จดั พิมพ์เปน็ ทีร่ ะลึก ส�ำ หรบั ญาติ กลั ยาณมติ รและผู้สนใจ
ในโอกาสครบ 6 รอบ 72 ปี ของนายสุวฒุ ิ ลมิ ปะพันธุ์
14 กันยายน 2564
สารบัญ
1. ค�ำ น�ำ ด้วยรกั เคารพ โดย สุวุฒิ ลมิ ปะพันธ์ ุ 4
2. ประวตั ิขุนเพ่งจีนานเุ คราะห์ (นายเพง่ ลิมปะพนั ธ์)ุ 13
3. ประวตั ิคุณแม่ปราย ลิมปะพนั ธ์ ุ 28
4. ผงั วงศ์ตระกูลนามสกลุ พระราชทาน ลมิ ปะพันธุ์ 35
49
5. ประสบการณ์และข้อเขยี นของนายเพ่ง ลมิ ปะพนั ธ์ุ 50
• วถิ ชี ีวิตของข้าพเจา้ 145
167
(จัดพิมพ์ในโอกาสท�ำ บญุ วันเกิด 30 มกราคม 2519 อายุ 72 ป)ี
217
• มหาสงครามเอเชยี บูรพา 225
241
• ชวี ิตการเมอื งของข้าพเจ้า
(จัดพมิ พใ์ นโอกาสทำ�บญุ วนั เกิด 30 มกราคม 2523 อายุ 76 ปี)
6. หนงั สืออนุสรณใ์ นงานพระราชทานเพลงิ ศพ นายเพง่ ลิมปะพันธ ์ุ
7. หนงั สืออนสุ รณใ์ นงานพระราชทานเพลิงศพคณุ แม่ปราย ลมิ ปะพนั ธุ์
8. ภาพแห่งความทรงจำ� ตระกลู ลิมปะพันธ์ุ
5
ดว้ ยรกั เคารพ และผกู พัน Na tional Taiwan Universi
ขนุ เพง่ และแมป่ ราย โดย สุวฒุ ิ ลิมปะพนั ธ์ุ
ty
ผมมีความประสงค์ และตงั้ ใจ ท่ีจะรวบรวม เรียบเรียงและจดั พิมพห์ นงั สือเรอ่ื งทเ่ี กีย่ วกับบิดาและมารดาของผมคือ
นายเพง่ ลิมปะพันธ์ุ และนางปราย ลมิ ปะพนั ธ์ุ เนอ่ื งจากบดิ าหรอื เตย่ี ของผมเปน็ คนที่ตงั้ ใจท�ำ งานมาก มีความคิดสรา้ งสรรค์
และเป็นแบบอย่างในการบริหารจดั การระบบการท�ำ งานท่ดี ี เปน็ คนชอบเขียนหนังสอื เชิงอัตชวี ประวัติ โดยเรม่ิ ต้งั แตย่ คุ ท่เี รียน
และท�ำ งานเป็นมหาดเลก็ หลวง ถึงช่วงหลังสงครามโลกครง้ั ท่ี2 ท่านได้เลา่ ประสบการณ์ชีวติ เกีย่ วกบั การเป็นหัวหนา้ เสรีไทย
การเปน็ นักการเมอื ง รวมท้ังการบริหารธุรกจิ ซ่ึงนบั เปน็ ประสบการณอ์ นั ทรงคณุ คา่ เพ่ือการเรยี นรขู้ องลูกหลานและผสู้ นใจ
ท่ัวไป โดยได้เขียนหนงั สอื ไว้ 2 เลม่ รวม 3 เรือ่ ง ดงั น้ี
1. วถิ ีชีวิตของข้าพเจ้า
2. มหาสงครามเอเชียบรู พา
3. ชวี ิตการเมืองของขา้ พเจ้า
นอกจากน้ี ยังไดร้ วบรวมหนงั สือพระราชทานเพลงิ ศพของนายเพ่ง ลมิ ปะพันธ์ุ และนางปราย ลมิ ปะพนั ธ์ุ โดยจัด
พิมพ์รวมไวใ้ นเลม่ เดียวกนั เพื่อมอบให้กับลูก หลาน เครอื ญาติในวงศ์ตระกลู ของเต่ยี และแม่ และผู้ทส่ี นใจ โดยสว่ นหน่ึง
ผมจะมอบใหก้ ับหอ้ งสมดุ ประชาชนและสถานศึกษา รวมท้งั เผยแพรใ่ นรปู แบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-book อกี ดว้ ย
ครอบครัวของผม อยู่ทีอ่ ำ�เภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทยั คณุ กง๋ คอื นายฮว่ ยเซยี แซ่ล้ิม เดนิ ทางมาจากเมอื งจีน
และเรม่ิ มอี าชีพรับจ้างท�ำ งานในกรุงเทพฯ ตอ่ มาได้ย้ายมาท่จี ังหวัดสโุ ขทัย โดยบตุ รของนายฮว่ ยเซีย แซ่ลิม้ คือ นายสงิ ห์โต
ลิมปะพนั ธุ์ (คณุ ปขู่ องผม) ได้ทำ�การเกษตรและการค้าขาย ซ่ึงได้ทำ�ประโยชน์ตอ่ ทางราชการจนไดร้ บั บรรดาศักด์เิ ป็น “หลวง
ชนาธกิ ารอนมุ ัต”ิ การทำ�ธุรกจิ ของคุณปู่ได้สบื ทอดต่อมาถึงรนุ่ คณุ พ่อหรอื เต่ียของผม คือ นายเพ่ง ลิมปะพันธุ์
6
เตย่ี ของผม เกิดที่อำ�เภอสวรรคโลก และเริ่มเรียนทีโ่ รงเรยี นสวรรควทิ ยา อ�ำ เภอสวรรคโลก แลว้ ไปเรียนตอ่ ที่
โรงเรียนราชวิทยาลยั ซึง่ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยูห่ ัว (รัชกาลท่ี 5) มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหจ้ ดั ตัง้
โรงเรยี นหลวงแบบอยู่ประจ�ำ ขน้ึ และโปรดฯใหจ้ ัดการศกึ ษาพับลคิ สคลู (Public School) ขององั กฤษ ในขณะท่เี ตี่ยเข้าเรียน
อยู่ในสมยั รัชกาลท่ี 6 และเมอื่ เตี่ยจบการศึกษาแล้ว เตีย่ ไดท้ ำ�งานในกรมมหาดเลก็ หลวง รบั ใชเ้ บ้อื งพระยุคลบาทพระบาท
สมเดจ็ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลท่ี 6 อยู่ระยะหนงึ่ ต่อมาเตยี่ ไดศ้ ึกษาตอ่ ประกาศนียบัตรในด้านกฎหมาย ทโ่ี รงเรียน
กฎหมาย กระทรวงยุติธรรม จากนน้ั ได้เดนิ ทางกลับมาประกอบธุรกจิ ของครอบครวั ทบ่ี ้านเกดิ ในอำ�เภอสวรรคโลก จงั หวดั
สโุ ขทยั
เตย่ี ไดแ้ ตง่ งานกบั แม่คอื นางสาวปราย แสนโกศกิ และไดส้ บื สานธรุ กจิ การค้าขายของครอบครวั รวมทัง้ ท�ำ งาน
การเมืองรับใช้ ดแู ลประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เตยี่ และแม่เปน็ ผูท้ เ่ี ห็นความส�ำ คญั ของการศกึ ษาของลูกๆ สนบั สนนุ ให้ลูกทกุ
คนได้รบั การศกึ ษา อย่างเต็มความสามารถ
แม่ปรายและสวุ ุฒิ 3 เดือน เตย่ี และสวุ ฒุ ิ 3 ขวบ เตย่ี และสวุ ฒุ ิ 16 ปี Naสtวุioุฒnaิ 2l 3Taปiwี ขaณn ะUเรnยีivนeทrs่ี ity
ผมเกิดและเตบิ โตท่ีสวรรคโลก ปีทผี่ มเกดิ พ.ศ.2492 เปน็ ปที ่เี ตย่ี ไดเ้ ปน็ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย
สมัยแรก ผมยังจ�ำ ได้ดีในความสนิทสนมกบั เต่ยี ตอนทีผ่ มอายุ 10 กว่าขวบ เต่ยี มกั จะขบั รถจ๊บี พาผมไปในไร่บนเสน้ ทาง
สวรรคโลก - ศรนี คร ทุกวัน เปน็ ภาพความทรงจ�ำ ท่ี
ดีของผมจนถึงปัจจบุ นั สองคนพ่อลูก ไปดกู ารปลกู
ฝา้ ยและถ่วั เหลือง และได้พูดคยุ กับชาวไร่ ในเวลานั้น
ฝา้ ยและถวั่ เหลอื ง เป็นพืชไรท่ ี่ชาวสวรรคโลกปลูกกัน
มากทสี่ ดุ ในประเทศไทย เมอื่ ผมและพี่ๆ จบการศึกษา
ชนั้ ตน้ ที่โรงเรียนสวรรควทิ ยา สวรรคโลก เตี่ยและแม่
ก็ได้ส่งพวกเราไปกรุงเทพฯ เพอ่ื เข้าเรียนท่ีโรงเรียน
วชิราวุธวิทยาลัยซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ�ที่มีคุณภาพ
ดเี ยี่ยม พวกเราทุกคนได้รับการวางรากฐานการศึกษา
ที่เข้มแข็ง ในด้านการเรยี น ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง
และการปฏิบัติตนท่ีดีในสังคมจากโรงเรียนวชิราวุธ
วทิ ยาลยั เพอ่ื นๆ โรงเรียนวชิราวธุ วทิ ยาลยั
7
เพ่อื นๆ โรงเรยี นเกษตรกรรมบ้านกร่าง
ภายหลังจากที่ผมเรียนจบจากโรงเรียนวชิราวุธ
วิทยาลัย เต่ียเหน็ ความสำ�คัญของงานด้านการเกษตร และตอ้ งการ
ให้เปน็ เรื่องหลกั ของครอบครัว ได้สนับสนุนใหพ้ ่ๆี ของผมเรยี น
ทางการเกษตร และได้สง่ ให้ผมไปเรยี นตอ่ ที่โรงเรียนเกษตรกรรม
บ้านกรา่ ง จงั หวดั พิษณโุ ลก ซ่งึ ท�ำ ให้ผมได้มีเพื่อนๆ สนทิ ในแวดวง
การเกษตรทัง้ ในภาคราชการและเอกชน พวกเราพบกันทกุ ปแี ละเพ่ือนๆกไ็ ด้เลอื กผมเปน็ ประธานรุ่น 6 หลายปี จนถึงปจั จุบัน เม่ือ
เรียนจบท่ี ร.ร.เกษตร เต่ยี ก็ได้ตดิ ตอ่ ใหผ้ มไปเรยี นตอ่ ด้านการเกษตร ท่ีเมอื งไทเป ประเทศไตห้ วัน เตยี่ เห็นว่าจะไดร้ ภู้ าษา
จีนกลางด้วย เพราะจะเป็นภาษาที่สำ�คัญของเอเซีย (ผมเชอ่ื ฟงั และไดป้ ระจักษใ์ นการมองการณ์ไกลของเต่ยี อยา่ งยงิ่ ) เม่อื
