The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือวิถีชีวิตและสงครามเอเชียบุรพา ประวัติชีวิตขุนเพ่งจีนานุเคราะห์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tak.anissada, 2021-09-02 00:36:55

หนังสือวิถีชีวิตและสงครามเอเชียบุรพา-ขุนเพ่งจีนานุเคราะห์

หนังสือวิถีชีวิตและสงครามเอเชียบุรพา ประวัติชีวิตขุนเพ่งจีนานุเคราะห์

ประสบการณ์และขอ้ เขยี นของ
นายเพง่ ลมิ ปะพนั ธ์ุ

 วถิ ีชวี ิตของข้าพเจา้

(จดั พมิ พ์ ในโอกาสท�ำ บุญวันเกดิ 30 มกราคม 2519 อายุ 72 ป)ี

 มหาสงครามเอเชยี บูรพา

 ชีวิตการเมอื งของขา้ พเจา้

(จัดพิมพ์ในโอกาสท�ำ บุญวันเกิด 30 มกราคม 2523 อายุ 76 ปี)

52

ขณะทํางานอยทู่ ี่บ้านในฐานะประธานสภาจังหวัดสุโขทัย

และในการประชุมสภาสงั คมสงเคราะหแ์ ห่งประเทศไทย
ณ ศาลาสนั ตธิ รรม ในฐานะนายกสมาคมนักเรียนเกา่ สวรรควิทยา

53

กบั ภรรยาและหลานๆ

54

การจดั ทาํ บุญครบรอบ
วนั เกิดประจําปี
โดยมขี ้าราชการ
พอ่ ค้า ประชาชน

ญาตสิ นิทมิตรสหาย
มาร่วมอวยพร

55

กับมติ รสหายร่วมร่นุ ทง้ั ร่นุ พี่รนุ่ น้อง โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั
ท่แี ยกยา้ ยกันไปประกอบอาชพี ในสาขาต่างๆ
มีองคมนตรี รัฐมนตรี อธิบดี ผูพ้ พิ ากษา และทูต

ในคราวเดนิ ทางไปดูงาน
ด้านการศกึ ษาประชาบาล
ทส่ี าธารณรัฐจนี ใตห้ วัน เกาหลี

โดยทุน เอ.ไอ.ด.ี
รว่ มกับผู้ว่าราชการจงั หวัด
และปลัดจงั หวดั ทั่วประเทศ
โดยฐานะประธานสภาจังหวัดสุโขทยั
เพียงคนเดยี วทรี่ ่วมคณะ

56

นายประพาส ลมิ ปะพันธ์ุ บตุ รชาย ไดร้ บั หลานสาว น.ส.ผสุ ด​ี ลิมปะพนั ธ์ุ
พระราชทานปรญิ ญากสกิ รรมและสตั วบาล บุตรของนายผาศขุ ได้รับทนุ รฐั บาล

บณั ฑติ จากมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ไปศกึ ษาต่อ​ณ สหรฐั อเมริกา
บางเขน

57

วถิ ีชีวติ ของขา้ พเจ้า

เรื่องชีวติ ของบุคคล ไม่วา่ คนระดับสูงหรือตำ่� ดวงแหง่ ชะตาชีวิตจะต้องชแี้ นวทางเดนิ ไว้เสมอ
เร่อื งเช่นน้ี ทุกคนจะเชอ่ื หรือไมเ่ ช่ือก็เป็นของยากทจ่ี ะทาย เพราะบางคนเกิดในตระกลู มงั่ มี คาบชอ้ น
ทองออกมา ทสี่ ดุ กก็ ลายเปน็ คนยากจนเสียผู้เสียคนไป บางคนเกิดมาจากตระกูลยากจน แตด่ ้วยความ
อุตสาหวิริยะ รจู้ ักเจยี มตวั เจียมใจ กม็ ีผ้ใู หค้ วามอุปการะจนมีฐานะร่�ำ รวย เปน็ เศรษฐี มหาเศรษฐี แต่ถ้า
เป็นขา้ ราชการกเ็ ป็นขา้ ราชการช้นั ผ้ใู หญ่ ระดบั บริหารประเทศ น่เี ปน็ ของแน่นอนสําหรบั ชีวติ บุคคล ซึง่
ใครจะถือวา่ ยากดีมจี นนน้ั ไม่ได้ คนรวยก็จนได้ คนจนก็รวยได้ อนั น้ผี มเชือ่ ในดวงชะตาหรือลิขติ ของชวี ติ
ท่เี ขากําหนดไว้ จงึ เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนทั้งนนั้ สดุ แล้วแตด่ วงของวิถีชวี ิตจะดําเนินไป
ผมอยากจะพูดถึงตัวผมเองบ้างว่า ผมตั้งแต่เกิดมา วงเวียนของชีวิตก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป
ตามเหตุการณ์ ดีบ้าง เสยี บ้าง แตห่ ลกั ของผมมีอยา่ งหนง่ึ ว่า ขยนั ซ่ือสัตย์ และช่วยเหลอื ประชาชนที่
ทกุ ขย์ าก น่นั แหละคือ ความสุขสบายของจิตใจ เร่อื งจน เรอ่ื งมี ไม่สําคัญ ชวี ิตผมเอง ปจั จบุ นั น้ีอายุ 72 แล้ว
ผมก็ยงั อย่ใู นข้นั ทีเ่ รยี กว่า จะว่าสบายก็สบาย จะว่าไมส่ บายก็ไมส่ บาย เพราะจะตอ้ งทํางานเพื่อชาติ
และสงั คม เพ่ือความเป็นธรรมของประชาชน รวมทั้งกิจการสาธารณะ จึงอยู่ในลักษณะทเ่ี รยี กวา่ ควรจะ
ได้พักผ่อนแลว้ เพราะลูกเตา้ ทุกคนกเ็ ปน็ ฝงั่ เปน็ ฝา เรียกว่าเลีย้ งตัวเองได้ มตี ําแหน่งหน้าที่ฐานะของ
เขาแตล่ ะคนไปไดอ้ ย่างสบาย แตส่ ําหรับผม ถ้าใครคดิ ว่า ผมสบาย ผมกว็ ่าคนน้ันมองผมผิด ความจริง
ความเปน็ อยูใ่ นตัวผมและครอบครวั กอ็ ยู่ในลักษณะทพี่ อกนิ พอใช้ ไมเ่ ดอื ดร้อน ไม่ร่�ำ รวย แตว่ า่ การ
ทํางานของผม ท่กี ล่าวข้างต้นนัน้ ผมถือว่าผมรวยดว้ ยกําลังใจ รวยด้วยจิตใจ ส่วนคนจะมองผมในแง่ไหน

58

ผมถือว่าไม่มีความสําคญั สําหรับตัวผม จะชมผมวา่ ผมดี ทําประโยชน์ให้แกช่ าติบา้ นเมืองไดม้ าก ผม
ก็รูส้ กึ เปน็ ธรรมดา ใครวา่ ผมเปน็ นักเลงโตหรอื อันธพาล หรือมลี กู นอ้ งเกเร และมีอทิ ธิพล วา่ ผมในสิ่งที่
ไมด่ ีไม่งาม เรอื่ งเชน่ น้ีผมกไ็ มส่ นใจ ผมถืออย่างเดียววา่ เหตุการณต์ ่างๆ นนั้ เป็นเรอ่ื งของเหตกุ ารณ์หรอื
เรียกวา่ ดวงที่จะช้ไี ป แตก่ ารตดั สนิ พฤตกิ ารณข์ องผมท่ีกล่าวไปแลว้ ว่าดหี รอื เลวนน้ั อยทู่ ่ปี ระชาชน
ผมอยากจะพดู ให้เขา้ ใจวา่ คนอยา่ งผม ทําไมเกดิ มา ผมไมก่ ลัวคน ผมกถ็ อื วา่ ผมไมเ่ ป็นคน
สร้างบาปให้ใคร เราสร้างความดี สรา้ งประโยชน์สาธารณะ อนั นี้ก็เป็นความสบายใจของตัวเองพอแล้ว
การทผี่ มทํางานผ่านมาจนถงึ วนั เขยี นหนงั สือน้ี อายุ 72 ปี ความจริงมีหลายคนบอกผมว่า ควรจะหยุด
การเขยี นหนังสอื พกั ผอ่ นให้สบาย อ่านหนงั สือหรือดูหนงั สือเร่ืองเหตุการณข์ องโลกและการเมอื ง ตลอดจน
หนงั สอื บันเทิงต่างๆ ความจริงผมก็พอทําได้ แตน่ ิสยั ผมไมร่ ัก ผมรกั การทํางานที่เป็นประโยชนต์ ่อชาติ
และประชาชน เวลาพกั ผอ่ นของผมหรอื ความสบายของผมกค็ ือ อ่านหนังสือ ทํางาน และไปเท่ียว
พกั ผ่อนตา่ งจงั หวัด ปจั จุบันเดอื นหนง่ึ ผมจะพาครอบครัวและหลานๆ ไปเทยี่ วตา่ งจังหวดั พกั ผอ่ น
สงบอารมณ์ในการทํางานบา้ ง สักคนื สองคนื แลว้ กก็ ลับบา้ น มาทํางานต่อไป การเที่ยวของผมน้ี ถ้า
ฤดูหนาวผมกไ็ ปเทยี่ วทางใต้ ถา้ ฤดรู ้อนบางทีกข็ ้นึ ไปทางเหนอื หรือไปเท่ียวทะเล น่เี ปน็ กจิ วตั รในหลัก
ปฏบิ ตั ิของตวั เอง
มคี นถามผมวา่ ทําไมสขุ ภาพผมจงึ ดี อายุ 72 ปีแล้ว ควรจะทรดุ โทรมลงกวา่ นี้ ผมก็บอกเขาว่า
ผมมเี คล็ดอยา่ งหน่ึง คอื ผมพยายามปฏิบตั ติ ามคําส่ังของแพทย์ นอกจากน้ัน เมอ่ื ผมอยใู่ นวยั ร่นุ ระหว่าง
20 - 30 ปี ผมก็เปน็ เพลบอย เท่ียวพอสมควรหรืออยใู่ นลกั ษณะคอ่ นข้างหนกั ก็วา่ ได้ เพราะผมเปน็ ลกู
นายอากรโรงต้มกลั่นสรุ ามณฑลพิษณโุ ลก การปฏิบตั ิตัวเม่อื เป็นวยั รุน่ น้ี สว่ นมากผมกย็ ังรับประทาน
เป็นเวลา นอนเป็นเวลาหรอื หัวคำ�่ เปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิในชีวิตประจําวันของผม ผมขอเขียนวิถชี วี ิตเปน็ ระยะ
ดังตอ่ ไปน้ี

ต้นตระกลู และญาติพ่นี ้อง

ชวี ติ เร่มิ ตน้ เม่อื วัยเด็ก ผมเกิดเมอ่ื วันที่ 30 มกราคม 2447 ปีมะโรง เกิดท่ีแพใหญ่ลอยอยู่ในน้�ำ
สมัยนน้ั ที่พักอาศัยสําหรับผ้มู ีฐานะจะพักอยแู่ พกันบ้าง หรืออยบู่ นบา้ นบ้าง กต็ ามแตอ่ ัธยาศัยท่ีชอบ แต่
แพท่ผี มอยู่หรอื ทผ่ี มเกิดนี้ คุณเต่ยี (บิดา) ไดส้ รา้ งขนึ้ ใหม่ เปน็ แพขนาดใหญ่ มีลวดลายแกะสลักประณตี
บรรจง พวกชาวตลาดสวรรคโลกเรียกว่าแพใหญ่ (คนจีนเรยี กวา่ ต้วั แพ) เวลานี้ผมยกข้นึ มาไวบ้ นบก
ใตบ้ า้ นผมปจั จบุ ัน เปน็ บญุ กศุ ลผมอย่างหนึง่ เม่อื คณุ เตย่ี เรมิ่ สร้างแพหลงั น้ี พอเสร็จ ทา่ นยกครอบครวั
ของทา่ นขน้ึ ไปอยบู่ นแพ กพ็ อดีผมเกดิ ทีแ่ พน้เี ปน็ คนแรก

59

ผมมพี น่ี ้อง 4 คน คอื เซง่ ฮวด เซ่งกี ผม และผาศุข คนโตชื่อ เซ่งฮวด ลมิ ปะพันธ์ุ ตอ่ มาได้
รับสญั ญาบตั รเป็น ขนุ ประพัฒนพ์ าณิชย์ พชี่ ายคนน้เี ปน็ ลูกคนเดยี วของคณุ ป้าแม้นและคุณเต่ยี เพราะ
เวลาเกดิ มา คณุ ป้าแมน้ มารดาของขนุ ประพฒั น์ฯ ซ่ึงเปน็ ภรรยาของเต่ยี ก็เสยี ชีวติ ตอนทข่ี ุนประพัฒนฯ์
เกดิ ต่อมาคณุ เตยี่ ก็ไดภ้ รรยาใหม่คือคณุ แม่ของผม คือ นางผนั ลิมปะพนั ธ์ุ เป็นนอ้ งสาวคุณป้าแมน้ คุณ
แม่มลี ูกคนโตเป็นผู้หญงิ ช่อื เซง่ กี เป็นพ่สี าวคนโต ต่อมาผมก็เกดิ ในแพหลังใหม่ เม่อื เวลาผมเกิด คุณย่า
ของผมชอื่ ข�ำ ทา่ นมาอยูด่ ว้ ยและกําลังปว่ ยมาก ท่านเหน็ ผมเกิดมา ท่านกพ็ ออกพอใจ เข้าใจว่าจะรัก
ผมไม่นอ้ ย โดยทา่ นเป็นผรู้ ับขวัญ และต้ังช่ือผมเลยวา่ ไอห้ ลานคนน้ใี ห้มันชือ่ เพง่ อนั หมายถงึ สุขสบาย
หรอื สนั ติภาพ เพราะทา่ นหายจากเจบ็ ปว่ ยในวนั นน้ั ผมมนี อ้ งชายคนสดุ ทอ้ งคอื นายผาศขุ ลมิ ปะพนั ธ ์ุ อายุ
เขาหา่ งจากผม 17 ปพี อดี

3 พีน่ ้อง

1. นางเซ่งก่ี สมบตั ศิ ริ ิ
2. นายเพง่ ลมิ ปะพนั ธ์ุ
3. นายผาศขุ ลิมปะพนั ธ์ุ

เพอื่ ให้รู้ประวตั ิความเปน็ มาของตระกลู ผม กข็ อเลา่ ใหท้ ราบวา่ คุณก๋งผมเป็นจีนมาจาก
ประเทศจนี ชอ่ื ฮว่ ยเซยี แซล่ ม้ิ มาอยทู่ ก่ี รงุ เทพฯ ตอ่ มาตง้ั หลกั ฐานอยทู่ เ่ี มอื งพชิ ยั มภี รรยา 2 คน คอื
1. นางครา้ ย มีบตุ รธิดารวมกัน 5 คน คอื 1. นางนาด 2. แปะ๊ โฮก (ส่งไปอย่เู มอื งจนี ) 3. นายช่นื
4. นายสอน 5. นายกิมลี้ (บิดาขุนประพนธ์) ส่วนใหญอ่ ย่ทู ี่อำ�เภอเมือง จ.สโุ ขทัย
2. นางข�ำ คณุ ย่าของผม มีบตุ รธดิ ารวมกัน 4 คนคอื 1. นางกวัก 2. นายสงิ ห์โต (บดิ าของผม)
3. นางเรยี น 4. นายเป้า ครอบครวั ของผมอยูท่ ี่อำ�เภอสวรรคโลก จ. สุโขทัย

60

ความจริง กค็ วรจะไดร้ ปู้ ระวตั ิและพ้นื ฐานของคุณก๋ง นายฮว่ ยเซยี แซล่ ้ิม
(นายฮ่วยเซีย แซ่ลิ้ม) ซึ่งมาจากเมืองจีนมาพร้อมกับเตี่ยของ
เจ้าคุณพพิ ัฒน์ธนากรณ์ คือ หลวงวารรี าชายกุ ต์ (โป๊ โปษยานนท์)
ต้นตระกลู โปษยานนท์ คนจีนทัง้ 2 คนนี้ ระหว่างอยกู่ รงุ เทพฯ
ก็รับจ้างหากินโดยพายเรือ ได้ค่าจ้างเดือนละ 1.50 บาท ก็
เข้าลักษณะของคนจีนท่ัวไปท่ีตอนมาจากเมืองจีนก็มีเสื่อผืน
หมอนใบ แล้วทหี ลงั ร�่ำ รวยข้ึนด้วยความขยนั หมั่นเพยี ร ทํามา
หากินแบบนายอากรยี่กอฮง ผู้ร่ำ�รวยมากในกรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มตงั้
หวย ก.ข. โดยรบั อนุญาตจากรัฐบาลนัน่ เอง คณุ กง๋ ใหญ่ฮว่ ยเซยี
ของผม ทา่ นเห็นว่า การอยใู่ นกรงุ เทพฯ การทํามาหากินกแ็ ย่งกัน
คงจะร�่ำ รวยไม่ได้ เมื่อมีพ่อคา้ ร�ำ่ รวยจากเมอื งพิชยั ลงไปค้าขาย
ทก่ี รงุ เทพฯ สมัยนั้น รถไฟ เรอื ไฟไม่มี การไปมาก็ตอ้ งใช้เรือ
คุณก๋งของผมก็เปล่ียนอาชีพจากรับจ้างพายเรือมาเป็นลูกจ้าง
ถอ่ เรือขนึ้ มาท่เี มืองพชิ ัย

แผ่นเงิน สลักช่อื แม่ครา้ ย ภไิ ชย
ท่านได้ต้ังหลักฐานไดล้ ูกไดเ้ มียทเี่ มอื งพชิ ยั คอื คุณยา่ ใหญผ่ มเป็นคนแรก คณุ ยา่ ครา้ ยเปน็ แม่
ของนายกิมล้ี (เต่ียขนุ ประพนธ์ฯ) คุณยา่ ใหญค่ นนี้เปน็ ลกู เศรษฐีเมอื งพิชยั ตามธรรมดาเศรษฐีสมัยนัน้
การจะยกลูกสาวใหใ้ คร เขาไม่คํานงึ ถงึ ศักด์ิ หรือตระกูล คํานึงอยู่อย่างเดียวกค็ อื ผชู้ ายคนนน้ั ท่จี ะมา
เป็นลูกเขย ต้องเปน็ คนขยันหมนั่ ทํามาหากิน เพอื่ จะสรา้ งหลกั สรา้ งตระกูลของครอบครัวได้ คณุ ก๋งใหญ่
ฮว่ ยเซยี่ ของผม จึงได้แต่งงานกับคณุ ยา่ คร้าย ไดต้ ้งั หลกั ตัง้ ฐานสรา้ งความร่ำ�รวยของตระกูลขึน้ ท่ีเมอื งพิชยั
ส่วนลูกของท่านก็แตง่ งานกนั ไปในลกั ษณะนี้ ไปต้ังหลกั ฐานสรา้ งความรำ�่ รวยท่อี ตุ รดิตถ์ สโุ ขทยั (นายกมิ ลี้

61

เตี่ยขุนประพนธฯ์) ตอ่ มาคณุ ย่าใหญ่ครา้ ยไดถ้ งึ แกก่ รรม ทรัพยส์ มบัตแิ ละหลกั ฐานทงั้ หมด ซ่งึ อยู่ในฐานะ
ข้นั เศรษฐี ก็ตกอยูก่ ับเถา้ แก่ฮ่วยเซยี ทัง้ หมด ซ่ึงผมกเ็ กิดไม่ทนั แตเ่ ขา้ ใจว่า อายุทา่ นคงยังไม่ถงึ 50 ก็เปน็
เร่ืองธรรมดาของผูช้ าย ทา่ นกม็ ีภรรยาใหม่อีกคนหนง่ึ ช่อื ขํา ซ่งึ เปน็ ยา่ ของผม

จากเรื่องราวท่เี ลา่ มา พน้ื ฐานดัง้ เดมิ ของเราอยทู่ ีเ่ มอื ง
พชิ ยั เมื่อลูกของทา่ นโตข้ึน นายสิงห์โต หรือหลวงชนาธิการอนมุ ตั ิ
(บิดาของผม) กม็ าไดภ้ รรยาที่สวรรคโลก ชือ่ นางแมน้ (มารดา
ขุนประพฒั น์ฯ) เป็นตระกลู รำ่�รวย และเมื่อขนุ ประพัฒน์ฯ เกดิ
คณุ ปา้ แมน้ ก็เสียชวี ติ

ต่อมา คุณเตีย่ ได้แต่งงานกบั คุณแมผ่ ม นางผัน ดงั กล่าว หลวงชนาธกิ ารอนมุ ตั ิ
แลว้ ขา้ งตน้ คณุ หลวงชนาธิการอนุมัติ ในระยะแรกๆ ก็ประกอบ นายสงิ ห์โต ลมิ ปะพันธ์ุ
อาชีพคา้ ไม้และทําโรงเหลา้ ซงึ่ ผมจะกล่าวในตอนต่อๆ ไป แต่ผม
ขอกลา่ วในเรื่องประวัติสว่ นตัวของผม ในช่วงนั้น คณุ ย่าขำ�ป่วย
มาก พอผมเกิดคุณย่าก็ดีอกดีใจ จนหายป่วย เพราะได้หลาน
ผูช้ าย จึงตงั้ ชอ่ื ผมวา่ “เพ่งอัน” ภาษาจนี แปลว่าสบาย น่เี ป็น
ชีวประวตั คิ วามเป็นมาในตระกูลและตัวผม ในขน้ั แรกเกิด ผมจึง
มีความภมู ิใจอยู่ในใจตลอดเวลาว่า เราเกิดในตระกลู ท่รี ่�ำ รวย มี
ประวตั ิดี กต็ ้องทําดี ดังที่ผมปฏบิ ัติตัวอยปู่ ัจจบุ ันน้ี ใครจะวา่ ผมดี
หรอื ไมด่ ตี อ้ งดทู ่ผี ลงานหรือการปฏบิ ัติ ซ่งึ ผมทําอยตู่ ลอด จนถึง
วันทเี่ ขยี นหนงั สอื นี้ ตอ่ ไปผมจะได้เขียนชีวิตในวยั เรยี นของผม

ชวี ติ วยั เรียน

ชวี ิตเมอ่ื วัยเรียน ในขณะท่ผี มเริ่มเตบิ โตขึ้น ก็อยู่ในลักษณะของลกู คนมีเงิน พออายปุ ระมาณ
7-8 ขวบ คุณเตย่ี จา้ งครตู ่ายมาสอนหนงั สอื ในบ้าน พอผมอายุ 10 ปี ทา่ นก็ส่งเข้าเรียน ทโ่ี รงเรียน
สวรรควิทยาเวลาน้นั โรงเรยี นสวรรควิทยา ตัง้ อยู่รมิ แม่นำ�้ ยม หลงั วดั สว่างอารมณ์ หรอื วดั จวน ด้านเหนอื
โบสถ์ เทา่ ท่ที ราบคือ อาคารเรยี นของโรงเรยี นสวรรควิทยาทผ่ี มเรยี นนน้ั เป็นโรงทมึ ตั้งศพของผู้มีอนั จะกิน
คนหนึ่ง เขาเผาศพ จะเป็นภรรยาของเขาหรือตัวเขากไ็ ม่ทราบ ผมเข้าใจวา่ เป็นเจา้ คุณ ตน้ ตระกูลวชิ ติ นาค
สมยั น้ันเปน็ เจา้ เมอื งสวรรคโลก ผมเรียนอยู่ ในสมยั ทีค่ รูแย้ม สีตะสุต เปน็ ครใู หญ่ มีครูป่ัน ครูตา่ ย (บดิ า
พลเรอื ตรปี ระเทือง วงศ์จนั ทร)์ เป็นครูสอน สมยั ทีผ่ มเปน็ นักเรียน ผมก็อยใู่ นสภาพเรียนบ้าง ไม่เรียนบา้ ง
ตามแบบฉบับของลูกคนมีอัฐในสมัยนั้น ผมจึงไม่มีความร้ขู ้นั พ้ืนฐานดเี ทา่ ไรนัก

62

นายเปล้อื ง แสนโกศกิ ตอ่ มาปี พ.ศ.2458 นายเปลอ้ื ง แสนโกศกิ ไดม้ าหาคณุ เตี่ยผม
(นายเปลือ้ ง มีบุตรคือ นายทองสุข แสนโกศิก และนางปราย ลิมปะพันธ์ุ
ซึ่งเป็นเมยี ผม) นายเปลอ้ื งเป็นเศรษฐีในจงั หวัดสุโขทัย เปน็ พอ่ คา้
ไม้ และเป็นนายทุนเงินกู้ ที่ร่ำ�รวยมาก เมียผมเคยเล่าให้ฟังว่า
คนสุโขทยั ทงั้ คนบา้ นนอกและในเมือง ตอ้ งมากูเ้ งนิ นายเปลื้องกนั
ท้งั น้ัน นายเปลื้องเป็นพ่อตาผม แตโ่ ดยศักดญ์ิ าตกิ ็เปน็ พเี่ ขยผม ผม
ขอเล่าต่อไปว่า คนทเ่ี ป็นเศรษฐี เช่นนายเปลอื้ งพอ่ ตาของผมคนนี้
ก็ย่อมจะต้องมีลูกน้องมาก เวลาลูกน้องต้องคดี ไปประกันที่ศาล
หรอื อําเภอ ทา่ นกใ็ หค้ นใช้แบกถุงเงนิ บาท ตามไปวางค�้ำ ประกันท้งั นั้น
เพราะคนสมัยเก่าไม่คอ่ ยจะสะสมหลกั ทรัพยก์ นั

นายเปลอ้ื ง มาชักชวนว่า ทา่ นจะสง่ ลูกคอื นายทองสขุ แสนโกศิก ซง่ึ มอี ายอุ ่อนกวา่ ผม 1 ปี
ไปเรียนตอ่ ที่กรงุ เทพฯ ที่โรงเรียนราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภข์ องพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว
รัชกาลท่ี 5 ถือเปน็ โรงเรียนของพระเจา้ แผน่ ดินโดยตรง คา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ทั้งหมดของโรงเรยี น ก็ใชพ้ ระราช
ทรัพย์ส่วนพระองค์

63

นายเปล้ืองมาชวนคุณเตี่ยผม ให้สง่ ผมไปเรียนพรอ้ มกบั ลกู ของทา่ น
คอื นายทองสุข แตค่ ุณเตย่ี ผมบอกวา่ จะส่งไปปหี นา้ จะด้วยท่านเปน็ หว่ งผม
หรือรักผมไม่ทราบ นายเปลอื้ งกก็ ลบั ไปดว้ ยความไมค่ ่อยพอใจนกั เพราะทา่ น
เคารพคณุ เตีย่ ผมมาก ตามศักดิญ์ าตทิ ่านเรียกคุณเต่ยี วา่ คุณอา ท่านยงั ไป
บ่นท่ีสุโขทยั ว่า คุณอาจะทําใหพ้ อ่ อานเสีย (พอ่ อานคือตวั ผม) เพราะควรจะ
สง่ ไปเรียนแล้ว น่ีเป็นคําบอกเลา่ ของภรรยาผม นายเปล้อื งก็สง่ นายทองสุข
ไปเรียนในปนี ัน้ และในปีรุง่ ข้นึ คุณเตย่ี กส็ ง่ ผมไปเรียนทีโ่ รงเรยี นราชวทิ ยาลัย
เหตุผลท่ีนายเปลื้องและคุณเตี่ยส่งผมและนายทองสุขไปเรียนท่ีราชวิทยาลัยน้ัน ทองสขุ แสนโกศกิ
ก็เพราะวา่ คุณลงุ เลื่อม พีช่ ายนายเปลอ้ื ง ได้ส่งลกู ชายไปเรยี นอยกู่ ่อนแล้วคน
หนงึ่ ชอื่ นายฉอ้อน แสนโกศิก หรอื หลวงอรรถปรีชาชนปู กรณ์ อธบิ ดกี รมอยั การที่สน้ิ ไปแลว้ นน่ั เอง
ราชวทิ ยาลยั เป็นโรงเรยี นกนิ นอนแหง่ แรกในประเทศไทย โดยท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั
รัชกาลท่ี 5 ไดเ้ สดจ็ ประพาสยุโรป ไปดูโรงเรียนกนิ นอนแห่งหนงึ่ ท่อี ังกฤษ ชือ่ โรงเรยี นอีตัน เปน็ โรงเรียน
กนิ นอนช้ันเยี่ยม พวกที่เขา้ เรียนล้วนแต่เปน็ ลกู คนม่งั มี ขนุ น้�ำ ขนุ นางทง้ั นัน้ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่
หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จกลบั มา จงึ ไดม้ าหาท่ตี ัง้ โรงเรยี นกนิ นอนแบบโรงเรยี นอตี ัน โดยในปี พ.ศ. 2440 ได้
เริม่ สรา้ งโรงเรยี นทบ่ี า้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา แล้วยา้ ยไปทโี่ รงเลย้ี งเด็ก ถนนบำ�รงุ เมอื ง และในปี พ.ศ. 2454
ได้ย้ายมาท่นี นทบุรี อยฝู่ ง่ั ตะวนั ออกของแมน่ ้ำ�เจา้ พระยา ห่างจากกรุงเทพฯไปประมาณ 15 กิโลเมตร
ตดิ กับวดั บางขวาง ซง่ึ มีเน้อื ทก่ี ว้างขวางมาก

