The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์หลักสูตร ว30245 ม.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattiya2252, 2022-09-20 12:49:25

วิเคราะห์หลักสูตร ว30245 ม.6

วิเคราะห์หลักสูตร ว30245 ม.6

คำนำ

พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาตพิ .ศ. 2542 ท่ไี ด้ประกาศใชต้ ง้ั แต่เดอื นสิงหาคม 2542 เปน็ ต้นมา ได้เนน้ ให้
ครู-อาจารยแ์ ละผู้เกย่ี วข้องทั้งหลายจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นสาคญั ที่สุด ซึง่ กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่จัด
ควรมีลักษณะสาคัญดงั น้ี

1. ผู้เรยี นได้เรียนรู้จากการปฏิบตั จิ ริง
2. ผู้เรยี นมีโอกาสเลอื กเรยี นรู้ในสิง่ ทตี่ นถนดั และสนใจ
3. ผู้เรียนได้มโี อกาสแสวงหาความรแู้ ละสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตวั เอง
4. ผู้เรยี นไดม้ ีโอกาสทจ่ี ะนาความรไู้ ปปฏบิ ัตใิ ช้จรงิ ในชวี ติ ประจาวนั
5. ผ้เู รยี นมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของตนเอง
โรงเรียนนาคาราษฎรร์ งั สรรคไ์ ด้ตระหนักถงึ ภารกจิ ของครใู นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ หส้ อดคล้องกับ
พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติด้วยการบรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไว้ใน
รายวชิ า และกจิ กรรมท่ีจะส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องนกั เรยี นตามพระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติให้เป็นรปู ธรรม จึงได้
มอบหมายให้แตล่ ะกลุ่มสาระการเรยี นรจู้ ัดทาการวิเคราะหห์ ลักสูตร รายวิชาชีววิทยา ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปี่ 6 กล่มุ
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้ึน ซ่ึงประกอบด้วย

จดั กล่มุ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด
สาระสาคญั ความคดิ รวบยอด
โครงสร้างรายวิชาชีววทิ ยา 1
การวิเคราะห์มาตรฐานตัวชีว้ ดั สู่ สมรรถนะ คุณลกั ษณะฯ
ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนรู้

หวงั วา่ การวเิ คราะหห์ ลักสตู รในรายวชิ าชวี วทิ ยา ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปี 6 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี เพ่อื ใช้เปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ให้บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ตอ่ ไป

นางรัตติยา สุธรรม
ผจู้ ดั ทา

สำรบัญ หนา้

เรอ่ื ง 1
4
การจัดกลุ่มมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั เพือ่ จดั ทาโครงสรา้ งรายวิชา 16
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอดของหน่วยการเรียนรู้ 27
โครงสร้างรายวชิ า
การวิเคราะหค์ วามเช่อื มโยงของมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั 42
สมรรถนะของผเู้ รยี น และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 57
การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้
หน่วยการเรยี นรู้



เอกสารหมายเลข 1 กำรจดั กลุ่มมำตรฐำนกำรเรยี นรู้/ต
รำยวิชำ วิทยำศำสตร์ 1 (ว
หน่วยท่ี
สำระท่ี 1 วิทยำศำสตร์ชวี ภำพ มำตรฐำนกำรเรียนรู้

1

ตัวช้วี ัด เพ่ือจัดทำโครงสร้ำงรำยวชิ ำ
ว21101) ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1

ตวั ชีว้ ัด

1. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหนา้ ทขี่ อง
ระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรีย

ไสเ้ ดือนดิน กุง้ หอย แมลง และสตั วม์ ีกระดูกสนั หลงั
2. อธิบายเกี่ยวกบั โครงสร้างและหนา้ ท่ขี องเซลลป์ ระสาท
3. อธิบายเกี่ยวกบั การเปล่ียนแปลงของศกั ยไ์ ฟฟ้าที่เยอ่ื หุม้ เซลล์
ของเซลลป์ ระสาทและกลไกการถ่ายทอด

กระแสประสาท
4. อธิบาย และสรุปเก่ียวกบั โครงสร้างของระบบประสาท
ส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
5. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องส่วนตา่ ง ๆ ใน
สมองส่วนหนา้ สมองส่วนกลาง สมองส่วนหลงั

และไขสนั หลงั
6. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และยกตวั อยา่ งการทางาน
ของระบบประสาทโซมาติกและระบบ