เดนิ ทางไปถงึ เมืองไทเป ประเทศไต้หวนั ผมไดพ้ ักอยูก่ บั ครอบครวั ซง่ึ ถอื เสมอื นญาตสิ นทิ ของครอบครวั ผม คอื คณุ นิคม
และพีว่ ริ ิยา บูรณพนั ธศ์ุ รี ชาวสวรรคโลก ซ่ึงมีต�ำ แหนง่ เป็นผู้ดแู ลนักเรียนไทยของส�ำ นกั งานขา้ ราชการพลเรอื น ก.พ. และผมกไ็ ด้
ทราบวา่ การเรยี นการสอนทไ่ี ตห้ วนั จะตอ้ งใชภ้ าษาจนี กลางเปน็ หลกั สว่ นภาษาองั กฤษเป็นเพยี งตัวช่วยในการเรียนรู้เท่านั้น ผม
เกอื บจะถอดใจอยากกลับเมืองไทย แตเ่ ตย่ี ได้พูดให้ก�ำ ลังใจผม ให้ใชค้ วามพยายามให้ถงึ ท่สี ดุ ผมกม็ ่งุ มั่นเรียนภาษาจีนถึง
1 ปี และไดเ้ ข้าเรียนด้านเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร (Agricultural Economics) ทม่ี หาวิทยาลยั แห่งชาตไิ ตห้ วนั (National
Taiwan University) ตอ่ มา เตีย่ และพี่ชายของผม ร.ต. ประพาส ลิมปะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรชี ่วยวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศ
ไดไ้ ปเย่ยี มผมท่ไี ต้หวนั ให้กำ�ลังใจผม ซงึ่ เต่ียก็ไดม้ อบภาพแหง่ ความทรงจ�ำ ทผ่ี มได้น�ำ มาขึน้ ปกฉบับน้ ี เต่ยี เขยี นไวว้ า่
เพอ่ื ดูต่างหน้า
จากผูใ้ ห้กำ�เนิด
จะไดต้ ้ังใจเรยี น
4 ม.ค.17
8
นายเพง่ ร.ต.ประพาสและสุวฒุ ิ นายเพ่งและผสู้ดวุ ูแุฒลินทัก่บี เร้ายีนนพไกั ทยนใานยไนตคิ ห้ มวันบูรณพนั ธศ์ รี
ท่หี มบู่ ้านอารีซัน ชานเมืองไทเป
ผมมุง่ มนั่ ต้งั ใจในการเรยี น ในขณะเดยี วกัน ด้วยความรักในกฬี าเหมอื น
เต่ีย ผมก็ได้เปน็ นกั กีฬาฟุตบอลของทีมตา่ งๆ ด้วย ผมเป็นนักฟุตบอลต้ังแตเ่ ดก็
และในทกุ สถาบันทเ่ี รียนมาเหมอื นกบั เตยี่ นอกจากเป็นนกั ฟตุ บอลทมี มหาวทิ ยาลยั
แห่งชาตไิ ตห้ วนั แล้ว ผมยังเปน็ นักฟุตบอลในทีมนกั ศกึ ษาไทยและทมี นักศกึ ษานานาชาติ
ไปแข่งขัน เป็นประจำ�ทกุ นดั ตลอดระยะเวลาทผี่ มเรยี นอยู่ ท�ำ ใหผ้ มเป็นที่รจู้ กั และมี
เพื่อนสนทิ ชาวไต้หวันมากพอสมควร
เมือ่ ผมสำ�เรจ็ การศกึ ษา ระดับปริญญาตรี ก็ได้ท�ำ ธุรกจิ เกย่ี วกับผลิตผลทางการเกษตร กับเพ่ือนชาวไต้หวันท่เี มอื ง
ไทเปอยู่ 1 ปี จากนน้ั เตย่ี ก็ได้ขอให้ผมเดนิ ทางกลับบ้านเกิด เพอ่ื ช่วยทำ�ธรุ กิจของครอบครวั เกีย่ วกบั การเดินรถในจังหวดั
สโุ ขทัย เม่อื ผมกลับมา ผมก็ไดบ้ วชเรียนระยะหน่งึ พรอ้ มกบั หลานๆ เพอื่ เป็นการทดแทนพระคุณของเตยี่ และแม่ ในช่วงท่ผี ม
ทำ�งานอย่ทู บี่ า้ นสวรรคโลก ผมยงั ระลึกถงึ บุญคุณของพ่ีบุญทวน ลิมปะพนั ธุ์ พ่ีสะใภ้คนโตของครอบครัวของผม ซึง่ เป็นผทู้ ่ี
ดูแลความเป็นอยู่และอาหารการกินของพี่ๆและผม ต้ังแต่ผมยังเดก็ เวลาจัดงานของผม จะมพี ่บี ญุ ทวนเปน็ แม่งานให้ผมทกุ ครงั้
พวกเรารกั และเคารพพ่บี ุญทวนอย่างมาก
นายเพง่ นางปราย และนายผาศุข ในงานบวชนายสุวฒุ แิ ละหลานๆ พ่ีบุญทวนกับลูกชาย 4 คน
9
เตยี่ เป็นผทู้ ่สี นใจงานการเมอื งและการดูแลทุกข์สขุ ของผู้คน โดยเตยี่ ได้ด�ำ รงตำ�แหนง่ นายกเทศมนตรเี มืองสวรรคโลก
ประธานสภาจังหวดั สุโขทัย สมาชกิ สภาผู้แทนราษฏรจังหวดั สุโขทยั และเป็นกรรมาธิการดา้ นงบประมาณ ในขณะเดียวกันก็ยงั
คงดำ�เนนิ ธุรกจิ ไปด้วย ส�ำ หรับเร่ืองการติดต่อธุรกิจทง้ั ในจังหวดั สุโขทยั พิษณโุ ลก พิจติ รและทก่ี รงุ เทพฯ ผมมักจะเดินทาง
ไปกบั เตีย่ บอ่ ยมาก คิดวา่ เต่ียตอ้ งการใหผ้ มไปเรียนรูก้ ารติดต่อและเจรจา รวมทั้งพบปะผู้คนท่เี ตยี่ ท�ำ ธรุ กิจด้วย ในระยะหลัง
เต่ียมอี าการป่วยจากโรคเบาหวานและโรคหวั ใจ ต้องพักเรอื่ งงานใหล้ กู ๆ ดำ�เนินงานการเมือง ทง้ั ในระดบั ชาติและระดับทอ้ งถ่นิ
ผมเองก็ได้ชว่ ยจัดการเรอื่ งธรุ กิจ และดแู ลเตีย่ อย่างใกลช้ ิด เมือ่ เต่ยี ตอ้ งไปพักรักษาตวั ในโรงพยาบาล ผมก็ไปเฝา้ และดแู ล
เตี่ยตลอด 24 ช่ัวโมงทุกวัน จนกระท่งั เตยี่ ไดจ้ ากไปอย่างสงบ เมือ่ อายเุ กอื บ 80 ปี
เมือ่ เตีย่ จากพวกเราไปแลว้ ผมก็ได้ช่วยดำ�เนินธรุ กิจของครอบครวั อยา่ งตอ่ เน่อื ง และตอ่ มาผมไดแ้ ต่งงานกับ
คณุ สพุ ัฒตรา ย่ิงยนื ยง หรือ “นอ้ ง” ในปี พ.ศ. 2530 ซง่ึ ขณะนน้ั “นอ้ ง” ทำ�งานอยู่ในกรุงเทพฯทศี่ ูนย์เทคโนโลยที างการศกึ ษา
สถานีโทรทศั น์เพือ่ การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร ผมไดร้ จู้ กั และคบหากับ ”นอ้ ง” กอ่ นทจ่ี ะแตง่ งาน นานถึง 17 ปี ต้งั แต่
พ.ศ. 2513 เปน็ ชว่ งเวลาก่อนที่ผมจะเดินทางไปเรยี นที่ไต้หวัน เราได้เขยี นจดหมายตดิ ต่อกนั อย่างต่อเนอ่ื ง (ผมเก็บการ์ดและ
จดหมายจาก “นอ้ ง” ไวท้ ุกฉบับถึงปจั จุบนั กใ็ ส่แฟม้ ไว้เป็นเลม่ ใหญ)่ เราไดพ้ บกนั น้อยมาก เพราะการเดนิ ทางข้ามประเทศสมยั นัน้
มคี า่ ใชจ้ า่ ยสงู มากและไมค่ ล่องตวั เหมอื นปัจจุบัน เมื่อผมย้ายกลบั มาจากไตห้ วัน “นอ้ ง” กย็ ังทำ�งานโครงการเพอ่ื การศึกษา
ส�ำ หรบั ชุมชนในเขตภเู ขา ของ USAID ในเขต 5 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อนอ้ งทำ�งานจนจบโครงการ และผมได้สร้างบ้านท่ีรมิ น้ำ�ยม
สวรรคโลกเสรจ็ เรียบรอ้ ย เรากไ็ ด้แต่งงานกัน ซง่ึ เราจดั พิธีอย่างเรียบง่าย ทำ�บญุ เลยี้ งพระ ทบี่ า้ นสวรรคโลก และในเวลาตอ่ มา
กจ็ ัดงานในกรงุ เทพฯ โดยเชญิ เพอื่ นๆ และญาติ มาร่วมเลีย้ งอาหารเดก็ ท่ีบา้ นราชวิถี เป็นการแบ่งปันความสขุ ส�ำ หรบั เดก็ ๆ
และทุกคน
10
ตอ่ มาผมได้ประสบปัญหาทางธุรกิจ ได้มีการเปลยี่ นมอื ในการทำ�ธุรกจิ
ของครอบครัวทีผ่ มท�ำ อยู่ ผมก็ต้องเสยี สละเพื่อรกั ษาความรสู้ ึกและจติ ใจของแม่
ผมอพยพตวั เองแบบตัวเปล่าเข้าไปอยทู่ ่ีกรงุ เทพฯ ซง่ึ “นอ้ ง” เองกเ็ พิ่งยา้ ยจาก
ล�ำ ปางเข้าไปท�ำ งานสถานโี ทรทศั น์ ETV. ทก่ี รงุ เทพฯ และอาศัยอยู่กบั บ้านพ่สี าว เรา
จึงไปเช่า อพาร์ทเมน้ ทห์ อ้ งเล็กๆ อยกู่ ัน ชวี ิตในชว่ งนั้นต้องพยายามแสวงหาธุรกิจ
ทุกรูปแบบ แม้ว่า “น้อง” ท�ำ งานราชการ แตก่ ม็ ีภาระส่งเสยี หลานเรยี นหนังสอื ผม
ได้ส่งั น�้ำ ผง้ึ จากเพ่อื นท่เี ชยี งใหม่มาแบ่งบรรจขุ วดขาย เราช่วยกันทำ�ความสะอาด
ขวดและบรรจนุ ้ำ�ผ้ึง ผมและ ”น้อง” เคยห้ิวขวดหนักๆ ขึน้ รถเมล์ ไปส่งท่ีกระทรวง
ศึกษาฯ และหน่วยงานทส่ี ั่งของมา นอกจากน้กี ย็ งั มสี ินค้าตัวอ่นื ที่เราซ้ือมา-ขายไป
เปน็ ช่วงเวลาที่ผมจดจำ�ตลอดมา เป็นบทเรียนในการตอ่ สู้อุปสรรคในชีวติ ของเรา
ผมไดพ้ บกับ พอ่ี ำ�ไพ แสนโกศิก ลกู ของลงุ ทองสุขซึ่งเป็นพีช่ ายของแม่ผม พีอ่ ำ�ไพทำ�ธรุ กิจจดั สรรทดี่ ินย่าน
รังสติ เม่ือทราบเรอ่ื งของผม พี่อ�ำ ไพกไ็ ด้อนเุ คราะห์ใหผ้ มกบั “นอ้ ง” ไปอยู่บา้ นท่วี ่างอยู่ เป็นทาวนเ์ ฮา้ สใ์ นซอยมหาวิทยาลยั
