ที่นั้น มันก็ยินดีก็เอาผาขาวผืน ๑ หื้อพระพุทธเจาเปนผาอาบน้ําหั้นแล พระเจา ก็รับเอานุงอาบน้ํา แลวลวดกายเปนฅําไป มันหันก็ยินดีพระเจาอาบน ้ํ าแลว มานั่งอยูเหนิอหินกอน ๑แลวลัวะจิ่งไขถงมัน เอาสลอบทองแดงใสน้ําผึ้งมาทาน แกพระพุทธเจาสันหั้นแล ฯ พระเจาก็รับเอายังสลอบทองแดงใสน้ํา (ผึ้ง) นั้นกิน ก็ลวดกายเกิดเปน ฅําแดงไป มันหนอัสสจัรยั ก็ยินดีแลวมนกั ็กาววาสลอบขาหากเปนทองแดงดาย บัดนพระเ ี้ จาหยบเอาุพอยเกดเปนฅ ิาสํนนั ี้ขาก็บเอาแล ขากลวดห็ อเปนทานแล ื้ จุงไวซวยหนาซวยมอเทือะวิาอ ั้น พระเจาก ็หื้อสีล ๕ แกมัน แลวกพอกเม็อสิเรู นมิ ัน ก็ผอดูวัตถุอันมีในเรินทังมวรนั้นก็เกิดเปนฅําเสี้ยงหั้นแล มันจิ่งบอกหื้อเมมันวา วัตถุฝูงนี้ก็บใชของกูหาเปนของทาวพระญาดายเมมนวั า บเปนของทาวพระญาแล หากยอนบุญพระพุทธเจาแลวาอั้น มันก็ซ้ํายินดีกวาเกาหั้นแล ฯ พระเจาก ็ขึ้นสดอยไม ู แลวก ็ยอรอยประบาทไวรอย๑ เพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แก [หนาลานที่ ๒๐, น.๕๙๔] ฅนแลเทวดาทังหลาย แลวก็สระเดจขึ้นไปสูเมิงลื้อ ก็ขึ้นเมิอ จอมดอยอัน ๑ พายวันตกจ ิ่ มแมน้ําอันนั้น พระเจาก็นั่งอยูจิ่มตนหมากฅะหนุน ตน ๑ มีลูก ใหยได๗ กํา เมิ่อนั้นยังมีลัวะผู๑ ไปปามาหันพระเจาที่นั้น มันก็ ไหวพระเจากาววา ขาแดพระพุทธเจา ตนหมากฅะหนุนดายวาอั้น มันก็ขึ้น เอามาทานแกพระพุทธเจา ๓ ลูก พระเจาก็สันเสี้ยงแลว ก็ลงไปหันหินกอน ๑ กวางสี่สอก ก็นั่งอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละเมอน ิ่ ั้น ยังมรสีตนี๑ ชื่ออตรารสุีจิ่งกาวว า ขาแดพระพทธเจุา ผูขาไดหันพระเจามาเมตตาด ั่ งอั้น ขาก็ยินดีนักแล ขอพระพุทธเจาจุงย ั้ งอยูที่นี้ กอนเทิอะวาอั้น มันก็ไปบอกแกลัวะทังหลายสิบ ๗ เรินนั้น เอาเขาสานกับทัง อาหารมาหุงในหวยที่นั้น แลวก็เอาห ื้อเปนทานแกพระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจา ก็รับสัน แลวจิ่งกาววา กูตถาคตะมาถึงหวยที่นี้ควรตั้งสาสนาแลวาอั้น ลัวะผูอัน เอาเขามาหุงสุกนั้นแลมาใสบาตรหื้อแกกูแลวเขากาววา หวยอันนี้ตุมปูน วาอั้น พายหนาหวยอันนี้จักไดชื่อวาตุมปูนชาแล พระเจากาว [หนาลานที่ ๒๑, น.๕๙๖] วา ถานะที่นี้ควรต ั้ งสาสนาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสก ก็ขอเอาธาตุหั้นแล พระเจาก็เอามือลูบหัว ก็ไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตาแล ก็กาววา ถานะที่นี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๑
เปนบานนอยเมงนิอยดาย จักหาฅนกับธาตุบไดอัน ๑ ถ้ําก็บมีในที่นี้เหยดดีงอ ั่ ั้น บควรจักไวธาตุแหงกูแล กูจักไวรอยประบาทหื้อเขาไดไหวแลปูชาเทิอะวาอั้น แลวก็ย่ําประบาทไวในผากอน ๑ แลวพระเจาก็สระเดจไปสูทิสะหนเหนิอชวย วันออก ไกลไดพันวา ปาย ๕ รอย ก็ไปจวบพบหินกอน ๑ เปนรูปเตาหั้นแล ฯ สวนอตุลรสีก็ไปตามพระเจาหั้นแล ก็นั่งอยูเหนิอหินกอน ๑ ยังมีลัวะผู๑ ไปแอวปา ก็มาหันพระเจา ก็เอาหมากหาด ๓ ลูก มาทานแกพระเจา พระเจา ก็เอาหื้อแกอรหันตาสันฟอง๑ พระเจากาววา เมิ่อกูมาถึงที่นี้ลัวะผู๑ มาหื้อทาน หมากหาดเปนทานแกกู พายหนาหวยอันนี้จักไดชื่อวาหวยแมหาดชาแล อรหันตาและพระญาอโสก จิ่งขอเอาธาตุหั้นแล พระเจากาววา ถานะที่นี้ก็เปน บานนอยเมิงเล็ก ถ้ําก็บมีแมน้ําก็นอยนัก [หนาลานที่ ๒๒, น.๕๙๗] เปนเมิงแหงแลง ลมชวย วาอั้น เมิงอันนั้นจักไดชื่อวาเมิงลือ ชาแล กูตถาคตะก็บไวธาตุ กูเทา ควรไวรอยตีน แลวพระญาอโสกก็เอาเกิบตีนมาสุบสอดหื้อพระเจา แลวพระเจา ก็ย่ํารอยประบาทหนอินพระเจัานงน ั่ นแล ั้ พระญาอโสกก็ยินดีนัก จิ่งกาวว า กูเอา ฅํามา ๖ พัน มาปูชารอยตีนพระเจาชาแลวาอั้น ฯ แลวพระพทธเุจาก สระเดจไปส ็ ูบานเหนอชิวยวนตกั ไกลประหมาณหมนวา ื่ ก็ไปจวบเจาอสชตเถิยรีอยูสํารานถาในป ้ํ าท ี่นั้นหนแล ั้ เจาอสชตเถิยรหีนพระเจั า ก็มาไหวพระเจาจงถามว ิ่ า ทานอสชตเถิยรีมาหากรฤว ูาอ ั้น เจาอสชตเถิยรกี ไหว ็ วา ขามาอยูถ้ําสงดทั ี่นี้ขากได็ ยินพระเจามาเมตตา ขาจงมาไหว ิ่ แล สวนอสชตเถิยรนี ั้น เปนลกทูมมั ิลัวะที่นั้น พระเจากอย็เหน ู อผากิอน๑ สูงเพยงกางแฅีงพระเจาหนแล ั้ พระเจาก ็ยินหยากนาน ้ํ ัก จิ่งถามวา น้ํายงมัชาีอสชตะกิาวว า พระญาอนทิเนรม ิต ไวยังน้ําบออัน ๑ แกขาแลวาอั้น เมิ่อนั้นพระญาอินทรูวาพระเจาหยากน้ํา ก็ไป ตักน้ํามาหื้อพระเจาสันหั้นแล [หนาลานที่ ๒๓, น.๕๙๙] พระเจาซ้ําตักเอาน้ําอันนั้นมา ซวยตนเลีาแลอสชตะกิบอกแก็ ลัวะทงหลายัเขารแลู วกแต็งเขาน าโภชนะอาหาร ้ํ มาใสบาตรพระเจา เขาก็เหลือบาตรเส พระญาอินทก็เนรมิตหมากหินสองลูก ลูก ๑ ใสเขา ลูก ๑ ใสโภชนะอาหาร หื้อพระเจาสันหั้นแล แลวก็กาววา ในที่นี้ ก็ควรต ั้ งสาสนาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุหั้นแล พระเจา ๑ ฟอง, ภอง - พรอง, บาง ๑๗๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
กาววา ที่นี้หินผาก็มีเทาเปนหินผาอันนอยสิ่งเดียว ผาใหยก็บมีหินอันกูนั่งนั้น ก็นอยนกแลัฯ พระการ ๑ ถ้ําอนควรไว ัธาต ุก็ยังมแลีเทาฅนบหลาย จักรกสาบั ได กูเทาเอาไวประบาทชาแล พระเจาก็ย่ํารอยประบาทไวเหนิอผากอนนั้นแลวดวย ฅําทังแทงหั้นแล เมิ่อนั้นอตุลรสีถามพระเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ผูขา ก็บวชเปนรสีก็ชอบดีแล เทาวาบไดถึงธัมมวิเสียดอันใดสักอัน ขาก็ขอบวช ในสํานักพระพุทธเจาแดวาอั้น พระเจาจ ิ่ งกาววา ผิทานใฅบวชในสาสนากูแท จุงสิกเสแลวเยบวชเทิอะวาอั้น อตุลรสีก็สิกเส แลวก็บวชใน [หนาลานที่ ๒๔, น.๖๐๑] สํานักพระพุทธเจา เปนเอหิภิกขุแล ปรากฏไดชื่อวาอตุลเถียร ก็มีแล พระเจา ก็สอนกัมมัฏฐานห ื้ อแกขาทังสองแลวกาววา เขิอทังสองจุงภาวนาอยูรักสา รอยประบาทกูนี้เทิอะวาอั้น เม ิ่อใดเขิอทังสองไดถึงมัคคผละธัมมแลวเยไปหา กูตถาคตะพายวันตกพุนเทิอะวาอั้น ฯ แลวพระเจาก็สระเดจไปทิสะพายวันตก ไกลประหมาณหมื่ นวา ก็ไปถึง แมน้ําระมิง แลวก ็ขึ้นไปสผาเ ู รอทิ ี่นั้น แลวพระเจาจงก ิ่ าวว า ผารปเรูอนิ ี้ผูใดมาไว ที่นี้ชา พระอโสกจิ่งไหววา ขาแดพระพุทธเจา แตกอนปถมกัปปวันนั้น ยังมี พระญาตน ๑ ชื่อพระญาสรีสุวาอั้น ยังมีอางผาอัน ๑ ก็มีสิบ ๘ วา พระญาสรีสุ ก็ลากเรอตกอิางผาลกนูี้ก็เอาออกบได มันจงช ิ่ กหัวเมัอวินตกหันแล ั้ ผูบพิจจรณา ก็บรูวาเปนเรอแลิ ปุคคลผใดม ู ีบุญกหากจ็ กได ั หันแลวาอ ั้น แลวมนกัหน็เมีอทางบกิ แลวบทันเมิอรอดเมิง แตนั้นมาน ้ํ าสมุททก็แหงไปไจๆ ก็แหงเหือดเปนเมิง อางเริอฅํานั้นแล ลวดกายเปนผาเริออยูหั้นแล เหียดใดน้ําสมุททพอยแหงนั้นชา แทแล น้ํา [หนาลานที่ ๒๕, น.๖๐๓] สมุททนั้นเปนรูกวางไดรอยโยชนะ ก็ปนตกไปเปน เปยวนารกเกยวเปนด ี้ งน ั่ าม ้ํ นใส ั ไฟน นแล ั้ ผิบมีเปนดงอ ั่ ั้น เปนดงน ั่ าจ ้ํ งหยาดตก ิ่ หนาทั่งเหลกนั้นแลฯ ยังมีปูตัว๑ใหยกวา ๕ รอยโยชนะ มันมีวิบากเกิดกับโลก ตราบเสยงก ี้ ปปั นั้นชา ปูตัวนนต ั้ ดรึ ูอันนนแล ั้ ว เพอเป ิ่ ยวไฟข นต ึ้ องหนาอกมนรัอน ก็หดเห ี่ยวปนลงเปนรูไปนั้น เม ิ่ อน ั้ นน ้ํ าสมุททก็แหงลงไปสักหนอย เม ิ่ อนั้น เปยวไฟนารกก็บตองยินกัดเยนแล ลวดวาอกลงตึดรูนั้นเส เมิ่อดั่งอั้นน้ําสมุทท ก็ยึ่งขึ้นมา ปูตัวนั้นยินรอน ลวดยกตัวมันขึ้นแทบน้ําสมุททตกบขาด น้ําสมุทท ลวดแหงไปแลเท อแลน ิ่ อยเหยดดีงอ ั่ ั้น พระญาสรีสุลวดเอาเรอมาละไว ิ ตีนดอยที่นี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๓
น้ําก็แหงไปแลปแลนอย ลวดกึด๑ เสที่นี้ลวดกายเปนเริอฅําอยูในผาอางที่นี้เปน หมั้น จักเอาออกก็บไดลวดละไวตีนดอยที่นั้น พายลูนลวดไดชื่อวาดอยผาฅํา เพิ่ออั้นแล ฯ ถึงในกาละเมิ่ อพระเจาแหงเราเกิดมาเปนฅูแกโลวกนั้น เปนเมิงลัวะผู๑ เปนขุนแสนทอง เปนเจาแก ลัวะทงหลายแลั ยังมีลัวะผู๑ อยในอาณาร ู ฏฐะทั ี่นั้น ก็มากะทามํตติ กับ [หนาลานท ี่๒๖, น.๖๐๖] ดวยโยคีผู๑เอามาแตเมงผาส ิ ีหื้อขาแปง เขาของห ื้ อแกมัน โยคีผูนั้นมีตัวอันสูงได ๕ สอก มีกําลังเทาชางสาร ๕ ตัว เหียดวาไดกินน้ําบาก๒ มันเกิดในสาสนาพระกกุสันธะ กกุสันธะนิพพานไปแลว มันก็มาหลื่ม๓ กินน ้ํ าบาก ๕ รอย ลวดมีอายุยืนมาตราบถึงพระโกนาคมนะ เกิดมาเปนฅูนิพพานไปแลว พอยหล ื่ มกินยาน ้ํ าบากอันนั้น ๕ รอยแถมเลา ซ้ํามีอายุยืนมา ตราบถึงพระกัสสปะเกิดมาเปนฅูนิพพานไปแลว มันก็มาหลื่ม กินน ้ํ าบาก ๕ รอย ลวดมีอายุยืนมา ตราบถึงพระโคตมะเจาน ี้ ขุนแสนทอง จิ่งกะทํามิตตกับดวยกัน เอามันมาแปงเขาของห ื้ อแกมัน แตที่ใกลหัวเริอฅํานั้น ใกลประหมาณสิบวา ยังมีถ้ําอัน ๑งามนัก เปนเขาของอยูหั้น ทองดอยถ ้ํ าสูงเทา วิหาร ปากก็ใหยนัก โยคีผูนั้นอยูปากถ้ําหั้นแล ฯ ถัดน ั้ นยังมีอรหันตาตน ๑ ชื่อวาจุนทเถียร ทานหากเปนลูกชาวเมิง กุสินาราย ทานก็เขียนธัมมปฏกะทัง ๓ ใสกับอากกัสสวจนะทังมวร ไดผงลาน เตมคอบมือ ๑ แลวโยคี[หนาลานที่ ๒๗, น.๖๐๗] ผูนั้น แปงหีดฅํา ๗ หีด ใสธัมมไว ในถ้ํา คุงเปน ๓ ชั้น ราบเพยงเขี าไป ๓ วา ถ้ําอนนันก ั้ ็สุดเสหั้น ชั้นลนนูนเปนท ั้ อย ี่ ู แหงเจาจุนทเถียรสงัดภาวนา ชั้นกางนั้นเปนที่อยูแหงโยคีผูนั้น แปงเจดียฅําสูง ๕ สอก มันจงส ิ่ างร ปพระเูจาไว ๓ องคองค๑สูง ๗ ฅืบ ตั้งแตรูปพระเจาไป ๓ สอก ก็แปงรูปพระเจาองค๑ นอน ยาว ๗ สอก มีหวายเมิอวันออกแลว ชั้นบนนั้นเปน แทนฅําไว๗ อัน ใสหีดธัมมปฏกะทัง ๓ อันจุนทเถียรหากเขียนไวนั้นแล ฯ ๑ กึด - คาง๒ น้ําบาก - น้ําสกปรก ?๓ หลื่ม - ดื่ม ๑๗๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ถัดนั้น มันก็แปงคองฅําลูก ๑ มีปากกวางได๒ วา เสี้ยงฅําลานปายหมื่น แกวน๑ ไวริมปะตูชั้นอันข ึ้ นรอดเจดียนั้น เทวดาก็มาตีปูชาทุกปกขสีล เมิ่อ เท ี่ ยงฅืนแล หากยังไดยินเสียงเปนดั่ งแมงพูบินในถ้ํ าน ั้ นแล เม ิ่ อเจาจุนทเถียร ยังธอระมานอยูดั่งอั้น ปุถุชนเจาก็ดี นักปราชญเจาก็ดีจักสูตตจักเรียน ก็มาขอยืมเอาหนังสือแหงจุนทเถียรไปเรียน เอาเปนจบับ เหียดวาอรหันตา เขียนชอบนัก เมิ่อทานจัก [หนาลานที่ ๒๘, น.๖๐๙] นิพพาน จิ่งหื้อเอามาไวในหีดฅํา ดั่งเกาแล ก็นิพพานไปในถ้ําที่นั้นดั่งเกาแล ฯ ทีนั้น ขุนแสนทองกเอาไทยว ็ตถัทานทุงหลายั มีตนวาเขาน าโภชนะอาหาร ้ํ มาทานพระพุทธเจา แลอรหันตาเจาชูตน อันมาน ั่ งอยูผาเริอฅําที่นั้นห ั้ นแล ยามนั้นโยคีผูนั้น มันก็ออกมาไหวพระพุทธเจาหั้นแล พระเจาก็ถามวา ดูราโยคี มึงมาอยูที่นี้ดั่งรฤชา โยคีขานวา อรหันตาตน ๑ เปนลูกสิกขพระเจา ตนชื่อ จุนทเถียรวาอั้น มาอยูสางในถ้ํ าที่นี้ มาเขียนหนังสือธัมมพระเจาทัง ๓ ปฏกะ ขาจ ิ่งมาแปงหีดฅําใสธัมมไวที่นี้ เจาจุนทเถียรนิพพานไปกอนหนาพระเจามาน ี้ นอย ๑ แล ฯ ถัดนั้น ขาก็มาแปงเจดียฅําดวง ๑ สูงได๗ สอก บเทาน ั้ นก็มาแปง พุทธรูปฅํา ๓ องครูปพระเจานอน องค๑ ยาว ๘ สอก คองฅําลูก ๑ ยาว ๔ วา ขากมาส็ างไ วที่นี้แล พระเจากาวว า เปนอนดั ีนักแล กะทาสํนนั ี้ก็เปนบญแก ุทานแล อานิสงสก็มีหาที่สุดบไดแล ลัวะทังหลายมีขุนแสนทองเปนตน ก็เอากันมาไหว [หนาลานที่๒๙, น.๖๑๑] พระพุทธเจาแลวพระเจาก็ลุกไปย่ํารอยตีนกาวไวในแทนฅํา แทนผาฅําอันพระพุทธเจาน ั่งไวหั้นแล แลวพระเจาก็ขึ้นไปจอมดอยผาเริอที่นั้น พระญาอินทก็มาถือสัตตกั้งพระเจา ขุนแสนทองหันก็ยินดีนัก มันจ ิ่ งร ่ํ าพึงวา แตกูเกิดมาชาตินี้จิ่งไดหัน ไดไหวพระเจาบัดเด ี่ ยวน ี้ ดาย มันจ ิ่ งแลนเมิอเอา เกิ้งฅํา๒ มากั้งพระเจาอยูทิสะหนเหนิอบทันขึด๓ มันก็แลนไปตามพระเจาจิ่งทัน พระเจาก็ยั้งอยูจอมดอยที่นั้น พระเจาก็นั่งอยูท่ํากาง มีอรหันตาแลพระญาอิน แวดลอมเปนปริวารรอดชูก้ําชูพายหั้นแล ฯ ๑ แกวน - แขวน๒ เกิ้งฅํา - ฉัตรทองคํา๓ ขึด, กึด - ทัน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๕
