The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2020-06-13 09:12:18

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1-63

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผา่ น
ทางานร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมนิ

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้

1. หนงั สือพมิ พ์
2. บัตรตัวเลข บตั รภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. หนังสอื เรียนสาระการเรยี นรู้พื้นฐาน คณติ ศาสตร์/ส่อื การเรยี น ร้คู ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บัตรภาพ
2. บัตรตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................ ................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 4

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชื่อผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรือ่ ง การหาผลลบโดยใช้เสน้ จานวน

นบั ไมเ่ กิน 1,000

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึ้น

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป.2/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ

ของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบได้โดยใช้เส้นจานวน หรือ แผ่นตารางร้อยแผ่นตารางสิบ และแผน่ ตาราง

หน่วย

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

หาผลลบทต่ี วั ต้งั ไมเ่ กนิ 100 โดยใช้เสน้ จานวน

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการทีเ่ หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลักษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิ่น

การหาผลลบโดยใช้เส้นจานวน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบท่ี 1
ขัน้ นา

ขั้นกระตุน้ ความสนใจ

1. ครยู กสถานการณ์การลบท่ีสอดคลอ้ งกบั ประโยคสัญลกั ษณ์ 25 – 10 =  เชน่ ตอนออกมา
จากบ้านเดก็ ชาย ก นาเงนิ มา 25 บาท ซื้อขนมหน้าโรงเรยี น 10 บาท เดก็ ชาย ก จะเหลือเงินกีบ่ าทให้นักเรียนหาคาตอบ ครู
ควรใช้คาถามเพ่ือใหน้ กั เรยี นแสดงวิธคี ิด หาคาตอบ เชน่

- นกั เรียนสามารถหาคาตอบไดอ้ ย่างไร
- นักเรยี นคดิ วา่ มวี ธิ หี าคาตอบวิธอี ืน่ หรอื ไม่
ครทู บทวนการเขยี นเสน้ จานวน อาจจะเร่มิ จาก 0 หรอื ไม่กไ็ ด้ แล้วแสดงข้ันตอนการหาผลลบโดยการลากเส้นโค้ง ดงั นี้ เรมิ่
จาก 25 ถอยไป 10 ได้ 15 ให้นกั เรียนสงั เกตว่า การลากเส้นโค้งถอยไป 10 เปน็ การลดหลกั สิบไป 1 สบิ ดังน้นั 25 − 10 = 15
ครูตดิ บตั รโจทย์ 25 − 13 =  แล้วแสดงการหาผลลบโดยการลากเส้นโคง้ เรม่ิ จาก 25 ถอยไป 10 กับอีก 3 ได้ 12 ดงั นน้ั
25 − 13 = 12

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. ครยู กสถานการณ์การลบที่สอดคล้องกบั ประโยคสญั ลกั ษณ์ 25 – 10 =  เชน่ ตอนออกมาจากบา้ นเด็กชาย ก
นาเงนิ มา 25 บาท ซอื้ ขนมหน้าโรงเรียน 10 บาท เดก็ ชาย ก จะเหลือเงนิ ก่ีบาทให้นักเรียนหาคาตอบ ครคู วรใช้คาถามเพื่อให้
นกั เรยี นแสดงวธิ คี ิด หาคาตอบ เช่น

- นกั เรยี นสามารถหาคาตอบไดอ้ ย่างไร
- นักเรียนคิดวา่ มวี ธิ หี าคาตอบวิธีอื่นหรือไม่
ครูทบทวนการเขียนเสน้ จานวน อาจจะเรม่ิ จาก 0 หรอื ไม่กไ็ ด้ แล้วแสดงขน้ั ตอนการหาผลลบโดยการลากเสน้ โค้ง ดังนี้ เริ่ม
จาก 25 ถอยไป 10 ได้ 15 ใหน้ กั เรียนสังเกตว่า การลากเส้นโค้งถอยไป 10 เป็นการลดหลักสบิ ไป 1 สบิ ดงั นนั้ 25 − 10 = 15
ครูตดิ บตั รโจทย์ 25 − 13 =  แล้วแสดงการหาผลลบโดยการลากเสน้ โคง้ เรม่ิ จาก 25 ถอยไป 10 กบั อีก 3 ได้ 12 ดังนั้น
25 − 13 = 12
2. ครตู ิดบัตรโจทย์ 68 – 12 =  และ 47 − 21 =  ครูสุ่มนักเรียนออกมาแสดงวิธีหาผลลบ
โดยใชเ้ ส้นจานวน ข้อละ 1 คน แล้วให้เพ่อื นในห้องรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ดงั นี้จาก 68 − 12 =  ลากเส้นโคง้ เร่ิม
จาก 68 ถอยไป 10 ได้ 58 แลว้ ถอยไปอกี 2 ได้ 56 ดงั น้นั 68 − 12 = 56 จาก 47 − 21 =  ลากเส้นโค้งเร่มิ จาก 47 ถอย
ไป 10 ได้ 37 ถอยไปอกี 10 ได้ 27แล้วถอยไปอีก 1 ได้ 26 ดงั นน้ั 47 – 21 = 26
3. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั หาผลลบของจานวนสองจานวน โดยใช้เส้นจานวนทลี ะขอ้ ตามหนังสอื เรยี นหน้า 91 ครูควร
ใช้คาถามกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนคิดหาคาตอบ ดังนี้
- เรมิ่ ลากเส้นโค้งจากจานวนใด
- ถอยไปเทา่ ไร และได้คาตอบเท่าไร
เชน่ 82 − 14 = ลากเส้นโค้งเร่มิ จาก 82 ถอยไป 10 ได้ 72 แลว้ ถอยไปอีก 4 ได้ 68 ดงั นน้ั 82 − 14 = 68

ข้นั สรุป

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรยี นแสดงการหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยใชเ้ ส้นจานวน

เปน็ รายบคุ คลตามหนังสอื เรียนหนา้ 92 ถ้าพบว่ามีนักเรียนยังหาผลลบไม่ถูกตอ้ ง ครใู ห้นักเรียนมาฝกึ เพ่ิมเติมกับครูเป็น

รายบุคคล จากนัน้ ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้

- การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบไดโ้ ดยใช้เส้นจานวน

ข้ันตรวจสอบผล

- การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบได้โดยใชเ้ สน้ จานวนจากน้นั ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัด หน้า 56 − 58

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุน้ ความคดิ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหัด 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรูก้ ารปฏิบัติ

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

ทางานรว่ มกบั กล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ

7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้

7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. หนงั สอื พมิ พ์

2. บตั รตัวเลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ

3. หนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐาน คณิตศาสตร์/ส่อื การเรยี น รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

. 1. บัตรภาพ

2. บตั รตวั เลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ...............................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร

(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 5

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอ่ื ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรอ่ื ง การหาผลลบโดยใชแ้ ผ่นตารางรอ้ ย แผ่น

นับไม่เกิน 1,000 ตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดข้ึน

จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ัดท่ี ป.2/4 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบไดโ้ ดยใชเ้ ส้นจานวน หรือ แผน่ ตารางร้อยแผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตาราง

หนว่ ย

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลลบท่ีตัวต้ังไม่เกิน 1,000 โดยใชแ้ ผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถนิ่

การหาผลลบโดยใช้แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสิบ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

แผน่ ตารางหนว่ ย

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขั้นนา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมหาผลลบตามหนงั สอื เรียนหน้า 93 โดยแบง่ นักเรยี นเปน็ กลุม่ และแจกอปุ กรณก์ ลมุ่ ละ 1
ชดุ ครูติดบตั รโจทย์ 219 − 118 =  แลว้ ถามนักเรยี นวา่ จะหาคาตอบได้อยา่ งไร ครูสาธิตการหาผลลบโดยใช้แผ่นตาราง
ร้อย แผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ยในการหาคาตอบ ดังน้ีครูแสดงจานวน 219 ด้วยแผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ และ
แผ่นตารางหนว่ ย

ขนั้ สอน

ขนั้ สารวจค้นหา

1. ครใู ห้นกั เรยี นทากจิ กรรมหาผลลบตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 93 โดยแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ และแจกอุปกรณ์กลุ่มละ 1
ชดุ ครูติดบัตรโจทย์ 219 − 118 =  แลว้ ถามนกั เรียนว่าจะหาคาตอบได้อยา่ งไร ครูสาธติ การหาผลลบโดยใช้แผน่ ตาราง
ร้อย แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยในการหาคาตอบ ดังนี้ครแู สดงจานวน 219 ด้วยแผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และ
แผ่นตารางหนว่ ย ครูถามนักเรียนวา่

- 219 ลบดว้ ย 118 หมายความว่าอยา่ งไร
- 219 เอาออก 118 จะเหลือเท่าไร มวี ิธหี าคาตอบไดอ้ ยา่ งไร
นักเรยี นตอบว่า ต้องนาแผน่ ตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย ที่แสดงจานวน 118 ออกไปจากแผ่นตารางรอ้ ย
แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วย ทแี่ สดงจานวน 219 แลว้ ผลลบนับได้จากแผ่นตารางทเี่ หลอื จากนั้นครูถามนักเรยี นวา่
ตอ้ งนาแผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย ออกไปอยา่ งละกีแ่ ผน่ ครูแสดงการลบโดยการเอาแผ่นตารางร้อย
ออก 1 แผ่น แผ่นตารางสบิ ออก 1 แผน่ และแผน่ ตารางหน่วยออก 8 แผน่ ผลลบคือ แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผน่
ตารางหนว่ ย ท่เี หลอื อยู่ ครูให้นักเรยี นนับแผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วยท่ีเหลือ จะได้ แผน่ ตารางรอ้ ย
1 แผน่ แผ่นตารางสบิ 0 แผน่ และแผน่ ตารางหน่วย 1 แผน่ ซงึ่ แสดงจานวน 101 ดังนน้ั 219 − 118 = 101 ครใู ห้นกั เรยี น
ตรวจสอบวา่ 101 + 118 = 219 หรอื ไมค่ รูกาหนดจานวนครง้ั ละ 2 จานวน เช่น 314 กบั 212 ให้นกั เรียนหาผลลบโดยไมม่ ี
การกระจาย และใหส้ ังเกตวา่ ผลลบบวกกบั ตัวลบเท่ากบั ตัวต้ัง
2. ครูติดบตั รโจทย์ 350 − 237 =  ซ่ึงเปน็ การลบท่มี ีการกระจาย ครสู าธิตการลบโดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย แผน่
ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย ดังน้ี ครูแสดงจานวน 350 ดว้ ยแผ่นตารางร้อย 3 แผน่ แผน่ ตารางสบิ 5 แผ่น ครถู าม
นักเรยี นวา่
- 350 ลบดว้ ย 237 หมายความวา่ อย่างไร
- 350 เอาออก 237 จะเหลือเทา่ ไร มีวิธีหาคาตอบได้อย่างไร
นักเรียนตอบวา่ ตอ้ งนาแผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย ทแ่ี สดงจานวน 237 ออกไปจากแผ่นตารางร้อย
แผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ย ที่แสดงจานวน 350 แล้วผลลบนบั ได้จากแผ่นตารางท่ีเหลือ จากนั้นครถู ามนักเรียนวา่
ต้องนาแผน่ ตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสิบและแผ่นตารางหนว่ ย ออกไปอย่างละกี่แผ่นครูแสดงการลบโดยการเอาแผน่ ตารางรอ้ ย
ออก 2 แผ่น แผน่ ตารางสบิ ออก 3 แผน่ และแผน่ ตารางหน่วยออก 7 แผ่น แตเ่ นือ่ งจากแผน่ ตารางหน่วยท่ีแสดงจานวน 350
มี 0 แผ่น จงึ ตอ้ งกระจายแผ่นตารางสิบมา 1 แผน่ ได้แผน่ ตารางหนว่ ย 10 แผ่นก่อน แลว้ จงึ เอาแผน่ ตารางหน่วยออก 7 แผน่
ผลลบคือ แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ยทเี่ หลืออยู่ ครูให้นักเรียนนับแผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ

และแผ่นตารางหน่วยท่เี หลือจะได้ แผ่นตารางร้อย 1 แผน่ แผ่นตารางสบิ 1 แผ่น และแผ่นตารางหน่วย 3 แผน่ ซ่งึ แสดง
จานวน 113 ดงั น้นั 350 − 237 = 113 ครใู ห้นกั เรียนตรวจสอบว่า 113 + 237 = 350 หรือไม่ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั หาผลลบ
โดยใช้แผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วยในกรอบท้ายหนา้ 94 และตรวจสอบว่า ผลลบบวกกับตัวลบ
เท่ากบั ตวั ตงั้ หรือไม่ จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

