The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวงรวม-ปีการศึกษา-2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by voizmanopor6, 2022-09-15 08:42:00

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวงรวม-ปีการศึกษา-2564

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวงรวม-ปีการศึกษา-2564

200

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วิชำ จ 15201 ภำษำจีน 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ (ภำษำจีน)

ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 40 ชว่ั โมง

ปฏิบัติตามคาสงั่ คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนาง่ายๆ ที่ใช้ในหอ้ งเรียน การสะกดคา การอ่าน

ออกเสียงคา กลุ่มคา บทอ่าน บทกลอนสั้นๆ บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เลือกระบุภ

ภาพหรือสัญลักษณ์ตรงความหมายของประโยค ข้อความสั้นๆ ตอบคาถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา

ประโยค พูด เขียนให้ข้อมูลโต้ตอบเก่ียวกับตนเอง แสดงความรู้สึก สื่อสารระหว่างบุคคล เขียนภาพ

แผนผงั และแผนภมู ิ ใช้ถ้อยคาน้าเสียง และกริ ิยา ประโยคบอกความต้องการเกี่ยวกับตนเอง คาสั่งที่ใช้ใน

ห้องเรียน ข้อความที่ใช้ในการพูด เขียน แสดงความต้องการของตนเอง ให้ข้อมูลความรู้สึกเกี่ยวกับตนเอง

และเรื่องใกล้ตัว จัดหมวดหมู่คาท่ีมีความหมายสัมพันธ์กับส่ิงต่างๆ ใกล้ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืม วัฒนธรรม

เจ้าของภาษา บอกความเหมือนความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่ืองหมาย

วรรคตอน และลาดับคาตามโครงสร้างประโยค คาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลเจ้าของภาษา กิจกรรมทางภาษา

การร้องเพลง การเล่านิทาน ประกอบท่าทางพูด วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ แสดงคว าม

คิดเห็นง่ายๆ โดยใช้คาศัพท์เหมาะสมกับวัย บอกคาศัพท์เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

วิทยาศาสตร์ ศิลปะ สุขศึกษา การใช้ภาษาในการฟัง พดู ทาท่าประกอบอย่างสุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมทาง

ภาษา อ่าน พูด ในสถานการณ์ทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียน รวบรวมคาศัพทท์ เี่ กย่ี วข้องใกลต้ วั

โดยใช้กระบวนการสอนภาษา กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการคิด ในการฝึกออกเสียง ฟัง

พูด อ่านและเขียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ สนใจเข้าร่วม

กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม รวมถงึ การรวบรวมความรู้และแสวงหาความเพลิดเพลินจากภาษาจีน

ผลกำรเรียนรู้

1. ปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอรร้ อง และคาแนะนางา่ ยๆ ทฟี่ งั และอา่ น

2. อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสนั้ ๆ ตามหลกั การออกเสยี ง

3. พดู หรอื เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

4. พดู หรือเขียนเพอื่ ขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรื่องใกล้ตัว

5. ใชถ้ ้อยคา น้าเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของจนี

6. ตอบคาถาม หรอื บอกความสาคัญของเทศกาล วันสาคญั งานฉลอง และชีวิตความเปน็ อยู่ของจีน

7. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจนี ท่เี หมาะสมกับวยั

8. บอกความเหมอื น หรือความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้เคร่อื งหมาย

วรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาจีนและภาษาไทย

9. ค้นควา้ รวบรวมคาศัพท์ท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนาเสนอด้วยการพูดหรอื เขยี น

10. ฟัง พูด และอ่านหรือเขียนประโยค หรือบทสนทนา ในสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียนและ

สถานศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดนาวง

201

รวมท้ังหมด 10 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วชิ ำ จ 16201 ภำษำจีน 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ (ภำษำจีน)

ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 40 ชัว่ โมง

ปฏิบัติตามคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบท

กลอน ตามหลักการออกเสยี ง ระบุประโยค ข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ทีฟ่ ังหรือ

อ่าน บอกใจความสาคัญ และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทาน หรือเร่ืองเล่าง่ายๆ พูดหรือ

เขยี นโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ ง คำขออนญุ าต และคำแนะนำ พูดหรือเขยี นแสดง

ความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ต่างๆ พูดหรือเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล

เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอื่ งใกล้ตัว พูดหรือเขยี นแสดงความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกบั เรื่องใกล้ตัว

กิจกรรมต่างๆ พร้อมให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบ พูดหรอื เขียนใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดล้อมใกล้

ตัว เขียนภาพ แผนผัง และตาราง แสดงข้อมูลต่างๆ ที่ฟังหรืออ่าน พูดหรือเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ

เร่ืองใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้าเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของจีน บอก

ข้อมูล และความสาคัญของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของจีน เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา

และวัฒนธรรมของจีน ตามความสนใจ บอกความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยค

ชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของภาษาจีนและภาษาไทย

บอกความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณี ตามวัฒนธรรมของจีนกับ

วัฒนธรรมของไทย ค้นคว้า รวบรวมคาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ และ

นาเสนอดว้ ยการพูดหรือเขียน ใช้ภาษาจีนสื่อสารในสถานการณต์ า่ งๆ ท่ีเกิดขึ้นในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ใช้

ภาษาจนี ในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ

โดยใช้กระบวนการสอนภาษา กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการคิด ในการฝึกออกเสียง ฟัง พูด

อ่าน และเขียน เพ่ือให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทาง

ภาษาและวฒั นธรรม รวมถงึ การรวบรวมความรแู้ ละแสวงหาความเพลดิ เพลนิ จากภาษาจีน

ผลกำรเรยี นรู้

1. ปฏบิ ตั ติ ามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำท่ฟี ังและอา่ น

2. อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอน ตามหลักการออกเสียง

3. พูดหรอื เขยี นโต้ตอบในการสือ่ สารระหว่างบุคคล

4. พดู หรือเขียนใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น และสงิ่ แวดล้อมใกลต้ วั

5. ใชถ้ ้อยคำ นา้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทางอย่างสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของจนี

6. บอกข้อมูล และความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั งานฉลอง ชีวติ ความเปน็ อยูข่ องจนี

7. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจนี ตามความสนใจ

8. บอกความเหมอื นหรือความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณี ตามวัฒนธรรมของ

จีนกบั วัฒนธรรมของไทย

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

202
9. ค้นคว้า รวบรวมคาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ และนาเสนอ
ดว้ ยการพดู หรอื เขยี น
10. ใชภ้ าษาจีนสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา

รวมทั้งหมด 10 ผลกำรเรียรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

203

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วชิ ำ ท 21201 ภำษำไทยในชวี ติ ประจำวัน 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ 1

ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกดิ ความชานาญในการใชภ้ าษา เพ่ือการสือ่ สาร สร้างความเขา้ ใจ

และความสมั พันธ์ที่มตี ่อกันเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศต่างๆ

การอา่ นออกเสยี ง การสะกดคา ให้ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวิธี การเขยี นตามจนิ ตนาการ

เพ่อื ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงและเขยี นสะกดคาได้คล่อง เข้าใจความหมายสงิ่ ท่ีอา่ นทเี่ ขยี นส่งผล

พฒั นาการเรียนรแู้ ละการนาภาษาไทยไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ เกิดนิสัยรกั ารอา่ นและ

การเขยี นตลอดไป

ผลกำรเรยี นรู้

๕. อ่านออกเสยี งได้ถูกต้องชัดเจน และอา่ นได้คล่อง

๖. เขียนคาหรอื ข้อความถูกต้องตามอักขรวิธี

๗. เขา้ ใจความหมายสิง่ ที่อ่านหรือเขยี น ทาให้เกดิ นสิ ยั รักการอ่านและเขยี น

๘. สามารถพัฒนาการเรียนร้แู ละการนาภาษาไทยไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

204

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วชิ ำ ท 21202 ภำษำไทยในชวี ติ ประจำวนั 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 2

ภาษาไทยเปน็ ทกั ษะทต่ี ้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใชภ้ าษา เพอ่ื การสื่อสาร สรา้ งความเข้าใจ

และความสมั พนั ธ์ท่มี ีต่อกนั เป็นเคร่อื งมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณจ์ ากแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศต่างๆ

การอ่านออกเสยี ง การสะกดคา ใหถ้ กู ต้องตามอักขรวธิ ี การเขียนตามจินตนาการ

เพ่ือให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงและเขยี นสะกดคาได้คล่อง เข้าใจความหมายสิ่งทอ่ี ่านทเ่ี ขียนสง่ ผล

พัฒนาการเรียนรูแ้ ละการนาภาษาไทยไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดนสิ ัยรัการอ่านและ

การเขยี นตลอดไป

ผลกำรเรยี นรู้

๑. อา่ นและเขยี นได้ถกู ต้องตามอัขรวิธี

๒. เขา้ ใจความหมายส่งิ ที่อา่ นหรือเขียน ทาให้เกิดนิสยั รักการอ่านและเขียน

๓. สามารถพัฒนาการเรียนรแู้ ละการนาภาษาไทยไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

205

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวิชำ ท 22201 กำรอ่ำนและกำรเขียนภำษำไทยเชงิ สร้ำงสรรค์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 2 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรยี นท่ี 1

ฝกึ เขยี นในรปู แบบตา่ งๆ โดยเน้นการลาดับความให้ผอู้ ่านได้รับสารอย่างชัดเจน เลือกใช้โวหารให้

เหมาะสมกับเนือ้ เร่ืองและโอกาส อาจใหเ้ ขียนบทรอ้ ยกรองอย่างง่ายๆ แสดงความคดิ และความรู้สกึ

เพมิ่ พูนทกั ษะการเขยี นในรปู แบบตา่ งๆ สามารถเขียนแสดงความตอ้ งการ ความคดิ และความร้สู ึกได้

ถูกต้องตามมารยาทและธรรมเนียมนิยม

ผลกำรเรียนรู้

๑. อ่านในใจและเล่าเร่ือง หรอื ย่อเรอ่ื งจากการอา่ นได้

๒. แสดงความคิดเหน็ และวิจารณ์เรอ่ื งท่ีอา่ นอย่างมเี หตผุ ล

๓. อา่ นออกเสยี งร้อยแก้ว และร้อยกรองได้อยา่ งไพเราะ ถกู ต้องตามอกั ขรวิธี และลักษณะคา

ประพันธ์

๔. เลือกอ่านหนงั สอื สื่อส่งิ พิมพ์และส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ได้อย่างเหมาะสม

๕. เขยี นคาไดถ้ ูกต้องตามอักขรวิธี และตามความหมายที่กาหนดให้

๖. เลือกใชค้ าและเครอ่ื งหมายวรรคตอนชนิดต่างๆ ได้อย่างถูกตอ้ ง

๗. เขยี นอธบิ าย เขียนบรรยาย เขยี นชีแ้ จงแสดงความคดิ เห็นจากประสบการณ์ และสถานการณ์

ท่กี าหนดได้อยา่ งมเี หตุผล

๘. เขียนย่อความจากเรื่องท่ีอ่านได้

๙. เขียนรายงานและโครงงานประเภทต่างๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง

รวมทั้งหมด 9 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวดั นาวง

206

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวชิ ำ ท 22202 ภูมิปญั ญำท้องถนิ่ และกำรสืบค้น กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 2

ศึกษาเพลงพืน้ บา้ น ปริศนาคาทาย ภาษิต สานวน ตานาน นิทาน นิยาย ความเชอ่ื และเร่ืองเลา่ โดย

ศึกษาเกย่ี วกบั ที่มา เน้อื หา คาศพั ท์ สานวน ความหมาย และอทิ ธิพลต่างๆ ทีมตี ่อการดารงชีวติ เพ่อื ให้มี

ความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และร่วมมือในการอนุรกั ษว์ รรณกรรมท้องถ่ิน

ผลกำรเรียนรู

๑. บอกความหมาย ที่มา และประเภทวรรณกรรมท้องถน่ิ ได้

๒. อธบิ ายเนือ้ หา ศัพท์ สานวนต่างๆ ท่ีปรากฏในวรรณกรรมท้องถ่นิ ประเภทตา่ งๆ ได้

๓. อธยิ ายประโยชน์ คณุ คา่ แนวคดิ ค่านยิ มและความเชอื่ ทส่ี าคัญในวรรณกรรมท้องถ่นิ ประเภท

