The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by CCSC CMU, 2024-06-17 20:14:35

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา

ที่นั้น มันก็ยินดีก็เอาผาขาวผืน ๑ หื้อพระพุทธเจาเปนผาอาบน้ําหั้นแล พระเจา ก็รับเอานุงอาบน้ํา แลวลวดกายเปนฅําไป มันหันก็ยินดีพระเจาอาบน ้ํ าแลว มานั่งอยูเหนิอหินกอน ๑แลวลัวะจิ่งไขถงมัน เอาสลอบทองแดงใสน้ําผึ้งมาทาน แกพระพุทธเจาสันหั้นแล ฯ พระเจาก็รับเอายังสลอบทองแดงใสน้ํา (ผึ้ง) นั้นกิน ก็ลวดกายเกิดเปน ฅําแดงไป มันหนอัสสจัรยั ก็ยินดีแลวมนกั ็กาววาสลอบขาหากเปนทองแดงดาย  บัดนพระเ ี้ จาหยบเอาุพอยเกดเปนฅ ิาสํนนั ี้ขาก็บเอาแล ขากลวดห็ อเปนทานแล ื้ จุงไวซวยหนาซวยมอเทือะวิาอ ั้น พระเจาก ็หื้อสีล ๕ แกมัน แลวกพอกเม็อสิเรู นมิ ัน ก็ผอดูวัตถุอันมีในเรินทังมวรนั้นก็เกิดเปนฅําเสี้ยงหั้นแล มันจิ่งบอกหื้อเมมันวา วัตถุฝูงนี้ก็บใชของกูหาเปนของทาวพระญาดายเมมนวั า บเปนของทาวพระญาแล หากยอนบุญพระพุทธเจาแลวาอั้น มันก็ซ้ํายินดีกวาเกาหั้นแล ฯ พระเจาก ็ขึ้นสดอยไม ู แลวก ็ยอรอยประบาทไวรอย๑ เพอห ิ่ อเปนท ื้ ไหว ี่ แก  [หนาลานที่ ๒๐, น.๕๙๔] ฅนแลเทวดาทังหลาย แลวก็สระเดจขึ้นไปสูเมิงลื้อ ก็ขึ้นเมิอ จอมดอยอัน ๑ พายวันตกจ ิ่ มแมน้ําอันนั้น พระเจาก็นั่งอยูจิ่มตนหมากฅะหนุน ตน ๑ มีลูก ใหยได๗ กํา เมิ่อนั้นยังมีลัวะผู๑ ไปปามาหันพระเจาที่นั้น มันก็ ไหวพระเจากาววา ขาแดพระพุทธเจา ตนหมากฅะหนุนดายวาอั้น มันก็ขึ้น เอามาทานแกพระพุทธเจา ๓ ลูก พระเจาก็สันเสี้ยงแลว ก็ลงไปหันหินกอน ๑ กวางสี่สอก ก็นั่งอยูหั้นแล ฯ อถ ในกาละเมอน ิ่ ั้น ยังมรสีตนี๑ ชื่ออตรารสุีจิ่งกาวว า ขาแดพระพทธเจุา ผูขาไดหันพระเจามาเมตตาด ั่ งอั้น ขาก็ยินดีนักแล ขอพระพุทธเจาจุงย ั้ งอยูที่นี้ กอนเทิอะวาอั้น มันก็ไปบอกแกลัวะทังหลายสิบ ๗ เรินนั้น เอาเขาสานกับทัง อาหารมาหุงในหวยที่นั้น แลวก็เอาห ื้อเปนทานแกพระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจา ก็รับสัน แลวจิ่งกาววา กูตถาคตะมาถึงหวยที่นี้ควรตั้งสาสนาแลวาอั้น ลัวะผูอัน เอาเขามาหุงสุกนั้นแลมาใสบาตรหื้อแกกูแลวเขากาววา หวยอันนี้ตุมปูน วาอั้น พายหนาหวยอันนี้จักไดชื่อวาตุมปูนชาแล พระเจากาว [หนาลานที่ ๒๑, น.๕๙๖] วา ถานะที่นี้ควรต ั้ งสาสนาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสก ก็ขอเอาธาตุหั้นแล พระเจาก็เอามือลูบหัว ก็ไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตาแล ก็กาววา ถานะที่นี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๑


เปนบานนอยเมงนิอยดาย จักหาฅนกับธาตุบไดอัน ๑ ถ้ําก็บมีในที่นี้เหยดดีงอ ั่ ั้น บควรจักไวธาตุแหงกูแล กูจักไวรอยประบาทหื้อเขาไดไหวแลปูชาเทิอะวาอั้น แลวก็ย่ําประบาทไวในผากอน ๑ แลวพระเจาก็สระเดจไปสูทิสะหนเหนิอชวย วันออก ไกลไดพันวา ปาย ๕ รอย ก็ไปจวบพบหินกอน ๑ เปนรูปเตาหั้นแล ฯ สวนอตุลรสีก็ไปตามพระเจาหั้นแล ก็นั่งอยูเหนิอหินกอน ๑ ยังมีลัวะผู๑ ไปแอวปา ก็มาหันพระเจา ก็เอาหมากหาด ๓ ลูก มาทานแกพระเจา พระเจา ก็เอาหื้อแกอรหันตาสันฟอง๑ พระเจากาววา เมิ่อกูมาถึงที่นี้ลัวะผู๑ มาหื้อทาน หมากหาดเปนทานแกกู พายหนาหวยอันนี้จักไดชื่อวาหวยแมหาดชาแล อรหันตาและพระญาอโสก จิ่งขอเอาธาตุหั้นแล พระเจากาววา ถานะที่นี้ก็เปน บานนอยเมิงเล็ก ถ้ําก็บมีแมน้ําก็นอยนัก [หนาลานที่ ๒๒, น.๕๙๗] เปนเมิงแหงแลง ลมชวย วาอั้น เมิงอันนั้นจักไดชื่อวาเมิงลือ ชาแล กูตถาคตะก็บไวธาตุ กูเทา ควรไวรอยตีน แลวพระญาอโสกก็เอาเกิบตีนมาสุบสอดหื้อพระเจา แลวพระเจา ก็ย่ํารอยประบาทหนอินพระเจัานงน ั่ นแล ั้ พระญาอโสกก็ยินดีนัก จิ่งกาวว า กูเอา ฅํามา ๖ พัน มาปูชารอยตีนพระเจาชาแลวาอั้น ฯ แลวพระพทธเุจาก สระเดจไปส ็ ูบานเหนอชิวยวนตกั ไกลประหมาณหมนวา ื่ ก็ไปจวบเจาอสชตเถิยรีอยูสํารานถาในป ้ํ าท ี่นั้นหนแล ั้ เจาอสชตเถิยรหีนพระเจั า ก็มาไหวพระเจาจงถามว ิ่ า ทานอสชตเถิยรีมาหากรฤว ูาอ ั้น เจาอสชตเถิยรกี ไหว ็ วา ขามาอยูถ้ําสงดทั ี่นี้ขากได็ ยินพระเจามาเมตตา ขาจงมาไหว ิ่ แล สวนอสชตเถิยรนี ั้น เปนลกทูมมั ิลัวะที่นั้น พระเจากอย็เหน ู อผากิอน๑ สูงเพยงกางแฅีงพระเจาหนแล ั้ พระเจาก ็ยินหยากนาน ้ํ ัก จิ่งถามวา น้ํายงมัชาีอสชตะกิาวว า พระญาอนทิเนรม ิต ไวยังน้ําบออัน ๑ แกขาแลวาอั้น เมิ่อนั้นพระญาอินทรูวาพระเจาหยากน้ํา ก็ไป ตักน้ํามาหื้อพระเจาสันหั้นแล [หนาลานที่ ๒๓, น.๕๙๙] พระเจาซ้ําตักเอาน้ําอันนั้นมา ซวยตนเลีาแลอสชตะกิบอกแก็ ลัวะทงหลายัเขารแลู วกแต็งเขาน าโภชนะอาหาร ้ํ มาใสบาตรพระเจา เขาก็เหลือบาตรเส พระญาอินทก็เนรมิตหมากหินสองลูก ลูก ๑ ใสเขา ลูก ๑ ใสโภชนะอาหาร หื้อพระเจาสันหั้นแล แลวก็กาววา ในที่นี้ ก็ควรต ั้ งสาสนาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุหั้นแล พระเจา ๑ ฟอง, ภอง - พรอง, บาง ๑๗๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


กาววา ที่นี้หินผาก็มีเทาเปนหินผาอันนอยสิ่งเดียว ผาใหยก็บมีหินอันกูนั่งนั้น ก็นอยนกแลัฯ พระการ ๑ ถ้ําอนควรไว ัธาต ุก็ยังมแลีเทาฅนบหลาย จักรกสาบั ได  กูเทาเอาไวประบาทชาแล พระเจาก็ย่ํารอยประบาทไวเหนิอผากอนนั้นแลวดวย ฅําทังแทงหั้นแล เมิ่อนั้นอตุลรสีถามพระเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ผูขา ก็บวชเปนรสีก็ชอบดีแล เทาวาบไดถึงธัมมวิเสียดอันใดสักอัน ขาก็ขอบวช ในสํานักพระพุทธเจาแดวาอั้น พระเจาจ ิ่ งกาววา ผิทานใฅบวชในสาสนากูแท จุงสิกเสแลวเยบวชเทิอะวาอั้น อตุลรสีก็สิกเส แลวก็บวชใน [หนาลานที่ ๒๔, น.๖๐๑] สํานักพระพุทธเจา เปนเอหิภิกขุแล ปรากฏไดชื่อวาอตุลเถียร ก็มีแล พระเจา ก็สอนกัมมัฏฐานห ื้ อแกขาทังสองแลวกาววา เขิอทังสองจุงภาวนาอยูรักสา รอยประบาทกูนี้เทิอะวาอั้น เม ิ่อใดเขิอทังสองไดถึงมัคคผละธัมมแลวเยไปหา กูตถาคตะพายวันตกพุนเทิอะวาอั้น ฯ แลวพระเจาก็สระเดจไปทิสะพายวันตก ไกลประหมาณหมื่ นวา ก็ไปถึง แมน้ําระมิง แลวก ็ขึ้นไปสผาเ ู รอทิ ี่นั้น แลวพระเจาจงก ิ่ าวว า ผารปเรูอนิ ี้ผูใดมาไว ที่นี้ชา พระอโสกจิ่งไหววา ขาแดพระพุทธเจา แตกอนปถมกัปปวันนั้น ยังมี พระญาตน ๑ ชื่อพระญาสรีสุวาอั้น ยังมีอางผาอัน ๑ ก็มีสิบ ๘ วา พระญาสรีสุ ก็ลากเรอตกอิางผาลกนูี้ก็เอาออกบได มันจงช ิ่ กหัวเมัอวินตกหันแล ั้ ผูบพิจจรณา ก็บรูวาเปนเรอแลิ ปุคคลผใดม ู ีบุญกหากจ็ กได ั หันแลวาอ ั้น แลวมนกัหน็เมีอทางบกิ แลวบทันเมิอรอดเมิง แตนั้นมาน ้ํ าสมุททก็แหงไปไจๆ ก็แหงเหือดเปนเมิง อางเริอฅํานั้นแล ลวดกายเปนผาเริออยูหั้นแล เหียดใดน้ําสมุททพอยแหงนั้นชา แทแล น้ํา [หนาลานที่ ๒๕, น.๖๐๓] สมุททนั้นเปนรูกวางไดรอยโยชนะ ก็ปนตกไปเปน เปยวนารกเกยวเปนด ี้ งน ั่ าม ้ํ นใส ั ไฟน นแล ั้ ผิบมีเปนดงอ ั่ ั้น เปนดงน ั่ าจ ้ํ งหยาดตก ิ่ หนาทั่งเหลกนั้นแลฯ ยังมีปูตัว๑ใหยกวา ๕ รอยโยชนะ มันมีวิบากเกิดกับโลก ตราบเสยงก ี้ ปปั นั้นชา ปูตัวนนต ั้ ดรึ ูอันนนแล ั้ ว เพอเป ิ่ ยวไฟข นต ึ้ องหนาอกมนรัอน ก็หดเห ี่ยวปนลงเปนรูไปนั้น เม ิ่ อน ั้ นน ้ํ าสมุททก็แหงลงไปสักหนอย เม ิ่ อนั้น เปยวไฟนารกก็บตองยินกัดเยนแล ลวดวาอกลงตึดรูนั้นเส เมิ่อดั่งอั้นน้ําสมุทท ก็ยึ่งขึ้นมา ปูตัวนั้นยินรอน ลวดยกตัวมันขึ้นแทบน้ําสมุททตกบขาด น้ําสมุทท ลวดแหงไปแลเท อแลน ิ่ อยเหยดดีงอ ั่ ั้น พระญาสรีสุลวดเอาเรอมาละไว ิ ตีนดอยที่นี้ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๓


น้ําก็แหงไปแลปแลนอย ลวดกึด๑ เสที่นี้ลวดกายเปนเริอฅําอยูในผาอางที่นี้เปน หมั้น จักเอาออกก็บไดลวดละไวตีนดอยที่นั้น พายลูนลวดไดชื่อวาดอยผาฅํา เพิ่ออั้นแล ฯ ถึงในกาละเมิ่ อพระเจาแหงเราเกิดมาเปนฅูแกโลวกนั้น เปนเมิงลัวะผู๑ เปนขุนแสนทอง เปนเจาแก ลัวะทงหลายแลั ยังมีลัวะผู๑ อยในอาณาร ู ฏฐะทั ี่นั้น ก็มากะทามํตติ กับ [หนาลานท ี่๒๖, น.๖๐๖] ดวยโยคีผู๑เอามาแตเมงผาส ิ ีหื้อขาแปง เขาของห ื้ อแกมัน โยคีผูนั้นมีตัวอันสูงได ๕ สอก มีกําลังเทาชางสาร ๕ ตัว เหียดวาไดกินน้ําบาก๒ มันเกิดในสาสนาพระกกุสันธะ กกุสันธะนิพพานไปแลว มันก็มาหลื่ม๓ กินน ้ํ าบาก ๕ รอย ลวดมีอายุยืนมาตราบถึงพระโกนาคมนะ เกิดมาเปนฅูนิพพานไปแลว พอยหล ื่ มกินยาน ้ํ าบากอันนั้น ๕ รอยแถมเลา ซ้ํามีอายุยืนมา ตราบถึงพระกัสสปะเกิดมาเปนฅูนิพพานไปแลว มันก็มาหลื่ม กินน ้ํ าบาก ๕ รอย ลวดมีอายุยืนมา ตราบถึงพระโคตมะเจาน ี้ ขุนแสนทอง จิ่งกะทํามิตตกับดวยกัน เอามันมาแปงเขาของห ื้ อแกมัน แตที่ใกลหัวเริอฅํานั้น ใกลประหมาณสิบวา ยังมีถ้ําอัน ๑งามนัก เปนเขาของอยูหั้น ทองดอยถ ้ํ าสูงเทา วิหาร ปากก็ใหยนัก โยคีผูนั้นอยูปากถ้ําหั้นแล ฯ ถัดน ั้ นยังมีอรหันตาตน ๑ ชื่อวาจุนทเถียร ทานหากเปนลูกชาวเมิง กุสินาราย ทานก็เขียนธัมมปฏกะทัง ๓ ใสกับอากกัสสวจนะทังมวร ไดผงลาน เตมคอบมือ ๑ แลวโยคี[หนาลานที่ ๒๗, น.๖๐๗] ผูนั้น แปงหีดฅํา ๗ หีด ใสธัมมไว ในถ้ํา คุงเปน ๓ ชั้น ราบเพยงเขี าไป ๓ วา ถ้ําอนนันก ั้ ็สุดเสหั้น ชั้นลนนูนเปนท ั้ อย ี่ ู แหงเจาจุนทเถียรสงัดภาวนา ชั้นกางนั้นเปนที่อยูแหงโยคีผูนั้น แปงเจดียฅําสูง ๕ สอก มันจงส ิ่ างร ปพระเูจาไว  ๓ องคองค๑สูง ๗ ฅืบ ตั้งแตรูปพระเจาไป ๓ สอก ก็แปงรูปพระเจาองค๑ นอน ยาว ๗ สอก มีหวายเมิอวันออกแลว ชั้นบนนั้นเปน แทนฅําไว๗ อัน ใสหีดธัมมปฏกะทัง ๓ อันจุนทเถียรหากเขียนไวนั้นแล ฯ ๑ กึด - คาง๒ น้ําบาก - น้ําสกปรก ?๓ หลื่ม - ดื่ม ๑๗๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ถัดนั้น มันก็แปงคองฅําลูก ๑ มีปากกวางได๒ วา เสี้ยงฅําลานปายหมื่น แกวน๑ ไวริมปะตูชั้นอันข ึ้ นรอดเจดียนั้น เทวดาก็มาตีปูชาทุกปกขสีล เมิ่อ เท ี่ ยงฅืนแล หากยังไดยินเสียงเปนดั่ งแมงพูบินในถ้ํ าน ั้ นแล เม ิ่ อเจาจุนทเถียร ยังธอระมานอยูดั่งอั้น ปุถุชนเจาก็ดี นักปราชญเจาก็ดีจักสูตตจักเรียน ก็มาขอยืมเอาหนังสือแหงจุนทเถียรไปเรียน เอาเปนจบับ เหียดวาอรหันตา เขียนชอบนัก เมิ่อทานจัก [หนาลานที่ ๒๘, น.๖๐๙] นิพพาน จิ่งหื้อเอามาไวในหีดฅํา ดั่งเกาแล ก็นิพพานไปในถ้ําที่นั้นดั่งเกาแล ฯ ทีนั้น ขุนแสนทองกเอาไทยว ็ตถัทานทุงหลายั มีตนวาเขาน าโภชนะอาหาร ้ํ มาทานพระพุทธเจา แลอรหันตาเจาชูตน อันมาน ั่ งอยูผาเริอฅําที่นั้นห ั้ นแล ยามนั้นโยคีผูนั้น มันก็ออกมาไหวพระพุทธเจาหั้นแล พระเจาก็ถามวา ดูราโยคี มึงมาอยูที่นี้ดั่งรฤชา โยคีขานวา อรหันตาตน ๑ เปนลูกสิกขพระเจา ตนชื่อ จุนทเถียรวาอั้น มาอยูสางในถ้ํ าที่นี้ มาเขียนหนังสือธัมมพระเจาทัง ๓ ปฏกะ ขาจ ิ่งมาแปงหีดฅําใสธัมมไวที่นี้ เจาจุนทเถียรนิพพานไปกอนหนาพระเจามาน ี้ นอย ๑ แล ฯ ถัดนั้น ขาก็มาแปงเจดียฅําดวง ๑ สูงได๗ สอก บเทาน ั้ นก็มาแปง พุทธรูปฅํา ๓ องครูปพระเจานอน องค๑ ยาว ๘ สอก คองฅําลูก ๑ ยาว ๔ วา ขากมาส็ างไ วที่นี้แล พระเจากาวว า เปนอนดั ีนักแล กะทาสํนนั ี้ก็เปนบญแก ุทานแล อานิสงสก็มีหาที่สุดบไดแล ลัวะทังหลายมีขุนแสนทองเปนตน ก็เอากันมาไหว [หนาลานที่๒๙, น.๖๑๑] พระพุทธเจาแลวพระเจาก็ลุกไปย่ํารอยตีนกาวไวในแทนฅํา แทนผาฅําอันพระพุทธเจาน ั่งไวหั้นแล แลวพระเจาก็ขึ้นไปจอมดอยผาเริอที่นั้น พระญาอินทก็มาถือสัตตกั้งพระเจา ขุนแสนทองหันก็ยินดีนัก มันจ ิ่ งร ่ํ าพึงวา แตกูเกิดมาชาตินี้จิ่งไดหัน ไดไหวพระเจาบัดเด ี่ ยวน ี้ ดาย มันจ ิ่ งแลนเมิอเอา เกิ้งฅํา๒ มากั้งพระเจาอยูทิสะหนเหนิอบทันขึด๓ มันก็แลนไปตามพระเจาจิ่งทัน พระเจาก็ยั้งอยูจอมดอยที่นั้น พระเจาก็นั่งอยูท่ํากาง มีอรหันตาแลพระญาอิน แวดลอมเปนปริวารรอดชูก้ําชูพายหั้นแล ฯ ๑ แกวน - แขวน๒ เกิ้งฅํา - ฉัตรทองคํา๓ ขึด, กึด - ทัน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๕