หอการคา้ วิภาวดี ซง่ึ ผมได้อาศัยอยูน่ านถงึ 2 ปี เม่ือผมซ้อื บา้ นใหม่ทลี่ าดพร้าวซอย 1 ผมถอื ว่าพอ่ี �ำ ไพเปน็ ผูม้ ีพระคณุ ที่
ผมเคารพ รกั ดว้ ยใจจรงิ ผมก็ได้เชิญพอี่ ำ�ไพไปเป็นประธานในพิธีทำ�บุญข้ึนบา้ นใหม่เพ่ือความร่มเยน็ เปน็ สุข เปน็ มงคลต่อ
ครอบครัวผมด้วย
ในช่วงนั้น เปน็ จงั หวะดที ่ีเพ่อื นไตห้ วนั ไดต้ ดิ ต่อมา เพือ่ รว่ มกันทำ�ธรุ กจิ โดยเพ่อื นและกลมุ่ นักธุรกิจต้องการ
ตัวแทนในกรงุ เทพฯ ทไี่ ว้วางใจกันได ้ เราจงึ ได้ร่วมกันจัดต้งั บริษัท หลนิ ผงิ อัน จำ�กดั หรอื ลิ้ม เพง่ อาน ซึ่งเปน็ ชอ่ื จนี ท่ี
กง๋ ตง้ั ให้เตย่ี ผม เราท�ำ ธรุ กิจส่งออกไม้ทอ่ นเพอ่ื อุตสาหกรรม และผลิตผลทางการเกษตร จากลาว และกัมพูชาสง่ ไปไต้หวัน ถือว่า
เปน็ ธุรกิจทีด่ มี าก เพราะเพ่อื นไตห้ วันมตี ลาดรับซ้ือและเครอื ขา่ ยกวา้ งขวาง ตอ่ มา เราได้ขยายธุรกจิ ต่อเนอ่ื งไปในจนี ฮอ่ งกง เมียนมาร์
เวียดนามและญี่ปุ่นดว้ ย ผมมีโอกาสเดนิ ทางไปหารอื และท�ำ งานทีไ่ ต้หวนั สิงคโปร์ จีนและประเทศตา่ งๆ บ่อยมาก
ผมถือว่า การท่ีเตีย่ ใหโ้ อกาสผมไดเ้ รยี นท่ีโรงเรยี นวชิราวธุ และท่ีมหาวิทยาลัย
กลุม่ เพื่อนไต้หวนั ทที่ �ำ ธุรกิจ แหง่ ชาตไิ ต้หวัน เปน็ การเปิดโลกกว้างให้กบั ผม ผมไดม้ กี ัลยาณมิตรท้ังไทยและ
ร่วมกบั สุวฒุ ิ ท่ีกรุงปักกง่ิ ตา่ งชาติ ไดว้ างพน้ื ฐานชีวติ ทีม่ ่ันคง การทีไ่ ดใ้ ชช้ อื่ เตยี่ มาเปน็ ชอ่ื บริษทั หลนิ ผิงอัน
ท�ำ ใหช้ วี ติ ของผมรงุ่ เรอื งและกา้ วหนา้ มากขน้ึ ผมและเพอ่ื นไตห้ วนั ไดท้ �ำ ธรุ กจิ รว่ มกนั
นานนับ 10 ปี เม่ือตลาดอิ่มตัวและทกุ คนถึงวัยที่จะพกั ผอ่ น เราก็ได้ตกลงกัน
ปิดบรษิ ทั นี้ไป แต่กย็ ังมกี ารตดิ ต่อไปมาหาสกู่ นั เปน็ ปกตติ ลอดมา
11
ในปี พ.ศ. 2533 ผมได้เหน็ โอกาสทางธรุ กิจท่บี า้ นเกิดของผม คอื งานฝีมอื ทอง
สุโขทัย หรือทองศรสี ัชนาลยั ที่กำ�ลังบูมมาก ซึง่ ชาวบา้ นได้ท�ำ งานฝีมือถักทองกนั ท่ีตำ�บลทา่ ชยั
ใกลก้ บั บา้ นของผม และผมได้หารอื กับเพอื่ นไต้หวนั เก่ียวกับการลงทนุ ท�ำ งานหัตถกรรมทองโบราณ
ผมเห็นว่า เป็นโอกาสที่จะใหช้ าวบา้ นไดท้ �ำ งานอยกู่ ับครอบครวั ไม่ตอ้ งอพยพไปเมืองใหญแ่ ละเปน็
เป็นการอนุรกั ษ์งานหตั ถกรรมทองโบราณ ซง่ึ เป็นท่ีนิยมของคนไทยเป็นอยา่ งมาก ผมไดร้ ับการ
ตอบรับท่ีดีจากเพอื่ นไต้หวันท่สี นิทกนั มาก คือ Mr. Chuang Chue Sern เขาได้สนับสนนุ
ในการเริ่มธรุ กจิ ทองศรสี ัชนาลยั โดยให้เงินทุนเรมิ่ ต้นจำ�นวน 3 ล้านบาท เขาบอกว่า ถา้ มีเงิน
ก็นำ�มาคนื ถา้ ไม่มี กไ็ ม่เป็นไร จากนัน้ ผมและ “นอ้ ง” ก็ได้นำ�ทองศรีสชั นาลยั ไปเปดิ ตลาดใน
กรุงเทพฯ โดยจัดออกบทู ในงานแฟรต์ ่างๆ ซึ่งธุรกิจนเี้ ติบโตอย่างรวดเรว็ บางงานทเ่ี ราออกบูธ Mr.Chuang Chue Sern,
ใน 1 สัปดาห์ มยี อดขายทองศรสี ัชนาลยั นับลา้ นบาท อาจเป็นเพราะลูกคา้ คดิ ว่าการได้ซือ้ Mr.Wang ทตู พาณชิ ย์
ทองสโุ ขทัยจากคนสโุ ขทัยเป็นความเช่ือมั่นและถือเปน็ การลงทุนท่มี คี วามเส่ยี งน้อย จดุ ขายสำ�คัญ กบั สวุ ฒุ ิ ทไ่ี ทเป
คือบริการหลงั การขายทตี่ อ้ งดแู ลกนั ในการรบั ซ้อื คนื และซอ่ มแซม ซง่ึ ครอบครัวของ ”น้อง”
ทั้งพ่ี นอ้ งและหลานๆ ก็ไดช้ ่วยกันขยายตลาดไปเปิดร้านในหา้ งสรรพสนิ คา้ หลายแห่ง ผมและ “นอ้ ง” ไดน้ ำ�เงนิ ไปคืน Mr.
Chuang Chue Sern ได้ภายในเวลา 1 ปี และขอบคุณในความจรงิ ใจและเป็นกลั ยาณมติ รที่ดตี ่อเรา ผมคิดว่า การทำ�ธุรกจิ
ค้าขายทองคาํ นี้ ต้องมีความเชื่อม่นั และความซอื่ ตรงเปน็ เรื่องส�ำ คญั เมอ่ื เราแนะนำ�ตัวกบั ลูกค้าแล้ว มกั จะได้ยนิ ว่าคนุ้ ๆ
กับนามสกลุ ลมิ ปะพันธุ์ มาก ส่วนหนง่ึ มาจากช่อื เสียงของวงศต์ ระกลู ทีเ่ ต่ยี และครอบครวั ไดส้ ร้างสมไว้ ซง่ึ ผมและ “นอ้ ง” ก็
ด�ำ เนินธรุ กจิ นด้ี ้วยความซอ่ื สตั ย์ และรักษาคุณภาพ อยา่ งต่อเน่อื งมานานกว่า 30 ปี จนถงึ ปจั จบุ นั
ครอบครวั ของผมเป็นครอบครัวนกั การเมืองท้งั ระดับชาตแิ ละระดับทอ้ งถ่ิน เตีย่ ได้สนับสนุนและวางรากฐานใหพ้ ีๆ่
ของผมมีต�ำ แหน่งทางการเมอื ง ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการหลายกระทรวง เป็นสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรหลายสมัย เป็นประธาน
สภาจังหวดั สุโขทัย นายกเทศมนตรเี มืองสวรรคโลก สมาชกิ สภาจังหวัด และอืน่ ๆ โดยทำ�งานทางการเมอื งมาถงึ รุ่นลูกและ
รุ่นหลาน สว่ นผมคดิ วา่ ตัวเองไม่เหมาะกับงานการเมือง จึงเลือกทจ่ี ะมชี ีวิตในแบบของผมและท�ำ ธุรกจิ ตอ่ ไป
ในสว่ นของแมป่ รายน้นั เนือ่ งจากผมเป็นลูกชายคนสุดทอ้ ง ผมรูว้ ่าแม่รักและเป็นห่วงผมมาก เม่อื เต่ยี จากไปแลว้
ผมกไ็ ด้ทำ�งานทบ่ี า้ นและดแู ลแมอ่ ย่างสม�่ำ เสมอ ผมรกั เคารพและดแู ลแม่เหมือนเปน็ พระในบา้ น
เมอื่ ผมสรา้ งบ้านใหม่ หรอื ซื้อรถใหม ่ ผมเชิญประธานที่เจิมบา้ นและเจมิ รถของผม ซึ่งกค็ อื แมป่ รายของผมน่ันเอง
ผมถือว่าพรจากแม่ เปน็ พรทป่ี ระเสรฐิ ทส่ี ุด แมเ่ ปน็ คนที่มสี ุขภาพแขง็ แรง ไมม่ ีโรคประจ�ำ ตัว แม่จากพวกเราไปอย่างสงบ
เนื่องจากความชรา ในวยั 97 ปี
์
12 แมป่ ราย เปน็ ประธานงานทำ�บญุ ข้ึนบา้ นใหมข่ องสวุ ุฒิ
ชีวติ ของผม ผูกพนั กบั เต่ยี และแม่เปน็ อย่างมาก ในโอกาสวนั เกิดของผมวนั ท ี่ 14 กนั ยายน 2564 นี้
ผมมอี ายคุ รบ 6 รอบ 72 ปี ผมน้อมใจระลึกถงึ ผู้ให้ก�ำ เนดิ ทง้ั เตยี่ และแม่ รวมทง้ั ญาติผูม้ พี ระคุณตอ่ ผมเปน็ อยา่ งมาก
ผมและ “นอ้ ง” คดิ วา่ นา่ จะรวบรวมประวตั ิ และผลงานทม่ี คี ณุ คา่ ของเตย่ี เปน็ ประสบการณทห่ี าไดย้ าก เพราะคนในยคุ กอ่ นไมค่ อ่ ยได้
เขียนบันทึกเร่อื งราวไว้ ซ่ึงมแี ม่เปน็ ผสู้ นบั สนุนอยู่เบื้องหลงั นำ�มาเผยแพร่ สำ�หรบั ลกู หลานและผูส้ นใจ จึงไดร้ วบรวมและ
จดั พมิ พ์ขอ้ เขยี นทเี่ ต่ยี ไดบ้ นั ทกึ เหตุการณ์ และประสบการณ์ไว้ รวมถึงหนังสืออนสุ รณง์ านพระราชทานเพลงิ ของนายเพ่ง ลิมปะพนั ธ์ุ
และหนังสอื อนสุ รณง์ านพระราชทานเพลิง ของนางปราย ลมิ ปะพันธุ์ ด้วย
ในโอกาสเดียวกนั น้ี เพ่ือเป็นการบันทกึ ความสัมพันธ์ของเครือญาติ ใหไ้ ด้ทราบท่มี าและความเกี่ยวโยงของวงศ์ตระกลู
ของเต่ยี คอื “ลิมปะพันธ์ุ” และตระกลู ของแมป่ ราย คอื “แสนโกศกิ ” ผมจึงได้รวบรวมผงั ของวงศต์ ระกูล (Family Tree) เพอื่
ความสมั พันธ์ที่ดีตอ่ กนั และเพือ่ เป็นการส่ือสารระหว่างเครอื ญาติ ดว้ ย
13
ขอขอบคณุ ขอ้ มูลและภาพประกอบจาก website : google.com, https://www.wikipedia.org โรงเรียน ภ.ป.ร.