ต่างๆ ได้

๔. ค้นควา้ รวบรวม เรยี บเรียง เร่อื งราวทเ่ี ปน็ วรรณกรรมท้องถิ่นได้

๕. วิเคราะห์คุณค่าทางดา้ นภาษา และสงั คม เกิดความตระหนัก สามารถนาไปประยุกต์ใช้กับวถิ ีชีวติ

ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

207

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวชิ ำ ท 23201 ภำษำไทยเพื่อหลักภำษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย

ชัน้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 1

วิเคราะหส์ ่วนประกอบของประโยค และวเิ คราะห์โครงสร้างของประโยคความรวม ความซอ้ น

ศึกษาการสรา้ งคา ในภาษาไทย คาตา่ งประเทศ ศึกษาการใชร้ ะดบั ภาษา สานวน สุภาษติ คาพังเพย

ผลกำรเรียนรู้

๑. บอกสว่ นประกอบของประโยคได้อย่างถูกต้อง

๒. บอกโครงสรา้ งของประโยคความรวม และประโยคความซ้อนได้อยา่ งถูกต้อง

๓. เขา้ ใจและบอกการสร้างคาประเภทต่างๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง

๔. บอกคาภาษาต่างประเทศที่มีในภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง

๕. บอกความหมายของสานวน สภุ าษิต คาพังเพยไดถ้ ูกต้อง

รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

208

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวิชำ ท 23202 ภำษำไทยเพ่ือกำรดำรงชีวิต กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย

ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 เวลำ 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรียนที่ 2

เขยี นส่อื สาร ด้วยลายมอื ทอี่ ่านง่ายชัดเจน

ศึกษาหลักและวธิ ีการพูด พดู ในโอกาสต่างๆ ดว้ ยภาษาทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสม

ศกึ ษาการใชภ้ าษาให้เหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะและบุคคล

อา่ นและแตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ กาพย์

ผลกำรเรียนรู้

๑. เขยี นสื่อสาด้วยลายมือท่เี ปน็ ระเบยี บเรียบร้อย อา่ นง่าย

๒. สามารถพดู เน่ืองในโอกาสต่างๆ ได้อย่างถกู ตอ้ ง

๓. สามารถพูดตอ่ หน้าชมุ ชนไดถ้ ูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ

๔. อา่ นบทร้อยกรองประเภทกลอนสภุ าพและกาพยย์ านี 11 ไดถ้ ูกต้องตามอักขรวิธี

๕. แตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนสภุ าพและกาพย์ยานี 11 ได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

209

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ ท 31201 กำรอำ่ นและพิจำรณำวรรณกรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 4 เวลำ 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนที่ 1

โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอย่างมีวิจารญาณ และ กระบวนการสร้างความ ตระหนักเพื่อให้เกิดการ

พัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้พัฒนาความคิด เพิ่มพูนทักษะการอ่าน สามารถแสดงความคิดเห็นเชิงวิจารณ์ใน

เร่อื งทอ่ี า่ น เข้าใจสารของผู้แตง่ เห็นคุณคา่ ของวรรณกรรมท่ี อา่ น มีมารยาท และมีนสิ ยั รักการอา่ น

ผลกำรเรียนรู้

1. มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วคับพนื้ ฐานของการอา่ น

2. อา่ นจบั ใจความสาคญั สรุปประเด็น สรปุ แนวคดิ เขียนผังความคดิ จากเรอ่ื งทอี่ ่านได้

3. แยกประเภทและบอกองค์ประกอบของวรรณกรรมแตล่ ะประเภทได้

4. อ่านวเิ คราะห์ข่าว ประกาศ และโฆษณาในสือ่ ส่ิงพมิ พ์ได้

5. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินค่าบทความที่อา่ นได้

6. วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ ค่าสารคดีทอี่ ่านได้

7. วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ ค่าเร่ืองส้นั ที่อา่ นได้

8. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินค่านวนิยายที่อ่านได้

9. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมินคา่ บทละครที่อ่านได้

10. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ ค่าบทรอ้ ยกรองท่ีอ่านได้

11. เลอื กอ่านและแนะนาวรรณกรรมที่มีคุณค่าได้

12. มมี ารยาทในการอ่าน

รวม 12 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

210

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวิชำ ท 31202 กำรเขียน กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 4 เวลำ 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศกึ ษาหลักการและวิธีการเขียน แกเขียนในรปู แบบตา่ ง ๆ โดยเน้นการลาดับความให้ผู้อ่าน ได้รับสาร

อย่างชัดเจน เลือกใช้โวหารให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและโอกาส เขียนบทร้อยกรองอย่างง่าย ๆ แสดงความคิด

และความรู้สึกโดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอย่างมีวิจารญาณ และ กระบวนการสร้างความ ตระหนักเพื่อให้เกิดการ

พัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้ พัฒนาความคิด เพ่ิมพูนทักษะการเขียนในรูปแบบต่าง ๆ สามารถเขียนแสดง

ความต้องการ ความคดิ และความรสู้ ึกได้ถูกต้องตามมารยาทและ ธรรมเนยี มนยิ ม

ผลกำรเรียนรู้

1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับพืน้ ฐานเนอื้ งด้นของการเขียน

2. เขยี นอธบิ ายโดยลาดับความได้อยา่ งชัดเจน

3. เขยี นบรรยายตามแนวตา่ ง ๆ ได้

4. เขียนพรรณนาตามแนวต่าง ๆ ได้

5. เขียนเรียงความได้อย่างสละสลวย

6. เขียนบนั ทึกเพือ่ ช่วยความจา หรอื เป็นหลักฐานได้

7. เขียนยอ่ ความตามความมุ่งหมายต่าง ๆ ได้

8. เขยี นรายงานทางวชิ าการได้

9. เขยี นบทความประเภทตา่ ง ๆ ได้

10. เขียนสารคดแี นวต่าง ๆ ได้

11. เขียนบทรอ้ ยกรองอย่างง่ายได้

12. เขียนหนังสอื เลม่ เล็กได้

13. มมี ารยาทในการเขยี น

รวม 12 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวดั นาวง

211

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหสั วชิ ำ ท 32201 ภำษำกบั วัฒนธรรม กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5 เวลำ 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนที่ 1

คณุ คา่ เกดิ ความภาคภมู ิใจในมรดกอนั ทรงคุณค่าของบรรพบุรุษ สืบคน้ วัฒนธรรม ประเพณขี อง

ทอ้ งถ่ินเพ่ือใหเ้ ข้าใจโลกทศั น์ และตระหนักถงึ ความสาคญั ของวถิ ีชวี ิตไทย โดยนามาประยุกตใ์ ชใ้ ห้ เกิด

ประโยชน์ในการดาเนินชีวิตไคอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกำรเรียนรู้

1. อธิบายความหมายของ “ภาษา” และ “วัฒนธรรม” ไค้

2. จาแนกประเภทของวฒั นธรรมได้

3. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษา กบั วฒั นธรรมได้

4. จาแนกประเภทของประเพณีได้

5. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษา กับ ประเพณีได้

6. อธบิ ายความสาคัญของวรรณคดีได้

7. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งวรรณคดี กับ ศิลปะแขนงต่าง ๆ ได้

วรรณคดกี บั สกาป้ตยกรรม

- วรรณคดีกบั จิตรกรรม

- วรรณคดีกบั ประติมากรรม

- วรรณคดกี บั ดนตรีไทย

8. อธิบายความสาคัญของภาษาท่ีมตี ่อความเชอื่ ของคนในสงั คมได้

9. มคี วามร้คู วามเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าของภมู ปิ ญั ญาไทยดา้ นคติชาวบ้าน

รวม 9 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

212

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วิชำ ท 32102 กำรพินจิ วรรณคดีมรดก กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 เวลำ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ศกึ ษาวรรณคดีเรื่องรามเกยี รด (ฉบบั รชั กาลที่ 1) ขนุ ช้างขุนแผน อิเหนา และพระอภัยมณี

ใหร้ ู้เรื่องตลอดโดยสงั เขป และอ่านเฉพาะตอนที่สาคัญในเชิงวรรณศลิ ปี ตอนท่ีทาให้เห็นสภาพ ชีวิตในสมยั ของ

บรรพบุรุษ ตอนทีท่ าใหเ้ ข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ และตอนท่ีเก่ียวคบั ศลิ ปะแขนง ต่าง ๆ

เพ่ือใหเ้ ข้าใจสาระสาคัญของเรอ่ื ง สามารถวิเคราะหว์ จิ ารณ์ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวคับ

ตัวละครที่สาคญั แนวคดิ ในเร่ืองโดยเปรียบเทียบคบั เหตุการณใ์ นชวี ติ ป้จจุบัน เกิดความประทบั ใจใน ศลิ ปะ

การประพันธ์ สามารถนาไปกลา่ วอา้ งได้

ผลกำรเรียนรู้

1. อ่านวรรณคดีมรดกเรื่องรามเกยี รด (ฉบบั รัชกาลที่ 1) ขุนขา้ งขนุ แผน อิเหนา และพระอภัยมณี

แล้วเลา่ เรื่องและตอบคาถามได้

2. อธิบายคุณค่าวรรณคดมี รดกทั้ง 4 เรือ่ งในด้านวรรณศิลปไี ด้

3. อธิบายคณุ ค่าวรรณคดมี รดกท้ัง 4 เรอ่ื งในดา้ นสังคมได้

4. วเิ คราะหล์ กั ษณะตวั ละครท่สี าคญั ในวรรณคดมี รดกทง้ั 4เร่ืองได้

5. วิเคราะห์แนวคิดสาคัญในวรรณคดีมรดกท้งั 4เรอ่ื งได้

รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

213

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหัสวชิ ำ ท 32202 กำรอ่ำนและพิจำรณำวรรณกรรม กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 2

ศกึ ษาวรรณคดเี ร่ืองรามเกียรต (ฉบบั รัชกาลที่ 1) ขุนช้างขุนแผน อเิ หนา และพระอภยั มณี

ใหร้ เู้ รื่องตลอดโดยสงั เขป และอา่ นเฉพาะตอนที่สาคัญในเชิงวรรณศลิ ปี ตอนท่ีทาให้เหน็ สภาพ ชวี ิตในสมัยของ

บรรพบรุ ุษ ตอนทท่ี าใหเ้ ข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ และตอนที่เกย่ี วคับศลิ ปะแขนง ตา่ ง ๆ

เพอื่ ให้เขา้ ใจสาระสาคัญของเรอื่ ง สามารถวเิ คราะห์วจิ ารณ์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวคับ

ตัวละครทีส่ าคญั แนวคดิ ในเรื่องโดยเปรียบเทียบคับเหตุการณ์ในชีวิตป้จจุบัน เกดิ ความประทับใจใน ศิลปะ

การประพนั ธ์ สามารถนาไปกล่าวอา้ งได้

ผลกำรเรยี นรู้

1. อา่ นวรรณคดมี รดกเรื่องรามเกยี รต (ฉบบั รัชกาลที่ 1) ขุนช้างขนุ แผน อเิ หนา และพระอภยั มณี

แล้วเล่าเร่ืองและตอบคาถามได้

2. อธิบายคุณค่าวรรณคดีมรดกทง้ั 4 เร่ืองในดา้ นวรรณศลิ ปไี ด้

3. อธิบายคุณค่าวรรณคดีมรดกทัง้ 4 เรื่องในดา้ นสงั คมได้

4. วิเคราะหล์ ักษณะตัวละครท่สี าคัญในวรรณคดมี รดกท้งั 4เรอื่ งได้

5. วิเคราะหแ์ นวคิดสาคัญในวรรณคดมี รดกทัง้ 4 เรื่องได้

รวม 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

214

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วชิ ำ ท 32201 ภำษำไทยเพอ่ื กำรพฒั นำตนเอง กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 เวลำ 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาหลักการและวิธีการพูด ฟง้ ดู อา่ น เขียน แกทักษะทางภาษาทงั ดู พูด อ่านและ เขียน สง่ สาร

ดว้ ยการพดู และเขยี น มีทักษะการพดู ในโอกาสตา่ งๆ พดู แนะนา เล่าเรอ่ื ง อภปิ ราย รายงาน โดยใชภ้ าษาท่ี

ถูกต้อง เหมาะสมกบั กาลเทศะ เขียนสรุปความ ย่อความจากสอื่ ที่มีรปู แบบ และเน้ือหาท่ีหลากหลาย เขยี น

เรียงความ บทความ และเขียนรายงาน รบั สารดว้ ยการอา่ น ทงั ดจู ากส่อื ตา่ งๆ รายงานจากส่ิงท่อี ่าน ตคี วาม

