หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. การแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ อย่างเปน็ ระบบ และมีกระบวนการ 5. บุรุษไปรษณีย์ต้องทำการจดั หมวดหมู่จดหมายกอ่ นนำส่ง
ท่ีมลี ำดับข้นั ตอนที่ชดั เจนถือว่าใชแ้ นวคดิ ในขอ้ ใด ตามบา้ น ถอื วา่ บุรษุ ไปรษณยี ์ใช้แนวคิดใดในการทำงาน
ก. แนวคิดเชิงสงั เคราะห์ ข. แนวคิดเชงิ คำนวณ ก. แนวคิดวิเคราะห์
ค. แนวคดิ วเิ คราะห์ ง. แนวคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ข. แนวคิดการจัดการขอ้ มูล
2. ข้อใดคอื องคป์ ระกบอของแนวคดิ เชิงคำนวณ ค. แนวคิดเชิงคำนวณ
ก. แนวคิดการหารูปแบบ/แนวคดิ วเิ คราะห/์ ง. แนวคดิ เชิงสรา้ งสรรค์
แนวคดิ เชงิ สังเคราะห/์ แนวคิดการแยกย่อย 6. ฟา้ ใสมาโรงเรยี นสายจึงพยายามแกป้ ญั หา ทำให้พบว่า
ข. แนวคดิ เชิงคำนวณ/แนวคดิ การออกแบบขัน้ ตอนวิธี สาเหตุของการมาโรงเรยี นสาย คือ การนอนดกึ และ
/แนวคิดการหารูปแบบ/แนวคดิ การสงั เคราะหข์ ้อมลู การแกต่งตวั มาโรงเรียนชา้ การแก้ปัญหาแบบนถ้ี ือว่า
ค. แนวคดิ การการแยกยอ่ ย/แนวคิดการหารูปแบบ ฟ้าใสใชแ้ นวคดิ ใด
/แนวคดิ เชิงนามธรรม/แนวคดิ การออกแบบ ก. Decomposition ข. Pattern Recognition
ขั้นตอนวิธี ค. Abstraction ง. Algorithm Design
ง. แนวคดิ วเิ คราะห/์ แนวคดิ สงั เคราะห/์ แนวคดิ 7. การลากเส้นตรงผา่ นจดุ ทุกจดุ โดยใช้จำนวนเส้นทนี่ อ้ ยที่สดุ
เชิงนามธรรม/แนวคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ ขอ้ มใู นขอ้ ใดไมจ่ ำเปน็ ตอ่ การแกป้ ญั หา
3. การกำหนดหลักการท่วั ไปทม่ี งุ่ เนน้ เฉพาะส่วนท่สี ำคัญ ⚫⚫⚫⚫
⚫⚫⚫⚫
ของปัญหา ไม่สนใจรายละเอียดอนื่ ทไ่ี มจ่ ำเป็นตรงกบั ⚫⚫⚫⚫
⚫⚫⚫⚫
แนวคิดในข้อใด
ก. Abstraction ข. Decomposition ก. จำนวนจดุ ข. จำนวนเส้นที่ลาก
ค. Algorithm Design ง. Pattern Recognition ค. เสน้ ตาราง ง. จุด
4. การแก้ปญั หาท่แี ตกปญั หาใหญอ่ อกเปน็ ปญั หายอ่ ย 8. ข้อใดหมายถงึ แนวคิดการออกแบบขั้นตอนวิธี
และทำให้ปญั หานั้นมีขนาดเล็กลง ก. เป็นกระบวนการพสิ ูจนค์ วามถกู ต้องของนักคณติ ศาสตร์
ก. Abstraction ข. เป็นกระบวนการแก้ปญั หาโดยการออกแบบให้เข้าใจ
ข. Decomposition ไดง้ า่ ย
ค. Algorithm Design ค. เป็นกระบวนการคดิ เชิงวิเคราะห์ในการแกป้ ญั หา
ง. Pattern Recognition ง. เปน็ กระบวนการแตกประเดน็ ปญั หาเปน็ ข้อย่อย ๆ
9. เม่อื พบขดุ ขอ้ มูลตวั เลขเรยี งคละกันอยู่ และตอ้ งการ เพอื่ ทำการออกแบบขน้ั ตอนวิธี
เรยี งลำดับจากนอ้ ยไปมาก ขั้นตอนแรกในการจดั การ 10. ข้อใดสำคญั ที่สดุ ในการจัดเรยี งเสอื้ ผ้า
คอื ขอ้ ใด ก. การแยกสเี สอ้ื ผา้
ก. เลอ่ื นไปทางขวา 1 ตำแหน่ง ข. การแยกประเภทเสือ้ ผ้า
ข. หาข้อมลู ทน่ี อ้ ยทสี่ ดุ และนำมาไวด้ า้ นหนา้ สดุ ค. การจดั เรยี งเสือ้ ผา้ เข้าตู้
ค. สลบั ตำแหน่งไปเร่อื ย ๆ ง. การหาวตั ถุประสงค์หลกั ในการคน้ หาเส้ือผ้า
ง. เปรยี บเทียบตวั เลขในชดุ ขอ้ มลู ทลี ะลำดบั
เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ข 5. ค 6. ก 7. ค 8. ข 9. ข 10. ง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1
การออกแบบข้ันตอนการทำงานของโปรแกรม
เวลา 2 ช่วั โมง
1. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
1.1 ตวั ชีว้ ัด
ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทใ่ี ชต้ รรกะและฟังก์ชันในการแก้ปญั หา
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของการออกแบบขัน้ ตอนการทำงานแต่ละแบบไดถ้ กู ตอ้ ง (K)
2. ออกแบบขนั้ ตอนการทำงานโดยใช้ภาษาธรรมชาตไิ ด้ถกู ตอ้ ง (P)
3. ออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใช้รหัสจำลองไดถ้ ูกต้อง (P)
4. ออกแบบขนั้ ตอนการทำงานโดยใชผ้ ังงานไดถ้ ูกตอ้ ง (P)
5. สนใจใฝเ่ รียนร้ใู นการศึกษาและนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง -
- การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแกป้ ัญหาอาจใช้
แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบ เพื่อใหก้ าร
แก้ปัญหามปี ระสทิ ธภิ าพ
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การออกแบบข้ันตอนการทำงานของโปรแกรมหรือการออกแบบอัลกอริทึม เป็นการออกแบบลำดับ
ขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม ซ่ึงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ การใช้ภาษาธรรมชาติ การใช้รหัส
จำลอง และการใชผ้ ังงาน
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวินยั รบั ผิดชอบ
- ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้
- ทักษะการแลกเปลยี่ นข้อมูล 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน
2. ความสามารถในการคดิ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
- ทักษะการทำงานรว่ มกัน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงที่ 1
ขน้ั นำ
ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง การออกแบบขั้นตอนการทำงาน
และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python เพื่อวัดความรู้เดิมของนกั เรยี นกอ่ นเข้าส่กู จิ กรรม
2. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อว่า“นักเรยี นคดิ ว่าการออกแบบขน้ั ตอนการทำงานของโปรแกรม
มคี วามสำคัญอย่างไรต่อการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์”
(แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเหน็ ของตนเอง โดยคำตอบข้นึ อยู่กบั ดุลยพนิ ิจของ
ครผู ู้สอน เชน่ ทำให้สามารถเขยี นโปรแกรมได้ง่ายข้ึน ลดความผดิ พลาดท่ีอาจเกดิ ขึน้ จากการ
เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์)
ข้ันสอน
ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อคน้ หาลกั ษณะของการออกแบบขน้ั ตอนการทำงานของ
โปรแกรมจากอนิ เทอรเ์ นต็ ที่เคร่อื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
2. จากน้ันครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มมานำเสนอเกี่ยวกับลกั ษณะของการออกแบบขน้ั ตอน
การทำงานของโปรแกรม พร้อมอภิปรายรว่ มกนั ในห้องเรียน
3. นักเรยี นศึกษาและสังเกตการออกแบบข้ันตอนการทำงานของโปรแกรมทง้ั 3 ลักษณะ
จากหนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรม
ดว้ ยภาษา Python
ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เพ่ือใหน้ ักเรียนเข้าใจเพิ่มขน้ึ วา่ “การออกแบบลำดบั ข้นั ตอนการทำงาน
ของโปรแกรม สามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
1) การออกแบบลำดบั ข้ันตอนการทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ เป็นการบรรยาย
ขัน้ ตอนการทำงานของโปรแกรมโดยใช้ภาษามนุษย์ท่ีเข้าใจงา่ ย เพอ่ื อธบิ ายลำดับ
ขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมตามลำดับการทำงานก่อนหลงั
2) การออกแบบลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานโดยใช้รหสั จำลอง เปน็ รูปแบบภาษาท่ีมี
โครงสรา้ งที่ชดั เจนและกระชับ เพอ่ื ใช้อธบิ ายข้นั ตอนการทำงานของโปรแกรม
3) การออกแบบลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานโดยใชผ้ งั งาน เป็นการใช้แผนภาพ
สัญลกั ษณเ์ พอ่ื แสดงลำดับขน้ั ตอนการทำงานของโปรแกรม”
5. ครยู กตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนการทำงานโดยใช้ภาษาธรรมชาตติ ามหนงั สือเรียน
เพือ่ อธบิ ายลำดบั ข้ันตอนการทำงานของโปรแกรมตามลำดับการทำงานกอ่ น-หลังจากตวั อย่าง
ต้องการคำนวณหาพน้ื ที่ของรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า มขี ้ันตอนการทำงานดงั นี้
ขั้นตอนที่ 1 เรม่ิ การทำงาน
ขัน้ ตอนที่ 2 นำเขา้ ข้อมลู ความกว้างของรปู ส่ีเหล่ียม
ขั้นตอนท่ี 3 นำเข้าขอ้ มลู ความยาวของรูปสีเ่ หลย่ี ม
ขน้ั ตอนที่ 4 คำนวณพื้นทีร่ ปู ส่เี หลีย่ ม = ความกว้าง x ความยาว
ขน้ั ตอนที่ 5 แสดงผลพ้ืนท่ขี องรปู สเี่ หลี่ยม
ข้ันตอนท่ี 6 จบการทำงาน
6. ครูยกตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนการทำงานโดยใช้รหสั จำลองตามหนังสือเรียนเพือ่ อธบิ าย
ข้นั ตอนการทำงานของโปรแกรมโดยใชภ้ าษาคอมพิวเตอร์ จากตวั อยา่ งต้องการคำนวณ
หาพื้นทข่ี องรูปสี่เหล่ียมผนื ผ้า สามารถเขยี นเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ได้ดังน้ี
START
INPUT width
INPUT length
COMPUTE area = width * length
OUTPUT area
STOP
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
7. ครูยกตวั อย่างการออกแบบขั้นตอนการทำงานโดยใช้ผงั งานตามหนังสือเรยี น เพอ่ื แสดงลำดบั
ข้ันตอนการทำงานของโปรแกรมโดยใชแ้ ผนภาพสญั ลกั ษณ์ จากตัวอยา่ งต้องการคำนวณหา
พน้ื ทขี่ องรปู สี่เหล่ยี มผืนผ้า มีขั้นตอนการทำงานดงั น้ี
START
width
length
area = width * length
area
STOP
ชั่วโมงที่ 2
ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
8. นกั เรียนทำใบงานที่ 2.1.1 เรือ่ ง การออกแบบขนั้ ตอนการทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ
9. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.1.2 เรอ่ื ง การออกแบบข้ันตอนการทำงานโดยใช้รหัสจำลอง
10. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1.3 เรอ่ื ง การออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใช้ผงั งาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพือ่ ใหน้ ักเรยี น
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกันโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงานหรือการทำ
กิจกรรมเพ่อื ใหเ้ กิดการสอ่ื สารและแลกเปล่ยี นข้อมูลร่วมกันภายในกลุ่ม
- มที ักษะการสืบค้นข้อมูล โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ น็ต
เพื่อสบื เสาะหาความรูต้ ามหวั ข้อท่ีไดร้ ับมอบหมาย
- มีทกั ษะการสงั เกต โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตลกั ษณะการทำงานของโปรแกรม
ท้ัง 3 ลักษณะจากหนังสอื เรียนเพื่อนำไปปรับใชใ้ นการเรยี นได้อย่างเหมาะสม
- มีทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาเน้ือหาจากการสืบคน้ หรือศึกษา
ข้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ เช่น หนังสือเรยี น อนิ เทอร์เน็ต เปน็ ตน้
ขั้นสรปุ
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคำถาม การนำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น
การทำกจิ กรรมกลุ่มดว้ ยความต้ังใจ และการทำใบงาน
2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานท่ี 2.1.1, ใบงานท่ี 2.1.2 และ ใบงานท่ี 2.1.3
3. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ เกี่ยวกบั การออกแบบขน้ั ตอนการทำงานของโปรแกรมวา่
“การออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมเปน็ การออกแบบลำดบั ข้นั ตอนก่อนนำไปเขยี น
โปรแกรมจรงิ ส่งผลให้การขยี นโปรแกรมทำไดง้ ่ายข้ึน และเกดิ ข้อผิดพลาดน้อยเน่ืองจาก
เปน็ การเขียนอย่างเปน็ ลำดับขน้ั ตอนการทำงานตามโปรแกรมการทำงานก่อน – หลงั ”
7. การวัดและประเมินผล วิธีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง
รายการวดั กอ่ นเรยี น
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ใบงานที่ 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานที่ 2.1.1
- แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2
เรือ่ ง การออกแบบขั้นตอน
การทำงาน และการเขียน
โปรแกรมด้วยภาษา Python
7.2 ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้
1) การออกแบบขัน้ ตอนการ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
รายการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
ทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) การออกแบบขน้ั ตอนการ - ตรวจใบงานท่ี 2.1.2 - ใบงานที่ 2.1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ทำงานโดยใช้รหัสจำลอง ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
3) การออกแบบขั้นตอนการ - ตรวจใบงานท่ี 2.1.3 - ใบงานท่ี 2.1.3 ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
ทำงานโดยใช้ผังงาน ระดบั คุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
4) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน
ผลงาน การนำเสนอผลงาน
5) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
6) พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
7) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ความรับผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่น อันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2
เรือ่ ง การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
2) ใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง การออกแบบข้ันตอนการทำงานโดยใช้ภาษาธรรมชาติ
3) ใบงานท่ี 2.1.2 เร่ือง การออกแบบข้ันตอนการทำงานโดยใช้รหัสจำลอง
4) ใบงานท่ี 2.1.3 เร่ือง การออกแบบขัน้ ตอนการทำงานโดยใช้ผังงาน
5) เคร่อื งคอมพิวเตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอรเ์ นต็
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานที่ 2.1.1
เรอ่ื ง การออกแบบขนั้ ตอนการทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ
คำชี้แจง : ให้นักเรียนออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ เพื่อคำนวณหาพื้นที่
ของรูปสามเหล่ยี ม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................... .......
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
วชิ าวิทยาการคำนวณ ช่อื ...............................................................................ชัน้ .................เลขท่.ี .............
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.1.1 เฉลย
เร่ือง การออกแบบขั้นตอนการทำงานโดยใชภ้ าษาธรรมชาติ
คำช้แี จง : ให้นักเรยี นออกแบบขน้ั ตอนการทำงานโดยใช้ภาษาธรรมชาติ เพ่อื คำนวณหาพืน้ ที่
ของรปู สามเหลี่ยม
.ข..ัน้...ต..อ..น...ท...ี่ .1............เ.ร..ม่ิ ..ก...า..ร..ท..ำ..ง..า..น.............................................................................................................................
.ข..ั้น...ต..อ..น...ท...ี่ .2............น..ำ..เ.ข...้า..ข..้อ..ม...ลู ..ส..ว่...น..ฐ..า..น...ข..อ...ง.ร..ูป...ส..า..ม...เ.ห...ล..่ยี..ม..................................................................................... .
.ข..ั้น...ต..อ..น...ท...่ี .3............น..ำ..เ.ข...า้ ..ข..้อ..ม...ลู ..ส...่ว..น..ส...งู .ข...อ..ง..ร..ปู...ส..า..ม..เ..ห..ล...ย่ี ..ม........................................................................................
.ข..น้ั...ต..อ..น...ท...่ี .4............ค..ำ..น...ว..ณ...พ...น้ื ..ท...ี่ร..ูป...ส..า..ม..เ..ห..ล...ยี่ ..ม....=.....5...x....ส..ว่..น...ฐ..า..น....x...ส..่ว..น...ส..งู..............................................................
.ข..ั้น...ต..อ..น...ท...ี่ .5............แ..ส..ด...ง.ผ...ล..พ...ื้น...ท..่ขี...อ..ง..ร..ูป..ส...า..ม..เ..ห..ล...่ีย..ม................................................................................... ..............
.ข..ัน้...ต..อ..น...ท...่ี .6............จ..บ..ก...า..ร..ท..ำ..ง..า..น..............................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................... ...........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................... ........................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.1.2
เรื่อง การออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใช้รหัสจำลอง
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใช้รหัสจำลอง เพ่ือคำนวณหาพืน้ ท่ีของรูปสามเหลย่ี ม
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................... .........................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ชอ่ื ...............................................................................ชั้น.................เลขที.่ .............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.1.2 เฉลย
เรือ่ ง การออกแบบข้ันตอนการทำงานโดยใช้รหสั จำลอง
คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนออกแบบขัน้ ตอนการทำงานโดยใชร้ หสั จำลอง เพื่อคำนวณหาพื้นท่ีของรปู สามเหลี่ยม
.S..T..A...R...T...................................................................................................................................................................
.I.N..P...U...T....b..a...s..e.........................................................................................................................................................
.I.N..P...U...T....h..e...i.g..h...t.....................................................................................................................................................
.C..O...M....P..U...T...E...a...r.e...a...=.....5....x....b..a...s.e....x....h..e...i.g..h...t.........................................................................................................
.O...U...T..P...U...T....a..r.e...a......................................................................................................................................... ............
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................... .........................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................ ......................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานที่ 2.1.3
เรื่อง การออกแบบข้นั ตอนการทำงานโดยใช้ผังงาน
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนออกแบบขน้ั ตอนการทำงานโดยใชผ้ ังงาน เพอื่ คำนวณหาพืน้ ทขี่ องรปู สามเหลย่ี ม
START
วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ชื่อ...............................................................................ช้ัน.................เลขท.ี่ .............
