42
การท าแผนผังความคิด (Mind Map)
กฎของการท าแผนผังความคิด
ี
1. เร่มต้นด้วยภาพสตรงกึ่งกลางหน้ากระดาษ ภาพ ๆ เดยวมีค่ากว่าค าพันค า ซ ้ายังช่วยให้
ี
ิ
ิ
เกิดความคดสรางสรรค์ และเพิ่มความจ ามากข้นด้วย ให้วางกระดาษตามแนวนอน
ึ
้
ี
่
2. ใช้ภาพให้มากทสดในแผนผังความคดของคณ ตรงไหนทใช้ภาพได้ให้ใช้ก่อนค าหรอรหัส
ี่
ุ
ิ
ื
ุ
็
ู
เปนการช่วยการท างานของสมอง ดงดดสายตาและช่วยจ า
ึ
่
่
ื
็
ี
่
ี
3. ควรเขยนค าบรรจงตัวใหญ่ ๆ ถ้าเปนภาษาอังกฤษให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เพือทว่าเมอย้อนกลับมา
่
ี
ิ
ี
อ่านใหม่จะให้ภาพทชัดเจน สะดดตาอ่านง่าย และเกิดผลกระทบต่อความคดมากกว่า การใช้เวลาเพิ่มอก
ุ
ี
เล็กน้อยในการเขยนตัวให้ใหญ่อ่านง่ายชัดเจน จะช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาได้เมอย้อนกลับมาอ่าน
ื
่
ใหม่อกคร้ง
ั
ี
ื
ี
่
้
้
่
้
ื
่
ี
้
4. เขยนค าเหนอเสนและแต่ละเสนต้องเชอมต่อกับเสนอน ๆ เพือให้แผนผังความคดมโครงสราง
ื
ิ
ั
พื้นฐานรองรบ
็
ื
้
่
5. ค าควรมลักษณะเปน “หน่วย” เช่น ค าละเสน เพราะจะช่วยให้แต่ละค าเชอมโยงกับค าอน ๆ ได้
ี
ื
่
ิ
ิ
ึ
อย่างอสระเปดทางให้แผนผังความคดคล่องตัวและยืดหยุ่นมากข้น
ิ
ี
ิ
6. ใช้สให้ทั่วแผนผังความคด เพราะสช่วยยกระดับความจ าเพลนตา กระต้นสมองซกขวา
ี
ิ
ุ
ี
่
7. เพือให้เกิดความคดสรางสรรค์ใหม่ ๆ ควรปล่อยให้หัวคดมอสระมากทสดเท่าทจะเปนไปได้
ี
ิ
็
ิ
้
ี
ิ
ี
ุ
่
่
ื
ี
ี
ื
ิ
อย่ามัวแต่คดว่าจะเขยนลงตรงไหนด หรอว่าจะใส่หรอไม่ใส่อะไรลงไป เพราะล้วนแต่จะท าให้งานล่าช้าไป
ี
อย่างน่าเสยดาย
ึ
ื่
ี่
ุ
ิ
หลักของแผนผังความคิด (Mind Map) คอ การฟนความจ าในทกเรองทหัวคดนกออกจาก
ื้
ื
็
่
ี
ื
ศูนย์กลางความคด สมองของคณสามารถจะจดประกายความคดต่าง ๆ ได้เรวกว่าทมอคณเขยนทัน คณจง
ุ
ุ
ิ
ุ
ี
ิ
ุ
ึ
ุ
ิ
ุ
ุ
ต้องเขยนแบบไม่หยุดเลย เพราะถ้าคณหยุด คณจะสังเกตได้ว่าปากกาหรอดนสอของคณยังคงขยุกขยิกต่อไป
ี
ื
ึ
ื
็
ี
่
ี
ุ
ี
ี
บนหน้ากระดาษ ในช่วงทคณสังเกตเหนน้ก็อย่าปล่อยให้ผ่านไป จงรบเขยนต่ออย่ากังวลถงล าดับ หรอการ
ี
็
จัดองค์ประกอบให้ดด เพราะในทสดมันก็จะลงตัวไปเอง หรอไม่อย่างนั้นค่อยมาจัดอกคร้งในตอนท้ายเปน
ู
ี
ื
ั
ี
่
ุ
ุ
ั
คร้งสดท้ายก็ย่อมได้
43
กิจกรรมที่ 1 “ตัวของฉัน”
ี
ให้ผู้เรยนใช้กฎของแผนผังความคิด (Mind Map) โดยให้เขียนแผนผังความคิด (Mind Map)
ในหัวข้อ “ตัวของฉัน”
44
้
ี
ู
กิจกรรมที่ 2 “สาระทักษะการเรยนร”
ให้ผู้เรยนใช้กฎของแผนผังความคิด (Mind Map) โดยให้เขียนแผนผังความคิด (Mind Map)
ี
ื
ี
ุ
้
้
ี
ู
ุ
ในหัวข้อ “สาระทักษะการเรยนร” โดยสรปให้ได้เน้อหาครอบคลมรายวิชาสาระทักษะการเรยนรตาม
ู
ความเข้าใจของท่าน
45
เรองที 4 ปจจยทีท าใหการเรยนรูดวยตนเองประสบความสาเรจ
้
ั
้
่
้
ั
่
ื
่
็
ี
ความพรอมในการเรยนรูดวยตนเอง
ี
้
้
้
้
็
้
ู
ิ
ความพรอมในการเรยนรด้วยตนเอง (Self-Directed Learning Readiness : SDLR) เปนส่งส าคัญ
ี
็
ี
่
ี
ี
ี
ั
้
ู
ั
้
ู
ึ
และจ าเปนอย่างมากส าหรบผู้ทมความสนใจ มความรกจะเรยนรด้วยตนเอง วัดได้จากความรสก และความ
้
ี
่
ี
่
ี
ี
ู
ู
้
้
ี
ุ
ิ
คดเหนทผู้เรยนมต่อการแสวงหาความร การทบคคลจะเรยนรด้วยตนเองได้นั้นต้องมลักษณะความพรอม
ี
็
ี
้
ู
ของการเรยนรด้วยตนเอง 8 ประการ ดังน้
ี
ี
1. การเปดโอกาสตอการเรยนรู ได้แก่ การมความสนใจในการเรยนรมากกว่าผู้อน มความพึงพอใจ
ี
ู
ี
้
ื
่
ี
ิ
้
่
ี
้
ุ
ู
กับความคดรเร่มของบคคล มความรกในการเรยนรและความคาดหวังว่าจะเรยนรอย่างต่อเนอง แหล่งความร ้ ู
ี
้
ู
ี
ิ
ิ
ิ
่
ั
ื
มความดงดดใจ มความอดทนต่อการค้นหาค าตอบในส่งทสงสัย มความสามารถในการยอมรบและใช้
ี
่
ิ
ี
ี
ี
ู
ึ
ั
ี
ี
์
ประโยชนจากค าวิจารณได้ การน าความสามารถด้านสตปญญามาใช้ได้ มความรบผิดชอบต่อการเรยนรของ
์
ั
ู
ั
้
ิ
ตนเอง
ี
2. มีอัตมโนทัศนในดานของการเปนผูเรยนทีมีประสทธภาพ ได้แก่ การมความมั่นใจในการเรยนร ู ้
ี
ี
้
็
ิ
ิ
่
้
์
้
ี
็
ู
ี
ี
้
ี
ู
ด้วยตนเอง ความสามารถจัดเวลาในการเรยนรได้ มระเบยบวินัยต่อตนเองมความรในด้านความจ าเปนใน
้
ิ
ู
ั
ู
็
ี
้
็
้
่
็
ู
ี
การเรยนร และแหล่งทรพยากรการเรยนร มความคดเหนต่อตนเองว่าเปนผู้ทมความอยากรอยากเหน
ี
ี
ี
3. การมีความคิดรเรมและเรยนรูดวยตนเอง ได้แก่ ความสามารถตดตามปญหายาก ๆ ได้อย่าง
ั
ิ
ี
่
้
ิ
ิ
้
ี
่
์
ี
ื
ู
้
คล่องแคล่ว ความปรารถนาต่อการเรยนรอยู่เสมอ ชนชอบต่อการมส่วนร่วมในการจัดประสบการณการ
เรยนร มความเชอมั่นในความสามารถทจะท างานด้วยตนเองได้ด ชนชอบในการเรยนร มความพอใจกับ
ู
่
ู
ี
้
่
ี
้
ื
ี
ี
ี
ี
่
ื
่
ี
้
ทักษะการอ่าน การท าความเข้าใจ มความรเกียวกับแหล่งความรต่าง ๆ มความสามารถในการวางแผนการ
ู
ู
ี
้
ิ
ี
่
ท างานของตนเองได้ และมความคดรเร่มในเรองการเร่มต้นโครงการใหม่ ๆ
ื
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
4. การมีความรบผิดชอบตอการเรยนรูของตน ได้แก่ การมทัศนะต่อตนเองในด้านสตปญญาอยู่ใน
ั
ั
ี
่
้
ี
ึ
่
ู
ี
ี
ื
่
่
ื
่
ี
ื
ระดับปานกลางหรอสงกว่า ยินดต่อการศกษาในเรองทยาก ๆ ในขอบเขตทตนสนใจ มความเชอมั่นต่อ
ี
์
ื
่
่
หน้าทในการส ารวจตรวจสอบเกียวกับการศกษา ชนชอบทจะมบทบาทในการจัดประสบการณการเรยนร ้ ู
ึ
่
ี
่
ี
ี
ึ
ี
่
ด้วยตนเอง มความเชอมั่นต่อหน้าทในการส ารวจตรวจสอบเกียวกับการศกษา ชนชอบทจะมบทบาทในการ
ี
ื
่
ี
่
ี
ื
่
่
จัดประสบการณการเรยนรด้วยตนเอง มความรบผิดชอบต่อการเรยนรของตนเอง และมความสามารถในการ
ี
ู
ี
ี
ี
ู
์
ั
้
้
ี
ิ
้
ตัดสนความก้าวหน้าในการเรยนรของตนเองได้
ู
ี
5. รกการเรยนรู ได้แก่ มความชนชมในการเรยนรส่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ มความปรารถนาอย่างแรงกล้า
ิ
ู
่
้
ื
ี
ี
ั
้
ี
ื
ี
ุ
ิ
ู
้
ี
ในการเรยนร มความสนกสนานกับการสบสวนหาความจรง
6. ความคิดสรางสรรค ได้แก่ มความคดทจะท าส่งต่าง ๆ ได้ด สามารถคดค้นวิธการ แปลก ๆ ใหม่ ๆ
ี
ิ
ิ
ี
่
ี
ี
ิ
์
้
ิ
่
่
ี
ี
ื
ั
และความสามารถทจะคดวิธต่าง ๆ ได้มากมายหลายวิธส าหรบเรองนั้น ๆ
ี
ี
่
ี
ี
ี
ี
7. การมองอนาคตในแงดี ได้แก่ การมความเข้าใจตนเองว่าเปนผู้ทมการเรยนรตลอดชวิต มความ
็
่
ู
้
ี
ิ
ี
ึ
็
ั
ื
ิ
สนกสนานในการคดถงเรองในอนาคต มแนวโน้มในการมองปญหาว่าเปนส่งท้าทายไม่ใช่สัญญาณให้หยุด
่
ุ
กระท า
46
้
ึ
้
้
ี
ื
ั
8. ความสามารถในการใชทักษะทางการศกษาหาความรูและทักษะการแกปญหา คอ มความสามารถ
ใช้ทักษะพื้นฐานในการศกษา ได้แก่ ทักษะการฟง อ่าน เขยนและจ า มทักษะในการแก้ปญหา
ึ
ั
ี
ี
ั
ี
กิจกรรมที่ 1 ให้อธบายลักษณะของ “ความพรอมในการเรยนรด้วยตนเอง” มาพอสังเขป
้
ู
ิ
้
กิจกรรมที่ 2 “รูเขา รูเรา”
้
้
ิ
ี
์
ี
่
ื
่
้
วัตถุประสงค เพือให้ผู้เรยนแสดงความคด และความรสกทมต่อตนเอง และผู้อน
ี
ู
ึ
่
่
้
ื
ิ
ี
ู
่
ุ
ี
็
แนวคิด ส่งแวดล้อมของการมเพือนใหม่ คอ การท าความรจักค้นเคยกัน บรรยากาศทเปนกันเอง
่
ุ
ู
็
ู
ึ
ี
มารยาททางสังคมจะเปนแนวทางการน าไปส่สัมพันธภาพทดระหว่างสมาชกในกล่มซงจะน าไปส่การแสดง
ี
ิ
่
ื
ความคดเหน การอภปรายแลกเปลยนประสบการณ และความร่วมมอในการท างาน
็
์
่
ิ
ิ
ี
้
ี
ค าชแจง
ี
ิ
1. ให้ท่านคดสัญลักษณแทนตัวเองซงบ่งบอกถงลักษณะนสัยใจคอ จ านวน 1 ข้อ วาด/เขยนลงใน
์
่
ึ
ิ
ึ
ุ
ี
่
ช่องว่างทก าหนดให้ข้างล่าง หลังจากนั้น ให้ท่านเขยนอดมการณ แนวคด หรอค าขวัญ ประจ าตัวลงใต้ภาพ
์
ื
ิ
ี
ุ
ื
ิ
ื
่
ิ
ิ
์
2. ให้ท่านไปสัมภาษณ พูด คยกับเพือนหรอคนใกล้ชด โดยการให้เพือนหรอคนใกล้ชดคด
่
ิ
ึ
่
สัญลักษณแทนตัวเองซงบ่งบอกถงลักษณะนสัยใจคอ จ านวน 1 ข้อ วาด/เขยนลงในช่องว่างทก าหนดให้
ี
์
่
ี
ึ
ี
ข้างล่าง หลังจากนั้น ให้เขยนอดมการณ แนวคด หรอค าขวัญ ประจ าตัวลงใต้ภาพ
ื
์
ิ
ุ
ิ
3. ท่านได้ข้อคดอะไรบ้างจากกิจกรรมน้ ี
กิจกรรมที่ 3 “คุณคาของตน”
่
์
วัตถุประสงค
ุ
ิ
ี
1. เพือให้ผู้เรยนเกิดความตระหนักในคณค่าของตนเอง และสรางความภมใจในตนเอง
่
ู
้
2. เพื่อให้ผู้เรยนสามารถระบปจจัยทมผลท าให้ตนได้รบความส าเรจ และความต้องการ
ี
ั
ุ
ั
็
ี่
ี
ี
ั
็
ี
่
ความส าเรจ รวมทั้งความคาดหวังทจะได้รบความส าเรจอกในอนาคต
็
แนวคิด
้
ึ
ู
ุ
ทกคนย่อมมความสามารถอยู่ในตนเอง การมองเหนถงความส าคัญของตน จะน าไปส่การรจักคณค่า
ู
ุ
็
ี
ี
ี
็
ั
แห่งตน และถ้ามโอกาสน าเสนอถงความสามารถและผลส าเรจในชวิตให้ผู้อนได้รบทราบในโอกาสท ี่
ึ
ื่
ิ
็
ิ
ี
ึ
เหมาะสม จะท าให้คนเราเกิดความภาคภมใจยิ่งข้น การทบทวนความส าเรจในอดตจะช่วยสรางเสรมความ
้
ู