เมอน ิ่ ั้น ขุนแสนทองกเอาเก็งฅ ิ้ ามากํงพระเจ ั้ าอยหนเหน ู อชิวยวนตกหันแล ั้ อรหันตาแลพระญาอโสก หันสัณฐานที่นี้ เปนอันงามย ิ่ งนัก จิ่งขอเอาธาตุ ซึ่งพระเจา ขาแดพระพุทธเจา สัณฐานที่นี้งามนัก ควรต ั้ งสาสนาขาแลวาอั้น พระเจาก ็ร่ําพงวึ าสัณฐานที่นี้พึงเปนบานเปนเม ิงสาสนากตถาคตะกู ็รุงเริง ฅนก็ จักมาไหวนบมากนักชาแล วาอ ั้ นก็เอามือลูบหัวไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตา แลพระญา[หนาลานท ี่๓๐, น.๖๑๒]อโสก เอาไมรวกแปงอ บใสูเกสาแลวใส อูบฅาใหย ํ ๘ กํา แลวจ ิ่งไหวพระเจาวา ถ้ํายังมีบชา พระเจากาววา ยังมีในดอยอันน ี้ แล ลูกสิกขกูตน ๑ ชื่อจุนทเถียร ทานหากเปนลูกชาวเมิงกุสินาราย มากะทําสงัด อยูถ้ําที่นี้ทานก็นิพพานกอนกูแตเมิ่อกูไปมานี้แล หีดกู๗ หีด ก็ตั้งอยูถ้ําที่นี้แล สูจุงเอาธาตุไปไวที่หั้นเทิอะ วาอ ั้ นแลวอรหันตาแลพระญาอโสก ก็เอาธาตุ แตจอมดอยลงไป ๗ รอยวา จิ่งไปจวบปากถ้ํา ก็หันโยคีผูนั้น ก็เขาไปพายใน ก็หันเจตยะฅิ ํา ฝูงอนโยค ั ีสางไวนั้นแล ก็ขึ้นไปชนบนน ั้ ั้น หันหดฅีาอํ นใส ั ธัมมไว นั้น แลวก็เอาอูบธาตุตั้งไวเหนิอแทนฅํา จิ่มหีดฅํานั้นแล ฯ ตั้งแตจอมดอยมาถึงธาตุไกล ๘ รอยวา ปายสอกสปุริสะ ลุกแตปากถ้ํา เขาไปถ งธาตึ ไกลสุี่รอยวาแหงมชฌั มปิ ุริสะแล ปะตูถ้ํานนย ั้ งมั ไมีรวกกอ๑แตนั้น ไปปากถ้ํากล้ําวันออกไวหื้อเทวดาอยูรักสาสองตน ตน ๑ ชื่อทารเทวดา วาอั้น พระญาอินทใสยนตไว[หนาลานที่๓๑, น.๖๑๕] พายในถ้ํ าก ้ํ าวันออกน ั้ นแล ก็เอา กันไปดวยปากถ้ํานั้น ก็ไดขามน้ําที่ ๑ ลึกเพียง..น้ําอันนั้นหากมีในถ้ําอันนั้นแล เจาทังหลายก็ขึ้นเมิอดวยปากปะตูไกลได๘ พันวา ก็แปงรูปยักขไวสองตัวแลว เส ี้ ยงอยูสองแสนฅํา ตาก็เอาแกวปทัมราคแปง หนาผากก็เปนแผนฅําแดง มีมือถือกัญไชย ใพ ๑ ปากถ้ํา แลวจ ิ่ งออกมาหาพระพุทธเจาเหนิอจอมดอยที่นั้น หั้นแล พระพุทธเจาวา สูทานทังหลาย เปนอันนานมานั้นชา อรหันตาจิ่งกาววา ขาแดพระพุทธเจา ขาทังหลายไปพิจจรณาแปงรูปยักขสองตัว อยูก้ําวันตกพุน ลวดนานมาเพ ิ่ ออ ั้ นดาย พระเจาจ ิ่ งกาววา ดีนักแล วาอ ั้ นแลวพระเจาจ ิ่ งกาว ซึ่งอานันทเถียรวา บัดนี้อายุกูก็ได๗๐ ปายป๑ แลว เมิ่อใดกูตถาคตะนิพพาน ไปแลวธาตุดูกกาซ ้ํ าย จักมาตงอย ั้ ดอยอ ู นนั ี้ก็จักเปนทไหว ี่ แกฅนแลเทวดาทงหลายั ๑ ใพ - เฝา, ดูแลใกลชิด ๑๗๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เสมิอด ั่ งตนกูตถาคตะยังธอระมานอยูนั้นชาแล สัณฐานพายทิสะวันออกนั้น เปนอนราบเพัยงเลียงงามแลีพายวนตกยังจั กเปน ัเมงอติตรนครุชาแล เมงอินนั ี้ จักเปนที่อยูแหงนักบวชทังหลาย จักเปนที่อยูฅน [หนาลานที่ ๓๒, น.๖๑๗] ฝูงมีบุญ นักแลจักอยูรักสาธาตุเจา หันหีดธัมม๗ อันชาแลจักรุงเริงดวยแกว ๓ พระการ ประกอบดวยเถียรเจาทังหลาย จักต ั้ งอยูในสรณาคมน ฟอมกันชูวัน เทวดา หากจกนัาเอาธาตํออกมาหุอฅนแลเทวดาท ื้ งหลายได ั ไหว แลป ชาแลูตนกตถาคตะู ยังธอระมานอยู จักหื้อแลวสุข ๓ พระการ แกฅนแลเทวดาทังหลายชาแล ฯ เมิ่อนั้น อานันทเถียรไหวพระพุทธเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ดอย ที่นี้เปนอันประเสิฏนัก พายหนาจักปรากฏชื่อรฤชา พระเจากาววา ดูราอานันท ตถาคตะมารอดที่นี้ลัวะขนแสนทองกุเอาเก็งมาก ิ้ งก ั้ ไวูดอยที่นี้เปนกบดัวยน ิมิต อันกั้งเกิ้งสันนี้พายหนาปรากฏชื่อวาดอยเกิ้งชาแลวาอั้น ฯ พระเจาทํานายสันนี้แลว ยามเมิ่อพระเจาอยูจอมดอยที่นี้เทสนาธัมมแก ลัวะทงหลายั มีขุนแสนทองเปนตน ก็มาหอทานเข ื้ าปณฑบาตชิ ูวันหนแล ั้ ในเมิ่อ พระเจาอย ู ๕ วันแลว สวนอสสชัเถิยรีแลตุลารเถยรีขาทงสองอั นเปนเ ัจา ก็รักสา ประบาทผานอยเมิงลา อันมีในเมิงลื้อ คือเมิงอาฬวีที่นั้น ขาเจาทังสองก็อยู อุปปฏฐาก [หนาลานที่ ๓๓, น.๖๑๙] ผานอย มีหัวเมิงลา เมิงหอ ตอกันนั้น ก็ภาวนา ไดถึงอรหนตาแลั ว ก็เจยรจากีนวั าอาวโสุ ดูราเจา พระเจาย งเมตตาสอนราไว ั วา คันทานท งสองภาวนาได ั ถึงอรหนตาแลั ว เขอทิงสองเยั คอยไปชอมกพระตถาคตะู พายวนตกชั วยหนใต พุนเทอะวิาอ ั้น บัดนราท ี้ งสองได ั ถึงอรหนตาแลั วราทงสองั ควรไปไหวพระพุทธเจาแล ฯ เจาทังสองก็เอากันไปชอมพระพุทะเจา ก็มาขึดพระเจาอยูสํารานในดอย เกงฅ ิ้ าทํ ี่นั้นหนแล ั้ พระเจากถามว็ า ทานทงสองมารับพลีนนักชาวัาอ ั้น ขาทงสองั ก็ไหวพระพุทธเจาว า อาม เอิอ เขิอขาก็ไหวพระพุทธเจาแล ขาทังสองก็ไดถึง ธัมมวิเสียด ก็มาไหวพระพุทธเจา แลวพระเจากาววา ดีแล เขิอทังสองไดถึง อรหันตาแลวด ั่ งอั้น ก็เปนอันดีนักแล เทาวาเขิอทังสองจุงเอากันพอกเมิออยู รักสาประบาทผานอยที่นั้น ก็เสมิอด ั่งไดอุปปฏฐากกูตถาคตะชูวันแลวาอั้น เถียรเจาทังสองก็รับเอาคําพระเจาวา สาธุดีแล วาอ ั้ นแลวก็สั่งอําลาพระเจา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๗
แลวก็เอากันเมิอสูผานอย อันเปนที่ อยูแหงตน แลวก็อยู [หนาลานที่๓๔, น.๖๒๑] อุปปฏฐากประบาทได๓ วัน ลวดนิพพานไปในวันเดียวกันทังสองหั้นแลเทวดา ทังหลายก็เลิกซากสงสการขาทังสอง ไฟก็บไหมหั้นแล ยามนั้นหินปณฑุกัมพล สิลาบาต ก็สําแดงรอนคะดางแขงห ั้ นแล พระญาอินทก็เลงดูก็รูวาอสชิตเถียร แลตุลารเถียรนิพพานไปแลว ก็ลงมาฟอมกันเผาก็บไหมพระญาอินทก็สยอง ไปไหวพระเจาถึงดอยเชียงใหม ก็ไหวแลกาวแกพระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจา จิ่งกาววา ดูรามหาราช เหียดอันจักเผาขาทังสองนั้น ในกาละบัดนี้บไหมเทิ่อแล สองขาจักอยูถาอริยเมตเตยยะมาเผาชาแล พระญาอินทไดยินคําพระเจาสันนั้น ก็พอกมาเนรมิตหีดผา๑ สองอัน ใสขาทังสอง แลวเอาเขาไวในถ้ําทองดอยที่นั้น ตราบตอเทาอริยเมตเตยยะเจาชาแล เม ิ่อใดพระอริยเมตเตยยะเจาไดตรัส ประหญาสัพพัญูเปนพระแลว หากจักเผาตามวิบากเขาชาแล ฯ สวนอรหันตาเจานิพพานไปแลว ยังมี[หนาลานที่ ๓๕, น.๖๒๒] ฅาบตนอยูนั้น ยังมี๗ ตน ฯ มหากัสสปเถียรตน ๑ นิพพานแลวยังฅาบในระหวางดอย ๓ ชั้น อันมาสุมกัน ในระแวกแควนเมิงราชคหะ มีวันตกชวยหนเหนิอเมิงอางวะ ตน ๑ ฯ จุนทกัสสปเถียร นิพพานในระหวางดอยมิถิลานคร คือเมิงแส ในกาละบดนัแล ี้ ฯอสชตเถิยรีอตลารเถุยรีสองตนนี้นิพพานในดอยประบาทนอย เมิงลา เอาใสหีดผาแกวไวที่นั้นห ั้ นแล พระญาอินทก็พิจจรณารักสาฅาบ๒ มหาเถียรเจาทังสองในถ้ําประบาทผานอยที่นั้นแล ก็สยองไปดวยลวงบนหน อากาส ก็ไปทันขึดพระพุทธเจาที่ดอยเกิ้ง เชียงใหมที่นั้นเลา ก็มีวันนั้นแล ฯ อฐมํ ปาทธาตุกถา นิฐิตา ฯ กาวหองตํานานประบาทธาตุ ผูกถวน ๘ ก็สระเดจบัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ๑ หีดผา - โลงศพทําดวยหิน๒ ฅาบ - ซาก, ราง ๑๗๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
àªÕ§ãËÁ‹ àªÔ§´ÍÂÊØà·¾ Áͧ¨Ò¡´Í¤íÒ (´ŒÒ¹·ÔÈãμŒ¢Í§àÁ×ͧ) ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๙ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ ตถา สตโห ภควา วิหริตฺวา ภาวนา อฺญตรสฺมึสมโต ภควา ฯ ดูราสปปั ุริสะทงหลายัภควาอันวาพระพทธเจุาแหงเรา ก็อยูสํารานในดอยเกิ้ง ที่นั้นนานได๗ วัน แลวก็สระเดจออกจากจอมดอยที่นั้น ก็ไปตามราวปาอัน ๑ แลวก ลงไปส ็แมู น้ําระมิง คือแมพิงที่นั้น แลวกเล็ยบขี นไปฝ ึ้ งน าข ้ํ นเม ึ้ อพายเหนิ ิอ ไกลประหมาณหมื่ นวา ก็มาจวบ๑ ลัวะผู๑ มันมาแปงควงพัดน้ํา๒ ขึ้นใสนา เขาดอน ๓ มันก็หันพระเจามาท ี่นั้น มันกมาแก็ ผาสไบแหงตนเชดต็นพระพีทธเจุา แลวมันวาจักเอาข ึ้นใสหัววาอั้น ก็มาหยุบเอาผาอันน ั้ นก็ลวดเกิดเปนฅําทังแทง หั้นแล ลัวะผูนั้นหันก็ยินดีนัก จิ่งราทธนาพระเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา จุงอยูที่นี้โผดขาทังหลายกอนเทิอะวาอั้น พระเจาก็นั่งอยูดอยอัน ๑ พายวันตก บานลัวะผูนั้น มันแลนเมิอหุงเขาหุงแกง เขาสองหอ แกงสองหมอ ก็ลวดกลาย เกิดเปนเขาทิพพ น้ําทิพพมาทานแกพระเจาห ั้ นแล พระเจาสันแลวก็เหลือ หื้อทานแก [หนาลานที่ ๒, น.๖๒๗] อรหันตาก็เหลือหั้นแล ฯ ในเมอแล ิ่ วภตตกั ิจ พระเจาแลอรหนตาแลั วจิ่งกาวลวะผั ูนั้นวา ขุนหลวงเพิ่น มาแปงควงพัดน้ํานั้นขึ้นใสนาดอนนั้น อยาเยดหื้อยากใจเทิอะ ทานจุงมาเอาสีล พระเจาเทิอะ คันจักกินบัวระโภคก็หากจักมีเหลือแหลชาแล ฯ ลัวะผูนั้นก็เขามา เอาสีลพระเจา แลวก็พอกเมิอเรินมันห ั้ นแล มันก็มาเล็งหันประตูอันมีในเรินนั้น๑ จวบ - พบ๒ ควงพัดน้ํา - ระหัดวิดน้ํา๓ เขาดอน - การปลูกขาวนาดอน ๑๘๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ก็ลวดกลายเปนฅําเสี้ยงทังมวร มันก็มาร่ําพึงวา แตกอนกูเยดนาก็พอหลอตาย ก็ยังบพอกินดาย บัดนี้กูก็เอาสีลพระเจาแลวพอกมาเริน อันใดก็เปนฅําเส ี้ ยง สีลพระเจานี้ก็เปนอันประเสิฏแทแล กูจักรักสาตอเทายาวชีวังชาแลวาอั้น ฯ พระเจาก ็หื้อสลลีวะัแลวจงจาก ิ่ บดัวยอรหนตาวั า ดูราภกขิ ุทังหลาย ในเมิ่อ ตถาคตะมารอดที่นี้ ก็มาจวบลัวะแปงควงพัดน ้ํ าข ึ้นใสนา ถามมันก็วาแลงหอด ดวยน้ํา ขาก็แปงพัดขึ้นใสนาแลวาอั้น พายหนาจักไดชื่อวาเมิงหอดน้ํา ชาแล วาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ไหววา ขาแดพระพุทธเจา ถานะที่นี้ดีนัก ควรตั้งสาสนาที่๑ แล [หนาลานที่ ๓, น.๖๒๘] ขอพระเจาเมตตาไวธาตุแดเทิอะวาอั้น พระเจาก็กาววา ถานะที่นี้ถ้ําก็บมีจักไวธาตุก็บควรแลวาอั้น ฯ พระเจาก็ลุกไป ผาแมน้ําระมิงเมิอเหนิอไกลพันวา ก็ไปจวบหินกอน ๑ เปนรูปชาง นั่งอยูเหนิอ ผากอนนนห ั้ นแล ั้ ในกาละนนพระญานาคต ั้ ัว ๑ ก็ออกมาจากทอย ี่ ูมันนั้น ก็มาไหว พระพุทธเจาหั้นแล เมิ่อนั้นอรหันตา แลพระญาอโสก พระญานาค ก็ขอเอาธาตุ ซึ่งพระเจาวา ขาแดพระพุทธเจา ถานะที่นี้ก็ควรดีตั้งสาสนาท ี่ ๑ แลวาอั้น พระเจากาววาสณฐานทั ี่นี้ถ้ําก็บมีบควรไวธาตแลวุาอ ั้น อรหนตาั แลพระญาอโสก จิ่งไหพระพทธเุจาว า ขาแดพระพทธเจุา คันบไวธาต ุดั่งอั้น ขอจงไว ุ รอยประบาท เทิอะวาอั้น พระเจาก็ย่ํารอยประบาทไวเหนิอผากอน ๑ ลึก ๔ นิ้วมือขวาง ไวหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย ฯ ก็สระเดจออกจากที่นั้น ไปเลียบข ึ้นไปพายเหนิอไกลได๗ พันวา ก็ไปจวบพระญานาคตัว ๑ เปนอัน หยาบชากลาแขง มันหนพระเจัามารอดท ี่นั้น มันวาจกกะทัารํายแกพระเจาวาอ ั้น [หนาลานที่ ๔, น.๖๓๐] พระเจาก็รูใจมันวาพระญานาคเยิ่งนั้น ก็กะทําอิทธิริทธีบหื้อ มันยอตัวไดมันจ ิ่ งร ่ํ าพึงวา กูนี้มีริทธีแลดาย มันผูนี้พอยมีริทธีแกกูนี้ชาวาอั้น พระเจาจิ่งผายปาฏิหารยมันหัน จิ่งรูวาเปนพระเจา มันก็กาววา ขาบรูจักเจาแล เจาจุงโผดขาห ื้อไดยอหวยอตั ัวไดพรองเทิอะ ขาบรูแลไดกะทําผิดแกเจากูแทแล ขาจักทวงจักติง๑ ก็บไดแลวาอั้น เม ิ่ อน ั้ นพระเจาก็รูใจอันออนนอมแหงมันแลว พระเจาก็หื้อมันทวงติงไดแลวมันก็ลุกได ก็ไปเอาอาสนามาปูหื้อพระเจานั่ง เหนิอผากอน ๑ กวางได๗ สอก ยาวสิบสอกแล ก็ไปเอาเขาน้ําโภชนะอาหาร ๑ ติง - ขยับตัว ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๑
