The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Supanee Sengsri, 2023-02-03 01:25:24

การสร้างสื่อดิจิทัลสำหรับครูมืออาชีพ Digital Media Creation for Professional Teachers

การสร้างสือดิจิทัลสำหรับครู

236 การเข้าใช้งาน Wix ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์ https://www.wix.com/ เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้วจะปรากฏ ดังภาพ ขั้นตอนที่ 2 คลิก"เริ่มเลย"จากนั้นจะถูกนำไปที่หน้าจอ ลงทะเบียนซึ่งสามารถสร้างบัญชี Wix ใหม่หรือ ลงทะเบียนด้วยบัญชี Facebook หรือ Google ขั้นตอนที่ 3 เข้าสู่ระบบเรียบร้อยจะปรากฏ เทมเพลตมาให้เลือกใช้


237 ขั้นตอนที่ 3 หากไม่ต้องการใช้เทมเพลต หรือ ต้องการออกแบบเว็บไซต์ด้วย ตนเองให้คลิกที่ เทมเพลตเปล่า ขั้นตอนที่ 4 หลังจากเลือกธีมและคลิกปุ่ม "แก้ไข" จะเข้าสู่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบลากและ วางของ Wix ให้ทำการออกแบบเว็บไซต์ตามต้องการ


238 ขั้นตอนที่ 5 หลังจากออกแบบเว็บไซต์เรียบร้อย แล้ว ให้คลิกที่ เผยแพร่ ขั้นตอนที่ 6 ตั้งชื่อไซต์ซึ่งชื่อไซต์ของจะปรากฏเป็น: www.wix.com/yourusername/sitename จากนั้นกดบันทึกและดำเนินการต่อ ขั้นตอนที่ 6 ขั้นตอนที่ 7 เมื่อคลิกบันทึกแล้ว จากนั้นคลิก เสร็จ เว็บไซต์ก็จะได้รับการเผยแพร่ทันที “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม”


239 1. AJ.Noonan (นามแฝง) : รู้จักกับ Google Sites (https://www.youtube.com/watch?v=SbWFbLhz6P4&t=1s) 2. AJ.Noonan (นามแฝง) : การสร้าง Sites และ การปรับแต่งส่วนหัวของเว็บ (https://www.youtube.com/watch?v=KrJQlFsIPkA) “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม”


240 3. Silhouette (นามแฝง) : สอนสร้างเว็บไซต์ WIX EP. 1 - ทำความรู้จัก, สมัคร และเรียนรู้เครื่องมือ WIX (https://www.youtube.com/watch?v=BRY4hTkpUXs)


241


242


243 “ห้องเรียนออนไลน์” “ห้องเรียนออนไลน์” ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีค่อนข้างที่จะมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิต คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพราะในยุครวมถึงการเรียนการสอนและการ ฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดความรู้ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถเผยแพร่องค์ความรู้ ได้อย่างรวดเร็ว ที่มีผู้เรียนเป็นสำคัญ เรียกว่า Student-Centered Learning และ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนหรือควบคุมการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียกว่า Self-paced Learning ดังนั้นผู้เรียนจึงมีความสะดวกผู้ศึกษาค้นคว้าและสำรวจข้อมูลตลอดจน เป็นผู้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง เว็บแอปพลิเคชั่น เช่น Google Classroom, Microsoft Teams, Zoom Meeting, Butter.us ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนออนไลน์- ประชุมทางไกลที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมและความแตกต่างระหว่าบุคคลได้ดี ที่มา: Freepik.com


244 “Google Classroom” ที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com Google Classroom คือ บริการสำหรับ Google Apps for Education ซึ่งเป็น ชุดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สอนสามารถสร้าง และเก็บงานได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองกระดาษ มีคุณลักษณะที่ช่วยประหยัดเวลา เช่น สามารถทำสำเนาของ Google เอกสารสำหรับผู้เรียนแต่ละคนได้โดยอัตโนมัติ โดย ระบบจะสร้างโฟลเดอร์ของไดร์สำหรับแต่ละงานและผู้เรียนแต่ละคนเพื่อช่วยจัด ระเบียบให้ผู้เรียนสามารถติดตามการทำงาน กำหนดส่งงาน โดยผู้สอนสามารถ ตรวจเช็คการทำงานของผู้เรียน ตลอดจนสามารถแสดงความคิดเห็นและให้คะแนน โดยตรงได้แบบเรียลไทม์บน Google Classroom ภาพที่ 28 โลโก้เว็บไซต์ Google Classroom