เมอน ิ่ ั้น ขุนแสนทองกเอาเก็งฅ ิ้ ามากํงพระเจ ั้ าอยหนเหน ู อชิวยวนตกหันแล ั้ อรหันตาแลพระญาอโสก หันสัณฐานที่นี้ เปนอันงามย ิ่ งนัก จิ่งขอเอาธาตุ ซึ่งพระเจา ขาแดพระพุทธเจา สัณฐานที่นี้งามนัก ควรต ั้ งสาสนาขาแลวาอั้น พระเจาก ็ร่ําพงวึ าสัณฐานที่นี้พึงเปนบานเปนเม  ิงสาสนากตถาคตะกู ็รุงเริง ฅนก็ จักมาไหวนบมากนักชาแล วาอ ั้ นก็เอามือลูบหัวไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตา แลพระญา[หนาลานท ี่๓๐, น.๖๑๒]อโสก เอาไมรวกแปงอ  บใสูเกสาแลวใส  อูบฅาใหย ํ  ๘ กํา แลวจ ิ่งไหวพระเจาวา ถ้ํายังมีบชา พระเจากาววา ยังมีในดอยอันน ี้ แล ลูกสิกขกูตน ๑ ชื่อจุนทเถียร ทานหากเปนลูกชาวเมิงกุสินาราย มากะทําสงัด อยูถ้ําที่นี้ทานก็นิพพานกอนกูแตเมิ่อกูไปมานี้แล หีดกู๗ หีด ก็ตั้งอยูถ้ําที่นี้แล สูจุงเอาธาตุไปไวที่หั้นเทิอะ วาอ ั้ นแลวอรหันตาแลพระญาอโสก ก็เอาธาตุ แตจอมดอยลงไป ๗ รอยวา จิ่งไปจวบปากถ้ํา ก็หันโยคีผูนั้น ก็เขาไปพายใน ก็หันเจตยะฅิ ํา ฝูงอนโยค ั ีสางไวนั้นแล ก็ขึ้นไปชนบนน ั้ ั้น หันหดฅีาอํ นใส ั ธัมมไว นั้น แลวก็เอาอูบธาตุตั้งไวเหนิอแทนฅํา จิ่มหีดฅํานั้นแล ฯ ตั้งแตจอมดอยมาถึงธาตุไกล ๘ รอยวา ปายสอกสปุริสะ ลุกแตปากถ้ํา เขาไปถ งธาตึ ไกลสุี่รอยวาแหงมชฌั มปิ ุริสะแล ปะตูถ้ํานนย ั้ งมั ไมีรวกกอ๑แตนั้น ไปปากถ้ํากล้ําวันออกไวหื้อเทวดาอยูรักสาสองตน ตน ๑ ชื่อทารเทวดา วาอั้น พระญาอินทใสยนตไว[หนาลานที่๓๑, น.๖๑๕] พายในถ้ํ าก ้ํ าวันออกน ั้ นแล ก็เอา กันไปดวยปากถ้ํานั้น ก็ไดขามน้ําที่ ๑ ลึกเพียง..น้ําอันนั้นหากมีในถ้ําอันนั้นแล เจาทังหลายก็ขึ้นเมิอดวยปากปะตูไกลได๘ พันวา ก็แปงรูปยักขไวสองตัวแลว เส ี้ ยงอยูสองแสนฅํา ตาก็เอาแกวปทัมราคแปง หนาผากก็เปนแผนฅําแดง มีมือถือกัญไชย ใพ ๑ ปากถ้ํา แลวจ ิ่ งออกมาหาพระพุทธเจาเหนิอจอมดอยที่นั้น หั้นแล พระพุทธเจาวา สูทานทังหลาย เปนอันนานมานั้นชา อรหันตาจิ่งกาววา ขาแดพระพุทธเจา ขาทังหลายไปพิจจรณาแปงรูปยักขสองตัว อยูก้ําวันตกพุน ลวดนานมาเพ ิ่ ออ ั้ นดาย พระเจาจ ิ่ งกาววา ดีนักแล วาอ ั้ นแลวพระเจาจ ิ่ งกาว ซึ่งอานันทเถียรวา บัดนี้อายุกูก็ได๗๐ ปายป๑ แลว เมิ่อใดกูตถาคตะนิพพาน ไปแลวธาตุดูกกาซ ้ํ าย จักมาตงอย ั้ ดอยอ ู นนั ี้ก็จักเปนทไหว ี่ แกฅนแลเทวดาทงหลายั ๑ ใพ - เฝา, ดูแลใกลชิด ๑๗๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เสมิอด ั่ งตนกูตถาคตะยังธอระมานอยูนั้นชาแล สัณฐานพายทิสะวันออกนั้น เปนอนราบเพัยงเลียงงามแลีพายวนตกยังจั กเปน ัเมงอติตรนครุชาแล เมงอินนั ี้ จักเปนที่อยูแหงนักบวชทังหลาย จักเปนที่อยูฅน [หนาลานที่ ๓๒, น.๖๑๗] ฝูงมีบุญ นักแลจักอยูรักสาธาตุเจา หันหีดธัมม๗ อันชาแลจักรุงเริงดวยแกว ๓ พระการ ประกอบดวยเถียรเจาทังหลาย จักต ั้ งอยูในสรณาคมน ฟอมกันชูวัน เทวดา หากจกนัาเอาธาตํออกมาหุอฅนแลเทวดาท ื้ งหลายได ั ไหว  แลป ชาแลูตนกตถาคตะู ยังธอระมานอยู จักหื้อแลวสุข ๓ พระการ แกฅนแลเทวดาทังหลายชาแล ฯ เมิ่อนั้น อานันทเถียรไหวพระพุทธเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ดอย ที่นี้เปนอันประเสิฏนัก พายหนาจักปรากฏชื่อรฤชา พระเจากาววา ดูราอานันท ตถาคตะมารอดที่นี้ลัวะขนแสนทองกุเอาเก็งมาก ิ้ งก ั้ ไวูดอยที่นี้เปนกบดัวยน ิมิต อันกั้งเกิ้งสันนี้พายหนาปรากฏชื่อวาดอยเกิ้งชาแลวาอั้น ฯ พระเจาทํานายสันนี้แลว ยามเมิ่อพระเจาอยูจอมดอยที่นี้เทสนาธัมมแก ลัวะทงหลายั มีขุนแสนทองเปนตน ก็มาหอทานเข ื้ าปณฑบาตชิ ูวันหนแล ั้ ในเมิ่อ พระเจาอย ู ๕ วันแลว สวนอสสชัเถิยรีแลตุลารเถยรีขาทงสองอั นเปนเ ัจา ก็รักสา ประบาทผานอยเมิงลา อันมีในเมิงลื้อ คือเมิงอาฬวีที่นั้น ขาเจาทังสองก็อยู อุปปฏฐาก [หนาลานที่ ๓๓, น.๖๑๙] ผานอย มีหัวเมิงลา เมิงหอ ตอกันนั้น ก็ภาวนา ไดถึงอรหนตาแลั ว ก็เจยรจากีนวั าอาวโสุ ดูราเจา พระเจาย งเมตตาสอนราไว ั วา คันทานท งสองภาวนาได ั ถึงอรหนตาแลั ว เขอทิงสองเยั คอยไปชอมกพระตถาคตะู พายวนตกชั วยหนใต  พุนเทอะวิาอ ั้น บัดนราท ี้ งสองได ั ถึงอรหนตาแลั วราทงสองั ควรไปไหวพระพุทธเจาแล ฯ เจาทังสองก็เอากันไปชอมพระพุทะเจา ก็มาขึดพระเจาอยูสํารานในดอย เกงฅ ิ้ าทํ ี่นั้นหนแล ั้ พระเจากถามว็ า ทานทงสองมารับพลีนนักชาวัาอ ั้น ขาทงสองั ก็ไหวพระพุทธเจาว า อาม เอิอ เขิอขาก็ไหวพระพุทธเจาแล ขาทังสองก็ไดถึง ธัมมวิเสียด ก็มาไหวพระพุทธเจา แลวพระเจากาววา ดีแล เขิอทังสองไดถึง อรหันตาแลวด ั่ งอั้น ก็เปนอันดีนักแล เทาวาเขิอทังสองจุงเอากันพอกเมิออยู รักสาประบาทผานอยที่นั้น ก็เสมิอด ั่งไดอุปปฏฐากกูตถาคตะชูวันแลวาอั้น เถียรเจาทังสองก็รับเอาคําพระเจาวา สาธุดีแล วาอ ั้ นแลวก็สั่งอําลาพระเจา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๗๗


แลวก็เอากันเมิอสูผานอย อันเปนที่ อยูแหงตน แลวก็อยู [หนาลานที่๓๔, น.๖๒๑] อุปปฏฐากประบาทได๓ วัน ลวดนิพพานไปในวันเดียวกันทังสองหั้นแลเทวดา ทังหลายก็เลิกซากสงสการขาทังสอง ไฟก็บไหมหั้นแล ยามนั้นหินปณฑุกัมพล สิลาบาต ก็สําแดงรอนคะดางแขงห ั้ นแล พระญาอินทก็เลงดูก็รูวาอสชิตเถียร แลตุลารเถียรนิพพานไปแลว ก็ลงมาฟอมกันเผาก็บไหมพระญาอินทก็สยอง ไปไหวพระเจาถึงดอยเชียงใหม ก็ไหวแลกาวแกพระพุทธเจาห ั้ นแล พระเจา จิ่งกาววา ดูรามหาราช เหียดอันจักเผาขาทังสองนั้น ในกาละบัดนี้บไหมเทิ่อแล สองขาจักอยูถาอริยเมตเตยยะมาเผาชาแล พระญาอินทไดยินคําพระเจาสันนั้น ก็พอกมาเนรมิตหีดผา๑ สองอัน ใสขาทังสอง แลวเอาเขาไวในถ้ําทองดอยที่นั้น ตราบตอเทาอริยเมตเตยยะเจาชาแล เม ิ่อใดพระอริยเมตเตยยะเจาไดตรัส ประหญาสัพพัญูเปนพระแลว หากจักเผาตามวิบากเขาชาแล ฯ สวนอรหันตาเจานิพพานไปแลว ยังมี[หนาลานที่ ๓๕, น.๖๒๒] ฅาบตนอยูนั้น ยังมี๗ ตน ฯ มหากัสสปเถียรตน ๑ นิพพานแลวยังฅาบในระหวางดอย ๓ ชั้น อันมาสุมกัน ในระแวกแควนเมิงราชคหะ มีวันตกชวยหนเหนิอเมิงอางวะ ตน ๑ ฯ จุนทกัสสปเถียร นิพพานในระหวางดอยมิถิลานคร คือเมิงแส ในกาละบดนัแล ี้ ฯอสชตเถิยรีอตลารเถุยรีสองตนนี้นิพพานในดอยประบาทนอย เมิงลา เอาใสหีดผาแกวไวที่นั้นห ั้ นแล พระญาอินทก็พิจจรณารักสาฅาบ๒ มหาเถียรเจาทังสองในถ้ําประบาทผานอยที่นั้นแล ก็สยองไปดวยลวงบนหน อากาส ก็ไปทันขึดพระพุทธเจาที่ดอยเกิ้ง เชียงใหมที่นั้นเลา ก็มีวันนั้นแล ฯ อฐมํ ปาทธาตุกถา นิฐิตา ฯ กาวหองตํานานประบาทธาตุ ผูกถวน ๘ ก็สระเดจบัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ๑ หีดผา - โลงศพทําดวยหิน๒ ฅาบ - ซาก, ราง ๑๗๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


àªÕ§ãËÁ‹ àªÔ§´ÍÂÊØà·¾ Áͧ¨Ò¡´Í¤íÒ (´ŒÒ¹·ÔÈãμŒ¢Í§àÁ×ͧ) ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๙ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ ตถา สตโห ภควา วิหริตฺวา ภาวนา อฺญตรสฺมึสมโต ภควา ฯ ดูราสปปั ุริสะทงหลายัภควาอันวาพระพทธเจุาแหงเรา ก็อยูสํารานในดอยเกิ้ง ที่นั้นนานได๗ วัน แลวก็สระเดจออกจากจอมดอยที่นั้น ก็ไปตามราวปาอัน ๑ แลวก ลงไปส ็แมู น้ําระมิง คือแมพิงที่นั้น แลวกเล็ยบขี นไปฝ ึ้ งน  าข ้ํ นเม ึ้ อพายเหนิ ิอ ไกลประหมาณหมื่ นวา ก็มาจวบ๑ ลัวะผู๑ มันมาแปงควงพัดน้ํา๒ ขึ้นใสนา เขาดอน ๓ มันก็หันพระเจามาท ี่นั้น มันกมาแก็ ผาสไบแหงตนเชดต็นพระพีทธเจุา แลวมันวาจักเอาข ึ้นใสหัววาอั้น ก็มาหยุบเอาผาอันน ั้ นก็ลวดเกิดเปนฅําทังแทง หั้นแล ลัวะผูนั้นหันก็ยินดีนัก จิ่งราทธนาพระเจาวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา จุงอยูที่นี้โผดขาทังหลายกอนเทิอะวาอั้น พระเจาก็นั่งอยูดอยอัน ๑ พายวันตก บานลัวะผูนั้น มันแลนเมิอหุงเขาหุงแกง เขาสองหอ แกงสองหมอ ก็ลวดกลาย เกิดเปนเขาทิพพ น้ําทิพพมาทานแกพระเจาห ั้ นแล พระเจาสันแลวก็เหลือ หื้อทานแก [หนาลานที่ ๒, น.๖๒๗] อรหันตาก็เหลือหั้นแล ฯ ในเมอแล ิ่ วภตตกั ิจ พระเจาแลอรหนตาแลั วจิ่งกาวลวะผั ูนั้นวา ขุนหลวงเพิ่น มาแปงควงพัดน้ํานั้นขึ้นใสนาดอนนั้น อยาเยดหื้อยากใจเทิอะ ทานจุงมาเอาสีล พระเจาเทิอะ คันจักกินบัวระโภคก็หากจักมีเหลือแหลชาแล ฯ ลัวะผูนั้นก็เขามา เอาสีลพระเจา แลวก็พอกเมิอเรินมันห ั้ นแล มันก็มาเล็งหันประตูอันมีในเรินนั้น๑ จวบ - พบ๒ ควงพัดน้ํา - ระหัดวิดน้ํา๓ เขาดอน - การปลูกขาวนาดอน ๑๘๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ก็ลวดกลายเปนฅําเสี้ยงทังมวร มันก็มาร่ําพึงวา แตกอนกูเยดนาก็พอหลอตาย ก็ยังบพอกินดาย บัดนี้กูก็เอาสีลพระเจาแลวพอกมาเริน อันใดก็เปนฅําเส ี้ ยง สีลพระเจานี้ก็เปนอันประเสิฏแทแล กูจักรักสาตอเทายาวชีวังชาแลวาอั้น ฯ พระเจาก ็หื้อสลลีวะัแลวจงจาก ิ่ บดัวยอรหนตาวั า ดูราภกขิ ุทังหลาย ในเมิ่อ ตถาคตะมารอดที่นี้ ก็มาจวบลัวะแปงควงพัดน ้ํ าข ึ้นใสนา ถามมันก็วาแลงหอด ดวยน้ํา ขาก็แปงพัดขึ้นใสนาแลวาอั้น พายหนาจักไดชื่อวาเมิงหอดน้ํา ชาแล วาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ไหววา ขาแดพระพุทธเจา ถานะที่นี้ดีนัก ควรตั้งสาสนาที่๑ แล [หนาลานที่ ๓, น.๖๒๘] ขอพระเจาเมตตาไวธาตุแดเทิอะวาอั้น พระเจาก็กาววา ถานะที่นี้ถ้ําก็บมีจักไวธาตุก็บควรแลวาอั้น ฯ พระเจาก็ลุกไป ผาแมน้ําระมิงเมิอเหนิอไกลพันวา ก็ไปจวบหินกอน ๑ เปนรูปชาง นั่งอยูเหนิอ ผากอนนนห ั้ นแล ั้ ในกาละนนพระญานาคต ั้ ัว ๑ ก็ออกมาจากทอย ี่ ูมันนั้น ก็มาไหว พระพุทธเจาหั้นแล เมิ่อนั้นอรหันตา แลพระญาอโสก พระญานาค ก็ขอเอาธาตุ ซึ่งพระเจาวา ขาแดพระพุทธเจา ถานะที่นี้ก็ควรดีตั้งสาสนาท ี่ ๑ แลวาอั้น พระเจากาววาสณฐานทั ี่นี้ถ้ําก็บมีบควรไวธาตแลวุาอ ั้น อรหนตาั แลพระญาอโสก จิ่งไหพระพทธเุจาว า ขาแดพระพทธเจุา คันบไวธาต ุดั่งอั้น ขอจงไว ุ รอยประบาท  เทิอะวาอั้น พระเจาก็ย่ํารอยประบาทไวเหนิอผากอน ๑ ลึก ๔ นิ้วมือขวาง ไวหื้อเปนที่ไหวแลปูชาแกฅนแลเทวดาทังหลาย ฯ ก็สระเดจออกจากที่นั้น ไปเลียบข ึ้นไปพายเหนิอไกลได๗ พันวา ก็ไปจวบพระญานาคตัว ๑ เปนอัน หยาบชากลาแขง มันหนพระเจัามารอดท ี่นั้น มันวาจกกะทัารํายแกพระเจาวาอ ั้น [หนาลานที่ ๔, น.๖๓๐] พระเจาก็รูใจมันวาพระญานาคเยิ่งนั้น ก็กะทําอิทธิริทธีบหื้อ มันยอตัวไดมันจ ิ่ งร ่ํ าพึงวา กูนี้มีริทธีแลดาย มันผูนี้พอยมีริทธีแกกูนี้ชาวาอั้น พระเจาจิ่งผายปาฏิหารยมันหัน จิ่งรูวาเปนพระเจา มันก็กาววา ขาบรูจักเจาแล เจาจุงโผดขาห ื้อไดยอหวยอตั ัวไดพรองเทิอะ ขาบรูแลไดกะทําผิดแกเจากูแทแล ขาจักทวงจักติง๑ ก็บไดแลวาอั้น เม ิ่ อน ั้ นพระเจาก็รูใจอันออนนอมแหงมันแลว พระเจาก็หื้อมันทวงติงไดแลวมันก็ลุกได ก็ไปเอาอาสนามาปูหื้อพระเจานั่ง เหนิอผากอน ๑ กวางได๗ สอก ยาวสิบสอกแล ก็ไปเอาเขาน้ําโภชนะอาหาร ๑ ติง - ขยับตัว ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๑


