The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วสันต์ คําสุข, 2020-05-20 08:54:07

กำหนดการสอน-ว31104-วิทยาศาสตร์กายภาพ-ม.5

330

นอกจากในแบตเตอรี่แล้วยังมีปฏิกิริยารีดอก ซ์ที่พบเห็นในชีวิตประจ าวันมากมาย เช่น ปฏิกิริยา
การเผาไหม้ ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของโลหะ ปฏิกิริยาในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ปฏิกิริยาเคมีใน

กระบวนการหายใจ
5.2 กระบวนการ

1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)
2) ความสามารถในการคิด (สังเกต วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป)

3) ความสามารถในการแก้ปัญหา (แสวงหาความรู้)

4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (ความรับผิดชอบ)
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ใช้การสืบค้นผ่านคอมพิวเตอร์)

5.3 คุณลักษณะและค่านิยม

ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน
6. บูรณาการ

-


7. กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ

1.1 ครูทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาเกี่ยวกับเชื้อเพลิงทางเลือก
1.2 ครูน าภาพมาให้นักเรียนศึกษา พร้อมตั้งค าถามเพื่อเข้าสู่บทเรียน ดังนี้






1) จงบอกชื่ออุปกรณ์ทั้ง 4 ภาพ ให้ถูกต้อง

2) จงยกตัวอย่างแบตเตอรี่ที่นักเรียนรู้จัก

ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา
2.1 ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาและท าความเข้าใจ เรื่อง แบตเตอรี่ ตามรายละเอียดในหนังสือ

เรียน หน้า 114 -116

2.2 เมื่อนักเรียนศึกษาเนื้อหาและท าความเข้าใจ เรื่อง แบตเตอรี่ เสร็จเรียบร้อย ให้นักเรียนท า
แบบฝึกหัด 4.3 ในหนังสือเรียน หน้า 117 ลงในสมุดของตนเอง

2.3 นักเรียนท าแบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา


ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป
3.1 ครูสุ่มนักเรียน 2 คน ดังนี้

- คนที่ 1 ออกมาเฉลยแบบฝึกหัด 4.3 หน้าชั้นเรียน

- คนที่ 2 ออกมาเฉลยแบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิด
กระแสไฟฟูา หน้าชั้นเรียน

331


3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา เรื่อง แบตเตอรี่ ดังนี้


- แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่ให้พลังงานไฟฟูาส าหรับอุปกรณต่าง ๆ เช่น ไฟฉาย นาฬิกา
โทรศัพท์มือถือ แล็ปท๊อปคอมพิวเตอร์

- ปฏิกิริยาเคมีที่มีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนระหว่างสารเคมี เรียกว่า ปฏิกิริยารีดอกซ์
(redox reaction)

- ปฏิกิริยารีดอกซ์ที่เกิดขึ้นในแบตเตอรี่ เช่น ในถ่านไฟฉายขั้วโลหะสังกะสีซึ่งเป็นขั้วลบ

ให้อิเล็กตอนออกมา อิเล็กตรอนจะเคลื่อนที่ไปยังขั้วบวกซึ่งเป็นคาร์บอนที่เคลือบด้วยสารประกอบออกไซด ์
ของแมงกานีส ท าให้เกิดกระแสไฟฟูาขึ้นซึ่งมีทิศทางการเคลื่อนที่ตรงข้ามกับการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน

ในถ่านไฟฉายมีอิเล็กตรอนช่วยในการน าไฟฟูาระหว่างขั้ว และท าให้กระแสไฟฟูาครบวงจร

- ถ่านไฟฉายเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถน ามาประจุเพื่อใช้ใหม่อีก แตกต่างจากแบตเตอรี่
โทรศัพท์มือถือ หรือแบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ทสามารถน ามาประจุใหม่ โดยปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นใน
ี่
กระบวนการประจุเป็นปฏิกิริยาที่เกิดในทิศทางตรงกันการข้ามกับปฏิกิริยาการให้กระแสไฟฟูา

- สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบในแบตเตอรี่ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีอันตราย จึงไม่ควรทิ้งรวม
กับขยะทั่วไป แต่ต้องทิ้งในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้


ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้

4.1 ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาในถ่านไฟฉาย และโครงการ

“แกล้งดิน” ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน หน้า 116-117

ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล
5.1 ครูตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา
5.2 ครูตรวจสมุดของนักเรียนในการท าแบบฝึกหัด 4.3



ประยุกต์และตอบแทนสังคม
ครูให้นักเรียนแต่ละคนน าความรู้ที่เรียนไปค้นคว้าเพิ่มเติมที่ห้องสมุด หรือเว็บไซต์ แล้วน าเสนอใน

ชั้นเรียน


ู้
8. สื่อการเรียนร/แหล่งเรียนร ู้
8.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ (วิทยาศาสตร์กายภาพ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)

8.2 แบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา
8.3 อินเทอร์เน็ต

8.4 ห้องสมุด

332

9. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรียนร ู้ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนอธิบายความหมายของปฏิกิริยา 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนตอบ
รีดอกซ์ได ้ ในการท าแบบฝึกหัด ท ากิจกรรม ค าถามได้ระดับดี

2) นักเรียนยกตัวอย่างปฏิกิริยารีดอกซ์ที่พบ 4.3 2) แบบฝึกหัด 4.3 ผ่านเกณฑ์
ในชีวิตประจ าวันได ้

ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพทิศ 1) ตรวจแบบฝึกหัด 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนสามารถ
ทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิด เรื่อง ทิศทางการ ท ากิจกรรม เขียนแผนภาพได ้

กระแสไฟฟูาได ้ เคลื่อนที่ของ 2) แบบฝึกหัด เรื่อง ระดับดี ผ่านเกณฑ์

อิเล็กตรอนที่ท าให้เกิด ทิศทางการเคลื่อนท ี่
กระแสไฟฟูา ของอิเล็กตรอนที่ท า

ให้เกิดกระแสไฟฟูา
ด้านคุณลักษณะ (A)

1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการ 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท าภาระ

ท างาน ในการท าแบบฝึกหัด ท ากิจกรรม งานที่ได้รับมอบหมาย
4.3 2) แบบฝึกหัด 4.3 ไดระดับดี ผ่านเกณฑ์

2) ตรวจแบบฝึกหัด 3) แบบฝึกหัด เรื่อง

เรื่อง ทิศทางการ ทิศทางการเคลื่อนท ี่
เคลื่อนที่ของ ของอิเล็กตรอนที่ท า

อิเล็กตรอนที่ท าให้เกิด ให้เกิดกระแสไฟฟูา

กระแสไฟฟูา

333




10. เกณฑ์การประเมินผลงานนักเรียน
เกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics ของการท ากิจกรรม เรื่อง ปฏิกิริยารีดอกซ์
ประเด็นการ ค่าน้ าหนัก
ประเมิน คะแนน แนวทางการให้คะแนน

3 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 5 ข้อ
ด้านความรู้ 2 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 3-4 ข้อ

(K)
1 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 1-2 ข้อ หรือไม่มีข้อถูกต้อง

3 เขียนแผนภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา

พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ ได้ถูกต้องครบถ้วน
ด้าน

กระบวนการ 2 เขียนแผนภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา
(P) พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ ได้ แต่ยังไม่ถูกต้องครบถ้วน
1 เขียนแผนภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา
พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ แต่ไม่ถูกต้อง

ด้าน 3 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด และเรียบร้อยถูกต้องครบถ้วน

คุณลักษณะ 2 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด แต่งานยังผิดพลาดบางส่วน
(A) 1 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ แต่ล่าช้า และเกิดข้อผิดพลาดบางส่วน



ระดับคะแนน
คะแนน 3 หมายถึง ระดับดีมาก

คะแนน 2 หมายถึง ระดับด ี

คะแนน 1 หมายถึง ระดับพอใช ้

334


การประเมินการท ากิจกรรม เรื่อง ปฏิกิริยารีดอกซ

จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)
3 3 3 9

1

2
3

4

5
6

7

8
9

10

11

12
13

14

15
16

17

18
19

20

21
22

23

24

25
26

27

28

335

จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)

3 3 3 9

29

30
31

32

33
34

35

36
37

38

39
40



ระดับคุณภาพ

คะแนน 9 หมายถึง ระดับดีมาก

คะแนน 7-8 หมายถึง ระดับด ี
คะแนน 5-6 หมายถึง ระดับปานกลาง

คะแนน 3-4 หมายถึง ระดับปรับปรุง

336



บันทึกหลังการสอน

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง พลังงาน ใ

แผนการสอนที่ 26 เรื่อง ปฏิกิริยารีดอกซ์ .