แปลความ และขยายความเร่ืองที่อ่าน วิเคราะหว์ ิจารณเ์ รื่องที่อ่าน สรปุ แนวคิด และแสดงความคิดเห็น

เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีทังและดู มีวจิ ารณญาณในการเลือกเร่ืองท่ที ังและดู วิเคราะหว์ ตั ถปุ ระสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา

ความน่าเช่ือลือของเรือ่ งท่ที งั และดู ประเมนิ ส่ิงที่ทังและดู โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการ

ปฏิบตั ิ กระบวนการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ อยา่ งมีวิจารญาณ และ

กระบวนการสร้างความ ตระหนกั

เพอื่ ให้เกิด การพฒั นาสมรรถภาพการเรียนรู้ พฒั นาความคิด เพ่ิมพนู ทักษะทาง

ภาษา สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ไดม้ ีมารยาทในการอา่ น การเขียน การทัง ดู และพดู มี นสิ ัยรักการ

อ่านและการเขียน

ผลกำรเรียนรู้

1. พดู ในโอกาสต่าง ๆ พดู แนะนา เลา่ เรือ่ งได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์

2. ดแู สดงความคดิ เห็น อภิปราย รายงานด้วยภาษาทถี่ ุกตอ้ ง และเหมาะสม

3. เขยี นสรุปความ ย่อความจากส่ือที่มรี ปู แบบและเนือ้ หาท่ีหลากหลายได้

4. เขียนเรียงความเชงิ สรา้ งสรรคไ์ ด้

5. เขยี นบทความสั้น ๆ ได้

6. เขียนรายงานได้ โดยใชภ้ าษาเรียบเรยี งถุกด้อง มีข้อมลู และสาระสาคญั ชัดเจน

7. วิเคราะห์ ตีความ แปลความ และสรุปแนวคิดเรื่องท่ีอา่ นได้

8. วจิ ารณแ์ ละประเมนิ คา่ เร่ืองท่ีอา่ นได้อยา่ งมเี หตุผล

9. สรุปแนวคดิ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรือ่ งท่ที ังและลไู ด้

10. วเิ คราะห์แนวคิด การใชภ้ าษาและความนา่ เช่อื ถอื จากเร่อื งที่ทังและดูอย่างมีเหตผุ ล

11. ประเมนิ เร่ืองทที่ ังและดู แล้วกาหนดแนวทางนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดาเนนิ ชวี ิตได้

12. มีมารยาทในการพูด การเขียน การอ่าน การทงั และ การดู

รวม 12 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

215

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ ท 33202 ภำษำไทยในเพลง กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ 2

ศกึ ษา หลักการและวิธีการวเิ คราะห์บทเพลงตา่ ง ๆ แกวเิ คราะหว์ ิจารณ์และประเมิน คุณคา่ ของบท

เพลงตา่ ง ๆ ทงั้ คณุ คา่ ดา้ นเนื้อหา คุณค่าความไพเราะด้านวรรณศิลปี และคุณคา่ ด้าน สงั คม

โดยใชก้ ระบวนการเรยี นทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ กระบวนการ

กลมุ่ กระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารญาณ และ กระบวนการสร้างความ ตระหนัก

เพื่อให้เกดิ การพฒั นาสมรรถภาพการเรียนรู้พัฒนาความคิด สามารถวเิ คราะห์วิจารณ์ และแสดงความคดิ เห็น

เกีย่ วกบั คุณคา่ ของบทเพลงต่าง ๆ ทัง้ คุณคา่ ด้านเน้ือหา วรรณศิลปีความไพเราะ รวมทัง้ คณุ ค่าด้านสังคม และ

เกิดความประทบั ใจในศิลปะการประพันธ์บทเพลงตา่ ง ๆ

ผลกำรเรียนรู้

1. บอกความสาคญั และประโยชนข์ องการพังเพลงต่าง ๆ ได้

2. จาแนกประเภทของบทเพลงตา่ ง ๆ ได้

3. วิเคราะหบ์ ทเพลงต่างๆ ในคุณคา่ ด้านเนอ้ื หาของบทเพลงได้

4. วิเคราะห์บทเพลงต่างๆ ในคณุ คา่ ด้านวรรณศิลปี ความไพเราะของบทเพลงได้

5. วเิ คราะห์บทเพลงต่างๆ ในคณุ ค่าด้านสงั คมซงึ่ สะทอ้ นถึงเรื่องราววิถชี วี ิต และสงั คมได้

6. บอกข้อคดิ ของแตล่ ะบทเพลงทพี่ งั ได้

7. วจิ ารณ์และประเมนิ คุณค่าของบทเพลงต่างๆ ได้

8. เปรียบเทยี บคุณคา่ ของบทเพลงประเภทต่าง ๆ ได้

9. เลอื กพังเพลงตามความสนใจและสามารถแนะนาบทเพลงที่มคี ุณค่าต่อการพงั ได้

รวม 12 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดนาวง

216

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวิชำ ค 21201 คณิตศำสตรเ์ พ่มิ เตมิ 1 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรียนท่ี 1

ฝึกทักษะ การเตรียมความพร้อมในการให้เหตุผล เรื่อง ข้อความคาดการณ์ ประโยคเง่ือนไข บท

กลับของประโยคเง่ือนไข ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการให้เหตุผลทางเรขาคณิต ทฤษฎีบทเกี่ยวกับรูป

สามเหล่ียมและรูปสี่เหลี่ยม การสร้างมุมขนาดต่าง ๆ การสร้างรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยม และก าร

พิสจู น์การสรา้ ง

โดยจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติจรงิ ทดลอง

สรุป รายงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเน้ือหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไป ใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ใน

ชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชอ่ื มั่นในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. สร้างขอ้ ความคาดการณ์ได้

๒. สร้างประโยคเง่อื นไขและบทกลบั ของประโยคเง่ือนไขได้

๓. ให้เหตผุ ลทางเรขาคณิตเกยี่ วกับการใชค้ าอนิยาม บทนยิ าม สัจพจน์ และทฤษฎีบทได้

๔. พสิ ูจนท์ ฤษฎีบทเกยี่ วกับความเท่ากนั ทุกประการของรูปสามเหล่ียมได้

๕. พิสจู น์การสร้างทีเ่ กย่ี วกับการสรา้ งเส้นตรง เส้นขนาน มุม รูปสามเหลีย่ มและรปู สเี่ หลีย่ ม

ดา้ นขนานได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั นาวง

217

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วิชำ ค 21202 คณติ ศำสตร์เพมิ่ เติม 2 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรยี นท่ี 2

ฝึกทักษะการคิดคานวณ เร่ือง เอกนาม การหาผลบวก ผลลบของเอกนาม พหุนาม การหา

ผลบวก ผลลบ ผลคูณและผลหารของพหุนาม เศษส่วนของพหุนาม การดาเนินการของเศษส่วนของพหุ

นาม

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณท์ ่ีใกล้ตัวใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาค้นควา้ โดยปฏิบัติจรงิ ทดลอง

สรุป รายงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเข้าใจในเนื้อหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้ ส่ิงต่าง ๆ และใช้ใน

ชวี ติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เพ่ือเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มีความ

รับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และเชือ่ มัน่ ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. หาผลบวกและผลลบของเอกนามได้

๒. หาผลบวกและผลลบของพหุนามได้

๓. หาผลคณู และผลหารของพหุนามได้

๔. หาผลบวกและผลลบของเศษส่วนของพหุนามได้

๕. หาผลคูณและผลหารของเศษสว่ นของพหนุ ามได้

รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

218

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวชิ ำ ค 22201 คณิตศำสตรเ์ พ่มิ เตมิ 3 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรียนท่ี 1

ฝึกทักษะการคิดคานวณ ในเร่ือง สมบตั ิของเลขยกกาลงั การดาเนินการของเลขยกกาลัง สมบัติขิง

a เม่ือ a  0 การดาเนินการของจานวนจริงซง่ึ เกยี่ วกบั กรณฑท์ ีส่ อง และการนาไปใช้

การดาเนินการของเศษส่วนของพหุนามในรูปผลสาเร็จ การแก้สมการเศษส่วนของพหุนาม และ

โจทย์ปัญหาเกีย่ วกับเศษสว่ นของพหุนาม

โดยจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวใหผ้ ู้เรยี นไดศ้ ึกษาค้นคว้า โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง

สรุป รายงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆ และใช้ใน

ชีวติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มี

ความรบั ผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ และเชอ่ื มัน่ ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. คูณ และหารเลขยกกาลังท่มี ีเลขชก้ี าลงั เปน็ จานวนเต็มได้

๒. ใช้เลขยกกาลงั ในการเขยี นแสดงจานวนทม่ี คี า่ น้อยหรอื มากๆในรปู สญั กรณ์วิทยาสาสตร์ได้

๓. แกโ้ จทย์ปญั หาเก่ียวกบั เลขยกกาลังได้

๔. ใชส้ มบตั ิของ a เมอื่ a  0 ในการแก้ปญั หาได้

๕. บวก ลบ คณู และหารจานวนทอ่ี ยู่ในรปู กรณฑท์ ี่สองได้

๖. ใชค้ วามรู้เกีย่ วกับกรณฑท์ ี่สองในการแก้ปัญหาได้

๗. บวก ลบ คูณ และหารเศษสว่ นของพหุนามและเขียนผลลัพธ์เปน็ เศษสว่ นของพหุนามใน

รูปผลสาเรจ็

๘. แกส้ มการเศษส่วนของพหุนามและโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเศษสว่ นของพหนุ ามได้

รวมท้ังหมด 8 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

219

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วชิ ำ ค 22202 คณิตศำสตร์เพิ่มเตมิ 4 กล่มุ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์

ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 2 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรียนท่ี 2

ฝึกทักษะการให้เหตุผล และการแก้ปญั หา เร่อื ง การแปรผนั ตรง การแปรผกผัน การแก้ผันเก่ียวเน่ือง

โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับการแปรผันตรง การแปรผกผนั การแก้ผนั เกี่ยวเนื่อง วงกลม มุมทีจ่ ุดศูนย์กลางและมุม

ในสว่ นโค้งของวงกลม คอรด์ และเส้นสัมผัสวงกลม

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาค้นคว้า โดยปฏิบตั ิจรงิ ทดลอง

สรุป รายงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ และใช้ใน

ชวี ติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และเชือ่ ม่นั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้

๑. บอกความหมายของการแปรผันตรง การแปรผกผัน การแก้ผันเก่ยี วเน่อื งได้

๒. แก้โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั การแปรผันตรง การแปรผกผัน การแกผ้ นั เก่ียวเน่อื งได้

๓. ใชท้ ฤษฎีบทเกย่ี วกับมมุ ท่ีจุดศูนยก์ ลางและมุมในส่วนโคง้ ของวงกลมแก้ปญั หาและให้เหตุ

ผลได้

๔. ใชท้ ฤษฎีบทเกี่ยวกับคอรด์ แก้ปัญหาและใหเ้ หตุผลได้

๕. ใชท้ ฤษฎบี ทเกี่ยวกับเส้นสัมผสั วงกลมแก้ปัญหาและให้เหตุผลได้

รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

220

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วิชำ ค 23201 คณิตศำสตร์เพมิ่ เติม 5 กล่มุ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์

ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 3 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 1

ฝกึ ทักษะการแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองตัวแปรเดยี ว การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรี

สองที่เป็นกาลังสองสมบูรณ์ การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรีสองทเ่ี ปน็ ผลต่างของกาลังสอง

การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยวิธีทาเป็นกาลังสองสมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของ

พหุนามดีกรีสูงกว่าสองท่ีมีสัมประสิทธิ์เป็นจานวนเต็ม การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธ์ิเป็น

จานวนเตม็ โดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลอื สมการพาราโบลา พาราโบลา

โดยจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณท์ ี่ใกล้ตัวใหผ้ ู้เรียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยปฏิบัติจรงิ ทดลอง

สรุป รายงาน เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆ และใช้ใน

ชวี ติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มีความ

รับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และเช่ือมน่ั ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. แยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รสี องตวั แปรเดียวได้

๒. แยกตัวประกอบของพหนุ ามดกี รีสองทเี่ ปน็ กาลงั สองสมบูรณไ์ ด้

๓. แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องทเ่ี ปน็ ผลตา่ งของกาลังสองได้

๔. แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รีสองโดยวธิ ีทาเป็นกาลังสองสมบูรณ์ได้

๕. แยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรสี ูงกว่าสองท่ีมสี มั ประสิทธิเ์ ป็นจานวนเต็มได้