มาทานแกพระพุทธเจาห ั้ นแล ทีนั้นหาน ้ํ าจักห ื้ อพระเจาสันก็บมีมันก็หื้อน ้ํ าบุ ออกมาแตสะหลัง๑ แหงมัน แลวมันก็เอาหื้อพระเจาสันหั้นแล ฯ ในเมอพระเจ ิ่ าสนเขัาแล ว มันกขอเอาส็ลซีงพระเจ ึ่ าหนแล ั้ พระเจาก ็หื้อสีล ๕ แกมัน แลวมนกั ็บังเกดสิ ทธาป ั ติยินดเหลี มใส ิ้ ลวดขวกเอาตาทังสองออกมาทานั พระพุทธเจาห ั้ นแล แลวก็ปกพังพานเปนสัตตกั้งรมพระเจา [หนาลานที่ ๕, น.๖๓๒] อยูหั้นแล มันกขอเอารอยต็ นไว ีเหนอผาทิ ี่นั้น ยามนนพระเจ ั้ ากหว็ายหน าไปว นออกั แลวกาววา ถานะที่นี้พระญานาคตัวหื้อเปนทานแกพระเจา พายหนาจักเปนเมิง อันใหย ๑ คือวามหานคร วาอั้นชาแล ฯ พระเจาก็ลุกย่ํารอยตีนเหนิอผาที่นั้น แลวพระญานาคก็ไหวพระเจา แลวก็หนีไปสูเมิงนาคอันเปนที่อยูแหงตนยามใด สวนวาตาทิพพนั้นก็เกิดมีแกมันในขณะบัดเดียวนั้น ตามันก็แจงใสกวาเกา ดวยเตชะอันหื้อตาเปนทานแกพระเจานั้นแล ฯ พระเจาก็สระเดจจากที่นั้นแลวขึ้นเมิอพายเหนิอไปสูสัณฐานที่ ๑ พระเจา ก็หวายหนาไปวันออก ก็ร่ําพึงวาอายุกูก็ได๖๐ ปแลว เทายัง ๒๐ ปแลวก็จัก นิพพานไปชาแล ธาตุกูก็ยังจักต ั้ งอยูในเมิงที่นี้จักมากหลายกวาเมิงอันอื่น ๑ ชาแลวาอั้น ธัมมสังเวคก็เกิดมีแกพระเจาสันน ี้ แลว พายหนาที่นี้จักไดเปนดี หมื่นชาแล ฯ พระเจาก ็ยายไปวนออกได ั พันวา ก็ไปรอดบานกมภารสุ ฏฐั ีหั้นแล ยังมีลัวะ ผู๑ เปนชางหมอ มันเปนนายบานที่นั้น มันก็หันพระเจามา [หนาลานที่ ๖, น.๖๓๔] มันก็ถามวาเจากูลุกท ี่ใดมานี้ ชา พระเจาจ ิ่ งกาววา กูจระเดินเทสันตรีมารอด บานเมิงที่นี้ เพ ิ่อโผดสัตตทังหลายดายวาอั้น กุมภารสัฏฐีจิ่งกาววา เจากูเปน พระเจาอ ั้ นชะรือ มันก็ราทธนาพระพุทธเจาจุงอยูสํารานที่นี้โผดผูขาทังหลาย หื้อเสี้ยง ๗ วันกอนเทิอะวาอั้น มันก็มาแปงกุฎีวิหารหลัง๑ หื้อพระเจาอยูสําราน หั้นแล ชาวบานก ็หื้อเขาปณฑ บาตเปนทานแก ิพระพทธเจุาแลวพระเจาก ็รับเอาแลว สันเขาแลวจ ิ่ งกาวซ ึ่ งอรหันตา แลพระญาอโสกวา ดูราภิกขุทังหลาย เมิ่อ กูตถาคตะมารอดที่นี้ลัวะทงหลายเัขาเขามาขอราทธนาว า พระเจาจงรุ บเทัอะวิาอ ั้น พายหนาจักเปนเมิงอันใหย ก็ปรากฏชื่อวากุญชนคร วาอั้นชาแล ฯ ๑ สะหลัง - สันหลัง ๑๘๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ยามนนอรห ั้ นตาแลพระญาอโสกก ั ไหว ็ วา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาพระเจ ั้ า ที่ ๑ แล ขอพระเจาไวธาตุเทิอะวาอั้น พระเจาก็เอามือลูบหัวไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตา แลพระญาอโสก แลวลัวะทังหลายมีกุมภารสัฏฐีเปนตน ขุดขุม ลึกรอยเอ็ดวาปายสอก แลก็เอาบอกไมซางฅํา ใสคระอูบใหย ๘ กํา [หนาลานที่ ๗, น.๖๓๖] แลวก็เอาธาตุลงใสในขุม ลัวะทังหลายก็เอาเขาของใส ๗ ลาน ปูชาแลวก็ แปงปราสาทฅําสูง ๗ สอกปายใสธาตุแล พระญาอินทก็ใสยนตไฟดีแลว พระเจา สั่งวาเม ิ่อใดพระตถาคตะนิพพานไปแลว สูจุงเอาธาตุดูกกระหมอมหัวกล ้ํ าขวา มาไวที่นี้เทิอะ ฯ วาอนแล ั้ วพระเจากสระเดจข็นเม ึ้ อประหมาณว ิ าได  พันวา ก็ไปรอดบานลวะั ที่ ๑ ยังมีมานผู๑ ก็หื้อหมากพลูกับสีเสียด ยาฅวัน มาทานแกพระพุทธเจา ขาแดเจากูจุงคอมชิชาเทิอะวาอั้น บานนี้จักไดชื่อวาบานชีชาแล พายหนา จักไดชื่อวาเวียงอุปการ วาอ ั้ นชาแล ฯ อรหันตาแลพระญาอโสกจิ่งไหววา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาพระเ ั้ จาท ี่นี้แลวาอ ั้น จิ่งขอเอาธาตุหั้นแล พระเจาจงเอาม ิ่ ือ ลูบหัวก็ไดเกสาเสน ๑ หื้อแกอรหันตาแลพระญาอโสกหั้นแลลัวะทังหลายมีมาน ผูนั้นเปนตน ก็เอาใสบอกไมรวก ใสอูบฅําใหย ๗ กํา มานผูนั้นใสเขาของลาน ๑ ปูชาแลวพระญาอนทิ ก็ใสยนต ถมเสยดีแลีวกอขนสองสอกพายบน ึ้ แลวพระเจา ก็ทํานายวา กูตถาคตะนิพพานไปแลว จุงเอาดูกขางกล ้ํ าขวา มา [หนาลานที่๘, น.๖๓๘] ไวที่นี้เทิอะ ฯ อรหันตา แลพระญาอโสก พระญาอินทแลอานันทเถรก็นอนที่นั้น แลว พระเจาก็ไปนอนดอยอัน ๑ พายวันตกใกลตนไมขามตน ๑ ใหย ๘ กํา สูงสิบ ๕ สอก อยูเมตตาเสี้ยงรวายตรีฅืนนั้น เทวดาก็ชมชื่นยินดีแลวก็หื้อหาฝนแกว หาฝนงึน หาฝนฅํา ตกลงมาปูชาพระเจาแล คันรุงแจงแลวแกวแหวนงึนฅําทัง หลายฝงนูนก ั้ ไหลเ ็ขามาส ูพื้นดอยเสยง ี้ ดวยอานภาพพระพุทธเจุาแลเหยดดีงอ ั่ ั้น ดอยอันน ั้ นจ ิ่งไดชื่อวาดอยหลวง เพ ิ่ ออ ั้ นแล ฯ เม ิ่ อน ั้ นเทวดาก็ขอเอารอยตีน ซึ่งพระเจาหั้นแล พระเจากาววา หาที่จักไวก็บไดแล ฯ ถึงวนลันรูงเุ ชา พระเจาก ไปส ็ ูทิสะกลาว ้ํ นออกั ก็ไปหนหันกิอน๒ กมงามนัก พระเจาก็นั่งหวายหนาไปสูทิสะกล ้ํ าวันออก แลวก็ทํานายวา เมิงอันนี้จักมี ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๓


อารามใหย๘ หลัง ดีนักแล เม ิ่ อกูตถาคตะมาน ั่งภาวนาในที่นี้เปนอันวิเสียด เหมินด ั่ งกูนั้น โสตถานะ ๖ แหง ในเมิงลังกาทวีปนั้ นแลวาอั้น พระเจาก็ย่ํา ประบาทไวเหนิอหินอันตนนั่งนั้นแล ฯ พระเจาก็ไปนั่ งอยูจิ่มเคาไมบัวนาก๑ ตน ๑ ยังมีฅนสองฅนเอาบัวนาก ไปขายเลี้ยงชีวิต สองขาก็มาอยูจิ่ม [หนาลานที่ ๙, น.๖๔๐] ใกลไมบัวนากอันพระเจา นั่งอยูสองขาก็เอาดอกบัวนากมาปูชาพระเจาห ั้ นแล พระเจาจ ิ่ งกาววา ถานะที่นี้ ฅนทังหลายจักสางอารามใหยหลัง๑จักปรากฏชื่ อวาบุปผารามชาแลอรหันตา แลพระญาอโสกก็ไหวพระพุทธเจาวา ในที่นี้ก็ควรต ั้ งสาสนาพระเจาแลวาอั้น พระเจากเอาม็อลืบหูวได ัเกสาเส น ๑เอาหออรห ื้ นตาแลพระญาอโสกจ ั ไวุในท  ี่นั้น หั้นแล พระเจากาววา ที่อันไวธาตุนั้น บเทาที่นี้สิ่งเดียวดาย ยังมี๘ แหงกอนแล วาอั้น พระเจากเอาธาต็ วางไวุเหน อฝิาม ือแลวอทฏฐานวิ าในถานะที่นี้ยังจกเปน ั ที่ตั้งสาสนา ยังเปนที่ มหาอารามแทดั่งอั้น เกสาเสนนี้จุงบังเกิดเปน ๘ เสน บัดเดียวน ี้ เทิอะ พระเจาก็อทิฏฐานสันน ี้ เม ิ่ อน ั้ นเกสาเสนน ั้ นก็ปรากฏหันมา ๘ เสน ก็บใหยบนอย เทากันบสั้นบยาว บหื้อผิดแผกหลากคลาสังสักอัน เหมนกินชัเสู น พระญาอโสกหนสันนันจ ั้ งขอเอาธาต ิ่ เสุน ๑ เอาจไวุที่พระเจานงแล ั่ จิ่งปรากฏชื่อวาบุปผาราม วัดสวนดอกในกาละบัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระพทธเจุาก ็ยายไป [หนาลานท ี่๑๐, น.๖๔๒]สูทิสะวนออกชัวยหนเหน ิอ ก็นั่งอยเคู าไม หกกอ๑ พระเจาก ็ทํานายวาในที่นี้พายหนาจ กได ั ชื่อวาปาเวฬุวัน อาราม ชาแลวาอั้น อรหันตาแลพระญาอโสกก็ขอเอาเกสาเสน ๑ ถปนนาตั้งไว ที่นั้น ลวดปรากฏชื่อวาเวฬุวันปาหก บัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระเจาก็ไปทิสะกล ้ําใต ก็นั่งอยูที่ ๑ แลวทํานายวา ถานะที่นี้ ฅนทังหลายจักมาสางอารามใหยอัน ๑ ก็ปรากฏชื่ อวาบุพพาราม ตามนิมิต วันออกนนชาแล ั้ อรหนตาแลพระญาอโสกก ัขอเอาธาต็แลุวต งไั้ วที่นั้น ลวดชอว ื่ า บุพพาราม ตราบถึงบัดนี้แล ฯ ถัดนั้น พระเจาก ็ยายไปทสะหวิางน ั้น ยังมีชีมานนกบวชสองตนั นุงผาผางราย สองขาหันพระเจามาก็มาไหวพระเจา หื้อลูกไมเปนทานนั้นแล พระเจาก็ถามวา ๑ บัวนาก - ตนบุญนาค ๑๘๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เขอทิงสองนังผุ าอนผางรัาย ๑ เชนแล บเปนสมณะสกอันแลวัาอ ั้น ชีมานสองตนนั้น ยินละอายนัก ลวดสิก๒ เสียแลวขอบวชใหมหั้นแล พระเจาก็ลวดบวชห ื้อเปน เอหิภิกขุแลวกาวซ ึ่ งพระญาอินทแลพระญาอโสก อรหันตาวา ในถานะที่นี้ พายหนาจ กเปนท ัอย ี่ แหู ง [หนาลานท ี่๑๑, น.๖๔๔] ทาวพระญาตนใหยชาแล ในชีมาน มาละเพสเกาเสีย แลวลวดบวชเปนเอหิภิกขุพายหนาจักปรากฏเปนเวียงอัน ๑ ชื่ออภินวนคร คือวาเมิงเชียงใหมชาแล ฯ พระเจากพรากเส็ยที ี่นั้น ก็ไปทสะกลิาว ้ํ นตกั ยังมีลัวะสองฅนยนคิาววเถั ิ่น ก็เอาช ิ้ นมาหยางไฟไวขาทังสองก็หื้อเขาปณฑิบาตเปนทานแกพระเจากับ ชิ้นแหงนั้น พระเจาก็รับสัน แลวจ ิ่ งทํานายวา ถานะที่นี้ พายหนาฅนทังหลาย จักสางอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวาอโสกราม ตามนิมิตอันทัมมิละมาหยาง ชิ้นแหงนนชาแล ั้ วาอนแล ั้ วอรห นตาแลพระญาอโสก ั ก็ขอเอาธาตุจุไวที่นั้นหนแล ั้ จิ่งไดชื่อวาอโสกราม บัดนี้แล ฯ พระเจาก็พรากจากที่นั้นไปสูทิสะหนใตก็นั่งอยูที่๑ ยังมีลัวะสองฅนก็เอา หมากมวงสองลูก มาหื้อทานแกพระพุทธเจาหั้นแล บเทาแตนั้น ก็เอาหมากสา หมากขนุน เขาตม เขาหนม มาเปนทานแกพระเจาสัน แลวก็เอาน ้ํ าสมปอย น้ํามันหอมเปนทาน น้ําซวยหนาแหงพระพุทธเจาห ั้ นแล แลวก็นั่งอยูที่นั้น เทสนาธัมมแกลัวะทังหลายตราบเสี้ยง ๓ วัน [หนาลานที่๑๒, น.๖๔๖] ๓ ฅืน แลวจิ่ง ทํานายวา ในที่นี้พายหนาฅนทังหลายจักสางอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวา พิชชอารามชาแล พระญาอโสกก็ขอเอาธาตุตั้งไวที่นั้นแล ฯ ถัดนนพระเจ ั้ าก ็ยายจากที่นั้นเขาไปส  ูทิสะหนวนออกชัวยหนเหน ิอ ก็นั่งอยู ที่ ๑ เม ิ่ อน ั้ นยังมีชีมาน ๕ ฅน มานอนอยูที่นั้นห ั้ นแล เขาหันพระเจามารอด ก็เขามาไหว พระพทธเจุาแลพระเจาก ็กาววาสัณฐานที่นี้ชีมานมานอน พายหนา ฅนทังหลายจักมาสางอารามใหยหลัง ๑ ปรากฏชื่ อวาสังฆอารามชาแลวาอั้น พระญาอโสกก็ขอเอาเกสาธาตุตั้งไวที่นั้นห ั้ นแล จิ่งไดชื่อวาสังฆอาราม ถึงกาละบัดนี้แล ฯ ๑ ผางราย - ดูนาเกลียด๒ สิก - ลาสิกขา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๕


ถัดนั้น พระเจากสระเด็จจากท็ ี่นั้นไปหนอาคไนย ยังมีลัวะผู๑ หันพระเจามา มันก็รังแปงตบอูัน ๑แลวกราทธนาพระเจ็าอย ูสํารานหนแล ั้ พระพทธเจุากเมตตา็ ในที่นั้นเส ี้ ยงฅืน ๑ แลวพระเจาก็ทํานายวา กูมารอดที่นี้ ทัมมิละก็ยินดีก็มา แปงตูบที่สํารานกูถานะที่นี้ฅนทังหลายจักสางแปงอารามใหย ๑ ปรากฏชื่อวา นันทอาราม แลวาอั้น อรหันตา แลพระญาอโสกก็ขอเอาธาตุเสน ๑ แลวจุไว [หนาลานที่๑๓, น.๖๔๘] ที่นั้นหั้นแล ฯ ถัดนั้น ทัมมิละก็ราทธนาพระเจามาเมตตาในบาน พระเจาก็ยายจากที่นั้น ไปรอดบาน ๑ แลวก็นั่งอยูเหนิออาสนาในกลางบานที่นั้น ยังมีลัวะผู๑ มันก็ ยินดีปสาทะสัทธา ก็ปกกางทุงปูชาพระเจาหั้นแล ในกาละนั้นยังมีนักบวชตน ๑ มีอายุได๒๐ ปเตมแลว พระเจามาเมตตาก็บังเกิดสัทธายินดีวากูเกิดมาได ซาวปนี้แล กูบวชในสาสนาหาประโยชนะบได บัดนี้กูก็ไดจวบพระพทธเจุามาถ ึง สันนี้ดีนักแลวาอ ั้น ก็แกผามาชบนุาม ้ํ นมาป ัชาพระพูทธเจุาหนแล ั้ พระเจาจงก ิ่ าวว า กูตถาคตะมารอดที่นี้ เขาก็มาปกกางทุงโคมปูชา ชีมานก็มาเจาะผาสไบปูชา ถานะที่นี้พายหนาฅนทังหลายจักมาสางแปงอารามใหย๑ ปรากฏชื่ อวา โชติกอารามชาแลวาอั้น พระญาอโสกแลอรหันตาก็ขอเอาธาตุหั้นแล ก็เอาใส บอกไมซาง กอเจติยะสูง ๓ สอก แลวพระเจาก็สั่งอรหันตาแลพระญาอโสกวา กูตถาคตะนิพพานไปแลว สูจุงเอาธาตุฝามือกล้ําขวา มาไวที่นี้เทิอะวาอั้นแล ฯ พระเจาก็สระเดจ [หนาลานที่๑๔, น.๖๕๐] จากที่นั้น ก็ไปบานกุมภสัฏฐี ชางป นหมอ ก็อยูเมตตาเทสนาอานิสงสอันสางรูปพระพุทธเจาห ื้ อมหาสัฏฐีฟง หั้นแลรสธัมมเทสนาอันนั้นมันก็ยินเขาใจนัก มักใฅสางพุทธรูปดั่งอั้น ก็ปาวเติน ชาวบาน เขาก็มารอมเขาของวัตถุทานแลก็มาชักชวนกันเอาดินป นหมอนั้น มาปนเปนพุทธรูปได๓ ลาน ๓ แสนตน ใสแทนชองมาปูชาพระเจาห ั้ นแล ทัมมละทิงหลายมั ีกุมภสฏฐั เปนเค ี า ก็พากนมาไหว ันบส กการะป ัชาพระเจูาพมพาิ สารูป ๓ ลาน ๓ แสนตนนั้น ตามกําลังสัทธาแหงเขาก็มีแล พระเจากาววา สาธุ ดีนักแล ดูรากุมภสัฏฐีสูพรอมกันสางพุทธรูปเจาไวสักการะปูชาก็ดีนักแล เมิ่อใดกูตถาคตะนิพพานไปแลว ถานะที่นี้จักเปนเมิงใหยอัน ๑ สาสนากูจักมา ตั้งอยูในเมิงที่นี้จักกานกุงรุงเริงมากนัก จักเปนที่ชุมนุมพระภิกขุสามเณรแล นักบวชอาจารยผูรูมากนัก ฯ ๑๘๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


พระการ ๑ ทาวพระญาเสนาอามาตยยิงชายทงหลายฝ ังเกูดมาในเม ิงอินนั ี้ จักกานกุงรุงเริง มีหั้นชาแล ฅนเกิดมาในเมิงอันนี้จักไดพ่ําเพงบุญ [หนาลานที่๑๕, น.๖๕๑] มากนัก เขาจกได ั ถึงมคคผลธัมมั ในสาสนาก ตถาคตะูผิบไดถึงมคคผลธัมมั  ในสาสนากูดั่งอั้น เขาทังหลายก็ไดถึงมัคคผลธัมมในสาสนาอริยเมตเตยยะเจา ชาแลวาอ ั้น อรหนตาแลพระญาอโสกก ั ็ขุดขมลุึก ๗ สอก แลวกเอาพ็ทธรุ ูป ๓ ลาน ๓ แสนตนน ั้ นเขาใสขุม ถมเสียแลวพระพุทธเจาจ ิ่ งเล็งดูอนาคตะ รูแจงแลว ก็ทํานายวา กูนิพพานไปแลว พายหนาพุทธรูปดินฝูงนี้ฅนทังหลาย แลเทวดา ออกมาไหวแลป ชาูในกาละนนสาสนาก ั้ ตถาคตะจูกกัานกงรุ งเรุ งในเม ิงทิ ี่นี้ชาแล ฯ พระเจาทํานายสันนี้แลวก็สระเดจออกไปสูดอยนางนอนที่นั้น แลวกาววา ถานะที่นี้ก็ควรตงสาสนาแลว ั้ าอ ั้น อรหนตาแลพระญาอโสกก ัขอเอาธาต็ุกูไวที่นั้น แลวพระพุทธเจาก็ทํานายวา ธาตุกูอันนี้จักปรากฏชื่อวาดอยนางนอน วาอั้น ฯ แลวก็สระเดจไปสูเมิงยอม (ยอน) ไวประบาทรอย ๑ ฯ แลวก็ไปสูเมิงทราง ย่ําประบาทไวรอย ๑ ฯ แลวก็ไปสูเมิงเซง แลวก็เขาไปสูเมิงทะคุง แลวก็ไปสู เมิงกุสินาราย แลวก็เขาไปสูปาเชตวันอารามดั่งเกา ถึงกาละ [หนาลานที่๑๖, น.๖๕๓] อันควรเขาวัสสาก็มีแล ฯ พระพุทธเจาก็จระเดินโผดสัตตแลวก็ทํานายประบาทพระธาตุปางนั้น ไปรอดเมิงใดฅนทังหลายก็เทียรยอมมาห ื้อทานแลปูชาทุกที่ทุกแหงก็มีแล ในกาละเมิ่ อพระเจาไดตรัสประหญาเปนพระแลวได๒๕ วัสสา อายุได๖๐ ป ก็มีดวยพระการดั่งนี้แล ฯ เอกํสมยํภควา หริภุฺชนคเร มหาปพฺตเต เอกํมหายกฺข ทิสทลิ กฺจิมเนติฯ ดูราสัปปุริสะทังหลาย เอกํสมยํ ยังมีในกาละคราบ ๑ ภควา อันวาพระพุทธเจาตนมีมหากรุณาร่ําพึงหันพระญายักขตน ๑ อยูในดอยสูงที่นั้น มีในเมิงหริภุญเชยยนคร พระเจาก็สระเดจไปรอดในระโวงโขงเขตดอยสูงที่นั้น หั้นแล ฯ ในกาละนนพระญาย ั้ กขัตนอยดอยท ู ี่นั้น มันเทยรยี อมไปแสวงหาฅนแลส ตตั  มาเปนอาหารบขาดสายห ั้ นแลในวันน ั้ นพระญายักขผูนั้นก็จระเดินไปหาอาหาร ที่ใดแลก็บไดมันก็ไปจวบพบพระพุทธเจา หันแลวมันก็บรูวาเปนพระพุทธเจา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๗


