วดั หนองแวง
ประวัติความเปน็ มา
วัดหนองแวง เดิมชื่อ วัดใต้ สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๓๒๓ พร้อมกับวัดกลาง และวัดธาตุ
สรา้ งขน้ึ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช (รชั กาลท่ี ๑) แลว้ เสรจ็ ในปพี ทุ ธศกั ราช ๒๓๒๘
ได้โปรดให้ยกบ้านบึงบอน (เมืองเก่า) ข้ึนเป็นเมืองขอนแก่น ทรงพระราชทานเลื่อนยศท้าวเพี้ยเมืองแพน
ผู้สรา้ งเมืองขอนแกน่ เป็นพระนครศรีบรริ ักษ์ ในคราวสรา้ งเมอื งขึ้น พระนครศรบี รริ ักษ์ไดส้ ร้างวดั หนองแวง
พร้อมกับสร้างเมืองขอนแก่นและอุปถัมภ์มาโดยตลอด และได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เม่ือปี
พุทธศกั ราช ๒๕๒๗
สถานะและทตี่ ั้ง
วัดหนองแวง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ต้ังอยู่เลขที่ ๕๙๓ ถนนกลางเมือง
ตำ� บลในเมือง อำ� เภอเมอื งขอนแกน่ จงั หวัดขอนแกน่ มีที่ดนิ ต้งั วัด เนื้อที่ ๓๐ ไร่ ๓ งาน ๓๓ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 339
สงิ่ ส�ำคญั ในพระอาราม
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลักษณะทรงไทย หลังคาลด ๒ ช้ัน มุงกระเบื้อง
ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันลายปูนปั้น
ซุ้มประตูและหน้าต่างลายปูนปั้น สร้างเมื่อปี
พุทธศกั ราช ๒๔๙๗
พระประธาน ในพระอโุ บสถ เป็นพระพุทธรปู
สำ� รดิ ลงรกั ปดิ ทอง ปางมารวชิ ัย
พระวิหาร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลกั ษณะทรงไทย หลงั คามงุ กระเบอ้ื ง ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกา
หางหงส์
พระมหาธาตแุ กน่ นครอนสุ รณส์ าธชุ น (พระธาตุ
๙ ชั้น) เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง ๗๒ เมตร
มพี ระจลุ ธาตุ ๔ องค์ ตงั้ อยู่ ๔ มมุ สงู ๙ เมตร มีกำ� แพงแกว้
พญานาค ๗ เศียรล้อมรอบ สรา้ งเมอ่ื ปีพทุ ธศักราช ๒๕๓๓
ชนั้ ที่ ๑ เปน็ ท่ปี ระดิษฐานมพี ระบรมสารรี กิ ธาตุ
๓ องค์ อยู่ตรงกลาง เสาเขียนลวดลายสีเบญจรงค์
ลายกรวยเชิงดอกพุดตานและดอกบัว คานข่ือเขียนภาพ
เทพชุมนุมล้อมรอบ เพดานเขียนภาพเทพพนมปีกค้างคาว
ดาวลอ้ มเดอื น จตเุ ทพดารา บัวหัวเสา บานประตูหน้าตา่ ง
แกะสลัก ๒ มติ ิ ๓ มติ ิภาพนิทานเรอื่ งจ�ำปาสต่ี ้น โดยเฉพาะ
บานประตูใหญแ่ กะสลกั แบบ ๓ มิติ และผนงั ทงั้ ๔ ด้าน
รอบพระธาตแุ สดงภาพเขยี นเลา่ เรอื่ งราวประวตั คิ วามเปน็ มา
ของเมืองขอนแก่น ตลอดจนประเพณีและวิถีชีวิตในอดีต
ถึงปจั จบุ ัน
340 พระอารามหลวง เลม่ ๑
ชั้นท่ี ๒ เป็นหอพัก บานประตูหน้าต่างเขียน
ลวดลายเบญจรงคภ์ าพนิทานเรื่อง สังขส์ นิ ไชย
ชั้นท่ี ๓ เป็นหอพระปริยัติ บานประตูหน้าต่าง
เขยี นลวดลายเบญจรงค์ภาพนิทานเรื่องนางผมหอม
ชนั้ ท่ี ๔ เป็นหอปฏบิ ัตธิ รรม บานประตูหน้าตา่ ง
เขียนลวดลายเบญจรงค์ภาพพระประจ�ำวันเทพประจ�ำทิศ
ตวั พ่งึ ตัวเสวย
ช้ันที่ ๕ เป็นหอพิพิธภัณฑ์ บานประตูหน้าต่าง
แกะสลกั ๑ มิติภาพพุทธประวตั ิ
ชั้นที่ ๖ เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์บานประตู
หนา้ ตา่ งแกะสลัก ๑ มติ ิ นทิ านชาดกเรอื่ ง พระเวสสันดร
ชั้นที่ ๗ เป็นหอพระอรหันตสาวกบานประตู
หนา้ ตา่ งแกะสลกั ๑ มิติ นทิ านชาดกเรอื่ งพระเตมีย์ใบ้
ช้ันที่ ๘ เป็นหอพระธรรม รวบรวมพระธรรม
คัมภีร์ส�ำคัญทางพระพุทธศาสนามีพระไตรปิฎกเป็นต้น
บานประตแู กะสลัก ๓ มติ ิ รปู พรหม ๑๖ ช้ัน
ชนั้ ที่ ๙ เป็นหอพระพทุ ธ ตรงกลางมีบษุ บกเปน็
ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บานประตูแกะสลัก ๓ มิติ
รปู พรหม ๑๖ ชนั้ และเปน็ หอชมววิ ทวิ ทศั นต์ วั เมอื งขอนแกน่
ท้งั ๔ ดา้ น โดยเฉพาะด้านทิศตะวนั ออกติดบงึ แกน่ นคร
ศาลาการเปรยี ญ เปน็ อาคารคอนกรีตเสริมเหลก็ ลกั ษณะ
ทรงไทย สร้างเม่อื ปพี ุทธศักราช ๒๕๑๕
หอระฆงั เปน็ อาคารคอนกรีตเสรมิ เหล็ก ลักษณะทรงไทย
กว้าง ๔.๕๕ เมตร ยาว ๔.๕๕ เมตร
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 341
วัดบรู พาพทิ ยาราม
ประวตั คิ วามเป็นมา
วดั บรู พาพทิ ยาราม สรา้ งเมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๓๕๙ เดมิ เรยี กวา่ วดั ใหมห่ นองปรอื เพราะสภาพทอ้ งที่
เปน็ ท่ลี ุ่ม มหี นองน้ำ�ใหญ่ปกคลุมดว้ ยตน้ ปรอื โดยชาวบ้านและภกิ ษสุ งฆช์ ว่ ยกนั ก่อสรา้ ง
ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๗๐ ได้มีการก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ และปรับปรุงพัฒนาวัด และ
บรเิ วณวดั อย่างต่อเนือ่ งจนเจรญิ รุ่งเรืองตามลำ�ดบั
ในสมยั พระพศิ าลธรรมคณุ เปน็ เจา้ อาวาส ดำ�รงตำ�แหนง่ เจา้ คณะอำ�เภอทา่ ใหม่ ไดด้ ำ�เนนิ การกอ่ สรา้ ง
อุโบสถขึ้นใหม่ แทนหลังเดิมทชี่ ำ�รุดทรุดโทรม ไดร้ บั ยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๒
สถานะและทีต่ งั้
วดั บูรพาพทิ ยาราม เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี ชนิดสามญั ตัง้ อยเู่ ลขที่ ๑ หมู่ท่ี ๔ ถนนพระพศิ าล
ตำ�บลเขาวัว อำ�เภอทา่ ใหม่ จังหวดั จันทบรุ ี มีท่ดี นิ ต้งั วัด เนือ้ ที่ ๔๕ ไร่ ๒ งาน
342 พระอารามหลวง เล่ม ๑
สงิ่ สำ�คัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลักษณะทรงไทย หลังคามุงกระเบ้ือง ประดับช่อฟ้า
ใบระกา หางหงส์ หน้าบันปูนปั้นเขียนลายไทย
ตรงกลางรปู เสมาธรรมจกั ร ซมุ้ ประตแู ละหนา้ ตา่ งปนู
ปั้นลายไทยทรงบุษบก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก
พ้ืนปหู ินออ่ น มกี ำ�แพงแกว้ ล้อมรอบ
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางมารวชิ ยั พระนามวา่ หลวงพ่อใหญ่
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสริมเหล็ก ลักษณะทรงไทย ๒ ช้ัน หลังคา
มงุ กระเบือ้ งเคลอื บ ประดบั ช่อฟา้ ใบระกา หางหงส์
สรา้ งเมอื่ ปพี ุทธศักราช ๒๕๒๕
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
สร้างเมื่อปพี ุทธศักราช ๒๕๐๐
พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย เป็นพระพุทธรูป
ทีพ่ ทุ ธศาสนกิ ชนใหค้ วามเคารพนบั ถือมาก
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 343
วดั ไผ่ล้อม
ประวตั คิ วามเป็นมา
วัดไผ่ล้อม สร้างเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๒๐ เดิมพ้ืนท่ีอุดมไปด้วยป่าไผ่เป็นจำ�นวนมาก จึงมีนามว่า
วัดไผ่ล้อม ท่ีตั้งวัดเป็นท่ีลุ่ม จากหลักฐานทางภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา วัดไผ่ล้อม
เป็นศูนย์กลางการศึกษาของคณะสงฆ์จังหวัดจันทบุรี ราษฎรในสมัยก่อนได้ส่งบุตรหลานมาเล่าเรียนท่ีวัดนี้
และยังเป็นศูนย์รวมการศึกษาระเบียบพระธรรมวินัยของเจ้าอาวาสในเขตอำ�เภอเมืองจันทบุรี และอำ�เภอ
ใกลเ้ คียง ได้รับยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เม่ือปพี ุทธศักราช ๒๕๓๙
สถานะและทีต่ ั้ง
วัดไผ่ล้อม เป็นพระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดสามัญ ต้ังอยู่เลขท่ี ๑๗ หมู่ท่ี ๖ ตำ�บลจันทนิมิต
อำ�เภอเมอื งจันทบรุ ี จงั หวดั จันทบรุ ี มที ด่ี นิ ตง้ั วัด เนื้อท่ี ๔๕ ไร่
สง่ิ สำ�คญั
พระอโุ บสถ เปน็ อาคารกอ่ อฐิ ถอื ปนู ลกั ษณะศลิ ปะไทยผสมจนี
หลงั คามงุ กระเบอ้ื ง เปน็ อาคารทรงสเี่ หลยี่ มผนื ผา้ ฐานอาคารเปน็ เสน้ ตรง
