The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กองร้อยอาวุธเบา รส. 7-10

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by training7005, 2024-05-24 03:22:05

กองร้อยอาวุธเบา รส. 7-10

กองร้อยอาวุธเบา รส. 7-10

๑๔๗ ๖) โดยให้เวลาเพิ่มเติมเพื่อการเตรียมการ การซักซ้อม หรือการดําเนินการลาดตระเวน ต. แผนจะมีความสมบูรณ์โดย ๑) รวมเข้ากับแผนการยึดพื้นที่สําหรับการตั้งรับ ๒) ทําแผนการยิงให้สมบูรณ์ (ทั้งการยิงเล็งตรงและการยิงเล็งจําลอง) ๓) กําหนดที่ตั้งของเครื่องมือเครื่องใช้อื่น ๆ (เช่น บก. ค. หรือ ขบวนสัมภาระกองร้อย) และ กําหนดภารกิจด้วย ๔) พัฒนาแผนการสนับสนุนการช่วยรบสําหรับการส่งกําลังเพิ่มเติม การส่งกลับผู้บาดเจ็บ และ การเคลื่อนย้ายเป้สนาม/ยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ๕) ทําแผนเผชิญเหตุ (เช่น จัดเตรียมภารกิจสําหรับให้หน่วยหนึ่งกลับมาเป็น กองหนุนของ กองร้อย ถ้ากองหนุนเริ่มแรกได้ถูกใช้ไปแล้ว ๕ - ๕ เขตปฏิบัติการและที่มั ่นรบ การประมาณสถานการณ์ของ ผบ.ร้อย. กําหนดมาตรการควบคุมที่มี ประสิทธิภาพมากที่สุดสําหรับการปฏิบัติการทุก ๆ แบบ ปกติแล้วไม่มีการกําหนดหลักการสําหรับการเลือก มาตรการควบคุม แต่รูปที่ ๕ - ๒ จะให้พื้นฐานของการพิจารณาบางส่วน ก. เขตปฏิบัติการจะเป็นมาตรการควบคุมซึ่งจะให้เสรีในการปฏิบัติของ มว.มากที่สุด โดยจะให้ความ อ่อนตัวเพื่อให้ มว.ปฏิบัติในลักษณะแยกการ ในขณะที่ยังคงมีความมั่นใจความพอเพียงของการควบคุมที่มีอยู่ เพื่อป้องกันความสับสนและเพื่อการประสานสอดคล้องกับการปฏิบัติการของกองร้อย ในภูมิประเทศรกทึบซึ่ง จะเกื้อกูลการปฏิบัติของทหารราบ ในการปฏิบัติการจะมีความยากลําบากในการสําเร็จของการสนับสนุนซึ่งกัน และกัน ระหว่างที่มั่นรบของ มว.และยังมีความยากลําบากสําหรับ ผบ.ร้อย. ในการมองเห็นและควบคุมการรบ ตลอดพื้นที่ของเขตปฏิบัติการกองร้อย ด้วยเหตุผลนี้ทหารราบจะปฏิบัติการในเขต โดยใช้การแบ่งมอบพื้นที่ เป็นส่วน ๆ


๑๔๘ รปูท ี่ ๕ - ๒ การเลือกมาตรการควบคมุ ข. ทม่ีนั่รบ คอืทต่ีงั้ทวั่ๆ ไป และเป็นการกาํหนดทศิทางของกาํลงับนพน้ืดนิซง่ึหน่วยทาํการตงั้รบัอยู่ มว. จะตอ้งอยภู่ายในพน้ืทท่ีวั่ๆ ไปของทม่ีนั่รบ สว่นระวงัป้องกนัอาจจะตงั้อยใู่นสว่นหน้าและทางปีกของท่ี มนั่รบกไ็ด้มว. ทก่ีาํลงัตงั้รบัอาจมทีม่ีนั่รบไม่สมัพนัธก์บัหน่วยขา้งเคยีงกไ็ด้ในกรณีน้ีความจาํเป็นสาํหรบัการ ระวงัป้องกนัรอบตวัจะเพม ิ่ ขน้ึการใชท้ม่ีนั่รบสาํรองทเ่ีตรยีมการไวล้่วงหน้า ร่วมกบักจิของการเตรยีมหรอืการ ลาดตระเวนจะใหค้วามอ่อนตวัและความลกึในแผนการตงั้รบั


๑๔๙ ๑) ถา้มกีารกาํหนดทม่ีนั่รบแลว้ผบ.รอ้ย. จะกาํหนดทม่ีนั่หลกัใหก้บัมว.เพ่อืทาํการตงั้รบัและ มอบเขตการยงิ ในแต่ละทม่ีนั่จะตอ้งใหค้วามสาํเรจ็ของกองรอ้ยตามกจิและความมุ่งหมายทไ่ีดร้บัมอบ ตาม แนวความคดิในการปฏบิตัขิอง ผบ.พนั. ๒) ผบ.รอ้ย. สามารถทจ่ีะมอบหมายทม่ีนั่สาํรอง/ทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิใหก้บัมว.ไดด้ว้ย ทงั้น้ขีน้ึอย่กูบั สถานการณ์ทม่ีนั่สาํรองจะเป็นทม่ีนั่ขา้งหน้า ทางปีก หรอืค่อนไปทางขา้งหลงัของทม่ีนั่หลกักไ็ด้(รปูท่ี๕ - ๓) ซง่ึจะตอ้งใหพ้น้ืการยงิเช่นเดยีวกนักบัทม่ีนั่หลกัถา้จะตอ้งยดึครองในระหว่างทศันวสิยัจาํกดัทม่ีนั่สาํรอง อาจจะตงั้อยขู่า้งหน้าของทม่ีนั่หลกัทม่ีนั่สาํรองอาจจะถูกใชก้ารได้ถา้มว.ถูกผลกัดนัใหอ้อกจากทม่ีนั่หลกั โดยการยงิหรอืการจ่โูจมของขา้ศกึหรอือาจจะถูกใชก้ารในช่วงเรม ิ่ ตน้ของการรบเพ่อืการลวงใหข้า้ศกึเขา้ใจว่า เป็นทม่ีนั่หลกัของ มว. รปูท ี่ ๕ - ๓ ท ี่ มนั่สาํรอง ๓) ทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิจะตงั้อย่บูรเิวณทางปีกหรอืขา้งหลงัของทม่ีนั่หลกัซง่ึจะให้มว. ทาํการป้องกนัต่อ การโจมตขีองขา้ศกึในเสน้ทางการเคล่อืนทท่ีไ่ีมม่กีารคุม้ครองจากทม่ีนั่หลกั (รปูท่ี ๕ - ๔) ทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิ สามารถทจ่ีะมอบหมายใหก้บัมว.ได้เม่อืมว.จะตอ้งคมุ้ครองเสน้ทางการเคล่อืนทม่ีากกว่า ๑ เสน้ทาง มว. จะ ทาํการเคล่อืนยา้ยจากทม่ีนั่หลกัทม่ีนั่สาํรอง หรอืทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิเม่อืไดร้บัอนุมตัจิาก ผบ.รอ้ย.เท่านนั้หรอืเม่อื สภาวะทเ่ีกดิขน้ึตามเง่อืนไขทก่ีาํหนดไวซ้ง่ึเป็นเหตุผลทาํ ใหต้อ้งเคล่อืนยา้ย


๑๕๐ รปูท ี่ ๕ - ๔ ท ี่ มนั่เพ ิ่ มเติม ค. ตามพน้ืฐานของการประมาณการณ์และปัจจยัทก่ีาํหนดไวใ้นรปูท่ี๕ - ๒ ผบ.รอ้ย. สามารถทจ่ีะตก ลงใจเพ่อืแบ่งมอบเขตปฏบิตักิารของ มว.เขตปฏบิตักิารของการตงั้รบัจะเป็นพน้ืทท่ีร่ีะบุโดยเสน้แบ่งเขต ซง่ึจะ ระบุพน้ืทป่ีฏบิตักิารของหน่วยและภูมปิระเทศทห่ีน่วยรบัผดิชอบ เขตปฏบิตักิารโดยปกตแิลว้จะมคีวามลกึ มากกว่าความกวา้งเพ่อืให้มว.ทาํการรบในทางลกึ ง. ในบางสถานการณ์มว. อาจจะไดร้บัทงั้ทม่ีนั่รบและเขตปฏบิตักิารเพ่อืใหก้ารควบคมุทเ่ีหมาะสมตาม พน้ืฐานของแนวความคดิของ ผบ.หน่วย ดงัตวัอย่างเม่อืมว. ไดร้บัมอบกจิเรม ิ่ แรกเพ่อืทาํการรงั้หน่วงหรอื ขดัขวางกาํลงัขา้ศกึทเ่ีคล่อืนทผ่ีา่นพน้ืทป่ีฏบิตักิาร เพ่อืทาํ ใหก้ารโจมตขีองขา้ศกึเสยีระเบยีบ เขตปฏบิตัอิาจจะ เป็นมาตรการควบคุมทม่ีปีระสทิธภิาพทส่ีดุเพ่อืใหก้ารปฏบิตักิารแบบแยกการและเพม ิ่ เสรใีนการปฏบิตัแิก่ หน่วยรอง ถา้มว.เดมิไดร้บัภารกจิต่อมาเพ่อืทาํการสกดักนั้การเคล่อืนทข่ีองขา้ศกึผ่านช่องทางบงัคบัเพ่อืให้ หน่วยทเ่ีหลอืของกองรอ้ยทาํการตโีตต้อบต่อปีกของขา้ศกึซง่ึเป็นสว่นทว่ีกิฤติทม่ีนั่รบในขณะน้ีอาจจะเป็น มาตรการควบคมุทเ่ีหมาะสม ทม่ีนั่รบจะทาํ ให้มว. น้ีหนัไปยงัทศิทางของช่องทางบงัคบัและจะใหก้ารยงิเลง็ จาํลองทาํการยงิไดโ้ดยมขีอ้จาํกดัน้อยทส่ีดุ ๑) ในตวัอย่างน้ีมาตรการควบคมุเพยีงมาตรการเดยีวจะมผีลกบัมว.ในเวลาเดยีวกนัซง่ึสามารถ ทจ่ีะวาดภาพลายเสน้ ใหเ้หน็โดยการใชเ้สน้ ประสาํหรบัภาพลายเสน้ของทม่ีนั่รบ ในสถานการณ์ทแ่ีตกต่างกนั แนวความคดิของ ผบ.หน่วยอาจมคีวามตอ้งการ มาตรการควบคุมทงั้๒ มาตรการ ใหม้ผีลในเวลาเดยีวกนักไ็ด้


๑๕๑ ๒) การใชม้าตรการควบคุมผสมผสาน กนั ( รปูท่ี๕ - ๕ ) ซง่ึมใิช่การปฏบิตัปิระจาํผบ. รอ้ย. จะตอ้งมคีวามมนั่ ใจว่าไม่ไดม้อบกจิใหก้บัมว.มากเกนิไป และจะตอ้งมคีวามมนั่ ใจว่าแนวความคดิของตน และความมุ่งหมายของแต่ละมาตรการควบคมุมคีวามชดัเจนกบัหน่วยรองทงั้หมดของตน แนวความคดิ จะตอ้งมปีระสทิธภิาพและความชดัเจนเป็นอย่างดี ในระหวา่งการใหค้าํสงั่ยุทธการการบรรยายสรุปกลบัจะ มคีวามจาํเป็น รปูท ี่ ๕ - ๕ การใช้มาตรการควบคมุหลายแบบรว่มกนั จ. โดยไม่คาํนึงถงึมาตรการควบคุมทไ่ีดร้บัมอบจาก ผบ.รอ้ย. ผบ.มว. แต่ละคนจะจดัเตรยีมและสง่ แผนผงัเขตปฏบิตักิารของ มว. (ดใูน รส. ๗ - ๘) แผนผงัเหล่าน้จีะชว่ยให้ผบ.รอ้ย.พจิารณาว่าพน้ืทป่ีฏบิตักิาร ของกองรอ้ยไดร้บัความคุม้ครองดหีรอืไม่ จากแผนผงัเขตปฏบิตักิารของ มว. ผบ.รอ้ย. จะพฒันาแผนผงัเขต ปฏบิตักิารของกองรอ้ยของตน แต่อย่างไรกต็ามแผนผงัเหล่าน้ไีม่ไดช้ว่ยลดความตอ้งการสาํหรบัผบ.รอ้ย. ใน การทจ่ีะทาํการตรวจการตงั้รบัของกองรอ้ยดว้ยตนเอง ๕ - ๖ แผนการยิงของกองรอ้ย แผนการยงิของกองรอ้ย ประกอบดว้ย ๒ สว่น คอืการยงิเลง็ตรงและการยงิ เลง็จาํลอง ซง่ึจะตอ้งรวบรวมประสทิธภิาพของระบบอาวุธทงั้หมด แผนเคร่อืงกดีขวางของกองรอ้ย และ แผนการดาํเนินกลยุทธข์องกองรอ้ย เพ่อืใหส้าํเรจ็ผลสงูสดุต่อกาํลงัขา้ศกึจาํนวนของการวางแผนการยงิของ กองรอ้ยจะแตกต่างกนัไปขน้ึอยกู่บัสถานการณ์และแนวความคดิในการปฏบิตัขิองกองรอ้ย เม่อืแนวความคดิ ในการปฏบิตัขิองกองรอ้ยมกีารรวมการมาก เช่น เม่อืมกีารวางแนวโดยรอบพน้ืทโ่ีจมตขีนาดใหญ่แผนการยงิ ของกองรอ้ยอาจจะตอ้งมรีายละเอยีดมากกไ็ด้เม่อืทาํการรบในการตงั้รบัทม่ีกีารแยกการมาก เช่น การซุ่ม โจมตี


๑๕๒ เป็นพื้นที่ของกองร้อย โดยการให้ มว. กระจายกําลัง ออกไปในเขตปฏิบัติการ แผนการยิงของ กองร้อยอาจจะกําหนดข่าวสารจํานวนน้อย รายละเอียดของตัวอย่างการพัฒนาแผนการยิงของกองร้อยอยู่ใน ผนวก ง แม้ว่าตัวอย่างนี้จะเพ่งเล็งไปยังการใช้อาวุธต่อสู้ยานเกราะก็ตาม กระบวนการดังกล่าวยังคงมีความ จําเป็นเช่นเดียวกันกับอาวุธปืนเล็กของกองร้อย ก. อาวุธยิงเล็งตรง ผบ.ร้อย. จะเริ่มการวางแผนอาวุธยิงเล็งตรง โดยการทําให้มั่นใจได้ว่ามีความเข้าใจ และปฏิบัติตามแผนการยิงของกองพัน ความต่อเนื่องของแผนของ ผบ.ร้อย. จะขึ้นอยู่กับเวลาที่มีอยู่ และ มาตรการในการวางแผนและการควบคุมที่ต้องการ - การประสานสอดคล้องในการรบของกองร้อย - การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของอาวุธในการทําลายข้าศึก - ให้มีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน - ให้การคุ้มครองต่อพื้นที่รับผิดชอบที่กําหนด - ให้มั่นใจว่า มีความปลอดภัยต่อกําลังพลจากการยิงของฝ่ายเดียวกัน ๑) มาตรการควบคุม ผบ.ร้อย. จะใช้มาตรการควบคุมในการสนับสนุนแผนการยิงของกองร้อย คํา จํากัดความและภาพลายเส้นของมาตรการควบคุมดังกล่าวจะพบได้ ใน รส ๑๐๑ - ๕ - ๑ และอนุผนวก ง ของ รส. ฉบับนี้ ก) พื้นที่การยิง พื้นที่การยิงอาจจะถูกกําหนดให้แก่หน่วยหรือระบบอาวุธพิเศษ เขตการยิงหลัก และรอง อาจจะถูกกําหนดขึ้นเพื่อให้เกิดความอ่อนตัวและเป็นส่วนหนึ่งของแผนเผชิญเหตุ ข) พื้นที่โจมตี ตามปกติแล้วพื้นที่โจมตีหรือพื้นที่สังหารจะตั้งอยู่ตามเส้นทางการเคลื่อนที่และจะ เป็นการรวมอํานาจการยิงของหนึ่งหน่วยหรือมากกว่าในการทําลายข้าศึกที่เข้ามาในพื้นที่ บันทึกย่อพื้นที่โจมตี และเขตการยิง มิได้กําหนดขึ้นเพื่อจํากัดการยิงหรือทําให้การปฏิบัติการขาดความอ่อนตัว ทั้ง ๒ สิ่งจะใช้เพื่อ เป็นเครื่องมือในการรวมอํานาจการยิงและเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ค) จุดอ้างเป้าหมาย จุดอ้างเป้าหมายจะเป็นมาตรการควบคุมการยิงอเนกประสงค์ โดยจะสามารถ ใช้ในการพิสูจน์ทราบข้อจํากัดของเขตปฏิบัติการ และยังสามารถใช้เพื่อรวมอํานาจการยิงเข้าไปยังพื้นที่ที่ แน่นอนอีกด้วย เมื่อทําการวางแผนและกําหนดจุดได้อย่างเหมาะสมแล้ว จุดดังกล่าวจะสามารถใช้ในการเลือก ฉากการยิงได้อย่างรวดเร็วในระหว่างการรบ ง) จุดหรือแนวเริ่มยิง สิ่งนี้จะใช้ในการประสานสอดคล้องการยิงของกองร้อยและเพื่อป้องกันข้าศึก ที่กําลังปะทะอยู่เลยระยะยิงไกลสุดของอาวุธ จ) ความเร่งด่วนในการโจมตี จะแบ่งมอบให้แก่หน่วย/อาวุธพิเศษเพื่อให้เป็นแนวทางในการ กําหนดเป้าหมายที่จะทําการโจมตี เมื่อมีเป้าหมายหลายเป้าหมาย ฉ) มาตรการควบคุมอื่น ๆ บางครั้งโดยเฉพาะการปฏิบัติการในระดับความขัดแย้งระดับตํ่า และ การรบในสิ่งปลูกสร้าง อาวุธพิเศษอาจจะถูกจํากัดในการใช้งาน ซึ่งอาจจะเกิดจากข้อจํากัดในพื้นที่คุ้มกันของ อาวุธที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนในอัตราที่สูง หรือข้อจํากัดในการใช้ปืนกลและระเบิดขว้างเมื่อ ทําการกวาดล้างอาคารที่ใช้โครงเหล็ก ๒) อาวุธปืนเล็ก อาวุธปืนเล็กจะรวมเอาปืนเล็กยาวทั้งหมด ปืนกลและปืนพกที่อยู่ในอัตราการจัดของ ร้อย.ร. ปกติแล้วแผนการยิงของกองร้อยจะกําหนดมาตรการควบคุมให้แก่หน่วย โดยจะให้ ผบ.หน่วยควบคุม การยิงอาวุธแต่ละชนิดเอง ๓) อาวุธและกระสุนพิเศษ แผนการยิงของกองร้อยอาจจะกําหนดอาวุธพิเศษ เช่น จรวดต่อสู้รถถัง ขนาดเบา AT4 ปืนซุ่มยิง เคลย์โม ระเบิดมือ วัตถุระเบิด หรืออาวุธกระสุนเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษอื่นๆ ปกติ พลซุ่มยิงจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองร้อย และรับรายละเอียดของมาตรการควบคุมการยิง


๑๕๓ จากกองร้อย อาวุธและกระสุนพิเศษอื่น ๆ ปกติ จะถูกใช้โดยกําลังพลในหมู่ และโดยมีการควบคุม จาก ผบ. หน่วยนั้น ๆ ๔) อาวุธต่อต้านยานเกราะ ความเร่งด่วนในการโจมตีอาจจะแบ่งมอบให้แก่แต่ละอาวุธ หรือแบบของ อาวุธ ตัวอย่างเช่น จรวดดรากอนจะทําการยิงต่อยานเกราะบรรทุกทหารราบ ยานควบคุมบังคับบัญชา และ อาวุธต่อต้านอากาศยาน จรวดโทว์จะใช้ในการยิงต่อรถถังยานเกราะบรรทุกทหารราบ ยานรบของทหารช่าง ก) จรวดดรากอน ปกติแล้ว ผบ.ร้อย. จะแบ่งมอบที่ตั้งและเขตการยิงหรือพื้นที่โจมตีให้ อย่างไร ก็ตาม ผบ.ร้อย. อาจจะกําหนดที่ตั้งทั่วไปและเขตการยิงหรือพื้นที่โจมตีของอาวุธ ให้ครอบคลุมพื้นที่สําคัญและ ให้ ผบ.มว. ทําการเลือกที่ตั้งที่แน่นอนเอง ตัวอย่างเช่น ผบ.ร้อย. อาจจะสั่งให้ ผบ.มว. ตั้งอาวุธต่อต้าน ยานเกราะของกองร้อยทางด้านปีกของ มว. สิ่งนี้จะทําให้ ผบ.มว. ต้องผูกพันกับหน่วยที่มาสมทบและจรวด ที่มาสนับสนุนหรือหน่วยข้างเคียงดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถคุ้มครองพื้นที่ได้ทั้งหมด โดยไม่คํานึงถึงผู้ที่ แบ่งมอบที่ตั้งหรือเขตการยิง ผบ.ร้อย. จะทําการตรวจสอบและปรับที่ตั้งอาวุธ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีช่องว่างและ สามารถเห็นหน่วยและอาวุธที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ผบ.ร้อย. จะปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้กับปืนกลด้วย กล้อง ส่องเวลากลางคืนของจรวดดรากอน ควรจะรวมอยู่ในแผนการลาดตระเวนและการระวังป้องกันของกองร้อย ภายใต้สภาวการณ์ที่ถูกจํากัด (ช่วงก่อนคํ่าหรือการใช้การส่องสว่าง) ทั้งกล้องในเวลากลางวันและในเวลา กลางคืนของจรวดดรากอนจะถูกใช้ในเวลาเดียวกัน ข) จรวดโทว์ตามปกติจะใช้โดยตอน (๒ เครื่องยิง) ผบ.ร้อย. หรือ ผบ.มว.อาวุธ จะทําการกําหนด ที่ตั้งให้ โดยจะแบ่งมอบเขตการยิงหรือพื้นที่โจมตีหลักและรองให้ ถ้าทําได้ระยะห่าง ๓๐๐ ม. เป็นอย่างน้อยที่ จะใช้ระหว่างจรวดโทว์ ซึ่งจะทําให้ไม่มีอาวุธ ๒ เครื่องยิงที่ถูกยิงกดจากอาวุธยิงเล็งตรงจากอาวุธข้าศึกเพียง หน่วยยิงเดียว ที่ตั้งควรจะสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ระหว่างจรวดโทว์ทั้ง ๒ และระหว่างจรวดโทว์และอาวุธ ต่อสู้รถถังอื่น ๆ การได้รับการคุ้มครองเพิ่มขึ้นจากจรวดโทว์ จะกระทําได้โดยการกําหนดที่ตั้งให้อยู่ใกล้กับ หน่วยทหารราบ กล้องเล็งของจรวดโทว์ (กลางวันและกลางคืน) จะใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจการณ์ได้เป็น อย่างดี และควรที่จะใช้รวมอยู่ในแผนการลาดตระเวนและการระวังป้องกันของหน่วยด้วย จรวดโทว์บางชุดอาจ ถูกกําหนดที่ตั้งชั่วคราวให้ใกล้อยู่หน้า ขนพร. เพื่อทําการยิงระยะไกลต่อยานพาหนะของข้าศึกแต่เนิ่น เมื่อ ข้าศึกทําการเคลื่อนที่เข้ามา จรวดโทว์จะทําการเคลื่อนย้ายไปยังด้านหลังหรือทางด้านปีก ถ้าเทคนิคนี้ถูกใช้ ผบ.ร้อย. จะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าที่จะใช้การยิงเล็งตรงและการยิงเล็งจําลอง โดยจะเสียการจู่โจมในพื้นที่ การรบหลัก ถ้ามีตอนโทว์จากกองพันสนับสนุนกองร้อย ผบ.ร้อย. จะมอบการควบคุมตอนโทว์ให้แก่นายสิบที่ อาวุโสของตอนโทว์ ตอนใดตอนหนึ่งถ้ามีการสนับสนุนตอนโทว์ทั้งหมด ผบ.มว.โทว์จะควบคุมเอง ค) การยิงเล็งจําลอง ผบ.ร้อย. และ นยส. จะทําการวางแผนการกําหนดเป้าหมายการยิงเล็งจําลอง เพื่อสนับสนุนแผนการดําเนินกลยุทธ์ของกองร้อย รายละเอียดของการวางแผนการยิงเล็งจําลองจะอธิบายใน บทที่ ๗ ผบ.ร้อย. และ นยส. จะร่วมกันวางแผนการกําหนดเป้าหมายที่คาดว่าเป็นเส้นทางการเคลื่อนที่ของ ข้าศึกทั้งหมดและในพื้นที่ที่ข้าศึกอาจจะใช้ในการโจมตี เช่น ที่ตรวจการณ์ของข้าศึก ที่มั่นสนับสนุนเส้นทาง การเคลื่อนที่ ที่เตรียมตะลุมบอน และช่องเขาเป้าหมายอาจจะถูกวางแผนไปยังด้านหน้า บน และด้านหลังของ ที่มั่นของฝ่ายเดียวกัน เพื่อทําการหยุดยั้งพื้นที่ที่คาดว่าจะถูกเจาะหรือเพื่อสนับสนุนการตีโต้ตอบ ซึ่งเป็นไปได้ ที่จะกําหนดเป้าหมายไว้หลายๆ จุด วางแผนเป้าหมายบนภูมิประเทศเด่นชัดและปรับการยิงโดยใช้ภูมิประเทศ เด่นชัดเป็นตัวอ้าง ในระหว่างการตั้งรับ กองร้อยอาจจะได้รับการสนับสนุนโดย ค. ของกองร้อย ค. ของกอง พัน หรือ หน่วย ป.อื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุนกองพัน


๑๕๔ (๑) ผบ.ร้อย. และ นยส. จะวาง แผนการกําหนดที่ตั้งที่แน่นอน สําหรับการยิง ป้องกันขั้นสุดท้าย การยิงป้องกันขั้นสุดท้ายจะเป็นฉากการยิงที่วางแผนไว้บนเส้นทางการเคลื่อนที่ที่อันตราย ที่สุดของข้าศึกเพื่อให้การป้องกันระยะประชิด โดยเร่งด่วนสําหรับทหารที่ทําการตั้งรับอยู่ในระหว่างการโจมตี ของข้าศึก ซึ่งจะต้องรวมเอาไว้ในแผนการยิงเล็งตรง (โดยเฉพาะแนวยิงป้องกันขั้นสุดท้ายของปืนกล) และ แผนเครื่องกีดขวางของกองร้อย โดยทําการปรับให้ใกล้แนวทหารฝ่ายเดียวกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดย มิให้เป็นอันตรายต่อฝ่ายเดียวกัน เมื่อการยิงป้องกันขั้นสุดท้ายได้รับการร้องขอ โดยการส่งประมวลลับผ่านทาง วิทยุ หรือโดยการใช้พลุสัญญาณ การยิงป้องกันขั้นสุดท้ายจะทําการยิงอย่างต่อเนื่องจนกว่า ผบ.ร้อย. จะสั่งให้ หยุดยิงหรือหน่วยยิงหมดกระสุน กองร้อยจะได้รับการยิงป้องกันขั้นสุดท้ายจากตอน ค. และอาจจะได้รับการ ยิงป้องกันขั้นสุดท้ายจาก ค. ของกองพัน หรือการสนับสนุนการยิงจาก ป. (๒) บัญชีเป้าหมายของเป้าหมายการยิงเล็งจําลอง ที่ ผบ.ร้อย. และ นยส. ร่วมกันวางแผน จะถูกส่งไปยัง นยส. ของกองพัน นยส.ของกองพันจะรวบรวมและประสานงานกับแผนการยิงของกองร้อยและ จะส่งบัญชีที่รวบรวมไว้คืนให้กับ ผบ.ร้อย. หรือ นยส. หลังจากนั้นบัญชีเป้าหมายจะถูกส่งไปยัง ผบ.มว. และ ผตน. การปฏิบัติเช่นนี้เป็นตัวอย่างของการวางแผนการยิงแบบล่างไปหาบน สําหรับการวางแผนการยิงจาก บนมาล่าง จะอธิบายใน รส. ๗ - ๒๐ (๓) ตอน ค ของกองร้อยจะเข้าที่มั่น ณ ที่ที่สามารถวางการยิงบนเป้าหมายที่ได้รับมอบที่มั่น ควรจะอยู่ลึกไปข้างหลังพอที่ระยะยิงตํ่าสุดของ ค. จะไม่ขัดขวางการทําลายเป้าหมายภายในเขตปฏิบัติการของ กองร้อยหรือที่มั่นรบ การปฏิบัติเช่นนี้จะทําให้ ค. มีส่วนช่วยในการหยุดยั้งการเจาะของข้าศึกเข้ามาในแนวตั้ง รับ หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการตีโต้ตอบ วิธีการดังเดิมที่เคยใช้ได้ผลมาแล้วสําหรับการกําหนดที่ตั้งยิง ค. คือ การวางระยะการยิงของ ค. ๑/๒ ถึง ๒/๓ ไปข้างหน้าของที่มั่นของกองร้อย แต่อย่างไรก็ตามระยะที่ กองร้อยสามารถตรวจการณ์ และพิสูจน์ทราบเป้าหมายได้จะต้องได้รับการพิจารณา ที่ตั้งยิงควรที่จะอยู่ในที่ กําบังและการซ่อนพราง ง) กับระเบิดและเครื่องกีดขวาง ถ้ามีทหารช่างหรือกองร้อยสร้างเครื่องกีดขวางทางยุทธวิธีเพื่อ สนับสนุนแนวความคิดของ ผบ.หน่วย และการเพิ่มประสิทธิภาพของการยิงของกองร้อย เครื่องกีดขวางจะทํา การวางเพื่อทําให้รูปขบวนของข้าศึกเสียระเบียบ บังคับให้ข้าศึกเข้าไปในพื้นที่โจมตีด้วยเครื่องกีดขวางหันเห และตรึงข้าศึกไว้ในพื้นที่ปะทะด้วยเครื่องกีดขวางตรึงและสกัดกั้น (๑) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เครื่องกีดขวางจะถูกใช้ในทางลึกและเครื่องกีดขวางที่มีอยู่จะ ได้รับการเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น กองร้อยจะสร้างเครื่องกีดขวางระวังป้องกันเพื่อเอาชนะการ จู่โจมขั้นสุดท้ายของข้าศึก รูปแบบของเครื่องกีดขวางที่แน่นอนจะหันไปยังทิศทางของภัยคุกคามในการรบ ประชิดที่มีความรุนแรงที่สุด เครื่องกีดขวางต่อต้านบุคคลจะใช้กับทหารราบและเครื่องกีดขวางต่อต้านรถถังจะ ใช้กับกําลังยานเกราะ เช่นเดียวกับเครื่องกีดขวางทางยุทธวิธี เครื่องกีดขวางระวังป้องกันจะถูกกําหนดที่ตั้ง ตามลักษณะภูมิประเทศและการกําบังด้วยการยิง ในระหว่างทัศนวิสัยจํากัด ทหารจะเปลี่ยนที่ตั้งเพื่อความ มั่นใจว่าเครื่องกีดขวางยังคงมีการกําบังด้วยการยิง และจะไม่บังการยิงไปยังช่องเจาะ (๒) เครื่องกีดขวางป้องกันตน ตามปกติจะตั้งอยู่เลยระยะลูกระเบิดขว้าง (๔๐ ถึง ๑๐๐ ม.) จากที่มั่นรบของทหาร ลวดหนามป้องกันตน (รูปที่ ๕ - ๖) อาจจะเป็นเครื่องกีดขวางที่มีความซับซ้อนซึ่งจะให้ การระวังป้องกันรอบตัวในพื้นที่ของ มว. หรืออาจจะเป็นเครื่องกีดขวางลวดหนามแบบธรรมดาในเส้นทางการ เคลื่อนที่ที่คาดว่าทหารราบข้าศึกจะเข้ามาในที่มั่นซุ่มโจมตีของหมู่ สนามทุ่นระเบิดป้องกันตนอาจจะรวมอยู่ใน ลวดหนามป้องกันตนหรือใช้แบบแยกการก็ได้


๑๕๕ รปูท ี่ ๕ - ๖ เครอ ื่ งกีดขวางลวดหนาม (๓) เคร่อืงกดีขวางทางยุทธวธิจีะทาํการวางเพ่อืเพม ิ่ ประสทิธภิาพการยงิของกองรอ้ย ตามปกตลิวดหนามทางยุทธวธิจีะทาํการวางตามแนวยงิป้องกนัขนั้สดุทา้ยของปืนกลฝ่ายเดยีวกนัสนามทุ่น ระเบดิทางยุทธวธิอีาจจะรวมไวใ้นเคร่อืงกดีขวางลวดหนามเหล่าน้ีหรอืใชแ้บบแยกการกไ็ด้ (๔) เคร่อืงกดีขวางลวดหนามเพม ิ่ เตมิจะถูกใชเ้พ่อืแยกลวดหนามทางยุทธวธิีเพ่อืป้องกนั ขา้ศกึจากการตรวจพบอาวุธของฝ่ายเรา (โดยเฉพาะปืนกล) โดยการตดิตามทศิทางของลวดหนามทางยุทธวธิี (๕) เม่อืทาํการวางแผนการวางเคร่อืงกดีขวาง ผบ.รอ้ย. ควรพจิารณาระยะเวลาทต่ีอ้งการ เพ่อืการวางเคร่อืงกดีขวาง สว่นสาํคญัของระบบสง่กาํลงับาํรุง การบรรทุกของทหาร ความเสย่ีงทข่ีา้ศกึจะ ตรวจจบัเคร่อืงกดีขวาง และผลของการสญูเสยีการจโู่จม ๕ - ๗ ความต้องการการระวงัป้องกนักองรอ้ยอาจจะไดร้บักจิเป็นสว่นหน่งึของแผนการระวงัป้องกนัของ กองพนักไ็ด้ซง่ึอาจจะมกีจิของการระวงัป้องกนัเพม ิ่ เตมิ โดยมผีลมาจากแนวความคดิของ ผบ.รอ้ย. สาํหรบั การตงั้รบัของกองรอ้ย กจิน้ีอาจจะมงุ่ ไปยงัหน่วยฝ่ายเดยีวกนั (ฉากกาํบงัการระวงัป้องกนัและยดึรกัษา) ฝ่าย ขา้ศกึ/ภูมปิระเทศ (การลาดตระเวน หรอืเคร่อืงมอืการลาดตระเวนของขา้ศกึหรอืการต่อตา้นการลาดตระเวน) ผบ.รอ้ย. จะจดัทาํแผนการระวงัป้องกนัเพ่อืทาํการปกปิดจากการตรวจการณ์ของขา้ศกึหรอืจากการถูกจ่โูจม การระวงัป้องกนัน้จีะถูกจดัตงั้กอ่นการเคล่อืนยา้ยกองรอ้ยเขา้พน้ืทแ่ีละจะดาํรงความต่อเน่อืงไว้ผบ.รอ้ย. จะ วางแผนน้โีดยใชพ้น้ืฐานจากกจิทไ่ีดร้บัจากกองพนัสถานการณ์ขา้ศกึลกัษณะภูมปิระเทศ และจาก สภาวการณ์ทเ่ีกดิขน้ึแผนจะใหม้าตรการเชงิรุกและเชงิรบัและการตอบโตก้ารลาดตระเวน ก. มาตรการเชงิรุก ประกอบดว้ย ทต่ีรวจการณ์การเฝ้าระวงัและการลาดตระเวน ผบ.รอ้ย. สามารถทจ่ีะกาํหนดใหแ้ต่ละกองรอ้ยมจีาํนวนทต่ีรวจการณ์ทแ่ีน่นอน ถา้ไมไ่ดก้าํหนด ผบ.มว. จะตกลงใจว่า อะไรเป็นความตอ้งการของตน อย่างน้อยควรจะมทีต่ีรวจการณ์จาํนวน ๑ แห่งในแต่ละ มว. ในภูมปิระเทศท่ี รกทบึหรอืในระหว่างทศันวสิยัจาํกดัอาจจะมทีต่ีรวจการณ์จาํนวน ๑ แห่ง สาํหรบัแต่ละหมู่ ๑) ผบ.รอ้ย. สามารถทจ่ีะกาํหนดจาํนวนทหารเพอ่ืทาํการระวงัป้องกนัตลอดเวลาได้จาํนวนของ ทหารจะแตกต่างกนัไปตามสถานการณ์ของขา้ศกึลกัษณะภูมปิระเทศ ทศันวสิยัและหน่วยทต่ีอ้งการพกัผ่อน เพ่อืเป็นแนวทางอย่างน้อย ๑ ใน ๓ ของทหารควรทจ่ีะทาํการเฝ้าระวงัป้องกนัตลอดเวลา


๑๕๖ ๒) เมื่อคาดว่าจะถูกโจมตี กองร้อย ทั้งหมดควรที่จะทําการเตรียมพร้อม แต่อย่างไรก็ ตามไม่ควรที่จะทําการเตรียมพร้อมนานเกินไป ผบ.ร้อย. จะต้องคิดเสมอว่าทหารของตนต้องการการพักผ่อน เพื่อการปฏิบัติการในอนาคต การวางแผนการหลับนอนจะต้องจัดตั้งขึ้นและกําหนดเป็นข้อบังคับ การระวัง ป้องกัน อย่างไรก็ตามไม่สามารถที่จะละทิ้งเพื่อการพักผ่อนได้ ๓) การเฝ้าระวัง จะจัดขึ้นทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็นเพื่อความมั่นใจว่าทหารแต่ละคนได้ทําการ ปรับตนเองให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลงของแสงและเสียง และจะทําการแต่งกาย ติดอาวุธพร้อมที่จะ ปฏิบัติการ การเฝ้าระวังควรที่จะเริ่มก่อนเริ่มแสงทางทหารในตอนเช้าและปฏิบัติต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นแสงทาง ทหาร และควรที่จะเริ่มก่อนคํ่ามืดในตอนเย็นและสิ้นสุดหลังคํ่ามืดแล้ว เวลาในการเริ่มต้นและสิ้นสุดควรที่จะ แตกต่างกัน เพื่อป้องกันการปฏิบัติที่ตายตัว แต่การเฝ้าระวังจะต้องคงไว้ให้นานพอเพื่อให้สําเร็จตามความ มุ่งหมาย ๔) กองพันสามารถที่จะมอบหมายให้กองร้อยจัดส่งหน่วยลาดตระเวนออกไป เพื่อให้การระวัง ป้องกันแก่กองพัน ผบ.ร้อย. สามารถส่งหน่วยลาดตระเวนเพิ่มเติมตามความต้องการของกองพัน เพื่อให้ เป็นไปตามความต้องการของการระวังป้องกัน ผบ.ร้อย. อาจจะจัดส่งหน่วยลาดตระเวนทําการลาดตระเวน ช่องว่างในเขตปฏิบัติการ ช่องว่างระหว่าง มว. ช่องว่างระหว่างกองร้อยและหน่วยข้างเคียง หรือปีกเปิด กองร้อยหนุนอาจจะเป็นหน่วยจัดหน่วยลาดตระเวนนี้ ๕) มว. อาจจะส่งหน่วยลาดตระเวนระวังป้องกันที่คล้ายคลึงกัน หน่วยลาดตระเวนทั้งหมดที่ถูก ส่งออกไป โดยกองร้อยหรือ มว. อาจจะทําการประสานงานกับกองพันก็ได้ (สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการทําการ ลาดตระเวนดูใน รส. ๗ - ๘) ข. มาตรการเชิงรับ มาตรการนี้ประกอบด้วย การซ่อนพราง การควบคุมการเคลื่อนที่ วินัยการใช้แสง และเสียง ขั้นตอนการใช้วิทยุโทรศัพท์ที่เหมาะสม และการใช้อุปกรณ์เซ็นเซอร์ภาคพื้นดิน เครื่องตรวจจับ ระยะไกล สามารถที่จะใช้เพื่อให้การเตือนการเคลื่อนที่เข้ามาของข้าศึก อาวุธจรวดโทว์และพลยิงอาวุธจรวดด รากอน ด้วยการใช้กล้องในเวลากลางวันและกล้องในเวลากลางคืน สามารถที่จะเพิ่มเติมความพยายามใน การทําการระวังป้องกันทั้งกลางวันและกลางคืน กองร้อยควรที่จะใช้เครื่องช่วยมองเห็นในเวลากลางคืน สําหรับการเฝ้าตรวจ ๑) เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพของการคุ้มครอง ผบ.ร้อย. อาจจะระบุ มว. เพื่อทําการกําบัง พื้นที่เฉพาะด้วยอุปกรณ์การลาดตระเวนเฝ้าตรวจและค้นหาเป้าหมายเฉพาะ (เครื่องช่วยมองเห็นในเวลา กลางคืน เครื่องเล็งตรวจจับปฏิกิริยาความร้อน ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าของ มว.) ผบ.ร้อย. อาจจะระบุจํานวน เครื่องช่วยมองเห็นในเวลากลางคืนที่ต้องการจะใช้ได้ด้วย (ตัวอย่างเช่น ครึ่งหนึ่งของทหารที่ทําการระวัง ป้องกันจะใช้เครื่องช่วยมองเห็นในเวลากลางคืน) ๒) ผังภาพร่างเขตปฏิบัติการ ควรที่จะระบุที่ตั้งของอุปกรณ์ การลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และค้นหา เป้าหมายที่สําคัญเพื่อประกอบอุปกรณ์ตรวจจับปฏิกิริยาความร้อนทั้งหมด ( AN/PAS - 7 กล้องเล็งในเวลา กลางคืนของอาวุธจรวดดรากอนและอาวุธจรวดโทว์ และระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าของ มว. ) ค. การต่อต้านการลาดตระเวน การปฏิบัติการนี้เป็นการกําหนดเงื่อนไขในการไม่ยอมให้หน่วย ลาดตระเวนของข้าศึกทําการหาข่าวสารที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น การเตรียมการของฝ่ายเราโดยการทําลายการ ลาดตระเวนของข้าศึกหรือโดยจากการลวง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่หน่วยจะมีเสรีในการป้องกันข่าวสารทั้งหมด ตามพื้นฐานของการคาดการณ์การปฏิบัติการลาดตระเวนของข้าศึก ผบ.ร้อย. จะตกลงใจว่าข่าวสาร และที่ตั้ง อะไรที่จะต้องทําการป้องกันและยังจะต้องพิจารณาด้วยว่าข่าวสารอะไรที่จะทําให้ข้าศึกปฏิบัติตามแนวทางที่ ผบ.ร้อย. ต้องการให้ข้าศึกปฏิบัติ (เช่น การใช้หน่วยก่อนกําหนด การใช้หน่วยช้าเกินไป โจมตีผิดที่หมาย หรือ เคลื่อนที่เข้าไปในพื้นที่สังหาร) ผบ.ร้อย. ควรพิจารณาลําดับความเร่งด่วนสําหรับความพยายามตอบโต้การ ลาดตระเวน และเพ่งเล็งไปยังความพยายามของตนในการป้องกันข่าวสารที่ข้าศึกจะได้รับ


๑๕๗ ๑) การวางแผนการต่อต้านการลาดตระเวนของกองร้อยจะรวมเอาไว้ในแนวความคิดในการปฏิบัติ และการประสานงานร่วมกับแผนของกองพัน บางครั้งกองร้อยอาจจะเป็นกําลังต่อต้านการลาดตระเวนสําหรับ กองพันก็ได้(สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ดูใน รส. ๗ - ๒๐) ๒) ตัวอย่างของการใช้การต่อต้านการลาดตระเวน คือการตั้งรับตามแนวลํานํ้าต่อกําลังยานยนต์ ของข้าศึก ผบ.ร้อย. จะพิจารณาความสําคัญในการขัดขวางมิให้ข้าศึกรู้ตําบลที่จะข้ามตลอดแนวลํานํ้า หลังจาก นั้นจะเพ่งเล็งไปยังความพยายามในการต่อต้านการลาดตระเวนบริเวณตําบลที่ข้ามได้นั้น ผบ.ร้อย. จะใช้การ ซุ่มโจมตี ทุ่นระเบิด เครื่องกีดขวาง ที่มั่นรบลวง การลาดตระเวนระวังป้องกัน ที่ตรวจการณ์ การยิงเล็งจําลอง การพราง การแสดงลวง และมาตรการอื่น ๆ เพื่อทําลายหรือลวงหน่วยลาดตระเวนของข้าศึก ๓) แนวความคิดในการตั้งรับจะต้องระบุการต่อต้านการลาดตระเวนรบของข้าศึก ถ้าคําสั่งของกอง พันไม่ให้รายละเอียดที่เพียงพอ ผบ.ร้อย.อวบ. จะต้องตกลงใจว่าจะทําอย่างไรเพื่อเอาชนะความพยายามในการ ลาดตระเวนของข้าศึก มีวิธีที่จะเข้าถึงภารกิจ ๒ วิธีดังนี้ ก) วิธีที่ ๑ คือการพิสูจน์ทราบและทําลายเครื่องมือในการลาดตระเวนทั้งหมดก่อนที่เครื่องมือ เหล่านี้จะเข้ามาถึงพื้นที่การรบหลักของกองร้อย สิ่งนี้อาจจะมีความยากมากและอาจจะลดโอกาสในการเพิ่ม การจู่โจมต่อกําลังหลักของข้าศึก การรบกับการต่อต้านการลาดตระเวนรบในลักษณะนี้มีความต้องการ (๑) เอกภาพในการบังคับบัญชา เครื่องมือ/หน่วยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความพยายามนี้ จะต้องควบคุมโดย ผบ.หน่วย เพียงคนเดียว (๒) แนวความคิดในการวางแผนที่ดี จะต้องประกอบด้วยการกําหนดกิจที่ชัดเจน การจัด เฉพาะกิจที่มีประสิทธิภาพ และการวางแผนการยิงที่มีความละเอียด และการสนับสนุนของทหารช่าง (๓) การผสมผสานของผู้ค้นหาและผู้ทําลายจะต้องมอบภารกิจให้กับหน่วยหนึ่ง เพื่อค้นหา เครื่องมือในการลาดตระเวนของข้าศึก เมื่อพบแล้วทําการรายงาน/ร้องขอการยิง หน่วยอื่น ๆ จะมีหน้าที่ รับผิดชอบสําหรับการทําลายหน่วยของข้าศึก ซึ่งอาจมีความต้องการเป็นหน่วยเคลื่อนที่เพื่อการคุ้มครองพื้นที่ ทั้งหมด (๔) แผนการถอนตัว เส้นทางมาทางข้างหลังหรือการย้ายที่มั่นของหน่วยต่อต้านการ ลาดตระเวนจะต้องได้รับการวางแผนและประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เวลาในการปฏิบัติสําหรับ เหตุการณ์นี้จะมีความสําคัญยิ่ง และตามปกติจะขึ้นอยู่กับความสําเร็จในการพิสูจน์ทราบกําลังโจมตีของข้าศึก ล่วงหน้า ข) วิธีที่ ๒ คือการให้หน่วยลาดตระเวนเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ของฝ่ายเราไปเพื่อให้บรรลุการจู่โจม ต่อกําลังหลักของข้าศึก ทางเลือกนี้จําเป็นต้องได้รับการยินยอมจากกองพัน และจะต้องใช้การพรางและกําบัง อย่างสูงสุด ความหลากหลายของเทคนิคนี้ จะให้เครื่องมือในการลาดตระเวนของข้าศึกเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ของ กองร้อยและทําการทําลายส่วนหลังของข้าศึก ถึงแม้ว่ากําลังหลักของข้าศึกจะมีการเตรียมพร้อมก็ตาม แต่ก็ไม่ มีข่าวสารที่ดีในแผนการตั้งรับของฝ่ายเรา ง. การระวังป้องกันเมื่อทัศนวิสัยจํากัด ในระหว่างทัศนวิสัยจํากัด ผบ.ร้อย. จะต้องเพิ่มมาตรการระวัง ป้องกันเพื่อความมั่นใจว่ากองร้อยจะไม่ถูกจู่โจมโดยข้าศึก ซึ่ง ผบ.ร้อย. สามารถที่จะปฏิบัติดังนี้ - เพิ่มจํานวนที่ตรวจการณ์ และหน่วยลาดตระเวน - ยึดครองที่มั่นเพิ่มเติม ถ้าที่มั่นเพิ่มเติมจะให้การคุ้มครองเครื่องกีดขวางได้ดีกว่าและความสามารถ ในการสนับสนุนเส้นทางการเคลื่อนที่เมื่อทัศนวิสัยจํากัด - การวางพลุสะดุดและอุปกรณ์แจ้งเตือนล่วงหน้าอื่น ๆ - การใช้กล้องตรวจการณ์ปฏิกิริยาความร้อนในเวลากลางคืน/เครื่องช่วยมองเห็นในเวลากลางคืน