มาทานแกพระพุทธเจาห ั้ นแล ทีนั้นหาน ้ํ าจักห ื้ อพระเจาสันก็บมีมันก็หื้อน ้ํ าบุ ออกมาแตสะหลัง๑ แหงมัน แลวมันก็เอาหื้อพระเจาสันหั้นแล ฯ ในเมอพระเจ ิ่ าสนเขัาแล ว มันกขอเอาส็ลซีงพระเจ ึ่ าหนแล ั้ พระเจาก ็หื้อสีล ๕ แกมัน แลวมนกั ็บังเกดสิ ทธาป ั ติยินดเหลี มใส ิ้ ลวดขวกเอาตาทังสองออกมาทานั พระพุทธเจาห ั้ นแล แลวก็ปกพังพานเปนสัตตกั้งรมพระเจา [หนาลานที่ ๕, น.๖๓๒] อยูหั้นแล มันกขอเอารอยต็ นไว ีเหนอผาทิ ี่นั้น ยามนนพระเจ ั้ ากหว็ายหน าไปว นออกั แลวกาววา ถานะที่นี้พระญานาคตัวหื้อเปนทานแกพระเจา พายหนาจักเปนเมิง อันใหย ๑ คือวามหานคร วาอั้นชาแล ฯ พระเจาก็ลุกย่ํารอยตีนเหนิอผาที่นั้น แลวพระญานาคก็ไหวพระเจา แลวก็หนีไปสูเมิงนาคอันเปนที่อยูแหงตนยามใด สวนวาตาทิพพนั้นก็เกิดมีแกมันในขณะบัดเดียวนั้น ตามันก็แจงใสกวาเกา ดวยเตชะอันหื้อตาเปนทานแกพระเจานั้นแล ฯ พระเจาก็สระเดจจากที่นั้นแลวขึ้นเมิอพายเหนิอไปสูสัณฐานที่ ๑ พระเจา ก็หวายหนาไปวันออก ก็ร่ําพึงวาอายุกูก็ได๖๐ ปแลว เทายัง ๒๐ ปแลวก็จัก นิพพานไปชาแล ธาตุกูก็ยังจักต ั้ งอยูในเมิงที่นี้จักมากหลายกวาเมิงอันอื่น ๑ ชาแลวาอั้น ธัมมสังเวคก็เกิดมีแกพระเจาสันน ี้ แลว พายหนาที่นี้จักไดเปนดี หมื่นชาแล ฯ พระเจาก ็ยายไปวนออกได ั พันวา ก็ไปรอดบานกมภารสุ ฏฐั ีหั้นแล ยังมีลัวะ ผู๑ เปนชางหมอ มันเปนนายบานที่นั้น มันก็หันพระเจามา [หนาลานที่ ๖, น.๖๓๔] มันก็ถามวาเจากูลุกท ี่ใดมานี้ ชา พระเจาจ ิ่ งกาววา กูจระเดินเทสันตรีมารอด บานเมิงที่นี้ เพ ิ่อโผดสัตตทังหลายดายวาอั้น กุมภารสัฏฐีจิ่งกาววา เจากูเปน พระเจาอ ั้ นชะรือ มันก็ราทธนาพระพุทธเจาจุงอยูสํารานที่นี้โผดผูขาทังหลาย หื้อเสี้ยง ๗ วันกอนเทิอะวาอั้น มันก็มาแปงกุฎีวิหารหลัง๑ หื้อพระเจาอยูสําราน หั้นแล ชาวบานก ็หื้อเขาปณฑ บาตเปนทานแก ิพระพทธเจุาแลวพระเจาก ็รับเอาแลว สันเขาแลวจ ิ่ งกาวซ ึ่ งอรหันตา แลพระญาอโสกวา ดูราภิกขุทังหลาย เมิ่อ กูตถาคตะมารอดที่นี้ลัวะทงหลายเัขาเขามาขอราทธนาว า พระเจาจงรุ บเทัอะวิาอ ั้น พายหนาจักเปนเมิงอันใหย ก็ปรากฏชื่อวากุญชนคร วาอั้นชาแล ฯ ๑ สะหลัง - สันหลัง ๑๘๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ยามนนอรห ั้ นตาแลพระญาอโสกก ั ไหว ็ วา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาพระเจ ั้ า ที่ ๑ แล ขอพระเจาไวธาตุเทิอะวาอั้น พระเจาก็เอามือลูบหัวไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตา แลพระญาอโสก แลวลัวะทังหลายมีกุมภารสัฏฐีเปนตน ขุดขุม ลึกรอยเอ็ดวาปายสอก แลก็เอาบอกไมซางฅํา ใสคระอูบใหย ๘ กํา [หนาลานที่ ๗, น.๖๓๖] แลวก็เอาธาตุลงใสในขุม ลัวะทังหลายก็เอาเขาของใส ๗ ลาน ปูชาแลวก็ แปงปราสาทฅําสูง ๗ สอกปายใสธาตุแล พระญาอินทก็ใสยนตไฟดีแลว พระเจา สั่งวาเม ิ่อใดพระตถาคตะนิพพานไปแลว สูจุงเอาธาตุดูกกระหมอมหัวกล ้ํ าขวา มาไวที่นี้เทิอะ ฯ วาอนแล ั้ วพระเจากสระเดจข็นเม ึ้ อประหมาณว ิ าได พันวา ก็ไปรอดบานลวะั ที่ ๑ ยังมีมานผู๑ ก็หื้อหมากพลูกับสีเสียด ยาฅวัน มาทานแกพระพุทธเจา ขาแดเจากูจุงคอมชิชาเทิอะวาอั้น บานนี้จักไดชื่อวาบานชีชาแล พายหนา จักไดชื่อวาเวียงอุปการ วาอ ั้ นชาแล ฯ อรหันตาแลพระญาอโสกจิ่งไหววา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาพระเ ั้ จาท ี่นี้แลวาอ ั้น จิ่งขอเอาธาตุหั้นแล พระเจาจงเอาม ิ่ ือ ลูบหัวก็ไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตาแลพระญาอโสกหั้นแลลัวะทังหลายมีมาน ผูนั้นเปนตน ก็เอาใสบอกไมรวก ใสอูบฅําใหย ๗ กํา มานผูนั้นใสเขาของลาน ๑ ปูชาแลวพระญาอนทิ ก็ใสยนต ถมเสยดีแลีวกอขนสองสอกพายบน ึ้ แลวพระเจา ก็ทํานายวา กูตถาคตะนิพพานไปแลว จุงเอาดูกขางกล ้ํ าขวา มา [หนาลานที่๘, น.๖๓๘] ไวที่นี้เทิอะ ฯ อรหันตา แลพระญาอโสก พระญาอินทแลอานันทเถรก็นอนที่นั้น แลว พระเจาก็ไปนอนดอยอัน ๑ พายวันตกใกลตนไมขามตน ๑ ใหย ๘ กํา สูงสิบ ๕ สอก อยูเมตตาเสี้ยงรวายตรีฅืนนั้น เทวดาก็ชมชื่นยินดีแลวก็หื้อหาฝนแกว หาฝนงึน หาฝนฅํา ตกลงมาปูชาพระเจาแล คันรุงแจงแลวแกวแหวนงึนฅําทัง หลายฝงนูนก ั้ ไหลเ ็ขามาส ูพื้นดอยเสยง ี้ ดวยอานภาพพระพุทธเจุาแลเหยดดีงอ ั่ ั้น ดอยอันน ั้ นจ ิ่งไดชื่อวาดอยหลวง เพ ิ่ ออ ั้ นแล ฯ เม ิ่ อน ั้ นเทวดาก็ขอเอารอยตีน ซึ่งพระเจาหั้นแล พระเจากาววา หาที่จักไวก็บไดแล ฯ ถึงวนลันรูงเุ ชา พระเจาก ไปส ็ ูทิสะกลาว ้ํ นออกั ก็ไปหนหันกิอน๒ กมงามนัก พระเจาก็นั่งหวายหนาไปสูทิสะกล ้ํ าวันออก แลวก็ทํานายวา เมิงอันนี้จักมี ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๓
อารามใหย๘ หลัง ดีนักแล เม ิ่ อกูตถาคตะมาน ั่งภาวนาในที่นี้เปนอันวิเสียด เหมินด ั่ งกูนั้น โสตถานะ ๖ แหง ในเมิงลังกาทวีปนั้ นแลวาอั้น พระเจาก็ย่ํา ประบาทไวเหนิอหินอันตนนั่งนั้นแล ฯ พระเจาก็ไปนั่ งอยูจิ่มเคาไมบัวนาก๑ ตน ๑ ยังมีฅนสองฅนเอาบัวนาก ไปขายเลี้ยงชีวิต สองขาก็มาอยูจิ่ม [หนาลานที่ ๙, น.๖๔๐] ใกลไมบัวนากอันพระเจา นั่งอยูสองขาก็เอาดอกบัวนากมาปูชาพระเจาห ั้ นแล พระเจาจ ิ่ งกาววา ถานะที่นี้ ฅนทังหลายจักสางอารามใหยหลัง๑จักปรากฏชื่ อวาบุปผารามชาแลอรหันตา แลพระญาอโสกก็ไหวพระพุทธเจาวา ในที่นี้ก็ควรต ั้ งสาสนาพระเจาแลวาอั้น พระเจากเอาม็อลืบหูวได ัเกสาเส น ๑เอาหออรห ื้ นตาแลพระญาอโสกจ ั ไวุในท ี่นั้น หั้นแล พระเจากาววา ที่อันไวธาตุนั้น บเทาที่นี้สิ่งเดียวดาย ยังมี๘ แหงกอนแล วาอั้น พระเจากเอาธาต็ วางไวุเหน อฝิาม ือแลวอทฏฐานวิ าในถานะที่นี้ยังจกเปน ั ที่ตั้งสาสนา ยังเปนที่ มหาอารามแทดั่งอั้น เกสาเสนนี้จุงบังเกิดเปน ๘ เสน บัดเดียวน ี้ เทิอะ พระเจาก็อทิฏฐานสันน ี้ เม ิ่ อน ั้ นเกสาเสนน ั้ นก็ปรากฏหันมา ๘ เสน ก็บใหยบนอย เทากันบสั้นบยาว บหื้อผิดแผกหลากคลาสังสักอัน เหมนกินชัเสู น พระญาอโสกหนสันนันจ ั้ งขอเอาธาต ิ่ เสุน ๑ เอาจไวุที่พระเจานงแล ั่ จิ่งปรากฏชื่อวาบุปผาราม วัดสวนดอกในกาละบัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระพทธเจุาก ็ยายไป [หนาลานท ี่๑๐, น.๖๔๒]สูทิสะวนออกชัวยหนเหน ิอ ก็นั่งอยเคู าไม หกกอ๑ พระเจาก ็ทํานายวาในที่นี้พายหนาจ กได ั ชื่อวาปาเวฬุวัน อาราม ชาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ขอเอาเกสาเสน ๑ ถปนนาตั้งไว ที่นั้น ลวดปรากฏชื่อวาเวฬุวันปาหก บัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระเจาก็ไปทิสะกล ้ําใต ก็นั่งอยูที่ ๑ แลวทํานายวา ถานะที่นี้ ฅนทังหลายจักมาสางอารามใหยอัน ๑ ก็ปรากฏชื่ อวาบุพพาราม ตามนิมิต วันออกนนชาแล ั้ อรหนตาแลพระญาอโสกก ัขอเอาธาต็แลุวต งไั้ วที่นั้น ลวดชอว ื่ า บุพพาราม ตราบถึงบัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระเจาก ็ยายไปทสะหวิางน ั้น ยังมีชีมานนกบวชสองตนั นุงผาผางราย สองขาหันพระเจามาก็มาไหวพระเจา หื้อลูกไมเปนทานนั้นแล พระเจาก็ถามวา ๑ บัวนาก - ตนบุญนาค ๑๘๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เขอทิงสองนังผุ าอนผางรัาย ๑ เชนแล บเปนสมณะสกอันแลวัาอ ั้น ชีมานสองตนนั้น ยินละอายนัก ลวดสิก๒ เสียแลวขอบวชใหมหั้นแล พระเจาก็ลวดบวชห ื้อเปน เอหิภิกขุแลวกาวซ ึ่ งพระญาอินทแลพระญาอโสก อรหันตาวา ในถานะที่นี้ พายหนาจ กเปนท ัอย ี่ แหู ง [หนาลานท ี่๑๑, น.๖๔๔] ทาวพระญาตนใหยชาแล ในชีมาน มาละเพสเกาเสีย แลวลวดบวชเปนเอหิภิกขุพายหนาจักปรากฏเปนเวียงอัน ๑ ชื่ออภินวนคร คือวาเมิงเชียงใหมชาแล ฯ พระเจากพรากเส็ยที ี่นั้น ก็ไปทสะกลิาว ้ํ นตกั ยังมีลัวะสองฅนยนคิาววเถั ิ่น ก็เอาช ิ้ นมาหยางไฟไวขาทังสองก็หื้อเขาปณฑิบาตเปนทานแกพระเจากับ ชิ้นแหงนั้น พระเจาก็รับสัน แลวจ ิ่ งทํานายวา ถานะที่นี้ พายหนาฅนทังหลาย จักสางอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวาอโสกราม ตามนิมิตอันทัมมิละมาหยาง ชิ้นแหงนนชาแล ั้ วาอนแล ั้ วอรห นตาแลพระญาอโสก ั ก็ขอเอาธาตุจุไวที่นั้นหนแล ั้ จิ่งไดชื่อวาอโสกราม บัดนี้แล ฯ พระเจาก็พรากจากที่นั้นไปสูทิสะหนใตก็นั่งอยูที่๑ ยังมีลัวะสองฅนก็เอา หมากมวงสองลูก มาหื้อทานแกพระพุทธเจาหั้นแล บเทาแตนั้น ก็เอาหมากสา หมากขนุน เขาตม เขาหนม มาเปนทานแกพระเจาสัน แลวก็เอาน ้ํ าสมปอย น้ํามันหอมเปนทาน น้ําซวยหนาแหงพระพุทธเจาห ั้ นแล แลวก็นั่งอยูที่นั้น เทสนาธัมมแกลัวะทังหลายตราบเสี้ยง ๓ วัน [หนาลานที่๑๒, น.๖๔๖] ๓ ฅืน แลวจิ่ง ทํานายวา ในที่นี้พายหนาฅนทังหลายจักสางอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวา พิชชอารามชาแล พระญาอโสกก็ขอเอาธาตุตั้งไวที่นั้นแล ฯ ถัดนนพระเจ ั้ าก ็ยายจากที่นั้นเขาไปส ูทิสะหนวนออกชัวยหนเหน ิอ ก็นั่งอยู ที่ ๑ เม ิ่ อน ั้ นยังมีชีมาน ๕ ฅน มานอนอยูที่นั้นห ั้ นแล เขาหันพระเจามารอด ก็เขามาไหว พระพทธเจุาแลพระเจาก ็กาววาสัณฐานที่นี้ชีมานมานอน พายหนา ฅนทังหลายจักมาสางอารามใหยหลัง ๑ ปรากฏชื่ อวาสังฆอารามชาแลวาอั้น พระญาอโสกก็ขอเอาเกสาธาตุตั้งไวที่นั้นห ั้ นแล จิ่งไดชื่อวาสังฆอาราม ถึงกาละบัดนี้แล ฯ ๑ ผางราย - ดูนาเกลียด๒ สิก - ลาสิกขา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๕
ถัดนั้น พระเจากสระเด็จจากท็ ี่นั้นไปหนอาคไนย ยังมีลัวะผู๑ หันพระเจามา มันก็รังแปงตบอูัน ๑แลวกราทธนาพระเจ็าอย ูสํารานหนแล ั้ พระพทธเจุากเมตตา็ ในที่นั้นเส ี้ ยงฅืน ๑ แลวพระเจาก็ทํานายวา กูมารอดที่นี้ ทัมมิละก็ยินดีก็มา แปงตูบที่สํารานกูถานะที่นี้ฅนทังหลายจักสางแปงอารามใหย ๑ ปรากฏชื่อวา นันทอาราม แลวาอั้น อรหันตา แลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุเสน ๑ แลวจุไว [หนาลานที่๑๓, น.๖๔๘] ที่นั้นหั้นแล ฯ ถัดนั้น ทัมมิละก็ราทธนาพระเจามาเมตตาในบาน พระเจาก็ยายจากที่นั้น ไปรอดบาน ๑ แลวก็นั่งอยูเหนิออาสนาในกลางบานที่นั้น ยังมีลัวะผู๑ มันก็ ยินดีปสาทะสัทธา ก็ปกกางทุงปูชาพระเจาหั้นแล ในกาละนั้นยังมีนักบวชตน ๑ มีอายุได๒๐ ปเตมแลว พระเจามาเมตตาก็บังเกิดสัทธายินดีวากูเกิดมาได ซาวปนี้แล กูบวชในสาสนาหาประโยชนะบได บัดนี้กูก็ไดจวบพระพทธเจุามาถ ึง สันนี้ดีนักแลวาอ ั้น ก็แกผามาชบนุาม ้ํ นมาป ัชาพระพูทธเจุาหนแล ั้ พระเจาจงก ิ่ าวว า กูตถาคตะมารอดที่นี้ เขาก็มาปกกางทุงโคมปูชา ชีมานก็มาเจาะผาสไบปูชา ถานะที่นี้พายหนาฅนทังหลายจักมาสางแปงอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวา โชติกอารามชาแลวาอั้น พระญาอโสกแลอรหันตาก็ขอเอาธาตุหั้นแล ก็เอาใส บอกไมซาง กอเจติยะสูง ๓ สอก แลวพระเจาก็สั่งอรหันตาแลพระญาอโสกวา กูตถาคตะนิพพานไปแลว สูจุงเอาธาตุฝามือกล้ําขวา มาไวที่นี้เทิอะวาอั้นแล ฯ พระเจาก็สระเดจ [หนาลานที่๑๔, น.๖๕๐] จากที่นั้น ก็ไปบานกุมภสัฏฐี ชางป นหมอ ก็อยูเมตตาเทสนาอานิสงสอันสางรูปพระพุทธเจาห ื้ อมหาสัฏฐีฟง หั้นแลรสธัมมเทสนาอันนั้นมันก็ยินเขาใจนัก มักใฅสางพุทธรูปดั่งอั้น ก็ปาวเติน ชาวบาน เขาก็มารอมเขาของวัตถุทานแลก็มาชักชวนกันเอาดินป นหมอนั้น มาปนเปนพุทธรูปได๓ ลาน ๓ แสนตน ใสแทนชองมาปูชาพระเจาห ั้ นแล ทัมมละทิงหลายมั ีกุมภสฏฐั เปนเค ี า ก็พากนมาไหว ันบส กการะป ัชาพระเจูาพมพาิ สารูป ๓ ลาน ๓ แสนตนนั้น ตามกําลังสัทธาแหงเขาก็มีแล พระเจากาววา สาธุ ดีนักแล ดูรากุมภสัฏฐีสูพรอมกันสางพุทธรูปเจาไวสักการะปูชาก็ดีนักแล เมิ่อใดกูตถาคตะนิพพานไปแลว ถานะที่นี้จักเปนเมิงใหยอัน ๑ สาสนากูจักมา ตั้งอยูในเมิงที่นี้จักกานกุงรุงเริงมากนัก จักเปนที่ชุมนุมพระภิกขุสามเณรแล นักบวชอาจารยผูรูมากนัก ฯ ๑๘๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
พระการ ๑ ทาวพระญาเสนาอามาตยยิงชายทงหลายฝ ังเกูดมาในเม ิงอินนั ี้ จักกานกุงรุงเริง มีหั้นชาแล ฅนเกิดมาในเมิงอันนี้จักไดพ่ําเพงบุญ [หนาลานที่๑๕, น.๖๕๑] มากนัก เขาจกได ั ถึงมคคผลธัมมั ในสาสนาก ตถาคตะูผิบไดถึงมคคผลธัมมั ในสาสนากูดั่งอั้น เขาทังหลายก็ไดถึงมัคคผลธัมมในสาสนาอริยเมตเตยยะเจา ชาแลวาอ ั้น อรหนตาแลพระญาอโสกก ั ็ขุดขมลุึก ๗ สอก แลวกเอาพ็ทธรุ ูป ๓ ลาน ๓ แสนตนน ั้ นเขาใสขุม ถมเสียแลวพระพุทธเจาจ ิ่ งเล็งดูอนาคตะ รูแจงแลว ก็ทํานายวา กูนิพพานไปแลว พายหนาพุทธรูปดินฝูงนี้ฅนทังหลาย แลเทวดา ออกมาไหวแลป ชาูในกาละนนสาสนาก ั้ ตถาคตะจูกกัานกงรุ งเรุ งในเม ิงทิ ี่นี้ชาแล ฯ พระเจาทํานายสันนี้แลวก็สระเดจออกไปสูดอยนางนอนที่นั้น แลวกาววา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาแลว ั้ าอ ั้น อรหนตาแลพระญาอโสกก ัขอเอาธาต็ุกูไวที่นั้น แลวพระพุทธเจาก็ทํานายวา ธาตุกูอันนี้จักปรากฏชื่อวาดอยนางนอน วาอั้น ฯ แลวก็สระเดจไปสูเมิงยอม (ยอน) ไวประบาทรอย ๑ ฯ แลวก็ไปสูเมิงทราง ย่ําประบาทไวรอย ๑ ฯ แลวก็ไปสูเมิงเซง แลวก็เขาไปสูเมิงทะคุง แลวก็ไปสู เมิงกุสินาราย แลวก็เขาไปสูปาเชตวันอารามดั่งเกา ถึงกาละ [หนาลานที่๑๖, น.๖๕๓] อันควรเขาวัสสาก็มีแล ฯ พระพุทธเจาก็จระเดินโผดสัตตแลวก็ทํานายประบาทพระธาตุปางนั้น ไปรอดเมิงใดฅนทังหลายก็เทียรยอมมาห ื้อทานแลปูชาทุกที่ทุกแหงก็มีแล ในกาละเมิ่ อพระเจาไดตรัสประหญาเปนพระแลวได๒๕ วัสสา อายุได๖๐ ป ก็มีดวยพระการดั่งนี้แล ฯ เอกํสมยํภควา หริภฺุชนคเร มหาปพฺตเต เอกํมหายกฺข ทิสทลิ กฺจิมเนติฯ ดูราสัปปุริสะทังหลาย เอกํสมยํ ยังมีในกาละคราบ ๑ ภควา อันวาพระพุทธเจาตนมีมหากรุณาร่ําพึงหันพระญายักขตน ๑ อยูในดอยสูงที่นั้น มีในเมิงหริภุญเชยยนคร พระเจาก็สระเดจไปรอดในระโวงโขงเขตดอยสูงที่นั้น หั้นแล ฯ ในกาละนนพระญาย ั้ กขัตนอยดอยท ู ี่นั้น มันเทยรยี อมไปแสวงหาฅนแลส ตตั มาเปนอาหารบขาดสายห ั้ นแลในวันน ั้ นพระญายักขผูนั้นก็จระเดินไปหาอาหาร ที่ใดแลก็บไดมันก็ไปจวบพบพระพุทธเจา หันแลวมันก็บรูวาเปนพระพุทธเจา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๗