245 การเข้าใช้งาน Classroom ขั้นตอนที่ 1 การเข้าใช้งาน 1. ไปที่ classroom.google.com แล้วคลิกไปที่ Classroom | Google for Education หรือคลิกที่ แอป google 2. ลงชื่อเข้าใช้งานด้วยอีเมลสำหรับบัญชี Classroom แล้วคลิกถัดไป 3. ป้อนรหัสผ่านแล้วคลิกถัดไป 4. เมื่อมีข้อความต้อนรับปรากฏขึ้น โปรดตรวจสอบแล้วคลิกยอมรับ 5. หากคุณใช้บัญชี Google Workspace for Education ให้คลิกฉันเป็นนักเรียน หรือฉันเป็นครูหากผู้ใช้ที่ใช้บัญชี Google ส่วนบุคคลจะไม่เห็นตัวเลือกนี้ 6. คลิกเริ่มต้นใช้งาน ขั้นตอนที่ 2


246 ขั้นตอนที่ 2 การสร้างชั้นเรียน 1. คลิกเลือกที่เครื่องมือ + ที่มุ่มขวาบนจากนั้นเลือกสร้างชั้นเรียน 2. กรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ชื่อชั้นเรียน : กรอกชื่อชั้นเรียน ห้อง : ให้กรอกรายละเอียดสั้นๆ ลงในห้อง ยกตัวอย่างเช่น ชั้นเรียน ระดับชั้นปี หรือเวลาเรียน เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จ ให้คลิกเลือกที่ สร้าง 3. เข้าสู่หน้าต่างของชั้นเรียน Classroom


247 ขั้นตอนที่ 3 การจัดการข้อมูลทั่วไปของชั้นเรียน 1. เมื่อสร้างชั้นเรียนเสร็จแล้วจากนั้นจะสามารถจะจัดการข้อมูลทั่วไปของชั้น เรียนได้ในส่วนบริเวณส่วนบนของหน้าเว็บ คลิกเลือกที่ สามารถเพิ่ม รายละเอียดสำหรับหน้า เช่น ชื่อ และคำอธิบายชั้นเรียนโดยการวางเมาส์เหนือ เขตข้อมูลเหล่านั้น 2. การเพิ่มเนื้อหาหรือเอกสารประกอบการสอนและสื่อการสอนเข้าไปในชั้นเรียน ได้โดยเลือกที่ เพิ่มเนื้อหา (Add materials) ให้ทำการใส่รายละเอียดกับ ทรัพยากรที่ต้องการจะนำเข้าในชั้นเรียน 1 2 3 4 5


248 หมายเลข 1:รายละเอียดชื่อของทรัพยากรที่ต้องการนำเข้าชั้นเรียน สำหรับ ทรัพยากรที่สามารถนำเข้ามาใช้กับ Google Classroom ประกอบด้วย หมายเลข 2 : นำเข้าโดยการอัพโหลดไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ หมายเลข 3 : นำเข้าไฟล์จากกูเกิลไดรฟ์ หมายเลข 4 : แชร์ไฟล์จากบริการวิดิโอออนไลน์ (YouTube) หมายเลข 5 : ข้อมูลจากเว็บไซต์โดยระบุเป็น URL ที่มา: Freepik.com


249 “Microsoft Teams” “Microsoft Teams” ที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com ภาพที่ 31 โลโก้เว็บไซต์ Microsoft Teamsที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com Microsoft Teams เป็น Software ของทาง Microsoft ที่เปิดให้ใช้บริการ ฟรี สามารถใช้ประชุมออนไลน์ ทำงานเป็นทีม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน Microsoft Teams ก็สามารถใช้แชทได้ โทรได้ แชร์ไฟล์ให้กันได้โดยไม่ต้องกังวล เรื่องของไฟล์จะหายหรือหมดอายุ สะดวกต่อการใช้งานและการจัดการชั้นเรียน เป็นอย่างมาก Microsoft Teams เป็น Software ของทาง Microsoft ที่เปิดให้ใช้บริการ ฟรี สามารถใช้ประชุมออนไลน์ ทำงานเป็นทีม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน Microsoft Teams ก็สามารถใช้แชทได้ โทรได้ แชร์ไฟล์ให้กันได้โดยไม่ต้องกังวล เรื่องของไฟล์จะหายหรือหมดอายุ สะดวกต่อการใช้งานและการจัดการชั้นเรียน เป็นอย่างมาก ภาพที่ 29 โลโก้เว็บไซต์ Microsoft Teams “Microsoft Teams”ภาพที่ 31 โลโก้เว็บไซต์ Microsoft Teams


250 การเข้าใช้งาน Microsoft Teams 2.เมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วให้ทำการ ลงชื่อเข้าใช้ด้วย อีเมล์ หากผู้ใช้งานเป็นผู้เข้าร่วมประชุมใน Microsoft Teams ไม่จำเป็นต้องมีบัญชี ของ Microsoft แต่จะเป็นผู้สร้างการประชุมจำเป็นต้องมีบัญชี ถ้าหากยังไม่มีบัญชี ของ Microsoft หรืออีเมลของ G-mail/outlook ให้ทำการสมัครบัญชีเสียก่อน 3.เมื่อมีบัญชี Microsoft แล้ว ให้เข้าไปลงทะเบียน Microsoft Teams ขั้นตอนที่ 1 การเข้าใช้งาน 1.ดาวน์โหลดโปรแกรมหรือแอปฯ Microsoft Teams ลงบนอุปกรณ์ที่ต้องการจะใช่งาน เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือมือถือ โดยการค้นหาบน Google หรือผ่าน Google Play Store, App Store


