The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s.aekapop, 2021-10-25 10:09:25

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

รวมเล่ม-แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

Keywords: แผนการสอนหน้าที่พลเมือง ม.2

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมท่ี ความสาคญั ของความหลากหลาย
4.1 ทางสงั คม วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชีย

ตอนที่ 1
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู ำพ แลว้ รว่ มกนั วเิ ครำะหแ์ ละตอบคำถำม

ภาพท่ี 1 ภาพที่ 1 ภาพท่ี 3 ภาพท่ี 4

คาถาม
1. วถิ กี ำรดำเนนิ ชวี ติ ของคนในภูมภิ ำคเอเชยี มลี กั ษณะอย่ำงไร จงอธบิ ำย

2. นกั เรยี นคดิ วำ่ สงิ่ แวดลอ้ มทำงธรรมชำตมิ ผี ลตอ่ กำรดำเนินชวี ติ ของคนในภูมภิ ำคเอเชยี อย่ำงไร

3. ถำ้ นกั เรยี นไปท่องเทย่ี วตำมสถำนทใ่ี นภำพท่ี 1-4 นกั เรยี นจะเลอื กไปบรเิ วณใด จงอธบิ ำยเหตผุ ล

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ตอนที่ 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภำพวฒั นธรรมดำ้ นสถำปัตยกรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ทน่ี กั เรยี นช่นื ชอบมำกทส่ี ุด 1 ภำพ

ลงในกรอบ แลว้ เขยี นบรรยำยใตภ้ ำพ

(ตดิ ภาพ)

1. ช่อื ภำพ
2. ควำมสำคญั ของภำพ

3. เหตผุ ลทช่ี ่นื ชอบภำพน้ี

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมท่ี ความสาคญั ของความหลากหลาย
4.1 ทางสงั คม วฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชีย

ตอนที่ 1
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู ำพ แลว้ ร่วมกนั วเิ ครำะหแ์ ละตอบคำถำม

ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 1 ภาพที่ 3 ภาพท่ี 4

คาถาม
1. วถิ กี ำรดำเนนิ ชวี ติ ของคนในภูมภิ ำคเอเชยี มลี กั ษณะอย่ำงไร จงอธบิ ำย

มคี วามหลากหลายและแตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะพน้ื ที่เพราะมคี วามคดิ ความเชอื่ ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์
และระบอบการเมอื งการปกครองทแี่ ตกต่างกนั ไป

2. นกั เรยี นคดิ ว่ำ สงิ่ แวดลอ้ มทำงธรรมชำตมิ ผี ลตอ่ กำรดำเนินชวี ติ ของคนในภูมภิ ำคเอเชยี อย่ำงไร

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

3. ถำ้ นกั เรยี นไปทอ่ งเทย่ี วตำมสถำนทใ่ี นภำพท่ี 1-4 นกั เรยี นจะเลอื กไปบรเิ วณใด จงอธบิ ำยเหตผุ ล

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ตอนท่ี 2
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภำพวฒั นธรรมดำ้ นสถำปัตยกรรมในภูมภิ ำคเอเชยี ทน่ี กั เรยี นช่นื ชอบมำกทส่ี ุด 1 ภำพ

ลงในกรอบ แลว้ เขยี นบรรยำยใตภ้ ำพ

(ตดิ ภาพ)

1. ช่อื ภำพ
2. ควำมสำคญั ของภำพ

3. เหตผุ ลทช่ี น่ื ชอบภำพน้ี

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 การอยู่ร่วมกนั ในสงั คม 1 ชวั่ โมง
พหวุ ฒั นธรรม

1 ผลการเรียนร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 8 เหน็ คุณค่ำของกำรอยรู่ ว่ มกนั ในภูมภิ ำคเอเชยี อยำ่ งสนั ติ และพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) วเิ ครำะหแ์ นวทำงกำรอย่รู ่วมกนั อย่ำงสนั ตใิ นสงั คมพหุวฒั นธรรมได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี จะตอ้ งเคำรพซง่ึ กนั และกนั ช่วยเหลอื กนั แบง่ ปัน
ไม่ดหู มน่ิ และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรม และกำรพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
- เคำรพซง่ึ กนั และกนั
- ไมแ่ สดงกริ ยิ ำและวำจำดหู มนิ่ ผอู้ น่ื
- ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั แบง่ ปัน

2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครเู ล่ำขำ่ วเกย่ี วกบั กำรชว่ ยเหลอื และร่วมมอื กนั ระหวำ่ งประเทศในภูมภิ ำคเอเชยี ใหน้ กั เรยี นฟัง เชน่
- สมำคมมติ รภำพลำว-จนี โอนเงนิ บรจิ ำคชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั แผ่นดนิ ไหวยนู นำน
- ไทย-มองโกเลยี ผลกั ดนั ควำมร่วมมอื ทำงดำ้ นวทิ ยำศำสตร-์ เทคโนโลยี

2. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะหถ์ งึ ลกั ษณะกำรกระทำของบุคคลหรอื ควำมร่วมมอื ระหวำ่ งประเทศ
ตำมขำ่ วทค่ี รเู ลำ่ ใหฟ้ ัง แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ขำ่ วดงั กล่ำวเป็นกำรชว่ ยเหลอื หรอื รว่ มมอื กนั ในดำ้ นใด
2) ผลของกำรกระทำดงั กลำ่ วมผี ลดตี อ่ ใคร จงอธบิ ำย
3) กำรกระทำดงั กลำ่ วสง่ ผลดตี ่อควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงประเทศอยำ่ งไร จงอธบิ ำย
4) นกั เรยี นคดิ ว่ำ ขำ่ วดงั กล่ำวมกี ำรกระทำทไ่ี มเ่ หมำะสมบำ้ งหรอื ไม่ จงอธบิ ำย

3. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรอย่รู ่วมกนั ในสงั คม
พหวุ ฒั นธรรม จำกหนงั สอื กจิ กรรม หอ้ งสมดุ หรอื แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ

4. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั ยกตวั อย่ำงกำรกระทำทแ่ี สดงออกถงึ กำรอย่รู ว่ มกนั อย่ำงสนั ตใิ นสงั คม
พหุวฒั นธรรมตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรเคำรพซง่ึ กนั และกนั
2) กำรไมแ่ สดงกริ ยิ ำวำจำดหู มนิ่ ผอู้ น่ื
3) กำรช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั และกำรแบ่งปัน
จำกนนั้ สุ่มนกั เรยี น 3-4 กลุ่ม นำเสนอผลกำรยกตวั อย่ำงหน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นกล่มุ อ่นื ทม่ี ผี ล
กำรยกตวั อยำ่ งทแ่ี ตกตำ่ งกนั ออกไปนำเสนอเพม่ิ เตมิ ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

5. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปแนวทำงกำรอย่รู ่วมกนั อยำ่ งสนั ตใิ นสงั คมพหวุ ฒั นธรรม
6. นกั เรยี นแต่ละคนอ่ำนกรณศี กึ ษำทก่ี ำหนดและตอบคำถำม จำกนนั้ เขยี นบอกกำรปฏบิ ตั ติ นเม่อื อยใู่ น

เหตกุ ำรณ์ทก่ี ำหนดลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนังสอื กจิ กรรม เป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำม
ระยะเวลำทก่ี ำหนด

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

7 การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
วิธีการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ 12 ประกำร
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
และมุง่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขำ่ ว

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) หอ้ งสมดุ
2) แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ

- http://ge.kbu.ac.th/Download5_files/img/6.pdf

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ตวั อย่างข่าว

สมาคมมิตรภาพลาว-จีนโอนเงินบริจาคช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั แผน่ ดินไหวยูนนาน

สำนกั ขำ่ วซนิ หวั รำยงำนวำ่ นำยสนิ ลำวง กดุ ไพทนุ (sinlavong khudphaithoun) นำยกสมำคมมติ รภำพลำว-จนี
นำยกเทศมนตรเี วยี งจนั ทน์ไดม้ อบเงนิ บรจิ ำคช่วยผปู้ ระสบภยั แผ่นดนิ ไหวหลเู่ ตย้ี นทย่ี นู นำนกอ้ นแรกเป็นเงนิ
136,000 เหรยี ญสหรฐั ฯ ใหน้ ำยกวนั หวำปิน เอกอคั รรำชทตู จนี ประจำลำว เงนิ บรจิ ำคกอ้ นน้มี ำจำกหลำยวงกำรของลำว

เม่อื วนั ท่ี 15 สงิ หำคมทผ่ี ำ่ นมำน้ี สมำคมมติ รภำพลำว-จนี ไดป้ ระกำศกำรเชญิ ชวนบรจิ ำคเงนิ ใหเ้ ขตประสบภยั
แผ่นดนิ ไหวอำเภอหลู่เตย้ี น มณฑลยนู นำนของจนี และจดั งำนกำรกศุ ลขนำดใหญท่ ก่ี รงุ เวยี งจนั ทน์ เพ่อื รบั เงนิ บรจิ ำค
และขอบคณุ ผแู้ ทนวสิ ำหกจิ และประชำชนทบ่ี รจิ ำคเงนิ

ท่ีมา : http://www.bbrtv.com/2014/0820/167427.html

ไทย-มองโกเลีย ผลกั ดนั ความรว่ มมอื วิทยาศาสตร-์ เทคโนโลยี

“วรวจั น์” เผย “ไทย-มองโกเลยี ” เลง็ ผลกั ดนั ควำมรว่ มมอื วทิ ยำศำสตร์-เทคโนโลยี และแลกเปลย่ี นขอ้ มลู กอ่ นขยำย
ควำมร่วมมอื ดำ้ นอน่ื ๆ ในอนำคต

เม่อื วนั ท่ี 29 เม.ย. นำยวรวจั น์ เออ้ื อภญิ ญกุล รมว. วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยวำ่ ตนพรอ้ ม
น.ส.ยง่ิ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร เดนิ ทำงเยอื นมองโกเลยี อย่ำงเป็นทำงกำร เพอ่ื เขำ้ รว่ มกำรประชมุ ระดบั รฐั มนตรขี องกรอบ
กำรประชมุ ประชำคมประชำธปิ ไตย (Community of Democracies-CD) ครงั้ ท่ี 7 และไดล้ งนำมในบนั ทกึ ควำมตกลง
ระหวำ่ งกระทรวงวทิ ยำศำสตรฯ์ กบั กระทรวงศกึ ษำและวทิ ยำศำสตรแ์ ห่งประเทศมองโกเลยี ว่ำดว้ ยควำมร่วมมอื ดำ้ น
วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ซง่ึ เป็นสว่ นหน่งึ ของกำรสง่ เสรมิ ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงไทยกบั มองโกเลยี ในระหวำ่ งกำร
เดนิ ทำงเยอื นอย่ำงเป็นทำงกำรของนำยกรฐั มนตรดี ว้ ย โดยกำรลงนำมในบนั ทกึ ควำมตกลงครงั้ น้ีจะชว่ ยกระชบั
ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงไทยและมองโกเลยี ในดำ้ นวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ซง่ึ สำมำรถเป็นตวั เชอ่ื มควำมสมั พนั ธไ์ ปสู่
กำรขยำยควำมรว่ มมอื ดำ้ นอ่นื ๆ ต่อไปในอนำคต รวมถงึ ยงั เป็นกำรส่งเสรมิ บทบำทไทยในดำ้ นควำมรว่ มมอื กบั
มติ รประเทศซง่ึ สอดคลอ้ งกบั นโยบำยของไทยในเรอ่ื งกำรเปลย่ี นแปลงสถำนะของไทยในเวทรี ะหวำ่ งประเทศ จำกประเทศ
ผรู้ บั ไปสกู่ ำรเป็นประเทศผใู้ หแ้ ละสรำ้ งเศรษฐกจิ บนพน้ื ฐำนควำมรดู้ ว้ ย นำยวรวจั น์กลำ่ วต่อว่ำ บนั ทกึ ควำมตกลงดงั กล่ำว
เป็นประโยชน์อย่ำงยง่ิ ในกำรผลกั ดนั ควำมรว่ มมอื ทำงดำ้ นวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระหวำ่ งไทย-มองโกเลยี ในดำ้ น
อำหำร เทคโนโลยชี วี ภำพ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ คอมพวิ เตอร์ นวตั กรรม และกำรวจิ ยั ดำ้ นยำ โดยจะมกี ำรแลกเปลย่ี นขอ้ มลู
เกย่ี วกบั อุทยำนวทิ ยำศำสตรป์ ระเทศไทย ซง่ึ เน้นกำรถำ่ ยทอดเทคโนโลยี รวมถงึ กำรแลกเปลย่ี นนักวชิ ำกำรและ
นักวทิ ยำศำสตรร์ ุน่ เยำว์ กำรจดั สมั มนำ และเวทหี ำรอื กำรจดั นทิ รรศกำรผลงำนดำ้ นนวตั กรรมกำรดำเนินโครงกำร
ร่วมกนั ดำ้ นวทิ ยำศำสตรพ์ น้ื ฐำนและประยกุ ต์ จดั ตงั้ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรและหน่วยวจิ ยั ร่วมกนั เป็นตน้ ทงั้ น้ี ทงั้ สองฝ่ำยได้
เตรยี มแผนงำนในกำรดำเนนิ กำรตำมขอ้ ตกลง โดยทำงทมี นักวจิ ยั จำกประเทศมองโกเลยี จะเดนิ ทำงมำเยย่ี มชมอุทยำน
วทิ ยำศำสตรป์ ระเทศไทยและหอ้ งปฏบิ ตั ขิ องไทย ภำยหลงั กำรลงนำมควำมร่วมมอื เสรจ็ สน้ิ