ประสาทอตั โนวตั ิ

หนว่ ยที่ มำตรฐำนกำรเรียนรู้

ตวั ช้วี ัด

7. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสร้างและหนา้ ที่ของ ตา หู จมูก ล้ิน
และผวิ หนงั ของมนุษย์ ยกตวั อยา่ งโรคต่าง ๆ

ท่ีเก่ียวขอ้ ง และบอกแนวทางในการดูแลป้องกนั และรกั ษา
8. สงั เกต และอธิบายการหาตาแหน่งของจุดบอด โฟเวยี และ
ความไวในการรบั สมั ผสั ของผวิ หนงั
9. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสรา้ งและหนา้ ท่ี
ของอวยั วะทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั

การเคลื่อนทขี่ องแมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไสเ้ ดือนดิน

แมลง ปลา และนก
10. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ขี องกระดกู
และกลา้ มเน้ือทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั การ

เคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่ของมนุษย์

11. สงั เกตและอธิบายการทางานของขอ้ ตอ่ ชนิดตา่ ง ๆ และการ
ทางานของกลา้ มเน้ือโครงร่าง

ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การเคล่ือนไหวและการเคล่ือนท่ขี องมนุษย์

หนว่ ยที่ มาตรฐานการเรียนรู้

ตัวช้ีวัด

12. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเขยี นแผนผงั สรุปหนา้ ทข่ี อง
ฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเน้ือเยอ่ื ที่สร้างฮอร์โมน
13. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตวั อยา่ งการสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั
เพศและการสืบพนั ธุแ์ บบอาศยั เพศในสตั ว์
14. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของอวยั วะใน
ระบบสืบพนั ธุเ์ พศชายและระบบสืบพนั ธุเ์ พศหญิง
15. อธิบายกระบวนการสร้างสเปิ ร์ม กระบวนการสรา้ งเซลลไ์ ข่
และการปฏสิ นธิในมนุษย์
16. อธิบายการเจริญเตบิ โตระยะเอ็มบริโอและระยะหลงั เอ็มบริโอ
ของกบ ไก่ และมนุษย์
17. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทยี บและยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมที่
เป็ นมาแต่กาเนิดและพฤตกิ รรมท่เี กิดจาก

การเรียนรู้ของสตั ว์

18. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตวั อยา่ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
พฤตกิ รรมกบั ววิ ฒั นาการของระบบประสาท
19. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตวั อยา่ งการส่ือสารระหวา่ งสตั วท์ ี่
ทาใหส้ ตั วแ์ สดงพฤตกิ รรม

เอกสำรหมำยเลข 2

สำระสำคญั /ควำมคิดรว

รำยวชิ ำ วิทยำศำสตร์ (ว2

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วยกำร มำตรฐำน ผเู้ รียนร้อู ะไร
เรียนรู้ กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวช้ีวัด

ผูเ้ รียนรอู้ ะไร

ว 1.2 ม 1/1 • รปู รา่ งลกั ษณะและโครงสรา้ ง

เปรยี บเทียบรูปรา่ ง เซลล์พชื

ลักษณะและ • รูปร่างลกั ษณะและโครงสรา้ ง

โครงสร้าง ของเซลล์ เซลลส์ ัตว์

พืชและเซลล์สตั ว์ • หน้าทข่ี องผนังเซลล์

หนว่ ยพนื้ ฐาน รวมทง้ั บรรยาย เย่ือห้มุ เซลล์ ไซโทพลาซึม นวิ
ของสง่ิ มีชวี ติ
3 หน้าทีข่ องผนงั เซลล์ แวคิวโอล ไมโทคอนเดรีย