ผนังภายในมีภาพจิตรกรรม ท้ัง ๔ ด้าน เหนือช่องหน้าต่างทั้งสองด้าน
เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับทศชาติชาดก ด้านหน้าพระประธานเขียนภาพ
พระพทุ ธประวตั ิ มีกำ�แพงแก้วล้อมรอบ
พระประธาน เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวิชัย สมยั สุโขทัย
344 พระอารามหลวง เล่ม ๑
พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ เป็นอาคาร
คอนกรตี เสริมเหลก็ ๒ ชน้ั ลักษณะทรงไทย ประยุกต์
หลังคาเทคอนกรีตมุงกระเบื้องกาบกล้วย หน้าบัน
ปูนป้ันประดับตราเสมาธรรมจักร มีรั้วรอบแทน
กำ�แพงแก้ว พื้นปูด้วยกระเบ้ืองหินอ่อน ภายใน
ประดษิ ฐานพระพุทธไสยาสน์
พระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปูนป้ัน
ปางไสยาสน์ ขนาดยาว ๙ วา ๙ นิ้ว หันพระเศียร
ไปทางทิศตะวันออก มีพุทธลักษณะเป็นประติมากรรม
ผสมศิลปะสุโขทัย ลงรักปิดทอง ฐานเป็นบัวควำ่ �
บัวหงาย
พระเจดีย์ ลกั ษณะกอ่ อิฐถอื ปนู ทรงระฆงั
ฐานย่อมุมไม้สิบสองขนาดเล็ก อยู่ด้านในมุมกำ�แพงแก้ว
พระอุโบสถ
หอพระไตรปิฎก เป็นอาคารคอนกรีต
เสริมเหล็ก ลักษณะทรงจตุรมุข ๒ ชั้น หลังคา
ลด ๓ ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า
ใบระกา หางหงส์ หน้าบันปูนป้ันลายเครือเถา
ซุ้มประตูและหน้าต่างปูนปั้น มีทางข้ึนท้ัง ๔ ด้าน
มีกำ�แพงแก้วลอ้ มรอบ
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสริมเหล็ก ลักษณะทรงไทย ๒ ชั้น หลังคา
มุงกระเบอ้ื ง มกี ำ�แพงลอ้ มรอบ
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๕ เมตร
หอสวดมนต์ เป็นอาคารไม้ หลังคา
มงุ กระเบือ้ ง
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 345
วดั ปิตลุ าธิราชรังสฤษฎ์ิ
ประวัตคิ วามเปน็ มา
วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎ์ิ เดิมเรียกกันว่า วัดหลักเมือง หรือวัดหน้าเมือง เพราะเป็นวัดสำ�คัญ
กลางเมือง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงรักษ์รณเรศ
(พระองค์เจ้าไกรสร) พระราชโอรสองค์ที่ ๓๓ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต้นราชสกุล
พึ่งบุญ เป็นแม่กองไปก่อสร้างกำ�แพงเมือง และป้อมปราการ โดยมีพระอนุชาร่วมพระโสทร พระเจ้า
ลูกยาเธอ พระองคเ์ จา้ อภยั ทัต หรือพระองค์เสือ เป็นผู้ชว่ ยคมุ งาน
ในขณะที่ทรงงานก่อสร้างป้อมปราการอยู่นั้น พระองค์ได้สร้างวัดแห่งน้ีขึ้นมาพร้อมกัน
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่ ต่อมาได้รับพระราชทานนามวัดในสมัยรัชกาลที่ ๕
ตาม พระฐานนั ดรของเสดจ็ ในกรมฯ ซงึ่ เปน็ อาของพระเจา้ แผน่ ดนิ วา่ วดั ปติ ลุ าธริ าชรงั สฤษฏิ์ แปลวา่ วดั ทอี่ า
ของพระเจา้ แผน่ ดินทรงสรา้ ง
สถานะและที่ตง้ั
วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๕๖ ถนนมรุพงษ์
ตำ�บลหน้าเมอื ง อำ�เภอเมืองฉะเชงิ เทรา จังหวดั ฉะเชงิ เทรา มที ดี่ ินตงั้ วดั เนอื้ ท่ี ๓๕ ไร่ ๓ งาน ๑๐ ตารางวา
346 พระอารามหลวง เล่ม ๑
สิ่งส�ำคญั
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
มีมุขเด็จด้านหน้าและด้านหลัง หลังคาลด
ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ มีหน้าบัน ๒ ชั้น
ช้ันบนประดับด้วยกระจกสีเป็นลายดอกพุดตาน
สวยงามมาก ชั้นล่างหน้าบันมุขเด็จเป็นลวดลาย
ปูนปั้น ตรงกลางมีอักษรพระปรมาภิไธย จ.ป.ร.
ลงรกั ปดิ ทอง ประดับกระจก
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางมารวชิ ัย ลงรักปิดทอง
พระวหิ าร เปน็ อาคารกอ่ อฐิ ถอื ปูน อยู่ดา้ น
ทิศตะวันตกของพระอุโบสถ มีมุขเด็จด้านหน้าและ
ด้านหลัง หลังคาลด ๒ ชั้น มุงกระเบื้อง ประดับ
ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ มีมุขเด็จท�ำให้เห็นหน้าบัน
๒ ช้ัน ชั้นบนเป็นไม้จ�ำหลักลายดอกพุดตานเขียนสี
ส่วนช้ันล่างเป็นไม้สักทาสีแดง ภายในวิหาร มีเสา
ก่ออิฐถือปูน ภายในประดิษฐานพระประธานและ
พระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง ๓ ศอกเศษ จ�ำนวน
๔ องค์ เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย เนื้อทองส�ำริด
และมีรอยพระพุทธบาทจ�ำลองหล่อด้วยส�ำริด
มีภาพมงคล ๑๐๘ รอบพระวิหารมีก�ำแพงสามด้าน
ทีม่ ุมกำ� แพงมพี ระปรางค์ ๔ องค์ เป็นสถาปัตยกรรม
สมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 347
ธรรมาสน์ เป็นเคร่ืองสังเค็ดงานพระราชพิธี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลท่ี ๕ เมื่อปี
พุทธศกั ราช ๒๔๕๓ รชั กาลท่ี ๖ โปรดใหส้ รา้ งข้นึ เพ่อื
พระราชทานส�ำหรับพระอารามหลวง มี ๓ ช้ัน คือ
ธรรมาสน์ชั้นเอก แกะสลักลวดลาย ลงรักปิดทอง
ประดับกระจก วิจิตรงดงาม พระราชทานไว้ส�ำหรับ
พระอารามหลวงช้ันเอกหรือช้ันโท ธรรมาสน์ช้ันโท
แกะสลักลาดลายน้อยกว่าช้ันเอก ปิดทองล่องชาด
พระราชทานแก่ พระอารามหลวงช้ันโทหรือชั้นตรี
ธรรมาสน์ช้ันตรี เขียนลายรดน้�ำ พระราชทานแก่
พระอารามหลวงชน้ั ตรหี รอื ชน้ั สามญั ธรรมาสนท์ ว่ี ดั น้ี
เป็นลายรดน�ำ้ เสมอด้วยพระอารามหลวงชั้นตรี
ศาลกรมหลวงรักษ์รณเรศ สร้างเสร็จ
เม่ือวันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๓๔ ต้ังอยู่ด้านหน้า
นอกก�ำแพงวัด ทรงชุดออกศึก ประทับน่ังคล้ายกับ
พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๑ (พระราชบิดา)
ขนาดเท่าพระองค์จริง หันพระพักตร์ ไปทาง
ทศิ ตะวนั ออก ดา้ นแม่นำ�้ บางปะกง
348 พระอารามหลวง เล่ม ๑
วัดโสธรวราราม
ประวตั ิความเป็นมา
วัดโสธรวราราม สร้างเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๐๐ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อ วัดหงษ์
เพราะมเี สาหงสอ์ ย่ใู นวดั เสาหงสค์ อื เสาทม่ี ยี อดเปน็ ตวั หงส์ ตอ่ มาเกดิ พายพุ ดั หงสบ์ นยอดตกลงมาเหลอื แตเ่ สา
ชาวบา้ นจึงเอาธงขึ้นไปแขวนไว้แทน จงึ เรียกว่า วดั เสาธง ต่อมาพายพุ ดั เสาธงหกั จงึ เรยี กว่า วัดเสาธงทอน
เมื่อพระพุทธโสธรประดิษฐานท่นี ี้ จึงเรียกวา่ วดั ศรีโสทร ตามชือ่ องค์พระ ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๑
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวเสดจ็ ประพาสไดเ้ ปลีย่ นตัวสะกดค�ำวา่ โสทร เป็นโสธร ซึง่ หมายถึง
บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธ์ เนื่องจากว่าพระพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักด์ิสิทธิ์และมีรูปทรงสวยงาม
ได้รบั ยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เมอื่ ปีพุทธศักราช ๒๕๐๑
สถานะและท่ตี ้ัง
วดั โสธรวราราม เปน็ พระอารามหลวง
ช้ันตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ต�ำบลหน้าเมือง
อ�ำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
มที ีด่ ินตงั้ วดั เน้ือที่ ๒๑ ไร่ ๔๒ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 349
สง่ิ ส�ำคัญ
พระอโุ บสถ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ หลงั คา
ประกอบเคร่ืองยอด ลักษณะยอดทรงมณฑปแบบไทย
ด้านหนา้ ดา้ นหลัง และด้านขา้ งตอ่ เช่ือมดว้ ยอาคารรปู ทรง
อยา่ งเดยี วกับพระวหิ าร เปน็ อาคารมุขเด็จ ซึ่งเมื่อประกอบ
กันเข้าแล้วจะเป็นอาคารมีหลังคาแบบจตุรมุขอย่างอาคาร
ปราสาทแบบไทย สร้างเม่ือปีพุทธศกั ราช ๒๕๓๐
