The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by CCSC CMU, 2024-06-17 20:14:35

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

มหาอานันทะ แลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุซึ่งพระพุทธเจาห ั้ นแล พระพุทธเจาก็เอามือลูบหัว [หนาลานที่ ๓๘, น.๗๒]แหงตน ก็ไดเกสาเสน ๑ ก็เอาหื้อ แกมหาอานันทเถรแลพระญาอโสกหั้น แลวพระญาอโสกก็เอาจุไวในถ้ําผากบ ที่นั้นแล พระพทธเุจากนอนท็ ี่นั้นเสยงฅ ี้ ืน ๑แลกสระเด็ จไปส ็ ดอยป ู าเชตวนอารามั ตั้งอยูในวัสสา ๑ ก็นิพพานไปในเมิงกุสินารายวันนั้นแล ฯ แรกแตนั้นพระเจาก็นิพพานไปไดรอยปปาย ๑๓ วัสสานั้น พระญาอโสก ก็แจกธาตุพระพุทธเจา มาตั้งไวในดอยผากบ เมิงฝางที่นั้นหั้นแล ในถ้ําผากบ ที่นั้นยังมีอรหันตาตน ๑ ก็มานิพพานในที่นั้น พระญาอินทก็หื้อวิสุกัมมเทวบุตต ลงมาเนรมิตแปงรูอุโมงคไวชินธาตุเจา แลเจาะ๑ ประทีปปูชาไวในถ้ํ าพายทาง แมน้ํานนแล ั้ เทวดากเอาผาก็อน๑ มาตดประต ึ ูถ้ําเสยแลีธาตุก็ตั้งไวใน ถ้ําผากบ ที่นั้น ก็รุงเรงเปนท ิ ไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดาท ู งหลายัตราบเสยง ี้ ๕ พันวสสาั มีหั้นชาแล ฯ กาวธาตุตํานานประบาทในเมิงฝาง ก็แลวเทานี้หอง๑ กอนแลฯ[หนาลาน ที่ ๓๙, น.๗๔] เอกํสมยํ ยังมีสมัยคราบ ๑ สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนมี มหากรณากุอย็สถู ตสิ ารานในน ํ โครธอาราม ิ อันมในเม ี งโกส ิมพั ีก็เลงห็นยังสองฅนั ผัวเมยอยี ในบ ู านอ ัน ๑ ชื่อวาบานรคคะุมีในดอยยางจกที่นั้นแล สองฅนผวเมัยนี ั้น ก็มีบุญสมพารไดสางพายหลงมามากนั ัก ควรไดถึงธมมั วิเสสอนเปนพระพ ัทธเุจา จิ่งเอาผาแลบาตรแหงตนแลวก็เขาไปสูเคาไมตน ๑ คือวาไมนิโครธ มีอยูในดอย ที่นั้น พระพุทธเจาก็เปลงฉัพพัณณรังสี๖ พระการ คือวาขาว เขียว เหลิง๒ ดํา แดง หมน สอ๓ ลางพองมีวัณณะเปนดั่งแกววิทูรยน้ําฅํานั้น ก็มีในที่ใกลหนทาง อันสองขาผัวเมียจักมานั้นแล ฯ อุโภ อันวาสองขาผัวเมียก็มาถึงนั้น ก็หันพระพุทธเจาเปลงฉัพพัณณรังสี หลาย พระการตางๆ ซลาบออกมาแตทิสะทังมวร ก็รุงเริงงามมากนัก สองขา ๑ เจาะ - จุด๒ เหลิง - สีเหลือง๓ สอ - สีเทา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑


ก็ลวดบังเกิดจิตปสาทะสัทธาเช ิ่อใสยินดีก็เอากันเขาไปไหวพระพุทธเจาแล ก็หื้อเขา [หนาลานที่ ๔๐, น.๗๖] หอเปนทานแกพระพุทธเจาหั้นแล พระเจาก็รับเอา เขาอันนั้น แลวก็เทสนาตามทัมมิละภาสาแกสองขาผัวเมียดวยอริยสัจจธัมม ทังสี่หั้นแล ขาก็ลวดไดถึงมัคคผลธัมม ก็บังเกิดอจละปสาทะสัทธาในสาสนา พระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจาก็รับเอาเขาหออันนั้น แลวก็นั่งอยูสถิตสํารานเหนิอ ผากอน ๑ ก็สับเพราะหนาสูยางจก เพิ่อจักสันเขาหั้นแล ฯ ในกาละนั้น พระญาอินทก็รูแลวก็ลงมาอุปฏฐากพระพุทธเจา แลวก็เอา ดาบแกววชิรเพ็กแหงตนแทงเขาผากอนนั้น ในทิสะกล้ําหนเหนิอ น้ําก็บุออกมา แลวกเอามาทานแก็พระพทธเจุาหนแล ั้ พระพทธเจุาสนเัขาแลวก ็ชําระเนอตนเส ื้ ีย แลวก็ทํานายไวพายหนา ยางอันนี้จักไดชื่อวายางจกเพ ิ่ อห ั้ นแล เหียดวายาง อันน ี้ งามมากนัก กูตถาคตะนิพพานไปแลว ธาตุตถาคตะจักมาต ั้ งอยูในที่นี้ หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายตราบเส ี้ ยง ๕ พันวัสสา [หนาลานที่ ๔๑, น.๗๗] ก็มีแล ฯ พระพุทธเจาทํานายสันน ี้ แลวก็ไปสําแดงประบาทย่ําไวเหนิอผากอน ๑สงสณฐานเปนด ังช ั่ างทงหลายแลัเพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดา ู ทังหลายหนแล ั้ ประบาทพระตถาคตะอนนั ในท ี้ สะวินออกแหังยางท ี่นั้นแล พระเจา ก็สระเด็จไปสูเมิงโกสัมพีพระเจาก็อยูในนิโครธอารามที่นั้น ก็มีวันนั้นแล ฯ ในเมิ่อพระเจานิพพานไปแล ยังมีอรหันตา ๕ รอยตน จักนําเอาธาตุมาจุ ไวในยางจกที่นี้ดั่งพระเจาหากทํานายไวแล พรอมกับดวยทาวพระญาทังหลาย แลเสนาอามาตยชาวบานชาวเมิงทังหลายมากนัก ก็ขุดยังขุม๑ อัน ๑ ลึกวาได ๗ สิบวา แลวก็จุธาตุเจา แลก็มากอเปนมหาเจติยะ เพิ่อหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแก หมูฅนแลเทวดาหั้นแล ยังมีเทวดาตน ๑ ชื่อวาหกะ ก็อยูรักสาธาตุแลประบาท เจาหนแล ั้ เทวดาตนนนก ั้ เปนหลานแห ็งพระญาธมมั อโสกราชาน  ั้น ทานตายจาก อันเปนหลานพระญาอโสกก็ลวดมาเปนเทวดาอยูรักสา [หนาลานที่๔๒, น.๗๙] ธาตุแลประบาทยางจก ปลลังการผาภิดานที่นั้นก็มีหั้นแล ฯ ๑ ขุม - หลุม ๒๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ธาตุกณฺฑํ นิฐิตํ กาวยังตํานานประบาทผูกตน ก็สระเด็จบัวรมวณ กาละควรเทานี้กอนแล ฯ (บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับน ี้ เจตนาผูขาดวงแกว บานเชยงจามีภรยาชิอว ื่ านางบวฅั าเปนเค ํ า ลูกเตาพอแมพันธวงสาทังมวร ชวนกันมาสางทานค้ําชูพระโคตมะ ๕ พันวัสสา ทานกบวัดจอมทองัฯ ผูขาทงหลายกัขอห็ อได ื้ ถึงสุข ๓ พระการ มีนิพพานเปนที่ แลวแด๑ แดฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓


਴ՏªàǴҡͧ ËÃ×Í “¾ÃиÒμØμСͧ” àÁ×ͧ‹ҧ¡ØŒ§ »ÃÐà·È¾Á‹Ò ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๒ นโม ตสฺสตฺถุฯ เอกํสมยํสตฺถา ธมฺโม วนชปฺปทฺท จาริกํ จรมาโน ฯ ดูราสัปปุริสสะทังหลาย สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนเปนครู แกฅนแลเทวดาทังหลาย อันยังธรมานตั้งอยูหื้อแลว พุทธกิจ ๕ พระการ เอกํ สมยํ ยังมีในกาละคราบ ๑ พระพุทธเจามีมหากรุณาอันมากนัก ก็เอาอรหันตา กับทังมหาอานันทะ แมนพระญาอินทแลพระญาอโสก ตนเปนเจาเมิงกุสินาราย ก็เปนอปาสุกกะพระพัทธเจุา ก็จระเดนไปผวดส ิตตั ทังหลายดวยลาดํบนัคมราชธานิ ี ก็เขาไปรอดไปถึงเมิงระแวก อันควรเปนที่ตั้งเจติยธาตุหลัง ๑ ไวจําเรินหมาย พุทธสาสนาหั้นแล ฯ ในเมิ่ อพระพุทธเจาไปรอดแลวนั้น สถิตสํารานในที่นั้น ยังมีพระญานาค ตัว๑ ก็ออกมาจากแมน้ํา ก็เขามาอ ุปฏฐากพระพทธเุจาท ี่นั้นหนแล ั้ พระพทธเจุา แหงเราหนถานะทั ี่นั้น มักใฅหื้อปรากฎ จิ่งสํา [หนาลานท ี่๒, น.๘๑] แดงอนแยั มใฅ  หัว หื้อปรากฏแกมหาเถยรเจี า๑ หั้นแล มหาเถยรเจีาหนอัจสรัยะิ ๒ แยมใฅ  หัวเยงน ิ่ ั้น๓ จิ่งไหวแลถามด ูยังเหยดเยีงน ิ่ นว ั้ า ภนเตฺภควา ขาแดพระพทธเจุาแย มใฅ  หัวดวย เหียดการณเย ิ่งใดชา ขอพระพุทธเจาจุงเทสนาแกผูขาแดเทิอะ ภควา อันวา พระพุทธเจาตนประกอบดวยมหากรุณาอันมาก ก็จักสําแดงอนาคตะวิเสียด ๑ มหาเถียรเจา - มหาเถรเจา๒ อัจสริยะ - อัศจรรยใจ๓ เยิ่งนั้น - เยี่ยงนั้น, อยางนั้น, เชนนั้น ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๕


จิ่งกาวว า ดูราอานนทะั อันวาสณฐานทั ี่นี้ก็จักเปนทกฎหมายสาสนาพระตถาคตะ ี่ อันเปนอตีตะ ปจจุปนนะ แลอนาคตะ ตราบเสี้ยง ๕ พันวัสสา มีชะแล ฯ เม ิ่ อนั้น มหาอานันทเถียรรูแลว ยังเหียดอันนั้น ก็ไหวแลขอเอาธาตุ ซึ่งพระพุทธเจาห ั้ นแล สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนเปนครูแกฅนแล เทวดาทังหลาย ก็เอามือลูบสิสังอุตมังคละ ก็ไดเกสาธาตุเสน ๑ แลวก็หื้อแก มหาเถยรเจี า เจาก ็รับเอาดวยครบย ํา แลวก เอาไปห ็อแก ื้ พระญานาค [หนาลานท ี่๓, น.๘๓] ตัวนั้น อุปปฏฐากเกสาพระพุทธเจาที่นั้น แลวพระญานาคก็รับเอาดวย สัจจคารวะฅบยํา ๑ แลวพระพทธเจุากเทสนา็ (วา) ดูราอานนทะั ในเมอพระตถาคตะ ิ่ นิพพานไปแลว ได๔ พันปาย ๕๐ วสานั้น ยังมีพระญาธัมมิกะตน ๑ ชื่ออโสก อยูสวยเมิงปาตลีบุตตจักมีอิทธิริทธีผาบ๒ สักกละชุมพูทวีป๓ ทังมวรแล จักแรก ยังชินธาตุพระตถาคตะมาถปนนะ๔ ตั้งกอมหาเจติยะใหย ๕ หลัง หื้อเปนที่ไหว แลสกระปูชาแกฅนแลเทวดา อินทฟม ฅุด๕ นาค ยักขคันธัพพะ จักเปนสักขี จําหมายสาสนา พั่นดั่งปถมะหัวทีหลังถวน ๒ ถวน ๓ ถวน ๔ ไดพันวสาถวน ๕ แล ฯ มักวากูตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันวสาเตมยามใด เจติยะหลังปถมะ จักจมลงไปในวังน้ํา อันเปนที่อยูพระญานาค หมื่นชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๒ พันวสาเตมแลว เจติยะหลังถวนสองก็จมลงไปแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๓ พันเตมแลว เจติยะหลังถวน ๓ ก็จมลงไปแล ฯ เมิ่อสาสนาได๔ พัน [หนาลานที่ ๔, น.๘๖] เตมแลว ก็จมลงไปทัง ๔ หลัง ชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๕ พันเตมยามใด เจติยะถวน ๕ จักลมลงไป หมื่นชาแล ฯ ฅนแลเทวดาทังหลายก็รูวาสาสนากูตถาคตะลวงไปแลวมีเทานี้ก็ดี อันจักมาพายหนาก็ยังเทานี้ตั้งอยูในกาละบัดนี้วัสสามีชื่อดั่งนี้แล รูวาอั้นชาแล ๑ ฅบยํา - เคารพยําเกรง (ลานนา. ครบอยํา)๒ ผาบ - ปราบ๓ สกลชุมพูทวีป, สักกละชุมพูทวีป - สากลโลก๔ ถปนนะ - สถาปนา, แตงตั้ง, ประดิษฐาน ๕ ฅุฑ - ครุฑ ๒๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เหียดเกสาธาตุกูหลังน ี้เปนสักขีหมาย หม ื่ นชาแล วาอ ั้ นแลวพระญานาคแล มหาอานันทเถียรก็เอาเกสาธาตุ ๕ เสนนั้นมาถปนนะตั้งไวในสัณฐานที่พระเจา สําแดงไวนั้นห ั้ นแล พระพุทธเจาก็จระเดินไปผวดสัตตโลวกทังหลายดวยลําดับ ตราบตอเทาถึงนิพพานแล ฯ ปรินิพฺพุโต ภควาติในเมิ่ อพระพุทธเจานิพพานไปไดรอย ปาย ๘ วสา มีในกาละเมิ่อใด ธัมมอโสกราชาจักปรากฏแล จักมาเปกสา๑ ชินธาตุหื้อกานกุง รุงเรงทิวช ั่ มพุทวูปทีงมวรแลั จักรแจู งกวาสณฐานเมังเจิาระแวกท ี่นี้เปนอตตมถานะุ เปนทปรากฏร ี่ งเรุ งตราบเมิยน ี้ ๕ พันวสา [หนาลานท ี่ ๕, น.๘๘] สันน ี้พระญาอโสกราช ก็มีพระราชอาญญา๒ ปลงยังราชวัตถุ คือวางน๓ ฅํา แกวแหวน วัตถุอาภารณะ อลงการตัางๆ หื้อแกมหาเสนาอามาตย แลยสปรวารทิงมวรั มาปกสาสนา กอเจตยะิ ๕ หลัง ตั้งไวแทนท ี่ พระพุทธเจาน ั่ งน ั้ นเทิอะ เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ กฎหมายสาสนา อันเปนอตีตะ แลอนาคตะ ตราบเม ี้ ยน ๕ พันวสา หื้อต ั้ งท ่ํ ากลางเวียงละแวก ที่นั้นหนแล ั้ เวยงระแีวกนั้น พระญาอโสกราชาหอมาส ื้ างแปงหม นค ั้ ุง เพอห ิ่ อเฝ ื้ า แหนรักสายังธาตุ๕ หลังนั้น หื้อหาเภยยะบไดแล มหาเจติยะ ๕ หลังนั้น ก็ลวด เจือปู ๔ ดวยแผนฅํา แตชอฟา ดวงปลีลงถึงตีนธรณีขึ้น ๗ ชั้นแล ชั้นกางได ๓ สอก นับแตคระบอม ขึ้นหนาชาก ได๓ วา มีรูปเทวดาอยู ๔ แจงเจติยะชูหลัง เทวดา ๒ ตน ถือหอยสังขเปาอยู เทวดาสองตนนั้น นบไหวอยูที่ใกลเจติยะ ระหวางเจติยะ ๕ หลังนั้น ตั้งอยูที่ไกลกันสิบวาชูหลัง มีปะตูขง๕ ๔ ดานชูหลัง [หนาลานท ี่๖, น.๘๙] มีรูปนกยงฅูาแวดจอดชํหลุังเมยกี ๖ เวยงธาตีุแลดานม ีรูปพระเจา อยูสิบองคเจตยะแลหลิงมั ีรูปพระเจาอย เฝู าในขงส  ี่อัน แลขงแลตน ประดบดัวยแก ว แลฅางํ ึน เฅงมก ิ่ ฏลุงการตัางๆ เปนอนสัองแจงเหมนดิงเทวดาอ ั่ นเปนท ัพพิ นั้นแล มหาเจตยะิ ๕ หลงนั ั้น พระญาอโสกธมมราชาได ั ปลงป นสมบ ัติมาหอส ื้ างปราการ  ๑ เปกสา - ปฏิสังขรณ, ทํานุบํารุง๒ อาญญา - อาชญา๓ งน, งึน - เงิน๔ ลวดเจือปู - ลาด, เท ๕ ปะตูขง - ประตูโขง, ประตูที่มีซุมอยูดานบน๖ เมียก - เมก, กําแพงดิน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๗


