้ มกฬี ำ ฝ่ำยจดั ทำอุปกรณ์กำรเชยี ร์ และฝ่ำยจดั ตกแต่งอฒั จนั ทร์ เป็นตน้
- กำรร่วมกจิ กรรมชุมนุมอนุรกั ษ์ธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ กำรปลกู ตน้ ไมบ้ รเิ วณโรงเรยี น
สวนสำธำรณะ กำรปลูกป่ำ กำรประหยดั น้ำและไฟฟ้ำ และกำรดแู ลสวนพฤกษศำสตร์ เป็นตน้
- กำรจดั งำนนิทรรศกำรหรอื กำรจดั ป้ำยนิเทศในวนั สำคญั ไดแ้ ก่ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษำ
วนั ขน้ึ ปีใหม่ และวนั เดก็ เป็นตน้
โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
2) ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร และควำมอดทน
3) กำรใฝ่หำควำมรู้
4) ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
5) กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ นำเสนอกจิ กรรมทต่ี นเองคดิ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง แลว้ ชว่ ยกนั ตดั สนิ ใจเลอื ก
กจิ กรรมทส่ี มำชกิ ทุกคนในกลุ่มสำมำรถมสี ว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบได้ 1 กจิ กรรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมีวินยั ในตนเอง
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วำงแผนกำรดำเนินกจิ กรรมตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ชอ่ื กจิ กรรม
2) วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรดำเนินกจิ กรรม
3) ขนั้ ตอนกำรดำเนนิ กจิ กรรม
4) วนั เวลำ สถำนทท่ี ด่ี ำเนนิ กจิ กรรม
5) ผรู้ บั ผดิ ชอบ
6. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มสง่ แผนในกำรดำเนินกจิ กรรมตอ่ ครู เพอ่ื ตรวจสอบควำมเหมำะสมและเสนอแนะ
เพม่ิ เตมิ
7. ครใู หส้ มำชกิ แต่ละคนในกลุ่มนำแผนกำรดำเนินกจิ กรรมไปปฏบิ ตั ิ แลว้ นำเสนอผลกำรปฏบิ ตั ใิ นชวั่ โมง
ตอ่ ไป
8. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นเล่ำควำมภำคภูมใิ จและควำมประทบั ใจในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรม จำกนนั้ ทบทวน
กำรกระทำของตนเองทแ่ี สดงถงึ ผลดที เ่ี กดิ จำกกำรกระทำลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1-2 จำก
หนงั สอื กจิ กรรม ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
7 การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ สุจรติ มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม และใฝ่หำควำมรู้ 12 ประกำร
หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
8 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ยั ในตนเอง
เอกสารประกอบการสอน
บทบาทสมมติเรือ่ ง ใครเป็นผมู้ วี ินัย
เก๋ แมน เตย้ และฟ้ำ เป็นสมำชกิ ชมรมสวนสวยดว้ ยมอื เรำ แต่ละคนจะรบั ผดิ ชอบปลูกตน้ ไมท้ ส่ี วนสวยของ
โรงเรยี น คนละ 1 มมุ เก๋และแมนจะดแู ลดำ้ นหน้ำของสวน เตย้ และฟ้ำจะดแู ลรมิ ทำงเดนิ
เก๋ : ตน้ ไมข้ องเรำขน้ึ งำมทกุ ตน้ เลย เธอเหน็ ไหม
แมน : บำงตน้ กำลงั ออกดอกสวยเชยี ว
เก๋ : ฉนั ตอ้ งช่นื ชมเธอนะแมนทเ่ี อำใจใสด่ แู ลตน้ ไม้ ใหป้ ๋ ยุ และรดน้ำทกุ วนั ถงึ มืดค่ำ ฉนั เองเป็นผหู้ ญงิ อย่มู ดื ค่ำ
กบั เขำไมไ่ ด้ ถำ้ กลบั บำ้ นมดื ค่ำจะเป็นอนั ตรำย
แมน : ฉนั เป็นผชู้ ำยและบำ้ นกอ็ ย่ใู กล้ ไมเ่ ป็นไรหรอก แลว้ ฉนั กท็ ำเชน่ น้มี ำจนเป็นนิสยั แลว้
เต้ย : สวนทพ่ี วกเธอดแู ลสวยนะ แตส่ วนทพ่ี วกฉนั ดแู ลมตี น้ ไมเ้ หย่ี วเฉำไปหลำยตน้ ฉนั ไมไ่ ดร้ ดน้ำตน้ ไมห้ ลำยวนั
และฟ้ำกป็ ่วยไม่ไดม้ ำโรงเรยี นหลำยวนั เชน่ กนั
ฟ้า : ฉนั ขอโทษนะเตย้ ทไ่ี ม่ไดช้ ว่ ยเธอดแู ลตน้ ไม้ แตฉ่ นั จะหำตน้ ไมม้ ำปลกู แทนตน้ ทต่ี ำยไป
เต้ย : ไม่เป็นไรหรอก ฉนั เองกบ็ กพรอ่ ง มวั แต่ไปทำกจิ กรรมอ่นื เลยลมื รดน้ำตน้ ไมไ้ ปชวั่ ครำว
ฟ้า : ฉนั รมู้ ำวำ่ ตน้ ไมท้ ป่ี ลูกแลว้ ขน้ึ งำ่ ยมหี ลำยชนิด เช่น ตน้ มะลิ ตน้ แกว้ น่ำจะลองหำมำปลกู แซมบำงพน้ื ทไ่ี ด้
และรำคำกไ็ มแ่ พงดว้ ย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมีวินยั ในตนเอง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 การปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินัย 1 ชวั่ โมง