251 ขั้นตอนที่ 2 การจัดการการประชุมหรือการสอน หลังจากติดตั้งและลงชื่อเข้าใช้ระบบเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้สามารถสร้างการ ประชุม/การเรียนการสอนออนไลน์ ได้ดังนี้ 1. ที่เมนูด้านซ้าย เลือก Calendar 2. เลือก New Meeting 3. ให้ผู้ใช้กรอกรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ - Title ชื่อเรื่องการประชุม/การเรียนการสอนออนไลน์ - Start/End วันที่เริ่มและสิ้นสุดการใช้งาน - Invite people กรอก Email ของบุคลากรหรือนักศึกษา ขั้นตอนที่ 2 การจัดการการประชุมหรือการสอน หลังจากติดตั้งและลงชื่อเข้าใช้ระบบเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้สามารถสร้างการ ประชุม/การเรียนการสอนออนไลน์ ได้ดังนี้


252 4. หลังจากนั้นให้ผู้ใช้เลือกวันที่ทำการนัดหมายบน Calendar อีกครั้ง แล้วคลิกขวา บนลิงค์ Join Microsoft Teams Meeting 5. ผู้ใช้สามารถนำลิงค์ที่คัดลอกในขั้นตอนที่ 4 ไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ได้ ทั้ง ทาง Email, Line เป็นต้น ที่มา: Freepik.com


253 ขั้นตอนที่ 3 การเข้าร่วมประชุมหรือการสอน 1. ให้ผู้ใช้เข้าลิงค์ที่ได้รับจากผู้สร้าง Video Conference คำแนะนำควรเปิดลิงค์ด้วย Browser Google Chrome ถ้ามี Pop up ขึ้นมาให้เลือก Cancel แล้วเลือก Join on the web instead 2. จากนั้นให้ผู้ใช้กรอกชื่อที่ต้องการแสดง แล้วเลือก Join Now เพื่อส่งคำร้องไปยัง เจ้าของ Video Conference ขั้นตอนที่ 3 การเข้าร่วมประชุมหรือการสอน 1. ให้ผู้ใช้เข้าลิงค์ที่ได้รับจากผู้สร้าง Video Conference คำแนะนำควรเปิดลิงค์ด้วย Browser Google Chrome ถ้ามี Pop up ขึ้นมาให้เลือก Cancel แล้วเลือก Join on


254 ขั้นตอนที่ 4 การควบคุมการประชุม 1. ผู้สร้างจะเป็นผู้ที่สามารถควบคุม Video Conference นั้นได้ ซึ่งเมื่อมีการร้องขอ เข้าร่วม ผู้สร้างจะเป็นผู้ทำการอนุมัติ โดยให้ผู้สร้างเลือก Participant จากนั้นเลือก เครื่องหมายถูกเพื่ออนุมัติการเข้าร่วม 2. ถ้าต้องการนำเสนอโปรแกรม หรือ หน้าจอของผู้สร้างสามารถทำได้ โดยเลือก Share 3. จากนั้นเลือกโปรแกรม หรือ Desktop ที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอ 4. เมื่อจบการใช้งานเลือก วางสาย (ปุ มสีแดง)


255 “Zoom Meeting” การใช้งาน Zoom Meeting“Zoom ที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com โปรแกรมซูม (Zoom Meeting) เป็นเครื่องมือที่ใช้พูดคุยผ่านวิดีโอ ส่งภาพ และเสียง ให้แก่ผู้ร่วมประชุม ประกอบด้วย ฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย สามารถเลือก เปลี่ยนภาพพื้นหลังเพื่อพูดคุยให้เข้ากับโอกาสได้ตามความเหมาะสม รวมถึงใช้เรียน ออนไลน์ได้ วิธีการเข้าใช้งาน Zoom Meeting ทำได้ง่าย ทั้งมือถือ และคอมพิวเตอร์ ภาพที่ 30 โลโก้เว็บไซต์ Zoom Meeting