ท่ีมา : http://www.thairath.co.th/content/341650

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 การอยู่รว่ มกนั และการ 1 ชวั่ โมง
พ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 8 เหน็ คณุ ค่ำของกำรอย่รู ว่ มกนั ในภมู ภิ ำคเอเชยี อยำ่ งสนั ติ และพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) วเิ ครำะหแ์ นวทำงกำรอย่รู ่วมกนั อย่ำงสนั ตใิ นสงั คมพหวุ ฒั นธรรมได้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรอย่รู ่วมกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมในภูมภิ ำคเอเชยี จะตอ้ งมกี ำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั และปฏบิ ตั ติ น
เป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรียนรู้

1. กำรอย่รู ่วมกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรม และกำรพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั
- เคำรพซง่ึ กนั และกนั
- ไมแ่ สดงกริ ยิ ำและวำจำดหู มน่ิ ผูอ้ น่ื
- ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั แบง่ ปัน

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะกำรใหเ้ หตผุ ล
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. นกั เรยี นร่วมกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั กำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั เช่น เพลงเกดิ มำพง่ึ กนั และเพลง
คนไทยไม่ทง้ิ กนั เป็นตน้ หรอื อำ่ นบทกลอนเกย่ี วกบั กำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั เช่น พง่ึ พำ เป็นตน้

เพลงเกิดมาพ่งึ กนั
* เกดิ เป็นคนอย่ำเหน็ แกต่ นแหละดี ถงึ จะมรี ่ำรวยสุขสนั ต์ จนหรอื มไี มเ่ ป็นทส่ี ำคญั

แมร้ กั กนั พง่ึ พำ อย่ำไปตดั ไมตรี เกดิ มำพง่ึ กนั ผวิ พรรณใช่แบ่งศกั ดศิ ์ รี วนั น้เี รำอย่คู ดิ ดใู หด้ ี
ถงึ จะจนจะมี อย่ำไปสรำ้ งเวรกรรม ขนื ทำชวั่ ไปอำจตอ้ งใชก้ รรมเวร อยำ่ งมงำยโลภหลง
เพรำะคงจะเกดิ ลำเคญ็ สรำ้ งบุญพระท่ำนคงเหน็ ร่มเยน็ พน้ ควำมกงั วล ถงึ วบิ ตั ขิ ดั สน
ผลบุญนำให้ ศลี ธรรมมนั่ ใจ ไมต่ อ้ งไปกงั วล ถงึ จะมจี ะจนจะเกดิ กุศลดลใจ (ซ้ำ *)
ที่มา : http://radio.sanook.com/music/player/2370/เกดิ มำพง่ึ กนั

เพลงคนไทยไม่ทิ้งกนั
มนั เหมอื นหวั ใจสลำย นำทที ส่ี ำยน้ำมำ กวำดทลำยในพรบิ ตำ ทงั้ ชวี ติ หำยไป เสยี งของควำม
เฝ้ำตรม ดงั ระงมถงึ แสนไกล บำดลงบนหวั ใจคนไทยทกุ คน
* เรำรวู้ ่ำควำมบอบช้ำ มนั ยำกจะทำใจได้ คนทร่ี กั ถูกพรำกไป คนทเ่ี หลอื ทกุ ขท์ น แต่ขอใหเ้ ชอ่ื
แลว้ กนั ในวนั ทใ่ี ครตอ้ งหมองหม่น อกี หกสบิ กว่ำลำ้ นคนจะย่นื มอื ไป
** ใหเ้ ป็นธำรน้ำใจ ตำ้ นคล่นื ทม่ี นั ไหลมำ ใหน้ ้ำใจซบั น้ำตำ คนื มำซง่ึ วนั สดใส จะเจบ็ จะปวด
อกี กค่ี รงั้ จะรวมพลงั ลุกยนื ขน้ึ ใหม่ ใหโ้ ลกไดร้ เู้ อำไว้ คนไทยไม่เคยทง้ิ กนั (ซำ้ *)
แมว้ ำ่ โลกจะรำ้ ย สญู เสยี อะไรทุกอย่ำง แตน่ ้ำใจไทยจะหลงั่ เพอ่ื ลำ้ งทกุ ควำมเสยี ใจ (ซ้ำ **)
คนไทยไมเ่ คยทง้ิ กนั คนไทยไม่เคยทง้ิ กนั คนไทยไม่เคยทง้ิ กนั คนไทยไม่เคยทง้ิ กนั
ท่ีมา : http://www.siamzone.com/music/thailyric/3485/คนไทยไมท่ ง้ิ กนั -ปำน-ธนพร-

แวกประยูร

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

บทกลอนพึ่งพา

น้ำพง่ึ เรอื เสอื พง่ึ ป่ำปลำพง่ึ น้ำ หลำยสงิ่ ย้ำครำครวญชวนใหเ้ หน็

เหตกุ อ่ เกดิ เลศิ ลกั ษณ์จกั ฉ่ำเยน็ หำกเรำเหน็ ...เหตุแห่งกรรม..ทท่ี ำมำ

เรำตำ่ งตอ้ งพง่ึ พำลว้ นอำศยั รนิ น้ำใจใหก้ นั นัน่ แหละหนำ

จะพบสุขทกุ ขร์ ำ้ งห่ำงชวี ำ ตอ้ งหนั หน้ำ..ชว่ ยเหลอื เพอ่ื เจอื จำน

ฉนั มขี ำ้ วเธอมปี ลำเอำมำแลก ฉนั มแี จกเธอพอใหไ้ ดป้ ระสำน

ฉนั มแี รงแกร่งพอขอช่วยงำน เรำเบกิ บำน..เธอฉนั ..นนั้ เจอื จนุ

ครำฉนั รอ้ นออ่ นใจไดห้ ยบิ ย่นื ใจจงึ ชน้ื ตน้ื ตนั นนั่ เธอหนุน

ครำเธอไรใ้ จฉนั พลนั เป็นทุน น้ำใจอุ่นเออ้ื ใจไดพ้ กั พงิ

หนั หน้ำมำเถดิ พน่ี ้องรอ้ งเพลงชำติ ไทยประกำศเกยี รตไิ ทยทงั้ ชำยหญงิ

หนั หน้ำมำแกไ้ ขใช่ทว้ งตงิ หำกมวั น่ิง...เรำแย่...แพด้ ว้ ยกนั ..

ครพู มิ

ที่มา : http://www.thaipoem.com/กลอน/บทกว-ี คำคม/119775

2. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะหส์ ำระสำคญั และขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกบทเพลงหรอื บทกลอน แลว้ ตอบคำถำมตำมท่ี
กำหนด ดงั น้ี
1) บทเพลงหรอื บทกลอนมสี ำระสำคญั หรอื ประเดน็ สำคญั อยำ่ งไร
2) บทเพลงหรอื บทกลอนสอนใหร้ จู้ กั กำรปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกนั อยำ่ งไร
3) นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จำกบทเพลงหรอื บทกลอนอยำ่ งไร

3. ครทู บทวนแนวทำงกำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสนั ตใิ นสงั คมพหุวฒั นธรรมตำมหลกั กำรเคำรพซง่ึ กนั และกนั
กำรไมแ่ สดงกริ ยิ ำวำจำดหู มนิ่ ผอู้ ่นื กำรชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั และกำรแบ่งปัน

4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) จบั ค่กู นั แลว้ ชว่ ยกนั ทำใบกิจกรรมที่ 4.2 เรื่อง
การอยู่ร่วมกนั และการพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั โดยวเิ ครำะหก์ รณีตวั อย่ำงและตอบคำถำม

ตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด
5. สมำชกิ แต่ละคผู่ ลดั กนั อธบิ ำยคำตอบของคตู่ นเองใหเ้ พอ่ื นในกลุม่ ฟัง แลว้ อภปิ รำยดว้ ยเหตุผลในกรณี

ทค่ี ำตอบไม่ตรงกนั เพอ่ื หำคำตอบทเ่ี ป็นมตขิ องกลุ่ม
6. ตวั แทนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอคำตอบของกลมุ่ ตนเองหน้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะ

เพม่ิ เตมิ
7. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ถงึ แนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นในกำรอย่รู ว่ มกนั อย่ำงสนั ตใิ นสงั คมทม่ี ี

ควำมหลำกหลำยทำงวฒั นธรรม แลว้ สรปุ องคค์ วำมรู้

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

8. นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่ำนกรณีตวั อย่ำงทก่ี ำหนด แลว้ เขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นทถ่ี กู ตอ้ งต่อเพอ่ื น
ชำวต่ำงชำตลิ งในกจิ กรรมนำสปู่ ฏบิ ตั ิ จำกหนงั สอื กจิ กรรม ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำ
ทก่ี ำหนด

7 การวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์

วิธีการ ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 รอ้ ยละ 60 ผำ่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 4.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ และควำมสำมำรถ
ในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ แบบประเมนิ ค่ำนยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 12 ประกำร
และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน
สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) เพลงหรอื กลอน
3) ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 เร่อื ง กำรอยรู่ ว่ มกนั และกำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั

8.2 แหล่งการเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมท่ี

4.2 การอยรู่ ว่ มกนั และการพงึ่ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กำรอย่รู ว่ มกนั และกำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั

ท่ี ขอ้ ความ ถ้านักเรียนอย่ใู นเหตุการณ์นัน้ จะปฏิบตั ิตนอย่างไร

1 ป่ินมุกถกู ชำวตำ่ งชำตถิ ำม
เสน้ ทำงกำรท่องเทย่ี ว

2 ลนี ่ำหวั เรำะทอ่ี บั ดุลเอำน้ำ
ใสถ่ งั ไปสำดคนทเ่ี ล่นน้ำ
ในวนั สงกรำนต์

3 แอซะและยูมติ อ้ งกำรเขำ้ ชม
พระบรมมหำรำชวงั แตไ่ มม่ ี
ควำมรวู้ ่ำจะปฏบิ ตั ติ นอยำ่ งไร

4 หวำนมกั พดู จำเหน็บแนม
ชำวตำ่ งชำตทิ ม่ี ำจำกประเทศ
กำลงั พฒั นำ

5 รำเชนพดู ชมเชยจดุ เด่นของ
ประเพณีชำตติ ่ำงๆ ในเอเชยี

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมที่

4.2 การอยรู่ ่วมกนั และการพึง่ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กำรอยรู่ ว่ มกนั และกำรพง่ึ พำอำศยั ซง่ึ กนั และกนั