ในตนเอง
1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หำควำมรู้
ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรดำเนินกจิ กรรมต่ำงๆ ของโรงเรยี นและสงั คมนนั้ ถำ้ สมำชกิ ทกุ คนปฏบิ ตั ติ นตำมบทบำท หน้ำทด่ี ว้ ย
ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หำควำมรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองยอ่ มสง่ ผลตอ่ ควำมสำเรจ็ ของกจิ กรรมอย่ำงมคี ุณภำพ
3 สาระการเรียนรู้
• คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
3) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ 2) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
3) ใฝ่เรยี นรู้ 4) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
5.2 คา่ นิยม
1) ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื สว่ นรวม
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครใู หอ้ ำสำสมคั รนกั เรยี น 2-3 คน ผลดั กนั เล่ำควำมภำคภมู ใิ จของตนเองทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ใน
ตนเองอยำ่ งสม่ำเสมอใหเ้ พ่อื นฟังหน้ำชนั้ เรยี น เช่น
- กำรตงั้ ใจเรยี น
- กำรพดู ควำมจรงิ
- กำรชว่ ยพอ่ แม่ทำงำนบำ้ น
- กำรอำ่ นหนงั สอื ในหอ้ งสมุด
- กำรฟังข่ำวจำกสอ่ื ตำ่ งๆ
- กำรทำกจิ กรรมอำสำ
- กำรยอมรบั ควำมผดิ เม่อื ทำงำนผดิ พลำด
2. ครใู หน้ กั เรยี นคนอ่นื ผลดั กนั แสดงควำมช่นื ชมกำรกระทำของเพอ่ื นทแ่ี สดงถงึ กำรเป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง
แลว้ แสดงควำมคดิ เหน็ และตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองของเพอ่ื นแสดงถงึ คณุ ลกั ษณะทเ่ี ด่นชดั ในเรอ่ื งใด
2) กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั มผี ลดตี ่อตนเองและสงั คมอย่ำงไร
3) ถำ้ คนไทยทกุ คนปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองจะสง่ ผลดตี ่อประเทศชำตอิ ย่ำงไร
3. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุม่ เดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) ผลดั กนั เล่ำผลกำรดำเนินกจิ กรรมทแ่ี สดง
ถงึ ควำมมวี นิ ยั ในตนเอง ซง่ึ ไดด้ ำเนินกจิ กรรมไปในชวั่ โมงทผ่ี ่ำนมำในสว่ นทต่ี นเองรบั ผดิ ชอบใหเ้ พอ่ื น
ในกลุ่มฟังตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) รบั ผดิ ชอบในเร่อื งใด ระยะเวลำดำเนินกจิ กรรมเมอ่ื ใด สถำนทด่ี ำเนินกิจกรรมคอื สถำนทใ่ี ด
2) ขนั้ ตอนหรอื วธิ กี ำรดำเนินกจิ กรรมเป็นอย่ำงไร
3) ผลของกำรดำเนนิ กจิ กรรมเป็นอย่ำงไร ทงั้ สว่ นดแี ละสว่ นทบ่ี กพรอ่ ง
4) ควรปรบั ปรุง แกไ้ ขกำรปฏบิ ตั ติ นอย่ำงไร
4. สมำชกิ คนอ่นื ในกลุ่มร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ในสว่ นทค่ี วรปรบั ปรุง แกไ้ ข
และชน่ื ชมถงึ กำรปฏบิ ตั ติ ำมบทบำท หน้ำทด่ี ว้ ยควำมรบั ผดิ ชอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
5. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุม่ ร่วมกนั ประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในภำพรวมของกลมุ่ ตนเองวำ่ บรรลุ
วตั ถปุ ระสงคท์ ก่ี ำหนดไวห้ รอื ไม่ คุณภำพของงำนเป็นอย่ำงไร ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ขอยำ่ งไร และสมำชกิ
ทุกคนในกลมุ่ ปฏบิ ตั ติ นไดส้ อดคลอ้ งกบั กำรเป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเองอย่ำงไร
6. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลกำรดำเนินกจิ กรรมของกล่มุ ตนเองใหค้ รแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อน่ื ฟัง
หน้ำชนั้ เรยี น โดยสรปุ เป็นภำพรวมตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ช่อื กจิ กรรม
2) วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
3) วนั เวลำ สถำนทท่ี ด่ี ำเนนิ กจิ กรรม
4) ผลทไ่ี ดร้ บั สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์
5) สมำชกิ ในกลุม่ มคี ณุ ลกั ษณะทแ่ี สดงถงึ กำรเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง ทงั้ ควำมซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ควำมขยนั