ราชวทิ ยาลัย (http://www.kc.ac.th) หอจดหมายเหตวุ ชิราวธุ (https://www.vajiravudh.ac.th,) โดยผมได้นำ�ข้อมูลและ
ภาพมาใชเ้ พ่อื ประโยชนท์ างการศกึ ษาของบคุ คลท่ัวไป การดำ�เนินการจดั พิมพ์เผยแพรแ่ บบใหเ้ ปลา่ นี้ไม่ไดม้ ีจดุ ประสงคใ์ นทาง
ธรุ กิจแต่อยา่ งใด
ขอขอบคณุ ทกุ ๆคนในครอบครัว ลิมปะพันธ์ุ และผ้ทู ่ีเกี่ยวข้อง ทไ่ี ด้ชว่ ยรวบรวมข้อมูลทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการจดั ทำ�
หนงั สอื น ี้ ขอบคณุ “นอ้ ง” สุพัฒตรา ลิมปะพันธุ์ คุณผุสดี กุฎอนิ ทร์ คุณสุวรรณา ย่งิ ยนื ยง คณุ สมชาย เดือนเพญ็ คณุ พิทยา
พนั ธ์พัฒนกุล คุณรับเสดจ็ สิงหชงค์ คณุ ประเทือง เผา่ ประพัฒน์ คุณเบญจวรรณ สายสนี วลและผู้ท่ีมสี ว่ นเกีย่ วขอ้ งทุกท่าน
ท่ไี ดช้ ่วยเรียบเรยี ง บรรณาธกิ าร ตรวจสอบแก้ไข จัดหาภาพประกอบ ทำ�ใหห้ นังสอื นส้ี มบรู ณม์ ากข้นึ
ครอบครวั ”ลมิ ปะพนั ธุ์” ขอนอ้ มร�ำ ลกึ ถึงพระคุณของเต่ยี และแม่ (นายเพง่ - นางปราย ลมิ ปะพนั ธุ์) ท่เี ป็นแบบอยา่ ง
ท่ีดงี ามให้ลกู หลาน ญาติพ่ีน้องและผูค้ นท่ัวไป หวงั เป็นอยา่ งย่ิงว่า การเผยแพร่ประสบการณแ์ ละขอ้ คิดในหนังสือนี้ จะเปน็
ประโยชนต์ ่อทุกท่าน เป็นแรงบันดาลใจใหล้ ูกหลาน คนรุน่ ใหม่และผอู้ ่านดำ�เนนิ ชวี ติ อยา่ งมีสติ มีความรับผดิ ชอบ และท�ำ ตน
ใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ สงั คมและส่วนรวมต่อไป
สุวฒุ ิ ลิมปะพนั ธ์ุ
14 กนั ยายน 2564
14
ประวัตินายเพ่ง ลมิ ปะพันธุ์
“ขนุ เพง่ จีนานเุ คราะห”์
ชาตภิ มู ิ
จากขอ้ เขียนประวัตสิ ว่ นตัวของนายเพง่ ลิมปะพนั ธุ์ ท่านได้บันทกึ ชาตภิ มู ขิ องทา่ นไวว้ า่ ปู่ของทา่ น
ช่ือนายฮ่วยเซยี แซล่ มิ้ ซง่ึ เป็นชาวจีน ได้เดินทางมาจากเมืองซัวเถา ประเทศสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตย
ประชาชนจีน อันเป็นถิ่นกําเนิดพร้อมด้วยมิตรสหายสนิทของท่านคนหนึ่ง คือนายโช้ว ท่านบิดาของ
พระยาพพิ ัฒนธ์ นากรณ์ ต้นตระกลู “โปษยานนท์” เพอ่ื มาทํามาหากนิ ในสยามประเทศ ตรงกบั รัชสมัย
ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รชั กาลที่ 4 การเดนิ ทางนนั้ ตอ้ งมากับเรอื ใบบรรทกุ สนิ ค้า
ซง่ึ อาศยั แรงลมเป็นพลงั งาน และกอ็ ย่างทร่ี ู้ๆ กนั วา่ แต่ละคนทีเ่ ดนิ ทางมาน้นั ไม่ได้มาอย่างผมู้ อี นั จะกนิ
หรือเศรษฐี แตม่ ากนั ในสภาพท่ีมี “เสื่อผนื หมอนใบ” โดยมีจดุ หมาย เพ่ือไป “ตายดาบหนา้ ”
เมอ่ื ทา่ นทง้ั สองมาถงึ บางกอกแลว้ กต็ อ้ งต่อสูช้ ีวติ อนั ลำ�เคญ็ ดว้ ยการรบั จา้ งพายเรอื ข้ามฟาก
ด้วยอัตราคา่ จ้างเพียงเดือนละ 1.50 บาท เท่านั้น นายฮ่วยเซยี ได้พจิ ารณาเห็นวา่ ถา้ หากอยู่เมือง
บางกอกอนั เป็นเมืองหลวง ซึ่งตอ้ งมีการแก่งแยง่ กันทํามาหากินแลว้ เห็นจะตง้ั ตัวไม่ได้เปน็ แน่ ดังนั้น
เมื่อมีพ่อค้าเมืองเหนือลงไปติดต่อค้าขายท่ีบางกอกมาชักชวนให้ไปทําหน้าท่ีถ่อเรือขึ้นล่องเมืองพิชัย-
กรุงเทพฯ จงึ ตกลงและยา้ ยภมู ิลําเนาไปอยู่ท่เี มอื งพชิ ัย จงั หวดั อุตรดิตถ์ต้ังแต่บัดน้นั จนกระท่งั ตอ่ มา
ดว้ ยความวิริยะอตุ สาหะจึงสามารถต้งั ตัวได้ และสมรสกบั ธดิ าคหบดีที่น่ันจนมีบตุ รธิดาหลายคน หนึง่ ใน
จํานวนน้นั คอื นายสงิ ห์โต หรือหลวงชนาธกิ ารอนุมตั ิ ผูเ้ ป็นบิดาของนายเพง่ ลิมปะพนั ธ์ุ
15
ตอ่ มานายสงิ หโ์ ตไดแ้ ต่งงานกับ น.ส.แมน้ นพคณุ ธิดาของท่านคหบดี คอื หลวงหิรัญโภคา ซ่ึง
เป็นเศรษฐคี นหนง่ึ ในเมอื งสวรรคโลก ท่านประกอบอาชพี เป็นพอ่ คา้ ไม้สัก ทา่ นทำ�งานด้วยความขยัน มานะ
อดทนจนสามารถขยายธุรกิจเพิ่มขนึ้ โดยเปน็ นายอากรผลิตสุราทีม่ ณฑลพษิ ณโุ ลก จ�ำ หน่ายไปท่ัวทกุ จังหวดั
ภาคเหนือ ทำ�ใหค้ รอบครวั มาฐานะมงั่ คั่งร�่ำ รวยขนึ้
เมอ่ื มฐี านะดีแลว้ นายสงิ ห์โตก็ไดต้ ัง้ หนา้ ตัง้ ตาประกอบคุณงามความดีดว้ ยการให้ความรว่ มมอื กบั
ทางราชการ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื แทบทกุ ประการทท่ี า่ นเจา้ เมืองได้ขอร้องมา สำ�หรบั ชาวบ้านท่ีอาศัยอยู่
แถบตําบลใกล้เคยี ง หากผใู้ ดได้รับความเดือดรอ้ น ท่านกใ็ ห้ความชว่ ยเหลอื ตามแต่เหตกุ ารณจ์ ะอํานวย
จนเป็นที่นบั หนา้ ถอื ตาของคนทว่ั ไป นอกจากน้นั ทา่ นก็ได้ทำ�นุบํารุงบวรพระพุทธศาสนา จนตอ่ มากไ็ ดร้ ับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น รองอํามาตย์โท หลวงชนาธิการอนุมัติ กรมการพิเศษจงั หวัดพิษณโุ ลก
จากคณุ ความดีท่ีนายสิงห์โตไดป้ ฏบิ ัตมิ า ในปพี ศ. 2460 สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอเจา้ ฟา้
ภาณรุ งั ษีสวา่ งวงศ์กรมพระยาภาณุพนั ธุวงศ์วรเดชพระเจา้ นอ้ งยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้
เจา้ อยหู่ วั ได้โปรดพระราชทานนามสกุล “สงิ หะชงฆ์” ใหแ้ ก่นายสงิ ห์โต โดยทรงพระราชทานไว้ ดงั น้ี
“ขอขนานนามสกุลใหแ้ ก่ขุนชนาธกิ ารอนมุ ัติ (สงิ ห์โต)
และนายบญุ ฮวด ผ้หู ลาน
ว่า “สงิ หะชงฆ”์ แปลว่า “แฆง่ แห่งราชสีห์” นามน้อี า่ น
เป็น ๓ พยางค์ เป็นภาษามคธ ๒ ศพั ท์สมาสคือ ศพั ทต์ ้น
วา่ “สิงหะ” แปลว่า สัตว์โบราณชนดิ หนง่ึ ซง่ึ คลา้ ยราชสหี ์
หรอื สิงหโ์ ต ความหมายก็คอื เอานามเดิมของขุนชนาธิการฯ
นน้ั เอง” ศัพท์ท้ายว่า “ชงฆ์” แปลว่า ”แฆ่ง: เปน็ อวัยวะอนั หนึ่ง
ในรา่ งกาย” หมายเอาวงศ์วารเป็นที่ตัง้ ท้ังได้อกั ษรใกลส้ ำ�เนียง
“เชง” ซงึ่ เป็นนามของป่ทู วดด้วย เปน็ ศริ มิ งคล ถ้าจะเขยี น
เป็นอักษรโรมนั ดังน้ี
“Sihajangha”
ขอจงมีความศขุ สิริสวสั ดีพพิ ัฒนมงคล ตลอดวงศ์สกลุ
ชั่วกาลนานเทอญ
วงั บูรพาภิรมย์ กรงุ เทพฯ
วันที่ ๑๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๔๖๐
16
ในเวลา 2 เดอื นต่อมา หลวงชนาธกิ ารไดม้ อบนามสกลุ นี้ให้แก่นายแสน (บุตรบุญธรรม) นบั เป็น
โอกาสดที เ่ี ราได้เหน็ ลายมือของหลวงชนาธิการอนุมัติ โดยท่านไดเ้ ขียนไว้ดงั น้ี
จงั หวดั สวรรคโลกย์
ขา้ พเจ้าหลวงชนาธิการอนมุ ัติ
ขอมอบนามสกุลนีใ้ ห้แก่ นายแสนบุตร
ใหใ้ ช้ชวั่ กาลนาล จงมีความเจรญิ
ด้วยทรัพยสมบัติ และอายหุ มัน้ ยืน
ชวั่ กันปาวสาร
หลวงชนาธิการ
วันท่ี ๑๕ พฤษภาคม
พระพุทธศกั ราช ๒๔๖๐
** ขอขอบคุณขอ้ มูล และภาพประกอบจาก
คณุ รบั เสดจ็ สงิ หชงค์ บุตรของ นายสวน
และนางพลู ศรี สิงหชงค์ (ลมิ ปะพันธ์)ุ
17
ต่อมาในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หัว ไดม้ ีการพระราชทานนามสกุลแก่
ผู้ทท่ี �ำ ประโยชน์ตอ่ บ้านเมือง และนายสิงหโ์ ตไดข้ อรับพระราชทานนามสกลุ ดว้ ย โดยพระบาทสมเด็จ
พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ ัวทรงพระพระราชทานนามสกุล ”ลมิ ปะพันธ”ุ์ ในวันท่ี 5 เมษายนพ.ศ 2462
ดงั นี้
นายเพ่ง เกิดเมือ่ วันจันทร์ท่ี 30 มกราคม 2447 ท่ีเรอื นแพ ตําบลวงั พิณพาทย์ อําเภอสวรรคโลก
จงั หวดั สุโขทัย เป็นบตุ รรองอํามาตย์โทหลวงชนาธกิ ารอนุมตั ิ และนางชนาธิการอนมุ ัติ (ผนั ลิมปะพนั ธุ์)
บตุ รีของหลวงหริ ญั โภคา (เทศ นพคณุ ) นายเพง่ ลิมปะพันธุ์ เดิมได้รับบรรดาศักดเ์ิ ปน็ “ขุนเพง่ จนี านุเคราะห”์
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยมี
พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ เม่อื พ.ศ. 2475 แลว้ ทางการให้เลิกใช้บรรดาศกั ด์ิ จึงขอคนื บรรดาศักด์ิ
กลับมาใชช้ อ่ื เดมิ คอื นายเพง่ ลิมปะพันธุต์ อ่ ไป
18
หลวงชนาธกิ ารอนมุ ัติ (สิงห์โต ลมิ ปะพนั ธุ์) นางชนาธกิ ารอนมุ ัติ (ผัน ลมิ ปะพันธ์ุ)
หลวงชนาธกิ ารอนมุ ัติ (ใสห่ มวกยืนแถวหลังสดุ )
อยู่ในคณะกรมการพิเศษเมืองสวรรคโลก
19
นายเพ่งมีพ่นี อ้ ง 4 คน คือ
1. ขุนประพัฒนพ์ าณชิ ย์ (เซ่งฮวด ลมิ ปะพนั ธ)์ุ ท่านผนู้ เ้ี ป็นพีช่ ายใหญ่ อนั เกิดกบั คณุ นายแมน้
ซ่ึงเป็นพ่สี าวของ นางผนั ลิมปะพันธุ์ (นางชนาธิการอนุมัต)ิ แต่เม่ือคลอดลูกแล้ว คุณนายแมน้ ก็ได้
ถงึ แกก่ รรม นางสาวผัน ซงึ่ เป็นนา้ กม็ หี นา้ ท่ตี อ้ งเล้ียงดูหลานเสมอื นเปน็ ลกู ตลอดมา และตอ่ มานางสาวผนั
ก็ได้สมรสกับหลวงชนาธกิ ารอนุมตั ิ มบี ตุ ร ธดิ า 3 คน
2. นางสมบตั ศิ ิริราช (เซ่งกี สมบตั ศิ ริ )ิ
3. นายเพง่ ลมิ ปะพันธ์ุ
4. นายผาศุข ลมิ ปะพันธ์ุ
เม่ืออายคุ รบทีจ่ ะอปุ สมบท ท่านบิดาคอื รองอํามาตยโ์ ท หลวงชนาธกิ ารอนมุ ัติ และมารดา
(นางชนาธกิ ารอนมุ ตั )ิ ไดจ้ ัดพธิ ีอปุ สมบทนายเพง่ ลิมปะพนั ธ์ตุ ามประเพณนี ยิ มแห่งพระพุทธศาสนา
ทีว่ ดั สวรรคาราม ตําบลวังพณิ พาทย์ สวรรคโลก โดยมเี จา้ พระคุณพระสวรรควรนายก อดตี เจ้าคณะ
จังหวัดสุโขทยั เปน็ พระอปุ ัชฌาย์
สมรส
หลงั จากไดบ้ วชเรยี นตามประเพณแี ลว้ ท่านบิดาและมารดา จงึ ได้จัดการสขู่ อ นางสาวปราย