มันก็คระนิงใจวา บัดน ี้โชคลาภกูมีแทแล [หนาลานที่๑๗, น.๖๕๕] จิ่งมาจวบพบหัน ชายผูนี้ทึงหลา อาหารแหงกูก็มาหากูแทแลวาอั้น มันก็มาสําแดงดวยอิทธิริทธี อันเปนยักขก็แลนเขาไปสูพระพุทธเจา มันก็จักสับยับเอาพระพุทธเจาหั้นแล ฯ อถ ภควา เมิ่อนั้นพระพุทธเจาก็รูใจแหงยักขผูนั้น ก็กาววา มหายกฺข ดูรา มหายกขั ผูใหยมึงอยาวาจกมากันกิ ูดวยงายเทอะิ จักเปนบาปอนหนักแกั มึงชาแล กูนี้บใชฅนโยยานสามานยแล อหํ อันวากูนี้ หากเปนตนประเสิฏกวาโลกทัง ๓ ดายวาอั้น ฯ เม ิ่ อน ั้ นพระญายักขตนน ั้นไดยินคําพระเจากาวเทาน ั้ นแลว ภิโต หุตฺวา มันกสะด็ งตกใ ุ จกัว มีตนอนสันระสายก ั่ วตายมากนั ัก ก็ขออภยชั ีวิตซงพระพ ึ่ ทธเจุา หั้นแล ก็ถอยหนีเมิอหาท ี่ อยูอาณารัฏฐะเขตแดนเมิงแหงตน เมิอบอกเหียด การณอันน ั้ นแกเมียมันวาด ั่ งน ี้ ภทฺเท ดูรานาง ในวันนี้กูก็ไปแอวหาอาหาร ก็บจวบบหัน กูก็ไปจวบชายผู๑ ทรงรูปโสมโนมพัณณวัณณะอันงามบัวรสุทธิ์ มากนัก กูก็ใสใจวาเปนฅนโยยานสามานย  กูก็แลนเล ยไปแท ิ ดวยคํา [หนาลานท ี่๑๘, น.๖๕๗] คระนงใจว ิาจกสับยั บเอามาเปนอาหารแห ังราวาอ ั้น มันก็กาวคาสํหนาทวี า ดูรายกขั มึงอยาได  วาจกกันกิเทูอะิ จักเปนบาปแกมึงชาแลวาอ ั้น กูนี้หากเปนตน ประเสิฏกวาโลกทังมวรแลวาอั้น ฯ กูไดยินคําเย ิ่ งน ั้ นก็สะดุงตกใจกัว มีตนอัน สั่นระสายกวตายมากนั ัก ก็กมกราบไหวก็ถอยหนมาหาทีอย ี่ แหู งราบดนัแลว ี้ าอ ั้น ฯ เมอน ิ่ นเม ั้ ยมี นได ั ยินคาผํวกัาวสนนั ั้น มันกกฎหมายร็ ูวาหากเปนสพพัญัู เจาสิ่งเดียวแล ร่ําพึงสันนี้แลวก็กาวซึ่งผัวตนวาดั่งนี้สามิขาแกเจากูปุคละอัน หันมาปานสันนั้น บใชฅนโยยานสามานยดาย ก็หากเปนตนมีบุญสมพารชาแล เจาก ไดูจวบพบสพพัญั ตนประเสู ฏแทิแลเจาอยาวาจ กได ั กินเทอะิ จักเปนบาป อันหนักชาแล บัดนี้เจาตนประเสิฏนั้นยังอยูที่ใดชา พระญายักขก็กาววา ยังไป หนีเท ิ่ อแลวาอั้น เมียมันจ ิ่ งกาววา ขาแดเจากูจุงเรนขันเขาตอกดอกไมคันธะ ของหอม แลวไปขอสมมาพล นนักเทัอะิ จุงหอพระเจ ื้ าขมาอดโทสป นเทอะวิาอ ั้น ฯ ตํสุตฺวา พระญายักขได[หนาลานที่๑๙, น.๖๕๘] ยินคําเมียบอกดั่งอั้น ก็รีบขงขวาย หาปรมามสปิชาูไดแลวก ็รีบแลนเข าไปส  ูสํานกพระเจั าแลวกขอสมมาคารวะด็วย คําวา ภนฺเต ขาแดพระพุทธเจา ตนหาทุกขบได ผูขาก็ขอซ ึ่ งพระพุทธเจา ๑๘๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


จุงบังเกิดกรุณาแกขาเทิอะ ขาก็บรูจักพระพุทธเจา จิ่งจักแลนเลิยเขามาเพ ิ่ อวา จักกินพระพุทธเจาสันนั้น ก็เปนโทสแกขาแทแล ขอเจากูจุงขมาโทสแกขา แดเทิอะวาอั้น ฯ อถ ในกาละนั้ นพระเจาก็เล็งหันพระญายักขผูนั้นมีบุญสมพารอันมาก จิ่งจกรั บเอาปรมาม ั สปิชาูแลวขมาเสยยี งโทสย ังพระญายักขัตนน ั้น แลวพระเจา ก็สอนสรณาคมนแลสีล ๕ หื้อแกมันห ั้ นแล พระญายักขก็รับเอาแลวมันก็จําสีล บขาสตตั นั้นแล ก็นั่งอยปฏู ิบัติพระพทธเุจาหนแล ั้ พระพทธเจุากเทสนาท็านายวํ า ดูราทานยักขผูใหยอนาคตะพายหนาในระหวางสาสนาพระตถาคตะนิพพาน ไปแลววันนั้น ทานจักไดเกิดเปนพระญาธัมมิกราชาตน ๑ ในสาสนาพันถวน ๓ นั้นแล ทานเกิดมาก็จักได[หนาลานที่ ๒๐, น.๖๖๐] เลิกยกยอสาสนากูหื้อกานกุง รุงเริงมากนัก พายหนาบอยาชาแล พระญาธัมมิกราชาตนน ั้ นจักมีอายุยืนได ๗๐ ปชาแล ฯ ในกาละนนอต ั้ ตสาสนากี ูตั้งไว๕ พันวสสาัแรกแตตถาคตะน พพานไปน ิ ั้น พระญาธัมมิกราชาก็เกิดมาลําดับถัดกันมีสี่ตนกอนแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงปาตลีบุตตนามปญญัตติชื่อวาวตมาริกะ คือวา พระญาอโสกธัมมราชาวาอั้นก็มีแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงสาวัตถีคือวาเมิงหังสาวดีทานตนนั้นจักกะทํา กิจคาขายเหมี้ยงชาแล ยามนั้นเหมี้ยง๑ ก็แพง จักขายได๗ สิบงึนตริงชาแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาเมิงอางวะ ทานตนน ั้ นจักเปนพอคาเกิอ เกิอก็จักแพง ขายได๗๐ งึนตริงแล ฯ ตน ๑ เกิดมาเมิงใตเมิงอโยธิยา จักเปนพอคาพลูพลูก็จักแพง จักขาย ๓๐ งึนตริงแล ฯ ตน ๑ เกิดมาเปนพอคาเขาสาร เขาสารก็จักแพง ขายเปนงึนตริงแล ฯ ล้ําพระญาธัมมิกราชาส ี่ ตนนั้น จักเกิดมาใน ๕ พันวัสสานี้สิ่งเดียวแล ใน (พัน) วัสสาถวน ๕ นั้น บเกิดสักตนแล เหียดวาฅนปาปธัมมมากนัก บอาจ จักสั่งสอนไดลวดบเกิดเพิ่อ [หนาลานที่ ๒๑, น.๖๖๒] อั้นแล ฯ ๑ เหมี้ยง - เมี่ยง, ชาอัสสัม ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๘๙


ล้ําพระญาธัมมสี่ตนนั้น ตน ๑ ชื่อปตมาลิกอโสกราชาตนนั้นจักเกิดกอน แตพันวัสสาหัวทีนั้นแล ฯ ตนถวนสอง จักเกิดมาชื่อวาตัมพุละอนุรุทธธัมมิกราชา จักเปนพอคา เหมยง ี้ เกดใน ิเมงพิกลู่ํา ในทวารติคือวาหงสาวดั ีในพนวัสสาถัวนสองนนชาแล ั้ ฯ ตน ๑ จักเกิดมาเปนพอคาเขาสาร จักเกิดมาในเมิงโยนกะคือวาเมิง หริภุญเชยยนคร ในพันวัสสาถวน ๓ นั้นชาแล ฯ ตน ๑ จักเกิดมาในเมิงอางวะ จักเปนพอคาเกิอ ในพันวัสสาถวนสี่นั้น มีหั้นชาแล ฯ ดูราทานยักขราชา ทานจักไดเปนพระญาธัมมิกราชา ในพันวัสสาถวน ๓ นั้นชาแล ฯ คันกตถาคตะนูพพานไปแล ิ วได สองพนแลเัขามา๓ พันกาละเมอใด ิ่ ในกาละนั้ นยักขราชาจักไดเกิดในเมิงเชียงดาวที่นั้น จักไดเลิกยอสาสนา กูตถาคตะห ื้ อกานกุงรุงเริงมากนักชาแล ฯ อยํ ปพฺพโต อันวาดอยอันนี้คือวา ดอยอางสลุงใหย กวางไดโยชนะ ๑ ยังมีถ้ําใหยอัน ๑ สูงพันวา ยังมียักขสี่ตัว ตั้งอยูรักสาพุทธรูปหั้นแล ดูราทานยักขในกาละพายหนา [หนาลานที่ ๒๒, น.๖๖๔] สาสนากูตถาคตะขามพนสองพันวัสสาแลว เขาไปเขต ๓ พันวัสสานั้น ในเมิง หริภุญชัย ภาสาวาพระญาหวเัวยงี วาอั้น ก็เสวยราชสมปัตต ในเม ิงหริ ิภุญชยทั ี่นี้ จิ่มแมกําลังผู๑ ก็มาสนสอหื้อพระญาตนนั้นหื้อบีบเบียนเสนาอามาตยไปรไทย หื้อวินาสสิบหายบหนีชาแล ฯ พระการ ๑ พระญาตนน ั้ นมักมัวเลน จระเดินไปแอวกาดแลวันแล ๓ ทีเสนาอามาตยบพึงใจลวดพรอมกันยกออกเสียเมิง หื้อพลัดพรากราชสัมปตติ เอาตนอนแทนเม ื่ งตราบเสิยง ี้ ๒๗ ตนแลในเมอล ิ่ กพระญาตนถ ูวนสองนนก ั้ นเมิ ิง บนานเทาใดสึกหมู ๑ ก็เกิดมาแตเมิงโกสัมพี ก็มาตกเมิงหริภุญเชยยที่นี้ ก็จักเปนโกลาหลมากนักชาแล สงครามอันน ั้ นก็จักประจญแพริพลหาญบมีแล เทาประจญแพดวยฅนผีบาเปนวินผู๑ ชาแล ฯ ปตถายฺแรกแตนั้นไปหนา จักหาทาวพระญาสบเมืงแทนกิ ็บไดมีหั้นชาแล ฯ ๑๙๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ตั้งแรกแตนั้นมาดวยลําดับถึงปกัดไคไปถึงปกัดเรา ยามน ั้ นทานจักได เกิดเปนพระญาธัมมิกราชา ก็มาเลิกซากสาสนากูตถาคตะในกาละ [หนาลานที่ ๒๓, น.๖๖๖] ยามนั้นชาแล ฯ ในปเปกสันนั้น พระญาอินทาธิราชเปนเจาแกเทวดาทังหลาย ก็ลงมาจาก ชั้นฟาตาวติงสา แลวก็มาเปาหอยสังขลูก ๑ หื้อฅนทังหลายในชุมพูทวีปหื้อได ยินชูแหง เพ ิ่ อห ื้ อชาวเจาหมูสรมณฅนทังหลายมวรห ื้อไดกะทําบุญ มีตนวา หื้อทานแลรักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนาบขาดสายชาแล ฯ พายหนาแตนั้น ยังมีปุพนิมิตอันใหย๑ คือวาพระอาทิตยแลพระจันท จักมาปรากฏแกโลก หันเปนสองลูก ก็จักมีพายหนาชาแล ฯ ในกาละนั้น ยังจกมัพระญาตนี๑ จักเกดมาในป ิ กัดเรา เดิน ๗ เพง เมงวัน ๗ ทานก็จักไดเปน  พระญาธัมมิราชตนประเสิฏ มีหั้นชาแล ฯ เมอน ิ่ นพระญาธ ั้ มมักราชาตนนินเก ั้ ดมาิฅนทงหลายพาลาใ ั จบาป เขาเทยรี ยอมชงกั ัน บสูบมักกนชาแลัพระญาตนนนจ ั้ กเกั ดในกระก ิลชูางหูก เกดประเทส ิ พายหลาน ้ํ าห ั้ นแล ทานตนน ั้นเปนผูมีประหญา สั่งสอนชาวเจาแลฅนทังหลาย หื้อกะทําบุญห ั้ นแล เหียดด ั่ งอ ั้ นแลชาวเจาทังหลายฝูงใจบาปนั้น จักชังทาน เพิ่ออั้นแล ก็จักขึ้นไปเลี้ยงชีวิตแหงตนในแมน้ําระมิง ฯ แลวตงแต ั้  [หนาลานท ี่๒๔, น.๖๖๘] นั้นไปพายหนาสรมณแลฅนทงหลายจั กได ั  ตองอุบาทวนานาตางๆ ชาแล ฅนทังหลายเกิดมายามนั้นจิ่งจักะทําบุญหื้อทาน แลรักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนาไปไจๆ ในกาละนั้ นทุภิกขเภยยะก็จักเกิดมา คือวาจักสิบหายดวยแพง เขาสารหมื่นไหนหมื่นน้ําหนัก ๗๐ สองลูกงึนซีก เปน ๓ รอย ๓ เถหาฅนจักขายก็บไดชาแล ยามนั้นเจาตนบุญนั้นเปนพอคาเขาสาร ชาแล ฯ ในกาละนั้ นทานจักไดเปนพอคาเขาสาร ทานจักย ั้งในดอยผาคอม คือ พูผาดนแดงิ ในระโวงโขงเขตเมงทิ ี่นั้นหนแล ั้ ในกาละนนพระญาอ ั้ นทิ ก็เลงห็นแลั ว ก็เอามาทิพพตัว ๑ ชื่อวามณีกัณฐกะ จักเขามาสูดอยดินแดง ในประเทสเมิงฝาง ที่นั้น แลวอนทมานวะผิ ูนั้นก็จักเอามาเขามาส ูพอคาผ ูนั้น แลวกาววาดราเจูาพอค า จุงอนดิ ูทือเชิก มาหอข ื้ ายาม๑ กอนเทอะิ ขาจกไปก ันนิ ้ํา ๓ สบ ยาม ๑ กอนวาอ ั้น ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๑


อินทมานวะก็จิ่งเอาเขาตม ๓ ลูก หื้อแกพอคาวาเจากูจุงรักสากับมาแหงขา ไวกอนเทิอะ ผิเจากูอยากเขาจุงกินเขาตม ๓ ลูกน ี้ เทิอะ ผิวามาตัวน ี้ [หนาลานที่๒๕, น.๖๗๐] หากเตนแลหแหินดงอ ั่ ั้น เจาจงขุ นข ึ้ ี่ มันหากจกเซาชาแลวัาอ ั้น อินทมานวะ ก็ลวดไปลี้อยูที่๑ หั้นแล ฯ ในกาละนั้ นพอคาผูนั้นยินอยากเขามากนัก ก็ไข๑ เขาตมกินหอ ๑ แลว ประหญาทิพพก็เกิดในบัดเดียวนั้น มาตัวน ั้ นก็หิแหนแลนไปมาหั้ นแล ยามนั้น พอคาผ ูนั้นก็ขึ้นขี่มาตวนั ั้น แลวมาตวนันก ั้ พาเอาท็านสยองข นไปในอากาสห ึ้ นแล ั้ ยามน ั้ นทาวจตุโลกทัง ๔ แลเทวบุตตเทวดา ยักขะคันธัพพะทังมวรก็จักพรอม กันลงมาตีตุริยดนตรี๕ พระการ สงเสพปูชาเปนโกลาหลอุกขุกมี่นันทั่วจักรวาล ก็มีแล ฯ ในกาละนั้ นฅนทังหลายมีในสักกละชุมพพูทวีป เขาก็บหอนทอนไดยิน คันเขาไดยินแลวก็สะดุงตกใจกัวมากนักห ั้ นแล ในกาละนั้ นพระญาอินท แลทาวจตุโลกแลเทวดา ยักขะ คันธัพพะ กุมภัณฑะ อสุรา อสุรินททังหลาย ก็พรอมกนเอาเัจาตนบญข ุนส ึ้ ูชั้นฟาสว รคเทวโลก ัแลวก ็อุสสาราชาภเสกดิวยเฅ ิ่ง ๕ พระการ อันเปนทิพพนั้น จิ่งจักนําเอาพระญาธัมมตนนั้นมา แลวก็พรอมกัน ทังฅนแลเทวดาทังหลายอินทพรหม มาอุสสาราชาภิเสก [หนาลานที่๒๖, น.๖๗๒] ในเมิงเชียงดาว โขงเขตภุญชัยนครที่นั้น มีหั้นชาแล ฯ ตโย ปาสาโท อันวาปราสาท ๓ หลัง หลัง ๑ แลวดวยฅํา ฯ หลัง ๑ แลว ดวยงึน ฯ หลัง ๑ แลวดวยแก ว สูงได๖๗ วา กวางได  ๓๗ วา ก็บุออกแตแผนด ิน ขึ้นมาปรากฏทากลางเ ่ํ วยงที ี่นั้นหนแล ั้ ยามนนฅ ั้ าสํ ี่สิบกอน อันมในห ี วยหนองไคร   ที่นั้น ก็ออกมาตั้งอยูแจงปราสาทนั้น มีหั้นชาแล ฯ ถัดนั้นจักมีลินฅํา๒ อัน ๑ กาย๓ ใตดอยอางสลุงพุนลงมา แลวพระญาอินท แลทาวจตุโลกแลเทวดาทังหลายก็มาพรอมกันหดหลอน ้ํ าสงเสพพอคาเขาสาร ลูกชาวหกขูนเปนธ ึ้ มมักเอกราชาิ มีหั้นชาแลฯ พระญาตนนนได ั้ เปนธ มมักราชาิ แลวด ั่ งอั้น กปฺปรุกฺขานิตนกาลพฤกษทิพพทังหลายไดพันปาย ๖ สิบตน ๑ ไข - แกะ, เปด๒ ลินฅํา - รางน้ําทําดวยทองคํา๓ กาย - พาด ๑๙๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ก็บุแตแผนดนออกมาแวดลิ อมปราสาทรอดช เบู งช ิ้ พายใน ู เวยงเช ียงดาวี ทังมวร ก็กานกุงรุงเริง จักปรากฏไปสักกละชุมพูทวีปทังมวรชาแล ฯ สพฺเพ ชนา ปาโย อันวาฅนยิงชายทังหลายเขาก็มาแกเสียยังเส ื้ อผา อันเกาเสีย แลวกองไวสูงประหมาณ ๗ สอก แลวลมจักมาพัดเสีย ๗ ทีแลว ฅนทังหลายฝูงมีบุญน ั้ นก็จักไดบัวระโภค [หนาลานที่๒๗, น.๖๗๔] วัตถุอาภารณะ อันเปนทิพพชูฅนแล ฯ ยทา ในกาละเมิ่อใด ตทา ในกาละเมิ่อนั้น โกสมฺพิอันวา ฅนทังหลายอันอยูในเมิงโกสัมพีทังมวร ก็ไดมาชอบขายสมพารจักเปนพอครัว ธัมมิกราชา มีหั้นชาแล ฯ ในกาละนั้น ชาวเจาทังหลายฝูงใดปฏิบัติบชอบสิกขาบทพระเจานั้น ก็หื้อ สิกขเสียชาแล ชาวเจาทังหลายฝูงดีมีสีลประกอบดวยธัมมวินัยพระพุทธเจาแท ก็จักห ื้ ออยูรักสาพุทธสาสนาแทแล สวนวาชาวเจาฝูงชอบธัมมิกราชานั้น ในชุมพูทวีปทังมวรเทาจักมี๓ รมไมนี้โครธตนใหยนั้น มีหั้นชาแล พระญา ธัมมิกะตนน ั้ นจักไดเสวยสัมปตติตามบุญสมพารตราบไดรอยปเปนเขตชาแล ดูราทานยักขราชา ถึงกาละเม ิ่ อทานไดเปนธัมมิกราชานั้น เภยยะอันตราย ก็จักมีแกฅนทังหลาย ก็จักไดตองวินาสสิบหายมากนักชาแล ฯ ในเมอเภยยะจ ิ่ กเกัดมิ ีนั้น ปรวงไคนั้นยงมักวางฅีาตํ ัว๑ มาแตทิสะหนเหนิอ จักมีเทวดาตน ๑ เนรมิตเปนกระตายเผิกตัว ๑ จิ่งขึ้นมาทิสะหนใตแล กวางฅํา แลกระตายก็มาพบกันในที่๑ แล ฯ กวางฅากํ ็จักถามซงกระต ึ่ ายวาเจาสหายทานลกแตุที่ใด [หนาลานท ี่๒๘, น.๖๗๖] มานั้นชา กระตายจิ่งกาววา ขาก็ลุกแตทิสะหนใตแลวาอั้น ฯ กวางฅาจํงก ิ่ าวว า ดูราเจาสหาย โลกทงหลายสมมั ุติสสาปณฑ ิต วาดงร ั่ ือ ฯ กระตายจิ่งกาววา อาม เออ สสาปณฑิตนั้นคือหากตัวขาแล ฯ กวางฅาจํงถามว ิ่ า ดูราเจาสหาย ขากขอถามซ็งเ ึ่ จากแลูเจากบอกแกูขาเทอะิ บานเมิงกระตายน ั้ นยังมีสุขแลทุกข เปนดั่ งรือชาวาอั้น ฯ กระตายจ ิ่ งขานวา ดูราเจาสหาย บานเมิงพายใตนั้น ดั่งขาไดยินมานี้มหาภยํอันวาเภยยะอันมาก ก็จักเกิดมีมากนักแล คือวาน ้ํ าขุนมากวนเกลาดวยน ้ําใสเสีย คือวาฅนใจบาป มาเขาใจบุญมากนัก ชาวเจาฝูงสรมณก็เขาใจบาป มากวนเกลาฝูงใจบุญ ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๓


