The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รร.นวก.เล่มรายงานการประเมินตนเอง ปีการศึกษา2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattawut Rodchom, 2023-07-06 02:16:51

รร.นวก.เล่มรายงานการประเมินตนเอง ปีการศึกษา2566

รร.นวก.เล่มรายงานการประเมินตนเอง ปีการศึกษา2566

รายงานผลประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) สถาบันการศึกษาของกองทัพ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ (ระยะเวลา เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึง เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๖) โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ


ก คำนำ รายงานผลประเมินตนเอง (Self - Assessment Report) สถาบันการศึกษาของกองทัพ ประจำปีการ ศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ สังกัดกองทัพเรือ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรายงาน ผลการประเมินตนเอง ที่ได้มีการจัดการฝึกศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) ในห้วงเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึงเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ โดยพิจารณาตามมาตรฐาน การศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ พ.ศ.๒๕๖๕ ประกอบด้วย กรอบมาตรฐาน ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านคุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ ด้านการจัดการศึกษา และด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่เป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานผลการประเมิน ตนเอง (Self Assessment Report) สถาบันการศึกษาของกองทัพ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ สังกัดกองทัพเรือ ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ คุณภาพและมาตรฐานการฝึกศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษา และ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อนำไปศึกษาและวางแผนการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษา ให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมรับการตรวจเยี่ยม และรองรับการประเมิน คุณภาพภายนอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป นาวาเอก (พรพิชิต สุวรรณศิริ) ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ มิถุนายน ๒๕๖๖


ข ความเห็นชอบของคณะผู้ประเมินคุณภาพภายใน สถานศึกษาของกองทัพเรือ ระดับต่ำกว่าปริญญา และผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (ประเมินเมื่อวันที่ ๒๒ – ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖) --------------------------- คณะผู้ประเมินคุณภาพภายใน ๑. นาวาเอกหญิง จิราวรรณ ธีรพงษ์พิศุทธ์ ข้าราชการบำเหน็จบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ ๒. นาวาเอกหญิง วราภรณ์ ศาสโนปถัมภ์ ผู้เชี่ยวชาญการศึกษา กองประกันคุณภาพการศึกษา กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ๓. ว่าที่นาวาเอก ประจวบ ทาโต ประจำกรมแพทย์ทหารเรือ ช่วยราชการกองกำลังพล กรมแพทย์ทหารเรือ ๔. นาวาโท กฤตนัย ทองดอนหัน หัวหน้านายช่าง โรงงานยาง แผนกโรงงานเครื่องกล กองโรงงาน อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ผู้บริหารสถานศึกษา นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ


ค บทสรุปผู้บริหาร ข้อมูลทั่วไปของสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ เป็นหน่วยขึ้นตรง ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ มีหน้าที่ดำเนินการฝึกและ การศึกษาของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ตลอดจนจัดทำตำรา คู่มือ เครื่องช่วยการฝึกและศึกษาที่ เกี่ยวกับการแพทย์ทหารเรือ ตั้งอยู่เลขที่ ๕๐๔/๕๖ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ ๑๐๖๐๐ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดการฝึกหัดศึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกฉิน การแพทย์ เพียงสาขาเดียวให้แก่นักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ซึ่งมีคุณวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีครูผู้สอนและครูฝึก จำนวน ๓๓ นาย และมีนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๖๐ นาย ชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๖๐ นาย ได้รับจัดสรรค่าใช้จ่าย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ รวม ทั้งสิ้น ๒,๕๕๕,๕๖๔ บาท (ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนของข้าราชการและนักเรียน) โดยเป็นงบประมาณด้านสื่อ โสตทัศนูปกรณ์/ห้องสมุด/สารสนเทศ วัสดุ อุปกรณ์การฝึก (ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง และแก๊ส) เป็นจำนวนเงิน ๑,๐๕๖,๓๖๔ บาท จากงบประมาณที่ได้รับทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๓๔ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ได้รับเงินจัดสรรจากโครงการศึกษาของกองทัพเรือ ยอดรายรับสถานพยาบาลกองทัพเรือ และจากงบอื่น ๆ รวม ทั้งสิ้น ๒,๑๕๘,๙๒๔ บาท (ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนของข้าราชการและนักเรียน) โดยเป็นงบประมาณด้านสื่อ โสตทัศนูปกรณ์/ห้องสมุด/สารสนเทศ วัสดุ อุปกรณ์การฝึก (ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง และแก๊ส) เป็นจำนวนเงิน ๑,๒๒๓,๙๐๐ บาท จากงบประมาณที่ได้รับทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๖๙ ผลสัมฤทธิ์: โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีผลการดำเนินงานการจัดการฝึกศึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกฉินการแพทย์(พ.ศ.๒๕๖๓) ซึ่งได้พิจารณาตามกรอบมาตรฐาน ๓ ด้าน ๑๐ ประเด็นการพิจารณา ตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ พ.ศ.๒๕๖๕ (ตามประกาศ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ เรื่อง มาตรฐานการศึกษาและค่าเป้าหมายเพื่อการประกัน คุณภาพการศึกษาภายใน) โดยมีผลการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖) ตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่แสดงให้เห็น ถึงผลสำเร็จของการดำเนินงานในภาพรวมของแต่ละด้านและประเด็นการพิจารณา บรรลุความสำเร็จตามค่าเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการศึกษา สามารถสรุปผลการประเมิน ได้ดังนี้


รายการ ระดับคุณภาพ ด้านที่ ๑ : คุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ ประเด็นที่ ๑.๑ ด้านความรู้ ดีมาก ประเด็นที่ ๑.๒ ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ ดีมาก ประเด็นที่ ๑.๓ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดีมาก ประเด็นที่ ๑.๔ ด้านความพึงพอใจที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ดีมาก ด้านที่ ๒ : การจัดการศึกษา ประเด็นที่ ๒.๑ ด้านหลักสูตร ดีเยี่ยม ประเด็นที่ ๒.๒ ด้านการจัดการเรียนการสอน ดีมาก ประเด็นที่ ๒.๓ ด้านการบริหารจัดการ ดีมาก ประเด็นที่ ๒.๔ ด้านการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ดีมาก ด้านที่ ๓ : การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ประเด็นที่ ๓.๑ ด้านความร่วมมือในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ดีมาก ประเด็นที่ ๓.๒ ด้านนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ และงานวิจัย ดีเยี่ยม ปัจจัยของความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นสถานศึกษาเฉพาะทางเพียงแห่งเดียว ของกระทรวงกลาโหม ที่มีการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) ที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต้นสังกัด ในด้านงบประมาณและการ ดำเนินการต่าง ๆ ที่สถานศึกษาไม่สามารถดำเนินการเองได้ โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ มีวิสัยทัศน์ในกระบวนการจัดการฝึกศึกษา และการพัฒนาคุณภาพเป็นอย่างดี ทำให้สถานศึกษามีความพร้อมใน ทุก ๆ ด้าน รวมทั้งมีแหล่งฝึกทั้งในและนอกกองทัพเรือ ที่มีความเหมาะสม และเพียงพอต่อการพัฒนานักเรียนจ่า นอกจากนี้องค์กรวิชาชีพได้ให้ความร่วมมือในการสนับสนุนทั้งในด้านวิชาการ และการพัฒนาองค์ความรู้แก่ ครู/อาจารย์เป็นอย่างดีเช่นเดียวกันและอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ครู/อาจารย์และนักเรียนจ่า มีผลงานนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์และผลงานด้านวิชาการ นำเสนอระดับกองทัพ/ประเทศ และได้รับ การเผยแพร่ จำนวน ๑๑ ผลงาน ปัจจัยที่เป็นปัญหา และอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ๑. ขาดความต่อเนื่องในการวางแผนสรรหาบุคลากรในระดับผู้บริหารของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ที่จะมา บริหารการศึกษา ตลอดจนการให้ความสำคัญในเรื่องระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา อาจส่งผลกระทบต่อการจัดการฝึกศึกษาของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ในภาพรวม ๒. การจัดสถานที่ฝึกประสบการณ์ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในการ ให้บริการทางการแพทย์สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในเรือหลวง เมื่อนักเรียนจ่าสำเร็จการศึกษา เช่น ไม่มี ค – ๑


สถานีฝึกปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเจ็บในช่องทางแคบในเรือหลวง และการปฏิบัติงานในห้องพยาบาลที่มีพื้นที่ จำกัดในเรือหลวง เป็นต้น ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาที่ต้องการให้หน่วยต้นสังกัดให้การสนับสนุน ๑. กรมแพทย์ทหารเรือ พิจารณาวางแผนสรรหาบุคลากรในระดับผู้บริหารของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการบริหารการศึกษา การประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อทดแทนกำลังพลอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงระยะเวลาในการปฏิบัติงานเพื่อการเรียนรู้ประสบการณ์ก่อนขึ้นบริหารสถานศึกษา ๒. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อจัดทำสถานีฝึกประสบการณ์ให้ สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง การให้บริการทางการแพทย์สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในเรือ หลวง ได้แก่ สถานีเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บในช่องทางที่แคบชัน และ การจัดตั้งสถานีจำลองห้องพยาบาลบนเรือหลวง ********************************** ค – ๒


สารบัญ หน้า คำนำ ก ความเห็นชอบของคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน และผู้บริหารสถานศึกษา ข บทสรุปผู้บริหาร ค ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานของสถาบัน/สถานศึกษา ๑ ๑.๑ ปีที่ให้ข้อมูล ๑ ๑.๒ ที่ตั้งสถาบัน/สถานศึกษา ๑ ๑.๓ ประวัติสถาบัน/สถานศึกษา ๑ ๑.๔ สัญญาลักษณ์สถาบัน/สถานศึกษา ๓ ๑.๕ ปรัชญา วิสัยทัศน์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ พันธกิจ คำขวัญ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๓ ของผู้สำเร็จการศึกษา ๑.๖ โครงสร้างและการจัดส่วนราชการ ๔ ๑.๗ รายชื่อผู้บังคับบัญชา ๖ ๑.๘ รายชื่อคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ๖ ๑.๙ ข้อมูลกำลังพล ๗ ๑.๑๐ หลักสูตรการศึกษา ๗ ๑.๑๑ จำนวนผู้เรียน ๗ ๑.๑๒ ทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ ๘ ๑.๑๓ คุณสมบัติผู้เข้ารับการศึกษา ๑๔ ๑.๑๔ สิทธิของผู้สำเร็จการศึกษา ๑๔ ๑.๑๕ คุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา ๑๕ ๑.๑๖ ข้อมูลทรัพยากรเกื้อหนุนการศึกษาและการเรียนรู้ ๑๘ ๑.๑๗ เงินงบประมาณ/ เงินนอกงบประมาณ/ เงินอื่น ๆ ๑๙ ๑.๑๘ ปฏิทินการศึกษา ๒๐ ๑.๑๙ โครงการ/กิจกรรมเสริมหลักสูตรและพัฒนาผู้เรียน ๒๒ ส่วนที่ ๒ มาตรฐานการศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ๒๖ ส่วนที่ ๓ การติดตามข้อเสนอแนะจากผลประเมินที่ผ่านมา ๓๘ ส่วนที่ ๔ การดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในของสถานศึกษา ๕๑