มันก็คระนิงใจวา บัดน ี้โชคลาภกูมีแทแล [หนาลานที่๑๗, น.๖๕๕] จิ่งมาจวบพบหัน ชายผูนี้ทึงหลา อาหารแหงกูก็มาหากูแทแลวาอั้น มันก็มาสําแดงดวยอิทธิริทธี อันเปนยักขก็แลนเขาไปสูพระพุทธเจา มันก็จักสับยับเอาพระพุทธเจาหั้นแล ฯ อถ ภควา เมิ่อนั้นพระพุทธเจาก็รูใจแหงยักขผูนั้น ก็กาววา มหายกฺข ดูรา มหายกขั ผูใหยมึงอยาวาจกมากันกิ ูดวยงายเทอะิ จักเปนบาปอนหนักแกั มึงชาแล กูนี้บใชฅนโยยานสามานยแล อหํ อันวากูนี้ หากเปนตนประเสิฏกวาโลกทัง ๓ ดายวาอั้น ฯ เม ิ่ อน ั้ นพระญายักขตนน ั้นไดยินคําพระเจากาวเทาน ั้ นแลว ภิโต หุตฺวา มันกสะด็ งตกใ ุ จกัว มีตนอนสันระสายก ั่ วตายมากนั ัก ก็ขออภยชั ีวิตซงพระพ ึ่ ทธเจุา หั้นแล ก็ถอยหนีเมิอหาท ี่ อยูอาณารัฏฐะเขตแดนเมิงแหงตน เมิอบอกเหียด การณอันน ั้ นแกเมียมันวาด ั่ งน ี้ ภทฺเท ดูรานาง ในวันนี้กูก็ไปแอวหาอาหาร ก็บจวบบหัน กูก็ไปจวบชายผู๑ ทรงรูปโสมโนมพัณณวัณณะอันงามบัวรสุทธิ์ มากนัก กูก็ใสใจวาเปนฅนโยยานสามานย กูก็แลนเล ยไปแท ิ ดวยคํา [หนาลานท ี่๑๘, น.๖๕๗] คระนงใจว ิาจกสับยั บเอามาเปนอาหารแห ังราวาอ ั้น มันก็กาวคาสํหนาทวี า ดูรายกขั มึงอยาได วาจกกันกิเทูอะิ จักเปนบาปแกมึงชาแลวาอ ั้น กูนี้หากเปนตน ประเสิฏกวาโลกทังมวรแลวาอั้น ฯ กูไดยินคําเย ิ่ งน ั้ นก็สะดุงตกใจกัว มีตนอัน สั่นระสายกวตายมากนั ัก ก็กมกราบไหวก็ถอยหนมาหาทีอย ี่ แหู งราบดนัแลว ี้ าอ ั้น ฯ เมอน ิ่ นเม ั้ ยมี นได ั ยินคาผํวกัาวสนนั ั้น มันกกฎหมายร็ ูวาหากเปนสพพัญัู เจาสิ่งเดียวแล ร่ําพึงสันนี้แลวก็กาวซึ่งผัวตนวาดั่งนี้สามิขาแกเจากูปุคละอัน หันมาปานสันนั้น บใชฅนโยยานสามานยดาย ก็หากเปนตนมีบุญสมพารชาแล เจาก ไดูจวบพบสพพัญั ตนประเสู ฏแทิแลเจาอยาวาจ กได ั กินเทอะิ จักเปนบาป อันหนักชาแล บัดนี้เจาตนประเสิฏนั้นยังอยูที่ใดชา พระญายักขก็กาววา ยังไป หนีเท ิ่ อแลวาอั้น เมียมันจ ิ่ งกาววา ขาแดเจากูจุงเรนขันเขาตอกดอกไมคันธะ ของหอม แลวไปขอสมมาพล นนักเทัอะิ จุงหอพระเจ ื้ าขมาอดโทสป นเทอะวิาอ ั้น ฯ ตํสุตฺวา พระญายักขได[หนาลานที่๑๙, น.๖๕๘] ยินคําเมียบอกดั่งอั้น ก็รีบขงขวาย หาปรมามสปิชาูไดแลวก ็รีบแลนเข าไปส ูสํานกพระเจั าแลวกขอสมมาคารวะด็วย คําวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ตนหาทุกขบได ผูขาก็ขอซ ึ่ งพระพุทธเจา ๑๘๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
จุงบังเกิดกรุณาแกขาเทิอะ ขาก็บรูจักพระพุทธเจา จิ่งจักแลนเลิยเขามาเพ ิ่ อวา จักกินพระพุทธเจาสันนั้น ก็เปนโทสแกขาแทแล ขอเจากูจุงขมาโทสแกขา แดเทิอะวาอั้น ฯ อถ ในกาละนั้ นพระเจาก็เล็งหันพระญายักขผูนั้นมีบุญสมพารอันมาก จิ่งจกรั บเอาปรมาม ั สปิชาูแลวขมาเสยยี งโทสย ังพระญายักขัตนน ั้น แลวพระเจา ก็สอนสรณาคมนแลสีล ๕ หื้อแกมันห ั้ นแล พระญายักขก็รับเอาแลวมันก็จําสีล บขาสตตั นั้นแล ก็นั่งอยปฏู ิบัติพระพทธเุจาหนแล ั้ พระพทธเจุากเทสนาท็านายวํ า ดูราทานยักขผูใหยอนาคตะพายหนาในระหวางสาสนาพระตถาคตะนิพพาน ไปแลววันนั้น ทานจักไดเกิดเปนพระญาธัมมิกราชาตน ๑ ในสาสนาพันถวน ๓ นั้นแล ทานเกิดมาก็จักได[หนาลานที่ ๒๐, น.๖๖๐] เลิกยกยอสาสนากูหื้อกานกุง รุงเริงมากนัก พายหนาบอยาชาแล พระญาธัมมิกราชาตนน ั้ นจักมีอายุยืนได ๗๐ ปชาแล ฯ ในกาละนนอต ั้ ตสาสนากี ูตั้งไว๕ พันวสสาัแรกแตตถาคตะน พพานไปน ิ ั้น พระญาธัมมิกราชาก็เกิดมาลําดับถัดกันมีสี่ตนกอนแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงปาตลีบุตตนามปญญัตติชื่อวาวตมาริกะ คือวา พระญาอโสกธัมมราชาวาอั้นก็มีแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงสาวัตถีคือวาเมิงหังสาวดีทานตนนั้นจักกะทํา กิจคาขายเหมี้ยงชาแล ยามนั้นเหมี้ยง๑ ก็แพง จักขายได๗ สิบงึนตริงชาแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาเมิงอางวะ ทานตนน ั้ นจักเปนพอคาเกิอ เกิอก็จักแพง ขายได๗๐ งึนตริงแล ฯ ตน ๑ เกิดมาเมิงใตเมิงอโยธิยา จักเปนพอคาพลูพลูก็จักแพง จักขาย ๓๐ งึนตริงแล ฯ ตน ๑ เกิดมาเปนพอคาเขาสาร เขาสารก็จักแพง ขายเปนงึนตริงแล ฯ ล้ําพระญาธัมมิกราชาส ี่ ตนนั้น จักเกิดมาใน ๕ พันวัสสานี้สิ่งเดียวแล ใน (พัน) วัสสาถวน ๕ นั้น บเกิดสักตนแล เหียดวาฅนปาปธัมมมากนัก บอาจ จักสั่งสอนไดลวดบเกิดเพิ่อ [หนาลานที่ ๒๑, น.๖๖๒] อั้นแล ฯ ๑ เหมี้ยง - เมี่ยง, ชาอัสสัม ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๙
ล้ําพระญาธัมมสี่ตนนั้น ตน ๑ ชื่อปตมาลิกอโสกราชาตนนั้นจักเกิดกอน แตพันวัสสาหัวทีนั้นแล ฯ ตนถวนสอง จักเกิดมาชื่อวาตัมพุละอนุรุทธธัมมิกราชา จักเปนพอคา เหมยง ี้ เกดใน ิเมงพิกลู่ํา ในทวารติคือวาหงสาวดั ีในพนวัสสาถัวนสองนนชาแล ั้ ฯ ตน ๑ จักเกิดมาเปนพอคาเขาสาร จักเกิดมาในเมิงโยนกะคือวาเมิง หริภุญเชยยนคร ในพันวัสสาถวน ๓ นั้นชาแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงอางวะ จักเปนพอคาเกิอ ในพันวัสสาถวนสี่นั้น มีหั้นชาแล ฯ ดูราทานยักขราชา ทานจักไดเปนพระญาธัมมิกราชา ในพันวัสสาถวน ๓ นั้นชาแล ฯ คันกตถาคตะนูพพานไปแล ิ วได สองพนแลเัขามา๓ พันกาละเมอใด ิ่ ในกาละนั้ นยักขราชาจักไดเกิดในเมิงเชียงดาวที่นั้น จักไดเลิกยอสาสนา กูตถาคตะห ื้ อกานกุงรุงเริงมากนักชาแล ฯ อยํ ปพฺพโต อันวาดอยอันนี้คือวา ดอยอางสลุงใหย กวางไดโยชนะ ๑ ยังมีถ้ําใหยอัน ๑ สูงพันวา ยังมียักขสี่ตัว ตั้งอยูรักสาพุทธรูปหั้นแล ดูราทานยักขในกาละพายหนา [หนาลานที่ ๒๒, น.๖๖๔] สาสนากูตถาคตะขามพนสองพันวัสสาแลว เขาไปเขต ๓ พันวัสสานั้น ในเมิง หริภุญชัย ภาสาวาพระญาหวเัวยงี วาอั้น ก็เสวยราชสมปัตต ในเม ิงหริ ิภุญชยทั ี่นี้ จิ่มแมกําลังผู๑ ก็มาสนสอหื้อพระญาตนนั้นหื้อบีบเบียนเสนาอามาตยไปรไทย หื้อวินาสสิบหายบหนีชาแล ฯ พระการ ๑ พระญาตนน ั้ นมักมัวเลน จระเดินไปแอวกาดแลวันแล ๓ ทีเสนาอามาตยบพึงใจลวดพรอมกันยกออกเสียเมิง หื้อพลัดพรากราชสัมปตติ เอาตนอนแทนเม ื่ งตราบเสิยง ี้ ๒๗ ตนแลในเมอล ิ่ กพระญาตนถ ูวนสองนนก ั้ นเมิ ิง บนานเทาใดสึกหมู ๑ ก็เกิดมาแตเมิงโกสัมพี ก็มาตกเมิงหริภุญเชยยที่นี้ ก็จักเปนโกลาหลมากนักชาแล สงครามอันน ั้ นก็จักประจญแพริพลหาญบมีแล เทาประจญแพดวยฅนผีบาเปนวินผู๑ ชาแล ฯ ปตถายฺแรกแตนั้นไปหนา จักหาทาวพระญาสบเมืงแทนกิ ็บไดมีหั้นชาแล ฯ ๑๙๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ตั้งแรกแตนั้นมาดวยลําดับถึงปกัดไคไปถึงปกัดเรา ยามน ั้ นทานจักได เกิดเปนพระญาธัมมิกราชา ก็มาเลิกซากสาสนากูตถาคตะในกาละ [หนาลานที่ ๒๓, น.๖๖๖] ยามนั้นชาแล ฯ ในปเปกสันนั้น พระญาอินทาธิราชเปนเจาแกเทวดาทังหลาย ก็ลงมาจาก ชั้นฟาตาวติงสา แลวก็มาเปาหอยสังขลูก ๑ หื้อฅนทังหลายในชุมพูทวีปหื้อได ยินชูแหง เพ ิ่ อห ื้ อชาวเจาหมูสรมณฅนทังหลายมวรห ื้อไดกะทําบุญ มีตนวา หื้อทานแลรักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนาบขาดสายชาแล ฯ พายหนาแตนั้น ยังมีปุพนิมิตอันใหย๑ คือวาพระอาทิตยแลพระจันท จักมาปรากฏแกโลก หันเปนสองลูก ก็จักมีพายหนาชาแล ฯ ในกาละนั้น ยังจกมัพระญาตนี๑ จักเกดมาในป ิ กัดเรา เดิน ๗ เพง เมงวัน ๗ ทานก็จักไดเปน พระญาธัมมิราชตนประเสิฏ มีหั้นชาแล ฯ เมอน ิ่ นพระญาธ ั้ มมักราชาตนนินเก ั้ ดมาิฅนทงหลายพาลาใ ั จบาป เขาเทยรี ยอมชงกั ัน บสูบมักกนชาแลัพระญาตนนนจ ั้ กเกั ดในกระก ิลชูางหูก เกดประเทส ิ พายหลาน ้ํ าห ั้ นแล ทานตนน ั้นเปนผูมีประหญา สั่งสอนชาวเจาแลฅนทังหลาย หื้อกะทําบุญห ั้ นแล เหียดด ั่ งอ ั้ นแลชาวเจาทังหลายฝูงใจบาปนั้น จักชังทาน เพิ่ออั้นแล ก็จักขึ้นไปเลี้ยงชีวิตแหงตนในแมน้ําระมิง ฯ แลวตงแต ั้ [หนาลานท ี่๒๔, น.๖๖๘] นั้นไปพายหนาสรมณแลฅนทงหลายจั กได ั ตองอุบาทวนานาตางๆ ชาแล ฅนทังหลายเกิดมายามนั้นจิ่งจักะทําบุญหื้อทาน แลรักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนาไปไจๆ ในกาละนั้ นทุภิกขเภยยะก็จักเกิดมา คือวาจักสิบหายดวยแพง เขาสารหมื่นไหนหมื่นน้ําหนัก ๗๐ สองลูกงึนซีก เปน ๓ รอย ๓ เถหาฅนจักขายก็บไดชาแล ยามนั้นเจาตนบุญนั้นเปนพอคาเขาสาร ชาแล ฯ ในกาละนั้ นทานจักไดเปนพอคาเขาสาร ทานจักย ั้งในดอยผาคอม คือ พูผาดนแดงิ ในระโวงโขงเขตเมงทิ ี่นั้นหนแล ั้ ในกาละนนพระญาอ ั้ นทิ ก็เลงห็นแลั ว ก็เอามาทิพพตัว ๑ ชื่อวามณีกัณฐกะ จักเขามาสูดอยดินแดง ในประเทสเมิงฝาง ที่นั้น แลวอนทมานวะผิ ูนั้นก็จักเอามาเขามาส ูพอคาผ ูนั้น แลวกาววาดราเจูาพอค า จุงอนดิ ูทือเชิก มาหอข ื้ ายาม๑ กอนเทอะิ ขาจกไปก ันนิ ้ํา ๓ สบ ยาม ๑ กอนวาอ ั้น ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๑
อินทมานวะก็จิ่งเอาเขาตม ๓ ลูก หื้อแกพอคาวาเจากูจุงรักสากับมาแหงขา ไวกอนเทิอะ ผิเจากูอยากเขาจุงกินเขาตม ๓ ลูกน ี้ เทิอะ ผิวามาตัวน ี้ [หนาลานที่๒๕, น.๖๗๐] หากเตนแลหแหินดงอ ั่ ั้น เจาจงขุ นข ึ้ ี่ มันหากจกเซาชาแลวัาอ ั้น อินทมานวะ ก็ลวดไปลี้อยูที่๑ หั้นแล ฯ ในกาละนั้ นพอคาผูนั้นยินอยากเขามากนัก ก็ไข๑ เขาตมกินหอ ๑ แลว ประหญาทิพพก็เกิดในบัดเดียวนั้น มาตัวน ั้ นก็หิแหนแลนไปมาหั้ นแล ยามนั้น พอคาผ ูนั้นก็ขึ้นขี่มาตวนั ั้น แลวมาตวนันก ั้ พาเอาท็านสยองข นไปในอากาสห ึ้ นแล ั้ ยามน ั้ นทาวจตุโลกทัง ๔ แลเทวบุตตเทวดา ยักขะคันธัพพะทังมวรก็จักพรอม กันลงมาตีตุริยดนตรี๕ พระการ สงเสพปูชาเปนโกลาหลอุกขุกมี่นันทั่วจักรวาล ก็มีแล ฯ ในกาละนั้ นฅนทังหลายมีในสักกละชุมพพูทวีป เขาก็บหอนทอนไดยิน คันเขาไดยินแลวก็สะดุงตกใจกัวมากนักห ั้ นแล ในกาละนั้ นพระญาอินท แลทาวจตุโลกแลเทวดา ยักขะ คันธัพพะ กุมภัณฑะ อสุรา อสุรินททังหลาย ก็พรอมกนเอาเัจาตนบญข ุนส ึ้ ูชั้นฟาสว รคเทวโลก ัแลวก ็อุสสาราชาภเสกดิวยเฅ ิ่ง ๕ พระการ อันเปนทิพพนั้น จิ่งจักนําเอาพระญาธัมมตนนั้นมา แลวก็พรอมกัน ทังฅนแลเทวดาทังหลายอินทพรหม มาอุสสาราชาภิเสก [หนาลานที่๒๖, น.๖๗๒] ในเมิงเชียงดาว โขงเขตภุญชัยนครที่นั้น มีหั้นชาแล ฯ ตโย ปาสาโท อันวาปราสาท ๓ หลัง หลัง ๑ แลวดวยฅํา ฯ หลัง ๑ แลว ดวยงึน ฯ หลัง ๑ แลวดวยแก ว สูงได๖๗ วา กวางได ๓๗ วา ก็บุออกแตแผนด ิน ขึ้นมาปรากฏทากลางเ ่ํ วยงที ี่นั้นหนแล ั้ ยามนนฅ ั้ าสํ ี่สิบกอน อันมในห ี วยหนองไคร ที่นั้น ก็ออกมาตั้งอยูแจงปราสาทนั้น มีหั้นชาแล ฯ ถัดนั้นจักมีลินฅํา๒ อัน ๑ กาย๓ ใตดอยอางสลุงพุนลงมา แลวพระญาอินท แลทาวจตุโลกแลเทวดาทังหลายก็มาพรอมกันหดหลอน ้ํ าสงเสพพอคาเขาสาร ลูกชาวหกขูนเปนธ ึ้ มมักเอกราชาิ มีหั้นชาแลฯ พระญาตนนนได ั้ เปนธ มมักราชาิ แลวด ั่ งอั้น กปฺปรุกฺขานิตนกาลพฤกษทิพพทังหลายไดพันปาย ๖ สิบตน ๑ ไข - แกะ, เปด๒ ลินฅํา - รางน้ําทําดวยทองคํา๓ กาย - พาด ๑๙๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ก็บุแตแผนดนออกมาแวดลิ อมปราสาทรอดช เบู งช ิ้ พายใน ู เวยงเช ียงดาวี ทังมวร ก็กานกุงรุงเริง จักปรากฏไปสักกละชุมพูทวีปทังมวรชาแล ฯ สพฺเพ ชนา ปาโย อันวาฅนยิงชายทังหลายเขาก็มาแกเสียยังเส ื้ อผา อันเกาเสีย แลวกองไวสูงประหมาณ ๗ สอก แลวลมจักมาพัดเสีย ๗ ทีแลว ฅนทังหลายฝูงมีบุญน ั้ นก็จักไดบัวระโภค [หนาลานที่๒๗, น.๖๗๔] วัตถุอาภารณะ อันเปนทิพพชูฅนแล ฯ ยทา ในกาละเมิ่อใด ตทา ในกาละเมิ่อนั้น โกสมฺพิอันวา ฅนทังหลายอันอยูในเมิงโกสัมพีทังมวร ก็ไดมาชอบขายสมพารจักเปนพอครัว ธัมมิกราชา มีหั้นชาแล ฯ ในกาละนั้น ชาวเจาทังหลายฝูงใดปฏิบัติบชอบสิกขาบทพระเจานั้น ก็หื้อ สิกขเสียชาแล ชาวเจาทังหลายฝูงดีมีสีลประกอบดวยธัมมวินัยพระพุทธเจาแท ก็จักห ื้ ออยูรักสาพุทธสาสนาแทแล สวนวาชาวเจาฝูงชอบธัมมิกราชานั้น ในชุมพูทวีปทังมวรเทาจักมี๓ รมไมนี้โครธตนใหยนั้น มีหั้นชาแล พระญา ธัมมิกะตนน ั้ นจักไดเสวยสัมปตติตามบุญสมพารตราบไดรอยปเปนเขตชาแล ดูราทานยักขราชา ถึงกาละเม ิ่ อทานไดเปนธัมมิกราชานั้น เภยยะอันตราย ก็จักมีแกฅนทังหลาย ก็จักไดตองวินาสสิบหายมากนักชาแล ฯ ในเมอเภยยะจ ิ่ กเกัดมิ ีนั้น ปรวงไคนั้นยงมักวางฅีาตํ ัว๑ มาแตทิสะหนเหนิอ จักมีเทวดาตน ๑ เนรมิตเปนกระตายเผิกตัว ๑ จิ่งขึ้นมาทิสะหนใตแล กวางฅํา แลกระตายก็มาพบกันในที่๑ แล ฯ กวางฅากํ ็จักถามซงกระต ึ่ ายวาเจาสหายทานลกแตุที่ใด [หนาลานท ี่๒๘, น.๖๗๖] มานั้นชา กระตายจิ่งกาววา ขาก็ลุกแตทิสะหนใตแลวาอั้น ฯ กวางฅาจํงก ิ่ าวว า ดูราเจาสหาย โลกทงหลายสมมั ุติสสาปณฑ ิต วาดงร ั่ ือ ฯ กระตายจิ่งกาววา อาม เออ สสาปณฑิตนั้นคือหากตัวขาแล ฯ กวางฅาจํงถามว ิ่ า ดูราเจาสหาย ขากขอถามซ็งเ ึ่ จากแลูเจากบอกแกูขาเทอะิ บานเมิงกระตายน ั้ นยังมีสุขแลทุกข เปนดั่ งรือชาวาอั้น ฯ กระตายจ ิ่ งขานวา ดูราเจาสหาย บานเมิงพายใตนั้น ดั่งขาไดยินมานี้มหาภยํอันวาเภยยะอันมาก ก็จักเกิดมีมากนักแล คือวาน ้ํ าขุนมากวนเกลาดวยน ้ําใสเสีย คือวาฅนใจบาป มาเขาใจบุญมากนัก ชาวเจาฝูงสรมณก็เขาใจบาป มากวนเกลาฝูงใจบุญ ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๓