ที่ ขอ้ ความ ถา้ นักเรยี นอยู่ในเหตุการณ์นัน้ จะปฏิบตั ิตนอย่างไร

1 ปิ่นมุกถูกชำวตำ่ งชำตถิ ำม
เสน้ ทำงกำรทอ่ งเทย่ี ว

2 ลนี ่ำหวั เรำะทอ่ี บั ดลุ เอำน้ำ
ใสถ่ งั ไปสำดคนทเ่ี ล่นน้ำ
ในวนั สงกรำนต์

3 แอซะและยูมติ อ้ งกำรเขำ้ ชม
พระบรมมหำรำชวงั แตไ่ ม่มี
ควำมรวู้ ่ำจะปฏบิ ตั ติ นอย่ำงไร

4 หวำนมกั พดู จำเหนบ็ แนม
ชำวตำ่ งชำตทิ ม่ี ำจำกประเทศ
กำลงั พฒั นำ

5 รำเชนพดู ชมเชยจดุ เด่นของ
ประเพณีชำตติ ำ่ งๆ ในเอเชยี

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 ความขดั แย้ง 1 ชวั่ โมง
จากการละเมิดสิทธิ

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 9 มสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) วเิ ครำะหค์ วำมเสยี หำยและผลกระทบทเ่ี กดิ จำกปัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรละเมดิ สทิ ธไิ ด้
2) เสนอวธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรละเมดิ สทิ ธไิ ด้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรละเมดิ สทิ ธริ ะหวำ่ งกนั เป็นสว่ นหน่งึ ทท่ี ำใหเ้ กดิ ปัญหำควำมขดั แยง้ ซ่งึ จะตอ้ งหำวธิ กี ำรป้องกนั และ
แกไ้ ขกำรกระทำตำ่ งๆ ทเ่ี ป็นกำรละเมดิ สทิ ธิ และจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรยี นรู้

1. ควำมขดั แยง้
- กำรละเมดิ สทิ ธิ

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครใู หน้ กั เรยี นอำ่ นขำ่ วเกย่ี วกบั กำรละเมดิ สทิ ธิ เช่น
- สงขลำจบั เอเย่นตค์ ำ้ มนุษยใ์ ชแ้ รงงำนเดก็ ต่ำงดำ้ ว
- อตุ รดิตถ์ - รองนายก อบจ.อตุ รดิตถ์ ร่วม พมจ. และศนู ยป์ ระชาบดี บุกช่วยเหลอื เดก็ ชาย 9
ขวบ ถกู แมเ่ ลีย้ งใจโหดทุบตี ผอ.โรงเรียนแฉเดก็ ถกู ทาร้ายเกือบทุกวนั
- ผบู้ รหิ ำรซนั สตำร์ ละเมดิ สทิ ธคิ วำมเป็นมนุษยล์ กู จำ้ ง
- ตร.ภูเกต็ ลยุ ลำ้ งบำงของกอ็ ป ยดึ ของกลำง 200 ลำ้ น

2. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั วเิ ครำะหข์ ำ่ ว จำกนนั้ ตอบคำถำมตำมท่ี
กำหนด ดงั น้ี
1) กำรกระทำดงั กลำ่ วทำใหเ้ กดิ ปัญหำควำมขดั แยง้ อยำ่ งไร
2) ผลของปัญหำควำมขดั แยง้ ทำใหเ้ กดิ ควำมเสยี หำยอยำ่ งไร
3) นกั เรยี นมคี วำมรสู้ กึ กบั กำรกระทำในข่ำวอยำ่ งไร
4) นกั เรยี นคดิ ว่ำ ควรมกี ำรแกไ้ ขกำรกระทำในขำ่ วอย่ำงไร
เสรจ็ แลว้ สง่ ตวั แทนกลุ่มนำเสนอผลกำรวเิ ครำะหห์ น้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะ
เพมิ่ เตมิ

3. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ ครำะหก์ รณีตวั อยำ่ งทก่ี ำหนด แลว้ ตอบคำถำมลงในใบกิจกรรมที่ 4.3
เร่ือง ปัญหาความขดั แย้งจากการละเมิดสิทธิ

4. ครสู มุ่ นกั เรยี น 1-2 กลุม่ นำเสนอคำตอบในใบกจิ กรรมท่ี 4.3 หน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหเ้ พอ่ื นกลุ่มอน่ื ทม่ี ี
คำตอบทแ่ี ตกตำ่ งกนั ออกไปนำเสนอเพมิ่ เตมิ ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

5. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปควำมเสยี หำยและผลกระทบทเ่ี กดิ จำกปัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรละเมดิ สทิ ธิ
ทม่ี ตี ่อคกู่ รณี สงั คม สว่ นรวม และประเทศชำติ และวธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี
ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

6. นกั เรยี นแต่ละคนอำ่ นพำดหวั ขำ่ วหนงั สอื พมิ พ์ จำกนนั้ ตอบคำถำมลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ
จำกหนงั สอื กจิ กรรม ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่ำนเกณฑ์
ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 4.3 ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ ควำมสำมำรถในกำร

แกป้ ัญหำ และควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ

สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
และมงุ่ มนั ่ ในกำรทำงำน

สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) ตวั อย่ำงขำ่ ว
3) ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 เร่อื ง ปัญหำควำมขดั แยง้ จำกกำรละเมดิ สทิ ธิ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ตวั อยา่ งข่าว

สงขลาจบั เอเยน่ ตค์ า้ มนุษยใ์ ช้แรงงานเดก็ ต่างดา้ ว

วนั น้เี วลำประมำณ 01.30 น. เจำ้ หน้ำทต่ี ำรวจด่ำนตรวจคนเขำ้ เมอื งสะเดำ นำโดย พ.ต.ท. เรอื งเดช ธรรมนนั ท์
สว. ดำ่ น ตม. สะเดำ ร่วมกบั เจำ้ หน้ำทต่ี ำรวจ สภ. สะเดำ นำโดย พ.ต.ท. วรี ะศกั ดิ ์เดชประมวลพล สว.ป. สภ. สะเดำ
พรอ้ มกำลงั กวำ่ 50 นำย ออกกวำดลำ้ งจบั กมุ แรงงำนเดก็ ต่ำงดำ้ วทถ่ี ูกนำยหน้ำหรอื เอเยน่ ตบ์ งั คบั ใชแ้ รงงำน หลงั ถูก
ชำวบำ้ นรอ้ งเรยี นเน่อื งจำกสดุ ทนต่อพฤตกิ รรมของเอเยน่ ตโ์ หดหลอกใชแ้ รงงำนเดก็ ในกำรออกปฏบิ ตั กิ ำรครงั้ นใ้ี ชว้ ธิ ี
ปพู รมออกปฏบิ ตั กิ ำรพรอ้ มๆ กนั ตำมหน้ำสถำนบนั เทงิ ดสิ โก้ ผบั และบำร์ สำมำรถจบั กมุ เดก็ ต่ำงดำ้ วเขมร
เดก็ ตำ่ งดำ้ วเวยี ดนำม และเดก็ ไทย ซง่ึ ทงั้ หมดมอี ำยุเฉลย่ี 4 ถงึ 13 ปี

พฤตกิ รรมของเอเย่นตท์ ถ่ี กู จบั ไดว้ นั น้ีจะนำเดก็ ตำ่ งดำ้ วมำเลย้ี งไวเ้ พอ่ื ใชแ้ รงงำน สอนใหเ้ ดก็ เรยี กแมห่ รอื ยำย
เดก็ ๆ จะถกู สอนใหท้ ำทุกวถิ ที ำง เช่น กำรพดู จำจงู ใจใหด้ นู ่ำสงสำร กำรรงั้ ดงึ กอดรดั นกั ท่องเทย่ี วใหช้ ่วยซอ้ื ดอกไม้
ถูกบงั คบั ใหอ้ อกเรข่ ำยตำมหน้ำดสิ โก้ ผบั และบำร์ ตงั้ แตเ่ วลำ 20.00 น. จนถงึ 02.00 น. ทกุ วนั โดยเอเย่นตจ์ ะคอยตำม
เกบ็ เงนิ ทข่ี ำยไดไ้ วท้ งั้ หมด ใหค้ ำ่ ตอบแทนเพยี งวนั ละ 30-50 บำท กนิ ขำ้ ววนั ละ 1-2 มอ้ื หำกวนั ใดขำยไมด่ หี รอื ขำย
ไดไ้ มห่ มดกจ็ ะถกู ดุดำ่ ตบตี เดก็ ต่ำงดำ้ วกลมุ่ น้ไี มม่ โี อกำสไดร้ บั กำรศกึ ษำ และเสย่ี งตอ่ กำรเป็นหญงิ บรกิ ำรดว้ ยควำม
สมคั รใจเม่อื เตบิ โต เน่อื งจำกสภำพแวดลอ้ มในพน้ื ท่ี

ที่มา : http://www.krobkruakao.com/สงขลำ-จบั เอเย่นตค์ ำ้ มนุษยใ์ ชแ้ รงงำนเดก็ ต่ำงดำ้ ว.html

อตุ รดิตถ์ - รองนายก อบจ. อตุ รดิตถ์ รว่ ม พมจ. และศนู ยป์ ระชาบดี
บกุ ชว่ ยเหลอื เดก็ ชาย 9 ขวบ ถกู แมเ่ ลี้ยงใจโหดทบุ ตี ผอ. โรงเรยี นแฉเดก็ ถกู ทารา้ ยเกือบทกุ วนั

รำยงำนขำ่ วจำกจงั หวดั อุตรดติ ถแ์ จง้ ว่ำ นำยรำชนั มหำวนั รองนำยกองคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นจงั หวดั (อบจ.) อุตรดติ ถ์
ไดป้ ระสำนไปยงั สำนักงำนพฒั นำสงั คมและควำมมนั ่ คงของมนุษยจ์ งั หวดั (พมจ.) อตุ รดติ ถ์ และบำ้ นพกั เดก็ และครอบครวั
จ. อุตรดติ ถ์ หรอื ศูนยป์ ระชำบดี เขำ้ ช่วยเหลอื ด.ช. เอ (นำมสมมต)ิ อำยุ 9 ปี นักเรยี นชนั้ ป.3 โรงเรยี นท่ำปลำอนุสรณ์ 2
ต. จรมิ เม่อื วนั ท่ี 22 ส.ค. 2557 หลงั ไดร้ บั แจง้ วำ่ เดก็ ถกู นำงสรอ้ ย (นำมสมมต)ิ อำยุ 34 ปี แม่เลย้ี งใจโหดทำรำ้ ยร่ำงกำย
ทบุ ตดี ว้ ยฟุตเหลก็ เป็นประจำ

ขณะเดยี วกนั เจำ้ หน้ำท่ี พมจ. และศนู ยป์ ระชำบดี บำงสว่ นไดแ้ ยกสอบถำมขอ้ มลู จำกนำยศกั ดสิ ์ ทิ ธิ์ สงิ หท์ อง
ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นท่ำปลำอนุสรณ์ 2 นำงสรอ้ ย และ ด.ช. เอ โดยระหว่ำงทส่ี อบถำมขอ้ มลู จำก ด.ช. เอ พรอ้ มขอดู
บำดแผลทบ่ี รเิ วณดำ้ นหลงั ตำมทน่ี ำงสรอ้ ยอำ้ งว่ำลกู ชำยตกตน้ ไม้ ไม่เคยทำรำ้ ยร่ำงกำยรนุ แรง แตม่ บี ำ้ งท่ีลงโทษเพรำะ
ไม่ทำกำรบำ้ น แตจ่ ำกกำรตรวจสอบพบว่ำเป็นร่องรอยกำรถกู ทำรำ้ ยทบุ ตดี ว้ ยฟุตเหลก็ แดงคลำ้ เป็นรอยถลอกเตม็
แผ่นหลงั สรำ้ งควำมหดหใู่ จแก่เจำ้ หน้ำทเ่ี ป็นอยำ่ งมำก และทน่ี ่ำตกใจคอื จำกกำรสอบถำมชำวบำ้ นใกลเ้ คยี งทรำบว่ำ
เดก็ ถูกทำรำ้ ยทุบตเี กอื บทุกวนั เวลำแมเ่ ลย้ี งทบุ ตกี ไ็ ม่กลำ้ รอ้ งไหเ้ สยี งดงั หำกเสยี งดงั กจ็ ะถกู ลงโทษอยำ่ งหนัก บำงวนั
ไม่ใหก้ นิ ขำ้ ว จนทำใหร้ ่ำงกำยเดก็ ผอม ผวิ เหลอื งมำก เดก็ บอกวำ่ ไมอ่ ยำกอยกู่ บั แม่เลย้ี งรำยน้แี ลว้ อยำกอยกู่ บั ครทู ่ี
โรงเรยี นมำกกว่ำ

