3. จงนำตวั อักษรทางดา้ นขวามอื มาเตมิ ลงในช่องวา่ งหน้าขอ้ ความด้านซา้ ยมือท่สี ัมพันธก์ ัน
.......... 1. รับข้อมูลเข้าสู่เครอื่ งคอมพิวเตอร์ A. Microsoft Excel
.......... 2. อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลไว้ใช้ในภายหลงั B. Microsoft Access
.......... 3. ประมวลผลขอ้ มลู ท่ีผใู้ ชป้ ้อนเข้ามา C. Super Computer
.......... 4. โปรแกรมที่ใช้ในการคำนวณ D. Mainframe Computer
.......... 5. โปรแกรมที่ใช้สำหรับนำเสนอรายงาน E. Input Unit
.......... 6. โปรแกรมที่ช่วยรักษาหน้าจอ F. Wearable Computer
.......... 7. โปรแกรมจดั การไฟลใ์ นเคร่อื ง G. PageMaker
.......... 8. โปรแกรมที่ช่วยจัดการฐานข้อมูล H. Screen Saver
.......... 9. คอมพวิ เตอรท์ ี่มรี าคาแพงทีส่ ุด I. File Manager
.......... 10. คอมพิวเตอรท์ ี่ใช้จบั เซ็นเซอร์ J. Secondary Storage
K. Central Processing Unit
L. Microsoft PowerPoint
M. Workstation Computer
วิชาวิทยาการคำนวณ ช่อื ...............................................................................ชัน้ .................เลขท่.ี .............
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เร่ือง ระบบคอมพิวเตอร์
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปให้ให้ถกู ต้อง
1. ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งข้อมลู ที่สามารถนำมาใช้ในการส่อื สารข้อมูลในชีวิตประจำวันไดต้ ามลกั ษณะ
ข้อมูล
ในตารางต่อไปนี้
ลกั ษณะของข้อมลู ตวั อยา่ งข้อมูล
ตัวอกั ษร หนังสอื เรยี น ป้ายบอกรายการอาหารในโรงอาหาร
ตัวเลข คะแนน ราคาอาหาร
เสียง เสยี งประกาศ เสยี งเพลง
รูปภาพ ภาพกจิ กรรมของโรงเรยี น ภาพคณุ ครู
ส่ือผสม วีดโี อแนะนำโรงเรยี น มิวสคิ วดี ีโอ
2. ให้นักเรียนพิจารณาบัตรคำท่ีกำหนดให้ จากน้ันนำบัตรคำไปเติมลงในตารางสื่อกลางในการส่ือสาร
ข้ อ มู ล
ใหอถ้ินูกฟตรอ้างเรตดามประเภทของสอื่ สกาลยาโงคนแั้นอกๆเชยี ล คลื่นวทิ ยุ สาย UTP
คลื่นไมโครเวฟ สายใยแกว้ นำแสง สาย STP ดาวเทยี ม
ส่อื กลางในการส่อื สารขอ้ มูล
สื่อกลางประเภทสายสัญญาณ สื่อกลางประเภทไร้สาย
สายโคแอกเชยี ล อนิ ฟราเรด
สาย UTP คล่ืนวทิ ยุ
สายใยแกว้ นำแสง คล่ืนไมโครเวฟ
สาย STP ดาวเทยี ม
3. จงนำตัวอักษรทางดา้ นขวามือ มาเติมลงในชอ่ งว่างหนา้ ข้อความด้านซา้ ยมือทสี่ ัมพนั ธก์ ัน
.....E..... 1. รบั ข้อมูลเข้าสเู่ คร่อื งคอมพวิ เตอร์ A. Microsoft Excel
......J.... 2. อุปกรณท์ เ่ี ก็บขอ้ มลู ไวใ้ ช้ในภายหลงั B. Microsoft Access
......K.... 3. ประมวลผลขอ้ มลู ทผ่ี ู้ใชป้ อ้ นเขา้ มา C. Super Computer
.....A..... 4. โปรแกรมที่ใช้ในการคำนวณ D. Mainframe Computer
......L.... 5. โปรแกรมทใี่ ชส้ ำหรับนำเสนอรายงาน E. Input Unit
......H.... 6. โปรแกรมที่ช่วยรกั ษาหน้าจอ F. Wearable Computer
......I...... 7. โปรแกรมจดั การไฟลใ์ นเครอ่ื ง G. PageMaker
......B.... 8. โปรแกรมทช่ี ว่ ยจดั การฐานขอ้ มูล H. Screen Saver
.....C..... 9. คอมพวิ เตอรท์ ี่มีราคาแพงท่ีสุด I. File Manager
......F..... 10. คอมพวิ เตอรท์ ี่ใช้จับเซน็ เซอร์ J. Secondary Storage
K. Central Processing Unit
L. Microsoft PowerPoint
M. Workstation Computer
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเนื้อหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วธิ ีการนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใช้ประโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
คำชีแ้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคดิ เห็น
2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
3 การทำงานตามหน้าท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
4 ความมนี ้ำใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
การมี
ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนักเรียน ความ ฟงั คนอน่ื ตามทไี่ ด้รบั น้ำใจ การ 15
คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน
ปรับปรงุ
ผลงานกลุ่ม
321321321321321
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............./.................../...............
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีสร้างความสามัคคีปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อ
โรงเรยี น
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรียนจดั ขนึ้
2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ งและเปน็ จรงิ
2.2 ปฏิบัตใิ นส่งิ ทถี่ ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั
มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เช่อื ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แยง้
4.4 ตงั้ ใจเรยี น
5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า
5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ
6. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและ
โรงเรยี น
ลงชื่อ..................................................ผปู้ ระเมนิ
............/.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก
พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี
พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตบิ างครง้ั 30–40 พอใช้
ตำ่ กวา่ 30 ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ว 4.2 ม.2/3 อภปิ รายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี
การส่ือสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแกป้ ัญหาเบอ้ื งตน้
รายการ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ปรับปรุง (1) ระดับ
ประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) คณุ ภาพ
1. ข้อมูลในการสื่อสาร บอกขอ้ มูลในการ บอกขอ้ มูลในการ บอกข้อมลู ในการ ไมส่ ามารถบอกขอ้ มลู ที่ ดมี าก
สอื่ สารได้ถกู ต้องดีมาก สื่อสารได้ถกู ตอ้ งดี ส่อื สารได้ถูกตอ้ งพอใช้ ใชใ้ นการสอื่ สารได้
2. สือ่ กลางของข้อมลู ดี
ถูกตอ้ ง
3. หนา้ ท่กี ารทำงาน พอใช้
4. ความสมบรู ณ์ของผลงาน แยกประเภทของ แยกประเภทของ แยกประเภทของ ไม่สามารถแยกประเภท
5. ส่งงานตรงเวลา สอื่ กลางของข้อมูล สื่อกลางของขอ้ มลู ได้ดี สอ่ื กลางของขอ้ มลู ของสอ่ื กลางของขอ้ มูล ปรับปรุง
ไดด้ มี าก ไดพ้ อใช้ ได้
บอกหน้าทีก่ ารทำงาน บอกหนา้ ที่การทำงาน บอกหน้าทก่ี ารทำงาน ไม่สามารถบอกหนา้ ที่
ไดถ้ ูกตอ้ งดีมาก ได้ถกู ตอ้ งดี ได้ถกู ตอ้ งพอใช้ การทำงานได้ถกู ต้อง
ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมีความครบถ้วน
สมบรู ณด์ มี าก สมบรู ณค์ อ่ นข้างดี สมบูรณด์ เี ป็นบางสว่ น สมบูรณ์นอ้ ย
ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานช้ากวา่ สง่ ภาระงานช้ากว่า
กำหนด 2 วัน กำหนดเกนิ 3 วนั ขนึ้ ไป
ท่ีกำหนด กำหนด 1 วนั
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
16 - 20 ดมี าก
12 - 15 ดี
6 - 11 พอใช้
1 - 5 ปรับปรงุ
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ดา้ นอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชอ่ื
(
ตำแหน่ง
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใดเปน็ อปุ กรณ์ทที่ ำหน้าทใ่ี นการรบั ขอ้ มูล 6. ขอ้ ใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบของการส่ือสารข้อมลู
ก. ปรนิ ตเ์ ตอร์ ก. ข้อมลู ข่าวสาร ข. ผู้ส่งสาร
ข. แป้นพิมพ์ ค. สื่อกลาง ง. ผตู้ รวจสอบสาร
ค. จอภาพ 7. การถ่ายทอดรายการทีวี เป็นการสอ่ื สารรูปแบบใด
ง. ลำโพง ก. ทศิ ทางเดยี ว
2. ขอ้ ใดเปน็ อุปกรณป์ ระเภทหน่วยความจำสำรอง ข. ก่ึงสองทิศทาง
ก. แรม ข. รอม ค. สองทิศทาง
ค. ฮารด์ ดิสก์ ง. ซพี ียู ง. ทศิ ทางคร่ึง
3. ข้อใดเปน็ อุปกรณท์ ีท่ ำหนา้ ท่ีในการแสดงผล 8. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ส่ือกลางประเภทไรส้ าย
ขอ้ มูล ก. อนิ ฟราเรด
ก. จอภาพ ข. แฟลชไดรฟ์ ข. ไฟเบอรอ์ อปติก
ค. แผน่ ซีดี ง. เมาส์ ค. ไมโครเวฟ
4. ขอ้ ใดคือซอฟตแ์ วร์จัดการฐานข้อมลู ง. คล่ืนวทิ ยุ
ก. Microsoft Word 9. การเช่ือมต่อระหวา่ งทวีปเอเชียกบั ทวปี อเมรกิ า
