หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
เอกสารประกอบการสอน
แบบบนั ทึกพฤติกรรมท่ีเป็นแบบอยา่ งและแนะนาผอู้ ่ืนให้ยดึ มนั ่ ในศาสนา
วนั /เดอื น/ปี รายการปฏิบตั ิ ผลที่ไดร้ บั วิธีการแนะนาผอู้ ่ืน ปัญหา/อปุ สรรค
และการแก้ไข
สรปุ กำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั กล่ำวมผี ลดตี ่อตนเอง สงั คม และประเทศชำติ ดงั น้ี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตริย์
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6 สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 1 ชวั่ โมง
1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 4 เป็นแบบอย่ำงและแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั ของสถำบนั พระมหำกษตั รยิ ท์ ม่ี ตี ่อประเทศไทยได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
สถำบนั พระมหำกษตั รยิ เ์ ป็นศูนยร์ วมจติ ใจของปวงชนชำวไทย มคี วำมสำคญั ตอ่ ควำมมนั่ คงของประเทศ
และวถิ กี ำรดำเนนิ ชวี ติ ของชำวไทย ดงั นนั้ ชำวไทยทุกคนพงึ ตระหนกั ถงึ ควำมสำคญั และแสดงควำมกตญั ญู
ดว้ ยกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
3 สาระการเรยี นรู้
1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบตั รภำพพระรำชกรณียกจิ ของรชั กำลท่ี 9 และพระบรมวงศำนุวงศ์ เชน่ กำรทำนุบำรุง
ศำสนำ กำรแพทยแ์ ละสำธำรณสุข กำรพฒั นำอำชพี เกษตรกรรม และกำรจดั กำรทรพั ยำกรธรรมชำติ
เป็นตน้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ วำ่ ภำพดงั กลำ่ วสง่ ผลดตี ่อกำรพฒั นำชำตไิ ทย
อยำ่ งไร
2. นกั เรยี นแตล่ ะคนดภู ำพ จำกนนั้ ตอบคำถำมลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้
ครสู ุม่ ตวั แทนนกั เรยี น 1 คน นำเสนอคำตอบหน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหเ้ พอ่ื นทม่ี คี ำตอบทแ่ี ตกต่ำงกนั
ออกไปนำเสนอเพมิ่ เตมิ ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
3. สมำชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) สบื คน้ ขำ่ วเกย่ี วกบั พระรำชกรณียกจิ
ของรชั กำลท่ี 9 ทน่ี กั เรยี นประทบั ใจ คนละ 1 เร่อื ง
ขา่ วเกี่ยวกบั พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช
โครงกำรแกลง้ ดนิ เป็นแนวพระรำชดำรขิ องพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ล
อดุลยเดช เกย่ี วกบั กำรแก้ปัญหำดนิ เปรย้ี วหรอื ดนิ เป็นกรด โดยมกี ำรขงั น้ำจนกระทงั่
เกดิ ปฏกิ ริ ยิ ำเคมที ำใหด้ นิ เปรย้ี วจดั จนถงึ ทส่ี ดุ แลว้ จงึ ระบำยน้ำออกและปรบั สภำพฟ้ืนฟดู นิ ดว้ ย
ปนู ขำว จนกระทงั่ ดนิ มสี ภำพพอทจ่ี ะเพำะปลูกได้
โดยพระองคไ์ ดเ้ สดจ็ เยย่ี มรำษฎรในเขตจงั หวดั นรำธวิ ำส เม่อื พ.ศ. 2524 ทรงพบว่ำ ดนิ ใน
พน้ื ทพ่ี รุทม่ี กี ำรชกั น้ำออกเพอ่ื จะนำทด่ี นิ มำใชท้ ำกำรเกษตรนนั้ แปรสภำพเป็นดนิ เปรย้ี วจดั
ทำใหเ้ พำะปลกู ไม่ไดผ้ ล จงึ มพี ระรำชดำรใิ หส้ ว่ นรำชกำรตำ่ งๆ พจิ ำรณำหำแนวทำงในกำร
ปรบั ปรงุ พน้ื ทพ่ี รทุ ม่ี นี ้ำแช่ขงั ตลอดปีใหเ้ กดิ ประโยชน์ในทำงกำรเกษตรมำกทส่ี ดุ และใหค้ ำนงึ ถงึ
ผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ดว้ ย
ท่ีมา : http://km.rdpb.go.th/Content/uploads/files/แกลง้ ดนิ (1).pdf
4. สมำชกิ แต่ละคนในกลมุ่ ผลดั กนั เลำ่ สำระสำคญั ของขำ่ วเกย่ี วกบั พระรำชกรณียกจิ ของรชั กำลท่ี 9 ให้
เพอ่ื นในกล่มุ ฟังว่ำ มผี ลดตี ่อสงั คม สภำพควำมเป็นอย่ขู องประชำชนชำวไทย และกำรพฒั นำประเทศ
อยำ่ งไร แลว้ รว่ มกนั สรปุ สำระสำคญั เป็นผลงำนของกลุ่ม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
5. ตวั แทนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น ครเู สนอแนะเพม่ิ เตมิ และเน้นย้ำใหน้ กั เรยี นตระหนกั
ถงึ ควำมสำคญั ของสถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
6. นกั เรยี นรว่ มกนั คดิ คำขวญั หรอื ขอ้ ควำมทแ่ี สดงถงึ ควำมสำคญั ของสถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์ เช่น
- เรำคนไทยภมู ใิ จทม่ี พี อ่ หลวงเป็นทร่ี จู้ กั ทวั่ โลก
- พระองคท์ รงสละเวลำ เพอ่ื พบปะประชำรำษฎรท์ ุกหนทุกแหง่
- พอ่ หลวงเป็นศนู ยร์ วมจติ ใจของปวงชนชำวไทย
- หยำดเหงอ่ื ของพอ่ หลวงเพอ่ื สนั ตสิ ขุ ของชำวไทย
จำกนนั้ เขยี นลงในแผ่นป้ำย แลว้ นำไปจดั ป้ำยนเิ ทศ
7. ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ ง เหมำะสมของคำขวญั หรอื ขอ้ ควำมท่ีนกั เรยี นเขยี นกอ่ นนำไปจดั ป้ำยนเิ ทศ
8. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ควำมสำคญั ของสถำบนั พระมหำกษตั รยิ ท์ ม่ี ตี ่อประเทศไทย
7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ แบบประเมนิ คำ่ นิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
เล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขำ่ วเกย่ี วกบั พระรำชกรณยี กจิ ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั
3) บตั รภำพ
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
บตั รภาพ
ภาพพระราชกรณียกิจเก่ียวกบั การทานุบารงุ ศาสนา ภาพพระราชกรณียกิจเก่ียวกบั การแพทยแ์ ละสาธารณสุข
ภาพพระราชกรณียกิจเกี่ยวกบั ภาพพระราชกรณียกิจเก่ียวกบั
การพฒั นาอาชีพเกษตรกรรม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
ที่มา : ภำพท่ี 1 http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=46366&p=356557
1 2 ภำพท่ี 2 http://www.sac.or.th/exhibition/princess/biography/activities/
3 4 ภำพท่ี 3 http://www.siangtai.com/new/index6.php?name=hotnews1&file=readnews&id=19526
ภำพท่ี 4 www.เรำรกั พระเจำ้ อย่หู วั .com/content/index.php?page=category&type=view&cat=57
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 การเทิดทูนสถาบนั 1 ชวั่ โมง
พระมหากษตั ริย์
1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 4 เป็นแบบอย่ำงและแนะนำผอู้ น่ื ใหม้ คี วำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) เป็นแบบอย่ำงในกำรแสดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ไ์ ด้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทแ่ี ละยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำ
ของตนเองได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรเป็นแบบอยำ่ งในกำรแสดงออกถงึ กำรเทดิ ทูนสถำบนั พระมหำกษตั รยิ น์ นั้ สำมำรถทำไดห้ ลำยวธิ ี รวมทงั้
กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
3 สาระการเรยี นรู้
1. กำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ
- กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
2) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรียนรู้
1. สมำชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ เดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) ผลดั กนั เลำ่ กำรกระทำของตนเองท่ี
