The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2020-06-13 09:12:18

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

สัปดาห์ที่ 12

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชื่อผ้สู อน …………………………….…….......................
กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 การวัดนา้ หนกั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 3 คาบ

เร่อื ง การวัดนา้ หนกั เปน็ กรมั

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ที่ตอ้ งการวดั และไปใช้
ตัวชว้ี ัด ป.2/4 วัดและเปรยี บเทยี บนา้ หนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขีด

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทย์ปญั หา การบวก การลบเกีย่ วกับน้าหนกั หนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัม

และขดี

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การบอกน้าหนักของสง่ิ ต่าง ๆ อาจบอกน้าหนัก เปน็ กรมั เป็นกิโลกรมั และขีดเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

บอกนา้ หนักของส่งิ ตา่ ง ๆ เป็นกรัม

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ กี ารที่เหมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น

การวัดน้าหนกั เป็นกรัม พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1- 3
ข้นั นา

ขัน้ กระตุ้นความสนใจ

1. ครูสนทนากับนักเรยี นเก่ยี วกับการชงั่ นา้ หนักเปน็ ขีดว่าอ่านน้าหนกั เปน็ ขดี จากเครื่องช่ังได้อยา่ งไรจากน้นั ครจู ดั
กจิ กรรม หนึง่ กิโลกรัมเท่ากับกี่กรมั ตามหนังสอื เรยี นหน้า 201 - 202 โดยครเู ตรยี มอปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมก่อนจดั กิจกรรม และครู
ควรเน้นยา้ ว่า กอ่ นชง่ั น้าหนกั สง่ิ ของต่าง ๆ ควรสงั เกต เขม็ ชน้ี ้าหนักต้องชี้ที่ตัวเลข 0 ทุกคร้ัง

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

2. ครูช่ังข้าวสารบรรจุถุง (หนัก 1 ขีด) 1 ถุง ลงบนเคร่ืองช่ังสปริงชนิด 3 กิโลกรัมและให้นักเรียนอ่านน้าหนักเป็นขีด
จากนั้นครูนาข้าวสารบรรจุถุง ถุงเดิมไปชั่งบนเครื่องช่ังสปริงชนิด 1 กิโลกรัมซึ่งเข็มจะชี้ไปที่ตัวเลข 100 ครูแนะนาการอ่าน
น้าหนักว่า ข้าวสารหนกั 100 กรมั ครใู หน้ ักเรยี นสังเกตวา่ ข้าวสาร 1 ขีด หนัก เท่ากับ ข้าวสาร 100 กรัม ครูให้นักเรียนวาง
ถงุ ขา้ วสารเพมิ่ ทีละถงุ และอา่ นนา้ หนักเปน็ ขดี และอ่านน้าหนักเปน็ กรมั ไปเร่อื ย ๆ จนครบ 10 ถุง เช่น

ข้าวสาร 1 ขดี หนกั เทา่ กบั ขา้ วสาร 100 กรัม
ขา้ วสาร 2 ขีด หนกั เท่ากบั ขา้ วสาร 200 กรมั
ข้าวสาร 3 ขีด หนักเท่ากบั ข้าวสาร 300 กรัม

.
.
.
ข้าวสาร 10 ขดี หนักเทา่ กบั ข้าวสาร 1,000 กรัม ซ่งึ บนเคร่อื งช่งั สปรงิ ชนิด 1 กิโลกรัมจะชที้ ต่ี ัวเลข 1 ครู
และนักเรยี นรว่ มกันสรุปว่า
น้าหนกั 1 กโิ ลกรมั เท่ากับ น้าหนกั 10 ขีด
นา้ หนัก 1 ขดี เทา่ กับ นา้ หนกั 100 กรัม
นา้ หนัก 1 กโิ ลกรมั เท่ากบั น้าหนกั 1,000 กรมั
ครใู ช้การถาม-ตอบ เพื่อให้นักเรยี นสรปุ ให้ได้วา่ น้าหนกั ครึ่งขดี คือน้าหนัก 50 กรัม เชน่ ครูชัง่ น้าหนักข้าวสาร 1 ถุงให้
นกั เรียนอ่านนา้ หนักได้ 100 กรัม ครถู ามนักเรียนวา่ ถ้าเทข้าวสารออกใหเ้ หลอื ครึ่งถุงแล้วนามาชัง่ จะได้น้าหนักเทา่ ไร (50
กรัม)
3. ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกันอ่านน้าหนกั ของส่งิ ของเป็นกรัมโดยใช้ภาพในหนงั สือเรียนหนา้ 203 เพอ่ื ฝกึ ให้นักเรียนอ่าน
น้าหนกั เปน็ กรมั และครอู าจนาบัตรภาพการช่ังส่งิ ของต่าง ๆ มาใหน้ ักเรียนอา่ นนา้ หนกั เพื่อฝกึ เพมิ่ เตมิ

ขน้ั อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นอ่านนา้ หนกั ของสง่ิ ต่าง ๆ เปน็ กรมั ในแต่ละภาพทกี่ าหนดมาให้
ตามหนังสอื เรียนหน้า 204 จากน้นั ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ หากนักเรียนอ่าน
นา้ หนักของส่ิงต่าง ๆ เปน็ กรัมไม่ถูกต้อง ครูควรแกไ้ ขโดยการใหน้ ักเรียนฝึกช่งั นา้ หนักของสงิ่ ตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นของจรงิ แล้วอา่ น
น้าหนักเปน็ รายบุคคล

ข้นั สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

- การบอกนา้ หนักของส่งิ ตา่ ง ๆ อาจบอกเปน็ กรัมน้าหนกั 1 ขีด เท่ากับ น้าหนัก 100 กรัม
นา้ หนกั 1 กโิ ลกรัม เท่ากบั นา้ หนัก 1,000 กรมั

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั หนา้ 128 - 130

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
- คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน
ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝึกหัด 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมินพฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความร้กู ารปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กล่มุ

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1. เคร่อื งชัง่ สปริงชนดิ 1 กิโลกรมั และ 3 กิโลกรมั
2. ขา้ วสารบรรจุถงุ 10 ถุง ถุงละ 100 กรัม
3. บัตรภาพการชั่งสิง่ ของ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 12

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชื่อผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 การวัดน้าหนัก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 3 คาบ

เรือ่ ง การวดั นา้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและกรัม

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกย่ี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทีต่ ้องการวัดและไปใช้

ตวั ชี้วดั ป.2/4 วัดและเปรียบเทียบนา้ หนักเป็นกโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรมั และขดี

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบเก่ยี วกับนา้ หนกั หน่วยเปน็ กิโลกรมั และกรัม กิโลกรัม

และขดี

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การบอกนา้ หนกั ของสง่ิ ตา่ ง ๆ อาจบอกน้าหนัก เป็นกรมั เปน็ กโิ ลกรัมและขีดเป็นกโิ ลกรมั และกรัม

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

บอกนา้ หนักของส่ิงต่าง ๆ เปน็ กโิ ลกรมั และกรมั

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมนั่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ

การวดั นา้ หนักเป็นกิโลกรมั และกรัม พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1- 3
ข้ันนา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครสู นทนากับนักเรียนเกีย่ วกับการช่งั นา้ หนักเปน็ ขีดวา่ อ่านนา้ หนักเปน็ ขีดจากเครื่องชงั่ ได้อยา่ งไร
จากนน้ั ครจู ัดกจิ กรรม หนึ่งกโิ ลกรมั เท่ากับก่ีกรมั ตามหนงั สือเรียนหน้า 201 - 202 โดยครเู ตรยี มอปุ กรณ์ให้พร้อมก่อนจดั
กจิ กรรม และครคู วรเนน้ ยา้ ว่า กอ่ นช่ังนา้ หนกั ส่ิงของต่าง ๆ ควรสงั เกต เขม็ ช้ีนา้ หนกั ต้องช้ีทตี่ วั เลข 0 ทกุ ครง้ั

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกยี่ วกบั การชั่งน้าหนกั เปน็ กิโลกรมั และขดี และการช่ังน้าหนักเป็นกรัม จากทไ่ี ด้เรยี นผา่ นมาแล้วใน
ช่ัวโมงก่อนหนา้ นี้ จากน้นั ครูใช้การถามตอบเพ่อื ให้นักเรียนเชือ่ มโยงความรู้ 1 ขดี เทา่ กับกี่กรมั (100 กรัม) 1 กโิ ลกรัม เทา่ กบั
กี่ขีด (10 ขดี ) 1 กิโลกรัม เท่ากบั ก่กี รัม (1,000 กรัม) เชน่

มะม่วงหนัก 1 กิโลกรมั 2 ขีด จะเทา่ กับ มะมว่ งหนัก 1 กโิ ลกรมั กก่ี รัม (1 กโิ ลกรัม 200 กรัม )
จากน้นั ใชห้ นงั สอื เรียนหนา้ 205เพ่อื สนทนาเกีย่ วกับการบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม ครใู ช้การถาม-ตอบเกยี่ วกับน้าหนัก
ทเ่ี ปน็ ครึง่ ขีด เช่น

สม้ หนกั 1 ขีดครง่ึ จะเท่ากับส้มหนกั ก่ีกรมั (150 กรมั )
กระท้อนหนกั 3 ขดี ครง่ึ จะเทา่ กบั กระท้อนหนกั กีก่ รัม (350 กรมั )
2. ครจู ัดกิจกรรม บอกน้าหนักเป็นกิโลกรมั และกรัม ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 206 โดยครูจดั เตรยี มเครื่องช่ังสปรงิ และ
ส่ิงของที่มนี ้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม 3 ส่ิง ตามความเหมาะสม เช่นมะนาวบรรจถุ งุ กระเทยี มบรรจุถงุ ซ่งึ ครตู ้องทดลองชัง่
ก่อนเพื่อให้สิง่ ของเหลา่ น้ันมีน้าหนกั ตามต้องการ คอื มนี ้าหนักเป็นกโิ ลกรมั และกรัม เช่น มะนาวหนกั 1 กิโลกรมั 200 กรมั ครู
ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ ช่ังส่ิงของแล้วบนั ทึกผล
การชงั่ ลงในแบบบันทกึ กิจกรรม แล้วนาเสนอหน้าชัน้ เรียนครูควรเนน้ ย้าวา่ ก่อนชง่ั ควรสังเกตเขม็ ช้นี ้าหนักต้องชี้ที่ตัวเลข 0
ทกุ ครั้ง
3. ครูใหน้ ักเรียนอา่ นน้าหนกั เป็นกิโลกรมั และกรัมโดยใช้ภาพในหนังสอื เรยี นหน้า 207 เพื่อฝึกใหน้ ักเรยี นอา่ นนา้ หนัก
เป็นกโิ ลกรัมและกรัม ครูอาจนาบตั รภาพการชัง่ สงิ่ ตา่ ง ๆ มาให้นักเรียนอ่านน้าหนกั
เพื่อฝึกเพ่ิมเตมิ

ข้นั อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยให้นกั เรียนอ่านน้าหนักของสิ่งต่าง ๆ ในหนงั สือเรยี น
หน้า 208 จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ ส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ หากนักเรยี น
อา่ นนา้ หนกั ของส่ิงตา่ ง ๆ เปน็ กิโลกรมั และกรมั ไม่ถูกต้องครคู วรแกไ้ ขโดยการให้นักเรียนฝึกช่ังน้าหนักของสิง่ ต่าง ๆทีเ่ ป็นของ
จรงิ แลว้ อา่ นน้าหนกั เปน็ รายบุคคล

ขั้นสรปุ

ขั้นขยายความเข้าใจ

- การบอกน้าหนักของสิ่งตา่ ง ๆ อาจบอกเปน็ กรมั น้าหนกั 1 ขีด เทา่ กับ นา้ หนกั 100 กรมั
นา้ หนกั 1 กิโลกรมั เทา่ กบั นา้ หนกั 1,000 กรัม

ขัน้ ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั หน้า 131 - 133

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝึกหดั 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมินพฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตผุ ล

-การสรปุ ความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกับกลุม่

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอื่ การเรียนรู้

1. บตั รภาพแสดงการชั่งนา้ หนกั ของสง่ิ ตา่ ง ๆ
2. เครอ่ื งชัง่ สปริง
3. สิ่งของที่มีน้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั และเป็นกรัม 3 สิง่

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 13

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผูส้ อน …………………………….…….......................
กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การวดั น้าหนัก ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ

เรอื่ ง ความสมั พนั ธ์ของหน่วยนา้ หนกั

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ที่ตอ้ งการวัดและไปใช้

ตัวชี้วดั ป.2/4 วดั และเปรียบเทยี บน้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรมั และขดี

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทย์ปญั หา การบวก การลบเกยี่ วกบั นา้ หนกั หน่วยเป็นกโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรัม

และขีด

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ความสัมพนั ธข์ องหน่วยนา้ หนัก

1 กิโลกรมั เทา่ กับ 10 ขีด

1 ขีด เท่ากบั 100 กรมั

1 กโิ ลกรมั เทา่ กับ 1,000 กรมั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)
บอกนา้ หนักของสง่ิ ต่าง ๆ โดยใช้ความสัมพนั ธ์ของหน่วยน้าหนกั