ข. Microsoft Excel ควรใชก้ ารเชอ่ื มต่อประเภทใด
ค. Microsoft Access ก. เครือขา่ ยส่วนบุคคล
ง. Microsoft PowerPoint ข. เครือข่ายท้องถนิ่
5. ข้อใดคือหนา้ ที่ของ Input Unit ค. เครอื ข่ายระดบั เมือง
ก. นำข้อมลู ทรี่ บั มาเก็บไว้ในหนว่ ยความจำ ง. เครอื ขา่ ยระดบั ประเทศ
เพอ่ื ประมวลผล 10. คอมพวิ เตอร์ประเภทใดที่มีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ
ข. รบั ข้อมลู และคำส่ังจากผใู้ ชเ้ ขา้ สู่ และมรี าคาแพงท่สี ุด
เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ก. Personal Computer
ค. จดั เก็บข้อมูล ข. Mainframe Computer
ง. แสดงผลลพั ธ์ท่ปี ระมวลผลเรยี บรอ้ ยแล้ว ค. Super Computer
ง. Workstation Computer
เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ค 5. ข 6. ง 7. ก 8. ข 9. ง 10. ค
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ทที่ ำหนา้ ท่ใี นการรับข้อมูล
ก. ปรนิ เตอร์ 6. ข้อใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบของการส่อื สารข้อมลู
ข. จอภาพ ก. ข้อมลู ข่าวสาร
ค. ลำโพง ข. การประมวลผล
ง. เมาส์ ค. สือ่ กลาง
2. ข้อใดเปน็ อุปกรณ์ประเภทหน่วยความจำสำรอง ง. ผรู้ ับสาร
ก. เมมโมรีการด์ ข. รอม 7. วทิ ยุสอื่ สารของตำรวจ เป็นการสือ่ สารรปู แบบใด
ค. แรม ง. ซีพยี ู ก. ทศิ ทางเดยี ว ข. กงึ่ สองทศิ ทาง
3. ข้อใดเปน็ อุปกรณ์ทีท่ ำหน้าทใ่ี นการแสดงผล ค. สองทิศทาง ง. ทิศทางครง่ึ
ข้อมูล 8. ขอ้ ใดไม่ใชส่ อ่ื กลางประเภทไร้สาย
ก. แผ่นซีดี ก. อนิ ฟราเรด
ข. แฟลชไดรฟ์ ข. คลนื่ วิทยุ
ค. ปรินเตอร์ ค. ดาวเทียมสอื่ สาร
ง. เมาส์ ง. โคแอกเชยี ล
4. ขอ้ ใดคือซอฟตแ์ วร์เพ่ือการคำนวณ 9. การเชอื่ มต่อระหวา่ งกรงุ เทพกบั เชยี งใหม่
ก. Microsoft Word ควรใชก้ ารเช่อื มต่อประเภทใด
ข. Microsoft Excel ก. เครอื ข่ายสว่ นบคุ คล
ค. Microsoft Access ข. เครือขา่ ยทอ้ งถิน่
ง. Microsoft PowerPoint ค. เครือขา่ ยระดับเมือง
5. ข้อใดคือหน้าท่ีของ Output Unit ง. เครอื ขา่ ยระดับประเทศ
ก. นำข้อมูลท่ีรับมาเกบ็ ไวใ้ นหน่วยความจำ 10. คอมพวิ เตอร์ประเภทใดท่ีนยิ มใช้ในสำนกั งาน
เพอ่ื ประมวลผล ก. Personal Computer
ข. รับขอ้ มลู และคำสั่งจากผู้ใชเ้ ข้าสู่ ข. Mainframe Computer
เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ค. Super Computer
ค. จัดเกบ็ ข้อมลู ง. Workstation Computer
ง. แสดงผลลัพธท์ ป่ี ระมวลผลเรียบรอ้ ยแลว้
เฉลย
1. ง 2. ก 3. ค 4. ข 5. ง 6. ข 7. ข 8. ง 9. ค 10. ก
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
เวลา 2 ชวั่ โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั
1.1 ตัวชีว้ ัด
ว 4.2 ม.2/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มคี วามรับผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธิ์ใน
การเผยแพร่ผลงาน
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายคุณประโยชน์และโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศได้ถูกต้อง (K)
2. สบื ค้นปัญหาที่เกดิ จากเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ (P)
3. สนใจใฝ่เรยี นรู้ในการศึกษาและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง -
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั โดย
เลือกแนวทางปฏบิ ัตเิ ม่ือพบเนอื้ หาท่ีไม่
เหมาะสม เช่น แจง้ รายงานผเู้ กีย่ วขอ้ ง ป้องกนั
การเขา้ มาของข้อมลู ท่ีไม่เหมาะสม ไม่ตอบโต้
ไม่เผยแพร่
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของผู้คนในหลากหลายด้าน และถือเป็นเคร่ืองมือที่มี
ความสำคัญอยา่ งยงิ่ ต่อการดำเนินชวี ิตของคนในสงั คมปัจจบุ นั เมอื่ เทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการพัฒนาให้
มีรูปแบบท่ีมีความน่าสนใจและอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีจึงสร้างท้ังคุณประโยชน์และโทษ
ใหก้ ับผใู้ ช้ ทั้งโดยตั้งใจหรอื ไมต่ ้ังใจ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทักษะการสื่อสาร 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
- ทักษะการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู
2. ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ข้ันนำ
ขัน้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
อยา่ งปลอดภัย เพื่อวัดความรู้เดมิ ของนกั เรียนกอ่ นเข้าส่กู ิจกรรม
2. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนว่า“นักเรยี นคิดว่าปัญหาที่เกิดจากการใช้
เทคโนโลยีมีอะไรบ้าง”
(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึน้ อยู่กับดลุ ยพินิขของ
ครผู ู้สอน เชน่ การละเมิดลิขสทิ ธิ์ การนำข้อมลู สว่ นบุคคลมาเผยแพร่ การนำผลงานของผู้อ่นื มา
แอบอ้างเป็นของตน เปน็ ตน้ )
3. จากน้ันครถู ามคำถามประจำหัวขอ้ วา่ “นกั เรียนรหู้ รือไมว่ ่าเราสามารถหลกี เลย่ี งปัญหาของ
การถูกขโมยข้อมลู หรือหลอกลวงให้หลงเชอื่ จากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไดอ้ ย่างไรบ้าง”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กบั ดุลยพินิจของ
ครผู ู้สอน เชน่ ใสเ่ ครดิตทผี่ ลงานของตนเองเพื่อป้องกันการดดั แปลง แก้ไข หรือปลอมแปลง ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมสี ตไิ ม่ให้ขอ้ มลู สว่ นตัวกบั หนว่ ยงานทีเ่ ชือ่ ถือไม่ได้ เป็นตน้ )
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
ข้ันสอน
ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน เพื่อศึกษาและอภปิ รายร่วมกันถงึ ประโยชนจ์ ากการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศในหนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย หรือ
สืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เนต็ ที่เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง จากนน้ั ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ มา
นำเสนอเกย่ี วกับประโยชนจ์ ากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ พรอ้ มอภิปรายรว่ มกับเพอื่ นในชั้น
เรยี นโดยครคู อยบนั ทกึ คำตอบของนักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ลงบนกระดานหน้าชน้ั เรยี น
2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมกบั นักเรียนเก่ียวกบั ประโยชน์จากการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศว่า“การ
ใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศยังก่อใหเ้ กิดประโยชนใ์ นดา้ นต่างๆอีกมากมาย เช่น
1) ทำให้เกิดความเทา่ เทยี มกนั ในสังคม และเกดิ การกระจายโอกาสทางดา้ นการศึกษา
เช่น การใชร้ ะบบการเรยี นการสอนทางไกลผา่ นดาวเทยี ม ทำให้เด็กทอี่ ยู่ในชนบท
หรือเด็กท่ีอยูใ่ นถิน่ ทุรกันดารมีโอกาสไดเ้ รียนรู้และได้ศึกษาเนอ้ื หาการเรียนต่าง ๆ
อยา่ งเท่าเทียม
2) ทำให้เกิดการสร้างสอ่ื การเรียนการสอนตา่ ง ๆ มากขึ้น เชน่ การใชบ้ ทเรียน
คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เป็นต้น
3) ทำให้เกดิ ระบบป้องกันประเทศท่มี ปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขึ้น เชน่ การใชค้ อมพิวเตอร์
มาควบคมุ อาวุธยทุ โธปกรณ์ หรอื ระบบป้องกันภัยต่าง ๆ เป็นตน้
4) ทำให้ชว่ ยลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลติ หรือช่วยในการ
คำนวณตลอดจนยงั เปน็ แหล่งสรา้ งความบนั เทงิ เปน็ ต้น”
3. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย และครูให้ความร้เู พิ่มเตมิ ในสว่ นน้นั หรือเปดิ โอกาสให้
นกั เรียนศึกษาความรูเ้ พิ่มเตมิ จากอนิ เทอรเ์ นต็
4. จากน้ันครูและนกั เรียนร่วมกันจัดอันดับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศจากคำตอบ
ของนักเรยี นบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้ันสอน
ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
5. ครทู บทวนเนือ้ หาการเรยี นเม่ือชว่ั โมงทแี่ ลว้ เกยี่ วกบั ประโยชน์จากการใชง้ านเทคโนโลยี
สารสนเทศ และใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ3-4 คน (กลมุ่ เดมิ ) หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อ
