The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s.aekapop, 2021-10-25 10:09:25

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Keywords: แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 ความกล้าหาญทาง 1 ชวั่ โมง
จริยธรรม

1 ผลการเรยี นร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 6 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) วเิ ครำะหก์ ำรกระทำทแ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมได้
2) วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั ของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมได้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

บคุ คลทม่ี คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมและปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองนนั้ ถอื ว่ำเป็นสว่ นหน่งึ ของกำร
เป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตย

3 สาระการเรยี นรู้

1. พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
- ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. นกั เรยี นร่วมกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั คุณธรรม เชน่ เพลงเกดิ เป็นคนทงั้ ที และเพลงทำดไี ดด้ ี เป็นตน้
2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ ครำะหส์ ำระสำคญั และขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกบทเพลง
3. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) จบั ค่กู นั แลว้ สบื คน้ ขอ้ มลู กำรกระทำของบคุ คลหรอื

กลุ่มบคุ คลทแ่ี สดงถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม คลู่ ะ 1 เร่อื ง
4. สมำชกิ แต่ละคผู่ ลดั กนั เลำ่ กำรกระทำของบคุ คลหรอื กลุ่มบคุ คลทแ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำง

จรยิ ธรรมทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง โดยผลดั กนั เลำ่ ทลี ะคแู่ บบเลำ่ เรอ่ื งรอบวง ตำมประเดน็
ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ชอ่ื บุคคลหรอื กลุม่ บคุ คล
2) ตวั อย่ำงกำรกระทำ
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วเิ ครำะหล์ กั ษณะกำรกระทำของบุคคลหรอื กลมุ่ บุคคลทแ่ี สดงออกถงึ ควำม
กลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรกระทำดงั กลำ่ วมผี ลดตี อ่ ตนเองอย่ำงไร
2) กำรกระทำดงั กลำ่ วมผี ลดตี ่อสงั คมและประเทศชำตอิ ย่ำงไร
3) นกั เรยี นสำมำรถนำแบบอย่ำงไปประยุกตป์ ฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงไร
6. ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลกำรวเิ ครำะหห์ น้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะ
เพมิ่ เตมิ
7. นกั เรยี นแตล่ ะคนบนั ทกึ พฤตกิ รรมหรอื กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม และ
สรุปผลดขี องกำรปฏบิ ตั ิ จำกนนั้ ดภู ำพเหตกุ ำรณ์ แลว้ เขยี นบอกว่ำเป็นควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม
หรอื ไม่ เพรำะเหตุใด ลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำม
ระยะเวลำทก่ี ำหนด
8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ควำมสำคญั ของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม ครตู รวจสอบ
ควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) เพลง
3) ตวั อย่ำงขอ้ มลู กำรกระทำของบุคคลหรอื กลุ่มบคุ คลทแ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ

เอกสารประกอบการสอน

เพลงเกิดเป็นคนทงั้ ที
ศิลปิ น อนุชติ สพนั ธพุ์ งษ์

ยอมใหฟ้ ้ำลขิ ติ ชวี ติ แค่เพยี งครงั้ เดยี วเท่ำนนั้ คอื วนั ทเ่ี รำลมื ตำมำเป็นผคู้ น
ไมน่ ้อยใจในวำสนำ เพรำะฟ้ำตอ้ งมเี หตุผล อำจจะหลงทำง อำจจะทกุ ขท์ น ไม่โทษใคร

รแู้ ค่เพยี งวำ่ เรำคดิ ดี แมบ้ ำงทไี ม่มใี ครรู้ แต่เรำยอ่ มรอู้ ย่แู กใ่ จ
* บอกตวั เองเป็นคนทงั้ ที ตอ้ งทำดใี หด้ ขี น้ึ ไป ขดี เสน้ ทำงหวั ใจดว้ ยสองมอื ของเรำ
บอกตวั เองว่ำคงสกั วนั สง่ิ ทท่ี ำจะไมส่ ญู เปลำ่ อำจจะมบี ำงคนทย่ี นิ ดี มบี ำงคนทร่ี บั เรำไวใ้ นใจ

ใจทงั้ ใจยงั เตน้ ยงั ไหว ลม้ ลุกลม้ คลำนกห่ี นกย็ งั จะทำจะทนจะสทู้ กุ อย่ำง
คำวำ่ ยอมลบออกจำกใจ ไมม่ องเหลยี วไปขำ้ งหลงั แตจ่ ะมงั ่ คงอย่บู นเสน้ ทำงทต่ี งั้ ใจ (ซ้ำ *)

ท่ีมา : http://www.musicatm.com/lyric/เน้อื เพลง-Tab-กลอง-เกดิ เป็นคนทงั้ ท-ี 14154.html

เพลงทาดีไดด้ ี ศิลปิ น อสั นี วสนั ต์

หำกเรำคดิ อะไรสกั อย่ำง เพอ่ื เป็นทำงส่คู วำมสำเรจ็
หำกเรำคดิ จะทำใหเ้ สรจ็ อยำ่ พดู เทจ็ กบั ตวั ของเรำ

อย่ำงน้อยเรำควรตอ้ งดู เพอ่ื จะรวู้ ่ำดหี รอื ไม่
หำกตอ้ งทำเบยี ดเบยี นใคร ไม่ทำ

เมอ่ื ชวี ติ ตอ้ งกำรกำ้ วเดนิ เร่อื งสรรเสรญิ คอื ควำมยงิ่ ใหญ่
เมอ่ื ชวี ติ คอื กำรกำ้ วไป ประดบั ไว้ ทำดไี ดด้ ี

ตอกย้ำทำดไี ดด้ ี สงิ่ น้ีทเ่ี ป็นศกั ดศิ ์ รี รแู้ ลว้ กท็ ำดเี ขำ้ ไป
ถงึ ไหนกไ็ มม่ โี ง่ เกดิ เป็นคนทนโท่ ทำดี โอโ้ ฮ ไดด้ ี
หำกปัญหำยงั มำสุมอยู่ เท่ำกบั รคู้ วำมดนี นั้ ห่ำง

หำกไม่คดิ จะทำเสยี บำ้ ง ไมม่ ที ำงทำดไี ดด้ ี
ตอกยำ้ ทำดไี ดด้ ี สง่ิ น้ที เ่ี ป็นศกั ดศิ ์ รี รแู้ ลว้ กท็ ำดเี ขำ้ ไป
ถงึ ไหนกไ็ มม่ โี ง่ เกดิ เป็นคนทนโท่ ทำดี โอโ้ ฮ ไดด้ ี
เม่อื ชวี ติ ตอ้ งกำรกำ้ วเดนิ เรอ่ื งสรรเสรญิ คอื ควำมยงิ่ ใหญ่

เม่อื ชวี ติ คอื กำรกำ้ วไป ประดบั ไว้ ทำดไี ดด้ ี
ทำดี ไดด้ ี ทำดี ไดด้ ี ทำดี ไดด้ ี ทำดี ไดด้ ี

ท่ีมา : http://lyrics.cm/16922

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

ตวั อยา่ งข้อมูลการกระทาของบุคคลหรอื กลมุ่ บุคคลที่แสดงออกถึงความกลา้ หาญทางจริยธรรม

สบื นำคะเสถยี ร เป็นนกั อนุรกั ษแ์ ละนักวชิ ำกำรดำ้ นทรพั ยำกรธรรมชำตชิ ำวไทย มชี ่อื เสยี งจำกกำรพยำยำมปกป้อง
แก่งเชย่ี วหลำนและเขตรกั ษำพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ำทงุ่ ใหญ่-หว้ ยขำแขง้ และกำรฆำ่ ตวั ตำยเพอ่ื เรยี กรอ้ งใหส้ งั คมเหน็ ควำมสำคญั
ของกำรอนุรกั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำติ

สบื มชี ่อื เดมิ ว่ำ “สบื ยศ” เกดิ ทต่ี ำบลทำ่ งำม อำเภอเมอื งปรำจนี บุรี จงั หวดั ปรำจนี บรุ ี เป็นบุตรของสลบั นำคะเสถยี ร อดตี ผวู้ ำ่ รำชกำร
จงั หวดั ปรำจนี บรุ ี กบั บุญเยย่ี ม นำคะเสถยี ร มพี น่ี ้องทงั้ หมดสำมคน สำเรจ็ กำรศกึ ษำระดบั ปรญิ ญำโท สำขำวชิ ำวนวฒั นวทิ ยำ คณะวนศำสตร์
มหำวทิ ยำลยั เกษตรศำสตร์ ในปี พ.ศ. 2518 เขำ้ รบั รำชกำรเป็นพนักงำนป่ำไมต้ รี กองอนุรกั ษ์สตั วป์ ่ำ กรมป่ำไม้ งำนแรกของสบื คอื กำร
ประจำอยทู่ เ่ี ขตรกั ษำพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ำเขำเขยี ว-เขำชมภู่ จงั หวดั ชลบุรี ณ ทน่ี นั้ สบื ไดท้ รำบวำ่ มผี ทู้ รงอทิ ธพิ ลบกุ รุกทำลำยป่ำเป็นจำนวนมำก
ตอ่ มำปี พ.ศ. 2522 สบื ไดร้ บั ทนุ กำรศกึ ษำระดบั ปรญิ ญำโท จำกบรติ ชิ เคำน์ซลิ เม่อื สำเรจ็ กำรศกึ ษำแลว้ กลบั มำรบั ตำแหน่งหวั หน้ำเขตหำ้ มล่ำ
สตั วป์ ่ำบำงพระ
มสี ่วนรว่ มฝึกอบรมพนกั งำนพทิ กั ษป์ ่ำหลำยรนุ่ ครนั้ ปี พ.ศ. 2526 สบื ขอยำ้ ยไปเป็นนักวชิ ำกำรประจำกองอนุรกั ษ์สตั วป์ ่ำ เพอ่ื ทำหน้ำทว่ี จิ ยั
สตั วป์ ่ำเพยี งอย่ำงเดยี ว

