บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ โรงเรยี นบ้านหนิ ดาด อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์
ที่........................วันท่ี ............................................................
เรอ่ื ง ขออนุมัตใิ ช้แผนการจัดการเรียนรู้
เรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นหินดาด
ตามที่ขา้ พเจ้าว่าท่รี ้อยตรีเอกภพ สุดสะอาด ตำแหน่ง ครู กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ัตงิ านสอนในระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 รายวชิ า เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) จำนวน 0.5
หนว่ ยกติ ในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 นน้ั
ขา้ พเจา้ ไดว้ เิ คราะหต์ ัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพ่ือจัดทำแผนการจดั การ
เรยี นรู้ ซง่ึ สอดคล้องกบั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหินดาด ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน
พทุ ธศักราช 2551 โดยจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนทเี่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ เพ่ือทจี่ ะได้นำไปใช้ในการจดั การเรยี นรู้
และพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนให้บรรลุเป้าหมายของหลักสตู รฯ ต่อไป
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพจิ ารณา
ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี .................................................
( เอกภพ สุดสะอาด )
......................................................................................... ตำแหนง่ ครู
.........................................................................................
ความเห็นของหัวหน้าฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ
.........................................................................................
.........................................................................................
ลงชื่อ ............................................................ ลงชอ่ื ............................................................
( ......................................................) ( ......................................................)
ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น
.........................................................................................
.........................................................................................
ลงชื่อ ............................................................
(นางปณุ ยวีร์ โพธ)ิ
คำอธิบายรายวิชา
รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง
ศึกษาการออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานท่ีพบในชีวิตจริง
การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา การเขียนโปรแกรมโดยใช้
ซอฟต์แวร์Scratch, python, java และ c อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำางานของระบบคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีการส่ือสารเพ่ือประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มี
ความรับผิดชอบ สรา้ งและแสดงสิทธใิ นการเผยแพร่ผลงาน
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning) และการเรียนรู้แบบใช้
โครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์
การแก้ปัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำเสนอผา่ นการทำกิจกรรมโครงงาน เพ่ือให้เกิดทักษะ
ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะใน การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา จนสามารถนำเอาแนวคิดเชิงค านวณมาประยุกต์ใช้ใน
การสร้างโครงงานได้
เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การนำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน
นำเสนอขอ้ มูลและ สารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริง และ
เขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อช่วย ในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างรู้เท่าทันและ
รบั ผิดชอบตอ่ สังคม ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจใน วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ ่อสังคม
และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ มีความสามารถในการแก้ปญั หาและมที ักษะใน
การส่ือสาร มีความสามารถในการตดั สินใจ และเป็นผู้ทม่ี ีจติ วิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมในการใช้
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
ตวั ชี้วดั
ว 4.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวม 4 ตวั ช้วี ดั
โครงสร้างรายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ม.2
รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง
ลำดบั ท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน มโนทัศนส์ ำคญั เวลา
การเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด (ชม.)
1. แนวคดิ เชงิ คำนวณ ว 4.2 ม.2/1 แนวคิ ดเชิ งคำนวณ คื อ แนวคิ ดในการ 4
กับการแก้ปญั หา แก้ปัญหาต่าง ๆ เพราะเป็นกระบวนการที่มี
ลำดับขัน้ ตอนทีช่ ัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแถว
ตามลำดับของนักเรียน หรือปัญหาการจัดเรียง
เสื้อผ้า อีกทั้งเป็นกระบวนการท่ีมนุษย์และ
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจร่วมกันได้ ดังนั้นจึง
ควรนำแนวคิดเชิงคำนวณเข้ามาใช้ในการ
แก้ปัญหา เพ่อื ใหเ้ กดิ ผลลัพธใ์ น
การแกป้ ัญหาท่ีมีประสิทธภิ าพ
2. การออกแบบขน้ั ตอน ว 4.2 ม.2/2 การออก แบ บ ข้ัน ตอน การท ำงาน ขอ ง 18
การทำงานดว้ ยการ โปรแกรมหรือการออกแบบอัลกอริทึม เป็น
เขียนโปรแกรมดว้ ย การออกแบบลำดับขั้นตอนการทำงานของ
ภาษา Python โปรแกรม ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ
คือ การใชภ้ าษาธรรมชาติ การใช้รหัสจำลอง
และการใช้ผังงาน โดยภาษาไพทอนเป็น
ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหน่ึงท่ี
เหมาะสำหรบั ผู้ เร่ิมต้นเขียนโปรแกรมไป
จน ถึงการป ระยุกต์ ใช้งาน ใน ระดั บ สู ง
เน่ืองจากเป็ นภ าษ าท่ี มีโครงสร้างและ
ไวยากรณ์ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่าย
ต่อความเข้าใจ มีการนำตัวแปร และฟังก์ชัน
มาช่วยในการทำงาน ตลอดจนมีโครงสร้าง
การทำงานแบบเรียงลำดับ และโครงสร้าง
การทำงานแบบเลือกทำ เพื่อให้สามารถ
คำนวณ ประมวลผลไดต้ ามท่ีต้องการ
ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน มโนทศั นส์ ำคัญ เวลา
3. ระบบคอมพิวเตอร์ การเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั (ชม.)
ว 4.2 ม.2/3
4 การใชเ้ ทคโนโลยี ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถงึ การทำงานของ 10
สารสนเทศ ว 4.2 ม.2/4
อยา่ งปลอดภยั คอมพวิ เตอร์ท่มี สี ว่ นตา่ งๆ มาทำงานร่วมกนั
เพ่อื ใหบ้ รรลุเป้าหมายในการทำงานอย่างมี
ระบบ ประกอบไปด้วยหนว่ ยตา่ ง ๆ ทำงาน
ร่วมกนั อย่างเป็นระบบ คือ หนว่ ยรบั ขอ้ มูล
หนว่ ยประมวลผลกลาง หนว่ ยความจำหลัก
หน่วยความจำสำรอง และหน่วยแสดงผล
ข้อมูล และในปจั จบุ นั เทคโนโลยีด้านการ
สอื่ สารไดเ้ ข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชวี ติ
ของมนษุ ยม์ ากข้ึน ซึ่งองค์ประกอบของการ
สอ่ื สารขอ้ มลู ประกอบไปด้วยขอ้ มลู ขา่ วสาร
ผสู้ ง่ สาร สอ่ื กลาง ผู้รบั สาร และโปรโตคอล
นอกจากนั้นระบบเครือขา่ ยในปัจจบุ ันยงั
แบง่ เปน็ เครอื ข่ายส่วนบุคคล เครือขา่ ย
ท้องถ่ิน เครอื ข่ายระดบั เมือง และเครือขา่ ย
ระดับประเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทกับ 8
ชีวิตของผู้คนในหลากหลายด้าน และถือเป็น
เค รื่ อ ง มื อ ท่ี มี ค ว า ม ส ำ คั ญ อ ย่ า ง ย่ิ งต่ อ ก า ร
ดำเนินชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน เมื่อ
เทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการพัฒนาให้มี
รูปแบบที่มีความน่าสนใจและอยู่ใกล้ชิดกับ
ม นุ ษ ย์ ม าก ข้ึน เท ค โน โล ยี จึงส ร้างทั้ ง
คณุ ประโยชน์และโทษให้กบั ผู้ใช้ ท้ังโดยต้ังใจ
หรือไมต่ ง้ั ใจ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้ รายว
รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธสี อน/วิธกี ารจัด
กจิ กรรมการเรียนรู้
1. แนวคดิ เชงิ คำนวณ แผนท่ี 1 แนวคดิ เชงิ คำนวณ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
กับการแกป้ ัญหา (5Es Instructional Model) 2.
3.
4.
5.
6.
แผนที่ 2 ตัวอย่างการแกป้ ัญหา แบบใชป้ ญั หาเป็นฐาน 1.
โดยใช้แนวคิดเชงิ
คำนวณ (problem- based learning) 2.
3.
4.
5.
6.
7.
วิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2
ทกั ษะที่ได้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา
เวลา 40 ช่วั โมง (ช่วั โมง)
. ทกั ษะการส่ือสาร
. ทกั ษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู การประเมนิ 1
. ทักษะการคิดวเิ คราะห์
. ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1
. ทกั ษะการแก้ปัญหา แนวคิดเชงิ คำนวณกบั การแก้ปญั หา
. ทกั ษะการสบื ค้นข้อมลู
2. ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของ
แนวคิดเชงิ คำนวณ
3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
4. สงั เกตความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้
มุง่ ม่ันในการทำงาน
. ทักษะการส่ือสาร 1. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 3
. ทักษะการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
. ทกั ษะการคิดเชงิ คำนวณ 3. สงั เกตความมวี ินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้
. ทักษะการแก้ปัญหา
. ทกั ษะการสังเกต มุง่ มั่นในการทำงาน
. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 4. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1
. ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู
แนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปญั หา
5. ตรวจชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง
การแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีสอน/วิธกี ารจดั
กิจกรรมการเรียนรู้
2. การออกแบบขนั้ ตอน แผนท่ี 1 การออกแบบขนั้ ตอน แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
การทำงานดว้ ยการ การทำงานของ (5Es Instructional Model) 2.
เขียนโปรแกรมด้วย โปรแกรม 3.
ภาษา Python 4.
5.
6.
แผนที่ 2 ตัวแปรภาษาไพทอน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
(5Es Instructional Model) 2.
3.
ทักษะที่ได้ การประเมนิ เวลา
. ทกั ษะการส่ือสาร (ชวั่ โมง)
. ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2
. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ การออกแบบขนั้ ตอนการทำงานดว้ ยการเขยี น 2
. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ โปรแกรมดว้ ยภาษา Python
. ทักษะการทำงานรว่ มกัน 2
. ทักษะการสืบคน้ ขอ้ มลู 2. ตรวจใบงานที่ 2.1.1 เรือ่ ง การออกแบบขนั้ ตอน
การทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ
. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
. ทกั ษะการสงั เกต 3. ตรวจใบงานที่ 2.1.2 เร่อื ง การออกแบบขน้ั ตอน
. ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู การทำงานโดยใชร้ หสั จำลอง
4. ตรวจใบงานที่ 2.1.3 เรื่อง การออกแบบขั้นตอน
การทำงานโดยใช้ผังงาน
5. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
6. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
8. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้
มุ่งม่ันในการทำงาน
1. ตรวจใบงานที่ 2.2.1 เรอ่ื ง ตัวแปรในภาษาไพทอน
2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
3. สังเกตความมวี ินยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้
ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ สี อน/วธิ กี ารจัด
กจิ กรรมการเรียนรู้
แผนที่ 3 รหัสควบคมุ รหสั แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
รูปแบบขอ้ มูล และ (5Es Instructional Model) 2.
ตัวดำเนินการ 3.
ในภาษาไพทอน 4.
5.
6.
แผนท่ี 4 การเขียนโปรแกรมด้วย แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
ภาษาไพทอน(Python) (5Es Instructional Model) 2.
3.
4.
แผนที่ 5 การใช้งานฟงั ก์ชนั แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
ในโปรแกรมไพทอน (5Es Instructional Model) 2.
3.
ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา
(ช่ัวโมง)
. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจใบงานที่ 2.3.1 เรอื่ ง รหสั ควบคมุ และ
. ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู รหัสรปู แบบขอ้ มลู 2
. ทักษะการคิดวเิ คราะห์
. ทักษะการสังเกต 2. ตรวจใบงานท่ี 2.3.2 เรอื่ ง ตวั ดำเนินการ 2
. ทักษะการทำงานร่วมกัน 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
. ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มลู 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4
5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 6. สงั เกตความมวี ินยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้
. ทักษะการแก้ปญั หา
. ทักษะการสงั เกต มุง่ มัน่ ในการทำงาน
. ทกั ษะการสืบคน้ ข้อมลู 1. ตรวจใบงานที่ 2.4.1 เรื่อง การเขยี นโปรแกรม
ด้วยภาษาไพทอน
2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
3. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
มุ่งม่ันในการทำงาน
. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 1. ตรวจใบงานท่ี 2.5.1 เร่อื ง การใชง้ านฟังก์ชนั
. ทกั ษะการสังเกต คำสัง่ แสดงผลทางหน้าจอ
. ทักษะการสืบคน้ ขอ้ มลู
2. ตรวจใบงานท่ี 2.5.2 เรอ่ื ง การใช้รหสั
รปู แบบข้อมูลร่วมกับฟังก์ชนั print( )
3. ตรวจใบงานที่ 2.5.3 เรอ่ื ง การใช้งานฟังก์ชัน
คำสัง่ รับข้อมูลทางแปน้ พิมพ์
4. ประเมินการนำเสนอผลงาน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีสอน/วิธีการจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้
แผนที่ 6 โครงสรา้ งการทำงาน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
แบบเรียงลำดบั (5Es Instructional Model) 2.
3.
แผนท่ี 7 โครงสรา้ งการทำงาน แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
แบบเลือกทำ (5Es Instructional Model) 2.
3.
4.
ทักษะทีไ่ ด้ การประเมิน เวลา
(ชั่วโมง)
5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
6. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้
ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 1. ตรวจใบงานท่ี 2.6.1 เร่ือง การเขียนโปรแกรม 2
. ทกั ษะการสังเกต การทำงานแบบเรยี งลำดบั 4
. ทักษะการสืบค้นข้อมลู
2. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
. ทกั ษะการสอื่ สาร 3. สังเกตความมีวินยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้
. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
. ทักษะการสงั เกต มุ่งมั่นในการทำงาน
. ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู
1. ตรวจใบงานที่ 2.7.1 เรอ่ื ง การทำงานแบบ
Single Selection
2. ตรวจใบงานที่ 2.7.2 เรอื่ ง การทำงานแบบ
Double Selection
3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. สังเกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้
ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2
การออกแบบขัน้ ตอนการทำงานดว้ ยการเขยี น
โปรแกรมด้วยภาษา Python
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีสอน/วธิ ีการจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ระบบคอมพิวเตอร์ แผนที่ 1 องค์ประกอบของ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
ระบบคอมพิวเตอร์ (5Es Instructional Model) 2.
3.
ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา
(ชัว่ โมง)
6. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง
การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และ การเขียน
โปรแกรมดว้ ยภาษา Python
. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 2
. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ ระบบคอมพิวเตอร์
. ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู
2. ตรวจใบงานที่ 3.1.1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของ
ฮาร์ดแวร์
3. ตรวจใบงานท่ี 3.1.2 เรอื่ ง ประเภทของ
ซอฟต์แวร์
4. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
6. สังเกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้
มุ่งมัน่ ในการทำงาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ สี อน/วิธกี ารจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนที่ 2 หลักการทำงานของ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
ระบบคอมพวิ เตอร์ (5Es Instructional Model) 2.
แผนที่ 3 เทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
(5Es Instructional Model) 2.
3.
5.
6.
ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา
. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ (ช่วั โมง)
. ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู 1. ตรวจใบงานที่ 3.1.1 เรือ่ ง หลักการทำงาน
ของระบบคอมพวิ เตอร์ 2
. ทกั ษะการสอื่ สาร
. ทกั ษะการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู 2. ตรวจใบงานท่ี 3.1.2 เรอ่ื ง ขั้นตอนการทำงาน 4
. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ของระบบคอมพวิ เตอร์
. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั
. ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้
มงุ่ ม่ันในการทำงาน
1. ตรวจใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง องค์ประกอบของ
การสือ่ สารข้อมูล
2. ตรวจใบงานที่ 3.3.2 เรื่อง ทิศทางการสอ่ื สาร
ข้อมลู
3. ตรวจใบงานที่ 3.3.3 เรอ่ื ง ส่ือกลางของการ
สือ่ สารขอ้ มลู
4. ตรวจใบงานท่ี 3.3.4 เร่ือง ประเภทของระบบ
เครือข่าย
5. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
6. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
8. สังเกตความมวี นิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้
มุ่งม่ันในการทำงาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ กี ารจดั
กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนท่ี 4 การประยกุ ตใ์ ช้งาน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
และการแก้ปญั หา (5Es Instructional Model) 2.
เบื้องต้น 3.
4.
5.
6.
4. การใช้เทคโนโลยี แผนที่ 1 การใช้เทคโนโลยี แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
สารสนเทศ สารสนเทศ (5Es Instructional Model) 2.
อย่างปลอดภยั 3.
4.
5.
ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
. ทักษะการสอื่ สาร (ชั่วโมง)
. ทกั ษะการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู 1. ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 เรื่อง ประเภทของคอมพวิ เตอร์
. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 2. ตรวจใบงานท่ี 3.4.2 เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาคอมพวิ เตอร์ 2
. ทักษะการสงั เกต 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน
. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 2
. ทักษะการสบื ค้นข้อมลู 5. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
6. สังเกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้
. ทักษะการสอ่ื สาร
. ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู มุ่งม่นั ในการทำงาน
. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 7. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3
. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั
. ทกั ษะการสืบค้นขอ้ มลู เรื่อง ระบบคอมพิวเตอร์
8. ตรวจชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง ระบบ
คอมพิวเตอร์
1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
2. ตรวจใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ประโยชน์และโทษ
จากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
5. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
6. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้
ม่งุ ม่ันในการทำงาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธสี อน/วิธกี ารจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้
แผนที่ 2 การปฏิบตั ติ นเมอ่ื พบ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
เนอ้ื หาที่ไมเ่ หมาะสม (5Es Instructional Model) 2.
3.
4.
5.
แผนท่ี 3 ความรบั ผดิ ชอบตอ่ การ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1.
ใช้งานเทคโนโลยี (5Es Instructional Model) 2.
สารสนเทศ 3.
4.
5.
6.
แผนท่ี 4 ทรัพย์สนิ ทางปญั ญา แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1.
(5Es Instructional Model) 2.
3.
4.
5.
ทกั ษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
(ช่วั โมง)
. ทักษะการสื่อสาร 1. ตรวจใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง การปฏิบัติตนเมื่อ
. ทักษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู พบเนือ้ หาที่ไมเ่ หมาะสม 2
. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 2
. ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 2
. ทกั ษะการส่อื สาร 5. สงั เกตความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้
. ทักษะการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู
. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
. ทกั ษะการสงั เกต 1. ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 เรอ่ื ง ความรบั ผดิ ชอบ
. ทักษะการทำงานรว่ มกัน
. ทักษะการสบื ค้นขอ้ มลู ตอ่ การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ
2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
. ทักษะการสื่อสาร 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
. ทกั ษะการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 5. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้
. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
. ทักษะการสบื คน้ ขอ้ มลู มุ่งมน่ั ในการทำงาน
1. ตรวจใบงานที่ 4.4.1 เรอื่ ง ประเภทของ
ลขิ สิทธ์ิ
2. ประเมินการนำเสนอผลงาน
3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
5. สังเกตความมีวนิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้
ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธีการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้
ทกั ษะท่ไี ด้ การประเมิน เวลา
(ช่วั โมง)
6. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการ
เรยี นร้ทู ่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างปลอดภยั
7. ตรวจชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1
แนวคิดเชงิ คำนวณ
เวลา 1 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
1.1 ตวั ชีว้ ัด
ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอลั กอรทิ มึ ทใ่ี ช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาหรอื การทำงาน
ที่พบในชวี ิตจริง
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกความหมายของแนวคิดเชงิ คำนวณได้ (K)
2. อธบิ ายองค์ประกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณได้ (K)
3. เขยี นภาพการทำงานขององคป์ ระกอบแนวคดิ เชงิ คำนวณได้ (P)
4. สนใจใฝ่รใู้ นการศกึ ษา (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิน่
-
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- แนวคิดเชงิ คำนวณ
- การแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
แนวคิดเชงิ คำนวณ คือ แนวคิดในการแก้ปัญหาตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ และเป็นกระบวนการท่มี ี
ลำดบั
ขน้ั ตอนชัดเจน โดยกระบวนการแกป้ ัญหาดงั กลา่ วนี้เป็นกระบวนการท่ีมนษุ ย์ และคอมพิวเตอร์ สามารถ
เขา้ ใจร่วมกันได้ ซง่ึ แนวคิดเชงิ คำนวณน้เี ป็นแนวคิดท่ีสำคัญสำหรับการพฒั นาซอฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์
เพราะการเขยี นโปรแกรมถ้าไมไ่ ด้เกดิ ขึน้ จากแนวคิดเชิงคำนวณ จะทำให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานช้า
ไมต่ รงตามทีต่ ้องการ ดงั นัน้ จึงควรนำแนวคดิ เชงิ คำนวณเข้ามาใชใ้ นการแกป้ ัญหาเพื่อให้เกดิ ผลลพั ธ์ของ
การแก้ปัญหาทม่ี ปี ระสิทธิภาพ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมูล 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
- ทักษะการคิดเชิงคำนวณ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชว่ั โมงที่ 1
ขัน้ นำ
ข้ันที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณกับการแกป้ ญั หา
เพอ่ื วัดความรูเ้ ดิมของนักเรียนก่อนเข้าสกู่ ิจกรรม
2. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อวา่ “นกั เรยี นคดิ วา่ มนษุ ย์นำแนวคดิ เชิงคำนวณมาประยุกตใ์ ช้
ในชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ย่างไร”
(แนวตอบ : สามารถนำแนวคิดเชงิ คำนวณมาประยุกต์ใชใ้ นด้านการแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวัน
ดา้ นการเรียน และด้านการทำงาน)
ขน้ั สอน
ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นศกึ ษาความหมายและองคป์ ระกอบของแนวคดิ เชงิ คำนวณ จากหนังสือเรยี นรายวชิ า
พนื้ ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื งแนวคดิ เชงิ คำนวณ
กบั การแกป้ ัญหา หรอื ศกึ ษาเพ่มิ เตมิ ผา่ นทางอนิ เทอร์เนต็ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. ครสู ุ่มนกั เรยี น 3-4 คน ออกมาอธบิ ายความหมายและองค์ประกอบทง้ั 4 ขอ้ ของแนวคดิ เชงิ
คำนวณตามท่นี ักเรยี นไดศ้ ึกษา
3. จากน้ันครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมเพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจมากยิ่งข้นึ วา่ “อาชพี บรุ ษุ ไปรษณยี จ์ ะต้องนำ
จดหมายหรอื พสั ดุจัดสง่ ไปตามทอ่ี ยู่ท่ไี ดร้ ะบไุ ว้แต่เนื่องจากจดหมายหรอื พัสดุทต่ี ้องจัดส่ง
มจี ำนวนมาก ทำให้บุรุษไปรษณียต์ อ้ งทำการจดั หมวดหมตู่ ามบา้ นเลขที่ เพอ่ื ใหส้ ะดวกต่อ
การหยบิ และรวดเร็วในการทำงาน ดังน้นั อาชพี บรุ ษุ ไปรษณยี จ์ งึ เปน็ หนึ่งในหลายอาชีพ
ทอี่ าศยั แนวคิดเชงิ คำนวณมาใช้ในการทำงาน เพอื่ ให้ไดง้ านออกมาอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มากท่สี ุด”
4. ครูนำบตั รภาพ เรอ่ื ง องคป์ ระกอบแนวคิดเชิงคำนวณใหน้ ักเรยี นดเู พื่อใหน้ ักเรยี นได้เห็น
ภาพการทำงานขององค์ประกอบแนวคดิ เชิงคำนวณ พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพ่อื ใหน้ ักเรียน
เข้าใจมากยงิ่ ข้นึ
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
5. ครูซกั ถามนักเรียนเพื่อตรวจสอบความเข้าใจว่า“องค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณแบ่งออก
เปน็ กอี่ งค์ประกอบอะไรบา้ ง”
(แนวตอบ : องค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณแบ่งออกเป็น 4 องคป์ ระกอบ ได้แก่ 1.