ศึกษาและอภปิ รายถงึ โทษท่ีเกดิ จากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณา
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
โทษจากการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ จากหนังสือเรียนหรอื สืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ตท่ี
เครื่องคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง
6. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ มานำเสนอเก่ยี วกับโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ พร้อมอภปิ ราย
ร่วมกับเพื่อนในชน้ั เรียนโดยครูคอยบันทึกคำตอบของนักเรียนแตล่ ะกลุ่มลงบนกระดานหนา้ ชั้น
เรียน
ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
7. ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงความรสู้ ู่ชีวติ ประจำวนั (Com Sci in Real Life) วา่ “การเข้าถงึ สารสนเทศ
ในยคุ ดิจทิ ัลเนื่องจากเปน็ ยุคที่มีการตดิ ต่อส่อื สารที่รวดเร็วและยงั สามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก จึง
ทำให้ระบบการรกั ษาความปลอดภัยนั้นไม่สามารถทำได้ 100% และปจั จุบนั ปัญหาน้ไี ดเ้ พิม่ ขึ้น
ตลอดเวลา เนื่องจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไปในทางทผี่ ิด ดงั นน้ั การใช้สารสนเทศจงึ
ควรระวังในเรอื่ งของการกระทำในทางสื่อสารหรือเผยแพร่ เพ่ือป้องกนั การถูกลอ่ ลวงหรือขโมย
ข้อมูล”
8. นกั เรียนและครูร่วมกนั จดั อันดับโทษจากการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ จากคำตอบของ
นักเรยี นบนหน้ากระดาน ดงั นี้“โทษการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทเี่ กิดจากความต้งั ใจหรือ
ไม่ได้ต้ังใจ ทำใหเ้ กิดปัญหาต่าง ๆ ดงั นี้
1) ปญั หาการติดเกมจากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2) ปัญหาการละเมดิ ลขิ สทิ ธ์จิ ากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
3) ปญั หาสังคมเสื่อมจากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
4) ปญั หาอาชญากรรมทางขอ้ มลู จากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
5) ปญั หาการละเมดิ สิทธสิ ว่ นบคุ คลจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6) ปัญหาอาชญากรรมทม่ี ีผลต่อชวี ติ จากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ”
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
9. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัย โดยครใู ห้ความรเู้ พม่ิ เติมในส่วนนนั้
10. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 4.1.1 เรอ่ื ง ประโยชน์และโทษจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยใหน้ กั เรียนพิจารณาข้อความทกี่ ำหนดให้วา่ เป็นประโยชน์หรือโทษจากการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
11. ครูสมุ่ นักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรียน พรอ้ มกับอภปิ รายรว่ มกันในห้องเรยี น
โดยครใู ห้คำแนะนำตามความเหมาะสม
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพ่อื ใหน้ ักเรียน
- มที ักษะการทำงานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงานหรือการทำ
กจิ กรรมเพอ่ื ใหเ้ กิดการสอื่ สารและแลกเปล่ียนข้อมลู ร่วมกันภายในกลุม่
- มที กั ษะการสืบค้นข้อมลู โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนสืบคน้ ข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต
เพ่ือสืบเสาะหาความรูต้ ามหวั ข้อที่ได้รับมอบหมาย
- มีทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณาเน้ือหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา
ขอ้ มลู จากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เชน่ หนังสือเรียน อนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น
ข้ันสรปุ
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลนักเรยี นจากการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน การทำกิจกรรม
กลุม่ และการทำใบงาน
2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานที่ 4.1.1
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศวา่ “เทคโนโลยีสารสนเทศเขา้
มามีบทบาทกบั ชวี ติ ของผคู้ นในหลากหลายดา้ น ดงั นัน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศจึงสร้างทงั้
คณุ ประโยชนแ์ ละโทษให้กับผู้ใชท้ ั้งตง้ั ใจและไม่ได้ตั้งใจหลากหลายลักษณะเพยี งแค่มี
คอมพิวเตอร์ สมาทโฟน หรือแท็บเล็ต เป็นตน้ ”
7. การวดั และประเมินผล
รายการวดั วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง ก่อนเรยี น
การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
อย่างปลอดภยั
7.2 ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้
1) ประโยชน์และโทษจากการใช้ - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 - ใบงานที่ 4.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยีสารสนเทศ
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดบั คุณภาพ 2
ผลงาน นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
รายการวดั วธิ วี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
รายบคุ คล
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงานกล่มุ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
5) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มัน่ อนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน
8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4
เร่ือง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
2) ใบงานท่ี 4.1.1 เรือ่ ง ประโยชน์และโทษจากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
3) เครือ่ งคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ใบงานท่ี 4.1.1
เรือ่ ง ประโยชน์และโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นพจิ ารณาข้อความต่อไปนว้ี า่ เปน็ ประโยชน์หรือโทษจากการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดย
ถา้ ข้อใดเป็นประโยชน์ใหต้ อบ ก และถ้าข้อใดเป็นโทษใหต้ อบ ข
............. 1. ชว่ ยนำเสนอขอ้ มลู ไดห้ ลากหลายรูปแบบ
............. 2. ชว่ ยประหยดั เวลาและค่าใช้จา่ ยในการติดต่อส่ือสาร
............. 3. การขาดการออกกำลังกาย
............. 4. ลดความผดิ พลาดและเพ่ิมความแมน่ ยำในการวนิ จิ ฉยั และรักษาโรค
............. 5. การลว้ งขอ้ มูลสว่ นบุคคล การแฮก็ เจาะระบบที่หรอื ไวรัสคอมพิวเตอร์
............. 6. เป็นชอ่ งทางการนำเสนอข้อมูลไปสู่ประชาชน
............. 7. เด็กไม่มีการสรา้ งความเข้มแข็งให้กับทางเดินเส้นประสาททใ่ี ชใ้ นการคิด
............. 8. ช่วยใหผ้ ู้เรียนสามารถศกึ ษาหาความรไู้ ดด้ ้วยตนเอง
............. 9. ค่าใชจ้ า่ ยที่เพิม่ ข้ึน
............. 10. เดก็ เกิดพฤติกรรมเลยี นแบบ
............. 11. ชว่ ยรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ ไว้ในแหลง่ ขอ้ มูลเดียวกนั
............. 12. ชว่ ยแลกเปลย่ี นและนำเสนอแนวความคิดของผ้เู รยี นและผู้อ่นื
............. 13. ชว่ ยเก็บขอ้ มูลสถิติดา้ นสงั คมศาสตร์
............. 14. การละเมดิ ลิขสิทธ์ิ
............. 15. คอมพวิ เตอร์จำกัดจินตนาการของเด็ก
............. 16. ช่วยควบคุมการผลิตชนิ้ งานใหไ้ ด้ปรมิ าณและคณุ ภาพตามต้องการ
............. 17. ไดร้ ับแสงและอากาศบรสิ ทุ ธิ์ไม่เพียงพอ
............. 18. อาการกล้ามเนอ้ื เกรง็
............. 19. ช่วยลดเวลาในการรกั ษาโรค
............. 20. เกิดความเครียด
............. 21. การควบคุมอารมณไ์ มไ่ ด้
............. 22. เป็นส่ือกลางในรับและส่งข้อมลู จากท่หี นงึ่ ไปยังอกี ท่ีหนึ่ง
............. 23. ชว่ ยคำนวณปรมิ าณวตั ถุดิบ สนิ ค้าและกำไร
............. 24. ช่วยทำงานในพื้นที่เสี่ยงภยั หรอื งานท่ีมนษุ ย์ไมส่ ามารถทำได้
............. 25. การขาดปฏสิ ัมพนั ธ์กบั ผอู้ ่ืนสง่ ผลใหพ้ ัฒนาการทางอารมณ์และสังคมถกู จำกัด
วิชาวิทยาการคำนวณ ช่อื ...............................................................................ชนั้ .................เลขที.่ .............