ภมใจ ก าลังใจ เจตคตทด เกิดความเชอมั่นว่าตนเองจะเปนผู้ทสามารถเรยนรด้วยตนเองได้ และความต้องการ
ู
ู
้
ิ
่
ื
ี
็
ี
่
ิ
ี
ี
่
็
็
ุ
ิ
้
ุ
็
ึ
ประสบความส าเรจต่อไปอกในอนาคต ความรสกเหนคณค่าในตนเองอย่างแท้จรงเปนการเหนคณค่า
ี
็
ู
ุ
คณประโยชน์ในตนเอง เข้าใจตนเอง รบผิดชอบต่อทกส่งทตนเปนเจ้าของ ยอมรบความแตกต่างของบคคล
ุ
ั
ั
่
ี
ุ
็
ิ
ั
ุ
ั
็
เหนคณค่าการยอมรบของผู้อน สามารถพัฒนาตนเองทั้งในด้านส่วนตัว ยอมรบ ยกย่อง ศรทธาในตัวเองและ
ั
่
ื
่
ผู้อน ท าให้เกิดความเชอมั่นในตนเองเปนความรสกไว้วางใจตนเอง สามารถยอมรบในจดบกพร่อง จด
ุ
้
ู
ั
ึ
ุ
ื
ื
็
่
47
ึ
ั
ี
อ่อนแอของตนและพยายามแก้ไข รวมทั้งยอมรบความสามารถของตนเองในบางคร้ ัง และพัฒนาให้ดข้น
ิ
เรอยไป เมอท าอะไรผิดแล้วก็สามารถยอมรบได้อย่างแท้จรง และแก้ปญหาได้อย่างสรางสรรค์
้
่
ื
่
ั
ั
ื
ค าชแจง
ี
้
ี
็
่
ิ
ู
ี
่
ี
ี
ี
ื่
ี
1. ให้ผู้เรยนเขยนความส าเรจทภาคภมใจในชวิตในช่วง 5 ป ทผ่านมา จ านวน 1 เรอง และตอบ
ค าถามในประเด็น 1) ความรสกเมอประสบความส าเรจ
ื่
็
้
ึ
ู
ี่
ี
ั
2) ปจจัยทมผลท าให้ตนได้รบความส าเรจ
ั
็
่
ื
ี
ี
ึ
็
่
ื่
ิ
่
ี
่
ี
ี
ุ
2. ให้ผู้เรยนเขยนเรองทมความม่งหวัง ทจะให้ส าเรจในอนาคตและซงคาดว่าท าได้จรงจ านวน 1 เรอง
ี่
และตอบค าถามในประเด็น ปจจัยอะไรบ้างทจะท าให้ความคาดหวังได้รบความส าเรจในอนาคต”
ั
ั
็
แนวการตอบ
ได้เกิดความมั่นใจในตนเองว่าจะเปนผู้ทสามารถเรยนรด้วยตนเองได้
็
ู
้
ี
่
ี
้
ความรสกเหนคณค่าในตัวเองของบคคลทมต่อตนเองว่ามคณค่า มความสามารถในการกระท าส่ง
ี
ี
็
ิ
่
ุ
ี
ุ
ี
ึ
ู
ุ
ี
ื
ื
่
ต่าง ๆ ให้ประสบความส าเรจ มความเชอมั่นและนับถอตัวเอง ส่วนการมอัตมโนทัศนในด้านของการเปน
ี
็
็
์
ี
่
ี
ิ
ิ
ผู้เรยนทมประสทธภาพนั้น หมายถง การมความมั่นใจในการเรยนรด้วยตนเอง ความสามารถจัดเวลาในการ
ี
ึ
ี
ู
ี
้
ี
ี
ี
ู
้
ี
ี
ู
ู
ั
็
้
้
ี
เรยนรได้ มระเบยบวินัยต่อตนเอง มความรในด้านความจ าเปนในการเรยนรและแหล่งทรพยากรการเรยนร ้ ู
็
มความคดเหนต่อตนเองว่าเปนผู้ทมความอยากรอยากเหน
ิ
็
ู
ี
่
ี
้
ี
็
กิจกรรมที่ 4 “เวลาของชวิต”
ี
ึ
ุ
่
ี
์
วัตถุประสงค เพือให้ผู้เรยนตระหนักถงการใช้เวลาอย่างค้มค่า
แนวคิด
ุ
เวลาเปนส่งมค่าทกคนมเวลาในแต่ละวันคอ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กันเพียงแต่ว่า แต่ละคนจะบรหาร
ี
็
ิ
ื
ี
ิ
ี
จัดการเวลาของตนเองให้มค่าได้อย่างไร
้
ี
ค าชแจง
1. ในแต่ละวันท่านได้ใช้เวลาของท่านอย่างไรบ้าง
ึ
่
2. ให้ท่านอ่านเรอง “อาคารขยายเวลา” แล้วให้เขยนถงความรสกของตนต่อการใช้เวลาทผ่าน
ี
ึ
่
ี
้
ู
ื
ี
มาในอดต และแผนการใช้เวลาของตนนับแต่น้ไป
ี
48
อาคารขยายเวลา
่
่
ั
่
แด...ทุกคนทีมีเวลาวันละ 24 ชวโมงเทากัน
่
ี
ื
่
่
ื
ื
ในตอนค า ฉันโยนหนังสอสองสามเล่มบนโต๊ะอย่างเบอหน่าย เวลาอกไม่กีเดอนก็จะถงฤดสอบท ่ ี
ู
่
ึ
่
็
่
ื
ึ
่
ี
ี
่
ื
เขาจะคัดเลอกพวกเราหนงในจ านวนผู้สมัครเปนแสน ๆ คน ให้เข้าไปเรยนในทโก้ ๆ ทชอมหาวิทยาลัย ไม่ร ้ ู
ี
ี
ื
่
ึ
้
ั
ื
ู
ึ
ิ
ี
่
ื
เหมอนกันว่าเรองราวอย่างน้มันเร่มต้นข้นทไหน ฉันเพียงแต่รสกเหมอนว่า คนเอาร้วยาว ๆ สองแถวมากั้น
ุ
ื
็
ี
ท่งกว้างให้เปนทางเดนแคบ ๆ แล้วก็ต้อนพวกเราให้เข้าไปเบยดเสยดกันเดนตามทางแคบ ๆ นั้น และเมอถง
ี
ิ
่
ิ
ึ
ั
่
่
่
ี
ิ
ี
ื
ู
็
ี
ุ
ี
ปลายทาง เขาก็เปดประตรบเราไม่หมดทกคน คนทได้มโอกาสเข้าไปก็เปนเรองด ส่วนคนทไม่ได้ผ่านไปแน่
ี
ื
ี
ิ
ุ
ิ
ี
ี
่
ื
หละ.มันก็คงจะแย่มากทเดยว จรงอยู่แม้จะมทางเลอกอนส าหรบบางคนทจะตัดสนใจมดหรอปนร้วออกไป
ี
ื
่
ั
ั
ี
ี
่
่
็
ิ
ข้างนอกเพือหาทางเดนทดกว่า ฉันเองก็อยากเปนอย่างนั้นบ้าง แต่ฉันไม่กล้าพอ
ี
ื
ฉันเอาคางเกยขอบโต๊ะ ไล่ปลายน้วไปตามสันหนังสอทตั้งเรยงรายเปนแถวยาวรอให้อ่าน ต้องลอง
่
ิ
ี
็
ิ
ู
ั
ี
ี
๋
สดส...สักคร้ง แต่อกใจหนงมันคอยบอกว่าเดยว...ยังข้เกียจอยู่ ขอนอนก่อน ขอดทวีก่อน ขอไปเทยวก่อน
ู
ี
ี
ู
ี
้
ึ
่
่
ี
ิ
ึ
่
็
ฯลฯ เวลาเปนปทเขามไว้ให้เราเตรยมตัวจงผ่านไปอย่างไม่เปนช้นเปนอัน เพราะความเฉอยชาของฉันเอง
็
ี
ื่
ี
ี
็
ู
ี
ุ
่
ี
ิ
อากาศก าลังด ฉันท้งตัวลงบนเตยงนอนทคลมด้วยผ้าห่มขนหนลายฝูงนกนางนวลสเขยว เหน
็
ี
ี
ี
่
ี
ื
ี
หนังสอกองโตทยังค้างคาคอยให้ฉันไปอ่าน พัดลมคอยาวส่งเสยงครางเบา ๆ แล้วฉันก็หลับไป
พบตัวเองอกททหน้าอาคารหลังใหญ่ ดเหมอนจะสรางด้วยหนอ่อน ลักษณะคล้ายธนาคารมบันไดส ี
ื
ี
ี
ี
้
ิ
่
ู
ี
ี
็
ึ
เขยวเปนมันวับเรยงรายเปนชั้น ๆ สดบันไดขั้นสดท้ายมประตกระจกตดฟล์มกรองแสงสเข้มมปายแผ่นหนง
ี
่
ู
ี
ิ
ี
้
ี
ุ
็
ุ
ิ
ี
ี
ู
แขวนไว้ตรงประตมข้อความว่า “มเวลาขาย”
ฉันไม่แน่ใจว่าเปนเพราะความอยากรอยากเหน หรอเพราะอะไรกันแน่ทท าให้เท้าทั้งสองข้างก้าว
ี
่
็
ื
็
ู
้
ื
ึ
ข้นไปบนอาคารแห่งน้ เมอเอ้อมมอผลักประตกระจกเข้าไป ไอเย็นของเครองปรบอากาศก็ปะทะร่างกาย
ี
่
ู
ั
ื
ื
่
ื
้
ี
่
ี
ี
ู
ี
ึ
ั
สถานทนั้นดโอ่โถงและสวยงาม ดราวกับห้องรบรองชั้นด มโต๊ะสเขยวตัวยาวซงกองแฟมเอกสาร
ู
ี
่
ุ
ี
ี
็
ุ
่
ิ
เรยงรายอยู่ทั่วไปบนนั้น ชายหน่มคนทนั่งประจ าโต๊ะเอ่ยทักทายฉัน ท่าทางเขาอบอ่นและเปนมตร
ั
ี
“สวัสดครบ”
“ครบผม” ฉันตอบรบค าเขาเบา ๆ
ั
ั
ิ
ุ
็
่
ิ
ุ
ื
“ผมคดว่า คณคงจะไม่ได้มาซ้อเวลา ท่าทางคณยังเปนเดกอยู่เลย อายุยังไม่เกินยีสบ”
็
ิ
ื
ั
่
ี
ิ
“ผมไม่ได้มาซ้อเวลาหรอกครบ” ฉันตอบไปทั้ง ๆ ทยังไม่แน่ใจว่าสนค้าหรอบรการอะไรกันแน่ท ี ่
ื
ื
ุ
ู
เขาก าลังขายอยู่ “เพียงแต่ว่าผมอยากด...ผู้คน แล้วก็การซ้อขายของคณเท่านั้น”
ุ
“ตามสบายเลยครบ” เขายิ้มอย่างมไมตร “เชญนั่ง” เขาผายมอไปทางโซฟาชดทตั้งอยู่ชดผนังด้าน
ี
ิ
ั
ี
ื
่
ิ
ี
ึ
หนง ฉันจงถอยไปทรดตัวลงนั่ง
ึ
่
ุ
ื
ลกค้าคนแรกทฉันพบในอาคารขายเวลาคอชายชราร่ายกายผอมเกรงผมขาวโพลน ใบหน้าซดเหลอง เขา
ื
็
ู
ี
ี
่
พยุงตัวให้ก้าวผ่านบันไดทละขั้น ๆ อย่างล าบากยากเย็น จนกระทั่งผลักประตูมาหยุดยืนตรงหน้าชายขายเวลา
ี
49
่
ี
ื
ี
ี
่
ี
่
“ผมมาขอซ้อเวลาทผ่านไป...ห้าป” น ้าเสยงเขาแหบแห้ง และสั่นพร่าอย่างคนทปวยหนัก “หมอบอก
ี
ว่าผมมาหาหมอช้าไปห้าป ไม่อย่างนั้นแล้วโรคน้ก็พอจะมทางรกษาหายและผมก็จะไม่ตาย”
ั
ี
ี
็
คนต่อมาเปนชายหน่ม หน้าตาด แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เพียงแต่ดว่าหม่นหมองและหมดหวัง...
ี
ู
ุ
ู
้
ื
ื
ุ
ิ
“ขอซ้อเวลาสามเดอน” เขาพูดกับชายขายเวลา “คณรไหม ผู้หญงทผมรก เธอไปเมองนอกเมอสาม
ั
ื
ื่
ี่
็
ี
ั
้
เดอนก่อน เราคบกันมาเปนป แต่ผมก็ยังไม่เคยบอกรกเธอทั้ง ๆ ทรกเธอมาก เธอไปโดยไม่รอะไรเลย”
่
ั
ี
ื
ู
ี่
ชายขายเวลามทท่าว่าเหนใจ ฉันคดว่าเขาเปนนักขายทมความอดทนมากทเดยว ทจะต้องพบลกค้าท ี่
็
ิ
ี
ี
ี
ี่
ี
ี
ู
็
ล้วนแต่มปญหาต่าง ๆ กันไป พรอม ๆ กับนกเสยดายแทนผู้ชายคนน้ทเข้าผ่านเวลาร่วมปโดยเปล่าประโยชน ์
้
ี
ั
ี
ี
่
ี
ี
ึ
่
ื
แล้วเพิ่งจะเหนคณค่าของเวลาเหล่านั้น...เมอมันได้ผ่านไปแล้ว
็
ุ
ิ
ึ
ยังไม่ทันทชายหน่มคนนั้นจะก้าวพ้นประตออกไป หญงคนหนงก็เดนสวนเข้ามา หล่อนสวมชดไว้
่
ิ
ุ
ี
ู
ุ
่
ื้
ี
ทกข์สด า ใบหน้ายังเปอนคราบน ้าตา ดวงตายังมรอยบอบช ้า
ี
ุ
ี
ี
ี
“อยากได้เวลาค่ะ สักสองป ปเดยวหรอเพียงครงปก็ได้” หล่อนพูดด้วยน ้าเสยงทโศกเศรา
ี
ึ
่
้
ื
ี
่
ี
่
ิ
“ผมคดว่า คณคงมปญหาเกียวกับเวลาในอดตเหมอนคนอน ๆ” ชายขายเวลากล่าวข้น
ึ
ี
ื
ี
ั
ุ
ื
่
ี
ั
่
ี
ี
ิ
“ค่ะ” หล่อนรบค าเสยงแผ่ว “คณแม่ของดฉันเพิ่งเสยเมอสองวันก่อน ท่านดกับฉันมาก เล้ยงดอย่าง
ู
ื
ี
ุ
ื
ิ
่
ี
ี
เอาอกเอาใจ แต่ดฉันยังไม่ทันทจะท าอะไรให้แม่ชนใจเลย มแต่ตั้งแง่ตั้งงอน ท่านก็มาด่วนจากไป”
่
“คณเลยอยากซ้อเวลาทผ่านไปเพือท าดกับคณแม่ของคณ”
ุ
ื
่
ุ
่
ี
ี
ุ
้
“ค่ะ” หล่อนปายน ้าตา
ื
ฉันนกเวทนาหล่อน เวทนาทหล่อนมาคดอะไร ๆ ได้ก็เมอสายไป ถ้าหากหล่อนได้ท าอะไรไปตั้ง
่
ึ
ี
่
ิ
ี
่
ึ
ี
ี
ึ
นานแล้ว ก็คงไม่ต้องมานกเสยดายตอนน้ วูบหนงฉันจงนกย้อนกลับมาทตัวเอง
่
ึ
ึ
ิ
็
ี่
็
คนต่อมาเปนเดกหน่ม ใบหน้าเขายังอ่อนเยาว์ แต่พกร้วรอยความกังวลไว้เต็มเปยม “ต้องการเวลา
ุ
ึ
ี
ี
ี
ื
เท่าไรดครบ” ชายขายเวลาถามข้นก่อน “สองป” เขายิ้มอย่างอ่อนเพลย “ผมอยากกลับไปตอนเลอกแผนการ
ั
ี
่
เรยนใหม่ ผมพลาดไปตอนนั้น บางทผมอาจจะได้เร่มต้นใหม่ด้วยดจะได้เรยนวิชาทชอบแทนวิชาทน่าเบอ
ี
ี
ี
ี
ิ
่
่
ื
ี
ตอนน้”
ี
ี
่
ู
่
ิ
่
็
แล้วเขาก็จากไป เมอได้ส่งทต้องการแล้ว ฉันเหนชายขายเวลาหลับลงในขณะทก าลังเว้นว่างลกค้า
ื
ี
ึ
ต่อเมอฉันขยับตัวเขาก็ลมตาข้น แล้วหันมายิ้มให้ฉัน ดวงตาเขาอบอ่น...