หมนั่ เพยี ร อดทน กำรใฝ่หำควำมรู้ ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี และกำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำ
ของตนเอง
6) สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุงและพฒั นำงำนต่อไป
7. ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ ง เหมำะสมของกำรดำเนินกจิ กรรม และกำรนำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น
แลว้ เน้นย้ำใหน้ กั เรยี นนำประสบกำรณ์จำกกำรทำกจิ กรรมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ
8. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนบนั ทกึ ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเป็นเวลำ 1 สปั ดำห์ ลงในกจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ ควำมมี
วนิ ยั ในตนเอง จำกนนั้ นำเสนอในรปู แบบต่ำงๆ ลงในกจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ เยำวชนไทยในศตวรรษท่ี 21
จำกหนงั สอื กจิ กรรม แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
9. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปผลของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ควำม
ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน กำรใฝ่หำควำมรู้ ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี และกำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำร
กระทำของตนเอง ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
10. นกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 5
• ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบตั ิตนท่ีแสดงถงึ ความมวี ินัยในตนเอง แลว้ บนั ทึกผล
การปฏิบตั ิตน เสรจ็ แล้วนาส่งครตู ามกาหนดเวลา โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ
2) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
3) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การใฝ่หาความรู้
4) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้าที่
5) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
7 การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ สุจรติ มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตควำมซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มกำรณ์ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพ่อื สว่ นรวม และใฝ่หำควำมรู้ 12 ประกำร
หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
ตรวจแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 5 แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 5 รอ้ ยละ 60 ผ่ำนเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั แบบประเมนิ แบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในตนเอง เป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง
8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
8.2 แหล่งการเรียนรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมีวินัยในตนเอง
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตนเป็นผ้มู วี ินัยในตนเอง
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
2 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร
อดทน
3 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้
4 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ
หน้ำท่ี
5 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ
จำกกำรกระทำของตนเอง
รวม
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ความมวี นิ ัยในตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำนของนกั เรยี นตำมรำยกำรทก่ี ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 เน้อื หำละเอยี ดชดั เจน
2 ควำมถกู ตอ้ งของเน้อื หำ
3 ภำษำทใ่ี ชเ้ ขำ้ ใจง่ำย
4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ำกกำรนำเสนอ
5 วธิ กี ำรนำเสนอผลงำน
รวม
ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20