๖. แยกตัวประกอบของพหนุ ามทีม่ สี ัมประสทิ ธิเ์ ป็นจานวนเตม็ โดยใชท้ ฤษฎีบทเศษเหลือได้

๗. เขยี นและวิเคราะห์ลกั ษณะของพาราโบลาได้

๘. ใช้ความรูเ้ กยี่ วกบั พาราโบลาแกป้ ญั หาได้

รวมทั้งหมด 8 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

221

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหสั วิชำ ค 23202 คณิตศำสตร์เพมิ่ เตมิ 6 กล่มุ สำระกำรเรยี นรูค้ ณิตศำสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรยี นท่ี 2

ฝึกทักษะการคิดคานวณ ในเรื่อง สมการกาลังสองตัวแปรเดียว โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการกาลัง

สองตัวแปรเดียว แก้สมการกาลังสองโดยวิธีทาเป็นกาลังสองสมบูรณ์ โจทย์ปัญหาเก่ียวกับสมการกาลังสอง

ระบบสมการท่ีประกอบด้วยสมการเชิงเส้นและสมการดีกรีสอง ระบบสมการที่ประกอบด้วยสมการดีกรีสอง

ทัง้ สองสมการ

โดยจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยปฏิบัติจริง ทดลอง

สรุป รายงาน เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา มีทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผลและนา

ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆ และใช้ใน

ชีวิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเช่อื มั่นในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้

๑. แกส้ มการกาลงั สองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรสี องได้

๒. แกโ้ จทย์ปัญหาเกีย่ วกับสมการกาลงั สองตวั แปรเดยี วได้

๓. แก้สมการกาลงั สองโดยวิธที าเปน็ กาลังสองสมบูรณ์ได้

๔. แก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับสมการกาลังสองได้

๕. แก้ระบบสมการท่ปี ระกอบดว้ ยสมการเชิงเสน้ และสมการดกี รสี องได้

๖. แก้ระบบสมการทปี่ ระกอบดว้ ยสมการดกี รีสองท้งั สองสมการได้

รวมทั้งหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

222

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วชิ ำ ว 21201 วทิ ยำศำสตรก์ บั กำรแกป้ ัญหำ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ 1

ศึกษา วิเคราะห์ สารวจ ตรวจสอบและทดลองการใช้เคร่ืองมือและหน่วยในการวัดปริมาตรต่างๆ
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ประวตั ิและลักษณะนิสยั การทางานของนักวทิ ยาศาสตร์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภิปราย การ

วิเคราะห์ การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วน

รว่ มในการปฏิบัติ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และค่านิยมท่พี งึ ประสงค์

ผลกำรเรยี นรู้
1. บอกผลกระทบของผลผลติ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มตี อ่ มนุษย์
2. ทดลองและอธิบายทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขน้ั พน้ื ฐาน
3. นาวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตรไ์ ปใช้ในการแกป้ ัญหาและเป็นประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน

4. ทดลองและเลือกใชเ้ คร่อื งมอื บางชนิดมาใช้ในการวัดและการขยายขอบเขตจากดั ของประสาท
สัมผัส ไดอ้ ย่างเหมาะสม

5. อธิบายคณุ ลักษณะนสิ ัยที่สาคญั ของนกั วิทยาศาสตรแ์ ละสามารถฝึกฝนให้มคี ุณลกั ษณะดังกล่าว

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวดั นาวง

223

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวิชำ ว 21202 ของเล่นเชิงวิทยำศำสตรห์ ลำกหลำย กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศกึ ษา วิเคราะห์ สารวจ ตรวจสอบ อุปกรณส์ าเรจ็ รูปหรือเกมทมี่ ีลักษณะเปน็ ของเลน่ และเกมแตล่ ะ
ชน้ิ ซึ่งจัดไว้ในลกั ษณะต่างๆ การวางแผนงานและการคดิ ประดษิ ฐช์ ้นิ งานทีห่ ลากหลาย

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภิปราย การ

วิเคราะห์ การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วน

ร่วมในการปฏบิ ตั ิ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และคา่ นิยมทพี่ ึงประสงค์

ผลกำรเรียนรู้
1. ทดลองเกี่ยวกบั การใชอ้ ุปกรณ์สาเร็จรูปหรอื เกมตา่ งๆ
2. อธบิ ายทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ นั้ ทักษะผสม
3. จดั ทาสิ่งประดิษฐ์และของเล่นอย่างงา่ ยทใี่ ชห้ ลกั การทางวทิ ยาศาสตร์

รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

224

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วิชำ ว 22201 ของเล่นเชิงกลไกและไฟฟ้ำ กลมุ่ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษา ทดลอง และอธิบายเคร่ืองมือพ้ืนฐาน อุปกรณ์ และข้อปฏิบัติ ความปลอดภัยในการใช้
เคร่อื งมือในการประดิษฐ์ของเล่นเชงิ กลไกและไฟฟา้ วางแผนออกแบบ คดิ สรา้ งสรรคส์ ร้างสง่ิ ประดิษฐ์ของเล่น

เชงิ กลไกและไฟฟ้าอยา่ งง่าย
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภิปราย การ

วิเคราะห์ การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วน

รว่ มในการปฏบิ ตั ิ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และคา่ นิยมทีพ่ ึงประสงค์

ผลกำรเรยี นรู้
1. มที ักษะการใชเ้ ครอ่ื งมือพื้นฐานในการประดิษฐ์ของเลน่ เชงิ กลไกและไฟฟ้า
2. อธิบายและอ่านแบบอุปกรณท์ ่ีใช้ประดษิ ฐ์ของเล่นเชิงกลไกและไฟฟา้

3. บอกข้อปฏิบัติความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่ืองมือพ้ืนฐานประดิษฐ์ของเล่นเชิงกลไกและไฟฟ้าได้
4. อธบิ ายหลกั การทางวิทยาศาสตร์เกย่ี วกับของเล่นเชิงกลไกและไฟฟา้ แตล่ ะประเภทได้
5. วางแผนออกแบบ และสรา้ งอุปกรณ์ของเลน่ เชิงกลไกและไฟฟ้า

6. มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ในการออกแบบ ดดั แปลงและประดิษฐ์ของเลน่ เชิงกลไกและไฟฟ้าได้ดว้ ย
ตัวเอง

รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

225

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ ว 22202 เริ่มต้นกบั โครงงำนวทิ ยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรียนที่ 2

ศึกษา วิเคราะห์ สืบค้นข้อมูล และอธิบายลักษณะของนักวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางานของ
นักวิทยาศาสตร์ การตั้งสมมติฐานจากปัญหา หรือสถานการณ์ ออกแบบการทดลองกาหนดและควบคุมตัว

แปร กาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ ออกแบบวิธีการทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์ และการปฏิบัติการทดลอง บันทึก
ข้อมูล สรุปผลข้อมูล วิเคราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์ การคิดวางแผนการทดลอง จัดทาเค้าโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ การออกแบบดดั แปลงการทดลอง กาหนดวสั ดอุ ุปกรณต์ ่างๆในการปฏิบัติกิจกรรมแก้ปัญหา

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภปิ ราย การวเิ คราะห์

การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วนร่วม

ในการปฏิบัติ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และค่านิยมที่พึงประสงค์

ผลกำรเรียนรู้

1. บอกลักษณะของนักวิทยาศาสตร์ และกระบวนการทางานของนกั วิยาศาสตร์
2. ต้ังสมมตฐิ านจากปัญหา หรือสถานการณ์ตา่ งๆได้
3. ออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมติฐานโดยมีการกาหนดและควบคุมตัวแปรต่างๆ และ

กาหนดนิยามเชงิ ปฏิบัตกิ ารได้
4. ออกแบบวธิ กี ารทดลอง เลือกใช้อุปกรณ์ และลงมือทาการทดลองได้
5. บันทกึ ข้อมลู ทส่ี ามารถ อา่ นเข้าใจงา่ ย และสรุปผลของข้อมลู จากการศึกษาทดลองได้

6. วิเคราะหโ์ ครงงานวทิ ยาศาสตร์ และมีแนวคิดในการวางแผนการทดลอง รวมถึงจัดทาเค้าโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ได้

รวมท้งั หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

226

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเติม)

รหัสวชิ ำ ว 23201 โครงงำนวทิ ยำศำสตร์ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 1

ศึกษา วิเคราะห์ สืบค้นข้อมูล และอธิบายความหมายและลักษณะของโครงงานวิทยาศาสตร์ การ
กาหนดตัวแปรในโครงงานประเภททดลอง ข้อมลู ทางวิทยาศาสตร์ แหล่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ การคิดและ

เลือกหัวข้อเรื่อง ท่ีจะทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนเค้าโครงย่อและการปฏิบัติการทดลองเบ้ืองต้น การ
วางแผนและการออกแบบการทดลอง การเขียนเค้าโครงเร่ืองท่ีศกึ ษาฉบับสมบูรณ์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภปิ ราย การวิเคราะห์

การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วนร่วม

ในการปฏบิ ตั ิ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และค่านยิ มทพ่ี งึ ประสงค์

ผลกำรเรียนรู้
1. วเิ คราะหแ์ ละสรุปสาระสาคญั ของโครงงานวิทยาศาสตร์แตล่ ะประเภท

2. คน้ คว้าข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยจี ากแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ
3. คิดและเลือกเร่ืองสาหรับทาโครงงานวิทยาศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม
4. เขยี นเคา้ โครงย่อและปฏบิ ัตกิ ารทดลองเบื้องต้น เพื่อศึกษาความเปน็ ไปได้ของวิธีการทดลองและ

อปุ กรณ์ทจ่ี ะใชใ้ นการศึกษาเรื่องนั้น
5. เขียนเคา้ โครงของเร่ืองทจ่ี ะศึกษาได้ครบทุกข้ันตอนและมคี วามเปน็ ไปได้สูง
รวมทัง้ หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

227

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวิชำ ว 23202 โครงงำนวิทยำศำสตร์ 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรยี นท่ี 2

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายการดาเนินการทดลอง การแก้ไขปรับปรุงวิธีการทดลอง การเก็บรวบรวม

ข้อมูลและบันทึกข้อมูล ออกแบบตารางบันทึกผล การจัดกระทาข้อมูลทางสถิต การแปลความหมายข้อมูล
และสรุปผล รูปแบบรายงานฉบับสมบูรณ์ หลักเกณฑ์การเขียนรายงาน การจัดทาโปสเตอร์แสดง
ผลงาน หลักการและขั้นตอนการนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงานด้วยปากเปล่า และการตอบคาถาม

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การอธิบาย การอภปิ ราย การวเิ คราะห์

การสารวจ การสืบค้นข้อมูล การทดลอง การสร้างแบบจาลอง การจัดจาแนกและการมีส่วนร่วม

ในการปฏิบัติ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ และมีความสามารถในการ

ตัดสินใจเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ทางานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม

และค่านยิ มท่พี งึ ประสงค์

ผลกำรเรยี นรู้
1. เกบ็ รวบรวมข้อมลู ปฏบิ ตั ิการทดลองตามวิธีดาเนินการท่ีกาหนดไว้ในเค้าโครงได้ครบถว้ นและ

เหมาะสม
2. แปลความหมายข้อมูลและสรุปผลไดถ้ ูกต้อง
3. เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ในเรื่องที่ศึกษาได้สมบูรณ์และถูกต้อง

4. นาเสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์ทตี่ นเองศึกษาทดลองด้วยปากเปล่าได้อย่างถูกต้องคล่องแคลว่ มีความ
มนั่ ใจ

๖. มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จติ วิทยาศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาโดยใช้

วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์
รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั นาวง

228

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวชิ ำ อ 21201 ภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำร 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ 1

ศึกษาและเข้าใจความหมายของคาศัพท์ วลี ประโยค บทสนทนาส้ันๆเกี่ยวกับตนเอง (Myself) เช่น

Personal Information และ Personal Characteristics ความสนใจหรือความคิดเห็น (Interest or

Opinion) เช่น Aspirations และ Medias สุขภาพ (Health) เช่น Food และ Place และการท่องเที่ยว

(Travel) เชน่ Sites, Transportations และ Weather และอืน่ ๆ

โดยใช้ทักษะดา้ นการฟัง การพดู การอ่าน และการเขยี น

เพ่ือให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค ตลอดจนบทสนทนาเก่ียวกับตนเอง (Myself) เช่น

Personal Information และ Personal Characteristics ความสนใจหรือความคิดเห็น (Interest or