๑๕๘ - การใช้ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าของ มว. - มาตรการควบคุมการปรับการยิง - เพิ่มจํานวนทหารในการระวังป้องกันในแต่ละที่มั่น - ดํารงวินัยในการใช้เสียง/แสง - จํากัดการเคลื่อนย้าย ๑) ในเวลากลางคืน ผบ.ร้อย. อาจจะวางแผนสําหรับการส่องสว่าง (โดย ป., ค., พลุสัญญาณมือถือ และลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กยาว) จากที่มั่นของกองร้อยเพื่อเปิดเผยการโจมตีของกําลังข้าศึก ถ้ากองร้อยมี ปีกเปิด ผบ.ร้อย. จะวางแผนสําหรับการส่องสว่าง ณ ที่นั้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แผนทั้งหมดสําหรับการใช้ การส่องสว่างจะต้องประสานกับหน่วยข้างเคียงและจะต้องได้รับอนุมัติโดยกองพัน ๒) ผบ.ร้อย. จะต้องไม่ยิงส่องสว่างหรือให้ทหารของตนเริ่มการยิงเล็งตรงเร็วเกินไป ข้าศึกอาจใช้ชุด ลาดตระเวนขนาดเล็กเพื่อหยั่งการตั้งรับของกองร้อยเพื่อหาจุดอ่อนหรือเพื่อเป็นสาเหตุให้ทหารเผยที่มั่นโดย การเริ่มยิง ถ้าฝ่ายเราตรวจพบหน่วยลาดตระเวนของข้าศึก หน่วยควรที่จะใช้เครื่องยิงลูกระเบิดจากปืนเล็กยาว เคลย์โม หรือการยิงเล็งจําลองเพื่อโจมตีข้าศึก ห้ามทําการยิงโดยใช้อาวุธเล็งยิงตรง โดยเฉพาะอาวุธประจํา หน่วยจนกว่าข้าศึกจะทําการโจมตี เมื่อข้าศึกไม่ทําการโจมตี ผบ.ร้อย อาจจะขอการยิงส่องสว่าง ถ้ากองพัน อนุมัติและกองร้อยจะทําการป้องกันเช่นเดียวกับในเวลากลางวัน ๕ - ๘ การใช้กองหนุน กองร้อยอาจจะเป็นกองหนุนของกองพันหรือกรม เมื่อกองร้อยดํารงการเป็นกองหนุน ผบ.พัน. อาจระบุให้ ผบ.ร้อย. ไม่ใช้กองหนุนของตนถ้าไม่ได้รับอนุมัติ การอธิบายในกรณีนี้จะเป็นการใช้ กองหนุนซึ่งกําหนดและควบคุมโดย ผบ.ร้อย. ก. ในระดับกองร้อยที่เท่ากัน ผบ.ร้อย. ควรที่จะมีความพยายามอย่างที่สุดเพื่อรักษากองหนุน แม้ว่าจะ เป็นเพียงหน่วยระดับหมู่ กองหนุนควรที่จะใช้ในจุดวิกฤติในการรบ ซึ่งอาจจะใช้เพื่อการทําลายข้าศึกให้สิ้นหรือ สําหรับการปฏิบัติที่แตกหักอื่น ๆ ข. ขนาดของกองหนุนอาจจะมีขนาดใหญ่เท่ากับ มว.หรือ เล็กเท่ากับหมู่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความอ่อนตัว ตามความต้องการของ ผบ.ร้อย. เพื่อตอบสนองสถานการณ์ข้าศึก ถ้าข้าศึกมีทางเลือกไม่มากนักภายในพื้นที่ ปฏิบัติการของกองร้อย ๑ หรือ ๒ หมู่ อาจจะเพียงพอสําหรับการเป็นกองหนุน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหนทาง ปฏิบัติที่ข้าศึกน่าจะปฏิบัติมากที่สุดยากแก่การคาดการณ์และข้าศึกมีเส้นทางการเคลื่อนที่มาก ผบ.ร้อย. อาจจะ ตกลงใจทําการรักษาทั้ง มว. เป็นกองหนุนก็ได้ ในบางสถานการณ์อาจมีความต้องการที่จะใช้กําลังทําการ เตรียมปฏิบัติหน้าที่เป็นกองหนุนของกองร้อย ดังนั้นประมาณสถานการณ์ของ ผบ.ร้อย. จะระบุว่า มว.ใดมี ภารกิจที่มีอันตรายน้อยที่สุด มว.นี้จะได้รับกิจในการเตรียมเป็นกองหนุนของกองร้อยและจะให้ลําดับความ เร่งด่วนของภารกิจสําหรับความมุ่งหมายของการวางแผนเป็นลําดับต้น ค. กองหนุนจะได้รับมอบที่มั่นรบหรือที่รวมพลใกล้กับสถานที่ที่จะใช้ปฏิบัติการ ซึ่งควรที่จะตั้งอยู่ ณ ที่ สามารถให้การสนับสนุนความพยายามหลักและสําเร็จตามภารกิจที่ได้เตรียมไว้ แต่อย่างไรก็ตามควรจะเป็น สถานที่ที่มีการกําบังและการซ่อนพราง ซึ่งทหารจะไม่ถูกนํามาใช้จนกว่าจะมีความจําเป็นและจะต้องบํารุงขวัญ ทั้งทางจิตใจและร่างกายจนกว่าจะนําเข้าปฏิบัติภารกิจ ตัวอย่างของภารกิจที่เตรียมไว้ที่ได้มอบหมายให้ ผบ.หน่วยกองหนุน คือในลําดับความเร่งด่วน เตรียมทําการสกัดกั้นการเข้าตีโอบทางทิศตะวันตกเพื่อทําการ ป้องกันปีกของกองร้อย, ทําลายกําลังข้าศึกในพื้นที่โจมตีเขียว เพื่อป้องกันการเจาะในแนวขั้นนํ้าเงิน และเข้า ยึดครองที่มั่นรบ ๕ เพื่อทําลายข้าศึกที่พยายามเข้าตีโอบ มว.๓ ถ้าไม่มีการกําหนดภารกิจการตามนี้ ผบ.หน่วยกองหนุนจะเริ่มแผนของตนเองตามพื้นฐานของการประมาณสถานการณ์ของตนเอง ง. กองหนุนสามารถที่จะช่วยเหลือ ผบ.ร้อย. ในกิจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจการตั้งรับหลัก เช่น การส่งกําลังเพิ่มเติมหรือการลาดตระเวน แต่อย่างไรก็ตาม ผบ.ร้อย. จะต้องมั่นใจว่ากองหนุนมีการเตรียมการ


๑๕๙ และเวลาในการซกัซอ้มเพยีงพอสาํหรบัภารกจิทอ่ีาจเกดิขน้ึและจะมใีหโ้ดยทนัทเีม่อืมคีวามตอ้งการ กองหนุน สามารถทจ่ีะปฏบิตัหิน้าทใ่ีนกจิทว่ีกิฤตอิ่นืๆ สาํหรบัผบ.รอ้ย.ได้สง ิ่ ต่อไปน้ีจะเป็นบางสว่นของกจิทป่ีฏบิตัเิป็น ประจาํซง่ึจะไดร้บัมอบตามลาํดบัความเรง่ด่วนเสมอ ความมุ่งหมายของแต่ละกจิจะตอ้งมกีารระบุอย่างชดัเจน ๑) การสกดักนั้การเจาะ กองหนุนจะสกดักนั้การเจาะของขา้ศกึ โดยการยงิหรอืโดยการดาํเนิน กลยุทธ์(รปูท่ี๕-๗) มว. ทท่ีาํการป้องกนัจะช่วยเหลอืโดยการทาํการยงิขา้มปีกของการเจาะเม่อืเป็นไปได้เม่อื มว. หนุนทาํการสกดักนั้การเจาะ กองหนุนของกองพนัอาจทาํการตโีตต้อบเพ่อืทาํลายกาํลงัการเจาะ การ ยงิเลง็จาํลองจะชว่ยสกดักนั้และยบัยงั้การเจาะ รปูท ี่ ๕ - ๗ กองหนุนสกดักนั้การเจาะ


๑๖๐ ๒) ใหค้วามปลอดภยัต่อปีกและดา้นหลงัของกองรอ้ย กองหนุนจดัเตรยีมทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิเพ่อืความ ปลอดภยัต่อปีกและดา้นหลงัของกองรอ้ย (รปูท่ี ๕ - ๘) ผบ.รอ้ย.จะเลอืกว่าเสน้ทางใดทจ่ีะตอ้งทาํการระวงั ป้องกนัทม่ีนั่ของกองหนุนจะตอ้งสมัพนัธก์บัทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิของ มว. ในแนวหน้าและหน่วยขา้งเคยีง กองหนุน อาจจะตอ้งเขา้ยดึครองทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิเพ่อืป้องกนัปีก เม่อืเขตปฏบิตักิารของกองรอ้ยขา้งเคยีงถูกเจาะ รปูท ี่ ๕ - ๘ กองหนุนระวงัป้องกนั ปีกและหลงัของกองรอ้ย ๓) ใหก้ารสนบัสนุน มว.ในแนวหน้าดว้ยการยงิสาํหรบัภารกจิน้ีกองหนุนจะอยใู่นทม่ีนั่ทส่ีามารถทาํ การยงิไปยงัพน้ืทท่ีไ่ีมไ่ดย้ดึครองไวร้ะหว่างหมวดในแนวหน้าหมวดทางปีกและทางดา้นหลงั (รปูท่ี๕ - ๙) ท่ี มนั่ของกองหนุนจะตอ้งตงั้อยใู่กลพ้อสมควรกบัทม่ีนั่หลกัของ มว. ในแนวหน้า เพ่อืทจ่ีะสามารถทาํการยงิไปยงั ขา้ศกึทผ่ี่านเขา้มาในทม่ีนั่นนั้ตามปกตกิองหนุนจะถูกเกบ็ไวใ้หค้งอยแู่ละจะสงั่การใหเ้คล่อืนยา้ยโดย ผบ.รอ้ย. เม่อืสถานการณ์บงัคบั


๑๖๑ รปูท ี่ ๕ - ๙ กองหนุนสนับสนุน มว.ในแนวหน้า ๔) การตโีตต้อบ เป้าหมายของการตโีตต้อบโดยปกตแิลว้จะเป็นการทาํลายขา้ศกึใหห้มดสน้ิซง่ึเป็น การขยายผลแหง่ความสาํเรจ็มใิช่ความลม้เหลว (รปูท่ี๕ - ๑๐) ผบ.รอ้ย. จะวางแผนสาํหรบัการตโีตต้อบใน ๑ หรอืมากกวา่ของการเจาะทม่ีคีวามเป็นไปได้ ในแต่ละแผนการโจมตทีส่ีมบรูณ์จะประกอบดว้ยเป้าหมาย ชวั่คราวและทศิทางการโจมตีแผนอาจจะประกอบดว้ยแนวออกตีเสน้ทางไปยงัแนวออกตีฐานออกตีเขต จาํกดัการรุก หรอืแนวจาํกดัการยงิพรอ้มดว้ย มว. ทท่ีาํการตงั้รบัจากเวลาทม่ีใีนแต่ละแผนของการตี โตต้อบ ผบ.หน่วย จะทาํการซกัซอ้มตามลาํดบัความเร่งด่วน อย่างน้อยการซอ้มแหง้ (DRY RUN) หรอืการ เดนิผ่านพน้ืทท่ีจ่ีะทาํการโจมตีซง่ึจะเป็นการชว่ยการประสานสอดคลอ้งกบัการปฏบิตัขิอง มว.ในแนวหน้า กองหนุนจะปฏบิตักิจิอ่นืๆ จนกระทงั่ผบ.รอ้ย. ใหค้าํสงั่ตโีตต้อบ เม่อืเรม ิ่ ขน้ึกองหนุนจะกลายเป็นความ พยายามหลกัและไดร้บัความเร่งด่วนจากเคร่อืงมอืทุกชนิดทม่ีใีหก้ารสนบัสนุน


๑๖๒ รปูท ี่ ๕ - ๑๐ กองหนุนตีโต้ตอบ ๕ - ๙ ข้อพิจารณาในการส่งกาํลงับาํรงุผบ.รอ้ย. จะเลอืกทต่ีงั้ทวั่ ไปสาํหรบัขบวนสมัภาระรบของกองรอ้ย ตําบลรวบรวมผบู้าดเจบ็สญูเสยีของกองรอ้ยและตําบลรวบรวมเชลยศกึ ก. ขบวนสมัภาระของกองรอ้ยตามปกตแิลว้จะแยกออกเป็นสว่น ๆ บางสว่นจะอย่รูว่มกบักองรอ้ย และ สว่นอ่นืๆ จะอย่รู่วมกบัขบวนสมัภาระรบของกองพนัหากเพม ิ่ เตมิดว้ยเคร่อืงมอืทางการแพทยแ์ละการขนสง่ จากกองพนัจะมเีพยีงเฉพาะยานพาหนะ กาํลงัพล และสง ิ่ อุปกรณ์ทม่ีคีวามจาํเป็นต่อการสนบัสนุนกองรอ้ยโดย ทนัทีทถ่ีูกสง่ ไปขา้งหน้าพรอ้มกบักองรอ้ยสว่นหน้าขบวนสมัภาระของกองรอ้ยควรทจ่ีะอยใู่นทก่ีาํบงั (ในทม่ีนั่ ทม่ีกีารกาํบงัและการซ่อนพราง) ดา้นหลงัของกองรอ้ย ข. ยุทโธปกรณ์ทไ่ีมม่คีวามจาํเป็นในทุกสถานการณ์เช่น เป้สนาม เคร่อืงนอน และสง ิ่ ของสว่นตวัควร ทจ่ีะเกบ็รกัษาไวใ้นขบวนสมัภาระพกัของกองพนัและนําไปยงัขา้งหน้าเม่อืมคีวามจาํเป็นเท่านนั้ ค. ตําบลรวบรวมผบู้าดเจบ็สญูเสยีของกองรอ้ยและตําบลรวบรวมเชลยศกึตามปกตจิะอย่ใูนทก่ีาํบงัทาง ดา้นหลงัของกองรอ้ย ผบ.รอ้ย. ควรทจ่ีะพจิารณาการเคล่อืนยา้ยผบู้าดเจบ็สญูเสยีไปขา้งหลงั โดยทวั่ ไปจะ เคล่อืนทไ่ีปตามเสน้ทางในภมูปิระเทศ เพ่อืเลอืกตําบลรวบรวมผบู้าดเจบ็สญูเสยี


๑๖๓ ๕ - ๑๐ ท ี่ ตงั้ท ี่ บงัคบัการ ผบ.รอ้ย. จะกาํหนด ทต่ีงั้ทบ่ีงัคบัการในทท่ีส่ีามารถควบคุมการรบได้ (รปูท่ี๕ - ๑๑) ผบ.รอ้ย. จะตอ้งพจิารณาการระวงัป้องกนัและความตอ้งการการตดิต่อสอ่ืสารเมอ่ืกาํหนดทต่ีงั้ท่ี บงัคบัการแลว้ (ดใูนบทท่ี๒) ก. ทบ่ีงัคบัการควรจะอย่ใูนทก่ีาํบงัและการซ่อนพรางจากการตรวจการณ์ทางอากาศ และภาคพน้ืดนิ ผบ.รอ้ย. จะตอ้งเลอืกเสน้ทางทม่ีกีารกาํบงัและการซ่อนพรางทงั้เขา้และออกจากทบ่ีงัคบัการดว้ย ตามปกตทิ่ี บงัคบัการจะใหก้ารระวงัป้องกนัในตวัเองโดยใชก้าํลงัพลในกองบงัคบัการ แต่อย่างไรกต็ามการระวงัป้องกนั เพม ิ่ เตมิอาจจะไดร้บัจากการกาํหนดทต่ีงั้ทบ่ีงัคบัการใกลก้บักองหนุน ทม่ีนั่รบจะจดัเตรยีมไวใ้นทบ่ีงัคบัการ ดว้ย ข. กองรอ้ยอาจจะจดัตงั้ทบ่ีงัคบัการสาํรองเพ่อืรบัหน้าทบ่ีงัคบับญัชากองรอ้ย ถา้ทบ่ีงัคบัการถูกทาํลาย หรอืหมดประสทิธภิาพ โดยปกตริอง ผบ.รอ้ย. จ่ากองรอ้ยและถา้เป็นไปไดเ้สนารกัษ์อาวโุสจะอย่ ูณ ท่ี บงัคบัการน้ีซง่ึอาจจะกาํหนดเป็นตําบลรวบรวมผบู้าดเจบ็สญูเสยีดว้ย ในกรณีน้ีทก่ีาํบงัปิดของทบ่ีงัคบัการ สาํรองควรทจ่ีะมขีนาดใหญ่พอเพ่อืใหก้ารกาํบงัเหนือศรีษะสาํหรบัผบู้าดเจบ็สญูเสยี รปูท ี่ ๕ - ๑๑ ท ี่ บงัคบัการ


๑๖๔ ตอนที่ ๓ การปฏิบัติการยุทธ์ ในตอนนี้จะอธิบายเกี่ยวกับลําดับขั้นของการปฏิบัติการซึ่งตามปกติ ร้อย.ร. จะปฏิบัติตามภารกิจการ ตั้งรับ กองร้อยจะทําการลาดตระเวนก่อนเข้ายึดครองพื้นที่ หน่วยจะเริ่มเตรียมการโดยทันทีให้เป็นไปตาม รายละเอียดของลําดับความเร่งด่วนของงาน การใช้เวลาโดยเฉพาะชั่วโมงในเวลากลางวัน จะมีความสําคัญยิ่ง ต่อความสําเร็จในการตั้งรับ ทันทีที่ข้าศึกโจมตีการทําการรบจะเป็นไปตามแนวความคิดของ ผบ.ร้อย. ซึ่งอาจ ประกอบด้วยการตีโต้ตอบที่เป็นเช่นเดียวกับการปฏิบัติการขั้นแตกหัก กองร้อยจะทําการจัดกําลังเพิ่มเติม ตลอดเวลาในการทําการรบเพื่อรักษาประสิทธิภาพของหน่วย ๕ - ๑๑ การลาดตระเวน ก่อนการเข้ายึดครองที่มั่นตั้งรับ ตามปกติ ผบ.ร้อย. จะหยุดกองร้อยใกล้กับที่มั่น จัดตั้งการระวังป้องกันเฉพาะตําบล และเรียก ผบ.มว. ของตนสําหรับการลาดตระเวนที่มั่น การลาดตระเวน อาจจะดําเนินการในหลายหนทางที่แตกต่างกัน ผบ.ร้อย. อาจจะทําการลาดตระเวนที่มั่นตั้งรับก่อน โดยไม่นํา ผบ.มว. ไปด้วย หลังจากนั้นจะทําการลาดตระเวนร่วมกับ ผบ.มว. เวลาทีมีอยู่จะมีผลกระทบที่สําคัญกับการ ดําเนินการลาดตระเวน ในกรณีที่มีเวลาน้อย การลาดตระเวนบนแผนที่อาจจะเป็นเพียงวิธีการเดียวที่มีให้กับ ผบ.ร้อย. ก. เช่นเดียวกับการปฏิบัติการทางยุทธวิธีอื่น ๆ แผนการลาดตระเวนจะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการยืนยัน หรือปฏิเสธ แนวความคิดสําหรับการตั้งรับความต้องการเฉพาะสําหรับการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย จะต้อง พิสูจน์ทราบ และจัดลําดับความเร่งด่วน ถ้าการดําเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผบ.ร้อย. อาจจะรวม ผบ. หน่วย หลักและวางแผนการลาดตระเวนหาข่าวหรือ ผบ.ร้อย. อาจมอบภารกิจให้แก่หน่วยรองแต่ละหน่วย ข. ตามปกติ ผบ.หน่วยรองหลักที่เกี่ยวข้องกับการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย ประกอบด้วย ผบ.ร้อย. นยส. ผบ.มว. ผบ.ตอน และ ผบ.หน่วย/อาวุธที่ขึ้นสมทบ นอกจาก ผบ.หน่วยหลักแล้วกําลังพลเพิ่มเติมจะมี ความต้องการเพื่อให้การติดต่อสื่อสารและการระวังป้องกัน ขนาดของการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย จะขึ้นอยู่ กับแผนการดําเนินการลาดตระเวน ความต้องการสําหรับการระวังป้องกัน ความเร็ว และการรักษาความลับ รวมทั้งแผนการเข้ายึดครองสําหรับการตั้งรับ ค. ในระหว่างการลาดตระเวน ผบ.ร้อย. จะพิจารณาเส้นทางการเคลื่อนที่ของข้าศึก ที่มั่นหลัก ที่มั่นรอง และที่มั่นเพิ่มเติมสําหรับ มว. และอาวุธ ห้วงอับกระสุนและอับสายตาด้านหน้าของที่มั่น ที่ตั้งสําหรับที่บังคับ การกองร้อย ที่ตรวจการณ์ ขบวนสัมภาระ และตําบลรวบรวมเชลยศึก ๕ - ๑๒ การเข้ายึดครองพื้นที่ตั้งรับ ผบ.ร้อย. จะต้องวางแผนการเข้ายึดครองพื้นที่ตั้งรับ ซึ่งจะเป็นการ เคลื่อนย้ายกองร้อยจากที่ตั้งปัจจุบันไปยังพื้นที่ที่ได้รับมอบสําหรับการตั้งรับ แผนการเข้ายึดครองสําหรับ เทคนิคการตั้งรับต่าง ๆ อาจจะเป็นระเบียบปฏิบัติประจําก็ได้ (ดูใน ข้อ ๕ - ๑๒ ข) แผนจะต้องใช้พื้นฐานของ แนวความคิดในการตั้งรับ ซึ่งอาจประกอบด้วยเส้นทางที่ไม่ยุ่งยาก คําสั่งการเคลื่อนย้าย และจุดแยกของ มว./ตอน หรืออาจจะเป็นแผนในรายละเอียด ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย การบิน เข้ามาของ ฮ. ในพื้นที่ของกองร้อยและการปรับเปลี่ยนภารกิจการตั้งรับทันทีทันใด ก. แผนการยึดครองทั้งหมดควรที่จะสนับสนุนแนวความคิดในการตั้งรับอย่างมีเหตุผล และให้การ ระวังป้องกันให้แก่กําลังทหาร ซึ่งจะมีความได้เปรียบในเรื่องการกําบัง การซ่อนพราง และห้วงเวลาที่ทัศนวิสัย จํากัด รวมทั้งการใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสําหรับการเตรียมการในการตั้งรับ ข. ในการยึดครองที่มั่นรบของกองร้อย กองร้อยจะหยุดหน่วยในพื้นที่ที่มีการกําบังและการซ่อนพราง บริเวณด้านหลังของที่มั่นรบและทําการจัดตั้งการระวังป้องกันเฉพาะตําบล หลังจากนั้นการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วยจะเริ่มดําเนินการ ส่วนระวังป้องกันและพลนําทางอาจจะให้อยู่ในที่มั่นในระหว่างที่ ผบ.หน่วยกลับ


๑๖๕ มายังกองร้อย หลังจากนั้นกองร้อยจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นหน่วยหรือเป็น มว./ตอน เพื่อเข้ายึดครอง ที่มั่นของตน ณ สถานที่ที่กําหนด ผบ.ร้อย. จะมอบการควบคุมของ มว. ให้กับ ผบ.มว. ซึ่งจะเป็นผู้นํา มว. ของตนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเข้ายึดครองที่มั่นของตน (รส.๗-๘) ผบ.มว. จะปฏิบัติตามลําดับความเร่งด่วน ของงานที่จัดทําขึ้นโดย ผบ.ร้อย. ในการเตรียมที่มั่นตั้งรับของตน ๕ - ๑๓ ลําดับความเรงด่ ่วนของงาน การจัดลําดับความเร่งด่วนของงานจะเป็นวิธีการในการควบคุมการ เตรียมการและการดําเนินการตั้งรับ ซึ่งควรที่จะระบุอยู่ในระเบียบปฏิบัติประจําและจะรวมหน้าที่ของแต่ละ บุคคลไว้ด้วย ผบ.ร้อย. จะเปลี่ยนแปลงลําดับความเร่งด่วนตามพื้นฐานของสถานการณ์ ผบ.หน่วยในกองร้อย ควรที่จะมีความเร่งด่วนเฉพาะของงานตามหน้าที่ในตําแหน่งของตน ก. ถึงแม้ว่าจะมีการเรียงลําดับของงานตามบัญชีก็ตาม งานหลาย ๆ งานอาจจะปฏิบัติในเวลาเดียวกัน ก็ได้ ตัวอย่างของลําดับความเร่งด่วนของงานตามลําดับ มีดังนี้ ๑) จัดตั้งการปฏิบัติการลาดตระเวนและการระวังป้องกันของกองร้อย ๒) วางการระวังป้องกันเฉพาะบริเวณ ๓) กําหนดที่ตั้งของอาวุธจรวดโทว์ ดรากอน ปืนกล และกําลังทหารและกําหนดเขตการยิง ๔) กําหนดที่ตั้งเครื่องมืออื่น ๆ (ที่บังคับการ ค. ยานพาหนะ) ๕) กําหนดแนวยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย/การยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย ๖) ถากถางพื้นการยิง และจัดเตรียมแผ่นจดระยะ/ร่างภาพเขตปฏิบัติการ ๗) ปรับการยิงป้องกันขั้นสุดท้ายของอาวุธยิงเล็งจําลอง ศูนย์อํานวยการยิงของหน่วยยิงควร กําหนดพื้นที่ปลอดหน่วยทหารฝ่ายเดียวกันก่อนทําการปรับการยิง ๘) จัดเตรียมที่มั่นรบ ๙) วางการติดต่อสื่อสารทางสาย ถ้าสามารถทําได้ ๑๐) กําหนดที่ตั้งเครื่องกีดขวางและทุ่นระเบิด ๑๑) กําหนดจุด/ปรับปรุงจุด สําหรับจุดอ้างเป้าหมายและกําหนดมาตรการควบคุมการยิงเล็งตรง ๑๒) ปรับปรุงที่มั่นรบหลัก เช่นที่กําบังเหนือศีรษะ ๑๓) เตรียมที่มั่นสํารองและที่มั่นเพิ่มเติม ๑๔) กําหนดแผนการนอน/การพักผ่อน ๑๕) ทําการลาดตระเวน ๑๖) ซักซ้อมการปะทะและการผละออกจากการปะทะ ๑๗) ปรับที่มั่น/มาตรการควบคุมตามต้องการ ๑๘) สะสมกระสุน อาหาร และนํ้า ๑๙) ขุดคูติดต่อระหว่างที่มั่น ๒๐) ลาดตระเวนเส้นทาง ๒๑) ปรับปรุงที่มั่นต่อไป ข. ลําดับความเร่งด่วนประจําสําหรับหน้าที่ตามตําแหน่ง มีดังนี้ ๑) ผบ.ร้อย. หน้าที่ส่วนใหญ่สามารถที่จะมอบหน้าที่ให้หน่วยรองทําแทนได้ แต่ ผบ.ร้อย. จะต้องมั่นใจ ว่างานต่าง ๆ จะต้องแล้วเสร็จ ผบ.ร้อย. จะต้อง ก) กําหนดการระวังเฉพาะตําบล จัดตั้งที่ตรวจการณ์ ถ้ายังไม่ได้ดําเนินการและกําหนดเขตของ กองร้อย