เยอ่ื หมุ้ เซลล์ และคลอโรพลาสต์

ไซโทพลาซึม นักเรยี นทำอะไรได้
นิวเคลยี ส • วาดภาพและระบุผนังเซลล์ เย

แวคิวโอล เซลล์ ไซโทพลาซมึ นิวเคลียส

ไมโทคอนเดรยี และ แวคิวโอล ไมโทคอนเดรยี และ

คลอโรพลาสต์ คลอโรพลาสต์

วบยอดของหนว่ ยกำรเรียนรู้ สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
21101) ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1
ส่งิ มีชวี ิตทุกชนดิ มีเซลลเ์ ปน็
ควำมคิดหลัก ส่วนประกอบ บางชนิดประกอบดว้ ย
โครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี อง เซลล์ 1 เซลล์ บางชนิดประกอบดว้ ย
ง ของ เซลล์ เซลลห์ ลายเซลล์ เซลล์ของส่งิ มีชีวิต
ง ของ จะมีขนาดเล็ก มากจนไม่สามารถ
มองเหน็ ไดด้ ้วยตาเปล่าจึงตอ้ งใช้
วเคลียส กล้องจุลทรรศนใ์ ช้แสงเป็นเครอ่ื งมือ
ช่วยในการศึกษา เซลลพ์ ืชและเซลล์
ยื่อหุ้ม สตั วม์ โี ครงสร้างพืน้ ฐานเหมือนกัน
ะ คอื มเี ยอ่ื หุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึม และ
นิวเคลยี ส ซ่งึ โครงสร้างพื้นฐานนี้จะ
ทาหนา้ ที่แตกต่างกนั ไป แต่ เซลล์พืช
มีโครงสรา้ งบางอยา่ งทไี่ มพ่ บในเซลล์
สตั ว์ ได้แก่ ผนังเซลล์และ
คลอโรพลาสต์ เซลล์มีรูปร่างลกั ษณะ

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผูเ้ รยี นรู้อะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชีว้ ัด

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด

ทห่ี ลากหลายเพื่อใหเ้ หมาะ สมกับ
หน้าที่ของเซลล์นัน้ ๆ โดยเซลล์ชนดิ
เดยี วกันหรือ หลายชนดิ จะทางาน
รว่ มกันเป็นเนื้อเยือ่ เนอื้ เย่ือ หลาย
ชนดิ รวมกันเป็นอวยั วะอวัยวะทางาน
รว่ มกันจดั เป็น ระบบอวยั วะ และ
ระบบอวยั วะทกุ ระบบทางานร่วมกนั
จนเป็นสงิ่ มชี วี ิต

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผู้เรยี นรูอ้ ะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชว้ี ัด

นักเรยี นร้อู ะไร

• ใช้งานกล้องจุลทรรศ

ว 1.2 ม 1/2 ใช้ แบบใช้แสงตามขนั้ ตอ
กลอ้ งจุลทรรศนใ์ ช้ ทถ่ี ูกตอ้ ง

แสงศึกษาเซลล์และ

โครงสร้างต่าง ๆ นกั เรยี นทำอะไรได้
ภายในเซลล์ • ปฏิบตั ิตามข้นั ตอนก

ใช้งานกล้องจุลทรรศน

แบบใช้แสง

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
ใชง้ านกล้องจุลทรรศน์
ศน์ โครงสร้างพืน้ ฐานที่พบท้ังในเซลลพ์ ืช
อน และเซลล์สัตวแ์ ละสามารถสงั เกตได้
ดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ใช้แสง ไดแ้ ก่
การ เยอื่ หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาซมึ และ
น์ นิวเคลยี ส โครงสร้างท่ีพบในเซลล์พืช
แต่ไม่พบในเซลล์สัตว์ ไดแ้ ก่
ผนงั เซลล์และคลอโรพลาสต์

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผูเ้ รียนรู้อะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชีว้ ัด นักเรียนร้อู ะไร
• ความสัมพนั ธร์ ะหวา่
ว1.2 ม 1/3 รูปรา่ งกบั การทาหน้า
อธิบาย ของเซลล์
ความสมั พันธ์
ระหวา่ งรปู ร่างกบั นกั เรียนทำอะไรได้
การทาหนา้ ทข่ี อง • วาดรปู ร่างกับ และ
เซลล์ ระบกุ ารทาหนา้ ท่ขี อง
เซลล์

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

รปู ร่างกบั การทาหน้าที่ของเซลล์ เซลล์ (cell) เปน็ หนว่ ยพื้นฐานทเ่ี ล็ก
าง ทีส่ ุดของสิ่งมชี วี ติ ท้งั ส่ิงมชี วี ิตเซลล์
าที่ เดยี วและสง่ิ มชี ีวติ หลายเซลล์ ซงึ่
เซลล์แต่ละชนิดจะมรี ูปร่างและ
ง ลักษณะทแี่ ตกต่างกนั โดยท่วั ไปเซลล์
ของสง่ิ มีชวี ติ จะมีขนาดเลก็ ไม่
สามารถมองเหน็ ไดด้ ้วยตาเปล่า
จึงตอ้ งใชก้ ล้องจุลทรรศนใ์ น
การศกึ ษารูปร่างและลักษณะ
ของเซลล์

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนรู้อะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชว้ี ัด นักเรียนรู้อะไร
• จัดระบบของส่งิ มีชีว

