1
ก สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตราด กรมส่งเสริมการเรียนรู้ การอนุมัติแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง **************************** เพื่อให้การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเอง การศึกษาตลอดชีวิต การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณวุฒิ ตามระดับ อำเภอเกาะช้าง บรรลุเป้าประสงค์ตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของ กระทรวงศึกษาธิการ ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตราด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง จึงได้จัดทำ แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ตามกรอบแผนพัฒนาสถานศึกษา พ.ศ. 2566 – 2570 ประกอบด้วยข้อมูลบริบทชุมชน ข้อมูลพื้นฐานสถานศึกษา แนวทางการดำเนินงานของสถานศึกษา โครงการ/ กิจกรรม ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาได้พิจารณาและเห็นชอบโครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง ดังกล่าวแล้ว ลงชื่อ................. ..........................ผู้เห็นชอบ (นางกัลยา อิงชมภู) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา กศน.อำเภอเกาะช้าง วันที่ เดือน พ.ศ. ลงชื่อ...............................................ผู้เสนอ (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) ครูรักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกาะช้าง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ สกร.อำเภอเกาะช้าง วันที่ เดือน พ.ศ. ลงชื่อ..............................................ผู้อนุมัติแผน ( นายวรรณวิจักษณ์ กุศล ) ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดตราด วันที่ เดือน พ.ศ.
ข คำนำ แผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตราด กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยใช้ ข้อมูลบริบท และแผนจุลภาคระดับตำบล เป็นข้อมูลพื้นฐานหลักในการบริหารงานและการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการ เรียนรู้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และเป็นข้อมูลพื้นฐาน แผนงาน/โครงการ สำหรับการรองรับการ ประเมินคุณภาพนอกต่อไปด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเกาะช้าง ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดและพัฒนาการจัดการศึกษาตลอดชีวิต การศึกษาเพื่อพัฒนา ตนเอง และการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณวุฒิตามระดับ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนการจัดการศึกษาตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พุทธศักราช 2566 ไปสู่การพัฒนาตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาต่อไป ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตราด
ค สารบัญ เรื่อง หน้า การอนุมัติแผนปฏิบัติการ คำนำ สารบัญ ส่วนที่ 1 บทนำ 1.1 ข้อมูลพื้นฐานอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด 1.2 ข้อมูลทั่วไปศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง ส่วนที่ 2 ทิศทางการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2.1 นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน 2.2 นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2.2 จุดเน้นการดำเนินงาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย สำนักงาน กศน. 2.3 ทิศทางการดำเนินงานของสถานศึกษา 2.4 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพของสถานศึกษาการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2.5 กลุ่มเป้าหมาย ส่วนที่ 3 รายละเอียดแผนงาน/โครงการ 3.1 งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 3.2 แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภาคผนวก 1. ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของแผนและงบประมาณ 2. คณะผู้จัดทำ ก ข ค 1 1 10 24 24 35 38 47 50 53 55 55 57 173 198
1 ส่วนที่ 1 บทนำ 1.1 ข้อมูลพื้นฐานอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด 1.1.1 ความเป็นมา 1) สภาพทางกายภาพของชุมชน ประวัติอำเภอ อำเภอเกาะช้างมีลักษณะเป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่ ประมาณ 28 เกาะ มีพื้นที่ที่เป็นพื้นดินและพื้นน้ำรวมทั้งหมด 650 ตารางกิโลเมตร เฉพาะเกาะช้างมีพื้นที่ 200 ตารางกิโลเมตร (125,000 ไร่) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากอำเภอแหลมงอบประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 26 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 340 กิโลเมตร แผนที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ที่ตั้งและอาณาเขตอำเภอเกาะช้าง มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับ ทะเลอ่าวไทยและอำเภอแหลมงอบ ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ทะเลอ่าวไทยและอำเภอเกาะกูด ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอ่าวไทยและเมืองตราด ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ทะเลอ่าวไทย