แสดงออกถงึ กำรเทดิ ทูนสถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์ เช่น
- กำรแสดงควำมจงรกั ภกั ดดี ว้ ยกำรถวำยควำมเคำรพในโอกำสตำ่ งๆ
- กำรเขำ้ ร่วมพธิ กี รรมในวนั เฉลมิ พระชนมพรรษำ
- กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปกำรกระทำของสมำชกิ ในกลุ่มเป็นผลงำนของกลุ่ม แลว้ นำเสนอผลงำน
หน้ำชนั้ เรยี น ครเู สนอแนะเพมิ่ เตมิ
3. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สบื คน้ พระรำชกรณียกจิ หรอื พระบรมรำโชวำท 1 เร่อื ง จำกนนั้ นำเสนอใน
รปู แบบผงั มโนทศั น์ลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 แลว้ นำหลกั กำรดงั กลำ่ วมำบอกวธิ กี ำร
ปฏบิ ตั ติ นในชุมชนตำ่ งๆ ลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แล้ว
นำสง่ ครตู รวจ
4. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั คดิ กจิ กรรมทแ่ี สดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์ เช่น
- กจิ กรรมทำควำมดถี วำยเน่อื งในวนั เฉลมิ พระชนมพรรษำ
- กจิ กรรมวนั ชำติ
- กจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชน์
- นทิ รรศกำรเฉลมิ พระเกยี รติ
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มเลอื กกจิ กรรมทแ่ี สดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ท์ ส่ี มำชกิ ในกลมุ่
สำมำรถเขำ้ รว่ มกจิ กรรมได้ แลว้ วำงแผนกำรปฏบิ ตั แิ ละแนะนำผอู้ ่นื ใหป้ ฏบิ ตั ติ ำมประเดน็ ทก่ี ำหนด
ดงั น้ี
1) ชอ่ื กจิ กรรม 2) วตั ถุประสงค์
3) ขนั้ ตอนกำรจดั กจิ กรรม 4) ระยะเวลำ
5) สถำนท่ี 6) ผลทค่ี ำดว่ำจะไดร้ บั
6. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ปฏบิ ตั ติ ำมทไ่ี ดว้ ำงแผนไว้ จำกนนั้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั แิ ละหลกั ฐำนประกอบ
ลงในสมดุ บนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
7. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี นจำกกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์
7 การวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
เล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร
8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
- หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 พระบรมราโชวาท
1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 5 ประยกุ ตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมรำโชวำท หลกั กำรทรงงำน และหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) วเิ ครำะหผ์ ลของกำรปฏบิ ตั ติ นตำมพระบรมรำโชวำทเร่อื ง กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทนได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
พระบรมรำโชวำทเร่อื ง กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทนทำใหไ้ ดข้ อ้ คดิ สำคญั ทส่ี ำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้
ในกำรดำเนินชวี ติ อกี ทงั้ ยงั สำมำรถเผยแพรไ่ ปยงั ผอู้ ่นื โดยผปู้ ฏบิ ตั จิ ะตอ้ งมีวนิ ยั ในตนเอง
3 สาระการเรียนรู้
1. พระบรมรำโชวำท
- กำรมสี ติ
- ควำมขยนั อดทน
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 คา่ นิยม
1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนผลดั กนั เลำ่ ประสบกำรณ์ของตนเองว่ำ เคยฟังหรอื อ่ำนพระบรมรำโชวำท
เกย่ี วกบั เรอ่ื งอะไรบำ้ ง เช่น
- พระบรมรำโชวำทเกย่ี วกบั กำรออม
- พระบรมรำโชวำทเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ย์
- พระบรมรำโชวำทเก่ยี วกบั กำรประหยดั
- พระบรมรำโชวำทเกย่ี วกบั ควำมเสยี สละ
- พระบรมรำโชวำทเก่ยี วกบั ควำมขยนั
- พระบรมรำโชวำทเกย่ี วกบั กำรมวี นิ ยั
2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ขอ้ คดิ ทน่ี ำไปสกู่ ำรปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นประโยชน์ต่อตนเอง
3. ครใู หต้ วั แทนนกั เรยี นอ่ำนพระบรมรำโชวำท เร่อื ง กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน แลว้ ใหน้ กั เรยี น
ร่วมกนั วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั และขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกพระบรมรำโชวำท
4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) แบ่งออกเป็น 2 กลมุ่ ยอ่ ย แลว้ คน้ หำตวั อย่ำงบุคคล
ทม่ี กี ำรปฏบิ ตั ติ นทส่ี อดคลอ้ งกบั พระบรมรำโชวำทตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กล่มุ ยอ่ ยท่ี 1 เร่อื ง กำรมสี ติ
2) กลุ่มย่อยท่ี 2 เรอ่ื ง ควำมขยนั อดทน
5. สมำชกิ กลุ่มยอ่ ยนำขอ้ มลู ตวั อยำ่ งบุคคลทไ่ี ดค้ น้ หำมำเล่ำสกู่ นั ฟังเกย่ี วกบั สำระสำคญั ของกำรปฏบิ ตั ติ น
ของบุคคลดงั กล่ำว
6. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ ครำะหผ์ ลของกำรปฏบิ ตั ติ นและขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกพระบรมรำโชวำท เร่อื ง
กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน จำกนนั้ สรุปเป็นผลงำนของกลมุ่ แลว้ นำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น
ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั ่ ในกำรทำงำน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
เล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงบุคคลทม่ี กี ำรปฏบิ ตั ติ นทส่ี อดคลอ้ งกบั พระบรมรำโชวำท
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
เอกสารประกอบการสอน
พระบรมราโชวาท เรอื่ ง การมสี ติ และความขยนั อดทน
การมสี ติ
...ปัญหำทุกอยำ่ งไมว่ ำ่ เลก็ หรอื ใหญ่ มที ำงแกไ้ ขไดถ้ ำ้ รจู้ กั คดิ ใหด้ ี ปฏบิ ตั ใิ หถ้ กู กำรคดิ ไดด้ นี นั้ มใิ ชก่ ำรคดิ ไดด้ ว้ ย
ลูกคดิ หรอื ดว้ ยสมองกล เพรำะถงึ โลกเรำในปัจจบุ นั จะววิ ฒั นำกำรไปมำกน้อยเพยี งใดกต็ ำม กย็ งั ไมม่ เี คร่อื งมอื อนั วเิ ศษ
ชนิดใดสำมำรถขบคดิ แกไ้ ขปัญหำต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ งสมบูรณ์ กำรขบคดิ วนิ ิจฉยั ปัญหำ จงึ ตอ้ งใชส้ ตปิ ัญญำ คอื คดิ ดว้ ยสติ
รตู้ วั อยเู่ สมอ เพอ่ื หยุดยงั้ และป้องกนั ควำมประมำทผดิ พลำดและอคตติ ำ่ งๆ มใิ หเ้ กดิ ขน้ึ ช่วยใหก้ ำรใชป้ ัญญำพจิ ำรณำ
ปัญหำตำ่ งๆ เป็นไปอยำ่ งเทย่ี งตรง ทำใหเ้ หน็ เหตเุ หน็ ผลทเ่ี กย่ี วเน่อื งกนั เป็นกระบวนกำรไดก้ ระจำ่ งชดั ทุกขนั้ ตอน...
พระบรมราโชวาท ณ หอประชุมมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 1 สงิ หาคม พ.ศ. 2539
ความขยนั อดทน
...กำรสรำ้ งสรรคต์ นเอง กำรสรำ้ งบำ้ นเมอื งกต็ ำม มใิ ช่วำ่ สรำ้ งในวนั เดยี ว ตอ้ งใชเ้ วลำ ตอ้ งใชค้ วำมเพยี ร ตอ้ งใช้
ควำมอดทน เสยี สละ แต่สำคญั ทส่ี ดุ คอื ควำมอดทน คอื ไม่ยอ่ ทอ้ ไมย่ อ่ ทอ้ ในสง่ิ ท่ดี งี ำม สง่ิ ทด่ี งี ำมนนั้ ทำมนั น่ำเบ่อื บำงที
เหมอื นวำ่ ไม่ไดผ้ ลไมด่ งั คอื ดมู นั ควรทำดนี ่ี แต่ขอรบั รองว่ำกำรทำใหด้ คี วรตอ้ งมคี วำมอดทน เวลำขำ้ งหน้ำจะเหน็ ผล
แน่นอนในควำมอดทนของตนเอง...