256 การใช้งาน Zoom Meeting ขั้นตอนที่ 1 การดาวน์โหลดโปรแกรมและการสมัครเข้าใช้งาน ในการประชุมหากใช้เวลาไม่นาน ทางผู้เปิดห้องประชุมจะสร้าง Link และส่ง รหัสผ่านมาให้เพื่อเข้าใช้งาน Zoom Meeting ตามเวลาที่นัดหมาย สามารถรับ Link ใน รูปแบบ ข้อความอีเมล หรือ ข้อความไลน์ (LINE) โดยใช้บนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ทั้ง Android, iOS และผ่านคอมพิวเตอร์ได้ 1. สามารถเข้าลิงก์ Zoom.us ผ่าน Google Chrome ได้ หรือสามารถโหลดเป็นแอพ พลิเคชันได้ทั้ง Android, iOS การติดตั้งโปรแกรมลงบนคอมพิวเตอร์ให้เลือกเมนู RESOURCES > Download Zoom Client 2. การเข้าใช้งานให้คลิกที่ Sign In เพื่อสมัครสมาชิกก่อนเข้าใช้งานการเข้าสู่ระบบ (Sign In) โดยใช้บัญชี Google ได้หรือกด Join เพื่อเข้าใช้งานครั้งเดียว โดยไม่ต้อง สมัครสมาชิก


257 และการเข้าใช้งานสามารถเข้าใช้งานด้วย Facebook ได้เมื่อเข้าระบบได้ด้วย การสมัครสมาชิก หรือ บัญชี Google, Facebook จะเข้าสู่หน้าต่างของโปรแกรม หน้าของของโปรแกรม Zoom Meeting ขั้นตอนที่ 2 วิธีเข้าใช้งาน Zoom บนคอมพิวเตอร์ การเข้าห้อง Meeting


258 เมื่อเปิดโปรแกรมและเข้าสู่ระบบจากนั้นให้กดที่ Join เพื่อเป็นการเข้าร่วม ประชุม และเพื่อกรอก Meeting ID หรือรหัสเข้าห้องประชุม กรอกชื่อที่ใช้ในการ แสดงระบบ และทำการคลิกที่ Join ในการเข้าร่วมประชุม เครื่องมือใน Meeting 1. ยังไม่เปิดใช้ลำโพง/ไมโครโฟน 2. ปิดไมโครโฟน/เปิดไมโครโฟน 3. ปิดกล้อง/เปิดกล้อง


259 ขั้นตอนที่ 2 การ Edit ข้อมูลต่าง ๆ ให้คลิกที่ Available หรือตรงรูปโปรไฟล์ สามารถ Edit ข้อมูลที่เป็นชื่อที่ใช้แสดงบน Meeting ได้ และการตั้งค่า อื่น ๆ สามารถการแก้ไข Profile การแก้ไขรหัสผ่าน หรือการตั้งค่าชื่อที่ใช้แสดง บน Meeting สามารถกดได้ที่ Settings เพื่อตั้งค่าได้ ขั้นตอนที่ 2 การ Edit ข้อมูลต่าง ๆ ให้คลิกที่ Available หรือตรงรูปโปรไฟล์


260 “Butter.us” การเข้าใช้งาน ที่มา : https://www.crunchbase.com/organization/meetbutter Butter.us คือ แอปพลิเคชันสำหรับนักจัด ONLINE WORKSHOP หรือใช้ในการ จัดประชุมต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อเป็นการจัดการเรียนการสอนได้อีกด้วย โดนเฉพาะ BUTTER.US เป็นแอพน้องใหม่ไฟแรงที่กำลังพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานในปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การ เปิดห้องเพื่อประชุมออนไลน์เพียงเท่านั้นแต่ยังมี feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจเหมาะ กับการนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของบรรยากาศใน ห้องเรียนออนไลน์อีกด้วย ภาพที่ 31 โลโก้เว็บไซต์ Butter.us


261 การเข้าใช้งาน Butter.us ขั้นตอนที่ 1 การสมัครเข้าใช้งาน การใช้งานสามารถค้นหาผ่าน Google โดยพิมพ์คำว่า Butter.us การเข้าใช้งาน Butter.us หน้าต่างเมื่อกดค้นหา Butter.us เมื่อกดเข้ามาสู่หน้าต่างแรกของ Butter.us แล้วนั้นให้ทำการสมัครเข้าใช้งานโดย กดที่คำว่า Sign up, it's free และเมื่อกดเข้าไปแล้วจะพบกับหน้าต่างให้กรอก ข้อมูล


262 ถ้าหากได้ทำการสมัครจะมีการตรวจสอบเงื่อนไขการสมัครดังนี้ เมื่อทำการสมัครเข้าใช้งานเรียบร้อยแล้วจะเข้าสู่หน้าต่างแรก ถ้าหากได้ทำการสมัครจะมีการตรวจสอบเงื่อนไขการสมัครดังนี้


