๔๑ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง การบูรณาการการเรียนรู้ผ่าน ระบบเทคโนโลยี แนวทางการดำเนินงาน: สถานศึกษาพัฒนาระบบ และ รูปแบบการบริหารสถานศึกษา คุณธรรม และพัฒนาคู่มือการ บริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการประชุมครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาให้ เข้าใจในทางปฏิบัติ คุณธรรม จริยธรรม และใช้ระบบเกียรติศักดิ์ใน การปกครองบังคับบัญชา - จัดทำโครงการส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนดี เสียสละ และมีน้ำใจแก่ผู้อื่น เช่น การบริจาค โลหิต การพัฒนาภูมิทัศน์ของโรงเรียน และ ชุมชน การบริการวิชาการต่าง ๆ - มีการอบรมเรื่องการต่อต้านการทุจริตให้ครู และนักเรียนจ่าในรายวิชา จริยธรรมวิชาชีพและ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และในบทเรียนได้สอดแทรก เนื้อหาเกี่ยวกับโรงเรียนคุณธรรมเข้าไปให้นักเรียน ได้เรียนรู้เพิ่มเติมอีกด้วย - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้จัดทำรายงานผล การเรียน และความประพฤติ ให้ผู้ปกครองและ นักเรียนทราบทางระบบสารสนเทศของโรงเรียน โดยสามารถเข้าดูได้เฉพาะส่วนบุคคลเท่านั้น - ภาพถ่ายต่าง ๆ ๕. พัฒนานวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และงานสร้างสรรค์ในระดับ ชาติ ที่โดดเด่น เป็น Best Practice สู่ระดับนานาชาติ แนวทางการดำเนินงาน: สถานศึกษาจัดการเรียนการ สอนผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ พัฒนาระบบการ เรียนการสอนสู่โ ล ก แ ห่ ง นวัตกรรมการเรียนรู้ เผยแพร่ ผลงานในระดับนานาชาติ - ได้จัดให้มีการอบรมครู/อาจารย์ เรื่อง การทำ วิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียน และมี เงินทุนสนับสนุนงานสร้างนวัตกรรมให้กับนักเรียน สนับสนุนการนำสิ่งประดิษฐ์ เข้าประกวดเวทีต่าง ๆ เช่น สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ (สวพ.ทร.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน และงานประชุมวิชาการและวิจัยระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นต้น -ส่งเสริมให้ครูอาจารย์ประจำโรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีผลงานทางวิชาการที่นำไปใช้ประโยชน์ในการ จัดการเรียนการสอนทุกปีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผลงานวิชาการ ดังนี้ สิ่งประดิษฐ์เรื่อง “Application Guideline and Recorded CPR แอปพลิเคชันแนวทางและการบันทึกการช่วยฟื้น คืนชีพ” ได้เข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวดรางวัล ยกย่องเกียรติคุณนักวิจัยของ กองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๕ และ ผลงานด้านหลักการ เรื่อง - โล่รางวัลชมเชย - วารสารแพทย์นาวี ฉบับที่ ๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ - เว็บไซต์ของโรงเรียน
๔๒ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง “การพัฒนาแบบวัดความสามารถในการฟื้นฟูพลัง ที่คำนึงถึงการตอบตามความปรารถนาของสังคม สำหรับนักเรียนนาวิกเวชกิจ” ได้เข้าร่วมส่งผล งานเข้าประกวดรางวัลยกย่องเกียรติคุณนักวิจัย ของกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๕ ในส่วนของครู/ อาจารย์ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ มีจำนวนผลงานทั้งหมด ๗ เรื่อง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดการ เรียนการสอน ทั้ง ๗ เรื่อง ได้รับการตีพิมพ์/ เผยแพร่ จำนวน ๗ เรื่อง และส่งเข้าประกวดหรือ นำเสนอในเวทีต่าง ๆ จำนวน ๒ เรื่อง - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนได้รับรางวัล ชมเชยระดับประเทศ ของสมาคมแพทย์ทหาร แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง NOMS Disaster Management แอปพลิเคชัน และครูได้รับการตีพิมพ์ผลงานวิจัยระดับ TCI 1 จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง ผลการเรียนกับการรับรู้สมรรถนะการปฏิบัติ การฉุกเฉินทางน้ำและทะเลของนักเรียนจ่า หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ โรงเรียน นาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ (ตีพิมพ์วารสารแพทย์นาวี ฉบับที่ ๓ ประจำปี ๒๕๖๕) และวิจัยเรื่อง การพัฒนา แบบวัดความสามารถในการฟื้นพลัง ที่คำนึงถึง การตอบตามความปรารถนาของสังคม สำหรับ นักเรียนพยาบาลทหาร (วิทยานิพนธ์) ตีพิมพ์ วารสารพยาบาลทหารบก (TCI 1)
๔๓ ข้อเสนอแนะจากรายงานผลการประเมินตนเอง (ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓) ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง ๑. วิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ ผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการ แพทย์ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด ต่อเนื่องติดต่อกันมาสองปี และ กำหนดแนวทางพัฒนาความรู้ ให้นักเรียนมีผลการเรียนที่สูงขึ้น เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ไว้ในมาตรฐานการศึกษา - ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ จากการวิเคราะห์สาเหตุ พบว่า นักเรียนมีการเรียนการสอนในรูปแบบ ออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ความสนใจ น้อยลง ขาดทักษะในบางหัวข้อ เช่น การสนทนา รายบุคคลและมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาตาม นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้รับผิดชอบรายวิชา ได้ดำเนินการแก้ไขโดย จัดครูเข้าควบคุม สังเกตการณ์ขณะเรียนออนไลน์ จัดกิจกรรมเสริม ทักษะ เช่น จัดทำคลิป VDO การสนทนาภาษาอังกฤษ พูดคุยสนทนากับครูที่ปรึกษา - ยังคงจัดให้มีโครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพ ด้านภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง โดยปรับมาให้ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ เป็นผู้เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากในชั้นปีที่ ๒ ไม่มีการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ยังคงดำเนินการจัด ให้มีโครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้าน ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง และผ่านเกณฑ์ ภาษาอังกฤษที่กองทัพเรือกำหนดทุกนาย - หนังสือรายงานผล การดำเนินงานโครงการ พัฒนาเสริมสร้างศักยภาพ ด้านภาษาอังกฤษ - หนังสือรายงานผล การสอบภาษาอังกฤษ ตามที่กองทัพเรือกำหนด ๒. ในภาพรวมพบว่ามีหลาย วิชาที่มีผลการเรียนลดลงอย่าง ต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งอาจเนื่อง มาจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ จึงควรวิเคราะห์ ผลการเรียนในแต่ละรายวิชา ในแบบ ยศ.๕ ว่ามีวิชาใดอีก - โดยกำหนดให้ครูผู้สอนและผู้รับผิดชอบรายวิชา วางแผนปรับรูปแบบการเรียนการสอนและการ ประเมินผลให้สอดคล้องกับ สถาณการณ์ปัจจุบัน ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่มีอยู่ และนำข้อเสนอแนะของทั้งนักเรียน ครูผู้สอน และผู้รับผิดชอบรายวิชาจากปีการ ศึกษา ๒๕๖๓ มาปรับแก้และพัฒนารูปแบบการ เรียนการสอนที่เหมาะสม โดยได้มีการดำเนินการ
๔๔ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและ กำหนดแนวทางและมาตรการ ป้องกันเป็นที่รูปธรรม ประชุมนำเสนอรายละเอียดวิชาก่อนเปิดภาคเรียน ในทุกรายวิชา - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ สถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ลดลงอย่างต่อเนื่องและสามารถจัดการเรียน การสอนได้อย่างปกติ ๓. เนื่องจากนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีคะแนนความเหมาะสม ทางทหาร ≥ ๘๐ จำนวนลดลง อย่างมาก (จากร้อยละ ๑๐๐ เหลือ ๔๑.๙๔) โรงเรียนนาวิก เวชกิจ ควรวิเคราะห์หาสาเหตุ เพื่อกำหนดมาตรการหาแนวทาง แก้ไขต่อไป - โดยกำหนดให้ครูฝึก ดำเนินการจัดกิจกรรม ส่งเสริมคุณลักษณะทางทหารเพิ่มจากเดิมได้แก่ โครงการครูที่ปรึกษา กิจกรรมพี่เลี้ยง (พี่บัดดี้) และยังคงดำเนินการจัดโครงการพัฒนาทักษะ ทางทหารและภาวะผู้นำ การสอนเสริมนอกเวลา ในหัวข้อที่นักเรียนไม่เข้าใจ และต้องการให้สอน เสริม รวมไปถึงการฝึกทางทหารในห้วงเวลาของ ผู้บังคับบัญชาทั้งช่วงเช้าและเย็น - ปรับปรุงรูปแบบวิธีการประเมินโดยให้นักเรียน เป็นผู้ประเมินตนเอง เพื่อนร่วมชั้น และครูเป็นผู้ ประเมิน ชี้แจงอธิบายรูปแบบวิธีการประเมิน อย่างละเอียดให้นักเรียนเข้าใจ ก่อนทำการ ประเมิน - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ใช้แบบการประเมิน และวิธีการประเมินแบบ ๓๖๐ องศา ทำให้ผล การประเมินตรงกับสภาพความเป็นจริงมากขึ้น ๔. เนื่องจากจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีคะแนนเฉลี่ยผล การฝึกปฏิบัติตลอดปี ≥ ๘๐ คะแนน ไม่บรรลุเป้าหมายตาม ที่กำหนดติดต่อต่อเนื่องสองปี และมีแนวโน้มลดลง จึงเป็น สิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ โรงเรียน นาวิกเวชกิจ ต้องกำหนด มาตรการเพื่อหาแนวทางแก้ไข - เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา ๑๙ ผู้รับผิดชอบรายวิชาได้ ดำเนินการวางแนวทาง ในกรณีที่ฝึกปฏิบัติไม่ครบ ได้จัดให้มีการฝึกประสบการณ์จากหุ่นจำลองและ จำลองเหตุการณ์เสมือนจริง และมีการปรับ รูปแบบการประเมินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ สถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๑๙ ลดลง เกือบอยู่ในสภาวะปกติ นักเรียนสามารถฝึก ประสบการณ์ได้ครบตามที่กำหนด และมี
๔๕ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง แนวโน้มผลคะแนนการฝึกสูงขึ้นกว่าปี การศึกษาที่ผ่านมา ๕. ในการจัดทำรายงานประจำปี ควรมีรายละเอียดหัวข้อองค์ ประกอบของเล่มให้ครบถ้วน ได้แก่ คำนำ สารบัญ ข้อมูล พื้นฐานของสถาบัน การ ติดตามข้อเสนอแนะจากผล ประเมินคุณภาพภายในและ ภายนอก มาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษา สรุปผลการ ดำเนินงาน ปัจจัยที่ส่งผลให้ เกิดความสำเร็จหรือเป็นอุปสรรค ข้อขัดข้อง แนวทางการพัฒนา และความต้องการช่วยเหลือ และผนวก (แผนปฏิบัติราชการ และผลดำเนินงาน ตาราง ประกอบผลการดำเนินงาน รูปภาพกิจกรรมที่สำคัญ เอกสารอ้างอิง เป็นต้น) เพื่อให้ ผู้ประเมินได้มีข้อมูลเพียงพอ ต่อการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการจัดทำรายงานการ ประเมินตนเองของสถาน ศึกษา - จัดตั้งคณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษา โรงเรียนนาวิก เวชกิจ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ โดยมีหน้าที่กำหนดนโยบายการประกันคุณภาพ การศึกษา ตลอดจนให้คำแนะนำแก่ผู้รับผิดชอบ ตามมาตรฐาน และตัวชี้วัด พัฒนาฐานข้อมูลงาน ประกันคุณภาพการศึกษาของสถาบันอย่างเป็น ระบบ ตามมาตรฐานการศึกษา ตัวชี้วัด และเกณฑ์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจประเมินคุณภาพ การศึกษา จัดทำรายงานประจำปี (Annual Report) ให้แก่ผู้ประเมินคุณภาพภายใน และ จัดทำรายงานประเมินตนเอง (SAR = SelfAssessment Report) ให้แก่ กรมยุทธศึกษา ทหารเรือ และ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ตามวงรอบ - จัดกิจกรรมการสร้างและพัฒนาฐานข้อมูลการ ประกันคุณภาพการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ - จัดตัวแทนเข้าร่วมประชุม สัมมนา งานประกัน คุณภาพการศึกษา ของ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ อย่าง ต่อเนื่อง - จัดโครงการเสริมสร้างความรู้การประกัน คุณภาพการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนได้ปรับ โครงสร้างการดำเนินงานภายใน โดยเพิ่มส่วน ของหมวดประกันคุณภาพการศึกษาขึ้นมา เพื่อกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบการ ปฏิบัติงานด้านประกันคุณภาพการศึกษาให้มี ความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
๔๖ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง ๖. ในการอธิบายผลการ ดำเนินงานในรายงานประจำปี ๖.๑ ควรอธิบายให้ครบถ้วน ทุกประเด็นการพิจารณา และ สอดคล้องกับมาตรฐานการ ศึกษาและตัวชี้วัดที่สถานศึกษา เป็นผู้กำหนด -ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ได้ดำเนินการอธิบายได้ ครบถ้วนทุกประเด็น -ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ดำเนินการอธิบายได้ ครบถ้วนทุกประเด็นอย่างต่อเนื่อง - รายงานประจำปี ๒๕๖๕ ๖.๒ พยายามอธิบายผล การดำเนินงานในรูปแบบของ วงจรคุณภาพ PDCA เพื่อให้ เห็นมุมมองของการปรับปรุง แก้ไขพัฒนาที่ต่อเนื่อง และ รองรับกรอบการประเมินคุณภาพ ภายนอกจากสำนักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (สมศ.) ได้ด้วย - ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ได้ดำเนินการตาม รูปแบบของวงจรคุณภาพ PDCA โดยแต่ละ โครงการจะต้องดำเนินการขึ้นเรื่องขออนุมัติ โครงการ ดำเนินงาน และรายงานผลการ ดำเนินการให้โรงเรียนทราบ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ดำเนินการตาม รูปแบบของวงจรคุณภาพ PDCAA โดยแต่ละ โครงการหรือกิจกรรมจะต้องดำเนินการขึ้น เรื่องขออนุมัติโครงการหรือกิจกรรมดำเนินงาน และรายงานผลการดำเนินงานให้โรงเรียนทราบ รวมถึงในที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา อีกด้วย -ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ๒๕๖๕ ๗. ควรปรับห้วงเวลาการจัดทำ รายงานประจำปีให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้สอด คล้องกับแผนการดำเนินงาน ของ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และ สถาบันวิชาการป้องกัน ประเทศ ที่กำหนดไว้ก่อนแล้ว - ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น ในเดือน พฤษภาคม - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น ในเดือนมิถุนายน - รายงานประจำปี ๒๕๖๕ ๘. ควรนำเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ระบบประกันคุณภาพการศึกษา เช่น การแชร์หรือเก็บข้อมูล ระบบ NAS ที่ กรมยุทธศึกษา โดยมีการดำเนินการดังนี้ - แต่งตั้งคณะกรรมการสารสนเทศ เพื่อดำเนินการ วางแผน ประสานงาน ดำเนินการ กำกับ ดูแล และส่งเสริมการพัฒนางานสารสนเทศอย่างเป็น ระบบ ให้มีความสอดคล้องกับการบริหารจัดการ
๔๗ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง ทหารเรือ พัฒนาขึ้นมา เพื่อ อำนวยความสะดวกให้กับทุก สถานศึกษาในการรองรับการ ประเมินคุณภาพทั้งภายใน และภายนอก อีกทั้งยังช่วย เก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญของ สถานศึกษาไม่ให้สูญหาย ตลอดจนทำให้ผู้ที่โยกย้ายมา ใหม่หรือสับเปลี่ยนหน้าที่ได้ ศึกษาข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น ศึกษา และงานประกันคุณภาพการศึกษาในระบบ NAS ที่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กำหนด ของ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ - ดำเนินกิจกรรมการสร้างและพัฒนาฐานข้อมูล นักเรียน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ - ดำเนินกิจกรรมการสร้างและพัฒนา ฐานข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษา - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ยังคงดำเนินงาน อย่างต่อเนื่อง ๙. ควรมีการพิจารณาทบทวน มาตรฐานการศึกษาและปรับปรุง ตัวชี้วัดบางตัวให้มีความสอด คล้องกับการดำเนินงานของ สถานศึกษา - ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ การจัดทำยุทธศาสตร์ ให้มีความสอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์ กรมแพทย์ทหารเรือ - ได้มีการประชุมพิจารณาทบทวนมาตรฐานการ ศึกษาและปรับปรุงตัวชี้วัดบางตัวให้มีความ สอดคล้องกับการดำเนินงานของสถานศึกษา ออกมาเป็นแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี การศึกษา ๒๕๖๕ เรียบร้อยแล้ว - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ปรับมาตรฐานการ ศึกษาและค่าเป้าหมายเพื่อการประกันคุณภาพ การศึกษาภายใน โดยปรับค่าเป้าหมายให้ สูงขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาและท้าทายขีด ความสามารถของโรงเรียนในการจัดการเรียน ให้ได้มาตรฐานมากขึ้น และมีคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษา -มาตรฐานการศึกษา ประจำปี ๒๕๖๕ ๑๐. ในการจัดทำแผนปฏิบัติ ราชการประจำปี ควรแปลง ตัวชี้วัดในมาตรฐานการศึกษา ของโรงเรียนเป็นโครงการ/ กิจกรรม โดยให้โครงการ/ ก ิ จ ก ร ร ม ค ร อ บ ค ล ุ ม ทุ ก - โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) และได้ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติ ราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นปีสุดท้าย และได้ดำเนินปรับตัวชี้วัดในมาตรฐานการศึกษาของ โรงเรียนเป็นโครงการ/กิจกรรม โดยให้โครงการ/ -แผนปฏิบัติราชการปี การศึกษา ๒๕๖๕
๔๘ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง เป้าประสงค์ในมาตรฐาน การศึกษาที่โรงเรียนกำหนด กิจกรรมครอบคลุมทุกเป้าประสงค์ในมาตรฐาน การศึกษาที่โรงเรียนกำหนด ซึ่งจะดำเนินการในปี การศึกษา ๒๕๖๕ - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้ดำเนินการตาม แผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี การศึกษา ๒๕๖๖ โดยจัดทำขึ้นตามแผน ยุทธศาสตร์ของ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์ วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๘ เรียบร้อยแล้ว ๑๑. คณะกรรมการสถานศึกษา ควรมีการประชุมอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อให้นโยบายและกำกับ ติดตามผลการดำเนินงานของ สถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี การปรับปรุงหลักสูตร และการสอบมาตรฐานวิชาชีพ ที่จะต้องให้หน่วยต้นสังกัดเข้า มามีส่วนร่วม ถ้าไม่สามารถจัด ประชุมได้เนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ควรเลือก พิจารณาจัดเป็นประชุมแบบ ออนไลน์แทน - ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ยังคงไม่สามารถจัด ประชุมได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ แต่ทาง โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ได้ดำเนินการสรุปผลการดำเนินงาน แจ้งให้คณะกรรมการสถานศึกษาทราบ และ รับทราบข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการ สถานศึกษาทางออนไลน์ เพื่อนำมาปรับปรุงการ เรียนการสอน และหลักสูตรต่อไป - ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ สถานศึกษา และได้ดำเนินการประชุมคณะกรรมการ สถานศึกษา โดยมี รองเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เป็น ประธานในการประชุม จำนวน ๑ ครั้ง โดยนำเสนอ แผนปฏิบัติราชการ การปรับปรุงหลักสูตร ผลการ ดำเนินงานที่ผ่านมา ผลการสอบมาตรฐานวิชาชีพ และผลการสอบใบประกาศนียบัตรเจ้าพนักงาน ฉุกเฉินการแพทย์ -คำสั่งแต่งตั้งคณะ กรรมการสถานศึกษา -รายงานประชุม กรรมการสถานศึกษา
๔๙ ข้อเสนอแนะจากรายงานผลการประเมินตนเอง (ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔) ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง ๑. วิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง ของผลการเรียนวิชาการแพทย์ ทหาร ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีเกรด ≥ ๒.๕๐ ต่ำกว่าค่า เป้าหมายที่กำหนด และกำหนด หรือเพิ่มแนวทางในการเสริม สร้างความรู้ในวิชาการแพทย์ ทหารของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ให้มีผลการเรียนที่มีเกรด ≥ ๒.๕๐ ให้สูงขึ้นให้ได้ตามค่าเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการ ศึกษาโรงเรียนนาวิกเวชกิจ - เนื่องด้วยในปีการศึกษา ๒๕๖๔ จากการประชุม นำเสนอผลการเรียนการสอนรายวิชาการแพทย์ ทหาร พบว่าเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ การเรียนการสอน เป็นแบบออนไลน์ และไม่มีชั่วโมงในการทบทวน ก่อนสอบ ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ สามารถดำเนิน การเรียนการสอนได้ตามปกติ สามารถสอนเสริม ในหัวข้อที่ยาก และมีชั่วโมงในการทบทวน ความรู้ก่อนสอบให้กับนักเรียนได้ครบถ้วน - รายงานผลการเรียน การสอน (มคอ.๕) วิชาการแพทย์ทหาร ๒. ผลการฝึกปฏิบัติตลอดปี ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จะ พบว่า มีจำนวนนักเรียนจ่าชั้น ปีที่ ๒ ที่มีคะแนนเฉลี่ยผลการ ฝึกปฏิบัติตลอดปี≥ ๘๐ คะแนน (ผลรวมของคะแนนรายวิชา ฝึกปฏิบัติจำนวน ๕ รายวิชา) ซึ่งต่ำกว่าค่าเป้าหมาย (≥ ร้อยละ ๘๐) ที่โรงเรียนนาวิกเวชกิจ กำหนดไว้ติดต่อกันถึง ๓ ปี อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมี การกำหนดแนวทางในการ พัฒนารายวิชาฝึกปฏิบัติของ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕ รายวิชา และกำหนดให้ ครูผู้สอนได้มีการดำเนินการ จัดการเรียนการสอน การ ประเมินให้สอดคล้องกับ -ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ จากการวิเคราะห์พบว่า การฝึกปฏิบัติของนักเรียนจำนวน ๕ รายวิชา ในแต่ละวิชาจะมีความยากง่ายในการฝึก และ ลักษณะของการวัดและประเมินที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละรายวิชาจะมีมาตรฐานในการฝึก เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถในรายวิชา นั้น ๆ ทางโรงเรียนจึงปรับวิธีการพิจารณาโดย ใช้ผลการฝึกภาคปฏิบัติจาก แบบ ยศ.๕ ในช่อง ช ซึ่งจะพิจารณาจากคะแนนการฝึกปฏิบัติ ตลอดภาคการศึกษา คะแนนพลศึกษา คะแนน ความเหมาะสมทางทหาร และคะแนน ประจำตัวนักเรียน ซึ่งจะสอดคล้องกับประเด็น คุณลักษณะพลเมืองที่ดีมากกว่า -
๕๐ ประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนา และแนวทางการดำเนินงาน การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ หลักฐานอ้างอิง สถาณการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ แล้วก็ตาม **********************************
๕๑ ส่วนที่ ๔ การดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในของสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ (รร.นวก.ศวก.พร.) มีการดำเนินการ ประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ พ.ศ.๒๕๖๕ (ตามประกาศ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ เรื่อง มาตรฐานการศึกษาและค่าเป้าหมายเพื่อการ ประกันคุณภาพการศึกษาภายใน) พิจารณาตามกรอบมาตรฐาน ๓ ด้าน จำนวน ๑๐ ประเด็นการพิจารณา มีผลการดำเนินงาน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ มีเป้าหมายในการจัดการฝึกศึกษา และผลิตผู้สำเร็จการศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ หลักสูตร เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้วต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ๑. ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๑) มีวินัย กล้าหาญ อดทน เสียสละ ซื่อสัตย์ และจิตสำนึก ตระหนักในหลักคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๒) มีภาวะความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น สนใจใฝ่รู้ คิดและแสดง ความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับกลุ่มหรือทีมงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ๓) มีความภาคภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทย มีจิตสาธารณะและมีจิตสำนึกรักษ์ สิ่งแวดล้อม ๔) เคารพกฎหมาย สิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่า และศักดิ์ศรี ของความเป็นมนุษย์ปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สิทธิผู้ป่วย และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๕) แยกแยะผลการกระทำที่กระทบต่อผู้อื่น และใช้หลักการด้านคุณธรรมและจริยธรรมใน การประเมินการกระทำของตนเอง พร้อมรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง ๒. ด้านความรู้ ๑) ยอมรับข้อจำกัดในความรู้ที่ตนมี และผลกระทบที่เกิดจากการนำความรู้ที่มีจำกัดมาใช้ใน การปฏิบัติงาน พร้อมที่จะขอคำแนะนำและแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ เพิ่มเติมเมื่อจำเป็น ๒) มีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๓) มีความรู้เข้าใจองค์ความรู้และสาระสำคัญในศาสตร์ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ สามารถ บูรณาการและประยุกต์กับศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ ๔) มีความรู้ ความเข้าใจในสาระสำคัญในกระบวนการแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้งานวิจัย และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้ในการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์และ ปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๓. ด้านทักษะ
๕๒ ๑) มีทักษะและเจตคติในการปฏิบัติการฉุกเฉินได้ตามอำนาจ หน้าที่ ขอบเขตความรับผิดชอบ และข้อจำกัดของเจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ สอดคล้องกับสภาพปัญหาอย่างได้มาตรฐานปลอดภัย และทันท่วงที ๒) มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา วางแผน การบริหารจัดการ ประสานงาน และการประเมินในการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ๓) มีทักษะในการดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นฉุกเฉินได้ทั้งในระดับ บุคคลและชุมชนได้ ๔) มีทักษะการปฏิบัติงานในหน่วยทหารตามภารกิจของกรมแพทย์ทหารเรือ ๕) สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน รวมทั้ง วิธีการสื่อสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เลือกใช้รูปแบบและเครื่องมือในการนำเสนอที่เหมาะสมกับกลุ่มบุคคลที่แตกต่างกันได้ ๔. ด้านความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบ ๑) สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคทางสถิติ หรือคณิตศาสตร์ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างเหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประมวลผล แปลความหมาย และนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ได้อย่างสม่ำเสมอ ๒) มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และงานที่ได้รับมอบหมาย มีความกระตือรือร้นในการพัฒนางาน และตนเองอย่างต่อเนื่อง ๓) สืบค้นข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจ และประเมินข้อมูลสารสนเทศ แนวคิดและหลักฐานใหม่ ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ และนำข้อมูลใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนางานได้ ๔) คิด วิเคราะห์ และให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้องค์ความรู้ประสบการณ์ทาง ภาคปฏิบัติ และผลกระทบจากการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์และสามารถพัฒนา แนวทางใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานประจำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และบริบททางสุขภาพที่ เปลี่ยนแปลงไป ๕) สามารถปรับตัวและมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับผู้รับบริการ ผู้ร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และผู้เกี่ยวข้องสามารถทำงานเป็นทีมได้ ๖) มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ได้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้จัดการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) เพื่อผลิตผู้สำเร็จการศึกษาให้เป็นไปตามจุดหมาย ของหลักสูตร และให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษาตามที่กำหนด ให้มีความสอดคล้องกับ อัตลักษณ์“เชี่ยวชาญด้านการจัดการผู้ป่วยเจ็บทางน้ำ” และสอดคล้องกับเอกลักษณ์ที่ว่า “เป็นสถานศึกษา ของกองทัพเรือที่ผลิตบุคลากรที่มีขีดสมรรถนะสูงในการปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ในทุกมิติ” ซึ่งได้ดำเนินการ ฝึกศึกษา และจัดการเรียนการสอนตามโครงสร้างหลักสูตรที่กำหนด ประกอบด้วย หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ หมวดวิชาเลือกเสรีและกิจกรรมเสริมหลักสูตร ในส่วนของการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ ได้จัดกิจกรรมที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านคุณลักษณะทางทหารที่ดี ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดีมีความสามารถในการพัฒนาตนเอง ด้านความรู้และคุณลักษณะทางวิชาการและวิชาชีพที่กำหนด มุ่งเน้นที่จะพัฒนานักเรียนจ่าให้เป็นผู้สำเร็จ
๕๓ การศึกษาที่มีความรู้มีทักษะและการประยุกต์ใช้ในสาขาวิชาชีพ มีคุณลักษณะทางทหารที่ดีมีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำ มีคุณธรรมและจริยธรรม มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ และ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามที่กำหนด ด้านการวัดและประเมินผล โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดให้มีการวัดและประเมินผล ตามระเบียบ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาของสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคในส่วนการศึกษา ที่สองและสี่ พ.ศ. ๒๕๖๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (กำหนดเกรดเฉลี่ย ชั้นปี ๑ ไม่ต่ำกว่า ๑.๘๐ และชั้นปี ๒ ไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐) และตามระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยคะแนนประจำตัวนักเรียนและนักเรียนทหาร พ.ศ.๒๕๖๓ (กำหนดคะแนนความประพฤติผ่านเกณฑ์≥ ๖๐ คะแนน และคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ผ่านเกณฑ์ ≥ ๖๐ คะแนน) เพื่อให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาตรงตามความต้องการของหน่วยต้นสังกัด หน่วยผู้ใช้ ตอบสนองต่อ ความต้องการกำลังพลของกองทัพเรือ ซึ่งมีผลการดำเนินงานจัดการฝึกศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (พ.ศ.๒๕๖๓) ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมีนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ที่สอบผ่านและได้รับการเลื่อนขึ้นชั้นปีที่ ๒ และมีนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่สอบผ่านและเป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ตามที่กำหนด (ตามกรอบมาตรฐาน ๓ ด้าน ๑๐ ประเด็นการพิจารณา) สรุปได้ ดังนี้ ด้านที่ ๑ คุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ ประเด็นที่ ๑.๑: ด้านความรู้ (๑) ด้านความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และสอดคล้องตามความต้องการของกองทัพเรือ (๒) ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (๓) ด้านความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่ กำหนด และสอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา (๔) ด้านความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของ หน่วยต้นสังกัด สามารถใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ผลการดำเนินงาน (๑) ด้านความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และสอดคล้อง ตามความต้องการของกองทัพเรือ เป้าประสงค์:ผู้เรียนมีความรู้ทางทหาร ที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนดและสอดคล้อง ตามความต้องการของกองทัพเรือ (พิจารณาจาก ผลการเรียนวิชาทหารของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ และผลการเรียน วิชาการแพทย์ทหารของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านความรู้ทางทางทหาร ไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๒ ตัวชี้วัด คือ
๕๔ ๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ≥ ร้อยละ ๗๐ มีผลการเรียนวิชาทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๗๐ มีผลการเรียนวิชาการแพทย์ทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ดำเนินการให้นักเรียนจ่าศึกษาและฝึกปฏิบัติตามโครงสร้างหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๖๓ มีแผนการจัดการเรียนการสอน การวัด และการประเมินผล สอดคล้องกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในรายวิชาทางทหาร เพื่อให้นักเรียนจ่า เป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และสอดคล้องตามความต้องการของ กองทัพเรือ โดย นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ได้จัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในวิชาทหาร ซึ่งจะช่วย ส่งเสริมให้นักเรียนจ่ามีความรู้และเข้าใจหลักการทางทหารเบื้องต้น โดยกำหนดให้นักเรียนจ่าได้ศึกษาเกี่ยวกับ หลักการทางทหารเบื้องต้น ได้แก่ การศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นำและการปกครองบังคับบัญชา ขนบธรรมเนียม ประเพณีทหารเรือและมารยาททหารเรือ ประวัติศาสตร์ทางทหาร บทบาทและลักษณะของบุคคลทำการรบ รูปขบวนหมู่รบและอาวุธศึกษา พระราชบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับทหาร กฎหมายอาญาทหารที่ควรรู้ อนุสัญญาเจนีวา การข่าวเบื้องต้น การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบุคคล เอกสาร และสถานที่ ชั้นความลับ ของทางราชการ และการปฏิบัติเมื่อเกิดการละเมิดการรักษาความปลอดภัย และฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับ การฝึก บุคคลท่ามือเปล่า การฝึกท่าบุคคลประกอบอาวุธ (การแถว เดินแถว การทำความเคารพด้วยมือเปล่าและ ประกอบอาวุธ ท่าอาวุธ ท่ายิง) การถอด-ประกอบการใช้อาวุธปืนและการบำรุงรักษาขั้นต้น ส่วนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ได้จัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในวิชาการแพทย์ทหาร ซึ่งจะศึกษาเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทั่วไปทางทหาร แนวคิดและหลักการบริการแพทย์ทางยุทธวิธี การจัดตั้ง หน่วยแพทย์สนับสนุนหน่วยกำลังรบ การบริการทางการแพทย์สนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร หลักปฏิบัติ เกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี สุขภาพจิตทหาร การจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตและยาเสพติดในการ ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งในภาคทฤษฎีได้จัดการเรียนการสอน การสาธิต การฝึกทดลอง มีการวัดและ ประเมินผลที่ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ส่วนการฝึกภาคปฏิบัติและการฝึกอาวุธศึกษา ได้จัดให้มีการฝึกปฏิบัติและ ทำการวัดและประเมินผลที่ กองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ (กอง รปภ.ฐท.กท.) โดยครูฝึกที่มี ความรู้และเชี่ยวชาญเฉพาะ สำหรับการฝึกอาวุธโดยการยิงปืนด้วยกระสุนจริง ใช้สถานที่ฝึกของ กองพัน ลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน (พัน.ลว.พล.นย.) ในรายวิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ ทั้งนี้ผลการสอบความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตรของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี (นักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๑ : ความรู้ในวิชาทหาร และนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ : ความรู้ในวิชาการแพทย์ทหาร) ผ่านเกณฑ์การวัด และประเมินผลการสอบความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมยุทธศึกษา ทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาของสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคในส่วนการศึกษาที่สองและสี่ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีคะแนนผลการสอบความรู้ ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรม แพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๙.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการสอบความรู้
๕๕ นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) โดยมีผลการสอบ ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดังนี้ ๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕๙ นาย มีผลการเรียนวิชาทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จาก จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๓๓ ๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๔๒ นาย มีผลการเรียนวิชาการแพทย์ทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๗๐.๐๐ ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลการสอบความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ของ นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี พบว่า จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปั้นปีที่ ๑ มีผลการสอบวิชาทหาร ระดับ ๒.๕๐ ร้อยละ ๙๘.๓๓ และนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีผลการสอบวิชาการแพทย์ทหาร ระดับ ≥ ๒.๕๐ ร้อยละ ๗๐.๐๐ ซึ่งทั้งสอง รายการมีค่าร้อยละที่สูงและเป็นไปตามค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๗๐) หลังจากที่ได้มีการกำหนด แนวทางในการพัฒนาการเรียนในวิชาการแพทย์ทหาร เพื่อให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีผล การสอบที่สูงขึ้นจากปีการศึกษาที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ครูผู้สอนได้มีการดำเนินการสอนเสริมนอกเวลาเรียนใน หัวข้อที่ยากและนักเรียนจ่าร้องขอ และจัดให้มีชั่วโมงทบทวนบทเรียนก่อนสอบปลายภาคเรียน และเนื่องจาก สถาณการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาไวรัส ๒๐๑๙ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถกลับมา จัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ส่งผลให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีผลการสอบวิชาการแพทย์ทหาร ระดับ ≥ ๒.๕๐ เป็นไปตามค่าเป้าหมายที่กำหนด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลการสอบความรู้วิชาทหารของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ และ วิชาการแพทย์ทหารของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ นำเสนอในที่ประชุมของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ในการนำเสนอผล การเรียนการสอนรายวิชาประจำภาคการศึกษา ชี้แจงต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการประชุม คณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ และนำเสนอผลการเรียนให้นักเรียนจ่า และผู้ปกครองทราบทางระบบสารสนเทศ ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ โดยสรุปนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการสอบความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ตามเกณฑ์และ ค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ชั้นปี๑ วิชาทหาร ≥ ๒.๕๐ ๖๐ / ๖๒ ๙๖.๗๗ ๕๖ / ๖๐ ๙๓.๓๓ ๕๙/๖๐ ๙๘.๓๓ ชั้นปี ๒ วิชา การแพทย์ ทหาร ≥ ๒.๕๐ ๔๔ / ๖๐ ๗๓.๓๓ ๓๙ / ๖๒ ๖๒.๙๐ ๔๒/๖๐ ๗๐.๐๐ รวมจำนวนนักเรียนจ่าทั้ง สองชั้นปี ที่มีผลการสอบ ≥ ๒.๕๐ ๑๐๔/๑๒๒ ๘๕.๒๕ ๙๖ / ๑๒๒ ๗๗.๘๖ ๑๐๑/๑๒๐ ๘๔.๑๗
๕๖ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ความรู้ทางทหารที่ศึกษา ในหลักสูตรตามเกณฑ์ ที่กำหนด แผนภูมิที่ ๒ ผลการสอบความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง (๒) ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ มีความรู้ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป้าประสงค์: ผู้เรียนมีคุณลักษณะพลเมืองดี มีความรู้ทางวิชาการ ความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ ภาษา อังกฤษเพื่อการสื่อสาร และภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์(พิจารณาจาก ผลการเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ และคะแนน Post – test ในโครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนน Pre-test ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ มีความรู้ทาง ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๔ ตัวชี้วัด คือ (๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ≥ ร้อยละ ๖๐ (ปรับเพิ่มจากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐) มีค่าเฉลี่ยผลการเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ 0.00 20.00 40.00 60.00 80.00 100.00 2563 2564 2565 วิชาทหาร ปี1 วิชาการแพทย์ทหาร ปี2
๕๗ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด (๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๖๐ ที่มีคะแนนการทดสอบ Post – test ในวิชาโครงการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนนการทดสอบ Pre-test ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด (หมายเหตุ: ปรับจากตัวชี้วัด “นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีผลการสอบภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ตามที่กองทัพเรือ กำหนด ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด) พิจารณาจาก ผลการสอบ CEFR ผ่านระดับ A1) (๓) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ≥ ร้อยละ ๖๐ (ปรับเพิ่มจากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐) มีผลการเรียนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด (๔) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๖๐ มีผลการประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในวิชาโครงการ พัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด (หมายเหตุ: ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้เพิ่มตัวชี้วัดด้านความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒) โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ดำเนินการให้นักเรียนจ่ามีความรู้ทางวิชาการ มีความสามารถในการ พัฒนาตนเอง มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ ตามโครงสร้างหลักสูตรที่กำหนด มีแผนการจัดการเรียนการสอน การวัดและการประเมินผลตามที่กำหนด โดย นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ได้จัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์(มีการปรับเนื้อหาสาระวิชาภาษาอังกฤษทั้ง ๒ รายวิชา ให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับนโยบายของกองทัพเรือ และสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานตามสาขาวิชาชีพได้จริง) ซึ่งได้ ขอรับการสนับสนุนครูอาจารย์ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษทั้งภายในและภายนอกกองทัพเรือ ส่วนความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในชั้นปีที่ ๑ ได้จัดการเรียนการสอนในวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มุ่งเน้นให้นักเรียนจ่ามีความรู้และทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถนำไปใช้ในการ ปฏิบัติงานได้ในสถานการณ์จริง โดยการจัดการเรียนการสอนจะประกอบด้วย การศึกษา การค้นคว้า การจัดทำ รายงาน การนำเสนอผลงาน ตลอดจนการสนับสนุนงานการให้บริการทางการแพทย์ของกองทัพเรือ รวมทั้ง นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากโครงสร้างหลักสูตรของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ไม่มีการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ทางโรงเรียนนาวิกเวชกิจ จึงได้จัดทำ “โครงการเสริมความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ” ให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ตรงในการใช้ภาษาอังกฤษทางด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียนในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ โดย “โครงการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ” มีกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยาย การฝึกทักษะ และการทดสอบ การฟัง พูด อ่าน และเขียน มีครูภายนอกที่มีความรู้ความชำนาญด้านภาษาอังกฤษ มาเป็นวิทยากรบรรยาย สัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ครั้งละ ๒ ชั่งโมง เป็นเวลา ๒ เดือน ของวิชาโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์ โดยใช้ผลการทดสอบ Pre-test และ Post-test จากโครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้าน ภาษาอังกฤษ ในการแสดงผลการพัฒนาตนเอง มีผลการสอบความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ สำหรับผลการสอบ ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้เพิ่มเป้าหมายในการประเมินในชั้นปีที่ ๒ โดยใช้ รายวิชาโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ซึ่งมีการศึกษาและปฏิบัติโดยการ บูรณา การความรู้ ทักษะและประสบการณ์เพื่อการวางแผนการพัฒนางานในสาขาวิชาชีพ ด้วยกระบวนการศึกษา วิจัย
๕๘ เบื้องต้น การศึกษาค้นคว้าข้อมูล การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และแปลผลข้อมูล การเขียนรายงานผล การเขียน โครงงานเพื่อการพัฒนานวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และการนำเสนอผลอย่างเป็นระบบ โดยนักเรียนจ่าต้องมีความรู้ ความเข้าใจในสาระสำคัญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้ง ศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย จึงได้พิจารณาจากผลประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จากการเรียนในวิชา โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ซึ่งมีหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (เพื่อ นำมาใช้ในการสืบค้น วิเคราะห์นำเสนอข้องมูลสำหรับจัดทำผลงานนวัตกรรม สิงประดิษฐ์) นำมาใช้ในการ แสดงผลการพัฒนาตนเอง มีผลการสอบความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ แทน ทั้งนี้ ผลการสอบความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ พิจารณาจาก ผลการ เรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์สำหรับ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ใช้คะแนนการทดสอบ Pre-test และ Post-test จากโครงการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพ ด้านภาษาอังกฤษ ในส่วนของผลการสอบความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ พิจารณาจากผลการเรียน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ใช้ผลการประเมินการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ จากวิชาโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ซึ่งทุกรายวิชา ผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลการสอบความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน ระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาของสถานศึกษาซึ่งจัดการ ศึกษาเป็นภาคในส่วน การศึกษาที่สองและสี่ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีคะแนนผลการสอบความรู้ ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๙.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผล การสอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) มีผลการสอบตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดังนี้ (๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๔๘ นาย มีผลการสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และ วิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๐๐ (๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๖๐ นาย มีคะแนนการทดสอบ Post – test ในวิชาโครงการ พัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนนการทดสอบ Pre-test จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ (๓) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๖๐ นาย มีผลการสอบวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ (๔) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๖๐ นาย มีผลการประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน วิชาโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลการสอบความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ และความรู้ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี พบว่า จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ มีผลการสอบใน รายวิชาภาษาอังกฤษตลอดปีการศึกษา ≥ ๒.๕๐ ร้อยละ ๘๐.๐๐ และมีผลการสอบวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ≥ ๒.๕๐ ถึงร้อยละ ๑๐๐ และพบว่านักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีคะแนนการทดสอบ Post – test ในวิชาโครงการ
๕๙ พัฒนาเสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนนการทดสอบ Pre-test ร้อยละ ๑๐๐ และมีผลการ ประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ≥ ๒.๕๐ ถึงร้อยละ ๑๐๐ เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสี่รายการมีค่าร้อยละที่สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๖๐) หลังจากที่โรงเรียนนาวิกเวชกิจได้มีการวิเคราะห์ในวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ของ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีผลการสอบอยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ได้ตามค่า เป้าหมายที่กำหนดก็ตาม แต่ยังคงดำเนินการในการพัฒนาการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์ เพื่อให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีผลการสอบที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย กำหนดให้ครูผู้สอนและผู้รับผิดชอบรายวิชาได้มีการดำเนินการออกแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมสนทนา และท่องศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ให้นักเรียนจัดบอร์ดภาษาอังกฤษ การสอนเสริมนอกเวลา และได้เพิ่มค่าเป้าหมายในการประเมินเดิม จากผลการสอบอยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ค่า เป้าหมาย ≥ ๕๐ เป็น ≥ ๖๐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภาพและความท้าทายในการจัดการเรียนการสอนให้ดีและมี คุณภาพเพิ่มขึ้นขึ้นต่อไป ส่งผลให้นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยี สารสนเทศ สูงขึ้นจากค่าเป้าหมายที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลการสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ และผลการทดสอบ Pre-test และ Post-test จากโครงการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพด้านภาษาอังกฤษผล และผลการประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาโครงการพัฒนา สมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ นำเสนอในที่ ประชุมของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ในการนำเสนอผลการเรียนการสอนรายวิชาประจำภาคการศึกษา ชี้แจงต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์ วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ และนำเสนอผลการเรียน ให้นักเรียนจ่า และผู้ปกครองทราบทางระบบสารสนเทศของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ โดยสรุปนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการสอบความรู้ทางวิชาการ มีความสามารถในการพัฒนา ตนเอง มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ชั้นปี๑ ผลการสอบวิชา ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร ≥ ๒.๕๐ ๔๖ / ๖๒ ๗๔.๑๙ ๔๕ / ๖๐ ๗๕ ๕๐/๖๐ ๘๓.๓๓ ผลการสอบวิชา ภาษาอังกฤษ ≥ ๒.๕๐ ๒๑ / ๖๒ ๓๓.๘๗ ๓๘ / ๖๐ ๖๓.๓๓ ๔๕/๖๐ ๗๕.๐๐
๖๐ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ชั้นปี ๑ ผลการสอบวิชา เทคโนโลยี สารสนเทศ ≥ ๒.๕๐ ๓๖ / ๖๒ ๕๘.๐๖ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ชั้นปี ๒ วิชาโครงการพัฒนา สมรรถนะวิชาชีพ ปฏิบัติการฉุกเฉิน การแพทย์ ≥ ๒.๕๐ ๕๙ / ๖๐ ๙๘.๓๓ ๕๒/๖๒ ๘๓.๘๗ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ รวมจำนวนนักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปีที่มีผลการสอบความรู้ วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามเกณฑ์ที่กำหนด ≥ ๒.๕๐ ๙๕/๑๒๒ ๗๗.๘๗ ๑๑๒/๑๒๒ ๙๑.๘๐ ๑๒๐/๑๒๐ ๑๐๐ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ สำหรับปฏิบัติการ ฉุกเฉินการแพทย์ รวมเฉลี่ยผลการสอบวิชาภาษา อังกฤษตลอดปีการศึกษา ≥ ๒.๕๐ ๓๕ / ๖๒ ๕๖.๔๕ ๔๒ / ๖๐ ๗๐.๐๐ ๔๘/๖๐ ๘๐.๐๐ ชั้นปี ๒ ผลการสอบภาษา อังกฤษผ่านเกณฑ์ที่ กองทัพเรือกำหนด A1 ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ๖๒ / ๖๒ ๑๐๐ ๖๐/๖๐ ๑๐๐ คะแนนการทดสอบ Post –test ในวิชา โครงการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพ ด้านภาษาอังกฤษ สูงกว่าคะแนนการ ทดสอบ Pre-test ≥ ๖๐ ๖๐/๖๐ ๑๐๐ ๖๒/๖๒ ๑๐๐ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐
๖๑ แผนภูมิที่ ๓ ผลการสอบความรู้ทางวิชาการ มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ทางด้าน ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (๓) ด้านความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และ สอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา เป้าประสงค์: ผู้เรียนมีความรู้ในสาขาวิชาชีพที่ศึกษา มีผลการศึกษาและการฝึกปฏิบัติบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด ตามมาตรฐานหลักสูตร (พิจารณาจาก จำนวนนักเรียนจ่าที่มีผลการสอบรายวิชาในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ และฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ (จำนวน ๕ วิชา) และของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ (จำนวน ๕ วิชา) อยู่ในระดับ≥ ๒.๕๐) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร ไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๒ ตัวชี้วัด คือ ๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ≥ ร้อยละ ๖๐ (ปรับเพิ่มจากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐) มีผลการสอบรายวิชาใน กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๖๐ (ปรับเพิ่มจากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐) มีผลการสอบรายวิชาใน กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ ได้ดำเนินการให้นักเรียนจ่าศึกษาและฝึกปฏิบัติตามโครงสร้างหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๖๓ เพื่อให้นักเรียนจ่ามีผลการศึกษาและการ ฝึกในสาขาวิชาชีพบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้จัดการเรียนการสอนด้านความรู้ในสาขาวิชาชีพทั้งภาคทฤษฎีและ 0 20 40 60 80 100 2563 2564 2565 วิชาภาษาอังกฤษ ทั้ง 2 ชั้นปี วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้ง 2 ชั้นปี
๖๒ ภาคปฏิบัติ จำนวน ๓๒ รายวิชา โดยนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จะศึกษาในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ จำนวน ๕ วิชา ดังนี้ ๑. วิชาเทคนิคหัตถการสำหรับปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๒. วิชาการยกและการเคลื่อนย้าย ๓. วิชาการประเมินสภาพ ๔. วิชาการช่วยฟื้นคืนชีพ ๕. วิชาฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๑ ส่วน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จะศึกษาในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์ สมรรถนะวิชาชีพ จำนวน ๕ วิชา ดังนี้ ๑. วิชานิติเวชศาสตร์ ๒. วิชาการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน ๓. วิชาการดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ๔. วิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ๕. วิชาฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒ ทั้งนี้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนการสอน มีการวัดและการประเมินผล สอดคล้องกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในทุกรายวิชา ซึ่งในการจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติและการทดลอง จะใช้สถานที่ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ และใช้ทรัพยากรสนับสนุนการเรียนรู้ภายใน โรงเรียน โดยมีครูอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่สอนโดยตรงทั้งจากภายในและภายนอกกองทัพเรือ สำหรับ การฝึกภาคปฏิบัติ (ภาคสนาม) ซึ่งมีจำนวน ๖ รายวิชา ได้แก่ การฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ การฝึกปฏิบัติ การแพทย์ทหาร ๒ การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๑ การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ๒ การฝึก ปฏิบัติโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และการฝึกปฏิบัติการบริบาลเบื้องต้นใน หน่วยบริการปฐมภูมิ ได้ดำเนินการฝึกตามแหล่งฝึกที่มีหน่วยบริการฉุกเฉินการแพทย์ของโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งในและนอกกองทัพเรือ โดยขอรับการสนับสนุนหน่วยฝึกในกองทัพเรือ ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และหน่วยงานในสังกัดของกรมแพทย์ทหารเรือ สำหรับการฝึกงานด้านปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ได้ขอรับการสนับสนุนหน่วยฝึก ณ ศูนย์กู้ชีพ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ หน่วยกู้ชีวิตโรงพยาบาลตากสิน ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลเลิดสิน ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรสาคร ศูนย์กู้ชีพวชิรพยาบาล และศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ส่วนการฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ ซึ่งเป็นแผนการฝึกที่ช่วยส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ของ โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ จะใช้พื้นที่ฝึกของกรมแพทย์ทหารเรือ และพื้นที่ฝึกของหน่วยกำลังรบของกองทัพเรือ ทั้งหน่วยบก หน่วยเรือ และอากาศยาน ทั้งนี้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดให้มีบริการวิชาการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่ขอรับการสนับสนุน ได้แก่ การสอนช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (Basic CPR) ให้แก่กำลังพลภายในกองทัพเรือ การสอนหัวข้อเรื่อง การจัดการผู้ป่วยเจ็บในสถานการณ์ภัยพิบัติ ให้แก่นักเรียนพยาบาล ของวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ การให้
๖๓ ความรู้เรื่อง การปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น ให้กับพลทหารกองประจำการในสังกัด และ ประชาชนทั่วไป ซึ่งนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีความรู้ในสาขาวิชาชีพที่ศึกษา มีผลการศึกษาและการฝึกปฏิบัติบรรลุ ตามเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรฐานหลักสูตร ในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์ สมรรถนะวิชาชีพ จำนวน ๑๐ รายวิชา ผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลการสอบความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือว่าด้วยการดำเนินการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคในส่วนการศึกษาที่สองและสี่ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีคะแนนผลการสอบความรู้ ตาม บันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๙.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอผลการสอบ ความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) โดยมีผลการสอบตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดังนี้ ๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕๒ นาย มีเกรดเฉลี่ยรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๖๗ ๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๔๖ นาย มีเกรดเฉลี่ยรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๖๗ ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลการสอบรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ และฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) ของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี พบว่า จำนวนนักเรียนจ่าที่มี ผลการสอบรายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) โดยชั้นปี ที่ ๑ มีผลการสอบ ร้อยละ ๘๖.๖๗ และชั้นปีที่ ๒ ร้อยละ ๗๖.๖๗ ซึ่งทั้งสองรายการจะมีค่าร้อยละที่สูงกว่าค่า เป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๖๐) หลังจากที่ได้มีการกำหนดแนวทางในการพัฒนาการเรียนในทุกรายวิชา เพื่อให้นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ มีผลการสอบที่สูงขึ้น โดยกำหนดให้ครูผู้สอนและ ผู้รับผิดชอบรายวิชาวางแผนปรับรูปแบบการเรียนการสอนและการประเมินผลให้สอดคล้องกับ สถาณการณ์ ปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่มีอยู่ และได้นำข้อเสนอแนะของทั้ง นักเรียนจ่า ครูผู้สอน และผู้รับผิดชอบรายวิชาจากปีการศึกษา ๒๕๖๔ มาปรับแก้และพัฒนารูปแบบการเรียน การสอนที่เหมาะสม ซึ่งได้มีการดำเนินการประชุมนำเสนอรายละเอียดวิชาก่อนเปิดภาคเรียนในทุกรายวิชา และได้พิจารณาปรับเป้าหมายการประเมินใหม่ โดยพิจารณาเฉพาะหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ หมวดฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕ วิชา และชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕ วิชา นำมาประเมิน แทนรูปแบบเดิม เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่มีความจำเพาะเจาะจงกับวิชาชีพมากขึ้น ส่งผลให้นักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปี มีผลการสอบความรู้รายวิชากลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) สูงขึ้นจากค่าเป้าหมายที่กำหนด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลการสอบความรู้ในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ของนักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ทั้งสองชั้นปีนำเสนอในที่ประชุม
๖๔ ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ในการนำเสนอผลการเรียนการสอนรายวิชาประจำภาคการศึกษา ชี้แจงต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์ วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ และนำเสนอผลการเรียน ให้นักเรียนจ่า และผู้ปกครองทราบทางระบบสารสนเทศของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ โดยสรุปนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการสอบความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร (หมวดวิชา สมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ) ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ (เกรด) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ชั้นปี๑ ผลการสอบรายวิชาใน หมวดวิชาสมรรถนะ วิชาชีพ (๑๒ วิชา) ≥ ๒.๕๐ ๔๕/๖๒ ๗๒.๕๖ ๓๙/๖๐ ๖๕.๐๐ - - ผลการสอบรายวิชาใน หมวดวิชาสมรรถนะ วิชาชีพเฉพาะและฝึก ประสบการณ์สมรรถนะ วิชาชีพ (๕ วิชา) ≥ ๒.๕๐ ๕๒/๖๒ ๗๗.๔๒ ๕๒/๖๐ ๘๖.๖๗ ๕๒/๖๐ ๘๖.๖๗ ชั้นปี ๒ ผลการสอบรายวิชาใน หมวดวิชาสมรรถนะ วิชาชีพ (๑๓ วิชา) ≥ ๒.๕๐ ๖๐/๖๐ ๑๐๐ ๕๐/๖๒ ๘๐.๖๕ - - ผลการสอบรายวิชาใน หมวดว ิ ชาสมรรถนะ วิชาชีพเฉพาะและฝึก ประสบการณ์สมรรถนะ วิชาชีพ (๕ วิชา) ≥ ๒.๕๐ ๔๒/๖๐ ๗๐.๐๐ ๔๔/๖๒ ๗๐.๙๖ ๔๖/๖๐ ๗๖.๖๗
๖๕ แผนภูมิที่ ๔ ผลการสอบความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร (หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึก ประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ) (๔) ด้านความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยต้นสังกัด สามารถใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เป้าประสงค์: ผู้สำเร็จการศึกษา มีความรู้ความสามารถทางการแพทย์ทหาร สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจที่ ได้รับมอบหมาย (พิจารณาจากผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ ด้านความรู้ ความเข้าใจ และ สามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ไว้ในมาตรฐาน การศึกษา จำนวน ๑ ตัวชี้วัด คือ “ผู้สำเร็จการศึกษา ≥ ร้อยละ ๘๐ มีค่าเฉลี่ย ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่าง มีประสิทธิภาพ) ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด” โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดการเรียนการสอนด้านความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหาร ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ประกอบด้วย วิชาการแพทย์ทหาร วิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ และวิชาฝึกปฏิบัติการ แพทย์ทหาร ๒ โดยมีเนื้อหาวิชาส่งเสริมให้นักเรียนจ่าได้เรียนรู้และเข้าใจในหลักการบริการแพทย์ทางยุทธวิธี การจัดตั้งหน่วยแพทย์สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร การส่งกำลังสายแพทย์ หลักการปฏิบัติเกี่ยวกับสงคราม นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี สุขภาพจิตทหารในการอนุรักษ์กำลังรบ และมีการฝึกการตรวจสุขาภิบาลหน่วยบกและ หน่วยเรือในสถานการณ์จริง 0 20 40 60 80 100 2563 2564 2565 วิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์ฯ ชั้นปี1 วิชาสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและฝึกประสบการณ์ฯ ชั้นปี2
๖๖ ทั้งนี้ ก่อนสำเร็จการศึกษา ได้จัดให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ได้ฝึกวิชาทหารแบบบูรณาการ ซึ่งกำหนด ไว้ในรายวิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ เพื่อให้นักเรียนจ่าได้นำความรู้หลักการทางด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ได้เรียนมาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในวิชาทหาร วิชาการแพทย์ทหาร และวิชาการฝึกปฏิบัติการแพทย์ ทหาร ๑ ไปใช้ในการฝึกภาคสนามในลักษณะการบูรณาการ ให้สอดคล้องกับการให้บริการทางการแพทย์ สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารอย่างเข้มข้น ซึ่งได้กำหนดพื้นที่ฝึกในที่ตั้งปกติบริเวณสนามกีฬา กรมแพทย์ ทหารเรือ และพื้นที่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี รวมทั้งได้จัดตั้งชุดอำนวยการฝึกที่ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน ฝึกการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศที่ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ ฝึกการเคลื่อนย้าย และลำเลียงผู้ป่วยทางเรือ ที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ ฝึกบุคคลทำการรบ การดำรงชีพ การใช้แผนที่ และเข็มทิศ อาวุธศึกษา การยิงปืนด้วยกระสุนจริง รวมถึงการจัดตั้งหน่วยแพทย์สนับสนุนหน่วยกำลังรบทางบก ณ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน สำหรับผลการเรียนในรายวิชาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานทางทหาร สรุปได้ดังนี้ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ร้อยละ ๗๐.๐๐ มีผลการเรียนวิชาการแพทย์ทหาร เกรด ≥ ๒.๕๐ (จำนวน ๔๒ นาย จากจำนวน ๖๐ นาย) - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ร้อยละ ๗๐.๐๐ มีผลการเรียนวิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ เกรด ≥ ๒.๕๐ (จำนวน ๔๒ นาย จากจำนวน ๖๐ นาย) - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ร้อยละ ๑๐๐ มีผลการเรียนวิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ เกรด ≥ ๒.๕๐ (จำนวน ๖๐ นาย จากจำนวน ๖๐ นาย) โดยผลสัมฤทธิ์ของการฝึกศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือ สามารถพิจารณาได้ จากผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ซึ่งได้ติดตามผู้สำเร็จการศึกษา จากหน่วยผู้ใช้หลังการปฏิบัติงานมาแล้วมากกว่า ๖ เดือน แต่เนื่องจากการติดตามผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (รุ่นที่ ๑๑๒: สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖) ยังไม่ถึงวงรอบการประเมิน โรงเรียน นาวิกเวชกิจจึงได้พิจารณาจากผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพ ของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการเมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลประเมินในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๖ อยู่ ในระดับความพึงพอใจมาก และผู้สำเร็จการศึกษา จำนวน ๖๑ นาย มีค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของ หน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ) ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ จากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด ๖๒ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๓๙ (ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง รายงานสรุปผลการประเมินความพึงพอใจหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔) ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) พบว่า จำนวน ผู้สำเร็จการศึกษา ได้รับการประเมินด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุ เข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ร้อยละ ๙๘.๓๙ ซึงมีค่าร้อยละที่สูง กว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐) และยังคงมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้นักเรียนจ่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่มี
๖๗ ความรู้ความสามารถทางการแพทย์ทหาร สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดแนวทางให้ครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการชี้แจงผลการประเมิน ความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ในที่ประชุม โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ประจำเดือน ให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูล และดำเนินการ หาแนวทางแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้อง โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) ชี้แจงต่อคณะกรรมการ สถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕.๖๖ โดยสรุปผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) มีผลประเมินความพึงพอใจของ หน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถ ปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด และมีผลย้อนหลัง ดังนี้ ผลประเมินความพึงพอใจ หน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของ ผู้สำเร็จการศึกษา ค่าเฉลี่ย ปีการศึกษา ๒๕๖๒ (รุ่น ๑๐๙) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (รุ่น ๑๑๐) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ด้านความรู้ความเข้าใจและ สามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับ ราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ≥ ๓.๕๑ ๕๔ / ๕๔ ๑๐๐ ๕๗/๖๐ ๙๕.๐๐ ๖๑/๖๒ ๙๘.๓๙
๖๘ สรุปผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่กำหนดในมาตรฐานการศึกษา ประเด็นที่ ๑.๑ (ด้านความรู้) ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ๑. ด้านความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ๑.๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียน จ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีผลการเรียนวิชา ทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๗๐ ๙๖.๗๗ (๖๐/๖๒) ๙๓.๓๓ (๕๖/๖๐) ๙๘.๓๓ (๕๙/๖๐) + ๑.๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียน จ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการเรียน วิชา การแพทย์ทหาร อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปี ที่ ๒ ทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๗๐ ๗๓.๓๓ (๕๔/๖๐) ๖๒.๙๐ (๓๙/๖๒) ๗๐.๐๐ (๔๒/๖๐) + ๒. ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี ๒.๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๑ ที่มีค่าเฉลี่ยผลการเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับปฏิบัติ การฉุกเฉินการแพทย์ อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๖๐ จากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐ (ใช้ปี๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ๕๖.๔๕ (๓๕/๖๒) ๗๐.๐๐ (๔๒/๖๐) ๘๐.๐๐ (๔๘/๖๐) + ๒.๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการสอบภาษา อังกฤษ ผ่านเกณฑ์ตามที่กองทัพเรือ กำหนด ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้น ปีที่ ๒ ทั้งหมด (ใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ยกเลิกและปรับ เป็น ๒.๒ ร้อยละของจำนวน นักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการ ป ร ะ เ ม ิ น ใ น โครงการพัฒนา ≥ ร้อยละ ๕๐ ≥ ร้อยละ ๖๐ ๑๐๐ (๖๐/๖๐) ๑๐๐ (๖๐/๖๐) ๑๐๐ (๖๒/๖๒) ๑๐๐ (๖๒/๖๒) - ๑๐๐ (๖๐/๖๐) - - =
๖๙ ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ เสร ิ มสร ้ างศ ั กยภาพด ้ า น ภาษาอังกฤษ ผ่านเกณฑ์ (ร้อย ละ ๖๐) ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้น ปีที่ ๒ ทั้งหมด (ใช้ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ๒.๓ ร้อยละของจำนวนนักเรียน จ่าชั้นปีที่ ๑ ที่มีผลการเรียนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ใน ระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียน จ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๖๐ จากเดิม ≥ ร้อยละ ๕๐ (ใช้ปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ๕๘.๐๖ (๓๖/๖๒) ๑๐๐ (๖๐/๖๐) ๑๐๐ (๖๐/๖๐) = ๒.๔ ร้อยละของจำนวนนักเรียน จ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีผลการเรียนวิชา โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์อยู่ ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวน นักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด (เพิ่มตัวชี้วัดปีการศึกษา ๒๕๖๕) ≥ ร้อยละ ๖๐ ๙๘.๓๓ (๕๙/๖๐) ๘๓.๘๗ (๕๒/๖๒) ๑๐๐ (๖๐/๖๐) + ๓. ด้านความรู้ในสาขาวิชาชีพที่ศึกษา ๓.๑ ร้อยละของนักเรียนจ่าชั้นปี ที่ ๑ ทีมีผลการสอบรายวิชาใน หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ (๑๒ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด (ใช้ในปีการศึกษา๒๕๖๓ - ๒๕๖๔)ยกเลิกและปรับเป็น ๓.๑ ร้อยละของนักเรียนจ่าชั้นปี ที่ ๑ ที่มีผลการสอบรายวิชาในกลุ่ม สมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและการฝึก ≥ ร้อยละ ๕๐ ≥ ร้อยละ ๖๐ ๗๒.๕๖ (๔๕/๖๒) ๗๗.๔๒ (๕๒/๖๒) ๖๕.๐๐ (๓๙/๖๐) ๘๖.๖๗ (๕๒/๖๐) - ๘๖.๖๗ (๕๒/๖๐) - - =
๗๐ ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด (ใช้ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ๓.๒ ร้อยละของนักเรียนจ่าชั้นปี ที่ ๒ ทีมีผลการสอบรายวิชาใน หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ (๑๔ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด (ใช้ในปีการศึกษา๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ยกเลิกและปรับเป็น ๓.๒ ร้อยละของนักเรียนจ่าชั้น ปีที่ ๒ ที่มีผลการสอบรายวิชาใน กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะและ การฝึกประสบการณ์สมรรถนะ วิชาชีพ (รวม ๕ วิชา) อยู่ในระดับ ≥ ๒.๕๐ ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ชั้น ปีที่ ๒ ทั้งหมด (ใช้ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ≥ ร้อยละ ๕๐ ≥ร้อยละ ๖๐ ๑๐๐ (๖๐/๖๐) ๗๐.๐๐ (๔๒/๖๐) ๘๐.๖๕ (๕๐/๖๒) ๗๐.๙๖ (๔๔/๖๒) - ๗๖.๖๗ (๔๖/๖๐) - - + ๔. ด้านความรู้ความสามารถทางการแพทย์ทหาร สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ พัฒนา การ (+/-) ๔.๑ ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จ การ ศึกษาที่มีผลประเมินความ พึงพอใจจากหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วย งานที่เกี่ยวข้อง (ด้าน คว ามรู้ในสายอาช ีพและ ความสามารถในการปฏิบัติงาน ≥ ร้อยละ ๘๐ ๑๐๐ (๕๔/๕๔) ๙๕.๐๐ (๕๗/๖๐) ๙๘.๓๘ (๖๑/๖๒) +
๗๑ ๔. ด้านความรู้ความสามารถทางการแพทย์ทหาร สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ พัฒนา การ (+/-) ตามสายวิทยาการเมื่อบรรจุเข้า ร ั บ ร า ช ก า ร ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี ประสิทธิภาพ) มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ ต่อจำนวนผู้สำเร็จ การศึกษาที่ได้รับการประเมิน ทั้งหมด รวมตัวชี้วัด ๕/๕ ๕/๕ ๕/๕ = คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ผลการประเมิน : ระดับคุณภาพ ดีมาก คำอธิบายประกอบการประเมิน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการกำหนดเป้าหมายในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทและสภาพจริง ของการฝึกปฏิบัติ รวมทั้งกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา และกำหนดเป้าประสงค์ในการ ดำเนินงานที่ชัดเจนครอบคลุมทั้งด้านความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี ด้าน ความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร และด้านความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษาให้แก่นักเรียนจ่า เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตร ส่งผลให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของหน่วย ต้นสังกัด หน่วยผู้ใช้ และกองทัพเรือ ด้วยการจัดการศึกษาเป็นไปตามโครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๖๓ และจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลายในการ พัฒนานักเรียนจ่าให้มีคุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ครอบคลุมทุกด้าน เป็นไปตามแผนปฏิบัติ ราชการประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ จัดให้มีการวัดประเมินผลตามระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการ ดำเนินการศึกษาสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคในส่วนการศึกษาที่สองและสี่ พ.ศ.๒๕๕๑ และที่แก้ไข เพิ่มเติม ซึ่งนักเรียนจ่าทุกนายมีผลการสอบความรู้ทางทหาร ความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ และได้ผู้สำเร็จ การศึกษาที่มีความรู้ในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตลอดปีการศึกษา บรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร มาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา และมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน นาวิกเวชกิจ ที่กำหนด โดยที่ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับ มอบหมายได้ ทั้งนี้ผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๔ (งูดิน ๑๑๑) มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่ มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุ เข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ เป็นรายบุคคล ถึงร้อยละ ๙๘.๓๘
๗๒ (๖๑/๖๒ นาย) ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้มีการวางแผนให้ครูผู้สอนได้มีการดำเนินการสอนเสริมนอกเวลา เรียนในหัวข้อที่ยากและนักเรียนร้องขอ จัดให้มีชั่วโมงทบทวนบทเรียนก่อนสอบปลายภาคเรียน และกำหนด แนวทางในการพัฒนาการจัดการฝึกศึกษาและจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ นำเสนอผลการดำเนินงานต่อหน่วยต้นสังกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดในภาพรวม ทุกตัวชี้วัด (ร้อยละ ๑๐๐ : (๕/๕ ตัวชี้วัด) บรรลุความสำเร็จ สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้แสดงให้เห็นว่า โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีกระบวนการดำเนินงานจัดการศึกษาที่ชัดเจน มีผลการสอบความรู้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้มาตรฐานเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีการดำเนินการใน องค์รวมด้านความรู้ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาในภาพรวมจะเห็นได้ว่า ผลการดำเนินการในภาพรวม ยังคงไว้ด้วยคุณภาพของการดำเนินงานจัดการฝึกศึกษาเพื่อให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ สาขาวิชาที่ศึกษา ทั้งด้านวิชาการ ด้านวิชาชีพ และด้านความรู้ทางทหารเป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษา วิชาชีพของหลักสูตร และที่กำหนดไว้ในคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา และมีผลสัมฤทธิ์ของ การฝึกศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือ โดยมีผลการดำเนินงานทุกรายการบรรลุความสำเร็จ ตามค่าเป้าหมายที่กำหนด สูงถึงร้อยละ ๑๐๐ ใน ๓ ปีการศึกษา ที่ผ่านมา (พิจารณาจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตลอดปีการศึกษา และผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ที่บรรลุความสำเร็จตามค่าเป้าหมายที่กำหนดทุกรายการ) จุดเด่น : - สถานศึกษาให้ความสำคัญในการเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ให้นักเรียนจ่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษา ที่มี ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่ศึกษา ทั้งด้านความรู้ทางทหาร ด้านวิชาการ และด้านวิชาชีพ เป็นไปตาม มาตรฐานคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๖๓ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือ จุดที่ควรพัฒนา : - แนวทางการพัฒนา เอกสารอ้างอิง : ๑. ระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือว่าด้วยการดำเนินการศึกษาของสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาค ส่วนการศึกษาที่สองและสี่ พ.ศ.๒๕๖๕ ๒. หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๖๓ ๓. แผนปฏิบัติราชการประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๔. ระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคใน ส่วนการศึกษาที่สองและสี่ พ.ศ.๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
๗๓ ๕. บันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๙.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอ ผลการสอบความรู้ (ยศ.๕) ๖. บันทึก คณะกรรมการยกระดับขีดความสามารถทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ที่ ๑๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง สรุปมติที่ประชุมสรุปผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ ครั้งที่ ๑ ๗. รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๘. บันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง รายงานสรุปผลการประเมินความพึงพอใจหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ประเด็นที่ ๑.๒ : ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ (๑) ด้านคุณลักษณะทหารที่ดี มีคุณลักษณะผู้นำทางทหารและทักษะทางทหาร ตามความต้องการของ กองทัพเรือ สมรรถภาพร่างกายที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม (๒) ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ มีทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีทักษะในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและการทำงานเป็นทีม มีทักษะในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีทักษะที่จำเป็นตาม ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (3Rs+8Cs) (๓) ด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่ กำหนด และสอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา (๔) ด้านทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของ หน่วย ต้นสังกัด สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ผลการดำเนินการ (๑) ด้านคุณลักษณะทหารที่ดี มีคุณลักษณะผู้นำทางทหารและทักษะทางทหาร ตามความต้องการของกองทัพเรือ สมรรถภาพร่างกายที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งทางกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม เป้าประสงค์ : ผู้เรียนมีความรู้ทางทหารที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และ สอดคล้องตามความต้องการของกองทัพเรือ (พิจารณาจาก จำนวนนักเรียนจ่าที่มีคะแนนความเหมาะสมในการ เป็นทหาร และมีคะแนนความประพฤติ ≥ ๘๐ คะแนน) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านคุณลักษณะทหารที่ดีไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๒ ตัวชี้วัด คือ ๑) นักเรียนจ่า ≥ ร้อยละ ๘๐ มีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่า ทั้งหมด ๒) นักเรียนจ่า ≥ ร้อยละ ๘๐ มีคะแนนความประพฤติ ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด (หมายเหตุ : ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ได้เพิ่มตัวชี้วัด)
๗๔ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ส่งเสริมให้นักเรียนจ่ามีคุณลักษณะทางทหารที่ดี มีทักษะการเป็นผู้นำ ทางทหาร ตามความต้องการของกองทัพเรือ มีสมรรถภาพร่างกายที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม โดยจัดการเรียนการสอนวิชาทหาร ทั้งภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติมีการกำหนดจุดมุ่งหมายและ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของรายวิชาไว้อย่างชัดเจนตามที่ระบุไว้ในโครงสร้างหลักสูตร เช่น ให้นักเรียนจ่ารู้และ เข้าใจในหลักการทหารเบื้องต้น บทบาทและลักษณะของบุคคลทำการรบ หลักการปกครองบังคับบัญชาทหาร ภาวะผู้นำ พระราชบัญญัติ ระเบียบ ข้อบังคับทหาร กฎหมายอาญาทหาร การรักษาความลับของทางราชการ มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ และมีระเบียบวินัยในการเป็นทหารที่ดีมีการฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการแถว การทำความ เคารพ การฝึกบุคคลท่ามือเปล่า อาวุธศึกษา เป็นต้น ซึ่งการเรียนการสอนมีเนื้อหาวิชา มีการวัดและประเมินผล ที่มีความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของรายวิชาที่ได้กำหนดไว้ โดยได้ขอรับการ สนับสนุนครูผู้สอนจาก สำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ (สนธ.ทร.) กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) กองรักษา ความปลอดภัยฐานทัพเรือกรุงเพท (กอง รปภ.ฐท.กท.) เพื่อให้นักเรียนจ่าได้รับความรู้และทักษะ สามารถ นำไปใช้ในการปฏิบัติราชการได้จริง นอกจากการจัดการเรียนการสอนรายวิชาทางทหารตามโครงสร้างหลักสูตรแล้ว โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมด้านทักษะทางทหารและภาวะผู้นำให้แก่นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ได้ฝึกปฏิบัติ เช่น กิจกรรมการแต่งตั้งนักเรียนบังคับบัญชา กิจกรรมการอบรมของนายทหารเวรปกครองประจำวัน หลังแถว ๒๐๐๐ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทหาร วินัยทหาร ระเบียบ ข้อบังคับ ภาวะผู้นำ การปฏิบัติหน้าที่เวรยาม และขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ ตามโอกาสและสถานการณ์ในแต่ละวัน และบันทึกการอบรมโดย จ่ายามนักเรียน พร้อมทั้งกำหนดให้นักเรียนจ่าปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำ (รปจ.) ของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด จัดทำโครงการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายของนักเรียนจ่า พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ เพื่อเสริมสร้าง ความแข็งแรงและความอดทนของร่างกาย ตลอดจนลักษณะท่าทางความเป็นทหาร โดยมีแผนกปกครอง (ครูพลศึกษา) เป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ จัดให้มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ซึ่งกำหนดไว้ปีละ ๑ ครั้ง โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานการทดสอบทางกายของกองทัพเรือ พ.ศ.๒๕๕๕ ในชายกลุ่ม อายุ ๒๐ - ๕๕ ปี ประกอบด้วย การลุกนั่ง การดันพื้น การดึงข้อ และการวิ่งระยะทาง ๒.๔ กม. รวมทั้งจัดทำ โครงการโรงเรียนนาวิกเวชกิจเสริมสร้างผู้เรียนให้มีภาวะผู้นำ เพื่อฝึกภาวะผู้นำและการบังคับบัญชาให้แก่นักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ โดยดำเนินการช่วงเดือน พฤษภาคม ถึง กันยายน พ.ศ.๒๕๖๕ ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลประเมินคุณลักษณะทางทหารที่ดี มีทักษะทางทหารและภาวะผู้นำทางทหาร โดยพิจารณาจาก คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร และคะแนน ความประพฤติ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยคะแนนประจำตัวนักเรียนและ นักเรียนทหาร พ.ศ.๒๕๖๓ โดยมีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์ วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๙.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการ สอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) โดยมีผล การประเมินตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดังนี้ ๑) นักเรียนจ่า จำนวน ๑๑๕ นาย มีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน จากจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๑๒๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๘๓ แยกเป็น
๗๕ (๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕๙ นาย มีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน จากจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๓๓ (๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕๖ นาย มีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน จากจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๓๓ ๒) นักเรียนจ่า จำนวน ๑๐๓ นาย มีคะแนนความประพฤติ≥ ๘๐ คะแนน จากจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๑๒๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๘๕.๘๓ แยกเป็น (๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕๑ นาย มีคะแนนความประพฤติ ≥ ๘๐ คะแนน จาก จำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๘๕ (๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕๒ นาย มีคะแนนความประพฤติ ≥ ๘๐ คะแนน จาก จำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๖๗ ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร และ คะแนนความประพฤติ (ผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร ) ของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี พบว่า จำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมดที่มีคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ร้อยละ ๙๕.๘๓ และมีคะแนนความประพฤติ ร้อยละ ๘๕.๘๓ ซึ่งทั้งสองรายการมีค่าร้อยละที่สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐) ซึ่งหลังจากที่ได้กำหนด แนวทางในการพัฒนาทักษะทางทหารและภาวะผู้นำให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ได้ฝึกปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น และ กำหนดให้ครูฝึก ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะทางทหารเพิ่มจากเดิม ได้แก่ โครงการครูที่ปรึกษา กิจกรรมพี่เลี้ยง (พี่บัดดี้) (เนื่องจากผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร: ≥ ๘๐ คะแนน) ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐)) ซึ่ง ได้ผลดีทำให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความ เหมาะสมในการเป็นทหาร) ที่สูงขึ้น และในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ยังคงปฏิบัติตามเดิมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปีมีผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ) ≥ ๘๐ คะแนน ที่สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการ เป็นทหาร) ของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปีในที่ประชุมประจำเดือนของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ และชี้แจงต่อคณะกรรมการ สถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ โดยสรุปนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการ เป็นทหาร และคะแนนความประพฤติ) ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบ ย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้
๗๖ รายการ เกณฑ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปีที่มีคะแนนความ เหมาะสมในการเป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน ๘๖ /๑๒๒ ๗๐.๔๙ ๑๑๑/๑๒๒ ๙๐.๙๘ ๑๑๕/๑๒๐ ๙๕.๘๓ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๒๖ / ๖๒ ๔๑.๙๔ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ๕๙/๖๐ ๙๘.๓๓ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ๕๑ / ๖๒ ๘๒.๒๖ ๕๖/๖๐ ๙๓.๓๓ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปีที่มีคะแนนความ ประพฤติ ≥ ๘๐ คะแนน ๑๒๐/๑๒๒ ๙๘.๓๖ ๑๑๘/๑๒๒ ๙๖.๗๒ ๑๐๓/๑๒๐ ๘๕.๘๓ -นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๕๘/๖๐ ๙๖.๖๗ ๕๘/๖๒ ๙๓.๕๕ ๕๑/๖๐ ๘๕.๐๐ -นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๖๒/๖๒ ๑๐๐ ๖๐/๖๐ ๑๐๐ ๕๒/๖๐ ๘๖.๖๗ แผนภูมิที่ ๕ ผลประเมินคุณลักษณะทางทหาร (คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร) (๒)ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ มีทักษะในการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีทักษะในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและการทำงานเป็นทีม มีทักษะใน การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีทักษะที่จำเป็นตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (3Rs+8Cs) 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 2563 2564 2565 คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ชั้นปี1 คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร ชั้นปี2
๗๗ เป้าประสงค์:ผู้เรียนมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษตามนโยบายของกองทัพเรือ (พิจารณาจาก ผลการสอบภาษาอังกฤษ ผ่านตามเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด ตั้งแต่ระดับ A2 ขึ้นไป และผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน (ข้อ ๑.๘ จาก ผลประเมินด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ) ≥ ๓.๕๑) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดีมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ มีทักษะในการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๒ ตัวชี้วัด คือ ๑) นักเรียนจ่า ≥ ร้อยละ ๕๐ มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับตั้งแต่ A ๒ ขึ้นไป ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด (หมายเหตุ : ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ปรับจากตัวชี้วัด “นักเรียนจ่า ≥ ร้อยละ ๖๐ มีผลการสอบภาษาอังกฤษผ่าน ตามเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด (ระดับ A1) ต่อจำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด (รวมสองชั้นปี)” เพื่อยกระดับการ ทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR เพิ่มมากขึ้น) ๒) ผู้สำเร็จการศึกษา ≥ ร้อยละ ๘๐ มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ด้านมีการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด นอกจากการกำหนดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และวิชาภาษาอังกฤษสำหรับ ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ตามโครงสร้างหลักสูตรที่กำหนดแล้วนั้น โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ส่งเสริมให้นักเรียนจ่า มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ด้วยการจัดทำ “โครงการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพทักษะด้านภาษาอังกฤษ ให้แก่ นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี เพื่อให้นักเรียนจ่ามีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการปฏิบัติราชการ สอดคล้องตามนโยบาย ของกองทัพเรือ รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนจ่ามีทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยจัดการเรียนการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดให้มีห้องสมุด ห้องเรียนคอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียน และมีระบบอินเตอร์เน็ตใช้งานตลอด ๒๔ ชั่วโมง สำหรับให้นักเรียนจ่าสืบค้นข้อมูล จัดทำรายงาน และการนำเสนอ ข้อมูลในชั้นเรียน นอกจากนี้ได้อนุญาตให้นักเรียนจ่า มีและสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ และ tablet ได้ โดยกำหนด สถานที่และเวลาของการใช้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันและใช้ประโยชน์ในการประเมินผลเรื่องต่าง ๆ แบบออนไลน์ ลดเวลา และลดความสิ้นเปลืองการใช้กระดาษได้อีกด้วย พร้อมทั้งส่งเสริมทักษะในการสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์ กับผู้อื่น และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (3Rs+8Cs) ทั้งนี้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ ได้จัดให้นักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี เข้ารับการทดสอบวัดระดับความ เข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR ของกรมยุทธศึกษาทหารเรือ (กองการศึกษา และศูนย์ภาษา) ซึ่งเป็น หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนนี้เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ผ่านทางระบบออนไลน์ ตามช่วงเวลาที่ศูนย์ภาษากำหนดให้มีการทดสอบ โดยนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ทุกนายสามารถสอบผ่านการ ทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR (ระดับ A1) ตามที่กองทัพเรือกำหนด (ตามบันทึก
๗๘ คณะกรรมการยกระดับขีดความสามารถทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ที่ ๑๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่อง สรุปมติที่ประชุมสรุปผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ ครั้งที่ ๑) สำหรับด้านทักษะในการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี ได้จัดการ เรียนการสอนในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ในภาคเรียนที่ ๒ เพื่อให้นักเรียนจ่ามี ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศ สื่อประสม การสื่อสารข้อมูลและระบบ เครือข่าย การสืบค้นข้อมูล และสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ การใช้โปรแกรมประยุกต์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ภัยคุกคามและความปลอดภัยในการใช้ระบบสารสนเทศ กฎหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร และได้กำหนดให้นำความรู้ที่ได้รับนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำรายงาน การจัดทำ สื่อออนไลน์ และการนำเสนอข้อมูลในชั้นเรียน ผ่านการสืบค้นข้อมูลบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และการ นำเสนอรายงานทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เป็นการเสริมทักษะให้นักเรียนจ่าให้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่เกิดความ ชำนาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งสามารถพิจารณาการมีทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการปฏิบัติงานของผู้สำเร็จการศึกษา ได้จากผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) ด้านการนำความรู้ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน ได้อีกช่องทางหนึ่ง (ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง รายงานสรุปผลการประเมินความพึงพอใจหน่วย ผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔) โดยมีผลการทดสอบวัดระดับความเข้าใจ ภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR และผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ ฯ ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด ดังนี้ ๑) นักเรียนจ่า จำนวน ๑๑๖ นาย มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับตั้งแต่ A 2ขึ้นไป จากจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ๑๒๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๖๗ แยกเป็น (๑) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ จำนวน ๕๘ นาย มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับ ตั้งแต่ A2ขึ้นไป จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๖๗ (๒) นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕๘ นาย มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับ ตั้งแต่ A2ขึ้นไป จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๖๗ ๒) ผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๔ จำนวน ๕๙ นาย มีผลประเมินความพึงพอใจของ หน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านมีการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จาก จากคะแนนเต็ม ๕ จากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมิน ทั้งหมด ๖๒ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๑๖ ทั้งนี้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) ของนักเรียนจ่า ทั้งสองชั้นปี และผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๔ พบว่า จำนวนนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) ระดับตั้งแต่ A 2ขึ้นไป ถึงร้อยละ ๙๖.๖๗และ ผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีผลประเมินด้านมีการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ ในการปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ ร้อยละ ๙๕.๑๖ ซึ่งทั้งสองรายการมีค่าร้อยละที่สูงกว่าค่าเป้าหมายที่ กำหนด และยังคงมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้นักเรียนจ่ามีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ มีทักษะในการประยุกต์ใช้
๗๙ เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดแนวทางให้ครูผู้สอน และผู้ที่ เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย ได้แก่ การจัดทำ Google class room แต่ละวิชา การบันทึกการเรียนสอนทาง Face book live การตั้งกลุ่มไลน์ของแต่ละชั้นปี เป็นต้น โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ ได้นำเสนอผลการทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR ของนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี และผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อ ผู้สำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) ชี้แจงต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการ ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ โดยสรุปนักเรียนจ่าทั้งสองชั้นปี มีผลการทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษที่เป็นสากล CEFR และผู้สำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษา ด้านการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงาน ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการสอบย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้ รายการ เกณฑ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปี ที่มีผลการทดสอบ วัดระดับความเข้าใจภาษา อังกฤษที่เป็นสากล CEFR ผ่านเกณฑ์ตามนโยบายที่ กองทัพเรือกำหนด ระดับ A 1 ๑๒๒ / ๑๒๒ ๑๐๐ ๑๒๒ / ๑๒๒ ๑๐๐ ๑๒๐ / ๑๒๐ ๑๐๐ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ ๖๒ / ๖๒ ๑๐๐ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ๖๐/ ๖๐ ๑๐๐ ๖๒ / ๖๒ ๑๐๐ ๖๐ / ๖๐ ๑๐๐ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งสอง ชั้นปี ที่มีผลการทดสอบ วัดระดับความเข้าใจภาษา อังกฤษที่เป็นสากล CEFR ผ่านเกณฑ์ตามนโยบายที่ กองทัพเรือกำหนด ระดับ A 2 ขึ้นไป - - ๑๑๐/๑๒๒ ๙๐.๑๖ ๑๑๖/๑๒๐ ๙๖.๖๗ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๑ - - ๕๔/๖๐ ๙๐.๐๐ ๕๘/๖๐ ๙๖.๖๗ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ - - ๕๖/๖๒ ๙๐.๓๒ ๕๘/๖๐ ๙๖.๖๗
๘๐ รายการ นักเรียน จ่า เกณฑ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ ผลประเมินความพึงพอใจหน่วยผู้ใช้ ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ (รุ่น ๑๐๙) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (รุ่น ๑๑๐) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) ด้านการนำความรู้ด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงาน (ข้อ ๑.๘) ≥ ๓.๕๑ ๕๒ / ๕๔ ๙๖.๓๐ ๕๘/๖๐ ๙๖.๖๗ ๕๙/๖๒ ๙๕.๑๖ (๓) ด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร มีผลการศึกษาและการฝึกบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด และ สอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา เป้าประสงค์: ผู้สำเร็จการศึกษามีผลการศึกษาภาคปฏิบัติบรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนดและสอดคล้องตามมาตรฐาน หลักสูตร (พิจารณาจาก ผลการสอบของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ที่มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษา (คะแนนในช่อง ซ* ของ ยศ.๕) ≥ ร้อยละ ๘๐) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร ไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๑ ตัวชี้วัด คือ “นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๘๐ มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด” (หมายเหตุ : ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ปรับตัวชี้วัดใหม่ “นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ≥ ร้อยละ ๘๐ มีคะแนนเฉลี่ยผลการ ฝึกปฏิบัติตลอดปี (คะแนน ช่อง ง* ผลการปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ในแบบ ยศ.๕) ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด เนื่องจากมีความสอดคล้องและชัดเจนมากกว่าเดิม) โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ดำเนินการจัดให้ผู้เรียนได้ศึกษาและฝึกปฏิบัติตามหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ โดยจัดการเรียนการสอนในหมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพทั้งภาค ทฤษฎีและภาคปฏิบัติตลอดหลักสูตร จำนวน ๒๕ รายวิชา มีแผนการจัดการเรียนการสอน มีการวัดและประเมิน สอดคล้องกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ทุกรายวิชา สามารถพิจารณาด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษา ในหลักสูตร ได้จากวิชาฝึกปฏิบัติของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕ รายวิชา ได้แก่ วิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ ทหาร ๑ วิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ วิชาฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพ ๒ วิชาฝึกปฏิบัติโครงการพัฒนา ทักษะวิชาชีพปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และวิชาฝึกปฏิบัติการบริบาลเบื้องต้นในหน่วยบริการปฐมภูมิ ในการฝึกปฏิบัติงานด้านฉุกเฉินการแพทย์ ได้ให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ นำความรู้และทักษะด้าน การแพทย์ฉุกเฉิน มาใช้ในการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง และได้ขอรับการสนับสนุนหน่วยฝึกที่ โรงพยาบาล สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ส่วนการฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒
๘๑ นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จะได้รับการฝึกให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ในการให้บริการทางการแพทย์สนับสนุน การปฏิบัติการทางทหาร ได้แก่ ฝึกการรักษา การเคลื่อนย้ายและลำเลียงผู้บาดเจ็บในเรือหลวง ฝึกการลำเลียง ผู้ป่วยโดยอากาศยาน (ฮลล.) ฝึกอาวุธศึกษา/การยิงปืนด้วยกระสุนจริง เป็นต้น โดยใช้พื้นที่ของกรมแพทย์ ทหารเรือ และพื้นที่ของหน่วยกำลังรบของกองทัพเรือ ทั้งหน่วยเรือ หน่วยบก และอากาศยาน รวมถึงทะเลอ่าว ไทยตอนบน และในรายวิชาฝึกปฏิบัติโครงการพัฒนาทักษะปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ได้กำหนดให้นักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ สร้างงานนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์และจัดให้มีโครงการประกวดนวัตกรรม งานสร้างสรรค์ และสิ่งประดิษฐ์ โดยการดำเนินงานของโครงการฯ จะมอบให้นักเรียนจ่าเป็นผู้รับผิดชอบ และมอบหมายงานตามกิจกรรมที่กำหนด ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ปรับแผนการฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๒ (ฝึกภาคสนาม) ให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ โดย กำหนดให้มีหัวข้อการฝึกในพื้นที่ของกรมแพทย์ทหารเรือเป็นหลัก ได้แก่การจัดตั้งหมวดพยาบาลการเคลื่อนย้าย และลำเลียงผู้ป่วยเจ็บ การเวชกรรมป้องกัน เป็นต้น สำหรับการฝึกบุคคลทำการรบ การดำรงชีพ การใช้แผนที่และ เข็มทิศ ยังคงใช้สถานที่ฝึกของ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน เช่นเดิม และได้ปรับแผนการฝึกการ ลำเลียงผู้ป่วยเจ็บทางอากาศยาน จากกองการบินทหารเรือ มาใช้พื้นที่สนามกีฬากรมแพทย์ทหารเรือ และในปี การศึกษา ๒๕๖๕ สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ได้ลดลง ทั้งนี้ ในการจัดโครงการฝึกเสริมประสบการณ์ก่อนฝึกภาคปฏิบัติ ให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มี จุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้ ในการฝึกหัตถการก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง กำหนดให้เรียนหัวข้อเรื่อง “การปฏิบัติการฉุกเฉินทางน้ำและทางทะเล (MALS: Maritime Aquatic Life Support)” ในรายวิชาเวชศาสตร์ทางทะเล โดยทีมครูผู้สอนจากกองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน ซึ่งเป็นการ ส่งเสริมอัตลักษณ์ของผู้เรียน ในส่วนของการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การเพิ่มพูนทักษะด้านการแพทย์ ฉุกเฉินของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒” เพื่อให้นักเรียนจ่าได้ทบทวน ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติรวมถึงการแข่งขันทักษะด้านการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS rally) ซึ่งได้มีการประเมินผลโดยคณะครู อาจารย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้งมีการจัดโครงการในรูปแบบการบริการวิชาการ/ วิชาชีพ โดยครูอาจารย์ของโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ร่วมกับนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ได้นำความรู้วิชาชีพออกไปทำการ สอนการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพขั้นพื้นฐานให้แก่กำลังพลกองทัพเรือ และประชาชนทั่วไป ปีละ ๑ ครั้ง และ จัดโครงการฝึกเสริมประสบการณ์เทคนิคหัตถการนอกเวลาให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ในภาคเรียนที่ ๑ เพื่อ เพิ่มพูนทักษะ ประสบการณ์ และสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ในการฝึกวิชาฝึกประสบการณ์ สมรรถนะวิชาชีพ ๒ ต่อไป ซึ่งผลการฝึกภาคปฏิบัติที่หลากหลายดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้นักเรียนจ่าชั้นปี ๒ เป็นผู้มีทักษะใน สาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร โดยพิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ตามเกณฑ์ที่ กำหนดไว้ในระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ โดยมีคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา (พิจารณา จากคะแนนในแบบ ยศ.๕ ช่อง ง* ที่มีคะแนนเฉลี่ย ≥ ๘๐ คะแนน) ในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ทางโรงเรียนนาวิก เวชกิจ ได้พิจารณาเป้าหมายใหม่โดยพิจารณาจากคะแนนแบบ ยศ.๕ ช่อง ซ* แทน ซึ่งเป็นภาคปฏิบัติทั้งหมด ที่รวมถึง การฝึกปฏิบัติ พลศึกษา คะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหาร และคะแนนประจำตัวนักเรียน
๘๒ เนื่องจากมีความสอดคล้องและชัดเจนมากกว่าเดิม ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๘.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) โดยมีผลการฝึกปฏิบัติตลอดปี การศึกษา ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดังนี้ - นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕๔ นาย มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน จากจำนวนนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ๖๐ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๐๐ ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์คะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษาของนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ พบว่า จำนวนนักเรียนจ่า มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติร้อยละ ๙๐.๐๐ ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด หลังจากที่ได้มีการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้คะแนนการฝึกในปีการศึกษาที่ผ่านมาต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด จึงได้ประการประเมินทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร และกำหนดแนวทางในการพัฒนารายวิชาฝึกปฏิบัติ ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๕ รายวิชา และให้ครูผู้สอนได้มีการดำเนินการจัดการเรียนการสอน การ ประเมินให้สอดคล้องกับสถาณการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (เนื่องจากจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ มีคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน ต่ำ กว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐) และนักเรียนจ่าชั้นปี ๒ ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ มีคะแนนเฉลี่ยผลการ ฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา สูงขึ้นจากปีการศึกษาที่ผ่านมาแต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด) ส่วนในปีการศึกษา ๒๕๖๕ สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ และปรับการประเมินใหม่เป็นคะแนนภาคปฏิบัติตลอดตลอด ปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน ส่งผลให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา สูงขึ้นจากปีการศึกษาที่ผ่านมาและสูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐) โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ชี้แจงต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ โดยสรุปนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติ/คะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปี การศึกษา ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลการฝึกย้อนหลัง สรุปได้ดังนี้ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ ชั้นปี ๒ คะแนนเฉลี่ยผล การ ฝึกปฏิบัติตลอดปี การศึกษา (พิจารณา คะแนนใน ยศ.๕ จากช่อง ง*) ≥ ๘๐ คะแนน ๓๗/๖๐ ๖๑.๖๗ ๔๓/๖๒ ๖๙.๓๕ - - ค ะ แ น น เ ฉ ลี่ ย ภาคปฏิบัติตลอดปี การศึกษา (พิจารณา ≥ ๘๐ คะแนน ๕๘/๖๐ ๙๖.๖๗ ๕๕/๖๒ ๘๘.๗๑ ๕๔/๖๐ ๙๐.๐๐
๘๓ นักเรียน จ่า รายการ เกณฑ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ จำนวน(นาย) ร้อยละ คะแนนใน ยศ.๕ จากช่อง ซ*) (๔) ด้านทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยต้นสังกัด สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เป้าประสงค์: ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ทางทหารของตนที่ได้จากการศึกษาตามหลักสูตรฯ ในการปฏิบัติงานได้ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย (พิจารณาจาก จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีผลประเมินความ พึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการ ≥ ๓.๕๑) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ไว้ในมาตรฐาน การศึกษา จำนวน ๑ ตัวชี้วัด คือ “ผู้สำเร็จการศึกษา ≥ ร้อยละ ๘๐ มีค่าเฉลี่ยผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่าง มีประสิทธิภาพ) ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด” โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ดำเนินการให้นักเรียนจ่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษา ที่มีทักษะในการปฏิบัติงาน การบริการทางการแพทย์สนับสนุนการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งได้จัดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ประกอบด้วย วิชาการแพทย์ทหาร และวิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ - ๒ มีเนื้อหาวิชาที่ส่งเสริมให้นักเรียนจ่ารู้ และเข้าใจหลักการบริการแพทย์ยุทธวิธี การจัดตั้งหน่วยแพทย์สนับสนุนการรบ การส่งกำลังสายแพทย์หลักปฏิบัติ เกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี สุขภาพจิตทหาร ในการอนุรักษ์กำลังรบ และฝึกการตรวจสุขาภิบาลหน่วยบก หน่วยเรือในสถานการณ์จริง ซึ่งในการเรียนการสอนของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ได้จัดให้มีการฝึกรายวิชาปฏิบัติ การแพทย์ทหาร ๒ เพื่อให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ได้นำความรู้ทางด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้เรียนมาทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติมาประยุกต์ใช้และบูรณาการให้สอดคล้องกับการให้บริการทางการแพทย์สนับสนุนการปฏิบัติการ ทางทหาร มีห้วงเวลาการฝึกประมาณ ๑ เดือน โดยให้นักเรียนจ่าสามารถนำความรู้และทักษะมาประยุกต์ใช้ เมื่อสำเร็จการศึกษา เพื่อตอบสนองภารกิจของกรมแพทย์ทหารเรือ และกองทัพเรือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลสัมฤทธิ์ของการฝึกศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือ สามารถพิจารณาได้ จากผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ซึ่งได้ติดตามผู้สำเร็จ การศึกษาจากหน่วยผู้ใช้หลังการปฏิบัติงานมาแล้ว ๖ เดือน แต่เนื่องจากการติดตามผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (รุ่นที่ ๑๑๒ : สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖) ยังไม่ถึงวงรอบการประเมิน โรงเรียน นาวิกเวชกิจ จึงได้พิจารณาจากผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) ด้านความรู้ ความเข้าใจ และสามารถ
๘๔ ปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลประเมินในภาพรวม มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๖ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก และผู้สำเร็จการศึกษา จำนวน ๖๑ นาย มีผลประเมิน ความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ) มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ จากจำนวน ผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด ๖๒ นาย คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๓๙ (ตามบันทึก โรงเรียนนาวิกเวช กิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง รายงานสรุปผลการประเมิน ความพึงพอใจหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔) ทั้งนี้โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ทำการวิเคราะห์ผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) พบว่า จำนวน ผู้สำเร็จการศึกษา ได้รับการประเมินด้านความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ร้อยละ ๙๘.๓๙ ซึงมีค่าร้อยละที่สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด (≥ ร้อยละ ๘๐) และ ยังคงมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้นักเรียนจ่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ ศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยต้นสังกัด สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานใน ภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดแนวทางให้ครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การเรียนการสอนแบบบูรณาการ การจำลอง สถานการณ์จริง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เสมือนสภาพจริงมากที่สุด โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ผลการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) ชี้แจงต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์ วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ โดยสรุปผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่นที่ ๑๑๑) มีผลประเมินความพึงพอใจของ หน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ด้านความรู้ ความเข้าใจ และสามารถ ปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ ตามเกณฑ์และค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด และมีผลย้อนหลัง ดังนี้ ผลประเมินความพึงพอใจ หน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของ ผู้สำเร็จการศึกษา ค่าเฉลี่ย ปีการศึกษา ๒๕๖๒ (รุ่น ๑๐๙) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (รุ่น ๑๑๐) ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (รุ่น ๑๑๑) จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ จำนวน (นาย) ร้อยละ ด้านความรู้ ความเข้าใจ และ สามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับ ราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ≥ ๓.๕๑ ๕๒/๕๔ ๙๖.๓๐ ๕๗/๖๐ ๙๕.๐๐ ๖๑/๖๒ ๙๘.๓๙
๘๕ สรุปผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่กำหนดในมาตรฐานการศึกษา ประเด็นที่ ๑.๒ (ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้) ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ๑. ด้านคุณลักษณะทหารที่ดี มีคุณลักษณะผู้นำทางทหารและทักษะทางทหาร ๑.๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ที่ มีคะแนนความเหมาะสม ในการ เป็นทหาร ≥ ๘๐ คะแนน ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๘๐ ๗๐.๔๙ ๙๐.๙๘ ๙๕.๘๓ + ๑.๒ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ที่มีคะแนนความประพฤติ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่า ทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๘๐ ๙๖.๖๗ ๘๘.๗๑ ๙๐.๐๐ + ๒. ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี ๒.๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ที่มีผลการสอบภาษาอังกฤษผ่าน ตามเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด ต่อจำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด (รวมสองชั้นปี) (ใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ยกเลิกและปรับ เป็น ๒.๑ ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ที่มีผลการสอบภาษาอังกฤษ (CEFR) อยู่ในระดับตั้งแต่ A2 ขึ้นไป ต่อ จำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด (ใช้ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ร้อยละ ๑๐๐ ≥ ร้อยละ ๕๐ ๑๐๐ - - ๑๐๐ ๙๐.๑๖ - ๙๖.๖๗ - - +
๘๖ ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ๒.๒ ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จ การ ศึกษาที่มีผลประเมินความ พึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือ หน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง (มีการนำ ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน) มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนน เต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการ ศึกษาทั้งหมด ≥ ร้อยละ ๘๐ ๙๖.๓๐ ๙๖.๖๗ ๙๕.๑๖ - ๓. ด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร - ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปี ที่ ๒ ที่มีคะแนนเฉลี่ยผล การฝึกปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด (ใช้ ในปีการศึกษา๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ยกเลิกและปรับเป็น - ร้อยละของจำนวนนักเรียนจ่า ชั้นปีที่ ๒ ที่มีคะแนนเฉลี่ย ภาคปฏิบัติตลอดปีการศึกษา ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวน นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด (ใช้ปีการศึกษา ๒๕๖๕) ≥ ร้อยละ ๘๐ ๗๙.๖๓ ๖๑.๖๗ ๙๐.๐๐ + ๔. ด้านทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ - ร้อยละของจำนวนผู้สำเร็จการ ศึกษาที่มีผลประเมินความพึงพอใจ ≥ ร้อยละ ๘๐ ๙๖.๓๐ ๙๕.๐๐ ๙๘.๓๙ +
๘๗ ที่ ตัวชี้วัด ค่า เป้าหมาย ผลดำเนินงานปีการศึกษา พัฒนา การ (+/-) ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลที่ได้ บรรลุ หรือไม่ ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อ คุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง (ด้านความรู้ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานตามสาย วิทยาการเมื่อบรรจุเข้ารับราชการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ) มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการ ศึกษาทั้งหมด รวมตัวชี้วัด ๓/๕ ๔/๕ ๕/๕ + คิดเป็นร้อยละ ๖๐ ๘๐ ๑๐๐ ผลการประเมิน : ระดับคุณภาพ ดีมาก คำอธิบายประกอบการประเมิน โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการกำหนดเป้าหมายในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทและสภาพจริง ของการฝึกปฏิบัติ รวมทั้งกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา และกำหนดเป้าประสงค์ใน การดำเนินการด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้านคุณลักษณะทหารที่ดี ด้านคุณลักษณะ พลเมืองที่ดีด้านทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร และด้านทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ในการจัดการฝึกศึกษาให้แก่นักเรียนจ่าให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร เพื่อให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มี คุณภาพตรงตามความต้องการของหน่วยต้นสังกัด หน่วยผู้ใช้ และกองทัพเรือ โดยจัดการเรียนการสอนเป็นไปตาม โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๖๓ และจัด กิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลายในการพัฒนานักเรียนจ่าให้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่สามารถนำทักษะไป ประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการหรือในสถานการณ์จริงได้ และเพื่อให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มีคุณลักษณะของ ผู้สำเร็จการศึกษาที่พึงประสงค์ครอบคลุมทุกด้าน เป็นไปตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ จัดให้ มีการวัดประเมินผลตามระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษา เป็นภาคในส่วนการศึกษาที่สองและสี่ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยคะแนนประจำตัวนักเรียนและนักเรียนทหาร พ.ศ.๒๕๖๓ โดยนักเรียนจ่าทุกนาย มีคะแนนความ เหมาะสมในการเป็นทหารผ่านเกณฑ์ที่กำหนดในหลักสูตร และมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ตาม นโยบายที่กองทัพเรือกำหนด มีผลการทดสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษ (CEFR) สูงกว่าระดับ A1 ถึง
๘๘ ร้อยละ ๙๖.๖๗ ทั้งสองชั้นปีสำหรับผลการศึกษาและการฝึกทักษะในสาขาวิชาที่ศึกษาในหลักสูตร และ สอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพแขนงที่ศึกษา ของนักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ซึ่งทางโรงเรียนนาวิกเวชกิจ ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทักษะการกู้ชีพช่วยชีวิต เป็นส่วนใหญ่ จึงได้มีการพิจารณาปรับเป้าหมายใหม่ โดยนำผลคะแนนในยศ.๕ ช่อง ซ ซึ่งเป็นภาคปฏิบัติ ทั้งหมดที่รวมถึง การฝึกปฏิบัติตลอดปีพลศึกษา คะแนนความเหมาะสมการเป็นทหาร และคะแนนประจำตัว นักเรียน เนื่องจากมีความสอดคล้องและชัดเจนมากกว่าเดิม มาใช้แทนคะแนนเฉลี่ยผลการฝึกปฏิบัติตลอดปี ส่งผลให้นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ มีคะแนนเฉลี่ยภาคปฏิบัติตลอดปีผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร (≥ ๘๐ คะแนน) ถึงร้อยละ ๙๐.๐๐ สูงขึ้นกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา และเป็นไปตามค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างไรก็ ตาม โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักเรียนจ่าอย่างต่อเนื่อง และจัดหาแหล่งฝึกเพิ่มเติมให้ นักเรียนจ่าได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย และยังคงใช้แนวทางในการพัฒนารายวิชาฝึกปฏิบัติ (จำนวน ๕ รายวิชา) ที่ได้กำหนดไว้ดำเนินการฝึกปฏิบัติให้แก่นักเรียนจ่าชั้นปีที่ ๒ ในปีการศึกษาต่อไปไว้เช่นเดิม รวมทั้งได้ กำหนดให้ครูผู้สอนได้มีการดำเนินการจัดการเรียนการสอน การประเมินให้สอดคล้องกับสถาณการณ์ใน ปัจจุบัน ในส่วนของการมีทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สำเร็จการศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๔ (งูดิน ๑๑๑) ซึ่งพิจารณาจากผู้สำเร็จการศึกษาที่มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ข้อ ๑.๘ มีการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน (ข้อ ๑.๘) มีผล ประเมินความพึงพอใจ ≥ ๓.๕๑ ถึงร้อยละ ๙๕.๑๖ อีกทั้งผู้สำเร็จการศึกษามีผลประเมินด้านความรู้ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติงานตามสายวิทยาการ เมื่อบรรจุเข้ารับราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาพรวม มีผล ประเมินอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.๓๖) ทั้งนี้ โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ยังคงมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้าง ให้นักเรียนจ่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะในการปฏิบัติงานทางทหารในแขนงที่ศึกษา ที่สอดคล้องกับความ ต้องการของหน่วยต้นสังกัด สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ของตนในการปฏิบัติงานในภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดแนวทางให้ครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดการเรียนการ สอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ การจำลองสถานการณ์จริง การแก้ปัญหา เฉพาะหน้า เพื่อให้นักเรียนจ่าได้เรียนรู้เสมือนสภาพจริงมากที่สุด และได้มีการวางแผนจัดกิจกรรม และหรือ กำหนดแนวทางในการพัฒนาการจัดการฝึกศึกษาอย่างต่อเนื่อง และมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และนำเสนอ ผลการดำเนินงานต่อหน่วยต้นสังกัด และหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดในภาพรวม ทุกตัวชี้วัด (ร้อยละ ๑๐๐ : ๕/๕ ตัวชี้วัด) บรรลุ ความสำเร็จตามป้าหมายที่กำหนดไว้และสูงขึ้นกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีกระบวนการดำเนินงานจัดการศึกษาที่ชัดเจน มีผลการฝึก และหรือผลการทดสอบด้านทักษะและการ ประยุกต์ใช้ที่ได้มาตรฐานเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีการดำเนินการในองค์รวมด้านทักษะและการ ประยุกต์ใช้ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาถึงผลการดำเนินการในองค์รวมด้านทักษะและการ ประยุกต์ใช้ จะเห็นได้ว่าโรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพิจารณาในภาพรวมจะเห็นได้ ว่า ผลการดำเนินการในภาพรวมยังคงไว้ด้วยคุณภาพของการดำเนินงานจัดการฝึกศึกษาเพื่อให้ได้ผู้สำเร็จ การศึกษาที่มีทักษะวิชาชีพ ทักษะทางทหาร และทักษะชีวิตเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพของหลักสูตร และที่กำหนดไว้ในคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สามารถประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน และมี
๘๙ ผลสัมฤทธิ์ของการฝึกศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพเรือ โดยมีผลการดำเนินงานทุกรายการ บรรลุความสำเร็จตามค่าเป้าหมายที่กำหนด สูงถึงร้อยละ ๑๐๐ ใน ๓ ปีการศึกษาที่ผ่านมา (พิจารณาจาก หลักฐานเชิงประจักษ์ผลการดำเนินงาน ผลการสอบทักษะและการประยุกต์ใช้ผลการฝึกตลอดปีการศึกษา และ ผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษา ที่บรรลุความสำเร็จสูงกว่า เป้าหมายที่กำหนดทุกรายการ) จุดเด่น : - สถานศึกษาให้ความสำคัญในการเสริมสร้างและพัฒนาทักษะในการให้บริการทางการแพทย์สนับสนุน การปฏิบัติการทางทหาร เพื่อให้ได้ผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะในการปฏิบัติงานทางทหาร สามารถนำความรู้ และทักษะมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน ตอบสนองภารกิจของกรมแพทย์ทหารเรือ และกองทัพเรือ ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ จุดที่ควรพัฒนา : - แนวทางการพัฒนา เอกสารอ้างอิง : ๑. หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พ.ศ.๒๕๖๓ ๒. ระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยการดำเนินการศึกษาสถานศึกษาซึ่งจัดการศึกษาเป็นภาคใน ส่วนการศึกษาที่สองและสี่ พ.ศ.๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓. ระเบียบกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ว่าด้วยคะแนนประจำตัวนักเรียนและนักเรียนทหาร พ.ศ.๒๕๖๓ ๔. บันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ที่ กห ๐๕๒๘.๘.๓/๒๓ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง ขอเสนอผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และแบบเสนอ ผลการสอบความรู้นักเรียนจ่า (ยศ.๕) ๕. บันทึก คณะกรรมการยกระดับขีดความสามารถทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ที่ ๑๙/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง สรุปมติที่ประชุมสรุปผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ ครั้งที่ ๑ ๖. รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ ทหารเรือ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ๗. บันทึก โรงเรียนนาวิกเวชกิจศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง รายงานผลโครงการประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้ที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษา ของผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔
๙๐ ประเด็นที่ ๑.๓: ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๑.๓.๑ คุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ (๑) ด้านคุณลักษณะทหารที่ดี มีระเบียบวินัย มีความอดทนอดกลั้น มีคุณธรรม จริยธรรม มีความ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สุจริต มีความเสียสละ จงรักภักดีต่อประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ (๒) ด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี มีจรรยาบรรณวิชาชีพ เจตคติและกิจนิสัยที่ดี ภูมิใจและรักษา เอกลักษณ์ของชาติไทย เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่น มีความรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสาธารณะและความรับผิดชอบต่อสังคม และมีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลการดำเนินการ (๑) ด้านคุณลักษณะทหารที่ดีมีระเบียบวินัย มีความอดทนอดกลั้น มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ สุจริต มีความเสียสละ จงรักภักดีต่อประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ เป้าประสงค์: ๑) ผู้สำเร็จการศึกษา มีระเบียบ วินัย มีความอดทนอดกลั้น มีคุณธรรมจริยธรรม จงรักภักดีต่อ ประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ (พิจารณาจาก จำนวนนักเรียนจ่าที่มีคะแนนประจำประจำตัวนักเรียน ทหาร (ผลรวมของคะแนนความเหมาะสมในการเป็นทหารและคะแนนความประพฤติ) ≥ ๘๐ คะแนน) ๒) ผู้สำเร็จการศึกษามีจรรยาบรรณ วิชาชีพ เจตคติ และกิจนิสัยที่ดี ภูมิใจและรักษาเอกลักษณ์ ชองชาติไทย เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่น มีความรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ชองตนเองตามระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสาธารณะและความรับผิดชอบต่อสังคม และมี จิตสำนึก รักษ์สิ่งแวดล้อม (พิจารณาจาก จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีคุณลักษณะทางทหาร และด้านความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑) เป้าหมาย : โรงเรียนนาวิกเวชกิจ มีการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ และได้กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์(ด้านคุณลักษณะ ทหารที่ดี) ไว้ในมาตรฐานการศึกษา จำนวน ๒ ตัวชี้วัด คือ (๑) นักเรียนจ่า ≥ ร้อยละ ๘๐ มีคะแนนประจำตัวนักเรียนทหาร (ผลรวมของคะแนนความเหมาะสม ในการเป็นทหารและคะแนนความประพฤติ) ≥ ๘๐ คะแนน ต่อจำนวนนักเรียนจ่าทั้งหมด (รวมสองชั้นปี) (๒) ผู้สำเร็จการศึกษา ≥ ร้อยละ ๘๐ มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยผู้ใช้หรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีคุณลักษณะทางทหารและด้านความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีค่าเฉลี่ย ≥ ๓.๕๑ จากคะแนนเต็ม ๕ ต่อจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้รับการประเมินทั้งหมด โรงเรียนนาวิกเวชกิจฯ ได้ส่งเสริมให้ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่ พึงประสงค์ ทั้งในด้านคุณลักษณะทหารที่ดี และด้านคุณลักษณะพลเมืองที่ดี ด้วยการจัดการเรียนการสอนใน วิชาเกี่ยวกับทางทหาร ประกอบด้วย วิชาทหาร วิชาการแพทย์ทหาร วิชาฝึกปฏิบัติการแพทย์ทหาร ๑ และวิชา