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
ใบงานที่ 4.1.1 เฉลย
เรื่อง ประโยชน์และโทษจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนพิจารณาข้อความตอ่ ไปน้ีว่าเป็นประโยชน์หรอื โทษจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ โดย
ถา้ ขอ้ ใดเป็นประโยชนใ์ หต้ อบ ก และถา้ ข้อใดเป็นโทษใหต้ อบ ข
......ก.....1. ชว่ ยนำเสนอข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ
......ก..... 2. ช่วยประหยดั เวลาและคา่ ใช้จา่ ยในการติดตอ่ สื่อสาร
......ข..... 3. การขาดการออกกำลังกาย
......ก..... 4. ลดความผิดพลาดและเพ่ิมความแม่นยำในการวินจิ ฉยั และรักษาโรค
......ข..... 5. การล้วงข้อมูลส่วนบคุ คล การแฮ็กเจาะระบบที่หรือไวรัสคอมพวิ เตอร์
......ก..... 6. เป็นชอ่ งทางการนำเสนอข้อมูลไปสู่ประชาชน
......ข..... 7. เด็กไมม่ ีการสร้างความเข้มแข็งให้กบั ทางเดินเส้นประสาทที่ใช้ในการคิด
......ก..... 8. ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนสามารถศึกษาหาความร้ไู ด้ด้วยตนเอง
......ข..... 9. คา่ ใชจ้ า่ ยที่เพม่ิ ข้ึน
......ข..... 10. เด็กเกิดพฤติกรรมเลยี นแบบ
......ก..... 11. ชว่ ยรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ ไวใ้ นแหล่งขอ้ มูลเดียวกนั
......ก..... 12. ช่วยแลกเปลย่ี นและนำเสนอแนวความคดิ ของผเู้ รยี น
......ก..... 13. ช่วยเก็บขอ้ มลู สถิติ
......ข..... 14. การละเมิดลิขสทิ ธิ์
......ข..... 15. คอมพิวเตอรจ์ ำกดั จนิ ตนาการของเดก็
......ก..... 16. ชว่ ยควบคมุ การผลิตช้นิ งานใหไ้ ด้ปรมิ าณและคุณภาพตามต้องการ
......ข..... 17. ไดร้ บั แสงและอากาศบรสิ ทุ ธ์ิไมเ่ พียงพอ
......ข..... 18. อาการกลา้ มเน้ือเกรง็
......ก..... 19. ช่วยลดเวลาในการรักษาโรค
......ข..... 20. เกดิ ความเครียด
......ข..... 21. การควบคุมอารมณ์ไม่ได้
.......ก.... 22. เปน็ สอ่ื กลางในรับและส่งข้อมลู จากท่หี นง่ึ ไปยังอกี ท่ีหนง่ึ
.......ก.... 23. ชว่ ยคำนวณปริมาณวัตถุดิบ สนิ ค้าและกำไร
.......ก.... 24. ช่วยทำงานในพ้ืนท่เี สย่ี งภยั หรืองานที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้
.......ข.... 25. การขาดปฏสิ ัมพันธ์กบั ผู้อนื่ ส่งผลให้พัฒนาการทางอารมณ์และสงั คมถูกจำกัด
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
10. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2
การปฏิบตั ิตนเมือ่ พบเนอื้ หาท่ไี ม่เหมาะสม
เวลา 2 ชวั่ โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
1.1 ตวั ชวี้ ัด
ว 4.2 ม.2/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มคี วามรับผดิ ชอบ สรา้ งและแสดงสทิ ธใ์ิ น
การเผยแพรผ่ ลงาน
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายรปู แบบของเนอ้ื หาตา่ ง ๆ ท่ีไม่เหมาะสมได้ถูกต้อง (K)
2. บอกวิธกี ารปฏบิ ัติตนเม่ือพบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสมได้ถูกต้อง (K)
3. สบื คน้ ข้อมลู เกี่ยวกบั เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมท่ีพบในขณะที่ใชง้ านอินเทอรเ์ น็ต (P)
4. สนใจใฝ่เรียนรู้ในการศกึ ษาและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง -
- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดย
เลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนอื้ หาท่ีไม่
เหมาะสม เชน่ แจง้ รายงานผู้เกย่ี วขอ้ ง ป้องกัน
การเขา้ มาของข้อมูลที่ไมเ่ หมาะสม ไม่ตอบโต้
ไมเ่ ผยแพร่
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ สามารถเช่ือมต่อเครือข่ายได้ท่ัวโลก การเข้าใช้
งานอินเทอร์เน็ตนั้นเราสามารถท่ีจะพบข้อมูลหรือเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เหมาะสมได้ โดยเน้ือหาท่ี
พบอาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตนเอง คนรอบข้าง และสังคมได้ง่าย โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคม
ออนไลน์ท่ีเขา้ มามบี ทบาทอย่างมากกับคนในสงั คมไทยในขณะน้ี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทกั ษะการสื่อสาร 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
- ทกั ษะการแลกเปลย่ี นขอ้ มูล
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการสืบค้นข้อมูล
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่วั โมงที่ 1
ขนั้ นำ
ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
ครูถามคำถามประจำหวั ข้อกับนกั เรยี นเพื่อกระตนุ้ ความสนใจว่า“ถา้ นักเรยี นพบวา่ ระหวา่ งใชง้ าน
อินเทอรเ์ น็ตอยู่แลว้ มีขอ้ ความขน้ึ มาวา่ “คุณคือผ้โู ชคดี” นักเรียนควรทำอยา่ งไร”
(แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยูก่ ับดุลยพินิจของครผู สู้ อน
เช่น ไมค่ วรคลกิ เข้าไปชมควรแจ้งเจ้าหนา้ ทหี่ รอื แจง้ ไปยังผดู้ แู ลเว็ปไซต์ เป็นตน้ )
ข้ันสอน
ขนั้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน เพอ่ื อภปิ รายรว่ มกันถงึ เน้อื หาตา่ ง ๆ ท่ีไมเ่ หมาะสมและพบ
เจอในขณะท่ีใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ต จากนัน้ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมานำเสนอเกี่ยวกบั
เนอ้ื หาตา่ ง ๆ ท่ีไมเ่ หมาะสมและพบเจอในขณะท่ีใชง้ านอินเทอร์เน็ตหนา้ ชัน้ เรียน
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สืบคน้ หาข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ตทเ่ี ครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองเก่ียวกับ
เน้ือหาท่ีไม่เหมาะสมท่ีพบในขณะที่ใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตเพิม่ เติม
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
3. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอเน้ือหาเพิ่มเตมิ หนา้ ชั้นเรยี น โดยแตล่ ะกลุ่ม
จะตอ้ งนำเสนอเน้ือหาที่พบท่ีไมซ่ ้ำกับกล่มุ อน่ื ๆ พร้อมอภิปรายรว่ มกนั ในหอ้ งเรียน
4. ครูอธิบายกับนักเรยี นว่า“เมื่อสังคมออนไลน์ที่เข้ามามบี ทบาทอย่างมากกับคนในสังคมไทยใน
ทุกเพศทุกวัย เน้อื หาท่ีไม่เหมาะสมมีทงั้ ที่อยู่ในรปู แบบของข้อความ ภาพน่งิ ภาพเคล่อื นไหว
หรอื เสยี ง เช่น เน้ือหาเกี่ยวกับการพนัน เน้ือหาเก่ยี วกับส่ือลามกอนาจาร เน้อื หาเกย่ี วกับการ
คกุ คาม เนอ้ื หาเก่ยี วกับการหลอกลวงหรอื ข่มขตู่ ่าง ๆ”
5. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย และครใู ห้ความรูเ้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นน้นั
ช่วั โมงที่ 2
ขัน้ สอน
ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
6. ครทู บทวนเน้อื หาการเรียนเมื่อชัว่ โมงทีแ่ ลว้ เกย่ี วกบั เนื้อหาตา่ ง ๆ ท่ีไม่เหมาะสมที่พบเจอ
ในขณะใช้งานอนิ เทอร์เนต็
7. นักเรยี นศกึ ษาเน้ือหาเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิตนเม่ือพบเน้ือหาที่ไมเ่ หมาะสม จากหนงั สือเรียน
รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4
เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ตามหวั ขอ้ ดงั ต่อไปนี้
1) การปฏิบัติตนเมื่อพบเน้ือหาเกยี่ วกบั การพนัน
2) การปฏิบตั ิตนเม่ือพบเนื้อหาเก่ยี วกบั สอ่ื ลามกอนาจาร
3) การปฏบิ ัติตนเม่ือพบเนื้อหาเกย่ี วกบั การหลอกลวง
4) การปฏิบตั ิตนเมื่อพบเน้ือหาเกย่ี วกบั การขมขู่
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
8. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับการปฏบิ ัตติ นเม่ือพบเนือ้ หาทไ่ี ม่เหมาะสมวา่ “เพื่อเปน็ การป้องกัน
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึน้ ในขณะท่ใี ช้เทคโนโลยี นักเรียนควรปฏิบตั ิตนในการใชเ้ ทคโนโลยีดังน้ี
คอื เลา่ ให้ผูป้ กครองฟังถงึ กจิ กรรมในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ในแตล่ ะครั้ง ใช้นามแฝง อย่าบอกช่ือ
และท่ีอยู่ให้กับบุคคลแปลกหน้า แจง้ ให้ผปู้ กครองทราบก่อนท่ีจะใชบ้ ตั รเครดิต หรือสงั่ ซื้อ
สนิ คา้ หรือพบปะบคุ คลทางอินเทอรเ์ นต็ ควรตกลงกบั ผู้ปกครองในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็
เกย่ี วกบั กฎกติกาต่าง ๆ และปฏบิ ตั ติ ามกฎท่ีได้กำหนดไว้ และไม่ใช้คำพดู หรือถ้อยคำท่ีหยาบ
คาย หรือกระทบต่อบคุ คลอ่นื ”
9. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสัยโดยครูให้ความรเู้ พ่มิ เตมิ ในสว่ นนัน้
ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
10. ครูให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 4.2.1 เรื่อง การปฏบิ ตั ติ นเม่อื พบเนอื้ หาท่ีไมเ่ หมาะสม
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
11. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น พร้อมกับอภปิ รายรว่ มกนั ในหอ้ งเรยี น
Note
วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพือ่ ให้นักเรยี น
- มที ักษะการทำงานรว่ มกันโดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทำงานหรอื การทำ