263 ขั้นตอนที่ 2 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ฟีเจอร์ในการจัดประชุม Waiting Room ในระหว่างระการเข้าห้องประชุม สามารถที่จะเปิดเพลงให้ผู้ที่เข้ามารอได้เหมือนการเข้าห้อง Workshop และยังดู Agenda ที่กำลังจะจัดได้อีกด้วย ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Reuse Room ผู้จัดประชุมสามารถใช้ห้องประชุมเดิมที่แบ่ง ห้องย้อยไว้แล้ว ตั้ง Agenda ไว้แล้ว สามารถกลับมาใช้ห้องประชุมเดิมเพื่อจัด กิจกรรมได้ทุกครั้ง ในระหว่างการประชุมสามารถที่จะใช้ฟีเจอร์Meeting Agenda เพื่อที่จะ กำหนดการประชุม ที่สามารถแบ่งได้เลยว่าแต่ละเรื่อง จะประชุมกี่นาทีโดยมี Timer จับเวลาให้ทุกคนเห็น จะได้โฟกัสและไม่นอนเรื่อง ขั้นตอนที่ 2 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ฟีเจอร์ในการจัดประชุม Waiting Room ในระหว่างระการเข้าห้องประชุม


264 นอกจากจะมี Timer ในการจับเวลาแล้วซึ่งในระหว่างที่จับเวลานั้นยังสามารถ เปิดเพลงไปด้วยได้อีกเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงาน และตัวฟีเจอร์นี้ที่ตั้งเวลา ได้ และถ้ามีกิจกรรมแล้วนักเรียนทำเสร็จก่อน ก็สามารถแจ้งว่าทำเสร็จเพื่อให้ ครูหรือวิทยากรรู้ว่าทั้งห้อง อาจจะทำเสร็จก่อนเวลากำหนด จะได้ไปต่อกับ กิจกรรมถัดไปได้ทันที ฟีเจอร์ที่ 3 การแบ่งห้องย่อยหรือbrake out room เป็นฟีเจอร์ที่จะแบ่งคนเป็น กลุ่มย่อย ๆ โดยให้เข้าไปทำกิจกรรมร่วมกัน “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม”นอกจากจะมี Timer ในการ จับเวลาแล้วซึ่งในระหว่างที่จับเวลานั้นยังสามารถเปิดเพลงไปด้วยได้อีกเพื่อเป็น


265 1. Aj. Nop (นามแฝง) : 9 ขั้นตอนแนะนำวิธีการใช้งาน ตั้งแต่เริ่มต้น จนปิดชั้นเรียน (https://www.youtube.com/watch?v=GDiCW5mYIR0) 2. LDA World (นามแฝง) : Microsoft Teams คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง? (https://www.youtube.com/watch?v=6C40BYqhUJg) 3. อาจารย์วิน MotionGraphicPlus (นามแฝง) : วิธีการใช้ microsoft teams เริ่มจาก 0 ใช้เป็นใน 15 นาที จบปัญหา เข้า microsoft teams ไม่ได้ (https://www.youtube.com/watch?v=SlDlSMFAISY&t=1s) “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม” “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม”


266 4. อาจารย์วิน MotionGraphicPlus (นามแฝง) : การใช้ zoom meeting เริ่มจาก 0 เป็นทันทีใน 12 นาที (https://www.youtube.com/watch?v=4eXWaxW1pGQ&t=25s) 5. Peesamac Actionnote (นามแฝง) : รู้จัก Butter.us แอพสำหรับนักจัด Online Workshop คู่แข่งของ ZOOM!! (https://www.youtube.com/watch?v=cMFZ3JxGrhE&t=193s)


267


268


269 คลิปวีดีทัศน์คือ มัลติมีเดียที่สามารถแสดงออกมาในรูปแบบของไฟล์ ภาพเคลื่อนไหวและไฟล์เสียง ซึ่งการนำเสนอวิดีโอมีหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ เพื่อการศึกษา วิดีโอเพื่อความบันเทิง นอกจากจะให้ความรู้และความบันเทิง แล้วคลิปวิดีทัศน์หรือมัลติมีเดียก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้งาน เช่น วิดีโอนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ คลิปวีดิทัศน์เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพและ เสียง โดยหน้าที่หลักคือภาพและเสียงจะเป็นตัวช่วยเสริมเพื่อให้สามารถเข้าใจ เนื้อเรื่องได้ง่าย วีดิทัศน์เป็นสื่อในลักษณะที่นำเสนอเป็นภาพเคลื่อนไหวและ สร้างความต่อเนื่องของการกระทำของวัตถุจากเรื่องราวต่าง ๆ โดยการผลิตวีดิ ทัศน์นั้นมาหลากหลายรูปแบบแต่การผลิตวีดิทัศน์ในการศึกษานั้นจะเป็นเรื่อง ของการสื่อสาร การถ่ายทอดความรู้ผ่านสื่อวีดิทัศน์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน ครูเป็นจุดมุ่งหมายหลัก ขั้นตอนการผลิตนั้นเหมือนกับการผลิตรายการ วีดิทัศน์ทั่วไป แต่จะแตกต่างกันที่รายละเอียดความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และการ สื่อความหมายเพื่อการเรียนรู้ การสอน รายการวีดิทัศน์ ที่มีคุณภาพนั้นต้องสื่อ ความหมายหรือถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ได้ตามวัตถุประสงค์หลักที่ตั้งเอาไว้ และตัวอย่างของแอบหรือโปรแกรมที่จะเป็นตัวช่วยในการสร้างสื่อวีดีทัศน์นั้นจะ ยกตัวอย่างการใช้งาน แอป Capcut ซึ่งเป็นแอบที่สามารถใช้งานได้ฟรี สะดวง และง่ายต่อการใช้งานเนื่องจากสามารถใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย “Capcut”คลิปวีดีทัศน์คือ มัลติมีเดียที่สามารถแสดงออกมาในรูปแบบ ของไฟล์ภาพเคลื่อนไหวและไฟล์เสียง ซึ่งการนำเสนอวิดีโอมีหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอเพื่อการศึกษา วิดีโอเพื่อความบันเทิง นอกจากจะให้ความรู้และความ บันเทิง แล้วคลิปวิดีทัศน์หรือมัลติมีเดียก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้งาน เช่น วิดีโอนำเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ คลิปวีดิทัศน์เป็นการเล่าเรื่องด้วย “คลิปวีดิทัศน์” “คลิปวีดิทัศน์”