แนวคิดการแยกยอ่ ย 2. แนวคดิ การหารปู แบบ 3. แนวคิดเชิงนามธรรม 4. แนวคิดการออกแบบข้ันตอนวิธี)
6. นักเรยี นทำใบงานท่ี 1.1.1 เรอื่ ง องค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณโดยเขยี นภาพการ
ทำงานขององค์ประกอบแนวคดิ เชงิ คำนวณจากสถานการณท์ ี่กำหนดให้
Note
วตั ถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพอื่ ให้นกั เรียน
- มีทกั ษะการสื่อสารโดยการแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ร่วมกันภายในชัน้ เรยี นผา่ น
การคดิ วิเคราะหใ์ นการแก้ปัญหาทถี่ กู ต้องจากสถานการณ์ที่กำหนดให้
- มที กั ษะการสืบค้นข้อมลู โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนสืบค้นข้อมลู จากทางอินเทอร์เนต็
เพื่อสืบเสาะหาความร้เู พม่ิ เตมิ ภายใตห้ ัวข้อที่ไดร้ บั มอบหมาย
- มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ โดยให้นกั เรยี นพิจารณาจากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้
และเขียนอธิบายออกมาผ่านแนวคดิ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ของแนวคดิ เชิงคำนวณไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
และเหมาะสม
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ขัน้ สรปุ
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลงานนักเรียนจากการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น และ
การทำใบงาน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานท่ี 1.1.1
3. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ เกี่ยวกับแนวคดิ เชิงคำนวณว่า“แนวคิดเชิงคำนวณไม่ไดเ้ ปน็
กระบวนการทางความคิดเฉพาะนักวิทยาศาสตร์หรือนักพฒั นาซอฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์
แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวติ ได้”
Note
วัตถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพ่ือให้นกั เรยี น
- มีทกั ษะการทำงานรว่ มกันโดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อใหเ้ กดิ การส่ือสารร่วมกนั
ระหว่างนกั เรยี นภายในกลมุ่ เกดิ ความต้งั ใจและให้ความร่วมมอื ในการทำกจิ กรรม
ด้วยความเสียสละ
- มที กั ษะการคดิ วิเคราะห์สารอาหารต่างๆ ของอาหารและจำแนกสารอาหาร
ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ต่อรา่ งกาย
- มีทักษะในการแกป้ ัญหาที่เกิดข้ึนขณะทำกิจกรรมอยา่ งมเี หตุผล
- ตระหนักถึงการรับประทานอาหารต่างๆ ที่สง่ ผลต่อการดำรงชวี ิต
7. การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
รายการวดั
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ก่อนเรียน
เรอ่ื ง แนวคิดเชงิ คำนวณ
กบั การแกป้ ัญหา
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการ - ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 - ใบงานท่ี 1.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จดั กจิ กรรม
1) องค์ประกอบของ
แนวคดิ เชิงคำนวณ
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
2) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล
- แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
3) คณุ ลกั ษณะอนั พึง - สงั เกตความมวี ินัย คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ประสงค์ ความรับผิดชอบ อนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น
ในการทำงาน
8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เร่ือง แนวคิดเชงิ คำนวณกับการแก้ปัญหา
2) ใบงานท่ี 1.1.1 เรอ่ื ง องค์ประกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ
3) บตั รภาพ เรื่อง องคป์ ระกอบแนวคดิ เชงิ คำนวณ
4) เครื่องคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอรเ์ น็ต
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานที่ 1.1.1
เรอ่ื ง องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนเขยี นภาพการทำงานตามแนวคดิ ตา่ งๆ ขององค์ประกอบแนวคดิ เชิงคำนวณ
เพ่ือแกป้ ัญหาจากสถานการณ์ที่กำหนดให้
สถานการณ์ ใหน้ กั เรยี นเขยี นภาพการทำงาน
ตามแนวคดิ การแยกยอ่ ย (Decomposition)
ณ หมู่บา้ นแสนสขุ ผูใ้ หญ่บา้ นกำลงั คดิ หาวิธีการ
ประกาศครอบครวั ตัวอยา่ ง ท่ีจะทำใหช้ าวบ้านเข้าใจ
โดยมคี รอบครวั ตัวอย่างจำนวน 2 ครอบครัว
ครอบครวั แรก คือ ครอบครัวของนายมิง่ และนางแยม้
มลี กู สาว 1 คนชือ่ สร้อย สว่ นครอบครัวที่สอง คือ
ครอบครวั ของนายขวัญ และนางเรียม มีลกู ชายช่อื กล้า
สถานการณ์ ให้นกั เรียนเขยี นภาพการทำงาน
ตามแนวคิดการหรปู แบบ (Pattern Recognition)
ครูนกกำลังคดิ หาวิธีการทำสรุปจากการสำรวจงาน
อดเิ รกของนักเรียนจำนวน 100 คน โดยผลการสำรวจ
มีดงั นี้ มนี กั เรียนทชี่ อบชมภาพยนตร์อยู่ 28 คน
ชอบฟงั เพลง 46 คน ชอบเล่นเกม 6 คน และชอบออก
กำลังกาย 20 คน
วิชาวทิ ยาการคำนวณ ชอ่ื ...............................................................................ชนั้ .................เลขท.ี่ .............
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
สถานการณ์ ใหน้ กั เรยี นเขียนภาพการทำงาน
ตามแนวคิดเชงิ นามธรรม (Abstraction)
ครฟู า้ ใสมอบหมายใหว้ รี ะแยกสว่ นภาพวาดโดยตดั สว่ น
ทเี่ ปน็ รายละเอยี ดต่างๆ ออกไป ซงึ่ วรี ะไมเ่ ข้าใจ และ
ภาพวาดทค่ี รูฟา้ ใสมอบหมายใหว้ รี ะคือรูปภาพ
ดังตอ่ ไปน้ี
สถานการณ์ ให้นกั เรียนเขียนภาพการทำงาน
ตามแนวคิดการออกแบบข้ันตอนวิธี
เขียวไมเ่ ข้าใจขัน้ ตอนการทอดไข่เจียวทแ่ี ดงอธิบาย
โดยขน้ั ตอนการทอดไข่เจยี วท่ีแดงอธบิ ายมีดังนี้ (Algorithm Design)
ขั้นแรกตอกไขใ่ สช่ ามและใส่เครอื่ งปรุงรส ตีไข่ผสมให้
เข้ากัน ตง้ั กระทะเทน้ำมันนำไข่ลงในกระทะ จากน้ัน
กลับดา้ นไขแ่ ละตรวจสอบว่าไขส่ ุกหรอื ไม่ ถา้ สุกแลว้ ให้
ตกั ใส่จานเสิรฟ์ แต่ถ้ายังไมส่ กุ ให้ทอดต่อจนกระทั่งสกุ
จงึ ค่อยทำการตักใส่จานเพ่อื เสริ ฟ์
วชิ าวิทยาการคำนวณ ชอ่ื ...............................................................................ชั้น.................เลขท่ี..............
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานท่ี1.1.1 เฉลย
เร่อื ง องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเขียนภาพการทำงานตามแนวคิดตา่ งๆ ขององคป์ ระกอบแนวคดิ เชงิ คำนวณ
เพื่อแก้ปัญหาจากสถานการณท์ ีก่ ำหนดให้
สถานการณ์ ใหน้ ักเรียนเขียนภาพการทำงาน
ตามแนวคิดการแยกย่อย (Decomposition)
ณ หมบู่ า้ นแสนสุข ผใู้ หญบ่ ้านกำลังคิดหาวิธกี าร
ประกาศครอบครวั ตัวอยา่ ง ที่จะทำใหช้ าวบา้ นเข้าใจ ครอบครัว นายม่งิ ด.ญ.สร้อย
โดยมคี รอบครัวตัวอย่างจำนวน 2 ครอบครวั 1 นางแย้ม
ครอบครัวแรก คือ ครอบครวั ของนายมงิ่ และนางแยม้
มลี ูกสาว 1 คนชอ่ื สรอ้ ย สว่ นครอบครวั ทส่ี อง คือ หมู่บา้ น
ครอบครัวของนายขวัญ และนางเรียม มลี กู ชายช่อื กลา้ แสนสุข
ครอบครวั นายขวญั ด.ช.กลา้
2 นางเรียม
สถานการณ์ ใหน้ กั เรียนเขยี นภาพการทำงาน
ตามแนวคิดการหารปู แบบ (Pattern Recognition)
ครนู กกำลังคดิ หาวธิ ีการทำสรุปจากการสำรวจงาน
อดเิ รกของนักเรียนจำนวน 100 คน โดยผลการสำรวจ ออก ชมภาพยนตร์
มดี ังน้ี มนี กั เรยี นที่ชอบชมภาพยนตร์อยู่ 28 คน กาลังกาย 28%
ชอบฟงั เพลง 46 คน ชอบเล่นเกม 6 คน และชอบออก
กำลงั กาย 20 คน 20%
เล่นเกม
13%
ฟังเพลง
39%
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
สถานการณ์ ใหน้ กั เรียนเขยี นภาพการทำงาน
ตามแนวคิดเชิงนามธรรม (Abstraction)
ครฟู า้ ใสมอบหมายใหว้ รี ะแยกสว่ นภาพวาดโดยตดั สว่ น
ทีเ่ ป็นรายละเอยี ดตา่ งๆ ออกไป ซ่งึ วีระไม่เข้าใจ และ
ภาพวาดท่คี รูฟ้าใสมอบหมายให้วรี ะคอื รูปภาพ
ดังต่อไปน้ี
สถานการณ์ ใหน้ กั เรียนเขยี นภาพการทำงาน
ตามแนวคิดการออกแบบข้นั ตอนวธิ ี
เขียวไมเ่ ข้าใจข้ันตอนการทอดไขเ่ จียวทแ่ี ดงอธบิ าย
โดยข้นั ตอนการทอดไข่เจยี วท่ีแดงอธบิ ายมีดงั น้ี (Algorithm Design)
ขน้ั แรกตอกไขใ่ ส่ชาม และใส่เครอื่ งปรงุ รส ตีไขผ่ สมให้
เข้ากัน ต้ังกระทะเทนำ้ มันนำไขล่ งในกระทะ จากน้ัน เริ่มตน้
กลบั ด้านไขแ่ ละตรวจสอบว่าไขส่ กุ หรือไม่ ถา้ สุกแลว้ ให้
ตกั ใส่จานเสิร์ฟ แต่ถ้ายังไมส่ กุ ให้ทอดต่อจนกระท่ังสกุ ตอกไขใ่ ส่ชาม
จงึ ค่อยทำการตักใสจ่ านเพ่อื เสิร์ฟ
ใสเ่ ครื่องปรุง
ตไี ข่ผสมให้เข้ากนั
ต้ังกระทะเทนำ้ มนั
นำไขล่ งในกระทะ
กลับด้านไข่
ทอดไข่เจยี วตอ่ ไม่สุก
สกุ หรอื ไม่
สกุ
ตักใส่จานเสิร์ฟ
ส้นิ สุด
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
บตั รภาพ
เรื่อง องคป์ ระกอบแนวคิดเชงิ คำนวณ
?