พระบรมราโชวาท พระราชทานแกน่ กั เรยี น นักศกึ ษา ครแู ละอาจารย์ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2516
ตวั อยา่ งบคุ คลท่ีมีการปฏิบตั ิตนท่ีสอดคลอ้ งกบั พระบรมราโชวาท
พลอยเป็นเดก็ ตำ่ งจงั หวดั ทเ่ี ขำ้ มำเรยี นหนังสอื อยใู่ นกรุงเทพฯ โดยอำศยั อยกู่ บั คณุ ป้ำทม่ี อี ำชพี ขำยขำ้ วแกง
ซง่ึ ครอบครวั ของพลอยมฐี ำนะยำกจน เมอ่ื พลอยเขำ้ มำเรยี นหนงั สอื อยใู่ นกรุงเทพฯ จงึ ทำใหท้ ำงบำ้ นมคี ่ำใชจ้ ำ่ ย
คอ่ นขำ้ งสงู พลอยสงสำรคณุ พอ่ คณุ แมจ่ งึ หำงำนทำเพอ่ื เป็นรำยไดพ้ เิ ศษระหวำ่ งเรยี น โดยในช่วงเชำ้ พลอยจะชว่ ยคุณป้ำ
ทำอำหำร จำกนนั้ จะออกไปรบั จำ้ งขจ่ี กั รยำนสง่ หนงั สอื พมิ พ์ แลว้ จงึ คอ่ ยไปโรงเรยี น
หลงั เลกิ เรยี น พลอยจะรบั จำ้ งทำงำนบำ้ นและเลย้ี งเดก็ สว่ นเสำร์-อำทติ ยก์ จ็ ะทำขนมไทยขำย ทำใหพ้ ลอยมรี ำยได้
ระหว่ำงเรยี น และยงั มเี งนิ เหลอื ส่งกลบั ไปใหค้ รอบครวั ทต่ี ่ำงจงั หวดั
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 9 การปฏิบตั ิตนตาม 1 ชวั่ โมง
พระบรมราโชวาท
1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ผลการเรียนรู้
ขอ้ 5 ประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมรำโชวำท หลกั กำรทรงงำน และหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) นำพระบรมรำโชวำทไปประยกุ ต์ ปฏบิ ตั ิ และเผยแพร่ได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร อดทนได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรนำพระบรมรำโชวำทไปประยุกต์ ปฏบิ ตั ิ และเผยแพร่ ตลอดทงั้ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
ย่อมสง่ ผลดตี อ่ ตนเองและผอู้ ่นื และยงั เป็นกำรแสดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
3 สาระการเรียนรู้
1. พระบรมรำโชวำท
- กำรมสี ติ
- ควำมขยนั อดทน
2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะนำควำมรไู้ ปใช้
3) ทกั ษะกำรประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบตั รภำพตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั กฬี ำเล่นฟุตบอลหรอื บำสเกตบอล
2) นกั เรยี นซอ้ มกองเชยี รก์ ฬี ำสี หรอื กำรแขง่ ขนั กฬี ำสี
3) นกั เรยี นเรยี นหนงั สอื
4) ชำวบำ้ นทำนำ ทำไร่ ทำสวน หรอื ประกอบอำชพี ตำ่ งๆ
2. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ วำ่ กำรกระทำของบุคคลในภำพแสดงถงึ กำรปฏบิ ตั ติ นตำม
พระบรมรำโชวำท เร่อื ง กำรมสี ติ หรอื ควำมขยนั อดทนอย่ำงไร และผลของกำรกระทำดงั กลำ่ วสง่ ผลดี
ต่อตนเอง สงั คม และประเทศชำตอิ ยำ่ งไร
3. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั อ่ำนพระบรมรำโชวำท และบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ิ
ลงในกจิ กรรมนำส่ปู ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1 จำกหนงั สอื กจิ กรรม แลว้ ครสู ุม่ ตวั แทนนกั เรยี น 1 กล่มุ
นำเสนอคำตอบหน้ำชนั้ เรยี น ครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อน่ื ตรวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
4. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั เสนอแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นและแนวทำงกำรเผยแพร่พระบรมรำโชวำท เรอ่ื ง
กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน เช่น
- กำรตงั้ ใจเรยี นและทำกจิ กรรมเกย่ี วกบั กำรศกึ ษำหำควำมรู้ หรอื กจิ กรรมต่ำงๆ ของโรงเรยี น
- กำรชว่ ยเหลอื กำรทำงำนในครอบครวั
- กำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชน์ของสงั คม
5. นกั เรยี นแต่ละคนเลอื กแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นและแนวทำงกำรเผยแพร่พระบรมรำโชวำท เรอ่ื ง กำรมสี ติ
ควำมขยนั อดทน ไปปฏบิ ตั จิ รงิ ตำมควำมเหมำะสมและเผยแพรแ่ ก่ผอู้ ่นื แลว้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ิ
นำสง่ ครู โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) พระบรมรำโชวำท
2) กำรปฏบิ ตั ติ น
3) ผลของกำรปฏบิ ตั ิ
- เป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง - เป็นประโยชน์ต่อสว่ นรวม
6. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปแนวทำงกำรประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเดจ็ -
พระเจำ้ อย่หู วั
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ 12 ประกำร
เล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) บตั รภำพ
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
บตั รภาพ
ภาพนักกีฬาเล่นฟตุ บอล ภาพนักเรยี นซ้อมกองเชียรก์ ฬี าสี
ภาพนักเรียนเรียนหนังสือ ภาพชาวบา้ นทานา
ที่มา : ภำพท่ี 1 http://www.smmonline.net/news/55517-กองทพั บกโหดยำตำรวจ7-0ศกึ กองทพั ไทย.html
1 2 ภำพท่ี 2 http://picture-wcss-bk.blogspot.com/
3 4 ภำพท่ี 3 http://www.bantubchang.ac.th/gallery-detail_49075
ภำพท่ี 4 http://farmsiam.com/กำรทำนำใน-อดตี -ปัจจุบนั /
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 หลกั การทรงงาน
1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 5 ประยุกตแ์ ละเผยแพร่พระบรมรำโชวำท หลกั กำรทรงงำน และหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) วเิ ครำะหแ์ นวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั กำรทรงงำนเร่อื ง ภมู สิ งั คม และขำดทุนคอื กำไรได้
2) นำหลกั กำรทรงงำนเร่อื ง ภูมสิ งั คม และขำดทุนคอื กำไรไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ละเผยแพรแ่ ก่ผอู้ ่นื ได้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรนำหลกั กำรทรงงำนเกย่ี วกบั ภมู สิ งั คม และขำดทนุ คอื กำไรไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ รวมทงั้
กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองย่อมสง่ ผลดตี ่อตนเองและสงั คม อกี ทงั้ ยงั เป็นกำรแสดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู
สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
3 สาระการเรียนรู้
1. หลกั กำรทรงงำน
- ภูมสิ งั คม
- ขำดทุนคอื กำไร
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะนำควำมรไู้ ปใช้
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) รกั ชำติ ศำสน์ กษตั รยิ ์ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 คา่ นิยม
1) มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2) ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นอำ่ นหลกั กำรทรงงำนของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช
เร่อื ง ภูมสิ งั คม และขำดทุนคอื กำไร แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จำกหลกั กำรทรงงำนเรอ่ื ง ภูมสิ งั คมอย่ำงไร
2) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จำกหลกั กำรทรงงำนเรอ่ื ง ขำดทุนคอื กำไรอย่ำงไร
2. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั สบื คน้ หลกั กำรทรงงำนของพระบำทสมเดจ็
พระปรมนิ ทรมหำภมู พิ ลอดุลยเดช 1 เร่อื ง และบอกวธิ กี ำรนำไปประยกุ ตใ์ ชล้ งในกจิ รรมนำสู่ปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมท่ี 2 จำกหนงั สอื กจิ กรรม เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ
3. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อยำ่ งกำรกระทำของบคุ คลหรอื กลมุ่ บคุ คลทแ่ี สดงถงึ กำรปฏบิ ตั ติ นตำม
หลกั กำรทรงงำนของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช แลว้ รว่ มกนั วเิ ครำะหผ์ ลทไ่ี ด้
4. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะหบ์ ตั รภำพเกย่ี วกบั หมบู่ ำ้ นชำวเขำทม่ี กี ำรปลูกพชื ไรแ่ บบขนั้ บนั ได
แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรทห่ี ม่บู ำ้ นน้ีมกี ำรพฒั นำจนกระทงั่ ปรำกฏดงั บตั รภำพน้แี สดงถงึ กำรนำหลกั กำรทรงงำน
ในเรอ่ื งใดมำเป็นแนวปฏบิ ตั ิ จงอธบิ ำย พรอ้ มทงั้ บอกเหตุผล
2) วถิ ชี วี ติ ของชำวบำ้ นในหมู่บำ้ นน้สี อดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยำ่ งไร
จงอธบิ ำยพรอ้ มยกตวั อย่ำง
3) นกั เรยี นสำมำรถนำแนวคดิ น้ไี ปประยุกตใ์ ชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ อยำ่ งไร
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั คดิ กจิ กรรมทแ่ี สดงถงึ กำรนำหลกั กำรทรงงำนของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร
มหำภมู พิ ลอดุลยเดช เร่อื ง ภูมสิ งั คม และขำดทุนคอื กำไรมำประยุกตใ์ ช้ ซง่ึ สำมำรถเช่อื มโยงกบั
พระบรมรำโชวำท เร่อื ง กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ช่อื กจิ กรรม
2) ควำมสอดคลอ้ งกบั หลกั กำรทรงงำนเรอ่ื ง ภูมสิ งั คม และขำดทุนคอื กำไร
3) ควำมสอดคลอ้ งกบั พระบรมรำโชวำทเรอ่ื ง กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน
4) ควำมสอดคลอ้ งกบั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5) วธิ กี ำรหรอื ขนั้ ตอนกำรปฏบิ ตั ิ
6) ผลทค่ี ำดว่ำจะไดร้ บั
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
6. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำมทไ่ี ดว้ ำงแผนไว้ แลว้ บนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ลิ งในสมดุ บนั ทกึ
กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
7. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปแนวทำงกำรนำหลกั กำรทรงงำนของพระบำทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ลอ
ดลุ ยเดชไปประยกุ ตใ์ ช้ และเผยแพร่
8. นกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 2
• ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบตั ิตนท่ีแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และ
เทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ แล้วบนั ทึกผลการปฏิบตั ิกิจกรรม นาส่งครเู พ่ือประเมินผล
โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) การปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างและแนะนาผอู้ นื่ ใหแ้ สดงออกถงึ ความรกั ชาติ
2) การปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างและแนะนาผอู้ นื่ ใหแ้ สดงออกถงึ การยดึ มนั่ ในศาสนา
3) การปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างและแนะนาผอู้ นื่ ใหแ้ สดงออกถงึ การเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
4) การประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5) การประยุกตแ์ ละเผยแพร่หลกั การทรงงาน
6) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
7) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้าที่
8) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง
7 การวดั และประเมินผล
วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรคดิ และ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสน์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ 60 ผำ่ นเกณฑ์
กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรแสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ศำสนำ แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย
พระมหำกษตั รยิ ์ และใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำ 12 ประกำร
เล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
ตรวจแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 2 แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 2
ตรวจแบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ แบบประเมนิ แบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นท่ี
ควำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ และเทดิ ทนู สถำบนั แสดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ ยดึ มนั ่ ในศำสนำ
พระมหำกษตั รยิ ์ และเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์
8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) หลกั กำรทรงงำน
3) ตวั อยำ่ งกำรกระทำของบุคคลหรอื กลุม่ บคุ คลทแ่ี สดงถงึ กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั กำรทรงงำน
4) บตั รภำพ
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตนท่ีแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ
ยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์
ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำ่ งและแนะนำผอู้ น่ื
ใหแ้ สดงออกถงึ ควำมรกั ชำติ
2 กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่ำงและแนะนำผอู้ ่นื
ใหแ้ สดงออกถงึ กำรยดึ มนั่ ในศำสนำ
3 กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่ำงและแนะนำผอู้ ่นื
ใหแ้ สดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
4 กำรประยกุ ตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมรำโชวำท
และหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5 กำรประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่หลกั กำรทรงงำน
6 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร
อดทน
7 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ
หน้ำท่ี
8 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ
จำกกำรกระทำของตนเอง
รวม
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์
เอกสารประกอบการสอน
หลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช
ภมู ิสงั คม
...กำรพฒั นำจะตอ้ งเป็นไปตำมภมู ปิ ระเทศทำงภมู ศิ ำสตร์ และภมู ปิ ระเทศทำงสงั คมศำสตรใ์ นสงั คมวทิ ยำ คอื
นสิ ยั ใจคอของคนเรำ จะไปบงั คบั ใหค้ นอน่ื คดิ อย่ำงอน่ื ไมไ่ ด้ เรำตอ้ งแนะนำ เรำเขำ้ ไปชว่ ยโดยทจ่ี ะคดิ ใหเ้ ขำเขำ้ กบั เรำ
ไมไ่ ด้ แตถ่ ำ้ เรำเขำ้ ไปแลว้ เรำเขำ้ ไปดวู ำ่ เขำตอ้ งกำรอะไรจรงิ ๆ แลว้ กอ็ ธบิ ำยใหเ้ ขำเขำ้ ใจหลกั กำรของกำรพฒั นำน้ี
กจ็ ะเกดิ ประโยชน์อยำ่ งยงิ่ ...
พระบรมราโชวาท ณ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517
ขาดทุนคือกาไร
...ขำดทุน คอื กำไร (Out loss is our gain) กำรเสยี คอื กำรได้ ประเทศชำตกิ จ็ ะกำ้ วหน้ำและกำรทค่ี นอยดู่ มี สี ขุ
เป็นกำรนบั ทม่ี ลู คำ่ เงนิ ไมไ่ ด.้ ..
พระบรมราโชวาท ณ ศาลาดุสติ ดาลยั พระตาหนกั จติ รลดารโหฐาน 4 ธนั วาคม พ.ศ. 2534
ตวั อยา่ งการกระทาของบคุ คลหรอื กลุ่มบุคคลท่ีแสดงถึงการปฏิบตั ิตนตามหลกั การทรงงาน
ในกำรประชมุ กลุม่ เพอ่ื ทำกจิ กรรมจติ อำสำเพ่อื สงั คม นวิ เสนอแนะใหไ้ ปเล่ำนทิ ำนใหเ้ ดก็ ทส่ี ถำนสงั คมสงเครำะหฟ์ ัง
แต่แป้งตอ้ งกำรไปเล่นดนตรใี หผ้ ปู้ ่วยทโ่ี รงพยำบำลฟัง
บรรยำกำศในกำรประชมุ เรมิ่ ตงึ เครยี ด เพรำะทงั้ สองฝ่ำยต่ำงไมย่ อมกนั โอปอซง่ึ เป็นเพอ่ื นในกลมุ่ นงั่ ฟังเหตุผล
ของเพอ่ื นทงั้ สอง จงึ บอกใหเ้ พอ่ื นทงั้ สองคอ่ ยๆ คยุ กนั และรบั ฟังควำมคดิ เหน็ ซง่ึ กนั และกนั โดยไมย่ ดึ ควำมคดิ ของ
ตวั เองฝ่ำยเดยี ว ทำใหน้ วิ และแป้งยอมตกลงกนั คนละครง่ึ ทำง โดยไปอำ่ นนทิ ำนและเลน่ ดนตรใี หเ้ ดก็ ฟังทส่ี ถำนสงั คม
สงเครำะห์ ส่งผลใหก้ ำรทำกจิ กรรมจติ อำสำเพ่อื สงั คมประสบผลสำเรจ็
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
บตั รภาพ
ภาพหมบู่ า้ นชาวเขาที่มกี ารปลูกพชื ไรแ่ บบขนั้ บนั ได
ที่มา : http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?t=19072
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำนของนกั เรยี นตำมรำยกำรทก่ี ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 เน้อื หำละเอยี ดชดั เจน
2 ควำมถกู ตอ้ งของเน้อื หำ
3 ภำษำทใ่ี ชเ้ ขำ้ ใจง่ำย
4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ำกกำรนำเสนอ
5 วธิ กี ำรนำเสนอผลงำน
รวม
ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20
เสียสละ คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม
ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ร่วมมือกนั ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรือ 20
ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลุ่ม
43214321432143214321
ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
สมรรถนะสาคญั รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ของผเู้ รยี น 4321
1.1 ใชภ้ ำษำถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ
1. ความสามารถ และทศั นะของตนเองดว้ ยกำรพดู และกำรเขยี น
ในการสื่อสาร
1.2 พดู เจรจำต่อรอง
1.3 เลอื กรบั หรอื ไม่รบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำร
1.4 เลอื กใชว้ ธิ กี ำรส่อื สำร
2. ความสามารถ 2.1 คดิ พน้ื ฐำน (กำรคดิ วเิ ครำะห)์
ในการคิด 2.2 คดิ ขนั้ สงู (กำรคดิ สงั เครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ)
3. ความสามารถ 3.1 ใชก้ ระบวนกำรแกป้ ัญหำโดยวเิ ครำะหป์ ัญหำ วำงแผนในกำรแกป้ ัญหำ
ในการแก้ปัญหา ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ ตรวจสอบ และสรุปผล
3.2 ผลลพั ธข์ องกำรแกป้ ัญหำ
4. ความสามารถ 4.1 นำกระบวนกำรเรยี นรทู้ ห่ี ลำกหลำยไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ในการใช้ 4.2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและเรยี นรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื ง
ทกั ษะชีวิต 4.3 ทำงำนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ
4.4 จดั กำรกบั ปัญหำและควำมขดั แยง้ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ ง
เหมำะสม
4.5 ปรบั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม
4.6 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื
5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นำตนเองและสงั คม
ในการใช้เทคโนโลยี 5.2 มที กั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
54 - 64 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
43 - 53 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
32 - 42 พอใช้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
ให้ 1 คะแนน ต่ำกวำ่ 32 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชำติ รอ้ งเพลงชำตไิ ด้ และอธบิ ำยควำมหมำยของ
เพลงชำติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตำมสทิ ธแิ ละหน้ำทข่ี องนักเรยี น
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต
1.3 ใหค้ วำมรว่ มมอื รว่ มใจ ในกำรทำงำนกบั สมำชกิ ในโรงเรยี น
3. มวี ินัย
