The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by P, 2022-10-04 03:42:35

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการเขียนลวดลายไทย รหัสวิชา 20315-2107

248

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1 ระบุความหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.2 บอกประเภทความหมายลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม

และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง

4. สาระการเรียนรู้
4.1 งานลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุน
4.2 ลกั ษณะลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ
4.3 หลกั การเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุน
5.1.3 ครูเปิ ด Power Point อธิบายความหมายของลงแสงเงาลายไทยในงานสลักดุนและ

ความสมั พนั ธ์ ความเก่ยี วเน่ืองการนาลายก้านต่อดอกไปออกแบบลวดลายไทยในรูปแบบลวดลายชนิดอ่นื
และสอดแทรกคุณธรรมการมพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม

5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครเู ปิด Power Point เร่อื งความหมายความเป็นมาของลายก้านตอ่ ดอกครผู สู้ อนบรรยาย

ดาเนินการสอนหรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรปู ภาพฉายประกอบ
5.2.2 ครนู ารปู ภาพลายกา้ นต่อดอก กบั การลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนมาประกอบการอธบิ าย
1) ครถู าม-ตอบกบั นกั เรยี น โดยครยู กตวั อย่างรปู ภาพลายกา้ นต่อดอกแลว้ ถาม-ตอบเกย่ี วกบั

ความหมายความเป็นมาของลายกา้ นต่อดอกกบั การนาไปใช้
2) การออกแบบลวดลายไทยลายก้านตอ่ ดอกมสี ว่ นสาคญั ตอ่ การเขยี นลายไทยดา้ นใดบา้ ง
3) ขอ้ สงั เกตการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนมหี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง

5.2.3 ครนู กั เรยี นชว่ ยกนั สรุปความสาคญั ต่อการลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ
5.2.4 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื งความสาคญั ลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนมดี า้ นใดบา้ ง
โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมดุ บนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ตามใบงาน
5.2.6 ครเู รยี กตรวจการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายกา้ นตอ่ ดอกเป็นรายบคุ คลพรอ้ มช้ี
จุดแกไ้ ขเป็นรายบคุ คล
5.2.7 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายก้านตอ่ ดอกต่อจนครบจานวนการ
ฝึกเขยี นลายกา้ นตอ่ ดอก

249

5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู มุ่ นกั เรยี นเล่าความรเู้ กย่ี วกบั ลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายก้านต่อดอก

ความสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.2 ครสู รุปเร่อื งความสาคญั การลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนของลายกา้ นต่อดอก
5.3.3 ครสู รุปหลกั การสงั เกตการณ์เขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายกา้ นตอ่ ดอกตาม

หลกั การความงามดา้ นลวดลายศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เคร่อื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน

6. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
6.1 สื่อโสตทศั น์
6.1.1 คลปิ วดิ โี อ การเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายกา้ นตอ่ ดอก
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 ส่ือส่ิงพิมพ์
6.3.1 หนงั สอื ลายไทย ภาพไทย. ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539).
6.3.2 หนงั สอื ลายไทย. ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546).
6.4 สื่อบทเรียนอิเลก็ ทรอนิกส์
6.4.1 ใบความรลู้ งแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุน ลายกา้ นตอ่ ดอก
6.4.2 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
6.4.3 Power Point

7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
7.1.1 แผนการจดั การเรยี นรู้
7.1.2 ใบความรู้
7.1.3 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
7.1.4 บนั ทกึ หลงั การสอน
7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
7.2.1 ใบงาน
7.2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน

250

8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
8.1 เคร่ืองมือการประเมิน
8.1.1 กอ่ นเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล การสมั ภาษณ์ การอภปิ ราย
เคร่อื งมอื วดั คาตอบจากการสมั ภาษณ์ แนวคดิ จากการอภปิ ราย
8.1.2 ระหวา่ งเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ
เครอ่ื งมอื วดั การสงั เกตกุ ารปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น
8.1.3 หลงั เรยี น
วธิ กี ารวดั ผล ผลงานการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายก้านต่อดอก
เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายกา้ น

ต่อดอก
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
8.2.1 เกณฑป์ ระเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี นผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ตามขนั้ ตอนปฏบิ ตั งิ านการเขยี นลงแสง

เงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายกา้ นต่อดอก
8.2.2 แบบทดสอบความรู้ผลการประเมนิ ผ่านดา้ นรู้ความเขา้ ใจต่อหลกั การเขยี นลงแสงเงาลาย

ไทยในงานสลกั ดนุ ลายกา้ นต่อดอก
8.2.3 เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายก้านต่อดอกไม่ต่ากว่า

รอ้ ยละ 60

251

9. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้
ด้านผ้สู อน
การจดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ  online  off line
 สอนไดค้ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไดไ้ ม่ครบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ยงั ขาดหวั ขอ้ ดงั น้ี

แนวทางการแกป้ ัญหาการสอนไม่ครบหวั ขอ้ ตามแผน

ด้านความพร้อมและผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น

จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด คน จานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ เรยี น คน
จานวนนกั เรยี นทข่ี าดเรยี น คน
เกณฑท์ แ่ี นะนา คดิ เป็นรอ้ ยละ ดมี าก(80-100) ดี (70-79) พอใช้ (60-69) ตอ้ งปรบั ปรงุ (ต่ากวา่ 60)
1 การตรงต่อเวลา  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
2 การแต่งกาย, การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
3 ความพรอ้ ม, ความตงั้ ใจในการเรยี น  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
4 มคี วามรบั ผดิ ชอบงานทม่ี อบหมาย  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
5 มคี วามรู้ ความสามารถ ตรงวตั ถปุ ระสงค์  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
อ่นื ๆ

9.2 ปัญหา อปุ สรรค

9.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา

ลงชอ่ื ผสู้ อน ลงช่อื หวั หน้าสาขาวชิ า
( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา ) ( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา)

ลงช่อื
(นายพรอนนั ต์ ภกั ดบี ญุ )

ผอู้ านวยการกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั ชา่ งทองหลวง

หมายเหตุ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแกป้ ัญหา ผสู้ อนนาไปพฒั นา ในรปู แบบของวจิ ยั ชนั้ เรยี น หรอื พฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป

252

ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรือ่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายแมล่ ายกา้ นตอ่ ดอก
1.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายแมล่ ายกา้ นต่อดอก
1.1.3 เพอ่ื ใหก้ จิ นสิ ยั มคี วามรอบคอบและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผอู้ น่ื

1.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1.2.1 ระบุความหมายความเป็นมาเก่ยี วกบั ลกั ษณะลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายก้านต่อดอก

อยา่ งถกู ตอ้ ง
1.2.2 บอกประเภทความหมายลายลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายกา้ นต่อดอกไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
1.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายกา้ นต่อดอกไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
1.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม และ

ทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง

2. สมรรถนะ

2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายแมล่ ายกา้ นต่อดอก
2.2 มที กั ษะการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุนลายแมล่ ายกา้ นต่อดอก
2.3 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลงแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดนุ ลายแมล่ ายกา้ นต่อดอกได้

3. เนื้อหาสาระ (ใบความร้)ู

253

ใบความรู้ หน้า
1
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานชา่ งทองหลวง
เร่ือง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ

เรอ่ื งการเรียนร้ทู ่ี 14 การเขียนการลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ ลายก้านต่อดอก
(สปั ดาหท์ ่ี 14 )

1. การลงแสงเงา

เป็นสว่ นหน่งึ ของงานวาดเขยี นทแ่ี สดงรปู ภาพออกมาเป็นรูปแบบงานสามมติ ิ เพอ่ื แสดงระนาบมติ ขิ องพน้ื
ผวิ ชน้ิ งานทม่ี คี วามสงู ต่า การลงแสงเงาจะมคี า่ น้าหนกั แสงเงาเป็นภาพแสดงใหเ้ กดิ มติ ิ สว่ นใหญ่ในงานศลิ ปกรรม
ไทยในงานจติ รกรรมไทยจะไม่มกี ารเขยี นค่าน้าหนักแสงเงานเป็นรปู แบบ 3 มติ ิ งานจติ รกรรมไทยมกั นิยมเขยี น
ภาพเป็น รูปแบบ 2 มติ ิ เป็นภาพแสดงสดั ส่วนเพยี งความสูงและความกว้าง ไม่นิยมเขยี นภาพแสดงความลึก
การลงแสงเงาใน งานลวดลายไทยจงึ เป็นการประยุกตก์ ารเขยี นรปู แบบลวดลายรูปแบบใหม่ ทจ่ี ะเป็นงานรูปแบบ
การแสดงผลงานให้เห็นมติ ิตวั ลาย ท่จี ะสามารถนาไปใช้ในการทางานสลกั ดุน ซ่ึงเป็นเทคนิคเชิงช่างในงาน
ช่างทองหลวง

2. ค่าน้าหนักแสงเงา

ดงั ภาพประกอบท่ี 14-1

ภาพท่ี 14-1 คา่ น้าหนกั แสงเงา

254

ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ความสาคญั ของค่าน้าหนักและการแรเงา

ความสาคญั ของค่าน้าหนัก

1. ใหค้ วามแตกตา่ งระหว่างรปู และพน้ื หรอื รปู ทรงกบั ทว่ี า่ ง
2. ใหค้ วามรสู้ กึ เคล่อื นไหว
3. ใหค้ วามรสู้ กึ เป็น 2 มติ ิ แกร่ ปู ร่าง และความเป็น 3 มติ แิ ก่รูปทรง
4. ทาใหเ้ กดิ ระยะความตน้ื - ลกึ และระยะใกล้ - ไกลของภาพ
5. ทาใหเ้ กดิ ความกลมกลนื ประสานกนั ของภาพ

เราสามารถสรา้ งคา่ น้าหนกั ใหภ้ าพโดยการแรเงา
การแรเงาน้าหนกั เป็นการสรา้ งเงาในภาพ ใหด้ มู คี วามลกึ มรี ะยะใกลไ้ กลและดมู ปี รมิ าตร เปลย่ี นคา่ ของ

รปู ร่างทม่ี เี พยี ง 2 มติ ใิ หเ้ ป็น 3 มติ ิ ทาใหร้ ปู รา่ งทม่ี เี พยี งความกวา้ ง-ยาวเปลย่ี นคา่ เป็นรปู ทรงมคี วามตน้ื ลกึ หนา
บางเกดิ ขน้ึ ความตน้ื ลกึ หนาบางน่เี ป็นความรสู้ กึ เท่านนั้ และการทาใหเ้ กดิ ภาพเช่นน้กี ค็ อื เทคนิคในการสรา้ ง
ภาพลวงตา (ILLUSION) เป็นวธิ กี ารสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะอยา่ งหน่งึ ดงั ภาพประกอบท่ี 14-2

ภาพท่ี 14-2 การลงแสงเงารปู ทรงเรขาคณิต

255

ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย หน้า
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง 3