เมียกเวียงหื้อหมั้นคุง ลวงยาวได๓ พันปาย ๕ รอยซาววา ลวงกวางไดพันปาย ๕ รอย ปายสิบวา ตั้งแตปลงราชทานแกฅน ทังฝูงมาเติ่มชอย๑ สางนั้น เสี้ยงฅํา หมื่น ๘ พัน.. เสี้ยงงึนหมื่น ๑ แลวก็ปนเสื้อผาบัวรโภค เขาน้ําประไจยทังมวร มีปราการไดสองชั้น ชั้นนอกเตมดวยน้ํา แลประกอบไปดวยจักเขมังกรทังมวร ปราการแลวดวยหินก็มีแล ปราการชั้นในนั้ นแลวดวยดินละอิด ระหวางเมียก ทังสองนั้น เตมไปดวยเปกตม แลดอกทังหลาย คือวาดอกพาน จังกอรทังหลาย มากนักก็มีแล ก็เหียดเพ ิ่ อวาจักไวรักสาธาตุ๕ หลัง บหื้อเปนกังวลอนทราย ตราบเสี้ยง ๕ พันวัสสา ก็มีแล ฯ ในเมิ่อ [หนาลานที่๗, น.๙๑] พระญาอโสกธัมมราชาต ั้ งอยูเส ี้ ยงอายุจุติไปสู ปรโลกพายหนา ถึงเมอสาสนาข ิ่ ามลวงพ นไปได  พันวสสาเตมวั นใด ั อันวามหาเจตยะิ หลังปถมะหัวทีนั้นก็จมลงชาแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตนั้นสืบมาตราบเมี้ยน ๕ พันวัสสาดั่งอั้น ธาตุหลังถวน ๕ ก็จมลงไปชาแล ฯ ตโต ปรํแตนั้นมาสาสนาพระพทธเจุาพ นไปได  ๒ พันวสสานั ั้น มหาเจตยธาติุ เมิงระแวก หลังถวนสองก็จมลงแตตีนธรณีดวยลําดับปเดินวันยามไจๆ แล ฯ ตทนตเรฺถัดนนล ั้ าดํบมาดัวยว สสาได ั ๓ พันนนมาถ ั้ งปึ กัดไสจุฬสกราชได ั  ๙๓๑ ตัว อตีตสาสนาขามลวงพนไปได๒๓๒๑ ตัวนั้นแล ยังมีมหากระสัตรตน ๑ ชื่อวามังทรา เปนพระญาสวย๒ ราชสัมปตติในเมิงหังสาวตินคร ไดยกเอา จตุรังคพละโยธาลงไปยทธกุมมัรบเอาเมงสร ิ อโยธ ียาลิ านชาง วันนั้น มันเปนหลาน แสนเชียงแลง มันเปนผูสลาด๓ พิจจรณา [หนาลานที่ ๘, น.๙๓] ยิ่งนัก ก็ไดลงรบกับ โยธาแหงพระญาหงสาวตั ิไดไปรอดไปถ  ึงเมงละแวกิ ก็ไปเอาวสสาในเม ังละแวกิ ที่นั้น มันกได็ ไปร  ไปห ู นคระบวนบัานเมงทิ ี่นั้น แลไดไหว  แลป ชามหาเจตูยธาติเจุา อันประเสิฏ ก็ไดอานดูยังจาริด๔ อันพระญาอโสกธมมราชาัแลอรหนตาเจัาทงหลายั ๑ ชอย - ชวย๒ สวย - เสวย (สวยราชสัมปตติคือ ครองราชสมบัติ)๓ สลาด - ฉลาด๔ จาริด - จารึก ๒๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ตอง๑ ไวในหนาหินนั้น มันก็อัสจัรย มันก็ไปพิจรณาดูชูแหง แลวมาเผียบหา จาเริก ทําคระบวนทงมวรแหังเจตยธาติ ุฝูงนนได ั้ ชูอันแล พั่นดงเจต ั่ ยธาติุ๕ หลงนั ั้น ก็ผุดจมลงมาในน้ํ าเสียสองหลังแล ก็รูวาเปนสาสนาพนไปแลวไดสองพันวัสสา แลวแล ฯ ในปกดไส  สักราชได๙๓๑ ตัว ที่บานนนลงไปส ั้ เวู ยงละแีวกที่นั้น มหาเจตยะิ หลังถวน ๓ นั้น ก็จมลงไปในน้ํ าคอมพอ๒ ถวมตีนธรณีจมลงในปกดไสนั้น อตีตสาสนาขามลวงพนไปไดสองพันปายรอยวัสสา ปาย ๒๐ วัสสา ในปนั้นแล เจาภิกขุทังหลายไดพันตน ก็อยูอุปฏฐากในเจติยเกสาธาตุฯ [หนาลานที่ ๙, น.๙๕] ทีนั้น สามเณรมี๕ รอยตน อยูรักสามหาเจตยธาติเจุาท ี่นั้นแล ฅนคระหฏฐั  อุปฏฐากมหาเจติยะที่นั้น นับแตผูชายมี๒ พันฅนแล ฅนเถาบนับเท ิ่ อห ั้ นแล ปณฑิตะนักปราชญเจาทังหลาย มักใฅรูสาสนาอันขามลวงพนไปแลวน ั้นได ๒ พัน ๘๐๐ วัสสา มาตั้งไวนับเอาสักราชสืบแต ๙๓๑ ตัว มักวาอตีตสาสนานั้น พนไดเทาใด ก็พึงรูวาสาสนาอตีตะอันลวงแลวเทานั้น เสสะหลอกวาน ั้ นก็เปน อนาคตะสาสนาแหงพระพุทธเจา ฯ ปฺจมหาเจติยกณฺฑํ กาวยังมหาเจติยะ ๕ หลัง อันต ั้งไวท่ํากลางเมิง ละแวก อันมีในโขงเมิงอโยธิยาทวารปตินคร ก็แลวเทานี้หอง ๑ กอนแล ฯ อฐเกสา พุทฺธา หํสาวตินคเร สิงฺคุตฺตรถมฺภ ปกฺขามิฯ สาธโว ฟงดราสูปปั ุริสสะทงหลายัเราจกกัาวตานานมหาธาตํเกสาอุนถป ันนา ตั้งไวในดอยสิงคุตตระ อันควรสัทธาปสาทะชมชื่ นยินดีอันมีในเมิงหังสานคร นัย ๑ ธาตุทะคูงนั้น หื้อ [หนาลานที่๑๐, น.๙๖] แจง ผูมีประหญาพึงรูดั่งนี้เทิอะ ฯ หิดวยมีแทแลวิสาขาปุณฺณมาสํในเมิ่อเดินวิสาขะเพง๓ นั้น พระพุทธเจา ไดตรัสประหญาสัพพัญูตัญญาณ พระจญ๔ แพมาร ๕ พระการ เหนิอแทนแกว ๑ ตอง - สลัก, สะกัดใหเปนรอย๒ คอมพอ - ถึงขั้น๓ เพง - วันเดือนเพ็ญ, ขึ้น ๑๕ ฅ่ํา๔ พระจญ - ประจญ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๙


ปลลังการ แทบเคาไมมหาโพธิได๗ วันหั้นแล ยามนั้นคําสลั้ง๑ สงสัยก็เกิดมีแก เทวดา อินทฟมทังหลายวา เจาสิทธัตถะนี้รอยวาบไดเปนพระเทิ่อชาแลวาอั้น พระพทธเจุาร ใจแห ู งเทวดาทงหลายแลั ว ก็สยอง๒ ขึ้นสปตู ลอากาสุเทยวจมขมี ๓ ในอากาส เนรมตเปนพ ิทธรุปไดู๒ ตน ๓ ตน ๔ ตน ๕ ตน ๑๐ ตน ๒๐ ตน รอยตน พันตน เพิ่อจักตัดเส๔ ยังความสันเทหะแหงเทวดาทังหลายอันลงมานั้นแล ฯ ยามนั้น เทวดา อินทฟม ก็หาความสังกา๕ บไดก็รูวาไดตรัสประหญา สัพพญั ูตัญญาณเปนพระแทก็ชวนกนเขั ามาไหว  แลป ชาอูปปุ ฏฐากพระพทธเจุา หั้นแลฯ ตทาอานันทะเริย ถัดน ั้ นพระพุทธเจาก็ยายจากเคาไมมหาโพธิแลวไป ยืนอยูทิสะหนอสานแหี งมหาโพธ  ิไกลประหมาณ๒๐ สอกแล ก็เลงแลดไมูมหาโพธ  ิ แลว [หนาลานที่๑๑, น.๙๘] อยูดูอันบพรับตา นานได๗ วันหั้นแล เทวดา อินทฟม ก็มากอเจตยะทิพระเจ ี่ ายนยื ูนั้น ลวดปรากฏชอว ื่ าอนิมิสสเจตยะอิ สาน ี หั้นแล ฯ ตทานนฺตรํ ถัดแตนั้นพระพุทธเจาก็ละมาจากที่นั้น แลวก็ไปเทียว รัตนจมขมแกว๖ ในทสะหนวิ นตกไม ั มหาโพธ  ิไกลประหมาณ ๒๐ สอก พระกเท็ยวี จมขมไปมาดานวันตก ระหวางไมมหาโพธิแลอนิมิสสเจติยะ นานได๗ วัน ก็ยายจากที่นั้นไปอยูเรินแกว อันเทวดาหากมาเนรมิตไวทิสะวันตกแจงเหนิอ ไมมหาโพธ  ินั้น ไกลอพภันตระั ๗๑จมขมแกว นานได๗ วันแล ก็สระเดจจากที่นั้น ไปรอดเคาไมตน ๑ คือวามุญจรินทะ๘ ริมสระอัน ๑ ลึกได๑๒ วา มีทิสสะหนใต อาคเนยแหงไมมหาโพธิไกลประหมาณอัพภันตระ ๑ [หนาลานที่๑๒, น.๑๐๐] อยูได ๗ วัน พระพทธเจุาก ็ยายจากที่นั้นไปอยแทบเค ู าไม  มวงราชายตนะอันมีทิสะหนใต ไกลประหมาณอัพภันตระ ๑ อยูที่นั้น ๗ วันแล ฯ ๑ สลั้ง - สงสัย, กังขา, เคลือบแคลงใจ๒ สยอง - เหาะ๓ เทียวจมขม - เดินจงกรม๔ เส - เสีย ๕ สังกา - สงสัย๖ จมขมแกว - รัตนจงกรม๗ อัพภันตระ - อัพภันดร (มาตรา ๑ อัพภันดร เทากับ ๗ วา หรือ ๒๘ ศอก หรือ ๑๔ เมตร)๘ มุญจรินทะ - มุจลินทร ๓๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เหียดดั่งอั้น โปราณอาจารยเจากฏเปนคถาไหวสัตตมหาปถนะ ทัง ๗ วา โกปปปฺโปติโพธิยา ยสปุเร ชิโน นาโถ ปโต สมฺโพธิมุตมํนมามิสิรสา โพธิชินํ สนฺตนนฺตรํ ปถมํ สตหํ ภควา ยถถิเต ปตํ กเปกฺขเตโพธิมหาภนฺตเร โกเนตํ นมามินิปสกํวิสหเตจ โพธิมหาถานํโพธิมนฺตเร ปุพพมชฺฌิมตายา นมามิปกํมํ วรํจงฺคม โพติยํถาเน จิตฺต สิคมฺหิรํโพธิหา ภนฺตเร พย นมามิรตนฆรํมชฺฌิเม นยสา มุลลมฺหิอชฺฌปารํมหาถาน ภนฺตเร ปุพฺเพอชฺฌปารานิสเย อาคเนยฺย โพธิมหา ทฺวาชกฺก สรตเน ทเกน จ ภนฺตภานมฺหินมามิมุริทกํ ปณฺฑิเน [หนาลานที่ ๑๓, น.๑๐๑] โพธิปุรโต ราชายตน ภฺชถานา กํ ปสฺสส ภนฺตเร ถนมฺหิ มาสุคตา ลย ฯอันนี้เปนคาถาไหวสตฺต มม มิมุจลินฺทา มหาถานํสตห ๗ แหง ไหวแลบท วาไหนแลบทไจๆ แลแหงแล ๗ วัน สังรอมนานได๔๐๙ วัน๑ พระเจา ก็ไดสันเขาน้ําโภชนะอาหารหั้น สิ้นยามนั้น ฯ ฟมจิ่งไหววา พระญาเจา ยามน ั้ นพระญาอินทจิ่งเอาหมากสมอทิพพ มาทานห ื้ อแกพุทธเจาไดสัน แลวก็เอาไมหนอนเนา เปนไมอันออนด ั่งยวงฝาย มาหอพระพ ื้ ทธเจุาจ ิแลวก ไปเอาน ็ าอโนมตสระมาห ้ํ อพระพ ื้ ทธเจุาซวยหน า ชําระ บวนปากแลว ในเมิ่อยั้งอยูแทบเคาไมมวงราชายตนะนั้น ยังมีพอคาเกวียนสอง ฅนพี่นอง ผูพี่ชื่อวาตปสสะุ ผูนองชอว ื่ าพลกะิ หั้นแล ขาทงสองพั ี่นองกเปนพ ็อค า เกวียน ๕ รอยเหลม กับหมูพอคาทังหลายเปนปริวาร ลุกแตเมิงอุตตรนคร เขาไปส เมู งเิ ชตตรนครุเหยดเขาได ี ยินวาเข าเมิงปนหนคร เปนอนแพงมากนั ัก วาอั้น [หนาลานที่๑๔, น.๑๐๓] ตางเขาตอตางฅํา ก็หาผูจักขายบไดแลวาอั้น ฯ พอคาเกวียนทังหลาย ๕ รอยฅนนั้น ก็ชวนกันเอาเขาสารใสเกวียน ๕ รอยเหลม แลวก ไปก ็บดัวยหม ปรู วารออกแติเวยงอีตตรนครุไปสเมู งเชติตรนครุ ก็ไปดวยลําดับหนทาง ก็ไปรอดไปถึงท ่ํ ากลางท ี่ ๑ ยังมีเทวดาตน ๑ อยูรักสา ไมนิโครธตน ๑ ก็หากเปนญาติพี่นองแหงพอคาทงสองแตัชาต ิกอน หันขาทงสองั มารอดมาถึงที่นั้น ก็มักใฅสังคหะห ื้อเปนประโยชนะแกญาติพี่นอง จิ่งจักแตง บหื้อเกวียนไปไดลวดจิ่งตั้งอยูที่นั้นห ั้ นแล พอคาทังสองหันอัสจัรยเย ิ่ งนั้น จิ่งจัก ๑ ๔๐๙ วัน - ในที่นี้หมายถึง ๔๙ วัน (๔๐+๙) ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๑


มาจาซึ่งกันวา ดูราเจาทังหลาย บัดนี้เกวียนทังหลายก็บไปสันนี้รอยวาเทวดา อารักขผีเสื้อหากมากะทําบหื้อไปชาแลวาอั้น ฯ แลวขาทังสองก็เลงดูพายบน ก็หันเทวดาสําแดงตนห ื้อปรากฏหันสันนั้น ขาทงสองกั ็กาววา เทว ขาแดเทวดาเจาก ูจักกะทาสํ นใดชาว ัาอ ั้น เทวดาจงก ิ่ าวว า ดูราพอคาทงสองั กูก็มักใฅหื้อเปนคณเปนุ [หนาลานท ี่๑๕, น.๑๐๕] พระโยชนะแกเข ิอ ทังสองจิ่งจกชักเกวั ยนไว ี ดูราพอค า บัดนพระพ ี้ ทธเจุาได ตร สประหญาส ัพพัญัู ตัญญาณเปนพระใหมนี้ได๔๙ วันนี้ก็บไดสันเขาน้ําโภชนะอาหารสักเทิ่อ ก็มา อยูสํารานทเค ี่ าไม  มวงราชายตนะในปาทหน ี่ แล ี้ สูเจาทงหลายจังเอาเข ุ าน าโภชนะ ้ํ อาหารไปหอเปนทานแก ื้ พระพทธเุจาบดนัเท ี้ อะวิาอ ั้น พอคาท งสองได ั ยินเยงน ิ่ ั้น ก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีดวยคําวา อโห อวยหนอ สาธุ ขาแดเทวดาเจา สาธุ เปนอันดีแทแล วาอั้นแลวจิ่งจักสูน๑ เขาสะดุกอนมีประหมาณ ๔๙ กอน ใหยเทา หมากชมพุ ูนั้นแล ก็เอาใสในภาชนะแล  วไปห  อเปนทานแก ื้ พระพทธเจุาดวยสจจะั คารวะยิ่งนักหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระพุทธเจาก็รับเอาดวยงาย พระพุทธเจาก็รําพึงถึง พุทธปเวณีพระพทธเจุาฝงอูนขัามลวงแลวรบเอาดัวยบาตร หากเปนพทธปเุวณี แล ฯ ในกาละนนท ั้ าวจต โลกทุัง ๔ ก็รูแจงยงเหัยดอีนคระนังแหิงพระพทธเจุาน ั้น ก็เอาบาตร [หนาลานที่๑๖, น.๑๐๖] หิน แกว แลตนแลลูก ก็นอมมาเปนทานแก พระพุทธเจา อันเปนกับดวยฝาบาตร แลสนุกบาตร ฟอม๒ ทังมวรห ั้ นแล พระพทธเจุาก ็รับเอา แลวพระพทธเจุาระนกรึ ูพุทธปเวณีบควรทรงบาตรหลายลูก เทาควรทรงบาตรลูกเดียวแลวาอั้น ก็เอาบาตร ๔ ลูก เขาซอนกัน อทิฏฐาน หื้อเปนลูกเดียวชาแล มีขอบสี่อัน เปนบาีวา ภควโต ปจเสตํดั่งนี้พระพุทธเจา ไดบาตรแลว ก็รับเอาเขาแหงพอคาทังสองพี่นอง คือวาตปุสะ แลพลิกะเปน ประธานกวายัสสปริวารทังมวร ก็ฟอมกันถือเอายังสรณาคมนทัง ๓ วา อชตเค ๑ สูน - ผสม๒ ฟอม - พรอม ๓๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ทานุเปตพฺพํ พุทฺธํสรณํ คจฺฉามิดั่งนี้แลวสัมมาธาน๑ เอาสิกขา รักสาสีลอันมี องคะ ๔ พระการ คืออภิญาณเปนอุปาสักกะ คือ เอตทํก็มีแล ฯ พระพุทธเจาตนมีมหากรุณา ก็เอามือลูบอุตมังคละหัว ก็ไดเกสาธาตุ ๘ เสน ก็เอาหอแก ื้ พลกะผิ ูนองหนแล ั้ พอคาท งสองได ัธาตุ๘ เสน ก็ยอเอาขนต ึ้ งห ั้ ัว แหงเขาแลวมียามใด ในกาละยามนั้น [หนาลานที่๑๗, น.๑๐๘] อัสจัรยก็เกิดมี น้ําสมุททก็ข้ําเขิกเยิกตีฟองนองตีฝง ก็สน ั่ นหว ั่นไหวไปมา เขาสเนโรราช๒ ซ้ําก็ออนนอมคอมลงมา เทวดาทังหลายก็ผายเขาตอกดอกไมทิพพปูชาสการะ มากนักหั้นแล ฯ เมอน ิ่ ั้น พอคาทงสองกั ไหว ็พระพทธเจุาว า ภนเตฺภควา ขาแดพระพทธเจุา เกสาธาตุฝูงน ี้จักห ื้ อเขิอขาทังสองพี่นอง เอาไปถปนนากอไวในที่ใดชาวาอั้น ในกาละนั้ นพระพุทธเจาก็กาววา ดูราสปุริสะพลิกะ ยังมีดอยอัน ๑ ชื่อวา สิงคุตตรปพพตา มีในเมิงอุปปลนคร คือวาเมิงหังสาวดีเปนอุตมถานะ อันประเสิฏแล ดูราตปุสสะ พลิกะ เขิอทังสองจุงเอาเกสาธาตุ๘ เสนนี้ไปจุกอไว ในดอยสิงคุตตระที่นั้นเทิอะ พอคาทังสองก็รับเอาคําสอนพระพุทธเจาวา สาธุ ดีแลวาอั้น แลวก็ไหวดวยคําวา เขิอทังสองบแกวดกฎหมายรูยังดอยสิงคุตตระ อันน ั้ นสังสักอันแล พอคาทังสองคันวาไดเกสาธาตุ๘ เสนอันน ั้ นแลว ก็ไหว พระพุทธเจา แลวก็เขาไปสูเกวียน [หนาลานที่๑๘, น.๑๑๐] แหงตนหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระญาอินทก็รูแลว ก็มาเนรมิตเกวียนใหยเหลม ๑ มีปราสาทแกวอนจั กใส ัเกสาธาต ุนั้น ก็ประดบประดาด ัวยแก วแลเฅงส ิ่ กกระป ัชาู ทังหลายมวร มาตงไวในท ั้ ากลางหม ่ํ เกว ู ยนี ๕ รอยเหลมนนแล ั้ พระญาอนทิ ก็ไข๓ โกฏแกวเอาเกสาธาตุ๘ เสนน ั้นใสแลวก็ปูชาดวยอันฅบยําแยงมากนักแล แมนวาเทวดาทังหลายอยูในชั้นฟาทัง ๖ ก็ลงมาปูชามากนักหั้นแล พระญาอินท ก็หื้อวิสุกัมมเทวบุตตลงมาแตงหนทางห ื้ อมารอดมาถึงแมน้ําอัน ๑ เกวียนไป บไดดั่งอั้น พระญาอนทิ จิ่งมาเนรมตสะเพลาิ๗ เหลมไวหื้อพอคาทงหลายหันแล ั้ พอคาทงหลายกัเอาเกว็ ยนไป ี ปราสาทแกวอ นใส ัเกสาธาต ุนั้นขนใส ึ้ เหนอสะเพลาิ ๑ สัมมาธาน - สมาทาน๒ เขาสเนโรราช - เขาสุเมรุ๓ ไข - เปด ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๓