วันที่ เดือน พ.ศ. ใ


ผลการจัดการเรียนร ู้



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ปัญหา / อุปสรรค



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ปัญหา


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...




ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวนิลนิกา แก้วปัญญา) (นางนพรัตน์ ครุฑเกิด)

337




ชื่อ ชั้น เลขท ‘
ี่



แบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟ้า


ค าสั่ง จงเขียนแผนภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ

ให้ถูกต้องครบถ้วน

338




ชื่อ ชั้น เลขท ‘
ี่



เฉลยแบบฝึกหัด เรื่อง ทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟ้า


ค าสั่ง จงเขียนแผนภาพทิศทางการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ท าให้เกิดกระแสไฟฟูา พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ

ให้ถูกต้องครบถ้วน

339






แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27
เรื่อง สารกัมมันตรังสี

รายวิชา ว31104 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พลังงาน รวม 13 ชั่วโมง

ู้
กลุ่มสาระการเรียนรวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1



1. มาตรฐานการเรียนรู้

ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี


2. ตัวชี้วัด

ว 2.1 ม.5/24 อธิบายสมบัติของสารกัมมันตรังส และค านวณครึ่งชีวิตและปริมาณของสารกัมมันตรังส ี

3. จุดประสงค์การเรียนร ู้

3.1 ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนอธิบายสมบัติของสารกัมมันตรังสีได ้
3.2 ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนเขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ได ้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A)

1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน


4. สาระส าคัญ

พลังงานที่น ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวันได้มาจากปฏิกิริยาเคมี และปฏิกิริยานิวเคลียร์ โดยปฏิกิริยา
เคมีที่ให้พลังงานอาจได้มาจากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยาเคมีไฟฟูา ซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เขียนแสดงได้ด้วย

สมการเคมี โดยแสดงชนิดและจ านวนของสาร ตั้งต้นที่ท าปฏิกิริยากัน และผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น รวมทงภาวะในการ
ั้
เกิดปฏิกิริยา การพิจารณา ว่าปฏิกิริยาเคมีเกิดเร็วหรือช้าพิจารณาได้จาก อัตราการเกิดปฏิกิริยาเค มี ซึ่งขึ้นอยู่กับ

หลายปัจจัย เช่น ความเข้มข้น อุณหภูมิ พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น ตัวเร่งปฏิกิริยา ความรู้เกี่ยวกับปัจจยที่มีผลต่ออัตรา
การเกิดปฏิกิริยาเคมี สามารถน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน และในอุตสาหกรรม ปฏิกิริยารีดอกซ์เป็นปฏิกิริยา

เคมีที่เกิดจากการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ของสาร โดยปฏิกิริยารีดอกซ์มีทั้งที่ให้กระแสไฟฟูาและไม่ให้กระแสไฟฟูา
ส าหรับปฏิกิริยานิวเคลียร์ จะใช้สารกัมมันตรังสีเป็นแหล่งของพลังงาน เนื่องจากสารกัมมันตรังสีมีนิวเคลียสไม่

เสถียร เกิดการสลายและแผ่รังสีอย่างต่อเนื่อง สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีค่าครึ่งชีวิตแตกต่างกัน และรังสีที่แผ่ออก

340


มาแตกต่างกันจึงน ามาใช้ประโยชน์ได้ต่างกัน การน าสารกัมมันตรังสีแตละชนิดมาใช้ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม
และต้องค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม


5. สาระการเรียนร ู้

5.1 ความรู้
สารกัมมันตรังสี ( radioactive substance) มีนิวเคลียสไม่เสถียร จึงเกิดการสลายและแผ่รังสี

ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า กัมมันตรังสี (radioactivity) สารกัมมันตรังสีใช้เป็นแหล่งพลังงานส าหรับโรงไฟฟูานิง
เคลียร์ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุุน สหรัฐอเมริกา จีน โดยการผลิตไฟฟูาอาศัยปฏิกิริยานิวเคลียร์ของสารกัมมันตรังส ี

ในเครื่องปฏิกรณ์ท าให้เกิดพลังงานความร้อนที่น าไปใช้ผลิตไอน้ าเพื่อหมุนกังหันที่ต่อกับเครื่องก าเนิดไฟฟูา ดังรูป

4.11








รูป 4.11 แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์

ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของสารกัมมันตรังสีเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียสของอะตอมที่น าไปส ู่

การเปลี่ยนแปลงชนิดของธาตุหรือไอโซโทป และปลดปล่อยพลังงานออกมา แตกต่างจากการเกิดปฏิกิริยา

เคมีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงของอิเล็กตรอนโดยนิวเคลียสไม่มีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่เกิดการเปลี่ยนชนิดของ
ธาตุ ดังนั้นปฏิกิริยานิวเคลียร์จึงไม่จัดเป็นปฏิกิริยาเคมี ตัวอย่างเช่น ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของยูเรเนียม-235

ซึ่งเกิดจากการยิงอนุภาคนิวตรอนไปที่นิวเคลียสของยูเรเนียม ท าให้นิวเคลียสแตกออกเป็นคริปทอน-90
แบเรียม-144 และอนุภาคนิวตรอน รวมทั้งมีพลังงานเกิดขึ้น ดังรูป 4.12







รูป 4.12 ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของยูเรเนียม-235 ที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานในโรงไฟฟูานิวเคลียร์


ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังสีสลายจนเหลือปริมาณครึ่งหนึ่ง เรียกว่า ครึ่งชีวิต (half-life) เขียน

แทนด้วยสัญลักษณ์ t½ สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีครึ่งชีวิตไม่เท่ากัน ตัวอย่างการสลายตัวของสาร
กัมมันตรังสี เช่น โมลิบดีมัน-99 (Mo-99) มีครึ่งชีวิต 3 วัน ถ้ามีโมลิบดีมัน-99 อยู่ 10 กรัม เมื่อเวลาผ่านไป

3 วัน จะเหลือโมลิบดีนัม-99 อยู่ 5 กรัม และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 3 วัน จะเหลือโมลิบดีมัน-99 อยู่ 2.5 กรัม
ดังรูป 4.13






รูป 4.13 การสลายของโมลิบดีมัน-99

341

5.2 กระบวนการ
1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)

2) ความสามารถในการคิด (สังเกต วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป)
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา (แสวงหาความรู้)

4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (ความรับผิดชอบ)
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ใช้การสืบค้นผ่านคอมพิวเตอร์)

5.3 คุณลักษณะและค่านิยม

ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน
6. บูรณาการ

-


7. กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ

1.1 ครูน าเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนพิจารณารูป 4.2 กับ 4.11 พร้อมตั้งค าถาม ดังนี้