64

โรงเรยี นเป็นอาคารรอบ สเี่ หลยี่ มสองชนั้ ชัน้ บนเป็นหอ้ งพักนักเรียน ช้ันลา่ งเป็นห้องเรียนและ
ห้องพัก ห้องเรียนนี้สรา้ งหา่ งกนั แตช่ ัน้ บน มีสะพานเดินถึงกนั ตลอด ส่วนชัน้ ล่างเปน็ พน้ื ตดิ ต่อกนั ห้อง
พักนกั เรยี นและชน้ั เรยี นแบ่งเป็นสามบา้ น เรยี กว่า บา้ นเอ บา้ นบี บ้านซี อกี ด้านหน่งึ เป็นหอ้ งประชมุ
และห้องอาหารสําหรับนักเรยี นรบั ประทานอาหาร ประชุมสวดมนต์ และทําการบ้าน ขณะที่ผมไปเรยี น
น้ัน มจี ำ�นวนนักเรียนประมาณ 150 คน
ส่วนพน้ื ทต่ี รงกลาง เป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ เล่นไดท้ งั้ กฬี าและฟุตบอล แตท่ แ่ี ปลกก็คือ
ห้องอาหารหรือหอ้ งประชุมน้นั สรา้ งดว้ ยคอนกรตี แขง็ แรงมาก ด้านใต้พืน้ ห้องอาหารเกอื บทง้ั หมดทําเปน็
สระนำ้�สําหรบั ขังน้�ำ ไว้ด่มื ด้านหลังหอ้ งประชมุ เปน็ โรงครัว ทําอาหารเลยี้ งนกั เรยี น แต่มีฝาก้ันปดิ บงั
มดิ ชดิ ถ้าคนไมส่ ังเกต ก็จะมองไม่เหน็

สนามฟุตบอล โรงเรียนราชวิทยาลัย
นอกจากนัน้ ในเรอื่ งความรอบคอบและมองการณไ์ กลตามพระปรชี าสามารถขององคพ์ ระประมุข
แห่งชาติ พระองคไ์ ดท้ รงขยายท่ีดินดา้ นเหนือโรงเรยี นออกไปอีก ผมเขา้ ใจว่าเปน็ เนอ้ื ที่รว่ ม 500 ไร่
ทีด่ นิ แปลงนี้ ปรบั ปรงุ สนามเรยี บรอ้ ย จดั ไวเ้ ปน็ สนามสําหรับกฬี าได้หลายอยา่ ง นอกจากน้นั อกี ด้านหน่ึง
กย็ ังจัดเป็นสนามฟุตบอล

65

โรงเรยี นราชวิทยาลัยในสมัยนั้น ถา้ ใครจะไปเรยี น กร็ สู้ ึกวา่ ลําบากมาก เพราะไม่มที างรถยนต์
ไป ไปไดท้ างเดยี วคือทางนำ�้ ข้ึนรถรางมาลงเรอื ของบริษทั แม่น้ำ�มอเตอรโ์ บ็ท ทที่ า่ บางกระบือ แลว้ น่งั
เรือยนตเ์ ครือ่ งดเี ซล ซง่ึ ไมส่ ะอาดและเรยี บรอ้ ยนัก ไปอีกทหี นง่ึ เมอ่ื เรือออกจากท่าบางกระบือใชเ้ วลา
เดินทางประมาณ 40-50 นาที และต่อไปอกี ระยะหนึ่งก็ไปถึงศาลากลางจังหวัดนนท์ สําหรบั โรงเรียน
นี้พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงมพี ระราชประสงค์วา่ เดก็ นักเรียนทกุ คนเมื่อเรยี นสําเรจ็ แลว้ จะตอ้ ง
เรยี นกฎหมาย และก็เปน็ จรงิ ตาม พระราชประสงค์ของท่าน คอื นกั เรียนส่วนมากเรียนสําเร็จกฎหมาย
80% ไปมตี ําแหนง่ ใหญ่โตในด้านกฎหมาย กระทรวงยตุ ธิ รรมเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะท่านผ้ทู ่ีได้
เป็นประธานศาลฎกี าเท่าที่ผมจําไดว้ า่ มีไม่น้อยกว่า 5 คน ซง่ึ นบั ว่าเป็นเกียรติและสมพระราชประสงค์ของ
พระเจา้ อย่หู วั
พระองคย์ ังทรงควบคมุ การจดั สรรครู อย่างใกลช้ ิด มีทงั้ ครูไทยและครูฝรง่ั โดยเฉพาะครฝู รงั่ นนั้
ได้ทรงมหี ลักเกณฑใ์ ห้ปฏิบตั วิ ่า ตอ้ งมีครฝู รงั่ จํานวน 5 คน จะต้องเป็นผทู้ เี่ รียนจบมหาวทิ ยาลยั ออ๊ กซ์ฟอรด์
หรือเคมบรดิ จ์ นอกจากนัน้ ยงั จํากดั วา่ ผู้ที่เป็นครเู หลา่ นีต้ ้องสําเร็จวชิ าคํานวณ วชิ าประวัตศิ าสตร์ วชิ า
วิทยาศาสตร์ และอีกคนหนึ่งน้ันต้องเป็นนกั ฟตุ บอลทีมชาติองั กฤษ จงึ จะมาเป็นครโู รงเรยี นนี้ได้ มีครูฝรงั่
ทงั้ หมด 5 คน ดังกล่าวแลว้ ครพู วกนี้มหี น้าที่ปกครองนกั เรียนโดยตรง ในเวลาเลิกเรยี นแล้วและข้ึน
หอ้ งนอน สว่ นครไู ทยนั้นมจี ํานวนมาก พอเปล่ียนสอนกันและพกั ผอ่ นกับครฝู รงั่ ไดส้ บาย คอื ครูทกุ คน
ตอ้ งสอนแตล่ ะวิชาคนละชัว่ โมงไปตามช้ันเรียนตา่ งๆ ซงึ่ มที ง้ั หมดต้ังแตม่ ัธยม 1-8 คือ 8 ห้อง เทา่ นนั้ เอง
เพราะนักเรยี นไม่มากนกั ส่วนครูฝร่งั ก็สอนวิชาตามท่ีไดเ้ รียนสําเร็จมา

นกั เรยี นโรงเรียนราชวทิ ยาลัย

วธิ กี ารของโรงเรียนหรือกจิ วตั รท่ีนักเรียนจะต้องทําแบบนกั เรยี นกินนอน คอื ทําแบบโรงเรียน
อตี นั ทงั้ หมด ต้งั แตช่ น้ั มธั ยม 3 ขนึ้ ไปถงึ ชน้ั มธั ยม 8 กจิ วตั รกค็ อื ต่ืนขนึ้ ตอนย�ำ่ รุ่งแลว้ อาบน้ำ�แตง่ ตวั
เตรียมลงมาเรียน การแต่งตวั ของนกั เรยี นโรงเรียนน้ี เมื่อจะเขา้ หอ้ งเรยี นจะตอ้ งแต่งตัวน่งุ ผ้าม่วง หรอื

66

ผ้าพื้นใส่เสื้อราชปะแตน กระดุมห้าเม็ดแบบข้าราชการ ส่วนเด็กเล็กนั้น จะมีพี่เลี้ยงซึ่งส่วนมากเป็น
ผหู้ ญิงอายกุ ลางคนชว่ ยแตง่ ตัวให้ทกุ บ้าน เม่ือแต่งตวั เสรจ็ แลว้ ประมาณเจ็ดโมงครง่ึ กจ็ ะตอ้ งลงมาขา้ งล่าง
รับประทานอาหารเช้าเวลา 8.00 น. รับประทานอาหารเสรจ็ 8.30 น. ก็เตรียมเข้าหอ้ งเรยี นเวลา 9.00 น.
การเรยี นของโรงเรยี นน้ี คือ วิชาหนงึ่ เรยี นชั่วโมงหน่งึ แล้วหยดุ พัก 10 นาที เข้าเรียนวิชาใหม่
และเปล่ยี นครูใหมด่ ้วย ตอนเช้าเรยี น 3 ชว่ั โมง เท่ียงรบั ประทานอาหาร เขา้ เรยี นต่อเวลา 13.00 น. และ
เรียนอกี 2 ชัว่ โมง คิดท้งั พักระหว่างชว่ั โมงด้วย เลกิ เรยี นเวลา 16.00 น. เมื่อเลกิ เรียนแลว้ นักเรียน
ทกุ คนขนึ้ ห้องเปลยี่ นเครอื่ งแตง่ ตัว นงุ่ กางเกงขาสนั้ สําหรบั เลน่ กฬี าหรือจะเดนิ เลน่ หรือจะดูหนังสอื
ตามริมเขอ่ื นอะไรก็ไดต้ ามอธั ยาศยั แตโ่ ดยเฉพาะฟุตบอลนนั้ ทางโรงเรยี นถอื ว่าเปน็ หลกั คือถา้ วนั ธรรมดา
วันเสาร-์ อาทิตย์ ก็เลน่ รวมกนั ทั้งหมดขา้ งละกีค่ นกไ็ ด้ แตส่ ําหรับวันพุธและวันเสาร์นน้ั เปน็ วันท่อี าจารย์
สอนกฬี า คอื อาจารย์โคโร ซ่ึงเป็นนักฟุตบอลชั้นเยย่ี ม ทมี ชาติของอังกฤษ เป็นผฝู้ กึ สอนโดยคัดเลือก
นักฟตุ บอลชัน้ เย่ยี ม เรียกว่าทมี หนึง่ กับทีมสอง ทมี หน่ึงหมายความวา่ เป็นทีมประจำ�โรงเรยี นท่จี ะแขง่ ขนั
ไดท้ กุ แห่งโดยทวั่ ไป สว่ นทมี สองน้ันเปน็ ทมี สํารอง ถ้าจะไปแขง่ ทไ่ี หน ถ้าพวกทมี หนงึ่ ขาดกต็ ้องเอาพวก
ทีมสองขึน้ ไปแทน เวลาซอ้ ม วธิ กี ารของอาจารย์โคโรนีเ้ ขาจะสลับกนั คอื พวกแนวหน้าทง้ั หมดของ
ทมี หนึง่ ไปเป็นแนวหน้าของทีมสอง แนวหน้าของทีมสองไปเปน็ แนวหน้าของทมี หนึง่ การซอ้ มเชน่ นี้
ซอ้ มท้ังอาทติ ย์ ทั้งวนั พธุ และวันเสาร์ แตถ่ า้ นกั ฟตุ บอลทมี ไหนขาด อาจารย์โคโรกจ็ ะเขา้ เล่นแทน รวมทง้ั
เปน็ ผู้ตัดสินดว้ ย
การซ้อมของอาจารย์โคโรน้ีเข้มงวดและเอา
จริงเอาจงั จึงปรากฏผลออกมาวา่ ฟตุ บอลทมี ชาติ
ของประเทศไทยในเวลานั้นจะมีนักฟุตบอลของ
โรงเรยี นราชวิทยาลยั เข้าไปร่วมด้วยไมน่ ้อยกวา่ 5 ถึง
6 คน ตามธรรมดาทุกปีทีม่ กี ารแขง่ ขนั ระหว่างทีมชาติ
ไทยกับทีมชาตอิ ังกฤษ พวกเราท่ีเป็นนกั ฟุตบอลทมี ชาติ
ซ่งึ รวมท้ังผมด้วย เวลาแขง่ ขันระหว่างไทยกับองั กฤษ
อาจารย์โคโรต้องไปเล่นในทีมชาติของอังกฤษคือแข่งขันกับพวกผมนั่นเอง สนามที่เล่นส่วนมากก็เป็น
สนามทส่ี ปอรต์ คลับ บางคราวพระเจ้าอยหู่ ัวก็เสด็จทอดพระเนตรดว้ ย
ในสมยั นัน้ ฟตุ บอลเปน็ ทน่ี ยิ มกันมากทุกโรงเรยี นทกุ แหง่ ตา่ งกแ็ ขง่ ขนั กนั จัดหานกั ฟุตบอลดๆี
ไปไว้ให้ทํางานและให้เล่นฟุตบอลทงั้ นน้ั เชน่ กรมมหาดเลก็ เสือพราน โรงเรียนราชแพทยจ์ ุฬาลงกรณ์
และทอี่ นื่ ๆ ทกุ ปี กระทรวงธรรมการ หรือ กระทรวงศึกษาธกิ ารปจั จบุ ัน กม็ กี ารแข่งขนั ฟุตบอลและกฬี า
ประจําปที ุกปี แต่การแข่งขนั รอบสุดท้ายของฟุตบอลน้นั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั เสด็จ
พระราชทานถว้ ยผชู้ นะเลศิ ทุกครัง้

67

ในสมัยนั้นการแข่งขันที่สําคัญก็มี ถ้วยเล็ก ถ้วยใหญ่ สําหรับถ้วยใหญ่นั้น ให้สิทธิ์เฉพาะ
มหาวิทยาลยั หรอื สถานท่ีราชการ เช่น กรมมหาดเลก็ กรมเสือพราน เหล่านเี้ ปน็ ต้น ส่วนถ้วยเล็ก ให้
โรงเรียนระดับวทิ ยาลยั หรอื สถานท่ีราชการ กรมใดกรมหน่งึ ทีม่ นี กั ฟุตบอลเขา้ แขง่ มสี ิทธ์เิ ข้าเลน่ ได้ แต่
สรปุ แลว้ โดยเฉพาะถ้วยใหญ่ ส่วนมากผทู้ ี่ชนะเลิศ ก็คอื นักฟตุ บอลกรมมหาดเล็ก เพราะกรมมหาดเลก็
น้ีเป็นกรมท่ีใกลช้ ดิ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั พวกผมทีเ่ ป็นนกั ฟตุ บอลชัน้ ดี หรอื ส�ำ เร็จออกไปแล้ว
สว่ นมากก็ต้องเขา้ ไปเลน่ ทีก่ รมมหาดเลก็ นอกจากนน้ั กรมน้ยี ังเอานกั ฟุตบอลท่ฝี ีเท้าเยยี่ มจากโรงเรียน
อนื่ ๆ มาอีก จงึ ชนะเลิศทกุ ปี แตท่ ีมรองน้ันกค็ ือ ทมี กรมเสอื พราน
การเลน่ ฟตุ บอล ของนกั เรยี นราชวทิ ยาลยั รู้สกึ วา่
รุนแรงมาก เพราะขอ้ บงั คับไมเ่ ข้มงวดเหมือนอยา่ งสมัยน้ี
การแข่งขนั แตล่ ะครง้ั พวกเราถา้ ไมเ่ กง่ จรงิ หรอื หลบเกง่ จริง
จะต้องถูกหาม บางทีกข็ าแขนหกั ทกุ คร้ัง สําหรบั ถว้ ยเลก็
โรงเรยี นตา่ งๆ กแ็ ขง่ กัน เช่น เทพศริ ินทร์ หรือสวนกุหลาบ
และอน่ื ๆ รวมท้งั โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั ของผมดว้ ย สว่ นมาก
ถว้ ยเล็กนี้ โรงเรยี นราชวทิ ยาลัยได้ชนะเลศิ หลายครั้ง แต่
บางครัง้ ก็ไปแพก้ รมมหาดเล็กและกรมเสอื พราน เพราะกรมน้เี ขาเลือกนกั ฟตุ บอลที่เกง่ จรงิ ๆ ไปเข้าทํางานหมด
สนามกลางที่เป็นสนามแข่งขันกันทั่วไปนั้นก็คือ สนามโรงเรียนสวนกุหลาบ เพราะเราไม่มี
สนามใหญ่ เชน่ สนามศุภชลาศัย อย่างปัจจุบนั น้ี ในสมัยน้ัน (พ.ศ.2460) มีสนามท่ดี ีและถูกตอ้ ง นา่ เลน่
ก็คือ สปอร์ตคลับ แตร่ ู้สกึ วา่ ไกลมาก ถนนหนทางก็ไม่สะดวก ไปมากไ็ กล กระทรวงศึกษาธิการเคยไปจัด
ครง้ั หนึง่ กต็ ้องเลิก เพราะไมม่ คี นดู ทกุ ๆ ปี ทีม่ กี ารแขง่ ขันฟุตบอล จึงใช้สนามสวนกุหลาบเป็นสนาม
กลาง รวมทั้งแขง่ ขันกีฬาประจําปีดว้ ย
สําหรบั ตวั ผมเอง ผมเป็นทง้ั นักฟตุ บอลและนักกีฬา โดยเฉพาะกรฑี าน้นั ผมเลน่ แข่งขนั วิ่งเร็ว
วิง่ ผลัด 400 เมตร สําหรับว่งิ เรว็ 100 เมตร ผมเคยชนะเลิศ ทําสถติ ิเรว็ ทส่ี ดุ ได้ 10.3 วนิ าที สําหรบั
ฟตุ บอล ผมเป็นนักฟตุ บอลทมี ชาติ การเลน่ ของผมโดยปกติเราแข่งขันกบั โรงเรียนอัสสมั ชญั และเลน่ กบั
ท่ีอน่ื ๆ ทเี่ ขาเชิญ เพราะสมัยน้ันฟุตบอลของโรงเรียนราชวิทยาลัยมชี ือ่ มาก แตผ่ มแปลกกว่าคนอื่นคอื
ถา้ แขง่ ขันกับคนไทย ผมใสร่ องเท้าสําหรบั เลน่ ฟตุ บอล เพราะการเล่นของคนไทยสมยั น้ัน มที ั้งกระทบื เทา้
และอน่ื ๆ จึงจําเปน็ ตอ้ งใส่รองเท้าฟตุ บอลป้องกันไว้ แตถ่ า้ ผมเล่นกับฝร่งั สปอรต์ คลับ ผมชอบเล่นเท้าเปลา่
เพราะฝรั่งเขาเลน่ มมี ารยาท เลน่ ลูกฟุตบอลจรงิ ๆ ไมเ่ ลน่ ท้งั ลูกทั้งคน
สําหรบั การแขง่ ขนั กฬี ารวมของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สว่ นมากโรงเรยี นราชวทิ ยาลยั ของผม มกั จะ
ไดถ้ ว้ ยชนะเลศิ คะแนนรวมเกอื บทกุ ปี การแข่งขนั กฬี ารวมน้ี พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว

68

เสด็จทอดพระเนตรและพระราชทานรางวลั เสมอ พระองค์ทา่ นทรงรจู้ กั ผมดี เพราะผมเล่นกีฬาเก่ง เช่น
เราเลน่ กนั เองกับโรงเรยี นมหาดเลก็ หลวง ซงึ่ เป็นโรงเรยี นของพระเจ้าอยหู่ วั (ปจั จบุ นั คอื โรงเรียนวชิราวธุ )
ผมก็ชนะวิ่งเรว็ วง่ิ ผลัดเสมอมา นอกจากนัน้ ยังไดม้ โี อกาสเสริ ์ฟอาหารเวลาเสวย ตามระเบยี บของโรงเรียน
ราชวทิ ยาลัยและโรงเรียนมหาดเล็กหลวง กรมมหาดเล็กจะสง่ั ให้จัดนกั เรียนรุ่นโตหรือร่นุ กลางเข้าไป
เสิรฟ์ อาหารเวลาเสวยด้วย ก็เทา่ กบั เป็นวิชาหนง่ึ ท่เี ราจะต้องรู้ การเสิรฟ์ อาหารนี้มรี ะเบยี บแบบแผนมาก
โดยเฉพาะไปเสิรฟ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว ต้องเรยี บร้อย แตง่ ตวั สะอาดมารยาทดี นี่ก็เป็นความรู้
อย่างหนึง่ ของพวกผม
เมอ่ื มาแขง่ ขนั กฬี ารวมประจําปกี ับโรงเรยี นต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการทโ่ี รงเรียนสวนกุหลาบ
ผมไดร้ บั รางวัลพระราชทานวิ่งเรว็ วิง่ ผลัด เวลาถูกเรียกชือ่ ข้ึนไปรบั พระราชทานรางวัล โรงเรียนตา่ งๆ อิจฉา
มาก เพราะเมอื่ ผมข้นึ ไปรบั พระราชทานรางวลั หน้าพระพักตร์ พระองคท์ ่านรับสง่ั ว่า มาชนะทนี่ ่อี ีกหรือ
แลว้ ดึงหวั ไปตบหยอก แล้วจงึ พระราชทาน อันน้กี น็ ับวา่ เปน็ บารมีลน้ เกล้า ทรงเห็นว่าเป็นคนใกล้ชิด
พระองคท์ ่าน
นอกจากฟุตบอลกบั กฬี าทกี่ ลา่ วแล้ว ผมเป็นนกั แบดมนิ ตนั คซู่ ้อมกับแชมเป้ียนของประเทศ
และเป็นผู้ได้รบั รางวัลการเลน่ สควอตและเทนนสิ ดว้ ย ผมก็เลน่ อยูใ่ นข้นั ฝมี ือดี รวมแล้วผมเปน็ นักเรยี น
ทีเ่ รยี นอยใู่ นขนั้ ปานกลาง พอสอบไดป้ ีหนึง่ ๆ เทา่ นั้น แต่ผมเลน่ กีฬาเก่งทกุ ชนิด ไดท้ ้ังเส้อื สามารถ
ทัง้ หมวกและรางวัลเยอะมาก โรงเรยี นราชวิทยาลัยต้องการใหน้ กั เรยี นเปน็ นักกฬี าและต้องเรียนดดี ว้ ย
ส่วนจะดีแค่ไหนนั้น เป็นเร่อื งของแต่ละบุคคล ผมพดู ถงึ เรอื่ งฟตุ บอลและกีฬามาใหท้ า่ นทราบวถิ ชี วี ิต
ของผมทผี่ า่ นในเรอ่ื งนี้ ซึ่งผมก็อย่ใู นระดบั ทม่ี สี ําคญั ท้ังสองอยา่ ง
ผมอยากจะพดู ใหท้ ราบระเบียบปฏบิ ัตปิ ระจําวันของนักเรียนราชวิทยาลัยอยา่ งละเอยี ด คือ
เราตืน่ ขนึ้ ตอนย่ำ�รุ่ง อาบนำ�้ แปรงฟนั พอเจ็ดโมง แตง่ ตวั ลงไปเรยี น การแต่งตวั นี้ ผมพดู ไว้ตอนหน่งึ แล้ว
คอื นุ่งผ้าโจงกระเบนใสเ่ ส้อื ขาวกระดมุ หา้ เมด็ พอเจ็ดโมงครง่ึ ก็ลงไปห้องอาหาร รบั ประทานอาหารเชา้
พร้อมกนั หมดทกุ คน การจดั อาหารนน้ั จัดเปน็ โต๊ะ โตะ๊ ละ 8 - 10 คน มกี บั ขา้ ว 3 อย่าง เวลารบั ประทาน
อาหารมีคนเสริ ์ฟ คอยตกั ขา้ วหรือบริการ พอเรารบั ประทานอาหารเสรจ็ กอ็ อกจากห้องอาหารไปเตรยี มตัว
เข้าหอ้ งเรยี น ชนั้ ใครช้ันมัน ไมม่ ีการชกั ธงขนึ้ เสาหรอื เข้าแถว พอเวลาเก้าโมง ครูแต่ละวชิ ากเ็ ขา้ มาสอน
ชัว่ โมงหน่งึ พกั 10 นาที พอเท่ียงกร็ ับประทานอาหารกลางวันในหอ้ งรวมกัน เสรจ็ ประมาณเทย่ี งคร่ึงเศษ
พอบ่ายโมงก็เข้าเรยี นตอ่ เลิกเรียนเวลาบ่ายสามโมงคร่งึ
เมอ่ื โรงเรยี นเลกิ แลว้ ทกุ คนก็ขนึ้ หอ้ งพกั ชน้ั บน เปล่ยี นเคร่ืองแต่งตวั นุง่ กางเกงขาสน้ั สําหรับ
เลน่ กีฬา ส่วนเวลาเล่นกีฬานั้น ผมก็ได้พดู ไวแ้ ลว้ ตอนตน้ วา่ เราเปลยี่ นเครื่องแต่งตัวเสร็จเวลาสีโ่ มงเยน็
ก็เข้าไปรับประทานนำ้�ชา มนี ้ำ�ชากบั ขนมปงั และเนย การรบั ประทานนำ้�ชาน้ี ใครจะรับประทานหรือ

69

ไมก่ ็ได้ แต่มักรบั ประทานกันทุกคน หลงั จากน้ัน กอ็ อกมาเลน่ ฟตุ บอลหรือกฬี าหรือเดินเลน่ ตามความ
สมัครใจ พอเวลา 17.30 น. ก็มรี ะฆงั สญั ญาณให้ทุกคนเลกิ เลน่ และไปอาบนำ�้ แต่งตวั เพือ่ รบั ประทาน
อาหารเยน็ และทําการบา้ น การแตง่ ตวั ตอนเยน็ นีพ้ วกเราจะนุ่งกางเกงขาวหรือกางเกงจนี ขาว ขายาว
ใสเ่ สอ้ื คอกลม พอเวลา 18.00 น. กม็ ีระฆังสญั ญาณให้เขา้ รบั ประทานอาหารเย็นในโรงอาหาร ที่กล่าว
เรือ่ งเวลานี้ เป็นเวลาทต่ี รง และแนน่ อนมาก คือจะไมม่ ใี ครขาดเลย เพราะถา้ ขาดก็เป็นอันวา่ วนั นนั้ ไมไ่ ด้
รับประทานอาหารเย็น รับประทานอาหารเสร็จ ประมาณ 18.30 น. เศษ ทุกคนก็ออกจากโรงอาหาร
เตรียมตัวเข้าทําการบ้าน ในเวลา 19.00 น. เราทําการบา้ นอยู่หนึ่งชวั่ โมง ถึง 20.00 น. ก็เลิก แตก่ อ่ น
เลิกนี้ ครูเวรประจําเป็นคนไทย ใหเ้ ขา้ แถวในห้องอาหารหรอื หอ้ งประชุมนั่นแหละ สวดมนตเ์ ปน็ กจิ วตั ร
ทุกวนั ไม่มหี ยุด ครคู นไทยคนหน่ึงจะเป็นครูเวร สับเปลีย่ นกันอยู่คนละอาทิตย์ คอยดแู ลความเปน็ อยขู่ อง
นักเรียน
เมือ่ สวดมนต์เสร็จแลว้ เรากข็ ึ้นห้องนอน ทําความสะอาดฟันและลา้ งหนา้ เปล่ยี นเครือ่ งแต่งตวั
นอน พอเวลา 21.00 น. กม็ รี ะฆงั สญั ญาณ ใหท้ กุ คนเขา้ นอน หอ้ งนอนแบง่ เป็นหอ้ งละ 10 คน หรือ
กว่านิดหนอ่ ย มีเตียงนอนและม้งุ คนละเตียง พวกเราเข้าเตยี งกก็ างมงุ้ เรียบรอ้ ย การขน้ึ นอนบนห้องนอนนี้
อาจารยฝ์ รั่งเปน็ ผู้ดแู ลความเป็นอยูข่ องนักเรียน เราจะสังเกตไดว้ า่ ระหว่างสามทุ่มกับสีท่ ่มุ ครฝู รง่ั ต้อง
เดนิ ตรวจดนู ักเรียนทุกคนบนเตียงวา่ จะอยนู่ อนหรอื จะหลบหนีไปเทยี่ ว จากน้นั อาจารยฝ์ ร่งั เขากไ็ ป
บ้านพกั เขา คืออยู่ชน้ั บนนน่ั เอง เปน็ ลกั ษณะบ้านทม่ี ีสองชน้ั อยรู่ ะหว่างบ้านเอกับบ้านบี 1 หลัง บา้ นบี
กบั บ้านซี 1 หลัง และตอ่ บา้ นซอี กี 1 หลงั มสี ะพานเดนิ ถงึ กนั หมด อาจารย์ฝรัง่ อยู่คนละหลงั คนท่มี ี
ครอบครวั กเ็ อาครอบครวั มาอยู่ดว้ ย แตโ่ ดยเฉพาะบ้านท่ตี อ่ จากบ้านซีไปนน้ั อย่ไู ด้ 2 ครอบครัว หรอื 3
ครอบครวั เปน็ อนั ว่าระเบยี บของโรงเรียนกินนอนของเราปฏบิ ัตกิ ันเคร่งครดั อย่างนี้
เรื่องการปกครองนักเรียน เรามีการปกครองเปน็ แบบประชาธปิ ไตย คอื นักเรียนทั้งหมดประชมุ
เลอื กคนหนงึ่ ท่เี ปน็ ผอู้ าวโุ สและคนทเี่ ปน็ หวั หนา้ ใหญ่ของนักเรียน คนนเ้ี ป็นคนควบคมุ นกั เรียนทงั้ โรงเรียน
นอกจากนน้ั แตล่ ะบ้านทน่ี ักเรียนพกั คือ บา้ นเอ บา้ นบี บ้านซี ก็มหี วั หนา้ แต่ละบา้ นควบคุมในบ้านน้ัน
ท้งั หมด ในบา้ นพกั หรือห้องนอนพักชน้ั บน แตล่ ะบา้ นกแ็ บ่งเป็นหอ้ ง บ้านละ 5 ห้อง ในแตล่ ะห้องก็มี
หัวหน้าห้อง สําหรบั หวั หน้าหอ้ งนั้น มีเตียงนอนพิเศษคอื ใหญ่กว่าท่ีพวกเรานอน เป็นเตยี งเหล็กขนาด
4 ฟุตครึ่ง แตท่ ่พี วกเรานอนเปน็ เตียงผา้ ใบ มีมงุ้ หมอน ทีน่ อน ซงึ่ นอนไม่ค่อยสบายนกั ของใครเก่า
หน่อย เวลาปดิ เทอมกแ็ อบไปเปลย่ี น เลอื กเอาที่นอนยัดนุน่ มานอน แตถ่ า้ ใหม่หน่อยก็ไมม่ ีเล่หเ์ หล่ียม
ท่นี อนนั้นก็ใช้กาบมะพรา้ วหรอื ฟางยดั เปน็ ท่ีนอน เตยี งนอนสําหรับพวกเรานเี้ ป็นเตียงผ้าใบขนาด 3 ฟตุ
พับได้และมีเสาเตียงเป็นแปบ๊ เหลก็ 4 เสา มเี หลก็ ยึดเหน่ียว สว่ นมุ้งนั้นเป็นผ้ามุง้ ธรรมดาคลมุ เตยี งอกี ทห่ี น่งึ