๗ เหลมนั้น แลวก็ไปดวยอานุภาพแหงพระญาอินทก็[หนาลานที่๑๙, น.๑๑๒] ไปถึง เมิงเชตุตรนครหั้นแล ฯ ราชา อันวาพระญาเชตุตรนคร ก็รูขาวสารวาพอคาทังหลายฝูงน ั้ นมา ก็มีราชราพ ่ํ งวึ า พอคาท งหลายฝ ังนูแต ี้ กอน เขามาเทยรยีอมเด ิน ๑ จิ่งมารอดเมิง ที่นี้ดาย เขามาประหมาณ ๗ วัน พอยมารอดสันนี้รอยวาจักมีเหียดอัน ๑แกเขา พึงมีชาแล วาอ ั้ นแลวพระญาก็ปงหื้ ออามาตยทังหลายไปนําเอาพอคาทังสอง มาถามดูวา ดูราพอคาทังสอง สูทานทังหลายมารอดบานเมิงสันน ี้ ดวยอันรีบ แลพลัน มาตรา ๗ วัน แลมารอดสันนี้ชา ติดดวยเหียดการณเยิ่งใดนั้นชา พอคา ทังสองก็ร่ําพึงวา ผิจักกาวคําลาย ก็กัวโกลาหลเกิดมีในหมูทานมากนักวาอั้น บควร กัวเปนบาป พอคาทังสองก็ลายบได ก็ไหวพระญาดวยอันซ ื่ อวาด ั่ งน ี้ ขาแกมหาราชเจา ผูขาทงสองได ัของคาอ นประเส ัฏมาดายิเขอทิงสองกั ได็ ประสบ  พบพระพุทธเจาอยูเคาไมมวงราชยตนะที่นั้น เขิอเขาก็ไดหื้อเขาเปนทานแก พระพุทธเจาแล พระพุทธเจาก็หื้อเกสา [หนาลานที่ ๒๐, น.๑๑๔] ธาตุ ๘ เสน แกเขิอ ขา๑ แล ขาทังสองก็นํามาเพิ่อจักนําเมิอถปนนาไวในดอยสิงคุตตระ อันมีในเมิง อุปปลนคร ตามคําแหงพระพุทธเจาชาแล ฯ พระญาเชตุตรนคร คันไดยินคําอันนั้น ก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีมากนัก พระญาก็ปลงยังลาภสการมากนักแกพอคาทังสองห ั้ นแล ก็กาวซ ึ่ งพอคาวา ตาต ดูราพอคาทังสอง เราพระองคก็ใฅหันเกสาธาตุพระพุทธเจามากนักวาอั้น แลว พอคาทงสองกั ไปน ็าเอาเกสาธาตํพระเจุามาหอพระญาห ื้ นแลัพระญาก็มีปติยินดี มากนัก ก็บังเกิดปสาทะสัทธาวา จัดตัดหัวปูชาธาตุเจา เมิ่อนั้นนางเทวีก็ไหวแล หามเสวา เทว ขาแดมหาราชเปนเจา อันราชะเจาผิแลยังมีชีวิตยืนยาวไปพาย หนา ก็ยังจักอุปปถากเกสาธาตุพระพุทธเจาพายหนาดีหลีวาอั้น พระญาไดยิน คําเย ิ่ งนั้น ก็ฟงคํานางเทวีวา สาธุดีแลวาอั้น แลวพระญาก็ถอดเอาฅะจุมหัว๒ อันประดบแลัวดวยแกวแลฅ ํา ก็[หนาลานท ี่๒๑, น.๑๑๕] ปูชาเกสาธาตุก็กาวซงพ ึ่ อค า ทังสองวา เขิอทังสองก็ไดของคาอันประเสิฏมาสันนี้เราราชะหันดาย บควรแล ๑ เขิอขา - เขือ, ขา๒ ฅะจุมหัว - พระราชมงกุฏ ๓๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เราราชะจกเอาธาตั ไวุ อุปฏฐากสององคชาแล พอคาทงสองจังก ิ่ าวว า ผูขาทงสองั จักวางธาตไวุบไดแลเหยดคีาพระพํทธเจุาหากสงสอนเข ั่ อขิาท งสองเปนค ัุรุภาวะ อันหนักนักแลวาอั้น พระญาก็บฟง พระญาก็ลวดเอาเกสาธาตุไวสององคแล พอคาทังสองก็นอยใจมากนัก ก็รองไหมากนัก ก็หนีไปหั้นแล ฯ พระญาเชตุตรนคร ก็สางแปงปราสาทหลัง ๑ แลวก็ตั้งไวเกสาธาตุในท่ํา กลางเวียงแล ก็เหลนมโหสรพ๑ ปูชามากนักแล พอคาทังสองก็ขี่สะเพลาไปดวย น้ําสมุททนานได๖ ฅืน แลวถึงวันถวน ๗ ก็ไปเกาะที่ ๑ ก็จอดเกาะที่นั้นแล ถึงยามเท ี่ ยงฅืนด ั่ งอั้น เกสาธาตุก็ผายปฏิหารยหื้อรุงเริงสองแจงด ั่ งกางวันนั้น ยามนั้นยังมีพระญานาคตัว ๑ ก็จระเดินมาแอวเกาะที่นั้น ก็ไดหันอัสจัรยเยิ่งนั้น จิ่งฅะนงใิจวาของ วิเสยดีรอยมีที่นี้ชาแล วาอนแล ั้ วกละเพ็ยดี ๒ อันเปน [หนาลานท ี่๒๒, น.๑๑๗] พระญานาคนนเส ั้ แลวก ็ขึ้นสสะเพลา ู ก็หันเกสาธาตพระพุทธเจุา มันก็ลัก เอาสององคแลวกหน็ ไปอย ีเมู งนาคหินแล ั้ ธาตุก็เทายงหลอั ๓ ๔ องคหั้นแล พอคา ทังสองบหันธาตุก็ฟอมกันตีอกรองไหวา พระญานาคก็หื้อฅนมาลักเอาธาตุไป สององคแลว เทายังหลอธาตุ ๔ องคนี้ชาวาอั้น แลวเขาก็เอากันไปตามฅะแส แมน้ํา ก็ไปรอดดอยอัน ๑ ชื่อวาดอยของ วาอั้น ฯ ในกาละนั้น ยังมชายผี ู๑ ไปดวยสะเพลา ก็เสสะเพลาแตก ก็ไหลนาไปรอด ้ํ ดอยอันนั้น หาสังจักกินก็บได ก็ลําบากมากนัก มันก็หันสะเพลาเหลมน ั้ นมา ก็ไปขอกนเิขากบดัวยพอคาทงหลายหันแล ั้ มันกถามว็าพอคาทงหลายัเอาของคา ทังหลายเยิ่งใดมานั้นชา ตปุสสะ พลิกะก็กาววา ตูขาไดของคาอันประเสิฏบดาย วาอั้น ชายผูนั้นก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีดวยคํา (วา) ขาก็ไดที่พึ่งบัดน ี้ แล วาอั้นแลวมันก็แกผานุงแหงมัน อันยาววาไดสองสอก ก็ปูชาเกสาธาตุเจาหั้นแล พอคาทังสอง [หนาลานที่๒๓, น.๑๑๙] ก็สังคหะเอาชายผูนั้นมาห ื้ อพนจากทุกข แลวก็มารอดเมิงธัญญวตินคร อันมีในละแวกแควนเมิงหังสานครหั้นแล พระญา ตนสวยเมิงน ั้ นช ื่ อวาอุปปลราชาแล พอคาทังสองน ั้ นก็มารอดแลว ก็เขาไปสู สํานักพระญาแลวก็ไหววา เทว ขาแดมหาราชเปนเจา ผูขาทังหลายไปคา ก็ได ๑ มโหสรพ - มหรสพ, งานรื่นเริง๒ ละเพียด - ทิ้งความเปน, แปลงกาย๓ หลอ - เหลือ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๕


ไปประสบพบพระพทธเจุาอยเคู าไม  มวงราชายตนะที่นั้น ขาทงหลายกั ได็ ไปแต  ง เขาน าโภชนะอาหารเปนทาน ้ํ แลวผ ูขากขอเอาเกสาธาต็ ุซึ่งพระพทธเจุา พระเจา ก็หื้อเกสาธาตุ ๘ องคแกเขิอขาทังสองพี่นอง แลวก็สั่งเขิอขาทังสองวา หื้อเอา เกสาธาตุ ๘ องคนี้ไปถปนนะตั้งไวในดอยสิงคุตตระพุนเทิอะวาอั้น ขาทังสอง ก็ปฏิบัติตามคําสอนพระพุทธเจา ก็นําเขามาถึงเมิงเชตุตรนครที่นั้น พระญา เชตตรนครกุคร็บชุงเอาธาติสององคุกอนแลเทายงหลอั๖องคผูขาทงสองกั ็นํามา ถึงเกาะที่ ๑ พระญานาคก็จิ่งซ้ํามาลักเอาสององคเลา ก็เทายังหลอธาตุ ๔ องค ผูขา [หนาลานที่ ๒๔, น.๑๒๑] ก็นํามาถึงมหาราชเจาบัดนี้แล ล้ําทาวพระญาทังหลาย ในสักกละชุมพูทวีปทังมวร แลจักมีปสาทะสัทธาในสาสนาพระเจาเสมอดั่ง มหาราชเจานี้บมีแลวาอั้น ฯ อถ ในกาละเมิ่ อนั้น พระญาอุปปละราชาไดยินคําเย ิ่ งนั้น ก็มีปฏิโสมนัสสะ ยินดีแลวก็ปงราชอาชญาหื้ออามาตยใหยผู๑ มาตกแตงเสนา ๔ จําพวก คือวา เสนาชาง เสนามา เสนารถ เสนาไปตีน มาแลวก็หื้อพอคาทัง ๒ พี่นองข ึ้ นข ี่ โยยานฅําแหแหนแวดลอมเปนปร  วารไปก ิอนหนาตามหล ังแลวพระญาก ไปด ็วย ยัสสปรวารไปรอดท ิจอดพ ี่ อคาทงหลายั ที่ไวเกสาธาตแลุวกกะท็ าปท ํกขัณะิ๓ รอบ แลวก ไหว ็นบส กการะป ัชาดูวยปรม สะติางๆแลวกยอม็ ืออทฏฐิานวา พระพทธเุจา เมตตาแกขาทังสองห ื้ อเอาธาตุอันน ี้ไปปูชาไวแทหั้นแล ขอห ื้ อขาไดไหวยังธาตุ ทังหลาย ๘ เสนน ั้ นเทิอะ วาอ ั้ นแลวก็ไขยังโกฐแกวก็ลวดไดหันยังเกสาฅําทัง ๘ พระองคนั้นแทพระญาก็สาธุยินดีมากนัก แลวลวด [หนาลานที่ ๒๕, น.๑๒๓] จาวา จักตัดหัวปูชาหั้นแล ฯ ในกาละเมิ่ อนั้น นางราชเทวีก็ขอซ ึ่ งพระญาวาเทว ขาแดมหาราชเปนเจา ผิวามหาราชเจายังมีชีวิตยืนยาว ก็ยังจักไดไหวนบอุปฏฐากพระพุทธเจามาก หลายดาย พระญาไดยินคาเยํงน ิ่ นก ั้ ็ยินดีแลวกถอดเอากระจ็มหุวฅั าปํชาเกสาธาตู ุ แลวก็กาวซ ึ่งตปุสสะ พลิกะ สองขาพี่นองวาด ั่ งน ี้ ดูราพอคาทังสอง เขิอเจา ทังสองวาเกสาธาตุยังหลอ ๔ องควาอั้น บัดน ี้ เกสาธาตุเจายังบังเกิดหันมาทัง ๘ เสนสันนี้ชา ตปุสสะ พลิกะกาววา ดีนักแล หากเกิดดวยบุญมหาราช เปนเจา แทแลวาอั้นก็มีแล ฯ ๓๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ในกาละนั้น พระญาอุปปลราชาก็ปงรางวัลแกพอคาทังสองมากนัก แลวก็ นําเอาธาตุสงเสพปชาแลูวกแห็เขามาสเวู ยงธีญญวตันคริ ดวยหมูปรวารมากนิ ัก หั้นแล คันมารอดแลวก็ตีกลองนันทเภรีปาวฅนทังหลายวาได๗ วัน หื้อประชุม มายังฅนทังหลายมากนัก ก็ถามฅนทังหลายฝูงแกก็ดีฝูงยังหนุมก็ดีปุคละผูใด ผู๑ ก็บมา [หนาลานที่ ๒๖, น.๑๒๕] รูที่อยูสิงคุตตระสักฅนหั้นแล พระญาอุปปลราชา แลพอคาทังสอง ก็นอยใจมากนัก ก็รองไหอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระญาก็เลาโลมพอคาทังสองวา เราก็หาที่สิงคุตตระบได จักเอาธาตุไปถปนนาหั้นไวที่ใดที่๑ ควรชาแลวาอั้น พอคาทังสองกาววา ผูขาก็ บขามลวงคําพระพุทธเจาไดแลวาอั้น แลวก็นอยใจมากนัก ก็รองไหอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น ปฐวิอันวาแผนดิน ก็รองกองสะทานหวั่นไหวไปมามาก นักแลเขาสเนโรราชาก ิ ็ออนนอมลงมา น้ําสมททสาครกุขร็าเขร ้ํ อกเยิกติ ฟองเปน ี โกลาหลตราบถงอกนึ ฏฐาพรหมโลกพ ินกุ ็มีแลฯสกโกฺอันวาพระญาอนทาธิราชิ ก็ร่ําพึงดูรูแจงแลว ยังสภาวะอันพระญาแลพอคาทังสองหาสิงคุตตระบไดจิ่งใช วิสุกัมมเทวบตตุกับทงปร ัวารวิ า ดูราวิสุกัมมเทวบตตุทานจงเอาย ุ งยั สสะปร ัวาริ ลวงไปเผยวแปงท ี้ ี่สิงคตตระหุอราบเพ ื้ ยงเีรยงงามีแลวจงจุ กหัอฅ ื้ นมาเทือะวิาอ ั้น หั้นแล ทีนั้นวิสุกัมมเทวบุตตก็รับ [หนาลานที่๒๗, น.๑๒๖] เอาอาญญาแลวก็ลงมา เนรมิตดอยสิงคุตตระห ื้ อราบเพียงเลียงงาม แลวก็เขาไปสูพอคาทังสองพี่นอง แลวกถามว็ า ดูราพอค าเขอทิงสองรั องไห เหยดสี นใดชาว ัาอ ั้น พอคาทงสองกัาวว า ขาแดเจากูพระพุทธเจาก็หื้อเกสา ๘ องคแกเขิอขาทังสองวา หื้อไปจุไวดอย สิงคุตตระพุนเทิอะวาอั้น ผูขาทังหลาย มีพระญาอุปปราชาเปนประธาน ก็หากที่ สิงคุตตระบได ก็รองไหแลเปนทุกขมากนักสันน ี้ แล เม ิ่ อน ั้ นพระญาอุปปราชา ก็จือถอดเอาฅะจมหุัวอันมยอดแลีวดวยฅ ําออกมาปชาธาตูเจุาแลวก ็รองไหมาก นักห ั้ นแล วิสุกัมมเทวบุตตอันเนรมิตลงมานั้น จิ่งกาวซ ึ่ งพอคาทังสองวา ตาต ดูราเจาทังสอง อยาไดนอยใจเทิอะ ในวันฟูก๑ ลางทีปุคละผูใดผู๑ มาบอกกาว ที่สิงคุตตระแกทานทังหลายชาแล วาอั้นแลวก็กลับหายไปหั้นแล ฯ ๑ วันฟูก, วันพรูก - วันพรุงนี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๗


ในกาละนั้น จักใกลรุง พอคาทังสองพี่นองก็หันยังนิมิตความฝนวา ยังมี ปุคละผู๑ จือเอาดอกบัวดอก ๑ เขามาแตทิสะหนวันออกหั้นแล ผูนองฝนวาตน ไดลงไปพื้นแผนดิน แลว [หนาลานที่ ๒๘, น.๑๒๘] เอามือทังสองตุม๑ แผนดินไวแลว สะดงตุ นมาห ื่ นแล ั้ ถึงกาละเมอร ิ่ งแจ ุ งแล ว ขาทงสองกัแก็ นิมิตแกกัน ผูนองกาวว า ตาต ดูราพเปนเจ ี่ า ในกาละอนจักมาพายหนั า เตมอนวัากสลบุ ญอุนราได ั สางมาน ี้ ก็จักไดผวดสังคหะสัตตทังหลาย หมื่นชาแลวาอั้น ฯ ในกาละนนพระส ั้ ุริยอาทตติ คันสระเดจข็นมา ึ้ ในชนธาติกลุาว ้ํ นออกนันแล ั้ พอคาทังสองพี่นองก็ผอหันสัณฐานที่สิงคุตตระนั้น ดวยอานุภาวะแหงวิสนุกัมม เทวบุตตที่นั้นแล แผนดินที่นั้นก็เปนอันลาบเพียงเลียงงามมากนักหั้นแล พอคา ทังสองก็กาววา ขาแดมหาราชเปนเ จา ความฝนแหงราทงสองกั เปนอ ็นแมันแทแล อันวาดอยสิงคุตตระอันน ั้ นชาแล พระพุทธเจาโกนาคมนะ แลพระเจากัสสปะ พระเจากกุสันธะ รอยวาไวธาตุที่นั้น พึงมีชาแล พระญาอินทก็กาววา เราราชะนี้ เทามีอายุพันปทิพพบดายแล จักนับเปนปในเมิงฅนเทาได๓ โกฏิปาย ๖ ลาน ปแล เราก็บรูบหันแล ปุคละผูใดไดหัน หากเนรมิต [หนาลานที่ ๒๙, น.๑๓๐] แทแล บอยาชาแลวาอั้น ฯ แลวพระญาอินทก็เรียกหาเทวบุตตตน ๑ อยูไมเดิ่อเกี้ยง๒ มีอายุมากนัก ก็เรยกหาเทวบีตตุตนนนมา ั้ รม๓ อาสนาตนแลวกถามว็ า ตาต ดูราเจาธาต (ุพระ) เจาอันลวงแลวไปนั้น มาจุไวที่ใดชา เทวบุตตตนน ั้ นก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแดมหาราชเจ า มหากปปั อันนี้ผาเปน ๔ สวน (เรา) เทามอายี ไดุสวน ๑ บดายแล ยังมีเทวบุตตสองตน ตน ๑ ชื่ออินทะ ตน ๑ ชื่อโกวินทะ มีอายุยืนยาวกวาขา แลวาอั้น ทีนั้นพระญาอินทก็เรียกหาเทวบุตตสองตนนั้นมา แลวก็หื้อรมอาสนา แหงตนแลวกถามด็ ูหั้นแลเทวบตตุสองตนน ั้น ก็ไหวพระญาอนทิ วาเทว ขาไหว มหาราชเจา อายแหุงเขอขิาเทาม ีกึ่งกปปั ๑ สิ่งเดยวีเขอขิาก ็บรูบหันแล เทาวายงมั ี ๑ ตุม - รองรับ๒ เดิ่อเกลี้ยง - มะเดื่อเกลี้ยง, มะเดื่ออุทุมพร๓ รม - รวม ๓๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เทวบุตต๔ ตน ตน ๑ อยูไมทุม๑ ตน ๑ อยูไมสมสุก๒ ตน ๑ อยูไมหมากพิน๓ ตน ๑ อยเขาสเนโรแล ู เทวบตตุ๔ ตนน ี้มีอายุก็ยืนยาวกวาขาทงสองแลัเทวบตตุ ๔ ตนนี้แดนเที่ยงวาจักรูจักหัน ยังที่อยูธาตุพระพุทธเจาแลวาอั้น ฯ เมิ่อนั้น [หนาลานที่ ๓๐, น.๑๓๒] พระญาอินทก็เรียกหามายังเทวบุตต๔ ตน นั้นมา แลวก็หื้อนั่งรมอาสนาแหงตน แลวก็ถามซึ่งเทวบุตตตนชื่ออมิตรานั้นวา ดูราเจาตนหาทกขุบไดทานมอายีเทุาใดชา อมตราเทวบิตตุไหวพระญาอนทิ วา เทว ขาแดอินทธาธิราช อายุขายืนไดมาตรากัปป๑แล พระญาอินทถามวา ดูรา ทานยงรั ูยังหนสัณฐานทัธาต ี่ พระพุทธเุจาท ัง ๓ องคในที่สิงคตตระทุี่นั้นอั้นชะรฤ๔ เทวบตตุตนนนก ั้ ไหว ็พระญาอนทิ วา เทว ขาแดอินทาธราชเจิ า ขาก็ยังไดรูไดหันแล ขาก็ไดไหวพระพุทธเจาตนชื่อกกุสันธะแทแล พระญาอินทถามวา ดูราทานไดรู ไดหันดวยเหียดการเย ิ่งใดชา เทวบุตตตนน ั้ นก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแด อินทาธราชเิจา เมอปถมก ิ่ ปปั อันน ี้ พระพทธเจุากก ุสันธะเกดมาเปนฅ ิแกูโลวกว นนั ั้น ขากได็เก ดเปนย ิกขั ผู๑ อยในพระเท ู ยดี ๕ ที่นี้ยามนนข ั้ าก ได็ กินชนช ิ้ างแลวนแลตั ัว จิ่งอ ิ่ มแล ขาก็แอวแสวงหากินในที่ใดก็บไดสักตัว ขาก็หันพระพุทธเจาจระเดิน [หนาลานที่ ๓๑, น.๑๓๔] มาปณฑิบาตเขา ขาก็ขับไลกินพระพุทธเจา ขาก็ยินอวนหิว มากนัก ขาก็บเอาพระเจาตนน นได ั้ พระพทธเจุาจงถามว ิ่ า มึงบรูจักกชะรูือ ขาก็วา บรูแลวาอ ั้น พระพทธเจุาจงก ิ่ าวว า ดูรายกขั กูจักใสทัณฑกมมั หื้อแกมึงชาแลวาอ ั้น ขาก็ถามวาจักใสทัณฑกัมมแกขาเย ิ่งใดนั้ นชา พระพุทธเจากาววา กูจักห ื้ อมึง รักสาสีล ๕ ชาแลวาอั้น ขาวาคันผิจักห ื้ อขารักสาสีลตราบตอเทาชีวิตก็บไดแล พระพุทธเจากาววา จักห ื้ อขารักสา ๗ ปชาแล ขาก็วาบไดพระเจาก็กาววา จักหอข ื้ าร กสาป ั ๑ ชาแล ขาก็วาบได จักหอข ื้ ารกสาั๗ วันชาแล ขาจงร ิ่ บเอาั (ดวย) คําวา อาม ภนฺเต ดั่งนี้ในขนัด๖ บัดเดียว งาสองเหลมอันยาวพอพนปากแหงขา ก็หลนตกเสียบัดนั้นแล ฯ ๑ ทุม - กระทุม๒ สมสุก - โศก, อโศก๓ พิน - มะตูม๔ ชะรฤ - หรือ ๕ พระเทียด - ประเทศ๖ ขนัด - ขณะ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๙