พระการ ๑ นิมิตอันสิบหายแหงสัตตทังหลายก็จักเกิดมีมาก คือวามา กินหยาดวยว ัว ฅนพอยม ีหัวกบหนั าปกตา ฅนพาถงหลวงกบดาบอันยาวดังร ั่ วนา ั้ ฅนทือชาหูลับหนา ฝูงเปนพอคามักสืบคําโจร ผีหลวงเทียวอากาส นักปราชญ บหุมบุญ เปนขุนนายบรูตัดแตง ฅนทังหลายมักเอาผาส ี่ แจงเปนถง ฝนตกลง บใชเม ิ่อ[หนาลานท ี่๒๙, น.๖๗๗]นักปราชญเจาบเชอคลองธ ิ่ มมั ฅนคระหฏฐัแลนกบวชั ทังหลายไดยินธัมมเทสนาพระเจาอันเปนบุญแลใสใจจักบรู บหื้อทานรักสาสีล เมตตาภาวนา ลางพรองก็กะทํา ลางพรองก็บกะทํา บเหมินกันแลวาอั้น อันเปน บาปพอยใสใจวาบรายบดีแมนกะทําบาปไปไจๆ ก็บไดสังมา ยังจักสมริทธี เปนดดายี วาอนห ั้ นแล ั้ ฯ ฅนบครบยานํกบวชัอาจารยจักโจทยครบาูฅนทงหลายั หันนกบวชบัตามวเนยยะธิมมัพระเจ าลวดบเข าใจว  าเปนน กบวชั บรักสาอนทริ ีย บไตตามคลองนักบวช ก็เทาอยูแลกิน บปากจาลีลาอาการทรงเฅ ิ่ งแลเอาเพส เปนดั่งฅน ฯ อัน ๑ หาความครบยําบไดมีหั้นชาแล แมนนักปราชญมีประหญาหันเปน สันนั้น ยินอินดูกรุณาสั่งสอนเขาก็บฟง ก็ลวดกาวคําพาลาวาราย นักปราชญเจา ก็จักแตงอุบาย เหียดหลอนผอนเสีย แมนรูก็บปากบวาสังแลลวดบัวราณแตงไว นั้นคือวาเปนวาทะคลองครูบาอาจาริยะแทกเทียมไวในธัมมนั้น สรมณทังหลาย ก็จักละเสีย บตามคลองอันดีฯ ในกาละนนฅนท ั้ งหลายั [หนาลานท ี่๓๐, น.๖๗๙] ก็จักทกขุไรเข ญใจ ็ บรูเบาหาย ก็มีความกลาหาญหันราย แมนทาวพระญาก็บตามบัวราณราชผูเฒาผูแก ก็จักแตงอันใหมใสแถมชาแล ยามน ั้ นผูไรก็จักเปนดีบรูกัวตาย มีใจกลาหาญ การสึก ลวดกะทาตามคํ าใบ ํ วาเปนนั้น ลวดจกมัยสศีกดัมากด ิ์ วยส มปัตตเขิาของ ชาแล ฯ อัน ๑ ฅนยิงชายสิบปเขามีชูนั้น เปนทุกขผลาญการมาก ลูกยิงสาว บพอกาละเอาผัวเทิ่อ พอแมญาติเลาโลมหื้ อเอาผัว บพอรูวัตรคลองก็จักอยู ปมาทะซึ่งกัน ก็จักหาไผสอนบไดจักพากันสิบหายชาแล ฯ ๑๙๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


อัน ๑ ฝูงเปนชีนั้น ชาวเจาตนประกอบชอบคลองวินัย ลวดบพึงใจนักบวช ฝูงน ั้ นแล ฅนฝูงใจบาปก็คําราบคําราม ก็จักขับหนีไปชาแล ฅนใจบาปอยูกับ ดวยกัน ใสใจวาดีวาชอบชาแล ฯ อัน ๑ สายฟาตีเปนดั่ งทุง๑ นั้น ก็จักหยาดตกลงมาเปนอุบาทวแกฅน ทังหลาย หาเมิ่อหายามบไดชาแล ฯ อัน ๑ ผีรุงเทียวอากาส ก็จักลงมากินน้ําในบานในเวียง จักเปนอันตราย แกฅนทังหลาย มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ เปนนกปราชญ ั [หนาลานท ี่๓๑, น.๖๘๑] รูลายรพราง ู คือฅนพาลาอสปปั ุริสะ พอรูคลองสักหนอย ฅนทังหลายสมุตติวาเปนนักปราชญมันก็ซ้ําเรงกะทํามายา อวดอาง แมนบแมนก็นับวาตามวิสัย หื้อทานดูดีดูงาม ดวยแท ก็เปนคําลาย คําพราง พายหนาเปนวิบากแหนนหนา มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ฅนเทียวทางมักยอโทสหื้อ ฅนพาลาหาประหญาบไดจระเดินกับ ดวยกันก็ดีอาชญาผูเปนใหยก็ดีหลอนหากไดหื้อทานผูอื่นไดผิดนอยมากก็ดี จักเก็บเอาคําห ื้ อทานไดตกใสแมนโทสทานมีนอยก็ยกใสหื้อหนักห ื้ อสิบหาย แมนบมีคําพิจารณาแลยกโทสใส พากันไปกวานหื้อวินาสสิบหาย บหนีชาแล ฯ อัน ๑เปนนกบวชบัเรยนธีมมั นั้น คือปคละทุงหลายขัคร ี้ านหยานการทกขุไร  เข็ญใจ มักไปบวชเลี้ ยงชีวิตเล ี้ ยงทอง เทามักหยองมักกิน บจําสีลห ื้ อบัวริสุทธ ิ์ ประกอบดวยโลภะต  ณหาในลาภะส ักการั บแสวงหาหนทางนพพานิ บยินดในแก ี ว ๓ พระการ มีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ทุกขเภยยะจักเกิดมีเอางึนเอาฅําแอวหาซื้อ ฯ อัน ๑ ฅนทังหลายจักแตงการกังวล [หนาลานที่ ๓๒, น.๖๘๓] อันตรายขมเหง เอาเขาของงึนฅําแกกัน แมนเอามาเทาใดก็บทือคาคุณสัง ฯ อัน ๑ จักเอางึนฅําแตงเปนเฅิ่ งบัวรโภค ก็บทือคาทือคุณ ฅนทังหลาย จักประหมาทงึนฅํา มีหั้นชาแล แมนจายเบ ี้ ยก็บพอรอย จักสมุตติวาเปนรอย พายหนางึนจักถอยเถียวไปเปนดั่งเบี้ยลวด ๓ รอยนั้นแล ฯ อัน ๑ บานเมิงนอยไป เจาใหยจักกลายเปนเจานั้นแล ฯ ๑ ทุง - (ตุง) ธง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๕


อัน ๑ ชาวเมิงจักมักใฅพายนั้น ชาวเมิงข ี้ ครานหยานการเสีย ชางลาย ชางพรางกัน คันขบได ั ไตชอบจ กเปนโทสเปนเภยยะ ั ไดตกได เสยลวดสี บหายไป ิ มีหั้นชาแล ฯ ผูนอยมักมายกินเมิงนั้น คันวาขุนผูนอยพอยไดกินเมิง ผูใหยบุญบหลาย ก็จักพากันสิบหายวายวอดชาแล ฯ ขุนไปคานั้น คือวาเจาเบียนไปรฝาขาเมิง วัตถุมากหลาย พายลูนไปรฝา ทังหลายจักเปนโทสเปนเภยยะ เอาวัตถุออกตางๆ แลวเอามาเปนขาเปนขอย ก็จักมีหั้นชาแล ฯ อัน ๑ ฟารองเปนดั่งเสียงกา หมูกาตอมอากาส ตกหยาดเคากลางเวียง เสยงนีนเนังบิขาด ฝูงนกปราชญ ั [หนาลานท ี่๓๓, น.๖๘๕] เลยงผ ี้ ีมิจฉาทฏฐิ ิฝูงเปนชี มักชางคา หุมนุงผาผืนเหลิง พอคาเนิงชางลัก นักปราชญมักกินเหลา ลูกเตา บยําพอแมเถาแก ลุงอาว ชาวสรมณมักทอกืุบ ฝูงเปนชีมัวทอดาบื ตัณหาดวยลาภ แลมีเม ิ่อใด อาจารยมักกินเหลา เมดเขาจากเสียรวง ทุกขทังหลวงหลายแหง น้ําบอแหงเขาะกิน พระแลฅนหาสีลบได ดอกไมเผยบชอบ สัตรูจักแผกวาง สางบลุกปลูกบเปน เรินหลวงกลายเปนตูบ พี่นองบอูกันจักผิดแผ บานเมิงแยก บเปนกัน ฝูงฅนงันเรินไมลูกออนไหในยุม เมิงใหยจักเปนขอกนิคม ตนสรมณ จักแอวคา ติ้วผาวาดเหน็บแอว ฝนตกบตามชอบ ฟารองรอบปูนกัว เตนชา เรงแหิงแดดเขตนาร ้ํ องเปนนา เมอน ิ่ นท ั้ าวพระญาจกเอาสั วยไรมาก ฅนทงหลายั จักทกขุจักยาก ฅนผลาญหากครางตาย ฅนยงชายชิ างโลภตาช  ัง ฅนรงจัานงนผึ ิด เมงสมริทธิ ิ์จักถอย สัตตจัญไรจกมากันกลิ า ฟามดฝนบ ืมา ฅนแปงนาจกกลันเข ั้ า ไวเปลาจาก [หนาลานที่ ๓๔, น.๖๘๖] เสียเยีย จักเรรนอิดหอด อึบเขารอดทุกปจักได หาบครวหนัเสียบีานฅนจกคัานเสยเมี ิง ผีหลวงเนงอากาสิ จักบอกโอวาทสอนฅน จักมาปองปุนแตง มีชูแหงชูพาย ลูกนองบยํานาย ลูกชายบยําพอแม ฅนเถาแก บรักลกหลานูเยดของทานมกกันเหลิ า ชาวเจาสตรเหมูนขิ ับ ไปเวยกทีานจกรัอง เรียงหาการ ยินผลาญใจอกจักแตก ฝูงแขกการสงครามจักเกิด ฅนจักไดไห เปนเลดตาแดงิ ขัดดาบแฝงกบขัาง วันฅนอืางฅางตาย ก็จักมชาแลีดูราเจาสหาย นิมิตทังหลายเกิดมีราชธานีที่ใด ก็เภยยะทังหลายจักเกิดมีชูแหงชาแล ฯ ๑๙๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ในกาละนั้ นฅนทังหลายในชุมพูทังมวร จักเปนทุกขลําบากยากใจ จักเล ี้ ยงชีวิตก็บไดแล กระตายวาอั้น กวางฅําก็ซ้ําถามกระตายวาดูราสหาย อันวาเคราะหบานเกนเมิงทังมวร เม ี้ ยนเทานี้ดั่งรือ กระตายจ ิ่ งขานวา ดูราสหาย เคราะหบานเกนเมิงบเมี้ยนเทิ่อแล ตั้งแตปกาไจนั้น เภยยะกลียุคเปนเปยว ๗ ที กอนแล เหียดวาในรัฏฐะหวางกลางชุมพูนี้จักปองขาฟนกันตาย [หนาลานที่ ๓๕, น.๖๘๘] มากชาแล เลิดพอถวมกีบชางชาแล ฯ กวางซ ้ํ าถามวา มีเทานี้ดั่งรือชา ฯ กระตายกาววา ไปเม ี้ ยนเท ิ่ อแล ตั้งปรวายไจถึงปเปกยี ยังจักมีเมิง ๑ มีชางมามากนัก พอยหาฅนขี่บได จิ่งมีเมิง ๑ มีทาวพระญาหลายนัก หาชางมาขี่บไดมีหั้นชาแล ฯ ยังมีเมิง ๑ มีลูกยิงสาวหลายมาก หาผูชายบไดแล ฯ จิ่งยังมีเมิง ๑ มีเขาน้ํามาก เขาตาง ๑ งึนซีก ๑ ก็หาฅนซ ื้ อบได มีเขาไวฅนกินก็บมีมีฅนไวหาฅนอยูบไดชาแล ฯ ยังมีเมิง ๑ มีฅนมาก หาเขาบไดเขาหมื่น ๑ คา ๒ รอยปาย ๒ เถหาผูจักขาย บไดชาแล ฯ ขาจักอุปมาหื้ อแจงกอนแล อุปมาดั่งหนองสระใหยกวางไดแสน โยชนะ ยาวก็แสนโยชนะ ลึกคาขอมือ ๑ สระอันน ั้ นก็มีสัตตแลปูปลาหอย เทามีมากอนแล เหียดวาหยากเหย ื้ อมากนัก น้ําก็แหงเสีย แลวสระใหยอันนั้น หาผูจักรักสาบไดแล ฯ เมิ่อนั้น กวางก็ถามกระตายวา เคราะหทังหลายหากมีเทานั้นอั้นดั่งรือ ฯ กระตายจ ิ่ งกาววา ตั้งแตปนั้นไปปหนา ยังจักมีพระญาตน ๑ จักมา ๔ ทิสะ จักมาชุมนุมกันในหนองสระอันน ี้ พระญาตนพายวันออกน ั้ นมา จักถาม ซึ่งพระญา [หนาลานที่ ๓๖, น.๖๙๐] ใหย ๓ ตนนั้นวา ดูราเจาทัง ๓ ดั่งไดยินมานี้ ในบานเมงชิมพุ ูนี้มีน้ํามากนัก สงสณฐานดังหน ั่ าววนั ั้น แตปถมก  ปปัมานามหาสม ้ํ ทรุ ทวมเสยโยชนะ ี๑เปนปาไม  หิมพานตเส ีย ๓ พันโยชนะเปนทอย ี่ ฅนสองพ ู นโยชนะ ั ยังมีแมน้ําใหย ๕ พระการ คือวาคงคา ยมุนา อจิรวดีสรภูมหิแมน้ําทังหลาย ฝูงน ี้ ก็ไหลไปสูราชธานีเมิงฅนเสียเส ี้ ยง ในเมิงปญจเทส (ปจจันตประเทส) บมีสักแหงแล เมิงปญจเทสอันน ี้ เทามีน้ําไครอัน ๑ หากเปนทางหนองแหง พระญากาจักร ในเมิงมิถิลานคร ไหลมาผาเมิงไทยทังมวร แลวไปสูเมิง สุวัณณภูมิพุน ผาน้ําหวยไครพายวันตก หากเปนเขตแดนเมิงโกสัมพีเสี้ยงแล ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๗


แมนก ุสินาราย เกสีเมงหิงสาวดั ีก็มีพายหนาเสยงแล ี้ ผานาห ้ํ วยไคร พายวนตกั ลําดับถึงทางหนองแหงพระญากาจักร หากเปนเกาะพายหลายกวาง ๑ ดาย พายทิสะหนเหนิอหากเปนเขตอาฬวีเมิงลื้อ พายหลังน ้ํ าหวยไครนั้นหากเปน เมิงยวน เมิงไทยทังมวร ฯ อัน ๑ เมิงโกไท แลเมิงจามปานคร แลเมิงสุวัณณภูมิก็ตั้งอยูพายนั้น [หนาลานท ี่๓๗, น.๖๙๒] น้ําทางหนองพระญากาจกรัแขวดแวดเมงสิ ุวัณณภูมิทังมวรแล ผานาทางหนองแสพระญากาจ ้ํ กรัพายวนออกนั นเปนเม ั้ งปิญจาลนครเมงจิฬามณุี เมิงตักกสิลา แลเมิงปาเวยยะ แลเมิงอนุรัฏฐะ แลเชฏฐรัฏฐะ เมิงพาราณสี ล้ําเมิงใหยทังหลายฝูงน ี้ ขาก็บกาวไดแล ตั้งแตเขตแดนเมิงเราพายหนเหนิอ หากเปนปาไมเส ี้ ยงแล ล้ําแตปาไมเมิอเหนิอ หากเปนเขาสิเนโรตั้ งอยูแล ผานาห ้ํ วยไคร พายวนออกวันตกนั ั้น เมงทิงหลายนั นหากเปนภาสาอ ั้ นเดัยวกีนแลั ฅนทงหลายฝ ังอยู ูปานานา ทางนาหนองแสพายว ้ํ นออกชัวยหนเหนอนิ ั้น เขาก็มี ภาสาตางกันแล แผนดินในชุมพูนั้นมาผาเปน ๓ สวนสันนั้น พระญาใหยตนอยู ทิสะพายวันออก ก็มาบอกกาวสันนี้มีหั้นชาแล ฯ กระตายกาวสันน ี้ แลวก็ถามซ ึ่ งกวางฅําตัวน ั้ นวา ดูราเจาสหาย เจาตน มีบุญมาก เปนที่พึ่งแกฅนชาวชุมพูทวีปทังมวร เจากูยังแจงวาอั้น เมิ่อนั้นกวางฅําจิ่งกาววา ดูราสหาย สวนเจาตนมีบุญมาก ขาก็ยังไดยิน มาแล เจาวาบควรกาว [หนาลานที่๓๘, น.๖๙๔] ทานฝูงมีบุญน ั้ นเท ิ่ อแล ขาจักกาว อุปมาหอร ื้ แลู ดั่งเจาตนม ีบุญนั้น อันฅนทงหลายหากปราถนาห ันหนัาทานตนน ั้น ชูวันชูยาม จักไดหันก็ยินยากนักแล เหียดกาละบควรเท ิ่ อแล ดั่งขาไดยินมาน ี้ ทานยังจักไดมาเปนพอคาเขาสารกอนชาแล เจาตนมีบุญนั้นทานเปนลูกชางหูก ผู๑ อยูบานปจจันตะท ี่ ๑ แล เหียดใดแลวาอ ั้ นชา แทแลเมิงมัชฌิมเทสนั้น อุปมาเปนดั่งสระน้ําอันแหงหอด หาน้ําบไดนั้นแล เจามีบุญพอยหาเฅิ่งบัวรโภค บไดเหียดด ั่ งอ ั้ นเมิงปจจันตเทสชอมแควบ ที่ใดยังชอมเยนสบายใจ ก็เอาตน ไปเลี้ยงชีวิตตามสุขสํารานกอนหั้นแล ฯ เมิ่อใดสระน้ําอันเกานั้นแลเตมบัวรมวร เม ิ่อใด คือวาบานเมิงสุขเกสมราบเพียงเรียงงามแลวด ั่ งอั้น ในกาละเมิ่อใด พระญาอินทก็จักลงมาชาแล ทาวจตุโลกแลเทวบุตตเทวดาทังหลาย กุมภัณฑ ๑๙๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