แสนโกศิก ธดิ าของนายเปลอื้ ง นางไล้ แสนโกศิก คหบดชี าวเมืองสโุ ขทยั ซ่ึงเปน็ เครือญาติกันให้เป็น
ภริยา และได้จดั พธิ ีสมรสข้ึนอยา่ งสมเกยี รติของคหบดีท่เี มอื งสโุ ขทยั เม่ือ พ.ศ. 2470 ทั้งสองไดค้ รองรกั
กันมาด้วยความสุข และมบี ตุ รธิดาท้งั สิน้ รวม 11 คน คอื
1. นายพิษณุ ลิมปะพันธุ์ อดตี ประธานสภาจงั หวดั สุโขทยั (ถึงแกก่ รรม)
2. ด.ญ. นิจ ลิมปะพันธ์ุ (ถึงแกก่ รรม เมอ่ื ยงั เดก็ )
3. ด.ญ. จว๋ิ ลมิ ปะพนั ธุ์ (ถงึ แกก่ รรม เม่อื ยงั เด็ก)
4. นายประพันธ์ ลิมปะพนั ธุ์ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสุโขทยั (ถงึ แกก่ รรม)
5. ร.ต.ประพาส ลิมปะพนั ธ์ุ อดตี สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวัดสโุ ขทัย
รฐั มนตรีชว่ ยวา่ การกระทรวงการตา่ งประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ
6. ด.ช. แดง ลิมปะพันธุ์ (ถงึ แก่กรรม เมอ่ื ยงั เด็ก)
20
7. นายประพฤติ ลิมปะพนั ธุ์ อดตี ประธานสภาจังหวัดสุโขทัย
อดีตนายก อบจ. สุโขทัย (ถงึ แก่กรรม )
8. นายสมชาติ ลมิ ปะพันธ์ุ นายกเทศมนตรีเมืองสวรรคโลก
ประธานหอการคา้ จ.สุโขทัย
ประธานกรรมการ บรษิ ัท ที.เจ.ซ.ี เคมี จาํ กดั
9. นายสนั ตภิ าพ ลมิ ปะพันธุ์ ประธานทปี่ รกึ ษาสหกรณ์การเกษตรสวรรคโลก
10. นายสวุ ฒุ ิ ลิมปะพันธ์ุ ประธานกรรมการ บรษิ ัท หลินผงิ อัน จำ�กัด
เจา้ ของกิจการ “ทองศรสี ัชนาลัย”
11. นางปยิ พันธุ์ ลมิ ปะพนั ธุ์ ธุรกจิ สว่ นตัว
ประพาส พิษณุ ประพนั ธ์
ประพฤติ สมชาติ
สันติภาพ สุวุฒิ
ปิยพันธุ์
ครอบครวั พ.ศ. 2495 21
การศึกษา
นายเพ่งฯ ได้เริ่มการศกึ ษาข้ันตน้ ทีบ่ ้าน โดยท่านบิดาได้จ้างครพู ิเศษมาสอน แลว้ จึงส่งเขา้ เรยี น
ในโรงเรยี นดงั น้ี
1. โรงเรยี นประจําจังหวดั สวรรคโลก “สวรรควิทยา” ในช้นั ประถมศกึ ษาจนถึงมธั ยมปที ่ี 1
แล้วจงึ ไดส้ ง่ ไปเรยี นต่อที่กรุงเทพมหานคร
2. โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั ในชน้ั มธั ยม ในปี พ.ศ. 2459 ทโ่ี รงเรยี นราชวทิ ยาลยั น้ี นายทวี บณุ ยเกตุ
อดตี นายกรัฐมนตรี ซ่งึ เป็นนกั เรยี นรุน่ เดียวกับ นายเพ่ง ลิมปะพนั ธ์ุ ไดก้ ล่าวถึงความสําคญั ของโรงเรียนน้ี
ไว้วา่ เป็นโรงเรยี นทพ่ี ระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 5 ได้ทรงตง้ั ข้นึ โดยมีพระราชประสงค์
จะให้เป็นโรงเรียนกนิ นอนตัวอย่างแบบ PUBLIC SCHOOL ของประเทศอังกฤษ การทจ่ี ะใหป้ ระเทศ
รงุ่ เรอื งน้นั จะตอ้ งมีผบู้ ริหารทีม่ ีความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ เปน็ ผู้มรี ะเบยี บวินัยดี มคี วามกล้ารบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ี
การงานทต่ี นได้รบั มอบหมาย เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพ่อื ส่วนรวม มนี �ำ้ ใจนกั กีฬา มคี วามสามัคคี
ร้จู ักเคารพตนเอง รจู้ ักรักษาเกยี รตขิ องตนและหม่คู ณะ รวมถงึ ประเทศชาติ ร้จู ักหน้าที่ ร้จู ักทํางานร่วมกัน
และประสานงานกนั และรูจ้ กั เคารพในความคดิ เห็นของคนอื่น ดงั น้ันผู้ท่ีสําเร็จจากโรงเรยี นนีก้ ็ได้เคย
เป็นนายกรัฐมนตรี รฐั มนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี และขา้ ราชการผ้ใู หญท่ กุ ระดบั ชั้นของบ้านเมือง สมดงั
เจตนาของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี 5 ผทู้ รงกอ่ ตงั้
22
3. เมอ่ื จบจากโรงเรียนราชวทิ ยาลยั แล้ว ก็ไดเ้ ขา้ ศึกษาวิชากฎหมาย ทโ่ี รงเรยี นกฎหมาย กระทรวง
ยตุ ิธรรม ซึง่ ในตอนน้นั ตง้ั อย่ทู ่ีกรมประชาสมั พันธ์ ถนนราชดําเนินกลางในปจั จุบันน้ี
ชวี ิตในระหวา่ งเรียนหนังสอื ของนายเพง่ ลิมปะพันธ์นุ ัน้ นอกจากความตัง้ ใจเรียนแลว้ นายเพง่
ยังมคี วามสามารถในดา้ นกีฬา เปน็ นักกฬี าเด่นของโรงเรียน กล่าวคือ เมอ่ื เรยี นทโ่ี รงเรียนราชวิทยาลยั ได้
เปน็ นักฟุตบอลทเ่ี ก่งกลา้ สามารถคนหน่งึ เพราะไดเ้ ล่นในทมี ของโรงเรยี นไปแขง่ ขันกับทีมฟุตบอลโรงเรยี น
ตา่ งๆ เช่น สวนกุหลาบ เทพศิรนิ ทร์ อยเู่ ป็นประจํา และไดน้ ําชัยชนะมาสู่โรงเรียนเสมอๆ จนเปน็ ทีเ่ ล่ืองลือ
ท่วั ไป จนกระทง่ั ได้รับพระราชทานเส้ือสามารถ หมวกสามารถฟุตบอลจากในหลวงรชั กาลที่ 6
ส่วนกฬี าอนื่ ๆ น้นั นายเพ่ง ลิมปะพันธุ์ ถอื เป็นนักกรฑี าท่โี ดดเดน่ มาก ท�ำ สถติ ใิ นการว่ิงประเภท
100 เมตร 200 เมตร 400 เมตร ได้ดเี ยย่ี ม เปน็ นกั กรฑี าของโรงเรียนทีไ่ ดร้ ับเหรียญทองมาหลายเหรยี ญ
และเปน็ ที่นยิ มชมชอบของคนทวั่ ไป
การประกอบอาชีพ
1. เมอื่ เรียนหนงั สือในดา้ นกฏหมายจบแล้ว ไดเ้ ขา้ รับราชการอยใู่ นกรมมหาดเลก็ หลวง ใน
รชั กาลของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยูห่ วั ไดร้ ับพระราชทานเงินเดือน เดือนละ 50 บาท ทำ�งาน
สนองพระเดชพระคณุ อย่พู ักหนงึ่ กถ็ ูกท่านบิดาขอรอ้ งให้ลาออกจากราชการเพือ่ กลับมาประกอบอาชีพ
ทบ่ี ้าน โดยไดเ้ ปน็ กําลงั สําคญั ของท่านบดิ าและพ่ชี ายใหญ่
2. หลงั จากทา่ นบิดาไดถ้ ึงแก่อนจิ กรรมแล้ว นายเพง่ ก็หันมาประกอบอาชพี ดา้ นเกษตรกรรม
โดยปลูกพืชไร่ เชน่ ละหุ่ง ฝา้ ย ถั่วเหลอื ง ทง้ั นแ้ี ลว้ แตป่ ีใดจะมีความตอ้ งการของตลาด การประกอบ
การเกษตรนี้ ไดท้ ําความเจรญิ รงุ่ เรืองใหแ้ ก่ครอบครัวมากพอสมควร จนชาวบ้านแถบน้นั ไดห้ ันเขม็ อาชพี
ไปในทางการเกษตรตามอย่างกนั เป็นสว่ นมาก การประกอบอาชพี ทางด้านการเกษตรนัน้ ทําใหเ้ กดิ แนว
ความคดิ ท่จี ะส่งบุตรชายคนหน่งึ ไปเรียนการเกษตร ก็พอดีกับร้อยตรปี ระพาส ลมิ ปะพันธ์ุ บตุ รชาย
เรียนจบจากเตรยี มอดุ มทโ่ี รงเรียนวชริ าวุธวทิ ยาลัย จึงสนบั สนนุ ให้เรียนวิชาการเกษตร โดยสอบเขา้ เรยี น
ไดท้ ่มี หาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ บางเขน เมือ่ ร.ต.ประพาส ลิมปะพนั ธ์ุ เรยี นจบจนได้ปริญญาตรีแลว้
จึงขอให้กลบั บ้านเกิดไปประกอบใหป้ ระกอบอาชีพทางเกษตร นอกจากนี้ นายเพ่งยังไดส้ ง่ ให้บุตรชาย
คนสดุ ทอ้ งคือ นายสุวุฒิ ลมิ ปะพนั ธุ์ ไปเรยี นด้านการเกษตร ที่มหาวทิ ยาลัยแหง่ ชาตไิ ตห้ วนั อกี ดว้ ย
แมว้ า่ ส่วนใหญ่ ลูกๆ ไดไ้ ปทำ�งานการเมอื งกัน แตท่ างครอบครวั กย็ ังประกอบอาชีพทางการเกษตรกันอยู่
จนถงึ ปจั จุบนั
23
งานทางการเมอื ง
นายเพง่ ไดเ้ รม่ิ ทำ�งานทางการเมอื งมาตง้ั แต่ พ.ศ. 2478 เป็นต้นมา ด้วยการไต่เต้าจากการ
เปน็ สมาชิกสภาจงั หวัดสวรรคโลก และต่อมาก็ไดร้ ับเลือกต้ังใหเ้ ป็นนายกเทศมนตรเี มืองสวรรคโลก โดย
ได้อย่ใู นตําแหนง่ ยาวนานถงึ 10 กวา่ ปี ต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2480 ถงึ พ.ศ. 2491
ในปี 2492 นายเพง่ ก็ไดร้ บั เลอื กต้งั ใหเ้ ป็นสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวดั สุโขทัย เป็นคร้งั
แรก และตอ่ มาในปี 2500 ก็ไดร้ ับเลอื กต้งั เปน็ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรอีกครั้งหนง่ึ จึงเปน็ ผ้แู ทนราษฎรถงึ
2 สมัย ตอ่ มาในปี 2501 ถงึ 2525 ได้เปน็ ประธานสภาจงั หวัดสโุ ขทยั แต่ในระหวา่ งน้ี ก็มีการเว้นบา้ งเปน็
บางสมยั ส่วนสมาชกิ สภาจงั หวัดนนั้ ได้เปน็ ยาวนานถงึ 25 ปี ตัง้ แต่ พ.ศ. 2501 ถงึ 10 มถิ นุ ายน 2526
ซง่ึ เปน็ ปีทท่ี า่ นถงึ แก่กรรม
1. การดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรเี มอื งสวรรคโลก ไดท้ ํางานท่ีสำ�คัญ ดังนี้
1.1 สร้างสํานักงานเทศบาลและสถานอี นามยั ข้ึนใหม่
1.2 สรา้ งอาคารโรงเรยี นเทศบาลขึ้นใหม่ถงึ 3 แหง่
1.3 ตัดถนนไวห้ ลายสายในเมืองสวรรคโลกคือ ถนนเทศบาลดําริ 1-2-3
ถนนประชาสงเคราะห์ และถนนเกษมราษฎร์
1.4 ได้จัดซอื้ ท่ดี ิน 17 ไร่ ในราคา 1,500 บาท ซง่ึ นบั วา่ ถูกมาก โดยจัดสร้างอาคารพาณชิ ย์
และตลาดสดเทศบาล เพอื่ เป็นแหล่งส�ำ คญั ของชมุ ชนและใหเ้ ช่าเปน็ รายได้ของเทศบาล
นายเพ่ง ประธานสภาจังหวัดสโุ ขทยั พรอ้ มสมาชิกสภาจงั หวดั
คอื นายพษิ ณุ บตุ รชาย (ยนื แถวหลงั สดุ คนที่ 2 จากขวา)
24
2. การด�ำ รงตําแหนง่ ประธานสภาจงั หวดั สุโขทยั
2.1 ได้รับการยกยอ่ งจากบรรดาสภาจงั หวดั ทวั่ ประเทศว่า สามารถบรหิ ารงานสภาจังหวดั
สโุ ขทัย ไดก้ า้ วหนา้ อยา่ งมาก จนถอื ได้ว่าเป็นตวั อยา่ งของสภาจังหวัดทดี่ ี มีผมู้ าศกึ ษาดูงานจากทัว่ ประเทศ
2.2 ได้ช่วยเหลือกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในด้านการศึกษาประชาบาลได้ดีมาก
จนไดร้ บั คําชมเชยจากกระทรวงมหาดไทย
2.3 ได้รบั คดั เลอื กใหเ้ ป็นคณะกรรมการการประถมศกึ ษาจังหวัดสุโขทยั ในฐานะผทู้ รงคุณวฒุ ิ
การประถมศึกษาจังหวดั (กปจ.)