70

สําหรับนักเรยี นทีจ่ ะไปเข้าเรียน เครื่องแต่งตัวนกั เรียนท่จี ะเตรียมไป ก็คือ โรงเรเยี คนรร่อื างชแวบทิ บยาลยั
เคร่อื งแบบนักเรยี นมหี มวกหนีบสนี ้ำ�เงินตรามงกฎุ ตดิ ข้างหมวกข้างขวา มแี ผงคอ
ติดที่คอเสื้อ แผงคอนั้นเป็นสีน้ำ�เงิน ผ้าดิน้ เงิน ตอนกลางติดมงกุฎ ส่วนทค่ี อ
เสอ้ื ช้นั นอกนน้ั โรงเรียนราชวิทยาลัย ใชต้ วั ร ถา้ โรงเรยี นมหาดเล็กหลวงก็ใช้
ตวั ม และใช้กระดุมเงนิ ตรามงกุฎ น่เี ป็นเครื่องแบบสำ�หรับเขา้ เฝ้า หรอื ไปพธิ ี
หรอื ไปในงานเชญิ เป็นหมคู่ ณะ แตบ่ างคนเวลาจะเข้ากรงุ เทพฯ หรือเท่ียวดูหนงั
ดูละคร ก็ชอบแตง่ เครอ่ื งแบบโรงเรยี นกนั ทั้งนัน้ เพราะถือวา่ โก้มาก เป็นเครอ่ื งแบบ
ของโรงเรียนในพระบรมราชปู ถัมภข์ องพระเจา้ อยู่หัว

ของใช้ทต่ี ดิ ตัวไป ก็มกี างเกงจีนขาว ขายาว 6 ตวั หรือมากกวา่ กไ็ ด้ นอกจากนัน้ ก็มีผา้ เช็ดตัว
2 ผนื เสอื้ ขาวคอกลม 6 ตวั หรอื มากกว่า มีผ้าขาวม้าอาบน้�ำ 1 ผนื แต่ส่วนมากไม่ค่อยใช้กนั มแี ปรงถูฟัน
ยาถฟู ัน หวี ใครชอบโก้หนอ่ ยกม็ ีน้�ำ อบนำ้�หอมไปด้วยก็ได้ สบู่และขันอาบนำ้�คนละใบ และมกี างเกง
ขาสน้ั สนี �้ำ เงินอีก 4 ตัว เวลาเรียนแตง่ ตัวนุ่งโจงกระเบน ใส่เส้ือชั้นนอกกระดุมหา้ เมด็ ใส่รองเท้าคทั ชู ใส่
ถงุ ส้ันกไ็ ด้ ถุงยาวก็ได้ แตส่ ว่ นมากใสเ่ พียงรองเท้าไม่ใสถ่ ุง ตอนเช้าเวลาย่�ำ รงุ่ ครฝู รั่งจะมาเดินดูทุกเตียง
ใครยังไม่ต่ืนกเ็ ขยา่ ม้งุ หรือเคาะเตยี งเคาะตู้ สําหรับใส่เส้อื ผ้าที่ตัง้ ไวป้ ลายเทา้ เพือ่ ปลกุ ใหล้ กุ ขึน้ ทกุ คน
จะต้องลุกไปอาบน้�ำ แปรงฟนั แต่งตัวเตรยี มลงมารับประทานอาหาร คอื ท่ผี มเรยี นไว้แลว้ ตอนต้นนี้ เป็น
เรอ่ื งธรรมดาและการปฏบิ ตั ขิ องโรงเรียนกนิ นอน และกจิ วตั รท่จี ะต้องปฏิบตั ปิ ระจําวัน

สว่ นงานพิเศษนอกจากนี้ ถ้าวนั ใดพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั เสดจ็ ทางเรือจะไปพระราชวงั
บางปะอิน หรอื จะไปไหนกต็ าม พวกเราทุกคนต้องแต่งเคร่ืองแบบของโรงเรียนมายืนแถวรมิ เขื่อนรอรับ
เสด็จถวายคํานบั เวลาเรอื เสดจ็ ผ่าน ส่วนงานอกี อย่างหนึ่งทีน่ ่าเบือ่ ส�ำ หรบั ผม แต่กเ็ ป็นประเพณที ีด่ ี
คือวันเสาร์เราเรียนครึ่งวนั ตอนเชา้ บา่ ยไมเ่ รียน แตว่ นั อาทิตย์เราหยดุ ท้ังวัน สําหรับวันอาทิตย์ หลงั จาก
รับประทานอาหารกลางวันแล้ว 13.00 น. เศษ ครูเวรจะตรี ะฆังให้พวกเราขึน้ ไปแต่งตัวนุ่งผา้ โจงกระเบน
ใส่เสอ้ื ชัน้ นอก ลงมาฟงั เทศนป์ ระมาณครง่ึ ชว่ั โมง หรือหนงึ่ ชัว่ โมงทกุ วัน

การฟงั เทศน์สําหรับเดก็ นักเรียนท่ีอยใู่ นวัยเรียนอยา่ งผมนี้ ทา่ นลองคิดดูเถดิ วา่ จะมอี ะไรเกดิ ข้ึน
บ้าง เหตุทเ่ี กิดกค็ ือ พระทา่ นเทศน์บนเวที พวกเรากน็ ง่ั อยู่บนเกา้ อ้ีช้นั ลา่ งตามโต๊ะอาหารที่จัดใหม่
สําหรับฟังเทศน์ ที่ผมวา่ เหตุอะไรจะเกดิ ขน้ึ นัน้ กค็ อื เวลาฟงั พระเทศน์ พวกเรานัง่ ฟังกนั อยู่ไม่น้อยกวา่
100 คน รวมทง้ั ครเู วรด้วย พระเทศน์ไปขั้นแรกๆ เรากน็ งั่ ฟงั เทศน์ดๆี พอไปสกั 10 นาที กเ็ ร่มิ ฟุบลง
กบั โตะ๊ หลับเกินกวา่ 40% นา่ เหน็ ใจพระ ท่านอุตสา่ หอ์ ดทนเทศน์จนจบ พวกเราบางคนพระเทศนจ์ บ
แล้วก็ยังไม่ต่นื ต้องปลุกกันก็มี

71

เมอื่ เราฟงั เทศน์จบแล้ว เราก็ข้ึนไปเปลย่ี นเครอื่ งแตง่ ตัวบนห้องนอน เพอื่ เล่นกีฬาหรอื ทําอะไร
ตามอธั ยาศยั แตใ่ นคืนวนั อาทิตย์ กค็ งมที ําการบ้าน สวดมนตอ์ ย่างปกต ิ เม่อื ตอนต้น ผมเขียนเร่ือง
เครอ่ื งใชท้ ีจ่ ะต้องมาใช้ในโรงเรยี นไวล้ ะเอียดแลว้ นกึ ข้ึนได้วา่ นกั เรียนจะตอ้ งมผี ้าปูที่นอนมา 4 ผืน
ปลอกหมอน 4 ชุด เพือ่ มาใช้ เพราะโรงเรียนไมไ่ ดเ้ ตรียมไวใ้ ห้
อกี เร่ืองหนึ่งสําหรับโรงเรียน ทีผ่ มนึกขน้ึ ไดว้ า่ จะตอ้ งใหท้ ราบกค็ อื งานพระราชพธิ ีหรอื รัฐพธิ ี
ต่างๆ เชน่ งานฉตั รมงคล งานเฉลมิ พระชนมพรรษา งานพเิ ศษในพระราชวงั งานเวยี นเทียนในวันมาฆบูชา
และงานอืน่ ๆ ซึ่งเป็นงานท่พี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั เสด็จ พวกนักเรียนโรงเรียนราชวทิ ยาลยั และ
โรงเรียนมหาดเลก็ หลวง จะต้องไปเฝ้าทุกครง้ั จะขาดเสียมไิ ด้

กองลกู เสอื ปา่ ของโรงเรยี นราชวิทยาลยั

งานอีกอย่างหน่งึ ท่ีเราไมไ่ ดพ้ กั ผอ่ นกนั เลยก็คอื เวลาปิดเทอมปลาย 2 เดือน ก็ตรงกับงาน
ซอ้ มรบเสือป่าและลกู เสอื เปน็ งานทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวรัชกาลที่ 6 ทรงอํานวยการงานนี้
ทัง้ สิ้น และเสด็จไปประจําอยู่ประมาณเดือนครึ่ง การซ้อมรบที่โพธาราม นครปฐม พวกเสอื ป่าเกือบ
ทุกเหล่ากต็ อ้ งไปต้งั คา่ ยพักกันเปน็ เหลา่ เปน็ ตอน และแบง่ กนั เป็น 2 ฝา่ ย รวมท้งั ลกู เสอื ตา่ งๆ ของ
โรงเรยี นกระทรวงศกึ ษาธิการด้วย พวกผมซ่งึ เปน็ ลูกเสือหลวง ก็ตอ้ งไปอยู่ในค่ายทพ่ี ระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หวั ประทับ งานซอ้ มรบลกู เสอื และเสอื ป่าน้ี ทํากนั เป็นประจําทกุ ปี
พวกผมนักเรยี นราชวิทยาลยั และนักเรยี นมหาดเล็กหลวง ลว้ นแต่เป็นลกู เสอื ทีต่ ้องอยใู่ กลช้ ดิ
พระองคต์ ลอดเวลา เวลาเราพกั ผอ่ นวนั เสารอ์ าทติ ย์ พวกผมต้องพกั เล่นหัวกนั อยู่ในบรเิ วณที่ประทบั
หรือใต้ถุนทป่ี ระทบั จะไปไกลก็ไมไ่ ด้ แต่พวกเราเปน็ ท่ีร้กู นั วา่ ถ้าระยะไหนเงินขาด ไม่มสี ตางค์ใช้ เราก็

72

แกลง้ เล่นกันเอะอะโวยวาย ให้เป็นทีร่ บกวนพระราชหฤทยั จนถึงกับทรงพระอกั ษรไมไ่ ด้ เพราะกิจวตั ร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวรัชกาลที่ 6 น้ี เวลาว่างทา่ นต้องทรงพระอักษรอยู่ตลอดเวลา เมอ่ื
พวกเราเล่นกันดังเช่นนี้ และไมห่ ลบหนไี ปเทยี่ วตลาดนครปฐมหรอื ตลาดสามพราน พระองคท์ ่านกท็ รง
หยง่ั ร้เู ลยว่า ไอเ้ ด็กพวกนีไ้ มม่ ีเงนิ ก็ทรงรับส่ังเรยี กหาเจา้ พระยารามราฆพหรอื เจ้าพระยาอภยั ราชาคนใด
คนหนงึ่ ข้นึ มาพบ แล้วก็รับส่ังว่าไปดูไอเ้ ด็กพวกนห้ี น่อย ทําไมมันจงึ เอะอะโวยวายกันนัก เขา้ ใจว่าคงจะ
ไมม่ อี ฐั ใช้ ท่านเจา้ พระยา ก็ลงมาถามพวกผม พวกผมก็บอกไปตามความจริงว่าไมม่ เี งนิ ใช้ เพราะทางบ้าน
สง่ มาให้ไม่ทัน ทา่ นเจา้ คณุ ทั้งสองกเ็ รียกมาแล้วจ่ายไปคนละ 20 บาท พวกเรากเ็ งยี บหายกนั ไป นีเ้ ป็น
วธิ กี ารอนั หนึง่ สําหรับพวกผม ท่ไี ม่มอี ัฐใช้ ก็ต้องรบกวนพระเจ้าแผน่ ดนิ จนไดอ้ ฐั ใชด้ งั กลา่ วแล้ว
มอี กี เรื่องหน่งึ ทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจา้ อย่หู วั เปน็ เดอื ดเป็นแค้นมากกค็ อื พระองค์
ทา่ นเป็นกษตั รยิ ์ทต่ี ้องการความเรียบร้อย ต้ังแตท่ ่ีพกั สนามหน้าทพ่ี กั เพราะพระองคต์ ิดนิสยั มาจาก
เมือ่ ทรงศกึ ษาเล่าเรียนอยทู่ ่ีองั กฤษ โดยปกตพิ วกเราเปน็ เดก็ ท่ีซกุ ซนอยแู่ ล้ว ที่หนา้ ตําหนักท่ปี ระทับก็มี
สนามหญ้าสวยงาม และจะเดนิ ไปพระตําหนักกต็ ้องผา่ นไปตามถนน แต่พวกผมเป็นเด็กที่ดื้อรั้นเดนิ
ลัดสนามกันจนเปน็ รอยทาง พระองค์ทา่ นทรงกรว้ิ มาก เรียกไปถามเป็นรายบคุ คล ก็ไมม่ ใี ครรบั ก็ไม่รู้
จะทําอย่างไรทั้งๆ ที่พระองค์เปน็ พระเจ้าแผ่นดนิ ระบอบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ เมือ่ มาโดนเด็กดื้อร้ัน
อยา่ งพวกผมเดินลัดสนามจนเปน็ รอยเชน่ นี้ ถามก็ไม่รับ ท่ีสดุ พระองค์ก็ไมว่ ่าอะไร แต่สง่ั ใหพ้ วกสํานกั
พระราชวงั ทําป้าย ไปปักไว้ตรงปากทางทีจ่ ะเดินเขา้ มาพระตําหนกั ป้ายน้นั เขยี นไว้ว่า “ทางหมาเดิน”
ตัง้ แตน่ ั้นมาพวกเรากไ็ ม่มีใครกล้าเดนิ ลดั สนามกด็ ีขึ้นเรียบร้อยสวยงาม นี่เป็นเรือ่ งระหวา่ งพระเจ้าแผ่นดิน
พระมงกุฎเกลา้ ฯ กบั พวกผม นกั เรียนของพระองค์

73

พวกผมส่วนมาก เมอ่ื สําเร็จออกจากโรงเรียนแล้ว ก็เขา้ ไปทํา
งานกรมมหาดเล็ก ไดเ้ งนิ เดือน เดอื นละ 50 บาท หลายคนกเ็ ข้าไป
เป็นมหาดเลก็ รบั ใช้ พวกเหล่านม้ี ีหลายคนแบ่งเวรกนั คอยเฝ้ารับใช้ เพราะ
ตามธรรมดาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสวยอาหารเย็น
เวลาประมาณ 22.00 น. พวกเราทม่ี หี นา้ ทเ่ี สริ ฟ์ พระกระยาหาร ตลอดจน
นกั เรียนฝกึ หัดท่ผี มกลา่ วแล้วข้างตน้ กไ็ ปเสริ ฟ์ การเสวยพระกระยาหาร
นี้ส่วนมากพระองค์เสวยร่วมกับพวกเสนาบดีและเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่
เกอื บทกุ มอื้ ไมม่ เี วลาเสวยเป็นส่วนพระองคเ์ ลย เท่าทท่ี ราบพระราช
อธั ยาศยั ของพระองค์ เคยรบั สง่ั วา่ การกนิ ขา้ วรว่ มกนั กบั ผมู้ หี นา้ ทบ่ี รหิ าร
ประเทศในเวลาเย็นระหว่างพระเจ้าแผ่นดินกับข้าราชบริพารนั้น นายเพง่มฯหทาด�ำ งเลา็กนในกรม
เปน็ การแสดงใหเ้ กิดความใกล้ชดิ และปรกึ ษาราชการงานเมืองกนั เสร็จ
ไปในตัว นบั วา่ ไดผ้ ลมาก การเสวยของพระองคแ์ ต่ละวัน กวา่ จะเสด็จกลบั ก็ราวๆ เทยี่ งคืน พวกเสนาบดี
หรอื เชื้อพระวงศช์ ัน้ ผใู้ หญ่ทม่ี หี นา้ ทก่ี ารงานบางท่านต้องการจะไปกินข้าวกับลูกและเมียบา้ ง ก็ต้องหา
ทางกราบทูลว่าป่วยบ้างหรือมีธุระราชการอะไรบ้างเช่นนี้เป็นต้น แต่ถ้าขาดไปโดยไม่แจ้งเหตุผลจะ
ทรงกรวิ้ มาก และทรงรับสัง่ ต่อว่าอย่างรุนแรง

เมื่อเสวยพระกระยาหารเสร็จตามเวลาที่ผมกล่าวแล้ว ก็เสด็จขึ้นพระตําหนักที่ประทับแรม
ต่างคนตา่ งก็แยกกันกลับ เปน็ กิจวตั รประจําวนั ระหวา่ งที่ขึน้ พระตําหนกั ประทบั แรม พระองคก์ ็ทํา
ความสะอาดพระองค์ จากนัน้ เวลาตี 1 ก็เขา้ หอ้ งทรงพระอักษร การเขา้ หอ้ งทรงพระอักษรน้นั จะต้องมี
มหาดเลก็ อยู่เวรกัน ในระหวา่ งทรงพระอกั ษรจนถงึ ตี 4 หรอื ตี 5 จึงจะเสด็จเข้าบรรทม ตอนเช้าพระองค์
จะต่นื บรรทมกเ็ ปน็ เวลา 12 หรอื 13 น. น่ีเปน็ กจิ วตั ร

แต่สําหรับพวกผมที่เปน็ มหาดเล็กอยูเ่ วรนี้ ตามปกตพิ วกเรากเ็ ปน็ คนไมร่ ้รู ะเบียบ และก็มนี ิสยั
ซกุ ซน โดยปกตทิ เ่ี ข้าเวรกันนั้น ก็คืนละ 4 คน กม็ คี นใดคนหนึ่ง อาจจะไม่มเี งินใช้ ต้องหาวิธีหาเงิน
การหาเงินเราทํากันดงั น้ี ตกลงกันว่าเม่ือทรงพระอักษรกต็ ้องเอาวสิ กไ้ี ปถวาย และอีกระยะหน่งึ สักหน่งึ
ชวั่ โมงหรอื คร่งึ ช่ัวโมง ก็เอาไปถวายอกี แกว้ หนึ่ง เม่ือถึงแกว้ ที่ 2 นี้ พระทยั กด็ ี เขยี นหนังสือกด็ ี คนทไ่ี มม่ ี
เงินใช้ จะเข้าไปกราบทลู ว่า ขอพระราชทานเงินใชบ้ า้ ง เพราะไม่มใี ชแ้ ลว้ พระองค์ก็ทรงรับสั่งเพยี งว่า
ไอ้พวกมงึ นี่ยงุ่ จะเอาเท่าไหร่ พวกเรากท็ ูลว่าสดุ แล้วแต่จะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระองค์จะทรง
พระราชทานเท่าใด ก็อยู่ในระหว่าง 100-200 บาท โดยเขียนใส่เศษกระดาษส่งให้แล้วทรงรับสั่งว่า
เอาไปให้เจ้าพระยารามเขา และทกุ ครง้ั ท่ีพวกเราทํา เมื่อน�ำ พระราชหัตถเลขาหรือเศษกระดาษไปส่ง
ให้เจา้ พระยารามราฆพน้ี เราก็ไดเ้ งนิ ใชก้ นั สบายทุกครั้ง เพราะทา่ นเจ้าพระยารามไมม่ ีหน้าที่ทกั ท้วง

74

นอกจากจะเตอื นอยา่ งผู้ใหญ่วา่ พวกเราอยา่ ใชเ้ งินกนั ฟมุ่ เฟอื ยกนั นักซิ เงนิ เดอื นกม็ กี ิน ถา้ ไมม่ ีกม็ าเอา
ทีช่ ั้นกไ็ ด้ ทําไมจะตอ้ งไปกวนพระยคุ ลบาท แต่เรากไ็ ดเ้ งินใชส้ บายตามความต้องการ
ความจริง เงินเดือนคนละ 50 บาท ตอ่ เดือนนก้ี พ็ อใช้ แตพ่ วกเรามีสนั ดานเสยี ก็ตอ้ งหาเงิน
ใช้กันแบบน้ี หรืออะไรอน่ื ๆ กโ็ ทษเราไมไ่ ด้ เพราะนสิ ัยสันดานคนหนมุ่ มตี ําแหนง่ หนา้ ทเี่ ป็นมหาดเล็ก ก็
ตอ้ งโก้กันหนอ่ ยละ นเ่ี ปน็ เรื่องธรรมดาสําหรับพวกผม ยง่ิ สมยั นั้น งานฤดหู นาว เป็นงานของพระเจา้ อยหู่ ัว
ใหจ้ ดั โดยจัดทว่ี ัดเบญจมบพติ ร งานย่งิ ย่งุ กนั ใหญ่ ตอ้ งหาเงินใชด้ ว้ ยวิธนี ้ี เพราะงานนีถ้ อื ว่าเปน็ งาน
ใหญโ่ ตมากในกรุงเทพฯ มสี ่วนราชการออกรา้ น พระเจา้ อยู่หวั เสด็จทุกคนื เสนาบดีหรอื ขา้ ราชการช้นั
ผู้ใหญ่ตลอดจนหา้ งรา้ นใหญ่ๆ โตๆ กไ็ ปออกรา้ น พาลกู สาวหลานสาวสวยๆ ไปกันทง้ั น้นั งานสนุก
บริเวณจดั งาน แบ่งเปน็ 2 ขา้ ง คอื สว่ นหนึ่งเรียกว่าเป็นสว่ นกลาง ออกร้านในราชสํานัก และอกี ส่วนหนึง่
คนทว่ั ไปมาออกร้าน เรยี กวา่ รา้ นสําเพ็ง
เรื่องเก่ียวกับวิถีชวี ติ ก็เขา้ ใจวา่ ที่เกย่ี วกบั พระเจ้าแผน่ ดนิ และโรงเรียนทผ่ี มเอาระเบียบต่างๆ
มาใหเ้ ป็นความรทู้ คี่ วรจะทราบ ชีวิตของนักเรยี นกินนอนในประเทศไทยไมเ่ คยมี และกระทรวงศึกษาธกิ าร
ก็ไม่สามารถทําได้ แต่ก็มีโรงเรยี นกนิ นอนของผมที่เป็นโรงเรยี นของพระเจา้ อยหู่ วั ท่ีเล่ามาเทา่ นัน้ ซึ่ง
อยูใ่ นวิถชี วี ติ ของผมทผี่ ่านมา ขอเตมิ ท้ายอกี หนอ่ ยวา่ โรงเรยี นราชวิทยาลยั โรงเรยี นมหาดเล็กหลวง
ซง่ึ เป็นโรงเรยี นกนิ นอนของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ทงั้ 2 แห่งน้ี เกบ็ คา่ เทอมหรอื ค่าเล่าเรยี นคือ
ค่าเรยี น คา่ รับประทาน ทุกสิง่ ทกุ อยา่ ง คดิ เดือนละ 30 บาท คณุ ลองคดิ เอาเองก็แลว้ กันวา่ ค่าของเงนิ
30 บาท ในสมยั นั้น จะแพงเพียงใด เงินเดอื นเสมียนทํางาน เขากนิ เขาใช้ท้งั ครอบครวั ทีม่ ีต้ังแต่ 8 บาท
จนถงึ 20 - 30 บาท
เวลาน้โี รงเรียนกินนอน คอื มหาดเล็กหลวงกับราชวทิ ยาลยั ไดย้ ุบเลิกไปแล้ว เม่ือเศรษฐกิจ
ตกต่ำ�สมัยรชั กาลท่ี 7 ได้ทรงน�ำ โรงเรียนราชวทิ ยาลัยไปรวมกบั โรงเรียนมหาดเล็กหลวง ปัจจุบันเป็น
โรงเรียนกินนอนทย่ี ังคงอยดู่ ้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามแบบโรงเรียนอตี ันของอังกฤษ คือ วชริ าวธุ
วิทยาลยั เป็นการยุบโรงเรยี นราชวิทยาลยั มารวมกับโรงเรยี นมหาดเล็กหลวง ไดเ้ ปลี่ยนชอ่ื เพอื่ เป็นอนสุ รณ์
ของรชั กาลที่ 6 ซ่ึงเปน็ พระนามของท่านนนั่ เอง
สว่ นอาคารเรยี นสถานทตี่ ่างๆ คือโรงเรียน
ราชวทิ ยาลยั ปัจจุบนั นี้ยังคงอยู่ในสภาพเดมิ ตัวอาคาร
เรยี น ห้องเรยี น ชน้ั ล่าง ห้องนอนชน้ั บน กเ็ ปน็ ท่ที ำ�การ
ศาลากลางจังหวดั นนทบุรี ส่วนห้องอาหารน้นั มกี าร
ดัดแปลงมาก โดยเฉพาะตัวอาคารเรียน กลายเป็น
ทีท่ �ำ การทั้งหมด คอื ศาลากลางจังหวดั ศาลจงั หวัด