รูป 4.2 รูป 4.11

ค าถาม การผลิตกระแสไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์แตกต่างจากโรงไฟฟูาที่ใช้ถ่านหินหรือแก๊ส

ธรรมชาติอย่างไร (แนวค าตอบว่า แตกต่างกันที่แหล่งก าเนิดความร้อนที่ใช้ถ่านหินหรือแก๊สธรรมชาต ิ
ค าถาม ภายในเครื่องปฏิกรณ์ใช้สารใดเป็นแหล่งพลังงาน (แนวค าตอบว่า ใช้สารกัมมันตรังสีเป็น

แหล่งพลังงาน)

ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา
2.1 ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาและท าความเข้าใจ เรื่อง สารกัมมันตรังสี ตามรายละเอียดใน

หนังสือเรียน หน้า 118

2.2 ครูให้นักเรียนท าแบบฝึกหัด 4.4 ข้อที่ 1 ในหนังสือเรียน หน้า 120 ลงในสมุดของตนเอง
2.3 ครูให้นักเรียนท าแบบฝึกหัด เรื่อง แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์


ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป

3.1 ครูสุ่มนักเรียน 5 คน ดังนี้

- คนที่ 1-4 เฉลยแบบฝึกหัด 4.4 ข้อที่ 1-4 ตามล าดับ

342

- คนที่ 5 ออกมาอธิบาย แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์
หน้าชั้นเรียน

3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา เรื่อง สารกัมมันตรังสี ดังนี้
- สารกัมมันตรังสี (radioactive substance) มีนิวเคลียสไม่เสถียร จึงเกิดการสลายและ

แผ่รังสี ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า กัมมันตรังสี (radioactivity)
- สารกัมมันตรังสีใช้เป็นแหล่งพลังงานส าหรับโรงไฟฟูานิงเคลียร์ในหลายประเทศ เช่น

ญี่ปุุน สหรัฐอเมริกา จีน

- โดยการผลิตไฟฟูาอาศัยปฏิกิริยานิวเคลียร์ของสารกัมมันตรังสีในเครื่องปฏิกรณ์ท าให้
เกิดพลังงานความร้อนที่น าไปใช้ผลิตไอน้ าเพื่อหมุนกังหันที่ต่อกับเครื่องก าเนิดไฟฟูา


ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้
4.1 ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 9 ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน

หน้า 128

4.2 ครูยกตัวอย่างภาพข่าว หรือเหตุการณ์ ที่เกิดอันตรายจากสารกัมมันตรังส

ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล
5.1 ครูตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์
5.2 ครูตรวจสมุดของนักเรียนในการท าแบบฝึกหัด 4.4 ข้อที่ 1 จ านวน 4 ข้อย่อย



ประยุกต์และตอบแทนสังคม
ครูให้นักเรียนแต่ละคนน าความรู้ที่เรียนไปค้นคว้าเพิ่มเติมที่ห้องสมุด หรือเว็บไซต์ แล้วน าเสนอใน

ชั้นเรียน


ู้
8. สื่อการเรียนร/แหล่งเรียนร ู้
8.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ (วิทยาศาสตร์กายภาพ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)

8.2 แบบฝึกหัด เรื่อง แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์
8.3 อินเทอร์เน็ต

8.4 ห้องสมุด

343

9. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรียนร ู้ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนอธิบายสมบัติของสาร 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท า

กัมมันตรังสได้ ในการท าแบบฝึกหัด ท ากิจกรรม แบบฝึกหัด
ี่
4.4 ข้อท 1 2) แบบฝึกหัด 4.4 ได้ระดับดี ผ่านเกณฑ์
ข้อที่ 1

ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนเขียนแผนภาพอย่างง่ายของการ 1) ตรวจแบบฝึกหัด 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนสามารถ
ผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ได ้ เรื่อง แผนภาพอย่าง ท ากิจกรรม เขียนแผนภาพอย่าง


ง่ายของการผลิตไฟฟูา 2) แบบฝึกหัด เรื่อง ง่ายไดระดับดี
ในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ แผนภาพอย่างง่าย ผ่านเกณฑ์
ของการผลิตไฟฟูาใน

โรงไฟฟูานิวเคลียร์
ด้านคุณลักษณะ (A)

1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการ 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท าภาระ

ท างาน ในการท าแบบฝึกหัด ท ากิจกรรม งานที่ได้รับมอบหมาย

4.4 ข้อท 1 2) แบบฝึกหัด 4.4 ไดระดับดี ผ่านเกณฑ์
ี่
2) ตรวจแบบฝึกหัด ข้อท 1
ี่
เรื่อง แผนภาพอย่าง 3) แบบฝึกหัด เรื่อง
ง่ายของการผลิตไฟฟูา แผนภาพอย่างง่าย

ในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ ของการผลิตไฟฟูาใน

โรงไฟฟูานิวเคลียร์

344




10. เกณฑ์การประเมินผลงานนักเรียน
เกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics ของการท ากิจกรรม เรื่อง สารกัมมันตรังส ี
ประเด็นการ ค่าน้ าหนัก
ประเมิน คะแนน แนวทางการให้คะแนน

3 ท าแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง จ านวน 4 ข้อ
ด้านความรู้ 2 ท าแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง จ านวน 2-3 ข้อ

(K)
1 ท าแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง จ านวน 1 ข้อ หรือท าแบบฝึกหัดไม่ถูกต้อง

3 เขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ พร้อมระบุ

ส่วนประกอบต่างๆ ได้ถูกต้องครบถ้วน
ด้าน

กระบวนการ 2 เขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ พร้อมระบุ
(P) ส่วนประกอบต่างๆ ได้ แต่ยังไม่ถูกต้องครบถ้วน
1 เขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ พร้อมระบุ
ส่วนประกอบต่างๆ แต่ไม่ถูกต้อง

ด้าน 3 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด และเรียบร้อยถูกต้องครบถ้วน

คุณลักษณะ 2 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด แต่งานยังผิดพลาดบางส่วน
(A) 1 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ แต่ล่าช้า และเกิดข้อผิดพลาดบางส่วน



ระดับคะแนน
คะแนน 3 หมายถึง ระดับดีมาก

คะแนน 2 หมายถึง ระดับด ี

คะแนน 1 หมายถึง ระดับพอใช ้

345

การประเมินการท ากิจกรรม เรื่อง สารกัมมันตรังสี


จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)
3 3 3 9

1

2
3

4

5
6

7

8
9

10

11

12
13

14

15
16

17

18
19

20

21
22

23

24

25
26

27

28

346

จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)

3 3 3 9

29

30
31

32

33
34

35

36
37

38

39
40



ระดับคุณภาพ

คะแนน 9 หมายถึง ระดับดีมาก

คะแนน 7-8 หมายถึง ระดับด ี
คะแนน 5-6 หมายถึง ระดับปานกลาง

คะแนน 3-4 หมายถึง ระดับปรับปรุง

347

บันทึกหลังการสอน

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง พลังงาน ใ

แผนการสอนที่ 27 เรื่อง สารกัมมันตรังสี .

วันที่ เดือน พ.ศ. ใ


ผลการจัดการเรียนร ู้



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ปัญหา / อุปสรรค



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ปัญหา



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...



ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ากลุ่มสาระ

(นางสาวนิลนิกา แก้วปัญญา) (นางนพรัตน์ ครุฑเกิด)

348

ชื่อ ชั้น เลขท ‘
ี่



เฉลยแบบฝึกหัด เรื่อง แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์


ค าสั่ง จงเขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ให้สมบูรณ พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ

ให้ถูกต้องครบถ้วน

349


ี่
ชื่อ ชั้น เลขท ‘



เฉลยแบบฝึกหัด เรื่อง แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์



ค าสั่ง จงเขียนแผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ พร้อมระบุส่วนประกอบต่างๆ พร้อมระบุ
ส่วนประกอบต่างๆ ให้ถูกต้องครบถ้วน

350





แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28

เรื่อง ครึ่งชีวิต
รายวิชา ว31104 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 เวลา 2 ชั่วโมง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พลังงาน รวม 13 ชั่วโมง

ู้
กลุ่มสาระการเรียนรวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1


1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

2. ตัวชี้วัด


ว 2.1 ม.5/24 อธิบายสมบัติของสารกัมมันตรังส และค านวณครึ่งชีวิตและปริมาณของสารกัมมันตรังส ี

3. จุดประสงค์การเรียนร ู้

3.1 ด้านความรู้ (K)
1) นักเรียนอธิบายความหมายเกี่ยวกับครึ่งชีวิตของสารกัมมันตรังสีได ้

3.2 ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนค านวณเกี่ยวกับครึ่งชีวิตของสารกัมมันตรังสีที่ก าหนดให้ได ้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A)

1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน


4. สาระส าคัญ

พลังงานที่น ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวันได้มาจากปฏิกิริยาเคมี และปฏิกิริยานิวเคลียร์ โดยปฏิกิริยา
เคมีที่ให้พลังงานอาจได้มาจากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยาเคมีไฟฟูา ซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เขียนแสดงได้ด้วย

ั้
สมการเคมี โดยแสดงชนิดและจ านวนของสาร ตั้งต้นที่ท าปฏิกิริยากัน และผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น รวมทงภาวะในการ
เกิดปฏิกิริยา การพิจารณา ว่าปฏิกิริยาเคมีเกิดเร็วหรือช้าพิจารณาได้จาก อัตราการเกิดปฏิกิริยาเค มี ซึ่งขึ้นอยู่กับ


หลายปัจจัย เช่น ความเข้มข้น อุณหภูมิ พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น ตัวเร่งปฏิกิริยา ความรู้เกี่ยวกับปัจจยที่มีผลต่ออัตรา
การเกิดปฏิกิริยาเคมี สามารถน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน และในอุตสาหกรรม ปฏิกิริยารีดอกซ์เป็นปฏิกิริยา
เคมีที่เกิดจากการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ของสาร โดยปฏิกิริยารีดอกซ์มีทั้งที่ให้กระแสไฟฟูาและไม่ให้กระแสไฟฟูา

ส าหรับปฏิกิริยานิวเคลียร์ จะใช้สารกัมมันตรังสีเป็นแหล่งของพลังงาน เนื่องจากสารกัมมันตรังสีมีนิวเคลียสไม่
เสถียร เกิดการสลายและแผ่รังสีอย่างต่อเนื่อง สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีค่าครึ่งชีวิตแตกต่างกัน และรังสีที่แผ่ออก

มาแตกต่างกันจึงน ามาใช้ประโยชน์ได้ต่างกัน การน าสารกัมมันตรังสีแตละชนิดมาใช้ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม

และต้องค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

351


5. สาระการเรียนร ู้
5.1 ความรู้

สารกัมมันตรังสี ( radioactive substance) มีนิวเคลียสไม่เสถียร จึงเกิดการสลายและแผ่รังสี

ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า กัมมันตรังสี (radioactivity) สารกัมมันตรังสีใช้เป็นแหล่งพลังงานส าหรับโรงไฟฟูานิง
เคลียร์ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุุน สหรัฐอเมริกา จีน โดยการผลิตไฟฟูาอาศัยปฏิกิริยานิวเคลียร์ของสารกัมมันตรังส ี

ในเครื่องปฏิกรณ์ท าให้เกิดพลังงานความร้อนที่น าไปใช้ผลิตไอน้ าเพื่อหมุนกังหันที่ต่อกับเครื่องก าเนิดไฟฟูา ดังรูป
4.11









รูป 4.11 แผนภาพอย่างง่ายของการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์

ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของสารกัมมันตรังสีเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียสของอะตอมที่น าไปส ู่

การเปลี่ยนแปลงชนิดของธาตุหรือไอโซโทป และปลดปล่อยพลังงานออกมา แตกต่างจากการเกิดปฏิกิริยา
เคมีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงของอิเล็กตรอนโดยนิวเคลียสไม่มีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่เกิดการเปลี่ยนชนิดของ

ธาตุ ดังนั้นปฏิกิริยานิวเคลียร์จึงไม่จัดเป็นปฏิกิริยาเคมี ตัวอย่างเช่น ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของยูเรเนียม-235

ซึ่งเกิดจากการยิงอนุภาคนิวตรอนไปที่นิวเคลียสของยูเรเนียม ท าให้นิวเคลียสแตกออกเป็นคริปทอน-90
แบเรียม-144 และอนุภาคนิวตรอน รวมทั้งมีพลังงานเกิดขึ้น ดังรูป 4.12







รูป 4.12 ปฏิกิริยานิวเคลียร์ของยูเรเนียม-235 ที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานในโรงไฟฟูานิวเคลียร์

ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังสีสลายจนเหลือปริมาณครึ่งหนึ่ง เรียกว่า ครึ่งชีวิต (half-life) เขียน
แทนด้วยสัญลักษณ์ t½ สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีครึ่งชีวิตไม่เท่ากัน ตัวอย่างการสลายตัวของสาร

กัมมันตรังสี เช่น โมลิบดีมัน-99 (Mo-99) มีครึ่งชีวิต 3 วัน ถ้ามีโมลิบดีมัน-99 อยู่ 10 กรัม เมื่อเวลาผ่านไป

3 วัน จะเหลือโมลิบดีนัม-99 อยู่ 5 กรัม และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 3 วัน จะเหลือโมลิบดีมัน-99 อยู่ 2.5 กรัม
ดังรูป 4.13






รูป 4.13 การสลายของโมลิบดีมัน-99
5.2 กระบวนการ

1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)

352

2) ความสามารถในการคิด (สังเกต วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป)
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา (แสวงหาความรู้)

4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (ความรับผิดชอบ)
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ใช้การสืบค้นผ่านคอมพิวเตอร์)

5.3 คุณลักษณะและค่านิยม
ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน

6. บูรณาการ

-


7. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ


1.1 ครูยกตัวอย่างภาพข่าว หรือเหตุการณ์ ที่เกิดอันตรายจากสารกัมมันตรังสี เช่น Co-60
1.2 ครูทบทวนบทเรียน โดยใช้ค าถาม
- เพราะเหตุใด สารกัมมันตรังสีจึงท าให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้เพียงแค่สัมผัสหรืออยู่

ใกล้ ๆ (ควรสรุปไดว่า สารกัมมันตรังสีสามารถแผ่รังสีได้ แล้วอธิบายว่าสารกัมมันตรังสีมีนิวเคลียสไม่เสถียร

จึงเกิดการสลายและแผ่รังสี ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า กัมมันตภาพรังส)

1.3 ครูน ารูป 4.13 ให้นักเรียนสังเกตและพิจารณา โดยใช้ค าถามเพื่อน าเข้าสู่บทเรียน









- จากภาพนักเรียนสังเกตเห็นอะไรบ้าง

- ธาตุโมลิบดีนัม-99 สามารถเขียนสัญลักษณ์ธาตุได้อย่างไร
- จากมวลโมลิบดีนัม-99 เริ่มต้นที่ 10 กรัม เมื่อเวลาผ่านไป 3 วัน มวลโมลิบดีนัม-99

เหลือเท่าใด

ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา
2.1 ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาและท าความเข้าใจ เรื่อง ครึ่งชีวิต ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน

หน้า 119
2.2 ครูให้นักเรียนท าแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 10-11 ในหนังสือเรียน หน้า 128 ลงในสมุดของ

ตนเอง

2.3 ครูให้นักเรียนตอบค าถาม จ านวน 3 ข้อ ลงในสมุด เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ

353

ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป
3.1 ครูสุ่มนักเรียน 2 คน ออกมาเฉลยและอธิบายแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 10-11

หน้าชั้นเรียน
3.2 ครูใช้ค าถาม เพื่อน าไปสู่การลงข้อสรุป เรื่อง ครึ่งชีวิต ดังนี้

1) จงอธิบายความหมายของค าว่า “ครึ่งชีวิต” (แนวการตอบ ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังส ี
สลายจนเหลือปริมาณครึ่งหนึ่ง)

2) “ครึ่งชีวิต” ค าศัพท์ภาษาอังกฤษ คือ (แนวการตอบ half-life)

3) “ครึ่งชีวิต” เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ใด (แนวการตอบ t½)
3.3 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา เรื่อง ครึ่งชีวิต ดังนี้

- ระยะเวลาที่สารกัมมันตรังสีสลายจนเหลือปริมาณครึ่งหนึ่ง เรียกว่า ครึ่งชีวิต (half-

life) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ t½ สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีครึ่งชีวิตไม่เท่ากัน

ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้
4.1 ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการค านวณหาค่าครึ่งชีวิต (แบบฝึกหัด 4.4 ข้อที่ 2) ในหนังสือเรียน


หน้า 120

ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล
5.1 ครูตรวจสมุดนักเรียนในการตอบค าถามตรวจสอบความเข้าใจ

5.2 ครูตรวจสมุดของนักเรียนในการท าแบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 10-11



ประยุกต์และตอบแทนสังคม
ครูให้นักเรียนแต่ละคนน าความรู้ที่เรียนไปค้นคว้าเพิ่มเติมที่ห้องสมุด หรือเว็บไซต์ แล้วน าเสนอใน
ชั้นเรียน


ู้
8. สื่อการเรียนร/แหล่งเรียนร ู้
8.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ (วิทยาศาสตร์กายภาพ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1

(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)


9. การวัดและประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนร ู้ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนอธิบายสมบัติของสาร 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนตอบ

กัมมันตรังส ี ในการตอบค าถาม ท ากิจกรรม ค าถามได้ระดับดี
ตรวจสอบความเข้าใจ 2) ค าถามตรวจสอบ ผ่านเกณฑ์

ความเข้าใจ จ านวน
3 ข้อ

354

ด้านกระบวนการ (P)
1) นักเรียนเขียนแผนภาพอย่างง่ายของการ 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท า

ผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์ได ้ ในการท าแบบฝึกหัด ท ากิจกรรม แบบฝึกหัด ได้ระดับ
ท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 10- 2) แบบฝึกหัดท้าย ดี ผ่านเกณฑ์

11 บทที่ 4 ข้อที่ 10-11

ด้านคุณลักษณะ (A)
1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการ 1) ตรวจสมุดนักเรียน 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท าภาระ

ท างาน ในการตอบค าถาม ท ากิจกรรม งานที่ได้รับมอบหมาย

ตรวจสอบความเข้าใจ 2) ค าถามตรวจสอบ ไดระดับดี ผ่านเกณฑ์

2) ตรวจสมุดนักเรียน ความเข้าใจ

ในการท าแบบฝึกหัด 3) แบบฝึกหัดท้าย
ท้ายบทที่ 4 ข้อที่ 10- บทที่ 4 ข้อที่ 10-11

11










10. เกณฑ์การประเมินผลงานนักเรียน
เกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics ของการท ากิจกรรม เรื่อง ครึ่งชีวิต
ประเด็นการ ค่าน้ าหนัก
ประเมิน คะแนน แนวทางการให้คะแนน
3 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 3 ข้อ
ด้านความรู้ 2 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 2 ข้อ
(K)
1 ตอบค าถามได้ถูกต้องครบถ้วน จ านวน 1 ข้อ

ด้าน 3 ท าแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง จ านวน 2 ข้อ
กระบวนการ 2 ท าแบบฝึกหัดได้ถูกต้อง จ านวน 1 ข้อ

(P) 1 ท าแบบฝึกหัดไม่ถูกต้อง

ด้าน 3 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด และเรียบร้อยถูกต้องครบถ้วน
คุณลักษณะ 2 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จภายในเวลาที่ก าหนด แต่งานยังผิดพลาดบางส่วน

(A) 1 ท าภาระงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ แต่ล่าช้า และเกิดข้อผิดพลาดบางส่วน


ระดับคะแนน

คะแนน 3 หมายถึง ระดับดีมาก
คะแนน 2 หมายถึง ระดับด ี

คะแนน 1 หมายถึง ระดับพอใช ้

355

การประเมินการท ากิจกรรม เรื่อง ครึ่งชีวิต


จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)
3 3 3 9

1

2
3

4

5
6

7

8
9

10

11

12
13

14

15
16

17

18
19

20

21
22

23

24

25
26

27

28

356

จุดประสงค์การเรียนร ู้
ด้าน ด้าน รวม
ด้านความรู้ ระดับ
ที่ ชื่อ - นามสกุล กระบวนการ คุณลักษณะ คะแนน
(K) คุณภาพ
(P) (A)

3 3 3 9

29

30
31

32

33
34

35

36
37

38

39
40



ระดับคุณภาพ

คะแนน 9 หมายถึง ระดับดีมาก

คะแนน 7-8 หมายถึง ระดับด ี
คะแนน 5-6 หมายถึง ระดับปานกลาง

คะแนน 3-4 หมายถึง ระดับปรับปรุง

357



บันทึกหลังการสอน

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง พลังงาน ใ

แผนการสอนที่ 28 เรื่อง ครึ่งชีวิต .

วันที่ เดือน พ.ศ. ใ


ผลการจัดการเรียนร ู้



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ปัญหา / อุปสรรค



……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ปัญหา


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...




ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวนิลนิกา แก้วปัญญา) (นางนพรัตน์ ครุฑเกิด)

358






แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 29
เรื่อง ประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังสี

รายวิชา ว31104 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 เวลา 4 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พลังงาน รวม 13 ชั่วโมง

ู้
กลุ่มสาระการเรียนรวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1



1. มาตรฐานการเรียนรู้

ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย

และการเกิดปฏิกิริยาเคมี


2. ตัวชี้วัด
ว 2.1 ม.5/25 สืบค้นข้อมูลและน าเสนอตัวอย่างประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการปูองกันอันตรายท ี่


เกิดจากกัมมันตภาพรังส ี

3. จุดประสงค์การเรียนร ู้

3.1 ด้านความรู้ (K)
1) นักเรียนสืบค้นข้อมูลตัวอย่างประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการปูองกันอันตรายที่เกิดจากสาร

กัมมันตรังสีได ้
3.2 ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนน าเสนอข้อมูลตัวอย่างประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการปูองกันอันตรายที่เกิดจากสาร

กัมมันตรังสีได ้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A)

1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน


4. สาระส าคัญ

พลังงานที่น ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวันได้มาจากปฏิกิริยาเคมี และปฏิกิริยานิวเคลียร์ โดยปฏิกิริยา
เคมีที่ให้พลังงานอาจได้มาจากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยาเคมีไฟฟูา ซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เขียนแสดงได้ด้วย