คันธัพพะยักขก็จักมาพรอมกันลงมาเลงดูโลกทังมวร ฅนฝูงมักบุญมักบาป ฝูงหยาบชากลาแขงนั้น ก็จักมาเลิกออกเสีย ตามวิบากเขาทังหลาย มีตนวา เสิอขบ งูตอด ฟาผา [หนาลานที่ ๓๙, น.๖๙๖] ราเกน ตายดวยพยาธิตางๆ ก็จักขาฟน กันตายชาแล ฅนทังหลายหันก็สะดุงตกใจกัวแตเภยยะฝูงน ั้ นแล เขาก็จักเวน จากบาป แลวก็จักพรอมกันกะทําบุญตางๆ ตั้งแตปเปกยีตราบถึงปสงา มีหั้นชะแล ฯ ยามน ั้ นทาวจตุโลกแลเทวดาทังหลายก็จักมาเลียบผอดูชูบานชูเมิงแล ฅนทังหลายก็จักเอาแกว ๓ พระการ เปนที่พึ่ง แลวสับเพราะซึ่งบุญอันเปนแกน เปนสารดั่งอั้น เทวดา อินทฟม ก็จักมาพรอมกันอุสสาภิเสกยังเจาตนมีบุญนั้น เปนพระญาธัมมิกราชา เสวยราชสัมปตติในเวียงเชียงดาวที่นั้นแล เทวดา ก็จักนําเอานางแกวอุดร มาเปนอัครมเหสีเทวีแล ฯ กวางฅาแลกระตํายอนเนรมัตนินก ั้ ็วิสัชนาถามซงก ึ่ นสันนั ั้น แลวก ็สั่งอาลาํ ซึ่งกัน แลวตางตัวก็ตางไปสูที่อยูแหงตนวันนั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็เทสนาทํานายห ื้ อแกพระญายักขแลวเทวดาทังหลาย ก็ไดฟงสันนี้ก็มีวันนั้นแล ฯ ยักขราชาตนนั้น ไดยินธัมมเทสนาแลวก็มีใจชมชื่ นยินดีก็หนีไปสูที่อยู แหงตนก็มีวันน ั้ นแล ฯ [หนาลานที่๔๐, น.๖๙๗] พระเจาก็พรากจากที่นั้น แลวก็ไป โผดสัตตทังหลายหั้นแล ฯ ธมฺมราชากถา นวโม ปาทธาตุ นิฐิตํ ฯ กาวหองตํานานธาตุพระเจา ผูกถวน ๙ ก็บัวรมวณกาละควรเทานี้กอนแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๑๙๙


(บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับน ี้ เจตนาขา ดวงแกว บานเชียงจาม ภริยาช ื่ อวานางบัวฟอง เปนเคา พอแมลูกเตาญาติกาวงสาทังหลาย สางทานค ้ํ าวรพุทธสาสนา ๕ พันวัสสา ฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสขอห ื้ อนาบุญคุณธัมม น้ําเอาตนตัวหัวใจเขาสู เวียงแกวกูนิพพาน ๑ แดฯ ผูขาลิขิตตัวขาบงามสักอิดสักหนอยแล พิจารณาไปเทิอะเจาเหิย ฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสชั่วนี้แลชาติหนา ๑ แดแล ฯ ๒๐๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


´ÍÂËÅǧ ËÃ×Í “´ÍÂ͋ҧÊÅØ§” àªÕ§´ÒÇ ÀÒ¾ : àÊÒÇÃՏ ªÑÂÇÃó


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๑๐ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ เอกํสมยํภควา จาริยปพฺพ วิหรนฺติ อตโน สโก นเทโว วิทิตฺวา เตสํปุจฺฉิตฺวา เทวโสกโต โอมาริตฺวา ภควนฺตํอภิวาเตตฺวา ปุจฺฉิสุตรํฯ ดูราสัปปุริสะทังหลาย ยังมีในกาละคราบ ๑ พระพุทธเจาก็อยูสําราน ในจาริปพพตะ แตพระตถาคตะได ตร สประหญาเปนพระมาได ั ๒๐ วัสสานนแล ั้ ฯ ในกาละเมิ่ อนั้น พระญาอินทาธิราชไดยินธัมมรสสาสนาแหงพระพุทธเจา แลวกะทําบุญในสาสนากูพระตถาคตะก็มีผละอานิสงสมากนัก ใฅรูอานิสงส ผูกะทําบุญนั้น จิ่งสระเดจมาจากชั้นฟาตาวติงสาสวัรคเทวโลก ก็เขาไปสูสํานัก พระเจาในดอยจาลีปพพตะที่นั้น แลวก็ไหวแลปูชา แลวก็ถามซ ึ่ งพระเจาวา ภนฺเต ภควา ผลมาโน เทวมนุสฺสานํกตํปุฺญํมหาผลํโสตฺถิภวนฺติฯ ดั่งนี้ ขาแดพระพุทธเจา ฅนแลเทวดาทังหลายกะทําบุญห ื้ อทานแลรักสาสีล ครบยําเมตตาภาวนา ไดกะทําเมิ่อพระเจายังธอระมานก็ดีไดกะทําเมิ่อพระเจา นิพพาน [หนาลานที่๒, น.๗๐๑] ไปแลวก็ดียังจักมีอานิสงสดั่งรือชา ในกาละนั้น พระพุทธเจาไดยินแลวยังปญหาเย ิ่ งนั้น อันจักสําแดงห ื้ อแจงแกพระญาอินท จิ่งกาววา พุทฺโธ โลกนายโก ปฺจวสฺสสสตสนิสาสนํ มมฐสติดั่งนี้มหาราช ดูรามหาราช กูตถาคตะก็เทสนาโทสแลคุณอันมีในสาสนาทังมวรแล ปรินิพฺพุโต ในเมิ่ อกูนิพพานไปแลว ก็ยังจักต ั้งไวสาสนาตราบ ๕ พันวัสสา เพ ิ่ อจักไวโผด สัตตทังหลายแล ฯ ๒๐๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ปถมวสฺสาสาสนํปุฺญํอปฺปริกาหุกา โยนเกน วิสุก วสโน นจิตส นวโกฏิ สตสตสานิผลํลพฺภติทายโก ฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายฝูงใดมากะทําบุญ ในพันวัสสาหัวทีนั้น จักไดผละอานิสงสแสนโกฏิชาติแล ฯ ทุติโยสาหเย กานห นจิกฺกตํ ปุฺญํ สตสสตสานิผลํ ...ทายโก ฯ ดูรา มหาราช ฅนทงหลายฝ ั งใดกะทูาบํ ญในพ ุนวัสสาอันถัวน๒ นั้น ไทยทานก็บัวรสทธุิ์ [หนาลานที่ ๓, น.๗๐๒] หลาย ใจก็บเหลิ้มใส จักไดอานิสงสแสน ๑ มีหั้นชาแล ฯ ตติยวสฺสา สหสกตํ ปุฺญํอปปฺปพหุกํ ทสฺสสหสํอสุทฺธํ ผลํ ทายโก ฯ พระการ ๑ ฅนทังหลายกะทําบุญนอยมาก ในพันวัสสาถวน ๓ นั้น ฅนทังหลาย บมีสัทธา ก็จักขมเหงเต็กกันกะทําบุญ เทาจักไดอานิสงสหมื่น ๑ ชาแล ฯ จตุตฺโถ วสฺสสหสต กตํปุฺญํพหุกปฺปกทย ธมฺมิสฺส อสุตฺถุสฺส สจ สหผลํ ลภนฺติทายโก ฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายกะทําบุญนอยมากก็ดีในพันวัสสา ถวน ๔ นั้น ไทยวตถัทานกุ็บบัวริสุทธ ิ์จิตใจบเหล มใส ิ้ ไดอานสงสิ พัน ๑ ชาแล ฯ ปฺจเมวสฺสตเส ปุคฺคลปูชา จนฺทนเมเต นากตํ จิตฺตปสาเท อปฺปกตํ ลภนฺติทายโก ภวิสฺสติฯ ดูรามหาราช ฅนทังหลายกะทําบุญหื้อทานนอยมาก ก็ดีจิตใจบเหลิ้มใส ในพันวัสสาถวน ๕ นั้น จักไดอานิสงสพอใดพอนั้นชาแล ฯ เหียดด ั่ งรือแลวาอ ั้ นชา แทแล ฅนทังหลายก็จักประกอบดวยสัพพลาสะโมหะ [หนาลานที่ ๔, น.๗๐๔] ดวยปาปธัมมแล ฯ เภยยะ ๓ พระการ ภิกขเภยยะ แลพยาธิ เภยยะ จักบีบเบียนขาฟนกันมากนักชาแล ฯ พระการ ๑ ในเมิ่ อกูตถาคตะนิพพานไปได๔ รอยปนั้น ผูยิงทังหลาย บวชเปนภิกขุณีก็ยังจักไดแตนั้นก็บวชไดแล ฯ ปถเมวสสาฺสหสเสฺอเนคตา ปตมลโกิพหุสุตฺโต มหา มม ธาตุสมเณตวาฺ วิถาเลสติฯ ดูรามหาราช ในเมิ่ อตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันวัสสาหัวทีนั้น ยังจักมีพระญาตน ๑ ชื่อปตริกาอโสกธัมมราชาวาอั้น ก็จักมารอมเอาธาตุกู ไดแลวกแผ็ ไปก อเจตยะได ิ ๘ หมื่น ๔ พันหลังจักไปถปนนาต งไั้ วในเม งทิงหลายั ๘ หมื่น ๔ พันเมิงแล พระญาตนนั้นก็สุบสางปูชาธาตุนั้นได๗ ปปาย ๗ เดิน ปาย ๗ วัน จิ่งจักแลวชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๓


ตโต วสฺสาหสฺสาสปฺปเต ปพฺพชิต ภินาจ ตุวิธาสนฺติเอโก สหสฺสา เอโก อสีติสหสฺสา เอโก สฐีสหสฺเส จตฺตาีสหสฺสา ชนา วาทานานา ปต อโย อฺญํ วสนฺติฯ ดูรามหาราช ตโต [หนาลานที่ ๕, น.๗๐๖] ในเมิ่อตถาคตะนิพพานไปแลวได ๓ พัน ปาย ๗ วัสสานั้น สังฆะอันเปนลูกสิกขกูตถาคตะก็จักแผกมางผากันเปน ๔ หมูชาแล หมู ๑ มีแสนตน ฯ หมู ๑ มีลูกสิกข๘ หมื่นตน ฯ หมู ๑ มีลูกสิกข ๖ หมนตน ื่ ฯ หมู๑ มีลูกสกขิ ๔ หมนตน ื่ เขาทงหลายจังม ิ่ วาทะตีางก ัน จักกาวค ํา ตางกัน หมูหมู ๑ วารูวาหลวก จักจระเดินไปชูบานชูเมิงแล จักไปสั่ งสอนฅน ทังหลาย ตางประเทสบานเมิงชาแล ฯ เตสํปกขาฺมหาชนาอปปสนาสนฺ ฺติเมอน ิ่ นฅนท ั้ งหลายอั ุปฏฐากสงฆะหมั ใดู ก็จักวาหม ูนี้ดีลวดจกเปนป ักขะสวาทะต ี่ างก นไป ั จักหาสทธาเัชอในค ิ่ ณสุงฆะบั ได  ลวดบมีอันเหลิ้มใส ลวดจักมีคําสลั้ง หาที่หมั้นที่เที่ยงบไดมีหั้นชาแล ฯ สตปฺจธิกาสตวสฺสา ในเมิ่ อตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันปาย ๕ รอย วัสสานั้น สังฆะทังหลายก็จักประสุมชุมนุมกันหลายแหงหลายท ี่ มีหั้นชาแล เหียดวาภิกขุสังฆะทังหลายจักเปนตางหมูตางชุมเสียชูที่ชูแหง มีหั้นชาแล ฯ เหียดวาภิกขุสังฆะทังหลายในเมิ่อกูตถาคตะนิพพานไปแลวไดพันปาย [หนาลาน ที่๖, น.๗๐๘] ๖๐ วสา ทาวพระญาในชุมพูทวีปทังมวรมีในที่ใด เขาก็จักมาพระสุม ชุมนมกุัน แจงดูบานไผเมงมิ ัน ก็จักขดขวางเขั ยดแดนไผม ีนชาแลัแลวก ็จักยยงขุึ้น ไผมันเปนใหยชาแล ฯ ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปได ิ พันปาย ๗ รอยวสานั้น ทาวพระญาชมพุทวูีป ทังมวร มีในที่ใด ก็จักมาฅุบชิงเอาบานนอยเมิงใหย ไรนาคามเขียดประเทียด บานเมิงแล ก็จักผิดเถียงกัน ฅอบงําเอาของกันมากนักแล ฯ กูตถาคตะนิพพาน ไปไดพันปาย ๘ รอยปนั้น พระญาธัมมิกะตน ๑ จักเกิดมาเปนเจา มีเตชะรัทธี พอปาน ๑ ทาวพระญาแลฅนทังหลายจักสมุติวาธัมมิกะวาอั้น ดวยแทก็จักเปน ธัมมิกะตนประเสิฏ จักมีฅนหยานกัวพระญาตนนั้น จักหยุดเซาเส บหาขียุคบได ในกาละยามนั้น ทาวพระญาแลฅนทังหลยจักไดอยูดีมีสุข เส ี้ ยงกาละหวางนั้น กอนแล ฯ ๒๐๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ในเมอก ิ่ ตถาคตะนูพพานไปได ิ พันปาย ๙ รอยวสานั้น ภิกขุสังฆะทงหลายั ในทวีปนี้จักขับหาอรหันตาตนวิเสียดแทก็หาบไดสักตนชาแล ฯ ในเมอก ิ่ ูนิพพานไปได (สอง) พันปาย ๗๐ วสานั้น ชาวเจาสม [หนาลานท ี่๗, น.๗๑๐] เณยรที ังหลาย ก็จักอนาทระยาย ่ํ ีธัมมคําสอนแหงกูแลวจกสักขิ ที่นี้ไปบวช ที่นั้น บหม ั้ นบเท ี่ ยงชาแล บเทาแตนั้น เขาทังหลายก็บตามวินัย เขาก็บกัว แตสิกขาบทปาราชิก ครบชุงเอาวิดวาอารามซังก ึ่ ัน ลวดจกยากใ ัจมากนกชาแลัฯ ในเมิ่อสาสนากูไดสองพันปาย ๘ สิบ ๘ วัสสานั้น กลียุคอันอยากเขาก็จัก เกดมิ ีฅนทงหลายจักมัวาทะผีดเถิยงกีนตัางๆเมงใต ิ ก็จักฟนเมงเหนิ ิอ บานเหนิอ จักฟนบานใตเรินใตจักฟนเรินเหนิอ พอจักขาลูก ลูกจักขาพอ ผัวเมียจักขากัน ลูกสิกขแลครูก็จักขากัน ก็จักมีในกาละยามนั้นชาแล ฯ พระการ ๑ ในเมิ่อสาสนากูได (๒) พันปาย ๙ สิบปวันนั้น ทาวพระญา ในชุมพูทวีปทังมวร จักกะทําหิงสาราวีกับดวยแกกัน เต็กเอาขาไปรไทยเมิง แหงกันชูที่ชูแหง แลวลูกหลานทาวพระญาทังหลายก็จักชิงกันกินเมิงแทนพอ แลจกฟันกนสับหายตายมากนิกชาแลัฯแมนลกกู็จักปองขาพอแม นองก็จักปอง แพพี่ ยามนั้นเจาหนุมปองแพเจาแก ลูกสิกขก็จักปองแพครูจักเปนสัตรูแกกัน ดวยวดวาอารามั สิกขโยม  [หนาลานท ี่๘, น.๗๑๒] ก็จักมใจต ีางก ัน ไผก็วามนรั ูมันหลวก ทาวพระญามหาคระสตรนั กปราชญ ั ไผก  ็วามนรั ูมันหลวก จักกะทามํ มากในโกธะ ี ผิดเถียงกัน ดวยคามเขตประเทสสมบัติสวนเริก๑ มัน แลวจักเปนโกลาหล ขาฟนกันตายมากนักแล ฯ เทฺวสราสหสฺเส ในเมิ่อสาสนากูได (๒) พันปายพระวัสสานั้น ฅนทังหลาย ก็จักลายพรางซึ่งกันวาพระญาธัมมิกะเกิดมาในเมิงที่นี้แล ลางพรองก็วากูนี้เปน พระญาธมมักะราชาแลิเฅงท ิ่ พพิ แลกงจกรแกั ว ดาบสรีกัญชยทังหลายกัเก็ดมิแลี ว แมนเทวดาอินทพรหมก็จักมาค ้ํ าชูกูดวยเฅ ิ่ งทิพพทังหลายเช ิ้ อนเช ี้ ิ้ อน ั้ นแลวาอั้น ลวดจกเปนส ักขึ าฟนกนตายมากัเหยดวี าไวใจว าก ูจักปราบแพฅนแทแลวาอ ั้น ฯ ทิวเสสหสฺส สปฺปนฺโน ภวิสฺสนฺติปฺจอรหนฺตา ธมฺมจุฬา นเมโก กริสติ มิคพิมฺพํ ทิสโม นามโก เจลสวณกาเลสนฺตินารทนาเมโก มหาเถโร กเรสติ ๑ สวนเริก - สวนเรือก, เรือกสวน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๕


รตมฺพย กตา กุโต จ นามโก เสวมฺพิตฺถํวเรสนฺติโพธิสมฺภาคร [หนาลานที่ ๙, น.๗๑๔] มยํกเรสติพิมฺพํฯ ดูรามหาราช ในเมิ่อสาสนากูได๓ พันวัสสา ยังจักมีมหาเถรเจา ๕ ตน ตน ๑ ชื่อสัทธัมมจุฬา จักมาหลอรูปกูตถาคตะ แลวดวยทองชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อทิสปาโมกขจักมาหลอรูปกูแลวดวยฅําทังแทงชาแล ฯ ตน ๑ จักมาหลอรูปกูแลวดวยแกวชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อกุตตเถร จักมาหลอรูปกูดวยหินทังมวรชาแล ฯ ตน ๑ ชื่อเนปติสภา จักมาแปงรูปกูแลวดวยแกนจันทนแดงชาแล ฯ สารูปพระเจาทังหลายฝูงน ี้สวนวาสารูปพระเจาทองไปตั้ งอยูบานเมิงใด ก็จักวุฒิจําเริญแล ลูกทาวหลานพระญาในเมิงที่นั้นมักคดเล ี้ ยวหากันจักกินเมิง ดวยเภยยะตางๆ ชาแล แมนชาวเจาทังหลายก็จักมีใจคดเลี้ ยวตอครูอุปชฌาย มีหั้นชาแล ฯ สารูปพระเจา (ฅํา) ตั้งอยูบานเมิงที่นั้นจักสมริทธีเปนดีดวยงึนฅํา สุขสํารานบานใจ หาเภยยะบไดมีหั้นชาแล ฯ สารูปพระเจาไมจันทน ตั้งอยูบานเมิงใด บานเมิงน ั้ นจักมีขาสึกสงคราม บขาดสายชาแล ฯ สารปพระเูจาหนติงอย ั้ ูบานเมงใด ิ บานเมงนินก ั้ ็จักชมชนย ื่ นดิ ีมีสุขมากนัก ฟาฝนก็บัวรมวรยิ่งนักชาแล ฯ สารูปพระเจา [หนาลานที่๑๐, น.๗๑๖] แกวตั้งอยูบานเมิงใด เมิงนั้นชาวเจาแล เสนาอามาตยฅนทังหลายจักชิงกันเปนเจาเปนนายชาแล ฯ แมนภิกขุสังฆะ ก็จักผดกินดัวยวดวาอารามแลัฯ เมอใดสาสนาก ิ่ ไดูสองพ นปายว ัสสาพายหนัาน ั้น สารปพระเจูา ๘ พระองคนี้จักออกมาปรากฏตน ๑ ชาแล ได๓ พันปจักออกมา ปรากฏตน ๑ ชาแล ฯ สุวณฺณพิมฺโพ อุสรฐโก รตนพิมฺโพ อุตฺตรรฐ เกฏิโต นาครโฐ เสลกํ จนฺทพิมฺพํกถํพุทฺธสฺส ฯ ดูรามหาราช รูปพระเจาฅํา ก็ตั้งอยูในเมิงทสรัฐ รูปพระเจาแกว จักตั้งอยูเมิงอุตตรรัฐ คือเมิงทิสะหนเหนิอ ฯ ๒๐๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


