มหาอานันทะ แลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุซึ่งพระพุทธเจาห ั้ นแล พระพุทธเจาก็เอามือลูบหัว [หนาลานที่ ๓๘, น.๗๒]แหงตน ก็ไดเกสาเสน ๑ ก็เอาหื้อ แกมหาอานันทเถรแลพระญาอโสกหั้น แลวพระญาอโสกก็เอาจุไวในถ้ําผากบ ที่นั้นแล พระพทธเุจากนอนท็ ี่นั้นเสยงฅ ี้ ืน ๑แลกสระเด็ จไปส ็ ดอยป ู าเชตวนอารามั ตั้งอยูในวัสสา ๑ ก็นิพพานไปในเมิงกุสินารายวันนั้นแล ฯ แรกแตนั้นพระเจาก็นิพพานไปไดรอยปปาย ๑๓ วัสสานั้น พระญาอโสก ก็แจกธาตุพระพุทธเจา มาตั้งไวในดอยผากบ เมิงฝางที่นั้นหั้นแล ในถ้ําผากบ ที่นั้นยังมีอรหันตาตน ๑ ก็มานิพพานในที่นั้น พระญาอินทก็หื้อวิสุกัมมเทวบุตต ลงมาเนรมิตแปงรูอุโมงคไวชินธาตุเจา แลเจาะ๑ ประทีปปูชาไวในถ้ํ าพายทาง แมน้ํานนแล ั้ เทวดากเอาผาก็อน๑ มาตดประต ึ ูถ้ําเสยแลีธาตุก็ตั้งไวใน ถ้ําผากบ ที่นั้น ก็รุงเรงเปนท ิ ไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดาท ู งหลายัตราบเสยง ี้ ๕ พันวสสาั มีหั้นชาแล ฯ กาวธาตุตํานานประบาทในเมิงฝาง ก็แลวเทานี้หอง๑ กอนแลฯ[หนาลาน ที่ ๓๙, น.๗๔] เอกํสมยํ ยังมีสมัยคราบ ๑ สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนมี มหากรณากุอย็สถู ตสิ ารานในน ํ โครธอาราม ิ อันมในเม ี งโกส ิมพั ีก็เลงห็นยังสองฅนั ผัวเมยอยี ในบ ู านอ ัน ๑ ชื่อวาบานรคคะุมีในดอยยางจกที่นั้นแล สองฅนผวเมัยนี ั้น ก็มีบุญสมพารไดสางพายหลงมามากนั ัก ควรไดถึงธมมั วิเสสอนเปนพระพ ัทธเุจา จิ่งเอาผาแลบาตรแหงตนแลวก็เขาไปสูเคาไมตน ๑ คือวาไมนิโครธ มีอยูในดอย ที่นั้น พระพุทธเจาก็เปลงฉัพพัณณรังสี๖ พระการ คือวาขาว เขียว เหลิง๒ ดํา แดง หมน สอ๓ ลางพองมีวัณณะเปนดั่งแกววิทูรยน้ําฅํานั้น ก็มีในที่ใกลหนทาง อันสองขาผัวเมียจักมานั้นแล ฯ อุโภ อันวาสองขาผัวเมียก็มาถึงนั้น ก็หันพระพุทธเจาเปลงฉัพพัณณรังสี หลาย พระการตางๆ ซลาบออกมาแตทิสะทังมวร ก็รุงเริงงามมากนัก สองขา ๑ เจาะ - จุด๒ เหลิง - สีเหลือง๓ สอ - สีเทา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑
ก็ลวดบังเกิดจิตปสาทะสัทธาเช ิ่อใสยินดีก็เอากันเขาไปไหวพระพุทธเจาแล ก็หื้อเขา [หนาลานที่ ๔๐, น.๗๖] หอเปนทานแกพระพุทธเจาหั้นแล พระเจาก็รับเอา เขาอันนั้น แลวก็เทสนาตามทัมมิละภาสาแกสองขาผัวเมียดวยอริยสัจจธัมม ทังสี่หั้นแล ขาก็ลวดไดถึงมัคคผลธัมม ก็บังเกิดอจละปสาทะสัทธาในสาสนา พระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจาก็รับเอาเขาหออันนั้น แลวก็นั่งอยูสถิตสํารานเหนิอ ผากอน ๑ ก็สับเพราะหนาสูยางจก เพิ่อจักสันเขาหั้นแล ฯ ในกาละนั้น พระญาอินทก็รูแลวก็ลงมาอุปฏฐากพระพุทธเจา แลวก็เอา ดาบแกววชิรเพ็กแหงตนแทงเขาผากอนนั้น ในทิสะกล้ําหนเหนิอ น้ําก็บุออกมา แลวกเอามาทานแก็พระพทธเจุาหนแล ั้ พระพทธเจุาสนเัขาแลวก ็ชําระเนอตนเส ื้ ีย แลวก็ทํานายไวพายหนา ยางอันนี้จักไดชื่อวายางจกเพ ิ่ อห ั้ นแล เหียดวายาง อันน ี้ งามมากนัก กูตถาคตะนิพพานไปแลว ธาตุตถาคตะจักมาต ั้ งอยูในที่นี้ หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายตราบเส ี้ ยง ๕ พันวัสสา [หนาลานที่ ๔๑, น.๗๗] ก็มีแล ฯ พระพุทธเจาทํานายสันน ี้ แลวก็ไปสําแดงประบาทย่ําไวเหนิอผากอน ๑สงสณฐานเปนด ังช ั่ างทงหลายแลัเพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดา ู ทังหลายหนแล ั้ ประบาทพระตถาคตะอนนั ในท ี้ สะวินออกแหังยางท ี่นั้นแล พระเจา ก็สระเด็จไปสูเมิงโกสัมพีพระเจาก็อยูในนิโครธอารามที่นั้น ก็มีวันนั้นแล ฯ ในเมิ่อพระเจานิพพานไปแล ยังมีอรหันตา ๕ รอยตน จักนําเอาธาตุมาจุ ไวในยางจกที่นี้ดั่งพระเจาหากทํานายไวแล พรอมกับดวยทาวพระญาทังหลาย แลเสนาอามาตยชาวบานชาวเมิงทังหลายมากนัก ก็ขุดยังขุม๑ อัน ๑ ลึกวาได ๗ สิบวา แลวก็จุธาตุเจา แลก็มากอเปนมหาเจติยะ เพิ่อหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแก หมูฅนแลเทวดาหั้นแล ยังมีเทวดาตน ๑ ชื่อวาหกะ ก็อยูรักสาธาตุแลประบาท เจาหนแล ั้ เทวดาตนนนก ั้ เปนหลานแห ็งพระญาธมมั อโสกราชาน ั้น ทานตายจาก อันเปนหลานพระญาอโสกก็ลวดมาเปนเทวดาอยูรักสา [หนาลานที่๔๒, น.๗๙] ธาตุแลประบาทยางจก ปลลังการผาภิดานที่นั้นก็มีหั้นแล ฯ ๑ ขุม - หลุม ๒๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ธาตุกณฺฑํ นิฐิตํ กาวยังตํานานประบาทผูกตน ก็สระเด็จบัวรมวณ กาละควรเทานี้กอนแล ฯ (บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับน ี้ เจตนาผูขาดวงแกว บานเชยงจามีภรยาชิอว ื่ านางบวฅั าเปนเค ํ า ลูกเตาพอแมพันธวงสาทังมวร ชวนกันมาสางทานค้ําชูพระโคตมะ ๕ พันวัสสา ทานกบวัดจอมทองัฯ ผูขาทงหลายกัขอห็ อได ื้ ถึงสุข ๓ พระการ มีนิพพานเปนที่ แลวแด๑ แดฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓
਴ÕªàǴҡͧ ËÃ×Í “¾ÃиÒμØμСͧ” àÁ×ͧ‹ҧ¡ØŒ§ »ÃÐà·È¾Á‹Ò ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๒ นโม ตสฺสตฺถุฯ เอกํสมยํสตฺถา ธมฺโม วนชปฺปทฺท จาริกํ จรมาโน ฯ ดูราสัปปุริสสะทังหลาย สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนเปนครู แกฅนแลเทวดาทังหลาย อันยังธรมานตั้งอยูหื้อแลว พุทธกิจ ๕ พระการ เอกํ สมยํ ยังมีในกาละคราบ ๑ พระพุทธเจามีมหากรุณาอันมากนัก ก็เอาอรหันตา กับทังมหาอานันทะ แมนพระญาอินทแลพระญาอโสก ตนเปนเจาเมิงกุสินาราย ก็เปนอปาสุกกะพระพัทธเจุา ก็จระเดนไปผวดส ิตตั ทังหลายดวยลาดํบนัคมราชธานิ ี ก็เขาไปรอดไปถึงเมิงระแวก อันควรเปนที่ตั้งเจติยธาตุหลัง ๑ ไวจําเรินหมาย พุทธสาสนาหั้นแล ฯ ในเมิ่ อพระพุทธเจาไปรอดแลวนั้น สถิตสํารานในที่นั้น ยังมีพระญานาค ตัว๑ ก็ออกมาจากแมน้ํา ก็เขามาอ ุปฏฐากพระพทธเุจาท ี่นั้นหนแล ั้ พระพทธเจุา แหงเราหนถานะทั ี่นั้น มักใฅหื้อปรากฎ จิ่งสํา [หนาลานท ี่๒, น.๘๑] แดงอนแยั มใฅ หัว หื้อปรากฏแกมหาเถยรเจี า๑ หั้นแล มหาเถยรเจีาหนอัจสรัยะิ ๒ แยมใฅ หัวเยงน ิ่ ั้น๓ จิ่งไหวแลถามด ูยังเหยดเยีงน ิ่ นว ั้ า ภนเตฺภควา ขาแดพระพทธเจุาแย มใฅ หัวดวย เหียดการณเย ิ่งใดชา ขอพระพุทธเจาจุงเทสนาแกผูขาแดเทิอะ ภควา อันวา พระพุทธเจาตนประกอบดวยมหากรุณาอันมาก ก็จักสําแดงอนาคตะวิเสียด ๑ มหาเถียรเจา - มหาเถรเจา๒ อัจสริยะ - อัศจรรยใจ๓ เยิ่งนั้น - เยี่ยงนั้น, อยางนั้น, เชนนั้น ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๕
จิ่งกาวว า ดูราอานนทะั อันวาสณฐานทั ี่นี้ก็จักเปนทกฎหมายสาสนาพระตถาคตะ ี่ อันเปนอตีตะ ปจจุปนนะ แลอนาคตะ ตราบเสี้ยง ๕ พันวัสสา มีชะแล ฯ เม ิ่ อนั้น มหาอานันทเถียรรูแลว ยังเหียดอันนั้น ก็ไหวแลขอเอาธาตุ ซึ่งพระพุทธเจาห ั้ นแล สตฺถา อันวาสัพพัญูพระพุทธเจา ตนเปนครูแกฅนแล เทวดาทังหลาย ก็เอามือลูบสิสังอุตมังคละ ก็ไดเกสาธาตุเสน ๑ แลวก็หื้อแก มหาเถยรเจี า เจาก ็รับเอาดวยครบย ํา แลวก เอาไปห ็อแก ื้ พระญานาค [หนาลานท ี่๓, น.๘๓] ตัวนั้น อุปปฏฐากเกสาพระพุทธเจาที่นั้น แลวพระญานาคก็รับเอาดวย สัจจคารวะฅบยํา ๑ แลวพระพทธเจุากเทสนา็ (วา) ดูราอานนทะั ในเมอพระตถาคตะ ิ่ นิพพานไปแลว ได๔ พันปาย ๕๐ วสานั้น ยังมีพระญาธัมมิกะตน ๑ ชื่ออโสก อยูสวยเมิงปาตลีบุตตจักมีอิทธิริทธีผาบ๒ สักกละชุมพูทวีป๓ ทังมวรแล จักแรก ยังชินธาตุพระตถาคตะมาถปนนะ๔ ตั้งกอมหาเจติยะใหย ๕ หลัง หื้อเปนที่ไหว แลสกระปูชาแกฅนแลเทวดา อินทฟม ฅุด๕ นาค ยักขคันธัพพะ จักเปนสักขี จําหมายสาสนา พั่นดั่งปถมะหัวทีหลังถวน ๒ ถวน ๓ ถวน ๔ ไดพันวสาถวน ๕ แล ฯ มักวากูตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันวสาเตมยามใด เจติยะหลังปถมะ จักจมลงไปในวังน้ํา อันเปนที่อยูพระญานาค หมื่นชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๒ พันวสาเตมแลว เจติยะหลังถวนสองก็จมลงไปแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๓ พันเตมแลว เจติยะหลังถวน ๓ ก็จมลงไปแล ฯ เมิ่อสาสนาได๔ พัน [หนาลานที่ ๔, น.๘๖] เตมแลว ก็จมลงไปทัง ๔ หลัง ชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนา ๕ พันเตมยามใด เจติยะถวน ๕ จักลมลงไป หมื่นชาแล ฯ ฅนแลเทวดาทังหลายก็รูวาสาสนากูตถาคตะลวงไปแลวมีเทานี้ก็ดี อันจักมาพายหนาก็ยังเทานี้ตั้งอยูในกาละบัดนี้วัสสามีชื่อดั่งนี้แล รูวาอั้นชาแล ๑ ฅบยํา - เคารพยําเกรง (ลานนา. ครบอยํา)๒ ผาบ - ปราบ๓ สกลชุมพูทวีป, สักกละชุมพูทวีป - สากลโลก๔ ถปนนะ - สถาปนา, แตงตั้ง, ประดิษฐาน ๕ ฅุฑ - ครุฑ ๒๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เหียดเกสาธาตุกูหลังน ี้เปนสักขีหมาย หม ื่ นชาแล วาอ ั้ นแลวพระญานาคแล มหาอานันทเถียรก็เอาเกสาธาตุ ๕ เสนนั้นมาถปนนะตั้งไวในสัณฐานที่พระเจา สําแดงไวนั้นห ั้ นแล พระพุทธเจาก็จระเดินไปผวดสัตตโลวกทังหลายดวยลําดับ ตราบตอเทาถึงนิพพานแล ฯ ปรินิพฺพุโต ภควาติในเมิ่ อพระพุทธเจานิพพานไปไดรอย ปาย ๘ วสา มีในกาละเมิ่อใด ธัมมอโสกราชาจักปรากฏแล จักมาเปกสา๑ ชินธาตุหื้อกานกุง รุงเรงทิวช ั่ มพุทวูปทีงมวรแลั จักรแจู งกวาสณฐานเมังเจิาระแวกท ี่นี้เปนอตตมถานะุ เปนทปรากฏร ี่ งเรุ งตราบเมิยน ี้ ๕ พันวสา [หนาลานท ี่ ๕, น.๘๘] สันน ี้พระญาอโสกราช ก็มีพระราชอาญญา๒ ปลงยังราชวัตถุ คือวางน๓ ฅํา แกวแหวน วัตถุอาภารณะ อลงการตัางๆ หื้อแกมหาเสนาอามาตย แลยสปรวารทิงมวรั มาปกสาสนา กอเจตยะิ ๕ หลัง ตั้งไวแทนท ี่ พระพุทธเจาน ั่ งน ั้ นเทิอะ เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ กฎหมายสาสนา อันเปนอตีตะ แลอนาคตะ ตราบเม ี้ ยน ๕ พันวสา หื้อต ั้ งท ่ํ ากลางเวียงละแวก ที่นั้นหนแล ั้ เวยงระแีวกนั้น พระญาอโสกราชาหอมาส ื้ างแปงหม นค ั้ ุง เพอห ิ่ อเฝ ื้ า แหนรักสายังธาตุ๕ หลังนั้น หื้อหาเภยยะบไดแล มหาเจติยะ ๕ หลังนั้น ก็ลวด เจือปู ๔ ดวยแผนฅํา แตชอฟา ดวงปลีลงถึงตีนธรณีขึ้น ๗ ชั้นแล ชั้นกางได ๓ สอก นับแตคระบอม ขึ้นหนาชาก ได๓ วา มีรูปเทวดาอยู ๔ แจงเจติยะชูหลัง เทวดา ๒ ตน ถือหอยสังขเปาอยู เทวดาสองตนนั้น นบไหวอยูที่ใกลเจติยะ ระหวางเจติยะ ๕ หลังนั้น ตั้งอยูที่ไกลกันสิบวาชูหลัง มีปะตูขง๕ ๔ ดานชูหลัง [หนาลานท ี่๖, น.๘๙] มีรูปนกยงฅูาแวดจอดชํหลุังเมยกี ๖ เวยงธาตีุแลดานม ีรูปพระเจา อยูสิบองคเจตยะแลหลิงมั ีรูปพระเจาอย เฝู าในขงส ี่อัน แลขงแลตน ประดบดัวยแก ว แลฅางํ ึน เฅงมก ิ่ ฏลุงการตัางๆ เปนอนสัองแจงเหมนดิงเทวดาอ ั่ นเปนท ัพพิ นั้นแล มหาเจตยะิ ๕ หลงนั ั้น พระญาอโสกธมมราชาได ั ปลงป นสมบ ัติมาหอส ื้ างปราการ ๑ เปกสา - ปฏิสังขรณ, ทํานุบํารุง๒ อาญญา - อาชญา๓ งน, งึน - เงิน๔ ลวดเจือปู - ลาด, เท ๕ ปะตูขง - ประตูโขง, ประตูที่มีซุมอยูดานบน๖ เมียก - เมก, กําแพงดิน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๗