ว1.2 ม 1/4 นักเรียนทำอะไรได้
อธบิ ายการ • ระบเุ ซลล์ เนอื้ เย่อื
จดั ระบบของ อวยั วะ ระบบ อวัยวะ
สิ่งมีชีวิต โดย เริ่ม ของส่ิงมชี ีวติ
จากเซลล์ เนือ้ เยอ่ื
อวัยวะ ระบบ
อวัยวะ จนเป็น
สิง่ มชี ีวิต

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
จัดระบบของสิ่งมชี ีวิต
วิต ส่ิงมีชีวติ ทกุ ชนิดมีเซลลเ์ ป็ นหน่วยท่ี
เลก็ ท่สี ุดเป็นองคป์ ระกอบ ซ่ึง
ะ สิ่งมีชีวติ บางชนิดสามารถดารงชีวติ
อยไู่ ดเ้ พยี งเซลลเ์ ดียว บางชนิด
จาเป็ นตอ้ งมีหลายเซลลม์ ารวมกนั
เป็นเน้ือเยอ่ื ซ่ึงมีรูปร่างและหนา้ ที่
แตกต่างกนั

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนร้อู ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชี้วัด นกั เรยี นรู้อะไร
• กระบวนการแพรแ่ ล
ออสโมซสิ

ว1.2 ม 1/5 อธิบาย นกั เรียนทำอะไรได้
กระบวนการแพรแ่ ละ • ความแตกตา่ งของก
ออสโมซิส จาก แพร่และออสโมซิส
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
และยกตัวอย่างการ
แพร่และออสโมซสิ ใน
ชวี ติ ประจาวัน

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด

กระบวนการแพร่และออสโมซสิ เซลล์มกี ระบวนการตา่ ง ๆ ในการนาสาร
ละ เขา้ ออกเซลล์การนาสารเข้าและออกจาก
เซลล์มหี ลายวิธเี ชน่ การแพรเ่ ป็น วธิ ีการท่ี
การ สารจะเคล่ือนทจ่ี ากบรเิ วณทม่ี ีความ
เข้มข้นของสารมากไปสบู่ ริเวณท่มี คี วาม
เขม้ ข้นของสารน้อยสว่ นการออสโมซิส
เปน็ การแพรข่ องน้าผา่ นเยอื่ ห้มุ เซลลจ์ าก
ด้านทม่ี ีความเข้มข้นของสารละลายต่าไป
ยังดา้ นที่มีความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
สูงกว่า

หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผเู้ รียนรอู้ ะไร
4 การดารงชวี ติ ของพืช กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชีว้ ัด

ว1.2 ม 1/6 ระบุ นักเรยี นรู้อะไร
ปัจจัยท่ีจาเปน็ ใน • ปจั จัยทีจ่ าเปน็ ในการ
การสงั เคราะหด์ ว้ ย สังเคราะห์ด้วยแสง

แสงและผลผลิตท่ี นกั เรยี นทำอะไรได้
เกดิ ขึน้ จากการ • รายงาน เรอ่ื ง ผลผล
สงั เคราะห์ ด้วยแสง ทเ่ี กิดข้ึนจากการ
โดยใช้หลักฐานเชงิ สังเคราะห์ ด้วยแสง
ประจกั ษ์

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด

กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของ
ร ของพชื ท่ีเกดิ ขึน้ ในคลอโรพลาสต์ พชื ที่เกดิ ขน้ึ ในคลอโรพลาสต์ โดยมี
นา้ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็
ลิต สารตัง้ และได้ผลิตภัณฑ์เป็นน้าตาล
กลูโคส นา้ และแก๊สออกซิเจน

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผเู้ รยี นร้อู ะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชี้วัด นกั เรยี นรู้อะไร
• ความสาคัญของการ
ว1.2 ม 1/7 สังเคราะหด์ ้วยแสงขอ
อธิบายความสาคัญ พชื ต่อสง่ิ มีชีวติ และ
ของการสังเคราะห์ ส่ิงแวดล้อม
ดว้ ยแสงของพืชต่อ
สิง่ มชี วี ติ และ นกั เรียนทำอะไรได้
สิ่งแวดล้อม • อธิบายการสังเคราะ
ดว้ ยแสงของพืชต่อ
สง่ิ มีชีวติ และ
สง่ิ แวดล้อม

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

ความสาคัญของการสงั เคราะห์ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง
ด้วยแสงของพชื ต่อสิ่งมชี ีวติ และ (photosynthesis) เป็นกระบวนการ
อง ส่ิงแวดลอ้ ม ผลิตอาหารของพชื โดยพชื จะใชส้ าร
คลอโรฟิลล์ทอ่ี ยูใ่ นใบดูดกลืนพลงั
ะห์ งานแสงจากดวงอาทิตย์มาเปลีย่ นให้
เป็นพลังงานเคมใี นรปู ของ
สารอนิ ทรียจ์ าพวกน้าตาล