สมการเคมี โดยแสดงชนิดและจ านวนของสาร ตั้งต้นที่ท าปฏิกิริยากัน และผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น รวมทงภาวะในการ
ั้
เกิดปฏิกิริยา การพิจารณา ว่าปฏิกิริยาเคมีเกิดเร็วหรือช้าพิจารณาได้จาก อัตราการเกิดปฏิกิริยาเค มี ซึ่งขึ้นอยู่กับ
หลายปัจจัย เช่น ความเข้มข้น อุณหภูมิ พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น ตัวเร่งปฏิกิริยา ความรู้เกี่ยวกับปัจจยที่มีผลต่ออัตรา

การเกิดปฏิกิริยาเคมี สามารถน าไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน และในอุตสาหกรรม ปฏิกิริยารีดอกซ์เป็นปฏิกิริยา
เคมีที่เกิดจากการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ของสาร โดยปฏิกิริยารีดอกซ์มีทั้งที่ให้กระแสไฟฟูาและไม่ให้กระแสไฟฟูา

359

ส าหรับปฏิกิริยานิวเคลียร์ จะใช้สารกัมมันตรังสีเป็นแหล่งของพลังงาน เนื่องจากสารกัมมันตรังสีมีนิวเคลียสไม่
เสถียร เกิดการสลายและแผ่รังสีอย่างต่อเนื่อง สารกัมมันตรังสีแต่ละชนิดมีค่าครึ่งชีวิตแตกต่างกัน และรังสีที่แผ่ออก


มาแตกต่างกันจึงน ามาใช้ประโยชน์ได้ต่างกัน การน าสารกัมมันตรังสีแตละชนิดมาใช้ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม
และต้องค านึงถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม


5. สาระการเรียนร ู้

5.1 ความรู้
สารกัมมันตรังสีใช้เป็นแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟูาในโรงไฟฟูานิวเคลียร์แล้ว ยังแผ่รังสี เ ช่น


ต่างๆ เช่น แอลฟา บีตา แกมมา ซึ่งสามารถน ามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ด้านการแพทย์
สารกัมมันตรังสีบางชนิดสามารถน ามาใช้ในการวินิจฉัยโรคหรือรักษาโรคได เช่น โคบอลต-60 (Co-


60) ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ไอโอดีน-131 (I-131) ใช้ในการติดตามการท างานและรักษาความผิดปกติของ

ต่อมไทรอยด

ด้านการเกษตร

สารกัมมันตรังสีที่น ามาประยุกต์ในการเกษตร เช่น Co-60 ใช้ในการฉายรังสีแกมมาไปยังเม็ดพันธุ์

พืชเพื่อให้เกิดการกลายพันธุ์และน ามาคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีสมบัติตามต้องการ รวมทั้งใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
เพื่อถนอมอาหาร

ด้านอุตสาหกรรม
สารกัมมันตรังสีที่มีการน ามาใช้งานในด้านอุตสาหกรรม เช่น โซเดียม-24 (Na-24) ใช้ตรวจหารอย

ต าหนิหรือรอยรั่วของท่อขนส่งของเหลว โคบอลต-60 (Co-60) ใช้ในการเปลี่ยนสีอัญมณ ี

ด้านธรณีวิทยา

นอกจากการใช้ประโยชน์จากรังสีแล้ว ในทางธรณีวิทยาสามารถใช้ครึ่งชีวิตของ สารกัมมันตรังสีใน


การค านวณหาอายุวัตถุโบราณหรือซากดึกด าบรรพ์ได อีกด้วย เช่น ใช้คาร์บอน (C-14) ในการหาอายุของ
ซากสิ่งมีชีวิตโบราณ

สารกัมมันตรังสีถึงแม้จะมีประโยชน์มาก แต่การน ามาใช้ประโยชน์อาจมีการ แผรังสีที่มีพลังงานสูง

มาก จึงจ าเป็นต้องมีการปูองกันและควบคุมการใช้อย่างเข้มงวด และผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับรังสีต้องส วม
อุปกรณ์ปูองกันต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับรังสีในปริมาณที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ต้องแสดงสัญลักษณ์รังสีอย่าง

ชัดเจนบนภาชนะ เครื่องมือ และบริเวณที่เกี่ยวข้อง










รูป 4.17 อุปกรณ์ปูองกันและสัญลักษณ์รังส ี

360

กากกัมมันตรังสีที่ได้จากการใช้สารกัมมันตรังสีในโรงงานไฟฟูานิวเคลียร์ โรงพยาบาล หรือ
หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องมีกระบวนการจัดการอย่างถูกวิธี โดยเก็บกากกัมมันตรังสีไว้ในภาชนะท ี่

เหมาะสม และอยู่ในสถานที่ที่มีการควบคุมและห่างไกลจากชุมชน โดยฝังไว้ใต้ดินหรือใต้ทะเลลึก










รูป 4.18 ตัวอย่างการฝังกัมมันตรังสีไว้ใต้ดิน

5.2 กระบวนการ
1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)

2) ความสามารถในการคิด (สังเกต วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป)

3) ความสามารถในการแก้ปัญหา (แสวงหาความรู้)
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (ความรับผิดชอบ)

5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ใช้การสืบค้นผ่านคอมพิวเตอร์ มีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี)

5.3 คุณลักษณะและค่านิยม

ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการท างาน
6. บูรณาการ

6.1 บูรณาการ PLC นักเรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้เล่าสู่กันฟังถึงความรู้ที่ได้จากการท ากิจกรรม และ

ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการท ากิจกรรม

6.2 บูรณาการเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี ในการจัดท าสื่อในรูปแบบ Power point

7. กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ

1.1 ครูให้นักเรียนสังเกตภาพเกี่ยวกับสัญลักษณ์รังส แล้วตั้งค าถามให้นักเรียนตอบ ดังนี้





ค าถาม

- นักเรียนเคยเห็นสัญลักษณ์นี้ที่ไหนบ้าง
- นักเรียนคิดว่าสัญลักษณ์แบบนี้หมายถึงอะไร

1.2 ครูใช้ค าถาม เพื่อน าเข้าสูบทเรียน ดังนี้

- นักเรียนทราบถึงประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีหรือไม่
- นักเรียนทราบถึงโทษของสารกัมมันตรังสีหรือไม่

361


ขั้นที่ 2 ขั้นส ารวจและค้นหา
2.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน จ านวน 5 กลุ่ม โดยคละความสามารถและเพศ

2.2 ครูชี้แจ้งกิจกรรมให้นักเรียนทราบ ดังนี้

- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
- ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังสีใน



อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด โดยออกแบบการน าเสนอเนื้อหา ในรูปแบบ Power point ไมเกิน 10 สไสด
ซึ่งประกอบด้วย ชื่อเรื่อง ชื่อผู้จัดท า ชื่อครูผู้สอน ประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังสี พร้อมรูป
ภาพประกอบ ใช้เวลาในการสืบค้นและออกแบบการน าเสนอเนื้อหา ในรูปแบบ Power point จ านวน 3

ชั่วโมง
- ครูแจ้งเกณฑ์การให้คะแนน


ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป

3.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มน าเสนอผลการสืบค้นของกลุ่มตนเอง (โดยท าการสุ่ม) ใช้เวลาในน าเสนอ

เนื้อหา กลุ่มละ 10 นาท ี
3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา เรื่อง ประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังสี ดังนี้

1) ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสี
1. ด้านธรณีวิทยา มีการใช้ C-14 ค านวณหาอายุของวัตถุโบราณ หรืออายุของซากดึกด า

บรรพ์

2. ด้านการแพทย์ ใช้รักษาโรคมะเร็ง ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิด กระท าได้โดยการ
ฉายรังสีแกมมาที่ได้จากโคบอลต-60 เข้าไปท าลายเซลล์มะเร็ง ผู้ปุวยที่เป็นมะเร็งในระยะแรกสามารถรักษา