เมียกเวียงหื้อหมั้นคุง ลวงยาวได๓ พันปาย ๕ รอยซาววา ลวงกวางไดพันปาย ๕ รอย ปายสิบวา ตั้งแตปลงราชทานแกฅน ทังฝูงมาเติ่มชอย๑ สางนั้น เสี้ยงฅํา หมื่น ๘ พัน.. เสี้ยงงึนหมื่น ๑ แลวก็ปนเสื้อผาบัวรโภค เขาน้ําประไจยทังมวร มีปราการไดสองชั้น ชั้นนอกเตมดวยน้ํา แลประกอบไปดวยจักเขมังกรทังมวร ปราการแลวดวยหินก็มีแล ปราการชั้นในนั้ นแลวดวยดินละอิด ระหวางเมียก ทังสองนั้น เตมไปดวยเปกตม แลดอกทังหลาย คือวาดอกพาน จังกอรทังหลาย มากนักก็มีแล ก็เหียดเพ ิ่ อวาจักไวรักสาธาตุ๕ หลัง บหื้อเปนกังวลอนทราย ตราบเสี้ยง ๕ พันวัสสา ก็มีแล ฯ ในเมิ่อ [หนาลานที่๗, น.๙๑] พระญาอโสกธัมมราชาต ั้ งอยูเส ี้ ยงอายุจุติไปสู ปรโลกพายหนา ถึงเมอสาสนาข ิ่ ามลวงพ นไปได พันวสสาเตมวั นใด ั อันวามหาเจตยะิ หลังปถมะหัวทีนั้นก็จมลงชาแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตนั้นสืบมาตราบเมี้ยน ๕ พันวัสสาดั่งอั้น ธาตุหลังถวน ๕ ก็จมลงไปชาแล ฯ ตโต ปรํแตนั้นมาสาสนาพระพทธเจุาพ นไปได ๒ พันวสสานั ั้น มหาเจตยธาติุ เมิงระแวก หลังถวนสองก็จมลงแตตีนธรณีดวยลําดับปเดินวันยามไจๆ แล ฯ ตทนตเรฺถัดนนล ั้ าดํบมาดัวยว สสาได ั ๓ พันนนมาถ ั้ งปึ กัดไสจุฬสกราชได ั ๙๓๑ ตัว อตีตสาสนาขามลวงพนไปได๒๓๒๑ ตัวนั้นแล ยังมีมหากระสัตรตน ๑ ชื่อวามังทรา เปนพระญาสวย๒ ราชสัมปตติในเมิงหังสาวตินคร ไดยกเอา จตุรังคพละโยธาลงไปยทธกุมมัรบเอาเมงสร ิ อโยธ ียาลิ านชาง วันนั้น มันเปนหลาน แสนเชียงแลง มันเปนผูสลาด๓ พิจจรณา [หนาลานที่ ๘, น.๙๓] ยิ่งนัก ก็ไดลงรบกับ โยธาแหงพระญาหงสาวตั ิไดไปรอดไปถ ึงเมงละแวกิ ก็ไปเอาวสสาในเม ังละแวกิ ที่นั้น มันกได็ ไปร ไปห ู นคระบวนบัานเมงทิ ี่นั้น แลไดไหว แลป ชามหาเจตูยธาติเจุา อันประเสิฏ ก็ไดอานดูยังจาริด๔ อันพระญาอโสกธมมราชาัแลอรหนตาเจัาทงหลายั ๑ ชอย - ชวย๒ สวย - เสวย (สวยราชสัมปตติคือ ครองราชสมบัติ)๓ สลาด - ฉลาด๔ จาริด - จารึก ๒๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ตอง๑ ไวในหนาหินนั้น มันก็อัสจัรย มันก็ไปพิจรณาดูชูแหง แลวมาเผียบหา จาเริก ทําคระบวนทงมวรแหังเจตยธาติ ุฝูงนนได ั้ ชูอันแล พั่นดงเจต ั่ ยธาติุ๕ หลงนั ั้น ก็ผุดจมลงมาในน้ํ าเสียสองหลังแล ก็รูวาเปนสาสนาพนไปแลวไดสองพันวัสสา แลวแล ฯ ในปกดไส สักราชได๙๓๑ ตัว ที่บานนนลงไปส ั้ เวู ยงละแีวกที่นั้น มหาเจตยะิ หลังถวน ๓ นั้น ก็จมลงไปในน้ํ าคอมพอ๒ ถวมตีนธรณีจมลงในปกดไสนั้น อตีตสาสนาขามลวงพนไปไดสองพันปายรอยวัสสา ปาย ๒๐ วัสสา ในปนั้นแล เจาภิกขุทังหลายไดพันตน ก็อยูอุปฏฐากในเจติยเกสาธาตุฯ [หนาลานที่ ๙, น.๙๕] ทีนั้น สามเณรมี๕ รอยตน อยูรักสามหาเจตยธาติเจุาท ี่นั้นแล ฅนคระหฏฐั อุปฏฐากมหาเจติยะที่นั้น นับแตผูชายมี๒ พันฅนแล ฅนเถาบนับเท ิ่ อห ั้ นแล ปณฑิตะนักปราชญเจาทังหลาย มักใฅรูสาสนาอันขามลวงพนไปแลวน ั้นได ๒ พัน ๘๐๐ วัสสา มาตั้งไวนับเอาสักราชสืบแต ๙๓๑ ตัว มักวาอตีตสาสนานั้น พนไดเทาใด ก็พึงรูวาสาสนาอตีตะอันลวงแลวเทานั้น เสสะหลอกวาน ั้ นก็เปน อนาคตะสาสนาแหงพระพุทธเจา ฯ ปฺจมหาเจติยกณฺฑํ กาวยังมหาเจติยะ ๕ หลัง อันต ั้งไวท่ํากลางเมิง ละแวก อันมีในโขงเมิงอโยธิยาทวารปตินคร ก็แลวเทานี้หอง ๑ กอนแล ฯ อฐเกสา พุทฺธา หํสาวตินคเร สิงฺคุตฺตรถมฺภ ปกฺขามิฯ สาธโว ฟงดราสูปปั ุริสสะทงหลายัเราจกกัาวตานานมหาธาตํเกสาอุนถป ันนา ตั้งไวในดอยสิงคุตตระ อันควรสัทธาปสาทะชมชื่ นยินดีอันมีในเมิงหังสานคร นัย ๑ ธาตุทะคูงนั้น หื้อ [หนาลานที่๑๐, น.๙๖] แจง ผูมีประหญาพึงรูดั่งนี้เทิอะ ฯ หิดวยมีแทแลวิสาขาปุณฺณมาสํในเมิ่อเดินวิสาขะเพง๓ นั้น พระพุทธเจา ไดตรัสประหญาสัพพัญูตัญญาณ พระจญ๔ แพมาร ๕ พระการ เหนิอแทนแกว ๑ ตอง - สลัก, สะกัดใหเปนรอย๒ คอมพอ - ถึงขั้น๓ เพง - วันเดือนเพ็ญ, ขึ้น ๑๕ ฅ่ํา๔ พระจญ - ประจญ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๙
ปลลังการ แทบเคาไมมหาโพธิได๗ วันหั้นแล ยามนั้นคําสลั้ง๑ สงสัยก็เกิดมีแก เทวดา อินทฟมทังหลายวา เจาสิทธัตถะนี้รอยวาบไดเปนพระเทิ่อชาแลวาอั้น พระพทธเจุาร ใจแห ู งเทวดาทงหลายแลั ว ก็สยอง๒ ขึ้นสปตู ลอากาสุเทยวจมขมี ๓ ในอากาส เนรมตเปนพ ิทธรุปไดู๒ ตน ๓ ตน ๔ ตน ๕ ตน ๑๐ ตน ๒๐ ตน รอยตน พันตน เพิ่อจักตัดเส๔ ยังความสันเทหะแหงเทวดาทังหลายอันลงมานั้นแล ฯ ยามนั้น เทวดา อินทฟม ก็หาความสังกา๕ บไดก็รูวาไดตรัสประหญา สัพพญั ูตัญญาณเปนพระแทก็ชวนกนเขั ามาไหว แลป ชาอูปปุ ฏฐากพระพทธเจุา หั้นแลฯ ตทาอานันทะเริย ถัดน ั้ นพระพุทธเจาก็ยายจากเคาไมมหาโพธิแลวไป ยืนอยูทิสะหนอสานแหี งมหาโพธ ิไกลประหมาณ๒๐ สอกแล ก็เลงแลดไมูมหาโพธ ิ แลว [หนาลานที่๑๑, น.๙๘] อยูดูอันบพรับตา นานได๗ วันหั้นแล เทวดา อินทฟม ก็มากอเจตยะทิพระเจ ี่ ายนยื ูนั้น ลวดปรากฏชอว ื่ าอนิมิสสเจตยะอิ สาน ี หั้นแล ฯ ตทานนฺตรํ ถัดแตนั้นพระพุทธเจาก็ละมาจากที่นั้น แลวก็ไปเทียว รัตนจมขมแกว๖ ในทสะหนวิ นตกไม ั มหาโพธ ิไกลประหมาณ ๒๐ สอก พระกเท็ยวี จมขมไปมาดานวันตก ระหวางไมมหาโพธิแลอนิมิสสเจติยะ นานได๗ วัน ก็ยายจากที่นั้นไปอยูเรินแกว อันเทวดาหากมาเนรมิตไวทิสะวันตกแจงเหนิอ ไมมหาโพธ ินั้น ไกลอพภันตระั ๗๑จมขมแกว นานได๗ วันแล ก็สระเดจจากที่นั้น ไปรอดเคาไมตน ๑ คือวามุญจรินทะ๘ ริมสระอัน ๑ ลึกได๑๒ วา มีทิสสะหนใต อาคเนยแหงไมมหาโพธิไกลประหมาณอัพภันตระ ๑ [หนาลานที่๑๒, น.๑๐๐] อยูได ๗ วัน พระพทธเจุาก ็ยายจากที่นั้นไปอยแทบเค ู าไม มวงราชายตนะอันมีทิสะหนใต ไกลประหมาณอัพภันตระ ๑ อยูที่นั้น ๗ วันแล ฯ ๑ สลั้ง - สงสัย, กังขา, เคลือบแคลงใจ๒ สยอง - เหาะ๓ เทียวจมขม - เดินจงกรม๔ เส - เสีย ๕ สังกา - สงสัย๖ จมขมแกว - รัตนจงกรม๗ อัพภันตระ - อัพภันดร (มาตรา ๑ อัพภันดร เทากับ ๗ วา หรือ ๒๘ ศอก หรือ ๑๔ เมตร)๘ มุญจรินทะ - มุจลินทร ๓๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เหียดดั่งอั้น โปราณอาจารยเจากฏเปนคถาไหวสัตตมหาปถนะ ทัง ๗ วา โกปปปฺโปติโพธิยา ยสปุเร ชิโน นาโถ ปโต สมฺโพธิมุตมํนมามิสิรสา โพธิชินํ สนฺตนนฺตรํ ปถมํ สตหํ ภควา ยถถิเต ปตํ กเปกฺขเตโพธิมหาภนฺตเร โกเนตํ นมามินิปสกํวิสหเตจ โพธิมหาถานํโพธิมนฺตเร ปุพพมชฺฌิมตายา นมามิปกํมํ วรํจงฺคม โพติยํถาเน จิตฺต สิคมฺหิรํโพธิหา ภนฺตเร พย นมามิรตนฆรํมชฺฌิเม นยสา มุลลมฺหิอชฺฌปารํมหาถาน ภนฺตเร ปุพฺเพอชฺฌปารานิสเย อาคเนยฺย โพธิมหา ทฺวาชกฺก สรตเน ทเกน จ ภนฺตภานมฺหินมามิมุริทกํ ปณฺฑิเน [หนาลานที่ ๑๓, น.๑๐๑] โพธิปุรโต ราชายตน ภฺชถานา กํ ปสฺสส ภนฺตเร ถนมฺหิ มาสุคตา ลย ฯอันนี้เปนคาถาไหวสตฺต มม มิมุจลินฺทา มหาถานํสตห ๗ แหง ไหวแลบท วาไหนแลบทไจๆ แลแหงแล ๗ วัน สังรอมนานได๔๐๙ วัน๑ พระเจา ก็ไดสันเขาน้ําโภชนะอาหารหั้น สิ้นยามนั้น ฯ ฟมจิ่งไหววา พระญาเจา ยามน ั้ นพระญาอินทจิ่งเอาหมากสมอทิพพ มาทานห ื้ อแกพุทธเจาไดสัน แลวก็เอาไมหนอนเนา เปนไมอันออนด ั่งยวงฝาย มาหอพระพ ื้ ทธเจุาจ ิแลวก ไปเอาน ็ าอโนมตสระมาห ้ํ อพระพ ื้ ทธเจุาซวยหน า ชําระ บวนปากแลว ในเมิ่อยั้งอยูแทบเคาไมมวงราชายตนะนั้น ยังมีพอคาเกวียนสอง ฅนพี่นอง ผูพี่ชื่อวาตปสสะุ ผูนองชอว ื่ าพลกะิ หั้นแล ขาทงสองพั ี่นองกเปนพ ็อค า เกวียน ๕ รอยเหลม กับหมูพอคาทังหลายเปนปริวาร ลุกแตเมิงอุตตรนคร เขาไปส เมู งเิ ชตตรนครุเหยดเขาได ี ยินวาเข าเมิงปนหนคร เปนอนแพงมากนั ัก วาอั้น [หนาลานที่๑๔, น.๑๐๓] ตางเขาตอตางฅํา ก็หาผูจักขายบไดแลวาอั้น ฯ พอคาเกวียนทังหลาย ๕ รอยฅนนั้น ก็ชวนกันเอาเขาสารใสเกวียน ๕ รอยเหลม แลวก ไปก ็บดัวยหม ปรู วารออกแติเวยงอีตตรนครุไปสเมู งเชติตรนครุ ก็ไปดวยลําดับหนทาง ก็ไปรอดไปถึงท ่ํ ากลางท ี่ ๑ ยังมีเทวดาตน ๑ อยูรักสา ไมนิโครธตน ๑ ก็หากเปนญาติพี่นองแหงพอคาทงสองแตัชาต ิกอน หันขาทงสองั มารอดมาถึงที่นั้น ก็มักใฅสังคหะห ื้อเปนประโยชนะแกญาติพี่นอง จิ่งจักแตง บหื้อเกวียนไปไดลวดจิ่งตั้งอยูที่นั้นห ั้ นแล พอคาทังสองหันอัสจัรยเย ิ่ งนั้น จิ่งจัก ๑ ๔๐๙ วัน - ในที่นี้หมายถึง ๔๙ วัน (๔๐+๙) ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๑
มาจาซึ่งกันวา ดูราเจาทังหลาย บัดนี้เกวียนทังหลายก็บไปสันนี้รอยวาเทวดา อารักขผีเสื้อหากมากะทําบหื้อไปชาแลวาอั้น ฯ แลวขาทังสองก็เลงดูพายบน ก็หันเทวดาสําแดงตนห ื้อปรากฏหันสันนั้น ขาทงสองกั ็กาววา เทว ขาแดเทวดาเจาก ูจักกะทาสํ นใดชาว ัาอ ั้น เทวดาจงก ิ่ าวว า ดูราพอคาทงสองั กูก็มักใฅหื้อเปนคณเปนุ [หนาลานท ี่๑๕, น.๑๐๕] พระโยชนะแกเข ิอ ทังสองจิ่งจกชักเกวั ยนไว ี ดูราพอค า บัดนพระพ ี้ ทธเจุาได ตร สประหญาส ัพพัญัู ตัญญาณเปนพระใหมนี้ได๔๙ วันนี้ก็บไดสันเขาน้ําโภชนะอาหารสักเทิ่อ ก็มา อยูสํารานทเค ี่ าไม มวงราชายตนะในปาทหน ี่ แล ี้ สูเจาทงหลายจังเอาเข ุ าน าโภชนะ ้ํ อาหารไปหอเปนทานแก ื้ พระพทธเุจาบดนัเท ี้ อะวิาอ ั้น พอคาท งสองได ั ยินเยงน ิ่ ั้น ก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีดวยคําวา อโห อวยหนอ สาธุ ขาแดเทวดาเจา สาธุ เปนอันดีแทแล วาอั้นแลวจิ่งจักสูน๑ เขาสะดุกอนมีประหมาณ ๔๙ กอน ใหยเทา หมากชมพุ ูนั้นแล ก็เอาใสในภาชนะแล วไปห อเปนทานแก ื้ พระพทธเจุาดวยสจจะั คารวะยิ่งนักหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระพุทธเจาก็รับเอาดวยงาย พระพุทธเจาก็รําพึงถึง พุทธปเวณีพระพทธเจุาฝงอูนขัามลวงแลวรบเอาดัวยบาตร หากเปนพทธปเุวณี แล ฯ ในกาละนนท ั้ าวจต โลกทุัง ๔ ก็รูแจงยงเหัยดอีนคระนังแหิงพระพทธเจุาน ั้น ก็เอาบาตร [หนาลานที่๑๖, น.๑๐๖] หิน แกว แลตนแลลูก ก็นอมมาเปนทานแก พระพุทธเจา อันเปนกับดวยฝาบาตร แลสนุกบาตร ฟอม๒ ทังมวรห ั้ นแล พระพทธเจุาก ็รับเอา แลวพระพทธเจุาระนกรึ ูพุทธปเวณีบควรทรงบาตรหลายลูก เทาควรทรงบาตรลูกเดียวแลวาอั้น ก็เอาบาตร ๔ ลูก เขาซอนกัน อทิฏฐาน หื้อเปนลูกเดียวชาแล มีขอบสี่อัน เปนบาีวา ภควโต ปจเสตํดั่งนี้พระพุทธเจา ไดบาตรแลว ก็รับเอาเขาแหงพอคาทังสองพี่นอง คือวาตปุสะ แลพลิกะเปน ประธานกวายัสสปริวารทังมวร ก็ฟอมกันถือเอายังสรณาคมนทัง ๓ วา อชตเค ๑ สูน - ผสม๒ ฟอม - พรอม ๓๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ทานุเปตพฺพํ พุทฺธํสรณํ คจฺฉามิดั่งนี้แลวสัมมาธาน๑ เอาสิกขา รักสาสีลอันมี องคะ ๔ พระการ คืออภิญาณเปนอุปาสักกะ คือ เอตทํก็มีแล ฯ พระพุทธเจาตนมีมหากรุณา ก็เอามือลูบอุตมังคละหัว ก็ไดเกสาธาตุ ๘ เสน ก็เอาหอแก ื้ พลกะผิ ูนองหนแล ั้ พอคาท งสองได ัธาตุ๘ เสน ก็ยอเอาขนต ึ้ งห ั้ ัว แหงเขาแลวมียามใด ในกาละยามนั้น [หนาลานที่๑๗, น.๑๐๘] อัสจัรยก็เกิดมี น้ําสมุททก็ข้ําเขิกเยิกตีฟองนองตีฝง ก็สน ั่ นหว ั่นไหวไปมา เขาสเนโรราช๒ ซ้ําก็ออนนอมคอมลงมา เทวดาทังหลายก็ผายเขาตอกดอกไมทิพพปูชาสการะ มากนักหั้นแล ฯ เมอน ิ่ ั้น พอคาทงสองกั ไหว ็พระพทธเจุาว า ภนเตฺภควา ขาแดพระพทธเจุา เกสาธาตุฝูงน ี้จักห ื้ อเขิอขาทังสองพี่นอง เอาไปถปนนากอไวในที่ใดชาวาอั้น ในกาละนั้ นพระพุทธเจาก็กาววา ดูราสปุริสะพลิกะ ยังมีดอยอัน ๑ ชื่อวา สิงคุตตรปพพตา มีในเมิงอุปปลนคร คือวาเมิงหังสาวดีเปนอุตมถานะ อันประเสิฏแล ดูราตปุสสะ พลิกะ เขิอทังสองจุงเอาเกสาธาตุ๘ เสนนี้ไปจุกอไว ในดอยสิงคุตตระที่นั้นเทิอะ พอคาทังสองก็รับเอาคําสอนพระพุทธเจาวา สาธุ ดีแลวาอั้น แลวก็ไหวดวยคําวา เขิอทังสองบแกวดกฎหมายรูยังดอยสิงคุตตระ อันน ั้ นสังสักอันแล พอคาทังสองคันวาไดเกสาธาตุ๘ เสนอันน ั้ นแลว ก็ไหว พระพุทธเจา แลวก็เขาไปสูเกวียน [หนาลานที่๑๘, น.๑๑๐] แหงตนหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระญาอินทก็รูแลว ก็มาเนรมิตเกวียนใหยเหลม ๑ มีปราสาทแกวอนจั กใส ัเกสาธาต ุนั้น ก็ประดบประดาด ัวยแก วแลเฅงส ิ่ กกระป ัชาู ทังหลายมวร มาตงไวในท ั้ ากลางหม ่ํ เกว ู ยนี ๕ รอยเหลมนนแล ั้ พระญาอนทิ ก็ไข๓ โกฏแกวเอาเกสาธาตุ๘ เสนน ั้นใสแลวก็ปูชาดวยอันฅบยําแยงมากนักแล แมนวาเทวดาทังหลายอยูในชั้นฟาทัง ๖ ก็ลงมาปูชามากนักหั้นแล พระญาอินท ก็หื้อวิสุกัมมเทวบุตตลงมาแตงหนทางห ื้ อมารอดมาถึงแมน้ําอัน ๑ เกวียนไป บไดดั่งอั้น พระญาอนทิ จิ่งมาเนรมตสะเพลาิ๗ เหลมไวหื้อพอคาทงหลายหันแล ั้ พอคาทงหลายกัเอาเกว็ ยนไป ี ปราสาทแกวอ นใส ัเกสาธาต ุนั้นขนใส ึ้ เหนอสะเพลาิ ๑ สัมมาธาน - สมาทาน๒ เขาสเนโรราช - เขาสุเมรุ๓ ไข - เปด ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๓