350 พระอารามหลวง เลม่ ๑
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พระนามว่า
พระพทุ ธโสธร
พระพุทธโสธร หรือหลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูป
ปางสมาธิ ประทับอยู่เหนือรตั นบลั ลังก์ ๔ ชัน้ ปูลาดด้วยผ้าทิพย์
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลกั ษณะทรงไทย หลงั คามงุ กระเบอื้ งเคลอื บ สรา้ งเมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช
๒๕๐๓
หอฉัน เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง
๒๐.๓๐ เมตร ยาว ๔๒.๓๐ เมตร สรา้ งเม่ือปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๑๔
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 351
วัดเขาบางทราย
ประวัติความเป็นมา
วัดเขาบางทราย เป็นวัดโบราณ สร้างสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากพบรอยพระพุทธบาท
ศลิ ปะกอ่ นสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา อยเู่ ชงิ เขาพระพทุ ธบาทบางทราย หรอื เขาพระพทุ ธบาทสามยอด ชาวบา้ นเรยี กวา่
วัดเขาพระพทุ ธบาทบางทราย เพราะมีพระพุทธบาทอยู่บนเขา
ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระภิกษุมาสร้างวัดใหม่ท่ีเชิงเขาบางทราย ภายหลังเป็นวัดร้าง
จนกระท่ังสมัยรัชกาลท่ี ๓ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ได้บูรณปฏิสังขรณ์
เสนาสนะตา่ ง ๆ จากนน้ั กม็ กี ารบรู ณปฏสิ ังขรณ์ โดยเจ้าพระยาทพิ ากรวงศ์ มหาโกษาธิบดี (ข�ำ บนุ นาค)
ในสมัยรัชกาลท่ี ๕ พระยาวิชิตชลเขตร (ทด สมุทรานนท์) จางวางก�ำกับเมืองชลบุรี ได้สร้าง
อาคารเสนาสนะต่าง ๆ และปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุจนม่ันคง ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี
พทุ ธศักราช ๒๕๓๑
สถานะและที่ตง้ั
วดั เขาบางทราย เป็นพระอารามหลวงช้นั ตรี ชนดิ สามัญ ตงั้ อยเู่ ลขที่ ๒๐๑ หมู่ที่ ๖ ถนนสุขมุ วทิ
ต�ำบลบางทราย อำ� เภอเมอื งชลบุรี จงั หวัดชลบรุ ี มที ่ีดินต้ังวัด เนือ้ ที่ ๙๗ ไร่ ๙๖ ตารางวา
352 พระอารามหลวง เล่ม ๑
สงิ่ สำ�คัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลกั ษณะทรงไทย หลงั คาลด ๒ ชนั้ มงุ กระเบอ้ื งเคลอื บ
ประดับช่อฟ้า ใบระกา เป็นรูปปูนป้ัน มีระเบียงรอบ
ใบเสมาเป็นหินอยู่ตามมุมระเบียง หน้าบันปูนปั้น
ซุ้มประตูหน้าต่างลายปูนปั้น ผนังภายในตอนบน
มีภาพจิตรกรรมเขียนลายเทพพนมและตอนล่าง
เขียนลายดอกไม้จีน มีกำ�แพงแก้วล้อมรอบ สร้างใน
สมัยรชั กาลที่ ๓
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลงรัก
ปิดทอง ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๗๗ นิ้ว
ประดิษฐานบนชุกชสี ูง ปัน้ ลวดลายกลบี บวั
พระวิหารบน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลักษณะศิลปะสมัยอยุธยา หลังคาลด ๒ ช้ัน
มุงกระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกา ปูนป้ัน
หน้าบันเป็นลายดอกไม้ เดิมเป็นพระอุโบสถของวัด
หรือเรียกพระวิหารหลวงพ่อโต มีรูปทรงเหมือน
พระวิหารล่าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนป้ัน
ลงรกั ปดิ ทอง ปางมารวชิ ยั มพี ระอคั รสาวกซา้ ยขวา
พระวิหารล่าง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลักษณะศิลปะสมัยอยุธยา หลังคาลด ๒ ช้ัน
มุงกระเบ้ืองเคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกา ปูนปั้น
หนา้ บนั ปนู ปนั้ ลายดอกไม้ ภายในประดษิ ฐานพระพทุ ธรปู
ปนู ป้นั ปางมารวชิ ยั ลงรักปิดทอง ๕ องค์ ปฏสิ ังขรณ์
เมอ่ื ปีพุทธศักราช ๒๕๐๘
พระเจดีย์ มี ๓ องค์ คือ พระเจดีย์ต้น
พระเจดีย์โพรง และ พระเจดีย์ศรีมหาโพธ์ิ ลักษณะ
ก่ออิฐถือปูน ศิลปะสมัยอยุธยา พระเจดีย์ต้นอยู่
ด้านหลังพระอุโบสถ พระเจดีย์โพรง อยู่บนยอดเขา
ดา้ นทศิ ใต้
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 353
พระมณฑป เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ทรงสเ่ี หลย่ี ม ครอบพระพทุ ธบาท มีรอยพระพทุ ธบาท
๒ รอย รอยหน่ึงอยู่ในบ่อหรือในกรุ ขนาดกว้าง
ป ร ะ ม า ณ ๗ ๐ เ ซ น ติ เ ม ต ร ย า ว ป ร ะ ม า ณ
๑๖๕ เซนติเมตร ทำ�ข้ึนในสมัยกรุงศรีอยุธยา
อกี รอยหนงึ่ อยบู่ นพนื้ พระมณฑป ขนาดกวา้ งประมาณ
๖๐ เซนตเิ มตร ยาวประมาณ ๑๑๐ เซนติเมตร ทำ�ข้นึ
ก่อนสมัยกรุงอยุธยา ทั้งสองรอยพระพุทธบาท
มีรปู มงคล ๑๐๘ ประการจารกึ อยู่
พระวิหารพระนอน เป็นอาคารก่ออิฐ
ถือปูน ลักษณะคล้ายเก๋งจีน ภายในประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ ท่าบรรทมตะแคง
ด้านซา้ ย
ศาลาราย (เก้าห้อง) เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
รปู ทรงเตยี้ หลงั คามงุ กระเบอื้ ง ใชผ้ นงั เปน็ เสารปู โคง้ รองรบั
หลงั คา
ศาลาการเปรยี ญ เปน็ อาคารคอนกรีตเสรมิ เหล็ก
ลกั ษณะทรงไทย หลงั คามงุ กระเบอื้ ง สรา้ งเมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช
๒๕๐๐
หอระฆัง เปน็ อาคารก่ออฐิ ถอื ปนู ๒ ชัน้ รูปทรง
ศลิ ปะสมยั รัชกาลท่ี ๓ เรือนยอดทำ�เป็นชั้น
354 พระอารามหลวง เล่ม ๑
วดั จุฑาทศิ ธรรมสภาราม
ประวตั ิความเปน็ มา
วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม เดิมชื่อ วัดเกาะสีชัง ต่อมารัชกาลท่ี ๔ ได้เสด็จประพาสเกาะสีชัง
ทรงมีพระราชด�ำริว่า วัดช�ำรุดทรุดโทรม จึงโปรดให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ข�ำ บุนนาค) ด�ำเนินการ
บูรณปฏสิ ังขรณ์
ต่อมารัชกาลท่ี ๕ ทรงมีพระราชด�ำริว่า สถานท่ีตั้งวัดอยู่ใกล้กับเขตที่ประทับ ประกอบกับ
เกาะสีชัง เป็นสถานที่พักผ่อนของประชาชน ไม่เหมาะสมกับเป็นสถานท่ีต้ังวัด จึงโปรดให้ก�ำหนดเขตวัด
และสร้างวัดขึ้นใหม่ท่ีไหล่เขาด้านทิศใต้ เป็นการแลกเปล่ียนกับวัดเกาะสีชังเดิม และขยายเขตพระราชฐาน
ให้กว้างข้ึน พระราชทานนามว่า วัดอัษฎางค์นิมิตร เพ่ือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ และโปรดให้ประกาศพระบรมราชูทิศ ต่อมาได้เปล่ียนชื่อเป็น วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม
ไดร้ บั ยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เมอื่ ปีพทุ ธศักราช ๒๔๓๕
สถานะและที่ตัง้
วัดจุฑาทิศธรรมสภาราม เป็นพระอารามหลวง
ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ต้ังอยู่เลขท่ี ๒๙ หมู่ท่ี ๒
ถนนวชิราวุธ ต�ำบลท่าเทววงษ์ อ�ำเภอเกาะสีชัง
จังหวัดชลบุรี มีท่ีดินต้ังวัด เน้ือที่ ๕๑ ไร่ ๑ งาน
๙๘ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 355
สงิ่ สำ�คัญ
พระอุโบสถ เปน็ อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ศิลปะสมัยรัชกาลท่ี ๕ หลังคามุงกระเบ้ืองเคลือบ
ประดับชอ่ ฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันประดบั ลาย
ปูนป้ัน ซุ้มประตูและหน้าต่างลายปูนป้ัน สร้างเมื่อ
ปพี ุทธศกั ราช ๒๔๗๘
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๑ นิ้ว
รัชกาลที่ ๕ โปรดให้อัญเชิญมาประดษิ ฐานในพระอุโบสถ
พระอุโบสถหลังเก่า เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า
ใบระกา หางหงส์ หน้าบนั ประดบั ลายปนู ปัน้ ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
356 พระอารามหลวง เล่ม ๑
พระมณฑป ลักษณะก่ออิฐถือปูน ขนาด