ในปี พ.ศ. 2529 สบื ได้เป็นหวั หน้ำโครงกำรอพยพสตั วป์ ่ำตกคำ้ งในพน้ื ทอ่ี ่ำงเกบ็ น้ำเขอ่ื นรชั ชประภำ (เขอ่ื นเชย่ี วหลำน) ไดช้ ว่ ยอพยพสตั ว์
ป่ำทต่ี กคำ้ งอย่ใู นแก่งเพรำะปัญหำกำรสรำ้ งเขอ่ื นจนเกดิ น้ำท่วม สบื จงึ เขำ้ ใจว่ำ งำนวชิ ำกำรเพยี ง
อยำ่ งเดยี วไมอ่ ำจชว่ ยพทิ กั ษป์ ่ำซง่ึ เป็นปัญหำระดบั ชำตไิ ด้ ภำยหลงั จงึ เขำ้ รว่ มกจิ กรรมหลำยอยำ่ ง เชน่ คดั คำ้ นรฐั บำล
ในกำรสรำ้ งเขอ่ื นน้ำโจน รำยงำนผลกำรอพยพสตั วต์ อ่ สำธำรณชนเพอ่ื กระตนุ้ ใหส้ งั คมตระหนักถงึ ภยั ป่ำ แตค่ วำมพยำยำมของสบื นัน้ ไรผ้ ล
จนกระทงั่ นักอนุรกั ษไ์ ดร้ วมกลมุ่ สนบั สนุนสบื โครงกำรสรำ้ งเขอ่ื นน้ำโจนจงึ ระงบั ไป

ในปี พ.ศ. 2531 สบื กลบั เขำ้ รบั รำชกำรทก่ี องอนุรกั ษส์ ตั วป์ ่ำ และพยำยำมเสนอใหเ้ ขตรกั ษำพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ำทุ่งใหญ่-หว้ ยขำแขง้ เป็นมรดก
โลก เพ่อื เป็นหลกั ประกนั ว่ำเขตรกั ษำพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ำดงั กล่ำวจะไดร้ บั กำรพทิ กั ษร์ กั ษำถำวร

ปลำยปี พ.ศ. 2532 สบื ไดเ้ ป็นหวั หน้ำเขตรกั ษำพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ำท่งุ ใหญ่-หว้ ยขำแขง้ ครนั้ ปี พ.ศ. 2533 สบื จงึ ตงั้ กองทนุ เพ่อื รกั ษำป่ำหว้ ย
ขำแขง้ และทุ่งใหญ่นเรศวร และไดด้ ำเนินกจิ กรรมหลำยประกำรเพ่อื อนุรกั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำตแิ ละอพยพสตั วป์ ่ำทย่ี งั ตกคำ้ งอยู่ในแกง่ เชย่ี ว
หลำน ควำมพยำยำมของสบื นัน้ ประสบผลสำเรจ็ น้อย เพรำะผใู้ หญใ่ นบำ้ นเมอื งไมใ่ หค้ วำมสนใจ ชำวบำ้ นทอ้ งถนิ่ กส็ นใจปำกทอ้ งมำกกวำ่ จงึ
รบั จำ้ งผมู้ อี ทิ ธพิ ลเขำ้ รุกรำนป่ำเสมอมำ สบื เสนอใหส้ รำ้ งแนวป่ำกนั ชนเพอ่ื กนั ชำวบำ้ นออกนอกแนวกนั ชน และพฒั นำพน้ื ทใ่ี นแนวกนั ชนให้
เป็นป่ำชมุ ชนทช่ี ำวบำ้ นใชป้ ระโยชนไ์ ด้ แตก่ ไ็ ม่ไดร้ บั ควำมสนใจเชน่ กนั

ดว้ ยควำมทต่ี อ้ งรบั แรงกดดนั หลำยๆ ดำ้ น และเป็นกำรเรยี กรอ้ งตอ่ หน่วยงำนภำครฐั ใหใ้ สใ่ จต่อกำรอนุรกั ษธ์ รรมชำตอิ ย่ำงแทจ้ รงิ สบื จงึ
ตดั สนิ ใจประทว้ งดว้ ยกำรฆำ่ ตวั ตำยดว้ ยอำวุธปืนในบำ้ นพกั ของสบื ทห่ี ว้ ยขำแขง้ สองสปั ดำหต์ อ่ มำ ขำ้ รำชกำรชนั้ ผใู้ หญจ่ งึ ประชมุ กำหนด
มำตรกำรป้องกนั กำรบุกรกุ ป่ำหว้ ยขำแขง้ ทงั้ ทก่ี ่อนหน้ำน้ี สบื ไดพ้ ยำยำมขอใหป้ ระชุมมำแลว้ หลำยครงั้ จงึ มผี กู้ ลำ่ ววำ่ ถำ้ ไม่มเี สยี งปืนในวนั นนั้
กไ็ มม่ กี ำรประชมุ ดงั กล่ำว

ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/สบื _นำคะเสถยี ร

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 การปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีความ 1 ชวั่ โมง
กล้าหาญทางจริยธรรม

1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 6 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมและปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองนนั้ เป็นสว่ นหน่งึ ของ
พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย

3 สาระการเรยี นรู้

1. พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
- ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม

2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรใหเ้ หตุผล
2) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครใู หส้ มำชกิ แต่ละคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ผลดั กนั เลำ่ ควำมภำคภูมใิ จทต่ี นเอง
เป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมในเร่อื งตำ่ งๆ และผลของกำรปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและ
ผอู้ ่นื ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง

2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มเลอื กกรณีตวั อยำ่ ง 1 เรอ่ื ง เพอ่ื นำไปจดั แสดงบทบำทสมมตทิ แ่ี สดงออกถงึ ควำม
กลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม ดงั น้ี

กรณีตวั อย่างที่ 1
เนตรนภำและเพอ่ื นๆ เหน็ คนรำ้ ยขโมยพระพุทธรปู ออกจำกโบสถ์

กรณีตวั อย่างที่ 2
ชำวบำ้ นประชุมปรกึ ษำกนั เพอ่ื หำทำงป้องกนั แกไ้ ขปัญหำสงิ่ เสพตดิ ทแ่ี พร่ระบำดในชมุ ชน

กรณีตวั อย่างที่ 3
ประเพณีสงกรำนตใ์ นหม่บู ำ้ นดอนตำลปีน้ี มวี ยั รุ่นตำ่ งถน่ิ สำดน้ำโคลนไปยงั กลุ่มคน
ทเ่ี ลน่ สำดน้ำกนั น้ำฝนและเพอ่ื นจงึ ปรกึ ษำกนั หำทำงป้องกนั แกไ้ ข

กรณีตวั อย่างท่ี 4
โรงงำนอตุ สำหกรรมปลอ่ ยน้ำเสยี ลงแม่น้ำ ลำคลอง ชำวบำ้ นจงึ รวมตวั ประชุมปรกึ ษำกนั
หำทำงป้องกนั แกไ้ ข

3. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มผลดั กนั แสดงบทบำทสมมตทิ แ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรมตำมกรณี
ตวั อยำ่ งทเ่ี ลอื กไว้

4. นกั เรยี นกลมุ่ อน่ื ผลดั กนั ช่นื ชม แสดงควำมคดิ เหน็ หรอื เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั กำรแสดงบทบำท
สมมตขิ องเพอ่ื น เพอ่ื ใหเ้ พอ่ื นนำไปปรบั ปรงุ แกไ้ ข ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ

5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั เสนอวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม เชน่
- กำรปกป้องรกั ษำทรพั ยำกรธรรมชำติ และสำธำรณสมบตั ิ
- กำรรกั ษำสง่ิ แวดลอ้ มภำยในโรงเรยี นและชุมชนของตนเอง
- กำรใหค้ วำมช่วยเหลอื ผอู้ ่นื
- กำรรกั ษำประโยชน์ของสว่ นรวม

6. สมำชกิ แต่ละคนในกลมุ่ เลอื กวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม 1 วธิ ี จำกนนั้ นำไป
ปฏบิ ตั ิ แลว้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นลงในสมุดบนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมประเดน็ ทก่ี ำหนด
ดงั น้ี
1) กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม
2) ผลของกำรปฏบิ ตั เิ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื
3) ควำมรสู้ กึ ภำคภูมใิ จ

7. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ วธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม
8. นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่ำนสถำนกำรณ์ทก่ี ำหนด จำกนนั้ เขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ คี วำมกลำ้ หำญ

ทำงจรยิ ธรรมลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครู
ตำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุม่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) กรณีตวั อย่ำง

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 การเป็ นผนู้ าและการเป็ น 1 ชวั่ โมง
สมาชิกท่ีดีของสงั คม

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 6 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) เสนอวธิ กี ำรดำเนินกจิ กรรมของหอ้ งเรยี น และโรงเรยี นได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผนู้ ำและสมำชกิ ทด่ี ขี องหอ้ งเรยี น และโรงเรยี นได้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั ิหน้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรดำเนินกจิ กรรมของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น และกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองนนั้ เป็นหน้ำทท่ี ส่ี มำชกิ
ทุกคนจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมบทบำท หน้ำทข่ี องผนู้ ำและสมำชกิ ทด่ี ี

3 สาระการเรียนรู้

1. พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
- กำรเป็นผนู้ ำ และกำรเป็นสมำชกิ ทด่ี ี

2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะกำรประเมนิ

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
4) มจี ติ สำธำรณะ

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กจิ กรรมต่ำงๆ ของหอ้ งเรยี นทน่ี กั เรยี นทุกคนตอ้ งมสี ว่ นร่วม
รบั ผดิ ชอบ เช่น
- กำรรกั ษำควำมสะอำด
- กำรตกแตง่ หอ้ งเรยี น
- กำรจดั ป้ำยนเิ ทศ
- กำรจดั มุมหนงั สอื
- กำรจดั ระเบยี บโตะ๊ เกำ้ อ้ี