2 ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะประมาณ ร้อยละ 85 เป็นภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าไม้ที่อุดม สมบูรณ์และมีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ มีพื้นที่ราบประมาณร้อยละ 18 เกาะช้างได้ประกาศเป็นเขตอุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะช้าง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2525 มีเนื้อที่ประมาณ 406,230 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 52.46 ของ เนื้อที่ทั้งหมด ลักษณะภูมิอากาศ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 27 องศา มีฝนตกเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงที่ได้รับ อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม ฝนจะตกชุกมาก ปริมาณ น้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 5,500 – 6,500 มิลลิลิตร ลักษณะภูมิอากาศเป็นมรสุม มี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือน พฤษภาคม – พฤศจิกายน ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือน ธันวาคม – มกราคม การแบ่งเขตการปกครอง อำเภอเกาะช้าง แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการ ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มี 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน ดังนี้ ตารางที่ 1 จำนวนประชากรในอำเภอเกาะช้างแยกรายตำบล ตำบล จำนวนประชากร รวม ชาย หญิง ตำบลเกาะช้าง 2,712 2,726 5,438 ตำบลเกาะช้างใต้ 1,524 1,557 3,081 รวม 4,236 4,283 8,519 ข้อมูลจาก ทะเบียนราษฎร์ ที่ว่าการอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ณ เดือนตุลาคม ปี 2566 การคมนาคม ทางรถยนต์ ถนนบางนา-บางปะกงและถนนสุขุมวิท ผ่านชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด ระยะทางประมาณ 390 กิโลเมตร ถนนบางนา-บางปะกงและถนนสุขุมวิท ผ่านชลบุรี พัทยา ระยอง แกลง จันทบุรี เข้าตัวเมือง จังหวัดตราด รวมระยะทางประมาณ 390 กิโลเมตร หรืออาจใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 จากพัทยา ผ่านระยอง อำเภอแกลง รวมระยะทาง 355 กิโลเมตร ถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรีที่เชื่อมต่อมาจาก 9 ขับตรงมาจนพบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 344( บ้านบึง-แกลง) ถึงอำเภอแกลง และต่อด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 ผ่านอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ข้ามสะพานเวฬุ ผ่านอำเภอเขาสมิง ตรงเข้าตัวเมืองจังหวัดตราด รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร ถ้า ไม่ต้องการเข้าสู่ตัวจังหวัดตราด ก็สามารถที่จะตรงไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ได้ โดยเลี้ยวขวามาทางแหลมงอบ ได้ เลย
3 ทางเครื่องบิน บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-ตราด-กรุงเทพฯ (อยู่ในเขต อำเภอเขาสมิง) ทุกวัน เรือเฟอร์รี่ ท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่ (อ่าวธรรมชาติ) 1.1.2 สภาพชุมชน การปกครองท้องถิ่น จำนวนตำบลภายในท้องถิ่น อำเภอเกาะช้าง แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มี 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน ดังนี้ ตารางที่ 2 รายชื่อหมู่บ้านในอำเภอเกาะช้างแยกรายตำบล หมู่ ชื่อหมู่บ้าน ตำบล หมู่ ชื่อหมู่บ้าน ตำบล 1 บ้านคลองนนทรี เกาะช้าง 1 บ้านบางเบ้า เกาะช้างใต้ 2 บ้านด่านใหม่ เกาะช้าง 2 บ้านสลักเพชร เกาะช้างใต้ 3 บ้านคลองสน เกาะช้าง 3 บ้านเจ๊กแบ๊ เกาะช้างใต้ 4 บ้านคลองพร้าว เกาะช้าง 4 บ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ 5 บ้านสลักเพชรเหนือ เกาะช้างใต้ ผู้นำชุมชน นายสัญญา เกิดมณี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะช้าง นายจักรกฤษณ์ สลักเพชร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ ตารางที่ 3 ผู้นำชุมชนตำบลเกาะช้าง ลำดับที่ ชื่อหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน 1 บ้านคลองนนทรี นายสุธี จิรังศรี 2 บ้านด่านใหม่ นายเนรมิต นพวรรณ 3 บ้านคลองสน นายศักดิ์ชัย แซ่ตั๋น 4 บ้านคลองพร้าว นายวันรุ่ง ขนรกุล ตารางที่ 3 ผู้นำชุมชนตำบลเกาะช้างใต้ ลำดับที่ ชื่อหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน 1 บ้านบางเบ้า นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี 2 บ้านสลักเพชร นายพรหมชนะ บุญล้อม 3 บ้านเจ็กแบ๊ นายสมคิด สายสังข์ 4 บ้านสลักคอก นางสาวอารีลักษณ์ ทัศมากร 5 บ้านสลักเพชรเหนือ นายชัยวิทย์ ป๊อกสอน ข้อมูล ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะช้าง 31 ต.ค. พ.ศ. 2565