3. ใชว้ ธิ จี ดั กิจกรรมเหมอื นหน้า 94 แตเ่ น้นใหน้ กั เรียนกระจายแผ่นตารางร้อย 1 แผ่น เป็นแผน่ ตารางสบิ 10 แผ่น ครู
ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั หาผลลบโดยใช้ แผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสิบ และแผน่ ตารางหน่วยในกรอบท้ายหนา้ 95 และตรวจสอบ
ว่า ผลลบบวกกับตัวลบเทา่ กับตวั ตงั้ หรือไม่ จากนัน้ ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง

ขั้นสรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนแสดงการหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยใช้แผ่นตาราง

ร้อย แผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหน่วยเป็นรายบคุ คลตามหนังสอื เรยี นหน้า 96 ถ้าพบว่ามนี ักเรยี นยังหาผลลบไม่ถูกต้อง ครู

ให้นักเรยี นมาฝึกเพ่มิ เติมกับครูเปน็ รายบุคคล จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สงิ่ ที่ได้เรยี นรู้

- การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบโดยใช้แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหนว่ ย

- ผลลบบวกตวั ลบเท่ากับตัวตั้ง

ขั้นตรวจสอบผล

- การลบจานวนสองจานวนอาจหาผลลบโดยใชแ้ ผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย

- ผลลบบวกตวั ลบเท่ากบั ตัวตงั้ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัด หน้า 59 − 60

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผ่าน

-การให้เหตผุ ล เกณฑ์การประเมิน

-การสรุปความรกู้ ารปฏิบตั ิ

คุณลักษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

ทางานร่วมกบั กลุม่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมิน

7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. หนงั สือพมิ พ์
2. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์/สอื่ การเรียน รูค้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 5

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ช่ือผ้สู อน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรอ่ื ง การหาผลลบโดยการต้งั ลบไม่มกี ารกระจาย

นับไม่เกนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกิดขึน้

จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ช้วี ดั ที่ ป.2/4 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตั้งลบ ต้องเขียนเลขโดดในหลักเดียวกนั ใหต้ รงกัน แล้วจึงนาจานวนทอ่ี ยู่

ในหลกั เดยี วกันมาลบกันโดยเร่ิมจากหลักหน่วยหลกั สิบ และหลักร้อย ตามลาดบั

− ถ้าเลขโดดในหลกั หนว่ ยของตวั ตงั้ มีค่าน้อยกว่าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักสิบไป

หลกั หนว่ ย

− ถา้ เลขโดดในหลกั สิบของตัวตงั้ มีค่านอ้ ยกว่าเลขโดดในหลักสบิ ของตัวลบ ตอ้ งกระจายจานวนจากหลกั ร้อยไปหลัก

สบิ การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตั้งลบ ให้นาจานวนสองจานวนมาลบกนั ก่อน แล้วนาผลลบไปลบกบั จานวนท่ี

เหลอื

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลลบโดยการต้งั ลบไม่มีการกระจายทตี่ วั ตง้ั ไมเ่ กิน 1,000

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ กี ารทีเ่ หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ

การหาผลลบโดยการตงั้ ลบไมม่ ีการกระจาย พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ข้ันนา

ขั้นกระตุ้นความสนใจ

1. ครูนาเข้าส่บู ทเรยี นโดยการสนทนากับนักเรยี นว่า ตน้ กล้ามีเงิน 198 บาท ซื้อลกู ชิ้น 75 บาท ตน้ กลา้ เหลือเงนิ ก่ี
บาท ซ่งึ เปน็ สถานการณ์ท่ีตอ้ งใช้การลบ ครถู ามนักเรยี นว่าจะหาคาตอบได้อยา่ งไร นกั เรียนตอบว่า นา 198 ลบด้วย 75 ครู
ถามว่าจะหาผลลบได้อยา่ งไรบา้ ง นักเรยี นอาจตอบว่าหาผลลบโดยใช้แผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบและแผน่ ตารางหน่วย ครู
ถามนกั เรียนวา่ จะมวี ธิ ีอ่ืนในการหาผลลบได้อีกหรอื ไม่ นักเรยี นอาจตอบว่าหาผลลบโดยการตั้งลบครถู ามนักเรียนวา่ การหา
ผลลบโดยการตง้ั ลบจะมีวธิ กี ารต้ังลบอย่างไร นักเรยี นตอบวา่ เขยี นเลขโดดในหลักเดยี วกนั ใหต้ รงกัน แล้วนาจานวนในหลกั
เดยี วกันมาลบกัน ครตู ิดบัตรคา หลักร้อย หลกั สิบ หลักหน่วย และบัตรตัวเลข 198 และ 75 บนกระดาน โดยใหเ้ ลขโดดท่ีอยู่
ในหลกั เดยี วกันตรงกนั ครสู าธิตการลบโดยการตั้งลบทลี ะขั้นตอน ดังตัวอย่างในหนังสอื เรยี นหนา้ 97 จะได้ 198 − 75 = 123
ดังนน้ั ต้นกล้าเหลือเงนิ 123 บาท

ขั้นสอน

ขั้นสารวจคน้ หา

1. ครนู าเข้าสูบ่ ทเรียนโดยการสนทนากับนักเรยี นว่า ตน้ กล้ามีเงนิ 198 บาท ซ้ือลูกช้นิ 75 บาท ตน้ กลา้ เหลอื เงนิ กี่
บาท ซึ่งเปน็ สถานการณ์ทต่ี ้องใชก้ ารลบ ครูถามนักเรียนวา่ จะหาคาตอบได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบว่า นา 198 ลบด้วย 75 ครู
ถามวา่ จะหาผลลบได้อยา่ งไรบา้ ง นักเรยี นอาจตอบว่าหาผลลบโดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบและแผน่ ตารางหน่วย ครู
ถามนกั เรยี นว่า จะมวี ิธีอ่ืนในการหาผลลบได้อีกหรอื ไม่ นักเรียนอาจตอบวา่ หาผลลบโดยการตง้ั ลบครถู ามนักเรียนว่า การหา
ผลลบโดยการต้งั ลบจะมีวิธกี ารต้ังลบอย่างไร นักเรียนตอบวา่ เขียนเลขโดดในหลักเดียวกนั ให้ตรงกัน แลว้ นาจานวนในหลัก
เดียวกันมาลบกัน ครูติดบัตรคา หลกั ร้อย หลักสบิ หลักหนว่ ย และบตั รตัวเลข 198 และ 75 บนกระดาน โดยใหเ้ ลขโดดทอี่ ยู่
ในหลกั เดยี วกนั ตรงกัน ครูสาธติ การลบโดยการตง้ั ลบทลี ะขั้นตอน ดังตัวอย่างในหนงั สือเรยี นหนา้ 97 จะได้ 198 − 75 = 123
ดังนัน้ ต้นกลา้ เหลอื เงนิ 123 บาท
2. ครยู กตวั อย่างจานวนสามหลักลบดว้ ยจานวนสามหลักทไี่ ม่มีทด เช่น 597 − 216 =  ครสู าธิต
การหาผลลบโดยการตั้งลบทลี ะขนั้ ตอน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 98 โดยเน้นย้าว่า การเขียนตวั เลขในการตง้ั ลบ
ต้องเขยี นเลขโดดท่ีอย่ใู นหลกั เดยี วกนั ให้ตรงกนั แลว้ นาจานวนในหลักเดยี วกนั มาลบกนั
3. ครูยกตัวอย่าง 497 − 23 = ดงั นี้ เขยี นเลขโดดในหลักเดียวกนั ใหต้ รงกนั
ข้ันท่ี 1 ลบในหลกั หน่วย 7 หนว่ ยลบด้วย 3 หนว่ ย ได้ 4 หนว่ ย
ขั้นท่ี 2 ลบในหลกั สิบ 9 สบิ ลบดว้ ย 2 สบิ ได้ 7 สบิ
ขั้นที่ 3 ลบในหลกั รอ้ ย 4 ร้อยลบดว้ ย 0 รอ้ ย ได้ 4 ร้อย
ดังน้ัน 497 − 23 = 474 จากน้ันครูยกตวั อยา่ งท่ี 2 986 − 452 =  ให้นกั เรยี นช่วยกนั แสดงวิธี
หาผลลบโดยการตง้ั ลบ ทานองเดยี วกับตวั อยา่ งท่ี 1 โดยบอกขั้นตอนการหาผลลบทีละขั้นตอน แล้วครู
ใหน้ ักเรียนหาผลลบ ขอ้ 1 - 4 ทลี ะข้อ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 99 ครแู สดงวิธีคิดท่ีถูกต้องทลี ะข้อเพ่ือตรวจสอบ
ความถูกต้อง ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ขัน้ ตอนการหาผลลบโดยการต้ังลบ

ข้ันสรปุ

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

4. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรยี นแสดงการหาผลลบโดยการตง้ั ลบเป็นรายบคุ คล ตามหนังสอื เรียนหนา้

100 ถา้ พบวา่ มนี ักเรยี นยังหาผลลบไม่ถกู ต้องครูใหน้ ักเรียนมาฝึกเพ่ิมเตมิ กับครูเป็นรายบุคคล จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกัน

ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้

- การหาผลลบโดยการตงั้ ลบ ต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดยี วกันใหต้ รงกนั แล้วจงึ นาจานวนทอี่ ยใู่ นหลกั เดียวกนั มาลบกนั

ขน้ั ตรวจสอบผล

- การหาผลลบโดยการตงั้ ลบ ต้องเขยี นเลขโดดในหลกั เดียวกนั ให้ตรงกนั แลว้ จึงนาจานวนที่อยใู่ นหลกั เดยี วกนั มาลบกัน

จากนัน้ ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หดั หน้า 61 – 63

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขึ้นไป ถือว่าผ่าน

-การใหเ้ หตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน

ทางานร่วมกับกล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมิน

7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้

1. หนังสอื พมิ พ์
2. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ
3. หนงั สือเรียนสาระการเรยี นรู้พ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์/ส่ือการเรียน รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 5

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การบวกและการลบจานวน เรอื่ ง การหาผลลบโดยการต้ังลบมีการกระจาย(1)

นับไมเ่ กิน 1,000

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขนึ้

จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป.2/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตง้ั ลบ ตอ้ งเขยี นเลขโดดในหลักเดียวกันใหต้ รงกัน แลว้ จงึ นาจานวนทีอ่ ยู่

ในหลักเดยี วกนั มาลบกนั โดยเร่มิ จากหลกั หนว่ ยหลกั สิบ และหลักร้อย ตามลาดบั

− ถ้าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวตั้งมคี า่ น้อยกวา่ เลขโดดในหลกั หนว่ ยของตัวลบ ตอ้ งกระจายจานวนจากหลักสิบไป

หลักหนว่ ย

− ถ้าเลขโดดในหลักสบิ ของตัวต้งั มีค่านอ้ ยกว่าเลขโดดในหลกั สิบของตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักร้อยไปหลัก

สบิ การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตั้งลบ ใหน้ าจานวนสองจานวนมาลบกนั ก่อน แลว้ นาผลลบไปลบกับจานวนท่ี

เหลอื

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลลบโดยการตั้งลบมีการกระจายหนง่ึ หลกั ที่ตัวต้งั ไม่เกนิ 1,000

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการท่ีเหมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่

การหาผลลบโดยการตงั้ ลบมีการกระจาย พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ขัน้ นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูสนทนาเก่ียวกับสถานการณ์ ในหนงั สอื เรียนหนา้ 101 เขียนประโยคสัญลกั ษณ์แล้วทบทวนการหาผลลบโดยใช้
แผ่นตารางร้อยแผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย เช่น 325 − 119 =  ใหน้ กั เรียนหาผลลบโดยใชแ้ ผน่ ตารางรอ้ ย แผน่
ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย ครูสาธิตการหาผลลบโดยการต้ังลบทม่ี ีการกระจาย ซึ่งในตวั อย่างนจ้ี ะเป็นการกระจายจาก
หลักสบิ ไปหลกั หนว่ ย ครูตดิ บัตรคาหลักรอ้ ย หลักสบิ หลกั หนว่ ย และ บตั รตัวเลข 325 และ 119 บนกระดาน โดยให้เลขโดด
ที่อยู่ในหลักเดียวกนั ตรงกัน ครูสาธิตการลบโดยการต้ังลบทีละขัน้ ตอน

ขั้นสอน

ข้ันสารวจค้นหา

1. ครูสนทนาเก่ียวกับสถานการณ์ ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 101 เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์แลว้ ทบทวนการหาผลลบโดยใช้
แผ่นตารางร้อยแผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหน่วย เชน่ 325 − 119 =  ให้นักเรยี นหาผลลบโดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย แผน่
ตารางสิบ และแผ่นตารางหนว่ ย ครูสาธติ การหาผลลบโดยการต้ังลบทม่ี ีการกระจาย ซงึ่ ในตวั อยา่ งนจี้ ะเป็นการกระจายจาก
หลกั สิบไปหลกั หน่วย ครตู ิดบัตรคาหลักร้อย หลักสบิ หลกั หน่วย และ บตั รตวั เลข 325 และ 119 บนกระดาน โดยให้เลขโดด
ที่อยูใ่ นหลักเดียวกันตรงกนั ครูสาธติ การลบโดยการตัง้ ลบทีละขน้ั ตอน