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น

ความสัมพันธ์ของหนว่ ยนา้ หนัก พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1- 2
ข้นั นา

ขั้นกระต้นุ ความสนใจ

1. ครสู นทนากับนกั เรยี นเกีย่ วกบั ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนกั เช่น
1 ขดี เท่ากบั 100 กรมั

10 ขีด เท่ากับ 1 กโิ ลกรมั
1,000 กรมั เทา่ กบั 1 กิโลกรัม
ครตู ิดบตั รภาพแสดงนา้ หนกั ของต้นหอม 8 ขีด แลว้ ใชค้ าถามวา่ ตน้ หอมหนกั กกี่ รัม โดยใหน้ กั เรยี นใช้ความสัมพนั ธข์ องหน่วย
นา้ หนกั 1 ขีด เท่ากับ 100 กรมั นักเรียนควรตอบไดว้ า่ ต้นหอมหนัก 800 กรมั จากน้ันครถู ามว่า ผักชหี นกั 600 กรัม เทา่ กับ
ผกั ชีหนักกข่ี ดี นักเรยี นควรตอบไดว้ า่ ผกั ชีหนัก 6 ขีดครูอาจถามคาถามอ่นื เพิ่มเติมเก่ยี วกับการเปลีย่ นหน่วยน้าหนักท่ีมหี นว่ ย
เปน็ ขดี ให้เป็นกรัม หรือการเปลีย่ นหน่วยน้าหนักทม่ี หี นว่ ยเป็นกรมั ให้เป็นขดี เชน่
- กุง้ หนัก 2 ขีด เทา่ กบั กุ้งหนักก่กี รัม (200 กรัม)
- ผกั บงุ้ หนัก 400 กรมั เทา่ กับผกั บงุ้ หนกั ก่ีขดี (4 ขีด)
และให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคาถาม ขอ้ 1 – 4 ในกรอบทา้ ยหน้า 209

ขั้นสอน

ข้ันสารวจคน้ หา

2. ครูตดิ บัตรภาพแสดงนา้ หนักของปูหนัก 2 กโิ ลกรัม 3 ขีด แลว้ ใช้คาถามวา่ ปหู นักกีข่ ีด โดยให้นกั เรยี นใช้
ความสัมพันธ์ 1 กิโลกรัม เทา่ กบั 10 ขีด นักเรียนควรตอบได้วา่ ปหู นกั 23 ขีด จากนน้ั ครูถามว่า กุง้ หนัก 13 ขีด เทา่ กับกุ้ง
หนักกก่ี โิ ลกรมั ก่ีขดี นกั เรียนควรตอบไดว้ า่ กงุ้ หนกั 1 กิโลกรัม 3 ขีด ครูอาจถามคาถามอื่นเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับการเปลีย่ นหนว่ ย
นา้ หนักที่มหี นว่ ยเปน็ กโิ ลกรัมและขีดให้เปน็ ขดี หรือ การเปล่ียนหนว่ ยน้าหนักท่มี ีหนว่ ยเป็นขีดใหเ้ ปน็ กิโลกรัมและขดี เชน่

- ปลาหนกั 24 ขดี เทา่ กับปลาหนกั กีก่ ิโลกรัมก่ีขีด (2 กิโลกรมั 4 ขีด)
- หมึกหนกั 7 กิโลกรมั 1 ขีด เท่ากับหมึกหนกั กีข่ ดี (71 ขดี )
และใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบคาถาม ขอ้ 1 – 4 ในกรอบท้ายหน้า 210
3. ครตู ิดบตั รภาพส้มโอหนัก 2 กโิ ลกรัม 400 กรัม ครถู ามว่า ส้มโอหนักกขี่ ีด โดยใช้ความสัมพนั ธ์
1 ขดี เทา่ กับ 100 กรมั
10 ขีด เท่ากับ 1 กิโลกรมั
1,000 กรัม เทา่ กับ 1 กิโลกรัม
นกั เรียนอาจเปลยี่ น 400 กรมั เป็น 4 ขีดก่อน จากนัน้ จงึ เปลยี่ น 2 กโิ ลกรัม เป็น 20 ขดี ดงั น้นั สม้ โอหนัก 2 กิโลกรัม 400
กรัม เท่ากบั ส้มโอหนกั 20 + 4 = 24 ขีด ซง่ึ ครูอาจใชแ้ ผนภาพแสดงแนวคิด ดงั น้ีครตู ดิ บตั รภาพทุเรียนหนัก 37 ขดี ครูถาม
วา่ ทเุ รยี นหนักกี่กิโลกรมั ก่กี รมั นกั เรยี นควรตอบได้ว่า ทุเรยี นหนัก 3 กโิ ลกรัม 700 กรัม นกั เรยี นอาจเปล่ียน 37 ขีด เป็น 3
กโิ ลกรมั 7 ขีดก่อนจากนนั้ จงึ เปลยี่ น 7 ขดี เปน็ 700 กรัม ดังน้ัน ทุเรยี นหนกั 3 กิโลกรมั 700 กรมั ครูอาจถามคาถามอ่ืน
เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั การเปล่ียนหน่วยน้าหนักทีม่ ีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรมั ให้เป็นขีด หรือการเปล่ียนหนว่ ยน้าหนักขีดใหเ้ ป็น
กิโลกรมั และกรมั เชน่
- ขนุนหนกั 31 ขดี เท่ากบั ขนุนหนักกก่ี ิโลกรัมกี่กรัม (3 กโิ ลกรัม 100 กรัม)
- ส้มหนัก 1 กโิ ลกรมั 900 กรมั เท่ากบั สม้ หนักก่ีขีด (19 ขีด)และให้นักเรียนช่วยกนั ตอบคาถาม ขอ้ 1 – 2
ในกรอบทา้ ยหน้า 211

ข้ันอธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นักเรียนตอบคาถามท่เี กีย่ วกับน้าหนักของสง่ิ ต่าง ๆ ในหนังสือเรยี นหนา้
212 ซึง่ ต้องเปลี่ยนหน่วยน้าหนักโดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของหน่วยนา้ หนัก จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

และสรุปสง่ิ ที่ได้เรียนรู้ หากมีนกั เรยี นตอบคาถามไมไ่ ด้ครคู วรแกไ้ ขโดยการใหน้ กั เรียนฝึกเปลยี่ นหนว่ ยน้าหนกั ของส่งิ ต่าง ๆ
เป็นรายบคุ คล

ขน้ั สรปุ

ข้นั ขยายความเข้าใจ

- การบอกน้าหนักของสงิ่ ตา่ ง ๆ อาจบอกเป็นกโิ ลกรัม กรัม ขีด กิโลกรมั และกรัม หรอื กโิ ลกรมั และขดี โดยใช้

ความสัมพนั ธ์

1 กิโลกรมั เทา่ กับ 10 ขีด

1 ขดี เท่ากบั 100 กรมั

1 กิโลกรัม เท่ากับ 1,000 กรมั

ขั้นตรวจสอบผล

- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั หน้า 134 - 136

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระต้นุ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน

-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมิน

-การสรุปความรกู้ ารปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน

ทางานร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. บตั รภาพแสดงนา้ หนักของสิ่งของ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 13

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 การวัดนา้ หนัก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

เรอื่ ง การเปรียบเทียบน้าหนัก (1)

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี อ้ งการวดั และไปใช้

ตวั ช้ีวดั ป.2/4 วัดและเปรียบเทียบนา้ หนักเปน็ กิโลกรมั และกรมั กิโลกรัมและขีด

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบเก่ยี วกับน้าหนกั หน่วยเปน็ กิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรัม

และขดี

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรมั และกรัมหรอื กิโลกรมั และขีด สงิ่ ท่มี นี ้าหนกั กโิ ลกรัมมากกว่าจะหนักกวา่ ถ้า

นา้ หนกั เป็นกิโลกรัมเทา่ กนั สิ่งท่มี นี า้ หนกั เปน็ กรัมหรือเป็นขีดมากกว่าจะมนี ้าหนักมากกวา่ การเปรียบเทยี บนา้ หนกั ที่มหี นว่ ย

ตา่ งกนั ต้องเปลย่ี นหน่วยให้เป็นหน่วยเดียวกนั

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

เปรียบเทียบนา้ หนกั ของสิ่งต่าง ๆ

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการท่ีเหมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลักษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ

การเปรยี บเทยี บน้าหนัก พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1
ขัน้ นา

ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครตู ดิ บตั รภาพแสดงการชงั่ นา้ หนักของเห็ดฟาง ผักบงุ้ คะน้า และกะหล่าปลีตามหนังสอื เรยี นหนา้ 213
ครใู ห้นักเรยี นเปรียบเทียบนา้ หนักของเหด็ ฟางกับผักบุ้งโดยดจู ากเข็มชน้ี ้าหนักท่ีเครื่องชั่ง นักเรยี นควร
ตอบไดว้ า่ ผกั บ้งุ หนักกวา่ เห็ดฟาง โดยพิจารณาจากเข็มชนี้ ้าหนกั ที่เป็นกิโลกรัมของเคร่ืองชั่งผักบุ้งชี้ทร่ี ะหวา่ งตัวเลข 3 กับ

ตัวเลข 4 แตเ่ ข็มชน้ี ้าหนักท่ีเป็นกิโลกรัมของเคร่ืองชั่งเห็ดฟางชี้ที่ระหว่างตัวเลข 1 กับตัวเลข 2 ดังน้ัน ผักบุ้งหนักกว่าเห็ดฟาง
หรอื เห็ดฟางเบากวา่ ผกั บุง้ ครใู หน้ กั เรียนสังเกตว่า การเปรียบเทียบน้าหนักของส่ิงต่าง ๆ ท่ีมีน้าหนักเป็นกิโลกรัมต่างกัน สิ่งใด
มีน้าหนักเปน็ กิโลกรัมมากกว่าสงิ่ นน้ั จะหนักกว่า จากน้ันครูให้นักเรียนเปรียบเทียบน้าหนักของคะน้ากับกะหล่าปลี โดยดูจาก
เข็มชี้น้าหนักท่ีเคร่ืองช่ัง นักเรียนควรตอบได้ว่า คะน้าเบากว่ากะหล่าปลี โดยพิจารณาจากเข็มชี้น้าหนักท่ีเป็นกิโลกรัมของ
เครื่องช่งั คะน้าและกะหลา่ ปลี ซง่ึ เข็มชนี้ ้าหนกั ช้ีท่ีระหว่างตัวเลข 1 กับตัวเลข 2 เหมือนกัน จึงต้องดูว่าเข็มชี้น้าหนักช้ีตรงท่ีขีด
ใด เขม็ ชีน้ า้ หนกั ของเคร่ืองชั่งคะน้าช้ที ่ีขีดที่ 5 นับถัดจากตวั เลขแสดง 1 กิโลกรัม เข็มช้ีน้าหนักของเครื่องช่ังกะหล่าปลีชี้ท่ีขีดท่ี
8 นับถัดจากตัวเลขแสดง 1 กิโลกรัม ดังน้ัน คะน้าเบากว่ากะหล่าปลี หรือกะหล่าปลีหนักกว่าคะน้า ครูให้นักเรียนสังเกตว่า
การเปรียบเทียบนา้ หนักของสิง่ ตา่ ง ๆ ที่มนี ้าหนักเป็นกโิ ลกรัมเท่ากัน ให้เปรียบเทยี บน้าหนักที่เป็นขีดหรือกรัม สิ่งใดมีน้าหนัก
เปน็ ขดี หรอื กรัมมากกว่าสงิ่ น้นั จะหนกั กวา่

ข้นั สอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

2. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของแตงโม 2 กิโลกรัม 300 กรัม กับส้มโอ 1 กิโลกรัม 500 กรัมครูให้นักเรียน
เปรียบเทยี บน้าหนักของแตงโมและส้มโอ โดยพิจารณาหน่วยนา้ หนกั ท่ีเปน็ กโิ ลกรัมก่อนนกั เรียนควรตอบได้ว่า แตงโมหนักกว่า
ส้มโอ หรือส้มโอเบากว่าแตงโม เพราะน้าหนักท่ีแสดงน้าหนักเป็นกิโลกรัมของแตงโมมากกว่าส้มโอ จากน้ันครูติดบัตรภาพ
แสดงน้าหนักของไก่ 2 กิโลกรัม 4 ขีด กับ ปลาทู 2 กิโลกรัม 5 ขีด ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบน้าหนักของไก่และปลาทู โดย
พิจารณาหน่วยน้าหนักท่ีเป็นกิโลกรัมก่อน นักเรียนควรสังเกตได้ว่า น้าหนักของไก่และปลาทูที่เป็นกิโลกรัมหนัก 2 กิโลกรัม
เทา่ กัน จงึ ต้องพจิ ารณานา้ หนกั ที่เป็นขีด ซง่ึ 4 ขีด น้อยกวา่ 5 ขดี ดงั น้นั ไก่เบากวา่ ปลาทู หรือปลาทหู นกั กว่าไก่