2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจถงึ ควำมสำคญั ของกำรปฏบิ ตั ิตนเป็นผนู้ ำและสมำชกิ ทด่ี ขี อง
หอ้ งเรยี นและโรงเรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อย่ำงกจิ กรรมของโรงเรยี นทน่ี กั เรยี นควรเขำ้ รว่ ม
เช่น
- กจิ กรรมในวนั สำคญั ของโรงเรยี น ไดแ้ ก่ วนั สถำปนำโรงเรยี น วนั เดก็ และวนั ไหวค้ รู เป็นตน้
- กจิ กรรมในวนั สำคญั ของชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์ ไดแ้ ก่ วนั พอ่ วนั แม่ และวนั วสิ ำขบูชำ
เป็นตน้
- กจิ กรรมพฒั นำคณุ ภำพผเู้ รยี น ไดแ้ ก่ งำนกฬี ำสี ชมรม ชุมนุม และกำรเข้ำค่ำยพกั แรม เป็นตน้

3. ครทู บทวนควำมรเู้ ดมิ ของนักเรยี นเกย่ี วกบั ประสบกำรณ์กำรทำงำนกลุ่ม ซง่ึ มที งั้ เป็นผนู้ ำและสมำชกิ
ของกลุ่ม แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ลกั ษณะของผนู้ ำทด่ี ี
2) ลกั ษณะของสมำชกิ ทด่ี ี
3) กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผนู้ ำทด่ี ี
4) กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นสมำชกิ ทด่ี ี

4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั เขยี นบอกวำ่ บุคคลทก่ี ำหนดมลี กั ษณะของ
ผนู้ ำทด่ี หี รอื ไม่ พรอ้ มอธบิ ำยเหตผุ ล จำกนนั้ อ่ำนกรณตี วั อย่ำง แลว้ วเิ ครำะหก์ ำรปฏบิ ตั ติ นและผลท่ี
ไดร้ บั ลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ ใหค้ รแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ

5. ครใู หส้ มำชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั เลอื กทำกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ หอ้ งเรยี นและโรงเรยี น 1 กจิ กรรม
โดยใหส้ มำชกิ ทกุ คนมสี ว่ นร่วมในกำรตดั สนิ ใจในกจิ กรรมดงั กล่ำว

6. สมำชกิ แต่ละกลุ่มเลอื กผนู้ ำกลุม่ แลว้ ร่วมกนั คดิ และวำงแผนกำรดำเนนิ กจิ กรรม เช่น กจิ กรรมวนั เดก็
กจิ กรรมกฬี ำสี กจิ กรรมจติ อำสำ และกจิ กรรมพฒั นำหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น เป็นตน้

7. สมำชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ แบง่ หน้ำทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบ และช่วยกนั กำหนดขนั้ ตอนกำรดำเนินกจิ กรรม
ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ช่อื กจิ กรรม
2) วตั ถปุ ระสงค์
3) ขนั้ ตอนกำรดำเนนิ กจิ กรรม
4) กำรมสี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจของนกั เรยี น
5) ผลทค่ี ำดวำ่ จะไดร้ บั

8. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรุปผลของกำรวำงแผนในกำรดำเนินกจิ กรรม จำกนนั้ นำสง่ ครู เพอ่ื ใหค้ วำม
เหน็ ชอบ เสรจ็ แลว้ นำไปดำเนนิ กำรตำมขนั้ ตอนทก่ี ำหนดไวต้ ำมวนั เวลำ สถำนทท่ี ไ่ี ดน้ ดั หมำย และ
มกี ำรประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็นระยะๆ

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
มุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน และมจี ติ สำธำรณะ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น 12 ประกำร
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 การมีส่วนร่วมและรบั ผิดชอบ 1 ชวั่ โมง
ในการตดั สินใจต่อกิจกรรม
ของห้องเรียนและโรงเรียน

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 7 มสี ่วนร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจในกจิ กรรมต่ำงๆ
และรทู้ นั ขำ่ วสำร
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) มสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี น และโรงเรยี นได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรมสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี นนนั้ สมำชกิ ทกุ คนจะตอ้ ง
รจู้ กั ปฏบิ ตั ติ นตำมบทบำท หน้ำท่ี และเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรมสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจตอ่ กจิ กรรมของหอ้ งเรยี น และโรงเรยี น
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรใหเ้ หตุผล
2) ทกั ษะกำรประเมนิ

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2) ใฝ่เรยี นรู้

3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน 4) มจี ติ สำธำรณะ

5.2 คา่ นิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครสู ุม่ นกั เรยี น 2-3 คน เลำ่ ควำมประทบั ใจทไ่ี ดม้ สี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจตอ่ กจิ กรรม
ของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น ซง่ึ สง่ ผลดตี อ่ กำรพฒั นำหอ้ งเรยี นและโรงเรยี นใหเ้ พอ่ื นฟังหน้ำชนั้ เรยี น

2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจถงึ ควำมสำคญั ของกำรมสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในกำรตดั สนิ ใจ
ตอ่ กจิ กรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น

3. ครใู หส้ มำชกิ กล่มุ เดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) นำเสนอผลกำรประเมนิ กำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมท่ี
เป็นประโยชน์ต่อหอ้ งเรยี นและโรงเรยี นตำมทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั ไิ ปในชวั่ โมงทผ่ี ่ำนมำ เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทำงใน
กำรปรบั ปรงุ และพฒั นำกจิ กรรมของกลมุ่ ใหด้ ี มคี ณุ ภำพมำกยง่ิ ขน้ึ โดยนกั เรยี นอำจใชว้ ธิ กี ำรนำเสนอ
ทห่ี ลำกหลำย เช่น
- กำรอภปิ รำยรว่ มกนั
- รวี วิ ประกอบกำรบรรยำย
- เพลงประกอบกำรบรรยำย
- กำรสนทนำ

4. สมำชกิ กลุ่มอ่นื ผลดั กนั แสดงควำมช่นื ชมผลกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ หอ้ งเรยี นและ
โรงเรยี นของเพอ่ื นตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กลุ่มท่ี 1 นำเสนอ กลมุ่ ท่ี 2 แสดงควำมช่นื ชม
2) กลมุ่ ท่ี 2 นำเสนอ กลมุ่ ท่ี 3 แสดงควำมช่นื ชม
3) กลมุ่ ท่ี 3 นำเสนอ กลมุ่ ท่ี 4 แสดงควำมช่นื ชม
4) กลุ่มท่ี 4 นำเสนอ กลมุ่ ท่ี 5 แสดงควำมช่นื ชม
5) กลมุ่ ท่ี 5 นำเสนอ กลมุ่ ท่ี 1 แสดงควำมช่นื ชม

5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อ่ำนเหตุกำรณ์ทก่ี ำหนด และเขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ น จำกนนั้ ตอบคำถำม
ว่ำบุคคลทก่ี ำหนดปฏบิ ตั ติ นในกำรมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมต่ำงๆ หรอื ไม่มสี ว่ นร่วม ถำ้ ไมถ่ กู ตอ้ งใหเ้ ขยี น
บอกกำรปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมำะสมลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ ใหค้ รแู ละนกั เรยี น
ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ

6. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลดขี องกำรมสี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี นและ
โรงเรยี น ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

7 การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 12 ประกำร
มุง่ มนั ่ ในกำรทำงำน และมจี ติ สำธำรณะ
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 7 การตรวจสอบข้อมลู 1 ชวั่ โมง
และการร้ทู นั ข่าวสาร

1 ผลการเรยี นร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 7 มสี ่วนรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู เพ่อื ใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจในกจิ กรรมต่ำงๆ
และรทู้ นั ขำ่ วสำร
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั ของกำรตรวจสอบขอ้ มลู และกำรรทู้ นั ขำ่ วสำรได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

พลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตยนนั้ จะตอ้ งตรวจสอบขอ้ มลู รทู้ นั ขำ่ วสำร และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ใน
ตนเอง

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรตรวจสอบขอ้ มลู
2. กำรรทู้ นั ขำ่ วสำร
3. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครเู ล่ำขำ่ วใหน้ กั เรยี นฟัง ดงั น้ี
1) ไทยตดิ อนั ดบั โลกภยั บนถนน
2) แย่ไมแ่ พห้ นงั สอื ปลอม “อำ่ นไมอ่ อก” “เดก็ ไทย” ยงั น่ำหว่ ง
3) สำธำรณสุขไทยกกั ตวั หนุ่มโปแลนดส์ อบสวนอโี บลำ พบไขส้ งู หลงั กลบั จำกคองโก

2. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถำมและแสดงควำมคดิ เหน็ ตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั เรยี นเชอ่ื ถอื ขำ่ วใดบำ้ ง จงอธบิ ำยเหตุผล
2) นกั เรยี นมวี ธิ กี ำรตรวจสอบขอ้ มลู ของขำ่ วอยำ่ งไร

3. ครใู หอ้ ำสำสมคั รนกั เรยี น 2-3 คน เล่ำขำ่ วทม่ี ลี กั ษณะเป็นขำ่ วลอื ไมม่ ขี อ้ มลู ของควำมเป็นจรงิ ใหเ้ พอ่ื น
ฟังหน้ำชนั้ เรยี น จำกนนั้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะห์ แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ขำ่ วดงั กลำ่ วสรำ้ งควำมเสยี หำยตอ่ สงั คมสว่ นรวมอย่ำงไร จงอธบิ ำยเหตุผล
2) เม่อื นกั เรยี นฟังข่ำวดงั กล่ำวแลว้ เช่อื ถอื หรอื ไม่ จงอธบิ ำยเหตผุ ล
3) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จำกกำรฟังขำ่ วดงั กล่ำวอย่ำงไร

4. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจถงึ ควำมสำคญั ของกำรตรวจสอบขอ้ มลู ขำ่ วสำรต่ำงๆ
ก่อนตดั สนิ ใจเชอ่ื

5. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั สบื คน้ ขำ่ ว 1 ขำ่ ว จำกนนั้ วเิ ครำะห์
ควำมน่ำเชอ่ื ถอื ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนดลงในกจิ กรรมนำส่ปู ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม
เสรจ็ แลว้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ นำเสนอคำตอบหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

