คำปฏิญาณ 101
เชา้ พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
บา่ ย พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
คำ่ พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ ดร.
วนั จนั ทร์ ที่ 11 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
เชา้ มืด พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. สอบอารมณ์
ครง้ั ที่
เช้า พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร.
เข้ากิจกรรมคร้งั แรก
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ เข้ามาแจ้งกลุ่มที่จะส่ง-
หอประชุมพร บา่ ย สอบอารมณ์ แก่พระธรรมทูตที่หอประชุมพร และ
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. นำปฏิบัติและให้
สญั ญาณกระดงิ่ กำหนดเวลา ๓๐ นาที
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. เราร่วมปฏิบัติกับ
คำ่ พระธรรมทูตจนหมดเวลา สั่นกระดิ่ง นำแผ่เมตตา
และไหว้พระ
เชา้ มดื พระมหาสเุ ทพ สวุ ฑฒฺ โน ดร.
หอพระธรรมคัมภีร์ เช้า พระมหาสุเทพ สวุ ฑฺฒโน ดร.
บ่าย พระมหาสุเทพ สวุ ฑฒฺ โน ดร.
คำ่ พระมหาสุเทพ สุวฑฒฺ โน ดร.
วัน อังคาร ที่ 12 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร. พระวิปัสสนาจารย์
เชา้ มดื มอบหมายให้พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.
วิทยาลัยพระธรรมทูต นำผู้เข้าอบรมทำวัตรเช้า ณ
หอประชุมพร หอประชมุ อาจารย์พร
พระครูพิบูลกจิ จารกั ษ์, ดร. พระวิปสั สนาจารย์ นำผู้
เช้า เข้าอบรมบูชาพระรัตนตรัยและให้ปฏิบัติวิปัสสนา
กัมมัฏฐาน โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.
วทิ ยาลัยพระธรรมทตู รว่ มปฏิบตั ิและดแู ล
คำปฏิญาณ 102
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร. พระวปิ ัสสนาจารย์ นำผู้
บา่ ย เข้าอบรมให้ปฏิบัติวิปสั สนากัมมฏั ฐาน ด้วยอิริยาบถ
เดินจงกรมระยะ 2 โดยมพี ระมหาไพฑรู ย์ ปนตฺ นนฺโท
ดร. อ.วทิ ยาลยั พระธรรมทูตร่วมปฏบิ ตั ิและดูแล
พระปลัดสมภาร สมภาโร ผศ.ดร. พระวิปัสสนา
จารย์ แสดงธรรมแก่นำผู้เข้าอบรม หลังทำวัตรเย็น
คำ่ แล้ว ในการนี้ พระครูวินัยธรสมุทร ถาวรธมฺโม ผศ.
ดร. รักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต
พร้อมด้วยคณาจารย์วิทยาลัยพระธรรมทูต ร่วมฟัง
ดว้ ย โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. ดูแล
พระครสู มหุ ช์ ยั พล โสภโณ พระวปิ สั สนาจารย์ นำทำ
เชา้ มืด วัตร ภาคเช้า และแนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนา
กรรมฐาน แกผู้เข้ารับการอบรม โดยมีพระครูธรรม
ธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. ดูแล
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
เชา้ แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน แกผู้เข้า
รบั การอบรม โดยมีพระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช
,ดร. ดูแล
หอพระธรรมคมั ภรี ์ พระมหาไสว ญาณวีโร.ดร. พระวิปัสสนาจารย์
แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน โดยให้ผู้
บ่าย เข้ารับการอบรม 2 รูป เดินให้ดู จากนั้นให้ปฏิบัติ
ต่อไป และไปทำภารกิจสอบอารมณ์ โดยให้พระครู
ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. ดูแล
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน เกี่ยวกับ
คำ่ การกำหนดอิริยาบถย่อย หลงั การทำวัตรภาคคำ่ แก่
ผู้เขา้ รบั การอบรม โดยมีพระครธู รรมธรวรเดชา อคฺค
เตโช,ดร. ดูแล
วนั พุธ ท่ี 13 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
หอประชุมพร เชา้ มดื พระโยคาวจร ณ หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์
พัฒนาศาสนาแคมป์สน ทำวัตรเช้า กรวดน้ำ แผ่
คำปฏิญาณ 103
เมตตารับฟังคำแนะนำการกำหนดรู้อารมณ์พระ
กรรมฐาน จากพระวิปัสสนาจารย์ชัยพล โดยมีพระ
มหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.ดแู ล
พระวปิ ัสสนาจารย์พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. นำพระ
โยคาวจร ณ หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์พัฒนา
เช้า ศาสนาแคมปส์ น กราบพระ ใหเ้ ดนิ จงกรมระยะที่ 2
30 นาที โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.อำนวย
ความสะดวก
พระวปิ ัสสนาจารย์พระครสู มหุ ์ชัยพล โสภโณ นำพระ
บ่าย โยคาวจร ณ หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์พัฒนา
ศาสนาแคมปส์ น กราบพระ นำปฏิบตั ิ โดยมพี ระมหา
ยงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.อำนวยความสะดวก
พระโยคาวจร ณ หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์
พัฒนาศาสนาแคมป์สน ทำวัตรเย็น กรวดน้ำ แผ่
คำ่ เมตตารับฟงั คำแนะนำการปฏิบัติเรอ่ื ง สัปปายะ โดย
พระวิปัสสนาจารย์ชัยพล โสภโณ มีพระมหายงยุทธ
กนฺตาโภ ดร.ดูแล
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำทำวัตรเช้า และนำปฏิบัติ
เช้ามดื พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.ดแู ล กล่มุ ท่ี ๕-๖, เรา
รว่ มปฏบิ ัตอิ ยกู่ ับพระธรรมทตู ตลอด,
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ ให้ธรรมะและนำปฏิบัติ พระ
เชา้ มหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร.ดูแล กลุ่มที่ ๕-๖, เราร่วม
ปฏบิ ัติอยกู่ บั พระธรรมทตู ตลอด,
หอพระธรรมคมั ภรี ์ พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำไหว้พระให้ธรรมะและนำ
บ่าย ปฏิบัติ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.ดูแล กลุ่มท่ี
๕-๖, เรารว่ มปฏบิ ตั อิ ยกู่ ับพระธรรมทูตตลอด,
พระปลัดสมภาร สมภาโร นำทำวัตรเย็น และเล่า
คำ่ ประสบการณ์ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.ร่วม
ปฏิบัติด้วยตลอด ท่านก็นำปฏิบัติหลังจากเล่า
เรอื่ งราว นำแผ่เมตตา และไหว้พระ,
คำปฏิญาณ 104
วัน พฤหสั บดี ที่ 14 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร.นำทำวัตรเช้า โดยมีพระ
เช้ามดื มหาสเุ ทพ สวุ ฑฒฺ โน, ดร. พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ,
ดร. และพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่28 ที่
หอประชุมพร
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร.นำผู้เข้าอบรมพระธรรม
เชา้ ทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 ไหว้พระและเจริญ
วิปัสสนากรรมฐาน ณ หอประชุม พร โดยมีพระมหา
สุเทพ สุวฑฺฒโน ดร.ดแู ล
พระครูพบิ ลู กิจจารักษ์, ดร. นำผเู้ ขา้ อบรมพระธรรม
ทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มที่ 1-2-5-6-7-8
หอประชมุ พร บา่ ย ไหว้พระ หลังจากนั้น แจ้งกลุ่มพระธรรมทูตฯ ที่จะ
ส่งสอบอารมณ์ คือกลุ่มที่ 1-2-3-5 ผู้ที่ไม่ได้สอบ
อารมณเ์ จรญิ วิปสั สนากรรมฐานตามปกติ โดยมีพระ
มหาสเุ ทพ สวุ ฑฒฺ โน,ดร.
พระปลัดสมภาร สมภาโร, ผศ., ดร. ผู้บริหาร
คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พระครูวินัยธร
สมุทร ถาวรธมฺโม, ผศ.ดร. พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ
คำ่ , ดร. พระมหาทองเก็บ ญาณพโล, ดร. พระมหาสุ
เทพ สุวฑฺฒโน, ดร. นำผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสาย
ต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มท่ี 1-2-5-6-7-8 ทำวัตร
เย็น
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวปิ สั สนาจารย์ แสดง
เช้ามืด ธรรมใหอ้ ารมณก์ ัมมฏั ฐาน แก่พระผเู้ ข้าอบรม โดยมี
พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทตู เปน็ ผู้ดแู ล
หอพระธรรมคมั ภรี ์ พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ นำ
เชา้ บูชาพระรัตนตรัย แสดงธรรมให้อารมณ์กัมมัฏฐาน
นำปฏิบัติ แก่พระผูเ้ ข้าอบรม โดยมพี ระมหาไพฑูรย์
ปนตฺ นนโฺ ท ดร. อ.วทิ ยาลัยพระธรรมทูต เป็นผูด้ ูแล
บ่าย พระมหาไพฑรู ย์ ปนฺตนนโฺ ท ดร.
คำปฏิญาณ 105
พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำ
คำ่ บูชาพระรัตนตรัยแล้ว แสดงธรรมให้อารมณ์
กัมมฏั ฐาน แกพ่ ระผเู้ ข้าอบรม โดยมีพระมหาไพฑรู ย์
ปนฺตนนโฺ ท ดร. เป็นผดู้ ูแล
วนั ศุกร์ ที่ 15 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครสู มหุ ช์ ยั พล โสภโณ พระวปิ ัสสนาจารย์ แนะนำ
การปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน เกี่ยวกับการ
เช้ามดื เกิดขึ้นของปีติ หลังการทำวัตรภาคเช้า แก่ผู้เข้ารับ
การอบรม โดยมีพระครูธรรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร.
ดูแล
พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. พระวิปัสสนาจารย์
เชา้ แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน กำหนด
อิริยาบถ เดินระยะที่ 2 แกผู้เข้ารับการอบรม โดยมี
หอประชุมพร พระครูธรรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร. ดูแล
พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. พระวิปัสสนาจารย์ สอบ
บ่าย อารมณ์ ผู้เข้ารับการอบรม โดยมอบให้พระครูธรรม
ธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. ดูแล ณ หอประชมุ พร
พระครูโฆษิตพุทธศิ าสตร์,ดร. พระวิปัสสนาจารย์ มา
เยี่ยมและถวายความรู้ แนะนำการปฏิบัติ ภาค
คำ่ วิปัสสนากรรมฐาน แกผู้เข้ารับการอบรม โดยมี
ผู้บริหาร คณาจารย์ ดูแล อำนวยความสะดวก ณ
หอประชุม พรพระครธู รรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
พระโยคาวจร กลุ่ม 3,4 ณ หอพระธรรมคัมภีร์ ศูนย์
พัฒนาศาสนาแคมป์สน ทำวัตรเช้า กรวดน้ำ แผ่
เชา้ มดื เมตตารับฟังคำแนะนำการปฏิบัติ "เรื่อง อะไรคือ
อารมณ์วิปัสสนา" โดยพระครูพิบูลกิจจารักษ์ พระ
หอพระธรรมคมั ภีร์ วิปัสสนาจารย์ โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
ดแู ล
พระโยคาวจร กลุ่ม 3,4 ณ หอพระธรรมคัมภีร์ ศูนย์
เชา้ พัฒนาศาสนาแคมป์สน กราบพระ เจริญพุทธคุณ
ธรรมคุณ สังฆคุณ รับฟังคำแนะนำการปฏิบตั ิ "เรื่อง
คำปฏิญาณ 106
การกำหนดขณะเดินจงกรม" โดยพระครูพิบูลกิจจา
รักษ์ พระวิปสั สนาจารย์ มีเจ้าหน้าที่โครงการอำนวย
ความสะดวกพระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
พระครูพิบูลกิจารักษ์ พระวิปสั สนาจารย์ รับส่ง-สอบ
อารมณ์พระโยคาวจร ได้มอบหายให้เจ้าหน้าที่
บ่าย โครงการ นำพระโยคาวจร กลุ่ม 3,4 หอพระคัมภีร์
กราบพระ เจริญพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ
เดินจงกรม ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มีพระมหายง
ยุทธ กนตฺ าโภ ดร.อำนวยความสะดวก
พระปลดั สมภาร สมภาโร พระวิปสั สนาจารย์ นำพระ
โยคาวจร กลุ่ม 3,4 ทำวัตร จากนั้นนำงานวิจัยเรื่อง
คำ่ "ผลการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับการบำบัด
สขุ ภาพทางจิต" บรรยาย แก่ผู้ปฏิบัติ โดยมีเจ้าหน้าที่
โครงการอำนวยความสะดวก โดยมีพระมหายงยุทธ
กนตฺ าโภ ดร.ดแู ล
วนั เสาร์ ท่ี 16 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกจิ จารักษ์ นำทำวตั รเช้า วนั น้มี วี ิปสั สนา
จารย์ลงมามาก เน่ืองจากเป็นวันพระใหญ่ ปาติโมกข์
-พระปลัดสมภาร สมภาโร ผศ.ดร. ให้ธรรมะภาคเช้า
เชา้ มดื และฟังพระปาติโมกข์ แสดงโดยพระมหาชาคริต
ภทฺทภรู ิ ป.ธ.๙ เสร็จแลว้ พระโสภณวชริ าภรณ์ กลา่ ว
ใหข้ อ้ คดิ และรบั บาตร
หอประชุมพร พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ มีการประชุมเจ้าหน้าที่
เช้า โครงการฯ ที่ซุ้มไผ่, มีหลายประเด็นที่ให้ติดตาม
สอดสอ่ ง ดูแล, เสรจ็ แล้วเราก็มาดูแลทหี่ อประชมุ พร,
พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร.
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ เราร่วม
บ่าย ปฏิบัติด้วยตลอด สังเกตพฤติกรรมของพระที่ขอนั่ง
เก้าอี้ ท่านมะค่อยเอาใจใส่ในการปฏิบัติ และก็
คำปฏิญาณ 107
สามารถมานั่งสมาธิกับพื้นได้, จึงทำบันทึกส่ง
สำนกั งานโครงการฯ
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.