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนรู้อะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชี้วัด

นักเรยี นร้อู ะไร

• คณุ ค่าของพชื ทมี่ ีตอ่

สงิ่ มีชีวิต และสงิ่ แวดลอ้

ว1.2 ม 1/8

ตระหนักในคณุ คา่ ของ นักเรยี นทำอะไรได้

พชื ท่มี ีตอ่ สิ่งมีชวี ติ • ออกแบบสภาวะ

และสิ่งแวดลอ้ ม โดย แวดลอ้ มทีเ่ หมาะสมตอ่

การรว่ มกนั ปลกู และ การปลกู ตน้ ไม้

ดแู ลรักษาตน้ ไมใ้ น • ทาใบความรู้ประโยชน

โรงเรยี นและ ชมุ ชน ไดจ้ ากต้นไม้ ไปปลกู ปา่

หรือชว่ ยกันปลกู ต้นไม้

ภายในโรงเรยี น

ควำมคิดหลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

คุณค่าของพืชที่มตี ่อสง่ิ มชี ีวติ และ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงยัง

สิ่งแวดลอ้ ม เป็นกระบวนการหลกั ในการสร้าง

อม แกส๊ ออกซเิ จนใหก้ ับบรรยากาศ

เพ่ือใหซ้ งึ่ ส่งิ มีชวี ิตนาแก๊สออกซิเจน

มาใชใ้ นกระบวนหายใจ

น์ที่

หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผเู้ รยี นร้อู ะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชว้ี ัด

ว1.2 ม 1/9 นักเรียนรู้อะไร

บรรยายลกั ษณะ • ลกั ษณะและหนา้ ท

และหนา้ ทข่ี อง ไซเล็ม และโฟลเอม็

ไซเล็ม และโฟลเอ็ม

นกั เรยี นทำอะไรได้

• ส่องกลอ้ งจุลทรรศน

ศึกษาลกั ษณะของท่อ

ลาเลยี งไซเล็ม

และโฟลเอ็ม

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

ลกั ษณะและหนา้ ท่ีของหนา้ ที่ของ พืชมีระบบลาเลยี งสาร โดยพืชจะ
ท่ขี อง ไซเล็ม และโฟลเอม็ อาศัยเน้ือเย่ือที่ทาหนา้ ทเ่ี ฉพาะใน
การลาเลยี งสาร เรยี กว่า เน้ือเย่อื
น์ ลาเลียง เชน่ ทอ่ ไซเล็ม (xylem) ทา
อ หน้าทลี่ าเลียงนา้ และแร่ธาตจุ ากราก
ไปสใู่ บ ส่วนท่อโฟลเอ็ม (phloem)
ทาหนา้ ท่ีลาเลียงอาหารจากใบไปยัง
ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผ้เู รยี นรอู้ ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชวี้ ัด นักเรียนรอู้ ะไร
• ทางการ ลาเลียงสาร
ในไซเล็มของพืช
• ทางการ ลาเลียงสาร
โฟลเอ็มของพชื

ว1.2 ม 1/10 นกั เรยี นทำอะไรได้
เขยี นแผนภาพท่ี • เขยี นแผนภาพที่
บรรยายทศิ ทางการ บรรยายทิศทางการ
ลาเลียงสารในไซ ลาเลยี งสารในไซเล็ม
เล็มและโฟลเอ็ม และโฟลเอม็ ของพืช
ของพชื

ควำมคดิ หลัก สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด

แผนภาพทีบ่ รรยายทิศทางการ ทิศทางลาเลียงจากบริเวณที่มกี าร
ร ลาเลียงสารในไซเล็มและโฟลเอ็ม สงั เคราะห์ด้วยแสงไปสู่สว่ นต่าง ๆ
ของพืช
ของพืช
รใน

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผเู้ รียนรูอ้ ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชวี้ ัด นักเรียนรอู้ ะไร
•การสืบพันธ์แุ บบอาศ
เพศ และไม่อาศัยเพศ
ของพชื ดอก

นักเรยี นทำอะไรได้
ว1.2 ม 1/11 • บอกความแตกต่างข
อธบิ ายการสบื พันธุ์ การสืบพันธ์แุ บบอาศยั
แบบอาศยั เพศ และ เพศและการสืบพนั ธุ์
ไม่อาศัยเพศของพืช แบบไมอ่ าศัยเพศ
ดอก