ื
่
ุ
ื
ู
เปนเวลานานเท่าไรก็ไม่ทราบทฉันนั่งมองดผู้คนเดนผ่านมา ล้วนแล้วแต่มท่าทวิตก กังวล ผิดหวัง
ิ
็
ี
ี
่
ี
ี
ี
่
ื
ิ
ี
เสยใจ แล้วก็มาซ้อเวลาไป เพราะว่าพวกเขาได้พลาดส่งทน่าจะได้ในอดต
้
ุ
ึ
ิ
้
ี
ู
แล้วชายขายเวลาก็เปดแฟมพรอมกับเงยหน้าข้นมาทางฉัน สักคร่จงเดนมาทรดตัวลงนั่งเก้าอ้โซฟา
ึ
ิ
ข้าง ๆ
“จะปดรานแล้วหรอครบ” ฉันถาม
ั
้
ิ
ื
“ครบ...ได้เวลาแล้ว”
ั
50
็
ุ
ี
“ขอบคณมากนะครบ ส าหรบวันน้ ผมเหนจะกลับเสยท” ฉันว่า แม้จะไม่แน่ใจว่าฉันจะกลับไปไหน
ี
ี
ั
ั
อย่างไร
ิ
“เชญครบ...ขอให้คณโชคด จงใช้เวลาของคณให้มค่า จงเหนความส าคัญของทกวินาททผ่านไป ผม
ุ
ี
ั
ี
ุ
็
ี
ุ
ี
่
็
่
ุ
หวังว่า...คงจะไม่ได้เหนคณมาทนเพือซ้อเวลา” เขากล่าวในทสด
ื
่
่
ี
ี
ุ
ี
่
ุ
ึ
ุ
ุ
ื
“ขอบคณมากครบ ผมจะไม่ลมคณ...และทน” ฉันลกข้นยืน ทันใดไฟก็ดับวูบ
่
ี
ี
ั
่
ฉันตนข้นมาด้วยความรสกทแปลกใหม่ เอ้อมมอไปรดผ้าม่านหน้าต่างสครม พบว่าท้องฟายังไม่
ู
้
ึ
ู
ื
้
ื่
ี
ื
ี
่
ึ
ี
ุ
่
ื
่
ึ
ึ
ี
ี
สว่างด และไก่ก็ยังไม่ขัน ฉันลกข้นมาเก็บทนอนและกระโดดเข้าห้องน ้าอย่างสดชนแล้วถงกลับเข้ามานั่งท ี ่
ิ
ิ
ี
ี
ื
ิ
โต๊ะเขยนหนังสอตัวเดมทฉันไม่เคยจรงจังด้วยมานานแล้ว คดอยากจะฮัมเพลงไปด้วยซ ้าถ้าไม่ตดว่าจะ
ิ
่
ื
ท าลายสมาธในการอ่านหนังสอ
ิ
่
ิ
่
ี
ี
ึ
ื
ี
่
วูบหนง...ฉันรสกดใจทฉันยังมเวลาเหลออยู่ ยังไม่สายเกินไปทจะเร่มลงมอท าอะไร ๆ อย่างม ี
ี
ื
ู
ึ
้
ี
ื
ความหวัง ไม่เหมอนกับผู้คนเหล่านั้น...ทฉันพบท...อาคารขายเวลา
่
ี
่
ื
มหาวิทยาลัย คอดนแดนทใครใครต่างใฝฝน
ี
ั
่
่
ิ
ึ
ื
ิ
ี
แม้เหนอยยาก..จะก้าวไปให้ถงมัน ด้วยถอเปนส่งส าคัญในชวิต
ื
็
่
ุ
ิ
ิ
ในสนามของการแข่งขัน ต่างม่งมั่นชงชัยให้ได้สทธ์ ิ
ู
ใช้ศรทธาอันคมเข้มเปนเข็มทศ ถกหรอผิดยังคงต้องลองท าด ู
ั
็
ื
ิ
ี
ื
ุ
ี
้
หวังเบ้องหน้ามรงทองงามผ่องใส ช่อดอกไม้ไมตรคงมอยู่
ี
ุ
ิ
ู
ิ
ี
ื่
ื่
มความรก ความเรงรนให้ชนช ู ทกส่งสวยเลศหรดังวาดไว้
ั
ิ
่
ุ
ึ
ื
้
่
ื
แล้วเมอการแข่งขันถงจดจบ ย่อมได้พบคนยิ้มชน คนรองไห้
ต่างมความม่งหวังความตั้งใจ หากไม่ได้ดังหมายมาดอาจท้อแท้
ี
ุ
ี
ี
ี
่
ี
แต่จะมใครบ้างไหมทได้ร ู ้ ความหมายของชวิตอยู่ทใดแน่
่
เท่าน้หรอเรยกได้ว่าชนะ-แพ้ อันเกิดแต่มายาค่านยม
ิ
ี
ี
ื
ี
ิ
ึ
ื
ต่อเมอถงพร่งน้ของชวิต อาจได้คดเหนจรงทกส่งสม
ี
ิ
่
ิ
ุ
็
ุ
ั
ิ
การแข่งขันคร้งใหม่ในสังคม ได้ชมผู้ชนะอย่างแท้จรง
51
่
ี
เรยน พักผอน
6 สวน 6 สวน
่
่
ครอบครว สวนตัว/เพื่อน
่
ั
6 สวน (3+3) = 6 สวน
่
่
คนเราม 24 ชั่วโมง ใน 1 วันเท่ากัน การใช้เวลาให้เกิดประโยชน จงเกิดจากการทมนษย์บรหาร
ี
ี
่
ิ
ุ
ึ
์
ู
ุ
ุ
์
ี
จัดการเวลาทกวินาทให้เกินประโยชนสงสด
ี
ู
ิ
ตัวอย่าง การบรหารเวลา โดยใช้สตร 24 ชั่วโมง ใน 1 วัน มงานหลัก 4 อย่าง สามารถท าได้ดังน้ ี
ุ
์
่
ื
ุ
็
่
ิ
ี
เนองจากมนษย์เปนสัตว์สังคมทต้องปฏสัมพันธกับบคคลข้าง พรอมกันไปกับการปฏบัตหน้าท ่ ี
้
ิ
ิ
ึ
ี
ี
ุ
่
ึ
ตามวัยของตน นักเรยนจงควรมการใช้เวลาให้ครบทั้ง 4 ส่วนอย่างสมดล ซงเวลาทั้ง 4 ส่วน ดังกล่าวสามารถ
ยืดหยุ่นสัดส่วนได้ข้นกับความจ าเปนในแต่ละช่วงวัยและความรบผิดชอบของบคคลนั้น ๆ
็
ุ
ั
ึ
กิจกรรมที่ 1 “บัณฑิตสูงวัย”
์
วัตถุประสงค
้
ี
ู
้
ี
้
ู
ิ
ี
1. เพื่อให้ผู้เรยนทราบและเข้าใจในแนวคดการเรยนรด้วยตนเอง และความพรอมในการเรยนรด้วย
ตนเอง
ี
ี
่
่
ู
่
ู
้
ี
2. เพือน าไปส่ลักษณะการเรยนรด้วยตนเองทใฝเรยนร เหนคณค่าของการเรยนร ความสามารถทจะ
ู
้
่
้
ู
ุ
็
ี
ี
ิ
็
ี
ู
้
้
ั
ิ
เรยนรด้วยตนเองความรบผิดชอบในการเรยนร การมองอนาคตในแง่ด ของสมาชก รวมทั้งสมาชกเหน
ี
ู
ี
ความส าคัญ และตระหนักในความพรอมในการเรยนรด้วยตนเอง
้
ี
ู
้
แนวคิด
ี
คณลักษณะพิเศษในการทจะเรยนรและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนองโดยมจ าเปนต้องรอคอยจาก
ุ
ิ
ี
ู
่
็
้
่
ื
ี
้
การศกษาหรอการเรยนรอย่างเปนทางการเพียงอย่างเดยว คณลักษณะพิเศษ ดังกล่าวคอ “ความพรอมในการ
็
ุ
ี
ึ
ื
ู
้
ื
ี
ิ
ู
ิ
เรยนรโดยการช้น าตนเอง” ซงเปนความคดเหนว่า ตนเองมเจตคต ความร ความสามารถทจะเรยนรโดยมต้อง
็
ี
็
่
้
ี
ี
ิ
ึ
่
ี
้
ู
้
ู
้
ู
ี
ิ
่
ี
้
ู
้
ื
ี
ื
ู
้
ี
่
ี
ให้คนอนก าหนดหรอสั่งการ พรอมทจะเรยนรวิธการเรยนรและประเมนการเรยนร ทั้งอาจด้วยความ
ื
่
่
ี
ุ
ี
ี
้
ื
ุ
ู
่
ี
ช่วยเหลอจากผู้อนหรอไม่ก็ตาม การทบคคลสามารถช้น าตนเองทจะเรยนร ย่อมเปนโอกาสทบคคลจะเรยนร ้ ู
็
ี
่
ี
ื
ี
ู
้
ทจะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนองและเรยนรตลอดชวิต การพัฒนาการเรยนรโดยการช้น าตนเอง ย่อมเปน
ื
่
็
้
ู
ี
ี
ี
่
ี
หนทางทท าให้บคคลเรยนรอย่างไม่ส้นสด
ิ
ู
้
ุ
ี
่
ี
ุ
52
ี
็
ี
ึ
ึ
้
ิ
ิ
ู
ค าช้แจง ให้ผู้เรยนศกษาภาพข่าว การส าเรจการศกษาจากภาพ ของ บัณฑตสงวัย พรอมอธบาย
ในประเด็น
ี
่
้
็
ึ
ู
(1) “ความรสกของท่านต่อภาพทได้เหน”
็
ุ
้
ี
ู
ึ
(2) “ท าไมบคคลในภาพ ถงประสบความส าเรจในการเรยนร”
แนวการตอบ
่
ี
ี
ได้เหนคณค่าและความส าเรจทจะมต่อผู้มใจใฝเรยนร ้ ู
ี
็
็
ี
่
ุ
กิจกรรมที่ 2 “ทางแห่งความส าเรจ”
็
ค าชแจง
ี
้
็
ให้ผู้เรยนอ่านเรอง “ทางแห่งความส าเรจ” แล้วให้สรปเรองทอ่านตามความเข้าใจ
่
่
ื
ี
ื
่
ุ
ี
ิ
่
ึ
ุ
่
ผลไม้ลกหนงกว่าจะสกมกล่นหอม ให้เราได้ล้มรสฉ าหวานก็ผ่านกาลเวลาเพาะบ่มคนเราก็เช่นกัน
ู
ิ
ี
ู
์
กว่าจะประสบผลส าเรจให้ได้ก็ผ่านกาลเวลาแห่งการพิสจน มใช่ฉับพลันทันใดความส าเรจนั้นอาศัยหลายส่ง
ิ
็
็
ิ
ี
ี
ู
้
ิ
้
ู
ุ
หลายอย่าง เฉพาะความม่งหวังตั้งใจอย่างเดยวยังไม่เพียงพอต้องมความรจรง รวิธทด าเนนไป รเหตปจจัย
ั
ู
่
ิ
้
ี
ุ
ี
่
ทมาสัมพันธเกียวข้องและทส าคัญคอต้องปฏบัตให้ถกวิธ มปญหาคอยตรวจสอบอยู่เสมอ ถ้าประสบ
ี
์
ู
ิ
ี่
ิ
ื
ั
่
ี
ี
ี
็
ี
ผลส าเรจเพียงเพราะตั้งความหวัง โดยไม่ต้องท าอะไร ในโลกน้คงไม่ต้องมใครผิดดังตั้งความหวังสักวันคง
ต้องได้สมหวังตั้งใจ
แหล่งทมา : http://watsunmamout.i.getweb.com
ี
่
53
็
็
็
ิ
ี
ั
ลักษณะชวิตและลักษณะนสัยภายในของคนเปนฐานของความส าเรจเปนเหตให้คนสรางฐานชวิต ปรบ
ี
ุ
้
็
่
ี
ความส าเรจทยั่งยืนในอนาคตได้
กิจกรรมที่ 3 “ แปรงสฟนมหัศจรรย ”
ี
ั
์
์
วัตถุประสงค
้
เพือให้ผู้เรยนตระหนักถงความส าคัญของการมองโลกในแง่ด ความคดสรางสรรค์และพัฒนาทั้ง
่
ิ
ี
ี
ึ
้
ิ
ี
ิ
ี่
ความคดในด้านบวก และความคดสรางสรรค์ทมในตนเอง
ค าชแจง
ี
้
ี
ุ
ี่
ั
ี
ี
1. ให้ผู้เรยนเขยนประโยชน์ของแปรงสฟน ให้ได้มากทสด ในเวลา 5 นาท ี
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
ี
่
ี
้
ี
ท่านได้เรยนรและตระหนักถงความส าคัญของความคดสรางสรรค์ทมอยู่ในตนเอง
ู
้
ิ
ึ
54
้
ี
้
กิจกรรมที่ 4 “ บทสะทอนจากการเรยนรู ”
วัตถุประสงค ์
ู
้
่
ี
ู
ี
้
ุ
ี
้
ู
่
ี
้
ให้ผู้เรยนสรปความรทได้จากการเรยนรเกียวกับ “ความพรอมในการเรยนรด้วยตนเอง”
ี
ู
้
ี
ี
ั
ี่
ี
มความส าคัญทผู้เรยนสามารถน าไปปรบใช้ในการเรยนรของตนเองให้มคณภาพได้อย่างไร
ุ
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
55
แบบประเมินตนเองหลังเรยน
ี
ี
ี
้
้
้
้
ื่
แบบสอบถาม เรอง ความพรอมในการเรยนรูดวยตนเองของผูเรยน
ื่
ชอ........................................................นามสกุล................................................ระดับมัธยมศกษาตอนปลาย
ึ
ี
ู
้
ค าชแจง แบบสอบถามฉบับน้ เปนแบบสอบถามทวัดความชอบและเจตคตเกียวกับการเรยนรของท่าน
ี
็
่
่
ี
ิ
ี
้
่
ให้ท่านอ่านข้อความต่าง ๆ ต่อไปน้ ซงมด้วยกัน 58 ข้อ หลังจากนั้น โปรดท าเครองหมาย
ึ
ี
ี
่
ื
ี
ี
็
ิ
ุ
่
่
ลงในช่องทตรงกับ ความเปนจรง ของตัวท่านมากทสด
ระดับความคิดเห็น
็
มากทสด หมายถง ท่านรสกว่า ข้อความนั้นส่วนใหญ่เปนเช่นน้ ี
ึ
ี่
ุ
ึ
้
ู
ึ
ู
้
่
็
มาก หมายถง ท่านรสกว่า ข้อความเกินครงมักเปนเช่นน้ ี
ึ
ึ
ึ
ู
ึ
้
ึ
่
ิ
ปานกลาง หมายถง ท่านรสกว่า ข้อความจรงบ้างไม่จรงบ้างครงต่อครง
่
ึ
ิ
ึ
ู
้
ิ
็
ึ
น้อย หมายถง ท่านรสกว่า ข้อความเปนจรงบ้างแต่ไม่บ่อยนัก
ี่
ึ
ิ
น้อยทสด หมายถง ท่านรสกว่า ข้อความไม่จรง ไม่เคยเปนเช่นน้ ี
้
ู
ุ
็
ึ
ความคิดเห็น
รายการค าถาม มาก มาก ปาน นอย นอย
้
้
ทีสุด กลาง ทีสุด
่
่
ี
ู
้
1. ข้าพเจ้าต้องการเรยนรอยู่เสมอตราบชั่วชวิต
ี
ี
2. ข้าพเจ้าทราบดว่าข้าพเจ้าต้องการเรยนอะไร
ี
ี
ี่
่
3. เมอประสบกับบางส่งบางอย่างทไม่เข้าใจ ข้าพเจ้าจะหลกเลยงไปจาก
ี
ิ
ื่
ิ
ส่งนั้น
ิ
้
ู
4. ถ้าข้าพเจ้าต้องการเรยนรส่งใด ข้าพเจ้าจะหาทางเรยนรให้ได้
ี
ู
้
ี
ี
ี
้
5. ข้าพเจ้ารกทจะเรยนรอยู่เสมอ
ู
่
ั
ิ
ึ
ื
่
6. ข้าพเจ้าต้องการใช้เวลาพอสมควรในการเร่มศกษาเรองใหม่ ๆ
7. ในชั้นเรยนข้าพเจ้าหวังทจะให้ผู้สอนบอกผู้เรยนทั้งหมดอย่างชัดเจนว่า
ี
ี
ี
่
ต้องท าอะไรบ้างอยู่ตลอดเวลา
่
่
ี
ื
ิ
็
8. ข้าพเจ้าเชอว่า การคดเสมอว่าตัวเราเปนใครและอยู่ทไหน และจะท า
ุ
็
ึ
อะไร เปนหลักส าคัญของการศกษาของทกคน
ี
9. ข้าพเจ้าท างานด้วยตนเองได้ไม่ดนัก
10. ถ้าต้องการข้อมูลบางอย่างทยังไม่ม ข้าพเจ้าทราบดว่าจะไปหาได้ท ี ่
ี
ี
ี
่
ไหน
้
ิ
ี
11. ข้าพเจ้าสามารถเรยนรส่งต่าง ๆ ด้วยตนเองได้ดกว่าคนส่วนมาก
ี
ู
56
ความคิดเห็น
รายการค าถาม มาก มาก ปาน นอย นอย
้
้
่
ทีสุด กลาง ทีสุด
่
ี
ิ
ิ
12. แม้ข้าพเจ้าจะมความคดทด แต่ดเหมอนไม่สามารถน ามาใช้ปฏบัตได้
ื
่
ู
ี
ิ
ี
13. ข้าพเจ้าต้องการมส่วนร่วมในการตัดสนใจว่าควรเรยนอะไร และจะ
ิ
ี
ี
เรยนอย่างไร
ี
ี
ิ
ื
็
ี
่
ี
่
14. ข้าพเจ้าไม่เคยท้อถอยต่อการเรยนส่งทยาก ถ้าเปนเรองทข้าพเจ้าสนใจ
่
ี
15. ไม่มใครอนนอกจากตัวข้าพเจ้าทจะต้องรบผิดชอบในส่งทข้าพเจ้า
ิ
่
ี
ื
ั
ี
่
่
ี
ื
เลอกเรยน
ิ
16. ข้าพเจ้าสามารถบอกได้ว่า ข้าพเจ้าเรยนส่งใดได้ดหรอไม่
ื
ี
ี
ู
17. ส่งทข้าพเจ้าต้องการเรยนรมีมากมาย จนข้าพเจ้าอยากให้แต่ละวันม ี
ี
ิ
ี่
้
มากกว่า 24 ชั่วโมง
ี่
ู
้
ิ
ี
่
18. ถ้าตัดสนใจทจะเรยนรอะไรก็ตาม ข้าพเจ้าสามารถจะจัดเวลาทจะ
ี
ิ
ี
เรยนรส่งนั้นได้ ไม่ว่าจะมภารกิจมากมายเพียงใดก็ตาม
้
ู
ี
ั
่
ี
ื
ี
่
19. ข้าพเจ้ามปญหาในการท าความเข้าใจเรองทอ่าน
ี
20. ถ้าข้าพเจ้าไม่เรยนก็ไม่ใช่ความผิดของข้าพเจ้า
ื่
้
ื่
ู
ี
21. ข้าพเจ้าทราบดว่า เมอไรทข้าพเจ้าต้องการจะเรยนรในเรองใด
ี่
ี
ึ
่
ึ
ื่
เรอง หนงให้มากข้น
ู
ึ
22. ขอให้ท าข้อสอบให้ได้คะแนนสง ๆ ก็พอใจแล้ว ถงแม้ว่าข้าพเจ้ายัง
ื
่
ไม่เข้าใจเรองนั้นอย่างถ่องแท้ก็ตาม
ี
ื
่
่
็
23. ข้าพเจ้าคดว่า ห้องสมดเปนสถานททน่าเบอ
่
ุ
ิ
ี
24. ข้าพเจ้าชนชอบผู้ทเรยนรส่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ิ
้
ู
ื่
ี
ี่
ิ
ี
ี
25. ข้าพเจ้าสามารถคดค้นวิธการต่าง ๆ ได้หลายแบบ ส าหรบการเรยนร ู ้
ั
หัวข้อใหม่ ๆ
้
ิ
ี
ื่
ี
26. ข้าพเจ้าพยายามเชอมโยงส่งทก าลังเรยนกับเปาหมายระยะยาว ทตั้งไว้
่
ี
่
ี
ุ
ู