เร่อื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

แนวคิดในการแรเงา

เรามองเหน็ สง่ิ ต่างๆ ได้ เพราะอาศยั แสงสว่างจากดวงอาทติ ย์ หรอื ตน้ แสงจากแหล่งกาเนิดอ่นื เม่อื มี
แสงสว่างก็ต้องมเี งาควบอยู่ดว้ ย และแสงเงาทาใหเ้ รามองเห็นวตั ถุท่ผี วิ สเี ดียวกนั มนี ้าหนักแตกต่างกนั เช่น
วตั ถุสขี าวส่วนท่ถี ูกแสงจะเป็นสขี าวสว่างจ้า แต่ส่วนท่ีไม่ถูกแสงจะขาวหม่น ทงั้ ท่วี ตั ถุนัน้ กเ็ ป็นสขี าวเท่ากนั
ตลอดพน้ื ผวิ

เม่อื ธรรมชาติของแสงเงาให้ผลท่ีมองเห็นเช่นน้ี ผู้เขียนจาต้องเข้าใจการจดั น้าหนักอ่อนแก่ให้ได้
ใกลเ้ คยี งกบั น้าหนักของแสงทต่ี กกระทบผวิ วตั ถุ เพราะความแตกต่างของน้าหนักทาใหเ้ กดิ ความรสู้ ึกทต่ี ่างกนั
ไปได้ เช่น น้าหนักสที ่อี ่อนใหค้ วามรูส้ กึ เบา น้าหนักสที ่แี ก่ทาให้ดูแลว้ รู้สกึ หนัก นอกจากน้ียงั ทาใหเ้ กิดระยะ
ตา่ งๆ ในการมองเหน็ ตลอดจนความรสู้ กึ ดา้ นความงามในทางศลิ ปะ

เทคนิคการการทางานสลกั ดนุ

งานสลกั ดนุ ราชอาณาจกั รไทย
ภาคเหนือ Northern Thailand
งานช่างสลกั ดุนภาคเหนอื สว่ นใหญจ่ ะพบอยใู่ นจงั หวดั แถบภาคเหนอื ของไทย จะเป็นทร่ี จู้ กั ในนามของ
“ช่างเชยี งใหม”่ เน่อื งจากเชยี งใหม่เป็นศูนยก์ ลางของอาณาจกั รลา้ นนา มกี ลุ่มชาตพิ นั ธหุ์ ลากหลายเชอ้ื ชาติ อาทิ
ยวน ลอ้ื ลาว เขนิ และชาวเขาอาศยั อยู่ รปู แบบของงานสลกั ดุน จะสะทอ้ นออกมาในศลิ ปะของเชงิ ชา่ งตามสาย
สกุล สง่ิ ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั คอื ลวดลายทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์ งานสลกั ดุนของสกุลชา่ งเชยี งใหม่ จะมลี กั ษณะโดดเด่นกว่า
งานสลกั ดุนของกล่มุ สกลุ ช่างอ่นื ทงั้ ในสว่ นของรปู ทรงและลวดลาย โดยการแกะลายของช่างจะใชก้ รรมวธิ กี าร
แกะลายสองดา้ นและจะตอกลายจากดา้ นในหรอื ดา้ นหลงั ของชน้ิ งานใหเ้ ป็นรอยนูนสงู ตามโครงร่างภายนอก
ของลายกอ่ น ซง่ึ บางครงั้ กเ็ รยี กวา่ การโกลนลาย หรอื การขน้ึ ลาย จากนนั้ จงึ ตกี ลบั จากดา้ นนอกเพยี งดา้ นเดยี ว
เพอ่ื เป็นการทารายละเอยี ดอกี ครงั้ ซง่ึ ในกรณีของสกุลช่างอน่ื ๆ มกั นยิ มการแกะลายหรอื ตอกลายจากดา้ นนอก
เป็นหลกั งานสลกั ดุนของสกุลช่างเชยี งใหม่ จงึ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ อทิ ธพิ ลผสมผสานของงานสลกั ดุนจากกล่มุ
วฒั นธรรมทอ่ี ยใู่ กลเ้ คยี งรายรอบ เช่น อทิ ธพิ ลงานสลกั ดุนของกลุ่มวฒั นธรรมพม่า จนี ลาว เน่อื งจากเชยี งใหม่มี
อาณาเขตตดิ ตอ่ กบั พมา่ จนี และลาว
ลกั ษณะงานสลกั ดุนภาคเหนอื มแี บบเฉพาะของตนเอง ซง่ึ สามารถแบง่ แยกออกตามสายสกุลช่างต่างๆ
เช่น สกุลชา่ งววั ลาย สกลุ ชา่ งสนั ป่าตอง สกุลช่างลาปางหลวง สกลุ ช่างแพร่ สกลุ ช่างน่าน และงานสลกั ดุน
ชาวเขา ซง่ึ งานชาวเขาทข่ี น้ึ ช่อื มากทส่ี ุดคอื งานสลกั ดุนของกลุ่มชาตพิ นั ธไุ์ ทลอ้ื ทพ่ี บทจ่ี งั หวดั น่าน พะเยา และ
เชยี งราย แตเ่ ชยี งใหมก่ ย็ งั เป็นแหล่งผลติ งานสลกั ดุนทห่ี ลากหลาย ทม่ี กี ารผลติ งานสลกั ดนุ ขน้ึ ใชก้ นั จนแทบจะ
เป็นวถิ ชี วี ติ ของคนลา้ นนาไปแลว้ สงิ่ ทน่ี ิยมใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เช่น ขนั หรอื สลงุ ตลบั หมากหรอื เชย่ี นหมาก
พานทรงแบนขาสงู หรอื ขนั ดอก พานทรงสงู ขาต่า และเคร่อื งรปู พรรณต่างๆ เช่น ป่ิน หวสี บั ลานหหู รอื ตา่ งหู
กรองคอ หวั เขม็ ขดั เป็นตน้

เอกลกั ษณ์ ลวดลายทป่ี รากฏบนงานสลกั ดุนภาคเหนอื จะนิยมลวดลาย เช่น ลายสบั สองนกั ษตั ร ลายชาดก

ลายดอกกระถนิ ลายดอกทานตะวนั ลายสบั ปะรด ลายนกยงู ลายดอกหมาก ดงั ภาพประกอบท่ี 14-3

256 หน้า
4
ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ

ภาพท่ี 14-3 งานสลกั ดุนราขอาณาจกั รไทย (ภาคเหนอื )
ทม่ี า : สุขใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภมู ปิ ัญญาเชงิ ช่าง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์.

257

ใบความรู้ หน้า
5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ภาคใต้ Southern Thailand

งานช่างสลกั ดุนของสกุลช่างภาคใต้ มปี รากฏพบสว่ นใหญ่ทน่ี ครศรธี รรมราช บางครงั้ จงึ มผี นู้ ิยมเรยี ก
งานช่างสลกั ดุนน้ีว่า งานช่างสลกั ดุนสกุลช่างนครศรธี รรมราช สบื เน่ืองจากทาเลทต่ี งั้ ของเมอื งนครศรธี รรมราช
นนั้ อย่ใู นบรเิ วณคาบสมุทรภาคใต้ หรอื ทต่ี ่างประเทศเรยี กว่า Southern Peninsula หรอื Malay Peninsula เป็น
ดนิ แดนทต่ี งั้ อย่บู นเสน้ ทางผ่านของการเดนิ เรอื หรอื การคา้ ทางทะเลมานับพนั ๆ ปี ดงั นนั้ ศลิ ปะวทิ ยาการแขนง
ต่างๆ จากหลากหลายประเทศทงั้ ในซกี โลกตะวนั ตก เช่น ประเทศสเปน ประเทศโปรตุเกส เอเชยี กลาง เช่น
ประเทศอหิ ร่าน เอเชยี ตะวนั ตก เช่น ประเทศอนิ เดยี เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศมาเลเซยี ประเทศ
อนิ โดนีเซยี และเอเชยี ตะวนั ออก เช่น ประเทศจนี ประเทศญป่ี ่นุ ประเทศเกาหลี ทาใหร้ ปู แบบของงานสลกั ดุนท่ี
ค้นพบในสกุลช่างภาคใต้น้ีมรี ูปทรงและลวดลายท่มี ลี กั ษณะผดิ แปลกไปอย่างมาก ช้นิ งานสลกั ดุนในสกุลช่าง
ภาคใตท้ ค่ี น้ พบสว่ นใหญจ่ ะมอี ายุเก่าแก่ร่วมสมยั กบั กรงุ ศรอี ยธุ ยา แตก่ ป็ รากฏวา่ มหี ลงเหลอื อยเู่ ป็นจานวนน้อย
ช้นิ มาก ท่ยี งั ปรากฏพบเหลอื อยู่ในปัจจุบนั น้ี ส่วนใหญ่มอี ายุร่วมสมยั กบั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ โดยมรี ูปทรง และ
ลวดลายทแ่ี สดงจากสกุลชา่ งมาเลคอ่ นขา้ งชดั เจน และทส่ี าคญั ทส่ี ดุ คอื งานชา่ งสลกั ดุนสกุลชา่ งภาคใต้ หรอื สกลุ
ช่างนครศรธี รรมราชในปัจจุบนั มปี รากฏพบเป็นจานวนน้อยและมชี ่อื เสยี งไม่เทยี บเท่ากบั เคร่อื งถมตามทท่ี ากนั
ในปัจจุบนั ดงั ภาพประกอบท่ี 14-4 ถงึ 14-6

ภาพท่ี 14-4 สายเขม็ ขดั งานช่างสลกั ดุน สกลุ ช่างภาคใต้
ทม่ี า : สุขใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภูมปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

258 หน้า
6
ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ภาพท่ี 14-5 สายเขม็ ขดั งานช่างสลกั ดุน สกุลช่างภาคใต้
ทม่ี า : สุขใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภูมปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

ภาพท่ี 14-6 กลกั งานช่างสลกั ดนุ สกลุ ชา่ งภาคใต้
ทม่ี า : สขุ ใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดนุ ” ภูมปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

259

ใบความรู้ หน้า
7
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เรอ่ื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ (อีสาน) Northeastern Thailand

ในดินแดนภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานของประเทศไทย จะพบชุมชนช่างเงนิ อยู่ตาม

ทอ้ งถนิ่ ทเ่ี ป็นเมอื งเก่าหรอื จงั หวดั ทม่ี พี น้ื ทด่ี นิ แดนตดิ ต่อกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ นอย่างประเทศลาว และรจู้ กั กนั ใน

นาม “ชา่ งเงนิ -ชา่ งคา” เชน่ จงั หวดั หนองคาย จงั หวดั นครพนม เป็นตน้

ช่างสลกั ดุนสว่ นใหญ่ มเี ช้อื สายลาวเวยี งจนั ทน์ มฝี ีไมล้ ายมอื ในการสรา้ งสรรคร์ ูปแบบงานสลกั ดุน ใน

สกุลช่างไทย-ลาว สว่ นใหญ่จะมผี ลติ งานสลกั ดุนข้นึ ใชใ้ นชุมชน และจาหน่ายในพน้ื ทเ่ี ขตภาคตะวนั ออกเฉียง

เหนือ ประเภทงานสลกั ดุนทพ่ี บไดแ้ ก่ เคร่อื งประดบั ชนิดต่างๆ เช่น สรอ้ ยคอ กาไล เขม็ ขดั เคร่ืองภาชนะ เช่น

พาน ชนั และเชย่ี นหมาก เป็นตน้

อกี สกุลชา่ งหน่งึ ของภาคอสี าน คอื สกลุ ช่างอสี านใต้ ทม่ี เี ขตพน้ื ทต่ี ดิ ตอ่ กบั ประเทศกมั พชู า รปู แบบของ

ช่างในชุมชนทส่ี บื ทอดเชอ้ื สายมาจากช่างเขมร ลวดลายทแ่ี สดงความเป็นเอกลกั ษณ์อย่างหน่ึงของวฒั นธรรมน้ี

จะพบท่ชี ุมชนบา้ นเขวาสนิ รนิ ทร์ จงั หวดั สุรนิ ทร์ ชุมชนส่วย อาเภอสาโรงทาบ จงั หวดั ศรสี ะเกษ ส่วนใหญ่จะ

สรา้ งสรรคผ์ ลงานออกมาในรปู เคร่อื งประดบั เช่น ลกู ปะเกอื ม ตะเภา (ต่างห)ู ดงั ภาพประกอบท่ี 14-7 ถงึ 14-9

ภาพท่ี 14-7 แผน่ ทองคาสลกั ดนุ รปู พระพทุ ธรปู งานช่างสลกั ดุน สกุลช่างภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
ทม่ี า : สขุ ใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภมู ปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

260 หน้า
8
ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอื่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ

ภาพท่ี 14-8 ซองพลู ช่างสลกั ดนุ สกลุ ช่างนครพนม
ทม่ี า : สขุ ใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภูมปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

ภาพท่ี 14-9 สรอ้ ยปะเกอื ม หรอื สรอ้ ยประคา ช่างสลกั ดนุ สกุลชา่ งหม่บู า้ นโชค อ.เขวาสนิ รนิ ทร์ จ.สุรนิ ทร์
ทม่ี า : สุขใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดุน” ภมู ปิ ัญญาเชงิ ช่าง จากอดตี สปู่ ัจจบุ นั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

261 หน้า
9
ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ือง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

งานสลกั ดนุ ราขอาณาจกั รไทย ภาคกลาง Central Thailand
ดงั ภาพประกอบท่ี 14-10

ภาพท่ี 14-10 ขนั พานรองและถว้ ยรางวลั ชา่ งสลกั ดุนสกุล ชา่ งภาคกลาง กรงุ เทพมหานคร
ทม่ี า : สขุ ใจ ดอท คอม (2559). “สลกั ดนุ ” ภมู ปิ ัญญาเชงิ ชา่ ง จากอดตี สปู่ ัจจุบนั ณ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ :

ออนไลน์ .

262

ใบความรู้ หน้า
10
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรือ่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ

ภาพลายเส้นลายกนก

ภาพลายเสน้ ลายกนก แสดงแบบลายเสน้ เป็นภาพ 2 มติ ิ ก่อนการลงแสงเงาเป็นลกั ษณะการเขยี นลาย
ศลิ ปกรรมไทยงานจติ รกรรมไทย ดงั ภาพประกอบท่ี 14-11

ภาพท่ี 14-11 ภาพลายเสน้ ช่อลายกนก

263

ใบความรู้ หน้า
11
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่อื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ภาพการลงแสงเงาลายกนก

ภาพการลงแสงเงาลายกนก แสดงการเขยี นมติ แิ สงเงาลงในตวั ลายกนก เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจในการเขยี นมติ ติ วั
ลาย เพอ่ื นาไปใชใ้ นการทางานสลกั ดุนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ตวั ลวดลายไทย ดงั ภาพประกอบท่ี 14-12

ภาพท่ี 14-12 ภาพการลงแสงเงาลายกนก

264

ใบความรู้ หน้า
12
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอื่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน
ช่ือและหน้าที่วสั ดอุ ปุ กรณ์ในงานเขียนลายก้านต่อดอก

ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ชนิด HB, 6B
- ใชส้ าหรบั ร่างลายเขยี นเสน้ ทต่ี อ้ งการ

ยางลบ
- ใชส้ าหรบั ลบเสน้ ดนิ สอทไ่ี ม่ตอ้ งการ

ไมบ้ รรทดั
- ใชส้ าหรบั วดั ขนาดรปู รา่ ง -รปู ทรงเหลย่ี ม

กระดาษขนาด A4หรอื กระดาษอารต์ ชนดิ เน้อื ละเอยี ด
เป็นมนั ขนาด 80-100 แกรม
- ใชส้ าหรบั เขยี นลายไทยดว้ ยดนิ สอ

ทเ่ี หลาดนิ สอ
- ใชส้ าหรบั เหลาดนิ สอใหไ้ สด้ นิ สอมคี วามแหลม

กระดาษชาระ
- ใชส้ าหรบั เชด็ ผงดนิ สอทต่ี ดิ ตามอปุ กรณ์

265

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
13
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 1
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอื่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

1. 1.1 บอกช่อื และหน้าทอ่ี ุปกรณ์การเขยี นลาย

2. 2.1 เขยี นขนาดพน้ื ทต่ี วั ลายลวดลายกา้ นตอ่ ดอก ขนาด
ตวั ลาย ชอ่ งไฟการแบง่ จงั หวะลวดลาย การตดั เสน้
ดว้ ยดนิ สอตวั ลายทเ่ี รยี บรอ้ ย

266

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
14
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 2
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ือง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

3. 3.1 กาหนดขนาดพน้ื ทส่ี าหรบั การลงพน้ื ทแ่ี สงและเงา
3.2 การกาหนดพน้ื ทต่ี วั ลาย จะกาหนดพน้ื ทค่ี รง่ึ หน่งึ
ของตวั ลาย
3.3 ร่างเสน้ แบ่งพน้ื ทด่ี ว้ ยเสน้ ดนิ สอ ดงั ภาพ

4. 4.1 ลงนาหนกั แสงเงาลงในตวั ลวดลาย โดยกานดใหแ้ สง
เข้าด้านซ้ายบน แล้วกานดเขียนด้านเงาด้านขวา
ดา้ นล่าง การกาหนดแสงเงาและเงาทงั้ สองอย่างจะ
เป็นคตู้ รงขา้ มกนั

4.2 ให้ลงน้าหนักแสงเงาให้เต็มพ้นื ท่ใี ห้ทวั่ เต็มพ้นื ท่ตี วั
ลาย ดงั ภาพ

267

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
15
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 3
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

5. 5.1 เน้นภาพแสงเงาตวั ลายให้เข้มและชดั เจน ให้เต็ม
พ้นื ท่ีตวั ลาย ให้เห็นเป็นขอบสนั ขอบเหล่ียมแสง
และเงาใหช้ ดั เจน ดงั ภาพ

6. 6.1 ระบายน้าหนักพ้นื ท่ชี ่องไฟด้านหลงั ด้วยดนิ สอให้
ค่าน้าหนกั เงามนี ้าหนักเขม้ เพ่อื ใหล้ วดลายทล่ี งคา่
น้าหนกั แสงเงามมี ติ ลิ อยเด่นขน้ึ มา

6.2 ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยของผลงาน ใหม้ คี วาม
สะอาด ประณีตเรยี บรอ้ ยสวยงาม ดงั ภาพ

268

ใบงาน หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 14
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

1. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1.1 จดั เตรยี มอุปกรณ์การลงแสงเงาลายกา้ นต่อดอกได้
1.2 แสดงขนั้ ตอนการลงแสงเงาลายกา้ นต่อดอกไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

2. สมรรถนะ
2.1 มที กั ษะการลงแสงเงาลายก้านต่อดอก
2.2 แกป้ ัญหาจากการลงแสงเงาลายก้านต่อดอกได้

3. เครอื่ งมอื วสั ดุ และอุปกรณ์
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา 6B ยางลบ ไมบ้ รรทดั กระดาษขนาด A4 ทเ่ี หลาดนิ สอ กระดาษชาระ

4. การประเมินผล
ผลงานการลงแสงเงาลายกา้ นตอ่ ดอกผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 60

5. เอกสารอ้างอิง/เอกสารค้นคว้าเพิ่มเติม
ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539). ลายไทย ภาพไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2 กรงุ เทพฯ: ม.ป.พ.
ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546). ลายไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
โพธิ์ ใจออ่ นน้อม. (2522). คมู่ อื ลายไทย. โรงพมิ พธ์ นาคารออมสนิ .
พระเทวาภนิ ิมมติ . (2530). สมุดตาราลายไทย. โรงพมิ พค์ รุ สุ ภา.
สนั ติ เลก็ สุขมุ . (2539). กระหนกในดนิ แดนไทย. สานกั พมิ พม์ ตชิ น.

269

ใบงาน หน่วยท่ี 5
งานครงั้ ท่ี 14
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เรอื่ ง : การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน

6. การมอบหมายงาน

คาสงั่ ท่ี 1 ให้นักเรยี นลงแสงเงาลายก้านต่อดอกตามแบบที่กาหนดให้ เขียนแสงเงาด้วยดินสอความเข้ม 6B

ขนาดความสงู ลวดลาย 18 ซ.ม ขนาดความกว้างลวดลาย 4.6ซ.ม ( เส้นกรอบด้านใน 0.1 ซ.ม)

พร้อมระบายพ้ืนหลงั ช่องไฟของลายก้านต่อดอกให้ครบถ้วนสวยงาม คะแนนเตม็ 100 คะแนน

270

7. เกณฑ์การประเมินผลงาน

แบบประเมินผลงานนกั เรยี น

ชื่อนักเรียน……………………………………………………………….เลขท่ี…………………
ระดบั ชนั้ ปวช. 2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง

วิชา การเขยี นลวดลายไทย เรือ่ ง การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดุน
ผลการประเมิน
ระดบั คะแนน

ข้อ จดุ ประเมินคณุ ภาพผลงาน ีดเ ่ียยม
การเขียนลายก้านต่อดอก ีดมาก
ีด
พอใ ้ช
ปรับปรุง
คะแนนรวม
่ผาน เกณท์ประเ ิมน
ไม่ ่ผาน
54321

1 การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 )
2 การร่างสดั สว่ นรปู ทรง ( X2 )
3 ความเหมาะสมของรูปทรง ( X4 )
4 ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 )
5 การลงแสงเงาลายกา้ นตอ่ ดอก ( X6 )
6 จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 )
7 ความสะอาด ปราณตี ในการเขยี นลาย( X2 )

ผลคะแนนรวม

หมายเหตุ ( X2 ) = จานวนคณู ค่าระดบั คะแนนกบั ค่าคะแนนเกณฑป์ ระเมนิ เช่น X2 คา่ คะแนน 5 = 10 คะแนน

ลาดบั ที่ 271

1. การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน 7. เกณฑก์ ารประเมินผลงาน
2. กการรา่ งสดั สว่ นรปู ทรง ( X2 ) 10 คะแนน
3. ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 ) 20 คะแนน แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานนักเรียน
4. ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 ) 10 คะแนน
5. การลงแสงเงานลายกา้ นตอ่ ดอก ( X6 ) 30 คะแนน วิชา การเขยี นลวดลายไทย เร่ืองการเรยี นที่ 14 การลงแสงเงาลายไทยกบั งานสลกั ดนุ
6. จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 ) 10 คะแนน ระดบั ชนั้ ปวช.2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง กาญจนาภิเษกวิทยาลยั ช่างทองหลวง
7. ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
จดุ ประเมินคณุ ภาพชิ้นงาน

ช่ือ นามสกลุ
ผ้รู บั การประเมิน

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ผลรวมคะแนนค่าเฉล่ียร้อยละของนักเรยี นทงั้ หมด
(…………………………………………)
นานพีระยศ แก้วปัญญา
ผ้ปู ระเมิน
คะแนนรวม 110 คะแนน

คา่ เฉล่ียรอ้ ยละ

ผา่ น เกณท์ที่ผ่านการประเมินค่าเฉลี่ยร้อยละ 65
ไม่ผ่าน

272

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 15
หลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หน่วยกิต 1-4-2

รหสั วิชา 20315-2107 วิชา การเขียนลวดลายไทย ปฏบิ ตั ิ 4 ช.ม.
หน่วยการเรียนรู้ : การเขียนลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ืองการเรียนรู้ : การเขียนลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ทฤษฎี 1 ชม.

1. สาระสาคญั
ความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั ปรชั ญาเศษฐกิจพอเพียงเรื่องการรกั ษาศิลปวฒั นธรรมของชาติ ด้าน

ความมีเหตุผล ใหค้ วามรกู้ ารศกึ ษางานลวดลายไทยทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานช่างทองหลวงและงานเคร่อื งประดบั

สรา้ งความเขา้ ใจการนาลวดลายไทยมาปรบั ประยุกต์ใช้ในงานช่างทองหลวง ก่อนการนามาใช้ต้องเข้าใจ
รูปแบบลวดลายไทยในรูปแบบต่างๆ ความเหมาะสมกบั ลวดลายท่ีมีความสมั พนั ธ์เก่ียวกบั เทคนิคการ
สร้างสรรค์งาน ด้านความพอประมาณ หลักการประยุกต์ลวดลายไทยกับงานช่างทองหลวงและงาน

เคร่อื งประดบั โดยต้องเขา้ ใจในพน้ื ทก่ี ารออกแบบลวดลาย หลกั การเขยี นลายใหเ้ หมาะสมกบั เทคนิคเชงิ ช่าง
ใหต้ รงกบั คุณค่าความงามในงานศลิ ปกรรมไทย ด้านความมีภมู ิค้มุ กนั ความเขา้ ใจในคุณค่างานช่างทอง

หลวงงานเครอ่ื งประดบั และงานศลิ ปกรรมไทย คุณค่าความงามในรปู แบบลวดลายไทยทน่ี ามาใชใ้ นงานแต่ละ
ประเภท เอกลกั ษณ์และเหตผุ ลของการออกแบบดา้ นลวดลายแต่ละประเภท

เง่ือนไข ด้านความร้แู ละทกั ษะ การปรบั ประยกุ ตก์ ารเขยี นลวดลายไทยเขา้ กบั งานช่างทองหลวงและ

งานเคร่อื งประดบั ต้องอาศยั ความรู้ด้านความงามศลิ ปกรรมไทย ความรูด้ า้ นงานลวดลายไทย ความรู้งาน
ชา่ งทองหลวง เทคนิคการทางานช่างทองหลวงและการนาลวดลายมาใชใ้ นงานช่างทองหลวงตามรูปแบบงาน
ประเภทต่างๆ เงื่อนไข ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ใฝ่หาความรู้ ขยนั

พากเพยี ร การหมนั่ ศกึ ษาหาความรดู้ า้ นงานศลิ ปกรรมไทย เพ่อื ใหม้ คี วามรอบรใู้ นการนามาปรบั ประยุกตใ์ ช้
ในงานช่างทองหลวง การพากเพยี รหมนั่ ฝึกฝนในทกั ษะการเขยี นลวดลายไทยในแต่ละประเภท การเขยี น
ลวดลายไทยใหเ้ หมาะสมกบั งานชา่ งทองหลวง

ผลกระทบเพื่อความสมดลุ พร้อมรบั การเปล่ียนแปลง ด้านสงั คม ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง และ

สงั คม การมจี รรยาบรรณในวชิ าชพี การรบั ผดิ ชอบในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย การตรงต่อเวลา ความ
ซ่อื สตั ย์ มจี รรยาบรรณในวชิ าชพี ดา้ นงานช่างทองหลวงคอื ความซอ่ื สตั ย์ดา้ นการรกั ษาเวลา การรกั ษาเกยี รติ
การเหน็ ในคุณค่าของตนเอง ทจ่ี ะส่งผลต่อสงั คมโดยรวม ด้านเศรษฐกิจ การประยุกต์ความรูน้ ามาพฒั นา

ช้ินงานในรูปแบบใหม่ เพ่ือให้ช้ินงานมีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย เพ่ือให้ช้ินงานมีการพัฒนาอยู่
ตลอดเวลา โดยนาเอางานชา่ งทองหลวงมาปรบั ประยุกตใ์ นการสรา้ งสรรคใ์ นผลติ ภณั ฑใ์ หมๆ่ ซง่ึ จะสง่ ผลดใี น
การสร้างผลติ ภณั ฑ์ต่อการสร้างมูลค่าในช้นิ งานช่างทองหลวง ด้านวฒั นธรรม การรกั ษาศลิ ปกรรมไทย

และการนามาประยุกต์ใช้ใหเ้ ขา้ กบั สภาพสงั คมปัจจุบนั การรกั ษาใหช้ ้นิ งานช่างทองหลวงใหค้ งอย่ดู า้ นการ
อนุรกั ษ์ และการพฒั นาใหเ้ หมาะสมกบั ยุคสมยั ทเ่ี ป็นรปู แบบทางด้านศลิ ปวฒั นธรรมไทยอกี ประเภทหน่ึงท่ี

273

ต้องอาศยั บทบาทช่างงานฝีมอื ทท่ี างานเก่ยี วกบั งานช่างทองหลวงเป็นผรู้ กั ษา อนั จะส่งผลต่อความยงั่ ยนื ตอ่
งานช่างทองหลวง และงานศลิ ปวฒั นธรรมของชาตโิ ดยรวม ด้านส่ิงแวดล้อม การเรยี นรธู้ รรมชาติ การสรา้ ง
แรงบนั ดาลใจจากธรรมชาตมิ าสู่การออกแบบลวดลายไทย หลกั การและแนวคดิ ส่วนใหญ่ท่นี ามาออกแบบ
ลวดลายไทยมกั จะนาลวดลายมาจากธรรมชาติ ต้องเข้าใจรูแบบท่ีนามาออกแบบลวดลาย และความ
เก่ยี วขอ้ งงานช่างทองหลวงกบั การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม การเกบ็ รกั ษาน้ายา สว่ นผสมทางโลหะต่างๆทม่ี ผี ลต่อ
สง่ิ แวดลอ้ ม ความรบั ผดิ ชอบต่อการใชน้ ้ายาส่วนผสมต่างๆทอ่ี าจสง่ ผลตอ่ สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ

ความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี เป็นส่วนหน่ึงของการเรยี นรู้สร้าง
ความเข้าใจต่อการเรยี นรู้การเขียนตวั ลาย ระนาบพ้นื ผวิ ตัวลาย เพ่อื สร้างความเข้าใจในการนาไปปรบั
ประยุกต์ใช้ทางานลงยาสี การวาดเขยี นตวลายกาหนดการกนั้ ขอบในตวั ลายจึงจาเป็นต่อการสร้างความ
เขา้ ใจต่อการกาหนดการกนั้ ขอบในตวั ลายสาหรบั งานลงยาสี เน่อื งจากการทาเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงเป็นงาน
ช่างทองหลวงเป็นพ้นื ฐานเป็นเทคนิคการสร้างสรรค์งานเป็นเอกลกั ษณ์รูปแบบเฉพาะ ทจ่ี ะพฒั นาความรู้
เทคนิคการทางานช่างทองหลวง และเป็นพน้ื ฐานของการสร้างสรรคช์ ้นิ งานแขนงงานช่างทองหลวงอ่ืนๆ
ดงั นนั้ การเขา้ ใจในหลกั ารลงออกแบบลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี จงึ มคี วามสาคญั ต่อการนาองคค์ วามรู้
ไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้
2. สมรถนะประจาหน่วย

2.1 สมรรถนะประจาหน่วย
2.1.1 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั เศษฐกจิ พอเพยี งเรอ่ื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
2.1.2 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั กบั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
2.1.3 สามารถปฏบิ ตั งิ านเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
2.1.4 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย

2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย
2.2.1 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั หลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเร่อื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
2.2.2 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2.2.3 สามารถปฏบิ ตั ขิ นั้ ตอนการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสอี ยา่ งถกู ตอ้ ง
2.2.4 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งาน

ลงยาสี
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
3.1.1 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเรอ่ื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
3.1.2 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
3.1.3 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการปฏบิ ตั งิ านเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
3.1.4 มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย

274

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1 ระบคุ วามสาคญั เกย่ี วกบั หลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเรอ่ื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
3.2.2 ระบุความหมายความเป็นมาลกั ษณะลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.3 บอกประเภทความหมายเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.4 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.5 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม

และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 หลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเร่อื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
4.2 งานเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
4.3 ลกั ษณะเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
4.4 หลกั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
5.1.3 ครเู ปิด Power Point อธบิ ายความหมายของหลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเรอ่ื งการรกั ษา

ศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
5.1.4 ครูเปิ ด Power Point การเขียนลวดลายไทยสาหรับงานลงยาสีและความสัมพันธ์ ความ

เกย่ี วเน่อื งการนาลายใบเทศไปออกแบบลวดลายไทยในรปู แบบลวดลายชนิดอน่ื และสอดแทรกคณุ ธรรมการ
มพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม

5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครเู ปิด Power Point เรอ่ื งความหมายหลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเร่อื งการรกั ษา

ศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
5.2.2 ความเป็นมาของการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี ครผู สู้ อนบรรยายดาเนินการสอน

หรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรปู ภาพฉายประกอบ
5.2.3 ครนู ารูปภาพการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี มาประกอบการอธบิ าย
1) ครถู าม-ตอบกบั นกั เรยี น โดยครยู กตวั อยา่ งรปู ภาพการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยา

สี แล้วถาม-ตอบเก่ยี วกบั ความหมายความเป็นมาของการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี กบั การ
นาไปใช้

2) การออกแบบลวดลายไทยลายใบเทศมสี ว่ นสาคญั ตอ่ การเขยี นลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ดา้ นใดบา้ ง

275

3) ขอ้ สงั เกตการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสมี หี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง
5.2.3 ครนู กั เรยี นชว่ ยกนั สรุปความสาคญั ตอ่ การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
5.2.4 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื งความสาคญั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสมี ดี า้ น
ใดบา้ ง โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมุดบนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสตี ามใบงาน
5.2.6 ครเู รยี กตรวจการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเครอ่ื งประดบั
ทบั ทรวง เป็นรายบคุ คลพรอ้ มชจ้ี ดุ แกไ้ ขเป็นรายบคุ คล
5.2.7 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั
ทรวง ตอ่ จนครบจานวนการฝึกเขยี นลายใบเทศ
5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู มุ่ นกั เรยี นเลา่ ความรเู้ กย่ี วกบั หลกั กเศษฐกจิ พอเพยี งเรอ่ื งการรกั ษาศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ
5.3.2 ครสู มุ่ นกั เรยี นเล่าความรเู้ กย่ี วกบั เขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ
เครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงความสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.3 ครสู รุปเรอ่ื งความสาคญั การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ
เครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง
5.3.4 ครสู รุปหลกั การสงั เกตการณ์เขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ
เครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงตามหลกั การความงามดา้ นลวดลายศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เครอ่ื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน

6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 สื่อโสตทศั น์
6.1.1 คลปิ วดิ โี อ การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเครอ่ื งประดบั

ทบั ทรวง
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 สื่อส่ิงพิมพ์
6.3.1 หนงั สอื ลายไทย ภาพไทย. ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539).
6.3.2 หนงั สอื ลายไทย. ภญิ โญ สวุ รรณครี .ี (2546).
6.4 ส่ือบทเรยี นอิเลก็ ทรอนิกส์

276

6.4.1 ใบความรลู้ งแสงเงาลายไทยในงานสลกั ดุน ลายกา้ นต่อดอก
6.4.2 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
6.4.3 Power Point

7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
7.1.1 แผนการจดั การเรยี นรู้
7.1.2 ใบความรู้
7.1.3 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
7.1.4 บนั ทกึ หลงั การสอน
7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
7.2.1 ใบงาน
7.2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน

8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
8.1 เคร่อื งมือการประเมิน
8.1.1 ก่อนเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล การสมั ภาษณ์ การอภปิ ราย
เคร่อื งมอื วดั คาตอบจากการสมั ภาษณ์ แนวคดิ จากการอภปิ ราย
8.1.2 ระหว่างเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ
เคร่อื งมอื วดั การสงั เกตกุ ารปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น
8.1.3 หลงั เรยี น
วธิ กี ารวดั ผลงานเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ

เคร่อื งประดบั ทบั ทรวง
เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศ

การออกแบบเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
8.2.1 เกณฑ์ประเมินพฤติกรรมผู้เรียนผ่านเกณฑ์ประเมินตามขนั้ ตอนปฏิบัติงานการเขียน

ลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั ทรวง
8.2.2 แบบทดสอบความรู้ผลการประเมนิ ผ่านด้านรู้ความเขา้ ใจต่อหลกั การเขยี นลวดลายไทย

สาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง
8.2.3 เกณฑ์การประเมินการเขียนลวดลายไทยสาหรับงานลงยาสีลายใบเทศการออกแบบ

เคร่อื งประดบั ทบั ทรวง ไมต่ ่ากว่ารอ้ ยละ 60

277

9. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้
ด้านผ้สู อน
การจดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ  online  off line
 สอนไดค้ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไดไ้ ม่ครบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ยงั ขาดหวั ขอ้ ดงั น้ี

แนวทางการแกป้ ัญหาการสอนไม่ครบหวั ขอ้ ตามแผน

ด้านความพร้อมและผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น

จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด คน จานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ เรยี น คน
จานวนนกั เรยี นทข่ี าดเรยี น คน
เกณฑท์ แ่ี นะนา คดิ เป็นรอ้ ยละ ดมี าก(80-100) ดี (70-79) พอใช้ (60-69) ตอ้ งปรบั ปรงุ (ต่ากวา่ 60)
1 การตรงต่อเวลา  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
2 การแต่งกาย, การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
3 ความพรอ้ ม, ความตงั้ ใจในการเรยี น  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
4 มคี วามรบั ผดิ ชอบงานทม่ี อบหมาย  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
5 มคี วามรู้ ความสามารถ ตรงวตั ถปุ ระสงค์  ดมี าก  ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
อ่นื ๆ

9.2 ปัญหา อปุ สรรค

9.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา

ลงชอ่ื ผสู้ อน ลงช่อื หวั หน้าสาขาวชิ า
( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา ) ( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา)

ลงช่อื
(นายพรอนนั ต์ ภกั ดบี ญุ )

ผอู้ านวยการกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั ชา่ งทองหลวง

หมายเหตุ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแกป้ ัญหา ผสู้ อนนาไปพฒั นา ในรปู แบบของวจิ ยั ชนั้ เรยี น หรอื พฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป

278

ใบความรู้ หน้า
1
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ือง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ

เคร่อื งประดบั ทบั ทรวง
1.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั

ทรวง
1.1.3 เพอ่ื ใหก้ จิ นิสยั มคี วามรอบคอบและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผอู้ ่นื

1.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1.2.1 ระบุความหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการ

ออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
1.2.2 บอกประเภทความหมายการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบ

เครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
1.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั ทรวง

ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
1.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม และทา

ความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง

2. สมรรถนะ

2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายใบเทศ
2.2 มที กั ษะการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั ทรวง
2.3 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศการออกแบบเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงได้

3. เนื้อหาสาระ (ใบความร)ู้

279

ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ือง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

เรอ่ื งการเรียนร้ทู ี่ 15 การเขียนลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี (สปั ดาหท์ ี่ 15 )

1. ความหมายของเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง

ทบั ทรวง คอื เคร่อื งประดบั ชนิดหน่ึง รูปสเ่ี หล่ยี มขนมเปียกปูน ประดบั เพชรพลอย ตดิ อยู่ตรงทไ่ี ขว้สงั วาล
สะพายแล่งทบั หน้าอก, ตาบหน้า หรอื ตาบทบั ก็เรยี ก ซ่งึ มรี ูปทรงดดั แปลงมาจากลายประจายาม ตรงกลางยกสูง
ประดบั พลอย ในส่วนลวดลายอาจเป็นลายไทย, เทศ ทบั ทรวง มี 2 ชนิดคอื จต้ี วั ผู้ และจ้ตี วั เมยี โดยจต้ี วั เมยี มขี นาด
ใหญก่ ว่า และมตี งุ้ ตง้ิ หอ้ ยตรงสว่ นปลายของจ้ี สว่ น จต้ี วั ผู้ ไมม่ ตี งุ้ ตง้ิ หอ้ ยตรงสว่ นปลายของจ้ี

แต่แรกเรม่ิ งานเครอ่ื งประดบั เรม่ิ จากฝีมอื ช่างจากฝีมอื ช่างไปสู่ชนชนั้ สงู งานเครอ่ื งประดบั สนองความตอ้ งการ
ของชนชนั้ สูง มากกว่าชนชนั้ ต่า ทงั้ น้ีเน่ืองจากอานาจ และสภาพทางเศรษฐกจิ นัน่ เอง สาเหตุท่งี านเคร่อื งประดบั
เก่ยี วขอ้ งกบั เศรษฐกจิ เพราะ ลกั ษณะงานเคร่อื งประดบั ในยุคนนั้ ทาจากวสั ดุท่มี รี าคาแพง เช่น ทองคา เพชร พลอย
เป็นตน้ และจนปัจจุบนั น้ีงานเคร่อื งประดบั กย็ งั เป็นลกั ษณะงานทท่ี าจากวสั ดุทม่ี รี าคาแพงอยู่ แมจ้ ะเปลย่ี นวสั ดุมาใช้
สง่ิ ของราคาถูกลงบา้ งกต็ าม

เคร่อื งประดบั ในปัจจุบนั ถอื กนั ว่าเป็นงานวจิ ติ รศิลป์ เป็นลกั ษณะงานท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั สุนทรยี ภาพ มคี วาม
งดงามสมบูรณ์ อย่ใู นตวั ของมนั เอง และในขณะเดยี วกนั กเ็ ป็นส่อื สญั ลกั ษณ์ของการแต่งงาน เป็นสญั ลกั ษณ์ของการ
เกดิ และชยั ชนะในบางครงั้ ในขณะเดยี วกนั กเ็ ป็นสญั ลกั ษณ์ของความมนั่ คงดว้ ย

2. เทคนิคเชิงช่างในการทาทบั ทรวง

ในการจดั ทาทบั ทรวงจะใช้เทคนิคงานช่างทองหลวงมาประกอบในการทาช้นิ งานให้สมบูรณ์ เทคนิคในการทา
ชน้ิ งานจะมดี งั น้ี

2.1 การสลกั ดุนลวดลาย มกั นิยมสลกั ดุนลวดลายเป็นลายใบเทศ สลกั ดุนใหเ้ กดิ มติ เิ ป็นตวั ลาย ขนาดความสูง
ของชนั้ ลายมี 2 ชนั้ บา้ ง มี 3 ชนั้ บา้ ง การสลกั ดนุ ถา้ เป็นช้นิ งานสาหรบั เตรยี มงานไวล้ งยาสมี กั นิยมสลกั ดุนลายแบบกนั้
ขอบ แต่ถา้ ชน้ิ งานไม่มกี ารลงยาสนี ิยมสลกั ดุนแบบลวดลายใหเ้ กดิ มติ ริ ูปนูนต่า

280

ใบความรู้ หน้า
3
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

2.2 การลงยาสี เคร่ืองประดับทับทรวงแบบโบราณมักนิยมลงยาสีเป็ นยาสีร้อน นิยมลงยาสีเป็ น 2 สี
ประกอบดว้ ย

2.2.1 การลงยาสที วั่ ไป ประกอบดว้ ยการลงยาสแี ดง และยาสเี ขยี ว การใหค้ ่าน้าหนักสลี งในพน้ื ท่ตี วั ลาย
นิยมลงพน้ื ท่ตี วั ลายสแี ดงมากกว่าสเี ขยี ว สเี ขยี วจะใชส้ าหรบั การเพิ่มให้สมี จี ุดเด่น แต่การลงสเี ขยี วเป็นการเสรมิ ให้
เกดิ ลูกเล่นในการออกแบบสใี นเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงเทา่ นนั้

2.2.2 การลงยาสีราชาวดี ประกอบด้วยเทคนิคการลงยาสีร้อนท่ีมี 5 สีเป็ นหลัก คาว่าราชาวดีมี
ความหมายในพจนานุกรมไทยหมายถงึ เรยี กการลงยาชนดิ หน่งึ สาหรบั เคลอื บทองใหเ้ ป็นสตี ่าง ๆ เช่นเขยี ว แดง ฟ้า
ว่า ลงยาราชาวด.ี (เปอรเ์ ซยี ). ราชาวดี 2 : น. ช่อื ไมพ้ ุม่ ชนิด Buddleja paniculata Wall. ในวงศ์ Buddlejaceaeดอกสี
ขาวออกเป็นช่อยาว กลนิ่ หอม. ดงั นนั้ งานลงยาราชาวดจี งึ ไม่ไดม้ รี ูปแบบตายตวั แต่จากการศกึ ษางานช่างทองหลวง
โบราณ พบวา่ การลงงานยาสรี าชาวดมี กั นิยมลงยาสดี ว้ ยกนั 5 สดี ว้ ยกนั ประกอบดว้ ย 1) สแี ดง 2) สเี ขยี ว 3) สขี าว 4)
สชี มพู 5) สฟี ้า หรอื สนี ้าเงนิ การลงยาสจี ะลงสลี งในพน้ื ทล่ี ายถา้ แบ่งพน้ื ทอ่ี อกเป็น 100 เปอรเ์ ซน็ จะลงยาสดี งั น้ี สแี ดง
ทงั้ หมด 40 เปอรเ์ ซน็ สเี ขยี ว 20 เปอรเ์ ซน็ สขี าว 10 เปอรเ์ ซน็ หรอื ในบางครงั้ นิยมเอาอญั มณีเพรชซกี เคร่อื งประดบั
โบราณแทนการลงยาสขี าว สชี มพู 10 เปอรเ์ ซน็ และสฟี ้าหรอื สนี ้าเงนิ 10 เปอรเ์ ซน็ โดยจะเลอื กการลงยาสปี ระเภทสี
ใดสหี น่งึ ไมน่ ิยมลงสฟี ้ากบั สนี ้าเงนิ คกู่ นั

2.2.2.1 งานช่างทองหลวงกบั การลงยาสใี นช้นิ งานในแต่ละรชั สมยั ยงั สามารถบ่งบอกว่าช้นิ งานช่างทอง
หรอื เคร่อื งประดบั โบราณจดั สรา้ งขน้ึ ในยุคสมยั ใด จากการศกึ ษาพบวา่ ในรชั สมยั รชั กาลท่ี 1 ช้นิ งานเคร่อื งประดบั จะมี
การลงยาสีฟ้าเข้าประกอบกับช้ินงาน ลกั ษณะยาสีฟ้าจะเป็นยาสีท่ีนาเข้ามาจากเปอร์เซียร์ มีข้อมูลว่า ในสมยั
รตั นโกสนิ ทรก์ ารทาเคร่อื งลงยาสไี ดร้ บั ความนิยมมาก จะเหน็ ไดจ้ ากเคร่อื งราชูปโภคและราโชปโภคทส่ี รา้ งขน้ึ ในสมยั
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จะนิยมทาด้วยเคร่อื งลงยาราชาวดี เช่น พระมหาพชิ ยั มงกุฎ ซ่ึงทาด้วย
ทองคาลงยาประดบั เพชร พานพระขนั หมากใหญ่ และพระโกฏอิ ฐั สิ มเดจ็ พระปฐมบรมชนก ซง่ึ จะเป็นงานลงยาราชาวดี
การทาเคร่อื งลงยามคี วามรุ่งเรอื งถงึ ขดี สุดในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 4 โดยมพี ระเจา้ บรม
วงศเ์ ธอกรมขนุ วรจกั รธรานุภาพทรงเป็นผกู้ ากบั การช่างแขนงน้ีดว้ ยพระองคเ์ อง ต่อมาเครอ่ื งราชปู โภคและราโชปโภค
รวมทงั้ เคร่อื งประกอบของเจ้านายตลอดจนขุนนางต่าง ๆ รวมถงึ เคร่อื งประกอบสมณศกั ดพิ ์ ระภกิ ษุสงฆ์ ลว้ นเป็น
เครอ่ื งลงยาราชาวดแี ทบทงั้ สน้ิ

281

ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย หน้า
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง 4

เรื่อง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

2.2.2.2 งานลงยาสใี นเคร่อื งราชูปโภคและราโชปโภคทจ่ี ดั สรา้ งในชว่ งรชั สมยั รชั กาลท่ี 5 มกั นิยมลงยาสมี ี

สชี มพเู ขา้ มาประกอบ และมพี น้ื ทก่ี ารลงยาสลี งในตนั ลายดว้ ยยาสชี มพมู จี านวนมาก ดงั มรี ปู แบบเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั

มรี ายละเอยี ดดงั น้ี ลกั ษณะและรปู แบบเฉพาะตวั ของเคร่อื งราชปู โภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 จากการตดิ ต่อกบั ต่างชาติ

และการรบั ศลิ ปวฒั นธรรมจากชาตติ ะวนั ตก นับเป็นปัจจยั สาคญั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการสรา้ งเครอ่ื งราชูปโภคทองคาสมยั

รชั กาลท่ี 5 ทาใหเ้ ครอ่ื งราชปู โภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 มลี กั ษณะเฉพาะทแ่ี ตกต่างจากเคร่อื งราชปู โภคทองคาใน

รชั กาลก่อน ๆ เคร่อื งราชปู โภคทองคาในศาลาเคร่อื งราชอสิ รยิ ยศฯ บางช้นิ มปี ระวตั กิ ารสรา้ งชดั เจน และมลี กั ษณะ

เฉพาะตวั ทาใหส้ ามารถคดั แยกเคร่อื งราชปู โภคทองคาทงั้ หมดและกาหนดอายุสมยั ได้

เคร่อื งราชูปโภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 มลี กั ษณะรูปแบบทส่ี บื ทอดจากเคร่อื งราชูปโภคทองคาจากรชั กาล

ก่อน และมรี ูปแบบทร่ี บั อิทธพิ ลจากต่างชาตเิ ข้ามาผสม เปรยี บเทยี บกบั เคร่อื งราชูปโภคทองคาท่จี ดั แสดงในศาลา

เคร่อื งราชอิสริยยศฯ พบจุดสงั เกตท่ีแสดงให้เห็นลกั ษณะของเคร่อื งราชูปโภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 มีลกั ษณะ

เฉพาะตวั 5 ประการ คอื

การสลกั ตราพระราชลญั จกรประจารชั กาลหรอื ตราจลุ มงกุฎ บรเิ วณดา้ นบนฝาของภาชนะ เชน่ หบี หมาก
กาทรงกระบอก และยงั ปรากฏบนงานประณีตศลิ ป์ อ่นื ๆ ทส่ี รา้ งขน้ึ ใน สมยั เดยี วกนั เช่น เคร่อื งกระเบอ้ื ง เคร่อื งถว้ ย
และเคร่อื งโลหะอ่นื ๆ การประดบั พระราชลญั จกรประจารชั กาลรูปพระเก้ียวหรอื จุลมงกุฎอย่ตู รงกลาง ขนาบขา้ งด้วย
ฉัตรทงั้ สองขา้ ง ในลกั ษณะสลกั ดุนลายทพ่ี น้ื ผวิ เป็นเคร่อื งหมายแสดงถงึ ผสู้ รา้ งหรอื ผคู้ รอบครอง รวมทงั้ แสดงถงึ รชั
สมยั ทส่ี รา้ งไดอ้ ยา่ งชดั เจน ดงั ภาพประกอบท่ี 15-1ถงึ 15-4

ภาพท่ี 15-1 การสลกั ตราพระราชลญั จกรประจารชั กาลหรอื ตราจลุ มงกุฎ
ทม่ี า : พพิ ธิ ภณั ฑเ์ หรยี ญกษาปณานุรกั ษ์ (2559). เครอ่ื งราชูปโภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร์

ณ ศาลาเครอ่ื งราชอสิ รยิ ยศ เคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ และเหรยี ญกษาปณ์: ออนไลน์.

282 หน้า
5
ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ภาพท่ี 15-2 เทคนิคลงยาสชี มพใู นการตกแต่งลวดลาย

ภาพท่ี 15-3 ลกั ษณะลวดลายทม่ี อี ทิ ธพิ ลตา่ งชาตเิ ขา้ มาผสม

ภาพท่ี 15-4 การลงยาสเี ตม็ พน้ื ลาย

283

ใบความรู้

วิชา : การเขยี นลวดลายไทย หน้า
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง 6

เรือ่ ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

2.2.2.3 การใชเ้ ทคนิคการลงยาสชี มพูในการตกแต่งลวดลาย (ภาพท่ี 15-2 ) ลกั ษณะการลงยาสชี มพูไม่

ปรากฏในเคร่อื งราชูปโภคทองคารชั สมยั ใดมาก่อน บางครงั้ มกั พบร่วมกบั การสลกั พระราชลญั จกรประจารชั กาลหรอื

ตราจลุ มงกุฎ หรอื เคร่อื งราชปู โภคทองคาทม่ี ปี ระวตั กิ ารสรา้ งสมยั รชั กาลท่ี 5 โดยไม่พบในเครอ่ื งราชปู โภคทม่ี ตี ราพระ

ราชลญั จกรในรชั กาลอ่นื ลกั ษณะการลงยาสชี มพูท่นี ่าจะได้รบั อทิ ธพิ ลการผสมยาสใี หม่จากชาตติ ะวนั ตกท่รี ู้จกั การ

ผสมยาสชี มพมู าก่อนสยาม

นอกจากน้ีการใชส้ ชี มพูตกแต่งบนเคร่อื งราชูปโภคทองคาทส่ี รา้ งในสมยั รชั กาลท่ี 5 ยงั สมั พนั ธ์กบั สปี ระจาวนั
พระราชสมภพพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั หรอื สพี ระราชนิยมทพ่ี บในงานศลิ ปกรรมรชั สมยั น้ี ดงั นนั้ การ
ลงยาสชี มพจู งึ เป็นลกั ษณะเด่นของเคร่อื งราชูปโภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5

2.2.2.4 ลกั ษณะลวดลายท่ีมอี ิทธิพลศิลปะต่างชาติเข้ามาผสม (ภาพท่ี 15-3 ) เน่ืองจากการติดต่อ
สมั พนั ธก์ บั ชาตติ ะวนั ตกในสมยั รชั กาลท่ี 5 ศลิ ปะตะวนั ตกไดเ้ ขา้ มามอี ทิ ธพิ ลต่อศลิ ปะสมยั รตั นโกสนิ ทรเ์ ป็นอย่างมาก
เชน่ ลายเครอื เถาดอกไม้ หรอื ลายเลยี นแบบธรรมชาติ ขณะเดยี วกนั คตคิ วามเชอ่ื เกย่ี วกบั ลวดลายมงคลแบบจนี ไดเ้ ขา้
มามอี ทิ ธพิ ลในศลิ ปะไทยก่อนหน้าน้ีเป็นอย่างมาก ทาให้ลกั ษณะลวดลายท่ปี รากฎบนเคร่อื งราชูปโภคทองคาสมยั
รชั กาลท่ี 5 มรี ูปแบบลายทร่ี บั อทิ ธพิ ลตะวนั ตก พรอ้ มกบั นาลวดลายสญั ลกั ษณ์มงคลตามคตคิ วามเช่อื แบบจนี เขา้ ไป
ผสมอย่ดู ว้ ย แต่ยงั คงรกั ษาลกั ษณะรูปแบบของเคร่อื งราชปู โภคในแบบไทยไว้ ลกั ษณะดงั กล่าวแสดงใหเ้ หน็ ว่าเคร่อื ง
ราชูปโภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 จึงมีลักษณะท่ีไม่ยึดติดกับกระแสอิทธิพลศิลปะจากต่างชาติแบบใด แบบหน่ึง
ลกั ษณะดงั กล่าวจงึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของเคร่อื งราชปู โภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5

2.2.2.5 การลงยาสเี ตม็ พน้ื ลาย (ภาพท่ี 15-4 ) เป็นการลงยาสที งั้ พน้ื ลายและตวั ลายเตม็ พน้ื ทท่ี งั้ ชน้ิ งาน
เหลือแต่ส่วนท่เี ป็นพ้นื ผวิ ทองคาเฉพาะบรเิ วณเส้นลายเท่านัน้ ในลกั ษณะเสน้ ลายดุนนูนเพ่อื ให้เกิดเป็นร่องลาย
ป้องกนั ไมใ่ หย้ าสใี นตวั ลายกบั พน้ื ลายปนกนั สว่ นใหญ่นยิ มลงยาพน้ื ลายเป็นสแี ดง ตวั ลายสเี ขยี วหรอื สแี ดงหรอื สชี มพู
ตดั ดว้ ยพน้ื ผวิ สที องทถ่ี ูกดุนนูนเป็นเสน้ ลาย ลกั ษณะเช่นน้ีมกั ปรากฏร่วมกบั ลกั ษณะเฉพาะอ่นื ทก่ี ล่าวแลว้ ขา้ งต้นรว่ ม
ดว้ ย เช่น การลงยาสชี มพู การสลกั ตราจุลมงกฎุ และลายทร่ี บั อทิ ธพิ ลจากต่างชาติ

ดงั นนั้ ในเคร่อื งราชปู โภคทองคาสมยั รชั กาลท่ี 5 แต่ละช้นิ อาจไม่ปรากฏลกั ษณะเฉพาะทงั้ 4 ประการ แต่อาจมี
เพยี งบางสว่ น หรอื มเี พยี งลกั ษณะเฉพาะประการเดยี วปรากฏอยกู่ ไ็ ด้

2.3 งานฉลุลาย เป็นเทคนิคทน่ี ามาใชใ้ นการฉลุช่องไฟของตวั ลายออก ดว้ ยงานทบั ทรวงบางช้นิ งานมกั นิยม
จะแสดงใหเ้ หน็ เฉพาะตวั ลาย เพ่อื ใหล้ วดลายมคี วามโดดเด่นจงึ นิยมฉลพุ น้ื ทช่ี ่องไฟออก นอกจากน้ียงั เป็นการฉลลุ าย
พน้ื ทร่ี ปู ทรงใหม้ ลี วดลายแยกออกจากพน้ื ทช่ี ่องไฟ

284

ใบความรู้ หน้า
7
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เร่อื ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

2.4 งานประดบั อญั มณี เป็นเทคนิคหน่ึงทน่ี ามาอญั มณีมาประกอบในช้นิ งานเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงโดยส่วน

ใหญ่ในงานช่างทองหลวงโบราณจะนิยมเอาเทคนิคการประดบั อญั มณีแบบฝังหุ้ม และฝังแบบเข้ยี วหมู เพ่อื เพม่ิ ให้

ช้ินงานมมี ูลค่าโดยนาอญั มณีมาประดบั โดยส่วนใหญ่อัญมณีท่ีนามาประดบั จะเป็นอัญมณีท่ีมอี ยู่ภายในประเทศ

ยกเวน้ เพชรซกี ตอ้ งนาเขา้ มาจากประเทศอนิ เดยี สว่ นใหญ่อญั มณีในทน่ี ามาประดบั ในทบั ทรวงพบว่าค่านิยมของคน

ไทยมกั นิยมประดับอัญมณีเป็นพลอยนพเก้า คืออัญมณี 9 ชนิด ประกอบด้วย 1) เพชร 2) ทบั ทิม 3) มรกต 4)

บุษราคมั 5) โกเมน 6) ไพลนิ 7) เพทาย 8) มุกดา 9) ไพทูรย์ แต่ในอญั มณีนพเก้าทงั้ หมด ถอื ว่าเพชรมคี ุณค่ามาก

ทส่ี ดุ ถอื ว่าเป็นยอดอญั มณี

รปู พลอยนพเก้า

2.5 งานเช่อื มประกอบ เป็นเทคนคิ ของการสรา้ งช้นิ งานเครอ่ื งประดบั ทต่ี อ้ งใชโ้ ดยทวั่ ไป เพอ่ื สรา้ งรปู ทรงให้
เป็นตามตอ้ งการ การเชอ่ื บประกอบเพอ่ื ใหผ้ วิ โลหะตดิ กนั ใหแ้ น่นหนามนั่ คง ตามรปู ทรงทก่ี าหนดและออกแบบไว้

3. การออกแบบลวดลายเคร่ืองประดบั ทบั ทรวง

การออกแบบเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงมขี นั้ ตอนในการออกแบบดงั น้ี
3.1 การออกแบบรปู ทรง เป็นการนาเอารปู ทรงทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์ทส่ี ะทอ้ นถงึ ความเป็นไทย มาออกแบบโดย
สว่ นใหญม่ กั นิยมเอารปู ทรงสเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู มาออกแบบ
3.2 การออกแบบลวดลาย ในการออกแบบเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงมกั นิยมนาเอาลวดลายใบเทศมาออกแบบ
ลวดลาย เน่อื งจากลายใบเทศถา้ นามาสลกั ดุนโดยทไ่ี ม่มเี ทคนคิ การลงยาสี กจ็ ะมคี วามสวยงามอ่อนชอ้ ยเน่อื งจากลาย
ใบเทศมลี กั ษณะลายธรรมชาติ แตเ่ ม่อื นาลวดลายมาออกแบบงานลงยาสกี ส็ ามารถนาไปประยุกตป์ ระดบั อญั มณเี ข้ากบั
งานยาสไี ด้
3.3 การออกแบบเทคนิคเชงิ ช่างผสมการออกแบบลวดลาย การออกแบบเทคนิคเชงิ ช่างเป็นการเพมิ่ เสน่ห์
ในงานศลิ ปะการออกแบบลวดลายใหม้ ลี ูกเล่น เป็นการผกู ลวดลายใหเ้ ขา้ กบั งานช่างทองหลวง อกี ยงั เป็นการเพมิ่ มติ ิ
ของชน้ิ งานใหม้ คี วามสลบั ซบั ซอ้ น เพม่ิ คุฯค่าของลวดลาย คุณค่าของชน้ิ งานดว้ ยการนาเอาเทคนคิ เชงิ ช่างมาประกอบ
3.4 การออกแบบการระบายสี เป็นรูปแบบการกาหนดการลงยาสหี รอื การประดบั สขี องอญั มณีประกอบเขา้
กบั ชน้ิ งาน กอ่ นการดาเนนิ งานจดั ทาเครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง

285

ใบความรู้ หน้า
8
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรื่อง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ช่ือและหน้าท่ีวสั ดอุ ปุ กรณ์ในการเขียนลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ชนดิ HB, 6B
- ใชส้ าหรบั รา่ งลายเขยี นเสน้ ทต่ี อ้ งการ

ยางลบ
- ใชส้ าหรบั ลบเสน้ ดนิ สอทไ่ี ม่ตอ้ งการ

ไมบ้ รรทดั
- ใชส้ าหรบั วดั ขนาดรปู ร่าง -รปู ทรงเหลย่ี ม

กระดาษขนาด A4หรอื กระดาษอารต์ ชนิดเน้อื ละเอยี ดเป็น
มนั ขนาด 80-100 แกรม
- ใชส้ าหรบั เขยี นลายไทยดว้ ยดนิ สอ

ทเ่ี หลาดนิ สอ
- ใชส้ าหรบั เหลาดนิ สอใหไ้ สด้ นิ สอมคี วามแหลม

กระดาษชาระ
- ใชส้ าหรบั เชด็ ผงดนิ สอทต่ี ดิ ตามอปุ กรณ์

-

286

ใบความรู้ หน้า
9
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ชื่อและหน้าท่ีวสั ดอุ ปุ กรณ์ในการเขียนลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ไมบ้ รรทดั เทมเพลต
- ใชส้ าหรบั วดั ขนาดและเขยี นขนาดอญั มณี

แผ่นกนั ลบ
- ใชส้ าหรบั ลบเสน้ ดนิ สอทไ่ี มต่ อ้ งการ

สนี ้าตลบั
- ใชส้ าหรบั ระบายสลี งในชน้ิ งานออกแบบใหเ้ กดิ สสี นั ตาม

ความคดิ สรา้ งสรรค์

พกู่ นั สนี ้า (กลม)
- ใชส้ าหรบั ระบายสี

แกว้ น้า
- ใชส้ าหรบั ใสน่ ้าลา้ งพกู่ นั และการเจอื สผี สมสี

ปากกาตดั เสน้ PIGMA
- ใชส้ าหรบั ตดั เสน้ ชน้ิ งานการออกแบบเขยี นแบบ

-

287

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
10
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 1
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เรือ่ ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

1. 1.1 บอกชอ่ื และหน้าทอ่ี ุปกรณ์การเขยี นลาย

2. 2.1 กาหนดขนาดเสน้ แกนรูปทรงทบั ทรวง โดยกาหนด
สดั สว่ นใหม้ คี วามสมดุลยท์ งั้ ดา้ นซา้ ย ขวา ดงั ภาพ

288

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
11
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 2
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เรอื่ ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

3. 3.1 กาหนดรูปทรงทบั ทรวงและรปู ทรงพลอย ดงั ภาพ

4. 4.1 รา่ งลวดลายลงในรูปทรงทบั ทรวง ดงั ภาพ

289

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
12
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 3
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง

เรือ่ ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

5. 5.1 ลงรายละเอียดตวั ลายและพลอย ดงั ภาพ

6. 6.1 คดั ลอกลายลงอกี ดา้ นของรปู ทรงทบั ทรวง ใหเ้ ตม็ รทู รง
เครอ่ื งประดบั ทบั ทรวง ดงั ภาพ

290

ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
13
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 4
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน

7. 7.1 ตดั เสน้ รายละเอยี ดเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงดว้ ย
ปากกาหมกึ สดี า (piqma) หเ้ ตม็ พน้ื ทต่ี วั ลายใบเทศ
การตดั เสน้ อญั มณี และงานเทคนิคเชงิ ช่าง ดงั ภาพ

291

ใบงาน หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 15
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่ือง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

1. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1.1 จดั เตรยี มอุปกรณ์การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ด้
1.2 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

2. สมรรถนะ
2.1 มที กั ษะการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
2.2 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสไี ด้

3. เคร่ืองมอื วสั ดุ และอปุ กรณ์
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา 6B ยางลบ ไมบ้ รรทดั กระดาษขนาด A4 ทเ่ี หลาดนิ สอ กระดาษชาระ เทมเพลต
สี พกู่ นั แกว้ น้า แผน่ กนั ลบ ปากกาตดั เสน้ PIGMA

4. การประเมินผล
ผลงานการลงแสงเงาลายกา้ นต่อดอกผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 60

5. เอกสารอ้างอิง/เอกสารค้นคว้าเพ่ิมเติม
ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539). ลายไทย ภาพไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2 กรงุ เทพฯ: ม.ป.พ.
ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546). ลายไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .

โพธิ์ ใจอ่อนน้อม. (2522). คมู่ อื ลายไทย. โรงพมิ พธ์ นาคารออมสนิ .
พระเทวาภนิ ิมมติ . (2530). สมดุ ตาราลายไทย. โรงพมิ พค์ ุรสุ ภา.
สนั ติ เลก็ สุขมุ . (2539). กระหนกในดนิ แดนไทย. สานกั พมิ พม์ ตชิ น.

292

ใบงาน หน่วยท่ี 5
งานครงั้ ท่ี 15
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เรอ่ื ง : การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี

6. การมอบหมายงาน
คาสงั่ ที่ 1 ให้นักเรียนออกแบบลวดลายใบเทศประกอบเขา้ กบั เทคนิคเชิงช่าง ลงในรปู ทรงเครื่องประดบั ทบั

ทรวง ตามแบบที่กาหนดให้ ตดั เส้นด้วยปากกาหมึกสีดา กาหนดขนาดเคร่ืองประดบั ทบั ทรวง
ขนาดความสูง 10-12 ซ.ม ขนาดความกว้างลวดลาย 10-12 ซ.ม ตัดเส้นลวดลายและส่วน
ประกอบเทคนิคเชิงช่างและอญั มณีให้ครบถ้วนสวยงาม คะแนนเตม็ 100 คะแนน

293

7. เกณฑก์ ารประเมินผลงาน

แบบประเมินผลงานนักเรยี น

ช่ือนักเรยี น……………………………………………………………….เลขท่ี…………………
ระดบั ชนั้ ปวช. 2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง

วิชา การเขยี นลวดลายไทย เร่ือง การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ผลการประเมิน
ระดบั คะแนน

ข้อ จดุ ประเมินคณุ ภาพผลงาน ีดเ ่ียยม
การเขียนลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี ีดมาก
ีด
พอใ ้ช
ปรับปรุง
คะแนนรวม
่ผาน เกณท์ประเ ิมน
ไม่ ่ผาน
54321

1 การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 )
2 การรา่ งสดั สว่ นรปู ทรง ( X2 )
3 ความเหมาะสมของรูปทรง ( X4 )
4 การเขยี นสว่ นประกอบเทคนิคเชงิ ช่าง ( X2 )
5 การลงลายเสน้ ลายใบเทศ ( X6 )
6 จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 )
7 ความสะอาด ประณีตในการเขยี นลาย( X2 )

ผลคะแนนรวม

หมายเหตุ ( X2 ) = จานวนคณู ค่าระดบั คะแนนกบั ค่าคะแนนเกณฑป์ ระเมนิ เช่น X2 ค่าคะแนน 5 = 10 คะแนน

ลาดบั ที่ 294

1. การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน 7. เกณฑ์การประเมินผลงาน
2. กการรา่ งสดั ส่วนรปู ทรง ( X2 ) 10 คะแนน
3. ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 ) 20 คะแนน แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานนักเรียน
4. การเขยี นสว่ นประกอบเทคนคิ เชงิ ชา่ ง ( X2 ) 10 คะแนน
5. การลงลายเสน้ ลายใบเทศ ( X6 ) 30 คะแนน วิชา การเขยี นลวดลายไทย เรื่องการเรียนที่ 15 การเขยี นลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
6. จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 ) 10 คะแนน ระดบั ชนั้ ปวช.2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง กาญจนาภิเษกวิทยาลยั ช่างทองหลวง
7. ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
จดุ ประเมินคณุ ภาพชิ้นงาน

ชื่อ นามสกลุ
ผรู้ บั การประเมิน

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ผลรวมคะแนนค่าเฉล่ียร้อยละของนักเรียนทงั้ หมด
(…………………………………………)
นานพีระยศ แก้วปัญญา
ผปู้ ระเมิน
คะแนนรวม 110 คะแนน

คา่ เฉล่ียรอ้ ยละ

ผ่าน เกณท์ที่ผ่านการประเมินค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 65
ไมผ่ ่าน

295

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 16
หลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หน่วยกิต 1-4-2

รหสั วิชา 20315-2107 วิชา การเขียนลวดลายไทย ปฏบิ ตั ิ 4 ช.ม.
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขียนลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
เร่อื งการเรียนรู้ : การระบายสีลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี
ทฤษฎี 1 ชม.

1. สาระสาคญั

ความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี เป็นสว่ นหน่ึงของการ
เรยี นรู้สร้างความเขา้ ใจต่อการเรยี นรู้การระบายสตี วั ลาย การระบายสอี ญั มณี เพ่อื สร้างความเขา้ ใจในการ
นาไปปรบั ประยุกตใ์ ชท้ างานเคร่อื งประดบั ทบั ทรวงงานลงยาสี การระบายสตี วั ลายกาหนดการกนั้ ขอบในตวั
ลาย จงึ จาเป็นต้องสร้างความเขา้ ใจการกาหนดเส้นกนั้ ขอบในตวั ลายสาหรบั งานลงยาสี เน่ืองจากการทา
เคร่อื งประดบั ทบั ทรวงเป็นงานช่างทองหลวงมรี ูปแบบเอกลกั ษณ์การสลกั ลวดลายมีเทคนิคการสรา้ งสรรค์
งานเป็นเอกลกั ษณ์รูปแบบเฉพาะ ทจ่ี ะพฒั นาความรูเ้ ทคนิคการทางานช่างทองหลวง และเป็นพน้ื ฐานของ
การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานแขนงงานช่างทองหลวงอ่ืนๆ ดงั นนั้ การเขา้ ใจในหลกั ารระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวง
การออกแบบลวดลายไทยสาหรบั งานลงยาสี จงึ มคี วามสาคญั ตอ่ การนาองคค์ วามรไู้ ปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้
2. สมรถนะประจาหน่วย

2.1 สมรรถนะประจาหน่วย

2.1.1 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั การออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
2.1.2 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
2.1.3 สามารถปฏบิ ตั งิ านระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
2.1.4 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย
2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย

2.2.1 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การออกแบบลวดลายไทยกบั งานชา่ งทองหลวง
2.2.2 สามารถอธบิ ายความรเู้ ก่ยี วกบั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสไี ด้อย่าง
ถกู ตอ้ ง
2.2.3 สามารถปฏบิ ตั ขิ นั้ ตอนการระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสอี ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2.4 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ในการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั
ทรวงสาหรบั งานลงยาส3ี . จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป

3.1.1 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
3.1.2 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
3.1.3 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการปฏบิ ตั งิ านการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี

296

3.1.4 มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการระบายสีเคร่ืองประดบั ทบั
ทรวงสาหรบั งานลงยาสี

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1 ระบหุ ลกั ารวธิ กี ารวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั การออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
3.2.2 ระบุความหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสไี ด้

อย่างถูกตอ้ ง
3.2.3 บอกรปู แบบการลงยาสกี บั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ยา่ ง

ถกู ตอ้ ง
3.2.4 แสดงขนั้ ตอนการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสไี ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.5 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม

และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 การวเิ คราะหห์ ลกั การออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
4.2 งานการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
4.3 ลกั ษณะการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
4.4 หลกั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี

5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานการระบายสเี ครอ่ื งประดบั สาหรบั งาน

ลงยาสี
5.1.3 ครเู ปิด e book อธบิ ายการวเิ คราะหก์ ารออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
5.1.4 ครูเปิด e book อธบิ ายความหมายของการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี

และความสมั พนั ธ์ ความเก่ยี วเน่ืองการนาลายใบเทศไปออกแบบเคร่อื งประดบั ไทยในรูปแบบเคร่อื งประดบั
ชนิดอ่นื และสอดแทรกคุณธรรมการมพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความ
เหมาะสม

5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครเู ปิด e book เรอ่ื งการวเิ คราะหก์ ารออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง และให้

นกั เรยี นเปิดสอ่ื การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองใหน้ กั เรยี นเรยี นประกอบในชวั่ โมงการเรยี นและใหท้ ดลองทาแบบฝึกหดั
ทา้ ยบทเรยี น

5.2.2 ครเู ปิด e book เร่อื งความหมายความเป็นมาของการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั
งานลงยาสี ครผู สู้ อนบรรยายดาเนินการสอนหรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรปู ภาพฉาย
ประกอบ

297

5.2.3 ครนู ารปู ภาพระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี มาประกอบการอธบิ าย
1) ครูถาม-ตอบกบั นักเรยี น โดยครูยกตวั อย่างรูปภาพการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวง

สาหรบั งานลงยาสี แลว้ ถาม-ตอบเก่ยี วกบั ความหมายความเป็นมาของการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวง
สาหรบั งานลงยาสี กบั การนาไปใช้

2) การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสลี ายใบเทศมสี ว่ นสาคญั ตอ่ การเขยี น
ลายไทยสาหรบั งานลงยาสี ดา้ นใดบา้ ง

3) ขอ้ สงั เกตการระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสมี หี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง
5.2.4 ครนู กั เรยี นช่วยกนั สรุปความสาคญั ตอ่ การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
5.2.5 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เร่อื งความสาคญั การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลง
ยาสมี ดี า้ นใดบา้ ง โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมุดบนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.6 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสตี ามใบงาน
5.2.7 ครเู รยี กตรวจการระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสลี าย เป็นรายบุคคลพรอ้ มช้ี
จุดแกไ้ ขเป็นรายบุคคล
5.2.8 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกการระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี ตอ่ จนครบจานวนการฝึก
เขยี นลายใบเทศ
5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู มุ่ นกั เรยี นเล่าความรเู้ กย่ี วกบั การระบายสเี ครอ่ื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสมี ี
ความสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.2 ครสู รุปเรอ่ื งความสาคญั การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
5.3.3 ครสู รปุ หลกั การสงั เกตการณ์การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี ตาม
หลกั การความงามดา้ นลวดลายศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เคร่อื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน

6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 สื่อโสตทศั น์
6.1.1 สอ่ื e book การวเิ คราะหก์ ารออกแบบลวดลายไทยกบั งานช่างทองหลวง
6.1.2 คลปิ วดิ โี อ การระบายสเี คร่อื งประดบั ทบั ทรวงสาหรบั งานลงยาสี
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 สื่อส่ิงพิมพ์


Click to View FlipBook Version