ควำมคดิ หลัก สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด

การสบื พนั ธแุ์ บบอาศยั เพศ และไม่ พืชดอกทกุ ชนิดสามารถสืบพนั ธแุ์ บบ

ศยั อาศยั เพศของพชื ดอก อาศยั เพศได้และบางชนิดสามารถ

ศ สบื พันธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ

ของ


หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนรอู้ ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชว้ี ัด นกั เรียนรอู้ ะไร
• โครงสรา้ งของดอก
ว1.2 ม 1/12 • ลักษณะโครงสร้างขอ
อธบิ ายลกั ษณะ ดอกทีม่ สี ว่ นทาให้เกดิ
โครงสร้างของดอก การถา่ ยเรณู
ทีม่ ี ส่วนทาให้เกิด • การเกิดผลและเมลด็
การถ่ายเรณู • การปฏิสนธิของพชื
รวมทง้ั บรรยาย ดอก
การปฏิสนธขิ องพชื • การงอกของเมล็ด
ดอก การ เกดิ ผล นักเรยี นทำอะไรได้
และเมล็ด การ • โครงสร้างและการงอ
กระจายเมลด็ และ ของพชื ใบเลยี้ งเดยี่ วแล
การงอกของเมล็ด พชื ใบเล้ียงคู่
• เขียนขนั้ ตอนการ
ปฏสิ นธขิ องพืชดอก

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
ลกั ษณะโครงสร้างของดอก
อง ดอกไม้ เป็นอวัยวะสืบพนั ธุข์ องพชื
เม่ือถูกผสมเกสร ดอกจะเจริญ
ด กลายเป็นผลซ่ึงภายในมีเมล็ด ทา
หน้าที่กระจายพันธ์ุพืช โดยพืชต้น
ใหม่จะมีลักษณะทแ่ี ตกต่างไปจากต้น
พ่อแม่

อก
ละ

หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผเู้ รยี นรอู้ ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชีว้ ัด นกั เรียนรูอ้ ะไร
• ความสาคัญของสัตว
ว1.2 ม 1/13 ช่วย ในการถ่ายเรณูขอ
ตระหนกั ถึง พืชดอก โดยการไม่
ความสาคัญของ ทาลายชีวติ ของสตั ว์ท่ี
สตั ว์ทีช่ ว่ ย ในการ ช่วยในการถา่ ยเรณู
ถ่ายเรณขู องพชื
ดอก โดยการไม่ นกั เรยี นทำอะไรได้
ทาลายชีวติ ของ • รณรงค์ชวี ติ สัตวท์ ี่ชว่
สัตว์ทช่ี ่วยในการ ในการถา่ ยเรณู
ถ่ายเรณู

ควำมคดิ หลัก สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
ความสาคญั ของสัตว์
วท์ ่ี พืชดอกมีดอกเป็นอวยั วะสบื พนั ธุ์
อง ภายในมีส่วนประกอบทที่ าหน้าที่
ท สรา้ งเซลล์สืบพนั ธเุ์ พศผู้ (สเปิรม์ )
และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมยี (เซลล์ไข่)
วย ซึง่ การปฏิสนธิระหว่างสเปริ ์มกับ
เซลล์ไขจ่ ะเกดิ ข้ึนภายในรังไข่ แลว้
เจริญเป็นเมล็ดอยภู่ ายในผล เมอ่ื ถงึ
เวลาขยายพนั ธ์เุ มล็ดท่ีอยภู่ ายในผล
จะแตกออกและกระจายไปยังทตี่ า่ ง
ๆ เม่อื อยใู่ นสภาวะแวดลอ้ มและมี
ปัจจยั ท่ีเหมาะสม เมลด็ จะงอกต้น
ออ่ นท่มี ีลกั ษณะทหี่ ลากหลาย หรือ
แตกตา่ งไปจากตน้ พอ่ และตน้ แม่

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผเู้ รยี นรู้อะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวช้วี ัด นกั เรียนรอู้ ะไร
• ความสาคัญของธาต
ว1.2 ม 1/14 อาหารบาง ชนดิ ทม่ี ีผล
อธิบายความสาคัญ ต่อการเจรญิ เตบิ โตแล
ของธาตอุ าหารบาง การดารงชีวิตของพืช
ชนิดท่มี ผี ลตอ่ การ
เจรญิ เตบิ โตและ นกั เรียนทำอะไรได้
การดารงชีวติ ของ • ทดลองธาตุทม่ี ผี ลต่อ
พชื การเจริญเตบิ โตและก
ดารงชวี ิตของพืช
“การเพาะเมล็ดถว่ั
เขียว”