ด้านที่ ๑ คุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ ๕๓ ประเด็นที่ ๑.๑ : ด้านความรู้ ๕๓ ประเด็นที่ ๑.๒ : ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ ๗๓ ประเด็นที่ ๑.๓ : ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๙๐ ประเด็นที่ ๑.๔ : ด้านความพึงพอใจที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ๑๐๘ ด้านที่ ๒ การจัดการศึกษา ๑๑๔ ประเด็นที่ ๒.๑ : ด้านหลักสูตร ๑๑๔ ประเด็นที่ ๒.๒ : ด้านการจัดการเรียนการสอน ๑๒๓ ประเด็นที่ ๒.๓ : ด้านการบริหารจัดการ ๑๔๖ ประเด็นที่ ๒.๔ : ด้านการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ๑๖๕ ด้านที่ ๓ การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ๑๗๒ ประเด็นที่ ๓.๑ : ด้านความร่วมมือในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ๑๗๒ ประเด็นที่ ๓.๒ : ด้านนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ งานวิจัย ๑๘๑ ส่วนที่ ๕ แนวทางการพัฒนาและความต้องการช่วยเหลือ ๑๘๘ ๕.๑ การวิเคราะห์ตนเอง (SWOT) ๑๘๘ ๕.๒ ผลการปฏิบัติงานที่ดี/ขั้นตอนการดำเนินงานที่ดี หรือเป็นแบบอย่างที่ดี ๑๘๙ (Best Practice) ๕.๓ ปัจจัยความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผน ๑๙๐ ๕.๔ ปัจจัยที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ๑๙๐ ๕.๕ ประเด็นข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาที่ต้องการให้หน่วยต้นสังกัดให้ความช่วยเหลือ/ ๑๙๐ ให้การสนับสนุน ๕.๖ ประเด็นจากหน่วยงานต้นสังกัด ๑๙๑ ส่วนเสริม : บทบาทของสถานศึกษากับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ๑๙๒ ภาคผนวก ๒๑๐ ผนวก ก คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผนวก ข เอกสารประกอบการพิจารณาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผนวก ค รูปภาพกิจกรรมเสริมหลักสูตร ผนวก ง รูปภาพกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง **********************************


สารบัญแผนภูมิ หน้า แผนภูมิที่ ๑ แสดงโครงสร้างและการจัดส่วนราชการ ๕ แผนภูมิที่ ๒ ผลการสอบความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมาย ๕๖ ที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง แผนภูมิที่ ๓ ผลการสอบความรู้ทางวิชาการ มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ ๖๑ ทางด้านภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยีสารสนเทศ แผนภูมิที่ ๔ ผลการสอบความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร (หมวดวิชาสมรรถนะ ๖๕ วิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ) แผนภูมิที่ ๕ ผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร) ๗๖ **********************************


ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา ๑.๑ ปีที่ให้ข้อมูล มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖ (ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ๑.๒ สถานภาพสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๒.๑ เป็นสถานศึกษาของกระทรวงกลาโหม สังกัด กองทัพเรือ ๑.๒.๒ เป็นสถานศึกษา อาชีพเฉพาะอย่างสำหรับทหาร (อ้างอิงตามระเบียบกองทัพเรือ ว่าด้วยการศึกษา พ.ศ.๒๕๓๐) ๑.๓ ประวัติโรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ (รร.นวก.ศวก.พร.) ตั้งอยู่เลขที่ ๕๐๔/๕๖ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ มีเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๒ งาน โทรศัพท์ ติดต่อ ๐ ๒๔๗๕ ๒๕๙๘ และ ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๘๕ โทรสาร (Fax) ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๑๒ เว็บไซต์ของสถาบัน http://www.nmd.go.th/nms โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ (รร.นวก.ศวก.พร.) ได้เปลี่ยนชื่อมาจาก โรงเรียนพยาบาล กองการศึกษา กรมแพทย์ทหารเรือ เนื่องจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ของ กรมแพทย์ ทหารเรือ ตามอนุมัติกองทัพเรือ ท้ายบันทึก กรมยุทธการทหารเรือ (กองการจัดการ) ลับมาก ที่ กห ๐๕๐๕/๗๒ ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เรื่อง การแก้อัตรา กองทัพเรือ พ.ศ.๒๕๐๑ เพื่อปรับปรุงแก้ไข อัตราเฉพาะกิจ (อฉก.หมายเลข ๓๒๐๐ กรมสรรพาวุธทหารเรือ (สพ.ทร.) หมายเลข ๓๔๐๐ กรมแพทย์ทหารเรือ (พร.) และ หมายเลข ๓๔๙๐ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ) โรงเรียนนาวิกเวชกิจ เป็นหน่วย ขึ้นตรงต่อ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ มีหน้าที่ดำเนินการฝึกและการศึกษาของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ตลอดจนจัดทำตำรา คู่มือ เครื่องช่วยการฝึกและศึกษา ที่เกี่ยวกับการแพทย์ทหารเรือ มีประวัติความเป็นมา ดังนี้ พ.ศ.๒๔๕๒ นาวาโท A. Mbochmer แพทย์ชาวเยอรมัน ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่ เปิดรับ สมัครพลทหารเรือ พรรคเหล่าต่าง ๆ ที่สมัครใจ คัดเลือกมาอบรมเป็นพยาบาลเรียกว่า “ลูกหมู่” ปักอักษรย่อ “มป”หรือ “ล.” ที่แขนเสื้อ ต่อมาได้มีการเปิดอบรมวิชาการพยาบาลเป็นครั้งแรกในกองการแพทย์ เป็นเวลา ๓ เดือน แต่ยังไม่มีหลักสูตร ไม่มีการสอบ และใน พ.ศ.๒๔๕๙ ได้กำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน จำนวน ๕ วิชา ระยะเวลาอบรม ๓ เดือน แต่ยังไม่มีหลักสูตร (ในปีนั้นรับนักเรียน ๓ รุ่น) รุ่นที่ ๑ เริ่มตั้งแต่ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๙ จึงถือว่า วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๙ เป็นวันสถาปนาของสถาบัน จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๗๙ นายแพทย์เล็ก สุมิตร ได้พัฒนาหลักสูตรนักเรียนพยาบาลทหารเรือ เป็นหลักสูตร ๒ ปี เพื่อให้ทัดเทียมกับโรงเรียน แห่งอื่น รับผู้จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ ๖ สายสามัญ และได้ขยายหลักสูตรพยาบาลของโรงเรียนจ่าพยาบาล เป็น ๓ ปี เรียนทฤษฎีในโรงเรียน ๒ ปี และฝึกประสบการณ์ในโรงพยาบาลของทหารเรือ ๓ แห่ง เป็นเวลา ๑ ปี จนปี พ.ศ.๒๕๐๗ เปลี่ยนชื่อจาก”โรงเรียนจ่าพยาบาล” เป็น “โรงเรียนพยาบาล” สังกัดกองการศึกษา กรมแพทย์ ทหารเรือ พัฒนาหลักสูตรเป็น “หลักสูตรพยาบาลและอนามัย พ.ศ.๒๕๑๗” เป็นหลักสูตร ๓ ปี รับผู้สำเร็จ


๒ การศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.๓) เรียนในโรงเรียน ๓ ปีเต็ม พร้อมทั้งได้ปรับปรุงหลักสูตรเป็นระบบหน่วย กิต ใน พ.ศ.๒๕๒๐ จากนั้นได้มีการพัฒนาหลักสูตรเป็น “หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ระดับต้น พ.ศ.๒๕๒๖” เป็น หลักสูตร ๒ ปี รับผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ม.ศ.๕ หรือ ม.๖ เป็นนักเรียนพยาบาลทั้งชายและ หญิง โดยเริ่มใช้หลักสูตรนี้ตั้งแต่ ปีการศึกษา ๒๕๒๖ จนถึง พ.ศ.๒๕๓๙ ได้มีการพัฒนาหลักสูตรพยาบาล ศาสตร์ระดับต้น ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และเปลี่ยนชื่อเป็น “หลักสูตรประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตร์ระดับต้น” (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๔๐) ใน พ.ศ.๒๕๕๒ โรงเรียนพยาบาล เปลี่ยนแปลงหลักสูตร จากหลักสูตรประกาศนียบัตรพยาบาล ศาสตร์ระดับต้น เป็น หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงเวชกิจฉุกเฉิน (ปวส.วฉ.) และใน พ.ศ.๒๕๕๓ ได้ เปลี่ยนชื่อสถาบันเป็น โรงเรียนนาวิกเวชกิจ สังกัดศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ตามการจัดโครงสร้างใหม่ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นต้นมา ในปีการศึกษา ๒๕๕๙ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ (รร.นวก.ศวก.พร.) มีการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อหลักสูตรจาก ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงเวชกิจฉุกเฉิน (ปวส.วฉ.) เป็น หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (Diploma of Science Program in Emergency Medical Operation) ทั้งนี้เป็นไปตามข้อบังคับของคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการรับรององค์กรการศึกษา ที่ดำเนินการหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๕๖ โดยได้รับความเห็นชอบหลักสูตรจากกรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ยศ.ทร.) ได้รับ การรับรองหลักสูตรโดย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ และได้รับการ รับรองคุณวุฒิโดย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในปี พ.ศ.๒๕๖๒ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้มีประกาศคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒) ดังนั้น โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรม แพทย์ทหารเรือ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๕๘) เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ฯ ดังกล่าว สำหรับหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๕๘) เป็นหลักสูตรที่เปิดสอนก่อนที่ประกาศนี้ใช้บังคับ จึงต้องปรับปรุงภายใน ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ และในการปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ ยังคงไว้ซึ่ง มาตรฐานวิชาชีพตามที่องค์กรวิชาชีพกำหนดในเรื่องของ อำนาจหน้าที่ ขอบเขตความรับผิดชอบ และข้อจำกัด ในการปฏิบัติการแพทย์ของผู้ช่วยเวชกรรม ตามคำสั่งการแพทย์หรือการอำนวยการ พ.ศ.๒๕๕๖ เอกลักษณ์ หลักสูตรในเรื่องของความมีระเบียบวินัย คุณลักษณะทางทหารที่ดี และเพิ่มเติมในเรื่องของ ทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ (3R8C) ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถปฏิบัติงานตอบสนองภารกิจของกองทัพเรือ และกรมแพทย์ทหารเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


๓ ๑.๔ สัญลักษณ์สถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ มีสัญลักษณ์เป็นรูปพญานาคพันไม้เท้าบนพื้นวงกลมสีเขียว ล้อมรอบด้วย ชื่อหน่วยงานบนพื้นสีแดง คือ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ด้านหลังเป็นตราสมอ สีทอง ๑.๕ ปรัชญา วิสัยทัศน์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ พันธกิจ และคำขวัญ ปรัชญา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ เชื่อว่าผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ และ เจตคติ ด้านการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ภายใต้ขอบเขตประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ สามารถปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ ในการแก้ปัญหา อย่างมีวิจารณญาณ รวมถึงสามารถปฏิบัติงานในด้านการทหารตอบสนองภารกิจของ กรมแพทย์ทหารเรือ และ กองทัพเรือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้มแข็ง และมีระเบียบวินัย อย่างชัดแจ้ง เป็นวิชาชีพที่พัฒนาขึ้นตาม พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๕๑ เพื่อมุ่งให้เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ซึ่งปฏิบัติการฉุกเฉิน ในฐานะผู้ช่วยแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ให้มีความรู้ ทักษะ และเจตคติ ในการปฏิบัติการฉุกเฉิน แก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยใช้ศาสตร์และศิลป์อย่างเป็นองค์รวมในการปฏิบัติการฉุกเฉิน ทั้งนอกสถานพยาบาล และในสถานพยาบาล ตลอดจนดำเนินงานหรือบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินใน ระดับท้องถิ่น สามารถตอบสนองภารกิจของกองทัพได้ วิสัยทัศน์ “เป็นสถานศึกษาชั้นนำของกลาโหม ที่ผลิตบุคลากรด้านปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ที่มีคุณลักษณะ ทางทหาร เชี่ยวชาญวิชาชีพ ตอบสนองภารกิจของกองทัพเรือ” อัตลักษณ์ “เชี่ยวชาญด้านการจัดการผู้ป่วยเจ็บทางน้ำ” เอกลักษณ์ “เป็นสถานศึกษาของกองทัพเรือที่ผลิตบุคลากรที่มีขีดสมรรถนะสูงในการปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์ในทุกมิติ”


