DEVA ATTHAKATHA
เทวาอรรถกถา
เรยี บเรยี งโดย
ปฏภิ าณ ลอยขามป้อม (ลลติ าสาวก)
โอม ศรี ลลติ ามพกิ าไย นะมะห์
โอม ศรี ลลติ า ปรเมศวรี นะโม นะมะห์
คานา
หนงั สือเลม่ น้ี จดั ทำข้ึนเพอ่ื เผยแพร่เร่อื งรำวของเทวปกรณมั ฮินดู เคล็ดฮนิ ดู
เล็กๆน้อยๆ ฯลฯ ผูท้ ม่ี คี วำมสนใจศกึ ษำ สำมำรถอำ่ นศึกษำได้ แตห่ ำ้ มมใิ หน้ ำไปพมิ พ์
จำหนำ่ ยเด็ดขำด
จำกผู้จัดทำ
ปฏภิ ำณ ลอยขำมปอ้ ม
(ลลิตำสำวก)
การอุบัติขนึ้ ของพระวิฆเนศวร ในลลโิ ตปาขยานะส่วนหนง่ึ ของ
พรหมาณฑะมหาปุราณะ
เทวปกรณ์การอุบัติขึ้นของพระวิฆเนศวร หรือ พระพิฆเนศวร ที่ชาวไทยรู้จักกันน้ันมี
มากมายหลายตานานตามคัมภรี ป์ ุราณะต่างๆ ทง้ั นี้จะขอยกตานานท่ผี ู้คนมิคอ่ ยทราบกันเสียเท่าไร
และไม่มีกล่าวถึงในประเทศไทยเลย คือ ตานานการอุบัติขึ้นของพระวิฆเนศวร ในลลิโตปาขยานะ
(Lalitopakhyana) สว่ นหน่งึ ของพรหมาณฑะมหาปรุ าณะ (Brahmanda Mahapurana)
เร่ิมกล่าวจากในช่วงสงครามของพระลลิตามพิกา (Lalitambika) และภัณฑาสุระ
(Bhandasura) หลังจากพระบาลามพิกา (Balambika) พระธิดาของพระลลิตา ตริปุรสุนทรี ทรง
สังหารซึ่งโอรสทั้ง 30 ตนของภัณฑะลงแล้ว ภัณฑะได้ส่งอสูรนาม วิศุกระ (Vishukra) สู่สนามรบ
ภายใต้ความมืดของราตรีกาล วิศุกระได้จัดพิธีลึกลับข้ึนที่สนามรบ ด้วยการสถาปนายันตระลึกลับ
และการใช้มนตร์ดา วิศุกระได้ประดิษฐานยันตระลึกลับนั้นใกล้กับอัคนีปราการ (Agniprakara)
ของพระเทวี ด้วยอานาจของมนตร์ดาจากยันตร์ลึกลับทาให้กองทัพพระศักตติ กอยู่ในความข้ีเกยี จ
ความสับสน และอวิชชา เหล่าเทวีบางองค์เริ่มตรัสข้ึนว่าเหตุใดถึงต้องรบเพื่อเหล่าเทวะ? บางองค์
ตรัสข้ึนว่า การทาสงครามน้ันผิด บางองค์ก็ตรัสขึ้นว่า ผู้ใดคือ ศรี มหาราชญี? บางองค์ก็ตรัสว่า
หากพวกเราไม่รบแล้ว พระลลิตา ปรเมศวรี จักทรงกระทาเยี่ยงไร? ทุกพระนางกาลังตกอยู่ใน
อวิชชา
หลงั ยามทีส่ อง วศิ กุ ระและกองทพั อสูรนับ 30 อกั เสาหินี ลอ้ มรอบอัคนีปราการ เหลา่ ศักติ
เสนา (Shaktisena) ต่างตกอยู่ภายใต้อวิชชาจากอิทธิพลของยันต์เจ้าปัญหา ถึงกระน้ันยันต์เจ้า
ปัญหาก็มิสามารถทาอะไร พระมนตริณี (Mantrini) (พระราชศยามลา/ Raja Shyamala) และ
พระทัณฑนิ ี (Dandini) (พระมหาวราฮ/ี Mahavarahi)ได้ แต่ทวา่ พระนางท้งั สองต่างตกอยู่ในความ
โศกเศร้า และหดหู่พระทัยเมื่อแลเห็นสถานภาพของกองทัพ พระเทวีทั้งสองมิทราบว่าจะกระทา
ส่ิงใด จงึ เสดจ็ เขา้ เฝา้ กราบทูลสงิ่ ทีเ่ กดิ ขึ้นตอ่ พระศรีราชะ ราเชศวรี ให้ทรงทราบ
เมื่อพระตริปุรสุนทรีทรงสดับฟังความท้ังหมดจากพระเทวีท้ังสอง พระองค์กาเมศวรีจึงหัน
เบ้ืองพระพักตร์สู่พระกาเมศวร และทรงทอดพระเนตรพระพักตร์อันรุ่งโรจน์แห่งพระกาเมศวร
และทรงแย้มสรวลอย่างอ่อนโยน บัดนั้นพระคเณศวรจึงปรากฏองค์อุบัติข้ึน และทรงรับโองการ
จากพระศรมี าตาให้ทรงทาลายซ่ึงมนตรด์ าและอวชิ ชาน้ันเสยี
ดังปรากฏในบท ศรี ลลิตา สหัสรนามะ สโตตระ ในบาทท่ี 2 ของโศลกท่ี 30 ว่า
कामेश्वर-मुखालोक-कल्पित-श्रीगणेश्वरा।
Kameshwara-Mukhaloka-Kalpita-Shreeganeshwara
คาอ่าน กาเมศวะระ มุขาโลกะ กัลปติ ะ ศรีคะเณศวะรา
หมายถงึ พระผู้ทรงสรา้ งพระศรีคเณศวร (พระผ้เู ปน็ เจ้าแหง่ คณะผูท้ รงศรี) ดว้ ยการแลมอง
พระพกั ตรแ์ หง่ พระกาเมศวร
She who make Shree Ganeshwara ( Who isThe Lord of Devotees Group and
Auspicious) by her view to Kameshwara face.
หลังจากรับโองการจากพระมารดาผู้ทรงศรีแล้ว พระมหาคเณศทรงมุ่งหน้าสู่อัคนีปราการ
และทรงแลเห็นศิลาซึ่งประดิษฐานยันต์แห่งอุปสรรค์น้ันอยู่ จึงทรงเข้าไปทุบทาลายยันต์นั้นเสีย
และบดขยี้ด้วยพระทนตข์ องพระองค์
หลังจากการทาลายยันต์เจ้าปัญหา ศักติเสนาท้ังปวงต่างถูกปลุกขึ้นจากอวิชชา และ
เตรยี มพรอ้ มจักกระทาสงครามต่อไป