3. ครูให้นักเรียนฝึกเปรียบเทียบน้าหนัก โดยพิจารณาจากหน่วยน้าหนักที่เป็นกิโลกรัมก่อนแล้วจึงเปรียบเทียบ
น้าหนักที่เป็นขีด หรือกรัม เช่น 2 กิโลกรัม 6 ขีด กับ 2 กิโลกรัม 5 ขีด จากน้ันให้นักเรียนช่วยกันเปรียบเทียบน้าหนักตาม
หนงั สือเรยี นหนา้ 215 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

ขนั้ อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเปรียบเทียบส่ิงของว่าสิ่งใดหนักกว่าและสิ่งใดเบากว่า เป็น
รายบุคคล ตามหนังสือเรียนหน้า 216 จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ หากมี
นักเรียนตอบคาถามไมไ่ ด้ครูควรแก้ไขโดยการให้นกั เรียนฝึกเปรียบเทยี บน้าหนกั
ของสงิ่ ตา่ ง ๆ กับครเู ปน็ รายบุคคล

ขน้ั สรุป

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

- การเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม หรือกิโลกรัมและขีดของส่ิงต่าง ๆ สองสิ่ง ส่ิงที่มีน้าหนักเป็นกิโลกรัม
มากกว่าจะหนกั กว่า ถ้าน้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั เทา่ กนั ส่ิงทีม่ นี ้าหนกั เป็นกรมั หรอื เปน็ ขดี มากกวา่ จะหนกั กว่า

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 137 - 138

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระต้นุ ความคดิ 70% ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ

คุณลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กลมุ่

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้

1. บตั รภาพแสดงการช่ังน้าหนกั ขอส่ิงต่างๆ เช่น ปลาหนกั 3 กิโลกรมั 2 ขีด กุ้งหนกั 3 กโิ ลกรัม 4 ขีด
2. บัตรภาพแสดงนา้ หนกั ของสง่ิ ต่าง ๆ

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู สู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 13

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ช่ือผู้สอน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 การวัดน้าหนกั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

เรอื่ ง การเปรยี บเทียบนา้ หนัก (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ยี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีตอ้ งการวัดและไปใช้

ตัวช้ีวดั ป.2/4 วดั และเปรียบเทียบน้าหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรัมและขดี

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทย์ปญั หา การบวก การลบเกีย่ วกับน้าหนกั หน่วยเป็นกิโลกรัมและกรมั กโิ ลกรัม

และขีด

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัมหรือกิโลกรัมและขีด สิ่งท่ีมีน้าหนักกิโลกรัมมากกว่าจะหนักกว่า ถ้า

นา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมเทา่ กนั ส่งิ ทมี่ ีน้าหนักเป็นกรัมหรือเป็นขีดมากกว่าจะมีน้าหนักมากกว่า การเปรียบเทียบน้าหนักท่ีมีหน่วย

ต่างกันตอ้ งเปลย่ี นหน่วยใหเ้ ปน็ หน่วยเดยี วกัน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

เปรียบเทียบน้าหนักของส่ิงตา่ ง ๆ
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่ันใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

การเปรียบเทียบนา้ หนัก พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1
ข้ันนา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

11. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของพริกแห้ง 200 กรัม และหอมแดง 5 ขีด ครูถามว่าอะไรหนักกว่า โดย
ให้นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 100 กรัม เท่ากับ 1 ขีด การเปลี่ยนหน่วยน้าหนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนักกรัม
ให้เปน็ ขีดหรอื เปลย่ี นหนว่ ยนา้ หนักขดี ให้เป็นกรัม ตามหนังสือเรียนหนา้ 217 ครูอาจยกตัวอย่างเพิ่มเตมิ เชน่ ทเุ รยี นหนัก 35

ขีด กบั ฝรงั่ หนัก 220 กรัม สิ่งใดหนกั กวา่ (ทเุ รยี นหนักกว่า) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการเปรียบเทียบน้าหนักที่
มีหน่วยต่างกันต้องเปล่ียนหน่วยน้าหนักให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนแล้วจึงนามาเปรียบเทียบกัน จากน้ันให้นักเรียนช่วยกัน
เปรียบเทียบนา้ หนกั ในกรอบท้ายหน้า 217

ข้นั สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

2. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของปูหนัก 2 กิโลกรัม 3 ขีด และกุ้งหนักหนัก 13 ขีด ครูถามว่าอะไรเบากว่า โดยให้
นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 1 กิโลกรัม เท่ากับ 10 ขีด การเปลี่ยนหน่วยน้า หนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนัก
กิโลกรัมและขีดให้เป็นขีด หรือเปลี่ยนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัมและขีดตามหนังสือเรียนหน้า 218 ครูอาจยกตัวอย่าง
เพม่ิ เติม เชน่ ปลาหนัก 42 ขดี กบั ไก่หนกั 3 กโิ ลกรมั 8 ขดี สิ่งใดหนักกว่า (ปลาหนักกว่า) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการ
เปรยี บเทยี บน้าหนักที่มหี น่วยต่างกันต้องเปล่ยี นหน่วยนา้ หนกั ให้เปน็ หน่วยเดียวกนั ก่อนแลว้ จึงนามาเปรียบเทียบกันจากนั้นให้
นกั เรียนช่วยกนั เปรียบเทียบน้าหนักในกรอบท้ายหนา้ 218

3. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของปลาหนัก 3 กิโลกรัม 200 กรัม และหมึกหนัก 25 ขีด ครูถามว่าอะไรหนักกว่า
โดยให้นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 100 กรัม เท่ากับ 1 ขีด การเปลี่ยนหน่วยน้าหนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนัก
กิโลกรัมและกรัมให้เป็นขีดหรือเปลี่ยนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัมและกรัม หรือเปล่ียนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัม
และขดี ตามหนงั สอื เรียนหน้า 218 ครูอาจยกตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น ฟักทองหนัก 670 กรัม กับฟักเขียวหนัก 1 กิโลกรัม 2 ขีด
สิ่งใดเบากว่า (ฟักทองเบากว่า)ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการเปรียบเทียบน้าหนักที่มีหน่วยต่างกันต้องเปลี่ยนหน่วย
นา้ หนกั ใหเ้ ปน็ หน่วยเดียวกันก่อนแลว้ จึงนามาเปรยี บเทยี บกนั จากนั้นใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เปรยี บเทยี บนา้ หนักในกรอบท้ายหน้า
219

ข้นั อธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเปรียบเทียบสิ่งของว่าส่ิงใดหนักกว่าและส่ิงใดเบากว่า เป็น
รายบุคคล ตามหนังสือเรียนหน้า 220 จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ หากมี
นกั เรียนตอบคาถามไม่ได้ครูควรแก้ไขโดยการให้นกั เรยี นฝกึ เปรียบเทยี บน้าหนัก
ของสงิ่ ตา่ ง ๆ กบั ครูเปน็ รายบุคคล

ขนั้ สรุป

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

- การเปรยี บเทยี บน้าหนกั ท่มี ีหน่วยตา่ งกันต้องเปลย่ี นหน่วยใหเ้ ป็นหน่วยเดยี วกนั กอ่ นแล้วนามาเปรียบเทียบกัน

ขนั้ ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 139 - 140

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมินผล
- คาถามกระตุ้นความคดิ 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝึกหดั 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลมุ่ 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตผุ ล

-การสรปุ ความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กลุ่ม

7. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้

1. บัตรภาพแสดงนา้ หนกั ของสิ่งต่าง ๆ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 13

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชือ่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 การวดั นา้ หนัก ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ

เร่อื ง การบวกและการลบเก่ียวกบั น้าหนัก (1)

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี ้องการวดั และไปใช้

ตวั ชวี้ ัด ป.2/4 วดั และเปรียบเทยี บน้าหนกั เป็นกิโลกรัม และกรมั กิโลกรัมและขีด

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบเกี่ยวกบั น้าหนักหน่วยเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กโิ ลกรัม

และขดี

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การหาผลบวกหรือผลลบเกย่ี วกบั นา้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและขีด หรือกิโลกรัมและกรมั ทาได้โดยนานา้ หนกั ที่เปน็ หน่วย

เดยี วกนั มาบวกหรือลบกนั

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

บวกและลบเก่ยี วกับน้าหนกั

ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธีการท่เี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ

การบวกและลบเก่ียวกับนา้ หนัก พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1-2
ขัน้ นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูติดบัตรโจทย์ มะม่วงหนัก 1 กิโลกรัม 5 ขีด มะละกอหนัก 1 กิโลกรัม 2 ขีด แล้วถามว่า มะม่วงกับ
มะละกอหนักรวมกันเป็นก่ีกิโลกรัม ก่ีขีด ครูให้นักเรียนนาน้าหนักท่ีเป็นหน่วยเดียวกันมาบวกกัน จะได้ 1 กิโลกรัม รวมกับ 1
กิโลกรัม ได้ 2 กิโลกรัม และ 5 ขีด รวมกับ 2 ขีด ได้ 7 ขีด ดังน้ัน มะม่วงกับมะละกอหนักรวมกันเป็น 2 กิโลกรัม 7 ขีด
จากน้นั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบ โดยเขยี นหนว่ ยนา้ หนกั ไว้กอ่ น แล้วเขียนตัวเลขแสดงจานวนน้าหนักของมะม่วง

และมะละกอให้ตรงกับหน่วยน้าหนักแต่ละหน่วย แล้วจึงนาจานวนในหน่วยน้าหนักเดียวกันมาบวกกันจากน้ันครูให้นักเรียน
ช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ขอ้ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหน้า 221

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

2. ครูตดิ บตั รโจทย์ 7 กโิ ลกรมั 8 ขดี รวมกบั 2 กโิ ลกรัม 4 ขีด เท่ากบั เทา่ ไร ครูส่มุ นกั เรียนออกมาเขียนแสดงวธิ หี า

คาตอบทห่ี นา้ ชั้นเรยี นโดยมคี รูและเพ่ือนในห้องเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

กโิ ลกรัม ขดี

7 8+

24

9 12

หรอื 10 2

ครูให้นักเรียนสังเกตวา่ ผลบวกทไ่ี ด้ในหน่วยขีดมากกวา่ 10 ตอ้ งทด 1 สิบ หรือ 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม

เพราะ 10 ขีด เท่ากับ 1 กิโลกรัมตามหนังสือเรียนหน้า 222 ครูยกตัวอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบวกน้าหนักท่ีมีหน่วยต่างกัน

ตอ้ งเปลย่ี นหน่วยให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนแล้วจึงนามาบวกกัน เช่น2 กิโลกรัม 3 ขีด รวมกับ 18 ขีด เท่ากับเท่าไรครูแนะนา

วา่ อาจเปลยี่ น 18 ขีด เป็น 1 กโิ ลกรัม 8 ขดี ก่อนแล้วจึงนามาบวกกันจงึ นามาบวกกัน ดังนี้

กโิ ลกรัม ขดี

2 3+

18

3 11

หรือ 4 1

หรือ อาจไมเ่ ปลย่ี น 18 ขีด เป็น 1 กิโลกรัม 8 ขีด กไ็ ด้ดงั นี้

กิโลกรัม ขีด

2 3+

18

2 21

หรือ 4 1

ซ่ึงผลบวกท่ีได้ในหน่วยขีดมากกว่า 10 ต้องทด 2 สิบ หรือ 2 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม เพราะ 20 ขีด

เท่ากบั 2 กิโลกรมั จากนั้นครูให้นักเรยี นช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ข้อ 1 และ 2 ในกรอบทา้ ยหน้า 222

3. ครูติดบัตรโจทย์ 1 กิโลกรัม 6 ขีด น้อยกว่า 2 กิโลกรัม 4 ขีด อยู่เท่าไร ครูแนะนาการเขียนแสดงวิธีทาครูให้

นักเรียนสังเกตว่า ในหน่วยขีดตัวต้ังน้อยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจาก 2 กิโลกรัม มา 1 กิโลกรัมหรือ 10 ขีด ไปรวมกับ 4 ขีด

ได้ 14 ขดี แลว้ จึงนามาลบกับ 6 ขดี เป็น 8 ขดี 2 กิโลกรัมเม่อื กระจายไปแล้ว1 กิโลกรัม เหลือ 1 กิโลกรัม ลบด้วย 1 กิโลกรัม

เป็น 0 กิโลกรมั ดงั น้ัน 1 กิโลกรัม 6 ขดี นอ้ ยกวา่ 2 กโิ ลกรัม 4 ขีด อยู่ 8 ขีด ครูยกตัวอย่างเพมิ่ เติมเก่ยี วกับการลบน้าหนักที่มี

หน่วยต่างกันตามตัวอย่างกรอบท่ีสองในหนังสือเรียนหน้า 223 จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบข้อ 1

และ 2 ในกรอบทา้ ยหนา้ 223

ข้นั อธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบเป็นรายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 224
จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้หากมีนักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครู
ควรแก้ไขโดยการให้นักเรียนฝึกเขียนแสดงวิธหี าคาตอบกบั ครู
เป็นรายบุคคล

ขั้นสรปุ

ขั้นขยายความเข้าใจ

- การหาผลบวกหรอื ผลลบเกยี่ วกับน้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและขีดทาไดโ้ ดยนานา้ หนักท่เี ปน็ หน่วยเดียวกนั มาบวกหรือลบกัน