27. ข้าพเจ้ามความสามารถเรยนร ในเกือบทกเรอง ทข้าพเจ้าต้องการจะร ู ้
ี
่
ี
่
ื
้
28. ข้าพเจ้าสนกสนานในการค้นหาค าตอบส าหรบค าถามต่าง ๆ
ั
ุ
่
ู
ี
ี
่
ึ
29. ข้าพเจ้าไม่ชอบค าถามทมค าตอบถกต้องมากกว่าหนงค าตอบ
่
30. ข้าพเจ้ามความอยากรอยากเหนเกียวกับส่งต่าง ๆ มากมาย
ี
้
ู
ิ
็
31. ข้าพเจ้าจะดใจมาก หากการเรยนรของข้าพเจ้าได้ส้นสดลง
ุ
ิ
ู
ี
ี
้
57
ความคิดเห็น
รายการค าถาม มาก มาก ปาน นอย นอย
้
้
่
่
ทีสุด กลาง ทีสุด
ื
่
้
ื่
32. ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจการเรยนร เมอเปรยบเทยบกับผู้อน
ู
ี
ี
ี
่
ื
ั
ึ
ี
33. ข้าพเจ้าไม่มปญหาเกียวกับทักษะเบ้องต้นในการศกษาค้นคว้า ได้แก่
ั
ทักษะการฟง อ่าน เขยน และจ า
ี
34. ข้าพเจ้าชอบทดลองส่งใหม่ๆ แม้ไม่แน่ใจว่า ผลนั้นจะออกมา อย่างไร
ิ
ี
่
ิ
ื
ึ
็
ี
35. ข้าพเจ้าไม่ชอบ เมอมคนช้ให้เหนถงข้อผิดพลาด ในส่งทข้าพเจ้าก าลัง
ี
่
ท าอยู่
ี
ิ
ี
36. ข้าพเจ้ามความสามารถในการคดค้น หาวิธแปลกๆ ทจะท าส่งต่าง ๆ
ี
ิ
่
ิ
37. ข้าพเจ้าชอบคดถงอนาคต
ึ
ี
ู
38. ข้าพเจ้ามความพยายามค้นหาค าตอบในส่งทต้องการรได้ด เมอเทยบ
ิ
ี
่
่
ี
ี
้
ื
กับผู้อน
่
ื
่
ั
็
็
ิ
ี
39. ข้าพเจ้าเหนว่าปญหาเปนส่งทท้าทาย ไม่ใช่สัญญาณให้หยุดท า
ิ
ี
ิ
40. ข้าพเจ้าสามารถบังคับตนเอง ให้กระท าส่งทคดว่าควรกระท า
่
ี
ั
41. ข้าพเจ้าชอบวิธการของข้าพเจ้า ในการส ารวจตรวจสอบปญหาต่าง ๆ
็
ุ
42. ข้าพเจ้ามักเปนผู้น ากล่มในการเรยนร ู ้
ี
ิ
็
ื
่
ี
่
่
ี
43. ข้าพเจ้าสนกทได้แลกเปลยนความคดเหนกับผู้อน
ุ
55. ในแต่ละปข้าพเจ้าได้เรยนรส่งใหม่ ๆ หลาย ๆ อย่างด้วยตนเอง
ี
ี
ู
้
ิ
ู
้
56. การเรยนรไม่ได้ท าให้ชวิตของข้าพเจ้าแตกต่างไปจากเดม
ิ
ี
ี
้
็
57. ข้าพเจ้าเปนผู้เรยนทมประสทธภาพ ทั้งในชั้นเรยน และการเรยนรด้วย
ี
ิ
ู
ี
ิ
ี
ี
ี่
ตนเอง
58 ข้าพเจ้าเหนด้วยกับความคดทว่า “ผู้เรยนคอ ผู้น า”
็
ิ
ี
่
ื
ี
58
ี
ี
แบบประเมินตนเองหลังเรยนเรยน
้
่
้
ี
บทสะทอนทีไดจากการเรยนรู ้
้
ู
ี
่
ี
ี
้
ู
ิ
1. ส่งทท่านประทับใจในการเรยนรรายวิชาการเรยนรด้วยตนเองตนเอง
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
ุ
ี
ั
ี่
ี
้
ู
2. ปญหา / อปสรรค ทพบในการเรยนรรายวิชาการเรยนรด้วยตนเอง
ู
้
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
ิ
3. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตม
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
59
ี
้วยตนเองของผู้เรียน
แบบวัดระดับการเรยนด
ี
็
ี
ี
้
ี
ี
ค าชแจง แบบวัดน้เปนแบบวัดระดับการเรยนด้วยตนเองของผู้เรยน มจ านวน 7 ข้อ
ี
ี
็
ิ
ื่
่
โปรดกาเครองหมาย ลงในช่อง ทตรงกับความสามารถในการเรยนด้วยตนเองตามความเปนจรง
ของท่าน
ี
ื
ิ
1. การวินจฉัยความต้องการเน้อหาในการเรยน 4. การด าเนนการเรยน
ิ
ี
ิ
นักศกษาได้เรยนเน้อหา ตามค าอธบายรายวิชา นักศกษาด าเนนการเรยน ตามแนวทางทครก าหนด
ี
ี
่
ี
ึ
ื
ึ
ู
ิ
ึ
ิ
ี
เท่านั้น นักศกษาด าเนนการเรยน ตามแนวทางทคร ู
ี่
ั
ื
่
ื
ึ
ื
คร น าเสนอเน้อหาอน นอกเหนอจาก น าเสนอ แล้วให้นักศกษาปรบ
ู
ึ
ค าอธบายรายวิชา แล้วให้นักศกษาเลอกเรยน นักศกษาด าเนนการเรยน ตามแนวทางท ี่
ิ
ี
ื
ิ
ี
ึ
ิ
เพิ่มเตม นักศกษาร่วมกันก าหนดกับคร ู
ึ
่
ี
ื
่
ี
นักศกษาได้เสนอเน้อหาอนเพือเรยนเพิ่มเตม นักศกษาด าเนนการเรยน ตามการก าหนดของ
ึ
ิ
ึ
ิ
ื
ื
นอกเหนอจากค าอธบายรายวิชาด้วย ตนเอง
ิ
ื
นักศกษาเปนผู้ก าหนดเน้อหาในการเรยนเอง
ี
็
ึ
ั
5. การแสวงหาแหล่งทรพยากรการเรยน
ี
็
ี
2. การวินจฉัยความต้องการวิธการเรยน ครเปนผู้จัดหาแหล่งทรพยากรการเรยนให้
ิ
ู
ี
ั
ี
ครเปนผู้ก าหนดว่าจะจัดการเรยนการสอนวิธ ี นักศกษา
ึ
ี
ู
็
็
ั
ใด ครเปนผู้จัดหาแหล่งทรพยากรการเรยน แล้ว
ี
ู
ึ
ู
ี
ี
ครน าเสนอวิธการเรยนการสอน แล้วให้นักศึกษา ให้นักศกษาเลอก
ื
ั
ึ
เลอก นักศกษาร่วมกับครหาแหล่งทรพยากรการ
ู
ื
ี
ึ
ี
ี
ู
นักศกษาร่วมกับครก าหนดวิธการเรยนร ู ้ เรยน ร่วมกัน
ี
ึ
ี
ึ
นักศกษาเปนผู้ก าหนดวิธการเรยนรเอง นักศกษาเปนผู้จัดหาแหล่งทรพยากรการเรยน
็
็
ั
ี
ู
้
เอง
3. การก าหนดจดม่งหมายในการเรยน
ุ
ี
ุ
ิ
ุ
ี
ครเปนผู้ก าหนดจดม่งหมายในการเรยน 6. การประเมนการเรยน
็
ุ
ู
ี
ี
ิ
ุ
ึ
ู
ู
ี
ุ
็
ครน าเสนอจดม่งหมายในการเรยน แล้วให้นักศึกษา คร เปนผู้ประเมนการเรยนของนักศกษา
ึ
็
ื
็
ู
ี
ิ
เลอก คร เปนผู้ประเมนการเรยนของนักศกษาเปน
ู
ึ
ิ
นักศกษาร่วมกับครก าหนดจดม่งหมายในการ ส่วนใหญ่ และเปดโอกาสให้นักศกษาได้ประเมน
ึ
ิ
ุ
ุ
ี
เรยน การเรยนของตนเองด้วย
ี
ุ
ี
นักศกษาเปนผู้ก าหนดจดม่งหมายในการเรยน มการประเมนการเรยนโดยคร ตัวนักศกษาเอง
ี
ึ
ี
ู
ิ
ึ
ุ
็
ึ
เอง และเพื่อนนักศกษา
ึ
็
ี
นักศกษาเปนผู้ประเมนการเรยนของตนเอง
ิ
60
ี
7. การวางแผนการเรยน
ู
้
ี
ี่
้
ู
็
ี
ี
ี
ึ
นักศกษาไม่ได้เขยนแผนการเรยน กระบวนการเรยนรทเปนการเรยนรด้วยตนเอง
มความจ าเปนทจะต้องอาศัยทักษะและความร
ี่
ู
็
้
ี
ึ
ี
ครน าเสนอแผนการเรยนแล้วให้นักศกษาน าไป บางอย่าง ผู้เรยนควรได้มการตรวจสอบพฤตกรรม
ู
ี
ิ
ี
ั
ปรบแก้ ทจ าเปนส าหรับผู้เรยนทจะเรยนรด้วยตนเอง
้
ู
ี
ี่
ี
ี่
็
ู
นักศกษาร่วมกับครวางแผนการเรยน
ึ
ี
ึ
นักศกษาวางแผนการเรยนเอง โดยการเขยน
ี
ี
สัญญาการเรยนทระบจดม่งหมายการเรยน วิธการ
ี
ุ
ุ
ุ
ี
ี
ี
่
ี
เรยน แหล่งทรพยากรการเรยน วิธการประเมนการ
ิ
ี
ี
ั
ี่
เรยน และวันทจะท างานเสรจ
ี
็
61
บทที่ 2
ี
้
่
้
การใชแหลงการเรยนรู
สาระสาคัญ
้
ู
ี
ี
์
ึ
ุ
ู
้
แหล่งเรยนรมความส าคัญในการพัฒนาความรของมนษย์ให้สมบูรณมากยิ่งข้น
ี
ี
ุ
ี
่
ื
นอกเหนอการเรยนในชั้นเรยน และเปนแหล่งทอยู่ให้สังคมมนษย์ล้อมรอบตัว
็
ี่
ผู้เรยน ทสามารถเข้าไปศกษาค้นคว้าเพื่อการเรยนรได้ตลอดชวิต
้
ี
ู
ึ
ี
ี
ี
่
ผลการเรยนรูทีคาดหวัง
้
ี
ู
1. ผู้เรยนมความร ความเข้าใจ เหนความส าคัญของแหล่งเรยนร ู ้
็
ี
ี
้
และห้องสมดประชาชน
ุ
้
2. ผู้เรยนสามารถใช้แหล่งเรยนร ห้องสมดประชาชนได้
ี
ี
ู
ุ
ขอบขายเน้อหา
ื
่
ื่
ี
ี่
เรองท 1 ความหมาย ความส าคัญ ประเภทของแหล่งเรยนร ้ ู
ู
เรองท 2 แหล่งเรยนรประเภทห้องสมด
ี
้
ุ
ี่
ื่
ี่
ื่
เรองท 3 ทักษะการเข้าถงสารสนเทศของห้องสมดประชาชน
ุ
ึ
้
เรองท 4 การใช้แหล่งเรยนรส าคัญๆ ภายในประเทศ
ู
ื่
ี
ี่
เรองท 5 การใช้แหล่งเรยนรผ่านเครอข่ายอนเทอรเนต
ื่
ี่
้
ื
ิ
ู
ี
็
์
62
เรองที่ 1 : ความหมาย ความสาคัญ ประเภทของแหลงเรยนรู ้
ื่
่
ี
ื
ี
่
ื
ึ
ู
้
ึ
ความรหรอข้อมูลสารสนเทศเกิดข้นและพัฒนาอย่างต่อเนองตลอดเวลา และมการเผยแพร่ถงกัน
ี
ู
ิ
้
่
โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศภายในไม่กีวินาท ท าให้มนษย์ต้องเรยนรกับส่งทเปลยนแปลงใหม่ ๆ เพื่อให้
ุ
ี
ี
่
่
ี
ุ
้
์
ุ
้
ู
ื
สามารถรเท่าทันเหตการณ และน ามาใช้ให้เกิดประโยชนต่อการด ารงชวิตได้อย่างมความสข ความรหรอ
ี
ู
ี
์
ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ดังกล่าวมอยู่ในแหล่งเรยนรล้อมรอบตัวเรา ดังนั้นการเรยนรทเกิดข้นภายใน
ู
้
ี
ี
ึ
่
้
ี
ี
ู
่
ั
ี
ู
้
็
ี
ห้องเรยนย่อมเปนการไม่เพียงพอในความรทได้รบ
ความหมายของแหลงเรยนรู ้
่
ี
ื
ู
ิ
ื
ี
่
ี
ี่
ึ
้
ู
แหล่งเรยนร หมายถง บรเวณ ศูนย์รวม บ่อเกิด แห่ง หรอท ทมสาระเน้อหาเปนข้อมูล ความร
ี
็
้
่
ี
ความสาคัญของแหลงเรยนรู ้
ุ
ี
ี
แหล่งเรยนรมบทบาทส าคัญในการพัฒนาคณภาพชวิตของประชาชน ดังน้ ี
ู
ี
้
็
ู
้
้
1. เปนแหล่งทมข้อมูล/ ความร ตามวัตถประสงค์ของแหล่งเรยนรนั้น เช่น สวนสัตว์ ให้ความร ้ ู
ู
ุ
ี
่
ี
ี
เรองสัตว์ พิพิธภัณฑ์ให้ความรเรองโบราณวัตถสมัยต่าง ๆ
้
ุ
ู
ื่
ื่
ี
่
2. เปนสอการเรยนรสมัยใหม่ทความรก่อให้เกิดทักษะ และช่วยการเรยนรสะดวกรวดเรว เช่น
ี
ี
็
้
้
ู
ู
ู
่
้
ื
็
อนเทอรเนต
ิ
็
์
ิ
ึ
ึ
ึ
3. เปนแหล่งช่วยเสรมการเรยนรของการศกษาประเภทต่าง ๆ ทั้งการศกษาในระบบ การศกษา
ู
ี
็
้
นอกระบบ และการศกษาตามอัธยาศัย
ึ
ี
ู
4. เปนแหล่งการเรยนรตลอดชวิตทมนษย์เข้าไปหาความรได้ด้วยตนเองตามความสนใจ และ
้
็
ู
ี่
ี
้
ุ
ความสามารถ
ิ
่
ิ
ิ
็
ุ
ิ
5. เปนแหล่งทมนษย์สามารถเข้าไปปฏบัตได้จรง เช่น การประดษฐ์เครองใช้ต่าง ๆ การซ่อม
ี
่
ื
็
ื่
ุ
่
เครองยนต์ เปนต้น ช่วยกระต้นให้เกิดความสนใจ ความใฝร ู ้
ี
ี่
ิ
6. เปนแหล่งทมนษย์สามารถเข้าไปเรยนรเกียวกับวิทยาการใหม่ ๆ ทยังไม่มของจรงให้เหน
็
่
ี
่
ี
ุ
้
ู
็
ู
ื่
ื่
ื
ิ
ิ
ี
้
ู
ู
ื
์
หรอไม่สามารถเข้าไปดจากของจรงได้ โดยเรยนร การดภาพยนตร วีดทัศน์ หรอสออน ๆ
ี
็
็
ิ
์
7. เปนแหล่งส่งเสรมความสัมพันธอันดระหว่างคนในท้องถ่นให้เกิดความตระหนักและเหน
ิ
ุ
คณค่าของแหล่งเรยนร ้ ู
ี
็
ิ
่
ิ
่
ี
8. เปนส่งทช่วยเปลยนแปลงทัศนคต ค่านยมให้เกิดการยอมรบส่งใหม่ แนวคดใหม่ เกิดจนตนาการ
ั
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
และความคดสรางสรรค์กับผู้เรยน
ี
้
็
9. เปนการประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้แหล่งเรยนรของชมชน
ี
ู
ุ
้
63
่
ประเภทของแหลงเรยนรู ้
ี
ู
ี
้
แหล่งเรยนรมการแบ่งแยกตามลักษณะได้ 6 ประเภท ดังน้ ี
ี
ุ
ี่
ี
ี
่
้
ี่
1. แหลงเรยนรูประเภทบุคคล ได้แก่ บคคลทมความร ู ้ ความสามารถด้านต่าง ๆ ทสามารถ
้
ี
ี่
่
ี
ู
ี
ี
ถ่ายทอดความรด้วยรปแบบวิธต่าง ๆ ทตนมอยู่ให้ผู้สนใจหรอผู้ต้องการเรยนร เช่น ผู้เชยวชาญในสาขาวิชา
ื
้
ู
ู
ี
็
ี่
การต่าง ๆ ผู้อาวุโสทมประสบการณมามาก หรออาจจะเปนบคคลทได้รบแต่งตั้งเปนทางการ มบทบาท
ี
ื
ุ
ั
็
ี่
์
ี
ื
ุ
ี่
ุ
็
็
ื
ี่
็
สถานะทางสังคม หรออาจเปนบคคลทเปนโดยการงานอาชพ หรอบคคลทเปนโดยความสามารถเฉพาะตัว
ุ
ี
หรอบคคลทได้รบแต่งตั้งเปนภมปญญา
่
ื
ั
ิ
็
ู
ั
ี
่
ิ
ึ
ิ
์
2. แหลงเรยนรูประเภทธรรมชาติ ได้แก่ ส่งต่าง ๆ ทเกิดข้นโดยธรรมชาต และให้ประโยชนต่อ
้
ี
่
ี
มนษย์ เช่น ดน น ้า อากาศ พืช สัตว์ ต้นไม้ แร่ธาต ทรพยากรธรรมชาต เหล่าน้อาจถกจัดให้เปนอทยาน
ุ
ู
ิ
ั
ิ
ุ
ุ
็
์
ั
่
วนอทยาน เขตรกษาพันธสัตว์ปา สวนพฤกษศาสตร ศูนย์ศกษาธรรมชาต เปนต้น
ุ
็
ุ
ึ
์
ิ
้
3. แหลงเรยนรูประเภทวัสดุและสถานที ได้แก่ อาคาร ส่งก่อสราง วัสด อปกรณ และส่งต่าง ๆ ท ี่
่
ุ
ิ
ุ
่
ี
์
ิ
้
็
่
้
ู
ึ
ิ
ึ
่
ประชาชนสามารถศกษาหาความรให้ได้มาซงค าตอบ หรอส่งทต้องการจากการเหน ได้ยิน สัมผัส เช่น
ี
ื
ี
ห้องสมด ศาสนสถาน ศูนย์การเรยน พิพิธภัณฑ์ สถานประกอบการ ตลาด นทรรศการ สถานททาง
ิ
ี่
ุ
์
ประวัตศาสตร ชมชนแห่งการเรยนรต่าง ๆ
ี
ิ
ู
้
ุ
้
ื
ิ
ี
ี
่
4. แหลงเรยนรูประเภทสอ ได้แก่ ส่งทท าหน้าทเปนสอกลางในการถ่ายทอดเน้อหา ความร ู ้
ี
ื
่
่
็
่
่
ื
้
ู
ิ
ี
สารสนเทศ ให้ถงกันโดยผ่านประสาทสัมผัส ได้แก่ หู ตา จมูก ล้น กาย และใจ แหล่งเรยนร ประเภทน้
ึ
ี
ิ
่
ู
็
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ู
ี
ื
ท าให้กระบวนการเรยนรเปนไปได้อย่างรวดเรว มประสทธภาพสง ทั้งสออเล็กทรอนกส สอส่งพิมพ์ สอ