ขั้นที่ 1 ลบในหลักหนว่ ย 5 หนว่ ย ลบด้วย 9 หน่วย ตัวตัง้ น้อยกกว่าตวั ลบ เมอ่ื เทียบกบั วิธีการหาผลลบโดยใช้แผน่
ตาราง “เม่ือแผ่นตารางหนว่ ยของตัวตัง้ น้อยกว่าตัวลบ จงึ ต้องกระจายแผน่ ตารางสิบมา 1 แผ่น ได้แผ่นตารางหน่วย 10 หนว่ ย
รวมกับแผน่ ตารางหนว่ ยทีม่ ีอย่เู ดมิ 5 หนว่ ย เป็น 15 หน่วย แลว้ จึงเอาออกไป 9 หน่วย ได้ผลลบเป็น 6 หน่วย” ดงั นนั้ การลบ
ในหลักหนว่ ย 15 − 9 ได้ 6 หน่วย

ขน้ั ท่ี 2 ลบในหลักสิบ 2 สิบทเี่ ป็นตวั ต้ังกระจายไปแล้ว 1 สบิ เหลอื 1 สิบ ลบดว้ ย 1 สบิ ทเี่ ปน็ ตัวลบ ได้ 0 สบิ
ขน้ั ท่ี 3 ลบในหลักรอ้ ย 3 รอ้ ย ลบด้วย 1 ร้อย ได้ 2 ร้อย ดงั ตัวอย่างในหนังสือเรียนหน้า 101 จะได้
325 − 119 = 206 ดงั นัน้ เป็นนักเรียนหญงิ 206 คน ครูให้นกั เรยี นสังเกตวา่ ผลลบบวกตัวลบเท่ากับตวั ตง้ั ดงั นัน้ 206 +
119 = 325
ครูเน้นย้าว่า การหาผลลบโดยการต้งั ลบ เขยี นเลขโดดในหลกั เดียวกันให้ตรงกนั แล้วนาจานวนในแตล่ ะหลกั มาลบ
กนั โดยเริ่มจากหลักหน่วย หลักสบิ และหลกั ร้อย ตามลาดบั ถ้าเลขโดดในหลักหนว่ ยของตัวตั้งมคี ่านอ้ ยกวา่ เลขโดดใน
หลักหนว่ ยของตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักสิบไปหลักหน่วย
2. ครยู กตัวอยา่ ง 264 − 191 =  ครูสาธติ การหาผลลบโดยการตัง้ ลบท่ีมกี ารกระจายจากหลักรอ้ ยไปหลกั สิบ
ข้นั ที่ 1 ลบในหลกั หน่วย 4 หนว่ ย ลบดว้ ย 1 หนว่ ย ได้ 3 หน่วย
ข้ันที่ 2 ลบในหลกั สบิ 6 สบิ ลบดว้ ย 9 สิบ ตัวตั้งน้อยกว่าตัวลบ จึงต้องกระจาย 1 ร้อยจากหลักรอ้ ย
มา 10 สิบ รวมกบั ตัวตง้ั 6 สบิ ได้ 16 สบิ ลบดว้ ย 9 สบิ ได้ 7 สบิ
ขน้ั ที่ 3 ลบในหลกั รอ้ ย ตวั ตง้ั 2 รอ้ ยกระจายไปแล้ว 1 รอ้ ย เหลือ 1 ร้อย ลบดว้ ย 1 ร้อย ได้ 0 ร้อย ดังนนั้ 264 −
191 = 73 ครใู ห้นักเรยี นสังเกตว่า 73 + 191 = 264 ดังนนั้ ผลลบบวกตวั ลบเท่ากบั ตวั ตั้ง
ครเู น้นย้าวา่ การหาผลลบโดยการตั้งลบ เขยี นเลขโดดในหลักเดียวกันให้ตรงกนั แล้วนาจานวนในแต่ละหลักมาลบ
กนั โดยเร่ิมจากหลกั หน่วย หลกั สิบ และหลกั ร้อย ตามลาดับ ถา้ เลขโดดในหลักสิบ

ของตัวต้ังมีค่านอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลักสบิ ของตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักร้อยไปหลักสิบ
3. ครยู กตวั อยา่ ง 437 − 92 =  หาผลลบโดยการตั้งลบทลี ะขนั้ ตอน ดังน้ี ลบในหลักหนว่ ย

7 หนว่ ย ลบด้วย 2 หนว่ ย ได้ 5 หน่วย ลบในหลกั สิบ ตัวต้ังนอ้ ยกวา่ ตวั ลบ จึงกระจายจากหลักร้อย
มาหลักสบิ ได้ 13 สิบ ลบด้วย 9 สบิ ได้ 4 สบิ ลบในหลักร้อย 4 ร้อย กระจายไปแลว้ 1 รอ้ ย เหลือ 3 รอ้ ย
ลบดว้ ย 0 ร้อย ได้ 3 รอ้ ย ดงั น้นั 437 − 92 = 345 จากน้นั ครยู กตัวอยา่ งท่ี 2 290 − 152 =  ให้นักเรยี นช่วยกันแสดง
วิธกี ารหาผลลบโดยการตงั้ ลบทานองเดียวกบั ตัวอย่างท่ี 1 โดยบอกขัน้ ตอนการหาผลลบทีละขั้นตอน แล้วครูใหน้ ักเรยี นหา
คาตอบข้อ 1 − 8 ทีละข้อ ตามหนังสอื เรยี นหน้า 103

ครแู สดงวธิ คี ดิ ทีถ่ ูกต้องทลี ะข้อเพ่ือตรวจสอบความถกู ต้อง ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ข้ันตอน
การหาผลลบโดยการต้งั ลบวา่ การหาผลลบโดยการตั้งลบ สามารถทาไดโ้ ดย เขียนเลขโดดในหลกั เดียวกนั ให้ตรงกัน แล้วนา
จานวนในแตล่ ะหลกั มาลบกัน โดยเรมิ่ จากหลกั หน่วย หลกั สิบและหลกั รอ้ ยตามลาดับ ถ้าเลขโดดในหลกั หน่วยของตัวต้ังมี
คา่ น้อยกว่าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวลบ ตอ้ งกระจายจานวนจากหลกั สบิ ไปหลกั หน่วย ถา้ เลขโดดในหลักสบิ ของตัวตั้ง
มคี ่านอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลักสบิ ของตวั ลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักรอ้ ยไปหลกั สิบ

ข้นั สรุป

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรียนแสดงการหาผลลบโดยการต้ังลบเป็นรายบคุ คล ตามหนงั สือ

เรยี นหนา้ 104 ถา้ พบว่ามีนักเรียนยงั หาผลลบไมถ่ ูกต้อง ครูใหน้ ักเรยี นมาฝกึ เพ่ิมเตมิ กับครเู ปน็ รายบคุ คลจากน้ันครูและ

นกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้

- การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตัง้ ลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลกั เดยี วกันให้ตรงกนั แล้วจึงนาจานวนท่ี

อยู่ในหลักเดียวกันมาลบกนั โดยเร่มิ จากหลักหน่วย หลักสิบ และหลกั ร้อย ตามลาดบั

- ถ้าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวตงั้ มคี า่ นอ้ ยกว่าเลขโดดในหลักหน่วยของตวั ลบ ต้องกระจายจานวนจากหลกั สบิ ไป

หลกั หน่วย

- ถา้ เลขโดดในหลักสิบของตวั ตงั้ มคี ่าน้อยกว่าเลขโดดในหลกั สบิ ของตัวลบตอ้ งกระจายจานวนจากหลักร้อยไปหลักสบิ

ข้ันตรวจสอบผล

- การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการต้งั ลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลักเดยี วกนั ให้ตรงกัน แลว้ จึงนาจานวนท่ีอยู่

ในหลักเดียวกันมาลบกนั โดยเร่มิ จากหลักหนว่ ย หลกั สบิ และหลักร้อย ตามลาดบั

- ถ้าเลขโดดในหลกั หนว่ ยของตวั ตั้งมีคา่ น้อยกวา่ เลขโดดในหลักหนว่ ยของตวั ลบ ต้องกระจายจานวนจากหลกั สิบไป

หลกั หนว่ ย

- ถา้ เลขโดดในหลักสิบของตวั ตัง้ มคี ่าน้อยกวา่ เลขโดดในหลักสบิ ของตัวลบตอ้ งกระจายจานวนจากหลักร้อยไปหลกั สิบ

จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หดั หนา้ 64 − 66

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระต้นุ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
คุณลักษณะนิสัย (A) -การใหเ้ หตุผล เกณฑ์การประเมนิ
-การสรุปความร้กู ารปฏิบตั ิ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
ขณะ ทางานรว่ มกับกล่มุ 70% ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน
- สงั เกตพฤติกรรมขณะ เกณฑ์การประเมนิ
ทางานรว่ มกบั กลุ่ม

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. หนงั สอื พมิ พ์
2. บัตรตัวเลข บตั รภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้พน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์/สื่อการเรยี น รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บัตรภาพ
2. บตั รตวั เลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 5

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรื่อง การหาผลลบโดยการต้งั ลบมกี ารกระจาย(2)

นบั ไมเ่ กิน 1,000

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ข้นึ

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป.2/4 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการต้ังลบ ต้องเขียนเลขโดดในหลักเดียวกันให้ตรงกัน แล้วจงึ นาจานวนท่ีอยู่

ในหลักเดยี วกนั มาลบกนั โดยเริม่ จากหลกั หน่วยหลกั สบิ และหลักร้อย ตามลาดับ

− ถ้าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวตั้งมคี ่าน้อยกว่าเลขโดดในหลักหนว่ ยของตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลกั สบิ ไป

หลักหนว่ ย

− ถ้าเลขโดดในหลกั สิบของตัวตง้ั มีคา่ นอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลกั สบิ ของตวั ลบ ต้องกระจายจานวนจากหลกั รอ้ ยไปหลกั

สบิ การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตัง้ ลบ ให้นาจานวนสองจานวนมาลบกันก่อน แล้วนาผลลบไปลบกับจานวนท่ี

เหลอื

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลลบโดยการต้ังลบมกี ารกระจายหนึ่งหลกั ที่ตวั ตง้ั ไม่เกนิ 1,000

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่

การหาผลลบโดยการตงั้ ลบมีการกระจาย พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ข้ันนา

ขน้ั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูทบทวนการหาผลลบโดยการต้งั ลบมีการกระจายหนงึ่ หลัก โดยให้นกั เรียนบอกข้ันตอนการหาผลลบ เขียนเลข
โดดในหลักเดียวกันให้ตรงกัน แล้วนาจานวนในแตล่ ะหลกั มาลบกัน โดยเริม่ จากหลกั หน่วยหลกั สบิ และหลกั รอ้ ย
ตามลาดับ ถ้าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวตั้งมคี า่ น้อยกว่าเลขโดดในหลกั หน่วยของตวั ลบต้องกระจายจานวนจากหลกั
สบิ ไปหลกั หนว่ ย ถ้าเลขโดดในหลักสบิ ของตัวตั้งมีค่าน้อยกว่าเลขโดดในหลักสิบของตัวลบต้องกระจายจานวนจากหลกั
รอ้ ยไปหลักสบิ

ข้ันสอน

ข้ันสารวจค้นหา

1. ครูทบทวนการหาผลลบโดยการตง้ั ลบมีการกระจายหนึ่งหลัก โดยใหน้ กั เรยี นบอกข้นั ตอนการหาผลลบ เขยี นเลข
โดดในหลกั เดยี วกันใหต้ รงกัน แลว้ นาจานวนในแต่ละหลักมาลบกนั โดยเรมิ่ จากหลักหน่วยหลักสบิ และหลกั รอ้ ย
ตามลาดบั ถ้าเลขโดดในหลกั หน่วยของตัวต้ังมคี า่ น้อยกวา่ เลขโดดในหลักหน่วยของตัวลบต้องกระจายจานวนจากหลัก
สิบไปหลกั หนว่ ย ถา้ เลขโดดในหลักสิบของตัวตง้ั มคี า่ น้อยกว่าเลขโดดในหลักสิบของตัวลบต้องกระจายจานวนจากหลกั
รอ้ ยไปหลักสบิ ครสู นทนาเกี่ยวกบั สถานการณ์ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 105 เพื่อใหน้ ักเรียนหาผลลบ ควรใหน้ กั เรียน
ลองหาผลลบดว้ ยตัวเองก่อน จากน้นั ครสู าธติ การหาผลลบโดยการต้งั ลบท่ีมกี ารกระจายมากกว่า
หนง่ึ หลกั เชน่ 430 − 291 =  ใหน้ ักเรยี นหาผลลบโดยการตั้งลบ ครถู ามนักเรยี นว่า การหาผลลบโดยการต้งั ลบตอ้ งทา
อยา่ งไร นกั เรียนตอบวา่ เขียนเลขโดดในหลกั เดยี วกนั ให้ตรงกนั แล้วนาจานวนในหลักเดียวกันมาลบกัน ครูถามนักเรียนวา่
เริม่ หาผลลบจากหลักใดก่อน นกั เรียนตอบวา่ เรม่ิ ลบจากหลักหนว่ ย หลักสบิ และหลกั ร้อยตามลาดับ ครคู วรให้นักเรียนเปน็
ผู้บอกข้ันตอนในการหาผลลบทีละข้ัน ครูสาธติ การหาผลลบโดยการตง้ั ลบทีม่ ีการกระจายจากหลกั สบิ ไปหลักหน่วยและจาก
หลักร้อยไปหลักสิบ ครตู ิดบัตรคา หลกั ร้อย หลักสบิ หลกั หนว่ ย และบัตรตวั เลข 430 และ 291 บนกระดาน โดยใหเ้ ลขโดดท่ี
อยู่ในหลกั เดยี วกันตรงกนั ครูสาธิตการลบโดยการต้งั ลบทลี ะขนั้ ตอน