กิจกรรมเพ่อื ใหเ้ กดิ การสื่อสารและแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ร่วมกันภายในกลุ่ม
- มีทักษะการสืบค้นข้อมูล โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต
เพือ่ สบื เสาะหาความรตู้ ามหวั ขอ้ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
- มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ โดยใหน้ ักเรียนพิจารณาเน้ือหาจากการสืบค้นหรือศึกษา
ขอ้ มูลจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เชน่ หนังสอื เรยี น อินเทอร์เน็ต เปน็ ตน้
ขนั้ สรปุ
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหน้าชนั้ เรียน การทำ
กิจกรรมกลุ่มด้วยความต้ังใจ และการทำใบงาน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานท่ี 4.2.1
3. นกั เรียนและครูร่วมกันสรปุ เกี่ยวกับการปฏบิ ัตติ นเม่ือพบเนื้อหาตา่ ง ๆ ที่ไม่เหมาะสมจากการ
ใช้งานอินเทอรเ์ น็ต
7. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวัด วธิ ีวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
7.1 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเรียนรู้ ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
1) การปฏบิ ตั ติ นเมื่อพบเนือ้ หาท่ี - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ใบงานท่ี 4.2.1 ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ไมเ่ หมาะสม
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ การ
ผลงาน นำเสนอผลงาน
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
4) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
รายการวัด วิธวี ดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
5) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี ินยั ระดบั คุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ คณุ ลักษณะ
ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์
8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4
เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
2) ใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง การปฏิบัติตนเม่อื พบเน้ือหาที่ไมเ่ หมาะสม
3) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอร์เน็ต
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
ใบงานที่ 4.2.1
เรือ่ ง การปฏบิ ัตติ นเมอ่ื พบเนื้อหาทไี่ ม่เหมาะสม
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนบอกวธิ ีการปฏบิ ตั ติ นเมื่อพบกบั สถานการณ์ทกี่ ำหนดใหด้ งั ต่อไปนี้
1. เว็บไซตห์ ลอกให้นักเรียนซอื้ ตวั เลขเพื่อเสี่ยงโชค โดยให้โอนเงินไปทางหมายเลขบัญชที ก่ี ำหนดให้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................... ...............................................
.............................................................................................................................................................................
2. เว็บไซต์หลอกให้นักเรยี นโอนเงิน เพื่อดภู าพลามกอนาจาร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
3. เวบ็ ไซต์หลอกลวงใหน้ ักเรียนซ้อื ของ โดยให้โอนเงินไปยงั หมายเลขบญั ชี แตไ่ ม่ส่งของมาให้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
วชิ าวิทยาการคำนวณ ชอ่ื ...............................................................................ชั้น.................เลขท่ี..............
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เฉลย
ใบงานที่ 4.2.1
เรอื่ ง การปฏบิ ัตติ นเมื่อพบเนอื้ หาท่ีไม่เหมาะสม
คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนบอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนเม่อื พบกับสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ดังต่อไปนี้
1. เว็บไซตห์ ลอกให้นักเรียนซื้อตวั เลขเพื่อเส่ยี งโชค โดยใหโ้ อนเงนิ ไปทางหมายเลขบัญชีทก่ี ำหนดให้
1. ควรแจง้ ผู้ใหญ่ หรอื เจา้ หนา้ ทีท่ ่เี กีย่ วข้องใหท้ ราบ
2. ไมค่ วรโอนเงนิ ให้
3. ถ้าพบการโฆษณาเหล่านี้ ไม่ควรคลกิ เขา้ ไปดู
2. เวบ็ ไซต์หลอกใหน้ กั เรียนโอนเงิน เพ่อื ดูภาพลามกอนาจาร
1. ควรแจ้งผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าทท่ี เ่ี กี่ยวข้องให้ทราบ
2. ควรตดิ ตง้ั โปรแกรมในการบลอ็ กเว็บไซต์ที่แปลกปลอม
3. ควรต้ังค่าความปลอดภยั ในโปรแกรมหรือระบบปฏิบัตกิ ารเพือ่ ไมใ่ ห้เข้าถงึ เนื้อหาที่ไมเ่ หมาะสม
3. เวบ็ ไซต์หลอกลวงใหน้ ักเรยี นซอื้ ของ โดยใหโ้ อนเงินไปยังหมายเลขบญั ชี แตไ่ มส่ ่งของมาให้
1. ไม่เปิดเผยขอ้ มลู สว่ นตัวใหเ้ ป็นสาธารณะ
2. ควรแจง้ หรือปรึกษาผู้ใหญ่ เม่ือพบเวบ็ ไซตท์ ่หี ลอกขายของใหเ้ รา
3. ไมค่ วรเขียนข้อความทบี่ ่งบอกถงึ ความเป็นตัวตนของเรา หรือเก่ียวกับครอบครวั ของเราตอ่ สาธารณะ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
10. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3
ความรบั ผิดชอบตอ่ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั
1.1 ตัวชวี้ ดั
ว 4.2 ม.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ สร้างและแสดงสทิ ธิ์ใน
การเผยแพร่ผลงาน
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อบคุ คลอน่ื และต่อสงั คมเม่ือมีการใชง้ านเทคโนโลยี
สารสนเทศได้ถูกต้อง (K)
2. สิบค้นวิธกี ารกระทำเพื่อแสดงความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ต่อบคุ คลอนื่ และต่อสังคมเมื่อมกี ารใช้งาน
เทคโนโลยีสารสนเทศได้ (P)
3. สนใจใฝเ่ รียนรใู้ นการศึกษาและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง -
- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมีความ
รบั ผดิ ชอบ เช่น ตระหนักถงึ ผลกระทบในการ
เผยแพรข่ ้อมูล
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจุบนั มที ้ังการใช้งานเพ่ืองานส่วนตวั หรือใช้งานเพื่อส่วนรวม ซึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบใดกต็ ามล้วนแล้วแต่ต้องมีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อการใช้งานท้ังความ
รับผิดชอบต่อตนเอง ตอ่ บุคคลอนื่ และต่อสังคม
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
- ทักษะการสือ่ สาร 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
- ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมูล
2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทักษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ทักษะการทำงานรว่ มกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงท่ี 1
ข้ันนำ
ข้ันท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อนักเรยี นวา่ “เม่ือต้องใช้คอมพิวเตอรร์ ่วมกับผู้อน่ื จะต้องทำอยา่ งไร เพ่ือ
รกั ษาความเปน็ สว่ นตัว และไม่สร้างความเดือดรอ้ นตอ่ ส่วนรวม”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบข้นึ อย่กู บั ดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน
เชน่ ต้องมีจริยธรรมและความรบั ผิดชอบตอ่ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ต่อตนเอง บคุ คลอืน่
และสงั คม)
2. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนเพื่อเชอ่ื มโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบนั มี
ทง้ั การใชง้ านเพ่ืองานส่วนตัว การใชง้ านเพื่อส่วนรวม และการใชง้ านรว่ มกับบุคคลอื่น ซ่งึ ไม่วา่ จะ
เป็นการใช้งานแบบใดหรือลักษณะใดกต็ ามลว้ นแลว้ แตจ่ ะต้องมีจรยิ ธรรมและความรับผิดชอบตอ่
การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ”
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
ขน้ั สอน
ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน เพื่อพูดคยุ กนั ถึงความรับผิดชอบตอ่ ตนเองเม่ือมีการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ จากน้นั บนั ทกึ คำตอบลงบนสมุดประจำตัว
2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอเกย่ี วกับความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองเม่ือมีการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ พรอ้ มอภปิ รายรว่ มกนั ในห้องเรียน
3. นักเรยี นศึกษาความร้เู สริมจากเน้อื หาเพอ่ื ขยายความรขู้ องผู้เรยี น (Com Sci Focus) เรือ่ ง Log in
และ Password
4. นกั เรยี นศึกษาความรบั ผิดชอบต่อตนเองเม่ือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จากหนังสอื เรียนรายวชิ า
พ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง การใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย และสังเกตตวั อย่างความรับผิดชอบต่อตนเองทส่ี ามารถทำ
ได้
5. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรู้เพิ่มเตมิ ในส่วนน้นั หรือใหน้ ักเรียนศกึ ษา
ความรู้เพม่ิ เตมิ จากอินเทอร์เน็ตทเี่ ครอื่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
