วัสสาอันถวน ๑๔ ๑๕ นั้น เขาไปสูมหาวิหารอันพอสางไวนั้นแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๖ นั้น เขาในนิโครธสักกอาราม ฯ วัสสา อันถวนสิบ ๗ นั้น เขาในอังคเจดียที่จิ่มใกลคลาหะปพพตะ คือ ตีนดอยจอมทองนั้นแล ฯ วัสสาอันถวน ๑๘ ๑๙ นั้น เขาในปาเวฬุวัน ฯ วัสสาอันถวนซาวนั้น เขาไปในดอยจาลิปพพตะแล ฯ พระเจาไปเขาวัสสาในบุปผาอาราม ๖ วัสสา แลวเขาในปาเชตวันอาราม ๑๙ วัสสาแล ฯ สัพพัญูพระพุทธเจาอยูสั่งสอนสัตตทังหลาย ๔๕วัสสา แลวอายุก็ได ๘ สิบเตมบวรมวรัแลวพระพทธเุจากเข็ าไปส เมู งกิ ุสินาราย ก็นิพพานไปวนนันแล ั้ ฯ ในเมิ่ อพระเจานิพพานไปแลว ภิกขุสังฆะอรหันตา กับทังฅนแลเทวดา ก็พรอมกันสงสะการพระพุทธเจา [หนาลานที่๓, น.๗๖๒] ในปกาไสเดิน ๖ เพง เมงวัน ๔ ฤกษฟาได๒ ตัว วันนั้นแล ฯ ในเมอส ิ่ งสะการบวรมวรแลั วอรหนตาสาวกะแลเทวบัตตุเทวดา ทาวพระญา ทังหลายจักมาเอาธาตุพระเจามีดั่งน ี้ ธาตุทังมวรบแตก บมางมี๗ องค คือ ดูกกระหมอม ๑ ดูกด ้ํ ามีด ๒ อัน เข ี้ยวฝางฅํา ๔ เหลม ๗ อันนี้บแตกบมาง ยังเปนกอนเปนแทงอยูแล ฯ ธาตุฝูงเสสหลอเหลือกวานั้นก็แตกยอยเปน ๓ ถาน ฯ ถาน ๑ ใหยเทา เมดถั่วควาง๑ หักกึ่ง มีวัณณะเหลิงเปนดั่ งฅําน ั้ นแล ฯ ถานกลาง ใหยเทาเมด เขาสารหักกึ่ง มีวัณณะเปนดั่ งแกวหอยมุกน ั้ นแล ฯ ถานนอยน ั้ นเทาเม็ดฟน ผักกาด มีวัณณะขาวเปนดั่งปกนกยางนั้นแลฯ ถานใหยได๖ ทวง ถานกลางได ๕ ทวง ถานนอยได๖ ทวงแล ฯ เกสาธาตุทังมวรก็ดีขนทงมวรกั ็ดีเขยวได ี้ ๓๖ แทง นอกกวาน ั้น เขยวเค ี้ า ๔ เหลม เล็บตีนเล็บมือ ฯ ในเมิ่ อยกหีดพระเจาข ึ้ นสูกองหลัวนั้น เทวดาอินทฟมทังหลายอันอยู จักรวาฬ หมื่นโลกจักรวาฬ อนันตจักรวาฬ แสนโกฏิจักรวาฬ เขาก็มาอุปฏฐาก ๑ ถั่วควาง - ถั่วเขียว ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๒๑
เอาแตเม ิ่ ออยูเหนิอกองไฟนั้นไปไวจักรวาฬแล ฯ อรหันตาเจาทังหลายก็นํา [หนาลานที่๔, น.๗๖๔] ก็นําเอาธาตุพระพุทธเจาไปตั้งไวที่ทังหลายตางๆ ตามดั่ง พระเจาทํานายไวนั้นแล ฯ ดูกกระหมอมก็เอาไปจุไวเมิงหริภุญเชยยนครหั้นแล ฯ ธาตุดูกด ้ํ ามีดกล ้ํ าขวา ไปจุไวฟมโลวก กับผาอันพระเจานุง พระญาฟม เอาเมอจิ ไวุกอเปนเจตยะสิ งไดู๑๒ โยชนะ ปรากฏชอว ื่ าทุสสเจตยะิ วันนนแล ั้ ฯ ดูกด้ํามีดกล้ําซาย ไวในลังกาทวีป กับทังเขี้ยวฝางฅํากล้ําซาย ก็มีวันนั้น แล ฯ ธาตเขุยวฝางฅ ี้ ากลําพายล ้ํ ุม ไวในเมงติ กกสัลานคริ หั้นแล เมงคิณฐรัฐนครั หากเปนแควนอันเดียวกันแล ฯ ธาตุเข ี้ยวฝางกล้ํ าขวาพายบน เมิอไวในชั้นฟาตาวติงสา กับทังเกสา จุฬามณีเจดียสูงได๗ โยชนะนั้นแล ฯ เขี้ยวฝางฅํากล้ําซายพายลุม ไปไวในนาคทวีปแล ฯ นลาฏะดกหนูาผากพระญากากวณตสราชะ ิ เอาไปจไวุในล งกาทวั ปแล ีฯ ธาตุทวง ๑ จุไวสักกละชุมพูทวีปทังมวร เปนเจติยะไวในเมิงราชคหะ หลัง ๑ ไวเวสาลีแลไวในเมิงกัปปลวัตถุไวในเมิงอเวลกัปปะ ไวในบาน ลัมภคามหลัง๑ไวในเมงปาเวยยะ ิ [หนาลานท ี่๕, น.๗๖๖] นคร คือวาเมงสิ งคโลวก ั นั้นแล ฯ ธาตุดูกคอ ไวในเมิงนาคทวีปแล ฯ ธาตุตอมน้ําหมาก ไวในเมิงวิเทหะนครหั้นแล ฯ กับเข็ม ไวในเมิงอินทปตถะนคร ฯ เกิบตีน อันประจิตรดวยแกว ๗ พระการ สายสนุก บาตร แลตีนบาตร ไวในบานพราหมณชื่อภุสิลคาม ฯ หมอนอิง ไวในเมิงกุฏานคร ฯ ผา ๓ ผืน ไวในเมิงอินทมตินคร ฯ บาตรพระเจา ไปไวในเมิงมาตุลนคร ฯ วีไวในเมิงกุรุรัฏฐะ คือโกสัมพีแล ฯ ๒๒๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ถัดนั้น อรหันตาเจาทังหลายก็เอาธาตุในตน แลธาตุนอกตนทังมวร ไปถปนนะตั้งไวเปนเจติยะตามดั่งพระเจาหากทํานายนั้นก็มีแล ฯ พั่นดั่งสัมภุตเถรเจา ก็มาเอาดูกฅอกล ้ํ าหนา กล ้ํ าหลังแหงพระพุทธเจา เมอไฟพรองจ ิ่ บตนพระเจัาอย ูนั้น ไดแลวก เอาไปก ็ อไว ใน ดอยอาฬวีปพพตะ คือ เจติยะบัดนี้แล ฯ ถัดนั้น ยังมีมหาเถรตน ๑ คือเขมรเถร มาถอดเอาธาตุดูกกล ้ํ าซาย เม ิ่อไฟยังจับตนพระเจาอยูนั้น ไดแลวก็เอาไปถปนนะต ั้งไวในดอยมหิยังคะ ประเทียด เขียดเมิงนาคทวีปนั้นก็มีแล ฯ ในเมิ่ อแลวสรีระสงสะการพระเจาแลวด ั่ งอั้น เม ิ่ อน ั้ นยังมีมหาเถรตน ๑ คือวาอุตตรเถียร แลรัตนเถียร มหาอานันทเถียร [หนาลานที่๖, น.๗๖๗] เขาเจา ก็มาจารจากับดวยกัน แลพระญาอโสก แลพระญาอินทวาดูรามหาราช เมิ่อ พระพุทธเจาจระเดินไปโผดสัตตทังหลายบานนอยเมิงใหย ก็เทสนาธัมมสั่งสอน ไปชูแหง วากูนิพพานไปแลวดั่งอั้น สูทังหลายจุงเอาธาตุชื่อนั้นชื่อนี้มาไวที่นั้น ที่นี้เทิอะวาอั้น เราทังหลายก็ควรเอาธาตุไปไวตามด ั่ งพระพุทธเจาหากเทสนา ไวนั้นก็ควรแล ฯ วาอั้นแลวมหาเถรทังสอง กับทังพระญาอโสก แลพระญาอินท ก็เอาธาตุพระพุทธเจา เตมตัมพนาีคือวา ๓ กวก๑ หมากพาว ก็เอาธาตุมาจุ ไวในดอยทุลกุตะ คือดอยจอมไกลแล ฯ เอาเกสากับทังธาตุ (ไวดอย) ปูหลาน ฯ แลวเอาดูกหนาผาก กับทังฝามือ แลเกสา ไวในดอยจิขุมเทา คือ ดอยเมิงพะยาก ฯ แลวเอาดูกมือซาย กับเกสา ไวในดอยทอง เมิงพะยาก ฯ แลวเอาแขนขวา กับเกสา ไวดอยจอมกิติคือดอยทอง เชียงแสนแล ฯ เอาธาตุนิ้วมือซาย ไวดอยจอมทอง เชียงรายแล ฯ ธาตุดูกแขนซาย ไวในถ้ําเมิงแกบ ฯ เอาธาตุดูกสอกกล้ําขวาแลเกสา ไปไวทาสบลาน คือทาสอย ฯ แลวเอาธาตุกลางสอกกับเกสา มาไวทาซายแล ฯ ๑ กวก - กะลา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๒๓