ที่มา : http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9540000105799

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ผ้บู ริหารซนั สตาร์ ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษยล์ ูกจา้ ง

กรณลี กู จำ้ งบรษิ ทั ซนั สตำรเ์ อน็ จเิ นียรรง่ิ ประเทศไทย จำกดั ไดม้ กี ำรรอ้ งทุกขว์ ่ำ มผี บู้ รหิ ำรชำวญป่ี ่นุ 2 คน
ไดก้ ระทำกำรละเมดิ สทิ ธแิ รงงำนและควำมเป็นมนุษย์ โดยใชอ้ ำนำจรงั แกลกู จำ้ ง ดว้ ยกำรดำ่ ทอหยำบคำย เหยยี ดหยำม พำดพงิ ดำ้ นเชอ้ื ชำติ
ควำมเป็นคนไทย เชน่ คนไทยขโ้ี กง และใชเ้ ทำ้ เหยยี บเทำ้ ลูกจำ้ งทไ่ี ดร้ บั บำดเจบ็ ตรงแผล ทำใหแ้ ผลอกั เสบบวม รวมถงึ กำรใชอ้ ำนำจโยกยำ้ ย
ลูกจำ้ งไปตำมหน่วยงำนตำ่ งๆ อยำ่ งไมเ่ ป็นธรรม เช่น ยำ้ ยหวั หน้ำชำ่ งเทคนิค
ไปประจำตำแหน่งโอปำเรเตอรเ์ ครอ่ื ง จนเป็นเหตุใหล้ ูกจำ้ งบรษิ ทั ซนั สตำรจ์ ำนวน 700 กว่ำคน รวมตวั กนั ทำหนงั สอื ย่นื เพอ่ื ขอรอ้ งทุกข์

หน่งึ ในพนกั งำนทต่ี งั้ ครรภก์ ลำ่ วว่ำ วนั น้เี รำมำชมุ นุมกนั เพอ่ื เป็นกำลงั ใจใหก้ บั เพอ่ื นพนกั งำนซนั สตำรท์ ุกคนท่ี
ถกู กระทำโดยไมเ่ ป็นธรรม และมคี ำพดู เหยยี ดหยำมจำกผบู้ รหิ ำร ไมว่ ำ่ จะเป็นวำจำว่ำคนไทยโง่ เหยยี บเทำ้ และโยกยำ้ ย
งำนโดยไมเ่ ป็นธรรม จำกหวั หนำ้ งำนมำเป็นพนกั งำน โยกยำ้ ยสำยงำนมวั ่ ไปหมดเหมอื นกลนั่ แกลง้ พนกั งำนไมม่ ี
ควำมสุขในกำรทำงำนและรสู้ กึ ไมป่ ลอดภยั ในกำรทำงำน จนนำมำสกู่ ำรแสดงพลงั ทุกคนออกมำรอ้ งทกุ ขข์ อควำม
เป็นธรรมและศกั ดศิ ์ รคี วำมเป็นมนุษยค์ นื หน่งึ ในแกนนำลูกจำ้ งกลำ่ วว่ำ เจำ้ หน้ำทส่ี วสั ดกิ ำรและคมุ้ ครองแรงงำน จงั หวดั
สมุทรปรำกำร ไดเ้ ชญิ ตวั แทนลกู จำ้ งและนำยจำ้ งเขำ้ มำไกลเ่ กลย่ี ปัญหำทเ่ี กดิ ขน้ึ ซง่ึ ยงั ไมส่ ำมำรถไกลเ่ กลย่ี ได้ และขณะน้ี
ยงั มกี ำรชแ้ี จงควำมคบื หน้ำผลกำรรอ้ งเรยี นของลกู จำ้ ง ทำงบรษิ ทั ซนั สตำรฯ์ ไดม้ กี ำรแจง้ ทำงจดั หำงำนจงั หวดั เพอ่ื ให้
ประกำศรบั สมคั รพนักงำนใหม่ประมำณ 600 อตั รำ ฉะนนั้ จำกกำรทน่ี ำยจำ้ งมกี ำรเปิดรบั สมคั รงำน อำจเชอ่ื ไดว้ ่ำกำร
รอ้ งทุกขข์ องลกู จำ้ งคงไมไ่ ดร้ บั กำรแกไ้ ข และเป็นกำรสง่ สญั ญำณถงึ ลูกจำ้ งทงั้ หมดทม่ี กี ำรลงช่อื ย่นื รอ้ งทุกขก์ ล่ำวโทษ
ผบู้ รหิ ำร

ที่มา : http://voicelabour.org/ผบู้ รหิ ำรซนั สตำร-์ ละเมดิ สทิ ธคิ วำมเป็นมนุษยล์ กู จำ้ ง/

ตร. ภเู กต็ ลยุ ล้างบางของกอ็ ป ยดึ ของกลาง 200 ลา้ น

ตร. ภเู กต็ กวำดลำ้ งสนิ คำ้ ละเมดิ ทรพั ยส์ นิ ทำงปัญญำในพน้ื ทเ่ี ป้ำหมำย 6 จุด ยดึ ของกลำงกวำ่ 4,000 ชน้ิ คำ่ กว่ำ
200 ลำ้ นบำท ตะลงึ พบมกี ำรปลอมนำฬกิ ำยห่ี อ้ ดงั ทม่ี เี พยี ง 12 เรอื นในโลก

เมอ่ื เวลำ 15.00 น. วนั ท่ี 4 ก.ค. 2557 ทห่ี อ้ งประชมุ ชนั้ 3 สภ. กะทู้ จ. ภเู กต็ นำงพริ มล เจรญิ เผำ่ รองปลดั
กระทรวงพำณชิ ย์ นำยสมบรู ณ์ เฉยเจรญิ ผอ. สำนกั ป้องกนั และปรำบปรำมกำรละเมดิ ทรพั ยส์ นิ ทำงปัญญำ
พ.ต.อ. วฑิ รู ย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว. ภเู กต็ พ.ต.อ. จริ ภทั ร โพธชิ์ นะพนั ธุ์ ผกก.สภ. กะทู้ แถลงขำ่ วกำรสนธกิ ำลงั
เจำ้ หน้ำท่ี เขำ้ กวำดลำ้ งและตรวจคน้ กำรละเมดิ ทรพั ยส์ นิ ทำงปัญญำในพน้ื ทห่ี ำดป่ำตอง อ. กะทู้ ซง่ึ เป็นแหล่งท่องเทย่ี ว
สำคญั ของ จ. ภูเกต็ รวมไปถงึ เป็นย่ำนเศรษฐกจิ ทม่ี ชี ำวไทยและชำวตำ่ งชำติ เปิดธรุ กจิ และสถำนประกอบกำร รวม
6 จุด หลงั สบื ทรำบว่ำมกี ำรลกั ลอบเกบ็ และจำหน่ำยสนิ คำ้ ทล่ี ะเมดิ ทรพั ยส์ นิ ทำงปัญญำ เช่น เสอ้ื ผำ้ กระเป๋ ำ รองเทำ้
แว่นตำ นำฬกิ ำ เป็นตน้ โดยสำมำรถตรวจยดึ ของกลำงไดจ้ ำนวน 4,386 ชน้ิ มลู ค่ำรำคำจำหน่ำยในทอ้ งตลำดกว่ำ 200
ลำ้ นบำท พรอ้ มผตู้ อ้ งหำอกี จำนวนหน่งึ ส่งดำเนินคดตี ำมกฎหมำย โดยกำรจบั กมุ ครงั้ น้ี พบกำรลอกเลยี นแบบนำฬกิ ำ
ยห่ี อ้ ดงั ของโลก ซง่ึ ของแทจ้ ะมเี พยี ง 12 เรอื นในโลก รำคำ 1.2 ลำ้ นดอลลำร์ หรอื ประมำณ 40 ลำ้ นบำท

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/434199

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมที่

4.3 ปัญหาความขดั แย้งจากการละเมิดสิทธิ

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวเิ ครำะหก์ รณีศกึ ษำทก่ี ำหนด แลว้ ตอบคำถำม
โตง้ ถกู ลุงเฆย่ี นตดี ว้ ยหวำย เน่อื งจำกโตง้ ทำถว้ ยชำมแตก เสยี หำยหลำยใบ ป้ำเขำ้ หำ้ มปรำมแตล่ งุ

กไ็ ม่หยุดเฆย่ี นโตง้ ลงุ โกรธป้ำมำกจงึ เตะและต่อยป้ำจนไดร้ บั บำดเจบ็
คาถาม

1. ใครเป็นผลู้ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื จงอธบิ ำย

2. กำรกระทำของบคุ คลในขอ้ 1. สง่ ผลเสยี อย่ำงไร จงอธบิ ำย

3. ปัญหำควำมขดั แยง้ ดงั กล่ำวควรแกไ้ ขอยำ่ งไร จงยกตวั อย่ำง และอธบิ ำยเหตผุ ล

หนงั สอื พมิ พล์ งขำ่ วหน้ำหน่ึงว่ำ ชำยคนหน่งึ ด่มื ชำเขยี วยห่ี อ้ หน่งึ แลว้ ปวดทอ้ งตอ้ งเขำ้ โรงพยำบำล
ดว่ น ทำใหป้ ระชำชนทวั่ ไปไมซ่ อ้ื ชำเขยี วยห่ี อ้ นนั้
คาถาม
1. ใครเป็นผลู้ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื จงอธบิ ำย

2. กำรกระทำของบคุ คลในขอ้ 1. สง่ ผลเสยี อยำ่ งไร จงอธบิ ำย

3. ปัญหำควำมขดั แยง้ ดงั กล่ำวควรแกไ้ ขอย่ำงไร จงยกตวั อยำ่ ง และอธบิ ำยเหตุผล

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ใบกิจกรรมที่

4.3 ปัญหาความขดั แยง้ จากการละเมิดสิทธิ

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวเิ ครำะหก์ รณศี กึ ษำทก่ี ำหนด แลว้ ตอบคำถำม

โตง้ ถูกลุงเฆย่ี นตดี ว้ ยหวำย เน่อื งจำกโตง้ ทำถว้ ยชำมแตก เสยี หำยหลำยใบ ป้ำเขำ้ หำ้ มปรำมแต่ลงุ
กไ็ มห่ ยดุ เฆย่ี นโตง้ ลุงโกรธป้ำมำกจงึ เตะและตอ่ ยป้ำจนไดร้ บั บำดเจบ็

คาถาม
1. ใครเป็นผลู้ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื จงอธบิ ำย

ลงุ ละเมดิ สทิ ธใิ นร่างกายของโตง้ และป้า เพราะทกุ คนมสี ทิ ธใิ นรา่ งกายของตนเอง ผอู้ นื่ จะละเมดิ หรอื ทารา้ ยมไิ ด้

2. กำรกระทำของบุคคลในขอ้ 1. สง่ ผลเสยี อย่ำงไร จงอธบิ ำย

ทาใหโ้ ตง้ และป้าไม่พอใจ ไดร้ บั บาดเจบ็ ซงึ่ เป็นการสรา้ งความขดั แยง้ ในครอบครวั

