The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงาน อบรมพระธรรมทูต 28 กลุ่ม ๕ - ๖ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suphakitth2537, 2022-06-05 12:08:48

รายงาน อบรมพระธรรมทูต 28 กลุ่ม ๕ - ๖ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

รายงาน อบรมพระธรรมทูต 28 กลุ่ม ๕ - ๖ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

ภาควิชาการ 201

2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตวั เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด
มนต์อยา่ งต้งั ใจ ไมไ่ ดค้ ดิ ถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จงึ มไิ ดเ้ กิดข้นึ ในจิต

3. เปน็ การกระทำท่ไี ดป้ ญั ญา ถา้ การสวดมนตโ์ ดยรู้คำแปล รคู้ วามหมาย ก็ย่อมทำ
ให้ผู้สวดได้ปญั ญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไมร่ ู้อะไร
เลย

4. มีจิตเปน็ สมาธิ เพราะขณะนั้นผสู้ วดตอ้ งสำรวมใจแน่วแน่ มฉิ ะน้ันจะสวดผิดทอ่ น
ผดิ ทำนอง เมอื่ จิตเป็นสมาธิ ความสงบเยือกเยน็ ในจติ จะเกิดขน้ึ

5. เปรยี บเสมือนการไดเ้ ฝา้ พระพุทธเจา้ เพราะขณะนน้ั ผู้สวดมี กาย วาจา ปกติ (มี
ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี
ปญั ญา) เท่ากับไดเ้ ฝ้าพระองค์ด้วยการปฏบิ ัติบูชา ครบไตรสิกขาอยา่ งแทจ้ รงิ

เวลา 05.30 – 06.50 น.
กิจกรรม รบั ฟงั การบรรยาย
สถานท่ี หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัด
เพชรบรู ณ์
ภารกิจท่ไี ด้รบั เขา้ รว่ มรบั ฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรือ่ ง งานพระธรรมทูตไทยในสหรัฐอเมรกิ า
บรรยายโดย พระครสู ิรสิ ิทธิวิเทศ ป.ธ.5
พธบ. รองประธานอำนวยการวดั ไทยกรงุ วอชงิ ตันไทย ดซี ี พท รุน่ 4
เนอ้ื หาการบรรยาย
ประโยชน์ที่ได้รับ ได้ทราบข้อมูล
• งานพระธรรมทูตไทยในสหรัฐอเมรกิ า

คุณแมทธวิ เรแกน (Matthew Regan)
เลขาธกิ ารคณะกรรมการพุทธศานาสากลแหง่ กรงุ วอชิงตน้ ดี.ซ.ี
นักศกึ ษาปรญิ ญาเอกท่ีมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ซึ่งงานวจิ ัยของเขา
มุง่ เน้นไปที่ประชาธิปไตยและวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
ตลอดจนการประยกุ ตใ์ ช้หลกั จริยธรรมทางพุทธศาสนาในทางปฏิบตั ิ

• ชาวอเมรกิ ารจู้ ักพระพทุ ธศาสนาไดอ้ ยา่ งไร
- พ.ศ.2423 การโตว้ าทคี ร้งั สำคัญที่เมืองปานะทุระ ประเทศศรลี ังกา พระมเิ ค
ตตุวัดเต คุณานันทเถระกับคณะบาทหลวง ซึ่งนำเตวิด เดล ซิลวา เป็น
หัวหน้า
- พ.ศ.2424 พนั เอกเฮนร่ี ดีล โอลคอตต์ เดนิ ทางไปประเทศศรลี งั กาเพอื่ อุทิศ
ชีวติ ฟ้นื ฟพู ระพุทธศาสนา

เวลา ภาควชิ าการ 202
กิจกรรม
สถานท่ี - พ.ศ.2434 พันเอกเฮนรี่ สตีล โอลคอตต์ แต่งหนงั สอื ชื่อ ปุจฉาวิสัชชนาทาง
ภารกจิ ทไี่ ดร้ บั พระพุทธศาสนา (Buddhist Catechism) พิมพ์เผยแพร์ใน สหรฐั อเมรกิ า

- พ.ศ.2436 จัดตัง้ ชมรมวรรณกรรมตะวนั ออกมหาวทิ ยาลัยฮารว์ าร์ตขึ้นและ
ในปีเดียวกันนี้ ทางชมรมได้พมิ พ์หนังสอื เล่มแรกเผยแพร่คือ หนังสือซาดก
มาลา อนั เปน็ เร่อื งราวในอดตี ซาติของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้

- พ.ศ.2416 ท่านอนาคาริก ธัมมปาละ ชาวศรีลังกาเดนิ ทางไปประชุม สภา
ศาสนา (World Parlisment of Religions) และเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ณ
นครชิคาโก

- พ.ศ.2436 พระพุทธศาสนานิกายรินไซเซนจากประเทศญี่ปุ่นเผยแผ่เข้าสู่
สหรัฐอเมริกาครั้งแรก โดยโซเยนซากุ (Soyen Shaku) ซึ่งได้รบั นิมนต์จาก
จอห์น เฮนรี่ บาร์โร John Henry Barrows) ให้มาร่วมสัมมนาที่สภาแห่ง
ศาสนาโลก (World Parliament of Religions) ในนครชิคาโก ซึ่งเป็นการ
มาประชุมครงั้ เดยี วกนั กับท่ีท่านอนาคาริก ธรรมปาละเข้าร่วม ในครั้งนั้นโซ
เยน ขากุ ได้กล่าวถึงเรื่องกฏแห่งกรรม การไม่ใช้ความรุนแรง และความ
ปรองดองตอ่ กัน

- พ.ศ.2475 ดร. ไดไวท์ กอดดาร์ด (Dwight Goddard) เมซาวพุทธผู้เครง่ ครดั
ไตจ้ ดั ทำหนงั สอื คมั ภรี พ์ ระพทุ ธศาสนา (The Buddhist Bible) เผยแพร่เปน็
ครั้งแรก เขาคัดเลอื กคำสอนพระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ จากคัมภีร์บาลีสนั สกฤต
จนี ทเิ บต มองโกเลยี เปน็ คัมภรี ์รวมย่อคำสอนของพระพทุ ธเจา้ ทดี่ ีเย่ียมเลม่
หน่ึงงานสังคมสงเคราะห์

- ใหค้ ำปรึกษาและประสานงานในกจิ กรรมตา่ งๆ
- พาครู เจ้าหนา้ ท่ี ผูป้ กครองดูงาน
- เปน็ ผปู้ กครองนักเรียน
- รว่ มกจิ กรรมชุมนมุ
• งานพระธรรมทตู ไทยในอเมริกา
- การให้ความรเู้ ร่ืองพทุ ธศาสนาวัฒนธรรมไทยและประเพณีไทย
- การสอนในวัด และการสอนนอกวดั
สอนเด็กประถม สอนมัธยม สอนมหาลยั

08.30 – 10.50 น.
รับฟงั การบรรยาย
ศูนยพ์ ัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาคอ้ จังหวดั เพชรบรู ณ์
เข้าร่วมกิจกรรมเสวนาวสิ าขบูชานานาชาติคร้งั ที1่ 7/2565

ภาควิชาการ 203

ผา่ นโปรแกรม zoom

เรือ่ ง การเสวนากลุม่

ในหัวขอ้

- ส่งมอบพุทธปัญญาสสู่ นั ติภาพโลก

- หลักการปฏิบัตทิ างพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพและความสามัคคใี นยาม

เกิดความขัดแยง้

บรรยายโดย 1. พระธรรมวชั รบณั ฑติ

2. พระธรรมพชั รญาณมนุ ี

3. พระเมธวี ชั โรดม

เนื้อหาการบรรยาย รับฟังบรรยาย พระธรรมวัชรบัณฑิต ศาสตราจารย์ ดร. อธิการบดี มจร

ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั กลา่ วประเดน็ สำคัญว่า ขอบคณุ ทกุ ส่วนงานในการจดั งานวนั วสิ าขบูชาโลกถือว่าเป็น

พุทธบูชา มีการทำงานที่เชื่อมโยงกันในส่วนออนไลน์ ซึ่งมีกิจกรรมการแปล

พระไตรปิฎกจากภาษาบาลเี ป็นภาษาอังกฤษ เพื่อขยายผลงานคำสอนไปทั่วโลก ซ่งึ

แกน่ ธรรมจากวนั วสิ าขบูชา โดยมสี ามเหตุการณ์หลกั คอื ประสตู ิ ตรัสรู้ ปรินิพพาน

โดยจะต้องเอาใสใ่ จเร่ืองกรรมและผลของกรรม โดยมุง่ สรา้ งบารมี ๑๐ ทศั ตั้งแต่ทาน

บารมี แต่ต้องพัฒนาไปสู่พุทธปัญญาโดยศึกษากฎเหตแุ ละผลในทางพระพุทธศาสนา

จะมองเหตุมองผลตามปฏิจสมุปบาทพิจารณากลบั ไปกลับมา

สว่ นการให้เหตผุ ลทางตะวันตกคอื ตรรกศาสตร์ เราจึงควรถอดบทเรยี นจาก

การประสตู ขิ องพระพทุ ธเจ้า ตรัสรู้ ของพระพทุ ธเจา้ และปรนิ พิ พานของพระพทุ ธเจา้

โดยยกอปริหานิยธรรมเปน็ ฐานสำคัญในการสร้างสันติภาพโลก ตั้งแต่การพูดคยุ กัน

โดยหลักอปริหานิยธรรมมีการแสดงถึงความกตัญญูเป็นฐาน ซึ่งแก่นธรรมในวัน

ปรินิพพานคือความไม่ประมาทมีสติเป็นฐาน โดยมุ่งสติปัฏฐาน สูตร ถือว่าเป็นส่ง

มอบภูมิปญั ญาให้กับชาวโลก

โดยสามารถถอดบทเรียน ๕ ประการ ประกอบด้วย กรรมเช่อื ผลของกรรม

สตปิ ญั ญา ความเพยี รพยายาม กฎแหง่ เหตุผล และไตรลกั ษณ์ จากนน้ั มีการปาฐกถา

พิเศษ เรอื่ ง “หลักปฏบิ ัติทางพระพุทธศาสนาเพือ่ สันติภาพและความสามัคคีในยาม

เกดิ ความขัดแย้ง” โดย พระธรรมพชั รญาณมุนี กล่าวประเดน็ สำคญั ว่า ความขัดแย้ง

เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์จะต้องเกิดข้ึนเป็นธรรมดา แต่โจทย์สำคัญคือป้องกนั

ความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้น จัดสรรหาความเป็นอยู่อย่างยุติธรรม โดยจัดสรร

ส่ิงแวดล้อมใหเ้ อ้ือต่อการบรรลธุ รรมโดยเฉพาะในทางพระพุทธศาสนา แตใ่ นทางโลก

บางครง้ั กฎหมายมกี ารเอื้อไมใ่ ห้กดิ ความขัดแยง้ โดย มคี วามเสมอภาคทางกฎหมาย

แต่กฎแห่งกรรมมีความลึกซึ้งมากกว่า แต่กฎหมายก็มีส่วนในการเร่งกฎแห่งกรรม

ด้วย ซึ่งการรับผลกรรมอาจจะไม่ปรากฎในชาตินี้จึงต้องอาศัยกฎหมายเข้ามา

ภาควชิ าการ 204

สนับสนุน ซึ่งปัจจุบันมองว่าคนรวยไม่ผิด คนจนผิดถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิในสังคม เช่น
กรณีการทจุ ริตในสงั คม มีการทำลายความเชื่อในระบบสังคม สถาบันสงฆ์จึงควรเป็น
ต้นแบบในความถูกต้องมีการรักษาพระวินัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งสาเหตุที่ศรัทธา
พระพทุ ธศาสนาเถรวาทคือมุ่งรกั ษาพระวินยั ผ่านการไม่ทำบาปทัง้ ปวง การทำกุศล
ให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่านการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตาม
แนวทางของครูบาอาจารย์

ซงึ่ มีวนิ ัยเปน็ ฐานในการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ขุ ถอื วา่ เป็นระบบทดี่ ที สี่ ุด โดย
มองความสามัคคีมี ๒ แบบ คือ ๑) สามัคคีแบบพาล ต่างคนต่างอยู่ อย่ามายุ่งเกีย่ ว
กนั ไม่กลา้ ตกั เตือนกนั ไม่พดู กัน ๒) สามัคคแี บบบณั ฑติ มีการปวารณาสามารถเตอื น
กนั ได้ ซึ่งเปน็ หลกั ในการดำเนินชีวติ พร้อมรบั เสยี งสะทอ้ นจากคนอื่นเพ่อื นำไปสูก่ าร
พฒั นาตนใหด้ ยี ิง่ ข้นึ ซึง่ ถงึ เวลาพูดควรพดู โดยมองกาละเทศะที่เหมาะสม มีสตวิ า่ ควร
จะสื่อสารอย่างไร ซึ่งถ้ามีความเห็นไม่ตรงกันจะต้องฝึกในการสื่อสารสร้างความ
เข้าใจกัน ฝึกที่จะยอมรับในความหลากหลาย สิ่งสำคัญชาวพุทธจะต้องเริ่มฝึกสติ
ต้ังแตเ่ ชา้ จะเป็นฐานการพฒั นาชีวิต

เวลา 13.00 – 16.30 น.
กจิ กรรม รับฟงั การบรรยาย
สถานที่ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จังหวดั เพชรบูรณ์
ภารกิจที่ได้รับ เขา้ ร่วมกิจกรรมเสวนาวิสาขบชู านานาชาติครั้งท1่ี 7/2565
ผา่ นโปรแกรม zoom
เร่อื ง หลักปฏิบัตทิ างพุทธศาสนา
เพ่ือสนั ตภิ าพและความสามคั คีในยามเกิดความขดั แย้ง
บรรยายโดย ศุภณัฐ เพิ่มพนู ววิ ัฒน์
ผู้อำนวยการสำนกั สนั ติวิธีและธรรมาภบิ าล สถาบันพระปกเกล้า
เนอ้ื หาการบรรยาย
ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั หลกั การการปฏบิ ัติ
ไม่ร้.ู . ..ไม่ทำ
ไม่ร.ู้ ....อยากทำ หรอื ทำ
รู.้ ........ไมท่ ำ หรือ ทำไม่ได้
รู้..........ทำ

รับรู้และรับฟัง หลักปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนาเพื่อสร้าง
สันติภาพและความสามัคคีเพือ่ เกิดความขัดแย้งเพื่อสินติภาพและความสามัคคีเพื่อ
สนั ตภิ าพแนวทางสร้างความสมานฉนั ทส์ ามคั คี

ภาควิชาการ 205

1) ความจรงิ – ปญั หา – สาเหตุของความขดั แย้ง – สรา้ งเปน็ องคก์ รความร-ู้ ลด
ความรู้สึกและความเชอ่ื ใชส้ นั ตวิ ธิ ี – เสาวนา -การเจรจาไกล่เกลย่ี คนกลาง-
แนวทางหรอื ข้อตกลง – ดำเนินการตามแนวทางและข้อตกลง

2) ความยุติธรรม – เนน้ กระบวนการ – เน้นการมีส่วนรว่ มของประชาชน-ทาง
กฎหมายและยตุ ธิ รรม-มีความเมตตากรณุ า – เปดิ ใจ - เหน็ อกเหน็ ใจ เอาใจ
ใส่เขามาใส่ใจเรา ทุกอยา่ งจะชนะ

หลักปฏิบตั ทิ างพระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนาเพอื่ สรา้ งสนั ติภาพและความสามัคคี
เพอื่ เกิดความขัดแยง้ เพอื่ สินติภาพและความสามัคคีเพอื่ สันตภิ าพ
- การปฏิบัติ ไมร่ ู้ > ไมท่ ำ – ไมร่ ู้ > อยากทำหรือทำ - รู้ > ไม่ทำหรือทำไม่ได้ - รู้ >
ทำ
หลกั ปฏบิ ัตพิ ้ืนฐานสำคัญมี ๓ อย่าง ความรู้ ทักษะ เจตคติ

(1) ความรู้ > ประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญ – กฎหมายสิทธิ -หน้าที่ – หลกั
อธิปไตร ๓ เขา้ กับหลักธรรม คอื อัตตา โลกกา ธัมมา

(2) ทักษะ > การส่ือสาร / การเจรจา / การตดั สินใจ (สจุ ปิ ลุ ิ)ฟงั คิด ถาม
เขียน สุจริต เข้ากับหลักธรรม ๓ ความประพฤติ ๓ ประการ (กาย
สุจรติ วจีสจุ รติ )

เจตคติ > จิตสำนึก วินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (หลกั ไตรสกิ ขา ศลี สมาธิ ปญั ญา)

เวลา 18.00 – 18.30 น.

กจิ กรรม ทำวัตรเย็น

สถานท่ี ศนู ย์พฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาคอ้ จังหวัดเพชรบูรณ์

ภารกิจที่ไดร้ บั เขา้ รว่ มกจิ กรรมทำวัตรเยน็

นำทำวตั รโดย ตัวแทนกลมุ่ 5

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเย็น

ทบทวนธรรม o อะตีตะปจั จะเวกขะณะ (อชชฺ มยา……….)

o กรวดนำ้ (อมิ นิ า……….)

แผ่เมตตา (สัพเพ สัตตา……….)

ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ 1. ได้ทบทวนธรรม

2. การสวดมนตเ์ ป็นการฝึกสมาธิ ให้ใจมีความสงบ ตั้งมั่นอยู่กับคำสวดมนต์อย่าง

ต่อเนอ่ื ง ใจจดจอ่ อยูก่ ับบทสวดมนตร์ ะมดั ระวังไม่ใหส้ วดผิด ซ่ึงการมีสมาธิอยกู่ บั

สวดมนต์นี้ จะทำให้เรามีความสงบเยือกเย็นในจิตใจเพิ่มมากขึ้น และมีพลังใน

การคดิ สร้างสรรคใ์ นสิ่งตา่ งๆ ไดด้ ียิง่ ขนึ้ อีกดว้ ย

ภาควชิ าการ 206

3. การสวดมนต์เปน็ การสรา้ งศรทั ธา สรา้ งความเช่อื ม่ันในคณุ ของพระรตั นตรยั เป็น
การเสริมสร้างพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา และน้อมนำหลักธรรมทาง
พระพทุ ธศาสนามาใช้ในการดำเนนิ ชีวติ อยา่ งมีคณุ คา่

เวลา 18.30 – 21.00 น.
กจิ กรรม รับฟงั การบรรยาย
สถานที่ ศนู ยพ์ ัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบรู ณ์
ภารกิจที่ได้รบั เขา้ รว่ มรบั ฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรือ่ ง การประชาสมั พันธ์
บรรยายโดย พธุ ทรพั ย์ มณีศรี
เนื้อหาการบรรยาย
ประโยชน์ท่ไี ด้รับ ความหมายของการประชาสมั พนั ธ์
การประชาสมั พนั ธ์ "Public Relations"

ivy Lee กล่าวว่า "การดำเนินงานอะไรก็ตาม ถ้าได้สร้างความสัมพันธ์กับ
ประชาชน เผยแพร่ออกไปใหป้ ระชาชนทราบ ให้ประชาชนเขา้ ใจถึงการดำเนินงาน
ของเรา ใหป้ ระชาชนมีส่วนรว่ มรเู้ หน็ ในการดำเนินงานของเรา ประชาชนกจ็ ะใหก้ าร
สนบั สนุนเรา"

รศ. ดร. เสรี วงษ์มณฑา กล่าววา่ "เปน็ ความพยายามท่มี กี ารวางแผนในการ
ทจี่ ะมอี ิทธพิ ลเหนือความคิดจิตใจของสาธารณชนท่เี กย่ี วข้องโดยการกระทำ ส่งิ ท่ีดีมี
คุณค่ากับสังคม เพื่อให้สาธารณชนเหล่านั้น มีทัศนคติที่ดีต่อหน่วยงาน องค์การ
บริษัท ห้างร้านหรือสมาคม ตลอดจนมีภาพพจน์ที่ดีเกี่ยวกับหน่วยงานต่าง ๆ
เหล่านนั้ เพือ่ ให้หน่วยงานไดร้ บั การสนับสนุนและความรว่ มมอื ที่ดจี ากสาธารณชนที่
เก่ียวข้องในระยะยาวตอ่ เนื่องกนั ไปเรื่อย ๆ"

สรุป
1. องค์กรไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยว องค์กรจะมีความเกี่ยวพันกับ
กลมุ่ ต่าง ๆ มากมาย เชน่
- หน่วยงานราชการอน่ื ๆ
- ภาคเอกชน NGO
- ประชาชน ข้าราชการ
- การเมือง
2. องค์กรจะขับเคลื่อนไปไดน้ นั้ ตอ้ งอาศัยความรว่ มมอื กับกลมุ่ ต่าง ๆ

ภาควิชาการ 207

วตั ถุประสงคข์ องการประชาสมั พนั ธ์
1. สร้างความรู้ ความเข้าใจ
2. เผยแพร่ (เผยแผ่) และชี้แจง
3. สร้างชื่อเสียงและป้องกันชื่อเสียง และแสวงหาความร่วมมือและการ
สนับสนุนจากประชาชน

ภารกิจของการประชาสมั พนั ธ์
1. การบอกกล่าว ชี้แจงข่าวสารสู่ประชาชน ในเวลาเดียวกันก็รับฟังข่าวสาร
ของประชาชน
2. การป้องกันและแก้ไขความเขา้ ใจทอ่ี าจผดิ พลาดได้
3. แนะนำผูบ้ ริหารถงึ แนวทางการกำหนดนโยบาย
4. จัดทำโครงการต่าง 1 ซง่ึ สร้างความเข้าใจกับประชาชน
5. การติดตามประเมินผล

กระบวนการประชาสัมพนั ธ์
1. การประชาสัมพนั ธ์ท่จี ะได้ผลดี จำเปน็ ตอ้ งทำเปน็ กระบวนการ

- การค้นหาความจริง (Fact Finding) คือ การสำรวจข้อเท็จจริงของ
ภาพลักษณ์ขององคก์ ร

- การวางแผน (planning and programming) ให้มีความสัมพันธ์กับ
วัตถปุ ระสงค์ขององคก์ ร

- การประเมินผล (Evaluation)
2. ประเภท

- แผนประชาสัมพนั ธ์ภายใน
- แผนการประชาสมั พันธ์ภายนอก
3. ระยะเวลา
- แผนระยะส้ัน (Short-range Plan)
- แผนระยะยาว (Long Term-range Plan)
4. แนวทาง
- แผนประเภทป้องกัน (Preventing Planning)
- แผนเพื่อแก้ปญั หา (Remedial Planning)
5. การส่ือสาร (Communication Action)
- ผ้สู ง่ สาร ภายใน ภายนอก
- เนอ้ื หา ข่าวสารต่าง ๆ

ภาควิชาการ 208

- ช่องทางการสอ่ื สาร ส่งผ่านส่ือ
- ผู้รบั สาร ประชาชน ภาคราชการ ภาคเอกชน NGO

หลกั เบื้องตน้ ของการประชาสมั พนั ธ์
1. วัดหรือองคก์ ารตอ้ งคำนงึ ถึงความรู้สกึ ของประชาชน (Public
Minded)
2. ต้องคำนงึ ถงึ การสอ่ื สารสองทาง (Two-way Communication)
3. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม (Social Responsibility)
4. การใหข้ า่ วหรือรายงานข่าวอยบู่ นรากฐานของความเป็นจรงิ
(Truth Reveals Itself)

เคร่ืองมอื การประชาสัมพันธ์
1. จำแนกตามลกั ษณะของสอ่ื ซ่งึ แบง่ ได้เป็น

- บอรด์ ประชาสมั พันธ์ (Bulletin Board or Poster)
- สื่อภาพและเสยี ง (Sight and Sound)
- โทรทศั น์วงจรปดิ (Closed Circuit TV)
- รายการวทิ ยุ
- บทความทางหนังสือพิมพ์ และกจิ กรรมพิเศษ (Staged Events)
- นิทรรศการ (Display and Exhibition)
- งานครบรอบการก่อตงั้ (Anniversaries)
- การประกวด (Contest) เป็นตน้
- จดหมาย (Letter)
- สื่อคำพูด (Spoken Word)
- เสียงตามสาย
- รายการโทรทศั น์
- สปอตโทรทศั น์ สปอตวิทยุ

2. สอ่ื มวลชน (Mass Media)
- การประชมุ แถลงข่าว (News Conference or Press Control)
- ขา่ วแจก (Press Release, News Release)
- การสมั ภาษณ์ (Exclusive Interview)
- การพบปะกับสื่อมวลชน (Press Meeting)

ภาควิชาการ 209

- งานเล้ียงขอบคณุ (Thank you Party)
- ภาพแจก (Photo Release)
- บทความ (Article) เป็นตน้

ประโยชน์ของการประชาสัมพนั ธ์
1. เหน็ โอกาส สร้างความนยิ ม ชื่อเสยี ง เกยี รติคุณ
2. เห็นภัยที่คุกคามงานและเสถียรภาพของหน่วยงานอันเกิดจากกระแส
ประชามติ
3. สมองเหน็ ทางเลอื กและแนวความคิดใหม่ ๆ แปลก ๆ
4. แก้ไข ใช้ประโยชน์ และประสานแนวความคิด ทัศนคติและพฤติกรรมของ
บคุ คล

เทคนคิ การหาข่าว
1. เทคนิคการหาข่าวทางตรง

1. ขอความร่วมมอื จากแหล่งขา่ ว
2. สง่ เจา้ หน้าที่หาข่าวโดยตรงในท่ปี ระชุม
3. จากการพูดคุยกับทุกคนท่ีเกย่ี วข้อง
4. สำรวจจากเอกสารต่าง ๆ เชน่ หนังสือและรายงานผลการวจิ ัย
5. วเิ คราะหจ์ ากภารกจิ อืน่ ขององคก์ ร
2. เทคนคิ การหาขา่ วทางออ้ ม
1. สร้างแนวคดิ รว่ มในการประชาสมั พนั ธ์
2. การใช้เครอื ข่าย
3. จากขอ้ มูลยอ้ นกลบั (Feedback)

เทคนคิ การเขียนขา่ ว
ตอ้ งส้ัน กะทดั รัด ได้ใจความ
ตอ้ งมผี ู้ใหข้ า่ ว
ทว่ั ๆ ไป เขียนข่าว 3 ตอน

- -ตอนแรก โปรยข่าว
- -ตอนที่สอง เนอื้ หาสาระสำคญั ของข่าว
- -ตอนทสี่ าม สรปุ

เทคนคิ ในการให้ขา่ ว

ภาควชิ าการ 210

1. ข่าวต้องสั้น กระชบั และตอ้ งมผี ใู้ หข้ า่ ว
2. ให้ขา่ วในทนั ที และมคี วามกล้าทม่ี ขี า่ ว
3. ให้ข่าวแก่บคุ คลภายในก่อน
4. ให้ขา่ วแกส่ ื่อมวลชนใหค้ รอบคลุมทกุ ส่อื และทุกพืน้ ท่ี
5. มีความเสมอภาคและเป็นธรรมในการใหข้ า่ ว

เทคนคิ การเลอื กสอื่
1. เลอื กตามกลุม่ เป้าหมายของการประชาสมั พันธ์
2. เลือกตามประเภทของข่าว
3. ข่าวท่มี ีผลกระทบตอ่ สังคมในวงกว้างและเปน็ ขา่ วท่ีไมถ่ กู ต้อง
4. ข่าวท่ตี ้องการปลุกจิตสำนึกและความรว่ มมือ
5. ขา่ วทมี่ ผี ลในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนง่ึ
6. ข่าวทบ่ี ุคคลทกุ วงการใช้ประโยชน์ได้
7. ข่าวทต่ี อ้ งการใหม้ นี ำ้ หนกั มากย่งิ ขน้ึ

เทคนคิ การสร้างความสัมพันธ์กบั สื่อ
1. รูปแบบที่เป็นทางการ

1. เชญิ มาพบปะ
2. เปน็ ผู้แทนองคก์ รไปร่วมงานพธิ ขี องสือ่
3. สง่ บัตรอวยพรปใี หม่ไปให้
4. ใหค้ วามเสมอภาคและให้ความเป็นธรรมในการใหข้ ่าว
5. ใหค้ วามสะดวกในการเชิญส่อื มวลชนมาทำขา่ ว
2. รูปแบบทไี่ ม่เป็นทางการ
1. ทำความร้จู ักและคุน้ เคยกบั ผู้สอื่ ข่าว
2. รว่ มแสดงความยนิ ดหี รือเสยี ใจกับผู้สอ่ื ขา่ วหรอื สอ่ื มวลชนให้ความสะดวกแก่

ส่ือมวลชนในเรอ่ื งส่วนตัวตา่ ง ๆ

กิจกรรมวันท่ี 8

วัน ศุกร์ ท่ี 13 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เวลา 05.00 – 05.30 น.

กิจกรรม ทำวตั รเชา้ และเจรญิ จิตภาวนา

สถานท่ี ศนู ยพ์ ัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาคอ้ จังหวดั เพชรบูรณ์

ภารกิจทีไ่ ด้รับ เขา้ รว่ มกิจกรรมทำวตั รเชา้

ภาควชิ าการ 211

นำทำวัตรโดย พระมหาไมตรี อาสภชโย กลุ่ม 7

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวตั รเช้า

ทบทวนธรรม o ระตะนัตตะยปั ปะณามะคาถา (พุทโธ สสุ ุทโธ..........)

o ตังขณิกปัจจเวกขณปาฐะคาถา (ปฏสิ ังขาโย..........)

o ปตั ตทิ านะคาถา (ยา เทวะตา..........)

o แผเ่ มตตา (สัพเพ สัตตา..........)

ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 1. สามารถไล่ความขี้เกียจเพราะขณะสวดมนต์อารมณ์เบื่อเซื่องซึมง่วงนอนเกียจ

คร้านจะหมดไป และเกิดความแช่มชืน่ กระฉับกระเฉงขึ้น

2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตวั เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด

มนต์อย่างต้ังใจ ไม่ไดค้ ิดถงึ ตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จงึ มไิ ดเ้ กิดขึน้ ในจติ

3. เป็นการกระทำท่ไี ด้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยรูค้ ำแปล ร้คู วามหมาย ก็ย่อมทำ

ให้ผู้สวดได้ปัญญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไม่รู้อะไร

เลย

4. มจี ติ เป็นสมาธิ เพราะขณะนนั้ ผสู้ วดตอ้ งสำรวมใจแน่วแน่ มฉิ ะนั้นจะสวดผิดท่อน

ผิดทำนอง เม่ือจิตเปน็ สมาธิ ความสงบเยอื กเยน็ ในจติ จะเกดิ ขน้ึ

5. เปรยี บเสมอื นการได้เฝ้าพระพทุ ธเจา้ เพราะขณะนนั้ ผสู้ วดมี กาย วาจา ปกติ (มี

ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี

ปญั ญา) เทา่ กับได้เฝ้าพระองคด์ ้วยการปฏบิ ตั ิบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จรงิ

เวลา 05.30 – 06.50 น.
กิจกรรม รบั ฟังการบรรยาย
สถานที่ หอประชุมพร รัตนสุวรรณศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัด
เพชรบรู ณ์
ภารกจิ ที่ได้รบั เข้าร่วมรับฟังการบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรือ่ ง งานพระธรรมทูตไทยสายตา่ งประเทศ
OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHU'S TASK
บรรยายโดย พระโสภณวชริ าภรณ์ (ไสว โชติโก ป.ธ.๖) ดร. อัคคมหาบณั ฑิต
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประธานคณะกรรมการดำเนนิ งานโครงการอบรมพระธรรมทูตสายตา่ งประเทศ

เวลา 08.30 – 10.50 น.
กจิ กรรม รบั ฟังการบรรยาย

ภาควชิ าการ 212

สถานท่ี ศูนยพ์ ัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จงั หวดั เพชรบรู ณ์
ภารกิจทไี่ ดร้ ับ เข้ารว่ มกจิ กรรมเสวนาวิสาขบชู านานาชาตคิ รั้งท1ี่ 7/2565
รับฟังการบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรอื่ ง กรณุ าธรรมในยามวกิ ฤติ
หลกั ปฏิบตั ิทางพระพุทธศาสนาเพ่อื เยียวยาสงั คมโลก
บรรยายโดย นายวษิ ณุ เครืองาม รองนายยกรฐั มนตรี
เนอื้ หาการบรรยาย
ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั ไดท้ ราบขอ้ มลู
ธรรมทีพ่ ระพุทธเจ้าทรงใช้กบั เวไนยสตั ว์ คอื พรหมวหิ าร 4
พรหมวหิ าร แปลวา่ ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เปน็ ใหญ่

พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรบั ทกุ คน เปน็ หลกั ธรรมประจำใจทีจ่ ะชว่ ยให้เรา
ดำรงชีวิตอยไู่ ด้อยา่ งประเสริฐและบริสทุ ธ์ิ หลกั ธรรมนี้ได้แก่

เมตตา ความปรารถนาให้ผูอ้ ืน่ ไดร้ ับสุข
กรณุ า ความปารถนาให้ผอู้ ่ืนพน้ ทุกข์
มุทิตา ความยินดีเมอื่ ผู้อ่นื ได้ดี
อุเบกขา การรู้จกั วางเฉย

คำอธิบายพรหมวหิ าร 4
1. เมตตา : ความปารถนาให้ผู้อื่นได้รับสขุ ความสุขเป็นสิ่งท่ีทุกคนปรารถนา
ความสุขเกดิ ข้นึ ไดท้ ง้ั กายและใจ เช่น ความสขุ เกิดการมที รพั ย์ ความสขุ เกิด
จากการใช้จ่ายทรพั ย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้ และ
ความสขุ เกดิ จากการทำงานทปี่ ราศจากโทษ เป็นต้น
2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามา
เบียดเบยี นให้เกดิ ความไมส่ บายกายไมส่ บายใจ และเกดิ ขนึ้ จากปจั จัยหลาย
ประการดว้ ยกนั พระพทุ ธองค์ทรงสรุปไว้วา่ ความทุกข์มี 2 กลมุ่ ใหญ่ๆ ดงั นี้
o ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย
เช่น การเกิด การเจบ็ ไข้ ความแกแ่ ละความตายส่ิงมีชีวิตทง้ั หลายท่ีเกิด
มาในโลกจะต้องประสบกับการเปล่ียนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลยี่ ง
ไมไ่ ด้ ซึง่ รวมเรียกว่า กายิกทกุ ข์
o ทุกขจ์ รหรอื ทุกข์ทางใจ อนั เปน็ ความทกุ ขท์ ่ีเกดิ จากสาเหตุที่อยู่นอกตัว
เรา เช่น เมอื่ ปรารถนาแลว้ ไมส่ มหวังกเ็ ปน็ ทุกข์ การประสบกับส่งิ อนั ไม่
เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิง่ อันเป็นท่ีรัก ก็เป็นทุกข์ รวม
เรียกวา่ เจตสิกทกุ ข์

ภาควิชาการ 213

3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อืน่ ได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสขุ
หรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความ
ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา
ความรษิ ยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟงุ้ ซ่านซ่งึ มักเกิดขึ้นเมื่อ
เห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิด
ความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกง
ของเพอื่ นนกั เรียนคนนน้ั ใหส้ กปรกเลอะเทอะ เราต้องหมนั่ ฝึกหดั ตนให้เป็น
คนท่ีมีมทุ ิตา เพราะจะสรา้ งไมตรีและผกู มิตรกับผอู้ ่ืนได้ง่ายและลึกซงึ้

4. อุเบกขา : การร้จู กั วางเฉย หมายถงึ การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเหน็
วา่ ใครทำดีย่อมไดด้ ี ใครทำชวั่ ย่อมได้ชัว่ ตามกฎแหง่ กรรม คอื ใครทำสิ่งใด
ไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรม
ในทางที่เป็นโทษเราก็ไมค่ วรดใี จหรอื คดิ ซำ้ เตมิ เขาในเรื่องทีเ่ กดิ ขึน้ เราควรมี
ความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผูอ้ ืน่ ให้พน้ จากความทกุ ข์ในลักษณะ
ทถี่ กู ต้องตามทำนองคลองธรรม
o มนุษย์ทั้งผองต้องมีความกรุณากัน ดังเนื้อหาท่ีปรากฏในเนื้อหนาของ
ท่านมหาตมา คานธี ว่า “โลกมนุษย์ทั้งผองคือเพื่อนกัน” โดยยึด
หลักธรรมคือ เนกาสี ลภเต สุขํ กินผู้เดียว ย่อมไม่ได้ความสุข ฉันนั้น
มนุษย์โลกคนที่มนี ั้นต้องแบง่ ให้คนที่ไม่มี โดยยึดหลักกรุณา เพราะวา่
มนุษย์ต้องช่วยเพอื่ นมมนษุ ยด์ ว้ ยกันใหห้ ลุดพน้ จากโรคคือความหวิ

องคก์ รสหประชาชาติได้ประกาวกิ ฤตรา้ ยแรงทสี่ ำคญั 6 อย่างคือ
1. วกิ ฤตอันเกิดจากลมฟา้ อากาศ
2. วิกฤตอนั เกิดจากการทีโ่ ลกประสบวิกฤตโิ ลกของผู้สงู อายุ
3. วกิ ฤตอันเกิดจากหวิ โหยของผคู้ นบนโลก
4. วิกฤตอันเกิดจากก่อการร้าย,การต่อสู้ที่ปรากฏไปทั่วโลกทั้งในอดีตและ
ปจั จุบัน
5. วกิ ฤตอันเกดิ จากเทคโนโลยที ี่มีววิ ฒั นาการเตบิ โตข้นึ อย่างรวดเร็ว
6. วิกฤตอนั เกิดจากโรคระบาด เชน่ โควิด-19 เป็นตน้ ที่เกดิ ขนึ้ ในยุคปัจจบุ ัน
วิษณุ เครอื งาม” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเปดิ งานฉลองวันวิสาขบู

ชา วันสำคัญสากลของโลก ครั้งท่ี 17 ประจำปี 2565 และประชุมวิชาการผู้นำชาว
พุทธนานาชาติหัวข้อ “กรุณาธรรมในยามวิกฤต : หลักปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา
เพอื่ เยียวยาสังคมโลก” ชู “ความกรณุ า” ชว่ ยแก้วกิ ฤตโิ ลก และถอื เปน็ “ซอฟท์ พาว
เวอร”์ ทางพุทธศาสนา.