๑๖๖ ข) การดาํเนินการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย ร่วมกบัผบ.มว. และ ผบ.ตอน จะยนืยนัหรอืปฏเิสธ เหตุผลหรอืสมมุตฐิานทส่ีาํคญัจากการประมาณสถานการณ์กาํหนดทม่ีนั่หลกัทม่ีนั่สาํรอง และทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิ สาํหรบัมว. ตอน และสว่นสนบัสนุนต่าง ๆ กาํหนดความตอ้งการให้มว.เพ่อืดาํเนินการประสานงาน กาํหนด พน้ืทส่ีงัหาร พน้ืทโ่ีจมตีฉากขดัขวางหลกัและทต่ีงั้ทบ่ีงัคบัการทวั่ ไป กาํหนดทต่ีงั้ของอาวุธหลกั ค) ตรวจสอบทบ่ีงัคบัการและบรรยายสรุปใหก้บัจ่ากองรอ้ย/ รอง ผบ.รอ้ย. เกย่ีวกบัสถานการณ์ และความตอ้งการทางการสง่กาํลงับาํรุง ง) หลงัจากไดร้บัร่างผงัเขตปฏบิตักิารของ มว.แลว้ทาํสาํเนาร่างผงัเขตปฏบิตักิารตงั้รบัและ แผนการยงิจาํนวน ๒ ฉบบัเกบ็รกัษาไว้๑ ฉบบัและสง่ ใหก้องพนั๑ ฉบบั (รปูท่ี๕ - ๑๒) รปูท ี่ ๕ - ๑๒ ภาพรา่งเขตปฏิบตัิการตงั้รบัของกองรอ้ย จ) ยนืยนัทม่ีนั่ของ มว. ก่อนจะเรม ิ่ การขดุหลุม ทาํการประสานงานกบัหน่วยทางซา้ยและทางขวา ฉ) ตรวจสอบกบัผบ.พนั. สาํหรบัการเปลย่ีนแปลงคาํสงั่หรอืการปรบัปรุงคาํสงั่ ใหท้นัสมยั ช) ทาํแผนการระวงัป้องกนัการลวง การตโีตต้อบ และฉากขดัขวางใหส้มบรูณ์ ซ) ทาํการตรวจทม่ีนั่ของ มว. หลงัจากการขดุทม่ีนั่แลว้กลบัไปยงัทม่ีนั่ดา้นหลงัของอาวธุหลกั เพ่อืยนืยนัว่าพน้ืการยงิไดร้บัการถากถางเรยีบรอ้ยแลว้ทาํการวางพน้ืยงิใหส้มบรูณ์และจดัวางอาวุธนําวถิใีหม้ ี ระยะพอเพยีงสาํหรบัการตดิตามเป้าหมายดว้ยเสน้ลวดและทาํการตรวจการณ์จากหน้าแนวตงั้รบัมายงัทต่ีงั้ อาวุธเหล่านนั้ ด) ตรวจสอบการกระจายขา่วสาร การประสานการยงิหว้งอบักระสนุและอบัสายตา และการระวงั ป้องกนัแก◌้ไขขอ้บกพร่องโดยทนัที


๑๖๗ ๒) จ่ากองร้อยและ รอง ผบ.ร้อย. คนใดคน หนึ่งจะต้อง ก) กําหนดที่ตั้งที่บังคับการ จะต้องมั่นใจว่าการติดต่อสื่อสารทางสายพ่วงกับ มว.ตอน และ หน่วยขึ้นสมทบแล้ว และส่งคําแนะนําในการติดต่อสื่อสารให้กับกองพัน ถ้าทําได้ ข) กําหนดตําบลรวบรวมผู้บาดเจ็บ สูญเสีย จุดแยกทางการส่งกําลังบํารุงของกองร้อย และ ตําบลรวบรวมเชลยศึก ค) ชี้แจงสรุปให้กับ รอง ผบ.มว. เกี่ยวกับที่ตั้งที่บังคับการ แผนการส่งกําลังบํารุงและเส้นทาง ระหว่างที่มั่น ง) ช่วยเหลือ ผบ.ร้อย. ในการจัดทําร่างผังเขตปฏิบัติการ จ) ร้องขอ และแบ่งมอบเครื่องมือถากถาง วัสดุฉากขัดขวาง อาหารแห้ง นํ้า และกระสุน ฉ) ทําการตรวจที่มั่นร่วมกับ ผบ.ร้อย. เริ่มการกํากับดูแลการเข้าที่มั่นของ มว. และตอน และ ตรวจสอบแผ่นจดระยะและร่างผังเขตปฏิบัติการ ช) กําหนดแผนปฏิบัติประจําของการระวังป้องกันหรือการเตรียมพร้อม การเฝ้าฟังวิทยุ และ แผนการพักผ่อน ทําการบรรยายสรุปให้ ผบ.ร้อย. ซ) กํากับดูแลอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือ ผบ.ร้อย. ในหน้าที่อื่น ๆ ที่ได้รับมอบ ๓) นยส. จะต้อง ก) ช่วยเหลือ ผบ.ร้อย. ในการวางแผนการยิงเล็งจําลองเพื่อสนับสนุนการตั้งรับ ข) เสนอแนะ ผบ.ร้อย. เกี่ยวกับสถานภาพในปัจจุบันของหน่วยยิงทั้งหมดและการใช้กระสุนควัน และกระสุนส่องแสง ค) ประสานงานกับ นยส. กองพัน หน่วยยิง และ ผตน. ของ มว. เพื่อความมั่นใจว่าแผนการยิง ได้รับการประสานสอดคล้องและมีความเข้าใจอย่างชัดเจน ง) มั่นใจว่าอุปกรณ์ของ ผตน. ของ มว. สามารถใช้ปฏิบัติงานได้ จ) มั่นใจว่าแผนการยิงเล็งจําลองได้รับการซักซ้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ฉ) ประสานงานและหรือซักซ้อมการเปลี่ยนที่ตั้งของ ผตน. ภายในเขตปฏิบัติการของกองร้อย เพื่อความมั่นใจว่า ผตน. สามารถที่จะตรวจการณ์เป้าหมายหรือพื้นที่ที่รับผิดชอบได้ ๔) มว.ค./ผบ. ตอน จะต้อง ก) เลือกที่ตั้งยิงขั้นต้นและที่ตรวจการณ์ จัดทําแผนการยิงในส่วนของตนให้สมบูรณ์ (ตามพื้นฐาน ของคําสั่งยุทธการของกองร้อยและการประมาณสถานการณ์ของตน) ข) เป็นส่วนหนึ่งของการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย ยืนยันหรือปรับที่ตั้งยิง เลือกตําบลที่ตรวจ การณ์ และประสานงานตามแผนการยิง เล็งจําลองร่วมกับ นยส. ค) ออกคําสั่งเป็นส่วน ๆ ให้กับหมู่ ดําเนินการลาดตระเวนของ ผบ.ตอน ร่วมกับ ผบ.หมู่ กําหนด ความต้องการให้ ผบ.หมู่ ประสานงานกับ มว. และหมู่สําหรับการระวังป้องกันและการสนับสนุนทางการ ส่งกําลังบํารุง ง) สั่งการให้ตอน ค. เริ่มทําการขุดหลุม ค จ) จัดตั้งการติดต่อสื่อสาร ทางสายทั้งภายในและภายนอกถ้าทําได้ ฉ) ช่วยเหลือ นยส. ในการทําแผนการยิงและแผ่นบริวารให้สมบูรณ์ ช) บันทึก/ปรับ การยิงป้องกันขั้นสุดท้าย ซ) ตรวจสภาพที่ตั้งของ ค. ด) ลาดตระเวนเส้นทางไปยังที่ตั้งยิงสํารอง


๑๖๘ ๕) ผบ.ตอน ตถ. จะต้อง ก) เลือกที่ตั้งยิงขั้นต้นตามพื้นฐานของคําสั่งยุทธการ การประมาณสถานการณ์ และการลาดตระเวน บนแผนที่ ถ้าตอน ตถ. ปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของการต่อสู้ยานเกราะ ข) เป็นส่วนหนึ่งของการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย ของกองร้อยเพื่อยืนยันหรือเปลี่ยนที่ตั้งยิง และ เพื่อประสานงานกับ ผบ.มว. ค) ออกคําสั่งเป็นส่วน ๆ ให้กับชุด ตถ. ดําเนินการลาดตระเวนของ ผบ.หน่วย ร่วมกับ หน.ชุด กําหนดความต้องการให้กับ หน.ชุด เพื่อประสานงานกับ มว. และหมู่สําหรับการระวังป้องกัน และการ สนับสนุนทางการส่งกําลังบํารุง ง) กําหนดแผนการยิงต่อสู้ ถ. ช่วยเหลือในการร่างผังเขตปฏิบัติการของกองร้อย บรรยายสรุป ให้กับ ผบ.ร้อย. และจ่ากองร้อยหรือ รอง ผบ.ร้อย. จ) มีความมั่นใจในยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ (แบตเตอรี่และเครื่องหล่อเย็น) จะมีให้กับตอนตาม ความต้องการ และประสานงานการเพิ่มเติมสิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการ ฉ) ตรวจสภาพที่ตั้ง ตรวจสอบภาพการเล็ง การกําบัง และการซ่อนพราง แผ่นจดระยะ และการ ติดตั้งสื่อสาร แก้ไขข้อบกพร่องถ้ามี ช) มั่นใจในมาตรการควบคุมการยิงว่าจะมีความเข้าใจ และกําหนดที่ตั้งอย่างชัดเจน สําหรับการ ตรวจการณ์ในระหว่างทัศนวิสัยจํากัด ๖) นายสิบสื่อสาร จะต้อง ก) กํากับดูแลการติดตั้งการติดต่อสื่อสารทางสายและทางวิทยุกับกองพัน มว. และ ตอน ข) จัดการเฝ้าฟังวิทยุ ค) กํากับดูแลการปฏิบัติงานของการตรวจสอบ และการบริการทางการปรนนิบัติบํารุงของวิทยุ ง) ตรวจสอบพนักงานวิทยุโทรศัพท์ของ มว. สําหรับการตรวจสอบ และการบริการทางการปรนนิบัติ บํารุง และความรู้ในคําแนะนําการปฏิบัติการสื่อสาร จ) บรรยายสรุปให้ ผบ.ร้อย. ฉ) ช่วยเหลือจ่ากองร้อย/รอง ผบ.ร้อย. ตามความต้องการ และช่วยเหลือการจัดการระวังป้องกัน เฉพาะบริเวณสําหรับที่บังคับการ ขุดที่มั่นรบ เตรียมคําสั่งยุทธการ และอื่น ๆ ๗) นายสิบ นชค. จะต้อง ก) ช่วยเหลือ ผบ. ร้อย. ด้วยข้อมูลจากการวิเคราะห์และปรับปรุงลักษณะป้องกันตามภารกิจบังคับ ข) มั่นใจในการตรวจจับสารเคมีและขั้นตอนในการเตือนว่าได้รับการจัดตั้งและดํารงไว้ ค) ประสานงานสําหรับการสนับสนุนการทําลายล้างพิษเร่งด่วน ง) ประสานงานการสนับสนุนควัน จ) กํากับดูแลการปฏิบัติการทําลายล้างพิษ ฉ) ให้แนวทางในการปฏิบัติการต่อสภาพ นชค. ๕ - ๑๔ การบริ หารเวลา แง่คิดที่มีความสําคัญยิ่งในการวางแผนการตั้งรับ คือ การใช้เวลาที่มีอยู่ ผบ.ร้อย. จะตกลงใจว่าสิ่งใดที่จะต้องทําเพื่อให้สําเร็จในระหว่างเวลากลางวัน เพื่อให้ มว. และ หมู่ เตรียมการตั้งรับต่อไป ในระหว่างเวลากลางคืน เนื่องจากเวลาไม่เคยมีเพียงพอเพื่อการเตรียมการตั้งรับ ผบ.ร้อย. จะต้องใช้เวลาที่มี อยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก. ที่มั่น มว. และ หมู่จะถูกกําหนดและจะทําการเตรียมในระหว่างชั่วโมงของทัศนวิสัยจํากัด ซึ่ง อาจจะไม่มีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์ในระหว่างเวลากลางวัน ผบ.ร้อย. จะเริ่มประมาณการใช้เวลาที่มีอยู่ ซึ่ง จะต้องรวมจํานวนชั่วโมงในเวลากลางวันที่ ผบ.หน่วยรอง ต้องการในการกําหนดที่มั่นหลักด้วย


๑๖๙ ข. ผบ. ร้อย. อาจจะกําหนดรายละเอียด ตามตารางเวลา สําหรับการปฏิบัติ/เหตุการณ์ที่ สําคัญให้สมบูรณ์ตามลําดับความเร่งด่วนของงานก็ได้ สิ่งนี้จะทําให้มีความมั่นใจว่าหน่วยทั้งหมดจะอยู่ในจุด เดียวกันของงานตามลําดับความเร่งด่วนและสิ่งนี้จะกําหนดตารางการซักซ้อมให้กับหน่วยทั้งหมดด้วย ตัวอย่างของตารางเวลานี้อาจจะเป็น - ๑๐๐๐ - ทําการขุดที่มั่นรบหลักและทําการพราง - ๑๕๐๐ - การซักซ้อมการตีโต้ตอบของกองร้อย - ๑๖๐๐ - ผบ.หน่วยจะซักซ้อมแผนการยิงเล็งจําลองบนโต๊ะทราย - ๑๙๐๐ - ที่มั่นหลักเสร็จสมบูรณ์ มว. ซักซ้อมการผละออกจากการรบ และการเคลื่อนย้ายไปยัง ที่มั่นเพิ่มเติม - ๒๒๐๐ - การซักซ้อมการตีโต้ตอบเมื่อทัศนวิสัยจํากัด ๕ - ๑๕ ลําดับเหตุการณ์ในเวลากลางวัน การวางแผนตามลําดับเหตุการณ์ในกรณีนี้จะเป็นการดําเนินการ ประมาณสถานการณ์เมื่อชั่วโมงในเวลากลางวันมีจํากัด ซึ่งเป็นปัจจัยที่สําคัญ ก. ผบ. ร้อย. จะได้รับคําสั่งยุทธการในการตั้งรับใน ๐๙๐๐ ของวันที่ ๑ ณ ที่รวมพล ห่างจากที่มั่นตั้ง รับ ๕ กม. คาดว่าข้าศึกจะไม่โจมตีภายใน ๔๘ ชม. ซึ่งจะไม่ก่อน ๐๙๐๐ ของวันที่ ๓ เวลาเริ่มแสงทางทหาร เวลา ๐๗๐๐ และเวลาสิ้นแสงทางทหารเวลา ๑๘๐๐ เวลา ๑ ใน ๓ ของ ผบ.ร้อย. ซึ่งจะให้การออกคําสั่ง ยุทธการที่สมบูรณ์ใน ๐๑๐๐ ของวันที่ ๒ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะทําให้เสียเวลาที่มีอยู่สําหรับการเตรียมที่มั่น ในคืนแรก เมื่อเริ่มแสง ผบ.มว. จะยังคงทําการลาดตระเวนเพื่อหาที่ตั้งอาวุธที่สําคัญและที่มั่นของหมู่ ในกรณีที่ ดีที่สุดกําลังพลจะเริ่มเตรียมที่มั่นรบ ๒ ชั่วโมง หลังจากเริ่มแสง (๐๙๐๐ ของวันที่ ๒) เหลือไว้ให้เพียง ๒๔ ชั่วโมง เพื่อการเตรียมการ ข. การใช้เวลาที่มีอยู่ในเวลากลางวันให้เกิดประโยชน์สูงสุดในลําดับเหตุการณ์ดังกล่าว มีดังนี้ - วันที่ ๑ เวลา ๐๙๐๐ - ๑๐๐๐ หลังจากได้รับคําสั่งยุทธการจากกองพันแล้ว ผบ.ร้อย. จะ ดําเนินการวิเคราะห์ปัจจัย METT - T อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจะออกคําสั่งเป็นส่วน ๆ โดยทันทีเพื่อทําการ เคลื่อนย้ายไปยึดครองที่มั่นในพื้นที่ตั้งรับ มอบหมายให้รอง ผบ.ร้อย. ควบคุมบังคับบัญชาการเตรียมการและ การเคลื่อนย้ายของกองร้อย และออกเดินทางไปยังพื้นที่ตั้งรับร่วมกับ ผบ.มว. นยส. และส่วนระวังป้องกัน จากแต่ละ มว. - เวลา ๑๑๐๐ ผบ.ร้อย. และ ผบ.มว. (ร่วมกับส่วนระวังป้องกัน) มาถึงที่ตั้ง - เวลา ๑๑๑๕ ผบ.ร้อย. จัดส่ง ผบ.มว. (ร่วมกับส่วนระวังป้องกัน) ทําการลาดตระเวนจุดสําคัญของ ที่มั่น/เขตปฏิบัติการเริ่มแรกเช่นเดียวกับที่ได้พิจารณาจากการลาดตระเวนบนแผนที่ - เวลา ๑๑๑๕ ถึง ๑๓๐๐ ผบ.ร้อย. ทําการวางแผนชั้นต้น - เวลา ๑๓๐๐ หลังจากที่ ผบ.มว. กลับแล้ว ผบ.ร้อย. จะทําการทบทวนแผนชั้นต้น ตามพื้นฐาน ของรายงานการลาดตระเวน - เวลา ๑๓๓๐ ถึง ๑๔๐๐ ผบ.ร้อย. จะออกคําสั่งยุทธการให้กับกลุ่มรับคําสั่งที่มีอยู่ หลังจากนั้น ผบ.มว. จะดําเนินการวางแผนต่อไป - เวลา ๑๕๓๐ เมื่อกําลังส่วนที่เหลือของกองร้อยมาถึง ผบ.มว.ได้ทําการลาดตระเวนที่มั่นและ จัดทําคําสั่งยุทธการของ มว. เรียบร้อยแล้ว - เวลา ๑๖๐๐ ผบ.หมู่ จะกําหนดที่มั่นหลัก, ที่มั่นสํารอง, และที่มั่นเพิ่มเติมในระหว่างเวลา กลางวัน ผบ.มว. และ ผบ.ร้อย. จะมีเวลา ๒ ชั่วโมงในเวลากลางวันเพื่อทําการปรับที่มั่นก่อน การเตรียมที่มั่น จะเสร็จสิ้นลง


๑๗๐ ๕ - ๑๖ การสู้รบในขณะตั้งรับ การรบของการตั้ง รับจะเริ่มต้นเมื่อสัญญาณ/เหตุการณ์ ตามแผน สําหรับการเริ่มยิงเกิดขึ้น ในการรบที่ไม่มีรูปแบบที่แตกต่างกัน อํานาจสําหรับการเริ่มเข้าปะทะอาจมอบให้กับ ระดับตํ่าสุด การเริ่มเข้าปะทะอาจจะเป็นการซุ่มโจมตีของหมู่ การระดมยิงในพื้นที่โจมตี หรือโดยการติดพันของ ระยะหวังผลสูงสุดของในแต่ระบบอาวุธ หลังจากนั้น ผบ.มว. และ ผบ.หมู่ จะดําเนินการรบให้เป็นไปตาม แนวความคิดของ ผบ.ร้อย. การอธิบายต่อไปนี้จะเป็นการตั้งรับแบบการรวมการของกองร้อย พึงระลึกไว้ว่า สิ่ง นี้จะไม่นําไปใช้เมื่อดําเนินการแบบแยกการ การรบในการตั้งรับที่ไม่มีรูปแบบจะประกอบด้วยการปฏิบัติของ หมู่ และ มว. ก. อาวุธของกองร้อยทั้งหมดจะทําการยิงไปยังเป้าหมายที่เหมาะสม ที่เข้ามาในระยะยิงหวังผล ซึ่งจะ เป็นไปตามแผนการยิง ผบ.หน่วย และ นยส. จะพร้อมที่จะออกคําสั่งและควบคุมการยิงไปยังที่ที่ต้องการเพื่อ หลีกเลี่ยงความสิ้นเปลืองของกระสุน ข. อัตราเร็วในการยิงจะเพิ่มขึ้น หากข้าศึกเคลื่อนที่เข้ามา ถ้ารถถังและทหารราบทําการโจมตี การวาง การยิงจะกดดันให้รถถังปิดป้อมและแยกทหารราบออกจากรถถัง ค. ถ้ารูปขบวนการโจมตีของข้าศึกไม่ถูกทําลายในด้านหน้าของที่มั่นกองร้อย ข้าศึกจะทําการเข้า ตะลุมบอน หลังจากนั้น ผบ.ร้อย. จะขอการยิงป้องกันขั้นสุดท้ายของตน ปืนกลที่มีแนวยิงฉากป้องกันขั้น สุดท้ายจะทําการยิงไปยังแนวยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย ส่วนที่ไม่มีแนวยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย จะทําการยิง ไปตามแนวทิศทางยิงหลัก ค. และ ป. จะทําการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้าย ถ้าได้รับการแบ่งมอบอาวุธอื่น ๆ ทั้งหมดจะทําการยิงภายในเขตปฏิบัติการ จนกระทั่งการตะลุมบอนหยุดลง ๑) สัญญาณที่กําหนดขึ้น เช่น พลุสัญญาณ จะใช้ในการหยุดยิงเมื่อการตะลุมบอนหยุดลงแล้ว การ ยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายอาจจะทําการยิงต่อไปตามความต้องการ เนื่องจากการยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายจะใช้ กระสุนเป็นจํานวนมาก จึงควรที่จะขอการยิงป้องกันขั้นสุดท้าย เพื่อทําการหยุดยั้งการจู่โจมของข้าศึกที่เข้ามา ใกล้ที่มั่นเท่านั้น ถ้าข้าศึกสามารถผ่านแนวยิงฉากป้องกันขั้นสุดท้ายเข้ามาได้ ผบ.ร้อย. จะขับไล่ข้าศึกด้วยการ รบประชิดและหรือการตีโต้ตอบ ๒) ถ้ากองร้อยถูกคุกคามทางปีกหรือด้านหลัง ผบ.ร้อย. อาจจะเคลื่อนย้าย มว.หรือกองหนุนเพื่อ ทําการรบในที่มั่นเพิ่มเติมก็ได้ ถ้า มว. และหมู่ถูกกดดันให้ออกจากที่มั่นหลัก มว. และหมู่ จะเคลื่อนย้ายเข้า ที่มั่นสํารอง ง) ตลอดการดําเนินการตั้งรับ ผบ.มว. จะรายงานสถานการณ์ให้ ผบ.ร้อย. ทราบทุกระยะ เช่นเดียวกัน ผบ.ร้อย. จะต้องรายงานสถานการณ์ให้ ผบ.พัน. ทราบ จ) เมื่อข้าศึกถูกขับไล่ไปแล้ว ผบ.ร้อย. จะสถาปนาที่ตรวจการณ์ และส่งหน่วยลาดตระเวนไปข้างหน้า เพื่อดํารงการเกาะข้าศึก การยิงเล็งจําลองจะถูกร้องขอให้ทําการยิงไปยังพื้นที่ที่ข้าศึกมีแนวโน้มในการรวม กําลังกันใหม่ ในบางสถานการณ์การเข้าตีทําลายการเข้าตีต่อกําลังในส่วนนี้อาจจะมีความเหมาะสม กองร้อยจะ ทําการจัดระเบียบใหม่และเตรียมการสําหรับการโจมตีของข้าศึกในครั้งต่อไป ๕ - ๑๗ การตีโต้ตอบ หลักการเช่นเดียวกันสําหรับการเข้าตีทั่ว ๆ ไป จะใช้สําหรับการตีโต้ตอบ เวลาเป็นสิ่ง ที่สําคัญต่อการแตกหัก การตีโต้ตอบจะปฏิบัติเมื่อข้าศึกรุกคืบหน้ามากเกินไป กระจายกําลัง และเสียระเบียบ ในระหว่างการโจมตี การตีโต้ตอบอาจจะดําเนินการโดยหน่วยตีโต้ตอบที่กําหนดโดยกองหนุนหรือโดยหน่วย รองที่มีภารกิจในการเตรียมพร้อมเพื่อการดําเนินการตีโต้ตอบ การตีโต้ตอบอาจจะเป็นการปฏิบัติตามแผนตาม แนวความคิดในการปฏิบัติของ ผบ.ร้อย. ก็ได้ หรืออาจจะเป็นการปฏิบัติเร่งด่วนโดยหน่วยรองตามพื้นฐานของ สถานการณ์ การตีโต้ตอบทั้งหมดควรที่จะมีการซักซ้อมในสภาพเช่นเดียวกับการรบที่คาดไว้ การตีโต้ตอบจะ มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อกําลังข้าศึกที่ถูกหยุดยั้งไว้