ขัน้ ตรวจสอบผล

- ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 141 - 143

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่าน

ทางานร่วมกับกลุม่ ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. บัตรโจทย์

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 14

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชอื่ ผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การวดั นา้ หนกั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ

เรือ่ ง การบวกและการลบเกี่ยวกบั น้าหนัก (2)

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพน้ื ฐานเกีย่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิง่ ทีต่ ้องการวัดและไปใช้

ตวั ชี้วัด ป.2/4 วดั และเปรียบเทียบนา้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรมั และขดี
ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบเกีย่ วกับน้าหนักหนว่ ยเป็นกโิ ลกรัมและกรัม กโิ ลกรัม

และขดี

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การหาผลบวกหรอื ผลลบเกี่ยวกบั น้าหนกั เป็นกิโลกรัมและขดี หรือกโิ ลกรมั และกรมั ทาได้โดยนาน้าหนักท่ีเป็นหนว่ ย
เดยี วกนั มาบวกหรือลบกนั

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
บวกและลบเกย่ี วกับน้าหนกั

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ธิ กี ารทีเ่ หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลักษณะ(A)
มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
การบวกและลบเกี่ยวกับนา้ หนกั

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1-2
ขนั้ นา

ข้ันกระตุ้นความสนใจ

1. ครตู ิดบัตรโจทย์ ปูหนัก 3 กโิ ลกรมั 200 กรมั และหมกึ หนัก 650 กรมั แล้วถามนักเรียนว่า ปูกบั หมกึ หนัก
รวมกันเป็นกก่ี ิโลกรัม กก่ี รัม ครูใหน้ กั เรยี นนานา้ หนักท่เี ป็นหน่วยเดยี วกันมาบวกกนั จะได้ 200 กรมั รวมกบั 650 กรมั เป็น
850 กรมั ดงั นัน้ ปกู บั หมึกหนักรวมกนั เป็น 3 กิโลกรัม 850 กรมั จากนั้นครแู นะนาการเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบ โดยเขยี น

หนว่ ยนา้ หนกั ไว้ก่อน แลว้ เขียนตวั เลขแสดงน้าหนกั ของปูและหมกึ ให้ตรงกบั หน่วยนา้ หนักแต่ละหนว่ ย แลว้ จงึ นาจานวนใน

หนว่ ยนา้ หนักเดียวกันมาบวกกนั ครูแนะนาการเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบ ดงั นี้

กิโลกรมั กรมั

ปูหนกั 3 200 +

หมกึ หนัก 650

หนักรวมกนั 3 850

ข้นั สอน

ขัน้ สารวจค้นหา

2. ครูยกตวั อย่างการบวกเกยี่ วกับนา้ หนักทเ่ี ป็นหน่วยกิโลกรัมและกรมั ตามหนังสือเรียนหน้า 226 ครูควรเน้นย้าเร่ือง
การบวกที่ผลบวกในหน่วยกรัมเป็น 1,000 ต้องทด 1,000 กรัม หรือ 1 กิโลกรัมไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เขียนแสดงวิธหี าคาตอบในกรอบทา้ ยหน้า 225 – 226

3. ครูตดิ บัตรโจทย์ 2 กิโลกรมั 500 กรมั น้อยกว่า 4 กิโลกรมั 750 กรัม อยเู่ ท่าไร ครใู หน้ กั เรยี นนาน้าหนกั ทเี่ ป็น
หน่วยเดยี วกนั มาลบกัน ครูแนะนาการเขียนแสดงวิธที าดงั น้ี

ครตู ิดบตั รโจทย์ 3 กโิ ลกรมั มากกว่า 600 กรัมอยเู่ ท่าไร
ครูให้นักเรียนสังเกตว่า 3 กิโลกรัม เม่ือเขียนแสดงวิธีทาเราจะเขียน 3 ในหน่วยกิโลกรัม และเขียน 0 ใน
หนว่ ยกรมั ดว้ ย ในการลบต้องกระจาย 3 กิโลกรมั มา 1 กิโลกรัม หรอื 1,000 กรมั แล้วนามาลบกับ 600 กรัม เหลือ 400 กรัม
สาหรับ 3 กิโลกรัมเม่ือกระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัม เหลือ 2 กิโลกรัม ลบด้วย 0 กิโลกรัม เหลือ 2 กิโลกรัม ดังนั้น 3 กิโลกรัม
มากกวา่ 600 กรมั อยู่ 2 กิโลกรัม 400 กรมั เขยี นแสดงวิธี
หาคาตอบ ตามตัวอย่างกรอบทีส่ องในหนงั สือเรยี นหน้า 227 จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคา ตอบในกรอบ
ทา้ ยหน้า 227

ขั้นอธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบเป็นรายบุคคล ตามหนังสือเรียนหน้า
228 จากน้นั ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ หากมีนักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้
ครูควรแกไ้ ขโดยการให้นกั เรียนฝึกเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบกับครเู ป็นรายบคุ คล

ข้นั สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

- การหาผลบวกหรือผลลบเกี่ยวกบั น้าหนกั เปน็ กิโลกรัมและกรัม ทาได้โดยนานา้ หนักที่เป็นหน่วยเดียวกนั มาบวกหรอื ลบ
กัน

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัดหน้า 144 - 146

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หดั 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกล่มุ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล

-การสรปุ ความรู้การปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกับกลุ่ม

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้

1. บัตรโจทย์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ่ี 14

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอื่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 การวัดน้าหนกั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ

เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ(1)

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพนื้ ฐานเกยี่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทต่ี อ้ งการวดั และไปใช้

ตวั ชีว้ ัด ป.2/4 วัดและเปรยี บเทยี บนา้ หนักเปน็ กิโลกรัม และกรมั กโิ ลกรมั และขีด

ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบเก่ยี วกบั น้าหนักหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรัม

และขดี

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

• การหาผลบวกหรอื ผลลบเก่ียวกับน้าหนกั เปน็ กโิ ลกรัมและขีด หรอื กโิ ลกรัมและกรมั ทาได้โดยนานา้ หนักที่เปน็ หนว่ ย

เดียวกันมาบวกหรือลบกัน

• การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตุสมผล

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)
แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับน้าหนัก

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ กี ารท่เี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่

โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1-2
ขนั้ นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูติดบตั รโจทยป์ ญั หา ใบบวั มีมะเขือ 5 กิโลกรมั 5 ขีด เกบ็ จากสวนได้อกี 1 กโิ ลกรมั 4 ขีด ใบบัวมี
มะเขือ ทงั้ หมดก่ีกโิ ลกรมั กขี่ ีด ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์โจทยว์ า่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกไดว้ า่

สิง่ ทโี่ จทยถ์ ามคือ ใบบัวมมี ะเขือท้ังหมดกี่กโิ ลกรัม กีข่ ดี สง่ิ ทโี่ จทย์บอกคอื ใบบวั มีมะเขือ 5 กโิ ลกรมั 5 ขีด เกบ็ จากสวนได้อีก 1
กโิ ลกรมั 4 ขีด ครูถามว่าหาคาตอบได้อย่างไร

ขน้ั สอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

1. ครตู ิดบัตรโจทย์ปัญหา ใบบัวมมี ะเขอื 5 กิโลกรัม 5 ขดี เก็บจากสวนไดอ้ ีก 1 กโิ ลกรมั 4 ขดี ใบบัวมีมะเขือ ทั้งหมด

ก่ีกิโลกรมั กี่ขีด ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันวิเคราะหโ์ จทย์วา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งท่ีโจทย์ถาม

คือ ใบบัวมีมะเขือทั้งหมดก่ีกิโลกรัม ก่ีขีด สิ่งที่โจทย์บอกคือใบบัวมีมะเขือ 5 กิโลกรัม 5 ขีด เก็บจากสวนได้อีก 1 กิโลกรัม 4

ขดี ครถู ามว่าหาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร นักเรยี นควรตอบได้วา่ นาน้าหนักมาบวกกนั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบ ดังนี้

กโิ ลกรัม ขดี

ใบบวั มีมะเขือหนัก 5 5+

เก็บจากสวนได้อกี 1 4

ใบบวั มีมะเขอื ท้งั หมด 6 9

ดังนัน้ ใบบัวมีมะเขือท้ังหมด 6 กโิ ลกรัม 9 ขดี

ครเู น้นย้าการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบว่า 5 กิโลกรมั 5 ขีดมากกวา่ 5 กิโลกรัม เมือ่ รวมกบั 1 กิโลกรมั

ผลบวกจะมากกวา่ 6 กโิ ลกรัม ครูอาจยกตัวอย่างเพิม่ เติม ดังนี้

ในถงุ มสี ้ม 2 กิโลกรัม 6 ขีด ขนุ หยิบสม้ ใสถ่ ุงเพิ่มอีก 8 ขดี มีส้มในถงุ กีก่ โิ ลกรัม กีข่ ีด

วธิ ที า กโิ ลกรัม ขีด

ในถุงมีสม้ 2 6+

หยิบส้มใสถ่ ุงเพิ่มอีก 8

มสี ้มในถงุ 2 14

หรือ 3 4

ครูแนะนาเพ่ิมเติมว่า ผลบวกท่ีได้ในหน่วยขีดมากกว่า 10 ต้องทด 1 สิบ หรือ 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม

เพราะ 10 ขดี เทา่ กับ 1 กโิ ลกรัม

2. ครูติดบตั รโจทย์ปญั หา แมค่ ้ามผี ักกาด 14 กโิ ลกรัม 7 ขีด ขายไป 5 กิโลกรัม 9 ขีด แม่ค้าเหลือผักกาดกี่กิโลกรัม กี่

ขีด ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งที่โจทย์ถามคือ แม่ค้า

เหลือผักกาดก่ีกิโลกรัม กี่ขีดส่ิงท่ีโจทย์บอกคือ แม่ค้ามีผักกาด 14 กิโลกรัม 7 ขีด ขายไป 5 กิโลกรัม 9 ขีด ครูถามว่า หา

คาตอบได้อย่างไร นักเรียนควรตอบได้ว่า นาน้าหนักมาลบกันครูแนะนาการเขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ครูให้นักเรียนสังเกตว่า

ในหนว่ ยน้าหนกั ท่เี ป็นขีด ตวั ต้งั น้อยกว่าตวั ลบ ตอ้ งกระจายจาก 14 กิโลกรัม มา 1 กิโลกรัม หรือ 10 ขีด ไปรวมกับ 7 ขีด ได้

17 ขีด แล้วจึงนามาลบกับ 9 ขีด สาหรับ 14 กิโลกรัม กระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัมเหลือ 13 กิโลกรัม แล้วจึงนามาลบกับ 5

กิโลกรัมครูใหน้ กั เรียนตรวจสอบคาตอบโดยการนา 8 กโิ ลกรมั 8 ขีด บวกกบั 5 กโิ ลกรมั 9 ขีด แล้วไดผ้ ลบวกเป็น 14 กิโลกรัม

7 ขีด แสดงว่า 8 กิโลกรัม 8 ขีด เป็นคาตอบท่ีถูกต้อง จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ข้อ 1 และ 2 ใน

กรอบทา้ ยหน้า 230

3. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา แม่ค้าชั่งมะละกอผลใหญ่กับผลเล็กรวมกันหนัก 3 กิโลกรัม 8 ขีด ถ้ามะละกอผลเล็กหนัก

1 กโิ ลกรัม 3 ขดี มะละกอผลใหญ่หนักเท่าไร ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่าโจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียน

ควรบอกไดว้ า่ สิง่ ทีโ่ จทย์ถามคอื มะละกอผลใหญห่ นักเทา่ ไร

ส่ิงที่โจทย์บอกคือ แม่ค้าชั่งมะละกอผลใหญ่กับผลเล็กรวมกันหนัก 3 กิโลกรัม 8 ขีด ครูถามว่าหาคาตอบได้อย่างไร นักเรียน
อาจจะยังตอบไม่ได้ทันที ครูอธิบายเพิ่มเติมโดยใช้ Bar Model แล้วครูถามนักเรียนว่า จากภาพน้าหนักของมะละกอผลใหญ่
หาไดอ้ ย่างไร นักเรยี นควรตอบได้ว่า นาน้าหนักมะละกอผลใหญ่กับมะละกอผลเล็กลบด้วยน้าหนักมะละกอผลเล็กจากน้ัน ครู
และนักเรียนชว่ ยกันเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบตามหนังสอื เรียนหนา้ 231 ครูให้นักเรยี นตรวจสอบคาตอบโดยนาคาตอบท่ีได้รวม
กับน้าหนักมะละกอผลเล็กจะได้เท่ากับน้าหนักของมะละกอผลเล็กกับผลใหญ่รวมกันจากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดง
วธิ ีหาคาตอบในกรอบทา้ ยหนา้ 231

ขัน้ อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรียนเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบเปน็ รายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 232
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ หากมีนักเรียนวิเคราะห์โจทย์ปัญหาหรือเขียน
แสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครูควรแก้ไขโดยการให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและเขียนแสดงวิธีหาคาตอบกับครูเป็น
รายบคุ คล