เอาดูกหนาผากกล ้ํ าซาย กับเกสา ไว [หนาลานที่๗, น.๗๖๙] ดอยเกิ้ง สบหาดบานซาง ฯ เอาดูกกระหมอมหัว ไวเมิงหริภุญเชยยนครแล ฯ เอาดูกคางกล้ําขวา กับเกสา ไวกูฅําในเวียงกาบซะบงปาซางนั้นแล ฯ เอาดูกคางกล ้ํ าซาย กับเกสา ไปไวโชติอาราม กลางเชียงใหม มหาเจติยะหลวงนั้นแล ฯ เกสาเสน ๑ ไปไวอโสกอาราม คือวัดพระสิงหหลวงนั้นแล ฯ เกสาเสน ๑ ไปไวในพิชชอาราม คือวัดสรีหลวงนั้นแล ฯ เกสาเสน ๑ ไปไวในดอยนางนอน เมิงติง ฯ เกสาเสน ๑ ไปไวในดอยภะเบิย ฯ พระการ ๑ ในเมิ่ อมหาเถรเจาทัง ๔ แลพระญาอโสก แลพระญาอินท ก็นําเอาธาตุเขามารอดดอยเกิ้งฅําที่นั้นแลว ก็เอากันไปจอดเซาที่จิ่มใกล (ขุน) แสนทองกล้ําใตแทบเคาไมซางตน ๑ ใกลฝงน้ําแมระมิงที่นั้น ไดพอสบายแลว ก็จิ่งจากับดวยขุนแสนทองแลววาด ั่ งน ี้ ธาตุอันเราเอามา ก็จักถปนนาต ั้งไวใน ดอยเก ิ้ งฅําที่นี้ คือวานลาฏะธาตุดูกหนาผากกล ้ํ าซาย เปนอันประเสิฏดีหลีแล เราทังหลายควรแปงกางฅํา๑ อันใหยหื้อสมควรแกธาตุเจากอนเทิอะวาอั้น ฯ ในกาละนั้น พระญาอโสกกบอกก็าวแก ขุนแสนทอง กับ [หนาลานท ี่๘, น.๗๗๑] ทังโยคีจุงอยูรักสายงทั ี่นี้ชูอันหนแล ั้ ฯ ขาทงสองกั ็ยินดีปติปสาทะสทธามากนักแลั ก็เอาฅํามาห ื้ อแกพระญา แลวก็มาสักการะปูชาธาตุพระพุทธเจาดวยอามิสปูชา เขาตอกดอกไม งึนฅามากนํกแลัฯลัวะทงหลายกั มาไหว ็แลอน โมทนาุแลวพระญา อโสกกแต็ งแปงโกฐฅ าใหย ํ สิบกําแลวแตงเฅ งปิ่ ชาทูงหลายั มีตนวาสัตตแลพดควั ัด ไมไลจามร ชอทุง ไมเทา บาตร เกิบตีน น้ําตน อาสนา หมอน ธัมมกรกตรองน้ํา แลวดวยฅําทังมวร พั่นด ั่ งธาตุเจาองคนั้นใหยกวาธาตุทังหลายฝูงอื่น ใหยเทา หนวยหมากบ า มีวัณณะอนเัขยวงามี เปนดงดอกเองช ั่ นนันแล ั้ เอาใสเหนอขินแกั ว แลวใสในโกฐฅําน้ํา เมิอดวยขุนแมน้ําแสนทองนั้นแล ฯ ๑ กางฅํา - หีบทองคํา ๒๒๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
สวนอนทาธิราชกิ ็ถือสตตั กั้งธาตเจุาแล พระญาอโสกกเอาก็างฅาอํ นใส ัธาตุ เจาตงเหน ั้ อหิ ัวแลวขนส ึ้ ดอยไปถ ู งปากถ ึ ้ําแลวก เขาไปถ ็งหึดฅีาอํ นใส ั ธัมมหนงสั ือ ๗ อัน อันพระญาอนทิ ใสยนต ผัดไวนั้น แลวก ็ขึ้นไปสแทู นฅาอํนตังห ั้ ดฅี าไํวนั้นแล ก็ยกโกฐฅาอํ นใส ันลาฏะธาตุแลเกสาอนใส ัอูบฅํา [หนาลานท ี่๙, น.๗๗๓] ใหย๘ กํามือ แลวกเอาต็ งไวั้ เหนอแทินฅ ํา ๗ ชั้นนั้น แลวก ออกไปท ็ ี่จิ่มใกลหนงสัอแลืพระญาอนทิ ก็ใสยนตชักผัดไวหั้นแล พระญาอโสกก็แปงประตูชั้นนอก กวางสอกปายคืบ ลวงสงสองสอกูแลวแปงร ปยนตูทิพพใส หื้ออยเฝู าร กสาประต ั ูชั้นนอก แลวชนกลาง ั้ อันสูเจติยะฅํานั้น แตงแปงรูปมหาฟมตน ๑ ถือดาบสรีกัญไชยอยูเฝารักสาประตู ซายขวาแลวก็มาส ั่งโยคีแลขุนแสนทองวา ดูราโยคีแลขุนแสนทองธาตุพระเจา แหงเราน ี้ เราทังหลายมีอรหันตาเปนประธาน หากนํามาไวถานะที่นี้แลวเรา ทังหลายก็รูก็หันเสยงช ี้ ฅนแล ู ตราบใดเขอทิ งสองไป ัตายเท ิ่อ ยังมีชีวิตเปนไปดงอ ั่ ั้น เขอทิงสองอยั าได ละเส ีย จุงเอากนรักสาดัเทีอะิแมนตายไปเปนเทวดาอย ูรักสาเทอะิ วาอั้น เมิ่อนั้นโยคีแลขุนแสนทองก็กาววา ขาแดเจากูอยาไดเคริงใจเทิอะวาอั้น ขาทังสองหากจักอยูรักสาดีบหื้อธาตุพระเจาหมนหมองเสีย หากจักปกสาปูชา หื้อรุงเริงชาแล แมนขาทังสองตายก็จักเปนเทวดาอารักขอยูเฝาประตูถ้ําที่นี้ [หนาลานที่๑๐, น.๗๗๕] บหื้อเปนอันตรายแกธาตุเจาแลวาอั้น ฯ เมิ่อนั้น พระญาอินทจิ่งคระนิงใจวาสันนี้เมิ่อพระเจายังธรมานนั้น กูก็ได กั้งกางสัตตดวงนี้หื้อพระพุทธเจาเมิอสูดอยอันน ี้ บัดน ี้ พระเจาก็นิพพานไปแลว เอาธาตมาปุชาดอยอูนนัเล ี้ าสนนั ี้กูบควรเอาสตตั อันนี้ฅืนเมอแลิ วาอนแล ั้ วก ็นอม เอาสตตั อันนปกกางไ ี้ วเหนอจอมดอยทิ ี่นั้นกงธาต ั้ เจุาหนแล ั้ ฯอรหนตาัอานนทเถรั แลพระญาอินทแลพระญาอโสก ก็พรอมกันเลิกยกยออัญชุลีตั้งกระหมอมนอม นมัสการปูชาคารวะธาตุพระพุทธเจาตามอันพึงใจ แลวก็เอาธาตุเจาฝูงเสสหลอ เหลอกวืาน นไปถป ั้ นนาต งไั้ วตามอนพระเจัาหากท านายไว ํ นั้นแล ตางตนก็ตางเมิอ สูที่อยูแหงตนก็มีวันนั้นแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตพายน ั้นไปหนา เม ิ่อใดธาตุพระพุทธเจากะทํา อิทธิริทธีผายปาฏิหารยดั่งอั้น พระญาอินทาธิราช ก็เอาทาวจตุโลกทัง ๔ กับทัง เทพคณาทังหลายลงมาถือสัตตกั้งกางปูชาธาตุพระพุทธเจาชูปก็มีแล ฯ สวนวา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๒๕