ขั้นท่ี 1 ลบในหลักหน่วย ตัวต้งั นอ้ ยกวา่ ตัวลบ ต้องกระจายจากหลกั สบิ มา 1 สิบ เป็น 10 หนว่ ย
ลบด้วย 1 หนว่ ย ได้ 9 หน่วย

ข้ันที่ 2 ลบในหลกั สบิ ตวั ตงั้ นอ้ ยกวา่ ตวั ลบตอ้ งกระจายจากหลักร้อยมา 10 สบิ เป็น 12 สบิ ลบดว้ ย 9 สิบ ได้ 3 สบิ
ขั้นท่ี 3 ลบในหลกั ร้อย 4 ร้อย กระจายไปแลว้ 1 ร้อย เหลอื 3 ร้อย ลบดว้ ย 2 ร้อย ได้ 1 ร้อย ดังตัวอย่างในหนังสือเรยี นหนา้
105ดงั นน้ั 430 − 291 = 139 ครใู หน้ ักเรยี นสงั เกตว่า 139 + 291 = 430 ดังนัน้ ผลลบบวกตัวลบเท่ากบั ตวั ตงั้

2. ครยู กตวั อยา่ งการหาผลลบของจานวนสองจานวน เชน่ 506 − 149 =  ซง่ึ ในตัวอย่างต้องมกี ารกระจายจาก
หลักสิบไปหลกั หน่วย และกระจายจากหลกั ร้อยไปหลกั สิบ แตเ่ นอ่ื งจากเลขโดดในหลกั สิบเป็น 0 จึงต้องกระจายจากหลกั รอ้ ย
ไปหลักสิบก่อน แลว้ จึงกระจายจากหลกั สบิ ไปหลักหน่วยดงั นี้
หลกั ร้อย 5 รอ้ ย กระจายไปหลักสบิ 1 รอ้ ย เหลอื 4 รอ้ ยหลกั สบิ 0 สิบ กับท่ีกระจายมา 1 ร้อย หรอื 10 สิบ รวมเปน็ 10 สิบ
และกระจายไปหลักหนว่ ย 1 สิบ เหลือ 9 สิบหลกั หนว่ ย 6 หน่วยกับท่ีกระจายมา 1 สิบ หรอื 10 หนว่ ย รวมเป็น 16 หน่วย
แล้วนาจานวนในหลักเดยี วกันมาลบกนั จะได้ 506 − 149 = 357 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 106 จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั หา
ผลลบในกรอบทา้ ยหนา้ 106

3. ครูให้นักเรียนชว่ ยกันหาผลลบโดยการต้ังลบจากตวั อยา่ ง 724 − 136 =  ในหนงั สือเรยี นหนา้ 107 โดยครใู ช้
การถาม-ตอบในการหาผลลบในแต่ละหลกั เช่น 4 หน่วย ลบดว้ ย 6 หนว่ ย ได้กหี่ น่วย ต้องกระจายจากหลกั สิบมาเท่าไร เป็น
เท่าไร 2 สิบ กระจายไปแลว้ 1 สบิ เหลอื เท่าไร ต้องกระจายจากหลกั ร้อยมาเทา่ ไร เป็นเท่าไร 7 ร้อย กระจายไปแล้ว 1 รอ้ ย
เหลอื เท่าไร ลบดว้ ย 1 ร้อย ได้เท่าไร และคาตอบเป็นเท่าไรให้นักเรยี นหาคาตอบในข้อ 1 − 8 ทลี ะขอ้ แลว้ ครแู สดงวิธคี ดิ ที่
ถกู ต้องทลี ะข้อเพื่อตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครคู วรใหน้ กั เรยี นสงั เกต ผลลบบวกตัวลบเทา่ กบั ตัวตัง้ และเนน้ ยา้ การลบท่ีกระจาย
จากหลักพนั ในข้อ 4ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปข้นั ตอนการหาผลลบโดยการต้งั ลบ ครเู น้นย้าว่า การหาผลลบของจานวนสอง
จาวนโดยการตั้งลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลกั เดียวกนั ให้ตรงกนั นาจานวนที่อยู่ในหลักเดยี วกันมาลบกัน โดยเร่ิมจากหลกั
หนว่ ย หลกั สิบ และหลกั ร้อยตามลาดบั ถ้าหลกั ใดตัวตงั้ น้อยกวา่ ตวั ลบ ตอ้ งกระจายจานวนจากหลกั ถดั ไปทางซา้ ย

ข้นั สรุป

ข้ันขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรยี นแสดงการหาผลลบโดยการตัง้ ลบเปน็ รายบคุ คล ตามหนงั สอื

เรยี นหน้า 108 ถ้าพบว่ามีนกั เรียนยงั หาผลลบไมถ่ ูกต้องครใู ห้นกั เรยี นมาฝกึ เพ่มิ เติมกับครูเปน็ รายบคุ คลจากนน้ั ครูและ

นักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงที่ไดเ้ รียนรู้

- การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตัง้ ลบ ต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดียวกนั ใหต้ รงกัน แลว้ จึงนาจานวนที่

อยใู่ นหลกั เดยี วกันมาลบกัน ถ้าหลักใดตัวตัง้ นอ้ ยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักถัดไปทางซา้ ย

ข้ันตรวจสอบผล

- การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตั้งลบ ต้องเขยี นเลขโดดในหลักเดียวกนั ใหต้ รงกนั แลว้ จงึ นาจานวนท่ี

อยูใ่ นหลักเดียวกันมาลบกนั ถา้ หลกั ใดตวั ตง้ั น้อยกวา่ ตัวลบ ต้องกระจายจานวนจากหลักถัดไปทางซา้ ยจากน้ันใหน้ กั เรียนทา

แบบฝกึ หัด หน้า 67 − 69

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลักษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

ทางานร่วมกับกล่มุ ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้

1. หนงั สือพิมพ์
2. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ
3. หนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์/ส่ือการเรียน รู้คณติ ศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บัตรภาพ
2. บัตรตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชื่อผู้สอน ….……………………………….…….............

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การบวกและการลบจานวน เรอื่ ง การหาผลลบของจานวนสามจานวน

นับไมเ่ กนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขึน้

จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวช้วี ัดท่ี ป.2/4 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบ

ของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตงั้ ลบ ให้นาจานวนสองจานวนมาลบกันก่อน แล้วนาผลลบไปลบกบั

จานวนทเ่ี หลอื

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตั้งลบท่ีตัวตง้ั ไมเ่ กิน 1,000

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการท่ีเหมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่

การหาผลลบของจานวนสามจานวน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1
ข้ันนา

ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครทู บทวนการหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยใชก้ ารถาม−ตอบ วา่ การหาผลลบโดยการตั้งลบ

มีข้ันตอนอย่างไร นักเรียนตอบว่า การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการต้ังลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลักเดียวกันให้
ตรงกนั แลว้ จงึ นาจานวนท่อี ยู่ในหลกั เดียวกันมาลบกนั ถ้าหลักใดตวั ตัง้ น้อยกว่าตัวลบต้องกระจายจานวนจากหลักถัดไป
ทางซา้ ย

ขน้ั สอน

ขั้นสารวจค้นหา

1. ครูทบทวนการหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยใชก้ ารถาม−ตอบ ว่าการหาผลลบโดยการตงั้ ลบ
มีขน้ั ตอนอยา่ งไร นักเรยี นตอบว่า การหาผลลบของจานวนสองจานวนโดยการตงั้ ลบ ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลักเดียวกนั ให้
ตรงกัน แลว้ จึงนาจานวนทีอ่ ยูใ่ นหลกั เดียวกนั มาลบกนั ถ้าหลกั ใดตัวตง้ั น้อยกว่าตวั ลบต้องกระจายจานวนจากหลักถัดไป
ทางซ้ายครูยกสถานการณ์ทส่ี อดคล้องกับประโยคสญั ลักษณใ์ นหนงั สือเรียนหน้า 109 เพือ่ ความเข้าใจยงิ่ ขน้ึ เชน่

- แม่มีเงิน 875 บาท ใหพ้ ่อ 550 บาท และให้พ่ี 300 บาท แมจ่ ะเหลือเงนิ กบี่ าท ให้นกั เรียนรว่ มกันเขยี นเป็นประโยค
สัญลกั ษณ์ 875 − 550 − 300 = 
ครูถามนักเรียนวา่ มีขั้นตอนในการหาผลลบอยา่ งไร นกั เรียนตอบวา่ หาผลลบทีละสองจานวนโดยการต้งั ลบ ครสู าธิตการหาผล
ลบของจานวนสามจานวน โดยการตัง้ ลบ ทีละสองจานวนจากน้ันครใู หน้ ักเรยี นหาผลลบของ 875 − 300 − 550 =  ครใู ห้
นักเรยี นสังเกตวา่ การหาผลลบของ 875 − 550 − 300 =  จะลบด้วย 550 หรอื จะลบดว้ ย 300 กอ่ นได้ผลลบเท่ากัน

2. ครูสาธิตการหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการต้งั ลบ เชน่ 683 − 83 − 449 =  ครูถามนักเรียนว่าโจทย์
ข้อนจ้ี ะลบ 683 ดว้ ยจานวนใดกอ่ นนักเรียนอาจตอบว่า ลบด้วย 83 กอ่ นครูใหน้ ักเรียนหาผลลบโดยการตั้งลบ ดังนี้ 683 ลบ
ดว้ ย 83 ได้ 600 แล้วนา 600 ลบดว้ ย 449 จะเห็นว่า เปน็ การลบที่มี
การกระจายจากหลกั ร้อยไปหลักสิบ และกระจายจากหลกั สิบไปหลกั หนว่ ยได้ผลลบเป็น 151 หรอื นกั เรียนอาจตอบวา่ นา
683 ลบดว้ ย 449 ก่อน ดงั นี้ 683 ลบดว้ ย 449 ได้ 234 จากน้นั นา 234 ลบด้วย 83 ได้ 151
ดงั น้ัน 683 − 83 − 449 = 151 ครูใหน้ ักเรียนพิจารณาวา่ การหาผลลบ 683 − 83 − 449 เราควรนา 83 ไปลบ 683 ก่อน
หรอื นา 449 ไปลบ 683 กอ่ น เพราะเหตุใด จากนน้ั ให้นักเรียนหาผลลบของ 416 − 125 − 102 =  ครถู ามนักเรยี นวา่
โจทยข์ ้อนี้จะลบ 416 ดว้ ยจานวนใดก่อน นกั เรียนตอบวา่ ลบด้วยจานวนใดก่อนก็ได้ ครใู หน้ ักเรียนหาผลลบโดยการต้ังลบ ซง่ึ
416 ลบดว้ ย 125 เป็นการลบท่ีมีการกระจายจากหลกั ร้อยไปหลกั สบิ ได้ผลลบเป็น 291 จากนน้ั นา 291 ลบด้วย 102เป็นการ
ลบท่ีมกี ระจายจากหลักสบิ ไปหลกั หนว่ ยไดผ้ ลลบเปน็ 189 หรือนกั เรยี นอาจนา 416 ลบด้วย 102 กอ่ น ดงั น้ี 416 ลบด้วย
102 ได้ 314 จากนน้ั นา 314 ลบดว้ ย 125 ไดผ้ ลลบเปน็ 189 ดังน้นั 416 − 125 − 102 = 189

3. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั หาผลลบในขอ้ 1 − 2 ตามหนังสือเรียนหน้า 111 โดยครูใชก้ ารถาม−ตอบ ทีละขนั้ ตอนจนได้
คาตอบ และได้ข้อสรุปว่า การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการต้งั ลบ สามารถหาคาตอบโดยใช้วธิ ีเดียวกับการหา
ผลลบของจานวนสองจานวน แตต่ อ้ งหาผลลบทีละสองจานวน นาผลลบของสองจานวนมาเปน็ ตัวตงั้ แล้วลบกับจานวนท่ี
สามซ่งึ สามารถลบด้วยจานวนใดกอ่ นกไ็ ด้ใหน้ ักเรยี นหาคา ตอบในข้อ 3 − 8 ทลี ะข้อแล้วครูแสดงวธิ ีคิดท่ถี ูกต้องทลี ะข้อเพ่อื
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ขัน้ สรุป