แนวคิดการแยกย่อย (Decomposition)
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
แนวคิดการหารูปแบบ (Pattern Recognition)
แนวคดิ เชิงนามธรรม (Abstraction)
แนวคดิ การออกแบบขั้นตอนวิธี (Algorithm Design)
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2
ตัวอย่างการแกป้ ญั หาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ
เวลา 3 ชว่ั โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
1.1 ตัวชว้ี ัด
ว 4.2 ป. 2/1 ออกแบบอัลกอรทิ มึ ที่ใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา หรอื การทำงานที่พบ
ในชีวติ จริง
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกวิธีการแก้ปัญหาการเข้าแถวตามลำดบั ความสงู ของนกั เรียนใหเ้ ร็วทีส่ ุดได้ (K)
2. บอกวิธีการแก้ปญั หาการจัดเรยี งเสอ้ื ผา้ ใหห้ าง่ายที่สุดได้ (K)
3. เขียนวิธกี ารแกป้ ญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณได้ (P)
4. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
- แนวคิดเชิงคำนวณ -
- การแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ
- ตวั อยา่ งปัญหา เชน่ การเข้าแถวตามลำดับความสงู
ให้เร็วที่สุด จัดเรียงเส้ือผ้าให้หาง่ายทีส่ ุด
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
แนวคดิ เชงิ คำนวณเป็นกระบวนการทีม่ ีลำดบั ขนั้ ตอนชดั เจนถูกนำมาใช้เพ่ือแก้ปญั หาต่าง ๆ ท่เี กดิ ขน้ึ
ในชวี ิตประจำวนั อยา่ งเป็นระบบ ไม่วา่ จะเป็นปัญหาการเข้าแถวตามลำดับความสงู ของนักเรยี น หรอื ปญั หา
การจดั เรียงเส้ือผ้า
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ
- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝ่เรียนรู้
- ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคิด
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ทักษะการคดิ เชิงคำนวณ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการแกป้ ญั หา
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการสบื ค้นข้อมูล
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีการสอนโดยเนน้ การจัดการเรยี นรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem- based learning)
ช่วั โมงท่ี 1
ขน้ั นำ
ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อเพื่อกระตุน้ ความสนใจของนักเรียนว่า“แนวคดิ เชงิ คำนวณมสี ว่ น
ช่วยการเรียงลำดับข้อมูลอยา่ งไร”
(แนวตอบ : แนวคิดเชิงคำนวณเป็นการคิดอย่างมรี ะบบและเป็นกระบวนการท่ีมลี ำดับขั้นตอน
ท่ีชัดเจน ทำให้การเรยี งลำดับข้อมูลมีความแม่นยำ ถกู ตอ้ ง)
ขัน้ สอน
ขัน้ ท่ี 1 กำหนดปัญหา
1. ครถู ามคำถามทา้ ทายความคดิ ของนกั เรียนวา่ “นักเรยี นสามารถเขยี นวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้
แนวคดิ เชิงคำนวณได้หรือไม่”
(แนวตอบ : นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นโดยตอบตามประสบการณ์ของตนเอง)
ขนั้ ท่ี 2 ทำความเข้าใจปัญหา
2. นกั เรยี นและครรู ่วมกันทบทวนความรเู้ ดมิ ที่ได้เรยี นในชว่ั โมงทแี่ ล้วเกีย่ วกบั การแก้ปัญหาโดยใช้
องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณจากหนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื งแนวคิดเชิงคำนวณกับการแก้ปญั หา
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ขั้นที่ 3 ดำเนนิ การศึกษาคน้ คว้า
3. นกั เรียนศึกษาตวั อยา่ งปัญหาการเข้าแถวตามลำดับความสูงของนักเรยี นใหเ้ รว็ ท่สี ุดจากหนงั สอื
เรียน
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม จากนน้ั ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม
แกป้ ญั หาโดยใช้องคป์ ระกอบของแนวคดิ เชิงคำนวณทัง้ 4 ข้อรว่ มกนั
5. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาความรเู้ สริมจากเน้ือหาเพ่ือขยายความร้ขู องผ้เู รียน (Com Sci Focus)
เร่ือง การเรียงลำดับแบบเลือก
6. ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั การเรียงลำดบั แบบเลอื กวา่ “การเรียงลำดบั แบบเลือก เป็นข้นั ตอน
การเรียงลำดบั อย่างง่าย โดยใชว้ ิธีการเปรยี บเทียบ ซึง่ จะพบเห็นโดยมากในวชิ าคณติ ศาสตร์
ในเรื่อง การเรยี งลำดับจากมากไปหาน้อยหรอื จากนอ้ ยไปหามาก เป็นตน้ ”
ขน้ั สอน ช่ัวโมงที่ 2-3
ข้ันท่ี 3 ดำเนนิ การศึกษาคน้ ควา้
7. นักเรียนศึกษาตวั อย่างปญั หาการจัดเรยี งเส้อื ผา้ ให้หาง่ายท่ีสดุ โดยใชอ้ งคป์ ระกอบของแนวคิด
เชงิ คำนวณตามลำดบั การวเิ คราะหท์ ัง้ 4 ข้อ
8. ครูสมุ่ นักเรยี น 2-3 คน เพ่อื สรปุ การจัดเรยี งเสือ้ ผ้าให้หาง่ายทสี่ ุดตามขั้นตอนการวิเคราะห์
โดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ
ข้ันที่ 4 สังเคราะหค์ วามรู้
9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย และครใู ห้ความรูเ้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนนั้ หรือใหน้ กั เรียน
ศกึ ษาความรู้เพมิ่ เติมจากอนิ เทอร์เนต็ ที่เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง
10. นักเรยี นทำกจิ กรรมทสี่ อดคล้องกบั เน้ือหา โดยการฝึกปฏิบตั เิ พื่อพัฒนาความร้แู ละทักษะ
การเรียนรู้ (Com Sci Activity) โดยใหน้ ักเรยี นอธบิ ายการนำแนวคิดเชงิ คำนวณมาใช้
แกป้ ญั หาของสถานการณ์ตามทีโ่ จทยก์ ำหนด
ขน้ั ท่ี 5 สรุปและประเมนิ คา่ ของคำตอบ
11. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ เนื้อหาเพื่อให้ผเู้ รียนได้ทบทวนสาระสำคัญประจำหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1
เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ คำนวณกบั การแก้ปญั หา
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน
12. ครปู ระเมินผลนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม สำรวจพฤติกรรมการทำงาน และ
สมุดประจำตัวของนักเรยี น
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพือ่ ใหน้ ักเรยี น
- มที ักษะการทำงานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทำกจิ กรรมเพื่อ
เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สื่อสารและแลกเปลยี่ นขอ้ มูลร่วมกันในการวิเคราะหก์ ารแกป้ ญั หา
โดยใชอ้ งคป์ ระกอบของแนวคิดเชงิ คำนวณ
- มีทักษะการสังเกตจากการศึกษาตัวอย่างปัญหาการเขา้ แถวตามลำดบั ความสูงของ
นักเรยี นให้เรว็ ทสี่ ุดและตวั อย่างปญั หาการจดั เรยี งเสือ้ ผ้าให้หาง่ายที่สดุ โดยใชแ้ นวคดิ เชิง
คำนวณจากหนงั สือเรียน
- มที ักษะการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่กำหนดใหผ้ า่ นการคิดเชิงคำนวณ
- มีทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นักเรยี นแต่ละคนสบื คน้ ข้อมลู จากทางอนิ เทอรเ์ น็ต
เพอ่ื สืบเสาะหาความรเู้ พิ่มเติมภายใตห้ วั ขอ้ ที่ได้รบั มอบหมาย
ขั้นสรปุ
1. นกั เรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง โดยพจิ ารณาข้อความวา่ ถูกหรือผดิ หากนกั เรียน
พิจารณาไมถ่ ูกต้องใหน้ ักเรียนกลบั ไปทบทวนเน้อื หาตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้
2. นักเรียนทำแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 โดยใหน้ ักเรยี นตอบคำถามใหถ้ ูกต้องและ
บันทกึ ลงในสมดุ ประจำตวั พร้อมทำชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแกป้ ัญหาโดยใช้
แนวคดิ เชงิ คำนวณ เพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนและนำมาส่งในช่ัวโมงถดั ไป
3. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่ือง แนวคดิ เชิงคำนวณกับ
การแก้ปัญหา
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการวดั
7.1 การประเมนิ ระหว่างการ
จดั กิจกรรม
1) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
2) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม
กลุ่ม การทำงานกลุ่ม
3) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
อันพึงประสงค์ ความรบั ผิดชอบ อนั พึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั
ในการทำงาน
7.2 การประเมินหลังเรียน
1) แบบทดสอบหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจริง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หลังเรียน
เร่ือง แนวคิดเชิง
คำนวณกับ
การแกป้ ญั หา
2) การประเมินชนิ้ งาน - ตรวจชิน้ งาน/ภาระงาน - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับคุณภาพ 2
/ภาระงาน (รวบยอด) (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
เร่อื ง การแก้ปัญหา
โดยใช้แนวคิดเชงิ
คำนวณ
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1
เรื่อง แนวคิดเชงิ คำนวณกั้บการแก้ปัญหา
2) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอร์เนต็
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นบอกวิธีการแกป้ ญั หาจากสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ โดยใช้แนวคิดเชงิ คำนวณ
สถานการณท์ ี่ 1: คุณครูฉววี รรณสัง่ ใหน้ ายแดงจดั แถวเพ่ือนรว่ มชัน้ ตามลำดับความสูง ปรากฏว่านายแดง
จดั แถวไดช้ ้ามากทำใหเ้ สียเวลาในการเรยี น นักเรยี นมีวิธีการแก้ปญั หาให้นายแดงอย่างไร
วิธีการแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................. .................................