๗ เหลมนั้น แลวก็ไปดวยอานุภาพแหงพระญาอินทก็[หนาลานที่๑๙, น.๑๑๒] ไปถึง เมิงเชตุตรนครหั้นแล ฯ ราชา อันวาพระญาเชตุตรนคร ก็รูขาวสารวาพอคาทังหลายฝูงน ั้ นมา ก็มีราชราพ ่ํ งวึ า พอคาท งหลายฝ ังนูแต ี้ กอน เขามาเทยรยีอมเด ิน ๑ จิ่งมารอดเมิง ที่นี้ดาย เขามาประหมาณ ๗ วัน พอยมารอดสันนี้รอยวาจักมีเหียดอัน ๑แกเขา พึงมีชาแล วาอ ั้ นแลวพระญาก็ปงหื้ ออามาตยทังหลายไปนําเอาพอคาทังสอง มาถามดูวา ดูราพอคาทังสอง สูทานทังหลายมารอดบานเมิงสันน ี้ ดวยอันรีบ แลพลัน มาตรา ๗ วัน แลมารอดสันนี้ชา ติดดวยเหียดการณเยิ่งใดนั้นชา พอคา ทังสองก็ร่ําพึงวา ผิจักกาวคําลาย ก็กัวโกลาหลเกิดมีในหมูทานมากนักวาอั้น บควร กัวเปนบาป พอคาทังสองก็ลายบได ก็ไหวพระญาดวยอันซ ื่ อวาด ั่ งน ี้ ขาแกมหาราชเจา ผูขาทงสองได ัของคาอ นประเส ัฏมาดายิเขอทิงสองกั ได็ ประสบ พบพระพุทธเจาอยูเคาไมมวงราชยตนะที่นั้น เขิอเขาก็ไดหื้อเขาเปนทานแก พระพุทธเจาแล พระพุทธเจาก็หื้อเกสา [หนาลานที่ ๒๐, น.๑๑๔] ธาตุ ๘ เสน แกเขิอ ขา๑ แล ขาทังสองก็นํามาเพิ่อจักนําเมิอถปนนาไวในดอยสิงคุตตระ อันมีในเมิง อุปปลนคร ตามคําแหงพระพุทธเจาชาแล ฯ พระญาเชตุตรนคร คันไดยินคําอันนั้น ก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีมากนัก พระญาก็ปลงยังลาภสการมากนักแกพอคาทังสองห ั้ นแล ก็กาวซ ึ่ งพอคาวา ตาต ดูราพอคาทังสอง เราพระองคก็ใฅหันเกสาธาตุพระพุทธเจามากนักวาอั้น แลว พอคาทงสองกั ไปน ็าเอาเกสาธาตํพระเจุามาหอพระญาห ื้ นแลัพระญาก็มีปติยินดี มากนัก ก็บังเกิดปสาทะสัทธาวา จัดตัดหัวปูชาธาตุเจา เมิ่อนั้นนางเทวีก็ไหวแล หามเสวา เทว ขาแดมหาราชเปนเจา อันราชะเจาผิแลยังมีชีวิตยืนยาวไปพาย หนา ก็ยังจักอุปปถากเกสาธาตุพระพุทธเจาพายหนาดีหลีวาอั้น พระญาไดยิน คําเย ิ่ งนั้น ก็ฟงคํานางเทวีวา สาธุดีแลวาอั้น แลวพระญาก็ถอดเอาฅะจุมหัว๒ อันประดบแลัวดวยแกวแลฅ ํา ก็[หนาลานท ี่๒๑, น.๑๑๕] ปูชาเกสาธาตุก็กาวซงพ ึ่ อค า ทังสองวา เขิอทังสองก็ไดของคาอันประเสิฏมาสันนี้เราราชะหันดาย บควรแล ๑ เขิอขา - เขือ, ขา๒ ฅะจุมหัว - พระราชมงกุฏ ๓๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เราราชะจกเอาธาตั ไวุ อุปฏฐากสององคชาแล พอคาทงสองจังก ิ่ าวว า ผูขาทงสองั จักวางธาตไวุบไดแลเหยดคีาพระพํทธเจุาหากสงสอนเข ั่ อขิาท งสองเปนค ัุรุภาวะ อันหนักนักแลวาอั้น พระญาก็บฟง พระญาก็ลวดเอาเกสาธาตุไวสององคแล พอคาทังสองก็นอยใจมากนัก ก็รองไหมากนัก ก็หนีไปหั้นแล ฯ พระญาเชตุตรนคร ก็สางแปงปราสาทหลัง ๑ แลวก็ตั้งไวเกสาธาตุในท่ํา กลางเวียงแล ก็เหลนมโหสรพ๑ ปูชามากนักแล พอคาทังสองก็ขี่สะเพลาไปดวย น้ําสมุททนานได๖ ฅืน แลวถึงวันถวน ๗ ก็ไปเกาะที่ ๑ ก็จอดเกาะที่นั้นแล ถึงยามเท ี่ ยงฅืนด ั่ งอั้น เกสาธาตุก็ผายปฏิหารยหื้อรุงเริงสองแจงด ั่ งกางวันนั้น ยามนั้นยังมีพระญานาคตัว ๑ ก็จระเดินมาแอวเกาะที่นั้น ก็ไดหันอัสจัรยเยิ่งนั้น จิ่งฅะนงใิจวาของ วิเสยดีรอยมีที่นี้ชาแล วาอนแล ั้ วกละเพ็ยดี ๒ อันเปน [หนาลานท ี่๒๒, น.๑๑๗] พระญานาคนนเส ั้ แลวก ็ขึ้นสสะเพลา ู ก็หันเกสาธาตพระพุทธเจุา มันก็ลัก เอาสององคแลวกหน็ ไปอย ีเมู งนาคหินแล ั้ ธาตุก็เทายงหลอั ๓ ๔ องคหั้นแล พอคา ทังสองบหันธาตุก็ฟอมกันตีอกรองไหวา พระญานาคก็หื้อฅนมาลักเอาธาตุไป สององคแลว เทายังหลอธาตุ ๔ องคนี้ชาวาอั้น แลวเขาก็เอากันไปตามฅะแส แมน้ํา ก็ไปรอดดอยอัน ๑ ชื่อวาดอยของ วาอั้น ฯ ในกาละนั้น ยังมชายผี ู๑ ไปดวยสะเพลา ก็เสสะเพลาแตก ก็ไหลนาไปรอด ้ํ ดอยอันนั้น หาสังจักกินก็บได ก็ลําบากมากนัก มันก็หันสะเพลาเหลมน ั้ นมา ก็ไปขอกนเิขากบดัวยพอคาทงหลายหันแล ั้ มันกถามว็าพอคาทงหลายัเอาของคา ทังหลายเยิ่งใดมานั้นชา ตปุสสะ พลิกะก็กาววา ตูขาไดของคาอันประเสิฏบดาย วาอั้น ชายผูนั้นก็บังเกิดปสาทะสัทธายินดีดวยคํา (วา) ขาก็ไดที่พึ่งบัดน ี้ แล วาอั้นแลวมันก็แกผานุงแหงมัน อันยาววาไดสองสอก ก็ปูชาเกสาธาตุเจาหั้นแล พอคาทังสอง [หนาลานที่๒๓, น.๑๑๙] ก็สังคหะเอาชายผูนั้นมาห ื้ อพนจากทุกข แลวก็มารอดเมิงธัญญวตินคร อันมีในละแวกแควนเมิงหังสานครหั้นแล พระญา ตนสวยเมิงน ั้ นช ื่ อวาอุปปลราชาแล พอคาทังสองน ั้ นก็มารอดแลว ก็เขาไปสู สํานักพระญาแลวก็ไหววา เทว ขาแดมหาราชเปนเจา ผูขาทังหลายไปคา ก็ได ๑ มโหสรพ - มหรสพ, งานรื่นเริง๒ ละเพียด - ทิ้งความเปน, แปลงกาย๓ หลอ - เหลือ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๕
ไปประสบพบพระพทธเจุาอยเคู าไม มวงราชายตนะที่นั้น ขาทงหลายกั ได็ ไปแต ง เขาน าโภชนะอาหารเปนทาน ้ํ แลวผ ูขากขอเอาเกสาธาต็ ุซึ่งพระพทธเจุา พระเจา ก็หื้อเกสาธาตุ ๘ องคแกเขิอขาทังสองพี่นอง แลวก็สั่งเขิอขาทังสองวา หื้อเอา เกสาธาตุ ๘ องคนี้ไปถปนนะตั้งไวในดอยสิงคุตตระพุนเทิอะวาอั้น ขาทังสอง ก็ปฏิบัติตามคําสอนพระพุทธเจา ก็นําเขามาถึงเมิงเชตุตรนครที่นั้น พระญา เชตตรนครกุคร็บชุงเอาธาติสององคุกอนแลเทายงหลอั๖องคผูขาทงสองกั ็นํามา ถึงเกาะที่ ๑ พระญานาคก็จิ่งซ้ํามาลักเอาสององคเลา ก็เทายังหลอธาตุ ๔ องค ผูขา [หนาลานที่ ๒๔, น.๑๒๑] ก็นํามาถึงมหาราชเจาบัดนี้แล ล้ําทาวพระญาทังหลาย ในสักกละชุมพูทวีปทังมวร แลจักมีปสาทะสัทธาในสาสนาพระเจาเสมอดั่ง มหาราชเจานี้บมีแลวาอั้น ฯ อถ ในกาละเมิ่ อนั้น พระญาอุปปละราชาไดยินคําเย ิ่ งนั้น ก็มีปฏิโสมนัสสะ ยินดีแลวก็ปงราชอาชญาหื้ออามาตยใหยผู๑ มาตกแตงเสนา ๔ จําพวก คือวา เสนาชาง เสนามา เสนารถ เสนาไปตีน มาแลวก็หื้อพอคาทัง ๒ พี่นองข ึ้ นข ี่ โยยานฅําแหแหนแวดลอมเปนปร วารไปก ิอนหนาตามหล ังแลวพระญาก ไปด ็วย ยัสสปรวารไปรอดท ิจอดพ ี่ อคาทงหลายั ที่ไวเกสาธาตแลุวกกะท็ าปท ํกขัณะิ๓ รอบ แลวก ไหว ็นบส กการะป ัชาดูวยปรม สะติางๆแลวกยอม็ ืออทฏฐิานวา พระพทธเุจา เมตตาแกขาทังสองห ื้ อเอาธาตุอันน ี้ไปปูชาไวแทหั้นแล ขอห ื้ อขาไดไหวยังธาตุ ทังหลาย ๘ เสนน ั้ นเทิอะ วาอ ั้ นแลวก็ไขยังโกฐแกวก็ลวดไดหันยังเกสาฅําทัง ๘ พระองคนั้นแทพระญาก็สาธุยินดีมากนัก แลวลวด [หนาลานที่ ๒๕, น.๑๒๓] จาวา จักตัดหัวปูชาหั้นแล ฯ ในกาละเมิ่ อนั้น นางราชเทวีก็ขอซ ึ่ งพระญาวาเทว ขาแดมหาราชเปนเจา ผิวามหาราชเจายังมีชีวิตยืนยาว ก็ยังจักไดไหวนบอุปฏฐากพระพุทธเจามาก หลายดาย พระญาไดยินคาเยํงน ิ่ นก ั้ ็ยินดีแลวกถอดเอากระจ็มหุวฅั าปํชาเกสาธาตู ุ แลวก็กาวซ ึ่งตปุสสะ พลิกะ สองขาพี่นองวาด ั่ งน ี้ ดูราพอคาทังสอง เขิอเจา ทังสองวาเกสาธาตุยังหลอ ๔ องควาอั้น บัดน ี้ เกสาธาตุเจายังบังเกิดหันมาทัง ๘ เสนสันนี้ชา ตปุสสะ พลิกะกาววา ดีนักแล หากเกิดดวยบุญมหาราช เปนเจา แทแลวาอั้นก็มีแล ฯ ๓๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ในกาละนั้น พระญาอุปปลราชาก็ปงรางวัลแกพอคาทังสองมากนัก แลวก็ นําเอาธาตุสงเสพปชาแลูวกแห็เขามาสเวู ยงธีญญวตันคริ ดวยหมูปรวารมากนิ ัก หั้นแล คันมารอดแลวก็ตีกลองนันทเภรีปาวฅนทังหลายวาได๗ วัน หื้อประชุม มายังฅนทังหลายมากนัก ก็ถามฅนทังหลายฝูงแกก็ดีฝูงยังหนุมก็ดีปุคละผูใด ผู๑ ก็บมา [หนาลานที่ ๒๖, น.๑๒๕] รูที่อยูสิงคุตตระสักฅนหั้นแล พระญาอุปปลราชา แลพอคาทังสอง ก็นอยใจมากนัก ก็รองไหอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น พระญาก็เลาโลมพอคาทังสองวา เราก็หาที่สิงคุตตระบได จักเอาธาตุไปถปนนาหั้นไวที่ใดที่๑ ควรชาแลวาอั้น พอคาทังสองกาววา ผูขาก็ บขามลวงคําพระพุทธเจาไดแลวาอั้น แลวก็นอยใจมากนัก ก็รองไหอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละนั้น ปฐวิอันวาแผนดิน ก็รองกองสะทานหวั่นไหวไปมามาก นักแลเขาสเนโรราชาก ิ ็ออนนอมลงมา น้ําสมททสาครกุขร็าเขร ้ํ อกเยิกติ ฟองเปน ี โกลาหลตราบถงอกนึ ฏฐาพรหมโลกพ ินกุ ็มีแลฯสกโกฺอันวาพระญาอนทาธิราชิ ก็ร่ําพึงดูรูแจงแลว ยังสภาวะอันพระญาแลพอคาทังสองหาสิงคุตตระบไดจิ่งใช วิสุกัมมเทวบตตุกับทงปร ัวารวิ า ดูราวิสุกัมมเทวบตตุทานจงเอาย ุ งยั สสะปร ัวาริ ลวงไปเผยวแปงท ี้ ี่สิงคตตระหุอราบเพ ื้ ยงเีรยงงามีแลวจงจุ กหัอฅ ื้ นมาเทือะวิาอ ั้น หั้นแล ทีนั้นวิสุกัมมเทวบุตตก็รับ [หนาลานที่๒๗, น.๑๒๖] เอาอาญญาแลวก็ลงมา เนรมิตดอยสิงคุตตระห ื้ อราบเพียงเลียงงาม แลวก็เขาไปสูพอคาทังสองพี่นอง แลวกถามว็ า ดูราพอค าเขอทิงสองรั องไห เหยดสี นใดชาว ัาอ ั้น พอคาทงสองกัาวว า ขาแดเจากูพระพุทธเจาก็หื้อเกสา ๘ องคแกเขิอขาทังสองวา หื้อไปจุไวดอย สิงคุตตระพุนเทิอะวาอั้น ผูขาทังหลาย มีพระญาอุปปราชาเปนประธาน ก็หากที่ สิงคุตตระบได ก็รองไหแลเปนทุกขมากนักสันน ี้ แล เม ิ่ อน ั้ นพระญาอุปปราชา ก็จือถอดเอาฅะจมหุัวอันมยอดแลีวดวยฅ ําออกมาปชาธาตูเจุาแลวก ็รองไหมาก นักห ั้ นแล วิสุกัมมเทวบุตตอันเนรมิตลงมานั้น จิ่งกาวซ ึ่ งพอคาทังสองวา ตาต ดูราเจาทังสอง อยาไดนอยใจเทิอะ ในวันฟูก๑ ลางทีปุคละผูใดผู๑ มาบอกกาว ที่สิงคุตตระแกทานทังหลายชาแล วาอั้นแลวก็กลับหายไปหั้นแล ฯ ๑ วันฟูก, วันพรูก - วันพรุงนี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๗
ในกาละนั้น จักใกลรุง พอคาทังสองพี่นองก็หันยังนิมิตความฝนวา ยังมี ปุคละผู๑ จือเอาดอกบัวดอก ๑ เขามาแตทิสะหนวันออกหั้นแล ผูนองฝนวาตน ไดลงไปพื้นแผนดิน แลว [หนาลานที่ ๒๘, น.๑๒๘] เอามือทังสองตุม๑ แผนดินไวแลว สะดงตุ นมาห ื่ นแล ั้ ถึงกาละเมอร ิ่ งแจ ุ งแล ว ขาทงสองกัแก็ นิมิตแกกัน ผูนองกาวว า ตาต ดูราพเปนเจ ี่ า ในกาละอนจักมาพายหนั า เตมอนวัากสลบุ ญอุนราได ั สางมาน ี้ ก็จักไดผวดสังคหะสัตตทังหลาย หมื่นชาแลวาอั้น ฯ ในกาละนนพระส ั้ ุริยอาทตติ คันสระเดจข็นมา ึ้ ในชนธาติกลุาว ้ํ นออกนันแล ั้ พอคาทังสองพี่นองก็ผอหันสัณฐานที่สิงคุตตระนั้น ดวยอานุภาวะแหงวิสนุกัมม เทวบุตตที่นั้นแล แผนดินที่นั้นก็เปนอันลาบเพียงเลียงงามมากนักหั้นแล พอคา ทังสองก็กาววา ขาแดมหาราชเปนเ จา ความฝนแหงราทงสองกั เปนอ ็นแมันแทแล อันวาดอยสิงคุตตระอันน ั้ นชาแล พระพุทธเจาโกนาคมนะ แลพระเจากัสสปะ พระเจากกุสันธะ รอยวาไวธาตุที่นั้น พึงมีชาแล พระญาอินทก็กาววา เราราชะนี้ เทามีอายุพันปทิพพบดายแล จักนับเปนปในเมิงฅนเทาได๓ โกฏิปาย ๖ ลาน ปแล เราก็บรูบหันแล ปุคละผูใดไดหัน หากเนรมิต [หนาลานที่ ๒๙, น.๑๓๐] แทแล บอยาชาแลวาอั้น ฯ แลวพระญาอินทก็เรียกหาเทวบุตตตน ๑ อยูไมเดิ่อเกี้ยง๒ มีอายุมากนัก ก็เรยกหาเทวบีตตุตนนนมา ั้ รม๓ อาสนาตนแลวกถามว็ า ตาต ดูราเจาธาต (ุพระ) เจาอันลวงแลวไปนั้น มาจุไวที่ใดชา เทวบุตตตนน ั้ นก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแดมหาราชเจ า มหากปปั อันนี้ผาเปน ๔ สวน (เรา) เทามอายี ไดุสวน ๑ บดายแล ยังมีเทวบุตตสองตน ตน ๑ ชื่ออินทะ ตน ๑ ชื่อโกวินทะ มีอายุยืนยาวกวาขา แลวาอั้น ทีนั้นพระญาอินทก็เรียกหาเทวบุตตสองตนนั้นมา แลวก็หื้อรมอาสนา แหงตนแลวกถามด็ ูหั้นแลเทวบตตุสองตนน ั้น ก็ไหวพระญาอนทิ วาเทว ขาไหว มหาราชเจา อายแหุงเขอขิาเทาม ีกึ่งกปปั ๑ สิ่งเดยวีเขอขิาก ็บรูบหันแล เทาวายงมั ี ๑ ตุม - รองรับ๒ เดิ่อเกลี้ยง - มะเดื่อเกลี้ยง, มะเดื่ออุทุมพร๓ รม - รวม ๓๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เทวบุตต๔ ตน ตน ๑ อยูไมทุม๑ ตน ๑ อยูไมสมสุก๒ ตน ๑ อยูไมหมากพิน๓ ตน ๑ อยเขาสเนโรแล ู เทวบตตุ๔ ตนน ี้มีอายุก็ยืนยาวกวาขาทงสองแลัเทวบตตุ ๔ ตนนี้แดนเที่ยงวาจักรูจักหัน ยังที่อยูธาตุพระพุทธเจาแลวาอั้น ฯ เมิ่อนั้น [หนาลานที่ ๓๐, น.๑๓๒] พระญาอินทก็เรียกหามายังเทวบุตต๔ ตน นั้นมา แลวก็หื้อนั่งรมอาสนาแหงตน แลวก็ถามซึ่งเทวบุตตตนชื่ออมิตรานั้นวา ดูราเจาตนหาทกขุบไดทานมอายีเทุาใดชา อมตราเทวบิตตุไหวพระญาอนทิ วา เทว ขาแดอินทธาธิราช อายุขายืนไดมาตรากัปป๑แล พระญาอินทถามวา ดูรา ทานยงรั ูยังหนสัณฐานทัธาต ี่ พระพุทธเุจาท ัง ๓ องคในที่สิงคตตระทุี่นั้นอั้นชะรฤ๔ เทวบตตุตนนนก ั้ ไหว ็พระญาอนทิ วา เทว ขาแดอินทาธราชเจิ า ขาก็ยังไดรูไดหันแล ขาก็ไดไหวพระพุทธเจาตนชื่อกกุสันธะแทแล พระญาอินทถามวา ดูราทานไดรู ไดหันดวยเหียดการเย ิ่งใดชา เทวบุตตตนน ั้ นก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแด อินทาธราชเิจา เมอปถมก ิ่ ปปั อันน ี้ พระพทธเจุากก ุสันธะเกดมาเปนฅ ิแกูโลวกว นนั ั้น ขากได็เก ดเปนย ิกขั ผู๑ อยในพระเท ู ยดี ๕ ที่นี้ยามนนข ั้ าก ได็ กินชนช ิ้ างแลวนแลตั ัว จิ่งอ ิ่ มแล ขาก็แอวแสวงหากินในที่ใดก็บไดสักตัว ขาก็หันพระพุทธเจาจระเดิน [หนาลานที่ ๓๑, น.๑๓๔] มาปณฑิบาตเขา ขาก็ขับไลกินพระพุทธเจา ขาก็ยินอวนหิว มากนัก ขาก็บเอาพระเจาตนน นได ั้ พระพทธเจุาจงถามว ิ่ า มึงบรูจักกชะรูือ ขาก็วา บรูแลวาอ ั้น พระพทธเจุาจงก ิ่ าวว า ดูรายกขั กูจักใสทัณฑกมมั หื้อแกมึงชาแลวาอ ั้น ขาก็ถามวาจักใสทัณฑกัมมแกขาเย ิ่งใดนั้ นชา พระพุทธเจากาววา กูจักห ื้ อมึง รักสาสีล ๕ ชาแลวาอั้น ขาวาคันผิจักห ื้ อขารักสาสีลตราบตอเทาชีวิตก็บไดแล พระพุทธเจากาววา จักห ื้ อขารักสา ๗ ปชาแล ขาก็วาบไดพระเจาก็กาววา จักหอข ื้ าร กสาป ั ๑ ชาแล ขาก็วาบได จักหอข ื้ ารกสาั๗ วันชาแล ขาจงร ิ่ บเอาั (ดวย) คําวา อาม ภนฺเต ดั่งนี้ในขนัด๖ บัดเดียว งาสองเหลมอันยาวพอพนปากแหงขา ก็หลนตกเสียบัดนั้นแล ฯ ๑ ทุม - กระทุม๒ สมสุก - โศก, อโศก๓ พิน - มะตูม๔ ชะรฤ - หรือ ๕ พระเทียด - ประเทศ๖ ขนัด - ขณะ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๓๙