ขุนแสนทองก็อยูรักสาธาตุพระพุทธเจาเส ี้ ยงชีวิตแหงตน [หนาลานที่๑๑, น.๗๗๗] ก็มีแล ฯ ยังมีในวัน ๑ ขุนแสนทองก็ร่ําพึงวาดั่งนี้อันวารอยตีนพระพุทธเจาก็ยังมี รอยผาเริอฅําที่นี้แล เม ิ่ อราทังสองเส ี้ ยงอายุไปแลว จักหาผูรักสาก็บมีแล ก็จักเปนสาธารณะแกสัตตทังหลายเสยชาแลีฯราทงสองควรไปถมเส ัยหีอด ื้ เทีอะิ วาอั้นแลวขาทังสองก็เอาหินกอน ๑ มาถมไวลึกสิบเอ็ดสอกหั้นแล ฯ ในกาละเมิ่อโยคีจุติตายไปนั้น สองขาก็เอาผากอน ๑ ใหยเทาชองนอน มาตดปากถ ึาอ ้ํ นนั นไว ั้ แลวโยค ีผูนั้นก็ชําระเนอตนเส ื้ ีย แลวกนอนหว็ายเม อพายใน ิ เอาตนออกมาพายนอกถ้ําแลวกเส็ยงชี ีวิตตายไปวนนันแล ั้ โยคีผูนั้นกเปนเทวดา ็ ตน ๑ ก็อยูรักสาธาตุพระพุทธเจาหั้นแล แมนขุนแสนทองผูนั้น มันตายก็มีจิตใจ อันตดขิองดวยวตถัเขุาของแหงมนมากนั ัก คันมนตายกั เปนอาร ็กขัอย เฝู าเขาของ แหงม ัน อยดอยกล ู าว ้ํ นออกชั วยใต ผาเรอฅิาทํ ี่นั้นหนแล ั้ เหยดดีงอ ั่ ั้น ปุคละยงชายิ คระหัฏฐนักบวชตนใดรูดอยเก ิ้ งน ั้ นแล ควรข ึ้ นเมิอไหวธาตุพระพุทธเจาด ั่ งอั้น จุงชําระเนื้อตนเสีย แลวอาบน้ําดําหัวนุงผาใหมบัวริสุทธิ์แลวเยียะขึ้นเมิอเทิอะ ยามเมอข ิ่ นเม ึ้ อนิ ั้น ไผอยา [หนาลานท ี่๑๒, น.๗๗๙] เอาชนอ ิ้ วปาเหม ั่ ็น ชิ้นซากปาเนา มาปูชา เทวดาบชอบใจพึงใจ อารักขที่นั้นแลห ื้ อมีเขาสาลีอันขาว แลน ้ํ าออย น้ําผึ้ง ปูชาจิ่งชอบแมนใจเทวดา จิ่งบมาหิงสาเยดรายแล บอั้นก็จักบดีชาแล ฯ แมนชาวเจา ก็หื้อชําระสีลหื้อบัวริสุทธิ์แลวเทสนาอาโรจนะเสียกอนเยียะ ขึ้นเทิอะ แมนคระหัฏฐก็หื้อสมาทานเอาสีล แลวร ่ํ าพึงมีพุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ ในตนผารางที ี่นั้น แลวแตงเฅ งปิ่ ชาสองสูวนแลวสวน๑ ปูชาประบาทเจา สวน ๑ ปูชาเทวดาที่ผาเริอนั้นแล เอาเขาตมเขาหนม เขามธุปายาสลูกใหยเทา หมากพนนิ นปั้ ชาธาตูเจุาแลวปชาเทวดาูโยคีที่ผาเรอหลวงนินแล ั้ (คันบ) บอกมัน หื้อรูดั่งอั้น มันจักะทําอันเปนอันตราย หื้อเปนฝนเปนลม แลโยคีเทวดาตนนั้น มันก็รักสาประตูถ้ําที่นั้นแล พั่นด ั่ งผูยิงทังหลาย คันจักข ึ้นไหวธาตุเจาในดอย อยาลวงผาเริอนั้น อยาเมิอเหนิอเทิอะ จักข ึ้นไหวธาตุเจาน ั้ นก็เทาแตนักบวช ตนมีสีล แลผชายผ ู ูมีสีลบวรั ิสุทธแท ิ์ จิ่งควรขนแล ึ้ ฯ เหยดธาตีเจุาอนมั ในดอยท ี ี่นั้น เปนอันวิเสสนักแล ฯ [หนาลานที่๑๓, น.๗๘๑] หิดวยมีแทแล ในเมิ่ อพระพุทธเจา ๒๒๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
นิพพานไปแลวอรหนตาเจัาทงหลายั ก็เากนแจกไว ัตามดงพระเจ ั่ าเทสนาทานายํ ไวนั้น ก็มีดั่งนี้แล ฯ ตั้งแรกแตกาละน นไปหน ั้ าเมอพระเจ ิ่ าน พพานไปได ิ ๔ เดนนิ ั้น อรหนตาเจั า ทังหลาย ๔ รอยตน มีมหาอานนทะั กัสสปะเถรเจาเปนประธาน ก็เอากนสังคายนาั ธัมมเปนปฐมะหัวทีกอนแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตนั้นไปพายหนา พระเจานพพานิ ไปได๓ รอยวสสานั ั้น อรหันตาเจาทังหลาย ๗ รอยตน ก็สังคายนาธัมมเปนถวนสองกอนแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตพระพุทธเจานิพพานไปได๒ รอย ปาย ๘ วัสสา อรหันตาเจาทังหลายพันตน มีมหาโมคคัลลีปุตติสเถรเปนตน ก็พรอมกัน สังคายนาธัมม๘ หมื่น ๔ พันขันธเปนถวน ๓ แล ฯ ยังมีพระญาตน ๑ ชื่ออโสก ธัมมิกราช ปราบพื้นชุมพูแลว ก็บังเกิดสัทธา ทังภิกขุสังฆะทังหลายก็พรอมกัน ไปขงขวายเอาธาตุในเมิงราชคหะ ทังมหากัสสปะเถร แลพระญาอชาตสัตรู หากถปนนาต งไั้ วในเม งทิ ี่นั้น แลวกเอาคระอ็บฅูํา[หนาลานท ี่๑๔, น.๗๘๓] ได๘ หมื่น ๗ พันลูก ใสบาตรแลวไปตั้งไวในเมิงทังหลายอันมีในชุมพูทวีปทังมวร อันได ๘ หมื่น ๔ พันเมิง แลวก็เอามากอไวเปนเจติยะไวในเมิงทังมวรเลา ก็เอาธาตุ มาต ั้งไวในเมิงอาฬวีที่๑ไวในเมิงโยนกทังมวร ตามด ั่ งพระเจาหากทานายไว ํ หื้อ ฅนทังหลายกะทําตามอาชญาตน หื้อขุดขุมลง ๗ วา พอไวธาตุเจาเทิอะวาอั้น เขากเอาธาต็ ไปไวุในอ บฅูํา แลวใส อูบทอง แลวใส อูบชืน แลวเอาบ ไวุกอดนละอิ ิด ขึ้นเปนเจติยะไวในดอยพูนอยแหง ๑ ไวในดอยพัง ๑ ไวดอยผาตูบแหง ๑ ไวดอยขางเมงแหิ ง ๑ ไวถ้ําพระเจาเมงแหิ ง ๑ ไวในดอยยางเค าแห ง ๑ ไวตีนเปด แชนายแหง ๑ ไวในดอยถ้ํากูดแหง ๑ ไวดอยลวงน้ําแหง ๑ ไวเมิงเทิงแหง ๑ ไวดอยเตาน ้ํ าแหง ๑ ไวดอยผาสะแคงแหง ๑ ไวดอยฅําแชแหง ๑ ไวดอยทุมิ เมิงเพียงแหง ๑ ไวดอยเหลก เชียงรายแหง ๑ ไวดอยพูกวาง เชียงแสนแหง ๑ ไวดอยแมยางเง ี้ ยวแหง ๑ ไวดอยแช [หนาลานที่ ๑๕, น.๗๘๔] แลงเขาน ้ํ าแหง ๑ ไวดอยแมเมิงจันแหง ๑ ไวดอยผง เมิงชันหลัง ๑ ไวดอยเทิม เมิงบงแหง ๑ ที่อันพระอโสกธัมมราชาเสี้ยง ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๒๗