ื่
็
่
ื
์
้
โสตทัศน์
่
ี
ิ
ึ
5. แหลงเรยนรูประเภทเทคนค ส่งประดษฐ์คดค้น ได้แก่ ส่งทแสดงถงความก้าวหน้าทาง
ิ
้
ี
ิ
ิ
ิ
่
่
ึ
ั
ิ
ี
ิ
ุ
ื
ี
้
ึ
ู
ุ
ี
นวัตกรรม เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ทได้มการประดษฐ์คดค้นหรอพัฒนาปรบปรงข้นมาให้มนษย์ได้ เรยนรถง
ิ
ความก้าวหน้า เกิดจนตนาการ แรงบันดาลใจ
ี
6. แหลงเรยนรูประเภทกิจกรรม ได้แก่ การปฏบัตการด้านประเพณวัฒนธรรม ตลอดจน การ
ิ
ิ
ี
่
้
ิ
ุ
ั
่
ิ
ื
่
ปฏบัตการความเคลอนไหวเพือแก้ปญหา และปรบปรงพัฒนาสภาพต่าง ๆ ในท้องถ่น การทมนษย์เข้าไปม ี
ิ
ี่
ุ
ั
ิ
ื
ส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรณรงค์ปองกันยาเสพตด การส่งเสรมการเลอกตั้ง ตามระบบ
้
ิ
ี
็
ประชาธปไตย การรณรงค์ความปลอดภัยของเดกและสตรในท้องถ่น
ิ
ิ
ื่
ี
้
เรองที่ 2 : แหลงเรยนรูประเภทหองสมุด
้
่
็
ึ
ู
ี่
่
ี
่
ุ
ห้องสมดเปนแหล่งเรยนรทส าคัญประเภทหนง ทจัดหา รวบรวมสรรพวิชาการต่าง ๆ ทเกิด ข้น
ึ
่
ี
ี
้
้
ี
ึ
ุ
จากทั่วโลกมาจัดระบบ และให้บรการแก่กล่มเปาหมายศกษาค้นคว้าอย่างต่อเนองตลอดชวิต
ิ
่
ื
ี
ุ
ุ
ุ
ื่
ั
ปจจบันมค าอน ๆ ทหน่วยงานต่าง ๆ ใช้ในความหมายของค าว่า ห้องสมด เช่น ห้องสมด และศูนย์
่
ี
ุ
ิ
็
สารสนเทศ ส านักบรรณาสารการพัฒนา ส านักบรรณสารสนเทศ ส านักหอสมด ส านักวิทยบรการ เปนต้น
ห้องสมดโดยทั่วไปแบ่งออกเปน 5 ประเภท ดังน้ ี
็
ุ
64
่
1. หอสมุดแหงชาติ
ุ
่
ื
ี่
็
ั
ุ
ี
นับเปนห้องสมดทใหญ่ทสดในประเทศ ด าเนนการโดยรฐบาล ท าหน้าทหลัก คอ รวบรวมหนังสอ
่
ิ
ื
ี
ิ
ุ
ึ
ื่
ิ
ู
ี
่
ุ
่
้
ส่งพิมพ์ และสอความร ทกอย่างทผลตข้นในประเทศ และ ทกอย่างทเกียวกับประเทศ ไม่ว่าจะจัดพิมพ์ใน
่
ี
ุ
ั
ิ
ั
็
็
ู
ิ
ื่
่
ประเทศใด ภาษาใด ทั้งน้เปนการอนรกษ์สอความร ซงเปนทรพย์สนทางปญญาของชาตมให้สญไป และให้
ึ
้
ู
ั
ิ
ี
ี
ิ
่
มไว้ใช้ในอนาคต นอกจากรวบรวมส่งพิมพ์ในประเทศแล้ว ก็มหน้าทรวบรวมหนังสอทมคณค่า ซงพิมพ์ใน
ื
ี
่
ุ
ี
ี
ี
ึ
่
็
ี่
ประเทศอนไว้เพื่อการค้นคว้าอ้างอง ตลอดจนท าหน้าท เปนศูนย์รวบรวมบรรณานกรมต่าง ๆ และจัดท า
ุ
ิ
ื่
ี
ื
ิ
่
ุ
ุ
ึ
บรรณานกรมแห่งชาตออกเผยแพร่ให้ทราบทั่วกันว่ามหนังสออะไรบ้างทผลตข้นในประเทศ หอสมดแห่งชาต ิ
ิ
ี
จงเปนแหล่งให้บรการทางความรแก่คนทั้งประเทศ ช่วยเหลอการค้นคว้า วิจัย ตอบค าถาม และให้ค าแนะน า
ึ
็
ู
ิ
้
ื
ึ
ื
่
ปรกษาเกียวกับหนังสอ
้
2. หองสมุดประชาชน
ั
ั
็
ื
ิ
ิ
ั
ุ
ห้องสมดประชาชนด าเนนการโดยรฐ อาจจะ เปนรฐบาลกลาง รฐบาลท้องถ่น หรอเทศบาล
ิ
ี่
็
ุ
ุ
แล้วแต่ระบบ การปกครอง ตามความหมายเดม ห้องสมดประชาชนเปน ห้องสมดทประชาชนต้องการให้ม ี
ุ
ื
ี
่
ั
ในชมชนหรอเมองทเขาอาศัยอยู่ ประชาชนจะสนับสนนโดยยินยอมให้รฐบาลจ่ายเงน รายได้จากภาษต่าง ๆ
ิ
ี
ุ
ื
ิ
ุ
ในการจัดตั้งและด าเนนการห้องสมด ประเภทน้ให้เปนบรการของรฐ จงมได้เรยกค่าตอบแทน เช่น ค่าบ ารง
ี
ิ
ึ
ิ
ุ
็
ี
ั
ื
ี
ี
ห้องสมด หรอค่าเช่าหนังสอ ทั้งน้เพราะถอว่าประชาชนได้บ ารงแล้ว โดยการเสยภาษรายได้ให้แก่ประเทศ
ื
ุ
ุ
ี
ื
หน้าทของห้องสมด ประชาชนก็คอ ให้บรการหนังสอและสออน ๆ เพื่อการศกษาตลอดชวิต บรการข่าวและ
ื่
ี่
ี
ื
ิ
ื
ื่
ุ
ิ
ึ
ู
เหตการณต่าง ๆ ทประชาชนควรทราบ ส่งเสรมนสัยรกการอ่านและการรจักใช้เวลาว่างให้เปนประโยชน
็
์
ิ
ั
์
ิ
ุ
ี่
้
ิ
ิ
ี
่
็
ให้ข่าวสาร ข้อมูลทจ าเปนต้องใช้ในการปฏบัตงานและการพัฒนาด้านต่าง ๆ
65
้
3. หองสมุดของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย
ึ
ี
่
็
ุ
ิ
ี
เปนห้องสมดทตั้งอยู่ในสถานศกษาระดับอดมศกษา ท าหน้าทส่งเสรมการเรยนการสอนตาม
ี
ุ
ึ
่
ื่
ู
ื
้
ื
ื่
ู
หลักสตร โดยการจัดรวบรวมหนังสอและสอความรอน ๆ ในหมวดวิชาต่าง ๆ ตามหลักสตรช่วยเหลอใน
ู
การค้นคว้าวิจัยของอาจารย์และนักศกษา ส่งเสรมพัฒนาการทางวิชาการของอาจารย์ และนักศกษา และช่วย
ึ
ิ
ึ
ึ
ื่
จัดท าบรรณานกรมและดรรชนส าหรบค้นหาเรองราวทต้องการแนะน านักศกษาในการใช้หนังสออ้างอง
ื
ี
ี่
ั
ิ
ุ
บัตรรายการและค่มอส าหรบการค้นเรอง
ู
ื
ั
ื
่
4. หองสมุดโรงเรยน
้
ี
่
ี
ี
ี
ึ
เปนห้องสมดทตั้งอยู่ในโรงเรยนมัธยมและโรงเรยนประถมศกษา มหน้าทส่งเสรมการเรยน
ี
ี
ี
่
็
ิ
ุ
ู
้
ู
ื
ื่
การสอนตามหลักสตร โดยการรวบรวมหนังสอและสอความรอน ๆ ตามรายวิชา แนะน า สอนการใช้
ื่
ื
ู
ู
้
้
่
ึ
ี
ี
ห้องสมดแก่ นักเรยน จัดกิจกรรมส่งเสรมนสัยรกการอ่าน แนะน าให้รจักหนังสอทควรอ่าน ให้รจักวิธศกษา
ั
ิ
ิ
ี
ุ
ั
ู
้
ิ
ื่
ิ
้
ู
ื
ุ
ค้นคว้าหาความรด้วยตนเอง ให้รจักรกและถนอมหนังสอ และเคารพสทธของผู้อนในการใช้ห้องสมดและ
ิ
่
ื
ึ
ุ
ื
ยืมหนังสอซงเปนสมบัตของทกคน ร่วมกัน ร่วมมอกับครอาจารย์ในการจัดชั่วโมงใช้ห้องสมด จัดหนังสอ
ุ
ู
็
ื
ื่
ื่
และสอการสอนอน ๆ ตามรายวิชาให้แก่ครอาจารย์
ู
5. หองสมุดเฉพาะ
้
่
ึ
่
็
็
ึ
ุ
ื
เปนห้องสมดซงรวบรวมหนังสอในสาขาวิชาบางสาขาโดยเฉพาะ มักเปนส่วนหนงของ
้
ู
ี่
หน่วยราชการ องค์การ บรษัทเอกชน หรอธนาคาร ท าหน้าทจัดหาหนังสอและให้บรการความร ข้อมูล และ
ื
ื
ิ
ิ
ี
่
่
ุ
ิ
ข่าวสารเฉพาะเรองทเกียวข้องกับการด าเนนงานของหน่วยงานนั้น ๆ ห้องสมดเฉพาะจะเน้น การรวบรวม
ื
่
่
รายงานการค้นคว้าวิจัย วารสารทางวิชาการ และเอกสารเฉพาะเรองทผลตเพือการใช้ในกล่มนักวิชาการ
ุ
ื่
ี่
ิ
66
่
ุ
บรการของห้องสมดเฉพาะ จัดพิมพ์ข่าวสารเกียวกับส่งพิมพ์เฉพาะเรองส่งให้ถงผู้ใช้ จัดส่งเอกสารและเรอง
ื
ึ
ื
่
ิ
ิ
่
็
ึ
่
ุ
ื
ย่อของเอกสารเฉพาะเรองให้ถงผู้ใช้ตามความสนใจเปนรายบคคล
ื
ิ
่
ื
ี
ในปจจบันน้ เนองจากการผลตหนังสอและส่งพิมพ์อน ๆ โดยเฉพาะวารสารทางวิชาการ รายงาน
ั
ุ
ื
ิ
่
ุ
การวิจัย และรายงานการประชมทางวิชาการมปรมาณเพิ่มข้นมากมาย แต่ละสาขาวิชา แยกย่อยเปน
็
ิ
ึ
ี
่
ึ
ี
ึ
ี
ี
ึ
รายละเอยดลกซ้ ึง จงยากทห้องสมดแห่งใดแห่งหนงจะรวบรวมเอกสารเหล่าน้ได้หมดทกอย่าง และ
ุ
่
ุ
ื
ึ
ิ
ิ
ื่
ี
ุ
ิ
ให้บรการได้ทกอย่างครบถ้วน จงเกิดมหน่วยงานด าเนนการเฉพาะเรอง เช่น รวบรวม หนังสอและส่งพิมพ์
์
อน ๆ เฉพาะสาขาวิชาย่อย วิเคราะหเน้อหา จัดท าเรองย่อ และดรรชนค้นเรองนั้น ๆ แล้วพิมพ์ออกเผยแพร่
ี
่
ื
ื
ื่
่
ื
ื
ี
ี
่
ึ
ี
่
ให้ถงตัวผู้ต้องการเรองราวข่าวสารและข้อมูล ตลอดจนเอกสารในเรองนั้น หน่วยงานทท าหน้าทประเภทน้
่
่
ื
จะมชอเรยกว่า ศูนย์เอกสาร ศูนย์สารสนเทศ ศูนย์ข่าวสาร หรอศูนย์สารนเทศ เช่น ศูนย์เอกสารการวิจัยทาง
ื
ี
ื่
ิ
ี
่
็
็
็
วิทยาศาสตร ศูนย์ข่าวสารการประมง เปนต้น ศูนย์เหล่าน้บางศูนย์เปนเอกเทศ บางศูนย์ก็เปนส่วนหนงของ
ี
์
ึ
ุ
ึ
ี
็
ห้องสมด บางศูนย์ก็เปนส่วนหนงของ หน่วยงานเช่นเดยวกับห้องสมดเฉพาะ
ุ
่
หองสมุดประชาชน
้
่
ี
ุ
ื่
ุ
ี่
็
ิ
ในทน้จะกล่าวถงห้องสมดประชาชนเปนหลัก เนองจากเปนห้องสมดทให้บรการในทกอ าเภอ
ุ
ี
็
ึ
ุ
ื
ุ
ิ
่
ึ
และใน กทม.บางเขต หรอให้บรการประชาชนทั่วไป และอยู่ในชมชนใกล้ตัวนักศกษามากทสด
ี
ี่
ุ
ึ
ห้องสมดประชาชน หมายถง สถานทจัดหา รวบรวมทรพยากรสารสนเทศ เพื่อการอ่าน และ
ั
ิ
ุ
การศกษาค้นคว้าทกชนด ทกประเภท มการจัดระบบหมวดหมู่ตามหลักสากล เพื่อการบรการ และจัดบรการ
ี
ิ
ิ
ุ
ึ
อย่างกว้างขวางแก่ประชาชนในชมชน สังคม โดยไม่จ ากัดเพศ วัย ความร เช้อชาต ศาสนา รวมทั้งการจัด
ู
ุ
้
ื
ิ
ี
ิ
็
กิจกรรมส่งเสรมการอ่าน โดยมบรรณารกษ์เปนผู้อ านวยความสะดวก
ั
ห้องสมดประชาชนด าเนนการโดยหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ ส านักงาน กศน. (ห้องสมด ประชาชน
ุ
ิ
ุ
ุ
ุ
ุ
ทั่วประเทศ) กรงเทพมหานคร (ห้องสมดประชาชนในเขต กทม.) เทศบาล (ห้องสมด ประชาชนเทศบาล)
็
เปนต้น
ประเภทของหองสมุดประชาชน (สังกัดส านักงาน กศน.)
้
็
ห้องสมดประชาชน แบ่งตามขนาดได้เปน 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังน้ ี
ุ
ุ
1. ห้องสมดประชาชนขนาดใหญ่ ได้แก่ ห้องสมดประชาชนจังหวัด ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขต
ุ
่
ี
ื
็
อ าเภอเมอง และหอสมดรชมังคลาภเษกพระราชวังไกลกังวล หัวหน ซงมลักษณะอาคารส่วนใหญ่ เปน 2
ิ
ิ
ึ
ุ
ั
ื
็
่
ิ
ื
่
ชั้น ชั้นบนจัดบรการหนังสอ เอกสาร และสอเกียวกับการศกษาตามหลักสตรระดับต่าง ๆ โดยจัดเปนห้อง
ึ
ู
ึ
ิ
ี
ื
ุ
ื
การศกษานอกโรงเรยนและห้องโสตทัศนศกษา ห้องหรอมมหนังสอมหาวิทยาลัยสโขทัยธรรมาธราช
ึ
ุ
็
ื
ุ
ื
ุ
มหาวิทยาลัยรามค าแหง และห้องหรอมมศูนย์ข้อมูลชมชนท้องถ่น เปนต้น ส่วนชั้นล่างจัดเปนชั้นหนังสอ
็
ิ
้
ิ
ู
ื่
ื่
ี
ิ
ื
ั
ื
และบรการหนังสอ เอกสาร สอความรทางวิชาการ สารคดโดยทั่วไป และจัดบรการหนังสอส าหรบเด็ก สอ
ุ
ั
็
ั
ส าหรบเด็ก เยาวชน มมจัดกิจกรรมส าหรบเดก
67
ี
ุ
ุ
ิ
2. ห้องสมดประชาชนขนาดกลาง ได้แก่ ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” ลักษณะ อาคาร
็
็
ี
ู
ื
ุ
ิ
่
เปน 2 ชั้น มรปแบบอาคารเหมอนกันเกือบทกแห่ง ชั้นบนจัดเปนห้องศูนย์ข้อมูลท้องถ่นบรการ เกียวกับ
ิ
ึ
ุ
ุ
ู
ี
้
ึ
ู
ู
ิ
ี
ื่
ข้อมูลชมชน ห้องการศกษานอกโรงเรย บรการสอความรหลักสตรการศกษานอกโรงเรยน ทกหลักสตร
ึ
ุ
ี่
ี
ุ
่
ทกประเภท ตลอดจนห้องโสตทัศนศกษาและห้องการศกษาดาวเทยมไทยคม และห้องส าคัญทสดห้องหนง
ึ
ึ
ิ
ิ
ี
ิ
่
ิ
คอ ห้องเฉลมพระเกียรตฯ จัดบรการข้อมูลเกียวกับพระราชประวัต พระราชกรณยกิจ โครงการใน
ื
ี
ิ
ิ
ื
์
ุ
พระราชด าร หนังสอพระราชนพนธของสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร และพระ
ั
่
ิ
ื
็
ื
็
ราชวงศ์ทเกียวข้อง เปนต้น ‘ชั้นล่างจัดบรการมมเดกซงประกอบด้วยสอความรส าหรบเดก เครองเล่นพัฒนา
่
ุ
ี
่
ั
้
ึ
่
่
ู
็
็
้
ุ
ู
ื่
่
ื่
้
ื
ั
ี
ความพรอม สอความรทกประเภท รวมทั้งเปนทจัดกิจกรรมส าหรบเดก และจัดสอ เอกสารหนังสอวิชาการ
็
ี
สารคด ความรทั่วไปส าหรบผู้ใหญ่ ประชาชนทั่วไป
ั
ู
้
ี่
ุ
ิ
ุ
ุ
ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” เปนห้องสมดทได้พระราชทานพระราชานญาตจาก สมเด็จ
็
ี
ุ
ี
ั
ี่
ี
พระเทพรตนราชสดา สยามบรมราชกุมาร ในวโรกาสททรงมพระชนมายุครบ 36 พรรษา และพระองค์ทรง
ุ
ิ
ี
เสด็จเปดห้องสมดประชาชน เฉลมราชกุมาร” ทกแห่งด้วยพระองค์เอง
ิ
ุ
ื
ุ
ุ
ิ
3. ห้องสมดประชาชนขนาดเล็ก ได้แก ห้องสมดประชาชนอ าเภอทั่วไป จัดบรการหนังสอ และ
ั
ุ
ู
ุ
ุ
ึ
้
ี
ื
สอความรประเภทต่าง ๆ จัดมมเด็กและครอบครว มมวารสารหนังสอพิมพ์ มมการศกษานอก โรงเรยนและ
่
ื
ี
ื
็
ิ
หนังสอวิชาการ สารคดทั่วไ รวมทั้งหนังสออ้างอง เปนต้น
ื
ความสาคัญของหองสมุดประชาชน
้
ุ
ี
ห้องสมดประชาชนมความส าคัญเปนอย่างมากต่อการพัฒนาคนในชมชน และของประเทศ ในทก
ุ
ุ
็
ด้าน ดังน้ ี
ิ
ี่
์
1. เปนแหล่งกลางในการจัดหารวบรวม และบรการข้อมูลข่าวสารส าคัญททันเหตการณ และ
็
ุ
ิ
ี
่
์
ู
ื
่
ความเคลอนไหวของโลกทปรากฏในรปลักษณต่าง ๆ มาไว้บรการแก่ประชาชน
2. เปนแหล่งเรยนรการศกษาตามอัธยาศัยทให้พื้นฐานความคดของประชาชนโดย ส่วนรวมและ