ให้หายขาดได้ แล้วยังใช้โซเดียม-24 ที่อยู่ในรูปของ NaCl ฉีดเข้าไปในเส้นเลือด เพื่อตรวจการไหลเวียนของ
โลหิต โดย โซเดียม-24 จะสลายให้รังสีบีตาซึ่งสามารถตรวจวัดได้ และสามารถบอกได้ว่ามีการตีบตันของ

เส้นเลือดหรือไม่

3. ด้านเกษตรกรรม มีการใช้ธาตุกัมมันตรังสีติดตามระยะเวลาการหมุนเวียนแร่ธาตุในพืช
โดยเริ่มต้นจากการดูดซึมที่รากจนกระทั่งถึงการคายออกที่ใบ หรือใช้ศึกษาความต้องการแร่ธาตุของพืช

4. ด้านอุตสาหกรรม ในอุตสาหกรรมการผลิตแผ่นโลหะ จะใช้ประโยชน์จาก

กัมมันตภาพรังสีในการควบคุมการรีดแผ่นโลหะ เพื่อให้ได้ความหนาสม่ าเสมอตลอดแผ่น โดยใช้รังสีบีตายิง
ผ่านแนวตั้งฉากกับแผ่นโลหะที่รีดแล้ว แล้ววัดปริมาณรังสีที่ทะลุผ่านแผ่นโลหะออกมาด้วยเครื่องวัดรังสี ถ้า

ความหนาของแผ่นโลหะที่รีดแล้วผิดไปจากความหนาที่ตั้งไว้ เครื่องวัดรังสีจะส่งสัญญาณไปควบคุมความ

หนา โดยสั่งให้มอเตอร์กดหรือผ่อนลูกกลิ้ง เพื่อให้ได้ความหนาตามต้องการ

2) โทษของสารกัมมันตรังสี
เนื่องจากรังสีสามารถท าให้ตัวกลางที่มันเคลื่อนที่ผ่าน เกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ รังส ี
จึงมีอันตรายต่อมนุษย์ ผลของรังสีต่อมนุษย์สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภทคือ ผลทางพันธุกรรมและความ

ปุวยไข้จากรังสี ผลทางพันธุกรรมจากรังสี จะมีผลท าให้การสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกายมนุษย์เกิดการกลาย

362

พันธุ์ โดยเฉพาะเซลล์สืบพันธุ์ ส่วนผลที่ท าให้เกิดความปุวยไข้จากรังสี เนื่องจากเมื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง
ของร่างกายได้รับรังสี โมเลกุลของธาตุต่างๆ ที่ประกอบเป็นเซลล์จะแตกตัว ท าให้เกิดอากาปุวยไข้ได

หลักในการปูองกันอันตรายจากรังสี มีดังนี้
- ใช้เวลาเข้าใกล้บริเวณที่มีกัมมันตภาพรังสีให้น้อยที่สุด

- พยายามอยู่ให้ห่างจากกัมมันตภาพรังสีให้มากที่สุดเท่าที่จะท าได ้
- ใช้ตะกั่ว คอนกรีต น้ า หรือพาราฟิน เป็นเครื่องก าบังบริเวณที่มีการแผ่รังส ี


ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้
4.1 ครูให้ความรู้เพิ่มเติม ดังนี้

1) กัมมันตรังสีที่ธาตุกัมมันตรังสีแผ่ออกมามีอยู่ 3 ชนิด ซึ่งเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน
ออกไป ดังนี้


1.รังสีแอลฟา ( ) สัญลักษณ หรือ เป็นนิวเคลียสของ

ธาตุฮีเลียมซึ่งมีประจุ +2 เนื่องจากมีประจุไฟฟูาบวกจึงเบนเข้าหาขั้วลบ เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงสุด แต่มี

อ านาจทะลุทะลวงต่ าที่สุด โดยสามารถเดินทางผ่านอากาศได้เพียง 3 – 5 ซม. หรือ กระดาษเพียง 1 – 2
แผ่นก็สามารถกั้นได้


2) รังสีเบตา ( ) สัญลักษณ หรือ เป็นล าของอนุภาคที่มี

สมบัติเหมือนกับอิเล็กตรอน (รวมถึงโพรสิตรอน หรือ แต่ส่วนใหญ่ที่พบบนโลกจะมีสมบัติเหมือน
อิเล็กตรอน) มีประจุ -1 เนื่องจากมีประจุไฟฟูาลบจึงเบนเข้าหาขั้วบวก อ านาจทะลุทะลวงมากกว่ารังส ี

แอลฟา ในขณะที่มีพลังงานต่ ากว่า รังสีเบตามีความเร็วใกล้เคียงแสง สามารถทะลุผ่านโลหะแผ่นบาง ๆ ได้

3) รังสีแกมมา ( ) สัญลักษณ หรือ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟูาท ี่

ความยาวคลื่นสั้นมาก ไม่มีมวล ไม่มีประจุ จึงไม่เบี่ยงเบนใน สนามไฟฟูา มีอ านาจทะลุทะลวงสูงสุด แต่มี

พลังงานต่ าที่สุด สามารถทะลุผ่าน แผ่นไม้ โลหะ หรือแม้แต่เนื้อเยื่อได้ แต่จะถูกกั้นไว้ได้ด้วยคอนกรีตหนา
หรือแผ่นตะกั่วหนา












ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล
5.1 ประเมินจากการออกแบบการน าเสนอเนื้อหา ในรูปแบบ Power point และการน าเสนอผล

การสืบค้น

363

ประยุกต์และตอบแทนสังคม
ครูให้นักเรียนแต่ละคนน าความรู้ที่เรียนไปค้นคว้าเพิ่มเติมที่ห้องสมุด หรือเว็บไซต์ แล้วน าเสนอใน

ชั้นเรียน



ู้
8. สื่อการเรียนร/แหล่งเรียนร ู้
8.1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ (วิทยาศาสตร์กายภาพ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1

(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)
8.2 คอมพิวเตอร์

8.3 อินเทอร์เน็ต
8.4 เว็บไซต์

http://radioactive601.blogspot.com/2010/12/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%

E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%82%E0%B8%AD%E
0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0

%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA.html


9. การวัดและประเมินผล

จุดประสงค์การเรียนร ู้ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
ด้านความรู้ (K)

1) นักเรียนสืบค้นข้อมูลตัวอย่างประโยชน์ 1) สังเกตจากการ 1) แบบประเมินการ 1) ระดับดีผ่านเกณฑ์

ของสารกัมมันตรังสีและการปูองกัน น าเสนอผลการสืบค้น น าเสนอผลงาน
อันตรายที่เกิดจากสารกัมมันตรังสีได ้

ด้านกระบวนการ (P)

1) นักเรียนน าเสนอข้อมูลตัวอย่าง 1) สังเกตจากการ 1) แบบประเมินการ 1) ระดับดีผ่านเกณฑ์
ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการ น าเสนอผลการสืบค้น น าเสนอผลงาน

ปูองกันอันตรายที่เกิดจากสาร

ด้านคุณลักษณะ (A)
1) ใฝุเรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการ 1) สังเกตจากการ 1) แบบประเมินการ 1) นักเรียนท าภาระ

ท างาน น าเสนอผลการสืบค้น น าเสนอผลงาน งานที่ได้รับมอบหมาย


ไดระดับดี ผ่านเกณฑ์




‘’’’’’’’’

364

10. เกณฑ์การประเมินผลงานนักเรียน
เกณฑ์การประเมินแบบ Rubrics ของการท ากิจกรรม เรื่อง ประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังส ี

เกณฑ ์ คุณภาพ
ยอดเยี่ยม(4) ดี(3) พอใช้(2) ควรปรับปรุง(1)