เมออโสกธ ิ่ มมราชาสัางเจตยะิ๘ หมื่น ๔ พันหลังสางวหารแลเมิงหิอท ื้ าน ทังหลายกะทําบุญตางๆ ตราบเมี้ยนอายุ๘ สิบปก็จุติตายไปแลว ยังมีนองชาย พระญาอโสกตน ๑ ชื่อวาตรีจักขุวาอั้น ก็เสวยเมิงแทนเลา มีเตชะริทธีปราบ ชุมพูแล เหียดมีเตชะริทธีกับดวยแมแหงตน คือวาแมมันเปนยักขหั้นแล แตนั้นไปพายหนาสืบสางวงสาตามกระกูลไปไจๆ ตามโลกปญญาก็มีแล ฯ ตโต ปฐาย แรกแตนั้นไปพายหนา ภิกขุสังฆะเจาทังหลายก็สืบกันรักสา ไปไจๆ แมนทาวพระญามหากษตรั ิยทังหลายก็สืบกนรั กสาไปไจ ั ๆ ในเมอพระเจ ิ่ า นิพพานไปไดรอยวัสสาปายนั้น ยังมีพระญาตน ๑ ชื่อวาอภัยทุฏฐาคามณี เสวยสัมปตติในเมิงลังกาทวีปนั้ นแล ยามน ั้ นพระญาตนน ั้ นก็มาตัดสักราชใหม แตนั้นมาเสี้ยงกาละนานนักหั้นแล ฯ ตโต [หนาลานที่๑๖, น.๗๘๖] ในเมิ่อพระเจานิพพานไปได๒ พันวัสสาเตมนั้น ยังมีพระญาธัมมิกะตน ๑ เกิดมาในเมิงหังสาวดีมีเตชะริทธีปราบทวีปทังมวร ปรากฏชอว ื่ าอนุรุทธธมมักราชา ิ มีปสาทะสทธาเหลั มใสใฅ ิ้ เลกยกยอพิทธสาสนาุ หื้อกานกุงมากนัก พระญาตนน ั้ นก็ตัดสักราชเกาเสีย แลวต ั้ งสักราชใหมตัว ๑ แตปพระญาใส....นั้นแล ฯ ในกาละนั้นยังมีลัวะบุตตตน ๑ ชื่อวารัฏฐเทวบุตตมีปริวารวาไดพัน ๑ ก็จุติจากชนฟั้ าตาวต งสาลงมาเอาโอปาต ิกะเกิ ดแทบป ิ าไม คระท ัน จิ่มใกลสายน ้ํา นทีที่นั้น ก็บังเกิดมาดวยปริวารพัน ๑ บัดเดียวนั้น ก็ปรากฏลือชาชื่อวาพระญา อชจุราชา อยูเสวยเมิงชัยราชนคร คือเมิงเชียงราย ในปอนุรุทธธัมมิกราชา เสวยเมิงหังสาวติตัดสักราชน ั้ นแลว พระญาลวะจักกราชะเสวยเมิงเชียงรายนั้น ในเมอสาสนาล ิ่ วงแล วได ๒ พันวสสาเตมนันชาแล ั้ พระญาลวะจงกะกั ็มีเตชะรทธิ ี ปราบเมงไทยท ิงมวรแลั คันเมยนอาย ี้ ุรอยปก็จุติตายไป ก็สืบหลานเหลนไปไจๆ ฯ แตนั้นไปหนา พระญาตนเปนเจาเมิง [หนาลานที่ ๑๗, น.๗๘๘] เชียงรายนั้น ก็มาเอาลกยูงสาวแหิงพระญาอาฬว ีตนชอว ื่ าทาวรงแก ุ นนั้นไปเปนนางเจาหนแล ั้ พระญาตนนั้นก็ไดราชบุตตตน ๑ ใสชื่อมังรายราชกุมาร วาอั้นก็มีแล ฯ ในเมิ่ อมังรายกุมารข ึ้นใหยมาแลวก็สวยราชสัมปตติแทนพอแลวด ั่ งอั้น พระญามังรายตนน ั้ นก็บังเกิดโลภะตัณหาใฅฅุบชิงเอาสัมปตติบานแหงทาน ๒๒๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ชูปชูเดินแล ก็ลงไปครุบชิงเอาราชสัมปตติในเมิงหริภุญเชยยนคร ไดแลว ก็อยูสวยเมิงหริภุญเชยยนครหั้นแล ฯ พายลนนูั้น พระญามงรายกัเอาก็นออกมาตังเว ั้ ยงใหม ีอย ูที่๑แทบตีนดอย อุจฉุปพพตะ คือตีนดอยสุภาสุเทพที่นั้น ปรากฏไดชื่อวาอภินวนคร คือวา เมิงเชียงใหม เปนอันกานกุงรุงเริงดวยพุทธสาสนา ทาวพระญาเสนาอามาตย รัฏฐะปชานราสฎรลําดบปัเด ิน พระญามงรายมัอายีุ๘๐ เตม ก็จุติตาย ยังมีลูกผู๑ ชื่อวาคราม กินเมิงแทนพอ ฯ บนานเทาใดก็ตาย ลูกชายผูนั้นกินแทนพอ ฯ บนานเทาใดก ตาย็ลูกครามผูนั้นกนแทนพิ อ ก็ตายสบไปได ื สิบเชน แลวพระญา กือนาธัมมิกราชาเกิด [หนาลานที่๑๘, น.๗๙๐] มากินเมิงดวยชอบธัมมได๘ สิบป แลวก็ตายไปเลา ลูกก็สืบแทน ฯ ลําดับมาถึงพระญาลานนากินเมิงแลว หอพาย เหนิอเอาริพลลงมารบถึงเวียงเชียงใหมแล ฟาผาหอก็อยูบได ก็คานหนีฅืนแล แตนั้นหอนั้นบลงมารบสักเทิ่อ ตราบถึงจุติตายแลวลูกกินเมิงแทน สืบไปถึงเชน พระญาตนบมีลูก หาผูจักสืบแทนก็บได ก็พรอมกันไปขอเอาเจาราชบุตตใน เมิงลานชางตน ๑ ชื่อวาอุปโย สวยเมิงแลวขัตติยวงสา บนานเทาใดก็เกิดเปน โกลาหลอันตรายตางๆ ลําดับมาถึงกาละบัดนี้แล ฯ หิดวยมแทีแล ทํานายประบาทธาตุฝูงน ี้ปุคละเจาตนใดแลได นําเอามาหื้อ ปรากฏแจงแกฅนแลเทวดาทังหลายสันน ี้ ชาแล ตํานานธาตุทังมวรก็ดีเทวดา อินทฟมทังหลายอันอยูรักสาธาตุทังมวรก็ดีก็มากฎหมายเอาท ี่ เขตท ี่ แดนแหง ประบาทธาตแหุงพระพทธเจุาไปต องไว ในแผ นดนทิงมวรั อัน ๑ในเมงลิงกาทวั ีป แปนหินอันนั้น อัน ๑ ในเมิงลังกาทวีป แปนหินอันน ั้ นยาวสิบสองสอก กวาง ๔ สอก ไปตั้งที่พระเจาเมิ่อยังธรมานแล [หนาลานที่๑๙, น.๗๙๒] เขาไปในเมิงลังกา ปถมะหัวทีนั้นแล ฯ ในเมิ่อพระเจานิพพานไปแลวในปเตาสัน เดิน ๖ เพงหั้นแล ฯ ลูนนนมาป ั้ ๑ ฅนทงหลายกัเอาก็นตังอย ั้ ในเม ู งลิงกาทั ี่นั้น สางบานสางเม ิง ฅนก็มีมากหลายแล ลําดับมาถึงพระญาเทวนัมปยติสสะราชาไดเสวยลังกาทวีป ที่นั้น ก็มาเปนกัลยาณมิตรเปนสหายกับดวยพระญาอโสกราชา แลวก็ขอเอา สาสนาไปตั้งไวดั่งอั้น พระญาก็ขอเอายังมหิตเถรตนเปนลูกพระญา อันใหยกวา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๒๙