270 “Capcut” “Capcut” Capcut แอปตัดต่อวิดีโอฟรีที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายอีกทั้งวิธีการตัดต่อเพื่อ สร้างสื่อนำเสนอในรูปแบบวีดีทัศน์ก็สามารถทำได้อย่างง่ายได้ โดยวิธีการตัดต่อ วิดีโอด้วยแอปฟรีอย่าง Capcut ซึงสามารถรองรับการตัดต่อวิดีโอผ่าน โทรศัพท์มือถือซึ่ง Capcut เป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมในปัจจุบันที่สามารถ ตอบสนองความต้องการตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูงของการใช้งานอย่างง่ายสามารถ ใช้ Capcut เพื่อตัดต่อวิดีโอด้วยการใช้งานที่เรียบง่ายและฟรีโดยสมบูรณ์ไม่เป็นมือ อาชีพน้อยลง นอกจากนี้ คุณลักษณะของการเพิ่มเพลงลงในวิดีโอบน Capcut เป็น คุณลักษณะที่มีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะจะทำให้เนื้อหาที่จะทำการสร้างนั้นสามารถ เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ที่มา : https://dl.memuplay.com ภาพที่ 32 โลโก้เว็บไซต์ Capcut


271 การเข้าใช้งาน Capcut ขั้นตอนที่ 1 การติดตั้ง 1. ทำการดาวน์โหลดแอป Capcut สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งใน iPhone และ Android โดยเข้าไปที่ app store ตามระบบที่ใช้งาน (Apple App store หรือ Google Play Store) 2. (การติดตั้งผ่าน Google Play Store) แตะไอคอนค้นหาบนสุดแล้วพิมพ์ Capcut จะขึ้นหน้าตาของแอป Capcut การเข้าใช้งาน Capcut ขั้นตอนที่ 1 การติดตั้ง 1. ทำการดาวน์โหลดแอป Capcut สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งใน iPhone และ Android โดยเข้าไปที่ app store ตามระบบที่ใช้งาน (Apple App store หรือ Google


272 3. กดติดตั้งแอป Capcut 4. การอนุญาตให้ Capcut เข้าถึง camera roll. เพื่อให้ใส่คลิปที่จะตัดต่อได้ เปิด แอปแล้วแตะปุ่ม New Project ด้านบนของหน้าจอเพื่อเป็นการสร้างชิ้นงาน แตะปุ่ม ยอมรับหรือConfirm สีเขียว เพื่อเป็นการยอมรับว่าอนุญาตให้Capcut ต้อง เข้าถึงรูปได้ ในหน้าต่าง pop-up ถัดไป ให้แตะปุ่มอนุญาตการเข้าถึงรูปทั้งหมดโดย จะทำขั้นตอนนี้แค่เฉพาะครั้งแรกที่เปิดแอปเท่านั้น 3. กดติดตั้งแอป Capcut


273 ขั้นตอนที่ 2 การใช้งาน 1. การสร้างโปรเจกต์ใหม่ New Project พอเปิดแอปแล้ว ให้แตะปุ่ม โปรเจกต์ใหม่ หรือ New Project หน้าจอใหม่จะโผล่มา เห็นคลิปต่าง ๆ ใน camera roll ของเรา เลือกคลิปที่ต้องการเพื่อเพิ่มเข้าโปรเจกต์ โดยเลื่อนไปตามหน้าใหม่นี้ที่แสดงคลิปที่มี ใน camera roll จากนั้นแตะ thumbnail ของคลิปที่ต้องการ แล้วแตะปุ่ม “Add” มุม ขวาล่างของหน้าจอ 2. ทำความคุ้นเคยกับเมนูต่างๆ ของแอป Capcut จะเปิดหน้าเมนูสำหรับตัดต่อ คลิปขึ้นมาทันทีหลังอัปโหลดคลิปแรกแล้ว ขั้นตอนที่ 2 การใช้งาน 1. การสร้างโปรเจกต์ใหม่ New Project พอเปิดแอปแล้ว ให้แตะปุ่ม โปรเจกต์ใหม่ หรือ New Project หน้าจอใหม่จะโผล่มา เห็นคลิปต่าง ๆ ใน camera roll ของเรา เลือกคลิปที่ต้องการเพื่อเพิ่มเข้าโปรเจกต์ โดยเลื่อนไปตามหน้าใหม่นี้ที่แสดงคลิปที่มี ใน camera roll จากนั้นแตะ thumbnail ของคลิปที่ต้องการ แล้วแตะปุ่ม “Add” มุม ขวาล่างของหน้าจอ