อาคารเรียน เปลย่ี นเป็น ศาลากลางจังหวัดนนทบรุ ี

75

ที่ว่าการอําเภอ และสํานักงานเทศบาล ซ่งึ รวมอย่ใู นบริเวณอาคารของราชวทิ ยาลัยน้ีทง้ั นน้ั และปจั จบุ ัน
ก็น่าชมเชยวา่ ตวั อาคารต่างๆ ยงั เรยี บร้อยดเี หมือนเกา่ มแี ต่ตกแตง่ ทาสใี หด้ ขี นึ้ เทา่ นัน้ เพราะการ
ก่อสร้างอาคารในสมยั น้ัน ซงึ่ เป็นของทางราชการ ผู้รับเหมากอ่ สรา้ งเขาทําไดด้ มี าก ผู้ควบคมุ การ
กอ่ สรา้ ง หรือข้าราชการท่มี หี น้าท่ี ก็ไม่มกี ารคอรปั ชน่ั ผมไปกรงุ เทพฯ ก็ยังเคยผ่านไปเยี่ยมโรงเรียนเกา่
อยู่เสมอ
สนามกฬี าของโรงเรยี นทผ่ี มเคยบอกวา่ พระเจา้ แผน่ ดนิ ทรงขยายสนามออกไปอกี เกอื บ 500 ไร่
เป็นสนามกฬี าน้ัน ปัจจบุ นั นี้ (พ.ศ.2519) คอื คุกบางขวางหรอื เรือนจํากลางของกรมราชทัณฑน์ ่ันเอง
เมอ่ื ตน้ ปนี ้ผี มไปเยยี่ มญาติ ระหวา่ งน่งั รออยู่ ท่านผู้บัญชาการเรอื นจํา เชญิ ไปนั่งอยู่ชนั้ บน ผมกถ็ ือ
โอกาสชมบริเวณโดยทัว่ ไปในคกุ บางขวาง ทําให้จิตใจและจนิ ตนาการในความรู้สกึ ของตวั ว่า อันเร่ือง
ของโลกนี้ไมม่ ีอะไรแน่นอน แม้แต่สถานที่ราชการคอื คุกบางขวางปจั จุบนั สมยั ตอนทผี่ มเรยี นหนังสอื
เปน็ สนามกฬี า และเราเคยมกี ีฬาใหญ่ๆ หลายโรงเรยี นรวมกนั มาเล่นท่นี ่ี แต่ปัจจบุ ันได้เปลี่ยนแปลงไป
คือสนามทเ่ี ปน็ สนามกีฬาสําหรับพวกผมเลน่ อบรมให้เป็นนกั กีฬา มใี จสปอร์ต มคี วามซ่อื สตั ย์ บัดนไี้ ด้
เปลี่ยนแปลงไปเป็นคกุ บางขวาง นักโทษขนาดหนกั หรอื มโี ทษเกินกว่า 20 ปีไปแลว้ กส็ ่งมาไวท้ ่ีคุกนี้
ท้ังน้นั ก็เรยี กวา่ เป็นทีอ่ บรมหรอื ดดั นิสยั พวกเกเรอนั ธพาลโจรผู้รา้ ยอย่างหน่งึ เหมือนกนั
ส�ำ หรบั เรื่องคุกบางขวางน้ี ผมขอเล่าเกรด็ ในชีวิตของพวกผม ให้เปน็ ความรู้อกี สกั หนอ่ ยก็คอื
พวกผมนกั เรยี นราชวทิ ยาลยั โรงเรียนกเ็ ลกิ ไปแล้ว ทุกคนก็มอี าชพี การงานเป็นหลกั เป็นฐาน เปน็
ขา้ ราชการชน้ั ผใู้ หญ่ นายกรฐั มนตรี รฐั มนตรี และข้าราชการชั้นสูงทุกระดบั โดยปกตพิ วกเราตอนนอี้ ายุ
กเ็ กิน 60 กนั ไปแลว้ ท้งั น้นั ทุกวันปลายเดือนทเ่ี ปน็ วนั รับบํานาญ พวกเราก็ไปรว่ มรับประทานอาหารกัน
ที่โรงแรมรตั นโกสนิ ทร์ แบบอเมริกนั แชร์ ส่วนมากเราจะไปเดือนหนึง่ 30-60 คน ทกุ เดอื น จำ�นวนคน
ไม่มีเพิ่ม มแี ตล่ ด กอ่ นรบั ประทานอาหารกต็ อ้ งยนื ไว้อาลยั ใหแ้ ก่เพือ่ นทีต่ ายไป 1 นาที พวกเราเวลารับ
ประทานอาหารกนั มีหลายคนท่ีเป็นนักการเมอื งและติดคุกติดตาราง
มา อยคู่ ุกบางขวางแดน 6 เรากค็ ยุ กนั สนกุ สนานว่า ล้ือเป็นบางขวาง
รุ่นไหนวะ ร่นุ แรกหรอื รนุ่ หลงั หลายคนเรยี นท่โี รงเรยี นราชวิทยาลัยและ
โรงเรยี นมหาดเลก็ หลวงมาแล้ว ยังมาเข้าโรงเรยี นบางขวางเพ่มิ เติมอีก
คอื คุกบางขวาง กน็ ับวา่ พวกเราเปน็ นักเรียน 2 รุน่ นี่กเ็ ปน็ เรื่องคยุ กนั
สนุกเฮฮาตามวิสัยเพอ่ื น ซงึ่ อายเุ กนิ กว่า 60 ไปแลว้ ทั้งน้นั เดือนหน่งึ จะ
พบกันคร้ังหนง่ึ
สําหรบั นักเรยี นราชวิทยาลัยทอ่ี ายมุ ากทสี่ ุดเวลานี้ มพี ระยา
ศรเี สนาฯ คนรองลงมาเวลาน้ี ทย่ี งั อยกู่ ค็ อื พระยาภะรตราชา (หมอ่ มหลวง (หมอ่ มพหรละวยงาทภศะทรติศรอาชศิ ารเสนา)

76

ทศทิศ อศิ รเสนา) ผ้บู งั คบั การวชิราวธุ อายุ 89 ปี ทา่ นยงั แข็งแรง ไปอบรมนกั เรียนได้ เพราะท่าน
เป็นผู้บังคับการหรอื ครูใหญว่ ชริ าวุธ
ผมเคยเรียนถามท่านว่า เจ้าคุณทําไมไมอ่ อกไปพกั ผ่อนเสียที ท่านกบ็ อกวา่ ขนุ เพง่ ก็รอู้ ยแู่ ลว้
โรงเรียนวชริ าวธุ นีเ่ ป็นของใคร ผมเคยลาออก 2-3 ครั้ง ก็ถูกตอกหนา้ กลับมาทกุ ที คนท่จี ะอนุญาตให้
ผบู้ งั คับการหรอื ครูใหญ่โรงเรยี นวชิราวธุ ออกได้ ก็คือพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดยี วเท่านนั้
เจา้ คณุ ภะรตเลา่ ใหฟ้ งั วา่ เคยยน่ื ใบลาออกในหลวงรับสั่งใหเ้ ฝา้ ว่าลาออกทําไม เจา้ คณุ ภะรตกบ็ อกว่าได้
รับราชการมานานแล้ว ไปอยู่ตา่ งประเทศกห็ ลายปี จนอายุ 60 กวา่ หรือ 70 กว่า ราชการกป็ ลดแล้ว
ก็ถกู ใหม้ าอยทู่ ี่วชิราวุธ เวลานีอ้ ายุ 89 เจ้าคณุ ยังกราบทูลว่า เวลานีข้ า้ พระบาทก็ได้สง่ ลูกเข้ามาทํางาน
แทนแลว้ คอื ดร.กลั ย์ อศิ รเสนา ดํารงตําแหนง่ เป็นราชเลขาธิการ ทา่ นกบ็ อกว่าท่านควรจะได้ออกพกั
พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวทรงรบั สั่งว่า ทําไปกอ่ น จะใหอ้ อกเม่ือไร จะส่งั เอง เปน็ อนั วา่ เรอ่ื งของโรงเรียน
ราชวทิ ยาลยั โรงเรียนมหาดเลก็ หลวง โรงเรียนวชริ าวุธ ผทู้ ีม่ อี ํานาจเด็ดขาดจะส่ังไดก้ ค็ ือพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั เท่าน้ัน
พวกผมโดยเฉพาะตัวผมเอง วนั ทีก่ ินขา้ วประจําเดือน คือวันที่รับบ�ำ นาญ ผมเคยไปรบั ประทาน
อาหารเท่ยี งแลว้ ว่งิ รถกลับตอนบ่ายสองโมง ถึงสวรรคโลก เวลาประมาณทุ่มหน่ึงหรือสองทุ่ม แต่เหตทุ ่ี
ไปกรงุ เทพฯ ก็เพราะต้องการจะคยุ กนั เพื่อนฝูงที่เรยี นรุ่นเดยี วกนั และรนุ่ เด็กกว่า รวมทัง้ รุ่นผใู้ หญ่ เชน่
เจ้าคณุ มานนวราชเสวี เจ้าคณุ ภะรต เจ้าคุณศรเี สนา กรมหมนื่ นราธปิ พงค์ประพนั ธแ์ ละคนอนื่ ๆ อีก
แตเ่ ปน็ ทน่ี ่าเสียดายวา่ ม.ล.เดช สนิทวงศ์อายกุ ็เพียง 70 กว่าๆ ดํารงตําแหน่งประธานองคมนตรี ก็ได้
ถงึ แก่อสัญกรรมไปแล้ว พระราชทานเพลิงเม่ือวันท่ี 17 ธนั วาคม พ.ศ. 2518 นเ้ี อง เร่อื งตา่ งๆ ของผม
และของโรงเรยี นกเ็ ลา่ มาพอเปน็ ความรูพ้ อสมควรแล้ว จะยุตเิ พยี งเท่านี้ ตอ่ ไปจะเขียนเร่ืองเก่ียวกบั ชีวติ
ประจ�ำ วนั และความประพฤตใิ นวัยเรยี น

ชีวติ ซกุ ซนในวัยเรยี น

ขอเลา่ ถึงชีวิตประจําวนั และความประพฤติสมยั เปน็ เด็กและหนุ่มชว่ งท่อี ยใู่ นโรงเรียน ตอนผม
เรยี นอย่โู รงเรียนสวรรควทิ ยา สวรรคโลก มีอายุเพยี ง 11 ขวบ เมือ่ ผมเขา้ ไปเรียนโรงเรยี นราชวทิ ยาลัย
กม็ ีอายุ 12 ปี กเ็ รียกว่ายงั เปน็ เด็ก เมอื่ ไปอย่ใู หมๆ่ รู้สึกว่าแสนจะเปล่ยี วใจ คิดถงึ บา้ น เพ่ือนฝงู กย็ ังไมม่ ี
พดู กบั ครูฝรัง่ ก็ไม่คอ่ ยรเู้ รือ่ ง เพราะปกติครฝู ร่งั ประจําโรงเรยี นใกล้ชดิ กบั นักเรียนมากกว่าครไู ทย เราอยู่
โรงเรียนหวั เมอื งมาแล้ว ครสู อนเรา กพ็ ูดกบั เราว่า เธอ ฉัน แต่มาอยูโ่ รงเรียนราชวทิ ยาลยั น้ี ครไู ทยท่าน
พูดกับพวกเราวา่ คณุ ผม ก็ยง่ิ ทําใหร้ สู้ กึ แปลก ไมค่ ่อยคุน้ เคย

77

ในเดอื นแรก ซ่ึงเราไมเ่ คยอยูโ่ รงเรียนกนิ นอน ไม่เคยจากพ่อจากแม่ แสนจะวา้ เหว่ บางคนื
ตอ้ งนอนรอ้ งไหค้ ดิ ถงึ บา้ น แต่การเรยี นการเล่น โดยเฉพาะการเรยี นนนั้ กต็ อ้ งเรยี นตามเวลาและหนา้ ท่ี
ส่วนการเล่นนั้น ความจริงผมชอบฟุตบอลมาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสวรรควิทยาแล้ว สมัยนั้นโรงเรียน
สวรรควิทยาไม่มีสนาม ผมก็กลับมาเลน่ ทีห่ าดทรายท่แี พบา้ นผมจอด เพราะฤดูแลง้ แพบา้ นผมอยกู่ ็อยู่
บนหาดทราย เพราะนำ้�แหง้ มีชอ่ งเดนิ สามวาเศษๆ แต่หาดทรายกว้างขวางมาก เลน่ ฟุตบอลไดส้ บาย
เม่ือมาอย่โู รงเรยี นราชวิทยาลยั ใหมๆ่ ใน 7 วนั แรก ก็ไมก่ ล้าลงไปเล่นกับพรรคพวกเพื่อนฝูง เพราะไมค่ ่อย
รจู้ ัก แต่ธรรมดาโรงเรยี นกินนอนมรี ะเบียบ หรอื มารยาททด่ี อี ยอู่ ยา่ งหน่ึง คือพวกหัวหน้านกั เรยี นหรอื
พวกนกั เรียนรุ่นใหญ่จะคอยเอาใจใสด่ ูแลพวกเด็กเข้าใหม่เช่นผม เขากช็ ักชวนใหล้ งไปเล่นฟตุ บอล เรากไ็ ป
เล่นเพราะเปน็ ของชอบอยู่แลว้ วนั ตอ่ ๆ มาก็เกิดความเคยชิน รวมท้งั ต้องปฏบิ ตั ิตามระเบียบและเวลา
ของโรงเรยี นด้วย เรื่องคิดถงึ บา้ นกห็ า่ งไป
ผมไปอยู่ในโรงเรียน มีญาตอิ ยู่ก่อนแล้ว 3 คน คือนายฉออ้ น แสนโกศิก (หรือหลวงอรรถปรชี า
ชนูปกรณ์ อธบิ ดีกรมอยั การเกา่ ) นายทองสุข แสนโกศกิ พี่เมียผม นายรวม สง่าเมอื ง ลกู ของคุณลุงป่วน
ซึ่งเป็นพ่อค้าไม้ใหญอ่ ยู่ปากเกร็ด ต่อมา ผมก็ได้มีเพ่ือนใกล้ชดิ เพม่ิ ข้ึนอกี หลายคน โดยเฉพาะคนที่
ใกล้ชดิ และรกั ใครก่ ันจรงิ ๆ พดู เร่ืองเป็นเรื่องตายกนั ได้ ก็มีนายทวี บณุ ยเกตุ ลกู เจา้ คณุ รณชัยชาญยทุ ธ
เทศาภบิ าลมณฑลร้อยเอด็ นายดิเรก ชยั นาม ลูกคณุ พระวิศดาร อธิบดีศาลมณฑลพษิ ณุโลก นายชณุ ห์
ปิณฑานนท์
มีเพือ่ นทอี่ ายเุ ทา่ กัน คือ ผม นายทวี บญุ ยเกตุ นายดิเรก ชยั นาม และนายรวม สง่าเมอื ง
เราทั้ง 4 คนน้ี เกดิ ปีมะโรงด้วยกันทงั้ นัน้ ส่วนคุณชณุ ห์ นน้ั อายุแก่กว่าพวกเรา 1-2 ปี แตเ่ รารักชอบพอ
กนั มาก คือ ทวี ดเิ รก ชณุ ห์ และผม รวม 4 เกลอน้ี รกั กนั ด้วยชีวติ จติ ใจ ความเป็นความตายต้องร้กู ัน
ส่วนนายรวม สงา่ เมอื งน้นั รักกันมาก รวมท้ังเปน็ ญาตดิ ้วย แต่นิสยั ของนายรวม เปน็ คนชอบสนุกสนาน
ตลกเฮฮา เป็นทง้ั นกั จําอวดและนกั แสดง เปน็ คนละแบบกับพวกผม 4 คน

เพื่อนเกลอ 4 คน

ทวี บุญยเกตุ ดิเรก ชยั นาม ชุณห์ ปณิ ฑานนท์ เพ่ง ลมิ ปะพนั ธ์ุ

78

บางคราววันเสารต์ อนบา่ ย หรือวันอาทติ ยต์ อนทีว่ า่ ง เรา 4 คนกไ็ ปนงั่ คุยกนั ท่สี นามกีฬาหรอื เรา
เรยี กวา่ สนามใหม่ เพราะไมค่ อ่ ยมใี ครไป ปจั จบุ นั กค็ อื คกุ บางขวาง วนั หนง่ึ เรานง่ั คยุ กนั และผมกถ็ ามทววี า่
เมอื่ เราตกลงเล่นการเมอื งกนั แลว้ คอื จบออกไปแลว้ จะไปเรยี นอะไร ทวีก็บอกวา่ จะไปเรียนวชิ าเกษตร
ในต่างประเทศ แล้วจะกลับมาเปน็ เสนาบดกี ระทรวงเกษตร ส่วนดิเรก ก็ตอบวา่ จะไปเรียนกฎหมาย
จนสําเรจ็ แลว้ ไปเรียนตา่ งประเทศในวชิ าการทตู และจะกลบั มาเปน็ เสนาบดีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
สว่ นคณุ ชณุ ห์นน้ั เมื่อถูกถามก็ตอบว่า ก็อยา่ งเดียวกันคือ ไปเรียนกฎหมาย แล้วจะปรึกษาพรรคพวก
จดั ต้งั ธนาคารคอื เปน็ นายธนาคาร ส่วนผมกบ็ อกว่า เม่อื เรยี นจบแล้ว กจ็ ะไปเรยี นกฎหมาย เสร็จจาก
กฎหมายแล้วกจ็ ะกลับไปทําการค้าต่อจากบิดาหรือคุณเตยี่ แลว้ จะเป็นผ้แู ทนราษฎร
เร่ืองท่เี ราคยุ กันน้ี ผมขออธบิ ายให้เข้าใจวา่ ทําไมเราจึงพดู กนั เรื่องประชาธปิ ไตยและตําแหน่ง
ผแู้ ทนราษฎร ก็เพราะเม่อื เรารเู้ รอื่ งรจู้ ิตใจกันดีแล้ว เรากป็ รกึ ษากนั เรอ่ื งการบ้านการเมือง ตา่ งคนต่าง
กไ็ ปหาหนังสืออา่ น ทง้ั เรอื่ งการเมืองและประวตั ศิ าสตรท์ ห่ี อ้ งสมดุ ของโรงเรยี น มีหนังสอื ทุกชนดิ โดย
เฉพาะหนงั สอื ประวัติศาสตร์ หรือเรือ่ งการเมอื งและเรอ่ื งประเทศต่างๆ เปน็ ภาษาอังกฤษทัง้ น้นั แต่เรา
อย่ชู ้นั มัธยม 6 มธั ยม 7 กันแล้วในสมัยน้นั พวกเรากอ็ ่านและพูดภาษาอังกฤษกนั ได้สบาย เพราะต้ังแต่
มัธยม 5 ข้นึ ไป ครฝู รั่งสอนวิชาตา่ งๆ เป็นภาษาอังกฤษ มคี รูไทยสอนเพียงอาทติ ยล์ ะ 2 ชว่ั โมงเท่านน้ั
คือวิชาจรรยาและศลี ธรรม นกั เรียนโรงเรียนราชวิทยาลัย เกอื บทุกคนจึงพดู ภาษาองั กฤษไดด้ ี
การสอบชน้ั มัธยม 8 สมัยใหม่น้ัน กระทรวง
ศึกษาธกิ ารใหส้ ทิ ธิ์แต่ละโรงเรียนออกข้อสอบเองได้ แต่
มาตอนหลังๆ พวกเรากเ็ กิดความจองหองข้นึ การสอบ
มธั ยม 8 แม้เราจะสอบทีโ่ รงเรยี นได้แลว้ เรากไ็ ปสอบ
ข้อสอบของกระทรวงศึกษาที่สนามกลางอีก พวกเรา
สว่ นมากทีไ่ ปกส็ อบไดด้ ีท้ังนั้น
ผมอยากจะเล่าเรื่องให้เป็นความรู้ในเร่ืองชีวิต
เกเรเกเส หรอื เรยี กวา่ แสดงความเป็นประชาธิปไตย
หรือจะถือว่าฉันเป็นเด็กของในหลวงก็สุดแล้วแต่จะเข้าใจ พระยาภะรตราชา (หมอ่ มหลวงทศทิศ อิศรเสนา)
กันเอง ผ้บู งั คบั การโรงเรยี นของผม ระหว่างท่ีเรยี นอยจู่ นออกมีอยู่ 2 คน คนแรกเมอ่ื เข้ากค็ ือ คุณพระภักดี
บรมนาถ คนต่อมาก็คอื คณุ พระราชธรรมนเิ ทศน์ ซึง่ ทา่ นเคยเป็นผู้แทนราษฎรจงั หวดั ปทมุ ธานี รุ่นเดียว
กับผมเมือ่ เป็นผ้แู ทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย และทา่ นก็ได้เป็นรองประธานสภาผแู้ ทนราษฎรหลายสมยั
เพราะท่านเปน็ คนใกลช้ ดิ กบั จอมพล ป. พิบลู สงคราม คณุ พระราชธรรมฯ มีประวตั ิทคี่ วรจะเลา่ ให้ฟัง
คือ ตอนท่านเป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยการสอบ ม. 8 สมัยนั้นเป็นการสอบรวม

79

คุณพระราชธรรมฯ สอบไดท้ ห่ี นงึ่ ของนักเรียนท้งั ประเทศ ท่านกไ็ ด้รบั ทนุ จากรัฐบาลไปเรยี นต่อท่ีอังกฤษ
ท่มี หาวิทยาลยั ออ๊ กซ์ฟอร์ด ท่านเปน็ คนมีความรจู้ รงิ ๆ นบั วา่ หายากมากในสมยั นั้น
สมัยทค่ี ุณพระราชธรรมฯ เป็นผบู้ งั คับการหรือครใู หญ่โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั ได้จดั ใหม้ กี ารแขง่ ขนั
ฟุตบอลถว้ ยน้อย ถว้ ยใหญ่ประจําปี มีการแขง่ ขนั กฬี าระหว่างโรงเรยี นระดับวทิ ยาลยั ของกระทรวงศึกษา
ทง้ั หมดประจําปี ผมคดิ วา่ สมัยน้ยี ังไมเ่ ข้มงวดกับนักกฬี าเท่าคุณพระราชธรรมฯ แต่ทา่ นทําเฉพาะโรงเรยี น
ราชวิทยาลยั แห่งเดียว เชน่ กอ่ นแข่งขันฟุตบอลถ้วยนอ้ ยถ้วยใหญ่ประจําปี ท่านก็เอาตัวนกั ฟตุ บอลไป
เกบ็ ตัว เรยี กว่าเขา้ คา่ ยอย่างสมัยนี้ เวลาเรียนก็ให้มาเรยี น พอเรียนเสรจ็ แล้ว ต้องไปเข้าค่ายอบรมฝกึ
ซ้อมออกกําลงั สําหรบั จะแขง่ ขนั ฟุตบอลหรือกฬี า ตอนเช้ากอ่ นย่�ำ รุ่ง ท่านกใ็ ห้พวกเราไปซ้อมว่ิงรอบ
สนามกีฬาหรอื คุกบางขวางปจั จุบนั คนละไมน่ ้อยกว่า 5 รอบ วันแรกกว็ ิง่ กนั ได้เป็นส่วนมาก วันต่อๆ
มาทา่ นก็ให้วง่ิ เพ่มิ ข้ึนไปอีก ทา่ นให้เขา้ คา่ ยอบรมกอ่ นแข่งขนั 15 วนั อาหารเช้า ท่านจดั ให้ทบ่ี า้ น มไี ขด่ าว
หมแู ฮมอะไรดีๆ ทง้ั นั้น สว่ นกลางวันและเยน็ เรามารบั ประทานอาหารรว่ มกันกับพรรคพวกท่โี รงอาหาร
ตอนเย็นก็ซอ้ มกีฬาหรอื ฟุตบอล โดยเฉพาะกีฬา ใครจะเลน่ อยา่ งไหนก็ซอ้ มอยา่ งน้นั ท่านใหอ้ าจารย์
โคโรเป็นครูฝึกสอนเฉพาะฟุตบอล ส่วนกีฬาน้ันเรามีครูพลศึกษา ซอ้ มอยอู่ ย่างนี้ 12 วนั ก็พักก่อนแขง่ ขนั
3 วนั เพ่ือเตรียมตวั พกั ผ่อนตามธรรมดาของนกั ฟุตบอล ก็ปรากฏผลว่าเราชนะเป็นสว่ นมาก
เมื่อโรงเรยี นยุบรวมกันแลว้ ทา่ นเป็นผ้บู งั คับการโรงเรียนวชิราวุธ ไดร้ าวปเี ศษๆ ก็ออก พอดี
ปี พ.ศ.2484-2485 ญ่ปี ุ่นขน้ึ ประเทศอินโดนีเซยี และเขา้ ไทย ญี่ปุ่นกจ็ ัดให้โรงเรยี นวชิราวุธเปน็ ทพี่ ักของ
พวกเชลย คือพวกอังกฤษและชาตอิ ่ืนๆ ท่เี ป็นสัมพนั ธมติ ร ครั้งนน้ั จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายก
รฐั มนตรี วทิ ยปุ ระชาสมั พนั ธก์ อ็ อกขา่ วดา่ องั กฤษ โดยนายมน่ั กบั นายคง นายมน่ั กค็ อื พระราชธรรมนเิ ทศน์
ครูใหญข่ องผม สว่ นนายคง คอื นายสังข์ พัฒโนทยั พดู ด่าอังกฤษและพวกสมั พันธมติ รตลอดเวลา ผ้ทู ่ี
เขยี นบทสนทนาด่านนั้ กค็ อื พระราชธรรมนเิ ทศน์
อกี เรอื่ งหนง่ึ เปน็ เร่ืองที่เผยความซุกซนของพวกผม ทโ่ี รงเรยี นมวี นั สบายอยกู่ ็วนั อาทติ ย์วนั เดียว
เราไปไหนไม่ได้ ไม่มีถนนหนทางติดต่อ ไปไดท้ างเรอื ทางเดียวในวนั อาทิตยก์ ็ตอ้ งหนเี ท่ยี วกนั บา้ ง เชน่
บางคนซุกซน ก็หนีออกไปทางหลงั เดนิ ผา่ นสวนทุเรียน ทุ่งนา ไปจนถึงสถานีรถไฟหลักสี่ก็มี แต่พวกผม
ก็มอี ีกชดุ หนง่ึ รวมท้ังตัวผมดว้ ย ในวนั อาทติ ย์ พอกนิ ขา้ วเช้าแลว้ ก็ไปเที่ยวตามสวนทุเรยี น ล่องใตจ้ าก
โรงเรียนมาตามทอ้ งร่องสวน จนถงึ วดั เขมาฯ ในระยะนนั้ เปน็ สวนทุเรยี นชน้ั เยี่ยมทั้งนั้น เช่น ทุเรยี น
ก้านยาว ทเุ รียนกบ และอะไรอีกหลายอยา่ ง สําหรบั พวกเราเป็นนักเรยี น พวกชาวสวนหรือพวกใกล้เคยี งก็
ย่อมรู้ว่าเป็นพวกลกู ผู้ดีมีสตางค์ทงั้ น้ัน ไปบา้ นไหนกไ็ ด้รับการต้อนรับขบั สู้อย่างดี โดยเฉพาะสว่ นมากท่ี
พวกเราไปหาซื้อทเุ รียนรบั ประทานกนั น้ัน เขาจะขายใหไ้ ม่แพงนกั เปน็ ทเุ รยี นสุกที่ฉกี กนิ ไดท้ นั ที ราคา
ขายกร็ ู้สกึ วา่ ได้ราคาเปน็ พิเศษ ขนาดลูกละ 1.50 บาท 2 บาทถงึ 4 บาท เจ้าของสวนทเุ รยี นทเ่ี ราไปซอ้ื

80

กนั บอ่ ยที่สุดก็คือ สวนท่มี ีลกู สาวสวย เรากถ็ อื โอกาสไปซ้อื ทุเรยี นรับประทาน บางครง้ั บางคราวเจา้ ของ
บ้านกเ็ ลี้ยงข้าวกลางวันเราเสยี ด้วย เร่อื งการเท่ยี วสวนทเุ รยี นน้ี ปรากฏว่าพวกเราคนหนึ่งไดพ้ บรักกับ
ลูกสาวเจ้าของสวนทเุ รยี น เม่อื ออกจากโรงเรียนแลว้ กแ็ ตง่ งานกัน เพือ่ นผมคนนต้ี �ำ แหน่งสดุ ท้ายที่ออก
จากราชการ คือ ผูพ้ ิพากษาศาลฎีกา
สว่ นเร่อื งการหนีเทีย่ วอกี อยา่ งหนึง่ ของพวกผม โดยเฉพาะผม คณุ ชุณห์ คณุ ทวี และคุณจรญู
(หลวงดษิ ฐการภกั ดี) อดีตปลัดเทศบาลนครกรุงเทพฯ ท่ีเกษียณอายุไปแล้ว ถา้ วันไหนจะหนีเที่ยว เราก็
นดั เรอื จา้ งตาโต้ ซ่งึ เป็นเรือจา้ งประจําสําหรบั พวกเราใช้ ให้มาจอดรออยู่ทา้ ยเขือ่ นตอนใตข้ องโรงเรยี น
จะเปน็ ท่รี ูก้ นั ว่า คนื นี้จะมพี วกนักเรยี นหนเี ท่ียว สว่ นมากพวกที่หนเี ท่ยี ว กม็ หี ลายพวกดว้ ยกัน กค็ ือ
พวกทีม่ นี สิ ัยใจคอตรงกัน รักชอบกันนั่นแหละ การหนีเท่ียวเชน่ น้ี พวกผมท่กี ลา่ วนามแลว้ ดเู หมอื นจะ
มากกวา่ พวกอืน่ พอเราเข้าเตยี งนอน ฝร่ังมาตรวจแลว้ เราทุกคนจะน่งุ กางเกงแพร ใสร่ องเทา้ เส้อื ชั้น
นอกแบบแพรฝรัง่ ในสมยั นั้นพวกผมตดั ใสก่ นั ตัวละ 25 บาท ต้องตดั ที่หา้ งบอนสัน ซง่ึ เปน็ ชา่ งตัดเครอื่ งทรง
ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั นนั่ เอง
เม่ือเราแตง่ ตัวกนั เสร็จแลว้ เราก็ปนี ลงมาทางท่อนำ้�ฝน ซ่งึ สมยั น้นั ใช้ทอ่ เหล็ก ไม่ใชท่ ่อสังกะสี
อย่างสมัยน้ี จงึ ปีนข้ึน ปนี ลงกนั ได้สบาย นอกจากนน้ั เรายังตอ้ งระวงั แขกยาม ซึ่งเปน็ ยามเฝา้ ประจําทุกคืน
บา้ นละ 2 คน รวม 6 คนด้วยกัน แตแ่ ขกยามพวกนรี้ ู้ดี เรากบ็ อกใหร้ เู้ หมอื นกันวา่ เราจะหนไี ปเทีย่ ว
กรุงเทพฯ แตก่ ็มแี ขกยามบางคนเหมอื นกนั ท่เี ข้าใหม่ๆ เคร่งครัดต่อหน้าที่ ไมร่ จู้ ักฝีมือพวกเรา เวลา
เขานั่งเฝ้ายามกันอยู่ พวกเราเตรียมน้ำ�มนั หมู น่ังตรงบนั ไดตรงกบั ชัน้ บนทเ่ี รานอน เราก็เหน็ ตัวได้สบาย
เรากเ็ อาน้�ำ มันหมรู าดหวั เขาอย่างนอ้ ยคนละขัน ก็เป้ือนตัวกันไปหมด เขากไ็ ม่ชอบ ทําอย่างน้ี 2-3 ครั้ง
กเ็ ขด็ ไปบอกหัวหน้ายาม หวั หน้ายามก็สอนอยา่ งทผี่ มเลา่ เรอ่ื งตอนต้นน่ันแหละ ตอ่ มาเราก็ไปเที่ยว
กนั สบาย
การไปเทยี่ วของพวกผมน้ี เรือจา้ งออกจากโรงเรยี นอย่างเร็วสดุ ก็ 4 ทมุ่ พวกเราลว้ นแตเ่ ปน็ คน
หนุ่มๆ ท้ังนัน้ จะไปเท่ียวกันอยา่ งไรบ้างน้นั ไมต่ ้องเลา่ ขอเล่าเพยี งว่า เราก็ใหเ้ จ้าของเรือจา้ งคือตาโต้
จอดรอที่ทา่ เรือบางกระบือ เรากก็ ลบั มาจากเทีย่ วประมาณตี 3 ก็ลงเรือกลับ เรอื จ้างแจวมา 2 ชัว่ โมงกวา่
ทกุ ครัง้ เราจะตอ้ งถึงโรงเรยี นเวลาตี 5 นเ้ี ป็นเร่ืองของความซกุ ซนของเดก็ หนุม่ อยา่ งพวกผม
พูดถงึ เรือ่ งการส่งเงนิ ของผปู้ กครอง มนั ก็เขา้ ลักษณะชนชัน้ ลูกคนมีคนจนเหมอื นกนั ผมขอ
ยกตวั อยา่ งว่า คุณเตี่ยผม นายอากรโรงเหล้า ส่งให้ผมใช้จ่ายเดอื นละ 100 บาทบ้าง 50 บาทบ้าง ส่วน
คนอน่ื ๆ กส็ ่งกันตามฐานะ แต่ท่ีสง่ อยา่ งมหาศาลก็คอื เจ้าพงษอ์ ินทร์ ณ เชยี งใหม่ เขาเปน็ ลกู เจา้ หลวง
เชยี งใหม่ นอนพักหอ้ งเดียวกบั ผม เจา้ หลวงเชยี งใหม่สง่ ใหเ้ ดือนละ 1,000 บาท ทา่ นลองคิดเอาเองก็แล้ว
กนั วา่ เดอื นละ 1,000 บาทสมยั น้นั จะเปน็ เงินสมยั น้เี ทา่ ใด แตเ่ ขาเปน็ ลูกเจ้าหลวงเชียงใหม่ผคู้ รองนคร