พระการ ๑ นิมิตอันสิบหายแหงสัตตทังหลายก็จักเกิดมีมาก คือวามา กินหยาดวยว ัว ฅนพอยม ีหัวกบหนั าปกตา ฅนพาถงหลวงกบดาบอันยาวดังร ั่ วนา ั้ ฅนทือชาหูลับหนา ฝูงเปนพอคามักสืบคําโจร ผีหลวงเทียวอากาส นักปราชญ บหุมบุญ เปนขุนนายบรูตัดแตง ฅนทังหลายมักเอาผาส ี่ แจงเปนถง ฝนตกลง บใชเม ิ่อ[หนาลานท ี่๒๙, น.๖๗๗]นักปราชญเจาบเชอคลองธ ิ่ มมั ฅนคระหฏฐัแลนกบวชั ทังหลายไดยินธัมมเทสนาพระเจาอันเปนบุญแลใสใจจักบรู บหื้อทานรักสาสีล เมตตาภาวนา ลางพรองก็กะทํา ลางพรองก็บกะทํา บเหมินกันแลวาอั้น อันเปน บาปพอยใสใจวาบรายบดีแมนกะทําบาปไปไจๆ ก็บไดสังมา ยังจักสมริทธี เปนดดายี วาอนห ั้ นแล ั้ ฯ ฅนบครบยานํกบวชัอาจารยจักโจทยครบาูฅนทงหลายั หันนกบวชบัตามวเนยยะธิมมัพระเจ าลวดบเข าใจว าเปนน กบวชั บรักสาอนทริ ีย บไตตามคลองนักบวช ก็เทาอยูแลกิน บปากจาลีลาอาการทรงเฅ ิ่ งแลเอาเพส เปนดั่งฅน ฯ อัน ๑ หาความครบยําบไดมีหั้นชาแล แมนนักปราชญมีประหญาหันเปน สันนั้น ยินอินดูกรุณาสั่งสอนเขาก็บฟง ก็ลวดกาวคําพาลาวาราย นักปราชญเจา ก็จักแตงอุบาย เหียดหลอนผอนเสีย แมนรูก็บปากบวาสังแลลวดบัวราณแตงไว นั้นคือวาเปนวาทะคลองครูบาอาจาริยะแทกเทียมไวในธัมมนั้น สรมณทังหลาย ก็จักละเสีย บตามคลองอันดีฯ ในกาละนนฅนท ั้ งหลายั [หนาลานท ี่๓๐, น.๖๗๙] ก็จักทกขุไรเข ญใจ ็ บรูเบาหาย ก็มีความกลาหาญหันราย แมนทาวพระญาก็บตามบัวราณราชผูเฒาผูแก ก็จักแตงอันใหมใสแถมชาแล ยามน ั้ นผูไรก็จักเปนดีบรูกัวตาย มีใจกลาหาญ การสึก ลวดกะทาตามคํ าใบ ํ วาเปนนั้น ลวดจกมัยสศีกดัมากด ิ์ วยส มปัตตเขิาของ ชาแล ฯ อัน ๑ ฅนยิงชายสิบปเขามีชูนั้น เปนทุกขผลาญการมาก ลูกยิงสาว บพอกาละเอาผัวเทิ่อ พอแมญาติเลาโลมหื้ อเอาผัว บพอรูวัตรคลองก็จักอยู ปมาทะซึ่งกัน ก็จักหาไผสอนบไดจักพากันสิบหายชาแล ฯ ๑๙๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
อัน ๑ ฝูงเปนชีนั้น ชาวเจาตนประกอบชอบคลองวินัย ลวดบพึงใจนักบวช ฝูงน ั้ นแล ฅนฝูงใจบาปก็คําราบคําราม ก็จักขับหนีไปชาแล ฅนใจบาปอยูกับ ดวยกัน ใสใจวาดีวาชอบชาแล ฯ อัน ๑ สายฟาตีเปนดั่ งทุง๑ นั้น ก็จักหยาดตกลงมาเปนอุบาทวแกฅน ทังหลาย หาเมิ่อหายามบไดชาแล ฯ อัน ๑ ผีรุงเทียวอากาส ก็จักลงมากินน้ําในบานในเวียง จักเปนอันตราย แกฅนทังหลาย มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ เปนนกปราชญ ั [หนาลานท ี่๓๑, น.๖๘๑] รูลายรพราง ู คือฅนพาลาอสปปั ุริสะ พอรูคลองสักหนอย ฅนทังหลายสมุตติวาเปนนักปราชญมันก็ซ้ําเรงกะทํามายา อวดอาง แมนบแมนก็นับวาตามวิสัย หื้อทานดูดีดูงาม ดวยแท ก็เปนคําลาย คําพราง พายหนาเปนวิบากแหนนหนา มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ฅนเทียวทางมักยอโทสหื้อ ฅนพาลาหาประหญาบไดจระเดินกับ ดวยกันก็ดีอาชญาผูเปนใหยก็ดีหลอนหากไดหื้อทานผูอื่นไดผิดนอยมากก็ดี จักเก็บเอาคําห ื้ อทานไดตกใสแมนโทสทานมีนอยก็ยกใสหื้อหนักห ื้ อสิบหาย แมนบมีคําพิจารณาแลยกโทสใส พากันไปกวานหื้อวินาสสิบหาย บหนีชาแล ฯ อัน ๑เปนนกบวชบัเรยนธีมมั นั้น คือปคละทุงหลายขัคร ี้ านหยานการทกขุไร เข็ญใจ มักไปบวชเลี้ ยงชีวิตเล ี้ ยงทอง เทามักหยองมักกิน บจําสีลห ื้ อบัวริสุทธ ิ์ ประกอบดวยโลภะต ณหาในลาภะส ักการั บแสวงหาหนทางนพพานิ บยินดในแก ี ว ๓ พระการ มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ทุกขเภยยะจักเกิดมีเอางึนเอาฅําแอวหาซื้อ ฯ อัน ๑ ฅนทังหลายจักแตงการกังวล [หนาลานที่ ๓๒, น.๖๘๓] อันตรายขมเหง เอาเขาของงึนฅําแกกัน แมนเอามาเทาใดก็บทือคาคุณสัง ฯ อัน ๑ จักเอางึนฅําแตงเปนเฅิ่ งบัวรโภค ก็บทือคาทือคุณ ฅนทังหลาย จักประหมาทงึนฅํา มีหั้นชาแล แมนจายเบ ี้ ยก็บพอรอย จักสมุตติวาเปนรอย พายหนางึนจักถอยเถียวไปเปนดั่งเบี้ยลวด ๓ รอยนั้นแล ฯ อัน ๑ บานเมิงนอยไป เจาใหยจักกลายเปนเจานั้นแล ฯ ๑ ทุง - (ตุง) ธง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๕
อัน ๑ ชาวเมิงจักมักใฅพายนั้น ชาวเมิงข ี้ ครานหยานการเสีย ชางลาย ชางพรางกัน คันขบได ั ไตชอบจ กเปนโทสเปนเภยยะ ั ไดตกได เสยลวดสี บหายไป ิ มีหั้นชาแล ฯ ผูนอยมักมายกินเมิงนั้น คันวาขุนผูนอยพอยไดกินเมิง ผูใหยบุญบหลาย ก็จักพากันสิบหายวายวอดชาแล ฯ ขุนไปคานั้น คือวาเจาเบียนไปรฝาขาเมิง วัตถุมากหลาย พายลูนไปรฝา ทังหลายจักเปนโทสเปนเภยยะ เอาวัตถุออกตางๆ แลวเอามาเปนขาเปนขอย ก็จักมีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ฟารองเปนดั่งเสียงกา หมูกาตอมอากาส ตกหยาดเคากลางเวียง เสยงนีนเนังบิขาด ฝูงนกปราชญ ั [หนาลานท ี่๓๓, น.๖๘๕] เลยงผ ี้ ีมิจฉาทฏฐิ ิฝูงเปนชี มักชางคา หุมนุงผาผืนเหลิง พอคาเนิงชางลัก นักปราชญมักกินเหลา ลูกเตา บยําพอแมเถาแก ลุงอาว ชาวสรมณมักทอกืุบ ฝูงเปนชีมัวทอดาบื ตัณหาดวยลาภ แลมีเม ิ่อใด อาจารยมักกินเหลา เมดเขาจากเสียรวง ทุกขทังหลวงหลายแหง น้ําบอแหงเขาะกิน พระแลฅนหาสีลบได ดอกไมเผยบชอบ สัตรูจักแผกวาง สางบลุกปลูกบเปน เรินหลวงกลายเปนตูบ พี่นองบอูกันจักผิดแผ บานเมิงแยก บเปนกัน ฝูงฅนงันเรินไมลูกออนไหในยุม เมิงใหยจักเปนขอกนิคม ตนสรมณ จักแอวคา ติ้วผาวาดเหน็บแอว ฝนตกบตามชอบ ฟารองรอบปูนกัว เตนชา เรงแหิงแดดเขตนาร ้ํ องเปนนา เมอน ิ่ นท ั้ าวพระญาจกเอาสั วยไรมาก ฅนทงหลายั จักทกขุจักยาก ฅนผลาญหากครางตาย ฅนยงชายชิ างโลภตาช ัง ฅนรงจัานงนผึ ิด เมงสมริทธิ ิ์จักถอย สัตตจัญไรจกมากันกลิ า ฟามดฝนบ ืมา ฅนแปงนาจกกลันเข ั้ า ไวเปลาจาก [หนาลานที่ ๓๔, น.๖๘๖] เสียเยีย จักเรรนอิดหอด อึบเขารอดทุกปจักได หาบครวหนัเสียบีานฅนจกคัานเสยเมี ิง ผีหลวงเนงอากาสิ จักบอกโอวาทสอนฅน จักมาปองปุนแตง มีชูแหงชูพาย ลูกนองบยํานาย ลูกชายบยําพอแม ฅนเถาแก บรักลกหลานูเยดของทานมกกันเหลิ า ชาวเจาสตรเหมูนขิ ับ ไปเวยกทีานจกรัอง เรียงหาการ ยินผลาญใจอกจักแตก ฝูงแขกการสงครามจักเกิด ฅนจักไดไห เปนเลดตาแดงิ ขัดดาบแฝงกบขัาง วันฅนอืางฅางตาย ก็จักมชาแลีดูราเจาสหาย นิมิตทังหลายเกิดมีราชธานีที่ใด ก็เภยยะทังหลายจักเกิดมีชูแหงชาแล ฯ ๑๙๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ในกาละนั้ นฅนทังหลายในชุมพูทังมวร จักเปนทุกขลําบากยากใจ จักเล ี้ ยงชีวิตก็บไดแล กระตายวาอั้น กวางฅําก็ซ้ําถามกระตายวาดูราสหาย อันวาเคราะหบานเกนเมิงทังมวร เม ี้ ยนเทานี้ดั่งรือ กระตายจ ิ่ งขานวา ดูราสหาย เคราะหบานเกนเมิงบเมี้ยนเทิ่อแล ตั้งแตปกาไจนั้น เภยยะกลียุคเปนเปยว ๗ ที กอนแล เหียดวาในรัฏฐะหวางกลางชุมพูนี้จักปองขาฟนกันตาย [หนาลานที่ ๓๕, น.๖๘๘] มากชาแล เลิดพอถวมกีบชางชาแล ฯ กวางซ ้ํ าถามวา มีเทานี้ดั่งรือชา ฯ กระตายกาววา ไปเม ี้ ยนเท ิ่ อแล ตั้งปรวายไจถึงปเปกยี ยังจักมีเมิง ๑ มีชางมามากนัก พอยหาฅนขี่บได จิ่งมีเมิง ๑ มีทาวพระญาหลายนัก หาชางมาขี่บไดมีหั้นชาแล ฯ ยังมีเมิง ๑ มีลูกยิงสาวหลายมาก หาผูชายบไดแล ฯ จิ่งยังมีเมิง ๑ มีเขาน้ํามาก เขาตาง ๑ งึนซีก ๑ ก็หาฅนซ ื้ อบได มีเขาไวฅนกินก็บมีมีฅนไวหาฅนอยูบไดชาแล ฯ ยังมีเมิง ๑ มีฅนมาก หาเขาบไดเขาหมื่น ๑ คา ๒ รอยปาย ๒ เถหาผูจักขาย บไดชาแล ฯ ขาจักอุปมาหื้ อแจงกอนแล อุปมาดั่งหนองสระใหยกวางไดแสน โยชนะ ยาวก็แสนโยชนะ ลึกคาขอมือ ๑ สระอันน ั้ นก็มีสัตตแลปูปลาหอย เทามีมากอนแล เหียดวาหยากเหย ื้ อมากนัก น้ําก็แหงเสีย แลวสระใหยอันนั้น หาผูจักรักสาบไดแล ฯ เมิ่อนั้น กวางก็ถามกระตายวา เคราะหทังหลายหากมีเทานั้นอั้นดั่งรือ ฯ กระตายจ ิ่ งกาววา ตั้งแตปนั้นไปปหนา ยังจักมีพระญาตน ๑ จักมา ๔ ทิสะ จักมาชุมนุมกันในหนองสระอันน ี้ พระญาตนพายวันออกน ั้ นมา จักถาม ซึ่งพระญา [หนาลานที่ ๓๖, น.๖๙๐] ใหย ๓ ตนนั้นวา ดูราเจาทัง ๓ ดั่งไดยินมานี้ ในบานเมงชิมพุ ูนี้มีน้ํามากนัก สงสณฐานดังหน ั่ าววนั ั้น แตปถมก ปปัมานามหาสม ้ํ ทรุ ทวมเสยโยชนะ ี๑เปนปาไม หิมพานตเส ีย ๓ พันโยชนะเปนทอย ี่ ฅนสองพ ู นโยชนะ ั ยังมีแมน้ําใหย ๕ พระการ คือวาคงคา ยมุนา อจิรวดีสรภูมหิแมน้ําทังหลาย ฝูงน ี้ ก็ไหลไปสูราชธานีเมิงฅนเสียเส ี้ ยง ในเมิงปญจเทส (ปจจันตประเทส) บมีสักแหงแล เมิงปญจเทสอันน ี้ เทามีน้ําไครอัน ๑ หากเปนทางหนองแหง พระญากาจักร ในเมิงมิถิลานคร ไหลมาผาเมิงไทยทังมวร แลวไปสูเมิง สุวัณณภูมิพุน ผาน้ําหวยไครพายวันตก หากเปนเขตแดนเมิงโกสัมพีเสี้ยงแล ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๗
แมนก ุสินาราย เกสีเมงหิงสาวดั ีก็มีพายหนาเสยงแล ี้ ผานาห ้ํ วยไคร พายวนตกั ลําดับถึงทางหนองแหงพระญากาจักร หากเปนเกาะพายหลายกวาง ๑ ดาย พายทิสะหนเหนิอหากเปนเขตอาฬวีเมิงลื้อ พายหลังน ้ํ าหวยไครนั้นหากเปน เมิงยวน เมิงไทยทังมวร ฯ อัน ๑ เมิงโกไท แลเมิงจามปานคร แลเมิงสุวัณณภูมิก็ตั้งอยูพายนั้น [หนาลานท ี่๓๗, น.๖๙๒] น้ําทางหนองพระญากาจกรัแขวดแวดเมงสิ ุวัณณภูมิทังมวรแล ผานาทางหนองแสพระญากาจ ้ํ กรัพายวนออกนั นเปนเม ั้ งปิญจาลนครเมงจิฬามณุี เมิงตักกสิลา แลเมิงปาเวยยะ แลเมิงอนุรัฏฐะ แลเชฏฐรัฏฐะ เมิงพาราณสี ล้ําเมิงใหยทังหลายฝูงน ี้ ขาก็บกาวไดแล ตั้งแตเขตแดนเมิงเราพายหนเหนิอ หากเปนปาไมเส ี้ ยงแล ล้ําแตปาไมเมิอเหนิอ หากเปนเขาสิเนโรตั้ งอยูแล ผานาห ้ํ วยไคร พายวนออกวันตกนั ั้น เมงทิงหลายนั นหากเปนภาสาอ ั้ นเดัยวกีนแลั ฅนทงหลายฝ ังอยู ูปานานา ทางนาหนองแสพายว ้ํ นออกชัวยหนเหนอนิ ั้น เขาก็มี ภาสาตางกันแล แผนดินในชุมพูนั้นมาผาเปน ๓ สวนสันนั้น พระญาใหยตนอยู ทิสะพายวันออก ก็มาบอกกาวสันนี้มีหั้นชาแล ฯ กระตายกาวสันน ี้ แลวก็ถามซ ึ่ งกวางฅําตัวน ั้ นวา ดูราเจาสหาย เจาตน มีบุญมาก เปนที่พึ่งแกฅนชาวชุมพูทวีปทังมวร เจากูยังแจงวาอั้น เมิ่อนั้นกวางฅําจิ่งกาววา ดูราสหาย สวนเจาตนมีบุญมาก ขาก็ยังไดยิน มาแล เจาวาบควรกาว [หนาลานที่๓๘, น.๖๙๔] ทานฝูงมีบุญน ั้ นเท ิ่ อแล ขาจักกาว อุปมาหอร ื้ แลู ดั่งเจาตนม ีบุญนั้น อันฅนทงหลายหากปราถนาห ันหนัาทานตนน ั้น ชูวันชูยาม จักไดหันก็ยินยากนักแล เหียดกาละบควรเท ิ่ อแล ดั่งขาไดยินมาน ี้ ทานยังจักไดมาเปนพอคาเขาสารกอนชาแล เจาตนมีบุญนั้นทานเปนลูกชางหูก ผู๑ อยูบานปจจันตะท ี่ ๑ แล เหียดใดแลวาอ ั้ นชา แทแลเมิงมัชฌิมเทสนั้น อุปมาเปนดั่งสระน้ําอันแหงหอด หาน้ําบไดนั้นแล เจามีบุญพอยหาเฅิ่งบัวรโภค บไดเหียดด ั่ งอ ั้ นเมิงปจจันตเทสชอมแควบ ที่ใดยังชอมเยนสบายใจ ก็เอาตน ไปเลี้ยงชีวิตตามสุขสํารานกอนหั้นแล ฯ เมิ่อใดสระน้ําอันเกานั้นแลเตมบัวรมวร เม ิ่อใด คือวาบานเมิงสุขเกสมราบเพียงเรียงงามแลวด ั่ งอั้น ในกาละเมิ่อใด พระญาอินทก็จักลงมาชาแล ทาวจตุโลกแลเทวบุตตเทวดาทังหลาย กุมภัณฑ ๑๙๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