เสียสละ คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม
ชอ่ื กลมุ่ ชนั้
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 กำรแบ่งหน้ำทก่ี นั อย่ำงเหมำะสม
2 ควำมร่วมมอื กนั ทำงำน
3 กำรแสดงควำมคดิ เหน็
4 กำรรบั ฟังควำมคดิ เหน็
5 ควำมมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั
รวม
ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรงุ
แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
สมรรถนะสาคญั รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ของผเู้ รยี น 4321
1.1 ใชภ้ ำษำถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ
1. ความสามารถ และทศั นะของตนเองดว้ ยกำรพดู และกำรเขยี น
ในการสื่อสาร
1.2 พดู เจรจำต่อรอง
1.3 เลอื กรบั หรอื ไม่รบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำร
1.4 เลอื กใชว้ ธิ กี ำรส่อื สำร
2. ความสามารถ 2.1 คดิ พน้ื ฐำน (กำรคดิ วเิ ครำะห)์
ในการคิด 2.2 คดิ ขนั้ สงู (กำรคดิ สงั เครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ)
3. ความสามารถ 3.1 ใชก้ ระบวนกำรแกป้ ัญหำโดยวเิ ครำะหป์ ัญหำ วำงแผนในกำรแกป้ ัญหำ
ในการแก้ปัญหา ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ ตรวจสอบ และสรุปผล
3.2 ผลลพั ธข์ องกำรแกป้ ัญหำ
4. ความสามารถ 4.1 นำกระบวนกำรเรยี นรทู้ ห่ี ลำกหลำยไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ในการใช้ 4.2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและเรยี นรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื ง
ทกั ษะชีวิต 4.3 ทำงำนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ
4.4 จดั กำรกบั ปัญหำและควำมขดั แยง้ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ ง
เหมำะสม
4.5 ปรบั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม
4.6 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื
5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นำตนเองและสงั คม
ในการใช้เทคโนโลยี 5.2 มที กั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
54 - 64 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
43 - 53 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
32 - 42 พอใช้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
ให้ 1 คะแนน ต่ำกวำ่ 32 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชำติ รอ้ งเพลงชำตไิ ด้ และอธบิ ำยควำมหมำยของ
เพลงชำติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตำมสทิ ธแิ ละหน้ำทข่ี องนักเรยี น
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต
1.3 ใหค้ วำมรว่ มมอื รว่ มใจ ในกำรทำงำนกบั สมำชกิ ในโรงเรยี น
3. มวี ินัย
รบั ผิดชอบ 1.4 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทส่ี รำ้ งควำมสำมคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน
4. ใฝ่ เรยี นรู้
1.5 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงศำสนำทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ของศำสนำ
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
1.6 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถำบนั
พระมหำกษตั รยิ ต์ ำมทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ
2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอำย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำควำมผดิ ทำตำม
สญั ญำทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู
2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยควำมซอ่ื ตรง ไมห่ ำประโยชน์ในทำงทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลำในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
และรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน
4.1 แสวงหำขอ้ มลู จำกแหล่งกำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ
4.2 มกี ำรจดบนั ทกึ ควำมรอู้ ยำ่ งเป็นระบบ
4.3 สรปุ ควำมรไู้ ดอ้ ย่ำงมเี หตุผล
5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ
และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี และใชเ้ วลำอยำ่ งเหมำะสม
5.2 ใชท้ รพั ยำกรของส่วนรวมอยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยควำมรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอำเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื
กระทำผดิ พลำด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วำงแผนกำรเรยี น กำรทำงำนและกำรใชช้ วี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐำนของ
ควำมรู้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำร
5.6 รเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม และสภำพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ
ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข
6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วำมตงั้ ใจและพยำยำมในกำรทำงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
ทางาน 6.2 มคี วำมอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ ำนสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในกำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำไทย
7.2 เหน็ คุณค่ำและปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงำน
8.2 อำสำทำงำน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื
8.3 ดแู ล รกั ษำทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน
8.4 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสำธำรณประโยชน์ของโรงเรยี น
ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้
ต่ำกว่ำ 54 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน ค่านิ ยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ
คาชี้แจง : ให้ นักเรียน ประเมนิ ตนเองในระหว่ำงเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องค่ำนยิ มทน่ี ำไปใช้ และบอกเหตุผล
วำ่ นำไปใชอ้ ยำ่ งไร
ช่อื ชนั้ เลขท่ี
ข้อที่ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ค่านิ ยมท่ีนาไปใช้ นาไปใช้อย่างไร
1 มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2 ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม
3 กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู ำจำรย์
4 ใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
5 รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม
6 มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปัน
7 เขำ้ ใจเรยี นรกู้ ำรเป็นประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง
8 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคำรพกฎหมำย เคำรพผใู้ หญ่
9 มสี ติ รตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั
ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั
10 รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั
11 มคี วำมเขม้ แขง็ ทงั้ รำ่ งกำยและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อำนำจ
ฝ่ำยต่ำหรอื กเิ ลส มคี วำมละอำย เกรงกลวั ต่อบำปตำมหลกั
ศำสนำ
12 คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและของชำตมิ ำกกว่ำ
ผลประโยชน์ของตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้
ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื )
(
ตำแหน่ง
นกั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมผลกำรเรยี นรขู้ องหน่วยกำรเรยี นรตู้ อ่ ไปน้ี ข้อ 10
ดำ้ นควำมรู้
(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภำพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คณุ ภำพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ปัญหำ/อปุ สรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
บนั ทึก
แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว
อ่านข้อความที่กาหนด แลว้ ตอบคาถาม ขอ้ 1-5 4. หมกึ และเพอ่ื นๆ มคี ุณลกั ษณะเดน่ ในขอ้ ใด
ก. ใฝ่หำควำมรู้
งานวนั เดก็ ปีน้ี นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่2 รบั หน้าที่ ข. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