................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................. .............................................................
วิชาวิทยาการคำนวณ ชอื่ ...............................................................................ชั้น.................เลขท.่ี .............
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
สถานการณ์ที่ 2: ฟ้าใสต้องการหาชดุ กระโปรงสีชมพใู นตู้เสื้อผา้ แต่ปรากฏวา่ ฟ้าใสหาไม่เจอ จงึ ตอ้ งรื้อ
เสือ้ ผ้าออกมากองไวข้ ้างนอกตู้เส้ือผ้าท้ังหมด นักเรยี นมีวิธกี ารจดั เรยี งเส้ือผ้าใหฟ้ า้ ใส
อยา่ งไร เพือ่ ใหฟ้ า้ ใสหาเสื้อผา้ ได้ง่ายที่สดุ
วธิ กี ารแกป้ ัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
วิชาวิทยาการคำนวณ ช่อื ...............................................................................ชน้ั .................เลขที่..............
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เร่ือง การแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนบอกวิธกี ารแกป้ ัญหาจากสถานการณ์ท่ีกำหนดให้ โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ
สถานการณ์ท่ี 1: คุณครูฉววี รรณสง่ั ใหน้ ายแดงจัดแถวเพื่อนร่วมชน้ั ตามลำดบั ความสงู ปรากฏวา่ นายแดง
จัดแถวไดช้ า้ มากทำให้เสยี เวลาในการเรียน นักเรยี นมวี ธิ ีการแก้ปญั หาใหน้ ายแดงอยา่ งไร
วิธีการแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณ
..1......แ...น..ว...ค..ิด...ก..า..ร..แ...ย..ก...ย..่อ..ย....(..D...e..c..o...m....p..o...s..i.t.i.o...n...)................................................... .................................................
...........ข..น้ั...ต..อ..น...ท...่ี .1.....ก..ำ..ห...น...ด..น...ัก..เ.ร..ยี...น..ค...น..แ...ร..ก..เ.ป...น็ ..น...ัก..เ..ร..ีย..น...ต..ำ..แ..ห...น...ง่ .ห...ล..ัก...................................................................
...........ข..น้ั...ต..อ..น...ท...ี่ .2.....แ..บ...ง่..น..กั...เ.ร..ีย..น...อ..อ...ก..เ.ป...น็ ....2...ก...ล..มุ่....ด..ัง..น...้ี ........................................................................................
..............................ก...ล..่มุ...ท..ี่..1...น...ัก..เ.ร..ีย...น..ท...่สี..ูง..น...้อ..ย..ก...ว..า่..ต..ำ..แ...ห..น...ง่ ..ห..ล...ัก..ใ..ห..ต้...ั้ง..แ..ถ..ว..อ...ย..ูท่...า..ง.ซ..า้..ย..ข...อ..ง..ต..ำ..แ...ห..น...่ง..ห..ล...กั ................
..............................ก...ล..ุม่...ท..ี่..2...น...กั ..เ.ร..ยี...น..ท...่ีส..งู..ม...า..ก..ก..ว..่า..ห...ร..ือ..เ..ท..า่..ก...บั ..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..ัก...ใ.ห...้ต..ั้ง.แ...ถ..ว..อ..ย...ู่ท..า..ง..ข...ว..า..ข..อ..ง..ต...ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล.ัก
...........ข..ั้น...ต..อ..น...ท...ี่ .3.....ท...้ัง...2...ก...ล..ุ่ม...ท..ำ..ซ..้ำ..จ...น..แ...บ..ง่..ก..ล...ุม่ ..ไ..ม..่ไ..ด..้อ...ีก..แ..ล...ะ..น..ัก...เ.ร..ีย..น...เ.ข...้า..แ..ถ..ว..เ..ร..ีย..ง..ต..า..ม...ล..ำ..ด..บั...ค..ว...า..ม..ส..งู..ไ..ด..ถ้..ู.ก..ต..้อ...ง..
..2......แ...น..ว...ค..ดิ ...ก..า..ร..ห...า..ร..ปู ...แ..บ...บ....(..P..a..t..t..e..r..n....R..e..c...o..g..n...i.t.i.o...n...)....................................... .................................................
...........ก..ล..มุ่...น..ัก...เ.ร..ีย..น...ท...่ีม..คี...ว..า..ม..ส...งู .น...้อ..ย...ก..ว..า่..ต...ำ.แ...ห..น...ง่..ห...ล..ัก.....ต..ำ..แ...ห..น...่ง..ห..ล...ัก......ก...ล..มุ่..น...กั..เ.ร..ีย..น...ท...ม่ี ..ีค...ว..า..ม..ส..งู..ม...า..ก..ก..ว...่า............
..................................................................................................................ห..ร..ือ...เ.ท...า่ ..ก..ับ...ต..ำ..แ..ห...น...ง่ .ห...ล..กั........................
..3......แ...น..ว...ค..ดิ...เ.ช...งิ .น...า..ม...ธ..ร..ร..ม....(..A...b..s..t..r.a..c...t.i.o...n..)...........................................................................................................
...........ก..า..ร..เ.ร..ยี...ง.ล...ำ..ด..ับ...ค..ว..า..ม...ส..งู..ข..อ...ง..น..ัก...เ.ร..ยี ..น...จ..ะ..ส...น..ใ..จ..แ..ค...่ล..ำ..ด..ับ...ค...ว..า..ม..ส...ูง.เ..ท..า่..น...น้ั ....แ..ล..ะ..ไ..ม..ส่..น...ใ.จ...ส..ิง่..ท...ี่ไ.ม...่จ..ำ..เ.ป...็น................
..........ต...่อ..ก...า..ร..จ..ดั ..แ...ถ..ว..ข..อ...ง..น..กั...เ.ร..ีย..น....เ.ช...น่ ....ช..อื่....น..า..ม..ส...ก..ลุ....เ.พ...ศ....อ..า..ย..ุ..น..้ำ..ห...น...กั ...เ..ป..น็...ต..น้.....................................................
..4......แ...น..ว...ค..ิด...ก..า..ร..อ...อ..ก...แ..บ...บ..ข...ัน้ ...ต..อ...น..ว...ิธ..ี .(..A...l.g..o...r.i.t..h..m......D...e..s..i.g..n...)............................. .................................................