รบั ผิดชอบ 1.4 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทส่ี รำ้ งควำมสำมคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน
4. ใฝ่ เรยี นรู้
1.5 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงศำสนำทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ของศำสนำ
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
1.6 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถำบนั
พระมหำกษตั รยิ ต์ ำมทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ
2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอำย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำควำมผดิ ทำตำม
สญั ญำทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู
2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยควำมซอ่ื ตรง ไมห่ ำประโยชน์ในทำงทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง
3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลำในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
และรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน
4.1 แสวงหำขอ้ มลู จำกแหล่งกำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ
4.2 มกี ำรจดบนั ทกึ ควำมรอู้ ยำ่ งเป็นระบบ
4.3 สรปุ ควำมรไู้ ดอ้ ย่ำงมเี หตุผล
5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ
และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี และใชเ้ วลำอยำ่ งเหมำะสม
5.2 ใชท้ รพั ยำกรของส่วนรวมอยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยควำมรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอำเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื
กระทำผดิ พลำด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วำงแผนกำรเรยี น กำรทำงำนและกำรใชช้ วี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐำนของ
ควำมรู้ ขอ้ มลู ขำ่ วสำร
5.6 รเู้ ทำ่ ทนั กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม และสภำพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ
ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข
6. มุ่งมนั ่ ในการ 6.1 มคี วำมตงั้ ใจและพยำยำมในกำรทำงำนทไ่ี ดร้ บั มอบหมำย
ทางาน 6.2 มคี วำมอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ ำนสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนกึ ในกำรอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำไทย
7.2 เหน็ คุณค่ำและปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงำน
8.2 อำสำทำงำน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปันสงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื
8.3 ดแู ล รกั ษำทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน
8.4 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสำธำรณประโยชน์ของโรงเรยี น
ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้
ต่ำกว่ำ 54 ปรบั ปรุง
แบบประเมิน ค่านิ ยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ
คาชี้แจง : ให้ นักเรียน ประเมนิ ตนเองในระหว่ำงเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องค่ำนยิ มทน่ี ำไปใช้ และบอกเหตุผล
วำ่ นำไปใชอ้ ยำ่ งไร
ช่อื ชนั้ เลขท่ี
ข้อที่ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ค่านิ ยมท่ีนาไปใช้ นาไปใช้อย่างไร
1 มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั รยิ ์
2 ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมกำรณ์ในสงิ่ ทด่ี งี ำมเพอ่ื ส่วนรวม
3 กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครอู ำจำรย์
4 ใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
5 รกั ษำวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงำม
6 มศี ลี ธรรม รกั ษำควำมสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบง่ ปัน
7 เขำ้ ใจเรยี นรกู้ ำรเป็นประชำธปิ ไตยอนั มพี ระมหำกษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง
8 มรี ะเบยี บวนิ ยั เคำรพกฎหมำย เคำรพผใู้ หญ่
9 มสี ติ รตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ตั ติ ำมพระรำชดำรสั
ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั
10 รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ตำมพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อย่หู วั
11 มคี วำมเขม้ แขง็ ทงั้ รำ่ งกำยและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อำนำจ
ฝ่ำยต่ำหรอื กเิ ลส มคี วำมละอำย เกรงกลวั ต่อบำปตำมหลกั
ศำสนำ
12 คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและของชำตมิ ำกกว่ำ
ผลประโยชน์ของตนเอง
แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรู้
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื )
(
ตำแหน่ง
นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมผลกำรเรยี นรขู้ องหน่วยกำรเรยี นรตู้ อ่ ไปน้ี ข้อ 4-5, 10
ดำ้ นควำมรู้
(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรียนรู้
ระดบั คณุ ภำพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คณุ ภำพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภำพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ปัญหำ/อปุ สรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
แบบทดสอบ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว
1. ผใู้ ดต่อไปน้ถี อื เป็นผทู้ ม่ี คี วำมรกั ชำตมิ ำกทส่ี ดุ 6. กจิ กรรมใดต่อไปน้ที น่ี กั เรยี นสำมำรถเขำ้ รว่ มเพ่อื
ก. แดงหลกี เลย่ี งไมเ่ สยี ภำษี แสดงออกถงึ กำรเทดิ ทนู สถำบนั พระมหำกษตั รยิ ์
ข. นกไปใชส้ ทิ ธเิ์ ลอื กตงั้ ทกุ ครงั้ ก. กำรวง่ิ มำรำธอน
ค. แนนตดิ สนิ บนเจำ้ หน้ำทเ่ี พอ่ื ควำมสะดวก ข. กำรจดุ เทยี นชยั ถวำยพระพร
ง. หน่อยยอมขำยเสยี ง เพรำะตอ้ งกำรเงนิ มำใช้ ค. กำรแขง่ ขนั กฬี ำสขี องโรงเรยี น
ง. กำรรว่ มทำควำมสะอำดในชมุ ชน
2. เม่อื เรำไดย้ นิ เพลงชำตไิ ทย เรำควรทำอย่ำงไร
ก. เดนิ ตำมปกติ 7. บุคคลทส่ี ำมำรถน้อมนำหลกั กำรทรงงำนเร่อื ง ขำดทุนคอื
ข. ยนื เล่นโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี กำไรมำใชไ้ ดต้ อ้ งมลี กั ษณะอย่ำงไร
ค. หยุดยนื ตรงจนกว่ำเพลงจะจบ ก. มคี วำมเสยี สละ
ง. หยอกลอ้ กบั เพ่อื นอย่ำงสนุกสนำน ข. มคี วำมตระหน่ถี เ่ี หนยี ว
ค. มคี วำมเป็นวตั ถนุ ยิ มสงู
3. กำรกระทำในขอ้ ใดถอื เป็นผมู้ คี วำมยดึ มนั ่ ในศำสนำ ง. มคี วำมรกั สบำยและอสิ ระ
ก. นิดหำเงนิ โดยเล่นพนันฟุตบอล
ข. แตงชอบยมื เงนิ เพอ่ื น แลว้ ไมย่ อมคนื 8. หลกั กำรทรงงำนเร่อื ง ขำดทนุ คอื กำไรมุ่งใหค้ วำมสำคญั
ค. ตุม้ ไม่ขอ้ งแวะกบั ยำเสพตดิ ทุกประเภท ในเรอ่ื งใด
ง. เอกชอบรงั แกลูกสนุ ัขจรจดั เพรำะสนุกดี ก. ผลประโยชน์ดำ้ นกำไร
ข. ผลประโยชน์ของตนเอง
4. ผทู้ ม่ี คี วำมยดึ มนั ่ ในศำสนำจะตอ้ งมคี ุณลกั ษณะอยำ่ งไร ค. ผลประโยชน์ของส่วนรวม
ก. มฐี ำนะร่ำรวย ง. ผลประโยชนท์ ำงดำ้ นชอ่ื เสยี ง
ข. มชี ำตติ ระกลู ทด่ี ี
ค. เป็นบคุ คลทม่ี ชี ่อื เสยี งโด่งดงั ในสงั คม 9. กำรกระทำใดทส่ี อดคลอ้ งกบั หลกั กำรทรงงำนเรอ่ื ง
ง. ปฏบิ ตั ติ ำมหลกั คำสอนของศำสนำอยำ่ งเคร่งครดั ภูมสิ งั คม
ก. อด๊ี คดิ วำ่ ตนเก่งกวำ่ ผอู้ ่นื เสมอ
5. กำรแสดงออกทด่ี ที ส่ี ุดในกำรเทดิ ทนู สถำบนั ข. ตองมคี วำมสนั โดษไมย่ ุ่งกบั ใคร
พระมหำกษตั รยิ ค์ อื ขอ้ ใด ค. นุ้กชอบสงั ่ ลูกน้องใหท้ ำตำมใจตน
ก. ดขู ำ่ วในพระรำชสำนกั ทกุ วนั ง. จบ๊ิ รบั ฟังควำมคดิ เหน็ ของคนในกลุ่มเสมอ
ข. ศกึ ษำคำรำชำศพั ทจ์ ำกแหล่งตำ่ งๆ
ค. สะสมพระบรมฉำยำลกั ษณ์ใหไ้ ดม้ ำกทส่ี ดุ 10. ในฐำนะนักเรยี นสำมำรถน้อมนำพระบรมรำโชวำทเรอ่ื ง
ง. ปฏบิ ตั ติ ำมพระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเดจ็ กำรมสี ติ และควำมขยนั อดทน มำใชใ้ นเรอ่ื งใดไดด้ ที ส่ี ุด
พระปรมนิ ทรมหำภมู พิ ลอดุลยเดช ก. กำรเลน่ เกม
ข. กำรเรยี นหนังสอื
ค. กำรทอ่ งโลกอนิ เทอรเ์ นต็
ง. กำรหำเงนิ สรำ้ งครอบครวั ผลการเรียนรู้ ขอ้ 4-5,10
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
10
เฉลย
1. ข 2. ค 3. ค 4. ง 5. ง 6. ข 7. ก 8. ค 9. ง 10. ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 ความสาคญั ของการ 1 ชวั่ โมง
ติดตามข่าวสารบา้ นเมือง
1 ผลการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 6 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) วเิ ครำะหค์ วำมสำคญั ของกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื ง และกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเป็นหน้ำทส่ี ำคญั สว่ นหน่งึ ของพลเมอื งดี
ในระบอบประชำธปิ ไตย
3 สาระการเรยี นรู้
1. พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
- กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื ง
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน
5.2 ค่านิยม
- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครเู ล่ำขำ่ วเกย่ี วกบั กำรเมอื งจำกหนงั สอื พมิ พห์ ลำยๆ ฉบบั ใหน้ กั เรยี นฟัง เช่น
- กำรแถลงผลงำนของกระทรวงกำรคลงั ตำมนโยบำยรฐั บำลในรอบ 1 ปี
- กรมบญั ชกี ลำงเดนิ หน้ำเสนอกฎหมำย Undo กบข.