3. การปฏบิ ตั ิงานเมื่อครงั้ ดํารงตําแหน่งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสโุ ขทยั
3.1 ไดร้ ับเลือกเปน็ กรรมาธกิ ารพิจารณางบประมาณแทบทุกปี
3.2 ได้ประสานและเร่งรัดกรมชลประทานให้สร้างฝายเมืองเชลียง (ฝายแม่ราก) อําเภอ
ศรสี ัชนาลัย อนั เปน็ ผลใหร้ าษฎรไดม้ ีน้ำ�ใช้ในการทํานาหลายหม่นื ไรด่ ว้ ยกัน
3.3 ได้ทําหน้าทเ่ี ปน็ ผูแ้ ทนราษฎร ช่วยแก้ปัญหาเมอ่ื ชาวบา้ นประสบเรอ่ื งทกุ ขร์ อ้ น รวมทงั้
สนบั สนนุ งานสว่ นรวมอีกมากมาย ตามทท่ี ่านได้เขียนไว้ใน เร่ือง “วถิ ีชวี ิต”
งานดา้ นสงั คมสงเคราะห์
1. นายเพง่ ไดบ้ ริจาคทด่ี ินตดิ ถนนสวรรคโลก - ศรนี คร ทีต่ �ำ บลในเมืองสวรรคโลก จ�ำ นวน 50 ไร่
เพ่อื จดั สรา้ งโรงเรยี นมติ รภาพ เพือ่ เป็นทเ่ี รียนส�ำ หรบั บตุ รหลานชาวบ้านท่ีอยู่ใกล้เคยี ง นอกจากนยี้ ังได้
บรจิ าคทดี่ นิ 5 ไร่ เพื่อจดั ต้ังเสารบั สญั ญานโทรทศั นข์ องสถานโี ทรทศั นแ์ ห่งประเทศไทยช่อง 8 ลำ�ปาง
เพอื่ ให้ชาวสวรรคโลกได้ชมรายการโทรทศั น์อย่างชดั เจนมากข้นึ
2. ได้รวบรวมเพอ่ื นๆ และศษิ ย์เกา่ จัดตง้ั สมาคมนักเรยี นเกา่ สวรรควทิ ยา เมื่อ พ.ศ. 2488 ขึน้
เป็นครงั้ แรก ทําใหบ้ รรดาศิษยเ์ ก่าท้ังหลายไดร้ วมตัวกนั อันก่อใหเ้ กดิ ความสามคั คใี นหมู่เพ่ือนทัง้ หลาย
อันเปน็ พลังในการชว่ ยกันเสรมิ สร้างประเทศชาตติ ่อไปในอนาคต ท่านไดท้ ําประโยชน์ให้สมาคมดงั นี้
2.1 จดั ซ้ือทด่ี นิ จํานวน 80 ไร่ เพ่ือสร้างโรงเรยี นในปจั จุบัน
2.2 ของบประมาณสรา้ งอาคารโรงเรียนสวรรคอ์ นนั ต์หลังแรก และอาคารประกอบให้แก่
โรงเรยี น
2.3 จัดหาทนุ ใหน้ ักเรียนท่เี รียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
2.4 จัดซอื้ จดั หาอปุ กรณก์ ารศึกษาใหโ้ รงเรยี นตลอดมา
25
คณะกรรมการก่อตงั้ สมาคมนกั เรยี นเกา่ นายเพง่ ไดต้ ้อนรับคุณหญิงอัมพร มีศขุ รองปลัด
โรงเรยี นสวรรควทิ ยา รปู นีถ้ า่ ยเมื่อ พ.ศ.2493 กระทรวงศึกษาธิการ ท่โี รงเรยี นมติ รภาพสวรรคโลก
ซ่ึงนายเพ่งไดบ้ ริจาคทีด่ ินสรา้ งโรงเรยี น
3. เป็นสมาชิกสภาสงั คมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ไดร้ ับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการ
ประสานงาน ภาค 6
3.1 เปน็ ประธานคณะกรรมการประสานงานสว่ นภมู ภิ าค ภาค 6 ตง้ั แต่ พ.ศ. 2521 ถึง 2524
3.2 ได้รว่ มมือกับสภาสังคมสงเคราะหแ์ ห่งประเทศไทย ชว่ ยเหลือประชาชนท่ปี ระสบภยั ต่างๆ
3.3 จัดใหม้ ีการประชุมคณะกรรมการประสานงานส่วนภมู ภิ าค ภาค 6 ตามจงั หวดั ต่างๆ
ทกุ ปี เพ่ือแถลงผลงาน แลกเปลีย่ นประสบการณ์กนั และพบปะสังสรรคร์ ะหวา่ งสมาชกิ ในภาคนี้
งานเสรไี ทย สนองคณุ ชาติ
ไดร้ บั ความไว้วางใจจากหัวหน้าขบวนการเสรไี ทยคือ นายปรีดี พนมยงค์ ใหเ้ ป็นหวั หน้าเสรไี ทย
ภาคเหนือคอื อตุ รดติ ถ์ พษิ ณุโลก สโุ ขทยั เพ่ือทํางานตอ่ ต้านญปี่ ุ่น เม่อื สมัยสงครามโลกคร้ังที่ 2 ซง่ึ
ญี่ปุ่นเขา้ มายดึ ครองประเทศไทย ผลของการปฏบิ ตั ิงาน มีดังน้ี
1. สร้างเง่ือนไขและอุปสรรคการดําเนินงานของญี่ปุ่นอย่าง
ต่อเนอื่ ง จนเป็นผลให้กองทัพญป่ี ่นุ ต้องประสบความล้มเหลว ไม่สมหวงั
ตามแผนงานทว่ี างไว้
2. ระดมความร่วมมือในการรับอาวุธยุทธภัณฑ์จากกองทัพ
สัมพนั ธมิตรท่สี ่งมาโดยทงิ้ ร่มจากเคร่ืองบนิ จํานวนมากมาย เป็นที่สอง
ของประเทศ
3. เป็นกำ�ลังสำ�คัญในการสร้างผลงานของขบวนการเสรีไทย
จงึ ทําใหไ้ ทยไดป้ ลดเปลอ้ื งจากปฏกิ รรมสงครามลงอย่างมากมาย
26
การเดนิ ทางไปต่างประเทศ
1. ในขณะท่ีดํารงตําแหนง่ ประธานสภาจังหวัด ได้รับการคดั เลอื กจากกรมการปกครอง กระทรวง
มหาดไทย ในฐานะทป่ี ฏิบตั ิงานในหน้าท่ีดเี ดน่ ให้ไปดงู านการศึกษาประชาบาล ท่ีประเทศเกาหลี และ
ไต้หวนั
2. ได้เดนิ ทางไปทศั นาจรส่วนตัวหลายประเทศและหลายครั้ง เช่น ไปเยี่ยมลูกชาย คอื นายสวุ ฒุ ิ
ลมิ ปะพนั ธุ์ ทเี่ รยี นหนังสืออยู่ท่ีนครไทเป ไตห้ วัน และได้เดินทางไปมาเลเซีย และประเทศอ่ืนๆ อกี พอ
สมควร
นายเพง่ ลมิ ปะพนั ธุ์ ได้เคยปรารภกับนายผาศขุ ลิมปะพันธุ์
น้องชายคนเดยี วของทา่ นเสมอว่า กอ่ นจะตาย ขอใหไ้ ด้เหน็ ลกู ได้เปน็
สมาชกิ สภาเทศบาล นายกเทศมนตรี สมาชกิ สภาจงั หวดั ประธาน
สภาจังหวัด สมาชกิ ผแู้ ทนราษฎรเสียก่อน จะไดน้ อนตาหลบั
บดั น้ี บรรดาลูกๆ หลายคนก็ได้ทําให้สมความต้งั ใจของ นายผาศุข ลมิ ปะพันธุ์
ทา่ นแล้ว และยงิ่ กว่านน้ั ลูกของทา่ นคนหนึง่ ยงั ไดร้ ับเกียรติเปน็ ถึง
รัฐมนตรี จงึ หวงั วา่ ทา่ นคงเป็นสุข เพราะได้ทกุ สิง่ ตามทีต่ ้ังใจไว้แล้ว
และมีสว่ นเกินความหวังเดิมท่ีตัง้ ไว้อกี ดว้ ย
การเป็นคอลมั นสิ ต์
นายเพง่ ลิมปะพันธ์ุ ได้เขยี นบทความในแงว่ พิ ากษ์วิจารณ์การเมืองและราชการอย่เู ปน็ ประ
จํา ในหนงั สอื พมิ พ์ สยามรฐั ประชาธิปไตย เปน็ ต้น นอกจากนน้ั ไดเ้ ขียนบทความใหห้ นังสอื พมิ พ์ท้อง
ถนิ่ อีกหลายฉบับ เช่น หนงั สอื พมิ พเ์ สยี งชนบท หนงั สอื พิมพ์ประชาชน และอ่ืนๆ อีกมาก
การเขียนบทความนี้ เป็นบทความท่นี ่าสนใจ มผี ตู้ ิดตามอ่านเปน็ จำ�นวนมาก และสว่ นราชการ
หลายแห่งก็จบั ตามองอยู่ มักจะมเี จ้าหน้าท่ไี ด้นำ�เสนอผู้ใหญเ่ พอ่ื ทราบ ถือเปน็ เสียงสะท้อนเพอื่ ปรบั ปรุง
การท�ำ งานของรฐั ไดอ้ ย่างดี
27
ความส�ำ เร็จในงานของลูกๆ ที่นายเพง่ มงุ่ หวงั
นายพษิ ณุ ลมิ ปะพนั ธ์ุ ประธาน สนมาายชปิกรสะภพานั จธัง์ หลวิมดั ปสะโุพขันทธัยุ์ ตร่าจสอ้งังวปมยห่าวตรกาวา่ ะชดัารกเรกิีปสทากสรโุรศขระภกะทพแารทยัผาะลรสทู้แะรวรทรัฐงลัฐวพนมมิ งมรนากปนาณตาะษตรรพชิ รฎีชยนัชี รว่ ์ ว่ธยยุ์
สภาจงั หวดั สโุ ขทยั
นายประพฤติ ลมิ ปะพนั ธ์ุ นายสมเชมาอื เตทงิ สศลวมมิ รนปรตะคพรโลีนั กธ์ุ นายก รนชแอาุมหสงยนกม่งสเมุปรมาันรสชรอืตมะหิกงิภกเสสกทาาวภรพศรรณาไรอเลทก์คทํามิยาโศนรปลบจวเกะกยาําพษกลกนั ดัตาธรรุ์
ประธานสภาจงั หวัดสโุ ขทยั
28
การรกั ษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ที่บา้ นสวรรคโลกไดต้ ้ังสํานักงานส่งเสรมิ อาชพี ราษฎร และรักษาผลประโยชน์ของชาติข้นึ เปน็
ภารกิจของผูแ้ ทนราษฎร คอื ใครมีทุกข์ หรอื ถกู กดขี่ขม่ เหงกเ็ ป็นปากเสยี งแทน ยงิ่ กว่าน้ันก็ทําหนังสอื
แจ้งใหเ้ จา้ หนา้ ทชี่ ั้นผ้ใู หญ่ทราบเรอ่ื งเพื่อปรับปรุง แกไ้ ขดว้ ย
ถึงแก่กรรม
นายเพง่ ลมิ ปะพันธุ์ ไดป้ ว่ ยเปน็ โรคความดนั โลหิตสูง เบาหวานและโรคไต ได้รบั การรกั ษา
ตอ่ เนอ่ื งและต้งั แต่ปี พ.ศ. 2524 ไดเ้ ข้าโรงพยาบาลหลายคร้งั ทัง้ ท่ีโรงพยาบาลศรสี ังวร อําเภอศรสี ําโรง
และโรงพยาบาลสวรรคโลก ครงั้ สดุ ทา้ ย เมื่อวนั ที่ 27 พฤษภาคม 2526 ได้เขา้ ไปรับการรักษาทีโ่ รงพยาบาล
หัวเฉียว กรุงเทพมหานคร ปรากฏวา่ อาการดขี ึ้นมาก สามารถพดู ได้ชดั เจน รบั ประทานอาหารได้มาก
จึงกลับมาบ้านสวรรคโลกเม่อื วนั ที่ 4 มถิ นุ ายน 2526 ครัน้ ถงึ วนั ท่ี 10 มถิ นุ ายน 2526 เวลาประมาณ
22.00 น. ได้มอี าการหายใจขดั และแนน่ หนา้ อก บตุ รและหลานจึงนําทา่ นสง่ โรงพยาบาลสวรรคโลก
เมือ่ ไปถงึ โรงพยาบาลกม็ ีอาการหนกั มาก สุดที่แพทย์จะเยยี วยาใหท้ เุ ลาลงได้ ในท่สี ุดเวลา 23.45 น.