๔ พันธกิจ ๑. ผลิตนายทหารชั้นประทวน เหล่าทหารแพทย์ ให้มีคุณลักษณะทางทหาร เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติ การแพทย์ทหาร และปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๒. จัดการฝึกและศึกษาของ นักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และมีคุณภาพ รวมทั้งพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย ๓. ส่งเสริม พัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สู่ความเป็นมืออาชีพ ๔. ส่งเสริม และพัฒนาหน่วยงานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ คำขวัญ “มีวินัย โปร่งใส ใฝ่การงาน ประสานความร่วมมือ” ค่านิยม Naval Operational Medicine School (NOMS) N (Norm) = เป็นแบบอย่างที่ดี O (Orderly) = มีระเบียบวินัย M (Moral) = มีคุณธรรม S (Spirit) = มีน้ำใจ ๑.๖ โครงสร้างการจัดส่วนราชการ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ เป็นหน่วยขึ้นตรงกับ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ มีหน้าที่ดำเนินการ ฝึกและศึกษาของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ตลอดจนจัดทำตำรา คู่มือ เครื่องช่วยการฝึกและ ศึกษา ที่เกี่ยวกับการแพทย์ทหารเรือ (อัตราเฉพาะกิจ (อฉก.) หมายเลข ๓๔๐๐ กรมแพทย์ทหารเรือ (พร.)) โดยมี ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ประกอบด้วย ๔ แผนก คือ แผนกบังคับการ แผนกศึกษา แผนกปกครอง และแผนกสนับสนุน มีกรรมการคณะต่าง ๆ เพื่อช่วยในการดำเนินงานของสถาบัน


๕ แผนภูมิที่ ๑ แสดงโครงสร้างและการจัดส่วนราชการ กราบซ้าย ตอน ๒ ตอน ๔ กราบขวา - คณะกรรมการบริหารหลักสูตร - คณะกรรมการควบคุมภายใน - คณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษา - คณะกรรมการ ๕ ส - คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง - คณะกรรมการวิจัย พัฒนา และการจัดการความรู้ - คณะกรรมการสารสนเทศ - คณะกรรมการป้องกันความเสียหาย (ปคส.) - คณะกรรมการทุนการศึกษา - คณะกรรมการสวัสดิการและคุณภาพชีวิต - คณะกรรมการจรรยาบรรณวิชาชีพครู ตอน ๑ ตอน ๓ แผนกบังคับการ แผนกศึกษา แผนกปกครอง ศูนย์วิทยาการ คณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ แผนกสนับสนุน กรมแพทย์ทหารเรือ


๖ ๑.๗ รายชื่อผู้บังคับบัญชา ๑.๗.๑ นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๗.๒ นาวาโท วิเชียร พิพัฒน์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๗.๓ นาวาตรี กิตติพัฒน์ สางห้วยไพร หัวหน้าแผนกปกครอง โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๗.๔ นาวาตรี จักรกฤษณ์ ชาวสวนมุ่งเจริญ หัวหน้าแผนกศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๗.๕ นาวาตรี นัทธี ตาปะสี หัวหน้าแผนกสนับสนุน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๗.๖ ว่าที่เรือเอก รักษ์พงศ์ ศรีเมือง หัวหน้าแผนกบังคับการ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๑.๘ รายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษา ๑.๘.๑ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ ประธานคณะกรรมการ ๑.๘.๒ หัวหน้านายทหารฝ่ายอำนวยการ กรมแพทย์ทหารเรือ รองประธานคณะกรรมการ ๑.๘.๓ หัวหน้านายทหารกำลังพล กรมแพทย์ทหารเรือ กรรมการ ๑.๘.๔ ผู้แทนกรมยุทธศึกษาทหารเรือ กรรมการ ๑.๘.๕ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรรมการและเลขานุการ ๑.๘.๖ รองผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรรมการ ๑.๘.๗ ผู้แทนกองนาวิกเวชกิจ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ กรรมการ ๑.๘.๘ ผู้แทนกองพันพยาบาล กรมสนับสนุนกองพลนาวิกโยธิน กรรมการ ๑.๘.๙ ผู้แทนกองพันพยาบาล กรมสนับสนุน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรรมการ ๑.๘.๑๐ หัวหน้าแผนกศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๘.๑๑ ผู้แทนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรรมการ ๑.๘.๑๒ ผู้แทนแหล่งฝึกประสบการณ์ กรรมการ ๑.๘.๑๓ ผู้แทนผู้ปกครองนักเรียน กรรมการ ๑.๘.๑๔ ผู้แทนศิษย์เก่า กรรมการ ๑.๘.๑๕ ผู้แทนชุมชน กรรมการ


๗ ๑.๙ ข้อมูลกำลังพล โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้รับการบรรจุกำลังพลจาก กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อทำหน้าที่ครูผู้สอน (ครูประจำ) ในการฝึกศึกษา และถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาการทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่นักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ซึ่งในปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีข้อมูลการบรรจุกำลังพล จำแนก ตามแผนก ดังนี้ ชั้นยศ บริหาร แผนก รวม บังคับการ ศึกษา ปกครอง สนับสนุน นายทหารสัญญาบัตร ๒ ๑ ๔ ๔ ๓ ๑๔ นายทหารประทวน - ๑ ๙ ๕ ๔ ๑๙ ลูกจ้าง/พนักงานราชการ - ๑ ๑ - ๙ ๑๑ รวม ๒ ๓ ๑๔ ๙ ๑๖ ๔๔ ๑.๑๐ ข้อมูลครู/อาจารย์ประจำ ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีครู/อาจารย์ประจำ จำนวน ๓๓ นาย จำแนกได้ ตามคุณวุฒิการศึกษา ดังนี้ ระดับการศึกษา จำนวน (นาย) ปริญญาเอก - ปริญญาโท ๗ ปริญญาตรี ๑๖ ต่ำกว่าปริญญาตรี ๑๐ รวม ๓๓ หมายเหตุ ตำแหน่งทางวิชาการ : วิทยฐานะครูชำนาญการ ๑ นาย วิทยฐานะครูชำนาญการต้น ๓ นาย ๑.๑๑ ข้อมูลนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ประกอบด้วย ลำดับ รายการ จำนวนนักเรียน (นาย) ๑ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๖๐ ๒ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๖๐ รวม ๑๒๐ หมายเหตุ ชั้นปีที่ ๑ ลาออก ๑ นาย ช่วงภาคฤดูร้อน ปัจจุบัน ปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ประกอบด้วย


๘ ลำดับ รายการ จำนวนนักเรียน (นาย) ๑ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๕๓ ๒ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๕๘ รวม ๑๑๐ หมายเหตุ ชั้นปีที่ ๒ ซ้ำชั้น ๑ นาย เลื่อนฐานะนักเรียนนายเรือ ๑ นาย และชั้นปีที่ ๑ รับจากโรงเรียนชุมพล ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ๕๒ นาย ๑.๑๒ หลักสูตรการศึกษา/ โครงสร้างหลักสูตร/แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีจำนวน ๑ หลักสูตร คือ หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) (เป็นหลักสูตรที่ดำเนินการเป็นไปตามประกาศของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามเกณฑ์มาตรฐาน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปวส. (พ.ศ. ๒๕๖๒)) ได้จัดการฝึกศึกษาตามที่กองทัพเรืออนุมัติ ภายใต้การควบคุมและเห็นชอบหลักสูตรโดยกรมยุทธศึกษา ทหารเรือ ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนจ่า โดยกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดการสอบคัดเลือก บุคคลพลเรือนที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า แผนการเรียน วิทย์ - คณิต และมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับกระทรวงกลาโหม จากนั้นเข้ารับการฝึกภาค สาธารณะที่ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ก่อนเป็นเวลา ๑ เดือน โดยโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ดำเนินการจัดการฝึกศึกษาในแบบนักเรียนประจำ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการจัดการ ฝึกศึกษา เช่น อาหาร ที่พักอาศัย เครื่องแต่งกายนักเรียนทหาร อุปกรณ์ ตำราเรียน สื่อ โสต ทัศนูปกรณ์สำหรับ การเรียนการสอน สาธารณูปโภค สิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่เหมาะสม และการบริการทางด้านสุขภาพ เป็นต้น หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ใช้ระยะเวลาการฝึกศึกษา ๒ ปีแบ่งการฝึกศึกษาเป็น ๔ ภาคการศึกษา และ ๒ ภาคฤดูร้อน โดยใน ๑ ภาคการศึกษา ใช้เวลาในการฝึกศึกษา ๑๘ สัปดาห์ และภาคฤดูร้อนใช้เวลาในการฝึกศึกษาภาคละ ๖ สัปดาห์ โครงสร้างหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) ประกอบด้วย ๓ หมวดวิชา จำนวน ๙๐ หน่วยกิต ดังนี้ ลำดับ หมวดวิชา จำนวนหน่วยกิต จำนวนวิชา ๑ หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ๑๙ ๗ ๒ หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ๖๕ ๒๓ ๓ หมวดวิชาเลือกเสรี ๖ ๒ ๔ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ๒ ชม./สัปดาห์ - - รวม ๙๐ ๓๒ โดยการเรียนภาคทฤษฎีและการทดลองในห้องปฏิบัติการ ใช้สถานที่ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ และห้องปฏิบัติการของ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ภาคปฏิบัติใช้หน่วยฝึกของ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และ โรงพยาบาลในสังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ สำหรับ


๙ การฝึกงานด้านเวชกิจฉุกเฉิน จะฝึกปฏิบัติที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาล ตากสิน โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย และ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ส่วนการฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ใช้สถานที่ของหน่วยกำลังรบของกองทัพเรือ ทั้ง หน่วยเรือ และหน่วยบก รวมถึงทะเลอ่าวไทยตอนบน แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๑ ภาคการศึกษาที่ ๑ รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ ๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๒ ๑ ๒ - กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ๑๑๐๔ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ๓ ๓ - - กลุ่มวิชาสังคมและมนุษย์ศาสตร์ ๑๑๐๗ ทหาร ๓ ๒ ๒ - หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน ๒๑๐๘ กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์ ๓ ๒ ๒ - ๒๑๐๙ จิตวิทยาทั่วไป ๒ ๒ - - ๒๑๑๒ ชีวสถิติและวิทยาการระบาด ๓ ๓ - - กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ ๒๑๑๔ เทคนิคหัตถการสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๔ ๑ ๖ - ๒๑๑๕ การยกและการเคลื่อนย้าย ๓ ๑ ๔ - กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์ - - - - รวม ๒๓ ๑๕ ๑๖ -


๑๐ แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๑ ภาคการศึกษาที่ ๒ รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มวิชาภาษาไทย ๑๑๐๑ ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ๓ ๓ - - กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ ๑๑๐๓ ภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๒ ๑ ๒ - กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ๑๑๐๕ เทคโนโลยีสารสนเทศ ๓ ๒ ๒ - กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ๑๑๐๖ มนุษย์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ๓ ๓ - - หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน ๒๑๑๐ เภสัชวิทยาพื้นฐาน ๓ ๓ - - ๒๑๑๑ พยาธิสรีรวิทยาสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๓ ๓ - - กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ ๒๑๑๖ การประเมินสภาพ ๓ ๒ ๒ - ๒๑๑๗ การช่วยฟื้นคืนชีพ ๔ ๑ ๖ - กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์- - - - รวม ๒๔ ๑๘ ๑๒ -


๑๑ แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๑ ภาคฤดูร้อน รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน ๒๑๑๓ การป้องกันปัญหาสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์ รวม ๓ ๓ - - กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก ๒๑๒๒ จริยธรรมวิชาชีพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๓ ๓ - - ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒๑๒๗ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๑ ๒ - - ๖ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์- - - - รวม ๘ ๖ - ๖


๑๒ แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๒ ภาคการศึกษาที่ ๑ รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง กลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะ ๒๑๑๙ นิติเวชศาสตร์ ๒ ๒ - - ๒๒๑๒ การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน ๓ ๒ ๒ - ๒๒๒๒ การดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ๓ ๒ ๒ - ๒๒๒๓ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๓ ๒ ๒ - กลุ่มทักษะวิชาชีพเลือก ๒๒๒๔ การบริบาลเบื้องต้นในหน่วยบริการปฐมภูมิ ๓ ๒ ๒ - ๒๒๑๔ การแพทย์ทหาร ๓ ๒ ๒ - โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ ๒๒๒๙ โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๒ ๑ ๒ - หมวดวิชาเลือกเสรี ๓๒๓๑ เวชศาสตร์ทางทะเล ๓ ๒ ๒ - กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์- - - - รวม ๒๒ ๑๕ ๑๔ -