๑๗๑ ก. การตีโต้ตอบอาจจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อปฏิบัติการโดยหน่วยขนาดเล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ การตั้งรับแบบแยกการที่ไม่มีรูปแบบ เมื่อผสมผสานกับการซุ่มโจมตี เพื่อหยุดยั้งและทําให้หน่วยเข้าตีเสีย ระเบียบ กําลังตีโต้ตอบขนาดเล็กสามารถที่จะก่อให้เกิดซึ่งอํานาจการรบสูงสุด ถ้าการโจมตีไม่ถึงขั้นแตกหัก หน่วยตีโต้ตอบสามารถที่จะผละออกและค้นหาส่วนอื่น ๆ ของข้าศึกเพื่อทําการโจมตี ข. การตีโต้ตอบด้วยกําลังขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสําคัญในแนวความคิดของ ผบ.ร้อย. มีความต้องการ การวางแผน การประสานงาน และการซักซ้อมเพิ่มเติม โดยปกติแล้ว การตั้งรับจะจัดหน่วยเพื่อกดดันข้าศึกให้ เข้าไปยังบริเวณที่การตีโต้ตอบสามารถที่จะสําเร็จขั้นแตกหักได้ แผนการใช้เวลา ความรับผิดชอบ และการยิง จะต้องได้รับความเข้าใจโดยกําลังพลในกองร้อยทั้งหมด ตามอุดมคติแล้วกําลังตีโต้ตอบจะอยู่ในพื้นที่ที่มี การกําบังและการซ่อนพราง มีความต้องการการเคลื่อนย้ายน้อยที่สุด เพื่อเริ่มการจู่โจมและการยิง ระยะทางยิ่ง ไกลเท่าใดข้าศึกจะยิ่งมีความสามารถที่จะพิสูจน์ทราบและตอบโต้การโจมตีได้เท่านั้น ค. เมื่อกองหนุนของกองร้อยดําเนินการตีโต้ตอบ ตามปกติแล้วจะเป็นความพยายามหลักและจะให้ ความเร่งด่วนของการยิงจากหน่วยสนับสนุนการยิงที่มีอยู่ กองหนุนจะหลีกเลี่ยงที่มั่นฝ่ายเดียวกัน ทําการเข้าตี ขั้นแตกหักให้เร็วที่สุด และกวาดล้างพื้นที่การเจาะ ทหารทุกคนจาก มว. ในแนวหน้า ซึ่งอยู่ในพื้นที่การเจาะ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกองหนุน เมื่อกองหนุนเข้ามาในพื้นที่นี้ หลังจากสั่งการตีโต้ตอบแล้ว จะต้องรีบ จัดตั้งกองหนุนใหม่ขึ้น เมื่อ ผบ.ร้อย. ตกลงใจใช้กองหนุนของตนในการตีโต้ตอบ ผบ.ร้อย. จะต้องแจ้งให้ ผบ. พัน. ทราบทันที ง. หน่วยรองอื่น ๆ อาจดําเนินการตีโต้ตอบทันที ถ้าหน่วยรองนั้น ๆ อยู่ในสถานที่ที่มีอํานาจ (ศักยภาพ) การรบที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพและสนับสนุนแนวความคิดของ ผบ.ร้อย. แผน เผชิญเหตุที่ง่ายซึ่งกําหนดจุดนัดพบและสถานที่ที่น่าจะใช้สนับสนุนและหรือพื้นที่สังหาร จะช่วยให้แผนมีความ อ่อนตัว ๕ - ๑๘ การจัดระเบียบใหม ่ การจัดระเบียบใหม่จะต้องเริ่มโดยอัตโนมัติในระดับล่างสุด ทันทีที่การปะทะ เกิดขึ้น ผบ.หน่วย ในกองร้อยจะต้องทราบสถานภาพของหน่วยของตนและจัดระเบียบใหม่ โดยทันทีเมื่อมี ความจําเป็น แต่อย่างไรก็ตามข้อพิจารณาบางอย่างในตอนนี้จะต้องรอจนกว่าการรบจะหยุดลง ก. การจัดพลยิงให้กับอาวุธหลัก แบ่งมอบกําลังพลเพื่อทดแทนกําลังพลหลักที่สูญเสียในระหว่างการรบ ดังตัวอย่างจะต้องมั่นใจว่า อาวุธประจําหน่วยมีพลยิงและสายการบังคับบัญชาได้จัดตั้งขึ้นใหม่ ข. จัดการระวังป้องกันขึ้นใหม่ ถ้าทหารถอนตัวออกจากที่ตรวจการณ์ไปยังที่มั่นรบแล้ว จะต้องนํา ทหารเหล่านั้น กลับไปยังที่ตรวจการณ์ ถ้าทหารบางคนไม่ได้กลับไปยังที่มั่น มว. ตรวจสอบสถานภาพและทํา การทดแทนกําลังที่สูญเสีย ประสานงานกับหน่วยข้างเคียงเพื่อทําการตกลงใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ ทันทีที่สามารถดําเนินการได้ให้ทําการสถาปนาระบบระวังป้องกันขึ้นใหม่ ค. การรักษา หรือการส่งกลับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทําการรักษาผู้บาดเจ็บไกลไปข้างหน้ามากที่สุด เท่าที่จะทําได้ ผู้บาดเจ็บที่สามารถทําการรบต่อไปได้จะถูกส่งกลับไปยังที่มั่น นอกนั้นให้ส่งกลับ รายงานการ สูญเสีย และส่งกลับศพโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ ง. แจกจ่ายกระสุนและสิ่งอุปกรณ์เพิ่มเติม แจกจ่ายกระสุนและสิ่งอุปกรณ์ที่เหลือระหว่างทหารคนละ เท่า ๆ กัน รวมถึงกระสุนจากผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วยแบ่งมอบกระสุนที่สะสมไว้ให้กับหมู่ ทําการสํารวจสิ่ง อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เสนอรายงานสถานภาพไปยังที่บังคับการกองร้อย ประกอบด้วยกระสุน วัสดุฉากขัดขวาง และสิ่งอุปกรณ์สายแพทย์ พิจารณาการใช้อาวุธและกระสุนของข้าศึก จากผู้บาดเจ็บและ เสียชีวิตของข้าศึก


๑๗๒ จ. การเปลี่ยนที่มั่น ในระหว่างการ ตะลุมบอน ข้าศึกอาจเจาะจงกดดันที่มั่นบางแห่ง กรณีให้ย้ายไปยังที่มั่นสํารอง หรือที่มั่นเพิ่มเติม เป็นการยากที่การจู่โจมสามารถที่จะสําเร็จได้ ๒ ครั้งจากที่ตั้ง เดียวกัน ถ้าที่มั่นบางแห่งอยู่ในอันตราย หรือต้องการใช้การจู่โจมเพื่อบรรลุผล ให้เปลี่ยนที่มั่นของทหารและ อาวุธ (โดยเฉพาะอาวุธประจําหน่วย) ที่มีความล่อแหลมหรือไม่มีการตรวจการณ์และพื้นการยิงที่ดีพอ ปรับที่ มั่นเพื่อดํารงการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ฉ. การปรับปรุงการติดต่อสื่อสารใหม่ มอบรายงานสถานภาพให้กับ ผบ.ร้อย. ถ้าการติดต่อสื่อสารทาง วิทยุไม่สามารถทําได้และการติดต่อสื่อสารทางสายไม่มีให้ก็ควรที่จะส่งพลนําสารไปแทน ระเบียบปฏิบัติประจํา ของหน่วยควรที่จะทําให้หน่วยสามารถปฏิบัติการได้ต่อไปถึงแม้ว่าจะไม่มีการติดต่อสื่อสาร เพียงแต่ส่งพลนํา สารออกไปเมื่อไม่สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจได้ต่อไปหรือเมื่อทําการเปลี่ยนแผน ถ้าสายโทรศัพท์ถูกตัดใน ระหว่างการโจมตี ทหารที่อยู่ปลายสายของแต่ละแห่งจะพยายามค้นหาและซ่อมสายที่ขาด ถ้าไม่สามารถหา สายที่ขาดได้ ก็ให้ทําการวางสายใหม่ ถ้ามีสัญญาณเช่น พลุสัญญาณสีเขียว ถูกใช้เพื่อการเริ่มยิง จะต้อง พิจารณาเปลี่ยนสัญญาณเมื่อข้าศึกอาจจะรู้ว่าสัญญาณนั้นหมายความว่าอย่างไร สัญญาณเหล่านี้จะต้อง ประสานกับหน่วยข้างเคียงเพื่อป้องกันการสับสน ช. การซ่อมปรับปรุงที่มั่นรบ ทหารแต่ละคนจะต้องตรวจสอบ และถ้าจําเป็นต้องทําการเปลี่ยน การพราง ที่กําบังเหนือศีรษะ และกระสอบทรายใหม่ ในที่มั่นปัจจุบันและทําการพราง ที่มั่นใหม่ ซ. การซ่อมปรับปรุง/ทดแทน เครื่องกีดขวาง ทุ่นระเบิด และกับระเบิดที่เสียหาย/เกิดช่องโหว่ ทดแทน อุปกรณ์เหล่านี้ เฉพาะในกรณีที่ทหารข้าศึกอยู่ห่างออกไปอย่างเพียงพอจึงจะสามารถทําได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง เป็นการเสี่ยง โดยเฉพาะถ้าข้าศึกมีพลซุ่มยิง ควรที่จะรอเวลาที่ทัศนวิสัยไม่ดี จึงจะดําเนินการหรือการใช้ฉาก ควันเพื่อการบังการตรวจการณ์ ด. การใช้พลซุ่มยิง ก่อนการโจมตีจะเริ่มขึ้นและหลังจากที่หยุดลง หน่วยที่ทําการตั้งรับอาจจะเพิ่มการ ระวังป้องกันโดยการใช้พลซุ่มยิง พลซุ่มยิงควรที่จะเคลื่อนที่ไปได้ทุกแห่งในที่มั่น พลซุ่มยิงจะทําการค้นหาและ ยิงเป้าหมาย เช่น ชุดลาดตระเวนของข้าศึก ชุดแทรกซึม ผบ.หน่วย ชุดเจาะเครื่องกีดขวาง พลประจําอาวุธ ข้าศึกที่พลัดหลง และพลซุ่มยิงของข้าศึก ถ้าไม่มีพลซุ่มยิงแล้ว ควรใช้พลแม่นปืนที่ดีที่สุดในหน่วยแทนพลซุ่ม ยิงจะมีประสิทธิภาพในการยิงจนถึงระยะ ๕๖๐ ม. เมื่อใช้อาวุธ ปลย. M16 A 2 ตอนที่ ๔ เทคนิคการตั้งรับ มีเทคนิคการตั้งรับที่แตกต่างกันอยู่หลายแบบ ซึ่ง ร้อย.ร. อาจจะนํามาใช้ การดําเนินการประมาณ สถานการณ์อย่างถูกต้องจะเพ่งเล็งไปยังแนวความคิดในการตั้งรับโดยการพิสูจน์ทราบอํานาจ (ศักยภาพ) ของ จุดแตกหัก หลังจากนั้น ผบ.หน่วย จะพิจารณาองค์ประกอบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ของที่มั่น/การดําเนิน กลยุทธ์ของหน่วย/อาวุธของตน เพื่อก่อให้เกิดอํานาจการรบอย่างสูงสุด ณ จุดนี้ เทคนิคที่จะอธิบายในตอนนี้ ควรที่จะเป็นเพียงพื้นฐานเพื่อการพัฒนาแนวความคิดในการตั้งรับเท่านั้น แนวความคิดตามอุดมคติอาจจะ เป็นการผสมผสานกันของเทคนิคที่แตกต่างกันหลาย ๆ แบบ หรือเหมือนกับการตั้งรับที่ประสพผลสําเร็จอย่าง มหาศาล ในหลายสมรภูมิการรบที่อาจจะไม่มีพูดถึงเลยในคู่มือหลักนิยม ๕ - ๑๙ การตั้งรับแบบไม่มีแนว การตั้งรับแบบไม่มีแนวจะเป็นการตั้งรับที่มีการแยกการมากที่สุดและไม่ คงที่ จะดําเนินการโดย ร้อย.ร. ซึ่งจะถูกนํามาใช้เมื่อปฏิบัติการกับกําลังข้าศึกที่มีอํานาจการยิงและขีด ความสามารถความคล่องแคล่วของการเคลื่อนที่เท่ากันหรือมากกว่าฝ่ายเรา การตั้งรับประเภทนี้เกือบจะเป็น การหันเหข้าศึกโดยเฉพาะและไม่เหมาะสมสําหรับการรักษาภูมิประเทศ การตั้งรับแบบนี้จะขึ้นอยู่กับการจู่ โจม


๑๗๓ การปฏบิตักิารรุก และความรเิรม ิ่ ของ ผบ.หน่วยขนาดเลก็ทจ่ีะใหค้วามสาํเรจ็ (รปูท่ี๕ - ๑๓) โดยจะเป็นการตงั้ รบัแบบเปลย่ีนแปลงได้ซง่ึจะใชท้ม่ีนั่อย่กูบัทเ่ีพยีงไม่กแ่ีหง่หรอืใชน้ ้อยมาก รปูท ี่ ๕ - ๑๓ การตงั้รบัแบบไม่เป็นแนว ก. ตามปกติเทคนิคการตงั้รบัแบบน้ีจะสงั่การโดยกองพนัเม่อืแนวความคดิของกองพนั ไม่เพ่งเลง็ไป ยงัจุดแตกหกัเพยีงจุดเดยีวของกองรอ้ย ดงัตวัอย่าง เม่อืกองพนัแบง่มอบเขตปฏบิตักิารใหก้บั กองรอ้ยและภารกจิทเ่ีพ่งเลง็กองรอ้ยไปยงักาํลงัขา้ศกึการสนบัสนุนซง่ึกนัและกนัจะมี ความสาํเรจ็ผา่นการเช่อืมต่อของความมุ่งหมายทก่ีล่าวไวใ้นภารกจิ


๑๗๔ ข. ผบ.ร้อย. อาจตกลงใจดําเนินการตั้งรับ แบบไม่มีแนวก็ได้ เมื่อไม่สามารถที่จะระบุจุด แตกหักเพียงจุดเดียวได้ ซึ่งจะให้กองร้อยรวมอํานาจการรบและบรรลุตามภารกิจของหน่วย ภูมิประเทศที่ ขัดขวางการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างกําลังระดับหมวดของข้าศึกและหรือภูมิประเทศที่ขัดขวางกําลัง ข้าศึกที่มีขีดความสามารถในการสั่งการใช้อํานาจการยิงอย่างมากมายกับที่มั่นของฝ่ายเราที่พิสูจน์ทราบแล้ว จะสนับสนุนการดําเนินการตั้งรับในลักษณะนี้ด้วย ค. แผนการลาดตระเวนและการระวังป้องกันสําหรับการตั้งรับแบบนี้ จะเพ่งเล็งไปยังการหลีกเลี่ยงการ ตรวจจับโดยเครื่องมือในการลาดตระเวนของข้าศึก การปฏิบัติการของหน่วยขนาดเล็กจะสนับสนุนตามความ ต้องการนี้ การเตรียมการและกิจกรรมตามเส้นทางลาดตระเวนจะต้องมีการควบคุมอย่างใกล้ชิด ตามอุดมคติ จะยอมให้การลาดตระเวนของข้าศึกเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ก่อนจะถูกทําลาย ง. ผบ.ร้อย. จะแบ่งมอบเขตปฏิบัติการของ มว. และอาจจะกําหนดพื้นที่ที่น่าจะใช้เป็นพื้นที่ซุ่มโจมตี และจุดนัดพบของ มว. ผบ.ร้อย. จะกําหนดความพยายามหลักและแบ่งมอบภารกิจความพยายามสนับสนุนซึ่ง จะให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน และลดระดับขีดความสามารถของข้าศึกในการใช้อํานาจการรบกับความ พยายามหลัก ความพยายามหลักอาจจะวางนํ้าหนักโดยการกําหนดลําดับความเร่งด่วนของการยิง โดยการ แบ่งมอบทุ่นระเบิด วัสดุฉากขัดขวาง และสิ่งอุปกรณ์อื่นๆ และโดยการกําหนดที่ตั้งที่บังคับการ ตําบลรวบรวม ผู้บาดเจ็บสูญเสีย และที่ตั้งอื่น ๆ ในตําบลใกล้เคียง จ. มว. จะดําเนินการซุ่มโจมตี ตีโฉบฉวย และการตีโต้ตอบ โดยหมู่จํานวนมาก และ มว. แต่จะ หลีกเลี่ยงการโจมตีขั้นแตกหัก ก่อนที่ข้าศึกจะสามารถตอบโต้และรวมอํานาจการรบกับหน่วยขนาดเล็กนี้ หน่วยขนาดเล็กจะผละออกและค้นหาจุดอ่อนอื่น ๆ ของข้าศึก การประสานสอดคล้องการตั้งรับนี้จะเป็นปัจจัย สําคัญของความสําเร็จโดยการแบ่งมอบที่ตั้งการซุ่มโจมตีและเวลาเริ่มต้นโจมตีหรือสัญญาณ การประสาน สอดคล้องนี้จะรวมถึงการพิสูจน์ทราบ เครื่องมือหรือยานพาหนะหลักของข้าศึก ซึ่งถ้าทําลาย/ทําให้เสียระเบียบ จะมีผลเป็นอย่างมากกับข้าศึก ฉ. กองหนุนของกองร้อยตามปกติจะมีขนาดเล็ก เนื่องจากการยืดระยะทางซึ่งกองร้อย และ มว. ปฏิบัติการอยู่ รวมทั้งเวลาที่จะใช้กองหนุนของกองร้อยในการปฏิบัติการขั้นแตกหักที่คาดว่าจะไม่เกิดขึ้น โดยทั่วไป มว. จะสามารถใช้ทรัพยากรของหน่วยอย่างมีประสิทธิภาพมาก กองหนุนของกองร้อยขนาดหมู่ สามารถที่จะนํามาใช้ภายใต้การควบคุมของจ่ากองร้อยโดยจัดเป็นหมู่ช่วยรบ สําหรับการส่งกลับผู้บาดเจ็บ สูญเสีย หรือเป็นกําลังตอบโต้เพื่อสนับสนุนความพยายามหลัก ช. ส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ประกอบด้วย การดําเนินการส่งกําลังเพิ่มเติม การส่งกลับทางยุทธการ/ ผู้บาดเจ็บสูญเสีย เมื่อตั้งรับในลักษณะนี้การส่งกําลังเพิ่มเติมจะมีผลกับการเตรียมที่ตั้งของสิ่งอุปกรณ์ที่วิกฤติ ล่วงหน้า (บทที่ ๘) การส่งกลับผู้บาดเจ็บสูญเสียจะมีความต้องการการวางแผนในรายละเอียดและการ สนับสนุนจากกองพัน ตําบลรวบรวมผู้บาดเจ็บสูญเสียจะต้องกําหนดไปยังข้างหน้าเพื่อสนับสนุนแต่ละ มว. การส่งกลับจากตําบลเหล่านี้ไปยังที่พยาบาลของกองพันหรือตําบลรวบรวมของกองร้อยซึ่งตามปกติจะจัดตั้ง โดยชุดเปลพยาบาลที่เคลื่อนที่ไปบนเส้นทางที่หลีกเลี่ยงข้าศึก ถ้าเป็นไปได้ยานพาหนะในการส่งกลับจะเริ่มที่ ตําบลรวบรวมของกองร้อยหรือไกลไปข้างหน้าเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ร้องขอชุดรักษาพยาบาลจากที่พยาบาล ของกองพัน ซึ่งจะไปตั้งอยู่ในตําบลรวบรวมของกองร้อย โดยเฉพาะถ้าคาดว่าการส่งกลับผู้บาดเจ็บสูญเสียจะ ชะงักอยู่จนกว่าจะมืดคํ่าถึงจะส่งกลับ ๕ - ๒๐ การตั้งรับในเขต การวางกําลังแบบนี้อาจประกอบด้วยเขตปฏิบัติการของ มว. ลําดับของที่มั่นรบที่ให้ การสนับสนุนซึ่งกันและกันในภูมิประเทศที่จํากัดของยานเกราะ หรือการผสมผสานกันทั้ง ๒ อย่าง (รูปที่ ๕ - ๑๔) ที่มั่นจะวางในทางลึกความแข็งแกร่งของการตั้งรับนี้จะมาจากความอ่อนตัว ตามปกติการตั้งรับนี้จะมุ่งเน้น ในการทําลายกําลังข้าศึกและจะไม่รักษาภูมิประเทศ การตั้งรับแบบนี้จะมีประสิทธิภาพเพราะจะทําให้ข้าศึก


๑๗๕ เปิดเผยปีกของตนและการบงัคบับญัชาการควบคมุและเคร่อืงมอืในการสนบัสนุนการรบผ่านทางการ ดาํเนินกลยุทธข์องตนเองเขา้ไปในความลกึของการตงั้รบัของฝ่ายเรา รปูท ี่ ๕ - ๑๔ การตงั้รบัในเขต ก. การตงั้รบัของกองรอ้ยในเขต อาจจะปฏบิตักิารรบในลกัษณะเดยีวกนักบัการตงั้รบัแบบไมม่แีนว ซง่ึจะทาํ โดยการกาํหนดเขตใหก้บัมว.เทคนิคการแยกการสาํหรบัการดาํเนินการตงั้รบัในเขตน้ีมคีวามตอ้งการ ความรเิรม ิ่ เป็นอย่างมากและการมอบหมายการควบคมุให้ผบ. หน่วยรองใหม้ากขน้ึการปฏบิตัขิองหน่วย ขนาดเลก็จะเหมอืนกนักบัการตงั้รบัแบบไมม่แีนว เม่อืจาํเป็น หมู่หรอืมว. อาจจะผละออกโดยอสิระและ เคล่อืนทไ่ีปยงัทม่ีนั่อ่นืๆ ภายในเขตเพ่อืทาํการรบต่อไป ขอ้พจิารณาสาํหรบัแผนการลาดตระเวนและการระวงั ป้องกนัของกองรอ้ย และการใชก้องหนุนจะคลา้ยคลงึกบัการตงั้รบัแบบไมม่แีนวดว้ย ข. เม่อืทาํการรบ การตงั้รบัของกองรอ้ยในเขตจากทมีนั่รบของ มว. จะใชแ้นวความคดิทม่ีุ่งเอาชนะผู้ เขา้โจมตผี่านทางลกึของรปูขบวนเขา้ตีการเผชญิหน้ากบัขา้ศกึดว้ยการยงิทม่ีปีระสทิธภิาพจากทม่ีนั่รบท่ี สนบัสนุนซง่ึกนัและกนั ในขณะทข่ีา้ศกึพยายามทาํการดาํเนินกลยุทธอ์อ้มผ่าน ทุ่นระเบดิเคร่อืงกดีขวางอน่ืๆ ทม่ีนั่ทหารราบ หน่วยลาดตระเวน และระบบแจง้เตอืนล่วงหน้าของ มว. จะคุม้ครองช่องวา่งนนั้เน่ืองจาก สภาพของภมูปิระเทศหรอืป่ารกทบึจะไม่ เออ้ือาํนวยใหท้าํการยงิคุม้ครองเป็นไปอย่างมปีระสทิธภิาพ หน่วยจะ คงอย่ใูนทม่ีนั่เวน้แต่จะตอ้งเคล่อืนยา้ยเฉพาะตําบลหรอืเคล่อืนยา้ยภายในไปยงัทม่ีนั่สาํรองหรอืทม่ีนั่เพม ิ่ เตมิ ถา้ทม่ีนั่บางแห่งไม่สามารถป้องกนัไดใ้นระหว่างการรบ ผบ.รอ้ย. อาจจะถอนกาํลงัตามแผนทไ่ีดเ้ตรยีมไว้


๑๗๖ ๑) เทคนิคแบบหน่ึงคอืทาํ ใหข้า้ศกึเคล่อืนทเ่ีขา้ไปในพน้ืทโ่ีจมตีและทาํลายขา้ศกึดว้ย การรวมอาํนาจการยงิเทคนคิอกีแบบหน่ึงคอืทาํการจ่โูจมขา้ศกึดว้ยระยะยงิไกลสดุจาก บ. ทางยทุธวธิีฮ. โจมตีป. และ ค. หลงัจากนนั้จ่โูจมดว้ยอาวธุต่อสรู้ถถงัในอตัราทอ่ีย่ใูนทม่ีนั่เพ่อืทาํการยงิในระยะยงิหวงัผล สงูสดุจากทางปีกและทางหลงัหากขา้ศกึเคล่อืนทเ่ีขา้มาใกลอ้าวธุต่อสรู้ถถงัอาจจะเคล่อืนทไ่ีปยงัทต่ีงั้ยงิสาํรอง และทต่ีงั้ยงิเพม ิ่ เตมิภายในทม่ีนั่รบ เพ่อืทาํการยงิต่อไปและเพ่อืหลกีเลย่ีงการถูกออ้มผา่น ๒) การตงั้รบัของกองรอ้ยในเขตจากทม่ีนั่รบของ มว. โดยทวั่ ไปจะมคีวามจาํเป็นท่ีผบ.รอ้ย. จะตอ้งสามารถตรวจการณ์และควบคุมการรบและยงัมคีวามตอ้งการพน้ืการยงิทด่ีดีว้ย เพ่อืใหค้วามสาํเรจ็ใน การสนบัสนุนซง่ึกนัและกนัหากภูมปิระเทศหรอืหนทางปฏบิตัขิองขา้ศกึทค่ีาดการณ์ไวเ้ป็นอุปสรรคต่อสง ิ่ น้ ี การตงั้รบัอาจจะมปีระสทิธภิาพมากขน้ึถา้การควบคมุจะมกีารแยกการมากและ มว. ใชก้ารตงั้รบัในเขต ค. สง ิ่ สาํคญั โดยเฉพาะเม่อืทาํการรบจากทม่ีนั่รบ คอืการทข่ีา้ศกึมคีวามสามารถในการแยกสว่นของ กองรอ้ยออก ตรงึไว้แลว้เขา้ทาํลายกาํลงัสว่นนนั้ถา้ปราศจากการสนบัสนุนซง่ึกนัและกนัอย่างมปีระสทิธภิาพ ระหว่างทม่ีนั่รบ สงิ่น้นี่าจะเกดิขน้ึได้และถงึแมว้่าจะมกีารสนบัสนุนซง่ึกนัและกนักต็าม ความรบัผดิชอบและ ประสทิธภิาพของการยงิอาจจะมคีวามวกิฤตติ่อการป้องกนัทม่ีนั่รบ หากปราศจากการสนบัสนุนการยงิทม่ีอียู่ โดยทนัทีขา้ศกึอาจจะรวมอาํนาจการรบอย่างรวดเรว็ต่อทม่ีนั่รบใด ๆ กไ็ดท้ต่ีรวจพบ ๕ - ๒๑ การตงั้รบัจากท ี่ มนั่รบ ถงึแมว้่าเทคนิคการตงั้รบัน้มีกัจะวางเป็นแนว และรวมการปฏบิตัใินระดบั กองรอ้ยกต็าม แต่ไมค่วรทจ่ีะเป็นการตงั้รบัอย่กูบัท่ี(รปูท่ี๕ - ๑๕) ทม่ีนั่รบควรทจ่ีะมไีวเ้พ่อืใหส้าํเรจ็ในการ จ่โูจมและเพ่อืใชใ้นการดาํเนินกลยุทธภ์ายในและระหวา่งทม่ีนั่รบ ซง่ึจะมปีระสทิธภิาพในการรวมอาํนาจการรบ ในพน้ืทโ่ีจมตแีละจะขดัขวางขา้ศกึจากการแยกสว่นหน่งึของกองรอ้ยออก และรวมอาํนาจการรบของขา้ศกึใน พน้ืทน่ี้ี โดยปกติมว.จะกาํหนดการสนบัสนุนซง่ึกนัและกนัใหก้บัทม่ีนั่รบ ซง่ึจะควบคมุเสน้ทางทน่ี่าจะเป็น เสน้ทางการเคล่อืนทข่ีองขา้ศกึทม่ีนั่รบเหล่าน้ีจะตงั้อย่บูนภมูปิระเทศทจ่ีะใหก้ารกาํบงัและการซ่อนพราง และ จาํกดัการเคล่อืนทข่ีองยานพาหนะ รปูท ี่ ๕ - ๑๕ การสนับสนุนซึ่ งกนัและกนัของท ี่ มนั่รบ