พระเจาจ ั่ งเอาธัมมขก๑ มาห ื้ อแกขา ขาก็เอามาจุไวที่นี้แล ที่อันขาหัน พระพทธเจุาน ั้น ชื่อวาดอยหมยาดี คําไทยวาดอยหนพระพัทธเจุาแล ที่อันขา รับเอาสลนี ั้น ชื่อวาเกบหิน วาอั้น [หนาลานท ี่๓๒, น.๑๓๖] คําไทยวา พระเจาบวชข า วาอั้น ตราบถึงกาละบัดนี้แล ที่อันขารับเอาธัมมขกนั้น ชื่อวากังลีอา คําไทยวา ที่รับเอาธมมขกั วาอั้น พระญาอนทิ ได ยินคาอํนนันแล ั้ ว ก็ยินดีภอมกัน๒ สาธการุ มากนัก ฯ แลวพระญาอินทก็ถามซ ึ่ งเทวบุตตตนอยูหมากพินฅําน ั้ นดวยพระการ ดั่งกาวแลวนั้น เทวบุตตตนนั้นจิ่งถามพระญาอินทวา ขาแดอินทาธิราช ในเมิ่อ พระพุทธเจาโกนาคมนะนั้ นเกิดมาเปนครูวันนั้น ขาก็ไดเกิดมาเปนยักขตัว ๑ ขาจระเดินไปหาอาหาร ขาก็หันพระพุทธเจาอยูที่ดอยหิน ขาก็หนีเสดอยอันนั้น ไปสูดอยอัน ๑ ขาก็คึดวาจักเอาพระพุทธเจาไปกิน ขาก็ยายเสดอยอันน ั้นไปสู ดอยอัน ๑ ขาก็วาบรูแลวาอั้น ยามนั้นขนแหงขาก็สยองลุกชูเสน ขาก็ขาบไหว พระพุทธเจาที่นั้น พระเจาก็สอนวา หื้อขารักสาสีล ๕ ยามนั้นเขี้ยวแลขนแหงขา ก็หลนตกไปเสี้ยง ขาก็อิงดอยอันนั้นอยู ดอยอันนั้นไดชื่อวากาละสิคําไทยวา ดอยอิง มาถึงกาละบัดนี้แล ฯ ดอยอันพระเจาอยูนั้น ชื่อวาขอชาง คําไทยวา ดอยพระเจาอยู วาอั้น [หนาลานที่ ๓๓, น.๑๓๘] ตราบถึงกาละบัดนี้พระเจาโกนา คมนะ ก็หื้อไมเทาเหลมคันฅํา หื้อแกขาแล ขาก็เอาจุไวในที่นี้แลวาอั้น ฅนแล เทวดาทังหลายก็หื้อเสียงสาธุการมากนักหั้นแล ฯ ถัดนั้น พระญาอนทิ ก็ถามวิสุกัมมเทวบตตุตนช อโลห ื่ ิณีอันอยไมู สมสกนุั้น ดวยพระการดั่งกาวแลวนั้นแล เทวบุตตตนนั้นก็ไหวพระพุทธเจาวา เทว ขาแด อินทาธิราช ในเมิ่อพระเจากัสสปะเกิดมา ก็มาสั่งสอนวาหื้อขารักสาสีล ๕ บหื้อ ขาสตตั วาอั้น ขาก็บเหลอคืาพระพํทธเจุาได ขาก็ฟงคาพระพํทธเจุาช ูอัน พระเจา ก็เอาผาจีวระห ื้ อแกขา ขาก็รับเอาแลวมาจุไวธัมมขก แลไมเทาฅําแหง พระพุทธเจาฝูงน ั้ นแลต ั้งไวในที่นี้แลว ฅนแลเทวดาทังหลายก็หื้อเสียงสาธุการ มากนักหั้นแล ฯ ๑ ธัมมขก - ธรรมกรก, ที่กรองน้ํา๒ ภอมกัน - พรอมกัน ๔๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
พระญาอินทก็ถามซึ่งเทวบุตตตนชื่อทักขิณา อันอยูเขาสเนโรนั้นวาดั่งนี้ ดูราทานตนหาทุกขบไดทานยังรูที่อันต ั้งไวแหงธาตุพระพุทธเจาทัง ๓ คือวา กกุสันธะ [หนาลานที่ ๓๔, น.๑๓๙] โกนาคมนะ กัสสปะ อั้นชะรฤ ผิวาทานยังรูจุงบอก แกเราบัดนี้เทิอะ ฯ เม ิ่ อน ั้ นเทวบุตตตนชื่อทักขิณะ นั้น ก็ไหวพระญาอินทวา เทว ขาแด อินทาธิราช พระเจา ๓ ตน คือวากกุสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะนั้น ขาก็ไดไหว แทนั้นแล ขากได็ ทันไดหันท (ี่ จุ) ธาตุในดอยสงคิตตระทุี่นี้แลเทาวาเมอพระเ ิ่ จา โคตมะเอาเกสาธาตุหื้อแกตปุสสะ พลิกะ สองพี่นองวันนั้นก็หากรูอยูแล แมนวา พระอรยเมตเตยยะิตนจกมาพายหนั า ก็เอาธาตุดูกหนาผากมาไว ในท ี่นี้กับดวย พระเจาทังหลายฝูงน ี้ แล ขาก็จักไดอุปถากรักสาตราบเม ี้ ยนกัปปหม ื่ นชาแล วาอั้นก็มีแล ฯ ถัดนนเทวบ ั้ ตตุตนถวน๔ ตนชื่อโลตเย นั้น ก็กาววา ขาแดอินทาธราชเิจา สวนอันวามหาเจติยะอันน ี้ พายหนาขาก็จักไดอยูรักสาเกสาธาตุเจาอันนั้น ตราบตอเทาเสี้ยงกัปปหมื่นชาแล ฯ สุตฺวา พระญาอินทไดยินคําแหงเทวบุตตฝูงนั้น ก็บังเกิดโสมนัสสะชมชื่น ยินดมากนีกแลั [หนาลานท ี่ ๓๕, น.๑๔๑] ปสงสะโถมนาเทว ับุตตฝูงนนว ั้ า บัดนเทวบ ี้ ตตุ ตน ๑ รูที่ถปนนาธาตพระเุจากก ุสันธะ ฯ ตน ๑ รูธาตพระเจุาโกนาคมนะ ฯ ตน ๑ รูที่พระเจากัสสปะ ฯ ตน ๑ รูพระเจาโคตมะ ฯ ตน ๑ รูธาตุอริยเมตเตยยะตนจัก มาพายหนาสนนั ี้ก็เทยงจ ี่ กสมรัทธิชาแลวีาอ ั้น แลวยงเทวบัตตุทังมวรก็ถือเอาไม แลหลั้ว๑ แลเสียมทุกตน สวนตนพระญาอินทก็ถือเอาเสียมขุดที่อันน ั้ นลึกได ๑๕ สอก กวางก็ไดสิบ ๕ สอก ขุมอันนั้นก็หื้อราบเพียงเรียงงามมากนัก ฯ พระญาอินทก็มาเนรมิตกอนดินกี่๒ ๔๒ กอน หนาได๔๔ สอก กอน ๑ รองพื้น ๔ กอนเอาเปนฝา กอน ๑ เอาปกพายบน แลวเอาแกว ๗ พระการ ลงใสไวในพื้ นมากนัก แลวต ั้ งแผนแทนแกวไวท่ํากลาง แลวเนรมิตจักกวุธไว ทังสี่ดาน แลวดานไหน ๗๐ วาแวดลอมทุกพาย แลวก็เอาโกฐแกวอันใสธาตุนั้น ๑ หลั้ว - พลั่ว๒ กอนกี่ - กอนอิฐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๑
ตั้งไวในท ากลางเหน ่ํ อแทินแกวท ี่นั้น แลวกเนรม็ตตนกิบทังนางสัชาดาุเทยรยีอม แลวดวยฅําทังมวร อยูแวดลอมแทนแกวนั้น แลว [หนาลานที่ ๓๖, น.๑๔๓] ก็เนรมิต รูปเทวบุตตเทวดา กับนางอัคคมเหสีไวในที่นั้น แลวก็เนรมิตรูปตปุสสะ พลิกะ ทังสองพี่นองไวในที่นั้น แลวก็เทามาเนรมิตเทวบุตตเทวดา อักขระไวในที่นั้น มากนัก ก็บอาจจักคณนาไดก็มีแล ฯ ในกาละเมอน ิ่ ั้น พระญาอนทิ แลพระญาอปปลราชานครุแลตปสสะุพลกะิ ก็มาเจียรจากันวา เราจักนําเอาน ้ํ าแตถานะท ี่ใดมา สมควรชาแล เทาจักไปเอา น้ําอโนตัตสระมาสรงเกสเกสาธาตุ ก็ยังจักบัวริสุทธิ์เทิอะวาอั้น พรองก็วาจักไป เอานาสม ้ํ ททุมาสรงเกส ก็วาบควร จักไปเอานาสระใหย ้ํ ๗ อัน อันมขอบแลพีนแล ื้ ว ดวยแกวก็จักบควรแล เหียดพระเจาบอนุญาต เหียดสิงคุตตระน ั้ นก็เปนอัน ประเสฏกวิาท ี่ทังมวรแล สกโกฺอันวาพระญาอนทิ อันจกหานัามาสรงเกสธาต ้ํ ุบได ก็มาเนรมิตสระใหยในที่ใกลเกสาธาตุเจา ก็มาเนรมิตสระแลไหฅําไวแลว มีหั้น ชาแล ก็มาเนรมิตไหแกวได๙๗ ลูก ไหงึน ๔๙ลูก [หนาลานที่ ๓๗, น.๑๔๔] เทวดาได ๔ โกฏิตน ก็มาถือเอาไหทังหลายฝูงนั้นแลตนแลลูก ก็เขามาอาบองคสรงเกียด๑ เกสาธาตุเจาแล ฯ ในกาละนั้น ฅนแลเทวดาทงหลายกั ็ปาวกนมามากนักแลัวดงอ ั่ ั้น เกสาธาตุ ก็ผายปาฏิหารยสยองข ึ้ นพายบน สูงได๗ เชนลําตาล แลวก็ลุกมาเปนสารูป พระพุทธเจา ๔ องคคือวากกุสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะ โคตมะ ตั้งอยูในทิสะ ทัง ๔ ชะแล ก็เปงออกสัพพัณณรังสี๖ พระการ คือวาขาว เขียว เหลิง แดง ดํา หมน สอ ก็คระหมวดกอดเกี้ยวกัน ขึ้นไปพายบน ตราบถึงฟมโลวกพุน ก็มีแล บเทาแตนั้น ก็แปรซราบไปทั่ วขอบจักขวาลทังมวร แลวพอยไหลหลั่ งถ ั่ งตกลง มาฅอบงําไปถึงมหาอเวจีนารกพุน ก็มีแล ฯ ในกาละนั้น ฅนแลเทวดาทงหลายั อินทฟม นาค ไอสวร กุมภณฑั คันธพพะั ยักขผีเผยดี ๒ แลสตตันารกทงหลายั ก็ผอหนกันเสัยงเบ ี้ เสสสะหลอแลฯ พระการ ๑ หมูฅนหูหนวก ตาบอด ฝูงเปนเป๓ เปนคอม เปนพยาธิตางๆ ก็ระงับกับหาย ๑ สรงเกียด - สรงเกศ, สระผม๒ เผียด - เปรต๓ เป, เปย - เปลี้ย, รางกายออนแรง ๔๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ไปจากตนตัวเขาบัดเดียวนั้น ก็มีแลแมนวา [หนาลานที่ ๓๘, น.๑๔๖] ไฟนารก๑ ก็เกิด เปนอันชุมเยน ไปดวยเตชะบุญ แลอานุภาวะแหงเกสาธาตุเจานั้นแล ฯ มหาปถวีอันวาแผนดนอินหนาสังขยาวั าได สองแสน๔ หมนโยชนะ ื่ ก็รอง กองหวั่นไหวไปมา เขาสเนโรราชาก็ออนนอมคอมไปมา หาฝนเมฆะก็ไหลหลั่ง ถั่งตกลงมาในขนดบัดเดัยวนีนแล ั้ สวนอปปราชาตนนุั้น ก็บังเกดจิ ตปสาทะส ิทธาั มากนัก ก็ลวดปราถนาเอาประหญาสพพัญั ูตัญญาณอนประเส ั ิฏ ก็มีวันนนแล ั้ ฯ หิดวยมแทีแลพระญาอปปราชาตนนุั้น ก็บังเกดปสาทะส ิทธาั ก็พรอมก ับ ดวยตปุสสะ พลิกะสองพี่นอง แลพระญาอินทแลมเหสิกขาเทพพดาทังหลาย ก็ชวนกันอาบองคสรงเกียดเกสาธาตุเจาแล พระญาอินทก็มาเนรมิตแผนฅําแดง ๖ ขิบ๒ แลขิบกวางได๔ สิบสี่สอก มาแปงอุมงคขงธาตุก็หลอรูปพระเจาเขาอยู ในสัตตาหะชูแหงแล ก็เนรมิตรูปพระญาอินทกับทังนางสุชาดา มีน้ําหนักแลอัน แลแสนฅําชูอันแล ฯ ถัดนั้น ดิน [หนาลานที่ ๓๙, น.๑๔๘] กี่งน ดินกี่ทองแดง แลกอแลวดวยดินกี่ หื้อข ึ้นพายบนเปนมหาเจติยะ แปงประจิตริจฉณาดวยเฅ ิ่ งสักกระปูชา ฟอม บัวรมวณแลวดวยแกวแลฅ ํา มีตนวาช อ ทุง พัดพาว ไมไลจามมรโคมไฟดอกไม ประทดนีาม ้ํ ัน คันธะจวณจนทนั มีวัณณะคนธะรัสสะทังหลายหลายพระการตัางๆ ถปนนะ ตั้งไว (เปน) ที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย ตราบตอเทา ๕ พัน วสาหั้นแล ฯ พระญาอินทก็มาร ่ํ าพึงประโยชนะอันห ื้อเปนอุปการแกพุทธสาสนา ก็มา เนรมตสระโปกขรณ ิ ีแลนาบ ้ํ อไวชําระพยาธแหิงฅนชาวเจาทงหลายั หื้อไดเจาะ ไตดูพิจจรณาอกขรธัมมั คําสอน หื้อมีฟอมชพระการห ู นแล ั้ สละปชาตามมโนสูทธาั ฅนแลเทวดาทังหลายแลวก็เมิอสูชั้นฟาสวัรคเทวโลวก อันเปนที่ อยูแหงตนมัน นั้นแล สวนอันวามหาเจติยะสิงคุตตระเจาดวงประเสิฏ ก็ปรากฏรุงเริงในเมิง อุตตรนคร คือวาเมงหงสาวด ิ ีที่นั้นมากนัก หื้อเปนทประส ี่ มชุมนุ มแหุงเมงทิงหลายั คือวาพายทิสสะ [หนาลานที่๔๐, น.๑๕๐] วันออก มีเวียงอัน ๑ ชื่อวาราชวตินคร ๑ นารก - นรก๒ ขิบ - ? ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๓
ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ พายทิสะหนใตนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อาธัญญวตินคร ก็ตั้งอยู หั้นแล ฯ พายทิสะวันตกนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวาอวิกิชรนคร ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ พายทิสะหนเหนิอนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวาอุปลนคร ก็ตั้งอยูหั้นแล ฯ ถัดนั้น ยังมีเวียงอัน ๑ ชื่อวากุงหมา ไทยภาสาแล (วา) เวียงทะคุง ก็ตั้งอยูใกล มหาเจติยะสิงคุตตระพันวา ๑ แล ฯ พั่นด ั่ งอุปปราชานั้น ก็ตั้งอยูสวยสัมปตติเวียงอันช ื่ อวาธัญญวตินคร ที่นั้นแล อันวาเวยงธีญญวตันครนิ ั้น เปนเคากวาฅนทงหลายั อันมในเ ีวยงทีงมวรแลั อันบวรมวณพั าเพงเตมไปด ่ํ วยฅนทงหลายัแลเสนาอามาตยพราหมณปโรห ตตะิ สัฏฐีคหบดีกตุมพิกะ พอคา ปชานราสฎร ๑ สรีสัมปตติยสลือซารุงเริงมากนัก ฅนทังหลายก็ประกอบดวยสัทธาแลสักกระปูชามหาเจติยธาตุตราบตอเทาอายุ จุติตาย ก็ไดเมิอเกิดในสวัรคเทวโลวก ก็มีแล ฯ พระญาอปปราชาุคันจุติไปแลวแตนั้นยงมัพระญาตนี๑ ชื่อวามหาปญญา รัมมราชา มหา [หนาลานท ี่๔๑, น.๑๕๒] ฅะสตรเสวยราชสั มปัตต ิมีราชสทธามากนั ัก ก็มาสางเจติยะ กอลูบขึ้นแถมที่๑ หั้นแล ฯ พายลูนแตนั้น มาถึงฅะสัตรตน ๑ ชื่อวาปคันธราชา นั้น สวยราชสัมปตติ มีสัทธามากนัก ก็มาตกแตงสางแถมที๑ เลา เปนถวน ๓ ฯ แตนั้นไปหนา ยังมีมหาฅะสัตรตน ๑ ชื่อปญญเตราชา ก็สวยเมิงแทนเลา ก็มีราชสัทธามากนัก ก็มารักสาสางกอพอกธาตุชั้นพายต่ํา หื้อเปนบักเปนหาน๒ ลงมาได๗ ชั้น ตราบถึงดอยสิงคุตตระเจา ฯ พายลูนแตนั้นยังมีพระญามหาฅะสัตรตน ๑ ชื่อธัมมเจติยราชา ก็สวย ราชสัมปตติประกอบดวยราชสัทธา ก็มาสางหลอเดง๓ สองลูก ลูก ๑ เสี้ยงลาน ๘ ลูก ๑เสี้ยงแสนชอย๔ ทองแลลูกเยชอยนั้น มีสองพันเดงลูก ๑สูงได๑๑สอก คันตองต ีหื้อมเสียงอีนรัองก องไปถ งทวึ ปนีอยพนกู ็มีแลเดงลูก ๑เสยง ี้ ๕ แสนทอง หื้อสูงได๗ สอก ไวตีนธอระณีมหาเจติยะ สงเสียบปูชาเจติยเจาแล ฯ ๑ ปชานราสฎร - ประชาชน, ราษฎร๒ หาน, ราน - ชั้น๓ เดง - กังสะดาน๔ ชอย - มาตราชั่ง เทากับ ๑.๖ กิโลกรัม ๔๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ตั้งแตนั้น ยังมีมหาฅะสัตร [หนาลานที่๔๒, น.๑๕๓] ตน ๑ สวยราชสัมปตติ ประกอบดวยราชสทธามากนั ัก ก็มาตกแตงสางพายบนแถมเล า หื้อสงไดู๗ สอก ตีนธอรณีมหาเจติยะอันน ั้นใหยกวางไดสองรอย ปายสิบเอ็ดสอก ลวงสูงได ๔ รอยปาย ๗ สอก แวดรอดลวงกวางไดพัน ปายซาวสอก เปน ๓ รอยวา มานคาลวงป๑ ใหย ๙ วา ลวงสูงดวงปนั้นมี๗ วา สอก กวาง ๕ ฅืบ ลูกตุมดาว อันอยูเคาลวงปนั้นใหยนัก พอเปนเงิ้มเปนรมฅนเราอยูแผนดินผอขึ้นไปหันใหย เทาบาตรลูก ๑แล เหลก๒ แกนใจธาตุใหย ๓ กํา ผอดูหันใหยเทาลําไมเทาเปน เหลกน ั้ นแล วงสัตต ๓ นั้นมี๔ อัน แลวงสัตตถานเคานั้น กวางได๑๑ สอก พอกดวยแผนฅําแดงแล มีลูกเดงแกวน๔ หอยนั้น แลวดวยแกวแลฅํารอดชูเบิ้ง๕ ชูพาย เมิ่อลมมาพัดมีต่ําเนียงเสียงอันมวนเพราะ ดั่งเสียงขับทิพพนั้น แลเสียง ตุริยนนตรีนั้นแล แปงรูปพระเจาสีหนาทอยูสี่แจง มีรูปราชสีหอยูสองตราบขาง ๓ ตัว รอมทังมวรมี๒๒ ตัว ประดับแลวดวยแกวแลฅํา แล [หนาลานที่ ๔๓, น.๑๕๕] ก็มากอเจติยธาตุใหม ไวเหนิอมหาธาตุนั้น แวดจอดไดรอยปายสิบ ๒ ดวง เจติยะอันตั้งอยูเหนิอบนนั้น ได๖๙ ดวงสังรอมเจติยะอันกอแวดลอมนั้นทังมวร ไดรอย ๘ สิบดวงแล ฯ เจติยะอันกอไวในขงหลวงมหาธาตุนั้น มีสิบดวงแล วิหารนอยทังมวรมี ๙ หลัง ประดับแลวดวยแกว แลกอห ื้อเปนที่ อยูพระพุทธเจา พระสัทธัมมเจา พระสังฆเจาแล เฅ ิ่งปูชามีตนวาสัตตฅํา ตั้งอยูแลวมุงดวยแผนแกว แผนฅํา แผนฝาย มีผิวพรัณณวัณณะอันขาว เหลิง แดง หมน ดํา มีลํานําลักขณะตางๆ แวดระหวางวหารแลิมหาธาตุก็รุงเรงงามิควรออนนอมฅบยาอํสจัรยัเหมนดิงช ั่ ั้น ฟาเทวโลวกนั้น ก็มีแล ฯ พระการ๑ในทิสะกล้ําวันออกแหงเจติยธาตุนั้น ประดับไปดวยรูปตปุสสะ พลิกะ รูปหมอยาพระเจาอยู ชื่อวากุมาระเพ็กนั้นแล รูปอินทา ฟม เทวบุตต ๑ ลวงป - ดวงปลี๒ เหลก - เหล็ก๓ สัตต - ฉัตร๔ แกวน - แขวน ๕ เบิ้ง - เบื้อง, ฝาย, ดาน, ขาง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๕
เทวดา มเหสิกขะ แลรูปพระญาอุปปราชา แลนางเทวีแลรูปอารักขยักขิณีชาง มา วัว ควาย สัตตสี่ตีน สองตีน แลสัตตตัวมีปก มีหาง มี[หนาลานที่ ๔๔, น.๑๕๗] มีกิณรีแลนกเขียน๑ นกยูงทังหลายตางๆ ตั้งไวระหวางหนวันออก หื้อรักสา เฝาแหนเจติยะ ตราบ ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ ถึงกาละเมิ่อเดิน๒ ๔ เดิน ๕ เหมินดั่งจักขึ้นฟาทันใจ เหียดวาทิสะหนใด ก็ดีแล ฅนทงหลายกั ไหลเข ็ ามาไหว ปูชาเจตยธาติเจุา รุงเรงมากนิกแลัเหยดดีงอ ั่ ั้น อาจารยเจาจิ่งกาวคถาไววาสิงฺคุตฺตเร มโนรมฺม กกุสนฺธสตฺถา วา โห ธมฺมกรณํ ถเปสิฯ โกนาคมโน ธมฺมปวชาโต สุวณฺณทณฺฑํ ถเปติฯ กสฺสโป สิริสมฺปนฺโน สุวณฺณจีวรํ ถเปสิฯ โคตโม สาชฌ ปุ..กาโล พหิตาย อถเต สฺช ถเปติฯ จา อาโลเก มหาราช ธาตุโย อหํวนฺทามิสิรสา เตส เย คุเณน สพฺพทุกฺขา ปมฺุจิสามิดั่งนี้ชูวันชูฅืนไจๆ ก็เทยงจ ี่ กได ั ถึงสุข ๓ พระการ มีนิพพานเปนทแล ี่ ว บอยาชาแล ฯ กรียาสังวัณณนากาวยังอุปตติแหงสิงคุตตระ ดอยอันมีเมิงธัญญวตินคร ผูกถวนสอง ก็บัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ๑ นกเขียน - นกกระเรียน๒ เดิน - เดือน ๔๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ÇÑ´àªÕ§·Í§ ËÅǧ¾Ãкҧ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
àªÕ§¢Í§ ÀÒ¾ : ÊÁËÁÒ àÍÕëÂÇ»ÃдÔɰ
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๓ นโม ตสฺสตฺถุฯ เอกํสมยํสตฺถาเนยฺย ปาทวริกฺุจมโน ฯ สาธโว ฟงดราสูปปั ุริสะทงหลายัเอกํสมยํยังมสมียฅาบั๑สตถาฺสัพพญัู พระพุทธเจาตนเปนครูแกฅนแลเทวดาทังหลาย ก็บังเกิดกรุณาใฅสอนผวด สัตตโลวกท งหลายั ก็เอาหมูภิกขแลอรหุนตาทังหลายั มีมหาอานนทเถั ยรเปนต ี น ก็มากับดวยพระญาอินท ก็ถือเอาสัตตกั้งพายบน ก็จระเดินไปสูเมิงจันทปุรี แลวก ็ขืนมาสูขุนน้ํา คือวาเมงสิ ุวัณณภูมิแลวก ไปส ็เมู งจามปานคร ิแลวก ไปส ็ ู เมิงทวารวตินคร ก็ลําดับดวยเขามาดวยบานนอยเมิงใหยทังหลาย ก็ไปสูเมิง จันทปุรีแลวก็ขึ้นสูขุนน้ํา ก็มารอดเชียงของ แลวก็ออกมาถึงคะลาง ก็สั่งสอน ปนนสตตั ทังหลายมาชูที่ชูแหง ที่ควรหอเกสาธาต ืุ้ก็หื้อเกสาธาตุที่ควรไวประบาท ก็ไวประบาท หื้อฅนแลเทวดาทงหลายมาชั ูที่หั้นแลในเมอพระเจ ิ่ ามารอดเมงคางิ ที่นั้น ก็ไวประบาท แลที่นั่งที่อิง ควรอัสจัรยมากนัก ก็สระเด็จมารอดเชียงคูม ก็ไวเกสาธาตุแลวก็ทํานายวา [หนาลานที่๒, น.๓๙๙] กูตถาคตะนิพพานไปแลว ก็ขอเอาธาตุแลประบาทพระตถาคตะมาไวที่นี้เทิอะวาอั้น ฯ แลวก็สระเด็จมาดวยขุนแมน้ําอัน ๑ ก็มารอดสถานริมน ้ํ าท ี่ ๑ พระญานาค ก็ออกมาอุปฏฐาก อารักขทังหลายก็มาไหวนบ แลวก็ขอเอาธาตุแลประบาทไว เปนที่ไหวแลปูชาห ั้ นแล พระเจาก็ย่ําประบาทไวหื้อแกเขาทังหลายในที่นั้น แลวก็ทํานายวา ประบาทกูอันนี้จักไดชื่อวาประบาทผาโคม หมื่นชาแล ฯ พระเจาก็ทํานายไวแลวเอาพระญาอินทแลอารักขทังหลายก็เอาหิน กอนใหย ๑ มาถมถ้ําไวเพิ่อบหื้อสาธารณแกฅนพาลา แลสัตตทังหลายหั้นแล พระพุทธเจาก็มาสูดอยทัมมิละทังหลายห ั้ นแล ก็พลันมาดวยคําวา ดูราชาวเรา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๔๙
ทังหลาย พระพุทธเจาก็มาดวยระหวาง (ชองดอย) อันน ี้ ก็มาเมตตาเราน ี้ แล วาอนแล ั้ วเขากชวนก็นเอาเขัาน าโภชนะอาหารไปทานแก ้ํ พระพทธเจุาแลอรหัน ตาเจาทังหลาย แลวเขาก็ขอเอาประบาทหั้นแล พระพุทธเจาก็ย่ําประบาทไวหื้อ แกเขา แลวพระเจาก็ทํานายวา กูตถาคตะมารอดที่นี้เขาทังหลาย [หนาลานที่ ๓, น.๔๐๑] ก็มาจากันวา พระเจามาระหวางชองดอยอันน ี้ มาเมตตาเราแลวาอั้น ประบาทกูอันน ี้จักไดชื่อวาประบาทจิกจอง หม ื่ นชาแล ดอยอันนี้จักไดชื่อวา ดอยจอง หมื่นชาแล บานลัวะอันนี้จักไดชื่อวาบานชองวอง หมื่นชาแล ฯ พระเจาทานายสํนนัแล ี้ ว ก็สระเดจไปสประเท ู ยดที ี่ ๑ ก็เรงหนยังอารักขั ที่๑ เกียดกลารายมากนัก ในหัวน ้ํ าอันช ื่ อวาปุตตนทีอันมีหนอติกัมมะประเทียด เขยดอาณารีฏฐะตันดอยีเมงสิุง ที่นั้น แตปถมก ปปัมาหาผ ูจักสงสอนบ ั่ ได พระเจา ทังหลายฝูงลวงแลว เขาเจาทัง ๓ ก็บอาจจักสั่งสอนไดสักตน ก็เทาทํานายไวแก พระโคตมะเจา อาจจักสอนไดแทสิ่งเดียวชาแลวาอั้น ฯ พระเจาก็ตรัสรูแจงแลว พระเจาก็เอาอรหันตากับทังพระญาอินทไวที่๑ แลวเทาตน ๑ ตนเดียว พระเจา หากเขาไปส เขตแดนแห ู งยกขั ตัวนั้น แลวยกขั ตัวนนก ั้ ปสาทะส ็ ทธาในบ ัญค ุณแหุง พระพทธเจุา ก็เขามาตอนมารบพระพัทธเจุา แลวก ็กาวคาหํามพระเจาว า [หนาลาน ที่๔, น.๔๐๒] ทานมหาสรมณอย าได เข ามาในเขตแดนแห งขานเท ี้ อะิดอยอนปรากฏ ั พายหนาพุนน ั้ นแควนบัวรสุทธ ิ์ สวางใสมากนัก ทานจุงแอวไปพายหนาพุนเทิอะ วาอั้น พระเจาก็บฟง เทาโงม๑ เขามาแลว ไปสูเขตแดนแหงมันหั้นแล ยักขเสนา ตัวนั้น มันก็ลวดเคียดแกพระพุทธเจามากนัก ก็กะทําอิทธิรัทธีมีตนวาหื้อหาฝน เทารอนแลหาฝนไม ฅอนกอนดนตกลงมาิแลหาฝนหอกดาบ เฅงข ิ่ า อาวธตกลงมาุ แลกะทําห ื้อเปนไฟ เปนน้ํา เปนลมเขามาหาพระพุทธเจา กะทําก ั้ งบังเสห ั้ นแล ในเมิ่อพระเจาแลฅบงํา๒ รัทธีแหงตนมันเสแลวเขาไปดั่งอั้น มันก็กัวแตรัทธีแหง พระพทธเจุามากน ัก มันกมาก็มขาบแทบตนพระพีทธเจุาแลวขออไภยซ งพระพ ึ่ ทธเจุา หั้นแล พระพทธเจุาตนมมหากรีณาุก็เลาโลมย กขเสนาตัวนันห ั้ อย ื้ นดิแลี ว คือวา อสาสสะ ปสาสสะ๓ หื้อมันถวยใจเขาออกไดแลว พระเจาก็เอาหินกอน ๑ เปนรูป ๑ โงม, งอม - รี่เขาหา, ตรงเขาไปหา๒ ฅบงํา - ครอบงํา, ปกปอง, ปองกัน๓ อสาสสะ ปสาสสะ - อัสสาสะ (ลมหายใจเขา) ปสสาสะ (ลมหายใจออก) ๕๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ชางนอนมูบอยูเรียงกัน อันมี[หนาลานที่ ๕, น.๔๐๔] ที่ใกลฝงน้ํามุคตนทีที่นั้นแล ฯ พระพุทธเจาทังหลาย ๘ ตน ลวงแลวเทียวมาสํารานในที่นี้ชูตน พระพุทธเจา ไปนงอย ั่ ูที่นั้นหนแล ั้ อรหนตาแลพระญาอันทิ ก็รูกาละอนควรแลั ว ก็เขามาแวดลอม เปนปรวารแหิงพระพทธเจุาหนแล ั้ แมนยกขเสนาแลอารักทังหลายัเขากชวนก็นมาั ไหวแลปูชาพระพุทธเจาห ั้ นแล คันพระพุทธเจาน ั่ งอยูแลว ก็เหยียดตีนไปดวย คระแสทิสะหลาน ้ํ านั้น แลนอนหวายอุตมังคลสิสัง คือหัวไปทิสะหัวน ้ํ านั้น ก็จือลุกนั่ง หวายหนาไปทิสะวันออก แลวพระเจาก็เทสนายังทานกถา สีลกถา สกกถา ภาวนากถา แกยักขเสนาตัวหยาบชา แลอารักขแลเทวดาหั้นแล ฯ ในเมิ่ อยักขะแลเทวดาทังหลายไดฟงธัมมเทสนาแหงพระพุทธเจาแลว ก็บังเกิดใจปสาทะสัทธา แลเหล ิ้มใสในคุณแหงพระพุทธเจามากนัก แลวก็เอา สรณาคมนทัง ๓ ดวยคําวา อชฺช เก ทานุเปตํสรณํ คจฺฉามิดั่งนี้๓ ทีแลว พระพุทธเจาก็หื้อสรณาคมนแกยักขเสนา อันวาคําหยาบ [หนาลานที่ ๖, น.๔๐๖] ชา ละเสแลว พระเจาก็แยมใฅหัวห ั้ นแล มหาอานันทเถียรเจา ก็ไหวพระพุทธเจา ขอธมมเทสนาซังพระพ ึ่ ทธเจุาหนแล ั้ พระพทธเจุากเทสนาว็ าอานนฺท ดูราอานนทั สวนวายักขเสนาผูนี้แตกอนเม ิ่ อพระเจาตนช ื่ อกกุสันธะมาเมตตาส ั่ งสอนก็บได ก็เทามาน ั่ งแลนอนแลวสําแดงหัตถบาท เอามือเทาแลน ั่งไวหื้อเปนหัตถบาท สังเกียด๑ ไวแลทํานายไววา กาละพายหนายังจักมีพระเจาตน ๑ ชื่อวาโคตมะ วาอั้น จักมาส ั่ งสอนยักขเสนาผูนี้หื้อมีปสาทะสัทธาเหล ิ้มใสไปพายหนา หมื่นชาแล ทํานายสันนี้แลวก็สระเดจไปสูทิสะอันควรหั้นแล ฯ ในกาละนั้นไปหนา พระพุทธเจานิพพานไปแลวนั้น ยังมีพระเจาตน ๑ ชื่อโกนาคมนะ เกิดมาเปนครูแกลวกนั้น มาเมตตาส ั่ งสอนยังเสนาผูนี้ก็ยังบได จิ่งมาถปนนะต ั้งไวในที่นั่งท ี่ นอน หัตถบาท แลวทํานายพายหนายังมีพระเจา ตน ๑ ชื่อวาโคตมะวาอั้น จักมาสั่งสอนยักขเสนาผูนี้[หนาลานที่ ๗, น.๔๐๘] หื้อมีใจ ปสาทะสทธาเหลั มในพ ิ้ ทธสาสนาุหมนชาแล ื่ วาอนแล ั้ วก สระเดจไปส ็ ูทิสะอนควรั หั้นแล ฯ ๑ สังเกียด - สังเกต ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๑
ในกาละพายหนาแตพระเจ าโกนาคมนะน พพานไปแล ิวน ั้น ยังจกมัพระเจี า ตน ๑ ชื่อวากัสสัปปะวาอั้น ก็เกิดมาเปนครูแกโลวก ก็เขามาเมตตาส ั่ งสอน ยักขเสนาผูนี้ก็บไดพระกมาถป ็นนาต งไว ั้ ยังปลลงการั คือทนอน ี่ แลหตถบาทไว ั แลวทํานายวาพายหนา ก็ยังจักมีพระเจาตน ๑ ชื่อวาโคตมะวาอั้น จักมาสั่งสอน ยักขเสนาผูนี้หื้อเหลิ้มใสในแกว ๓ พระการ หมื่นชาแลวาอั้น ฯ แลวก็สระเดจ ไปสูที่อันควรหั้นแล ฯ อิทาเนน จอานนฺท ดูราอานนทั ในกาละบดนัพระตถาคตะตนม ี้ มหากรีณาุ ก็เขามาเมตตาส ั่ งสอนยังยักขเสนาผูนี้ ก็ไดถอดถอนเส ยังพิสอันราย คือวา มิจฉาทฏฐิ ิอันหยาบชาทารณนุนเสแล ั้ ว ยักขเสนาก็ถือเอาสรณา คือวาแกวท ัง ๓ เปนอันรูแลว ก็จักไดถึงสุขพายหนา บอยาชาแล วาอั้นแลวพระพุทธเจา ก็เอา มือเทาแลวนอน [หนาลานที่ ๘, น.๔๐๙] ซอนหัตถบาทแหงพระเจาทัง ๓ ไวแลวก็ ทํานายวา อานนฺท ดูราอานันทในกาละพายหนา พระเจาตนชื่ออริยเมตเตยยะ เจาเกิดมาเปนฅูแกโลวก ก็ยังจักมาหาท ี่ นอนแลวก็จักไวหัตถบาทฅบ๑ รอย พระเจา ๔ ตนนี้ชาแลแลวก็หื้อเปนรอย ๑รอยเดียว หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅน แลเทวดาทังหลาย หมื่นชาแล ฯ ดูราอานันท ยักขเสนาผูนี้มันก็ไดถือสรณาคมนแลว คันมันตายก็จักได เมอเกิ ดในกามวจรเทวโลวก ิ พุนชาแลอานนฺท ดูราอานนทั หินกอนน ี้จักปรากฏ ไดชื่อวาพุทธปลลังการชาแล ฯ ทาน้ําอันนี้ยักขเสนามากาวสกเสินยกยอ๒ วา เปนทาอันดีอันงามวาอั้น พายหนาจักปรากฏชื่ อวาทาวังเหลิ้ม หม ื่ นชาแล ฯ เม ิ่ อพระตถาคตะเอามือเทาแลวไวหัตถะรอยฝามือส ิ่ งเดียว บมีนิ้วมือ เทวดา อารักขทังหลายจากันวา พระเจาเทาพอไวรอยฝามือสิ่งเดียวแล (นิ้ว) มือบมีหั้น วาอั้น พายหนาในประเทียดที่นี้จักไดชื่อวากุลีประเทียด เขียดนานิ้ว วาอั้น หมื่นชาแล ฯ เม ิ่ อพระตถาคตะ [หนาลานที่๙, น.๔๑๑]) เขามาแตหัวทียักขเสนาบพึงใจ มันก็มาหามพระตถาคตะ จําห ื้อไปพายหนาวา ดอยพายหนาพุนเปนอันสูง ๑ ฅบ - ครอบ, ทับ๒ สกเสินยกยอ - สรรเสริญเยินยอ ๕๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