๑๓ แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๒ ภาคการศึกษาที่ ๒ รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒๒๒๕ ฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ ๑ - - ๓ ๒๒๒๘ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒ ๔ - - ๑๒ โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ ๒๒๓๐ ฝึกปฏิบัติโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๒ - - ๖ หมวดวิชาเลือกเสรี ๓๒๓๒ ฝึกปฏิบัติการบริบาลเบื้องต้นในหน่วยบริการปฐมภูมิ ๓ - - ๙ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์- - - - รวม ๑๐ - - ๓๐ แผนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ชั้นปีที่ ๒ ภาคฤดูร้อน รหัสวิชา รายการวิชา หน่วย กิต จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ ทฤษฎีทดลอง ปฏิบัติ หมวดสมรรถนะวิชาชีพ กลุ่มฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒๒๒๖ ฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ ๓ - - ๙ กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไม่น้อยกว่า ๒ ชม./ สัปดาห์- - - - รวม ๓ - - ๙


๑๔ ๑.๑๓ คุณสมบัติผู้เข้ารับการศึกษา บุคคลที่จะสมัครเข้าศึกษาเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ มีคุณสมบัติ ดังนี้ ๑. สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องเรียนรายวิชาพื้นฐาน และ รายวิชาวิทยาศาสตร์ หน่วยกิตรวมกันไม่น้อยกว่า ๒๒ หน่วยกิต วิชาคณิตศาสตร์ หน่วยกิตรวมกันไม่น้อยกว่า ๑๒ หน่วยกิต ๒. เป็นชายโสด อายุ ๑๖ – ๒๒ ปี ๓. มีสัญชาติไทย และบิดามารดา ผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ถ้าบิดาเป็น นายทหารสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน ทั้งในและนอกราชการ มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการ เกิดก็ได้ ๔. ว่ายน้ำเป็น ๕. มีรูปร่าง ลักษณะท่าทางและขนาดร่างกายเหมาะแก่การเป็นทหาร ไม่เป็นโรคตาม พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ และโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ตามประกาศคณะอนุกรรมการรับรององค์กรและหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมผู้ปฏิบัติการ และการให้ ประกาศนียบัตรหรือเครื่องหมายวิทยฐานะแก่ผู้ผ่านการศึกษาหรือฝึกอบรม ว่าด้วย โรคที่ไม่สมควรให้เป็น ผู้ปฏิบัติการ พ.ศ.๒๕๖๑ ๖. เป็นผู้มีความประพฤติดี ไม่บกพร่องทางศีลธรรม ๗. มีความสูงไม่ต่ำกว่า ๑๖๐ เซนติเมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า ๔๖ กิโลกรัม ๘. บุคคลที่กรมแพทย์ทหารเรือ พิจารณาเห็นสมควร ๑.๑๔ สิทธิของผู้สำเร็จการศึกษา ๑.๑๔.๑ ผู้สำเร็จการศึกษา จะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (Diploma of Emergency Medical Technician) ซึ่งเทียบเท่าหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่ ศธ ๐๖๐๖/๙๑๑๕ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๙) และได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการในตำแหน่ง นายทหารประทวนของกองทัพเรือ ชั้นยศ จ่าตรี (จ.ต.) ทุกนาย ๑.๑๔.๒ ผู้สำเร็จการศึกษา จะได้รับเงินเดือน ๑) เงินเดือนแรกบรรจุ คุณวุฒิประกาศนียบัตรหลักสูตรนักเรียนจ่า ๒ ปี รับเงินเดือนขั้นต่ำ รับระดับ ป.๑ ชั้น ๒๐.๕ เดือนละ ๑๑,๖๓๐ บาท และสำนักงาน ก.พ. เทียบคุณวุฒิในอัตราเงินเดือนไม่สูงกว่า ๑๐,๗๖๐ บาท (สำนักงาน ก.พ. ที่ นร. ๑๐๐๔.๓/๑๑๓ ลงวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓) ๒) รายละเอียดปัจจัยที่กำหนดตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ ๙๕๔/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ (และจากการประชุม เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒) ปัจจัย ลำดับที่ ๑ มีผลคะแนนรวมทุกชั้นปีการศึกษาในสถาบันการศึกษา สังกัด กระทรวงกลาโหม ไม่ต่ำกว่า ๓.๒๕ (จากผลการศึกษาจากแบบ ยศ.๕) ได้เพิ่ม ๑.๐ ขั้น ปัจจัย ลำดับที่ ๒ มีผลการทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษ ALC PT หรือ ECL ตั้งแต่ ๗๐ คะแนน ขึ้นไป (ผลทดสอบจาก ศูนย์ภาษา กรมยุทธศึกษาทหารเรือ) ได้เพิ่ม ๐.๕ ขั้น


๑๕ ปัจจัย ลำดับที่ ๓ บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งสายงานที่มีคุณสมบัติเฉพาะตามที่ กำหนดให้ได้รับ ได้เพิ่ม ๐.๕ ขั้น ปัจจัย ลำดับที่ ๔ บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่ง ตามคุณวุฒิที่กำหนด ตามคำสั่ง กระทรวงกลาโหม ที่ ๕๓๙/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕ ได้เพิ่ม ๐.๕ ขั้น ๑.๑๕ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา (หลักสูตร พ.ศ.๒๕๕๘) การกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษาของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้นำกรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทางทหารมากำหนด ดังนี้ ๑. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ด้านทหาร ๑) ความจงรักภักดีต่อ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ๒) ความเสียสละ ๓) ความเป็นทหารอาชีพ ๔) ความมีคุณธรรม ๕) ความมีวินัย ๖) ความใฝ่รู้ ๗) ความมีทัศนคติสร้างสรรค์ ๘) ความมีภาวะผู้นำ ๙) ความกล้าหาญ ๑๐) ความรับผิดชอบ ๑๑) ความซื่อสัตย์ ๑๒) ความยึดแบบธรรมเนียมทหาร ๒. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ด้านวิชาชีพ ๑) มีวินัย กล้าหาญ อดทน เสียสละ ชื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม ๒) มีภาวะความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี สนใจใฝ่รู้ คิดและแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับกลุ่มหรือทีมงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ๓) ยอมรับข้อจำกัดในความรู้ที่ตนมี และผลกระทบที่เกิดจากการนำความรู้ที่มีจำกัดมาใช้ ในการปฏิบัติงาน พร้อมที่จะขอคำแนะนำและแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ เพิ่มเติมเมื่อจำเป็น ๔) มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาและปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ๕) แยกแยะผลการกระทำที่กระทบต่อผู้อื่น และใช้หลักการด้านคุณธรรมและจริยธรรมใน การประเมินการกระทำของตนเอง พร้อมรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง สมรรถนะหลัก ๑. ด้านความรู้ ๒. ด้านทักษะทางปัญญา


๑๖ ๓. ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ๔. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะทั่วไป ๑. มีจิตสำนึก และตระหนักในหลักคุณธรรมจริยธรรม ๒. เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น ทั้งในการดำรงตน และการปฏิบัติงานรวมทั้งจัดการกับ ปัญหาในการดำรงชีพและการทำงานได้ ๓. เคารพกฎหมาย สิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่า และ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สมรรถนะด้านวิชาชีพ ๑. มีทักษะ และเจตคติในการปฏิบัติการฉุกเฉิน ได้ตามอำนาจ หน้าที่ ขอบเขตความ รับผิดชอบ และข้อจำกัดของเจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ สอดคล้องกับสภาพปัญหาอย่างได้มาตรฐาน ปลอดภัย และทันท่วงที ๒. สามารถดำเนินมาตรฐานการป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นฉุกเฉินได้ทั้งในระดับบุคคล และชุมชน ๓. ปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สิทธิผู้ป่วย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๔. มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ได้ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา (หลักสูตร พ.ศ.๒๕๖๓) ๑. ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๑) มีวินัย กล้าหาญ อดทน เสียสละ ซื่อสัตย์ และจิตสำนึก ตระหนักในหลักคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๒) มีภาวะความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น สนใจใฝ่รู้ คิดและแสดง ความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับกลุ่มหรือทีมงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ๓) มีความภาคภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทย มีจิตสาธารณะและมีจิตสำนึกรักษ์ สิ่งแวดล้อม ๔) เคารพกฎหมาย สิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่า และ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สิทธิผู้ป่วย และกฎหมายอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง ๕) แยกแยะผลการกระทำที่กระทบต่อผู้อื่น และใช้หลักการด้านคุณธรรมและจริยธรรมใน การประเมินการกระทำของตนเอง พร้อมรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง ๒. ด้านความรู้ ๑) ยอมรับข้อจำกัดในความรู้ที่ตนมี และผลกระทบที่เกิดจากการนำความรู้ที่มีจำกัดมาใช้ ในการปฏิบัติงาน พร้อมที่จะขอคำแนะนำและแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ เพิ่มเติมเมื่อจำเป็น ๒) มีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


๑๗ ๓) มีความรู้เข้าใจองค์ความรู้และสาระสำคัญในศาสตร์ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ สามารถบูรณาการและประยุกต์กับศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ ๔) มีความรู้ ความเข้าใจในสาระสำคัญในกระบวนการแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ งานวิจัย และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้ในการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๓. ด้านทักษะ ๑) มีทักษะ และเจตคติในการปฏิบัติการฉุกเฉินได้ตามอำนาจ หน้าที่ ขอบเขตความ รับผิดชอบ และข้อจำกัดของเจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ สอดคล้องกับสภาพปัญหาอย่างได้มาตรฐานปลอดภัย และทันท่วงที ๒) มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา วางแผน การบริหาร จัดการ ประสานงาน และการประเมินในการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ๓) มีทักษะในการดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นฉุกเฉินได้ทั้งใน ระดับบุคคลและชุมชนได้ ๔) มีทักษะการปฏิบัติงานในหน่วยทหารตามภารกิจของกรมแพทย์ทหารเรือ ๕) สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน รวมทั้ง วิธีการสื่อสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เลือกใช้รูปแบบและเครื่องมือในการนำเสนอที่เหมาะสมกับกลุ่มบุคคลที่แตกต่างกันได้ ๔. ด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบ ๑) สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคทางสถิติ หรือคณิตศาสตร์ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างเหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประมวลผล แปลความหมาย และนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ได้อย่างสม่ำเสมอ ๒) มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และงานที่ได้รับมอบหมาย มีความกระตือรือร้นในการ พัฒนางานและตนเองอย่างต่อเนื่อง ๓) สืบค้นข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจ และประเมินข้อมูลสารสนเทศ แนวคิด และหลักฐาน ใหม่ ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ และนำข้อมูลใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนางานได้ ๔) คิด วิเคราะห์ และให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้องค์ความรู้ประสบการณ์ทาง ภาคปฏิบัติ และผลกระทบจากการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และสามารถพัฒนา แนวทางใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และบริบททางสุขภาพที่ เปลี่ยนแปลงไป ๕) สามารถปรับตัวและมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับผู้รับบริการ ผู้ร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และผู้เกี่ยวข้องสามารถทำงานเป็นทีมได้ ๖) มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ได้


๑๘ ๑.๑๖ ข้อมูลทรัพยากรเกื้อหนุนการศึกษาและการเรียนรู้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ฯ มีข้อมูลอาคารสถานที่ สนามฝึก ห้องฝึก หน่วยฝึกต่าง ๆ ที่ใช้ในการ สนับสนุนการเรียนรู้และการฝึกศึกษาของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ - ๒ ดังต่อไปนี้ ลำดับ รายการ หมายเหตุ ๑. ทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ภายในโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ๑.๑ ห้องเรียน (ต้นกล้า) ชั้นปีที่ ๑ ๑.๒ ห้องเรียน (พลิใบ) ชั้นปีที่ ๒ ๑.๓ ห้องสมุดโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ๑.๔ ห้องฝึกปฏิบัติเทคนิคหัตถการ ๑.๕ ห้องฝึกปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (EMS Room) ๑.๖ ห้องฝึกสถานการณ์จำลอง (Simulation Room) ๑.๗ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ๑.๘ ห้องประชุมนาวิกเวชกิจ ๑ ๑.๙ ห้องประชุมนาวิกเวชกิจ ๒ ๑.๑๐ ห้องฝึกซ้อมดนตรีสากลและดนตรีไทย ๑.๑๑ ห้องสร้างและแสดงนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ และ งานวิจัย ๑.๑๒ ห้องออกกำลังกายในร่ม ๑.๑๓ พื้นที่สำหรับปลูกพืชผักเศรษฐกิจพอเพียงและเป็นสถานที่พักผ่อน หลังอาคารกราบพักนักเรียน ๑.๑๔ สนามฟุตซอลและสนามบาสเกตบอล ๒. ทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ภายในบริเวณกรมแพทย์ทหารเรือ ๒.๑ ห้องสมุดกรมแพทย์ทหารเรือ (ภายใน วิทยาลัยพยาบาลทหารเรือ) ๒.๒ สนามเทนนิส ๒.๓ สนามบาสเกตบอล (ข้างวิทยาลัยพยาบาลทหารเรือ) ๒.๔ สนามฟุตบอล ๒.๕ โรงยิม ๒.๖ สระว่ายน้ำ ๓. หน่วยฝึกในกรมแพทย์ทหารเรือ ๓.๑ กองส่งกำลังสายแพทย์ กรมแพทย์ทหารเรือ ๓.๒ กองเวชกรรมป้องกัน กรมแพทย์ทหารเรือ ๓.๓ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ๓.๔ ศูนย์สุขภาพคลองมอญ ๔. หน่วยฝึกในกองทัพเรือ ๔.๑ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ๔.๒ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ


๑๙ ลำดับ รายการ หมายเหตุ ๔.๓ อู่พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ๔.๔ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ๔.๕ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ๕. หน่วยฝึกนอกกองทัพเรือ ๕.๑ ศูนย์บริการฉุกเฉินการแพทย์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ๕.๒ โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ๕.๓ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ๕.๔ โรงพยาบาลสมุทรสาคร สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสมุทรสาคร ๕.๕ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ๑.๑๗ เงินงบประมาณ/ เงินนอกงบประมาณ/ เงินอื่น ๆ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้รับจัดสรรค่าใช้จ่าย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ รวมทั้งสิ้น ๒,๕๕๕,๕๖๔ บาท (ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนของข้าราชการและนักเรียน) โดยเป็นงบประมาณด้าน สื่อ โสตทัศนูปกรณ์/ ห้องสมุด/ สารสนเทศ วัสดุ อุปกรณ์การฝึก (ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง และแก๊ส) เป็นจำนวน เงิน ๑,๐๕๖,๓๖๔ บาท จากงบประมาณที่ได้รับทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๓๔ ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ได้รับเงินจัดสรรจากโครงการศึกษาของกองทัพเรือ ยอดรายรับสถานพยาบาล กองทัพเรือ และ จากงบ อื่น ๆ รวมทั้งสิ้น ๒,๑๕๘,๙๒๔ บาท (ไม่รวมเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนของข้าราชการและนักเรียน) โดยเป็น งบประมาณด้านสื่อ โสตทัศนูปกรณ์/ ห้องสมุด/ สารสนเทศ วัสดุ อุปกรณ์การฝึก (ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง และ แก๊ส) เป็นจำนวนเงิน ๑,๒๒๓,๙๐๐ บาท จากงบประมาณที่ได้รับทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๖๙


๒๐ ๑.๑๘ ปฏิทินการศึกษา (ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕) กิจกรรม ชั้นปีที่ ๑ ชั้นปีที่ ๒ กำหนดการศึกษา ระยะเวลา กำหนดการศึกษา ระยะเวลา ๑. ภาคสาธารณะ - ฝึกภาคสาธารณะ ที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ๑ - ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๔ สัปดาห์ - - - รับตัว นักเรียนจ่าใหม่ จาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๑ วัน - - ๒. ภาคตัน - ปฐมนิเทศ ๖ - ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ ๒ วัน ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕ ๑ วัน - เปิดการศึกษา ๙ มิถุนายน - ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๕ ๑๗ สัปดาห์ ๒๕ เมษายน - ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๑๗ สัปดาห์ - เตรียมตัวสอบ ๑ - ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๒ วัน ๒๐ - ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๒ วัน - สอบ ๓ - ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๕ วัน ๒๒ - ๒๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๕ วัน - ปิดภาคการศึกษา ๑๐ - ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ๕ วัน ๒๙ ส.ค. - ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๕ ๕ วัน ๓. ภาคปลาย - ปฐมนิเทศ - เปิดการศึกษา ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึง ๑๐ กุมภาพันธ์พ.ศ.๒๕๖๖ ๑๗ สัปดาห์ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึง ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๑๗ สัปดาห์ - เตรียมตัวสอบ ๑๑ - ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ๒ วัน - - - สอบ ๑๓ - ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน - - - นำเสนอรายงานการฝึกปฏิบัติ - - ๒ - ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน - นำเสนอนวัตกรรม และ สิ่งประดิษฐ์ - - ๙ - ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน - ปิดภาคการศึกษา ๑๘ - ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ๒ วัน ๑๔ - ๑๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๒ วัน ๔. ภาคฤดูร้อน


๒๑ กิจกรรม ชั้นปีที่ ๑ ชั้นปีที่ ๒ กำหนดการศึกษา ระยะเวลา กำหนดการศึกษา ระยะเวลา - เปิดการศึกษา ๒๐ กุมภาพันธ์- ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๖ สัปดาห์ ๑๖ มกราคม - ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ๖ สัปดาห์ - ปิดภาคการศึกษา ๓ - ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ๕ วัน ๒๗ กุมภาพันธ์ - ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน ๕. กิจกรรม/โครงการ - โครงการเพิ่มพูนทักษะฯ - - ๖ - ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน - โครงการปัจฉิมนิเทศ - - ๑๓ - ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๕ วัน - เตรียมและบรรพชาสามเณร - - ๒๗ - ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ ๑๔ วัน - เตรียมความพร้อมประดับ เครื่องหมายยศจ่าตรี - - ๑๗ - ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ ๒ วัน - ตัดสินผล/ประกาศผลสอบ ตามที่ กรมยุทธศึกษา ทหารเรือ ลงนาม - ตามที่ กรมยุทธศึกษา ทหารเรือ ลงนาม - - พิธีประดับเครื่องหมายยศฯ - - ตามที่ กรมยุทธศึกษา ทหารเรือ กำหนด ๑ วัน


๒๒ ๑.๑๙ โครงการ/กิจกรรมเสริมหลักสูตรและพัฒนาผู้เรียน ลำดับ โครงการ/กิจกรรม ๑ ด้านการรักชาติเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๑) กิจกรรมลงนามถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ๒) กิจกรรมพิธีวางพานพุ่มและพิธีถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอ ดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ๓) กิจกรรมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า เจ้าอยู่หัว ๔) กิจกรรมวางพานพุ่มประดับดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช ๕) กิจกรรมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดช วิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ๖) กิจกรรมทำความสะอาด ๕ ส. ของ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ๗) กิจกรรมจัดบอร์ดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมบอกรักแม่เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ๘) กิจกรรมวันพระราชทานธงชาติไทย ณ เสาธงหน้า กองบังคับการ กรมแพทย์ทหารเรือ ๙) กิจกรรมบริจาคโลหิต ในโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ ๑๐) กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยคัดเลือกนักเรียนผู้บังคับบัญชาโดยยึดหลัก ประชาธิปไตย โดยที่นักเรียนทั้งหมดจะเป็นผู้ลงคะแนนในการเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมและ นำเสนอต่อแผนกปกครอง ๑๑) กิจกรรมร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และสวดมนต์เจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายพระพร แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ๑๒) โครงการบรรพชาสามเณร ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชร กิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราช ของ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ พิธีบรรพชา ณ วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหารกรุงเทพมหานคร และอบรม ณ วัดพุทธปัญญา จังหวัดนนทบุรี ๒ ด้านการเรียนรู้และร่วมกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๑) กิจกรรมศึกษาดูงานชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ณ ศาลพันท้ายนรสิงห์ ร่วมกับชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์จังหวัดสมุทรสาคร


๒๓ ลำดับ โครงการ/กิจกรรม ๒) โครงการปัจฉิมนิเทศให้กับ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ (ฟังบรรยายเกี่ยวกับการออมทรัพย์ของ สหกรณ์ กองการฝึก กองเรีอยุทธการ) ๓) กิจกรรมศึกษาดูงานโครงการลูกพระดาบส จังหวัดสมุทรปราการตามพระราชดำริ มีการสาธิต การเพาะเห็ดนางฟ้า เลี้ยงสัตว์การทำสวนเศรษฐกิจพอเพียง ๔) กิจกรรมชมรมการทำสวนเศรษฐกิจพอพียง ปลูกฝังให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และ นำหลักการทำเกษตรกรรมวิถีพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้มีการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อนำมาประกอบอาหารกลางวัน ๕) โครงการออมทรัพย์ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้รู้จักการออมและวิธีการใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนและหลังสำเร็จการศึกษาเป็นจ่าใหม่ ๓ ด้านคุณธรรมจริยธรรม การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การบำเพ็ญประโยชน์ ๑) กิจกรรมอ่านพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชฯ และบทความทางศีลธรรมทุกวันพฤหัสดีที่มีการแถวใหญ่ ๒) กิจกรรมปลูกฝังระบบเกียรติศักดิ์ให้ ครู/อาจารย์ ลูกจ้าง พนักงานราชการ นักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปี และทหารกองประจำการได้ตระหนักและมีการปฏิบัติเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ๓) โครงการส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนดี เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ตระหนักถึงการช่วยเหลือสังคม การเสียสละเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ๔) โครงการออมทรัพย์ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้รู้จักการออมและวิธีการใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนและหลังสำเร็จการศึกษาเป็นจ่าใหม่ ๕) โครงการโรงเรียนนาวิกเวชกิจปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด โดยมีกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับยา เสพติดและการตรวจหาสารเสพติด ให้กับ นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ผลคือ ตรวจไม่พบสารเสพติด มีการทดสอบความรู้ หลังให้ความรู้ ๖) กิจกรรมชมรมการทำสวนเศรษฐกิจพอพียง ปลูกฝังให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และ นำหลักการทำเกษตรกรรมวิถีพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้มีการ ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อนำมาประกอบอาหารกลางวัน ๗) กิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ตระหนักถึงการ ช่วยเหลือสังคม การเสียสละเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ๘) กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ พัฒนาทำความสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์ อาคาร สถานที่ ภายในโรงเรียน โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และพื้นที่กรมแพทย์ทหารเรือ รวมไปถึงพื้นที่ บริเวณชุมชน วัด โรงเรียน อันเป็นพื้นที่สาธารณะ ๙) โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะความ รับผิดชอบต่อสังคมและมีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม


๒๔ ลำดับ โครงการ/กิจกรรม ๑๐) โครงการเสริมสร้างนักเรียนให้มีภาวะผู้นำ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีภาวะผู้นำและสร้าง จริยธรรมในการเป็นผู้นำ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ๑๑) โครงการพิธีไหว้ครู เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนแสดงความเคารพและระลึกถึงพระคุณของ บูรพาจารย์ และยังมีส่วนโน้มน้าวจิตใจ ให้นักเรียนรักษาคุณงามความดี ๑๒) กิจกรรมการอบรมของนายทหารเวรปกครองประจำวัน หลังแถวเวลา ๒๐๐๐ ๑๓) โครงการครูที่ปรึกษา นักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ๑๔) กิจกรรมจิตอาสาชุดพยาบาลเคลื่อนที่ให้ความรู้และปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องในวันเด็ก แห่งชาติ ณ โรงเรียนนายเรือ ๑๕) กิจกรรมอบรมการต่อต้านทุจริตเรื่อง กฎหมายด้านปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ๑๖) โครงการปฐมนิเทศนักเรียนจ่าใหม่ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๔ ด้านวิชาการและวิชาชีพในแขนงต่าง ๑) โครงการเพิ่มพูนทักษะด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ชั้นปีที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๒) โครงการประกวดนวัตกรรม งานสร้างสรรค์ และสิ่งประดิษฐ์ ของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่า ทหารแพทย์ชั้นปีที่ ๒ ๓) กิจกรรมเสริมความรู้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และส่งเสริม พัฒนาความรู้ด้านปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๔) กิจกรรมทบทวนการฝึกทักษะหัตถการ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๕) กิจกรรมการฝึกงานเสริมนอกเวลาของ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๖) โครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่า ทหารแพทย์ ๗) กิจกรรมเข้าร่วมงานประชุมวิชาการ นาวีวิจัย ประจำปี ๒๕๖๕ ณ หอประชุมกองทัพเรือ ๘) กิจกรรมศึกษาดูงานระบบการทำงานของศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ๕ ด้านกีฬา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สุนทรียภาพ และสิ่งแวดล้อม ๑) กิจกรรมแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนภายใต้ชื่อกิจกรรมว่า Sport day ๒) กิจกรรมโครงการพิธีปลดผ้าคาดเอว นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ เพื่อให้นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี คณะครูได้มีกิจกรรมร่วมกัน ๓) กิจกรรมโครงการสืบสานประเพณีลอยกระทง เพื่อให้ข้าราชการ ลูกจ้าง นักเรียนและพลทหาร ได้ร่วมกิจกรรมที่แสดงออกถึงการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทย


๒๕ ลำดับ โครงการ/กิจกรรม ๔) กิจกรรมโครงการสืบสานประเพณีสงกรานต์ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้บังคับบัญชา ครูอาจารย์ ๕) กิจกรรมชมรมดนตรีไทย การแสดงกลองยาว ซึ่งแสดงถึงการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ๖) โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะความ รับผิดชอบต่อสังคมและมีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ๗) โครงการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย ของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์เพื่อเป็น การพัฒนาสมรรถภาพร่างกายตามเกณฑ์มาตรฐานกำลังพลกองทัพเรือ ๘) โครงการพิธีไหว้ครู เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนแสดงความเคารพ และระลึกถึงพระคุณของ บูรพาจารย์ และยังมีส่วนโน้มน้าวจิตใจ ให้นักเรียนรักษาคุณงาม ความดี ๙) กิจกรรมเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา ณ วัดกระจับพินิจ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ๑๐) โครงการบรรพชาสามเณร ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราช ของ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ พิธีบรรพชา ณ วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหารกรุงเทพมหานคร และอบรม ณ วัดพุทธปัญญา จังหวัดนนทบุรี **********************************


๒๖ ส่วนที่ ๒ มาตรฐานการศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มาตรฐานการศึกษา และค่าเป้าหมายเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (ปรับใหม่) มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ด้านที่ ๑ คุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ ประเด็นที่ ๑.๑ ด้านความรู้ ระดับดีมาก ๑.๑.๑ ความรู้ทางทหาร (ผู้เรียนมีความรู้ทาง ทหารที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาบรรลุตาม เกณฑ์ที่กำหนด และสอดคล้องตามความต้องการของ กองทัพเรือ) ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีผลการเรียนวิชาทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๗๐ ตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการเรียนวิชาการแพทย์ทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๗๐ ๑.๑.๒ คุณลักษณะพลเมืองที่ดี ๑) ผู้เรียนมีคุณลักษณะพลเมืองดีมี ความรู้ทางวิชาการ ความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ภาษาอังกฤษตามที่หลักสูตร และกองทัพเรือ กำหนด ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีค่าเฉลี่ยผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๕๐ (ปรับเป็น ≥ ร้อยละ ๖๐) ตัวชี้วัดที่ ๒ (เดิม) ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการสอบภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ ตามที่กองทัพเรือ กำหนด ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๕๐ ตัวชี้วัดที่ ๒ (ใหม่) ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีคะแนน Post – test ในโครงการ พัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนน Pre-test ต่อจำนวนนักเรียนจ่า


๒๗ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๖๐ ๒) ผู้เรียนมีคุณลักษณะพลเมืองดีมีความรู้ ความสามารถในการ พัฒนาตนเองด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่ มีผลการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศอยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๕๐ (ปรับเป็น ≥ ร้อยละ ๖๐) (เพิ่ม) ตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการเรียนวิชาโครงการพัฒนา สมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๖๐ ๑.๑.๓ ความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษา (ผู้เรียนมี ความรู้ในสาขาวิชาชีพที่ศึกษา มีผลการศึกษาและการ ฝึกปฏิบัติบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรฐาน หลักสูตร) ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีเกรดเฉลี่ยรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ และฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา)อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้น ปีที่ ๑ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๕๐ (ปรับเป็น ≥ ร้อยละ ๖๐) ตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่ มีเกรดเฉลี่ยรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๕๐ (ปรับเป็น ≥ ร้อยละ ๖๐) ๑.๑.๔ ความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนง ที่ศึกษา (ผู้สำเร็จการศึกษา มีความรู้ความสามารถทาง การแพทย์ทหาร สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับ มอบหมาย) ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มี ค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ในสายอาชีพและ ความสามารถในการปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการ ศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐


๒๘ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ประเด็นที่ ๑.๒ ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ ระดับดีมาก ๑.๒.๑ คุณลักษณะทางทหารที่ดี(ผู้เรียนมี คุณลักษณะทหารที่ดีมีทักษะการเป็นผู้นำ) ตัวชี้วัด ที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าที่มี คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐ (เพิ่ม) ตัวชี้วัด ที่ ๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ที่มีคะแนนความประพฤติ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่าทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๑.๒.๒ คุณลักษณะพลเมืองที่ดี ๑) ผู้เรียนมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ตามนโยบายของกองทัพเรือ ตัวชี้วัด (ปรับใหม่) ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าที่ มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับตั้งแต่ A2 ขึ้นไป ต่อจำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ร้อยละ ๕๐ ๒) ผู้สำเร็จการศึกษามีทักษะในการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มี ค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (มีการนำความรู้ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ ได้รับการประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๑.๒.๓ ทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร ผู้สำเร็จการศึกษามีผลการศึกษา ภาคปฏิบัติบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนดและสอดคล้อง ตามมาตรฐานหลักสูตร ตัวชี้วัด (เดิม) ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปี (คะแนน ช่อง ง* ผลการปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ในแบบ ยศ.๕) ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐ ตัวชี้วัด (ปรับใหม่) ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีที่มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปี การศึกษา (คะแนน ช่อง ซ* ผลการปฏิบัติตลอดปี การศึกษา ในแบบ ยศ.๕) ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐


๒๙ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ๑.๒.๔ ทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารใน แขนงที่ศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถประยุกต์ไซ้ ความรู้ทางทหารของตนที่ได้จากการศึกษาตาม หลักสูตรฯในการปฏิบัติ งานได้ตามภารกิจที่ได้รับ มอบหมาย ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มี ค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ความเช้าใจ และสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อ บรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จ การศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ประเด็นที่ ๑.๓ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ระดับดีมาก ๑.๓.๑ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่ พึงประสงค์ ๑) ด้านคุณลักษณะทหารที่ดี(ผู้สำเร็จ การศึกษา มีระเบียบ วินัย มีความอดทนอดกลั้น มี คุณธรรมจริยธรรม จงรักภักดีต่อประเทศชาติ และ สถาบันพระมหากษัตริย์) ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าที่มีคะแนน ประจำตัวนักเรียนทหาร (ผลรวมของคะแนนความ เหมาะสมในการเป็นทหารและคะแนนความ ประพฤติ) ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐ ตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ มีค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมให้มีคุณลักษณะทางทหาร และด้าน ความรักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์และการ ปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวน ผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒) ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี(ผู้สำเร็จ การศึกษามีจรรยาบรรณ วิชาชีพ เจตคติและกิจนิสัยที่ดี ภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ชองชาติไทย เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่น มีความรับผิดชอบตามบทบาท หน้าที่ชองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสาธารณะและ ความรับผิดชอบต่อสังคม และมีจิตสำนึกรักษ์ ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ มีค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ใฝ่เรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพ ชีวิตอยู่ ร่วมในสังคมได้อย่ามีความสุข และด้านเป็นคนดี รู้จักเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ≥ ๓.๕๑ จาก คะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับ


๓๐ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย สิ่งแวดล้อม) การประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย: ≥ ร้อยละ ๘๐ ๑.๓.๒ ผลสัมฤทธิ์ของการจัดกิจกรรมเสริม หลักสูตร (ผู้เรียนได้รับการ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ เช้าร่วมกิจกรรมด้านการรักชาติเทิดทูนพระมหา กษัตริย์ส่งเสริมการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การเรียนรู้และร่วม กิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียง และโครงการอันเนื่องมา จากพระราชดำริกิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม การใช้ ชีวิตร่วมกับผู้อื่น การบำเพ็ญประโยชน์กิจกรรมทาง วิชาการและวิชาชีพในแขนงต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรม กีฬา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สุนทรียภาพ และ สิ่งแวดล้อม) ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่าที่มีค่าเฉลี่ย ผลประเมินความพึงพอใจกิจกรรมเสริมหลักสูตร ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าที่ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ประเด็นที่ ๑.๔ ด้านความพึงพอใจที่มีต่อคุณภาพ ของผู้สำเร็จการศึกษา ระดับดีมาก มีการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือผู้ ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษา และกระบวนการ ประเมิน มีความน่าเชื่อถือ ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มี ค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจในภาพรวมของ หน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ≥ ๓.๕๑ จาก คะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับ การประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ด้านที่ ๒ การจัดการศึกษา ประเด็นที่ ๒.๑ ด้านหลักสูตร ระดับดีเยี่ยม ๒.๑.๑ การกำหนดกระบวนวิชา และกิจกรรม การพัฒนาวิชาการ/วิชาชีพ และกิจกรรมพัฒนา คุณลักษณะที่พึงประสงค์ไว้ในหลักสูตร หรือใน แผนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับ เกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง โดยความเห็นชอบของหน่วยต้นสังกัด และหน่วยควบคุมการศึกษา ตัวชี้วัด มีการปรับปรุงหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์ที่ใช้ในการผลิตนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ได้รับความเห็นชอบจากกรมยุทธ ศึกษาทหารเรือ (ยศ.ทร.) การรับรองจากสถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) คณะกรรมการ อาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน ค่าเป้าหมาย : ได้รับความเห็นชอบจาก กรมยุทธ


๓๑ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ศึกษาทหารเรือ (ยศ.ทร.) ได้รับการรับรองจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) คณะกรรมการอาชีวศึกษา และสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ๒.๑.๒ การส่งเสริมให้หน่วยต้นสังกัดและหน่วย ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมในการ พัฒนาหลักสูตร และการ พัฒนาการเรียนการสอน/การฝึก ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการจัดประชุมคณะกรรมการ สถานศึกษา ค่าเป้าหมาย : ≥ ๑ ครั้ง/ปีการศึกษา ๒.๑.๓ การส่งเสริมให้ครู อาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษามีส่วนร่วม ในการพัฒนาหลักสูตร และ การพัฒนาการเรียนการสอน/การฝึก ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการจัดประชุมคณะกรรมการ บริหารหลักสูตร ค่าเป้าหมาย : ≥ ๘ ครั้ง/ปีการศึกษา ๒.๑.๔ การส่งเสริมให้มีการทบทวนและ ปรับปรุงสาระวิชาให้ทันสมัย และสอดคล้องกับการ นำไปใช้งานจริงเมื่อสำเร็จการศึกษา โดยมีอาจารย์ หน่วยต้นสังกัด และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา มีส่วนร่วม ตัวชี้วัด วงรอบในการพัฒนาปรับปรุงสาระวิชา ให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงชอง เทคโนโลยี สภาวการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องกับ ความต้องการของผู้เรียน หน่วย ต้นสังกัดและ หน่วยผู้ใช้ ค่าเป้าหมาย : ทุก ๓ ปี (ปรับเป็น ทุก ๕ ปี) ประเด็นที่ ๒.๒ ด้านการจัดการเรียนการสอน ระดับดีมาก ๒.๒.๑ คุณภาพในการจัดการเรียนการสอนรายวิชา การฝึกอบรมและพัฒนาคุณลักษณะทหารที่พึงประสงค์ ๑) กำหนดการจัดการเรียนการสอนรายวิชา การฝึกอบรมและพัฒนาคุณลักษณะทหารที่พึงประสงค์ มี การจัดทำแนวทางการสอนและการฝึกศึกษาในด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการ สอนรายวิชาตลอดภาคการศึกษา และดำเนินการตาม แนวทางหรือดำเนินการสอนตามข้อกำหนดทางการศึกษา ที่กำหนดได้อย่างครบถ้วน ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนแผนการจัดการเรียนรู้/ แผนการสอนรายวิชา และแผนการฝึกปฏิบัติ ที่ได้ จัดทำอย่างเป็นรูปธรรม ต่อจำนวนรายวิชาทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๙๐ ๒) การจัดครูผู้สอนและครูฝึกมีคุณวุฒิ การศึกษา และมีจำนวนตามเกณฑ์ที่กำหนด ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้สอนและครูฝึกที่มี คุณวุฒิการศึกษา ต่อจำนวนผู้สอนและครูฝึกทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ร้อยละ ๑๐๐ ๓) การใช้สื่อและเครื่องมือสนับสนุนการ สอนและการเรียนรู้ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ ลักษณะวิชาและการฝึกศึกษา ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนรายวิชาที่มีค่าเฉลี่ยผล การประเมินความพึงพอใจการจัดการเรียนการสอน ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนรายวิชา


๓๒ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๔) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่ สอดคล้องกับแนวทางการสอน และวัตถุประสงค์ของ การศึกษารายวิชากับข้อกำหนดในหลักสูตร และ วัตถุประสงค์ของการฝึกศึกษา ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนรายวิชาที่มีการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้โดยใช้มาตรฐานการออก ข้อสอบ (Test Blueprints) และแบบประเมินการ ฝึกปฏิบัติต่อจำนวนรายวิชาทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๕) การประเมินผลการสอนของครูอาจารย์ ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการประเมินผลการปฏิบัติ ในการฝึกศึกษาและพัฒนาคุณลักษณะทหารที่พึง ประสงค์ ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนครูผู้สอนที่มีค่าเฉลี่ย ผลการประเมินการสอน ≥ ๓.๕๑ จากคะแนน เต็ม ๕ คะแนน ต่อจำนวนครูผู้สอนทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒.๒.๒ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนเข้าร่วมจัด กิจกรรมเสริมหลักสูตร ตามแผนการจัดการศึกษาที่ เหมาะสม อย่างเพียงพอและหลากหลาย ตัวชี้วัดที่ ๑ จำนวนครั้งที่มีการจัดกิจกรรม/ โครงการการส่งเสริมกิจกรรมด้านการรักชาติ เทิดทูน พระมหากษัตริย์ ส่งเสริมการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรง เป็นประมุข ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี ตัวชี้วัดที่ ๒ จำนวนครั้งที่มีการจัดกิจกรรม/ โครงการการส่งเสริมการเรียนรู้และร่วมกิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียง และโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี ตัวชี้วัดที่ ๓ จำนวนครั้งที่มีการจัดกิจกรรม/ โครงการส่งเสริมกิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม การใช้ ชีวิตร่วมกับผู้อื่น และการบำเพ็ญประโยชน์ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี(ปรับ ≥ ๕ ครั้ง/ปี) ตัวชี้วัดที่ ๔ จำนวนครั้งที่มีการจัดกิจกรรม/ โครงการการส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการและ วิชาชีพในแขนงต่าง ๆ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี ตัวชี้วัดที่ ๕ จำนวนครั้งที่มีการจัดกิจกรรม/ โครงการการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา ศาสนา


๓๓ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ศิลปวัฒนธรรม สุนทรียภาพ และสิ่งแวดล้อม ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี(ปรับเป็น ≥ ๕ ครั้ง/ปี) ๒.๓ ด้านการบริหารจัดการ ระดับดีมาก ๒.๓.๑ คุณภาพในการบริหารจัดการด้าน บุคลากร ๑) การบรรจุครูอาจารย์และบุคลากร ทาง การศึกษาที่เหมาะสม เพียงพอ โดยไม่เป็น อุปสรรคต่อการเรียนการสอน และการปฏิบัติงานด้าน การศึกษาของสถานศึกษา ตัวชี้วัด อัตราส่วนจำนวนครูอาจารย์ต่อจำนวน ผู้เรียน ค่าเป้าหมาย : ๑ : ≤ ๘ ๒) การบรรจุครูอาจารย์และบุคลากร ทาง การศึกษาที่มีคุณวุฒิ หรือมีทักษะที่ตรงตาม ประเภทวิชา สาชาวิชา สาขางาน หรือแขนงงานที่ รับผิดชอบ ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนครูอาจารย์ประจำมี คุณวุฒิการศึกษาหรือทักษะตรงตามสาขาวิชาที่ สอน ต่อจำนวนครูอาจารย์ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ร้อยละ ๑๐๐ ๓) ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษา ได้รับการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ทักษะการสอน และศักยภาพของครูอาจารย์และ บุคลากรทางการศึกษา ด้วยกิจกรรมและวิธีการต่าง ๆ ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนครูอาจารย์ประจำได้รับ การเพิ่มพูนความรู้สำหรับนำมาพัฒนาการเรียน การสอน ≥ ๒๐ ชั่วโมง/ปี ต่อจำนวนครูอาจารย์ ประจำทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๔) ครูอาจารย์และบุคลากรทางการ ศึกษาได้รับการส่งเสริมให้ผลิตผลงานทางวิชาการหรือ สร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ในการศึกษา หรือการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนครูอาจารย์ประจำ ที่มีผลงานทางวิชาการ นวัตกรรม งานสร้างสรรค์ และหรือนำมาใช้ประโยชน์ในการศึกษา ต่อจำนวน ครูอาจารย์ประจำทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๒ (ปรับเป็น ≥ ร้อยละ ๕) ๕) การยกย่องเชิดชูครู อาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษาที่มี ผลงานหรือมีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตนได้บรรลุ วัตถุประสงค์และเป้าหมายในงานที่รับผิดชอบได้รับ การยกย่องเชิดชูและประกาศเกียรติคุณ ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการยกย่องเชิดชูครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีผลงานหรือมีความ มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติงาน ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี ๒.๓.๒ การบริหารจัดการด้านทรัพยากร เกื้อหนุนการศึกษา เพียงพอ พร้อมใช้ เมื่อเทียบกับ จำนวนผู้เรียน มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแขนงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ มีการ ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนงบประมาณ ประจำปีที่สนับสนุนการจัดหาสื่อและเครื่องมือ สนับสนุนการสอน การเรียนรู้ และการฝึกศึกษา ต่อจำนวนงบประมาณประจำปีทั้งหมด (ไม่รวมเบี้ย


๓๔ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย กำหนดมาตรการบำรุงรักษา และการประเมินผล การ ใช้ทรัพยากร และนำผลประเมินไปปรับปรุง/พัฒนา เลี้ยงเงินเดือนของครูอาจารย์และ นักเรียน) ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๔ ตัวชี้วัดที่ ๒ ร้อยละของจำนวนผู้ประเมิน (ครู อาจารย์ผู้สอน ผู้เรียน) ที่มีค่าเฉลี่ยผลประเมิน ความ พึงพอใจของผู้ใช้บริการทรัพยากรสนับสนุน การเรียนรู้ ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวน ผู้ประเมินทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒.๓.๓ คุณภาพในการดำเนินการประกันคุณภาพ ภายใน ๑) การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา และจัดทำ แผนพัฒนาการจัดการศึกษาที่ มุ่งเน้นคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ตัวชี้วัด การจัดทำมาตรฐานการศึกษาของสถาบัน ค่าเป้าหมาย : มีมาตรฐานการศึกษาของสถาบัน สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับอาชีวศึกษา และตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพ และ ได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารสถานศึกษา ๒) มีการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการ จัดการศึกษาของสถานศึกษา ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนตัวชี้วัดในแผนปฏิบัติ ราชการประจำปีที่บรรลุตามค่าเป้าหมายที่กำหนด ต่อจำนวนตัวชี้วัดในแผนปฏิบัติราชการประจำปี ทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๓) ติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา และจัดให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนประเด็นการพิจารณา ที่มีผลประเมินคุณภาพในรายงานการประเมิน ตนเอง อยู่ในระดับดีมากขึ้นไป ต่อจำนวนประเด็น การพิจารณาทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๔) การจัดทำรายงานประจำปีที่เป็น รายงานประเมินคุณภาพภายใน ตัวชี้วัดระยะเวลาในการจัดทำรายงานประจำปี (Annual Report) แล้วเสร็จ ค่าเป้าหมาย : ภายใน มิถุนายน ๕) มีการทบทวนผลการดำเนินงานและ ผลการประเมินคุณภาพการศึกษา (ผลการประเมิน คุณภาพภายในและผลการประเมินคุณภาพภายนอก) ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนข้อเสนอแนะจากผลการ ประเมินคุณภาพภายใน และหรือผลการประเมิน คุณภาพภายนอกในรอบที่ผ่านมา ที่ได้รับการปรับปรุง


๓๕ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการศึกษา ต่อจำนวนข้อเสนอแนะทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒.๔ ด้านการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ระดับดีมาก ๒.๔.๑ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา มีความรู้และความเข้าใจ ใน จุดมุ่งหมายและคุณลักษณะของการศึกษา และปัจจัย เกี่ยวข้องกับการศึกษาในหลักสูตร ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีความรู้ และความเข้าใจจุดมุ่งหมายและคุณลักษณะของ การศึกษา และปัจจัยเกี่ยวข้องกับการศึกษาใน หลักสูตร ต่อจำนวนผู้บริหารสถานศึกษาครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒.๔.๒ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา มีความรู้และความเข้าใจใน ความคาดหวังหรือความต้องการของกระทรวง กลาโหม/ กองทัพเรือ ต่อผลผลิตของกระบวนการฝึกศึกษาของ สถานศึกษา ตัวชี้วัด ร้อยละของจำนวนผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีความรู้ และความเข้าใจในความคาดหวังหรือความต้องการ ของกระทรวงกลาโหม/กองทัพเรือ ต่อผลผลิตของ กระบวนการฝึกศึกษาของสถานศึกษา ต่อจำนวน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์และบุคลากร ทางการศึกษาทั้งหมด ค่าเป้าหมาย : ≥ ร้อยละ ๘๐ ๒.๔.๓ กำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย กลยุทธ์ แผนงาน วัตถุประสงค์และ เป้าหมาย ในการดำเนินงาน ของสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม และถ่ายทอดไปสู่ การปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตัวชี้วัด การจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี ค่าเป้าหมาย : มีแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ นโยบาย แผนยุทธศาสตร์ ของหน่วยเหนือ และรองรับกับมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษา ๒.๔.๔ ส่งเสริม ควบคุม ติดตาม และสนับสนุน การปฏิบัติงานตาม นโยบายและแผนงานที่กำหนด และ ตรวจสอบความสำเร็จหรือการบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของแผนงานหรือกิจกรรมหลัก ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการกำกับติดตามผลการ ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี ๒.๔.๕ การประเมินผลการดำเนินงานและ การเรียนรู้ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ตัวชี้วัดที่ ๑ ร้อยละของจำนวนกิจกรรม/โครงการ ในแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่ได้รับการประเมินผล ต่อจำนวนกิจกรรม/โครงการในแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีทั้งหมด


๓๖ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ค่าเป้าหมาย : ร้อยละ ๑๐๐ ตัวชี้วัดที่ ๒ จำนวนข้อเสนอแนะจากผลการประเมิน กิจกรรม/โครงการที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไข ค่าเป้าหมาย : ≥ คิดเป็นร้อยละ๘๐ มาตรฐานที่ ๓ ด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ประเด็นที่ ๓.๑ ด้านความร่วมมือในการสร้างสังคม แห่งการเรียนรู้ ระดับดีมาก ๓.๑.๑ การประสานกับหน่วยต้นสังกัดและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา เพื่อร่วมกัน พิจารณาแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตัวชี้วัด จำนวนหน่วยงานที่มีการประสานความ ร่วมมือกับสถานศึกษา เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทาง การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ค่าเป้าหมาย : ≥ ๓ หน่วยงาน/ปี ๓.๑.๒ การประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน/ ภายนอกกองทัพเรือ เพื่อสนับสนุนการศึกษา การ เรียนการสอน การเพิ่มพูนความรู้ การฝึกทักษะ การ ฝึกงาน และ การสนับสนุนทรัพยากรทางการศึกษา กระบวนการเรียนรู้ การบริการทางวิชาการและ วิชาชีพ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาผู้เรียน และคนในชุมชนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จำนวนหน่วยงานภายนอกที่มีการประสาน ความร่วมมือกับสถานศึกษา เพื่อสนับสนุนการศึกษา การเรียนการสอน การเพิ่มพูนความรู้ การฝึกทักษะ การฝึกงาน และ การสนับสนุนทรัพยากรทางการ ศึกษา กระบวนการเรียนรู้ การบริการทางวิชาการ และวิชาชีพ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อพัฒนา ผู้เรียนและคนในชุมชนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๕ หน่วยงาน/ปี (ปรับเป็น ≥ ๑๐ หน่วยงาน/ปี) ๓.๑.๓ การร่วมกลุ่มหรือร่วมเครือข่ายความ ร่วมมือกับสถานศึกษาอื่น ๆ หรือองค์กรวิชาชีพอื่น ๆ ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการจัดกิจกรรมสร้างความ ร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับเครือข่ายหรือ สถานศึกษาอื่น ๆ หรือองค์กรวิชาชีพอื่น ๆ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๕ ครั้ง/ปี ๓.๑.๔ การให้ข้อมูลและข่าวสารแก่หน่วยต้น สังกัดและหน่วยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อสร้างความ เข้ าใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการศึกษาของ สถานศึกษา ตัวชี้วัด จำนวนครั้งในการเผยแพร่ข้อมูลและ ข่าวสารแก่หน่วยต้นสังกัดและหน่วยที่เกี่ยวข้อง อื่น ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ ดีต่อการศึกษาของสถานศึกษา ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ครั้ง/ปี


๓๗ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา และเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ประเด็นที่ ๓.๒ ด้านนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งาน สร้างสรรค์ งานวิจัย ระดับดีเยี่ยม ๓.๒.๑ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียน มีการจัดทำ นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ งานวิจัย ตัวชี้วัด จำนวนการจัดทำชิ้นงานของครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และ ผู้เรียน ค่าเป้าหมาย : ≥ ๕ ชิ้น/ปี ๓.๒.๒ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนนำเสนอผลงานใน เวทีต่าง ๆ ตัวชี้วัด จำนวนชิ้นงานของครูอาจารย์ บุคลากร ทางการศึกษา และผู้เรียน ที่นำเสนอผลงานในเวที ต่าง ๆ ค่าเป้าหมาย : ≥ ๒ ชิ้น/ปี ๓.๒.๓ มีการนำนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งาน สร้างสรรค์ งานวิจัย มาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ และนำไปใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งเผยแพร่ สู่สาธารณชน ตัวชี้วัด จำนวนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งาน สร้างสรรค์ งานวิจัย ที่นำไปใช้ประโยชน์ หรือ นำไปใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งเผยแพร่สู่ สาธารณชน ค่าเป้าหมาย : ≥ ๑ ชิ้น/ปี(ปรับเป็น ≥ ๒ ชิ้น/ปี)


๓๘ ส่วนที่ ๓ การติดตามข้อเสนอแนะจากผลประเมินที่ผ่านมา ในการติดตามข้อเสนอแนะของผลประเมินที่ผ่านมา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรม แพทย์ทหารเรือ ได้นำผลการประเมินคุณภาพภายนอก จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา องค์การมหาชน (สมศ.) ที่ได้ทำการประเมินเมื่อวันที่ ๒๕ - ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๒ ซึ่งมีจำนวน ๕ ข้อ และนำผลการประเมินจากรายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ที่คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้ทำ การประเมินเมื่อวันที่ ๑๓ – ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ ซึ่งมีจำนวน ๒ ข้อ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้มีการ ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาตามข้อเสนอแนะในการพัฒนา ดังนี้ ๒.๑ การติดตามการนำข้อเสนอแนะจากผลประเมินภายนอกที่สถานศึกษาต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะในการพัฒนา (ข้อเสนอแนะในภาพรวม) ซึ่งมีจำนวน ๕ ข้อ และได้มีการนำข้อเสนอแนะจากผลประเมินภายนอกมาทบทวนและพัฒนาได้ครบทั้ง ๕ ข้อ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ดังนี้ จากการประเมินคุณภาพภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา องค์การมหาชน (สมศ.) เมื่อวันที่ ๒๕ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และการประเมินคุณภายภายใน โรงเรียน นาวิก เวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ – ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ พบว่า โรงเรียนนาวิเวชกิจ ได้มีการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาตามข้อเสนอแนะจากรายงานผล การประเมินคุณภาพภายนอก ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑ และจากรายงานการประเมินตนเอง (SelfAssessment Report : SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ดังนี้ ข้อเสนอแนะจากรายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอก (สมศ.) ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง ๑. การป้องกันปัญหาผู้เรียน ออกกลางคัน (Drop Out) แนวทางการดำเนินงาน : สถานศึกษาจัดกิจกรรมการ ป้องกันปัญหาการออกกลางคัน เช่น จัดทำระบบดูแลช่วยเหลือ ผู้เรียนที่มีประสิทธิภาพ จัด กิจกรรมครูพบผู้ปกครอง - ปีการศึกษา ๒๕๖๒ มีนักเรียนลาออกไปศึกษา ยังสถาบันอื่น จำนวน ๑ นาย โดยเข้าศึกษาต่อ ในคณะพยาบาลศาสตร์ ได้ทุนจังหวัดซึ่งผู้ปกครอง นักเรียนมาลาออก โรงเรียนนาวิกเวชกิจไม่สามารถ ทักท้วงได้เพราะเป็นความเจริญก้าวหน้าของ นักเรียน และในปีการศึกษา ๒๕๖๓ มีนักเรียน การลาออก จำนวน ๑ นาย เพื่อไปศึกษาในสถาบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการสนับสนุนจาก ผู้ปกครองที่เป็นข้าราชการตำรวจ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีนักเรียนการลาออก จำนวน ๔ นาย - หนังสือรายงานผล การดำเนินโครงการครู ที่ปรึกษา - ตารางสอนระบุเวลา ผู้บังคับบัญชา - กลุ่มไลน์นักเรียน


๓๙ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง และปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน ๑ นาย เพื่อไป ศึกษาในระดับอุดมศึกษาในสถาบันอื่น เนื่องจาก ผู้ปกครองสนับสนุน ในส่วนของการออกกลางคัน จากสาเหตุอื่น ไม่พบ - สถานศึกษา มีโครงการครูที่ปรึกษา มีการจัด เวลาพบครูที่ปรึกษา และช่องทางสื่อสารต่าง ๆ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก และมีชั่วโมงผู้บังคับบัญชา เพื่อ เป็นการดูแลเอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิด รับทราบ ปัญหาและชี้นำแนวทางการแก้ไขปัญหา มีจัด กิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนรักสถาบันและแนวทาง การพัฒนาตนเอง ความก้าวหน้าในสายอาชีพ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ทางโรงเรียนได้จัดให้มี นักจิตวิทยาจากกองสุขภาพจิตและบำบัดยา เสพติด โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ เข้าร่วม อยู่ในกลุ่มไลน์ของนักเรียนจำนวน ๒ ท่าน ร่วมกับครูที่ปรึกษา เพื่อคอยช่วยเหลือนักเรียน และให้คำปรึกษาสำหรับนักเรียนที่มีปัญหา ทางด้านจิตใจ ความเครียด การปรับตัว และ ผู้ที่ต้องการขอคำปรึกษาด้านอื่น ๆ อีกด้วย ๒. พัฒนาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัลในการ บริหารจัดการสถานศึกษา แนวทางการดำเนินงาน: สถานศึกษาจัดทำระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ บริหารจัดการฝึกอบรม โดย บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติงาน ประจำปี - ได้ติดตั้งระบบ Wi-Fi ให้มีความเร็วและทั่วถึง เพื่อรองรับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพิ่ม จุดกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่ของ โรงเรียน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเรียนการสอนใน ห้องเรียนทั้ง ๒ ห้องเรียน ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนได้นำเสนอทางกรมแพทย์ทหารในการ เพิ่มจุดสัญญาณ และได้รับการสนับสนุนเพิ่มจุด สัญญาณได้ ๒ จุด - มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแขนงต่าง ๆ เพื่อ เพิ่มประสิทธิผลของการเรียนรู้ เช่น การจัดการ เรียนสอนแบบออนไลน์โดยใช้โปรแกรม Zoom, Microsoft meeting และมีการจัดการชั้นเรียน - หนังสือระเ บี ยบ การใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก Tablet - เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก จำนวน ๓๐ เครื่อง และภาพถ่าย การรับมอบ - จุดสัญญาณ Wi-Fi - ห้องเรียนชั้นปีที่ ๑ และชั้นปีที่ ๒


๔๐ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง โดยใช้โปรแกรม Google Classroom และการ ประเมินต่าง ๆ แบบออนไลน์ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้อนุญาตให้นักเรียน นำ Tablet มาใช้ประกอบการเรียนได้ และได้รับ การสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจาก มูลนิธิจุมภฎพันธุ์ทิพย์ จำนวน ๓๐ เครื่อง และ ได้รับเงินสนับสนุนจากศิษย์เก่าในการปรับปรุง ห้องเรียน สื่อ โสต ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเรียนได้มากขึ้น ๓. พัฒนาการเรียนการสอน เน้นวิธีการเรียนรู้แบบ Active Learning แนวทางการดำเนินงาน: จัด กิจกรรมฝึกอบรมให้กับ ครูผู้สอน เพื่อจัดทำแผนการ เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น ศูนย์กลาง - ได้ปรับรูปแบบกิจกรรมการเรียน การสอนโดย เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ และใช้กระบวนการความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียน ได้กระทำลงไป เช่น การฝึกแบบบูรณาการ สถานการณ์จำลอง โดยผู้เรียนต้องใช้องค์ความรู้ ต่าง ๆ ที่ได้จากการเรียน และการศึกษาด้วยตนเอง มาแก้ปัญหาตามโจทย์สถานการณ์ต่าง ๆ การจัด สภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการ ร่วมมือในกลุ่มผู้เรียนโดยจัดให้ผู้เรียนรวมกลุ่มเพื่อ คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ และนวัตกรรมต่าง ๆ - ส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า และเรียนรู้ด้วย ตนเองโดยการจัดหา Tablet ให้ผู้เรียน - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้อนุญาตให้ผู้เรียนนำ อุปกรณ์สื่อสารของตนเอง เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และ Tablet มาใช้ในการ เรียนรู้ได้รวมไปถึงการจัดทำเอกสารประกอบ การเรียนการสอนแบบ E-Book นักเรียน สามารถเข้าไปโหลดเอกสารมาศึกษาได้ด้วย ตนเองตลอดเวลาโดยสามารถโหลดได้จาก เว็บไซต์ของโรงเรียน - หนังสือระเบียบการ ใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก Tablet - เว็บไซต์ของโรงเรียน ๔ . พ ั ฒ น า ร ะ บ บ บ ร ิ ห า ร สถานศึกษาคุณธรรมโดย - ได้จัดกิจกรรมให้มีการอบรมประจำวัน โดย นายทหารเวรปกครอง ในเรื่องของระเบียบวินัย - ปูมรายงานนายทหาร เวร - เว็บไซต์ของโรงเรียน


Click to View FlipBook Version