Opinion) เช่น Aspirations และ Medias สุขภาพ (Health) เช่น Food และ Place และการท่องเท่ียว

(Travel) เชน่ Sites, Transportations และ Weather

ผลกำรเรยี นรู้

๑. นักเรียนฟงั และพูดคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกย่ี วกบั เกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
วฒั นธรรม สังคมและชมุ ชน

๒. นกั เรียนอา่ นและเขียนคาศพั ท์ ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกบั เกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น
วฒั นธรรม สังคมและชุมชน

๓. นกั เรยี นสามารถนาวัฒนธรรมการทักทายไปใชโ้ ดยพฒั นาสสู่ งั คมและชุมชน

๔. นักเรยี นสามารถนาภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดต้ ามศักยภาพของผู้เรียน
๕. นักเรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใชเ้ ปน็ พ้นื ฐานในการประกอบอาชีพได้

รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

229

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วชิ ำ อ 21202 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ

ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรยี นที่ 2

ศึกษาและเข้าใจความหมายของคาศัพท์ วลี ประโยค บทสนทนาสั้นๆเก่ียวกับวัฒนธรรม (Culture)

เช่ น Local Area วั ฒ น ธ ร รม ต่ างป ร ะ เท ศ (Foreign Culture) เช่ น Appropiate Questions แ ล ะ

Appropiate Behavior วัฒนธรรมท่ีมีช่ือเสียง (Popular Culture) เช่น Teenage in Other Countries,

Environment, Clothing และ Hobbies และมนุษยสัมพันธ์ (Human Relation) เช่น Communication

และอื่นๆ

โดยใชท้ ักษะด้านการฟงั การพดู การอา่ น และการเขยี น

เพ่ือให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค ตลอดจนบทสนทนาเก่ียวกับวัฒนธรรม (Culture) เช่น

Local Area วัฒนธรรมต่างประเทศ (Foreign Culture) เช่น Appropiate Questions และ Appropiate

Behavior วัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง (Popular Culture) เช่น Teenage in Other Countries, Environment,

Clothing และ Hobbies และมนุษยสัมพันธ์ (Human Relation) เช่น Communication Transportations

และ Weather

ผลกำรเรียนรู้

๑. นักเรียนฟังและพูดคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกับเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
วฒั นธรรม สงั คมและชมุ ชน

๒. นกั เรียนอา่ นและเขียนคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกย่ี วกบั เก่ียวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น
วฒั นธรรม สังคมและชมุ ชน

๓. นกั เรียนสามารถนาวัฒนธรรมการทักทายไปใช้โดยพัฒนาสสู่ งั คมและชมุ ชน

๔. นักเรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ตามศกั ยภาพของผู้เรียน
๕. นักเรียนสามารถนาภาษาองั กฤษไปใชเ้ ป็นพนื้ ฐานในการประกอบอาชีพได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

230

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วิชำ อ 22201 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรส่ือสำร 2 กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ

ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาและเข้าใจความหมายของคาศัพท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกับตนเอง (Myself) เช่น

Friends, Parents School Performance และ Likes ความสนใจหรือความคิดเห็น (Interest/Opinion)

เช่น Television, Video, Magazine, Book, Newspaper และ Social and Community และอน่ื ๆ

โดยใช้ทักษะด้านการฟงั การพดู การอ่าน และการเขยี น

เพ่ือให้นักเรยี นได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเก่ียวกับตนเอง (Myself) เช่น Friends,

Parents School Performance และ Likes ความสนใจหรือความคิดเห็น (Interest/Opinion) เช่น

Television, Video, Magazine, Book, Newspaper และ Social and Community

ผลกำรเรียนรู้

๑. นักเรยี นฟงั และพูดคาศพั ท์ ประโยค และบทสนทนาเกยี่ วกับเก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น
วัฒนธรรม สงั คมและชุมชน

๒. นกั เรยี นอ่านและเขียนคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกับเก่ียวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน
วฒั นธรรม สังคมและชุมชน

๓. นักเรียนสามารถนาวฒั นธรรมการทักทายไปใชโ้ ดยพัฒนาสู่สังคมและชุมชน

๔. นักเรยี นสามารถนาภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดต้ ามศักยภาพของผู้เรียน
๕. นกั เรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เป็นพน้ื ฐานในการประกอบอาชพี ได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั นาวง

231

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ อ 22202 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสือ่ สำร 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 2 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรยี นท่ี 2

ศึกษาและเข้าใจความหมายของคาศัพท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเก่ียวกับสุขภาพ (Health) เช่น

Food, Tastes และ Labels สถานท่ี (Places) เช่น Time, People และ Local Resources ประชากร

(People) เช่ น Friends, Activities, Giving Advice to Friends วัฒ น ธ รรม (Culture) เช่ น Beliefs,

Customs, History และ Traditions และอ่ืนๆ

โดยใชท้ กั ษะดา้ นการฟงั การพูด การอ่าน และการเขียน

เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกับสุขภาพ (Health) เช่น Food,

Tastes และ Labels สถานที่ (Places) เช่น Time, People และ Local Resources ประชากร (People)

เช่ น Friends, Activities, Giving Advice to Friends วัฒ น ธรรม (Culture) เช่ น Beliefs, Customs,

History และ Traditions

ผลกำรเรียนรู้

๑. นักเรยี นฟงั และพูดคาศพั ท์ ประโยค และบทสนทนาเก่ยี วกับเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น
วัฒนธรรม สังคมและชุมชน

๒. นกั เรยี นอ่านและเขยี นคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเก่ยี วกับเกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น
วัฒนธรรม สงั คมและชมุ ชน

๓. นกั เรยี นสามารถนาวัฒนธรรมการทกั ทายไปใชโ้ ดยพฒั นาส่สู งั คมและชมุ ชน

๔. นักเรยี นสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดต้ ามศักยภาพของผู้เรียน
๕. นักเรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เปน็ พนื้ ฐานในการประกอบอาชีพได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวดั นาวง

232

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหัสวิชำ อ 23201 ภำษำอังกฤษเพื่อกำรส่อื สำร 3 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ 1

ศึกษาและเข้าใจความหมายของคาศัพท์ วลี ประโยค บทสนทนาเก่ียวกับตนเอง(Myself) เช่น

Personal development, Opinions และ Expectation ความสนใจ (Interest)เช่น Place to go และ

Festival สุขภาพ(Health) เช่น Emotions, food for health สถานที่ (Places)เช่น Tourist Attractions,

History, Map และ Transportations และอน่ื ๆ

โดยใชท้ ักษะดา้ นการฟงั การพดู การอ่าน และการเขียน

เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค บทสนทนาเก่ียวกับตนเอง(Myself) เช่น Personal

development, Opinions และ Expectation ความสนใจ (Interest)เช่น Place to go และ Festival

สุขภาพ(Health) เช่น Emotions, food for health สถานที่ (Places)เช่น Tourist Attractions, History,

Map และ Transportations

ผลกำรเรยี นรู้

๑. นกั เรียนฟังและพูดคาศพั ท์ ประโยค และบทสนทนาเกี่ยวกับเกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
วัฒนธรรม สังคมและชุมชน

๒. นักเรยี นอา่ นและเขียนคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกย่ี วกบั เกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั
โรงเรยี น วฒั นธรรม สงั คมและชมุ ชน

๓. นักเรยี นสามารถนาวฒั นธรรมการทกั ทายไปใช้โดยพฒั นาสู่สังคมและชุมชน

๔. นักเรียนสามารถนาภาษาองั กฤษไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ตามศักยภาพของผู้เรียน
๕. นกั เรยี นสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เป็นพน้ื ฐานในการประกอบอาชพี ได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

233

คำอธิบำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเติม)

รหัสวิชำ อ 23202 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 3 กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรยี นท่ี 2

ศกึ ษาและเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเกย่ี วกบั ประชากร(People) เช่น

Friend, Family และ Community วัฒนธรรม (Culture) เช่น Food, Dance, Festivals และ Relations

สถานท่ี (Places) เช่น Nationalities, Entertainment and Interesting Places วัฒนธรรมต่างประเทศ

(Foreign Culture) เช่น Nationalities, Entertainment and Interesting Places, Religions and Diet

และอนื่ ๆ

โดยใชท้ ักษะดา้ นการฟัง การพดู การอา่ น และการเขยี น

เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้คาศัพท์ วลี ประโยค และบทสนทนาเก่ียวกับประชากร(People) เช่น

Friend, Family และ Community วัฒนธรรม (Culture) เช่น Food, Dance, Festivals และ Relations

สถานที่ (Places) เช่น Nationalities, Entertainment and Interesting Places วัฒนธรรมต่างประเทศ

(Foreign Culture) เชน่ Nationalities, Entertainment and Interesting Places, Religions and Diet

ผลกำรเรยี นรู้

๑. นกั เรียนฟังและพดู คาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเก่ยี วกบั เกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น
วฒั นธรรม สงั คมและชมุ ชน

๒. นักเรียนอา่ นและเขียนคาศัพท์ ประโยค และบทสนทนาเกย่ี วกับเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
วฒั นธรรม สงั คมและชมุ ชน

๓. นักเรยี นสามารถนาวฒั นธรรมการทักทายไปใช้โดยพัฒนาสสู่ งั คมและชุมชน

๔. นักเรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ตามศักยภาพของผู้เรยี น
๕. นักเรียนสามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้เป็นพืน้ ฐานในการประกอบอาชพี ได้

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

234

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหัสวชิ ำ อ 31202 ภำษำอังกฤษเสริมทกั ษะ 2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรียนที่ 2

ศึกษา หลักการและวิธกี ารวิเคราะหบ์ ทเพลงตา่ ง ๆ แกวิเคราะห์วจิ ารณแ์ ละประเมนิ คุณค่าของบท

เพลงตา่ ง ๆ ทงั้ คุณค่าด้านเนื้อหา คณุ คา่ ความไพเราะด้านวรรณศลิ ปี และคุณค่าดา้ น สังคม
โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการ
กลุม่ กระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารญาณ และ กระบวนการสร้างความ ตระหนัก

เพือ่ ใหเ้ กิดการพฒั นาสมรรถภาพการเรยี นรู้พัฒนาความคดิ สามารถวิเคราะห์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั คุณค่าของบทเพลงต่าง ๆ ทั้งคุณค่าดา้ นเน้ือหา วรรณศิลปีความไพเราะ รวมท้ังคุณค่าด้านสงั คม และ
เกดิ ความประทบั ใจในศิลปะการประพันธ์บทเพลงตา่ ง ๆ

ผลกำรเรียนรู้
1. บอกความสาคญั และประโยชน์ของการพังเพลงต่าง ๆ ได้
2. จาแนกประเภทของบทเพลงต่าง ๆ ได้

3. วิเคราะหบ์ ทเพลงตา่ งๆ ในคุณคา่ ด้านเน้อื หาของบทเพลงได้
4. วิเคราะหบ์ ทเพลงต่างๆ ในคณุ ค่าด้านวรรณศลิ ปี ความไพเราะของบทเพลงได้
5. วิเคราะห์บทเพลงตา่ งๆ ในคณุ ค่าด้านสังคมซ่ึงสะทอ้ นถึงเรอ่ื งราววิถชี ีวิต และสงั คมได้

6. บอกข้อคิดของแต่ละบทเพลงท่พี ังได้
7. วจิ ารณ์และประเมนิ คุณคา่ ของบทเพลงต่างๆ ได้
8. เปรียบเทยี บคณุ คา่ ของบทเพลงประเภทต่าง ๆ ได้

9. เลอื กพังเพลงตามความสนใจและสามารถแนะนาบทเพลงทมี่ ีคุณค่าต่อการพงั ได้
รวม 12 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

235

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหัสวิชำ อ 31202 ภำษำอังกฤษเสริมทักษะ 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 5 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 1

อา่ นออกเสียงบทอ่านได้ถกู ต้องตามหลักการอ่านออกเสยี ง เหมาะสมกับเน้อื หา เข้าใจ ตีความ หรอื

แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับสื่อที่เป็นความเรยี ง และไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบตา่ งๆ แลว้ ถ่ายโอนเปน็ ข้อความ
ทใี่ ชถ้ ้อยคาของตนเอง เข้าใจ ตคี วาม วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมูล
ข่าวสาร บทความ สารคดบี ันเทิง จากสือ่ สิง่ พมิ พ์ หรือสื่อ อเิ ลก็ ทรอนิกส์

ผลกำรเรียนรู้
1.อา่ นออกเสียงบทอ่านตามหลกั การอ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้อง
2.อธิบาย และตคี วาม หรือแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ส่ือทเี่ ป็นความเรียงและไมเ่ ปน็ ความ เรยี งใน