พระเจาจ ั่ งเอาธัมมขก๑ มาห ื้ อแกขา ขาก็เอามาจุไวที่นี้แล ที่อันขาหัน พระพทธเจุาน ั้น ชื่อวาดอยหมยาดี คําไทยวาดอยหนพระพัทธเจุาแล ที่อันขา รับเอาสลนี ั้น ชื่อวาเกบหิน วาอั้น [หนาลานท ี่๓๒, น.๑๓๖] คําไทยวา พระเจาบวชข า วาอั้น ตราบถึงกาละบัดนี้แล ที่อันขารับเอาธัมมขกนั้น ชื่อวากังลีอา คําไทยวา ที่รับเอาธมมขกั วาอั้น พระญาอนทิ ได ยินคาอํนนันแล ั้ ว ก็ยินดีภอมกัน๒ สาธการุ มากนัก ฯ แลวพระญาอินทก็ถามซ ึ่ งเทวบุตตตนอยูหมากพินฅําน ั้ นดวยพระการ ดั่งกาวแลวนั้น เทวบุตตตนนั้นจิ่งถามพระญาอินทวา ขาแดอินทาธิราช ในเมิ่อ พระพุทธเจาโกนาคมนะนั้ นเกิดมาเปนครูวันนั้น ขาก็ไดเกิดมาเปนยักขตัว ๑ ขาจระเดินไปหาอาหาร ขาก็หันพระพุทธเจาอยูที่ดอยหิน ขาก็หนีเสดอยอันนั้น ไปสูดอยอัน ๑ ขาก็คึดวาจักเอาพระพุทธเจาไปกิน ขาก็ยายเสดอยอันน ั้นไปสู ดอยอัน ๑ ขาก็วาบรูแลวาอั้น ยามนั้นขนแหงขาก็สยองลุกชูเสน ขาก็ขาบไหว พระพุทธเจาที่นั้น พระเจาก็สอนวา หื้อขารักสาสีล ๕ ยามนั้นเขี้ยวแลขนแหงขา ก็หลนตกไปเสี้ยง ขาก็อิงดอยอันนั้นอยู ดอยอันนั้นไดชื่อวากาละสิคําไทยวา ดอยอิง มาถึงกาละบัดนี้แล ฯ ดอยอันพระเจาอยูนั้น ชื่อวาขอชาง คําไทยวา ดอยพระเจาอยู วาอั้น [หนาลานที่ ๓๓, น.๑๓๘] ตราบถึงกาละบัดนี้พระเจาโกนา คมนะ ก็หื้อไมเทาเหลมคันฅํา หื้อแกขาแล ขาก็เอาจุไวในที่นี้แลวาอั้น ฅนแล เทวดาทังหลายก็หื้อเสียงสาธุการมากนักหั้นแล ฯ ถัดนั้น พระญาอนทิ ก็ถามวิสุกัมมเทวบตตุตนช อโลห ื่ ิณีอันอยไมู สมสกนุั้น ดวยพระการดั่งกาวแลวนั้นแล เทวบุตตตนนั้นก็ไหวพระพุทธเจาวา เทว ขาแด อินทาธิราช ในเมิ่อพระเจากัสสปะเกิดมา ก็มาสั่งสอนวาหื้อขารักสาสีล ๕ บหื้อ ขาสตตั วาอั้น ขาก็บเหลอคืาพระพํทธเจุาได  ขาก็ฟงคาพระพํทธเจุาช ูอัน พระเจา ก็เอาผาจีวระห ื้ อแกขา ขาก็รับเอาแลวมาจุไวธัมมขก แลไมเทาฅําแหง พระพุทธเจาฝูงน ั้ นแลต ั้งไวในที่นี้แลว ฅนแลเทวดาทังหลายก็หื้อเสียงสาธุการ มากนักหั้นแล ฯ ๑ ธัมมขก - ธรรมกรก, ที่กรองน้ํา๒ ภอมกัน - พรอมกัน ๔๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


พระญาอินทก็ถามซึ่งเทวบุตตตนชื่อทักขิณา อันอยูเขาสเนโรนั้นวาดั่งนี้ ดูราทานตนหาทุกขบไดทานยังรูที่อันต ั้งไวแหงธาตุพระพุทธเจาทัง ๓ คือวา กกุสันธะ [หนาลานที่ ๓๔, น.๑๓๙] โกนาคมนะ กัสสปะ อั้นชะรฤ ผิวาทานยังรูจุงบอก แกเราบัดนี้เทิอะ ฯ เม ิ่ อน ั้ นเทวบุตตตนชื่อทักขิณะ นั้น ก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแด อินทาธิราช พระเจา ๓ ตน คือวากกุสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะนั้น ขาก็ไดไหว แทนั้นแล ขากได็ ทันไดหันท (ี่ จุ) ธาตุในดอยสงคิตตระทุี่นี้แลเทาวาเมอพระเ ิ่ จา โคตมะเอาเกสาธาตุหื้อแกตปุสสะ พลิกะ สองพี่นองวันนั้นก็หากรูอยูแล แมนวา พระอรยเมตเตยยะิตนจกมาพายหนั า ก็เอาธาตุดูกหนาผากมาไว  ในท  ี่นี้กับดวย พระเจาทังหลายฝูงน ี้ แล ขาก็จักไดอุปถากรักสาตราบเม ี้ ยนกัปปหม ื่ นชาแล วาอั้นก็มีแล ฯ ถัดนนเทวบ ั้ ตตุตนถวน๔ ตนชื่อโลตเย นั้น ก็กาววา ขาแดอินทาธราชเิจา สวนอันวามหาเจติยะอันน ี้ พายหนาขาก็จักไดอยูรักสาเกสาธาตุเจาอันนั้น ตราบตอเทาเสี้ยงกัปปหมื่นชาแล ฯ สุตฺวา พระญาอินทไดยินคําแหงเทวบุตตฝูงนั้น ก็บังเกิดโสมนัสสะชมชื่น ยินดมากนีกแลั [หนาลานท ี่ ๓๕, น.๑๔๑] ปสงสะโถมนาเทว ับุตตฝูงนนว ั้ า บัดนเทวบ ี้ ตตุ ตน ๑ รูที่ถปนนาธาตพระเุจากก ุสันธะ ฯ ตน ๑ รูธาตพระเจุาโกนาคมนะ ฯ ตน ๑ รูที่พระเจากัสสปะ ฯ ตน ๑ รูพระเจาโคตมะ ฯ ตน ๑ รูธาตุอริยเมตเตยยะตนจัก มาพายหนาสนนั ี้ก็เทยงจ ี่ กสมรัทธิชาแลวีาอ ั้น แลวยงเทวบัตตุทังมวรก็ถือเอาไม แลหลั้ว๑ แลเสียมทุกตน สวนตนพระญาอินทก็ถือเอาเสียมขุดที่อันน ั้ นลึกได ๑๕ สอก กวางก็ไดสิบ ๕ สอก ขุมอันนั้นก็หื้อราบเพียงเรียงงามมากนัก ฯ พระญาอินทก็มาเนรมิตกอนดินกี่๒ ๔๒ กอน หนาได๔๔ สอก กอน ๑ รองพื้น ๔ กอนเอาเปนฝา กอน ๑ เอาปกพายบน แลวเอาแกว ๗ พระการ ลงใสไวในพื้ นมากนัก แลวต ั้ งแผนแทนแกวไวท่ํากลาง แลวเนรมิตจักกวุธไว ทังสี่ดาน แลวดานไหน ๗๐ วาแวดลอมทุกพาย แลวก็เอาโกฐแกวอันใสธาตุนั้น ๑ หลั้ว - พลั่ว๒ กอนกี่ - กอนอิฐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๑


ตั้งไวในท ากลางเหน ่ํ อแทินแกวท ี่นั้น แลวกเนรม็ตตนกิบทังนางสัชาดาุเทยรยีอม แลวดวยฅําทังมวร อยูแวดลอมแทนแกวนั้น แลว [หนาลานที่ ๓๖, น.๑๔๓] ก็เนรมิต รูปเทวบุตตเทวดา กับนางอัคคมเหสีไวในที่นั้น แลวก็เนรมิตรูปตปุสสะ พลิกะ ทังสองพี่นองไวในที่นั้น แลวก็เทามาเนรมิตเทวบุตตเทวดา อักขระไวในที่นั้น มากนัก ก็บอาจจักคณนาไดก็มีแล ฯ ในกาละเมอน ิ่ ั้น พระญาอนทิ แลพระญาอปปลราชานครุแลตปสสะุพลกะิ ก็มาเจียรจากันวา เราจักนําเอาน ้ํ าแตถานะท ี่ใดมา สมควรชาแล เทาจักไปเอา น้ําอโนตัตสระมาสรงเกสเกสาธาตุ ก็ยังจักบัวริสุทธิ์เทิอะวาอั้น พรองก็วาจักไป เอานาสม ้ํ ททุมาสรงเกส ก็วาบควร จักไปเอานาสระใหย ้ํ ๗ อัน อันมขอบแลพีนแล ื้ ว ดวยแกวก็จักบควรแล เหียดพระเจาบอนุญาต เหียดสิงคุตตระน ั้ นก็เปนอัน ประเสฏกวิาท ี่ทังมวรแล สกโกฺอันวาพระญาอนทิ อันจกหานัามาสรงเกสธาต ้ํ ุบได ก็มาเนรมิตสระใหยในที่ใกลเกสาธาตุเจา ก็มาเนรมิตสระแลไหฅําไวแลว มีหั้น ชาแล ก็มาเนรมิตไหแกวได๙๗ ลูก ไหงึน ๔๙ลูก [หนาลานที่ ๓๗, น.๑๔๔] เทวดาได ๔ โกฏิตน ก็มาถือเอาไหทังหลายฝูงนั้นแลตนแลลูก ก็เขามาอาบองคสรงเกียด๑ เกสาธาตุเจาแล ฯ ในกาละนั้น ฅนแลเทวดาทงหลายกั ็ปาวกนมามากนักแลัวดงอ ั่ ั้น เกสาธาตุ ก็ผายปาฏิหารยสยองข ึ้ นพายบน สูงได๗ เชนลําตาล แลวก็ลุกมาเปนสารูป พระพุทธเจา ๔ องคคือวากกุสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะ โคตมะ ตั้งอยูในทิสะ ทัง ๔ ชะแล ก็เปงออกสัพพัณณรังสี๖ พระการ คือวาขาว เขียว เหลิง แดง ดํา หมน สอ ก็คระหมวดกอดเกี้ยวกัน ขึ้นไปพายบน ตราบถึงฟมโลวกพุน ก็มีแล บเทาแตนั้น ก็แปรซราบไปทั่ วขอบจักขวาลทังมวร แลวพอยไหลหลั่ งถ ั่ งตกลง มาฅอบงําไปถึงมหาอเวจีนารกพุน ก็มีแล ฯ ในกาละนั้น ฅนแลเทวดาทงหลายั อินทฟม นาค ไอสวร กุมภณฑั คันธพพะั ยักขผีเผยดี ๒ แลสตตันารกทงหลายั ก็ผอหนกันเสัยงเบ ี้ เสสสะหลอแลฯ พระการ ๑ หมูฅนหูหนวก ตาบอด ฝูงเปนเป๓ เปนคอม เปนพยาธิตางๆ ก็ระงับกับหาย ๑ สรงเกียด - สรงเกศ, สระผม๒ เผียด - เปรต๓ เป, เปย - เปลี้ย, รางกายออนแรง ๔๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ไปจากตนตัวเขาบัดเดียวนั้น ก็มีแลแมนวา [หนาลานที่ ๓๘, น.๑๔๖] ไฟนารก๑ ก็เกิด เปนอันชุมเยน ไปดวยเตชะบุญ แลอานุภาวะแหงเกสาธาตุเจานั้นแล ฯ มหาปถวีอันวาแผนดนอินหนาสังขยาวั าได สองแสน๔ หมนโยชนะ ื่ ก็รอง กองหวั่นไหวไปมา เขาสเนโรราชาก็ออนนอมคอมไปมา หาฝนเมฆะก็ไหลหลั่ง ถั่งตกลงมาในขนดบัดเดัยวนีนแล ั้ สวนอปปราชาตนนุั้น ก็บังเกดจิ ตปสาทะส ิทธาั มากนัก ก็ลวดปราถนาเอาประหญาสพพัญั ูตัญญาณอนประเส ั ิฏ ก็มีวันนนแล ั้ ฯ หิดวยมแทีแลพระญาอปปราชาตนนุั้น ก็บังเกดปสาทะส ิทธาั ก็พรอมก ับ ดวยตปุสสะ พลิกะสองพี่นอง แลพระญาอินทแลมเหสิกขาเทพพดาทังหลาย ก็ชวนกันอาบองคสรงเกียดเกสาธาตุเจาแล พระญาอินทก็มาเนรมิตแผนฅําแดง ๖ ขิบ๒ แลขิบกวางได๔ สิบสี่สอก มาแปงอุมงคขงธาตุก็หลอรูปพระเจาเขาอยู ในสัตตาหะชูแหงแล ก็เนรมิตรูปพระญาอินทกับทังนางสุชาดา มีน้ําหนักแลอัน แลแสนฅําชูอันแล ฯ ถัดนั้น ดิน [หนาลานที่ ๓๙, น.๑๔๘] กี่งน ดินกี่ทองแดง แลกอแลวดวยดินกี่ หื้อข ึ้นพายบนเปนมหาเจติยะ แปงประจิตริจฉณาดวยเฅ ิ่ งสักกระปูชา ฟอม บัวรมวณแลวดวยแกวแลฅ ํา มีตนวาช อ ทุง พัดพาว ไมไลจามมรโคมไฟดอกไม ประทดนีาม ้ํ ัน คันธะจวณจนทนั มีวัณณะคนธะรัสสะทังหลายหลายพระการตัางๆ ถปนนะ ตั้งไว (เปน) ที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย ตราบตอเทา ๕ พัน วสาหั้นแล ฯ พระญาอินทก็มาร ่ํ าพึงประโยชนะอันห ื้อเปนอุปการแกพุทธสาสนา ก็มา เนรมตสระโปกขรณ ิ ีแลนาบ ้ํ อไวชําระพยาธแหิงฅนชาวเจาทงหลายั หื้อไดเจาะ ไตดูพิจจรณาอกขรธัมมั คําสอน หื้อมีฟอมชพระการห ู นแล ั้ สละปชาตามมโนสูทธาั ฅนแลเทวดาทังหลายแลวก็เมิอสูชั้นฟาสวัรคเทวโลวก อันเปนที่ อยูแหงตนมัน นั้นแล สวนอันวามหาเจติยะสิงคุตตระเจาดวงประเสิฏ ก็ปรากฏรุงเริงในเมิง อุตตรนคร คือวาเมงหงสาวด ิ ีที่นั้นมากนัก หื้อเปนทประส ี่ มชุมนุ มแหุงเมงทิงหลายั คือวาพายทิสสะ [หนาลานที่๔๐, น.๑๕๐] วันออก มีเวียงอัน ๑ ชื่อวาราชวตินคร ๑ นารก - นรก๒ ขิบ - ? ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๓


ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ พายทิสะหนใตนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อาธัญญวตินคร ก็ตั้งอยู หั้นแล ฯ พายทิสะวันตกนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวาอวิกิชรนคร ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ พายทิสะหนเหนิอนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวาอุปลนคร ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ ถัดนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวากุงหมา ไทยภาสาแล (วา) เวียงทะคุง ก็ตั้งอยูใกล มหาเจติยะสิงคุตตระพันวา ๑ แล ฯ พั่นด ั่ งอุปปราชานั้น ก็ตั้งอยูสวยสัมปตติเวียงอันช ื่ อวาธัญญวตินคร ที่นั้นแล อันวาเวยงธีญญวตันครนิ ั้น เปนเคากวาฅนทงหลายั อันมในเ ีวยงทีงมวรแลั อันบวรมวณพั าเพงเตมไปด ่ํ วยฅนทงหลายัแลเสนาอามาตยพราหมณปโรห ตตะิ สัฏฐีคหบดีกตุมพิกะ พอคา ปชานราสฎร ๑ สรีสัมปตติยสลือซารุงเริงมากนัก ฅนทังหลายก็ประกอบดวยสัทธาแลสักกระปูชามหาเจติยธาตุตราบตอเทาอายุ จุติตาย ก็ไดเมิอเกิดในสวัรคเทวโลวก ก็มีแล ฯ พระญาอปปราชาุคันจุติไปแลวแตนั้นยงมัพระญาตนี๑ ชื่อวามหาปญญา รัมมราชา มหา [หนาลานท ี่๔๑, น.๑๕๒] ฅะสตรเสวยราชสั มปัตต ิมีราชสทธามากนั ัก ก็มาสางเจติยะ กอลูบขึ้นแถมที่๑ หั้นแล ฯ พายลูนแตนั้น มาถึงฅะสัตรตน ๑ ชื่อวาปคันธราชา นั้น สวยราชสัมปตติ มีสัทธามากนัก ก็มาตกแตงสางแถมที๑ เลา เปนถวน ๓ ฯ แตนั้นไปหนา ยังมีมหาฅะสัตรตน ๑ ชื่อปญญเตราชา ก็สวยเมิงแทนเลา ก็มีราชสัทธามากนัก ก็มารักสาสางกอพอกธาตุชั้นพายต่ํา หื้อเปนบักเปนหาน๒ ลงมาได๗ ชั้น ตราบถึงดอยสิงคุตตระเจา ฯ พายลูนแตนั้นยังมีพระญามหาฅะสัตรตน ๑ ชื่อธัมมเจติยราชา ก็สวย ราชสัมปตติประกอบดวยราชสัทธา ก็มาสางหลอเดง๓ สองลูก ลูก ๑ เสี้ยงลาน ๘ ลูก ๑เสี้ยงแสนชอย๔ ทองแลลูกเยชอยนั้น มีสองพันเดงลูก ๑สูงได๑๑สอก คันตองต ีหื้อมเสียงอีนรัองก องไปถ งทวึ ปนีอยพนกู ็มีแลเดงลูก ๑เสยง ี้ ๕ แสนทอง หื้อสูงได๗ สอก ไวตีนธอระณีมหาเจติยะ สงเสียบปูชาเจติยเจาแล ฯ ๑ ปชานราสฎร - ประชาชน, ราษฎร๒ หาน, ราน - ชั้น๓ เดง - กังสะดาน๔ ชอย - มาตราชั่ง เทากับ ๑.๖ กิโลกรัม ๔๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ตั้งแตนั้น ยังมีมหาฅะสัตร [หนาลานที่๔๒, น.๑๕๓] ตน ๑ สวยราชสัมปตติ ประกอบดวยราชสทธามากนั ัก ก็มาตกแตงสางพายบนแถมเล า หื้อสงไดู๗ สอก ตีนธอรณีมหาเจติยะอันน ั้นใหยกวางไดสองรอย ปายสิบเอ็ดสอก ลวงสูงได ๔ รอยปาย ๗ สอก แวดรอดลวงกวางไดพัน ปายซาวสอก เปน ๓ รอยวา มานคาลวงป๑ ใหย ๙ วา ลวงสูงดวงปนั้นมี๗ วา สอก กวาง ๕ ฅืบ ลูกตุมดาว อันอยูเคาลวงปนั้นใหยนัก พอเปนเงิ้มเปนรมฅนเราอยูแผนดินผอขึ้นไปหันใหย เทาบาตรลูก ๑แล เหลก๒ แกนใจธาตุใหย ๓ กํา ผอดูหันใหยเทาลําไมเทาเปน เหลกน ั้ นแล วงสัตต ๓ นั้นมี๔ อัน แลวงสัตตถานเคานั้น กวางได๑๑ สอก พอกดวยแผนฅําแดงแล มีลูกเดงแกวน๔ หอยนั้น แลวดวยแกวแลฅํารอดชูเบิ้ง๕ ชูพาย เมิ่อลมมาพัดมีต่ําเนียงเสียงอันมวนเพราะ ดั่งเสียงขับทิพพนั้น แลเสียง ตุริยนนตรีนั้นแล แปงรูปพระเจาสีหนาทอยูสี่แจง มีรูปราชสีหอยูสองตราบขาง ๓ ตัว รอมทังมวรมี๒๒ ตัว ประดับแลวดวยแกวแลฅํา แล [หนาลานที่ ๔๓, น.๑๕๕] ก็มากอเจติยธาตุใหม ไวเหนิอมหาธาตุนั้น แวดจอดไดรอยปายสิบ ๒ ดวง เจติยะอันตั้งอยูเหนิอบนนั้น ได๖๙ ดวงสังรอมเจติยะอันกอแวดลอมนั้นทังมวร ไดรอย ๘ สิบดวงแล ฯ เจติยะอันกอไวในขงหลวงมหาธาตุนั้น มีสิบดวงแล วิหารนอยทังมวรมี ๙ หลัง ประดับแลวดวยแกว แลกอห ื้อเปนที่ อยูพระพุทธเจา พระสัทธัมมเจา พระสังฆเจาแล เฅ ิ่งปูชามีตนวาสัตตฅํา ตั้งอยูแลวมุงดวยแผนแกว แผนฅํา แผนฝาย มีผิวพรัณณวัณณะอันขาว เหลิง แดง หมน ดํา มีลํานําลักขณะตางๆ แวดระหวางวหารแลิมหาธาตุก็รุงเรงงามิควรออนนอมฅบยาอํสจัรยัเหมนดิงช ั่ ั้น ฟาเทวโลวกนั้น ก็มีแล ฯ พระการ๑ในทิสะกล้ําวันออกแหงเจติยธาตุนั้น ประดับไปดวยรูปตปุสสะ พลิกะ รูปหมอยาพระเจาอยู ชื่อวากุมาระเพ็กนั้นแล รูปอินทา ฟม เทวบุตต ๑ ลวงป - ดวงปลี๒ เหลก - เหล็ก๓ สัตต - ฉัตร๔ แกวน - แขวน ๕ เบิ้ง - เบื้อง, ฝาย, ดาน, ขาง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๕


เทวดา มเหสิกขะ แลรูปพระญาอุปปราชา แลนางเทวีแลรูปอารักขยักขิณีชาง มา วัว ควาย สัตตสี่ตีน สองตีน แลสัตตตัวมีปก มีหาง มี[หนาลานที่ ๔๔, น.๑๕๗] มีกิณรีแลนกเขียน๑ นกยูงทังหลายตางๆ ตั้งไวระหวางหนวันออก หื้อรักสา เฝาแหนเจติยะ ตราบ ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ ถึงกาละเมิ่อเดิน๒ ๔ เดิน ๕ เหมินดั่งจักขึ้นฟาทันใจ เหียดวาทิสะหนใด ก็ดีแล ฅนทงหลายกั ไหลเข ็ ามาไหว  ปูชาเจตยธาติเจุา รุงเรงมากนิกแลัเหยดดีงอ ั่ ั้น อาจารยเจาจิ่งกาวคถาไววาสิงฺคุตฺตเร มโนรมฺม กกุสนฺธสตฺถา วา โห ธมฺมกรณํ ถเปสิฯ โกนาคมโน ธมฺมปวชาโต สุวณฺณทณฺฑํ ถเปติฯ กสฺสโป สิริสมฺปนฺโน สุวณฺณจีวรํ ถเปสิฯ โคตโม สาชฌ ปุ..กาโล พหิตาย อถเต สฺช ถเปติฯ จา อาโลเก มหาราช ธาตุโย อหํวนฺทามิสิรสา เตส เย คุเณน สพฺพทุกฺขา ปมุฺจิสามิดั่งนี้ชูวันชูฅืนไจๆ ก็เทยงจ ี่ กได ั ถึงสุข ๓ พระการ มีนิพพานเปนทแล ี่ ว บอยาชาแล ฯ กรียาสังวัณณนากาวยังอุปตติแหงสิงคุตตระ ดอยอันมีเมิงธัญญวตินคร ผูกถวนสอง ก็บัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ๑ นกเขียน - นกกระเรียน๒ เดิน - เดือน ๔๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ÇÑ´àªÕ§·Í§ ËÅǧ¾Ãкҧ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


àªÕ§¢Í§ ÀÒ¾ : ÊÁËÁÒ àÍÕëÂÇ»ÃдÔɰ


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๓ นโม ตสฺสตฺถุฯ เอกํสมยํสตฺถาเนยฺย ปาทวริกุฺจมโน ฯ สาธโว ฟงดราสูปปั ุริสะทงหลายัเอกํสมยํยังมสมียฅาบั๑สตถาฺสัพพญัู พระพุทธเจาตนเปนครูแกฅนแลเทวดาทังหลาย ก็บังเกิดกรุณาใฅสอนผวด สัตตโลวกท งหลายั ก็เอาหมูภิกขแลอรหุนตาทังหลายั มีมหาอานนทเถั ยรเปนต ี น ก็มากับดวยพระญาอินท ก็ถือเอาสัตตกั้งพายบน ก็จระเดินไปสูเมิงจันทปุรี แลวก ็ขืนมาสูขุนน้ํา คือวาเมงสิ ุวัณณภูมิแลวก ไปส ็เมู งจามปานคร ิแลวก ไปส ็ ู เมิงทวารวตินคร ก็ลําดับดวยเขามาดวยบานนอยเมิงใหยทังหลาย ก็ไปสูเมิง จันทปุรีแลวก็ขึ้นสูขุนน้ํา ก็มารอดเชียงของ แลวก็ออกมาถึงคะลาง ก็สั่งสอน ปนนสตตั ทังหลายมาชูที่ชูแหง ที่ควรหอเกสาธาต ืุ้ก็หื้อเกสาธาตุที่ควรไวประบาท  ก็ไวประบาท  หื้อฅนแลเทวดาทงหลายมาชั ูที่หั้นแลในเมอพระเจ ิ่ ามารอดเมงคางิ ที่นั้น ก็ไวประบาท แลที่นั่งที่อิง ควรอัสจัรยมากนัก ก็สระเด็จมารอดเชียงคูม ก็ไวเกสาธาตุแลวก็ทํานายวา [หนาลานที่๒, น.๓๙๙] กูตถาคตะนิพพานไปแลว ก็ขอเอาธาตุแลประบาทพระตถาคตะมาไวที่นี้เทิอะวาอั้น ฯ แลวก็สระเด็จมาดวยขุนแมน้ําอัน ๑ ก็มารอดสถานริมน ้ํ าท ี่ ๑ พระญานาค ก็ออกมาอุปฏฐาก อารักขทังหลายก็มาไหวนบ แลวก็ขอเอาธาตุแลประบาทไว เปนที่ไหวแลปูชาห ั้ นแล พระเจาก็ย่ําประบาทไวหื้อแกเขาทังหลายในที่นั้น แลวก็ทํานายวา ประบาทกูอันนี้จักไดชื่อวาประบาทผาโคม หมื่นชาแล ฯ พระเจาก็ทํานายไวแลวเอาพระญาอินทแลอารักขทังหลายก็เอาหิน กอนใหย ๑ มาถมถ้ําไวเพิ่อบหื้อสาธารณแกฅนพาลา แลสัตตทังหลายหั้นแล พระพุทธเจาก็มาสูดอยทัมมิละทังหลายห ั้ นแล ก็พลันมาดวยคําวา ดูราชาวเรา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๙


ทังหลาย พระพุทธเจาก็มาดวยระหวาง (ชองดอย) อันน ี้ ก็มาเมตตาเราน ี้ แล วาอนแล ั้ วเขากชวนก็นเอาเขัาน าโภชนะอาหารไปทานแก ้ํ พระพทธเจุาแลอรหัน ตาเจาทังหลาย แลวเขาก็ขอเอาประบาทหั้นแล พระพุทธเจาก็ย่ําประบาทไวหื้อ แกเขา แลวพระเจาก็ทํานายวา กูตถาคตะมารอดที่นี้เขาทังหลาย [หนาลานที่ ๓, น.๔๐๑] ก็มาจากันวา พระเจามาระหวางชองดอยอันน ี้ มาเมตตาเราแลวาอั้น ประบาทกูอันน ี้จักไดชื่อวาประบาทจิกจอง หม ื่ นชาแล ดอยอันนี้จักไดชื่อวา ดอยจอง หมื่นชาแล บานลัวะอันนี้จักไดชื่อวาบานชองวอง หมื่นชาแล ฯ พระเจาทานายสํนนัแล ี้ ว ก็สระเดจไปสประเท ู ยดที ี่ ๑ ก็เรงหนยังอารักขั ที่๑ เกียดกลารายมากนัก ในหัวน ้ํ าอันช ื่ อวาปุตตนทีอันมีหนอติกัมมะประเทียด เขยดอาณารีฏฐะตันดอยีเมงสิุง ที่นั้น แตปถมก  ปปัมาหาผ ูจักสงสอนบ ั่ ได พระเจา ทังหลายฝูงลวงแลว เขาเจาทัง ๓ ก็บอาจจักสั่งสอนไดสักตน ก็เทาทํานายไวแก พระโคตมะเจา อาจจักสอนไดแทสิ่งเดียวชาแลวาอั้น ฯ พระเจาก็ตรัสรูแจงแลว พระเจาก็เอาอรหันตากับทังพระญาอินทไวที่๑ แลวเทาตน ๑ ตนเดียว พระเจา หากเขาไปส เขตแดนแห ู งยกขั ตัวนั้น แลวยกขั ตัวนนก ั้ ปสาทะส ็ ทธาในบ ัญค ุณแหุง พระพทธเจุา ก็เขามาตอนมารบพระพัทธเจุา แลวก ็กาวคาหํามพระเจาว า [หนาลาน ที่๔, น.๔๐๒] ทานมหาสรมณอย าได เข ามาในเขตแดนแห งขานเท ี้ อะิดอยอนปรากฏ ั พายหนาพุนน ั้ นแควนบัวรสุทธ ิ์ สวางใสมากนัก ทานจุงแอวไปพายหนาพุนเทิอะ วาอั้น พระเจาก็บฟง เทาโงม๑ เขามาแลว ไปสูเขตแดนแหงมันหั้นแล ยักขเสนา ตัวนั้น มันก็ลวดเคียดแกพระพุทธเจามากนัก ก็กะทําอิทธิรัทธีมีตนวาหื้อหาฝน เทารอนแลหาฝนไม  ฅอนกอนดนตกลงมาิแลหาฝนหอกดาบ เฅงข ิ่ า อาวธตกลงมาุ แลกะทําห ื้อเปนไฟ เปนน้ํา เปนลมเขามาหาพระพุทธเจา กะทําก ั้ งบังเสห ั้ นแล ในเมิ่อพระเจาแลฅบงํา๒ รัทธีแหงตนมันเสแลวเขาไปดั่งอั้น มันก็กัวแตรัทธีแหง พระพทธเจุามากน ัก มันกมาก็มขาบแทบตนพระพีทธเจุาแลวขออไภยซ งพระพ ึ่ ทธเจุา หั้นแล พระพทธเจุาตนมมหากรีณาุก็เลาโลมย กขเสนาตัวนันห ั้ อย ื้ นดิแลี ว คือวา อสาสสะ ปสาสสะ๓ หื้อมันถวยใจเขาออกไดแลว พระเจาก็เอาหินกอน ๑ เปนรูป ๑ โงม, งอม - รี่เขาหา, ตรงเขาไปหา๒ ฅบงํา - ครอบงํา, ปกปอง, ปองกัน๓ อสาสสะ ปสาสสะ - อัสสาสะ (ลมหายใจเขา) ปสสาสะ (ลมหายใจออก) ๕๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ชางนอนมูบอยูเรียงกัน อันมี[หนาลานที่ ๕, น.๔๐๔] ที่ใกลฝงน้ํามุคตนทีที่นั้นแล ฯ พระพุทธเจาทังหลาย ๘ ตน ลวงแลวเทียวมาสํารานในที่นี้ชูตน พระพุทธเจา ไปนงอย ั่ ูที่นั้นหนแล ั้ อรหนตาแลพระญาอันทิ ก็รูกาละอนควรแลั ว ก็เขามาแวดลอม เปนปรวารแหิงพระพทธเจุาหนแล ั้ แมนยกขเสนาแลอารักทังหลายัเขากชวนก็นมาั ไหวแลปูชาพระพุทธเจาห ั้ นแล คันพระพุทธเจาน ั่ งอยูแลว ก็เหยียดตีนไปดวย คระแสทิสะหลาน ้ํ านั้น แลนอนหวายอุตมังคลสิสัง คือหัวไปทิสะหัวน ้ํ านั้น ก็จือลุกนั่ง หวายหนาไปทิสะวันออก แลวพระเจาก็เทสนายังทานกถา สีลกถา สกกถา ภาวนากถา แกยักขเสนาตัวหยาบชา แลอารักขแลเทวดาหั้นแล ฯ ในเมิ่ อยักขะแลเทวดาทังหลายไดฟงธัมมเทสนาแหงพระพุทธเจาแลว ก็บังเกิดใจปสาทะสัทธา แลเหล ิ้มใสในคุณแหงพระพุทธเจามากนัก แลวก็เอา สรณาคมนทัง ๓ ดวยคําวา อชฺช เก ทานุเปตํสรณํ คจฺฉามิดั่งนี้๓ ทีแลว พระพุทธเจาก็หื้อสรณาคมนแกยักขเสนา อันวาคําหยาบ [หนาลานที่ ๖, น.๔๐๖] ชา ละเสแลว พระเจาก็แยมใฅหัวห ั้ นแล มหาอานันทเถียรเจา ก็ไหวพระพุทธเจา ขอธมมเทสนาซังพระพ ึ่ ทธเจุาหนแล ั้ พระพทธเจุากเทสนาว็ าอานนฺท ดูราอานนทั  สวนวายักขเสนาผูนี้แตกอนเม ิ่ อพระเจาตนช ื่ อกกุสันธะมาเมตตาส ั่ งสอนก็บได ก็เทามาน ั่ งแลนอนแลวสําแดงหัตถบาท เอามือเทาแลน ั่งไวหื้อเปนหัตถบาท สังเกียด๑ ไวแลทํานายไววา กาละพายหนายังจักมีพระเจาตน ๑ ชื่อวาโคตมะ วาอั้น จักมาส ั่ งสอนยักขเสนาผูนี้หื้อมีปสาทะสัทธาเหล ิ้มใสไปพายหนา หมื่นชาแล ทํานายสันนี้แลวก็สระเดจไปสูทิสะอันควรหั้นแล ฯ ในกาละนั้นไปหนา พระพุทธเจานิพพานไปแลวนั้น ยังมีพระเจาตน ๑ ชื่อโกนาคมนะ เกิดมาเปนครูแกลวกนั้น มาเมตตาส ั่ งสอนยังเสนาผูนี้ก็ยังบได จิ่งมาถปนนะต ั้งไวในที่นั่งท ี่ นอน หัตถบาท แลวทํานายพายหนายังมีพระเจา ตน ๑ ชื่อวาโคตมะวาอั้น จักมาสั่งสอนยักขเสนาผูนี้[หนาลานที่ ๗, น.๔๐๘] หื้อมีใจ ปสาทะสทธาเหลั มในพ ิ้ ทธสาสนาุหมนชาแล ื่ วาอนแล ั้ วก สระเดจไปส ็ ูทิสะอนควรั หั้นแล ฯ ๑ สังเกียด - สังเกต ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๑


ในกาละพายหนาแตพระเจ าโกนาคมนะน  พพานไปแล ิวน ั้น ยังจกมัพระเจี า ตน ๑ ชื่อวากัสสัปปะวาอั้น ก็เกิดมาเปนครูแกโลวก ก็เขามาเมตตาส ั่ งสอน ยักขเสนาผูนี้ก็บไดพระกมาถป ็นนาต งไว ั้ ยังปลลงการั คือทนอน ี่ แลหตถบาทไว ั  แลวทํานายวาพายหนา ก็ยังจักมีพระเจาตน ๑ ชื่อวาโคตมะวาอั้น จักมาสั่งสอน ยักขเสนาผูนี้หื้อเหลิ้มใสในแกว ๓ พระการ หมื่นชาแลวาอั้น ฯ แลวก็สระเดจ ไปสูที่อันควรหั้นแล ฯ อิทาเนน จอานนฺท ดูราอานนทั ในกาละบดนัพระตถาคตะตนม ี้ มหากรีณาุ ก็เขามาเมตตาส ั่ งสอนยังยักขเสนาผูนี้ ก็ไดถอดถอนเส ยังพิสอันราย คือวา มิจฉาทฏฐิ ิอันหยาบชาทารณนุนเสแล ั้ ว ยักขเสนาก็ถือเอาสรณา คือวาแกวท ัง ๓ เปนอันรูแลว ก็จักไดถึงสุขพายหนา บอยาชาแล วาอั้นแลวพระพุทธเจา ก็เอา มือเทาแลวนอน [หนาลานที่ ๘, น.๔๐๙] ซอนหัตถบาทแหงพระเจาทัง ๓ ไวแลวก็ ทํานายวา อานนฺท ดูราอานันทในกาละพายหนา พระเจาตนชื่ออริยเมตเตยยะ เจาเกิดมาเปนฅูแกโลวก ก็ยังจักมาหาท ี่ นอนแลวก็จักไวหัตถบาทฅบ๑ รอย พระเจา ๔ ตนนี้ชาแลแลวก็หื้อเปนรอย ๑รอยเดียว หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅน แลเทวดาทังหลาย หมื่นชาแล ฯ ดูราอานันท ยักขเสนาผูนี้มันก็ไดถือสรณาคมนแลว คันมันตายก็จักได เมอเกิ ดในกามวจรเทวโลวก ิ พุนชาแลอานนฺท ดูราอานนทั หินกอนน ี้จักปรากฏ ไดชื่อวาพุทธปลลังการชาแล ฯ ทาน้ําอันนี้ยักขเสนามากาวสกเสินยกยอ๒ วา เปนทาอันดีอันงามวาอั้น พายหนาจักปรากฏชื่ อวาทาวังเหลิ้ม หม ื่ นชาแล ฯ เม ิ่ อพระตถาคตะเอามือเทาแลวไวหัตถะรอยฝามือส ิ่ งเดียว บมีนิ้วมือ เทวดา อารักขทังหลายจากันวา พระเจาเทาพอไวรอยฝามือสิ่งเดียวแล (นิ้ว) มือบมีหั้น วาอั้น พายหนาในประเทียดที่นี้จักไดชื่อวากุลีประเทียด เขียดนานิ้ว วาอั้น หมื่นชาแล ฯ เม ิ่ อพระตถาคตะ [หนาลานที่๙, น.๔๑๑]) เขามาแตหัวทียักขเสนาบพึงใจ มันก็มาหามพระตถาคตะ จําห ื้อไปพายหนาวา ดอยพายหนาพุนเปนอันสูง ๑ ฅบ - ครอบ, ทับ๒ สกเสินยกยอ - สรรเสริญเยินยอ ๕๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


สวางใสงามมากนักแล ทานจุงไปเทิอะวาอั้น ดอยอันน ั้ นพายหนาจักไดชื่อวา เวลาปพพตา ไทยภาสาวาดอยพสวูางเมงสิูงวาอั้น พายลนจูกแผั ไปว  า ดอย พูสะซาง เมงสิูง วาอนหม ั้ นชาแล ื่ ฯ ดูราอานนทั กูตถาคตะนพพานไปแล ิวดงอ ั่ ั้น ในที่นี้กูจักห ื้ อต ั้ งสาสนา ๕ พันวัสสา เพ ิ่ อห ื้อเปนที่พึ่งแกสัตตโลกทังหลาย หม ื่ นชาแล ฯ ในเมิ่ อกูตถาคตะนิพพานไปแลวได๒ พันวัสสาลวงแลว เขามา เขยดี ๑ ๓ พันวสสามั ในกาละเม ี อใด ิ่ ยักขเสนาผูนี้ก็จักเกดมาในเม ิงอินนั ี้จักไดเปน  พระญาใหยในเมิงอันน ี้จักปสาทะสัทธาในแกว ๓ พระการมากนัก จักเขามา ปกสายังพุทธปลลังการ แลหัตถบาทอันประเสิฏอันน ี้ หื้อปรากฏลือซาท ั่วไป ในชมพุ ูชูแหง หื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดาท ู งหลายัหมนชาแลว ื่ าอ ั้น พระเจาก็ทํานายสันนี้แลว ก็สระเดจไป [หนาลานที่๑๐, น.๔๑๓] เมตตาอารักข ทังหลายในเมงสิงทูี่นั้น คันพระเจาไปรอดแล  วเทวดาแลอารกขั แลยกขะทังหลายั ก็มาไหวแลป ชามากนูกแลั ก็ขอเอาประบาทหนแล ั้ พระพทธเจุาก ็ย่ําไวยังประบาท ในถาอ ้ํ ัน ๑ มีในทสะวินออกชั วยหนใต  แกประเท ยดที ี่นั้น เทวดากมาขอป ็ชาแกูว ๗ พระการ พระญาอินทก็เจาะประทีด๒ ปูชาไวหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็สระเด็จไปสูดอยผาชอ ที่นั้น แลวก็ย่ําประบาทไวในดอย ผาชอท ี่นั้น หื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูฅนแลเทวดาอารกขั ทังหลาย ฯแลวกสระเดจ็ ไปสดอยท ู ี่ ๑แลวพระเจาก ็นั่งอยเหน ู อดอยิ ก็แยมใฅ  หัวหนแล ั้ มหาอานนทเถัยรี เจาหัน ก็ไหวพระพุทธเจาวา ภนฺเต ภควา ขาแดพระพุทธเจา ขอพระพุทธเจา จุงเทสนาแกขาแดวาอั้น พระพทธเจุากเทสนาว็ า อานนฺท ดูราอานนทั ดอยอนนั ี้ วิเสยดแทีแลกูตถาคตะกได็มาเก ดเปนป ิ ูฅําอยในท ู องดอยท ี่นี้เมอก ิ่ อนแลเลยงช ี้ ีวิต อยูในหวยที่นี้เม ิ่ อกอนแล [หนาลานที่๑๑, น.๔๑๕] ดูราอานันทกูตถาคตะนิพพาน ไปแลว จุงเอาธาตุกูตถาคตะมาจุไวที่นี้เทิอะ พายหนาจักไดชื่อวาดอยฅํา พายลูนจักแผไปชื่อวาดอยธาตุปูฅํา หมื่นชาแล ฯ พระเจาทํานายสันน ี้ แลวก็สระเด็จไปสูดอยมหิยังคะ ประเทียดเมิง วิเทหะหั้นแล ดอยมหิยังคะที่นี้เปนสัณฐานอันวิเสียดนัก ยังมีแมน้ําอัน ๑ ชื่อวา ๑ เขียด - เขต๒ เจาะประทีด - จุดประทีป ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๓


มหิยังคนทีวาอั้น ก็ไหลมาผาเมิงอันนี้ก็ไหลไปตามคระแส แลวสะเพราะนอม เขามาส ูตีนดอยมหิยังคปพพตานนถ ั้ วนส ี่ทิสะ แลวจ งไหลไปห ิ่ นแล ั้ ดอยมหิยังคะ ลูกนนก ั้ ็หันกางแมน้ําอยเหม ู นดิงหล ั่ งเรัอฅิานํ ั้น เอาทายไปท สะวินตกัเอาหวเมัอวิ ัน ออกห ั้ นแล แมน้ํามหิยังคะประเทียดท ี่กางใจแหงดอยลูกน ั้นเปนวังน ้ําใหยนัก เปนที่ อยูแหงพระญานาคห ั้ นแล ท่ํากลางดอยมหิยังคะ แจงทัดพายแมน้ํานั้น ยังมีอุททกปปะุน้ําบออ ัน ๑ กมมนเปนดงเด ั่ นเพงิ ๑ นั้น จักมไมี ไผกอ๑ไมไลกวาง แลต ั้ งอยูทิสะวันตกแหงน ้ํ าบอ[หนาลานที่๑๒, น.๔๑๗] ที่นั้น มีขอป นลงพายต่ํา ไมไล กอนั้น เหยดอรหีนตาเจัาตนช ื่อคิลิมานเถยรีหากอทฏฐานปล ิ กไูวมีที่ตีนดอยสุด เอาปายลง เอาเคาขึ้นแล ยังมีไมซางกอ๑ ตั้งอยูจอมดอยที่นั้น ก็ปนเคาขึ้นปาย ลงด ั่ งเกา เหียดอรหันตาเจาหากอทิฏฐานปลูกไว ก็มีหัวดอยสุดกล ้ํ าวันออก หั้นแล ฯ ยังมีสัตตน้ํา ๓ อันตั้งอยูหัวดอยที่นั้น ยังมีแมงดาสองตัวผัวเม๒ ก็มาอยู สระที่นั้น มีหัวกวางเทาผืนสาด๓ แล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีปลาไนฅําสองตัวผัวเม ใหยเทาลําเริอนี้แล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีปลาชอนฅําสองตัวผัวเม ใหยเทาลําตาล ก็อยูในสระที่นั้นหั้นแล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีเหยี่ยนพอน๔ สองตัว ใหยเทาลําตาล ยาว ๗ วา ก็อยูในสระที่นั้นแล ฯ พอยมีงูสิงสองตัวผัวเม ใหยเทาลําตาลดั่งเกา ชื่อวามหาราชะ ก็อยูทิสะทองดอยกล้ําวันออกหั้นแล ดอยอันนั้นก็เปนที่อยูแหง สัตตตัววิเสียดทุกเมิ่อแล ฯ สตฺถา วมาน กาเล ในกาละเมิ่ อพระพุทธเจาตนเปนครูแกฅนแลเทวดา [หนาลานที่๑๓, น.๔๑๘] ยังธอระมานตั้งอยู ไปเขาสูนิพพานเทิ่อวันนั้น ยังมีอรหันตา ขีณาสวะเถียรเจาตน ๑ ชื่อวาคิลิมานเถียรวาอั้น ก็เทียรยอมอยูสํารานสาง วิเวียกในดอยมหิยังคปพพตะที่นั้น ดอยมหิยังคะที่นั้นก็บัวรมวณงามมากนัก เหมินดั่งเริอฅํานั้นแล ฯ ๑ เดินเพง - เดือนเพง, เดือนเพ็ญ๒ เม - เมีย๓ สาด - เสื่อ๔ เหยี่ยนพอน - ปลาไหลเผือก ๕๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ภควา สปฺปติในเมิ่ อพระเจาตนมีภาคยะอันงาม แลสระเดจมารอดดอย มหิยังคปพพตาที่นี้ มหาคิลิมานเถียรเจา ก็รูวาพระเจามาเมตตาในที่นั้น เจาก็ เขาไปตอนไปรับ แลวก็ไหวนบครบยําแยง ปทักสิน๑ คารวะแลว ก็ขอพรซึ่ง พระพุทธเจา มักวาขอเดินเทียด๒ เอากอนเขามาทานแกพระพุทธเจาตนนั้น พระเจาก็หื้ออนุญาตหั้นแล ตกวันลูนนั้นเจาก็ไปจระเดินเอาเขาปณฑิบาตมาหื้อ เปนทานแกพระพุทธเจาชูวัน ดวยอันครบยําแยงมากนักหั้นแล ฯ พระพุทธเจา ก็รับเอาเขาปณฑิบาตแหงคิลิมานันทเถียร แลวพระพุทธจาก็สันเขาปณฑิบาต อันนั้น แลวเขาน้ําโภชนะอาหารอัน [หนาลานที่ ๑๔, น.๔๒๐] เสสเหลือนั้น พระเจา ก็หื้อแกสัตตทังหลายอันอยูในน้ํา ในบกที่นั้นกินเส ี้ ยงห ั้ นแล เย สตฺตา อันวา สัตตทังหลายฝูงนั้น ไดกินยังเขาอันพระเจาห ื้ อหั้น สัตตทังหลายฝูงน ั้ นก็มีอายุ ยืนยาวมากนักหั้นแล ฯ ภควา อานนฺท อมนฺเตสิในเมิ่อพระเจาสันเขาแลว ก็ปากตานเจียรจากับ ดวยอานันทเถียรวา อานนฺท ดูราอานันทยสฺมา คิลิมานนฺทเถโร อันวามหา คิรินันทเถียรตนน ี้ ทานก็อยูสางวิเวียก๓ ในดอยมหิยังคะที่นี้ ก็เปนอันดีนักแล มยิปรินิพฺพุเต อานนฺท ดูราอานันทมยิในเมิ่อกูพระตถาคตะแลตั้งอยูนานเสี้ยง ๕ พันวสสาบัวรมวณเตมั ปรินิพฺพุเต นิพพานไปแลวดงอ ั่ ั้น อิทํฐานํอันวาสณฐานั ที่นี้เปนอันวิเสียดนัก ควรเอาธาตุพระตถาคตะตั้งไวในที่นี้หื้อเปนที่ไหวแลปูชา แกหมูฅนแลเทวดาทังหลายเทิอะ ฯ พระการ ๑ เมิงมหิยังคะที่นี้ พระพุทธเจาทังหลายอันลวงแลวไปนั้น เขาเจาก็ยอมมาเมตตาในดอยมหิยังครัฏฐะที่นี้ชูตนแล พระเจากกุ [หนาลานที่ ๑๕, น.๔๒๒] สันธะ โกนาคมนะ กัสสัปปะ แลในเมิ่อพระเจากกุสันธะไดตรัสประหญา สัพพัญูเปนฅูแกโลวกกอนทานทังหลาย ก็มาเมตตาในดอยมหิยังคะที่นี้ ก็มาเทสนาธัมมสําแดงทานกถา สีลกถา สกกถา ภาวนากถา แหงฅนแลเทวดา ทังหลาย แลวพระญาตนเปนเจ  าเปนใหย  ในเม งทิ ี่นี้ก็บังเกดยิงราชสัทธามากนั ัก ก็มาสละหอย ื้ งราชสั มปัตตแหิ งตนเปนทานแก พระเจากก ุสันธะดวยปสาทะส ทธาั ๑ ปทักสิน - ประทักษิณ, การเดินเวียนขวาเพื่อแสดงความเคารพอยางสูง๒ เดินเทียด - เดินเทสาตรี, เดินทาง๓ วิเวียก - วิเวก, สถานที่อันเงียบสงบ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๕


แมนลาภะสักการอันนั้น มีเขากลาไรนาเปนตน ก็เวียนห ื้ อทานแกเจติยธาตุเจา ตราบตอเทาเสี้ยง ๕ พันวสาเปนที่แลวหั้นแล ฯ ถัดนั้น พระโคตมะเจาเกิดมาเปนฅูแกโลวกทัง ๓ ก็เขามาเมตตาในดอย มหิยังคะนี้สิ่งเดยวี พระญาตนเปนเจาเมงทิ ี่นี้ก็ไดฟงธมมเทสนาแหั ง [หนาลานท ี่๑๖, น.๔๒๔] พระโคตมะเจา ก็บังเกิดสัทธามากนัก ก็สละห ื้ อยังราชสัมปติแหงตน เปนทาน ตราบเมี้ยนสาสนาหั้นแล ฯ ในเมอพระเจ ิ่ าก สสปะเก ัดมาิ ก็มาเมตตาในดอยที่นี้พระญาตนเปนเจาเม ิง ที่นี้ก็ไดฟงธัมมเทสนาแหงพระเจากัสสปะตนนั้นแลว ก็มีใจชมชื่นยินดีก็มาหื้อ ราชสมปัตต ิบานเมงแหิ งตนเปนทานแก พระเจาเลาแลตราบเมยนสาสนา ี้ ก็มีแลฯ อานนฺท ดูราอานันทในเมิ่อพระตถาคตะไดตรัสประหญาสัพพัญูแลว ยังมีในกาละฅาบ ๑ พระตถาคตะก็เขามาเมตตาในดอยมหิยังคะที่นี้พระญาตน เปนเจาเมงทิ ี่นี้ ชื่อวานราสมลราชุตนนั้น ก็ไดฟงธมมเทสนาแกั กูตถาคตะดงอ ั่ ั้น พระญาตนนนก ั้ ็บังเกดราชสิทธาั ก็สละหอย ื้ งเัขาของบานเมงแหิงตนห อเปนทาน ื้ พระตถาคตะ วันนั้นแล เหียดดั่งอั้น ลาภะสการสวยไร ก็นอมหื้อเปนทานแกกู พระตถาคตะเสมิอด ั่ งลาภะสการอันพระญาหากห ื้อไดทานน ั้ นแล แตกาละนั้น พระญาก็สละหื้อยังราชสัมปตติ[หนาลานที่๑๗, น.๔๒๕] ปูชาพระตถาคตะ เมิงอันนี้ จิ่งจักปรากฏชื่อวามหิยังครัฏฐา เพิ่ออั้นแล ฯ ดอยอันนี้จักเปนที่พระตถาคตะ มารบเอาทานั คือลาภะสการบานเมงทิ ี่นี้จิ่งจกปรากฏช ัอว ื่ าดอยมหิยังคปพพตา เพออ ิ่ นแล ั้ แมน้ําอนไหลเข ั ามาในดอยมห  ิยังคะที่นี้ก็จักปรากฏชอว ื่ ามหิยังคนที เพิ่ออั้นแล ฯ อานนฺท ดูราอานันทในเมิ่อพระตถาคตะนิพพานไปแล ธาตุพระตถาคตะ ก็จักมาต ั้ งอยูรุงเริงงามในดอยมหิยังคะที่นี้ เสมิอด ั่ งพระตถาคตะยังธอระมาน ตั้งอยูบัดน ี้ แล แมนลาภะสการสวยไรในเมิงอันน ี้ ก็จักนอมมาถึงชินธาตุ พระตถาคตะในดอยมหิยังคะที่นี้ เสมิอด ั่ งสวยไรแหงทาวพระญาตนเปนเจา เปนใหยในเม งทิ ี่นี้ตราบเมยน ี้ ๕ พันวสา หมนชาแล ื่ กรยาอีนทานสันนั ี้ก็หากเปน ปเวณีแหงพระพุทธเจาแตกอนชูตนแล ฯ ๕๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


มหิยงฺครเฐ อโถ โจทโก คําโจทนาวามหิยังคราชมีรัฏฐะอั้นชะรฤนั้นชา ปริหารโก อันวาปุคละผูจักแกเพิงกาววา [หนาลานที่ ๑๘, น.๔๒๗] ดั่งนี้มติสทฺทา บอกอตถคัณอุนมากัเหยดแผีนด นหนาได ิสองแสน๔ หมนโยชนะ ื่ มีน้ําสัทธารน สมุททเปนแดน เทียรยอมทรงวัตถุทังมวร มีตนวาหินผาพูดอย ตนไมตนหยา แลเฅอเืขาเถาวลยั ทังหลายแล สัตตคณา ฅนทงหลายไว ัแลทรงสพพะพัชชะริายด ี ทังมวร บรูหวั่นไหวหลุพังสักฅาบ เหียดดั่งอั้น มติทานิมีคุณอันมาก เพิ่ออั้นแล มหิอันวาแผนด ิน มีคุณอนมากัมหตลาิ อันวาแผนดนหนาสองแสนิ๔ หมนโยชนะ ื่ เพ ิ่ ออ ั้ นแล อ สัททา บอกอัตถะอังคทานอันประเสิฏ องฺคทานํ อันวาห ื้ อทาน อันประเสิฏ องฺคทานํ มักหื้อทานอันประเสิฏ ยํองฺคผล อันมาก องฺคทกฺขิเนยฺย อคทํทกฺขิเนยฺยํ มีอัตถะอนเดัยวกีนแลัรตฺถ สัททา มีอัตถะควรชมชื่น ชร สัททา บอกอันควรยินดีสต ฅนทังหลาย เหียดดั่งอั้น รฐา สัททาแลราชสัปปทา แลมี อันเดียวกันแล รฐ สัททา ในราชสัมภาระแลราช สับทา ไดราชสัมปตติอันเปน กิเลสกามแล วัตถุกามแล เหียดด ั่ งอ ั้ นพระญานราชา สุมณราชา [หนาลานที่๑๙, น.๔๒๙] ร่ําพึงหันโทสในราชสัมปตติอันเปนกับดวยกิเลสธัมมจักนําเอาตนเขาสู อบาย กัวเปนเภยยะพายหนา จิ่งลาพ ่ํ งหึนสั ขในชุนฟั้ า อันเปนแกนเปนสารย งน ิ่ ัก จิ่งสละห ื้ อยังราชสัมปตติเปนอุตตมทาน เพ ิ่อปูชาธัมมแหงพระพุทธเจาอันเปน อรหันตา อปริมาน หาที่สุดบได ก็มีแล ฯ เหียดด ั่ งอ ั้ นอาจารยเจา เอา มหิ สัททาบอก ประกอบดวยอังคสัทธา มหิสัทธา เปนปุพพภาวะบ ั้ นตน เอา องฺค สัททา มาต เปนคุตบท กฏห ื้อเปน สมัสสบาท ลุบวิภาติ ๑ เส ลงอาคม ปุพพนยสุองคสัททา เปน มหิยงฺค แล พระกอบดวยรัฏฐสัททาอทฺธิตาลงวิภาต ดวยสูต ตาม ทพพลฺ ิงฺค อันควร ก็จักเปน มหยงิคร ฺ ฐ เพออ ิ่ นแล ั้ มหยงิคร ฺ ฐสท ทาฺ เปนเมิงอังคทา ก็เปนอันประเสิฏนักแล ฯ ดูราอานนทะั ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปแล ิวน ั้น สูจุงเอาธาตุดูกตนผมกีู มาตงไั้ วเพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แลป ชาูแกหมฅนแลเทวดาท ู งหลายเทัอะิ วาอนห ั้ นแล ั้ มหาอานันทเถียร [หนาลานที่๒๐, น.๔๓๑] ไดยินธัมมกถาแหงพระพุทธเจาแลว ๑ วิภาติ - วิภัตต, ิ ชื่อไวยากรณภาษาบาล ีสําหรบแจกศัพทั โดยเปล ยนท ี่ ายค าใหํ มีรูปตางๆ กัน เพื่อบอกการกและกาล เปนตน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๗


ก็เอาเทสนาซ ึ่ งพระพุทธเจา แลวพระพุทธเจาก็เอามือลูบสิสมังคละแหงตน ก็ไดเกสาธาตุ๔ องค หื้อแกอานันทเถียร กับทังพระญาอินทหั้นแล ทีนั้น มหาอานนทเถัยรกีบทังพระญาอันทิ ก็เอาจไวุในดอยมห  ิยังคะที่นั้น แลวพระพทธเุจา ก็เอาอรหันตาขีณาสาวกะ สระเดจเขาไปสูเมิงราชคหะ ก็มีวันนั้นแล ฯ ตโต ปตฺถาย แรกแตนั้นไปหนา พระพุทธเจาก็ธอระมานตั้งอยู ผวดสัตต ทังหลายไปไจๆ ถึงเมิ่ออายุได๘ สิบ ก็ปรินิพพานไป แลวก็อทิฏฐานไวธาตุแล ชินเกสาธาตุแลสาสนา น้ําธัมมคําสอน แลสาวกะสังฆะ อันเปนลูกสิกขอยูเฝา ผวดสัตตทังหลาย ตราบตอเทาถึง ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ สตฺตสตฺตมสฺส ปฺจสาวสา วยน ปรินิพฺพุโต ภควาติในกาละเมิ่อพายลูน พระพุทธเจานิพพานไปแลวนานได๔ สิบปลีปาย ๗ เดิน ปาย ๗ วัน แลมี ในกาละเมิ่อใด ในกาละเมิ่ อนั้น วันเดิน๑ เจียงเพง ยังมีอรหันตาขีณาสาวกะ มหาเถียรเจา [หนาลานที่๒๑, น.๔๓๓] ๔ ตน ตนเปนแกเปนประธานนั้น ชื่อวา อานันทิญาณเถียร ฯ ตน ๑ ชื่อโสภิตเถียร ฯ ตน ๑ ชื่ออณเถียร ก็มีแล ฯ มหาเถียรเจาทัง ๔ ตนนั้น ก็ไดฟงคําสอนแหงพระพุทธเจาสั่งไวนั้น ก็ชวนกัน เอาดูกตีนผม แลดูกหนาผากแหงพระพุทธเจา กับทังเกสา ๔ องคแลวก็เขามา รอดมาถึงดอยมหิยังคปพพตะที่นั้นหั้นแล ฯ สวนมหาคิริมานันทเถียรตนอยูกอนนั้น ทานก็หนีจากที่นั้นไปอยูที่ ๑ ก็ลวดปรินิพพานไปตามบุญเขตแหงตน ก็ละเสนาสนะที่นั้นหั้นแล มหาเถียรเจา ทังสี่ ก็บหันคิริมานันทเถียรเจา เขาเจาทังสี่ก็เทามาหันที่อันคิริมานันทเถียรเจา อยูสางเมตตาภาวนานั้น เหยดที ี่อันเจาอยเมตตาภาวนาน ู ั้น หากปกไมูไล ไวกอ๑ ขางน ้ํ าบอพายวันตกน ั้ นแล มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน ก็กฎหมายรูวาเปนที่ อยู คิริมานันทเถียรเจา เหียดวาไมไลกอนั้นเปนสักขีเพิ่ออั้นแล ฯ พระการ ๑ นราสมโลปุแมนพระญานราสมราชาตนหุออ ื้ งคทานอั นประเส ั ิฏ ปูชา [หนาลานที่ ๒๒, น.๔๓๔] พระเจาดวยราชสัมปตตินั้น ฅ่ําชราแลว คันเสี้ยงอายุ จุติตายก็ไดเมืิอเกิดสวัรคเทวโลวกหั้นแล ฯ ๑ เดิน - เดือน ๕๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ในเมอมหาเถ ิ่ ยรเจีาทงสัตนน ี่ นแลน ั้ าเอานลกธาตํุ ๑แลเกสาธาตุมารอดที่นั้น ยังมพระญาตนี๑สวยราชสมปัตตแทนเมิงมหิ ิยังครฏฐะทั ี่นั้นหนแล ั้ พระญาตนนั้น ชื่อวาสุรังคปติราชา แลพระญาสุรังคปติตนนั้น ก็หากเปนขัตติยราชวงสาแหง พระญานราสุมราชาตนนั้นแล ฯ โส สุรงฺควติราชา อันวาพระญาสุรังควติตนนั้น ก็มีบุญสมพารอันมาก มีสัทธาเหล ิ้มใสในคุณแกว ๓ พระการมากนักห ั้ นแล มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน นําเอาเกสาธาตมารอดแลุว ก็ขึ้นเมอเมตตาพระญาสิ ุรังคปตนคริ หื้อไหวหั้นแล ฯ ราชาปสวนอันวาพระญาสุรังควติคันวาไดรูไดหันแลว ก็มีใจชมชื่นยินดี แลวก็ไหวธาตุพระพุทธเจา คือดูกตีนผมหนาผาก แลเกสาสี่องคนั้นแล ก็บังเกิด ปสาทะสทธาั โสมนสสะมากนักแลั ก็สักการะปชาูปรมามสสาิ [หนาลานท ี่๒๓, น.๔๓๖] ทังมวร ดวยใจอันออนนอม แลวก็ปกปาวเสนาอามาตยปชานราสฏรทังมวร หื้อไดรูไดหัน แลวสพเพรฐาอันวาชาวบานชาวเมงทิงมวรัเขาก็รูวาอรหนตาเจั า นําเอาธาตุพระพุทธเจาเขามา เพ ิ่ อจักห ื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดา ทังหลายวาอ ั้น ฅนทงหลายกั ็บังเกดโสมนสา ิชมชนย ื่ นดิมากนีกแลัเขากชวนก็ ัน ขงขวายหาวตถัเขุาของงนฅึ ําเฅงอาภารณะ ิ่ เขาตอกดอกไม  คันธะของหอมตางๆ มาแตทิสสะ อนุทิสสะมากนัก ก็มาไหวแลปูชานลาฏธาตุเปนเกสาธาตุเจา มากนัก ก็มีหั้นแล ฯ มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน ก็กาวซึ่งพระญาสุรังควติดั่งนี้วา มหาราชา ดูรา มหาราช นลาฏธาตุ เกสาทัง ๔ อันนี้พระพุทธเจาตนประกอบดวยมหากรุณา เมอท ิ่ านยงธอระมานัจระเดนผวดสิตตั ทังหลาย ก็ไดมาอย ูสําราน ในดอยมหิยังคะ ที่นี้ พระญานราชาตนเปนปตุปตาแหงมหาราช ก็บัง [หนาลานที่๒๔, น.๔๓๘] เกิดปสาทะสัทธาก็มาสละอังคะทานอันประเสิฏ คือวาสละยังราชสัมปตติปูชา ยังอนันตาธิคุณแหงพระเจาตนประเสิฏ บเทาแตนั้น เทวดาแลยักขะ อารักข แลฅนทังหลายก็มีใจปสาทะสัทธาฟอมกับพระญามหานราสุมลราชาเจาตนนั้น แลวก ็ฟอมกนปั ชาสการะไหวูนบฅบยาแยงอํ ปปถากยุงพระพัทธเุจา ดวยอนฅบยั ํา มากนัก แลวพระพุทธเจาตนมีมหากรุณาอันมาก ก็มาเลงหันดอยมหิยังคะที่นี้ ๑ นลกธาตุ - นลาฏธาตุ, กระดูกหนาผาก ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๙


วิเสียดนัก ควรต ั้งสาสนาไปพายหนา จิ่งจากับดวยมหาอานันทเถียร ตนเปน ภัณฑาริกะวา ดูราอานันทในสัณฐานดอยมหิยังคะปพพตาที่นี้วิเสียดนัก เปน เหยดหีอต ื้ งสาสนาแล ั้ ธาตุกูตถาคตะ มาถปนาตงไว ั้ หื้อกานกงรุ งเร ุ งไปพายหน ิ า ตราบเมยน ี้ ๕ พันวสสาัหมนชาแล ื่ กูตถาคตะนพพานไปแล ิวดงอ ั่ ั้น ทานทงหลายั จุงจกเอาัธาตุดูกหนาผากตนผมีแหงพระตถาคตะ มาถปนาตงไั้ วในดอยมห  ิยังคะ ที่นี้ หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดา [หนาลานที่ ๒๕, น.๔๔๐] เทิอะวาอั้น พระมหาเถียรไดยินแลว ก็มีใจชมชื่ นยินดีมากนัก ก็ลวดไหวแลขอเอาธาตุ ซึ่งพทธเจุา พระเจากเอาเกสาธาต็ ุหื้อสเส ี่ น เพอไว ิ่ พระจ ุกับนลาฏธาตุนั้นหนแล ั้ ฯ ในกาละนั้น พระพุทธเจาก็นิพพานไปหนแล ั้ ฅนทงหลายคั ันไดยินคําสอน พระเจาเยิ่งนั้น ก็ชวนกันนําเอานาลาธาตุ๑ แลเกสาธาตุสี่เสนนี้เขามายอสําแดง เมตตามหาราชเปนเคา แกอามาดแลราชมุนตรีทังหลาย หื้อไดฟอมกันไหวแล ปูชา ตามราชสัทธาแกมหาราชแลเสนาอามาตยราชมุนตรีทังมวรเทิอะ แลวเรา ทังหลายก็ชวนกันมาจุไวกอเปนมหาเจติยหัตถสรัสสะ ถปนะธาตุหื้อเปนที่ไหว แลปูชาแกหมูฅนแลเทวดาทังหลาย ตราบตอเทา ๕ พันวสาชาแล ฯ ตํสุตฺวา ราชา เมิ่อนั้นพระญาสุรังควติราชา ไดยินคํามหาเถียรเจาเมตตา สันนั้น พระญาก็มีใจชมชื่ นยินดีแลวก็ไหวมหาเถียรเจาทัง ๔ ตน วา ภนฺเต ขาแหงเจากูสาธุเปนอันดีนักแล [หนาลานที่๒๖, น.๔๔๒] ผูขาก็จักปฏิบัตตาม โอวาทะคําสอนเจากูก็จักบไดกะทํากุสลบุญอันย ิ่ งนักชาแล เทาจ ิ่ งห ื้ อขากะทํา สักกระปูชาดวยวัตถุเขาของเย ิ่งใด หื้อสมควรแกชินธาตุเจาน ี้ ชา ฯ เม ิ่ อนั้น มหาเถียรเจาทังส ี่ ตน จิ่งจักสําแดงบุญแลคุณแหงพระพุทธเจาดวยอันหยอแล แควบ จิ่งกาววา ปสตํอสงฺเขยฺโย เนวกปฺป สตสหสฺสา ปานิปารมิโย ปเรตฺวา สมฺมาสมฺโพธิคตา อานนฺต ปถารคุณํนมสมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺตํคุณวํดั่งนี้ฯ มหาราชา ดูรามหาราช สมมาสมฺ ฺพุทฺโธอันวาพระพทธเจุาแหงเรา ตนตรสรั ู เญยยธัมม๔ พระการ คือวาสังขาราเญยยะ ๑ วิการเญยยะ ๑ ปนาหิเญยยะ ๑ นิพพานเญยยะ ๑ เปนถวนสี่ ดวยดีปูเรตฺวา ก็พ่ําเพงหอมหยับมาไจๆ ปารมิยา ยังปารมี๓๐ ทัด กับทังปญจมหาปริจาคะ ทาน ๕ พระการ กับทังสุจริตธัมม ๑ นาลาธาตุ - นลาฏธาตุ, พระธาตุกระดูกหนาผาก ๖๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


๘ พระการ แลปราถนาไวนานได๗ [หนาลานที่๒๗, น.๔๔๔] สงไขย ปายลาน มหากัปปแล ปราถนาออกปากได๙ อสงไขย ปายแสนมหากัปปแลวปราถนา เปนพระดวยตน ดวยปาก ดวยใจ ไดลัทธพยากรณะ ได๙ อสงไขย ปายแสน มหากปปั ทังมวร นับแตทานปราถนาเปนพระหวทั ีนั้น นับมานานได๒๐ อสงไขย ปายแสนมหากัปปแลว จิ่งไดตรัสประหญาสัพพัญูดวยตน ดวยดีแลวจ ิ่งได ชื่อวาพระพุทธเจา ตนมีคุณอันกวางขวาง หาที่สุดท ี่ เม ี้ ยนบไดสกฺการปูชา มหนฺตํคุณสาวํพระเจาแหงเราตนทรงคุณ หาปุคละผูจักเผียบเทียมบไดแล ฯ ดูรามหาราช ฅนแลเทวดาทงหลายอันจักถมนาคัุณ๑แลสกกระป ัชาหูอสม ื้ หื้อควรแกคุณอันย ิ่งโยดแหงพระพุทธเจานั้น ก็จักมีในโลวกนี้ แล ฅนแลเทวดา ทังหลายกควรขงขวายหาตามอ็นควรั ปูชาแลสการไดสิ่งเดยวแลวีาอ ั้น มหาเถยรเจี า ทังหลาย ก็สําแดงบญค ุณอุนประเส ัฏแหิงพระพทธเจุาดวยอนหยัออนแควบแลั ว เพอห ิ่ อพระญาส ื้ ุรังควตราชากดหมายริ ูยังหตถกมัลละอุนควรั เปนที่ [หนาลานท ี่๒๘, น.๔๔๖] ตั้งสําราน อันประกอบดวยเฅิ่งปูชาสการทังมวรแกพระญาสุรังควติราชา ดั่งนี้ชูพระการหั้นแล ฯ โสราชาปสวนวาพระญาสุรังควติตนนั้น ก็รูแจงกิจการทังมวรแลว จิ่งหา นายเลมนายสางฝ งจลาดมาแลูว ก็หื้อมาสงรอมเอาวัตถั ุทังหลายตางๆแลวพระญา ก็นํามายังอูบแกวนั้นใสธาตุนั้น ก็เอาใสในอูบคํานั้นเลา จิ่งเอาใสในไหจีนลูก ๑ แลวก็เอาแกวแหวนงึนฅํา ในใสไหหั้นเลา เขาของทังมวรอันควรคาสี่แสนฅําแล บเทานั้น พระญาก็จือมาแตงแปงเฅิ่งปูชาทังหลายตางๆ เปนตนวาเบ ๒ หมื่น หมากหมื่น งึนฅํา กับทงเฅั งปิ่ ชาทูงหลายตัางๆแลวก ็หื้อเพนข ิ่ ดเผุยวถางชอนเช ี้ ิก ในดอยมหิยังคปพพตาที่นี้ หื้อราบเพียงเลียงงามบัวรสุทธ ิ์ แลวก็ขุดท ่ํ ากาง ยอดดอยที่นั้น ลงลึกไดสีสิบ [หนาลานที่๒๙, น.๔๔๗] สอก แลกวางตามอันลึก แลวก็ชําระบัวรสุทธิ์แลว ก็เอาผาสังฆาฏิผืน ๑ ลงปูไวแลวก็เอาเฅิ่งปูชาสการ ทังมวร อันฅนทังหลายมาสะเฟาะ๓ ชินธาตุเจาน ั้นใสในไหทังมวร แลวก็เอา อูบแกวธาตุเจา แลต ั้งไวเหนิอผาสังฆาในท่ํ ากางเฅ ิ่งปูชาทังมวร แลวเทวดาแล ๑ ถมนาคุณ - ตอบแทน, บูชาคุณ๒ เบ - เบี้ย, หอยเบี้ย๓ สะเฟาะ - (ฉับเพราะ) เฉพาะ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๑


ฅนทังหลาย แลอารักยักขะกุมภัณฑะทังหลาย เขาก็มาตีตุริยนุนตรีสงเสียบปูชา พรอมกันเม ิ่ อเดียว เปนอุกขะหลุกมี่นันสน ั่ นกอง สาธุการมากนัก ก็มีในกาละ เมิ่อนั้นแล ฯ เม ิ่ อน ั้ นพระญาอินทแลอรหันตาเจาทังหลาย ก็แปงยนตผา ไวทังสี่ดาน แลวก็แปงวิหารหลัง ๑ โกมไวแลวกอเจติยฆรัง โกมพายบนแหงแผนหินอันนั้น เพิ่อหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายก็มีแล ฯ ในเมิ่อพระจุกอแลวดั่งอั้น อรหันตาเจาทังหลายก็มาเลงหัน อนาคเตกาเล อันจกมาพายหนัาแจงแล ว ก็ทํานายทวายไววาอตเติเทวสหสฺสาฺดั่งนี้วาในเมิ่อ สาสนาพระเจาแลขามลวงพนไปได๒ พันวสา มารอด [หนาลานที่๓๐, น.๔๔๙] มาถงแลมึกาละเมี อใด ิ่ ในกาละเมอน ิ่ ั้น อิทํ มหยงิคร ฺ เฐอันวาเมงมหิ ิยังครฏฐั ที่นี้ อภิสุก็จักเกิดเปนเภยยะ ฅนทังหลายก็อยูบไดก็จักหางสูญเสีย หมื่นชาแล ฯ พายลูนแตนั้น นลาฏธาตุเจา ก็กะทําอิทธิรัทธีผายปฏิหารญรุงเริงปรากฏ แกเทวดาฅุด นาคทงหลายมากนั ัก หาเภยยะบได ฅนทงหลายกั ็จักมาหนสันนั ั้น ก็จักมาตั้งอยูแลวสักกระปูชาเอาธาตุเจาเปนที่จั้งที่พึ่งไจๆ เลา ยามนั้นบานเมิง ก็จักกานกุงรุงเริงมาเลา ในกาละนั้น นาไรหลวงกวางประหมาน ๙ หวางฅอน ยาวก็เทากัน เปน ๔ แจง มีทิสะหนเหนิอชวยวันตกแหงดอยมหิยังคะที่นั้น มีอางฅําลูก หนักน้ํามี๔ แสน ก็ตั้งอยูกางนาที่นั้นแล ยังมีไหฅําสี่ลูก มีน้ําหนัก แสนชูลูก ก็ตั้งอยู ๔ แจงนาไรนั้นแล ฯ ในกาละเมิ่ ออั้น ยังมีนักปราชญเจาตน ๑ มีสติประหญาปญญามากนัก ก็มีสีลปริสุทธยิ่งนัก ตั้งอยูในที่นั้น ปรากฏลือซา เปน [หนาลานที่๓๑, น.๔๕๑] ที่สการะปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายมากนักแล ในกาละเมิ่อนั้น บานเมิงมหิยัง ครัฏฐะที่นี้ ก็จักสมริทธีดวยเขาของสัมปตติมากนัก อยูเยนเปนสุขในกาละนั้น หมื่นชาแล ฯ ในกาละนั้น พระยานาคก็จักเอาเขาของทังมวร อันอยูในน้ํา ในดินทังมวร ออกมาหื้อปกสา สางมหาเจติยะเจา หื้อรุงเริงมากนัก หมื่นชาแล พุทธสาสนา ก็จักกานกุงรุงเริง หม ื่ นชาแล เจาทัง ๔ ตน ก็ทํานายไวดวยพระการด ั่ งน ี้ ก็มี วันนนแล ั้ พั่นดงพระญาส ั่ ุรังควตราชาตนนิ ั้น ก็มีลูกสฅน ี่ ตนพี่ชื่อวามรสารก ิมารุ ๖๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ตน ๑ ชื่อกุตสิริวิราสกุมาร ตน ๑ ชื่อพรหมสิหาพทกุมาร ตน ๑ ชื่อ ราชสโมธานกุมาร นางเทวีชื่อวาภาสิตาเทวีแล ฯ สพเพขตฺ ฺติย สวนวาขตยะทิ ัง ๘ พอแมลูก ก็ประกอบดวยราชส ทธาปสาทะ ั เหลิ้มใสในแกว ๓ พระการ สักกระปูชาคารวะฅบยําพระชินธาตุเจา หื้อเสมิอกัน เทียรยอมพ่ําเพงกุสลบุญตางๆ คือหื้อทาน รักสาสีล ฟงธัมมเมตตาภาวนาไป ไจๆ ตราบ [หนาลานท ี่๓๒, น.๔๕๓] เมยนอาย ี้ ุจุติแลว คันสางพระชนธาติแลุวบวรมวณั ก็เอากันคารวะอุปถากนลาฏธาตุเจา แลเกสาธาตุดวยอันชอบแลว พระการ ๑ ก็มาตกแตงราชสัมปตติสวยไร คือวาเขากลาถ ั่ วงา ลูกสมหมากหวาน ขึ้นปูชา มหาเจติยเจาชูปลีชูเดิน ตามอันหลางอันพึงอันควรชูปลีตามราชปเวณีบผอน เสดงอ ั่ ั้น เทยรยีอมกะทาบํ ญในส ุานํกพระเจตัยะเจิ าในดอยมห  ิยังคนั้น ตราบเมยน ี้ อายุชูตน คันจุติจากอตตภาวะอั นเปนฅน ั ก็เอาตนไปเกดในช ิ นฟั้ า สวยสมปัตต ิทิพพ ชูตน ก็มีแล ฯ พระการ๑ พระญาสุรังควตราชาิ มักใฅหื้อเปนอปปการณุอันยงไปพายหน ิ่ า ก็ซ้ํามาแตงไวยังฅนห ื้ ออยูอุปถากรักสากับมหาเจติยเจาน ั้ นส ี่ ขวบ แลมี๖ ฅน เพ ิ่ อห ื้ อเขาอยูเปนกับธาตุอยูรักสามหาเจติยธาตุเจา ตราบตอเทา ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ ตโต แรกแตนั้นไปพายหนา นานประหมาณ ๗ เดิน สวนอรหันตาเจาตั้ง ๔ ตนนั้น ก็นิพพานไปในดอยมหิยังคปพพตะ [หนาลานที่๓๓, น.๔๕๕] ที่นั้นทัง ๔ ตนนั้นแล ฯ ราชาสุรงฺควติอันวาพระญาสุรังควติเปนประธานกวาเสนาอามาตย ทังหลาย แลชาวบานชาวเมิงทังมวร ก็มาฟอมกันสการะปูชา แลวเลิกซากสง สการอรหนตาเจัาเสแลวกเอาธาต็เจุาเข าใส ในออมจ  ีน ลูก ๑ แลว น้ําหนกมั ีพัน ๑ ก็โกมดีแลวจีดติดหื้อหมั้นคุง แลวก็มาปกสาสางกอหื้อเปนเจติยธาตุอรหันตาไว ในที่ใกลมหาธาตุเจา ประหมาณ ๑๒๖ วา ในทิสะวันตกหั้นแล พระญาก็วาหื้อ เพิ่นเผี้ยวถางดีงามแลว ก็ขุดลงลึกวาปาย ๓ สอก แลวแตงหื้อเลียงเพียงดีแลว ก็มาปูดวยผาแผนขาว แลวก็เอาเฅิ่งปูชาสการะใสดีแลวก็เอาไหธาตุลงตั้งไวใน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๓