ช่วั โมงท่ี 2
ขั้นสอน
ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
6. ครทู บทวนเน้ือหาการเรียนเม่ือชั่วโมงท่ีแลว้ เก่ยี วกับความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองเมื่อใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
7. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน (กล่มุ เดิม) เพ่ือพดู คุยกันถงึ ความรบั ผิดชอบตอ่ บุคคลอื่น
และตอ่ สังคมเมอ่ื มีการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยนักเรียนศกึ ษาเนื้อหาจากหนังสอื เรียนหรอื
สืบค้นเพม่ิ เติมจากอนิ เทอรเ์ น็ตท่เี คร่อื งคอมพิวเตอร์ของตนเองและใหน้ ักเรียนสงั เกตตวั อยา่ ง
ความรับผดิ ชอบต่อบคุ คลอ่ืนและต่อสงั คมที่สามารถทำได้
8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอเกี่ยวกับความรับผดิ ชอบตอ่ บคุ คลอ่นื และต่อสังคม พร้อม
อภปิ รายร่วมกนั ในห้องเรยี น
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
9. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมเกีย่ วกับความรับผดิ ชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศว่า“ผูใ้ ช้
คอมพวิ เตอร์ควรมีจรรยาบรรณในการใชง้ านดงั น้ี
1) ตอ้ งไมใ่ ช้คอมพวิ เตอร์ทำรา้ ยหรอื ละเมิดผู้อื่น
2) ต้องไม่รบกวนการทำงานของผูอ้ ่ืน
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
3) ตอ้ งไมส่ อดแนมหรอื เปดิ ดูแฟ้มของผู้อ่ืน
4) ตอ้ งไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์เพือ่ การโจรกรรมขอ้ มลู ข่าวสาร
5) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สรา้ งหลกั ฐานท่เี ป็นเท็จ
6) ตอ้ งไมค่ ดั ลอกโปรแกรมผอู้ น่ื ทีม่ ลี ิขสิทธิ์
7) ต้องไมล่ ะเมดิ การใชท้ รพั ยากรคอมพวิ เตอรโ์ ดยท่ีตนเองไม่มสี ทิ ธิ์
8) ต้องไมน่ ำเอาผลงานของผ้อู น่ื มาเป็นของตน
9) ตอ้ งคำนึงถึงสง่ิ ท่ีจะเกิดขึน้ กบั สงั คมอันติดตามมาจากการกระทำ
10) ต้องใชค้ อมพิวเตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบยี บ กติกามารยาท”
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
10. นักเรียนทำใบงานท่ี 4.3.1 เร่ือง ความรบั ผิดชอบต่อการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ
11. ครสู มุ่ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน พรอ้ มกับอภิปรายร่วมกนั ในหอ้ งเรียน
12. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสยั และครูให้ความร้เู พมิ่ เตมิ ในส่วนน้ัน
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพ่อื ให้นักเรยี น
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทำงานหรอื การทำ
กจิ กรรมเพอ่ื ใหเ้ กดิ การสอ่ื สารและแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ร่วมกันภายในกล่มุ
- มีทกั ษะการสืบคน้ ข้อมลู โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะคนสบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เนต็
เพ่ือสืบเสาะหาความรู้ตามหัวขอ้ ท่ีได้รบั มอบหมาย
- มีทักษะการสังเกต โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตตัวอย่างความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง บุคคล
อ่ืน และสังคมที่สามารถทำได้จากหนังสือเรียน
เพอ่ื นำไปปรับใช้ในการเรียนได้อย่างเหมาะสม
- มที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยใหน้ กั เรียนพิจารณาเน้ือหาจากการสืบค้นหรือศึกษา
ข้อมูลจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อนิ เทอร์เน็ต เป็นต้น
ข้ันสรุป
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหนา้ ช้นั เรียน การทำ
กิจกรรมกล่มุ ดว้ ยความต้งั ใจ และการทำใบงาน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องการทำใบงานที่ 4.3.1
3. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เก่ียวกับความรบั ผิดชอบต่อการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
7. การวัดและประเมนิ ผล
รายการวดั วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ
7.1 ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 - ใบงานท่ี 4.3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเรียนรู้
1) ความรับผิดชอบต่อการใช้ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ระดบั คุณภาพ 2
งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลงาน นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2
2) การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
4) พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์
5) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ความรับผิดชอบ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มั่น อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4
เร่ือง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
2) ใบงานที่ 4.3.1 เรื่อง ความรบั ผิดชอบตอ่ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3) เครื่องคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอร์เน็ต
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
ใบงานที่ 4.3.1
เรอื่ ง ความรบั ผิดชอบตอ่ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนบอกสง่ิ ทีค่ วรกระทำตอ่ ความรบั ผดิ ชอบตา่ ง ๆ เม่อื มีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
(อยา่ งนอ้ ย 3 รายการ)
ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง
ความรบั ผดิ ชอบต่อบุคคลอน่ื
ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
วชิ าวิทยาการคำนวณ ชอื่ ...............................................................................ชั้น.................เลขท่.ี .............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เฉลย
ใบงานท่ี 4.3.1
เรื่อง ความรบั ผิดชอบต่อการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ
คำชแี้ จง : ให้นักเรียนบอกสงิ่ ทีค่ วรกระทำต่อความรับผิดชอบต่าง ๆ เมื่อมกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
(อยา่ งน้อย 3 รายการ)
ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง
- ใชง้ านบญั ชผี ูใ้ ชเ้ ฉพาะของตนเองเทา่ นนั้
- ไม่ติดตงั้ หรือใชซ้ อฟต์แวรท์ ่ผี ิดกฎหมาย
- ไมแ่ จกจา่ ยข้อมลู ส่วนตัวให้บคุ คลอื่นทราบ
- ไม่แสดงหรือไมเ่ ข้าเวบ็ ไซตท์ ่ีมีเนอ้ื หาไม่เหมาะสม
- หม่นั ตรวจสอบ ดูแลระบบคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ
ความรบั ผดิ ชอบต่อบคุ คลอ่นื
- ไมพ่ ยายามใช้งานบัญชีของบุคคลอน่ื
- ไมค่ ดั ลอก หรือนำเสนอผลงานของผู้อืน่ ท่ีไม่ใชข่ องตนเอง
- ไมเ่ ปลี่ยนแปลงแกไ้ ข ยา้ ย หรือลบไฟลข์ องผ้อู น่ื
- ไม่ข่มขู่ คุกคาม หรือหลอกลวงผู้อนื่
- ไมส่ ่งอีเมลที่ไม่เหมาะสม หรอื ส่งิ ทอี่ าจเกดิ อันตรายตอ่ คอมพวิ เตอรใ์ หบ้ ุคคลอื่น
ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
- ไมพ่ ยายามเขา้ ถงึ เครือขา่ ยใดๆ ทไ่ี ม่ไดร้ บั อนุญาต
- ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ หรือข้อบงั คบั ขององคก์ ร
- ไม่เปดิ อเี มล ไฟล์ หรอื โปรแกรมทไ่ี ดร้ บั มาจากแหล่งทไ่ี มร่ ู้จัก
- ไมน่ ำข้อมลู สารสนเทศขององคก์ รไปเผยแพร่
- ไมเ่ จาะระบบ เขา้ สูร่ ะบบงาน ขโมย คดั ลอก โอนย้าย หรือแก้ไขปลอมแปลงข้อมูล
โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
10. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4
ทรพั ย์สินทางปัญญา
เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
1.1 ตัวชี้วัด
ว 4.2 ม.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มคี วามรับผิดชอบ สรา้ งและแสดงสิทธ์ใิ น
การเผยแพรผ่ ลงาน
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของทรัพยส์ ินทางปญั ญาได้ถกู ต้อง (K)
2. บอกประเภทของงานท่ีมลี ิขสทิ ธ์ไิ ดถ้ ูกตอ้ ง (K)
3. บอกความแตกต่างประเภทของสิทธบิ ัตรได้ถูกต้อง (K)
4. สืบคน้ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เกีย่ วกับทรพั ย์สนิ ทางปัญญาได้ (P)
5. สนใจใฝ่เรยี นรู้ในการศกึ ษาและนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่นิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- การสร้างและแสดงสทิ ธิ์ความเปน็ เจา้ ของผลงาน -
- การกำหนดสทิ ธกิ ารใช้ขอ้ มูล
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ทรัพย์สินทางปัญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นทรัพย์สินอีกชนิดหน่ึง
นอกเหนือจากสังหารมิ ทรัพย์ และอสงั หารมิ ทรพั ย์ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื ลขิ สิทธิ์ และสิทธิบตั ร
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
- ทักษะการสื่อสาร 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
- ทักษะการแลกเปลีย่ นความรู้
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- ทักษะการทำงานรว่ มกัน