ของวันที่ 10 มิถุนายน 2526 ทา่ นจงึ ไดถ้ งึ แกก่ รรมด้วยเหตหุ ัวใจลม้ เหลว รวมอายไุ ด้ 80 ปี
นายเพง่ ลิมปะพนั ธ์ุ ไดถ้ งึ แกก่ รรมท่ามกลางความอาลยั ของภรรยา บุตร หลาน ญาติ และผู้ท่ี
เคารพนบั ถอื ในโอกาสน้ี นายสันตภิ าพ ลิมปะพันธุ์ ผแู้ ทนของทายาทไดร้ วบรวมทุนทรัพยจ์ ดั สรา้ งเมรุ
แหง่ ใหม่ ทวี่ ัดสวรรคาราม สวรรคโลก ซง่ึ ได้ใชใ้ นพิธีพระราชทานเพลงิ ศพ นายเพง่ ลิมปะพันธ์ุ เปน็ รายแรก
นายเพ่ง ลิมปะพันธุ์ ไดส้ รา้ งคุณความดี แก่วงศ์ตระกลู แกส่ งั คมและประเทศชาติอยา่ งใหญ่หลวง
ความดงี ามท่ีท่านไดส้ รา้ งสมไว้ ไดส้ นองตอบตอ่ ทา่ นและสังคมส่วนรวม ขอให้ท่านไปสสู่ คุ ติสัมปรายภพด้วย
ชั่วนิจนิรนั ดร
29
ประวัติ
คุณแมป่ ราย ลมิ ปะพนั ธ์ุ
แม่ปราย ลมิ ปะพนั ธุ์ เกดิ เมอ่ื วนั ที่ 6 ตลุ าคม พ.ศ. 2450 ที่ตําบลธานี อําเภอเมอื งสุโขทยั
จังหวัดสุโขทยั เป็นบุตรคนที่สอง ของนายเปลอ้ื ง นางกิมไล้ แสนโกศกิ คหบดชี าวเมืองสโุ ขทยั มี
พน่ี ้องร่วมท้องเดยี วกันเพียงสองคนคอื
1. นายทองสขุ แสนโกศิก
อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานแี ละอดีตสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวัดสุโขทยั
2. นางปราย ลมิ ปะพนั ธุ์ (แสนโกศกิ )
แมป่ ราย เปน็ บุตรสาวของคหบดที ี่อ�ำ เภอเมอื งสโุ ขทัย เมอ่ื เยาวว์ ยั แมป่ ราย ลมิ ปะพันธ์ุ เป็น
คนขยัน อดทน งานหนักเอา เบาสู้ ช่วยเหลอื ครอบครัวเป็นอย่างดี จากประสบการณ์ตา่ งๆ ที่ไดร้ ับการ
อบรม สงั่ สอนมาดจี ากครอบครัวทีด่ ี จงึ มีความมานะอดทน ประหยดั และอดออม จงึ เป็นทร่ี ักของญาติ
พน่ี อ้ งทุกคน
โดยท่บี ิดาคือนายเปลื้อง แสนโกศิก มีความสนิทสนมกบั นายสงิ หโ์ ต ลิมปะพันธุแ์ ละท้ังสอง
ครอบครัวมคี วามรักใครผ่ ูกพนั กัน ต่อมาแม่ปราย แสนโกศิกและนายเพง่ ลิมปะพันธ์กุ ็ไดแ้ ต่งงานกัน
โดยความเห็นชอบและความยนิ ดขี องครอบครัว โดยจดั พิธีเมื่อปี พ.ศ. 2470 ที่บา้ นของพ่ชี ายคอื นายทองสขุ
แสนโกศกิ ถนนนิกรเกษม ตําบลธานี อําเภอเมอื งสุโขทัย โดยครอบครัวของเจา้ บา่ วจดั ขบวนขนั หมากจาก
จวนผวู้ า่ ราชการจงั หวัดสุโขทัย ถึงบา้ นเจา้ สาว เป็นขบวนขนั หมากทยี่ าวท่สี ดุ เท่าที่เคยมมี า ประมาณ 1
กิโลเมตร เมื่อแตง่ งานแลว้ แม่ปรายกไ็ ดม้ าอยกู่ ับครอบครวั ที่อ�ำ เภอสวรรคโลก จังหวดั สุโขทยั
30
แมป่ ราย และนายเพง่ ลิมปะพนั ธุ์ มบี ุตรธิดาทั้งสนิ้ รวม 11 คน โดยมบี ตุ รทเ่ี สียชวี ิตเมือ่ ยังเด็ก
3 คน เนอื่ งจากอุบัตเิ หตุและการเจ็บปว่ ย แม่ปรายได้เลย้ี งดบู ตุ รทง้ั 8 คน ด้วยความเอาใจใส่อยา่ งดีย่งิ
ลกู ทกุ คนมสี ุขภาพแขง็ แรงและมีพัฒนาการทีด่ ี จะเห็นไดจ้ ากภาพครอบครวั ในยุคต่างๆ ดังนี้
สวุ ฒุ ิ
ประพฤติ สมชาติ
สนั ตภิ าพ
ครอบครวั พ.ศ. 2492 31
สมชาติ ประพาส พษิ ณุ ประพันธ์
ประพฤติ
สุวุฒิ ปยิ พนั ธุ์ สันติภาพ
ครอบครัว พ.ศ. 2509
ประพันธ์ ประพาส สมชาติ สันตภิ าพ
ประพฤติ
สวุ ุฒิ ปยิ พันธ์ุ
ครอบครัว พ.ศ. 2522
32
แมป่ รายไดท้ �ำ หนา้ ทแ่ี มบ่ า้ นทส่ี มบรู ณแ์ บบอยา่ งยง่ิ โดยดแู ลบา้ น และจดั การเรอ่ื งอาหารการกนิ
และเล้ียงดูลกู ๆ ดว้ ยความเอาใจใส่ เมอ่ื นายเพ่งไดเ้ รม่ิ ท�ำ งานการเมอื งในระดับทอ้ งถน่ิ แม่ปรายก็เปน็ กำ�ลงั
ส�ำ คัญในการสนบั สนุนในทกุ ๆ ด้าน เชน่ การจัดสถานทท่ี ีบ่ ้านและอำ�นวยความสะดวกส�ำ หรับการประชมุ
พูดคยุ ของคณะทำ�งานและทีมการเมอื ง ซงึ่ ทำ�อยา่ งตอ่ เน่ืองเปน็ ระยะเวลานาน มกี ารสนับสนนุ ดา้ นทุนทรัพย์
ในบางช่วงท่ีมีการสมคั รหรอื หาเสียง รวมทง้ั การช่วยหาเสียงในกลมุ่ แม่บ้านด้วย ส่วนหน่ึงในความสำ�เร็จ
ของนายแพ่ง ทท่ี ำ�งานการเมอื งในระดบั ทอ้ งถิ่น ระดบั จงั หวัด จนถึงระดบั ชาติ ได้อยา่ งก้าวหน้า มัน่ คง
เพราะมแี มป่ รายเป็นผู้สนับสนุน ด้วยความตั้งใจเอาใจใส่อย่างสมำ่�เสมอตลอดมา และเมื่อลูกๆ ไดเ้ ข้ามา
ทำ�งานการเมืองแม่ปรายก็ยังคงท�ำ หนา้ ท่ีสนับสนนุ ลูกๆ อย่างตอ่ เนื่องเชน่ กัน
การช่วยงานครอบครวั และเลยี้ งดบู ตุ ร
แมป่ รายเปน็ คนท่ีมีระเบียบวินยั ถึงแม้วา่ ท่ีบา้ นจะมผี ู้ชว่ ยดแู ลท�ำ ความสะอาดบา้ น แตแ่ ม่ปรายก็
ฝกึ ลกู ให้จัดขา้ วของในบา้ น รวมทงั้ ตู้เตียงของแตล่ ะคนให้สะอาดและเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยและเปน็
นิสยั ตดิ ตัวทดี่ ขี องลูกๆ ทุกคน ซงึ่ ได้ถ่ายทอดความมีระเบยี บนไ้ี ปถึงครอบครวั ของตนและลูกหลานด้วย
แม่ปรายเป็นผ้ทู ่ีมฝี ีมือในการทำ�อาหารไทยแบบด้งั เดิม ในระดบั เชฟมอื อาชพี ตอ่ มาไดฝ้ ึกให้
ลกู สะใภค้ อื นางบญุ ทวน ลิมปะพนั ธุ์ ภรรยานายพษิ ณุ ลมิ ปะพนั ธ์ุ ซ่งึ มฝี ีมอื ในการทำ�อาหารไทยทกุ ชนดิ
เปน็ ทนุ เดมิ อยแู่ ลว้ มารว่ มท�ำ อาหาร ท�ำ ใหผ้ ทู้ ม่ี าเยอื นและมโี อกาสกนิ อาหารทอ่ี อกจากครวั บา้ นน้ี เลอ่ื งลอื
ในความเอรด็ อร่อยโดยเฉพาะลูกๆ ทุกคนเมอื่ เติบโตไปเรยี นและท�ำ งาน มักจะคดิ ถงึ อาหารทีบ่ ้าน จาก
ฝีมอื แมแ่ ละพีบ่ ญุ ทวนอยเู่ สมอ สิ่งที่ท�ำ เป็นกิจวัตรทบ่ี ้านลมิ ปะพันธ์ุ คอื ลกู ๆ ทกุ คนจะกินอาหารทีบ่ า้ น
ทุกมอ้ื โดยมอ้ื เชา้ และม้ือกลางวนั แมป่ รายท�ำ อาหารไว้ ลกู ๆ ก็กินตามเวลาทีส่ ะดวกของแตล่ ะคน แต่
ในตอนเยน็ นางบญุ ทวนจะทำ�อาหารมาให้ทกุ วนั ตามกติกาคอื ลูกๆ ทกุ คนจะตอ้ งมากินข้าว ม้ือเย็น
พร้อมหน้ากันทุกวัน โดยมีแม่ปรายนั่งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะอาหาร และแม่ปรายจะกินอาหารในภายหลัง
เม่อื ทกุ คนกินเสรจ็ แล้ว แมป่ รายมีวธิ ปี ลกู ฝังให้ พ่นี ้องรักกันและเคารพกนั โดยมีตวั อยา่ งในการฝกึ ท่ี
ถา่ ยทอดกนั มารนุ่ ต่อรุ่น คือ คนทเ่ี ปน็ น้องคนเลก็ สดุ ณ เวลานัน้ จะต้องเปน็ คนตกั ข้าว เสิรฟ์ น�ำ้ ให้กบั พอ่
และพๆ่ี ทุกคน และเมือ่ พ่คี นใดตอ้ งการเติมข้าว กเ็ ปน็ หน้าทข่ี องนอ้ งเล็ก เป็นผบู้ รกิ าร ซง่ึ ลกู ๆ ทุกคน
ไดผ้ ่านการฝกึ แบบน้ี จะมีความผูกพนั กนั และใหค้ วามนับถอื ผอู้ าวโุ สกวา่ ตน ทง้ั ทบี่ า้ นและที่ท�ำ งาน
มาจนถงึ ปจั จบุ นั
33
ลูกชายของแมป่ ราย ไดไ้ ปเรยี นที่โรงเรยี นวชิราวุธทก่ี รุงเทพฯ ซึง่ เปน็ โรงเรยี นประจำ� ท�ำ ใหไ้ ด้
ฝึกความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองได้ระดบั หนึง่ และเม่อื ปดิ เทอมก็กลบั มาอย่ทู บี่ ้าน แม่ปรายจะเลย้ี งดูแล
ลกู ด้วยความรกั ความเอาใจใส่ พยายามไม่ให้ลูกเกีย่ วข้องกับอบายมุขใดๆ ดังนน้ั ลกู ชายของแม่ปราย
ทกุ คน จึงไม่สบู บุหรี่ ไมด่ มื่ สรุ าและไม่เล่นการพนัน ซงึ่ ถอื เป็นแบบอยา่ งของแม่ทเ่ี ล้ยี งดบู ุตรไดด้ อี ยา่ งยง่ิ
นอกจากนแี้ ม้ว่าบ้านอยตู่ ิดรมิ แม่น�้ำ แม่ปรายจะเข้มงวดมากในเร่ืองความปลอดภัยของลกู ๆ โดยมีค�ำ สัง่
ห้ามเดด็ ขาดไม่ให้ลงไปทห่ี าดแมน่ ำ�้ ยมหลังบ้าน มีข้อดคี อื ทำ�ให้ลกู ๆ ทกุ คนปลอดภยั แต่ก็วา่ ยน้ำ�ไมเ่ ปน็
จนถึงปจั จบุ ัน
แมว้ า่ แม่ปรายจะไม่ไดเ้ รยี นเกยี่ วกบั การจัดระบบบญั ชมี าเลย แต่แม่ปรายกเ็ ป็นนักบริหารจัดการ
ในดา้ นการเงินของครอบครวั ท่ดี เี ย่ยี ม ท้ังการท�ำ ธรุ กจิ ของครอบครวั การสนบั สนุนการท�ำ งานทางการเมือง
และการเลย้ี งดลู ูกทอ่ี ยู่ในวัยเรียนไลล่ ำ�ดบั กันถึง 8 คน โดยเฉพาะการเรยี นที่โรงเรียนประจ�ำ ในกรงุ เทพฯ
จะตอ้ งมีคา่ ใชจ้ ่ายทง้ั ค่าเล่าเรยี น คา่ ที่พักและของใช้แต่ละคนสูงมาก ในแต่ละปีลกู ชายของแม่ปราย จะ
เขา้ เรยี นที่โรงเรียนวชิราวุธ กนั อย่างตอ่ เน่ือง โดยมชี ว่ งห่างกนั ประมาณ 2 - 4 ปี ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งจ่ายคา่ ใช้จา่ ย
รายปอี ยา่ งน้อยปลี ะ 2 คน ทกุ ปตี อ่ เนอ่ื งจนเรยี นจบไปทลี ะคน แมป่ รายจงึ ต้องมรี ะบบการบริหารจดั การ
ท่ีดี มีการรว่ มวางแผนกบั นายเพ่งฯ หารายได้ และการจัดการกับรายจ่ายไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์
การสนับสนุน ให้การศึกษา
ในดา้ นการศกึ ษาของลกู แม่ปรายใหก้ ารสนบั สนนุ อย่างเตม็ ที่ โดยนายเพ่งผู้เปน็ บิดาจะเปน็
ผ้ทู ่เี ลอื กและติดต่อสถานทเ่ี รียนใหก้ ับลกู ๆ ซ่งึ ทงั้ คูก่ ไ็ ดค้ ยุ กนั และไดส้ ่งลูกๆ ให้ไปเรยี นทโ่ี รงเรยี นวชิราวุธ
วทิ ยาลยั ซ่งึ เดิมคอื โรงเรียนราชวทิ ยาลัย ทีน่ ายเพ่งได้เรยี นมาในสมยั เด็กๆ แม่ปรายเปน็ คนที่คอยดแู ล
ความเป็นอยขู่ องลกู ๆ เรือ่ งอาหารการกนิ การจดั เส้ือผา้ และของใช้ของทุกคน ลกู ทกุ คนก็ตง้ั ใจเรียนและ
ไม่มีผู้ใดออกนอกลูน่ อกทาง ต่อมาลกู ๆ ของแม่ปราย กไ็ ด้สง่ รุน่ หลานใหไ้ ปเรยี นที่โรงเรียนวชริ าวธุ
จนถึงปัจจบุ นั
แมป่ ราย ลิมปะพันธ์ุ มีจิตใจดีโอบอ้อมอารี ช่วยเหลอื ผอู้ น่ื เสมอ ได้รว่ มงานบญุ งานสงั คม
และงานสาธารณกุศล และได้บริจาคเงินชว่ ยเหลอื สังคมอยเู่ ป็นนิจ จากการปฏบิ ตั ิเช่นน้ี จึงเปน็ บุญเป็น
กุศลทแี่ ม่ปราย ลมิ ปะพันธุ์ มีอายุยนื ยาวมจี ิตใจเขม้ แขง็ มีสุขภาพจิตดแี ละมีลูกหลานใหก้ ําลังใจตลอดมา
34
การสนับสนุนภารกจิ เสรีไทย
มงี านสําคัญอย่างหนึง่ ซึง่ เกี่ยวกบั ความมน่ั คงของชาติทแ่ี ม่ปราย ลมิ ปะพนั ธ์ุ ไดม้ ีโอกาส
รว่ มท�ำ งานกับนายเพง่ ลิมปะพันธ์ุ ผู้เปน็ สามี คอื งานเสรีไทยสวรรคโลก ทเี่ กดิ ข้นึ ในสงครามโลกคร้งั ท่ี
สอง ระหวา่ ง พ.ศ.2486 - 2487 โดยนายเพง่ ไดร้ บั ความไวว้ างใจจาก นายปรดี ี พนมยงค์ ผู้สําเร็จราชการ
แทนพระองค์ ใหต้ ัง้ หนว่ ยเสรีไทยข้ึนทไี่ รน่ ายเพง่ ลิมปะพนั ธ์ุ ตําบลปา่ กมุ เกาะ อำ�เภอสวรรคโลก ต่อมา
ได้ยา้ ยไปตง้ั ที่ตําบลไทยชนะศึก (ปัจจบุ ันคอื อําเภอทุง่ เสลีย่ ม) เพอื่ ต่อตา้ นทหารญปี่ นุ่ ทเี่ ข้ามาอยทู่ อ่ี ําเภอ
สวรรคโลก และอําเภออนื่ ๆ ในจังหวดั สโุ ขทยั เมอื่ ญป่ี ุ่นประกาศยอมแพส้ งครามโลก เสรไี ทยจึงมสี ว่ น
สําคญั ช่วยเหลอื ประเทศไทย ไมต่ ้องถูกยึดครองจากทหารต่างชาติ ดงั น้นั แม่ปราย ลิมปะพนั ธุ์ จึงเป็น
ผหู้ นงึ่ ที่อยูเ่ บ้ืองหลงั การปฏิบัตกิ ารในครงั้ นั้นด้วย
ภารกิจส�ำ คัญคือการรับอาวุธจากหน่วยเสรไี ทยท่ีสง่ มาจากในประเทศและตา่ งประเทศ โดย
ขนสง่ มาทางเคร่อื งบนิ และมีพลรม่ เปน็ บุคคลสำ�คัญระดับประเทศ มาปฏบิ ัตกิ ารวางแผนและดำ�เนินการ
ร่วมกนั เมอื่ รับอาวธุ มาแล้วกต็ ้องเก็บเป็นความลบั ไม่ใหท้ หารญ่ปี ่นุ รบั รู้ ตอ้ งหาสถานท่เี กบ็ อาวุธอยา่ ง
มดิ ชดิ โดยเก็บไว้ในไรน่ ายเพ่งทีอ่ ย่นู อกเมืองสวรรคโลก และมีการแอบฝกึ การใชอ้ าวธุ ในแตล่ ะอำ�เภอ
เพือ่ เตรียมรับสถานการณใ์ นอนาคต นบั เป็นงานท่ียากและต้องใช้ความระมัดระวงั อย่างยิ่ง
มีครงั้ หนง่ึ ในชว่ งท่ีภาวะสงครามเขม้ ข้น ครอบครวั นายเพ่งไดย้ ้ายเข้าไปอยทู่ ีไ่ ร่นอกเมือง และ
นายทหารญ่ปี นุ่ พร้อมดว้ ยรถทหาร 3 คนั ไดเ้ ข้าไปท่ีไร่ซงึ่ หัวหนา้ เปน็ นายพันโทญป่ี ุ่น วันน้ันนายเพง่
ไมอ่ ยูบ่ ้าน นายทหารญ่ปี นุ่ ไดเ้ หน็ แม่ปรายก�ำ ลงั รีดผา้ อยู่ เขากพ็ ูดคยุ ดี เขากบ็ อกวา่ ไดท้ ราบวา่ ท่านนายก
เทศมนตรไี ดอ้ พยพครอบครวั มาพกั ในไร่ เขากถ็ อื โอกาสมาเยย่ี มและอยากจะขอดไู ร่ แมป่ รายเลา่ ใหฟ้ งั วา่
เขาเข้าไปดูในไรฝ่ ้ายซ่ึงกําลงั ออกดอกและดโู รงงานเก็บถ่วั เขาเหน็ ลังไม้ฉำ�ฉา วางอย่หู ลายลัง เขากล็ อง
พลกิ ดแู ละเคาะดู เม่อื ไม่พบหลักฐานอะไร เขากม็ านั่งคุยกบั แมป่ ราย และแมป่ รายกค็ วบคุมสตไิ ดด้ ี
ดว้ ยความมีไหวพริบของแมป่ ราย ตอ้ งการจะเบนความสนใจ แมป่ รายได้ให้คนงานไปเอาแตงโม แตงไทย
จำ�นวนมาก มาผา่ แจก และเรยี กให้ทหารญีป่ ุ่นทั้งหมด เข้ามากนิ อยา่ งเป็นกนั เอง แล้วเขากไ็ ดข้ อบคุณ
อย่างนอบนอ้ ม และเดินทางกลบั ไป สนั นิษฐานว่าทหารญป่ี ่นุ คงได้ข่าวมา สงสัยว่าท่ีไร่ทีน่ ายเพ่งและแม่
ปรายอยนู่ ี้ นา่ จะเปน็ ทสี่ ะสมอาวธุ และเปน็ สนามบิน แตก่ ็ไม่พบหลกั ฐานและไม่ได้มาเย่ยี มอีกเลย นบั เป็น
ความฉลาดและความใจกลา้ ของแมป่ รายเปน็ อย่างยิง่ ทไ่ี ดท้ �ำ ให้ญ่ีปุ่นไม่มีความระแวงสงสัย แถมยัง
ขอบคณุ ในน�้ำ ใจของแม่ปรายอกี ด้วย
35
แมป่ รายมีสว่ นสำ�คญั ในการเปน็ กองหนุนของขบวนการเสรีไทยภาคเหนือ คอยให้การต้อนรบั
แขกผู้ใหญ่ นกั เรยี นนอกที่เขา้ มาร่วมปฏิบตั ิการในพ้ืนที่ เปน็ กำ�ลงั ส�ำ คัญในการจดั หาสง่ิ อำ�นวยความ
สะดวกและการตดิ ตอ่ ชาวบา้ นเพอ่ื ชว่ ยเหลอื งานในทกุ กจิ กรรม ท�ำ ใหน้ ายเพง่ และกลมุ่ เสรไี ทยในภาคเหนือ
ประสบความส�ำ เรจ็ ในการปฏิบตั ิการตามที่ได้รบั มอบหมายมา
ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งยอ่ มมกี ารเปลย่ี นแปลง คนื สูธ่ รรมชาติ ในวนั พุธที่ 18 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2547
แม่ปราย ลมิ ปะพนั ธ์ุ ซง่ึ มอี ายุมากแล้วมอี าการอ่อนเพลยี มาก เนือ่ งจากรบั ประทานอาหารไมไ่ ดม้ าเปน็
เวลาหลายวนั ทําใหร้ ะบบหวั ใจลม้ เหลวและส้นิ ลมจากลูกหลานไปดว้ ยอาการสงบในวนั ดงั กลา่ ว สิรอิ ายุ
รวมได้ 97 ปี 4 เดอื น
คุณความดีของแมป่ รายทไ่ี ด้ปฏิบัตติ อ่ ตนเอง ตอ่ ครอบครวั ตอ่ สังคม และตอ่ ประเทศชาติ
ตลอดชีวิต ลูกหลานและญาตทิ กุ คน ได้ขออาราธนาคุณพระศรรี ตั นตรัยและสง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธทิ์ งั้ หลายโปรด
ดลบนั ดาลให้ดวงวญิ ญาณของแม่ปราย ไปสสู่ รวงสวรรค์สถติ บนทพิ ยวมิ านมคี วามสุขในสมั ปรายภพ
ตลอดช่วั นจิ นิรันดร
36
ผงั วงศต์ ระกูล
นามสกุลพระราชทาน
ลิมปะพนั ธ์ุ
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50