- รฐั บำลเตรยี มปรบั ปรงุ กฎหมำยกำรคำ้ และระบบภำษี
- อ.จฬุ ำฯ ขอทหำรอย่ำลำ้ เสน้ ฯ
2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ขำ่ วดงั กลำ่ วมปี ระโยชน์ต่อผฟู้ ังอย่ำงไร
2) กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งมผี ลดตี ่อกำรดำเนินชวี ติ ของชำวไทยอย่ำงไร จงอธบิ ำยเหตผุ ล
3. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตำมควำมสมคั รใจ แลว้ ใหส้ มำชกิ แตล่ ะคนสบื คน้ ขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
เกย่ี วกบั กำรเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรมตำมควำมสนใจจำกแหลง่ ขอ้ มลู ทห่ี ลำกหลำย
คนละ 1 ขำ่ ว
4. สมำชกิ แต่ละคนในกล่มุ นำข่ำวสำรบำ้ นเมอื งทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ มำเลำ่ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟัง จำกนนั้
ร่วมกนั วเิ ครำะหข์ ำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง แลว้ นำเสนอหน้ำชนั้ เรยี นตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ขำ่ วเรอ่ื งอะไร และมสี ำระสำคญั อยำ่ งไร
2) ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกแหลง่ ขอ้ มลู มคี วำมน่ำเชอ่ื ถอื เพยี งใด จงอธบิ ำยเหตุผล
3) กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งมคี วำมสำคญั อย่ำงไร
ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
5. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั เขยี นขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งเป็นผงั มโนทศั น์
6. ตวั แทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
7. นกั เรยี นแต่ละคนเขยี นเล่ำประสบกำรณ์ของตนเองเกย่ี วกบั กำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งลงในกจิ กรรม
ฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด
8. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ควำมสำคญั ของกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมขุ
7 การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร
8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขำ่ ว
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
—
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ
ตวั อยา่ งข่าว
การแถลงผลงานของกระทรวงการคลงั ตามนโยบายรฐั บาลในรอบ 1 ปี
นำยกติ ตริ ตั น์ ณ ระนอง รองนำยกรฐั มนตรแี ละรฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงกำรคลงั กล่ำวว่ำ ในช่วงหลำยปีทผ่ี ่ำนมำ
เศรษฐกจิ ไทยไดเ้ ผชญิ กบั ควำมทำ้ ทำยทำงเศรษฐกจิ ในหลำยดำ้ น ทงั้ จำกภำวะของเศรษฐกจิ โลกทเ่ี ปรำะบำง จำกปัญหำ
หน้สี ำธำรณะของยโู รโซนและผลกระทบจำกภยั พบิ ตั ทิ ำงธรรมชำติ ซง่ึ ส่งผลใหเ้ ศรษฐกจิ ไทยในช่วงก่อนทร่ี ฐั บำลนำงสำว
ยงิ่ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร นำยกรฐั มนตรี ขยำยตวั ในอตั รำทช่ี ะลอลงและอตั รำเงนิ เฟ้อเรมิ่ ปรบั เพม่ิ สงู ขน้ึ อยำ่ งต่อเน่อื ง รฐั บำล
โดยกระทรวงกำรคลงั จงึ ไดม้ มี ำตรกำรเร่งดว่ นเพ่อื บรรเทำผลกระทบทำงเศรษฐกจิ ดงั กล่ำว รฐั บำลไดเ้ น้น 4 นโยบำย
หลกั ดงั น้ี
1. นโยบำยแกไ้ ขปัญหำอุทกภยั เพอ่ื บรรเทำ เยยี วยำและป้องกนั อทุ กภยั ในอนำคต โดยในระยะสนั้ กระทรวง
กำรคลงั ไดข้ ยำยเงนิ ทดรองรำชกำรเพอ่ื ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณีฉุกเฉินดำเนินมำตรกำรชว่ ยเหลอื ทำงกำรเงนิ
ผำ่ นสถำบนั กำรเงนิ เฉพำะกจิ มำตรกำรช่วยเหลอื ดำ้ นภำษรี วมทงั้ จดั ตงั้ กองทนุ ส่งเสรมิ ประกนั ภยั พบิ ตั ิ และในระยะ
ปำนกลำงถงึ ระยะยำว กระทรวงกำรคลงั ไดส้ นับสนุนกำรลงทุนเพ่อื วำงระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรน้ำและสรำ้ งอนำคตประเทศ
350,000 ลำ้ นบำท
2. นโยบำยลดรำยจำ่ ยเพ่อื บรรเทำภำระของประชำชนจำกอตั รำเงนิ เฟ้อทส่ี งู ขน้ึ ในชว่ งทผ่ี ำ่ นมำโครงกำรพกั หน้ี
เกษตรกรรำยยอ่ ยและผทู้ ม่ี รี ำยไดน้ ้อย กำรลดอตั รำภำษสี รรพสำมติ น้ำมนั ดเี ซล กำรตอ่ อำยุมำตรกำรค่ำครองชพี และบตั ร
เครดติ พลงั งำน
3. นโยบำยเพมิ่ รำยได้ เพอ่ื เสรมิ สรำ้ งกำลงั ซ้อื และควำมเป็นอย่ขู องประชำชน ดว้ ยกำรปรบั เพมิ่ ขน้ึ ค่ำแรงขนั้ ต่ำ
เป็น 300 บำท/วนั และโครงกำรขน้ึ เงนิ เดอื นขำ้ รำชกำรทจ่ี บปรญิ ญำตรเี ป็น 15,000 บำท/เดอื น และโครงกำรจำนำ
ขำ้ วของ ธ.ก.ส.
4. นโยบำยขยำยโอกำส เพอ่ื เสรมิ สรำ้ งศกั ยภำพของประชำชน ผปู้ ระกอบกำร และประเทศ ดว้ ยกำรลดภำษี
เงนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลจำกรอ้ ยละ 30 เป็นรอ้ ยละ 23 ในปี 2555 และรอ้ ยละ 20 ในปี 2556 โครงกำรรถคนั แรก โครงกำร
บำ้ นหลงั แรกและกองทนุ ตงั้ ตวั ได้
กำรดำเนนิ งำนตำม 4 นโยบำยดงั กลำ่ ว ไดส้ ่งผลใหเ้ ศรษฐกจิ ไทยกลบั มำขยำยตวั ในอตั รำทส่ี งู ขน้ึ และอตั รำเงนิ เฟ้อ
ปรบั ลดลงตำมลำดบั ทงั้ น้ี ในชว่ งทผ่ี ำ่ นมำ รฐั บำลสำมำรถรกั ษำวนิ ัยทำงกำรคลงั ภำยใตก้ รอบควำมยงั ่ ยนื ทำงกำรคลงั
(สดั ส่วนหน้สี ำธำรณะตอ่ จดี พี ตี ่ำกว่ำรอ้ ยละ 60) และสำมำรถสรำ้ งกลไกกำรบรหิ ำรจดั กำรหน้กี องทนุ ฟ้ืนฟูและพฒั นำ
ระบบสถำบนั กำรเงนิ ไดอ้ ย่ำงชดั เจน
ท่ีมา : http://www.mof.go.th/home/Press_release/News2012/099.pdf
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข
กรมบญั ชีกลางเดินหน้าเสนอกฎหมาย Undo กบข.