คันธัพพะยักขก็จักมาพรอมกันลงมาเลงดูโลกทังมวร ฅนฝูงมักบุญมักบาป ฝูงหยาบชากลาแขงนั้น ก็จักมาเลิกออกเสีย ตามวิบากเขาทังหลาย มีตนวา เสิอขบ งูตอด ฟาผา [หนาลานที่ ๓๙, น.๖๙๖] ราเกน ตายดวยพยาธิตางๆ ก็จักขาฟน กันตายชาแล ฅนทังหลายหันก็สะดุงตกใจกัวแตเภยยะฝูงน ั้ นแล เขาก็จักเวน จากบาป แลวก็จักพรอมกันกะทําบุญตางๆ ตั้งแตปเปกยีตราบถึงปสงา มีหั้นชะแล ฯ ยามน ั้ นทาวจตุโลกแลเทวดาทังหลายก็จักมาเลียบผอดูชูบานชูเมิงแล ฅนทังหลายก็จักเอาแกว ๓ พระการ เปนที่พึ่ง แลวสับเพราะซึ่งบุญอันเปนแกน เปนสารดั่งอั้น เทวดา อินทฟม ก็จักมาพรอมกันอุสสาภิเสกยังเจาตนมีบุญนั้น เปนพระญาธัมมิกราชา เสวยราชสัมปตติในเวียงเชียงดาวที่นั้นแล เทวดา ก็จักนําเอานางแกวอุดร มาเปนอัครมเหสีเทวีแล ฯ กวางฅาแลกระตํายอนเนรมัตนินก ั้ ็วิสัชนาถามซงก ึ่ นสันนั ั้น แลวก ็สั่งอาลาํ ซึ่งกัน แลวตางตัวก็ตางไปสูที่อยูแหงตนวันนั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็เทสนาทํานายห ื้ อแกพระญายักขแลวเทวดาทังหลาย ก็ไดฟงสันนี้ก็มีวันนั้นแล ฯ ยักขราชาตนนั้น ไดยินธัมมเทสนาแลวก็มีใจชมชื่ นยินดีก็หนีไปสูที่อยู แหงตนก็มีวันน ั้ นแล ฯ [หนาลานที่๔๐, น.๖๙๗] พระเจาก็พรากจากที่นั้น แลวก็ไป โผดสัตตทังหลายหั้นแล ฯ ธมฺมราชากถา นวโม ปาทธาตุ นิฐิตํ ฯ กาวหองตํานานธาตุพระเจา ผูกถวน ๙ ก็บัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๙
(บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับน ี้ เจตนาขา ดวงแกว บานเชียงจาม ภริยาช ื่ อวานางบัวฟอง เปนเคา พอแมลูกเตาญาติกาวงสาทังหลาย สางทานค ้ํ าวรพุทธสาสนา ๕ พันวัสสา ฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสขอห ื้ อนาบุญคุณธัมม น้ําเอาตนตัวหัวใจเขาสู เวียงแกวกูนิพพาน ๑ แดฯ ผูขาลิขิตตัวขาบงามสักอิดสักหนอยแล พิจารณาไปเทิอะเจาเหิย ฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสชั่วนี้แลชาติหนา ๑ แดแล ฯ ๒๐๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
´ÍÂËÅǧ ËÃ×Í “´ÍÂ͋ҧÊÅØ§” àªÕ§´ÒÇ ÀÒ¾ : àÊÒÇÃÕ ªÑÂÇÃó
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๑๐ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ เอกํสมยํภควา จาริยปพฺพ วิหรนฺติ อตโน สโก นเทโว วิทิตฺวา เตสํปุจฺฉิตฺวา เทวโสกโต โอมาริตฺวา ภควนฺตํอภิวาเตตฺวา ปุจฺฉิสุตรํฯ ดูราสัปปุริสะทังหลาย ยังมีในกาละคราบ ๑ พระพุทธเจาก็อยูสําราน ในจาริปพพตะ แตพระตถาคตะได ตร สประหญาเปนพระมาได ั ๒๐ วัสสานนแล ั้ ฯ ในกาละเมิ่ อนั้น พระญาอินทาธิราชไดยินธัมมรสสาสนาแหงพระพุทธเจา แลวกะทําบุญในสาสนากูพระตถาคตะก็มีผละอานิสงสมากนัก ใฅรูอานิสงส ผูกะทําบุญนั้น จิ่งสระเดจมาจากชั้นฟาตาวติงสาสวัรคเทวโลก ก็เขาไปสูสํานัก พระเจาในดอยจาลีปพพตะที่นั้น แลวก็ไหวแลปูชา แลวก็ถามซ ึ่ งพระเจาวา ภนฺเต ภควา ผลมาโน เทวมนุสฺสานํกตํปฺุญํมหาผลํโสตฺถิภวนฺติฯ ดั่งนี้ ขาแดพระพุทธเจา ฅนแลเทวดาทังหลายกะทําบุญห ื้ อทานแลรักสาสีล ครบยําเมตตาภาวนา ไดกะทําเมิ่อพระเจายังธอระมานก็ดีไดกะทําเมิ่อพระเจา นิพพาน [หนาลานที่๒, น.๗๐๑] ไปแลวก็ดียังจักมีอานิสงสดั่งรือชา ในกาละนั้น พระพุทธเจาไดยินแลวยังปญหาเย ิ่ งนั้น อันจักสําแดงห ื้ อแจงแกพระญาอินท จิ่งกาววา พุทฺโธ โลกนายโก ปฺจวสฺสสสตสนิสาสนํ มมฐสติดั่งนี้มหาราช ดูรามหาราช กูตถาคตะก็เทสนาโทสแลคุณอันมีในสาสนาทังมวรแล ปรินิพฺพุโต ในเมิ่ อกูนิพพานไปแลว ก็ยังจักต ั้งไวสาสนาตราบ ๕ พันวัสสา เพ ิ่ อจักไวโผด สัตตทังหลายแล ฯ ๒๐๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ปถมวสฺสาสาสนํปฺุญํอปฺปริกาหุกา โยนเกน วิสุก วสโน นจิตส นวโกฏิ สตสตสานิผลํลพฺภติทายโก ฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายฝูงใดมากะทําบุญ ในพันวัสสาหัวทีนั้น จักไดผละอานิสงสแสนโกฏิชาติแล ฯ ทุติโยสาหเย กานห นจิกฺกตํ ปฺุญํ สตสสตสานิผลํ ...ทายโก ฯ ดูรา มหาราช ฅนทงหลายฝ ั งใดกะทูาบํ ญในพ ุนวัสสาอันถัวน๒ นั้น ไทยทานก็บัวรสทธุิ์ [หนาลานที่ ๓, น.๗๐๒] หลาย ใจก็บเหลิ้มใส จักไดอานิสงสแสน ๑ มีหั้นชาแล ฯ ตติยวสฺสา สหสกตํ ปฺุญํอปปฺปพหุกํ ทสฺสสหสํอสุทฺธํ ผลํ ทายโก ฯ พระการ ๑ ฅนทังหลายกะทําบุญนอยมาก ในพันวัสสาถวน ๓ นั้น ฅนทังหลาย บมีสัทธา ก็จักขมเหงเต็กกันกะทําบุญ เทาจักไดอานิสงสหมื่น ๑ ชาแล ฯ จตุตฺโถ วสฺสสหสต กตํปฺุญํพหุกปฺปกทย ธมฺมิสฺส อสุตฺถุสฺส สจ สหผลํ ลภนฺติทายโก ฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายกะทําบุญนอยมากก็ดีในพันวัสสา ถวน ๔ นั้น ไทยวตถัทานกุ็บบัวริสุทธ ิ์จิตใจบเหล มใส ิ้ ไดอานสงสิ พัน ๑ ชาแล ฯ ปฺจเมวสฺสตเส ปุคฺคลปูชา จนฺทนเมเต นากตํ จิตฺตปสาเท อปฺปกตํ ลภนฺติทายโก ภวิสฺสติฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายกะทําบุญหื้อทานนอยมาก ก็ดีจิตใจบเหลิ้มใส ในพันวัสสาถวน ๕ นั้น จักไดอานิสงสพอใดพอนั้นชาแล ฯ เหียดด ั่ งรือแลวาอ ั้ นชา แทแล ฅนทังหลายก็จักประกอบดวยสัพพลาสะโมหะ [หนาลานที่ ๔, น.๗๐๔] ดวยปาปธัมมแล ฯ เภยยะ ๓ พระการ ภิกขเภยยะ แลพยาธิ เภยยะ จักบีบเบียนขาฟนกันมากนักชาแล ฯ พระการ ๑ ในเมิ่ อกูตถาคตะนิพพานไปได๔ รอยปนั้น ผูยิงทังหลาย บวชเปนภิกขุณีก็ยังจักไดแตนั้นก็บวชไดแล ฯ ปถเมวสสาฺสหสเสฺอเนคตา ปตมลโกิพหุสุตฺโต มหา มม ธาตุสมเณตวาฺ วิถาเลสติฯ ดูรามหาราช ในเมิ่ อตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันวัสสาหัวทีนั้น ยังจักมีพระญาตน ๑ ชื่อปตริกาอโสกธัมมราชาวาอั้น ก็จักมารอมเอาธาตุกู ไดแลวกแผ็ ไปก อเจตยะได ิ ๘ หมื่น ๔ พันหลังจักไปถปนนาต งไั้ วในเม งทิงหลายั ๘ หมื่น ๔ พันเมิงแล พระญาตนนั้นก็สุบสางปูชาธาตุนั้นได๗ ปปาย ๗ เดิน ปาย ๗ วัน จิ่งจักแลวชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๓
ตโต วสฺสาหสฺสาสปฺปเต ปพฺพชิต ภินาจ ตุวิธาสนฺติเอโก สหสฺสา เอโก อสีติสหสฺสา เอโก สฐีสหสฺเส จตฺตาีสหสฺสา ชนา วาทานานา ปต อโย อฺญํ วสนฺติฯ ดูรามหาราช ตโต [หนาลานที่ ๕, น.๗๐๖] ในเมิ่อตถาคตะนิพพานไปแลวได ๓ พัน ปาย ๗ วัสสานั้น สังฆะอันเปนลูกสิกขกูตถาคตะก็จักแผกมางผากันเปน ๔ หมูชาแล หมู ๑ มีแสนตน ฯ หมู ๑ มีลูกสิกข๘ หมื่นตน ฯ หมู ๑ มีลูกสิกข ๖ หมนตน ื่ ฯ หมู๑ มีลูกสกขิ ๔ หมนตน ื่ เขาทงหลายจังม ิ่ วาทะตีางก ัน จักกาวค ํา ตางกัน หมูหมู ๑ วารูวาหลวก จักจระเดินไปชูบานชูเมิงแล จักไปสั่ งสอนฅน ทังหลาย ตางประเทสบานเมิงชาแล ฯ เตสํปกขาฺมหาชนาอปปสนาสนฺ ฺติเมอน ิ่ นฅนท ั้ งหลายอั ุปฏฐากสงฆะหมั ใดู ก็จักวาหม ูนี้ดีลวดจกเปนป ักขะสวาทะต ี่ างก นไป ั จักหาสทธาเัชอในค ิ่ ณสุงฆะบั ได ลวดบมีอันเหลิ้มใส ลวดจักมีคําสลั้ง หาที่หมั้นที่เที่ยงบไดมีหั้นชาแล ฯ สตปฺจธิกาสตวสฺสา ในเมิ่ อตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันปาย ๕ รอย วัสสานั้น สังฆะทังหลายก็จักประสุมชุมนุมกันหลายแหงหลายท ี่ มีหั้นชาแล เหียดวาภิกขุสังฆะทังหลายจักเปนตางหมูตางชุมเสียชูที่ชูแหง มีหั้นชาแล ฯ เหียดวาภิกขุสังฆะทังหลายในเมิ่อกูตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันปาย [หนาลาน ที่๖, น.๗๐๘] ๖๐ วสา ทาวพระญาในชุมพูทวีปทังมวรมีในที่ใด เขาก็จักมาพระสุม ชุมนมกุัน แจงดูบานไผเมงมิ ัน ก็จักขดขวางเขั ยดแดนไผม ีนชาแลัแลวก ็จักยยงขุึ้น ไผมันเปนใหยชาแล ฯ ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปได ิ พันปาย ๗ รอยวสานั้น ทาวพระญาชมพุทวูีป ทังมวร มีในที่ใด ก็จักมาฅุบชิงเอาบานนอยเมิงใหย ไรนาคามเขียดประเทียด บานเมิงแล ก็จักผิดเถียงกัน ฅอบงําเอาของกันมากนักแล ฯ กูตถาคตะนิพพาน ไปไดพันปาย ๘ รอยปนั้น พระญาธัมมิกะตน ๑ จักเกิดมาเปนเจา มีเตชะรัทธี พอปาน ๑ ทาวพระญาแลฅนทังหลายจักสมุติวาธัมมิกะวาอั้น ดวยแทก็จักเปน ธัมมิกะตนประเสิฏ จักมีฅนหยานกัวพระญาตนนั้น จักหยุดเซาเส บหาขียุคบได ในกาละยามนั้น ทาวพระญาแลฅนทังหลยจักไดอยูดีมีสุข เส ี้ ยงกาละหวางนั้น กอนแล ฯ ๒๐๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปได ิ พันปาย ๙ รอยวสานั้น ภิกขุสังฆะทงหลายั ในทวีปนี้จักขับหาอรหันตาตนวิเสียดแทก็หาบไดสักตนชาแล ฯ ในเมอก ิ่ ูนิพพานไปได (สอง) พันปาย ๗๐ วสานั้น ชาวเจาสม [หนาลานท ี่๗, น.๗๑๐] เณยรที ังหลาย ก็จักอนาทระยาย ่ํ ีธัมมคําสอนแหงกูแลวจกสักขิ ที่นี้ไปบวช ที่นั้น บหม ั้ นบเท ี่ ยงชาแล บเทาแตนั้น เขาทังหลายก็บตามวินัย เขาก็บกัว แตสิกขาบทปาราชิก ครบชุงเอาวิดวาอารามซังก ึ่ ัน ลวดจกยากใ ัจมากนกชาแลัฯ ในเมิ่อสาสนากูไดสองพันปาย ๘ สิบ ๘ วัสสานั้น กลียุคอันอยากเขาก็จัก เกดมิ ีฅนทงหลายจักมัวาทะผีดเถิยงกีนตัางๆเมงใต ิ ก็จักฟนเมงเหนิ ิอ บานเหนิอ จักฟนบานใตเรินใตจักฟนเรินเหนิอ พอจักขาลูก ลูกจักขาพอ ผัวเมียจักขากัน ลูกสิกขแลครูก็จักขากัน ก็จักมีในกาละยามนั้นชาแล ฯ พระการ ๑ ในเมิ่อสาสนากูได (๒) พันปาย ๙ สิบปวันนั้น ทาวพระญา ในชุมพูทวีปทังมวร จักกะทําหิงสาราวีกับดวยแกกัน เต็กเอาขาไปรไทยเมิง แหงกันชูที่ชูแหง แลวลูกหลานทาวพระญาทังหลายก็จักชิงกันกินเมิงแทนพอ แลจกฟันกนสับหายตายมากนิกชาแลัฯแมนลกกู็จักปองขาพอแม นองก็จักปอง แพพี่ ยามนั้นเจาหนุมปองแพเจาแก ลูกสิกขก็จักปองแพครูจักเปนสัตรูแกกัน ดวยวดวาอารามั สิกขโยม [หนาลานท ี่๘, น.๗๑๒] ก็จักมใจต ีางก ัน ไผก็วามนรั ูมันหลวก ทาวพระญามหาคระสตรนั กปราชญ ั ไผก ็วามนรั ูมันหลวก จักกะทามํ มากในโกธะ ี ผิดเถียงกัน ดวยคามเขตประเทสสมบัติสวนเริก๑ มัน แลวจักเปนโกลาหล ขาฟนกันตายมากนักแล ฯ เทฺวสราสหสฺเส ในเมิ่อสาสนากูได (๒) พันปายพระวัสสานั้น ฅนทังหลาย ก็จักลายพรางซึ่งกันวาพระญาธัมมิกะเกิดมาในเมิงที่นี้แล ลางพรองก็วากูนี้เปน พระญาธมมักะราชาแลิเฅงท ิ่ พพิ แลกงจกรแกั ว ดาบสรีกัญชยทังหลายกัเก็ดมิแลี ว แมนเทวดาอินทพรหมก็จักมาค ้ํ าชูกูดวยเฅ ิ่ งทิพพทังหลายเช ิ้ อนเช ี้ ิ้ อน ั้ นแลวาอั้น ลวดจกเปนส ักขึ าฟนกนตายมากัเหยดวี าไวใจว าก ูจักปราบแพฅนแทแลวาอ ั้น ฯ ทิวเสสหสฺส สปฺปนฺโน ภวิสฺสนฺติปฺจอรหนฺตา ธมฺมจุฬา นเมโก กริสติ มิคพิมฺพํ ทิสโม นามโก เจลสวณกาเลสนฺตินารทนาเมโก มหาเถโร กเรสติ ๑ สวนเริก - สวนเรือก, เรือกสวน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๕
รตมฺพย กตา กุโต จ นามโก เสวมฺพิตฺถํวเรสนฺติโพธิสมฺภาคร [หนาลานที่ ๙, น.๗๑๔] มยํกเรสติพิมฺพํฯ ดูรามหาราช ในเมิ่อสาสนากูได๓ พันวัสสา ยังจักมีมหาเถรเจา ๕ ตน ตน ๑ ชื่อสัทธัมมจุฬา จักมาหลอรูปกูตถาคตะ แลวดวยทองชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อทิสปาโมกขจักมาหลอรูปกูแลวดวยฅําทังแทงชาแล ฯ ตน ๑ จักมาหลอรูปกูแลวดวยแกวชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อกุตตเถร จักมาหลอรูปกูดวยหินทังมวรชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อเนปติสภา จักมาแปงรูปกูแลวดวยแกนจันทนแดงชาแล ฯ สารูปพระเจาทังหลายฝูงน ี้สวนวาสารูปพระเจาทองไปตั้ งอยูบานเมิงใด ก็จักวุฒิจําเริญแล ลูกทาวหลานพระญาในเมิงที่นั้นมักคดเล ี้ ยวหากันจักกินเมิง ดวยเภยยะตางๆ ชาแล แมนชาวเจาทังหลายก็จักมีใจคดเลี้ ยวตอครูอุปชฌาย มีหั้นชาแล ฯ สารูปพระเจา (ฅํา) ตั้งอยูบานเมิงที่นั้นจักสมริทธีเปนดีดวยงึนฅํา สุขสํารานบานใจ หาเภยยะบไดมีหั้นชาแล ฯ สารูปพระเจาไมจันทน ตั้งอยูบานเมิงใด บานเมิงน ั้ นจักมีขาสึกสงคราม บขาดสายชาแล ฯ สารปพระเูจาหนติงอย ั้ ูบานเมงใด ิ บานเมงนินก ั้ ็จักชมชนย ื่ นดิ ีมีสุขมากนัก ฟาฝนก็บัวรมวรยิ่งนักชาแล ฯ สารูปพระเจา [หนาลานที่๑๐, น.๗๑๖] แกวตั้งอยูบานเมิงใด เมิงนั้นชาวเจาแล เสนาอามาตยฅนทังหลายจักชิงกันเปนเจาเปนนายชาแล ฯ แมนภิกขุสังฆะ ก็จักผดกินดัวยวดวาอารามแลัฯ เมอใดสาสนาก ิ่ ไดูสองพ นปายว ัสสาพายหนัาน ั้น สารปพระเจูา ๘ พระองคนี้จักออกมาปรากฏตน ๑ ชาแล ได๓ พันปจักออกมา ปรากฏตน ๑ ชาแล ฯ สุวณฺณพิมฺโพ อุสรฐโก รตนพิมฺโพ อุตฺตรรฐ เกฏิโต นาครโฐ เสลกํ จนฺทพิมฺพํกถํพุทฺธสฺส ฯ ดูรามหาราช รูปพระเจาฅํา ก็ตั้งอยูในเมิงทสรัฐ รูปพระเจาแกว จักตั้งอยูเมิงอุตตรรัฐ คือเมิงทิสะหนเหนิอ ฯ ๒๐๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