6. ครใู หส้ มำชกิ แต่ละกลุ่มจดั นิทรรศกำรวชิ ำกำรในวนั ปิดภำคเรยี นเร่อื ง กำ้ วสปู่ ระชำคมอำเซยี น
โดยสบื คน้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำรทท่ี นั สมยั และมกี ำรตรวจสอบขอ้ มลู อยำ่ งถูกตอ้ ง

7. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปควำมสำคญั ของกำรตรวจสอบขอ้ มลู และกำรรทู้ นั ข่ำวสำร

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

7 การวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์

วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 12 ประกำร
และม่งุ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขำ่ ว

8.2 แหล่งการเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

ตวั อยา่ งข่าว

ไทยติดอนั ดบั โลกภยั บนถนน

ในแตล่ ะปีอุบตั ภิ ยั บนทอ้ งถนนไดค้ รำ่ ชวี ติ ประชำกรทวั่ โลกถงึ ปีละประมำณ 1.3 ลำ้ นคน ซง่ึ ส่วนใหญ่เป็นประชำกร ในวยั หนุ่มสำวอำยุ
ระหว่ำง 15-29 ปี สำหรบั ประเทศไทยเหยอ่ื จำกอุบตั ภิ ยั ทำงถนนทำใหม้ ผี เู้ สยี ชวี ติ เฉลย่ี ปีละ 12,000 คน จงึ ไม่แปลกทอ่ี งคก์ ำรอนำมยั โลกจดั
อนั ดบั ประเทศไทยมคี วำมเสย่ี งสงู ทจ่ี ะประสบอุบตั ภิ ยั บนทอ้ งถนนเป็นอนั ดบั
6 จำก 10 อนั ดบั ของประเทศทม่ี ผี เู้ สยี ชวี ติ จำกอบุ ตั เิ หตุบนถนนมำกทส่ี ดุ ในโลก

เมอ่ื เดอื นเมษำยนทผ่ี ำ่ นมำเกดิ โศกนำฏกรรมบนทอ้ งถนนทส่ี ่อื มวลชนตำ่ งประเทศเผยแพร่ขำ่ วครกึ โครมไปทวั่ โลก เม่อื นำยปีเตอร์ รทู
และ น.ส. แมร่ี ทอมป์ สนั คสู่ ำมภี รรยำชำวองั กฤษทเ่ี ดนิ ทำงไปทวั่ โลกดว้ ยจกั รยำนตอ้ งมำจบชวี ติ ลงทจ่ี งั หวดั ฉะเชงิ เทรำของประเทศไทย
เม่อื บุคคลทงั้ สองถกู รถบรรทุกทข่ี บั มำดว้ ยควำมเรว็ สงู ชนจกั รยำนทท่ี งั้ สองข่ี
เขำ้ อยำ่ งจงั จนเสยี ชวี ติ คำท่ี ทำใหบ้ รรดำสอ่ื มวลชนตำ่ งประเทศต่ำงพำกนั ประโคมขำ่ ววำ่ ไทยเป็นประเทศอนั ดบั ตน้ ๆ ของโลกสำหรบั ภยั บน
ทอ้ งถนน โดยมผี เู้ สยี ชวี ติ เฉลย่ี วนั ละ 40 รำย นอกจำกสองสำมภี รรยำชำวองั กฤษทป่ี ระสบ
ชะตำกรรมอนั เลวรำ้ ยแลว้ กอ่ นหน้ำนนั้ มนี ักทอ่ งเทย่ี วชำวต่ำงชำตจิ ำนวนไมน่ ้อยทต่ี อ้ งเสยี ชวี ติ จำกภยั บนทอ้ งถนน
ในประเทศไทย โดยบำงคนถกู รถทว่ี งิ่ มำดว้ ยควำมเรว็ สงู ชนขณะขำ้ มถนน

กำรทป่ี ระเทศไทยเป็นประเทศทม่ี คี วำมเสย่ี งสงู จำกภยั บนถนนอนั ดบั ตน้ ๆ ของโลก สำเหตุสำคญั ทส่ี ดุ เกดิ จำกอุปนิสยั ของผขู้ บั ขไ่ี ทยท่ี
ไรว้ นิ ยั และประมำทไม่เคำรพกฎจรำจรอยำ่ งมจี ติ สำนึกและควำมรบั ผดิ ชอบ ทงั้ ในเรอ่ื งกำรขบั รถดว้ ยควำมเรว็ สงู กว่ำทก่ี ฎหมำยกำหนดซง่ึ
เป็นสำเหตุสำคญั ทส่ี ดุ ทท่ี ำใหเ้ กดิ โศกนำฏกรรมรำ้ ยแรงบนทอ้ งถนนจนมผี เู้ สยี ชวี ติ และบำดเจบ็ ยงั ไม่รวมถงึ พฤตกิ รรมอนั เลวรำ้ ย เชน่ กำร
ขบั รถแซงหรอื ขบั ปำดหน้ำดว้ ยควำมเรว็ สงู อยำ่ งกะทนั หนั ซง่ึ แมบ้ ำงครงั้ จะไมไ่ ดท้ ำใหเ้ กดิ กำรเสยี ชวี ติ และบำดเจบ็ แต่กน็ ำไปสกู่ ำรทะเลำะ
ววิ ำทระหวำ่ งผขู้ บั ขค่ี กู่ รณี
ถงึ ขนั้ ลงมอื ทำรำ้ ยกนั ดว้ ยวธิ กี ำรอนั รนุ แรง

นอกจำกน้สี ำเหตขุ องโศกนำฏกรรมจำกภยั บนทอ้ งถนนไทยยงั เกดิ จำกกำรดม่ื เคร่อื งด่มื แอลกอฮอลเ์ กนิ ปรมิ ำณทก่ี ฎหมำยกำหนดหรอื
เมำแลว้ ขบั ซง่ึ เหน็ ไดช้ ดั เจนจำกสถติ ผิ เู้ สยี ชวี ติ และบำดเจบ็ จำกอุบตั ภิ ยั บนถนนเฉพำะชว่ งเทศกำลสำคญั อยำ่ งสงกรำนต์หรอื ส่งท้ำยปีเก่ำ
ตอ้ นรบั ปีใหมข่ องทุกปีทจ่ี ะมผี เู้ สยี ชวี ติ รวมนับพนั รำยและบำดเจบ็ นบั หมน่ื รำยสำเหตอุ ุบตั ภิ ยั บนถนนอกี ประกำรหน่งึ ยงั เกดิ จำกบรรดำรถ
เถอ่ื นทย่ี งั วง่ิ เกลอ่ื นกลำดตำมทอ้ งถนน หรอื แมแ้ ตร่ ถโดยสำรสำธำรณะของรฐั อยำ่ งรถเมล์ ขสมก. บำงคนั วงิ่ ดว้ ยควำมเรว็ สงู มำกอย่ำงน่ำกลวั
จนเสย่ี งทจ่ี ะนำไปสอู่ บุ ตั เิ หตุ

เพรำะนนั้ คงถงึ เวลำทร่ี ฐั บำลจะกำหนดใหป้ ัญหำอุบตั ภิ ยั บนทอ้ งถนนเป็นวำระแห่งชำตทิ จ่ี ะตอ้ งแกไ้ ขอย่ำงจรงิ จงั
โดยหน่วยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ งโดยเฉพำะเจำ้ หน้ำทต่ี ำรวจตอ้ งบงั คบั ใชก้ ฎหมำยอย่ำงเคร่งครดั เพ่อื ป้องกนั บรรดำโชเฟอรต์ นี ผี
ทเ่ี ปรยี บเหมอื นฆำตกรบนทอ้ งถนนทย่ี งั ก่อโศกนำฏกรรมอยำ่ งลอยนวลซ้ำซำก

ที่มา : http://www.naewna.com/politic/columnist/8580

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แยไ่ มแ่ พห้ นงั สอื ปลอม “อา่ นไมอ่ อก” “เดก็ ไทย” ยงั น่าหว่ ง
หลงั มจี ดหมำยถงึ รำยกำรทวี สี นทนำประสำสมคั รทจ่ี ดั โดย สมคั ร สนุ ทรเวช เกย่ี วกบั เร่อื งทเ่ี ดก็ นกั เรยี นในโรงเรยี น
สงั กดั กทม. อำ่ นหนงั สอื ไม่ออก ทำงรองผวู้ ่ำฯ กทม. พุทธพิ งษ์ ปุณณกนั ต์ กอ็ อกมำชแ้ี จงแถลงไขอย่ำงนนั้ อย่ำงน้ี
ทำนองวำ่ คณุ ภำพกำรอ่ำนของเดก็ นนั้ ทจ่ี รงิ ดขี น้ึ กวำ่ เมอ่ื 4 ปีก่อน แตก่ ย็ อมรบั ว่ำมเี ดก็ บำงสว่ นอ่ำนหนงั สอื ไม่คลอ่ ง
กบั เร่อื งน้ที จ่ี รงิ มใิ ชม่ ปี ัญหำแคใ่ นเขตกรงุ เทพฯ วำ่ กนั ในภำพรวมทวั่ ประเทศ เดก็ ไทยอำ่ นหนังสอื ไม่ออก
อ่ำนหนงั สอื ไมค่ ลอ่ ง หรอื อำ่ นหนงั สอื ไม่แตกถอื เป็นปัญหำสำคญั ทไ่ี ม่อำจมองขำ้ ม ยอ้ นไปดผู ลสำรวจของสำนักงำนสถติ ิ
แหง่ ชำติ เมอ่ื ปี 2548 พบวำ่ ประเทศไทยมผี ไู้ มอ่ ำ่ นหนังสอื ถงึ 22.4 ลำ้ นคน หรอื เกอื บ 40% ของประชำกรทงั้ ประเทศ
โดยสถติ คิ นไทยอำ่ นหนงั สอื เฉลย่ี ปีละ 2 เล่มเท่ำนนั้ ขณะทค่ี นสงิ คโปรอ์ ่ำนปีละ 40-50 เลม่ คนเวยี ดนำมอ่ำนปีละ 60 เล่ม
ซง่ึ มำกกวำ่ คนอเมรกิ นั ทอ่ี ่ำนปีละ 50 เลม่ และทน่ี ่ำตกใจ น่ำเป็นห่วงยงิ่ ขน้ึ กค็ อื เม่อื ดจู ำกตวั เลขกำรอำ่ นหนังสอื เป็นบรรทดั
แลว้ คนไทยอำ่ นหนงั สอื เฉลย่ี แคว่ นั ละ 6 บรรทดั