4 ด้านประชากร จำนวนประชากรในอำเภอเกาะช้าง สถิติและรายละเอียดแยกเป็นรายหมู่บ้าน ตารางที่ 5 จำนวนประชากรแยกรายหมู่บ้าน ตำบล หมู่ที่ ชื่อหมู่บ้าน ครัวเรือน จำนวนประชากร เกาะช้าง ชาย หญิง รวม 0 เกาะช้าง 2 32 16 48 1 บ้านคลองนนทรี 286 267 265 532 2 บ้านด่านใหม่ 446 380 371 751 3 บ้านคลองสน 1,061 750 771 1,521 4 บ้านคลองพร้าว 2,606 1,283 1,303 2,586 รวม 4,401 2,712 2,726 5,438 เกาะช้างใต้ 1 บ้านบางเบ้า 608 345 348 693 2 บ้านสลักเพชร 469 382 407 789 3 บ้านเจ๊กแบ๊ 272 224 230 454 4 บ้านสลักคอก 251 282 274 556 5 บ้านสลักเพชรเหนือ 269 291 298 589 รวม 1,869 1,524 1,557 3,081 รวม 2 ตำบล 6,270 4,236 4,283 8,519 ข้อมูลจาก ทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย ณ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2566 อายุ สถิติประชากรจำแนกตามเพศและอายุของประชากรในอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ตารางที่ 6 สถิติประชากรจำแนกตามเพศและอายุ ลักษณะข้อมูล ชาย หญิง รวม แยกตามเพศ 4,236 4,283 8,519 แยกตามลักษณะสถานะของบุคคล ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน 4,197 4,259 8,456 - ผู้ที่มีสัญชาติไทย 3,948 4,045 7,993 - ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย 249 214 463 ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง 32 16 48 - ผู้ที่มีสัญชาติไทย 20 12 32 - ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย 12 4 16 ผู้มีชื่ออยู่ระหว่างการย้าย 7 8 15 - ผู้ที่มีสัญชาติไทย 0 0 0 - ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย 7 8 15 ข้อมูลจาก ทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย ณ 19 พ.ศ. 2566
5 0-5 ปี 270 262 532 6-14 ปี 564 480 1,044 15-59 ปี 2,778 2,917 5,695 60 ปีขึ้นไป 624 624 1,248 รวม 4,236 4,283 8,519 ข้อมูลจาก ทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย ณ 19 ตุลาคม 2566 ระดับการศึกษา ไม่เคยศึกษา จำนวน 92 คน อนุบาล/ศูนย์เด็กเล็ก จำนวน 48 คน ต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จำนวน 198 คน ระดับประถมศึกษา จำนวน 1,705 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 768 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย /ปวช. จำนวน 687 คน ระดับอนุปริญญา / ปวส. จำนวน 124 คน ระดับปริญญาตรี จำนวน 379 คน สูงกว่าระดับปริญญาตรี จำนวน 20 คน อื่นๆ จำนวน 4,475 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 8,596 คน ข้อมูลจาก พัฒนาชุมชน อำเภอเกาะช้าง ณ เดือน พฤศจิกายน 2565 ด้านการศึกษา ข้อมูลด้านการศึกษาที่มีในอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราดที่จำแนกตามตำแหน่งที่ตั้ง ของสถานที่และสังกัด ตารางที่ 7 ข้อมูลด้านการศึกษาแบ่งตามที่ตั้งและสังกัดของสถานศึกษา ชื่อโรงเรียน ที่ตั้ง(หมู่ที่) สังกัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1.บ้านคลองนนทรี 2 ทต.เกาะช้าง 2.บ้านคลองพร้าว 4 ทต.เกาะช้าง 3.บ้านบางเบ้า 1 ทต.เกาะช้างใต้ 4.บ้านสลักคอก 4 ทต.เกาะช้างใต้ 5.บ้านสลักเพชร 5 ทต.เกาะช้างใต้
6 ชื่อโรงเรียน ที่ตั้ง(หมู่ที่) สังกัด โรงเรียนประถมศึกษา 1.โรงเรียนอนุบาลเกาะช้าง 2 สพฐ. 2.โรงเรียนบ้านบางเบ้า 1 สพฐ. 3.โรงเรียนวัดวัชคามคชทวีป 4 สพฐ. โรงเรียนขยายโอกาส 1.โรงเรียนบ้านคลองพร้าว 4 สพฐ. 2.โรงเรียนวัดสลักเพชร 5 สพฐ. โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา 1.โรงเรียนเกาะช้างวิทยาคม 3 สพฐ. แหล่งที่มาของข้อมูล : เทศบาลตำบลเกาะช้างและเทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ ปี 2566 ด้านศาสนาและวัฒนธรรม ตำบลเกาะช้างใต้ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1. วัดสลักเพชร 2. วัดวัชคามคชทวีป 3. วัดบางเบ้า 4. วัดโรงถ่าน ตำบลเกาะช้าง จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ๑. วัดคลองนนทรี ๒. วัดคลองสน ๓. วัดคลองพร้าว ๔. ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง ๕. ศาลเจ้าแม่ทับทิม ๖. ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 1.1.3 สภาพทางเศรษฐกิจ การเกษตรกรรม ตำบลเกาะช้าง มีพื้นที่การเกษตรกรรมประมาณ 13,687 ไร่ มีการปลูกพืชส่วน ใหญ่เป็นไม้ยืนต้น เช่น ยางพารา ทุเรียน เงาะ มะพร้าว ส้มโอ มังคุด ลองกอง เป็นต้น ซึ่งถือเป็นอาชีพ เศรษฐกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับประชาชนในพื้นที่ การประมง ประชากรส่วนใหญ่ อาศัยอยู่บริเวณริมทะเล จะมีการทำประมงน้ำตื้น การเลี้ยงปลา ในกระชัง เช่นปลาเก๋า ปลาย่ำสวาท เพื่อประกอบเป็นอาชีพเสริมจากการทำเกษตรกรรม
7 การบริการ และ การท่องเที่ยว การบริการ ปัจจุบันเกาะช้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้สนใจมาพักผ่อน จำนวนมาก มีการ ก่อสร้างที่พัก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เช่น บังกะโล โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร และธนาคาร เกิดขึ้นเป็น จำนวนมากทุกปี การท่องเที่ยว ตำบลเกาะช้างมีสภาพธรรมชาติที่สวยงาม หาดทรายที่ขาวน้ำทะเลใส สะอาด ในปัจจุบันนับว่าเป็นที่สนใจอันดับหนึ่งของประเทศ ในด้านการท่องเที่ยวชมทะเล และธรรมชาติ ต่างๆ ซึ่งมีอยู่ครบครันไม่ว่าจะเป็น ด้านการเกษตรกรรม ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทําประมง และทําสวนเป็นหลัก เช่น สวน ทุเรียน สวนเงาะ สวนมังคุด สวนมะพร้าว สวนลองกอง สวนส้มโอ และสวนยางพารา ซึ่งถือเป็นอาชีพ เศรษฐกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับประชาชนในพื้นที่แต่เมื่อมีการพัฒนาพื้นที่บนเกาะช้างประชาชนก็เริ่มหัน มาทําอาชีพค้าขายและธุรกิจการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อำเภอเกาะช้าง มีพื้นที่เกษตรทั้งสิ้น 10,134 ไร่ สามารถผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ดังนี้ ตารางที่ 8 ข้อมูลด้านการเกษตร ปี 2566 ชนิดพืช จำนวน เกษตรกร (ราย) พื้นที่ปลูก(ไร่) พื้นที่เก็บเกี่ยว (ไร่) ผลผลิตทั้งหมด (ตัน) ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ (ก.ก./ไร่) ทุเรียน 230 1,910 823 1,195 1,451 เงาะ 6 30 30 41 1,367 มังคุด 25 109 109 66 610 ลองกอง 29 84 84 30 355 ลำไย 1 10 10 6 600 มะพร้าวผลแก่ 131 2,974 2,962 1,741 588 มะพร้าวน้ำหอม 1 49 0 0 0 ยางพารา 285 8,944 8,919 981 110 ปาล์มน้ำมัน 2 7 7 21 3,000 ข้าวนาปรัง 0 0 0 0 0 ข้าวนาปี 0 0 0 0 0 สับปะรดโรงงาน 0 0 0 0 0 สับปะรดตราดสีทอง 0 0 0 0 0 พริกไทย 0 0 0 0 0 กาแฟ 2 10 10 8 775 แหล่งที่มาของข้อมูล : สำนักงานเกษตรอำเภอ เดือน 19 ตุลาคม 2564