274 3. preview panel. หรือก็คือครึ่งบนของหน้าจอ จะเห็นตัวอย่างของคลิป 4. timeline และ toolbar. หรือก็คือครึ่งล่างของหน้าจอ โดย timeline จะอยู่ล่าง กรอบ preview เป็นพื้นที่สำหรับตัดต่อคลิป ส่วน toolbar จะอยู่ล่างสุดของหน้าจอ มี editing tools หรือเครื่องมือตัดต่อทั้งหมด เช่น split, audio, text, stickers, effects และอื่น ๆ


275 ขั้นตอนที่ 3 การตัดต่อเบื้องต้น 1. ในการตัดต่อวิดีโอ คือการตัดต้นคลิปหรือท้ายคลิป เพื่อให้คลิปสั้นลงและกระซับ การตัดที่ต้นคลิป ให้ลากนิ้วบน timeline จากขวาไปซ้าย จน play head ไปอยู่ตรง จุดที่อยากให้คลิปเริ่ม ตัว play head ที่ว่า ก็คือเส้นสีขาว จากนั้นลากเส้นขาวทึบ ทางซ้าย มาบรรจบกับ play head ที่ปรับไว้ เท่านี้คลิปก็จะเริ่มตรงจุดที่ลาก play head มาไว้ถ้าจะตัดท้ายคลิป ให้ทำแบบเดียวกันกับการตัดต้นคลิป แต่เป็น ด้านขวาแทน 2. การต่อคลิปเข้าด้วยกันโดยการเพิ่มคลิปในโปรเจกต์ ให้ใช้ Join’ tool โดยแตะปุ่ม เครื่องหมายบวก สีขาว ทางขวาของ timeline แล้วเลือกอีกคลิป โดยแตะ thumbnail จากนั้นคลิก Add มุมขวาล่าง เท่านี้ก็จะเห็นคลิปใหม่ทางขวาของคลิป เก่า ใน timeline! ถ้าจะสลับลำดับเวลาของแต่ละคลิป ให้กดค้างไว้ แล้วลากคลิป ใน timeline เรียงตำแหน่งตามต้องการ ขั้นตอนที่ 2 การตัดต่อเบื้องต้น 1. ในการตัดต่อวิดีโอ คือการตัดต้นคลิปหรือท้ายคลิป เพื่อให้คลิปสั้นลงและกระซับ การตัดที่ต้นคลิป ให้ลากนิ้วบน timeline จากขวาไปซ้าย จน play head ไปอยู่ตรง


276 3. การแบ่งคลิป ถ้าจะ split หรือแบ่งออกเป็นคลิป ให้ลาก timeline จน play head ไปอยู่ตรงที่อยาก split จากนั้นแตะคลิป แล้วแตะไอคอน Split ใน toolbar เท่านี้ก็ จะแบ่งคลิปออกเป็น 2 คลิป (สามารถใช้นิวปรับขนายวีดีโอได้) 3. การแบ่งคลิป ถ้าจะ split หรือแบ่งออกเป็นคลิป ให้ลาก timeline จน play head ไปอยู่ตรงที่อยาก split จากนั้นแตะคลิป แล้วแตะไอคอน Split ใน toolbar เท่านี้ก็ จะแบ่งคลิปออกเป็น 2 คลิป (สามารถใช้นิวปรับขนายวีดีโอได้)


277 การใช้ Capcut บนคอมพิวเตอร์ Capcut เดิมที่เป็นแอปพลิเคชัน บน Android และ iOS เท่านั้น แต่ทาง Capcut ได้มีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ทั้ง Windows MacOS ด้วย คุณสมบัติที่ใช้ฟรี จนหลายคนอยากใช้ CapCut มาตัดต่อบนคอมพิวเตอร์เพื่อความ สะดวก โดยจำลองให้รันมือถือขึ้นหน้าจอคอมผ่าน Emulator ก็มี Capcut จึงได้ออก โปรแกรมตัดต่อสำหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ วิธีใช้ CapCut บนคอมพิวเตอร์ Windows และ macOS 1. สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ capcut.com ได้โดยตรง หรือดาวน์โหลดที่ Microsoft Store สำหรับบน Windows ส่วน macOS สามารถดาวน์ โหลดได้ทาง Mac App Store บนเครื่อง Mac 2. หากผู้สอนมีบัญชี TikTok สามารถ login ด้วยบัญชี tiktok ได้ทันที