สวางใสงามมากนักแล ทานจุงไปเทิอะวาอั้น ดอยอันน ั้ นพายหนาจักไดชื่อวา เวลาปพพตา ไทยภาสาวาดอยพสวูางเมงสิูงวาอั้น พายลนจูกแผั ไปว า ดอย พูสะซาง เมงสิูง วาอนหม ั้ นชาแล ื่ ฯ ดูราอานนทั กูตถาคตะนพพานไปแล ิวดงอ ั่ ั้น ในที่นี้กูจักห ื้ อต ั้ งสาสนา ๕ พันวัสสา เพ ิ่ อห ื้อเปนที่พึ่งแกสัตตโลกทังหลาย หม ื่ นชาแล ฯ ในเมิ่ อกูตถาคตะนิพพานไปแลวได๒ พันวัสสาลวงแลว เขามา เขยดี ๑ ๓ พันวสสามั ในกาละเม ี อใด ิ่ ยักขเสนาผูนี้ก็จักเกดมาในเม ิงอินนั ี้จักไดเปน พระญาใหยในเมิงอันน ี้จักปสาทะสัทธาในแกว ๓ พระการมากนัก จักเขามา ปกสายังพุทธปลลังการ แลหัตถบาทอันประเสิฏอันน ี้ หื้อปรากฏลือซาท ั่วไป ในชมพุ ูชูแหง หื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูหมฅนแลเทวดาท ู งหลายัหมนชาแลว ื่ าอ ั้น พระเจาก็ทํานายสันนี้แลว ก็สระเดจไป [หนาลานที่๑๐, น.๔๑๓] เมตตาอารักข ทังหลายในเมงสิงทูี่นั้น คันพระเจาไปรอดแล วเทวดาแลอารกขั แลยกขะทังหลายั ก็มาไหวแลป ชามากนูกแลั ก็ขอเอาประบาทหนแล ั้ พระพทธเจุาก ็ย่ําไวยังประบาท ในถาอ ้ํ ัน ๑ มีในทสะวินออกชั วยหนใต แกประเท ยดที ี่นั้น เทวดากมาขอป ็ชาแกูว ๗ พระการ พระญาอินทก็เจาะประทีด๒ ปูชาไวหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็สระเด็จไปสูดอยผาชอ ที่นั้น แลวก็ย่ําประบาทไวในดอย ผาชอท ี่นั้น หื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูฅนแลเทวดาอารกขั ทังหลาย ฯแลวกสระเดจ็ ไปสดอยท ู ี่ ๑แลวพระเจาก ็นั่งอยเหน ู อดอยิ ก็แยมใฅ หัวหนแล ั้ มหาอานนทเถัยรี เจาหัน ก็ไหวพระพุทธเจาวา ภนฺเต ภควา ขาแดพระพุทธเจา ขอพระพุทธเจา จุงเทสนาแกขาแดวาอั้น พระพทธเจุากเทสนาว็ า อานนฺท ดูราอานนทั ดอยอนนั ี้ วิเสยดแทีแลกูตถาคตะกได็มาเก ดเปนป ิ ูฅําอยในท ู องดอยท ี่นี้เมอก ิ่ อนแลเลยงช ี้ ีวิต อยูในหวยที่นี้เม ิ่ อกอนแล [หนาลานที่๑๑, น.๔๑๕] ดูราอานันทกูตถาคตะนิพพาน ไปแลว จุงเอาธาตุกูตถาคตะมาจุไวที่นี้เทิอะ พายหนาจักไดชื่อวาดอยฅํา พายลูนจักแผไปชื่อวาดอยธาตุปูฅํา หมื่นชาแล ฯ พระเจาทํานายสันน ี้ แลวก็สระเด็จไปสูดอยมหิยังคะ ประเทียดเมิง วิเทหะหั้นแล ดอยมหิยังคะที่นี้เปนสัณฐานอันวิเสียดนัก ยังมีแมน้ําอัน ๑ ชื่อวา ๑ เขียด - เขต๒ เจาะประทีด - จุดประทีป ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๓
มหิยังคนทีวาอั้น ก็ไหลมาผาเมิงอันนี้ก็ไหลไปตามคระแส แลวสะเพราะนอม เขามาส ูตีนดอยมหิยังคปพพตานนถ ั้ วนส ี่ทิสะ แลวจ งไหลไปห ิ่ นแล ั้ ดอยมหิยังคะ ลูกนนก ั้ ็หันกางแมน้ําอยเหม ู นดิงหล ั่ งเรัอฅิานํ ั้น เอาทายไปท สะวินตกัเอาหวเมัอวิ ัน ออกห ั้ นแล แมน้ํามหิยังคะประเทียดท ี่กางใจแหงดอยลูกน ั้นเปนวังน ้ําใหยนัก เปนที่ อยูแหงพระญานาคห ั้ นแล ท่ํากลางดอยมหิยังคะ แจงทัดพายแมน้ํานั้น ยังมีอุททกปปะุน้ําบออ ัน ๑ กมมนเปนดงเด ั่ นเพงิ ๑ นั้น จักมไมี ไผกอ๑ไมไลกวาง แลต ั้ งอยูทิสะวันตกแหงน ้ํ าบอ[หนาลานที่๑๒, น.๔๑๗] ที่นั้น มีขอป นลงพายต่ํา ไมไล กอนั้น เหยดอรหีนตาเจัาตนช ื่อคิลิมานเถยรีหากอทฏฐานปล ิ กไูวมีที่ตีนดอยสุด เอาปายลง เอาเคาขึ้นแล ยังมีไมซางกอ๑ ตั้งอยูจอมดอยที่นั้น ก็ปนเคาขึ้นปาย ลงด ั่ งเกา เหียดอรหันตาเจาหากอทิฏฐานปลูกไว ก็มีหัวดอยสุดกล ้ํ าวันออก หั้นแล ฯ ยังมีสัตตน้ํา ๓ อันตั้งอยูหัวดอยที่นั้น ยังมีแมงดาสองตัวผัวเม๒ ก็มาอยู สระที่นั้น มีหัวกวางเทาผืนสาด๓ แล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีปลาไนฅําสองตัวผัวเม ใหยเทาลําเริอนี้แล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีปลาชอนฅําสองตัวผัวเม ใหยเทาลําตาล ก็อยูในสระที่นั้นหั้นแล ฯ บเทาแตนั้น ยังมีเหยี่ยนพอน๔ สองตัว ใหยเทาลําตาล ยาว ๗ วา ก็อยูในสระที่นั้นแล ฯ พอยมีงูสิงสองตัวผัวเม ใหยเทาลําตาลดั่งเกา ชื่อวามหาราชะ ก็อยูทิสะทองดอยกล้ําวันออกหั้นแล ดอยอันนั้นก็เปนที่อยูแหง สัตตตัววิเสียดทุกเมิ่อแล ฯ สตฺถา วมาน กาเล ในกาละเมิ่ อพระพุทธเจาตนเปนครูแกฅนแลเทวดา [หนาลานที่๑๓, น.๔๑๘] ยังธอระมานตั้งอยู ไปเขาสูนิพพานเทิ่อวันนั้น ยังมีอรหันตา ขีณาสวะเถียรเจาตน ๑ ชื่อวาคิลิมานเถียรวาอั้น ก็เทียรยอมอยูสํารานสาง วิเวียกในดอยมหิยังคปพพตะที่นั้น ดอยมหิยังคะที่นั้นก็บัวรมวณงามมากนัก เหมินดั่งเริอฅํานั้นแล ฯ ๑ เดินเพง - เดือนเพง, เดือนเพ็ญ๒ เม - เมีย๓ สาด - เสื่อ๔ เหยี่ยนพอน - ปลาไหลเผือก ๕๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ภควา สปฺปติในเมิ่ อพระเจาตนมีภาคยะอันงาม แลสระเดจมารอดดอย มหิยังคปพพตาที่นี้ มหาคิลิมานเถียรเจา ก็รูวาพระเจามาเมตตาในที่นั้น เจาก็ เขาไปตอนไปรับ แลวก็ไหวนบครบยําแยง ปทักสิน๑ คารวะแลว ก็ขอพรซึ่ง พระพุทธเจา มักวาขอเดินเทียด๒ เอากอนเขามาทานแกพระพุทธเจาตนนั้น พระเจาก็หื้ออนุญาตหั้นแล ตกวันลูนนั้นเจาก็ไปจระเดินเอาเขาปณฑิบาตมาหื้อ เปนทานแกพระพุทธเจาชูวัน ดวยอันครบยําแยงมากนักหั้นแล ฯ พระพุทธเจา ก็รับเอาเขาปณฑิบาตแหงคิลิมานันทเถียร แลวพระพุทธจาก็สันเขาปณฑิบาต อันนั้น แลวเขาน้ําโภชนะอาหารอัน [หนาลานที่ ๑๔, น.๔๒๐] เสสเหลือนั้น พระเจา ก็หื้อแกสัตตทังหลายอันอยูในน้ํา ในบกที่นั้นกินเส ี้ ยงห ั้ นแล เย สตฺตา อันวา สัตตทังหลายฝูงนั้น ไดกินยังเขาอันพระเจาห ื้ อหั้น สัตตทังหลายฝูงน ั้ นก็มีอายุ ยืนยาวมากนักหั้นแล ฯ ภควา อานนฺท อมนฺเตสิในเมิ่อพระเจาสันเขาแลว ก็ปากตานเจียรจากับ ดวยอานันทเถียรวา อานนฺท ดูราอานันทยสฺมา คิลิมานนฺทเถโร อันวามหา คิรินันทเถียรตนน ี้ ทานก็อยูสางวิเวียก๓ ในดอยมหิยังคะที่นี้ ก็เปนอันดีนักแล มยิปรินิพฺพุเต อานนฺท ดูราอานันทมยิในเมิ่อกูพระตถาคตะแลตั้งอยูนานเสี้ยง ๕ พันวสสาบัวรมวณเตมั ปรินิพฺพุเต นิพพานไปแลวดงอ ั่ ั้น อิทํฐานํอันวาสณฐานั ที่นี้เปนอันวิเสียดนัก ควรเอาธาตุพระตถาคตะตั้งไวในที่นี้หื้อเปนที่ไหวแลปูชา แกหมูฅนแลเทวดาทังหลายเทิอะ ฯ พระการ ๑ เมิงมหิยังคะที่นี้ พระพุทธเจาทังหลายอันลวงแลวไปนั้น เขาเจาก็ยอมมาเมตตาในดอยมหิยังครัฏฐะที่นี้ชูตนแล พระเจากกุ [หนาลานที่ ๑๕, น.๔๒๒] สันธะ โกนาคมนะ กัสสัปปะ แลในเมิ่อพระเจากกุสันธะไดตรัสประหญา สัพพัญูเปนฅูแกโลวกกอนทานทังหลาย ก็มาเมตตาในดอยมหิยังคะที่นี้ ก็มาเทสนาธัมมสําแดงทานกถา สีลกถา สกกถา ภาวนากถา แหงฅนแลเทวดา ทังหลาย แลวพระญาตนเปนเจ าเปนใหย ในเม งทิ ี่นี้ก็บังเกดยิงราชสัทธามากนั ัก ก็มาสละหอย ื้ งราชสั มปัตตแหิ งตนเปนทานแก พระเจากก ุสันธะดวยปสาทะส ทธาั ๑ ปทักสิน - ประทักษิณ, การเดินเวียนขวาเพื่อแสดงความเคารพอยางสูง๒ เดินเทียด - เดินเทสาตรี, เดินทาง๓ วิเวียก - วิเวก, สถานที่อันเงียบสงบ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๕
แมนลาภะสักการอันนั้น มีเขากลาไรนาเปนตน ก็เวียนห ื้ อทานแกเจติยธาตุเจา ตราบตอเทาเสี้ยง ๕ พันวสาเปนที่แลวหั้นแล ฯ ถัดนั้น พระโคตมะเจาเกิดมาเปนฅูแกโลวกทัง ๓ ก็เขามาเมตตาในดอย มหิยังคะนี้สิ่งเดยวี พระญาตนเปนเจาเมงทิ ี่นี้ก็ไดฟงธมมเทสนาแหั ง [หนาลานท ี่๑๖, น.๔๒๔] พระโคตมะเจา ก็บังเกิดสัทธามากนัก ก็สละห ื้ อยังราชสัมปติแหงตน เปนทาน ตราบเมี้ยนสาสนาหั้นแล ฯ ในเมอพระเจ ิ่ าก สสปะเก ัดมาิ ก็มาเมตตาในดอยที่นี้พระญาตนเปนเจาเม ิง ที่นี้ก็ไดฟงธัมมเทสนาแหงพระเจากัสสปะตนนั้นแลว ก็มีใจชมชื่นยินดีก็มาหื้อ ราชสมปัตต ิบานเมงแหิ งตนเปนทานแก พระเจาเลาแลตราบเมยนสาสนา ี้ ก็มีแลฯ อานนฺท ดูราอานันทในเมิ่อพระตถาคตะไดตรัสประหญาสัพพัญูแลว ยังมีในกาละฅาบ ๑ พระตถาคตะก็เขามาเมตตาในดอยมหิยังคะที่นี้พระญาตน เปนเจาเมงทิ ี่นี้ ชื่อวานราสมลราชุตนนั้น ก็ไดฟงธมมเทสนาแกั กูตถาคตะดงอ ั่ ั้น พระญาตนนนก ั้ ็บังเกดราชสิทธาั ก็สละหอย ื้ งเัขาของบานเมงแหิงตนห อเปนทาน ื้ พระตถาคตะ วันนั้นแล เหียดดั่งอั้น ลาภะสการสวยไร ก็นอมหื้อเปนทานแกกู พระตถาคตะเสมิอด ั่ งลาภะสการอันพระญาหากห ื้อไดทานน ั้ นแล แตกาละนั้น พระญาก็สละหื้อยังราชสัมปตติ[หนาลานที่๑๗, น.๔๒๕] ปูชาพระตถาคตะ เมิงอันนี้ จิ่งจักปรากฏชื่อวามหิยังครัฏฐา เพิ่ออั้นแล ฯ ดอยอันนี้จักเปนที่พระตถาคตะ มารบเอาทานั คือลาภะสการบานเมงทิ ี่นี้จิ่งจกปรากฏช ัอว ื่ าดอยมหิยังคปพพตา เพออ ิ่ นแล ั้ แมน้ําอนไหลเข ั ามาในดอยมห ิยังคะที่นี้ก็จักปรากฏชอว ื่ ามหิยังคนที เพิ่ออั้นแล ฯ อานนฺท ดูราอานันทในเมิ่อพระตถาคตะนิพพานไปแล ธาตุพระตถาคตะ ก็จักมาต ั้ งอยูรุงเริงงามในดอยมหิยังคะที่นี้ เสมิอด ั่ งพระตถาคตะยังธอระมาน ตั้งอยูบัดน ี้ แล แมนลาภะสการสวยไรในเมิงอันน ี้ ก็จักนอมมาถึงชินธาตุ พระตถาคตะในดอยมหิยังคะที่นี้ เสมิอด ั่ งสวยไรแหงทาวพระญาตนเปนเจา เปนใหยในเม งทิ ี่นี้ตราบเมยน ี้ ๕ พันวสา หมนชาแล ื่ กรยาอีนทานสันนั ี้ก็หากเปน ปเวณีแหงพระพุทธเจาแตกอนชูตนแล ฯ ๕๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
มหิยงฺครเฐ อโถ โจทโก คําโจทนาวามหิยังคราชมีรัฏฐะอั้นชะรฤนั้นชา ปริหารโก อันวาปุคละผูจักแกเพิงกาววา [หนาลานที่ ๑๘, น.๔๒๗] ดั่งนี้มติสทฺทา บอกอตถคัณอุนมากัเหยดแผีนด นหนาได ิสองแสน๔ หมนโยชนะ ื่ มีน้ําสัทธารน สมุททเปนแดน เทียรยอมทรงวัตถุทังมวร มีตนวาหินผาพูดอย ตนไมตนหยา แลเฅอเืขาเถาวลยั ทังหลายแล สัตตคณา ฅนทงหลายไว ัแลทรงสพพะพัชชะริายด ี ทังมวร บรูหวั่นไหวหลุพังสักฅาบ เหียดดั่งอั้น มติทานิมีคุณอันมาก เพิ่ออั้นแล มหิอันวาแผนด ิน มีคุณอนมากัมหตลาิ อันวาแผนดนหนาสองแสนิ๔ หมนโยชนะ ื่ เพ ิ่ ออ ั้ นแล อ สัททา บอกอัตถะอังคทานอันประเสิฏ องฺคทานํ อันวาห ื้ อทาน อันประเสิฏ องฺคทานํ มักหื้อทานอันประเสิฏ ยํองฺคผล อันมาก องฺคทกฺขิเนยฺย อคทํทกฺขิเนยฺยํ มีอัตถะอนเดัยวกีนแลัรตฺถ สัททา มีอัตถะควรชมชื่น ชร สัททา บอกอันควรยินดีสต ฅนทังหลาย เหียดดั่งอั้น รฐา สัททาแลราชสัปปทา แลมี อันเดียวกันแล รฐ สัททา ในราชสัมภาระแลราช สับทา ไดราชสัมปตติอันเปน กิเลสกามแล วัตถุกามแล เหียดด ั่ งอ ั้ นพระญานราชา สุมณราชา [หนาลานที่๑๙, น.๔๒๙] ร่ําพึงหันโทสในราชสัมปตติอันเปนกับดวยกิเลสธัมมจักนําเอาตนเขาสู อบาย กัวเปนเภยยะพายหนา จิ่งลาพ ่ํ งหึนสั ขในชุนฟั้ า อันเปนแกนเปนสารย งน ิ่ ัก จิ่งสละห ื้ อยังราชสัมปตติเปนอุตตมทาน เพ ิ่อปูชาธัมมแหงพระพุทธเจาอันเปน อรหันตา อปริมาน หาที่สุดบได ก็มีแล ฯ เหียดด ั่ งอ ั้ นอาจารยเจา เอา มหิ สัททาบอก ประกอบดวยอังคสัทธา มหิสัทธา เปนปุพพภาวะบ ั้ นตน เอา องฺค สัททา มาต เปนคุตบท กฏห ื้อเปน สมัสสบาท ลุบวิภาติ ๑ เส ลงอาคม ปุพพนยสุองคสัททา เปน มหิยงฺค แล พระกอบดวยรัฏฐสัททาอทฺธิตาลงวิภาต ดวยสูต ตาม ทพพลฺ ิงฺค อันควร ก็จักเปน มหยงิคร ฺ ฐ เพออ ิ่ นแล ั้ มหยงิคร ฺ ฐสท ทาฺ เปนเมิงอังคทา ก็เปนอันประเสิฏนักแล ฯ ดูราอานนทะั ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปแล ิวน ั้น สูจุงเอาธาตุดูกตนผมกีู มาตงไั้ วเพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แลป ชาูแกหมฅนแลเทวดาท ู งหลายเทัอะิ วาอนห ั้ นแล ั้ มหาอานันทเถียร [หนาลานที่๒๐, น.๔๓๑] ไดยินธัมมกถาแหงพระพุทธเจาแลว ๑ วิภาติ - วิภัตต, ิ ชื่อไวยากรณภาษาบาล ีสําหรบแจกศัพทั โดยเปล ยนท ี่ ายค าใหํ มีรูปตางๆ กัน เพื่อบอกการกและกาล เปนตน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๗