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มูล
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชัว่ โมงที่ 1
ขั้นนำ
ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรยี นอยากสรา้ งสง่ิ ใดทีจ่ ะเปน็ ลขิ สทิ ธิข์ องตนเองบ้างหรอื ไม่
และเพราะเหตุใดจงึ ต้องมลี ขิ สทิ ธิเ์ ปน็ ของตนเอง”
(แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยูก่ บั ดลุ ยพนิ ิจของ
ครผู ู้สอน เช่น ได้สิทธค์ิ วามเปน็ เจา้ ของผลงานตา่ ง ๆ เพ่ือป้องกันการคัดลอก ทำซำ้ หรือ
ดดั แปลง เป็นตน้ )
2. ครอู ธบิ ายเพ่ือเช่อื มโยงเขา้ สูบ่ ทเรยี นวา่ “ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา คอื ผลงานอนั เกดิ จากความคดิ
สรา้ งสรรค์ของมนษุ ย์ เป็นทรัพย์สนิ อีกชนิดหนงึ่ นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สนิ ที่
สามารถเคลื่อนย้ายได้ เชน่ นาฬกิ า รถยนต์ เปน็ ต้น และอสังหาริมทรพั ย์ คือ ทรัพย์สนิ ท่ไี ม่
สามารถเคลื่อนยา้ ยได้ เชน่ บ้าน ท่ดี ิน”
ขน้ั สอน
ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพอื่ อภปิ รายรว่ มกนั ถึงประเภทของงานต่าง ๆ ทจี่ ำเป็นต้อง
มกี ารจดลขิ สทิ ธิ์ซึ่งกฎหมายลิขสิทธ์ิใหค้ วามคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภท ตามที่
กฎหมายกำหนด ไดแ้ ก่
1) งานวรรณกรรม
2) งานนาฏกรรม
3) งานศลิ ปกรรม
4) งานดนตรีกรรม
5) งานสิ่งบนั ทึกเสียง
6) งานโสตทัศนวัสดุ
7) งานภาพยนต์
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
8) งานแพร่เสียงแพรภ่ าพ
9) งานอ่ืนใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศลิ ปะ
2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนมานำเสนอเกีย่ วกับงานประเภทตา่ ง ๆ ท่ีตอ้ งมกี ารจดลขิ สิทธิ์
พร้อมอภปิ รายร่วมกนั ภายในช้ันเรยี น
3. นักเรยี นศกึ ษาเพิ่มเติมจากหนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ
คำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
เกี่ยวกบั การได้มาซ่ึงสทิ ธิ์ เจา้ ของสทิ ธิ์ เอกสารใช้ประกอบการแจง้ ข้อมูลลิขสิทธิ์ และประโยชน์
ของลขิ สิทธิ์
4. นักเรยี นศกึ ษาการเชอ่ื มโยงความรสู้ ชู่ ีวิตประจำวัน (Com Sci in Real Life) เกี่ยวกับ
หนว่ ยงานทที่ ำหนา้ ท่ีดูแลรบั ผดิ ชอบทรัพยส์ นิ ทางปญั ญาและใหค้ ำปรึกษาหรือคำแนะนำแก่ผทู้ ่ี
สร้างสรรคผ์ ลงานจดเป็นลขิ สทิ ธข์ิ องตนเอง
5. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรเู้ พ่มิ เติมในส่วนน้ัน
6. นกั เรียนทำใบงานที่ 4.4.1 เรื่อง ประเภทของลิขสิทธิ์ โดยให้นักเรยี นนำข้อความทีก่ ำหนดให้
เตมิ ในกรอบให้ตรงกบั ประเภทของลขิ สิทธิ์
ชว่ั โมงท่ี 2
ขัน้ สอน
ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
7. ครทู บทวนเนื้อหาการเรียนเม่ือช่ัวโมงทแ่ี ลว้ เกีย่ วกับลิขสทิ ธ์ิ
8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน (กลุ่มเดิม) เพื่ออภิปรายร่วมกันถึงความหมายและประเภท
ของสทิ ธิบตั ร จากหนังสือเรียน ตามหัวขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1) ความหมายของสทิ ธิบัตร
2) ประเภทของสทิ ธิบัตร
2.1) สทิ ธบิ ัตรการประดษิ ฐ์
2.2) สทิ ธบิ ัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
2.3) อนุสิทธิบัตร
3) ความแตกตา่ งระหวา่ งอนุสิทธบิ ตั รและสิทธบิ ัตรการประดษิ ฐ์
4) ประโยชนข์ องสิทธิบตั ร
9. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอเกี่ยวกับความหมายและประเภทของสิทธิบัตร
พรอ้ มอภปิ รายร่วมกันในหอ้ งเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
10. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกบั ความจำเป็นในการจดลิขสทิ ธ์แิ ละสทิ ธิบตั รวา่ “หากเราเปน็ ผผู้ ลติ
อะไรก็ตามไมว่ า่ จะเป็นสิง่ ของเครอื่ งใช้หรือแมแ้ ตค่ วามคดิ ทเ่ี ราคิดวา่ เราสามารถขายเพ่ือ
สรา้ งรายได้ หรอื เพือ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตัวเราและคนอนื่ ๆ ได้ หากเราไม่ได้ไปทำการจด
สิทธบิ ัตรหรอื อนุสิทธิบตั ร และมคี นมาลอกเลยี นแบบการออกแบบของเรา หรือความคดิ ของ
เรา แลว้ นำไปจดสิทธบิ ตั รหรืออนสุ ิทธบิ ัตรกอ่ นเรา จะสง่ ผลใหเ้ ราไม่สามารถผลติ หรอื
จำหนา่ ยสินค้าหรอื ความคดิ น้ันๆ ได้อีก”
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
11. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั และครูให้ความรู้เพิม่ เติมในสว่ นนน้ั หรอื ให้นกั เรียน
ศกึ ษาความรเู้ พ่ิมเตมิ จากอินเทอร์เนต็
12. ครใู ห้นกั เรยี นทำกิจกรรมท่สี อดคล้องกับเน้อื หา โดยการตอบคำถามเพื่อพัฒนาความรแู้ ละ
ทักษะการเรียนรู้ (Com Sci Activity) เก่ียวกับการจัดการข้อมลู สารสนเทศ ลงในสมดุ
ประจำตวั
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพ่ือให้นักเรียน
- มที กั ษะการทำงานร่วมกันโดยใช้กระบวนการกล่มุ ในการทำงานหรือการทำ
กจิ กรรมเพ่อื ใหเ้ กดิ การสอื่ สารและแลกเปลย่ี นข้อมูลร่วมกันภายในกลมุ่
- มีทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต
เพือ่ สบื เสาะหาความร้ตู ามหวั ข้อที่ไดร้ บั มอบหมาย
- มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาเน้ือหาจากการสบื คน้ หรือศึกษา
ข้อมลู จากแหลง่ ข้อมลู ต่าง ๆ เช่น หนังสือเรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ต้น
ขั้นสรปุ
ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลนกั เรยี นจากการสงั เกตการตอบคำถาม การนำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน การทำ
กิจกรรมกลุ่มดว้ ยความตง้ั ใจ และการทำใบงาน
2. ครตู รวจสอบความถูกต้องการทำใบงานที่ 4.4.1
3. เปดิ โอกาสให้นักเรียนอภิปรายร่วมกนั ในช้นั เรยี นเก่ียวกบั ข้อดี-ข้อเสยี ของทรัพยส์ นิ ทางปัญญา
เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นไดท้ บทวนสาระสำคญั ประจำหน่วยการเรียนรู้
4. นักเรียนรว่ มกันสรุปเนอื้ หาเก่ียวกบั ทรัพย์สินทางปัญญา
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
5. นกั เรยี นตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจด้วยตนเองจากหนงั สือเรียน โดยพิจารณาข้อความว่าถูก
หรอื ผดิ หากนกั เรียนพจิ ารณาข้อความไม่ถกู ต้องใหน้ กั เรยี นกลับไปทบทวนเนอ้ื หาตามหัวขอ้ ท่ี
กำหนดให้
6. นักเรียนทำแบบฝึกหัดประจำหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 โดยใหบ้ ันทึกลงในสมดุ และทำช้ินงาน/
ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เพื่อตรวจสอบความ
เขา้ ใจ และนำมาส่งในชัว่ โมงถัดไป
7. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภัย เพ่ือวัดความรู้ท่นี ักเรยี นไดร้ ับหลงั จากผ่านการเรียนรู้
7. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
- ตรวจใบงานที่ 4.4.1 - ใบงานที่ 4.4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
รายการวัด
7.1 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม
การเรียนรู้
1) ประเภทของลิขสิทธิ์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน
รายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
5) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
- สงั เกตความมีวนิ ัย คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
7.2 การประเมินหลังเรียน ความรบั ผิดชอบ อนั พึงประสงค์
- แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ประเมินตามสภาพจรงิ
การเรียนรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การใช้ ในการทำงาน - แบบทดสอบหลังเรียน
เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภยั - ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
รายการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- การประเมินชิ้นงาน - ตรวจชน้ิ งาน/ภาระ - แบบประเมินช้นิ งาน ระดับคุณภาพ 2
/ภาระงาน (รวบยอด) งาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
เร่อื ง การใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4
เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย
2) ใบงานท่ี 4.4.1 เร่อื ง ประเภทของลขิ สิทธ์ิ
3) เครอื่ งคอมพิวเตอร์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิเวตอร์
2) อินเทอร์เนต็
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
ใบงานที่ 4.4.1
เรื่อง ประเภทของลิขสิทธิ์
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนนำข้อความที่กำหนดใหเ้ ติมในกรอบให้ตรงกบั ประเภทของลิขสิทธิ์
จลุ สาร ซีดเี พลงเบิร์ด ภาพจติ รกรรมฝาผนงั ท่ารำเพลงเกยี่ วข้าว
ทา่ เต้นประกอบเพลง เนอื้ รอ้ งเพลงชาติไทย ภาพยนตร์เร่อื งแฮรร์ พ่ี อตเตอร์ ภาพประติมากรรม
ทำนองเพลงลอยกระทง เทปเพลง หนังสอื อา่ นเล่นสำหรบั เด็ก เสยี งประกอบภาพยนตร์
งานวรรณกรรม งานนาฏกรรม
................................................. ..................................................