ึ
ี
็
ู
ิ
้
ี
่
ั
เปนพื้นฐานความเตบโตทางสตปญญาและวัฒนธรรมอย่างต่อเนองตลอดชวิต
็
ิ
ิ
ี
ื
่
3 เปนศูนย์ข้อมูลชมชนในการส่งเสรมกิจกรรมด้านการศกษาและวัฒนธรรมของชมชน
ึ
ุ
ุ
็
ิ
ู
ั
้
ี
ู
็
ึ
ี
ิ
ั
4. เปนแหล่งกลางทจะปลกฝงให้ประชาชนมนสัยรกการอ่าน การศกษาค้นคว้าหาความร การ
่
ศกษาวิจัย
ึ
ื
่
5. เปนแหล่งทประชาชนสามารถใช้หนังสอ สอความรต่าง ๆ ให้เปนประโยชนอย่างเต็มท ตาม
์
ี
็
้
็
ื
่
่
ี
ู
ความต้องการและสภาพแวดล้อมของประชาชน
ิ
ิ
ุ
ื่
ู
็
์
้
ู
6. เปนแหล่งสนับสนนการเผยแพร่ความร ความคด ทัศนคต ประสบการณในรปแบบของสอ
ต่าง ๆ
ี
่
7. เปนแหล่งการเรยนรทเชอมโยงการศกษานอกระบบ การศกษาในระบบ และเชอมโยง แหล่ง
ื
่
ึ
ึ
ื่
็
ี
้
ู
้
ี
เรยนรต่าง ๆ
ู
68
ิ
้
1. การบรการภายในหองสมุด
ุ
ุ
ิ
ห้องสมดประชาชนทกประเภทจะจัดบรการภายในห้องสมดตามความเหมาะสมของแต่ละ
ุ
ห้องสมด และการสนองตอบความต้องการของผู้รบบรการ ดังน้ ี
ั
ิ
ุ
ิ
ึ
ู
ี
ิ
็
่
่
ื
่
ี
1.1 บรการการอ่าน การศกษาค้นคว้า จัดสอต่าง ๆ ในพื้นททถกจัดเปนสัดส่วน และส่งอ านวย
ความสะดวกต่าง ๆ
ิ
่
1.2 บรการสบค้นด้วยคอมพิวเตอร เพื่อการเข้าถงสารสนเทศทต้องการได้อย่างรวดเรว ด้วย
ื
ึ
็
์
ี
โปรแกรม PLS (Public Library Service) โดยจัดบรการเครองคอมพิวเตอรเพื่อการสบค้นและ แนะน าการใช้
ื่
ิ
ื
์
ื
ุ
ิ
1.3 บรการสบค้นด้วยตู้บัตรรายการ โดยสารสนเทศทกประเภท ทกชนด จะถกจัดท ารายการ ค้น
ุ
ู
ิ
ื่
ี
ื
็
เปนบัตรรายการ จัดเรยงไว้ในตู้บัตรรายการ แยกประเภทเปนบัตรผู้แต่ง บัตรชอหนังสอ และบัตรเรอง
็
ื่
ี
รวมทั้งบัตรดรรชนต่าง ๆ ไว้บรการ
ิ
ื
ื
ิ
1.4 บรการยืม - คน หนังสอ - สอความรต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บรการยืมอ่านนอกห้องสมด โดยแต่ละ
ุ
้
ื
่
ู
ิ
แห่งจะก าหนด กฎ ระเบยบ ข้อบังคับ ฯลฯ ตามความเหมาะสมของแต่ละห้องสมด และมการใช้ระบบ
ี
ี
ุ
ี่
เทคโนโลยีในการบรการทรวดเรว
ิ
็
ึ
1.5 การบรการแนะแนวการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัย แก่นักศกษา และ
ึ
ึ
ิ
ประชาชนผู้สนใจทั่วไป
ื่
ุ
ิ
1.6 บรการสอเอกสารของสถาบันอดมศกษา ทั้งของมหาวิทยาลัยรามค าแหง มหาวิทยาลัย
ึ
ิ
ุ
สโขทัยธรรมาธราช
ิ
ื
1.7 บรการข้อมูลสารสนเทศและเอกสารงานวิจัยต่าง ๆ รวมทั้งหนังสออ้างอง
ิ
ิ
ิ
ู
์
ี
้
ิ
์
1.8 บรการการเรยนรการใช้คอมพิวเตอรโปรแกรมต่าง ๆ อนเทอรเนต สออเล็กทรอนกสต่าง ๆ
็
ื
่
ิ
์
ู
ี
้
ิ
ิ
่
1.9 บรการสถานทจัดกิจกรรมเสรมความรต่าง ๆ
ิ
้
ึ
1.10 บรการแนะน าให้ความรแก่นักเรยน นักศกษา สถาบันต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนในการรจักใช้
ู
้
ี
ู
ห้องสมดประชาชน
ุ
ั
ั
1.11 บรการแนะน าทางบรรณารกษศาสตรแก่บคลากรเครอข่ายในการจัด ปรบปรง พัฒนา แหล่ง
ุ
ุ
ิ
ื
์
ิ
้
ู
ุ
เรยนรห้องสมดของท้องถ่น
ี
์
ี
1.12 บรการฝกประสบการณการปฏบัตงานห้องสมดแก่นักเรยน นักศกษา สถาบันต่าง ๆ
ึ
ิ
ึ
ิ
ิ
ุ
ิ
้
2. การบรการภายนอกหองสมุด
2.1 บรการห้องสมดเคลอนทกับหน่วยงานองค์กรท้องถ่น
ุ
ิ
่
ิ
ี
่
ื
่
ื
2.2 บรการหมนเวียนสอในรปแบบต่าง ๆ ไปยังศูนย์การเรยน แหล่งความร ครอบครว ฯลฯ
ู
ิ
ั
ุ
ี
ู
้
ทอยู่ห่างไกลห้องสมด ในรปแบบต่าง ๆ เช่น เป ย่าม หบ กระเปา ฯลฯ
ี
๋
้
ู
ุ
่
ี
ี
ิ
้
ู
ิ
2.3 บรการความรทางสถานวิทยุ โทรทัศน์ หอกระจายข่าว เสยงตามสาย แผ่นพับ แผ่นปลว ฯลฯ
ี
ี
้
ื
่
2.4 บรการสอต่าง ๆ แก่บคลากร กศน. ทั้งคร วิทยากร นักศกษากล่มการเรยนรต่าง ๆ
ู
ู
ุ
ึ
ุ
ิ
69
เรองที่ 3 : ทักษะการเขาถึงสารเทศของหองสมุดประชาชน
ื่
้
้
ุ
ุ
ี
ั
ปจจบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ช่วยลดขั้นตอนการหาข้อมูลของห้องสมดประชาชน ผู้เรยน
็
ิ
์
ี
ี
ิ
ิ
่
ุ
่
ี
สามารถค้นหาได้จากอนเทอรเนตว่ามห้องสมดประชาชนทใดบ้าง สถานทตั้ง เวลาเปด - ปด หมายเลข
ุ
ึ
ิ
่
โทรศัพท์ กิจกรรมทให้บรการ ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกและสามารถเข้าถงห้องสมดได้ง่าย
ี
ุ
ุ
ุ
ุ
ห้องสมดทกประเภททกชนดจะมการจัดระบบหมวดหมู่ของสารสนเทศ โดยมวัตถประสงค์ส าคัญ
ี
ิ
ี
ึ
ิ
เพือให้ประชาชนเข้าถงส่งทต้องการสนใจได้ง่าย สะดวกรวดเรว และสะดวกในการบรหารจัดการห้องสมด
่
ี
ุ
ิ
่
็
เพือการบรการกล่มเปาหมายในระยะยาว
้
ิ
ุ
่
ี
ระบบหมวดหมู่ทห้องสมดน ามาใช้จะเปนระบบสากลททั่วโลกใช้ และเหมาะกับกล่มเปาหมาย
็
ี
่
้
ุ
่
ุ
็
ิ
ี
ึ
เข้าถงได้ง่าย ระบบทนยมใช้ในประเทศไทยเปนส่วนใหญ่ มี 2 ระบบ ได้แก่ ระบบทศนยม ของดวอ้ ซงใช้
ิ
่
ึ
ิ
ี
่
ุ
์
ึ
ิ
ตัวเลขอารบกเปนสัญลักษณ แทนหมวดหมู่สารสนเทศ นยมใช้ในห้องสมดประชาชน กับอกระบบหนง
ี
่
็
ิ
ิ
ได้แก่ ระบบรฐสภาอเมรกัน ใช้อักษรโรมัน (A - Z) เปนสัญลักษณ นยมใช้ในห้องสมดมหาวิทยาลัย
ุ
์
็
ั
ิ
็
ระบบทศนยมของดวอ้ แบ่งความรในโลกออกเปนหมวดหมู่จากหมวดใหญ่ไปหาหมวดย่อย จาก
ู
้
ิ
ี
ิ
็
หมวดย่อยแบ่งเปนหมู่ย่อย และหมู่ย่อยๆ โดยใช้เลขอารบก 0 - 9 เปนสัญลักษณ ดังน้ ี
์
็
ิ
้
000 สารวิทยาความรเบ็ดเตล็ดทั่วไป
ู
่
่
ี
ั
100 ปรชญาและวิชาทเกียวข้อง
200 ศาสนา
300 สังคมศาสตร ์
400 ภาษาศาสตร ์
500 วิทยาศาสตร (วิทยาศาสตรบรสทธ์)
ิ
์
ุ
ิ
์
์
600 เทคโนโลยี (วิทยาศาสตรประยุกต์)
ิ
700 ศลปกรรมและการบันเทง
ิ
800 วรรณคด ี
์
900 ภูมศาสตรและประวัตศาสตร ์
ิ
ิ
ระบบรฐสภาอเมรกา (Library of Congress Classification)
ิ
ั
ิ
ุ
ั
ห้องสมดมหาวิทยาลัยในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้ระบบหอสมดรฐสภาอเมรกัน ซงปรบปรง และ
่
ึ
ั
ุ
ุ
ิ
์
ื่
พัฒนาโดย เฮอรเบรด พัทนัม (Herbirt Putnum) เมอป พ.ศ. 2445
ี
์
ระบบหอสมดรฐสภาอเมรกันแบ่งหมวดหมู่วิชาออกเปน 20 หมวด ใช้อักษรโรมันตัวใหญ่
็
ิ
ุ
ั
A - Z ยกเว้นตัวอักษร I, O, W, X, Y เพือส าหรบการขยายหมวดหมู่วิชาการใหม่ ๆ ในอนาคต
ั
่
ื
็
ิ
ุ
ตารางการแบ่งหมวดหมู่หนังสอระบบหอสมดอเมรกัน แบ่งหมวดหมู่วิชาการเปน 20 หมวดใหญ่
ดังน้ ี
70
้
ู
1. หมวด A : ความรทั่วไป
2. หมวด B : ปรชญา ศาสนา
ั
ิ
3. หมวด C : ประวัตศาสตร ์
์
4. หมวด D : ประวัตศาสตรสากล
ิ
์
ิ
ิ
5. หมวด E-F : ประวัตศาสตรอเมรกา
ิ
6. หมวด G : ภูมศาสตร มานษยวิทยา คตชนวิทยา
์
ุ
ิ
7. หมวด H : สังคมศาสตร ์
ั
8. หมวด J : รฐศาสตร ์
9. หมวด K : กฎหมาย
10. หมวด L : การศกษา
ึ
11. หมวด M : ดนตร ี
ิ
12. หมวด N : ศลปกรรม
13. หมวด P : ภาษาและวรรณคด ี
14. หมวด Q : วิทยาศาสตร ์
15. หมวด R : แพทยศาสตร ์
16. หมวด S : เกษตรศาสตร ์
17. หมวด T : เทคโนโลยี
18. หมวด U : วิชาการทหาร
19. หมวด V : นาวิกศาสตร ์
20. หมวด Z : บรรณารกษศาสตร ์
ั
ส าหรบห้องสมดประชาชนซงผู้ใช้บรการเปนประชาชนทั่วไป การจัดหมวดหมู่หนังสอ นอกจาก
ุ
็
ิ
ื
ึ
่
ั
ื
่
่
ระบบดังกล่าวแล้ว ยังมชอหมวดหนังสอและสอเพือเพิ่มความสะดวกในการค้นหา เช่น นวนยาย เรองสั้น
ิ
ื
ี
่
ื
่
ื
์
สารคด ประวัตศาสตร วิทยาศาสตร กีฬา นันทนาการ เปนต้น
็
ิ
ี
์
้
้
การเขาถึงสารสนเทศหองสมุดประชาชน
ุ
ห้องสมดประชาชนมหลากหลายสังกัด เช่น สังกัดส านักงาน กศน. สังกัดกรงเทพมหานคร สังกัด
ี
ุ
เทศบาล การจัดระบบการสบค้นห้องสมดประชาชนได้อ านวยความสะดวกในการสบค้นสาร สนเทศ ดังน้ ี
ื
ุ
ื
ุ
ื
ั
1. การใช้โปรแกรมเพื่อการสบค้น ในยุคปจจบัน ส านักงาน กศน. ได้พัฒนาโปรแกรม เพื่อ
ิ
ิ
บรหารจัดการงานห้องสมดให้ครบวงจร เช่น ข้อมูลหนังสอ สอ ข้อมูล สมาชก ข้อมูลอน ๆ ดังนั้น หาก
ื่
ื่
ื
ุ
ื
ุ
ผูใชบรการต้องการรว่ามหนังสอหรอสอทต้องการในห้องสมดแห่งนั้นหรอไม่ ก็สามารถค้นหาได้ด้วย
ื
่
่
ื
้
ื
ู
ี
้
้
ี
ิ
ื
ุ
ี
่
์
โปรแกรมดังกล่าว ซงห้องสมดจะมคอมพิวเตอรให้สบค้นได้ด้วยตนเอง โดยพิมพ์ค าทเกียวข้องกับหนังสอ
ื
่
ี
่
ึ
71
ี
ู
้
์
ิ
ี
ี
เช่น ประวัตศาสตร สัตว์เล้ยงลกด้วยนม การศกษา โลกรอน ฯลฯ ส่วนรายละเอยดวิธการใช้โปรแกรม
ึ
สามารถศกษาได้จากห้องสมดประชาชนแห่งนั้น
ุ
ึ
ื
2. การสบค้นข้อมูลสารสนเทศด้วยบัตรรายการ
ห้องสมดประชาชนบางแห่งอาจยังจัดบรการสบค้นด้วยบัตรรายการ ซงมลักษณะเปนบัตร
ุ
ิ
ื
็
่
ี
ึ
ิ
แข็ง เก็บไว้ในล้นชักในต้บัตรรายการ
ู
ตัวอยางลักษณะของบัตรรายการ
่
ี
เลขเรยกหนังสือ ชอผูแต่ง ชอหนังสือ
ื่
้
ื่
์
ิ
636.53 วรวิทย์ วณชาภชาต ิ ส ำนักพิมพ/
ิ
ว 2812 ไข่และการฟกไข่ วรวิทย์ วณชาภชาต ิ โรงพิมพ ์
ิ
ิ
ั
ี
ั
ี
่
ั
ุ
พิมพ์คร้งท 3. กรงเทพฯ ร้วเขยว 2531.
จังหวัด/ ปที่พิมพ ์
ี
ิ
เมืองที่พมพ ์ 240 หน้า ภาพประกอบ : 25 ซ.ม.
ื
“หนังสอน้ได้รบทนอดหนนการแต่งต าราและเอกสาร
ั
ุ
ี
ุ
ุ
ั
ิ
้
จำนวนหนำ การสอนของคณะทรพยากรธรรมชาต มหาวิทยาลัยสงขลา
์
ิ
ของหนังสือ นครนทร”
ISBN 974-605-041-9
ื่
ื่
1. ไข่ 2. ชอเรอง
เรอง/หัวเรอง
ื่
ื่
่
ื
ี
ื
ี่
่
บัตรรายการหนังสอทปรากฏข้างบน จะมชอผู้แต่งอยู่บรรทัดบนสด มชอเรยกว่า บัตรผู้แต่ง
ี
ื
ี
ุ
กิจกรรม
ู
็
ใหคร กศน. รวมกลุมผูเรยน แบงเปนกลุมละประมาณ 10 คน ไปหอง สมุดประชาชน โดย
้
้
่
้
ี
่
่
่
ี
่
้
้
์
้
ั
้
้
ประสานงานกับบรรณารกษใหแนะน าหองสมุด การใชหองสมุดแหลงสารสนเทศ และใหผูเรยนแขงขันการ
้
้
ื
หาหนังสอจากโปรแกรมหองสมุด หรอจากตูบัตรรายการ ใหผูแขงขันหยบหนังสอตาม รายการทคนใหได ้
้
้
ื
ี่
ื
้
้
่
้
ิ
จากชนหนังสออยางรวดเร และใหแตละกลุมจดท ารายงานสงครู
่
ั
ั้
่
่
็
้
่
ื
72
เรองที่ 4 : การใชแหลงเรยนรูสาคัญๆ ภายในประเทศ
ี
้
่
้
ื่
้
ี
หองสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”
ในโอกาสม่งมงคลสมัยทสมเดจพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ทรงเจรญพระชนมายุ
็
ี
่
ี
ิ
ุ
ั
ิ
ั
ึ
ิ
36 พรรษา เมอปพุทธศักราช 2534 กระทรวงศกษาธการได้รบพระราชทานพระราชานญาต ให้ด าเนน
ื่
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
ิ
ี
่
โครงการจัดตั้งห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” เพือเฉลมพระเกียรต และเพื่อสนอง แนวทาง
ิ
ิ
ี
่
พระราชด ารในการส่งเสรมการศกษาส าหรบประชาชนทได้ทรงแสดงในโอกาสต่าง ๆ เช่น
ั
ิ
ึ
ุ
ในโอกาสททรงมพระมหากรณาธคณเสด็จเปนองค์ประธานในการประชมสมัชชาสากล ว่าด้วย
็
ิ
ี
ุ
ุ
ี่
ิ
ื่
ี่
การศกษาผู้ใหญ่ เมอวันท 12 มกราคม 2533 ได้ทรงพระราชทานลายพระหัตถ์เชญชวนให้
ึ
“ร่วมกันท าให้ชาวโลกอ่านออกเขยนได้”
ี
ิ
ุ
และในบทพระราชนพนธเรอง “ห้องสมดในทัศนะของข้าพเจ้า” ได้ทรงกล่าวว่า
์
ื่
่
ิ
ี
“...ความรของมนษย์เปนมรดกทตกทอดกันมาแต่โบราณ เมอมการประดษฐ์คดค้นอักษรข้น ผู้ม ี
็
ึ
ี
ุ
ื่
ู
ิ
้
้
ความรก็ได้บันทกความรของตน ส่งทตนค้นพบเปนการจารก หรอเปนหนังสอท าให้บคคลอนในสมัย
ู
็
้
ื่
ุ
ึ
ึ
ื
ิ
ี
่
็
ู
ื
ุ
ึ
ุ
ู
ื
็
ี
้
ึ
ื
ี่
ี
่
เดยวกัน หรออนชนร่นหลังได้มโอกาสศกษาทราบถงเรองนั้น ๆ และได้ใช้ความรเก่า ๆ เปนพื้นฐาน ทจะหา
ี
็
ิ
ประสบการณคดค้นส่งใหม่ ๆ ทเปนความก้าวหน้าเปนความเจรญสบต่อไป...