..ล...ำ..ด..บั...ข..้ัน...ต..อ...น..ใ..น..ก...า..ร..แ..ก..ป้...ญั...ห...า..ม..ดี...งั ..น..ี้...................................................................................................................
................1......ก..ำ..ห...น...ด..น...กั ..เ.ร..ีย...น..ค...น..แ...ร.ก...ท..า..ง..ซ..า้..ย...ส..ดุ...เ.ป..็น...ต..ำ..แ...ห..น...ง่..ห..ล...ัก.........................................................................
................2......ท...ำ..ก..า..ร..แ..บ...ง่ ..ก..ล..่มุ...น...ัก..เ.ร..ยี..น...โ..ด..ย..น...กั..เ..ร..ีย..น...ท..่ีม...ีค..ว..า..ม...ส..งู..น..้อ...ย..ก...ว..่า..ต..ำ..แ..ห...น...่ง.ห..ล...กั ..ใ..ห..ต้...้งั .แ...ถ..ว..อ...ย..ู่ท...า..ง.ซ...า้ ..ย..ข..อ...ง.....
................ต...ำ..แ..ห...น..ง่..ห...ล..ัก....แ..ล...ะ..น..ัก...เ.ร..ีย..น...ท...ี่ม..คี...ว..า..ม..ส..งู..ม...า..ก..ก..ว...่า.ห...ร..ือ...เ.ท..า่..ก...ับ...ต..ำ..แ..ห...น..่ง..ห...ล..ัก..ใ..ห..ต้...ง้ั .แ...ถ..ว..อ...ย..ู่ท...า..ง.ข...ว..า..ข..อ..ง........
................ต...ำ..แ..ห...น..ง่..ห...ล..ัก.................................................................................................................................... .......
................3......ท...ำ..ซ..้ำ..ข..นั้...ต..อ...น..ท...ี่.1....แ..ล...ะ..ข..ั้น...ต..อ...น..ท...่ี .2....ไ.ป...เ.ร..่ือ...ย..ๆ....จ..น...ก..ร..ะ..ท...ั่ง..ไ.ม...่ส..า..ม..า..ร..ถ..แ...บ..ง่..ก..ล...มุ่ ..ไ..ด..้อ...ีก............................
และได้แถวทีเ่ รยี งลำดบั ความสูงจากนอ้ ยไปหามาก
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
สถานการณท์ ่ี 2: ฟ้าใสต้องการหาชดุ กระโปรงสชี มพูในตเู้ สอ้ื ผ้าแตป่ รากฏวา่ ฟ้าใสหาไม่เจอ จงึ ต้องรื้อ
เส้อื ผา้ ออกมากองไวข้ ้างนอกตูเ้ ส้ือผา้ ทัง้ หมด นักเรียนมีวธิ กี ารจดั เรยี งเส้ือผา้ ใหฟ้ ้าใส
อยา่ งไร เพ่อื ให้ฟา้ ใสหาเส้ือผ้าได้ง่ายทสี่ ดุ
วิธกี ารแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ
.1......แ..น...ว..ค...ิด..ก...า..ร..แ..ย...ก..ย..่อ...ย....(.D...e...c..o..m....p...o..s..i.t..i.o..n...)..................................................... .................................................
.........ข...้นั ..ต...อ..น...ท..่ี..1.....ต..้งั..ว..ตั ..ถ...ปุ ..ร..ะ..ส...ง..ค..์ห...ล..กั...ใ.น...ก..า..ร..ค..้น...ห...า.ว..า่..จ...ะ..ค..้น...ห..า..เ..ส..ื้อ..ผ...้า..จ..า..ก..อ...ะ..ไ.ร....เ.ช..น่....ค...้น..ห...า..จ..า..ก...ส..ี.ห...ร..ือ..ป...ร..ะ..เ.ภ...ท..
..............................เ.พ...่อื...ก..ำ..ห...น..ด...เ.ป...็น..เ.ก...ณ...ฑ...์ใ..น..ก...า.ร...แ..บ...่ง.ก...ล..ุ่ม...เ.ส..ื้อ...ผ..้า........................... .................................................
.........ข...นั้ ..ต...อ..น...ท..ี่..2....แ...บ..่ง..ก...ล..ุ่ม...เ.ส..ื้อ...ผ..า้..ต..า..ม...ว..ตั ..ถ...ุป..ร..ะ..ส...ง..ค..ท์...่ีไ.ด...ต้ ..้งั..ไ..ว..้ .............................................................................
.........ข...้นั ..ต...อ..น...ท..ี่..3....จ...ัด..เ.ร..ีย...ง..เ.ส..อ้ื...ผ..้า..ต..า..ม...ท..่ีไ..ด..้แ..บ...่ง..ก..ล...ุ่ม..ไ..ว..้ ..........................................................................................
.2......แ..น...ว..ค...ดิ ..ก...า..ร..ห...า..ร..ปู ..แ...บ...บ....(.P...a..t..t.e...r.n....R...e..c..o...g..n..i.t..i.o...n..)..........................................................................................
.........ห...า..ว..ัต..ถ...ปุ ..ร..ะ..ส...ง..ค..์ใ..น..ก...า..ร..ค..น้...ห..า.....แ..บ...ง่..ก..ล..ุ่ม...เ.ส...อ้ื ..ผ..า้..ต..า..ม...ว..ตั ..ถ...ปุ ..ร..ะ..ส...ง..ค..์....จ..ัด...เ.ร..ีย..ง..เ.ส...อ้ื ..ผ...า้ ..ต..า..ม..ท...่ีแ..บ...ง่..ก..ล...มุ่ ..................
.3......แ..น...ว..ค...ดิ ..เ..ช..ิง..น...า..ม..ธ...ร..ร..ม....(.A...b...s..t.r..a..c..t..i.o..n...)............................................................................................................
.........ก...า..ร..จ..ัด..เ..ร..ีย..ง..เ.ส..อื้...ผ..า้..จ..ะ..ส...น..ใ..จ..แ...ค..่ก..า..ร..แ...บ..ง่..ก...ล..ุ่ม..เ..ส..อ้ื..ผ...้า..ต..า..ม...ว..ัต..ถ..ปุ...ร..ะ..ส...ง..ค..์.ส...่ิง.ท...่สี..น..ใ..จ..ค...ือ...ป...ร..ะ..เ..ภ..ท...ข..อ...ง.เ..ส..ื้อ..ผ...้า...ส...ี ...
.........แ..ล...ะ..ส..่ิง..ท...่ไี .ม...่ส..น...ใ.จ....แ..ล...ะ..ไ.ม...่จ..ำ..เ.ป...็น..ต...อ่..ก...า..ร..จ..ดั..เ..ร..ีย..ง.เ..ส..อื้..ผ...้า...ค..อื....ข...น..า..ด....ย..่ีห...้อ....เ.ป..็น...ต...้น..............................................
.4......แ..น...ว..ค...ิด..ก...า..ร..อ..อ...ก..แ...บ..บ...ข...นั้ ..ต...อ..น...ว..ิธ..ี..(.A...l..g..o..r..i.t.h...m.....D...e...s.i.g..n...)................................................................................
.........ล..ำ..ด...บั ..ข...ัน้ ..ต...อ..น...ใ.น...ก..า..ร..แ...ก..้ป...ญั ...ห..า..ม...ดี..งั..น...ี้ ............................................................................................................
...............1.....ห...า..ว..ัต...ถ..ปุ...ร..ะ..ส..ง..ค..ใ์..น...ก..า..ร..ค..้น...ห...า..เ.ส..ือ้ ..ผ...้า.....................................................................................................
...............2.....แ...บ..่ง..ก...ล..ุม่...เ.ส..อื้..ผ...้า..ต..า..ม...ว..ตั ..ถ...ปุ ..ร..ะ..ส...ง..ค..์.......................................................................................................
...............3.....จ...ัด..เ.ร..ยี...ง..เ.ส..้ือ...ผ..า้ ..ต..า..ม...ท..่ีแ...บ..ง่..ก...ล..ุม่ ...เ.ส..อ้ื ..ผ...้า................................................... .................................................
...............4.....จ...ัด..เ.ข...า้ ..ต..ู้เ.ส...ื้อ..ผ...้า.ใ..ห...เ้ .ร..ยี..บ...ร..้อ..ย...................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผ้อู ่ืน
3 การทำงานตามหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย
4 ความมีน้ำใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่อง
ทีต่ รงกับระดับคะแนน
ลำดับที่ ชื่อ–สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม
ของนักเรยี น ความ ฟังคนอืน่ ตามทไ่ี ดร้ ับ นำ้ ใจ ส่วนรว่ มใน 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
การ
ปรบั ปรุง
ผลงานกลมุ่
321321321321321
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
............./.................../...............