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.1.3 เฉลย
เรื่อง การออกแบบขน้ั ตอนการทำงานโดยใช้ผังงาน
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนออกแบบขนั้ ตอนการทำงานโดยใชผ้ งั งาน เพอื่ คำนวณหาพน้ื ทีข่ องรปู สามเหล่ียม
START
base
height
area = base * height
area
STOP
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2
ตวั แปรภาษาไพทอน
เวลา 2 ชัว่ โมง
1. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
1.1 ตวั ชวี้ ัด
ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใ่ี ช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปญั หา
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของตวั แปรได้ถูกต้อง (K)
2. สามารถตั้งช่ือตัวแปรตามกฎการตง้ั ชื่อได้ถกู ต้อง (P)
3. เห็นถึงประโยชนแ์ ละความสำคญั ของการเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอน (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่
-
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- ตวั ดำเนินการบูลนี
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเขยี นโปรแกรมในภาษาไพทอนนน้ั จะต้องใช้ตัวแปรมาชว่ ยในการเกบ็ ข้อมลู ตา่ งๆ โดยตวั แปร
เปรียบเสมือนภาชนะที่ใช้เกบ็ ข้อมลู และข้อมลู เหลา่ น้นั สามารถเปล่ียนแปลงได้ตามความตอ้ งการของ
ผู้เขยี น
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการคิด 1. มีวินยั รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
- ทักษะการสังเกต
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสืบคน้ ข้อมลู
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชวั่ โมงที่ 1
ขน้ั นำ
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครูทบทวนความร้เู ดิมจากช่ัวโมงท่ีแลว้ เกยี่ วกับการออกแบบขัน้ ตอนการทำงานของโปรแกรม
2. ครูถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นวา่ “จากการออกแบบขน้ั ตอนการทำงานของโปรแกรม
ท่ีได้เรียนมาแล้ว นกั เรียนคิดว่าสามารถนำไปเขียนในโปรแกรมอะไรบา้ งที่นักเรียนรู้จัก”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ
ครผู ้สู อน เช่น โปรแกรม Scratch โปรแกรม Python เป็นตน้ )
3. ครูวาดรูปคอมพวิ เตอรล์ งบนกระดานหน้าชนั้ เรยี น และถามคำถามประจำหวั ข้อกบั นักเรียนวา่
“ถ้าเปรยี บคอมพิวเตอรเ์ ปน็ ร่างกายมนุษย์ จะเปรียบหนว่ ยประมวลผลกลางกับอวัยวะใด”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคำตอบที่ถูกตอ้ ง คอื สมอง)
4. ครอู ธิบายเพ่ือเชื่อมโยงเขา้ สู่บทเรยี นวา่ “การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในภาษาไพทอน
เหมาะสำหรับผเู้ ร่ิมตน้ เขียนโปรแกรมไปจนถึงการประยุกต์ใช้งานในระดบั สูง เน่ืองจากเปน็
ภาษาทีม่ โี ครงสรา้ งและไวยากรณค์ ่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ทำใหง้ ่ายตอ่ การทำความเข้าใจ
ดังนนั้ จงึ ตอ้ งใชห้ นว่ ยประมวลผลกลางในการคิดคำนวณค่อนขา้ งมากกว่าจะเขยี นโปรแกรม
ไดส้ ำเร็จ”
ขนั้ สอน
ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครูถามนักเรยี นวา่ “ถ้านักเรียนตอ้ งการเขียนโปรแกรมเพื่อคำนวณหาคา่ ข้อมูลตา่ ง ๆ น้ัน
นักเรยี นรหู้ รือไม่ว่าข้อมลู ท่ีเรานำมาใช้ในการคำนวณ จะถูกเกบ็ ไว้ท่ีส่วนใดในโปรแกรม”
(แนวตอบ : ข้อมลู ทน่ี ำมาใช้ในโปรแกรมนนั้ จะถกู เก็บไว้ในตวั แปร)
2. นักเรยี นศกึ ษาข้อมลู เก่ยี วกับตวั แปรในภาษาไพทอนและการต้งั ช่อื ตวั แปรในภาษาไพทอน
จากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ย
ภาษา Python หรือสบื คน้ จากอินเทอร์เนต็ ที่เครอื่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. ครอู ธิบายถึงการตง้ั ชื่อตัวแปรท่ีดีในโปรแกรมภาษาไพทอน ซึ่งมี 2 รปู แบบ คือ Camel Case
เปน็ รูปแบบการตัง้ ชื่อท่มี ีการใชภ้ าษาอังกฤษตัวพิมพ์เลก็ และตวั พมิ พใ์ หญ่สลับกนั ไป เชน่
calculateGrade , computerScore เปน็ ต้น และแบบ Snake Case เป็นรูปแบบการตั้งช่ือ
ตวั แปรท่แี ยกคำด้วยเครื่องหมายขดี เสน้ ใต้ (Underscore) “_” เช่น calculate_grade ,
computer_score เป็นต้น
ชั่วโมงท่ี 2
ขั้นสอน
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
4. ครอู ธบิ ายถึงวธิ ีการสร้างและกำหนดค่าให้กบั ตวั แปรว่า“โปรแกรมภาษาไพทอนมกี ารสรา้ ง
และกำหนดค่าให้กบั ตัวแปรท่ีแตกตา่ งจากโปรแกรมอ่นื เนื่องจากภาษาไพทอนเปน็ ภาษา
ประเภท Dynamically-typed Language หมายถงึ ภาษาทีม่ ีการสรา้ งตัวแปร โดยไม่ต้องมี
การกำหนดชนิดของตัวแปร ชนิดของตวั แปรจะถูกกำหนดด้วยขอ้ มูลท่ีเกบ็ ไว้ใน ตวั แปรโดย
อัตโนมัติ ซ่งึ จะต่างจากโปรแกรมอื่นท่ีจะตอ้ งกำหนดชนิดของตัวแปรก่อน จากนั้นจึงจะทำการ
กำหนดค่าให้ตวั แปรได้ สำหรับรูปแบบการสร้างและกำหนดคา่ ตวั แปร” ดงั นี้
ชอ่ื ตัวแปร = ค่าทเี่ ก็บไวใ้ นตัวแปร หรอื นพิ จน์ หรือตวั แปรอน่ื ๆ
5. ครอู ธิบายถึงชนิดขอ้ มูลของตัวแปร ซ่งึ ประกอบดว้ ยข้อมลู ท่เี ปน็ ตัวเลขจำนวนเต็ม ตัวเลข
จำนวนจรงิ และขอ้ มูลที่เปน็ อักขระหรือข้อความทีม่ ักจะถกู ใช้งานบอ่ ยจากหนังสอื เรยี น
6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกยี่ วกับชนิดขอ้ มลู ของตัวแปรว่า“ชนิดของข้อมูลพน้ื ฐานในภาษาไพทอน
แบ่งออกเปน็ 5 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่ number, string, list, tuple และ dictionary ซ่งึ เป็น
ตวั แปรทว่ั ๆ ไป แตภ่ าษาไพทอนยอมให้มีตัวแปร list, tuple, dictionary ท่ผี สมกันได้
เรยี กวา่ ชนดิ complex”
ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
7. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสัย และครใู ห้ความรเู้ พม่ิ เติมในส่วนนน้ั
8. ครูใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 2.2.1 เรือ่ ง ตัวแปรในภาษาไพทอน โดยให้นกั เรียนตอบคำถาม
ท่ีกำหนดใหโ้ ดยละเอยี ด
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
Note
วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมเพอื่ ให้นักเรียน
- มที กั ษะการสบื ค้นข้อมูล โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต
เพอ่ื สบื เสาะหาความร้ตู ามหวั ข้อที่ไดร้ บั มอบหมาย
- มที ักษะการสงั เกต โดยให้นักเรียนสงั เกตเก่ียวกับการตงั้ ชื่อตวั แปรจากหนงั สือเรยี น
เพ่อื นำไปปรบั ใชใ้ นการเรียนได้อยา่ งเหมาะสม
- มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ โดยให้นักเรียนพิจารณาเนื้อหาจากการสืบคน้ หรือศึกษา
ข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ตน้
ข้นั สรุป
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคำถาม และการทำใบงาน
2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานท่ี 2.2.1
3. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การใช้งานตัวแปรในโปรแกรมภาษาไพทอนว่า“ตวั แปรคือ
สญั ลกั ษณ์ในลักษณะคำภาษาองั กฤษท่ีต้ังขน้ึ เพ่ือใช้ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ตามความต้องการ
ของผเู้ ขยี น โดยต้ังช่ือตวั แปรตามกฎของโปรแกรมภาษาไพทอน เชน่ ชือ่ ตัวแปรจะต้อง
ประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรอื เครื่องหมาย “_” ชอื่ ตัวแปรหา้ มมีอกั ขระพิเศษ เป็นต้น”
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธวี ดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 ประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2
การเรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2
1) ตัวแปรในภาษาไพทอน - ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ใบงานท่ี 2.2.1 ผ่านเกณฑ์
2) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
3) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน
ความรับผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ
ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั อนั พงึ ประสงค์
ในการทำงาน
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
6) หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
เรือ่ ง การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
2) ใบงานที่ 2.2.1 เรอื่ ง ตวั แปรในภาษาไพทอน
3) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
3) ห้องคอมพวิ เตอร์
4) อินเทอร์เน็ต
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.2.1
เร่อื ง ตวั แปรในภาษาไพทอน
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามทกี่ ำหนดใหโ้ ดยละเอยี ด
1. ให้นกั เรียนตั้งชอ่ื ตัวแปรเพือ่ ใช้เกบ็ ข้อมูลตอ่ ไปนล้ี งในช่องตารางด้านขวา ให้ถกู ต้องตามกฎการตง้ั ชื่อตัวแปร
ข้อมูล การต้ังช่ือตัวแปร
ชือ่ นกั เรียน
คะแนนสอบวิชาภาษาไทย
ช่อื โรงเรยี น
น้ำหนักของนักเรียน
เกรดวชิ าภาษาองั กฤษ
2. ใหน้ ักเรยี นพิจารณาการต้ังชื่อตัวแปรตอ่ ไปนีว้ า่ ถกู หรอื ผิด จากนน้ั ให้ตอบลงในชอ่ งตารางด้านขวา
การตั้งช่อื ตัวแปร การพจิ ารณา
1name
score_computer
student name
price#
surname
name+lastname
str
midterm_thai_score
final-social-score
mySalary
วิชาวทิ ยาการคำนวณ ช่ือ...............................................................................ชัน้ .................เลขที่..............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานที่ 2.2.1 เฉลย
เรื่อง ตัวแปรในภาษาไพทอน
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามทกี่ ำหนดใหโ้ ดยละเอียด
1. ใหน้ ักเรียนตั้งช่ือตัวแปรเพ่อื ใชเ้ กบ็ ข้อมูลต่อไปนีล้ งในช่องตารางดา้ นขวา ใหถ้ ูกตอ้ งตามกฎการต้ังชอื่ ตวั แปร
ข้อมูล การต้ังชอื่ ตัวแปร
ชอ่ื นักเรียน name
คะแนนสอบวชิ าภาษาไทย thai_score
ชือ่ โรงเรยี น schoolName
นำ้ หนักของนักเรยี น weight
เกรดวิชาภาษาอังกฤษ english_grade
2. ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาการตัง้ ชอ่ื ตัวแปรต่อไปนว้ี ่าถกู หรอื ผิด จากนนั้ ให้ตอบลงในช่องตารางด้านขวา
การตัง้ ช่ือตัวแปร การพิจารณา
1name ผดิ
score_computer ถูก
student name ผิด
price# ผดิ
surname ถกู
name+lastname ผดิ
str ผิด
midterm_thai_score ถกู
final-social-score ผิด
mySalary ถูก
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3
รหัสควบคุม รหสั รูปแบบข้อมูล และตัวดำเนินการในภาษาไพทอน
เวลา 2 ชว่ั โมง
1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
1.1 ตวั ช้ีวดั
ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ใี ชต้ รรกะและฟังก์ชันในการแกป้ ัญหา
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของรหัสควบคมุ และรหสั รปู แบบข้อมูลไดถ้ ูกตอ้ ง (K)
2. อธบิ ายหน้าทก่ี ารทำงานของตวั ดำเนนิ การแต่ละประเภทได้ถูกต้อง (K)
3. เขยี นโปรแกรมโดยใชร้ หัสควบคุมและรหัสรปู แบบข้อมูลไดถ้ ูกต้อง (P)
4. ใชต้ วั ดำเนนิ การประเภทต่าง ๆ มาช่วยในการคำนวณได้ (P)
5. เห็นถึงประโยชนแ์ ละความสำคญั ของการเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษาไพทอน (A)
3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
-
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- ตัวดำเนนิ การบูลีน
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
รหัสควบคมุ คอื รหสั พิเศษที่ใช้ควบคุมการแสดงผลของตัวอักษรออกมาทางจอภาพ ซึ่งจะต้องมี
เครอ่ื งหมาย \ (Back-Slash) นำหนา้ เสมอ ส่วนการใช้รหสั รปู แบบขอ้ มลู คอื รหัสที่ใชแ้ ทนชนดิ ของข้อมูล
ซง่ึ ใช้รว่ มกับคำส่งั ในการแสดงผลและคำสั่งในการรบั ข้อมลู นอกจากน้นั ในการเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน
ยังมกี ารนำตัวดำเนนิ การมาช่วยในการคำนวณหรือประมวลผลต่างๆ ได้แก่ ตัวดำเนนิ การทางคณิตศาสตร์
ตวั ดำเนนิ การสำหรบั กำหนดคา่ ตวั ดำเนินการเปรียบเทยี บ และตวั ดำเนนิ การตรรกะ
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรยี นรู้
- ทกั ษะการสื่อสาร 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
- ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู
2. ความสามารถในการคิด
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทกั ษะการสังเกต
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ทักษะการทำงานรว่ มกัน
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการสืบคน้ ข้อมลู
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชวั่ โมงที่ 1
ขน้ั นำ
ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมจากช่วั โมงท่ีแล้วเก่ียวกับตัวแปรภาษาไพทอนและกฎการต้งั ช่ือตัวแปร
2. จากน้ันครถู ามกระตุน้ ความสนใจของนักเรียนว่า“นักเรียนรู้หรือไม่วา่ ถ้าเราต้องการควบคมุ การ
แสดงผลตวั อักษรทางจอภาพในลักษณะต่าง ๆ จะต้องทำอยา่ งไร”
(แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขึน้ อยูก่ บั ดุลยพนิ จิ ของ
ครูผสู้ อน เช่น ใช้คำสัง่ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ควบคมุ ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน เปน็ ตน้ )
ข้ันสอน
ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน เพอ่ื สืบค้นและศึกษาเรยี นรูเ้ ก่ยี วกับการใชร้ หัสควบคุม
การแสดงผลตัวอกั ษรทางจอภาพของโปรแกรมภาษาไพทอนจากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การออกแบบ
ข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python หรือสืบค้นจากอนิ เทอรเ์ นต็
ทเ่ี ครือ่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง
2. นักเรียนแต่ละคนออกมานำเสนอเกีย่ วกับรหสั ควบคมุ การแสดงผลตวั อักษรหน้าชน้ั เรยี น
คนละ 1 รหัสควบคุมพรอ้ มบอกความหมายอย่างละเอยี ด
3. นกั เรียนศึกษารหสั รูปแบบข้อมูลที่ใช้แทนชนดิ ของข้อมูลจากหนังสอื เรียน ซ่งึ รหัสรปู แบบของ
ขอ้ มลู มีดงั นี้
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
รหัสรูปแบบ ชนิดขอ้ มลู ของตัวแปร ลกั ษณะการแสดงผลออกทางหน้าจอ
%d
%s เลขจำนวนเตม็ (int) ใช้แสดงขอ้ มูลทเ่ี ปน็ เลขจำนวนเต็ม
%f
ตัวอักษร (str) ใชแ้ สดงขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ตัวอักษร หรอื ชดุ ตวั อักษร
เลขจำนวนจริง (float) ใชแ้ สดงขอ้ มูลที่เป็นเลขจำนวนจรงิ และทศนิยม
ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครเู นน้ ยำ้ กับนักเรยี นเพื่อให้นักเรียนเข้าใจเพ่มิ มากขน้ึ เก่ยี วกบั การใช้งานรหัสควบคมุ และ
รหสั รูปแบบท่ใี ชค้ วบคมุ การแสดงผลตวั อกั ษรออกทางจอภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ วา่
“การใช้งานรหสั ควบคุมจะต้องมีเครื่องหมาย \ (Back-Slash) นำหนา้ รหสั ควบคมุ น้ันอยู่เสมอ
และการใชร้ หสั รปู แบบขอ้ มลู ที่ใช้ร่วมกับคำส่ังการแสดงผลและคำส่งั รบั ข้อมลู ส่วนใหญ่จะใช้
กำหนดให้แสดงข้อมลู ทีเ่ ป็นตัวเลขจำนวนเต็ม เลขจำนวนจริง และตัวอกั ษร”
5. นกั เรียนทำใบงานที่ 2.3.1 เรือ่ ง รหัสควบคุมและรหัสรูปแบบข้อมูล โดยใหน้ ักเรยี นจับคู่
ความหมายกับรหสั ควบคุมและรหสั รูปแบบใหถ้ ูกต้อง
ชว่ั โมงที่ 2
ขน้ั สอน
ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
6. ครทู บทวนเนอื้ หาการเรียนเม่ือชัว่ โมงทแี่ ลว้ เกย่ี วกบั รหัสควบคมุ และรหสั รปู แบบข้อมลู