ดร. กุลยำ ก่อสวุ รรณ ผอู้ ำนวยกำรโครงกำรจดั ตงั้ สถำบนั วจิ ยั และพฒั นำผทู้ ม่ี คี วำมสำมำรถพเิ ศษและเดก็ ทม่ี คี วำมสำมำรถพเิ ศษ
แหง่ ชำติ มศว. บอกวำ่ อกี สำเหตุของกำรไม่ชอบอำ่ นหนังสอื อ่ำนน้อย อ่ำนไมอ่ อก อำ่ นไมแ่ ตก หรอื เขยี นหนงั สอื ไม่ได้ สว่ นหน่งึ เป็นเดก็
แอลดี (Learning Disability) ซง่ึ เป็นกล่มุ เดยี วกบั เดก็ ออทสิ ตกิ บกพร่องทำงสตปิ ัญญำ บกพรอ่ งทำงสำยตำ บกพรอ่ งทำงกำรไดย้ นิ ฯลฯ เดก็
กลุ่มน้ไี ม่ใชเ่ ดก็ ปัญญำออ่ น ไอควิ ปกติ แตบ่ กพรอ่ งอยู่
2 เร่อื ง คอื กำรอ่ำน-เขยี น และคณติ ศำสตร์ ซง่ึ 80% จะอำ่ นตะกุกตะกกั อ่ำนขำ้ มคำ อ่ำนจบั ใจควำมไม่ได้ พบมำกในเดก็ ป.2-ป.4

เดก็ แอลดอี ย่ปู ระมำณ 5-10% ของประชำกรในวยั เรยี นทวั่ โลก และ 80% จะมคี วำมบกพรอ่ งเรอ่ื งกำรอ่ำน โดยอำจ จะมำจำกสำเหตุ
หลกั ๆ เชน่ จำกกำรทพ่ี ่อแมไ่ ม่สนใจสงั เกตกำรเรยี นของลกู จำกกำรทบทวนบทเรยี นดว้ ยกำรใชส้ อ่ื ใหม่อย่ำงวดิ โี อ คอมพวิ เตอรม์ ำกเกนิ ไป
รวมถงึ จำกกำรอำ่ นในใจกอ็ ำจจะเป็นสำเหตุใหอ้ ่ำนหนังสอื ตะกุกตะกกั ได้ เวลำตอ้ งออกเสยี ง กบั ปัญหำในเรอ่ื งน้ี ครกู ต็ อ้ งทำงำนหนกั มำกขน้ึ
อย่ำงไรกด็ ี ปัญหำน้เี ป็นปัญหำทท่ี งั้ สถำบนั ครอบครวั สถำบนั กำรศกึ ษำและผเู้ ชย่ี วชำญตอ้ งชว่ ยกนั แกไ้ ข ซง่ึ เดก็ ไทยยคุ ปัจจุบนั โดยทัว่ ไปก็
ไม่คอ่ ยชอบอ่ำนหนังสอื อย่แู ลว้
อกี ทงั้ ยงั มกี ล่มุ เดก็ แอลดอี กี ปัญหำเดก็ ไทยอ่ำนหนงั สอื ไมอ่ อก-ไมค่ ลอ่ งกย็ งิ่ น่ำเป็นห่วงมำกขน้ึ

ท่ีมา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=235488

สาธารณสขุ ไทยกกั ตวั หนุ่มโปแลนดส์ อบสวนอีโบลา พบไขส้ งู หลงั กลบั จากคองโก

นำยแพทยส์ พุ รรณ ศรธี รรมมำ อธบิ ดกี รมกำรแพทย์ เปิดเผยวำ่ ไดร้ บั ตวั ชำยชำวโปแลนด์ อำยุ 33 ปี เขำ้ ดอู ำกำรท่ี
โรงพยำบำลเลดิ สนิ เน่อื งจำกมปี ระวตั เิ ดนิ ทำงกลบั จำกพน้ื ทร่ี ะบำดของเชอ้ื ไวรสั อโี บลำและพบว่ำมไี ขส้ งู จงึ ไดน้ ำตวั ไป
เฝ้ำระวงั ตงั้ แต่เชำ้ ตอนน้ไี ขล้ ดลงแลว้ ชำยชำวโปแลนดค์ นน้เี ดนิ ทำงมำจำกคองโก ตงั้ แตว่ นั ท่ี 24 ตุลำคมทผ่ี ำ่ นมำ
ตอนน้นี ำส่งดอู ำกำรทโ่ี รงพยำบำลเลดิ สนิ และไดก้ นั พน้ื ทส่ี ่วนเฝ้ำระวงั ผตู้ อ้ งสงสยั แยกตวั อยใู่ นหอ้ งปลอดเชอ้ื และ
แยกออกจำกผปู้ ่วยทวั่ ไป ญำตแิ ละผปู้ ่วยคนอ่นื ๆ จะไม่ไดร้ บั ผลกระทบ

ไทยยงั ไมพ่ บผปู้ ่วยดว้ ยโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั อโี บลำ แตก่ ระทรวงสำธำรณสขุ เตรยี มโรงพยำบำลรองรบั ไดแ้ ก่ สถำบนั
บำรำศนรำดรู โรงพยำบำลรำชวถิ ี โรงพยำบำลนพรตั นรำชธำนี สถำบนั สขุ ภำพเดก็ แหง่ ชำตมิ หำรำชนิ ี โรงพยำบำล
เลดิ สนิ และโรงพยำบำลศูนยใ์ นสว่ นภมู ภิ ำค

ท่ีมา : http://news.ch7.com/detail/93259/กกั ตวั หนุ่มโปแลนดส์ อบสวนอโี บลำ.html

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

บมุ๋ โย แฉกลบั หลงั ผดู้ แู ลเผยไมเ่ คยบอกหมาปัก๊ ถกู ชาเรา

จำกกรณีทส่ี งั คมออนไลน์มกี ำรแชร์ขำ่ วสุนัขพนั ธปุ์ ัก๊ ชอ่ื “น้ำทพิ ย”์ ถูกคนทำรุณและกระทำชำเรำจนป่วยตดิ เชอ้ื ภำยในและเสยี ชวี ติ เม่อื
วนั ท่ี 30 ต.ค. ทผ่ี ำ่ นมำ ตอ่ มำชำวเนต็ ไดม้ กี ำรตงั้ ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั ผรู้ บั อปุ กำระน้องน้ำทพิ ย์ สนุ ขั สำยพนั ธปุ์ ัก๊ วำ่ อำจกเุ รอ่ื งสุนขั ถูกคนใจ
ทรำมขม่ ขนื เรยี กควำมสงสำรและเงนิ บรจิ ำคจำกประชำชนผ่ำนเฟซบุ๊กหรอื ไม่ โดยมกี ำรออกมำแฉวำ่ สุนัขน้ำทพิ ยไ์ ม่ไดถ้ ูกใครขม่ ขนื แต่ป่วย
ท่อปัสสำวะตดิ เชอ้ื ตำมทม่ี กี ำรเสนอขำ่ วไปแลว้ นนั้

วำนน้ี (1 พ.ย.) คณุ ชตุ กิ ำญจน์ ทรพั ยศ์ ภุ ธำดำ เจำ้ ของเฟซบุ๊ก “น้องเมรี เมรี ลนั้ ลำ” ผอู้ ุปกำระน้องน้ำทพิ ยใ์ หส้ มั ภำษณ์ผ่ำนทำง
รำยกำรปรำกฏกำรณ์ขำ่ วจรงิ ทำงสถำนีโทรทศั นส์ ปรงิ นวิ สถ์ งึ กรณีทม่ี กี ำรเสนอขำ่ วในโลกโซเชยี ลฯ เร่อื งสนุ ขั ช่อื “น้ำทพิ ย”์ ทถ่ี ูกทำรุณจน
เสยี ชวี ติ โดยยนื ยนั วำ่ ทต่ี นโพสต์ลงในเฟซบกุ๊ ของตนนนั้ มเี พยี งขอ้ ควำมวำ่ “สุนัขป่วยเป็นโรคเรอ้ื นเปียกและมนี ้ำเหลอื งไหลออกมำตำมลำตวั
และทอ่ี วยั วะเพศบวม” ซง่ึ ตนไมท่ รำบสำเหตุ แต่ไมร่ วู้ ำ่ ใครเป็นคนกอ๊ ปขอ้ ควำมของตนไปแลว้ นำไปเพมิ่ เตมิ ว่ำ “สุนขั น่ำจะถกู กระทำทำงเพศ”
พรอ้ มกนั น้ี ขอใหท้ ุกคนไดใ้ หค้ วำมเป็นธรรมกบั ตนเองดว้ ย ส่วนเรอ่ื งหมำยเลขบญั ชนี นั้ ตนกไ็ ดโ้ พสตไ์ ปแลว้ วำ่ ไม่ตอ้ งใหอ้ ะไรอกี แลว้ ทัง้
สง่ิ ของและ
เงนิ ทอง ตนจะขอเลย้ี งดสู นุ ขั ทอ่ี ยกู่ บั ตนอกี 7 ตวั โดยไมต่ อ้ งเดอื ดรอ้ นตอ่ ไปดกี วำ่