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่อง
ทีต่ รงกับระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พึงประสงค์ด้าน 32 1
1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่
กษตั รยิ ์
โรงเรยี น
2. ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต 1.3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา
3. มวี ินยั รับผิดชอบ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจดั ข้นึ
4. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ให้ข้อมูลทถี่ กู ต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏิบตั ใิ นสง่ิ ท่ีถูกตอ้ ง
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั
6. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
7. รักความเปน็ ไทย 4.1 รู้จกั ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้
8. มจี ติ สาธารณะ 4.2 รูจ้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชอ่ื ฟงั คำสงั่ สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ุณค่า
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็
7.1 มจี ติ สำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย
7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน
8.2 รู้จกั การดูแลรกั ษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรยี นและ
โรงเรียน
ลงชอ่ื ..................................................ผูป้ ระเมนิ
............/.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางครัง้ 30–40 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรับปรงุ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แบบประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวติ จริง
รายการ เกณฑ์การประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ระดบั
ประเมนิ คุณภาพ
ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
1. องค์ประกอบของ ดีมาก
แนวคิดเชิงคำนวณ บอกวธิ กี ารแก้ปัญหา บอกวิธีการแก้ปัญหา บอกวธิ ีการแก้ปัญหา ไม่สามารถบอกวธิ ีการ
ของแต่ละองคป์ ระกอบ แกป้ ญั หาของแต่ละ ดี
2. การแก้ปัญหาการเข้าแถว ของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ของแตล่ ะองคป์ ระกอบ ของแตล่ ะองคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบของ
ตามลำดับ ไดด้ มี าก แนวคิดเชงิ คำนวณได้ พอใช้
สามารถบอกขน้ั ตอน ของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ของแนวคดิ เชิงคำนวณ ไม่สามารถบอกขน้ั ตอน
3. การแกป้ ัญหาการจดั เรยี ง การแกป้ ญั หาการเข้า การแก้ปญั หาการเขา้ ปรับปรุง
เส้ือผา้ แถวตามลำดับไดด้ ีมาก ได้ดี ไดค้ ่อนขา้ งดี แถวตามลำดับได้
4. ความสมบรู ณ์ของผลงาน สามารถบอกขน้ั ตอน สามารถบอกข้นั ตอน สามารถบอกข้ันตอน ไมส่ ามารถบอกข้นั ตอน
การแกป้ ัญหาการจัด การแก้ปัญหาการจัด
เรียงเสอ้ื ผ้าได้ดมี าก การแก้ปญั หาการเขา้ การแกป้ ัญหาการเขา้ เรียงเส้อื ผ้าได้
ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น
สมบรู ณ์ดมี าก แถวตามลำดบั ได้ดี แถวตามลำดับได้ สมบูรณ์นอ้ ย
ค่อนข้างดี
สามารถบอกขนั้ ตอน สามารถบอกข้ันตอน
การแกป้ ัญหาการจัด การแกป้ ญั หาการจดั
เรียงเสือ้ ผา้ ได้ดี เรยี งเสอ้ื ผ้าได้ค่อนขา้ งดี
ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถ้วน
สมบรู ณค์ อ่ นขา้ งดี สมบูรณ์ดเี ปน็ บางสว่ น
5. สง่ งานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานชา้ กวา่ ส่งภาระงานชา้ กวา่
กำหนด 2 วนั กำหนดเกิน 3 วันขึ้นไป
ท่กี ำหนด กำหนด 1 วัน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
16 - 20 ดมี าก
10 - 15 ดี
7 - 9 พอใช้
1 - 6 ปรับปรงุ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดหมายถึงแนวคิดเชงิ คำนวณ 6. แนวคดิ การแยกย่อยเป็นองค์ประกอบของแนวคิดใด
ก. Computer Thinking ก. แนวคิดเชงิ คำนวณ
ข. Computational Thinking ข. แนวคดิ เชงิ ตรรกะ
ค. Complete Thinking ค. แนวคิดเชิงรวบยอด
ง. Calculator Thinking ง. แนวคิดเชิงนามธรรม
2. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ 7. ขอ้ ใดกล่าวถงึ แนวคิดเชิงคำนวณไดถ้ ูกต้อง
ก. แนวคดิ เชงิ นามธรรม ก. เป็นการแก้ปญั หาจากใหญไ่ ปย่อย
ข. แนวคิดการแยกยอ่ ย ข. เปน็ ทักษะการแกป้ ัญหาทซ่ี บั ซ้อน
ค. แนวคดิ การหารูปแบบ ค. เป็นทักษะที่ใชใ้ นการประดิษฐห์ ุน่ ยนต์
ง. แนวคิดเชงิ รปู ธรรม ง. เป็นทักษะสำคญั ท่นี ักพัฒนาซอฟต์แวร์ควรมี
3. แนวคดิ เชิงคำนวณทแี่ ตกปญั หาใหญอ่ อกเปน็ ปญั หายอ่ ย 8. เม่ือพบกองเสอื้ ผ้าทปี่ ะปนกนั อยเู่ ปน็ จำนวนมาก
หมายถงึ คือข้อใด จะเลอื กแนวทางในการแก้ปัญหาอยา่ งไรจึงจะถูกต้อง
ก. แนวคิดการแยกยอ่ ย ก. จดั เรยี งเส้อื ผา้ ตามกลมุ่ / แบ่งกลุ่มเส้อื ผ่า / จัดเข้าตู้เสอ้ื ผ้า
ข. แนวคดิ การหารูปแบบ ข. แบง่ กล่มุ เสอ้ื ผ้า / จดั เรยี งเสอ้ื ผา้ ตามกลมุ่ / จดั เข้าตเู้ สอื้ ผา้
ค. แนวคิดเชิงนามธรรม ค. แบง่ กลุ่มเสือ้ ผ้า / แยกสีเสื้อผา้ / แยกประเภทเสื้อผา้
ง. แนวคดิ เชิงรูปธรรม / จัดเขา้ ตเู้ สอื้ ผา้
4. เมอื่ ครูสั่งให้เข้าแถวตามลำดับความสูงของนักเรยี น ง. หาวัตถุประสงคห์ ลักในการค้นหาเสือ้ ผ้า / แบง่ กล่มุ เส้ือผ้า
ให้เรว็ ที่สุด สงิ่ แรกที่ควรทำคอื ขอ้ ใด ตามวตั ถปุ ระสงคห์ ลัก / จัดเรยี งเสอื้ ผ้าตามกลุม่
ก. เรียงลำดบั ตามความสูงจากน้อยไปหามาก 9. เม่อื ตอ้ งการแก้ปัญหาตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ
ข. เรียงลำดับตามความสูงจากมากไปหานอ้ ย ควรทำองคป์ ระกอบใดเป็นขั้นตอนแรก
ค. กำหนดนักเรยี นคนแรกใหเ้ ปน็ นกั เรียนตำแหนง่ หลัก ก. ทำปัญหาน้นั ให้มีขนาดเลก็ ลง เพื่อใหส้ ามารถจดั การ
ง. แบ่งกลุ่มออกเปน็ 2 กลุ่มโดยกำหนดเง่อื นไข ปัญหาแตล่ ะสว่ นไดง้ า่ ยข้ึน
ให้ละเอียด ข. เปลี่ยนรปู แบบปญั หาให้แกไ้ ขปญั หาไดง้ ่ายข้นึ
5. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของการแก้ปญั หาโดยใช้แนวคิด ค. กำหนดหลักการในการแก้ปญั หา
เชิงคำนวณ ง. ออกแบบขัน้ ตอนวธิ ีในการแก้ปัญหา
ก. สามารถแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 10. แนวคดิ ในขอ้ ใดใชส้ ญั ลกั ษณ์ Flowchart แสดงลำดับ
ข. สามารถบนั ทกึ แนวทางการแกป้ ญั หาได้ ข้ันตอนในการแกป้ ญั หา
ค. สามารถแกป้ ญั หาได้อย่างเป็นระบบ ก. แนวคิดเชิงนามธรรม
ง. สามารถแก้ปัญหาโดยใชก้ ารคำนวณจากคอมพิวเตอร์ ข. แนวคิดการแยกย่อย
ค. แนวคดิ การออกแบบขน้ั ตอนวิธี
ง. แนวคดิ การหารูปแบบ
เฉลย 1. ข 2. ง 3. ก 4. ค 5. ค 6. ก 7. ง 8. ง 9. ก 10. ค