พระปลดั สมภาร สมภาโร และผอู้ ำนวยการวิทยาลัย
พระธรรมทูต คณาจารย์ พระธรรมทูต กลุ่มที่
๓,๔,๕,๖,๗,และ๘
ค่ำ -หลังทำวัตรเย็นฟังธรรมะบรรยายโดยพระปลัด
สมภาร สมภาโร ผ่านพาเวอร์พ้อยด์ เป็นงานวิจัย
เร่อื งการวิปัสสนากับการแก้ปัญหาชีวิตมนุษย์ (ยาว)
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.
ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าท่ี และผู้เข้าอบรมพระ
ธรรมทตู สายตา่ งประเทศรนุ่ ท่ี 28 กล่มุ 1-8 ทำวัตร
เชา้ มดื เช้า โดยมีพระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร. นำทำวัตร
หลังจากน้ันฟงั สวดปาติโมกข์ พระมหาสเุ ทพ สุวฑฺฒ
โน ดร.ดูแล
พระสมุห์ชัยพล โสภโณ นำผู้เข้าอบรมพระธรรมทูต
เชา้ สายต่างประเทศรุ่นที่ 28 กลุ่ม 3-4 เจริญวิปัสสนา
กรรมฐาน ณ หอพระธรรมคัมภีร์ มจร พระมหาสุ
หอพระธรรมคัมภรี ์ เทพ สุวฑฒฺ โน ดร.ดูแล
พระสมหุ ์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้เข้า
บา่ ย อบรมพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศรนุ่ ที่ 28 กลมุ่ 1-
2 อิริยาบถแรกเจริญวิปัสสนา โดยมีพระมหาสุเทพ
สวุ ฑฒฺ โน ดร.ดูแล
พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร.พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้
ค่ำ เขา้ อบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรนุ่ ท่ี 28 กลมุ่
1-2 ทำวัตรเย็นและให้โอวาทธรรม พระมหาสุเทพ
สวุ ฑฺฒโน ดร.ดแู ล
วนั อาทิตย์ ที่ 17 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระผู้เข้าอบรมกลุ่ม 3-8 ทำวัตรเช้า มีพระครูสมุห์
หอประชมุ พร เชา้ มืด ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ เป็นต้นเสียงนำ
โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร.ดูแล
คำปฏิญาณ 108
พระผู้เข้าอบรมกลุ่ม 3-8 ปฏิบัติวปิ ัสสนากัมมัฏฐาน
บางรูปออกไปส่ง-สอบอารมณ์กับพระวปิ ัสสนาจารย์
เชา้ เป็นต้นเสียงนำ โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท
ดร. อ.วิทยาลัยพระธรรมทูต ดูแล ณ หอประชุม
อาจารยพ์
พระวิปัสสนาจารย์ให้กำหนดดว้ ยตนเอง เร่ิมการเดิม
จงกรม 30 นาที ของพระผูเ้ ข้าอบรมทีไ่ มไ่ ดส้ ่ง-สอบ
บา่ ย อารมณ์ เปล่ียนเปน็ อริ ิยาบถนง่ั 30 นาที ส่วนรูปทไี่ ป
ส่ง-สอบอารมณ์ ให้ไปตามสถานทท่ี ี่ไดก้ ำหนดไว้ โดย
มีพระมหาไพฑูรย์ วรรณบุตร ปนฺตนนฺโท ดร. อ.
วทิ ยาลยั พระธรรมทตู อำนวยความสะดวก
พระมหาไสว ญาณวโี ร ดร. นำทำวตั ร และให้พระครู
ศรีนิคมพิทักษ์ วิ. บรรยายธรรมการปฏิบัติวิปัสสนา
คำ่ กัมมัฏฐาน แก่ผู้เข้าอบรมกลุ่ม 3-8 ณ หอประชุม
อาจารย์พร และให้ผู้เข้าอบรม เดินกงกรม 40 นาที
และนั่ง 40 นาที พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร.
ดูแล
พระครูพิบูลกิจจารกั ษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
เชา้ มืด ว่าที่พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 28 ทำวัตร
ภาคเช้า และแนะนำการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
โดยมีพระครธู รรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.ดูแล
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
ว่าที่พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 28 ทำวัตร
เช้า ภาคเช้า และแนะนำการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
หอพระธรรมคมั ภรี ์ โดยมีพระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร. อ.
ประจำวิทยาลัยพระธรรมทตู เป็นผดู้ แู ล
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
วา่ ทพ่ี ระธรรมทูตสายตา่ งประเทศ รุน่ ท่ี 28 เกีย่ วกับ
บา่ ย การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ก่อนไปปฏิบัติการ
สอบอารมณ์ ผู้เข้ารับการอบรม โดยมีพระครูธรรม
ธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร. อ. ประจำวิทยาลัยพระ
ธรรมทูต เป็นผู้ดูแล
คำปฏิญาณ 109
พระปลัดสมภาร สมภาโร,ผศ,ดร. พระวปิ ัสสนาจารย์
นำทำวัตรเย็น พิจารณาอตีตปัจเวกขณะ กรวดน้ำ
คำ่ แผ่เมตตา จากนั้นกล่าว แสดงหลักการปฏิบัติ
วิปัสสนากรรมฐาน วิปสั สนาจารย์ โดยมีพระครูธรรม
ธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร. ร่วมทำวตั รและดูแลอำนวย
วัน จันทร์ ท่ี 18 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
เช้า พระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.
หอประชุมพร บ่าย พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
พระปลัดสมภาร นำทำวัตรเย็น พพรอ้ มด้วยพระครู
คำ่ วนิ ัยธรสมทุ ร ถาวรธมโม พระโยคาวจร
พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ ดร.ดแู ล
เช้ามืด พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ นำ, และให้ธรรมะภาค สอบอารมณ์
เช้า และให้ปฏิบัติ เสร็จแล้วก็กลับ, เรานำแผ่ ครัง้ ที่
เมตตา กราบพระ,
พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร.
หอพระธรรมคมั ภรี ์ เชา้ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.นำไหว้พระ เจริญ วิปสั สนาจารย์
บ่าย พทุ ธคณุ ธรรมคุณ สงั ฆคณุ และให้กำหนดตามเวลา ประชมุ เม่ือเชา้
๔๐ นาทตี ่อหน่งึ บัลลังก,์ จนครบเวลา และเราก็นำ มีมติใหเ้ พิ่ม
แผเ่ มตตา กราบพระ เวลาเดิน เปน็
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ เข้ามานำไหว้พระและ
แนะนำนิดหน่อย และก็กลับ, พระมหาทองเก็บ ๔๐ นาที
ญาณพโล ดร.ทำหน้าทด่ี แู ล ปฏบิ ตั ิเป็นการส่วนตัว
เราดว้ ย จนหมดเวลา นำแผเ่ มตตา นำไหวพ้ ระ,
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ นำทำวัตรเย็น และนำ
คำ่ เดินระยะที่สองพอนั่ง, ท่านก็กลับ, พระมหาทอง
เก็บ ญาณพโล ดร.ดูแล ร่วมปฏิบัติ จนหมดเวลา
นำแผ่เมตตา นำไหวพ้ ระ,
คำปฏิญาณ 110
วนั องั คาร ที่ 19 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์นำผู้
เขา้ อบรมพระธรรมทตู สายต่างประเทศไหวพ้ ระและ
เช้ามืด เจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมีพระมหาสุเทพ สุว
ฑฒฺ โน, ดร. ดแู ลอำนวยความสะดวก ณ หอประชมุ
พร
พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร.พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้
เช้า เข้าอบรมพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศไหว้พระและ
เจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมีพระมหาสุเทพ สุว
ฑฒฺ โน, ดร. ดูแล
หอประชุมพร ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ มจร กลมุ่
1-2-3-4-5-6 เจริญวิปัสสนากรรมฐานและสอบ
บา่ ย อารมณ์กับวิปัสสนาจารย์ตามตารางที่จัดไว้ โดยมี
พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒโน, ดร. ดูแลอำนวยความ
สะดวก
คำ่ พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร.พระวิปัสสนาจารย์ สอบอารมณ์
พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้เข้า คร้งั ท่ี ๕
อบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ มจร กลุ่ม 1-2-
3-4-5-6 ทำวัตรเย็น เจริญวปิ ัสสนากรรมฐานโดยมี
พระมหาสเุ ทพ สวุ ฑฒฺ โน, ดร ดแู ล
พระผู้เข้าอบรมกลุ่ม 1-2 ทำวัตรเช้า มีพระครพู ิบลู
กิจจารักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ เปน็ ต้นเสยี งนำ โดยมี
เช้ามดื พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทูต ร่วมปฏิบัติและดูแล มีพระสิริวรรณะ
สิริวณโฺ ณ ร่วมทำวัตรเชา้ ณ หอพระธรรมคมั ภีร์
หอพระธรรมคัมภีร์ พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทูต ดูแลหอพระธรรมคมั ภีร์ โดยมีพระครูพบิ ลู
เชา้ กิจจารักษ์, ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำกราบพระ
พุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และใหอ้ ารมณ์กมั มฏั ฐาน
แก่ผเู้ ข้าอบรม
บ่าย พระครพู ิบลู กิจจารักษ์, ดร. พระวปิ สั สนาจารย์ นำ
กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และให้พระผเู้ ขา้
คำปฏิญาณ 111
อบรมไปส่งและสอบอารมณ์ต่อพระวิปัสสนาจารย์
ตามกลุม่ และสถานที่ ท่กี ำหนด ส่วนทยี่ งั ไมถ่ งึ ลำดับ
การสง่ และสอบให้ปฏิบัติด้วยการกำหนดเวลาปฏบิ ตั ิ
ด้วยตนเอง คอื การเดินจงกรมและนัง่ วิปสั สนา อยา่ ง
ละ 40 นาที โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนตฺ นนฺโท ดร.
พระสมภาร สมภาโร ผศ. ดร. พระวิปัสสนาจารย์
คำ่ นำพระผเู้ ขา้ อบรมทำวตั รเยน็ โดยมพี ระมหาไพฑูรย์
ปนฺตนนโฺ ท ดร. อ.วทิ ยาลยั พระธรรมทตู ดูแล
วัน พธุ ท่ี 20 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบลู กิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ สอบอารมณ์
ครั้งที่ ๖
ว่าที่พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 28 ทำวัตร
เวน้ กลุม่ ท่ี ๓
เชา้ มดื ภาคเช้า และแนะนำการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
โดยมี พระครูสริ ปิ ริยตั ยาภรณ์ ผู้บริหาร และพพระ
ครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร. ดแู ล
พระครูพิบูลกจิ จารกั ษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
หอประชุมพร วา่ ทพี่ ระธรรมทูตสายต่างประเทศ รนุ่ ท่ี 28 ไหวพ้ ระ
เชา้ กราบพระ และแนะนำ เกี่ยวกบั การปฏิบัติวปิ สั สนา
กัมมัฏฐาน เพิ่มเวลา บัลลังค์ละ 40 น. ก่อนไป
ปฏิบัติการสอบอารมณ์ ผู้เข้ารับการอบรม โดยมพี ระ
ครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร. ดแู ล
บ่าย พระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
คำ่ พระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
เช้ามดื พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
หอพระธรรมคัมภรี ์ เชา้ พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ ดร.
บ่าย พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
คำ่ พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
คำปฏิญาณ 112
วนั พฤหัสบดี ที่ 21 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ นำทำวัตรเช้า พร้อมด้วย สอบอารมณ์
ครง้ั ท่ี
เช้ามดื พระมหาทองเก็บ ญาณพโล และพระธรรมทูตสาย
ตา่ งประเทศ รนุ่ ที่28 กลุ่มท่ี 1,2,3,4,5,และ6
พระครูศรีนิคมพิทักษ์ นำไหว้พระ และพระมหาไสว
เช้า เข้ามานำเดินระยะท่ี 3 มีการสาธติ ดว้ ย
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.ดูแล
หอประชมุ พร พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.
บ่าย มีประชมุ รว่ มกับประธานโครงการฯจงึ เดนิ ไปบอกให้
พระธรรมทูตนำกนั เอง
พระมหาไสว ญาณวีโร นำไหว้พระ และให้พระครู
คำ่ ภาวนาวรนศุ าสก์ ให้ธรรมะแก่พระธรรมทตู กลุ่มท่ี 1-
6
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร.ดแู ล
พระครูวิบลู ย์กิจจารักษ์, ดร.นำผู้เขา้ อบรมพระธรรม
เช้ามืด ทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่ม 7-8 พระมหาสุ
เทพ สุวฑฒฺ โน ดร.ดูแล
พระครูพิบูลย์กิจจารักษ์, ดร. นำผู้เข้าอบรมพระ
เชา้ ธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มที่ 7-8 ไหว้
พระ หลังจากนั้นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เริ่มด้วย
การเดินจงกรม โดยมพี ระมหาสุเทพ สุวฑฒฺ โน, ดร.
พระครูพิบูลย์กิจจารักษ์, ดร. นำผู้เข้าอบรมพระ
หอพระธรรมคัมภีร์ ธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มที่ 7-8 ไหว้
บา่ ย พระและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ส่วนรูปที่ส่งสอบ
อารมณไ์ ปสง่ ตามตารางที่จัดไว้ โดยมพี ระมหาสุเทพ
สุวฑฒฺ โน, ดร.
พระปลัดสมภาร สมภาโร,ผศ. ดร. นำผู้เข้าอบรม
พระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 28 กลุ่มที่ 7-8
คำ่ ทำวัตรเย็นและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมีพระ
ครูสิริปริยัตยาภรณ์และพระมหาสุเทพ สุวฑฺฒโน,
ดร.
คำปฏิญาณ 113
วนั ศุกร์ ที่ 22 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพบิ ลู กจิ จารกั ษ์, ดร. พระวิปสั สนาจารย์ นำ
เช้ามืด ผู้เข้าอบรมทำวัตรเช้า โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺ
ตนนโฺ ท ดร.
พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
เช้า ธรรมทูต ได้รับมอบหมายจากพระครูพิบูลกิจจา
รักษ์, ดร. พระวิปัสสนาจารย์ ให้นำกราบพระ
รตั นตรัยและให้สญั ญาณ
หอประชุมพร พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
บ่าย ธรรมทูต ได้รับมอบหมายจากพระครูพิบูลกิจจา
รักษ์, ดร. พระวิปัสสนาจารย์ ให้นำกราบพระ
รตั นตรยั และให้สญั ญาณ
พระสมภาร สมภาโร ผศ. ดร. พระวิปัสสนาจารย์
นำพระผ้เู ขา้ อบรมทำวัตรเย็น โดยมพี ระมหาไพฑูรย์
คำ่ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระธรรมทูต ดูแล และ
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทูต รว่ มกิจกรรม
เช้ามืด พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ ผู้บริหาร และพพระครู
ธรรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
พระโสภณวชิราภรณ์ , ดร. ประธานโครงการ ฯ
เชา้ ผู้บริหาร และพระครูภาวนาวรานุศาสก์ พระ
วิปัสสนาจารย์ โดยมี พระครูสิริปริยัตยาภรณ์
หอพระธรรมคมั ภรี ์ ผูบ้ รหิ าร และพระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
บา่ ย พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำ
ไหวัพระ กรวดน้ำ แผ่เมตตา แนะนำการปฏิบัติ
คำ่ ภาควปิ สั สนากรรมฐาน การกำหนดอิรยิ าบถย่อยให้
ทัน แก่ผูเ้ ข้ารับการอบรม โดยมี พระครูสริ ิปริยัตยา
ภรณ์ และพระครูธรรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร.
คำปฏิญาณ 114
วนั เสาร์ ที่ 23 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
เช้ามืด พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ ดร. สอบอารมณ์
ครง้ั ที่ ๙
หอประชมุ พร เชา้ พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
บ่าย พระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.
คำ่ พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำไหว้พระ และลงไปสอบ
เช้ามืด อารมณ์ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. ร่วมปฎิบัติ
ดูแลพระธรรมทตู กลมุ่ ท่ี ๕และ๖
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำไหว้พระ และลงไปสอบ
เช้า อารมณ์ พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร. รว่ มปฎิบัติ
หอพระธรรมคัมภีร์ ดูแลพระธรรมทูต กลุ่มที่ ๕และ๖
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำไหว้พระ และลงไปสอบ
บา่ ย อารมณ์ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดร. ร่วมปฎิบัติ
ดูแลพระธรรมทตู กล่มุ ท่ี ๕และ๖
พระปลัดสมภาร สมภาโร นำทำวัตรเย็น พร้อมด้วย
คำ่ พระมหาทองเก็บ ญาณพโล และพระธรรมทูตสาย
ต่างประเทศรนุ่ ท2่ี 8 กลุ่มที่5และ6
วัน อาทิตย์ ที่ 24 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพบิ ูลยก์ จิ จารกั ษ์, ดร.พระวปิ สั สนาจารย์ นำผู้
เชา้ มืด เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28
ไหว้พระและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมีพระครู
สิริปริยัตยาภรณ์ พระมหาสเุ ทพ สุวฑฒฺ ฺโน, ดร.
หอประชุมพร เชา้ พระครูพบิ ูลยก์ จิ จารักษ์, ดร.พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้ งดสอบอารมณ์
เขา้ อบรมพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศรนุ่ ท่ี 28 กลมุ่ วนั พระ ๘ ค่ำ
1-2-3-4-7-8 ไหว้พระและเจริญวปิ ัสสนากรรมฐาน
โดยมี พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร.
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร.พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้
บา่ ย เข้าอบรมพระธรรมทตู สายต่างประเทศรุ่นที่ 28 กลมุ่
1-2-3-4-7-8 ไหว้พระและเจรญิ วปิ ัสสนากรรมฐาน
คำปฏิญาณ 115
วันนี้มีส่งสอบอารมณ์ กลุ่มที่ 2 และ 5 โดยมี พระ
มหาสุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร.
พระปลัดสมภาร สมภาโร,ผศ. ดร. พระวิปัสสนา
จารย์ พร้อมด้วย พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ พระมหา
คำ่ ยงยุทธ กนฺตาโภ, ดร. พระมหาทองเก็บ ญาณพโล,
ดร. และผ้เู ข้าอบรมพระธรรมทูตสายตา่ งประเทศร่นุ
ที่ 28 กลุม่ 1-2-3-4-7-8
พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
เชา้ มดื ธรรมทูต โดยไดร้ บั มอบหมายจากพระวปิ ัสสนาจารย์
นำผู้เข้าอบรมทำวัตรเชา้
พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
เช้า ธรรมทตู โดยได้รบั มอบหมายจากพระวิปสั สนาจารย์
นำผู้เข้าอบรมกราบพระรัตนตรัยแล้วให้ปฏิบัติ
วปิ สั สนากมั มัฏฐาน
หอพระธรรมคัมภีร์ พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
บา่ ย ธรรมทูต ดูแลอำนวยความสะดวกที่หอพระธรรม
คัมภีร์ โดยมพี ระครูสมหุ ์ชยั พล โสภโณ พระวิปสั สนา
จารย์ นำผู้เข้าอบรมกล่มุ 5-6
พระมหาไสว ญาณวีโร ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำ
คำ่ พระผู้เข้าอบรมทำวัตรเย็น โดยมีพระครูภาวนาวรา
ลังการ วิ. ร่วมกิจกรรม และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺ
ตนนโฺ ท ดร.
วนั จันทร์ ที่ 25 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ สอบอารมณ์
ครัง้ ท่ี ๑๐
แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน หลังการ ทุกกลมุ่
ยกเวน้ กลมุ่ ๗
เชา้ มืด ทำวัตรภาคเช้า แก่ผู้เข้ารับการอบรม โดยมีพระครู
หอประชุมพร ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. พระครสิริปริตยา
ภรณ์ ดูแล
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
เชา้ แนะนำการปฏิบัติ ภาควิปัสสนากรรมฐาน หลังการ
ทำวัตรภาคเช้า แก่ผู้เข้ารับการอบรม โดยมีพระครู
คำปฏิญาณ 116
ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. พระครสิริปริตยา
ภรณ์ ดแู ล
บ่าย พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
คำ่ พระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
พระครูพิบลู กิจจากรกั ษ์ นำพระโยคาวจร ทำวัตรเชา้
เชา้ มืด พิจารณาปัจจเวกขณะ กรวดน้ำ ใหโ้ อวาทธรรม เรือ่ ง
สภาวทุกข์ในสังขาร โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ
,ดร.
พระครูพบิ ูลกจิ จากรกั ษ์ นำพระโยคาวจร ทำวัตรเช้า
หอพระธรรมคมั ภรี ์ เชา้ พจิ ารณาปัจจเวกขณะ กรวดน้ำ ให้โอวาทธรรม เรอื่ ง
สภาวทุกข์ในสังขาร โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ
,ดร.
พระครพู ิบลู กจิ จารกั ษ์ นำพระโยคาวจร กลมุ่ 3-4 ณ
บา่ ย หอพระธรรมคัมภีร์ กราบพระ เสร็จแล้วท่านลงไป
สอบอารมณ์ โดยมี พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
ดูแล
คำ่ พระมหายงยทุ ธ กนตฺ าโภ ดร.
วนั อังคาร ที่ 26 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำทำวัตรเช้า พร้อมด้วย สอบอารมณ์
ครงั้ ที่ ๑๑
เชา้ มดื คณาจารย์ พระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่น 28
กลมุ่ ท่ี 1,2,5, 6, 7, และ8, พระโสภณวชิ
ราภรณ์มา
พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร.
เยยี ม
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำไหว้พระ และนำปฏิบัติ โครงการฯ
และคณะครู
เชา้ พรอ้ มด้วยพระธรรมทูตกลมุ่ ที่ 1,2,5,6,7,และ8 พระ ร.ร.จิตรลดา
มาทำบญุ
หอประชุมพร มหาทองเกบ็ ญาณพโล ดร. ดแู ล
พระครูพิบลู กิจจารกั ษ์ นำไหวพ้ ระ และเเนะนำเรอ่ื ง
บา่ ย การใชอ้ าสนะที่เหมาะแก่การปฏิบัติแกพ่ ระธรรมทูต
กลุ่มที่ 1,2,5,6,7,และ8 โดยมีพระมหาทองเก็บ
ญาณพโล ดร.ดูแล
คำ่ พระปลัดสมภาร สมภาโร นำทำวัตรเย็นพร้อมด้วย
พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ พระมหาทองเก็บ ญาณพ
คำปฏิญาณ 117
โลและพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่น28กลุ่มท่ี
1,2,5, 6,7,และ8
พระสมหุ ์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ พระครู
สิริปริยัตยาภรณ์ และผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสาย
เชา้ มืด ตา่ งประเทศรนุ่ ท่ี 28 กล่มุ 3-4 ทำวัตรเชา้ และเจริญ
วิปัสสนากรรมฐาน โดยมี พระมหาสเุ ทพ สุวฑฺฒฺโน,
ดร. ดูแล
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปสั สนาจารย์ นำผู้
เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 28
เช้า กล่มุ 3-4 จำนวน 29 รปู ไหวพ้ ระและเจริญวปิ สั สนา
กรรมฐาน โดยมี พระมหาสุเทพ สวุ ฑฺฒโฺ น, ดร. ดแู ล
หอพระธรรมคัมภรี ์ อำ
พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ นำผเู้ ข้าอบรมพระธรรมทตู
บ่าย สายต่างประเทศรุ่นที่ 28 กลุ่ม 3-4 จำนวน 29 รูป
ไหว้พระและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมี พระ
มหาสเุ ทพ สวุ ฑฒฺ ฺโน, ดร. ดแู ล
พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร. พระครูภาวนาวลาลัง
การ วิ.นำผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ
คำ่ รุ่นท่ี 28 กลุ่ม 3-4 จำนวน 29 รูป ทำวัตรเย็น
ปรารภธรรม และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมี
พระมหาสเุ ทพ สุวฑฒฺ ฺโน, ดร.ดแู ล
วัน พธุ ท่ี 27 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูภาวนาวราลังการ พระวิปัสสนาจารย์ นำ
พระโยคาวจร ทำวัตรเช้า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ณ หอประชุมพร โดยมีพระครูสมุชัยพล พระครูสิริ
หอประชมุ พร เช้ามืด ปริยัติยาภรณ์ พระมหายงยุทธ ร่วมกิจกรรม โดย
พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ดูแลอำนวยความสะดวก
ประจำวาระวันนี้แทนพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท
ดร.
เชา้ พระมหาไพฑูรย์ ปนตฺ นนโฺ ท ดร.
คำปฏิญาณ 118
พระโยคาวจร กราบพระปฏบิ ตั ิวิปสั สนากรรมฐาน ณ
บา่ ย หอประชุมพร โดยมพี ระครสู ิรปิ ริยตั ยาภรณ์ นำกราบ
พระดูแลอำนวยความสะดวกประจำวาระบา่ ยวนั น้ี
พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำ
พระโยคาวจร ทำวัตรเย็น กรใดน้ำ แผ่เมตตา/ให้
โอวาท ข้อคดิ เก่ียวกับการปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน
คำ่ ณ หอประชมุ พร โดยมีพระครูสิรปิ รยิ ตั ยาภรณ์ พระ
มหาทองเก็บ พระมหายงยุทธ ร่วมทำวัตร ดูแล
อำนวยความสะดวกประจำวาระเยน็ นโี้ ดยพระครูสิริ
ปรยิ ัตยาภรณ์
พระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
ว่าที่พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 28 ทำวัตร
เช้ามืด ภาคเช้า และแนะนำการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
แจ้งเพิ่มเวลาเป็น 50 น. และให้นั่งอานะผืนเดียว
โดยมี พระมหานิยม สีลสํวโร,ดร. นำแผ่เมตตา หลัง
การปฏิบัติ และพระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช
ดร.
พระครูพิบูลกจิ จารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ นำ
ว่าที่พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 28 และ
หอพระธรรมคัมภรี ์ เช้า แนะนำการปฏิบตั วิ ปิ ัสสนากัมมัฏฐาน แจ้งเพม่ิ เวลา
เป็น 50 น. และให้นั่งอานะผืนเดียว โดยมีพระครู
ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร. ดแู ล
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์
บ่าย มอบหมายให้ พระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช ดร.
อ. ประจำวทิ ยาลัยพระธรรมทตู เป็นผดู้ แู ล และร่วม
ปฏิบตั ิ
พระปลัดสมภาร สมภาโร,ผศ,ดร. พระวปิ ัสสนาจารย์
นำทำวัตรเย็น พิจารณาอตีตปัจเวกขณะ กรวดน้ำ
คำ่ แผ่เมตตา จากนั้นกล่าว แสดงหลักการปฏิบัติ
วปิ สั สนากรรมฐาน วิปัสสนาจารย์ โดยมพี ระครูธรรม
ธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร. ดูแล
คำปฏิญาณ 119
วนั พฤหสั บดี ที่ 28 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำพระโยคาวจร กลุ่ม
1,2,5,6,7,8 ณ หอประชุมพร ทำวัตรเช้า กรวดน้ำ
แผ่เมตตา จากนั้นได้มอบให้พระมหานิยม ศีลสํวโร
เชา้ มืด พระวิปัสสนาจารย์ ปรารภธรรม แนวปฏิบัติให้
กำลังใจ เรื่องอปัณณกะปฏิปทา โดยมีพระครูสิริ
ปริยัติยาภรณ์ ร่วมกิจกรรม พระมหายงยุทธ กนฺ
ตาโภ,ดร. อำนวยความสะดวก
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ นำพระโยคาวจร กลุ่มท่ี
เชา้ 1,2,6,7,8 กราบพระ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน โด
โดยมีพระมหยงยุทธ กนฺตาโภ,ดร.อำนวยความ
สะดวก.
หอประชุมพร พระครูพิบูลกิจจากรักษ์ นำพระโดยคาวจร กลุ่ม
3,4,5,6,7,8 ณ หอประชุมพร กราบพระจากน้นั ท่าน
บ่าย รับส่งสอบอารมณ์ พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ,ดร.
อำนวยความสะดวก
พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
พระปลดั สมภาร สมภาโร,ผศ ดร. พระวิปัสสนาจารย์
นำพระโยคาวจร กลมุ่ 3,4,5,6,7,8 ณ หอประชุมพร
ทำวัตรเย็น พิจารณาอตีตตะปัจเวกขณะ กรวดน้ำ
คำ่ แผ่เมตตา โดยมีพระครศู รีนิคมพิทักษ์ และพระมหา
ยงยุทธ ร่วมทำวัตรอำนวยความสะดวก/จากน้ัน
แนะให้ผู้ปฏิบัติขันน็อตตัวเองให้แน่น อย่าปล่อย
อารมณ์
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ นำทำวัตรเช้า พร้อม
เชา้ มืด ด้วยพระมหาทองเก็บ ญาณพโล และพระธรรมทูต
สายตา่ งประเทศรนุ่ 28 กลุ่มท่ี 3และ4
หอพระธรรมคัมภีร์ พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ นำไหว้พระภาคเช้าและ
เช้า ให้ธรรมะ แก่พระโยคาวจร กลุ่มที่ 3 และ 4 พระ
มหาทองเกบ็ ญาณพโล อำนวยความสะดวก.
บา่ ย พระมหาทองเก็บ ญาณพโล นำไหว้พระ เจริญ
พุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณ และร่วมปฏิบัติเป็น
คำปฏิญาณ 120
กำลังใจ ดูแลอำนวยความสะดวกแก่พระธรรมทูต
กลุ่มที่ 1และ2 ใหส้ ัญญาณระฆงั แผ่เมตตา,
พระครูสิริปริยัตยาภรณ์ นำทำวัตรเย็น พร้อมด้วย
คำ่ พระมหาทองเกบ็ ญาณพโล และพระธรรมทตู กลมุ่
ท่ี 1และ2
วนั ศกุ ร์ ที่ 29 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปสั สนาจารย์ นำผู้ สอบอารมณ์
คร้งั ท่ี ๑๔
เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 ทำ ทกุ กลมุ่ เวน้
กลมุ่ ๘
เชา้ มืด วตั รเชา้ และเจริญวปิ ัสสนากรรมฐาน โดยมี พระมหา
สุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร. ดูแลอำนวยความสะดวก ณ
หอประชุม พร
พระครูสมุหช์ ัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้
เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28
กลุ่ม 3-4-5-6-7-8 ไหว้พระและเจริญวิปัสสนา
เชา้ กรรมฐาน สำหรับกลุ่มที่ 3 ส่ง-สอบอารมณ์
กรรมฐานกับอาจารย์ พระมหาไสว ญาณวีโร, ดร
(ภาคเช้า) โดยมี พระมหาสุเทพ สวุ ฑฺฒฺโน, ดร. ดแู ล
อำนวยความสะดวก
หอประชุมพร ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28
กลุ่ม 3-4-5-6-7-8 ไหว้พระและเจริญวิปัสสนา
บา่ ย กรรมฐาน กลุ่ม 3-4-5-6-7 ส่ง-สอบอารมณ์
กรรมฐานกับพระวิปัสสนาจารย์ โดยมี พระมหาสุ
เทพ สุวฑฺฒโน, ดร. นำบูชาพระรัตนตรัย ดูแล
อำนวยความสะดวก ณ หอประชุม พร
พระมหาไสว ญาณวโี ร, ดร.พระครศู รนี ิคมพิทกั ษ์ วิ.
พระวปิ ัสสนาจารย์ พระครูวินยั ธรสมุทร ถาวรธมโฺ ม,
ผศ.ดร. พระมหาทองเก็บ ญาณพโล, ดร. พระมหา
คำ่ ยุทธ กนฺตาโภ, ดร. และผเู้ ขา้ อบรมพระธรรมทตู สาย
ต่างประเทศรุน่ ท่ี 28 ทำวัตรเย็นและเจริญวิปัสสนา
กรรมฐาน โดยมี พระมหาสุเทพ สวุ ฑฺฒโฺ น, ดร. ดูแล
อำนวยความสะดวก
คำปฏิญาณ 121
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ นำผู้เขา้
อบรมพระธรรมทูตสายตา่ งประเทศรนุ่ ที่ 28 ทำวัตร
เช้ามืด เช้าและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมี พระครูสิริ
ปริยัตยาภรณ์ ดูแลอำนวยความสะดวก ณ หอพระ
ธรรมคมั ภรี ์
พระครสู ิรปิ รยิ ัตยาภรณ์ ดูแลอำนวยความสะดวก ณ
เชา้ หอพระธรรมคมั ภีร์
(พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. กกั ตัว)
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์
หอพระธรรมคัมภรี ์ มอบหมายให้ พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
บ่าย อ. ประจำวิทยาลยั พระธรรมทูต เปน็ ผู้ดูแล และรว่ ม
ปฏิบัติ ณ หอพระธรรมคัมภีย์ ศูนย์พัฒนาศาสนา
แคมปส์ น มจร จ.เพชรบูรณ์
พระปลดั สมภาร สมภาโร,ผศ,ดร. พระวปิ สั สนาจารย์
นำทำวัตรเย็น พิจารณาอตีตปัจเวกขณะ กรวดน้ำ
คำ่ แผ่เมตตา จากนั้นกล่าว แสดงหลักการปฏิบัติ
วิปัสสนากรรมฐาน ประสบการณ์การเดินธดุ งค์ โดย
มีพระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร. ดูแลและร่งม
ปฏบิ ัติ ณ หอพระธรรมคมั ภรี ์
วัน เสาร์ ท่ี 30 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
หอประชมุ พร เชา้ นอี้ ุโบสถ รวมท้งั หมดทีห่ อประชุมพร รัตนสวุ รรณ
สวดปาติโมกข์ วนั แรม 14 ค่ำ เดอื น 5 ผู้แสดงได้แก่
เช้ามดื ว่าที่พระธรรมทูต จากกลุ่มที่ 4 ชื่อ พระทวีชัย
ติกฺขปญฺโญ เป็นองคแ์ สดงพระปาติโมกข์ โดยใช้เวลา
45 น.
พระครพู ิบูลกิจจารกั ษ์, ดร., พระวิปัสสนาจารย์ และ
ผู้บรหิ าร ร่วมปฏบิ ัตวิ ปิ ัสสนากรรมฐาน โดยมีพระครู
เช้า ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร. อ. ประจำวิทยาลัย
พระธรรมทูต เป็นผู้ดูแล และร่วมปฏิบัติ ณ
หอประชมุ พร
คำปฏิญาณ 122
พระมหาไพฑูรย์ ปนตฺ นนโฺ ท ดร. อ.วทิ ยาลัยพระธรรม
ทูต นำผู้เข้าอบรมกลุ่ม 3-8 กราบพระรัตนตรัยและ
บา่ ย ให้ทุกรูปเข้าสู่การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ด้วย
อิริยาบถเดินก่อนแล้วต่อด้วยอริ ิยาบถน่ังตอ่ เนื่องไป
จรกวา่ จะถึงเวลา 16.30 น. ณ หอพร
พระครูภาวนาวรานศุ าสก์ พระวิปัสสนาจารย์ นำทำ
วัตรเย็นกราบพระรัตนตรัยและให้ธรรมยายแก่ว่าท่ี
คำ่ พระธรรมทูตกลุ่ม 3-8 ก่อนการปฏิบัติวิปัสสนา
กัมมัฏฐาน โดยมีพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.
วิทยาลยั พระธรรมทูต ดแู ล ณ หอประชุมอาจารยพ์ ร
หอพระธรรมคมั ภีร์ เช้าน้อี โุ บสถ รวมท้ังหมดท่หี อประชุมพร รัตนสวุ รรณ
สวดปาติโมกข์ วันแรม 14 คำ่ เดือน 5 ผู้แสดงได้แก่
เชา้ มืด ว่าที่พระธรรมทูต จากกลุ่มที่ 4 ชื่อ พระทวีชัย
ติกขฺ ปญฺโญ เป็นองค์แสดงพระปาติโมกข์ โดยใช้เวลา
45 น.
พระครสู มหุ ์ชยั พล นำพระโยคาวจริงกลุ่ม 1,2 กราบ
เช้า พระ/บรรยายการปฏบิ ตั ิ ณ หอพระธรรมคมั ภรี ์ โดยมี
พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ,ดร. อำนวยความสะดวก
ดแู ล
พระสมุห์ชัยพล พระวิปัสสนาจารย์ นำพระโยคาวจร
บา่ ย กลุ่ม 1,2 ณ หอพระธรรมคัมภีร์ กราบพระ กล่าว
ธรรมก่อนการเดินจงกรมภาคบ่าย โดยมีพระมหายง
ยทุ ธ พระสิรวิ รรณะอำนวยความสะดวก
คำ่ พระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.
คำปฏิญาณ 123
วนั อาทิตย์ ท่ี 1 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสมุห์ชยั พล โสภโณ นำทำวัตรเชา้ พร้อมดว้ ย สอบอารมณ์
ครัง้ ท่ี ๑๕
เช้ามืด พระมหาทองเก็บญาณพโลและพระธรรมทูตสาย กลุ่มท่ี
ตา่ งประเทศรนุ่ 28กลมุ่ ที่ 3,4,5,6,7และ8
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ นำไหว้พระ และให้
เช้า ข้ อ คิ ด ใ น การปฏิ บัต ิ แก่ พ ระธรรมทูตสาย
ตา่ งประเทศรุน่ 28กล่มุ ที่ 3,4,5,6,7และ8 โดยมพี ระ
มหาทองเกบ็ ญาณพโล ดูแล...
หอประชุมพร หอประชุมพร พระมหาทองเก็บญาณพโลนำไหว้
บ่าย พระ และดูแลใหส้ ัญญาณกระด่ิง ในการปฏบิ ัติแก่
พ ร ะ ธ ร ร ม ท ู ต ส า ย ต ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ร ุ ่ น 2 8 ก ล ุ ่ ม ที่
1,2,3,4,5และ6
พระอาจารย์มหาไสว ญาณวีโร นำทำวตั รเยน็ พรอ้ ม
คำ่ ด้วยพระครูวินัยธรสมุทรถาวรธมฺโม พระมหายยง
ยุทธกนตาโภ พระมหาทองเก็บญาณพโลและพระ
ธรรมทูตกลุม่ ท่ี1,2,3,4,5,และ6
พระครูพิบูลย์กิจจารักษ์, ดร.พระวปิ สั สนาจารย์ นำ
เช้ามืด ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28
กลุ่มที่ 1-2 ทำวัตรเชา้ และเจรญิ วิปัสสนากรรมฐาน
โดยมี พระมหาสเุ ทพ สวุ ฑฺฒฺโน, ดร. ดแู ล
พระครพู บิ ลู ย์กิจจารกั ษ์, ดร.พระวปิ สั สนาจารย์ นำ
ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 28
เช้า กลุ่มที่ 1-2 กราบพระ แนะนำการปฏบิ ัติ หลังจาก
หอพระธรรมคัมภีร์ นั้นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน บัลลังก์ละ 60 นาที
โดยมี พระมหาสุเทพ สุวฑฒฺ ฺโน, ดร. ดแู ล
พระครพู บิ ลู ย์กจิ จารักษ์, ดร.พระวปิ สั สนาจารย์ นำ
ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 28
บา่ ย กลุ่มท่ี 7-8 กราบพระรัตนตรัย หลังจากนั้นเจริญ
วิปัสสนากรรมฐาน บัลลังก์ละ 60 นาที กลุ่ม 3-4-
6-8 ส่ง-สอบอารมณ์กรรมฐาน โดยมี พระมหาสุ
เทพ สุวฑฒฺ โฺ น, ดร. ดแู ล
คำปฏิญาณ 124
พระครภู าวนาวรานุศาสก์ วิ.พระวปิ ัสสนาจารย์ นำ
ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28
คำ่ กลุ่มที่ 7-8 ทำวัตรเย็น ปรารภธรรมและเจริญ
วิปัสสนากรรมฐาน บัลลังก์ละ 60 นาที โดยมี พระ
มหาสเุ ทพ สุวฑฒฺ ฺโน, ดร. ดแู ลอำนวยความสะดวก
วนั จันทร์ ท่ี 2 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565
สถานที่ กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร. พระวิปัสสนาจารย์
เช้ามดื และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัย
พระธรรมทตู เปน็ ผดู้ แู ล ณ หอประชมุ อาจารยพ์ ร
การปฏบิ ัติวิปัสสนากมั มฏั ฐานภาคเชา้ ของวา่ ที่พระ
เชา้ ธรรมทูต รุ่นที่ 28 นำโดยพระครูพิบูลกิจจารักษ์,
ดร. พระวิปัสสนาจารย์ และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺ
ตนนโฺ ท ดร. อ.วิทยาลัยพระธรรมทูต เป็นผ้ดู ูแล
หอประชุมพร การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานภาคบ่าย ของว่าท่ี
พระธรรมทูต รุ่นที่ 28 โดยพระครูพิบูลกิจจารกั ษ์,
บ่าย ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำกราบพระรัตนตรัยให้
ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานด้วยการกำหนดเอง สอบอารมณ์
บัลลังก์ละ 1 ชั่วโมง และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺ คร้งั ท่ี ๑๖
โท ดร. เฉพาะ ๔ กลมุ่
พระครภู าวนาวรานุศาสก์ พระวปิ สั สนาจารย์ และ ทเี่ หลอื
คำ่ พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทูต เป็นผู้ดแู ล ณ หอประชุมอาจารยพ์ ร
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
เช้ามดื แนะนำการปฏบิ ัติ ภาควปิ ัสสนากรรมฐาน หลังการ
ทำวัตรภาคเชา้ แก่ผู้เขา้ รับการอบรม โดยมีพระครู
หอพระธรรมคัมภรี ์ ธรรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร.ดแู ล
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
เชา้ แนะนำการปฏบิ ัติ ภาควิปสั สนากรรมฐาน หลงั การ
ทำวัตรภาคเช้า แก่ผู้เขา้ รับการอบรม โดยมีพระครู
ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร.ดแู ล
คำปฏิญาณ 125
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์
บา่ ย แนะนำการปฏิบัติ ภาควปิ สั สนากรรมฐาน หลงั การ
ทำวัตรภาคเช้า แก่ผู้เข้ารับการอบรม โดยมีพระครู
ธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช,ดร.ดแู ล
พระมหาไสว ญาณวีโร,ดร. พระวิปัสสนาจารย์ นำ
ไหวัพระ กรวดน้ำ แผ่เมตตา แนะนำการปฏิบัติ
คำ่ ภาควิปัสสนากรรมฐาน การกำหนดอารมณ์หลัก
คือ กาย จะได้ศีล สมาธิและปัญญา แก่ผู้เข้ารับ
การอบรม โดยมี พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช
,ดร. ดแู ล
วัน องั คาร ท่ี 3 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565
สถานท่ี กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระวิปัสสนาจารย์ชัยพล นำพระโยคาวจร ทำวตั ร
พิจารณาปจั จเวกขณะ กรวดน้ำ แผ่เมตตา/แนะนำ
เช้ามดื เรื่องการกำหนดความคิดที่เป็นองค์มรรค ก่อนการ
ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ หอประชุมพร รัตน
สุวรรณ โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ,ดร. ดูแล
อำนวยความสะดวก
หอประชุมพร เช้า พระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.
พระวิปัสสนาจารย์ชัยพล นำพระโยคาวจร เจริญ
พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ/แนะนำเรื่องการ
บา่ ย กำหนด ความเป็นพระไตรลกั ษณ์ ณ หอประชุมพร
รัตนสุวรรณ โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺตาโภ,ดร.
ดูแลอำนวยความสะดวก
คำ่ พระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ ดร.
ที่หอพระธรรมคัมภีร์ พลวงพ่อพระครูวิบูลกิจจา
เช้ามดื รักษ์ นำพระโยคาวจร กลุ่มที่ 7 และ8 ทำวัตรเช้า
พระมหาทองเก็บ ญาณพโล ดูแล...
หอพระธรรมคัมภีร์ ทพี่ อพระธรรมคัมภรี ์ พระมหาทองเก็บญาณพโลนำ
เชา้ ไหว้พระ เจริญพุทธคุณ ธรรมคุณสังฆคุณ ดูแล
อำนวยความสะดวกแก่พระโยคาวจร กลุ่มที่ 7และ
8 (หลวงปู่มาสาย)
คำปฏิญาณ 126
หอพระธรรมคมั ภีร์ หลวงพอ่ พระครูวบิ ูลกิจจารักษ์
บ่าย นำไหว้พระ เจริญพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณ กล่าว
ให้กำลังใจ แกพ่ ระโยคาวจร กลุม่ ที่ 7และ8
หลวงพ่อพระครูวิบูลกิจจารักษ์ นำทำวัตรเย็น
คำ่ พร้อมด้วยพระมหาทองเก็บ ญาณพโลและพระ
ธรรมทูตกลมุ่ ที่ 7และ8
วัน พธุ ท่ี 4 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565
สถานที่ กจิ กรรม โดย หมายเหตุ
พระครภู าวนาวรานศุ าสก์ ว.ิ พระวิปสั สนาจารย์ นำ
ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ 28
เชา้ มืด กลุ่มท่ี 1-2-3-5-6 ทำวัตรเชา้ ปรารภธรรม หลงั จาก
นั้นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยมี พระมหาสุเทพ
สวุ ฑฒฺ ฺโน, ดร. ดแู ล
พระครูพิบูลกิจจารักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ นำไหว้
พระ แนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน แก่ผู้เข้าอบรม
เชา้ พระธรรมทตู สายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มที่ 1-2-
3-4-5-6 หลงั จากนั้นเจริญวปิ ัสสนากรรมฐาน โดยมี
พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร. ดูแลอำนวยความ
สะดวก ณ หอประชมุ พร
หอประชุมพร พระครูพิบูลกิจจารักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ นำไหว้
พระ แนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน แก่ผู้เข้าอบรม
บา่ ย พระธรรมทตู สายต่างประเทศรุ่นที่ 28 กลุ่มท่ี 1-2-
3-4-7-8 หลังจากนน้ั เจริญวิปสั สนากรรมฐาน โดยมี
พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร. ดูแลอำนวยความ
สะดวก
พระครูพิบูลกิจจารักษ์, ดร.พระวิปัสสนาจารย์
พร้อมดว้ ย พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ, ดร. พระมหา
ทองเก็บ ญาณพโล, ดร. และผู้เข้าอบรมพระธรรม
คำ่ ทูตสายต่างประเทศรุ่นท่ี 28 กลุ่มที่ 1-2-3-4-7-8
ทำวัตรเย็น หลังจากนั้นเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
โดยมี พระมหาสุเทพ สุวฑฺฒฺโน, ดร. ดูแลอำนวย
ความสะดวก
คำปฏิญาณ 127
พระครูสมหุ ช์ ัยพล โสภโณ พระวิปสั สนาจารย์ และ
เชา้ มืด พระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วิทยาลัยพระ
ธรรมทตู เป็นผดู้ ูแล ณ หอพระธรรมคัมภรี ์
การปฏบิ ัติวปิ ัสสนากมั มัฏฐานภาคเชา้ ของว่าที่พระ
เชา้ ธรรมทูต ร่นุ ที่ 28 นำโดยพระครูสมหุ ์ชัยพล โสภโณ
พระวิปัสสนาจารย์ และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺ
โท ดร. อ.วิทยาลัยพระธรรมทตู เป็นผ้ดู ูแล
หอพระธรรมคมั ภรี ์ การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานภาคบ่าย ของว่าท่ี
บ่าย พระธรรมทูต รุ่นที่ 28 นำโดยพระครูสมุห์ชัยพล
โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ และพระมหาไพฑูรย์
ปนฺตนนฺโท ดร. อ.วทิ ยาลยั พระธรรมทตู เป็นผดู้ แู ล
การปฏบิ ตั วิ ปิ ัสสนากมั มฏั ฐานภาคคำ่ ของว่าท่ีพระ
คำ่ ธรรมทตู รนุ่ ท่ี 28 นำโดยพระมหาไสว ญาณวีโร ดร.
พระวิปัสสนาจารย์ และพระมหาไพฑูรย์ ปนฺตนนฺ
โท ดร. อ.วทิ ยาลยั พระธรรมทตู เปน็ ผูด้ ูแล
วนั พฤหัสบดี ท่ี 5 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565
สถานท่ี กิจกรรม โดย หมายเหตุ
พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ แนะนำ
การปฏบิ ัติ ภาควิปสั สนากรรมฐาน หลงั การทำวตั รภาค
เชา้ มดื เช้า เกี่ยวกับอารมณ์กรรมฐาน จิตเหมือนวัว ที่จะต้อง
ผูกไว้ด้วยเชือก คือ สติ เป็นต้น แก่ผู้เข้ารับการอบรม
โดยมพี ระครธู รรมธรวรเดชา อคคฺ เตโช,ดร.ดแู ล
หอประชมุ พร พระครูสมุห์ชัยพล โสภโณ พระวิปัสสนาจารย์ แนะนำ
การปฏิบตั ิ ภาควิปสั สนากรรมฐาน หลงั การทำวัตรภาค
เชา้ เช้า เกี่ยวกับอารมณ์กรรมฐาน สิ่งทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน
เป็นตน้ แกผ่ ้เู ข้ารบั การอบรม โดยมพี ระครูธรรมธรวรเด
ชา อคฺคเตโช,ดร.ดแู ล
บ่าย พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
คำ่ พระครธู รรมธรวรเดชา อคฺคเตโช ดร.
พระครูพิบูลกิจจากรักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ นำพระ
หอพระธรรมคมั ภรี ์ เช้ามืด โยคาวจร กลุ่ม 5,6 ทำวัตรเช้า พิจารณาปัจจัย 4
กรวดน้ำ จากนัน้ เปดิ โอกาสให้ผู้ปฏิบัติ ได้ถามข้อสงสัย
คำปฏิญาณ 128
ในการปฏิบัติ โดยมีพระมหายงยทุ ธ กนฺตาโภ,ดร. และ
พระสริ วิ รรณะ ดูแลอำนวยความสะดวก
เชา้ พระมหายงยุทธ กนตฺ าโภ ดร.
พระครูพิบูลกิจจากรักษ์ พระวิปัสสนาจารย์ นำพระ
โยคาวจร กลุ่ม 5,6 กราบพระ เจรญิ อนสุ สติ จากนัน้ ให้
บ่าย เดินจงกรงกรมตามลำดับ โดยมีพระมหายงยุทธ กนฺ
ตาโภ,ดร. พระสิริวรรณะ ดูแลอำนวยความสะดวก ณ
หอพระธรรมคมั ภรี ์
คำ่ พระมหายงยุทธ กนฺตาโภ ดร.
คำปฏิญาณ 129
จบ
ภาควปิ สั สนากรรมฐาน
ระหวา่ งวันท่ี 5 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2565
โครงการอบรมพระธรรมทตู สายต่างประเทศ รุ่นท่ี 28 ประจำปี 2565
Buddhist Meditation
By
Overseas Dhammaduta Bhikkhus
Class 28/2022
Group 5 - 6
ภาควชิ าการ ภาษาองั กฤษ 131
Introduction
In Buddhism, there are two kinds of meditation. The first one is called
‘ Samatha Bhāvanā’ or ‘ Samatha Kammaṭṭhāna’ ( Tranquility meditation;
Meditation for Calming of mind) or simply ‘ Samatha’ and the second one is
‘ Vipassanā Bhāvanā’ or ‘ Vipassanā Kammaṭṭhāna’ ( Insight meditation) or
simply‘ Vipassanā’ The word Bhāvanā and Kammaṭṭhāna ‘ Bhāvanā’ is a
word in the Pali language which means 'mental development'.
‘Kammaṭṭhāna’ isalsoawordinthePalilanguagewhichmay be divided
into‘Kamma’ (action,work) and‘ṭhāna’ (set;place),itmeans the place of work
where one goes in order to work on the mind (mental exercise).
In English, the word ‘ Bhāvanā’ or ‘ Kammaṭṭhāna’ is the usual English
translation of 'Meditation.' The meaning of Samatha and Vipassanā Samatha
Bhāvanā: Calmness Meditation
Samatha’ canbetranslated as 'Concentration'; 'Tranquility' and ‘Calmness’
of the mind. Vipassanā Bhāvanā: Insight Meditation ‘ Vipassanā’ is a
combinationoftwowords'Vi'isoneword,‘passanā’ is the other. 'Vi' refers to
the three characteristics of physicality and mentality, i. e. , transiency or
impermanence ( anicca) , unsatisfactotiness or suffering ( dukkha) and no–
soul, no–self or non–ego (anatta).
‘Vipassanā’ meanstheseeing ofall the physical and mental phenomena
or the happenings of the living beings with Rightful Thought and the
Rightful Understanding. The purpose and the results of meditation Samatha
meditation:
The purpose of ‘Samatha’ meditation is to attain deep concentration
of the mind on a single object. When the mind is deeply concentrated on the
object of meditation, all the defilements i. e. lust, greed, hatred, desire,
conceit, ignorance and so on are kept away from the mind which is
absorbed in the object. When the mind is free from all defilements or
hindrances, meditators feel calm, tranquil, happy and peaceful.
The result of Samatha meditation is some degree of happiness
through the attainment of deep concentration such as absorption ( appanā-
samādhi, jhāna) or access concentration ( upacāra- samādhi) but it does not
enable us to rightly understand the physical and mental phenomena as they
really are.
ภาควชิ าการ ภาษาองั กฤษ 132
Vipassanā meditation:
The purpose of Vipassanā meditation is to attain the cessation of suffering
through rightly understanding physical and mental processes in their true
nature.
I would like to thank Phramaha Sawai Nyanaviro, Ph.D. for giving
information about the teaching and learning of Vipassanā meditation
practice. and has introduced the method of Vipassanā meditation practice
over a period of 1 month until it brings more understanding From this will
benefit from the practice of Vipassanā meditation. to pass on to others to
know and understand
Therefore, I hope that this article will be useful for those who are
interested in Vipassanā meditation. And when practiced until it is useful, it
will help spread knowledge and practices for people who don't know
everyone to have access to the Buddha's Dharma.
May all beings be happy.
ภาควิชาการ ภาษาองั กฤษ 133
The Objects of Meditation
Calming Meditation (SamathaBhāvanā)
In Visuddhimagga there are forty objects of Tranquility meditation
(Samatha Bhāvanā).
The forty meditation objects can be divided into seven main groups as
follows:
1) The ten kasina (Contemplation devices)
2) The ten Asubha (Impurities)
3) The ten Anussati (recollections)
4) The Four Brahma - vihāra (Sublimestates ofmind;Excellent states)
5) TheFour Arūpa(Immaterial states; Formlesssphere)
6) Āhāre-Patikula-saññā(Contemplationof the Loathsomenessof food)
7) Catudhātu-vavatthāna(Determiningofthefourgreatelements)
Insight Meditation (VipassanāBhāvanā)
The objects of Insight meditation have been divided into six groups as
follows:
1) The Five Aggregates (Khandha)
2) The Twelve Bases: Internal (6) & External (6) Sense Bases (Āyatana)
3) The Eighteen Elements(Dhātu)
4) The Twenty–two Faculties (Indriya)
5) The Four Noble Truths (Ariyasacca)
6) The Twelve Dependent Originations (Paticcasamuppāda)
1. The Five Aggregates (Khandha) are:
1) Body (Rūpa)
2) Feeling or Sensations (Vedanā)
- Pleasant (Sukkha)
- Unpleasant (Dukkha)
- Neither unpleasant not pleasant (Upekkhā)
3) Perception (Saññā)
4) Volitional activities (Saṅkhāra)
5) Consciousness (Viññāna)
2. The Twelve Bascs(Āyatana) are:
ภาควิชาการ ภาษาองั กฤษ 134
Six Internal sense base Six Extenal sense base
Eye - Cakkhu Form – Rūpa
Ear – Sota Sound – Sadda
Nose –Ghāna Odoru - Gandha
Tongue –Jivhā Taste – Rasa
Body –Kāya Body Contact –Photthabba Mind base – mano
Mind Object – Dhammarammana
3. The Eighteen Elements (Dhātu) are:
1) Eye element (CakkhuDhātu)
2) Visible object element (Rūpa Dhātu)
3) Eye-consciousness element (Cakkhuviññāna Dhātu)
4) Ear element (sotaDhātu)
5) Sound element (saddaDhātu)
6) Ear-consciousness element (sotaviññāna Dhātu)
7) Nose element (GhānaDhātu)
8) Odour element (GandhaDhātu)
9) Nose –consciousness element (Ghānaviññāna Dhātu)
10) Tongue element (JivhāDhātu)
11) Taste element (RasaDhātu)
12) Tongue –consciousnesselement (Jivhāviññāna Dhātu)
13) Body element (KāyaDhātu)
14) Body – contact element (Photthabba Dhātu)
15) Body –consciousness element (Kāyaviññāna Dhātu)
16) Mind element (ManoDhātu)
17) Mental – object element (Dhamma Dhātu)
18) Mind – consciousnesselement (Manoviññāna Dhātu)
4. The Twenty – two Faculties (Indriya) are:
1) Eye Faculty (Cakkhundriya)
2) Ear Faculty (Sotindriya)
3) Nose Faculty(Ghānindriya)
4) Tongue Faculty (Jivhindriya)
5) Body Faculty(Kāyindriya)
6) Mind Faculty (Manindriya)
7) Femininity Faculty (Itthindriya)
8) Masculinity Faculty (Purisindriya)
ภาควิชาการ ภาษาองั กฤษ 135
9) Vitality Faculty (Jivitindriya)
10) Bodily Pleasant Faculty (Sukhindriya)
11) Bodily Pain Faculty (Dukkhindriya)
12) Grandness Joy Faculty (Somanassindriya)
13) Sadness Grief Faculty (Domanasindriya)
14) Indifference (Upekkhindriya)
15) Faith Faculty (Saddhindriya)
16) Energy Faculty (Viriyindriya)
17) Mindfulness Faculty (Satindriya)
18) Concentration Faculty(Samādhindriya)
19) Wisdom Faculty (Paññindriya)
20) I shall Know what I did not yet know faculty i.e., knowledge of the
Stream-entry path(Anaññā-taññassā-mitindriya)
21) The faculty of highest knowledge faculty i.e., knowledge of the six
intermediate paths and fruitions (Aññindriya)
22) The faculty of him who knows (Aññā-tāvindriya)
5. The Four Noble Truths (Ariyasacca) are:
1) The Noble Truth of suffering (Dukkha Sacca)
2) The Noble Truth of the origin of suffering (Samudaya Sacca)
3) The Noble Truth of Cessation of suffering (Nirodha Sacca)
4) The Noble Truth of the way leading to the cessation of suffering
(Magga Sacca)
6. The Twelve Dependent Origination (Paticcasamuppada) are:
1) Avijjā (ignorance)
2) Sankhāra (mental formations)
3) Viññāna (consciousness)
4) Nāma-rūpa (mind andmater)
5) Sarāyatana (six sense bases / organs)
6) Phassa (contact / impression)
7) Vedanā (feeling)
8) Tanhā (craving)
9) Upādāna (attachment / clinging)
10) Bhava (process of becoming)
11) Jāti (birth)
ภาควชิ าการ ภาษาอังกฤษ 136
12) Jara ( old age) , marana ( death) , Soka ( sorrow) , Pardeva ( lamentation) ,
Dukkha (pain), Domanassa (grief), Upayasa (despair)
The Four Foundations of Mindfulness (Satipaṭṭhāna) are:
1) TheContemplation of body (KāyānupassanāSatipaṭṭhāna)
2) The Contemplation of feelings (Vedanānupassanā Satipaṭṭhāna)
3) The Contemplation of mental states or consciousness
(Cittānupassanā Satipaṭṭhāna)
4) The contemplation of mental objects ( Dhaammānupassanā
Satipaṭṭhāna)
1) The contemplation of body / mindfulness of body are:
(1) Breath (Ānāpāna-bappa)
(2) Postures (Iriyābatha-bappa)
(3) Clear comprehension (Sambajañña-bappa)
(4) Parts of the body impurities (Patikūla-bappa)
(5) Four elements (Dhātu-bappa)
(6) Cemetery contemplation of corpses at different stages of decay
(Navasi-vathika-bappa)
2) The contemplation of feelings or sensations/mindfulness of sensations are:
(1) Pleasant sensation. (Sukha-vedanā)
(2) Unpleasant sensation. (Dukkha-vedanā)
(3) Neither pleasant nor unpleasant. (Adukkhama-sukha-vedanā)
(4) Pleasant sensation associated with sensual desires. ( Sāmissa– sukha-
vedanā)
(5) Pleasant sensation notassociated withsensual desires. ( Nirāmissa– sukha-
vedanā)
(6) Unpleasant sensation associated with sensual desires. ( Sāmissa–
dukha-vedanā)
(7) Unpleasant sensation not associated with sensual desires.(Nirāmissa–
dukha-vedanā)
(8) Sensation neither pleasant nor unpleasant associated with
desires.(Sāmissa-adukkhama-sukha-vedanā)
(9) Sensation neither pleasant nor unpleasant. ( Niramissa- adukkhama-
sukha-vedana)
3) The contemplation of mental states / mindfulness of consciousness are:
ภาควชิ าการ ภาษาองั กฤษ 137
(1) Consciousness with lust. (Sarakha-citta)
(2) Consciousness freed from lust. (Vitarakha-citta)
(3) Consciousness with anger. (Sadosa-citta)
(4) Consciousness freed from anger. (Vitadosa-citta)
(5) Consciousness with delusion. (Samoha-citta)
(6) Consciousness freed from delusion. (Vitamoha-citta)
(7) Consciousness that is shrunken. (Sangkhitta-citta)
(8) Consciousness that is shrunken. (Vikkhitta-citta)
(9) Consciousness that is has grown great / expanded.(Mahaggata- citta)
(10) Consciousness that is not grown. (Amahaggata-citta)
(11) Consciousness which has some other mental state superior to it. (Sa-
uttara-citta)
(12) Consciousness which has no some other mental state superior to it.
(Anuttara-citta)
(13) Consciousness whichisquiet/tranquil. (Samāhita-citta)
(14) Consciousness which is not quiet / tranquil. (Asamāhita-citta)
(15) Consciousness which is freed. (Vimutta-citta)
(16) Consciousness which is not freed. (Avimutta-citta)
4) The Contemplation of mind object or mindfulness of mind object
(DhammānupassanāSatipatthāna) (HereDhamma includesmany categories of mental
and physical processes)
4.1) The Five Hindrances (Nivarana) are:
(1)Sensual Desire(Kāmachanda)
(2)Ill-will and Anger(Vyāpāda)
(3)Sloth and Torpor (Thina-middha)
(4)Restlessness and Scruples (Uddhacca-Kukkhucca)
(5)Sceptical Dount(Vicikicchā)
4.2) The Five Aggregates (Khandha) are:
(1) Body (Rūpa)
(2) Feeling or Sensations (Vedanā)
- Pleasant (Sukkha)
- Unpleasant (Dukkha)
- Neither unpleasant not pleasant (Upekkhā)
(3) Perception (Saññā)
(4) Volitional activities (Saṅkhāra)
(5) Consciousness (Viññāna)
ภาควิชาการ ภาษาองั กฤษ 138
4.3) The Twelve Bases (Ayatana) are:
Six Internal sense base Six Extenal sense base
Eye (Cakkhu) Form (Rupa)
Ear (Sota) Sound (Sadda)
Nose (Ghana) Odoru (Gandha)
Tongue (Jivha) Taste (Rasa)
Body (Kaya) Body Contact (Photthabba) Mind
base (mano) Mind Object(Dhammarammana)
4.4) The Four Noble Truths (Ariyasacca) are:
(1)The Noble Truth of suffering (Dukkha Sacca)
(2)The Noble Truth of the origin of suffering (Samudaya Sacca)
(3)The Noble Truth of Cessation of suffering (Nirodha Sacca)
(4)The Noble Truth of the way leading to the cessation of suffering
(Magga Sacca)
4.5) 7 Bojjhanga (Fators Leading to Enlightenment) are:
(1) Sati (being able to recollect/mindfulness)
(2) Dhammavicaya (examining Dhamma)
(3) Viriya (diligent effort)
(4) Pīti (satisfaction, deeppleasure)
(5) Passaddhi (calm of mind and of things which disturb the emotions)
(6) Samādhi (concentration)
(7) Upekkhā (equanimity)
The Method of Vipassanā Meditation
The Practice of Vipassanā Meditation or Satipatthāna - Contemplation of
mindfulness hasbeenfollowedinthemainbodilypostures( Iriyā- patha) and
the minor (small) bodily postures (Sampajañña-patha) of Mahāsatipaṭṭhāna
Sutta- Discourse on the Four Foundation of Mindfulness. The Main Bodily
Postures There are four Types of main bodily postures, these are: Standing,
Walking/Going, Sitting and Lying down.
1. Standing Meditation
Before walking, put your feet together. Your arms should be hold in
the front or behind the back or across the chest. Your head must not bend.
If you bend your head, you may be felt tension in your neck or shoulders or
may have a headache or dizziness.
Do not look at your foot. If you look at your foot, you cannot
ภาควชิ าการ ภาษาอังกฤษ 139
concentrate well on the movement.
Do not look around here and there. When you look around, your mind
goes with the eyes; then your concentration is broken.
Do not close your eyes but keep them half-closed and looking forward
about two meters in front of your foot.
Be mindful of standing posture, and then you should make a mental
note as 'Standing, Standing, Standing'.
2. Walking Meditation
According to Visuddhi-Magga (The Path of Purification), in the stepping
of the foot has been divided six stages, these are.
1 Stages: Right goes thus - Left goes thus
2 Stages: Lifting - Treading
3 Stages: Lifting - Moving - Treading
4 Stages: Heel up - Lifting - Moving - Treading
5 Stages: Heel up - Lifting - Moving - Lowering - Touching
6 Stages: Heel up - Lifting - Moving - Lowering - Touching - Pressing
Explain Walking Meditation
1 Stage: Right goes thus - Left goes thus
Having made a mental note as 'Standing, Standing, Standing', before
lifting of the foot, you should be noted intention of the mind as ‘Intendingto
walk', 'Intending towalk', 'Intending towalk’. Liftthat foot ( right or left foot)
above the floor level a high about the width of your tilting palm.
Then pushing the foot forward until set on the floor together with
making a mental note as 'Right goes thus', the last word 'Thus' ends while
the foot is being laid down on the floor. When pushing the left foot forward,
until set on the floor should be noted as ' Left goes thus'.
The stepping of the foot and the making a mental note must go
together, not before or after.
When walking to the end of the way or the room, the last step, should
bring your feet together. While standing, you must be noted as 'Standing,
Standing, Standing'.
Turning
Before turning, you must be noted as 'Intending to turn, Intending to
turn, Intending to turn', then slowly turn and must be noted as ' turning,
turning, turning', turning for three pairs (about 60 degrees 60°×3=180°).The
turning of the foot can be turned with your right or left foot.
ภาควชิ าการ ภาษาองั กฤษ 140
Having turned, before walking, must be noted as 'Standing, Intending
to walk, then walking by making a mental note as 'Right goes thus, Left goes
thus' same as above. While walking should walk slowly and mindfully.
This method is one stage of walking meditation. Please do not make a
mental note separately 'Right- goes- thus' and 'Left- goes- thus' which will
become three stages of walking meditation.
The time for walking meditation should be used equal with in sitting
meditation. Such as, if walking meditation is used for thirty minutes, the
sitting meditation should be done thirty minutes.
The Benefits of Walking Meditation
Five benefits of walking meditation that has been taught by the Lord
Buddha in Angguttara Nikāya (nipāta), as follows:-
1. Be able to endure long journeys.
2. Be able to bear making an effort.
3. Will be more resistant to disease or illness (Healthiness).
4. Food can be easily digested.
5. Concentration developed from the proceeding WalkingMeditation can be
prolonged.
3. Sitting Meditation
When you intend to sit down by making a mental note as 'Intending
to sit, Intending to sit, Intending sit', While Sitting down, you must be
observed on every action of movement, such as 'Bending, Stretching of your
arms or feet, and so on.
Should sit with crossed legs.
Put your the right foot on the left foot and put your the right hand on
the left hand. The body must not bend.
Sitting posture should be balanced, relaxed the mind and the body as
much as possible. Close your eyes while doing sitting meditation. If you do,
concentration is not broken. Do not sit leaning against a wall or other
support. This weakens right effort (Viriya) and you will feel sleepy.
Normal and natural breathing. Do not take quick and deep breaths, you
will get tired. Do not shift your posture.
In the beginning, if the movement of your abdomen is not clear and
gradual, you may place one or both hands on your abdomen.
When the abdomen moves out ( upward) you should be noted as
ภาควิชาการ ภาษาอังกฤษ 141
'Rising', and when the abdomen moves in (downward) you should be noted
as 'Falling'.
During sitting meditation, if anything arises in your mind, such as:
When any feelings arise you must be noted as 'itching', 'tired', 'painful',
'suffering', 'aching', and so on. This act is known as mindfulness of feelings
– (VedanānupassanāSatipatthāna)
When any thoughts arise you must be noted as 'thinking', 'imagining',
'angry or anger', 'anxious'. This act is known as mindfulness of mind or
consciousness (CittānupassanāSatipatthāna)./
When any one of the five hindrances arises you must be aware of it.
For example,
When you see, hear, smell, taste, and touch you must be noted as
'seeing', 'hearing', 'smelling', 'tasting', 'touching'.
When you are sleepy, you must be noted as 'sleepy'. When the mind
wanders, should be noted as 'wandering'. When doubt arises, you must be
noted as 'doubt'. This act is known as mindfulness of mind- objects
( Dhammānupassanā Satipatthāna) . These are the four foundation of
mindfulness.
REMARKS: During in Walking and Sitting Meditation, if any object arises,
you must be noted on that object until they passes away. After their
disappearance you have to return back to note on the original object, that is
'Rising- Falling' in the act of Sitting Meditation and 'Right goes thus - Left
goes thus' in the act of Walking Meditation.
4. Lying down Meditation
When you intend to lie down, making a mental note as 'Intending to
lie down', ( 3 times) ; you must be noted on every detail of actions in Lying
down, such as 'Lifting, Stretching, Leaning, and so on.
In the Lying Meditation, it is advisable to note only before the bedtime,
and not in the daytime, because after the Lying Meditation, you usually fall
asleep.
In the lying posture, you may lie with your right side ( a lion's Lying-
Sihasaiya) or lie on the back.
While you are in lying posture, you must be noted as 'Rising-Falling' of
the abdomen until fall asleep, practice same as in doing sitting meditation.
The Minor ( small) Bodily Postures. There are many kinds of the minor
ภาควิชาการ ภาษาองั กฤษ 142
bodily postures, such as : ‘ bending’ , ‘ stretching’ , ‘ looking at’ , ‘ looking askew’ ,
‘wearing clothes’, ‘excreting’, ‘eating’, ‘drinking’ and so on.
During the practice of Vipassanā meditation you must be noted on
these the minor bodily postures as much as possible.
Appendix
The Exercise of Noting (Observing; Contemplating)
1. While seeing or looking say in your mind as "seeing, looking"
2. While hearing say in your mind as "hearing"
3. While smelling say in your mind as "smelling"
4. While tasting say in your mind as "tasting"
5. While touching say in your mind as "touching"
6. While bending say in your mind as "bending"
7. While stretching say in your mind as "stretching"
8. While turning say in your mind as "turning"
9. While eating say in your mind as "eating"
10. While drinking say in your mind as "drinking"
11. While chewing say in your mind as "chewing"
12. While swallowing say in your mind as "swallowing"
13. While changing say in your mind as "changing"
14. While moving say in your mind as "moving"
15. While lifting say in your mind as "lifting"
16. While getting up say in your mind as "getting up"
17. While standing say in your mind as "standing"
18. While walking say in your mind as "walking" or “right left”
19. While sitting say in your mind as "sitting", or “rising falling”
20. While lying down say in your mind as "lying” or “rising falling”
21. Whilefeeling pain /ache say in yourmind as "pain" or “ache"
22. While feeling numb say in your mind as "numb"
23. While feeling tired say in your mind as "tired"
24. While feeling cold say in your mind as "cold"
25. While feeling hot say in your mind as "hot"
26. While feeling itch say in your mind as "itching"
ภาควิชาการ ภาษาอังกฤษ 143
27. While thinking / imagining say in your mind "thinking" or"imagining"
28. While wandering say in your mind as "wandering"
29. While dreaming say in your mind as "dreaming"
30. While feeling happy say in your mind as "happy"
31. While feeling unhappy say in your mind as "unhappy"
32. While feeling sad say in your mind as "sad"
33. While feeling glad say in your mind as "glad"
34. While feeling angry / hated say in your mind as "angry" or "hated"
35. While feeling wanting / desire say in your mind as "wanting" or "desire"
36. While feeling sleepy / drowsy say in your mind as "sleepy" or "drowsy"
37. While feeling worry say in your mind as worry"
38. While feeling hungry say in your mind as "hungry"
39. While annoyed say in your mind as "annoying"
40. While feeling bored say in your mind as "bored"
41. While feeling good say in your mind as "good"
42. While feeling calm say in your mind as "calm"
Remark: Noting means saying the word in your mind which you are
experiencing in your body and mind within the present moment.
rising - upward movement of the abdomen. falling - downward of the
abdomen
ภาควิชาการ
(รอบหลงั )
ระหว่างวันท่ี 06 พฤษภาคม – 5 มถิ นุ ายน 2565
โครงการอบรมพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศ รุ่นที่ 28 ประจำปี 2565
ภาควชิ าการ 145
กิจกรรมวันที่ 1
วัน ศกุ ร์ ท่ี 6 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565
เวลา 05.00 – 05.30 น.
กิจกรรม ทำวัตรเช้าและเจริญจติ ภาวนา
สถานที่ ศนู ยพ์ ัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาคอ้ จังหวดั เพชรบรู ณ์
ภารกิจทีไ่ ด้รบั เขา้ ร่วมกจิ กรรมทำวัตรเช้า
นำทำวตั รโดย คณาจารย์
บ ท ส ว ด ท ำ ว ั ต ร / o บททำวตั รเช้า
ทบทวนธรรม o ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถา (พุทโธ สสุ ทุ โธ..........)
o ตังขณกิ ปจั จเวกขณปาฐะคาถา (ปฏสิ งั ขาโย..........)
o ปตั ตทิ านะคาถา (ยา เทวะตา..........)
o แผ่เมตตา (สพั เพ สตั ตา..........)
ประโยชนท์ ไี่ ด้รับ 1. สามารถไล่ความขี้เกียจเพราะขณะสวดมนต์อารมณ์เบื่อเซือ่ งซึมง่วงนอนเกียจ
คร้านจะหมดไป และเกดิ ความแชม่ ชนื่ กระฉบั กระเฉงขนึ้
2. เป็นการตัดความเห็นแก่ตัว เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวด
มนตอ์ ย่างตัง้ ใจ ไม่ไดค้ ิดถงึ ตวั เอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิไดเ้ กดิ ข้นึ ในจติ
3. เป็นการกระทำทีไ่ ด้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยร้คู ำแปล รู้ความหมาย กย็ ่อมทำ
ให้ผู้สวดได้ปัญญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไม่รู้อะไร
เลย
4. มจี ติ เปน็ สมาธิ เพราะขณะน้ันผ้สู วดตอ้ งสำรวมใจแนว่ แน่ มฉิ ะน้นั จะสวดผดิ ท่อน
ผดิ ทำนอง เมือ่ จิตเป็นสมาธิ ความสงบเยอื กเยน็ ในจิตจะเกิดข้นึ
5. เปรียบเสมือนการไดเ้ ฝ้าพระพุทธเจา้ เพราะขณะนั้นผสู้ วดมี กาย วาจา ปกติ (มี
ศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มี
ปัญญา) เท่ากบั ไดเ้ ฝ้าพระองคด์ ว้ ยการปฏบิ ตั บิ ชู า ครบไตรสิกขาอย่างแทจ้ รงิ
เวลา 05.30 – 07.30 น.
กจิ กรรม ฟงั เทศนล์ ำดับญาณ โสฬสญาณ(ญาณ16)
สถานท่ี หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัด
เพชรบรู ณ์
ภารกิจที่ได้รบั เขา้ ร่วมกจิ กรรมฟงั เทศนล์ ำดบั ญาณ
เรือ่ ง เทศนล์ ำดับญาณ
บรรยายโดย พระธรรมวชริ มนุ ี ว.ิ ผศ,ดร. (บุญชิต ญาณสวํ โร ป.ธ.9)
ภาควชิ าการ 146
เน้อื หาการบรรยาย กรรมการมหาเถรสมาคม, เจ้าคณะกรงุ เทพมหานคร
ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั
ลำดบั ญาณ 16 โดยสังเขป
ในข้ันตน้ พระโยคาวจรจะตอ้ งเจรญิ วิปัสสนาเดินสายปญั ญาโดยมีสติปฏั ฐาน 4
เปน็ ต้นทาง มรี ปู นามเป็นอารมณ์ โดยใช้หลักการเรยี นรมู้ าก่อนเพอ่ื เข้าสู่วปิ สั สนา
ญาณ 16
วิปัสสนาญาณ 16 คอื
1. นามรูปปรจิ เฉทญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณารูจ้ กั แยกรปู แยกนามออกจากกนั
คือรูว้ ่าอะไรเปน็ รปู อะไรเปน็ นาม เพราะรแู้ จง้ ชัดซ่งึ รปู นาม
2. ปจั จยปรคิ คหญาณ ปัญญากำหนดพิจารณารู้เหตุ รปู้ จั จยั ของรปู นาม คือรูว้ า่
รูปธรรม และนามธรรมทงั้ หลายเกดิ จากเหตปุ ัจจยั และเปน็ ปจั จัยแก่กนั และกัน
อาศัยรวมกนั อยู่
3. สัมมสนญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณาเห็นรูปนามเป็นพระไตรลักษณป์ รากฏแจง้
ชดั 15 % คอื กำหนดยกรูปนามขึ้นพจิ ารณาใหเ้ หน็ เปน็ อนจิ จงั ไม่เท่ียง เป็นทุกข์
ทนอยไู่ มไ่ ด้ เป็นอนตั ตา ไมใ่ ชต่ ัว ไมใ่ ช่ตน
4. อุทยัพพยญาณ ปัญญากำหนดพจิ ารณาเห็นความเกิดข้ึน และความดับไปของรปู
นาม พระไตรลกั ษณ์ปรากฏชัดเจนแจ่มแจง้ ๙๐ % สนั ตติขาดจนเปน็ เหตทุ ราบ
ชดั ว่า สง่ิ ทง้ั ปวงมคี วามเกิดข้นึ แลว้ ก็ล้วนแตต่ ้องดบั ไปเปน็ ธรรมดา
5. ภงั คญาณ ปญั ญากำหนดพิจารณาเห็นเฉพาะความดับไปของรปู นาม คอื อปุ าทะ
ความเกดิ ขึ้น ฐิติ ความตัง้ อยู่ มอี ยู่ แตป่ รากฏไม่ชัดเจน เพราะวิปสั สนาญาณมี
กำลงั กล้าข้ึน รูปนามปรากฏเร็วขน้ึ จงึ เปน็ เหตุใหพ้ ิจารณาเห็นชดั ลงไปเฉพาะใน
สว่ นแหง่ ความดบั อนั เป็นจดุ จบสนิ้ ว่า สังขารท้ังปวงลว้ นดบั สลายไปทั้งส้นิ
6. ภยตูปฏั ฐานญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณาเหน็ รปู นามโดยความเปน็ ของน่ากลัว
เพราะลว้ นแต่ต้องแตกสลายไปทั้งส้นิ
7. อาทีนวญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณาเหน็ ทกุ ข์เหน็ โทษของรปู นาม คอื เม่อื เหน็ รปู
นามล้วนแต่ดบั สลาย เป็นของนา่ กลัวมาตามลำดบั แล้ว ย่อมพจิ ารณาเหน็ ว่า รปู
นามทั้งปวงลว้ นแตเ่ ปน็ ทุกข์ เป็นโทษ
8. นพิ พิทาญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณาเหน็ ความเบอ่ื หนา่ ยในรูปนาม คือเมอื่ เห็น
ทุกข์ เห็นโทษของรปู นามแล้ว ยอ่ มเกดิ ความเบือ่ หน่าย คลายกำหนดั ไมร่ ื่นเริง
เพลิดเพลนิ หลงใหลในรปู นาม
9. มุญจิตุกมั ยตาญาณ ปัญญากำหนดพิจารณาปรารถนาอยากจะออก อยากจะหนี
อยากหลดุ พ้นไปจากรปู จากนาม เพราะพจิ ารณาเห็นทุกข์ เห็นโทษ และเกิด
ความเบอ่ื หนา่ ยในรูปนามทผ่ี ่านมา
ภาควิชาการ 147
10. ปฏสิ งั ขาญาณ ปัญญากำหนดกลบั ไปพจิ ารณาทบทวนพระไตรลกั ษณ์อีก
เพอ่ื ทจี่ ะหาทางหลดุ พน้ ไปจากรปู นาม คอื ต้ังใจจรงิ ปฏบิ ตั จิ รงิ ไมย่ ่อท้อ ใจหนกั
แนน่ มน่ั คง เขม้ แข็ง เด็ดเดีย่ ว สู้ตาย
11. สังขารเุ ปกขาญาณ ปญั ญากำหนดพจิ ารณาวางเฉยเปน็ กลางในรปู นาม คือทราบ
ชัดตามความเป็นจรงิ ในรปู นามแลว้ จึงเป็นผู้มใี จเปน็ กลาง วางเฉยได้
12. อนุโลมญาณ ปัญญากำหนดพิจารณารปู นามทเี่ ป็นไปตามลำดบั อนโุ ลมญาณตำ่
อนุโลมญาณสงู อนั เปน็ เครอ่ื งตัดสินใจว่าไม่ผดิ แน่ เพอ่ื เตรยี มตัวเข้าสมู่ รรค ผล
นพิ พาน โดยอาการของพระไตรลักษณ์ อาการใดอาการหนงึ่
13. โคตรภญู าณ ปัญญาที่โอนจากโคตรของปถุ ชุ นเขา้ ส่โู คตรของพระอริยะ เพ่อื จะ
หนว่ งยดึ เอาพระนิพพานเปน็ อารมณ์
14. มรรคญาณ ปัญญาทป่ี หานกิเลสให้เป็น สมุทเฉทปหาน มพี ระนิพพานเปน็
อารมณ์
15. ผลญาณ ปัญญาท่ีเป็นผลสบื เนอื่ งมาจากการที่มรรคญาณปหานกเิ ลสแลว้ มพี ระ
นพิ พานเปน็ อารมณ์
16. ปัจจเวกขณญาณ ปัญญากำหนดพจิ ารณากเิ ลสทล่ี ะไดแ้ ล้ว ท่ยี ังเหลอื อยู่ ตลอด
ถึงมรรค ผล และนพิ พาน นน่ั หมายถงึ พระโยควจรไดเ้ ขา้ สู่ความพน้ ทกุ ขอ์ ย่าง
ถาวรอย่างสน้ิ เชงิ
ในอุทยพั พยญาณ แบง่ เป็น 2 ชว่ ง คือ ตรุณ และ พลว
ทีต่ ิดวปิ สั สนูปกเิ ลสกต็ รงตรณุ เพราะปญั ญาแล่นเลยสตจิ ึงเกดิ วิปัสสนูฯ สตเิ กดิ
มากเท่าไหรไ่ มเ่ ป็นโทษ แตป่ ัญญาทีแ่ ลน่ เลยสติเกิดโทษคือเกิดวิปสั สนฯู
วปิ ัสสนมู ี 10 ขอ้ นัน้ 9 ขอ้ แรกเปน็ กศุ ล แตข่ ้อที่ 10 นีเ้ ปน็ ตณั หาคอื เปน็ อกศุ ล
ตณั หาน้ีแหละเขา้ ไปพอใจใน ๙ ขอ้ ข้างตน้ นั้น ทำให้ตดิ อยู่ตรงนีไ้ มไ่ ปไหน ต้องเอาทง้ั
9 ข้อข้างบนน้ี เกิดขอ้ ไหนกเ็ อาข้อนั้นมาเปน็ อารมณใ์ หส้ ติในวิปัสสนารไู้ ตรลักษณ์ ว่า
ไมเ่ ท่ียงเปน็ ทกุ ข์เปน็ อนัตตา จึงจะเป็นผฉู้ ลาดของจรงิ แล้วจะผ่านตรุณอทุ ยพั พย
ญาณไปได้ตั้งแต่ภงั คญาณ เปน็ ตน้ ไปเรม่ิ ประหาณอารมั มณานสุ ยั เปน็ ตทังคประหาณ
และจะประหาณไดเ้ ด็ดขาดที่มรรคญาณคะ่ เปน็ สมทุ เฉทปหาน
การปฏบิ ัติวปิ สั สนานั้น เมอ่ื การปฏิบัตินั้นได้อานิสงส์ 8 ประการครบเม่อื ไร เม่ือ
นน้ั จะเปน็ ปจั จยั ให้ภยญาณเกิดตดิ ต่อกันไปในอาทนี วญาณน้ันจะมีอารมณท์ ่ชี ัดเจน 2
อารมณ์ อารมณห์ นง่ึ เหน็ โทษ ส่วนอกี อารมณห์ น่ึงคือแลน่ เขา้ สพู่ ระนพิ พาน (เป็นอานิ
สงค์ )ยง่ิ เหน็ ทุกข์ ยงิ่ โทษมากขน้ึ เท่าไหร่ กย็ ง่ิ ระลกึ เหน็ ถงึ คณุ ของพระนพิ พานมากข้ึน
เทา่ น้นั จติ จะแล่นเขา้ สพู่ ระนิพพาน ญาณน้ีตัณหาจะห่างออกไป คอื ตณั หา มานะ
ทิฏฐิไมไ่ ด้อาศัย ตณั หาจะเปน็ ปฏปิ กั ษ์กบั ญาณน้ี ยิ่งปฏิบัตไิ ปจติ ใจยงิ่ แห้งแลง้ เพราะ
ภาควชิ าการ 148
ตัณหาฉาบทาไม่ได้ จงึ จำเปน็ ตอ้ งทำสมาธิเข้าช่วย เห็นประโยชน์หรอื ไม่ว่าทำไมตอ้ ง
ทำสมาธิ พอทำไปเรอื่ ยๆ จะต้องพึ่งการทำสมาธดิ ว้ ย
ในสังขารเุ ปกขาญาณ ก็มตี ิดตอนต้น และตอนปลาย ด้วยค่ะ ถ้าคนทวั่ ไปจะตดิ ท่ี
อุทยพั ด้วย แตส่ ำหรบั พระโสดาบันจนถงึ พระอนาคามี ตดิ ทต่ี รงญาณนเ้ี ทา่ นั้น สว่ น 3
ญาณนม้ี นี ิพพานเป็นอารมณ์
1. โคตรภูญาณ ปญั ญาท่ีโอนจากโคตรของปุถุชนเขา้ สู่โคตรของพระอริยะ เพอื่
จะหนว่ งยดึ เอาพระนพิ พานเปน็ อารมณ์
2. มรรคญาณ ปญั ญาทป่ี หานกิเลสให้เปน็ สมุทเฉทปหาน มพี ระนิพพานเป็น
อารมณ์
3. ผลญาณ ปัญญาที่เป็นผลสบื เนอ่ื งมาจากการทม่ี รรคญาณปหานกเิ ลสแล้วมี
พระนิพพานเป็นอารมณ์
โคตรภูญาณ มีนพิ พานเป็นอารมณ์ แต่ญาณยงั เปน็ ฝา่ ยโลกียะอยู่ จงึ เปน็ ญาณ
เดยี วเท่าน้นั ทเ่ี ปน็ โลกยี ะ แต่มีอารมณ์ของฝ่ายโลกุตตระคือพระนิพพานแตย่ ังไม่ได้
ประหาณกิเลส ญาณท่ีประหาณกเิ ลสได้คือมรรคญาณ
ญาณที่ ๔. อทุ ยัพพยญาณ
ปัญญาของจิตทกี่ ำหนดจนรเู้ หน็ ไตรลกั ษณ์ชัดเจน อกี ท้งั เหน็ รูปนามดบั ไปในทนั ที
ทด่ี บั และเหน็ รปู นามเกดิ ขน้ึ ในขณะทเี่ กดิ (เห็นทนั ท้ัง ในขณะที่เกิดขึน้ และขณะท่ีดับ
ไป)
อุทยัพพยญาณมี ๒ ระดบั คอื ตรุณอทุ ยพั พยญาณเป็นญาณทยี่ ังอ่อนอยแู่ ละพลว
อทุ ยพั พยญาณ เป็นญาณทีแ่ ก่กลา้ แลว้ ตามท่คี ณุ โสมได้อธบิ ายไว้แลว้ และช่ือญาณน้ี
ปรากฏทง้ั ในพระไตรปฎิ ก คัมภีร์ขุททกนิกาย ปฏสิ ัมภิทามรรค และในคัมภรี อ์ รรถ
กถาดว้ ย
สภาวะธรรมของ ญาณระดบั อ่อน(ตรณุ ะ) และญาณระดบั แก(่ พลวะ) ในญาณท่ี ๔ มี
ดังน้ี
ในระดับ(ตรุณะ) โยคกี ำหนดรสู้ ภาวะตา่ งๆ ของรปู นามแลว้ เหน็ ชัดว่าสภาวะดับ
หายไปเร็วขนึ้ กวา่ เดมิ แมแ้ ตเ่ วทนาทเ่ี กดิ ขนึ้ เมอ่ื กำหนดกห็ ายไปเรว็ ขึ้น ผปู้ ฏบิ ตั ิ
มักจะเห็นสภาวะทแ่ี ปลกๆ มภี าพปรากฏให้เหน็ มีแสงสวา่ งเข้ามาปรากฏอยู่บอ่ ยๆ
(โอภาส) เนอื่ งจากโยคไี มเ่ คยเห็นแสงสว่างเช่นนมี้ ากอ่ น กอ็ าจจะสนใจดหู รอื อาจ
เข้าใจผิดวา่ ไดบ้ รรลุมรรค ผล นิพพาน ก็เป็นได้ สภาวะทป่ี รากฎในญาณนีไ้ ดแ้ ก่
วิปัสสนปู กเิ ลส 10 อยา่ ง
ภาควชิ าการ 149
1. โอภาส หมายถงึ แสงสว่าง(ทีป่ รากฏเป็นธรรมารมณใ์ นใจ)
2. ญาณ หมายถึง ความหยงั่ รู้
3. ปีติ หมายถงึ ความอิ่มใจ
4. ปัสสทั ธิ หมายถึง ความสงบเยน็
5. สุข หมายถึง ความสุขสบายใจ
6. อธิโมกข์ หมายถงึ ความน้อมใจเชอ่ื ศรทั ธาแก่กลา้ ความปลงใจ
7. ปคั คาหะ หมายถงึ ความเพียรทพี่ อดี
8. อุปฏั ฐาน หมายถึง สตแิ กก่ ล้า สตชิ ัด
9. อุเบกขา หมายถึง ความมีจิตเป็นกลาง
10. นกิ ันติ หมายถึง ความพอใจ ตดิ ใจในอปุ กเิ ลส ๙ ข้อขา้ งต้น (จัดเป็นตณั หาที่
ละเอยี ดออ่ นทสี่ ดุ )
วิปสั สนปู กเิ ลสทงั้ สบิ น้ี เปน็ ภาวะท่นี ่าชนื่ ชมอยา่ งยิง่ และไม่เคยเกดิ มี ไมเ่ คย
ประสบมากอ่ น จงึ ชวนใหผ้ ้ปู ฏบิ ัติเข้าใจผดิ คดิ วา่ ตนบรรลมุ รรคผลแลว้ หรอื หลงยึด
เอาคดิ ว่าวิปัสสนปู กเิ ลสน้นั เป็นทางท่ีถูก ถ้าหลงไปตามนนั้ กเ็ ปน็ อันพลาดจากทาง
เป็นอันปฏิบตั ิผดิ ไป คอื พลาดทางวปิ สั สนา แล้วก็จะทงิ้ กรรมฐานเดมิ เสีย นัง่ ชนื่ ชม
อุปกเิ ลสของวปิ สั สนาอยนู่ ัน่ เอง แต่ถา้ มสี ตสิ มั ปชญั ญะแกไ้ ขได้ ก็จะกำหนดไดว้ ่า
วิปสั สนปู กเิ ลสนนั้ ไมใ่ ชท่ าง รเู้ ทา่ ทนั เม่ือมนั เกดิ ขึน้ กก็ ำหนดพจิ ารณาดว้ ยปญั ญาว่า
โอภาสน้ี ญาณน้ี ฯลฯ หรอื นกิ ันตนิ ้ี เกดิ ขนึ้ แลว้ แกเ่ รา แตม่ นั เปน็ ของไมเ่ ทยี่ ง เกดิ จาก
ปัจจัยปรุงแตง่ จะต้องเสอ่ื มสิ้นไปเปน็ ธรรมดา แลว้ กำหนดวปิ ัสสนาญาณทด่ี ำเนนิ ถูก
ทาง ซง่ึ จะพงึ เดนิ ต่อไป
ในวปิ สั สนกู ิเลสนน้ั เป็นของดี แต่ถา้ ผปู้ ฏบิ ัตไิ มร่ เู้ ท่าทันกจ็ ะกลายเป็นของไม่ดไี ป
ซ่ึงจะอยูใ่ นขอ้ ท่ี ๑๐ คอื นิกนั ติ ดังจะเหน็ ได้ว่า
วปิ ัสสนปู กเิ ลสจะไม่เกิดข้นึ แก่
1. พระอรยิ สาวก ผบู้ รรลุปฏเิ วธแล้ว
2. ผปู้ ฏบิ ัตผิ ิด (เร่มิ ตน้ มาแตศ่ ีลวบิ ตั )ิ
3. ผลู้ ะท้ิงกรรมฐาน
4. บคุ คลเกียจครา้ น (แมป้ ฏิบัตถิ กู มาแตเ่ ร่ิมต้น)
แต่จะเกดิ ขึ้นแกผ่ ปู้ ฏิบตั โิ ดยชอบ ประกอบความเพยี ร ผู้เรม่ิ ต้นบำเพญ็ วิปสั สนาแล้ว
เทา่ นั้น
ประกอบพธิ ีขอขมาพระวิปสั สนาจารย์
เสร็จพิธฯี
ภาควิชาการ 150
เวลา 08.30 – 10.50 น.
กิจกรรม รบั ฟังบรรยายธรรมภาคปฏิบตั ิ
สถานที่ หอประชุมพร รัตนสุวรรณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัด
เพชรบรู ณ์
ภารกิจทไ่ี ดร้ ับ เขา้ รับฟงั การบรรยาย
เรื่อง วิปัสสนาภาคภาษาองั กฤษ
บรรยายโดย พระมหาไสว ญาณวโี ร ว.ิ ,ดร.
เนอื้ หาการบรรยาย
ประโยชน์ท่ีได้รบั วิธีปฎบิ ัติวิปสั สนากรรมฐาน
ธาตุ 4 ธาตุ ในทางพระพุทธศาสนา แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ ในทาง
พระพทุ ธศาสนา กลา่ วว่า คนเราประกอบด้วย ธาตุ 4 ประการ ได้แก่
1. ปฐวีธาตุ ธาตุดิน (สง่ิ ทมี่ สี ถานะเป็นของแขง็ ในร่างกาย เช่น ผวิ หนงั ตา จมกู ปาก
ลำไส้ ตับ ฯลฯ)
2. อาโปธาตุ ธาตุน้ำ (สงิ่ ที่มสี ถานะเปน็ ของเหลวในรา่ งกาย เช่น โลหิต น้ำปสั สาวะ
เหงอื่ ฯลฯ)
3. วาโยธาตุ ธาตุลม (สงิ่ ทีม่ สี ถานะเป็นแก๊สหรอื กา๊ ซในรา่ งกาย เชน่ ลมหายใจ แกส๊
ในกระเพาะอาหาร ฯลฯ)
4. เตโชธาตุ ธาตไุ ฟ(ธาตใุ นทางพระพุทธศาสนากลา่ วว่า คนเราประกอบด้วยธาตุ 6
ประการ ไดแ้ ก่
• ปฐวีธาตุ ธาตุดนิ
• อาโปธาตุ ธาตุนำ้
• เตโชธาตุ ธาตุไฟ
• วาโยธาตุ ธาตุลม
• อากาสธาตุ ช่องวา่ งทม่ี ีอยใู่ นกายน้ี
• วญิ ญาณธาตุ ความร้อู ะไรได้
อนุสสติ 10
หมายถงึ กรรมฐานเป็นเคร่ืองระลึกถึงประกอบไปดว้ ย
1. พทุ ธานุสสติ การระลกึ ถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า
2. ธัมมานสุ สติ การระลึกถงึ พระคุณของพระธรรม
3. สงั ฆานุสสติ การระลกึ ถงึ พระคณุ ของพระสงฆ์
4. สีลานสุ สติ การระลึกถงึ ศลี ท่ีตนรกั ษา
5. จาคานสุ สติ การระลกึ ถงึ ทาน บุญ ความดที ่ีตนสรา้ งไว้