นำยมนัส แจ่มเวหำ กลำ่ ววำ่ คณะทป่ี รกึ ษำฝ่ำยกฎหมำยและกระบวนกำรยตุ ธิ รรม คสช. ซง่ึ มี ดร.วษิ ณุ เครอื งำม
เป็นประธำน ไดป้ ระชมุ เพ่อื พจิ ำรณำร่ำงพระรำชบญั ญตั กิ ำรกลบั ไปใชส้ ทิ ธใิ์ นบำเหนจ็ บำนำญตำมพระรำชบญั ญตั บิ ำเหนจ็
บำนำญขำ้ รำชกำร พ.ศ. 2494 ซง่ึ ประธำนเหน็ วำ่ รำ่ ง พ.ร.บ. ดงั กลำ่ วเป็นกฎหมำยทด่ี ี มปี ระโยชน์ และ คสช. พรอ้ มทจ่ี ะให้
กำรสนบั สนุนตำมแนวทำงทเ่ี สนอ อยำ่ งไรกด็ ี เน่อื งจำกคณะทป่ี รกึ ษำ เหน็ วำ่ เป็นกฎหมำยทม่ี ี Technical Term มำก
ซง่ึ ตอ้ งใชเ้ วลำในกำรอธบิ ำย ประกอบกบั กรมบญั ชกี ลำงตอ้ งมเี วลำในกำรเตรยี มกำรในกำรปฏบิ ตั ติ ำมกฎหมำย และ
เผยแพร่ทำควำมเขำ้ ใจกฎหมำยดงั กลำ่ ว จงึ เหน็ ควรใหน้ ำรำ่ ง พ.ร.บ. ดงั กล่ำว เสนอสภำนิตบิ ญั ญตั แิ ห่งชำตโิ ดยจะจดั ให้
เป็นร่ำงกฎหมำยฉบบั แรกๆ ทเ่ี ขำ้ ส่สู ภำ และกำหนดใหม้ ผี ลบงั คบั ใชใ้ นตน้ เดอื นธนั วำคม 2557 ตำมกำหนดกำรท่ี
กรมบญั ชกี ลำงวำงไว้ ทงั้ น้ี คณะทป่ี รกึ ษำ เหน็ ว่ำกรมบญั ชกี ลำงสำมำรถเผยแพรข่ ำ่ วและประชำสมั พนั ธ์รำ่ ง พ.ร.บ.
ตำมทไ่ี ดย้ กรำ่ งไว้ โดยกล่ำวยำ้ อกี ว่ำ “ร่ำงกฎหมำยดงั กล่ำวเป็นกฎหมำยทด่ี ี มปี ระโยชน์ คสช. ยนิ ดใี หก้ ำรสนบั สนุนตำม
แนวทำงของรำ่ งทก่ี ระทรวงกำรคลงั เสนอ”
ท่ีมา : https://www.cgd.go.th/.../รำ่ งขำ่ วแจก+ฉบบั ท+่ี 14_57+บก.เดนิ หน้ำ
รฐั บาลเตรียมปรบั ปรงุ กฎหมายการคา้ และระบบภาษี
หม่อมอยุ๋ เผยรฐั บำลเตรยี มปรบั ปรงุ กฎหมำยกำรคำ้ และระบบภำษใี หส้ อดรบั กำรเปลย่ี นโครงสรำ้ งกำรคำ้ ของไทย
คำดใชเ้ วลำประมำณ 1 เดอื น
หม่อมรำชวงศป์ รดี ยิ ำธร เทวกุล รองนำยกรฐั มนตรี ปำฐกถำพเิ ศษหวั ขอ้ “ประเทศไทยกบั กำรพฒั นำเพ่อื กำ้ วไปสู่
Trading Nation” โดยระบวุ ำ่ สำหรบั แนวนโยบำยทจ่ี ะผลกั ดนั ประเทศไทยเพ่อื กำ้ วไปสู่ Trading Nation คอื แนวทำง
นำไปส่กู ำรพฒั นำเศรษฐกจิ อยำ่ งยงั ่ ยนื ต้องสนับสนุนใหไ้ ทยเป็นศนู ยก์ ลำงทำงกำรคำ้ ของภมู ภิ ำคอำเซยี น (Trading
Nation) ซง่ึ ไทยมขี อ้ ไดเ้ ปรยี บคอื เอกชนมเี งนิ ทนุ และองคค์ วำมรมู้ ำกเพยี งพอตอ่ กำรไปลงทุนยงั ต่ำงประเทศ สว่ นสงิ่ ท่ี
ตอ้ งเรง่ ปรบั ปรุง คอื กำรปรบั ปรงุ กฎหมำยกำรคำ้ ใหม้ คี วำมคลอ่ งตวั มำกขน้ึ ปรบั ปรงุ ระบบภำษแี ละระบบกำรเงนิ ท่ี
เออ้ื ต่อกำรเป็นศูนยก์ ลำงทำงกำรคำ้ ซง่ึ ทงั้ สองขอ้ ทก่ี ลำ่ วมำน้ี รฐั บำลกำลงั เร่งดำเนินกำรใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภำยในระยะเวลำ
1 เดอื นหลงั จำกน้ี โดยกำรปรบั ปรงุ กฎหมำยและระเบยี บรำชกำร
นอกจำกน้ี ตอ้ งปรบั ปรุงระบบกำรขนส่งสนิ คำ้ ใหเ้ ช่อื มตอ่ เพอ่ื นบำ้ นและทำ่ เรอื น้ำลกึ รวมถงึ กำรสนับสนุนกำรลงทุน
จำกเอกชนไทยไปยงั ตำ่ งประเทศ ซง่ึ ควำมคบื หน้ำขณะน้ไี ดม้ กี ำรตงั้ กองอำนวยกำรในกำรส่งเสรมิ กำรลงทนุ ยงั
ตำ่ งประเทศแลว้ ภำยใตก้ ำรกำกบั ดแู ลของสำนักงำนสง่ เสรมิ กำรลงทุน หรอื บโี อไอ อย่ำงไรกต็ ำม เช่อื ว่ำกระทรวง
พำณชิ ยจ์ ำเป็นตอ้ งเขำ้ มำดูแลกำรส่งออกสนิ คำ้ ไปยงั ตลำดใหมๆ่ เน่อื งจำกกระทรวงพำณชิ ยม์ ที ตู พำณิชยอ์ ยทู่ วั่ โลก
ซง่ึ มคี วำมเขำ้ ใจควำมตอ้ งกำรสนิ คำ้ ของแตล่ ะประเทศ
ท่ีมา : http://news.sanook.com/1694289/รฐั บำลเตรยี มปรบั ปรุงกฎหมำยกำรคำ้ และระบบภำษ/ี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข
อ.จฬุ าฯ ขอทหารอย่าลา้ เส้นฯ
นำยปรำชญ์ ปัญจคณุ ำธร อำจำรยค์ ณะอกั ษรศำสตร์ จฬุ ำลงกรณ์มหำวทิ ยำลยั ใหส้ มั ภำษณ์ภำยหลงั พล.อ.ประวติ ร
วงษ์สวุ รรณ รองนำยกรฐั มนตรี และรฐั มนตรวี ่ำกำรกระทรวงกลำโหม ออกมำระบถุ งึ นกั วชิ ำกำรวำ่ อยำ่ ล้ำเสน้ และให้
ขออนุญำต คสช. กอ่ นทจ่ี ะจดั เสวนำว่ำ เรอ่ื งน้ใี นสว่ นของนักวชิ ำกำรทงั้ 60 คน ยงั ไมไ่ ดม้ กี ำรหำรอื กนั แตต่ นคดิ ว่ำใน
แงข่ องเสรภี ำพ กำรแสดงควำมเหน็ ทำงวชิ ำกำรจะตอ้ งไม่ถูกควบคุมเน้อื หำหรอื หวั ขอ้ แตห่ ำกมกี ำรควบคมุ เน้อื หำหรอื
หวั ขอ้ แลว้ จะไมใ่ ชก่ ำรแลกเปลย่ี นทำงวชิ ำกำรอกี ต่อไป และทหำรเองกไ็ มม่ สี ทิ ธทิ์ จ่ี ะมำควบคมุ หรอื จำกดั เสรภี ำพทำง
วชิ ำกำรได้
นำยปรำชญ์ กลำ่ วต่อว่ำ เมอ่ื ทำงรฐั บำลออกมำบอกอย่ำงน้ี เรำเองกย็ งั ไม่ไดห้ ำรอื กนั ว่ำจะทำอยำ่ งไรต่อไป
เพยี งแต่ไดย้ ้ำจุดยนื คอื เสรภี ำพทำงวชิ ำกำรทจ่ี ะตอ้ งไมถ่ กู ควบคุม จะใหไ้ ปขออนุญำตเพ่อื จดั เสวนำยนื ยนั ว่ำคงไม่ทำ
แน่นอน ไม่เช่นนนั้ จะบอกวำ่ เป็นงำนทำงวชิ ำกำรไม่ไดเ้ ลย ทงั้ น้ี ยนื ยนั ว่ำงำนทำงวชิ ำกำรไม่กระทบต่อควำมมนั ่ คง และ
นักวชิ ำกำรไมไ่ ดล้ ้ำเสน้ ใคร เรำไมเ่ คยไปล้ำเสน้ ใครเลย มแี ตท่ หำรทม่ี ำลำ้ เสน้ เรำ ไปจบั นกั วชิ ำกำรถงึ ในมหำวทิ ยำลยั
อยำ่ งน้ถี อื วำ่ ลำ้ เสน้ มำก พวกเรำยอมรบั ไม่ได้ ไม่เหน็ ดว้ ยทจ่ี ะมำคุกคำมนักศกึ ษำและนักวชิ ำกำร
ที่มา : http://thaienews.blogspot.com/2014/09/blog-post_416.html
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2 การติดตามข่าวสาร 1 ชวั่ โมง
บา้ นเมอื ง
1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 6 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) เสนอวธิ กี ำรและปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งอย่ำงเหมำะสมได้
2) วเิ ครำะหป์ ระโยชน์ของกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งได้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรใฝ่หำควำมรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำทไ่ี ด้
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
กำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งและกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเป็นสว่ นหน่งึ ของกำรปฏบิ ตั ติ นเป็น
พลเมอื งดใี นระบอบประชำธปิ ไตย
3 สาระการเรียนรู้
1. พลเมอื งดตี ำมวถิ ปี ระชำธปิ ไตย
- กำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ใฝ่หำควำมรู้
- ตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี
4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 2) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
4) ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะกำรสำรวจคน้ หำ
3) ทกั ษะกำรใหเ้ หตุผล
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ
5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม
5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
5.2 คา่ นิยม
- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
6 กิจกรรมการเรยี นรู้
1. สมำชกิ แต่ละคนในกลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) ผลดั กนั เล่ำสำระสำคญั ของขำ่ วสำร
บำ้ นเมอื ง ซง่ึ เป็นขำ่ วประจำวนั คนละ 1 ขำ่ ว ใหเ้ พอ่ื นในกล่มุ ฟัง โดยใชเ้ หตผุ ลและหลกั ฐำนประกอบ
ในกำรวเิ ครำะหแ์ ละตดั สนิ ใจเชอ่ื ถอื ขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง ครูตรวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั คดิ วธิ กี ำรตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งอยำ่ งเหมำะสม แลว้ เขยี นเป็นผงั มโนทศั น์
3. ครใู หต้ วั แทนนกั เรยี น 2-3 กลมุ่ นำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นกลุ่มอ่นื ทม่ี ผี ลงำนท่ี
แตกต่ำงกนั ออกไปนำเสนอเพมิ่ เตมิ ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
4. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั เสนอวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง เชน่
- รบั ฟังข่ำวสำรบำ้ นเมอื งจำกแหลง่ ขอ้ มลู หลำยๆ แหล่ง แลว้ ใชเ้ หตุผลในกำรวเิ ครำะหข์ ำ่ ว
- มวี จิ ำรณญำณในกำรรบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
- ตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งอย่ำงเหมำะสม
- มสี ว่ นร่วมในกำรแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ข่ำวสำรบำ้ นเมอื งอยำ่ งเหมำะสม
5. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ตดั สนิ ใจ วำงแผนกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
และแบ่งหน้ำทก่ี นั หำขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
6. สมำชกิ แต่ละกลุ่มสบื คน้ และตดิ ตำมข่ำวสำรบำ้ นเมอื งทงั้ ดำ้ นกำรเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม
ทงั้ ในประเทศและต่ำงประเทศ แลว้ บนั ทกึ และตดิ ภำพประกอบลงในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ี 1
จำกหนงั สอื กจิ กรรม ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
7. สมำชกิ แต่ละกลุ่มผลดั กนั นำขำ่ วสำรบำ้ นเมอื งทไ่ี ดจ้ ำกกำรสบื คน้ และตดิ ตำมไปออกรำยกำร
เสยี งตำมสำยหรอื เผยแพรด่ ว้ ยวธิ กี ำรทเ่ี หมำะสม
8. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ วธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดใี นกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง และ
ประโยชน์ของกำรตดิ ตำมขำ่ วสำรบำ้ นเมอื ง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมุข
7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น 12 ประกำร
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อยำ่ งขำ่ ว
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
—
ตวั อย่างข่าว
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็ นประมขุ
ชาวลาดหลมุ แก้วรว่ มตกั บาตรน้าผงึ้
ชำวบำ้ นไดร้ ว่ มกนั ทำบุญตกั บำตรในประเพณตี กั บำตรน้ำผง้ึ เป็นกำรทำบุญในวนั ขน้ึ 15 ค่ำ เดอื น 10 ของทุกปี
ทว่ี ดั สุทธำวำส ต. ลำดหลุมแกว้ อ. ลำดหลุมแกว้ จ. ปทมุ ธำนี ซง่ึ เป็นประเพณีของชำวมอญรำมญั กำรตกั บำตรน้ำผง้ึ นนั้
เป็นประเพณีกำรถวำยน้ำผง้ึ แกภ่ กิ ษุและสำมเณร สบื เน่อื งมำจำกควำมเช่อื วำ่ ในสมยั พทุ ธกำล พระพทุ ธเจำ้ เสดจ็ ประทบั
ทป่ี ่ำเลไลยม์ ชี ำ้ งและลงิ คอยอปุ ัฏฐำก โดยกำรนำเอำน้ำออ้ ยและน้ำผง้ึ มำถวำย ตอ่ มำจงึ ทรงมพี ทุ ธำนุญำตใหภ้ กิ ษุ
สำมเณรรบั น้ำผง้ึ และน้ำออ้ ยมำบรโิ ภคเป็นยำได้ กำรตกั บำตรน้ำผง้ึ มกั จดั กนั ทศ่ี ำลำวดั ขณะทพ่ี ระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธ
มนตน์ นั้ ชำวบำ้ นจะนำน้ำผง้ึ มำใสบ่ ำตร และนำน้ำตำลใส่ในจำนทว่ี ำงคกู่ บั บำตร สว่ นอำหำรคำวหวำนจะใสใ่ นภำชนะท่ี
วำงแยกไวอ้ กี ดำ้ นหน่งึ อำหำรพเิ ศษทน่ี ำมำใสบ่ ำตร ไดแ้ ก่ ขำ้ วตม้ มดั ถวำยเพ่อื ใหพ้ ระฉนั จม้ิ กบั น้ำผง้ึ หรอื น้ำตำล
ดำ้ นนำยอุดม ชดั ใจ อำยุ 58 ปี กล่ำววำ่ กำรตกั บำตรน้ำผง้ึ เป็นกจิ กรรมทน่ี ้อมนำใหร้ ะลกึ ถงึ องคผ์ มู้ พี ระภำคเจำ้
อกี ทงั้ น้ำผง้ึ นนั้ เป็นโอสถสมุนไพร บำ้ งว่ำเป็นยำอำยวุ ฒั นะทส่ี ำมำรถรกั ษำโรคไดต้ งั้ แต่สมยั พทุ ธกำลเป็นตน้ มำจงึ สบื ทอด
ตอ่ กนั มำจนถงึ ปัจจบุ นั
ท่ีมา : http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=564335
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหน่ง
ดำ้ นควำมรู้
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ดำ้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหำ/อุปสรรค
แนวทำงกำรแกไ้ ข