ดำ้ น บุม๋ ปนดั ดำ วงศผ์ ดู้ ี ไดโ้ พสตภ์ ำพหลกั ฐำนพรอ้ มกบั ขอ้ ควำมผ่ำนอนิ สตำแกรมว่ำ “มคี นพลกิ ลน้ิ คำ่ ำำ ดูจำกเฟซนำงเองละกนั นะ
คุณผชู้ ม อชิ นั้ เหน่อื ยกะคนแบบน้ี คดิ ไวไ้ มผ่ ดิ นำงยนื ยนั วำ่ ไม่ไดเ้ รย่ี ไร แลว้ เบอรบ์ ญั ชขี องสว่ นตวั มนั จะออกมำไดย้ งั ไง หลงั จำกหมำตำยไม่
ถงึ ครง่ึ ชวั่ โมง นำงบอกวำ่ เงนิ บรจิ ำคไปหมดแลว้ แตต่ อนน้บี อกว่ำจะคนื ให้
งงกะนำงไหมละ่ บ๋มุ คุยกบั พฟ่ี ้ำแลว้ นะคะวำ่ นำงรอ้ งห่มรอ้ งไหโ้ ทรมำบอกพฟ่ี ้ำในวนั รุ่งขน้ึ ทร่ี บั หมำไปดแู ลวำ่ หมำโดนขม่ ขนื บุ๋มและน้องๆ เก๋
โย ชญั ญำ่ โดนด่ำเละ คนอ่นื ๆ ผสมโรงกนั เมำมนั ส์ เรำเกบ็ หลกั ฐำนไวห้ มดแลว้ นะคะ ตอ่ ใหค้ ุณทำเป็นลบเฟซกอ่ นหน้ำ แต่มคี นเกบ็ หลกั ฐำน
ไวห้ มดแลว้ เหน่อื ยทะเลำะกบั คนแบบน้ี ขอเกบ็ พลงั มำช่วยคนดกี วำ่ ”

ขณะท่ี โย ยศวดี หสั ดวี จิ ติ ร กไ็ ดน้ ำหลกั ฐำนบทสนทนำทค่ี ุณเมใหเ้ ลขทบ่ี ญั ชกี บั ผใู้ จบุญรำยหน่งึ มำแสดงใหเ้ หน็ ว่ำ
มกี ำรรบั บรจิ ำคจรงิ พรอ้ มกบั ขอ้ ควำมระบุวำ่ “ในเม่อื ยงั ไงกไ็ มย่ อมพดู ควำมจรงิ และยอมรบั ในสง่ิ ทท่ี ำ คนอน่ื กม็ สี ทิ ธทิ์ จ่ี ะเปิดโปงสง่ิ ทต่ี วั ทำนะ
ใจกอ็ ยำกขอใหย้ ตุ แิ ละขออภยั จำกสงั คมซะ ในสงิ่ ทท่ี ำมำทงั้ หมดตอนน้อี ยำ่ งน้อยๆ กก็ ชู้ อ่ื ให้
น้ำทพิ ยน์ ะคะ ทท่ี ำทุกอย่ำงเพรำะสงสำร ถำ้ ไดช้ ่วยเขำจะทำใหด้ ที ส่ี ุด ชวี ติ สุดทำ้ ยกอ่ นน้องตำยดูแลว้ ทรมำนและเหน่อื ยเกนิ ไป แถมตำยแลว้
กย็ งั มวั หมองอกี โยไดค้ ุยกบั คุณหมอทเ่ี มรอี ำ้ งและไดร้ บั กำรยนื ยนั อย่ำงชดั เจนเป็นขอ้ ควำมวำ่
ไดต้ รวจหมำทเ่ี มรนี ำมำใหต้ รวจจรงิ และยนื ยนั ว่ำไมไ่ ดว้ นิ ิจฉยั วำ่ โดนชำเรำอย่ำงแน่นอน

ท่ีมา : http://news.sanook.com/1692605/บุ๋ม-โย-แฉกลบั -หลงั ผดู้ แู ลเผยไมเ่ คยบอกหมำปัก๊ ถกู ชำเรำ/

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 การเขา้ รว่ มกิจกรรมของ 1 ชวั่ โมง
โรงเรียนและร้ทู นั ข่าวสาร

1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 7 มสี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจในกจิ กรรมต่ำงๆ
และรทู้ นั ขำ่ วสำร
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) มสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจเขำ้ ร่วมกจิ กรรมตำ่ งๆ ของโรงเรยี นและรทู้ นั ขำ่ วสำรได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรดำเนินชวี ติ ในระบอบประชำธปิ ไตยจะตอ้ งรจู้ กั ตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนกำรตดั สนิ ใจเขำ้ รว่ มกจิ กรรมตำ่ งๆ
รทู้ นั ขำ่ วสำร และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรมสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี น และโรงเรยี น
2. กำรตรวจสอบขอ้ มลู
3. กำรรทู้ นั ขำ่ วสำร
4. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรใหเ้ หตผุ ล
2) ทกั ษะกำรประเมนิ

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครขู ออำสำสมคั รนกั เรยี น 2-3 คน เล่ำประสบกำรณ์ของตนเองเกย่ี วกบั กำรตดั สนิ ใจเขำ้ รว่ มกจิ กรรม
ต่ำงๆ ของโรงเรยี นใหเ้ พอ่ื นฟังหน้ำชนั้ เรยี นตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั เรยี นเคยตดั สนิ ใจเขำ้ ร่วมกจิ กรรมอะไรบำ้ ง
2) นกั เรยี นมวี ธิ คี ดิ กอ่ นตดั สนิ ใจอย่ำงไร
3) นกั เรยี นมวี ธิ กี ำรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นตดั สนิ ใจอย่ำงไร

2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจถงึ ควำมสำคญั ของกำรตรวจสอบขอ้ มลู เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจ
3. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ถงึ ประโยชน์ของกำรตรวจสอบขอ้ มลู เช่น

- ไดร้ บั ขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง เพอ่ื นำมำใชใ้ นกำรจดั กจิ กรรมต่ำงๆ
- ช่วยสรำ้ งองคค์ วำมรแู้ ละพฒั นำปัญญำ
4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) นำเสนอผลงำนกำรจดั นิทรรศกำรวชิ ำกำรใน
วนั ปิดภำคเรยี นเร่อื ง กำ้ วสปู่ ระชำคมอำเซยี น จำกนนั้ ใหส้ มำชกิ กลุ่มอน่ื ผลดั กนั ชมนิทรรศกำร
แลว้ ชมเชยและประเมนิ ผลงำน โดยนกั เรยี นจะตอ้ งพจิ ำรณำถงึ สำระสำคญั ควำมถูกตอ้ ง และควำม
ทนั สมยั ของขอ้ มลู
5. ครปู ระเมนิ ผลงำนกำรจดั นทิ รรศกำรของนกั เรยี นแต่ละกลุม่ แลว้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ
6. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปแนวทำงกำรตดั สนิ ใจเขำ้ รว่ มกจิ กรรมต่ำงๆ โดยมกี ำรตรวจสอบขอ้ มลู
และรทู้ นั ขำ่ วสำร
7. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนบนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตยลงในสมุดบนั ทกึ
กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื ง
2) ควำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม
3) กำรเป็นผนู้ ำและกำรเป็นสมำชกิ ทด่ี ขี องสงั คม
4) กำรมสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น
5) กำรตรวจสอบขอ้ มลู และกำรรทู้ นั ขำ่ วสำร
แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

8. นกั เรยี นแต่ละคนวำงแผนทำควำมดี และบนั ทกึ ผลลงในกจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ เยำวชนไทยในศตวรรษท่ี 21
จำกนนั้ ฝึกปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตยตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด แลว้ บนั ทกึ ลงใน
กจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ ควำมเป็นพลเมอื งดี จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น

9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั นดั หมำยระยะเวลำสง่ ผลงำน
10. นกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 3

• ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย แลว้ บนั ทึก
ผลการปฏิบตั ิ เสรจ็ แล้วนาส่งครตู ามกาหนดเวลา โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) การปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตยเกยี่ วกบั การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมต่างๆ
ของสงั คมและการตดั สนิ ใจโดยใชเ้ หตผุ ล
2) การมสี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ และตรวจสอบขอ้ มลู เพอื่ ใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจ
ในกจิ กรรมตา่ งๆ
3) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การใฝ่หาความรู้
4) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้าที่
5) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 3 รอ้ ยละ 60 ผ่ำนเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ แบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
และม่งุ มนั ่ ในกำรทำงำน เป็นพลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตย

สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

ตรวจแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 3

ตรวจแบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี
ในระบอบประชำธปิ ไตย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ

8 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2

8.2 แหล่งการเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตนเป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตย

ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นระบอบ

1 ประชำธปิ ไตยเกย่ี วกบั กำรมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม

ต่ำงๆ ของสงั คมและกำรตดั สนิ ใจโดยใชเ้ หตผุ ล

กำรมสี ว่ นร่วมและรบั ผดิ ชอบในกำรตดั สนิ ใจ

2 และตรวจสอบขอ้ มลู เพอ่ื ใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจ

ในกจิ กรรมตำ่ งๆ

3 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้

4 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ
หน้ำท่ี

5 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ
จำกกำรกระทำของตนเอง

รวม

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม

 ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อุปสรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำนของนกั เรยี นตำมรำยกำรทก่ี ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 ควำมถกู ตอ้ งของเน้อื หำ
2 ควำมคดิ สรำ้ งสรรค์
3 วธิ กี ำรนำเสนอผลงำน
4 กำรนำไปใชป้ ระโยชน์
5 กำรตรงตอ่ เวลำ

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่ำ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล

ชอ่ื ชนั้

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 กำรแสดงควำมคดิ เหน็
2 กำรยอมรบั ฟังควำมคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื
3 กำรทำงำนตำมหน้ำทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
4 ควำมมนี ้ำใจ
5 กำรตรงตอ่ เวลำ

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกว่ำ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ท่ี ของผ้รู บั การประเมิน ความคิดเหน็ ฟังคนอื่น ตามท่ีได้รบั ส่วนรว่ มใน 20
มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลุ่ม

43214321432143214321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะสาคญั รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ของผเู้ รยี น 4321
1.1 ใชภ้ ำษำถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ
1. ความสามารถ และทศั นะของตนเองดว้ ยกำรพดู และกำรเขยี น
ในการสื่อสาร
1.2 พดู เจรจำต่อรอง

1.3 เลอื กรบั หรอื ไม่รบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำร

1.4 เลอื กใชว้ ธิ กี ำรส่อื สำร

2. ความสามารถ 2.1 คดิ พน้ื ฐำน (กำรคดิ วเิ ครำะห)์
ในการคิด 2.2 คดิ ขนั้ สงู (กำรคดิ สงั เครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ)