81

เราก็ไมอ่ ยากอจิ ฉา ส่วนคนอนื่ ๆ ผู้ปกครองเขากส็ ง่ ให้ 50 บาท 100 บาทบา้ ง 30 บาทบ้าง 20 บาทบ้าง
น่กี ็เป็นการลดหล่นั ตามฐานะของชนชนั้ เรื่องธรรมดา
ขอเพ่มิ เตมิ อกี นิดเดยี ววา่ โรงเรยี นราชวทิ ยาลยั น้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ท่านทรง
ห่วงกงั วลในความสะดวกและสวัสดิภาพมาก ทา่ นจึงให้ต้งั โรงไฟฟ้า ทําไฟฟ้าใช้เองเฉพาะในโรงเรยี น
เปน็ การใชแ้ สงและใชก้ บั เคร่ืองสูบน้ำ� ตลอดจนกิจการอน่ื ๆ บา้ ง ไฟฟ้าน้เี ปิดเดนิ เครื่องตงั้ แต่ 18.00 น.
ไปปดิ เวลา 6.00 น. ของวนั รุ่งขนึ้
พวกเราทกุ คนทีเ่ ป็นเพ่ือนฝงู ใกลช้ ิดกัน กเ็ รียนสําเร็จออกมาเรียนต่อพร้อมกันบา้ ง ชา้ กว่ากนั บา้ ง
แต่สําหรับผมนั้นออกมา เมื่อจบ ม. 7 แลว้ กม็ าสมคั รเรียนกฎหมาย แตผ่ มกถ็ ูกผ้บู ังคบั การหรอื ครใู หญ่
ขอร้องให้อยูต่ อ่ อกี 1 ปี เพียงมีชือ่ อยู่เทา่ น้ัน ปกตผิ มตอ้ งไปเรยี นกฎหมายฟังเลคเชอร์ทกุ วัน เย็นก็กลับ
ไปนอน ทใี่ ห้ผมมชี ือ่ อยู่ในโรงเรยี นและเปน็ นกั เรียนด้วย ก็เพราะปนี นั้ เปน็ ปีท่ีเราได้ถว้ ยฟุตบอลและ
ถ้วยกีฬามา 2 ปซี อ้ นแล้ว ผมกเ็ ปน็ นกั กฬี าชน้ั เย่ยี ม จึงถกู ขอรอ้ งใหอ้ ย่ใู นโรงเรียน เพือ่ เลน่ กีฬาและ
ฟุตบอลใหช้ นะอกี ปหี น่งึ เปน็ ปีท่ี 3 ถ้าเราชนะกจ็ ะได้ถว้ ยฟตุ บอลและกฬี าเป็นกรรมสิทธ์ิ แต่ผมเพยี ง
มีช่ืออย่ใู นโรงเรยี น และตอ้ งไปเรียนกฎหมายทุกวัน ทา่ นผูบ้ ังคับการ พระราชธรรมนเิ ทศน์ กข็ อรอ้ ง
คุณเตย่ี ให้เสียค่าเทอมด้วย รวมแล้วในปนี นั้ ผมก็เสียคา่ เทอมให้โรงเรยี นทกุ เดือน เดือนละ 30 บาท และ
ต้องไปเสียค่าเลา่ เรียนกฎหมายอกี นก่ี ็เปน็ เร่อื งเสยี สละอย่างหน่งึ เพ่ือชื่อเสยี งของโรงเรยี น
ในสมัยท่ผี มเรยี น โรงเรียนกฎหมายรบั นักศกึ ษาที่สําเร็จมธั ยม 6 สว่ นมากนักเรยี นทุกโรงเรียน
ถ้าตัง้ ใจจะเรยี นกฎหมายต่อเปน็ อาชพี เมื่อสําเรจ็ ชนั้ มธั ยม 6 กอ็ อกจากโรงเรียน สมัครเข้าเรียนกฎหมาย
กนั พวกที่ทนเรียนไปจนถงึ มธั ยม 8 แล้วจงึ เข้าเรียนกฎหมาย กร็ ้สู ึกแปลกวา่ พวกนัน้ เขาจะโง่หรอื ฉลาด
เพราะบางคนเข้าเรียนกฎหมาย เมือ่ สําเรจ็ มัธยม 6 เขาเรียนอยู่ 2 ปี ก็ได้เปน็ เนติบัณฑิต แต่พวกเรียน
จนจบ 8 แล้วไปเรียนตอ่ กฎหมายก็เหมอื นกนั แตเ่ สยี เวลาไปรว่ ม 4 ปี การเรียนกฎหมายสมัยนัน้ เขา
ออกข้อสอบทง้ั แพ่งและอาญากบั อน่ื ๆ อกี พวกนักศกึ ษาทส่ี อบ ก็สอบทเี ดยี วทกุ วิชา ใครได้คะแนน
ตำ่�กวา่ 60% กเ็ ปน็ อันวา่ ตก จะต้องไปสอบใหมใ่ นปหี น้า แตถ่ า้ ได้ 60% ขน้ึ ไป กไ็ ดเ้ ป็นเนติบัณฑติ การเรียน
กฎหมายหรือเรยี กวา่ คณะนิติศาสตร์ ในสมยั นีส้ บายกว่าสมัยก่อนมาก เพราะสอบหลายๆ วิชากไ็ ด้
วชิ าไหนท่ีสอบได้ ทางมหาวิทยาลัยกเ็ กบ็ ไว้วา่ เป็นสอบได้ ไปเรยี นตอ่ วิชาท่ียังไม่ได้สอบหรอื สอบตก
เมอื่ ไดค้ รบทุกวิชาแล้ว ก็ได้ปรญิ ญาไปเปน็ ธรรมศาสตร์บัณฑติ แต่ตอ้ งไปเรียนต่อวิชาเนตบิ ณั ฑติ อีก
หลายปเี หมือนกัน จึงจะเป็นอยั การ ผู้พิพากษาได้ แต่เมอื่ ไดธ้ รรมศาสตรบ์ ณั ฑติ แลว้ กเ็ ปน็ ทนายความ
วา่ ความได้
ชวี ิตของพวกผมเพ่ือนเกลอ 4 คนที่กลา่ วนามมาแลว้ ต่างก็ไปเรยี นกฎหมาย ไปเรียนตา่ งประเทศ
เมื่อสําเรจ็ แล้ว ก็สมความตงั้ ใจที่เราปรกึ ษากัน ดเิ รกเปน็ รัฐมนตรีต่างประเทศ ทวี บุณยเกตุ เปน็ รฐั มนตรี

82

เกษตรและได้เปน็ นายกรฐั มนตรี 17 วันดว้ ย สว่ นชณุ ห์ ปณิ ทานนท์ ก็ไปดํารงตําแหนง่ ผู้อํานวยการ
ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และก่อตั้งธนาคารนครหลวงได้เป็นผู้จัดการใหญ่ธนาคารนครหลวงจริงๆ
ตามทมี่ งุ่ หวงั ไว ้ นอกจากนั้น ท่านพวกนี้ยงั เป็นผ้เู ปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นสมาชกิ สภา
ผูแ้ ทน แต่สําหรับผมเปน็ คนไม่มีโชคท่ีจะอยู่ในกลมุ่ คณะเปลยี่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ความจริง
ก่อนท่ีเขาจะเปลย่ี นแปลงการปกครองกนั เขากโ็ ทรเลขมาเรยี กผม แตผ่ มไปธุระส่วนตวั ท่ีเชยี งใหม่ กลบั มา
รับโทรเลขตอ่ เม่อื เขาเปลี่ยนแปลงการปกครองเสรจ็ แล้ว แตก่ ระนน้ั ก็ดี พวกเรายงั ชว่ ยกันในเรื่องการเมือง
อยู่ตลอดเวลา สําหรบั ชวี ิตในโรงเรียนและชวี ติ ท่ผี มจบมาแลว้ กม็ ีเพียงเท่าน้ี

ชวี ิตเมอื่ เปน็ นกั เรียนกฎหมาย

ผมพดู ตอนตน้ แลว้ ว่า ปแี รกของการเรยี นกฎหมายนัน้ ผมตอ้ งพะวงในเร่ืองการซ้อมกีฬาเพอื่ ช่อื
เสียงของโรงเรียนใหไ้ ด้ถว้ ยเปน็ กรรมสทิ ธิ์ในปีท่ี 3 พอรงุ่ ขึน้ ปีต่อมา ผมก็ไมต่ อ้ งมานอนโรงเรียน ไปอยู่
บ้านพสี่ าวในกรงุ เทพฯ เขาได้สามที ําราชการอยู่ในกรุงเทพฯ ผมเรียนกฎหมายอยา่ งเดยี ว รวมทั้งในปตี น้ ๆ
กท็ ํางานกรมมหาดเลก็ ด้วย ชีวติ ในกรงุ เทพฯของผมระยะนี้ เรียนกฎหมายเพียงฟงั เลคเชอร์ ตอนเชา้ ถงึ
เท่ยี ง พอตอนบ่ายกก็ ลบั การกลับของผมน้ี แทนทจี่ ะกลับบ้าน มาดูตํารากฎหมาย ผมหาไดก้ ลับบ้านไม่
ผมเขา้ โต๊ะบลิ เลียดของเถ้าแก่อว่ ม ซึ่งมี 2 โต๊ะ ตง้ั อยสู่ ี่กกั๊ พระยาศรี เล่นจนเยน็ หรอื ค�ำ่ ทกุ วนั เป็นมือ
บลิ เลียดชน้ั เยี่ยม บางวันกก็ ลบั บา้ นหวั ค�ำ่ บางวนั พบเพื่อนฝูงมาก ไปหาขา้ วกนิ กนั แลว้ ก็ยังไปเท่ยี วต่อ
ในสมัยตอนท่ีผมกบั พรรคพวกออกจากโรงเรยี นมาแล้ว ต่างคนต่างไปเรยี น กไ็ มไ่ ด้พบปะกนั เลย
พบปะกันกับเพือ่ น 4 เกลอเม่ือตอนเปล่ยี นแปลงการปกครองเทา่ น้ัน ผมเขยี นตอนน้ีเป็นชวี ติ ชว่ งท่เี รยี น
กฎหมาย ทํางานกรมมหาดเลก็ อยู่ในกรงุ เทพฯ ก็ไมม่ เี รอื่ งแปลกพิสดารนกั นอกจากเรยี น เล่น เทยี่ วเทา่ นน้ั
พอเรยี นกฎหมายเสร็จแล้วกก็ ลับมาชว่ ยคณุ เต่ยี ทํางานที่สวรรคโลก

83

ชวี ติ เมอ่ื เป็นนกั ธุรกิจและอาเส่ีย

เมื่อสำ�เรจ็ การศกึ ษาตามหน้าที่ ทคี่ ณุ เต่ยี ให้ไปเรียน ก็กลบั มาช่วยทําการคา้ ขายท่บี า้ น เพราะ
ขณะนนั้ คณุ เตย่ี ทา่ นเปน็ นายอากรโรงต้มกล่นั สรุ ามณฑลพษิ ณุโลกมาหลายปแี ลว้ และกําลังจะไปขอ
จัดต้ังทีจ่ งั หวัดแพร่อีก เพ่ือขยายกิจการงานใหก้ ว้างออกไป เราก็ต้องแบง่ หน้าท่กี นั ขนุ ประพฒั น์พาณชิ ย์
พ่ชี ายผม ควบคุมงานเปน็ ผู้จดั การอยู่ที่มณฑลพิษณโุ ลก ส่วนทจี่ ังหวัดแพร่ ถ้าไดก้ ็จะใหค้ นอื่นไปจดั การ
ที่แพร่น้กี ็ไดจ้ ริงๆ ให้คนอนื่ ไปจัดการทําอยู่ปกี ว่าหรือ 2 ปี ปรากฏว่าขาดทุนก็เลยเลกิ ไป
ผมกลบั มาใหมๆ่ การงานด้านธรุ กจิ ประเภทนีก้ ย็ ังไม่คล่อง ตอ้ งอย่ปู ระจําท่สี วรรคโลก ในลักษณะ
ฝกึ งานหรือคมุ งาน เพราะสวรรคโลกนี้ เราได้กงสหี รอื รบั เปน็ ผู้ขาย อ�ำ เภอสวรรคโลกเวลานน้ั เป็นจังหวดั
และเป็นทรี่ วมสําหรับขนเหลา้ จากโรงใหญ่ คือ ท่มี ณฑลพษิ ณโุ ลก มาสต็อกไว้ทีส่ วรรคโลก เพื่อส่งไปขาย
กงสี ท่อี �ำ เภอหาดเสยี้ ว หรอื ศรสี ชั นาลัยปัจจุบัน สง่ ไปขายท่อี �ำ เภอคลองตาล หรอื ศรีสําโรงปัจจุบนั
นอกจากน้ัน ก็ส่งไปขายท่ยี ่กี งสจี ังหวดั สุโขทัย นบั ว่ากิจการทีส่ วรรคโลก กไ็ ม่น้อยเลย เพราะคุม 2 จงั หวดั
กเ็ หมาะสําหรับคนที่ฝึกงานเชน่ ผม โดยมีคุณเตี่ยทา่ นเปน็ ผู้นัง่ ประจํา บัญชางานอยทู่ ่สี วรรคโลก คอื
คมุ ทัง้ ทีพ่ ิษณโุ ลกและสวรรคโลกด้วย สว่ นทีพ่ ษิ ณโุ ลกนั้น เปน็ โรงตม้ กลนั่ สุราโรงใหญส่ ง่ ไปขายทีพ่ จิ ิตร
บางมูลนาก พรหมพิราม และอื่นๆ ซึ่งอยู่ในเขตมณฑลพษิ ณุโลก และเรากย็ งั ส่งไปที่จังหวัดอตุ รดติ ถ์
อกี ด้วย
ในระยะนี้เราทําอยนู่ านหลายปี รูส้ ึกว่าผลกําไรดีขน้ึ ทกุ ปี เรือ่ งของการตม้ กลัน่ สรุ า ถ้าผรู้ บั
เหมาคนใดไมฉ่ ลาด ย่อมหาทางทไี่ ด้กําไรยาก แตส่ ําหรับคุณเตยี่ ผมและพี่ชายผม ขนุ ประพฒั นพ์ าณชิ ย์
ทา่ นเช่ยี วชาญอยแู่ ล้วท้ัง 2 คน วันหนง่ึ คณุ เตยี่ เรียกผมไปปรึกษาวา่ จะตอ้ งเอาเหล้ามาคา้ งสต็อกไวท้ ่ี
สวรรคโลก อยา่ งน้อยพนั เท เพอื่ ส่งขายท่ีอ�ำ เภอศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรสี ําโรง สุโขทยั กงไกรลาศ
ผมไมม่ ีความเช่ยี วชาญ แตร่ ้จู กั บญั ชเี ร่อื งการขาดทุนกําไร เมื่อคณุ เตี่ยปรกึ ษาอยา่ งนี้ ผมก็บอกว่า ผม
ไมเ่ ห็นดว้ ย เพราะเป็นการสน้ิ เปลอื งเงนิ ของเราทคี่ วรจะได้เปลา่ ๆ โรงเก็บสรุ าทีส่ วรรคโลกน้ี ซง่ึ จะสรา้ งข้ึน
และยกให้เปน็ ของหลวงเกบ็ เหลา้ ไดพ้ นั กว่าเท พ้ืนคอนกรตี หลงั คาสงั กะสี ฝาสงั กะสี ต้องเสยี เงินสรา้ ง
เปน็ ราคาถงึ หกพนั กว่าบาท ปัจจบุ ันนีย้ ังอยูใ่ ช้การได้ดี แตเ่ มื่อผูใ้ หญท่ า่ นต้องการอยา่ งน้นั เราก็ไมข่ ดั ขอ้ ง
เพราะเราเปน็ ลูก รวมทงั้ ไม่เคยงานก็ต้องคลอ้ ยตามไป
วนั หน่ึงคณุ เตย่ี ไปดงู านพษิ ณุโลก ก็เอาผมไปด้วย โรงเก็บสุราที่สวรรคโลกเรากส็ ร้างเสร็จแล้ว
จะขนสรุ ามาเกบ็ ไดท้ นั ที ทา่ นก็ไปจดั การขออนญุ าตสรรพสามิต และผู้อนุญาตก็คือเทศาภบิ าลมณฑล
พษิ ณุโลก ท่านผูน้ ีก้ ับพวกเราชอบพอคนุ้ เคยกันมาก ท่านก็ไมข่ ัดข้อง การเป็นผูร้ บั เหมาต้มกลนั่ สรุ า
อยา่ งคณุ เตีย่ ผมทําน้ี เวลาทา่ นเจ้าเมอื งหรอื ท่านเจ้าคุณเทศาจะมีงานรบั เสด็จเจา้ นายชน้ั เจา้ ฟา้ เจา้ แผน่ ดิน
เรากต็ อ้ งเป็นผอู้ อกคา่ ใช้จา่ ยในการรับรองทง้ั สนิ้ แม้แตบ่ างคร้งั พระองคท์ า่ นจะเสดจ็ ไปทอดพระเนตร

84

โบราณสถาน ทเี่ มอื งเก่าสวรรคโลก และมพี ระราชประสงค์ไปเสวยพระกระยาหารกลางวันทีน่ ั่น เราก็
ต้องเตรยี มคนทํากับข้าว จัดโตะ๊ จนี ไปเตรียมรับเสดจ็ เลีย้ งทง้ั ขบวน ท่านลองคิดดูวา่ การเสดจ็ อย่าง
เจ้าฟ้าเจา้ แผ่นดนิ น้ี พระองคท์ ่านเสวยไม่เท่าไรดอก แตผ่ ูต้ ามเสดจ็ น่ันซิ เป็น 10 เปน็ 100 เราก็ตอ้ ง
เสยี ค่าใชจ้ า่ ยท้งั ส้ิน เรอื่ งเชน่ นี้เป็นธรรมเนียมของพ่อค้า โดยเฉพาะเป็นนายอากรโรงตม้ กลน่ั อย่างคณุ เตีย่
ทา่ นเคยบอกผมวา่ แกเหน็ ไหมความสิน้ เปลืองค่าใชจ้ ่ายทเี่ ราตอ้ งเสียไปเปน็ รอ้ ย เปน็ พนั แต่แกคดิ หรอื
เปลา่ ว่า เราจะได้อะไร ชน้ั จะบอกใหก้ ็ได้ เราก็ตอ้ งหาทางให้เปน็ รายได้พเิ ศษ คือ ให้ไดเ้ ทา่ ทีเ่ สียค่าใช้จา่ ยไป
หรอื มากกว่า นี่เป็นหลกั ของพอ่ คา้ ในสมยั น้ัน
เมอ่ื เราทําเชน่ น้บี อ่ ยๆ เข้าและเราก็ทําดว้ ยความเต็มใจ ท่สี ุดท่านเจ้าเมือง ท่านเจา้ คุณเทศาก็
เห็นบุญคุณเรา ต่อมา ทา่ นเจา้ เมืองเสนอให้ขอพระราชทาน ทําสญั ญาบตั รให้แกค่ ณุ เตี่ยผมเป็นขุน
(ตําแหน่งทปี่ รกึ ษาผวู้ ่าราชการจังหวัด) เจ้าคุณเทศาก็เห็นด้วย กเ็ สนอกระทรวงมหาดไทย กราบทลู
ขอสญั ญาบัตรขุนให้แกค่ ณุ เต่ียผม พอสัญญาบตั รตกมา กม็ ีนามว่า “ขุนชนาธกิ ารอนุมัต”ิ นเ่ี ปน็ ความดี
ความชอบคร้ังแรกท่ีเราตอ้ งเหน็ดเหน่ือยชว่ ยเหลือทางราชการทุกสงิ่ ทกุ อย่างไมว่ า่ อะไรทัง้ สิ้น แตเ่ รา
กท็ ําดว้ ยความพอใจและเรากม็ ีกําไรดงั กล่าวแลว้ น่กี ็เปน็ บทเรยี นแก่ผมอนั หนึง่ ที่ได้รับและศึกษาจาก
เหตุการณ์จริง คนอยา่ งผมก็ไมค่ ดิ วา่ ตวั เองจะทํางานธุรกจิ ให้คณุ เต่ยี และตระกูลได้ ทง้ั ๆ ทผี่ มเคยผ่านงาน
มาแล้วจากกรมมหาดเลก็ ซ่งึ เปน็ งานราชการในพระองค์ แตผ่ มมาแกไ้ ขเหตกุ ารณ์ของตัวเอง ปรับตัว
เปน็ นกั ธรุ กิจและพ่อค้าอย่างคณุ เตีย่ แตค่ ุณเตย่ี ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านกท็ ํางานและสง่ั งานตามหลักการ
สว่ นผมก็ยงั มีนสิ ยั หนุ่มลักษณะลกู คนมีเงิน ก็มีการฟ้งุ เฟอ้ ฟมุ่ เฟอื ย สัพเพเหระ ในเรือ่ งทุกส่ิงทกุ อย่าง
จนคณุ เตี่ยสงั เกตเหน็

ชวี ิตสมรสกบั น.ส.ปราย แสนโกศิก

ระยะน้ัน ผมอายุ 23 ท่านจงึ ตดั สนิ ใจหรือตกลงใจปรึกษากับคุณแม่ ไปขอ น.ส.ปราย แสนโกศกิ
บตุ รสาวคนเดยี วของนายเปล้ือง เศรษฐสี ุโขทัย ให้แก่ผม ท่สี ุดจากวันท่เี ราไปขอผใู้ หญต่ กลงกันโดยเรว็
เราก็ตอ้ งแต่งงานกนั ภายในไม่เกนิ 4 เดือน ก่อนที่ผมจะแตง่ งานนี้ คุณเต่ียเรยี กผมไปถามวา่ ชนั้ จะขอ
ปรายลกู สาวพ่อเปล้ืองใหแ้ กแต่งงานกัน จะขัดข้องหรอื ไม่ ทา่ นกอ็ ้างเหตผุ ลวา่ แกต้องระลึกอย่างหนง่ึ วา่
พอ่ เปลอ้ื งคนนเ้ี ขาเปน็ คนมบี ญุ คณุ แกเ่ รามาก เวลาเตย่ี ขาดเงนิ เปน็ หมน่ื เปน็ แสน ทจ่ี ะตอ้ งเสยี ภาษคี า่ เหลา้
ก็ไปเอาจากเขาได้เสมอทุกครั้งทเ่ี ราจําเปน็ โดยเขาไมค่ ดิ ดอกเบ้ียจากเราเลย ฉนั ตอ้ งการใหแ้ กแตง่ งาน
กบั ปรายลกู พ่อเปลื้อง ความจริงเรากเ็ คยตดิ ต่อรจู้ กั กนั มานานแลว้ ตอนเปน็ เดก็ ๆ เม่ือนายเปลือ้ งจะ
ไปขายไมท้ ก่ี รุงเทพฯ กพ็ าเมยี ผมอายปุ ระมาณ 4-5 ขวบมาฝากไว้กับคณุ ย่าของผม ซ่ึงเรากอ็ ยบู่ ้าน
เดยี วกัน นับวา่ เราเป็นญาตใิ กลช้ ดิ กัน แตเ่ มียผมมีศกั ดเ์ิ ป็นหลานผม เรยี กผมว่านา้ เพราะแมข่ องเขาเป็น
พส่ี าวลูกพล่ี กู นอ้ งกบั ผม คอื เปน็ พ่สี าวขนุ ประพนธ์นั่นเอง

85

ตอนที่คุณเตี่ยเรียกผมมาบอกจะให้แต่งงาน ผมก็ยังไม่อยากจะแต่งนัก ไม่ใช่รังเกียจเมียผม
เพราะเมียผมน้ันเขามีสิง่ แวดล้อมดที กุ ประการ แตท่ ผ่ี มขอผลัดไป ก็เพราะวา่ ตอนนนั้ ผมกําลังสนกุ
ดว้ ยสุรานารีและอื่นๆ ในลกั ษณะของลกู คนมีสตางคห์ รอื อาเสย่ี แตค่ ณุ เตย่ี ผมท่านหวังดี ท่านจงึ จบั ผม
แตง่ งาน เราทง้ั สองกไ็ มม่ ีภาระผกู พนั ในเร่อื งรกั ใคร่อยูก่ ับใคร ก็ตกลงตอ้ งแตง่ งานกนั เรอื่ งการแตง่ งานน้ี
กเ็ ป็นเรื่องที่ตัดอสิ รภาพไปอกี อย่างหนงึ่ เหมือนกัน ในขอ้ ที่วา่ เราจะไปสนุกเสเพลอยา่ งก่อนๆ นน้ั ไม่ได้
เพราะจะทําใหเ้ มียเขากงั วลประการหนึง่ อกี ประการหนึ่งสมยั นน้ั หยูกยากไ็ มด่ ี เราอาจจะเอาโรคของ
ผูช้ ายมาติดเขาก็ได ้
ตั้งแต่ผมแต่งงานแล้ว การเทยี่ วเตร่ก็ต้องลดลง เรากอ็ ยู่กันมาด้วยความสงบสขุ มลี กู ตงั้ 11 คน
ดงั ปรากฏอยู่ แตเ่ มียผมคนนี้เขารักและหวงผมมาก คอื ไมอ่ ยากให้ผมไปเกยี่ วข้องกบั ผ้หู ญิงอน่ื หรอื เทีย่ ว
มาก อันนโี้ ทษเขาไม่ได้ เพราะเขารักและห่วงเรา และทงั้ เป็นนสิ ัยของผูห้ ญิง คือ เขา้ ลกั ษณะทวี่ า่ ฉัน
ยอมเสียหวั แตไ่ ม่ยอมเสียผัวใหใ้ คร พดู กนั โดยความยตุ ิธรรมแทแ้ ล้ว สนั ดานผู้ชายจะดีอย่างไร ในขณะท่ี
อยกู่ บั ลกู กับเมยี แตถ่ า้ เวลาว่างหา่ งเมยี หรือเมียเผลอ “มนั กบ็ แ่ นด่ อกนาย” หรอื ถา้ ให้ผมเอาศพั ทอ์ ีก
อนั หนึ่งมาเขียนประกอบกค็ ือ นสิ ัยผู้หญิงเปน็ คนรกั สทิ ธขิ องตัวและกฎหมาย คือ จะไม่ยอมให้สามไี ป
สูบฝน่ิ เถอ่ื น นอกจากใหส้ บู แต่ฝน่ิ โรง ในระยะท่ีผมมคี รอบครัวแลว้ และยังไม่มีบุตร เราก็ไปชว่ ยงานขุน
ประพัฒน์ พีช่ าย ทีพ่ ษิ ณุโลกเป็นครง้ั เป็นคราวเมื่อเขาไปธุระติดต่อกรุงเทพฯ คณุ เตย่ี ทา่ นกใ็ ห้ผมพาเมยี
ไปด้วย ทา่ นอาจจะรักลกู สะใภ้ท่านมากกไ็ ด้
ขอย้อนไปเรื่องขนุ ประพฒั น์ ที่ได้ขึ้นสญั ญาบตั ร ก็เข้าลักษณะเดียวกันกับคณุ เตยี่ ผม คือรบั ใช้
เทศาเจา้ เมือง ข้าราชการท่พี ษิ ณโุ ลก ตําแหนง่ พ่ชี ายของผม เปน็ ขุนประพฒั นพ์ าณชิ ย์ ทป่ี รึกษาผู้วา่
ราชการจังหวัดพษิ ณโุ ลก เรอื่ งการขอเป็นขุนหรอื หลวง สมัยนน้ั จะว่าลําบากกล็ ําบาก จะว่างา่ ยก็ง่าย
อยา่ งคุณเต่ียผม ไปไดต้ ําแหนง่ “หลวงชนาธกิ ารอนุมตั ิ” ทพ่ี ษิ ณุโลกอีก กเ็ ปน็ ตําแหน่งที่ปรกึ ษาผวู้ า่
ราชการจังหวัดเหมือนกนั เร่ืองยศขนุ หลวงอยา่ งคณุ เต่ียผมนี้ ถา้ ในกรงุ เทพฯ เขากใ็ ห้เปน็ ขุน หลวง พระ
และลงท้ายว่า ตําแหนง่ กรมท่าซา้ ย แตค่ ณุ เตย่ี หลวงชนาธิการอนุมตั ิ นอกจากจะเป็นหลวงสญั ญาบัตร
แล้ว ยงั มยี ศเป็นรองอํามาตยโ์ ทดว้ ย พอท่านได้เปน็ รองอํามาตยโ์ ท ถา่ ยรูปเสียโก้ไปเลย ยังติดอยูท่ ่บี ้าน
ผมจนบดั น้ี สําหรบั ผม นึกไม่ออกว่าผมได้เป็นขนุ ท่พี ิษณุโลกหรือสวรรคโลก มีราชทนิ นามว่า “ขุนเพง่
จีนานุเคราะห์” นี่มนั กเ็ ป็นประวัติวิถชี วี ิตของผมอยา่ งหนึง่ เหมอื นกัน ความจริงผมควรจะได้ตําแหนง่ ใน
กรมมหาดเล็ก เช่น มหาดเลก็ วิเศษ หรือ เสวกตรี โท อะไรเช่นนี้ เป็นตน้ แต่กลับมาเปน็ ขนุ ท่สี วรรคโลกนเี่ อง
ผมขอเล่าชวี ติ ของผมก่อนแตง่ งานกบั เมยี ระยะทเี่ ขาโตเป็นสาว ผมกไ็ ปเรียนหนงั สือและเรียน
กฎหมาย เรากไ็ ม่ไดพ้ บกันเลย แตผ่ ใู้ หญเ่ ขาขอ กต็ กลงแตง่ งานกัน ผมมาเหน็ เมียผมเมื่อตอนทจี่ ะกําหนด