รูปแบบตา่ ง ๆ ได้
3.อา่ นส่ือทีเ่ ปน็ ความเรยี งและไม่เป็นความเรยี งในรปู แบบต่าง ๆ และสามารถถา่ ยโอนเป็น ข้อความท่ี

ใชถ้ อ้ ยคาของตนเองได้

4.อธิบาย ตีความ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับข้อความ ข้อมลู ข่าวสาร
บทความ สารคดีบันเทิง จากส่ือสง่ิ พิมพ์ หรือส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์

รวม 4 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

236

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหสั วิชำ ง 21203 ชำ่ งขนมไทย กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ

ชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรยี นท่ี 2

ศึกษาความรู้ท่ัวไปในการทาขนมไทย การเลือกใช้อุปกรณ์เครอ่ื งใช้สาหรับทาขนมไทย การเลือกซื้อ

และการเก็บรักษาเคร่อื งปรุงสดและแห้ง เทคนิคการทาขนมไทยชนิดต่างๆ การบรรจุ วิธีเก็บรักษาขนมไทยไว้

ได้นานและถูกสขุ ลักษณะ

ปฏิบัติงานเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้ในการทาขนมไทยแต่ละชนิด ทาขนมไทยประเภทต่างๆ

บรรจุและเกบ็ คานวณค่าใช้จา่ ย กาหนดราคาหรือค่าบริการจัดจาหน่าย จดบนั ทึกปฏิบตั ิงาน ทาบัญชรี ายรับ

– รายจ่าย และประเมินผลเพือ่ ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะเก่ยี วกบั การทาขนมไทย และจาหน่ายได้

เพ่ือให้มีความเสียสละในการทางาน มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งม่ันในการทางาน ตามหลัก

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในการทางานอย่างประหยัด คุ้มค่า ถูกวิธี

และมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการประกอบอาชีพสจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้

๑. สามารถบอกข้อมูลท่ัวไปเกย่ี วกับการขนมไทยได้
๒. บอกวัสดุ-อปุ กรณ์ วธิ กี ารเลือกใช้ การเกบ็ รักษาวสั ดุ-อุปกรณ์ในการทาขนมไทยได้
๓. บอกวิธีการเลือกซ้ือและการเกบ็ รักษาเครอ่ื งปรงุ สดและแห้งในการทาขนมไทยได้

๔. อธบิ ายวธิ กี ารบรรจุ และวิธกี ารเก็บรกั ษาขนมไทยไว้ได้นานและถูกสขุ ลกั ษณะได้
๕. สามารถทาบัญชรี ายรับ-รายจ่าย และคดิ คานวณราคาจาหนา่ ยขนมไทยได้
๖. สามารถวางแผน ปฏบิ ตั ิ และประเมนิ ผลการทาขนมไทยชนดิ ต่างๆได้

รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

237

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเติม)

รหสั วชิ ำ ง 21204 ช่ำงเย็บยำ่ ม กล่มุ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 2

ศึกษาการใช้เครื่องมืออุปกรณ์การตัดเย็บ การใช้จักรและการบารุงรักษา หลักการวัดตัวและการ

สร้างแบบตัดมาตรฐาน การเลือกผา้ การคานวณผ้า การวางแบบ การตดั การเย็บตะเขบ็ และเครื่องเกาะเกยี่ ว

ปฏบิ ัติงานฝกึ ทักษะเบ้ืองตน้ เกี่ยวกับการใช้จักร ทาตะเข็บ รังดุม เครือ่ งเกาะเก่ียวแบบต่างๆ ตดิ ซิป

ด้วยมือและจักร วัดตัว สร้างแบบ เลือกผ้า คานวณผ้า วางแบบ คานวณค่าใช้จ่าย กาหนดราคา

คา่ บริการ จดบันทกึ การปฏิบัติงาน ทาบัญชีรายรับ-รายจ่าย และประเมนิ ผล

เพ่อื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการใช้เคร่ืองมอื อุปกรณ์การตดั เย็บ และการใช้จักร การวัด

สรา้ งแบบ ตัดเยบ็ ยา่ ม สามารถใหบ้ ริการตัดเยบ็ ยา่ มแบบงา่ ยได้

ผลกำรเรียนรู้

๑. บอก อธบิ าย และแยกประเภทของวัสดุ-อปุ กรณ์ วิธีใช้ การเกบ็ รกั ษา อุปกรณ์การตัดเยบ็ ย่ามได้
๒. บอกส่วนประกอบและอธบิ ายวิธีการใช้ การซอ่ มแซม และการเก็บรักษาจกั รเย็บผา้ ได้
๓. อธบิ ายและปฏิบตั ิการเย็บตะเขบ็ แบบต่างๆ ด้วยจกั รและมือ การเยบ็ รงั ดมุ และเคร่ืองเกาะเกยี่ ว

ดว้ ยมือได้
๔. ทาบัญชคี ดิ คานวณคา่ บริการและจดบนั ทึกการปฏิบัตงิ าน ทาบญั ชี รายรบั -รายจ่าย และประเมินผล

ในการตดั เยบ็ ย่ามได้

๕. บอกและปฏบิ ตั ิ การวดั ตวั สรา้ งแบบ การเลือกผ้า การคานวณผ้า การวางแบบผ้าได้
๖. ปฏบิ ตั ิการตัดเยบ็ เสอื้ ผา้ ได้

รวมทั้งหมด 6 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

238

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหัสวชิ ำ ง 21201 ชำ่ งเดินสำยไฟฟำ้ ในอำคำร 1 กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพ

ชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาเกี่ยวกับไฟฟ้าเบ้ืองต้น เครื่องมือวัดไฟฟ้า ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน วัสดุอุปกรณ์และ

เครื่องมือในการเดินสายไฟฟา้ ภายในอาคาร การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน กฎระเบียบขอ้ บังคับ

ในการเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร การเดินสายไฟฟ้าวิธีต่าง ๆ การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ปฏิบัติฝึกทักษะ

เกีย่ วกบั การต่อสายไฟฟา้ แบบต่าง ๆ เดินสายไฟฟ้าดว้ ยเข็มขัดรดั สายไฟฟา้ และอุปกรณ์จับยดึ สายแบบอ่ืน ๆ

ติดตั้งอุปกรณ์แบบต่าง ๆสามารถอธิบายสักษณ์ทางไฟฟ้า อ่านแบบ เขียนแบบแปลนทางไฟฟ้าพื้นฐานและ

ปฏิบัติตามแบบที่กาหนด ให้บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมเหตุขัดข้องทางไฟฟ้า สารวจแหล่งวัสดุและแหล่ง

บริการในท้องถน่ิ คานวณค่าใชจ้ ่ายและกาหนดราคาคา่ บริการ ทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย เพ่ือให้มีความรู้ความ

เขา้ ใจและมีทกั ษะในบริการไฟฟ้าได้ และต่อสายไฟฟ้าแบบต่าง ๆได้ สามารถเลือกใชว้ ัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสม

กับงาน สามารถอ่านแบบและปฏิบัติตามแบบได้ สามารถให้บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมเหตุขัดข้องทางไฟฟ้า

และเดินสายไฟฟ้าในอาคารเบื้องต้นได้ ทางานด้วยความรับผิดชอบ รู้จักใช้พลังงานทรัพยากรและ

สิง่ แวดลอ้ มในการทางานไดอ้ ย่างคุ้มค่าและถูกวิธี

ผลกำรเรยี นรู้
๑. อธบิ ายประวตั ิ ความสาคัญ และลักษณะของงานไฟฟ้า
๒. อธิบายความปลอดภยั เก่ยี วกับไฟฟ้า และสาธิตการปฐมพยาบาลในงานไฟฟา้ เบื้องตน้ ได้
๓. อธบิ ายทฤษฎอี ิเลก็ ตรอนและแหล่องกาเนิดไฟฟ้าทัง้ ท่ี เกิดข้นึ เองตามธรรมชาติและทีม่ นุษย์สรา้ งข้ึน
๔. อธิบายส่วนประกอบและวธิ กี ารใช้งานเคร่อื งมือวดั และเคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการติดตัง้ ไฟฟ้าเบื้องตน้ ได้
๕. เลือกใชเ้ ครื่องมือวัดและเครื่องมอื ที่ใชใ้ นการติดต้ังไฟฟา้ เบื้องตน้ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
๖. ปฏิบัติการตอ่ สายไฟ ทั้ง 7 วิธี ได้
๗. บอกประเภทสายไฟฟา้ ชนิดต่างๆได้ สามารถอธบิ ายบอกส่วนประกอบของสายไฟ และอ่านคา่ สญั ลักณ์ขอ

สายไฟฟา้ ได้
๘. อธิบายสญั ลกั ษณท์ างไฟฟา้ ศึกษาวงจรไฟฟ้าและสามารถเขียนวงจรไฟฟา้ ทั้ง 3 วธิ ีการได้
๙. การเดินสายไฟฟ้าบนผิวหรือเดินสายเกาะผนัง และเดนิ ระบบแสงสว่าง ในรูปแบบ

วงจรไฟฟ้าแบบขนาน วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม วงจรไฟฟา้ แบบผสม

๑๐. อธิบายและเลือกไช้อปุ กรณป์ ้องกันและควบคุมวงจรไฟฟ้าได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
๑๑. ปฏิบัติการเดินสายไฟฟา้ เข้ากบั อุปกรณ์ไฟฟา้ และการเลอื กใช้อปุ กรณ์ทางไฟฟ้าได้ถูกต้อง
๑๒. ปฏิบตั ิการเดินวงจรไฟฟ้าภายในบ้านแบบจาลองห้องต่างๆ ภายในบา้ น
๑๓. ปฏิบตั ิการดูแลรกั ษาและซ่อมบารุงเครื่องใชไ้ ฟฟ้าภายในบ้านเบื้องตน้

รวมทั้งหมด 13 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

239

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพิ่มเติม)

รหสั วิชำ ง 21202 ช่ำงเดินสำยไฟฟ้ำในอำคำร 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ

ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 เวลำ 40 ช่วั โมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรยี นท่ี 2

ศึกษาเกี่ยวกับไฟฟ้าเบื้องต้น เคร่ืองมือวัดไฟฟ้า ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน วัสดุอุปกรณ์และ

เครื่องมือในการเดินสายไฟฟ้า การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน กฎระเบียบข้อบังคับในการเดิน

สายไฟฟ้าในอาคาร การเดินสายไฟฟ้าวิธีต่าง ๆ การติดต้ังอุปกรณ์ไฟฟ้า ปฏิบัติฝึกทักษะเก่ียวกับการต่อ

สายไฟฟ้าแบบต่าง ๆ เดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัด และอุปกรณ์จบั ยึดสายแบบอื่น ๆ ติดต้ังอปุ กรณ์แบบต่าง

ๆ อ่านแบบและปฏิบัติตามแบบที่กาหนด ให้บริการตรวจสอบ ซ่อมแซมเหตุขัดข้องทางไฟฟ้าพ้ืนฐานภายใน

อาคาร สารวจแหล่งวัสดุและแหล่งบริการในท้องถ่ิน คานวณค่าใช้จ่ายและราคาค่าบริการทางไฟฟ้าได้ เพื่อให้

มคี วามรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการเดินสายไฟฟ้า และตอ่ สายไฟฟ้าแบบต่าง ๆ สามารถเลือกใช้เคร่อื งมือ

และวัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน สามารถอ่านแบบและปฏิบัติงานตามแบบวงจรได้ สามารถให้บริการ

ตรวจสอบ ซ่อมแซมเหตุขัดข้องทางไฟฟ้าและเดินสายไฟฟ้าในอาคารได้ ทางานด้วยความรับผดิ ชอบ ร้จู ักใช้

พลังงานทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมในการทางานได้อย่างคุ้มคา่ และถูกวิธี

ผลกำรเรยี นรู้
๑. อธบิ ายประวตั ิ ความสาคญั และลกั ษณะของงานไฟฟ้า
๒. อธบิ ายความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟา้ และสาธติ การปฐมพยาบาลในงานไฟฟ้าเบอื้ งต้นได้
๓. อธบิ ายทฤษฎอี ิเลก็ ตรอนและแหล่งกาเนิดไฟฟ้าท้ังท่ี เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติและท่ีมนุษย์สร้างข้นึ
๔. อธบิ ายสว่ นประกอบและวิธีการใช้งานเคร่อื งมือวดั และเครื่องมือท่ีใช้ในการตดิ ตั้งไฟฟ้าเบ้ืองตน้ ได้
๕. เลอื กใชเ้ คร่ืองมือวดั และเครื่องมือท่ีใช้ในการติดต้ังไฟฟา้ เบื้องตน้ ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
๖. ปฏบิ ัติการตอ่ สายไฟ ท้ัง 7 วิธี ได้
๗. บอกประเภทสายไฟฟ้าชนิดต่างๆได้ สามารถอธบิ ายบอกส่วนประกอบของสายไฟ และอ่านค่าสญั ลกั ณ์ของ