ท่ํากางห ั้ นแล ก็เอาหมากหินกอน ๑ มาทํา๑ ปากขุมไวแลวก็ปกเสาคันธะ สี่เหลม กับดวยดอกบัวฅํา ๔ ดวง ปูชาหั้นแล ฯ ตโต ปถาย ตั้งแรกแตกาละน ั้นไปพายหนา ฅนแลเทวดาทังหลาย แล ฅุตนาคกุมภัณฑคันธัพพะแลอินทฟม ทาวจตุโลวกทังสี่ก็ดีเขาก็มาไหว[หนาลาน ที่ ๓๔, น.๔๕๗] แลปูชาธาตุเจาทุกเม ิ่ อแล พระญาสุรังควติเปนประธานกวาฅน ทังหลาย ก็กะทําบุญแลปูชาสาธุการธาตุเจา อยูในดอยมหิยังคะที่นั้นแล คันจุติตายก็ไดเอาตนเมิอเกิดในชั้นฟาสวัรคเทวโลวกพูน ก็มีแล อันวาฅน ทังหลายฝูงอยูรักสาธาตุเจาที่นั้น แลพระญาสุรังควติทังสองผัวเม คันจุติตาย ก็ไดเมิอเกิดสวัรคเทวโลวกพุนก็มีแล ฯ มหาธาตเจุาอนนั นประเส ั้ ฏมากนิ ัก ปุคละผใดู คือชาวเจาสรมณพราหมณ แลฅนยงชายทิงหลายั ฝูงใดก็ดีมีใจปสทสทธาแลจักขั นไหว ึ้ แลป ชายูงธาตัเจุาดงอ ั่ ั้น คันสมณะพราหมณก็หื้อกาสํกขาบทหิอบ ื้ วรสัทธุิ์กอน คันสมมเณัยรี ๒ ก็หื้อรกสาสั ีล หื้อบัวรสุทธิ์กอน คันเปนฅะหัฏฐยิงชายทังหลาย ก็หื้อชําละสีล ๕ สีล ๘ หื้อบัวรสุทธิ์แทกอน จิ่งควรขึ้นเมิอไหวยังชินธาตุเจาแล คันปุคละผูใด อนาตระ คือกายทุจริตตะ กะทําดวยตีน ดวยมือ แหงตน วจีทุจริตตะ กะทําบาปดวยปาก ดวยใจแหงตน คันวากาวคําลาย คําพราง ผรุสวาจา คืออางขา [หนาลานที่ ๓๕, น.๔๕๙] อางฟน อางบุบ อางตีอางลัก อางเลิด บดีแล สปปผลวาจาฺกาวคาเยาะํ ใยเหลนมวน สนสอหยอทอ มโนทุจริต คือกะทําราย หันทานมีใฅไดคันทาน ไรดูแควน ลวบอํา พฺยาปาโท อยามีคําเข ิ้ งขวดกัวธา๓ ผูกเวียร๔ หมายหมั้น แกทาน มิจฺฉาทิฐิอยามีใจถือทิฏฐิผิด เอาลัทธิคลองวัตรอันผิดธัมมบฅบยํา ในคาสอนพระเจํ า เทาเอามจฉาทิฏฐิ ิผีมด ผีหมอเปนอารมณปุคละทงหลายฝ ังนูั้น กะทําสันน ี้ ไดชื่อวากะทําทุจริตตะ วาเปนผูกะทําผิดธัมม เปนผูรักสาบาป สิบจาพวกแลํกะทาทํ งหลายฝ ังนูี้บหื้อเกดมิ ีไดชื่อวาส ปปั ุริสสะเขาในคลองอร  ยปิคละุ ผูดีมีประหญาแล ฅนทังหลายฝูงกาวมาน ี้ไดชื่อวาอนาทระซ ึ่ งพระชินธาตุเจาแล ๑ ทํา - วาง, ปด๒ สัมมเณียร - สามเณร๓ เขิ้งขวดกัวธา - เคืองโกรธโกรธา๔ ผูกเวียร - ผูกเวร, อาฆาต ๖๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เทวดาบพึงใจ ก็จักกะทําหื้อเปนเภยยอุบาทวพยาธิโรคาอันรายแกมันผูนั้นแล เปนนกบวชพายลันจูกกะทัาคลองอํ นเปนค ันถธัระุแลวิปสสนาธระุ บวุฑฒิจําเริน แกเจาตนน ั้ นแล เปนฅนคระหัฏ [หนาลานที่๓๖, น.๔๖๑] พิทธีเล ี้ ยงชีวิตเยดสาง กินดวยกัมมกิจจะ ๓ พระการ ก็บวุฑฒิจําเรินแกมันผูนั้นชาแล เหียดมันได อนาตระประหมาทยิ่ง มีที่พึ่งแหงตนสันนั้น เทวดาก็เคียด ลวดแตงห ื้ อบวุฑฒิ จําเรินแกเขาสันนั้น เพิ่ออั้นแล ฯ เหียดดั่งอั้น ปุคละทังหลายฝูงใดแลจักขึ้นไหว มหาเจติยะเจาดวงประเสิฏด ั่ งอั้น หื้อชวนกันสังรอมอินทรียแหงตนห ื้ อดีหื้อมี สีลกับตน อยาไดประหมาทสักอันเทิอะ แมนพระญาอินทก็ลงมาไหวแลปูชา อุปถากเสี้ ยงดาย พระญาอินทาธิราชกัวเปนมลมุลทินแกมหาเจติยเจา จิ่งแตง เทวบตตุตน๑ ชื่อสุรังคพทธิวรลิกขณเทวตาั นั้น ดวยคาวํ า ทานจงไปอย ุ ูรักสา ธาตุเจาตราบตอเทา ๕ พันวสาเทิอะ คันปุคละผูใดมาไหวแลปูชาคารวะดวย ครบยําแทจิ่งแตงผูนั้นจําเรินรุงเริงดวยโภคสัมปตติรั่งมีเปนดีแล อัมพกรักสา เขาหื้อหาเภยะกังวลบไดเทิอะ พระญาอินทก็แหนปนสันนี้หั้นแล ฯ คันวาปุคลผูใดไดขึ้นไหวแลปูชายังพระชินธาตุเจาด ั่ งอั้น [หนาลานที่๓๗, น.๔๖๓] หื้อปูชาเทวดา แลเทวบุตตตนอยูรักสาธาตุเจาน ั้ นเสกอน แลวกาว มคธะภาสาคถา ดั่งนี้วา วสุล มหิยงฺค อิทฺธิปลกฺขณเทวตาน ปูชาสกฺกร โหมิฯ ดั่งน ี้ ๓ ทีแลวเอาเข าตอกดอกไม  ปูชาเสกอนแลวเยชวนกนขั นไหว ึ้ มหาธาตเทุอะิ คันข ึ้ นเมิอเถิงธาตุอรหันตา ก็จือเอาเขาตอกดอกไมผายปูชา แลวกาวคถาวา อินทธฺญาโกจ อุปฺนนฺท วจป โสภิโต สุภโณ มหาขีณาสโว พุทฺธสาวโก มคุณปโร วจตุนํธาตุอรหนฺตํ นํวนฺทามิปุชิตํฯ ดั่งนี้๓ ทีแลวผายเขาตอก ดอกไมปูชา แลวขนเม ึ้ อไหว ิมหาธาตเทุอะิ คันขนเม ึ้ อถิงมหาธาตึเจุาแล ว ก็ไหววา ดั่งน ี้ วรเกสาธาตุ นลาฏธาตุอหํวนฺทามิสกฺกรนุภาเวน ชินธาตุโย นลาตุวํ ปภิวนฺต จตุโส เกสาธาตุโย ปูชิตํ นเทเวหิสนฺตุ เตสํนมามิหํ ฯ ดั่งน ี้ ๓ ที แลวไหว ตามสทธาเัจตนาเราอนเกัดเทิอะิ จักใฅกินทานสนใด ั ก็ตามเจตนาสทธาั เรา อัน [หนาลานที่ ๓๘, น.๔๖๕] เกิดมีนั้นแล ฯ หิดวยมีแทแล มหาธาตุเจานี้เปนอันวิเสียดนักแล พระญาอินทพระญา พรหม เทวบุตตเทวดาทังหลายก็ลงมาไหวนบฅบยําแยงชูปกขสีลบขาดแล ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๕


คันหมูอินทฟมมาไหวแลว เทวบุตตเทวดาทังหลายลงมาไหวแลปูชาด ั่ งอั้น ก็หากยินแสว๑ หอมทั่วเมิงแล ผิบอั้นก็ไดยินเสียงตุริยนนตรีคองกองพาทยพิณ อันเขาเจาหากเขามาสงเสียบ๒ ปูชาธาตุเจาน ั้ นแล ปุคละเจาทังหลายฝูงใด อยาได กะท าปมาทอน ํนตระัอยาสงข ั่ ี้มูกนาลาย ้ํ ซวยหนาส ไคลในท ี ใกล ี่ ริมนาบ ้ํ อ นั้นเทิอะ เทวดาบพึงใจ ยอมกะทําห ื้อเปนอนทรายเภยยะแกปุคละผูนั้นชาแล ปุคละเจาตนใดมาไหวแลปูชาดวยอันหาปมาทะบได เปนดั่ งกาวมานี้ดั่งอั้น ก็อาจหื้อแลวยังสุข ๓ พระการ บอยาชาแล ฯ ธาตุกถาสมตา กรียาเทสนายังตํานานประบาทพระธาตุแหงพระเจาตั้งไว ผวดสัตตทังหลายดวยอันลําดับผับชูแหง ในเมิ่ อพระเจานิพพานไปแลว อรหันตาเจาก็กับตาม เหียดเปนคํางามพระกาว เปน (คุรุปเทส) ๓ ๑ แสว - กลิ่น๒ สงเสียบ - สงเสพ๓ ยังไมจบสมบูรณใบลานนาจะหายไป ๑ หนา ๖๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


àÁ×ͧÂͧ ÃѰ©Ò¹μÐÇѹÍÍ¡ »ÃÐà·È¾Á‹Ò ÀÒ¾ : ¾ÃÐÊÀÒÇØ²Ô ÍÀÔÊÔ·¸Ôì


àªÕÂ§ÃØ‹§ ÊÔºÊͧ»˜¹¹Ò (òõõñ) ¡‹Í¹¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¤ÃÑé§ãËÞ‹ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๔ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ วทิตฺวา สิรสา สทฺธมฺมํ ชนุตฺตมํ อิทมฺป ปาทสรรเกสาธาตีุกตํปกฺขามีติฯ สาธโว ฟงดูราสัปปุริสสะทังหลาย ทีนี้จักกาวประบาทเจา แลสรีรธาตุ พระพุทธเจา อันมาถปนนาต ั้งไวในเมิงทังหลายมาห ื้ อแจง ผูมีประหญาพึงรู ดั่งเราจักไดเทสนาไปพายหนานี้เทิอะ ฯ เอกํสมยํยังมสมียคราบั๑ พระพทธเจุาได ตร สประหญาส ัพพัญั เปนพระู แลวเทสนาสั่งสอนสัตตทังหลายไจๆ นานวาได๒๕ วัสสาวันนั้น พระพุทธเจา สถิตสํารานในปาเชตวันอาราม ในกาละเมิ่ อจักใกลรุงนั้น นอนอยูในคันธกุฎี ก็มีความกรุณาร่ําพึงดั่งนี้ฯ อิทานิในกาละบัดน ี้ อายุพระตถาคตะก็ได๖๐ วัสสาเตมแลว แต พระตถาคตะไดตรัสประหญาสัพพัญูเปนพระตราบถึงวันน ี้ได๒๕ วัสสาน ี้ แล แตนี้ไปพายหนา เทายัง ๒๐ วัสสาแล ฯ พระการ ๑ พระตถาคตะผวดสัตตหื้อไดถึงมัคคผละนั้น ก็จักเตมประทัด ตามดั่งพระเจาเทิ่อแล อายุแหงกูก็จักพอ ๘๐ เตมแล [หนาลานที่ ๒, น.๒๔๓] ก็จัก นิพพานไป มีหั้นชาแล สัตตโลกทังหลายฝูงมีบุญสมพารกลาแกแลว ก็ไดเขามา ในคําสอนกูตถาคตะ ก็ไดถึงมัคคผลธัมมแลวแล สัตตโลกทังหลายฝูงมีบุญสม พารไปแกนั้น ก็ยังมีแล พระตถาคตะผวดสัตตทังหลายก็บพอ ๒๔ อสงไขยเทิ่อ กูก็จักนพพานไปชาแล ิควรกอทู ฏฐานติ งไว ั้ ยังสาสนาแลประบาทธาตแหุงกเทูอะิ แลแกว ๓ พระการ ไวหื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูฅนแลเทวดาทงหลายั หื้อไวอย เฝู า ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๙


สัตตทังหลายหอได ื้ เขาส ูนิพพาน หื้อพอประหมาณ ๔ อสงไขย ตามพทธประเวณุี แหงพระพุทธเจาทังหลายแล ฯ พระการ ๑ พระตถาคตะนพพานไปแล ิ ว แลตงไว ั้ สาสนา ๕ พันวสสาดังอ ั่ ั้น ชาวเจาทังหลายแลฅนคระหัฏฐนักบวชทังมวร ก็จักบังเกิดจิตใจอันขร ้ํ าเขริก ในกุสลกัมมอันเปนบาปมากนัก ก็จักไดเกิดมาท ่ํ ากลางสาสนา ๕ พันวัสสานั้น คือวาสาสนาลวงพนไปแลวได๒ พันวัสสา เขาสู ๓ พันวัสสา มีหั้นชาแล ฯ ปาปธัมมเวร ๕ พระการ จิ่งจักมาครอบงําอยู ยังห ื้ อสัตต [หนาลานที่๓, น.๒๔๔] ทังหลาย แลฅนทังหลายในท่ํากางสาสนาพระตถาคตะที่นั้นมากนัก หมื่นชาแล เหียดด ั่ งอั้น กูพระตถาคตะควรไปอทิฏฐานต ั้งไวยังประบาทแลธาตุไวในที่ ควร เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย หื้อเหมินด ั่ งตนกูตถาคตะ ยังธอระมานนั้นเทิอะวาอั้น คํากรุณาร่ําพึงพระพุทธเจาก็ยินดีหื้อหมื่นคระสัตรา ก็เกิดมีในวันเดินเจียงเพงหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็เอาอรหันตา ๓ ตน ฯ ตน ๑ ชื่อสุนาเถยรีฯ ตน ๑ ชื่ออุตตรเถยรีฯ ตน ๑ ชื่อรัตนเถยรี กับทงเจัาอานนทเถัยรี กับทงพระญาอันทิ ก็มาถอสืตตั กั้งรมพระเจาแล ยังมพระญาตนี๑ ชื่ออโสกราชา เปนเจาแกเมิงกุสินาราย ทานก็บังเกิดปสาทะสัทธา ก็มาอุปปถากพระพุทธเจา ในปาเชตวันอารามที่นั้นหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็สระเดินไปผวดสัตตทังหลายวาอั้น พระญาอโสกตนนั้น ก็มาเปนอุปาสักกะ ก็ถือเอาเฅ ิ่ งฅํา แลไมเทา ไปตามหลังพระพุทธเจาห ั้ นแล พระพุทธเจาก็เอา [หนาลานที่ ๔, น.๒๔๖] อรหันตา ๓ ตน กับทังมหาอานันทเถียร แลพระญาอินทและพระญาอโสก ก็ออกมาจากปาเชตวันอาราม วันเดินเจียง แรมฅ่ํา ๑ ก็เขาไปสูเมิงกุสินาราย แลวก็ไปสูเมิงคูลวา แลวก็ไปสูเมิงสวนตาล คือเมิงละไว (ละโว) แลอโยธิยาทวารวรีทังมวรแล ก็ไปเมิงจีนหลวงแลวก็ไป เมงวิเทหะิ คือวาเมงหิ อทังมวรแลลุกแตเมงหิอลงมาถ ึงเมงโกสละ ิ คือเมงริ ไทิ ในวนเดั ิน ๓ เพงนั้น พระเจากมารอดเม็งชิ ูที่นั้น ก็มานงอย ั่ เหน ู อหมากหินกิอน๑ เปนกาละอนควรแลั ว ยังมเทวบีตตุสองตนตน ๑ เอาหมากลูก ๑ มาทานพระเจา ตน ๑ เอาปูนกับพู๑ มาทานพระเจาหั้นแล ในวันนั้นก็เปนวันอุโปสถสีล เดิน ๓ ๑ พู - พลู, ใบพลู ๗๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


Click to View FlipBook Version