ข้นั สรปุ

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

- การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปญั หาวางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล

ของคาตอบ

ขัน้ ตรวจสอบผล

- ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 147 - 149

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคดิ 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน

-การใหเ้ หตุผล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ

คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

ทางานร่วมกับกลุม่ ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. บตั รโจทยป์ ัญหาการบวกและบัตรโจทยป์ ญั หาการลบ

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 14

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ช่อื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การวัดน้าหนกั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ

เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ(2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพืน้ ฐานเกีย่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ที่ต้องการวัดและไปใช้

ตวั ชวี้ ดั ป.2/4 วัดและเปรียบเทยี บนา้ หนักเป็นกิโลกรัม และกรัม กโิ ลกรัมและขดี
ป.2/5 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบเก่ียวกบั นา้ หนักหนว่ ยเป็นกิโลกรมั และกรัม

กโิ ลกรัม และขีด

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

• การหาผลบวกหรือผลลบเก่ียวกับนา้ หนกั เป็นกิโลกรัมและขีด หรือกิโลกรัมและกรมั ทาได้โดยนานา้ หนักที่เป็นหน่วย
เดยี วกนั มาบวกหรือลบกนั

• การแกโ้ จทย์ปัญหาทาได้โดย อา่ นทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผล

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกีย่ วกับนา้ หนัก

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)
มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1-2
ขน้ั นา

ข้ันกระตุ้นความสนใจ

1. ครตู ดิ บตั รโจทยป์ ญั หา ครูซอื้ มันฝร่ัง 1 กโิ ลกรมั 250 กรมั และหอมหวั ใหญ่ 750 กรัม ครซู ื้อมันฝรง่ั และ
หอมหัวใหญก่ ่ีกโิ ลกรัม กกี่ รมั ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทยว์ ่า โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นกั เรียนควรบอกได้ว่า

สง่ิ ทโี่ จทยถ์ ามคือ ครซู ื้อมนั ฝรั่งและหอมหวั ใหญก่ ี่กิโลกรมั กกี่ รมั
สงิ่ ท่ีโจทยบ์ อกคือ ครซู อ้ื มนั ฝร่งั 1 กิโลกรัม 250 กรัม และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครถู ามว่า หาคาตอบได้อยา่ งไร
นักเรียนควรตอบได้ว่า นานา้ หนักมาบวกกัน

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา ครูซ้ือมันฝรั่ง 1 กิโลกรัม 250 กรัม และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครูซ้ือมันฝรั่งและ

หอมหัวใหญ่กี่กิโลกรัม กี่กรัม ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า

สงิ่ ทโ่ี จทยถ์ ามคอื ครูซ้อื มันฝรงั่ และหอมหัวใหญ่กก่ี ิโลกรัม กี่กรมั

สิ่งท่ีโจทยบ์ อกคอื ครซู ้อื มนั ฝร่ัง 1 กโิ ลกรัม 250 กรมั และหอมหวั ใหญ่ 750 กรมั ครูถามวา่ หาคาตอบได้อยา่ งไร

นักเรยี นควรตอบได้ว่า นาน้าหนกั มาบวกกัน

ครูแนะ นาการเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบ ดงั น้ี

กโิ ลกรัม กรัม

มนั ฝร่งั หนัก 1 250 +

หอมหัวใหญ่หนกั 750

นา้ หนักรวม 1 1000

หรอื 2 0

ดังนัน้ ครูซื้อมนั ฝร่ังและหอมหวั ใหญ่ 2 กิโลกรัม

ครูเน้นย้าการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบว่า 1 กิโลกรัม 250 กรัม มากกว่า 1 กิโลกรัม เม่ือรวมกับ 750 กรัม

ผลบวกจะมากกว่า 1 กิโลกรัม ครูแนะนาเพิ่มเติมว่า ผลบวกท่ีได้ในหน่วยกรัมเท่ากับ 1,000 ต้องทด 1,000 กรัม หรือ 1

กโิ ลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหนว่ ยกโิ ลกรมั เพราะ 1,000 กรมั เทา่ กับ 1 กิโลกรมั

2. ครูตดิ บตั รโจทยป์ ัญหา แม่มนี ้าตาลทราย 2 กิโลกรัม ใชท้ าขนม 450 กรมั แม่เหลอื น้าตาลทราย

กี่กิโลกรัม ก่กี รมั ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันวิเคราะหโ์ จทยว์ า่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า ส่ิงท่ีโจทย์ถาม

คือ แม่เหลือน้าตาลทรายก่ีกิโลกรัม ก่ีกรัมสิ่งที่โจทย์บอกคือ แม่มีน้าตาลทราย 2 กิโลกรัม ใช้ทาขนม 450 กรัม ครูถามว่า หา

คาตอบได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบได้วา่ นาน้าหนกั มาลบกนั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวิธีหาคาตอบครูให้นักเรียนสังเกตว่า ใน

หนว่ ยน้าหนักทีเ่ ป็นกรัมตัวตั้งน้อยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจาก 2 กิโลกรัมมา 1 กิโลกรัม หรือ 1,000 กรัม แล้วจึงนามาลบกับ

450 กรัม สาหรบั 2 กโิ ลกรัม กระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัมเหลือ 1 กิโลกรัมครูให้นักเรียนตรวจสอบคาตอบโดยการนาคาตอบที่

ได้บวกกับ 450 กรัม แล้วได้ผลบวกเท่ากับ 2 กิโลกรัมแสดงว่าคาตอบที่ได้เป็นคาตอบที่ถูกต้อง จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกัน

เขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ข้อ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหน้า 234

3. ครูตดิ บตั รโจทยป์ ัญหา แม่มแี ป้งสาลี 750 กรัม ต้องซือ้ มาเพม่ิ อกี ก่กี ิโลกรมั กก่ี รัม แม่จึงจะมแี ป้งสาลี 2 กิโลกรัม

ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันวเิ คราะห์โจทยว์ ่า โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรยี นควรบอกไดว้ า่ ส่งิ ท่ีโจทย์ถามคือ ต้องซอ้ื มา

เพ่มิ อกี กีก่ ิโลกรมั กก่ี รมั ส่ิงท่ีโจทย์บอกคือ แมม่ ีแป้งสาลี 750 กรมั ต้องการมีแป้งสาลี 2 กโิ ลกรัม ครถู ามว่า หาคาตอบได้

อยา่ งไร นกั เรียนอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ทนั ที ครอู ธิบายเพ่มิ เติมโดยใช้ Bar Modelแล้วครถู ามนกั เรียนว่า จากภาพน้าหนักของ

แป้งสาลที ่แี มต่ ้องซ้ือมาเพิ่มอีก หาได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบไดว้ า่ นานา้ หนกั ของแปง้ สาลีทแี่ ม่ต้องต้องการลบดว้ ยน้าหนัก

ของแป้งสาลีท่แี ม่มีอยู่จากนั้น ครแู ละนกั เรียนช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ตามหนังสือเรียนหนา้ 235 ครูให้นักเรียน

ตรวจสอบคาตอบโดยนาคาตอบท่ีไดร้ วมกบั นา้ หนักของแป้งสาลีทีแ่ ม่มีอยู่ จะได้เท่ากบั น้าหนกั ของแป้งสาลีท่ีแมต่ ้องการ

จากน้นั ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบในกรอบท้ายหนา้ 235

ขนั้ อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นักเรยี นเขียนแสดงวิธีหาคาตอบเปน็ รายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 236
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้หากมีนักเรียนวิเคราะห์โจทย์ ปัญหาหรือเขียน
แสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครูควรแก้ไขโดยการให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและเขียนแสดงวิธีหาคาตอบกับครูเป็น
รายบคุ คล

ขนั้ สรปุ

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

- การแก้โจทย์ปญั หาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบ

ข้ันตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 150 - 153

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

ทางานรว่ มกบั กลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. บตั รโจทย์ปญั หาการบวกและบัตรโจทยป์ ัญหาการลบ

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 15

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ช่อื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 การคูณ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ

เร่ือง ความหมายของการคูณ (1)

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จาก

การดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชี้วดั ท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไมเ่ กนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ส่งิ ตา่ ง ๆ ทีจ่ ดั เป็นกลุ่มหรือเปน็ แถวท่แี ตล่ ะกล่มุ หรอื แต่ละแถวมจี านวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของ

จานวนสองจานวน คอื จานวนกลมุ่ หรือจานวนแถวคณู กับจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มหรือจานวนสมาชิกในแต่ละแถว ผลคูณ

ของจานวนสองจานวนน้นั คือ จานวนสมาชิกทง้ั หมด

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณจากสถานการณ์ทีก่ าหนด

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ กี ารทเี่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน

ความหมายของการคูณ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ขน้ั นา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูชูบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล ตามหนังสือเรียนหน้า 241 ให้นักเรียนดูแล้วถามนักเรียนว่าในภาพมี
อะไรบ้าง นักเรียนตอบ มีส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล ครูถามว่า มีส้มท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบ มีส้มท้ังหมด 20 ผล ครูถามว่า
หาคาตอบได้อย่างไร นักเรียนอาจใช้การนับ หรือการบวกโดยนาจานวนส้มมาบวกกัน เช่น มีส้ม 5 + 5 + 5 + 5 = 20 ผล
จากน้ันครูแนะนาว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้ 4 × 5 = 20 ครูแนะนา

เคร่ืองหมายคูณ และผลคูณ พร้อมทั้งแนะนาว่า เม่ือเขียน 4 × 5 = 20 น้ัน 4 เป็นจานวนกลุ่ม 5 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละ
กลุ่ม และ 20 คอื ผลคูณ ในทีน่ ้ีคอื สม้ 4 จาน จานละ 5 ผล มสี ้มทงั้ หมด 20 ผล

ขัน้ สอน

ข้ันสารวจคน้ หา

2. ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ที่กาหนดให้จากหนังสือเรียนหน้า 242 ภาพแรก ครู
ถามนักเรียนว่าเห็นอะไรในภาพบ้างนักเรียนตอบ มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย ครูถามต่อว่ามีขนมถ้วยทั้งหมดก่ีถ้วย
นักเรียนตอบ 12 ถ้วย ครูแนะนาเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การบวกได้ 4 + 4 + 4 = 12 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้ 3 × 4 = 12 และใช้คาถามว่า จาก 3 × 4 = 12 น้ัน 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 12 ในที่น้ี
หมายถึงอะไรนักเรียนตอบว่า 3 เป็นจานวนกลุ่ม 4 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด
จากน้ันครสู อนในทานองเดียวกนั นีโ้ ดยใช้ภาพคกุ กี้ และภาพโดนทั ตามหนงั สือเรยี นหน้า 242

3. ครนู าคุกกี้มาจดั เปน็ ถงุ 8 ถงุ ถุงละ 3 ช้ิน แล้วใหน้ กั เรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การบวก และประโยคสัญลักษณ์
การคณู แสดงจานวนคกุ ก้ีทง้ั หมดจะได้ 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 = 24 และ 8 × 3 = 24 ครูถามนักเรียนเพื่อเน้นย้า
ความเข้าใจว่าจาก 8 × 3 = 24 นั้น 8 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 24 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ
ว่า 8 เป็นจานวนกลุ่ม 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 24 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด จากนั้นครูจัดกลุ่มคุกกี้ใหม่เป็น
3 ถุง ถุงละ 8 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีท้ังหมดกี่ช้ิน และจัดเป็นก่ีถุง ถุงละกี่ชิ้นนักเรียนตอบว่า มีคุกกี้ท้ังหมด 24 ช้ิน
จดั เปน็ 3 ถุง ถงุ ละ 8 ช้นิ ครูถามนักเรยี นวา่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนเขียนได้เป็น 3 × 8 = 24
ครชู ้ีไปท่ีประโยคสัญลักษณก์ ารคูณ 8 × 3 = 24 อีกครงั้ แลว้ ให้นกั เรยี นพดู ว่า จดั คุกก้ี 8 ถุง ถุงละ 3 ช้ิน มีคุกก้ีทั้งหมด 24 ช้ิน
และครูช้ีไปที่ประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 8 = 24 แล้วให้นักเรียนพูดว่า จัดคุกก้ี 3 ถุง ถุงละ 8 ช้ิน มีคุกก้ีท้ังหมด 24 ช้ิน
ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตวา่ 3 × 8 = 24 และ 8 × 3 = 24 ถึงแมว้ า่ จะมี จานวนคุ๊กกี้ 24 ชน้ิ เทา่ กัน แต่ลักษณะของการจัดคุ๊กกี้ใส่
ถุงแตกต่างกัน จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ข้อ 1− 4 ที่กาหนดในกรอบท้าย
หน้า 243 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

ขั้นอธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากประโยคสัญลักษณ์การบวก
และจากสถานการณ์ที่กาหนดให้ โดยให้บอกด้วยว่าจานวนกลุ่มคือจานวนใด จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มคือจานวนใด และ
จานวนสมาชิกท้ังหมดคือจานวนใด เพ่ือให้นักเรียนได้เน้นย้าความเข้าใจว่าจากประโยคสัญลักษณ์การคูณ จานวนท่ีอยู่หน้า
เคร่ืองหมายคณู เปน็ จานวนกลมุ่ จานวนท่ีอยหู่ ลงั เคร่ืองหมายคณู เปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และจานวนหลังเครื่องหมาย
เทา่ กบั เป็นจานวนสมาชกิ ทัง้ หมด จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรู้