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยให้นักเรียนแสดงการหาผลลบ โดยการตง้ั ลบเปน็ รายบุคคล ตามหนงั สอื
เรยี นหนา้ 112 ถ้าพบวา่ มนี กั เรยี นยังหาผลลบไม่ถูกตอ้ งครูให้นกั เรียนมาฝึกเพม่ิ เตมิ กับครูเปน็ รายบคุ คลจากน้นั ครูและ
นกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้

- การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตง้ั ลบ ใหน้ าจานวนสองจานวนมาลบกันก่อนแลว้ นา ผลลบไปลบกับ

จานวนที่เหลอื

ข้ันตรวจสอบผล

- การหาผลลบของจานวนสามจานวนโดยการตั้งลบ ให้นาจานวนสองจานวนมาลบกนั ก่อนแล้วนา ผลลบไปลบกบั

จานวนท่ีเหลือจากนัน้ ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัด หน้า 70 − 72

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรุปความรูก้ ารปฏบิ ัติ

คุณลกั ษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น

ทางานร่วมกบั กลุ่ม ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

7.1 สือ่ การเรียนรู้

1. บัตรตัวเลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ

2. หนงั สือเรยี นสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน คณิตศาสตร์/สอื่ การเรียน ร้คู ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บัตรภาพ

2. บตั รตัวเลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ...............................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 5

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผูส้ อน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การบวกและการลบจานวน เรื่อง ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ

นบั ไมเ่ กนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดข้นึ

จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ช้วี ดั ท่ี ป.2/4 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบเมื่อจานวนสองจานวนบวกกนั ผลบวกที่ไดล้ บด้วยจานวนใดจานวนหนึง่ ในสอง

จานวนนน้ั ผลลบคือจานวนอกี จานวนหน่งึ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

เขยี นความสัมพันธ์ของการบวกและการลบได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)

มีวจิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ

ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1
ขน้ั นา

ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ

1. ครสู นทนาเก่ียวกบั สถานการณ์ในหนังสอื เรียนหน้า 113 โดยใชบ้ ตั รตัวเลขและบตั รเครอ่ื งหมาย
แสดงประโยคสัญลกั ษณ์การบวก 100 + 150 = 250 ครูถามนักเรียนวา่ จากความสมั พนั ธ์ของการบวก

และการลบทน่ี ักเรียนเคยได้เรียนมาสามารถเขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบไดอ้ ยา่ งไร
นกั เรยี นตอบวา่ สามารถเขยี นได้เปน็ 250 − 100 = 150 และ 250 − 150 = 100

ให้นกั เรียนสงั เกตความสัมพันธ์ของการบวกและการลบวา่ จานวนสองจานวนบวกกันผลบวกทไี่ ด้ลบด้วยจานวนใดจานวน
หนง่ึ ในสองจานวนนน้ั ผลลบคอื จานวนอีกจานวนหน่ึง

ขัน้ สอน

ขนั้ สารวจค้นหา

1. ครสู นทนาเกี่ยวกับสถานการณ์ในหนงั สือเรยี นหนา้ 113 โดยใชบ้ ตั รตวั เลขและบัตรเคร่ืองหมายแสดงประโยค
สัญลักษณ์การบวก 100 + 150 = 250 ครถู ามนกั เรียนวา่ จากความสัมพันธข์ องการบวกและการลบท่ีนกั เรียนเคยได้เรียนมา
สามารถเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์การลบได้อยา่ งไร

นกั เรียนตอบวา่ สามารถเขียนได้เปน็ 250 − 100 = 150 และ 250 − 150 = 100
ใหน้ กั เรียนสงั เกตความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบว่า จานวนสองจานวนบวกกันผลบวกทไ่ี ด้ลบด้วยจานวนใดจานวน
หนึ่งในสองจานวนนั้น ผลลบคือจานวนอีกจานวนหนึง่

2. ครยู กตัวอยา่ งสถานการณ์แรกตามหนงั สือเรียนหน้า 114 แล้วถามนักเรียนว่า เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณก์ าร
บวกได้อย่างไรและจากประโยคสัญลักษณ์การบวกเม่อื ใช้ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบสามารถเขยี นเป็นประโยค
สัญลกั ษณ์การลบได้อย่างไร ครูเน้นย้าใหน้ กั เรยี นสังเกตความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบว่า จานวนสองจานวนบวกกัน
ผลบวกทีไ่ ดล้ บด้วยจานวนใดจานวนหน่งึ ในสองจานวนนั้นผลลบคอื จานวนอกี จานวนหนงึ่

3. ครใู ช้บัตรตวั เลขและบตั รเครอ่ื งหมายแสดงตัวอย่างในหนังสือเรยี นหน้า 115 โดยกาหนดประโยคสญั ลกั ษณ์การ
บวกมาใหแ้ ลว้ ใหน้ ักเรยี นใช้บัตรตัวเลขและบัตรเคร่ืองหมายมาตดิ บนกระดาน เพอ่ื แสดงประโยคสญั ลักษณ์การลบ จากนนั้ ครู
ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั เตมิ ตวั เลขแสดงจานวนในประโยคสัญลักษณ์การบวกและประโยคสัญลกั ษณ์การลบ โดยใช้ความสัมพันธ์
ของการบวกและการลบ ข้อ 1 – 6 ตามหนงั สอื เรียนหน้า 115 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ข้ันสรุป

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยให้นักเรียนเตมิ ตวั เลขแสดงจานวนในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก และ

ประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ โดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบเปน็ รายบุคคลตามหนงั สือเรียนหน้า 116 ถ้าพบวา่ มี

นกั เรยี นยงั เตมิ ตัวเลขไม่ถูกต้อง ครใู หน้ กั เรยี นมาฝึกเพิ่มเตมิ กับครเู ป็นรายบุคคล จากนั้นครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบ

ความถูกตอ้ งและสรุปส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรู้

ข้ันตรวจสอบผล

- จานวนสองจานวนบวกกนั ผลบวกที่ไดล้ บด้วยจานวนใดจานวนหนง่ึ ในสองจานวนนั้นผลลบคือจานวนอกี จานวน

หน่ึงจากนนั้ ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั หนา้ 73 − 74

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) -การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ
-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ัติ - แบบประเมินพฤติกรรม
ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน
- สังเกตพฤติกรรมขณะ เกณฑ์การประเมิน
ทางานร่วมกบั กล่มุ

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. บัตรตัวเลข บัตรภาพจานวนต่าง ๆ
2. หนังสอื เรียนสาระการเรยี นรู้พ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์/ส่ือการเรียน รูค้ ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บัตรภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 6

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ช่ือผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรอื่ ง การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์

นับไม่เกิน 1,000 การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขึน้

จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป.2/4 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสัญลักษณ์การลบ สามารถใชค้ วามสัมพนั ธ์

ของการบวกและการลบ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสญั ลักษณ์การลบ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธีการท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่

การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

สญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสญั ลักษณ์การลบ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1
ข้นั นา

ขั้นกระตุ้นความสนใจ

1. ครตู ดิ บัตรตัวเลข และบตั รเครอ่ื งหมายเป็นประโยคสญั ลักษณ์การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์การลบแสดง
ความสมั พันธข์ องการบวกและการลบเพอ่ื ทบทวนความรู้ เชน่

300 + 500 = 800
800 − 300 = 500
800 − 500 = 300

ขัน้ สอน

ขน้ั สารวจค้นหา

1. ครูติดบตั รตวั เลข และบตั รเครื่องหมายเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์การลบแสดง
ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบเพื่อทบทวนความรู้ เช่น

300 + 500 = 800
800 − 300 = 500
800 − 500 = 300
ครสู นทนาเกี่ยวกบั สถานการณ์ในหนังสือเรยี นหน้า 117 และเขยี นประโยคสญั ลักษณท์ ี่มตี วั ไม่ทราบคา่ ดงั นี้
- แกว้ ตามหี นังสอื 18 เลม่ ครูตดิ บัตรตวั เลข 18
- ใบบัวนามาเพิ่มอีก  เล่ม ครตู ิดบตั รเครื่องหมายบวก และบตั รรูปส่ีเหล่ยี ม (ตวั ไมท่ ราบค่า)
- รวมเปน็ 27 เล่ม ครตู ิดบตั รเครอื่ งหมายเทา่ กับ และบตั รตัวเลข 27 จะได้ประโยคสัญลักษณ์การบวก 18 +
= 27 ครใู หน้ กั เรียนใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบเขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การลบ เพ่อื หาคาตอบ จะได้ 27 −
18 =  ครถู ามนกั เรยี นว่า ได้ผลลบเป็นเท่าไร นักเรียนตอบวา่ 27 − 18 = 9 ดังนน้ั 18 + 9 = 27
2. ครูติดบตั รประโยคสญั ลกั ษณท์ ี่มตี วั ไมท่ ราบคา่ แลว้ สาธติ การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าโดยใชค้ วามสมั พันธ์ของการ
บวกและการลบตามหนังสือเรียนหน้า 118 โดยใชก้ ารถาม−ตอบ เชน่ ตัวอยา่ งที่ 1 − 100 = 500 ครถู ามนกั เรียนวา่ จานวน
ใดลบด้วย 100 แล้วได้เทา่ กบั 500 หาจานวนนัน้ ได้อย่างไร นักเรยี นตอบวา่ ใช้ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ จะได้
500 + 100 = 600 ดังน้นั จานวนน้นั คอื 600 ตรวจสอบคาตอบได้โดย นา 600 ลบดว้ ย 100 ได้ผลลบเป็น 500 ตามท่ีโจทย์
กาหนด ดังนน้ั 600 เปน็ คาตอบท่ถี ูกต้อง จากนน้ั ครูยกตัวอยา่ ง 356 −  = 251 ครถู ามนักเรียนว่า 356 ลบดว้ ยจานวนใด
แล้วไดเ้ ทา่ กบั 251 หาจานวนนัน้ ไดอ้ ย่างไรนักเรียนตอบว่าใช้ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ จะได้ 356 – 251= 105
ดังน้นั จานวนนน้ั คือ 105 ตรวจสอบคาตอบไดโ้ ดย นา 356 ลบด้วย 105 ไดผ้ ลลบเปน็ 251 ตามทโ่ี จทย์กาหนด ดังนน้ั 105
เป็นคาตอบท่ีถูกต้อง ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่า ข้อ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหนา้ 118
3. ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยคสัญลักษณ์การลบ โดย
ยกตัวอย่าง 400 +  = 650 ถามนักเรยี นวา่ 400 บวกกับจานวนใดแลว้ ไดเ้ ท่ากับ 650 หาจานวนนัน้ ไดอ้ ย่างไร นกั เรียน
ตอบวา่ ใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบจะได้ 650 − 400 = 250 ดงั นน้ั จานวนนน้ั คือ 250 ตรวจสอบคาตอบได้โดย
นา 400 บวกกบั 250 ได้ผลบวกเปน็ 650 ตามทโี่ จทย์กาหนด ดังนนั้ 250 เป็นคาตอบที่ถกู ต้อง ครูให้นกั เรยี นช่วยกันทาข้อ
1 − 6 ตามหนงั สือเรยี นหน้า 119 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง

ขน้ั สรปุ

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนแสดงการหาค่าของตัวไม่ทราบค่า
ในประโยคสัญลักษณ์การบวกและการลบเป็นรายบุคคล ตามหนังสอื เรียนหนา้ 120 ถา้ พบวา่ มีนกั เรยี นยังหาค่าของตัวไม่ทราบ
ค่าไม่ถกู ต้อง ครูให้นักเรยี นมาฝกึ เพ่มิ เติมกับครูเปน็ รายบคุ คล จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุป
สิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรู้

- สามารถใช้ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบในการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณก์ ารบวกและ

ประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ

ขัน้ ตรวจสอบผล

- สามารถใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบในการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวกและ

ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบจากนัน้ ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั หนา้ 75 − 77

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

-การให้เหตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลักษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน

ทางานร่วมกบั กลุ่ม ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ
2. หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นรู้พืน้ ฐาน คณิตศาสตร์/ส่อื การเรยี น รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บัตรตัวเลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 6

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชือ่ ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การบวกและการลบจานวน เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ(1)

นับไม่เกิน 1,000

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้นึ

จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัดที่ ป.2/4 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การแกโ้ จทย์ปัญหาทาไดโ้ ดย อ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตุสมผลของคาตอบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

แก้โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธีการทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น

โจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1
ขัน้ นา

ขัน้ กระตุน้ ความสนใจ

1. ครตู ดิ บัตรโจทย์ปัญหาตามหนงั สอื เรียนหนา้ 121 ให้นักเรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาพร้อมกันแล้วครทู า กิจกรรมดังนี้
- ครตู ดิ บตั รโจทยถ์ ามและถามวา่ โจทย์ถามอะไร