รูปพระเจาหินจักอยูในเมิงนาครัฐ คือเมิงนายหลวง ฯ รูปพระเจาไมจันทนรูปพระเจาทอง ก็ตั้งอยูเมิงลังกาทวีป ชาแล ฯ อิเม ปฺจพุทฺธานํยตฺถรฐ สมาคมา กอสุโก ภวิสติสหสฺเสวสฺสฐาเน ปาทสาสนํปโชตกํปฺจพุทฺธา ตถาคต พุทฺธา กโลวโส ภวิสติฯ ล้ําสาสนาสารูปพระเจา ๕ องคนี้ไปประสุมชุมนุมกันที่เดียวที่ ๑ ดั่งอั้น ก็ปรากฏรงเุ รงมากนิ ัก [หนาลานท ี่๑๑, น.๗๑๘] กวาถานะฝ งอูนแล ื่ เหมนดิงก ั่ ตถาคตะู ยังธรมานไปนิพพานเทิ่อนั้นแล ดูรามหาราช พุทธรูป ๕ องคนี้อรหันตาสางไว เพ ิ่ อห ื้อเปนที่ไหวแกฅนแลเทวดาทังหลายสืบไปตราบตอเทา ๕ พันวัสสา มีหั้นชาแล ฯ ดูรามหาราช พุทธรูป ๕ องคนี้ ไปชุมนุมกันบานใดเมิงใด อันวาวา บานเมงทิ ี่นั้นก็จักชมเยนเปนส ุ ขมากนุัก ธมฺมิกราชาปสวนวาพระญาธมมัตนน ั้น จักมาเลกสาสนากิ ในพูนวัสสาอันถัวน๓ นั้น จักเกดมาในเม ิงอินนั ั้น มีหั้นชาแล ฯ ดูรามหาราช ในเมิ่ อกูนิพพานไปแลวได๓ พัน ปาย ๑๗ วัสสานั้น ชาวเจาจักอุเปกขาซึ่ งกันไปมา ไผก็หาไผบไดเทาชุมเยนเปนสุข หากจัก พรอมกันตามวิเนยยะปญญัตติตั้งไวนั้นแล ฯ ใน ๗ วัสสาอันสังฆะอุเปกขาแกกันนั้น ชาวเจาทังหลายก็จักสิบหาย ตายมากนักชาแล นักบวชแลคระหัฏฐยิงชายทังหลายฝูงมีประหญาจุงรักสาสีล แลเมตตาภาวนาไปไจๆ จิ่งจักพนจากเภยยะอันใหยนั้น มีหั้นชาแล ฯ ในเมิ่อสาสนากูไดสองพันวัสสา ปาย [หนาลานที่ ๑๒, น.๗๒๐] ๑๑ วัสสานั้น พายหนา สวนวาพระญาธัมมิกะตนประเสิฏจักเกิดมาเลิกสาสนากูเสมอดั่ง พระญาปตมัลละอโสกธัมมิกราชานั้นแล ฯ พระญาอโสกธัมมิกราชา เกิดมาปเตาสีแล ฯ ธัมมิกราชาตนนั้นก็เกิดมาปเมิงเราแล ฯ ตนเกิดมาในสาสนาถวน ๓ นั้น เกิดมาปกาบสันแล ฯ ตนเกิดมาในวัสสาถวนสี่นั้น ปเปาแล ฯ ในพนวัสสาอันถัวน ๕ ธัมมกราชาบิเกดสิกตนัเหยดฅนทีงหลายแหนันหนา ปาปธัมมบเชิ่อในธัมมเสียแลว ลวดบเกิดเพิ่ออั้นแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๗


ในเมิ่อกูนิพพานไปแลวได๒ พันวัสสา เขาเขต ๓ พันนั้น จักมีอุบาสก ผู๑ ประกอบดวยสทธาเชั อใสมากน ิ่ ัก มันก็จักมีคําตริอุบาย เหยดวีาพระพทธเจุา นิพพานไปแลว จิ่งจักแปงสารูปไวไหวแลปูชาอุปฏฐากท ี่ใกลบานน ี้ เทิอะวาอั้น มันก็มาแปงสารูปอัน ๑ แลวก็มาแปงกุฎีวิหารไวชูที่ชูแหง ชูบานชูเมิง หั้นแล ฯ ในกาละนนพายหน ั้ า เจาภกขิ ุสังฆะทงหลายปฏ ั ิบัติตามคาพระตถาคตะนํ ั้น ยอมไปอยูวัดในปาท ี่ไกลบานไกลเมิง ๕ รอยวาปกติแล อันจักมาอยูวัดใกล บานนั้นบมี[หนาลานที่๑๓, น.๗๒๒] สักตนเทิ่อแล ก็เทาจักอยูวาไกลบาน ๕ รอยวา สิ่งเดียวแล ฯ พายหนาแตนั้น ภิกขุไปปณฑิบาตเขาในบานก็จักหันวิหารแล พุทธรูปเจาตั้งอยูสันนั้น เขาก็จักไปจอดไปเซาอยูแลวควรนอน ก็จักนอนเพราะ ครานเทียวทาง เขาก็ปราไสรคุนเคยอุบาสกเจาสัทธา ลวดจักเมตตาเปน กาละหวางคราวกอน เมิ่อควรหนีก็จักหนีไปชาแล ฯ พายหนาแตนั้นอุบาสกทังหลายก็จักร ่ํ าพึงวา ผิแลชาวเจาอยูเฝาพุทธรูป แลวิหาร กวาดเผ ี้ ยวชําระรักสาก็จักดีชาแล วาอ ั้ นแลวก็จักเอากันราทธนาอยู ก็จักชูคําครานตณหาั ก็จักอยเมตตาร ู บทานสั ทธาในอาวาสใกล ั บาน แลวลวดจ ัก สืบจักเรียนกันชูแหงชูเมิงชาแลฯ พายหนาแตนั้นภิกขุฝูงอยูปาก็จักสิบหายเสีย เทายังหลอแตเมิงแลอาวาสพายใกลบาน ก็จักเปนแพรพอกออกมามากนัก รอยแหงพันแหงชาแล ฯ พายหนาแตนั้นชาวเจาฝูงอยูปาก็จักละวัดปาเสีย แลวก็จักอยูที่จิ่มบาน ชาแลวัดบานก ็จักมหมีนแลแสนชาแล ื่ ฯ พายหนาแต นั้น บาน ๑ ก็จักมีวัด ๒ ๓ หลัง สิบหลัง ซาวหลังชาแล เมิงนอย [หนาลานที่๑๔, น.๗๒๔] ก็จักมีวัดรอยหลัง พันหลัง เมงใหย ิ ก็จักมหมีนหล ื่ ังแสนหลงชาแลัฯ ฅนทงหลายฝ ังกูาวมาน ี้จักมในพ ีนวัสสาั ถวน ๓ นั้น มีหั้นชาแล ฯ ฅนทังหลายเกิดมายามนั้น เขาก็จักใสใจวาหากมีเทา อาวาสบานส ิ่ งเดียว หากเปนเคาเปนมูลส ิ่ งเดียว ก็จักใสใจวาชาวเจาฝูงอยูปา ก็บควรรับกฐินทานวาอั้น ชินบุตตฝูงอยูปาน ั้ นก็จักหอดตายหายไปไจๆ ทังเมิงตน ๑ สองตน ลางเมิงก็จักหาบไดสักตนชาแล ฯ ๒๐๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


พระการ๑สาสนากเขูามาเขต๓ พันวสสานั ั้น ทัมมละทิงหลายกั ็จักบงเกั ิด สัทธาเหล ิ้มใส ก็จักมารักสาสีลฟงธัมมเมตตาภาวนา เขาก็จักแตงสางกุฎีวิหาร อุปฏฐากชาวเจาแลภิกขุสังฆะชูที่ชูแหงชาแล ฯ พระการ๑ ฅนเทียวทางแลพอคาก็จักไปจอดไปเซาวัดวาอาราม แลกะทํา อนาทระไปจอดสาลานนชาแล ั้ ฅนทงหลายอันบัตามคาสอนดํงอ ั่ ั้น ชาวเจาก ็บหุม เรียนวินัย บปฏิบัติตามธัมมคําสอนบหุมปฏิบัติตามธัมมนิบาตนิกาย วิสุทธิมัคค สักอนชาแลัฯ ชาวเจาฝงอยู ูบานนั้น ก็บเชอก ิ่ นรักแพงกั ัน ลวดเขาหาก ัน เขาทงหลายั ก็หาความยินดีในคุณชาวเจาฝูงอยูปาน ั้ นจักไดตามคํา [หนาลานที่ ๑๕, น.๗๒๖] สอนแทพอยมาใสใจประกอบดวยวิเนยยะวาอั้น เขาเทาใสใจวาชาวเจาฝูงอยูปา ชอบธัมมลวดยินดีมีคําพัดพรองกันสักหนอย หากจักยกโทสใสแลวลวดจักขับ ชาวเจาฝูงชอบธัมมหนีเสีย ก็จักมีหั้นชาแล ฯ พระการ๑ ฅนทงหลายบั หุมสางว ดปั า บรูหื้อผากฐนทานแกิชาวเจ าฝงอยู ู ปานั้น มีหั้นชาแล ฯ พระการ ๑ ภิกขุบรักสาสีลสิกขาบท เทาหุมฟงยังธัมมนิบาต ๕ รอยชาติ โวหารส ิ่ งเดียว บรูหุมวิเนยยะ ก็จักมียามน ั้ นชาแล ฯ กรียาอาการฝูงกาวมาน ี้ จักเกิดมีแต ๒ พันวัสสาเขาเขต ๓ พัน ตราบถึงพันวัสสาอันถวนสี่นั้นชาแล ฯ ในกาละเมิ่อสาสนาเขาเขต ๓ พันวัสสานั้น ชาวเจาทังหลายก็จักละคลอง อันชอบเสีย แลวจักกะทําอนาทระดวยตนดวยปากดวยใจ นอนก็ดี ยืนก็ดี เทยวกี ็ดีก็จักเยดลทธัอาจิ ิณ จักละวเนยยะคิ ําสอนกตถาคตะูแลวจกมาเมาดัวย กามคุณทัง ๕ เปนดั่งฅนคระหัฏฐทรงเฅิ่งประดับตามโลภะตัณหาไจๆ คันตาย ก็จักไดไปไหม อย ในอบายท ู งสัชาแล ี่ ฯในปจจ ุปนนะเทาม ีคําตณหาั [หนาลานท ี่๑๖, น.๗๒๘] เรงแสวงหาลาภะสกการะได ั วัตถุงึนซีก ๑ มาเล ี้ ยงชีวิต แลวก็จักสิกไป ชาแล ลางพรองก็ขี้ครานหยานการ ก็จักกุมใจอยูลวงคําสอน กะทําผิดวินัยธัมม นับอยูนับกินในสาสนา ตราบตอเทาพอตาย หาความเผิดละอายบไดก็จักไดไป เสวยทุกขเวทนาในนารกมากนักชาแล ฯ ในชาติอันน ี้ ก็จักไดตองทุกข สิบพระการชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๐๙


พระการ ๑ ตั้งแตพันวัสสาถวน ๓ พายหนา ชาวเจาแลคระหัฏฐทังหลาย จักกะทําบุญนอยมากก็ดีพอยปราถนาถึงนิพพานดับทุกขในสงสารในสาสนา กูตถาคตะอันน ี้ พอยบปราถนาเอานิพพานไป แลวไวสาสนา ๕ พันวัสสา พระอรยเมตเตยยะเจิาสงเด ิ่ ยวดีงอ ั่ ั้น ก็พึงวาจกมั ในว ี สสาในพ ันถัวน๓ นั้นชาแลฯ ดูรามหาราช สักขีแหงสาสนากูพึงรูดั่งน ี้ เทิอะ กูตถาคตะนิพพานไปแลว ไวสาสนา ๕ พันวัสสา ฯ ใน (พัน) วัสสาหวทั ีนั้น ฅนในบานในเม งมิชฌั มประเทสเม ิ งใหย ิ สิบ ๖ เมงนิ ั้น จักมีตนสูง ๖ สอกมัชฌิมปุริสะชาแล ฯ ใน (พัน) วัสสาถวนสองนั้น จักมีตนสูง ๕ สอกชาแล ฯ ในพันอันถวน ๓ นั้น จักมีตนสูงได๔ สอก พายหนาชาแลฯ[หนาลานที่๑๗, น.๗๓๐] ใน (พัน) วัสสาถวนสี่นั้น จักมีตนสูงได๓ สอกชาแล ฯ ในพันถวน ๕ นั้น จักมีตนสูงสองสอก พายหนามาแล ฯ สอกมัชฌิมปุริสะสอก ๑ เปนสองสอกฅนเราบัดนี้แล ฯ คันวาสกขั ในพ ีนวัสสายังมั ีคําไววา (วิ) ย สุส ทา ดั่งน ี้ในพันวสสาหัวทั ีนั้น ชื่อวิมุติยุค คือยิงชายคระหัฏฐนักบวชจักไดถึงมัคคผลธัมมไดฟงธัมมแลจักได ถึงพายมากชาแล ฯ ในพนถัวนสองน ั้น สัตตทังหลายจกใส ั ใจรกสาสัลหีอบ ื้ วรั ิสุทธ ิ์ แลวปฏิบัติคลองมัคคผลธัมมไจๆ แลวจักไดถึงสุขพายหนามากชาแล ฯ ในพันถวน ๓ นั้น สัตตทังหลายจักอุตสาหะ๑ สูตรเรียนแลฟงธัมมคําสอนกูแท ใสใจปฏิบัติภาวนาไปไจๆ ก็จักไดถึงมัคคผลธัมมมีหั้นชาแล ฯ ในพันวัสสา ถวน ๕ นั้นมาถึง ปณณสัตตทังหลายจักชวนกันสางไทยทานแลวจักเอาทานผล เปนปจจัย แลวใสใจปฏิบัติภาวนาไปไจๆ ก็จักไดถึงมัคคผล มีหั้นชาแล ฯ กูตถาคตะนิพพานไปแลวไดสองพันวัสสา ปายป๑ เขาเขตใน ๓ พันนั้น ชื่อวากลาง ๕ พันวัสสาแล ยามน ั้ นหมากน ้ํ าเตาจักจม หมากหินจักฟูชาแล ฯ [หนาลานท ี่๑๘, น.๗๓๒] ฅนทงหลายฝ ังมูจฉาทิฏฐิ ิมีทัมมละเปนต ิ น เขาก็จักมใจเหล ี มใส ิ้ ในแกว ๓ พระการแลวจกรั ูหื้อทานรกสาสั ลฟีงธมมั เมตตาภาวนาอุปฏฐากแกว ๑ ตนฉบับวา อทิสะ ๒๑๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


๓ พระการ แลสางกุฎีวิหารกานกุงรุงเริงมากนัก คันตายก็ไดถึงมัคคโมกขธัมม ลวดนิพพานไปชาแล อันนี้หมากหินฟูแล ฯ พระการ๑ คระหฏฐัแลนกบวชทังหลายหากเกัดมาทิากางแก ่ํ ว ๓ พระการ ร่ําพึงหันกัมมอันเปนบาปเปนบุญพอยบเอา ลวดเปนฅนแหนนหนาห ั้ นแล คันเขาตายก็ไดไปจมอยูอบาย อุปมาเปนดั่งหมากน้ําเตาจมนั้นแล ฯ ดูรามหาราช ทาวพระญาชุมพูทวีปทังมวร ก็จักมีใจอันหยาบชา บไตตาม ทสราชธัมมสิบพระการ จักละเสนาอามาตยผูเฒาผูแกเสีย แลวจักยกเอาเสนา อามาตยตนหนุมต ั้งไวพิจารณา ลวดบกะทําตาม จักกะทําหิงสาราวีขาไปร บานไทยเมงทิงมวรหัอส ื้ บหายชาแลิฯในเมอท ิ่ าวพระญาเสนาอามาตย บระกอบ ชอบธัมมแทเทวดาอยูรักสาโลกทังมวรก็จักเคียด จักแตงแปงอันบวุฒิจําเริญใจ ถึงกาละฝนตกพอยหอแดด ื้ ยามแดด [หนาลานท ี่๑๙, น.๗๓๔] พอยจกหั อฝนตกชาแล ื้ ฯ หนอพิชชะเขากลาของปลูกของแปงทังมวร ในเมิ่ อฅนทังหลายกินเขาแลลูกไม ทังมวร ยอมไดกินงวนสาร อันเทวดาหากเอาใสไวนั้น ก็จักแผไปในดูกในเอ็น ในไสในปุมเสี้ยงแล ฅนทังหลายลวดเปนพยาธิตางๆ บนับบอานไดก็จักบังเกิด เปนฝสาน สัพพะพยาธิตางๆ แลตายไปก็จักมีชาแล ฯ ลางพรองฟามืดมาแลว พอยสวางหายไปหาฝนบไดก็จักมีชาแล ฯ พระการ ๑ ทาวพระญาจักขับเอาเขาของงึนฅํากับดวยชาวบานชาวเมิง ทังหลาย อึดไหมไสแทชูปชูเดิน อุปมาไหน้ํ ามีน้ําหากเตมแลวพอยตักเอามา แถมเลา ไหน้ําอันเปลานั้นซ้ําจักเขาะออกเสียไจๆ ก็มีแล ฯ พระการ ๑ โขงเมิงอันเดียวกันกึ่งเมิง ๑ ฝนตก กึ่งเมิง ๑ ฝนบตกก็มีแล ฯ พระการ ๑ ทาวพระญาจักแตงการแกไปรฝาทังหลายหื้อหาหวางหาชอง บไดก็จักมีชาแลฯ พายหนาแตนั้นฅนทังหลายจักทุกขลําบากเข็ญใจไผอยูที่ใด ลวดบเยดบสางสังนั้น ก็จักหอดแหงไปชาแล ฯ ทาวพระญาจักขับเอาเขาของ งึนฅํา เอาหื้อวินาสสิบหาย ฅนทังหลายก็จักมีใจฟุงแตก จักเอากันหนีเสียบาน เสียเรินแลฯ [หนาลานที่ ๒๐, น.๗๓๖] ก็จักไปลี้เตียดอยูสรอกหวยราวเขาเสีย แลวจัก เอากันไปอยูประเทสที่ไกลเมิงชาแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๑


พระการ ๑ ทาวพระญามหากษัตริยก็จักปลูกปลงวางลูกยิงชายอันเปน เชอข ื้ ตตัยะวงสาหิ อเปนเม ื้ ยแกี ขาขนหาญ ุลวดจกเสัยเชีอชาต ื้ กระกิูลอุปมาเปน ดั่งหมาจิ้งจอกขี้ใสไตรฅํานั้นแล พอยจักหาเตชะริทธีบไดลวดจักไดไหวแลปูชา เปนปริวารทาวพระญาฝูงใจบาป อุปมาเปนดั่ งหงสฅําไดเปนปริวารแหงกาดํา นั้นแล ฯ พระการ๑ ผัวเมียอยูกินกับดวยกันพอยคดเลี้ยวตอกัน ลักเอาไปจายเสีย อุปมาเปนดั่งชายผู๑ ฟนเชิกหนัง ไดเทาใดเอากองไวพายหลัง ยังมีหมาตัว ๑ มาอยูทางหลังยอกินเสีย บหื้อยาวไดนั้นแล ฯ พระการ ๑ ลูกยิงสาวนอยมีอายุได๑๑ ๑๒ ปก็จักห ื้ อเอาผัวแลวจ ิ่ งมี ลูกหลานเชยวเถีาเชยวตายีอุปมาเปนดงไม ั่ ไผกอนอยพ อยแตกเปนก  งเปนค ิ่ าไป  นั้นแล ฯ ดูรามหาราช แมนชาวเจาก็จักบังเกิดโลภะตัณหาดวยลาภะสักการะ แลวก ็จักเอาธมมั กูไปเทสนาแกอุบาสกอบาสุกาทิงหลายแลั คองไดลาภะสกการะั มากินบัวรโภค ลวงสุดบควร [หนาลานที่๒๑, น.๗๓๘] ไป มีตนวากลางบาน ประตูเวียง ทางหลวง ก็จักไปนั่งเทสนาแลกเอาเฅิ่งปูชามากิน เปนดั่งชายผู๑ เอาทอนไมจันทนแดงอันวิเสสไปแลกเอาน้ําปลาเนามากินนั้นแล ฯ พระการ ๑ กูนิพพานไปได๓ พันวัสสามาถึงนั้น บานเมิงอันมีในท่ํากลาง ชุมพูก็จักเปนโกลาหน ขาสกฟึนก นตายเปนข ั นเปนม ุ วมากนั ัก เทาจกมั ีบานนอก ขอกเมงแิจงจกอยั เยนเปนส ู ุข ยุทางกะทาบํ ญไจ ุ ๆ เปนดงน ั่ าสระอ ้ํ นใหย ั ท่ํากลาง พอยขุนมัวเสีย ขอบแจงพอยใสงาม อุปมาเปนดั่งสระน้ํานั้นแล ฯ ดูรามหาราช ในเมิ่อ ๓ พันวัสสามาถึงเมิ่อใด เภยยะจักเกิดมีชาแล คือวา นักบวชบตั้งอยูในคลองคําสอนพระตถาคตะใจบาปนัก รอยตนพันตนจักชอบ แลตน แมนทาวพระญาเสนาอามาตยอันประกอบดวยคลองธัมมรอยฅน พันฅน ก็บมีสักฅนแล เหียดวาปาปธัมมแหนนหนา เทวดาอินทพรหมทังหลายจักแตง กุมภัณฑคันธัพพะลงมาหิงสาราวีสัตตโลกทังหลาย หื้อเปนโทสเปนเกน หื้อวินาสสิบหายตายมากนักชาแล ฯ ๒๑๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