8 ตารางที่ 9 ข้อมูลด้านการประกอบอาชีพ ปี 2566 อาชีพ เพศ รวม (คน) % ชาย (คน) % หญิง (คน) % กำลังศึกษา 131 3.48 138 3.66 270 7.17 ไม่มีอาชีพ 11 0.29 14 0.37 25 0.66 เกษตรกรรม-ทำนา 0 0.00 0 0.00 0 0.00 เกษตรกรรม-ทำไร่ 1 0.03 1 0.03 2 0.05 เกษตรกรรม-ทำสวน 386 10.25 317 8.42 703 18.66 เกษตรกรรม-ประมง 168 4.46 56 1.49 225 5.97 เกษตรกรรม-ปศุสัตว์ 0 0.00 0 0.00 0 0.00 รับราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ 46 1.22 42 1.11 88 2.34 พนักงานรัฐวิสาหกิจ 53 1.41 53 1.41 106 2.81 พนักงานบริษัท 97 2.57 121 3.21 218 5.79 รับจ้างทั่วไป 419 11.12 401 10.65 820 21.77 ค้าขาย 188 4.99 379 10.06 567 15.05 ธุรกิจส่วนตัว 188 4.99 233 6.19 421 11.18 อาชีพอื่น 143 3.80 179 4.75 322 8.55 รวม 1,831 48.61 1,934 51.34 3,767 100.00 แหล่งที่มาของข้อมูล : สำนักงานพัฒนาชุมชน(จปฐ.) 19 ตุลาคม 2566 ด้านการอุตสาหกรรม 1. โรงงานผลิตน้ำดื่ม จำนวน 5 แห่ง ด้านการพาณิชย์ 1. สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 6 แห่ง 2. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 แห่ง 3. ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 แห่ง 4. ธนาคารออมสิน จำนวน 1 แห่ง 5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) จำนวน 1 แห่ง ด้านการบริการ 1. โรงแรม จำนวน 330 แห่ง 2. โฮมสเตย์ จำนวน 41 แห่ง 3. รีสอร์ท จำนวน 45 แห่ง 4. บังกะโล จำนวน 31 แห่ง 5. เรือนำเที่ยว จำนวน 30 ลำ 6. ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้าน จำนวน 3 แห่ง
9 7. สินค้าโอทอป จำนวน 4 แห่ง 8. ซุปเปอร์มาเก็ต จำนวน 3 แห่ง ด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ 1. สะพานแดง บ้านสลักเพชร ต.เกาะช้างใต้ 2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบ้านสลักคอก ต.เกาะช้างใต้ 3. สะพานหลวง บ้านสลักเพชร ต.เกาะช้างใต้ 4. สะพานหลวง บ้านบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ 5. น้ำตกสี่ท่อ บ้านบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ 6. อ่าวคลองสน ม.3 ต.เกาะช้าง 7. ลองบีช ต.เกาะช้างใต้ 8. เกาะง่าม/เกาะเหลายา/เกาะชายหาด/เกาะช้างน้อย/เกาะหยวก/หมู่เกาะรัง/เกาะมัน นอก/เกาะมันใน/เกาะมะปริง/เกาะหวาย/เกาะขาม/เกาะหยวก/เกาะคุ้ม 9. หาดทรายขาว/หาดคลองพร้าว/หาดไก่แบ้/แหลมไชยเชษฐ์/หาดท่าน้ำ/หาดโลนลี่บีช/ หาดคลองกอย/หาดหวายแฉก/หาดบางเบ้า/หาดใบลาน 10. จุดชมวิวหาดทรายขาว/จุดชมวิวไก่แบ้ 11. น้ำตกธารมะยม/น้ำตกคลองนนทรี/น้ำตกคลองพลู 12. ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง/ศาลเจ้าแม่ทับทิม 13. กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 14. บ้านช้างไทย ด้านการสาธารณูปโภค 1. การประปาหมู่บ้าน จำนวน 3 แห่ง 2. มีหน่วยงานบริการผู้ใช้ไฟฟ้า สังกัดไฟฟ้าภูมิภาคจังหวัด สาขาเกาะช้าง จำนวน 1 แห่ง 3. ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1 แห่ง ด้านการสาธารณสุข สถานบริการด้านสาธารณสุข ได้แก่ 1. โรงพยาบาล จำนวน 1 แห่ง 2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 5 แห่ง 3. โรงพยาบาลเอกชน จำนวน 1 แห่ง 4. หน่วยมาลาเรีย จำนวน 1 แห่ง ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 1 สถานีตำรวจภูธร จำนวน 1 แห่ง ดังนี้ 1.1 สถานีตำรวจภูธรเกาะช้าง 1 แห่ง
10 2. กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 116 3. ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล 4. ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 615 1.2 ข้อมูลทั่วไปศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง 1.2.1 ข้อมูลพื้นฐาน ประวัติ ที่ตั้ง ชื่อสถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง (Ko Chang District Learning Encouragement Center) ที่ตั้งสถานศึกษา / การติดต่อ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง ตั้งอยู่เลขที่ 222 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด รหัสไปรษณีย์ 23170 ประวัติความเป็นมา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเกาะช้าง จัดตั้งขึ้นตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การจัดตั้งศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนกิ่งอำเภอเกาะช้าง ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2536 ลงนามโดย นายปราโมทย์ สุขุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการ แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยกำหนดให้มีบทบาทหน้าที่ 1. จัดการเรียนการสอนการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาสายอาชีพและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. วางแผนพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียนระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ 3. ประสานงาน ส่งเสริมสนับสนุนเครือข่ายในการจัดการศึกษานอกโรงเรียนรวมทั้งพัฒนาการมีส่วน ร่วมของชุมชน องค์กรท้องถิ่น องค์การรัฐ องค์กรเอกชน และประชาชนให้เป็นเครือข่ายการศึกษานอก โรงเรียน 4. กำกับติดตามนิเทศติดตามและรายงานผลการดำเนินงานการศึกษานอกโรงเรียนในพื้นที 5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายจนถึงปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น“ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเกาะช้าง” เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2551 ตามพระราชบัญญัติส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 เพื่อให้ความรู้ พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กับ ประชาชนในชุมชนมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. ส่งเสริม สนับสนุนและประสานภาคีเครือข่าย เพื่อการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย 3.ดำเนินการตามนโยบายพิเศษของรัฐบาลและงานเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ
11 4. จัด ส่งเสริม สนับสนุนและประสานงานการจัดการศึกษาตามโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริในพื้นที่ 5. จัด ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 6. วิจัยและพัฒนาหลักสูตร สื่อ กระบวนการเรียนรู้ และมาตรฐานการศึกษานอกระบบ 7. ระดมทรัพยากรเพื่อใช้ในการจัดและพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 8. ดำเนินการประกันคุณภาพภายใน ให้สอดคล้องกับระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่ กำหนด 9. ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ต่อมาสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้เปลี่ยนสถานะ เป็น กรมส่งเสริมการเรียนรู้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ทำให้ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเกาะช้างเปลี่ยนเป็น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง มีหน้าที่ จัด ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยมีการจัดการศึกษา 3 รูปแบบ คือ 1. การศึกษาตลอดชีวิต 2. การศึกษาเพื่อพัฒนาตนเอง 3. การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณวุฒิตามระดับ ชื่อสถานศึกษา : ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง (Ko Chang District Learning Encouragement Center) ที่อยู่ : เลขที่ 222 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด รหัสไปรษณีย์ 23170 โทรศัพท์/โทรสาร 039-510-805 ชื่อเว็ปไซต์ https://sites.google.com/dei.ac.th/kochang/ สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดตราด กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ภาพแผนที่ตั้ง สกร.อำเภอเกาะช้าง
12 1.2.2 ปรัชญาของสถานศึกษา ปรัชญา “ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้คิดเป็น ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” 1.2 สภาพปัจจุบัน 1.2.1 บทบาทหน้าที่ของสถานศึกษา 1. จัดการเรียนการสอนการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาสายอาชีพและการศึกษาตามอัธยาศัย 2. วางแผนพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียนระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ 3. ประสานงาน ส่งเสริมสนับสนุนเครือข่ายในการจัดการศึกษานอกโรงเรียนรวมทั้งพัฒนาการมีส่วน ร่วมของชุมชน องค์กรท้องถิ่น องค์การรัฐ องค์กรเอกชน และประชาชนให้เป็นเครือข่ายการศึกษานอก โรงเรียน 4. กำกับติดตามนิเทศติดตามและรายงานผลการดำเนินงานการศึกษานอกโรงเรียนในพื้นที่ 5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย นโยบายสถานศึกษาที่ถือเป็นพันธกิจ 1. กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ของสถานศึกษา 2. พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย 3. ออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานหลักสูตร 4. พัฒนาครูและบุคลากร ให้มีความรู้ ทักษะในการออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ 5. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ผ่านช่องทางสื่อประเภทต่าง ๆ 6. ส่งเสริมสนับสนุนประสานการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชนในการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 7. จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
1.2.2 โครงสร้างการบริหาร แผนผังที่ 1 โครงสร้างการบริหารศูนนายมนตรี ศรีบุครูรักษาการในตำแหน่1. กลุ่มอำนวยการ หัวหน้ากลุ่ม นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์ 2. กลุ่มการจัดการศึกษานอกระบบหัวหน้ากลุ่ม นายมนต1.1 งานธุรการ, สารบรรณ ( นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 1.2 งานบุคลากร ( นายมนตรีศรีบุญเรือง ) 1.3 งานอาคารสถานที่และยานพาหนะ (นางสาวพรกมล ขนรกุล) 1.4 งานการเงิน(นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ), บัญชี (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) 1.5 งานพัสดุ/ครุภัณฑ์ (นางสาวพรกมล ขนรกุล) 1.6 งานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) 1.7 งานแผนและโครงการ (นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 1.8 งานนิเทศติดตามและประเมินผล (นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์, นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 1.9 งานควบคุมภายใน (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) 1.10 งานเลขานุการคณะกรรมการสถานศึกษา (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) 1.11 งานสาธารณูปโภค(นางสาวพรกมล ขนรกุล , นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 1.12 งานเทคโนโลยีสารสนเทศ (นางสาวพรกมล ขนรกุล , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ ) 1.13 งานประชาสัมพันธ์ (นางสาวพรกมล ขนรกุล,นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 1.14 งานสวัสดิการ ( นางสาววาสนา อุ้ยอลงกณ์ ) 1.15 งานบริหารความเสี่ยง (นายมนตรี ศรีบุญเรือง) 2.1 งานส่งเสริมการรู้หนังสือ (นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ2.2 งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( นางสาววาสนา อุ้ยอลงกร 2.2.1 งานทะเบียน (นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์) 2.2.2 งานวัดผลและประเมินผล ( นางสาววาสนา อุ้ย 2.2.3 งานเทียบโอนผลการเรียน ( นางสาววาสนา อุ้ย 2.2.4 งานกิจกรรมนักศึกษา/องค์กรนักศึกษา (นางสานาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ ) 2.3 งานการศึกษาต่อเนื่อง(นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน, 2.3.1 งานการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (นางสาวอัศมาภ 2.3.2 งานการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต (นางสาวอัศหาญ) 2.3.3 งานการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน (นางแก้วหาญ) 2.3.4 งานการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 2.4 งานการศึกษาตามอัธยาศัย (นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี 2.4.1 งานห้องสมุดประชาชน (นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี 2.4.2 งานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้/ภูมิปัญญา (เจริญนาน,นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ,นางสาวพรกมล ขจิรังศรี) 2.4.3 บ้านหนังสือชุมชน (นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนแก้วหาญ , นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 2.5 งานศูนย์ให้บริการคำปรึกษาแนะแนว (นางสาวอัศมาภนางสาวพรกมล ขนรกุล,นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 2.6 งานพัฒนาสื่อ( นายมนตรี ศรีบุญเรือง ), หลักสูตร(นาทางการศึกษา (นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน , นางสาว พรกมล ขนรกุล,) 2.7 งานวิจัยและพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ( นายม
13 นย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง บุญเรือง น่งผู้อำนวยการ คณะกรรมการสถานศึกษา และการศึกษาตามอัธยาศัย ตรี ศรีบุญเรือง 3. กลุ่มภาคีเครือข่ายและกิจกรรมพิเศษ หัวหน้ากลุ่ม นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน ณ์) รณ์) ยอลงกรณ์) ยอลงกรณ์) ววาสนา อุ้ยอลงกรณ์,นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญ ,นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) ภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) ศมาภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้ว สาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี ง (นางสาวอัศมาภรณ์ ) รี) (นางสาวอัศมาภรณ์ ขนรกุล,นางสาวมณีรัตน์ นาน, นางสาวพัชฌาวดี ภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ, ายมนตรี ศรีบุญเรือง) นวัตกรรมและเทคโนโลยี มนตรี ศรีบุญเรือง ) 3.1 งานส่งเสริมสนับสนุนภาคีเครือข่าย (นางวาสนา อุ้ยอลงกรณ์,นางสาว อัศมาภรณ์ เจริญนาน,นางสาวพรกมล ขนรกุล,นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 3.2 งานกิจการพิเศษ 3.2.1 จัดกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน , นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 3.2.2 งานป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด/โรคเอดส์ (นางสาวพรกมล ขนรกุล) 3.2.3 งานส่งเสริมประชาธิปไตย (นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน ,นางสาว พัชฌาวดี แก้วหาญ) 3.2.4 งานเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและนวัตกรรมในสถานศึกษา (นางสาวสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์) 3.2.5 งานผู้สูงอายุและคนพิการ(นางสาวพรกมล ขนรกุล,นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี) 3.3 งานกิจกรรมลูกเสือและยุวกาชาด (นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน) 3.4 งาน กศน.ตำบล (นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ, นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน) 3.5 งานสนับสนุน ส่งเสริมนโยบายสำนักงาน กศน. นโยบาย อำเภอ/จังหวัด ( นายมนตรี ศรีบุญเรือง ) 3.6 งานองค์นักศึกษา (นางวาสนา อุ้ยอลงกรณ์,นางสาวอัสมาภรณ์ เจริญนาน, นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ) 3.7 งานกิจกรรมจิตอาสาฯ ( นางวาสนา อุ้ยอลงกรณ์ ) 3.8 งานอาสาสมัคร กศน. (นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ, นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน)
14 1.2.3 ทำเนียบผู้บริหาร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้างจังหวัดตราด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 จนถึง ปัจจุบันเป็นดังนี้ ตารางที่ 10 ทำเนียบผู้บริหาร ลำดับที่ ชื่อ – สกุล ตำแหน่ง ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง 1 นายเฉลิมพล พวงทอง หัวหน้าศูนย์ 1 หัวหน้าศูนย์ 2 ผู้อำนวยการ พ.ศ.2538 – พ.ศ. 2541 พ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2543 พ.ศ.2543 - พ.ศ. 2548 2 นายสุธี วรประดิษฐ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ พ.ศ. 2547 – พ.ศ. 2548 3 นางสาวสุภาพร บัวเลี้ยง ผู้อำนวยการ พ.ศ. 2548 – 8 ก.ค. พ.ศ. 2551 4 นางพีฌานิภา หวังดี ผู้อำนวยการ 11 ก.ค. 2551 – 24 ต.ค. 2551 5 นายภักดี พงษ์ไพบูลย์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 10 พ.ย. 2551 – 30 ก.ย. 2554 6 นางเมตรา สารการ ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 ต.ค. 2554 – 31 ม.ค. 2555 7 นางชูชีพ ไวกสิกรรม ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 ก.พ. 2555 – 14 ม.ค. 2556 8 นางประชัน ยิ้มละไม้ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 15 ม.ค. 2556 – 15 ก.ย. 2556 9 นายสุทธี มีดวง ผู้อำนวยการสถานศึกษา 16 ก.ย. 2556 – 11 ก.พ.2558 10 นายวรวุฒิ บุญเฉิด ผู้อำนวยการสถานศึกษา 12 ก.พ. 2558 – 19 พ.ย.2558 11 นายจรินทร์ อุตสาหะ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 20 พ.ย.2558 – 30 พ.ย.2558 12 นางเบญจพร จั่นเจริญ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอแหลมงอบ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 1 ธ.ค.2558 – 16 ตุลาคม 2563 13 นายวรรณวิจักษณ์ กุศล ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกาะกูด รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 17 ต.ค. 2563 – 1 ก.พ.2562 14 นางน้ำค้าง สีเดือน ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกาะช้าง 2 ก.พ.2562 - 30 ก.ย.2563 15 นายภาสกร ชมภูบุตร ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอแหลมงอบ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ 1 ต.ค.2563 – 31 มี.ค.2564 16 นางสาวกิตติวรา ภูวานร ครู รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ 1 เม.ย.2564 – 15 มิ.ย. 2566 17 นายมนตรี ศรีบุญเรือง ครู รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ 16 มิ.ย. 2566 – ปัจจุบัน 1.2.4 ครูและบุคลากรทางการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ปี พ.ศ. 2566 จำนวน 6 รายดังนี้ ตารางที่ 11 ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ ชื่อ ตำแหน่ง การศึกษา วุฒิการศึกษา สาขา/วิชาเอก 1 นายมนตรี ศรีบุญเรือง ครู (รก. ผอ.กศน.) ปริญญาตรี สัตวศาสตร์ 2 นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์ ครู อาสาสมัครฯ ปริญญาตรี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 3 นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน ครู กศน.ตำบล ปริญญาตรี ออกแบบคอมพิวเตอร์อาร์ต 4 นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ ครู กศน.ตำบล ปริญญาโท บริหารการศึกษา 5 นางสาวพรกมล ขนรกุล เจ้าพนักงานพัสดุ ปริญญาตรี บริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ 6 นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี บรรณารักษ์อัตราจ้าง ปริญญาตรี รัฐศาสตร์
15 แผนผังที่ 2 ครูและบุคลากรทางการศึกษา นายมนตรี ศรีบุญเรือง ครูรักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเกาะช้าง นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์ ครูอาสาสมัครฯ นางสาวพัชฌาวดี แก้วหาญ ครู กศน.ตำบล นางสาวอัศมาภรณ์ เจริญนาน ครู กศน.ตำบล นางสาวพรกมล ขนรกุล เจ้าพนักงานพัสดุ นางสาวมณีรัตน์ จิรังศรี บรรณารักษ์
16 1.2.5 หลักสูตรการเรียนการสอน 1. หลักสูตร การจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แนวคิด กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551 เป็นหลักสูตรที่มุ่งจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองอุดมการณ์ การจัดการศึกษาตลอดชีวิต การสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตามปรัชญา “คิดเป็น” เพื่อสร้าง คุณภาพชีวิตและสังคม มีการบูรณาการอย่างสมดุลระหว่างปัญญาธรรม ศีลธรรม และวัฒนธรรม มุ่งสร้างพื้นฐาน การเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคม และพัฒนาความสามารถเพื่อการทำงานที่มีคุณภาพ โดยให้ภาคี เครือข่ายมีส่วนร่วมจัดการศึกษาให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน และสามารถตรวจสอบได้ว่า การศึกษานอก ระบบเป็นกระบวนการของการพัฒนาชีวิตและสังคม สามารถพึ่งพาตนเองได้ และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เป็น