3. ปัญหำควำมขดั แยง้ ดงั กลำ่ วควรแกไ้ ขอยำ่ งไร จงยกตวั อย่ำง และอธบิ ำยเหตผุ ล

ลุงควรแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี โดยการบอกกล่าว ตกั เตอื นโตง้ อยา่ งสุภาพ เหมาะสม

หนงั สอื พมิ พล์ งข่ำวหน้ำหน่ึงวำ่ ชำยคนหน่งึ ด่มื ชำเขยี วยห่ี อ้ หน่งึ แลว้ ปวดทอ้ งตอ้ งเขำ้ โรงพยำบำล
ดว่ น ทำใหป้ ระชำชนทวั่ ไปไม่ซอ้ื ชำเขยี วยห่ี อ้ นนั้

คาถาม
1. ใครเป็นผลู้ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื จงอธบิ ำย

หนังสอื พมิ พล์ ะเมดิ สทิ ธขิ องเจา้ ของกจิ การหรอื ผผู้ ลติ ชาเขยี ว โดยทาใหเ้ สยี ชอื่ เสยี งและประชาชนขาดความเชอื่ ถอื
เป็นการละเมดิ สทิ ธใิ นการประกอบอาชพี สจุ รติ

2. กำรกระทำของบคุ คลในขอ้ 1. สง่ ผลเสยี อยำ่ งไร จงอธบิ ำย

ทาใหเ้ จา้ ของกจิ การหรอื ผผู้ ลติ ชาเขยี วขาดรายได้ เนอื่ งจากประชาชนไม่ซอ้ื ชาเขยี ว และอาจถงึ ขนั้ ตอ้ งปิดกจิ การ
สง่ ผลกระทบต่อลกู จา้ งทอี่ าจถูกเลกิ จา้ งงาน ทาใหข้ าดรายไดม้ าเล้ยี งชพี

3. ปัญหำควำมขดั แยง้ ดงั กลำ่ วควรแกไ้ ขอย่ำงไร จงยกตวั อยำ่ ง และอธบิ ำยเหตุผล

ผเู้ ขยี นขา่ วควรแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี โดยสมั ภาษณค์ ุณหมอเจา้ ของไข้ ผปู้ ่วย และเจา้ ของกจิ การ
หรอื ผผู้ ลติ ชาเขยี ว เพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทเี่ ป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ทถี่ กู ตอ้ ง ชดั เจนกอ่ นนามาเขยี นขา่ ว

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6 ความขดั แย้ง 1 ชวั่ โมง
จากการใช้ของส่วนรวม

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.1 ผลการเรียนรู้
ข้อ 9 มสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) วเิ ครำะหค์ วำมเสยี หำยและผลกระทบทเ่ี กดิ จำกปัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรใชข้ องสว่ นรวมได้
2) เสนอวธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรใชข้ องสว่ นรวมได้
3) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรใชข้ องสว่ นรวมร่วมกนั โดยไม่คำนึงถงึ ผอู้ ่นื อำจนำไปสปู่ ัญหำควำมขดั แยง้ จงึ ตอ้ งหำวธิ กี ำรป้องกนั
แกไ้ ข และปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง เพอ่ื กำรอย่รู ว่ มกนั อย่ำงสนั ติ

3 สาระการเรียนรู้

1. ควำมขดั แยง้
- กำรใชข้ องสว่ นรวม

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง
- ควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
- ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะกำรสรปุ ลงควำมเหน็
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

5.2 คา่ นิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครแู จกบตั รภำพใหส้ มำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 1) กลมุ่ ละ 1 ภำพ ดงั น้ี
- กลมุ่ ท่ี 1 ภำพคนทง้ิ ขยะลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรอื โรงงำนปล่อยน้ำเสยี ลงแม่น้ำ ลำคลอง
- กลุ่มท่ี 2 ภำพโรงงำนปลอ่ ยควนั พษิ
- กลุ่มท่ี 3 ภำพผนงั อำคำร รำวสะพำน หรอื กำแพงมรี อยขดี เขยี น พน่ สสี เปรย์
- กลุ่มท่ี 4 ภำพเดก็ แขง่ รถจกั รยำนยนต์
- กลุ่มท่ี 5 ภำพแมค่ ำ้ ขำยของตรงทำงเดนิ เทำ้

2. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ ครำะหบ์ ตั รภำพ แลว้ ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) กำรกระทำในภำพทำใหเ้ กดิ ปัญหำควำมขดั แยง้ อย่ำงไร
2) สำเหตสุ ำคญั ของปัญหำควำมขดั แยง้ คอื อะไร
3) ผลของปัญหำควำมขดั แยง้ ทำใหเ้ กดิ ควำมเสยี หำยอย่ำงไร
4) ผลกระทบทต่ี ำมมำคอื อะไร
5) ผลเสยี ทเ่ี กดิ ขน้ึ ระยะสนั้ และระยะยำวคอื อะไร
6) นกั เรยี นคดิ วำ่ มวี ธิ กี ำรป้องกนั แกไ้ ขปัญหำควำมขดั แยง้ อยำ่ งไร

3. ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลกำรวเิ ครำะหห์ น้ำชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเสนอแนะ
เพมิ่ เตมิ

4. นกั เรยี นรว่ มกนั เขยี นผงั มโนทศั น์บนกระดำนในหวั ขอ้ วธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรใช้
ของสว่ นรวม เชน่
- กำรไม่ถอื เอำสมบตั สิ ว่ นรวมเป็นของตนเอง
- กำรแบง่ ปันกนั ใชข้ องสว่ นรวม
- กำรอนุรกั ษ์ของสว่ นรวม
- กำรใชข้ องสว่ นรวมอย่ำงรคู้ ุณค่ำ

5. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ควำมเสยี หำยและผลกระทบทเ่ี กดิ จำกปัญหำควำมขดั แยง้ เกย่ี วกบั กำรใช้
ของสว่ นรวม และวธิ กี ำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

6. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นบอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นในกำรใชบ้ รกิ ำรหรอื ดแู ลสำธำรณสมบตั ทิ ก่ี ำหนด จำกนนั้
บอกวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นเม่อื พบเหตกุ ำรณ์ทก่ี ำหนดลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนังสอื กจิ กรรม
ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำมระยะเวลำทก่ี ำหนด

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ ควำมสำมำรถในกำร

แกป้ ัญหำ และควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ

สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน

สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) บตั รภำพ

8.2 แหล่งการเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

บตั รภาพ



ภาพโรงงานปลอ่ ยน้าเสียลงแมน่ ้า ลาคลอง ภาพโรงงานปลอ่ ยควนั พิษ

ภาพกาแพงมรี อยพ่นสสี เปรย์ ภาพเดก็ แขง่ รถจกั รยานยนต์

ภาพแมค่ า้ ขายของตรงทางเดินเท้า

ท่ีมา : ภำพท่ี 1 http://www.thailandindustry.com/news/view.php?id=17022&section=3
1 2 ภำพท่ี 2 http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/42313/สหรฐั เผยร่ำงกม.คมุ กำรปลอ่ ยก๊ำซพษิ ของ
โรงไฟฟ้ำ
34 http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2009/11/R8527840/R8527840.html
http://news.tlcthai.com/news/353856.html
5 ภำพท่ี 3 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=camel&month=05-2013&date=28&group=5&gblog=49
ภำพท่ี 4
ภำพท่ี 5

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 การแก้ปัญหาความขดั แย้ง 1 ชวั่ โมง
ด้วยสนั ติวิธี

1 ผลการเรยี นร้/ู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ข้อ 9 มสี ่วนร่วมและเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี
ขอ้ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) เสนอแนวทำงกำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ไี ด้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

แนวทำงกำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี สำมำรถทำไดโ้ ดยกำรเจรจำไกล่เกลย่ี กำรเจรจำต่อรอง
กำรระงบั ควำมขดั แยง้ และจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี

- กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี - กำรเจรจำต่อรอง

- กำรระงบั ควำมขดั แยง้

2. คณุ ลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ - ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน

- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรสรุปลงควำมเหน็

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครเู ลำ่ กรณตี วั อย่ำงเก่ยี วกบั ปัญหำควำมขดั แยง้ ระหวำ่ งนกั เรยี นในโรงเรยี นเรอ่ื ง กำรแยง่ สถำนท่ี
ฝึกซอ้ มเพลงเชยี รก์ ฬี ำสใี หน้ กั เรยี นฟัง

เรอ่ื ง การแยง่ สถานที่ฝึ กซ้อมเพลงเชียรก์ ีฬาสี
กำรแขง่ ขนั กฬี ำสขี องโรงเรยี นสขุ สบำยวทิ ยำในปีน้ี ทุกกลมุ่ สี ไดแ้ ก่ สเี หลอื ง สฟี ้ำ สแี สด
และสแี ดงตำ่ งกฝ็ ึกซอ้ มเพลงเชยี รก์ นั อยำ่ งเตม็ ท่ี โดยเฉพำะกำรประกวดกองเชยี รข์ องทุกกลุม่ สี
จะมเี พลงใหม่ใหส้ มำชกิ ไดร้ อ้ งเพลงกนั อย่ำงพรอ้ มเพรยี งกนั ทกุ สจี ะชอบไปจบั จองสถำนท่ี
ฝึกซอ้ มเพลงเชยี รก์ นั บรเิ วณลำนไทร ซง่ึ มบี รรยำกำศร่มร่นื และผคู้ นไมพ่ ลกุ พลำ่ น
วนั น้สี มำชกิ กลุ่มสฟี ้ำและกลุ่มสแี สดไดไ้ ปถงึ ลำนไทรในเวลำเดยี วกนั จงึ มกี ำรโตเ้ ถยี ง
แย่งสถำนทฝ่ี ึกซอ้ มเพลงเชยี รก์ นั ต่ำงฝ่ำยต่ำงไม่ยอมกนั ขณะนนั้ รองประธำนคณะกรรมกำร
นกั เรยี นเดนิ ผ่ำนไปพอดี จงึ เจรจำไกลเ่ กลย่ี ระงบั ขอ้ พพิ ำทระหว่ำงตวั แทนของกลุ่มสที งั้ สองฝ่ำย

แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถำมตำมทก่ี ำหนด ดงั น้ี
1) ปัญหำสำคญั คอื อะไร
2) ปัญหำดงั กล่ำวมสี ำเหตสุ ำคญั มำจำกอะไร จงอธบิ ำย
3) นกั เรยี นมแี นวทำงกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ อย่ำงไร
4) นกั เรยี นคดิ วำ่ จะเรม่ิ ดำเนินกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ อย่ำงไร จงอธบิ ำย
2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจว่ำ เมอ่ื มปี ัญหำควำมขดั แยง้ เกดิ ขน้ึ จะตอ้ งแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้
ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี โดยกำรเจรจำไกล่เกลย่ี กำรเจรจำต่อรอง และกำรระงบั ควำมขดั แยง้
3. ครใู หต้ วั แทนนกั เรยี นทไ่ี ดร้ บั กำรฝึกซอ้ มวธิ กี ำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำตอ่ รอง และกำรระงบั
ขอ้ พพิ ำทมำสำธติ วธิ กี ำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำต่อรอง และกำรระงบั ขอ้ พพิ ำทกรณีปัญหำควำม
ขดั แยง้ เร่อื ง กำรแย่งสถำนทฝ่ี ึกซอ้ มเพลงเชยี รก์ ฬี ำสี โดยเรมิ่ ตำมขนั้ ตอน ดงั น้ี

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

1) ขนั้ เตรยี มกำรไกล่เกลย่ี
- มคี นกลำงทำหน้ำทไ่ี กล่เกลย่ี ตำมควำมเหน็ ชอบของทงั้ 2 ฝ่ำย
- ผไู้ กล่เกลย่ี เปิดประชมุ คกู่ รณพี พิ ำททงั้ 2 ฝ่ำย

2) ขนั้ ดำเนนิ กำรไกลเ่ กลย่ี
- ผไู้ กลเ่ กลย่ี และคกู่ รณแี นะนำตนเอง จำกนนั้ ผไู้ กลเ่ กลย่ี ชแ้ี จงกตกิ ำของกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี เชน่
ใหพ้ ดู ทลี ะ 1 คน ไม่พดู แทรกในขณะทอ่ี กี ฝ่ำยหน่ึงพดู และไมโ่ ตเ้ ถยี งกนั เป็นตน้
- ผเู้ สยี หำยเลำ่ ถงึ ควำมเสยี หำยทต่ี นเองไดร้ บั
- ผทู้ ก่ี ระทำใหผ้ อู้ น่ื เสยี หำยเล่ำถงึ สำเหตทุ ไ่ี ดก้ ระทำลงไป
- ผไู้ กล่เกลย่ี ใหค้ ่กู รณผี ลดั กนั เลำ่ ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยไม่ใชอ้ ำรมณ์
- ผไู้ กล่เกลย่ี จะทำหน้ำทเ่ี จรจำรอมชอมใหท้ งั้ 2 ฝ่ำย หนั หน้ำเขำ้ หำกนั ในกรณที ม่ี คี วำมเสยี หำย
เกย่ี วกบั ทรพั ยส์ นิ กใ็ หช้ ดใช้ และผเู้ สยี หำยอำจจะลดหยอ่ นคำ่ เสยี หำยลงบำ้ งตำมควำมเหมำะสม

3) ขนั้ สรุป
เม่อื ค่กู รณีตกลงกนั ไดแ้ ลว้ ผไู้ กล่เกลย่ี กใ็ หท้ งั้ 2 ฝ่ำย บนั ทกึ ขอ้ ตกลงเป็นหลกั ฐำน

4. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ลำดบั ขนั้ ตอนของกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำต่อรอง และกำรระงบั
ขอ้ พพิ ำท เพอ่ื เป็นแนวทำงในกำรปฏบิ ตั ิ

5. นกั เรยี นแตล่ ะคนอำ่ นกรณีศกึ ษำ จำกนนั้ วเิ ครำะหค์ วำมขดั แยง้ พรอ้ มทงั้ บอกแนวทำงกำรแกป้ ัญหำ
ควำมขดั แยง้ ลงในกจิ กรรมฝึกคดิ ฝึกทำ จำกหนงั สอื กจิ กรรม ทำเป็นกำรบำ้ น แลว้ นำสง่ ครตู ำม
ระยะเวลำทก่ี ำหนด

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

ควำมสำมำรถในกำรคดิ ควำมสำมำรถในกำร

แกป้ ัญหำ และควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ

สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
และม่งุ มนั ่ ในกำรทำงำน

สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเลำ่ เรยี น แบบประเมนิ คำ่ นยิ มหลกั ของคนไทย ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

8 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) กรณีตวั อยำ่ ง

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8 การมีส่วนร่วมในการ 1 ชวั่ โมง
แก้ปัญหาความขดั แย้ง
ด้วยสนั ติวิธี

1 ผลการเรยี นร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 ผลการเรยี นรู้
ขอ้ 9 มสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี
ข้อ 10 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) มสี ว่ นรว่ มในกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ไี ด้
2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรบั

ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเองได้

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรมสี ว่ นร่วมในกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี สำมำรถทำไดด้ ว้ ยกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำ
ตอ่ รอง กำรระงบั ควำมขดั แยง้ และจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง

3 สาระการเรยี นรู้

1. กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี

- กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี - กำรเจรจำตอ่ รอง

- กำรระงบั ควำมขดั แยง้

2. คุณลกั ษณะของผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

- ควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ - ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน

- ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จำกกำรกระทำของตนเอง

4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์
2) ทกั ษะกำรสรุปลงควำมเหน็

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ ค่านิยม

5.1 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

5.2 ค่านิยม

- ใฝ่หำควำมรู้ หมนั่ ศกึ ษำเล่ำเรยี นทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม

6 กิจกรรมการเรียนรู้

1. นกั เรยี นรว่ มกนั รอ้ งเพลงเกย่ี วกบั กำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจกนั และกำรสมำนฉันท์ เช่น เพลงควำม
สมำนฉนั ทแ์ ละควำมสำมคั คี และเพลงสมำนฉันทก์ นั นะเธอ เป็นตน้

เพลงความสมานฉันทแ์ ละความสามคั คี

ควำมสมำนฉันทแ์ ละควำมสำมคั คี จำตอ้ งมขี องคนในชำติ เพอ่ื รกั ษำแผน่ ดนิ เอกรำช ศำสน์
กษตั รยิ เ์ ป็นสมบตั ขิ องผองชน จะเป็นอะไรหรอื เป็นใครกต็ ำม ทวั่ เขตคำมงดงำมทกุ หน
สมคั รสมำนสำมคั คเี กดิ ผล มำร่วมอุทศิ ตนถวำยแดอ่ งคร์ ำชนั สรำ้ งควำมรกั ควำมสำมคั คี
ควำมสขุ สงบมแี ละสมำนฉนั ทใ์ หเ้ กดิ ก่อหลอมใจหน่งึ เดยี วกนั ลดควำมขดั แยง้ พลนั คอื
พลงั แผน่ ดนิ
ที่มา : http://thaibansinlapin.blogspot.com/2011/03/blog-post_24.html#.VFnZtjSUdnM

เพลงสมานฉันท์กนั นะเธอ

แค่ปัญหำปำกทอ้ งรำยวนั เธอกบั ฉนั กเ็ ถยี งกนั อุตลุด ควำมรกั ยำมเศรษฐกจิ ชำรุด พดู กพ็ ดู
สดุ ยอดของควำมทำ้ ทำย ไหนตอ้ งเจอคดกี ลบั บำ้ นชำ้ เพอ่ื นๆ โทรมำ เธอกข็ งึ ตำใส่
แมเ่ จำ้ ประคุณทูนหวั ของพช่ี ำย ขอก่อนไดไ้ หม อย่ำเพงิ่ แตกคอกนั
* สมำนฉนั ท์นะ สมำนฉันท์ มำจบั มอื กนั กำ้ วผ่ำนปัญหำนะคนดี เรอ่ื งเลก็ กห็ ยวนๆ ชวนกนั
เฮฮำปำรต์ ้ี ใหผ้ ำ่ นช่วงน้ี อะไรๆ คงดขี น้ึ มำ
** สมำนฉนั ท์นะ สมำนฉนั ท์ เรำคนรกั กนั กค็ อ่ ยพดู ค่อยจำ ยำมหน้ำสว่ิ หน้ำขวำน อยำ่ ชวน
ทะเลำะดกี ว่ำ ใหพ้ ห่ี อมแกม้ ซำ้ ยขวำใหเ้ ธอนนั้ อำรมณ์ดี วนั น้หี ลำยอย่ำงกเ็ รม่ิ คลค่ี ลำย
จะเครยี ดไปไย มำทำใหใ้ จช่นื บำน พก่ี ลบั บำ้ นชำ้ เพรำะเอำแตเ่ คลยี รง์ ำน ใหส้ องเรำนนั้
อย่สู บำยกว่ำน้ี วนั ไหนเศรษฐกจิ เลกิ ตดิ ลบจะรบี มำพบหลงั เลกิ งำนทนั ที จะยอมรบั ผดิ ชอบ
ทุกกรณีแตว่ นั น้สี ำมคั คกี ่อนแลว้ กนั (ซำ้ * **) ในวนั น้สี มำนฉนั ทก์ นั นะเธอ
ที่มา : เพลง.meemodel.com/เน้อื เพลง/สมำนฉันทก์ นั นะเธอ_ไชโย%20ธนำวฒั น์

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

2. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ ครำะหส์ ำระสำคญั และขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกบทเพลง
3. ครทู บทวนควำมรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นเกย่ี วกบั ลำดบั ขนั้ ตอนของกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำต่อรอง

และกำรระงบั ขอ้ พพิ ำททไ่ี ดด้ กู ำรสำธติ ไปในชวั่ โมงทผ่ี ่ำนมำ แลว้ อธบิ ำยเพมิ่ เตมิ ในสว่ นทน่ี กั เรยี น
ยงั ไม่เขำ้ ใจ หรอื ใหน้ กั เรยี นศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี เพมิ่ เตมิ จำก
เอกสำรประกอบกำรสอน
4. สมำชกิ กลุ่มเดมิ (จำกแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั ฝึกซอ้ มกำรดำเนินกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้
อยำ่ งสนั ตดิ ว้ ยวธิ กี ำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำตอ่ รอง และกำรระงบั ขอ้ พพิ ำทตำมทไ่ี ดด้ ูจำกกำรสำธติ
ครเู สนอแนะเพม่ิ เตมิ
5. ครแู จกกรณตี วั อยำ่ งใหน้ กั เรยี น กลุ่มละ 1 เร่อื ง เชน่

กรณีตวั อย่างการแยง่ สถานท่ีนัง่ รบั ประทานอาหารกลางวนั

เม่อื ถงึ เวลำพกั รบั ประทำนอำหำรกลำงวนั แป้ง ฝน และฟ้ำ นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2/1
รบี ไปทโ่ี รงอำหำร เพอ่ื จองโต๊ะอำหำร ซง่ึ อย่มู ุมขำ้ งหน้ำตำ่ งเป็นประจำทุกวนั วนั น้คี ุณครปู ลอ่ ย
นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2/1 ช้ำกว่ำ หอ้ งอน่ื เมอ่ื แป้ง ฝน และฟ้ำเดนิ ไปทโ่ี ต๊ะเดมิ ปรำกฏวำ่
เก๋ สวย และหวำนนงั่ รบั ประทำนอำหำรอยู่ ดงั นนั้ แป้ง ฝน และฟ้ำจงึ ตอ่ ว่ำเก๋ สวย และหวำน
ทงั้ สองฝ่ำยจงึ ทะเลำะกนั โซดำทเ่ี ป็นประธำนนกั เรยี นเดนิ ผ่ำนมำพอดจี งึ ทำหน้ำทเ่ี จรจำไกล่เกลย่ี

กรณีตวั อยา่ งการแย่งอปุ กรณ์การกีฬาของนักเรียน

โกซ้ ง่ึ เป็นหวั หน้ำทมี บำสเกตบอลทมี เอไปเบกิ ลกู บำสเกตบอลเพอ่ื นำไปฝึกซอ้ ม โกเ้ ลอื ก
ลูกบำสเกตบอลทต่ี นเองชน่ื ชอบไป 2 ลูก เพอ่ื ใหส้ มำชกิ ในทมี ไดใ้ ชผ้ ลดั เปลย่ี นในกำรฝึกซอ้ ม
เดน่ ซง่ึ เป็นหวั หน้ำทมี บำสเกตบอลทมี บไี ปเบกิ ลูกบำสเกตบอลหลงั กลุ่มอ่นื จงึ เหลอื เพยี ง
ลูกบำสเกตบอลทช่ี ำรุด ไม่เหมำะสมกบั กำรฝึกซอ้ ม เด่นจงึ ไปขอลูกบำสเกตบอลของทมี เอจำกโก้
แตโ่ กไ้ ม่ยอมเพรำะเขำเป็นคนลงช่อื เบกิ ลกู บำสเกตบอลกบั เจำ้ หน้ำทโ่ี ดยตรง ทงั้ สองฝ่ำยจงึ
โตเ้ ถยี งกนั

กรณีตวั อย่างการทาทรพั ยส์ ินของผอู้ ่ืนเสียหาย

อว้ นซอ้ื โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเ่ี ครอ่ื งใหมม่ ำจงึ นำมำอวดเพอ่ื นๆ ในชนั้ เรยี น เพอ่ื นหลำยคนพำกนั
ชน่ื ชมโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทข่ี องอว้ น เอขอยมื โทรศพั ทเ์ คล่อื นทข่ี องอว้ นมำลองเปิดดโู ปรแกรมตำ่ งๆ
ทล่ี งมำจำกรำ้ น แตเ่ อหยบิ โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทพ่ี ลำดโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทจ่ี งึ หล่นลงพน้ื อว้ นโกรธ
เอมำก จงึ พดู จำตำหนดิ ว้ ยถอ้ ยคำรุนแรง เอจงึ แกลง้ เขวย้ี งโทรศพั ทเ์ คล่อื นทไ่ี ปหน้ำชนั้ เรยี น