- ครตู ดิ บัตรโจทย์บอกและถามว่าโจทย์บอกอะไร
- แลว้ จะหาคาตอบได้อย่างไร

ข้ันสอน

ขัน้ สารวจค้นหา

1. ครตู ดิ บัตรโจทย์ปญั หาตามหนังสือเรียนหนา้ 121 ใหน้ กั เรียนอ่านโจทย์ปัญหาพรอ้ มกันแลว้ ครูทา กิจกรรมดังน้ี
- ครตู ิดบตั รโจทย์ถามและถามว่าโจทย์ถามอะไร
- ครูติดบัตรโจทย์บอกและถามว่าโจทยบ์ อกอะไร
- แล้วจะหาคาตอบได้อยา่ งไร

ครตู ิดบัตรภาพปลาหางนกยูง 2 ภาพแล้วเขยี นจานวนกากับไว้ ใชค้ าพดู ท่ีสอื่ ใหเ้ ห็นวา่ ซื้อมาเพม่ิ เปน็ การนาจานวนปลา
ท้งั หมดมารวมกัน ต้องหาคาตอบดว้ ยการบวกครเู ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์และใหน้ ักเรียนหาคาตอบ จะได้ 278 + 322 = 600
ดงั นนั้ พ่อค้ามปี ลาหางนกยูงท้ังหมด 600 ตวั ครตู รวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบตามหนังสือเรียนหน้า 121

2. ครตู ดิ บัตรโจทยป์ ัญหาตามหนงั สือเรียนหนา้ 122 แลว้ จัดกจิ กรรมทานองเดียวกบั ข้อ 1 ใหค้ รใู ชค้ า พูดท่สี ่อื ใหเ้ ห็น
ว่า ขายไป บริจาคไปคือการหักออก ซ่งึ ตอ้ งใชก้ ารลบในการหาคาตอบแลว้ ให้นักเรยี นตรวจคาตอบโดยการนาผลลบบวกกบั ตวั
ลบจะไดเ้ ท่ากับตัวต้งั

3. ครูยกตัวอยา่ งโจทยป์ ัญหาในหนงั สอื เรียนหน้า 123 และใชก้ ารถาม−ตอบ เพอ่ื แสดงวิธหี าคาตอบ ดังนี้
- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทยบ์ อกอะไร
- เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร
- หาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร

แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกนั เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ละหาคาตอบในข้อ 1 และ 2 ตามหนังสือเรียนหน้า 123 โดยครูคอยช้ีแนะ
และตรวจสอบความถกู ต้องของคาตอบ ครูเน้นย้าวา่ ควรตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบด้วย

ข้ันสรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเปน็
รายบคุ คลตามหนังสอื เรียนหนา้ 124 ถ้าพบว่ามีนักเรียนยังเขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคา ตอบของโจทย์ปัญหาไม่ถกู ต้อง
ครใู หน้ ักเรยี นมาฝึกเพ่ิมเตมิ กับครเู ป็นรายบคุ คล จากน้นั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้

- การแกโ้ จทย์ปัญหาทาไดโ้ ดยอ่านทาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคาตอบ

ขั้นตรวจสอบผล

- การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดยอ่านทาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคาตอบจากน้นั ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั หนา้ 78 – 80

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หัด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความรกู้ ารปฏิบัติ

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กล่มุ

7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้

1. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ
2. หนังสือเรยี นสาระการเรยี นรู้พน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์/สอ่ื การเรียน รู้คณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................. ...............................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 6

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ช่ือผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ(2)

นับไม่เกนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ข้นึ

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชี้วัดที่ ป.2/4 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การแก้โจทยป์ ญั หาทาไดโ้ ดย อา่ นทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

แกโ้ จทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่

โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1
ข้นั นา

ขนั้ กระตุ้นความสนใจ

1. ครใู หน้ กั เรียนอ่านโจทยป์ ัญหาในหนงั สอื เรียนหน้า 125 แล้วถามนักเรียนดังน้ี
- โจทย์ถามอะไร

- โจทย์บอกอะไร
- จะหาคาตอบได้อยา่ งไร

ขน้ั สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

1. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านโจทยป์ ัญหาในหนังสอื เรียนหน้า 125 แลว้ ถามนกั เรยี นดงั น้ี
- โจทย์ถามอะไร
- โจทย์บอกอะไร
- จะหาคาตอบได้อย่างไร

ครูติดบัตรภาพดอกดาวเรืองและแถบกระดาษสแี สดงจานวนของตน้ ดาวเรืองเขียนตัวเลขแสดงจานวนกากับไว้
ครูติดบัตรภาพดอกทานตะวันและแถบกระดาษสแี สดงจานวนของตน้ ทานตะวนั เขียนตวั เลขแสดงจานวนกากับไว้ ครใู ห้
นกั เรียนเปรยี บเทียบแถบกระดาษสวี ่า แถบกระดาษสีของต้นอะไรยาวกวา่ นักเรยี นตอบวา่ แถบกระดาษสีของต้นดาวเรือง
ยาวกว่า ครอู ธิบายวา่ แถบกระดาษสีของตน้ ดาวเรืองยาวกวา่ แสดงวา่ จานวนต้นดาวเรอื งมากกวา่ จานวนต้นทานตะวัน ครู
ถามว่า ต้นดาวเรืองมากกวา่ ต้นทานตะวนั อยู่เทา่ ไร และหาคาตอบได้อยา่ งไร นกั เรียนตอบว่า หาคาตอบไดจ้ าก นาจานวนต้น
ดาวเรอื งลบด้วยจานวนตน้ ทานตะวนั ครใู ห้นักเรยี นเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบ พรอ้ มตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ของคาตอบจากนน้ั ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันเขียนประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาในกรอบท้ายหน้า 125

2. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านโจทยป์ ัญหาในหนังสือเรียนหน้า 126 แล้วถามนักเรยี นดังน้ี
- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทยบ์ อกอะไร
- จะหาคาตอบได้อยา่ งไร

ครตู ดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนไข่เป็ดและเขียนตวั เลขแสดงจานวนกากับไว้ ครูถามนักเรยี นว่า จากทโ่ี จทย์กาหนดให้ ไข่เป็ด
หรือไข่ไก่มจี านวนมากกว่า นกั เรยี นตอบวา่ ไกไ่ ขม่ ากกวา่ ไขเ่ ป็ด ครถู ามนกั เรยี นวา่ ต้องตดิ แถบกระดาษสีแสดงจานวนไข่ไก่
ยาวกวา่ หรือสนั้ กว่าไข่เป็ดเพราะเหตใุ ด นักเรียนตอบว่า ตอ้ งตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนไข่ไกย่ าวกวา่ เพราะมีจานวนไข่ไก่
มากกว่าไขเ่ ป็ดครูตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนไขไ่ ก่ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากท่โี จทย์กาหนดใหไ้ ข่ไก่มากกวา่ ไข่เปด็ เทา่ ไร
นกั เรยี นตอบว่า 225 ฟอง ครเู ขยี นจานวนท่ีไขไ่ กม่ ากกวา่ ไข่เปด็ จานวน 225 ฟองลงในแถบกระดาษสีแสดงจานวนไข่ไก่
ครถู ามนักเรยี นวา่ หาจานวนไข่ไก่ท้ังหมดได้อย่างไร นกั เรยี นตอบว่า นา 118 บวกกบั 225ครูให้นักเรียนเขียนประโยค
สญั ลกั ษณ์และหาคาตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันเขยี นประโยคสัญลักษณ์
และหาคาตอบของโจทย์ปัญหาในกรอบทา้ ยหน้า 126

3. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นโจทย์ปัญหาในหนงั สอื เรยี นหน้า 127 แลว้ ถามนักเรียนดังนี้
- โจทย์ถามอะไร
- โจทย์บอกอะไร
- จะหาคาตอบได้อยา่ งไร

ครูตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนยางรัดของขนุ และเขยี นตวั เลขแสดงจานวนกากับไว้
ครถู ามนักเรยี นวา่ จากท่ีโจทย์กาหนดให้ขนุ กับตน้ กลา้ ใครมียางรัดมากกวา่
นกั เรียนตอบว่า ขุน
ครถู ามวา่ ขนุ กับต้นกล้า ใครมยี างรัดน้อยกวา่
นกั เรียนตอบวา่ ต้นกล้า

ครถู ามนักเรียนว่า ตอ้ งตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนยางรัดของต้นกล้าส้ันกว่าหรือยาวกวา่ ของขนุ เพราะเหตุใด
นกั เรียนตอบวา่ ตอ้ งตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนยางรัดของต้นกล้าสัน้ กว่าของขุน เพราะตน้ กลา้ มจี านวนยางรัดน้อยกว่า
ของขุน ครตู ิดแถบกระดาษสีแสดงจานวนยางรัดของตน้ กล้า ครถู ามนักเรยี นวา่ จากท่โี จทย์กาหนดให้ ขุนมียางรดั มากกวา่ ตน้
กลา้ หรือต้นกลา้ มียางรัดน้อยกวา่ ขนุ เท่าไร นกั เรยี นตอบวา่ 94 เส้นครเู ขียนจานวนท่ตี ้นกลา้ มียางรดั น้อยกว่าขนุ 94 เส้น ลง
ในแถบกระดาษสี ดังนีค้ รถู ามนกั เรยี นวา่ หาจานวนยางรดั ของต้นกล้าได้อย่างไร นกั เรียนตอบว่า 757 ลบด้วย 94ครใู ห้
นักเรียนเขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาคาตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบจากน้ันครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกัน
เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปญั หาในกรอบท้ายหนา้ 127

ขั้นสรปุ

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเปน็

รายบคุ คลตามหนังสือเรียนหน้า 128 ถ้าพบว่ามนี กั เรียนยังเขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาไม่ถูกต้อง

ครใู ห้นกั เรียนมาฝึกเพิ่มเติมกับครเู ปน็ รายบุคคลจากนั้นครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้

- การแก้โจทยป์ ญั หาทาได้โดยอา่ นทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบ และตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบ

ขั้นตรวจสอบผล

- การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดยอ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบความ

สมเหตุสมผลของคาตอบจากนัน้ ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด หนา้ 81 − 83

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความร้กู ารปฏิบตั ิ

คณุ ลักษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

ทางานร่วมกบั กลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมนิ

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนตา่ ง ๆ
2. หนังสอื เรียนสาระการเรยี นรู้พนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์/สอ่ื การเรียน รู้คณิตศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 6

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ช่ือผู้สอน ….……………………………….…….............

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ(3)

นบั ไม่เกนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้น

จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ช้ีวดั ที่ ป.2/4 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดย อา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

แก้โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1
ขัน้ นา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูให้นักเรยี นอ่านโจทย์ปัญหาในหนังสอื เรยี นหน้า 129 แลว้ ถามนกั เรียนดงั นี้
- โจทยถ์ ามอะไร

- โจทยบ์ อกอะไร
- จะหาคาตอบได้อยา่ งไร
ครตู ดิ แถบกระดาษสีแสดงจานวนสเี ทียนเขยี นตวั เลขแสดงจานวนกากบั ไว้
ครตู ิดแถบกระดาษสีแสดงจานวนสไี มเ้ ขยี นตวั เลขแสดงจานวนกากับไว้
ครูให้นกั เรียนเปรียบเทียบแถบกระดาษสีว่าแถบกระดาษสีของสีชนดิ ใดสน้ั กว่า นักเรียนตอบว่าแถบกระดาษสีของสไี ม้สั้นกว่า
ครูอธบิ ายว่า แถบกระดาษสีของสีไม้ส้นั กวา่ แสดงว่าจานวนของสีไมน้ ้อยกว่าจานวนของสีเทียน
ครถู ามว่า สีไมน้ อ้ ยกวา่ สเี ทียนอยูเ่ ทา่ ไร และหาคาตอบได้อย่างไร
นกั เรียนตอบวา่ หาคาตอบ ไดจ้ าก นาจานวนสีเทียนลบด้วยจานวนสไี ม้
ครใู ห้นกั เรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบพร้อมตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบจากน้ันครูให้นกั เรียน
ช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบของโจทย์ในกรอบท้ายหนา้ 129

ข้นั สอน

ขนั้ สารวจค้นหา

1. ครูให้นักเรยี นอา่ นโจทย์ปัญหาในหนงั สือเรียนหนา้ 129 แลว้ ถามนกั เรยี นดงั นี้
- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทยบ์ อกอะไร
- จะหาคาตอบได้อยา่ งไร

ครูตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนสีเทียนเขียนตัวเลขแสดงจานวนกากบั ไว้
ครตู ิดแถบกระดาษสแี สดงจานวนสีไม้เขยี นตัวเลขแสดงจานวนกากบั ไว้
ครใู หน้ ักเรยี นเปรียบเทียบแถบกระดาษสวี ่าแถบกระดาษสีของสีชนิดใดส้ันกว่า นกั เรยี นตอบว่าแถบกระดาษสีของสีไมส้ ้ันกว่า
ครูอธิบายวา่ แถบกระดาษสีของสีไมส้ ้ันกว่าแสดงวา่ จานวนของสีไม้น้อยกว่าจานวนของสีเทยี น

ครูถามวา่ สีไมน้ ้อยกวา่ สเี ทียนอย่เู ทา่ ไร และหาคาตอบได้อยา่ งไร
นักเรียนตอบว่า หาคาตอบ ได้จาก นาจานวนสีเทยี นลบดว้ ยจานวนสไี ม้
ครูให้นกั เรยี นเขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาคาตอบพร้อมตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบจากนน้ั ครูใหน้ กั เรียน
ช่วยกันเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ในกรอบท้ายหน้า 129
2. ครใู หน้ ักเรียนอ่านโจทยป์ ัญหาในหนังสอื เรียนหนา้ 130 แล้วถามนักเรยี นดังน้ี

- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทยบ์ อกอะไร
- จะหาคาตอบได้อย่างไร
ครตู ิดแถบกระดาษสแี สดงจานวนแพะและเขียนตัวเลขแสดงจานวนกากับไว้
ครูถามนักเรยี นวา่ จากทโ่ี จทย์กาหนดให้แพะหรือววั มจี านวนน้อยกวา่
นกั เรียนตอบวา่ ววั
ครถู ามนักเรยี นว่า ตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนวัวสั้นกวา่ หรือยาวกว่าแพะเพราะเหตุใด
นกั เรียนตอบวา่ ตอ้ งตดิ แถบกระดาษสแี สดงจานวนวัวส้ันกว่าแพะ เพราะมีจานวนววั นอ้ ยกว่าแพะ
ครตู ิดแถบกระดาษสีแสดงจานวนวัว
ครูถามนักเรยี นวา่ จากทโี่ จทยก์ าหนดให้ ววั นอ้ ยกวา่ แพะเทา่ ไร
นักเรยี นตอบวา่ 190 ตวั ครูเขียนจานวนทวี่ วั นอ้ ยกวา่ แพะ 190 ตวั ลงในแถบกระดาษสีแสดงจานวน

ครูถามนักเรียนวา่ หาจานวนวัวไดอ้ ยา่ งไร
นกั เรียนตอบว่า นา 580 ลบด้วย 190
ครใู ห้นกั เรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์และหาคาตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบจากนัน้ ครูให้นักเรยี น
ชว่ ยกันเขียนประโยคสญั ลักษณ์ และหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาในกรอบทา้ ยหนา้ 130
3. ครูใหน้ กั เรยี นอ่านโจทย์ปัญหาในหนงั สือเรียนหนา้ 131 แลว้ ถามนักเรยี นดงั น้ี

- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทย์บอกอะไร
- จะหาคาตอบได้อย่างไร
ครตู ิดแถบกระดาษสีแสดงจานวนตน้ เงาะและเขยี นตัวเลขแสดงจานวนกากับไว้
ครูถามนักเรียนวา่ จากท่ีโจทยก์ าหนดให้ต้นเงาะกับต้นทุเรียน ตน้ อะไร มีจานวนน้อยกว่า
นักเรียนตอบว่า ต้นเงาะ
ครถู ามวา่ ตน้ เงาะกบั ตน้ ทุเรียน ตน้ อะไรมีจานวนมากกวา่
นกั เรยี นตอบว่า ตน้ ทุเรียน
ครูถามนักเรยี นวา่ ตอ้ งติดแถบกระดาษสแี สดงจานวนตน้ ทุเรยี นยาวกวา่ หรอื สัน้ กวา่ ตน้ เงาะ เพราะเหตใุ ด
นักเรยี นตอบวา่ ติดแถบกระดาษสแี สดงจานวนตน้ ทุเรียนยาวกว่า เพราะวา่ มีจานวนตน้ ทเุ รียน
มากกว่าตน้ เงาะ
ครตู ิดแถบกระดาษสแี สดงจานวน ตน้ ทุเรียน
ครถู ามนักเรยี นว่า จากท่โี จทย์กาหนดให้ ตน้ เงาะนอ้ ยกว่าตน้ ทเุ รยี นหรอื ตน้ ทุเรยี นมากกวา่ ตน้ เงาะเทา่ ไร
นักเรียนตอบว่า 124 ตน้ ครเู ขยี นจานวนตน้ ทเุ รยี นมากกว่าตน้ เงาะ 124 ตน้ ลงในแถบกระดาษสี
ครูถามนักเรยี นวา่ หาจานวนต้นทเุ รยี นได้อยา่ งไร
นักเรยี นตอบวา่ นา 450 บวกกบั 124
ครูให้นักเรียนช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ
จากนั้นครใู ห้นักเรยี นเขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาในกรอบท้ายหนา้ 131

ขั้นสรปุ

ข้นั ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรยี นเขียนประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเป็น
รายบุคคลตามหนังสือเรียนหนา้ 132 ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนยังเขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ละ
หาคาตอบของโจทย์ปญั หาไม่ถกู ต้องครใู หน้ ักเรยี นมาฝึกเพิ่มเติมกบั ครเู ป็นรายบุคคลจากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้

- การแก้โจทยป์ ัญหาทาได้โดยอ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหาหาคาตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบ

ขนั้ ตรวจสอบผล

- การแกโ้ จทย์ปัญหาทาได้โดยอ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหาหาคาตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบจากนัน้ ให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด หนา้ 84 – 86

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน
ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝึกหัด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลมุ่ 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความรกู้ ารปฏิบตั ิ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กล่มุ

7. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1. บัตรตวั เลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ
2. หนงั สือเรียนสาระการเรยี นรู้พน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์/สอื่ การเรยี น รคู้ ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 6

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชือ่ ผ้สู อน ….……………………………….…….............

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การบวกและการลบจานวน เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ(4)

นับไมเ่ กนิ 1,000

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้น

จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชีว้ ัดที่ ป.2/4 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การแกโ้ จทย์ปัญหาทาไดโ้ ดย อา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ

สมเหตสุ มผลของคาตอบ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

แก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธีการท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น

โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1
ขั้นนา

ขัน้ กระตุน้ ความสนใจ

1. ครใู หน้ ักเรียนอ่านโจทย์ปัญหาในหนังสือเรียนหนา้ 133 แล้วถามดังนี้
- โจทยถ์ ามอะไร

- โจทย์บอกอะไร
ครถู ามนักเรยี นว่า ทอดน่องไกไ่ ปแล้ว 147 ชนิ้ ทอดเพ่ิมอีกเท่าไร จึงจะได้น่องไก่ทอด 250 ชิ้น หรือ 147 บวกกบั
จานวนใดแล้วได้ 250 เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ได้อยา่ งไร
นกั เรยี นตอบวา่ 147 + = 250
ครถู ามนักเรียนวา่ จากประโยคสัญลกั ษณ์น้หี าคาตอบไดอ้ ย่างไร
นักเรยี นตอบวา่ ใช้ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ จะได้ 250 − 147 = 103
ครูให้นักเรียนตรวจสอบคาตอบวา่ 147 + 103 = 250 จรงิ หรอื ไม่
นกั เรยี นตรวจสอบคาตอบแล้วถกู ตอ้ ง จะได้ 103 เปน็ คาตอบทถี่ ูกต้อง
ดงั นั้น ทอดน่องไกเ่ พม่ิ อีก 103 ชน้ิ จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบของโจทย์ปญั หาใน
กรอบท้ายหนา้ 133

ข้ันสอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

1. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาในหนังสอื เรียนหนา้ 133 แลว้ ถามดังนี้
- โจทย์ถามอะไร
- โจทย์บอกอะไร

ครถู ามนักเรียนว่า ทอดน่องไก่ไปแล้ว 147 ชิน้ ทอดเพิ่มอีกเท่าไร จึงจะไดน้ อ่ งไก่ทอด 250 ชิ้น หรอื 147 บวกกับ
จานวนใดแลว้ ได้ 250 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร

นักเรยี นตอบว่า 147 + = 250
ครูถามนักเรยี นว่า จากประโยคสญั ลักษณน์ ้ีหาคาตอบไดอ้ ย่างไร
นกั เรยี นตอบว่า ใชค้ วามสมั พันธ์ของการบวกและการลบ จะได้ 250 − 147 = 103
ครูใหน้ ักเรียนตรวจสอบคาตอบว่า 147 + 103 = 250 จรงิ หรอื ไม่
นกั เรยี นตรวจสอบคาตอบแล้วถูกตอ้ ง จะได้ 103 เป็นคาตอบท่ีถูกต้อง
ดงั นัน้ ทอดน่องไกเ่ พิม่ อีก 103 ชิน้ จากน้ันครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาใน
กรอบท้ายหน้า 133
2. ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นโจทยป์ ัญหาในหนงั สือเรยี นหนา้ 134 แล้วถามดงั นี้

- โจทย์ถามอะไร
- โจทยบ์ อกอะไร
ครูถามนักเรียนวา่ มเี งินอยู่ 700 บาท ซอ้ื ของไปเทา่ ไร แล้วเหลอื เงนิ 420 บาท หรอื 700 ลบดว้ ยจานวนใดแล้วได้
42 เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ได้อยา่ งไร
นักเรียนตอบว่า 700− = 420
ครถู ามนักเรียนวา่ จากประโยคสญั ลักษณ์น้หี าคาตอบได้อย่างไร นักเรียนตอบวา่ ใช้ความสมั พันธ์ของการบวกและ
การลบจะได้ 700 − 420 = 280 ครใู ห้นักเรียนตรวจสอบคาตอบวา่ 700 − 280 = 420
จรงิ หรอื ไม่ นักเรียนตรวจสอบคาตอบแล้วถูกต้องจะได้ 280 เป็นคาตอบทีถ่ ูกต้อง ดังน้ัน ซื้อของไป
280 บาทจากนัน้ ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั เขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาข้อ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหนา้
134
3. ครใู หน้ ักเรียนอ่านโจทยป์ ัญหาในหนงั สอื เรียนหนา้ 135 แล้วถามดงั น้ี

- โจทยถ์ ามอะไร
- โจทย์บอกอะไร
ครูถามนักเรยี นว่า มไี ขท่ ั้งหมดเทา่ ไร ทาขนมไปแลว้ 345 ฟอง เหลอื ไข่ 75 ฟองหรือ จานวนใดลบดว้ ย 345 แล้วได้
75 เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร
นกั เรยี นตอบวา่  − 345 = 75
ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลกั ษณ์นหี้ าคาตอบได้อย่างไร
นกั เรียนตอบว่า ใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบจะได้ 75 + 345 = 420
ครูให้นักเรียนตรวจสอบคาตอบว่า 420 − 345 = 75 จริงหรอื ไม่ นกั เรยี นตรวจสอบคาตอบ
แล้วถูกต้อง จะได้ 420 เปน็ คาตอบท่ีถกู ต้องดงั นนั้ มไี ขท่ ง้ั หมด 420 ฟองจากนัน้ ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันเขยี น
ประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปัญหาในกรอบท้ายหนา้ 135

ขั้นสรปุ

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยใหน้ ักเรียนเขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเป็น

รายบคุ คลตามหนังสอื เรยี นหนา้ 136 ถ้าพบว่ามีนกั เรียนยังเขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปญั หาไม่ถกู ต้อง

ครูใหน้ กั เรยี นมาฝึกเพิ่มเติมกับครเู ป็นรายบุคคลจากน้นั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รียนรู้

- การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดยอ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ

คาตอบ

ข้ันตรวจสอบผล

- การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดยอ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบจากนั้นให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หน้า 87 − 88

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมินผล

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
ทางานรว่ มกับกลุม่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมนิ

7. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้

7.1 สื่อการเรยี นรู้

1. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ

2. หนงั สือเรยี นสาระการเรยี นรู้พ้นื ฐาน คณิตศาสตร์/ส่อื การเรยี น รูค้ ณิตศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................. ...........................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 6

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 การบวกและการลบจานวน เร่ือง การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หา

นบั ไมเ่ กนิ 1,000 การลบจากภาพ

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้นึ

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวช้ีวัดท่ี ป.2/4 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การสร้างโจทยป์ ัญหา ต้องมที งั้ สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกและส่วนทโี่ จทยถ์ าม และโจทยป์ ญั หาท่สี ร้างตอ้ งมีความเปน็ ไปได้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

สร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบจากภาพ

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ กี ารที่เหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน

การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

จากภาพ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1
ขนั้ นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูทบทวนเรื่องการแก้โจทยป์ ญั หาว่า ถ้าต้องการแกโ้ จทยป์ ญั หาต้องรู้อะไรบ้าง
นักเรียนตอบวา่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร
ครถู ามนักเรียนต่อว่า แล้วถ้าต้องการสรา้ งโจทยป์ ัญหา ในโจทย์ปญั หาท่ีสร้างต้องมีส่วนใดบ้าง