กว้าง ๔ เมตร ยาว ๔ เมตร ภายในประดิษฐาน
รอยพระพุทธบาทจำ�ลอง ขนาดกว้าง ๑๑ น้ิว ยาว
๒๕ นิ้วครึ่ง ลึก ๑ นิ้ว ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำ�รงราชานุภาพ ทรงได้มาจากพุทธคยา
ประเทศอนิ เดีย
ศาลาการเปรยี ญ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็
ลักษณะทรงไทยประยุกต์ ขนาดกว้าง ๑๘ เมตร
ยาว ๒๔ เมตร
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
กวา้ ง ๓ เมตร ยาว ๓ เมตร
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 357
วัดชยั มงคล
ประวัตคิ วามเปน็ มา
วดั ชยั มงคล เดมิ ชอื่ วา่ วดั ทพั พระยา สรา้ งขน้ึ ประมาณ พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๐ โดยมพี ระธดุ งคม์ าปกั กลด
และได้สร้างกุฏิเป็นท่ีพักจ�ำพรรษา ต่อมาชาวบ้านได้สร้างถาวรวัตถุและได้ขอตั้งวัดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๑
เรมิ่ แรกนายเลย้ี งคา้ ขาย เปน็ ผบู้ รจิ าคถวายทด่ี นิ ในการสรา้ งวดั ตอ่ มาไดร้ บั บรจิ าคทด่ี นิ จากผมู้ จี ติ ศรทั ธาเพม่ิ เตมิ
ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เม่อื วนั ท่ี ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
สถานะและทีต่ ั้ง
วดั ชยั มงคล เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี ชนดิ สามญั
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๒๗ หมู่ที่ ๑๐
ถนนพทั ยาใต้ ตำ� บลหนองปรอื อำ� เภอบางละมงุ จงั หวดั ชลบรุ ี
มที ีด่ ินตัง้ วัด เน้ือที่ ๓๘ ไร่ ๒ งาน ๒ ตารางวา
358 พระอารามหลวง เล่ม ๑
สิ่งส�ำคัญ
พระอโุ บสถ บรู ณะเมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช
๒๕๔๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
พ้นื ภายในปดู ้วยหินแกรนติ หลังคาทรงไทย
ลด ๓ ชั้น มุงด้วยกระเบ้ืองเคลือบสุโขทัย
ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกาหางหงส์คนั ทวยหนา้ บนั
เป็นลายปูนปั้นรูปพระนารายณ์ทรงสุบรรณ
ประตแู ละหนา้ ตา่ งทำ� ดว้ ยไมส้ กั ทองแกะสลกั
ท้ังหมดลงรักปิดทอง ซุ้มประตูและซุ้ม
หน้าต่างตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นปิดทอง
มกี �ำแพงแกว้ ลอ้ มรอบพระอุโบสถ
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ขนาดหน้าตัก กวา้ ง ๔๙ นิ้ว สูง ๑๖๐ นว้ิ
วิหารจตุรมุข สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ ขนาด
กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๔ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสรมิ เหล็ก
ทรงไทยจตรุ มขุ ๒ ช้ัน ช้นั บนเป็นทป่ี ระดษิ ฐานพระพทุ ธชินราช
จ�ำลอง ขนาดหน้าตัก กว้าง ๕๙ นว้ิ สูง ๑๘๐ น้วิ
วหิ ารหลวงพอ่ หา้ พน่ี อ้ ง สรา้ งเมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔
ขนาดกวา้ ง ๘ เมตร ยาว ๓๕ เมตร เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็
ทรงไทย ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อบ้านแหลม
หลวงพ่อโตบางพลี หลวงพอ่ วดั ไร่ขิง หลวงพ่อเขาตะเครา
วหิ ารพระประจ�ำวนั สรา้ งเมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๔๓ 359
ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๔๕ เมตร เป็นอาคาร
คอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงไทยจตุรมุข ประดิษฐาน
พระประจ�ำวัน
พระอารามหลวง เลม่ ๑
วิหารหลวงพ่อสามสมัย สร้างเมื่อปี
พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๕ ขนาดกวา้ ง ๕ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงไทยมีหน้ามุข
ประดิษฐานหลวงพ่อสามสมัย คือ สมัยเชียงแสน
สมยั อ่ทู อง สมัยสุโขทัย
วหิ ารเจา้ แมก่ วนอมิ สรา้ งเมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช
๒๕๔๒ ขนาดกวา้ ง ๘ เมตร ยาว ๘ เมตร ประดษิ ฐาน
เจ้าแมก่ วนอิม
หอพระไตรปิฎก สร้างเมื่อปี
พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๓ เปน็ อาคารทรงไทยจตรุ มขุ
มียอดพระปรางค์ด้านบน
ศาลาการเปรียญ สร้างเม่ือปี
พุทธศกั ราช ๒๕๔๒ ขนาดกว้าง ๒๐ เมตร
ยาว ๔๐ เมตร เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็
๒ ช้นั
360 พระอารามหลวง เล่ม ๑
วดั ญาณสังวราราม
ประวัตคิ วามเป็นมา
วัดญาณสังวราราม สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ โดยนายแพทย์ขจร และคุณหญิงนิธิวดี
อันตระการ พร้อมด้วยบุตรธิดา ทูลถวายท่ีดินแด่สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
เพอ่ื สรา้ งวดั ในพระพทุ ธศาสนา และไดร้ บั อนญุ าตอยา่ งเปน็ ทางการเมอ่ื วนั ท่ี ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๒
และตั้งชอื่ วดั ตามราชทินนามสมณศักดิข์ องสมเดจ็ พระญาณสังวร ชอื่ ว่า วัดญาณสังวราราม
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนารถบพติ ร ไดพ้ ระราชทาน
ทด่ี นิ รอบวดั เปน็ จ�ำนวน ๓,๗๐๐ ไร่ ๒ งาน ๔๗ ตารางวา
วัดญาณสังวราราม สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เน่ืองในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ
อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
พระกรุณานานปั การจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ และสมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงอุปถัมภ์ในการก่อสร้างตลอดมาและทรงรับ
เป็นวดั ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นวดั ในพระองค์ ไดร้ บั ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมอื่ ปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๑
สถานะและท่ีตัง้
วัดญาณสังวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ต้ังอยู่เลขที่ ๙๙๙ หมู่ท่ี ๑๑
ต�ำบลหว้ ยใหญ่ อ�ำเภอบางละมงุ จงั หวัดชลบุรี มที ีด่ นิ ต้งั วดั เน้อื ที่ ๓๖๖ ไร่ ๒ งาน ๑๑ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 361
สงิ่ ส�ำคัญ
พระอโุ บสถ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็
๒ ช้ัน ลักษณะทรงจีน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ
หน้าบันลายปูนป้ัน สรา้ งเมอื่ ปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๒
พระประธาน พระนามว่า สมเดจ็ พระพุทธ
ญาณนเรศวร์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า
สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง
เพื่อเททองหล่อ เม่ือปีพุทธศักราช ๒๕ ๒๓
ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร และทรง
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ในพระเศียรสมเด็จ
พระพุทธญาณนเรศวร์ เม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๒๕
ณ วัดญาณสงั วราราม
พระวิหารพระศรีอริยเมตไตรย เป็น
อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ช้ัน ลักษณะ
ทรงจตุรมุข หลังคามุงกระเบ้ือง ภายในประดิษฐาน
พระพุทธรูปทองเหลือง ปางสมาธิ พระนามว่า
พระพุทธรูปศรีอริยเมตไตรย และมีการบรรจุนิมิต
เล็ก ๆ จ�ำนวน ๘๔,๐๔๔ ลูก ในตลับเงินในองค์พระ
บรรจุพระธาตุ และอัญเชิญมณีในพระเมาลี
พระพุทธบาทจ�ำลอง เป็นรอยพระพุทธบาทคู่
ประดษิ ฐานอยู่ในพระมหามณฑปพทุ ธบาท ภ.ป.ร. ส.ก.
ตามพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกา
ธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชด�ำเนิน
มาทรงประกอบพธิ บี รรจพุ ระบรมธาตบุ นยอดพระมหา
มณฑป เม่อื วนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๓
362 พระอารามหลวง เลม่ ๑
พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่
ในพระเจดีย์ทองของพระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรี
พพิ ฒั น์ เปน็ ชอ่ื ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงพระราชทานนาม เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศลแด่
พระราชวงศ์จักรี โดยมีสมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี ทรงเปน็ องค์อปุ ถัมภ์ในการสร้าง
พระพุทธไพรีพินาศ เป็นพระพุทธปฏิมา
ประจ�ำศาลา มวก.สธ. พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทร
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้า
เจ้าอยู่หัว เม่ือครั้งด�ำรงพระราชอิสริยยศ
เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุฎราชกุมาร
ทรงเสด็จเททองหล่อ เม่ือวันท่ี ๖ เมษายน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๗ ณ วัดบวรนเิ วศวหิ าร
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสริมเหล็ก ขนาดกว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๓๑ เมตร
สร้างเมอ่ื ปพี ุทธศักราช ๒๕๒๖
หอสวดมนต์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๒๗
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
๒ ชั้น ลกั ษณะทรงไทยประยกุ ต์
หอกลอง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
๒ ชัน้ ลกั ษณะรูป ๘ เหลี่ยมแบบปอ้ มมหากาฬ
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 363
วดั บางพระ
ประวัตคิ วามเป็นมา
วัดบางพระ เป็นวัดโบราณ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมารัชกาลท่ี ๔ เสด็จประพาสหัวเมือง
ชายทะเลฝั่งตะวันออกของอ่าวสยามทางชลมารค ได้เสด็จวัดบางพระเพ่ือสักการะ มีผู้กราบบังคมทูลว่า
พระอุโบสถหลังนี้ ช�ำรุดทรุดโทรม พระองค์จึงโปรดให้พระยาทิพากรวงค์มหาโกศาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
เปน็ แม่กองบรู ณะพระอุโบสถ พร้อมกบั สรา้ งพระเจดยี ข์ น้ึ หลงั พระอโุ บสถ คร้ันสรา้ งเสร็จแล้วไดร้ ับยกฐานะ
เป็นพระอารามหลวง จนปลายสมยั รัชกาลท่ี ๔ ได้มีการบูรณปฏสิ งั ขรณ์อกี ครง้ั
ในสมัยพระครูฉิ่ง โอวาท และพระครูวรกันทราจารย์ (บู๊ เจริญศรี) ได้สร้างก�ำแพงแก้วล้อม
รอบพระอุโบสถ และเปล่ียนกระเบ้ืองมุงหลังคาใหม่ ต่อมาธนาคารไทยพาณิชย์ น�ำโดยนายอาภรณ์
กฤษณามระ ไดอ้ ปุ ถมั ภส์ รา้ งพระอโุ บสถหลังใหมข่ ้นึ
เน่ืองจากวัดบางพระ อยู่ในที่ชุมชนของอ�ำเภอบางพระและกองทหารเรือบางพระ จึงได้ต้ังชื่อ
ตามชอ่ื ของอำ� เภอบางพระ โดยได้รับความอุปถัมภจ์ ากชาวบางพระ และบริเวณใกลเ้ คียง
สถานะและท่ตี ้งั
วัดบางพระ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี
ชนดิ วรวหิ าร ต้ังอยู่เลขท่ี ๑๕๗ หมู่ที่ ๒ ตำ� บลบางพระ
อ�ำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีท่ีดินต้ังวัด เนื้อท่ี
๗ ไร่ ๑ งาน ๔๐ ตารางวา
364 พระอารามหลวง เลม่ ๑
ส่งิ ส�ำคญั
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ ประดับช่อฟ้า ใบระกา
หางหงส์ เครื่องบนประกอบด้วยไม้ บานประตู
และหน้าต่างท�ำด้วยไม้สักแกะสลัก สร้างเมื่อปี
พุทธศกั ราช ๒๕๐๗
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรัก
ปดิ ทอง ปางมารวิชัย
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 365
พระเจดีย์ ลักษณะก่ออฐิ ถอื ปนู ศลิ ปะแบบ
อยธุ ยา ฐานหกเหลยี่ ม ขนาดสงู ๑๑.๑๔ เมตร อย่หู ลงั
พระอโุ บสถ รชั กาลท่ี ๔ โปรดใหส้ รา้ งข้ึน
พระมณฑป เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
เคร่ืองบนเป็นไม้ตะเคียน ยอดมณฑปเป็นแกนเหล็ก
ประดับกระจก อยู่บนยอดเขาพระพุทธบาท ภายใน
ประดษิ ฐานพระพุทธบาทจ�ำลอง
366 พระอารามหลวง เล่ม ๑
วัดใหญ่อนิ ทาราม
ประวัติความเป็นมา
วัดใหญอ่ นิ ทาราม เป็นวดั โบราณ สร้างสมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยา เดมิ ชอ่ื ว่า วดั หลวง หรอื วดั อินทาราม
โดยสมด็จพระนครินทราธริ าช (พระนครอนิ ทร์) พระราชนัดดา แหง่ พระบรมราชาธิราชท่ี ๑ (ขนุ หลวงพงั่ว)
พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ตามพงศาวดารปรากฏว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เม่ือคร้ัง
ยังเป็นพระยาวชิรปราการ ได้เสด็จมาพักไพร่พลเม่ือคราวเสด็จมาปราบปรามนายทองอยู่ นกเล็ก บริเวณ
หมู่บ้านใกล้เคียงกับวัดนี้ ชาวบา้ นเรยี กว่า วดั บ้านคา่ ย
ต้ังแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๒๙ เปน็ ตน้ มา วัดชำ� รุดทรุดโทรม จึงไดบ้ ูรณปฏสิ ังขรณเ์ สนาสนะสงฆ์ อาทิ
กุฏิ ศาลาการเปรียญ พระวหิ าร เปน็ ตน้ ไดร้ บั ยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เมื่อปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๑๘
สถานะและทตี่ ัง้
วดั ใหญ่อนิ ทาราม เป็นพระอารามหลวงช้นั ตรี ชนดิ สามญั ตัง้ อยู่เลขท่ี ๘๕๘ ตำ� บลบางปลาสรอ้ ย
อ�ำเภอเมืองชลบุรี จงั หวดั ชลบรุ ี มที ดี่ ินตงั้ วดั เนือ้ ที่ ๑๙ ไร่ ๑ งาน ๘๙ ตารางวา
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 367
ส่งิ ส�ำคญั
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลักษณะทรงไทย หลังคาลด ๒ ช้ัน มุงกระเบื้องเคลือบ
ประดับช่อฟ้า ปูนปั้น รูปเทพพนม ฐานพระอุโบสถ
มีลักษณะคล้ายลูกกล้วย หรือเรือส�ำเภา หน้าบัน
ประดับด้วยถ้วยชามสังคโลก บานหน้าต่างเป็น
ลายรดน้�ำ บานประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ประดับมุข ผนังภายในมีภาพจิตรกรรมเขียนเล่าเรอื่ ง
พระพุทธประวัติ ทศชาติชาดก เทพชุมชน มารผจญ
และภาพไตรภมู ิ
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลงรัก
ปิดทอง เป็นศิลปะสมัยอยุธยา และมีพระพุทธรูป
ปางตา่ ง ๆ ๒๔ องค์
พระวหิ าร เปน็ อาคารกอ่ อฐิ ถอื ปนู ลักษณะ
ทรงไทย หลังคามุงกระเบื้อง หน้าบันประดับด้วย
ชามสังคโลก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น
ลงรักปดิ ทอง
368 พระอารามหลวง เลม่ ๑
พระมณฑป ลักษณะก่ออิฐถือปูน ภายใน
ประดษิ ฐาน รอยพระพุทธบาทศิลาทราย
พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้า
ตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่หน้าวัด สร้างเมื่อปี
พทุ ธศักราช ๒๕๑๘ เพ่อื เปน็ อนสุ รณ์แห่งวีรกษัตรยิ ์ไทย
ศาลาพระเจ้าตากสิน เป็นอาคารไม้
ใช้เคร่ืองสัป ไม่ใช้ตะปู ลักษณะทรงไทย หลังคา
มุงกระเบ้ือง แบบโบราณ มี ๙ หอ้ งสรา้ งเปน็ อนุสรณ์
แดพ่ ระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสรมิ เหลก็ ลกั ษณะทรงไทยตรมี ขุ หลงั คามงุ กระเบอ้ื ง
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 369
วัดธรรมามลู
ประวตั คิ วามเป็นมา
วัดธรรมามูล เป็นวัดโบราณ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ�เจ้าพระยาฝ่ังตะวันออก
รชั กาลที่ ๔ ไดพ้ ระราชทานผ้าพระกฐินมาทอดที่วดั นี้
ตอ่ มาหลวงปลดั โต ตำ�บลบา้ นทา่ ซุง อำ�เภอน้ำ�ซมึ จงั หวัดอุทยั ธานี มาบรู ณปฏสิ งั ขรณ์พระอุโบสถ
พระไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้ปฏิสังขรณ์พระวิหารและศาลาการเปรียญ ปัจจุบันได้มีการบูรณะ
ปชู นยี วตั ถุ ตลอดจนปลกู สร้างสิ่งต่าง ๆ
สถานะและท่ีตัง้
วดั ธรรมามลู เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี
ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขท่ี ๑ ตำ�บลธรรมมูล
อำ�เภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท มีท่ีดินตั้งวัด
เน้อื ที่ ๙๔ ไร่ ๑ งาน ๒๐ ตารางวา
370 พระอารามหลวง เล่ม ๑
ส่ิงสำ�คญั
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐ
ถือปนู ลกั ษณะทรงไทย หลังคาลด ๒ ชน้ั
มงุ กระเบอ้ื ง ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกา หวั นาค
หน้าบันปูนป้ันลวดลายประดับกระจก
ซุ้มประตูและหน้าต่างปูนปั้นลวดลาย
มขุ ดา้ นหนา้ ประดษิ ฐาน พระพทุ ธรปู ปนู ปนั้
ปางมารวชิ ยั
พระประธาน เป็นพระพทุ ธรปู ปางมารวชิ ัย ศลิ ปะ
สมัยอู่ทอง ขนาดหน้าตักกว้าง ๑ เมตร สูง ๑.๕๐ เมตร
มีพระอัครสาวกซา้ ยขวา
พระวหิ าร เปน็ อาคารกอ่ อฐิ ถอื ปนู ลกั ษณะทรงไทย
หลงั คาลด ๒ ช้นั มุงกระเบ้ือง ประดับช่อฟา้ ใบระกา หัวนาค
หน้าบันปูนป้ันลวดลายประดับกระจก ซุ้มประตูและหน้าต่าง
ปูนปั้นลวดลาย เสาขนาดใหญ่ทรงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง
๑ เมตร หน้ามุขเป็นท่ีประทับพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
สมัยสุโขทยั พระนามว่า หลวงพอ่ ธรรมจกั ร
หลวงพอ่ ธรรมจกั ร เปน็ พระพทุ ธรปู ปนู ปนั้ ลงรกั ปดิ ทอง ปางหา้ มญาติ
ศิลปะสมัยสุโขทัย ประดิษฐานหน้าพระวิหาร ประทับยืนบนฐานดอกบัว
พระหตั ถข์ วายกขนึ้ เสมอพระอรุ ะ ฝา่ พระหตั ถท์ ยี่ กขนึ้ มรี ปู ธรรมจกั ร จงึ ไดน้ ามวา่
หลวงพ่อธรรมจักร เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชัยนาท และ
จังหวดั ชยั นาท นำ�มาใชเ้ ปน็ ตราสัญลกั ษณ์ประจำ�จงั หวัด
พระเจดยี ์ใหญ่ ไมป่ รากฏหลกั ฐานวา่ สรา้ งเมอ่ื ใด ปจั จบุ นั มสี ภาพชำ�รดุ
เหลอื เพยี งฐานทำ�ด้วยอิฐใหญเ่ รยี งซอ้ นกนั ดว้ ยปูนซเี มนต์
หลวงพ่อขาว ประดิษฐานอยู่
หน้าพระอุโบสถ
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้
เสาคอนกรีต หลังคามุงกระเบื้อง พื้นไม้สัก
สร้างเมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๙๗
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 371
วัดพระบรมธาตุ
ประวตั คิ วามเปน็ มา
วัดพระบรมธาตุ เป็นวัดโบราณ สร้างสมัยสุโขทัย เดิมชื่อว่า วัดพระธาตุ หรือวัดหัวเมือง
อยู่ลุ่มแม่น้�ำเจ้าพระยา และมีพระธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ ตรงกับ
พระเจ้าลิไท ได้ทรงทำ� นบุ ำ� รุงและสมโภชพระบรมธาตุ
ต่อมาสมัยพระมหาจักรพรรดิ กองทัพพม่าได้ยกกองทัพมาตี วัดจึงถูกทอดทิ้งทรุดโทรมเป็นล�ำดับ
จนสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ทรงจัดการปฏิสังขรณ์โดยได้รับการอุปถัมภ์จากสมเด็จพระทิพมล
พระเถระผู้ใหญ่แหง่ กรงุ ศรีอยุธยา ต่อมาในสมยั กรงุ รัตนโกสินทรม์ กี ารบูรณปฏสิ ังขรณ์เรือ่ ยมาจนถึงปจั จบุ ัน
ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จวัดพระบรมธาตุ
โปรดใหย้ กฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปพี ทุ ธศักราช ๒๔๙๙
สถานะและท่ตี ้ัง
วัดพระบรมธาตุ เปน็ พระอารามหลวงช้นั โท ชนดิ วรวิหาร ตง้ั อยู่เลขท่ี ๑๗๓ หมู่ท่ี ๖ ตำ� บลชัยนาท
อ�ำเภอเมอื งชยั นาท จงั หวัดชยั นาท มที ่ดี ินต้ังวดั เน้ือท่ี ๓๑ ไร่ ๑ งาน ๒๔ ตารางวา
372 พระอารามหลวง เลม่ ๑
ส่งิ ส�ำคัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลักษณะทรงไทย หลังคาลด ๒ ช้ัน มุงกระเบื้อง
ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าต่าง
ลายปนู ปั้น ใบเสมาติดผนังดา้ นนอกรอบพระอโุ บสถ
พระประธาน เป็นพระพทุ ธรปู ปางมารวิชัย
พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลักษณะทรงไทย หลังคาลด ๓ ชั้น มุงกระเบ้ือง
ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เสามุขหน้าประดับ
ลายกลีบบวั หัวเสา
เจดีย์พระบรมธาตุ เป็นศิลปะแบบศรีวิชัย มีลักษณะส่ีเหล่ียม
ย่อมุมไม้ ๒๐ ยอดทรงกลม แบบระฆัง ล้อมรอบด้วยพระเจดีย์องค์เล็ก
มซี มุ้ ประดษิ ฐานพระพทุ ธรปู ถดั ลงมาทำ� เปน็ ซมุ้ แบบจตรุ มขุ หลงั คาลด ๒ ชนั้
ภายในประดิษฐานพระปางนาคปรกทงั้ ๔ ทิศ
แผ่นศิลาจารึก สมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ประดิษฐานอยู่ที่
ฝาผนังด้านหลังพระวิหาร มีข้อความกล่าวถึงการบูรณปฏิสังขรณ์ และ
การฉลองพระบรมธาตเุ จดีย์
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้ ลักษณะ
ทรงไทย หลังคามุงกระเบ้ืองเคลือบ สร้างเม่ือ
ปพี ุทธศกั ราช ๒๕๐๖
หอสวดมนต์ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็
ลักษณะทรงไทย หลังคามุงกระเบ้ือง สร้างเมื่อปี
พุทธศกั ราช ๒๔๖๓
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 373
วดั ชยั สามหมอ
ประวตั ิความเปน็ มา
วดั ชยั สามหมอ ตงั้ วดั เมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๗๐ ไดร้ บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า เมอ่ื วนั ท่ี ๒ พฤศจกิ ายน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๐ เปน็ วดั เกา่ แกว่ ดั หนง่ึ ของอำ�เภอแกง้ ครอ้ จงั หวดั ชยั ภมู ิ เรม่ิ จากคนกลมุ่ หนงึ่ จากบา้ นแกง้ ครอ้
และบา้ นหนองไผ่ ยงั ไม่มวี ดั เป็นสถานทบ่ี ำ�เพ็ญบญุ ของชาวบา้ น จงึ ไดป้ ระชุมปรกึ ษาหารอื กนั หาสถานทตี่ ั้งวดั
เห็นว่าท่ีดินโนนพระคุ้มเมืองและดอนปู่ตาเจ้าพ่อสาแหล่ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ ๒๑ ไร่เศษ และอยู่ติดกับ
หนองนำ้ �หนองไผ่ กลางหมู่บ้านทั้ง ๒ พอดี และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ิชาวแก้งคร้อให้ความเคารพนับถือ
จงึ ไดร้ ว่ มกนั สรา้ งวดั ขน้ึ ในพน้ื ทด่ี งั กลา่ ว วดั ชยั สามหมอไดร้ บั การบรู ณะพฒั นาและกอ่ สรา้ งเสนาสนะ ถาวรวตั ถุ
ต่าง ๆ ภายในวดั ใหเ้ จรญิ รุง่ เรอื งตลอดมา จนถึงไดร้ บั ยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เม่ือวันท่ี ๒๙ พฤษภาคม
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๕
สถานะและทต่ี ั้ง
วดั ชัยสามหมอ เป็นพระอารามหลวงชัน้ ตรี ชนดิ สามญั สังกดั คณะสงฆ์มหานิกาย ต้งั อยูเ่ ลขท่ี ๖
หมท่ีู ๑๒ ตำ�บลชอ่ งสามหมอ อำ�เภอแก้งคร้อ จังหวดั ชยั ภมู ิ มีทีด่ ินต้ังวัด เน้อื ที่ ๒๐ ไร่ ๑ งาน ๖๑ ตารางวา
374 พระอารามหลวง เลม่ ๑
สิ่งส�ำ คญั
พระอุโบสถ ขนาดกวา้ ง ๘ เมตร ยาว ๓๒ เมตร
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะทรงไทยจตุรมุข
มุงกระเบ้ืองเคลือบ ประดับชอ่ ฟา้ ใบระกา หางหงส์ คนั ทวย
ซุม้ ประตูหน้าตา่ งประดับดว้ ยลายปูนป้ัน
พระประธาน พระนามวา่ พระพุทธชัยมงคล
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ขนาดหน้า
ตักกวา้ ง ๕ ศอก
พระชัยมงคล (หลวงพ่อพระคุ้มเมือง)
ปางมารวิชัย หน้าตัก กวา้ ง ๕ ศอก ๙ นิ้ว
พระวหิ าร ขนาดกวา้ ง ๑๔ เมตร ยาว ๔๕ เมตร
เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ทรงไทย หลงั คาลด ๒ ชนั้
ประดับช่อฟา้ ใบระกา หางหงส์
ศาลาการเปรยี ญสรา้ งเมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช๒๕๔๒
ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๔๕ เมตร เป็นอาคาร
คอนกรตี เสริมเหลก็ ทรงไทย
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 375
วดั ทรงศลิ า
ประวตั ิความเป็นมา
วัดทรงศิลา เดิมเรียกว่า วัดหินตั้ง ตามช่ือหมู่บ้าน สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๔๑๔ ในสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้หลวงวิเศษภักดี (ที) บุตรพระยาภักดีชุมพล (แล) เป็น
พระภักดีชุมพล (ที) ตำ� แหน่งเจ้าเมอื งชัยภูมิ (ในระหวา่ งปี พุทธศกั ราช ๒๔๐๖-๒๔๑๘) โดย พระภักดชี ุมพล
ได้พิจารณาเห็นว่า บ้านหินต้ัง (ท่ีตั้งจังหวัดชัยภูมิในปัจจุบัน) มีท�ำเลกว้างขวางมีชัยภูมิดี จึงได้ย้ายเมือง
จากโนนปอปิด (บรเิ วณปรางคก์ ู่กบั หนองบวั ซึ่งเปน็ เมืองเก่า) มาต้งั เมอื งใหมท่ ่ีบ้านหนิ ตั้ง และอยมู่ าจนถงึ
ทุกวันนี้ และภายหลังจากการยา้ ยเมืองมาเรยี บรอ้ ยแล้ว ไดต้ ้ังวัดข้นึ ใหม่ชือ่ วา่ วดั ทรงศลิ า
ปพี ุทธศักราช ๒๔๖๗ พระยาภมู ิพชิ ยั (เฮง ศรีไชยยนั ต)์ เจา้ เมืองชัยภูมิ และหลวงบรรจงวชิ าเชิด
(เชย สาคริชานนท์) ธรรมการจังหวัดพร้อมชาวบ้านได้ร้ือพระอุโบสถหลังเก่าออกแล้วสร้างอุโบสถหลังใหม่
ขึ้นแทน เม่ือสร้างอุโบสถเสร็จแล้วจึงสร้างหลวงพ่อโตเป็นพระประธานประจ�ำอุโบสถ ซ่ึงยังคงประดิษฐาน
มาตลอดจนถงึ ปจั จบุ นั การสรา้ งอุโบสถดงั กล่าวน้ีคงสร้างในทเ่ี ดมิ แตข่ ยายตัวอาคารออกไปกว้างกว่าเดมิ
เมอ่ื สรา้ งอโุ บสถเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ทางวดั พรอ้ มดว้ ยพอ่ คา้ ประชาชน ขา้ ราชการไดข้ อพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตขอให้ยกวัดทรงศิลาข้ึนเป็นพระอารามหลวง และได้รับยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง
เมอื่ ปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๕
376 พระอารามหลวง เลม่ ๑
สถานะและที่ตงั้
วัดทรงศิลา เป็นพระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดสามัญ ต้ังอยู่เลขที่ ๑๗๙ หมู่ท่ี ๑ ต�ำบลในเมือง
อำ� เภอเมอื งชยั ภมู ิ จงั หวัดชัยภมู ิ มที ี่ดินตงั้ วัด เนื้อท่ี ๖ ไร่เศษ
สง่ิ ส�ำคัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ลกั ษณะทรงไทย หลงั คาลด ๓ ชน้ั มงุ กระเบอ้ื ง ประดบั ชอ่ ฟา้
ใบระกา หางหงส์ หนา้ บนั ดา้ นหนา้ ประดบั ปนู ปน้ั พระพทุ ธรปู
ปางสมาธิ หน้าบันด้านหลังประดับปูนปั้นพระพุทธรูป
ประทับยืน บานประตูและหน้าต่างเป็นไม้แกะสลัก
ลงรกั ปดิ ทอง มกี �ำแพงแกว้ ล้อมรอบ
พระประธาน เป็นพระพทุ ธรปู ปางมารวชิ ยั ลงรัก
ปดิ ทอง ขนาดหนา้ ตกั กวา้ ง๑๕๐ นวิ้ สงู ๒๐๐ นว้ิ พระนามวา่
หลวงพ่อโต และมีพระพุทธรูปทองเหลืองปางมารวิชัย
อีกหนึ่งองค์ พระนามว่า พระพุทธชยั ภูมพิ ทิ ักษ์พล
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 377
พระวิหาร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
หลังคาลด ๒ ช้ัน มุงกระเบื้องเคลือบ หน้าบัน
ด ้ า น ห น ้ า แ ล ะ ด ้ า น ห ลั ง ป ร ะ ดั บ ล า ย ปู น ป ั ้ น
มพี ระปรมาภไิ ธย ภ.ป.ร. หนา้ ตา่ งประดบั กระจก ภายใน
ประดิษฐานพระพทุ ธรูปปางมารวิชยั และพระพุทธรปู
ปางต่าง ๆ อกี หลายองค์
หอเฉลิมพระเกียรติ เป็นอาคารคอนกรีต
เสรมิ เหลก็ หลงั คามงุ กระเบอื้ ง ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกา
หางหงส์ หนา้ บนั ประดบั ลายปนู ปน้ั ภายในประดษิ ฐาน
รอยพระพุทธบาทจ�ำลอง
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้ ลักษณะ
ทรงไทย สร้างเมื่อปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๐๓
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
๒ ช้ัน
378 พระอารามหลวง เล่ม ๑
วดั ขนั เงิน
ประวตั ิความเปน็ มา
วัดขันเงิน สร้างเม่ือปีพุทธศักราช ๒๒๔๐ ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้บริจาคที่ดินให้สร้างวัดจาก
ค�ำบอกเล่าของอดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดขันเงินว่า เน้ือท่ีส่วนหนึ่งด้านทิศใต้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ เป็นผู้ถวายให้กับวัดแต่ไม่มีหลักฐานบันทึกไว้ ท่ีชื่อว่า วัดขันเงิน เพราะสมัยท่ี
หลังสวนยังเป็นจังหวัดหลังสวน ตัวเมืองหลังสวนยังอยู่ในอ�ำเภอขันเงิน จึงสันนิษฐานได้ว่าน่าจะต้ังช่ือตาม
อำ� เภอน้ัน ไดร้ ับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เม่ือปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๑
สถานะและท่ีตงั้
วัดขันเงิน เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๕ หมู่ท่ี ๔ ต�ำบลวังตะกอ
อำ� เภอหลงั สวน จงั หวดั ชมุ พร มีทดี่ ินตั้งวดั เน้ือท่ี ๒๔ ไร่ ๓ งาน ๘๐ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 379
สิ่งส�ำคัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ทรงจตรุ มุข หลังคาลด ๓ ชั้น มุงกระเบือ้ ง หนา้ บนั
ปนู ปั้นลายกระหนก มีพ่มุ ข้าวบิณฑ์เป็นรูปดวงอาทิตย์
อยู่ตรงกลาง ซุ้มประตูปูนปั้นลายเทพพนม
ซุ้มหน้าต่างปูนปั้นลายราหูอมจันทร์ บานประตูและ
หน้าต่างเป็นไม้สักแกะลายเครือวัลย์ ผนังภายใน
มีภาพจิตรกรรมเขียนภาพพุทธประวัติ สร้างเม่ือ
ปีพุทธศักราช ๒๔๙๕
พระประธาน เป็นพระพุทธชินราชจ�ำลอง
ปางมารวชิ ัย หน้าตักกว้าง๔ ศอก สูงประมาณ ๖ ศอก
สร้างดว้ ยทองเหลือง
พระอุโบสถหลังเก่า เป็นอาคารก่ออิฐ
ถือปูน ลักษณะทรงไทย หลังคามุงกระเบื้องหน้าบัน
ปูนปั้นลายกระหนก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป
ปางมารวชิ ยั พระนามว่า หลวงพ่ออนิ ทร์
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ลักษณะทรงไทย หลังคามุงกระเบ้ือง
ชั้นบนเป็นห้องเรียน ช้นั ลา่ งเปน็ หอประชุมเรยี กชอื่ วา่ ศาลา ๓๐๐ ปี
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ขนาดกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๓๐ เมตร
สรา้ งเมือ่ ปีพทุ ธศักราช ๒๕๓๙
380 พระอารามหลวง เลม่ ๑
วดั ชมุ พรรังสรรค์
ประวตั ิความเปน็ มา
วดั ชมุ พรรงั สรรค์ สรา้ งเมอื่ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๓๖๓ โดยพระยากำ�แพงเพชรสงคราม (ซยุ้ ) เจา้ เมอื งชมุ พร
ในสมัยนั้นพม่าเข้าตีเมืองชุมพร และยึดเมืองชุมพรไว้ นายซุ้ยได้คุมพลพรรคเข้าตีข้าศึก ได้รับชัยชนะ
จนพม่าต้องถอยทัพออกจากเมืองชุมพร ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้า
แต่งตั้งฐานันดรศักดิ์เป็นพระยากำ�แพงเพชรสงคราม ดำ�รงตำ�แหน่งเจ้าเมืองชุมพรเมื่อสงครามสงบลง
ท่านได้สร้างวัดให้ช่ือว่า วัดราชคฤห์ดาวคะนอง ต่อมาปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ คณะกรรมการสงฆ์จังหวัด
ชุมพรได้เปลี่ยนช่ือวัดเป็น วัดชุมพรรังสรรค์ หลังสงครามโลกครั้งท่ี ๒ ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาวัด
มาโดยลำ�ดบั ไดร้ บั ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมือ่ ปีพุทธศกั ราช ๒๕๒๕
สถานะและที่ตั้ง
วัดชมุ พรรงั สรรค์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามญั ต้ังอยเู่ ลขที่ ๒๐๐ หม่ทู ่ี ๕ ตำ�บลนาทุง่
อำ�เภอเมืองชมุ พร จงั หวดั ชุมพร มที ีด่ นิ ต้ังวัด เนื้อที่ ๒๒ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 381
สิ่งส�ำคญั
พระอุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
หลังคาลด ๓ ชั้น มุงกระเบ้ือง ประดับช่อฟ้า
ใบระกา หางหงส์ หน้าบันปูนปั้นลายเทพพนม
ซุ้มประตูหน้าต่างลายปูนปั้น บานประตูหน้าต่าง
เป็นไม้ สร้างเมือ่ ปพี ุทธศกั ราช ๒๔๘๐
พระประธาน เป็นพระพทุ ธรปู ปางสมาธิ พระนามว่า หลวงพ่อรอดสงคราม
382 พระอารามหลวง เลม่ ๑
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสรมิ เหลก็ หลงั คามงุ กระเบอ้ื ง ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกา
หางหงส์ ภายในประดษิ ฐาน พระพทุ ธรูปปางสมาธิ
พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่สงค์ เป็นอาคาร
คอนกรตี เสรมิ เหลก็ ๒ ชน้ั หลงั คามงุ กระเบอ้ื งเคลอื บ
ชั้นบนเป็นที่พักสงฆ์ ชั้นล่างเป็นท่ีเก็บเคร่ืองทรง
ของพระยากำ� แพงเพชรสงครามเจ้าเมืองชุมพร
หอระฆัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ขนาดกว้าง ๒ เมตร ยาว ๒ เมตร สร้างเมื่อปี
พุทธศกั ราช ๒๕๒๙
พระอารามหลวง เลม่ ๑ 383
วดั ราษฎร์บูรณาราม
ประวตั ิความเป็นมา
วดั ราษฎร์บูรณาราม เดิมช่ือว่า วดั เขาหอ่ เพราะมีภูเขาลอ้ มรอบ สร้างเมอ่ื ปีพทุ ธศักราช ๒๒๙๖
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๖๕ พร้อมท้ัง
ได้พระราชทานพระประธานในพระอุโบสถ พระนามว่า พระพุทธสิงห์ และทรงพระราชทานนามวัดว่า
วัดราชบรู ณาราม
ต่อมาในสมัยเจ้าคุณภัทรธรรมธาดา เจ้าคณะจังหวัดชุมพร ได้ด�ำเนินการเปล่ียนช่ือจาก
วัดราชบูรณาราม เป็น วัดราษฎร์บูรณาราม ตั้งแต่นั้นมา ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี
พุทธศักราช ๒๕๕๑
สถานะและทีต่ ้งั
วัดราษฎร์บูรณาราม เป็นพระอารามหลวง
ชั้นตรี ชนิดสามัญ ต้ังอยู่เลขท่ี ๒ ต�ำบลท่ามะพลา
อ�ำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร มีท่ีดินต้ังวัด เนื้อที่
๘๕ ไร่
384 พระอารามหลวง เล่ม ๑
สงิ่ ส�ำคัญ
พระอโุ บสถ เป็นอาคารไม้ ลกั ษณะทรงโรง
หลงั คามงุ กระเบ้ือง
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางมารวิชัย
พระเจดีย์รัตนตรัย ลักษณะก่ออิฐถือปูน
ทรงระฆังคว�่ำ ย่อมุมไม้สิบสอง ภายในประดิษฐาน
พระพุทธสหิ งิ ค์จ�ำลอง
พระเจดีย์พ่อท่านในกุฎี ลักษณะก่ออิฐ
ถือปูน ย่อมุมไม้สิบหก ฐานมีช้าง ๔ เศียร บูรณะ
ในสมัยรัชกาลที่ ๓
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 385
ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารคอนกรีต
เสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้อง ประดับช่อฟ้า
ใบระกา หางหงส์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป
ปางนาคปรก
หอระฆงั เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ทรง
จตุรมขุ หลังคามงุ กระเบื้อง
386 พระอารามหลวง เลม่ ๑
วดั เจ็ดยอด
ประวัตคิ วามเป็นมา
วัดเจ็ดยอด เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอาณาจักรล้านนา ในรัชกาลท่ี ๑๐
แห่งราชวงศ์มังราย ต่อมาราษฎรชาวเชียงใหม่ ล�ำพูน ล�ำปาง ได้เดินทางไปแผ้วถางป่า เพ่ือบุกเบิก
หาที่ท�ำกินใหม่ ได้พบซากวัดเก่าแนวก�ำแพง ฐานพระวิหาร ฐานเจดีย์ ซ่ึงมีฐาน (เล็บธรณี) ปรากฏเป็น
พระธาตุ ๗ องค์ ซึ่งช�ำรุดทรุดโทรมมาก พระครูธานคันธะ คนฺธวํโส พระภิกษุท่ีร่วมเดินทางมาพร้อมกับ
ราษฎรจึงชักชวนให้ร่วมกันบูรณะวัดโบราณแห่งนี้ให้เป็นวัดประจ�ำหมู่บ้านและใช้เรียกชื่อว่า วัดเจ็ดยอด
ตามหลักฐานซากพระธาตอุ งค์เดมิ ๗ องค์ การสร้างพระเจดยี ์ ๗ องค์ เพ่ือเปน็ เครอ่ื งหมายหลักธรรมของ
พระพทุ ธเจ้าทีห่ มายถงึ อริยทรัพย์ ๗ และโพชฌงค์ ๗
การสรา้ งวดั และพระเจดยี ์ไดเ้ ลยี นแบบวดั เจด็ ยอดทเี่ ชยี งใหมแ่ ตม่ ขี นาดเลก็ กวา่ และไมม่ พี ระบรมธาตุ
หรอื อเุ ทสิกะอ่ืนใดบรรจอุ ยู่ ได้รับยกฐานะเปน็ พระอารามหลวง เมื่อปีพุทธศกั ราช ๒๕๒๑
สถานะและทตี่ ้ัง
วดั เจด็ ยอด เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี ชนดิ สามญั ตงั้ อยเู่ ลขท่ี ๑๘ ตำ� บลเวยี ง อำ� เภอเมอื งเชยี งราย
จงั หวัดเชียงราย มที ่ดี นิ ตง้ั วัด เนอ้ื ที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ๙๔ ตารางวา
พระอารามหลวง เล่ม ๑ 387
ส่ิงส�ำคัญ
พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ลักษณะทรงไทยล้านนา หลังคาลด ๒ ช้ันมุงกระเบ้ือง
ประดบั ชอ่ ฟ้า ใบระกา หางหงส์มมี ุขหน้า ผนงั ดา้ นนอก
และดา้ นในลวดลายวจิ ติ รสวยงาม
388 พระอารามหลวง เลม่ ๑