อัน ๑ ยักขเทวดาก็จักมายยงหุวใจห ัอน ื้ กบวชทังหลายถัอยช า [หนาลานท ี่๒๒, น.๗๔๐] หื้อไดเคยดี ปมาทะแกกัน ตนหนมบุ ยําตนแกตนแกบยําตนหนุม ลูกสกขิ  บยําครูอาจารยบยําลกสูกขิ ไผสอนไผก็บไดเทาจกหอมหยั บบาปไจ ั ๆ ก็จักตอง ทุกขเภยยะฝูงน ั้ นชาแล ฯ แมนทาวพระญามหากษัตริยแลเสนาอามาตย ยักข หากบนดลเัขาห วใจก ั ็บรักบยํากัน ไผก็วามนมั ีบุญมีคุณ มีเตชะรทธิ ีมียัสสปรวาริ กลาหาญ ตนหนอยก็ดูแฅวนตนใหย ไปรก็จักดูแฅวนขุน ลูกนองก็บยํานาย ลูกชายก็บยําพอแม ผูเปนเจาเปนใหยก็จักบิบเบียนขาไปรไทย โทสนอย ก็จักเปนโทสใหย โทสบพอตายก ็จักขาแล ก็จักครบชุงเอาเขิาของหอว ื้ นาสสิบหายิ ลูกเมียก็จักเปนขาทานชาแล ฯ พระการ ๑ เทวดาก็จักยุยงหิงสาห ื้ อผูนอยผิดผูใหย ผูใหยผิดผูนอย เมงนิอยผดเมิ งใหย ิ เมงใหย ิ ผิดเมงนิอย บานเหนอผิดบิ านใต  บานใตผิดบานเหน ิอ เรินเหนิอผิดเรินใตพอแมลูกหลานผิดเถียงกัน ดวยขาสัตตลักทาน เหลนชู สูเมียกัน ครุบชิงเอาวัตถุไรนาคามเขต ฯ อัน ๑ ทาวพระญาเสนาอามาตยพิจารณาบชอบ แตงฉันทาคติโมหาคติ โทสาคติ[หนาลานที่๒๓, น.๗๔๒] เภยยะธัมมตริอุบายกินจาง หลางแพพอยหื้อคาน อันคานพอยหื้อแพปาปธัมมแรงนักผิดของตองโทส ลวดจักผิดกันเปนโกลาหล สึกใหย ขาฟนกันตายมากนัก ก็จักเกิดมีในท่ํากลาง ๕ พัน วัสสาอันถวน ๓ นั้น ชาแล ฯ พระการ ๑ เสิอจักกินฅน จักเข็บ แมงปอง งูจักขบสัตตแลฅนมากนัก ก็จักเกดเปนอ ิบาทวุตางๆ เปนพยาธเจิบท็องเจบคอ็ลงเลดตายิลุกอยูก็จักตาย นั่งอยูก็จักตาย นอนอยูก็จักตายไป เภยยะหลายพระการตางๆ ก็จักเกิดมี ในท่ํากลางสี่พันวัสสานั้นแล ฯ ยามจกแดดกั ็จักรอนมากน ัก เมอลมก ิ่ ็จักลมรายเมอฝนก ิ่ ็จักฝนราย ฟารอง ก็บตามปกติฟาก็จักผาฅนแลสัตตทังหลาย น้ําก็จักรอน อุบาทวก็จักเกิดมีตาม วิบากปาปกัมมชูอันชาแล ฯ เภยยะฝูงวามานี้ปรากฏมีประเทสที่ใดเมิงใด ประเทสอันนั้นก็จักสิบหาย วายวอดแหงหอดบมีฅน เมิง ๑ สองเมิง สามเมิง มารอมกันเปนเมิง ๑ แล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๓


เริน ๑ สองเริน ๓ เริน มารอมกันบพอเริน ๑ ไดแล ฯ ดูรามหาราช สองเริน ๓ เริน ก็จักมควายแลตีวชาแลั เภยยะฝงนูี้จักเกดมิ ีพันวสสาอันถัวน [หนาลานท ี่๒๔, น.๗๔๔] ๓ นั้น ชาแล ฯ ในกาละยามนั้น สาสนากูตถาคตะก็จักหมนหมองไป มีหั้นชาแล ฯ อิปฺจ มม สาสนํปเกตุวิเทวินฺท เอกเมเก วสสาสหฺเอกเมธมฺมิกเทวปุตฺต อนาเป หินฺติเทวินฺโท ฯ ดูรามหาราช ตนเปนเจาแกเทวดาทังหลาย ทานจุงเลงดูยังสาสนากู อยาขาด จุงอาณัติหื้อเทวบุตตตนชอบประกอบดวยธัมมนั้นห ื้ อลงมาเกิดแลตน แลพันวัสสา เพ ิ่ อห ื้ อเลิกยอสาสนากูตราบเส ี้ ยง ๕ พันวัสสานั้น หื้อรุงเริงไป จุงมีเทิอะ วาอั้นหั้นแล ฯ ตํ สุตฺวา พระญาอินทาธิราชไดฟงธัมมเทสนาแหงพระพุทธเจาเย ิ่ งนั้น ก็บังเกิดโสมนัสสะชมช ื่ นยินดีมากนัก ก็ไหวนบครบยําพระพุทธเจา แลวก็ สระเดจไปสูชั้นฟาอันเปนที่ อยูแหงตนแล อาทาย ก็หื้อเอาทิพพวัง ยังดอก ลีลัวทพพิ ตน ๑โลโปตวาฺก็มาปลกไวูปพพตฺมถมสฺมึเหนอยอดดอยิ สีมนตเฺร กส อเทสิมนตสฺเหนอเขตแดนิเมงอิ นเปนแว ันแควนเม งโยนกะท ิ ี่นั้น แลวกบอกก็าว ถอยคําอันพระพุทธเจา [หนาลานที่ ๒๕, น.๗๔๖] เทสนาทํานายไวนั้นแกเจารสีตนชื่อ อินทสัมปละ อยูในดอยที่นั้น ฯ เอกเมกสฺมึภนฺเต วสหสฺเส สมฺปนฺโน อยํทิพฺพปลโวทิกนฺโต ทิพฺพคนฺโธ สตปุปฺโผ ภวิสฺสติฯ ดั่งนี้วา ภนเตฺขาแดเจารส ีในกาละเมอบ ิ่ วรมวรแหังพนวัสสาั แลอนแลอั ัน อยํทิพฺพปลโว อันวาดอกไม  ลีลัวทพพิ อันน ี้ ทกนโตฺอันประกอบดวย กานสองอัน สตปุปฺโผ จักเผยงามบาน คือมีกลีบไดแลรอย ภวิสฺสติก็จักไวปูชา พระญาธัมมิกราชาชูตน ก็มีแล ฯ ยทา จ ปน สนเตฺปปสโอสนํวสสปปฺเตฺสพพรฺ ุกฺขตรตาสโย ิ อากาลปุปฺผผลา ลิโล โหนฺตุฯ ภนฺเต ขาแดเจารสีเจากูอยาไดประหมาท จุงเล็งดูกาละอันเปนไป แหงพุทธสาสนาแล ภาวะเภยยะอันจักเกิดมีนั้นแล เจาจุงกาวแกฅนทังหลาย ในภาวะพายหนาเทอะิ ขาแดเจารส ีในเมอสาสนาพระเ ิ่ จาได  ๒ พันวสสาเตมแลั ว เมิ่อใด สพฺเพรกฺขา ติกรโต ทโย อันวาสิ่งทังหลาย มีตนวา [หนาลานที่ ๒๖, น.๗๔๘] ๒๑๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


ดอกไมเครือเขาเถาวัลยทังหลาย อากาลปุปฺผา รธาริโน ก็จักทรงดอกแลลูก อันบใชฤดูก็จักเกิดมีชูที่ชูแหงชาแล ฯ นิมิตลูกไมทังหลายฝูงนั้น หากจักสําแดงเภยยะอันจักเกิดมีพายหนาวา มนุสฺสา วา ปกา หิริกา เนภปา เภรริกา มสาวาทิโน สติฯ ดั่งน ี้ เปนตนวา แรกแตนี้เมิอหนา ฅนทังหลายผูใหยผูนอยในชุมพูทวีป ก็บปฏิบัติตามคํา เขาก็จักเกิดมีใจอันหยาบชา หาความเผิดละอายบไดจักยุยงหื้อเปนสึกเปนจวร ขาฟนกันตายมากนัก ฯ พระการ ๑ ฅนทังหลายจักลายพราง หาสีลหาสัจจะบไดวาพระญาธัมม เกิดมีที่นี้แลวาอั้น ลางฅนก็จักลายวา กูเปนพระญาธัมมิกราชาแลวาอั้น ฯ มาตาปตโร ปุตฺเต ปเทนฺติปุตฺตาปมาตาปตโร วิเทคคนฺธะ อโกสนฺติ ปรภาสนิ ฺติฯ ขาแหงเจากูอันวาฅนผเฒู าแก พอแมก็ดีมีวาทะผดเถิยงกีนกับดัวย ลูกหลาน ก็จักพรองดาก ัน ปรภาสนิ ฺติเขาก็จักดาร าไรด ่ํ วยการตางๆ มีหั้นชาแล ฯ นิมิตฺตา ภนเตฺวาสิกฺขคุรุอาจรยาิ วิปฏโนิ วิวาทนิอเโกสาทีริ[หนาลานท ี่๒๗, น.๗๕๐] โท ทกฺขิอสทฺธา อปน ปากการิปฺจวสฺสสหสฺสานิจตุสาสนํสรกฺขาเปตุํ อาโรเจมีติฯ ภนเตฺขาแกเจารส ีเจาก ูจุงเลงด็มนูสยุโลกแลสาสนาพระพ ทธเจุาเทอะิอหํ อันวาขา ก็มาบอกกาวแกเจากูเพิ่อหื้อไดแขวดกฎหมายรูยังกาละพุทธสาสนา ๕ พันวัสสานี้ดีหลีแล ฯ ภนฺเต ขาแดเจารสีเจากูจุงฟงปุพพนิมิตรอยเอ็ดภาสา แลวเจาจุงบอกแก ฅนทังหลายพายหนาเทิอะ ปุพพนิมิตฝูงนั้น คือวามากินหยาดวยวัว ฅนทือกุบ๑ หุมหนา มือลบหนูาปกตา  ทือถงพากบดาบัแบกมาวยาวดงท ั่ งร ั่ วนา ั้ ถือชาหูลับหนา พอคาสบคืาจวรํ ผีหลวงบนอากาสิ นักปราชญบรูคลองบุญ ฝูงเปนขนบุ รูตัดแตง ๒ ผา ๔ แจงเอามาเปนถง ฝนตกลงบใชเมิ่อ นักปราชญเบื่อคลองธัมมฅนบยํา๓ นักบวช พาละโจทยอาจารย ผิดบัวราณแตงใช ผูไรเกิดเปนดียิง ๔๕ ปมีชู ผูรูทานนับขับ (หนี) ฝูงชี...สายฟาคว ี่ เหมินทุง ผีรุงบินอากาส นักปราชญ ๑ กุบ - หมวก๒ ตัดแตง - ในที่นี้หมายถึง พิจารณาตัดสินคดีความ๓ ยํา, อยํา - เคารพยําเกรง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๕


รูลายพราง ฅนเทยวทางยกยอโทส ี นักบวชบยํากัน งึนฅาถํกกวูาเบ ี้ย เบยร ี้ อยชูด เสยซาวี ๑ [หนาลานท ี่๒๘, น.๗๕๒] ชาวเจาตร ิชางลาย ผูนอยปราบกนเมิ ิง ขุนนนเนั งใฅ ิ ขา ฟารองดังเสียงแขง ก็มีเมิ่อนั้นแล ฯ คนฺติปริภาสนฺติฆเปสนฺติขาแดเจารสีในกาละนั้นลูกสิกขก็จักเถียงกับ ดวยครบาแหูงตนชาแลฅนก็จักผดเถิยงกีนดัวยเขาของงนฅึ ํา จักราไ่ํ รแกกันชาแล ฯ ราชาโน ปอฺญมฺญํยุชิตาธนธฺญา ทาสํทาสีหนฺติอสฺสโคณ มหึสา ทาโย คณฺหสนฺติฯ ภนฺเต ขาแดเจากูราชาโน อันวาทาวพระญาทงหลายในทว ั ีป ทังมวรจักครบชุงเอาราชสิ มปัตต ิซึ่งกัน มีตนวาเขาเปอกเขาสาร ชางมาววควายั ไรนาคามเขต ก็จักมีชาแล ฯ วินิปยามา จ อธมฺมิกา วินิจิยา รฐปพฺพชาโน วิกินิสนฺติฯ ขาแดเจารสี ในกาละนั้น ทาวพระญาเสนาอามาตยพิจารณาไตถอยจาคําก็บชอบ บประกอบ คลองธัมมตัดตามฉันทาคติโทสาคติโมหาคติโลภคติภยาคติไดแลวปนกัน กิน ฯ รัฏฐปชชาไปรไทยบานเมิงก็ตระหมอดหอดไรถอยไปชาแล ฯ ปถม วิวรโส เหฐ โอตริตสฺมึปถ [หนาลานที่ ๒๙, น.๗๕๓] วิวา ปตาสรณา ทาโย อเสชาตํขทตาิอวิปุลา ภวิสฺสติฯ ขาแดเจารส ีในกาละเมอน ิ่ ั้น รสแผนด ิน ก็จมลงไปพายใตลวดหารสบได สางลกปลูกบูเปน  พิชชะเขากลาถ วงาเปนต ั่ น ฯ อเสชาตา ก็หารสบได แมนสตตั ทังหลายตางๆ เปนตนวานกหนูทังหลาย ขาวกาิ ก็จักลงบีบเบียนกินเขากลาพิชชะทังมวร ลวดตระหมอดหอดหายไปชาแล ฯ สพฺเพ ราชาโน มนุสฺสา หิปรตา อเลธโน ปา ฯ เมิ่อใดแรงกาตอมอากาส ฅนเปนพยาธิหาผีฝูงเปนชีใจบาปกลา พอคาชางลักของ ฅนหนุมบยําผูเถา ชาวเจาชางทอกืุบ ฝูงเปนชีทือดาบทอกืบลุาหาง ึน บมึนนานกหม็นเส า ตนเขาจาก เสียรวง นาทงหลวงจักตายแหง น้ําบอแหงเขาะกิน แผนดินปานไฟไหมฅนใบ จักลักกิน เสียงมี่นันกองอากาส ปานฟาหยาดลงมา แผนดินหนาไหวหวั่น ลมพัดปนไปมา อเวจีรอนไหมโลก ฅนจักตัดโสกคําพรอง ฅนจักหาปองขาวลา เหอย ื่ อยหนาพระสตถาั สองตาไหลหลบอยั ู [หนาลานท ี่๓๐, น.๗๕๕] เจตยะบิ เปนควุัน แผนดินหนายะแตก สายฟาแถกฅนตาย สระหนองกลายเปนเลิด แมงบงเกิด ๑ ชูดเสียซาว - มีคาลดลงเหลือแคยี่สิบ ๒๑๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


เตมนา หมูหมาหอนสะสู ชางมาลูตกเมิง ผียักขเนิงเทสทอง ผีลุกกองกลางฅืน นกหนูฅืนกัดเขา ไกเถิ่นเขามาเมิง เสนาเริงไหมไปร ไดแลวแจกกันกิน นักบวช แลฅนจักหาสีลบได ผูไรหากเปนทุกขเท ี่ ยงหาสุขบได ปลดหาบไวกลางทาง ฅนจักรองอวยครางนักเลา ถวยใจเสาครางตาย ฯ นิมิตทังหลายจักเคริงขวด๑ ฝูงนักบวชแลฅนจักสิบหาย ฝูงยิงชายบยํา บเชิ่อ ก็เที่ยงวาจักไดทือหอกดาบเริงถือตน เลิดฅนแลชางมาพอเพียงวาตาตีน ชาแลฯเมิ่อใดฝูงเภยยะเบียนแลว พระญาอินทตนผานแผวก็จักเล็งหาธัมมิกรา ชาตนมีอานุภาพ จักลงมาปราบชุมพูมาเลิกสาสนาสัพพัญูเริงราบ หื้อตั้งอยู มึนนาน ยามปานกลางที่กึ่ง ในที่กึ่ง ๓ พัน สืบปรัมปราแตเคา ตราบตอเทา ชุมนุมธาตุเปนปริโยสานชาแล ฯ สกฺโก เทวราชา ปปจนา สคกายํอปฺปกามีติฯ สกฺโก อันวาพระญาอินท ตนเปนเจาแกเทวดา คันวาบอกกาว[หนาลานที่๓๑, น.๗๕๗] คําเทานั้น แกเจารสีตน ชื่ออินทสมพาร ตนอยูเขาหลวงในเมิงหริภุญเชยยนครที่นั้นแลว ก็สระเดจไปสู ที่อยูแหงตนก็มีวันนั้นแล ฯ ทสมํ ปาทธาตุกถา นิฐิตา ฯ กรียาเทสนาตํานานผูกถวนสิบ ก็สระเดจ บัวรมวรกาละควรเทานี้กอนแล ฯ (บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับนี้มูลสัทธาขาชื่อวาชายดวงแกว บานเชียงจาม ภริยาชื่อวานาง บัวฟอง เปนเคา พอแมลูกเตาหลานเหลนสางทานค ้ํ าวรพุทธสาสนา ๕ พันวัสสา ผูขาทังหลาย ก็ขอหื้อเปนผลอานิสงสชั่วนี้แลชาติหนาแดฯ ทานกับวัดจอมทอง แล ฯ ผูขาลิขิตลูกชายบานยางมวน เขียนค ้ํ าชูพอรามดวงแกวบานเชียงจาม ๑ แดฯ ตัวขาบงาม ไผอยาไดติเตียนขาแดฯ ผูขาก็ขอเปนผลอานิสงสชั่วน ี้ แลชาติหนาแดฯ ๑ เฅิงขวด - โกรธเคือง ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๑๗


¾ÃиÒμØËÃÔÀØÞäªÂ ÅíÒ¾Ù¹ ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


àªÕ§ãËÁ‹ ËÃ×Í “ÍÀԹǹ¤Ã” (á¹Ç¤ÙàÁ×ͧ/¡íÒá¾§àÁ×Í§à¡‹Ò ô ´ŒÒ¹ ¡ÅÒ§ÀÒ¾) ÀÒ¾ : ÇÊÑ¹μ »˜ÞÞÒᡌÇ


ตํานานพระเจาเลียบโลก ผูก ๑๑ นโม ตสฺสตฺถุ ฯ นมิตฺวา นตโต กายา มาหุ ปฏิสนฺธิ คเหตฺวา มหามายาเทวิปย กุจฺฉิมฺหิฯ ดูราสปปั ุริสะทงหลายัพระพทธเจุาแหงเรา จุติจากชนฟั้ าต ุสิดาสวรคเทวโลวก ั ก็ลงมาเอาปฏสนธิ ในท ิองนางมหามายาเทว ในป ี กาเรา เดิน ๙ เพง ฤกษ๒๐ ตัว ฯ ในเมิ่ อเจาออกไปบวชในปกาเรา เดิน ๖ เพง เมงวัน ๕ ฤกษฟาได๑๓ ตัว เม ิ่ อเจาไดตรัสประหญาสัพพัญูในปเตาสัน เดิน ๘ เพง เมงวัน ๕ ฤกษได ๑๓ ตัว ยามรุงแจงหั้นแล ฯ พระพุทธเจาก็ธอระมานอยูสั่งสอนฅนแลเทวดาห ื้ อแลวพุทธกิจ ในวัสสา ปฐมหัวทีนั้น ก็ไปเทสนาธัมมจักกปวัตตนสูตรส ั่งสอนปญจวัคคีย ๕ ตน ในปาอ ิสิปตตนมคคทายวิ ัน ในเมงพาราณสิ ีที่นั้น อยนานได ู ๔ วัสสาแลวกเข็ าไป  ในปาเวฬุวัน ในเมิงราชคหะ ฯ ในวัสสาถวน ๖ นั้น ก็เขาไปเมิงเวสาลี ในวัสสาอันถวน ๗ นั้น ก็เขาไปในดอยกุลปพพตะ ฯ วัสสาอันถวน ๘ นั้น ก็เขาไปในชั้นฟาตาวติงสาแล ฯ [หนาลานที่ ๒, น.๗๖๐] วัสสาอันถวน ๙ ก็เขาในปากาสกลปนะ ฯ วัสสาอันถวนสิบ ก็เขาในเมิงโกสัมพีฯ วัสสาอันถวนสิบเอ็ด เขาในปาลิไลยแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๒ เขาในบานอันชื่อนาฬาคิริคามแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๓ เขาไปในเมิงเวรัญชคาม ฯ ๒๒๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา


Click to View FlipBook Version