ก็เอาเทสนาซ ึ่ งพระพุทธเจา แลวพระพุทธเจาก็เอามือลูบสิสมังคละแหงตน ก็ไดเกสาธาตุ๔ องค หื้อแกอานันทเถียร กับทังพระญาอินทหั้นแล ทีนั้น มหาอานนทเถัยรกีบทังพระญาอันทิ ก็เอาจไวุในดอยมห ิยังคะที่นั้น แลวพระพทธเุจา ก็เอาอรหันตาขีณาสาวกะ สระเดจเขาไปสูเมิงราชคหะ ก็มีวันนั้นแล ฯ ตโต ปตฺถาย แรกแตนั้นไปหนา พระพุทธเจาก็ธอระมานตั้งอยู ผวดสัตต ทังหลายไปไจๆ ถึงเมิ่ออายุได๘ สิบ ก็ปรินิพพานไป แลวก็อทิฏฐานไวธาตุแล ชินเกสาธาตุแลสาสนา น้ําธัมมคําสอน แลสาวกะสังฆะ อันเปนลูกสิกขอยูเฝา ผวดสัตตทังหลาย ตราบตอเทาถึง ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ สตฺตสตฺตมสฺส ปฺจสาวสา วยน ปรินิพฺพุโต ภควาติในกาละเมิ่อพายลูน พระพุทธเจานิพพานไปแลวนานได๔ สิบปลีปาย ๗ เดิน ปาย ๗ วัน แลมี ในกาละเมิ่อใด ในกาละเมิ่ อนั้น วันเดิน๑ เจียงเพง ยังมีอรหันตาขีณาสาวกะ มหาเถียรเจา [หนาลานที่๒๑, น.๔๓๓] ๔ ตน ตนเปนแกเปนประธานนั้น ชื่อวา อานันทิญาณเถียร ฯ ตน ๑ ชื่อโสภิตเถียร ฯ ตน ๑ ชื่ออณเถียร ก็มีแล ฯ มหาเถียรเจาทัง ๔ ตนนั้น ก็ไดฟงคําสอนแหงพระพุทธเจาสั่งไวนั้น ก็ชวนกัน เอาดูกตีนผม แลดูกหนาผากแหงพระพุทธเจา กับทังเกสา ๔ องคแลวก็เขามา รอดมาถึงดอยมหิยังคปพพตะที่นั้นหั้นแล ฯ สวนมหาคิริมานันทเถียรตนอยูกอนนั้น ทานก็หนีจากที่นั้นไปอยูที่ ๑ ก็ลวดปรินิพพานไปตามบุญเขตแหงตน ก็ละเสนาสนะที่นั้นหั้นแล มหาเถียรเจา ทังสี่ ก็บหันคิริมานันทเถียรเจา เขาเจาทังสี่ก็เทามาหันที่อันคิริมานันทเถียรเจา อยูสางเมตตาภาวนานั้น เหยดที ี่อันเจาอยเมตตาภาวนาน ู ั้น หากปกไมูไล ไวกอ๑ ขางน ้ํ าบอพายวันตกน ั้ นแล มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน ก็กฎหมายรูวาเปนที่ อยู คิริมานันทเถียรเจา เหียดวาไมไลกอนั้นเปนสักขีเพิ่ออั้นแล ฯ พระการ ๑ นราสมโลปุแมนพระญานราสมราชาตนหุออ ื้ งคทานอั นประเส ั ิฏ ปูชา [หนาลานที่ ๒๒, น.๔๓๔] พระเจาดวยราชสัมปตตินั้น ฅ่ําชราแลว คันเสี้ยงอายุ จุติตายก็ไดเมืิอเกิดสวัรคเทวโลวกหั้นแล ฯ ๑ เดิน - เดือน ๕๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ในเมอมหาเถ ิ่ ยรเจีาทงสัตนน ี่ นแลน ั้ าเอานลกธาตํุ ๑แลเกสาธาตุมารอดที่นั้น ยังมพระญาตนี๑สวยราชสมปัตตแทนเมิงมหิ ิยังครฏฐะทั ี่นั้นหนแล ั้ พระญาตนนั้น ชื่อวาสุรังคปติราชา แลพระญาสุรังคปติตนนั้น ก็หากเปนขัตติยราชวงสาแหง พระญานราสุมราชาตนนั้นแล ฯ โส สุรงฺควติราชา อันวาพระญาสุรังควติตนนั้น ก็มีบุญสมพารอันมาก มีสัทธาเหล ิ้มใสในคุณแกว ๓ พระการมากนักห ั้ นแล มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน นําเอาเกสาธาตมารอดแลุว ก็ขึ้นเมอเมตตาพระญาสิ ุรังคปตนคริ หื้อไหวหั้นแล ฯ ราชาปสวนอันวาพระญาสุรังควติคันวาไดรูไดหันแลว ก็มีใจชมชื่นยินดี แลวก็ไหวธาตุพระพุทธเจา คือดูกตีนผมหนาผาก แลเกสาสี่องคนั้นแล ก็บังเกิด ปสาทะสทธาั โสมนสสะมากนักแลั ก็สักการะปชาูปรมามสสาิ [หนาลานท ี่๒๓, น.๔๓๖] ทังมวร ดวยใจอันออนนอม แลวก็ปกปาวเสนาอามาตยปชานราสฏรทังมวร หื้อไดรูไดหัน แลวสพเพรฐาอันวาชาวบานชาวเมงทิงมวรัเขาก็รูวาอรหนตาเจั า นําเอาธาตุพระพุทธเจาเขามา เพ ิ่ อจักห ื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดา ทังหลายวาอ ั้น ฅนทงหลายกั ็บังเกดโสมนสา ิชมชนย ื่ นดิมากนีกแลัเขากชวนก็ ัน ขงขวายหาวตถัเขุาของงนฅึ ําเฅงอาภารณะ ิ่ เขาตอกดอกไม คันธะของหอมตางๆ มาแตทิสสะ อนุทิสสะมากนัก ก็มาไหวแลปูชานลาฏธาตุเปนเกสาธาตุเจา มากนัก ก็มีหั้นแล ฯ มหาเถียรเจาทัง ๔ ตน ก็กาวซึ่งพระญาสุรังควติดั่งนี้วา มหาราชา ดูรา มหาราช นลาฏธาตุ เกสาทัง ๔ อันนี้พระพุทธเจาตนประกอบดวยมหากรุณา เมอท ิ่ านยงธอระมานัจระเดนผวดสิตตั ทังหลาย ก็ไดมาอย ูสําราน ในดอยมหิยังคะ ที่นี้ พระญานราชาตนเปนปตุปตาแหงมหาราช ก็บัง [หนาลานที่๒๔, น.๔๓๘] เกิดปสาทะสัทธาก็มาสละอังคะทานอันประเสิฏ คือวาสละยังราชสัมปตติปูชา ยังอนันตาธิคุณแหงพระเจาตนประเสิฏ บเทาแตนั้น เทวดาแลยักขะ อารักข แลฅนทังหลายก็มีใจปสาทะสัทธาฟอมกับพระญามหานราสุมลราชาเจาตนนั้น แลวก ็ฟอมกนปั ชาสการะไหวูนบฅบยาแยงอํ ปปถากยุงพระพัทธเุจา ดวยอนฅบยั ํา มากนัก แลวพระพุทธเจาตนมีมหากรุณาอันมาก ก็มาเลงหันดอยมหิยังคะที่นี้ ๑ นลกธาตุ - นลาฏธาตุ, กระดูกหนาผาก ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๕๙
วิเสียดนัก ควรต ั้งสาสนาไปพายหนา จิ่งจากับดวยมหาอานันทเถียร ตนเปน ภัณฑาริกะวา ดูราอานันทในสัณฐานดอยมหิยังคะปพพตาที่นี้วิเสียดนัก เปน เหยดหีอต ื้ งสาสนาแล ั้ ธาตุกูตถาคตะ มาถปนาตงไว ั้ หื้อกานกงรุ งเร ุ งไปพายหน ิ า ตราบเมยน ี้ ๕ พันวสสาัหมนชาแล ื่ กูตถาคตะนพพานไปแล ิวดงอ ั่ ั้น ทานทงหลายั จุงจกเอาัธาตุดูกหนาผากตนผมีแหงพระตถาคตะ มาถปนาตงไั้ วในดอยมห ิยังคะ ที่นี้ หื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดา [หนาลานที่ ๒๕, น.๔๔๐] เทิอะวาอั้น พระมหาเถียรไดยินแลว ก็มีใจชมชื่ นยินดีมากนัก ก็ลวดไหวแลขอเอาธาตุ ซึ่งพทธเจุา พระเจากเอาเกสาธาต็ ุหื้อสเส ี่ น เพอไว ิ่ พระจ ุกับนลาฏธาตุนั้นหนแล ั้ ฯ ในกาละนั้น พระพุทธเจาก็นิพพานไปหนแล ั้ ฅนทงหลายคั ันไดยินคําสอน พระเจาเยิ่งนั้น ก็ชวนกันนําเอานาลาธาตุ๑ แลเกสาธาตุสี่เสนนี้เขามายอสําแดง เมตตามหาราชเปนเคา แกอามาดแลราชมุนตรีทังหลาย หื้อไดฟอมกันไหวแล ปูชา ตามราชสัทธาแกมหาราชแลเสนาอามาตยราชมุนตรีทังมวรเทิอะ แลวเรา ทังหลายก็ชวนกันมาจุไวกอเปนมหาเจติยหัตถสรัสสะ ถปนะธาตุหื้อเปนที่ไหว แลปูชาแกหมูฅนแลเทวดาทังหลาย ตราบตอเทา ๕ พันวสาชาแล ฯ ตํสุตฺวา ราชา เมิ่อนั้นพระญาสุรังควติราชา ไดยินคํามหาเถียรเจาเมตตา สันนั้น พระญาก็มีใจชมชื่ นยินดีแลวก็ไหวมหาเถียรเจาทัง ๔ ตน วา ภนฺเต ขาแหงเจากูสาธุเปนอันดีนักแล [หนาลานที่๒๖, น.๔๔๒] ผูขาก็จักปฏิบัตตาม โอวาทะคําสอนเจากูก็จักบไดกะทํากุสลบุญอันย ิ่ งนักชาแล เทาจ ิ่ งห ื้ อขากะทํา สักกระปูชาดวยวัตถุเขาของเย ิ่งใด หื้อสมควรแกชินธาตุเจาน ี้ ชา ฯ เม ิ่ อนั้น มหาเถียรเจาทังส ี่ ตน จิ่งจักสําแดงบุญแลคุณแหงพระพุทธเจาดวยอันหยอแล แควบ จิ่งกาววา ปสตํอสงฺเขยฺโย เนวกปฺป สตสหสฺสา ปานิปารมิโย ปเรตฺวา สมฺมาสมฺโพธิคตา อานนฺต ปถารคุณํนมสมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺตํคุณวํดั่งนี้ฯ มหาราชา ดูรามหาราช สมมาสมฺ ฺพุทฺโธอันวาพระพทธเจุาแหงเรา ตนตรสรั ู เญยยธัมม๔ พระการ คือวาสังขาราเญยยะ ๑ วิการเญยยะ ๑ ปนาหิเญยยะ ๑ นิพพานเญยยะ ๑ เปนถวนสี่ ดวยดีปูเรตฺวา ก็พ่ําเพงหอมหยับมาไจๆ ปารมิยา ยังปารมี๓๐ ทัด กับทังปญจมหาปริจาคะ ทาน ๕ พระการ กับทังสุจริตธัมม ๑ นาลาธาตุ - นลาฏธาตุ, พระธาตุกระดูกหนาผาก ๖๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
๘ พระการ แลปราถนาไวนานได๗ [หนาลานที่๒๗, น.๔๔๔] สงไขย ปายลาน มหากัปปแล ปราถนาออกปากได๙ อสงไขย ปายแสนมหากัปปแลวปราถนา เปนพระดวยตน ดวยปาก ดวยใจ ไดลัทธพยากรณะ ได๙ อสงไขย ปายแสน มหากปปั ทังมวร นับแตทานปราถนาเปนพระหวทั ีนั้น นับมานานได๒๐ อสงไขย ปายแสนมหากัปปแลว จิ่งไดตรัสประหญาสัพพัญูดวยตน ดวยดีแลวจ ิ่งได ชื่อวาพระพุทธเจา ตนมีคุณอันกวางขวาง หาที่สุดท ี่ เม ี้ ยนบไดสกฺการปูชา มหนฺตํคุณสาวํพระเจาแหงเราตนทรงคุณ หาปุคละผูจักเผียบเทียมบไดแล ฯ ดูรามหาราช ฅนแลเทวดาทงหลายอันจักถมนาคัุณ๑แลสกกระป ัชาหูอสม ื้ หื้อควรแกคุณอันย ิ่งโยดแหงพระพุทธเจานั้น ก็จักมีในโลวกนี้ แล ฅนแลเทวดา ทังหลายกควรขงขวายหาตามอ็นควรั ปูชาแลสการไดสิ่งเดยวแลวีาอ ั้น มหาเถยรเจี า ทังหลาย ก็สําแดงบญค ุณอุนประเส ัฏแหิงพระพทธเจุาดวยอนหยัออนแควบแลั ว เพอห ิ่ อพระญาส ื้ ุรังควตราชากดหมายริ ูยังหตถกมัลละอุนควรั เปนที่ [หนาลานท ี่๒๘, น.๔๔๖] ตั้งสําราน อันประกอบดวยเฅิ่งปูชาสการทังมวรแกพระญาสุรังควติราชา ดั่งนี้ชูพระการหั้นแล ฯ โสราชาปสวนวาพระญาสุรังควติตนนั้น ก็รูแจงกิจการทังมวรแลว จิ่งหา นายเลมนายสางฝ งจลาดมาแลูว ก็หื้อมาสงรอมเอาวัตถั ุทังหลายตางๆแลวพระญา ก็นํามายังอูบแกวนั้นใสธาตุนั้น ก็เอาใสในอูบคํานั้นเลา จิ่งเอาใสในไหจีนลูก ๑ แลวก็เอาแกวแหวนงึนฅํา ในใสไหหั้นเลา เขาของทังมวรอันควรคาสี่แสนฅําแล บเทานั้น พระญาก็จือมาแตงแปงเฅิ่งปูชาทังหลายตางๆ เปนตนวาเบ ๒ หมื่น หมากหมื่น งึนฅํา กับทงเฅั งปิ่ ชาทูงหลายตัางๆแลวก ็หื้อเพนข ิ่ ดเผุยวถางชอนเช ี้ ิก ในดอยมหิยังคปพพตาที่นี้ หื้อราบเพียงเลียงงามบัวรสุทธ ิ์ แลวก็ขุดท ่ํ ากาง ยอดดอยที่นั้น ลงลึกไดสีสิบ [หนาลานที่๒๙, น.๔๔๗] สอก แลกวางตามอันลึก แลวก็ชําระบัวรสุทธิ์แลว ก็เอาผาสังฆาฏิผืน ๑ ลงปูไวแลวก็เอาเฅิ่งปูชาสการ ทังมวร อันฅนทังหลายมาสะเฟาะ๓ ชินธาตุเจาน ั้นใสในไหทังมวร แลวก็เอา อูบแกวธาตุเจา แลต ั้งไวเหนิอผาสังฆาในท่ํ ากางเฅ ิ่งปูชาทังมวร แลวเทวดาแล ๑ ถมนาคุณ - ตอบแทน, บูชาคุณ๒ เบ - เบี้ย, หอยเบี้ย๓ สะเฟาะ - (ฉับเพราะ) เฉพาะ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๑
ฅนทังหลาย แลอารักยักขะกุมภัณฑะทังหลาย เขาก็มาตีตุริยนุนตรีสงเสียบปูชา พรอมกันเม ิ่ อเดียว เปนอุกขะหลุกมี่นันสน ั่ นกอง สาธุการมากนัก ก็มีในกาละ เมิ่อนั้นแล ฯ เม ิ่ อน ั้ นพระญาอินทแลอรหันตาเจาทังหลาย ก็แปงยนตผา ไวทังสี่ดาน แลวก็แปงวิหารหลัง ๑ โกมไวแลวกอเจติยฆรัง โกมพายบนแหงแผนหินอันนั้น เพิ่อหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายก็มีแล ฯ ในเมิ่อพระจุกอแลวดั่งอั้น อรหันตาเจาทังหลายก็มาเลงหัน อนาคเตกาเล อันจกมาพายหนัาแจงแล ว ก็ทํานายทวายไววาอตเติเทวสหสฺสาฺดั่งนี้วาในเมิ่อ สาสนาพระเจาแลขามลวงพนไปได๒ พันวสา มารอด [หนาลานที่๓๐, น.๔๔๙] มาถงแลมึกาละเมี อใด ิ่ ในกาละเมอน ิ่ ั้น อิทํ มหยงิคร ฺ เฐอันวาเมงมหิ ิยังครฏฐั ที่นี้ อภิสุก็จักเกิดเปนเภยยะ ฅนทังหลายก็อยูบไดก็จักหางสูญเสีย หมื่นชาแล ฯ พายลูนแตนั้น นลาฏธาตุเจา ก็กะทําอิทธิรัทธีผายปฏิหารญรุงเริงปรากฏ แกเทวดาฅุด นาคทงหลายมากนั ัก หาเภยยะบได ฅนทงหลายกั ็จักมาหนสันนั ั้น ก็จักมาตั้งอยูแลวสักกระปูชาเอาธาตุเจาเปนที่จั้งที่พึ่งไจๆ เลา ยามนั้นบานเมิง ก็จักกานกุงรุงเริงมาเลา ในกาละนั้น นาไรหลวงกวางประหมาน ๙ หวางฅอน ยาวก็เทากัน เปน ๔ แจง มีทิสะหนเหนิอชวยวันตกแหงดอยมหิยังคะที่นั้น มีอางฅําลูก หนักน้ํามี๔ แสน ก็ตั้งอยูกางนาที่นั้นแล ยังมีไหฅําสี่ลูก มีน้ําหนัก แสนชูลูก ก็ตั้งอยู ๔ แจงนาไรนั้นแล ฯ ในกาละเมิ่ ออั้น ยังมีนักปราชญเจาตน ๑ มีสติประหญาปญญามากนัก ก็มีสีลปริสุทธยิ่งนัก ตั้งอยูในที่นั้น ปรากฏลือซา เปน [หนาลานที่๓๑, น.๔๕๑] ที่สการะปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลายมากนักแล ในกาละเมิ่อนั้น บานเมิงมหิยัง ครัฏฐะที่นี้ ก็จักสมริทธีดวยเขาของสัมปตติมากนัก อยูเยนเปนสุขในกาละนั้น หมื่นชาแล ฯ ในกาละนั้น พระยานาคก็จักเอาเขาของทังมวร อันอยูในน้ํา ในดินทังมวร ออกมาหื้อปกสา สางมหาเจติยะเจา หื้อรุงเริงมากนัก หมื่นชาแล พุทธสาสนา ก็จักกานกุงรุงเริง หม ื่ นชาแล เจาทัง ๔ ตน ก็ทํานายไวดวยพระการด ั่ งน ี้ ก็มี วันนนแล ั้ พั่นดงพระญาส ั่ ุรังควตราชาตนนิ ั้น ก็มีลูกสฅน ี่ ตนพี่ชื่อวามรสารก ิมารุ ๖๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ตน ๑ ชื่อกุตสิริวิราสกุมาร ตน ๑ ชื่อพรหมสิหาพทกุมาร ตน ๑ ชื่อ ราชสโมธานกุมาร นางเทวีชื่อวาภาสิตาเทวีแล ฯ สพเพขตฺ ฺติย สวนวาขตยะทิ ัง ๘ พอแมลูก ก็ประกอบดวยราชส ทธาปสาทะ ั เหลิ้มใสในแกว ๓ พระการ สักกระปูชาคารวะฅบยําพระชินธาตุเจา หื้อเสมิอกัน เทียรยอมพ่ําเพงกุสลบุญตางๆ คือหื้อทาน รักสาสีล ฟงธัมมเมตตาภาวนาไป ไจๆ ตราบ [หนาลานท ี่๓๒, น.