ขัน้ สรุป

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

- ส่ิงต่าง ๆ ที่จัดเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีจานวนสมาชิกเท่ากัน สามารถเขียนในรูปการคูณของจานวนสองจานวน คือ
จานวนกล่มุ คณู กับจานวนสมาชิกในแต่ละกล่มุ ผลคูณของจานวนสองจานวนนนั้ คือ จานวนสมาชิกทง้ั หมด

ข้นั ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 154 - 156

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระต้นุ ความคิด 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น
ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝึกหดั 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมินพฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความร้กู ารปฏิบตั ิ

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกบั กลมุ่

7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้

1. บัตรภาพ
2. ส่อื ของจรงิ เช่น ตัวนบั ปากกา ดินสอ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 15

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชือ่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การคูณ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ

เรอื่ ง ความหมายของการคูณ (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กิดข้ึนจาก

การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไมเ่ กนิ 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

สิ่งตา่ ง ๆ ท่ีจดั เปน็ กลุ่มหรือเป็นแถวท่ีแต่ละกลมุ่ หรือแตล่ ะแถวมจี านวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของ

จานวนสองจานวน คือ จานวนกลมุ่ หรือจานวนแถวคูณกับจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ หรอื จานวนสมาชิกในแตล่ ะแถว ผลคูณ

ของจานวนสองจานวนนน้ั คอื จานวนสมาชกิ ทง้ั หมด

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคูณจากสถานการณ์ทกี่ าหนด

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ ีการที่เหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ

ความหมายของการคูณ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ข้นั นา

ขัน้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครชู ูบัตรภาพเด็กที่นัง่ เปน็ แถว 3 แถวตามแนวนอนในภาพแรกตามหนงั สือเรียนหน้า 245

ขั้นสอน

ข้ันสารวจค้นหา

1. ครูชบู ัตรภาพเดก็ ทน่ี ง่ั เป็นแถว 3 แถวตามแนวนอนในภาพแรกตามหนังสือเรยี นหน้า 245
ครูถามนักเรียนว่าในแนวนอนมีเด็กน่ังอยู่ก่ีแถว นักเรียนตอบ 3 แถว ครูถามแถวละก่ีคน นักเรียนตอบ แถว

ละ 4 คน ครถู าม มเี ด็กท้ังหมดกค่ี น นกั เรยี นตอบ 12 คน ครถู าม 12 คนหาไดโ้ ดยวิธใี ด นกั เรียนตอบ 4 + 4 + 4 = 12ครูถาม
ว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 4 = 12 ครูถามนักเรียน 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 4 ในท่ีนี้
หมายถึงอะไร และ12 ในทนี่ ้ีหมายถงึ อะไร นักเรียนตอบว่า .3 เป็นจานวนแถว 4 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 12
เป็นจานวนสมาชกิ ท้ังหมด จากน้ันครูให้นักเรียนดูภาพเด็กน่ังเป็นแถวตามแนวตั้ง แล้วถามนักเรียนว่า ในแถวแนวต้ังมีเด็กนั่ง
อยูก่ ่แี ถวแถวละกค่ี นและมีจานวนเด็กทั้งหมดกี่คน นักเรียนตอบ มีเด็กนั่งอยู่ 4 แถว แถวละ 3 คน มีเด็กน่ังอยู่ท้ังหมด 12 คน
ครูถามว่า 12 คนหาได้โดยวิธีใด นักเรียนตอบ 3 + 3 + 3 + 3 = 12ครูถามว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 3 = 12 ครูถามนักเรียน 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 4 หมายถงึ จานวนแถว 3 หมายถงึ จานวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว และ 12 หมายถึงจานวนสมาชิกทง้ั หมด
ครูช้ีไปท่ีประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 4 = 12 อีกครั้ง แล้วให้นักเรียนพูดพร้อมกันว่า 3 เป็นจานวนแถว 4 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละแถว และ 12 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดและครูชี้มาท่ีประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 3 = 12 อีกคร้ัง แล้วให้
นักเรียนพูดพร้อมกันว่า 4 เป็นจานวนแถว 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 12 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดครูให้
นักเรียนสังเกตว่า 3 × 4 = 4 × 3 ถ้าพบว่ามีนักเรียนท่ียังไม่เข้าใจเร่ืองแถวแนวต้ังและแถวแนวนอน ให้ครูใช้ส่ือประกอบที่
เป็น QR Code ในหนังสือเรียนหน้า 245 ซ่ึงเมื่อแสกนQR Code แล้วจะเป็นวีดีทัศน์แสดงให้นักเรียนเห็นได้ง่ายข้ึนว่า แถว
แนวนอนกับแถวแนวต้งั น้ันต่างกันอยา่ งไรและใหส้ ังเกตอยา่ งไร โดยครูอาจจะอธบิ ายเพม่ิ เติมประกอบวีดีทศั นด์ ้วยก็ได้

2. ครูให้นักเรียนดูภาพต้นตะบองเพชรในหนังสือเรียนหน้า 246 แล้วถามนักเรียนว่าต้นตะบองเพชรมีก่ีแถวแถวละก่ี
ต้น มีท้ังหมดก่ีต้น นักเรียนอาจตอบว่า มี 2 แถวแถวละ 3 ต้น มีทั้งหมด 6 ต้น หรือมี 3 แถว แถวละ 2 ต้นมีทั้งหมด 6 ต้น
จากนั้นครูให้นักเรียนเขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์การคูณ จะได้ว่า 2 × 3 = 6 หรือ 3 × 2 = 6 ครูชี้ไปท่ีประโยคสัญลักษณ์
การคูณ 2 × 3 = 6 แล้วถาม นักเรียนว่า 2 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 3 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร และ 6 ในที่น้ีหมายถึงอะไร นักเรียน
ตอบ 2 เป็นจานวนแถว 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 6 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด จากน้ันครูช้ีไปท่ีประโยค
สัญลักษณ์การคูณ 3 × 2 = 6 แล้วถามนักเรียนว่า 3 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 2 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 6 ในที่น้ีหมายถึงอะไร
นักเรยี นตอบ 3 เปน็ จานวนแถว 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถวและ 6 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูให้นักเรียนสังเกต 2 ×
3 = 3 × 2 จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพขวดในลังว่ามีก่ีแถวแต่ละแถวมีก่ีขวด และมีขวดทั้งหมดเท่าไร แล้วทากิจกรรม
เช่นเดียวกันกับข้างต้นโดยครูควรเน้นย้าเรื่องการเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณและการบอกความหมายให้ตรงกับประโยค
สัญลักษณก์ ารคณู เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายได้คล่องและจาได้แมน่

3. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่มแล้วแจกกระดาษจดุ ท่ีทาเปน็ แถวตามหนังสือเรียนหนา้ 247 แล้วใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยค
สัญลกั ษณ์การคณู แสดงจานวนจดุ ทงั้ หมดลงไปในกระดาษทแ่ี จกให้ เมื่อนกั เรียนเขียนเสรจ็ ทุกกลุ่มแล้วครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม
นาเสนอประโยคสัญลักษณ์การคณู และอธบิ ายความหมาย กล่มุ ละ 1 ข้อ จากนั้นครูและเพ่ือนในห้องรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง

ข้นั อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ที่กาหนดให้และ
ให้บอกว่าจานวนแถวคือจานวนใด จานวนสมาชิกในแต่ละแถวคือจานวนใด และจานวนสมาชิกทั้งหมดคือจานวนใด เพื่อให้
นักเรียนได้เข้าใจว่าจากประโยคสัญลักษณ์การคูณ จานวนที่อยู่หน้าเครื่องหมายคูณเป็นจานวนแถว จานวนที่อยู่หลัง

เคร่ืองหมายคูณเป็นจานวนสมาชิกในแตล่ ะแถว และจานวนท่อี ยู่หลังเครื่องหมายเท่ากับเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด จากน้ันครู
และนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรู้

ขนั้ สรปุ

ข้นั ขยายความเข้าใจ

- สิ่งต่าง ๆ ท่ีจัดเป็นแถว แต่ละแถวมีจานวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของจานวนสองจานวน คือ จานวน
แถวกบั จานวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว ผลคณู ของจานวนสองจานวนนนั้ คอื จานวนสมาชกิ ทง้ั หมด

- จานวนสองจานวนคณู กัน เม่ือสลับท่ีกันผลคูณยงั คงเทา่ เดิม

ขั้นตรวจสอบผล

- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั หนา้ 157 - 158

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
เกณฑ์การประเมิน
-การให้เหตุผล

-การสรปุ ความรกู้ ารปฏิบตั ิ

คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

ทางานรว่ มกับกลมุ่ ขณะ ทางานร่วมกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

7.1 สอ่ื การเรียนรู้

1. บัตรภาพ
2. สื่อของจรงิ เชน่ ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 15

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชือ่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การคูณ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ

เรื่อง หนึ่งและศูนยก์ บั การคูณ

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจาก

การดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชี้วัด ป.2/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

• จานวนใดคูณกับ 1 ผลคูณเทา่ กบั จานวนนน้ั และจานวนใดคูณกบั 0 ผลคูณเท่ากับ 0

• การคูณจานวน 1 หลักกบั จานวน 1 หลกั หาผลคูณโดยใช้สตู รคณู แม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 แม่ 5 แม่ 6 แม่ 7 แม่ 8 หรือ

แม่ 9

• จานวน 1 หลัก คณู กบั 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณโดยนาจานวน 1 หลักนั้นคูณกับ 1 2 3 4 5 6

7 8 9 ตามลาดบั แล้วเตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลคูณของจานวนหน่งึ หลกั กบั 0 และหาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลักกบั 1

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ

หน่ึงและศูนยก์ บั การคณู พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1-2
ขั้นนา

ข้นั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูติดบัตรภาพขนมคุกกี้ 3 ถุง ถงุ ละ 1 ชิน้ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 249 แลว้ ถามนกั เรียนว่า มคี กุ ก้ีก่ถี ุงถุงละกชี่ ้นิ
มีคกุ กีท้ ้ังหมดกี่ชน้ิ

ขั้นสอ2น.

ขัน้ สารวจค้นหา

1. ครูติดบัตรภาพขนมคุกก้ี 3 ถุง ถุงละ 1 ช้ิน ตามหนังสือเรียนหน้า 249 แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกกี้ก่ีถุงถุงละก่ีช้ิน มีคุกกี้
ทง้ั หมดก่ชี ิ้น นกั เรยี นตอบวา่ มคี ุกกี้ 3 ถุง ถงุ ละ 1 ชิน้ มคี ุกก้ีท้ังหมด 3 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์การคูณได้
อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 1 = 3 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 นั้น 3 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึง
อะไร 1 ในที่นี้ หมายถึงอะไร และ 3 ตัวหลังในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ1 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 3 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 1 ถุง ถุงละ 3 ช้ิน ครูถามนักเรียนว่า มี
คุกกี้กี่ถุง ถุงละกี่ชิ้น มีคุกก้ีทั้งหมดก่ีชิ้น นักเรียนตอบว่า มีคุกก้ี 1 ถุง ถุงละ 3 ชิ้น มีคุกก้ีท้ังหมด 3 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็น
ประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 1 × 3 = 3 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 1 × 3 = 3
น้นั 1 ในท่ีนห้ี มายถงึ อะไร 3 ตัวหน้าในท่ีน้หี มายถงึ อะไร และ 3 ตัวหลังในท่ีนี้หมายถึงอะไร นกั เรียนตอบ 1 เปน็ จานวนกล่มุ
3 ตวั หน้าเปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ และ 3 ตวั หลงั เปน็ จานวนสมาชกิ ทั้งหมด ครใู หน้ ักเรียนสังเกตว่า 3 × 1 = 3 และ 1
× 3 = 3 จากน้นั ครูติดบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 1 ผล ตามหนังสือเรียนหน้า 249 แล้วถามนักเรียนว่า มีส้มก่ีจาน จานละกี่
ผล มสี ม้ ท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มสี ้ม 4 จาน จานละ 1 ผล มีส้มท้ังหมด 4 ผลครูถามว่า เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 4 × 1 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 1 = 4 นั้น 4 ตัวหน้าในท่ีนี้
หมายถึงอะไร 1 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 4 ตัวหลังน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็น
จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 4 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพส้ม 1 จาน จานละ 4 ผล แล้วถาม
นักเรียนว่า มีส้มกี่จาน จานละกี่ผล มีส้มท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีส้ม 1 จาน จานละ 4 ผล มีส้มทั้งหมด 4 ผล ครูถาม
ว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 1 × 4 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ
1 × 4 = 4 นั้น 1 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 4 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 4 ตัวหลังในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 1 เป็น
จานวนกลุม่ และ 4 เป็นจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ และ 4 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูยกตัวอย่างอื่นเพ่ิมเติมจนได้
ขอ้ สรุปร่วมกับนักเรยี นวา่ จานวนใดคูณกบั 1 ผลคณู เท่ากบั จานวนนั้น

2. ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั ภาพตามหนังสือเรียนหน้า 250 ว่าเป็นเร่ืองราวท่ีมีขนมอยู่ในจานแล้วขุนกับต้นกล้า
กินขนมทอี่ ยใู่ นจานหมดแล้ว จากน้นั ครูติดบตั รภาพจานขนม 3 จาน จานละ 0 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมก่ีจาน จานละก่ี
ช้ิน มีขนมท้ังหมดก่ีชิ้น นักเรียนตอบว่า มีขนม 3 จาน จานละ 0 ชิ้น มีขนมท้ังหมด 0 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 0 = 0ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 0 = 0 นั้น 3 ใน
ที่นห้ี มายถึงอะไร 0 ตัวหน้าในที่นี้หมายถึงอะไร และ 0 ตัวหลัง ในที่น้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 เป็น จานวนกลุ่ม และ 0
ตัวหน้าเป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 0 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสอง
จานวนเมื่อสลับที่กันผลคูณยังคงเท่าเดิมครูถามนักเรียนว่า เน่ืองจาก 3 × 0 = 0 แล้ว 0 × 3 เท่ากับเท่าไร นักเรียนตอบ
0 × 3 = 0จากนั้นครูยกตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น 1 × 0 เท่ากับเท่าไร 2 × 0 เท่ากับเท่าไร0 × 1 เท่ากับเท่าไร 0 × 2 เท่ากับ
เท่าไรจนนักเรียนเข้าใจและได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจานวนใดคูณกับ 0 ผลคูณเท่ากับ 0 ครูให้นักเรียนช่วยกับหาผลคูณของ
จานวนใด ๆ กับ 0 ในกรอบท้ายหน้า 250 เม่ือนักเรียนช่วยกันหาคาตอบเสร็จแล้ว ครูอาจให้นักเรียนนาเสนอเป็นรายบุคคล
เพื่อตรวจสอบว่ามใี ครไม่เข้าใจบ้างโดยครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

3. เม่ือนักเรียนเข้าใจการคูณจานวนใด ๆ กับ 1 และการคูณจานวนใด ๆ กับ 0 แล้ว ครูให้นักเรียนฝึกหาผลคูณ โดย
ให้ช่วยกันหาผลคูณตามหนังสือเรียนหน้า 251 อาจจะแบ่งกลุ่มแล้วให้นักเรียนช่วยกันทาเป็นกลุ่ม และนาเสนอ หรืออาจให้
ตอบเป็นรายบุคคลเพ่ือให้นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเรียนจากน้ันครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องถ้ามี
นกั เรยี นบางคนตอบไมไ่ ด้ ครคู วรสอนโดยใช้สื่ออกี คร้ังเพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจยง่ิ ข้ึน

ขนั้ อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนใด ๆ กับ 0 และหาผลคูณของจานวนใด ๆ
กับ 1 ตามหนังสือเรียนหน้า 252 แต่จะพบว่าข้อ 7−10 เป็นการให้เติมตัวเลขแสดงจานวนให้ได้ผลคูณเท่ากับ 1 หรือให้ได้ผล
คูณเท่ากับ 0 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะในการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ จากน้ันครูและนักเรียน
ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้

ขั้นสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้
• จานวนใดคณู กับ 1 ผลคูณเท่ากบั จานวนน้ัน
• จานวนใดคูณกับ 0 ผลคณู เทา่ กับ 0

ข้ันตรวจสอบผล

- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัดหน้า 159 - 160

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน
ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมิน
-การให้เหตุผล

-การสรปุ ความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกับกล่มุ

7. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. บตั รภาพ
2. สื่อของจรงิ เช่น ตวั นบั ปากกา ดินสอ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 16

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ช่อื ผูส้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 การคูณ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ

เรอื่ ง การคณู จานวนหน่งึ หลักกบั จานวนหน่ึงหลกั (1)

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดข้นึ จาก

การดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชีว้ ัดที่ ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลักตบั จานวนไมเ่ กนิ 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

• การหาผลคณู ของจานวน 1 หลักกับจานวน2 หลักโดยการตั้งคณู ต้องคูณในหลกั หนว่ ยก่อน แล้วคูณในหลักสบิ ถา้

ผลคณู ในหลกั ใดครบสิบ หรอื มากกว่าสิบ ให้ทดจานวนที่ครบสิบไปหลักถัดไปทางซา้ ย

• ความรูส้ กึ เชงิ จานวนเกีย่ วกับการคูณเป็นการบอกว่าผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีคา่ มากกวา่ กนั นอ้ ยกว่ากนั

หรอื เทา่ กนั โดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนนั้น

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

หาผลคณู ของจานวนหนึง่ หลักกบั 2 และหาผลคณู ของจานวนหนง่ึ หลกั กบั 3

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่ิน

การคณู จานวนหนึ่งหลกั กับจานวนหนง่ึ หลกั พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1-2
ขน้ั นา

ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครตู ิดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล แลว้ ถามนักเรยี นวา่ มมี ะนาวกีจ่ าน จานละก่ผี ล มมี ะนาวทง้ั หมดก่ีผล

ขั้นสอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. ครูติดบตั รภาพมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล แล้วถามนกั เรยี นว่า มมี ะนาวกี่จาน จานละก่ีผล มีมะนาวท้งั หมดกผี่ ล
นักเรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล มีมะนาวท้ังหมด 2 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้
อย่างไร นักเรียนตอบ 2 × 1 = 2 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 2 × 1 = 2 น้ัน 2 ตัวหน้าในที่นี้หมายถึง
อะไร 1 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 2 ตัวหลังในที่นี้หมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 2 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่มและ 1 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 2 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผลแล้วถามนักเรียนว่า
มีมะนาวกจ่ี าน จานละกีผ่ ล มมี ะนาวทง้ั หมดก่ผี ล นกั เรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผล มมี ะนาวท้ังหมด 4 ผล
ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 2 × 2 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์
การคณู 2 × 2 = 4 นัน้ 2 ตัวหน้าในท่นี ้หี มายถึงอะไร 2 ตัวหลงั ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ
2 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 2 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 4 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพ
มะนาว 2 จาน จานละ 3 ผล แลว้ ถามนักเรียนว่า มีมะนาวกี่จาน จานละกี่ผล มีมะนาวทั้งหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีมะนาว
2 จาน จานละ 3 ผล มมี ะนาวทงั้ หมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนตอบ2 × 3 = 6
ครถู ามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 2 × 3 = 6 นั้น 2 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 6 ในที่นี้
หมายถงึ อะไร นักเรยี นตอบ 2 เปน็ จานวนกลุ่ม และ 3 เปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลุม่ และ 6 เปน็ จานวนสมาชิกทั้งหมด
ครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีมะนาวกี่จาน จานละก่ีผล มีมะนาวท้ังหมดกี่ผล นักเรียน
ตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล มีมะนาวท้ังหมด 8 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 2 × 4 = 8 ครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีมะนาวกี่จาน จานละกี่ผล มี
มะนาวทั้งหมดกี่ผลนักเรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล มีมะนาวท้ังหมด 10 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลกั ษณก์ ารคูณไดอ้ ย่างไร นกั เรียนตอบ 2 × 5 = 10 ครูแนะนาว่า การจัดสิ่งต่าง ๆ เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เป็นการ
นา2 ไปคณู กับจานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจเขยี นเปน็ 2 × 1 = 2 2 × 2 = 4 2 × 3 = 6 2 × 4 = 8 2 × 5 = 10
ซึ่งเรียกวา่ สตู รคณู แม่ 2 ครใู ห้นกั เรียนสังเกตผลคูณ จะเห็นวา่ สูตรคณู แม่ 2 มีผลคูณเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 2 จากนั้นครถู ามนกั เรียน
ว่า 2 × 6เทา่ กับเท่าไร 2 × 7 เท่ากับเท่าไร 2 × 8 เทา่ กบั เทา่ ไร 2 × 9 เทา่ กับเท่าไร โดยสงั เกตจากผลคูณจากน้ันครูเขยี น
สตู รคณู แม่ 2 ใหค้ รบแล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นพร้อมกนั

2. ครูตดิ บัตรภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 1 ถว้ ย แล้วถามนกั เรียนว่า มีขนมถ้วยก่ีจาน จานละก่ีถ้วย มีขนมถ้วย
ท้งั หมดก่ีถ้วยนกั เรยี นตอบว่า มขี นมถ้วย 3 จาน จานละ 1 ถว้ ย มีขนมถ้วยทั้งหมด 3 ถว้ ย ครถู ามว่าเขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคณู ได้อยา่ งไรนักเรยี นตอบ 3 × 1 = 3 ครถู ามนกั เรียนว่าจากประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 นัน้ 3 ตวั
หน้าในที่น้หี มายถงึ อะไร 1 ในที่น้ี หมายถึงอะไร และ 3 ตวั หลังในทน่ี ี้หมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 3 ตัวหนา้ เปน็ จานวนกลุ่ม
และ 1 เปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกล่มุ และ 3 ตัวหลงั เป็นจานวนสมาชิกทงั้ หมดครูตดิ บัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน จานละ 2
ถว้ ยแลว้ ถามนกั เรียนว่า มีขนมก่จี าน จานละก่ีถ้วย มขี นมถ้วยทั้งหมดก่ีถว้ ย นกั เรียนตอบวา่ มีขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 2 ถ้วย
มีขนมถว้ ยท้ังหมด 6 ถว้ ยครถู ามวา่ เขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อย่างไร นกั เรยี นตอบ 3 × 2 = 6 ครูถามนักเรียนวา่
จากประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 3 × 2 = 6 น้ัน 3 ในท่ีนห้ี มายถงึ อะไร 2 ในทนี่ หี้ มายถงึ อะไร และ 6 ในท่นี ห้ี มายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 3 เป็นจานวนกล่มุ และ 2 เปน็ จานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มและ 6 เปน็ จานวนสมาชิกทั้งหมด ครตู ิดบตั รภาพ
ขนมถ้วย 3 จาน จานละ 3 ถ้วย แล้วถามนักเรยี นว่า มขี นมถ้วยก่จี าน จานละกีถ่ ้วย มขี นมถ้วยท้ังหมดกีถ่ ว้ ย นักเรียนตอบวา่
มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 3 ถว้ ย มขี นมถ้วยทั้งหมด 9 ถ้วย ครูถามว่า เขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณได้อยา่ งไร

นักเรียนตอบ 3 × 3 = 9 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 3 = 9 นั้น 3 ตัวหน้าในท่ีนี้หมายถึงอะไร 3
ตัวหลังในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 9 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 3 ตัวหลังเป็นจานวน
สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มและ 9 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย แล้วถามนักเรียนว่า มี
ขนมถ้วยกี่จาน จานละกี่ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมดก่ีถ้วย นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมด
12 ถ้วย ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 3 × 4 = 12 ครูติดบัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน
จานละ 5 ถ้วย แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมถ้วยกี่จาน จานละกี่ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมดก่ีถ้วย นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วย 3
จาน จานละ 5 ถว้ ย มีขนมถ้วยทั้งหมด 15 ถ้วย ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 3 × 5
= 15 ครูแนะนาว่า การจัดสง่ิ ต่าง ๆ เป็น 3 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กันเป็นการนา 3 ไปคูณกับจานวนของสิ่งต่าง ๆ อาจเขียนเป็น
3 × 1 = 3 3 × 2 = 6 3 × 3 = 9 3 × 4 = 12 3 × 5 = 15 ซ่งึ เรียกวา่ สูตรคูณแม่ 3
ครูให้นักเรียนสงั เกตผลคณู จะเห็นวา่ สตู รคณู แม่ 3 มี ผลคณู เพ่ิมขึน้ ทลี ะ 3 จากนัน้ ครถู ามนกั เรยี นว่า 3 × 6 เท่ากบั เท่าไร 3
× 7 เท่ากับเทา่ ไร 3 × 8 เทา่ กับเทา่ ไร 3 × 9 เท่ากบั เท่าไร โดยสังเกตจากผลคณู จากน้ันครเู ขียนสตู รคูณแม่ 3 ใหค้ รบแล้วให้
นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน

3. ครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 2 โดยใช้การถาม−ตอบ เช่น 4 × 2 เท่ากับเท่าไร ซึ่งนักเรียนอาจ
หาผลคูณ โดยนา 2 มาบวกกัน 4 จานวน (2 + 2 + 2 + 2) ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสองจานวน เม่ือสลับท่ีกัน
ผลคูณยังคงเท่าเดิมจะได้ 4 × 2 = 2 × 4 ดังน้ัน สามารถหาผลคูณของ 4 × 2 ได้จาก 2 × 4 ซึ่งเท่ากับ 8 จากน้ัน ครูให้
นักเรียนช่วยกันหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 2 และหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 3 ตามหนังสือเรียนหน้า 255 โดย
ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