7. ครถู ามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “นักเรียนรู้จักตวั ดำเนินการท่ีใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม
ภาษาไพทอนหรือไม่”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขน้ึ อยู่กับประสบการณ์ของนักเรียนแตล่ ะคน)
8. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม (กลุม่ เดมิ ) เพอ่ื อภิปรายรว่ มกนั เก่ยี วกับตัวดำเนินการทใ่ี ช้สำหรบั คำนวณหรอื
ประมวลผลต่าง ๆ ในภาษาไพทอนซ่ึงประกอบด้วยตวั ดำเนินการทั้ง 4 ประเภท คือ
1) ตวั ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
2) ตวั ดำเนนิ การสำหรับกำหนดค่า
3) ตวั ดำเนนิ การเปรียบเทียบ
4) ตวั ดำเนินการตรรกะ
9. ครอู ธิบายเพ่ือขยายความเข้าใจและเน้นยำ้ กบั นักเรียนถงึ ตัวดำเนนิ การในโปรแกรมภาษา
ไพทอนพรอ้ มยกตัวอย่างประกอบวา่ “ในโปรแกรมภาษาไพทอนมตี ัวดำเนนิ การ 4 ประเภท
ได้แก่
1) ตัวดำเนนิ การทางคณิตศาสตร์ ประกอบดว้ ยเครื่องหมาย +, -, *, /, %, **
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ตวั อย่าง 5 * 2 , 9/3 , 6-4
2) ตัวดำเนนิ การสำหรับกำหนดคา่ ได้แก่ เครื่องหมาย =
ตวั อยา่ ง score = 25
3) ตัวดำเนนิ การเปรยี บเทียบ ประกอบด้วยเครอื่ งหมาย ==, !=, >, <, >=, <=
และจะมีผลลัพธ์เป็นจรงิ หรอื เทจ็
ตวั อย่าง 17>9
ผลลพั ธ์ จริง
4) ตวั ดำเนนิ การตรรกะ ประกอบด้วย AND, OR, NOT โดยจะมีผลลัพธ์เป็น
จริงหรือเท็จ
ตัวอย่าง (10>3) AND (25>17)
ผลลัพธ์ จรงิ ”
10. ครอู ธิบายกบั นักเรียนถึงลำดับการประมวลผลของตวั ดำเนินการว่า“ในนิพจน์หรอื ในการ
คำนวณแต่ละครัง้ อาจจะประกอบด้วยตัวดำเนนิ การหลายประเภท ดงั น้นั นักเรียนจะต้องทราบ
ถงึ การทำงานของตวั ดำเนินการแตล่ ะตวั ตามลำดบั ก่อนหลงั ก่อนดำเนินการเขียนโปรแกรม”
11. นักเรียนแต่ละคนสังเกตลำดับการประมวลผลของตวั ดำเนินการจากหนงั สือเรียน
ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
12. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัย และครูให้ความรเู้ พมิ่ เตมิ ในส่วนนน้ั
13. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.3.2 เรอ่ื ง ตัวดำเนินการ โดยใหน้ กั เรยี นหาผลลัพธ์จากการคำนวณ
Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพื่อใหน้ กั เรียน
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกนั โดยใช้กระบวนการกลุม่ ในการทำงานหรอื การทำ
กิจกรรมเพ่อื ใหเ้ กดิ การสือ่ สารและแลกเปลยี่ นข้อมูลรว่ มกันภายในกลมุ่
- มีทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต
เพ่อื สืบเสาะหาความรู้ตามหวั ข้อท่ีได้รับมอบหมาย
- มที กั ษะการสังเกต โดยให้นักเรยี นสังเกตลำดบั การประมวลผลของตวั ดำเนนิ การ
จากหนังสอื เรียนเพ่อื นำไปปรับใชใ้ นการเรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
- มที ักษะการคดิ วิเคราะห์ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาเน้ือหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา
ขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต เป็นตน้
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ขัน้ สรปุ
ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลนกั เรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน การทำกิจกรรม
กลมุ่ ด้วยความตงั้ ใจ และการทำใบงาน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลลพั ธ์การทำใบงานที่ 2.3.1 และ ใบงานท่ี 2.3.2 ของนักเรียน
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับรหัสควบคุม รหัสรูปแบบข้อมูล และตัวดำเนนิ การ
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2
1) รหัสควบคมุ และรหัสรปู แบบ - ตรวจใบงานท่ี 2.3.1 - ใบงานท่ี 2.3.1 ผา่ นเกณฑ์
ข้อมลู ระดับคุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
2) ตวั ดำเนนิ การ - ตรวจใบงานท่ี 2.3.2 - ใบงานที่ 2.3.2 ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน
ผลงาน การนำเสนอผลงาน
4) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
5) พฤติกรรมการทำงานกลุม่ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม
การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม
6) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ความรับผิดชอบ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มนั่ อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2เร่อื ง
การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
2) ใบงานท่ี 2.3.1 เรอื่ ง รหัสควบคุมและรหสั รปู แบบข้อมลู
3) ใบงานที่ 2.3.2 เรื่อง ตวั ดำเนินการ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
4) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.3.1
เรอื่ ง รหสั ควบคมุ และรหสั รปู แบบขอ้ มูล
คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนจงจับคคู่ วามหมายกับรหัสควบคมุ และรหัสรูปแบบข้อมลู ใหถ้ ูกต้อง โดยนำตวั อกั ษร
ทางดา้ นขวาของรหัสควบคมุ และรหัสรปู แบบข้อมูลมาจับคู่กบั ความหมายทางด้านซ้าย
.............. 1. ขึ้นหนา้ ใหม่ A. %s
.............. 2. ตั้ง Tab ในแนวนอน B. \v
.............. 3. ลบตัวอักษรทางซ้ายมือ 1 ตัวอักษร C. \a
.............. 4. ขึ้นบรรทัดใหม่ D. %d
.............. 5. แสดงข้อมูลที่เปน็ เลขจำนวนเต็ม E. \f
.............. 6. เล่อื น Cursor ไปทางซา้ ยมอื สดุ ของบรรทดั F. \b
.............. 7. แสดงข้อมูลที่เปน็ เลขจำนวนจริง G. \r
.............. 8. ตั้ง Tab ในแนวตั้ง H. %f
.............. 9. แสดงข้อมูลที่เปน็ ตัวอักษร I. %u
.............. 10. แสดงเสยี งทางลำโพง J. \n
K. \\
L. \t
วิชาวิทยาการคำนวณ ชื่อ...............................................................................ชนั้ .................เลขท.่ี .............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.3.1 เฉลย
เร่ือง รหสั ควบคุมและรหัสรปู แบบขอ้ มูล
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นจงจบั คคู่ วามหมายกับรหัสควบคมุ และรหสั รูปแบบข้อมลู ให้ถูกต้อง โดยนำตวั อักษร
ทางด้านขวาของรหสั ควบคุมและรหัสรปู แบบข้อมูลมาจบั คู่กับความหมายทางด้านซา้ ย
.......E....... 1. ขึ้นหนา้ ใหม่ A. %s
.......L....... 2. ตั้ง Tab ในแนวนอน B. \v
.......F....... 3. ลบตัวอักษรทางซ้ายมือ 1 ตัวอักษร C. \a
.......J....... 4. ขึ้นบรรทัดใหม่ D. %d
.......D....... 5. แสดงข้อมูลที่เปน็ เลขจำนวนเต็ม E. \f
.......G....... 6. เล่อื น Cursor ไปทางซา้ ยมอื สุดของบรรทัด F. \b
.......H....... 7. แสดงข้อมูลที่เปน็ เลขจำนวนจริง G. \r
.......B....... 8. ตั้ง Tab ในแนวต้ัง H. %f
.......A....... 9. แสดงข้อมูลที่เปน็ ตัวอักษร I. %u
.......C....... 10. แสดงเสยี งทางลำโพง J. \n
K. \\
L. \t
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.3.2
เร่ือง ตัวดำเนินการ
คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นหาผลลพั ธ์จากการคำนวณดังต่อไปนี้
1. (3 * 4) + (6 / 2) – 7 ได้ผลลพั ธ์เปน็
2. 10 % 3 ได้ผลลพั ธ์เป็น
3. 10 / 2 * 4 + 5 * 3 ได้ผลลัพธ์เปน็
กำหนดให้ A = 10
B=7
C = 12
4. A > B ไดผ้ ลลัพธ์เปน็
A > C ได้ผลลพั ธเ์ ปน็
A != C ไดผ้ ลลพั ธเ์ ปน็
C <= B ได้ผลลัพธ์เปน็
5. (12 > 7) AND (25 < 39) ได้ผลลัพธ์เปน็
6. (5 > (2 * 3)) OR ((8 / 2) >= 3) ไดผ้ ลลัพธ์เป็น
7. NOT (7 > 3) ได้ผลลพั ธเ์ ปน็
วิชาวิทยาการคำนวณ ชอ่ื ...............................................................................ชั้น.................เลขที่..............