ิ
็
์
่
ิ
ื
็
ู
ห้องสมดเปนสถานทเก็บเอกสารต่าง ๆ อันเปนแหล่งความรดังกล่าว แล้วจงเรยกได้ว่า เปนคร
้
็
ี
ึ
ุ
็
่
ู
ี
ิ
ู
้
ู
้
เปนผู้ช้น าให้เรามปญญาวิเคราะหวิจารณให้รส่งควรรอันชอบด้วยเหตผลได้
ั
ี
ี
ุ
์
็
์
ข้าพเจ้าอยากให้เรามห้องสมดทด มหนังสอครบทกประเภทส าหรบประชาชน...”
ั
ื
ี
ี
ุ
ุ
ี
ี่
ี
ี
ิ
่
ั
ุ
ด้วยความจงรกภักดและความม่งมั่นศรทธาทจะร่วมสนองแนวทางพระราชด ารในการส่งเสรม
ิ
ั
ี
ึ
่
ี
ี
ั
โอกาสทางการศกษา ภายในป 2533 และ 2534 ได้มประชาชนในแต่ละพื้นท หน่วยงาน ภาครฐและ
ิ
ุ
ึ
ุ
ภาคเอกชนให้ความสนับสนนกระทรวงศกษาธการจัดตั้งห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” จ านวน 59
ี
ิ
ื
่
ี
ี
้
ี
่
แห่ง ในพื้นท 47 จังหวัด เกินเปาหมายทก าหนดไว้เดม 37 แห่ง และนับเนองจากนั้น ยังมข้อเสนอจากจังหวัด
่
ิ
ุ
ี
ิ
ั
ุ
ต่างๆ ขอเข้าร่วมโครงการเพิ่มเตมจวบจนปจจบันมห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” จ านวน 82 แห่ง
ี
ิ
ิ
ี
ู
้
(ข้อมูลจากสถาบันพัฒนาวัตกรรมการเรยนร ส านักงาน กศน. พฤศจกายน 2553)
บทบาทหนาที่
้
ึ
ึ
็
้
1. ศูนยขาวสารขอมูลของชุมชน หมายถง การจัดห้องสมดให้เปนแหล่งศกษาหาความร ค้นคว้า
ู
ุ
่
์
้
วิจัย โดยมการจัดบรการหนังสอ เอกสารส่งพิมพ์ สอโสตทัศน์ ตลอดจนการจัดท าท าเนยบ และการแนะแนว
ิ
ิ
ื
ี
ี
ื่
่
้
ู
ื
ึ
ิ
ิ
ี่
แหล่งความรอนๆ ทผู้ใช้บรการสามารถไปศกษาเพิ่มเตม
ึ
็
ิ
ุ
2. ศูนยสงเสรมการเรยนรูของชุมชน หมายถง การเปนแหล่งส่งเสรม สนับสนน และจัด
่
์
ิ
้
ี
กิจกรรมการเรยนรทหลากหลาย โดยห้องสมดอาจด าเนนการเอง หรอประสานงานอ านวยความสะดวก ให้
ี
่
้
ิ
ุ
ื
ี
ู
ิ
ชมชน หรอหน่วยงานภายนอกมาจัดด าเนนการ
ื
ุ
73
้
ู
ี
ึ
ิ
ี
่
กิจกรรมการเรยนรทจัดข้นจะให้ความส าคัญแก่การจัดกิจกรรมส่งเสรมการอ่าน การแนะแนว
ึ
การศกษา และการพัฒนาอาชพ การสนับสนนการเรยนรด้วยตนเอง การจัดการศกษานอกโรงเรยน
ี
้
ู
ี
ี
ุ
ึ
ี
สายสามัญ การจัดกล่มสนใจและชั้นเรยนวิชาชพ การส่งเสรมการศกษาตามอัธยาศัยในรปของนทรรศการ
ุ
ิ
ึ
ี
ู
ิ
ิ
ุ
ี
้
้
ั
การอภปรายการเรยนรระหว่างสมาชกในครอบครว การถ่ายทอดความรจากผู้รในชมชน และการแสดง
ู
ู
ิ
ู
้
์
ภาพยนตรและสอโสตทัศน์
ื่
3. ศูนยกลางจดกิจกรรมของชุมชน หมายถง การให้บรการแก่ชมชนในการจัดกิจกรรม
ุ
ั
ึ
์
ิ
ุ
ิ
ิ
ึ
ิ
การศกษาและศลปวัฒนธรรม เช่น การประชมขององค์กรท้องถ่นและชมรมต่าง ๆ การจัดนทรรศการ
ิ
การแสดงผลตภัณฑ์ การจัดกิจกรรมวันส าคัญตามประเพณ การจัดสวนสขภาพ สนามเดกเล่น และ
ี
็
ุ
็
สวนสาธารณะ เปนต้น
ี
่
4. ศูนยกลางสนบสนุนเครอขายการเรยนรูในชุมชน หมายถง การจัดให้เกิดกระบวนการทจะเชอม
ี
ั
ึ
่
้
ื
่
์
ื
ประสานระหว่างห้องสมดและแหล่งความรในชมชนอนๆ เช่นทอ่านหนังสอประจ าหมู่บ้าน สถานศกษา
ุ
ุ
ึ
ื
ี
่
้
ู
ื่
ิ
ื
ิ
ั
ู
ิ
ุ
ิ
แหล่งประกอบการ ภมปญญาท้องถ่น ด้วยการผลตและเผยแพร่เอกสารส่งพิมพ์ไปสนับสนน เวียนหนังสอ
ี
ู
้
้
จัดท าท าเนยบผู้รในชมชน จัดกิจกรรมเพือให้เกิดการแลกเปลยนเรยนรระหว่างชมชน เปนต้น
ู
ี
ี
่
็
่
ุ
ุ
อาคารหองสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”
้
ี
ี
็
ื
ี
่
่
ี
้
ี
ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” ทจัดสรางข้นในร่นแรกจะเปนอาคาร 2 ชั้น มเน้อท
ุ
ิ
ึ
ุ
ึ
ิ
ใช้สอยประมาณ 320 ตารางเมตร และมรปทรงทคล้ายคลงกัน จะต่างกันเฉพาะบรเวณหลังคาและจั่ว
ี
ู
่
ี
็
ิ
ี
ี
ทั้งน้เปนไปตามมตของคณะกรรมการอ านวยการโครงการทก าหนดให้ห้องสมด มทั้งเอกลักษณะเฉพาะของ
ี
ุ
่
ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” และในขณะเดยวกันให้มเอกลักษณเฉพาะภาค
์
ี
ี
ี
ิ
ุ
74
ี
ี
ี
ุ
้
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” อ. ศรมโหสถ จ.ปราจนบร ี
ุ
ุ
75
ี
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” นครราชสมา
้
ุ
ี
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” ราชบร ี
ี
ุ
ุ
้
ุ
76
้
ี
ุ
ุ
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” สมทรสาคร
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” สกลนคร
้
ุ
ี
77
ุ
์
ุ
ี
ุ
้
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” อ.ดอนเจดีย จ.สพรรณบร
ี
ุ
ุ
ี
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร”
้
ุ
อ.สตหีบ จ.ชลบร ี
ั
ุ
78
ุ
้
ุ
ี
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” จ.นครปฐม
ี
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร” อ.เสนา จ.พระนครศรอยุธยา
้
ี
ุ
79
ี
ุ
้
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร”
อ.วิเศษชยชาญ จ.อางทอง
่
ั
ี
ุ
หองสมดประชาชน “เฉลิมราชกมาร”
ุ
้
ื
อ.รอเสาะ จ.นราธิวาส
80
้
ี
ิ
การบรการของหองสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”
บรการหนงสอทั่วไป
ั
ื
ิ
ี
ิ
ื
หนังสอทจัดบรการประกอบด้วย หนังสออ้างอง นวนยาย สารคด และแบบเรยนในระดับ ต่างๆ
ิ
ื
ี
ิ
ี่
ึ
ั
ี
่
ื
ี
ี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งส าหรบนักศกษานอกโรงเรยนทจะสามารถยืมหนังสอเรยนไปใช้ นอกจากน้ ียังม ี
ื
่
ิ
้
ิ
ุ
ื
หนังสอพิมพ์และวารสารจัดบรการ พรอมกับกฤตภาค จลสาร และส่งพิมพ์อน ๆ
ิ
ี่
บรการพิเศษทเปนเอกลักษณเฉพาะส าหรบห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” ได้แก่
ี
็
ิ
ุ
ั
์
ิ
บรการศูนย์ข้อมูลท้องถ่น ห้องสมดแต่ละแห่งจะจัดศูนย์ข้อมูลท้องถ่นตามพระราโชบายของ
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ุ
สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ทมพระราชประสงค์ให้ห้องสมดประชาชน “เฉลมราช
ี่
ั
ุ
่
ู
ิ
ี
ิ
์
กุมาร” จัดรวบรวมข้อมูลเกียวกับอ าเภอ และจังหวัดทตั้งในรปของสถต เอกสารส่งพิมพ์ บทสัมภาษณ แผนท ี่
่
ิ
ี
ตลอดจนภาพถ่าย
ุ
ี
ุ
ี
ในปจจบันศูนย์ข้อมูลภายในห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” ยังมความแตกต่างกันใน ความ
ิ
ั
ี
์
ี
่
ื
สมบูรณและวิธการน าเสนอ แต่ส่วนใหญ่จะมข้อมูลในเรองดังต่อไปน้ ี
1. ข้อมูลสภาพทั่วไป
2. ข้อมูลทางสังคม
ื
3. ข้อมูลทางการเมองการปกครอง
ึ
4. ข้อมูลทางการศกษา
ิ
5. ข้อมูลทางศลปวัฒนธรรม
6. ข้อมูลทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
์
7. ข้อมูลทางการเกษตร
8. ข้อมูลทางอตสาหกรรม
ุ
9. ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
ี
่
ิ
ี
้
่
ี
ุ
ิ
ั
มุมนกเขยนทองถิน การประกาศเกียรตคณและรวบรวมผลงานนักเขยน ท้องถ่นทมผลงานม ี
ี
ิ
ี
ิ
่
ี
ื่
ู
ู
ี
่
้
ี
ิ
่
ชอเสยงระดับชาต และเปนทรจักภายในท้องถ่น ทั้งน้เพือให้ประชาชนในแต่ละพื้นทเกิดความภาคภมใจใน
็
้
ี่
ิ
ิ
ุ
พลังความสรางสรรค์ในท้องถ่นของตนและเยาวชนร่นหลังเกิดแรงบันดาลใจ ทจะเจรญรอยตาม
มุมวรรณกรรมพื้นบาน ได้รวบรวมวรรณกรรมพื้นบ้านทั้งทอยู่ในรปของเอกสารส่งพิมพ์ และ
ิ
่
ู
ี
้
็
เปนต านานเล่าสบต่อกันมา
ื
81
ึ
่
ุ
ื
ี
ิ
มุมธรรมะ ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” หลายแห่งได้รเร่มห้องธรรมะหรอมมธรรมะ ซง
ิ
ิ
ุ
ื
ี
่
ิ
ี
็
่
นอกจากจะน าเสนอประวัตและผลงานของพระสงฆ์ทเปนทเคารพในพื้นทแล้ว ยังจัดหนังสอพระไตรปฏก
ิ
ี
่
ื
และรวบรวมหนังสอธรรมะ ตลอดจนเทปธรรมะเพื่อประโยชน์ในการศกษาค้นคว้าอกด้วย
ึ
ี
ื
ั
ั
ุ
มมหนงสอท่วไป
ุ
้
ิ
มมศิลปนทองถิ่น
82
ี
ึ
ี
่
ิ
็
ุ
ิ
ื
บรการแนะแนว เนองจากผู้ใช้บรการห้องสมดจ านวนไม่น้อยเปนประชาชนนอกระบบโรงเรยน จงมการจัด
่
่
ึ
ุ
มมแนะแนวข้นในหลายแห่ง เพือให้ข้อมูลเกียวกับโอกาสในการศกษานอกระบบโรงเรยน ประโยชน์ทจะ
ี
ึ
ี่
ั
ี
ี
่
ื
ได้รบและข้อมูลเกียวกับแหล่งทจัดสอน ค่าเล่าเรยน และรายละเอยดพื้นฐานอนๆ
ี
่
่
หองเด็กและครอบครว
ั
้
ี
ิ
ั
็
ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” แต่ละแห่งได้จัดบรเวณเฉพาะส าหรบเดกและเยาวชน ให้มา
ุ
ิ
ื
่
ื
ิ
ใช้บรการร่วมกันด้วยการจัดหนังสอและสอนานาชนดซงมทั้งสอทดลองทผู้ใช้สามารถทดลองด้วย ตนเอง
ี
่
ี
ื
่
ิ
ึ
่
ื่
ิ
ื
หรอเปนกล่ม เครองเล่น และสอสาธต
ื
่
ุ
็
ในบรเวณดังกล่าว จะจัดบรรยากาศให้ดงดดใจ โดยอาจจ าลองภาพจากต านานพื้นฐาน เทพนยาย
ึ
ู
ิ
ิ
ี
ื
ี
หรอสภาพภมประเทศทั้งใกล้และไกลตัวมาตกแต่ง พรอมกับจัดทนั่งอ่าน ทนั่งเล่นทเหมาะสม มบรเวณจัด
่
ี
ี
้
่
ู
ิ
่
ิ
ั
็
ี
กิจกรรมทเดกและครอบครวสามารถมส่วนร่วมและแสดงออก เช่น การเล่านทาน การแสดง ละครห่น การ
ิ
ี
่
ุ
ี่
ู
ุ
็
ี
ั
วาดภาพ การแข่งขันอ่านเขยน เปนต้น ห้องสมดบางแห่ง เช่น ทอ าเภอโพธ์ ิทอง ได้สอดแทรกการปลกฝง
ิ
็
ึ
็
ระเบยบวินัยให้กับเดก ด้วยการจัดระบบให้เด็ก ไม่ว่าจะเล็กเพียงใดได้ฝกหัด เบกและเก็บของเล่นให้เปน
ี
ี
ระเบยบ
ี
ุ
การจัดกิจกรรมส่งเสรมการอ่านทหลากหลายและต่อเนอง การรกษาระเบยบวินัยภายในห้องสมดฯ
ิ
ื
่
่
ี
ั
ิ
ู
ิ
ั
่
ื
ิ
การส่งเสรมให้ครอบครวมาใช้บรการร่วมกัน การดแลสภาพเครองเล่นให้ใช้การได้ ตลอดจนการเสรม
ึ
ิ
ี
็
ื่
ื
ี
หนังสอและสอให้มพอเพียง จงเปนประเดนทท้าทายผู้มส่วนร่วมในการจัดห้องสมดประชาชน “เฉลมราช
ุ
่
ี
็
กุมาร” ทกคน
ุ
ี
83
้
ึ
หองโสตทัศนศกษา
็
ี
็
ึ
ึ
ห้องโสตทัศนศกษา เปนห้องทม่งพัฒนาให้เปนศูนย์เทคโนโลยีทางการศกษาของอ าเภอ โดยม ี
่
ุ
ี่
่
ุ
ี
ื่
ิ
วัตถประสงค์ทจะจัดบรการสอเพื่อการศกษาค้นคว้า เพือส่งเสรมการศกษาด้วยตนเอง เพื่อประกอบการเรยน
ึ
ิ
ึ
ี
ิ
ิ
่
การสอน ทั้งในและนอกระบบโรงเรยน และเพือส่งเสรมศลปวัฒนธรรม และการนันทนาการ
ี
ั
ุ
ื
ึ
่
ู
่
ื
ในแต่ละห้องสมดจะมสอพื้นฐาน ซงได้แก่ สไลด์ CD C.A.I CD-ROM และค่มอประกอบการฟง
ึ
่
ี
ื
และการชม ซงจะมเน้อหาดังน้ ี
ั
ู
ึ
ื
ึ
ื่
1. สอการศกษาส าหรบศกษาด้วยตนเอง หรอเสรมหลักสตรการศกษาสายสามัญทั้งใน และนอก
ึ
ิ
ึ
ี
ระบบโรงเรยน ตั้งแต่ระดับประถมศกษา มัธยมศกษา และในบางแห่งมถงระดับอดมศกษา ทั้งน้โดยได้รบ
ี
ั
ึ
ี
ึ
ุ
ึ
การสนับสนนจากศูนย์เทคโนโลยีทางการศกษา และมหาวิทยาลัยเปด
ิ
ึ
ุ
ื
ี
ู
ึ
ี
2. สอการศกษาสายอาชพ ส าหรบศกษาด้วยตนเอง หรอประกอบการเรยนตามหลักสตร
ื่
ึ
ั
ื
ี
3. สอทให้ความรทั่วไปเชงสารคด เช่นเรองศลปวัฒนธรรม การท่องเทยว เปนต้น
่
่
้
ี
่
ู
ี
็
ิ
่
ื
ิ
4. สอทให้ความรในเรองธรรมะ และศาสนา
ู
ี่
ื่
้
ื่
ื
ี
ี
ี
ี
่
5. สอดนตรประเภทต่าง ๆ ทั้งดนตรพื้นบ้าน ดนตรไทย และดนตรสากล
ื่
6. สอบันเทง
ิ
84
้
หองอเนกประสงค ์
ี
ี
ุ
ิ
ู
้
ี
็
ิ
ห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” มบทบาทในการเปนศูนย์ส่งเสรมการเรยนรของประชาชน
ี
่
ื
ึ
ในการวางแผนเบ้องต้น จงก าหนดให้มห้องอเนกประสงค์ทจะสามารถจัดกิจกรรมการศกษาทหลากหลาย
ี่
ี
ึ
ึ
ิ
ื
ิ
ู
ุ
ี
ทั้งในรปของพิพิธภัณฑ์ท้องถ่น นทรรศการ การอภปราย การพบกล่มของนักศกษา หรอการเรยนการสอน
ิ
ี
ื
กล่มสนใจ ซงมเน้อหาดังต่อไปน้ ี
่
ึ
ุ
ิ
ี
่
ี
์
ึ
1. ประวัตศาสตร โบราณคดของพื้นทนั้นๆ ทั้งในภาพรวม และเจาะลกในบางประเด็น เช่น
ึ
ั
ี
ิ
ุ
ห้องสมดอ่าวลกแสดงนทรรศการถ ้าหัวกะโหลกและลกปดโบราณ ห้องสมดปตตานจัดห้องพิเศษ เพื่อ
ู
ั
ุ
ุ
ื
์
น าเสนอเรองเมองโบราณ ห้องสมดพัฒนานคมจัดนทรรศการตามรอยสมเด็จพระนารายณ และห้องสมด
ิ
ิ
ุ
ื่
ิ
็
ทองผาภูม เสนอเสนทางเดนทัพ เปนต้น
ิ
้
ิ
์
ิ
ุ
ี
่
2. ภมศาสตรและส่งแวดล้อม ห้องสมดแต่ละแห่งจะน าเสนอแผนทแสดงอาณาเขต และสภาพ
ู
ิ
ี
ั
ุ
็
ทางภูมประเทศ พรอมกับเสนอประเดนปญหา เช่น ห้องสมดน ้าพองเสนอนทรรศการล าน ้าแห่งชวิต
ิ
้
่
ื
่
ุ
ุ
ิ
ิ
ห้องสมดบางปะกงจัดนทรรศการปาชายเลน ห้องสมดวิเศษชัยชาญแสดงเรองแม่น ้าน้อย ห้องสมดสงหนคร
ุ
ื่
้
เน้นการสรางความตระหนักในเรองทะเลสาปสงขลา เปนต้น
็
ี
3. ศลปวัฒนธรรมประเพณ ห้องสมดหลายแห่งให้ความสนใจต่อการน าเสนอนทรรศการท ี ่
ุ
ิ
ิ
ิ
เกียวกับความหลากหลายของศลปวัฒนธรรมประเพณ และการเปลยนแปลงในวิถชวิตของประชาชน เช่น
ี
่
ี
ี
ี่
ี
ุ
ื
ั
ุ
ี่
ห้องสมดแม่สะเรยงเสนอเรองไทยใหญ่และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ห้องสมดทจัตรสแสดงวัฒนธรรมชาวชัยภูม ท ี่
ิ
ุ
่
ุ
ิ
ุ
ุ
ี
ิ
มพื้นฐานไทยโคราชและลาว ห้องสมดลาดหลมแก้วจัดนทรรศการวัฒนธรรมมอญ ห้องสมดศขรภูมเน้น
ี
เรองส่วย ในขณะทห้องสมดกาบเชงเน้นเรองวัฒนธรรมเขมร เปนต้น
็
ื่
ี่
ุ
ื
ิ
่
็
ี
ี
่
4. อาชพ เปนหัวข้อทมการน าเสนออย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของการแสดงวิวัฒนาการของ อาชพ
ี
ี
ี
่
ี่
ิ
ุ
ในพื้นท เช่น การท าเครองปนดนเผาทห้องสมดชมพวง ผ้ายกดอกทล าพูน ผ้าไหม ผ้าขต ผ้าแพรวา ใน
ิ
่
ี่
ื
ุ
ั้
ึ
ห้องสมดเขตอสาน จนถงการท าขนมเค้กทข้นชอของจังหวัดตรง การประกาศเกียรตคณครชาวบ้านทม ี
ี
ุ
ิ
ั
่
่
่
ี
ุ
ี
ู
ื
ึ
ความร และประสบการณทมคณค่าแก่การสนับสนนให้ถ่ายทอดไปส่ประชาชน การปรบปรงอาชพในพื้นท ่ ี
ู
ู
ั
์
ี
ี
่
้
ี
ุ
ุ
ุ
ื
และการน าเสนอทางเลอกใหม่ตลอดจนขั้นตอนในการประกอบอาชพ
ี
ิ
ุ
ี
ิ
ื
5. การส่งเสรมคณภาพชวิต ห้องสมดหลายแห่งได้รบความร่วมมอในการจัดนทรรศการ
ุ
ั
ื
่
ุ
ิ
ุ
่
ื
เกียวกับการส่งเสรมคณภาพชวิต เช่น นทรรศการเรองคณค่าทางโภชนาการของพืชผักพื้นเมองท ่ ี
ี
ิ
ิ
หนองบัวล าภู นทรรศการเรองการขาดวิตามนเอ ทปตตาน เรองอบัตภัยทศขรภูม การพัฒนาชายแดนท ี่
ี
ั
ุ
ื่
ิ
ื่
ี่
ิ
ี
ี่
ิ
็
ี
ุ
ห้องสมดนาด เปนต้น
ี
ื
ุ
ื
6. คนดมฝมอ นอกเหนอการจัดมมนักเขยนท้องถ่นในห้องอ่านหนังสอทั่วไปแล้ว ยังมการ
ี
ื
ิ
ี
ี
ี
่
ิ
่
ี
ื
ี
่
ี
ี
ี
พยายามทจะรวบรวมประวัตและผลงานของคนดมฝมอทเกิดในอ าเภอ และจังหวัด เพือเผยแพร่ในห้องน้ ี
ด้วย
85
ิ
ั
ิ
ี
ี่
ู
ิ
7. ภมปญญาท้องถ่น สอดแทรกภายในนทรรศการแต่ละหัวข้อ มความพยายามทจะเสนอผลงาน
ี
่
ี
ุ
และประสบการณจากผู้รในชมชน เช่น หมอยาสมนไพร ช่างทอผ้า ช่างตเหล็ก เกษตรกรทท าไร่ท านาสวน
้
์
ู
ุ
ิ
ั
ี่
ผสม ทั้งน้เพือให้ห้องสมดได้เปนสอกลางระหว่างเทคโนโลยีจากภายนอก และภูมปญญาทได้สั่งสมไว้ใน
ื
็
ุ
่
ี
่
แต่ละพื้นท ี ่
86
้
หองเฉลิมพระเกียรติ
ี
ุ
ุ
ี
ื
ี่
ิ
ิ
หัวใจของห้องสมดประชาชน “เฉลมราชกุมาร” คอ ห้องเฉลมพระเกียรตซงมวัตถประสงค์ ทจะ
่
ึ
ิ
ี
่
ุ
ี
ิ
ิ
ี
น าเสนอพระราชประวัต พระปรชาญาณ และพระมหากรณาธคณทสถาบันพระมหากษัตรย์มต่อประชาชน
ิ
ุ
็
ชาวไทย ห้องเฉลมพระเกียรตจงแบ่งเปน 4 ส่วน กล่าวคอ
ื
ิ
ิ
ึ
ุ
็
ิ
ั
ิ
่
1. นทรรศการเกียวกับพระราชประวัตของสมเดจพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
2. พระราชนพนธของสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร พระราชนพนธ ของพระ
ิ
ั
์
์
ิ
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
ื
ี
บรมวงศานวงศ์ในราชวงศ์จักร หนังสอเทดพระเกียรตสถาบันพระมหากษัตรย์และราชวงศ์จักร ี
ิ
ิ
ั
3. นทรรศการเกียวกับพระอัจฉรยภาพของสมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ใน
ุ
ี
่
ิ
ด้านต่าง ๆ เช่น ศลปกรรม วรรณกรรม การดนตร ี
ิ
็
ิ
ุ
ี
่
ั
ั
4. พระราชกรณยกิจและโครงการพระราชด ารในสมัยรชกาลท 9 ของสมเดจพระเทพรตนราชสดา
ี
สยามบรมราชกุมาร ี
การน าเสนอนั้นจะแตกต่างในแต่ละห้องสมดส่วนใหญ่ จะประกอบด้วยภาพซงส่วนหนง ได้รบ
ึ
่
ั
ุ
่
ึ
่
ุ
ุ
ิ
ึ
ี
พระมหากรณาธคณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน และอกส่วนหนงได้จากประชาชนในพื้นทท ี ่
ี
่
ี
ิ
ี
ั
เก็บรกษาไว้ด้วยความเทดทูนบูชา หลายภาพมอายุกว่า 20 ป หนังสอ กฤตภาค ส่งทจ าลองผลงานฝพระหัตถ์
ี
ี
่
ื
ิ
และสอโสตทัศน์
ื่
87
หองสมุดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย
้
ี
้
ุ
็
ู
ี
ห้องสมดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เปนแหล่งเรยนรหลักในสถาบันอดมศกษา มบทบาท หน้าท ี่
ึ
ุ
ู
ิ
ี
ื
็
ิ
่
ี
ส่งเสรมการเรยนการสอนตามหลักสตรทเปดในวิทยาลัยหรอมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เปนส าคัญ โดยการจัด
ื
ื่
ื
รวบรวมหนังสอและสอความรอน ๆ ในสาขาวิชาตามหลักสตร ส่งเสรมช่วยเหลอการค้นคว้าวิจัยของ
ิ
ู
ื่
้
ู
ี
อาจารย์และนักศกษา ส่งเสรมพัฒนาการทางวิชาการของอาจารย์และนักศกษาโดย จัดให้มแหล่งความร
ิ
ึ
ึ
ู
้
ื
่
ื
ึ
ั
ี
และช่วยเหลอจัดท าบรรณานกรมและดรรชนส าหรบค้นหาเรองราวทต้องการ แนะน านักศกษาในการใช้
ุ
่
ี
ื
ั
หนังสออ้างองบัตรรายการและค่มอส าหรบการค้นเรอง
่
ู
ื
ิ
ื
ห้องสมดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เน้นการให้บรการกับนสตนักศกษาของวิทยาลัยนั้น ๆ แต่ก็ม ี
ิ
ึ
ิ
ิ
ุ
หลายแห่งทเปดให้ประชาชนเข้าไปใช้บรการได้ตามข้อก าหนดของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยนั้น (ให้ค้นคว้า
ิ
่
ี
ิ
์
ข้อมูลเพิ่มเตมในอนเทอรเนต)
ิ
็
ิ
ี
็
่
ิ
ุ
ิ
ี
ุ
ุ
ตัวอย่างเช่น ห้องสมดมหาวิทยาลัยสโขทัยธรรมาธราช เปนห้องสมดมหาวิทยาลัยเปด มชอเรยกว่า
ื
“ส านักบรรณสารสนเทศ” มบรการทั้งในมหาวิทยาลัยส่วนกลาง (กทม.) ระดับภาค ทประชาชนมโอกาสเข้า
ี่
ี
ี
ิ
ใช้บรการได้ โดยเสยค่าบ ารงรายวัน จังหวัดทเปดให้บรการ ได้แก่ นครศรธรรมราช เพชรบร นครสวรรค์
ี
ิ
ี่
ี
ิ
ิ
ุ
ี
ุ
ี
ึ
ุ
ุ
ุ
ี
ี
ี
ุ
สโขทัย อดรธาน อบลราชธาน ล าปาง จันทบร ยะลา และนครนายก เน้นเพื่อการเรยนของ นักศกษา มสธ.
ื
่
ิ
ื
ตามหลักสตรต่าง ๆ และหนังสอทั่วไป เช่น นวนยาย เรองสั้น หนังสอเยาวชน
ู
ื
กิจกรรม
ื
้
ี
ให้ผู้เรยนยกตัวอย่างห้องสมดในวิทยาลัยหรอมหาวิทยาลัย 1 แห่ง พรอมทั้งบอกลักษณะการให้
ุ
ิ
บรการของห้องสมด ได้แก่ สถานทตั้ง การเปด - ปด บรการ ค่าบรการ ส าหรบประชาชนทั่วไป ฯลฯ
ุ
ั
่
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
่
หอสมุดแหงชาติ
ิ
ิ
ุ
ุ
็
ุ
ิ
ึ
หอสมดแห่งชาตของไทย สถาปนาข้นด้วยพระมหากรณาธคณสมเดจพระมหากษัตราธราช ใน
ี
ิ
พระบรมราชจักรวงศ์ โดยการรวบรวมหอพระมณเฑยรธรรม หอพระสมดวชรญาณ และหอพุทธสาสน
ุ
ี
ั
ุ
สังคหะ เข้าด้วยกัน ในรชสมัยพระบาทสมเดจพระจลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รชกาลท 5 ทรงพระกรณาโปรด
ั
ี่
็
ุ
ุ
ุ
ั
ิ
ี
ื่
เกล้าฯ ให้มพระบรมราชโองการประกาศจัดการหอพระสมดวชรญาณ ให้เปนหอสมดส าหรบพระนคร เมอ
็
ี่
ุ
ุ
ุ
ั
วันท 12 ตลาคม พุทธศักราช 2448 และได้วิวัฒนาการเปนส านักหอสมดแห่งชาตปจจบัน
ิ
็
้
บทบาทและหนาที่
ิ
ิ
ั
1. ด าเนนการจัดหา รวบรวม และสงวนรกษาทรพย์สนทางปญญา วิทยาการ ศลปกรรม และ
ิ
ั
ั
ึ
ื
วัฒนธรรมของชาตในรปของหนังสอ ตัวเขยน เอกสารโบราณและจารก หนังสอตัวพิมพ์ สอส่งพิมพ์ สอ
ื่
ี
ื
ิ
ื
ิ
ู
่
ุ
ิ
ี
่
ิ
โสตทัศนวัสด และสออเล็กทรอนกส ทผลตจากในประเทศและต่างประเทศ
ื่
์
ิ
88
์
ิ
์
์
ั
ิ
ึ
ิ
2. ศกษา วิเคราะห วิจัย ด าเนนงานด้านเทคนควิชาการบรรณารกษศาสตร สารนเทศศาสตร
และเทคโนโลยีสารนเทศตามหลักมาตรฐานสากล ตลอดจนให้การฝกอบรมแก่ บคลากรของหน่วยงาน
ุ
ึ
ิ
ึ
และสถาบันการศกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
่
ี
็
ู
3. ให้บรการการอ่าน ศกษาค้นคว้า และวิจัยแก่ประชาชนเพือให้เปนแหล่งการเรยนร ตลอดชวิต
ี
ิ
้
ึ
ึ
และการศกษาตามอัธยาศัย
ิ
4. เปนศูนย์ประสานงานระบบสารนเทศทางวิชาการแห่งชาต ิ
็
ิ
ี
็
ี
5. เปนศูนย์ข้อมูลวารสารระหว่างชาตแห่งประเทศไทย และภูมภาคเอเซยตะวันออกเฉยงใต้
ิ
ี
ุ
ศูนย์ก าหนดเลขมาตรฐานสากลประจ าหนังสอและวารสาร ศูนย์ก าหนดรายละเอยดทาง บรรณานกรมของ
ื
็
ี่
หนังสอทจัดพิมพ์ในประเทศ และเปนศูนย์กลางแลกเปลยนและยืมส่งพิมพ์ในระดับชาตและนานาชาต ิ
่
ื
ิ
ิ
ี
หอสมุดแหงชาติสาขาตาง ๆ
่
่
ุ
ี
ุ
ี
ุ
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
หอสมดแห่งชาต นอกจากจะตั้งอยู่ทท่าวาสกร เทเวศน์ เขตดสต กรงเทพฯ ยังมหอสมด แห่งชาต ิ
่
ิ
ี
สาขาในภมภาคต่าง ๆ อก 17 แห่ง ดังน้ ี
ู
ภาคกลาง
หอสมุดแหงชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ
่
280/8 หมู่ 2 ถนนหลวงพรตพิทยพยัต เขตลาดกระบัง กรงเทพฯ 10520
ุ
โทรศัพท์ 0-2739 - 2297 - 8 โทรสาร 0 - 2739 - 2297 - 8
ต่อ 206 เวลาเปด - ปดท าการ/บรการ : 08.30 - 16.30 น.
ิ
ิ
ิ
วันจันทร - วันศกร หยุดวันเสาร - วันอาทตย์ และวันนักขัตฤกษ์
ุ
์
ิ
์
์
89
หอสมุดแหงชาติอินทรบุร สงหบุร ี
์
์
่
ี
ิ
ี
ุ
ุ
์
ิ
ิ
ุ
์
ี
์
ิ
ี
109 หมู่ 1 ต าบลอนทรบร อ าเภออนทรบร จังหวัดสงหบร 16110
โทรศัพท์ 036 - 581 - 520
ิ
ิ
ิ
เวลาเปด - ปดท าการ/ บรการ : 09.00 - 17.00 น. วันอังคาร - วันเสาร ์
ิ
์
หยุดวันอาทตย์ - วันจันทร - และวันนักขัตฤกษ์
หอสมุดแหงชาติรชมังคลาภิเษก กาญจนบุร ี
ั
่
ื
ถนนแสงชโต ต าบลบ้านเหนอ อ าเภอเมอง
ู
ื
จังหวัดกาญจนบร 71000 โทรศัพท์ 034 - 513 924 - 6, 516 - 755
ุ
ี
โทรสาร 034 - 513 -924
ิ
ิ
เวลาเปด - ปดท าการ / บรการ : 09.00 - 17.00 น.
ิ
วันอังคาร - วันเสาร หยุดวันอาทตย์ - วันจันทร และวันนักขัตฤกษ์
์
ิ
์
90
ั
่
หอสมุดแหงชาติจงหวัดสุพรรณบุร เฉลิมพระเกียรติ
ี
ุ
ุ
ี
ถนนสพรรณบร-ชัยนาท ต าบลสนามชัย อ าเภอเมอง
ื
ุ
ุ
ี
จังหวัดสพรรณบร 72000
โทรศัพท์ 035 - 535 - 343, 535 - 244 โทรสาร 035 - 535 -343
ิ
ิ
ิ
เวลาเปด-ปดท าการ/บรการ : 09.00 - 17.00 น. วันอังคาร - วันพุธ
และวันนักขัตฤกษ์
ื
ภาคเหนอ
หอสมุดแหงชาติรชมังคลาภิเษก เชยงใหม ่
่
ี
ั
ถนนบญเรองฤทธ์ ิ อ าเภอเมอง จังหวัดเชยงใหม่ 50200
ุ
ี
ื
ื
โทรศัพท์ 053 - 278 - 3223, 053 - 808 - 550
โทรสาร 053 - 808 - 550
ิ
ิ
ิ
์
เวลาเปด-ปดท าการ/บรการ : 09.00 - 17.00 น. วันอังคาร - วันเสาร
์
ิ
หยุดวันอาทตย์ - วันจันทร และวันนักขัตฤกษ์
91
หอสมุดแหงชาติล าพูน
่
ื
ถนนอนทรยงยศ ต าบลในเมอง อ าเภอเมอง จังหวัดล าพูน 5100
ิ
ื
โทรศัพท์ 053 - 511 - 911 โทรสาร 053 - 560 - 801
ิ
เวลาเปด-ปดท าการ/บรการ : 09.11 - 17.00 น. วันอังคาร - วันเสาร ์
ิ
ิ
์
หยุดวันอาทตย์ - วันจันทร และวันนักขัตฤกษ์
ิ
ื
ภาคตะวันออกเฉยงเหนอ
ี
หอสมุดแหงชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสมา
ี
่
ี
ื
ิ
ถนนราชด าเนน ต าบลในเมอง อ าเภอเมอง จังหวัดนครราชสมา
ื
30000 โทรศัพท์ 044 - 256 - 029 - 30 โทรสาร 044 - 256 - 030
เวลาเปด-ปดท าการ/บรการ : 09.00 - 17.00 น. วันอังคาร - วันเสาร ์
ิ
ิ
ิ
หยุดวันอาทตย์ - วันจันทร - และวันนักขัตฤกษ์
ิ
์