สายไฟฟ้าได้
๘. อธบิ ายสัญลักษณ์ทางไฟฟ้า ศึกษาวงจรไฟฟ้าและสามารถเขียนวงจรไฟฟ้า ท้งั 3 วิธีการได้
๙. การเดินสายไฟฟ้าบนผวิ หรือเดินสายเกาะผนงั และเดินระบบแสงสวา่ ง ในรปู แบบวงจรไฟฟา้ แบบขนาน

วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม วงจรไฟฟ้าแบบผสม
๑๐.อธิบายและเลือกไช้อปุ กรณ์ป้องกนั และควบคุมวงจรไฟฟา้ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
๑๑.ปฏิบตั ิการเดนิ สายไฟฟ้า เขา้ กบั อปุ กรณ์ไฟฟา้ และการเลือกใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้าได้ถกู ต้อง
๑๒. ปฏบิ ัติการเดนิ วงจรไฟฟา้ ภายในบ้านแบบจาลองห้องต่างๆ ภายในบ้าน
๑๓.ปฏบิ ัตกิ ารดแู ลรกั ษาและซ่อมบารุงเครือ่ งใช้ไฟฟา้ ภายในบา้ นเบื้องต้น

รวมทั้งหมด 13 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดนาวง

240

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ (เพ่ิมเตมิ )

รหัสวชิ ำ ง 22201 งำนช่ำงไมเ้ คร่ืองเรือน 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี

ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนที่ 1

ศึกษาเก่ียวกับ ความหมายความสาคัญ กฎหมายความปลอดภัย และเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการ

ปฏิบัติงานช่างไม้ สภาพแวดล้อม กลยุทธ์หรือยุทศาสตร์ทางการค้า และการเพิ่มผลผลิต ในการประกอบ

อาชีพงานชา่ ง เชน่ ทาเล ท่ตี ้ัง สภาพแวดลอ้ ม การคมนาคมขนส่ง

ปฏิบัติวิธีการเข้าไม้ แบบเข้าชน แบบเข้าบากคร่ึง แบบเข้าเซาะร่อง การเข้าเดือยแบบต่างๆ

ออกแบบ เขยี นแบบแบบออบบริตผลิตภัณฑไ์ มก้ ่อนท่จี ะปฏบิ ตั ิงานสร้างหรือผลติ ช้ินงานในงานไม้ได้

ผเู้ รยี นทางานดว้ ยความรับผิดชอบ รู้จกั ใช้พลังงานทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมในการทางานได้อย่าง

ค้มุ ค่าและถูกวิธี

ผลกำรเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญของงานไม้ได้

2. อธบิ ายหลกั ความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ านไม้ได้ อธิบายวธิ ีปฏิบัติและป้องกันไม่ใหเ้ กิด

อุบัติเหตใุ นขณะที่ปฏิบตั งิ านบอกกฎหมายและหน่วยงานที่รับผดิ ชอบเกี่ยวกบั งานที่

รับผิดชอบเกย่ี วกบั ความปลอดภยั

3. อธิบายลักษณะของเครื่องมือท่ีใชใ้ นงานไมไ้ ด้

4. อธบิ ายชนดิ การนาไปใช้ และวิธีการเข้าไม้ แบบเข้าชน แบบเข้าบากคร่ึง แบบเขา้ เซาะ

ร่องเข้าเดอื ยแบบต่างๆได้

5. อธิบายความหมาย ความสาคัญของงานเขยี นแบบมือได้

6. อธบิ ายองค์ประกอบของการออกแบบเขียนแบบเกย่ี วกับงานไม้ได้

7. เลอื กใชเ้ คร่ืองมือ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ในการเขยี นแบบได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

8. ปฏบิ ตั ิงานออกแบบเขียนแบบเกีย่ วกบั งานไมเ้ บอ้ื งต้นได้

9. ปฏบิ ตั งิ านซ่อมแซม ปรบั ปรุง และดดั แปลงแก้ไขช้นิ งานในงานไม้

10. ปฏิบตั งิ านสรา้ ง หรอื ผลติ ชน้ิ งานในงานไม้ได้

11. มีเจตคตทิ ่ดี ใี นการปฏิบัติงานไม้

12. อธบิ ายสภาพแวดลอ้ ม กลยทุ ธ์หรอื ยทุ ศาสตร์ และการเพม่ิ ผลผลิตในแนวทางการ

ประกอบอาชีพงานช่างได้

13. มีทักษะในการคิดวางแผนเกีย่ วกับแนวทางการประกอบอาชพี

รวมท้ังหมด 13 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

241

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวชิ ำ ง 22202 งำนไมเ้ ครือ่ งเรือน 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 เวลำ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 2

ศกึ ษา อภิปราย กระบวนการ ข้ันตอน การทาเครอื่ งเรือนด้วยไม้ในท้องถน่ิ วางแผนการจัดการ ทักษะ

กาทางาน ความปลอดภยั ในการทางาน มคี วามรับผิดอบ ละเอยี ด รอบคอบ การอา่ นแบบ การวัด ตัด ไส เจาะ

การประกอบและการตกแตง่ ช้ินงาน

ศึกษาค้นคว้าให้มีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะเกี่ยวกับการอ่านแบบ การใช้เคร่ืองมือ วัด ตัด ไส

เจาะ ประกอบและตกแต่งช้ินงาน ด้วยกระบวนการทางานท่ีหลากหลาย นาไปใช้ในการผลิตเครื่องเรือนอย่าง

ง่าย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต คานวณค่าใช้จ่าย กาหนดราคาจาหน่าย สามารถให้บริการผลิตเครื่องเรือน

ด้วยไม้ประเมินทางเลือก พัฒนาไปสกู่ ารประกออาชีพช่างไม้ประดษิ ฐ์

ใฝเ่ รยี นใฝ่รู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน มีจติ สาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง

ผลกำรเรียนรู้

1. อธิบายลกั ษณะความสาคัญในงานช่างไม้เคร่ืองเรือนได้

2. ความปลอดภยั เกย่ี วกับการปฏบิ ตั งิ านไม้ และการปฐมพยาบาล และสามารถใช้ทกั ษะ

กระบวนการแก้ปัญหาในการทางานได้

3. อธิบายลกั ษณะงานไม้พ้ืนฐานได้

4. อธบิ ายวิธกี ารใช้เคร่ืองมือช่างไม้ และสามารถเลือกไชเ้ คร่ืองมืองานไม้ ได้อย่าง

ถกู ตอ้ ง

5. อธิบาย ชนิด ประเภทวัสดุและอุปกรณง์ านไม้ และสามารถเลือกซื้อและใช้ไดอ้ ย่าง

ถกู ตอ้ งเหมาะสม

6. อธิบายการออกแบบและอ่านแบบ ภาพฉายแบบออบลิก และแบบโอโซเมตริก

7. ปฎบิ ตั กิ ารเขียนแบบช้ินงาน ภาพฉายแบบออบลกิ และแบบโอโซเมตริก

8. ปฎบิ ัติการตอ่ ไมแ้ ละการเขา้ ไม้แบบตา่ งๆได้ เช่น แบบการเข้าชน แบบการเข้าเดือยและ

รูเดือย การเข้าบากได้

9. ปฎิบัติการสรา้ งชิ้นงานจากงานไมไ้ ด้ 1-3 ช้นิ งาน

10. มที กั ษะพ้นื ฐานท่จี าเป็นสาหรับการประกอบอาชพี งานไมห้ รอื อาชพี ท่สี นใจ

รวมท้ังหมด 10 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

242

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ ง 23201 เชื่อมโลหะ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ

ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 1

ศึกษาประวัติ ประโยชน์และประเภทของงานเชื่อมโลหะ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในงานเชอ่ื มไฟฟ้า

ความปลอดภยั เกย่ี วกบั งานเชื่อมไฟฟ้า ลวดเช่อื มไฟฟ้า เทคนิคและวิธกี ารเช่ือมไฟฟา้ และข้อบกพร่องใน

งานเชอ่ื มไฟฟา้

ฝึกปฏิบัติการเช่ือมไฟฟ้าท่าราบ ท่าราบรอยต่อตัวแบบต่าง ๆ ท่าขนานนอน ผลิตช้ินงานเช่ือม

ไฟฟ้าตามแบบ และผลิตชิน้ งานเชื่อมไฟฟ้าจากการออกแบบของตนเอง

โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวางแผนการจัดการ กระบวนการคิด กระบวนการ

แก้ปญั หา และกระบวนการสืบคน้ เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการ

มีความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ อย่างมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั ในการทางาน

ผลกำรเรยี นรู้

๑. อธิบายถึงประวัติ ประโยชน์และประเภทของงานเช่ือมโลหะ
๒. อธิบายและเลือกใช้เครื่องมือและอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นงานเชอื่ มไฟฟา้
๓. ปฏิบตั ิงานเช่อื มไฟฟา้ อย่างปลอดภยั
๔. สามารถจาแนกประเภทและเลือกใชล้ วดเชือ่ มไฟฟ้าอยา่ งเหมาะสม
๕. อธบิ ายเทคนิคและวธิ ีการเชื่อมไฟฟ้า
๖. วิเคราะหข์ ้อบกพร่องในงานเชื่อมไฟฟา้ และบอกวิธกี ารแก้ไข
๗. สามารถปฏบิ ัติงานเช่ือมไฟฟ้าท่าราบ ทา่ ราบรอยต่อแบบตา่ ง ๆ และท่าขนานนอน
๘. สามารถผลิตและพฒั นาชนิ้ งานตามแบบและจากการออกแบบของตนเอง

รวมทั้งหมด 8 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

243

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหสั วชิ ำ ง 23202 ช่ำงอเิ ล็คทรอนิคส์ กลุม่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพ

ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 40 ชัว่ โมง 1.0 หน่วยกติ ภำคเรยี นท่ี 2

ศกึ ษาและปฏิบัตเิ ก่ียวกับ ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ แหล่งกาเนิดไฟฟ้า กฏ

ของโอห์ม พลังงานไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าเบ้ืองต้น วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าเบื้องต้น อุปกรณ์

อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น หม้อแปลงไฟฟ้า รีเลร์ ไมโครโฟน ลาโพง อุปกรณ์สารก่ึงตัวนา เทคนิคการบัดกรี การ

ใช้มัลติมิเตอร์ การประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น ชุดคิดอิเล็กทรอนิกส์บนแผ่นวงจรพิมพ์ ประกอบชุด

คดิ และหลกั การทางานของอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ บ้ืองต้น

โดยใช้ทักษะกระบวนการการทางาน กระบวนการแก้ไขปัญหา กระบวนการวางแผนเพ่ือให้มีความรู้

ความเข้าใจ และทักษะในการปฏิบัติงานช่าง รวมท้ังสามารถนาไปปฏิบัติงานในการดารงชีวิต มีคุณธรรม

จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้าน มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง

มงุ่ มนั่ ในการทางาน และมีจิตรสาธารณะ

ผลกำรเรียนรู้

1. สามารถอธบิ ายความรู้เบื้องตน้ ในงานอเิ ล็กทรอนิกส์ ท่ีเก่ยี วขอ้ งในชวี ติ ประจาวันได้

2. ปฏิบตั ิงานทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกสไ์ ด้อย่างปลอดภยั และสามารถให้ความ

ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอันตรายจากไฟฟ้าดดู ได้

3. สามารถใหก้ ารปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

4. สามารถอธบิ ายประเภทและวธิ ีการอ่านค่าอปุ กรณส์ ารกึง่ ตัวนาได้ เช่น ตวั ต้านทาน ตัว

เกบ็ ประจไุ ฟฟ้า ไดโอด และอืน่ ๆได้

5. สามารถอธิบายและใช้เครื่องมือ วสั ดุอุปกรณ์ในงานอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้องและ

เหมาะสม

6. สามารถอธิบายสัญลกั ษณ์อุปกรณ์สารกึ่งตวั นาทางไฟฟ้า-อิเล็กทรอนสิ ์ได้

7. อธิบายและใช้งายเคร่ืองมือวัดทางไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ ได้ เชน่ มัลตมิ ิเตอร์