ขั้นอธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 2 และหาผลคูณของจานวน
หนึ่งหลักกับ 3 ตามหนังสือเรียนหน้า 256 และจะพบว่าข้อ 2 ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 เป็นการใช้การสลับที่การคูณเพื่อหา
คาตอบ ซึ่งนักเรียนเรียนรู้มาแล้วในหน้า 252 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมความคิด
สรา้ งสรรค์จากนัน้ ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้

ข้ันสรุป

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปส่งิ ทไี่ ดเ้ รียนรู้
• 2 คูณกับจานวนหน่ึงหลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ูตรคูณแม่ 2
• 3 คณู กับจานวนหนงึ่ หลกั หาผลคูณได้โดยใช้สตู รคูณแม่ 3

ข้ันตรวจสอบผล

- ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 161 - 163

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝึกหัด 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกล่มุ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตุผล

-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ

คุณลักษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกบั กลุม่

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1. บตั รภาพ
2. สอื่ ของจรงิ เชน่ ตัวนับ ปากกา ดินสอ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 16

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอื่ ผู้สอน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การคูณ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ

เร่อื ง การคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนหนง่ึ หลกั (2)

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้นจาก

การดาเนนิ การ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัดที่ ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไมเ่ กิน 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไม่เกิน1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

• การหาผลคณู ของจานวน 1 หลักกบั จานวน2 หลักโดยการต้งั คณู ต้องคูณในหลกั หน่วยก่อน แล้วคูณในหลักสิบ ถ้า

ผลคูณในหลกั ใดครบสิบ หรอื มากกวา่ สิบ ใหท้ ดจานวนทีค่ รบสิบไปหลักถดั ไปทางซา้ ย

• ความรสู้ กึ เชงิ จานวนเกี่ยวกับการคณู เป็นการบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกว่ากัน นอ้ ยกวา่ กัน

หรือเทา่ กันโดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจานวนนัน้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

หาผลคณู ของจานวนหนึง่ หลกั กับ 2 และหาผลคูณของจานวนหนึง่ หลักกบั 3

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธกี ารท่เี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมนั่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

การคณู จานวนหนึง่ หลกั กับจานวนหนงึ่ หลกั พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ขั้นนา

ขน้ั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูตดิ บตั รภาพคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 1 ชนิ้ แล้วถามนกั เรียนวา่ มีคุกก้ีกถี่ งุ ถงุ ละก่ีชน้ิ มคี กุ กี้ทัง้ หมดกชี่ ิ้น

ข้ันสอน

ข้นั สารวจค้นหา

1. ครูตดิ บัตรภาพคกุ ก้ี 4 ถุง ถงุ ละ 1 ชนิ้ แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีกี่ถุง ถุงละกี่ช้ิน มีคุกก้ีท้ังหมดก่ีชิ้นนักเรียนตอบว่า มีคุกกี้
4 ถุง ถุงละ 1 ชิ้น มีคุกก้ีทั้งหมด 4 ชิ้นครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 4 × 1 = 4 ครู
ถามนกั เรียนว่าจากประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ 4 × 1 = 4 นั้น 4 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 1 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร และ 4 ตัว
หลังในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 4 ตัวหลังเป็น
จานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 2 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกกี้กี่ถุง ถุงละก่ีชิ้น มีคุกกี้ทั้งหมดก่ีช้ิน
นักเรียนตอบว่า มีคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 2 ชิ้น มีคุกก้ีท้ังหมด 8 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 2 = 8ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 2 = 8 น้ัน 4 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 2 ในท่ีน้ี
หมายถึงอะไร และ 8 ในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 8
เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 3 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกกี้กี่ถุง ถุงละก่ีชิ้น มีคุกกี้ท้ังหมดก่ี
ชิน้ นักเรยี นตอบว่า มีคุกก้ี 4 ถงุ ถุงละ 3 ชิ้น มีคกุ ก้ที ัง้ หมด 12 ช้ิน ครถู ามว่า เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร
นักเรียนตอบ 4 × 3 = 12 ครูถามนกั เรยี นวา่ จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 3 = 12 นั้น 4 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 3 ในท่ีนี้
หมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 เป็นจานวนกลุ่ม และ3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12
เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 4 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีก่ีถุง ถุงละก่ีช้ิน มีคุกกี้ทั้งหมดกี่
ชิ้น นกั เรียนตอบวา่ มีคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 4 ช้ิน มคี กุ กท้ี ง้ั หมด 16 ชิน้ ครูถามวา่ เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู ไดอ้ ยา่ งไร
นกั เรียนตอบ 4 × 4 = 16 ครตู ดิ บตั รภาพคุกกี้ 4 ถงุ ถงุ ละ 5 ชนิ้ แลว้ ถามนกั เรยี นว่ามคี ุกกกี้ ่ีถงุ ถงุ ละกชี่ ิ้น มีคุกกี้ทง้ั หมดก่ีชิ้น
นกั เรยี นตอบว่า มคี ุกกี้ 4 ถงุ ถุงละ 5 ชิ้น มคี ุกก้ีทงั้ หมด 20 ชิ้น ครถู ามว่า เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู ได้อย่างไร
นกั เรียนตอบ 4 × 5 = 20ครูแนะนาว่า การจดั สิ่งตา่ ง ๆ เป็น 4 กลุม่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั เป็นการนา4 ไปคณู กับจานวนของสง่ิ
ต่าง ๆ อาจเขียนเป็น 4 × 1 = 4 4 × 2 = 8 4 × 3 = 12 4 × 4 = 16 4 × 5 = 20 ซึ่งเรียกว่าสูตรคูณแม่ 4 ครูให้นักเรียน
สังเกตผลคูณจะเห็นว่า สูตรคูณแม่ 4 มีผลคูณเพิ่มขึ้นทีละ 4 จากน้ันครูถามนักเรียนว่า 4 × 6 เท่ากับเท่าไร 4 × 7 เท่ากับ
เท่าไร 4 × 8 เท่ากับเท่าไร 4 × 9 เท่ากับเท่าไร โดยสังเกตจากผลคูณ จากน้ันครูเขียนสูตรคูณแม่ 4 ให้ครบ แล้วให้นักเรียน
อา่ นพร้อมกนั

2. ครูตดิ บัตรภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 1 ชนิ้ แล้วถามนักเรยี นวา่ มีขนมตาลกี่จาน จานละกี่ช้ินมีขนมตาลท้ังหมด
กี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 1 ช้ิน มีขนมตาลท้ังหมด 5 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 1 = 5 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 5 × 1 = 5 นั้น 5 ตัวหน้าในท่ีนี้
หมายถึงอะไร 1 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 5 ตัวหลังในที่น้ีหมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 5 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็น
จานวนสมาชกิ ในแต่ละกลุ่ม และ 5 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดครูติดบัตรภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 2 ชิ้น แล้วถาม
นักเรียนว่า มีขนมตาลกี่จาน จานละกี่ชิ้น มีขนมท้ังหมดกี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 2 ช้ิน มีขนมตาล
ทั้งหมด 10 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 5 × 2 = 10 ครูถามนักเรียนว่า จาก
ประโยคสัญลกั ษณ์การคูณ 5 × 2 = 10 นั้น 5 ในทีน่ ี้หมายถงึ อะไร 2 ในที่นีห้ มายถงึ อะไร และ 10 ในท่ีน้หี มายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 5 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 10 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูติดบัตรภาพ
ขนมตาล 5 จาน จานละ 3 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมตาลก่ีจาน จานละกี่ชิ้น มีขนมตาลท้ังหมดก่ีชิ้น นักเรียนตอบว่ามี
ขนมตาล 5 จาน จานละ 3 ช้นิ มีขนมตาลท้งั หมด 15 ชน้ิ ครูถามวา่ เขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู ไดอ้ ย่างไร
นักเรยี นตอบ 5 × 3 = 15 ครถู ามนกั เรยี นว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 5 × 3 = 15 นั้น 5 ในที่นี้หมายถึงอะไร 3 ในท่ีนี้
หมายถึงอะไร และ 15 ในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 5 เป็นจานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 15

เป็นจานวนสมาชิกทงั้ หมด ครตู ดิ บตั รภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 4 ชิ้น แล้วถามว่ามีขนมตาลกี่จาน จานละกี่ชิ้น มีขนมตาล
ท้ังหมดกี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 4 ชิ้น มีขนมตาลท้ังหมด 20 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 4 = 20 ครูติดบัตรภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 5 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มี
ขนมตาล ก่ีจาน จานละก่ชี นิ้ มขี นมตาลทง้ั หมดกช่ี ้นิ นักเรยี นตอบวา่ มีขนมตาล 5 จาน จานละ 5 ชนิ้ มีขนมตาล
ท้ังหมด 25 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 5 = 25ครูแนะนาว่า การจัดส่ิง
ตา่ ง ๆ เป็น 5 กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน เป็นการนา 5 ไปคูณกับจานวนของส่ิงต่าง ๆอาจเขียนเป็น 5 × 1 = 5 5 × 2 = 10 5 ×
3 = 15 5 × 4 = 20 5 × 5 = 25 ซึ่งเรียกว่า สูตรคูณแม่ 5ครูให้นักเรียนสังเกตผลคูณจะเห็นว่า สูตรคูณแม่ 5 มีผลคูณ
เพิม่ ข้นึ ทีละ 5 จากนั้นครถู ามว่า 5 × 6 เทา่ กบั เท่าไร 5 × 7 เท่ากบั เท่าไร 5 × 8 เท่ากบั เท่าไร 5 × 9 เท่ากับเท่าไร โดยสังเกต
จากผลคณู จากนั้นครเู ขียนสูตรคณู แม่ 5 ใหค้ รบ แล้วให้นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน

3. ครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 4 โดยใช้การถาม-ตอบ เช่น 6 × 4 เท่ากับเท่าไร ซึ่งนักเรียนอาจ
หาผลคูณโดยนา4 มาบวกกัน 6 จานวน (4 + 4 + 4+ 4 + 4 + 4) ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสองจานวนเม่ือสลับ
ท่ีกันผลคณู ยงั คงเท่าเดิม จะได้ 6 × 4 = 4 × 6 ดังน้ัน สามารถหาผลคูณของ 6 × 4 ได้จาก 4 × 6 ซึ่งเท่ากับ 24 จากนนั้นครู
ให้นักเรียนช่วยกันหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 4 และผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 5 ตามหนังสือเรียนหน้า 259 โดย
ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง

ขน้ั อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลัก กับ 4 และหาผลคูณของจานวน
หน่ึงหลัก กับ 5 ตามหนังสือเรียนหน้า 260 แต่จะพบว่าข้อ 3 และข้อ 4 เป็นการใช้การสลับท่ีการคูณเพ่ือหาคาตอบ ซึ่ง
นักเรียนเรียนรู้มาแล้วในหน้า 259 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมของความคิดสร้างสรรค์
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้

ข้ันสรปุ

ข้ันขยายความเข้าใจ

ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่งิ ที่ได้เรียนรู้

• 4 คณู กบั จานวนหนึ่งหลัก หาผลคูณไดโ้ ดยใช้สตู รคูณแม่ 4

• 5 คูณกบั จานวนหน่ึงหลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ตู รคูณแม่ 5

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 164 - 166

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคดิ เกณฑ์การประเมิน
70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตผุ ล

-การสรปุ ความรู้การปฏิบตั ิ

คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม

ทางานรว่ มกับกลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลมุ่

7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. บตั รภาพ
2. สือ่ ของจริง เช่น ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ

7.2 แหล่งการเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 16

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอื่ ผูส้ อน …………………………….…….......................
กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การคูณ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ

เรอื่ ง การคณู จานวนหน่ึงหลักกับจานวนหนึ่งหลัก(3)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึ้นจาก

การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวช้ีวดั ที่ ป.2/5 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลักตบั จานวนไม่เกนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนับไมเ่ กิน1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

• การหาผลคูณของจานวน 1 หลกั กับจานวน2 หลักโดยการตั้งคูณ ต้องคูณในหลักหนว่ ยก่อน แล้วคณู ในหลักสิบ ถา้

ผลคูณในหลักใดครบสิบ หรอื มากกว่าสิบ ใหท้ ดจานวนที่ครบสิบไปหลักถดั ไปทางซา้ ย

• ความรู้สึกเชงิ จานวนเก่ยี วกับการคูณเปน็ การบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกว่ากัน น้อยกวา่ กนั

หรือเท่ากันโดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนนั้น

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลคูณของจานวนหนง่ึ หลักกับ 2 และหาผลคณู ของจานวนหนึง่ หลกั กับ 3

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการท่เี หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ

การคูณจานวนหนึง่ หลักกับจานวนหนง่ึ หลัก พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ข้ันนา

ขั้นกระต้นุ ความสนใจ

1. ครตู ดิ บัตรภาพแอปเปลิ 6 แพ็ก แพ็กละ 1 ผล แล้วถามนักเรียนวา่ มีแอปเปลิ ก่ีแพ็ค แพ็คละก่ีผลมีแอปเปิลท้ังหมด
ก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีแอปเปิล 6 แพ็ค แพ็คละ 1 ผล มีแอปเปิลทั้งหมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คณู ไดอ้ ยา่ งไร


Click to View FlipBook Version