98
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 1
สอนครงั้ ท่ี 5
หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หน่วยกิต 1-4-3
รหสั วิชา 20315-2107 วิชา การเขียนลวดลายไทย ปฏบิ ตั ิ 4 ช.ม.
หน่วยการเรยี นรู้ การเขียนลายกนก
เรื่องการเรยี นรู้ การเขียนลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์
ทฤษฎี 1 ชม.
1. สาระสาคญั
ตวั ลายกนกสามตวั ถอื เป็นลายพน้ื ฐานการเขยี นงานลวดลายไทย คาว่ากนกมคี วามหมายในพจนานุ
กรรมไทย ว่า ลายทอง ทอง ดงั นัน้ ลายกนกจงึ แปลความหมายว่าลายทอง อาจเน่ืองมาจากลายรดน้าของ
ศลิ ปะไทยโดยสว่ นใหญ่มกั ทาดว้ ยนิยมเขยี นเป็นลายกนก ส่วนใหญ่จงึ เขา้ ใจว่าลายกนก คอื ลายทองทม่ี ตี วั
ลายเป็นสที อง คอื แผ่นทองคาเปลวทน่ี ามาปิดลงในตวั ลายแลว้ ใชน้ ้าลา้ งออกส่วนทม่ี รการเชด็ ดว้ ยรกั มแี ผ่น
ทองคาเปลวตอิ อย่ลู ายกนกกจ็ ะมสี ขี องลายเป็นสที องดงั กล่าว สว่ นพน้ื ชอ่ งไฟกจ็ ะมสี ดี าตามสขี องรกั ท่ที าปิด
พน้ื ไมก้ ่อนทาการเขยี นลาย ลายกนกในงานลวดลายไทยมรี ูปทรงหลายรปู แบบตามลกั ษณะประเภทของตวั
ลาย แต่มรี ูปร่างรูปทรงเดยี วกนั คอื มรี ปู ทรงเป็นรูปสามเหล่ยี ม การฝึกเขยี นกนกทใ่ี ชป้ ระกอบในการเขยี น
ลายไทย จงึ เป็นการฝึกการเขยี นรูปแบบลายกนกในรูปแบบแตกต่างกนั เช่นลายกนกสามตวั ใบเทศ กนก
สามตวั ก้านขด กนกสามตวั เปลว กนกสามตวั ผกั กูด กนกสามตวั นารี เป็นต้น เป็นการเขยี นลายให้มคี วาม
พล้วิ ไหว องค์ประกอบการเขยี นลายจงึ มกี ารบากลายและการเขยี นตวั หางไหลจงึ เป็นขนั้ ตอนพน้ื ฐาน การ
เขยี นลายกนกสามตวั ทส่ี มบูรณ์ จงึ เป็นพน้ื ฐานของการลวดลายไทย ทต่ี อ้ งมที กั ษะความชานาญการเขยี นให้
มคี วามอ่อนชอ้ ย แหลมคม และพล้วิ ไหว ตามปรชั ญาความงามทางดา้ นสุนทรยี ศาสตรข์ องงานศลิ ปะไทยใน
ทุกแขนง การเขยี นลายกนกสามตวั ช่อลายกนก และแม่ลายกนกในรูปแบบต่างๆจงึ เป็นการเขยี นลายไทย
จดุ เรมิ ตน้ การเรยี นรู้ การผกู ลาย การประยุกตใ์ ชต้ วั ลายไปใชใ้ นการเขยี นลวดลายอน่ื ๆ ต่อไป
2. สมรถนะประจาหน่วย
2.1 สมรรถนะประจาหน่วย
2.1.1 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
2.1.2 สามารถปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
2.1.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย
2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย
2.2.1 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2.2.2 สามารถปฏบิ ตั ขิ นั้ ตอนการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2.2.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อุปกรณ์ในการเขยี นลาย
99
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
3.1.1 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
3.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
3.1.3 มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อุปกรณ์ในการเขยี นลาย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1 ระบุความหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3.2.2 บอกประเภทความหมายลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ความหมายลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
4.2 ลกั ษณะลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
4.3 หลกั การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 การนาเข้าสู่บทเรียน
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานความรู้ลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
5.1.3 ครเู ปิด Power Point อธบิ ายความหมายของลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรแ์ ละความสมั พนั ธ์
ความเกย่ี วเน่อื งการนาลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ปออกแบบลวดลายไทยในรปู แบบลวดลายชนิดอน่ื และ
สอดแทรกคณุ ธรรมการมพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครเู ปิด Power Point เร่อื งความหมายความเป็นมาของลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรค์ รผู สู้ อน
บรรยายดาเนนิ การสอนหรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรปู ภาพฉายประกอบ
5.2.2 ครนู ารปู ภาพลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรแ์ ละลายทเ่ี กย่ี วเน่อื งกบั ลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์มา
ประกอบการอธบิ าย
1) ครูถาม-ตอบกับนักเรียน โดยครูยกตัวอย่างรูปภาพลายกนกสมัยรตั นโกสินทร์ แล้ว
ถาม-ตอบเกย่ี วกบั ความหมายความเป็นมาของลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรก์ บั การนาไปใช้
2) การออกแบบลวดลายไทยลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรม์ สี ว่ นสาคญั ตอ่ การเขยี นลายไทย
ดา้ นใดบา้ ง
3) ขอ้ สงั เกตการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรม์ หี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง
100
5.2.3 ครนู กั เรยี นชว่ ยกนั สรุปความหมายความเป็นมาของลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
5.2.4 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื งความสาคญั ความเป็นมาลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรม์ ดี า้ น
ใดบา้ ง โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมดุ บนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ ามใบงาน
5.2.6 ครเู รยี กตรวจการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์เป็นรายบคุ คลพรอ้ มชจ้ี ุดแก้ไขเป็น
รายบคุ คล
5.2.7 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์ต่อ จนครบจานวนการฝึกเขยี นลายกนก
สมยั รตั นโกสนิ ทร์
5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู ุม่ นกั เรยี นเลา่ ความรเู้ กย่ี วกบั ลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรค์ วามสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.2 ครสู รุปเรอ่ื งความหมายและเป็นมาของลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
5.3.3 ครสู รุปหลกั การสงั เกตการณ์เขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ ามหลกั การความงามดา้ น
ลวดลายศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เครอ่ื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน
6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
6.1 สื่อโสตทศั น์
6.1.1 คลปิ วดิ โี อ การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 ส่ือส่ิงพิมพ์
6.3.1 หนงั สอื ลายไทย ภาพไทย. ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539).
6.3.2 หนงั สอื ลายไทย. ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546).
6.4 สื่อบทเรยี นอิเลก็ ทรอนิกส์
6.4.1 ใบความรู้ การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
6.4.2 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
6.4.3 Power Point
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
7.1.1 แผนการจดั การเรยี นรู้
101
7.1.2 ใบความรู้
7.1.3 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
7.1.4 บนั ทกึ หลงั การสอน
7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
7.2.1 ใบงาน
7.2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน
8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
8.1 เคร่อื งมือการประเมิน
8.1.1 ก่อนเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล การสมั ภาษณ์ การอภปิ ราย
เคร่อื งมอื วดั คาตอบจากการสมั ภาษณ์ แนวคดิ จากการอภปิ ราย
8.1.2 ระหวา่ งเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ
เคร่อื งมอื วดั การสงั เกตุการปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น
8.1.3 หลงั เรยี น
วธิ กี ารวดั ผล ผลงานการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
8.2.1เกณฑป์ ระเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี นผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ตามขนั้ ตอนปฏบิ ตั งิ านการเขยี นลาย
กนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
8.2.2 แบบทดสอบความรผู้ ลการประเมนิ ผ่านดา้ นรคู้ วามเขา้ ใจต่อหลกั การเขยี นลายกนกสมยั
รตั นโกสนิ ทร์
8.2.3 เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ มต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 60
102
9. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้
ด้านผ้สู อน
การจดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ online off line
สอนไดค้ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้
สอนไดไ้ ม่ครบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ยงั ขาดหวั ขอ้ ดงั น้ี
แนวทางการแกป้ ัญหาการสอนไม่ครบหวั ขอ้ ตามแผน
ด้านความพร้อมและผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น
จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด คน จานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ เรยี น คน
จานวนนกั เรยี นทข่ี าดเรยี น คน
เกณฑท์ แ่ี นะนา คดิ เป็นรอ้ ยละ ดมี าก(80-100) ดี (70-79) พอใช้ (60-69) ตอ้ งปรบั ปรงุ (ต่ากวา่ 60)
1 การตรงต่อเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
2 การแต่งกาย, การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
3 ความพรอ้ ม, ความตงั้ ใจในการเรยี น ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
4 มคี วามรบั ผดิ ชอบงานทม่ี อบหมาย ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
5 มคี วามรู้ ความสามารถ ตรงวตั ถปุ ระสงค์ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
อ่นื ๆ
9.2 ปัญหา อปุ สรรค
9.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
ลงชอ่ื ผสู้ อน ลงช่อื หวั หน้าสาขาวชิ า
( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา ) ( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา)
ลงช่อื
(นายพรอนนั ต์ ภกั ดบี ญุ )
ผอู้ านวยการกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั ชา่ งทองหลวง
หมายเหตุ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแกป้ ัญหา ผสู้ อนนาไปพฒั นา ในรปู แบบของวจิ ยั ชนั้ เรยี น หรอื พฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป
103
ใบความรู้ หน่วยท่ี 1
สอนครงั้ ท่ี 5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย เวลา 5 ชม.
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เร่ือง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 จุดประสงคท์ วั่ ไป
1.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
1.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
1.1.3 เพอ่ื ใหก้ จิ นิสยั มคี วามรอบคอบและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผอู้ น่ื
1.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1.2.1 ระบุความหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรอ์ ยา่ งถูกตอ้ ง
1.2.2 บอกประเภทความหมายลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
1.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
1.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม และ
ทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
2. สมรรถนะ
2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
2.2 มที กั ษะการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
2.3 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ด้
3. เนื้อหาสาระ (ใบความร้)ู
104
ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายกนก
เรือ่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
เร่อื งการเรยี นร้ทู ่ี 5 การเขียนลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์ (สปั ดาหท์ ี่ 5 )
วิวฒั นาการลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์
ดงั ภาพประกอบท่ี 5-1
สมยั รตั นโกสนิ ทร์ สมยั รตั นโกสนิ ทร์
รชั กาลท่ี 1 รชั กาลท่ี 2
สมยั รตั นโกสนิ ทร์ สมยั รตั นโกสนิ ทร์ สมยั รตั นโกสนิ ทร์
รชั กาลท่ี 3 รชั กาลท่ี 4 รชั กาลท่ี 5
ภาพท่ี 5-1 วิวฒั นาการลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์
105
ใบความรู้ หน้า
3
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เรื่อง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ลกั ษณะลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์
กนกสบื ทอดมาในสมยั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ มหี ลกั ฐานเหลอื อยู่มากมาย ทงั้ งานปัน้ งานเขยี น ในทน่ี ้ีขอเสนอ
เพยี งแบบแผนของลายคดั ลอกจากลายเขยี นในสมดุ ตาราลายไทย ทพ่ี ระเทวาภนิ ิมมติ เรบี นเรยี ง ดงั ภาพ
ประกอบท่ี 5-2,5-3
กนกสามตวั หางหงส์ กนกสามตวั ลายนาค
กนกสามตวั ใบเทศ กนกสามตวั ผกั กูด
ภาพท่ี 5-2 ลกั ษณะลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ทม่ี า : สนั ติ เลก็ สุขมุ . (2545). กนกในดนิ แดนไทย. : 40.
106 หน้า
4
ใบความรู้
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เรอื่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ภาพท่ี 5-3 ลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรแ์ บบต่าง ๆ
ทม่ี า : สมปอง อคั รวงษ์. (2534). วชิ าศลิ ปะไทย. (เอกสารประกอบวชิ าศลิ ปะลวดลายไทย).
107
ใบความรู้ หน้า
5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เรอ่ื ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ชื่อและหน้าท่ีวสั ดอุ ปุ กรณ์ในงานเขียนลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ชนิด HB
- ใชส้ าหรบั รา่ งลายเขยี นเสน้ ทต่ี อ้ งการ
ยางลบ
- ใชส้ าหรบั ลบเสน้ ดนิ สอทไ่ี มต่ อ้ งการ
ไมบ้ รรทดั
- ใชส้ าหรบั วดั ขนาดรูปร่าง -รปู ทรงเหลย่ี ม
กระดาษขนาด A4หรอื กระดาษอารต์ ชนิดเน้อื ละเอยี ด
เป็นมนั ขนาด 80-100 แกรม
- ใชส้ าหรบั เขยี นลายไทยดว้ ยดนิ สอ
ทเ่ี หลาดนิ สอ
- ใชส้ าหรบั เหลาดนิ สอใหไ้ สด้ นิ สอมคี วามแหลม
กระดาษชาระ
- ใชส้ าหรบั เชด็ ผงดนิ สอทต่ี ดิ ตามอปุ กรณ์
108
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
6
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 1
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เรอื่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน
1. 1.1 บอกช่อื และหน้าทอ่ี ุปกรณ์การเขยี นลาย
2. 2.1 กาหนดขนาดรปู ทรงโครงสรา้ งลายกนก
รตั นโกสนิ ทร์
109
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
7
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 2
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เรือ่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน
3. 3.1 ร่างเสน้ โครงสรา้ งแม่ลายกนกเปลว โครงสรา้ งลาย
เป็นแบบเดยี วกนั กบั ช่อลายกนก
4. 4.1 ร่างเสน้ โครงสรา้ งการแบ่งตวั ลายดา้ นใน ชอ่ ลาย
กนกเปลว
110
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
8
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 3
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เรือ่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน
5. 5.1 ร่างเสน้ การเขยี นรายละเอยี ดการเขยี นชอ่ ลายกนก
เปลว
6. 6.1 ลงน้าหนกั เสน้ ดนิ สอใหม้ นี ้าหนกั เขม้ ตามแบบการ
ร่างเสน้ ช่อลายกนกเปลว
111
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
9
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 4
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เรอ่ื ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน
7. 7.1 ร่างเสน้ กาหนดพน้ื ทก่ี ารแรลาย ลงในช่อลายกนก
เปลว
8. 8.1 เขยี นเสน้ แรลายลงในช่อลายกนกเปลวใหส้ วยงาม
112
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
10
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 5
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เร่ือง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ขอ้ ควรระวงั การปฏิบตั ิงาน คาอธิบายข้อควรระวงั การปฏิบตั ิงาน
1. 1.1 การเขยี นเสน้ โครงสรา้ งลายกนกเปลว มลี กั ษณะการ
เขยี นเสน้ โครงสรา้ งเช่นเดยี วกนั กบั การเขยี นช่อ
ลายกนก
2. 2.1 ลกั ษณะการแบง่ ชนั้ ตวั ลาย จะมรี ปู แบบทศิ ทางตวั
ลายไปในทศิ ทางขนานกนั
113
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
11
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 6
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายกนก
เรือ่ ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ข้อควรระวงั การปฏิบตั ิงาน คาอธิบายข้อควรระวงั การปฏิบตั ิงาน
3. 3.1 การเขยี นเสน้ แรลาย ควรเขยี นทศิ ทางของเสน้ ไปใน
ทศิ ทางเดยี วกนั กบั กลบี ลายกนกเปลว
4. 4.1 โครงสรา้ งลายกนกเปลว โครงสรา้ งทงั้ หมดจะเป็น
เหมอื นช่อลายกนก แตไ่ ม่มหี วั ในตวั ลายท่ี 1
114
ใบงาน หน่วยท่ี 1
สอนครงั้ ท่ี 5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เร่อื ง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
1. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1.1 จดั เตรยี มอุปกรณ์การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ด้
1.2 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. สมรรถนะ
2.1 มที กั ษะการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
2.2 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์ได้
3. เคร่ืองมือ วสั ดุ และอปุ กรณ์
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ยางลบ ไมบ้ รรทดั กระดาษขนาด A4 ทเ่ี หลาดนิ สอ กระดาษชาระ
4. การประเมินผล
ผลงานการเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทรผ์ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 60
5. เอกสารอ้างอิง/เอกสารค้นคว้าเพิ่มเติม
ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539). ลายไทย ภาพไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2 กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
ภญิ โญ สวุ รรณครี .ี (2546). ลายไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
โพธิ์ ใจออ่ นน้อม. (2522). ค่มู อื ลายไทย. โรงพมิ พธ์ นาคารออมสนิ .
พระเทวาภนิ ิมมติ . (2530). สมดุ ตาราลายไทย. โรงพมิ พค์ รุ สุ ภา.
สนั ติ เลก็ สขุ มุ . (2539). กระหนกในดนิ แดนไทย. สานกั พมิ พม์ ตชิ น.
115
ใบงาน หน่วยท่ี 1
งานครงั้ ท่ี 5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายกนก
เรื่อง : การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
6. การมอบหมายงาน
คาสงั่ ที่ 1 ให้นักเรยี นเขียนช่อลายกนกเปลวสมยั รตั นโกสินทร์ ความสงู ตวั ลายขนาด 18 เซนติเมตร ความ
กว้าง 12 เซนติเมตร จานวน 1 ช่อลาย ตามแบบที่กาหนดให้ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด คะแนนเตม็ 100
คะแนน
116
7. เกณฑก์ ารประเมินผลงาน
แบบประเมินผลงานนกั เรียน
ชื่อนักเรยี น……………………………………………………………….เลขท่ี…………………
ระดบั ชนั้ ปวช.1 สาขาวิชา ช่างทองหลวง
วิชา การเขยี นลวดลายไทย เร่ือง การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์
ผลการประเมิน
ระดบั คะแนน
ข้อ จดุ ประเมินคณุ ภาพผลงาน ีดเ ่ียยม
การเขียนลายกนกสมยั รตั นโกสินทร์ ีดมาก
ีด
พอใ ้ช
ปรับปรุง
คะแนนรวม
่ผาน เกณท์ประเ ิมน
ไม่ ่ผาน
54321
1 การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 )
2 การร่างสดั สว่ นรปู ทรง ( X2 )
3 ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 )
4 ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 )
5 การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ( X6 )
6 จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 )
7 ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย( X2 )
ผลคะแนนรวม
หมายเหตุ ( X2 ) = จานวนคณู คา่ ระดบั คะแนนกบั ค่าคะแนนเกณฑป์ ระเมนิ เช่น X2 ค่าคะแนน 5 = 10 คะแนน
117 ลาดบั ที่
แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานนักเรยี น 1. การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
2. กการรา่ งสดั ส่วนรปู ทรง ( X2 ) 10 คะแนน
วิชา การเขยี นลวดลายไทย เร่อื งการเรียนท่ี 7 การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์3. ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 ) 20 คะแนน
ระดบั ชนั้ ปวช.1 สาขาวิชา ชา่ งทองหลวง กาญจนาภิเษกวิทยาลยั ช่างทองหลวง 4. ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 ) 10 คะแนน
5. การเขยี นลายกนกสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ( X6 ) 30 คะแนน
จดุ ประเมินคณุ ภาพชิ้นงาน 6. จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 ) 10 คะแนน
7. ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
ช่ือ นามสกลุ คะแนนรวม 110 คะแนน
ผรู้ บั การประเมิน คา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ
1 ผ่าน
2 เกณทท์ ่ีผ่านการประเมินค่าเฉล่ียร้อยละ 65
3
4 ไม่ผ่าน
5
6
7
8
9
10
ผลรวมคะแนนค่าเฉล่ียร้อยละของนักเรยี นทงั้ หมด
(…………………………………………)
นานพีระยศ แก้วปัญญา
ผปู้ ระเมิน
118
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 2
สอนครงั้ ท่ี 6
หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หน่วยกิต 1-4-3
รหสั วิชา 20315-2107 วิชา การเขียนลวดลายไทย ปฏบิ ตั ิ 4 ช.ม.
หน่วยการเรียนรู้ การเขียนลายประเภทลายบวั
เรอ่ื งการเรียนรู้ การเขียนลายบวั ควา่ บวั หงาย บวั ปากฐาน
ทฤษฎี 1 ชม.
1. สาระสาคญั
ความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การเขยี นลายบวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน บวั ถลา และปฏบิ ตั งิ านเขยี น
ลายบวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน การนาความรไู้ ปปรบั ประยุกต์ใช้ ในการออกแบบลวดลาย การเขยี นลาย
บวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน มขี นั้ ตอนวธิ กี ารเขยี นลายทแ่ี ตกต่างจากลายประเภทลายกนก การเขยี นกลุ่ม
แม่ลายประเภทลายบวั มกี ารแบ่งพน้ื ท่ี ขนาดทช่ี ดั เจน การเขยี นตวั ลายมกี ารแบ่งขนาด พน้ื ทเ่ี ท่ากนั การนา
ตวั ลายบวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน สามารถนาไปใชก้ บั งานช่างทองหลวง การออกแบบกลุ่มงานประเภท
ลายฐาน เช่นฐานปัฐ ฐานย่อมุม ฐานพระ ล้วนแล้วแต่ต้องนาความรู้ประเภทลายบวั ไปทาการออกแ บบ
ช้นิ งานทงั้ สน้ิ การเขา้ ใจในหลกั การ วธิ กี ารเขยี น การแบ่งตวั ลาย จงึ เป็นขนั้ ตอนพ้นื ฐานของการเขยี นการ
ออกแบบลวดลาย และการนาองคค์ วามรไู้ ปปรบั ประยุกตใ์ ช้
2. สมรถนะประจาหน่วย
2.1 สมรรถนะประจาหน่วย
2.1.1 สามารถแสดงความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
2.1.2 สามารถปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
2.1.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย
2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย
2.2.1 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2.2.2 สามารถปฏบิ ตั ขิ นั้ ตอนการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2.2.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ในการเขยี นลาย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
3.1.1 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
3.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
3.1.3 มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ในการเขยี นลาย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
119
3.2.1 ระบคุ วามหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3.2.2 บอกประเภทความหมายลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความหมายลายบวั คว่าบวั หงาย
4.2 ลกั ษณะลายบวั คว่าบวั หงาย
4.3 หลกั การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1 การนาเข้าสู่บทเรยี น
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานความรู้ลายบวั คว่าบวั หงาย
5.1.3 ครเู ปิด Power Point อธบิ ายความหมายของลายบวั คว่าบวั หงาย และความสมั พนั ธ์ ความ
เกย่ี วเน่อื งการนาลายบวั คว่าบวั หงาย ไปออกแบบลวดลายไทยในรูปแบบลวดลายชนดิ อ่นื และสอดแทรก
คุณธรรมการมพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครเู ปิด Power Point เรอ่ื งความหมายความเป็นมาของลายบวั คว่าบวั หงาย ครผู สู้ อนบรรยาย
ดาเนินการสอนหรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรปู ภาพฉายประกอบ
5.2.2 ครนู ารปู ภาพลายบวั คว่าบวั หงาย และลายทเ่ี กย่ี วเน่อื งกบั ลายบวั คว่าบวั หงาย มา
ประกอบการอธบิ าย
1) ครถู าม-ตอบกบั นกั เรยี น โดยครยู กตวั อยา่ งรปู ภาพลายบวั คว่าบวั หงาย แลว้ ถาม-ตอบ
เกย่ี วกบั ความหมายความเป็นมาของลายบวั คว่าบวั หงาย กบั การนาไปใช้
2) การออกแบบลวดลายไทยลายบวั คว่าบวั หงาย มสี ว่ นสาคญั ต่อการเขยี นลายไทยดา้ น
ใดบา้ ง
3) ขอ้ สงั เกตการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย มหี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง
5.2.3 ครนู กั เรยี นชว่ ยกนั สรุปความหมายความเป็นมาของลายบวั คว่าบวั หงาย
5.2.4 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื งความสาคญั ความเป็นมาลายบวั คว่าบวั หงาย มดี า้ น
ใดบา้ ง โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมดุ บนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ตามใบงาน
5.2.6 ครเู รยี กตรวจการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย เป็นรายบุคคลพรอ้ มชจ้ี ดุ แกไ้ ขเป็นรายบุคคล
5.2.7 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ตอ่ จนครบจานวนการฝึกเขยี นลายบวั คว่าบวั
หงาย
120
5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู มุ่ นกั เรยี นเลา่ ความรเู้ ก่ยี วกบั ลายบวั คว่าบวั หงาย ความสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.2 ครสู รุปเรอ่ื งความหมายและเป็นมาของลายบวั คว่าบวั หงาย
5.3.3 ครสู รุปหลกั การสงั เกตการณ์เขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ตามหลกั การความงามดา้ นลวดลาย
ศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เครอ่ื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
6.1 ส่ือโสตทศั น์
6.1.1 คลปิ วดิ โี อ การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 ส่ือสิ่งพิมพ์
6.3.1 หนงั สอื ลายไทย ภาพไทย. ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539).
6.3.2 หนงั สอื ลายไทย. ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546).
6.4 สื่อบทเรียนอิเลก็ ทรอนิกส์
6.4.1 ใบความรู้ ลายบวั คว่าบวั หงาย
6.4.2 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
6.4.3 Power Point
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
7.1.1 แผนการจดั การเรยี นรู้
7.1.2 ใบความรู้
7.1.3 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
7.1.4 บนั ทกึ หลงั การสอน
7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
7.2.1 ใบงาน
121
7.2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน
8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
8.1 เครอื่ งมือการประเมิน
8.1.1 กอ่ นเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล การสมั ภาษณ์ การอภปิ ราย
เคร่อื งมอื วดั คาตอบจากการสมั ภาษณ์ แนวคดิ จากการอภปิ ราย
8.1.2 ระหวา่ งเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ
เครอ่ื งมอื วดั การสงั เกตกุ ารปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น
8.1.3 หลงั เรยี น
วธิ กี ารวดั ผล ผลงานการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
8.2.1 เกณฑป์ ระเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี นผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ตามขนั้ ตอนปฏบิ ตั งิ านการเขยี นลายบวั
คว่าบวั หงาย
8.2.2 แบบทดสอบความรผู้ ลการประเมนิ ผ่านดา้ นรคู้ วามเขา้ ใจตอ่ หลกั การเขยี นลายบวั คว่าบวั
หงาย
8.2.3 เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 60
122
9. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้
ด้านผ้สู อน
การจดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ online off line
สอนไดค้ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้
สอนไดไ้ ม่ครบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ยงั ขาดหวั ขอ้ ดงั น้ี
แนวทางการแกป้ ัญหาการสอนไม่ครบหวั ขอ้ ตามแผน
ด้านความพร้อมและผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น
จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด คน จานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ เรยี น คน
จานวนนกั เรยี นทข่ี าดเรยี น คน
เกณฑท์ แ่ี นะนา คดิ เป็นรอ้ ยละ ดมี าก(80-100) ดี (70-79) พอใช้ (60-69) ตอ้ งปรบั ปรงุ (ต่ากวา่ 60)
1 การตรงต่อเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
2 การแต่งกาย, การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
3 ความพรอ้ ม, ความตงั้ ใจในการเรยี น ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
4 มคี วามรบั ผดิ ชอบงานทม่ี อบหมาย ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
5 มคี วามรู้ ความสามารถ ตรงวตั ถุประสงค์ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
อ่นื ๆ
9.2 ปัญหา อปุ สรรค
9.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
ลงชอ่ื ผสู้ อน ลงช่อื หวั หน้าสาขาวชิ า
( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา ) ( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา)
ลงช่อื
(นายพรอนนั ต์ ภกั ดบี ญุ )
ผอู้ านวยการกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั ชา่ งทองหลวง
หมายเหตุ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแกป้ ัญหา ผสู้ อนนาไปพฒั นา ในรปู แบบของวจิ ยั ชนั้ เรยี น หรอื พฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป
123
ใบความรู้ หน่วยท่ี 2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย สอนครงั้ ท่ี 6
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั เวลา 4 ชม.
เร่อื ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายบวั คว่าบวั หงาย
1.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
1.1.3 เพอ่ื ใหก้ จิ นสิ ยั มคี วามรอบคอบและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผอู้ ่นื
1.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1.2.1 ระบคุ วามหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายบวั คว่าบวั หงาย อยา่ งถูกตอ้ ง
1.2.2 บอกประเภทความหมายลายลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
1.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
1.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม และ
ทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
2. สมรรถนะ
2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายบวั คว่าบวั หงาย
2.2 มที กั ษะการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย
2.3 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ได้
3. เนื้อหาสาระ (ใบความร้)ู
124
ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรอ่ื ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
เรื่องการเรยี นร้ทู ่ี 6 การเขียนลายบวั ควา่ บวั หงาย (สปั ดาหท์ ่ี 6 )
บวั
เป็นพนั ธไ์ มท้ น่ี ิยมใชร้ ปู ดอกเป็นสญั ลกั ษณ์ในศาสนาพุทธและพราหมณ์ รปู ทรงของดอกบวั เป็นตน้ เค้าหรอื
บ่อเกดิ ของลายไทย โดยใชเ้ สน้ รอบนอกอนั อ่อนโค้งซ่ึงถอื ว่างาม นามาสรา้ งรูปต่างๆ ไม่ว่าจะปรากฏรูปร่างท่ี
เดน่ ชดั ของกลบี บวั หรอื ไมก่ ต็ าม บวั จงึ เป็นลวดลายสาคญั ยง่ิ ในการเขยี นภาพ ปัน้ สลกั และสง่ิ ก่อสรา้ ง ปรากฏเป็น
ช่อื ลายอย่ทู วั่ ไป
ลายเส้นท่ปี ระดิษฐ์ให้มสี ่วนนูน ส่วนเว้า บนพ้นื ระนาบท่เี รียกว่า ท้องไม้ มคี วามยาวต่อเน่ืองรอบฐาน
อุโบสถ วหิ ารหรอื ฐานเจดยี ์ เรยี กว่า ลวดบวั หากเป็นเสน้ นูนโคง้ ไปตลอดเรยี กว่า ลวดบวั ลูกแก้ว แลว้ ลวดบวั
ลูกแก้วทาเป็นเสน้ แหลม เรยี กว่า ลวดบวั ลูกแก้วอกไก่ ตรงลูกแก้วของหวั เมด็ ถา้ ใสล่ ายบวั ลงไป เรยี กว่า บวั
ลกู แก้ว
บวั ควา่ บวั หงาย เป็นลายค่กู นั บวั คว่าอย่สู ว่ นล่างของฐาน บวั หงายอย่สู ่วนบน ฐานน้ีเรยี ก ฐานบวั หรอื
ฐานปัทม์ ลายบวั คว่าหากมสี ่วนลาดมากเรยี ก บวั ถลา ซ่งึ มกั ทากลบี บวั แยกกนั เป็นกลบี และมกี ลบี ซอ้ นระหว่าง
กลบี บวั รวน เป็นบวั คว่า บวั หงายอกี แบบหน่ึงซ่งึ ทาเป็นเสน้ บวั ขนานกนั ไป ตามส่วนโค้งของบวั คล้ายกระจงั
รวนจงึ อ่อนชอ้ ยไม่แขง็ กระดา้ งเหมอื นบวั ธรรมดา
บญุ มา แฉ่งฉายา (2533 : 75 – 83) กลา่ วเกย่ี วกบั “ลายบวั ” วา่ เป็นลายทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยกลบี ดอกบวั
ดอกบวั ทเ่ี ป็นบ่อเกดิ ของลวดลายไทยนนั้ โดยมากจะใชร้ ปู ดอกบวั 3 ชนิด ชนดิ แรกคอื
1. บวั สตั ตบงกช เป็นบ่อเกดิ ของลวดลายบวั กนก
2. บวั สตั บตุ ร เป็นบอ่ เกดิ ของลวดลายกรวยเชงิ
3. ดอกบวั หลวง เมอ่ื นาดอกบวั หลวงมาผ่าซกี ตรงกลางจะเหน็ สว่ นโคง้ เวา้ คลา้ ยชายมุมฉากหรอื
ชายธงเป็นบ่อเกดิ ของกระหนกนารี หรอื กนกหางกนิ นร
“ลายบวั ” จะมลี กั ษณะต่อเน่ืองกนั ไปตามแนวนอน ลายกลบี บวั น้ียงั สามารถแบ่งลายละเอยี ดภายในได้
อกี เช่น นาเอาลายของตวั กระจงั เขา้ มาใส่ในทรงกลบี บวั ก็ได้ ผูอ้ อกแบบต่างกด็ ดั แปลงทงั้ ส่วนละเอยี ดภายใน
และรปู ทรงไปบา้ ง จงึ มชี ่อื เรยี กเฉพาะไปแต่ละแบบๆ โอกาสทจ่ี ะใชล้ ายบวั นนั้ ส่วนใหญ่จะใชเ้ ป็นลายประกอบ
ฐาน เช่น ใช้เป็นลายประดบั ท่ชี นั้ บวั หงาย หรอื ชนั้ บวั คว่า และบางชนิดกใ็ ชเ้ ป็นบวั หวั เสา เช่น บวั กลบี ขนุน
และบวั กาบปลี เป็นตน้ กล่าวคอื ลายกลบี บวั มกั ใชใ้ นองคป์ ระกอบทาง ศาสนศลิ ป์ เชน่ ใชเ้ ป็นทร่ี องรบั พระพุทธ
ปฏิมากร และเคร่อื งราชูปโภคโดยเฉพาะ ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมไทยก็มมี ากดงั เหน็ ได้จากโบสถ์ วหิ าร
เจดยี ์ ไดม้ ลี ายบวั ประดบั ตกแต่งอยา่ งงดงาม
125
ใบความรู้ หน้า
3
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรือ่ ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
พระเทวาภนิ ิมมติ (2537 : ไม่ปรากฏเลขหน้า) กล่าวว่า รูปดอกบวั เป็นบ่อเกดิ แห่งลายไดม้ ากกว่าอย่าง
อ่นื ลายบวั ซ่ึงได้มาจากกลีบหรอื ดอกบวั หลวงมหี ลายลกั ษณะ เป็นพนั ธ์ไม้ท่นี ิยมใช้รูปดอกเป็นสญั ลกั ษณ์ใน
ศาสนาพทุ ธและพราหมณ์ รปู ทรงของดอกบวั เป็นตน้ เคา้ หรอื บอ่ เกดิ ของลายไทย โดยใชเ้ สน้ รอบนอกอนั ออ่ นโคง้
ซ่งึ ถอื ว่างาม นามาสร้างรูปต่างๆ ไม่ว่าจะปรากฏรูปร่างท่เี ด่นชดั ของกลีบบวั หรอื ไม่ก็ตาม บวั จงึ เป็นลวดลาย
สาคญั ยง่ิ ในการเขยี นภาพ ปัน้ สลกั และสง่ิ กอ่ สรา้ ง ปรากฏเป็นชอ่ื ลายอยทู่ วั่ ไป
ลายบวั คว่า บวั หงาย บวั รวน ซง่ึ ประดษิ ฐม์ าจากกลบี ดอกบวั และใบเทศ
ลายบวั กลุ่ม อย่ทู รงเคร่อื งยอด กลมหรอื แปดเหลย่ี ม หรอื อย่ใู นฐานสเ่ี หลย่ี มย่อมุมไม้ 12 (คอื ย่อ
มุมละ 3)
ลายบวั กลบี ขนุน ซง่ึ ใชเ้ ป็นกลบี ยอดปรางคห์ รอื ชนิดซอ้ นซง่ึ ใชเ้ ป็นลายเสาและกลบี พาน
ลายบวั จงกล สว่ นมากใชเ้ ป็นบวั ปลายเสาและกลบี พาน
ลายบวั กาบปลี ใชต้ อนชนั้ ปลี เคร่อื งยอดมณฑป
ลายบวั แวงหรอื บวั เกสร ใชเ้ ป็นลายฐานชนั้ เชงิ บาท
ลายบวั กระจบั หรอื บวั คอเสอื สว่ นมากใชใ้ ตฐ้ านบลั ลงั กเ์ ครอ่ื งยอด
ลายบวั กระจาด ใชใ้ นการทากระจาดบรรจุเครอ่ื งไทยธรรมหรอื เป็นกลบี ฉตั รเบญจรงค์
ลายบวั ฐานและบวั ปากปลงิ ประกอบอย่ใู นฐานต่างๆ ของชนั้ ยอด
ลายบวั หลงั เจยี ด สว่ นมากใชเ้ ป็นกาแพงวดั หรอื ตามพนกั และราวบนั ไดปนู
ลายบวั กระหนก ใชเ้ ป็นลายเชงิ ฝ้าหรอื สงิ่ อน่ื ใดไดม้ ากอย่าง
ลายบวั ฟันยกั ษ์ ใชเ้ ป็นลายหน้ากระดานหรอื ลวดลายขนาดใหญ่
ลายบวั ลกู แกว้ ใชใ้ นชนั้ ลูกแกว้ ของยอดหรอื ฐานชนั้ ต่างๆ
ลายบวั ถลาหรอื บวั คว่า น่าจะเป็นบวั ระฆงั องคพ์ ระเจดยี ์
ลายบวั กลบี บายศรี เป็นบวั เลยี นแบบมาจากการเยบ็ บายศรี
ดงั ภาพประกอบท่ี 6-1
126 หน้า
4
ใบความรู้
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรื่อง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ลายบวั จงกล ลายบวั กาบปลี ลายบวั คอเสอ้ื
ลายบวั กลมุ่ หรอื บวั ฐานกล่มุ หรอื บวั กล่มุ เคร่อื งยอด
ลายบวั ฟันยกั ษ์
ภาพท่ี 6-1 ลายบวั
ทม่ี า : บญุ มา แฉ่งฉายา. (2533). ศลิ ปะลายไทย : 76 – 83.
127
ใบความรู้ หน้า
5
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรื่อง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
บวั หงาย และ บวั ควา่
ลายบวั ควา่ บวั หงาย
รปู ร่างลกั ษณะลวดลายคลา้ ยกลบี บวั หรอื ดอกบวั ซง่ึ ช่างแต่ละสมยั ไดน้ ากลบี บวั น้ี มาประดษิ ฐเ์ ป็นลวดลาย
และนิยมใชก้ นั แพร่หลายลกั ษณะลายบวั คว่า ยอดกลบี บวั จะคว่าชล้ี ง สว่ นบวั ลายหงาย ลกั ษณะยอดกลบี บวั จะ
หงายขน้ึ รปู ทรงของลวดลาย อย่ใู นสามเหลย่ี มยอดแหลม มมุ ทฐ่ี านสองมุมจะโคง้ เท่ากนั มาจดฐานทจ่ี ะประดบั
ขา้ ง จะบากขอบกลบี ทงั้ สองขา้ ง ตวั ลายนูนหนาทงั้ สองขา้ งตวั ลายนูนหนาตรงกลางจะค่อย ๆ บางเรยี วไปทาง
ขอบลาย ทาใหเ้ หน็ ปรมิ าตรรายละเอยี ด ภายในลาย ช่างจะเดนิ เสน้ เหมอื นขอบลายดา้ นนอก อกี ชนั้ หน่ึง หรอื
สองชนั้ ตามขนาดทน่ี าไปใช้ เช่น ถา้ เป็นลายบวั คว่าบวั หงาย ทข่ี นาดโต อาจจะทาสามชนั้ จะมคี วามหนาของ
ปนู ลดหลนั่ จากชนั้ ในสุด ถงึ ชนั้ นอกบางทส่ี ุด เม่อื นาไปประดบั สถาปัตยกรรม ลายบวั คว่าจะเรยี บเป็นลาย ให้
ยอดคว่าลงเรยี ง ตามความยาวของหน้ากระดาน และจะอย่สู ว่ นลา่ งของลาย บวั หงาย
ลายบวั หงายจะจดั ประดบั เอายอดกลบี ลาย ตงั้ เรยี งตดิ ต่อเช่นเดยี วกนั ช่องว่างระหว่างยอดกลบี ลาย ช่างจะ
แกป้ ัญหาช่องว่าง โดยการทาเป็นกลบี แทรก หรอื กลบี ดอกเลก็ ๆ เพมิ่ ขน้ึ การนาไปประดบั มกั จะใชป้ ระดบั ใน
สว่ นฐานของ สถาปัตยกรรม เชน่ ฐานโบสถ์ ฐานซมุ้ ประตูโบสถ์ และฐานซมุ้ ประตวู ดั หรอื ฐานของจวั่ ตา่ งๆ ลาย
บวั คว่าบวั หงายน้ี มลี กั ษณะเช่นเดยี วกนั กบั ลายกระจงั ตาออ้ ย เพราะลายกระจงั ตาออ้ ย ถ้านามาปิดใหย้ อดตงั้
เรยี กว่า “บวั หงาย” และถ้าใช้บิดให้ยอดลง เรยี กว่า “บวั คว่า” และถ้าประดิษฐ์ให้ยอดเอน เรยี กว่า “บวั รวน”
(ชานาญ เสกบรรจง 2540:38)
อทิ ธพิ ลจากการใชล้ ายบวั แบบต่าง ๆ น้ีช่างลวดลายในอสิ าน กน็ ามาประดษิ ฐ์ตกแต่งสถาปัตยกรรม
ทางศาสนา โดยประดิษฐ์เป็น กลบี บวั ยาว สนั กลีบนูน ปลายกลบี โค้งเป็นจวั่ แหลม สะบดั ปลายงอโค้งออก
เลก็ น้อยเพอ่ื รบั กบั ข่อื หรอื คานดา้ นบน ลกั ษณะคลา้ ยลายกาบพรหมศร แต่หวั กลบี เลก็ กว่า ภายในตวั ลายสอด
ไส้ เป็นกลบี เลก็ หน่งึ ชนั้ ขนานกบั ขอบดา้ นนอก แนวกลางลายดา้ นตงั้ เป็นสนั นูนลาดลงไปทงั้ สองขา้ ง ขอบลาย
บากเป็นกลบี เลก็ ดว้ ยเสน้ ลกึ ลงไปจนถงึ ปลายจวั่ ยอด สว่ นฐานลายประดษิ ฐเ์ ป็นกลบี บวั สนั้ หรอื คลา้ ยกระจงั ตา
ออ้ ยปิดฐานลาย และสอดไสภ้ ายในหน่ึงขนั้ พรอ้ มบากขอบกลบี ทงั้ ชนั้ นอกและชนั้ นอกชนั้ ใน กลางสนั กลบี มี
ลกั ษณะนูน
128
ใบความรู้ หน้า
6
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรื่อง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
บวั หงายและบวั คว่า ประกอบดว้ ยกระจงั ตาออ้ ย หรอื กระจงั ใบเทศ ใชเ้ ขยี นต่อกนั ไปทงั้ ซ้ายและขวา
จนถงึ ทเ่ี ราตอ้ งการ แลว้ ใชก้ ระจงั ใบเทศ ใชเ้ ขยี นต่อกนั ไปทงั้ ซ้ายและขวา จนถงึ ทเ่ี ราต้องการ แลว้ ใชก้ ระจงั
ครงั้ ตวั หา้ มทงั้ สองขา้ ง ระหวา่ งตวั ทว่ี า่ งใชก้ ระจงั แทรก ตวั แทรกน้คี อื ตวั กระจงั นนั้ เอง เอาเฉพาะตอนยอดของ
กระจงั มาใส่ถ้าเป็นลายยงั ขนาดโตกใ็ ช้ตวั แทรกขน้ึ ไปเป้นลากบั ลายบวั หงาย-บวั คว่า เป็นชายช่วยประกอบ
ลายอ่นื ๆ ไม่มใี ช้เฉพาะตวั ของมนั เอง หมายเลข 1 บวั หงาย หมายเลข 2 บงั คว่า ดงั ภาพประกอบท่ี 6-2
ทม่ี า: พ.พรหมพจิ ติ ร ,พุทธศลิ ปสถาปัตยกรรม ภาคตน้ ,พระนคร : โรงพมิ พพ์ ระจนั ทร,์ 2495.หน้า59.
1 บวั หงาย
2 บวั ควา่
ภาพท่ี 6-2 ลายบวั คว่าบวั หงาย
129
ใบความรู้ หน้า
7
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรื่อง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
บวั ปากฐาน บวั ถลา
"บัว" เป็นรูปแบบศิลปะไทย ท่ีช่างศิลป์ เกือบทุกแขนงนามาใช้ในการตกแต่งอาคารต่างๆ โดย
รูปแบบไดร้ บั แรงบนั ดาลใจมาจากบวั หลวงในธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในงานตกแต่งสถาปัตยกรรมไทย
พบวา่ มกี ารเรยี กชอ่ื "บวั " นาหน้าหรอื ต่อทา้ ย อาจเป็นเพราะช้นิ สว่ นเหล่านนั้ มเี สน้ ขอบนอกของชน้ิ สว่ นเป็นรปู
วงโคง้ เหมอื นกลบี ดอกบวั เช่น บวั หวั เสา บวั คอเสอ้ื ฐานปัทย์ ฐานบวั คว่า ฐานบวั หงาย เป็นต้น ซง่ึ บางครงั้ มี
การตกแต่งใหม้ องเหน็ เป็นรูปลวดลายกลบี บวั โดยตรง ดงั นนั้ เม่อื กล่าวถงึ บวั ในงานตกแจ่งสถาปัตยกรรมไทย
ซง่ึ ถอื กนั ไดว้ ่าเป้นสว่ นประกอบสาคญั จนอาจกลายเป็นเอกลกั ษณ์ประจาชาตทิ น่ี กั ออกแบบจะตอ้ งศกึ ษาเรยี นรู้
และนาไปใช้ใหถ้ ูกต้อง ไม่ว่าจะใช้ในเชิงอนุรกั ษ์ หรอื ดดั แปลงแบบร่วมสมยั ก็จาเป็นต้องศกึ ษารูปแบบและ
วธิ กี ารใช้ วธิ กี ารเขยี น เพ่อื จะนาไปสู่การออกแบบทถ่ี ูกตอ้ งสวยงามต่อไป บวั ปากฐาน คอื ช่อื เรยี กอกี อย่าง
ของบวั หงาย คอื บวั ทซ่ี ้อนกนั ไม่มบี วั คว่า บวั ถลา คอื ช่อื เรยี กอกี อย่างของบวั คว่า ท่มี สี ่วนทล่ี ดมากกกว่า
ปกติ ดงั ภาพประกอบท่ี 6-3
ลายบวั ปากฐาน
บวั ถลา
ภาพท่ี 6-3 ลายบวั ปากฐาน บวั ถลา
130
ใบความรู้ หน้า
8
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่ือง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ชื่อและหน้าที่วสั ดอุ ปุ กรณ์ในงานเขียนลายบวั ควา่ บวั หงาย บวั ปากฐาน
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ชนิด HB
- ใชส้ าหรบั รา่ งลายเขยี นเสน้ ทต่ี อ้ งการ
ยางลบ
- ใชส้ าหรบั ลบเสน้ ดนิ สอทไ่ี มต่ อ้ งการ
ไมบ้ รรทดั
- ใชส้ าหรบั วดั ขนาดรปู ร่าง -รปู ทรงเหลย่ี ม
กระดาษขนาด A4หรอื กระดาษอารต์ ชนดิ เน้อื ละเอยี ด
เป็นมนั ขนาด 80-100 แกรม
- ใชส้ าหรบั เขยี นลายไทยดว้ ยดนิ สอ
ทเ่ี หลาดนิ สอ
- ใชส้ าหรบั เหลาดนิ สอใหไ้ สด้ นิ สอมคี วามแหลม
กระดาษชาระ
- ใชส้ าหรบั เชด็ ผงดนิ สอทต่ี ดิ ตามอปุ กรณ์
131
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
9
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผน่ ท่ี : 1
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่ือง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการ
ปฏิบตั ิงาน
1. 1.1 บอกชอ่ื และหน้าทอ่ี ปุ กรณ์การ
เขยี นลาย
2. 2.1 กาหนดขนาดรปู ทรงโครงสรา้ ง
ลายตวั ลายบวั หงาย
132
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
10
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 2
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรอ่ื ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการ
ปฏิบตั ิงาน
3. 3.1 กานดขนาดการแบ่งกลบี ลายบวั
หงาย
4. 4.1 ร่างเสน้ กลบี ลายบวั หงายตาม
แบบการเขยี นเสน้ โครงสรา้ ง
133
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
11
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 3
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่อื ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขนั้ ตอนการ
ปฏิบตั ิงาน
5. 5.1รา่ งรายละเอยี ดตวั ลายใหค้ รบ
ตามพน้ื ทก่ี ารเขยี นลายบวั หงาย
6. 6.1ลงนาหนกั เสน้ ใหเ้ ขม้ ตามรปู แบบ
การเขยี นลายบวั หงาย
134
ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน หน้า
12
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย แผ่นท่ี : 4
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรื่อง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ข้อควรระวงั การปฏิบตั ิงาน คาอธิบายขอ้ ควรระวงั การ
ปฏิบตั ิงาน
1. 1.1 การแบง่ ความสงู ของกลบี ซอ้ น
ลายบวั หงายควรมคี วามสงู
เทา่ กนั
2. 2.1 การแบง่ ระยะในแต่ละกลบี ลาย
ตอ้ งมรี ะยะเท่ากนั
135
ใบงาน หน่วยท่ี 6
สอนครงั้ ท่ี 6
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่อื ง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
1. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1.1 จดั เตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน ได้
1.2 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. สมรรถนะ
2.1 มที กั ษะการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
2.2 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐานได้
3. เคร่อื งมือ วสั ดุ และอุปกรณ์
ดนิ สอกดหรอื ดนิ สอดา ยางลบ ไมบ้ รรทดั กระดาษขนาด A4 ทเ่ี หลาดนิ สอ กระดาษชาระ
4. การประเมินผล
ผลงานการเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 60
5. เอกสารอ้างอิง/เอกสารค้นคว้าเพ่ิมเติม
ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539). ลายไทย ภาพไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2 กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
ภญิ โญ สวุ รรณครี .ี (2546). ลายไทย. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
โพธิ์ ใจออ่ นน้อม. (2522). คมู่ อื ลายไทย. โรงพมิ พธ์ นาคารออมสนิ .
พระเทวาภนิ ิมมติ . (2530). สมดุ ตาราลายไทย. โรงพมิ พค์ ุรุสภา.
สนั ติ เลก็ สขุ มุ . (2539). กระหนกในดนิ แดนไทย. สานกั พมิ พม์ ตชิ น.
136
ใบงาน หน่วยท่ี 6
งานครงั้ ท่ี 1
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่ือง : การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
6. การมอบหมายงาน
คาสงั่ ที่ 1 ให้นักเรียนเขียนลายบวั หงาย 1 แบบ ความสูง 3.8 เซนติเมตร ความกว้าง 14 เซนติเมตร และเขียน
ลายบวั ควา่ 1 แบบ ความสงู 3.8เซนติเมตร ความกวา้ ง 14 เซนติเมตร คะแนนเตม็ 100 คะแนน
ลายบวั หงาย
ลายบวั ควา่
137
7. เกณฑ์การประเมินผลงาน
แบบประเมินผลงานนักเรียน
ช่ือนักเรียน……………………………………………………………….เลขท่ี…………………
ระดบั ชนั้ ปวช.2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง
วิชา การเขยี นลวดลายไทย เร่อื ง การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน
ผลการประเมิน
ระดบั คะแนน
ข้อ จดุ ประเมินคณุ ภาพผลงาน ีดเ ่ียยม
การเขียนลายบวั ควา่ บวั หงาย ีดมาก
ีด
พอใ ้ช
ปรับปรุง
คะแนนรวม
่ผาน เกณท์ประเ ิมน
ไม่ ่ผาน
54321
1 การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 )
2 การร่างสดั สว่ นรปู ทรง ( X2 )
3 ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 )
4 ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 )
5 การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ( X6 )
6 จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย( X2 )
7 ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย( X2 )
ผลคะแนนรวม
หมายเหตุ ( X2 ) = จานวนคณู ค่าระดบั คะแนนกบั ค่าคะแนนเกณฑป์ ระเมนิ เช่น X2 ค่าคะแนน 5 = 10 คะแนน
ลาดบั ที่
138
1. การเตรยี มอปุ กรณ์การเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานนักเรียน2. กการร่างสดั ส่วนรปู ทรง ( X2 ) 10 คะแนน
3. ความเหมาะสมของรปู ทรง ( X4 ) 20 คะแนน
วิชา การเขยี นลวดลายไทย เรอ่ื งการเรยี นท่ี 8 การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย บวั ปากฐาน4. ลายเสน้ มคี วามคมชดั ( X2 ) 10 คะแนน
ระดบั ชนั้ ปวช.2 สาขาวิชา ช่างทองหลวง กาญจนาภิเษกวิทยาลยั ช่างทองหลวง5. การเขยี นลายบวั คว่าบวั หงาย ( X6 ) 30 คะแนน
6. จานวนการเขยี นลายครบตามทม่ี อบหมาย ( X2 ) 10 คะแนน
จดุ ประเมินคณุ ภาพชิ้นงาน7. ความสะอาด ปราณีตในการเขยี นลาย ( X2 ) 10 คะแนน
ช่ือ นามสกลุ
ผรู้ บั การประเมิน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ผลรวมคะแนนค่าเฉลี่ยร้อยละของนักเรียนทงั้ หมด
(…………………………………………)
นานพีระยศ แก้วปัญญา
ผ้ปู ระเมิน
คะแนนรวม 110 คะแนน
คา่ เฉลี่ยร้อยละ
ผา่ น เกณท์ท่ีผ่านการประเมินค่าเฉลี่ยร้อยละ 65
ไมผ่ ่าน
139
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 2
สอนครงั้ ที่ 7
หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หน่วยกิต 1-4-3
รหสั วิชา 20315-2107 วิชา การเขียนลวดลายไทย ปฏบิ ตั ิ 4 ช.ม.
หน่วยการเรียนรู้ การเขียนลายประเภทลายบวั
เรอื่ งการเรยี นรู้ การเขียนลายบวั กลีบขนุน
ทฤษฎี 1 ชม.
1. สาระสาคญั
ความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การเขยี นลายบวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน และปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายบวั
หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน บวั ถลา การนาความรไู้ ปปรบั ประยุกต์ใช้ ในการออกแบบลวดลาย การเขยี นลาย
บวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน มขี นั้ ตอนวธิ กี ารเขยี นลายทแ่ี ตกต่างจากลายประเภทลายกนก การเขยี นกลุ่ม
แม่ลายประเภทลายบวั มกี ารแบ่งพน้ื ท่ี ขนาดทช่ี ดั เจน การเขยี นตวั ลายมกี ารแบ่งขนาด พน้ื ทเ่ี ท่ากนั การนา
ตวั ลายบวั หงาย บวั คว่า บวั ปากฐาน สามารถนาไปใชก้ บั งานช่างทองหลวง การออกแบบกลุ่มงานประเภท
ลายฐาน เช่นฐานปัฐ ฐานย่อมุม ฐานพระ ล้วนแล้วแต่ต้องนาความรู้ประเภทลายบวั ไปทาการออกแบ บ
ช้นิ งานทงั้ ส้นิ การเขา้ ใจในหลกั การ วธิ กี ารเขยี น การแบ่งตวั ลาย จงึ เป็นขนั้ ตอนพ้นื ฐานของการเขยี นการ
ออกแบบลวดลาย และการนาองคค์ วามรไู้ ปปรบั ประยุกตใ์ ช้
2. สมรถนะประจาหน่วย
2.1 สมรรถนะประจาหน่วย
2.1.1 สามารถแสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
2.1.2 สามารถปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
2.1.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ในการเขยี นลาย
2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย
2.2.1 สามารถอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2.2.2 สามารถปฏบิ ตั ขิ นั้ ตอนการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
2.2.3 ความละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
3.1.1 เพอ่ื ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
3.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะในการปฏบิ ตั งิ านเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
3.1.3 มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการดแู ลรกั ษา เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ในการเขยี นลาย
140
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1 ระบคุ วามหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายบวั กลบี ขนุน ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
3.2.2 บอกประเภทความหมายลายบวั กลบี ขนุน ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
และทาความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ความหมายลายบวั กลบี ขนุน
4.2 ลกั ษณะลายบวั กลบี ขนุน
4.3 หลกั การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 การนาเขา้ สู่บทเรยี น
5.1.1 ครผู สู้ อนแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอนและวธิ กี ารประเมนิ ผล
5.1.2 ครผู สู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นซกั ถามความรเู้ ดมิ หรอื ปพู น้ื ฐานความรู้ลายบวั กลบี ขนุน
5.1.3 ครูเปิด Power Point อธิบายความหมายของลายบัวกลีบขนุน และความสัมพันธ์ ความ
เก่ียวเน่ืองการนาลายบวั กลีบขนุน ไปออกแบบลวดลายไทยในรูปแบบลวดลายชนิดอ่นื และสอดแทรก
คณุ ธรรมการมพี ฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงต่อเวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม
5.2 การเรียนรู้
5.2.1 ครูเปิด Power Point เร่อื งความหมายความเป็นมาของลายบวั กลบี ขนุน ครูผู้สอนบรรยาย
ดาเนินการสอนหรอื ประกอบกจิ กรรมการเรยี นโดยทน่ี าเสนอรูปภาพฉายประกอบ
5.2.2 ครูนารูปภาพลายบัวกลีบขนุน และลายท่ีเก่ียวเน่ืองกบั ลายบัวกลีบขนุน มาประกอบการ
อธบิ าย
1) ครูถาม-ตอบกับนักเรียน โดยครูยกตัวอย่างรูปภาพลายบัวกลีบขนุน แล้วถาม-ตอบ
เกย่ี วกบั ความหมายความเป็นมาของลายบวั กลบี ขนุน บวั กล่มุ กบั การนาไปใช้
2) การออกแบบลวดลายไทยลายบวั กลบี ขนุน มสี ว่ นสาคญั ต่อการเขยี นลายไทยดา้ นใดบา้ ง
3) ขอ้ สงั เกตการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน มหี ลกั การสงั เกตอะไรบา้ ง
5.2.3 ครนู กั เรยี นชว่ ยกนั สรุปความหมายความเป็นมาของลายบวั กลบี ขนุน
5.2.4 ครใู หน้ กั ศกึ ษาทาใบงานท่ี 1 เร่อื งความสาคญั ความเป็นมาลายบวั กลบี ขนุน มดี า้ นใดบา้ ง โดย
ใหน้ กั เรยี นเขยี นลงในสมุดบนั ทกึ ความรขู้ องตนเอง
5.2.5 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกทกั ษะการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน ตามใบงาน
5.2.6 ครเู รยี กตรวจการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน เป็นรายบคุ คลพรอ้ มชจ้ี ดุ แกไ้ ขเป็นรายบุคคล
5.2.7 ครใู หน้ กั เรยี นฝึกเขยี นลายบวั กลบี ขนุนต่อ จนครบจานวนการฝึกเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
141
5.3 การสรปุ
5.3.1 ครสู มุ่ นกั เรยี นเลา่ ความรเู้ ก่ยี วกบั ลายบวั กลบี ขนุน ความสาคญั ดา้ นใดบา้ ง
5.3.2 ครสู รุปเรอ่ื งความหมายและเป็นมาของลายบวั กลบี ขนุน
5.3.3 ครสู รุปหลกั การสงั เกตการณ์เขยี นลายบวั กลบี ขนุน ตามหลกั การความงามดา้ นลวดลาย
ศลิ ปะไทย
5.4 การวดั และประเมินผล
5.4.1 เคร่อื งมอื ประเมนิ
5.4.2 แบบประเมนิ ผลพฤตกิ รรม
5.4.3 แบบทดสอบความรู้
5.4.4 แบบประเมนิ ผลงาน
6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้
6.1 สื่อโสตทศั น์
6.1.1 คลปิ วดิ โี อ การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์
6.2.1 คอมพวิ เตอร์
6.2.2 โทรศพั ท์มอื ถอื สมารท์ โฟน
6.2.3 แทบ็ เลต็
6.3 ส่ือสิ่งพิมพ์
6.3.1 หนงั สอื ลายไทย ภาพไทย. ปฏพิ ทั ธ์ ดาระดาษ. (2539).
6.3.2 หนงั สอื ลายไทย. ภญิ โญ สุวรรณครี .ี (2546).
6.4 ส่ือบทเรียนอิเลก็ ทรอนิกส์
6.4.1 ใบความรู้ ลายบวั กลบี ขนุน
6.4.2 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
6.4.3 Power Point
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
7.1.1 แผนการจดั การเรยี นรู้
7.1.2 ใบความรู้
7.1.3 ใบลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
7.1.4 บนั ทกึ หลงั การสอน
7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
7.2.1 ใบงาน
142
7.2.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน
8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
8.1 เครอ่ื งมือการประเมิน
8.1.1 กอ่ นเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล การสมั ภาษณ์ การอภปิ ราย
เครอ่ื งมอื วดั คาตอบจากการสมั ภาษณ์ แนวคดิ จากการอภปิ ราย
8.1.2 ระหวา่ งเรยี นรู้
วธิ กี ารวดั ผล ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ิ
เคร่อื งมอื วดั การสงั เกตกุ ารปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น
8.1.3 หลงั เรยี น
วธิ กี ารวดั ผล ผลงานการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
8.2 เกณฑก์ ารประเมิน
8.2.1 เกณฑป์ ระเมนิ พฤตกิ รรมผเู้ รยี นผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ตามขนั้ ตอนปฏบิ ตั งิ านการเขยี นลายบวั
กลบี ขนุน
8.2.2 แบบทดสอบความรู้ผลการประเมนิ ผ่านด้านรู้ความเขา้ ใจต่อหลักการเขยี นลายบวั กลีบ
ขนุน
8.2.3 เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ 60
143
9. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้
ด้านผ้สู อน
การจดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ online off line
สอนไดค้ รบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้
สอนไดไ้ ม่ครบตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ยงั ขาดหวั ขอ้ ดงั น้ี
แนวทางการแกป้ ัญหาการสอนไม่ครบหวั ขอ้ ตามแผน
ด้านความพร้อมและผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น
จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด คน จานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ เรยี น คน
จานวนนกั เรยี นทข่ี าดเรยี น คน
เกณฑท์ แ่ี นะนา คดิ เป็นรอ้ ยละ ดมี าก(80-100) ดี (70-79) พอใช้ (60-69) ตอ้ งปรบั ปรงุ (ต่ากวา่ 60)
1 การตรงต่อเวลา ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
2 การแต่งกาย, การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
3 ความพรอ้ ม, ความตงั้ ใจในการเรยี น ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
4 มคี วามรบั ผดิ ชอบงานทม่ี อบหมาย ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
5 มคี วามรู้ ความสามารถ ตรงวตั ถปุ ระสงค์ ดมี าก ดี พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
อ่นื ๆ
9.2 ปัญหา อปุ สรรค
9.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
ลงชอ่ื ผสู้ อน ลงช่อื หวั หน้าสาขาวชิ า
( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา ) ( นายพรี ะยศ แกว้ ปัญญา)
ลงช่อื
(นายพรอนนั ต์ ภกั ดบี ญุ )
ผอู้ านวยการกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั ชา่ งทองหลวง
หมายเหตุ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแกป้ ัญหา ผสู้ อนนาไปพฒั นา ในรปู แบบของวจิ ยั ชนั้ เรยี น หรอื พฒั นาการจดั การเรยี นรใู้ นครงั้ ตอ่ ไป
144
ใบความรู้ หน้า
1
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่ือง : การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1.1.1 เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายบวั กลบี ขนุน
1.1.2 เพอ่ื ใหม้ ที กั ษะการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
1.1.3 เพอ่ื ใหก้ จิ นิสยั มคี วามรอบคอบและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผอู้ น่ื
1.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1.2.1 ระบคุ วามหมายความเป็นมาเกย่ี วกบั ลกั ษณะลายบวั กลบี ขนุนอย่างถกู ตอ้ ง
1.2.2 บอกประเภทความหมายลายลายบวั กลบี ขนุนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
1.2.3 แสดงขนั้ ตอนการเขยี นลายบวั กลบี ขนุนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
1.2.4 ผเู้ รยี นแสดงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการเขา้ เรยี น ตรงตอ่ เวลา ซกั ถามขอ้ สงสยั ตามความเหมาะสม และทา
ความสะอาดหอ้ งเรยี นตามขอ้ ตกลง
2. สมรรถนะ
2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจความหมายลายบวั กลบี ขนุน
2.2 มที กั ษะการเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
2.3 แกป้ ัญหาจากการเขยี นลายบวั กลบี ขนุนได้
3. เนื้อหาสาระ (ใบความร)ู้
145
ใบความรู้ หน้า
2
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรยี นรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรอ่ื ง : การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
เรื่องการเรียนร้ทู ่ี 7 การเขียนลายบวั ลูกแก้ว (สปั ดาหท์ ี่ 7 )
บวั กลบี ขนุน คอื ชอ่ื เรยี กอกี อยา่ งของบวั แวงทม่ี กี ารแบง่ กลบี หลายๆกลบี คลา้ ยชงั ขนุนในธรรมชาติ
ลายบวั กลบี ขนุนทป่ี ระดบั สถาปัตยกรรม ดงั ภาพประกอบท่ี 7-1 ถงึ 7-3
ภาพท่ี 7-1 บวั กลบี ขนุนทป่ี ระดบั บนเชงิ บาตรของปรางคย์ คุ แรกทอ่ี ยุธยา
ทม่ี า : วรณยั พงศาชลากร. (2560). ปราสาทเขมร สู่ ความเป็นปรางคไ์ ทย 2 : ออนไลน์.
146 หน้า
3
ใบความรู้
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เร่ือง : การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
ภาพท่ี 7-2 บวั กลบี ขนุนทป่ี ระดบั บนเชงิ บาตร
ทม่ี า : วรณยั พงศาชลากร. (2560). ปราสาทเขมร สู่ ความเป็นปรางคไ์ ทย 2 : ออนไลน์.
ภาพท่ี 7-3 แบบพานและพาน
147 หน้า
4
ใบความรู้
วิชา : การเขยี นลวดลายไทย
หน่วยการเรียนรู้ : การเขยี นลายประเภทลายบวั
เรอ่ื ง : การเขยี นลายบวั กลบี ขนุน
ลวดลายประดับพระโกศ
ดงั ภาพประกอบท่ี 7-4 ถงึ 7-6
ภาพท่ี 7-4 รปู แบบลวดลายบวั กลบี ขนุน ชนั้ องคพ์ ระโกศทองใหญ่ (รชั กาลท่ี 1)