๑๗๗ ก. แนวความคดิของ ผบ.หน่วย สาํหรบัการรบของการตงั้รบัแบบน้ีควรทจ่ีะมุ่งไปยงัการจู่ โจมของแต่ละทม่ีนั่รบ ซง่ึจะสาํเรจ็ไดด้ว้ยความพยามยามต่อตา้นการลาดตระเวนอย่างมปีระสทิธภิาพ เพ่อืทาํการขด้ขวางขา้ศกึจากการตรวจพบทม่ีนั่รบและดว้ยการเรม ิ่ ยงิจากทม่ีนั่รบแห่งหน่ึง และรอใหข้า้ศกึ ตอบโตต้ ่อการโจมตนี้ีก่อนทจ่ีะทาํการจ่โูจมจากทม่ีนั่รบแหง่อ่นืๆ (รปูท่ี ๕ - ๑๖) การรบในลกัษณะน้ีจะ ก่อใหเ้กดิความสบัสนในระหว่างขา้ศกึและการเสยีระเบยีบของการบงัคบับญัชาและการควบคมุของขา้ศกึ รปูท ี่ ๕ - ๑๖ การเปิดฉากการยิงเพื่อให้บรรลุผลของการจโู่จม ข. เม่อืภูมปิระเทศมพีน้ืทโ่ีจมตทีใ่ีหญ่พอและแนวความคดิของ ผบ.หน่วย จะใหข้า้ศกึสว่นใหญ่เขา้ไป ในพน้ืทโ่ีจมตีกองรอ้ยอาจจะจ่โูจมดว้ยการรวมการยงิจากทม่ีนั่รบของ มว.ทงั้หมด ขอ้เสยีเปรยีบของเทคนิค น้คีอืถา้ยงัคงมกีาํลงัขา้ศกึทย่ีงัไม่ไดใ้ชอ้ย่ภูายนอกพน้ืทโ่ีจมตีขา้ศกึสว่นน้จีะทราบทต่ีงั้ของทม่ีนั่รบและจะ พยายามตดัขาดกาํลงัฝ่ายเราและรวมกาํลงัเขา้ตทีม่ีนั่รบทค่ีน้พบ แผนเผชญิเหตุในการผละออกจากทม่ีนั่รบ เหล่าน้ีและจดัระเบยีบใหม่เพ่อืทาํการรบต่อไปจะตอ้งไดร้บัการพฒันาปรบัปรุง ซง่ึอาจจะเกย่ีวขอ้งกบัการ เปลย่ีนทม่ีนั่หลกัไปยงัทม่ีนั่รบสาํรองกไ็ด้หรอืผละออกเพ่อืดาํเนินการตโีตต้อบ/ตโีฉบฉวย ต่อระบบการบงัคบั บญัชาและการควบคุม การสนบัสนุนการรบ หรอืการสนบัสนุนการช่วยรบของขา้ศกึทไ่ีดพ้สิจูน์ทราบแลว้ ค. แทนทจ่ีะกาํหนดพน้ืทโ่ีจมตขีองกองรอ้ยเพยีงแห่งเดยีว พน้ืทโ่ีจมตหีลาย ๆ แหง่อาจจะถูกกาํหนด ขน้ึเพ่อืใหค้วามอ่อนตวักบัแผน (รปูท่ี๕ - ๑๗) แผนจะตอ้งระบอุย่างชดัเจนเม่อืมว. จะตอ้งปรบัทศิทางการยงิ ไปยงัพน้ืทโ่ีจมตรีอง


๑๗๘ รปูท ี่ ๕ - ๑๗ พืน้ท ี่โจมตีหลายแห่ง ๕ - ๒๒ การตงั้รบัลาดหลงัเนิน แผนหรอืวธิกีารสาํรองของการตงั้รบับนลาดหน้าเนินของยอดเขาหรอืสนัเขา คอืการตงั้รบัลาดหลงัเนิน (รปูท่ี๕ - ๑๘) การตงั้รบัแบบน้ีกองรอ้ยจะวางกาํลงับนภูมปิระเทศทม่ีกีารปกปิด ดว้ยยอดของสนัเนินจากการยงิเลง็ตรงและการตรวจการณ์ภาคพน้ืดนิถงึแมว้่าบางหน่วยและอาวุธบางสว่นจะ ทาํการตงั้ยงิบนลาดหน้าเนิน ยอดเขา หรอืลาดขม่ (ลาดหน้าเนินของภูเขาทต่ีงั้อย่ดูา้นหลงัของลาดหลงัเนิน) กต็าม แต่กาํลงัสว่นใหญ่จะอย่บูนลาดหลงัเนิน ความสาํคญัของการตงั้รบัน้ีคอืการควบคุมยอดเขาดว้ยการยงิ


๑๗๙ รปูท ี่ ๕ - ๑๘ กองรอ้ยตงั้รบัลาดหลงัเนิน ก. ขอ้พจิารณา ขอ้พจิารณาต่อไปน้ีจะใชเ้ม่อืทาํการตงั้รบับนลาดหลงัเนิน ๑) ยอดเขาจะป้องกนักองรอ้ยจากการยงิเลง็ตรง สง ิ่ น้ีจะเป็นความไดเ้ปรยีบทช่ีดัเจน ถา้ฝ่ายเขา้ตี มอีาวุธทม่ีรีะยะยงิเหนือกว่าฝ่ายตงั้รบัการตงั้รบัลาดหลงัเนินสามารถทจ่ีะขจดัหรอืลดความไดเ้ปรยีบของฝ่าย เขา้ตไีด้และยงัจะทาํ ใหข้า้ศกึปรบัการยงิเลง็จาํลองไดย้ากยง ิ่ ขน้ึ ในเม่อืขา้ศกึไม่สามารถตรวจตําบลกระสนุตก ได้ซง่ึจะทาํ ใหข้า้ศกึในระลอกทส่ีองไม่สามารถสนบัสนุนการโจมตใีนระลอกทห่ีน่ึงได้ ๒) ขา้ศกึอาจจะถกูลวงและอาจจะทาํการรุกเขา้มาในระยะประชดิก่อนทจ่ีะคน้พบทม่ีนั่ตงั้รบัดงัน้ ี ผทู้ท่ีาํการตงั้รบัจะมคีวามไดเ้ปรยีบในการจ่โูจม ๓) ฝ่ายตงั้รบั/สามารถทจ่ีะปรบัปรุงทม่ีนั่สรา้งเคร่อืงกดีขวาง และถากถางพน้ืการยงิ โดย ปราศจากการเปิดเผยทม่ีนั่ของตน ๔) ฝ่ายตงั้รบัอาจจะใชท้ม่ีนั่ลวง บนลาดหน้าเนินเพอ่ืทาํการลวงขา้ศกึ ๕) การสง่กาํลงัเพม ิ่ เตมิและการสง่กลบั (เม่อือย่ภูายใตก้ารโจมต)ีอาจจะเป็นการง่าย เม่อืทาํการ ตงั้รบัลาดหลงัเนิน ๖) การคน้หาซง่ึเป้าหมายของขา้ศกึและความพยายามในการรบกวนการตดิต่อสอ่ืสารจะลดลง เรดาหข์องขา้ศกึกลอ้งเลง็อนิฟราเรด และเคร่อืงตรวจจบัความรอ้นไม่สามารถทจ่ีะตรวจจบัทหารทถ่ีูกบงัโดย เนินเขา วทิยุทม่ีเีนินเขากนั้อย่รูะหว่างฝ่ายเรา และฝ่ายขา้ศกึจะมคีวามล่อแหลมน้อยต่อการถูกรบกวนและ คน้หาทต่ีงั้ของฝ่ายขา้ศกึ


๑๘๐ ๗) การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิดของข้าศึก และ ฮ.โจมตีของข้าศึกจะถูกจํากัดการใช้ บ. ข้าศึกจะต้องโจมตีที่มั่นตั้งรับจากทางปีกหรือจากทางข้างหลัง ซึ่งจะทําให้อาวุธป้องกันภัยทางอากาศของฝ่าย เราสามารถทําลายอากาศยานของข้าศึกเหล่านั้นได้ง่าย ๘) หน่วยที่ทําการตีโต้ตอบจะมีอิสระในการดําเนินกลยุทธ์ ในเมื่อหน่วยนี้มีการกําบังจากการยิงเล็ง ตรงของข้าศึก ๙) อาจให้อาวุธต่อสู้รถถังทําการยิงไปยังบริเวณที่มีเกราะบางที่สุดในส่วนบนของยานเกราะ ๑๐) ยอดเขาสามารถที่จะให้การป้องกัน จากผลการกระจายของการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ได้ ข. ข้อพิจารณาพิเศษ ข้อพิจารณาต่อไปนี้อาจจะนําไปใช้เมื่อทําการตั้งรับลาดหลังเนิน ๑) การตรวจการณ์ไปยังข้าศึกจะมีความยากลําบาก ทหารในที่มั่นนี้จะตรวจการณ์ได้ไม่เกิน ยอดเขา ซึ่งจะทําให้มีความยากในการพิจารณาบริเวณที่แน่นอนของข้าศึกที่กําลังทําการรุก โดยเฉพาะเมื่อ ทัศนวิสัยเลวที่ตรวจการณ์จะต้องวางไว้ด้านหน้าของลักษณะภูมิประเทศที่เป็นยอดเขา สําหรับการแจ้งเตือน ล่วงหน้าและการตรวจการณ์ระยะไกล ๒) การออกจากที่มั่นจะมีความยากลําบากมากขึ้น ๓) พื้นการยิงตามปกติจะสั้นลง ๔) เครื่องกีดขวางด้านหน้าเนินสามารถที่จะคุ้มครองได้ด้วยการยิงเล็งจําลองเพียงอย่างเดียว หรือ โดยหน่วยที่อยู่ทางปีกของกองร้อยเท่านั้น นอกจากระบบอาวุธบางประเภทจะทําการวางไว้ด้านหน้าในขั้นต้น ๕) ถ้าข้าศึกยึดยอดเขาไว้ได้ ข้าศึกจะสามารถที่จะทําการจู่โจมลงเนินได้ ซึ่งจะทําให้ข้าศึกมีความ ได้เปรียบทางจิตวิทยา ๖) ถ้าที่ตรวจการณ์มีไม่เพียงพอหรือวางไว้ในบริเวณที่ไม่เหมาะสม ฝ่ายตั้งรับอาจจะต้องทําการ รบกับข้าศึก ซึ่งจะปรากฏตัวอย่างฉับพลันในระยะประชิด ค. ความเป็นไปได้ การตั้งรับลาดหลังเนินอาจมีประสิทธิภาพ เมื่อ ๑) ข้าศึกมีอาวุธยิงระยะไกลมากกว่าฝ่ายตั้งรับ ๒) ลาดหน้าเนินมีการกําบังและการซ่อนพรางน้อย ๓) ลาดหน้าเนินไม่สามารถใช้การได้เพราะการยิงของข้าศึก ๔) ลาดหน้าเนินถูกข้าศึกยึดไว้หรือฝ่ายเรายังไม่ได้ยึดคืน ๕) มีพื้นการยิงที่ดีบนลาดหลังเนิน ๖) เพิ่มการจู่โจมและการลวง ง. การวางแผน หลักพื้นฐานของการตั้งรับถูกนําไปใช้กับการตั้งรับลาดหลังเนิน ๑) ที่มั่นของ มว. ในแนวหน้าควรที่จะอยู่ในระยะ ๒๐๐ ถึง ๕๐๐ ม. จากยอดสูงสุดของเนินเขาหรือ สันเขาที่ทําการตั้งรับอยู่และทําการวางกําลังเพื่อทําการขัดขวางข้าศึกที่เคลื่อนที่เข้ามาและแสวงประโยชน์จาก เครื่องกีดขวางที่มีอยู่ มว. ควรที่จะได้รับอนุมัติให้จู่โจมด้วยการยิงไปยังยอดเขาและข้าศึกที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ที่มั่นรบในแนวหน้าควรที่จะมีการกําบังเหนือศีรษะ และด้านหลังเพื่อป้องกันทหารฝ่ายเดียวกันจากการยิง กันเอง ๒) ตั้งที่ตรวจการณ์ ซึ่งมี นยส. รวมอยู่ด้วยบนยอดเขาหรือลาดหน้าเนินของเนินเขาที่ตั้งรับอยู่ ใน เวลากลางคืนที่ตรวจการณ์และหน่วยลาดตระเวนควรที่จะจัดเพิ่มเพื่อป้องกันการแทรกซึม ปืนกลอาจจะ สมทบให้กับที่ตรวจการณ์ก็ได้


๑๘๑ ๓) วางกาํลงัของ มว./กองหนุน ในทางลกึของกองรอ้ย ซง่ึจะสามารถทาํการสกดักนั้บรเิวณทข่ีา้ศกึ น่าจะทาํการเจาะ สนบัสนุน มว. ในแนวหน้าดว้ยการยงิ ป้องกนัปีกและดา้นหลงัของกองรอ้ย และทาํการตี โตต้อบเม่อืจาํเป็น ทม่ีนั่ของ มว./กองหนุนอาจจะตงั้อย่บูรเิวณลาดขม่ดา้นหลงัของ มว.ในแนวหน้ากไ็ด้ถา้ สามารถทจ่ีะทาํการยงิขา้ศกึได้เม่อืขา้ศกึเขา้ถงึยอดสงูของเนินเขาทต่ีงั้รบัอยู่ ๔) กาํหนดทต่ีงั้ทบ่ีงัคบัการของกองรอ้ย ไปทางดา้นหลงัในทท่ีไ่ีม่รบกวนการปฏบิตัขิองกองหนุน และหน่วยสนบัสนุน ผบ.รอ้ย. อาจจะตงั้ทบ่ีงัคบัการบรเิวณลาดหน้าเนินหรอืยอดเขาและบรเิวณอ่นืๆ บนลาด หลงัเนินหรอืลาดขม่กไ็ด้ผบ.รอ้ย. จะใชท้ต่ีรวจการณ์บนลาดหน้าเนินหรอืยอดเขา ก่อนทก่ีารรบจะเรม ิ่ ขน้ึ เม่อืผบ.รอ้ย. พยายามทจ่ีะพจิารณาเจตนารมณ์ของขา้ศกึ ในระหว่างการรบ ผบ.รอ้ย. จะเคล่อืนทไ่ีปยงัท่ี ตรวจการณ์บนลาดหลงัเนินหรอืลาดขม่ ๕) วางแผนการยงิเลง็จาํลองไปยงัดา้นหน้า ดา้นบน และทางปีกของลาดหน้าเนิน ยอดเขา ลาด หลงัเนิน และลาดขม่วางแผนการยงิป้องกนัขนั้สดุทา้ยบนยอดสงูของเนินเขา เพ่อืควบคุมยอดเขาและหยุด การจ่โูจม กาํหนดใหต้อน ค. เขา้ทก่ีาํบงัดา้นหลงัของลาดขม่ ๖) เพม ิ่ เตมิเคร่อืงกดีขวางตามธรรมชาติจดัสรา้งสนามทุ่นระเบดิป้องกนัตนเรง่ด่วนบนลาดหลงั เนินถดัลงมาจากยอดเขาซง่ึสามารถทจ่ีะคมุ้ครองไดด้ว้ยการยงิสามารถทจ่ีะทาํ ใหก้ารรุกของขา้ศกึชา้ลง และ รงั้หน่วงขา้ศกึไวภ้ายใตก้ารยงิของฝ่ายเรา ๗) ตามปกติผบ.รอ้ย. จะวางแผนการตโีตต้อบ ซง่ึแผนน้ีจะขบัไล่ขา้ศกึใหอ้อกจากยอดเขาดว้ย การยงิถา้เป็นไปได้แต่ผบ.รอ้ย. จะตอ้งเตรยีมการขบัไล่ขา้ศกึใหอ้อกไปดว้ยการยงิและการเคล่อืนทไ่ีวด้ว้ย ๕ - ๒๓ การตงั้รบัวงรอบ รอ้ย.อวบ. จะเตรยีมการตงั้รบัวงรอบเม่อืไมม่หีน่วยทหารฝ่ายเดยีวกนัอยใู่น บรเิวณขา้งเคยีง (รปูท่ี ๕ - ๑๙) การตงั้รบัวงรอบอาจจะใชใ้นทม่ีนั่ของกองหนุน ในพน้ืทร่ีวมพล หรอืฐาน ลาดตระเวน ในการปฏบิตักิง่ึอสิระ ในระหว่างการสง่กาํลงัเพม ิ่ เตมิหรอืเม่อืกองรอ้ยแยกการปฏบิตักิาร การ ปฏบิตัติ่อไปน้ีจะใชป้ระกอบการจดัตงั้การตงั้รบัวงรอบ รปูท ี่ ๕ - ๑๙ การตงั้รบัวงรอบของกองรอ้ย


๑๘๒ ก. เตรียมการตั้งรับวงรอบเช่นเดียวกับที่มั่น ตั้งรับอื่น ๆ แต่จะต้องกระจายกองร้อยในลักษณะ วงรอบสําหรับการระวังป้องกันโดยรอบ รูปร่างที่แท้จริงของการตั้งรับวงรอบจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ กองร้อยจะต้องเตรียมทําการตั้งรับในทุกทิศทาง ข. ผบ.ร้อย. จะกําหนดให้ มว.ปล. คุ้มครองเส้นทางที่ข้าศึกน่าจะใช้ในการเคลื่อนที่เข้ามาให้มีเขตที่ เล็กลงกว่า มว.อื่น ๆ และจะเตรียมที่มั่นสํารองและที่มั่นเพิ่มเติมภายในวงรอบ ค. ถ้าแบ่งมอบอาวุธจรวดโทว์และรถถังเพื่อควบคุมเส้นทางการเข้ามาของยานเกราะของข้าศึก อาวุธ จรวดโทว์และรถถังอาจจะอยู่ในที่มั่นที่ซ่อนไว้ และเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อทําการยิงต่อข้าศึกเมื่อปรากฏตัวขึ้น อาวุธจรวดโทว์และรถถังควรที่จะกําหนดที่ตั้งยิงหลาย ๆ แห่ง ถ้ามีที่ตั้งยิงน้อยก็จะกําหนดที่ตั้งยิงหลักและทํา การขุดที่ตั้งยิง ง. กําหนดให้ ค. เข้าที่ตั้งยิงใกล้กับศูนย์กลางของวงรอบ เพื่อระยะยิงตํ่าสุดของ ค. (๗๐ ม.) จะไม่ถูก จํากัดขีดความสามารถในการทําการยิงในทุก ๆ ทิศทาง ค. ควรที่จะอยู่ในหลุม ค. และมีบังเกอร์ที่มีการกําบัง สําหรับการเก็บกระสุน หน่วย ค. จะติดต่อสื่อสารโดยใช้โทรศัพท์ (สายโทรศัพท์ควรที่จะฝังไว้) ศูนย์ อํานวยการยิงจะต้องอยู่ในหลุมที่มีการกําบังเหนือศีรษะ ค. อาจจะได้รับมอบที่มั่นเพิ่มเติมด้วย ในเมื่อ ค. จะต้องเตรียมทําการรบในทุกทิศทาง จ. จัดเตรียมเครื่องกีดขวางและทุ่นระเบิดในทางลึกรอบ ๆ วงรอบ ฉ. วางแผนการยิงเล็งตรงและเล็งยิงจําลองเช่นเดียวกับการตั้งรับอื่น ๆ วางแผนและใช้การยิงสนับสนุน จากภายนอกวงรอบ เมื่อได้รับการสนับสนุน ช. ตอบโต้การเข้าตีเพื่อหยั่งเชิง โดยใช้อาวุธยิงในพื้นที่ (ป. ค. เคลย์โม และเครื่องยิงลูกระเบิดจากปืน เล็ก) เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยที่ตั้งของที่มั่นรบ ถ้าข้าศึกทําการรุกคืบหน้าเข้ามาจึงค่อยตอบโต้ด้วยปืนกล และปืนเล็ก ซ. ถ้าวงรอบถูกเจาะ กองหนุนจะทําการสกัดกั้นการเจาะ และคุ้มครองทหารฝ่ายเดียวกันในระหว่างทํา การเคลื่อนที่ไปยังที่มั่นสํารองและที่มั่นเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าขีดความสามารถในการตีโต้ตอบของกองร้อยจะถูก จํากัดแต่จะต้องทําการต่อสู้เพื่อทําการยึดวงรอบคืน ด. หน่วยสนับสนุนการช่วยรบอาจจะสนับสนุนจากภายในวงรอบหรือจากที่มั่นอื่น ๆ สิ่งอุปกรณ์และ การส่งกลับอาจจะใช้ทางอากาศ ควรที่จะพิจารณาเขตร่อนลงและเขตส่งลง (ทําการป้องกันจากการตรวจการณ์ และการยิงของข้าศึก) ที่หาได้ในพื้นที่เมื่อทําการเลือกและเตรียมที่มั่น ต. การเปลี่ยนแปลงการตั้งรับวงรอบ เพื่อให้การใช้ลักษณะภูมิประเทศได้ผลดี จะใช้การตั้งรับแบบรูป ตัววาย (Y) การตั้งรับแบบนี้จะใช้เมื่อลักษณะภูมิประเทศ การกําบัง และการซ่อนพราง หรือพื้นการยิง ไม่ สนับสนุนที่มั่นของ มว. ในลักษณะวงรอบ การตั้งรับแบบรูปตัววาย (Y) (รูปที่ ๕ - ๒๐) สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะที่มั่นรบของ มว. จะตั้งอยู่บนแกนที่แตกต่างกัน ๓ แกน ในรัศมีจากจุดศูนย์กลางจุดเดียว ซึ่งยังคงเป็น การตั้งรับวงรอบ เพราะการตั้งรับแบบนี้จะสามารถต่อต้านการโจมตีในหลาย ๆ ทิศทาง การตั้งรับแบบนี้จะให้ การยิงโดยรอบ โดยไม่ต้องกําหนดที่มั่นอื่น ๆ ในวงรอบ การตั้งรับแบบนี้น่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดใน ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขา แต่อาจจะมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าทึบก็ได้เพียงแต่จํากัดด้วย พื้นการยิงเท่านั้น หลักพื้นฐานทั้งหมดของการตั้งรับวงรอบที่กล่าวไปแล้วข้างต้นได้ถูกนําไปใช้ แต่อาจ จําเป็นต้องปรับปรุงบางส่วนและเพิ่มเติมข้อพิจารณาพิเศษอีกด้วย


๑๘๓ รปูท ี่ ๕ - ๒๐ การตงั้รบัวงรอบแบบรปูตวัวาย (Y) ๑) ถงึแมว้่าทม่ีนั่รบของแต่ละ มว. จะมทีศิทางสาํหรบัการยงิหลกักต็าม แต่ละ มว. จะตอ้งเตรยีมปรบั ทศิทางการยงิเพ่อืรวมการยงิเขา้ไปในพน้ืทส่ีงัหารไปจนถงึเขตหลงั ๒) เม่อืไม่สามารถทจ่ีะพสิจูน์ทราบไดว้่าเสน้ทางใดทน่ี่าจะเป็นเสน้ทางการเคล่อืนทข่ีองขา้ศกึหรอืใน ระหว่างทศันวสิยัจาํกดัแต่ละ มว. อาจจะมกีาํลงัครง่ึหน่งึหนัทศิทางไปยงัพน้ืทส่ีงัหารทางดา้นหน้าและอกี ครง่ึหน่ึงหนัไปทางพน้ืทส่ีงัหารทางดา้นหลงักไ็ด้ตามอุดมคตแิลว้ทม่ีนั่บุคคลสาํรองจะถูกจดัเตรยีมเพ่อืให้ ทหารทาํการเปลย่ีนทม่ีนั่เม่อืตอ้งการเพ่อืรวมการยงิไปในพน้ืทส่ีงัหาร ๓) เม่อืสามารถพสิจูน์ทราบหรอืคาดการณ์การใชเ้สน้ทางการเคล่อืนทข่ีองขา้ศกึผบ.รอ้ย. อาจจะ ปรบัมว.ปกตใิหห้นัทศิทางเพ่อืรวมการยงิกไ็ด้(รปูท่ี๕ - ๒๑) เง่อืนไขน้ีจะตอ้งยอมรบัการเสย่ีงในพน้ืทอ่ี่นื ของวงรอบ แผนการระวงัป้องกนัของกองรอ้ยควรทจ่ีะถูกชดเชยสาํหรบัเง่อืนไขน้ีดว้ยการเพม ิ่ เตมิท่ี ตรวจการณ์การลาดตระเวนหรอืมาตรการอ่นืๆ