ภาควิชาการ 214

หลักธรรมที่นำไปสู่สันติสุข ไม่เบียดเบียน คือ หลักว่าด้วยความกรุณา ใน
ความกรณุ ามี 2 มติ ิ คือ มติ ขิ องอรยิ สจั เข้าใจความทุกข์ในขนั ธ์ 5 และมิติแห่งความ
เป็นมนุษย์ โดยมนุษย์จะพึงปฏิบัติร่วมกัน เพราะกินอิ่มเพียงคนเดียวไม่สุข โดย
มงุ่ หวงั ให้มกี ารแบ่งปันตอ่ เพอื่ นมนษุ ย์ องคก์ ารสหประชาชาติ (UN) ไดเ้ คยระบุไว้ว่า
โลกจะประสบวิกฤติ 6 ประการ คือ 1.การแปรปรวนของสภาพอากาศ 2.สังคม
ผู้สงู อายุ 3.ความหวิ โหย 4.การก่อการร้าย และการต่อสู้ 5.เทคโนโลยี ท่สี ามารถใช้ได้
ทั้งในทางสร้างสรรค์และทำลาย 6.โรคระบาด ซึ่งวิกฤติทั้ง 6 ประการดังกล่าว
สามารถแก้ไขได้หลายวธิ ี แตว่ ิธหี นง่ึ ทีจ่ ะนำมาใช้แกว้ กิ ฤตไิ ดเ้ ปน็ อย่างดี คือ คณุ ธรรม
ในทางพระพุทธศาสนาว่าด้วย ความกรุณา เพราะความกรุณาจะทำให้เกิดความ
ชว่ ยเหลือ การให้ การใหค้ วามรู้ ใหธ้ รรมะ ใหอ้ ภยั การพูดให้กำลงั ใจกัน...

ด้านพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กรรมการมหาเถร
สมาคม (มส.) ในฐานะประธานกรรมการบริหารสภาสากลวันวิสาขบชู าโลก ประธาน
บริหารสมาคมมหาวทิ ยาลยั พระพทุ ธศาสนานานาชาติ กล่าววา่ การจัดประชุมครั้งน้ี
ยังมีการหารือแนวทางในการแปลพระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ เป็น
ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพธิ ี
บรมราชาภเิ ษก โดยกำหนดแลว้ เสรจ็ ใน 3 ปี ซ่ึงประมุขสงฆ์ ผู้นำชาวพุทธจากท่วั โลก
ทไ่ี ด้รบั ทราบถึงโครงการดังกลา่ ว ต่างอนโุ มทนา แสดงความยนิ ดี ทีม่ กี ารจดั โครงการ
นี้ขึ้น สำหรับการจัดประชุมในครั้งนีด้ ำเนินการท้ังในรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์
โดยกำหนดผู้เขา้ ร่วมประชุมทีศ่ ูนยป์ ระชมุ สหประชาชาติเพียง 250 รูป/คน เท่านัน้
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโรคโควิด-
19

เวลา 13.00 – 16.30 น.
กิจกรรม รบั ฟังการบรรยาย

สถานที่ The 17th United Nations day of Vesak Celebration 2022,
ภารกิจทีไ่ ดร้ ับ Theme: “Compassion in Times of crises: Buddhist Practices in
เรอ่ื ง healing global community”
บรรยายโดย
เนอ้ื หาการบรรยาย ศนู ยพ์ ัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาคอ้ จงั หวัดเพชรบูรณ์
ประโยชน์ท่ีได้รบั เข้าร่วมรับฟังการบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
“พุทธกรณุ าเยยี วยากายใจในยามโลกวิกฤต”

ได้รับทราบข้อมลู

Thich Nhat Hanh's Socially Engaged Bud

ภาควิชาการ 215

๕ Buddhist Approaches that can help us deal with Corona
pandemic anxiety
๑) Acknowledging the fear
๒) Practicing mindfulness meditation
๓) Cultivating compassion
๔) Understanding our interconnections
๕) Using this time to reflect

๑. Acknowledging the fear
Instead of reacting with fear, Buddhist teachers advise working
with fear.
As Theravada Buddhist monk Ajahn Brahm explains, when "we
fight the world, we have what is called suffering," but 'the more
we accept the world, the more we can actually enjoy the world."

๒. Practicing mindfulness meditation
Mindfulness meditation are key Buddhist teachings.
Mindfulness practices aim to curb impulsive behaviors with
awareness of the body feeling, mind, dhamma.

Mindfulness? with gentle attention and clear knowing, in
the present moment, here and now as it is, awakening to
authentic presence.

Among the ๑ ๑ ๙ countries listed as contributing to the
mindfulness literature, the United States has the highest overall
research performance (๔ ๖ . ๗ % ) - > The proportion of US
publications fell from ๕๒ in the early period (๑๙๖๖-๒๐๑๕) to ๔๓.๔%
in the more recent period (๒๐๑๖-๒๐๒๑).

In some Asian countries, there has been a recent increase
in the publication outcome. China's contribution increased
from ๒.๗% to ๕.๙%, Iran from ๐.๖% to ๒.๑% and India from ๐.๗% to
๑.๘%

KAIST Center for Contemplative Scrence
๑. Step by Step Mindfulness, Here & Now as it is
๒. All Steps, Science-based Meditation Programs
- Heart-Smile Training : HST
- Mindful Self Compassion : MSC
- Acceptance-Commitment Therapy : ACT Matrix
Mindfulness Based Stress Reduction : MBSR
dfulness Based Cognitive Therapy for Life : MBCT for Life

ภาควิชาการ 216

Objectives
Learn how to manage the balance and harmony of your life for
genuine happiness and prosperity.

1) Aware of the body sensations and recover the resilience!
2) Improve empathy and acceptance!
3) Renew perspectives!
4) Cultivate creativity!

๓. Cultivating compassion
Buddhist teachings emphasize the "four

immeasurables": loving-kindness,compassion, joy and
equanimity. Buddhist teachers believe these four attitudes can
replace anxious and fearfulstates of mind.Heart-Smile Practice
Raise the corners of your mouth and lower your eyebrows with
your mind, Connect each other while imagining a round sun
face!

Heart-Smile Training(HST) Development Process
This is the digital age, we need loving-kindness and compassion
more than ever. At the time of difficulty, we need empathy,
sharing, and coexistence as a part of common humanity
Spreading the Heart-Smile globally beyond religions/races
Based on scientific evidence
Heart-Smile Training

Heart-Smile Training Program Components
Happiness-mind matrix
Awakening to Authentic Presence with Loving Kindness and
Compassion Meditation

1) Five Senses Cleansing: Eye, nose, ear and tongue yoga,
tea meditation, etc.

2) Mindful-Heartful Movement: Heart-Smile Movement,
Gratitude-Love Movement

3) Mindful Body Scan: Fascia body scan in lying and organ
body scan in sitting

4) Gratitude-Acceptance meditation
5) Sound meditation
6) Heart-Smile Garden: Breathing with a loving-smile
meditation, Gratitude-love walking meditation,
Heart-smile movement in lying down, Tea meditation, Tongue
yoga, Rock-paper-scissors meditation, etc.

Compassion-based Meditation Program
Mindful Self-Compassion (MSC)
(Neff, & Germer, ๒๐๑๓)

ภาควิชาการ 217

Center for Mindfulness and Compassion CHA, Harvard Medical
School, USA
Compassion Cultivation Training (CCT)
(Jazaieri, McGonigal, Jinpa, et al., ๒๐๑๔)
Center for Compassion and Altruism Research and Education,
Stanford University, USA
Compassion Focused Therapy (CFT)
(Paul Gilbert, Braehler, Gumley, Harper, et al, ๒๐๑๓)
Centre for Compassion Focused Therapy, University of Derby,
UK
The ReSource Project
(Tannia Singer, Bethany E. Kok, et al., ๒๐๑๖)

๔. Understanding our interconnections
Buddhist doctrines recognize an interconnection between
everything. The
pandemic is a moment to see this more clearly. With every
action someone takes
for self-care, such as washing one's hands, they are also helping
to protect others.
๕. Using this time to reflect
Times of uncertainty, Buddhist teachers argue, can be good
apportunities for putting these teachings into practice.

Individuals can transform disappointment with the
current moment into motivation to change one's life and
perspective on the world. If one reframes obstacles as part of
the spiritual path, one can use difficult times to make a
commitment to living a more spiritual life.

Korea Monk say:
vHO's Actions in Covid-๑๙

ㆍProcurement: Global Procurement Platform

ㆍTraining: multilingual "Open WHO" Platform

ㆍEmergency Use listing (EUL): vaccines, diagnostics,...

ㆍCountry level support: Core Capacities, Guidelines, Surge
Capacity (GOARN),.

vHO's Actions in Covid-๑๙

ㆍGlobal Leadership. Calls for solidarity, equity

ㆍCoordination of Global Support and of Research: PPE/
Diagnostics/ Vaccines (COVAX)/ Solidarity Fund / R&D

ภาควชิ าการ 218

Blueprint / costed Strategic Preparedness and Response
Plan (SPRP)/
ㆍInformation Sharing based on science: guidelines
briefings, SitReps, .... Countering infodemics

vHO's Actions in Covid-๑๙
ㆍDeclaration of a 'Public Health Emergency of International
Concern" (PHEIC
ㆍTemporary Recommendations: early detection, containment,
contact tracing, isolation, prevention,...
ㆍNo call for travel/trade restrictions
Caveats: Temporary Recommendations are not binding. WuO
cannot use unofficial reports without verification by o

vHO's Actions in Covid-๑๙
ㆍDeclaration of a 'Public Health Emergency of International
Concern" (PHEIC
ㆍTemporary Recommendations: early detection, containment,
contact tracing, isolation, prevention,...
ㆍNo call for travel/trade restrictions
Caveats: Temporary Recommendations are not binding. WuO
cannot use unofficial reports without verification by o

vHO's International Health Regulations (IHR)
ㆍIHR aim: "To assist in the prevention and response of Public
Health threats that can spread internationally"
ㆍLegally binding
ㆍMember States to develop "core capacities"
ㆍWHO/DG can declare PHEIC and issue temporary
recommendations

JHO's International Health Regulations (IHR)
ㆍIHR aim: "To assist in the prevention and response of Public
Health threats that can spread internationally"
ㆍLegally binding
ㆍMember States to develop "core capacities"
ㆍWHO/DG can declare PHEIC and issue temporary
recommendations

ภาควิชาการ 219

vHO's Constitution (๑๙๔๘)

ㆍArt ๑: The objective of the WHO shall be the attainment by all
peoples of the highest possible level of health*.
ㆍArt ๒ : Functions of WHO: to "coordinate...", "collaborate...",
"provide technical assistance...", "promote...", "standardize..."
ㆍArt ๓: Membership shall be open to all States

vHO's Constitution (๑๙๔๘)

ㆍArt ๑: The objective of the WHO shall be the attainment by
all peoples of the highest possible level of health*.
ㆍArt ๒: Functions of WHO: to "coordinate...", "collaborate...",
"provide technical assistance...", "promote...",
"standardize..."

ㆍArt ๓: Membership shall be open to all States
vHO at a glance
UN specialized agency for health (๑๙๔๘)

ㆍGoverned by the WHA, EB and RC. WHO is the Secretariat

ㆍ Headquarters in Geneva, ๖ regional offices, ๑๔๘ country

offices
Secretariat is staffed by ๘๐๐๐+ staff

เวลา 18.00 – 18.30 น.

กจิ กรรม ทำวัตรเยน็

สถานที่ ศนู ยพ์ ัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาคอ้ จงั หวัดเพชรบูรณ์

ภารกิจทไี่ ดร้ บั เขา้ ร่วมกิจกรรมทำวัตรเยน็

นำทำวตั รโดย คณาจารย์

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเย็น

ทบทวนธรรม o อะตตี ะปัจจะเวกขะณะ (อชฺช มยา……….)

o กรวดนำ้ (อมิ ินา……….)

แผเ่ มตตา (สัพเพ สตั ตา……….)

ประโยชน์ที่ได้รับ 1. ได้ทบทวนธรรม

2. การสวดมนตเ์ ป็นการฝึกสมาธใิ หใ้ จมีความสงบต้ังม่ันอยกู่ ับคำสวดมนต์อยา่ งตอ่

เนือ่ งใจจดจ่ออยกู่ บั บทสวดมนตร์ ะมดั ระวังไม่ให้สวดผดิ ซ่ึงการมสี มาธิอยกู่ บั สวด

มนต์นีจ้ ะทำให้เรามคี วามสงบเยือกเย็นในจิตใจเพิม่ มากขึน้ และมีพลังในการคิด

สร้างสรรค์ในส่ิงต่างๆ ได้ดียง่ิ ข้นึ อีกดว้ ย

ภาควิชาการ 220

3. การสวดมนตเ์ ป็นการสร้างศรทั ธา สร้างความเช่อื มั่นในคุณของพระรตั นตรยั เป็น
การเสริมสร้างพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนาและน้อมนำหลักธรรมทาง
พระพุทธศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวติ อยา่ งมีคุณค่า

เวลา 18.30 – 21.00 น.
กิจกรรม รบั ฟงั การบรรยาย
สถานที่ ศูนย์พฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบรู ณ์
ภารกิจทไี่ ดร้ บั เขา้ รว่ มรบั ฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรื่อง พทุ ธธรรมสำหรบั พระธรรมทตู
บรรยายโดย พระมงคลธีรคุณ, ดร. รองเจ้าอาวาสวดั ญาณเวศกวนั
เนื้อหาการบรรยาย กิเลส 3 อย่าง คอื

• ตณั หา

• มานะ

• ทิฏฐิ

- ปจั จบุ นั โลกกำลงั พยายามทำปรับธรรมชาติให้เกดิ ความสมดลุ
- พระธรรมทตู จะทำอย่างไร ? ให้ชาวโลกไดร้ ับรคู้ ำสอนของพระพุทธศาสนา
- เราจะทำอยา่ งไร ? ในการประกาศศาสนาตอ่ ชมุ ชน สงั คม และประเทศ
- กิเลส 3 อย่าง เปน็ ตน้ เหตทุ ี่ทำให้คนเข่นฆ่ากัน ทำรา้ ยกัน โดยเฉพาะ ทฏิ ฐิ
- พระสูตรที่พูดถึงพระภิกษุที่ศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนาแล้ว ก็ออกหาสถานที่

สำหรบั ปฏิบตั ธิ รรม

มาตกิ มารดา ผู้ร้วู าระจติ
มาติกมารดา ผู้รู้วาระจิต – ครั้งหนึ่งในอดีต ใกล้เชิงเขาในแคว้นโกศล มี

หมบู่ ้านชื่อ มาติกคาม วันหนึง่ มีภกิ ษปุ ระมาณ 60 รูป เรียนกรรมฐานจากพระศาสดา
แล้วจึงได้จาริกมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ โดยมีอุบาสิกาซึ่งเป็นมารดาของผู้ใหญ่บ้าน
อุปถัมภใ์ หบ้ ำเพญ็ ธรรมโดยสะดวก

ครงั้ นั้นภิกษุผ้เู ปน็ หัวหน้าประชุมกับเพอ่ื นภิกษุวา่ “ท่านทั้งหลายพวกเราไม่
ควรประมาทไม่อย่างนั้นคงได้ตกนรกกันแน่เราเรียนกรรมฐานมาจากพระพุทธองค์
แล้วพระองค์ไมโ่ ปรดคนโอ้อวดมมี ายาเกียจคร้านแตโ่ ปรดผมู้ ีอัธยาศัยงามขอให้พวก
เราอยู่ดว้ ยความไม่ประมาทพวกเราไม่ควรอยู่ร่วมกัน 2 รูปนอกจากเวลาทีม่ าบำรุง
พระเถระตอนเย็นและเวลาบิณฑบาตตอนเช้า ถ้าภิกษุรูปใดป่วย ให้มาตีระฆัง พวก
เราจกั ชว่ ยกนั ทำยาให้”

ภาควชิ าการ 221

ได้ยินดงั นัน้ ภิกษทุ ้ังหลายกท็ ำตามกติกากันอย่างสมำ่ เสมอ วันหน่ึงอบุ าสิกา
มาหาภิกษุ นางใหค้ นรับใชถ้ อื เนยใสกบั น้ำออ้ ยมาดว้ ย คร้นั มาถึง นางไมเ่ หน็ ภกิ ษเุ ลย
จึงถามคนทีน่ ั่น และได้ทราบวา่ ภิกษทุ ง้ั หลายอยูใ่ นท่ีพัก จะไม่ออกมาพลุกพล่าน นาง
จึงปรารภว่า “ทำอย่างไรหนอจึงจะพบพระคุณเจ้าได้” คนผู้นั้นบอกว่า ถ้าตีระฆัง
พระภิกษุจะออกมา นางจึงตรี ะฆัง เพยี งช่วั ครู่ ภิกษตุ ่างเดนิ มาลำพัง ไม่มาเปน็ 2 รูป
เห็นดงั น้ัน อบุ าสกิ ากเ็ ข้าใจว่าพระทะเลาะกันจึงไม่เดินมาดว้ ยกัน เม่อื กราบเรียนถาม
พระก็ตอบว่าไดท้ ำกตกิ ากันไวว้ ่า เวลาปฏบิ ตั ิธรรมใหแ้ ยกกนั อยู่

“ปฏิบัติธรรมคืออะไรเล่าพระคุณเจา้ ” อบุ าสิกาถาม
พระตอบว่า “พวกอาตมาสาธยายอาการ 32 มผี ม ขน เล็บ ฟนั หนัง เปน็ ตน้
ว่าเปน็ ของไม่สะอาด และพิจารณาความเส่อื มไปของร่างกาย”
“การพิจารณาอย่างนั้น สมควรแก่ภิกษุเท่านั้นหรือ ไม่สมควรแก่ข้าพเจ้า
หรอื ”
“อุบาสกิ า ธรรมนี้พระศาสดาไม่ได้ทรงหา้ มผ้ใู ด ใครจะสาธยายก็ได้”
“ถ้าอยา่ งนนั้ โปรดบอกแก่ข้าพเจา้ ด้วย”
หลังจากนัน้ ภิกษุจึงสอนอาการ 32 แก่นาง อุบาสิกาสาธยายอยู่ไมน่ านนกั
ก็ได้บรรลุเป็นพระอนาคามีก่อนภิกษุเหล่านั้น หลังเสวยสุขจากมรรคผลแล้ว นาง
ตรวจดูด้วยตาทิพย์แล้วรำพึงออกมาว่า “เมื่อไรหนอพระคุณเจ้าทั้งหลายจะบรรลุ
ธรรมน้ี พระคุณเจ้าท้ังหมดยงั เป็นปุถุชน มีความโลภ โกรธ หลงอยู่ ท่านจะมีบุญได้
บรรลุหรือไมห่ นอ”
เมื่อตรวจดตู อ่ ไป นางก็รูว้ ่า “ภิกษุท้ังหมดจะได้บรรลธุ รรม” จึงรำพึงต่อไป
ว่า “อะไรเป็นอุปสรรคอยู่” นางได้เห็นว่าภิกษุยังขาดอาหารอันสมควรแก่การทำ
ความเพียร ตั้งแต่วันนั้นมา นางจึงสั่งให้จัดอาหารอันประณีตหลายอย่างไปถวาย
แล้วแตจ่ ะเลือกฉนั
เมื่อภิกษุได้ฉันอาหารที่เหมาะสม ร่างกายกระปรี้กระเปร่า จิตก็ดิ่งลงสู่
อารมณเ์ ดียว เจริญวิปัสสนาไม่นานกไ็ ด้บรรลอุ รหตั ผลเปน็ พระอรหนั ต์ ภกิ ษทุ ้ังหลาย
ระลึกถงึ อุปการะของอบุ าสกิ าเป็นอนั มาก
เมอื่ ออกพรรษาแล้ว ภิกษุได้ลาอุบาสกิ าไปเฝา้ พระผู้มพี ระภาคท่เี ชตวันมหา
วิหาร เมื่อไปถึงได้เข้าเฝ้าแล้ว พระศาสดาก็ตรัสถามเรื่องต่างๆ ภิกษุทูลเล่าถึง
อปุ การะของอุบาสิกาวา่ เปน็ ผถู้ วายอาหารอนั ประณีตและสามารถร้วู าระจิตของพวก
ตนว่าตอ้ งการอะไร ไมต่ อ้ งการอะไร เป็นต้น
ภกิ ษุรปู หน่ึงอย่ใู นทีเ่ ฝา้ ได้ฟงั คำบอกเล่าเหล่าน้ันด้วยมีความประสงค์จะไป
อยู่ที่บ้านนั้น จึงเรียนกรรมฐานจากพระศาสดาแล้วทูลลาไป เมื่อไปถึงวิหารในปา่ ก็
คิดว่า “เขาเลา่ ลือกันวา่ อบุ าสกิ ารู้วาระจติ ของผอู้ ่นื ตอนนีเ้ ราเดินทางมาเหนด็ เหนอื่ ย

ภาควชิ าการ 222

นางจะให้คนมาปัดกวาดวิหารให้เราได้ไหมหนอ” ส่วนอุบาสิกานั่งอยูใ่ นบ้าน ทราบ
ความแลว้ ก็สง่ คนไปปดั กวาดวิหาร

ตอ่ จากน้นั ภิกษคุ ดิ อยากดมื่ น้ำหวาน วนั ร่งุ ข้ึนอยากฉนั ข้าวต้มและแกงอยา่ ง
ใด อบุ าสิกาก็จดั มาถวายทกุ อย่าง ทสี่ ำคญั เมื่อภิกษคุ ดิ ว่าอยากพบอุบาสิกา นางกม็ า
หา เมื่อฉนั อาหารเสร็จแล้ว ภกิ ษุถามวา่

“อุบาสิกา ทา่ นหรอื ชอ่ื มาติกมารดา”
“ถกู แลว้ ทา่ น” อุบาสกิ าตอบ
“ทา่ นทราบวาระจิตของคนอน่ื หรือ”
“ทำไมท่านจงึ ถามอย่างน้นั ”
“ท่านทำทกุ อย่างทีอ่ าตมาคดิ ”
“ภิกษุท่ีรูจ้ ติ คนอนื่ กม็ ีอยู่มาก” อุบาสกิ าตอบเลยี่ ง
“อาตมาไมไ่ ด้ถามถึงคนอนื่ อาตมาถามถึงทา่ น”
แต่กระนั้นอุบาสิกาก็ไม่ได้ตอบตรงๆ กลับพูดว่า “ธรรมดาคนที่สามารถรู้
วาระจิตของคนอื่นได้ ย่อมทำอย่างนั้น” หลังจากพูดคุยกันวันนั้นแล้ว ภิกษุเกิด
ความคดิ วา่ “เราทำกรรมหนกั เสียแล้ว ธรรมดาปถุ ุชนยอ่ มคดิ สิง่ ทด่ี ีบา้ ง ไม่ดีบ้าง ช่ัว
บ้าง ถ้าเราคิดสิ่งที่ไม่สมควร อุบาสิกาจะพึงตำหนิเรา ทำให้เราละอาย อย่ากระนัน้
เลย เราหนีไปจากที่นี่เสียดีกว่า” เมื่อคิดดังนี้แล้วจึงไปลาอุบาสิกา แล้วเดินทาง
กลับไปยงั สำนกั ของพระศาสดา เม่ือไปถึง พระศาสดาตรัสถามว่า ทำไมจงึ รีบกลบั มา
ภกิ ษทุ ูลวา่ อุบาสกิ ารวู้ าระจิตทุกอย่าง ธรรมดาปุถชุ นย่อมคดิ ดบี า้ ง ไมด่ บี ้าง
“เธอควรอย่ทู ี่น่นั แหละภิกษุ” พระศาสดาตรัสบอก
“ข้าพระองคอ์ ยู่ไม่ได้แน่พระเจ้าขา้ ”
พระพทุ ธองคจ์ งึ ตรสั สอนวา่
“รกั ษาจิตของเธอท่ีขม่ ได้ยาก จงขม่ จิตไว้ใหไ้ ด้ อยา่ ใหค้ ดิ ถึงอะไรอื่น ให้ดิ่ง
ลงในอารมณ์อันควรแก่สมณะ จิตนี้ข่มได้ยากเกิดดับเรว็ มักตกไปในอารมณ์อันนา่
ใคร่ การฝกึ จิตน้ันเปน็ การดี เพราะจิตทฝี่ กึ แลว้ ย่อมนำความสขุ มาให้”
เมื่อภิกษุรับคำแนะนำของพระพุทธองค์แล้ว ก็เดินทางกลับไปมาติกคาม
อุบาสิการู้พฤติการณ์ทั้งปวง จัดหาอาหารประณีตมาถวาย จนสองสามวันผ่านไป
ภิกษุนั้นได้บรรลุอรหัตผลเป็นพระอรหันต์ ภิกษุรำพึงถึงอุปการะของอุบาสิกา และ
ระลึกชาติในอดีตย้อนหลังไปถึง 99 ชาติ ได้เห็นว่าอุบาสิกานั้นเคยเป็นภรรยาของ
ท่านมา 99 ชาติ แต่นางมใี จใหช้ ายอน่ื จงึ ไดฆ้ ่าทา่ นเสยี ถึง 99 ชาตมิ าแล้ว รู้อยา่ งน้นั
ทา่ นกป็ ลงธรรมสงั เวชวา่

ภาควชิ าการ 223

“นา่ สังเวชจรงิ หนอ อบุ าสิกาทำกรรมหนกั มาแล้วเหลอื หลาย” มหาอุบาสกิ า
นงั่ อยใู่ นบา้ น รเู้ หตกุ ารณท์ ั้งปวงแล้ว นางจงึ พิจารณาชาตทิ ่ี 100 ไดเ้ ห็นว่าในชาตินั้น
ตนไดส้ ละชีวติ คอื ตายแทนภิกษุน้ัน จึงสง่ กระแสจติ ไปยงั ภกิ ษุ เตอื นวา่

“ขอทา่ นได้โปรดพิจารณาตอ่ ไปถงึ ชาติที่ 100 เถิด”
ภิกษุได้ยินเสียงนางด้วยหูทิพย์จึงระลึกถึงชาติที่ 100 ได้เห็นความ
เสยี สละของอุบาสิกาแลว้ กม็ จี ติ เบกิ บาน เข้าสู่ปรนิ พิ พาน ณ ที่นั้นเอง
ธรรมะ 4 อยา่ ง คอื
1. ธรรมชาติ คอื สง่ิ ทงั้ หลายท่เี ปน็ ไปตามธรรมดา เชน่ ดนิ นำ้ ลม ไฟ ต้นไป สัตว์
เหลก็ คอมพวิ เตอร์
2. ธรรมดา คือ ความเป็นจริงของธรรมชาติหรือความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น
ต้นไม้เกิดจากเมล็ดหรือการต่อกิง่ โตด้วยปุ๋ยอากาศแสงแดดและน้ำ มนุษยเ์ กดิ
ขึ้นมากต็ ้องตายในท่สี ุด เหล็กท่ีอณุ ภมู หิ อ้ งจะมีสภาพเป็นของแข็ง คำวา่ สัจธรรม
มักเป็นคำพอ้ งของคำวา่ ธรรมชาติและบางครงั้ ของธรรมดา
3. ธรรมจรยิ า คือ มนุษย์เป็นธรรมชาติและอยูภ่ ายใต้กฎธรรมดา มนุษย์ท่ีต้องการ
ชีวิตที่ดีก็ต้องปฏิบัติถูกต้องสอดคล้องกับธรรมชาติและธรรมดานั่นคือข้อพึง
ปฏิบัติของมนุษย์ที่สอดคลอ้ งกับธรรมชาติและธรรมดาเพือ่ ใหไ้ ดป้ ระโยชน์ เช่น
การใช้ไฟซึ่งเปน็ ธรรมชาิติและเกิดจากเชื้อเพลงิ และมีความรอ้ นซึ่งเป็นธรรมดา
เมื่อนำมาใช้หุงข้าวโดยไมล่ วกตนเองก็คือข้อปฏิบัตทิ ่ีเรียกว่าธรรมจรยิ า หน้าที่
ศีล สมาธิ ปัญญา ล้วนเป็นธรรมจริยา
4. ธรรมเทศนา คือ ความจริงที่มีอยู่แล้วถูกค้นพบโดยพระพุทธเจ้า เป็นคำสอน
ตา่ งๆ ทเี่ ป็นสื่อไปถงึ ความหมายของธรรมะใน 3 ความหมายแรก

วินัย ไมใ่ ช่เฉพาะศีลอย่างเดียว
วินัย คอื เปน็ การจัดต้ังระบบรปู แบบ
วนิ ัย คอื การท่ที ำให้มนษุ ย์มรี ะบบ
กาม อะไรคือ กาม

อะไรคอื การตง้ั อยขู่ องกาม
อะไรคือ ทางออกของกาม
รปู อะไรคือ รูป เชน่ หญงิ ทม่ี ีรูปสวยงาม แล้วพอใจในรปู น้ัน
อะไรคือ การตง้ั อยขู่ องรูป
อะไรคือ ทางออกของรูป เชน่ การเปล่ยี นแปลงทางรูปร่างท่เี กดิ จากการแก่
เฒ่า ชรา จากทีม่ ีรูปสวยกเ็ ปลย่ี นไป มีผวิ สวยกเ็ หีย่ วไป ออกดว้ ยการละกาม
ฉันทะ

ภาควิชาการ 224

เวทนา อะไรคือ เวทนา ความสุขของเวทนา ความทุกข์ของเวทนา
อะไรคือ การตั้งอยู่ของเวทนา
อะไรคือ ทางออกของเวทนา คอื การละกามะฉันทะ

หลักการใชป้ ญั ญา
- มองหาความจรงิ
- หาประโยชน์ของสิ่งนัน้ จากสิ่งน้นั อยา่ งเชน่ เมอ่ื มีคนดา่ อย่าให้ความโกรธ
มาปิดบังปญั ญา เราต้องมองหาประโยชน์ เช่น หาว่าเขาด่าเราเร่ืองอะไร ก็
จะไดป้ ระโยชน์จากส่ิงน้ัน

พุทธคุณ 9 ย่อมาเหลือ 3 คอื
1. พระบรสิ ทุ ธคิ ุณ
2. พระปัญญาคณุ
3. พระกรุณาคณุ

เรายดึ เอาธรรมะ คอื ความเปน็ จริง ความถูกต้องดีงามเป็นทีต่ ้งั
เรามชี ีวติ วันหนึ่งแล้ว เราต้องใชช้ ีวิตใหด้ ที ่สี ดุ

สิ่งกลอ่ ม 5 อย่าง
1. สุรา ยาเสพติด และการพนนั เป็นสิง่ กลอ่ มที่เลวร้ายทีส่ ุด ซึ่งเปน็ ทางเลี่ยงหลบ

จากความทกุ ข์และชว่ ยให้ลมื ปัญหาในเมอ่ื ไม่มีความเข้มแขง็ เพยี งพอ โดยเฉพาะ
การพนนั อาจเป็นเพราะอยากจะไดผ้ ลสำเรจ็ แตไ่ มส่ ทู้ ่จี ะทำงานหนัก จึงคดิ เอา
เฉพาะหน้าง่ายๆ โดยหวังลาภลอย
2. กีฬา การบนั เทิง ทำใหส้ ดชื่น ฟ้ืนกำลงั ทำใหห้ ลงมัวเมาในแสง สี เสียง
3. วรรณกรรม ดนตรี ทำให้เราเสียเวลามากเกนิ ไป ทำเป็นเครือ่ งพักผอ่ นหยอ่ นใจ
คลายกังวล พอใหเ้ พลนิ ๆ หลบเร่อื งรอ้ น ลืมเรอื่ งรดั เพิ่มความมีชีวิตชีวาบา้ งเป็น
บางครง้ั บางคราว ถ้ารจู้ ักเลอื กและรู้จักใชก้ เ็ ปน็ ประโยชนไ์ ม่น้อย
4. สิ่งศกั ดส์ิ ทิ ธิ อทิ ธฤิ ทธิ์ ปาฏิหารยิ ์ ไปหวังพึ่งอำนาจดลบันดาล หวังลาภลอยจาก
สิ่งเลื่อนลอย นับว่าเป็นทางออกจากการท่ีจะต้องทำด้วยความเพียรพยายามท่ี
หนกั และยากลำบาก
5. สมาธิ คนจำนวนมากเอามาใช้เปน็ สิง่ กล่อม คอื มันช่วยใหส้ บาย พอเขา้ สมาธิได้
ก็นั่งเพลินอยู่นั่นแหละ สบายสงบจิตใจ มีความสุข หายฟุ้งซ่าน ความกลุ้ม

ภาควชิ าการ 225

ความเครียดกห็ ายไป ที่วา่ น้กี ็ดเี หลือเกิน สบาย แตเ่ มื่อตดิ สมาธิ มวั นัง่ สมาธิ ไม่
เอาแลว้ ปญั หามไี ม่แก้ กก็ ลายเปน็ ติดสิ่งกล่อมเหมอื นกนั

วธิ คี ิดแบบรู้ทันคณุ โทษและทางออก
• พิจารณาให้เห็นครบทั้ง อัสสาทะ อาทีนวะ และนิสสรณะ เป็นการมองส่ิง

ท้งั หลายตามความเปน็ จรงิ อกี แบบหนงึ่ ซง่ึ เนน้ การยอมรับความจริงตามท่ีสิ่ง
น้ันๆ เป็นอย่ทู กุ แงท่ ุกด้าน ทง้ั ดา้ นดี ด้านเสยี และเป็นวิธคี ดิ ท่ตี ่อเนื่องกับ
การปฏบิ ัติมาก เชน่ บอกว่า ก่อนจะแกป้ ญั หา ตอ้ งเขา้ ใจปัญหาใหช้ ดั และ
รทู้ ีไ่ ปให้ดกี อ่ น หรือกอ่ นจะละส่ิงหนึ่งไปหาอกี ส่งิ หนึง่ ตอ้ งรูจ้ กั ท้งั สองฝ่ายดี
พอ ที่จะให้เห็นได้ว่า การละและไปหานั้น หรือการทิ้งอย่างหนึ่งไปเอาอกี
อยา่ งหนงึ่ นั้น เปน็ การกระทำทีร่ อบคอบ สมควร และดีจริง

- อสั สาทะ แปลว่า ส่วนดี ส่วนอรอ่ ย สว่ นหวานช่ืน คุณ คุณค่า
ขอ้ ทน่ี ่าพงึ พอใจ

- อาทีนวะ แปลวา่ ส่วนเสีย ขอ้ เสีย ชอ่ งเสีย โทษ ข้อบกพร่อง
- นิสสรณะ แปลว่า ทางออก ทางรอด ภาวะหลุดรอดปลอดพน้

หรือสลัดออกได้ ภาวะที่ปลอดหรือปราศจากปัญหา มีความสมบรู ณ์
ในตัว ดีงามจริง โดยไม่ขึ้นต่อข้อดีข้อเสีย ไม่ขึ้นต่ออสั สาทะ และอา
ทนี วะ ของสิง่ ท่ีเปน็ ปญั หาหรือภาวะท่ีสลดั ออกมานนั้ (นิสสรณ์ ก็ได)้
-
การคดิ แบบนมี้ ลี กั ษณะทพี่ งึ ยำ้ ๒ ประการ
1. การท่ีจะชอื่ ว่ามองเหน็ ตามเป็นจรงิ นนั้ จะต้องมองเหน็ ท้ังด้านดี ด้านเสยี หรอื ท้ัง
คุณ และโทษของสิ่งนั้นๆ ไม่ใช่มองแต่ด้านดีหรือคุณอย่างเดียว เช่น ที่ชื่อว่า
มองเหน็ กามตามเป็นจริง คอื รทู้ ง้ั คณุ และโทษของกาม
2. เมื่อจะแก้ปัญหา ปฏิบัติหรือดำเนินมรรควิธีออกไปจากภาวะที่ไม่พึงประสงค์
อยา่ งใดอย่างหน่ึงนน้ั เพียงรู้คุณโทษ ข้อดีข้อเสีย ของสิง่ ทเี่ ปน็ ปญั หาหรอื ภาวะที่
ไมต่ อ้ งการเท่านั้น ยงั ไมเ่ พียงพอ จะต้องมองเห็นทางออก มองเหน็ จดุ หมาย และ
รู้ว่าจุดหมายหรอื ทจี่ ะไปน้ัน คืออะไร คืออยา่ งไร ดีกวา่ และพน้ จากขอ้ บกพร่อง
จุดออ่ น โทษ สว่ นเสยี ของส่งิ หรือภาวะที่เปน็ ปญั หาอยู่น้ันอย่างไร ไม่ต้องข้ึนต่อ
คุณโทษ ข้อดีข้อเสียแบบเก่าอีกต่อไปจริงหรือไม่ จุดหมาย หรือท่ีไป หรือภาวะ
ปลอดปัญหาเชน่ นัน้ มอี ยู่จรงิ หรอื เปน็ ไปได้อยา่ งไร

ภาควชิ าการ 226

ทั้งนี้ ไม่พึงผลีผลามละทิ้งสิ่งที่คิดว่าเป็นปัญหา หรือผลีผลามปฏิบตั ิ เช่น
พระพุทธเจา้ ทั้งท่ีรู้แจ่มแจ้งวา่ กามมขี ้อเสยี มโี ทษมากมาย แต่ถ้ายังไม่เห็น
นิสสรณะแห่งกาม กไ็ ม่ยนื ยนั ว่าจะไมเ่ วยี นกลับมาหากามอีก

"ภกิ ษุท้งั หลาย ก่อนสัมโพธิ เมอื่ ยงั เปน็ โพธิสตั ว์ ผยู้ งั มไิ ดต้ รสั รู้ เราได้มี
ความคดิ ว่า อะไรหนอคือสว่ นส่วนดี (อสั สาทะ) ในโลก อะไรคอื สว่ นเสีย (อาทนี
วะ) อะไรคือทางออก (นสิ สรณะ)? เรานน้ั ไดม้ ีความคิดว่า ความสุขความฉำ่ ชื่น
ใจ ที่เกิดขึ้นด้วยอาศัยสิ่งใดๆในโลก นี่คือส่วนดีในโลก ข้อที่โลกไม่เที่ยง เป็น
ทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา นี้คือส่วนเสียในโลก ภาวะที่บำราศ
ฉันทราคะ เป็นที่ละฉนั ทราคะในโลกได้ (นิพพาน) นค้ี ือทางออกในโลก”
หลกั การบรรทดั ฐานของชาวพุทธ ไดแ้ ก่
1. ฝึกแล้วคอื เลศิ มนุษย์ - ฝึกตนดว้ ยสกิ ขา คือ การศกึ ษา
2. ใฝ่พุทธคุณเป็นสรณะ - ฝึกตนให้มีปัญญา มีความบริสุทธิ์ และมีเมตตากรุณา
ตามอย่างองค์พระสมั มาสัมพทุ ธเจา้
3. ถือธรรมะเป็นใหญ่ - ถือธรรม คือความจริง ความถูกต้อง ดีงาม เป็นใหญ่ เปน็
เกณฑต์ ัดสิน
4. สรา้ งสังคมให้เยยี่ งสังฆะ - ให้มีสามคั คี เปน็ ท่ีมาเกือ้ กลู รว่ มกันสร้างสรรค์
5. สำเร็จดว้ ยกระทำความดี - กระทำทด่ี ีงามแหง่ ตน โดยพากเพยี รอยา่ งไม่ประมาท
เวลา 21.05 น.
ทำกจิ สว่ นตวั / พักผอ่ น
เวลา 22.00 น.
ปิดไฟ

กิจกรรมวันที่ 9

วัน เสาร์ ท่ี 14 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เวลา 05.00 – 05.30 น.

กจิ กรรม ทำวัตรเช้าและเจรญิ จิตภาวนา

สถานท่ี ศูนยพ์ ฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบูรณ์

ภารกจิ ที่ไดร้ ับ เข้าร่วมกิจกรรมทำวัตรเช้า

นำทำวัตรโดย ตวั แทนกลมุ่ 8

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเชา้

ทบทวนธรรม o ระตะนตั ตะยัปปะณามะคาถา (พุทโธ สุสุทโธ..........)

o ตงั ขณิกปัจจเวกขณปาฐะคาถา (ปฏิสงั ขาโย..........)

o ปตั ตทิ านะคาถา (ยา เทวะตา..........)

ภาควชิ าการ 227

ประโยชน์ที่ไดร้ ับ o แผเ่ มตตา (สพั เพ สัตตา..........)

1. สามารถไล่ความขี้เกียจเพราะขณะสวดมนต์อารมณ์เบื่อเซือ่ งซึมง่วงนอนเกียจ
ครา้ นจะหมดไป และเกิดความแช่มช่นื กระฉับกระเฉงขึน้

2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตวั เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด
มนต์อย่างตง้ั ใจ ไม่ไดค้ ิดถงึ ตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิไดเ้ กิดขึน้ ในจิต

3. เปน็ การกระทำทไ่ี ดป้ ัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยรูค้ ำแปล ร้คู วามหมาย ก็ย่อมทำ
ให้ผู้สวดได้ปญั ญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไมร่ ู้อะไร
เลย

4. มีจิตเป็นสมาธิ เพราะขณะน้นั ผ้สู วดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มฉิ ะนัน้ จะสวดผดิ ท่อน
ผดิ ทำนอง เมื่อจติ เปน็ สมาธิ ความสงบเยอื กเย็นในจติ จะเกิดขึ้น

5. เปรียบเสมือนการได้เฝ้าพระพุทธเจา้ เพราะขณะนนั้ ผู้สวดมี กาย วาจา ปกติ (มี
ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี
ปญั ญา) เทา่ กับไดเ้ ฝา้ พระองค์ด้วยการปฏิบตั ิบชู า ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง

เวลา 05.30 – 06.50 น.
กิจกรรม รับฟงั การบรรยาย
สถานที่ หอพระธรรมคัมภีร์ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาคอ้ จงั หวดั เพชรบูรณ์
ภารกิจทไ่ี ด้รบั เขา้ รว่ มรับฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรื่อง ความสำคญั ชองภาษากับการพัฒนาพระธรรมทูต
(The Importance of Language for Dhammaduta Development)
บรรยายโดย พระมหาสุรศกั ด์ิ ปจจฺ นฺตเสโน,ผศ.ดร.
ผ้อู ำนวยการสถาบนั ภาษา มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เนือ้ หาการบรรยาย
ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ • การสร้างแรงบนั ดานใจ
• แนวคดิ
• ประสบการณ์

ปฏสิ มั ภิทา 4
1. อตั ถปฏสิ มั ภิทา (Discrimination of meanings)
2. ธมั มปฏิสมั ภทิ า (Discrimination of ideas)
3. นิรตุ ติปฏสิ มั ภิทา (Discrimination of languages)
4. ปฏิภาณปฏิสมั ภทิ า (Discrimination of sagacity)

ภาควิชาการ 228

ความหมายของภาษา
ภาษา หมายถงึ ส่ือหรือเครอื่ งมือท่มี นษุ ย์ใชใ้ นการส่อื สารกัน

• ภาษาเป็นเคร่ืองมือสื่อความคดิ
• ปรงุ ประดษิ ฐเ์ ป็นเสน้ อกั ษร
• เปน็ เรือ่ งราวเป็นรูปภาพ เป็นกาพย์กลอน
• เปน็ อาภรณ์แห่งปัญญาคา่ ของตน

ความสำคัญของภาษา

• ภาษาช่วยธำรงสังคมส่ิงที่ใชแ้ สดงกฎเกณฑ์ทางสงั คม ก็คือ ภาษา สังคมจะ

ธำรงอยู่ไดด้ ้วยเหตุผล ๓ ประการ คือ มนุษย์มีไมตรีต่อกันเช่นการทักทาย

ปราศรัยมนษุ ย์ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบของสังคม และมนุษยป์ ระพฤติตนให้

เหมาะแก่ฐานะของตน เช่น การใช้ภาษาตามฐานะในสังคมและใช้ให้

เหมาะสมกับความสัมพนั ธก์ บั ผู้อ่นื

• ภาษาช่วยให้มนุษย์พัฒนา มนุษย์แต่ละคนย่อมมีประสบการณ์และความ

คดิ เหน็ ตา่ งกัน เมอ่ื มกี ารเผยแผแ่ ละการถา้ นทอดกันตอ่ ๆไป โดยอาศยั ภาษา

ทำให้มีผู้รู้มากขึ้นและความรู้ก็เผยแพร่ขยายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ สังคม

มนุษย์จงึ พัฒนาตอ่ เนื่องมาตลอด

• ภาษาช่วยกำหนดอนาคต มนุษย์ใชภ้ าษาเพอ่ื ดำเนินมาตรการหรือเตรียมรับ

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ภาษาเพื่อกำหนดให้ได้ดังประสงค์นั้น ผู้ใช้ต้อมี

ความสามารถในการใช้ภาษา อาจใช้ในรูปแบบของการวางแผน การทำ

สญั ญา การพพิ ากษา การดำเนนิ มาตรการ การพยากรณ์

• ภาษาชว่ ยจรรโลงใจ จรรโลงใจ หมายถึง คำ้ จุนจติ ใจไวใ้ ห้มั่นคง ใช้ได้กับสิ่ง

ที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม การจรรโลงใจจึงหมายถึง การค้ำจุนจิตใจให้

เบิกบานมั่นคง ไม่ตกไปข้างอำนาจฝ่ายต่ำ เช่น การร้องเพลง การพูดให้

ขบขัน หรอื ตอ้ งการจรรโลงใจจากนทิ าน บทกวี สุนทรพจน์ สภุ าษิต คำขวญั

เป็นต้น ส่ิงเหลา่ นต้ี อ้ งการการรอ้ ยเรียงทางภาษาทัง้ สน้ิ

• ทส่ี ำคัญ ภาษายังชว่ ยใหค้ นเข้าถึงธรรม บรรลธุ รรม ความจรงิ

• ภาษาชว่ ยทำให้พัฒนาความคิดและสติปญั ญา เช่น

น้ำเคีย้ วยูงวา่ เงย้ี ว ยงู ตาม

ภาควชิ าการ 229

ทราบเหลอื บหางยงู งาม ว่าหญ้า
ตาทรายยิ่งนิลวาม พรายพรศิ
ลงิ ว่าหว้าหวงั วา่ หว่าด้นิ โดดตามฯ

ประเภทของภาษา
• วัจนภาษา คือ ภาษาพูด ภาษาเขยี น เปน็ ภาษาทม่ี รี ะบบระเบียบวิธใี น
การใชส้ ำนวนภาษาทสี่ ่ือสารในชีวิตประจำวันของมนษุ ย์มคี ังนี้
• สำนวนภายาสามญั เปน็ ภาษาทเี่ ราใช้กันอยู่ในชวี ติ ประจำวัน
• สำนวนภาษาการประพนั ธ์ มุ่งใหเ้ กิดภาพพจน์ เกดิ ความสะเทอื นอารมณ์ ใช้
ใน
บทประพันธร์ อ้ ยแกว้ และร้อยกรอง ซึ่งบางคำ บางสำนวน กม็ ีใช้ปะปนกับ
ภาบาสามญั หรือกายาสือ่ มวลชนได้
• สำนวนภาษาสอ่ื มวลชน เป็นสำนวนทเ่ี ราไดพ้ บ ไดย้ ินตามขา่ วทางวิทยุ
• โทรทศั น์ หนงั สอื พิมพเ์ ป็นแบบฉบับเฉพาะ เชน่ ใช้คำว่า เปิดเผย แทนคำว่า
แถลงหรือชี้แจง
• สำนวนภาษาใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารผ่านระบบ
คอมพวิ เตอร์ เช่น ออนไลน์ แชท เว็บไซต์ โพสต์
• อวจั นภาษา คือ ภาษาทใ่ี ชส้ ือ่ ความหมายโดยการใช้สหี นา้ ท่าทาง การแต่ง
กาย อาการเคลื่อนไหวมือ แขน นัยน์ตา น้ำเสียง ให้รู้ความหมายและ
อารมณข์ องผสู้ ื่อ
• การสื่อสารด้วยอวัจนภาษาเป็นการสื่อสารที่มีขอบเขตกว้างมาก อยู่
นอกเหนอื จากภาษาถ้อยคำ การตีความ แปลความ ข้นึ อยูก่ บั ประสบการณ์
และความเข้าใจของผู้รับสาร
• อวจั นภาษามีประ โยชน์มากมายทง้ั ในด้านการตดิ ตอ่ สอื่ สาร การศึกษา

ภาษาคนภาษาธรรมกับการพฒั นาพระธรรมทตู
• กายภาวนา (Physical Development)
การพฒั นากาย การฝึกฝนอบรมกาย ใหร้ ูจ้ กั ตดิ ตอ่ เก่ียวข้องกับสิ่งทั้งหลายภายนอก
ด้วยดี และปฏิบัติต่อสิ่งเหล่านั้นในทางที่เป็นคุณ มิให้เกิดโทษ, การพัฒนา

ภาควชิ าการ 230

ความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพให้เกิดประ โยชน์ดีงามและสร้างสรรค์
กลา่ วโดยย่อคือ การกนิ เปน็ ใช้เปน็ บรโิ ภคเป็น
• สีลภาวนา (Social Development)
การพัฒนาความประพฤติ การฝึกอบรมตนให้ตั้งอยู่ในระเบียบวินัย ไม่เบียดเบียน
หรือกอ่ ความเดอื ดรอ้ นเสยี หายแก่สังคมหรอื ผอู้ ่นื อยู่ร่วมกับผ้อู นื่ ไดด้ ้วยดี ไม่เอารัด
เอาเปรียบกันเกือ้ กูลสงเคราะหก์ ันและกัน กล่าวโดยสรุปคือ เข้าสังคมเป็น พูดเปน็
สอ่ื สารเป็น รวมทั้งใชเ้ ครื่องมือเพอ่ื สื่อสารเปน็
• จิตตภาวนา (Emotional/Mental Delvelopment)
การพัฒนาจิต การฝึกฝนอบรมจิตใจให้เข้มแข็งมั่นคงเจริญงอกงามด้วยคุณธรรม
ทั้งหลาย เชน่ มีเมตตากรณุ า มฉี นั ทะ ขยนั หมัน่ เพยี ร อดทน มีสมาธิ และสดช่ืนเบิก
บาน เป็นสุขผ่องใส เป็นต้น กล่าวโดยสรุปคือ มีคุณภาพจิตดี มีสมรรถภาพจิตดี มี
สขุ ภาพจติ ดี ที่สำคัญคอื อยู่คนเดียวเปน็

เวลา 18.00 – 18.30 น.
กิจกรรม ทำวัตรเย็น
สถานที่ ศูนย์พฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบรู ณ์
ภารกจิ ทีไ่ ด้รับ เข้าร่วมกิจกรรมทำวัตรเย็น
นำทำวตั รโดย พระมหาธนทั หาสธโน ตวั แทนกลุ่ม 5
บทสวดทำวัตร/
ทบทวนธรรม o บททำวตั รเยน็
o อะตตี ะปจั จะเวกขะณะ (อชชฺ มยา……….)
ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั o กรวดนำ้ (อมิ นิ า……….)

แผ่เมตตา (สัพเพ สัตตา……….)
1. ไดท้ บทวนธรรม
2. การสวดมนตเ์ ป็นการฝึกสมาธิ ให้ใจมีความสงบ ตั้งมั่นอยู่กับคำสวดมนต์อย่าง

ต่อเนื่อง ใจจดจอ่ อยกู่ ับบทสวดมนตร์ ะมัดระวงั ไม่ใหส้ วดผิด ซง่ึ การมสี มาธอิ ย่กู บั
สวดมนต์นี้ จะทำให้เรามคี วามสงบเยือกเย็นในจิตใจเพิ่มมากขึ้น และมพี ลังใน
การคิดสรา้ งสรรค์ในสง่ิ ต่างๆ ไดด้ ีย่ิงขึ้นอกี ดว้ ย
3. การสวดมนต์เปน็ การสร้างศรทั ธา สรา้ งความเช่ือม่นั ในคณุ ของพระรตั นตรยั เป็น
การเสริมสร้างพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา และน้อมนำหลักธรรมทาง
พระพุทธศาสนามาใชใ้ นการดำเนนิ ชีวิตอยา่ งมคี ณุ ค่า

ภาควิชาการ 231

เวลา 18.30 – 21.00 น.
กิจกรรม รบั ฟงั การบรรยาย
สถานที่ ศนู ย์พฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวดั เพชรบรู ณ์
ภารกิจที่ไดร้ บั เข้ารว่ มรบั ฟังการบรรยายผ่านโปรแกรม zoom
เร่อื ง ประสบการณ์งานพระธรรมทูตสายต่างประเทศการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ใน
อังกฤษ
บรรยายโดย
Experience Dhammadu Bhikkhus'sMission Propagating
เน้อื หาการบรรยาย Buddhism in UK
ประโยชนท์ ี่ได้รับ
พระมหาภาสกรณ์ ปิโยภาโส ป.ธ ๙, เลขาธิการองค์กรพระธรรมทตู ไทยในสหราช
อาณาจักรและโอร์แลนด์ เลขานุการสงฆ์เกรวาทในสหราชอาณาจักร (TBSUK) วัด
พุทธปทีป ลอนตอน ประเทศสหราชอาณาจกั ร

การกอ่ ตัง้ พุทธสมาคม (Buddhist Society)
• พุทธนิกายต่าง ๆ เชน่ เถรวาท เซน ธเิ บต
• การก่อต้งั English Sangha Trust
• วัดไทยในสหราชอาณาจักร และองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราช
อาณาจกั ร
• บทบาทพระสงฆแ์ ละวดั ในสงั คมตะวันตก
• ทักษะเบอ้ื งต้นทพี่ ระธรรมทูตควรมี

การกอ่ ตง้ั สมาคมพทุ ธ ท่ดี ำเนินการโดยฆราวาสผเู้ ลอื่ มใสในคำสอน
อาร์.เจ,แจกสัน (R.J. Jackson) ได้ประกาศต่อสาธารณชนว่า เขาคือชาว

พุทธผู้ดำรงชีวิตตามหลักพทุ ธรรมโดยไม่หวาดหวนั่ ต่อการถูกประณาม เชื่อกันว่าเขา
คือชาวพุทธองั กฤษคนแรกทีป่ ระกาศตนอย่างเปดิ เผย หลังจากประกาศตนแล้ว ในปี
พ.ศ.2449 อาร์.เจ.แจกสันก็เริ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยยืนบรรยายบนลังสบ่ใู น
สวนสาธารณะ

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เจ.อาร์.เปน (J.R. Pain) อดีตทหารบกซึ่งเคย
ประจำการอย่ใู นพม่าได้เปดี ร้านขายหนงั สอื พระพทุ ธศาสนา ณ ถนนเบอร์ ตำบลบูม
เบอร์รี่ และได้รบั วารสาร The Buddhist จากพม่ามาขายด้วย ชาวอังกฤษสนใจซอื้
อ่านวารสารนีก้ ันมาก อาร์.เจ.แจกสันและเจ.อาร์.เปน ร่วมมือกันก่อต้ังพุทธสมาคม
แห่งแรกขึ้นในกรุงลอนดอน และในปีพ.ศ.2450 ด้วยความร่วมมือกับ ศ.ริส เดวิดส์
และพระอานนั ทเมตเตยยะ พุทธสมาคมแห่งน้ี ไดข้ ยายเครอื ข่ายเป็นพทุ ธสมาคมแหง่

ภาควชิ าการ 232

บริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ (Buddhist Society of Great Britain and Ireland) โดย
ศ.รสิ เดวิดส์
เปน็ ประธาน ไดพ้ ิมพว์ ารสารพทุ ธศาสตร์ปริทศั นเ์ ผยแพร่ด้วย
พุทธสมาคม (พ.ศ. 2467 ถงึ ปจั จบุ ัน)

• The Buddhist Society was founded in 1924, by the late
Christmas Humphreys, building on the pioneer work of
the Buddhist Society of Great Britain and Ireland (1907
to 1926). Among lay organisations, it is one of the oldest
Buddhist societies in Europe. From its inception it has
not been attached to any one school of Buddhism,
remaining non-sectarian in character and open in
principle to the teachings of all schools and traditions.
Nor does the Society lend its official support to any
activity of a political nature, whether national or
international, this being proscribed by the terms of its
constitution.

• พทุ ธสมาคม ก่อต้งั เมือ่ ปี พ.ศ. 2467 โดยคริสมาส อมั ฟรยี ์ สบื ต่องานท่ีพุทธ
สมาคมแห่งบริเทนและไอร์แลนด์ได้ริเริ่มเอาไว้ ถือว่าเป็นสมาคมชาวพุทธ
ของฆราวาสที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตั้งแต่แรกเร่ิม สมาคมไม่ได้ยึดติดอยู่กบั
พุทธศาสนานิกายใดนิกายหนึ่ง ยังคงรักษารูปแบบที่ไม่ยึดติดนี้ไว้ และเปดิ
รับคำสอนจากทุกนิกาย ตราสารของสมาคมระบุชัดว่า จะไม่สนับสนุน
กจิ กรรมทางการเมอื ง ไมว่ ่าจะเปน็ ระดบั ประเทศหรือนานาชาติ

• Christmas Humphrey, a distinguished lawyer who was
to become a High Court Judge was President of the
society he founded until his death in April 1983. Over the
many years of his presidency the Society flourished and
became widely known and respected, both at home and
overseas.

• คริสมาส อัมฟรีย์ นักกฎหมายผู้มีชื่อ ซึ่งต่อมาเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธณ์
(High Court )เป็นประธานสมาคมผู้ก่อตั้งจนถึงแก่มรณะ เมื่อเดือน
เมษายน พ.ศ. 2526 ตลอดหลายปีในช่วงที่คริสมาสดำตำแหน่งเป็น
ประธาน สมาคมเจริญก้าวหน้า เป็นทีร่ ู้จักและนับถืออย่างกวา้ งขวางทัง้ ใน
องั กฤษและตา่ งประเทศ

• In 1956 the Society moved to its present address at
Eccleston Square and in that same year participated in
the Buddha Jayanthi, the celebration of the 2,500th

ภาควิชาการ 233

anniversary of the Buddha's Enlightenment which took
place in India.

• ในปี พ.ศ. 2499 สมาคมได้ย้ายมาที่อยู่ปัจจุบัน ใกล้ ๆ กลับจตุรัส
Eccleston และในปีเดยี วกนั นั้น ไดร้ ว่ มฉลอง 2500 ปีแห่งการตรัสรู้

• In 1961 His Holiness the Dalai Lama became Patron to
the Buddhist Society, the first in the West to be so
honoured. During these especially fruitful years the
Society received many distinguished visitors, including
Her Majesty the Queen of Bhutan (1925) and Their
Majesties The King and Queen of Thailand (1966).

• ในปี พ.ศ. 2504 องค์ดาไล ลามะ ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์พุทธสมาคม
นับว่าเป็นการให้เกียรติอย่างสูงครั้งแรกในประเทศตะวันตก และในช่วงปี
พิเศษน้ีสมาคมมโี อกาสต้อนรับแขกผทู้ รงเกยี รติ รวมถงึ สมเดจ็ พระรชินีแห่ง
ภูฐาน (ปี 2468 ) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวและสมเดจ็ พระราชินี
แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (ปี 2509)

บทบาทและกจิ กรรมที่พทุ ธสมาคมจดั
ใหค้ ำปรึกษาหนว่ ยงานของรัฐเก่ยี วกบั การจัดหลักสูตรวชิ า ศาสนศึกษา (National

Association of Standing Advisory Councils on Religious

Education) และประสานงานหาผ้แู ทนชาวพุทธให้หนว่ ยงานรฐั ท้องถิ่น
• จัดการสอนน่งั สมาธแิ ละบรรยายธรรมประจำสปั ดาห์ใหบ้ รกิ ารห้องสมุดแก่
ผู้สนใจพุทธศาสนาทั่วไป
• จดั บรรยายธรรมแกโ่ รงเรยี นชว่ งฤดูร้อน
• จดั สอนพุทธศาสนา เน้นพระสูตร และพระอภิธรรม แก่ผู้สนใจทว่ั ไป
• เปน็ ตวั แทนกล่มุ ชาวพุทธในสหราชอาณาจักร ในโอกาสต่าง ๆ

ลำดบั เหตกุ ารณ์การกอ่ ต้งั พทุ ธเถรวาทในสหราชอาณาจักร
ช่อื วัด ปแี ละสถานทท่ี ่ีก่อต้ัง ผรู้ เิ รม่ิ

- วัดพทุ ธวหิ าร ลอนดอน (ศรลี งั กา) พ.ศ. 2469 อนาคาริกะ ธรรมปาละ
- สังฆสมาคม พ.ศ. 2498 พระกปลิ วฑโฺ ฒ
- วดั พุทธวหิ าร แอมพส์ เตท พ.ศ. 2505 พระกปิลวฑฺโต พระอานนั ทโพธิ (รับ

ชว่ งต่อตอนท้าย)
- วดั พุทธปทปี่ กรงุ ลอนดอน พ.ศ. 2509 พระราชสิทธมิ ุนี (โชดก ญาณสิทฺธ)ิ
- วัดพทุ ธวหิ าร เบอร์มงิ แฮม (ศรีลงั กา) พ.ศ. 2521 พระ ดร. เรวตั ตะ
- วัดตสิ รณวิหาร (พม่า) พ.ศ. 2521 พระญาณิกะ

ภาควชิ าการ 234

- วดั พทุ ธวิหาร (พมา่ ) พ.ศ. 2521 พระญาณิกะ
- วัดปา่ จติ ตวเิ วก พ.ศ. 2522 พระโพธิญาณเถระ (หลวงพอ่ ชา) พระเทพญาณ

วิเทศ (หลวงพ่อสเุ มโธ)

พทุ ธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศองั กฤษ
• วัดพุทธเถรวาทแห่งแรก คือ วัดพุทธวิหาร ลอนดอน ( London
Buddhist Vihara) ซึ่งเป็นวัดพุทธศรีลังกา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2469
โดยทา่ นอนาคารกิ ะ ธรรมปาละ
• แรกเริ่มวัดตั้งอยู่ที่ Foster House ใน Ealing ไม่นานก็ย้ายไปที่ ถนน
คลอสเตอร์ ใกล้ เคนชงิ ตนั และเชลซี อยู่ที่น่นั จนถึงเกิดสง่ ครามโลกคร้งั ท่ี 2
ช่วงสงครามทางการขอใช้สถานที่วัด พระสงฆ์ท้ังหมดเดินทางกลับศรลี งั กา
• ปี พ.ศ. 2498 เปิดวัดอกี ครงั้ แถวจตุรสั OVing ton ไนท์บริดจ์ โดยความ
รเิ รมิ่ ของประธานวฒุ ิสภาแห่งศรลี งั กา นามว่า Sir Cyril De Zoysa และ
ปี พ.ศ. 2501 พระนารทนายกะเถระ เปน็ ประธานสงฆ์
• ปี พ.ศ. 2507 ย้ายวัดไปที่ Heathfield Gardens,Chiswick ซึ่ง
พระฮัมมะลาวะ สัทธาติสสะ นายกเถระเป็นประธานสงฆ์และเมื่อปี พ.ศ.
2528 พระ ดร.เมธคมะ วชญิ าณะ นายกเถระ รบั หน้าทเี่ ป็นประธานสงฆ์
• ปี พ.ศ. 2537 ได้ย้ายที่ตั้งวัดมาที่ ถนน Avenue, Chiswick ซึ่งเป็น
สถานทตี่ ้งั วัดในปจั จุบัน
• ปี พ.ศ. 2552 พระโบโกด สีลวิมละ นายกเถระ ได้รับการแต่งตั้งเป็น
ประธานสงฆ์ หลงั จากพระวชิรญาณะมรณภาพ

ผลิตผลจากการก่อต้งั พทุ ธสมาคมและวัดพุทธเถรวาทในประเทศอังกฤษ
• พ.ศ.2493 David Lingwood บรรพชา-อุปสมบทที่สารนาถ ได้นาม
ฉายาว่า สังฆรักชิตะ หลังบวชแล้วเคยไปศึกษาพุทธศาสนาที่ประเทศพม่า
ไม่ยึดติดพุทธศาสนานิกายนิกายหนึ่ง กลับมาก่อตั้ง The Friends of
Western Buddhist Order (FWBO) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น
Triratana Buddhist Community เป็นกลุ่มชาวพทุ ธฆราวาสที่ใหญ่
ทส่ี ุดในองั กฤษ
• พ.ศ. 2496 Fran Allen อุปสมบทที่ศรีลังกา ได้นามฉายาว่า Siri
Nyana แล: Cyril Moore อุปสมบทที่กรุงย่างกุ้ง ได้นามฉายาว่า
เกวลนันทะ
• Lawrence Mills บรรพซาเปน็ สามเณรทอ่ี ังกฤษ โดยมที า่ นพระสทั ธาตสิ
สะ เป็นพระอุปัชฌาย์ เสร็จแล้วเดินทางไปอินเดีย เพื่อสอนกลุ่มชาวพุทธ

ภาควิชาการ 235

ดร.อัมเบดก้า และเดทิ างต่อไปเมอื งไทย รบั กรอปุ สมบในธรรยตุ ิกกย ได้นาม
ฉายาวา่ ขนตุ ิโล อยู่เมืองไทย 11 ปี เช่ียวซาญภาษาบาลี่ มผี ลงานที่ตีพิมพ์
หลายฉบับ เสร็จแล้วเดินทางไปอสเตรเลีย ร่วมก่อตั้งวัดพุทธรงั สี ซึ่งต่อมา
เปลีย่ นชื่อเป็นวัดพุทธธรรม ที่ นิว เซาท์ เวลส์ หลังบวชมา 30 พรรษา ได้
สึกและแต่งงานกับผู้หญิงศรีลังกา ช่วงหลังหันไปฝึกกรรมฐานแบบ
Dzogchen ซง่ึ เปน็ วธิ ีการปฏิบตั กิ รรมฐานแบบธิเบต
• วิลเลียม เฟอเฟอร์สต์ สนใจปรัชญาตะวันออกตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และเข้า
เปน็ สมาชกิ พทุ ธสมาคม
• พ.ศ.2495 บรรพชาเป็นสามณร ได้นามว่า ธัมมนันทะ โดยมีพระ ติฏฐิละ
พระเถระชาวพมา่ เปน็ พระอุปัชฌาย์
• พ.ศ.2497 หรือสามณรธัมมนันท: หรือ วิลเลียม เฟอเฟอร์สต์ เดนิ ทางไป
เมืองไทย เพ่อื ไปศกึ ษาพุทธศาสนาและกรรมฐานแบบวัดปากน้ำภาษีเจรญิ
• วันที่ 19 มษายน พ.ศ. 2499 บรรพชาเป็นสามณรเป็นครั้งที่สองที่วัด
ปากนำ้ และต่อได้รบั การอุปสมบทเปน็ พระภกิ ษเุ มอื่ วนั ท่ี 17 พฤษภาคม ซึง่
ตรงกบั วันวสิ าขบูชา ได้นามฉายาว่า กปิลวฑโฺ ผ
ลำดบั พัฒนาการพุทธศาสนานกิ ายเซนในอังกฤษ
• Dr. D.T. Suzuki ถือได้วา่ เป็นผู้ทมี่ บี ทบาททำใหพ้ ุทธนิกายนกิ ายเซนเป็น
ที่แพร่หลายในประเทศตะวันตกหลังจากท่านได้ย้ายอาศัยที่สหรัฐอเมริกา
เมือ่ ปี พ.ศ. 2440
• คริสมาส อัมฟรีย์ ผู้ก่อตั้งพุทธสมาคม และดำรงตำแหน่งประธาน จัดสอน
พุทธแบบเซน มคี นสนใจเป็นจำนวนมาก
• ปี พ.ศ. 2509 Imgard Schloegl (ชาวอสเตรีย) กลับจากญี่ปุ่นหลังจาก
ไปฝึกอบรมที่วัดเซนเป็นเวลาหลายปี เริ่มตั้งศูนย์พุทธแบบเซนในกรุง
ลอนดอนที่บ้านพักของ คริสมาส อัมฟรีย์ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้
เปลี่ยนเป็นวัดชื่อ Shobo หรือ อาศรมสัจธรรม ต่อมาบวชเปน็ ภิกษณุ ี ช่ือ

Ven. Myoko-ni

• Peggy Kennet หญิงชาวอังกฤษ แรกเริ่มสนใจพุทธแบบเถรวาท แต่
เปลี่ยนมาสนใจพุทธแบบเซนหลังได้พบกับ D.T. Suzuki ครั้งแรกได้บช
เป็นภิกษุณีจีนในนิกาย ลินจิ ที่มาเลเซีย ได้นามฉายาว่า Ciyou แปลว่า
เพื่อนผู้เมตตา ครั้งที่สองได้บวซท่ีญีป่ ุ่นในนิกาย So ji-ji ได้นามฉายาพอ้ ง
กับภาษาจีนว่า Jiyu.

• คริสมาส อัมฟรีย์ ไม่ยอมรับ Rev. Jiyu-Kennet ในฐานะอาจารย์เซน
เพราะไม่ใช่ Roshi สายตรง

ภาควิชาการ 236

• เมื่อปี พ.ศ. 2515 Rev. Jiyu-Kennet ไดก้ ่อต้งั วัดชือ่ Throssel Hole
Buddhist Abbey ท ี่ Northumberland ให ้เ ป็นอารามสำหรับ
ฝึกอบรมพุทธนิกาย โซโต๊ะ เซน ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายในการดูแลของ Rev.
Daishin Morgan เปน็ พทุ ธแบบเซนที่มีผู้นบั ถือมากทสี่ ดุ

ลำดบั การก่อตง้ั พุทธศาสนาแบบธเิ บตในประเทศองั กฤษ
• หลังจนี เขา้ ยึดครองธิเบตในปี พ.ศ. 2602 พระลงฆ์และชาวธิเบต ในฐานะผู้
ลี้ลัยได้กระจัดกระจายอพยหถิ่นฐานไปอยู่ในประเทศต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคอื
ประเทศองั กฤษ
• ปี พ ศ. 2610 พุทธธิเบตกลุ่มแรกที่มาอังกฤษ คือ นิกายคาม: ศักยู
( Karma Kagyu) น ำ โ ด ย ท ำ u Chogyam Trungpa แ ล ะ ท่ น
Akong Rinpoche ก ่ อ ต ั ้ ง Kagyu Sanye Ling Monastery and
Tibetan Centre ที่ Eskdalemuir ประเทศสกอ๊ ตแลนด์

NEW KADAMPA TRADITION (NKT)

• ปี พ.ศ. 2534 พุทธธิเบต นิกายคะดัมปะใหม่ ก่อตั้งโดยพระ Kelsang
Gyasto ปัจจุบันถือว่าเปน็ นิกายพุทธแบบธิเบตท่ีมอี ิทธิพลในอังกฤษมาก
ท่ีสดุ เพราะมีวดั สาขาตามเมอื งใหญ่ ๆ แทบทกุ เมือง

กำเนิดวัดพทุ ธปทปี กรงุ ลอนดอน
• ชว่ งปี พ.ศ. 2496 เป็นตน้ มา วัดมหาธาตุยุวราชรงั สฤษฎิ์ เปิดสอนวปิ สั สนกร
รมฐาน ดำเนนิ การสอนโดย พระอดุ มวชิ าญาณ (โชดก ญาณสทิ ธิ) มีทั้งชาว
ไทยและชาวตา่ งชาติสนใจมาฝึกปฏบิ ตั กิ ันเปน็ จำนวนมาก
• หนึ่งในจำนวนฝรั่งหลายคน มีพระภิกษุเชื้อชาติและสัญญาแคนาดา นาม
ฉายาว่า "อานันทโพธิ" มาเข้ารับการฝึกอบรมจนได้เวลาพอุสมควร จึง
เดินทางกลับไปประเทศอังกฤษเพื่อดำเนินการสอนวิปัสสนากรรมฐานท่ี
สำนักสงฆ์พุทธวิหารแฮมพ์สเตท ซึ่งริ่เริ่มโดย พระกปิวโฒ (อุปสมบทท่วี ัด
ปากน้ำ)
• เนื่องจากมีคนสนใจมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเป็นจำนวนมาก ท่าน
อานันทโพธิ จึงปรึกษากับคณะกรรมการสังฆสมาคม อยากจะนิมนต์ พระ
ราชสิทธิมุนี ซึ่งเป็นอาจารย์ของตนมาสอนวิปัสสนากรรมฐานที่ประเทศ
อังกฤษ
• วนั ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 พระราชสทิ ธิมุนี พร้อมด้วยพระมหาวิจิตร
ติสุสทตฺโต เลขานุการและล่าม เดินทางออกจากเมอื งไท่ย มาถึงสำนักสงฆ์

ภาควชิ าการ 237

พทุ ธวิหารแอมพ์สเตทวนั ที่ 25 พฤษภาคม และสอนกรรมฐานทส่ี ำนักสงฆ์ฯ
อยู่ระยะหนง่ึ
• ตอ่ มาทางการไทย ไดซ้ อ้ื บา้ นและทดี่ นิ ให้เปน็ สมบตั ิของพุทธศาสนา เละตั้ง
ชื่อว่า "วัดไทยพุทธวิหาร" สำหรบั ให้พระราชสิทธิมุนีพำนักและดำเนินการ
สอนวิปัสสนากรรมฐาน จนทำให้ชาวอังกฤษสนใจและเลื่อมใส่เป็นจำนวน
มาก จึงเดินทางกลับประเทศไทย และได้มอบหมายให้พระมหาวิจิตร
ดำเนนิ การสอนตอ่ ไป

สงฆ์เถรวาทในสหราชอาณาจกั ร
• สงฆ์เถรวาทในสหราชอาณาจักร เป็นองค์กรที่ก่อตัง้ ขึ้น ในปีพุทธศักราช 2549

โดยพระภกิ ษุสงฆ์ฝา่ ยเถรวาทจำนวนหนึ่ง ทง้ั ทอี่ ยู่ประจำตามวิหารและวดั ท่มี ีมา
แตเ่ ดิม และรวมไปถงึ สมาชิกสงฆ์สายเดียวกันท่พี ึ่งมาจาก ศรีลังก ไทย พม่ และ
อนิ เดยี เปน็ ท่ีทราบกันดีแลว้ วา่ คณะสงฆ์เถรวาทจำนวนมาก แมจ้ ะไม่ใช่ท้ังหมด
ต่างก็มีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน ดังนั้น จึงสมควรที่จะมาร่วมมือกัน ให้การ
สนับสนนุ ซึ่งกันและกันเพ่ือใหไ้ ปถึงเป้าหมายทีม่ รี ่วมกนั
• จดุ ประสงคด์ ้งั เดิมของสงฆเ์ ถรวาทฯ
1. เพือ่ เสริมสร้างมิตรภาพและความสามคั คีระหวา่ งสงฆ์
2. เพอ่ื ช่วยเหลือเก้อื กูลกันระหวา่ งสงฆ์
3. เพือ่ รกั ษาและปกป้องพทุ ธศาสนา
4. เพอ่ื เป็นตัวแทนแสดงความคดิ เห็นของชาวพุทธเถรวาท

บทบาทและผลงานสงฆเ์ ถรวาทในสหราชอาณาจักร
• จัดประชุมสมาชิกปีละ 2 ครั้ง วันพุธที่ 2 ของเดือนมีนาคม และเดือน
สิงหาคม
• ช่วงปี พ.ศ. 2549-51 เจรจาทำความเข้าใจกับกระทรวงมหาดไทย
(Home Office) เพื่อชี้แจงขอยกเว้นการทดสอบตลาดแรงงานท้องถ่ิน
สำหรับพระสงฆ์ (Resident Market Test)
• ให้คำแนะนำการจดทะเบียนใบอนุญาตขอนำพระภิกษุมาปฏิบัติศาสนกิจ
ในสหราชอาณาจกั ร
• ใหค้ ำแนะนำการแกป้ ัญหาวซี ่าสำหรับพระสงฆเ์ ถรวาท

ภาควิชาการ 238

• วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 จัดประชุมใหญ่สงฆ์เถรวาททั่วสหราช
อาณาจักร ณ วัดสนั ติวงศาราม เมืองเบอรม์ ่งิ แฮม โดยมี ทา่ นพระ ดร. ภิกขุ
โพธิ เปน็ องค์ปาฎกถา

กิจกรรมวันที่ 11

วนั อาทติ ย์ ท่ี 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เวลา 05.00 – 05.30 น.

กจิ กรรม ทำวัตรเช้าและเจริญจิตภาวนา

สถานที่ ศนู ย์พฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จงั หวดั เพชรบูรณ์

ภารกจิ ที่ไดร้ บั เข้ารว่ มกิจกรรมทำวัตรเชา้

นำทำวตั รโดย คณาจารย์

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเช้า

ทบทวนธรรม o ระตะนตั ตะยัปปะณามะคาถา (พทุ โธ สสุ ทุ โธ..........)

o ตงั ขณิกปัจจเวกขณปาฐะคาถา (ปฏิสังขาโย..........)

o ปัตติทานะคาถา (ยา เทวะตา..........)

o แผ่เมตตา (สัพเพ สัตตา..........)

ประโยชน์ท่ีได้รบั 1. สามารถไล่ความขี้เกียจเพราะขณะสวดมนต์อารมณ์เบื่อเซื่องซึมง่วงนอนเกียจ

คร้านจะหมดไป และเกดิ ความแชม่ ช่นื กระฉบั กระเฉงข้ึน

2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตวั เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด

มนต์อย่างต้งั ใจ ไม่ไดค้ ดิ ถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จงึ มไิ ด้เกิดขน้ึ ในจิต

3. เป็นการกระทำที่ได้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยร้คู ำแปล รคู้ วามหมาย ก็ย่อมทำ

ให้ผู้สวดได้ปัญญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไม่รู้อะไร

เลย

4. มีจิตเปน็ สมาธิ เพราะขณะนั้นผ้สู วดต้องสำรวมใจแนว่ แน่ มฉิ ะนน้ั จะสวดผดิ ท่อน

ผดิ ทำนอง เมื่อจติ เปน็ สมาธิ ความสงบเยือกเย็นในจติ จะเกิดขึ้น

5. เปรยี บเสมอื นการไดเ้ ฝา้ พระพทุ ธเจ้า เพราะขณะนัน้ ผูส้ วดมี กาย วาจา ปกติ (มี

ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี

ปญั ญา) เท่ากบั ไดเ้ ฝา้ พระองค์ดว้ ยการปฏิบตั บิ ชู า ครบไตรสกิ ขาอยา่ งแทจ้ ริง

เวลา 05.30 – 06.50 น.
กิจกรรม รับฟังทบทวนพระปาฏิโมกข์
สถานท่ี ศนู ย์พฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จังหวดั เพชรบูรณ์

ภาควิชาการ 239

ภารกจิ ท่ีไดร้ ับ เข้ารว่ มกิจกรรมรับฟังพระปาฏิโมกข์
เรอ่ื ง พระปาฏโิ มกข์
ทบทวนโดย พระมหาสรยทุ ธ์ อคคฺ ธมโฺ ม
เนอ้ื หาการบรรยาย บทสวด บุพพกรณ์และบพุ พกิจ
บทสวดนำ พระภกิ ขปุ าฏโิ มกข์
ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั บทสวด ปาราชิก ๔
บทสวด สังฆาทเิ สส ๑๓
บทสวด อนยิ ต ๒
บทสวด นสิ สคั คียปาจติ ตีย์ ๓๐
บทสวด ปาจิตตีย์ ๙๒
บทสวด ปาฏิเทสนีย์ ๔
บทสวด เสขิยวตั ร ๗๕
บทสวด อธิกรณสมถะ ๗

1. ปาติโมกข์คือ คัมภีร์เป็นที่รวมพระวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เป็นพุทธ

อาณาสำหรับพระสงฆ์ คือศลี 227 ข้อ ของภกิ ษุ และศีล 311 ข้อ ของภิกษุณี มี
พระพุทธานุญาต ให้พระสงฆส์ วดในทีป่ ระชุมสงฆ์ทุกกึ่งเดือน เรียกว่าสวดพระ
ปาติโมกข์

2. เนอื้ หาปาตโิ มกข์ เปน็ ภาษาบาลี ครับ ทบทวนศลี ภิกษุ 227 ข้อ จงึ ยาวมาก เมื่อ

พระรูปทำหน้าที่...กำลังสวดพระปาติโมกข์ จะมีพระอีกรูป ทำหน้าที่ทบทวน
คัมภีรป์ าตโิ มกข์เลม่ ใหญ่ ตวั หนงั สือใหญ่ พิมพแ์ บบพับเปดิ ตอ่ กันไดต้ ลอดเล่ม

3. มีจติ เป็นสมาธิ เพราะขณะนั้นผสู้ วดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนน้ั จะสวดผดิ ท่อน

ผดิ ทำนอง เมื่อจิตเป็นสมาธิ ความสงบเยอื กเย็นในจิตจะเกดิ ข้ึน

เวลา 13.00 – 16.30 น.
กจิ กรรม รบั ฟงั การบรรยาย
สถานท่ี ศนู ยพ์ ฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จงั หวดั เพชรบูรณ์
ภารกิจท่ไี ดร้ บั เข้ารว่ มรับฟังการบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรอ่ื ง การเตรียมกจิ กรรมเวยี นเทยี นเน่ืองในวันวสิ าขบชู า ชว่ งเย็น
บรรยายโดย พระโสภณวชิราภรณ์
เนือ้ หาการบรรยาย
ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั - ๑๗๐๐ ปไี ม่เคยขาดคนมาปฏบิ ัติแบบเข้าปฎิบัตเิ กา้ วนั ไม่ฉนั อาหาร ต้องมอบกาย
ถวายชีวติ ถ้าผา่ นแลว้ สามารถเปน็ รักษาการเจ้าอาวาสได้ ของนกิ ายเซน

ภาควิชาการ 240

- นิกายเซนมีประชมุ ทกุ ปี (ญี่ปุน่ ) ทำแผนอย่างดี มีข้อมูลเรยี บร้อย
- ยเู อน็ มาใหเ้ อาของเข้าไปฉนั ตอ้ งฉนั ให้เสรจ็ กอ่ นแลว้ เขา้ ไป
- การประชุมของจีนเมอื่ ประธานน่ังแล้ว หา้ มเข้า-ออกหอ้ ง เม่อื ออกไปแล้วห้ามเขา้

จนกว่าจะประชุมเสร็จ
- ต้องนั่งคุยกันประชุมให้ดีว่าจะทำอย่างไรให้ความอ่อนแอที่มันปรากฏอยู่ เช่น

นักบวชโดนจบั สกึ พระเมาอยูป่ ้ายรถเมล์ พระเชียงใหมม่ เี รอ่ื งทำกระเช้าข้ึนดอย
สุเทพ มีคนค้าน มีข่าวมาปุ๊บ ก็ลาสิกขา ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้สงฆ์โดนละเลง
ข่าว คำว่าละเลงมีแต่เสีย ไปสนามบินมีข่าวกาโตะออก เจอผู้หญิงไม่ชอบพระ
มองตาขวาง และไม่ชอบใหม้ ีรถนำขบวนในท่สี าธารณะ
- เมื่อเห็นกรณีนี้ เช่นหมอปลาไปไล่บี้พระเราจะทำยังไงให้เราไม่มีความอ่อนแอ
สรา้ งความเขม้ แขง็ ให้คณะสงฆอ์ ย่าใหเ้ ขากดเรา
- ย้ำเรื่องภาษาต้องฝึกให้ได้เพราะเป็นหนึ่งในงานของพระธรรมทู ตสาย
ตา่ งประเทศ
- มีพระแบบทา่ นไพวลั ย์ถึงจะเอาหมอปลาอยู่ เราต้องสรา้ งพระแบบนี้ให้ได้
- เราตอ้ งหดั ภาษาท่คี นพ้นื ถ่นิ ใช้ แตเ่ บ้อื งตน้ อยากใหไ้ ด้อังกฤษ
- ต้องเลือกทางที่เหมาะสมและมีประโยชน์แก่ตนเอง ถ้าไม่มีประโยชน์แก่ตนเอง
อย่าฝืนเด็ดขาด
- ทำไมพระไทยไม่เรียนภาษาอังกฤษเพราะมติมหาเถรสมาคมบังคับว่าพระไทย
หา้ มเรยี นภาษาศาสนาอื่นยัง (ไมย่ กเลกิ ในปัจจุบัน)
- ภาพรวมพระธรรมทูตตอ้ งดีเพราะคนตกน้อยกวา่ คนได้
- เช็คชอ่ื ในซมู คนเขา้ ชา้ ออกเร็วและคนไม่ต้ังใจฟงั ในขณะบรรยาย
- การตง้ั คำถามในทา้ ยชัว่ โมงเรียนได้คะแนนให้มสี ่วนรว่ มใหม้ าก
- ในวุฒิบัตรใช้ฐานข้อมูลตามพาสปอร์ตแต่ถ้าเจ้าหน้าที่พิมพ์ผิด เก็บอักษรละ
๒๐๐ บาทจากคนพมิ พ์
- เปน็ พระธรรมทตู แล้วไปทำเรอื่ งเสียหายในตา่ งประเทศ ถา้ กลับมาตอ่ พาสปอร์ต
จะไมไ่ ดร้ บั การต่ออายุพาสปอรต์
- การเป็นพระธรรมทูตเป็นตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นตามพระวินัย พระธรรมวินัย
เปน็ ส่วนรอง
- ไปต่างประเทศให้ตัง้ ใจเผยแผ่พระศาสนา เคารพพระพทุ ธเจ้าผ้เู ปน็ พอ่ หรืออย่าง
น้อยน้อย ให้ฝกึ ฝนตนเองอย่างดี เน้นยำ้ พระธรรมทตู ต้องเป็นทุกอยา่ ง
- เน้นย้ำพระธรรมทูตต้องทำเป็นทุกอย่างเพราะว่าพระธรรมทูตต้องทำทุกอย่าง
จรงิ ๆ

ภาควิชาการ 241

- ทใี่ หพ้ ระธรรมทูตแต่ละกลมุ่ สลบั กันทำวตั ร ก็เพอ่ื ให้ฝกึ ออกสำเนียงแต่ละอักขระ
ให้ถูกต้อง

- การขัดสัคเค ลองเขา้ ดหู ลวงพ่อสมเด็จพระพฒุ าจารย์ (สนทิ ชวนปญฺโญ) ในงาน
สวดมนต์เฉลิมพระเกยี รตปิ ี ๖๐-๖๑ เอาเปน็ แบบกไ็ ด้

เวลา 18.00 – 18.30 น.

กิจกรรม ทำวัตรเยน็

สถานที่ ศูนยพ์ ฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาคอ้ จังหวดั เพชรบรู ณ์

ภารกิจทีไ่ ด้รบั เข้ารว่ มกิจกรรมทำวตั รเย็น

นำทำวัตรโดย คณาจารย์

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเย็น

ทบทวนธรรม o อะตีตะปัจจะเวกขะณะ (อชฺช มยา……….)

o กรวดนำ้ (อมิ ินา……….)

แผเ่ มตตา (สัพเพ สัตตา……….)

ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับ 1. ไดท้ บทวนธรรม

2. การสวดมนตเ์ ป็นการฝึกสมาธิ ให้ใจมีความสงบ ตั้งมั่นอยู่กับคำสวดมนต์อย่าง

ตอ่ เน่ือง ใจจดจ่ออยกู่ ับบทสวดมนตร์ ะมดั ระวังไมใ่ หส้ วดผดิ ซง่ึ การมสี มาธอิ ยู่กบั

สวดมนต์นี้ จะทำให้เรามีความสงบเยือกเย็นในจิตใจเพิ่มมากขึ้น และมพี ลังใน

การคิดสรา้ งสรรค์ในส่ิงตา่ งๆ ได้ดยี ่งิ ขนึ้ อกี ดว้ ย

3. การสวดมนต์เปน็ การสรา้ งศรทั ธา สร้างความเชือ่ มนั่ ในคุณของพระรตั นตรยั เป็น

การเสริมสร้างพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา และน้อมนำหลักธรรมทาง

พระพุทธศาสนามาใช้ในการดำเนนิ ชีวติ อย่างมคี ณุ คา่

กิจกรรมวันที่ 12

วัน จันทร์ ท่ี 16 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เวลา 05.00 – 05.30 น.

กิจกรรม ทำวัตรเชา้ และเจริญจติ ภาวนา

สถานที่ ศนู ย์พฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบูรณ์

ภารกิจทีไ่ ด้รับ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทำวัตรเช้า

นำทำวัตรโดย คณาจารย์

ภาควชิ าการ 242

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเช้า

ทบทวนธรรม o ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถา (พุทโธ สสุ ุทโธ..........)

o ตงั ขณกิ ปจั จเวกขณปาฐะคาถา (ปฏิสังขาโย..........)

o ปตั ติทานะคาถา (ยา เทวะตา..........)

o แผเ่ มตตา (สัพเพ สตั ตา..........)

ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ 1. สามารถไล่ความขี้เกียจเพราะขณะสวดมนต์อารมณ์เบื่อเซือ่ งซึมง่วงนอนเกียจ

ครา้ นจะหมดไป และเกดิ ความแชม่ ชื่นกระฉับกระเฉงข้ึน

2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตวั เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด

มนตอ์ ย่างต้งั ใจ ไมไ่ ด้คดิ ถึงตวั เอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมไิ ด้เกดิ ขน้ึ ในจติ

3. เป็นการกระทำทไ่ี ดป้ ัญญา ถ้าการสวดมนตโ์ ดยรู้คำแปล รู้ความหมาย กย็ อ่ มทำ

ให้ผู้สวดได้ปญั ญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไมร่ ู้อะไร

เลย

4. มจี ิตเปน็ สมาธิ เพราะขณะนน้ั ผู้สวดตอ้ งสำรวมใจแนว่ แน่ มิฉะนนั้ จะสวดผดิ ทอ่ น

ผดิ ทำนอง เมอ่ื จติ เปน็ สมาธิ ความสงบเยอื กเยน็ ในจิตจะเกดิ ขึ้น

5. เปรยี บเสมอื นการไดเ้ ฝ้าพระพทุ ธเจา้ เพราะขณะนัน้ ผสู้ วดมี กาย วาจา ปกติ (มี

ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี

ปัญญา) เทา่ กบั ได้เฝ้าพระองค์ด้วยการปฏบิ ตั บิ ชู า ครบไตรสกิ ขาอย่างแทจ้ ริง

เวลา 08.30 – 10.50 น.
กจิ กรรม รับฟงั การบรรยาย
สถานที่ ศนู ย์พัฒนาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จังหวดั เพชรบรู ณ์
ภารกิจทไ่ี ด้รับ เขา้ ร่วมรบั ฟังการบรรยายผ่านโปรแกรม zoom
เร่อื ง เขา้ รว่ มพบปะรบั คำแนะนำจากพระโสภณวชิราภรณ์ ดร.
บรรยายโดย พระโสภณวชริ าภรณ์ ดร.
เนอื้ หาการบรรยาย
ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับ ไดร้ ับคำแนะนำระเบียบ ปฏิบตั ิ ในเข้าฟงั การบรรยาย พรอ้ มกบั ชี้แจงข้อบกพร่องที่
ต้องแก้ไขในการรบั ฟงั การบรรยาย ขณะวทิ ยากรเข้ามา ทั้งช่วงออนไซด์และออนไลน์
โดยมสี งิ่ ท่ตี อ้ งแก้ไข คือ การกราบให้พร้อมเพรียงกนั การพนมมอื ใหส้ วย บรรยากาศ
ในการเข้าร่วมงานวันวิสาขบูชา พูดถึงหลักสูตรวิทยาลัยพระธรรมทูตในระดับ
มหาบัณฑติ และดุษฎีบัณฑิต

เวลา 13.00 – 16.30 น.

ภาควชิ าการ 243

กจิ กรรม รับฟงั การบรรยาย
สถานท่ี ศนู ยพ์ ฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ภารกิจท่ีได้รับ เข้ารว่ มรบั ฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom
เรื่อง ในหวั ข้อเรื่อง “พระสงฆไ์ ทยกบั สถานการณ์ปัจจุบัน”
บรรยายโดย พระเทพศาสนาภิบาล ดร. (แยม้ กติ ตินฺธโร, ดร.) เจา้ คณะภาค ๑๔
เนอ้ื หาการบรรยาย
ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ ได้รับทราบข้อมูลเกีย่ วกับหลกั การทีพ่ ระสงฆ์พึงตระหนักในสถานการณป์ จั จบุ นั
"จรถ ภิกฺขเว จารกิ ํ พหุชนหติ าย พหชุ นสุขาย โลกานกุ มฺปาย"
หนา้ ทหี่ ลักทสี่ ำคญั ๓ ประการ ของพระสงฆ์
ㆍปริยตั ิ - ศกึ ษาเรียนรดู้ ว้ ยการฟงั ธรรมมะ ทงั้ พระวนิ ยั พระสูตร พระอภธิ รรม
ㆍปฏิบตั ิ - นำส่ิงท่ไี ด้เรยี นรู้มาทำจรงิ ใหเ้ กดิ ประสบการณ์
ㆍปฏเิ วธ - เม่อื ปฏิบัติถูก ปฏบิ ตั ิตรง ปฏบิ ัตสิ มควรแก่ธรรม ยอ่ มไดร้ ับผลคือ ความ
หลดุ พน้
สถานการณท์ ่ีทำให้พระพุทธศาสนาออ่ นแอในปจั จุบัน
ㆍ ชาวบ้านไมเ่ ชือ่ มั่น ไม่ศรัทธา ไม่มีคนเข้ามาบวชในพุทธศาสนา ขณะนี้คนบวช
นอ้ ยลงเรอ่ื ย ๆ
ㆍถกู ทำลายด้วยศาสนาอนื่
ㆍคนรนุ่ ใหม่ไมน่ ับถอื ศาสนา
ㆍพระสงฆ์ทีม่ อี ยขู่ าดการศึกษาและปฏิบตั ิ
• เทคโนโลยสี มยั ใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนวัดและพระสงฆไ์ ด้
สถานการณ์วิกฤติศรัทธาทมี่ ีต่อพระพุทธศาสนา
ㆍ ปญั หาเรอ่ื งเงินและผลประโยชน์
ㆍปญั หาเรื่องสตรีและการละเมดิ พระธรรมวินยั
ㆍ ปญั หาเร่ืองพฤติกรรมไมเ่ หมาะสมของพระสงฆ์
ㆍปญั หาเรือ่ งพระสงฆ์เข้าไปเกยี่ วขอ้ งกบั การเมอื งอยา่ งตรงไปตรงมามากเกนิ ไป
การจัดโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ ตาม พรบ. ๒๕๐๕

> สมเด็จพระสังฆราช
> กรรมการมหาเถรสมาคม
> เจา้ คณะใหญ่
> เจา้ คณะภาค
> เจ้าคณะจังหวดั

ภาควิชาการ 244

> เจา้ คณะอำเภอ
> เจ้าคณะตำบล
> เจา้ อาวาส
การสรา้ งความเข้มแขง็ ใหก้ ับพระพทุ ธศาสนาต้องเรมิ่ ต้นท่ี "เจ้าอาวาส"
บทบาทของเจา้ อาวาสกบั การสรา้ งวดั ใหป้ ลอดภยั ต้องใหค้ วามสำคัญกับมาตรา
๓๗ และ ๓๘ แห่ง พรบ.คณะสงฆ์
มาตรา ๓๗ เจา้ อาวาสมีหนา้ ทีด่ ังนี้
(๑) บำรุงรกั ษาวดั จดั กิจการและศาสนสมบตั ิของวดั ใหเ้ ปน็ ไปดว้ ยดี
(๒) ปกครองและสอดสอ่ งให้บรรพชติ และคฤหสั ถ์ที่มีทอ่ี ยู่ หรือพำนักอาศัย
อยใู่ นวัดนน้ั ปฏิบัตติ ามพระธรรมวนิ ยั กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบหรอื
คำส่งั ของมหาเถรสมาคม
(๓) เป็นธุระในการศกึ ษาอบรมและสั่งสอนวนิ ัยแก่บรรพชติ และคฤหัสถ์
(๔) ใหค้ วามสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกศุ ล

ตอ้ งให้ความสำคญั กับมาตรา ๓๗ และ ๓๘ แหง่ พรบ.คณะสงฆ์
มาตรา ๓๘ เจา้ อาวาสมีอำนาจ ดังน้ี

(๑) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่
อาศัยในวัด

(๒) ใหบ้ รรพชิตหรือคฤหสั ถ์ ซึ่งไมอ่ ยู่ในโอวาทของเจา้ อาวาสออกไปเสียจาก
วัด

(๓) สง่ั ให้บรรพชิตหรอื คฤหสั ถท์ ี่มีทอ่ี ยหู่ รือพำนักอาศัยในวัด ทำงานภายใน
วัดหรือให้ทำทัณฑ์บนหรือให้ขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดน้ัน
ประพฤติผิดคำสั่งเจ้าอาวาสซึ่งไดส้ ั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม
ขอ้ บังคับ ระเบียบ หรอื คำส่งั ของมหาเถรสมาคม

สถานการณ์ปัจจุบัน พระสงฆ์จะต้องปรับตัว ปรับบทบาทให้อยู่ร่วมกับชุมชนอย่าง
เข้มแข็ง
"บวร" วัดจะดีมีหลกั ฐานเพราะบา้ นชว่ ย บ-ว-ร บา้ นจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บา้ น-
วัด-โรงเรียน
บ้านกับวัดผลัดกนั ช่วยก็อวยชยั ถา้ ขดั กันก็บรรลัยท้ังสองทาง จุดเปล่ยี นประเทศไทย

สถานการณ์ปจั จบุ ัน พระสงฆ์ต้องหนกั แนน่ ในวัตรปฏิบัติ
๑. ลงอโุ บสถ
๒. บณิ ฑบาตเลีย้ งชพี

ภาควิชาการ 245

๓. สวดมนต์ไหวพ้ ระ
๔. กวาดอาวาสวิหารลานพระเจดยี ์
๕. รักษาผ้าครอง
๖. อยู่ปรวิ าสกรรม
๗. โกนผมปลงหนวดตัดเล็บ
๘. ศึกษาสิกขาบทและปฏิบัตพิ ระอาจารย์
๙. เทศนาบตั ิ
๑๐. พจิ ารณาปจั จเวกขณะท้งั ส่ี

ต้องใหค้ วามสำคญั กบั การเผยแผ่ โดยเฉพาะผา่ นทางส่อื ออนไลน์
ขอ้ ดีของการเผยแผ่ทางออนไลน์
๑. เข้าถึงคนไดห้ ลากหลายกลุ่ม
๒. ไม่จำกัดดว้ ยเวลาและสถานที่
๓. ขอ้ มูลไมส่ ูญหาย
๔. ใชว้ ิธกี ารและเทคนิคไดห้ ลายอยา่ ง ขอ้ พึงระวงั
๑. ระวังข่าวปลอด ขา่ วบดิ เบือน
๒. อย่าให้เกนิ เลยสมณะวิสยั
๓. ต้องระวังคำพดู
๔. ต้องระวงั กระทบตอ่ สถาบันอ่นื ๆ
สำคญั ต้องอยา่ ละทง้ิ การฝกึ ฝนตนเอง การปฏบิ ัติวิปัสสนากรรมฏฐาน
เวลา ๑๕.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น.
ช่ือกจิ กรรม : รับฟังการบรรยาย “มหาจฬุ ากบั การสง่ เสรมิ งานพระธรรมทตู ไทย
สายต่างประเทศ”

เวลา ๑๕.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น.
กจิ กรรม รบั ฟงั การบรรยาย
สถานท่ี ศูนยพ์ ฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบรู ณ์
ภารกจิ ที่ไดร้ ับ เข้ารว่ มรับฟงั การบรรยายผา่ นโปรแกรม zoom

เรอ่ื ง “มหาจฬุ ากบั การสง่ เสรมิ งานพระธรรมทูตไทยสายตา่ งประเทศ”
บรรยายโดย พระเมธธี รรมาจารย์, รศ.ดร.
เนอ้ื หาการบรรยาย

ภาควชิ าการ 246

ประโยชน์ท่ไี ด้รบั ไดร้ ับทราบข้อมูลการพัฒนาการมหาวิทยาลัยยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั
๒๔๓๒ ยุคกอต้งั มหาวทิ ยาลยั
๒๕๒๖ ยุครบั รองปรญิ ญาบตั รและสถานะของมหาวทิ ยาลยั
๒๕๔๐ ยคุ พระราชบัญญตั ิมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
๒๕๔๑-๒๕๕๘ ยุคเขาสู่การเป็นนศูนย์กลางมหาวิทยาลัยพระพทุ ธศาสนา

นานาชาติ
๒๕๕๙-๒๕๖๔ ยุคพัฒนาความรุ่งเรืองของการเป็นศูนย์กลางของ

มหาวทิ ยาลยั .
๒๕๖๕-๒๕๖๙ มหาวิทยาลัยที่สร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและ

สังคม
ความเปนมาของวิทยาลัยพระธรรมทูต
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้จัดให้มีการฝึกอบรม

พระธรรมทตู สายตา่ งประเทศ ปลี ะ ๑ ครั้ง เร่ิมอบรม รนุ่ ท่ี ปี พ.ศ.๒๕๓๘ จำนวนผู้
ผ่านการอบรม ๔๙ รูป ปจั จุบนั อบรมเป็น รุน่ ท่ี ๒๘

พระธรรมทูตชุดแรก
เมื่อยสกุลบุตรออกบวช สหายสนิท ๔ คน คือ วิมละ สุพาหุ ปุณณชิ
และควัมปติตามมาบวชด้วย ไม่นานสหายของยสะที่อยู่ตามชนบทต่างๆ อีกจำนวน
๕๐ กม็ าบวชด้วยเชน่ กัน รวมท้ังหมด ๕๔ คน เม่อื บวชแลว้ ก็ได้บรรลพุ ระอรหนั ตโ์ ดย
ทั่วกัน เมื่อรวมกับปัญจวคีย์ทั้ง ๕ ก็มีจำนวน ๖๐ รูปพระพุทธองค์จึงตรัสเรียก
ประชุมประทานพุทธโอวาทใจความว่า "จรถ ภิกขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุ
ขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสสานํ เทเสถ ภิกฺขเว ธมมํ อาทิกลฺ
ยาณํ มชเฺ ฌกลยฺ าณฺ ปรโิ ยสานกลยา"
“ภิกษทุ ั้งหลาย พวกเธอจง เทย่ี วจาริก เพอื่ ประโยชน์และความสุขแกช่ นหมู่
มาก เพื่ออนุเคราะห์โลกเพือ่ ประโยชน์ เกื้อกูลและความสขุ แก ทวยเทพและมนุษย์
พวกเธออย่าไดไ้ ปร่วมทางเดยี วกนั สองรปู จงแสดงธรรมงามในเบื้องตน งามในทามก
ลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย พรอมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ ครบ
บรสิ ุทธบ์ิ ริบรู ณ์ ”
พระอญั ญาโกณฑัญญะ
ได้เดินทางไปยังบ้านเดิมของทา่ นไดน้ ำหลานชาย ช่อื ปุณณมนั ตานซี ึง่ เปนบุ
ตรของ นางมันตานผี ู้เป็นนองสาวของท่านมาบวช และได้มีชื่อวา พระปุณณมันตานี
บตุ รเถระ

ภาควชิ าการ 247

เพราะความทีท่ ่านเปน็ พระเถระผู้มีอายุพรรษามาก มปี ระสบการณมาก จึง
ได้รับยกยองจากพระบรม ศาสดาในตําแหนงเอตทคั คะ เป็นเลิศกวาภิกษุ ทั้งหลาย
ในทาง “ผรู้ ตั ตญั ญู หมายถงึ ผรู้ ูร้ าตรนี าน

อุดร เขียวออน (๒๕๖๑) ได้ทำการศึกษา วิจัยเรื่อง “รูปแบบการพัฒนา
ศักยภาพพระธรรมทูตสายต่างประเทศ” พบวา ศักยภาพของพระ ธรรมทูตสาย
ต่างประเทศประกอบด้วย คุณลักษณะ ผู้นำเชิงกลยุทธ์ ๕ ด้าน ได้แก ๑) เป็นผู้มี
ความคิดความเข้าใจในระดับสูง ๒) เป็นผู้มีความสามารถในการนำปัจจัย นำปัจจยั
ต่างๆมากำหนดกลยุทธ์ ๓) การมีความคาดหวังและการสรา้ งโอกาสสำหรับอนาคต
๔)วิธคี ิดเชงิ ปฏิบัติ ๕) การกำหนดวิสยั ทัศน์

พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒโน (๒๕๖๒) ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง “กลยุทธการเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนาของพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศ” พบวา กลยุทธหลักซึ่งพระพุทธ
เจาใชในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในชว่ งเริม่ ต้น ประกาศพระศาสนา คือ เจาะจง
กลุ่มเป้าหมายจากชนชั้นนำและชนชั้นปกครอง เพื่อจูงใจและดึงดูดให ชาวเมือง
จำนวนมากสนใจพระพทุ ธศาสนา การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตสาย
ต่างประเทศ เป็นไปตามหลกั อัตถะ ๓ ประการ คือ ๑) ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ๒)
สมั ปรายกิ ตั ถประโยชน์ ๓) ปรมตั ถประโยชน์

อตั ถะ ๓ ประการหมายถึงประโยชนค์ อื ส่งิ ทีม่ ่งุ หวัง ๓ ประการประกอบดว้ ย
๑. ทิฏฐธมั มิกตั ถประโยชน์ ๒. สมั ปรายกิ ตั ถประโยชน์ ๓. ปรมตั ถประโยชน์
ทิฏฐธัมมิกัตถะประโยชน์ หมายถึง ประโยชน์ในปัจจุบันผู้ใดปฏิบัติตาม
หลักธรรมนี้ผนู้ นั้ ย่อมได้รบั ประโยชน์ในปัจจบุ นั
สัมปรายิกัตถประโยชน์ หมายถึง ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเกื้อกูลและ
ความสุขในภายหนา้
ปรมัตถประโยชน์ หมายถึง สูงสุดคือพระนิพพานอันเป็นธรรมที่ดับทุกข์
น่นั เอง
หลักสาราณียธรรม ๖ หมายถึงทำเป็นเหตใุ หร้ ะลึกถงึ กนั ๖ ประการ
เป็นคุณธรรมที่ทำให้คนเราไม่เห็นแก่ตัว แต่จะคิดถงึ คนอื่น เอื้อเฟ้อื เผือ่ แผ่
แก่ผู้อืน่ เข้าใจคนอนื่ มากข้นึ ระลึกถงึ กนั ผกู พันเช่อื มโยงบคุ คลไว้ดว้ ยนำ้ ใจ
หลักสาธารณยี ธรรม ๖
๑ เมตตากายกรรมทำสงิ่ ใดก็ทำด้วยความปรารถนาดีต่อผู้อืน่
๒ เมตตาวจีกรรมพูดดว้ ยความปรารถนาดตี อ่ กนั
๓ เมตตามโนกรรมคิดในสิ่งทด่ี ีและคดิ ด้วยความปรารถนาดีตอ่ ผู้อ่นื
๔ สาธารณโภคีแบง่ ปนั สง่ิ ทไ่ี ด้มาโดยชอบธรรม
๕ สีละตามนั จะตาประพฤตสิ จุ รติ ในสิ่งท่ดี ีงามอย่างสม่ำเสมอ

เวลา ภาควชิ าการ 248
กจิ กรรม
๖ ทิฐิสามัญญตามีความเสมอภาคกันทางความคิดและเคารพความคิดเหน็
ของผอู้ ่นื
การบริหารแบบมสี ว่ นรว่ ม Keith Devis (ค.ศ.๑๙๗๒)

"การมสี ว่ นรว่ ม" หมายถงึ การเกีย่ วข้องทางจติ ใจและอารมณ์ของบุคคลหนึ่ง
ในสถานการณ์กลุ่ม ซึ่งผลดังกล่าวเป็นเหตุเร้าใจให้กระทำให้บรรลุจุดมุ่งหมายของ
กลมุ่ นั้นและรู้สกึ รับผดิ ชอบกับกลุม่ นั้นด้วย
การบริหารการบริหารแบบมีส่วนร่วม White (ค.ศ.๑๙๘๒)

ประกอบด้วย ๔ มิตคิ ือ
๑. มสี ว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจ ๒. มสี ่วนร่วมในการลงมือปฏบิ ตั ิ ๓. มสี ่วนร่วม
ในผลประโยชน์ ๔. มสี ว่ นรว่ มในการประเมินผล
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สมเดช สแี สง (พุทธศักราช ๒๕๔๗) การมีสว่ นร่วม หมายถึง การเปดิ โอกาส
ใหพ้ นักงานทุกระดบั ไดม้ สี ่วนร่วมในการบริหารกิจการภายในขอบเขตหน้าที่ของตน
เรยี กวา่ การบริหารคุณภาพทวั่ ทั้งองคก์ ร
สรุปการบริหารแบบมีส่วนร่วม หมายถึงการบริหารโดยให้บุคคลที่มีส่วน
เกย่ี วขอ้ งในการไดร้ ับประโยชน์ ทงั้ ทางตรงและทางออ้ มมีสว่ นในการกำหนดนโยบาย
และทศิ ทางการบริหารจดั การโดยรว่ มสนับสนนุ โดยร่วมดำเนนิ การสนบั สนุนทางดา้ น
กำลังความคิดกำลังกายกำลังใจและกำลังทรัพย์ พร้อมร่วมกำกับตดิ ตามตรวจสอบ
และประเมินผลการบริหารจดั การให้เป็นไปตามเปา้ หมายทกี่ ำหนดไว้
วิสัยทัศน์ พระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยที่จดั การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์
สมยั ใหม่และสร้างพุทธนวัตกรรมเพ่ือพัฒนา
ทุติยปาปณิกสูตร หมายถึง พระสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับ
คณุ ลักษณะของผบู้ รหิ าร
๑. จักขุมา (Conceptual Skills) ต้องมีปัญญามองการณ์ไกลต้องเปน็ ผู้
ฉลาดตามมากในการวางแผนและฉลาดในการใชค้ น
๒.วิธูโร (Technical Skills) ต้องเป็นผู้มีความสามารถในการจัดการ
ธุรกิจต่างๆหรอื กิจการท้งั ปวงได้ดมี ีความเช่ียวชาญเฉพาะด้าน
๓.นิสสยสมั ปันโน (Human Relation Skill) เป็นก็มมี นุษยส์ มั พันธ์ดกี ับ
เพือ่ นรว่ มงานและบุคคลอื่นซงึ่ เปน็ ทกั ษะด้านมนษุ ย์สมั พันธ์

18.00 – 18.30 น.
ทำวตั รเย็น

ภาควิชาการ 249

สถานท่ี ศนู ยพ์ ฒั นาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวดั เพชรบรู ณ์

ภารกจิ ทไี่ ด้รบั เข้าร่วมกิจกรรมทำวตั รเยน็

นำทำวัตรโดย คณาจารย์

บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวัตรเย็น

ทบทวนธรรม o อะตีตะปจั จะเวกขะณะ (อชชฺ มยา……….)

o กรวดน้ำ (อิมนิ า……….)

แผเ่ มตตา (สพั เพ สัตตา……….)

ประโยชนท์ ่ีได้รบั 1. ได้ทบทวนธรรม

2. การสวดมนตเ์ ป็นการฝึกสมาธิ ให้ใจมีความสงบ ตั้งมั่นอยู่กับคำสวดมนต์อย่าง

ตอ่ เนื่อง ใจจดจอ่ อยู่กบั บทสวดมนตร์ ะมดั ระวงั ไมใ่ หส้ วดผดิ ซ่งึ การมสี มาธอิ ยู่กบั

สวดมนต์นี้ จะทำให้เรามีความสงบเยือกเย็นในจิตใจเพิ่มมากขึ้น และมพี ลังใน

การคิดสร้างสรรคใ์ นส่งิ ต่างๆ ไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ อีกด้วย

3. การสวดมนต์เป็นการสรา้ งศรทั ธา สร้างความเช่ือมั่นในคณุ ของพระรตั นตรยั เป็น

การเสริมสร้างพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา และน้อมนำหลักธรรมทาง

พระพทุ ธศาสนามาใช้ในการดำเนนิ ชีวติ อย่างมีคณุ ค่า

เวลา 18.30 – 21.00 น.

กจิ กรรม รบั ฟงั การบรรยาย

สถานท่ี ศูนย์พฒั นาศาสนาแคมปส์ น อำเภอเขาคอ้ จังหวัดเพชรบรู ณ์

ภารกจิ ทีไ่ ด้รบั เข้ารว่ มรับฟังการบรรยายผ่านโปรแกรม zoom

เรอ่ื ง งานบัณฑิตศึกษาในโลกปัจจุบันกับพระธรรมทูต “งานพระธรรมทูต : วิธีการ
หลากหลาย แต่เป้าหมายเดียวกัน”
บรรยายโดย พระมหาสมบูรณ ว์ ฑุ ฒฺ ิกโร
เนื้อหาการบรรยาย
ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ ได้รบั ทราบขอ้ มูลวา่ “ทูต” คืออะไร
ทูต (dūta/dyūta)

- One who is sent
- Messenger

-Yama’s envoy (ยมทตู )

- Death's envoy

ธรรมทูต (dhammadūta)

- Messenger of dhamma

“ทูต” ทำหน้าท่ีอะไร ?

ภาควชิ าการ 250

ทูตทางโลก คือ -ผู้แทนของประเทศ -คิด/ทำ/พูด ในนามของประเทศ-เป็น
หน้าตาของประเทศ

ทูตทางธรรม คือ -ผู้แทนของศาสนา/พระศาสดา-คิด/ทำ/พูด ในนามของ
พระศาสนา-เปน็ หน้าตาของพระศาสนา-ผู้พร้อมสละชพี เพื่อพระศาสนา

พุทโธวาทสง่ พระสาวกไปประกาศศาสนา ภาพสะท้อนงานพระธรรมทตู ยคุ
เริม่ ต้น

จรถ ภิกฺขเวจาริก พหชุ นหิตาย พหชุ นสุขาย โลกานกุ มปฺ าย อตฺถาย หติ าย สุ
ขาย เทวมนุสฺสาน

“Go forth, O monks, for the welfare of the many, for the
happiness of the many, out of compassion for the world, for the
good, benefit and happiness of gods and men.

โอวาทปาตโิ มกข:์ ภาพสะท้อนงานพระธรรมทตู ยุคถัดมา
สพฺพปาปสฺส อกรณ กุสลสฺสูปสมปฺ ทา สจิตตฺ ปรโิ ยทปน เอต พทุ ธาน สาสน
ฯ ขนตฺ ี ปรม ตโป ตตี กิ ฺขา นิพพฺ าน ปรม วทนฺติ พทุ ธฺ า น หปิ พฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ
โหติ ปร วิเหฐยนฺโตฯ อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สวโร มตฺตญฺญุตา จ
ภตฺตสฺมปึ นฺตญจฺ สยนาสน อธจิ ิตเฺ ต จ อาโยโค เอต พทุ ฺธาน สาสน ฯ
มหาปรินิพพานสูตร: ภาพสะท้อนสุดท้ายของงานพระธรรมทูต ก่อน
ปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระองค์จะปรินิพพาน ต่อเมื่อพุทธบริษัท ๔ มี
คุณสมบตั ิทีจ่ ะรักษาพระศาสนาได้ คือ มีความร้แู ตกฉานในพระธรรมวนิ ัย ปฏิบัติดี
ปฏบิ ัติชอบตามพระธรรมวินยั เมื่อมี “ปรปั วาท” เกดิ ขนึ้ ก็สามารถช้ีแจงแกไ้ ขได้
พระธรรมทตู กับ พระไม่ใช่ ธรรมทตู มจี ริงหรอื ?
พระพุทธเจ้าทำงานพระธรรมทูต ตั้งแสดง แสดงธรรมปฐมเทศนาจนถึง
ปรินิพพาน
พระอรหันต์ ใชช้ ีวติ ทีเ่ หลอื อยูท่ ง้ั หมด ทำงานพระธรรมทตู
พระสงฆ์ทั้งหมดต้องเป็นพระธรรมทูต (ไม่มีแบ่งพระธรรมทูต พระไม่ใช่
ธรรมทตู )
แนวโนม้ งานพระธรรมทูต : ปจั จบุ ันและอนาคต
วิปัสสนา Vipassana Meditation
ครูกว่า ๕,๐๐๐ คน ฝกึ สตใิ ห้เดก็ ในโรงเรยี นอังกฤษทัว่ ประเทศ
“Over ๕ ,๐ ๐ ๐ trained classroom teachers deliver

mindfulness training in thousands of schools across the
UK.”
Schools in England Introduce a New Subject:

“Mindfulness” (The New York Times, ๒๐๑๙)


Click to View FlipBook Version