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python เฉลย
ใบงานที่ 2.3.2
เร่ือง ตัวดำเนนิ การ
คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนหาผลลัพธ์จากการคำนวณดังตอ่ ไปนี้
1. (3 * 4) + (6 / 2) – 7 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็น 8
1
2. 10 % 3 ได้ผลลัพธเ์ ป็น 35
3. 10 / 2 * 4 + 5 * 3 ไดผ้ ลลัพธ์เปน็ จรงิ
เท็จ
กำหนดให้ A = 10 จรงิ
B=7 เท็จ
C = 12 จรงิ
จรงิ
4. A > B ไดผ้ ลลพั ธ์เปน็ เทจ็
A > C ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็น
A != C ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น
C <= B ไดผ้ ลลัพธ์เป็น
5. (12 > 7) AND (25 < 39) ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น
6. (5 > (2 * 3)) OR ((8 / 2) >= 3) ไดผ้ ลลัพธ์เป็น
7. NOT (7 > 3) ไดผ้ ลลัพธเ์ ปน็
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4
การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python)
เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
1.1 ตวั ชีว้ ัด
ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทใ่ี ชต้ รรกะและฟงั กช์ นั ในการแก้ปัญหา
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายขั้นตอนในการเขยี นโปรแกรมได้ถูกต้อง (K)
2. เขยี นโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอนได้ถูกตอ้ ง (P)
3. เหน็ ถึงประโยชน์และความสำคญั ของการเขยี นโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอน (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง -
- ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
Scratch, python, java, c
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ชนดิ หน่ึงทีเ่ หมาะสำหรบั ผ้เู ริ่มต้นเขียนโปรแกรม
ไปจนถงึ การประยุกตใ์ ช้งานในระดบั สูง เนือ่ งจากเปน็ ภาษาท่มี ีโครงสร้างและไวยากรณ์ค่อนข้างง่าย
ไม่ซับซ้อน ทำให้งา่ ยต่อความเข้าใจ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคิด 1. มวี ินัย รับผิดชอบ
- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 2. ใฝ่เรยี นรู้
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
- ทกั ษะการแกป้ ญั หา
- ทักษะการสังเกต
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสบื ค้นข้อมลู
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธกี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงท่ี 1
ขั้นนำ
ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับรหัสควบคุม รหัสรูปแบบข้อมูล และตัวดำเนินการ
ในภาษาไพทอน
2. ครสู อบถามความรเู้ ดิมของนกั เรียนวา่ “นกั เรยี นเคยเขียนโปรแกรมหรือไม่ และเคยใช้โปรแกรม
ใดในการเขียน นอกจากโปรแกรมท่ีนักเรียนตอบมา นกั เรียนยังรจู้ ักโปรแกรมอื่นอีกหรือไม่”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กับดุลยพนิ จิ ของ
ครผู สู้ อน เช่น โปรแกรม Scratch, เขียนโปรแกรมใน Code.org เป็นต้น)
3. ครูถามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนวา่ “นักเรยี นเคยใชโ้ ปรแกรมภาษาไพทอนมาชว่ ย
ในการเขยี นโปรแกรมหรือไม่”
(แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง)
4. ครูอธิบายเพื่อเชือ่ มโยงเข้าสบู่ ทเรยี นวา่ “ปจั จุบันมโี ปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่เี หมาะสำหรบั
ผู้เริ่มตน้ เขยี นโปรแกรม ไปจนถึงประยุกตใ์ ชง้ านในระดบั สงู เนอื่ งจากเปน็ ภาษาที่มีโครงสร้าง
และไวยากรณ์ค่อนขา้ งงา่ ย ไม่ซับซ้อน ทำให้งา่ ยต่อการทำความเข้าใจ เรียกวา่ ภาษาไพทอน”
ขัน้ สอน
ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรียนแตล่ ะคนสืบคน้ โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการเขียนภาษาไพทอน วธิ กี ารดาวนโ์ หลดและติดตงั้
ท่เี คร่อื งคอมพิวเตอรข์ องตนเอง จากนนั้ ครสู ่มุ นักเรียน 2-3 คน ออกมาอธบิ ายหน้าชั้นเรยี น
2. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนดาวนโ์ หลดและติดต้ังโปรแกรม Mu จากเว็บไซต์
http://codewith.mu/en/download ทเ่ี ครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง โดยครคู อยให้
ความชว่ ยเหลืออย่างใกลช้ ิด
3. นักเรยี นสงั เกตและศึกษาส่วนประกอบของโปรแกรม Mu จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การออกแบบ
ขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
4. ครอู ธบิ ายเพื่อเช่ือมโยงความรู้สชู่ ีวิตประจำวนั (Com Sci in Real Life) เกี่ยวกับ
การประยุกต์ใชง้ านภาษาไพทอนว่า“ภาษาไพทอนถกู ออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานได้
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
หลากหลาย โดยเฉพาะทำงานในลกั ษณะทเ่ี ปน็ Web Application ทค่ี ล้ายคลงึ กบั ภาษาอืน่ ๆ
เช่น PHP JAVA ASP.NET แต่เนื่องจากภาษาไพทอนเป็นภาษาใหมจ่ งึ มีคุณสมบตั ิท่ีได้รบั
การพฒั นาเพม่ิ ข้ึน”
ช่วั โมงท่ี 2
ขั้นสอน
ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
5. ครูทบทวนเนอ้ื หาการเรียนเม่ือช่ัวโมงที่แล้วเกี่ยวกบั วิธีการดาวน์โหลดและติดตัง้ โปรแกรมทีใ่ ช้
ในการเขียนภาษาไพทอน และส่วนประกอบของโปรแกรม Mu
6. นักเรียนศกึ ษาการใชง้ านโปรแกรม Mu เบ้อื งตน้ จากหนงั สือเรยี น พร้อมใหน้ ักเรียนลงมือเขยี น
โปรแกรมตามตัวอยา่ งชดุ คำส่ังเพือ่ คำนวณหาผลลัพธ์ จากนัน้ ให้ทำการบันทึกงานทเ่ี ขียนไว้
ลงในโฟลเดอรง์ านของตนเอง
7. ครูอธิบายความรู้เสริมจากเนื้อหาเพื่อขยายความรขู้ องผเู้ รียน (Com Sci Focus) เรือ่ ง
การบนั ทกึ ชุดคำสง่ั ภาษาไพทอนว่า“การพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน ผู้เขยี นโปรแกรมจะ
บันทึกชดุ คำส่งั ภาษาไพทอนเป็นไฟลืที่มนี ามสกุล .py เชน่ hello.py ซ่งึ ไฟล์ของภาษาไพทอน
จะเรยี กวา่ Module โดยภายใน Module จะประกอบไปด้วยตัวแปรและชดุ คำสัง่ ต่าง ๆ
มากมาย”
8. นักเรยี นตรวจสอบคำสง่ั การทำงานของโปรแกรม Mu เพ่ือดูผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ากการเขยี นโปรแกรม
ทจ่ี ะแสดงในชอ่ ง Running
9. ครูซักถามนักเรียนถึงผลลพั ธ์ท่ีแสดงในช่อง Running ว่า“ผลลัพธข์ องนกั เรยี นคนใดไม่ตรงตาม
หนงั สอื เรียนและเปิดโอกาสใหน้ ักเรีนภายในห้องเรยี นรว่ มกันหาแนวทางการแก้ไข”
10. ครอู ธิบายวธิ กี ารเรียกไฟลเ์ ดิมข้นึ มาแกไ้ ขหรอื ใชง้ านต่อว่า“ในกรณที ี่ต้องการเรียกไฟลง์ าน
ทเ่ี คยบันทึก ให้นกั เรียนคลิก Load เพื่อเรียกใช้งานไฟล์ เลือกไฟลท์ ต่ี ้องการ จากน้นั กด Open
ก็จะแสดงไฟล์เดมิ ขน้ึ มาให้แก้ไขหรอื ใชง้ านต่อ”
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
11. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรู้เพมิ่ เติมในส่วนน้ัน
12. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.4.1 เร่ือง การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน โดยใหน้ กั เรียน
ตอบคำถามจากสถานการณ์ท่ีกำหนดไว้ใหถ้ ูกต้อง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรมเพ่อื ใหน้ ักเรยี น
- มที กั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสืบค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต
เพ่อื สืบเสาะหาความร้ตู ามหวั ขอ้ ท่ีได้รบั มอบหมาย
- มีทกั ษะการสงั เกต โดยให้นักเรยี นสงั เกตส่วนประกอบของโปรแกรม Mu
จากหนงั สอื เรียนเพื่อนำไปปรับใช้ในการเรยี นได้อยา่ งเหมาะสม
- มีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ โดยใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาเน้ือหาจากการสบื ค้นหรือศึกษา
ขอ้ มลู จากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ เชน่ หนังสอื เรยี น อินเทอรเ์ น็ต เป็นตน้
- มีทักษะการแกป้ ัญหา โดยนักเรียนสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหนา้ ที่อาจเกิดข้นึ จาก
การดาวน์โหลดและตดิ ตงั้ โปรแกรมที่ใช้ในการเขยี นภาษาไพทอนได้
ขัน้ สรปุ
ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ
การทำใบงาน
2. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งของผลการทำใบงานที่ 2.4.1 ของนักเรียน
3. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกับการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอนร่วมกนั
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
7.1 ประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2
การเรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์
1) การเขียนโปรแกรม - ตรวจใบงานที่ 2.4.1 - ใบงานที่ 2.4.1
ด้วยภาษาไพทอน
2) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
3) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ความรบั ผิดชอบ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ อันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2
เรื่อง การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
2) ใบงานที่ 2.4.1 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
3) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอร์เน็ต
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การออกแบบขัน้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.4.1
เร่ือง การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นตอบคำถามจากสถานการณท์ ก่ี ำหนดไวใ้ ห้ถกู ต้อง
สถานการณ์ :
ปรีชาต้องการเขียนโปรแกรมเพื่อคำนวณหาพ้ืนที่สามเหลย่ี ม ซึ่งมีส่วนฐานเท่ากับ 5 และส่วนสูงเท่ากบั 4 โดย
ให้นักเรียนกำหนดตัวแปรทจ่ี ะใชใ้ นการเกบ็ ส่วนฐาน ส่วนสูง และพื้นทีท่ ค่ี ำนวณได้ตามความเหมาะสม จากน้ัน
ให้ตรวจสอบผลลพั ธ์ และให้บนั ทกึ ไฟลเ์ ก็บไว้ในชอื่ Triangle
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
วชิ าวทิ ยาการคำนวณ ชื่อ...............................................................................ชั้น.................เลขที.่ .............
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานท่ี 2.4.1 เฉลย
เร่อื ง การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามจากสถานการณท์ ่ีกำหนดไว้ให้ถูกต้อง
สถานการณ์ :
ปรีชาต้องการเขียนโปรแกรมเพื่อคำนวณหาพน้ื ที่สามเหล่ยี ม ซึ่งมีส่วนฐานเท่ากับ 5 และส่วนสูงเท่ากบั 4 โดย
ใหน้ กั เรยี นกำหนดตัวแปรที่จะใช้ในการเกบ็ ส่วนฐาน สว่ นสูง และพื้นทที่ ี่คำนวณไดต้ ามความเหมาะสม จากน้ัน
ใหต้ รวจสอบผลลพั ธ์ และให้บนั ทกึ ไฟล์เก็บไวใ้ นชื่อ Triangle
...1.....b..a..s..e....=....5........................................................................................................................................................
...2.....h..e..i.g..h...t..=....4......................................................................................................................................................
...3.....a..r.e...a...=.....5...*....b..a..s..e....*...h..e..i.g..h..t...........................................................................................................................
...4.....p..r..in...t.(.a...r.e..a..).....................................................................................................................................................