3. ความสามารถ 3.1 ใชก้ ระบวนกำรแกป้ ัญหำโดยวเิ ครำะหป์ ัญหำ วำงแผนในกำรแกป้ ัญหำ
ในการแก้ปัญหา ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ ตรวจสอบ และสรุปผล

3.2 ผลลพั ธข์ องกำรแกป้ ัญหำ

4. ความสามารถ 4.1 นำกระบวนกำรเรยี นรทู้ ห่ี ลำกหลำยไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ในการใช้ 4.2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและเรยี นรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื ง
ทกั ษะชีวิต 4.3 ทำงำนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ

4.4 จดั กำรกบั ปัญหำและควำมขดั แยง้ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ ง
เหมำะสม

4.5 ปรบั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม

4.6 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื

5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นำตนเองและสงั คม
ในการใช้เทคโนโลยี 5.2 มที กั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ

............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
54 - 64 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
43 - 53 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
32 - 42 พอใช้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
ให้ 1 คะแนน ต่ำกวำ่ 32 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชำติ รอ้ งเพลงชำตไิ ด้ และอธบิ ำยควำมหมำยของ
เพลงชำติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตำมสทิ ธแิ ละหน้ำทข่ี องนักเรยี น
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต
1.3 ใหค้ วำมรว่ มมอื รว่ มใจ ในกำรทำงำนกบั สมำชกิ ในโรงเรยี น
3. มวี ินัย
รบั ผิดชอบ 1.4 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทส่ี รำ้ งควำมสำมคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน
4. ใฝ่ เรยี นรู้
1.5 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงศำสนำทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ของศำสนำ
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
1.6 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถำบนั
พระมหำกษตั รยิ ต์ ำมทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอำย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำควำมผดิ ทำตำม
สญั ญำทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยควำมซอ่ื ตรง ไมห่ ำประโยชน์ในทำงทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง

3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลำในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
และรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน

4.1 แสวงหำขอ้ มลู จำกแหล่งกำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ

4.2 มกี ำรจดบนั ทกึ ควำมรอู้ ยำ่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ควำมรไู้ ดอ้ ย่ำงมเี หตุผล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ
และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี และใชเ้ วลำอยำ่ งเหมำะสม

5.2 ใชท้ รพั ยำกรของส่วนรวมอยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยควำมรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอำเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทำผดิ พลำด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321

5.5 วำงแผนกำรเรยี น กำรทำงำนและกำรใชช้ วี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐำนของ
ควำมรู้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำร

5.6 รเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม และสภำพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ
ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข

6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วำมตงั้ ใจและพยำยำมในกำรทำงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
ทางาน 6.2 มคี วำมอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ ำนสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในกำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำไทย

7.2 เหน็ คุณค่ำและปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรมไทย

8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงำน

8.2 อำสำทำงำน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื

8.3 ดแู ล รกั ษำทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน

8.4 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสำธำรณประโยชน์ของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้

ต่ำกว่ำ 54 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน ค่านิ ยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ

คาชี้แจง : ให้ นักเรียน ประเมนิ ตนเองในระหว่ำงเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องค่ำนยิ มทน่ี ำไปใช้ และบอกเหตุผล
วำ่ นำไปใชอ้ ยำ่ งไร

ช่อื ชนั้ เลขท่ี

ข้อที่ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ค่านิ ยมท่ีนาไปใช้ นาไปใช้อย่างไร

1 มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์

2 ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม

3 กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู ำจำรย์

4 ใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

5 รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม

6 มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปัน

7 เขำ้ ใจเรยี นรกู้ ำรเป็นประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง

8 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคำรพกฎหมำย เคำรพผใู้ หญ่

9 มสี ติ รตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั
ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั

10 รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั

11 มคี วำมเขม้ แขง็ ทงั้ รำ่ งกำยและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อำนำจ
ฝ่ำยต่ำหรอื กเิ ลส มคี วำมละอำย เกรงกลวั ต่อบำปตำมหลกั
ศำสนำ

12 คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและของชำตมิ ำกกว่ำ
ผลประโยชน์ของตนเอง

แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตำแหน่ง

นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมผลกำรเรยี นรขู้ องหน่วยกำรเรยี นรตู้ อ่ ไปน้ี ข้อ 6-7, 10

 ดำ้ นควำมรู้

(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้

 ระดบั คณุ ภำพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คณุ ภำพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภำพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ระดบั คุณภำพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ปัญหำ/อปุ สรรค

 แนวทำงกำรแกไ้ ข

แบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว

1. ถำ้ ตอ้ งกำรป้องกนั ปัญหำยำเสพตดิ ในโรงเรยี น เรำควร 6. ขอ้ มลู จำกแหลง่ ใดมคี วำมน่ำเชอ่ื ถอื มำกทส่ี ุด ในกำรนำมำ

สง่ เสรมิ ใหเ้ พอ่ื นนกั เรยี นปฏบิ ตั อิ ยำ่ งไร ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ก่อนตดั สนิ ใจเช่อื

ก. ชกั ชวนใหร้ ่วมแขง่ กฬี ำสี ก. อนิ เทอรเ์ น็ต ข. หนังสอื พมิ พ์

ข. แนะนำไมใ่ หค้ บเพ่อื นเกเร ค. กลอ้ งวงจรปิด ง. สถำนีโทรทศั น์

ค. แนะนำใหก้ ลบั บำ้ นทนั ทหี ลงั เลกิ เรยี น 7. กำรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นตดั สนิ ใจเชอ่ื จะไดร้ บั ประโยชน์

ง. สนับสนุนใหย้ ดึ มนั ่ ในคำสอนทำงศำสนำ อย่ำงไร

2. กำรกระทำของบคุ คลใดควรถอื เป็นแบบอย่ำงในกำร ก. ฝึกนสิ ยั ควำมซอ่ื สตั ย์

ตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งอยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ ข. ห่ำงไกลจำกอบำยมขุ

ก. อน้ แชรข์ ำ่ วไวรสั อโี บลำใหเ้ พ่อื นสนิทผ่ำนเฟซบุก๊ ค. ไดร้ บั คำชมเชยจำกสงั คม

ข. อำรม์ นำขำ่ วไวรสั อโี บลำมำวเิ ครำะหเ์ พอ่ื หำขอ้ เทจ็ จรงิ ง. ไมต่ กเป็นเหยอ่ื ของมจิ ฉำชพี

ค. แอมไปซ้อื ยำตำ้ นไวรสั หลงั จำกอ่ำนขำ่ วไวรสั อโี บลำ 8. โรงเรยี นจะจดั กจิ กรรมทำควำมสะอำด (Big Cleaning

ในหนังสอื พมิ พ์ Day) นกั เรยี นสำมำรถเขำ้ ไปมสี ว่ นร่วมไดอ้ ย่ำงไร

ง. อมุ้ ตดิ ตำมรำยกำรขำ่ วทำงโทรทศั น์ทต่ี นเองชน่ื ชอบ ก. เชญิ ชวนเพ่อื นต่ำงโรงเรยี นมำรว่ มกจิ กรรม

เป็นประจำทกุ วนั ข. จดั ทำป้ำยประชำสมั พนั ธร์ ณรงคป์ ลูกตน้ ไม้

3. ในกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง ขอ้ ใดควรปฏบิ ตั มิ ำกทส่ี ุด ค. ร่วมกบั สมำชกิ ในหอ้ งเรยี นเกบ็ ขยะรอบโรงเรยี น

ก. ซอ้ื หนังสอื พมิ พม์ ำอำ่ นเป็นประจำทุกวนั ง. จดรำยช่อื เพ่อื นทไ่ี มท่ ง้ิ ขยะลงถงั สง่ ครฝู ่ำยปกครอง

ข. ตดิ ตำมขำ่ วสำรทำงโทรทศั น์เพยี งอยำ่ งเดยี ว 9. ถำ้ ตอ้ งกำรทรำบขอ้ มลู เกย่ี วกบั นโยบำยทำงดำ้ น

ค. ตรวจสอบขำ่ วสำรทส่ี นใจจำกแหลง่ ขำ่ วทห่ี ลำกหลำย กำรศกึ ษำของชำติ ควรสบื คน้ จำกแหล่งขอ้ มลู ใด

ง. นำขำ่ วทถ่ี ูกแชรผ์ ่ำนทำงเฟซบกุ๊ มำเลำ่ ใหค้ นใน ก. http://pantip.com

ครอบครวั ฟัง ข. http://www.moe.go.th

4. ผนู้ ำและสมำชกิ ทด่ี ใี นสงั คมประชำธปิ ไตยควรปฏบิ ตั ติ น ค. http://th.wikipedia.org

อย่ำงไร ง. http://www.culture.go.th

ก. เคำรพสทิ ธขิ องผอู้ น่ื 10. ถำ้ นักเรยี นเตะลูกฟุตบอลไปถูกกระจกหน้ำต่ำง

ข. ตอ่ ตำ้ นคนทค่ี ดิ ตำ่ งจำกเรำ หอ้ งพกั ครแู ตก นกั เรยี นควรปฏบิ ตั อิ ยำ่ งไร

ค. เขำ้ ร่วมชุมนุมทำงกำรเมอื ง ก. เกบ็ เรอ่ื งน้เี ป็นควำมลบั

ง. ยดึ มนั ่ ในควำมคดิ ของตนเอง ข. ใหเ้ หตุผลกบั ครวู ำ่ เพอ่ื นเป็นคนทำ

5. ถำ้ พบผขู้ บั รถเรว็ กว่ำทก่ี ฎหมำยกำหนด เรำควรทำ ค. สงั ่ เพ่อื นไมใ่ หบ้ อกใครวำ่ ตนเป็นคนทำ

อย่ำงไร ง. เขำ้ ไปสำรภำพผดิ กบั ครู พรอ้ มกล่ำวขอโทษ

ก. วำงเฉย ข. เขำ้ ไปตกั เตอื น ผลการเรยี นรู้ ขอ้ 6-7,10
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
ค. แจง้ ตำรวจจรำจร ง. แจง้ กรมทำงหลวง