จดั นิทรรศการ โจซ้ งึ่ เป็นหวั หน้าหอ้ งไดแ้ บง่ หน้าทใี่ ห้ ค. ขยนั หมนั ่ เพยี ร
แต่ละกลมุ่ โดยทวั่ ถงึ กนั ในวนั งานมแี ขกมาชมนทิ รรศการ ง. ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
จานวนมาก หวั หน้ากลุ่มรายงานความคบื หน้าของงาน
ต่อหวั หน้าหอ้ ง 5. งำนวนั เดก็ จะประสบควำมสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำยไดอ้ ยำ่ งมี
หวาน : กล่มุ ของฉนั จดั บอรด์ เสรจ็ ทนั เวลา ทกุ คนชว่ ยกนั คุณภำพนนั้ สมำชกิ ทกุ คนจะตอ้ งมคี ณุ ลกั ษณะในขอ้ ใด
ก. อดทน
เตม็ ที่และทางานจนถงึ คา่ ทกุ คน ข. ใฝ่หำควำมรู้
ฟ้า : ฉนั มอบหมายใหฝ้ นและแกว้ ไปตกแตง่ บอรด์ ดว้ ย ค. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
ง. ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
ดอกไมป้ ระดษิ ฐ์ แตท่ งั้ สองคนจดั ได้ 2 บอรด์
ยงั ขาดอกี 1 บอรด์ ฝนบอกว่าจะหาคนมาช่วย อ่านขอ้ ความที่กาหนด แลว้ ตอบคาถาม ข้อ 6-10
เพมิ่ เตมิ เพอื่ ใหง้ านเสรจ็ ทนั
หมกึ : ฉนั และเพอื่ นรบั งานเกยี่ วกบั บทกลอนมาเสรมิ กอ้ ยชวนเกแ๋ ละกงุ้ สบื คน้ ขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต
เพมิ่ เตมิ ทกุ บอรด์ ฉนั ไดค้ น้ จากเวบ็ ไซตม์ าก เกยี่ วกบั บคุ คลตวั อยา่ งผมู้ วี นิ ัยในตนเอง
พอแลว้ และตดิ ในจดุ ตา่ งๆ ตามทกี่ าหนด กงุ้ : ฉนั ไดข้ อ้ มลู ของนายดา เกษตรกรดเี ดน่ ของจงั หวดั
เม่น : ฉนั และเพอื่ นรบั งานวาดภาพศลิ ปะตกแต่ง
มมุ บอรด์ เรยี บรอ้ ยแลว้ เสรจ็ ทนั เวลา ทเี่ ขาสามารถยกระดบั จากชาวสวนธรรมดา
กลายเป็นเกษตรกรมอื อาชพี มสี วนผลไมข้ อง
1. นกั เรยี นกลมุ่ ใดเป็นผทู้ ม่ี คี วำมขยนั หมนั ่ เพยี รและอดทน ตนเองถงึ 1,000 ไร่ มคี นมาศกึ ษาดงู านทสี่ วน
ก. กลุ่มของฟ้ำ ปีละมากๆ ครงั้ หนงึ่ เขาเคยผดิ พลาดใสป่ ๋ ยุ เคมี
ข. กลมุ่ ของเม่น มากเกนิ ไป ทาใหต้ น้ ไมต้ ายเป็นจานวนมาก
ค. กลมุ่ ของหมกึ เขาไดป้ รบั ปรงุ แกไ้ ขจนสามารถฟ้ืนสภาพ
ง. กลมุ่ ของหวำน ของสวนกลบั คนื มาได้
กอ้ ย : ฉนั ไดข้ อ้ มลู ของนางสาวพลอยทไี่ ดร้ บั การยกย่อง
2. กลุ่มใดมกี ำรกระทำทแ่ี สดงถงึ กำรตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี เป็นคนดศี รตี ลาดมงิ่ เมอื ง เพราะพลอยเป็นแมค่ า้ ที่
ก. กลุ่มของโจแ้ ละแกว้ ลกู คา้ ใหค้ วามไวว้ างใจมาซอ้ื ผลไมข้ องเธอเป็น
ข. กลมุ่ ของฟ้ำ เม่น และฝน ประจา
ค. กลุ่มของเม่น ฝน และแกว้ เก๋ : ฉนั ขอโทษพวกเธอนะทฉี่ นั ไม่สามารถสบื คน้ ขอ้ มลู
ง. กล่มุ ของหมกึ เมน่ และหวำน จากอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ เพราะเมอื่ วานฉนั ทาการบา้ น
คณติ ศาสตรไ์ มเ่ สรจ็ จงึ ไมม่ เี วลาคน้
3. บุคคลใดยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
ก. ฟ้ำ 6. ใครมกี ำรกระทำทแ่ี สดงถงึ กำรใฝ่หำควำมรู้
ข. ฝน ก. ดำและกงุ้
ค. โจ้ ข. กงุ้ และเก๋
ง. แกว้ ค. กอ้ ยและกงุ้
ง. พลอยและกงุ้
7. ใครมกี ำรกระทำทแ่ี สดงวำ่ มคี วำมซอ่ื สตั ย์ 9. ลกั ษณะเดน่ ของพลอยสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด
ก. เก๋ ก. ใฝ่หำควำมรู้
ข. กงุ้ ข. ขยนั หมนั ่ เพยี ร
ค. กอ้ ย ค. ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
ง. พลอย ง. ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
8. ใครมกี ำรกระทำทแ่ี สดงวำ่ ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกควำม 10. ลกั ษณะเดน่ ของนำยดำสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด
ผดิ พลำดของตนเอง ก. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั ่ เพยี ร
ก. ดำและเก๋ ข. ขยนั หมนั ่ เพยี ร อดทน ใฝ่หำควำมรู้
ข. กอ้ ยและเก๋ ค. ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
ค. กอ้ ยและกงุ้ ง. ขยนั หมนั ่ เพยี ร ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของ
ง. พลอยและกอ้ ย ตนเอง
ผลการเรยี นรู้ ขอ้ 10
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
10
เฉลย
1. ง 2. ง 3. ข 4. ก 5. ง 6. ค 7. ง 8. ก 9. ค 10. ง