278 3. ในตอนเริ่มใช้ครั้งแรกจะมีถามว่าจะใช้ Capcut เพื่ออะไรก่อน ก็เลือกตาม วัตถุประสงค์ในการใช้งานแล้วคลิก confirm 4. คลิก Start creating เพื่อเริ่มสร้างโปรเจควิดีโอใหม่ 5. หน้าตาแอปตัดต่อวิดีโอ CapCut บนคอมพิวเตอร์ สามารถนำเข้าไฟล์วิดีโอเหมือน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนคอมอื่นๆ ทั้งนี้มีฟีเจอร์ที่เหมือนกันกับแอป CapCut บนมือ ถือได้แก่ - เครื่องมือตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน เช่น การตัด แยกคลิป การแทรกวิดีโอ ปรับ ความเร็วในการเล่นวิดีโอบางช่วง - เครื่องมือตัดต่อวิดีโอขั้นสูง เช่น คีย์เฟรม โครมาคีย์ และ Flow Optical รองรับการแปลงเสียงเป็นข้อความ และการลบพื้นหลังวิดีโออัตโนมัติ - ข้อความ+สติกเกอร์ - ฟิลเตอร์+เอฟเฟกต์ ฟรี - เครื่องมือเสียงพื้นฐานและเอฟเฟกต์เสียงในแอป


279 “แหล ่ งเรย ี นรเ ู ้ พิ่ มเติม” 1. Nice to meet you (นามแฝง) : สอนตัดคลิปวิดีโอ CapCut ง่ายๆ ตัดคลิป ด้วยมือถือครูไนซ์ (https://www.youtube.com/watch?v=HsP0SrYiYrE) 2. ABOUTBOY SANOM (นามแฝง) : ใหม่ล่าสุด CapCut 2022 ตัดต่อใน คอมพิวเตอร์ เมนูภาษาอังกฤษ (https://www.youtube.com/watch?v=Bm6_rrr1Qiw)


280 3. อิงคัทตัดคลิป (นามแฝง) : สอนตัดต่อวิดีโอด้วย CapCut ละเอียดทุกขั้นตอน ทำตามได้ทันที (https://www.youtube.com/watch?v=Yd56bkzHD9E)


281


282


283 “สื่อการเรียนรู้เสมือนจริง” “สื่อการเรียนรู้เสมือนจริง” สื่อการเรียนเสมือนจริงหรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า Augmented Reality หรือ AR ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือนโดยผ่าน ทางอุปกรณ์ Webcam, กล้องมือถือ, Computer หรือแท็บเล็ตรวมกับการใช้ software ต่างๆ ที่ทันสมัยและสามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็น object ได้เช่น คน, สัตว์, สิ่งของ, ยานอวกาศ เป็นต้น การแสดงผลในจอภาพให้กลายเป็นวัตถุ 3 มิติลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง และเพื่อ การเปลี่ยนแปลงสื่อยุคใหม่ ให้สามารถ นำมาใช้ในด้านการศึกษาได้ในรูปแบบ Interactive Media ที่มา: Freepik.com


284 “QuiverVision” “QuiverVision” ที่มา : https://play-lh.googleusercontent.com QuiverVision เป็นแอปพลิเคชันที่สามารถสร้างกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ โดย ใช้การวาดภาพระบายสีเพื่อเสริมจินตนาการเป็นเครื่องมือและสื่อในการสร้างเรียนรู้ ได้เป็นอย่างดี QuiverVision แอปพลิเคชันที่สามารถเปิดกล้องส่องภาพระบายสีแล้ว แสดงผลให้ภาพระบายสีนั้น ๆ กลายเป็นตัวการ์ตูน AR ที่จะปรากฏสีสันต่าง ๆ ตามที่เราได้ระบายลงไปให้เห็นในรูปแบบ 3D การ เ ข้ า ใ ช้ ง า น ภาพที่ 33 โลโก้เว็บไซต์ QuiverVision


285 การเข้าใช้งาน QuiverVision ขั้นตอนที่ 1 การเข้าใช้งาน 1. การใช้งานให้ค้นหาคำว่า QuiverVision บน Google จากนั้นก็เข้าไปที่เว็บไซต์เพื่อ สแกนคิวอาร์โค้ดดาวน์โหลดแอปลงเครื่องสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Apple App store หรือ Google Play Store การสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านเว็บไซต์หรือสามารถค้นหาผ่าน Apple App store หรือ Google Play Store เมื่อสแกนผ่านเว็บไซต์แล้วก็จะสามารถเข้าสู่หน้าดาวน์โหลด


Click to View FlipBook Version