86

แตง่ งานกันแล้ว ดไู ปกไ็ ม่เลว เมียอยใู่ นประเภทคนสวย
หลายคนเขากพ็ ดู อยา่ งนน้ั แต่ท่ผี มว่าเมียผมสวยและ
ชอบมากทสี่ ุดก็คือ มไี ฝเหนอื รมิ ฝีปากทางซ้ายกําลังสวย
ไฝเม็ดน้ที ําให้ผมติดใจมาก หลังจากแต่งงานกนั แลว้
มลี กู ดว้ ยกันถงึ 11 คน เป็นลูกผู้ชาย 8 คน ลูกผูห้ ญงิ
3 คน แตล่ ูกชายตายไป 1 คน และลูกสาว 2 คน คน
หนึ่งเป็นโรคไทฟอยด์ อีกคนหนึ่งถูกน้ำ�กรด ในวัยที่
กําลังสอนเดิน
ผมอยากจะเลา่ ตอนทีผ่ มมเี มยี แลว้ คุณเต่ยี มกั จะใหเ้ มียผมไปไหนๆ ด้วย ไม่ทราบว่าท่านจะ
สงั่ ลกู สะใภ้ท่านอยา่ งไร เวลาผมไปเล่นบิลเลยี ด เมียผมก็อา้ งเหตวุ า่ อยคู่ นเดียวไมไ่ ด้ กลวั เพราะบ้านหลังใหญ่
ขอติดตามไปดว้ ย เมยี ผมกอ็ ตุ สา่ หน์ งั่ ดูผมเล่นบลิ เลียดจนสองยามกวา่ ก็ทําให้เกดิ สงสาร เวลาผมไปดงู าน
ถา้ เมยี ไปดว้ ย ผมกไ็ ม่ค่อยเท่ียวหรือไปเล่นบิลเลยี ดอะไรท้ังนัน้ สว่ นเรอ่ื งชวี ิตในพษิ ณโุ ลกตัง้ แต่ก่อน
แต่งงาน ปกติตอนบา่ ย 3 โมงครึง่ ผมกไ็ ปเล่นเทนนิสท่ีหลังโรงพกั พษิ ณโุ ลก พวกท่ไี ปเล่นดว้ ยกม็ ี
คุณพระสทา้ นไตรภพ เจา้ ของสนาม ผบู้ งั คบั การตํารวจมณฑลพษิ ณโุ ลก บดิ า พล.ต.ต. ยรรยง สทา้ นไตรภพ
ผมเคยพบคุณยรรยง ถามถงึ ท่านเมอื่ 2-3 ปนี ี้ คณุ ยรรยงบอกว่าทา่ นยงั แขง็ แรงดี ส่วนค่เู ล่นอีกคนหนง่ึ
ที่ควรจะกล่าวถงึ กค็ ือ คุณผวน เปน็ อยั การจังหวดั พษิ ณโุ ลก ตอ่ มาได้ เล่ือนเปน็ หลวงอรรถสิทธ์ิสิทธิ
สุนทร ท่านกเ็ ลอ่ื นขนึ้ ไปเรอื่ ยๆ เปน็ ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั หลายจงั หวดั เปน็ อธิบดกี รมการปกครอง คนน้ี
ควรจะเรยี กว่า “เปาบุน้ จิ้น” เมืองไทย เพราะตอนทีข่ ้ึนเปน็ อธิบดีกรมการปกครองปัจจบุ นั ระยะเพยี ง 3 ปี
ท่านเอาขา้ ราชการช้ันเลวกรมน้ีในอําเภอต่างๆ ออกเสยี ต้ัง 400 กวา่ คน ท่านผูน้ เ้ี ราชอบกันมาก ตอ่ มา
ท่านก็เป็นรฐั มนตรกี ระทรวงมหาดไทย สมัยคุณสัญญา ธรรมศักด์แิ ละ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช
ภายหลังเม่อื เหตกุ ารณใ์ นครอบครัวหรือกจิ การโรงต้มกล่ันสรุ าเรม่ิ ทรดุ โทรม ขาดทุนลง กพ็ อดี
คุณเตย่ี ผมเสยี ชวี ติ ในระยะนั้นฐานะเรายงั ดอี ย่มู าก ปัญหาเร่ืองโรงกลนั่ สุรา ขนุ ประพัฒน์ พชี่ ายของผม
เขาดีจรงิ ๆ เวลาเขามาสวรรคโลกหรอื จะกลับ พอลงรถไฟหรอื จะไปขึน้ รถไฟ เขาปฏบิ ตั ิเปน็ ประจํา คือ
จะตอ้ งไปกราบคณุ เตยี่ และกราบคุณแม่ผม ซ่ึงเปน็ นา้ ของเขาทกุ ครงั้ แต่ท่ีผมว่าขนุ ประพัฒน์ดอี ยา่ งไรนน้ั
กข็ อเลา่ เสียเลยวา่ ดที กุ อย่างกบั ญาตพิ ี่น้องหรือพรรคพวก เวลาเล้ยี งเพื่อนก็ต้องเปน็ สุราฝรงั่ ทงั้ ๆ ท่เี รา
เป็นเจา้ ของโรงตม้ กลน่ั จะกินกไ็ มเ่ สียเงนิ แตท่ จ่ี ําตอ้ งกินเหลา้ ฝรง่ั เลีย้ งเพือ่ นเลี้ยงฝงู ราคาแพง นเี่ ป็นนิสยั
ทีช่ อบของเขา เร่อื งทส่ี นุกที่ควรจะเลา่ ให้ฟังคือ เวลาคณุ เตี่ยจะไปตรวจโรงเหลา้ ท่ีโตะ๊ อาหารหรอื ตู้ตง้ั
เหล้า จะเปลีย่ นใหม่หมดเลย เปน็ เหล้าท่ที ําท่โี รงตม้ กล่ันท้งั น้นั เช่น เหลา้ ใบชาและเหล้าอ่ืนๆ คณุ เต่ีย
ไปเหน็ เขา้ กพ็ อใจ นกี่ ็เป็นวิธหี น่งึ ของลูกคนมเี งินหรืออาเส่ีย

87

ทผ่ี มว่า ขนุ ประพัฒน์ดมี ากทกุ อยา่ งอกี เรือ่ งหน่ึงทีค่ วรจะยกย่องก็คอื การติดต่อกบั ทางราชการ
เพ่ือประโยชน์ของงาน เขาตดิ ต่อไดส้ ะดวก ตัง้ แต่เทศาภบิ าลลงมา จนถึงเสมียน อันนีน้ ่าชมมาก ความจรงิ
ผมเองก็พยายามจะทําให้ไดเ้ หมอื นเขา แต่บางครัง้ ผมก็ทําไมไ่ ด้ การไปธุรกิจตดิ ตอ่ งานในกรงุ เทพฯ ถา้
ขุนประพัฒนไ์ ป ขุนประพฒั นจ์ ะต้องมีเงินค่าใชจ้ า่ ยติดตวั ไปอยา่ งนอ้ ย 2,000 บาท บางคราวก็ต้องสง่ ไป
ใหอ้ ีก แต่ถ้าผมไป ผมกต็ ิดตวั ไปอย่างมาก 1,000 กวา่ บาท ผมกอ็ ยไู่ ดต้ ง้ั 7 วนั

หลวงชนาธกิ ารอนมุ ัติถงึ แก่กรรม

เมื่อคุณเต่ยี เสียชีวิต รุ่งข้ึนเราก็ทําพิธีรดน้�ำ ศพ เสรจ็ แลว้ ก็เอาศพเขา้ หีบ งานพธิ เี หล่านี้ ม.จ.นสิ ากร
เจา้ เมืองสวรรคโลกเปน็ ผู้มาจดั ให้ท้งั สนิ้ ตัง้ แต่การตราสงั ข์ศพ ตอนที่ ม.จ. นิสากร ทา่ นจะทําพิธีหอ่ ศพ
และตราสังข์ ทา่ นได้เรยี กผมเข้าไปรับใช้อย่ใู กลช้ ดิ สอนให้ทําทุกอย่าง ถงึ วิธหี ่อศพและตราสงั ข์ตลอดจน
เอาศพเขา้ หีบ ผมกท็ ําได้ตามท่ที า่ นสง่ั ให้ช่วยทกุ อยา่ ง

พธิ ีศพ หลวงชนาธิการอนุมัติ

เมื่อเสร็จพธิ แี ลว้ เรานั่งรับประทานอาหารกนั ม.จ. นิสากรยงั สง่ั สอนผมวา่ เธอเปน็ เดก็ ที่มี
แววฉลาด รู้สึกว่าจะเปน็ ใหญค่ นโตในภายหนา้ สําหรบั เมืองนี้ ฉันจงึ เรยี กเธอมาส่ังสอนถึงวธิ หี ่อศพและ
การตราสงั ข์ศพตลอดจนเขา้ โลง และฉนั ก็ไดส้ อนเธอแล้วใช่ไหมว่า ศพน้ีจะเปน็ ศพใครก็ตาม เธอดฉู นั ทํา

88

ฉันไม่เคยลุกขนึ้ ยงโยย่ งหยก อยา่ งพวกสปั เหรอ่ ธรรมดาเลย ฉันนั่งพบั เพยี บและเคารพศพอยตู่ ลอดเวลา
เธอจงจําไว้ให้ดี ตอ่ ไปเธอจงทําเร่ืองเก่ียวกับศพ เช่น ห่อผ้าขาวหรอื ตราสังขต์ ลอดจนลงโลงด้วย เพราะ
ฉนั ดูอนาคตของเธอแลว้ เธอจะเปน็ คนสําคัญคนหน่ึงของจังหวัดสวรรคโลก แต่ขอเตือนอย่างเดยี ววา่
เราจะไปช่วยจัดพธิ ศี พ เชน่ ห่อผ้าขาวหรอื ตราสังขต์ ลอดจนเอาลงโลงนน้ั อย่าทําใหพ้ ร่ำ�เพรอื่ คนจะหมน่ิ
เอาวา่ ไอห้ มอนี่มีอาชพี เป็นสัปเหร่ออกี ดว้ ย แต่เธอตอ้ งเลอื กศพที่เปน็ บคุ คลสําคญั และศพบางศพที่
เป็นคนชอบกันจริงๆ จงึ ค่อยทํา อันนกี้ ็นับว่าเปน็ วถิ ชี วี ิตทผี่ มได้ความร้อู ย่างหนึง่ ทา่ นสอนใหต้ ลอด
จนยกหบี ศพขึน้ ต้งั บนช้ัน จัดแจกัน เทยี นและอื่นๆ ทเี่ ป็นเครอื่ งสกั การะศพ ทา่ นก็จัดให้หมด นับวา่ ศพ
คณุ เต่ียผมน้ี เปน็ ศพทม่ี เี กยี รติย่งิ คนหนึง่ สมฐานะท่รี ับใชท้ างราชการ เจา้ เมือง เทศาภิบาลมา เวลาตาย
ก็ไดเ้ กยี รติ คือ ม.จ.นิสากร เจา้ เมืองสวรรคโลกมาทําหน้าทีส่ ัปเหร่อให้ทุกอยา่ ง
เรากจ็ ดั งานศพในระยะ 7 วนั แรก อยา่ งสมเกียรตทิ ง้ั ประเพณจี นี และไทย พวกพิษณโุ ลก สโุ ขทัย
พจิ ติ ร บางมลู นาก อุตรดิตถ์ กม็ าทําพิธคี ํานบั ศพกนั อยา่ งคนมเี งนิ ทง้ั หลาย ศพคณุ เตยี่ ผมนี้เกบ็ ไว้เพยี ง
100 กวา่ วนั ก็ทําการฌาปนกิจตามธรรมเนยี มไทยและจนี การเผาศพของคุณเตย่ี ผมนน้ี ับว่าใหญม่ าก
คอื เราต้งั โรงทมึ ต้งั ศพท่หี าดทรายหน้าแพในฝงั่ ตะวนั ข้นึ งานพิธีเผาศพนี้ทําโรงทึมและตกแตง่ ใชเ้ วลา
เดือนเศษ นอกจากนัน้ ตอ้ งแห่ศพจากโรงทมึ ท่ีกลางหาดทรายผา่ นตลาดข้ามสะพานทีห่ นา้ ไปรษณยี ์
แห่มาตามถนนริมน�ำ้ เวลานนั้ ยังไม่ผา่ นมาวัดสวรรคาราม ซึ่งเป็นวดั ท่ตี ระกูลตายายผมสร้างบูรณะอยู่
การเผาศพนี้ เราต้ังเมรุพิเศษเสยี เงินมาก เป็นพิธีพระทานเพลิงศพ ดเู หมือนจะเป็นรายแรก ในจงั หวดั
สวรรคโลก พธิ ีงานเผาศพวันนั้น นบั วา่ คนมากท่สี ดุ มาด้วยกันหลายจงั หวัด รวมทง้ั ประชาชนในจังหวัด
สวรรคโลกดว้ ย อนั นเ้ี ปน็ เรอ่ื งสุดทา้ ยของพิธีศพ กน็ บั วา่ สมเกยี รติสําหรบั คนมเี งนิ อย่างคุณเต่ีย
ผมจะขอเล่าถงึ เรอื่ งการค้าขายไม้ ผมเอาไมไ้ ปขายที่ปากน้�ำ โพ เวลาไม้ไปถงึ ปากน�ำ้ โพ นายแพ
เขากโ็ ทรเลขมาบอก เรากล็ งไปจ่ายเงินให้เขาเสรจ็ เอาไม้เขา้ อู่ ปไี หนไมร้ าคาดี พวกโรงเลือ่ ยหรอื พวก
พอ่ คา้ ไม้ท่เี ป็นแขกแถวบางอ้อ กม็ าตอมตดิ ต่อขอซอื้ แต่บางปรี าคาไมค่ อ่ ยดี กร็ ูส้ ึกว่าขายลำ�บากหน่อย
เราตอ้ งง้อเขา แต่เขากซ็ อื้ เร่ืองไปขายไมน้ ้ี ผมไปพกั โรงแรมตึกขาวตดิ กับโรงแรมเอราวัณ ซึ่งสร้างใหม่ใน
ปัจจุบัน เพราะเวลานน้ั เอราวณั ยังไม่ได้สร้าง คนทมี่ ีชอ่ื เสียงทส่ี ุด เปน็ พ่อคา้ ไมห้ รอื อาเสีย่ เวลานนั้ ก็คอื
พี่เปี่ยม สง่าเมือง พีช่ ายของรวม สงา่ เมอื ง เพื่อนผม ตอ่ มาภายหลงั พ่เี ป่ยี มซ้อื แพไว้ 1 หลัง มหี อ้ งนอน
2 ห้อง สําหรบั ไวใ้ หพ้ วกเราพกั ผมก็ไปพักทน่ี ัน่ บางปี แต่ส่วนมากชอบพกั โรงแรมมากกว่า เพราะสะดวก
นานาประการ ในการติดตอ่ กับผซู้ ้อื
การไปขายไม้ทป่ี ากนำ้�โพนน้ั เราตอ้ งพกั อยู่โรงแรม รอติดต่อกับผ้ซู อื้ ตลอดจนเสียภาษีผา่ นดา่ น
ตอ้ งใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10-20 วัน แตบ่ างปีราคาไมด้ ี พวกโรงเลอื่ ยก็ขอซ้อื มาซอ้ื กันทีป่ ากน�้ำ โพเลย
สว่ นการชําระเงินน้ัน เขาชําระใหก้ ่อน 70% การล่องจากปากน้ำ�โพเปน็ หน้าทีข่ องเขารบั ผิดชอบ เรา
ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง สว่ นเงนิ ท่จี ะจา่ ยงวดสุดทา้ ย เขาก็ขอผลัดจ่ายเม่อื ไม้ไปถึงกรงุ เทพฯ แลว้ คอื ไมเ่ กนิ 10 วัน

89

เพราะจากปากน้ำ�โพไปกรุงเทพฯ ใช้เรอื ไฟจงู ไปได้จงึ ถึงเร็ว แตถ่ ้าบางปรี าคาไมด่ ี ผู้ซื้อเขาก็ต้องเก่ียงให้
เราไปสง่ ถึงกรงุ เทพฯ แต่การช�ำ ระเงินเม่อื ตกลงสัญญากันแล้ว เขาชําระให้เราก่อน 15% เราต้องสง่ ถึง
อูไ่ มท้ ีก่ รุงเทพฯ กต็ อ้ งเสียค่าใช้จา่ ยจา้ งเรือจูงไปสง่ อีกนัน่ แหละ การส่งเงิน เขาก็ผลดั ชําระเมอ่ื ไมถ้ งึ กใ็ ห้
อกี 25% และผลัดไปอีกเดอื นหนึ่ง เขาก็ใหเ้ ราหมด เรือ่ งการขายไม้ท่ตี ลาดปากนำ้�โพนน้ั ถ้าหนมุ่ ๆ หนอ่ ย
กส็ นุกสนานมาก เพราะเป็นทร่ี วมของความฟุม่ เฟอื ยและความสําราญทกุ อย่าง แตค่ วามส้ินเปลืองมัน
มากเหลอื เกนิ เรากม็ ีกําไรไมน่ อ้ ย คุ้มคา่ เหน่อื ย แต่พ่อคา้ ไมส้ มัยนัน้ ไม่ค่อยรวยกันนัก เพราะราคาไม่
คอ่ ยดี ไม่เหมอื นสมัยหลังๆ

ผมมีเรือ่ งจะเลา่ ในชีวติ ของผมทปี่ ากน�้ำ โพ ใครๆ ก็ร้วู า่ ผมเปน็ นักบลิ เลยี ดมือหนึง่ วันหนึ่งพวก
พ่ีเปี่ยมและพวกเราอีกหลายคน พ่อค้าไมเ้ มืองตาก พอ่ ค้ากําแพงเพชร ก็มาชวนผม ไปเลน่ บิลเลยี ดที่
สโมสรขา้ ราชการนครสวรรค์ อยู่ไกลจากตลาดปากน�้ำ โพประมาณ 4 กิโลเมตร พวกพี่เป่ียมและคนอื่นๆ
เขาสงสารเจ้าคุณพนานจุ ร ป่าไม้เขต หรือนายดา่ นทีน่ ่นั ท่านชอบเล่นบลิ เลยี ด และทา่ นกถ็ ูกตม้ ตลอด
เวลา เชน่ เลน่ กบั จา่ ศาล ที่เปน็ นักบลิ เลยี ดมอื ดีของนครสวรรค์ กแ็ พ้เสมอ เจ้าคุณพนานจุ รทา่ นรูจ้ กั ผม
ท่านกเ็ รยี กผมใหไ้ ปเลน่ บิลเลียดกับจ่าศาลทเ่ี ป็นมอื หน่งึ ของจังหวดั นครสวรรคแ์ ทนทา่ น พวกทรี่ ู้จกั ฝมี ือ
ผม กพ็ นนั เอาทางผม พวกนครสวรรคก์ พ็ นนั เอาคุณจา่ ศาลคนนั้น เล่นกันอยู่ 3 เกม ในวนั แรกผมชนะ
ตัง้ 30-40 ทุกเกม นายจา่ ศาลชักท้อ ทําให้พรรคพวกท่พี นนั ไวร้ วมทง้ั เจา้ คุณพนานุจรดว้ ยได้คนละหลาย
สิบบาท รงุ่ ขน้ึ นัดกนั ใหม่อีก เขากแ็ พ้อีก ที่สดุ ยอมแพ้ไม่สู้ ผมกก็ ลายเป็นคนดงั ในทางบิลเลียด ท่ีสโมสร
ขา้ ราชการนครสวรรคต์ ั้งแต่นัน้ มา

การไปขายไม้น้ี ผมขายอยู่ 3-4 ปี ตัง้ แตอ่ อกจากโรงเรยี นมา ปสี ดุ ท้าย ผมแตง่ งานแล้ว กไ็ มไ่ ด้
ไปขายอีก พอดผี มได้กําหนดกลับ เมยี ผมเขาไปรออย่ทู ีพ่ ิษณโุ ลก กเ็ ปน็ เร่อื งที่ทําใหส้ ขุ ภาพจติ ดขี น้ึ มาก
เรอ่ื งของการทําไม้และการค้าไมส้ มยั นัน้ มันลําบากเพียงใด ผมก็ขอเลา่ เพียงเทา่ นี้

ผมได้พูดถึงเร่ืองการเป็นอาเสี่ยลูกเจ้าของโรงต้มกล่ันสุรามณฑล เซง่ กี สมบตั ิศริ ิ
พิษณโุ ลก และการเปน็ พ่อคา้ ไม้ ระยะหลังๆ เมือ่ คณุ เตยี่ เสียชีวติ แล้ว เราก็
ไปทําโรงต้มกลนั่ อยูต่ ่อไปอีก 2-3 ปี แต่เปลย่ี นช่ือจากหลวงชนาธกิ ารอนุมัติ
เปน็ ขนุ ประพนธ์ ขนุ ประพฒั น์ ขนุ เพ่ง แต่เราเหน็ ว่าขุนประพัฒน์เปน็ พ่ีชาย
คนที่ 1 เป็นพี่ชายคนใหญ่และมีชอื่ เสยี งดคี นหน่งึ กเ็ ลยเอาชื่อเปน็ ผูร้ ับอนญุ าต
ทําโรงต้มกลน่ั ดว้ ยคนหนึง่ แต่ความจริงเรือ่ งการวิง่ เต้นทจ่ี ะขอให้ได้โรงเหลา้ นี้
ตอ้ งให้ความสําคัญแก่พสี่ าวผม เซง่ กี สมบตั ิศริ ิ ตอนน้ันเขาไดส้ ามีไปอยกู่ รุงเทพฯ
เวลาเรื่องผา่ นจากพิษณุโลกไป เขากว็ ง่ิ เตน้ เข้าหาพระองค์เจ้าพร้อม สนทิ วงศ์
ซึง่ ผมก็ไม่ทราบว่าท่านมอี ํานาจอยา่ งไร แต่คนนี้เมอื่ ใหแ้ ลว้ เสนาบดกี ็เหน็ ชอบ

90

พสี่ าวผมเขาเก่งมาก เขาตดิ ตอ่ ใกล้ชดิ จึงไม่มคี นอื่นแบง่ ไปได้ ทงั้ ๆ ท่ปี ีหนง่ึ เวลาจะตอ่ อายกุ ็มีคนย่ืน
ขอแบง่ หลายคน แต่รวมแล้ว ทเ่ี ขาส้เู ราไม่ได้ กเ็ พราะเรามีคนรู้จักดี ตั้งแต่ผูว้ า่ ราชการจงั หวัดพษิ ณโุ ลก
คนเสนอกระทรวงกค็ ือเจา้ คุณเทศาภิบาล เพราะงานโรงต้มกล่นั สรุ าน้ี เป็นงานระดบั มณฑล เราก็ไดก้ ัน
อยเู่ รื่อยๆ สรา้ งฐานะและสรา้ งตัวเองได้ดพี อสมควร ขนาดเปน็ ผูม้ ีอันจะกินคนหน่งึ ในมณฑลพิษณโุ ลก
เม่อื ส้ินคุณเตี่ยไปแลว้ เรากต็ ่อสกู้ ับโรงต้มกลั่นสุรามาไดถ้ งึ 3-4 ปี ตอ่ มาภายหลงั โรงเหล้าก็
ตอ้ งเลกิ ทํา เราก็ตอ้ งอพยพกลบั มาอยูบ่ ้านเดมิ ท่ีสวรรคโลก รู้สกึ ว่าในระยะนนั้ ฐานะความเป็นอยูแ่ ละ
รายได้ของเราสองพี่น้องน้อยลงมาก จนถึงกับถกู ฟ้องร้องเรียกเงินภาษที ีค่ ้างและอ่ืนๆ อีกหลายอย่าง
มาในตอนน้ี เราก็ตอ้ งกลับมาอยบู่ ้านเดยี วกันอกี คอื ที่แพใหญ่ มคี ุณแม่ผม ครอบครวั ขนุ ประพัฒน์
ครอบครัวผม เวลานัน้ ผมมีลูกคนแรกคอื พษิ ณุ ตอ่ มาก็มเี คราะห์กรรมในครอบครัว มีเรือ่ งถกู จบั ตอ้ ง
จํานําจํานองกันแยไ่ ปเลย แตส่ ําหรับพรรคพวกเพือ่ นฝูง ที่เป็นขา้ ราชการพ่อค้า เขายังนึกถึงคุณงามความดี
ของเราสองคนพ่ีนอ้ ง คอื ขนุ ประพัฒนแ์ ละผมอยู่ เรากเ็ รียกวา่ อยูอ่ ยา่ งสบายบ้าง ไม่สบายบ้าง ประจวบกับ
ระยะนน้ั เราอยากจะข้ึนอยบู่ นบก คุณแม่จึงไปขอรอ้ งลูกนอ้ งเกา่ ๆ วังพณิ พาทยม์ าช่วยดันแพใหญแ่ ละ
แพรบั รองข้นึ อย่บู นตล่งิ ได้ โดยไมต่ ้องร้อื ยา้ ยอยา่ งเรียบร้อยทกุ ส่งิ ทุกประการ ก็นับว่าเราพี่นอ้ งและคุณแม่
ยังบุญกุศลสง่ อยู่ ทไี่ ม่ตอ้ งรื้อแพขึ้นบนตลง่ิ ถา้ ซือ้ ก็คดิ วา่ หมดปญั ญา เพราะเงินทองเรากร็ อ่ ยหรอเตม็ ท่ี
นบั ว่าบุญเกา่ ท่ีเราสร้างๆ กันไว้ จึงดลบนั ดาลให้ธรรมชาตคิ ือน้�ำ ชว่ ย แพจึงกลายเป็นบา้ นจนอยู่ได้ปจั จบุ นั นี้
กน็ ับวา่ เป็นเร่อื งแปลกมาก
เม่ือเราขึ้นมาอยบู่ นตลงิ่ กนั แล้ว แพ 2 หลงั เราอย่กู ันถงึ 3 ครอบครัว ก็รสู้ ึกอดึ อัด ก็อยกู่ ันตาม
ภาษายากจน ขนุ ประพัฒนก์ ม็ ีลูก 5 คน เมีย 1 คน ผมก็มีลูก 1 เมยี 1 ทสี่ ดุ เมียผมปรกึ ษากบั ผมว่า
เราไปสรา้ งบา้ นกนั อยู่สักหลงั ไมด่ กี ว่าหรอื ผมก็บอกเขาวา่ จะไปสรา้ งไดอ้ ยา่ งไร เงินทองก็ไมม่ ี เมียผมก็
บอกวา่ เขามเี ครอ่ื งทองเครือ่ งเพชรยังอยูอ่ กี ไม่นอ้ ย ขายไปแล้วเอาเงินมาสร้างบา้ นกันอย่สู บายๆ ดีกวา่
ที่สุดผมก็ตกลงสร้างบ้านในที่ของเรา ซึ่งตรงกับที่อยู่ของบ้านประพฤติและบ้านสมชาติ ลิมปะพันธุ์
ปจั จบุ นั นี้ ผมและเมยี เป็นคนมนี ิสยั ไมอ่ ยากให้ใครดูถกู ก็เลยตกลงสรา้ งบ้านอยู่ 1 หลงั ยาว 7 วา 2 ศอก
กว้าง 4 วา มนี อกชานหลงั ทอี่ ยู่ติดแม่นำ�้ ยม ผมและเมยี ตอ้ งไปอย่กู นั ที่น่ัน เพราะบ้านสรา้ งเสร็จแล้ว
ราคาค่าสรา้ งน้นั เท่าไรไม่ทราบ แต่เมียผมเขาขายทองและเคร่ืองแต่งตวั เขา สว่ นเสาบา้ นท้ังหมด พี่ทมิ
พเี่ ลย้ี งผม บ้านแกอยูว่ ังพิณพาทย์ แกเปน็ คนขอแรงพรรคพวกไปตดั เสามาให้ทัง้ หมด เราก็สร้างเสร็จ
โดยจ้างเจ๊กหลยุ ซง่ึ เป็นชา่ งไม้ประจําของคุณเตี่ยมาเป็นผู้สร้างทัง้ หมด สว่ นแบบแปลนเวลาน้นั กอ็ ย่ใู น
ลกั ษณะเป็นบา้ นสมัยใหม ่ หลวงบริบาล นายอําเภอสวรรคโลก และคณุ พระประสงค์ เจ้าเมืองสวรรคโลก
เป็นผ้อู อกแบบให้ บา้ นกส็ ําเรจ็ เรียบรอ้ ยอยู่ได้สบาย