๑๘๔ รปูท ี่ ๕ - ๒๑ การปรบัการตงั้รบัแบบรปูตวัวาย (Y) ๔) การกาํหนดทต่ีงั้ทบ่ีงัคบัการ ค. กองหนุน หรอืเคร่อืงมอืในการสนบัสนุนการชว่ยรบอ่นืๆ จะมี ความยุ่งยากมากเน่ืองจากการขาดความลกึภายในวงรอบ ๕) แง่คดิทม่ีคีวามยากทส่ีดุในการตงั้รบัแบบน้ีคอืมาตรการควบคมุการยงิซง่ึจะตอ้งกาํหนดขน้ึเพ่อื ความปลอดภยัในการรบของการตงั้รบัน้ีทจ่ีะไม่ใหม้กีารบาดเจบ็สญูเสยีจากการยงิของฝ่ายเดยีวกนัผบ.หน่วย จะตอ้งมคีวามมนั่ ใจในการจาํกดัการยงิสาํหรบัแต่ละอาวธุโดยหา้มมใิหท้าํการยงิไปยงัทม่ีนั่ของ มว.ขา้งเคยีง ในสภาพแวดลอ้มของภูเขาอาจจะมคีวามง่ายเน่ืองจากจะทาํการยงิลงไปยงัพน้ืทส่ีงัหารเท่านนั้บางมาตรการท่ี ควรพจิารณาประกอบดว้ย ก) กาํหนดทต่ีงั้ของปืนกลใหอ้ยใู่กลก้บัสว่นปลายของรปูตวัวาย (Y) เพ่อืใหแ้นวยงิฉากป้องกนั ขนั้สดุทา้ยสามารถคุม้ครอง มว.ขา้งหน้า ไดใ้นขณะท่ีมว.ขา้งเคยีงปลอดภยัจาก การยงิ ข) การคุม้ครองพน้ืทข่ีองพน้ืทส่ีงัหารใกลส้ว่นปลายสดุดว้ยเคลยโ์ม ทุ่นระเบดิอ่นืๆ หรอืเคร่อืง กดีขวางเพอ่ืลดความตอ้งการสาํหรบัการยงิเลง็จาํลองในพน้ืทน่ี้ี ค) ตรวจสอบดวู่าทม่ีนั่เหล่านนั้มคีวามเสย่ีงมากต่อการยงิของฝ่ายเดยีวกนัหรอืไม่และเตรยีมท่ี มนั่รบ เพ่อืป้องกนัทหารจากการยงิมายงัทศิทางน้ี ง) การสญูเสยีทม่ีนั่ของ มว.ใด มว.หน่ึงอาจจะคุกคามการสญูเสยีทงั้กองรอ้ยกไ็ด้ทาํการวางแผน และซกัซอ้มการตโีตต้อบโดยทนัทดีว้ยกองหนุน หรอือย่างน้อยใช้มว.เพ่อืป้องกนัสง ิ่ ทจ่ีะเกดิขน้ึน้ี จ) กาํหนดใหข้า้ศกึทาํการเจาะเขา้มาในพน้ืทส่ีงัหารและทาํลายขา้ศกึเหมอืนเช่นเป็นการซุ่มโจมตี ฉ) พงึสาํนึกไวว้่า ถา้การตงั้รบัแบบน้ีถูกนํามาใชใ้นภูมปิระเทศทม่ีลีกัษณะเด่นชดัและขา้ศกึมขีดี ความสามารถในการรวมอาํนาจการยงิขา้ศกึอาจจะตรงึกองรอ้ยดว้ยการยงิเลง็ตรงและใชก้ารทาํลายดว้ยการ ยงิเลง็จาํลองกไ็ด้


๑๘๕ ๕ - ๒๔ การตงั้รบัแบบเป็นแนว เทคนิคน้จีะใหก้ารประสานกนัและการตรวจการณ์ทค่ีาบทบักนัและพน้ืการ ยงิตรงขา้มดา้นหน้าของกองรอ้ย (รปูท่ี๕ - ๒๒) อาํนาจกาํลงัรบขนาดใหญ่จะอยทู่างดา้นหน้า ทรพัยากรท่ี เพยีงพอจะตอ้งมใีหเ้พ่อืใหอ้าํนาจการรบทเ่ีหมาะสมไปยงัทศิทางตรงขา้มกบัเขตเพ่อืการตรวจจบัและหยุดยงั้ การโจมตขีองขา้ศกึกองรอ้ยจะมคีวามเช่อืมนั่ ในการรบจากทม่ีนั่สนบัสนุนซง่ึกนัและกนัทม่ีกีารเตรยีมการเป็น อย่างดี โดยจะใชป้รมิาณการยงิทส่ีงูจากการยงิเลง็ตรงและการยงิเลง็จาํลองเพ่อืหยุดยงั้ฝ่ายโจมตีตามปกติ กองหนุนจะมขีนาดเลก็บางครงั้จะเป็นขนาดหมู่ รปูท ี่ ๕ - ๒๒ การตงั้รบัแบบเป็นแนว ก. ขอ้ทต่ีอ้งพจิารณาเป็นหลกัเม่อืทาํการรบในการตงั้รบัเป็นแนว คอืการขาดความอ่อนตวัและ ความยากลาํบากในการครองความรเิรม ิ่ และการคน้หาจุดอ่อนของขา้ศกึเม่อืขา้ศกึมขีอ้ไดเ้ปรยีบในความ คล่องแคล่ว การตงั้แบบเป็นแนวอาจจะมคีวามเสย่ีงสงูการเปลย่ีนทม่ีนั่กระทาํ ไดล้าํบากทงั้ทางขา้งและทางลกึ เพ่อืการเพม ิ่ พน้ืทห่ีรอืเพอ่ืการป้องกนัการเจาะ เคร่อืงกดีขวางการยงิเลง็จาํลอง และแผนเผชญิเหตุทม่ีี ประสทิธภิาพจะมคีวามสาํคญักบัการดาํเนินกลยุทธน์ ้ีกองรอ้ยจะเอาชนะขา้ศกึไดข้น้ึอย่กูบัการจ่โูจม ทม่ีนั่ทม่ีี การเตรยีมการทด่ีีและการยงิทแ่ีม่นยาํดงันนั้จะตอ้งทาํการรบในลกัษณะน้ีเน่ืองจากเป็นความตอ้งการของ แผน หลงัจากนนั้กองพนัจะชดเชยสาํหรบัจุดอ่อนเหล่าน้ีดว้ยทรพัยากรอ่นืๆ ข. การตงั้รบัแบบเป็นแนวอาจจะใชเ้ม่อืมภีูมปิระเทศทเ่ีหมาะกบัการตงั้รบั ในสว่นดา้นหน้าของ เขตปฏบิตักิารของกองรอ้ย หรอืการใชค้วามไดเ้ปรยีบของแนวเคร่อืงกดีขวางตามธรรมชาตทิส่ีาํคญัและยงัจะ ใชเ้ม่อืขา้ศกึสว่นใหญ่เป็นทหารราบ และอาจใชส้าํหรบัการปฏบิตัติามภารกจิการระวงัป้องกนัเช่น การตอบโต้ การแทรกซมึหรอืเม่อืสงั่การโดยกองพนั


๑๘๖ ค. สนามทุ่นระเบดิและเคร่อืงกดีขวางอ่นืๆ จะไดร้บัการกาํหนดทต่ีงั้และการคมุ้ครองจากการยงิ เพ่อืทาํ ใหฝ้่ายโจมตชีา้ลงและก่อใหเ้กดิการบาดเจบ็สญูเสยีกบัขา้ศกึรเิรม ิ่ การโจมตขีา้ศกึในระยะไกลโดยการ สนบัสนุนการยงิ (ทางอากาศยุทธวธิีฮ. โจมตีและ ป.) เพ่อืทาํ ใหข้า้ศกึเสยีระเบยีบความสมดุลในการโจมตีใช้ การยงิจาก ค. ปืนกล และอาวุธปืนเลก็เม่อืขา้ศกึเขา้มาในระยะยงิถา้ขา้ศกึทาํการเจาะการตงั้รบัสกดักนั้การ รุกดว้ยกองหนุนและเล่อืนการยงิจาก มว. ในแนวหน้าไปยงัปีกของขา้ศกึหลงัจากนนั้ทาํการตโีตต้อบ (ดว้ย กองหนุนของกองรอ้ยหรอือย่างน้อยใช้มว.) ดว้ยการยงิทร่ีุนแรง เพ่อืทาํลายกาํลงัขา้ศกึทแ่ียกกนัอย่หูรอืท่ี อ่อนแอและเขา้ยดึภมูปิระเทศหลกั ง. ความพยายามในการต่อตา้นการลาดตระเวนจะสาํคญัสงูสดุเม่อืทาํการรบในการตงั้รบัแบบเป็น แนวเพ่อืมใิหข้า้ศกึทราบทต่ีงั้ของทม่ีนั่ ในแนวหน้าของกองรอ้ย ถา้ขา้ศกึสามารถทราบทต่ีงั้ของทม่ีนั่ ในแนว หน้า ขา้ศกึจะทาํการรวมอาํนาจการรบในทซ่ีง่ึขา้ศกึตอ้งการในระหว่างการตรงึสว่นทเ่ีหลอืของกองรอ้ยเพ่อื ป้องกนัการดาํเนินกลยุทธเ์พ่อืทาํ ใหก้ารโจมตเีสยีระเบยีบ ความพยายามน้ีอาจจะเพม ิ่ ไดโ้ดยการเรม ิ่ เขา้ ยดึครองและทาํการรบจากทม่ีนั่สาํรองไปยงัทม่ีนั่หลกัสง ิ่ น้ีจะเป็นการเพม ิ่ ภารกจิการระวงัป้องกนัและยงัจะทาํ การลวงการลาดตระเวนของขา้ศกึทอ่ีาจจะผ่านกาํลงัระวงัป้องกนัเขา้มาได้ ๕ - ๒๕ การตงั้รบัของจดุต้านทาน กองรอ้ยอาจจะไดร้บัการสงั่การใหก้ ่อสรา้งจุดตา้นทาน ซง่ึเป็นสว่นหน่ึง ของการตงั้รบั (รปูท่ี๕-๒๓)ในการน้ีจะตอ้งมกีารเพม ิ่ การสนบัสนุนดว้ยทหารช่าง อาวธุเพมิ่เตมิและทรพัยากร ในการสนบัสนุนการช่วยรบ จดุตา้นทานน้ีจะไดร้บัการป้องกนัจนกว่าหน่วยจะไดร้บัคาํสงั่อย่างเป็นทางการให้ ออกจากจุดตา้นทานน้ีโดย ผบ.หน่วยทค่ีวบคุมการตงั้รบัเท่านนั้ รปูท ี่ ๕ - ๒๓ จดุต้านทานของกองรอ้ย


๑๘๗ ก. ที่มั่นเฉพาะของหน่วยในจุดต้านทานจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ภารกิจ และการประมาณสถานการณ์ ของ ผบ.หน่วย ข้อพิจารณาเช่นเดียวกันกับการตั้งรับวงรอบจะถูกนํามาประยุกต์ใช้เพิ่มเติมดังนี้ ๑) ทําการเสริมความแข็งแรงที่มั่นรบของแต่ละบุคคล (รวมถึงที่มั่นสํารองและที่มั่นเพิ่มเติม) เพื่อ ต้านทานการยิงของปืนเล็ก การยิงของ ค. และสะเก็ดระเบิดจากการยิงของ ป. นอกจากนี้จะต้องทําการสะสม อาหาร นํ้า กระสุน เครื่องมือช่าง และสิ่งอุปกรณ์สายแพทย์ในแต่ละที่มั่นรบ ๒) สนับสนุนแต่ละที่มั่นรบของแต่ละบุคคลด้วยหลาย ๆ สิ่ง ทําการวางแผนหรือสร้างที่กําบังและ การซ่อนพรางเส้นทางระหว่างที่มั่นและตามเส้นทางส่งกําลัง และการติดต่อสื่อสารใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อให้การ สนับสุนนการตีโต้ตอบและการดําเนินกลยุทธ์ภายในจุดต้านทานนี้ ๓) ทําการแบ่งจุดต้านทานออกเป็นส่วนอิสระหลาย ๆ ส่วน แต่ต้องให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งที่มั่นหรือเขตปฏิบัติการ ถ้าหนึ่งในที่มั่นหรือเขตปฏิบัติการสูญเสียไป หรือถูกข้าศึกเข้ายึดจะต้องจํากัดการ เจาะของข้าศึกด้วยเครื่องกีดขวางการยิงและสนับสนุนการตีโต้ตอบ ๔) สร้างเครื่องกีดขวางและสนามทุ่นระเบิด เพื่อทําให้ข้าศึกเสียระเบียบและบีบบังคับรูปขบวน ทําการรบของข้าศึก เพื่อเพิ่มเติมการยิงและเพื่อป้องกันจุดต้านทานจากการจู่โจม ทําการวางเครื่องกีดขวาง และทุ่นระเบิด ให้ห่างจากหน่วยฝ่ายเดียวกัน ออกไปไกลที่สุดเท่าที่จะสามารถตรวจการณ์ได้ ภายในจุด ต้านทาน และ ณ จุดในระหว่างที่ ๆ จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้ ๕) เตรียมแผ่นจดระยะ สําหรับแต่ละที่มั่นและทดสอบด้วยการยิง วางแผนการยิงเล็งจําลองใน รายละเอียดและบันทึกไว้ การยิงเล็งจําลองควรที่จะวางแผนสําหรับการยิงตรงไปยังพื้นที่เหนือจุดต้านทานไว้ ด้วยโดยการใช้ชนวนแตกอากาศ ๖) วางแผนและทดสอบองค์ประกอบหลาย ๆ แบบของการติดต่อสื่อสารภายในจุดต้านทานและไป ยังที่บังคับการของหน่วยเหนือ ได้แก่ วิทยุ ทางสาย พลนําสาร พลุสัญญาณ และสัญญาณอื่น ๆ ๗) ปรับปรุงหรือซ่อมแซมจุดต้านทานจนกว่าหน่วยจะได้รับการผลัดเปลี่ยนหรือถอนตัว โดยสร้าง ที่มั่นเพิ่มเติมเป็นอุโมงค์ และขุดสนามเพลาะปรับปรุงและซ่อมแซม ที่มั่นที่มีอยู่ และสร้างหรือซ่อมฉากขัดขวาง ข. จุดต้านทานอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนตั้งรับอื่น ๆ ได้ ซึ่งอาจจะสร้างขึ้นเพื่อป้องกัน หน่วยและ ที่ตั้งทางทหารที่สําคัญ เพื่อเป็นหลักให้กับที่มั่นอื่นโดยรอบซึ่งจะทําให้มีหน่วยเคลื่อนที่ ดําเนินกลยุทธ์เพิ่มมาก ขึ้น หรือเป็นส่วนหนึ่งของกับดัก ซึ่งออกแบบมาเพื่อการทําลายกําลังข้าศึกที่มาโจมตี ค. จุดต้านทาน จะเป็นลักษณะเข้ากับภูมิประเทศ การพรางตามธรรมชาติและเครื่องกีดขวางที่ใช้ ภูเขา แม่นํ้า บึง และป่าสามารถที่จะช่วยเสริมให้จุดต้านทานมีความแข็งแรงขึ้น เพื่อการกําบัง การซ่อนพราง และ เครื่องกีดขวาง พื้นที่ในเมืองสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นจุดต้านทานได้ด้วย อาคารที่ก่อสร้างด้วยหิน อิฐ หรือ อาคารเสริมเหล็ก จะให้การกําบังและการซ่อนพราง อาคาร ท่อนํ้าใต้ดินและถนนบางสาย จะให้เส้นทางที่มีการ กําบังและการซ่อนพรางและสามารถที่จะทําให้เป็นเศษอิฐเศษหินเพื่อให้เป็นสิ่งกีดขวาง ระบบโทรศัพท์สามารถ ที่จะนํามาใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารได้อีกด้วย


๑๘๘ บทที่ ๖ การปฏิบัติทางยุทธวิธีอื่น ๆ “ ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายและเมื่อใดที่เกิดการสู้รบ อํานาจกําลังรบที่เหนือกว่าจะได้มาจากความ กล้าหาญและความสามารถของทหาร การฝึกที่เยี่ยมยอด ขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์และเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งหมดคือคุณภาพของผู้นํา ” รส.๑๐๐ - ๕ ในบทนี้จะกล่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติการที่ต้องการข้อพิจารณาในการวางแผนพิเศษ การปฏิบัติการ ต่าง ๆ นี้ อาจจะเป็นกิจสําคัญยิ่งที่กองร้อยจะต้องทําให้สําเร็จเพื่อให้ภารกิจสมบูรณ์ เช่น การผ่านแนว การ ผลัดเปลี่ยนหน่วยในสถานการณ์อื่น ๆ (การตีโฉบฉวยและการรั้งหน่วง) ภารกิจอาจจะต้องการข้อพิจารณาใน การวางแผนเป็นพิเศษ ตอนที่ ๑ การผานแนวทหารฝ่ ายเดียวกัน ่ การเข้าตีผ่านเป็นการปฏิบัติที่หน่วยหนึ่งทําการผ่านแนววางกําลังของอีกหน่วยหนึ่ง เมื่อหน่วยที่ เคลื่อนที่ไปยังข้าศึกทําการผ่านหน่วยที่อยู่กับที่จะเป็นการผ่านแนวไปข้างหน้า เมื่อหน่วยได้เคลื่อนที่ผละออก จากข้าศึก โดยทําการผ่านหน่วยที่อยู่กับที่จะเป็นการผ่านแนวจะไปข้างหลัง ๖ - ๑ วัตถุประสงค์ ในการปฏิบัติการนี้ จะปฏิบัติเมื่อภารกิจของกองร้อยต้องการผ่านภูมิประเทศที่ถูกยึด ครองโดยหน่วยอื่น กองร้อยจะปฏิบัติการผ่านแนวเพื่อ ก. ริเริ่มหรือเข้าตีต่อไป ข. เริ่มการแทรกซึม ค. ปฏิบัติการลาดตระเวน ง. ทําการตีโต้ตอบ จ. ปฏิบัติการร่นถอย ๖ - ๒ ข้อพิจารณาโดยทั ่วไป ในการวางแผนการผ่านแนว ผบ.ร้อย. ควรที่จะพิจารณาสิ่งต่อไปนี้เพื่อลดความ ไม่เป็นระเบียบของทั้งหน่วยที่ทําการเคลื่อนที่ผ่าน และหน่วยที่ทําการตั้งรับอยู่กับที่ ก. ทําการผ่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่กระทําได้ ข. หลีกเลี่ยงการบังการยิงของหน่วยที่อยู่กับที่ ค. ประสานงานแต่เริ่มแรกในการวางแผน และดํารงการติดต่อประสานงานระหว่างการปฏิบัติ ง. หน่วยที่อยู่กับที่สนับสนุนการผ่านอย่างเต็มความสามารถ จ. วางแผนเผชิญเหตุที่น่าจะเกิด ฉ. ถ้าเป็นไปได้ให้ทําการอ้อมผ่านหน่วยที่อยู่กับที่ ช. ถ้าเป็นไปได้ หลีกเลี่ยงการผ่านหน่วยที่ยังคงการปะทะอยู่กับข้าศึก ๖ - ๓ ข้อพิจารณาพิเศษ ในแต่ละสถานการณ์ทางยุทธวิธีจะมีข้อพิจารณาทั้งของ ผบ.ร้อย. ที่ผ่านและถูกผ่าน ข้อพิจารณาดังกล่าวจะเป็นผลจากการประมาณสถานการณ์ของ ผบช. การผ่านแนวเพื่อเข้าตี จะแตกต่างจาก การผ่านแนวเพื่อเริ่มการแทรกซึม การผ่านแนวจะได้รับการวางแผนในการสนับสนุนภารกิจของกองร้อย


๑๘๙ ก. การบังคับบัญชาและการควบคุม ในการปฏิบัติที่ผสมกันของหน่วยระหว่างการผ่าน ข้อพิจารณาการ บังคับบัญชาและการควบคุมสําหรับการผ่านแนวจะเป็นหนึ่งเดียว การประสานงานจะต้องเริ่มแต่เนิ่นใน ขบวนการวางแผน การกําหนดที่ตั้งของหน่วยที่สําคัญ และการใช้มาตรการควบคุมที่เหมาะสมจะอํานวยความ สะดวกให้แก่การบังคับบัญชาและการควบคุม ๑) ข้อพิจารณาระหว่างกองร้อยที่ผ่านและกองร้อยที่อยู่กับที่ อาจจะรวมสิ่งต่อไปนี้ ก) การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ข) การแลกเปลี่ยนแผนการยุทธ์วิธี ค) แผนการลาดตระเวน ง) การเลือกจุดที่จะทําการผ่านและจัดหาคนนําทาง จ) เวลาหรือเมื่อไรที่ความรับผิดชอบในการควบคุมพื้นที่ปฏิบัติการจะถูกเปลี่ยน (การโอนหรือส่ง มอบการรบ) ฉ) การยิงและการสนับสนุนการรบอื่น ๆ จะเตรียมไว้โดยกองร้อยที่ปะทะ ช) การแลกเปลี่ยนข่าวสารในเรื่องสนามทุ่นระเบิดและเครื่องกีดขวางอื่น ๆ ซ) การแลกเปลี่ยนบุคคลติดต่อ ด) การแลกเปลี่ยนความถี่ นามเรียกขาน รหัสผ่านและสัญญาณบอกฝ่าย ๒) ที่ตั้งของ ผบ.หน่วยที่สําคัญทั้งของกองร้อยที่ผ่านและอยู่กับที่จะมีความวิกฤติ ผบช. และ นยส. ควรที่จะอยู่ที่หรือมองเห็นและควบคุมการผ่านได้ดีที่สุด เจ้าหน้าที่หลักอื่น ๆ (รอง ผบ.ร้อย. จ่ากองร้อย) ควร จะอยู่ในที่ช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาได้ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรจะอยู่ที่จุดผ่านหรือตามช่องผ่าน ๓) ในการผ่านแนวควรที่จะมีการเขียนด้วยภาพลายเส้นที่เหมาะสม โดยจะให้การควบคุมและความ อ่อนตัวในระหว่างการปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้อาจจะถูกกําหนดโดยผู้บังคับหน่วยเหนือหรืออาจจะเป็น ผบ.ร้อย. เอง ก็ได้ มาตรการควบคุมที่มักจะใช้ในการสนับสนุนการผ่านแนวมีดังต่อไปนี้ ก) พื้นที่รวมพล สิ่งนี้จะใช้มากในการผ่านแนวลงมาข้างหลัง เพื่อที่จะให้กองร้อยที่ทําการผ่านได้ จัดกําลังใหม่ ก่อนที่จะทําการเคลื่อนที่ต่อไป ที่รวมพลอาจจะถูกกําหนดแต่จะเข้ายึดครองเมื่อจําเป็นเท่านั้น ข) ฐานออกตี ค) แนวส่งมอบการรบ เส้นขั้นที่ใช้ในการผ่านแนวลงมาข้างหลังที่หน่วยอยู่กับที่จะเข้ารับผิดชอบ การรบต่อจากหน่วยที่ทําการผ่าน หน่วยที่อยู่กับที่จะสามารถเล็งเป้าหมายเหนือแนวส่งมอบการรบได้ด้วย อาวุธเล็งตรง และช่วยให้หน่วยที่ทําการผ่านผละออกจากการรบได้ถ้าต้องการ ง) จุดประสาน จุดประสานควรที่จะกําหนดในแต่ละจุดผ่านหรือช่องผ่าน โดย ผบ.ร้อย. ที่อยู่กับ ที่จะวางแผนทั้งจุดประสานหลักและรอง จ) ช่องทางผ่าน ช่องทางผ่านควรจะวางข่ายไปถึงภูมิประเทศที่มิได้ยึดครอง ระหว่างที่ตั้งและ ผ่านเครื่องกีดขวางต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ โดยอาจจะกําหนดไว้หลายช่องทางหรือเป็นช่องทางหลักหรือรองก็ได้ ฉ) จุดผ่าน จุดผ่านอาจจะใช้แทนช่องทางผ่านเมื่อที่ตั้งของหน่วยอยู่กับที่และเครื่องกีดขวางไม่ สะดวกต่อการใช้ช่องผ่าน หรืออาจจะกําหนดจุดต้านไว้ตามช่องทางผ่านก็ได้ เพื่อเพิ่มการควบคุม ช) เส้นทาง ซ) จุดปล่อย จุดแยก ด) จุดเริ่มต้น