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

ทงั้ สองจงึ ทะเลำะกนั เสยี งดงั และเพม่ิ ควำมรุนแรงมำกขน้ึ โดมซง่ึ เป็นหวั หน้ำหอ้ งไดเ้ ขำ้ มำเจรจำ
ไกล่เกลย่ี

เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มทดลองใชว้ ธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ตี ำมขนั้ ตอนอย่ำง
เหมำะสม จนสำมำรถระงบั ควำมขดั แยง้ ได้
6. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ หำวธิ กี ำรและฝึกซอ้ มกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี
7. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ผลดั กนั นำเสนอผลงำนกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ หี น้ำชนั้ เรยี น แลว้ ให้
เพอ่ื นกลุ่มอน่ื ผลดั กนั แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำวธิ กี ำรอ่นื ๆ เพมิ่ เตมิ ดงั น้ี
1) กลุ่มท่ี 1 สำธติ กำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี กลมุ่ ท่ี 2 แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำ

วธิ กี ำรอ่นื ๆ เพมิ่ เตมิ
2) กลุม่ ท่ี 2 สำธติ กำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี กลุ่มท่ี 3 แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำ

วธิ กี ำรอ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ
3) กลุ่มท่ี 3 สำธติ กำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี กลมุ่ ท่ี 4 แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำ

วธิ กี ำรอ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ
4) กลมุ่ ท่ี 4 สำธติ กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี กลุ่มท่ี 5 แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำ

วธิ กี ำรอ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ
5) กลุ่มท่ี 5 สำธติ กำรแก้ปัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี กลมุ่ ท่ี 1 แสดงควำมคดิ เหน็ และแนะนำ

วธิ กี ำรอ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ
ครตู รวจสอบควำมถูกตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
8. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปวธิ กี ำรมสี ว่ นร่วมและวธิ กี ำรแกป้ ัญหำควำมขดั แย้งดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี
9. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั สมคั รเขำ้ เป็นสมำชกิ หรอื จดั ตงั้ ชมรมไกลเ่ กลย่ี ระงบั ขอ้ พพิ ำท เพอ่ื มสี ว่ นร่วมใน
กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี แลว้ รำยงำนผลต่อครเู ป็นระยะๆ
10. นกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 4

• ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบตั ิตนท่ีแสดงออกถงึ ความปรองดอง สมานฉันท์
แล้วบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตน เสรจ็ แล้วนาส่งครตู ามกาหนดเวลา โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็
ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) การเหน็ คุณค่าของการอย่รู ่วมกนั ในภูมภิ าคเอเชยี อย่างสนั ติ และพงึ่ พาซงึ่ กนั และกนั
2) การมสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี
3) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ
4) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั ความขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน
5) ความมวี นิ ยั ในตนเองเกยี่ วกบั การยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

7 การวดั และประเมินผล

วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ระดบั คณุ ภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์
ควำมสำมำรถในกำรคดิ ควำมสำมำรถในกำร
รอ้ ยละ 60 ผำ่ นเกณฑ์
แกป้ ัญหำ และควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ ระดบั คุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์

สงั เกตควำมมวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
และมุ่งมนั ่ ในกำรทำงำน

สงั เกตกำรใฝ่หำควำมรู้ หมนั ่ ศกึ ษำเล่ำเรยี น แบบประเมนิ ค่ำนิยมหลกั ของคนไทย
ทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ ม 12 ประกำร

ตรวจแบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 4 แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 4

ตรวจแบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถงึ แบบประเมนิ แบบบนั ทกึ ผลกำรปฏบิ ตั ติ น

ควำมปรองดอง สมำนฉนั ท์ ทแ่ี สดงออกถงึ ควำมปรองดอง สมำนฉนั ท์

8 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื กจิ กรรม หน้ำทพ่ี ลเมอื ง 3-4 ม.2
2) เพลง
3) กรณีตวั อยำ่ ง

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิตนที่แสดงออกถึงความปรองดอง สมานฉันท์

ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 กำรเหน็ คณุ ค่ำของกำรอย่รู ว่ มกนั ในภูมภิ ำคเอเชยี
อยำ่ งสนั ติ และพง่ึ พำซง่ึ กนั และกนั

2 กำรมสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำ
ควำมขดั แยง้ โดยสนั ตวิ ธิ ี

3 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ

4 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร
อดทน

5 ควำมมวี นิ ยั ในตนเองเกย่ี วกบั กำรยอมรบั ผลทเ่ี กดิ
จำกกำรกระทำของตนเอง

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

เอกสารประกอบการสอน

การแก้ปัญหาความขดั แย้งดว้ ยสนั ติวิธี

กำรอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมจำนวนมำก ถำ้ ไมม่ หี ลกั ขอ้ ตกลง กฎ กตกิ ำยดึ ถอื กำรอย่รู ว่ มกนั ยอ่ มเกดิ ปัญหำควำม
ขดั แยง้ ดงั นัน้ ทุกคนจงึ ควรศกึ ษำขอ้ มลู เกย่ี วกบั กำรอยรู่ ว่ มกนั อยำ่ งสนั ติ กำรแกป้ ัญหำเมอ่ื เกดิ ควำมขดั แยง้ เพอ่ื จะได้
นำไปเป็นขอ้ มลู ในกำรประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นในกำรอยรู่ ่วมกนั กบั ผอู้ น่ื

ในเรอ่ื งกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ นี นั้ จะตอ้ งเรยี นรเู้ กย่ี วกบั กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี ซง่ึ เป็นประโยชน์ใน
กำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ อนั จะสง่ ผลดตี อ่ คกู่ รณแี ละสงั คม กำรเจรจำต่อรองเป็นอกี วธิ หี น่งึ ทช่ี ว่ ยบรรเทำควำม
ตงึ เครยี ดของปัญหำควำมขดั แยง้ นนั้ อกี ทงั้ ยงั สำมำรถระงบั ควำมขดั แยง้ ไดด้ ว้ ยสนั ตวิ ธิ ี นบั ว่ำเป็นสว่ นสำคญั ต่อควำม
สงบสขุ ของทกุ คนในสงั คม

กำรทน่ี ักเรยี นไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี กำรเจรจำตอ่ รอง และกำรระงบั ควำมขดั แยง้ ย่อมเป็นประโยชน์
ตอ่ กำรดำเนนิ ชวี ติ ทงั้ ในครอบครวั ชนั้ เรยี น โรงเรยี น ชุมชน และสงั คมทน่ี ักเรยี นอยู่ ซง่ึ นกั เรยี นสำมำรถนำไปประยุกตใ์ ช้
ในสถำนกำรณ์ทแ่ี ตกตำ่ งกนั ไป

4.1 การเจรจาไกล่เกล่ีย
กำรเจรจำไกล่เกลย่ี ขอ้ พพิ ำทหรอื ควำมขดั แยง้ นนั้ เป็นวธิ กี ำรทม่ี บี คุ คลซง่ึ เป็นคนกลำง หรอื บุคคลทส่ี ำมเขำ้ มำ

มสี ่วนร่วมในกำรเจรจำตอ่ รอง เพอ่ื ใหก้ ำรเจรจำดำเนินไปอย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ หำทำงออกทเ่ี หมำะสม และเกดิ
ควำมพงึ พอใจแกท่ ุกฝ่ำย
ประโยชน์ของการเจรจาไกลเ่ กลี่ย
1. ทำใหค้ ่กู รณีสำมำรถยตุ คิ วำมขดั แยง้ ดว้ ยกำรเจรจำ ประนปี ระนอมกนั อย่ำงมเี หตผุ ล และสำมำรถตกลงกนั ได้

ดว้ ยดี
2. คกู่ รณีมคี วำมพงึ พอใจในขอ้ ยุตทิ งั้ สองฝ่ำย
3. คกู่ รณสี ำมำรถเป็นมติ รกนั ไดเ้ หมอื นเดมิ เพรำะผลของกำรเจรจำสมควำมปรำรถนำของตน กลำ่ วไดว้ ่ำชว่ ยให้

เกดิ สมั พนั ธภำพทด่ี ตี อ่ กนั
วิธีการเจรจาไกล่เกล่ีย
1. กำรเรม่ิ ตน้ เจรจำไกลเ่ กลย่ี

- ผไู้ กล่เกลย่ี ซง่ึ เป็นคนกลำงในกำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี นัดหมำยคกู่ รณที งั้ สองฝ่ำยมำพรอ้ มกนั
- ผไู้ กล่เกลย่ี และคกู่ รณีแนะนำตนเอง จำกนนั้ ชแ้ี จงกตกิ ำของกำรเจรจำใหท้ งั้ สองฝ่ำยเขำ้ ใจ เช่น กำรพดู

ทลี ะคน ไม่พดู แทรกในขณะทอ่ี กี ฝ่ำยหน่งึ พดู ไมโ่ ตเ้ ถยี งกนั และใชเ้ หตุผลในกำรพดู
2. กำรดำเนนิ กำร

- ผทู้ ไ่ี ดร้ บั ควำมเสยี หำยจะเป็นผเู้ ลำ่ ถงึ ควำมเสยี หำยทต่ี นไดร้ บั ตวั อย่ำงเชน่ กรณีพพิ ำทระหว่ำงกองเชยี ร์
สฟี ้ำกบั กองเชยี รส์ เี หลอื งในกำรแขง่ ขนั กฬี ำสี หวั หน้ำกองเชยี รท์ งั้ สองฝ่ำยตำ่ งกห็ ำสถำนทใ่ี นกำรฝึกซอ้ ม
กองเชยี ร์ จนเกดิ เหตุทะเลำะววิ ำทกนั หวั หน้ำกองเชยี รส์ ฟี ้ำซง่ึ เป็นผแู้ ทนในกำรเจรจำเลำ่ ใหท้ ป่ี ระชุมไกล่
เกลย่ี ทรำบถงึ ควำมเสยี หำยทไ่ี ดร้ บั ว่ำ ถูกกองเชยี รส์ เี หลอื งทำลำยอปุ กรณ์กำรเชยี ร์ 5 ชน้ิ ซง่ึ พวกเขำตอ้ ง
เสยี เวลำจดั ทำ 4 วนั และเสยี คำ่ ใชจ้ ่ำยประมำณ 1,000 บำท

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

- เมอ่ื ผเู้ สยี หำยไดเ้ ลำ่ ถงึ ควำมเสยี หำยเรยี บรอ้ ยแลว้ ผไู้ กล่เกลย่ี จะใหท้ ำงฝ่ำยคกู่ รณเี ล่ำถงึ เหตผุ ลทก่ี ล่มุ
ของตนกระทำลงไป ซง่ึ อำจมำจำกสำเหตุทแ่ี ตกตำ่ งกนั ไป เชน่ กองเชยี ร์ฟ้ำไปแยง่ ทฝ่ี ึกซอ้ มซง่ึ กองเชยี ร์
สเี หลอื งไดจ้ องไวก้ อ่ นแลว้ และมกี ำรตอ่ ว่ำกนั สมำชกิ กองเชยี รส์ ฟี ้ำใชค้ วำมรุนแรงทำใหเ้ กดิ อำรมณ์โกรธ
เป็นตน้

- ผไู้ กล่เกลย่ี จะใหค้ ่กู รณผี ลดั กนั เล่ำขอ้ เทจ็ จรงิ โดยไมใ่ ชอ้ ำรมณ์สลบั กนั ทงั้ สองฝ่ำย จนไดข้ อ้ สรุป
- ผไู้ กลเ่ กลย่ี ใหผ้ เู้ สยี หำยเสนอควำมตอ้ งกำรในกำรชดใชค้ ำ่ เสยี หำย
- ผไู้ กล่เกลย่ี แจง้ ใหค้ ่กู รณีรบั ทรำบควำมตอ้ งกำรในกำรชดใชค้ ่ำเสยี หำย และสำมำรถเจรจำต่อรอง โดย