10

เฉลย

1. ง 2. ข 3. ค 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ค 9. ข 10. ง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 ความหลากหลายทางสงั คม 1 ชวั่ โมง
วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชีย

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 8 เหน็ คณุ คำ่ ของกำรอย่รู ว่ มกนั ในภูมภิ ำคเอเชยี อย่ำงสนั ติ และพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) เปรยี บเทยี บควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำก

กำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ภมู ภิ ำคเอเชยี มคี วำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรม ในเรอ่ื ง วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศำสนำ และสงิ่ แวดล้อม
จงึ ควรรว่ มกนั ศกึ ษำขอ้ มลู และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรียนรู้

1. ควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ในเรอ่ื ง วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศำสนำ สงิ่ แวดลอ้ ม
2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบตั รภำพสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพของภมู ภิ ำคเอเชยี เช่น

1) ภูเขำ 2) เรอื ประมง 3) ทร่ี ำบลุ่ม

4) ตกึ สงู 5) ทะเลทรำย 6) ชำยทะเล

2. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี

1) กำรดำเนินชวี ติ ของประชำกรในภูมภิ ำคเอเชยี มลี กั ษณะอยำ่ งไร จงอธบิ ำย

2) ถำ้ ใหน้ กั เรยี นไปท่องเทย่ี วตำมสถำนทใ่ี นภำพ นกั เรยี นจะเลอื กไปสถำนทใ่ี ด จงอธบิ ำยเหตผุ ล

3. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจว่ำ กำรดำเนินชวี ติ ของประชำกรในภูมภิ ำคเอเชยี มคี วำมแตกต่ำงกนั

เน่อื งจำกมปี ัจจยั สำคญั เก่ยี วกบั วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศำสนำ และสง่ิ แวดลอ้ มทแ่ี ตกตำ่ งกนั

4. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 8 คน ตำมควำมสมคั รใจ จำกนนั้ เลอื กผนู้ ำกลุ่ม แลว้ จบั ค่กู นั แบ่งหน้ำท่ี

ควำมรบั ผดิ ชอบในกำรสบื คน้ ขอ้ มลู เรอ่ื ง ควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี

จำกหนงั สอื กจิ กรรม หอ้ งสมุด หรอื แหล่งขอ้ มลู สำรสนเทศ ตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี

1) คทู่ ่ี 1 สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ควำมหลำกหลำยทำงดำ้ นวถิ ชี วี ติ

2) คทู่ ่ี 2 สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ควำมหลำกหลำยทำงดำ้ นวฒั นธรรม

3) คทู่ ่ี 3 สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ควำมหลำกหลำยทำงดำ้ นศำสนำ

4) คทู่ ่ี 4 สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ควำมหลำกหลำยทำงดำ้ นสง่ิ แวดลอ้ ม

5. สมำชกิ แต่ละค่รู ว่ มกนั สบื คน้ ขอ้ มลู ในหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมำยตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี

1) สภำพทวั่ ไปทค่ี ลำ้ ยคลงึ กนั ในแตล่ ะประเทศ

2) ควำมแตกตำ่ งกนั ในแต่ละประเทศ

6. สมำชกิ แตล่ ะค่นู ำขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ มำอภปิ รำยร่วมกนั ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด แลว้ เลำ่ ใหส้ มำชกิ

คนอน่ื ในกลุ่มฟัง เพอ่ื สรปุ เป็นองคค์ วำมรปู้ ระจำกลมุ่

7. ตวั แทนแต่ละกลุ่มนำเสนอองคค์ วำมรขู้ องกลุ่มตนเองหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและ

เสนอแนะเพมิ่ เตมิ

8. นกั เรยี นแตล่ ะคนดูภำพกำรแต่งกำยของชำตติ ่ำงๆ และตอบคำถำม จำกนนั้ อำ่ นบทสนทนำและตอบ

คำถำม แลว้ ดภู ำพสถำนทแ่ี ละวเิ ครำะหค์ วำมเป็นเอกลกั ษณ์ในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื

กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) บตั รภำพ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ

- http://www.oknation.net/blog/print.php?id=118349
- http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-4/society_and_culture/04.html

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

บตั รภาพ



ภาพภเู ขา ภาพเรอื ประมง

ภาพที่ราบลุม่ ภาพตึกสงู

ภาพทะเลทราย ภาพชายทะเล

ท่ีมา : ภำพท่ี 1 http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/19/10019/images/yai4.jpg
1 2 ภำพท่ี 2 http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/879/22879/images/f2.jpg
3 4 ภำพท่ี 3 http://www.isra.or.th/childrights/upload/CampusNews/thumbnail/776-7636.jpg
5 6 ภำพท่ี 4 http://sv6.postjung.com/wb/data/642/642959-img-1353487937-2.jpg

ภำพท่ี 5 http://www.isra.or.th/childrights/upload/CampusNews/thumbnail/776-7636.jpg
ภำพท่ี 6 http://sv6.postjung.com/wb/data/642/642959-img-1353487937-2.jpg

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 ความสาคญั ของความ 1 ชวั่ โมง
หลากหลายทางสงั คม
วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชีย

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 8 เหน็ คณุ คำ่ ของกำรอย่รู ว่ มกนั ในภมู ภิ ำคเอเชยี อย่ำงสนั ติ และพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั ของควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำก

กำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี มคี วำมสำคญั ตอ่ กำรอย่รู ว่ มกนั ของประชำชน
ซง่ึ ทุกคนควรศกึ ษำขอ้ มลู และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรียนรู้

1. ควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ในเร่อื ง วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศำสนำ สง่ิ แวดลอ้ ม
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบตั รภำพชุดวฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ดงั น้ี
1) กำรแตง่ กำย
2) สถำปัตยกรรม
3) อำหำรยอดนิยม
4) พธิ กี รรมทำงศำสนำ

2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ ครำะหบ์ ตั รภำพทลี ะชุด แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ภำพชุดน้ีมคี ุณค่ำตอ่ วถิ กี ำรดำเนินชวี ติ ของชำวเอเชยี อย่ำงไร
2) เพรำะเหตุใด ภำพในชุดเดยี วกนั จงึ มคี วำมแตกต่ำงกนั
3) นกั เรยี นช่นื ชอบภำพใด จงอธบิ ำยเหตผุ ล

3. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ในหวั ขอ้ ควำมสำคญั ของ
กำรอย่รู ว่ มกนั ในภูมภิ ำคเอเชยี แลว้ นำเสนอในรปู แบบทห่ี ลำกหลำย เช่น เรยี งควำม บทกลอน
บทเพลง และผงั มโนทศั น์ เป็นตน้

4. นกั เรยี นกลมุ่ อน่ื ผลดั กนั แสดงควำมคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
5. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำใบกิจกรรมที่ 4.1 เร่ือง ความสาคญั ของความหลากหลายทางสงั คม

วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชีย เสรจ็ แลว้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ
6. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั อภปิ รำยสรปุ ควำมสำคญั ของควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมทม่ี ตี อ่

วถิ กี ำรดำเนินชวี ติ ของคนในภมู ภิ ำคเอเชยี
7. ครตู รวจสอบควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจของนกั เรยี นจำกกำรนำเสนอควำมคดิ เหน็ ในหวั ขอ้ ควำมสำคญั ของ

กำรอย่รู ว่ มกนั ในภูมภิ ำคเอเชยี และกำรทำใบกจิ กรรมท่ี 4.1
8. นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่ำนกรณศี กึ ษำและตอบคำถำม พรอ้ มทงั้ บอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นลงในกจิ กรรม

นำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 จำกนนั้ สำรวจตนเองและตอบคำถำมลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2
จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์

วิธีการ ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผ่ำนเกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 4.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 12 ประกำร
และมุง่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) บตั รภำพ
3) ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 เรอ่ื ง ควำมสำคญั ของควำมหลำกหลำยทำงสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี

8.2 แหล่งการเรยี นรู้

1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ

- http://www.oknation.net/blog/print.php?id=118349
- http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-4/society_and_culture/04.html

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์ 

บตั รภาพ

ภาพการแต่งกายของจนี ภาพการแต่งกายของอินเดีย ภาพการแต่งกายของญ่ีป่ นุ

ภาพการแต่งกายของไทย ภาพการแต่งกายของเกาหลี ภาพการแต่งกายของเวยี ดนาม

ท่ีมา : ภำพท่ี 1 http://www.bigzommer.com/product/2573/ชุดกเ่ี พำ้ ยำว-ลำยหงส-์ มงั กร-สที อง-s-6xl
ภำพท่ี 2 http://www.adssell.net/tag-ชุดอนิ เดยี .html
123 ภำพท่ี 3 http://item.rakuten.co.jp/isyou-nb/furisode91-2/
456 ภำพท่ี 4 http://www.2bbride.com/weddinglibrary/weddinglibrary_expert_front/detail_view/57
ภำพท่ี 5 http://pantip.com/topic/30717156
ภำพท่ี 6 http://picpost.postjung.com/248773.html

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์



ภาพอาหารของอิหรา่ น ภาพอาหารของเกาหลี

ภาพอาหารของพมา่ ภาพอาหารของบรไู น

ภาพอาหารของสิงคโปร์ ภาพอาหารของกมั พชู า

ที่มา : ภำพท่ี 1 http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/19/10019/images/yai4.jpg
1 2 ภำพท่ี 2 http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/879/22879/images/f2.jpg
3 4 ภำพท่ี 3 http://www.isra.or.th/childrights/upload/CampusNews/thumbnail/776-7636.jpg
5 6 ภำพท่ี 4 http://sv6.postjung.com/wb/data/642/642959-img-1353487937-2.jpg

ภำพท่ี 5 http://www.isra.or.th/childrights/upload/CampusNews/thumbnail/776-7636.jpg
ภำพท่ี 6 http://sv6.postjung.com/wb/data/642/642959-img-1353487937-2.jpg


Click to View FlipBook Version