๔๕๓] เมยนอาย ี้ ุจุติแลว คันสางพระชนธาติแลุวบวรมวณั ก็เอากันคารวะอุปถากนลาฏธาตุเจา แลเกสาธาตุดวยอันชอบแลว พระการ ๑ ก็มาตกแตงราชสัมปตติสวยไร คือวาเขากลาถ ั่ วงา ลูกสมหมากหวาน ขึ้นปูชา มหาเจติยเจาชูปลีชูเดิน ตามอันหลางอันพึงอันควรชูปลีตามราชปเวณีบผอน เสดงอ ั่ ั้น เทยรยีอมกะทาบํ ญในส ุานํกพระเจตัยะเจิ าในดอยมห ิยังคนั้น ตราบเมยน ี้ อายุชูตน คันจุติจากอตตภาวะอั นเปนฅน ั ก็เอาตนไปเกดในช ิ นฟั้ า สวยสมปัตต ิทิพพ ชูตน ก็มีแล ฯ พระการ๑ พระญาสุรังควตราชาิ มักใฅหื้อเปนอปปการณุอันยงไปพายหน ิ่ า ก็ซ้ํามาแตงไวยังฅนห ื้ ออยูอุปถากรักสากับมหาเจติยเจาน ั้ นส ี่ ขวบ แลมี๖ ฅน เพ ิ่ อห ื้ อเขาอยูเปนกับธาตุอยูรักสามหาเจติยธาตุเจา ตราบตอเทา ๕ พันวสา ก็มีแล ฯ ตโต แรกแตนั้นไปพายหนา นานประหมาณ ๗ เดิน สวนอรหันตาเจาตั้ง ๔ ตนนั้น ก็นิพพานไปในดอยมหิยังคปพพตะ [หนาลานที่๓๓, น.๔๕๕] ที่นั้นทัง ๔ ตนนั้นแล ฯ ราชาสุรงฺควติอันวาพระญาสุรังควติเปนประธานกวาเสนาอามาตย ทังหลาย แลชาวบานชาวเมิงทังมวร ก็มาฟอมกันสการะปูชา แลวเลิกซากสง สการอรหนตาเจัาเสแลวกเอาธาต็เจุาเข าใส ในออมจ ีน ลูก ๑ แลว น้ําหนกมั ีพัน ๑ ก็โกมดีแลวจีดติดหื้อหมั้นคุง แลวก็มาปกสาสางกอหื้อเปนเจติยธาตุอรหันตาไว ในที่ใกลมหาธาตุเจา ประหมาณ ๑๒๖ วา ในทิสะวันตกหั้นแล พระญาก็วาหื้อ เพิ่นเผี้ยวถางดีงามแลว ก็ขุดลงลึกวาปาย ๓ สอก แลวแตงหื้อเลียงเพียงดีแลว ก็มาปูดวยผาแผนขาว แลวก็เอาเฅิ่งปูชาสการะใสดีแลวก็เอาไหธาตุลงตั้งไวใน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๓
ท่ํากางห ั้ นแล ก็เอาหมากหินกอน ๑ มาทํา๑ ปากขุมไวแลวก็ปกเสาคันธะ สี่เหลม กับดวยดอกบัวฅํา ๔ ดวง ปูชาหั้นแล ฯ ตโต ปถาย ตั้งแรกแตกาละน ั้นไปพายหนา ฅนแลเทวดาทังหลาย แล ฅุตนาคกุมภัณฑคันธัพพะแลอินทฟม ทาวจตุโลวกทังสี่ก็ดีเขาก็มาไหว[หนาลาน ที่ ๓๔, น.๔๕๗] แลปูชาธาตุเจาทุกเม ิ่ อแล พระญาสุรังควติเปนประธานกวาฅน ทังหลาย ก็กะทําบุญแลปูชาสาธุการธาตุเจา อยูในดอยมหิยังคะที่นั้นแล คันจุติตายก็ไดเอาตนเมิอเกิดในชั้นฟาสวัรคเทวโลวกพูน ก็มีแล อันวาฅน ทังหลายฝูงอยูรักสาธาตุเจาที่นั้น แลพระญาสุรังควติทังสองผัวเม คันจุติตาย ก็ไดเมิอเกิดสวัรคเทวโลวกพุนก็มีแล ฯ มหาธาตเจุาอนนั นประเส ั้ ฏมากนิ ัก ปุคละผใดู คือชาวเจาสรมณพราหมณ แลฅนยงชายทิงหลายั ฝูงใดก็ดีมีใจปสทสทธาแลจักขั นไหว ึ้ แลป ชายูงธาตัเจุาดงอ ั่ ั้น คันสมณะพราหมณก็หื้อกาสํกขาบทหิอบ ื้ วรสัทธุิ์กอน คันสมมเณัยรี ๒ ก็หื้อรกสาสั ีล หื้อบัวรสุทธิ์กอน คันเปนฅะหัฏฐยิงชายทังหลาย ก็หื้อชําละสีล ๕ สีล ๘ หื้อบัวรสุทธิ์แทกอน จิ่งควรขึ้นเมิอไหวยังชินธาตุเจาแล คันปุคละผูใด อนาตระ คือกายทุจริตตะ กะทําดวยตีน ดวยมือ แหงตน วจีทุจริตตะ กะทําบาปดวยปาก ดวยใจแหงตน คันวากาวคําลาย คําพราง ผรุสวาจา คืออางขา [หนาลานที่ ๓๕, น.๔๕๙] อางฟน อางบุบ อางตีอางลัก อางเลิด บดีแล สปปผลวาจาฺกาวคาเยาะํ ใยเหลนมวน สนสอหยอทอ มโนทุจริต คือกะทําราย หันทานมีใฅไดคันทาน ไรดูแควน ลวบอํา พฺยาปาโท อยามีคําเข ิ้ งขวดกัวธา๓ ผูกเวียร๔ หมายหมั้น แกทาน มิจฺฉาทิฐิอยามีใจถือทิฏฐิผิด เอาลัทธิคลองวัตรอันผิดธัมมบฅบยํา ในคาสอนพระเจํ า เทาเอามจฉาทิฏฐิ ิผีมด ผีหมอเปนอารมณปุคละทงหลายฝ ังนูั้น กะทําสันน ี้ ไดชื่อวากะทําทุจริตตะ วาเปนผูกะทําผิดธัมม เปนผูรักสาบาป สิบจาพวกแลํกะทาทํ งหลายฝ ังนูี้บหื้อเกดมิ ีไดชื่อวาส ปปั ุริสสะเขาในคลองอร ยปิคละุ ผูดีมีประหญาแล ฅนทังหลายฝูงกาวมาน ี้ไดชื่อวาอนาทระซ ึ่ งพระชินธาตุเจาแล ๑ ทํา - วาง, ปด๒ สัมมเณียร - สามเณร๓ เขิ้งขวดกัวธา - เคืองโกรธโกรธา๔ ผูกเวียร - ผูกเวร, อาฆาต ๖๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เทวดาบพึงใจ ก็จักกะทําหื้อเปนเภยยอุบาทวพยาธิโรคาอันรายแกมันผูนั้นแล เปนนกบวชพายลันจูกกะทัาคลองอํ นเปนค ันถธัระุแลวิปสสนาธระุ บวุฑฒิจําเริน แกเจาตนน ั้ นแล เปนฅนคระหัฏ [หนาลานที่๓๖, น.๔๖๑] พิทธีเล ี้ ยงชีวิตเยดสาง กินดวยกัมมกิจจะ ๓ พระการ ก็บวุฑฒิจําเรินแกมันผูนั้นชาแล เหียดมันได อนาตระประหมาทยิ่ง มีที่พึ่งแหงตนสันนั้น เทวดาก็เคียด ลวดแตงห ื้ อบวุฑฒิ จําเรินแกเขาสันนั้น เพิ่ออั้นแล ฯ เหียดดั่งอั้น ปุคละทังหลายฝูงใดแลจักขึ้นไหว มหาเจติยะเจาดวงประเสิฏด ั่ งอั้น หื้อชวนกันสังรอมอินทรียแหงตนห ื้ อดีหื้อมี สีลกับตน อยาไดประหมาทสักอันเทิอะ แมนพระญาอินทก็ลงมาไหวแลปูชา อุปถากเสี้ ยงดาย พระญาอินทาธิราชกัวเปนมลมุลทินแกมหาเจติยเจา จิ่งแตง เทวบตตุตน๑ ชื่อสุรังคพทธิวรลิกขณเทวตาั นั้น ดวยคาวํ า ทานจงไปอย ุ ูรักสา ธาตุเจาตราบตอเทา ๕ พันวสาเทิอะ คันปุคละผูใดมาไหวแลปูชาคารวะดวย ครบยําแทจิ่งแตงผูนั้นจําเรินรุงเริงดวยโภคสัมปตติรั่งมีเปนดีแล อัมพกรักสา เขาหื้อหาเภยะกังวลบไดเทิอะ พระญาอินทก็แหนปนสันนี้หั้นแล ฯ คันวาปุคลผูใดไดขึ้นไหวแลปูชายังพระชินธาตุเจาด ั่ งอั้น [หนาลานที่๓๗, น.๔๖๓] หื้อปูชาเทวดา แลเทวบุตตตนอยูรักสาธาตุเจาน ั้ นเสกอน แลวกาว มคธะภาสาคถา ดั่งนี้วา วสุล มหิยงฺค อิทฺธิปลกฺขณเทวตาน ปูชาสกฺกร โหมิฯ ดั่งน ี้ ๓ ทีแลวเอาเข าตอกดอกไม ปูชาเสกอนแลวเยชวนกนขั นไหว ึ้ มหาธาตเทุอะิ คันข ึ้ นเมิอเถิงธาตุอรหันตา ก็จือเอาเขาตอกดอกไมผายปูชา แลวกาวคถาวา อินทธฺญาโกจ อุปฺนนฺท วจป โสภิโต สุภโณ มหาขีณาสโว พุทฺธสาวโก มคุณปโร วจตุนํธาตุอรหนฺตํ นํวนฺทามิปุชิตํฯ ดั่งนี้๓ ทีแลวผายเขาตอก ดอกไมปูชา แลวขนเม ึ้ อไหว ิมหาธาตเทุอะิ คันขนเม ึ้ อถิงมหาธาตึเจุาแล ว ก็ไหววา ดั่งน ี้ วรเกสาธาตุ นลาฏธาตุอหํวนฺทามิสกฺกรนุภาเวน ชินธาตุโย นลาตุวํ ปภิวนฺต จตุโส เกสาธาตุโย ปูชิตํ นเทเวหิสนฺตุ เตสํนมามิหํ ฯ ดั่งน ี้ ๓ ที แลวไหว ตามสทธาเัจตนาเราอนเกัดเทิอะิ จักใฅกินทานสนใด ั ก็ตามเจตนาสทธาั เรา อัน [หนาลานที่ ๓๘, น.๔๖๕] เกิดมีนั้นแล ฯ หิดวยมีแทแล มหาธาตุเจานี้เปนอันวิเสียดนักแล พระญาอินทพระญา พรหม เทวบุตตเทวดาทังหลายก็ลงมาไหวนบฅบยําแยงชูปกขสีลบขาดแล ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๕
คันหมูอินทฟมมาไหวแลว เทวบุตตเทวดาทังหลายลงมาไหวแลปูชาด ั่ งอั้น ก็หากยินแสว๑ หอมทั่วเมิงแล ผิบอั้นก็ไดยินเสียงตุริยนนตรีคองกองพาทยพิณ อันเขาเจาหากเขามาสงเสียบ๒ ปูชาธาตุเจาน ั้ นแล ปุคละเจาทังหลายฝูงใด อยาได กะท าปมาทอน ํนตระัอยาสงข ั่ ี้มูกนาลาย ้ํ ซวยหนาส ไคลในท ี ใกล ี่ ริมนาบ ้ํ อ นั้นเทิอะ เทวดาบพึงใจ ยอมกะทําห ื้อเปนอนทรายเภยยะแกปุคละผูนั้นชาแล ปุคละเจาตนใดมาไหวแลปูชาดวยอันหาปมาทะบได เปนดั่ งกาวมานี้ดั่งอั้น ก็อาจหื้อแลวยังสุข ๓ พระการ บอยาชาแล ฯ ธาตุกถาสมตา กรียาเทสนายังตํานานประบาทพระธาตุแหงพระเจาตั้งไว ผวดสัตตทังหลายดวยอันลําดับผับชูแหง ในเมิ่ อพระเจานิพพานไปแลว อรหันตาเจาก็กับตาม เหียดเปนคํางามพระกาว เปน (คุรุปเทส) ๓ ๑ แสว - กลิ่น๒ สงเสียบ - สงเสพ๓ ยังไมจบสมบูรณใบลานนาจะหายไป ๑ หนา ๖๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
àÁ×ͧÂͧ ÃѰ©Ò¹μÐÇѹÍÍ¡ »ÃÐà·È¾Á‹Ò ÀÒ¾ : ¾ÃÐÊÀÒÇØ²Ô ÍÀÔÊÔ·¸Ôì
àªÕÂ§ÃØ‹§ ÊÔºÊͧ»˜¹¹Ò (òõõñ) ¡‹Í¹¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§¤ÃÑé§ãËÞ‹ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๔ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ วทิตฺวา สิรสา สทฺธมฺมํ ชนุตฺตมํ อิทมฺป ปาทสรรเกสาธาตีุกตํปกฺขามีติฯ สาธโว ฟงดูราสัปปุริสสะทังหลาย ทีนี้จักกาวประบาทเจา แลสรีรธาตุ พระพุทธเจา อันมาถปนนาต ั้งไวในเมิงทังหลายมาห ื้ อแจง ผูมีประหญาพึงรู ดั่งเราจักไดเทสนาไปพายหนานี้เทิอะ ฯ เอกํสมยํยังมสมียคราบั๑ พระพทธเจุาได ตร สประหญาส ัพพัญั เปนพระู แลวเทสนาสั่งสอนสัตตทังหลายไจๆ นานวาได๒๕ วัสสาวันนั้น พระพุทธเจา สถิตสํารานในปาเชตวันอาราม ในกาละเมิ่ อจักใกลรุงนั้น นอนอยูในคันธกุฎี ก็มีความกรุณาร่ําพึงดั่งนี้ฯ อิทานิในกาละบัดน ี้ อายุพระตถาคตะก็ได๖๐ วัสสาเตมแลว แต พระตถาคตะไดตรัสประหญาสัพพัญูเปนพระตราบถึงวันน ี้ได๒๕ วัสสาน ี้ แล แตนี้ไปพายหนา เทายัง ๒๐ วัสสาแล ฯ พระการ ๑ พระตถาคตะผวดสัตตหื้อไดถึงมัคคผละนั้น ก็จักเตมประทัด ตามดั่งพระเจาเทิ่อแล อายุแหงกูก็จักพอ ๘๐ เตมแล [หนาลานที่ ๒, น.๒๔๓] ก็จัก นิพพานไป มีหั้นชาแล สัตตโลกทังหลายฝูงมีบุญสมพารกลาแกแลว ก็ไดเขามา ในคําสอนกูตถาคตะ ก็ไดถึงมัคคผลธัมมแลวแล สัตตโลกทังหลายฝูงมีบุญสม พารไปแกนั้น ก็ยังมีแล พระตถาคตะผวดสัตตทังหลายก็บพอ ๒๔ อสงไขยเทิ่อ กูก็จักนพพานไปชาแล ิควรกอทู ฏฐานติ งไว ั้ ยังสาสนาแลประบาทธาตแหุงกเทูอะิ แลแกว ๓ พระการ ไวหื้อเปนทไหว ี่ แลป ชาแกูฅนแลเทวดาทงหลายั หื้อไวอย เฝู า ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๖๙
สัตตทังหลายหอได ื้ เขาส ูนิพพาน หื้อพอประหมาณ ๔ อสงไขย ตามพทธประเวณุี แหงพระพุทธเจาทังหลายแล ฯ พระการ ๑ พระตถาคตะนพพานไปแล ิ ว แลตงไว ั้ สาสนา ๕ พันวสสาดังอ ั่ ั้น ชาวเจาทังหลายแลฅนคระหัฏฐนักบวชทังมวร ก็จักบังเกิดจิตใจอันขร ้ํ าเขริก ในกุสลกัมมอันเปนบาปมากนัก ก็จักไดเกิดมาท ่ํ ากลางสาสนา ๕ พันวัสสานั้น คือวาสาสนาลวงพนไปแลวได๒ พันวัสสา เขาสู ๓ พันวัสสา มีหั้นชาแล ฯ ปาปธัมมเวร ๕ พระการ จิ่งจักมาครอบงําอยู ยังห ื้ อสัตต [หนาลานที่๓, น.๒๔๔] ทังหลาย แลฅนทังหลายในท่ํากางสาสนาพระตถาคตะที่นั้นมากนัก หมื่นชาแล เหียดด ั่ งอั้น กูพระตถาคตะควรไปอทิฏฐานต ั้งไวยังประบาทแลธาตุไวในที่ ควร เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย หื้อเหมินด ั่ งตนกูตถาคตะ ยังธอระมานนั้นเทิอะวาอั้น คํากรุณาร่ําพึงพระพุทธเจาก็ยินดีหื้อหมื่นคระสัตรา ก็เกิดมีในวันเดินเจียงเพงหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็เอาอรหันตา ๓ ตน ฯ ตน ๑ ชื่อสุนาเถยรีฯ ตน ๑ ชื่ออุตตรเถยรีฯ ตน ๑ ชื่อรัตนเถยรี กับทงเจัาอานนทเถัยรี กับทงพระญาอันทิ ก็มาถอสืตตั กั้งรมพระเจาแล ยังมพระญาตนี๑ ชื่ออโสกราชา เปนเจาแกเมิงกุสินาราย ทานก็บังเกิดปสาทะสัทธา ก็มาอุปปถากพระพุทธเจา ในปาเชตวันอารามที่นั้นหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็สระเดินไปผวดสัตตทังหลายวาอั้น พระญาอโสกตนนั้น ก็มาเปนอุปาสักกะ ก็ถือเอาเฅ ิ่ งฅํา แลไมเทา ไปตามหลังพระพุทธเจาห ั้ นแล พระพุทธเจาก็เอา [หนาลานที่ ๔, น.๒๔๖] อรหันตา ๓ ตน กับทังมหาอานันทเถียร แลพระญาอินทและพระญาอโสก ก็ออกมาจากปาเชตวันอาราม วันเดินเจียง แรมฅ่ํา ๑ ก็เขาไปสูเมิงกุสินาราย แลวก็ไปสูเมิงคูลวา แลวก็ไปสูเมิงสวนตาล คือเมิงละไว (ละโว) แลอโยธิยาทวารวรีทังมวรแล ก็ไปเมิงจีนหลวงแลวก็ไป เมงวิเทหะิ คือวาเมงหิ อทังมวรแลลุกแตเมงหิอลงมาถ ึงเมงโกสละ ิ คือเมงริ ไทิ ในวนเดั ิน ๓ เพงนั้น พระเจากมารอดเม็งชิ ูที่นั้น ก็มานงอย ั่ เหน ู อหมากหินกิอน๑ เปนกาละอนควรแลั ว ยังมเทวบีตตุสองตนตน ๑ เอาหมากลูก ๑ มาทานพระเจา ตน ๑ เอาปูนกับพู๑ มาทานพระเจาหั้นแล ในวันนั้นก็เปนวันอุโปสถสีล เดิน ๓ ๑ พู - พลู, ใบพลู ๗๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา