286 2. สามารถสมัครเพื่อเข้าใช้งานหรือจะเข้าใช้งานได้ทันทีโดยเข้าเว็บและทำการเลือก รูปภาพและปริ้นออกมาโดยรูปภาพมีทั้งมีค่าใช้จ่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในโหมดฟรี สามารถเข้าได้ที่ Coloring Packs และกดที่ Education เพื่อทำการเลือกรูปภาพ 3. เมื่อเลือกรูปภาพตามที่ต้องการได้แล้วให้คลิกที่ View แล้วจะเข้ามาสู่หน้า ดาวน์โหลดจากนั้นให้กดดาวน์โหลด และเข้าไปเลือกแบบรูปอีกครั้งโดยกดที่ View & Download
287 4. เมื่อดาวน์โหลดภาพที่พร้อมระบายสีแล้วจะได้รูปแบบดังนี้ เมื่อได้ทำการระบายสีเสร็จให้ทำการเปิดแอพในสมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วส่องไปที่ภาพที่ ระบาย รอสักครู่ก็จะเห็นภาพกลายเป็นภาพ 3D และเคลื่อนไหวได้
288 “Spatial” “Spatial” ที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com Spatial คืออะไร? Metaverse spatial เป็นการสร้างโลกเสมืองจริงแบบ Virtual Reality นำมาใช้สร้าง ห้องเรียนออนไลน์ประชุมออนไลน์จัดนิทรรศการออนไลน์จัดอีเวนท์ออนไลน์ เสมือนจริง Virtual Classroom Virtual Meeting Virtual Exhibition Virtual Events ภาพที่ 34 โลโก้เว็บไซต์ Spatial
289 2.คลิก Dive in now 1.เข้าสู่เว็บไซต์ https://www.spatial.io/ 3.คลิก Sign in to continue Google, Appy, Microsoft, MetaMask หรือ Use Email เพื่อกรอกอีเมล การเข้าใช้งาน Spatial การเข้าใช้งาน Spatial
290 ขั้นตอนการสร้างและปรับเปลี่ยน ตัวตนเสมือน (Avatar) 4.เมื่อสมัครเข้าใช้งานได้แล้วจะมีรูปตัวตนเสมือน (Avatar) และจะมีปุ่ม Create a Space 1. คลิก Icon รูปภาพ 2. คลิกที่ Profile หรือที่ Icon จะรูปปากกาบนตัวตนเสมือน (Avatar) สำหรับการแก้ไข เมื่อคลิกแล้วจะปรากฏดังรูป
291 3. สามารถเลือก Customize Avatar ได้ตามใจชอบ หากต้องการให้รูป ตัวตนเสมือน (Avatar) เหมือนตัวจริง ให้คลิกที่ GENERATE HEAD 4. ผู้สอนและผู้เรียนสามารถเลือกเป็นถ่ายรูปจากกล้องของคอมพิวเตอร์หรือ สามารถอัปโหลดรูปภาพจากเครื่องได้เช่นกัน 5. หากกด Icon รูปกล้องก็จะเป็น การเข้าสู่การถ่ายภาพ 6. หากกด Icon UPLOAD PHOTO ก็จะเป็นการนำไฟล์ภาพในเครื่อง มาใช้สร้างรูปตัวตนเสมือน (Avatar) จะมีหน้าต่างขึ้นดังภาพ
292 7. เมื่อทำการสร้างรูปตัวตนเสมือน (Avatar) จำภาพถ่ายหรือภาพที่ อัปโหลดแล้วและต้องการที่จะหรับ แต่งตัวละครต่อให้เลือก Create Avatar ขั้นตอนการสำรวจโลก Metaverse 1. เมื่อลงชื่อเข้าใช้งานเรียบร้อยแล้วจะมีหน้าต่าง Spaces ให้คลิกที่ Explore จากนั้นคลิกห้องที่ต้องการสำรวจ ขั้นตอนการสำรวจ Metaverse ของตนเอง 1. ให้คลิกที่ Your Spaces และคลิกต่อที่ Home
293 2. เข้าสู่หน้า Metaverse ของตนเอง ขั้นตอนการสร้างพื้นที่ Metaverse ของตนเอง 1. ผู้สอนสามารถสร้างพื้นที่ Metaverse ใหม่สำหรับใช้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตามต้องการ เช่น เป็นห้องประชุม จัดนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ และห้องเรียน ออนไลน์ และสามารถเชิญให้ผู้อื่นเข้ามาชมพื้นที่และทรัพยากรร่วมกันได้ และการสร้างสามารถทำได้โดยกดที่หน้า CREATE A SPACE ในหน้าแรกและ สามารถเลือกสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ตามชอบ
294 2. พื้นที่ Metaverse ใหม่ 3. เมื่อเข้ามาสู่หน้าพื้นที่ Metaverse ใหม่ผู้สอนสามารถนำข้อมูลเข้ามาใส่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของพื้นที่ Metaverse ได้ตามแบบฟอร์ม 4. การเพิ่มข้อมูลในพื้นที่ Metaverse ผู้สอนสามารถเพิ่มข้อมูลชิ้นงานได้โดยการเลือก แบบฟอร์มที่กรอบการ Upload ต่าง ๆ หรือการเพิ่มข้อมูลชิ้นงานโดยการคลิกที่ Icon + Add content
295 5. เมื่อคลิก Add content 6. ผู้สอนสามารถเลือกรูปแบบการอัปโหลดข้อมูลหรือชิ้นงานได้ตามต้องการ และความเหมาะสม ขั้นตอนการแชร์ลิงค์เชิญผู้เข้าร่วมพื้นที่ Metaverse 1. หากผู้สอนต้องการที่จะกำหนดพื้นที่ของ Metaverse ที่พร้อมสำหรับเชิญให้ ผู้เรียนเข้าร่วมพื้นที่ ใช้วิธีการแชร์ลิงค์และส่งลิงค์เชิญผู้ใช้อื่นในช่องทางต่าง ๆ ได้ การแชร์ลิงค์เชิญผู้เข้าร่วมพื้นที่ Metaverse สามารถทำได้ดังนี้ 1. คลิกที่ Share screen 2. คลิกเลือกรูปแบบการแชร์ - Entire Screen แชร์ทั้งหน้าจอ - Window แชร์เฉพาะหน้าต่างโปรแกรมที่เลือก - Chrome Tep แชร์เฉพาะแท็บในเบราว์เซอร์
296 3. เลือกหน้าจอหรือหน้าต่างที่ผู้สอนต้องการแชร์ 4. คลิกเลือก Share System Audio เพื่อให้สามารถส่งสัญญาณเสียงจาก ความพิวเตอร์ได้ 5. คลิก Share และจะสามมรถกำหนดขนาดและตำแหน่งได้ตาม ต้องการ
297 1. Pisarn DIY Creator (นามแฝง) : สร้างโลก metaverse ด้วย spatial.io วิธีการใช้งาน เบื้องต้น เข้าใจง่าย ทำตามได้ (https://www.youtube.com/watch?v=TDdXbEJJFc8&t=319s) 2. ครูอภิวัฒน์"สอนสร้างสื่อ" (นามแฝง) : สร้างห้องเรียนออนไลน์ในโลกใบใหม่ด้วย Metaverse spatial (https://www.youtube.com/watch?v=LpNkbzK5cWs) 3. อาจารย์วิน MotionGraphicPlus (นามแฝง) : วิธีการใช้ microsoft teams เริ่มจาก 0 ใช้เป็นใน 15 นาที จบปัญหา เข้า microsoft teams ไม่ได้ (https://www.youtube.com/watch?v=SlDlSMFAISY&t=1s) “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม”
298 3. OAR Channel (นามแฝง) : การสร้างห้องเรียน Metaverse ง่ายนิดเดียว (https://www.youtube.com/watch?v=4vJFIgHu1oM) 2. แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อง Microsoft Teams คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง? จากช่อง LDA World 3. แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อง วิธีการใช้ microsoft teams เริ่มจาก 0 ใช้เป็นใน 15 นาที จบปัญหา เข้า microsoft teams ไม่ได้ จากช่อง อาจารย์วิน MotionGraphicPlus
299
300
301 “แหล่งเรียนรู้ออนไลน์”ส ำหรับครู” ขอนำเสนอ 3 เว็บไซต์แหล่งเรียนรู้ออนไลน์สำหรับครู ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้ที่สนใจได้เข้ามาหาไอเดียเกี่ยวกับการเรียนการสอน เทคนิคการสอนต่างๆ ที่มีประโยชน์และน่าสนใจ เป็นศูนย์รวมของการเรียนรู้ กิจกรรมใหม่ๆที่มาจาก การใช้จริงของคุณครูหลากหลายท่าน ที่น่าสนใจอย่างมาก 1.www.ครูพร้อม.com 2.Inskru 3. Starfish Labz ที่มา: Freepik.com
302 “www.ครูพร้อม.com”ส ำหรับครู” “www.ครูพร้อม.com”ส ำหรับครู” www.ครูพร้อม.com เป็นแหล่งเรียนรู้เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม ครูพร้อม ถือเป็นพื้นที่การเรียนรู้ออนไลน์ที่มีเนื้อหาที่ได้รับการรับรองจาก กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนมากมาในรูปแบบคลิปที่สามารถดูได้เรื่อย ๆ โดยเนื้อหา นั้นจะมีหลากหลาย ทั้งสายอาชีพ สอนทำอาหาร รวมไปถึงในแบบวิชาการ ทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ และอื่นๆ มี 6 เมนู ให้เลือกเรียนรู้ตาม ความสนใจของแต่ละคน ที่มา: www.ครูพร้อม.com
303 อยากเรียน ฟังก์ชั่นอยากเรียน จะรวบรวมบทเรียนที่น่าสนใจ เพื่อเตรียม ความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ถึง 130 บทเรียน โดยผู้ที่เข้าใช้งานสามารถพิมพ์ เพื่อค้นหาเรื่องที่สนใจได้ในช่องค้นหา จากนั้นหากกดเข้าไปแล้วระบบจะแสดง ข้อมูลการเรียนรู้เป็นไฟล์ PDF ซึ่งประกอบไปด้วยภาพและตัวอักษร อยากรู้ ฟังก์ชั่นอยากรู้จะรวบรวมสื่อและกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้นอก ตำราเรียน รวม 49 เรื่องที่น่าสนใจ เช่น เรื่องของภาษา เรื่องกฎหมาย เป็นต้น อยากเรียน ฟังก์ชั่นอยากเรียน จะรวบรวมบทเรียนที่น่าสนใจ เพื่อเตรียม ความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ถึง 130 บทเรียน โดยผู้ที่เข้าใช้งานสามารถพิมพ์
304 อยากดู ฟังก์ชั่นอยากดูจะเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ใหม่ผ่านไลฟ์ และรายการ ที่น่าสนใจ เช่น เรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เป็นต้น โดยมี รายการทั้งสิ้น 151 รายการ อยากทำ ฟังก์ชั่นอยากทำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบลงมือทำ เพราะจะเต็มไป ด้วยแหล่งเรียนรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจ ชวนให้คิดและลองทำ ถึง 212 รายการ เช่น วิธีการทำอาหาร การจัดดอกไม้ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เป็นต้น อยากดู ฟังก์ชั่นอยากดูจะเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ใหม่ผ่านไลฟ์ และรายการ ที่น่าสนใจ เช่น เรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เป็นต้น โดยมี รายการทั้งสิ้น 151 รายการ
305 อยากสอน ใครที่เป็นครูควรจะลองเข้าฟังก์ชั่นนี้ เพราะจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ การ เตรียมความพร้อมของครู พร้อมแนะแนวทางการสอนที่หลากหลายในทุก ระดับชั้น และหลากหลายวิชา อยากแชร์ ฟังก์ชั่นนี้ เป็นการ Challenge ของคนที่อยากจะลองเป็นคุณครูโดย การสร้างสรรค์คลิปตามความยาวที่กำหนด เนื้อหาด้านในคลิปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ อะไรก็ได้ที่อยากจะแชร์หรือบอกต่อ โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะนำตัวอย่างคลิปของ คุณครูหรือบุคคลทั่วไปที่ร่วมกิจกรรมมานำเสนอในเว็บไซต์ครูพร้อม อีกทั้งจะมีการใส่ เครดิตเจ้าของคลิปให้ด้วย
306 “Inskru” “Inskru” (ที่มา : https://web.facebook.com/groups/283591248717329/user/100068429601126/) ภาพที่ 35 โลโก้เว็บไซต์ inskru Inskru เป็น Online Platform พื้นที่แลกเปลี่ยนไอเดียการสอน ระหว่าง ครูและคนรักการสอนทั่วประเทศ ที่มาจากคำว่า inspire และ kru เพื่อเปิด พื้นที่ให้ครู 5 แสนคนทั่วประเทศ สามารถแบ่งปันแผนการสอน สื่อการสอน ชีทแบบฝึกหัด และเทคนิคการสอนต่างๆ เปิดมุมมองการสอนและขยาย ไอเดียดีๆ สู่ห้องเรียนทั่วประเทศ โดยครูผู้ใช้สามารถให้เรตติ้ง คอมเมนต์ และคำติชม เพื่อต่อยอดไอเดียและให้กำลังใจผู้แบ่งปัน โดยสามารถค้นหา จากหมวดหมู่ไอเดีย เช่น วิชา ชั้นเรียน หมวดหมู่ย่อย รูปแบบการสอน สื่อ การสอนและอุปกรณ์ ผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน
307 กำรเข้ำใช้งำนเว็บไซต์ Inskru ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์ https://inskru.com/ เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้วผู้สอนสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อค้นหาไอเดียการสอนหรือแบ่งปันไอเดีย การสอนต่างๆได้ ขั้นตอนที่ 2 การเข้าสู่ระบบเพียงเลือกว่าจะเข้าสู่ระบบ ผ่านFacebook หรือลงทะเบียนด้วยอีเมล เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ Inskru ได้แล้ว
308 ขั้นตอนที่ 3 ผู้สอนสามารถค้นหาไอเดียการสอนโดย การเลือกแท๊กต่างๆ ได้ตามต้องการ ผู้สอนสามารถแบ่งปันไอเดียการสอนให้กับผู้สอนอื่นได้โดยเลือกที่ แบ่งปันไอเดีย และแบ่งปันไอเดียวิธีการสอนต่างๆ ได้ทันที
309 นอกจากนี้ Inskru ยังมีช่องทางค้นหา ไอเดียการสอนต่างๆ หรือข่าวสาร เกี่ยวกับการศึกษาได้ที่ Facebook Inskru
310 “Starfish Labz” “Starfish Labz” Starfish Labz แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์แห่งแรกของประเทศ สำหรับนักการศึกษาและผู้ปกครอง ที่ใช้ง่าย กระชับ แต่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา และกิจกรรมสนุกๆ ในเรื่องการจัดการศึกษาแนวใหม่ การพัฒนาการเด็ก นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาโดยคอร์สใน Starfish Labz เหมาะ สำหรับการเรียนรู้นวัตกรรม การจัดการศึกษาแนวใหม่ รวมถึงการพัฒนาการ เด็ก จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปกครอง และสถาบันต่างๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึง ได้ ทุกที่ทุกเวลา แบบไม่มีค่าใช้จ่าย (ที่มา : https://web.facebook.com/starfishlabz) ภาพที่ 38 โลโก้เว็บไซต์ Starfish Labz
311 กำรเข้ำใช้งำนเว็บไซต์ starfish labz ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์ https://www.starfishlabz.com/ ขั้นตอนที่ 2 การเข้าใช้งานให้คลิกที่ เข้าสู่ระบบ เลือกว่าจะเข้าสู่ระบบผ่านFacebook หรือ ลงทะเบียนด้วยอีเมลและกรอกข้อมูล เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ Starfish Labz ได้แล้ว
312 เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วระบบจะนำเข้าสู่หน้าที่เสมือนการสะสมแต้มซึ่งแยก เป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้แก่ ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา ด้านความสัมพันธ์ การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง การรู้จักสังคม แต้มเหล่านี้จะได้มาจากการเข้าเรียนคอร์สเรียนต่าง ๆ ในเว็บไซต์ซึ่งผู้สอน สามารถเลือกเรียนได้และถ้าวิชานั้น ๆ ตรงกับหมวดหมู่ในข้อไหนก็จะถือเป็นการ สะสมแต้มแต่ละหมวดหมู่ไปในตัว
313 ในระบบมีคอร์สเรียนที่หลากหลายให้เลือกเรียนกว่า 100+ คอร์ส แบ่งแยกเป็น 12 หมวดหมู่ ออกแบบและคัดสรรมาเพื่อคุณครูและผู้ปกครองไทยโดยเฉพาะ บทเรียนส่วนมากใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็เรียนจบได้ มีการอัพเดทอยู่เสมอ หยิบ ยกประเด็นสำคัญในปัจจุบันมา และยังมีข่าวสารเกี่ยวกับการศึกษาให้อัพเดทอยู่ เสมออีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจเป็นอย่างมาก
314 ในระบบมีคอร์สเรียนที่หลากหลายให้เลือกเรียนกว่า 100+ คอร์ส แบ่งแยกเป็น 12 หมวดหมู่ ออกแบบและคัดสรรมาเพื่อคุณครูและผู้ปกครองไทยโดยเฉพาะ บทเรียนส่วนมากใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็เรียนจบได้ มีการอัพเดทอยู่เสมอ หยิบ ยกประเด็นสำคัญในปัจจุบันมา และยังมีข่าวสารเกี่ยวกับการศึกษาให้อัพเดทอยู่ เสมออีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจเป็นอย่างมาก
สรุป ครูผู้สอนมืออาชีพทุกคน จำเป็นต้องพลิกโฉมชั้นเรียนของตนด้วย นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน ตามบริบทที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีความรู้ เนื้อหา ศาสตร์การสอน การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ความรู้และทักษะ ระดับมืออาชีพที่นำมาสนับสนุนการจัดการชั้นเรียน และ การวิจัย “สื่อดิจิทัล” เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเรียนการสอน ที่ ได้รับการยอมรับว่าสอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบันและอนาคตเพียงแต่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามพัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัล แม้ว่าครูผู้สอนจะ สามารถเลือกใช้ หรือ รวบรวมจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ ในกิจกรรมที่ออกแบบไว้ก็ตาม แต่ “สื่อที่ดีที่สุด คือ สื่อที่ออกแบบ และ สร้างโดยตัวครูผู้สอน” หนังสือนี้ การสร้างสื่อดิจิทัลสำหรับครูมืออาชีพ Digital Media Creation for Professional Teachersนี้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับครู ประจำการ นิสิตนักศึกษาครูและผู้สนใจ พิจารณาคัดสรรเพื่อเป็นพื้นฐาน การสร้างสื่อดิจิทัลอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ในแต่ละบท มีการรวบรวม แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อศึกษาตามความสนใจต่อไป
บรรณานุกรม Advanced iservice. (2022). ทำความรู้จัก UX/UI คืออะไรแตกต่างกันอย่างไร? เข้าถึง 12 มีนาคม 2565 https://www.advancedis.co.th/en/blog/. C. M. . Reigeluth. (1996). A new paradigm of ISD?. Educational Technology & Society, 36(3), 13-20. C. M. Reigeluth. (1996). A new paradigm of ISD?. Educational Technology & Society, 36(3), 13-20. Courtney McIntosh. (March 28 2017). ADDIE vs. SAM - Which learning methodology is better?.Retrieved From https://www.linkedin.com/pulse/addie-vs-samwhich-learning-methodology-better-courtney-mcintosh/. DEMETER. (2019). UX / UI คืออะไร? เข้าถึง 12 มีนาคม 2565 https://www.dmit.co.th/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7% E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3/ux-vsui/88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3/ux-vs-ui/. ETS Education Technology. (ม.ป.ป.). การเข้าใช้งาน Quizizz สืบค้น 20 พฤษถาคม 2565 http://human.skru.ac.th/file/Quizizz164.pdf. K. L. Rasmussen. (1998). Hypermedia and learning styles: Can performance be influenced?. Journal of Multimedia and Hypermedia, 7(4). Kennesaw State University. (May 8, 2021). Successive Approximation Model (SAM) Retrieved https://dli.kennesaw.edu/resources/idmodels/sam.php. M. Michael. (2003). In Search of the Elusive ADDIE Model. Performance Improvement. 42(5) May/June 2003 p.35-36 www.ispi.org.
บรรณานุกรม Marketingoops. (2020). เข้าใจกระบวนการคิดและทำงานแบบ ‘Agile – Scrum’ ทำไม ถึงสำคัญเวลาประชุม ‘ก้าวเล็กแต่บรรลุเป้าหมายใหญ่เร็ว’ เข้าถึง 30 พฤศจิกายน 2562 https://www.marketingoops.com/data/how-to-effectivelyplan-sprints-for-agile-and-scrum-marketing-teams/. N.D Fleming. (2006). V.A.R.K visual, aural/auditory, read/write, kinesthetic. New Zealand: Bonwell Green Mountain Falls. N.D., & Mills, C. Fleming. (1992). VARK not another inventory, rather a catalystfor reflection. To Improve the Academy, 11(1), 137-144. N.D., & Mills, C. Fleming. (2008). VARK a guide to learning styles. Retrieved March 2, 2017, http://www.varklearn.com. Plook Teacher. (ม.ป.ป.). Application ช่วยสอน : Kahoot สืบค้น 21 พฤษภาคม 2565 https://www.trueplookpanya.com/blog/content/87997/-blog-teareshttps://www.thailibrary.in.th/2014/08/24/presenttips/http://202.44.135.20/training/wpcontent/uploads/2018/document/Manual _Prezi-Sirimart.p. Techsauce Team. (2018). Agile Methodology บันไดสู่ความสำเร็จยุค Digital Transformation. เข้าถึง 8 ตุลาคม 2563 https://techsauce.co/tech-andbiz/agile-methodology-for-digital- transformation. Translator. Sureeporn Pawuttipattarapong. (2014). VARKs questionnaire.Retrieved March 2, 2021, from http://vark-learn.com/wp-ontent/uploads/ . http://www.okmd.or.th/bbl/articles/217/VARK-how-learning-you-styl.
บรรณานุกรม เด่นชัย พันธุ์เกต. (ม.ป.ป.). องค์ประกอบของสื่อดิจิทัล สืบค้น 10 พฤษภาคม 2565 http://scimooc.bsru.ac.th/file/article/20200821-112251.pdf. ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2561). การออกแบบการเรียนแนวดิจิทัล. . กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ดวงกมล โพธิ์นาค, และกฤช สินธนะกุล ธนาวุฒิ นิลมณี. (2559). การจำแนกรูปแบบ การเรียนรู้ตามรูปแบบ VARK ของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา หน้า 145-158. ธงชัย เส็งศรี. (2558). การออกแบบบทเรียนสื่อปฏิสัมพันธ์ และสื่อหลายมิติ (รายงาน วิจัย). ชลบุรี มหาวิทยาลัยบูรพา. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ. (2558). วงจร PDCA. เข้าถึง 2 มีนาคม 2560 https://www.ftpi.or.th/. สถาบันฝึกอบรมเอ็นเทรนนิ่ง. (2561)). PDCA คืออะไรและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเรา ได้อย่างไร. เข้าถึง 12 ตุลาคม 2561 https://www.entraining.net/article/PDCAscrum-marketing-teams/. สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน). (ม.ป.ป.). VARKการเรียนรู้ แบบไหน…สไตล์คุณ. สืบค้น 2 มีนาคม 2559, http://www.okmd.or.th/bbl/articles/217/VARK-how-learning-you-styl. สุธาสินี โพธิจันทร์.ฃ. (2558). PDCA หัวใจสำคัญของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง. เข้าถึง 2 มีนาคม 2560 https://www.ftpi.or.th/2015/2125.
VARK รูปแบบการเรียนรู้ตามความถนัด ในการรับข้อมูล
รูปแบบการเรียนรู้ตามความถนัด ในการรับข้อมูล แนวคิดของเฟรมมิ่ง (Fleming) และ มิลส์ (Mills) [1] [2] [3] [4] Fleming และ Mills [1] ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้ โดยพิจารณา จากลักษณะของประสาทสัมผัสที่รับข้อมูล และแบ่งรูปแบบการเรียนรู้ตามความชอบหรือ ความถนัดในการรับข้อมูลไว้ 4 กลุ่ม โดยเรียกชื่อการแบ่งกลุ่มนี้ว่า VARK Model หรือ VARK Learning Styles ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อออกแบบกิจกรรมการเรียนและผลิตมัลติมีเดียใน สื่อดิจิทัลรูปแบบต่าง ๆ ได้ กลุ่ม ลักษณะผู้เรียน กิจกรรม และ ความสามารถ V = Visual รูปแบบ การเรียนรู้ ที่สื่อด้วย ภาพและ สัญลักษณ์ ชอบการเรียนรู้จากภาพ และ สามารถมองเห็น ข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบ แผนที่ แผนผัง แผนภาพ กราฟ แผนภูมิ และลูกศร สัญลักษณ์ต่างๆ ดีกว่า การบอกเล่าเป็นคำพูดหรือ ลายลักษณ์อักษร • ชอบทำงานหรืออ่านหนังสือในบรรยากาศ ที่เงียบสงบ • ชอบวางแผนก่อนลงมือทำ • อ่านและทำความเข้าใจกับแผนที่ แผนภูมิ และภาษาสัญลักษณ์ได้ดี • ชอบเห็นภาพรวมก่อนที่จะเจาะลึกลงใน รายละเอียด • ชอบสีสันและสามารถจำแนกแยกแยะสิ่ง ต่างๆ จากรูปลักษณ์และสีสัน • สามารถจำลองเรื่องราว ลำดับเหตุการณ์ และขั้นตอนต่างๆ ที่ได้เห็น เป็นภาพหรือ แผนภาพในสมอง สามารถกระตุ้นได้ด้วยสื่อการสอนที่เน้น รูปภาพและสีสันที่เหมาะสม
A = Aural / Auditory รูปแบบ การเรียนรู้ ที่สื่อด้วย เสียง รับรู้ข้อมูลผ่านโสตประสาท หรือผ่านการได้ยินได้ฟัง ชอบการฟังบรรยาย ฟัง เทป การสนทนากลุ่มย่อย การพูดคุยทางโทรศัพท์ แม้แต่การพูดคุยกับตัวเอง หรือคิดออกมาดังๆ เพื่อ เรียบเรียงความคิด และหา คำตอบให้กับเรื่องที่ ครุ่นคิดอยู่ขณะนั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็น คนกลุ่มนี้พูดคนเดียว หรือ พูดกับหนังสือในมือ เพราะ กำลังใช้ความคิดผ่านการ พูด • ชอบอ่านออกเสียงดังๆ • ไม่อายที่จะพูดต่อสาธารณชน • ชอบฟังคำอธิบาย และชอบอธิบาย • จดจำชื่อคนและสิ่งต่างๆ ได้ดี • ได้ยินและระบุเสียงประกอบฉากที่ได้ยินใน ภาพยนตร์ได้ • ชอบฟังดนตรี • เรียนภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศได้ดี • อ่านช้าๆ • อยู่เงียบๆ ไม่ได้นาน • ชอบขึ้นแสดงบนเวที เช่น ละคร ทอล์คโชว์ • ปฏิบัติตามคำบอกได้ดี ใช้การบรรยาย การอภิปรายกลุ่ม R = Read / write รูปแบบ การเรียนรู้ ที่สื่อด้วย อักษร ชอบข้อมูลที่เป็นลาย ลักษณ์อักษร นักวิชาการ ส่วนใหญ่จะมีลักษณะการ เรียนรู้รูปแบบนี้โดดเด่น มาก เพราะเป็นรูปแบบการ เรียนรู้ ที่เน้นการรับและส่งข้อมูล ผ่านการอ่านและการเขียน มักจะพกพาพจนานุกรม โปรแกรมนำเสนอ เอกสาร ต่างๆ ติดตัวไว้เสมอ และ เป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตัวเอง • ชอบอ่านทุกสิ่งทุกอย่าง • พกสมุดโน้ต และปากกาติดตัว (หรือ เครื่องบันทึกอื่นๆ เช่น tablet notebook) • ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เนตเป็นประจำ • มีพจนานุกรม dictionary อยู่ใกล้ตัวเสมอ • ชอบเล่นกับตัวอักษร เช่น crossword, scrabble • เขียน diary, logbook หรือ รายการสิ่งที่ กระทำในแต่ละวัน • สะสมตำรา • ปฏิบัติตามคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้ดี • ชอบเขียนบทความ ความคิดเห็น เรื่องแต่ง สารคดี ฯลฯ มอบหมายให้อ่าน ค้นคว้า และ สรุป
ที่มา: สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน), ม.ป.ป. [5] หมายเหตุ: ผู้สนใจสามารถศึกษาแบบสอบถาม VARK ฉบับภาษาไทย http://vark-learn. com/ แบบสอบถาม/ [6] ซึ่งแปลมาจาก VARK Learning Style questionnaire version 7.0 โดย ลักษณะของแบบสอบถามจะวัดรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล ลักษณะของคำถามใน แบบสอบถาม เป็นแบบสอบถามที่มีจำนวนทั้งสิ้น 16 ข้อ โดยในแต่ละข้อจะมี 4 ตัวเลือก กลุ่ม ลักษณะผู้เรียน K = Kinestheti c รูปแบบ การเรียนรู้ ที่สื่อด้วย สัมผัสและ การ กระทำ ใช้ประสบการณ์และ การลงมือปฏิบัติ ไม่ว่าจะ เป็นในสถานการณ์จำลอง หรือสถานการจริงก็ตาม ถึงแม้ว่าประสบการณ์จะมี ผลกระตุ้นการเรียนรู้ทุก รูปแบบก็ตาม แต่ชอบการ เรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับความ เป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ตรงส่วนตัว ตัวอย่าง แบบจำลอง การ ลงมือปฏิบัติ หรือ สถานการณ์จำลอง รวมถึง การสาธิต การจำลองสถานการณ์ ด้วยภาพยนตร์ ละคร หรือ กรณีศึกษา • สนุกสนานกับการค้นคว้า ทดลอง ลงมือ ปฎิบัติ การสาธิต และทัศนศึกษา • จดจำได้ดีเมื่อมีการใช้อุปกรณ์ สร้าง แบบจำลอง และจับต้องสิ่งที่กำลังเรียนรู้ • นั่งอยู่เฉยๆ นานๆ ไม่ได้ ชอบเดินไปมา และเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ • มีแนวโน้มเป็นนักสะสม • พูดเร็ว และชอบแสดงท่าทางประกอบ • ชอบเล่นกีฬาหรือเครื่องดนตรี • ชอบเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากกว่าเป็น ผู้สังเกตการณ์ • ปฏิบัติตามการสาธิตได้ดี การลงมือปฏิบัติ / กระทำจริง
ภาพแสดงการตรวจสอบลักษณะผู้เรียนโดยแบบสอบถาม VARK ฉบับภาษาไทย ที่มา: Sureeporn Pawuttipattarapong, 2014 [6] แม้ว่า Fleming และ Mills [1] จะจำแนกรูปแบบการเรียนรู้แบบ VARK เป็น 4 กลุ่ม แต่ส่วนใหญ่ ผู้เรียนจะมีรูปแบบหลายลักษณะ ในการจำแนกรูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบ VARK: The Classification of VARK Learning Style นั้น หากถนัดอย่างใดอย่างหนึ่ง (Unimodal learner) คือ ผู้เรียนที่มีความถนัด 1 ด้าน (V, A, R, K) และ ผู้เรียนที่มีความถนัดหลายอย่าง (Multimodal Learner) สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ 1) ผู้เรียน ที่มีความถนัด 2 ด้าน Bi-modal (VA, VR, VK, AR, AK, RK) 2) ผู้เรียนที่มีความถนัด 3 ด้าน Tri-modal (VAR, VAK, ARK, VRK) และ 3) ผู้เรียนที่มีความถนัด 4 ด้าน Quad-modal (VARK)
ตารางแสดงการจำแนกรูปแบบการเรียนรู้ VARK [2] [3] [4] Learner VARK Learning Style I Unimodal V A R K II Multimodal - Bi-modal VA VR VK AR AK RK - Tri-modal VAR VAK ARK VRK - Quad-modal VARK ที่มา: Fleming, & Mills, 2008; [3] ธนาวุฒิ นิลมณี, และคณะ, 2559[4] ดังนั้น รูปแบบการเรียนรู้จึงเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ใช้พัฒนาประสิทธิภาพ จากการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น ในสภาพแวดล้อมหนึ่ง จึงไม่เหมาะกับผู้เรียนทุกคน ภายใต้ความ เชื่อว่าผู้เรียนมีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกันในการใช้ เข้าถึง และประมวลผลข้อมูลที่ต่างกัน [7] แต่สามารถทำงานร่วมกันได้ ผู้เรียนจะเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการเรียนการ สอนนั้น เหมาะสมหรือสอดคล้องกับรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล [8] ดังนั้น การ ออกแบบและพัฒนาสื่อดิจิทัลลักษณะต่าง ๆหากนำรูปแบบการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ ก็จะ ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียนแต่ละคนด้วยเช่นกัน