91

ตอนท่พี วกเรามัง่ มศี รสี ุขอยแู่ พกับคุณแมน่ ัน้ คุณเต่ยี และขุนประพฒั นไ์ ปเป็นผ้จู ัดการโรงเหล้า
อย่ทู ่พี ษิ ณโุ ลก สําหรับตัวผมเองนั้น ผมวา่ คุณแม่รักผมอยมู่ ากแตไ่ มแ่ สดงออก เพราะผมมีพ่เี ลยี้ งประจํา
อยู่ 1 คน ชือ่ ยายพัน อายุ 50 กวา่ ไปแลว้ แกเลย้ี งผมมาต้งั แตเ่ ดก็ ใครจะทําอะไรผม หรือปล่อยใหผ้ ม
อดอยาก ยายพันตอ้ งตอ่ ว่า แมแ้ ต่คณุ แมจ่ ะดุด่าผม ยายพันก็ออกรบั ผมรกั แกมาก ผมอยู่กบั แกทงั้ วนั
นอกจากกลางคืนมานอนกบั คุณเต่ียและคุณแม่ แกรู้วา่ ผมชอบหมทู อด แกกท็ อดใหก้ นิ ทกุ วันและตอ้ ง
ไปกนิ กบั แก แกคอยน่งั ดู ผมรักแกเหมอื นแม่ ถ้าพูดดว้ ยใจจรงิ ตอนผมเปน็ เด็กๆ ทยี่ ายพันเลีย้ ง ในความ
รู้สกึ ของเด็กและมีคนปรนนบิ ัตจิ ัดการเหมือนแม่หรือดกี วา่ แม่ เด็กๆ ก็ต้องรกั เปน็ ธรรมดา ผมรักยาย
พันมาก ลักษณะของคุณแม่ผมน้นั ท่านกเ็ ป็นลูกพ่อค้าไมท้ มี่ ีเงนิ คนหนึง่ เมื่อเหน็ คนปรนนิบัติลูกท่าน
ท่านก็ทําเฉยเมย นอกจากกลางคืนตอ้ งให้มานอนดว้ ย
ความจริงยายพันคนนี้ คณุ เต่ยี ผมซ้ือมาหรือจ้างแกมาไม่ทราบ แต่เขา้ ในลักษณะทเ่ี รยี กว่า เป็น
ทาสคนหนึง่ เทา่ น้ัน ผมทราบตอนหลัง เม่อื กอ่ นผมไปเรียนหนงั สอื ยายพนั อายมุ าก คุณเต่ียคณุ แมก่ ็
เรียกยายพนั มาและมอบหนังสอื สัญญาทาสใหไ้ ป ทา่ นพูดว่า แกกบั ฉันหมดพันธะกนั แล้ว ฉนั ยกให้แก
เป็นไท หนงั สอื สญั ญาทาส คุณเตย่ี ผมฉกี เผาไฟต่อหน้ายายพนั แลว้ ยังบอกวา่ แกจะไปไหนกไ็ ดต้ ามใจ
ชอบหรือจะอย่ดู แู ลลกู แก ไอ้ด�ำ (หมายถงึ ผม) ต่อไปต่อไปอีกกไ็ ม่ขดั ขอ้ ง ผมจําไดว้ า่ เม่ือคุณเตี่ยพดู เช่นน้ี
ยายพันร้องไห้โฮ บอกวา่ ดฉิ นั ไม่ไปไหน ฉันจะตายอยูก่ บั ลูกฉนั นี่แหละ ท่ียายพันบอกว่าลูก กห็ มายถึง
ผม เพราะตอนนนั้ ผมไปเรียนหนงั สอื กรุงเทพฯแลว้ ก็กลับมาช่วงเวลาปิดเทอมเทา่ นั้น เวลาผมกลับมา
จากโรงเรียน ผมตอ้ งไปหายายพันก่อนแล้วจึงมาหาเต่ีย หาแม่
ตอนผมเรยี นเกือบจบ ยายพนั ก็ตาย คณุ เต่ยี โทรเลขไปบอก ผมก็รีบลากลบั มาจัดงานศพให้
ยายพนั ผมทําศพให้ยายพนั เหมือนเป็นแมข่ องผม ใช้จ่ายเงนิ เทา่ ใด เล้ียงพระอย่างไร สวดอยา่ งไร
คณุ เต่ยี กไ็ มข่ ดั ขอ้ ง ทำ�พธิ ีเผาเมอ่ื ครบ 7 วัน พอเสร็จแลว้ ผมจงึ กลับไปเรียนตอ่ ผมทำ�เต็มที่ เตย่ี แม่ พ่ี
ผมทกุ คน เรยี กผมวา่ ลูกยายพนั ท้งั น้นั แต่ความจรงิ พี่เลีย้ งหรอื แม่ ถ้าพีเ่ ลีย้ งเขาเอาใจใส่เราดี ความ
แตกต่างกันกเ็ พยี งนิดหน่อยเทา่ นั้นเอง ผมทําศพใหย้ ายพันอย่างดี กม็ คี นชมผมหลายคน ว่าผมมีความ
กตัญญูตอ่ พีเ่ ลี้ยง

ขุนประพฒั น์ เสียชีวติ

ในเวลาท่ีตกอบั ยากจน ผมกม็ บี ้านพออยูอ่ ย่างสบาย เครื่องเฟอร์นเิ จอรใ์ นบ้านกต็ ้องคอ่ ยๆ
ซอื้ ตอ่ มาเมอื่ ผมยา้ ยบ้านขน้ึ มาอยู่บนบกไดร้ ะยะหนึ่ง นายอ�ำ เภออุไร ไดช้ วนพช่ี ายผมคือขุนประพฒั น์
ไปจับผ้รู า้ ย มีการต่อสกู้ ัน และพ่ีชายผมถกู ลูกหลง เสียชีวติ เขาเอาศพมาถงึ หนา้ บ้านผม เวลาตีสอง
หลายคนพูดกนั วา่ ศพถูกยงิ ตาย หรือตายโหงนีไ้ มค่ วรจะเอาข้ึนตั้งไว้บนบ้าน ผมกเ็ ลยดา่ ไอพ้ วกบา้ ๆ
บอๆ ท้ังผใู้ หญ่และเด็ก ผมก็ด่าบอกว่า ถ้าพวกแกตายเอาไปไว้ศาลาวัด แตน่ ี่พี่ชายกู บา้ นกู กไู ม่ถือ

92

เสยี อย่าง ใครจะมาขวางกู แต่ผมกต็ ้องถามแมก่ ่อน แมก่ บ็ อกวา่ กม็ นั ตายแล้ว ตายโหงตายดีก็เหมือนกนั
กเ็ ลยเอาศพขุนประพฒั น์ต้ังไวท้ ห่ี น้าแพหลงั เล็ก เราทําบญุ ทําทานกัน กเ็ รียกวา่ คนคบั คัง่ เหมอื นกนั แต่
รู้สกึ วา่ คนจีนนอ้ ยไปหนอ่ ย เรือ่ งของมนุษย์ เวลาร่ำ�รวยเป็นเศรษฐมี งั่ มี ก็เปน็ เทวดาทนู หวั ทนู เกล้า
เวลายากจนก็เหยยี ดหยามเหยียบกันส่งไปเลย
ตั้งแต่วันที่ขุนประพฒั นต์ ายและเราต้ังศพอย่ทู ีบ่ ้าน ตอนเอาศพไปเก็บไว้ทีว่ ดั สวรรคาราม (วัดกลาง)
ใครๆ ก็กลับกนั หมดแลว้ เหลอื ผมคนเดียว ผมก็นงั่ เศร้าและรอ้ งไหอ้ ย่กู ับศพ เพราะตอนต้นๆ เมือ่ เขา
เอาศพมาหรือจดั งานศพ ผมไมเ่ คยรอ้ งไห้ แต่ตอนทเี่ อาศพขนุ ประพัฒน์ไปเก็บไว้ทว่ี ัดสวรรคาราม เราไป
กนั บ่ายสามโมง ทําพธิ ที างศาสนานดิ หน่อย ไมเ่ กินสีโ่ มงเยน็ ก็เสร็จ แตผ่ มน่ังอยกู่ บั ศพและรอ้ งไหไ้ ป
ด้วย จนคำ�่ พวกทบี่ า้ นใหค้ นไปรับ ผมจึงกลับ
ระหวา่ งทีน่ ัง่ อย่กู ับศพนัน้ ผมก็นงั่ คิดหลายอย่างหลายประการ ทําให้เกดิ มที ิฐมิ านะขน้ึ ขนาด
ขุนประพฒั น์เป็นคนท่ีมเี พือ่ นฝงู อ่นุ หนาฝาคง่ั เจ๊กจนี เคารพนบั ถือ เรยี กวา่ ต้ัวเสยี่ แตต่ อนขนุ ประพัฒน์
ตาย คนลดไปกว่า 50% นกี่ ็เป็นหลักการอนั หน่งึ ทท่ี ําให้ผมเกดิ มานะกับตัวเองวา่ การชว่ ยคนดว้ ยเงนิ
ดว้ ยทอง ด้วยความดีบา้ งตามสมควร อย่างขนุ ประพฒั น์ พอตายแล้วคนไม่คดิ ถงึ มันก็เปน็ บทเรียนอนั หนึง่
ทผ่ี มไดม้ า ก่อนผมจากศพ ผมกต็ ั้งปณิธานตอ่ หนา้ ศพวา่ ผมจะกู้ตระกูล ลิมปะพนั ธ์ใุ หด้ งั ยิ่งข้ึน แต่ผม
มหี ลักอยู่ การที่จะใหต้ ระกลู ดงั หรือคนรกั ใคร่นบั ถือไมใ่ ชค่ วามร�ำ่ รวย แต่ต้องเป็นคนทส่ี ร้างคณุ ความดี
ใหแ้ กช่ าติบ้านเมอื ง สรา้ งประโยชนส์ ว่ นรวม และความดีอันน้แี หละจะเปน็ การสนองใหต้ วั เราเองนี้ มีคนรกั
คนนับถือ ตลอดจนอิทธิพลในเรือ่ งความดใี หค้ นเกรงขาม จากนนั้ ผมก็กลบั บ้าน ขณะนัน้ เรากําลังจนและ
ตกอับ รสู้ กึ เสยี ใจและนอ้ ยใจมากในการตายของ ขุนประพฒั น์พ่ีชายผม แมแ้ ต่เมอื่ คุณเต่ียคณุ แม่ผมสนิ้
ผมก็ยังไมเ่ สียใจและน้อยใจเท่านเี้ ลย
จากนั้น อุปสรรคต่างๆ ในครอบครัวกต็ ามมา เม่ือเผาศพเสร็จแล้ว เพราะฐานะความเปน็ อยู่
ทางผมไม่ดขี ึน้ พวกหลานๆ เช่น ชัยวฒุ ิ ลิมปะพนั ธ์ุ พน่ี ้องเขา ตลอดจนแมข่ องเขาคือพห่ี รัง่ เมยี ขุนประพัฒน์
มีพนี่ อ้ งของเขาทางปากเกร็ดโดยเฉพาะ รวม สงา่ เมอื ง ท่เี ปน็ ท้ังเพ่อื นและญาติของผม ก็ต้องแบง่ กันไป
เล้ยี ง แตต่ อนหลงั ๆ เม่ือผมมฐี านะดีขน้ึ ผมก็รบั ชยั วุฒิ และชยั วฒั น์ ลมิ ปะพนั ธุ์ กลบั มาอยดู่ ้วย
หลังจากทีข่ นุ ประพัฒนต์ ายไปแล้ว ลูกๆ และพีส่ ะใภข้ องผม เขากก็ ลบั ไปอย่กู บั พี่ๆ นอ้ งๆ
ทราบวา่ ได้รบั ความลําบากมากเหมือนกนั แตเ่ ราก็ไม่มีทางที่จะชว่ ยกนั ได้ เพราะกําลังแย่ สําหรับ
ตวั ผมเองทงั้ ๆ ที่มีบ้านอยู่ คณุ แม่อยแู่ พบนตลงิ่ หน้าบ้าน ก็ต้องคอยดแู ล เมยี ผมเขาบอกว่าวนั น้ีไม่มี
เงนิ ติดบา้ นเลย แต่เขากย็ ังมีขนั เงินอีกลูกหนึง่ เขาก็ให้พษิ ณุ ลิมปะพนั ธุ์ เอาไปขายมาเปน็ คา่ กบั ขา้ ว
แต่ผมกข็ อร้องอย่าใหถ้ งึ ขนาดนน้ั เลย เรายังพอมีทาง เมียผมเขาก็อดทน บางครงั้ ก็เลน่ ไพ่หาค่ากบั ข้าว
และชว่ ยเหลือครอบครวั เราสองคนลําบากมาก แตต่ ัวผมเองนัน้ ผมก็ต้องดําเนินชีวิต ให้ก้าวหน้าใน
ด้านชื่อเสียงทางการเมืองต่อไป ผมขอรอ้ งกบั เมยี ผมว่าเชา้ ๆ ขอผมออกไปกนิ กาแฟท่รี า้ นตลาด เพอื่

93

สงั คมกบั เพอ่ื นฝูงและแสดงว่าเรายงั ติดตอ่ กบั คนอยู่ โดยขอเงนิ เขาไปเป็นค่ากาแฟวนั ละ 10 สตางค์
เพราะเวลาน้ัน กาแฟถ้วยละ 5 สตางค์ เวลามีเพอื่ นฝงู มา ส่วนมากเขาเลย้ี ง แตผ่ มกย็ ังถือศักดิ์ศรวี า่ เราก็
ตอ้ งเลีย้ งเขาบา้ ง ทั้งๆ ทเ่ี ขาก็ร้วู ่าผมจน ไม่มีสตางค์ แตผ่ มเล้ยี งเขา
โดยเจ้าของรา้ นกาแฟก็กรณุ าผม เขาก็ใหผ้ มตดิ เงนิ ไว้ เจ้าของรา้ น
กาแฟคนนช้ี อ่ื มู้ เต่ยี ของนายเต่ียง เดก็ พวกนี้เวลานั้นอายุนอ้ ย เวลา
ผมเล้ียงเพ่ือน แต่ไม่ใช่บ่อยนัก พอผมมีสตางค์ผมก็ไปใช้คืน วถิ ชี วี ติ
ระยะนเ้ี ป็นระยะทล่ี ําบากที่สดุ สําหรับผม แตไ่ มย่ อมตกต�ำ่

ตอนเยน็ ผมไปเล่นเทนนิสท่ีสโมสรขา้ ราชการ เพราะผมเป็น
นักเทนนสิ ขน้ั ฝมี อื แชมปภ์ าคเหนือ ผมไปเลน่ กบั เขาทุกวนั ตลอดจน
บิลเลียดด้วย คู่ฝีมอื บิลเลียดกค็ ือนายปฐม โพธ์แิ ก้ว สมยั นน้ั ชื่อนาย
เขียว เปน็ อยั การจังหวดั สวรรคโลก ผมก็ติดค่าบํารุงสโมสรและคา่ เหล้า
คา่ น้ำ�หวานเดอื นละเกือบ 20 บาท หลายๆ เดือนจงึ จะชําระเขาสกั นายเพง่ นางปราย พร้อมลกู ๆ
ทีหนึง่ ขา้ ราชการบางคนกแ็ สดงกิรยิ าเหยยี ดหยาม บางคนกเ็ หน็ และผ้มู าเยือนที่บา้ น

อกเห็นใจ เวลาสโมสรมงี านเลีย้ งสงั สรรค์ หลวงบรบิ าล นายอําเภอ
กับพระประสงค์ เจา้ เมอื ง เขาก็ใหเ้ มียผมเป็นผู้รับทํากับขา้ ว เมยี ผมแกกเ็ หนอ่ื ยยากจรงิ ๆ กําไรทไ่ี ด้
จากคา่ กบั ข้าวนน้ั กไ็ ม่กีส่ ตางค์ เหลือมาไวใ้ ชจ้ า่ ยบา้ ง ผมกใ็ ห้เปน็ คา่ บํารงุ สโมสรไปบา้ ง แตฝ่ ีมือเทนนิส
หรือบลิ เลียดนั้น ผมเป็นเยี่ยม โดยเฉพาะบิลเลยี ดนน้ั ฝีมอื ดไี ด้เปรียบอยหู่ นอ่ ย เพราะเสียคา่ เกมนอ้ ย
สว่ นมากเราชนะ ถ้าผมเลน่ กับนายปฐม อัยการ นายเหน่ง พ่อตานายเลื่อน อาคม หรือพอ่ ของพนั ธนา
อาคม เวลานนั้ เป็นมารค์ เกอร์ คนนี้เขารู้จกั ผมดีในฐานะความเปน็ อยู่ บางครง้ั ถ้าเล่นกับคนอน่ื เวลาเมาๆ
เช่นผมทําแตม้ ได้ 15 บางทีเขาใส่แตม้ เปน็ 20 ก็มี

เรือ่ งเครือ่ งแต่งตัวของผมก็เรยี กว่าผมยังดแู ลไดอ้ ยา่ งสมำ�่ เสมอ เพราะผมสำ�รองไวต้ ้งั แต่รำ่�รวย
แต่รองเท้าบางคร้งั ก็ไม่มใี ช้ คราวหนึ่งมีงานเลยี้ งท่ี สโมสรขา้ ราชการ ผมกเ็ ป็นกรรมการสโมสรดว้ ย ผมใส่
รองเทา้ สีนำ้�ตาลผูกเชอื ก ซึ่งหลวงบรบิ าลนายอําเภอเปน็ คนซ้ือให้ ในงานเลยี้ งวันนนั้ รองเท้าผมเปิดปาก
แล้ว คือขาด ผมก็ต้องยนื แอบในที่มดื ๆ เพราะอายเขา น่ีแหละเป็นวิถชี วี ิตสังคมท่ีจะไต่เตา้ ไปสูค่ วาม
ร่งุ โรจนข์ องคนจนอยา่ งผม แต่ผมก็ถึงความสําเร็จของผมได้

คนื บรรดาศักดิ์ “ขนุ เพ่งจีนานเุ คราะห์”

พอดีระยะนนั้ มกี ารเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 รัฐบาลประกาศไม่มยี ศบรรดาศกั ด์ิ
แตค่ นอน่ื ทีส่ วรรคโลกยงั ไม่มีใครคนื ยศ แตผ่ มได้คืนยศขนุ เพ่งจนี านเุ คราะห์ เปน็ นายเพ่ง ลมิ ปะพันธ์ุ
แตค่ วามเคยชินของชาวบ้านทีเ่ รยี กท่านขนุ จนบดั น้ีเขาก็ยังเรยี กผมวา่ ขนุ เพง่ หลงั จากเปลย่ี นแปลง

94

การปกครองแลว้ ดวงของผมชักจะขึน้ คอื ระยะนั้นคณะราษฎร์ส่งผ้กู อ่ การ 2475 มาบรรยายระบอบ
ประชาธปิ ไตยตามจังหวดั ตา่ งๆ คนทมี่ าพูดท่สี วรรคโลก กค็ อื ศริ ิ ชาตนิ ันท์ อดีตปลัดเทศบาลนคร
กรุงเทพฯ เพื่อนรักเพือ่ นเกลอของผม บรรดาข้าราชการตง้ั แตเ่ จา้ เมืองลงมาก็ตอ้ งประจบประแจงผู้ก่อการ
2475 ท้งั นัน้ ผู้มาบรรยายเขากใ็ หเ้ จ้าเมืองไปตามผม เวลากนิ เหล้ากันหรือสงั สรรค์ ศิริก็นงั่ โตะ๊ ใหญ่
แต่เขาเรียกผมไปนัง่ คูก่ ัน เพราะเรารกั กัน แต่พวกเจา้ เมืองหรือนายอําเภอคนอนื่ ๆ กห็ า่ งออกกันไป
พอสมควร ตอนกินข้าวเราคยุ กัน ศิริบอกกับเจา้ บา้ นผา่ นเมืองหรือพวกขา้ ราชการว่า ขุนเพ่งนี้แหละ
เปน็ เพอ่ื นรกั กันมาก เวลาเปลี่ยนแปลงการปกครอง พวกเรากเ็ รยี กหาตัวเขาไมพ่ บ มิฉะนัน้ เขาต้องเป็น
สมาชิกผู้แทนและเป็นพวกก่อการ 2475 เหมือนกนั แตโ่ ดยพฤตนิ ัยแลว้ พวกเรายงั นบั เขาวา่ เป็นพวก
กอ่ การ 2475 ศิริพดู ในกล่มุ ข้าราชการจํานวนมาก เช่นน้ี

หลงั จากศริ กิ ลับไปแล้ว ดวงของผมชักจะร่งุ โรจนข์ ้ึน มคี นเอาใจใส่ประจบประแจง ทงั้ ๆ ที่เขากร็ ู้
วา่ เราเปน็ คนจนและตกอบั ผมู้ อี ํานาจตอนนน้ั กพ็ วกกอ่ การ 2475 เมอ่ื เขารวู้ า่ ผมเปน็ พวกกอ่ การเหมอื นกนั
ผมก็ชกั จะใหญข่ น้ึ มคี นประจบ แต่ผมกถ็ ่อมตัวว่า ผมไมค่ ่อยคุ้นกับเขาหรอก ผมเปน็ คนดวงไม่ดี เวลา
เขาเปล่ียนแปลงการปกครอง ผมไมอ่ ยู่ เขาโทรเลขเรียกผม ผมก็ยงั อย่คู งท่ี ท่ีเปล่ยี นแปลงการปกครองน้ี
ก็ตอ้ งการลดข้นั ศักดนิ าใหล้ งเปน็ ประชาธปิ ไตยเทา่ นัน้ แตผ่ มจะพูดอยา่ งไร พวกขา้ ราชการกไ็ มค่ อ่ ยเชอื่
ผมก็เลยกลายเป็นบุคคลสําคญั คนหนง่ึ ข้ึนในเมอื งสวรรคโลก ทัง้ ๆ ทเ่ี วลานั้นฐานะความเป็นอยผู่ มก็ยงั
ไม่ดขี ้นึ แต่ดวงเรม่ิ จะดใี นเร่ืองมีพรรคพวกเปน็ คนใหญค่ นโต พวกข้าราชการกเ็ กรงใจมากขน้ึ แตผ่ ม
ก็ต้องเจียมตัว สงวนตวั ตามเคย เพราะเราไม่มสี ตางค์ นเี่ ปน็ ความตอนหนึง่ ท่ดี วงของผมจะรงุ่ โรจน์ขน้ึ
ในทางการเมอื ง

หลงั จากท่ีผมปลูกบา้ นแลว้ หลวงบรบิ าลกย็ ้ายไป แตห่ ลวงบริบาลมมี ้าดีๆ 3 ตัว เขาก็ให้ผมไว้ใช้
ก็เปน็ โชคของผมเหมือนกนั ว่า ระยะก่อนนั้น ผมเร่มิ ไปจบั ทด่ี ินในไร่ กม. 3 เหนือสะพานที่ 1 ทางรถไฟ
เปน็ เนอ้ื ท่ี 100 ไร่ ผมสองคนผวั เมยี และลกู พษิ ณุ กข็ ม่ี า้ ไปดไู รก่ นั ทกุ วนั เมยี ผมเขากข็ เ่ี กง่ แตก่ ารทําไรน่ น้ั ก็
คือทําไร่นั่นเอง ไม่ร�่ำ รวย พอมีสตางคใ์ ช้บ้าง เรอื่ งการทําไรข่ องผมระยะน้ัน จอมพล ป. มนี โยบายจะ
ส่งเสรมิ พวกชาวไร่ ถงึ กับประกาศจะใหร้ างวัลผทู้ ท่ี ํา
พืชชนิดใดได้ดี ผมก็ทําถั่วเขียว หวา่ นลงไปก็ขึน้ งอกงาม
ได้ไร่ละหลายถงั เหมอื นกัน จอมพล ป. ประกาศจะ
ใหร้ างวลั ร.ม.ต. แสวง กุลทองคํา เป็นหัวหนา้ สถานี
ทดลองศรีสําโรง กม็ าดูไร่ถ่ัวเขยี วผม แล้วเขาก็รายงาน
ไป ผมกค็ ดิ ว่าเขาคงช่วยผมน่ันแหละ จนผมได้รางวัล
ถั่วเขียวท่ี 1 ในประเทศ ไปรับรางวลั ทีจ่ งั หวัดเปน็ เงนิ
400 บาท เร่อื งการทําไร่นี้ ก็ล้มลกุ คลุกคลานมาแบบน้ี นายเพง่ และพิษณุ ไปดกู ารทำ�ไร่

95

ตอ่ มาผมไดพ้ บผู้ใหญห่ รือท่านเรียกผมวา่ เพ่ือน แต่ทา่ นอายสุ งู มาก คือพระยาพิชัยภูเบศ มยี ศ
เปน็ พันเอก ท่านกม็ าหาซ้อื ไรท่ ี่คลองละมุง เราก็ตดิ ต่อกันอย่ตู ลอดเวลา บางคราวผมกข็ ่ีมา้ ไปนอนกับ
ทา่ นท่คี ลองละมุง บางคราวท่านกม็ านอนกับผมทีบ่ า้ น ท่านเล่าใหฟ้ ังครั้งหน่ึงวา่ พวกพระยาพหลฯ
ไปชวนทา่ นกอ่ การเปลย่ี นแปลงเหมอื นกัน ท่านกบ็ อกวา่ ท่านเป็นผูบ้ ังคบั กองพันทหารมหาดเลก็ ทา่ นบอก
วา่ อยา่ งนกี้ บฏไมไ่ ด้ เพราะไมม่ ชี าตไิ หนในโลกทผี่ ู้บงั คบั กองพันทหารมหาดเลก็ จะกบฏต่อพระเจา้ แผน่ ดนิ
จากน้ันทา่ นก็ลาออกมาทําฟาร์มท่ีคลองละมุง เจา้ คุณพชิ ยั เปน็ คนทต่ี ัง้ อกตัง้ ใจท่ีจะทําไรจ่ รงิ ๆ แตผ่ มดูว่า
วธิ ีจดั การหรือวธิ ีดําเนนิ งานของท่านนั้นไม่ค่อยถกู นกั เพราะใช้ระบบทหารและระบบเจ้านายมากเกนิ ไป
ลูกจ้างทําไร่ ท่านจ้างเดือนละ 5 บาทกินอยู่เสร็จ ผมก็จ้างเดือนละ 5 บาท ที่ท่านมีเกือบ 1,000 ไร่
ใช้ลกู จ้างมาก แตล่ ูกจ้างทา่ นอยู่ไมค่ ่อยนาน บางคนกห็ นีมาอยู่กบั ผมและผมก็จําใจตอ้ งรบั ไวเ้ พราะสงสาร
พวกนสี้ ่วนมากเปน็ พวกเมอื งน่าน เมืองเถนิ ผมก็ให้อตั ราคา่ จ้างเดอื นละ 5 บาท กนิ อยู่กบั ผมเท่ากับทา่ น