รูปพระเจาหินจักอยูในเมิงนาครัฐ คือเมิงนายหลวง ฯ รูปพระเจาไมจันทนรูปพระเจาทอง ก็ตั้งอยูเมิงลังกาทวีป ชาแล ฯ อิเม ปฺจพุทฺธานํยตฺถรฐ สมาคมา กอสุโก ภวิสติสหสฺเสวสฺสฐาเน ปาทสาสนํปโชตกํปฺจพุทฺธา ตถาคต พุทฺธา กโลวโส ภวิสติฯ ล้ําสาสนาสารูปพระเจา ๕ องคนี้ไปประสุมชุมนุมกันที่เดียวที่ ๑ ดั่งอั้น ก็ปรากฏรงเุ รงมากนิ ัก [หนาลานท ี่๑๑, น.๗๑๘] กวาถานะฝ งอูนแล ื่ เหมนดิงก ั่ ตถาคตะู ยังธรมานไปนิพพานเทิ่อนั้นแล ดูรามหาราช พุทธรูป ๕ องคนี้อรหันตาสางไว เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ไหวแกฅนแลเทวดาทังหลายสืบไปตราบตอเทา ๕ พันวัสสา มีหั้นชาแล ฯ ดูรามหาราช พุทธรูป ๕ องคนี้ ไปชุมนุมกันบานใดเมิงใด อันวาวา บานเมงทิ ี่นั้นก็จักชมเยนเปนส ุ ขมากนุัก ธมฺมิกราชาปสวนวาพระญาธมมัตนน ั้น จักมาเลกสาสนากิ ในพูนวัสสาอันถัวน๓ นั้น จักเกดมาในเม ิงอินนั ั้น มีหั้นชาแล ฯ ดูรามหาราช ในเมิ่ อกูนิพพานไปแลวได๓ พัน ปาย ๑๗ วัสสานั้น ชาวเจาจักอุเปกขาซึ่ งกันไปมา ไผก็หาไผบไดเทาชุมเยนเปนสุข หากจัก พรอมกันตามวิเนยยะปญญัตติตั้งไวนั้นแล ฯ ใน ๗ วัสสาอันสังฆะอุเปกขาแกกันนั้น ชาวเจาทังหลายก็จักสิบหาย ตายมากนักชาแล นักบวชแลคระหัฏฐยิงชายทังหลายฝูงมีประหญาจุงรักสาสีล แลเมตตาภาวนาไปไจๆ จิ่งจักพนจากเภยยะอันใหยนั้น มีหั้นชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนากูไดสองพันวัสสา ปาย [หนาลานที่ ๑๒, น.๗๒๐] ๑๑ วัสสานั้น พายหนา สวนวาพระญาธัมมิกะตนประเสิฏจักเกิดมาเลิกสาสนากูเสมอดั่ง พระญาปตมัลละอโสกธัมมิกราชานั้นแล ฯ พระญาอโสกธัมมิกราชา เกิดมาปเตาสีแล ฯ ธัมมิกราชาตนนั้นก็เกิดมาปเมิงเราแล ฯ ตนเกิดมาในสาสนาถวน ๓ นั้น เกิดมาปกาบสันแล ฯ ตนเกิดมาในวัสสาถวนสี่นั้น ปเปาแล ฯ ในพนวัสสาอันถัวน ๕ ธัมมกราชาบิเกดสิกตนัเหยดฅนทีงหลายแหนันหนา ปาปธัมมบเชิ่อในธัมมเสียแลว ลวดบเกิดเพิ่ออั้นแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๗
ในเมิ่อกูนิพพานไปแลวได๒ พันวัสสา เขาเขต ๓ พันนั้น จักมีอุบาสก ผู๑ ประกอบดวยสทธาเชั อใสมากน ิ่ ัก มันก็จักมีคําตริอุบาย เหยดวีาพระพทธเจุา นิพพานไปแลว จิ่งจักแปงสารูปไวไหวแลปูชาอุปฏฐากท ี่ใกลบานน ี้ เทิอะวาอั้น มันก็มาแปงสารูปอัน ๑ แลวก็มาแปงกุฎีวิหารไวชูที่ชูแหง ชูบานชูเมิง หั้นแล ฯ ในกาละนนพายหน ั้ า เจาภกขิ ุสังฆะทงหลายปฏ ั ิบัติตามคาพระตถาคตะนํ ั้น ยอมไปอยูวัดในปาท ี่ไกลบานไกลเมิง ๕ รอยวาปกติแล อันจักมาอยูวัดใกล บานนั้นบมี[หนาลานที่๑๓, น.๗๒๒] สักตนเทิ่อแล ก็เทาจักอยูวาไกลบาน ๕ รอยวา สิ่งเดียวแล ฯ พายหนาแตนั้น ภิกขุไปปณฑิบาตเขาในบานก็จักหันวิหารแล พุทธรูปเจาตั้งอยูสันนั้น เขาก็จักไปจอดไปเซาอยูแลวควรนอน ก็จักนอนเพราะ ครานเทียวทาง เขาก็ปราไสรคุนเคยอุบาสกเจาสัทธา ลวดจักเมตตาเปน กาละหวางคราวกอน เมิ่อควรหนีก็จักหนีไปชาแล ฯ พายหนาแตนั้นอุบาสกทังหลายก็จักร ่ํ าพึงวา ผิแลชาวเจาอยูเฝาพุทธรูป แลวิหาร กวาดเผ ี้ ยวชําระรักสาก็จักดีชาแล วาอ ั้ นแลวก็จักเอากันราทธนาอยู ก็จักชูคําครานตณหาั ก็จักอยเมตตาร ู บทานสั ทธาในอาวาสใกล ั บาน แลวลวดจ ัก สืบจักเรียนกันชูแหงชูเมิงชาแลฯ พายหนาแตนั้นภิกขุฝูงอยูปาก็จักสิบหายเสีย เทายังหลอแตเมิงแลอาวาสพายใกลบาน ก็จักเปนแพรพอกออกมามากนัก รอยแหงพันแหงชาแล ฯ พายหนาแตนั้นชาวเจาฝูงอยูปาก็จักละวัดปาเสีย แลวก็จักอยูที่จิ่มบาน ชาแลวัดบานก ็จักมหมีนแลแสนชาแล ื่ ฯ พายหนาแต นั้น บาน ๑ ก็จักมีวัด ๒ ๓ หลัง สิบหลัง ซาวหลังชาแล เมิงนอย [หนาลานที่๑๔, น.๗๒๔] ก็จักมีวัดรอยหลัง พันหลัง เมงใหย ิ ก็จักมหมีนหล ื่ ังแสนหลงชาแลัฯ ฅนทงหลายฝ ังกูาวมาน ี้จักมในพ ีนวัสสาั ถวน ๓ นั้น มีหั้นชาแล ฯ ฅนทังหลายเกิดมายามนั้น เขาก็จักใสใจวาหากมีเทา อาวาสบานส ิ่ งเดียว หากเปนเคาเปนมูลส ิ่ งเดียว ก็จักใสใจวาชาวเจาฝูงอยูปา ก็บควรรับกฐินทานวาอั้น ชินบุตตฝูงอยูปาน ั้ นก็จักหอดตายหายไปไจๆ ทังเมิงตน ๑ สองตน ลางเมิงก็จักหาบไดสักตนชาแล ฯ ๒๐๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
พระการ๑สาสนากเขูามาเขต๓ พันวสสานั ั้น ทัมมละทิงหลายกั ็จักบงเกั ิด สัทธาเหล ิ้มใส ก็จักมารักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนา เขาก็จักแตงสางกุฎีวิหาร อุปฏฐากชาวเจาแลภิกขุสังฆะชูที่ชูแหงชาแล ฯ พระการ๑ ฅนเทียวทางแลพอคาก็จักไปจอดไปเซาวัดวาอาราม แลกะทํา อนาทระไปจอดสาลานนชาแล ั้ ฅนทงหลายอันบัตามคาสอนดํงอ ั่ ั้น ชาวเจาก ็บหุม เรียนวินัย บปฏิบัติตามธัมมคําสอนบหุมปฏิบัติตามธัมมนิบาตนิกาย วิสุทธิมัคค สักอนชาแลัฯ ชาวเจาฝงอยู ูบานนั้น ก็บเชอก ิ่ นรักแพงกั ัน ลวดเขาหาก ัน เขาทงหลายั ก็หาความยินดีในคุณชาวเจาฝูงอยูปาน ั้ นจักไดตามคํา [หนาลานที่ ๑๕, น.๗๒๖] สอนแทพอยมาใสใจประกอบดวยวิเนยยะวาอั้น เขาเทาใสใจวาชาวเจาฝูงอยูปา ชอบธัมมลวดยินดีมีคําพัดพรองกันสักหนอย หากจักยกโทสใสแลวลวดจักขับ ชาวเจาฝูงชอบธัมมหนีเสีย ก็จักมีหั้นชาแล ฯ พระการ๑ ฅนทงหลายบั หุมสางว ดปั า บรูหื้อผากฐนทานแกิชาวเจ าฝงอยู ู ปานั้น มีหั้นชาแล ฯ พระการ ๑ ภิกขุบรักสาสีลสิกขาบท เทาหุมฟงยังธัมมนิบาต ๕ รอยชาติ โวหารส ิ่ งเดียว บรูหุมวิเนยยะ ก็จักมียามน ั้ นชาแล ฯ กรียาอาการฝูงกาวมาน ี้ จักเกิดมีแต ๒ พันวัสสาเขาเขต ๓ พัน ตราบถึงพันวัสสาอันถวนสี่นั้นชาแล ฯ ในกาละเมิ่อสาสนาเขาเขต ๓ พันวัสสานั้น ชาวเจาทังหลายก็จักละคลอง อันชอบเสีย แลวจักกะทําอนาทระดวยตนดวยปากดวยใจ นอนก็ดี ยืนก็ดี เทยวกี ็ดีก็จักเยดลทธัอาจิ ิณ จักละวเนยยะคิ ําสอนกตถาคตะูแลวจกมาเมาดัวย กามคุณทัง ๕ เปนดั่งฅนคระหัฏฐทรงเฅิ่งประดับตามโลภะตัณหาไจๆ คันตาย ก็จักไดไปไหม อย ในอบายท ู งสัชาแล ี่ ฯในปจจ ุปนนะเทาม ีคําตณหาั [หนาลานท ี่๑๖, น.๗๒๘] เรงแสวงหาลาภะสกการะได ั วัตถุงึนซีก ๑ มาเล ี้ ยงชีวิต แลวก็จักสิกไป ชาแล ลางพรองก็ขี้ครานหยานการ ก็จักกุมใจอยูลวงคําสอน กะทําผิดวินัยธัมม นับอยูนับกินในสาสนา ตราบตอเทาพอตาย หาความเผิดละอายบไดก็จักไดไป เสวยทุกขเวทนาในนารกมากนักชาแล ฯ ในชาติอันน ี้ ก็จักไดตองทุกข สิบพระการชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๙
พระการ ๑ ตั้งแตพันวัสสาถวน ๓ พายหนา ชาวเจาแลคระหัฏฐทังหลาย จักกะทําบุญนอยมากก็ดีพอยปราถนาถึงนิพพานดับทุกขในสงสารในสาสนา กูตถาคตะอันน ี้ พอยบปราถนาเอานิพพานไป แลวไวสาสนา ๕ พันวัสสา พระอรยเมตเตยยะเจิาสงเด ิ่ ยวดีงอ ั่ ั้น ก็พึงวาจกมั ในว ี สสาในพ ันถัวน๓ นั้นชาแลฯ ดูรามหาราช สักขีแหงสาสนากูพึงรูดั่งน ี้ เทิอะ กูตถาคตะนิพพานไปแลว ไวสาสนา ๕ พันวัสสา ฯ ใน (พัน) วัสสาหวทั ีนั้น ฅนในบานในเม งมิชฌั มประเทสเม ิ งใหย ิ สิบ ๖ เมงนิ ั้น จักมีตนสูง ๖ สอกมัชฌิมปุริสะชาแล ฯ ใน (พัน) วัสสาถวนสองนั้น จักมีตนสูง ๕ สอกชาแล ฯ ในพันอันถวน ๓ นั้น จักมีตนสูงได๔ สอก พายหนาชาแลฯ[หนาลานที่๑๗, น.๗๓๐] ใน (พัน) วัสสาถวนสี่นั้น จักมีตนสูงได๓ สอกชาแล ฯ ในพันถวน ๕ นั้น จักมีตนสูงสองสอก พายหนามาแล ฯ สอกมัชฌิมปุริสะสอก ๑ เปนสองสอกฅนเราบัดนี้แล ฯ คันวาสกขั ในพ ีนวัสสายังมั ีคําไววา (วิ) ย สุส ทา ดั่งน ี้ในพันวสสาหัวทั ีนั้น ชื่อวิมุติยุค คือยิงชายคระหัฏฐนักบวชจักไดถึงมัคคผลธัมมไดฟงธัมมแลจักได ถึงพายมากชาแล ฯ ในพนถัวนสองน ั้น สัตตทังหลายจกใส ั ใจรกสาสัลหีอบ ื้ วรั ิสุทธ ิ์ แลวปฏิบัติคลองมัคคผลธัมมไจๆ แลวจักไดถึงสุขพายหนามากชาแล ฯ ในพันถวน ๓ นั้น สัตตทังหลายจักอุตสาหะ๑ สูตรเรียนแลฟงธัมมคําสอนกูแท ใสใจปฏิบัติภาวนาไปไจๆ ก็จักไดถึงมัคคผลธัมมมีหั้นชาแล ฯ ในพันวัสสา ถวน ๕ นั้นมาถึง ปณณสัตตทังหลายจักชวนกันสางไทยทานแลวจักเอาทานผล เปนปจจัย แลวใสใจปฏิบัติภาวนาไปไจๆ ก็จักไดถึงมัคคผล มีหั้นชาแล ฯ กูตถาคตะนิพพานไปแลวไดสองพันวัสสา ปายป๑ เขาเขตใน ๓ พันนั้น ชื่อวากลาง ๕ พันวัสสาแล ยามน ั้ นหมากน ้ํ าเตาจักจม หมากหินจักฟูชาแล ฯ [หนาลานท ี่๑๘, น.๗๓๒] ฅนทงหลายฝ ังมูจฉาทิฏฐิ ิมีทัมมละเปนต ิ น เขาก็จักมใจเหล ี มใส ิ้ ในแกว ๓ พระการแลวจกรั ูหื้อทานรกสาสั ลฟีงธมมั เมตตาภาวนาอุปฏฐากแกว ๑ ตนฉบับวา อทิสะ ๒๑๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
๓ พระการ แลสางกุฎีวิหารกานกุงรุงเริงมากนัก คันตายก็ไดถึงมัคคโมกขธัมม ลวดนิพพานไปชาแล อันนี้หมากหินฟูแล ฯ พระการ๑ คระหฏฐัแลนกบวชทังหลายหากเกัดมาทิากางแก ่ํ ว ๓ พระการ ร่ําพึงหันกัมมอันเปนบาปเปนบุญพอยบเอา ลวดเปนฅนแหนนหนาห ั้ นแล คันเขาตายก็ไดไปจมอยูอบาย อุปมาเปนดั่งหมากน้ําเตาจมนั้นแล ฯ ดูรามหาราช ทาวพระญาชุมพูทวีปทังมวร ก็จักมีใจอันหยาบชา บไตตาม ทสราชธัมมสิบพระการ จักละเสนาอามาตยผูเฒาผูแกเสีย แลวจักยกเอาเสนา อามาตยตนหนุมต ั้งไวพิจารณา ลวดบกะทําตาม จักกะทําหิงสาราวีขาไปร บานไทยเมงทิงมวรหัอส ื้ บหายชาแลิฯในเมอท ิ่ าวพระญาเสนาอามาตย บระกอบ ชอบธัมมแทเทวดาอยูรักสาโลกทังมวรก็จักเคียด จักแตงแปงอันบวุฒิจําเริญใจ ถึงกาละฝนตกพอยหอแดด ื้ ยามแดด [หนาลานท ี่๑๙, น.๗๓๔] พอยจกหั อฝนตกชาแล ื้ ฯ หนอพิชชะเขากลาของปลูกของแปงทังมวร ในเมิ่ อฅนทังหลายกินเขาแลลูกไม ทังมวร ยอมไดกินงวนสาร อันเทวดาหากเอาใสไวนั้น ก็จักแผไปในดูกในเอ็น ในไสในปุมเสี้ยงแล ฅนทังหลายลวดเปนพยาธิตางๆ บนับบอานไดก็จักบังเกิด เปนฝสาน สัพพะพยาธิตางๆ แลตายไปก็จักมีชาแล ฯ ลางพรองฟามืดมาแลว พอยสวางหายไปหาฝนบไดก็จักมีชาแล ฯ พระการ ๑ ทาวพระญาจักขับเอาเขาของงึนฅํากับดวยชาวบานชาวเมิง ทังหลาย อึดไหมไสแทชูปชูเดิน อุปมาไหน้ํ ามีน้ําหากเตมแลวพอยตักเอามา แถมเลา ไหน้ําอันเปลานั้นซ้ําจักเขาะออกเสียไจๆ ก็มีแล ฯ พระการ ๑ โขงเมิงอันเดียวกันกึ่งเมิง ๑ ฝนตก กึ่งเมิง ๑ ฝนบตกก็มีแล ฯ พระการ ๑ ทาวพระญาจักแตงการแกไปรฝาทังหลายหื้อหาหวางหาชอง บไดก็จักมีชาแลฯ พายหนาแตนั้นฅนทังหลายจักทุกขลําบากเข็ญใจไผอยูที่ใด ลวดบเยดบสางสังนั้น ก็จักหอดแหงไปชาแล ฯ ทาวพระญาจักขับเอาเขาของ งึนฅํา เอาหื้อวินาสสิบหาย ฅนทังหลายก็จักมีใจฟุงแตก จักเอากันหนีเสียบาน เสียเรินแลฯ [หนาลานที่ ๒๐, น.๗๓๖] ก็จักไปลี้เตียดอยูสรอกหวยราวเขาเสีย แลวจัก เอากันไปอยูประเทสที่ไกลเมิงชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๑
พระการ ๑ ทาวพระญามหากษัตริยก็จักปลูกปลงวางลูกยิงชายอันเปน เชอข ื้ ตตัยะวงสาหิ อเปนเม ื้ ยแกี ขาขนหาญ ุลวดจกเสัยเชีอชาต ื้ กระกิูลอุปมาเปน ดั่งหมาจิ้งจอกขี้ใสไตรฅํานั้นแล พอยจักหาเตชะริทธีบไดลวดจักไดไหวแลปูชา เปนปริวารทาวพระญาฝูงใจบาป อุปมาเปนดั่ งหงสฅําไดเปนปริวารแหงกาดํา นั้นแล ฯ พระการ๑ ผัวเมียอยูกินกับดวยกันพอยคดเลี้ยวตอกัน ลักเอาไปจายเสีย อุปมาเปนดั่งชายผู๑ ฟนเชิกหนัง ไดเทาใดเอากองไวพายหลัง ยังมีหมาตัว ๑ มาอยูทางหลังยอกินเสีย บหื้อยาวไดนั้นแล ฯ พระการ ๑ ลูกยิงสาวนอยมีอายุได๑๑ ๑๒ ปก็จักห ื้ อเอาผัวแลวจ ิ่ งมี ลูกหลานเชยวเถีาเชยวตายีอุปมาเปนดงไม ั่ ไผกอนอยพ อยแตกเปนก งเปนค ิ่ าไป นั้นแล ฯ ดูรามหาราช แมนชาวเจาก็จักบังเกิดโลภะตัณหาดวยลาภะสักการะ แลวก ็จักเอาธมมั กูไปเทสนาแกอุบาสกอบาสุกาทิงหลายแลั คองไดลาภะสกการะั มากินบัวรโภค ลวงสุดบควร [หนาลานที่๒๑, น.๗๓๘] ไป มีตนวากลางบาน ประตูเวียง ทางหลวง ก็จักไปนั่งเทสนาแลกเอาเฅิ่งปูชามากิน เปนดั่งชายผู๑ เอาทอนไมจันทนแดงอันวิเสสไปแลกเอาน้ําปลาเนามากินนั้นแล ฯ พระการ ๑ กูนิพพานไปได๓ พันวัสสามาถึงนั้น บานเมิงอันมีในท่ํากลาง ชุมพูก็จักเปนโกลาหน ขาสกฟึนก นตายเปนข ั นเปนม ุ วมากนั ัก เทาจกมั ีบานนอก ขอกเมงแิจงจกอยั เยนเปนส ู ุข ยุทางกะทาบํ ญไจ ุ ๆ เปนดงน ั่ าสระอ ้ํ นใหย ั ท่ํากลาง พอยขุนมัวเสีย ขอบแจงพอยใสงาม อุปมาเปนดั่งสระน้ํานั้นแล ฯ ดูรามหาราช ในเมิ่อ ๓ พันวัสสามาถึงเมิ่อใด เภยยะจักเกิดมีชาแล คือวา นักบวชบตั้งอยูในคลองคําสอนพระตถาคตะใจบาปนัก รอยตนพันตนจักชอบ แลตน แมนทาวพระญาเสนาอามาตยอันประกอบดวยคลองธัมมรอยฅน พันฅน ก็บมีสักฅนแล เหียดวาปาปธัมมแหนนหนา เทวดาอินทพรหมทังหลายจักแตง กุมภัณฑคันธัพพะลงมาหิงสาราวีสัตตโลกทังหลาย หื้อเปนโทสเปนเกน หื้อวินาสสิบหายตายมากนักชาแล ฯ ๒๑๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