8. หลักและวธิ กี ารบดั กรอี ุปกรณ์สารกงึ่ ตัวนาและสามารถปฎิบัตกิ ารบดั กรีได้

9. ปฎิบัติการสรา้ งช้นิ งานทางอิเล็กทรอนิกส์ ชดุ คิด 1-3 ช้ิน

รวมทั้งหมด 9 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดนาวง

244

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหัสวิชำ จ 14201 ภำษำจีน 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 4 เวลำ 40 ชว่ั โมง

ฝึกทักษะใช้ถ้อยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม และ

วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาได้ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพ่ือให้เข้าใจคาศัพท์ วลี ประโยค

พ้ืนฐานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน สามารถเรียนรู้วิธีการอ่านออกเสียงตามระบบอักษรภาษาจีนกลางและ

ตัวอักษรจีน สามารถเขียนตัวอักษร โดยใช้พู่กันจีนได้ ตอบคาถามเกี่ยวกับบทสนทนาในนิทานอย่างง่ายๆได้

เหมาะสมตามสถานการณ์ อ่านและแปลความหมายบทความภาษาจนี อย่างง่ายๆได้

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดเจตคตทิ ่ีดีตอ่ ภาษาจีน ตลอดจนวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และ

นาไปใช้ได้อย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ เกิดความคิดรวบยอด นาไปสู่การเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการ

เรียนรูอ้ ืน่ สามารถใชภ้ าษาเพอื่ การเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชพี ในอนาคต

ผลกำรเรยี นรู้

1. ใชภ้ าษาและทาท่าทางในการส่อื สารได้อยา่ งเหมาะสมกับโอกาสและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ได้

2. เขา้ ใจความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาจนี กับภาษาไทยในเรื่องคา วลี ประโยคและนาไปใชใ้ น

สถานการณ์ต่า ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม

3. สนใจและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมวนั สาคัญต่าง ๆ ทางศาสนา ประเพณี วฒั นธรรมของไทยและ

ของเจ้าของภาษา

4. ใชภ้ าษาจนี พูดส่ือสารได้เหมาะสมตามสถานการณ์

5. เข้าใจภาษาได้ ตอบคาถามเกี่ยวกับบทสนทนาในนทิ านอย่างง่าย ๆ ได้

รวมทง้ั หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

245

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหสั วิชำ จ 15201 ภำษำจีน 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 5 เวลำ 40 ชัว่ โมง

อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค ข้อความ ใช้คาส่ัง ให้ข้อมูลตัวเองและเรื่องใกล้ตัว

สามารถตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนาพูดแนะนาตนเอง โรงเรียนและชุมชน สถานที่ใน

ท้องถ่นิ แนะนาสถานทที่ อ่ งเทยี่ วในจังหวดั ราชบุรีได้

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดเจตคติท่ีดีต่อภาษาจีน ตลอดจนวัฒนธรรมในท้องถิ่นของและ

จังหวัดของตนเอง และนาไปใช้ได้อย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ เกิดความคิดรวบยอด นาไปสู่การเชื่อมโยง

ความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู น่ื สามารถใช้ภาษาเพอื่ การเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชพี ในอนาคต

ผลกำรเรียนรู้

1. อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา อ่านกลุม่ คา ประโยค ขอ้ ความ ใช้คาส่ัง ให้ข้อมูลตัวเอง และเรื่อง

ใกลต้ วั ได้

2. สามารถตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา พดู แนะนาตนเอง โรงเรียนและ

ชมุ ชน สถานทที่ อ้ งถ่ิน แนะนาสถานทีท่ ่องเท่ยี วในจงั หวดั ราชบุรีได้

รวมทัง้ หมด 2 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั นาวง

246

คำอธบิ ำยรำยวิชำ (เพิ่มเตมิ )

รหสั วิชำ จ 16201 ภำษำจีน 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 6 เวลำ 40 ชว่ั โมง

ฟงั พดู อ่าน เขียน คา คาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนาตา่ งๆ ประโยค ข้อความ บทความ บทสนทนาตา่ งๆ

และถ่ายโอนเป็นภาพ สัญลักษณ์หรือจากภาพสัญลักษณ์เป็นประโยคข้อความหรือภาษา ขอและให้ข้อมูล

ข่าวสารเก่ียวกับตนเอง บุคคลและสิ่งต่างๆ ที่พบเห็นในชีวิตประจาวัน นาเสนอความคิดรวบยอดเก่ียวกับ

ตนเอง ส่ิงแวดล้อมและสังคมใกล้ตัว อธิบาย สรุปเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ นาความรู้ท่ีได้มาใช้

ในชีวิตประจาวันได้อย่างมีวิจารณญาณ อธิบาย เปรียบเทียบ รูปแบบ พฤติกรรม การใช้ถ้อยคาสานวนต่างๆ

รวมทั้งอิทธิพลต่างๆ แล้วนาไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะด้วยกระบวนการเรียนทางภาษา

ขยายความเนื้อหาสาระที่ได้ มีความเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อื่นๆ เลือกใช้ภาษาในการสนทนา

ตามสถานการณ์ตา่ งๆ

ปฏิบัติงานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข ในสังคม มีนิสัยรักการอ่าน ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบและมี

เจตคติทด่ี ีต่อภาษา

ผลกำรเรียนรู้

1. ฟงั พูด อา่ น เขียน คาส่งั คาขอร้อง คาแนะนาตา่ ง ๆ ประโยค ขอ้ ความ บทความ บท

สนทนาต่าง ๆ ได้

2. สรุปเร่อื งทีฟ่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ นาความรู้ทีไ่ ด้มาใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้

3. เปรยี บเทยี บรูปแบบพฤตกิ รรม การใชถ้ ้อยคาสานวนตา่ ง ๆ รวมทั้งอทิ ธพิ ลต่าง ๆ แลว้ นาไป

ประยกุ ต์ใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

247

รหัสวชิ ำ จ21201 วชิ ำ ภำษำจนี คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเติม)
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศชน้ั

มัธยมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ ภำคเรียนท่ี 1

ศกึ ษาทักษะการปฏบิ ัตติ ามคาส่ังง่ายๆ ระบุสัทอักษรตามระบบพนิ อิน อา่ นออกเสียง และประสมเสยี ง

คา ง่ายๆ ตามหลักการออกเสียง ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยค

จากการฟัง หรือการอ่าน พูดโต้ตอบด้วยประโยคส้ันๆ เพ่ือส่ือสารระหว่างบุคคล เขียนอักษรจีนตามหลักการ

เขียนคาศัพท์ง่ายๆ บอกความเหมือนหรือความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคและข้อความ

ของภาษาจีนกับภาษาไทย โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และ

กระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึง

สารได้อย่างชัดเจนรวมทั้งกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม การอภิปรายแล ะมี

ความสามารถในการสืบค้นข้อมูล

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตติ ามคาส่ังงา่ ยๆ

2. ระบุสทั อักษรตามระบบพนิ อิน อ่านออกเสียง และประสมเสยี งค างา่ ยๆ ตามหลักการออกเสียง

3. ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ ตรงตามความหมายของคา กล่มุ คา และประโยคจากการฟังหรือการอา่ น

4. พดู โต้ตอบดว้ ยประโยคสัน้ ๆ เพ่ือสื่อสารระหวา่ งบุคคล

5. เขียนอักษรจีนตามหลักการเขียน คาศพั ทง์ า่ ยๆ

6. บอกความเหมือนหรอื ความแตกต่างของเสียงตวั อักษร คา กลมุ่ คา ประโยคและขอ้ ความของภาษาจีน

กบั ภาษาไทย

รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนวดั นาวง

248

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพ่ิมเตมิ )

รหัสวชิ ำ จ21102 วิชำ ภำษำจีน กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ภำคเรียนที่ 2

ศึกษาทักษะการพูดภาษาจีน ได้แก่ พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน และเรื่องใกล้ตัว พูดแสดง

ความต้องการของตนเอง ขอความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธ ฟังหรือพูดในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ีเกิดขึ้นใน

ห้องเรยี น พูดแสดง ความรู้สึกของตนเอง เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว พูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรม

หรือเรื่องใกล้ตัว ตลอดจนศึกษา ทักษะการเขียนภาษาจีนโดยเขียนอักษรจีนตามหลักการเขียนคาศัพท์ง่ายๆ

ตลอดจนสามารถ บอกคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน รวมท้ังสามารถระบุภาพหรือ

สัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยค จากการฟงั หรือการอ่าน

โดยใชก้ ระบวนการฟงั การพูด การอา่ น การเขียน และกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ ใช้

ภาษาเป็นเคร่ืองมือใน การรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้อง เข้าถึงสารได้อย่างชัดเจนรวมท้ัง

กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการกล่มุ การอภปิ รายและมีความสามารถในการสบื ค้นขอ้ มูล

เพื่อให้นักเรียนเป็นผู้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่

อย่างพอเพียง มุ่งมั่นใน การ ทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ อนุรักษ์พลังงานและ

สิ่งแวดล้อม สืบสานศิลปวฒั นธรรมท้องถน่ิ ชุมชน รว่ มพฒั นา ยึดปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ผลกำรเรียนรู้

1. พูดให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และเรอื่ งใกลต้ วั

2. พูดแสดงความต้องการของตนเอง ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ

3. ฟังหรือพดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ท่เี กิดขนึ้ ในห้องเรียน

4. พดู แสดงความรู้สึกของตนเอง เกยี่ วกบั ส่ิงตา่ งๆ ใกลต้ ัว

5. พดู แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับกจิ กรรม หรอื เร่ืองใกล้ตัว

6. เขยี นตวั อักษรจีนตามหลักการเขียนคาศัพทง์ ่ายๆ

7. บอกคาศัพท์ที่เก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื

8. ระบุภาพหรอื สัญลักษณ์ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยค จากการฟังหรือการอา่ น

รวมท้ังหมด 8 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง

249

คำอธิบำยรำยวิชำ (เพิ่มเติม)

รหัสวิชำ จ22101 วชิ ำ ภำษำจีน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 2 เวลำ 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 1

ศกึ ษาทักษะการปฏิบตั ิตามคาสงั่ ง่ายๆ ระบุสัทอกั ษรตามระบบพินอินอ่านออกเสียง และประสมเสียง

คาง่ายๆ ตามหลักการออกเสียง ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคาและประโยค

จากการฟังหรือการอ่าน ตอบคาถามง่ายๆ จากการฟัง พูดโตต้ อบด้วยประโยคสั้นๆเพ่ือสื่อสารระหว่างบุคคล

พูดเพ่ือขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และส่ิงใกล้ตัว เขียนอักษรจีนตามหลักการเขียน

คาศัพท์ง่ายๆบอกความเหมือนหรือความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคาประโยค และข้อความของ

ภาษาจนี กบั ภาษาไทย

โดยใช้กระบวนการฟังการพูดการอ่านการเขียนและกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือ

ในการรับสารและส่งสารได้อย่างคล่องแคล่วถูกต้องเข้าถึงสารได้อย่างชัดเจนรวมท้ังกระบวนการสืบ เสาะหา

ความรูก้ ระบวนการกลุ่มการอภปิ รายและมคี วามสามารถในการสบื คน้ ข้อมูล

เพื่อให้นักเรียนเป็นผู้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งม่ันใน

การทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม สืบสานศิลปวัฒนธรรม

ทอ้ งถิ่น ชุมชน รว่ มพัฒนา ยดึ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ผลกำรเรียนรู้

1. ปฏิบตั ิตามคาส่ังงา่ ยๆ

2. ระบสุ ทั อักษรตามระบบพินอินอ่านออกเสียง และประสมเสียงคางา่ ยๆ ตามหลกั การออกเสยี ง

3. ระบภุ าพ หรือสญั ลักษณ์ ตรงตามความหมายของคา กลุม่ คา และประโยค จากการฟังหรือการอ่าน

4. ตอบคาถามง่ายๆ จากการฟัง

5. พูดโต้ตอบดว้ ยประโยคสนั้ ๆ เพ่อื สื่อสารระหวา่ งบคุ คล

6. พดู เพื่อขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และสงิ่ ใกลต้ วั

7. เขยี นอักษรจนี ตามหลักการเขียน คาศัพทง์ า่ ยๆ

8. บอกความเหมือน หรือความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความของ

ภาษาจนี กบั ภาษาไทย

รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดนาวง


Click to View FlipBook Version