เร่ืองความสมั พันธร์ ะหวา่ งผมกับท่านเจา้ คุณ
พชิ ัยภเู บศน้ี เราติดตอ่ ใกลช้ ิดกันมาก ผมและลกู ชาย
ท่านเคยแนะนําให้ท่านซ้ือแทรคเตอร์ใช้แทนแรงงาน
ท่านก็ไมเ่ อา ท้งั ที่ท่านกม็ เี งินพอ แทรคเตอรเ์ วลา
น้นั ราคาคนั ละไมเ่ กนิ 30 บาท คนท่มี าช่วยท่านคอื
ลกู ชาย ชื่อคณุ อาจติ คนนีเ้ ป็นคนมคี วามรู้ เรียนมา
จากฟิลิปปนิ ส์ สว่ นลูกชายท่านอกี คนหน่งึ นั้น คือ
พ.ต.โผน อนิ ทรทตั เป็นนายทหาร ตอนหลงั ระยะ
สงครามไปทํางานเสรไี ทย อย่ทู ่ีเมอื งจีนและไดเ้ ปน็
ทหารยศพนั โทกลับมาเมอื งไทยตอนหลงั มีการปฏิวัติ คุณโผนก็ถูกยงิ ตาย แต่ความดขี องเจ้าคณุ พิชยั นี้
ท่านเป็นคนดีจริงๆ ที่จะตั้งใจส่งเสริมเรื่องอาชีพการเกษตร เช่น ครั้งหนึ่งท่านได้พันธุ์กระเจี๊ยบแดง
มาทดลองปลูกไว้อยู่หลายไร่ ระยะนั้นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องกระเจี๊ยบแดง แต่ต่างประเทศสนใจ ท่าน
เจ้าคุณปลูกขายไม่ได้ ท่านก็เอาเม็ดกระเจี๊ยบทําแบบกระแช่เป็นไหๆ ท่านก็ชวนไปทดลอง รู้สึกว่ากิน
รสชาตดิ ีกวา่ นำ้�ขาว ปัจจุบันน้ี กระเจี๊ยบแดงเปน็ ที่นิยม คนเอาไปทําแยมและอ่ืนๆ อกี หลายอย่าง โดย
เฉพาะทเ่ี ก็บเมด็ ตากแห้ง มขี ายทีท่ อ้ งสนามหลวง มคี นแนะนําให้ผมซื้อมาลองรับประทานดู เป็นการแก้
ไขมันในเส้นเลือด ขายถึงกิโลกรัมละ 40 บาท แต่ผมไม่ทราบว่าเขาทํากันท่ีไหนบา้ ง
เร่ืองความเป็นอยขู่ องผมในเวลานัน้ ไมด่ ขี ้นึ เลย ขน้ึ ๆ ลงๆ แต่ทัง้ ๆ ทีเ่ ราจนแสนจน เราก็ยัง
พยายามชว่ ยเหลือประชาชน ชว่ ยงานราชการ และงานส่วนรวมอยู่ตลอดเวลา เช่น คราวหนง่ึ ผมไป
ทงุ่ เสล่ียม ซึ่งตอนน้นั เปน็ เพียงหมูบ่ า้ นหน่ึง ยงั ไม่ได้เป็นอําเภอ ขนึ้ กบั ต�ำ บลนาทุ่ง อ�ำ เภอสวรรคโลก
แต่ประชาชนอพยพจากเถนิ จากลําพนู ลําปาง มาอย่กู ันมากขึน้ บุกเบกิ ทําไร่ ไถนา มนี ามาก เหมอื ง

96

ฝายราษฎรทํากันเอง ต่อมาต้ังเปน็ ตําบล คนที่เป็นกํานนั คนแรกคอื กํานนั มา บา้ นอยูต่ �ำ บลทงุ่ เสลี่ยม
และมีหมบู่ ้าน 3 หมู่บา้ น คอื บา้ นทงุ่ เสล่ยี ม บา้ นเหมืองฝาย บ้านเหมืองนา และบา้ นกลางดง ผมกเ็ กิด
ไปชอบพอกับผู้ใหญ่หลู่ ชุมดวง พ่อของบุญธรรม ชมุ ดวง อดตี ผแู้ ทนสุโขทัย ผูใ้ หญห่ ลู่ หรอื กํานันหลู่
หรอื พ่อเล้ียงหลู่ ชุมดวงนกี้ บั พรรคพวก ตอ้ งการจะมีโรงพักตํารวจ ก็ขอรอ้ งให้ผมชว่ ยเหลอื ผมกพ็ ูดกบั
หลวงประพัฒน์ ผูก้ ํากับการตํารวจสวรรคโลก ทา่ นกใ็ ห้จดั การสรา้ งโรงพกั ช่ัวคราว แตพ่ วกน้สี รา้ งเปน็ ไม้
จรงิ เลย ตัดไม้กนั เสยี เยอะแยะ ทําบา้ นทําเรอื นกันเต็มท่เี ลย โรงพักนิดเดยี ว กเ็ รียกวา่ สําเรจ็ และพวก
แถวนน้ั กม็ ีบ้านเรือนดเี ป็นไม้ คือ บา้ นหัวฝายปัจจบุ ัน ก็โดยอาศัยแอบองิ ตัดไมท้ ําบ้านกันสนกุ ไปเลย
ขณะที่โรงพักจวนจะเสร็จ ผมเข้าใจว่า เจ้าพนักงานป่าไม้แกก็เหลือทน เพราะตัดกันมากเหลือเกิน ก็
จับไม้สรา้ งโรงพกั ส่งเรอ่ื งมาทางปา่ ไมจ้ ังหวดั พอดีวนั ท่ีส่งเร่ืองมา หลวงวบิ ูลยว์ รรณกจิ อดตี รฐั มนตรี
ว่าการกระทรวงเกษตรเป็นป่าไม้ภาค ผมกเ็ ล่าเร่ืองใหค้ ุณหลวงแกฟงั เพราะคณุ หลวงวิบลู ย์กับผมชอบกนั
อยแู่ ล้ว แกกเ็ ลยเรียกพนักงานปา่ ไม้มาบอกว่าเลิกกนั ดกี วา่ ให้แลว้ กนั ไป โรงพกั ก็สําเรจ็ บา้ นเรือนราษฎร
แถวหม่บู ้านหัวฝายก็อุ่นหนาฝาค่งั ขนึ้ มีตํารวจอยู่ ผมกบั กํานนั หลชู่ อบกันมาก ระยะนั้นก็พอดี บุญธรรม
อดีต ส.ส. กําลงั เร่มิ จะเรียนหนังสือ ม. 1 ก็อายเุ ทา่ กับพษิ ณุลกู ชายผม กํานันหลู่ กใ็ หบ้ ุญธรรมอยกู่ บั ผม
ผมกไ็ ปฝากเรียนหนงั สอื อยู่กับพษิ ณุ รงุ่ เชา้ ก็แจกสตางค์ไปโรงเรยี น คนละ 5 สตางคท์ ้งั 2 คน เพ่อื กนิ ขนม
กลางวนั
ต่อมา ประมาณ 2 ปี กํานนั หล่กู เ็ อาลกู ไปเรียนทเ่ี ชยี งใหม่ คอื นายบญุ ธรรม ชุมดวง สว่ นพษิ ณุ
ก็เรยี นตอ่ อีกปีเศษๆ ผมกส็ ง่ ไปเรยี นทโ่ี รงเรียนอํานวยศลิ ป์ กรงุ เทพฯ ระยะนั้น ผมไดเ้ ปน็ นายกเทศมนตรี
แลว้ เงินเดือน 90 บาท พอสง่ ลูกไปเรยี นได้ เมียผมเขาจึงส่งน้องผมคอื ผาศขุ ลิมปะพนั ธุ์ ไปเรยี นค่กู ัน
แต่ผาศุข เรียนสูงกว่า ผมกับเมียก็ต้องส่งเงินให้ลูกและน้อง คือส่งให้น้องเดือนละ 20 ส่งให้พิษณเุ ดอื นละ
7 บาท โดยไปอยู่บ้านทีห่ น้าวัดราชาธวิ าส เป็นบา้ นลกู พีล่ กู นอ้ งผม คอื นายยนต์ จันทิก (พอ่ ของคุณ
กลา้ ณรงค์ จันทิก ประธาน ป.ป.ช.) นายยนต์ จนั ทกิ เขาไปทํางานตอนนัน้ เปน็ ขา้ ราชการชน้ั ตรี ตอ้ งอยู่
กันอยา่ ง อตั คดั พอดู เรื่องระยะนผ้ี มกข็ อจบไวต้ อนหน่งึ กอ่ น

งานการเมอื งทีเ่ ทศบาลเมืองสวรรคโลก

ต่อมา สภาผู้แทนได้ประกาศใช้พระราชบญั ญัติเทศบาล เมอ่ื ปี 2476 พ.ร.บ. เทศบาลฉบับนี้
มที ัง้ เทศบาลและสภาจังหวัด ผมขอเลา่ เฉพาะสภาจงั หวัดก่อน สภาจงั หวดั สวรรคโลกเปิดคร้ังแรกเมื่อปี
พ.ศ.2479 สมาชิกสภาจงั หวดั สมยั นนั้ มีจํานวน 24 คน เปน็ การแตง่ ต้ังโดยกระทรวงมหาดไทย ซงึ่ ก็มชี ่อื ผม
เปน็ สมาชิกสภาจังหวัด และพี่ชายผมคือ ขนุ ประพัฒนพ์ าณิชย์ กเ็ ปน็ สมาชิกด้วย จําได้ว่า ที่อำ�เภอ
ศรีสําโรง มคี ุณประเสริฐ ศรสี โุ ขดว้ ย บทบาทของสภาจงั หวัดในตอนนั้น กฎหมายเขยี นเพยี งใหเ้ ป็นที่
ปรึกษาของผ้วู ่าราชการจังหวัด ให้คําแนะนําผูว้ า่ ราชการจังหวัดและอนื่ ๆ บา้ ง แตผ่ ้วู ่าราชการจังหวัด
จะทําหรือไม่ทําน้นั ไม่ได้ใหอ้ ํานาจแก่สภาจงั หวดั

97

พิธีเปิดสภาจังหวัดสวรรคโลกครั้งแรกมีพิธีใหญ่โต มีท่านเจ้าคุณสุริยานุวงศ์ ปลัดกระทรวง
มหาดไทยเป็นประธานในพิธีเปดิ เมอ่ื เปดิ แลว้ กม็ ีการเลอื กต้งั ประธาน รองประธาน ประธานสภาจงั หวัด
คนแรกกค็ ือ ขุนประพฒั น์พาณิชย์ รองประธานคอื คณุ ประเสริฐ ศรสี โุ ข สว่ นผมและคณุ มงั กร สงิ หเนติ
เป็นเพยี งสมาชกิ ธรรมดาเทา่ นน้ั ไมไ่ ดม้ บี ทบาทอะไรมากนกั ในปีหนงึ่ ก็ประชมุ กันคร้งั เดยี ว ดูเหมอื นไดเ้ บ้ีย
ประชุมครั้งละ 2 บาท เทา่ นนั้
ตอ่ มาในปี 2480 ไดเ้ ร่ิมเปิดเทศบาลเมอื งสวรรคโลกขน้ึ สมาชิกสภาเทศบาล ในคร้งั นน้ั มี
สมาชกิ ท้งั หมด 30 คน โดยการแตง่ ต้ังท้ังน้นั คงเป็นเคราะห์กรรมของผม ที่ไมไ่ ดร้ บั เสนอชอ่ื แต่งต้งั ให้
เปน็ สมาชิกสภาเทศบาล ความจรงิ ถา้ หากวา่ ผมได้รับเสนอชอ่ื เป็นสมาชิก ผมกค็ งได้เปน็ นายกเทศมนตรี
คนแรกแน่ แต่หลวงอรรถวิจิตรจรรยารักษ์ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เขาอาจจะไมช่ อบผม กเ็ ลยไมไ่ ด้รบั เสนอชือ่
เป็นสมาชกิ เทศบาล
ตอ่ มาหลวงอรรถวิจิตรฯ ย้ายไป คุณพระอนมุ านสารกรรม พ่อตา พ.ต.อ.เปรย (ผู้จดั การกรงุ เทพฯ
พาณชิ ยก์ าร สุโขทยั ปัจจุบนั ) มาเป็นผวู้ า่ ราชการจังหวัด ผมกบั ทา่ นก็เลน่ เทนนิสกันทกุ วัน ระยะนั้นพอดี
ทีร่ ฐั บาลแก้ พ.ร.บ.เทศบาลใหม่ พวกคณะเทศมนตรีชุดแรกกบั สมาชกิ เทศบาล ซึง่ มีคณุ วสิ ทุ ธิ์ (ขนุ วิสทุ ธิ์
ประศาสตร)์ เป็นนายกเทศมนตรี ก็ต้องยุบไปตามสภาพ และใหม้ กี ารเลอื กตั้งใหม่ ผมก็เตรยี มตัวจดั ทีม
เข้าสมคั ร โดยคดั กล่มุ เพ่อื นมารว่ มงาน มผี ม มหาแมน้ คุณสงวน ศุขเกษม เราปรกึ ษากัน ซึ่งผม
เป็นคนวางแผนและจดั ตัวบุคคลทง้ั หมด สมาชกิ สภาเทศบาลรนุ่ น้นั มี 36 คน สมคั รกนั พอดีกับจํานวน
จึงไมม่ กี ารเลือกต้งั ผมมีเสียงในสภาถงึ 34 เสยี ง จากจํานวน 36 คน

การเปน็ นายกเทศมนตรีเมอื งสวรรคโลก

เม่อื ผา่ นการรับสมัครโดยไม่มกี ารเลือกตง้ั ไปแลว้ ผมกับมหาแมน้ ก็ไปเขยี นนโยบายกันทใ่ี นไร่
ของผม ซง่ึ เป็นท่สี งบ เพื่อเตรยี มงานบริหารกนั เลย สว่ นคณะเทศมนตรีนน้ั กต็ กลงเอาผมเปน็ นายก
เทศมนตรี คุณสงวน ศขุ เกษม เปน็ เทศมนตรี และมหาแม้นเปน็ เทศมนตรี เมอื่ ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ร้วู ่า
กลุ่มผมเป็นเสยี งข้างมาก ก็เชิญผมไปขอทราบรายช่อื คณะเทศมนตรที ี่ผมจะแต่งต้งั ผมกเ็ ล่นล้ินกับ
พระอนมุ านฯ เจา้ เมืองว่าอนั น้สี ดุ แล้วแต่สภาเขา เขาจะเอาอย่างไรผมกเ็ อาอย่างน้ัน แต่คณุ พระอนมุ านฯ
บอกว่า ทา่ นขุนมีเสียงตงั้ 34 เสยี ง ก็ควรจะกําหนดได้ ผมบอกวา่ ก็สมาชิกประเภท 2 ของทา่ นอกี ต้งั
15 คน ความแนน่ อนมันก็ไม่มี คุณพระอนุมานฯ รูท้ า่ ว่าผมจะรวน และรู้ชอ่ื คณะเทศมนตรีผมหมด
ขัน้ แรก ทา่ นให้ปลัดจงั หวัดมาไกล่เกลีย่ บอกวา่ ทางจังหวัดอยากจะขอแตง่ ตง้ั เทศมนตรสี ัก 1 คน คอื
จะเอาหลวงสฤชณ์สรรพากร ข้าราชการบํานาญเข้ามาร่วม เพราะหลวงสฤชณ์เป็นสมาชกิ ประเภท 2 ผม
กบ็ อกว่า ถา้ อย่างน้นั ก็ขอใหท้ า่ นเจา้ เมืองแตง่ ตง้ั คณะเทศมนตรเี องก็แลว้ กัน เพราะเป็นอํานาจของท่าน
ปลัดจังหวัดรู้ท่าว่าผมรวน กเ็ ลยกลบั ไปเรียนคณุ พระอนมุ านฯ เจา้ เมือง คุณพระอนมุ านฯ กใ็ ช้คณุ สุดจติ

98

พูลเกตุ อัยการจงั หวัดกบั หลวงประพัฒน์ ผู้กํากับการตํารวจ มาเจรจากับผมอกี ผมกบ็ อกว่า ขอใหท้ า่ น
เจา้ เมอื งต้งั กแ็ ลว้ กนั พวกน้ีก็กลับไปรายงานให้เจา้ เมืองทราบ
เจ้าเมอื งไมร่ ู้วา่ จะทําอยา่ งไร จึงเรียกประชุมคณะกรรมการจังหวดั แจ้งเรอ่ื งให้ทราบว่าจะไกล่เกลีย่
กันอย่างไร เพราะ พ.ร.บ. เทศบาล 2476 นน้ั เปน็ พ.ร.บ. ทเ่ี ปน็ ประชาธิปไตยจริงๆ คือ ผวู้ า่ ราชการ
จังหวดั ไมม่ สี ทิ ธ์ิอะไรท้ังสิ้น นอกจาก เทศบาลเกิดเสียหายรว่ มกบั สภา ก็รายงานไปกระทรวง ขอยุบสภา
เท่านัน้ แต่ส่วนมากกระทรวงมหาดไทยไมค่ อ่ ยยอม จงึ เปน็ หอกค้�ำ อกผู้วา่ ราชการจังหวัดอนั หนึง่ เหมอื นกนั
ในท่ีสุดประชมุ คณะกรรมการจังหวัด คุณสุดจิต พูลเกตุ อัยการจังหวัดมาขอต่อรองอีกครั้งหนึ่งเพราะ
ทําอะไรผมไม่ได้ ประการท่ี 1 กค็ ือ เพงิ่ เลือกต้งั ใหมๆ่ ยังไม่เรียกประชมุ สภา ยังไม่มคี ณะเทศมนตรี
ปลดั จังหวัดกบั อัยการจังหวดั มาเจรจากับผม ในลักษณะต่อรอง คือ เขาบอกว่าผมกับคณุ สงวนนั้นไม่มี
ปญั หา แต่มหาแมน้ น้นั ยังไมเ่ หมาะสม เขาบอกวา่ ใหป้ ลดั แม้นทํางานประจํา โดยจะใหเ้ ปน็ เสมยี น ผม
บอกไม่ได้ คนของผมขนาดท่ีจะเป็นเทศมนตรีแลว้ ใหไ้ ปทํางานประจํา ก็ขอใหเ้ ป็นตําแหนง่ ปลัดเทศบาล
เขาก็กลบั ไปปรึกษากนั อีก ท่ีสุดกต็ กลง โดยผมเปน็ นายกเทศมนตรี คณุ สงวน ศุขเกษม เป็นเทศมนตรี
คณุ หลวงสฤชณส์ รรพากรเป็นเทศมนตรี อดตี ขา้ ราชการ ซ่ึงเป็นบุคคลทมี่ คี วามรู้ทางบัญชีและควบคมุ
การเงนิ ผลทีส่ ุด ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั กย็ อมหมด โดยยอมรบั ใหม้ หาแม้นเป็นปลัดเทศบาล สรปุ แลว้ ก็
คือ ผมเปน็ นายกเทศมนตรี อายุ 28 ปี คุณสงวน ศุขเกษม เป็นเทศมนตรี อายุ 26 แตค่ ณุ หลวงสฤชณ์
เป็นเทศมนตรี อายุ 57 ปี
มคี นวจิ ารณ์กันมากวา่ คณะเทศมนตรีจะไปกนั ไม่รอด เพราะคนแกก่ บั คนหนุม่ คงจะเข้ากัน
ไม่ได้ โดยเฉพาะคุณหลวงสฤชณ์ ท่านเปน็ สรรพากรจังหวัดทม่ี ีชือ่ เสียงมากในด้านตงฉิน ขนาดกรม
สรรพากรใหฉ้ ายาว่า ขวานของกรมสรรพากร ถ้าจังหวดั ไหนมกี ารทุจรติ ของพวกสมุหบ์ ญั ชอี ําเภอ เขาก็
สง่ ทา่ นไปเป็นสรรพากรจงั หวัดนั้น ท้ังภาคเหนือ ใต้ กลาง เกอื บทัว่ ประเทศ ท่านเปน็ คนสวรรคโลก เม่ือ
เกษียณแล้วกม็ าซอื้ บา้ นอย่ทู ่สี วรรคโลก เมื่อเราตกลงจัดคณะท�ำ งานกันเสรจ็ แลว้ ผู้ว่าราชการจงั หวดั ก็
ออกคําสง่ั เรยี กประชมุ สภาเทศบาลเมืองสวรรคโลก เพ่ือแต่งต้งั คณะเทศมนตรี เม่ือเปดิ ประชมุ ทา่ นผูว้ า่
ราชการจังหวดั ก็ถามสมาชกิ พอเป็นพิธี เพราะเสียงของผมมีถงึ 34 เสยี ง แลว้ ก็ประกาศแตง่ ตง้ั ผมเปน็
นายกเทศมนตรี คุณหลวงสฤชณเ์ ป็นเทศมนตรี คุณสงวนเปน็ เทศมนตรี และนัดประชมุ ต่อไปใน 7 วนั
เพ่อื ให้คณะเทศมนตรแี ถลงนโยบายในการเข้าบริหารงานเทศบาลแบบสภาผูแ้ ทน เพราะ พ.ร.บ.เทศบาล
ฉบับนน้ั บัญญตั ิไว้อย่างนี้
นโยบายกล่มุ ผมก็เขียนไว้แลว้ ก็พอดีก่อนทผ่ี มจะแถลงนโยบาย กรมมหาดไทยก็สง่ ผูต้ รวจการ
เทศบาลมาประจําจงั หวัดสวรรคโลก ช่ือ คณุ เฉลิม ยูปานนท์ ผมเหน็ นามสกลุ ยปู านนท์ เปน็ นามสกุล
เดียวกบั เพื่อนผม คณุ โชติ ยปู านนท์ นกั ฟตุ บอลของราชวิทยาลยั และเป็นทมี ชาติ ผมกถ็ ามคุณเฉลิม
ว่าเป็นอะไรกัน คุณเฉลิมบอกว่าเป็นหลาน เมื่อเรามีความสัมพันธ์กัน คุณเฉลิมก็ช่วยเต็มที่ ในการ
ตรวจนโยบายและแนะนําวิธกี ารต่างๆ

99

เมื่อถงึ วนั นดั ประชุมสภาเทศบาลเมืองสวรรคโลกเพอื่ แถลงนโยบาย คุณเฉลมิ ทําหน้าทเ่ี ป็น
เลขานกุ ารของสภาเทศบาล เวลาผมแถลง ก็ไดม้ ีสมาชกิ ฝา่ ยตรงขา้ ม คือ นายสิงโต พุกกะเวส ถาม 2-3
ข้อ กต็ กม้าตาย ทแี รกคณุ เฉลมิ คิดว่าผมจะตอบไมไ่ ด้ ก็คอยแนะนําและตอบอยู่ แต่พอผมตอบไดเ้ รียบร้อย
ทสี่ ดุ สภาก็ให้ความไวว้ างใจคณะเทศมนตรีของผม เขา้ บริหารโดยคะแนนถงึ 35 เสียง ไมใ่ หค้ วามไว้วางใจ
1 เสียง คอื นายสงิ โต พกุ กะเวส กเ็ ปน็ อันว่า คณะผมได้ เป็นคณะเทศมนตรีโดยสมบูรณต์ ามกฎหมาย

ภารกิจในหน้าทีน่ ายกเทศมนตรี
บทบาทในสมัยทเ่ี ป็นนายกเทศมนตรี เมอ่ื ผมเรมิ่ รบั งาน กไ็ ปทํางานท่ีห้องประชุมสภาจังหวัด

ซง่ึ ขุนประพฒั นพ์ าณชิ ยพ์ ีช่ ายผม เปน็ ประธานสภาฯ และเถา้ แกย่ กบว้ นได้เร่ยี ไรเงินมาก่อสร้างอาคาร
ส�ำ นักงานไว้เรียบรอ้ ย แบง่ เปน็ 2 สว่ น เป็นหอ้ งประชุมสภาจังหวดั 1 สว่ น ดา้ นในเปน็ หอ้ งทํางาน ผม
กเ็ ข้าทํางานทห่ี ้องด้านในทงั้ 3 คน ส่วนปลัดเทศบาลคอื มหาแมน้ และพนกั งานทเี่ พ่ิงบรรจมุ า กท็ ํางานอยู่
ดา้ นนอกเกย่ี วกับหนังสอื ตดิ ตอ่ ทะเบียนราษฎร์ อาชญาบตั ร ฆา่ สัตว์อะไรเหลา่ นี้ เปน็ ตน้
สมยั นน้ั นายกเทศมนตรไี ดเ้ งินเดอื น เดือนละ 90 บาท สว่ นเทศมนตรนี ัน้ ไดเ้ บีย้ ประชุมเฉพาะ
วันที่มาประชมุ หรอื วนั ทมี่ าช่วยงานพเิ ศษ เมอ่ื เราวางงานแลว้ ผมกข็ อให้คณุ หลวงสฤชณ์สรรพากร เปน็
เทศมนตรฝี ่ายการเงนิ ท้งั หมด ท้ังรายรับ-รายจา่ ย ตลอดจนตรวจใบสําคัญท่จี ะเบิก เวลาน้นั เรายังไม่มี
สมหุ บ์ ญั ชี มหาแม้นก็ทําหนา้ ท่ีสมหุ บ์ ญั ชไี ปก่อน คณุ หลวงสฤชณ์เปน็ คนควบคมุ และสอนงาน เวลาเรา
เบกิ มหาแมน้ ก็เปน็ ผู้เบกิ คณุ หลวงสฤชณ์ตรวจใบสําคัญ นายกเทศมนตรีเปน็ คนอนุมตั ิจา่ ย บางครง้ั
ผมไมอ่ ยู่ ก็ใหค้ ณุ สงวนเปน็ คนเซน็ สั่งจ่าย เรากําหนดแผนปฏิบัติงานของคณะเทศมนตรี คือวนั ประชมุ
คณะเทศมนตรวี ันอังคารกับวันศกุ ร์ สว่ นคุณหลวงสฤชณ์ เราขอใหม้ าทํางานทุกวนั เกยี่ วกบั การเงนิ
ส�ำ หรบั คุณสงวนนน้ั มาเฉพาะวันประชุมคณะเทศมนตรีหรอื เมือ่ มีงานพเิ ศษจะตอ้ งปรึกษากัน คุณสงวน
ก็เบกิ เบย้ี ประชมุ ได้ วนั ละ 2 บาท แต่เร่อื งเหล่านี้คณุ สงวนกย็ อมรับได้ เพราะเป็นคนมฐี านะดอี ยู่แล้ว
คณุ หลวงสฤชณ์ก็ไดร้ ับเงนิ เดอื น เดือนละ 60 - 62 บาท แตท่ ุกเดอื นเบกิ ไม่ถงึ เพราะวนั อาทิตย์หยดุ ก็
ไม่ได้เบิก ท่านก็ไม่มปี ัญหา เพราะทา่ นเป็นข้าราชการบํานาญและต้องการช่วยงานอยู่แล้ว
ผมไดเ้ ปน็ นายกเทศมนตรี ช่วงต้นปี พ.ศ.2486 พอทํามาได้ 9 เดือน รัฐบาลก็แก้ พ.ร.บ. เทศบาล
ใหมแ่ ละใหม้ ีการเลอื กตงั้ ใหม่ด้วย โดยมสี มาชกิ 24 คน เป็นสมาชิกจากการเลอื กต้งั 14 คน และสมาชิก
ประเภท 2 จากการแตง่ ตงั้ 10 คน ผมกช็ วนพรรคพวกเขา้ สมคั รประเภท 2 ดว้ ย โดยผ้วู า่ ราชการจงั หวัด
เป็นผเู้ ลอื ก ตอนนั้นคณุ พระอนุมานสารกรรม ผ้วู ่าราชการจงั หวัดเชื่อมือในการทํางานของคณะเรา ก็เลย
เรียกผมไปปรึกษาหาผ้ทู ่ีสมควรเป็นสมาชกิ ประเภท 2 จะเสนอไปใหก้ ระทรวงแตง่ ตั้ง ผมกเ็ ลยเสนอช่ือ
คนทเ่ี หมาะสม เปน็ อันวา่ สภาเทศบาลเป็นผู้ที่ทำ�งานร่วมกนั ได้ และในส่วนทจ่ี ะได้จากการเลอื กต้งั 14 คน
ก็ไม่ต้องเลือกตั้ง ซึ่งผมต้องถือใบสมัครไปหาทีมงาน ขอให้สมัครครบจำ�นวนพอดี จากนั้นจังหวัดเป็น

100


Click to View FlipBook Version