...ผ...ล..ล..ัพ...ธ..์.ค...อื ...1...0.....................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................ ......
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
9. บันทึกผลหลงั การสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแก้ไข
10. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย )
ขอ้ เสนอแนะ .......
ลงชื่อ
(
ตำแหน่ง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5
การใชง้ านฟงั ก์ชันในโปรแกรมไพทอน
เวลา 4 ช่วั โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั
1.1 ตัวชี้วดั
ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่ีใช้ตรรกะและฟงั ก์ชนั ในการแกป้ ญั หา
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายการทำงานของฟังก์ชนั คำสง่ั แสดงผลทางหน้าจอได้ถูกต้อง (K)
2. อธิบายการทำงานของฟังก์ชนั คำส่ังรบั ขอ้ มูลทางแป้นพิมพ์ได้ถูกต้อง (K)
3. เขยี นโปรแกรมโดยใช้ฟงั ก์ชันคำสงั่ แสดงผลทางหนา้ จอไดถ้ ูกต้อง (P)
4. เขยี นโปรแกรมโดยใช้ฟังก์ชนั คำสัง่ รบั ขอ้ มลู ทางแปน้ พิมพไ์ ด้ถูกต้อง (P)
5. เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอน (A)
3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง -
- ฟังก์ชนั
- การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการใช้
ตรรกะและฟังก์ชนั
- ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น
Scratch, python, java, c
- ตวั อย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตัดเกรด
หาคำตอบทั้งหมดของอสมการหลายตวั แปร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ฟงั ก์ชนั ในโปรแกรมภาษาไพทอนแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื ฟังกช์ ันคำส่งั แสดงผลทางหนา้ จอ
หรือฟังก์ชัน print( ) และฟังก์ชันคำส่ังรับข้อมลู ทางแป้นพิมพ์ หรอื ฟังกช์ นั input( )
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคดิ 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน
- ทกั ษะการสังเกต
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสืบคน้ ข้อมลู
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั นำ
ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครทู บทวนความรู้เดิมจากชวั่ โมงท่แี ล้วเกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python)
2. ครูถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นว่า“นักเรียนรจู้ ักฟังก์ชันคำสง่ั ท่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม
คำส่งั ใดบ้าง และฟังกช์ ันคำสั่งเหล่านนั้ ทำหนา้ ที่อะไร”
(แนวตอบ : นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้นึ อยู่กับดุลยพนิ จิ ของ
ครผู สู้ อน เช่น ฟังกช์ นั คำสัง่ รับขอ้ มูลทางแป้นพมิ พ์ ฟงั กช์ ันคำสงั่ แสดงผลทางหนา้ จอ เปน็ ตน้ )
ขน้ั สอน
ข้นั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแต่ละคนสบื ค้นเกีย่ วกับฟงั กท์ ี่ใช้ในโปรแกรมไพทอนต่าง ๆ ในอนิ เทอรเ์ น็ต
ที่เครอ่ื งคอมพวิ เตรอ์ของตนเอง จากน้นั ครคู อยบนั ทึกผลการสืบคน้ ของนักเรียนลงบนกระดาน
หน้าชั้นเรียน
2. นักเรยี นศึกษาเรอื่ งฟังกช์ ันคำสัง่ แสดงผลทางหน้าจอของโปรแกรมภาษาไพทอนทม่ี ีรูปแบบ
การใช้งาน 2 รูปแบบจากหนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และ
การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
3. ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอภปิ รายหน้าช้นั เรียนเก่ียวกับเรื่องทดี่ ำเนนิ การศึกษา
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python
ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
4. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ เพ่ือใหน้ กั เรียนเข้าใจเพ่ิมขึ้นเกี่ยวกับฟงั ก์ชนั print( )ว่า“ฟงั ก์ชัน print( )
จะมรี ูปแบบการใชง้ านอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบท่ี 1 คอื print(ข้อมูล) ซ่ึงข้อมลู ทอ่ี ยู่ใน
วงเลบ็ สามารถเปน็ ไปได้ทั้งตวั เลข ตวั อกั ษร ตัวแปรหรือนพิ จน์ โดยข้อมลู ทเ่ี ปน็ ตัวอกั ษรจะต้อง
มีเคร่ืองหมายอญั ประกาศ(“_”)คร่อมที่ข้อมูล และหากมกี ารใชง้ านหลายตัวแปรจะต้องใส่
เครื่องหมายจุลภาค (,) ค่ันระหว่างตวั แปรเสมอ เช่น print(99), (“Wimolrat”), print(name)
เปน็ ต้น
5. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสังเกตตัวอย่างการใช้ print(ขอ้ มลู ) ท้ัง 3 รปู แบบและทำความเข้าใจ
กบั คำอธิบายการทำงานจากหนงั สือเรยี น ได้แก่
1) การแสดงข้อมลู ทเ่ี ป็นนิพจน์ออกมาทางหนา้ จอ
2) การแสดงขอ้ มูลทเี่ ปน็ ตัวเลขหรือข้อความตามดว้ ยคำสงั่ print( )
3) การแดสงขอ้ มลู ที่เก็บอยู่ในตัวแปรด้วยคำสงั่ print ( )
6. ครูอธบิ ายความรู้เสรมิ จากเนื้อหาเพ่ือขยายความรู้ของผเู้ รียน (Com Sci Focus) เรอ่ื ง
การใส่เคร่ืองหมาย “…..” ในโปรแกรมภาษาไพทอนวา่ “เคร่ืองหมาย “_” เรยี กว่าสัญลกั ษณ์
ฟนั หนู หรอื Double Quote โดยในโปรแกรมภาษาไพทอนจะใช้สญั ลกั ษณน์ ี้ครอบข้อมูลที่
เปน็ ขอ้ ความเสมอ เช่น ถา้ ตอ้ งการให้ตวั แปรแสดงคำว่า Hello กจ็ ะต้องใช้คำส่ังprint(“Hello”)
หรอื ถา้ ต้องการให้ตวั แปร name เกบ็ ข้อมลู คำว่า Panya กจ็ ะต้องใชค้ ำสัง่ name=“Panya”
เปน็ ต้น แตถ่ า้ ต้องการใหโ้ ปรแกรมแสดงคา่ ตวั เลข หรอื กำหนดให้ตัวแปรเกบ็ ค่าตวั เลข จะ
ไม่ต้องใส่สัญลักษณ์ Double Quote เช่น ถ้าต้องการใหโ้ ปแกรมแสดงตวั เลข 10 ใหใ้ ชค้ ำส่ัง
print(10) หรือถา้ ต้องการให้ตัวแปร old เก็บคา่ ตวั เลข 14 ก็ใชค้ ำสั่ง old = 14 เปน็ ต้น”
ชัว่ โมงที่ 2
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
7. ครทู บทวนความรเู้ ดิมจากช่วั โมงที่แลว้ เกยี่ วกับการใช้ print(ขอ้ มูล)
8. จากน้นั ใหน้ ักเรยี นลงมือปฏิบัตติ ามตวั อย่างในหนงั สอื เรียนเพือ่ ทำความเขา้ ใจเกีย่ วกับเนื้อหา
มากยง่ิ ขน้ึ
9. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัยและครูใหค้ วามร้เู พมิ่ เตมิ ในสว่ นนั้น
10. นักเรยี นทำใบงานท่ี 2.5.1 เรอ่ื ง การใชง้ านฟังก์ชันคำสั่งแสดงผลทางหน้าจอ โดยใหน้ ักเรยี น
เขยี นโปรแกรมภาษาไพทอนตามขอ้ มูลท่กี ำหนดให้
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบขน้ั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ชั่วโมงท่ี 3
ขั้นสอน
ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
11. ครสู ่มุ นกั เรยี น 4-5 คน ออกมาอภปิ รายการทำใบงานจากช่ัวโมงที่ผา่ นมาหน้าชนั้ เรยี น
12. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อใหน้ ักเรียนเขา้ ใจเพ่ิมมากข้ึนเกย่ี วกบั ฟังก์ชัน print( ) ในรูปแบบที่ 2
คอื print(“ข้อมูลที่มกี ารแทรกรหสั รูปแบบข้อมลู ” ตำแหน่งรหสั รูปแบบข้อมลู ) ตามตวั อย่าง
ดงั นี้
name = “Wimolrat”
print(“My name is %s” %name)
13. จากนนั้ ครูอธบิ ายกับนกั เรยี นวา่ “จากโปรแกรมขา้ งตน้ สามารถอธิบายการทำงานได้ดังนี้
บรรทัดที่ 1 สรา้ งและกำหนดคา่ ให้กับตวั แปร name โดยกำหนดคา่ เป็นตัวอักษร
“Wimolrat” บรรทัดท่ี 2 แสดงขอ้ ความ “My name is Wimolrat” โดย“Wimolrat”
มากจากตวั แปร name ซ่งึ จะแสดงในรปู แบบตวั อกั ษร เน่ืองจากใชร้ หสั รปู แบบ %s
แทรกไวห้ ลงั “My name is” และ %name คือ การกำหนดตัวแปร name ใหก้ ับรปู แบบ
%s”
14. ครอู ธบิ ายการทำงานของตัวอย่างการใช้ print(“ข้อมูลท่มี ีการแทรกรหสั รปู แบบขอ้ มลู ”
ตำแหนง่ รหสั รูปแบบข้อมลู ) ในหวั ข้อ การใช้รหัสรปู แบบข้อมลู %s หลายตวั แปรรว่ มกบั
ฟังกช์ นั print( ) การใชร้ หัสรูปแบบขอ้ มลู %d หลายตัวแปรร่วมกับฟังก์ชนั print( ) และ
การใช้รหสั รูปแบบข้อมูล %f รว่ มกบั ฟงั กช์ นั print( ) ในหนังสือเรียน จากน้ันใหน้ ักเรียน
ลงมือปฏบิ ตั ติ าม
15. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรู้เพ่ิมเตมิ ในส่วนนน้ั
16. นักเรียนทำใบงานท่ี 2.5.2 เรอื่ ง การใช้รหัสรปู แบบข้อมูลร่วมกับฟังก์ชัน print ( )
โดยใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนโดยใช้รหัสรปู แบบขอ้ มลู รว่ มกับฟังกช์ ัน print( )
ตามข้อมูลท่ีกำหนดให้ ชัว่ โมงท่ี 4
ขั้นสอน
ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
17. ครูทบทวนเน้อื หาการเรยี นเม่ือช่วั โมงท่ีแลว้ เกีย่ วกับฟงั ก์ชัน print ( ) ในรูปแบบท่ี 2 คือ
print(“ข้อมูลที่มกี ารแทรกรหัสรูปแบบขอ้ มลู ” ตำแหนง่ รหัสรูปแบบขอ้ มลู )
18. ครสู ุ่มนกั เรียน 4-5 คน ออกมาอภปิ รายการทำใบงานจากชั่วโมงท่ีผ่านมาหน้าชั้นเรียน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
19. ครูอธบิ ายรปู แบบการใช้งานคำสง่ั input ( ) ดงั นี้
ตวั แปร = input(ข้อความ)
20. โดยครอู ธิบายกบั นักเรยี นว่า“จากรปู แบบการใชง้ านดงั กล่าวของคำสั่ง input( )