อรหนตาเจัาทงหลายั ก็นําเอายงสาสนาแลไม ัสร มหาโพธ ี ไปต ิ งไวั้ ในเม งลิงกาทวั ปแล ี ฅนทังหลายก็มาสางวิหารหลัง ๑ กวมแปนหินตํานานประบาทแลธาตุที่นั้น วัดอันนั้นจิ่งไดชื่อวามหาเสละอาราม วัดพระหินวาอั้นก็มีแล ฯ ในเมิ่ อพระพุทธเจานิพพานไปได๒ พัน ปาย ๔ สิบวัสสานั้น ยังมี พระญาธัมมิกราชาเสวยเมิงหังสาวติราชธานีปรากฏชื่อวาอนุรุทธธัมมิกะวาอั้น ทานก็มีใจใสสทธามั กใฅ ั รูสาสนาพระพทธเจุาไปต งไว ั้ ในร อยเอดเม็ งในช ิมพุทวูีป ที่ใด ก็รุงเริงมักใฅรูแจง จิ่งแตง [หนาลานที่ ๒๐, น.๗๙๔] ใชยังมหาเถรเจาทังหลาย รอยเอดตน็ ยอมทรงปฏกะทงมวรชัตนช ู องค ู แล ก็หื้อจระเดนไปบ ิานนอยเม งใหย ิ หื้อไปเมิงราชคหะ ที่มหาเถรนิพพานนั้น ตน ๑ หื้อไปสูเมิงวิเทหะ ที่จุลกัสสปะ นิพพานนั้นแล ก็ใชไปยังเมิงแลตนแลตน รอยเอ็ดภาสานั้นแล ก็ใชยังมหาสวามี ตน ๑ ชื่อวาธัมมรสสะัเจาตนนนม ั้ ีวัสสาได๒๐ วัสสาแลว พระญาก็สั่งดวยคาวํ า เจากูจักไปไหวประบาทแลธาตุเจา ในเมิงลังกาทวีปแล หื้อไปรูไปหันที่วิเสส ในเมงลิงกาชัพระการ ู แลวเยยะมาแดีเทอะวิาอ ั้น ก็หื้อฅนทงหลายแตั งแปงสะเภา เหลม ๑ หื้อหม ั้ นคุงแลวก็สงหื้อมหาสวามีธัมมรัสสะเจาตนน ั้นไปดวยสะเพลา นานได๖ เดิน จิ่งไปถึงเมิงลังกาที่นั้นหั้นแล ฯ มหาสามเจีาตนนนก ั้ ไปรอดแล ็ ว ก็ไปจอดเซาวดหลวงทัมหาส ี่ งฆราชานายั กะเจาในว ดพระหันทิ ี่นั้นหนแล ั้ เมอน ิ่ นมหาส ั้ งฆราชครั ูจิ่งถามวาอาวโสุธมมรสฺ ฺส ดูราเจาแสวงแอวมาแต บานเมงทิ ี่นี้ทานมาประโยชนะสนใดชา ัเมอน ิ่ นมหาสวาม ั้ ี ไหวแลขานวา ภนฺเต ขาแดมหาสังฆะ [หนาลานที่ ๒๑, น.๗๙๖] ในกาละบัดนี้ ยังมี ธัมมกราชาตนิ๑ ชื่ออนุรุทธะไดเสวยราชส มปัตต เปนเอกราชาใหม ิ มีใจใสสทธาั ก็เลกยยอป ิกสาพ ทธสาสนาในเมุงหิงสาวตั ิก็กานกงรุ งเร ุ ิงแลมกใฅ ั รูพุทธสาสนา อันต ั้งไวในสักกละชุมพูทวีปที่ใดโชติกะรุงเริง ที่ใด (บ) รุงเริงใฅรูแจง จิ่งหื้อ มหาเถรเจาทังหลายรอยเอ็ดตน หื้อไปแลเมิงแลตน คือรอยเอ็ดภาสาอันเปน นครชูแหง แลวก็แตงใชผูขาเขามาสูลังกาทวีปที่นี้นานได๖ เดิน จิ่งมารอด เพิ่อจักมาไหวยังพุทธสาสนาแลประบาทธาตุเจาในลังกาทวีปที่นี้แลวาอั้น ฯ เมิ่อนั้นมหาสังฆราชาตนนั้นจิ่งกาววา สาธุ ดีแล ดูราธัมมรโสเจา เอาตัว เขามาในท ี่นี้เพอจ ิ่ กมาเอาสรัรธาตีุแลไมสร ีทักขณะสาขามหาโพธ ิเจิ า ก็เปนอนดั ี ๒๓๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
แกทานแล หิดวยมีแทแล ประบาทแลธาตุแลไมสรีมหาโพธิอันประเสิฏก็มี มากนักแล หิดวยมีแทแล ในเมิ่ อพระพุทธเจาแหงเรายังธรมานต ั้ งอยูไปเขาสู นิพพานเท ิ่ อนั้น พระพุทธเจา [หนาลานที่๒๒, น.๗๙๘] ก็เอาอรหันตาสาวกะเจา ทังหลายไปโผดสัตตทังหลาย ก็ไปไวประบาท เกสาธาตุแลวก็ทํานายไววา หื้อเอาธาตไปถปุนนาต งไว ั้ ในบ านนอยเม งใหย ิ ทังหลายชูที่ชูแหงแลวดาย ในเมิ่อ พระพุทธเจานิพพานไปแลวด ั่ งอั้น อรหันตาสาวกะเจาทังหลายแลพระญาอินท พระญาอโสก ก็พรอมกันนําเอาธาตุพระพุทธเจาไปตั้งไวที่พระเจาทํานายไวชูที่ ชูแหงหนแล ั้ เทวดากอย็ ูรักสาเฝาแหนย งประบาทแลธาต ัเจุาน ั้น ก็นําเอาชอบ ื่ าน ชื่อเมิง ชื่อประเทส ชื่อถ้ํา พูดอย อันไวประบาทแลธาต เจุาท งหลายในช ัมพุทวูปนี ั้น มาเขียนไวในแปนหิน ไวแทบฝามหาวิหารที่นั้นดวยคําวาดั่งนี้ประบาทแลธาตุ ชื่อน ี้ ไวในเมิงช ื่ อนี้ชื่อนั้น ถ้ํานี้ถ้ํานั้น ก็มีแล เปนสารตราไวในวิหารที่นี้แล คันทานใฅรูใฅหันก็จุงอานดูเทิอะวาอั้น แลวมหาสวามีธัมมรัสสะเจาก็ไปอานดู ชูที่ชูแหงหั้นแล อันวาธาตุพระพุทธเจาอันถปนนาต ั้งไวในระโวงโขงเขตประเทสเมิง หังสาวดีมี๔๒ แหงแล ทํานายธาตุอันสงไว ั่ ในระโวงโขงเขตหร ิภุญเชยยนคร๒๓ แหง [หนาลานท ี่๒๓, น.๘๐๐] ประบาทมีสิบสองแหงแล ฯ ธาตุในเมิงลื้อ เมิงไททังมวร กับทังประบาทเจามี๗๐ แหง ก็รูแจง ทังรอยเอ็ดเมิง ฯ แลวมหาสวามเจีากคระน็ งใจว ิ า ทํานายประบาทแลธาตเจุาอนมั ในร ีอยเอดเม็ ิง ทังมวร แมนวากเขูยนเอาทีงมวรกั ็บจักไดไปไหว ชูแหงแลเหยดวี าไกลมากน กแลั กูเทาจักแตมเขียนเอาแตคากูจักไดไปรอดนั้ นเทิอะ วาอ ั้ นแลวก็แตมเอาทํานาย อันตั้งอยูในเมิงลื้อแลเมิงไทยทังมวรหั้นแล ฯ มหาสวามีธัมมรโสตนนั้นก็เขาวัสสาในเมิงลังกาทวีปที่นั้นไดป๑ แลวจิ่ง พอกฅนมาดื วยสะเพลานานได ๖ เดนวิาอ ั้น แลวกมารอดเม็งหิงสาวตั ิดั่งเกาก ็มีแล คันมารอดแลวกบอกก็าวกรยาอาการอี นตนได ั ไปห นนันแก ั้ อนุรุทธธมมักราชา ิ ตามอาการอันตนไดไปไหวแลปูชานั้นชูพระการแล ฯ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓๑
สวนวามหาสวามี[หนาลานที่ ๒๔, น.๘๐๒] เจาก็จระเดินไปแอวไหวประบาท แลธาตเจุาในเม งหิงสาวตั ิชูที่ชูแหงแลวกแอ็ วไหว ประบาทธาต ในเมุงลิอเม ื้ งไทย ิ ทังมวรแลวไปไหว ประบาทธาต เจุาในเม งยวนิแลเมงหริ ิภุญเชยยนครรอดชแหู ง ตามอันออกในตํานานนั้น แลวก็ลงไปตราบตอเทาถึงดอยเก ิ้ งฅํา เม ิ่ อรอด ทาหัวเคียนพุนแลว ฯ ในกาละนนย ั้ งมั ีภิกขตนุ๑ ชื่อมหาโพธสมพารวิาอ ั้น ทานกเปนล ็กชาวบูาน นาคคลโคตร บานชางแปงเริอ อยูวัดใกลตีนดอยเกิ้งฅําที่นั้น ก็คระนิงใจวาดั่งนี้ อันวาตํานานอันวิเสียดสันนี้ก็หายากนักแล กูจักขอเอาเฝยดไวเทิอะวาอั้น ก็ไปสูมหาสวามีตนนั้น ขอแตมเขียนเอาไวในปกาเม็ด เดิน ๗ ดับ เมง วัน ๓ ไทยรวายยีจุฬสักราชได๘๘ (๘๘๕) ตัว วันนั้นแล ฯ แตนั้นไปหนา ปุคละเจาตนใดม เจตนาหากใฅ ีแตมเขยนเอาดีงอ ั่ ั้น หื้อเขยนี เอาทังมวรห ื้ อเส ี้ ยงถอยคําแทอยาไดหยูดผอนเสียสักตัว คันวาอุตสาหะเพียร บไดเส ี้ ยงบซ้ําด ั่ งอั้น ก็อยาหนาเขียนเทิอะ เหียดวาจักละเสีย บควรแล ฯ โย ปุคฺคโล อันวาปุคละผูใดจักเอาหื้อฟงคําเราเทิอะ จิ่งดีแล ฯ [หนาลานที่ ๒๕, น.๘๐๔] โย ปุคฺคโล ปุคละผใดประกอบด ู วยใจใสส ทธาหยังเช ั่ อในก ิ่ สลบุ ญบุวรั ิสุทธ ิ์ ดั่งอั้น ไดแตมไดเขียนเอาดวยตนก็ดีจางทานผูอื่นก็ดีไดระนึกคึดถึงก็ดี ปูชิตฺวา ไดสักการะปูชาก็ดีมีตนวาเขาตอกดอกไมเขาเปอกเขาสาร วัตถุงึนฅํา วัตถาอาภารณะ ประทีป ธูปเทียน กั้งสัตตชอทุง น้ําอุน น้ําเยน ไมสีฟนก็ดี ไดเทสนาก็ดีไดบอกแกทานผูอื่นก็ดีคุรุวา คารวะครบยําดวยตนดวยปาก ดวยใจก็ดีสุตฺวา ไดฟงแลวดวยจิตปสาทะสัทธายินดีซึ่งธาตุเจาด ั่ งอั้น แตเมิ่อ ยังธอระมานต ั้ งอยูไปเขาสูนิพพานเทิ่อ ในเมิ่ อพระพุทธเจามาเมตตาสัตตโลก ทังหลาย พระเจาก ลวดถป ็นนาต งไว ั้ ยังธาตุอันวเสสิ หื้อเปนที่สักการะปชาแกูฅน แลเทวดาทงหลายกั ็มีแลฯโส ปุคฺคโลอันวาปคละทุงหลายฝ ังนูั้น ใฅถึงมคคผละั แลอานิสังสะอันมากนัก บอาจจักนับไดแล ปุคละเจาตนใดก็จักไดชื่อวาอวินิปาต ก็จักเปนอันชุมเยน แมนเกิดมาพายหนา ก็บจักไดไปเกิดในอบายทัง ๔ สักฅาบ ตราบตอเทานิพพานชาแล ฯ ๒๓๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ปุคละผูนั้นก็เสมอด ั่งไดรูไดหัน [หนาลานที่๒๖, น.๘๐๖] ไดอุปฏฐากปฏิบัติ พระพุทธเจาชูวันชูยาม ตราบถึงพระเจานิพพานนั้นแล ฯ พระการ ๑ ก็เสมอด ั่งไดไหวนบครบยําแลปูชา หื้อทานปจจัยทัง ๔ แกพระพุทธเจานั้นแล ฯ พระการ ๑ เสมอดั่งไดปากไดจาถามปญหาพระพุทธเจาชูวันชูยามตราบ ถึงเมิ่อพระนิพพานนั้นแล เสมอดั่งไดตามพระพุทธเจานั้นแล ฯ พระการ ๑ เสมอดั่งไดปกสาสางแปงเจดียวิหารที่สํารานประบาทธาตุเจา ทังหลายชูที่ชูแหงนั้นแล ฯ พระการ ๑ เสมอดั่งไดไหวแลพ่ําเพงกุสลบุญดวยตนดวยใจนั้นแล ก็หาก จักเกิดเตชะอานิสงสอันไดสางไดเขียนทํานายอันน ี้ แล ไดค้ําชูเขาของงึนฅําไว ค้ําชูสาสนาพระพุทธเจาตราบตอเทา ๕ พันวัสสาดั่งอั้น ก็หากจักไดคลองธัมม อันยิ่ง ยัสสกิตติลือชาปรากฏมากนัก ฯ พระการ ๑ ก็จักมญาณประหญาสลาดเสล ียวดีวยพลนยังกว ิ่ าทานทงหลายัฯ อัน ๑ เภยยะอันตรายตางๆ ก็จักระงับกลับหายเสีย ก็จักสมริทธีดวย เขาของงึนฅํา เขาเปอกเขาสาร ชางมาวัวควายในชาตินี้แลชาติหนาชาแล แมนสมพารไปกลาแกดั่งอั้น ก็บได [หนาลานที่๒๗, น.๘๐๘] เกิดอบายสักฅาบ ตราบไดหันหนาพระเจาเมตเตยยะแล ก็จักไดถึงมัคคผละในสํานักพระพุทธเจา ตนนั้นเที่ยงแทบอยาชาแล ฯ ธมฺมปาทธาตุเอกาทสสกณฺโฑฺ นิฐิโต ฯ กรยาเทสนาตีานานธาตํ ประบาทุ ผูกถวน ๑๑ ก็สระเดจบัวรมวรกาละควรเทานี้กอนแล ฯ โย ปุคฺคโลอันวาปุคละผูใดมีใจใสสัทธา มักใฅกะทํากุสลบุญดวยธัมมโชฏ กะพุทธสาสนา จักใฅเขียนเอาด ั่ งอั้น หื้อไดฟงคําเราเติน๑ ก็จักเปนดีมีผละ อันกวางขวางชาแล ฯ ๑ เติน - เตือน ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓๓
(บันทึกทายเรื่อง) ธัมมกับนี้เจตนาผูขาชายดวงแกว บานเชียงจาม ภริยาชื่อวานางบัวฟอง เปนเคา ลูกเตาพอแมพี่นองพันธวงสา ชวนกันสางทานค ้ํ าจุนพุทธสาสนา ๕ พันวัสสา ทานกับวัดจอมทอง ผูขาทังหลายก็ขอเปนผละอานิสงสชั่วน ี้ แล ชาติหนา ขาแดฯ ๒๓๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
´ÍÂà¡Ôé§ (»˜¨¨ØºÑ¹ÍÂÙ‹ã¹à¢μÍíÒàÀÍÎÍ´ ¨Ñ§ËÇÑ´àªÕ§ãËÁ‹) ÀÒ¾ : ÊØ´á´¹ ÇÔÊØ·¸ÔÅѡɳ
กมมน - กลมมน กวก - กะลา กวม - ครอบ, ทับ กวักไกว - กวักไกวแขนพยุงตัวในน้ํา, วายน้ํา กวัน - ขวัญ (แตงกวัน คือทําขวัญ) กวาน - ขวาน กว้ํา, กล้ํา - ฝาย, ทิศ กองมอง - กลองและฆอง กอนกี่ - กอนอิฐ กะทํา - กระทํา กังคา, คังคา - ที่คุมขัง, อุปกรณจองจํานักโทษ กัดเยน - หนาวเย็น กัว - กลัว กาง - กลาง กางฅํา - หีบทองคํา กางฟอง - ทามกลางคลื่นใหญ กางหาว - อากาศ, ทองฟา กาย - พาด กาว - กลาว ก้ํากวา - เบื้องขวา กึด - คาง กุบ - หมวก เกลือแร - เกลือที่เปนเม็ดมีและสิ่งอื่นปะปนอยูมาก เกิ้งฅํา - ฉัตรทองคํา ศัพทานุกรม ๒๓๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เกิ่น - พัง เกิอ - เกลือ แกวน - แขวน โกด, กวด - ตรวจตรา โกม - กวม, ครอบ ขนัด - ขณะ ขัว - (ไทขึน/ไทลื้อ) หัวเราะ ขัว - สะพาน ขา - ฆา ขิบ - ? ขึด, กึด - ทัน ขืน - ฅืน, กลับ ขุณณา - กรุณา ขุม - หลุม เข - เขี่ย เขาดอน - การปลูกขาวนาดอน เขาสเนโรราช - เขาสุเมรุ เขิ้งขวดกัวธา - เครืองโกรธโกรธา เขิอ - เขือ, ทาน เขิอขา - เขือ, ขา เขียงตูบ - กระทอม, ที่พักชั่วคราว เขียด - เขต เขี้ยวฝาง - ฟนที่อยูระหวางฟนหนากับกราม (เขี้ยวหมา) ไข - เปด ครบยําแยง, ครบอยําแอยง - เคารพยําเกรง คระหัฏฐ - คฤหัสถ, ผูครองเริน, ผูที่ไมใชนักบวช ควงพัดน้ํา - ระหัดวิดน้ํา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓๗
ควงยนตน้ํา - ระหัดวิดน้ํา, หลุก คอมพอ - ถึงขั้น คังคา - เครื่องจองจํา คึด - คิด แควบ - สั้น, แคบ, ยอ ฅบ - ครอบ, ทับ ฅบงํา - ครอบงํา, ปกปอง, ปองกัน ฅบยํา - เคารพยําเกรง (ลานนา. ครบอยํา) ฅะจุมหัว - พระราชมงกุฏ ฅะวาส - ฆราวาส, ผูครองเรือน ฅะหนุน - ขนุน ฅาบ - ซาก, ราง ฅุชชสาร - คชสาร, ชาง ฅุฑ - ครุฑ เฅิงขวด - โกรธเคือง แฅมตีน - ดานขางเทา ใฅ - ใฅ, อยาก, จะ งน, งึน - เงิน โงม, งอม - รี่เขาหา, ตรงเขาไปหา จมขมแกว - รัตนจงกรม จวบ - พบ จวร - โจร จังกร, จังกอร - ดอกบัวจงกล จับ - ถูก จาง - จึด, ไมมีรสชาติ จาริด - จารึก จํา - บังคับ ๒๓๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
จ้ํากัน - ตอกัน, ติดชิดกัน จําเดิน - จําเริญ, เจริญ จิบหาย - ฉิบหาย จุกไย - พักชั่วครู เจ - แบก เจาะ - จุด เจาะประทีด - จุดประทีป ชอม - ตาม ชอย - ชวย ชอย - มาตราชั่ง เทากับ ๑.๖ กิโลกรัม ชะกวาย - อยูเฉยๆ ชะรฤ - หรือ ชี - แหย, เจาะ ชืน - ตะกั่ว ชูดเสียซาว - มีคาลดลงเหลือแคยี่สิบ เชิก - เชือก เชิ้อ - เชื้อ, พันธุ, อยาง แชง - ระวัง ซลาบ - แผซาน เซา - พัก, หยุด ดงไฟ - ดงไพร ดอกทายเหิน - ดอกมหาหงส ดอย - กิน ดับ - หลับ เดง - กังสะดาน เดิน - เดือน เดินดับ - วันแรม ๑๔ ฅ่ํา หรือ ๑๕ ฅ่ํา ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๓๙
เดินเทียด - เดินเทสาตรี, เดินทาง เดินเพง - วันขึ้น ๑๕ ฅ่ํา หรือวันพระจันทรเต็มดวง เดิ่อเกลี้ยง - มะเดื่อเกลี้ยง, มะเดื่ออุทุมพร เดียดลี้ - หลบซอน ตอง - สลัก, สะกัดใหเปนรอย ตองจิง - ตองขาวตม ตัดแตง - ในที่นี้หมายถึง พิจารณาตัดสินคดีความ ตาง - แทน ตามแคร - จุดคบเพลิง ติง - ขยับตัว ตุม - รองรับ ตุยหิ - (บาลี.- ตุณฺหี) นิ่ง, เงียบ ตูด - เขาสัตว, เปาใหเกิดเสียง เตง - ทับ เติน - เตือน แตม - เต็ม แตออน - แตเดิม ไตแปก - จุดคบเพลิง (แปก-เกียะหรือสนเปลือกแดง) ถปนะ, ถปนนะ, ถปนนา - (บาลี.-ฐาปน), กอตั้ง, กอสราง, ตั้งขึ้น ถปนนะ - สถาปนา, แตงตั้ง, ประดิษฐาน ถมนาคุณ - ตอบแทน, บูชาคุณ ถอง - สอง, สาดแสง ถั่วควาง - ถั่วเขียว ถิ้ม - ทิ้ง เถิ่น - เถื่อน, ปา เถิ่น, เถื่อน - ปา เถิอ - เถือ, แล ๒๔๐ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
ทวง - ทัก, หาม ทวด - โทษ ทัด - ถวน, เต็ม ทํา - วาง, ปด ทําเนียน - จําเนียร ทุง - (ตุง) ธง ทุม - กระทุม เทารอน - ขี้เถารอน เทิ่อ - เทื่อ, ยัง เทียว - เดิน, เหยียบ เทียวจมขม - เดินจงกรม แทก - วัด, วัดขนาด ธัมม - ธรรม ธัมมขก - ธรรมกรก, ที่กรองน้ํา นกเขียน - นกกระเรียน นลกธาตุ - นาลฏธาตุ, กระดูกหนาผาก นอมเวียนเคียน - (นอมเวนเคน) ยกยื่นยอถวาย นารก - นรก นาลาธาตุ - นลาฏธาตุ, พระธาตุกระดูกหนาผาก น้ําจิง - น้ําเปลา น้ําบาก - น้ําสกปรก ? น้ําแมหาแม - แมน้ําใหญ ๕ สาย (คงคา, ยมุนา, มหิ, อจิรวดีและสรภู) น้ําเลิด - เลือด เนียนทา - นินทา บก - แหง, แหงเหือด บันรน - บันดล, ทําใหเกิดขึ้น ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๔๑
บัวนาก - ตนบุญนาค บัวระกต - มรกต บัวราณ - โบราณ เบ - เบี้ย, หอยเบี้ย เบิ้ง - เบื้อง, ฝาย, ดาน, ขาง ปกเติน - ปลุกเตือน, เตือน ปชานราสฎร - ประชาชน, ราษฎร ปทักสิน - ประทักษิณ, การเดินเวียนขวา เพื่อแสดงความเคารพอยางสูง ประเทียด - ประเทศ ประหาร - วิหาร ปราถนา - ปรารถนา, ตองการ ปริภาชิกะ - ปริพาชก, นักบวชนอกพุทธศาสนา ปริเยียด - ปริยัติ, การศึกสาเลาเรียน (จากคัมภีรหรือตํารา) ปลา - ผลา, ผลไม ปะตูขง - ประตูโขง, ประตูที่มีซุมอยูดานบน ปนนสัตต - (บาลี.) ปาณสัตต, (สันสกฤต.) ปราณสัตต คือสัตตหรือสิ่งที่มีชีวิตที่มีลมหายใจ ปาดเนิ้อเถิอหนัง - ปาดเนื้อเถือหนัง ปานฝาย - ทําคันดินกั้นน้ํา, ซอมเหมืองฝาย ปาย - ปลาย ปนปว - ปรนิบัติรับใช ปุง - ปลง เป, เปย - เปลี้ย, รางกายออนแรง เปด - เปด เปกสา - ปฏิสังขรณ, ทํานุบํารุง ๒๔๒ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เปย - เปลือย, โลน, ปราศจากสิ่งหอหุม แปก - แปลก, แผก ผวด, โผด - โปรด ผางราย - ดูนาเกลียด ผาบ - ปราบ ผาม - ปะรํา, ที่พักชั่วคราว ผาย - โปรย ผาย - แสดง (ผายปาฏิหารย - แสดงปาฏิหารย ผูกเวียร - ผูกเวร, อาฆาต เผียด - เปรต ฝนฟาย - ปนฝาย เฝาแร - เฝารักษา พระการ - พระการ พระจญ - ประจญ พระเทียด - ประเทศ พระเพียด - ประเภท พราน - เกรง, พรั่นพรึงใจ, กลัว, ขยาด พอก - กลับ พอกเมิอ, พอกเมือ - กลับไป พาน - บัวสาย พ่ําเพง - บําเพ็ญ, ทําใหเต็ม พิน - มะตูม พิสงวน - ยาพิษ พู - พลู, ใบพลู เพง - วันเดือนเพ็ญ, ขึ้น ๑๕ ฅ่ํา เพิ่อ - เพื่อ แพ - ชนะ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๔๓
ใพ - เฝา, ดูแลใกลชิด ฟอง, ภอง - พรอง, บาง ฟอม - พรอม ฟา - พรา ฟาก - พราก, จาก ฟาย, เฟอย - กิ่งไม, ทอนไม ฟาว - รีบ, รีบเรง ไฟ - ไปร ภอมกัน - พรอมกัน มหาเถียรเจา - มหาเถรเจา มหาฟม - มหาพรหม มโหสรพ - มหรสพ, งานรื่นเริง มัชฌัตตา - ปานกลาง มาตุธรกมานวะ, มาตุธรักกมานวะ - มาตุธารกมานวะ มีดขูด - มีดโกน มูบ - ฟุบ, คว่ําหนา เม - เมีย เมดซาย - เม็ดทราย เมิง - เมือง เมิ่อ - เมื่อ เมิอ, เมือ - ไป เมียก - เมก, กําแพงดิน เมี้ยน - สิ้น แมบ - (ฟา) แลบ ยนตผัด - ระหัดวิดน้ํา, กังหันวิดน้ํา ยํา, อยํา - เคารพยําเกรง เย, เยียะ - ทํา, จึง, จึงกะทํา ๒๔๔ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
เยด, เย็ด, เร็ด - ทํา, สราง เยิ่งนั้น - เยี่ยงนั้น, อยางนั้น, เชนนั้น รดดู - ฤดู รม - รวม รสะ - รส รสี - ษี, นักบวชประเภทหนึ่ง ระ - พาด รุง - นกเหยี่ยวขนาดใหญ รุงเริง - รุงเรือง เรน - จัดเตรียม เรราย - เรี่ยราย ลวงป - ดวงปลี ลวงสาลา - โรงศาลา ลวดเจือปู - ลาด, เท ละเพียด - ทิ้งความเปน, แปงกาย ลักวา - ชะรอยวา, รอยวา ลา - ชา, ใบชา ลํา - อรอย ลินฅํา - รางน้ําทําดวยทองคํา ลี้ - ซอน ลุกขวาย - ตื่นสาย ลุกหลา - ตื่นสาย เลมธัมม - คลังหรือหอเค็บคัมภีรธัมม เลิด - เลือด แลงดู - เล็งดู แลน - วิ่ง โลวก - โลก ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๔๕
วันฟูก, วันพรูก - วันพรุงนี้ วิภาติ - วิภัตติ, ชื่อไวยากรณภาษาบาลีสําหรับ แจกศัพทโดยเปลี่ยนทายคําใหมีรูปตางๆ กัน วิเวียก - วิเวก, สถานที่อันเงียบสงบ แว - แวะ สกลชุมพูทวีป, สักกละชุมพูทวีป - สากลโลก สกเสิน - สรรเสริญ สกเสินยกยอ - สรรเสริญเยินยอ สงเสียบ - สงเสพ สตมหาทาน - การใหทานอันยิ่ง อยางละ ๑๐๐ สบ - ปาก สบาแพง - ผาแปง, ตนดับยาง สปุริสะ (สปฺปุริส) - สัตบุรุษ, ฅนดี, ผูมีคุณธัมม สมสุก - โศก, อโศก สยอง - เหาะ สรงเกียด - สรงเกศ, สระผม สรวย - กรวยดอกไม สลอบงน - ขันเงินขนาดเล็ก สลอบทอง - ขันทองเหลืองขนาดเล็ก สลั้ง - สงสัย, กังขา, เคลือบแคลงใจ สลาด - ฉลาด สวก - โสก, โศก สวนเริก - สวนเรือก, เรือกสวน สวย - เสวย (สวยเมิง - ครองเมือง) สวัรคเทวโลวก - สวรรคเทวโลก คือสวรรคอันเปนทอย ี่ ของเทวดา ู สอ - สีเทา สะแคง - ตะแคง, เอียงไปดานใดดานหนึ่ง ๒๔๖ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
สะเพลา, ซะเพลา - เรือสําเภา สะเฟาะ - (ฉับเพราะ) เฉพาะ สะหลัง - สันหลัง สังกา - สงสัย สังเกียด - สังเกต สัตต - ฉัตร สัน - ฉัน, ฉันภัตตาหาร สันเกา - ดังเดิม สันใด - ฉันใด สันนั้น - ฉันนั้น สัมมเณียร - สามเณร สัมมาธาน - สมาทาน สาง, แปง - สราง, แปลง สาด - เสื่อ สิก - ลาสิกขา สีล - ศีล สีวิกายฅํา - เสลี่ยง, คานหาม สูน - ผสม เส - เสีย เสง - ถาม, พูดจา (แสง - แกลง) เสบ - แสบ, เสียบ เสิอ - เสือ เสิ้อผา - เสื้อผา แสง - เพชร แสว - กลิ่น หมากหาด - มะหาด, มะเดื่อหอม หลม - พังทลาย ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๔๗
หลอ - เหลือ หลัก, หลวก - ฉลาด หลั้ว - พลั่ว หลื่ม - ดื่ม หลุ - พัง, เสียหาย หลุก - กังหัน หรือระหัดวิดน้ํา หวาน - จาน หวาย, อวาย - หันหนาไป หอมหยับ - สะสม, เค็บรวบรวม หับ - ปด หาน, ราน - ชั้น หาย - ตาขายดักสัตว หีดผา - โลงศพทําดวยหิน หึงนาน - เนิ่นนาน เหงี่ยง - ตะแคง เหนิอ - เหนือ เหมี้ยง - เมี่ยง, ชาอัสสัม เหยี่ยนพอน - ปลาไหลเผือก เหลก - เหล็ก เหลกนอย - เด็กนอย เหลม - ตน, ลํา เหลิง - สีเหลือง เหิน - เหนือ เหียด - เหตุ อนทราย - อันตราย อสงไขย - อสงขัย ๒๔๘ ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา
อสาสสะ ปสาสสะ - อัสสาสะ (ลมหายใจเขา) ปสสาสะ (ลมหายใจออก) อองปู - กระดองปู อะหัว - (ลานนา.) อะโห อัจสริยะ - อัศจรรยใจ อัพภันตระ - อัพภันดร (มาตรา ๑ อัพภันดร เทากับ ๗ วา หรือ ๒๘ ศอก) อัสริยะ - (บาลี.-อจฺฉริย) อัศจรรย, แปลก, ประหลาด อาการวิชุรตา - อกาลวิชุรตา อาญญา - อาชญา อาสนา - อาสนะ, ที่นั่ง อิดู - เอ็นดู อุคัฏฐา - (บาลี.) อุกฺกฐ, (สันสกต.) อุตฺกฤษฺฏ คือ อุกฤษฏ (สูงสุด, สุดยอด, ยวดยิ่ง) อุสสหะ - อุตสาหะ, ความบากบั่น, ความขยัน, ความพยายาม ตํานานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับสิบสองปันนา ๒๔๙
๖๐ ปี ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๒๕๐๗-๒๕๖๗