1. เนื้อหา (40)

1.1 อธิบายเนื้อหาได ้ เนื้อหาถูกต้อง เนื้อหาผิด 1 จุด (8) เนื้อหาผิด 2 จุด (6) เนื้อหาผิดตั้งแต่ 3
ถูกต้อง (10) สมบูรณ(10) จุดขึ้นไป (4)

1.2 ความสมบูรณ์ของ เนื้อหาสมบูรณ ์ เนื้อหาไม่สมบูรณ ์ เนื้อหาไม่สมบูรณ ์ เนื้อหาไม่สมบูรณ ์

เนื้อหา (15) ครบถ้วนในทุกด้าน ขาดหายไป 1 ด้าน ขาดหายไป 2 ด้าน ขาดหายไป ตั้งแต่ 3
(15) (13) (10) ด้านขึ้นไป (8)

1.3 ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ ใช้กระบวนการ

วิเคราะห์แก้ปัญหาท ี่ วิเคราะห์แก้ปัญหาท วิเคราะห์แก้ปัญหาท วิเคราะห์แก้ปัญหาท วิเคราะห์แก้ปัญหาท ี่
ี่
ี่
ี่
เหมาะสม (10) เหมาะสมทุก เหมาะสมเกือบทุก เหมาะสมครึ่งหนึ่ง เหมาะสมในบาง
กระบวนการท างาน กระบวนการท างาน ของกระบวนการ กระบวนการท างาน
(10) (8) ท างาน (6) (10)

1.4 ใช้แหล่งข้อมูลท ี่ ใช้แหล่งข้อมูลท ี่ ใช้แหล่งข้อมูลท ี่ ใช้แหล่งข้อมูลท ี่ ใช้แหล่งข้อมูลท ี่

หลากหลายและน่าเชื่อถือ หลากหลายและ หลากหลายและ หลากหลายและ หลากหลายและ
(5) น่าเชื่อถือ มากกว่า น่าเชื่อถือ จ านวน 3 น่าเชื่อถือ จ านวน 2 น่าเชื่อถือ เพียง

4 แหล่ง (5) แหล่ง (4) แหล่ง (3) แหล่งเดียวแหล่ง (2)

2. การสร้างชิ้นงาน (15)



2.1 จ านวนสไลด์ (5) จ านวนสไลด 10 จ านวนสไลด 7-9 จ านวนสไลด 3-6 จ านวนสไลด 1-2

สไลด์ (5) สไลด์ (4) สไลด์ (3) สไลด์ (2)
2.2 การเปลี่ยนแปลงแบบ มีการเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนแปลง
การน าเสนอ (5) แบบการน าเสนอท ี่ แบบการน าเสนอท ี่ แบบการน าเสนอท ี่ แบบการน าเสนอ (2)

เหมาะสมมาก (5) เหมาะสม (4) เหมาะสมน้อย (3)

2.3 ใช้การแสดง ใช้การแสดง ใช้การแสดง ใช้การแสดง ใช้การแสดง
ภาพเคลื่อนไหว (5) ภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหว (2)

เหมาะสมมาก (5) เหมาะสม (4) เหมาะสมน้อย (3)

3. องค์ประกอบของชิ้นงาน (30)
3.1 ตัวสะกดและ ใช้ตัวตัวสะกดและ ใช้ตัวตัวสะกดและ ใช้ตัวตัวสะกดและ ใช้ตัวตัวสะกดและ

ไวยากรณ์ (5) ไวยากรณ์ถูกต้องทุก ไวยากรณ์ผิดพลาด ไวยากรณ์ผิดพลาด ไวยากรณ์ผิดพลาด

จุด (5) 1 จุด (4) 2 จุด (3) ตั้งแต่ 3 จุด ขึ้นไป
(2)

3.2 การน าเสนอมีความ การน าเสนอมีความ การน าเสนอมีความ การน าเสนอมีความ การน าเสนอมีความ
ต่อเนื่อง (5) ต่อเนื่องเหมาะสมใน ต่อเนื่องเหมาะสมใน ต่อเนื่องเหมาะสมใน ต่อเนื่องเหมาะสมใน

365

ระดับมากที่สุด (5) ระดับมาก (4) ระดับปานกลาง (3) ระดับน้อย (2)
3.3 การน าเสนอน่าสนใจ การน าเสนอน่าสนใจ การน าเสนอน่าสนใจ การน าเสนอน่าสนใจ การน าเสนอน่าสนใจ

(10) ในระดับมากที่สุด ในระดับมาก (8) ในระดับปานกลาง ในระดับน้อย (4)
(10) (6)

ี่
3.4 มีการจัดวางรูปแบบท มีการจัดวางรูปแบบ มีการจัดวางรูปแบบ มีการจัดวางรูปแบบ มีการจัดวางรูปแบบ
เหมาะสม (10) ที่เหมาะสม ในระดับ ที่เหมาะสม ในระดับ ที่เหมาะสม ในระดับ ที่เหมาะสม ในระดับ
มากที่สุด (10) มาก (8) ปานกลาง (6) น้อย (4)

4. คุณลักษณะของสมาชิกในกลุ่ม (15)

4.1 ความร่วมมือในกลุ่ม แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ แสดงออกถึงความ
(5) สามัคคีกันในกลุ่ม สามัคคีกันในกลุ่ม สามัคคีกันในกลุ่มใน สามัคคีกันในกลุ่ม

เป็นอย่างมาก (5) (4) บางครั้ง (3) น้อย (2)

ี่
4.2 ความตรงต่อเวลาใน ส่งงานภายในเวลาท ส่งงานล่าช้า 1 วัน ส่งงานล่าช้า 2 วัน ส่งงานล่าช้า ตั้งแต่ 3
การส่งงาน (10) ก าหนด (10) (8) (6) วันขึ้นไป (4)

366

แบบประเมินงานน าเสนอ


ี่
ี่
วิชา..............................................กลุ่มท.............................วันท................................................
ผู้ประเมิน  ครูผู้สอน  นักเรียน อื่นๆ ....................................................


รายการประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนประเมิน

1. เนื้อหา

1.1 อธิบายเนื้อหาได้ถูกต้อง 10
1.2 ความสมบูรณ์ของเนื้อหา 15

1.3 ใช้กระบวนการวิเคราะห์แก้ปัญหาที่เหมาะสม 10

1.4 ใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ 5
รวม 40

2. การสร้างชิ้นงาน

2.1 จ านวนสไลด์ 5
2.2 การเปลี่ยนแปลงแบบการน าเสนอ 5

2.3 ใช้การแสดงภาพเคลื่อนไหว 5

รวม 15

3. องค์ประกอบของชิ้นงาน
3.1 ตัวสะกดและไวยากรณ์ 5

3.2 การน าเสนอมีความต่อเนื่อง 5

3.3 การน าเสนอน่าสนใจ 10
3.4 มีการจัดวางรูปแบบที่เหมาะสม 10

รวม 30

4. คุณลักษณะของสมาชิกในกลุ่ม
4.1 ความร่วมมือในกลุ่ม 5

4.2 ความตรงต่อเวลาในการส่งงาน 10

รวม 15

คะแนนรวมทั้งหมด 100

367





บันทึกหลังการสอน

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง พลังงาน ใ

แผนการสอนที่ 29 เรื่อง ประโยชน์และโทษของสารกัมมันตรังสี .

วันที่ เดือน พ.ศ. ใ



ผลการจัดการเรียนร ู้


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ปัญหา / อุปสรรค


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ปัญหา


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...


……………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………...



ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวนิลนิกา แก้วปัญญา) (นางนพรัตน์ ครุฑเกิด)


Click to View FlipBook Version