ควำมคิดหลัก สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด

ตุ ความสาคญั ของธาตุอาหารบาง พืชสามารถผลติ อาหารได้จาก
ล กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพ่อื
ละ เป็นแหล่งพลังงานให้กับพชื เพอื่ ใช้
ในการเจริญเตบิ โต เชน่ การเพิ่ม
อ จานวนเซลล์ การขยายขนาดของ
การ เซลล์ และการเปลีย่ นแปลงรูปร่าง
ของเซลล์ไปทาหน้าที่เฉพาะตา่ ง ๆ

หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนรูอ้ ะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ช้ีวัด

ว1.2 ม 1/15 นกั เรยี นรูอ้ ะไร

เลอื กใช้ปุ๋ยทม่ี ธี าตุ • ปยุ๋ ท่มี ธี าตุอาหาร

อาหารเหมาะสมกบั เหมาะสมกับ พืช

พชื ในสถานการณ์ท่ี

กาหนด

นกั เรียนทำอะไรได้

• ทดลองธาตุทมี่ ผี ลตอ่

การเจริญเติบโตและก

ดารงชวี ติ ของพชื

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

ปุ๋ยทม่ี ธี าตอุ าหารเหมาะสมกับ พืชสามารถผลิตอาหารไดจ้ าก
พชื กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพือ่
เป็นแหล่งพลังงานให้กบั พืชใบเล้ยี ง
อ เด่ียว และพชื ใบเลย้ี งคู่ มีลกั ษณะที่
การ แตกตา่ งกนั เนื่องจากขัน้ ตอนการ
เจริญเติบโตของรากและลาตน้ ในพืช
ทงั้ สองชนดิ แตกต่างกนั นอกจากนี้
พชื ตอ้ งการธาตุอาหารทจี่ าเป็นหลาย
ชนิดสาหรบั การเจรญิ เติบโตและการ
ดารงชีวติ ของพชื

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผูเ้ รยี นรู้อะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตวั ชวี้ ัด นักเรยี นรู้อะไร
• วธิ ีการขยายพันธ์พุ ชื

ว1.2 ม 1/16
เลอื กวธิ กี าร
ขยายพนั ธุพ์ ชื ให้
เหมาะสม กบั ความ
ต้องการของมนษุ ย์
โดยใช้ ความรู้
เกยี่ วกับการ
สืบพนั ธุ์ของพืช

ควำมคดิ หลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

เลอื กวธิ กี ารขยายพันธพุ์ ชื พชื ดอกทกุ ชนิดสามารถสืบพนั ธ์ุแบบ
ช อาศยั เพศได้ นอกจากน้ันบางชนดิ ยงั
พบการสบื พันธ์ุแบบไมอ่ าศัยเพศดว้ ย
การสบื พนั ธุแ์ บบอาศัยเพศของพืช
ดอกเกดิ ข้ึนท่ีดอก โดยท่วั ไปดอก
ประกอบด้วย กลบี เลี้ยง กลีบดอก
เกสรเพศผู้และ เกสรเพศเมยี ภายใน
อับเรณูของเกสรเพศผู้มีเรณทู าหน้าที่
สรา้ งสเปิรม์ ภายในออวุลของเกสร
เพศเมียมีถงุ เอ็มบริโอทาหน้าท่ี สรา้ ง
เซลล์ไข่ซ่งึ ต้องมีการถ่ายเรณูจากอับ
เรณไู ปยังยอดเกสรเพศเมียนาไปสู่
การ ปฏสิ นธิระหวา่ งสเปิร์มกับเซลล์
ไข่ และระหว่างสเปริ ม์ กับโพลาร์นิ
วคลีไอในถุง เอม็ บรโิ อ หลงั การ
ปฏสิ นธจิ ะได้ไซโกตและเอนโดสเปริ ม์
ไซโกตจะพัฒนาต่อไป เป็นเอม็ บรโิ อ
โดยมีเอนโดสเปิรม์ เป็นอาหารสะสม