อัน ๑ ยักขเทวดาก็จักมายยงหุวใจห ัอน ื้ กบวชทังหลายถัอยช า [หนาลานท ี่๒๒, น.๗๔๐] หื้อไดเคยดี ปมาทะแกกัน ตนหนมบุ ยําตนแกตนแกบยําตนหนุม ลูกสกขิ บยําครูอาจารยบยําลกสูกขิ ไผสอนไผก็บไดเทาจกหอมหยั บบาปไจ ั ๆ ก็จักตอง ทุกขเภยยะฝูงน ั้ นชาแล ฯ แมนทาวพระญามหากษัตริยแลเสนาอามาตย ยักข หากบนดลเัขาห วใจก ั ็บรักบยํากัน ไผก็วามนมั ีบุญมีคุณ มีเตชะรทธิ ีมียัสสปรวาริ กลาหาญ ตนหนอยก็ดูแฅวนตนใหย ไปรก็จักดูแฅวนขุน ลูกนองก็บยํานาย ลูกชายก็บยําพอแม ผูเปนเจาเปนใหยก็จักบิบเบียนขาไปรไทย โทสนอย ก็จักเปนโทสใหย โทสบพอตายก ็จักขาแล ก็จักครบชุงเอาเขิาของหอว ื้ นาสสิบหายิ ลูกเมียก็จักเปนขาทานชาแล ฯ พระการ ๑ เทวดาก็จักยุยงหิงสาห ื้ อผูนอยผิดผูใหย ผูใหยผิดผูนอย เมงนิอยผดเมิ งใหย ิ เมงใหย ิ ผิดเมงนิอย บานเหนอผิดบิ านใต บานใตผิดบานเหน ิอ เรินเหนิอผิดเรินใตพอแมลูกหลานผิดเถียงกัน ดวยขาสัตตลักทาน เหลนชู สูเมียกัน ครุบชิงเอาวัตถุไรนาคามเขต ฯ อัน ๑ ทาวพระญาเสนาอามาตยพิจารณาบชอบ แตงฉันทาคติโมหาคติ โทสาคติ[หนาลานที่๒๓, น.๗๔๒] เภยยะธัมมตริอุบายกินจาง หลางแพพอยหื้อคาน อันคานพอยหื้อแพปาปธัมมแรงนักผิดของตองโทส ลวดจักผิดกันเปนโกลาหล สึกใหย ขาฟนกันตายมากนัก ก็จักเกิดมีในท่ํากลาง ๕ พัน วัสสาอันถวน ๓ นั้น ชาแล ฯ พระการ ๑ เสิอจักกินฅน จักเข็บ แมงปอง งูจักขบสัตตแลฅนมากนัก ก็จักเกดเปนอ ิบาทวุตางๆ เปนพยาธเจิบท็องเจบคอ็ลงเลดตายิลุกอยูก็จักตาย นั่งอยูก็จักตาย นอนอยูก็จักตายไป เภยยะหลายพระการตางๆ ก็จักเกิดมี ในท่ํากลางสี่พันวัสสานั้นแล ฯ ยามจกแดดกั ็จักรอนมากน ัก เมอลมก ิ่ ็จักลมรายเมอฝนก ิ่ ็จักฝนราย ฟารอง ก็บตามปกติฟาก็จักผาฅนแลสัตตทังหลาย น้ําก็จักรอน อุบาทวก็จักเกิดมีตาม วิบากปาปกัมมชูอันชาแล ฯ เภยยะฝูงวามานี้ปรากฏมีประเทสที่ใดเมิงใด ประเทสอันนั้นก็จักสิบหาย วายวอดแหงหอดบมีฅน เมิง ๑ สองเมิง สามเมิง มารอมกันเปนเมิง ๑ แล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๓
เริน ๑ สองเริน ๓ เริน มารอมกันบพอเริน ๑ ไดแล ฯ ดูรามหาราช สองเริน ๓ เริน ก็จักมควายแลตีวชาแลั เภยยะฝงนูี้จักเกดมิ ีพันวสสาอันถัวน [หนาลานท ี่๒๔, น.๗๔๔] ๓ นั้น ชาแล ฯ ในกาละยามนั้น สาสนากูตถาคตะก็จักหมนหมองไป มีหั้นชาแล ฯ อิปฺจ มม สาสนํปเกตุวิเทวินฺท เอกเมเก วสสาสหฺเอกเมธมฺมิกเทวปุตฺต อนาเป หินฺติเทวินฺโท ฯ ดูรามหาราช ตนเปนเจาแกเทวดาทังหลาย ทานจุงเลงดูยังสาสนากู อยาขาด จุงอาณัติหื้อเทวบุตตตนชอบประกอบดวยธัมมนั้นห ื้ อลงมาเกิดแลตน แลพันวัสสา เพ ิ่ อห ื้ อเลิกยอสาสนากูตราบเส ี้ ยง ๕ พันวัสสานั้น หื้อรุงเริงไป จุงมีเทิอะ วาอั้นหั้นแล ฯ ตํ สุตฺวา พระญาอินทาธิราชไดฟงธัมมเทสนาแหงพระพุทธเจาเย ิ่ งนั้น ก็บังเกิดโสมนัสสะชมช ื่ นยินดีมากนัก ก็ไหวนบครบยําพระพุทธเจา แลวก็ สระเดจไปสูชั้นฟาอันเปนที่ อยูแหงตนแล อาทาย ก็หื้อเอาทิพพวัง ยังดอก ลีลัวทพพิ ตน ๑โลโปตวาฺก็มาปลกไวูปพพตฺมถมสฺมึเหนอยอดดอยิ สีมนตเฺร กส อเทสิมนตสฺเหนอเขตแดนิเมงอิ นเปนแว ันแควนเม งโยนกะท ิ ี่นั้น แลวกบอกก็าว ถอยคําอันพระพุทธเจา [หนาลานที่ ๒๕, น.๗๔๖] เทสนาทํานายไวนั้นแกเจารสีตนชื่อ อินทสัมปละ อยูในดอยที่นั้น ฯ เอกเมกสฺมึภนฺเต วสหสฺเส สมฺปนฺโน อยํทิพฺพปลโวทิกนฺโต ทิพฺพคนฺโธ สตปุปฺโผ ภวิสฺสติฯ ดั่งนี้วา ภนเตฺขาแดเจารส ีในกาละเมอบ ิ่ วรมวรแหังพนวัสสาั แลอนแลอั ัน อยํทิพฺพปลโว อันวาดอกไม ลีลัวทพพิ อันน ี้ ทกนโตฺอันประกอบดวย กานสองอัน สตปุปฺโผ จักเผยงามบาน คือมีกลีบไดแลรอย ภวิสฺสติก็จักไวปูชา พระญาธัมมิกราชาชูตน ก็มีแล ฯ ยทา จ ปน สนเตฺปปสโอสนํวสสปปฺเตฺสพพรฺ ุกฺขตรตาสโย ิ อากาลปุปฺผผลา ลิโล โหนฺตุฯ ภนฺเต ขาแดเจารสีเจากูอยาไดประหมาท จุงเล็งดูกาละอันเปนไป แหงพุทธสาสนาแล ภาวะเภยยะอันจักเกิดมีนั้นแล เจาจุงกาวแกฅนทังหลาย ในภาวะพายหนาเทอะิ ขาแดเจารส ีในเมอสาสนาพระเ ิ่ จาได ๒ พันวสสาเตมแลั ว เมิ่อใด สพฺเพรกฺขา ติกรโต ทโย อันวาสิ่งทังหลาย มีตนวา [หนาลานที่ ๒๖, น.๗๔๘] ๒๑๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ดอกไมเครือเขาเถาวัลยทังหลาย อากาลปุปฺผา รธาริโน ก็จักทรงดอกแลลูก อันบใชฤดูก็จักเกิดมีชูที่ชูแหงชาแล ฯ นิมิตลูกไมทังหลายฝูงนั้น หากจักสําแดงเภยยะอันจักเกิดมีพายหนาวา มนุสฺสา วา ปกา หิริกา เนภปา เภรริกา มสาวาทิโน สติฯ ดั่งน ี้ เปนตนวา แรกแตนี้เมิอหนา ฅนทังหลายผูใหยผูนอยในชุมพูทวีป ก็บปฏิบัติตามคํา เขาก็จักเกิดมีใจอันหยาบชา หาความเผิดละอายบไดจักยุยงหื้อเปนสึกเปนจวร ขาฟนกันตายมากนัก ฯ พระการ ๑ ฅนทังหลายจักลายพราง หาสีลหาสัจจะบไดวาพระญาธัมม เกิดมีที่นี้แลวาอั้น ลางฅนก็จักลายวา กูเปนพระญาธัมมิกราชาแลวาอั้น ฯ มาตาปตโร ปุตฺเต ปเทนฺติปุตฺตาปมาตาปตโร วิเทคคนฺธะ อโกสนฺติ ปรภาสนิ ฺติฯ ขาแหงเจากูอันวาฅนผเฒู าแก พอแมก็ดีมีวาทะผดเถิยงกีนกับดัวย ลูกหลาน ก็จักพรองดาก ัน ปรภาสนิ ฺติเขาก็จักดาร าไรด ่ํ วยการตางๆ มีหั้นชาแล ฯ นิมิตฺตา ภนเตฺวาสิกฺขคุรุอาจรยาิ วิปฏโนิ วิวาทนิอเโกสาทีริ[หนาลานท ี่๒๗, น.๗๕๐] โท ทกฺขิอสทฺธา อปน ปากการิปฺจวสฺสสหสฺสานิจตุสาสนํสรกฺขาเปตุํ อาโรเจมีติฯ ภนเตฺขาแกเจารส ีเจาก ูจุงเลงด็มนูสยุโลกแลสาสนาพระพ ทธเจุาเทอะิอหํ อันวาขา ก็มาบอกกาวแกเจากูเพิ่อหื้อไดแขวดกฎหมายรูยังกาละพุทธสาสนา ๕ พันวัสสานี้ดีหลีแล ฯ ภนฺเต ขาแดเจารสีเจากูจุงฟงปุพพนิมิตรอยเอ็ดภาสา แลวเจาจุงบอกแก ฅนทังหลายพายหนาเทิอะ ปุพพนิมิตฝูงนั้น คือวามากินหยาดวยวัว ฅนทือกุบ๑ หุมหนา มือลบหนูาปกตา ทือถงพากบดาบัแบกมาวยาวดงท ั่ งร ั่ วนา ั้ ถือชาหูลับหนา พอคาสบคืาจวรํ ผีหลวงบนอากาสิ นักปราชญบรูคลองบุญ ฝูงเปนขนบุ รูตัดแตง ๒ ผา ๔ แจงเอามาเปนถง ฝนตกลงบใชเมิ่อ นักปราชญเบื่อคลองธัมมฅนบยํา๓ นักบวช พาละโจทยอาจารย ผิดบัวราณแตงใช ผูไรเกิดเปนดียิง ๔๕ ปมีชู ผูรูทานนับขับ (หนี) ฝูงชี...สายฟาคว ี่ เหมินทุง ผีรุงบินอากาส นักปราชญ ๑ กุบ - หมวก๒ ตัดแตง - ในที่นี้หมายถึง พิจารณาตัดสินคดีความ๓ ยํา, อยํา - เคารพยําเกรง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๕
รูลายพราง ฅนเทยวทางยกยอโทส ี นักบวชบยํากัน งึนฅาถํกกวูาเบ ี้ย เบยร ี้ อยชูด เสยซาวี ๑ [หนาลานท ี่๒๘, น.๗๕๒] ชาวเจาตร ิชางลาย ผูนอยปราบกนเมิ ิง ขุนนนเนั งใฅ ิ ขา ฟารองดังเสียงแขง ก็มีเมิ่อนั้นแล ฯ คนฺติปริภาสนฺติฆเปสนฺติขาแดเจารสีในกาละนั้นลูกสิกขก็จักเถียงกับ ดวยครบาแหูงตนชาแลฅนก็จักผดเถิยงกีนดัวยเขาของงนฅึ ํา จักราไ่ํ รแกกันชาแล ฯ ราชาโน ปอฺญมฺญํยุชิตาธนธฺญา ทาสํทาสีหนฺติอสฺสโคณ มหึสา ทาโย คณฺหสนฺติฯ ภนฺเต ขาแดเจากูราชาโน อันวาทาวพระญาทงหลายในทว ั ีป ทังมวรจักครบชุงเอาราชสิ มปัตต ิซึ่งกัน มีตนวาเขาเปอกเขาสาร ชางมาววควายั ไรนาคามเขต ก็จักมีชาแล ฯ วินิปยามา จ อธมฺมิกา วินิจิยา รฐปพฺพชาโน วิกินิสนฺติฯ ขาแดเจารสี ในกาละนั้น ทาวพระญาเสนาอามาตยพิจารณาไตถอยจาคําก็บชอบ บประกอบ คลองธัมมตัดตามฉันทาคติโทสาคติโมหาคติโลภคติภยาคติไดแลวปนกัน กิน ฯ รัฏฐปชชาไปรไทยบานเมิงก็ตระหมอดหอดไรถอยไปชาแล ฯ ปถม วิวรโส เหฐ โอตริตสฺมึปถ [หนาลานที่ ๒๙, น.๗๕๓] วิวา ปตาสรณา ทาโย อเสชาตํขทตาิอวิปุลา ภวิสฺสติฯ ขาแดเจารส ีในกาละเมอน ิ่ ั้น รสแผนด ิน ก็จมลงไปพายใตลวดหารสบได สางลกปลูกบูเปน พิชชะเขากลาถ วงาเปนต ั่ น ฯ อเสชาตา ก็หารสบได แมนสตตั ทังหลายตางๆ เปนตนวานกหนูทังหลาย ขาวกาิ ก็จักลงบีบเบียนกินเขากลาพิชชะทังมวร ลวดตระหมอดหอดหายไปชาแล ฯ สพฺเพ ราชาโน มนุสฺสา หิปรตา อเลธโน ปา ฯ เมิ่อใดแรงกาตอมอากาส ฅนเปนพยาธิหาผีฝูงเปนชีใจบาปกลา พอคาชางลักของ ฅนหนุมบยําผูเถา ชาวเจาชางทอกืุบ ฝูงเปนชีทือดาบทอกืบลุาหาง ึน บมึนนานกหม็นเส า ตนเขาจาก เสียรวง นาทงหลวงจักตายแหง น้ําบอแหงเขาะกิน แผนดินปานไฟไหมฅนใบ จักลักกิน เสียงมี่นันกองอากาส ปานฟาหยาดลงมา แผนดินหนาไหวหวั่น ลมพัดปนไปมา อเวจีรอนไหมโลก ฅนจักตัดโสกคําพรอง ฅนจักหาปองขาวลา เหอย ื่ อยหนาพระสตถาั สองตาไหลหลบอยั ู [หนาลานท ี่๓๐, น.๗๕๕] เจตยะบิ เปนควุัน แผนดินหนายะแตก สายฟาแถกฅนตาย สระหนองกลายเปนเลิด แมงบงเกิด ๑ ชูดเสียซาว - มีคาลดลงเหลือแคยี่สิบ ๒๑๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เตมนา หมูหมาหอนสะสู ชางมาลูตกเมิง ผียักขเนิงเทสทอง ผีลุกกองกลางฅืน นกหนูฅืนกัดเขา ไกเถิ่นเขามาเมิง เสนาเริงไหมไปร ไดแลวแจกกันกิน นักบวช แลฅนจักหาสีลบได ผูไรหากเปนทุกขเท ี่ ยงหาสุขบได ปลดหาบไวกลางทาง ฅนจักรองอวยครางนักเลา ถวยใจเสาครางตาย ฯ นิมิตทังหลายจักเคริงขวด๑ ฝูงนักบวชแลฅนจักสิบหาย ฝูงยิงชายบยํา บเชิ่อ ก็เที่ยงวาจักไดทือหอกดาบเริงถือตน เลิดฅนแลชางมาพอเพียงวาตาตีน ชาแลฯเมิ่อใดฝูงเภยยะเบียนแลว พระญาอินทตนผานแผวก็จักเล็งหาธัมมิกรา ชาตนมีอานุภาพ จักลงมาปราบชุมพูมาเลิกสาสนาสัพพัญูเริงราบ หื้อตั้งอยู มึนนาน ยามปานกลางที่กึ่ง ในที่กึ่ง ๓ พัน สืบปรัมปราแตเคา ตราบตอเทา ชุมนุมธาตุเปนปริโยสานชาแล ฯ สกฺโก เทวราชา ปปจนา สคกายํอปฺปกามีติฯ สกฺโก อันวาพระญาอินท ตนเปนเจาแกเทวดา คันวาบอกกาว[หนาลานที่๓๑, น.๗๕๗] คําเทานั้น แกเจารสีตน ชื่ออินทสมพาร ตนอยูเขาหลวงในเมิงหริภุญเชยยนครที่นั้นแลว ก็สระเดจไปสู ที่อยูแหงตนก็มีวันนั้นแล ฯ ทสมํ ปาทธาตุกถา นิฐิตา ฯ กรียาเทสนาตํานานผูกถวนสิบ ก็สระเดจ บัวรมวรกาละควรเทานี้กอนแล ฯ (บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับนี้มูลสัทธาขาชื่อวาชายดวงแกว บานเชียงจาม ภริยาชื่อวานาง บัวฟอง เปนเคา พอแมลูกเตาหลานเหลนสางทานค ้ํ าวรพุทธสาสนา ๕ พันวัสสา ผูขาทังหลาย ก็ขอหื้อเปนผลอานิสงสชั่วนี้แลชาติหนาแดฯ ทานกับวัดจอมทอง แล ฯ ผูขาลิขิตลูกชายบานยางมวน เขียนค ้ํ าชูพอรามดวงแกวบานเชียงจาม ๑ แดฯ ตัวขาบงาม ไผอยาไดติเตียนขาแดฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสชั่วน ี้ แลชาติหนาแดฯ ๑ เฅิงขวด - โกรธเคือง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๗
¾ÃиÒμØËÃÔÀØÞäªÂ ÅíÒ¾Ù¹ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
àªÕ§ãËÁ‹ ËÃ×Í “ÍÀԹǹ¤Ã” (á¹Ç¤ÙàÁ×ͧ/¡íÒá¾§àÁ×Í§à¡‹Ò ô ´ŒÒ¹ ¡ÅÒ§ÀÒ¾) ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ
ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๑๑ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ นมิตฺวา นตโต กายา มาหุ ปฏิสนฺธิ คเหตฺวา มหามายาเทวิปย กุจฺฉิมฺหิฯ ดูราสปปั ุริสะทงหลายัพระพทธเจุาแหงเรา จุติจากชนฟั้ าต ุสิดาสวรคเทวโลวก ั ก็ลงมาเอาปฏสนธิ ในท ิองนางมหามายาเทว ในป ี กาเรา เดิน ๙ เพง ฤกษ๒๐ ตัว ฯ ในเมิ่ อเจาออกไปบวชในปกาเรา เดิน ๖ เพง เมงวัน ๕ ฤกษฟาได๑๓ ตัว เม ิ่ อเจาไดตรัสประหญาสัพพัญูในปเตาสัน เดิน ๘ เพง เมงวัน ๕ ฤกษได ๑๓ ตัว ยามรุงแจงหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็ธอระมานอยูสั่งสอนฅนแลเทวดาห ื้ อแลวพุทธกิจ ในวัสสา ปฐมหัวทีนั้น ก็ไปเทสนาธัมมจักกปวัตตนสูตรส ั่งสอนปญจวัคคีย ๕ ตน ในปาอ ิสิปตตนมคคทายวิ ัน ในเมงพาราณสิ ีที่นั้น อยนานได ู ๔ วัสสาแลวกเข็ าไป ในปาเวฬุวัน ในเมิงราชคหะ ฯ ในวัสสาถวน ๖ นั้น ก็เขาไปเมิงเวสาลี ในวัสสาอันถวน ๗ นั้น ก็เขาไปในดอยกุลปพพตะ ฯ วัสสาอันถวน ๘ นั้น ก็เขาไปในชั้นฟาตาวติงสาแล ฯ [หนาลานที่ ๒, น.๗๖๐] วัสสาอันถวน ๙ ก็เขาในปากาสกลปนะ ฯ วัสสาอันถวนสิบ ก็เขาในเมิงโกสัมพีฯ วัสสาอันถวนสิบเอ็ด เขาในปาลิไลยแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๒ เขาในบานอันชื่อนาฬาคิริคามแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๓ เขาไปในเมิงเวรัญชคาม ฯ ๒๒๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา