The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนวิชาเครื่องมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jintawat0731, 2021-05-19 04:12:43

เครื่องมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

แผนวิชาเครื่องมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

Keywords: 20105-2004

สอื่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

ส่ือสง่ิ พมิ พ์
1. เอ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส อ น วิ ช า เ ค ร่ื อ ง มื อ วั ด ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์
(ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-6)
2. ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้ันให้
ความรู้ เพือ่ ให้บรรลุจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 1-6)
3. ใบปฏิบัติงาน 2 โครงสร้างดารส์ นั วาล์มิเตอรแ์ บบเขม็ ช้ี ขน้ั ประยุกต์ใช้ ข้อ 1
4. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 2 สรุปและประเมนิ ผล ข้อ 2
5. แบบประเมินผลงานตามใบงาน ใช้ประกอบการสอนขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ ข้อ 1
6. แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยุกต์ใช้ ข้ันสรปุ และประเมนิ ผล

ส่อื โสตทัศน์ (ถา้ มี)

1. หนงั สือ เรือ่ ง โครงสรา้ งมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง

ส่อื ของจรงิ
โครงสรา้ งมาตรวัดไฟฟา้ กระแสตรง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 1-6)

แหลง่ การเรียนรู้

ในสถานศกึ ษา
1. ห้องสมุดวทิ ยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร
2. ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็

นอกสถานศึกษา
ผูป้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่ินจังหวัดสมทุ รสาคร

การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอ่นื

1. บูรณาการกับวชิ าอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เบอื้ งต้น
2. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้าเบ้ืองต้น
3. บูรณาการกบั วชิ าเคร่ืองวัดไฟฟ้า

การประเมินผลการเรียนรู้
• หลกั การประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ก่อนเรียน
ความรเู้ บ้ืองต้นกอ่ นการเรียนการสอน

ขณะเรยี น
1. ตรวจใบปฏบิ ตั งิ าน 2 โครงสรา้ งดาร์สนั วาลม์ ิเตอร์แบบเข็มช้ี
2. สงั เกตการทำงาน

หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบฝึกหัดหน่วยที่ 2

คำถาม

1. จงอธิบายดารส์ ันวาลม์ เิ ตอร์
2. ประเภทมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง มีกปี่ ระเภทอะไรบา้ ง
3. ปรมิ าณทางไฟฟ้า คือ
4. ความผดิ พลาดในการใชม้ าตรวดั เกดิ มาจาก
5. เปรยี บเทยี บดาร์สันวาล์มิเตอรช์ นิดหอ้ ยแขวนด้วยแทบตงึ และชนิดแกนกลางเป็นแม่เหลก็ ต่างกนั

อยา่ งไร

ผลงาน/ช้นิ งาน/ผลสำเรจ็ ของผู้เรยี น

ตรวจใบปฏิบัตงิ าน 2 โครงสรา้ งดาร์สันวาลม์ ิเตอร์แบบเข็มช้ี, แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 2

สมรรถนะท่พี งึ ประสงค์

ผเู้ รียนสรา้ งความเขา้ ใจเกย่ี วกบั โครงสรา้ งมาตรวดั ไฟฟ้ากระแสตรง
1. วิเคราะหแ์ ละตีความหมาย
2. ต้งั คำถาม
3. อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ ระดมสมอง
4. การประยุกต์ความรสู้ ่งู านอาชพี

สมรรถนะการปฏิบตั งิ านอาชีพ

1. แสดงความร้เู ก่ยี วกบั โครงสรา้ งมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง

สมรรถนะการขยายผล

ความสอดคล้อง
จากการเรียน เร่ือง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เพ่ิมเก่ียวกับมาตรวัด
ไฟฟ้ากระแสตรง ซ่ึงเป็นเครือ่ งวดั ไฟฟ้าแบบพ้ืนฐาน สรา้ งขึ้นมาใช้งานแพรห่ ลายมาตรวัดพ้ืนฐานมีส่วนแสดงผลอยู่
ในรูปเข็มช้ีบ่ายเบนไป อาศัยการผลักดันกันของแม่เหล็กสองสนาม คือ สนามแม่เหล็กถาวร และสนามแม่เหล็ก
ไฟฟา้ เป็นเหตุให้เกิดการแสดงค่าปริมาณไฟฟ้าออกมา มาตรวัดท่ีสร้างใช้งานชนดิ น้ีเป็นมาตรวัดชนิดใช้วัดไฟฟ้า
กระแสตรง เรียกว่า ดาร์สันวาลม์ ิเตอร์ การบา่ ยเบนไปของเข็มชี้มาตรวัดขึ้นอยู่กบั ปริมาณกระแสไฟฟ้าทีไ่ หลเข้า
มา กระแสไฟฟ้าไหลนอ้ ยสนามแม่เหล็กเกดิ นอ้ ย เข็มมิเตอร์บ่ายเบนไปนอ้ ย กระแสไฟฟ้าไหลมากสนามแม่เหล็ก
เกดิ มาก เขม็ มเิ ตอร์บ่ายเบนไปมาก

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

• จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 1 อธบิ ายดารส์ นั วาลม์ เิ ตอร์ได้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธบิ ายดารส์ นั วาล์มิเตอร์ได้ ได้ 1 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 จดั ประเภทมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรงได้

1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : จัดประเภทมาตรวดั ไฟฟา้ กระแสตรงได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 3 ตรวจพบปริมาณทางไฟฟา้ ได้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ตรวจพบปรมิ าณทางไฟฟา้ ได้ จะได้ 3 คะแนน

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 สงั เกตความผดิ พลาดในการใชม้ าตรวัดได้

1. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2. เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : สังเกตความผดิ พลาดในการใชม้ าตรวดั ได้ จะได้ 2 คะแนน

• จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 เปรียบเทียบดาร์สันวาล์มิเตอร์ชนิดห้อยแขวนด้วยแทบตึงและชนิด

แกนกลางเปน็ แมเ่ หล็กได้

1. วิธีการประเมนิ : ตรวจผลงาน

2. เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : เปรียบเทียบดารส์ ันวาล์มิเตอร์ชนดิ หอ้ ยแขวนดว้ ยแทบตงึ และชนิด

แกนกลางเปน็ แมเ่ หลก็ ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 6 ใช้มาตรวัดไฟฟา้ กระแสตรงไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

1. วธิ ีการประเมนิ : ตรวจผลงาน
2. เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ
3. เกณฑ์การให้คะแนน
: ใช้มาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรงไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมจะได้ 2
คะแนน

แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน
ชอื่ กลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………หอ้ ง...........................

รายชอ่ื สมาชกิ

1……………………………………เลขท่ี……. 2……………………………………เลขท่ี…….

3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่…….

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เหน็

32 1

1 เนือ้ หาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรเู้ กย่ี วกับเนอื้ หา ความถูกต้อง

ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ )

2 รปู แบบการนำเสนอ

3 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม

4 บุคลิกลักษณะ กิรยิ า ท่าทางในการพูด น้ำเสยี ง ซึ่งทำใหผ้ ู้ฟังมีความ

สนใจ

รวม

ผปู้ ระเมิน…………………………………………………
เกณฑก์ ารให้คะแนน
1. เนอื้ หาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถกู ต้อง

3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบถ้วน แต่ตรงตามจดุ ประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ถูกต้อง ไมต่ รงตามจุดประสงค์
2. รูปแบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอที่เหมาะสม มกี ารใช้เทคนคิ ทีแ่ ปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี

ประกอบการ นำเสนอที่นา่ สนใจ นำวสั ดใุ นท้องถิ่นมาประยุกต์ใชอ้ ย่างค้มุ คา่ และประหยัด
2 คะแนน = มเี ทคนิคการนำเสนอท่แี ปลกใหม่ ใช้สือ่ และเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอท่ีนา่ สน ใจ

แตข่ าด การประยุกตใ์ ช้ วัสดใุ นทอ้ งถ่นิ
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ
3. การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลุ่ม
2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มบี ทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม
1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกล่มุ
4. ความสนใจของผู้ฟงั
3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ
2 คะแนน = ผู้ฟงั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื
1 คะแนน = ผู้ฟงั น้อยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ

แบบประเมนิ กระบวนการทำงาน

ช่อื กลมุ่ ……………………………………………ชั้น………………………หอ้ ง...........................

รายช่อื สมาชกิ 2……………………………………เลขที่…….
4……………………………………เลขที่…….
1……………………………………เลขท…ี่ ….
3……………………………………เลขท…่ี ….

ที่ รายการประเมนิ คะแนน ข้อคดิ เหน็

1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกนั 321
2 การแบ่งหน้าทีร่ ับผิดชอบและการเตรียมความพรอ้ ม
3 การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ที ่ไี ด้รับมอบหมาย
4 การประเมนิ ผลและปรับปรุงงาน

รวม

ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………
วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………...

เกณฑก์ ารให้คะแนน

1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน
3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีสว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอยา่ งชดั เจน
2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ สี ่วนรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน
1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนน้อยมสี ่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน

2. การมอบหมายหนา้ ทรี่ บั ผิดชอบและการเตรียมความพรอ้ ม
3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ่วั ถงึ และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ /
อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรียง
2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง แตไ่ ม่ตรงตามความสามารถ และมีส่ือ / อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง แต่ขาด
การจัดเตรียมสถานที่
1 คะแนน = กระจายงานไมท่ วั่ ถึงและมีสือ่ / อุปกรณ์ไม่เพียงพอ

3. การปฏบิ ตั ิหน้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย
3 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตามเปา้ หมาย และตามเวลาท่กี ำหนด
2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แตช่ ้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด
1 คะแนน = ทำงานไม่สำเรจ็ ตามเป้าหมาย

4. การประเมนิ ผลและปรับปรงุ งาน
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารอื ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเปน็ ระยะ
2 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมสี ว่ นรว่ มปรึกษาหารือ แตไ่ มป่ รบั ปรงุ งาน

คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นไม่มสี ่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรบั ปรุงงาน

บนั ทึกหลงั การสอน

หนว่ ยท่ี 2 โครงสร้างมาตรวัดไฟฟา้ กระแสตรง

ผลการใชแ้ ผนการสอน

1. เนือ้ หาสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
2. กิจกรรมการสอนเหมาะสมกับเนือ้ หาและเวลาทีก่ ำหนด
3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี

ผลการเรยี นของนักเรยี น งาน

1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความเขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคำถามในกลมุ่ และรว่ มกนั ปฏบิ ัติ
ท่ีไดร้ ับมอบหมาย

2. นักศกึ ษากระตือรอื ร้นและรับผดิ ชอบในการทำงานกลุ่มเพอื่ ใหง้ านสำเรจ็ ทันเวลาท่กี ำหนด
3. นักศกึ ษาตรวจพบปริมาณทางไฟฟ้าได้
4. นกั ศกึ ษาความผิดพลาดในการใชม้ าตรวัดได้

ผลการสอนของครู

1. สอนเนอื้ หาไดค้ รบตามหลักสูตร
2. แผนการสอนและวิธกี ารสอนครอบคลมุ เนอ้ื หาการสอนทำให้ผู้สอนสอนได้อย่างมั่นใจ
3. สอนทันตามเวลาทีก่ ำหนด

แผนการสอน/แผนการเรยี นรภู้ าคทฤษฏี

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3

ชื่อวิชา เครื่องมือวัดไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ สอนสัปดาห์ที่ 3-4

ช่ือหนว่ ย แอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง คาบรวม 16

ชอื่ เรอื่ ง แอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง จำนวนคาบ 4

หวั ข้อเร่อื ง

ด้านความรู้
1. แอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง

ดา้ นทกั ษะ
2. คำนวณและขยายยา่ นวัดดซี ีแอมมเิ ตอร์

3. ต่อดซี ีแอมมเิ ตอรว์ ัดกระแสไฟฟ้า
4. อา่ นค่ากระแสไฟฟา้ บนสเกลดซี ีแอมมิเตอร์

ด้านจิตพิสยั
5. โครงสรา้ งดซี ีแอมมิเตอร์

ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม
6. อ่าน คำนวณ และตอ่ แอมมเิ ตอร์

สาระสำคญั

วงจรเรียงกระแสแบบเต็มคล่ืน จะใชไ้ ดโอด 2 ตัวในการเรียงกระแสโดยใช้หม้อแปลงแบบมีแทปกลาง
เป็นตัวแบ่งเฟสให้ไดโอด โดยไดโอดจะนำกระแสครั้งละตัวในแต่ละครึ่งของไฟสลับท่ีเข้ามา ทำให้ได้แรงดันท่ี
เอาต์พุทตลอดช่วงของแรงดันไฟสลบั ท่ีเข้ามา วงจรเรียงกระแสแบบเต็มคลื่นมีสองแบบ คือ แบบท่ีใชห้ ม้อแปลง
มีแทปกลางร่วมกับไดโอด 2 ตัว และแบบที่มีไดโอดบริดจ์ 4 ตัวและหม้อแปลงไม่จำเป็นต้องมีแทปกลางก็ได้
แรงดนั เอาตพ์ ุททีไ่ ด้จะสูงขึ้นกว่าแบบเรยี งกระแสแบบคร่งึ คลน่ื เปน็ สองเท่า

สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย

1. อ่าน คำนวณ และตอ่ แอมมิเตอร์

คำศัพทส์ ำคญั

1. วงจรเรยี งกระแสเต็มคลื่น คือ สามารถเรียงดันไฟสลับใหอ้ อกเอาต์พตุ ได้ท้ังช่วงบวกและช่วงลบของ
แรงดันไฟสลับที่ป้อนเขา้ มาที่อนิ พตุ ของวงจร โดยไมม่ สี ว่ นใดของแรงดันไปสลับถกู ตัดท้ิงไป ลักษณะของวงจรจะ
ใชไ้ ดโอด 2 ทำหน้าท่ีแปลงสญั ญาณไฟสลับเปน็ สญั ญาณไฟตรงโดยมีหม้อแปลงไฟฟ้าแบบมแี ท็บกลาง ทำหนา้ ท่ี
แบ่งเฟสให้เกิดการตา่ งเฟสกัน 180° ระหวา่ งสัญญาณจากส่วนบย และสว่ นล่างของขดทุตยิ ภมู ิของหม้อแปลง
เพ่ือใหไ้ ดโอดท้ังสองตวั สลับกันทำงาน ดังน้ัน วงจรจึงสามารถจ่ายแสงได้เรยี บและสูงกว่าวงจรเรยี บกระแสแบบ
ครึ่งคล่ืน

จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้

• จุดประสงค์ทว่ั ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

1. เพื่อใหม้ คี วามรเู้ กยี่ วกับการอธบิ ายแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (ด้านความรู้)
2. เพอ่ื ให้มีทักษะในการฝกึ คำนวณและขยายยา่ นวดั ดซี แี อมมิเตอร์ (ด้านทักษะ)
3. เพ่ือใหม้ ีทักษะในการทดลองต่อดีซแี อมมเิ ตอรว์ ัดกระแสไฟฟา้ (ดา้ นทักษะ)
4. เพอ่ื ใหม้ ีทักษะในการอา่ นค่ากระแสไฟฟ้าบนสเกลดซี ีแอมมิเตอร์ (ดา้ นทกั ษะ)
5. เพ่ือให้มีเจตคติที่ดีในติดตามการยอมรบั โครงสร้างดีซีแอมมิเตอร์ (ดา้ นจติ พสิ ยั )
6. เพอ่ื อา่ น คำนวณ และต่อแอมมิเตอร์ (ด้านด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง)

• จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. อธิบายแอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้ (ดา้ นความร)ู้

2. ฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดีซีแอมมเิ ตอรไ์ ด้ (ดา้ นทกั ษะ)

3. ทดลองต่อดซี ีแอมมิเตอรว์ ดั กระแสไฟฟา้ ได้ (ด้านทักษะ)

4. อา่ นคา่ กระแสไฟฟ้าบนสเกลดซี ีแอมมิเตอรไ์ ด้ (ด้านทกั ษะ)

5. ยอมรบั โครงสร้างดีซแี อมมิเตอรไ์ ด้ (ด้านจติ พิสยั )

6. อ่าน คำนวณ และตอ่ แอมมเิ ตอร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามหลักการ (ด้านดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณา

การเศรษฐกิจพอเพยี ง)

เนือ้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

• ดา้ นความรู้(ทฤษฎี)

3.1 แอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง

แอมมิเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง (Direct Current Ammeter) หรือเรยี กว่า ดีซีแอมมิเตอร์(DC Ammeter)
เป็นมาตรวัดกระแสไฟฟ้ากระแสตรง ท่ีสร้างขน้ึ มาเพ่ือใช้วดั กระแสไฟฟ้า โดยดัดแปลงมาจากดาร์สันวาล์มิเตอร์
เพราะดาร์สันวาล์มเิ ตอร์เปน็ มาตรวัดท่ีโครงสร้างภายในส่วนของการรับกระแสไฟฟา้ จากภายนอก มีเพียงขดลวด
เคล่ือนท่ีมีขนาดขดลวดเส้นเล็กมาก จำนวนรอบขดลวดน้อย ทำให้เม่ือนำไปวัดกระแสไฟฟ้าสามารถวัด
กระแสไฟฟ้าไดใ้ นปริมาณเล็กน้อยไม่สะดวกในการนำไปใช้งาน เพือ่ ให้การใช้งานเกดิ ความคล่องตัว และสามารถ
ใช้งานได้อย่างกว้างขวางเพิ่มข้นึ จึงต้องดัดแปลงดาร์สันวาล์มิเตอร์ให้ใช้งานเป็นแอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงวัด
กระแสไฟฟ้าไดม้ ากข้ึน ด้วยการเพิ่มส่วนประกอบของอุปกรณ์เข้าไปในวงจรมาตรวดั ต่อรว่ มใช้งานกับดาร์สันวาล์
มิเตอร์ ช่วยใหส้ ามารถเพิม่ แอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง ใชง้ านได้กวา้ งขวางหลายขนาด สรา้ งเปน็ แอมมเิ ตอร์ไฟฟ้า
กระแสตรงได้หลายชนิด เรียกชือ่ ตามขนาดกระแสไฟฟ้าที่วัดได้ เช่น ไมโครแอมมิเตอร์ (Microammeter) มิลลิ
แอมมเิ ตอร์ (Milliammeter) และแอมมเิ ตอร์(Ammeter) เป็นต้น

จากรปู ที่ 3.1 แสดงแอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง ที่สร้างขึ้นมาใช้งานหลากหลายรูปแบบใช้งาน สร้างให้
เหมาะสมกับการใช้งานในย่านวัดกระแสไฟฟ้าที่ต้องการ โดยนำดาร์สันวาล์มิเตอร์มาดัดแปลงให้ใช้งานได้
กว้างขวางมากขึ้น ด้วยการต่อเพ่ิมอุปกรณ์ประกอบร่วมกับดาร์สันวาล์มิเตอร์ จัดการต่อวงจรให้ถูกต้องตาม
ต้องการ สามารถดัดแปลงไปเป็นมาตรวัดกระแสไฟฟ้าได้หลายชนิด นอกจากการจัดวงจรให้ถูกต้องแล้ว ต้อง
ปรบั เปลี่ยนสเกลของมาตรวัดแต่ละชนดิ ใหเ้ หมาะสมกับการใช้งานดว้ ย โดยให้สัมพันธก์ ับปริมาณไฟฟ้าที่ป้อนเข้า
มา

3.2 โครงสร้างดีซีแอมมเิ ตอร์

ดีซีแอมมิเตอร์ สร้างข้ึนมาเพ่ือนำไปใช้งานในการวัดค่ากระแสไฟฟ้ากระแสตรง สร้างขึ้นมาใช้วัด
กระแสไฟฟ้าได้หลายชนิด เช่น ไมโครแอมมิเตอร์ วัดกระแสไฟฟ้าปริมาณน้อยเป็นไมโครแอมแปร์

(Microampere ; μA) มิลลิแอมมิเตอร์ วัดกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มข้ึนเป็นมิลลิแอมแปร์(Milliampere ; mA) และ
แอมมเิ ตอร์ วดั กระแสไฟฟ้าไดเ้ พิ่มมากข้นึ เป็นแอมแปร์ (Ampere ; A)เปน็ ต้น

ดีซีแอมมิเตอร์ โครงสรา้ งเบ้ืองต้นประกอบด้วย ตัวต้านทานต่อขนานกับขดลวดเคล่ือนท่ีตัวต้านทานนี้
เรียกว่า ตัวต้านทานขนาน (Shunt Resistor) ตัวต้านทานขนานท่ีต่อในวงจรเพื่อทำหน้าที่แบ่งกระแสไฟฟ้า
ส่วนเกินจากท่ีดาร์สันวาล์มิเตอร์รับไม่ได้ ให้ไหลผา่ นตัวต้านทานขนานส่งผลใหด้ าร์สนั วาล์มิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า
ได้เพ่มิ ข้ึน คอื ดซี แี อมมเิ ตอรว์ ัดกระแสไฟฟ้ากระแสตรงไดม้ ากขน้ึ

จากรูปท่ี 3.2 แสดงดซี ีแอมมเิ ตอรส์ รา้ งจากดารส์ นั วาล์มเิ ตอร์ ต่อร่วมกบั ตวั ต้านทานขนาน มผี ลทำให้ดาร์
สนั วาล์มิเตอรก์ ลายเปน็ ไมโครแอมมเิ ตอร์ มิลลแิ อมมเิ ตอร์ หรือแอมมิเตอร์ได้ตามตอ้ งการ การจะทำเป็นมาตรวัด

สามารถวดั กระแสไฟฟ้ายา่ นใดได้ ขึน้ อยู่กับขนาดของค่าความตา้ นทานขนานที่นำมาตอ่ ขนานร่วมในวงจร ว่ามีค่า

ความต้านทานมากนอ้ ยเพียงไร ความต้านทานขนานมีค่าความตา้ นทานสูง ดีซแี อมมิเตอรจ์ ะใช้วัดกระแสไฟฟ้าได้

ตำ่ ในย่านไมโครแอมแปร์ หรอื ยา่ นมิลลแิ อมแปร์ แต่ถา้ ความตา้ นทานขนานมคี ่าความต้านทานต่ำ ดีซแี อมมเิ ตอร์

จะใช้วัดกระแสไฟฟ้าได้สูงข้ึนเป็นแอมแปร์ ยิ่งคา่ ความตา้ นทานขนานท่นี ำมาตอ่ ขนานมคี า่ ความต้านทานย่งิ ตำ่ ลง

มากเท่าไร ทำใหด้ ซี แี อมมิเตอรต์ ัวน้ันยิง่ วดั กระแสไฟฟา้ ไดส้ งู มากขนึ้ เท่านนั้

ตัวต้านทานขนานท่ีใช้ต่อทำให้ดีซีแอมมิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มข้ึนน้ัน นอกจากจะต่อภายในดีซี

แอมมิเตอร์แลว้ ยังสามารถต่อภายนอกดซี ีแอมมิเตอร์ไดด้ ว้ ย เพ่อื ช่วยทำใหด้ ีซีแอมมิเตอรต์ ัวเดิมสามารถนำไปวัด

กระแสไฟฟ้าได้สูงมากขึ้น โดยนำตัวต้านทานขนานต่อขนานกับดีซีแอมมิเตอร์ตัวเดิม ตัวต้านทานขนานต่อ

ภายนอกจะเป็นตัวต้านทานที่มีค่าความต้านทานตำ่ มากๆ จึงถูกผลิตมาจากสารจำพวกโลหะ เช่น คอนสแตนแตน

(Constantan) เป็นโลหะผสมที่ประกอบด้วยทองแดงประมาณ 60 % และนกิ เกลิ ประมาณ 40 % ทำออกมาใน

รูปแผ่นโลหะบาง วางขนานห่างกันหลายแผ่น ยึดแผ่นโลหะคอนสแตนแตนเหล่าน้ีด้วยแทน่ ทองแดงท้ังสองด้าน

ลกั ษณะการตอ่ ตัวตา้ นทานขนานต่อภายนอกเข้ากับดีซแี อมมเิ ตอร์

จากรูปที่ 3.3 แสดงตวั ต้านทานขนานภายนอกและการตอ่ ตวั ต้านทานขนานร่วมกับดซี ีแอมมิเตอร์ รูปท่ี

3.3 (ก) เป็นตัวต้านทานขนานชนิดต่อภายนอกแบบหน่ึง มีค่าความต้านทานต่ำมากแต่มีค่าทนกำลังไฟฟ้าสูง

เพ่ือให้สามารถทนคา่ กระแสไฟฟา้ กระแสตรงคา่ สูงๆ ไหลผา่ นได้โดยไม่เกดิ การชำรดุ เสียหายขณะนำดีซแี อมมเิ ตอร์

ไปวัดกระแสไฟฟ้าในวงจร และรูปท่ี 3.3 (ข)แสดงลักษณะการต่อตัวต้านทานขนานไว้ภายนอกแบบต่อขนาน

ร่วมกับดีซีแอมมิเตอร์ ทำให้ดีซีมิลลิแอมมิเตอร์ตัวเดิมสามารถวัดกระแสไฟฟ้าได้สูงมากขึ้นเป็นแอมแปร์ หรือ

หลายแอมแปรไ์ ด้ขนาดกระแสไฟฟา้ จะวดั ไดม้ ากหรือน้อย อยูท่ ่ีการปรบั เปลยี่ นค่าความต้านทานขนานทีน่ ำมาต่อ

3.3 คำนวณและขยายยา่ นวัดดีซีแอมมิเตอร์

ดาร์สันวาลม์ ิเตอร์ที่มีตัวต้านทานขนานต่อร่วมอยู่ด้วยนั้น ช่วยทำใหด้ าร์สนั วาล์มิเตอร์เปล่ียนไปเป็นดีซี

แอมมิเตอร์ไดท้ นั ที สว่ นสำคัญของการต่อตวั ต้านทานขนานเข้าวงจร จะต้องเลือกค่าความต้านทานท่ีเหมาะสมมา

ต่อใช้งาน โดยพิจารณาจากคา่ กระแสไฟฟา้ ท่ีต้องการให้ดีซีแอมมิเตอรใ์ ช้วัดค่าได้ เป็นตัวกำหนดคา่ ความตา้ นทาน

ขนานท่ตี ้องใช้งาน ค่าความต้านทานขนานคา่ ทเ่ี หมาะสมดังกล่าวสามารถหาคา่ ไดโ้ ดยใช้วิธคี ำนวณ

จากรูปท่ี 3.4 แสดงวงจรดีซีแอมมิเตอรเ์ บอ้ื งต้นใช้ในการคำนวณคา่ ตา่ งๆ ภายในวงจรประกอบด้วยดาร์

สันวาล์มิเตอรม์ คี ่าความต้านทานขดลวดเคลือ่ นที่ RM ต่อขนานกบั ตัวต้านทานขนานมคี า่ ความตา้ นทาน RSH เมื่อ

จา่ ยกระแสไฟฟ้า I เข้าวงจรแอมมิเตอร์ท่ีจุด A กระแสไฟฟ้าถึงจุดต่อวงจรขนาน กระแสไฟฟ้าแยกไหลออกสอง

ทาง ทางหนึ่งผ่านขดลวดเคลื่อนท่ี RM มีค่ากระแสไฟฟ้า IM อีกทางหน่ึงผ่านตัวต้านทานขนาน RSH มีค่า

กระแสไฟฟ้า ISH อักษรย่อแต่ละค่ามรี ายละเอียดดังนี้

RM = ความตา้ นทานขดลวดเคล่อื นที่ในดารส์ นั วาล์มเิ ตอร์

หรอื เรียกวา่ ความตา้ นทานเดิมของมาตรวดั หน่วยโอหม์ (Ω)

RSH = ความต้านทานขนาน หนว่ ยโอหม์ (Ω)

I = กระแสไฟฟา้ ท้งั หมดทไี่ หลผา่ นเขา้ วงจร หน่วยแอมแปร์ (A)

IM = กระแสไฟฟา้ สูงสุดทด่ี าร์สันวาล์มเิ ตอร์ทนได้ หนว่ ยแอมแปร์ (A)

ISH = กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านตวั ตา้ นทานขนาน หนว่ ยแอมแปร์ (A)

ตวั ต้านทานขนานมคี ่าความต้านทาน RSH ต่อขนานกับขดลวดเคล่ือนท่ีมีค่าความต้านทานRM ในวงจร

ขนานแรงดันไฟฟา้ ตกคร่อมวงจรเทา่ กนั ท้งั RSH และ RM นำไปเขียนสมการแรงดันไฟฟา้ ของรูปที่ 3.4 ได้ออกมา

ดังนี้

EAB = ESH = EM
หรอื ESH = EM
แทนคา่ ในรปู ใหม่เป็น ISHRSH = IMRM

˳˚˳ RSH = IMRM
ISH
.....(3-1)

จากรูปที่ 3.4 จะได้กระแส I = ISH + IM
หรือ ISH = I IM

แทนคา่ ISH ด้วย I - IM ลงในสมการ (3-1) ไดส้ มการใหมเ่ ป็น

˳˚˳ RSH = IMRM .....(3-2)
หรอื I - IM = I - IM ....(3-3)

IMRM
RSH

˳˚˳ IMRM
I= + IM

RSH

3.4 สเกลหน้าปัดและย่านวดั ดีซแี อมมเิ ตอร์

ปกติของสเกลหนา้ ปัดของดีซีแอมมิเตอร์ จะมีเลขศูนย์อยูด่ ้านซ้ายของสเกล และตัวเลขจะค่อยๆ เพิ่มข้ึน
เปน็ ลำดบั ตามตำแหนง่ สเกลท่ีเล่อื นมาทางขวามอื ขณะปกติทดี่ ีซีแอมมเิ ตอร์ไมใ่ ช้งาน เขม็ ชีข้ องดซี แี อมมิเตอรต์ ้อง
ช้ที ่ีเลขศูนยเ์ สมอ เมื่อมีกระแสไฟฟา้ จ่ายให้ดซี ีแอมมิเตอร์เข็มชจี้ ึงเริ่มบ่ายเบนไปทางขวามือ การบ่ายเบนไปของ
เข็มช้มี ีคา่ มากหรอื นอ้ ยข้ึนอยกู่ ับปรมิ าณของกระแสไฟฟ้าท่ีไหลเข้ามา กระแสไฟฟา้ ไหลเข้าน้อยเข็มชี้บ่ายเบนไป
น้อย กระแสไฟฟ้าไหลเข้ามากเข็มชี้บ่ายเบนไปมาก แสดงค่าการไหลของกระแสไฟฟ้าท่ีสเกลหน้าปัดของดีซี

แอมมิเตอร์ลกั ษณะหน้าปดั และสเกลของดซี แี อมมิเตอร์
จากรูปที่ 3.8 แสดงสเกลหน้าปัดของดีซีแอมมิเตอร์แบบหนึ่ง แสดงค่ากระแสไฟฟ้าที่วัดได้ออกมาใน

หนว่ ยแอมแปร์ (A) ช่องสเกลถูกแบ่งออกยอ่ ยๆ ในระยะหา่ งเทา่ กัน จากคา่ น้อยดา้ นซา้ ยไปหาค่ามากด้านขวา โดย
มีย่านวัดค่าได้เต็มสเกล แบ่งออกเป็น 3 ย่าน คือ ย่าน 0 – 1 Aย่าน 0 – 5 A และย่าน 0 – 25 A ย่านวัดแต่ละ
ยา่ นใชแ้ สดงคา่ กระแสไฟฟ้าสงู สุดทว่ี ดั ไดอ้ อกมา

เน่ืองจากกระแสไฟฟ้าท่ีไหลในวงจรไฟฟ้าหรือวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลมากน้อย
แตกต่างกันไป บางวงจรมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากเป็นแอมแปร์ (A) บางวงจรมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านน้อยเป็น

มิลลิแอมแปร์ (mA) หรือไมโครแอมแปร์ (μA) ด้วยเหตุท่ีกระแสไฟฟ้าไหลในวงจรมากน้อยแตกต่างกัน จึง
จำเป็นต้องสร้างดีซีแอมมิเตอร์ข้ึนมาใช้งานแตกต่างกันโดยทั่วไปแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ แอมมิเตอร์ มิลลิ
แอมมิเตอร์ และไมโครแอมมิเตอร์ เพ่อื ให้เลือกใช้งานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และอ่านคา่ กระแสไฟฟา้ ออกมาได้ละเอยี ด
ถกู ตอ้ งมากขึน้ ลกั ษณะหนา้ ปดั และสัญลกั ษณ์ของดซี ีแอมมิเตอร์

3.5 การตอ่ ดซี ีแอมมเิ ตอรว์ ดั กระแสไฟฟา้

ดซี แี อมมเิ ตอร์เปน็ มาตรวัดสำหรับวัดปริมาณการไหลของกระแสไฟฟา้ กระแสตรงที่ไหลอยูใ่ นวงจรไฟฟ้า
การวดั กระแสไฟฟ้าทีไ่ หลในวงจรไฟฟ้า เหมอื นกับการวัดกระแสนำ้ ทไี่ หลผา่ นในทอ่ นำ้ การวดั กระแสไฟฟ้าตอ้ งตัด
วงจรไฟฟ้าออก และใช้ดีซีแอมมิเตอร์ต่อแทรกเข้าไประหว่าง วงจร โดยต้องต่อดีซีแอมมิเตอร์แบบอนุกรม
(Series) กับวงจรทีต่ ้องการวัดเสมอ

จากรูปท่ี 3.12 แสดงการต่อดีซีแอมมิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า วงจรประกอบด้วยแบตเตอร่ี
หลอดไฟ และดีซีแอมมิเตอร์ การต่อตัวดีซีแอมมิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า จะต้องต่อดีซีแอมมิเตอร์อนุกรมกับ
วงจรไฟฟ้า สิ่งท่ีต้องระมัดระวังในการต่อดีซีแอมมิเตอร์เข้าวงจรคือ การต่อวัดกระแสไฟฟ้า ขั้วต่อของดีซี
แอมมิเตอร์จะตอ้ งต่อให้ตรงกับขั้วจ่ายแรงดนั ไฟฟา้ ออกมาของแหลง่ จา่ ยไฟฟ้า ใช้หลักการตอ่ ดีซแี อมมิเตอร์วัดค่า
ดังน้ี ใกล้บวกต่อบวก ใกล้ลบต่อลบ หมายถึงการต่อดีซีแอมมิเตอร์เข้าวงจรไฟฟ้า ต้องต่อให้ข้ัวบวกของดีซี
แอมมิเตอร์ ใกลก้ ับข้ัวบวกของแหล่งจ่ายแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง และต่อให้ข้ัวลบของดีซีแอมมิเตอรใ์ กลก้ ับขั้วลบ
ของแหลง่ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง จากรูปจะเหน็ ว่าดา้ นขวาของดซี แี อมมเิ ตอร์ใกล้ขั้วบวกของแบตเตอรตี่ อ้ งใช้
ขว้ั บวกของดีซีแอมมิเตอรต์ ่อ และด้ายซา้ ยของดีซีแอมมิเตอรใ์ กล้ขัว้ ลบของแบตเตอรใี่ ชข้ ้ัวลบของดีซีแอมมิเตอร์
ตอ่ การตอ่ ผิดข้วั ทำให้ดซี ีแอมมิเตอร์วดั ค่าไมไ่ ด้ และยงั อาจทำให้ดีซแี อมมิเตอร์ชำรดุ เสยี หายได้

ดีซีแอมมิเตอร์ที่สร้างมาใช้งาน มีหลายค่าหลายขนาด การนำดีซีแอมมิเตอร์มาต่อวัดกระแสไฟฟ้าใน
วงจรไฟฟ้า ต้องระมัดระวังในเร่ืองของขนาดกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านวงจรท่ีมีดีซีแอมมิเตอร์ต่ออยู่ เพราะถ้า
กระแสไฟฟา้ ที่ไหลผ่านมีค่ามากกว่าคา่ ทด่ี ีซีแอมมิเตอร์ทนได้ ดซี ีแอมมิเตอร์อาจชำรดุ เสียหายได้ กรณีท่ีไมท่ ราบ
ค่ากระแสไฟฟ้าท่ีทำการวดั ในวงจร ควรใชด้ ีซีแอมมิเตอร์ทนกระแสไฟฟา้ ค่าสงู มาต่อวัดก่อน เมื่อต่อวัดแลว้ เข็มชี้
ไม่บา่ ยเบน หรือเข็มช้บี ่ายเบนไปนอ้ ย จงึ คอ่ ยๆ ลดขนาดการวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้ของดีซีแอมมิเตอร์ลงมา จนอยู่
ในยา่ นการบ่ายเบนของเข็มชีท้ ีเ่ หมาะสมประมาณยา่ นกลางสเกล ไมค่ วรต่ำหรอื สูงเกินไป

3.6 วิธีอ่านค่ากระแสไฟฟ้าบนสเกลดซี แี อมมิเตอร์

ดซี ีแอมมเิ ตอรแ์ บบเข็มชี้ มเี ข็มชี้เป็นตัวชค้ี า่ กระแสไฟฟ้าบนสเกล แต่ดว้ ยเข็มช้ีลอยอยู่เหนอื สเกล จงึ มผี ล
ต่อการอ่านค่ากระแสไฟฟ้าที่วดั ได้ เพราะมุมมองท่ีมองจากตาผ่านเข็มช้ีไปยงั สเกล มผี ลต่อการอ่านคา่ ที่ผิดพลาด
ได้ มุมมองทีเ่ อยี งซ้ายเอยี งขวาจะได้ค่ากระแสไฟฟา้ ท่อี ่านออกมาไมเ่ ท่ากัน การมองทีด่ ตี ้องมองจากด้านหน้ามาตร
วัดให้ตรงตามตำแหน่งเข็มช้ีลงไปยังสเกล ซึ่งเป็นตำแหน่งท่ีอ่านค่าได้ถูกต้องท่ีสุด หรือกรณีท่ีสเกลมาตรวัดมี
กระจกเงาอยู่ด้วยใหม้ องเขม็ ชจ้ี ริงและเขม็ ชีใ้ นกระจกเงาซอ้ นทบั กันพอดี การอ่านคา่ ในตำแหน่งนี้มีคา่ ถูกตอ้ งทสี่ ุด

นอกจากตำแหน่งการมองท่ีดีแลว้ การอ่านค่าออกมาจากผู้ใชง้ านก็มคี วามสำคัญเช่นกันเพราะการอ่าน
คา่ ท่ีละเอียดรอบคอบมผี ลต่อความถูกต้องของคา่ ที่วดั ได้ กรณีทเ่ี ข็มช้ีชค้ี ่าตรงกบั ตำแหนง่ ขีดบนสเกล การอ่านค่า
คงไม่ลำบากมากนัก โอกาสอ่านค่าผิดพลาดน้อยลง แต่กรณีที่เข็มชีช้ ี้ค่าไม่ตรงตำแหนง่ ขีดบนสเกล ช้ีค่าระหว่าง
ชอ่ งว่างของขีด โอกาสอา่ นคา่ ผิดพลาดเกดิ ข้ึนไดม้ าก การอา่ นค่าอยา่ งละเอียดรอบคอบช่วยใหก้ ารอ่านคา่ มีโอกาส
ผิดพลาดนอ้ ยลง

สง่ิ สำคัญในการอ่านค่าทถ่ี ูกต้อง คือต้องฝึกฝนอา่ นคา่ บ่อยๆ จะชว่ ยให้เกิดความชำนาญและสามารถอา่ น
ค่าได้ถกู ต้องรวดเรว็ สิ่งสำคญั ท่ตี อ้ งระมดั ระวงั คือ การแบ่งสว่ นยอ่ ยๆ ของช่องว่างระหวา่ งขีดบนสเกลตอ้ งจดั แบ่ง
ให้ถูกต้อง โดยใช้วิธีการแบ่งส่วนช่องว่างระหว่างขีดออกทีละครึ่งให้แบ่งส่วนย่อยลงท่ีละส่วนเป็นลำดับ จนถึง
ตำแหนง่ ที่เขม็ ชช้ี ี้ค่า กส็ ามารถอ่านคา่ ได้ถกู ต้องลกั ษณะ

จากรูปที่ 3.13 แสดงการอ่านคา่ ท่ีวัดได้บนสเกลดีซีแอมมิเตอร์ เข็มชี้ที่ช้คี ่าตามตำแหน่งเข็มชี้ ①และ
เข็มช้ี② การอ่านค่าที่ถกู ต้องทำได้โดยหาขดี ย่อยของสเกลให้ไดก้ ่อน ตามรปู ขีดใหญ่ทีม่ ีค่ากำกับไว้คือ 0.4 และ
0.6 กงึ่ กลางส่วนสเกลท่ีตำแหน่ง 0.4 ถึง 0.6 คือ 0.5 ระหวา่ ง0.4 ถึง 0.5 แบ่งออกได้เป็น 5 ส่วนย่อย ทำใหแ้ ต่ละ
ส่วนยอ่ ยมคี ่า 0.02 นบั จาก 0.4 ไปทางขวาอีก 3 ขดี ย่อย ไดค้ ่าออกมา 0.46 นับเลยไปอีก 1 ขดี ยอ่ ยได้ค่าออกมา
0.48 เขม็ ชี้ ① ชี้ทก่ี ึ่งกลางระหว่างขีดย่อยท่ี 0.46 และ 0.48 แบ่งครึง่ ระหว่าง 0.46 ถึง 0.48 ได้คา่ ออกมา 0.47
ท่ตี ำแหนง่ เขม็ ช้ี① ช้คี า่ ถกู ตอ้ งออกมาคือ 0.47

ท่ีตำแหน่งเขม็ ช้ี② ช้ีค่าอยู่ระหวา่ งขีดยอ่ ยท่ี 0.54 ถึง 0.56 แบ่งคร่ึงสเกลระหวา่ ง 0.54ถงึ 0.56 ได้ค่า
ออกมา 0.55 เข็มช้ี ② ชี้ที่กึ่งกลางระหวา่ ง 0.54 ถึง 0.55 แบง่ คร่ึงระหว่าง 0.54ถึง 0.55 ได้คา่ ออกมา 0.545
ทตี่ ำแหน่งเข็มชี้② ชี้ค่าถูกตอ้ งออกมาคือ 0.545

• ด้านทกั ษะ+ด้านจิตพิสัย (ปฏบิ ัต+ิ ด้านจติ พิสยั ) (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 2-5)

1. แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 3
2. ใบปฏิบตั ิงาน 3 ดซี ีแอมมิเตอร์

• ดา้ นคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

(จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 6)
1. อ่าน คำนวณ และต่อแอมมิเตอรไ์ ด้อยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั การ

กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรยี นรู้

ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรู้หรอื กจิ กรรมของนกั เรียน

1. ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น ( 15 นาที ) 1. ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น ( 15 นาที )

1. ผู้ส อน ตั้ งค ำถาม ว่า แ อม มิ เต อ ร์ไฟ ฟ้ า 1. ผู้เรียนช่วยกันตอบคำถามตามความเข้าใจ ของ

กระแสตรง คืออะไร ทำหน้าที่อย่างไรบ้างพร้อม แตล่ ะคน

อธิบายเหตผุ ลประกอบ

2. ผู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 3 2. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ

เรอ่ื ง แอมมเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง เรยี นหน่วยที่ 3 เร่ือง แอมมเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง

3. ผู้สอนให้ผู้เรียนระดมความคิดฝึกคำนวณและ 3. ผเู้ รียนระดมความคิดระดมความคิดฝึกคำนวณ

ขยายย่านวัดดีซแี อมมเิ ตอร์ และขยายยา่ นวดั ดีซีแอมมเิ ตอร์

2. ขน้ั ให้ความรู้ ( 240 นาที ) 2. ขั้นให้ความรู้ ( 240 นาที )

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิด PowerPoint หน่วยที่ 1. ผู้เรียนเปิด PowerPoint หน่วยท่ี 3 เร่ือง

3 เรื่อง แอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงและให้ผู้เรียน แอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงและใหผ้ ู้เรียนศึกษาเอกสาร

ศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและ ประกอบการสอน เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์

อิเล็กทรอนิกส์ หน้าที่ 40-53 โดยผู้สอนสอนทีละ หน้าที่ 40-53 โดยผู้สอนสอนทีละหนา้

หน้า 2. ผู้เรียนฟังคำอธิบายและช่วยกันติดตามทดลอง

2. ผู้สอนอธิบายความรู้เพิ่มเติม และให้ผู้เรียน ตอ่ ดซี ีแอมมเิ ตอร์วัดกระแสไฟฟ้า

ชว่ ยกนั ทดลองต่อดีซีแอมมิเตอร์วดั กระแสไฟฟ้า 3. ผเู้ รยี นซกั ถามขอ้ สงสยั ท่ีเกิดขึ้น

3. ผู้สอนเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนถามปัญหา และ

ข้อสงสัยจากเนื้อหา โดยครูเป็นผู้ตอบปัญหาที่เกิดขึ้น

ระหวา่ งการเรยี นการสอน 3. ขั้นประยุกตใ์ ช้( 180 นาที )

3. ข้ันประยกุ ตใ์ ช้ (180 นาที ) 1. ผู้เรียนใบปฏิบัติงาน 3 ดีซีแอมมิเตอร์หน้า

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบปฏิบัติงาน 3 ดีซี 56-59

แอมมิเตอร์หน้า 56-59 2. ผเู้ รียนสืบค้นขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต

2. ผู้สอนให้ผูเ้ รียนสืบคน้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เน็ต

กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ข้นั ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นรู้หรอื กจิ กรรมของนักเรยี น

4. ขั้นสรปุ และประเมินผล ( 45 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล ( 45 นาที )

1. ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันสรุปเนือ้ หาทีไ่ ดเ้ รียนให้ 1. ผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ เน้ือหาท่ไี ด้เรยี นใหม้ คี วาม

มคี วามเขา้ ใจในทศิ ทางเดยี วกนั เขา้ ใจในทิศทางเดยี วกัน

2. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 3หน้าท่ี 2. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดหน่วยที่ 3 หนา้ ท่ี 54-55

54-55

3. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรียน 3. ผู้เรียนศึกษ าเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย

ด้วย PowerPoint ท่ีจัดทำขน้ึ PowerPoint ทจ่ี ัดทำขึ้น

(บรรลุจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1-6) (บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 1-6)

(รวม 480 นาที หรอื 8 คาบเรยี น)

งานท่ีมอบหมายหรอื กิจกรรมการวัดผลและประเมินผล

ก่อนเรียน

1. จดั เตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอนหนว่ ยท่ี 3
2. ทำความเข้าใจเกีย่ วกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยท่ี 3 และใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรมใน

หนว่ ยท่ี 3

ขณะเรียน

1. ปฏบิ ตั ใิ บปฏิบัติงาน 3 ดีซแี อมมิเตอร์
2. รว่ มกนั สรปุ “แอมมิเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง”

• หลังเรียน

1. สรปุ เน้อื หา
2. ทำแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 3

ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเร็จของผู้เรียน

ใบปฏบิ ตั งิ าน 3 ดซี แี อมมเิ ตอร์, ทำแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 3

สือ่ การเรยี นการสอน/การเรียนรู้

ส่ือสง่ิ พมิ พ์
1. เอ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส อ น วิ ช า เ ค รื่ อ ง มื อ วั ด ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์
(ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-6)
2. ใบความรู้ท่ี 3 เรื่อง แอมมิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้ันให้ความรู้
เพ่ือให้บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 1-6)
3. ใบปฏิบตั ิงาน 3 ดีซีแอมมิเตอร์ ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ ขอ้ 1
4. แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 3 สรปุ และประเมินผล ข้อ 2
5. แบบประเมนิ ผลงานตามใบงาน ใช้ประกอบการสอนขัน้ ประยกุ ต์ใช้ ข้อ 1
6. แบบประเมินพฤติกรรมการทำงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยุกตใ์ ช้ ขั้นสรุปและประเมินผล

ส่อื โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี
1. เคร่อื งไมโครคอมพวิ เตอร์
2. PowerPoint เร่ือง แอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง

สื่อของจรงิ
แอมมเิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-6)

แหลง่ การเรียนรู้

ในสถานศกึ ษา
1. ห้องสมุดวทิ ยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร
2. ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็

นอกสถานศึกษา
ผูป้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่ินจังหวัดสมทุ รสาคร

การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอ่นื

1. บูรณาการกับวชิ าอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เบือ้ งตน้
2. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้าเบ้ืองต้น
3. บูรณาการกบั วชิ าเคร่ืองวัดไฟฟ้า

การประเมนิ ผลการเรียนรู้
• หลักการประเมินผลการเรยี นรู้

กอ่ นเรยี น
ความรู้เบือ้ งตน้ ก่อนการเรียนการสอน

ขณะเรียน
1. ตรวจใบปฏบิ ตั ิงาน 3 ดซี ีแอมมเิ ตอร์
2. สงั เกตการทำงาน

หลงั เรยี น
1. ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 3

คำถาม

1. จงอธบิ ายแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง
2. จงฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดซี แี อมมเิ ตอร์
3. การตอ่ ดีซีแอมมิเตอรว์ ัดกระแสไฟฟ้า ต่ออย่างไร
4. อ่านค่ากระแสไฟฟ้าบนสเกลดีซีแอมมิเตอร์ มีเทคนิคอย่างไร
5. โครงสรา้ งดซี ีแอมมิเตอร์ คอื

ผลงาน/ชนิ้ งาน/ผลสำเร็จของผเู้ รียน

1. ตรวจใบปฏิบตั งิ าน 3 ดีซแี อมมเิ ตอร์, แบบฝึกหดั หน่วยที่ 3

สมรรถนะท่ีพึงประสงค์

ผเู้ รียนสร้างความเข้าใจเก่ยี วกับแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง
1. วเิ คราะหแ์ ละตคี วามหมาย
2. ตัง้ คำถาม
3. อภิปรายแสดงความคิดเหน็ ระดมสมอง
4. การประยุกตค์ วามรูส้ ู่งานอาชพี

สมรรถนะการปฏบิ ตั งิ านอาชพี

1. อ่าน คำนวณ และต่อแอมมเิ ตอร์

สมรรถนะการขยายผล

ความสอดคล้อง
จากการเรียน เรือ่ ง แอมมิเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง ทำใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง หรือดี
ซแี อมมเิ ตอร์ ท่ีสร้างข้ึนมาเพ่ือใช้วัดหาค่ากระแสไฟฟา้ กระแสตรงในวงจรไฟฟ้า เป็นมาตรวัดท่ีดัดแปลงมาจาก
ดาร์สนั วาล์มิเตอร์ เพื่อใหส้ ามารถวัดค่ากระแสไฟฟา้ ได้มากขึ้น โดยดัดแปลงมาตรวดั ด้วยการเพ่ิมอุปกรณ์เข้าไป
ในวงจรมาตรวดั เดิมสามารถสร้างเป็นดีซีแอมมิเตอร์ได้หลายชนิด คือ ไมโครแอมมิเตอร์ มิลลแิ อมมิเตอร์ และ
แอมมิเตอร์

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

• จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 1 อธบิ ายแอมมิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงได้

1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธบิ ายแอมมเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรงได้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 2 ฝึกคำนวณและขยายยา่ นวัดดีซีแอมมเิ ตอรไ์ ด้

1. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดซี แี อมมเิ ตอรไ์ ด้ จะได้ 2 คะแนน

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 3 ทดลองตอ่ ดซี แี อมมิเตอรว์ ัดกระแสไฟฟา้ ได้

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ทดลองตอ่ ดีซแี อมมเิ ตอร์วดั กระแสไฟฟา้ ได้ จะได้ 2 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 4 อ่านค่ากระแสไฟฟ้าบนสเกลดซี แี อมมิเตอรไ์ ด้

1. วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ

2. เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : อ่านค่ากระแสไฟฟ้าบนสเกลดีซแี อมมิเตอร์ได้ จะได้ 2 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 5 ยอมรบั โครงสร้างดีซแี อมมเิ ตอร์ได้

1. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ยอมรับโครงสรา้ งดีซีแอมมเิ ตอร์ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อที่ 6 อ่าน คำนวณ และต่อแอมมเิ ตอร์ไดอ้ ย่างถูกต้องตามหลกั การ

1. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ
2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ
3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อา่ น คำนวณ และต่อแอมมิเตอรไ์ ด้อย่างถกู ตอ้ งตามหลักการ ได้

จะได้ 2 คะแนน

แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน
ช่อื กลุ่ม……………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง...........................

รายชอื่ สมาชิก

1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขท่ี…….

3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่…….

ที่ รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คดิ เหน็

32 1

1 เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชัดเจน (ความรู้เกย่ี วกับเนอ้ื หา ความถูกต้อง

ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ )

2 รูปแบบการนำเสนอ

3 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม

4 บคุ ลิกลกั ษณะ กิรยิ า ทา่ ทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำใหผ้ ู้ฟงั มีความ

สนใจ

รวม

ผู้ประเมนิ …………………………………………………
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1. เนอ้ื หาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถูกต้อง

3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ครบถว้ น แตต่ รงตามจดุ ประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ถกู ต้อง ไมต่ รงตามจุดประสงค์
2. รูปแบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ูปแบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนคิ ท่ีแปลกใหม่ ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยี

ประกอบการ นำเสนอทีน่ า่ สนใจ นำวัสดุในท้องถ่นิ มาประยุกต์ใช้อยา่ งค้มุ คา่ และประหยัด
2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอท่ีแปลกใหม่ ใช้สอื่ และเทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอท่นี ่าสน ใจ แต่

ขาดการประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดใุ นท้องถ่นิ
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ
3. การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกล่มุ
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลุม่
2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มบี ทบาทและมีสว่ นร่วมกิจกรรมกลุม่
1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. ความสนใจของผูฟ้ ัง
3 คะแนน = ผ้ฟู ังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความรว่ มมือ
2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ
1 คะแนน = ผู้ฟงั น้อยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมอื

แบบประเมนิ กระบวนการทำงาน

ชื่อกลมุ่ ……………………………………………ชนั้ ………………………หอ้ ง...........................

รายช่อื สมาชกิ 2……………………………………เลขที่…….
4……………………………………เลขที่…….
1……………………………………เลขท…ี่ ….
3……………………………………เลขท…่ี ….

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเหน็

1 การกำหนดเปา้ หมายร่วมกนั 321
2 การแบ่งหนา้ ทีร่ บั ผิดชอบและการเตรยี มความพร้อม
3 การปฏิบตั ิหน้าท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย
4 การประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ งาน

รวม

ผู้ประเมนิ …………………………………………………
วันท่ี…………เดือน……………………..พ.ศ…………...

เกณฑก์ ารให้คะแนน

1. การกำหนดเป้าหมายรว่ มกัน
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเปา้ หมายการทำงานอยา่ งชดั เจน
2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่มสี ว่ นรว่ มในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน
1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมสี ว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน

2. การมอบหมายหนา้ ทีร่ ับผดิ ชอบและการเตรยี มความพร้อม
3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ว่ั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทกุ คน มีการจัดเตรยี มสถานท่ี สื่อ /
อปุ กรณไ์ ว้อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง
2 คะแนน = กระจายงานไดท้ ั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสอ่ื / อปุ กรณไ์ วอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง แต่ขาด
การจัดเตรียมสถานที่
1 คะแนน = กระจายงานไม่ทัว่ ถึงและมสี อ่ื / อปุ กรณ์ไมเ่ พียงพอ

3. การปฏิบัตหิ นา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย
3 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเร็จตามเปา้ หมาย และตามเวลาทก่ี ำหนด
2 คะแนน = ทำงานได้สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย แตช่ ้ากวา่ เวลาทก่ี ำหนด
1 คะแนน = ทำงานไมส่ ำเร็จตามเป้าหมาย

4. การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงานเปน็ ระยะ
2 คะแนน = สมาชกิ บางส่วนมีสว่ นร่วมปรกึ ษาหารือ แต่ไม่ปรับปรงุ งาน
1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมสี ว่ นร่วมไมม่ สี ว่ นรว่ มปรกึ ษาหารือ และปรบั ปรุงงาน

บันทึกหลงั การสอน

บทที่ 3 แอมมเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง

ผลการใชแ้ ผนการสอน

1. เนอ้ื หาสอดคล้องกบั จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
2. สามารถนำไปใช้ปฏบิ ัตกิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรยี นการสอน
3. สื่อการสอนเหมาะสมดี

ผลการเรียนของนกั เรียน

1. นกั ศกึ ษาบางคนยังไมค่ ุน้ กบั ระบบดจิ ติ อล ครตู ้องอธิบาย และแนะนำเพม่ิ เตมิ อย่างใกลช้ ดิ
2. นกั ศกึ ษาสว่ นใหญ่ใหค้ วามสนใจ และตนื่ เตน้ กับอุปกรณ์ของจรงิ ที่นำมาให้ศกึ ษา
3. นักศึกษาฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดีซีแอมมิเตอรไ์ ด้
4. นักศกึ ษาทดลองตอ่ ดีซีแอมมิเตอร์วดั กระแสไฟฟ้าได้
5. นกั ศึกษาอา่ นค่ากระแสไฟฟา้ บนสเกลดีซีแอมมิเตอร์ได้

ผลการสอนของครู

1. ต้องปรบั เรือ่ งเวลาในสว่ นของข้นั ใหค้ วามรเู้ พมิ่ ขึน้
2. สอนทนั ตามเวลาทกี่ ำหนด

แผนการสอน/แผนการเรียนรูภ้ าคทฤษฏี

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 4

ชื่อวิชา เครอ่ื งมอื วดั ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ สอนสปั ดาห์ที่ 5-6

ชื่อหน่วย โวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง คาบรวม 24

ชื่อเรื่อง โวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง จำนวนคาบ 4

หัวขอ้ เรอ่ื ง

ด้านความรู้
1. โวลตม์ ิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
2. โครงสรา้ งดซี ีโวลตม์ ิเตอร์

ดา้ นทกั ษะ
1. คำนวณและขยายย่านวัดดีซีโวลต์มิเตอร์
2. ตอ่ ซีดีโวลต์มเิ ตอรว์ ัดแรงดนั ไฟฟา้
3. อา่ นคา่ แรงดันไฟฟ้าบนสเกลดีซโี วลตม์ เิ ตอร์

ดา้ นจติ พสิ ัย
1. สเกลหนา้ ปัดและย่านวัดดซี โี วลต์มเิ ตอร์

ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. อ่าน คำนวณ และต่อโวลตม์ ิเตอรไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั การ

สาระสำคัญ

ดซี ีโวลต์มิเตอร์เป็นมาตรวดั สร้างขึน้ มาเพือ่ ใช้วดั แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง โดยดัดแปลงมาจากดาร์สนั วาล์
มิเตอร์ การดัดแปลงโดยเพิ่มส่วนประกอบของอุปกรณ์เข้าไปในวงจรมาตรวัดให้ถูกต้อง พร้อมปรับเปล่ียนสเกล
หน้าปัดของมาตรวดั ให้สัมพันธก์ ัน ก็สามารถสร้างดีซีโวลต์มิเตอร์ได้การดัดแปลงดาร์สันวาล์มิเตอร์ หรือดีซีโวลต์
มเิ ตอร์เดมิ ให้วัดแรงดันไฟฟา้ ไดส้ ูงขึ้น ทำไดโ้ ดยใชต้ วั ต้านทานทีม่ คี ่าความตา้ นทานเหมาะสมตอ่ อนุกรมกบั มาตรวัด
เดิม เพื่อจำกัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเข้าดีซีโวลต์มิเตอร์ไม่เกินกว่าค่ากระแสไฟฟ้าเดิมที่ทนได้ ทำให้ดีซีโวลต์
มเิ ตอร์สามารถวัดแรงดันไฟฟา้ ไดส้ งู มากขน้ึ คา่ ความต้านทานทนี่ ำมาต่อใชง้ านต้องมีคา่ สูงมาก

สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย

1. อา่ น คำนวณ และตอ่ โวลต์มเิ ตอร์

คำศัพท์

1. โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Voltmeter) หรือเรียกว่า ดีซีโวลต์มิเตอร์(DC
Voltmeter) เป็นมาตรวดั แรงดนั ไฟฟา้ กระแสตรง ท่ีสร้างข้ึนมาเพ่อื ใชว้ ัดแรงดันไฟฟ้า โดยดัดแปลงมาจากดาร์สัน
วาลม์ ิเตอร์ เพราะดารส์ ันวาล์มเิ ตอรเ์ ป็นมาตรวัดท่โี ครงสร้างภายในสว่ นของการรับกระแสไฟฟา้ จากภายนอก จะรับ
กระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณเล็กน้อย มีผลต่อแรงดันไฟฟ้าท่ีรับได้ก็มีปริมาณน้อยตามไปด้วย เพราะปริมาณ
แรงดันไฟฟ้าที่ป้อนให้ขดลวดเคลื่อนที่มีผลต่อกระแสไฟฟ้าท่ีเกิดข้ึนมาโดยตรง แรงดันไฟฟ้าป้อนเข้ามาน้อย
กระแสไฟฟ้าเกิดข้ึนน้อยเข็มมิเตอร์บ่ายเบนไปน้อย แรงดันไฟฟ้าป้อนเข้ามามาก กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นมาก เข็ม
มิเตอร์บ่ายเบนไปมาก

จดุ ประสงค์การสอน/การเรียนรู้

• จดุ ประสงคท์ ่ัวไป / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. เพอื่ ให้มคี วามร้เู กย่ี วกับการอธิบายโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง (ดา้ นความร)ู้
2. เพือ่ ใหม้ คี วามร้เู กีย่ วกับการเขียนโครงสร้างดซี ีโวลต์มิเตอร์ (ด้านความร)ู้
3. เพอื่ ใหม้ ที กั ษะในการฝึกคำนวณและขยายย่านวัดดซี ีโวลตม์ ิเตอร์ (ด้านทักษะ)
4. เพื่อให้มที กั ษะในการทดลองต่อซดี ีโวลต์มิเตอรว์ ัดแรงดันไฟฟ้า (ด้านทกั ษะ)
5. เพือ่ ให้มที กั ษะในการสาธติ การอา่ นค่าแรงดันไฟฟ้าบนสเกลดซี ีโวลต์มิเตอร์ (ดา้ นทกั ษะ)
6. เพอ่ื ใหม้ เี จตคตทิ ่ีดีในการชี้แจงสเกลหน้าปดั และย่านวดั ดซี ีโวลตม์ ิเตอร์ (ดา้ นจติ พสิ ัย)
7. เพือ่ อา่ น คำนวณ และตอ่ โวลต์มิเตอร์ได้อย่างถกู ต้องตามหลักการ(ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการ

เศรษฐกิจพอเพยี ง)

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. อธิบายโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้ (ดา้ นความรู้)
2. เขียนโครงสร้างดีซโี วลต์มิเตอรไ์ ด้ (ด้านความรู)้
3. ฝกึ คำนวณและขยายย่านวดั ดซี โี วลตม์ เิ ตอรไ์ ด้ (ด้านทักษะ)
4. ทดลองตอ่ ซีดีโวลตม์ ิเตอร์วดั แรงดันไฟฟา้ ได้ (ด้านทกั ษะ)
5. สาธิตการอา่ นค่าแรงดันไฟฟา้ บนสเกลดีซโี วลต์มิเตอรไ์ ด้ (ดา้ นทักษะ)
6. ชีแ้ จงสเกลหนา้ ปดั และยา่ นวัดดีซีโวลต์มเิ ตอร์ได้ (ด้านจิตพิสัย)
7. อ่าน คำนวณ และตอ่ โวลต์มิเตอรไ์ ด้อยา่ งถูกต้องตามหลักการ(ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการ

เศรษฐกิจพอเพยี ง)

เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

• ดา้ นความรู้(ทฤษฎี)

4.1 โวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง
โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Voltmeter) หรือเรียกว่า ดีซีโวลต์มิเตอร์(DC

Voltmeter) เป็นมาตรวัดแรงดันไฟฟา้ กระแสตรง ทสี่ ร้างขึน้ มาเพ่อื ใช้วดั แรงดนั ไฟฟา้ โดยดดั แปลงมาจากดาร์สัน
วาล์มิเตอร์ เพราะดาร์สนั วาล์มเิ ตอรเ์ ป็นมาตรวัดท่ีโครงสร้างภายในสว่ นของการรับกระแสไฟฟ้าจากภายนอก จะ
รับกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณเล็กน้อย มีผลต่อแรงดันไฟฟ้าท่ีรับได้ก็มีปริมาณน้อยตามไปด้วย เพราะปริมาณ
แรงดันไฟฟ้าที่ป้อนให้ขดลวดเคลื่อนท่ีมีผลต่อกระแสไฟฟ้าท่ีเกิดขึ้นมาโดยตรง แรงดันไฟฟ้าป้อนเข้ามาน้อย
กระแสไฟฟ้าเกิดข้ึนน้อยเข็มมิเตอร์บ่ายเบนไปน้อย แรงดันไฟฟ้าป้อนเข้ามามาก กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นมาก เข็ม
มิเตอรบ์ า่ ยเบนไปมาก

ผลที่เกิดข้ึนแสดงให้ทราบว่าแรงดันไฟฟ้ามีผลต่อกระแสไฟฟ้าโดยตรง หรือกล่าวได้ว่าแรงดันไฟฟ้าและ
กระแสไฟฟ้ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำดาร์สันวาล์มิเตอร์ หรือดีซีแอมมิเตอร์มา
ดัดแปลงเป็นดีซโี วลต์มิเตอร์ได้ พรอ้ มทง้ั ปรับเปลย่ี นสเกลหน้าปัดใหเ้ ป็นสเกลโวลต์ และใสห่ น่วยวัดใหถ้ ูกตอ้ งกจ็ ะ
ได้ดซี ีโวลต์มิเตอรต์ ามตอ้ งการ

วิธีการดัดแปลงดาร์สันวาลม์ เิ ตอร์ใหเ้ ป็นดีซโี วลต์มิเตอร์ ทำไดโ้ ดยเพิ่มส่วนประกอบของอปุ กรณ์เข้าไปใน
วงจรดารส์ ันวาล์มิเตอร์ให้ถูกต้องเหมาะสม และปรับเปลี่ยนสเกลหน้าปัดของมาตรวัดให้สัมพันธ์กัน ก็สามารถ
สร้างดีซีโวลต์มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงได้ ดีซีโวลต์มิเตอร์ท่ีถูกสร้างขึ้นมาใช้งานแบ่งได้เป็นหลายชนิด
เรียกชอื่ ตามขนาดแรงดันไฟฟ้าทว่ี ัดได้ เช่นดีซโี วลต์มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าออกมาเป็นมิลลโิ วลต์ (Millivolt ; mV)
เรียกว่า มิลลิโวลต์มิเตอร์(Millivoltmeter) ดีซีโวลต์มิเตอร์วดั แรงดันไฟฟ้าออกมาเป็นโวลต์ (Volt ; V) เรียกว่า
โวลต์มิเตอร์(Voltmeter) และดีซีโวลต์มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าออกมาเป็นกิโลโวลต์ (Kilovolt ; kV) เรียกว่ากิโล
โวลต์มิเตอร์ (Kilovoltmeter) เปน็ ตน้
4.2 โครงสรา้ งดีซโี วลต์มเิ ตอร์

ดีซีโวลต์มิเตอรเ์ ป็นมาตรวัดที่สร้างข้ึนมาเพื่อใช้วัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC Voltage)หรือค่าความ
ต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงระหว่างจุดสองจุดในวงจรไฟฟ้า ซ่ึงขณะวัดแรงดันไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า หรือวัด
แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงจากแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง ต้องมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาตรวัดด้วยจงึ ทำให้
เขม็ ชี้บา่ ยเบนไป และการท่ีกระแสไฟฟ้าจะไหลผา่ นดีซีโวลต์มิเตอร์ได้ก็ต้องมีแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงป้อนเข้ามา
ค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงท่ีวัดออกมาได้มีค่ามากหรือน้อย ข้ึนอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านมาตรวัด
กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผ่านมาตรวดั ก็ข้ึนอยู่กับปริมาณแรงดนั ไฟฟา้ ท่ปี ้อนเข้ามา ดังนั้นการวัดปริมาณแรงดันไฟฟ้าก็
คือการวัดปรมิ าณของกระแสไฟฟ้านนั่ เอง เพียงแตเ่ ปล่ียนสเกลหน้าปดั มาตรวัดให้แสดงค่าออกมาเป็นค่าปริมาณ
แรงดนั ไฟฟา้

กระแสไฟฟา้ กระแสตรงที่ไหลผ่านเข้าดีซีโวลตม์ เิ ตอรจ์ ะมีขีดจำกัดขนึ้ อยูก่ ับคา่ ทนกระแสไฟฟา้ กระแสตรง
ได้ของดีซีโวลต์มิเตอร์ตัวน้นั ดังน้ันเมอื่ นำดีซีโวลต์มิเตอรไ์ ปวัดแรงดันไฟฟ้าท่ีมีค่ามาก ย่อมส่งผลให้กระแสไฟฟ้า

ไหลผ่านเข้าดีซีโวลต์มิเตอร์มากตามไปด้วย ซ่ึงถ้ามากเกินกว่าท่ีดีซีโวลต์มิเตอร์ทนได้ ก็ไม่สามารถนำดีซีโวลต์
มิเตอรต์ วั นนั้ ไปวัดแรงดันไฟฟ้าคา่ น้ันได้การดดั แปลงให้ดาร์สนั วาล์มิเตอร์ ดีซแี อมมิเตอร์เดิม หรือดซี ีโวลต์มิเตอร์
เดิมให้สามารถวดั ค่าแรงดันไฟฟา้ ได้สูงมากข้ึน ทำได้โดยใชต้ วั ตา้ นทานทีม่ ีค่าความตา้ นทานเหมาะสมมาตอ่ อนุกรม
กบั มาตรวัดเดิม เพอ่ื จำกดั จำนวนกระแสไฟฟ้าทไี่ หลผา่ นเข้าดีซีโวลต์มเิ ตอร์ไมใ่ ห้เกนิ กวา่ ค่ากระแสไฟฟ้าเดมิ ท่ีดซี ี
โวลต์มิเตอร์ตัวนั้นทนได้ ทำให้สามารถนำดีซีโวลต์มิเตอร์ไปวัดค่าแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากขึ้นตามต้องการ ตัว
ตา้ นทานทีน่ ำมาตอ่ อนุกรมกับดาร์สันวาล์มิเตอร์ ดีซแี อมมเิ ตอร์เดิมหรอื ดซี ีโวลต์มิเตอร์เดิม เพอื่ ใหด้ ีซีโวลต์มิเตอร์
วัดแรงดันไฟฟ้าได้มากข้ึนเรียกว่า ตัวต้านทานอนุกรม (Series Resistor) หรือตัวต้านทานทวีคูณ (Multipliers
Resistor

จากรูปท่ี 4.2 แสดงดีซีโวลต์มิเตอร์ สรา้ งจากดารส์ ันวาล์มเิ ตอรต์ ่อร่วมกับตัวต้านทานอนกุ รม มีผลทำให้
ดาร์สันวาล์มิเตอร์กลายเป็น ดีซีมิลลิโวล์มิเตอร์ ดีซีโวลต์มิเตอร์ หรือดีซีกิโลโวลต์มิเตอร์ การจะทำให้มาตรวัด
สามารถวัดแรงดันไฟฟ้าย่านใดหรือขนาดใดน้ัน ข้ึนอยกู่ ับขนาดคา่ ความต้านทานอนุกรมท่นี ำมาต่อวงจร ว่ามีค่า
ความต้านทานมากน้อยเพียงไร ความต้านทานอนุกรมมีค่าน้อย จะวัดแรงดันไฟฟ้าไดต้ ่ำ อาจเป็นมลิ ลิโวลต์หรือ
โวลต์ ถ้าความต้านทานอนุกรมมีค่ามาก จะวัดแรงดันไฟฟ้าได้สูง อาจเป็นกิโลโวลต์ขึ้นไป ย่ิงค่าความต้านทาน
อนุกรมมคี ่าสูงขน้ึ มากเทา่ ไร ดีซโี วลต์มิเตอรก์ ย็ ิง่ วดั แรงดนั ไฟฟา้ ไดส้ ูงมากขนึ้ เท่านนั้

ตัวต้านทานอนุกรม ท่ีใช้ต่อให้ดีซีโวลต์มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงได้เพิ่มขึ้นน้ันนอกจากจะต่อ
ภายในดีซีโวลต์มิเตอร์แล้ว ยังสามารถต่อภายนอกดีซีโวลต์มิเตอร์ได้ด้วย เพื่อช่วยทำให้ดีซีโวลต์มิเตอร์ตัวเดิม
สามารถนำไปวดั แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไดส้ ูงมากขึ้น โดยนำตัวต้านทานอนุกรมต่อเข้ากับดีซโี วลตม์ ิเตอร์ตวั เดิม
แบบต่ออนุกรม ตัวต้านทานอนุกรมที่ต่อไว้ภายนอกจะเป็นตัวต้านทานที่มีค่าความต้านทานสูงมาก เมื่อต่อตัว
ตา้ นทานอนุกรมเข้าไปทำให้โวลต์มิเตอร์ตัวเดิมวัดแรงดันได้สูงมากข้ึน อาจเป็นกิโลโวลต์หรือหลายสิบหลายร้อย
กโิ ลโวลตซ์ ง่ึ ขณะวดั คา่ อาจกอ่ ให้เกดิ อนั ตรายจากไฟฟา้ ดดู ต้องต่อวดั ดว้ ยความระมัดระวงั ตัวตา้ นทานชนดิ นีจ้ ึงถูก
สร้างไว้ในกล่องฉนวนห่อหุ้มอย่างมิดชิดปลอดภัย หรืออาจสร้างตัวต้านทานอนุกรมข้ึนมาใช้เองได้โดยนำตัว
ตา้ นทานค่าสูงมาตอ่ อนุกรมกนั ให้ได้ค่าความตา้ นทานสงู ขึ้นตามต้องการตัวต้านทานอนกุ รมตอ่ ภายนอกรว่ มกบั ดซี ี
โวลต์มเิ ตอร์ ผลิตออกมาในรปู โพรบแรงดนั ไฟฟ้าสูง(High Voltage Probe)

จากรูปท่ี 4.4 แสดงการตอ่ ตวั ต้านทานอนกุ รมชนิดต่อภายนอกเขา้ กบั ดีซีโวลตม์ เิ ตอรใ์ ชว้ ัดแรงดันไฟฟา้ สูง
เพ่อื เพม่ิ ย่านวัดแรงดันไฟฟา้ ของดีซีโวลตม์ ิเตอร์ ให้วัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไดส้ งู มากข้ึนตามต้องการ รูปท่ี 4.4
(ก) เปน็ โพรบวัดแรงดนั ไฟฟ้าสูงมดี ซี โี วลตม์ เิ ตอรต์ อ่ อย่ใู นตวั สามารถนำไปใชว้ ัดแรงดันไฟฟา้ สงู ไดท้ นั ที

สว่ นรูปที่ 4.4 (ข) เป็นดีซีโวลต์มเิ ตอรต์ ่อร่วมกับตัวต้านทานอนกุ รม ตัวต้านทานอนุกรมสามารถผลิตขึ้น
ใชง้ านได้เอง โดยนำตัวต้านทานคา่ ความตา้ นทานสูงมาตอ่ อนุกรมกันให้ได้ค่าความต้านทานตามตอ้ งการ บรรจลุ ง
ในท่อฉนวนใหม้ ิดชดิ ต่อสายและปลายเข็มวัดออกมาใช้งานสร้างให้มรี ปู ร่างลักษณะคลา้ ยกับโพรบวัดแรงดันไฟฟ้า
สูงตามรูปที่ 4.3 (ก) ทำให้ดีซีโวลต์มิเตอร์เดิมที่วัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงได้เต็มสเกลค่าต่ำ ให้สามารถวัด
แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไดเ้ ต็มสเกลคา่ สูงมากขึ้นตามตอ้ งการ ขนาดของแรงดันไฟฟา้ กระแสตรงท่ีจะสามารถวดั คา่
ไดส้ งู สดุ มากน้อยเพียงไรนัน้ ขน้ึ อยู่กบั คา่ ความต้านทานอนกุ รมท่มี าตอ่ อนุกรมร่วมกันมีค่ามากน้อยแตกต่างกันไป
(ขอ้ ควรระวังในการวัดแรงดันไฟฟ้าค่าสูงต้องวัดค่าดว้ ยความระมัดระวงั เพราะขณะวัดค่าอาจก่อใหเ้ กดิ อันตราย

จากไฟฟ้าดูดได้)

4.3 คำนวณและขยายย่านวดั ดีซโี วลตม์ เิ ตอร์

ความสำคัญของตวั ต้านทานอนกุ รม ที่ตอ่ รว่ มกบั ดาร์สนั วาล์มเิ ตอร์หรอื ดซี ีโวลตม์ เิ ตอร์แบบตอ่ อนุกรมน้ัน

ทำหนา้ ท่ีเป็นตัวช่วยลดปรมิ าณกระแสไฟฟ้ากระแสตรงท่ีไหลผ่านเข้าไปยงั ขดลวดเคลื่อนทีข่ องดาร์สันวาล์มิเตอร์

ไม่ให้มากเกินกว่าค่ากระแสไฟฟ้าเดิมท่ีขดลวดเคลื่อนท่ีทนได้ ไม่ว่าแรงดันไฟฟ้าท่ีป้อนเข้ามามากน้อยเพียงไรก็

ตาม ด้วยเหตุนี้ตัวต้านทานอนุกรมที่นำมาใช้งานจึงมีค่าความต้านทานสงู มาก อาจเป็นกิโลโอห์ม (kΩ) หรือเมก

โอห์ม (MΩ) ซ่ึงคา่ ความตา้ นทานท่นี ำมาใชง้ านจะใช้มากนอ้ ยเพียงไร ข้ึนอยกู่ ับคา่ ปริมาณแรงดันไฟฟ้าที่ตอ้ งการ

ให้ดีซีโวลต์มิเตอร์วัดได้ เช่น ต้องการให้วัดแรงดันไฟฟ้าค่าต่ำใช้ความต้านทานค่าต่ำ หรือต้องการให้วัด

แรงดันไฟฟ้าค่าสูงใช้ความต้านทานค่าสูง โดยค่าความต้านทานอนุกรมที่นำมาใช้งานต้องมีค่าเหมาะสมและ

สมั พันธก์ ับดารส์ นั วาลม์ ิเตอร์ หรอื ดีซโี วลต์มเิ ตอร์แตล่ ะตัวโดยเฉพาะ การหาค่าความตา้ นทานอนกุ รมที่เหมาะสม

หาได้โดยใชว้ ิธี

จากรปู ท่ี 4.5 แสดงวงจรดีซีโวลตม์ ิเตอร์เบ้ืองต้นใช้ในการคำนวณ วงจรประกอบด้วยดาร์สันวาล์มิเตอร์มี

ค่าความต้านทานมิเตอร์ RM ต่ออนุกรมร่วมกับตวั ต้านทานอนุกรม มีค่าความต้านทาน RS เมื่อป้อนแรงดันไฟฟ้า
กระแสตรงเต็มสเกลเข้าไปในวงจรดีซีโวลต์มิเตอรม์ ีค่า EFSส่งผลทำใหเ้ กดิ กระแสไฟฟ้าเตม็ สเกลไหลผ่านเขา้ วงจรดี
ซโี วลต์มิเตอรเ์ ป็น IFS ซงึ่ มีคา่ เทา่ กบั กระแสไฟฟ้าของตวั ดซี ีโวลตม์ เิ ตอร์ IM กระแสไฟฟ้าท่ีไหลผ่านเขา้ วงจรดซี ีโวลต์
มเิ ตอร์ต้องไม่เกินคา่ กระแสไฟฟา้ เตม็ สเกลเดมิ ของดารส์ ันวาลม์ เิ ตอร์ หรือดีซีโวลต์มิเตอร์ตวั นน้ั อักษรย่อแต่ละค่า

มรี ายละเอียดดังน้ี

RM = ความตา้ นทานของขดลวดเคลอื่ นทใ่ี นดารส์ นั วาล์มิเตอร์

หรอื เรียกว่าความตา้ นทานเดมิ ของมาตรวดั หนว่ ย Ω

RS = ความตา้ นทานอนกุ รม หน่วยΩ

IM = IFS = กระแสไฟฟ้าสงู สดุ ท่ดี ารส์ นั วาล์มิเตอรท์ นได้

หรือกระแสไฟฟ้าเตม็ สเกลทไ่ี หลผ่านมาตรวัด หนว่ ย A

EFS = แรงดนั ไฟฟา้ กระแสตรงเตม็ สเกลค่าใหม่ทด่ี ซี ีโวลตม์ ิเตอร์วดั ได้ หน่วย V

การหาสมการของวงจรรปู ท่ี 4.5 หาได้โดยใช้กฎของโอหม์ ดงั น้ี

วิธีทำ

(ก) หาแรงดันไฟฟา้ กระแสตรงเดมิ ท่วี ัดได้ สตู ร

(ข) หาตัวตา้ นทานต่ออนกุ รมในวงจรสตู ร RS =

4.4 สเกลหน้าปดั และย่านวดั ดซี ีโวลต์มเิ ตอร์

สเกลหน้าปัดของดีซีโวลตม์ ิเตอร์ ถูกสร้างข้ึนมาให้สามารถแสดงค่าปริมาณแรงดันไฟฟ้าท่ีวัดได้ออกมา

โดยตรง สามารถแสดงค่าปริมาณแรงดันไฟฟ้าจากค่าน้อยไปจนถึงปริมาณแรงดันไฟฟ้าค่ามากได้ สเกลหน้าปัด

ของดีซโี วลตม์ ิเตอร์มีเลขศนู ย์อยู่ด้านซ้ายของสเกล และตัวเลขคอ่ ยๆ เพ่ิมขน้ึ เป็นลำดับตามตำแหน่งสเกลท่ีเล่ือน

มาทางด้านขวามอื ขณะปกติทีด่ ีซีโวลตม์ ิเตอรไ์ มใ่ ช้งาน เข็มช้ีตอ้ งชี้ที่เลขศูนยเ์ สมอ เมอื่ มีแรงดนั ไฟฟ้าป้อนใหด้ ีซี

โวลต์มิเตอร์เข็มช้ีจึงเร่ิมบ่ายเบนไปทางขวามือ การบ่ายเบนไปของเข็มช้ีมีค่ามากหรือน้อยข้ึนอยู่กบั ปริมาณของ
แรงดันไฟฟ้าที่ปอ้ นเข้ามา ป้อนแรงดันไฟฟ้าให้น้อยเข็มช้ีบา่ ยเบนไปน้อย ป้อนแรงดนั ไฟฟา้ ให้มากเข็มช้ีบ่ายเบน
ไปมาก แสดงคา่ ท่วี ดั ได้ออกมาบนสเกลหนา้ ปัด

จากรูปที่ 4.9 แสดงสเกลหน้าปัดของดีซีโวลต์มิเตอร์แบบหนึ่ง แสดงค่าแรงดันไฟฟ้าท่ีวัดได้ออกมาใน
หนว่ ยโวลต์ (V) ช่องสเกลถูกแบง่ ออกยอ่ ยๆ ในระยะห่างเท่ากันจากค่าน้อยดา้ นซ้ายไปคา่ มากดา้ นขวา โดยมีย่าน
วัดคา่ ได้เต็มสเกลแบ่งออกเป็น 3 ยา่ น คือ ยา่ น 0 – 5 V ยา่ น0 – 10 V และย่าน 0 – 50 V ย่านวัดแต่ละยา่ นใช้
แสดงค่าแรงดันไฟฟา้ สูงสุดทวี่ ัดได้ออกมา

เน่ืองจากแรงดันไฟฟ้าทีป่ อ้ นใหว้ งจรไฟฟา้ หรือแรงดันไฟฟ้าทถ่ี ูกผลติ ข้ึนมาใช้งาน มปี รมิ าณแรงดนั ไฟฟ้า
ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่แรงดันไฟฟ้าค่าต่ำมากเป็นมิลลิโวลต์ (mV) แรงดันไฟฟ้าค่าต่ำเป็นโวลต์ (V) ไปจนถึง
แรงดันไฟฟา้ ค่าสงู เป็นกโิ ลโวลต์ (kV) ทำใหด้ ซี ีโวลต์มเิ ตอร์ท่ีสร้างขนึ้ มาใช้งานแสดงค่าปรมิ าณแรงดนั ไฟฟา้ ออกมา
แตกต่างกันไป เพื่อความสะดวกในการเลือกขนาดของดีซีโวลต์มิเตอร์มาใช้งานได้เหมาะสมกับปริมาณ
แรงดันไฟฟ้าที่วัดคา่ โดยท่วั ไปแบ่งไดเ้ ป็น 3 แบบ คือ มลิ ลิโวลตม์ ิเตอร์ โวลตม์ ิเตอร์ และกิโลโวลต์มิเตอร์ ลกั ษณะ
หนา้ ปดั และสญั ลกั ษณข์ องดซี ีโวลต์มิเตอร์
4.5 การต่อดีซีโวลต์มิเตอรว์ ัดแรงดันไฟฟา้

ดีซีโวลต์มิเตอร์เป็นมาตรวัดสำหรับวัดปริมาณแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง หรือความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแส
ตรงที่ป้อนให้วงจรไฟฟ้า รวมท้ังแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงตกคร่อมระหว่างจุดสองจุดในวงจรไฟฟ้า การวัด
แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงด้วยดีซีโวลต์มิเตอร์ ทำได้โดยใชด้ ีซโี วลต์มิเตอร์วัดคร่อมวงจรไฟฟ้าในตำแหน่งที่ต้องการ
วดั คอื ต้องต่อดีซีโวลต์มเิ ตอรข์ นาน (Parallel) เข้ากับวงจรไฟฟ้าที่วดั แรงดันไฟฟา้ เสมอ ลกั ษณะการต่อดีซีโวลต์
มเิ ตอร์วัดแรงดันไฟฟา้ กระแสตรงในวงจรไฟฟ้า

จากรูปที่ 4.13 แสดงการต่อดีซีโวลต์มิเตอร์วดั แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงในวงจรไฟฟ้า จะเห็นว่าดีซโี วลต์
มิเตอร์ต่อคร่อมขนานกับจุดต่อวัดท่ีต้องการทราบค่าแรงดันไฟฟ้า การต่อดีซีโวลต์มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้า
กระแสตรง ตอ้ งคำนงึ ถึงข้ัวของดีซีโวลต์มิเตอร์ทีว่ ัดคร่อมวงจรด้วย โดยข้ัวของดีซีโวลต์มิเตอร์ต้องตรงกับข้ัวของ
แหลง่ จ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง หรอื ตรงกับขว้ั ของแรงดันไฟฟ้าตกคร่อมวงจรท่ีตำแหน่งต่อวัด ใช้หลักการต่อ
วดั ค่าดงั นี้ ใกล้บวกตอ่ บวก ใกลล้ บตอ่ ลบ หมายถึงการต่อดีซีโวลต์มิเตอร์คร่อมวงจรไฟฟา้ ต้องต่อใหข้ ั้วบวกของ
ดีซโี วลต์มเิ ตอร์คร่อมจุดวัดท่ีต่อใกลข้ ว้ั บวกแหลง่ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้า และตอ่ ใหข้ ั้วลบของดีซโี วลตม์ ิเตอร์ครอ่ มจดุ วัด
ที่ต่อใกลข้ ั้วลบแหล่งจา่ ยแรงดนั ไฟฟ้า จากรูปจะเห็นว่าด้านบนจุดวัดของดซี ีโวลตม์ ิเตอร์ใกลข้ ั้วลบของแบตเตอร่ี
ตอ้ งใช้ขว้ั ลบของดีซีโวลต์มิเตอร์ตอ่ และด้านลา่ งจดุ วัดของดซี ีโวลต์มิเตอร์ใกล้ขั้วบวกของแบตเตอรี่ตอ้ งใช้ขัว้ บวก
ของดซี โี วลตม์ เิ ตอร์ตอ่ การตอ่ ผิดขั้วดีซีโวลตม์ ิเตอร์วัดคา่ ไมไ่ ด้ และอาจทำให้ดีซโี วลต์มเิ ตอรช์ ำรุดเสียหายได้

ดีซีโวลต์มิเตอร์ท่ีสร้างมาใช้งาน มีหลายค่าหลายขนาด การนำดีซีโวลต์มิเตอร์มาต่อวัดแรงดันไฟฟ้าใน
วงจรไฟฟ้า ต้องระมัดระวังในเร่ืองขนาดแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายผ่านเข้าวงจรท่ีมีดีซีโวลต์มิเตอร์ต่ออยู่ เพราะถ้า
แรงดันไฟฟ้าท่ีวัดมีค่ามากกว่าค่าที่ดีซีโวลต์มิเตอรว์ ัดได้ ดีซีโวลต์มิเตอรอ์ าจชำรุดเสียหายได้ กรณีท่ีไม่ทราบค่า
แรงดนั ไฟฟา้ ทท่ี ำการวัดในวงจร ควรใชด้ ซี โี วลตม์ ิเตอรว์ ัดแรงดันไฟฟ้าได้คา่ สงู มาต่อวัดก่อน เม่อื ต่อวัดแลว้ เข็มชี้ไม่
ขึน้ หรือเข็มชี้ข้นึ น้อย จงึ ค่อยๆลดขนาดการวดั แรงดันไฟฟ้าได้ของดซี ีโวลตม์ เิ ตอร์ลงมา จนอยู่ในย่านการบ่ายเบน

ของเข็มช้ีทเี่ หมาะสมประมาณยา่ นกลางสเกล ไมค่ วรต่ำหรอื สงู เกนิ ไป
4.6 วธิ อี า่ นคา่ แรงดนั ไฟฟา้ บนสเกลดีซโี วลตม์ เิ ตอร์

ดีซีโวลต์มิเตอร์ขณะวัดแรงดันไฟฟ้า ดีซีโวลต์มิเตอร์ต้องต่อคร่อมขนานกับจุดวัดเสมอเพ่ือทำให้
แรงดันไฟฟ้าที่วัดได้เป็นคา่ แรงดันไฟฟ้าตกครอ่ มอุปกรณ์ท่ีทำการวัดน้ัน คือเป็นแรงดันไฟฟ้าค่าเดียวกัน เพราะ
แรงดันไฟฟา้ ทต่ี กคร่อมอปุ กรณใ์ นวงจรขนานจะมีคา่ เทา่ กันในทุกตำแหน่งของวงจรเสมอ

คา่ แรงดันไฟฟา้ ท่ีอา่ นไดจ้ ากการชคี้ ่าของเข็มชีบ้ นสเกลจะถูกต้องหรอื ไมข่ นึ้ อยู่กบั ผู้อ่านวา่ อ่านได้ละเอยี ด
มากน้อยเพียงไร ในกรณีที่เข็มช้ีชี้ตรงตำแหน่งขีดบนสเกล การอ่านค่าสามารถอ่านได้โดยง่าย โอกาสเกิดความ
ผิดพลาดน้อย แต่ถ้ากรณีที่เข้มช้ีช้ีไม่ตรงตำแหน่งขีดบนสเกล ช้ีในส่วนช่องว่างของขีด การอ่านค่ามีโอกาส
ผดิ พลาดได้งา่ ย เพราะต้องใช้การแบ่งส่วน และใช้การประมาณค่า ดงั นั้นการฝึกหัดอ่านค่าบ่อยๆ จะช่วยให้เกิด
ความชำนาญ และช่วยลดความผิดพลาดลงได้ การอา่ นค่าในตำแหนง่ ที่ไม่ตรงขดี ตอ้ งใชว้ ธิ แี บง่ เฉลยี่ ค่าออกมาเป็น
ส่วนยอ่ ยๆ ลงทลี ะสว่ นเป็นลำดบั จะชว่ ยใหก้ ารอา่ นค่าถกู ตอ้ งมากขนึ้ ลักษณะการแบง่ ค่าสเกลย่อย

จากรปู ที่ 4.14 แสดงการอ่านค่าท่ีวดั ได้บนสเกลดีซีโวลตม์ เิ ตอร์ เขม็ ช้ีที่ชี้คา่ ตามตำแหน่งทีเ่ ขม็ ชี้ ① เข็ม

ชี้ และเข็มชี้ ③ การอ่านคา่ ท่ีถูกต้องทำได้โดยหาขีดย่อยของสเกลให้ไดก้ ่อนตามรูปขีดใหญ่ท่ีมีค่ากำกับไว้คือ
100 และ 150 จากตำแหนง่ 100 ถึง 150 แบง่ ยอ่ ยออกเป็น 10ช่องย่อยเท่ากนั ทำให้ 1 ช่องยอ่ ยมคี า่ เท่ากบั 5

เข็มช้ี ① อยรู่ ะหว่างขีดกึ่งกลาง 75 และขีดใหญ่ 100 จากขีดที่ 75 นบั มาอีก 2 ช่องย่อยชอ่ งย่อยละ 5

ทำให้เข็มชี้①ช้ีค่า 85 ออกมา

เข็มช้ี ②อยรู่ ะหว่างขีดก่ึงกลาง 125 และขีดย่อย 130 โดยอยู่กง่ึ กลางพอดี การอา่ นคา่ ต้องแบง่ 1 ช่อง
ยอ่ ยออกเปน็ 2 สว่ น 1 ชอ่ งย่อยมคี า่ 5 แบง่ ครงึ่ ได้สว่ นละ 2.5 จากขดี 125 ไปอกี ครึ่งช่องยอ่ ย เป็นตำแหน่งเข็มช้ี

② จะอา่ นค่าออกมาได้ 125 + 2.5 = 127.5

เขม็ ชี้ ③ อยรู่ ะหวา่ งขดี ย่อย 155 และขดี ยอ่ ย 160 โดยอยู่ต่ำกว่าก่ึงกลางระหวา่ งขดี ยอ่ ยท้งั สองมาทาง
ขดี ยอ่ ย 155 การอ่านคา่ ตอ้ งแบง่ ช่องยอ่ ยมคี ่าชอ่ งละ 5 ออกเปน็ 4 ส่วน จะได้ 1 ส่วน เทา่ กบั 5/4 = 1.25 เขม็ ชี้

③ ชอี้ ยตู่ ำแหนง่ ขีดย่อย 155 ไปทางขวาอีก 1/4 = 1.25ขดี เขม็ ชี้③จะอ่านค่าได้ 155+1.25 = 156.25

• ดา้ นทักษะ(ปฏิบัต)ิ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 3-5)

1. แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 4
2. ใบปฏิบตั ิงาน 4 การใชง้ านดซี ีโวลตม์ ิเตอร์

• ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

(จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 6)

1. อา่ น คำนวณ และต่อโวลตม์ ิเตอร์

กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ขั้นตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขน้ั ตอนการเรยี นรูห้ รอื กิจกรรมของนกั เรียน

1. ขน้ั เตรียม ( 15 นาที ) 1. ข้ันเตรียม ( 15 นาที )

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนออกมาอธิบายโวลต์มิเตอร์ 1. ผู้เรียน ออกมาอธิบ ายโวลต์มิเตอ ร์ไฟ ฟ้ า

ไฟฟา้ กระแสตรงตามความเข้าใจของตนอง กระแสตรงตามความเข้าใจของตนอง

2. ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 4 2. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ

เรอ่ื ง โวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง เรียน ของหน่ วยท่ี 4 เร่ือง โวลต์มิ เตอร์ไฟ ฟ้ า

กระแสตรง

3. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นเขียนโครงสร้างดซี โี วลตม์ ิเตอร์ 3. ผู้เรียนเขียนโครงสร้างดีซีโวลต์มิเตอร์โดยให้

โดยให้ผเู้ รียนระดมความคิดร่วมกัน และนำเสนอหน้า ผ้เู รียนระดมความคิดร่วมกัน และนำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น

ชัน้ เรยี น

2. ขั้นใหค้ วามรู้ ( 240 นาที) 2. ขนั้ ให้ความรู้ (240 นาที)

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดหนังสือ วิชา อุปกรณ์ 1. ผู้ เรี ย น เปิ ด ห นั ง สื อ วิ ช า อุ ป ก ร ณ์

อเิ ล็กทรอนิกส์และวงจร เรื่อง เคร่อื งมือวดั ไฟฟา้ และ อิเล็กทรอนิกส์และวงจร เร่ือง เครื่องมือวัดไฟฟ้าและ

อิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 4 เร่ือง โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ หน่วยท่ี 4 เร่ือง โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้า

กระแสตรง หนา้ ที่ 62-75 กระแสตรง หน้าท่ี 62-75 พร้อมจดบันทึกเนื้อหาท่ี

สำคญั

2. ผสู้ อนให้ผู้เรียนฝึกคำนวณและขยายย่านวัด 2. ผ้เู รียนฝึกคำนวณและขยายยา่ นวดั ดีซีโวลต์มิเตอร์

ดีซีโวลต์มิเตอร์ตามที่ได้ศึกษาจากหนังสือ และให้ ตามที่ได้ศกึ ษาจากหนงั สือ และให้ผู้เรียนทดลองต่อซีดโี วลต์

ผ้เู รียนทดลองตอ่ ซีดีโวลตม์ ิเตอรว์ ดั แรงดนั ไฟฟา้ มิเตอรว์ ัดแรงดันไฟฟา้

3. ผูส้ อนตรวจการคำนวณและการต่อซีดีโวลต์ 1. ผเู้ รยี นแก้ไขขอ้ ผิดพลาดทเี่ กดิ ขึน้ ระหว่างการเรยี น

มิเตอร์ การสอน

3. ข้นั ประยุกตใ์ ช้ (180 นาที ) 3. ขน้ั ประยุกตใ์ ช้( 180 นาที )

1. ผ้สู อนให้ผ้เู รียนทำใบปฏิบัตงิ าน 4 การใช้ 1. ผเู้ รียนทำใบปฏิบตั ิงาน 4 การใช้งานดซี ีโวลต์

งานดซี โี วลต์มิเตอร์ หนา้ 78-81 มเิ ตอร์ หนา้ 78-81

2. ผ้สู อนให้ผูเ้ รียนสบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ต 2. ผู้เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต

กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ขน้ั ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนร้หู รอื กิจกรรมของนกั เรยี น

4. ขั้นสรุปและประเมินผล ( 45 นาที ) 4. ขั้นสรุปและประเมนิ ผล ( 45 นาที )

1. ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เน้ือหาที่ไดเ้ รียนให้ 1. ผูเ้ รยี นรว่ มกันสรปุ เนือ้ หาที่ไดเ้ รียนใหม้ คี วาม

มคี วามเข้าใจในทิศทางเดียวกัน เขา้ ใจในทศิ ทางเดียวกนั

2. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4หน้าที่ 2. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 4 หนา้ ท่ี 76-77

76-77

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน 3. ผูเ้ รียนศึกษาเพมิ่ เติมนอกหอ้ งเรียน ด้วย หนังสอื

ดว้ ยหนงั สือ

(บรรลุจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 1-7)

(บรรลจุ ุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-7)

(รวม 480 นาที หรอื 8 คาบเรยี น)

งานท่ีมอบหมายหรอื กจิ กรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล

ก่อนเรยี น

1. จดั เตรยี มเอกสาร สอื่ การเรยี นการสอนหน่วยท่ี 4
2. ทำความเขา้ ใจเกีย่ วกับจุดประสงค์การเรยี นของหน่วยท่ี 4 และใหค้ วามร่วมมือในการทำกจิ กรรมใน

หนว่ ยท่ี 4

ขณะเรยี น

1. ปฏบิ ัติตามใบปฏิบตั ิงาน 4 การใช้งานดีซโี วลตม์ ิเตอร์
2. รว่ มกันสรุป “โวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง”

หลงั เรยี น

1. สรุปเนื้อหา
2. ทำแบบฝึกหดั หน่วยที่ 4

ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน

ใบปฏิบตั ิงาน 4 การใช้งานดซี ีโวลต์มเิ ตอร์, แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4

สื่อการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

สอ่ื สิ่งพิมพ์
1. เอ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส อ น วิ ช า เ ค ร่ื อ ง มื อ วั ด ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์
(ใช้ประกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-7)
2. ใบความรู้ที่ 4 เร่ือง โวลต์มิเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้ันให้ความรู้
เพอื่ ให้บรรลุจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 1-7)
3. ใบปฏิบตั ิงาน 4 การใช้งานดซี โี วลต์มเิ ตอร์ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ 1
4. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 สรุปและประเมินผล ขอ้ 2
5. แบบประเมินผลงานตามใบงาน ใช้ประกอบการสอนขนั้ ประยุกต์ใช้ ข้อ 1
6. แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ ขั้นสรุปและประเมนิ ผล

ส่ือโสตทัศน์ (ถา้ ม)ี
1. เคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์
2. หนังสือเรยี น เรอื่ ง โวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

สอ่ื ของจริง
โวลตม์ เิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง (ใช้ประกอบการเรยี นการสอนจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 1-7)

แหลง่ การเรียนรู้

ในสถานศกึ ษา
1. ห้องสมุดวทิ ยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร
2. ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็

นอกสถานศึกษา
ผูป้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถ่ินจังหวัดสมทุ รสาคร

การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอ่นื

1. บูรณาการกับวชิ าอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เบือ้ งตน้
2. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้าเบ้ืองต้น
3. บูรณาการกบั วชิ าเคร่ืองวัดไฟฟ้า

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
• หลกั การประเมินผลการเรยี นรู้

กอ่ นเรียน
ความรู้เบื้องต้นกอ่ นการเรียนการสอน

ขณะเรียน
1. ตรวจใบปฏิบัตงิ าน 4 การใช้งานดซี โี วลตม์ เิ ตอร์
2. สังเกตการทำงาน

หลังเรยี น
1. ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยที่ 4

คำถาม

1. จงอธิบายโวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง
2. จงเขียนโครงสร้างดซี โี วลต์มเิ ตอร์
3. คำนวณและขยายยา่ นวดั ดีซีโวลต์มเิ ตอร์ มีหลักการคำรวณอยา่ งไร
4. การตอ่ ซีดีโวลต์มิเตอร์วัดแรงดนั ไฟฟ้า ตอ่ อยา่ งไร
5. การอา่ นค่าแรงดันไฟฟ้าบนสเกลดซี โี วลตม์ ิเตอร์ อ่านอยา่ งไร
6. สเกลหนา้ ปัดและย่านวัดดีซโี วลต์มเิ ตอร์ คอื

ผลงาน/ช้ินงาน/ผลสำเร็จของผ้เู รยี น

ใบปฏบิ ตั งิ าน 4 การใช้งานดซี ีโวลตม์ ิเตอร์, แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 4

สมรรถนะทีพ่ งึ ประสงค์

ผู้เรียนสรา้ งความเข้าใจเก่ียวกับโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง
1. วิเคราะหแ์ ละตีความหมาย
2. ต้งั คำถาม
3. อภปิ รายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง
4. การประยกุ ตค์ วามรสู้ ูง่ านอาชพี

สมรรถนะการปฏิบัติงานอาชพี

1. อ่าน คำนวณ และตอ่ โวลตม์ เิ ตอร์

สมรรถนะการขยายผล

ความสอดคลอ้ ง
จากการเรยี นเร่ือง โวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง ทำให้ผู้เรยี นมคี วามรูเ้ พมิ่ เกี่ยวกบั ดีซโี วลตม์ ิเตอร์เป็น
มาตรวดั สร้างข้นึ มาเพ่ือใชว้ ดั แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง โดยดดั แปลงมาจากดารส์ ันวาลม์ เิ ตอร์ การดัดแปลงโดยเพ่ิม
สว่ นประกอบของอปุ กรณ์เข้าไปในวงจรมาตรวัดใหถ้ ูกต้อง พร้อมปรบั เปลี่ยนสเกลหนา้ ปัดของมาตรวัดให้สัมพนั ธ์
กนั ก็สามารถสร้างดีซโี วลต์มเิ ตอร์ได้การดัดแปลงดาร์สนั วาล์มิเตอร์ หรือดีซโี วลต์มิเตอรเ์ ดิมให้วัดแรงดนั ไฟฟา้ ได้
สงู ขึ้น ทำไดโ้ ดยใชต้ ัวต้านทานท่ีมคี ่าความต้านทานเหมาะสมต่ออนกุ รมกบั มาตรวัดเดิม เพื่อจำกดั ค่ากระแสไฟฟ้า
ทไ่ี หลผา่ นเข้าดซี ีโวลตม์ ิเตอร์ไม่เกินกว่าค่ากระแสไฟฟ้าเดิมท่ที นได้ ทำให้ดซี ีโวลต์มิเตอร์สามารถวัดแรงดนั ไฟฟ้า
ได้สูงมากขน้ึ ค่าความตา้ นทานท่นี ำมาต่อใชง้ านตอ้ งมคี ่าสูงมาก

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 1 อธิบายโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธบิ ายโวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรงได้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 เขยี นโครงสรา้ งดซี โี วลตม์ ิเตอรไ์ ด้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : เขียนโครงสร้างดีซโี วลตม์ ิเตอร์ได้ จะได้ 1 คะแนน

• จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อที่ 3 ฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดซี โี วลตม์ ิเตอร์ได้

1. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ฝกึ คำนวณและขยายย่านวัดดีซโี วลตม์ ิเตอร์ได้ จะได้ 2 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 ทดลองต่อซีดโี วลต์มิเตอรว์ ัดแรงดนั ไฟฟ้าได้

1. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ทดลองตอ่ ซดี ีโวลต์มเิ ตอรว์ ดั แรงดันไฟฟ้าได้ จะได้ 2 คะแนน

• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 5 สาธติ การอา่ นคา่ แรงดนั ไฟฟ้าบนสเกลดซี ีโวลต์มิเตอรไ์ ด้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : สาธิตการอ่านคา่ แรงดนั ไฟฟา้ บนสเกลดซี ีโวลต์มเิ ตอร์ได้ จะได้ 2

คะแนน

• จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 6 ชี้แจงสเกลหนา้ ปัดและยา่ นวัดดีซโี วลต์มิเตอร์ได้

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครอื่ งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ชี้แจงสเกลหน้าปัดและยา่ นวดั ดซี โี วลตม์ ิเตอรไ์ ด้ จะได้ 1 คะแนน

• จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 7 อา่ น คำนวณ และต่อโวลต์มิเตอรไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามหลักการ

1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ

2. เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อ่าน คำนวณ และต่อโวลต์มเิ ตอรไ์ ดอ้ ยา่ งถูกต้องตามหลักการ จะได้

1 คะแนน

แบบประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน
ช่ือกล่มุ ……………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง...........................

รายชื่อสมาชกิ

1……………………………………เลขท่…ี …. 2……………………………………เลขท…ี่ ….

3……………………………………เลขท…ี่ …. 4……………………………………เลขท…่ี ….

ที่ รายการประเมนิ คะแนน ข้อคดิ เหน็

32 1

1 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจน (ความรเู้ ก่ยี วกบั เนอ้ื หา ความถูกต้อง

ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้า)

2 รปู แบบการนำเสนอ

3 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม

4 บุคลิกลกั ษณะ กิรยิ า ทา่ ทางในการพดู น้ำเสยี ง ซ่ึงทำให้ผู้ฟงั มีความ

สนใจ

รวม

ผูป้ ระเมิน…………………………………………………
เกณฑ์การให้คะแนน
1. เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชัดเจนถูกต้อง

3 คะแนน = มสี าระสำคญั ครบถว้ นถูกตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถว้ น แตต่ รงตามจุดประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคญั ไม่ถกู ตอ้ ง ไม่ตรงตามจุดประสงค์
2. รูปแบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอท่เี หมาะสม มกี ารใชเ้ ทคนคิ ท่แี ปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี

ประกอบการ นำเสนอท่ีน่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิน่ มาประยกุ ต์ใช้อยา่ งค้มุ คา่ และประหยัด
2 คะแนน = มเี ทคนคิ การนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอทน่ี า่ สน ใจ แต่

ขาดการประยุกตใ์ ช้ วสั ดุในทอ้ งถนิ่
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่นา่ สนใจ
3. การมีสว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม
3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญม่ บี ทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ความสนใจของผฟู้ งั
3 คะแนน = ผ้ฟู งั มากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ
2 คะแนน = ผฟู้ ังรอ้ ยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ
1 คะแนน = ผ้ฟู ังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมอื

แบบประเมินกระบวนการทำงาน

ช่อื กลมุ่ ……………………………………………ช้ัน………………………หอ้ ง...........................

รายช่อื สมาชกิ 2……………………………………เลขที่…….
4……………………………………เลขที่…….
1……………………………………เลขท…ี่ ….
3……………………………………เลขท…่ี ….

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็

1 การกำหนดเปา้ หมายร่วมกนั 321
2 การแบ่งหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบและการเตรยี มความพรอ้ ม
3 การปฏิบตั ิหน้าท่ีทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
4 การประเมนิ ผลและปรบั ปรุงงาน

รวม

ผ้ปู ระเมนิ …………………………………………………
วันท่ี…………เดอื น……………………..พ.ศ…………...

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

1. การกำหนดเป้าหมายรว่ มกัน
3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมสี ว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชดั เจน
2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ ีส่วนรว่ มในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน
1 คะแนน = สมาชิกสว่ นนอ้ ยมสี ว่ นร่วมในการกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน

2. การมอบหมายหนา้ ท่รี ับผดิ ชอบและการเตรียมความพรอ้ ม
3 คะแนน = กระจายงานไดท้ ่วั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ ทุกคน มีการจัดเตรยี มสถานท่ี สื่อ /
อปุ กรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง
2 คะแนน = กระจายงานได้ทว่ั ถงึ แตไ่ ม่ตรงตามความสามารถ และมสี อื่ / อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพรอ้ มเพรียง แต่ขาด
การจัดเตรียมสถานท่ี
1 คะแนน = กระจายงานไม่ทัว่ ถึงและมีส่ือ / อุปกรณไ์ มเ่ พียงพอ

3. การปฏิบัตหิ น้าท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
3 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด
2 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเร็จตามเปา้ หมาย แต่ชา้ กวา่ เวลาท่ีกำหนด
1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย

4. การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน
3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนรว่ มปรึกษาหารอื ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเปน็ ระยะ
2 คะแนน = สมาชิกบางสว่ นมีสว่ นร่วมปรึกษาหารือ แตไ่ ม่ปรบั ปรุงงาน
1 คะแนน = สมาชกิ บางสว่ นมสี ่วนรว่ มไมม่ ีสว่ นร่วมปรกึ ษาหารอื และปรับปรงุ งาน

บนั ทกึ หลังการสอน

หน่วยที่ 4 โวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง

ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้

1. เนอื้ หาสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
2. สามารถนำไปใช้ปฏิบัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน
3. สอื่ การสอนเหมาะสมดี

ผลการเรียนของนกั เรียน

1. นักศึกษาสว่ นใหญม่ คี วามสนใจใฝร่ ู้ เข้าใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลุ่ม และรว่ มกนั
ปฏิบตั ิใบงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย

2. นักศึกษากระตอื รือร้นและรับผดิ ชอบในการทำงานกลมุ่ เพอ่ื ใหง้ านสำเร็จทันเวลาที่กำหน
3. นกั ศึกษาฝึกคำนวณและขยายย่านวัดดซี โี วลตม์ ิเตอร์ได้
4. นักศึกษาทดลองต่อซีดโี วลตม์ ิเตอร์วัดแรงดันไฟฟา้ ได้
5. นกั ศกึ ษาสาธติ การอ่านคา่ แรงดนั ไฟฟ้าบนสเกลดีซีโวลตม์ เิ ตอรไ์ ด้

ผลการสอนของครู

1. สอนเน้อื หาได้ครบตามหลักสูตร
2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทำให้ผู้สอนสอนได้อยา่ งมน่ั ใจ
3. สอนได้ทนั ตามเวลาท่ีกำหนด

แผนการสอน/แผนการเรียนรูภ้ าคทฤษฎี

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 5

ชอื่ วชิ า เครื่องมือวัดไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ สอนสปั ดาหท์ ี่ 7

ชือ่ หน่วย โวลต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั คาบรวม 28

ชื่อเรอื่ ง โวลตม์ เิ ตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั จำนวนคาบ 4

หวั ขอ้ เรอื่ ง

ด้านความรู้
1. อธิบายโวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
2. เขียนโครงสร้างดีซโี วลต์มเิ ตอร์ได้

ดา้ นทกั ษะ
3. ฝึกคำนวณและขยายย่านวัดดซี โี วลตม์ เิ ตอร์ได้

4. ทดลองต่อซีดโี วลตม์ เิ ตอรว์ ดั แรงดนั ไฟฟ้าได้

5. สาธิตการอ่านค่าแรงดันไฟฟ้าบนสเกลดซี ีโวลต์มิเตอรไ์ ด้

ดา้ นจิตพสิ ัย
6. ชแี้ จงสเกลหน้าปดั และยา่ นวดั ดซี ีโวลตม์ เิ ตอร์ได้

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
7. อา่ น คำนวณ และต่อโวลต์มิเตอรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามหลักการ

สาระสำคญั

ดาร์สนั วาล์มิเตอร์เป็นมาตรวัดใช้ได้กบั ไฟฟา้ กระแสตรงเท่านนั้ จงึ จะแสดงค่าปริมาณไฟฟ้าท่วี ัดออกมาได้
การนำดารส์ นั วาลม์ เิ ตอรไ์ ปวัดปริมาณไฟฟา้ กระแสสลับ จะไม่สามารถแสดงค่าปรมิ าณไฟฟา้ นั้นออกมาได้ เกดิ การ
ส่นั หรอื แกวง่ ไปมาเล็กนอ้ ยบริเวณใกลเ้ ลขศนู ยข์ องสเกล

สมรรถนะอาชพี ประจำหนว่ ย

1. อ่าน คำนวณ และตอ่ โวลต์มเิ ตอร์

คำศพั ทส์ ำคัญ

1. ไฟฟ้ากระแสสลับ คือไฟฟ้าที่มีข้ัวสัญญาณไฟฟ้าจ่ายออกมาสลับไปสลับมาตลอดเวลาไม่มีขั้วแน่นอน

ตายตัว ทำให้สัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับที่ป้อนออกมาจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้ามีขั้วสัญญาณไฟฟ้าสลับบวกลบ
เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงไม่สามารถกำกับข้ัวไว้ตายตัวได้เหมือนแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง และทิศทาง
กระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรไหลกลบั ทิศเปลยี่ นแปลงไปมาตลอดเวลาเชน่ กัน

จดุ ประสงค์การสอน/การเรยี นรู้

• จดุ ประสงคท์ ่วั ไป / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้เกย่ี วกบั การอธิบายการวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั ดว้ ยดีซโี วลต์มเิ ตอร์ (ดา้ นความร)ู้
2. เพอื่ ให้มคี วามรูเ้ กยี่ วกบั การระบเุ อซีโวลตม์ ิเตอรไ์ ด้ (ดา้ นความร)ู้
3. เพอ่ื ให้มคี วามรเู้ ก่ยี วกับการเปรยี บเทยี บวงจรเรยี งกระแสแบบคร่ึงคลนื่ และเตม็ คลน่ื ในเอซโี วลตม์ ิเตอร์

(ดา้ นความร้)ู
4. เพอื่ ให้มที กั ษะในการฝึกวัดและอ่านค่าเอซโี วลตม์ เิ ตอรว์ ัดแรงดนั ไฟฟ้าได้ (ดา้ นทกั ษะ)

5. เพือ่ ให้มเี จตคติทด่ี ใี นการชแ้ี จงสัญลกั ษณ์ไฟฟา้ กระแสสลับได้ (ด้านจติ พสิ ัย)

6. เพอ่ื วดั และอา่ นค่าเอซีโวลต์มิเตอรว์ ัดแรงดันไฟฟ้าดว้ ยความถกู ต้อง ระมดั ระวังได้(ดา้ นคณุ ธรรม

จรยิ ธรรม)

• จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง

1. อธบิ ายการวัดแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ด้วยดีซีโวลตม์ ิเตอรไ์ ด้ (ด้านความร)ู้
2. ระบเุ อซีโวลตม์ ิเตอรไ์ ด้ (ดา้ นความรู้)
3. เปรยี บเทียบวงจรเรียงกระแสแบบครงึ่ คล่นื และเต็มคลืน่ ในเอซีโวลตม์ ิเตอร์ได้ (ด้านความร)ู้
4. ฝึกวัดและอา่ นคา่ เอซโี วลตม์ เิ ตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าได้ (ดา้ นทกั ษะ)
5. ชี้แจงสัญลักษณไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั ได้ (ด้านจติ พสิ ยั )
6. วดั และอา่ นคา่ เอซโี วลต์มเิ ตอร์วดั แรงดันไฟฟา้ ด้วยความถกู ต้อง ระมัดระวังได้(ดา้ นคณุ ธรรม

จริยธรรม)


Click to View FlipBook Version