กลา่ วได้ว่า ตัวแปร คือ ตวั แปรทใ่ี ชเ้ กบ็ ข้อมูลท่ีได้รบั จากทางแปน้ พิมพ์
ขอ้ ความ คือ ข้อความประกอบการรบั ข้อมลู อาจเป็นเฉพาะข้อความหรือข้อความผสมตัวแปร
หรือนิพจน์ก็ไดเ้ ช่นกนั ”
21. ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ เพื่อใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเพิ่มขนึ้ ว่า“ฟังก์ชนั input( ) เปน็ คำส่ังที่ใช้รบั
ขอ้ มูลทางแป้นพิมพ์ โดยข้อมูลทรี่ ับเข้ามาจะเป็นข้อมูลชนิดข้อความ หากต้องการรบั ข้อมูล
ชนิดอืน่ เช่น ตัวเลข จะต้องแปลงขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ ข้อความทร่ี ับเขา้ มาเปน็ ขอ้ มลู ชนิดอืน่ ก่อน”
22. นักเรยี นสงั เกตและศึกษาการใชง้ านฟงั ก์ชนั คำส่งั รับข้อมลู ทางแปน้ พมิ พ์จากหนงั สือเรยี น
โดยครอู ธิบายการทำงานของตัวอยา่ งการใช้งานฟงั กช์ ันคำสัง่ รบั ข้อมลู ทางแป้นพมิ พ์ในหัวข้อ
การใช้งานฟังกช์ ัน input( ) และการใชง้ านฟังกช์ ัน input( ) รว่ มกบั รหัสควบคมุ ขอ้ มลู
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
23. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสัย และครใู ห้ความร้เู พิ่มเติมในสว่ นนั้น
24. นกั เรยี นทำใบงานที่ 2.5.3 เร่อื ง การใช้งานฟังกช์ นั คำสั่งรับขอ้ มลู ทางแปน้ พิมพ์ โดยให้
นกั เรยี นเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนโดยใชฟ้ ังก์ชัน input ( ) ร่วมกับรหสั ควบคุมข้อมลู
ตามข้อมูลท่ีกำหนดให้
Note
วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพอ่ื ให้นักเรยี น
- มีทักษะการสบื คน้ ข้อมลู โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอรเ์ น็ต
เพ่อื สืบเสาะหาความรตู้ ามหวั ข้อที่ได้รับมอบหมาย
- มที ักษะการสงั เกต โดยใหน้ ักเรียนสงั เกตการใช้งานฟงั กช์ ันในโปรแกรมไพทอนและ
ตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอนจากหนังสือเรยี น เพือ่ นำไปปรบั ใชใ้ นการเรยี น
ได้อย่างเหมาะสม
- มีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ โดยให้นกั เรียนพิจารณาเนื้อหาจากการสบื คน้ หรือศึกษา
ข้อมูลจากแหลง่ ข้อมลู ตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นต้น
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การออกแบบขั้นตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
ข้ันสรปุ
ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การนำเสนอหน้าชัน้ เรียน และ
การทำใบงาน
2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทำใบงานท่ี 2.5.1 ใบงานท่ี 2.5.2 และ ใบงานที่ 2.5.3
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เก่ียวกับการใชง้ านฟังกช์ ันในโปรแกรมไพทอน
7. การวดั และประเมนิ ผล
รายการวดั วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) การใช้งานฟังก์ชนั คำส่ัง - ตรวจใบงานท่ี 2.5.1 - ใบงานที่ 2.5.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แสดงผลทางหนา้ จอ ระดับคุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
2) การใช้รหสั รูปแบบข้อมูล - ตรวจใบงานท่ี 2.5.2 - ใบงานท่ี 2.5.2 ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
รว่ มกับฟังก์ชัน print( )
3) การใช้งานฟังก์ชันคำสัง่ - ตรวจใบงานท่ี 2.5.3 - ใบงานท่ี 2.5.3
รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์
4) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ
ผลงาน การนำเสนอผลงาน
5) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
6) คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ
ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มั่น อนั พึงประสงค์
ในการทำงาน
8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2
เร่อื ง การออกแบบข้นั ตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
2) ใบงานท่ี 2.5.1 เรอื่ ง การใช้งานฟงั ก์ชันคำสง่ั แสดงผลทางหน้าจอ
3) ใบงานที่ 2.5.2 เรอ่ื ง การใช้รหัสรปู แบบขอ้ มลู ร่วมกับฟังก์ชัน print( )
4) ใบงานท่ี 2.5.3 เรือ่ ง การใชง้ านฟงั ก์ชนั คำสง่ั รับข้อมูลทางแปน้ พมิ พ์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา Python
5) เคร่อื งคอมพวิ เตอร์
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ นต็
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การออกแบบขนั้ ตอนการทำงาน และการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานที่ 2.5.1
เรอ่ื ง การใชง้ านฟังกช์ นั คำส่งั แสดงผลทางหน้าจอ
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน ตามข้อมลู ท่ีกำหนดให้ ดังนี้
1) ประกาศตัวแปรเกบ็ ช่ือ และตัวแปรเกบ็ นามสกลุ ของนักเรียน
2) ประกาศตวั แปรเกบ็ คะแนนวชิ าภาษาไทย 12 คะแนน ภาษาองั กฤษ 15 คะแนน สงั คม 17
คะแนน วทิ ยาศาสตร์ 13 คะแนน และคณิตศาสตร์ 14 คะแนน
3) คำนวณหาค่าเฉล่ยี ของคะแนนทง้ั 5 วชิ า
4) แสดงผลชื่อ นามสกุล และคะแนนเฉล่ียท่ไี ด้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................... .........
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................ ......................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................... ...................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
วิชาวทิ ยาการคำนวณ ชือ่ ...............................................................................ชน้ั .................เลขท.่ี .............
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การออกแบบข้ันตอนการทำงาน และการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python
ใบงานที่ 2.5.1 เฉลย
เรื่อง การใช้งานฟงั ก์ชนั คำสัง่ แสดงผลทางหนา้ จอ
คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน ตามข้อมูลที่กำหนดให้ ดงั น้ี
1) ประกาศตวั แปรเก็บช่ือ และตัวแปรเกบ็ นามสกลุ ของนักเรยี น
2) ประกาศตัวแปรเกบ็ คะแนนวชิ าภาษาไทย 12 คะแนน ภาษาองั กฤษ 15 คะแนน สงั คม 17
คะแนน วิทยาศาสตร์ 13 คะแนน และคณติ ศาสตร์ 14 คะแนน
3) คำนวณหาค่าเฉลีย่ ของคะแนนทัง้ 5 วชิ า
4) แสดงผลชื่อ นามสกุล และคะแนนเฉลย่ี ท่ไี ด้
..1......n..a..m....e....=....“..S..o...m...c..h...a..i.”.....................................................................................................................................
..2......s..u..r.n...a..m....e...=....“..J..a..i.d..e...e..”....................................................................................................................................
..3......t.h...a..i..=....1..2.........................................................................................................................................................
..4......e..n..g..l..i.g.h....=....1..5...................................................................................................................................................
..5......s..o..c..i.a..l...=....1..7.....................................................................................................................................................
..6......s..c..ie...n..c..e....=....1..3..................................................................................................................................................
..7......m...a...t.h....=....1..4......................................................................................................................................................
..8......a..v..g.._..s..c..o..r..e...=....(.t..h..a..i...+....e..n..g..l.i.s..h....+....s.o...c..i.a..l..+....s..c..i.e..n...c..e...+....m....a..t..h..)./..5.................................................................
..9......p..r..in...t.(..“..M...y....n..a..m....e....is..”..,...n..a..m....e..,...s.u...r.n...a..m...e...)....................................................................................................
..1...0.....p..r..i.n..t..(.“..M...y....s..c..o..r.e....i.s...“..,...a..v..g.._..s..c..o..r..e..)............................................................................................................
....................................................................................................................................................................... .......
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................