แสดงเหตผุ ลประกอบ เชน่ ฝ่ำยผเู้ สยี หำยกม็ สี ว่ นรว่ มในกำรทำใหเ้ กดิ ปัญหำควำมขดั แยง้ รุนแรง เชน่
กำรพดู จำยวั ่ ยุ ทำ้ ทำย เป็นตน้
- ผไู้ กลเ่ กลย่ี จะทำหน้ำทเ่ี จรจำรอมชอมใหท้ งั้ สองฝ่ำยหนั หน้ำเขำ้ หำกนั ฝ่ำยผเู้ สยี หำยอำจจะลดหย่อน
ค่ำเสยี หำยลงบำ้ ง เพรำะมสี ว่ นทำใหเ้ กดิ เหตกุ ำรณ์ปัญหำควำมขดั แยง้ ขน้ึ เป็นตน้
3. กำรสรปุ
เมอ่ื ทงั้ สองฝ่ำยสำมำรถตกลงกนั ไดแ้ ลว้ ผไู้ กล่เกล่ยี กจ็ ะใหบ้ นั ทกึ ขอ้ ตกลงลงในแบบบนั ทกึ และลงนำม
ทงั้ สองฝ่ำย และผไู้ กลเ่ กลย่ี จะเป็นผลู้ งนำมในฐำนะผไู้ กลเ่ กลย่ี ดว้ ย
ผลดีต่อค่กู รณีและสงั คม
กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี มผี ลดตี ่อคกู่ รณี คอื สำมำรถทำใหค้ กู่ รณที งั้ สองฝ่ำยไดม้ โี อกำสเจรจำกนั ไดเ้ ลำ่ ควำม
ตอ้ งกำรทแ่ี ทจ้ รงิ ของตน และมกี ำรตอ่ รอง กำรเรยี กรอ้ งควำมเสยี หำยทเ่ี กดิ ขน้ึ ซง่ึ ผเู้ สยี หำยอำจเรยี กเกนิ ควำม
เป็นจรงิ จงึ มกี ำรเจรจำดว้ ยเหตผุ ล โดยมผี ไู้ กล่เกลย่ี เป็นคนกลำงคอยช่วยประสำนสมั พนั ธใ์ หก้ ำรเจรจำดำเนนิ ไป
ดว้ ยดี จนสำมำรถยตุ ปิ ัญหำควำมขดั แยง้ ได้ ซง่ึ กำรเจรจำกนั นนั้ มผี ลต่อกำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจกนั เหน็ ใจกนั เอำใจ
เขำมำใสใ่ จเรำ เม่อื เจรจำสำเรจ็ ทงั้ ค่กู ม็ คี วำมเขำ้ ใจตอ่ กนั สำมำรถคบหำกนั ได้ ไมเ่ ป็นศตั รกู นั ผลดตี ่อสงั คม คอื
ทำใหส้ งั คมไม่เกดิ ควำมแตกแยก มคี วำมสำมคั คี สมำนฉนั ทก์ นั และเกดิ ควำมสุขในสงั คม

4.2 การเจรจาต่อรอง
กำรเจรจำตอ่ รองเป็นวธิ กี ำรทค่ี พู่ พิ ำททงั้ หมดสมคั รใจทจ่ี ะแกป้ ัญหำระหว่ำงกนั ดว้ ยกำรพดู คยุ บอกกลำ่ วให้

อกี ฝ่ำยทรำบถงึ ควำมตอ้ งกำรและประโยชน์ของฝ่ำยตน
ประโยชน์ของการเจรจาต่อรอง

เป็นวธิ กี ำรทง่ี ำ่ ย สะดวก ไม่เป็นทำงกำร และรวดเรว็ ทส่ี ุดในกำรแกไ้ ขปัญหำควำมขดั แยง้
วิธีการเจรจาต่อรอง
- คกู่ รณีมคี วำมตอ้ งกำรเจรจำตอ่ รองกนั จงึ นดั พบเพอ่ื เจรจำต่อรอง
- ทงั้ สองฝ่ำยสนทนำตกลงกนั ถงึ ควำมตอ้ งกำรของแตล่ ะฝ่ำย เชน่ กรณพี พิ ำททก่ี องเชยี รส์ เี หลอื งทำลำยอุปกรณ์

กำรเชยี รข์ องกองเชยี รส์ ฟี ้ำ หวั หน้ำกองเชยี รส์ ฟี ้ำเป็นฝ่ำยเสนอควำมตอ้ งกำรกำรชดใชค้ ่ำเสยี หำย หวั หน้ำ
กองเชยี รส์ เี หลอื งขอเจรจำลดหย่อนกำรชดใชค้ ำ่ เสยี หำย ทงั้ คกู่ เ็ จรจำต่อรองกนั จนหำทำงออกทเ่ี หมำะสม
และเกดิ ควำมพงึ พอใจแกท่ ุกฝ่ำย
ผลดีต่อค่กู รณีและสงั คม
ค่กู รณที งั้ สองฝ่ำยมคี วำมรสู้ กึ ทด่ี ตี อ่ กนั เม่อื สำมำรถพดู คยุ กนั จนไดข้ อ้ ยตุ ดิ ว้ ยตนเองกย็ ่อมทำใหม้ ติ รภำพของ
ทงั้ สองฝ่ำยสำมำรถดำเนนิ ไปไดด้ ว้ ยดี สงั คมไมเ่ ดอื ดรอ้ นจำกค่กู รณีทงั้ สอง มคี วำมสงบเรยี บรอ้ ย และสำมคั คกี นั
เชน่ เดมิ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

4.3 การระงบั ความขดั แยง้

เป็นกำรดำเนินกำรเพ่อื ใหป้ ัญหำควำมขดั แยง้ ระหว่ำงคกู่ รณยี ตุ ลิ ง มี 3 วธิ ี คอื

1. กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี 2. กำรเจรจำตอ่ รอง 3. ขอ้ ผกู พนั ตำมกฎหมำยจำกฝ่ำยทส่ี ำม

ซง่ึ วธิ ที ่ี 1 และ 2 ไดอ้ ธบิ ำยไวใ้ นขอ้ 4.1 และ 4.2 แลว้ สว่ นวธิ ที ่ี 3 เป็นขอ้ ผกู พนั ตำมกฎหมำยจำกฝ่ำยท่ีสำม

เชน่ กำรอนุญำตโดยตุลำกำรและกำรวนิ ิจฉยั ชข้ี ำดโดยศำลเป็นกำรตดั สนิ ขอ้ พพิ ำทระหวำ่ งคกู่ รณี ซง่ึ วธิ นี ้ี

ค่กู รณีอำจมคี วำมพงึ พอใจฝ่ำยเดยี ว เม่อื เกดิ กำรตดั สนิ ขน้ึ ยอ่ มเป็นกำรยำกทจ่ี ะมคี วำมพงึ พอใจทงั้ สองฝ่ำย

เมอ่ื มฝี ่ำยหน่งึ พอใจ อกี ฝ่ำยกอ็ ำจไมพ่ อใจ ดงั นนั้ หลงั จำกกำรตดั สนิ โดยฝ่ำยทส่ี ำม คกู่ รณอี ำจไมม่ คี วำมสมั พนั ธ์

ทด่ี ตี ่อกนั ซง่ึ วธิ นี ้เี ป็นทำงเลอื กสดุ ทำ้ ย ถำ้ กำรเจรจำไกลเ่ กลย่ี ดว้ ยวธิ ที ่ี 1 และ 2 ไม่สำเรจ็

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ความปรองดอง สมานฉันท์

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน

ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื )
(

ตำแหน่ง

 ดำ้ นควำมรู้

 ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ คำ่ นยิ ม

 ดำ้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหำ/อปุ สรรค
 แนวทำงกำรแกไ้ ข

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำนของนกั เรยี นตำมรำยกำรทก่ี ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32

1 เน้อื หำละเอยี ดชดั เจน
2 ควำมถกู ตอ้ งของเน้อื หำ
3 ภำษำทใ่ี ชเ้ ขำ้ ใจง่ำย
4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ำกกำรนำเสนอ
5 วธิ กี ำรนำเสนอผลงำน

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ผลงำนหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ช่ือ-สกลุ ความมวี ินัย ความมนี ้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั การประเมิน เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20
เสียสละ คะแนน

43214321432143214321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ท่ี ของผ้รู บั การประเมิน ความคิดเหน็ ฟังคนอื่น ตามท่ีได้รบั ส่วนรว่ มใน 20
มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกลุ่ม

43214321432143214321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ำก

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้

ต่ำกวำ่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวำ่ งเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะสาคญั รายการประเมิน ระดบั คะแนน
ของผเู้ รยี น 4321
1.1 ใชภ้ ำษำถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ
1. ความสามารถ และทศั นะของตนเองดว้ ยกำรพดู และกำรเขยี น
ในการสื่อสาร
1.2 พดู เจรจำต่อรอง

1.3 เลอื กรบั หรอื ไม่รบั ขอ้ มลู ขำ่ วสำร

1.4 เลอื กใชว้ ธิ กี ำรส่อื สำร

2. ความสามารถ 2.1 คดิ พน้ื ฐำน (กำรคดิ วเิ ครำะห)์
ในการคิด 2.2 คดิ ขนั้ สงู (กำรคดิ สงั เครำะห์ คดิ สรำ้ งสรรค์ คดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณ)

3. ความสามารถ 3.1 ใชก้ ระบวนกำรแกป้ ัญหำโดยวเิ ครำะหป์ ัญหำ วำงแผนในกำรแกป้ ัญหำ
ในการแก้ปัญหา ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ ตรวจสอบ และสรุปผล

3.2 ผลลพั ธข์ องกำรแกป้ ัญหำ

4. ความสามารถ 4.1 นำกระบวนกำรเรยี นรทู้ ห่ี ลำกหลำยไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
ในการใช้ 4.2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองและเรยี นรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื ง
ทกั ษะชีวิต 4.3 ทำงำนและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ

4.4 จดั กำรกบั ปัญหำและควำมขดั แยง้ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ไดอ้ ยำ่ ง
เหมำะสม

4.5 ปรบั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมและสภำพแวดลอ้ ม

4.6 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื

5. ความสามารถ 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นำตนเองและสงั คม
ในการใช้เทคโนโลยี 5.2 มที กั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ

............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
54 - 64 ดมี ำก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
43 - 53 ดี
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
32 - 42 พอใช้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
ให้ 1 คะแนน ต่ำกวำ่ 32 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่ำงเรยี นและนอกเวลำเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชำติ รอ้ งเพลงชำตไิ ด้ และอธบิ ำยควำมหมำยของ
เพลงชำติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตำมสทิ ธแิ ละหน้ำทข่ี องนักเรยี น
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต
1.3 ใหค้ วำมรว่ มมอื รว่ มใจ ในกำรทำงำนกบั สมำชกิ ในโรงเรยี น
3. มวี ินัย
รบั ผิดชอบ 1.4 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทส่ี รำ้ งควำมสำมคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี นและชมุ ชน
4. ใฝ่ เรยี นรู้
1.5 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงศำสนำทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ของศำสนำ
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
1.6 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถำบนั
พระมหำกษตั รยิ ต์ ำมทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอำย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำควำมผดิ ทำตำม
สญั ญำทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยควำมซอ่ื ตรง ไมห่ ำประโยชน์ในทำงทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง

3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลำในกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำ่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
และรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน

4.1 แสวงหำขอ้ มลู จำกแหล่งกำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ

4.2 มกี ำรจดบนั ทกึ ควำมรอู้ ยำ่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ควำมรไู้ ดอ้ ย่ำงมเี หตุผล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ
และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี และใชเ้ วลำอยำ่ งเหมำะสม

5.2 ใชท้ รพั ยำกรของส่วนรวมอยำ่ งประหยดั คมุ้ ค่ำ และเกบ็ รกั ษำดแู ลอย่ำงดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยควำมรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอำเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ ำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทำผดิ พลำด


Click to View FlipBook Version