นกั เรยี นทำอะไรได้
• ปฏบิ ัติการขยายพนั
พชื

สาหรับเล้ียงเอม็ บริโอ ส่วน ออวุล
พัฒนาไปเป็นเมลด็ และรังไขพ่ ัฒนา
ไปเป็นผลผลและเมล็ดเม่อื
เจรญิ เตบิ โต เต็มทีจ่ ะกระจายออก
จากต้นโดยวิธีการตา่ งๆเมื่อเมลด็ ไป
ตกในสภาพแวดล้อม ทเี่ หมาะสมจะ
งอกเป็นต้นใหม่ สว่ นการสืบพันธ์ุ
แบบไม่อาศัยเพศ เปน็ การ สืบพันธท์ุ ี่
พืชตน้ ใหม่พฒั นาและเจรญิ เตบิ โตมา
จากเนอื้ เยอ่ื สว่ นตา่ ง ๆ ของพืช ตน้
เดิม มนษุ ยน์ าความร้เู รอ่ื งการ
สืบพันธแ์ุ บบอาศยั เพศและไม่อาศยั
เพศของพืชมา ใชใ้ นการขยายพนั ธ์ุ
พืช ซึง่ การเลือกวธิ กี ารขยายพันธ์ุพืช
ควรเลือกใหเ้ หมาะสม กบั ชนิดพืช
และความตอ้ งการของมนษุ ย์

นธุ์

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผูเ้ รยี นร้อู ะไร
กำรเรียนรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชวี้ ัด

ว1.2 ม 1/17 นักเรยี นรอู้ ะไร

อธบิ ายความสาคัญ • การเพาะเลย้ี งเนื้อเย

ของเทคโนโลยี การ พชื

เพาะเลย้ี งเนื้อเยื่อ •ประโยชน์การเพาะเล

พชื ในการใช้ เน้ือเยอื่ พืช

ประโยชนด์ า้ น

ต่าง ๆ

นักเรียนทำอะไรได้
• ทดลองการการ
เพาะเลีย้ งเนื้อเย่ือพืช

ควำมคิดหลัก สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด

ความสาคัญของเทคโนโลยี การ เทคโนโลยีชวี ภาพของพชื เป็นการ
ยอื่ เพาะเล้ยี งเนื้อเยอ่ื พชื นาเอาความรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์
มาประยุกตใ์ ชก้ บั พชื เพ่อื ให้เป็น
ล้ยี ง ประโยชน์ และเพียงพอต่อความ
ตอ้ งการของมนษุ ย์ เชน่ การ
ขยายพันธพ์ุ ชื ด้วยการเพาะเลย้ี ง
เน้ือเยอ่ื ซ่งึ เป็นการนาช้นิ ส่วน
เน้อื เยอื่ ของพืชมาเลี้ยงในอาหาร
สังเคราะห์
การปรับปรุงพนั ธุพ์ ชื และการดดั
แปรพนั ธกุ รรมของพืช โดยใช้ยนี จาก
สง่ิ มชี วี ติ อ่นื มาแทรกลงในสาร
พันธุกรรมของพชื เพื่อใหไ้ ดผ้ ลผลติ ท่ี
มปี ริมาณและคุณภาพมากขน้ึ

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน ผู้เรียนรู้อะไร
กำรเรยี นรู้/ ทำอะไรได้

ตัวชี้วัด นักเรยี นรู้อะไร
• ประโยชนข์ องการ
ว1.2 ม 1/18 ขยาย พันธพุ์ ชื โดยกา
ตระหนกั ถึง นาความร้ไู ปใชใ้ นชวี ิต
ประโยชน์ของการ ประจาวัน
ขยาย พันธุ์พืช โดย
การนาความรไู้ ปใช้
ในชีวิต ประจาวัน

นกั เรียนทำอะไรได้
• บอกประโยชนข์ องก
ขยาย พนั ธ์พุ ชื โดยกา
นาความรไู้ ปใชใ้ นชีวิต
ประจาวัน

ควำมคิดหลัก สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

ประโยชนข์ องการขยาย พนั ธุพ์ ืช การสบื พนั ธุแ์ บบอาศยั เพศมา
าร เพาะเล้ยี ง
ต วิธีการนี้จะได้พชื ในปริมาณมาก แต่
อาจมีลักษณะท่ีแตกต่างไปจากพ่อแม่
สว่ นการตอนก่งิ การปักชา การต่อกิ่ง
การติดตา การทาบกิ่ง การเพาะเลี้ยง
เนื้อเย่อื เปน็ การนาความรู้เร่ืองการ
สืบพนั ธ์ุแบบไม่อาศยั เพศของพชื มา
ใชใ้ นการขยายพันธุเ์ พอ่ื ให้ได้พชื ทม่ี ี
ลักษณะเหมอื นตน้ เดิม

การ
าร


Click to View FlipBook Version