นักเรียนตอบวา่ โจทย์ปัญหาท่ีสรา้ งตอ้ งมสี ่วนท่โี จทยถ์ ามและสว่ นที่โจทย์บอกครูตดิ บตั รภาพรา้ นขายผลไม้ตามหนังสือเรยี น
หน้า 137 แลว้ สนทนาเกี่ยวกับภาพ เชน่ ในภาพมีผลไม้อะไรบ้าง ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์
ปัญหาการลบเก่ยี วกับผลไมใ้ นภาพ ครอู าจยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาทสี่ ร้างไวแ้ ลว้ ตามหนังสอื เรียนหน้า 137จากนนั้ ใช้การถาม-
ตอบ เพ่ือใหน้ ักเรยี นบอกส่วนท่โี จทย์ถาม ส่วนที่โจทย์บอก และประโยคสัญลกั ษณ์ ซงึ่ ครูควรเน้นยา้ วา่ โจทยป์ ญั หาท่สี ร้างมี
ความเป็นไปไดห้ รอื ไม่ และคาตอบเปน็ เท่าไร

ข้นั สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

1. ครทู บทวนเรื่องการแกโ้ จทยป์ ญั หาวา่ ถ้าต้องการแก้โจทย์ปญั หาต้องรู้อะไรบ้าง
นักเรียนตอบว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร
ครถู ามนักเรยี นต่อว่า แลว้ ถ้าตอ้ งการสรา้ งโจทย์ปัญหา ในโจทย์ปญั หาท่ีสรา้ งตอ้ งมีส่วนใดบ้าง
นักเรียนตอบว่า โจทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งตอ้ งมสี ว่ นทโ่ี จทยถ์ ามและสว่ นทโี่ จทย์บอกครูตดิ บัตรภาพรา้ นขายผลไม้ตามหนงั สือเรยี น
หน้า 137 แล้วสนทนาเกย่ี วกับภาพ เช่น ในภาพมีผลไม้อะไรบา้ ง ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันสร้างโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์
ปญั หาการลบเกย่ี วกับผลไม้ในภาพ ครอู าจยกตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาท่ีสรา้ งไว้แล้วตามหนังสือเรยี นหน้า 137จากนัน้ ใช้การถาม-
ตอบ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นบอกส่วนทโ่ี จทยถ์ าม สว่ นท่โี จทยบ์ อก และประโยคสัญลักษณ์ ซึ่งครคู วรเน้นยา้ ว่าโจทย์ปัญหาทส่ี ร้างมี
ความเปน็ ไปไดห้ รือไม่ และคาตอบเป็นเท่าไร
2. ครตู ดิ บัตรภาพมงั คดุ และเงาะพร้อมปา้ ยบอกราคาบนกระดาน แล้วสนทนาเก่ยี วกับภาพ เช่น ในภาพมผี ลไม้
อะไรบา้ ง และราคาเทา่ ไร ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกันสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเกยี่ วกบั ผลไม้ในภาพ ครูอาจ
ยกตัวอยา่ งโจทย์ปญั หาที่สรา้ งไว้แล้วตามหนงั สือเรยี นหน้า 138 จากน้นั ใช้การถาม-ตอบ เพอื่ ใหน้ ักเรียนบอกสว่ นท่โี จทยถ์ าม
สว่ นท่โี จทยบ์ อกและประโยคสัญลกั ษณ์ ซึง่ ครูควรเนน้ ยา้ ว่าโจทย์ปญั หาทีส่ ร้างมคี วามเป็นไปไดห้ รอื ไม่ และคาตอบเป็น
เทา่ ไร
3. ครูใหน้ ักเรียนทากิจกรรมสร้างโจทยป์ ัญหาอยา่ งไรดี ดงั นี้

- แบง่ นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละเทา่ ๆกัน
- แจกบัตรภาพกลมุ่ ละ 2 บัตร แลว้ ใหน้ ักเรยี นสร้างโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบเก่ียวกบั
ภาพอย่างละ 1 โจทย์
จากนั้นให้นักเรียนสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอซึ่งในการนาเสนอให้นกั เรยี นอธบิ ายเกี่ยวกับโจทยป์ ญั หาทส่ี รา้ ง สว่ นทีโ่ จทยบ์ อก
สว่ นที่โจทย์ถาม และประโยคสญั ลกั ษณ์ พรอ้ มหาคาตอบให้เพ่อื นในห้องช่วยกนั ตรวจสอบวา่ โจทยป์ ญั หาทีส่ รา้ งมีความเปน็ ไป
ได้หรือไม่ และคาตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่ หากเวลาในการนาเสนอไม่เพยี งพอ
ครูอาจใหน้ ักเรียนสง่ เป็นใบงานเพอื่ ใหค้ รตู รวจสอบความถกู ต้องและให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม

ขั้นสรุป
ขั้นขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบจากภาพ
เปน็ รายบุคคลตามหนังสือเรยี นหน้า 140 ถ้าพบวา่ มนี กั เรียนยังสรา้ งโจทยป์ ัญหาไม่ถกู ต้อง ครูใหน้ กั เรียนมาฝกึ เพิม่ เติมกับครู
เปน็ รายบุคคล จากนั้นครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิ่งท่ีไดเ้ รยี นรู้

- การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ต้องมีท้งั ส่วนที่โจทยบ์ อกและส่วนท่ีโจทย์ถาม นอกจากน้โี จทย์ปัญหา
ทส่ี รา้ งตอ้ งมีความเป็นไปได้

ข้ันตรวจสอบผล

- การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ต้องมที ง้ั ส่วนทโี่ จทย์บอกและสว่ นท่โี จทย์ถาม นอกจากนโ้ี จทย์ปญั หา

ท่สี รา้ งต้องมคี วามเปน็ ไปไดจ้ ากนนั้ ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด หนา้ 89 − 90

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น

-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

ทางานรว่ มกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมิน

7. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้

7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. บัตรภาพ บัตรโจทย์ บตั รโจทย์ถาม บัตรโจทยบ์ อก

2. บตั รประโยคสญั ลักษณ์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บัตรภาพ

2. บัตรตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 7

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอื่ ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การบวกและการลบจานวน เร่อื ง การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หา

นบั ไม่เกิน 1,000 การลบจากประโยคสัญลกั ษณ์

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขนึ้

จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ช้ีวดั ที่ ป.2/4 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ

ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การสรา้ งโจทย์ปัญหา ต้องมที ้งั ส่วนทโี่ จทย์บอกและสว่ นทโี่ จทยถ์ าม และโจทยป์ ัญหาทสี่ ร้างต้องมคี วามเปน็ ไปได้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสญั ลกั ษณ์

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธีการท่เี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลักษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น

การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

จากประโยคสญั ลกั ษณ์

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1
ขัน้ นา

ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครทู บทวนว่า ในโจทยป์ ญั หาที่สร้างต้องมสี ่วนใดบา้ ง นักเรียนตอบวา่ โจทย์ปัญหาต้องมสี ่วนทโี่ จทย์ถาม และสว่ น
ทโี่ จทย์บอก ครูตดิ บัตรภาพร้านขายดอกไม้ ตามหนังสอื เรียนหน้า 141 และ ติดบัตรประโยคสัญลักษณ์ 126 + 52 =  ให้
นกั เรียนชว่ ยกนั สร้างโจทย์ปญั หาจากประโยคสัญลักษณ์ เชน่ ขนุ มี

ดอกกุหลาบสแี ดง 126 ดอก ดอกกุหลาบสีขาว 52 ดอกขุนมีดอกกหุ ลาบสแี ดงและสขี าวก่ีดอก จากนัน้ ครูใช้การถาม-ตอบ
เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นบอกส่วนทโ่ี จทย์ถาม สว่ นท่ีโจทยบ์ อก ซ่ึงครูควรเน้นยา้ วา่ โจทยป์ ญั หาที่สร้างมีความเปน็ ไปไดห้ รอื ไม่ และ
คาตอบเปน็ เท่าไร

ขั้นสอน

ข้นั สารวจค้นหา

1. ครทู บทวนวา่ ในโจทยป์ ญั หาท่สี รา้ งต้องมสี ว่ นใดบ้าง นักเรียนตอบวา่ โจทยป์ ญั หาตอ้ งมีส่วนทโ่ี จทย์ถาม และส่วน
ท่โี จทย์บอก ครูตดิ บตั รภาพร้านขายดอกไม้ ตามหนังสอื เรียนหนา้ 141 และ ตดิ บตั รประโยคสญั ลักษณ์ 126 + 52 =  ให้
นกั เรียนชว่ ยกันสร้างโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลักษณ์ เชน่ ขุนมีดอกกุหลาบสแี ดง 126 ดอก ดอกกุหลาบสีขาว 52 ดอกขนุ
มดี อกกุหลาบสีแดงและสขี าวกดี่ อก จากนน้ั ครูใชก้ ารถาม-ตอบ เพื่อให้นักเรียนบอกสว่ นท่โี จทยถ์ าม ส่วนทโี่ จทย์บอก ซ่ึงครู
ควรเน้นย้าวา่ โจทยป์ ญั หาที่สรา้ งมีความเป็นไปได้หรือไม่ และคาตอบเป็นเท่าไร

2. ครตู ดิ บัตรภาพปลาทอง ปลาหางนกยงู และปลาเทวดา บนกระดาน แล้วสนทนาเก่ยี วกบั ภาพ เชน่
ในภาพมีปลาอะไรบา้ ง ครใู หน้ กั เรียนช่วยกันสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลักษณ์ 190 − 80 =  ครูอาจยกตัวอย่าง
โจทยป์ ญั หาท่ีสรา้ งไว้แล้วตามหนงั สอื เรยี นหน้า 142 จากนั้นใช้การถาม-ตอบ เพื่อให้นักเรียนบอกสว่ นทีโ่ จทย์ถามและส่วนที่
โจทย์บอก ซง่ึ ครูควรเน้นยา้ ว่าโจทย์ปัญหาทส่ี ร้างมคี วามเป็นไปได้หรือไม่ และคาตอบเป็นเทา่ ไร

3. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ กลุ่มละเทา่ ๆ กัน แล้วแจกบตั รประโยคสัญลักษณ์ตามหนงั สือเรียนหนา้ 143 กลมุ่ ละ 1
ขอ้ ครูควรแจกบัตรประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกอีกกลมุ่ ละ 1 ข้อ ซง่ึ แตล่ ะกลมุ่ จะไดร้ บั บัตรประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวก 1 ขอ้
และบัตรประโยคสัญลักษณก์ ารลบ 1 ขอ้ เมอ่ื แต่ละกลุ่มสร้างโจทย์ปัญหาเสรจ็ แล้ว ให้สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอ ซึง่ ในการ
นาเสนอใหน้ กั เรยี นอธิบายเก่ียวกบั โจทยป์ ญั หาที่สรา้ ง สว่ นท่ีโจทยบ์ อก ส่วนท่โี จทย์ถาม และประโยคสญั ลักษณ์ พร้อมหา
คาตอบ ให้เพ่ือนในห้องช่วยกันตรวจสอบวา่ โจทยป์ ัญหาที่สร้างมีความเปน็ ไปไดห้ รือไม่ และคาตอบถูกต้องหรือไมห่ ากเวลาใน
การนาเสนอไม่เพยี งพอ ครูอาจให้นกั เรียนส่งเปน็ ใบงานเพ่ือให้ครูตรวจสอบความถกู ต้องและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

ขั้นสอน

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

4.ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรียนสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบเปน็ รายบุคคลตาม

หนังสือเรยี นหน้า 144 ถา้ พบวา่ มนี กั เรยี นยงั สร้างโจทยป์ ญั หาไมถ่ ูกต้อง ครูให้นกั เรยี นมาฝึกเพ่มิ เติมกบั ครูเปน็ รายบุคคล

จากนั้นครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้

- การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ตอ้ งมีท้งั ส่วนทโี่ จทยบ์ อกและส่วนทีโ่ จทย์ถาม นอกจากนีโ้ จทยป์ ญั หาท่ีสรา้ งตอ้ งมีความเปน็ ไปได้

ข้ันตรวจสอบผล

- การสร้างโจทย์ปญั หา ต้องมที ้ังส่วนท่ีโจทยบ์ อกและส่วนทโี่ จทย์ถาม นอกจากน้โี จทย์ปัญหาทีส่ รา้ งตอ้ งมคี วาม

เป็นไปไดจ้ ากนัน้ ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัด หน้า 91 – 92

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล

-การสรุปความรู้การปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน

ทางานร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

7.1 สอื่ การเรียนรู้

1. บตั รภาพ บัตรโจทย์ บัตรโจทยถ์ าม บตั รโจทย์บอก
2. บตั รประโยคสัญลักษณ์

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

. 1. บัตรภาพ

2. บตั รตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................ ....

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผู้สอน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)


Click to View FlipBook Version