................................................. ..................................................
................................................. ..................................................
.
งานศิลปกรรม
................................................. งานดนตรกี รรม
................................................. ..................................................
................................................. ..................................................
..................................................
งานส่ิงบนั ทึกเสียง งานภาพยนตร์
................................................. ..................................................
................................................. ..................................................
................................................. ..................................................
...
วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ช่อื ...............................................................................ช้ัน.................เลขท.่ี .............
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เฉลย
ใบงานที่ 4.4.1
เรือ่ ง ประเภทของลิขสิทธิ์
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นนำข้อความทก่ี ำหนดให้เตมิ ในกรอบให้ตรงกบั ประเภทของลิขสิทธ์ิ
จุลสาร ซีดเี พลงเบริ ด์ ภาพจติ รกรรมฝาผนัง ทา่ รำเพลงเก่ยี วขา้ ว
ทา่ เต้นประกอบเพลง เนอื้ รอ้ งเพลงชาตไิ ทย ภาพยนตรเ์ ร่อื งแฮรร์ ่พี อตเตอร์ ภาพประติมากรรม
ทำนองเพลงลอยกระทง เทปเพลง หนงั สืออ่านเล่นสำหรับเด็ก เสียงประกอบภาพยนตร์
งานวรรณกรรม งานนาฏกรรม
จุลสาร ทา่ รำเพลงเกยี่ วขา้ ว
หนงั สอื อา่ นเล่นสำหรับเด็ก ท่าเต้นประกอบเพลง
................................... งานดนตรกี รรม
............................... เนอ้ื ร้องเพลงชาติไทย
ทำนองเพลงลอยกระทง
งานศิลปกรรม
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ภาพประตมิ ากรรม
งานส่งิ บนั ทึกเสียง งานภาพยนตร์
ซีดเี พลงเบริ ์ด ภาพยนตร์เรอื่ งแฮร่ีพอตเตอร์
เทปเพลง เสยี งประกอบภาพยนตร์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรือ่ ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนอา่ นกรณีศกึ ษาต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามด้านล่าง
เด็กชายโป้และเด็กหญิงแป้งไปรับจ้างขายของที่ตลาดนัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซ่ึงมีนาย
สมชายเปน็ ผู้นำสนิ ค้าประเภทต่างๆ จากเจา้ ของร้านท่ีผลิตมาให้เด็กทั้งสองขาย โดยให้ค่าจ้างขาย
วันละ 300 บาท ของทนี่ ำมาให้เดก็ ทั้งสองขายนั้น ได้แก่ ซีดีเพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง ซีดีคาราโอเกะ
ซีดีภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์จีน หนังสืออ่านเล่น หนังสือการ์ตูน แผ่นซีดีโปรแกรมคอมพิวเตอร์
และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ต่อมาวันหน่ึงโป้และแป้งถูกตำรวจจับ โดยตำรวจแจ้งข้อหาว่าโป้และ
แป้งจำหน่ายสิ่งของท่ีผิดกฎหมายลิขสิทธ์ิ และถามว่าโป้และแป้งนำส่ิงของเหล่าน้ีมาจากใคร
เพราะส่ิงของทงั้ หมดทพี่ วกเขาขายนน้ั เป็นส่ิงของทผี่ ิดกฎหมายทัง้ สนิ้
1) โป้และแปง้ ทำผดิ กฎหมายลขิ สทิ ธิ์ในงานประเภทใดบา้ ง จงบอกประเภทของลิขสิทธิ์และสงิ่ ของที่พบ
วิชาวิทยาการคำนวณ ช่ือ...............................................................................ช้ัน.................เลขที่..............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เฉลย
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
คำชี้แจง : ให้นักเรียนอา่ นกรณีศกึ ษาต่อไปน้ี แลว้ ตอบคำถามด้านล่าง
เด็กชายโป้และเด็กหญิงแป้งไปรับจ้างขายของที่ตลาดนัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งมีนาย
สมชายเปน็ ผู้นำสนิ ค้าประเภทต่างๆ จากเจา้ ของร้านที่ผลิตมาให้เดก็ ทั้งสองขาย โดยให้ค่าจ้างขาย
วนั ละ 300 บาท ของที่นำมาให้เด็กทั้งสองขายนั้น ได้แก่ ซีดีเพลงสตริง เพลงลกู ทุ่ง ซีดีคาราโอเกะ
ซีดีภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์จีน หนังสืออ่านเล่น หนังสือการ์ตูน แผ่นซีดีโปรแกรมคอมพิวเตอร์
และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ต่อมาวันหน่ึงโป้และแป้งถูกตำรวจจับ โดยตำรวจแจ้งข้อหาว่าโป้และ
แป้งจำหน่ายส่ิงของที่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และถามว่าโป้และแป้งนำสิ่งของเหล่าน้ีมาจากใคร
เพราะสิ่งของทงั้ หมดทพี่ วกเขาขายนัน้ เป็นส่งิ ของทผ่ี ดิ กฎหมายทงั้ ส้นิ
1) โปแ้ ละแปง้ ทำผดิ กฎหมายลขิ สิทธใ์ิ นงานประเภทใดบ้าง จงบอกประเภทของลิขสิทธแ์ิ ละสิง่ ของท่ีพบ
1. วรรณกรรม คือ แผ่นซีดีโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หนงั สืออ่านเลน่ หนงั สือการ์ตนู
2. งานศลิ ปกรรม คอื ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
3. งานสิ่งบันทึกเสยี ง คอื ซีดีเพลงสตรงิ เพลงลกู ทุ่ง ซดี ีคาราโอเกะ
4. งานภาพยนตร์ คือ ซึดภี าพยนตร์ไทย ภาพยนตร์จีน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
10. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชี้แจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเนื้อหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธกี ารนำเสนอผลงาน
4 การนำไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............/................./...................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทไี่ ด้รับมอบหมาย
4 ความมนี ำ้ ใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ............/.................../................
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่
ตรงกับระดับคะแนน
การมี
ลำดบั ที่ ชือ่ –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม
ของนักเรยี น ความ ฟังคนอนื่ ตามที่ไดร้ ับ น้ำใจ การ 15
คดิ เห็น มอบหมาย คะแนน
ปรับปรุง
ผลงานกลมุ่
321321321321321
ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............./.................../...............
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง