250 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
2.7
5 วัฒนธรรมเพอื่ มงุ่ เน้นการสร้างนวตั กรรม ระดับ 5 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ
(นำ้� หนกั ร้อยละ 5) /หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล
5.1 การสรา้ งวฒั นธรรมเพือ่ ม่งุ เนน้ นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กร และปรับปรุงและ
(น้�ำหนกั รอ้ ยละ 2.5) พัฒนาระบบงานและ/หรือกระบวนการย่อย เพ่ือ
ระดับ 1 การประเมนิ ช่องวา่ งเพ่ือการพฒั นา (Gap Analysis) เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ านใหม้ ผี ลสำ� เรจ็ ทดี่ กี วา่
เป้าหมาย ดีกว่าปีที่ผ่านมา และดีกว่าปีที่ผ่านมา
และจัดท�ำ/ทบทวนแผนการเสริมสร้างวัฒนธรรม อย่างนอ้ ย 3 ปตี ดิ ตอ่ กัน
ระยะยาวและประจ�ำปี ท่ีมุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์
และนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม น�ำเสนอให้ หมายเหตุ :
คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณาให้ความเห็นชอบ • การถ่ายทอดแผนเสริมสร้างวัฒนธรรมแก่ผู้มีส่วนได้
ก่อนน�ำไปปฏบิ ตั ิจริงทั่วทงั้ องคก์ ร ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรประจ�ำปี ก�ำหนด
ระดับ 2 แผนเสริมสร้างวัฒนธรรมระยะยาวและประจ�ำปี ครอบคลุมตามท่ีระบุในด้านท่ี 4 : การมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้
ควรประกอบด้วยกิจกรรมส�ำคญั ได้แก่ สว่ นเสียและลูกค้า
• การสร้างบรรยากาศในการท�ำงาน การสร้าง
ความรว่ มมอื ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจดั การนวตั กรรม
รว่ มกบั Stakeholders ภายนอก
• การทบทวน/ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งองคก์ รหรอื โครงสรา้ ง
การท�ำงาน ให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างสายงาน/
ฝ่ายงาน
• การให้ค่าตอบแทน รางวัล ยกย่องชมเชย และ
ให้แรงจูงใจแก่บุคลากรที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและ
เกดิ ผลกระทบเชงิ บวกกบั องค์กร
ระดับ 3 รัฐวิสาหกิจถ่ายทอดแผนเสริมสร้างวัฒนธรรม
แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประจ�ำปีแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งภายในและภายนอกองคก์ รอยา่ งครบถว้ น
ระดับ 4 รฐั วสิ าหกจิ ดำ� เนนิ การไดต้ ามแผนเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรม
ครบถ้วนร้อยละ 100 และ ด�ำเนินการบรรลุได้
ตามเป้าหมายของแผนเสริมสร้างวัฒนธรรมประจ�ำปี
ครบถว้ นรอ้ ยละ 100
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วิสาหกิจ 251
2.7
5.2 การยกระดับความรูค้ วามสามารถด้านนวตั กรรม (น�ำ้ หนกั รอ้ ยละ 2.5)
ระดับ 1 การประเมินช่องว่างความรู้ความสามารถและศักยภาพการใช้
ความคิดสร้างสรรค์ และมุ่งเน้นนวัตกรรมของบุคลากรภายในองค์กร
(Gap Analysis) เพ่ือจัดท�ำ/ทบทวนแผนยกระดับและพัฒนาความรู้
ความสามารถและศกั ยภาพการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ และจดั การนวตั กรรม
องค์กรระยะยาวและประจ�ำปีน�ำเสนอให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ
พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ กอ่ นนำ� ไปปฏิบตั จิ รงิ ทั่วท้งั องค์กร
ระดบั 2 รัฐวิสาหกิจถ่ายทอดแผนยกระดับและพัฒนาความรู้ความสามารถและ
ศักยภาพการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และจัดการนวัตกรรมองค์กรประจ�ำปี
แก่ผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ทั้งภายในและภายนอกองคก์ รอย่างครบถ้วน
ระดบั 3 รฐั วสิ าหกจิ ดำ� เนนิ การตามแผนยกระดบั และพฒั นาความรคู้ วามสามารถและ
ศกั ยภาพการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ และจดั การนวตั กรรมองคก์ ร ไดค้ รบถว้ น
ร้อยละ 100 และบรรลุตามเป้าหมายของแผนยกระดับและพัฒนาความรู้
ความสามารถและศกั ยภาพการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ และจดั การนวตั กรรม
องค์กรประจ�ำปไี ดค้ รบถว้ นรอ้ ยละ 100
ระดับ 4 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ/หรือกระบวนการย่อย
จดั เก็บในระบบฐานขอ้ มลู เทคโนโลยดี ิจิทัลขององคก์ ร
ระดบั 5 รัฐวิสาหกิจปรับปรุงและพัฒนาระบบงานและ/หรือกระบวนการย่อย
เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้มีผลส�ำเร็จที่ดีกว่าเป้าหมาย
และดกี วา่ ปที ่ผี า่ นมา
หมายเหตุ :
• ถ่ายทอดแผนยกระดับและพัฒนาความรู้ความสามารถและศักยภาพการใช้
ความคิดสร้างสรรค์ และจัดการนวัตกรรมองค์กรประจ�ำปีแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทัง้ ภายในและภายนอกองค์กร กำ� หนดครอบคลมุ ตามทร่ี ะบใุ นด้านท่ี 4 : การมุ่งเนน้
ผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสียและลกู ค้า
252 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ
6 กระบวนการนวัตกรรม (น�ำ้ หนักร้อยละ 10)
6.1 ภาพรวมกระบวนการนวตั กรรม (น�้ำหนักรอ้ ยละ 2) ภายนอก ได้แก่ ลูกค้า ผู้ส่งมอบ คู่ค้า/คู่ความร่วมมือ
ระดับ 1 การออกแบบ กำ� หนด จดั ใหม้ กี ระบวนการนวตั กรรม แ ล ะ ผู ้ มี ส ่ ว น ไ ด ้ ส ่ ว น เ สี ย ส� ำ คั ญ อ่ื น ท่ี เ ก่ี ย ว ข ้ อ ง
2.7 ขององค์กรในภาพรวมอย่างเป็นระบบครบถ้วน ทุกกลุ่ม จัดเก็บในระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นฐาน
4 กระบวนการสำ� คญั ข้อมูลกลางขององค์กร และก�ำหนดตัววัด/เป้าหมาย
ระดบั 2 การออกแบบ กำ� หนด จดั ใหม้ กี ระบวนการนวตั กรรม ของกระบวนการ (In-Process Measure) โดย
ขององค์กรในภาพรวมอย่างเป็นระบบครบถ้วน ข้อมูลการวิเคราะห์ VOC และ VOS ท้ังภายใน
5 กระบวนการสำ� คญั และภายนอกองค์กรอย่างครบถ้วน
ระดบั 3 การออกแบบ กำ� หนด จดั ใหม้ กี ระบวนการนวตั กรรม ระดับ 2 รฐั วสิ าหกจิ มกี ระบวนการวเิ คราะห์ คดั เลอื กความคดิ
ขององค์กรในภาพรวมอย่างเป็นระบบครบถ้วน สร้างสรรคท์ ่ีเปน็ ประโยชน์ อยา่ งน้อยประกอบดว้ ย
6 กระบวนการสำ� คัญ 1) การก�ำหนดกรอบ/เกณฑ์การวิเคราะห์และ
กระบวนการนวตั กรรมขององคก์ รในภาพรวม ประกอบ คดั กรองความคดิ สรา้ งสรรคท์ เี่ หมาะสม ซงึ่ สอดคลอ้ ง
ดว้ ย ตามความตอ้ งการขององคก์ ร ทง้ั ลกู คา้ และผมู้ สี ว่ นได้
1) กระบวนการบรหิ ารจัดการความรแู้ ละการจัดการ สว่ นเสียสำ� คญั ทง้ั ในปจั จุบนั และอนาคต
เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพอื่ สนบั สนนุ การคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ 2) การทดสอบความเป็นไปได้และความคุ้มค่าของ
และการพัฒนานวัตกรรม ความคิดสรา้ งสรรคท์ ่เี ป็นประโยชน์
2) กระบวนการรวบรวมความคิดสร้างสรรค์ ระดบั 3 รัฐวิสาหกิจมีกระบวนการน�ำความคิดสร้างสรรค์ท่ี
3) กระบวนการวเิ คราะห์ คดั เลอื กความคดิ สรา้ งสรรค์ เป็นประโยชน์ไปสู่การพัฒนานวัตกรรม อย่างน้อย
ท่เี ปน็ ประโยชน์ โดยตอบสนองกับ VOC และ VOS ประกอบดว้ ย
อย่างครบถ้วน 1) กระบวนการทดลอง/วิจยั และพฒั นา
4) กระบวนการน�ำความคิดสร้างสรรค์ไปสู่ 2) กระบวนการนำ� ร่อง (Pilot) ตน้ แบบสู่การปฏิบตั ิ
การสรา้ งนวตั กรรม จรงิ หรือเพอื่ ออกส่ตู ลาดเชงิ พาณิชยต์ อ่ ไป
5) กระบวนการบรหิ ารจดั การทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา ระดับ 4 รฐั วสิ าหกจิ เกดิ ผลสำ� เรจ็ ในการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์
6) กระบวนการน�ำนวัตกรรมออกไปใช้ประโยชน์ ทีเ่ ป็นประโยชน์ ไปพัฒนานวัตกรรมจนท�ำให้เกิด
เชิงพาณชิ ย์และเชิงสงั คม 1) การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการปฏิบัติ
ระดบั 4 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ/ งานให้บรรลุข้อก�ำหนด และเป้าหมายของตัว
หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล ช้ีวัดในกระบวนการ (In-Process Measure) และ
เทคโนโลยดี ิจทิ ัลขององค์กร 2) เกิดนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ บริการ
ระดบั 5 รัฐวิสาหกิจปรับปรุงและพัฒนาระบบงานและ/หรือ การตลาด และรูปแบบการด�ำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่
กระบวนการยอ่ ย เพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน สามารถสรา้ งประโยชนเ์ ชงิ พาณชิ ยแ์ ละ/หรอื เชงิ สงั คม
ใหม้ ผี ลสำ� เร็จท่ีดกี วา่ เป้าหมาย และดกี วา่ ปีทผ่ี ่านมา แกร่ ัฐวสิ าหกจิ ได้ตามเป้าหมายทก่ี �ำหนด
ระดับ 5 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงาน
6.2 กระบวนการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคส์ กู่ ารสรา้ งนวตั กรรม และ/หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐาน
(น้�ำหนกั รอ้ ยละ 2) ข้อมูลเทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กร และปรับปรุง
ระดบั 1 รัฐวสิ าหกจิ มกี ระบวนการรวบรวมความคดิ สรา้ งสรรค์ แ ล ะ พั ฒ น า ร ะ บ บ ง า น แ ล ะ / ห รื อ ก ร ะ บ ว น ก า ร
รวมถงึ เสยี งของลูกคา้ (Voice of Customer : VOC) ย่อย เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้
และเสียงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Voice of มผี ลสำ� เรจ็ ท่ีดีกวา่ เปา้ หมายและดีกว่าปีที่ผา่ นมา
Stakeholder : VOS) จากบคุ ลากร/หนว่ ยงานภายใน
ท่ัวทั้งองค์กร และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวิสาหกิจ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วิสาหกิจ 253
6.3 กระบวนการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ ระดับ 3 รัฐวิสาหกิจด�ำเนินการได้ตามแผนพัฒนานวัตกรรม 2.7
(น�ำ้ หนกั ร้อยละ 2) กระบวนการท�ำงาน ประจ�ำปีครบถ้วนร้อยละ 100
ระดับ 1 รัฐวิสาหกิจมีกระบวนการจัดท�ำ/ทบทวนแผนการ และดำ� เนนิ การบรรลไุ ดต้ ามเปา้ หมายของแผนพฒั นา
พฒั นานวตั กรรมผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารเพอ่ื ตอบสนอง นวัตกรรมกระบวนการท�ำงานประจ�ำปีครบถ้วน
ความตอ้ งการของลกู คา้ และผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี หลกั รอ้ ยละ 100
ทั้งระยะยาวและประจ�ำปี ระดบั 4 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ/
ระดับ 2 แผนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล
ระยะยาวและประจ�ำปีมีการก�ำหนดตัวชี้วัดและ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขององค์กร
เป้าหมายความส�ำเร็จด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน ระดับ 5 รัฐวิสาหกิจปรับปรุงและพัฒนาระบบงานและ/หรือ
ทง้ั ระดบั ผลผลติ (Output) และผลลพั ธ์ (Outcome) กระบวนการยอ่ ย เพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน
อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยการพัฒนานวัตกรรม ใหม้ ผี ลส�ำเรจ็ ทดี่ กี วา่ เปา้ หมาย ดกี ว่าปีทีผ่ า่ นมา และ
มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกหลัก ดีกว่าปีทีผ่ ่านมาอย่างนอ้ ย 3 ปตี ิดตอ่ กนั
ในการดำ� เนนิ การ
ระดับ 3 รัฐวิสาหกิจด�ำเนินการได้ตามแผนพัฒนานวัตกรรม 6.5 กระบวนการนวตั กรรมรปู แบบธุรกิจ/ภารกิจใหม่
ผลิตภัณฑ์และบริการประจ�ำปีครบถ้วนร้อยละ 100 (น้ำ� หนกั รอ้ ยละ 2)
และ ดำ� เนนิ การบรรลไุ ดต้ ามเปา้ หมายของแผนพฒั นา ระดับ 1 รัฐวิสาหกิจมีกระบวนการจัดท�ำ/ทบทวนแผนการ
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการประจ�ำปีครบถ้วน พั ฒ น า น วั ต ก ร ร ม รู ป แ บ บ ธุ ร กิ จ / ภ า ร กิ จ ใ ห ม ่
ร้อยละ 100 เพ่ือตอบสนองความต้องการของลูกค้า และ
ระดบั 4 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ/ ผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสียหลกั ท้ังระยะยาวและประจ�ำปี
หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล ระดบั 2 แผนการพัฒนานวัตกรรมรูปแบบธุรกิจ/ภารกิจใหม่
เทคโนโลยีดจิ ิทลั ขององค์กร ระยะยาวและประจ�ำปีมีการก�ำหนดตัวช้ีวัดและ
ระดบั 5 รัฐวิสาหกิจปรับปรุงและพัฒนาระบบงานและ/หรือ เป้าหมายความส�ำเร็จด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน
กระบวนการยอ่ ย เพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน ทงั้ ระดบั ผลผลติ (Output) และผลลพั ธ์ (Outcome)
ใหม้ ผี ลส�ำเร็จทดี่ ีกว่าเปา้ หมาย ดกี วา่ ปที ีผ่ า่ นมา และ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โดยการพัฒนานวัตกรรม
ดกี วา่ ปที ี่ผา่ นมาอย่างน้อย 3 ปีตดิ ต่อกนั มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกหลัก
ในการดำ� เนนิ การ
6.4 กระบวนการนวัตกรรมกระบวนการท�ำงาน ระดับ 3 รัฐวิสาหกิจด�ำเนินการได้ตามแผนพัฒนานวัตกรรม
(นำ�้ หนกั รอ้ ยละ 2) รูปแบบธุรกิจ/ภารกิจใหม่ ประจ�ำปีครบถ้วน
ระดบั 1 รัฐวิสาหกิจมีกระบวนการจัดท�ำ/ทบทวนแผน ร้อยละ 100 และด�ำเนินการบรรลุได้ตามเป้าหมาย
การพฒั นานวตั กรรมกระบวนการทำ� งาน เพอ่ื ตอบสนอง ของแผนพฒั นานวตั กรรม รปู แบบธุรกิจ/ภารกจิ ใหม่
ความตอ้ งการของลกู ค้า และผ้มู สี ่วนได้สว่ นเสียหลัก ประจำ� ปีครบถว้ นรอ้ ยละ 100
ท้ังระยะยาวและประจ�ำปี ระดบั 4 รัฐวิสาหกิจทบทวนและวิเคราะห์ระบบงานและ/
ระดับ 2 แผนการพัฒนานวัตกรรมกระบวนการท�ำงานระยะ หรือกระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล
ยาวและประจ�ำปีมีการก�ำหนดตัวช้ีวัดและเป้าหมาย เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ขององคก์ ร
ความส�ำเร็จด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน ท้ังระดับ ระดบั 5 รัฐวิสาหกิจปรับปรุงและพัฒนาระบบงานและ/หรือ
ผลผลติ (Output) และผลลพั ธ์ (Outcome) อย่าง กระบวนการยอ่ ย เพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน
ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยการพัฒนานวัตกรรมมีการ ให้มีผลส�ำเร็จท่ีดีกว่าเป้าหมาย ดีกว่าปีท่ีผ่านมา
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกหลักในการ และดกี วา่ ปที ่ีผ่านมาอยา่ งน้อย 3 ปีตดิ ตอ่ กนั
ด�ำเนินการ
254 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ 7. การจดั สรรทรพั ยากรดา้ นนวตั กรรม (นำ้� หนกั รอ้ ยละ 5)
7.1 การจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรอื่นท่ีเพียงพอ
2.7 และเหมาะสม (น้�ำหนักร้อยละ 5)
ระดับ 1 การก�ำหนดแนวทางประเมินความเสี่ยงและ
ความคุ้มค่าของแผนงาน/โครงการด้านนวัตกรรม
เพ่ือน�ำไปสู่ การจัดสรรทรัพยากรทางการเงินและ
ไมใ่ ชก่ ารเงนิ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ระดับ 2 รัฐวิสาหกิจจัดสรรทรัพยากรทางการเงินและไม่ใช่
การเงินในแต่ละแผนงาน/โครงการด้านนวัตกรรม
อยา่ งเปน็ ระบบ ครบถว้ น และเพยี งพอ เพอ่ื ใหแ้ ผนงาน
/โครงการตา่ ง ๆ บรรลุตามเปา้ หมายท่กี ำ� หนดไว้ได้
ระดบั 3 รัฐวิสาหากิจก�ำหนดแนวทางและบริหารความเสี่ยง
ท่ี เ กี่ ย ว ข ้ อ ง กั บ ค ว า ม เ พี ย ง พ อ ข อ ง ท รั พ ย า ก ร
เพอื่ สนบั สนนุ ใหแ้ ผนงาน/โครงการดา้ นนวตั กรรมบรรลุ
ตามเปา้ หมายทก่ี ำ� หนดได้
ระดบั 4 การส�ำรวจความเพียงพอของทรัพยากรด้านการเงิน
แ ล ะ ไ ม ่ ใ ช ่ ก า ร เ งิ น ข อ ง ทุ ก แ ผ น ง า น / โ ค ร ง ก า ร
ดา้ นนวัตกรรมเปน็ ประจ�ำทกุ ปี
ระดบั 5 รฐั วสิ าหกจิ ทบทวนและวเิ คราะหร์ ะบบงานและ/หรอื
กระบวนการย่อย จัดเก็บในระบบฐานข้อมูล
เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขององคก์ ร และปรบั ปรงุ และพฒั นา
ระบบงานและ/หรือกระบวนการย่อย เพื่อเพ่ิม
ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้มีผลส�ำเร็จที่ดีกว่า
เป้าหมาย ดีกว่าปีที่ผ่านมาและดีกว่าปีท่ีผ่านมา
อยา่ งน้อย 3 ปีตดิ ตอ่ กัน
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรัฐวิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วิสาหกจิ 255
8. ผลลัพธด์ า้ นนวตั กรรม (น�้ำหนกั ร้อยละ 15) 2) ผลลัพธ์ด้านลูกค้าและผลิตภัณฑ์และบริการ 2.7
8.1 ผลลัพธ์ด้านนวัตกรรมทั้งการเงินและไม่ใช่ทางการเงิน (Customer: C)
(นำ�้ หนักร้อยละ 15) C1 - ความพงึ พอใจของลกู คา้ /ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ภายนอก
ระดบั 1 รัฐวิสาหกิจมีการก�ำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมาย จากนวตั กรรมผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร ใหม่
C2 - ความพึงพอใจของบุคลากรภายใน/ผู้มีส่วนได้
ท่มี คี วามทา้ ทาย ส่วนเสยี อนื่ จากนวัตกรรมกระบวนการทำ� งานใหม่
ระดับ 2 รัฐวิสาหกิจมีผลส�ำเร็จตามตัวช้ีวัดทุกด้านไม่เป็นไป C3 - ความส�ำเร็จการจัดท�ำ/ทบทวนและด�ำเนินงาน
ตามแผน/โครงการ ความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับหน่วยงาน
ตามเป้าหมายประจ�ำปที ก่ี �ำหนด รฐั /เอกชน/สถาบันการศกึ ษา
ระดบั 3 รัฐวิสาหกิจมีผลส�ำเร็จตามตัวชี้วัดทุกด้านเป็นไป 3) ผลลพั ธด์ า้ นกระบวนการภายใน (Internal Process: IP)
I1 - ความส�ำเร็จการด�ำเนินงานตามแผนแม่บทการจัดการ
ตามเป้าหมายประจ�ำปีที่ก�ำหนด นวตั กรรม (ประจ�ำป)ี ขององคก์ ร
ระดับ 4 รัฐวิสหกิจมีผลส�ำเร็จตามตัวช้ีวัดทุกด้านดีกว่า I2 - รอบระยะเวลาเฉลย่ี ตาม SLA ของกระบวนการจดั การ
นวตั กรรม จนออกสูก่ ารใช้งานจรงิ
เปา้ หมายประจำ� ปที ก่ี ำ� หนดต่อเน่อื ง 3 ปีติดต่อกนั I3 - จ�ำนวนทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กรที่ท�ำการจด
ระดับ 5 รฐั วสิ าหกจิ มกี ารทบทวน และวเิ คราะหป์ ระสทิ ธภิ าพ และไดร้ ับการคมุ้ ครองทางกฎหมายตามแผนประจ�ำปี
4) ผลลัพธด์ ้านการเรียนรแู้ ละการพฒั นา (Learning and
และประสิทธิผลของกระบวนการจัดเก็บในระบบ Growth: LG)
ฐานข้อมูลเทคโนโลยีดิจิทัลขององค์กรขององค์กร LG1 - ร้อยละจ�ำนวนบุคลากรภายใน ที่มีส่วนร่วมใน
และปรับปรุงและพัฒนาระบบ/กระบวนการเพ่ือเพิ่ม การให้ความคิดสร้างสรรค์ท่ีเป็นประโยชน์ เพ่ือน�ำไปสู่การ
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการ สรา้ งนวัตกรรม ต่อจำ� นวนบุคลากรภายในท้งั หมด
อย่างเป็นรูปธรรมโดยใช้ข้อมูลที่จัดเก็บในระบบ LG2 - ร้อยละจ�ำนวนหน่วยงาน (ที่เลก็ ท่สี ุด) ทม่ี นี วตั กรรม
ฐานข้อมลู เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ขององคก์ ร ของหน่วยงาน
• การก�ำหนดตัวช้ีวัดและเป้าหมายท่ีมีความท้าทาย LG3 - ความส�ำเร็จการน�ำระบบดิจิทัล/IT มาใช้
โดยครอบคลุม 4 มิติ ตามหลักการ Balanced Scorecard ในกระบวนการจัดการนวัตกรรม ได้ตามเปา้ หมาย
(BSC) ไดแ้ ก่ • รฐั วสิ าหกจิ มผี ลสำ� เรจ็ ของทกุ ตวั ชวี้ ดั เปน็ ไปตามเปา้ หมาย
1) ผลลพั ธ์ด้านการเงนิ (Financial: F) แนวโน้ม และ/หรือ สามารถเทียบเคยี งกบั คู่แขง่ /คเู่ ทยี บ
F1 - รายได้ที่เพิ่มข้ึน/ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากนวัตกรรม
ในภาพรวมของ รฐั วิสาหกิจ
F2 - รายได้ที่เพิ่มขึ้น/ค่าใช้จ่ายท่ีลดลงจากนวัตกรรม
ในแตล่ ะ BU/สายงาน
F3 - ร้อยละการใช้จา่ ยงบประมาณด้านนวตั กรรม
256 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกจิ
2.8
2.8 การตรวจสอบภายใน
(Internal Audit: IA)
เกณฑ์การประเมินด้านตรวจสอบภายใน อ้างอิงจาก เพื่อเพิ่มคุณค่าและยกระดับกระบวนการปฏิบัติงานของ
มาตรฐานการปฏิบัติงานที่เป็นสากล ได้แก่ มาตรฐานสากล รัฐวิสาหกิจให้บรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ โดยมี
การปฏิบัติงานวิชาชีพการตรวจสอบภายใน (International คณะกรรมการตรวจสอบท�ำหน้าท่ีในการก�ำกับดูแล
Standards for the Professional Practice of Internal Auditing) การปฏบิ ัติงานของหนว่ ยตรวจสอบภายใน นอกจากนี้ ในการ
ท่ีก�ำหนดโดยสถาบันผู้ตรวจสอบภายในของสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติงานตรวจสอบให้ประสบความส�ำเร็จต้องอาศัย
(The Institute of Internal Auditors : IIA) และสอดคลอ้ ง ความร่วมมือจากหน่วยรับตรวจในการสนับสนุนด้านต่าง ๆ
ตามระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยคณะกรรมการตรวจสอบ เช่น จัดเตรียมเอกสารหลักฐานเก่ียวกับการด�ำเนินงาน
และหน่วยตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2555 รวมถึงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมท่ีจะ
คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการตรวจสอบในรฐั วสิ าหกจิ ตรวจสอบได้ ชี้แจงและตอบข้อซักถามต่าง ๆ พร้อมทั้ง
คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยตรวจสอบภายในของรฐั วสิ าหกจิ หาข้อมูลเพ่มิ เตมิ ให้ผูต้ รวจสอบภายใน เปน็ ต้น
ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2555 และแนวปฏิบัตทิ ี่ดที เี่ กย่ี วข้องต่าง ๆ จากหลักการท่ีกล่าวถึงข้างต้นจึงท�ำให้สามารถก�ำหนด
ซง่ึ การตรวจสอบภายในถอื เปน็ เครอ่ื งมอื ทส่ี ำ� คญั ของฝา่ ยบรหิ าร วัตถุประสงค์ในการประเมินผลการตรวจสอบภายใน ไดด้ ังน้ี
ในการทำ� หนา้ ทใี่ หค้ วามเชอื่ มนั่ (Assurance service) และให้ วตั ถุประสงค์การประเมินการตรวจสอบภายใน
คำ� ปรกึ ษา (Consulting service) โดยการประเมนิ ประสทิ ธภิ าพ 1. มุ่งเน้นบทบาทหน้าที่ของผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบการ
และประสิทธิผลของระบบการควบคุมภายใน ระบบบริหาร ตรวจสอบสอบภายในของรฐั วสิ าหกจิ ทง้ั 3 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่
ความเสย่ี งการกำ� กบั ดแู ลกจิ การและการดำ� เนนิ งานในดา้ นตา่ ง ๆ คณะกรรมการตรวจสอบ หนว่ ยตรวจสอบภายในและหนว่ ยรบั ตรวจ
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวิสาหกจิ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกจิ 257
2.8
2. รัฐวิสาหกิจมีระบบการตรวจสอบภายในท่ีดีสอดคล้อง 3. เสริมสร้างให้รัฐวิสาหกิจมีระบบการควบคุมภายใน
กับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบ การบริหารความเสี่ยง และการตรวจสอบภายในท่ีดี เพ่ือให้
และหน่วยตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2555 และ การปฏบิ ตั งิ านเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพประสทิ ธผิ ล และประหยดั
เทียบเท่ามาตรฐานสากล รวมทั้งเสริมสรา้ งความน่าเช่ือถอื ของรายงานทางการเงนิ และ
มีการติดตาม ให้รัฐวิสาหกิจมีการปฏิบัติตามกฎหมายและ
ระเบียบทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
กรอบหลักการ/แนวคดิ เพื่อการประเมนิ การตรวจสอบภายใน
หลักเกณฑ์ประเมินการตรวจสอบภายใน เกิดจากการประยุกต์หลักการและแนวคิดการก�ำกับดูแลท่ีดีและการน�ำองค์กร
ของทั้งภาครฐั และเอกชน ทีเ่ ป็นทีย่ อมรับทง้ั ในและต่างประเทศ สรปุ ได้ดังนี้
258 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ 4
หลกั เกณฑก์ ารประเมนิ การตรวจสอบภายใน
การประเมนิ การตรวจสอบภายในประกอบด้วยหลกั เกณฑส์ ำ�คญั 4 ด้าน ประกอบด้วย
2.8 1 2 3
โดยสามารถแสดงเกณฑ์ประเมนิ ยอ่ ย ของ 4 หลกั เกณฑ์ประเมนิ ด้านการตรวจสอบภายใน ได้ดงั น้ี
หัวขอ้ น้�ำหนัก ประเด็นย่อย
(รอ้ ยละ)
1. คณะกรรมการ 15 1.1 องค์ประกอบและคณุ สมบตั ิ (น�ำ้ หนกั ร้อยละ 2)
ตรวจสอบ 1.2 การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ (นำ้� หนักรอ้ ยละ 12)
1.3 การประชมุ และองค์ประชมุ (น้ำ� หนักรอ้ ยละ 1)
2. หนว่ ยตรวจสอบภายใน 15 2.1 บทบาทและความรับผดิ ชอบของหน่วยตรวจสอบภายใน (น้�ำหนักร้อยละ 3)
(ด้านคุณสมบตั )ิ 2.2 ความเปน็ อิสระและความเที่ยงธรรม (น้�ำหนกั ร้อยละ 3)
2.3 ความเช่ยี วชาญและความสามารถ (นำ้� หนักรอ้ ยละ 5)
2.4 การประเมินและปรับปรุงคุณภาพงานตรวจสอบภายใน (น้ำ� หนักรอ้ ยละ 4)
3. หน่วยตรวจสอบภายใน 65 3.1 การจัดทำ� คูม่ อื การปฏบิ ตั ิงานตรวจสอบ (น้�ำหนักร้อยละ 5)
(ดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน 3.2 กกาารรววาางงรแแอผผรนนปู กกPาาiรรcตป2รฏ.ว8ิบจ_ัตส2ิงอาบนต(นรว�ำ้ จหสนอกั บรอ้ในยรลาะยล1ะ0เ)อยี ด
และผลงาน) 3.3 (น้ำ� หนกั ร้อยละ 5)
3.4 การปฏิบัตงิ านตรวจสอบ (น้ำ� หนกั ร้อยละ 15)
3.5 การสรปุ ผลการตรวจสอบและการจัดท�ำรายงาน (น�ำ้ หนกั รอ้ ยละ 15)
ผลงานของหนว่ ยตรวจสอบภายใน
3.6 การให้ความเชอ่ื มัน่ (น�้ำหนกั ร้อยละ 10)
3.7 การให้คำ� ปรึกษา (นำ้� หนักรอ้ ยละ 5)
4. หนว่ ยรบั ตรวจความรับ 5 4.1 ความรบั ผิดชอบของหน่วยรบั ตรวจ (น้ำ� หนกั รอ้ ยละ 5)
ผดิ ชอบของหนว่ ยรบั ตรวจ
รวม 100
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกิจ 259
รายละเอียดหลกั เกณฑ์ประเมินการตรวจสอบภายใน 1) คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นผู้แต่งต้ังกรรมการ 2.8
1. คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ในคณะกรรมการรัฐวิสาหกจิ เปน็ กรรมการตรวจสอบ
(น�ำ้ หนกั รอ้ ยละ 15) 2) จ�ำนวนของกรรมการตรวจสอบควรมีมากเพียงพอ
1.1 องค์ประกอบและคุณสมบตั ิ (น�้ำหนักร้อยละ 2) เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากความคิดเห็นและประสบการณ์
ระดบั 1 การกำ� หนดองค์ประกอบและคุณสมบตั ริ วมถงึ ความ ท่ีหลากหลาย แต่ไม่ควรมีมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อ
ความคล่องตัวในการดาเนินงาน ท้ังน้ี จ�ำนวนของกรรมการ
เปน็ อสิ ระและเทยี่ งธรรมของคณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจสอบท่ีเหมาะสมข้นึ อยู่กับขนาดของรฐั วิสาหกจิ ขอบเขต
ไว้ในกฎบัตรคณะกรรมการตรวจสอบ ความรับผิดชอบ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซ่ึงโดย
ระดบั 2 การก�ำหนดองค์ประกอบและคุณสมบัติของ ทัว่ ไปจะอยู่ระหวา่ ง 3 - 5 คน
คณะกรรมการตรวจสอบครบถ้วน ตามระเบียบฯ 3) ประธานกรรมการตรวจสอบอาจได้รับการแต่งต้ัง
และแนวปฏิบัติของคณะกรรมการตรวจสอบ จากคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจหรืออาจได้รับการแต่งต้ัง
ของรัฐวิสาหกิจ* หรือ ตลท. รวมท้ังกฎ ระเบียบ จากกรรมการทไี่ ดร้ บั การคดั เลอื กเปน็ คณะกรรมการตรวจสอบ
ท่ีเก่ียวข้อง (สอดคล้องกับบริบทของรัฐวิสาหกิจ) 4) หัวหนา้ หนว่ ยตรวจสอบภายในทำ� หน้าท่ีเปน็ เลขานกุ าร
ไวใ้ นกฎบตั รคณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการตรวจสอบโดยตำ� แหนง่
ระดบั 3 ก�ำหนด Skill Matrix ของคณะกรรมการตรวจสอบ 5) วาระการด�ำรงต�ำแหน่งของกรรมการตรวจสอบ
ตามองค์ประกอบและคณุ สมบตั ิที่ก�ำหนด และน�ำไป ให้เปน็ ไปตามวาระการด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการ ในรัฐวิสาหกจิ
ใชใ้ นการสรรหา/แตง่ ตง้ั ซ่ึงหมายความว่า หากวาระการด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการ
ระดับ 4 การประเมนิ องค์ประกอบ คุณสมบัติ ประสบการณ์ ในรัฐวิสาหกิจหมดลงไปแล้ว จะเป็นผลท�ำให้วาระการด�ำรง
และทักษะของคณะกรรมการตรวจสอบอย่างเป็น ต�ำแหนง่ กรรมการตรวจสอบหมดไปด้วย
ทางการอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครงั้ เพอื่ เสนอคณะกรรมการ 6) กรรมการตรวจสอบจะพ้นจากต�ำแหน่งเมื่อพ้นจาก
รฐั วสิ าหกจิ รับทราบ ต�ำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือเมื่อขาดคุณสมบัติในการ
ระดับ 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง ปฏิบตั ิงานในฐานะกรรมการตรวจสอบ
ข้อมลู อื่น ๆ ในการทบทวนการกำ� หนดองคป์ ระกอบ 7) ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจสอบ
และคุณสมบัติ เพ่ือปรับปรุงให้สอดคล้องกับการ ต้องมีคุณสมบตั ิ ดังต่อไปน้ี
เปล่ียนแปลงอยเู่ สมอ
7.1) เป็นกรรมการรัฐวิสาหกจิ ในรัฐวสิ าหกจิ แหง่ น้นั
หมายเหตุ : 7.2) เป็นผู้ท่ีสามารถอุทิศเวลาในการปฏิบัติหน้าที่และ
องค์ประกอบ และคุณสมบัติของคณะกรรมการตรวจ แสดงความเหน็ หรอื รายงานผลการดำ� เนนิ งานตามหนา้ ที่
สอบตามคู่มือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายดว้ ยความเปน็ อสิ ระและความเทย่ี งธรรม
ในรัฐวสิ าหกิจ ครอบคลุมประเดน็ ดังนี้
260 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกจิ
2.8
นอกจากน้ี กรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 1 คน ต้องมี รฐั วิสาหกจิ นนั้ ทัง้ นี้ ไม่วา่ ในขณะดำ� รงตำ� แหน่งประธาน
ความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์ด้านการบัญชีหรือ กรรมการตรวจสอบ หรอื กรรมการตรวจสอบ หรอื ภายใน
การเงนิ และกรรมการตรวจสอบคนอน่ื ควรมคี วามรดู้ ้านอื่น ๆ ระยะเวลาหนึ่งปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน
ทเ่ี กีย่ วข้อง เช่น ธุรกจิ กฎหมาย ภาษีอากร เป็นต้น กรรมการตรวจสอบหรือกรรมการตรวจสอบ
8) ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจสอบ 8.4) ไมเ่ ปน็ บพุ การี ผสู้ บื สนั ดาน หรอื คสู่ มรส ของกรรมการ
ตอ้ งไม่มลี กั ษณะตอ้ งห้าม ดังตอ่ ไปน้ี รฐั วสิ าหกจิ ผบู้ รหิ ารสงู สดุ ผบู้ รหิ าร หวั หนา้ หนว่ ยตรวจ
8.1) ไมเ่ ปน็ ขา้ ราชการประจำ� ทด่ี ำ� รงตำ� แหนง่ ในกระทรวง สอบภายใน ผตู้ รวจสอบภายในของรฐั วสิ าหกจิ หรอื ผตู้ รวจ
เจา้ สงั กดั ของรฐั วิสาหกิจน้นั สอบภายในของบรษิ ทั ทร่ี ฐั วสิ าหกจิ นนั้ มสี ว่ นรว่ มตดั สนิ ใจ
8.2) ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ก�ำหนด เกยี่ วกบั นโยบายและการด�ำเนนิ งานของบริษทั
นโยบายหรือระเบียบปฏิบัติ หรือมีอ�ำนาจในการตัดสิน • องคป์ ระกอบ และคณุ สมบตั ขิ องคณะกรรมการตรวจสอบ
ใจด้านการบริหาร รวมท้งั ไมเ่ ปน็ พนกั งาน ลกู จา้ ง หรือ ตามคู่มือของ กลต. (พิจารณาเพิ่มเติมกรณีเป็นรัฐวิสาหกิจ
ท่ีปรึกษาที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนประจ�ำจาก ประเภทจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
รัฐวิสาหกิจ ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือบริษัทท่ีเกี่ยวข้องกับ แห่งประเทศไทย)
รัฐวิสาหกิจนั้น หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งน้ี ไม่ว่าใน • องคป์ ระกอบ และหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของคณะกรรมการ
ขณะด�ำรงต�ำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบหรือ ตรวจสอบตามประกาศธปท.(พจิ ารณาเพมิ่ เตมิ กรณเี ปน็ รฐั วสิ าหกจิ
กรรมการตรวจสอบ หรือภายในระยะเวลาสองปีก่อน ประเภทสถาบนั การเงิน)
วันท่ีได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบ • กฎบัตรคณะกรรมการตรวจสอบ ก�ำหนดแนวปฏิบัติ
หรือกรรมการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบ ซงึ่ สามารถพจิ ารณาจา้ งทป่ี รกึ ษา
8.3) ไม่เป็นผู้มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับ หรอื ผเู้ ชย่ี วชาญได้
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรัฐวิสาหกจิ ตามระบบประเมินผลรฐั วิสาหกิจ 261
1.2 การปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ (น้ำ� หนักร้อยละ 12) 1.3 การประชมุ และองค์ประชุม (นำ้� หนกั ร้อยละ 1) 2.8
ระดบั 1 การวเิ คราะหป์ จั จยั ภายใน/ภายนอก เพอื่ จดั ทำ� กฎบตั ร ระดบั 1 คณะกรรมการตรวจสอบก�ำหนดปฏิทินการประชุม
รวมถงึ คู่มอื ปฏิบัตงิ านของคณะกรรมการตรวจสอบ และวาระการประชุมล่วงหน้าอย่างชัดเจน โดยมี
ระดับ 2 กฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบของรัฐวิสาหกิจ ความถี่ในการประชุมอย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง
และวาระประชุมคณะกรรมการตรวจสอบต้อง
มคี วามครบถว้ น* ครอบคลมุ บทบาทหนา้ ทตี่ ามกฎบตั ร รวมถงึ ระเบยี บ
ระดับ 3 การจดั ทำ� คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการตรวจ และแนวปฏิบัติทเี่ ก่ียวข้อง
ระดับ 2 การได้รับข้อมูลประกอบการประชุมล่วงหน้า
สอบเฉพาะของรัฐวิสาหกิจ และการก�ำหนดแผน อยา่ งน้อย 3 วันทำ� การ
ปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยสามารถ ระดับ 3 การเข้าร่วมประชุมของกรรมการตรวจสอบในการ
ด�ำเนนิ การตามแผนปฏิบัติงานได้อย่างครบถว้ น ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมดที่ได้จัดให้
ระดับ 4 การสอบทานการดำ� เนนิ งานขององคก์ รในดา้ นตา่ ง ๆ มขี นึ้ ในรอบปี
ในทุกประเด็นท่ีมีความเสี่ยงส�ำคัญที่ส่งผลกระทบ ระดบั 4 การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและการ
ต่อวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของรัฐวิสาหกิจ รวมถึง ให้ข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายที่สร้างมูลค่าเพ่ิม
สอดคลอ้ งการเปล่ยี นแปลงต่าง ๆ ทม่ี สี าระสำ� คญั ตอ่ ให้กบั รัฐวิสาหกจิ
สภาพแวดล้อมของความเส่ียงของรัฐวิสาหกิจและมี ระดบั 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงานรวมถึง
บทบาทในการสอบทานการด�ำเนินงานต่าง ๆ ของ ข้อมูลอื่นๆ ในการทบทวนกระบวนการจัดประชุม
องคก์ ร ตามเกณฑ์ Enabler ท้ัง 7 ดา้ น ของคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อปรับปรุงให้มี
ระดับ 5 การใชข้ อ้ มลู ปอ้ นกลบั จากการดำ� เนนิ งาน รวมถงึ ขอ้ มลู ประสทิ ธภิ าพยิ่งข้ึน
อนื่ ๆ ในการทบทวนกฎบตั ร คมู่ อื และแผนปฏบิ ตั งิ าน
ของคณะกรรมการตรวจสอบ อย่างนอ้ ยปลี ะ 1 ครัง้
หมายเหตุ :
องค์ประกอบของกฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ
ของรัฐวสิ าหกิจ ควรครอบคลมุ ประเด็นตา่ งๆ เกี่ยวกบั :
• เปา้ หมาย วตั ถปุ ระสงค์ และองคป์ ระกอบ คณุ สมบตั ิ วาระ
การดำ� รงตำ� แหน่ง และการพน้ จากตำ� แหนง่
• หน้าที่และความรับผิดชอบ (ครอบคลุมบทบาทหน้าท่ี
ของคณะกรรมการตรวจสอบ บทบาทหนา้ ทตี่ อ่ คณะกรรมการ
รัฐวิสาหกิจ บทบาทหน้าที่ต่อผู้สอบบัญชี บทบาทหน้าที่
ตอ่ ฝา่ ยบรหิ าร บทบาทหนา้ ท่ตี อ่ หนว่ ยตรวจสอบภายใน)
• การประชุม (ความถี่ของการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุม
การลงคะแนนเสยี ง)
• การสอบทานกฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ
ผลจากการทบทวนกฎบตั ร คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน และแผนปฏบิ ตั งิ าน
ของคณะกรรมการตรวจสอบ ต้องให้กฎบัตร คู่มือปฏิบัติงาน
และแผนปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบทันต่อความ
เปลยี่ นแปลงตา่ งๆ เช่น กฎ ระเบียบ และเทคโนโลยี เปน็ ตน้
262 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกจิ
2.8 2. หนว่ ยตรวจสอบภายใน ด้านคณุ สมบตั ิ (น้�ำหนักรอ้ ยละ 15)
2.1 บทบาทและความรับผิดชอบของหนว่ ยตรวจสอบภายใน (น้�ำหนักร้อยละ 3)
ระดบั 1 การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน/ภายนอก รวมถึงกฎบัตรคณะกรรมการ
ตรวจสอบ เพอ่ื จดั ทำ� กฎบตั ร และจรรยาบรรณของหนว่ ยตรวจสอบภายใน
ระดบั 2 กฎบัตรของหน่วยตรวจสอบภายในมีความสอดคล้องกับกฎบัตร
คณะกรรมการตรวจสอบ และมีความครบถ้วน* ตามมาตรฐานและ
แนวปฏบิ ตั ิท่ดี ี
ระดบั 3 การหารือร่างกฎบตั ร รวมถึงพนั ธกิจของงานตรวจสอบภายในกบั ผบู้ รหิ าร
ระดับสูง คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และการน�ำเสนอกฎบัตรต่อหัวหน้า
รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ
เพอื่ อนมุ ตั ิ รวมถงึ การสอ่ื สารกฎบตั รใหบ้ คุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งรบั ทราบ
ระดบั 4 การดำ� เนนิ การตามบทบาทหน้าที่ทร่ี ะบุไว้ในกฏบัตรอย่างครบถว้ น
ระดบั 5 การทบทวน/ปรบั ปรงุ กฎบัตร อย่างนอ้ ยปีละ 1 ครั้ง
หมายเหตุ :
องคป์ ระกอบของกฎบตั รของหนว่ ยตรวจสอบภายใน ควรครอบคลมุ ประเดน็ ดงั นี้
• พันธกจิ และวตั ถุประสงค์การตรวจสอบ
• อ�ำนาจ และภาระหน้าท่ี (ซึ่งครอบคลุมการป้องกันทุจริต คอร์รัปชั่นภายใน
องค์กร และการสอบทาน Enablers)
• สถานะของหน่วยตรวจสอบภายใน
• ลักษณะความสมั พนั ธ์ในการรายงาน/ประสานงาน เช่น ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง
หวั หนา้ หนว่ ยตรวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบ ฝา่ ยบรหิ ารของรฐั วสิ าหกจิ
ผ้สู อบบญั ชี และหน่วยงานก�ำกับดแู ล เป็นต้น
• อำ� นาจในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู บคุ ลากร และทรพั ยส์ นิ ทจ่ี บั ตอ้ งไดต้ า่ ง ๆ ซงึ่ เกย่ี วขอ้ ง
กับการปฏิบัติงานตรวจสอบ รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัทร่วม และหรือบริษัท
ทเ่ี ก่ียวข้อง (ถ้ามี)
• มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน
• ประมวลจรรยาบรรณ ที่ผ้ตู รวจสอบภายในควรถือปฏบิ ตั ิ
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วสิ าหกจิ ตามระบบประเมินผลรัฐวิสาหกิจ 263
2.2 ความเปน็ อสิ ระและความเทยี่ งธรรม (นำ�้ หนกั รอ้ ยละ 3) • หนว่ ยตรวจสอบภายในตอ้ งกำ� หนดนโยบายการสบั เปลยี่ น 2.8
ระดบั 1 การก�ำหนดโครงสร้างหน่วยตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจสอบอย่างสม่�ำเสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระ
และความเท่ียงธรรมในการปฏิบัติงาน อีกทั้งต้องด�ำเนินการ
ทีม่ คี วามเป็นอิสระ สับเปลย่ี นผตู้ รวจสอบภายในตามนโยบายก�ำหนด
ระดับ 2 การก�ำหนดนโยบายเก่ียวกับการเปิดเผยหรือการ • ผู้ตรวจสอบภายในต้องเปิดเผยความขัดแย้ง
ทางผลประโยชนแ์ ละการดำ� เนนิ การเพอื่ ปอ้ งกนั หรอื หลกี เลยี่ ง
ดำ� เนนิ การเพอ่ื ปอ้ งกนั หรอื หลกี เลย่ี งผลกระทบทม่ี ตี อ่ ความขัดแย้งของผลประโยชน์อยา่ งเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
ความเป็นอิสระหรือเที่ยงธรรม รวมถึงความขัดแย้ง • หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในรายงานตรงต่อ
ทางผลประโยชนข์ องผตู้ รวจสอบภายในทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ คณะกรรมการตรวจสอบและส�ำเนาถึงหัวหน้ารัฐวิสาหกิจ
ระดับ 3 การด�ำเนินการตามนโยบายเกี่ยวกับการเปิดเผยหรือ รบั ทราบ
การด�ำเนินการเพ่ือป้องกันหรือหลีกเล่ียงผลกระทบ • หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในสามารถเข้าพบและ
ที่มีต่อความเป็นอิสระหรือเท่ียงธรรม รวมถึง เข้าร่วมประชุมกับหัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหาร และ/หรือ
ความขดั แยง้ ทางผลประโยชนข์ องผตู้ รวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบไดอ้ ย่างเป็นอิสระ
ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ • หากบุคคลภายนอกเข้ามาปฏบิ ตั หิ นา้ ทีต่ รวจสอบภายใน
ระดบั 4 หน่วยงานตรวจสอบภายในได้รับการจัดสรร และให้บริการอ่นื แก่รัฐวสิ าหกิจพรอ้ มกันดว้ ย อาจทำ� ใหค้ วาม
ทรัพยากรอย่างเพียงพอสอดคล้องกับแผนการ เป็นอิสระและความเท่ียงธรรมด้อยลงไปได้ คณะกรรมการ
จัดสรรทรัพยากร หน่วยงานตรวจสอบภายใน ตรวจสอบควรพิจารณาการปฏิบัติงานของบุคคลภายนอก
สามารถเข้าพบและเข้าร่วมเก่ียวกับการตรวจสอบ ท่ีมีการปฏิบัติงานหลายประเภทให้แก่รัฐวิสาหกิจว่าจะมี
ได้อย่างเป็นอิสระ และได้รับการยอมรับเก่ียวกับ ผลกระทบต่อความเป็นอิสระและความเที่ยงธรรมหรือไม่
ความเปน็ อิสระจากฝ่ายบริหารและหนว่ ยรบั ตรวจ หากคณะกรรมการตรวจสอบพจิ ารณาอนมุ ตั ใิ หบ้ คุ คลภายนอก
ระดับ 5 ก า ร ท บ ท ว น แ ล ะ ยื น ยั น ถึ ง ค ว า ม เ ป ็ น อิ ส ร ะ ท่ีปฏิบัติงานหลายประเภทให้แก่รัฐวิสาหกิจปฏิบัติงาน
ตอ่ คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อยปีละคร้ัง ตรวจสอบภายใน ให้บุคคลภายนอกเปิดเผยรายละเอียด
หมายเหตุ : การปฏบิ ตั ิงานนั้นไวเ้ ป็นลายลกั ษณอ์ ักษร
• หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในจะต้องมีสถานภาพ
เทียบเท่าผู้บริหารหรือหัวหน้าของหน่วยงานส�ำคัญอื่น ๆ
ในรฐั วสิ าหกจิ
• หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบภายใน
ต้องมีความเป็นอิสระ และไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์
ในกิจกรรมท่ีตรวจสอบเพ่ือให้การปฏิบัติหน้าท่ีเป็นไปด้วย
ความเท่ียงธรรม รวมทั้งต้องไม่ตรวจสอบงานที่ตนเคย
ท�ำหน้าท่ีบริหารหรือปฏิบัติงานภายในระยะเวลาหน่ึงปี
กอ่ นการตรวจสอบ
264 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกิจ
2.8 2.3 ความเชี่ยวชาญและความสามารถ (น้�ำหนกั ร้อยละ 5) ทกั ษะ ความรู้ ความสามารถของผตู้ รวจสอบภายใน เช่น
ระดับ 1 การวิเคราะหท์ กั ษะ ความรู้ และความสามารถอ่ืน ๆ • ความรูท้ างธุรกิจและอุตสาหกรรม
ทจ่ี ำ� เปน็ ในการปฏบิ ตั งิ าตรวจสอบ* รวมทงั้ ประเดน็ ท่ี • การวางแผนเชิงกลยุทธ์
เกดิ ขนึ้ ใหม่ ๆ • การบรหิ ารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน
ระดับ 2 การวิเคราะห์ทักษะ ความรู้ ความสามารถและ • การกำ� กบั ดแู ลกิจการทีด่ ขี ององค์กร
การพัฒนาผู้ตรวจสอบภายใน สอดคล้องกับการ • ความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ
วิเคราะห์สมรรถนะหลัก สมรรถนะรายต�ำแหน่ง • การตรวจสอบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และ
ที่จ�ำเป็นต่อการด�ำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและ ความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยี (Cyber Security)
ในอนาคต รวมถึงการประเมินช่องว่างสมรรถนะ • การตรวจสอบภายใน
(Competency Gap) เพอื่ นำ� ไปประกอบการวางแผน • การตรวจสอบความถูกต้องและเช่ือถือได้ของบัญชี
พัฒนารายบุคคล (Individual Development และการเงิน
Plan: IDP) ของผตู้ รวจสอบ • ความมีประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ตั ิงาน
ระดบั 3 กำ� หนดแนวทาง/แผนการสรรหา การพฒั นา และรกั ษา โครงการต่าง ๆ
บุคลากรด้านการตรวจสอบภายในท่ีมีความรู้ • การใหค้ �ำแนะนำ� ปรกึ ษา
ความสามารถที่จ�ำเป็นในการปฏิบัติงานตรวจสอบ • มนุษย์สัมพนั ธแ์ ละการตดิ ตอ่ ส่ือสาร
พร้อมทั้งด�ำเนินงานครบถ้วน มีการพัฒนาบุคลากร • ทกั ษะดา้ นอ่ืนท่จี ำ� เปน็ ต่อองคก์ ร
ด้านการตรวจสอบภายในให้มีความรู้ความสามารถ
ครบถ้วนตามทักษะที่ก�ำหนด ทัง้ Technical Skills ประกาศนียบตั รทางวชิ าชพี ประกอบดว้ ย
และ Soft Skills • วฒุ ิบัตรผู้ตรวจสอบภายในวชิ าชีพรบั อนญุ าต
ระดบั 4 การสนบั สนนุ เพอ่ื ใหผ้ ู้ตรวจสอบภายในพฒั นาตนเอง (The Certified Internal Auditor - CIA)
ในการเป็น Certified Internal Auditor (CIA) หรอื • ประกาศนยี บัตรการประเมนิ การควบคุมดว้ ยตนเอง
ประกาศนียบัตรทางวิชาชีพอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง ท้ังน้ี (Certification in Control Self Assessment - CCSA)
หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในต้องมีความรู้เกี่ยวกับ • ประกาศนียบัตรผู้ตรวจสอบภายในด้านบริการการเงิน
องคก์ รเปน็ อย่างดี (Certified Financial Service Auditor - CFSA)
ระดับ 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง • Certified Government Auditing Professional
ข้อมูลอื่น ๆ ในการทบทวนทักษะ ความรู้ และ – CGAP
ความสามารถอ่ืน ๆ ที่จ�ำเป็นของหน่วยตรวจสอบ • ผู้สอบบญั ชรี ับอนุญาต (Certified Public Accountant
ภายในอยา่ งสม่ำ� เสมอ – CPA)
• Certified Fraud Examiners - CFE
หมายเหตุ : • Certified Bank Auditor – CBA
การพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการตรวจสอบภายในใหม้ คี วามรคู้ วาม • วฒุ บิ ัตรผูต้ รวจสอบภายใน ระบบสารสนเทศรบั อนญุ าต
สามารถครบถ้วนตามทักษะท่ีก�ำหนด ผู้ตรวจสอบภายในต้อง (Certified Information Systems Auditor -CISA)
ได้รับการพัฒนา/ฝึกอบรมทางวิชาชีพตรวจสอบไม่น้อยกว่า • Certified Information Security Management
40 ชัว่ โมง ต่อคน ต่อปี – CISM
• Certified Information Systems Security Professional
– CISSP
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรัฐวสิ าหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วิสาหกจิ 265
2.4 การประเมนิ และปรบั ปรงุ คณุ ภาพงานตรวจสอบภายใน (นำ�้ หนกั ร้อยละ 4) 2.8
ระดบั 1 การก�ำหนดแนวทางการสอบทานคุณภาพของงานตรวจสอบภายใน
ทัง้ การประเมินภายในองคก์ ร และภายนอกองคก์ ร
ระดบั 2 การก�ำหนดแนวทางในการน�ำผลการปฏิบัติงานของผู้ตรวจสอบภายใน
โดยหน่วยรับตรวจมาประกอบการพิจารณาวัดผลงานของผู้ตรวจสอบ
ภายใน
ระดบั 3 การด�ำเนินการสอบทานคุณภาพของงานตรวจสอบตามแนวทางที่ก�ำหนด
อย่างครบถ้วน การจัดท�ำแผนปรับปรุงจากผลการประเมินคุณภาพ
ของงานตรวจสอบ (รอบถัดไป) รวมถึงการด�ำเนินการตามแผนปรับปรุงฯ
(รอบกอ่ นหน้า)
ระดบั 4 การรายงานผลการดำ� เนนิ งานตอ่ คณะกรรมการตรวจสอบ รวมทงั้ ผบู้ รหิ าร
สูงสุดและคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และการน�ำผลการปฏิบัติงานของ
ผู้ตรวจสอบภายในโดยหน่วยรับตรวจมาประกอบการพิจารณาวัดผลงาน
ของผู้ตรวจสอบภายใน
ระดบั 5 การใชข้ อ้ มลู ปอ้ นกลบั จากการดำ� เนนิ งาน รวมถงึ ขอ้ มลู อน่ื ๆ ในการทบทวน/
ปรบั ปรงุ กระบวนการประเมนิ คณุ ภาพงานตรวจสอบภายในอยา่ งสมำ่� เสมอ
อยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครงั้
หมายเหตุ :
• แนวทางการประเมินภายในองค์กร และภายนอกองคก์ ร
- ภายในองคก์ ร : จดั ให้มีการประเมินผลการปฏิบตั งิ านของผู้ตรวจสอบภายใน
โดยหนว่ ยรบั ตรวจทกุ ครง้ั ภายหลงั เสรจ็ สนิ้ การปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบ และการประเมนิ
ในแต่ละงวดโดยการประเมินตนเองของหน่วยตรวจสอบภายใน หรือโดยบุคคลอ่ืน
ภายในองคก์ รทม่ี คี วามรเู้ กย่ี วกบั แนวทางการตรวจสอบและมาตรฐานการตรวจสอบ
- ภายนอกองค์กร : ต้องมีการประเมินจากภายนอกอย่างน้อยทุก 3-5 ปี
โดยผู้เชียวชาญทม่ี คี ณุ สมบตั เิ หมาะสมและมีความเป็นอสิ ระ
266 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกิจ
2.8 3. หน่วยตรวจสอบภายใน ด้านการปฏิบัติงานและผลงาน • การสอบทานงานครบถว้ นทง้ั ดา้ นกลยทุ ธ์(S)การดำ� เนนิ งาน(O)
(น�้ำหนักร้อยละ 65) การเงิน (F) การปฏิบัตติ ามกฎระเบียบ กฎหมาย นโยบาย (C)
การปฏบิ ัติงานของหน่วยตรวจสอบภายใน ดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)
• แนวทางในการบนั ทกึ และจัดเกบ็ เอกสาร
3.1 การจัดท�ำคมู่ อื การปฏิบตั งิ านตรวจสอบ • การสื่อสารและการรายงาน
(นำ�้ หนกั รอ้ ยละ 5) • แนวทางในการใหค้ ำ� แนะน�ำปรึกษา
ระดบั 1 การวเิ คราะหป์ จั จยั ภายใน/ภายนอก เพอ่ื ประกอบการ • การตดิ ตามการปฏบิ ัตติ ามข้อเสนอแนะ
จดั ทำ� คมู่ อื ปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบ โดยคมู่ อื ฯ สอดคลอ้ ง • การฝกึ อบรมและการพฒั นาผู้ตรวจสอบภายใน
กบั กฎบัตรของหนว่ ยตรวจสอบภายใน • การวัดผลงานและดัชนีวัดผลงาน
ระดบั 2 คู่มือปฏิบัติงานตรวจสอบสอดคล้องกับบริบท/
วัตถุประสงค์ขององค์กร รวมทั้งสอดคล้องกับแนว 3.2 การวางแผนการตรวจสอบ (น�ำ้ หนักรอ้ ยละ 10)
ปฏิบัตทิ ี่ดี และมาตรฐานวิชาชพี ระดบั 1 ก�ำหนดกระบวนการในการจัดท�ำแผนการตรวจสอบ
ระดบั 3 การจดั ท�ำคมู่ อื ปฏิบตั งิ านตรวจสอบท่ีมีองคป์ ระกอบ เชิงกลยุทธ์และแผนการตรวจสอบประจ�ำปีของ
ครบถ้วน รวมถึงมีการอนุมัติและการสื่อสารคู่มือ รัฐวสิ าหกจิ
ปฏบิ ัติงานให้ผทู้ ่เี กย่ี วขอ้ งรบั ทราบ ระดบั 2 การจดั ทำ� แผนการตรวจสอบเชงิ กลยทุ ธแ์ ละแผนการ
ระดบั 4 การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของ ตรวจสอบประจ�ำปี สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ผตู้ รวจสอบภายในใหม้ กี ารปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน ความเสี่ยงที่ส�ำคัญของรัฐวิสาหกิจ และแผนของ
ตรวจสอบภายในอย่างครบถว้ น รัฐวิสาหกจิ
ระดบั 5 การทบทวน/ปรับปรุงคู่มือปฏิบัติงานตรวจสอบ ระดับ 3 การวางแผนการตรวจสอบเชิงกลยุทธ์และแผนการ
ภายใน อย่างน้อยปลี ะ 1 ครัง้ ตรวจสอบประจ�ำปีของรัฐวิสาหกิจ การจัดท�ำ
แผนการตรวจสอบเชงิ กลยทุ ธแ์ ละแผนการตรวจสอบ
หมายเหตุ : ประจำ� ปตี ามฐานความเสย่ี งทม่ี อี งคป์ ระกอบครบถว้ น
องค์ประกอบของคู่มือปฏิบัติงานตรวจสอบ ควรครอบคลุม และการอนุมัติและการสื่อสารแผนการตรวจสอบ
ประเด็นตา่ ง ๆ ดังน้ี ต่อผู้ท่เี กยี่ วข้อง
• บทบาทและความรับผิดชอบ ระดบั 4 แผนการตรวจสอบเชงิ กลยทุ ธแ์ ละแผนการตรวจสอบ
• แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ประจ�ำปีมีการประเมินความเส่ียงในระดับกิจกรรม
เย่ยี งผู้ประกอบวิชาชีพพงึ ปฏิบตั ิ การตรวจสอบอย่างครบถ้วนและเป็นระบบ
• แนวทางในการประเมินกระบวนการก�ำกับการดูแล (พจิ ารณาการนำ� ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศสนบั สนนุ )
กิจการท่ีดี การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์
รวมถงึ กระบวนการบริหารจดั การองค์กรดา้ นตา่ ง ๆ และความเสี่ยงท่ีส�ำคัญของรัฐวิสาหกิจ รวมถึง
เกณฑก์ ารประเมนิ ทงั้ 7 หวั ขอ้ เพอื่ มงุ่ เนน้ ในการสรา้ ง
มูลค่าเพ่มิ ใหก้ ับฝ่ายบรหิ าร
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วสิ าหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรัฐวิสาหกิจ 267
ระดับ 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง ทั้งนี้ การจัดท�ำแผนตรวจสอบเชิงกลยุทธ์ นอกจากการ 2.8
ขอ้ มลู อน่ื ๆ ในการทบทวน/ดำ� เนนิ งานในการปรบั เปลยี่ น ถ่ายทอดเป็นแผนปฏิบัตกิ ารประจำ� ปีแลว้ ตอ้ งก�ำหนด :
แผนการตรวจสอบ กรณีพบประเด็นส�ำคัญที่ส่งผล 1. แผน/แนวทางในการบริหารทรัพยากรของหน่วย
ให้มีการปรับเปล่ียนแผนการปฏิบัติงาน ตรวจสอบภายใน
2. แผนการพัฒนา และสรรหาบุคลากรท่ีสอดคล้อง
หมายเหตุ : กบั แผนตรวจสอบเชิงกลยทุ ธ์
องคป์ ระกอบของแผนการตรวจสอบเชงิ กลยทุ ธ์ ควรประกอบดว้ ย : 3. หน่วยตรวจสอบตอ้ งมกี ารตดิ ตามการเปล่ยี นแปลงของ
รัฐวิสาหกิจ อยู่ตลอดเวลา และต้องมีการประเมินความเส่ียง
• เปา้ หมายของแผนการตรวจสอบเชงิ กลยทุ ธท์ เี่ ชอื่ มโยง ท่ีรัฐวิสาหกิจเผชิญอยู่ตลอด ดังนั้น ผู้ตรวจสอบภายใน
กับเป้าหมายองค์กร ควรทบทวนแผนตรวจสอบเชิงกลยุทธ์และแผนตรวจสอบ
• กระบวนงานหลัก และกระบวนงานย่อย ประจ�ำปีอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั
• ความเส่ียงที่ส�ำคัญ/ความเสี่ยงท่ีเก่ียวข้อง
• ล�ำดับความส�ำคัญในการตรวจสอบ/ระดับความเสี่ยง
• ฝ่ายงานท่ีเก่ียวข้อง
• จ�ำนวน Mandays รวมตลอดระยะเวลาของแผน
• จ�ำนวน Mandays ส�ำหรับแต่ละปีท่ีใช้ส�ำหรับการ
ตรวจสอบ
องคป์ ระกอบของแผนการตรวจสอบประจำ� ปี ควรประกอบดว้ ย :
• เป้าหมายของแผนการตรวจสอบประจ�ำปีที่เชื่อมโยง
กบั แผนการตรวจสอบเชิงกลยทุ ธ์
• โครงการ/กิจกรรม/กระบวนงาน
• วตั ถุประสงคข์ องการตรวจสอบ
• ระดบั ความเสี่ยง/ลำ� ดับความส�ำคัญ
• ระยะเวลาการในการปฏิบัติงานตรวจสอบ/Mandays
ในแตล่ ะโครงการ/กจิ กรรมกระบวนงาน และการพฒั นา
ผตู้ รวจสอบภายใน รวมถึงงบประมาณ
• ผู้รับผิดชอบหลักและผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน
ตรวจสอบในแต่ละโครงการ/กิจกรรม/กระบวนงาน
• แผนการตรวจสอบก�ำหนดกิจกรรมในการเป็น
ผู้ประสานงานและแลกเปลี่ยนความรู้/การให้บริการ
ใหค้ ำ� แนะนำ� ปรึกษา (Consulting)
268 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
2.8 3.3 การวางแผนการปฏิบัติงานตรวจสอบในรายละเอียด • วัตถุประสงค์ของการแจ้งแผนการปฏิบัติงานตรวจสอบ
(น้�ำหนกั รอ้ ยละ 5) ล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ เพ่ือให้หน่วยรับตรวจรับทราบถึง
ระดับ 1 มกี ารกำ� หนดแนวทางในการจดั ทำ� แผนการตรวจสอบ วตั ถปุ ระสงคก์ ารตรวจสอบ (เบือ้ งตน้ ) ขอบเขตการตรวจสอบ
ภายในในรายละเอยี ด โดยแผนการตรวจสอบภายใน (เบอื้ งตน้ ) จดุ มงุ่ เนน้ การตรวจสอบ (เบอ้ื งตน้ ) ระยะเวลาในการ
ในรายละเอยี ดเปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร เขา้ ตรวจสอบ (เบอ้ื งตน้ ) ขอบเขตเอกสาร (เบอ้ื งต้น) สำ� หรับ
ระดบั 2 หน่วยตรวจสอบภายในสอบทานและ/หรอื จัดท�ำทาง การเตรยี มความพรอ้ มในการรบั การตรวจสอบและการใหค้ วาม
เดินของงาน (Flow Chart) ของกิจกรรมหลักและ รว่ มมอื แก่ผตู้ รวจสอบภายใน
กิจกรรมสนับสนุน พร้อมท้ังมีการประเมินความเป็น • การส่ือสารแผนปฏิบัติงานตรวจสอบล่วงหน้า 60 วัน
ไปได้ของการเกิดทุจริต และวิธีการในการบริหาร ไม่นับรวมเร่ืองตรวจพิเศษท่ีนอกเหนือจากแผนปฏิบัติ
จัดความเส่ียงของการทุจริตขององค์กร และมีการ งานประจ�ำปี เข่น งานตรวจสอบที่ได้รับมอบหมายจาก
ก�ำหนดแนวทางการตรวจสอบสำ� หรบั การปฏบิ ตั งิ าน คณะกรรมการรัฐวสิ าหกิจ หรือคณะกรรมการตรวจสอบ หรือ
ตรวจสอบทกุ เร่ือง ผู้บริหารสูงสุด งานตรวจสอบ และงานตรวจสอบประเภท
ระดับ 3 หน่วยตรวจสอบภายในมีการแจ้งแผนการปฏิบัติงาน ไมแ่ จง้ ให้หน่วยรบั ตรวจรับทราบล่วงหน้า (Surprise Check)
ตรวจสอบลว่ งหนา้ อยา่ งเปน็ ทางการไมน่ อ้ ยกวา่ 60 วนั เป็นตน้
ใหห้ นว่ ยรบั ตรวจทราบ มกี ารจดั ทำ� แนวทางการตรวจสอบ
(Audit Program) ตามความเส่ียงทุกเร่ืองตาม 3.4 การปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบ (น�้ำหนักร้อยละ 15)
แผนตรวจสอบประจ�ำปี และมีการสอบทานและ ระดบั 1 มีการก�ำหนดวิธีการตรวจสอบ (Audit Tools)
อนุมัติแนวทางการตรวจสอบ (Audit Program) สอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงคก์ ารตรวจสอบครบถว้ น
ตามล�ำดับชั้นของการปฏบิ ัติงานตรวจสอบ
ระดับ 4 การน�ำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการ ระดบั 2 ด�ำเนินการตรวจสอบครบทุกวิธีการตรวจสอบ
ที่ก�ำหนดในแนวทางการตรวจสอบ พร้อมท้ังมีการ
วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามแผน จดั ท�ำกระดาษท�ำการรองรบั ทกุ วธิ กี ารตรวจสอบ
การปฏิบัติงานตรวจสอบ (Audit Program) ให้มี ระดบั 3 มีการสรุปผลการปฏิบัติงานเบ้ืองต้น (การจัดท�ำ
ประสทิ ธิภาพ Memo สรปุ ผล) ครบถว้ นทกุ ประเดน็ พรอ้ มทงั้ สามารถ
ระดบั 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง
ข้อมูลอ่ืน ๆ ในการทบทวน/ปรับปรุงกระบวนการ เชื่อมโยงระหว่างแนวทางการตรวจสอบกับกระดาษ
ทำ� การไดค้ รบ อกี ทง้ั สามารถเชอ่ื มโยงระหวา่ งกระดาษ
วางแผนตรวจสอบภายในในรายละเอียด เพื่อเพ่ิม ท�ำการหลักกบั กระดาษทำ� การย่อยไดค้ รบถว้ น
ประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั งิ านตรวจสอบ
ระดับ 4 มีการสอบทานการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ และ
มีการน�ำระบบเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการ
หมายเหตุ : ปฏบิ ัติงาน
กรณที ก่ี ารดำ� เนนิ งานของรฐั วสิ าหกจิ มบี รษิ ทั ในเครอื บรษิ ทั รว่ ม ระดบั 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง
และหรือบริษัทที่เก่ียวข้อง ผู้ตรวจสอบภายในควรพิจารณา ข้อมูลอื่น ๆ ในการทบทวน/ปรับปรุงกระบวนการ
ประเมินความเส่ียงขององค์กรท่ีมีความเก่ียวข้องนั้นว่า
การปฏิบัติงานขององค์กรน้ัน มีผลกระทบต่อการบรรลุ ปฏบิ ตั ิงานตรวจสอบภายใน
วัตถุประสงค์ของรัฐวิสาหกิจหรือไม่ หากมีความเส่ียง
เกนิ กวา่ ระดบั ความเสยี่ งทยี่ อมรบั ได้ ผตู้ รวจสอบภายในควรรวม
การตรวจสอบบริษัทในเครือ บริษัทร่วม และหรือบริษัท
ที่เกี่ยวข้องนั้นไว้ในแผนการตรวจสอบเชิงกลยุทธ์และ
แผนตรวจสอบประจำ� ปขี องรัฐวิสาหกจิ
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกิจ 269
3.5 การสรปุ ผลการตรวจสอบและการจดั ทำ� รายงาน 2. การส่ือสารและการรายงานผลการตรวจสอบต่อ 2.8
(นำ้� หนกั ร้อยละ 10) หนว่ ยรบั ตรวจ คณะกรรมการตรวจสอบ และผบู้ รหิ ารสงู สดุ
ระดับ 1 การก�ำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานตรวจสอบด้วย 2.1 การประชมุ ปดิ การตรวจสอบ
2.2 การเปิดเผยข้อเท็จจริงที่มีสาระส�ำคัญ (พิจารณาจาก
ความระมดั ระวังรอบคอบมีความครบถว้ น Working paper และการสรุปผลการตรวจสอบ) รวมถึงการ
ระดับ 2 ผู้ตรวจสอบด�ำเนินการปฏิบัติงานตรวจสอบด้วย จัดล�ำดบั ความส�ำคญั ของผลการตรวจสอบ และขอ้ เสนอแนะ
2.3 การรายงานผลการตรวจสอบอย่างทันกาลต่อหัวหน้า
ความระมดั ระวงั รอบคอบตามแนวทางทก่ี ำ� หนดอยา่ ง หนว่ ยรบั ตรวจ (เฉลยี่ ภายใน 7 วนั หลงั จากการประชมุ ปดิ ตรวจ)
ครบถ้วน 2.4 การรายงานคณะกรรมการตรวจสอบ ผู้บริหารสูงสุด
ระดับ 3 การปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบดว้ ความระมดั ระวงั รอบคอบ อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานวชิ าชพี การนำ� เทคโนโลยแี ละ ทง้ั นี้ หวั หนา้ หนว่ ยตรวจสอบภายในควรจดั ทำ� รปู แบบของ
เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ เข้ามาช่วยในการ รายงานผลการตรวจสอบให้สอดคล้องกับความต้องการของ
ปฏิบตั งิ านตรวจสอบ ผรู้ บั รายงาน โดยทวั่ ไปรายงานผลการตรวจสอบ ประกอบดว้ ย
ระดบั 4 หน่วยตรวจสอบภายในสามารถให้ข้อเสนอแนะ 1) วัตถปุ ระสงคก์ ารตรวจสอบ
ในเชิงกลยุทธ์ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ 2) ขอบเขตการตรวจสอบ
องค์กรได้รวมถึงการสรุปประเด็นจากการตรวจสอบ 3) บทคัดย่อส�ำหรับผู้บริหาร เป็นการสรุปภาพรวมผลการ
เป็นองค์ความรู้ตามกระบวนการจัดการความรู้ เพื่อ ตรวจสอบ และน�ำเสนอเฉพาะประเด็นส�ำคัญที่มีความเสี่ยงสูง
น�ำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในหน่วยตรวจ 4) ผลงานท่เี ปน็ ที่นา่ พอใจของหน่วยรับการตรวจ
สอบภายในและองค์ความรู้ขององค์กร 5) รายละเอยี ดของขอ้ ตรวจพบ ซง่ึ จะระบุ
ระดับ 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวม - ขอ้ ตรวจพบ ปัญหา ผลกระทบและความเสย่ี ง
ถึงข้อมูลอ่ืนๆ ในการทบทวน/ปรับปรุงแนวทาง - ข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรงุ
ในการปฏิบัติงานตรวจสอบด้วยความระมัดระวัง - ความเหน็ ของฝา่ ยบรหิ ารเกยี่ วกบั ขอ้ ตรวจพบและแผนใน
รอบคอบ (การกำ� หนดวธิ กี ารตรวจสอบ เครอ่ื งมอื การ การดำ� เนินการปรบั ปรงุ แกไ้ ข
ตรวจสอบ แนวทางในการติดตามการปฏิบัติงาน - ประเด็นอ่ืนท่คี วรพิจารณา
ตามข้อเสนอแนะ) เพ่ือให้การปฏิบัติงานตรวจสอบ
มปี ระสทิ ธิภาพเพิม่ ขึ้น
หมายเหตุ : 3. การติดตามผลการตรวจสอบ
1. การปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบและการสอบทานงาน 3.1 การติดตามข้อเสนอแนะ
1.1. การประชมุ เปดิ การตรวจสอบ 3.2 การจัดท�ำทะเบียนควบคุมการติดตาม (การใช้ระบบ
1.2. การระบุ วเิ คราะห์ และบนั ทกึ งานทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนนิ เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดตาม และเก็บรวบรวมข้อมูล
การเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบและปฏิบัติงาน ผลการปฏิบตั ิงานตามข้อเสนอแนะ)
ตามแนวทางที่ถกู ต้อง 3.3 การรายงานผลการติดตามการปฏิบัติงานตาม
1.3. การรวบรวมหลกั ฐานทเ่ี พยี งพอเกยี่ วขอ้ งและเชอ่ื ถอื ได้ ข้อเสนอแนะ
เพ่ือใช้ประกอบผลการตรวจสอบ 3.4 การหารอื กบั ผบู้ รหิ ารหนว่ ยรบั ตรวจ และ/หรอื ผบู้ รหิ าร
1.4. การสอบทานคณุ ภาพของงานตรวจสอบภายใน สงู สดุ เก่ยี วกบั ปัญหา/อปุ สรรคในการปฏิบัตติ ามขอ้ เสนอแนะ
ที่ไดร้ บั จากการตรวจสอบ เพือ่ กำ� หนดแนวทางแก้ไขเพ่ิมเตมิ
270 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกจิ
2.8 ผลงานของหนว่ ยตรวจสอบภายใน 3.7 การให้คำ� ปรึกษา (นำ�้ หนกั รอ้ ยละ 5)
ระดับ 1 ผู ้ ต ร ว จ ส อ บ ภ า ย ใ น ส า ม า ร ถ ใ ห ้ ค� ำ ป รึ ก ษ า
3.6 การใหค้ วามเชื่อม่ัน (น้�ำหนักร้อยละ 10) ที่ช่วยให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ระดบั 1 การตรวจสอบภายในดา้ นการเงนิ ดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน ของการควบคุมภายใน หรือการบริหารความเสี่ยง
และดา้ นการปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ขอ้ บังคบั ชว่ ยให้ หรือการกำ� กบั ดแู ล
เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของ ระดับ 2 ผู้ตรวจสอบภายในสามารถให้ค�ำปรึกษาที่ช่วยให้
การควบคุมภายใน หรือการบริหารความเส่ียง เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของ
หรือการก�ำกับดูแล การควบคุมภายใน และการบริหารความเสี่ยง
ระดบั 2 การตรวจสอบภายในดา้ นการเงนิ ดา้ นการปฏบิ ตั งิ าน และการก�ำกบั ดแู ล
และด้านการปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ ขอ้ บงั คับช่วยให้ ระดับ 3 การประเมินผลด้านการให้ค�ำปรึกษาของหน่วย
เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของ ตรวจสอบภายใน โดยคณะกรรมการตรวจสอบ และ
การควบคมุ ภายใน และการบรหิ ารความเสยี่ ง และการ ผูบ้ ริหารระดบั สูง
ก�ำกับดูแล ระดบั 4 ผู้ตรวจสอบภายในสามารถให้ค�ำปรึกษาท่ีส่งผลให้
ระดบั 3 การประเมินผลด้านการให้ความเชื่อมั่นของหน่วย เ กิ ด ก า ร เ พิ่ ม มู ล ค ่ า แ ล ะ ย ก ร ะ ดั บ ก ร ะ บ ว น ก า ร
ตรวจสอบภายใน โดยคณะกรรมการตรวจสอบและ ปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจให้บรรลุเป้าหมาย
ผู้บรหิ ารระดับสูง หรือวัตถุประสงค์ขององค์กรที่ก�ำหนดไว้อย่างมี
ระดับ 4 ผลจากการปฏิบัติงานตรวจสอบด้านการให้ ประสิทธิภาพ รวมถึงการให้คำ� แนะนำ� เพื่อปรับปรงุ
ความเชื่อม่ัน ท�ำให้เกิดการเพ่ิมมูลค่าและยกระดับ การดำ� เนนิ งานขององคก์ รในดา้ นตา่ ง ๆ ซง่ึ ครอบคลมุ
กระบวนการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจให้บรรลุ การด�ำเนินการตามเกณฑ์การประเมิน Enabler ท้ัง
เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ขององค์กรท่ีก�ำหนดไว้ 7 ดา้ น
รวมถึงการปรับปรุงการด�ำเนินงานขององค์กร ระดับ 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง
ในดา้ นตา่ ง ๆ ซง่ึ ครอบคลมุ การดำ� เนนิ การตามเกณฑ์ ขอ้ มลู อ่นื ๆ ในการทบทวน/ปรับปรุงแนวทางในการ
การประเมิน Enabler ทัง้ 7 ด้าน ปฏิบัติงานตรวจสอบภายในด้านการให้ค�ำปรึกษา
ระดบั 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง เพื่อให้หน่วยตรวจสอบภายในได้รับความเชื่อม่ันใน
ข้อมูลอ่ืน ๆ ในการทบทวน/ปรับปรุงแนวทาง การให้ค�ำปรึกษาจากคณะกรรมการตรวจสอบและ
ในการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในด้านการให้ ผู้บริหารระดับสูงอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ความเชื่อมั่น เพ่ือให้หน่วยตรวจสอบภายในได้รับ เพิม่ ขนึ้
ความเชื่อม่ันในการปฏิบัติงานตรวจสอบจากคณะ
กรรมการตรวจสอบและผู้บริหารระดับสูงอย่างมี หมายเหตุ :
ประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ลเพ่มิ ข้นึ การปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบดา้ นการใหค้ วามเชอ่ื มนั่ ประกอบดว้ ย
• Financial Audit – การให้ความเช่ือม่ันต่อรายงาน
การเงิน การให้ความเชื่อม่ันในการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี
และระบบการเงนิ ของรฐั วิสาหกจิ
• Operation and Performance Audit – การใหค้ วาม
เชื่อม่ันต่อการปฏิบัติงานในระบบงานของรัฐวิสาหกิจ รวมถึง
ระบบงาน Enablers ท้งั 7 ด้าน ตามแนวทางที่ สคร. กำ� หนด
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวิสาหกจิ ตามระบบประเมินผลรัฐวิสาหกจิ 271
• Compliance Audit – การใหค้ วามเชอื่ มนั่ ตอ่ การปฏบิ ตั ิ 4. หนว่ ยรบั ตรวจ (น้�ำหนักร้อยละ 5) 2.8
งานตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บังคับ และประกาศท่ีเกยี่ วข้อง 4.1 ความรับผดิ ชอบของหน่วยรับตรวจ (น�ำ้ หนกั ร้อยละ 5)
• Security Audit – การให้ความเชื่อมั่นต่อความมั่นคง ระดับ 1 ก� ำ ห น ด บ ท บ า ท แ ล ะ ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ ข อ ง
ปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
หน่วยตรวจสอบภายในต้องได้รับการประเมินผลการ หนว่ ยรบั ตรวจไวอ้ ย่างชดั เจน
ปฏิบัติงานด้านการให้ความเชื่อม่ัน และด้านการให้ค�ำปรึกษา ระดับ 2 การสื่อสารบทบาทและความรับผิดชอบของ
จากคณะกรรมการตรวจสอบ และผู้บริหารสูงสุดของ
รัฐวิสาหกิจ อย่างน้อยปีละ 1 คร้ัง โดยประเด็นการประเมิน หน่วยรับตรวจ เพ่ือให้ผู้บริหารหน่วยรับตรวจ และ
ควรครอบคลมุ อย่างนอ้ ย พนกั งานของหน่วยรบั ตรวจรับทราบ
การให้ความเชือ่ มัน่ : ระดับ 3 หน่วยรับตรวจด�ำเนินการตามบทบาทและ
1.กิจกรรมการตรวจสอบช่วยเพ่ิมคุณค่าใหแ้ กอ่ งคก์ ร ความรบั ผดิ ชอบทก่ี ำ� หนด โดยใหค้ วามรว่ มมอื ในการ
2.กิจกรรมการตรวจสอบประจ�ำปีช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ประสานงาน และข้อมลู อย่างครบถ้วนเพยี งพอ
ของการก�ำกับดแู ลกจิ การที่ดใี หแ้ ก่องคก์ ร ระดับ 4 การประเมินการให้ความร่วมมือของหน่วยรับตรวจ
3.กิจกรรมการตรวจสอบประจ�ำปีช่วยยกระดับประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการด�ำเนินงานร่วมกัน
การบรหิ ารความเส่ยี งขององค์กร และแจ้งให้ผู้บริหารสายงานของหน่วยรับตรวจ
4.กิจกรรมการตรวจสอบประจ�ำปีช่วยยกระดับประสิทธิภาพ รวมท้งั คณะกรรมการตรวจสอบ เพอ่ื ทราบ
การควบคมุ ภายในขององค์กร เป็นตน้ ระดบั 5 การใช้ข้อมูลป้อนกลับจากการด�ำเนินงาน รวมถึง
การให้ค�ำปรึกษา : ข้อมูลอ่ืน ๆ ในการทบทวนกระบวนการปฏิบัติงาน
1.การให้คำ� ปรกึ ษาช่วยเพิ่มคุณคา่ ให้แก่องค์กร ร่วมกับหน่วยรับตรวจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2.การใหค้ ำ� ปรกึ ษาของหนว่ ยตรวจสอบภายใน/ผตู้ รวจสอบภายใน และประสิทธผิ ลยิง่ ขน้ึ
ช่วยเพ่มิ ประสิทธภิ าพการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร เป็นตน้ หมายเหตุ :
บทบาทและความรับผิดชอบของหน่วยรับตรวจ เช่น
จดั เตรยี มเอกสารหลกั ฐานเกยี่ วกบั การดำ� เนนิ งาน รวมถงึ ขอ้ มลู
อ่ืนท่ีเก่ียวข้องให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมท่ีจะตรวจสอบได้
การตอบชแ้ี จงและตอบขอ้ ซกั ถามตา่ ง ๆ พรอ้ มทงั้ หาขอ้ มลู เพมิ่
เตมิ ให้ผตู้ รวจสอบภายใน เป็นต้น
272 สำ�นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวสิ าหกิจ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วิสาหกจิ 273
กรอบระยะเวลา
การประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งาน
รัฐวสิ าหกิจ
ประจำ� ปีบัญชี 2563
274 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกจิ
3 1. การจดั ทำ� บันทกึ ข้อตกลงประเมนิ ผลการด�ำเนินงานรัฐวิสาหกจิ
ข้นั ตอน ระยะเวลา เงอ่ื นไข หมายเหตุ
ดำ� เนนิ การ การปรบั ลด
คะแนน
1. รฐั วสิ าหกจิ สง่ รา่ งตวั ชว้ี ดั 2 เดอื นกอ่ น รัฐวสิ าหกจิ กรณคี ณะกรรมการรฐั วสิ าหกิจไม่สามารถให้
การดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตร์ เรมิ่ ปบี ญั ชี ยกเวน้ ทด่ี ำ� เนิน ความเห็นชอบร่างตัวชวี้ ัดและขอ้ มลู ประกอบได้
และการดำ� เนนิ งานทส่ี ำ� คญั รฐั วสิ าหกจิ การลา่ ชา้ เช่น ไม่มคี ณะกรรมการรฐั วิสาหกิจดำ� รงต�ำแหนง่
ของรฐั วสิ าหกจิ พรอ้ มทง้ั ปงี บประมาณ จะถูกปรบั ลด ในขณะนั้น เป็นต้น ใหผ้ บู้ รหิ ารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ
ขอ้ มลู ประกอบการจดั ทำ� ใหส้ ง่ 1 เดอื น คะแนนวนั ละ หรือรกั ษาการผบู้ ริหารสูงสุดของรฐั วสิ าหกิจนำ� เสนอร่าง
บนั ทกึ ขอ้ ตกลงฯ เชน่ กอ่ นเรมิ่ ปบี ญั ชี 0.05 คะแนน* ตัวชวี้ ดั และขอ้ มลู ประกอบให้ สคร. พร้อมชแ้ี จงเหตผุ ล
งบการเงิน ผลการดำ� เนิน ประกอบการพจิ ารณา
งาน รายละเอยี ดแผนงาน
โครงการ งบลงทนุ แผน
วสิ าหกจิ และแผนประจำ� ป/ี
แผนธรุ กจิ เปน็ ตน้
ทผี่ า่ นความเหน็ ชอบจาก
คณะกรรมการรฐั วสิ าหกจิ
2. การจดั ทำ� บนั ทกึ ชว่ ง 2 เดอื นกอ่ น 1) กรณมี ีการจัดประชุม Vision Meeting ควรด�ำเนิน
ขอ้ ตกลงฯ โดยผา่ น เรมิ่ ปบี ญั ชี จนถงึ การใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน 2 สัปดาห์แรกของช่วงเวลา
ความเหน็ ชอบจากคณะ ตน้ ปบี ญั ชี ยกเวน้ ดงั กล่าว
อนกุ รรมการจดั ทำ� บนั ทกึ รฐั วสิ าหกจิ ปงี บ 2) การประชุม SubPAC เพื่อจัดทำ� บันทึกข้อตกลงฯ
ขอ้ ตกลงและประเมนิ ผล ประมาณ ใหเ้ รมิ่ ไม่ควรเกนิ 2 ครั้ง และให้ สคร. ส่งรา่ งบนั ทึกข้อตกลงฯ
การดำ� เนนิ งานรฐั วสิ าหกจิ ดำ� เนนิ การชว่ ง1 เดอื น ให้รฐั วสิ าหกิจลงนาม
(รายสาขา) (SubPAC) และ กอ่ นเรม่ิ ปบี ญั ชี 3) รายงานความคืบหน้าในการจดั ทำ� บนั ทึกข้อตกลงฯ
สคร. สง่ รา่ งบนั ทกึ ขอ้ ตก จนถงึ 1 เดอื น เสนอคณะกรรมการประเมินผลงานรฐั วสิ าหกิจ (PAC)
ลงฯ ใหร้ ฐั วสิ าหกจิ ลงนาม หลงั ตน้ ปบี ญั ชี เพอ่ื ทราบ
3. การลงนามและสง่ กลับ ภายใน 30 วัน รฐั วิสาหกจิ ท่ี 1) กรณที ่ีรัฐวสิ าหกิจมีความเห็นแย้งให้รัฐวิสาหกิจ
บันทกึ ข้อตกลงฯ หรอื ส่ง นับถัดจากวนั ที่ ด�ำเนนิ การ ส่งความเหน็ แยง้ พร้อมบันทึกขอ้ ตกลงฯ กลับมายงั สคร.
ความเหน็ แย้ง (ถ้าม)ี สคร. สง่ รา่ งบนั ทกึ ลา่ ชา้ จะถกู ปรบั ภายใน 30 วนั นบั ถัดจากวนั ที่ สคร. ส่งร่างบนั ทึก
ทีผ่ ่านความเห็นชอบ ขอ้ ตกลงฯ ให้ ลดคะแนน ขอ้ ตกลงฯ ให้รฐั วิสาหกิจลงนาม หากพน้ ระยะเวลา
จากคณะกรรมการ รฐั วสิ าหกจิ ลงนาม วนั ละ 0.05 ดงั กล่าว ให้การประเมนิ ผลรฐั วสิ าหกจิ เป็นไปตาม
รฐั วิสาหกิจ คะแนน* ทงั้ น้ี รา่ งบันทกึ ข้อตกลงฯ
ใหร้ วมถึง 2) เมอื่ รฐั วสิ าหกจิ มคี วามเหน็ แยง้ ใหเ้ สนอ SubPAC
การดำ� เนนิ การ พจิ ารณาภายใน 30 วนั นบั ถดั จากวนั ท่ี สคร. ไดร้ บั แจง้
ในข้อ 4) ด้วย จากรฐั วสิ าหกจิ และเสนอ PAC เพอ่ื ทราบ
3) กรณที ีไ่ ม่อาจมขี อ้ ตกลงรว่ มกนั ได้ ให้น�ำเสนอ PAC
เพ่ือพจิ ารณา และใหค้ วามเห็นของ PAC ถือเป็นทสี่ ุด
4) ภายหลังพิจารณาความเห็นแย้งแล้วเสร็จ
ให้รัฐวิสาหกิจลงนามและส่งกลับบันทึกข้อตกลงฯ
ให้ สคร. ภายใน 15 วันนับถัดจากวันที่ สคร. ส่งร่าง
บันทึกข้อตกลงฯ ให้รัฐวิสาหกิจลงนาม หากพ้นระยะ
เวลาดังกล่าว ให้การประเมินผลรัฐวิสาหกิจเป็นไป
ตามร่างบันทึกข้อตกลงฯ
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรัฐวิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกิจ 275
2. การประเมินผลการด�ำเนนิ งานรฐั วิสาหกิจ 3
ขัน้ ตอน ระยะเวลา เง่อื นไข หมายเหตุ
ดำ� เนินการ การปรบั ลด
คะแนน
1. รายครึง่ ปี ในส่วนของ หลังส้ินไตรมาสท่ี 2
ตวั ชวี้ ดั เชน่ การดำ� เนนิ งาน
ตามยุทธศาตร์ และการ
ด�ำเนนิ งานของรฐั วสิ าหกิจ
2. การปรับปรงุ /เปล่ียน ก่อนสิ้นปีบญั ชี เหตุในการขอปรบั ปรงุ /เปล่ียนแปลงต้องเปน็ ผลกระทบ
แปลงรายละเอียดตวั ช้ีวดั เกิดจากปัจจยั ภายนอกซ่ึงไมใ่ ช่ความบกพรอ่ งของ
บางสว่ นหรอื ทงั้ หมด รัฐวิสาหกิจ และไมใ่ ช่เหตกุ ารณอ์ นั เกดิ ขึ้นได้โดยปกติ
ระหวา่ งปี (ถ้าม)ี ให้ ของธุรกจิ (Normal Business Operation)
รฐั วิสาหกิจส่งค�ำขอและ โดยผลกระทบดังกลา่ วส่งผลอยา่ งมีนัยส�ำคัญ
รายละเอยี ดที่ได้รบั ตอ่ รัฐวิสาหกจิ ให้ต้องปรบั ปรงุ แผนการด�ำเนนิ งาน
ความเห็นชอบจาก จนไม่อาจอา้ งองิ ตัวชวี้ ดั ทไ่ี ด้ตกลงไวเ้ ดิมได้
คณะกรรมการรัฐวสิ าหกิจ
และกระทรวงเจา้ สงั กดั
เสนอตอ่ SubPAC เพอ่ื
พจิ ารณา และให้ความเห็น
ของ SubPAC ถอื เป็นท่ีสดุ
3. การสง่ รายงานผล ภายใน 1 เดือน รฐั วสิ าหกจิ 1) รัฐวสิ าหกิจท่ีสง่ ข้อมูลเพอื่ ประกอบการประเมนิ ผล
การดำ� เนนิ การประจ�ำปี หลงั สิน้ ปบี ญั ชี ทีด่ �ำเนินการ องคก์ รลา่ ชา้ เกนิ กว่า 2 เดอื นหลงั ส้ินปบี ัญชีจะไม่ไดร้ ับ
ล่าชา้ จะ การประเมนิ ผลในหัวข้อท่ีมกี ารส่งข้อมลู ล่าชา้ และให้
ถูกปรับลด รฐั วิสาหกิจไดร้ บั ผลการประเมนิ ในระดบั 1.0000
คะแนนวนั ละ ในหัวขอ้ ดงั กล่าว
0.05 คะแนน* 2) สำ� หรบั รัฐวสิ าหกจิ ในกลุม่ ฟน้ื ฟู 5 แหง่ ได้แก่ บกท.
รฟท. ขสมก. ทีโอที และ กสท. ไม่ตอ้ งสง่ ขอ้ มูลประกอบ
การประเมิน Core Business Enablers ท้งั 8 ดา้ น
เนื่องจาก PAC มมี ตใิ หย้ กเวน้ การประเมนิ Core Business
Enablers ยกเว้นกรณีที่รฐั วิสาหกจิ ออกจากกลมุ่ ฟ้ืนฟู
กอ่ นเร่มิ กระบวนการจัดทำ� บันทกึ ขอ้ ตกลงฯ
ทง้ั น้ี ให้รวมถึง อสมท ดว้ ย
4. SubPAC และ ภายใน 3 เดือน
อนุกรรมการทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง หลงั สน้ิ ปีบัญชี
ประเมินผลการด�ำเนนิ งาน
ประจำ� ปีของรัฐวสิ าหกจิ
5. PAC พจิ ารณาผล ภายใน 4 เดือน
การประเมนิ ผลเสร็จ หลงั สิ้นปีบญั ชี
หมายเหตุ :* การปรับลดคะแนนในหัวขอ้ 1 การจดั ท�ำบันทึกข้อตกลงประเมนิ ผลการดำ� เนินงานรัฐวิสาหกจิ และหัวขอ้ 2 การประเมิน
ผลการด�ำเนินงานรฐั วิสาหกจิ จะปรบั ลดสงู สุดในทุกหวั ข้อยอ่ ยรวมกันไมเ่ กนิ 1 คะแนน จากคะแนนรวมขององคก์ ร ณ สน้ิ ปี
276 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกจิ
3. การแจ้งผลการประเมนิ ผลการด�ำเนินงานรัฐวสิ าหกจิ
3 ขั้นตอน ระยะเวลา หมายเหตุ
ดำ� เนนิ การ
1.การแจ้งผลคะแนน ภายใน 30 วนั
ประเดน็ ปญั หา ขอ้ สงั เกต/ นบั ถดั จากวันที่
ข้อเสนอแนะของ PAC PAC เหน็ ชอบ
และกระทรวงการคลงั ผลการประเมินฯ
จากการประเมินผล
ท่ีผา่ นความเห็นชอบ
จาก PAC
2. คณะกรรมการ ภายใน 30 วนั
รฐั วิสาหกจิ ลงนาม ถดั นบั จากวันท่ี
รบั ทราบผลคะแนน สคร. แจ้งผล
และประเด็นปญั หาฯ คะแนน และ
ประเด็นปญั หาฯ
3. การสง่ ขอ้ เสนอ ภายใน 60 วัน
แนวทางการปรบั ปรุง นับถดั จากวันที่
องคก์ รตามประเดน็ สคร. แจง้ ผล
ปญั หาฯ ท่ผี า่ นความเหน็ คะแนน และ
ชอบจากคณะกรรมการ ประเด็นปญั หาฯ
รฐั วิสาหกิจ
4. การอทุ ธรณผ์ ลคะแนน ภายใน 60 วัน 1) เหตุผลการขออทุ ธรณ์ผล ตอ้ งเป็นขอ้ เทจ็ จริงใหม่ ซึง่ ยงั ไม่เคยไดร้ บั
การประเมนิ (ถ้ามี) นับถดั จาก วันที่ การพิจารณาในขนั้ ตอนการประเมนิ ผลของ SubPAC หรือ
ท่ีผา่ นความเห็นชอบ สคร. แจง้ ผล คณะอนกุ รรมการทเ่ี ก่ียวข้อง
จากคณะกรรมการ คะแนน และ 2) เม่ือรฐั วิสาหกจิ ขออุทธรณผ์ ลคะแนน ใหเ้ สนอ SubPAC พิจารณา
รัฐวิสาหกจิ ประเดน็ ปญั หาฯ และหากผลคะแนนมีการเปลยี่ นแปลงให้เสนอ PAC เพ่ือทราบ
เวน้ แตใ่ นกรณีท่ี SubPAC เห็นควรเสนอ PAC เปน็ ผู้พจิ ารณา
3) การขออทุ ธรณ์ผลคะแนนจะต้องดำ� เนินการ ก่อนการจดั สรรโบนสั
ของผูบ้ ริหาร กรรมการและพนกั งานรฐั วสิ าหกิจ ไมว่ า่ จะเป็นการจดั สรร
โบนัสบางส่วนหรือทง้ั หมดก็ตาม และต้องไมน่ �ำคะแนนการประเมนิ ผล
ไปใชใ้ นการจัดสรรโบนัส จนกว่า การพิจารณาผลอุทธรณจ์ ะแล้วเสร็จ
5. การแจง้ คะแนน โดยเร็วหลังจาก
ประเมนิ ผลทไ่ี ด้รับ PAC เห็นชอบ
การรับรองผล ผลการประเมินฯ
อย่างเปน็ ทางการ จาก
สำ� นกั งานการตรวจเงิน
แผน่ ดิน หรอื หน่วยงาน
ท่เี ก่ียวขอ้ ง
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรัฐวิสาหกจิ 277
4. กรอบตวั ช้วี ัดและน�้ำหนกั ของการประเมินผล 3
หัวข้อ น้�ำหนกั (รอ้ ยละ)*
ขอ้ 1 การด�ำเนนิ งานตามยุทธศาสตร์ 60 (+/-15)
ขอ้ 2 ผลการดำ� เนนิ งานของรฐั วสิ าหกจิ (การเงนิ /ไมใ่ ชก่ ารเงนิ )
ขอ้ 3 Core Business Enablers 40 (+/-15)
3.1 การกำ� กบั ดแู ลท่ีดแี ละการนำ� องคก์ ร
3.2 การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์
3.3 การบริหารความเส่ยี งและการควบคุมภายใน
3.4 การมงุ่ เนน้ ลกู คา้ และผ้มู ีส่วนไดส้ ่วนเสยี
3.5 การพฒั นาเทคโนโลยดี ิจิทลั
3.6 การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
3.7 การจดั การความร้แู ละนวัตกรรม
3.8 การตรวจสอบภายใน
รวม 100
หมายเหตุ : ให้ SubPAC เป็นผู้พิจารณาปรับเพ่มิ หรอื ลดน้ำ� หนกั ของตัวชี้วัดในแต่ละหวั ข้อตามกรอบตัวชวี้ ดั ได้
ตัวช้วี ดั รว่ ม น้ำ� หนัก หมายเหตุ
(รอ้ ยละ)
ความสามารถในการบริหารแผนลงทนุ 5 ใช้กับรัฐวิสาหกิจทุกแห่งท่ีมีมูลค่างบลงทุนรวม
- ร้อยละของภาพรวมการเบิกจา่ ยท่ีเกิดขึน้ จริง 2.5 ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ท้ังนี้ ส�ำหรับรัฐวิสาหกิจ
- รอ้ ยละความสามารถในการเบกิ จา่ ยตามแผน 2.5 ที่มีมูลค่างบลงทุนรวมต�่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
การก�ำหนดเป็นตัวชี้วัดและน้�ำหนักให้เป็นไปตาม
ดุลพนิ จิ ของ SubPAC
ระดับความส�ำเร็จในการด�ำเนินงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพ 1) ก�ำหนดเปน็ ตวั ช้ีวดั ในหัวข้อ 4
เชงิ นเิ วศเศรษฐกิจ หรือ Eco-efficiency ข้อย่อย 1 การด�ำเนินงานตามยุทธศาสตร์
ข้อย่อย 2 ผลการด�ำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้การก�ำหนดเป็นตัวชี้วัดและน้�ำหนักให้เป็นไป
ตามดุลพนิ ิจของ SubPAC
2) เกณฑ์การประเมนิ ออกเป็น 2 ระยะ ดังน้ี
ระยะที่ 1 : สำ� หรบั รฐั วสิ าหกจิ ทกี่ ำ� หนดเปน็ ตวั ชว้ี ดั
ในปีแรก พิจารณาการเตรียมความพร้อม การ
5 ศึกษาและก�ำหนดแนวทางในการวัดและประเมิน
เรื่องของประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ หรือ
Eco-efficiency ขององคก์ ร
ระยะที่ 2 : สำ� หรบั รัฐวิสาหกจิ ที่ผา่ นระยะท่ี 1 แลว้
พิจารณาการด�ำเนินงานตามแนวทางการด�ำเนิน
การวัดและประเมินเร่ืองประสิทธิภาพเชิงนิเวศ
เศรษฐกิจ หรือ Eco-efficiency ตามแนวปฏิบัติ
ท่ีดี ISO 14045 ได้จริง และรายงานผลเป็น
ตวั เลขได้ชัดเจนและมีการเทียบกับมาตรฐาน
278 สำ�นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรัฐวสิ าหกิจ 279
ภาคผนวก
280 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
การบูรณาการของเกณฑ์การประเมินผล Core Business Enablers
1. การก�ำกับดแู ลทด่ี แี ละการน�ำองคก์ ร (Corporate Governance & Leadership : CG & Leadership)
4 ประเด็นพจิ ารณา ประเดน็ ยอ่ ย การบูรณาการ
กับเกณฑ์หัวขอ้ อน่ื ๆ
1. บทบาทของภาครฐั 1.1 การรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านตามนโยบายและ
แนวทางการกำ� กับดแู ลท่ดี ีแกผ่ ู้ถอื ห้นุ ภาครัฐ
2. บทบาทของรัฐวสิ าหกจิ 2.1 การกำ� หนดนโยบายและแข่งขันทางการตลาดท่เี ปน็ ธรรม
เพื่อการตลาดที่เป็นธรรม
3. สทิ ธิและความเทา่ เทยี ม 3.1 การบรหิ ารสิทธิของผูถ้ อื หุ้นทัง้ ตามกฎหมายและข้อบังคับอ่ืนท่เี กยี่ วขอ้ ง
กันของผถู้ อื หนุ้
4. บทบาทของผ้มู ีส่วนได้ 4.1 การจัดให้มนี โยบายและการปฏบิ ตั ิงานเชงิ กลยทุ ธ์ด้าน CSR in Process • การมงุ่ เนน้ ผูม้ สี ่วนได้
เสีย 4.2 การตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งานดา้ น CSR in Process สว่ นเสยี และลูกคา้
4.3 การเสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ของชมุ ชนสำ� คัญตามความสามารถพิเศษของ
รฐั วิสาหกจิ
5. การเปดิ เผยขอ้ มูล 5.1 การเปดิ เผยขอ้ มลู ผา่ นรายงานประจำ� ปี ทม่ี ีข้อมูลครบถ้วน ถกู ต้อง ทนั กาล • การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์
เชื่อถอื ได้ • การพฒั นาเทคโนโลยี
5.2 การเปดิ เผยขอ้ มลู ผา่ น Website ของรัฐวิสาหกิจ ดจิ ทิ ลั
5.3 ระยะเวลาการเผยแพรร่ ายงานประจ�ำปตี อ้ งสอดคล้องกับ สคร. • การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
• การตรวจสอบภายใน
6. คณะกรรมการ 6.1 โครงสร้าง องค์ประกอบ และทกั ษะความรคู้ วามสามารถของคณะกรรมการ
6.2 การสรรหากรรมการจากบัญชีรายชื่อของกระทรวงการคลงั
6.3 การก�ำหนดทศิ ทาง กลยทุ ธ์ และจัดให้มีแผนยทุ ธศาสตร์ระยะยาว
และแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำ� ปี
6.4 การติดตามความเพยี งพอของระบบบริหารจดั การองค์กร
6.5 การประเมินผลงานและก�ำหนดคา่ ตอบแทนของผบู้ ริหารสงู สุดและผบู้ ริหาร
ระดบั สงู
6.6 ประสิทธิภาพการประชมุ ของคณะกรรมการ
6.7 การเสริมสรา้ งการก�ำกบั ดแู ลท่ีดีในรฐั วิสาหกจิ
6.8 การประเมินและพัฒนาตนเองของคณะกรรมการ
7. การบริหารความเส่ียง 7.1 การจดั ใหม้ คี ณะอนกุ รรมการบรหิ ารความเสยี่ งและควบคมุ ภายใน • การบรหิ ารความเสย่ี ง
และการควบคุมภายใน 7.2 การให้ความเห็นชอบแผนการด�ำเนินงานประจำ� ปขี องการบรหิ ารความเส่ยี ง และการควบคมุ ภายใน
และการควบคมุ ภายใน
7.3 การติดตามมาตรฐานและประสทิ ธิผลของระบบการบริหารความเสยี่ ง
และควบคมุ ภายใน
8. จรรยาบรรณ 8.1 การจัดให้มแี ละเสรมิ สรา้ งพฤตกิ รรมตามคมู่ ือจริยธรรมจรรยาบรรณ • การจัดการความรู้
ในรฐั วสิ าหกิจ และนวตั กรรม
9. ความยง่ั ยืน 9.1 การจดั ใหม้ นี โยบายและระบบการบริหารจัดการนวตั กรรม
และนวตั กรรม 9.2 การจดั ใหม้ ีนโยบาย และการพฒั นาความยั่งยนื เชงิ ยทุ ธศาสตร์
9.3 การจดั ทำ� รายงานการพฒั นาความย่ังยื
10. การติดตามผล 10.1 การติดตามผลการดำ� เนินงานด้านการเงินและไม่ใชก่ ารเงนิ
การดำ� เนินงาน 10.2 คุณภาพของรายงานผลการดำ� เนินงานด้านการเงินและไม่ใชก่ ารเงนิ
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกิจ 281
2. การวางแผนเชงิ กลยุทธ์ (Strategic Planning : SP)
ประเดน็ พิจารณา ประเด็นยอ่ ย การบูรณาการ 4
กับเกณฑ์หวั ข้ออืน่ ๆ
Module 1 : กระบวนการวางแผนกลยุทธ์ • การก�ำกับดูแลท่ีดแี ละการน�ำองคก์ ร
• การบริหารความเสี่ยงและการควบคมุ ภายใน
1. การวเิ คราะห์ 1.1 กระบวนการรวมรวมและวิเคราะห์ปัจจยั นำ� เข้า • การมงุ่ เนน้ ผู้มสี ว่ นได้สว่ นเสยี และลกู ค้า
สภาพแวดลอ้ ม ในการวางแผนยุทธศาสตร์ • การพัฒนาเทคโนโลยดี ิจทิ ลั
1.2 กระบวนการวเิ คราะห์ SWOT • การบรหิ ารทนุ มนุษย์
1.3 กระบวนการวิเคราะหค์ วามทา้ ทาย/ความได้เปรยี บ
เชงิ ยทุ ธศาสตร์ และความสามารถพิเศษองค์กร
2. การวเิ คราะห์ต�ำแหนง่ 2.1 การวิเคราะห์ Business Model ภายใตก้ าร • การบรหิ ารความเส่ียงและการควบคมุ ภายใน
ทางยุทธศาสตร์ เปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อมการแขง่ ขัน
รวมถงึ การก�ำหนด Intelligent Risk
2.2 กระบวนการวิเคราะห์ Scenario Planning
2.3 การก�ำหนดต�ำแหน่งทางยุทธศาสตร์
3. การก�ำหนดวัตถปุ ระสงค์ 3.1 การกำ� หนดวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ /เปา้ ประสงค์ • การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน
เชิงยทุ ธศาสตร์ 3.2 การตรวจสอบความสมดลุ และสอดคล้องระหวา่ ง • การบริหารทุนมนษุ ย์
วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงยทุ ธศาสตร์กบั องคป์ ระกอบทสี่ ำ� คญั • การพัฒนาเทคโนโลยดี จิ ิทัล
3.3 การออกแบบ Work Systems เพอ่ื สนับสนนุ • การมงุ่ เนน้ ผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี และลูกคา้
ให้องคก์ รบรรลุ Strategic Objectives
4. การกำ� หนดยุทธศาสตร์/ 4.1 การกำ� หนดยุทธศาสตรร์ ะดบั องค์กร • การบริหารความเสย่ี งและการควบคุมภายใน
กลยทุ ธ์ 4.2 การแสดงความเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ • การบรหิ ารทุนมนษุ ย์
• การพฒั นาเทคโนโลยีดิจิทลั
ที่สนบั สนุนซง่ึ กนั และกนั (Strategy Map) • การมุ่งเนน้ ผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี และลูกค้า
Module 2 : กระบวนการถ่ายทอดกลยุทธเ์ พื่อน�ำไปปฏบิ ตั ิ
5. การจัดท�ำแผนปฏิบัตกิ าร 5.1 กระบวนการวางแผนปฏิบัตกิ าร • การบรหิ ารความเสย่ี งและการควบคมุ ภายใน
(Action Plan Development) 5.2 การวเิ คราะหค์ วามเสยี่ งของแผนปฏบิ ัตกิ าร • การบริหารทนุ มนุษย์
• การพัฒนาเทคโนโลยีดจิ ิทลั
5.3 กระบวนการจัดสรรทรัพยากร • การม่งุ เนน้ ผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี และลกู คา้
6. กระบวนการถา่ ยทอดแผน 6.1 กระบวนการถา่ ยทอดแผนปฏบิ ตั กิ าร • การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
ปฏิบัติการ (Action Plan 6.2 กระบวนการกำ� หนดตวั ชวี้ ดั ระดบั แผนงานและโครงการ • การพฒั นาเทคโนโลยดี ิจิทลั
Deployment 6.3 กระบวนการถ่ายทอดตัวชี้วัดระดับองค์กรสู่ตัวช้ีวัด • การมงุ่ เนน้ ผู้มีส่วนได้สว่ นเสยี และลูกคา้
ระดบั แผนงานและโครงการ
7. กระบวนการติดตามผล 7.1 กระบวนการติดตามผลสำ� เร็จตามแผนปฏิบัติการ • การบรหิ ารความเสี่ยงและการควบคมุ ภายใน
ส�ำเร็จตามแผนปฏิบัติการ 7.2 กระบวนการคาดการณผ์ ลการด�ำเนนิ งาน • การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
และปรับเปลี่ยนแผนงาน 7.3 กระบวนการปรับเปลี่ยนแผนงาน • การพัฒนาเทคโนโลยีดิจทิ ัล
(Monitoring & Review) (ตามปกติ และสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว • การมุ่งเนน้ ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสยี และลูกคา้
282 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ
4 3. การบริหารความเส่ียงและการควบคมุ ภายใน (Risk Management & Internal Control : RM&IC)
ประเดน็ พจิ ารณา ประเดน็ ย่อย การบรู ณาการ
กับเกณฑห์ ัวข้ออน่ื ๆ
1. ธรรมาภิบาล 1.1 บทบาทคณะกรรมการในการก�ำกับติดตามการบริหารความเสี่ยง • การก�ำกับดแู ลท่ดี ี
และวัฒนธรรมองค์กร และการพฒั นาระบบการควบคมุ ภายใน และการนำ� องคก์ ร
1.2 โครงสรา้ งและบทบาทหนา้ ท่ี • การบริหารทนุ มนุษย์
1.3 บรรยากาศและวัฒนธรรมสนบั สนุนการบริหารความเสย่ี ง
1.4 ความมุ่งมั่นต่อคา่ นิยมองคก์ ร
1.5 แรงจูงใจ การพัฒนาและการรกั ษาบคุ ลากร
2. การก�ำหนดยทุ ธศาสตร์ 2.1 การวิเคราะห์ธุรกิจ (ประเมินในหวั ข้อการวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ • การวางแผน
และวตั ถุประสงค/์ - การวเิ คราะหธ์ ุรกิจการวางแผนเชงิ กลยุทธ์ หวั ขอ้ ยอ่ ย - เชิงกลยุทธ์
เป้าประสงคเ์ ชิงยทุ ธศาสตร์ การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม (Environmental Scanning)
2.2 การระบุเปา้ หมายการบรหิ ารความเส่ียง (Risk Appetite :RA)
2.3 การประเมนิ ทางเลือกและกำ� หนดยุทธศาสตร์ (ประเมินในหวั ข้อ
การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ หวั ขอ้ ยอ่ ย - การกำ� หนดยทุ ธศาสตร์ /
กลยทุ ธ์ (Strategic Formulation))
2.4 การกำ� หนดวัตถปุ ระสงคใ์ นการด�ำเนินธุรกจิ เพอื่ สรา้ งมลู คา่ เพิม่ ใหก้ บั
องคก์ ร - ในส่วนการกำ� หนด Business Objectives ประเมินในหัวข้อ
การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ หวั ขอ้ ยอ่ ย - การกำ� หนดวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์
(Strategic Objective)
3. กระบวนการบรหิ าร 3.1 การระบุปัจจยั เสีย่ ง • การวางแผนเชิง
ความเส่ียง 3.2 การกำ� หนดกจิ กรรมการควบคมุ กลยทุ ธ์
3.3 การประเมินระดับความรุนแรงของปัจจยั เสย่ี ง • การมุ่งเนน้ ผูม้ สี ่วนได้
3.4 การจดั ลำ� ดบั ความเสี่ยง ส่วนเสยี และลูกค้า
3.5 การก�ำหนด/คัดเลือกวธิ กี ารจัดการตอ่ ความเส่ยี งท่ีระบไุ ว้ • การบรหิ ารทุนมนษุ ย์
3.6 การบริหารความเส่ยี งแบบบูรณาการ Risk Correlation Map • การพฒั นาเทคโนโลยี
และการจัดทำ� Portfolio View of Risk ดจิ ิทัล
• การตรวจสอบภายใน
4. การทบทวนการ 4.1 การทบทวนและปรับปรุงผลการบรหิ ารความเสี่ยง • การก�ำกับดูแลท่ีดี
บรหิ ารความเสี่ยง 4.2 การกำ� หนดแนวทางในการปรับปรงุ กระบวนการบริหารความเส่ียง และการน�ำองค์กร
4.3 การประเมนิ การเปล่ยี นแปลงทม่ี ีนยั ส�ำคัญ • การวางแผนเชงิ
กลยทุ ธ์
5. ขอ้ มลู สารสนเทศ 5.1 การสื่อสารการบรหิ ารความเสยี่ งองค์กร • การก�ำกบั ดแู ลท่ีดี
การสือ่ สารและ 5.2 การติดตาม ประเมินผลและรายงานผลการบรหิ ารความเสี่ยง และการน�ำองค์กร
การรายงานผล การควบคุมภายใน วฒั นธรรม และผลการดำ� เนนิ งาน • การบริหารทุนมนุษย์
5.3 ขอ้ มูลและเทคโนโลยใี นการสนบั สนุนการบริหารความเสี่ยง • การพฒั นาเทคโนโลยี
ดจิ ทิ ลั
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนนิ งานรฐั วสิ าหกจิ ตามระบบประเมินผลรัฐวสิ าหกิจ 283
4. การม่งุ เนน้ ผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี และลกู คา้ (Stakeholder and Customer Management : SCM) 4
ประเดน็ พจิ ารณา ประเดน็ ย่อย การบรู ณาการ
กับเกณฑ์หวั ขอ้ อื่นๆ
Module 1: การบรหิ ารจดั การผูม้ ีสว่ นได้ส่วนเสยี • การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์
1. ยทุ ธศาสตร์ดา้ น 1.1 ยทุ ธศาสตรด์ ้านผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี
ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย
2. วตั ถปุ ระสงค์ ขอบเขต 2.1 การก�ำหนดวัตถปุ ระสงค์ (Purpose) และขอบเขต • การกำ� กับดูแลทด่ี แี ละการน�ำองคก์ ร
และผมู้ ีสว่ นได้สว่ นเสยี (Scope) ของการสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี • การพัฒนาเทคโนโลยดี จิ ิทลั
(Stakeholder Engagement) • การจดั การความรู้
2.2 การระบผุ ูม้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี
2.3 การระบปุ ระเดน็ ระหวา่ งผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี กบั องคก์ ร
3. กระบวนการของการ 3.1 การวางแผน (Planning) • การก�ำกบั ดูแลท่ีดแี ละการนำ� องคก์ ร
สร้างความสัมพันธ์ 3.2 การสรา้ งความพรอ้ ม (Preparing) • การบริหารความเส่ียง
กบั ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี 3.3 การติดตามและรายงานผล • การพัฒนาเทคโนโลยดี ิจทิ ัล
• การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
• การจัดการความรู้และนวตั กรรม
• การตรวจสอบภายใน
Module 2: การบรหิ ารจดั การลูกค้า
1. ยุทธศาสตรด์ า้ นลกู ค้า 1.1 ยทุ ธศาสตร์ดา้ นลูกคา้ และตลาด • การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์
และตลาด
2. การจำ� แนกลกู คา้ 2.1 การจ�ำแนกลูกคา้ • การก�ำกับดูแลท่ดี แี ละ
3. การรับฟงั ลกู ค้า 3.1 การรบั ฟงั ลกู คา้ การน�ำองค์กร
3.2 การประเมนิ ความพงึ พอใจ ความไม่พงึ พอใจ • การพฒั นาเทคโนโลยีดิจทิ ลั
และความภกั ดี • การจัดการความรู้
4. การพฒั นาและนวตั กรรม 4.1 การพัฒนาและนวัตกรรมผลติ ภัณฑ์และบริการ • การจดั การนวัตกรรม
ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ าร • การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
• การจดั การความรู้
5. การจัดการความสมั พันธ์ 5.1 การสนับสนนุ ลกู ค้า • การบริหารความเสยี่ ง
กับลกู ค้า 5.2 การสรา้ งความผูกพนั และความภักดี • การพฒั นาเทคโนโลยดี ิจทิ ัล
• การบริหารทนุ มนษุ ย์
• การจดั การความรู้
5.3 การจดั การขอ้ รอ้ งเรยี น • การก�ำกับดูแลทด่ี ีและการน�ำองคก์ ร
• การตรวจสอบภายใน
284 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกิจ
4 5. การพัฒนาเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล (Digital Technology : DT)
ประเด็นพิจารณา ประเดน็ ยอ่ ย การบูรณาการ
กับเกณฑห์ ัวขอ้ อนื่ ๆ
1. การกำ� กับดแู ลด้าน 1.1 กำ� หนดกรอบทิศทางการกำ� กับดแู ลด้านการบรหิ าร • การก�ำกับดแู ลที่ดีและการน�ำองคก์ ร
เทคโนโลยดี ิจิทลั และ จดั การเทคโนโลยีดจิ ิทัล (Digital Governance) • การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์
แผนปฏิบัตกิ ารดิจทิ ลั ของ 1.2 แผนปฏบิ ัตกิ ารดจิ ทิ ลั ระยะ 3- 5 ปี (Digital Road-
องค์กร (Digital Gover- map)
nance and Roadmap) 1.3 แผนปฏิบัติการประจ�ำปี (Action Plan)
2. การน�ำ Digital Tech- 2.1 การวเิ คราะห์และจดั ทำ� สถาปัตยกรรมองคก์ ร • การกำ� กบั ดแู ลทดี่ ีและการน�ำองค์กร
nology มาปรบั ใช้กับ (Enterprise Architecture) • การวางแผนเชิงกลยุทธ์
ทกุ สว่ นขององคก์ ร 2.2 การบรหิ ารโครงการและการดำ� เนนิ งาน • การบริหารความเสย่ี งและการควบคุม
(Digital Transformation) ด้านเทคโนโลยีดิจทิ ลั อย่างมปี ระสิทธภาพ ภายใน
(Project Management) • การมุ่งเนน้ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสียและลกู ค้า
2.3 การจัดการดา้ นคณุ ภาพ (Quality Management) • การบรหิ ารทุนมนษุ ย์
• การจัดการความรแู้ ละนวัตกรรม
• การตรวจสอบภายใน
3. การบรู ณาการเช่อื มโยง 3.1 การออกแบบความเชอื่ มโยงและการทำ� งานรว่ มกนั • การกำ� กับดแู ลทด่ี ีและการนำ� องคก์ ร
ขอ้ มลู และการดำ� เนินงาน (Enterprise Collaboration and Interoperability • การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์
ร่วมกนั ระหว่างหนว่ ยงาน Design) • การบริหารความเส่ียงและการควบคุม
(Government Integra- 3.2 การบรู ณาการเชือ่ มโยงขอ้ มลู และการด�ำเนินงาน ภายใน
tion) รว่ มกนั (Data and System Integration) • การมงุ่ เนน้ ผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี และลกู คา้
• การบรหิ ารทนุ มนุษย์
• การจัดการความรแู้ ละนวัตกรรม
• การตรวจสอบภายใน
4. การกำ� กบั ดแู ลขอ้ มูล 4.1 การด�ำเนินการดา้ นการก�ำกบั ดูแลข้อมลู และการ • การกำ� กับดแู ลทด่ี แี ละการนำ� องคก์ ร
และการบรหิ ารจดั การ บรหิ ารจัดการข้อมลู ขนาดใหญข่ ององคก์ ร • การวางแผนเชิงกลยุทธ์
ขอ้ มูลขนาดใหญ่ของ (Data Governance and Big Data Management • การบรหิ ารความเสย่ี งและการควบคุม
องคก์ ร (Data Gover- Implementation) ภายใน
nance and Big Data • การมงุ่ เน้นผ้มู ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียและลูกค้า
Management) • การบริหารทนุ มนุษย์
• การจดั การความรแู้ ละนวตั กรรม
• การตรวจสอบภายใน
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนนิ งานรฐั วิสาหกจิ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกจิ 285
ประเด็นพจิ ารณา ประเดน็ ย่อย การบรู ณาการ 4
5. การบริหารความมน่ั คง 5.1 การบริหารจดั การความมงั่ คงปลอดภัยสารสนเทศ กับเกณฑ์หวั ข้ออน่ื ๆ
ปลอดภัยของสารสนเทศ ขององค์กร (Information Security Management) • การบรหิ ารความเสย่ี งและการควบคุม
(Information Security 5.2 การบริหารจดั การความเส่ียงดา้ นความมน่ั คง ภายใน
Management) ปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Risk
Management) ขององค์กร
5.3 การตรวจสอบการบริหารจดั การความม่ังคง
ปลอดภยั สารสนเทศขององค์กร (ISMS Audit)
5.4 การบรหิ ารจดั การความมน่ั คงปลอดภยั ในการตดิ ตอ่
สอ่ื สารและเครอื ข่ายขององคก์ ร (Communications
and Network Security Management)
5.5 การบรหิ ารจัดการความม่นั คงปลอดภยั ทรพั ย์สนิ
ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศและขอ้ มลู สารสนเทศ
(IT Asset, Data and Information Security
Management)
6. การบริหารความ 6.1 การบรหิ ารจัดการทรพั ยส์ ินด้านเทคโนโลยี • การบรหิ ารความเสย่ี งและการควบคมุ
ต่อเนอ่ื งทางธรุ กจิ สารสนเทศ (IT Asset Management ) ภายใน
และความพรอ้ มใช้ 6.2 การบรหิ ารจัดการคอนฟกิ เู รช่ัน (Configuration
ของระบบ (Business Management)
Continuity 6.3 การบริหารจดั การเหตกุ ารณ์ผดิ ปกติ การรอ้ งขอ
การบรกิ าร และปัญหาดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ
(IT Incident, Service Requests and Problem
Management)
6.4 การบรหิ ารจัดการความต่อเนอ่ื งทางธุรกจิ
(Business Continuity Management )
7. การด�ำเนินการด้าน 7.1 การดำ� เนนิ การดา้ นการบริหารจัดการการใช้
การบรหิ ารจดั การการใช้ ทรพั ยากรอยา่ งเหมาะสม (Resource Optimization
ทรพั ยากรอย่างเหมาะสม Management Implementation)
(Resource Optimiza- 7.2 การบรหิ ารจดั การการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีทเี่ ปน็ มติ ร
tion Management) ตอ่ ส่ิงแวดล้อม (Green IT Management)
286 สำ�นักงานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ
4 6. การบริหารทุนมนุษย์ (Human Capital Management : HCM)
ประเดน็ พิจารณา ประเด็นย่อย การบรู ณาการ
กับเกณฑ์หวั ขอ้ อืน่ ๆ
1. ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ 1.1 คณุ ภาพของยทุ ธศาสตร/์ กลยุทธ/์ การส่อื สาร/ • การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์
ด้านบริหารและพัฒนา การตดิ ตามผล/ผลลพั ธ์ • การตรวจสอบภายใน
ทนุ มนุษย์
2. การบริหารทนุ มนษุ ย์ 2.1 อัตราก�ำลัง • การก�ำกับดแู ลทด่ี ีและ
2.2 ผลตอบแทนและสิทธปิ ระโยชน์ การนำ� องคก์ ร
2.3 ระบบประเมินผลการปฏบิ ตั ิงาน • การวางแผนเชิงกลยุทธ์
• การมงุ่ เน้นผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี และลกู คา้
• การพัฒนาเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล
• การจัดการความรู้
3. การพัฒนาทนุ มนษุ ย์ 3.1 การเรียนรแู้ ละการพฒั นา • การกำ� กับดูแลทดี่ แี ละการน�ำองคก์ ร
3.2 การสืบทอดตำ� แหนง่ /การบริหารจัดการคนเก่ง/ • การวางแผนเชงิ กลยุทธ์
การจดั การสายอาชพี • การมุง่ เน้นผู้มีสว่ นได้สว่ นเสียและลูกค้า
• การพัฒนาเทคโนโลยดี ิจิทัล
• การจดั การความรู้
4. สภาพแวดล้อมที่ 4.1 ความผูกพันองคก์ ร/ค่านิยมและวฒั นธรรมองค์กร/ • การกำ� กบั ดูแลทด่ี แี ละการน�ำองค์กร
สนับสนุนการบริหาร การจดั การการเปล่ยี นแปลง/จรรยาบรรณและจริยธรรม • การบริหารความเส่ยี งและการควบคมุ
และพฒั นาทุนมนษุ ย์ 4.2 เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ดา้ น HR ภายใน
4.3 ความปลอดภยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งาน • การพฒั นาเทคโนโลยดี ิจิทัล
4.4 บทบาทของสายงาน HR และการสนบั สนุน • การจัดการความรูแ้ ละนวัตกรรม
จากผู้บรหิ าร การจดั การความรู้
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนนิ งานรัฐวสิ าหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วสิ าหกจิ 287
7. การจดั การความรแู้ ละนวตั กรรม (Knowledge Management & Innovation Management : KM&IM) 4
ประเด็นพจิ ารณา ประเด็นยอ่ ย การบรู ณาการ
กบั เกณฑ์หวั ข้ออ่ืนๆ
การการจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM) • การก�ำกับดูแลท่ีดแี ละการน�ำองค์กร
1. การน�ำองค์กร 1.1 วิสัยทศั น/์ ทศิ ทาง/นโยบายดา้ นการจดั การความรู้
1.2 การมสี ว่ นรว่ มของผบู้ รหิ ารทุกระดับ
2. การวางแผนและ 2.1 การวางแผนการจัดการความรูแ้ ละการตดิ ตาม • การมงุ่ เน้นผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า
ทรพั ยากรสนับสนนุ ประเมินผล
2.2 การจดั สรรทรพั ยากร
3. บุคลากร 3.1 ความตระหนกั ความเข้าใจ การมีสว่ นรว่ ม และการ • การบรหิ ารทนุ มนุษย์
สร้างแรงจูงใจดา้ นการจดั การความรู้
3.2 วฒั นธรรมและสภาพแวดลอ้ มการทำ� งาน
3.3 ความสามารถและความรบั ผิดชอบของทีมงานการ
จัดการความรู้
4. กระบวนการจัดการ 4.1 กระบวนการจัดการความรู้ที่เป็นระบบ • การมุง่ เน้นผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี และลูกค้า
ความรู้ และการน�ำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ • การพัฒนาเทคโนโลยีดิจทิ ัล
4.2 สารสนเทศ/ความรจู้ ากหนว่ ยงานภายนอก • การจัดการนวตั กรรม
5. กระบวนการปฏิบัติงาน 5.1 การปฏิบตั ิงานโดยใช้ความรู้เปน็ ฐาน • การบรหิ ารความเสยี่ งและการควบคุมภายใน
5.2 การสร้างความตระหนกั เร่ืองความเสยี่ งใน
กระบวนการปฏิบตั งิ านโดยใช้ความรเู้ ป็นฐาน
6. ผลลัพธข์ องการจดั การ 6.1 ผลการดำ� เนนิ การดา้ นตา่ งๆ ทเี่ กีย่ วข้อง
ความรู้ หรือเกิดจากการจดั การความรู้
288 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกจิ
4 7. การจดั การความรแู้ ละนวัตกรรม (Knowledge Management & Innovation Management : KM&IM) (ตอ่ )
ประเด็นพิจารณา ประเดน็ ยอ่ ย การบูรณาการ
กับเกณฑห์ ัวข้ออื่นๆ
การจัดการนวตั กรรม (Innovation Management: INNO)
1. การนำ� องคก์ รสกู่ ารจดั การ 1.1 บทบาทผู้บรหิ ารระดับสูง • การกำ� กบั ดแู ลท่ดี แี ละการน�ำองค์กร
นวตั กรรมทย่ี งั่ ยืน 1.2 บทบาทคณะกรรมการและคณะทำ� งานดา้ นนวตั กรรม
1.3 การก�ำหนดคา่ นยิ มและเสริมสรา้ งวฒั นธรรมทีม่ ุ่งเน้น
ความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม
2. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นนวตั กรรม 2.1 การวางยุทธศาสตรด์ ้านนวตั กรรม • การมงุ่ เนน้ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และลกู คา้
2.2 การถา่ ยทอดยทุ ธศาสตร์ดา้ นนวตั กรรมสู่การปฏิบัติ
3. นวตั กรรมเพ่ือมุ่งเน้น 3.1 การพัฒนานวตั กรรมเพ่อื มุ่งเน้นลูกคา้ และตลาด • การก�ำกับดูแลท่ีดแี ละการน�ำองค์กร
ลกู ค้าและตลาด • การวางแผนเชงิ กลยุทธ์
• การบริหารความเสย่ี งและการควบคุม
ภายใน
• การมุ่งเน้นผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี และ
ลกู ค้า
• การพฒั นาเทคโนโลยดี ิจิทลั
• การบรหิ ารทนุ มนษุ ย์
• การตรวจสอบภายใน
4. การขบั เคลอื่ นความรู้ 4.1 การจัดการความรู้สูก่ ารสร้างนวัตกรรม • การจดั การความรู้
สนู่ วัตกรรม
5. วัฒนธรรมเพ่อื มุ่งเน้น 5.1 การสร้างวัฒนธรรมเพือ่ มุ่งเนน้ นวัตกรรม • การบรหิ ารทนุ มนุษย์
การสรา้ งนวตั กรรม 5.2 การยกระดับความรู้ความสามารถด้านนวตั กรรม
6. กระบวนการนวตั กรรม 6.1 ภาพรวมกระบวนการนวัตกรรม
6.2 กระบวนการใช้ความคดิ สรา้ งสรรคส์ ่กู ารสรา้ ง
นวตั กรรม
6.3 กระบวนการนวัตกรรมผลติ ภณั ฑ์และบริการ
6.4 กระบวนการนวัตกรรมกระบวนการทำ� งาน
6.5 กระบวนการนวัตกรรมรปู แบบธรุ กจิ /ภารกิจใหม่
7. การจดั สรรทรัพยากร 7.1 การจดั สรรงบประมาณท่ีเพยี งพอและเหมาะสม
ดา้ นนวตั กรรม
8. ผลลัพธด์ ้านนวัตกรรม 8.1 ผลลพั ธด์ า้ นนวตั กรรม
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรัฐวิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรัฐวิสาหกจิ 289
8. การตรวจสอบภายใน (Internal Audit : IA) 4
ประเด็นพจิ ารณา ประเด็นยอ่ ย การบูรณาการ
กับเกณฑห์ ัวขอ้ อน่ื ๆ
1. คณะกรรมการตรวจสอบ 1.1 องคป์ ระกอบและคณุ สมบัตขิ องคณะกรรมการตรวจสอบ • การก�ำกบั ดแู ลท่ีดี
1.2 การปฏิบตั หิ นา้ ที่ และการน�ำองคก์ ร
1.3 การประชุมและองคป์ ระชุม • การวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์
• การบริหารความเสี่ยง
2. หนว่ ยตรวจสอบภายใน 2.1 บทบาทและความรบั ผิดชอบของหนว่ ยตรวจสอบภายใน และการควบคมุ ภายใน
ดา้ นคณุ สมบัติ 2.2 ความเปน็ อสิ ระและความเทีย่ งธรรม • การมงุ่ เนน้ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี
2.3 ความเชีย่ วชาญและความระมัดระวังในทางวิชาชพี และลกู ค้า
2.4 การประเมินและปรบั ปรุงคุณภาพงานตรวจสอบภายใน • การพฒั นาเทคโนโลยี
3. หนว่ ยตรวจสอบภายใน 3.1 การปฏบิ ัติงานของหน่วยตรวจสอบภายใน (Performance) ดิจิทัล
ดา้ นการปฏบิ ัติงานและ 3.1.1 การจดั ท�ำค่มู ือการปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบ • การบรหิ ารทุนมนุษย์
ผลงาน 3.1.2 การวางแผนการตรวจสอบ
• การจดั การความรู้
3.1.3 การวางแผนการปฏบิ ัตงิ านตรวจสอบในรายละเอียด และนวัตกรรม
3.1.4 การสรปุ ผลการตรวจสอบและการจดั ทำ� รายงาน
3.2 ผลงานของหน่วยตรวจสอบภายใน (Result)
4. ความรับผิดชอบของ 4.1 ความรับผิดชอบของหนว่ ยรับตรวจ
หนว่ ยรับตรวจ
290 สำ�นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกิจ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วสิ าหกิจ 291
ประเด็นถาม-ตอบ
Q&A
292 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
&Q ประเด็นถาม-ตอบ จากการสัมมนาชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางของระบบประเมินผลใหม่
A ของรัฐวสิ าหกิจ วนั ที่ 25 - 26 มนี าคม 2562 และวนั ท่ี 1 - 3 เมษายน 2562
คำ� ถามภาพรวมเกยี่ วกับระบบประเมินผลใหม่
1. แผนแมบ่ ทต่าง ๆ ที่มกี ารระบอุ ยใู่ นเกณฑ์การประเมนิ ดา้ นตา่ ง ๆ มีความซ�ำ้ ซ้อนกันหรือไม่
คำ� ตอบ ไมซ่ ำ�้ ซอ้ น แตเ่ ปน็ การบรู ณาการใหเ้ ปน็ ทศิ ทางเดยี วกนั และเปน็ การถา่ ยทอดระดบั แผนยทุ ธศาสตร์
ลงสู่แผนแม่บทท่ีส�ำคัญ เพ่ือเน้น Initiatives ใหม่ๆ และการเชื่อมโยงสู่แผนแม่บทย่อยท่ีเน้น
การปฏิบัติ
2. แนวทางในการตรวจกระบวนการ ยังคงเปน็ ADLI ?
ค�ำตอบ
12345
การมีนโยบาย/ นโยบาย/ระบบ การทำ� จรงิ อยา่ งทว่ั มี ก า ร เ ช่ื อ ม โ ย ง ป รั บ ป รุ ง อ ย ่ า ง
ระบบหลักการ หลักการ ท�ำได้ ถงึ /สม่ำ� เสมอ และ กั บ หั ว ข ้ อ อ่ื น ตอ่ เนื่อง
อยา่ งมคี ณุ ภาพ ได้ผลลัพธ์ตามท่ี ทเ่ี กยี่ วข้อง
กำ� หนด
3. เกณฑ์การประเมินใหมต่ ้องเขยี นรายงานเหมอื นระบบ SEPA หรือไม่
คำ� ตอบ เปน็ การตอบรายงานการประเมนิ ตนเองผา่ นระบบ โดยเนน้ ทหี่ วั ขอ้ สำ� คญั และแสดงถงึ การปฏบิ ตั ิ
ไดจ้ ริงและการบรู ณาการขา้ มหวั ข้อ
4. แนวทางในการประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งานทร่ี ะบวุ า่ “ท�ำอยา่ งทวั่ ถงึ สมำ่� เสมอ” และ “มกี ารปรบั ปรงุ
อยา่ งต่อเน่อื ง” มเี กณฑพ์ ิจารณาอยา่ งไร
คำ� ตอบ ทำ� อยา่ งทวั่ ถงึ สมำ่� เสมอ : การถา่ ยทอดแนวทางปฏบิ ตั ใิ หท้ วั่ ถงึ ทง้ั องคก์ ร โดยการสรา้ งความมนั่ ใจ
ในการดำ� เนนิ งานตามแนวทางปฏบิ ตั ิดงั กล่าวในทุกผูม้ ีส่วนเกีย่ วขอ้ ง
มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง : ปรับปรุงกระบวนการที่ผ่านมา โดยใช้ฐานข้อมูลจริงเพ่ือปรับปรุง
กระบวนการดำ� เนนิ งานและการปรบั ปรงุ กระบวนการดงั กลา่ ว สามารถแสดงใหเ้ หน็ ผลลพั ธท์ ด่ี ขี นึ้
จากการปรบั ปรงุ กระบวนการนน้ั
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกิจ ตามระบบประเมินผลรฐั วิสาหกจิ 293
5. จะจดั ใหม้ กี าร Share Best Practice ในแตล่ ะเกณฑก์ าร ของเกณฑ์การประเมิน SEPA และการประเมิน Q&
ประเมนิ ทง้ั 8 ดา้ น เพอ่ื ใหร้ ฐั วสิ าหกจิ สามารถน�ำไปประยกุ ตใ์ ช้ ขอ้ บริหารจดั การองคก์ รมารวมกัน จดั ทำ� ขนึ้ โดย Tris A
หรอื ไม่ และ สคร. ซึ่งไมไ่ ด้ถูกเรยี กว่า CBE
ค�ำตอบ ได้ด�ำเนินการแล้วในการบรรยายให้ความรู้เชิงลึก
ทัง้ 8 หัวขอ้ (25 ม.ี ค. – 3 เม.ย. 62) 9. หากด้านไหนยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ มีข้อแนะน�ำให้
ด�ำเนนิ การอยา่ งไร?
6. ปลายปงี บประมาณ 2562 Tris หา baseline ของหนว่ ยงาน คำ� ตอบ หากรฐั วสิ าหกจิ ยงั ไมม่ หี นว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบทช่ี ดั เจน
ตลอดปงี บ 2563 ทรสิ ประเมนิ หนว่ ยงาน เพอ่ื เทยี บ baseline ในการดำ� เนนิ การตามเกณฑ์ด้านใหม่ เช่น การมุง่ เนน้
ของหนว่ ยงาน ตลอดปงี บ 64 Tris ประเมนิ เพอ่ื ใหห้ นว่ ยงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า การพัฒนาเทคโนโลยี
ยกระดบั (คะแนน) ของตนเอง ทงั้ หมดนเี้ ปน็ กระบวนการวดั ดิจิทัล การจัดการนวัตกรรม เป็นต้น ในระยะแรก
CBE ระยะยาว ใช่ไหม ควรจัดต้ังเป็นคณะกรรมการ/คณะท�ำงานท่ีมีผู้แทน
คำ� ตอบ ในปี 2562 จะมกี ารประเมนิ baseline ของเกณฑใ์ หม่ ของแต่ละฝ่ายงานที่เก่ียวข้องเข้ามามีส่วนร่วม เช่น
ของ รส. ทงั้ 54 แหง่ และจะดำ� เนนิ การอยา่ งเตม็ รปู แบบ คณะกรรมการบริหารจัดการความสัมพันธ์ Stake-
เพื่อประเมินในปี 2563 เป็นต้นไป โดยในเบ้ืองต้น holder คณะกรรมการด้านพัฒนาสู่ Digital Trans-
จะมีการประเมิน Baseline เพ่ือค้นหาสถานะของ formation คณะกรรมการด้านการจัดการนวัตกรรม
แต่ละรัฐวิสาหกิจในแต่ละหัวข้อประเมินและก�ำหนด เป็นต้น อย่างไรก็ตามในระยะยาว ควรมีการก�ำหนด
เกณฑ์ในการประเมินในลักษณะของการด�ำเนินงาน ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและเป็นระบบในแต่ละด้าน
เพิ่มเติมเพ่ือปิด Gap โดยอ้างอิงจากสถานะปัจจุบัน เพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการดำ� เนนิ งานมากยง่ิ ขนึ้ และ
ซ่ึงอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะประเมินในลักษณะ เตรยี มการถา่ ยโอนจากลกั ษณะคณะทำ� งานสผู่ รู้ บั ผดิ ชอบ
ความคืบหน้าของการด�ำเนินงานเพื่อปิด Gap หรือ ท่ีชัดเจนโดยตรงตอ่ ไป เชน่ หน่วยงานดา้ นการจัดการ
ประเมินเปน็ คะแนนประเมินผล นวัตกรรม เปน็ ต้น
7. สามารถสอบถามเพิ่มเติมหลังจากสัมมนาแล้วได้หรือไม่ 10. ปรับระบบประเมินผลแล้วมีการปรับระบบแรงจูงใจ
และถ้าจะเชิญไปบรรยายให้ภายในองคก์ รไดห้ รอื ไม่ หรอื ไม่ เพราะเช่ือว่าคะแนนประเมินคงลดแน่ ๆ
ค�ำตอบ สามารถสอบถามเพ่ิมเติมหลังจากสัมมนาแล้วได้ คำ� ตอบ อยู่ระหว่างการพิจารณาโดย ก.คลัง โดยในเบื้องต้น
ส่วนในเรื่องของการเชิญไปบรรยายให้ภายในองค์กร จะมีการประเมิน Baseline และก�ำหนดเกณฑ์ใน
ให้ติดต่อผ่าน สคร. เพื่อขอรายละเอยี ดเพิ่มเตมิ การประเมินในลักษณะของการด�ำเนินงานเพิ่มเติม
เพอื่ ปดิ Gap โดยอา้ งองิ จากสถานะปจั จบุ นั ซงึ่ อยรู่ ะหวา่ ง
8. ระบบน้เี รยี กตัวย่ออะไร CBE? การพจิ ารณาวา่ จะประเมนิ ในลกั ษณะใด เพอื่ ใหไ้ มเ่ กดิ
ค�ำตอบ เกณฑ์การประเมินใหม่ก�ำหนดมาจากการน�ำข้อดี ผลกระทบตอ่ รส. อยา่ งเปน็ นยั สำ� คญั
294 ส�ำ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกจิ คำ� ถามเกย่ี วกบั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลใหม่ทง้ั 8
Enablers
&Q
A ด้านท่ี 1 การก�ำกบั ดูแลกิจการท่ีดีและการน�ำองค์กร
1. ระยะเวลาการเปดิ เผยขอ้ มลู และหวั ขอ้ การเปดิ เผยขอ้ มลู
ในรายงานประจ�ำปีของส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบาย
รฐั วสิ าหกจิ (สคร.) มคี วามสอดคลอ้ งกบั แนวทางการเปดิ เผย
ขอ้ ส�ำนกั งาน ก.ล.ต. หรอื ไม่
ค�ำตอบ การเปิดเผยข้อมูลของส�ำนักงานคณะกรรมการ
นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีความสอดคล้องกับ
แนวทางการเปดิ เผยข้อส�ำนักงาน ก.ล.ต. ในส่วนของ
หัวข้อผลการด�ำเนินงานด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน
ในขณะที่ด้านระยะเวลาการเปิดเผยข้อมูลมีความ
แตกต่าง โดย สคร. เน้นการเปิดเผยโดยจุดพิจารณา
ต้ังตน้ จากระยะเวลาที่รฐั วิสาหกจิ ได้รับการตรวจสอบ
งบการเงนิ จาก สตง. เป็นส�ำคัญ คือ ภายใน 1 เดือน
หลังจาก สตง. รับรองงบการเงิน หรือภายใน 1 เดือน
นบั จาก 6 เดือนหลงั จากสน้ิ ปบี ัญชแี ล้ว สตง. ยงั ไมไ่ ด้
รับรองงบการเงิน โดยให้เปิดเผยงบการเงินเบื้องต้น
ก่อนการรับรองของ สตง. พร้อมหมายเหตุประกอบ
ที่ชัดเจนว่าเป็น “งบการเงินเบ้ืองต้นก่อนการรับรอง
จาก สตง.” ซึ่งภายหลังเม่ือ สตง. รับรองแล้วให้
เปิดเผยอยา่ งรวดเร็วอีกครง้ั ภายใน 1 เดอื น
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนนิ งานรฐั วิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วสิ าหกิจ 295
2. หากรัฐวิสาหกิจมีการปฏิบัติตามแนวทางการก�ำกับดูแล ผู้บริหารระดับสูง พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย Q&
กจิ การทดี่ ขี องบรษิ ทั จดทะเบยี น โดยก�ำหนดแนวปฏบิ ตั ริ ะบุ ภายนอกที่ส�ำคัญในห่วงโซ่อุปทานของรัฐวิสาหกิจ A
ไวใ้ นค่มู ือการก�ำกับดแู ลกจิ การทีด่ ี กอ่ นน�ำนโยบายดงั กล่าว พิจารณาจัดล�ำดับความส�ำคัญ เพื่อน�ำไปคัดเลือก
มาระบรุ ายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ จะด�ำเนินการได้หรือไม่ ให้เหลอื ปัจจัยยง่ั ยนื ทเี่ หมาะสมกบั รัฐวิสาหกจิ
คำ� ตอบ การประเมินการก�ำกับดูแลท่ีดีและการน�ำองค์กร
เนน้ การประเมนิ จากการทรี่ ฐั วสิ าหกจิ สามารถกำ� หนด
ขอบเขตการด�ำเนินงานที่ชัดเจนเกี่ยวกับระบบการ 4. กรณีหากรัฐวิสาหกิจมีการจัดส่งเอกสารประกอบการ
ก�ำกับดูแลที่ดีก่อนการด�ำเนินงานในภาพรวม ดังนั้น ประชุมผ่านระบบ Web เพ่ือน�ำส่งแก่คณะกรรมการ Tris
รัฐวสิ าหกจิ ควรมีการศกึ ษาแนวทางการก�ำกบั ดแู ลที่ดี จะมีแนวทางตรวจประเมินอยา่ งไร
ตามบริบทของภาครัฐหรือเอกชนท่ีตนเองเก่ียวข้อง ค�ำตอบ หากรัฐวิสาหกิจมีการจัดส่งเอกสารประกอบการ
ก่อนก�ำหนดเป็นขอบเขตการด�ำเนินงานที่สอดคล้อง ประชมุ ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ ในการจดั ส่งเอกสาร
กับมาตรฐานดังกล่าวและระบุเป็นนโยบายเชิงปฏิบัติ ประกอบการประชมุ ใหร้ ฐั วสิ าหกจิ รายงานวนั เดอื น ปี
งาน (Policy in Practices) ทร่ี ะบโุ ครงสรา้ งผรู้ บั ผดิ ชอบ ทมี่ กี ารนำ� สง่ จรงิ ทง้ั จดหมายเชญิ ประชมุ วาระประชมุ
ระบบการบรหิ ารจดั การ ระบบการสง่ เสรมิ การดำ� เนนิ และเอกสารประกอบการประชุม พรอ้ มนำ� ส่งเอกสาร
งานและการติดตามประเมินผล ในนโยบายดังกล่าว ในรปู ของ File ในทกุ ครง้ั การประชมุ รวมถงึ Capture
อย่างชัดเจน ซ่ึงอาจเป็นไปได้ว่าหากรัฐวิสาหกิจ หน้าจอคอมพวิ เตอร์ ในชว่ งเวลาทม่ี กี ารจัดส่งเอกสาร
มีการเขียนนโยบายภาพกว้างเป็นพ้ืนฐานในปัจจุบัน ให้แก่คณะกรรมการเป็นตัวอย่างประกอบ 3-5
แล้วจะน�ำนโยบายดังกล่าวเพ่ิมเติมรายละเอียด ตวั อย่าง
ใหค้ รบถว้ นตามมาตรฐานท่ี สคร. หรอื ตลาดหลกั ทรพั ย์
แห่งประเทศไทยก�ำหนด
3. Best Practices ในการค้นหาปัจจัยยั่งยืนมีแนวทาง
อย่างไร
คำ� ตอบ การค้นหาปัจจัยยั่งยืนควรด�ำเนินการอย่างเป็น
มาตรฐาน โดยอาจเริ่มจากการท�ำการศึกษา ค้นคว้า
และรวบรวมข้อมูล เช่น จากปัจจัยยั่งยืนที่บริษัท
ในอุตสาหกรรมที่รัฐวิสาหกิจด�ำเนินกิจการในปัจจุบัน
มีการระบุถึง 2. การศึกษาเชิงค้นคว้าเชิงวิชาการ
ถงึ ปจั จยั ยง่ั ยนื ตามมาตรฐานสากล เชน่ Triple Bottom
Line, หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือ Global
Reporting Initiative (GRI) เป็นต้น ก่อนน�ำปัจจัย
ย่ังยืนท่ีรวบรวมได้น�ำมาน�ำเสนอให้คณะกรรมการ
296 ส�ำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ
&Q 5. หากรัฐวิสาหกิจมีนโยบายการใช้ข้อมูลถือว่าเพียงพอ 6. การก�ำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหัวข้อ 4 บทบาทของ
A หรอื ไม่ ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสยี เป็นกลมุ่ เดยี วกันท้งั หมดหรอื ไม่
คำ� ตอบ หากรัฐวิสาหกิจมีนโยบายการใช้ข้อมูลภายในถือว่ามี คำ� ตอบ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหัวข้อ 4 บทบาทของผู้มีส่วนได้
ความเปน็ พอในระดบั คะแนนพนื้ ฐาน ทงั้ นี้ รฐั วสิ าหกจิ ส่วนเสีย เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด โดยรัฐวิสาหกิจ
ควรมแี ตง่ ตงั้ พรอ้ มมอบหมายใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบ นำ� ระบบ ควรมีการก�ำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการระบุได้
บริหารจัดการที่ระบุไว้ในนโยบายการใช้ข้อมูลภายใน ถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบ
ของรัฐวิสาหกิจน�ำมาด�ำเนินการให้เกิดผลส�ำเร็จ เชิงโดยตรงและโดยอ้อมจากการด�ำเนินงานของ
โดยสอดคล้องกับระบบงานท่ีเก่ียวข้อง และท�ำการ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวควรมีการระบุถึง
ประเมินผลส�ำเร็จพร้อมปรับปรุงกระบวนการอย่าง กลุ่มชุมชนที่เก่ียวข้องกับรัฐวิสาหกิจเป็นกลุ่มผู้มี
สมำ�่ เสมอทกุ ปี ส่วนไดส้ ว่ นเสยี หนง่ึ ก่อนนำ� กลุ่มดงั กล่าวมาพจิ ารณา
โดยการจดั การการใช้ข้อมลู ภายในนัน้ อาจด�ำเนิน ก�ำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกในเชิงลึกเพ่ิมเติม เพ่ือน�ำ
การผา่ นการพิจารณาโครงการลงทุนส�ำคญั หรือขอ้ มูล มาด�ำเนินงานในหัวข้อที่ 4.3 ท่ีมุ่งเน้นการเสริมสร้าง
ความลับท่ีส�ำคัญขององค์กรในรอบปี ก่อนก�ำหนด ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนสำ� คญั ตามความสามารถพเิ ศษ
บัญชีรายช่ือผู้ที่เกี่ยวข้องหรือสามารถเข้าถึงข้อมูล ของรฐั วสิ าหกจิ
ดังกล่าว ก่อนก�ำหนดเป็นกลุ่มบุคคลท่ีต้องเฝ้าระวัง
และจดั ใหม้ กี ารรายงานความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ 7. ความยง่ั ยนื มคี วามหมายอยา่ งไรตามแนวทางท่ี Tris กำ� หนด
ทม่ี รี ะบบการตดิ ตามตรวจสอบหรอื การควบคมุ ภายใน ค�ำตอบ การพัฒนาความย่ังยืนเพื่อการประเมินผลนั้น Tris
เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้บางกรณีอาจให้กลุ่มบุคคล ไม่มีการก�ำหนดหรือคัดเลือกนิยามความย่ังยืนใด
ดังกล่าวลงนามยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลธุรกรรม เป็นการเฉพาะ ท้ังนี้รัฐวิสาหกิจควรด�ำเนินการศึกษา
ระหว่างปี ท้ังน้ีอาจมีการก�ำหนดแนวทางอ่ืนเพิ่มเติม ถึงความหมายและแนวทางการพัฒนาความยั่งยืน
เช่น การไม่ลงทุนหรือการซ้ือขายหลักทรัพย์ในระยะ ท่ีเป็นมาตรฐานสากล และน�ำมาประยุกต์ให้เข้ากับ
เวลาที่ก�ำหนด หรือที่หน่วยงานก�ำกับดูแลก�ำหนด บริบทองค์กร ก่อนก�ำหนดผู้รับผิดชอบ สร้างระบบ
เป็นต้น การพัฒนาความย่ังยืนตามท่ีมาตรฐานสากลก�ำหนด
และปฏิบัติให้เกิดผลส�ำเร็จ ก่อนมีการประเมินและ
ทบทวนระบบดังกลา่ วอย่างตอ่ เนื่อง เพื่อให้เกดิ ความ
ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง โดยความย่ังยืนอาจใช้นิยามได้
จากทง้ั Triple Bottom Line ท่เี นน้ การสร้างความ
สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม /
แนวทางการพัฒนาความย่ังยืนตามหลักเศรษฐกิจ
พอเพยี ง หรอื การพฒั นาความยงั่ ยนื ตาม Brundtland
Commission ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล
เพอ่ื ใหเ้ พยี งพอตอ่ การตอบสนองความตอ้ งการของคน
ท้ังในปัจจบุ นั และอนาคต เปน็ ตน้ ซ่งึ กรอบมาตรฐาน
ที่แตกต่างกันจะน�ำไปสู่การก�ำหนดยุทธศาสตร์
การพัฒนาความยั่งยนื ท่แี ตกต่างกนั
ระบบการประเมินผลการด�ำ เนินงานรฐั วิสาหกจิ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วิสาหกิจ 297
8. รายงานการพฒั นาความย่ังยนื ต้องท�ำทุกรัฐวิสาหกจิ หรือไม่ Q&
ค�ำตอบ รายงานการพฒั นาความยง่ั ยนื กำ� หนดใหด้ ำ� เนนิ การจดั ทำ� ในทกุ รฐั วสิ าหกจิ A
โดยใหส้ ามารถเปดิ เผยไดต้ ามศกั ยภาพและความพรอ้ มดา้ นขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
กับเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อมที่รัฐวิสาหกิจสามารถจัดเก็บในแต่ละ
ช่วงเวลา อย่างไรก็ตามกรอบการรายงานการพฒั นาความยัง่ ยนื ควรเป็นไป
มาตรฐานสากล เชน่ Global Reporting Initiative (GRI) เป็นตน้
9. การจดั ท�ำรายงานการพัฒนาความยั่งยนื มกี ารออกใบรบั รองคุณภาพหรอื ไม่
ค�ำตอบ รายงานการพฒั นาความยง่ั ยนื ตามมาตรฐานสากล เชน่ Global Reporting
Initiative (GRI) เปน็ ต้น มีการตรวจประเมนิ คุณภาพ อย่างไรกต็ ามในการ
ประเมินปีเร่ิมต้นน้ียังไม่มุ่งเน้นการตรวจประเมินคุณภาพอย่างเป็นทางการ
โดยเน้นให้รัฐวิสาหกิจริเริ่มและด�ำเนินการรายงานให้ครบถ้วนและเป็น
มาตรฐานตามแนวทางทีเ่ ปน็ ทีย่ อมรบั โดยทว่ั ไป
10. บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในด้านการก�ำกับดูแลและการน�ำองค์กรจะมี
ความเกี่ยวขอ้ งกับดา้ นการมงุ่ เน้นลกู คา้ และผู้มสี ว่ นได้ส่วนเสยี ใชห่ รือไม่
คำ� ตอบ บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในด้านการก�ำกับดูแลและการน�ำองค์กร
เป็นหลักเกณฑ์การด�ำเนินงานท่ีเกี่ยวข้องและบูรณาการกับหมวดด้านการ
มุง่ เน้นลูกคา้ และผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี
298 สำ�นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกจิ
&Q ด้านที่ 2 การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ 4. การประเมินความเสีย่ งระดบั แผนงาน ควรเปน็ หน้าทใ่ี คร
A 1. จดุ อ่อนกับปจั จัยเสีย่ งเป็นตัวเดียวกันไดห้ รือไม่ ค�ำตอบ ควรเปน็ หนา้ ทข่ี องทงั้ ผรู้ บั ผดิ ชอบของปจั จยั เสยี่ งระดบั
ค�ำตอบ จุดอ่อนเป็นการระบุสถานะ ณ ปัจจุบันขององค์กร
แผนงาน (Risk Owner) และฝ่ายบริหารความเส่ียง
เน่ืองจาก risk owner น้ันถือว่าเป็นผู้ช�ำนาญการใน
ท่ียังมีข้อด้อยหรือข้อที่ต้องปรับปรุงอยู่เม่ือเทียบ การด�ำเนนิ งานในเรือ่ งนัน้ ๆ ท่มี ีความเสยี่ ง รวมถึงเปน็
กับคู่เทียบ ส�ำหรับปัจจัยเสี่ยงนั้นเป็นการระบุความ ผทู้ ม่ี ขี อ้ มลู ทจี่ ำ� เปน็ ในการวเิ คราะหส์ าเหตุ การกำ� หนด
ไมแ่ นน่ อนทอี่ าจเกิดขนึ้ ในอนาคต ซ่งึ จุดออ่ นสามารถ ระดับความรุนแรง และแนวทางในการจัดการความ
น�ำไปเป็นปัจจัยน�ำเข้าในการระบุปัจจัยเสี่ยงหรือ เสี่ยง โดยฝ่ายบริหารความเส่ียงต้องท�ำหน้าท่ีเป็นท่ี
ในบางกรณีถ้าประเด็นจุดอ่อนมีผลกระทบต่อความ ปรึกษาในเรื่องของการด�ำเนินงานตามกระบวนการ
สามารถในการบรรลุเป้าหมายในอนาคตขององค์กร บริหารความเส่ียงที่ตรงตามมาตรฐานในทุกข้ันตอน
จดุ ออ่ นและความเส่ยี งสามารถเป็นตวั เดียวกนั ได้ และท�ำหน้าท่ีเป็นทีมกลางในการติดตามและรายงาน
ผลการดำ� เนนิ งานดา้ นการบรหิ ารความเสย่ี งตามระยะ
2. ถา้ ดจู ากร่างเกณฑป์ ระเมนิ เหมอื นกบั การใช้ ADLI เขา้ เวลาทก่ี �ำหนด
มาจับ
คำ� ตอบ ถูกต้อง เน่ืองจากการใช้หลักการ ADLI ถือเป็นข้อดี 5. การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งของแตล่ ะแผนงาน/โครงการ ทกุ
ของเกณฑ์ SEPA ซึ่งเกณฑ์ใหม่เป็นการน�ำข้อดีของ โครงการควรจะก�ำหนดโดย owner หรอื หนว่ ยงานบริหาร
ท้ังเกณฑ์ SEPA และเกณฑ์ข้อ 3 มารวมกัน จึงเป็น ความเสย่ี ง
ที่มาของการก�ำหนดแนวทางในการประเมินบน ค�ำตอบ ควรก�ำหนดโดย risk owner ควบคู่กับฝ่ายบริหาร
หลักการ ADLI ของ SEPA ด้วย ความเสย่ี ง ด้วยตผุ ลเดียวกนั ของค�ำถามขา้ งต้น
3. แสดงวา่ ปนี ตี้ อ้ งท�ำกระบวนการตา่ ง ๆ ตามเกณฑป์ ระเมนิ 6. กระบวนการปรับเปล่ียนแผนงานตามปกติ ใน 1 ปี
ใหม่เพ่ือรองรับการประเมินในปี 2563 ถูกต้องหรือไม่ ควรปรับได้ก่ีคร้ัง รวมทั้งการปรับแผนตามสถานการณ์
เพราะการประเมนิ ปี 2563 คอื ประเมนิ กระบวนการท�ำแผน เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วนั่นทุกคร้ังต้องน�ำเสนอกระทรวง
ปี 2563 ซ่ึง รส. ต้องท�ำในปีนี้ ในสังกัดให้เห็นชอบก่อนน�ำมาใช้หรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลา
ค�ำตอบ การประเมิน ณ ส้ินปี 2563 น้ันจะเป็นการประเมิน ในการน�ำเสนอ เพราะถ้าปรับเปล่ียนแผนแล้วไม่น�ำเสนอ
กระบวนการในการด�ำเนินงานจัดท�ำแผนยุทธศาสตร์ กระทรวงในสังกัดจะกลายเป็นแผนเถอื่ นหรอื ไม่
ในปี 2563 ซึ่งผลผลิตของกระบวนการดังกล่าวคือ ค�ำตอบ การปรบั เปลย่ี นแผนก่ีครัง้ นั้น ต้องขนึ้ อยกู่ ับการ Trig-
แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวปี 2564 เป็นต้นไปและ ger Point ส�ำหรับการปรับเปล่ียนแผนงานในกรณี
การน�ำแผนปฏิบตั กิ ารปี 2563 มาปฏิบตั ิ สถานการณ์เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของแผนงาน
โดยมคี วามสมั พนั ธก์ บั Leading Indicator ของแตล่ ะ
แผนงาน ส�ำหรับการน�ำเสนอกระทรวงเจ้าสังกัดนั้น
ข้ึนอยู่กับความมีนัยส�ำคัญของแผนงานว่าจ�ำเป็นต้อง
มีการตัดสินใจในระดับนโยบายของกระทรวงหรือไม่
หากต้องมีการพิจารณาในระดับกระทรวงก็จะต้องมี
การก�ำหนดขั้นตอนและระยะเวลาการด�ำเนินงานใน
การปรบั เปลี่ยนแผนงาน
ระบบการประเมนิ ผลการด�ำ เนินงานรัฐวิสาหกิจ ตามระบบประเมนิ ผลรฐั วิสาหกิจ 299
7. ส�ำหรบั รส. กล่มุ C ซ่งึ ยังไมเ่ คยได้รับการประเมินหวั ขอ้ 10. อยากใหย้ กตวั อยา่ งใหเ้ หน็ ถงึ ความเหมอื นหรอื ความตา่ ง Q&
การวางแผนเชิงกลยุทธ์ เหมือนกลุ่ม sepa ทางผู้ประเมิน ระหวา่ ง strategic advantage กับ core competency A
จะมีจดั กิจกรรมเพ่อื coaching หรือใหค้ �ำแนะน�ำ เพม่ิ เติม คำ� ตอบ ความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ Strategic
กับ รส. หรือไมอ่ ยา่ งไร Advantage มาจากการวเิ คราะหป์ ระเดน็ สำ� คญั ตา่ งๆ
คำ� ตอบ สคร. และผู้ประเมินจะร่วมกันพิจารณาตารางเวลา เชงิ ยทุ ธศาสตร์ ทง้ั ปจั จยั ภายในและภายนอก นำ� มาผา่ น
ในการ coaching ในกับ รส. กล่มุ C แต่อยา่ งไรก็ตาม เครอ่ื งมอื ในการวเิ คราะหค์ วามทา้ ทาย/ความไดเ้ ปรยี บ
ในปี 2562 จะมกี ารท�ำ Baseline ของเกณฑ์ใหม่ให้ เชิงยทุ ธศาสตร์ เช่น TOWS Matrix เพ่ือระบุประเดน็
ทุก รส. ทั้ง 54 แห่ง ซึ่ง รส. สามารถน�ำผลการท�ำ ที่องค์กรได้เปรียบในการด�ำเนินงาน ท้ังมุมมองท่ี
Baseline มาใช้ในการวิเคราะห์ gap และพัฒนา เป็นการใช้จุดแข็งเพ่ือเข้าถึงโอกาส การใช้จุดแข็ง
แนวทางในการด�ำเนนิ งานในปี 2563 ได้ เพื่อลดผลกระทบจากภยั คุกคาม เป็นตน้ ในส่วนของ
สมรรถนะหลักขององคก์ ร หรอื Core Competency
8. เปา้ หมาย ณ สนิ้ ปี กบั การคาดการณก์ ารเปา้ หมายระหวา่ งปี เป็นการวิเคราะห์ competency ขององค์กรเปรียบ
ในกรณที ไ่ี ม่ใช่ผลงานดา้ นการเงนิ เป็นตวั เดยี วกนั หรอื ไม่ เทียบกับคู่เทียบว่า องค์กรมีสมรรถนะหลักอะไร
ค�ำตอบ เปา้ หมาย ณ สน้ิ ปี และการคาดกาณผ์ ลการดำ� เนนิ งาน มีประเด็นใดบ้างที่ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษ
ระหวา่ งปี เปน็ คนละตวั กนั ทงั้ การเงนิ และไมใ่ ชก่ ารเงนิ ขององค์กรท่ีเหนือกว่าคู่เทียบ ผ่านเคร่ืองมือในการ
เนื่องจากจากคาดการณ์ระหว่างปีน้ัน จุดประสงค์คือ วิเคราะห์ เช่น VRIO ซึ่งจะแตกต่างกัน เน่ืองจาก
การคาดการณ์ผลการด�ำเนินงานเทียบกับเป้าหมาย เป็นผลการวิเคราะห์ที่มาจากมิติในการวิเคราะห์และ
ณ สิ้นปี ซึ่งในกรณีท่ีผลการคาดการณ์ไม่เป็นไปตาม เครื่องมอื ที่ใช้ แตกตา่ งกัน
เปา้ หมาย องคก์ รควรมกี ารพจิ ารณาปรบั ปรงุ แผนการ
ด�ำเนินงานเพ่ือให้ ม่ันใจว่าผลการด�ำเนินงานจะต้อง 11. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง Target - Risk Appetite - Risk
เปน็ ไปตามเปา้ หมาย ณ สนิ้ ปี Tolerances
คำ� ตอบ การกำ� หนด Risk Appetite และ Risk Tolerance ตอ้ ง
9. Risk intelligent ของการวางแผน ผู้ตรวจต้องการ สอดคลอ้ งกบั คา่ เปา้ หมายขององคก์ ร โดยหลกั การของ
อะไร และหมายถงึ อะไร เนอ่ื งจากเกณฑ์ใหมบ่ อกไมล่ ะเอียด Risk Appetite คือ ค่าระดับความเส่ียงที่ยอมรับได้
แล้วมีความแตกตา่ งของหวั ขอ้ การวางแผนฯ กบั ความเสย่ี ง โดยปกติจะถูกก�ำหนดให้เท่ากับค่าเป้าหมายของ
ในเรอื่ งน้ตี ่างกันอย่างไร องค์กร (ระดับ 3 ใน PA) ส่วน Risk Tolerance
คำ� ตอบ เกณฑ์การประเมิน Intelligent Risk ทั้งในหัวข้อ คือ ระดับการเบี่ยงเบนของความเส่ียงท่ียอมรับได้
การวางแผนเชิงกลยุทธ์ กับการบริหารความเส่ียง โดยปกติจะเท่ากับผลการด�ำเนินงานท่ีด้อยกว่า
เป็นเกณฑ์เดียวกัน เนื่องจากในเกณฑ์การบริหาร เปา้ หมายเล็กน้อย (ระดบั 2 ใน PA)
ความเสี่ยง ใน Module ท่ี 2 Strategy & Objective
Setting เป็นการก�ำหนดให้สอดคล้องกับเกณฑ์
ประเมินการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าว
เนน้ ใหร้ ฐั วสิ าหกจิ มกี ารวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งเพอื่ เขา้ ถงึ
โอกาสทางธรุ กจิ ขององค์กร และพิจารณาความเสี่ยง
ในเชิงการกำ� หนด Business Model ใหม่ ๆ