๑๙๐ ต) สัญญาณ สัญญาณบอกฝ่ายจะ อํานวยความสะดวกในการบรรจบหน่วย ซึ่งจะต้องมี การกําหนด ข้อพิจารณาในการแยกข้าศึกออกจากฝ่ายเรา (โดยเฉพาะการผ่านแนวลงมาข้างหลัง) จะได้แก่ เครื่องหมายบอกฝ่ายบุคคลและยานพาหนะ แสงจากสารเคมี การวางแนวปืน (แนวปืนควรชี้ไปทิศทางข้าศึก) หรือการใช้สัญญาณผ่าน ข. การลาดตระเวน ผู้บังคับบัญชาที่ทําการผ่านจะต้องมั่นใจว่ามีการลาดตระเวนในภูมิประเทศจริงแต่ เนิ่นในขั้นการวางแผน ถ้า ผบ.ร้อย. ไม่อาจปฏิบัติได้ รอง ผบ.ร้อย. หรือผู้บังคับหน่วยส่วนอื่นจะปฏิบัติแทน และจะทําการประสานกับกองร้อยที่อยู่กับที่ ถ้าเป็นไปได้ ผบ.หน่วยรอง จะทําการลาดตระเวนพื้นที่สนใจของ ตนเองด้วย ความต้องการทราบที่ตั้งเฉพาะในการลาดตระเวนมีดังต่อไปนี้ ๑) จุดผ่านหรือช่องทางผ่าน ๒) ที่ตั้งข้าศึก ๓) เครื่องกีดขวาง (ฝ่ายเราและข้าศึก) ๔) ที่ตั้งฝ่ายเรา ๕) จุดประสาน จุดเริ่มต้น จุดปล่อย เส้นทาง และพื้นที่รวมพล ๖) ส่วนสนับสนุนการรบ ส่วนสนับสนุนการช่วยรบ (ขบวนสัมภาระ ที่พยาบาล ฐาน ค. เครื่องมือ เฝ้าตรวจทางพื้นดิน เครื่องมือตรวจจับระยะไกล) ค. การระวังป้องกัน การปฏิบัติในการเตรียมการจะต้องไม่แสดงผิดจากภาวะปกติในพื้นที่ของการผ่าน การรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการต้องจํากัดขนาดของชุดลาดตระเวน จุดประสาน จุดผ่านหรือช่อง ทางผ่าน พื้นที่รวมพลและเส้นทางควรที่มีการปกปิดกําบัง ถ้าเป็นไปได้การผ่านจะกระทําในเวลาที่ทัศนวิสัย จํากัด หน่วยที่อยู่กับที่ควรจะปฏิบัติงานตามปกติ แม้ว่าในการวางแผนโดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า กองร้อย แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะใช้การลวงง่ายๆ เพื่อหันเหความสนใจของข้าศึกให้ออกจากบริเวณผ่าน แนว ง. การสนับสนุนด้วยการยิง ผบ.ร้อย. และ นยส. จะต้องทําการประสานแผนการยิงสนับสนุน แผน ของกองร้อยที่อยู่กับที่จะสนับสนุนกองร้อยที่ทําการผ่านด้วยการยิงเล็งตรงและเล็งจําลอง นยส. จะทําการ แลกเปลี่ยนบัญชีเป้าหมาย ในกรณีที่ไม่มีการสับเปลี่ยนความรับผิดชอบพื้นที่เช่นการผ่านแนวเพื่อแทรกซึม มาตรการควบคุมการยิงเพิ่มเติมจะต้องทําการกระจายไปทุกหน่วยที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จ. การสนับสนุนการช่วยรบ กองร้อยที่อยู่กับที่จะทําหน้าที่สนับสนุนการช่วยรบให้แก่กองร้อยที่ทําการ ผ่าน โดยปกติแล้วจะได้แก่การส่งกลับผู้ป่วยเจ็บ การควบคุมเชลยศึกการกู้และส่งกลับยานพาหนะ การ เพิ่มเติมกระสุนและนํ้ามัน ฉ. พลนําทาง กองร้อยที่อยู่กับที่ต้องเตรียมพลนําทางไว้สําหรับการบรรจบ กับกองร้อยที่ทําการผ่าน ณ จุดประสาน พลนําทางจะอยู่กับกองร้อยผ่านตลอดเวลาในพื้นที่ปฏิบัติการของกองร้อยที่อยู่กับที่ ผบ.ร้อย. ที่ ทําการผ่านจะให้ข้อมูลแก่ผู้นําทาง เรื่องจํานวนคนและยานพาหนะของแต่ละหน่วยแยกที่ทําการผ่านจุดผ่าน แต่ละจุด พลนําทางจะทําการสนับสนุนที่ทําการผ่านเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้ทําการผ่านเข้ามาและไม่มีข้าศึก แทรกซึมเข้ามาในขบวน ๖ - ๔ การปฏิบัติในการผานออก่ ตามตารางเวลา กองร้อยที่ทําการผ่านจะเข้าใกล้จุดประสานและทําการ แลกเปลี่ยนสัญญาณบอกฝ่ายกับพลนําทาง รูปที่ ๖ - ๑ แสดงให้เห็นถึงการผ่านแนวไปข้างหน้า หลังจากนั้น ผู้นําทางจะนําหน่วยผ่านเข้ามายังที่ตั้งของกองร้อยที่อยู่กับที่ตามเส้นทางที่ได้ประสานหรือช่องทางผ่าน ที่จุด ผ่านหรือจุดเริ่มต้นของช่องทางผ่าน ตัวแทนของกองร้อยที่อยู่กับที่จะทําการนับกําลังพลของหน่วยที่ผ่านเข้ามา หน่วยที่ทําการผ่านจะทําการผ่านอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการหยุด ผบ.ร้อย. และ นยส. จะอยู่ในที่ที่สามารถ ตรวจการณ์พื้นที่วิกฤติ ตกลงใจตามเวลาและให้คําแนะนํา พลนําทางจะปล่อยหน่วยที่ผ่านที่จุดแยกใน เส้นทางหรือสุดช่องทางผ่าน


๑๙๑ รปูท ี่ ๖ - ๑ การเข้าตีผา่นไปข้างหน้า ๖ - ๕ การปฏิบตัิในการผา่นแนวลงมาขา้งหลงัหลกัการพน้ืฐานในการผ่านลงมาขา้งหลงัจะเหมอืนกบัการ ผ่านไปขา้งหน้า การผ่านลงมาขา้งหลงัอาจจะรวมถงึการสง่มอบความรบัผดิชอบในการรบดว้ย ในการปฏบิตัิ ในการสง่มอบการรบหน่วยและอาวุธของหน่วยทอ่ีย่กูบัทจ่ีะวางไวใ้หส้ามารถทาํการยงิไปยงักาํลงัของขา้ศกึท่ี อย่เูหนือแนวสง่มอบการรบ ในขณะทก่ีาํลงัทหารของหน่วยทาํการผ่านเขา้ใกลแ้นวสง่มอบการรบ จะพยายาม ผละออกจากขา้ศกึและเคล่อืนทต่ีามเสน้ทางการผ่านหรอืช่องผ่านทก่ีาํหนด หน่วยทอ่ีย่กูบัทจ่ีะช่วยในการผละ ออกดว้ยการยงิตรงและเลง็จาํลอง การผ่านกลบัมาดา้นหลงัภายใตเ้ง่อืนไขน้ีอาจจะเกดิความสบัสนอย่างมาก หน่วยทหารฝ่ายเราและขา้ศกึอาจจะมกีารปะปนกนัหรอืขา้ศกึอาจจะมาถงึก่อนหน่วยเรา ในการป้องกนัและลด ความสบัสน ผบ.รอ้ย. จงึควรทจ่ีะอย่กูบัหน่วยของตนตลอดเวลา ในรปูท่ี๖ - ๒ จะแสดงใหเ้หน็การผ่านแนวลง มาขา้งหลงั


๑๙๒ รปูท ี่ ๖ - ๒ การเข้าตีผา่นไปข้างหลงั ตอนท ี่ ๒ การผลดัเปล ี่ ยน การผลดัเปลย่ีนเป็นการปฏบิตักิารทห่ีน่วยหน่ึงเขา้แทนทอ่ีกีหน่วยหน่ึง และทาํหน้าทใ่ีนความ รบัผดิชอบของหน่วยทถ่ีูกเปลย่ีนออกไป ๖ - ๖ วตัถปุระสงค์วตัถุประสงคห์ลกัในการปฏบิตักิารผลดัเปลย่ีน คอืการดาํรงไวซ้ง่ึมปีระสทิธภิาพในการ รบของหน่วยปฏบิตัิการผลดัเปลย่ีนอาจจะปฏบิตัสิง ิ่ ต่อไปน้ีดว้ย ก. การจดัระเบยีบ การปรบักาํลงัการปรบัยทุโธปกรณ์ของหน่วยทส่ีญูเสยีอย่างหนกั ข. ใหห้น่วยทป่ีฏบิตัภิารกจิต่อเน่อืงไดพ้กัผ่อน ค. พฒันาสว่นระวงัป้องกนัหรอืสว่นทเ่ีหลอืไวป้ะทะในระหว่างการปฏบิตักิารถอนตวั (ในกรณีน้ีการ กาํหนดความตอ้งการเพม ิ่ เตมิจะอย่ใูนตอนท่ี๓ การปฏบิตักิารรน่ถอย) ง. ใหห้น่วยทถ่ีูกผลดัเปลย่ีนไปปฏบิตัภิารกจิ


๑๙๓ ๖ - ๗ ข้อพิจารณาในการวางแผน ถ้าเวลาหรือ ตําบลที่จะใช้ในการประสานไม่ได้ถูกกําหนด ผบ. ร้อย. ของหน่วยที่จะไปผลัดเปลี่ยนจะทําการประสานกับ ผบ.ร้อย. ที่ถูกเปลี่ยนในเรื่องเฉพาะนี้ ผบ.ร้อย., รอง ผบ.ร้อย. ผบ.หมวด นยส.ของทั้ง ๒ หน่วย ควรที่จะพิจารณาร่วม ก. ภารกิจเฉพาะ ในแต่ละสถานการณ์ทางยุทธวิธีจะให้ข้อพิจารณาเดียวกันแก่ ผบ.หน่วยที่ผลัดเปลี่ยน และถูกผลัดเปลี่ยน ภารกิจของแต่ละกองร้อย สถานการณ์ของข้าศึกเวลาที่มีอยู่ จะมีผลกระทบในการวางแผน ข. การบังคับบัญชาและการควบคุม ความต้องการในการบังคับบัญชาและการควบคุมในระหว่างการ ผลัดเปลี่ยนจะเป็นหนึ่งเดียวเพราะเป็นการปฏิบัติการผสมกันของหน่วย เพื่อให้มั่นใจว่าการบังคับบัญชาและ การควบคุมมีประสิทธิภาพ การประสานในรายละเอียดจะต้องกระทําแต่เนิ่นในกระบวนการวางแผน การ กําหนดที่อยู่ของ ผบ.หน่วยหลัก และการใช้มาตรการควบคุมที่มีประสิทธิภาพจะทําให้มั่นใจได้ว่าการบังคับ บัญชาและการควบคุมมีประสิทธิภาพ ๑) เรื่องในการประสานระหว่างหน่วยผลัดเปลี่ยนและหน่วยถูกผลัดเปลี่ยนอาจจะมีดังนี้ ก) แลกเปลี่ยนข่าวกรอง ข) การจัดการลาดตระเวน ค) การแลกเปลี่ยนแผนทางยุทธวิธีและแผนผังภาพแนวรบ ง) ลําดับและเวลาของการผลัดเปลี่ยนหน่วยรอง จ) เวลาและพฤติกรรม เมื่อความรับผิดชอบพื้นที่การปฏิบัติการของหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยนมีการ ส่งมอบ ฉ) การใช้พลนําทางและผู้ติดต่อ ช) มาตรการรักษาความปลอดภัย ซ) การสนับสนุนการยิง ด) การส่งมอบหรือแลกเปลี่ยนยุทโธปกรณ์ สป. กระสุน และสนามทุ่นระเบิด ต) มาตรการควบคุม ถ) การแลกเปลี่ยนความถี่ นามเรียกขาน สัญญาณผ่านหรือสัญญาณบอกฝ่าย ๒) ที่อยู่ของ ผบ.หน่วยหลักของทั้ง ๒ หน่วยขณะวิกฤติ ผบ.ร้อย. และ นยส. ทั้ง ๒ กองร้อย ปกติจะ อยู่ในที่สามารถตรวจการณ์และควบคุมการผลัดเปลี่ยนได้ดีที่สุด ในส่วนของ ผบ.หน่วยหลักอื่น ๆ ควรที่จะอยู่ ในที่ที่สามารถช่วยเหลือ ผบช.ได้ โดยที่อาจจะรวมเอาพื้นที่ตลอดเส้นทาง พื้นที่รวมพล จุดที่อาจจะมีการ แออัด หรือจุดที่ข้าศึกคุกคามมากที่สุด ๓) การผลัดเปลี่ยนหน่วยควรที่จะมีมาตรการควบคุมมีความอ่อนตัวในระหว่างการปฏิบัติ วิธีการ เฉพาะในการผลัดเปลี่ยนจะกําหนดจํานวนและแบบของมาตรการควบคุมที่ต้องการ มาตรการควบคุมที่ใช้อยู่ ประจําได้แก่ ก) พื้นที่รวมพล หน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยนอาจจะกําหนดที่รวมพลของหมวดและกองร้อยทางด้าน หลังของที่ตั้ง หน่วยที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนอาจจะกําหนดที่รวมพลด้วย แต่ควรที่จะเคลื่อนที่เข้าที่ตั้งโดยตรงจะ ดีกว่า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความสับสน การแยกพื้นที่รวมพลควรจะเป็นวิธีการของแต่ละหน่วย ข) จุดประสาน ปกติจุดประสานจะกําหนดโดย ผบ.ร้อย. ที่ถูกผลัดเปลี่ยน เพื่ออํานวยความสะดวก ในการบรรจบของทั้ง ๒ หน่วย จุดประสานหลายจุดอาจจะใช้เมื่อต้องมีผลัดเปลี่ยนในตําบลที่แน่นอน ค) จุดปล่อย/จุดแยก ปกติ ผบ.ร้อย. ที่รับการผลัดเปลี่ยนจะเป็นผู้กําหนดจุดปล่อย/จุดแยก ของ หมวดให้แก่กองร้อยที่มาทําการผลัดเปลี่ยน เมื่อจําเป็นจุดปล่อย/จุดแยกของหมู่ อาจจะมีการกําหนดขึ้นโดย ผบ.ร้อย. หรือ ผบ.หมวด ที่ถูกผลัดเปลี่ยน


๑๙๔ ง) เส้นทางทุกหน่วยควรที่จะเคลื่อนที่ไป ตามเส้นทางที่กําหนด เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน และยิงกันเอง เมื่อใดที่ทําได้การแยกเส้นทางของทั้งหน่วยที่ผลัดเปลี่ยนและหน่วยที่รับการผลัดเปลี่ยนควรจะ นํามาปฏิบัติ เป็นความรับผิดชอบของ ผบ.ร้อย. ที่ถูกผลัดเปลี่ยนในการทําให้มั่นใจว่าในการเคลื่อนย้ายทุก อย่างอยู่ภายใต้การควบคุม ค. การลาดตระเวน ผบ.ร้อย. ที่เข้าผลัดเปลี่ยนจะทําการลาดตระเวนภูมิประเทศเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ ผบช.และ ผบ.หน่วยของทั้ง ๒ กองร้อย ควรที่จะทําการลาดตระเวนด้วยกันเพื่อให้มั่นใจว่าได้มีการประสาน แผนในการเคลื่อนย้าย ผบ.หน่วย รองลงไปจนถึงระดับหมู่ควรลาดตระเวนร่วมกันเพื่อมั่นใจถึงความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ในการเคลื่อนที่ มาตรการควบคุมและความรับผิดชอบรวมทั้งความต้องการในการลาดตระเวน เป็นพิเศษดังนี้ ๑) การวางกําลังของหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยน (ที่ตั้งของที่ตรวจการณ์ สนามทุ่นระเบิด สายโทรศัพท์ เครื่องแจ้งเตือนและพลประจําอาวุธ) ๒) ที่ตั้งการวางกําลังของข้าศึกในกรณีที่หน่วยถูกผลัดเปลี่ยนกําลังปะทะข้าศึก ๓) ที่ตั้งของที่รวมพล จุดปล่อย/จุดแยก จุดประสาน และเส้นทาง ๔) ที่ตั้งของ ทก. ร้อย. ขบวนสัมภาระ ค. จรวดโทว์และรถถัง ง. วิธีการผลัดเปลี่ยน วิธีการผลัดเปลี่ยนจะถูกกําหนดตามสถานการณ์เฉพาะนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่คํานึงถึงวิธีการปกติแล้วการปฏิบัติต่อไปนี้จะเกิดขึ้น กองร้อยที่จะมาผลัดเปลี่ยนจะอยู่ในพื้นที่รวมพล ด้านหลังของกองร้อยที่ถูกเปลี่ยนหรือจะมีการนําเข้ามาตามเส้นทางที่ตรงมายังจุดแยกของหมวด พลนําทาง จะถูกเตรียมโดยหน่วยถูกผลัดเปลี่ยนสําหรับแต่ละหน่วยรองของหน่วยที่มาผลัดเปลี่ยน ทก.ร้อย. จะตั้งขึ้น ก่อนเริ่มต้นการผลัดเปลี่ยน การผลัดเปลี่ยนจะเริ่มด้วยที่ตั้งในทางลึกของหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยน ขบวน สัมภาระและ ค. ของกองร้อยที่มาผลัดเปลี่ยนตามปกติแล้วจะเข้าที่ตั้งก่อนที่การผลัดเปลี่ยนอื่น ๆ จะเกิดขึ้น ขบวนสัมภาระและ ค. ของกองร้อยที่ถูกผลัดเปลี่ยนตามปกติจะยังคงอยู่ในที่ตั้งเดิม จนกระทั่งความรับผิดชอบ ในพื้นที่ถูกส่งมอบให้แก่กองร้อยที่มาผลัดเปลี่ยน วิธีการในการปฏิบัติในการผลัดเปลี่ยนจะมีดังนี้ ๑) การผลัดเปลี่ยนหนึ่งหน่วยในแต่ละห้วงเวลา วิธีการนี้จะใช้เวลาที่นานมาก อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นวิธีการที่ต้องการได้ เมื่อมีเส้นทางที่มีการกําบังและซ่อนพรางมีจํากัดและทุกหมวดจําเป็นต้องใช้ เส้นทางเดียวกัน กองร้อยที่เข้าผลัดเปลี่ยนจะเข้าพื้นที่รวมพล ด้านหลังของกองร้อยที่ถูกผลัดเปลี่ยน และทํา การผลัดเปลี่ยนโดยหมวดที่ได้ทําการประสานลําดับชั้นในการผลัดเปลี่ยน (รูปที่ ๖ - ๓) แต่ละหมวดจะเคลื่อนที่ ไปข้างหน้า (พลนําทางที่จัดจากกองร้อยที่ถูกผลัดเปลี่ยน) ไปยังจุดแยกหมู่ หมู่จะถูกนําไปยังตําบลที่มีการ กําบังและซ่อนพราง ซึ่งอยู่ด้านหลังของหมู่ที่ถูกผลัดเปลี่ยน ยุทโธปกรณ์ที่จําเป็นจะมีการแลกเปลี่ยนและกําลัง พลในหมู่ที่เข้าผลัดเปลี่ยนจะทําการผลัดเปลี่ยน หมู่ที่ถูกผลัดเปลี่ยนจะเคลื่อนที่ตรงไปยังที่รวมพลของหมวด ทําการบรรจบกับส่วนที่เหลือของหมวดตนเอง แล้วดําเนินการเคลื่อนที่ต่อไปยังที่รวมพลของกองร้อย เมื่อใดที่ หมวดที่มาผลัดเปลี่ยนทั้งหมดเข้ารับผิดชอบจากหมวดที่ถูกผลัดเปลี่ยน หมวดต่อไปจะเริ่มดําเนินการ ผลัดเปลี่ยน ๒) การผลัดเปลี่ยนหน่วยในเวลาเดียวกัน แม้ว่าวิธีการนี้จะใช้เวลาน้อยแต่ดูเหมือนว่าข้าศึกจะ ตรวจจับได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะทุกหน่วยทําการเคลื่อนที่พร้อมกัน วิธีการนี้อาจจะเหมาะสมเมื่อภารกิจ กําหนดให้มีการผลัดเปลี่ยนโดยเร็ว ข้าศึกไม่มีการตรวจจับและภูมิประเทศมีเส้นทางที่กําบังและซ่อนพราง หลายเส้นทาง หมวดที่ทําการผลัดเปลี่ยนทั้งหมดจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในเวลาเดียวกันตามเส้นทางที่กําหนด ไปยังจุดแยกหมู่ หมู่จะเข้าวางกําลังสับเปลี่ยนในทางของตน


๑๙๕ ๓) การผลัดเปลี่ยนด้วยการเข้ายึดครองที่ตั้งทางลึกหรือทางปีก วิธีการนี้ต้องการให้หน่วยที่เข้า มาผลัดเปลี่ยนยึดพื้นที่ด้านปีกและหลังของหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยน หน่วยที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนสามารถคุ้มครอง โดยใช้มาตรการควบคุมการยิงคุ้มครองหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยน (จุดอ้างเป้าหมาย พื้นที่ระดมยิง) วิธีการนี้จะ เป็นประโยชน์เมื่อหน่วยถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ในพื้นที่อาบพิษ และอาจจะเหมาะสมในกรณีที่หน่วยมีอัตราการจัด ที่ไม่เหมือนกันด้วย เช่นหน่วยทหารราบเบาทําการผลัดเปลี่ยนหน่วยทหารราบยานเกราะ หน่วยที่เข้ามา ผลัดเปลี่ยนอาจจะเข้ายึดพื้นที่ของตนเองทั้งหมดในเวลาเดียวกันก็ได้โดยขึ้นอยู่กับสถาณการณ์ เมื่อใดที่ หน่วยเข้าผลัดเปลี่ยนเข้าที่ตั้งเรียบร้อยหน่วยที่ถูกผลัดเปลี่ยนจะถอนตัวตามเส้นทางที่กําหนด จ. ลําดับขั้นในการผลัดเปลี่ยนในการกําหนดลําดับขั้นที่มีประสิทธิภาพ ควรที่จะพิจารณาสิ่งต่อไปนี้ ๑) ประสิทธิภาพการรบของหน่วย ถ้าหน่วยรองใดได้รับการสูญเสียกําลังพลและยุทโธปกรณ์อย่าง หนัก หน่วยนี้อาจจะมีความต้องการให้ผลัดเปลี่ยนเป็นหน่วยแรก ๒) ภูมิประเทศ หน่วยรองใดที่น่าจะถูกตรวจจับมากที่สุดในระหว่างการผลัดเปลี่ยนควรที่จะทําการ ผลัดเปลี่ยนหลังสุด สิ่งนี้จะทําให้หน่วยที่เข้าผลัดเปลี่ยนเกือบทั้งหมดเข้าที่ตั้งก่อนที่ข้าศึกจะรู้ตัว ๓) ข้าศึก หน่วยรองที่มีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางที่น่าจะเป็นเส้นทางเข้าประชิดหรือเส้นทางที่เป็นอันตราย มากที่สุดควรได้รับการพิจารณาให้ผลัดเปลี่ยนแต่เนิ่น ๔) การควบคุม เมื่อมีหน่วยหลายหน่วยต้องใช้เส้นทางเดียวกันในการผลัดเปลี่ยนให้เลือกวิธีการ และลําดับชั้นในการผลัดเปลี่ยนให้ลดการแออัดและความสับสนให้หลีกเลี่ยงการรวมหน่วยจํานวนมากในพื้นที่ ขนาดเล็ก ๕) ภารกิจย่อย หน่วยรองที่มีกิจสําคัญอาจต้องการผลัดเปลี่ยนเป็นหน่วยแรก ตัวอย่างเช่น หน่วย รองที่เข้าผลัดเปลี่ยนอาจจะต้องจัดตั้งที่ตรวจการณ์หน้าที่ตั้งหน่วยเพื่อให้การระหวังป้องกันต่อส่วนที่เหลือของ การปฏิบัติการผลัดเปลี่ยน หรือในขณะที่กองร้อยที่ถูกผลัดเปลี่ยนกําลังเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ส่งลงของการ ปฏิบัติการยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ หมวดที่ได้รับมอบหมายให้ระวังป้องกันพื้นที่ส่งลงควรจะได้รับการ ผลัดเปลี่ยน


๑๙๖ รปูท ี่ ๖ - ๓ แสดงแนวความคิดในการผลดัเปลี่ยนหน่วยตามลาํดบั ฉ. การโอนความรบัผดิชอบ เวลาทจ่ีะโอนความรบัผดิชอบตอ้งไดร้บัการยนิยอมจาก ผบู้งัคบับญัชาทงั้๒ หน่วย ปกตกิารเปลย่ีนความรบัผดิชอบน้จีะเกดิขน้ึเม่อื๒ ใน ๓ ของกองรอ้ยทท่ีาํการ เปลย่ีนเขา้ทต่ีงั้แลว้และมกีารจดัตงั้การตดิต่อสอ่ืสารและการควบคุม ช. การโอนหรอืการแลกเปลย่ีนยุทโธปกรณ์และสง ิ่ อุปกรณ์เพ่อืใหก้ารผลดัเปลย่ีนไม่ยุ่งยากและ การดาํรงไวซ้ง่ึการรกัษาความปลอดภยัของการปฏบิตักิาร ยุทโธปกรณ์และสงิ่อุปกรณ์ทใ่ีชง้านอย่กูบัท่ี บางอย่าง ไดแ้ก่ ขาหยงั่ปืนกล ฐานปืน ค. และหลกัเลง็ตาขา่ยพราง เคร่อืงเสยีงสญัญาณ เคร่อืงเตอืนภยั ล่วงหน้า สป. ทอ่ีาจจะทาํการโอน ไดแ้ก่ ทส่ีรา้งเคร่อืงกดีขวาง ลงัหรอืทใ่ีสส่ง ิ่ อุปกรณ์และกระสนุหรอืสง ิ่ อุปกรณ์ใหญ่ หรอืหนกัทอ่ีาจทาํ ใหก้ารผลดัเปลย่ีนล่าชา้ถา้หน่วยทถ่ีูกผลดัเปลย่ีนพยายามทจ่ีะขนยา้ยไป ดว้ย แผ่นจดระยะ ภาพลายเสน้พน้ืท่ีและบนัทกึสนามทุ่นระเบดิจะตอ้งโอนใหแ้ก่ หน่วยทเ่ีขา้มาผลดัเปลย่ีน


Click to View FlipBook Version