หลักสูตรที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการของบุคคลที่อยู่นอกระบบโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้มี ความรู้ ประสบการณ์จากการทำงาน และการประกอบอาชีพ โดยการกำหนดสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลุ่มเป้าหมายด้านจิตใจให้มี คุณธรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาการเรียนรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน สามารถจัดการกับองค์ความรู้ ทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างภูมิคุ้มกันตามแนว ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งคำนึงถึงธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ที่อยู่นอกระบบ และสอดคล้องกับสภาพ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสื่อสาร หลักการ หลักสูตร การจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนด หลักการไว้ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นด้านสาระการเรียนรู้ เวลาเรียน และการจัดการเรียนรู้ โดย เน้นการบูรณาการเนื้อหาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ความแตกต่างของบุคคล ชุมชน และสังคม 2. ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยตระหนักว่าผู้เรียนมี ความสำคัญ สามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ 4. ส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา จุดหมาย หลักสูตร การจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนา ให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพและการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการ จึงกำหนดจุดหมายดังต่อไปนี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข
17 2. มีความรู้พื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 3. มีความสามารถในการประกอบสัมมาอาชีพให้สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และตาม ทันความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง 4. มีทักษะการดำเนินชีวิตที่ดี และสามารถจัดการกับชีวิต ชุมชน สังคมได้อย่างมีความสุขตาม แนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5. มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ความเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ยึดมั่นในวิถีชีวิต และการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และ บูรณาการความรู้มาใช้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ระดับการศึกษา ระดับการศึกษาแบ่งระดับการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ คือ - ระดับประถมศึกษา - ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. หลักสูตรการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การจัดการ ศึกษาต่อเนื่อง พุทธศักราช 2561 เป้าหมาย การจัดการศึกษาต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้พัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะ ในการประกอบ อาชีพ มีการใช้ความรู้จากภูมิปัญญาและเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับการ ดำ รงชีวิตในสังคมปัจจุบัน รวมทั้งมุ่งใช้กระบวนการศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมและชุมชนให้มีความ เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต พัฒนาสังคมและ ชุมชน และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม 2. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นช่องทางการประกอบอาชีพหรือการต่อยอดอาชีพเดิมให้พัฒนา สามารถพึ่งพา ตนเองได้ 3. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข สอดคล้องตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง
18 กลุ่มเป้าหมาย 1. ประชาชนผู้ที่พลาดโอกาส ขาดโอกาส และด้อยโอกาสทางการศึกษา 2. เยาวชนกลุ่มเสี่ยง 3. ผู้สูงอายุ 4. ประชากรวัยแรงงาน อายุ 15 – 59 ปี 5. อื่น ๆ ตามสภาพความจำเป็นของพื้นที่ รูปแบบและวิธีการจัดการศึกษาต่อเนื่อง การจัดการศึกษาต่อเนื่อง เป็นการจัดการเรียนรู้เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทั่วไป ทุกกลุ่มวัยได้รับการ เรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการ ด้านการพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต พัฒนาสังคมและชุมชน ตามหลัก ปรัชญาคิดเป็นและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกรอบ การจัดการศึกษาต่อเนื่อง ดังนี้ วิธีและการจัดการศึกษาต่อเนื่อง 4 รูปแบบ 1. รูปแบบกลุ่มสนใจ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนที่มีการรวมกลุ่ม หรือไม่รวมกลุ่ม ดังนี้ 1.1 กิจกรรมตามความต้องการและความสนใจที่มีการรวมกลุ่มกัน ของผู้เรียน ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป หลักสูตรไม่เกิน 30 ชั่วโมง 1.2 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามภารกิจ เช่น อำเภอเคลื่อนที่ จังหวัดเคลื่อนที่ ฯลฯ ผู้เรียนไม่มีการ รวมกลุ่ม สนใจสมัครเรียน ณ สถานที่จัดกิจกรรม หลักสูตรไม่เกิน 5 ชั่วโมง 2. รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หลักสูตรตั้งแต่ 31 ชั่วโมง ขึ้นไป ผู้เรียนตั้งแต่ 11 คนขึ้นไป 3. รูปแบบกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน เป็นการอบรม การศึกษาดูงานการจัดเวที ประชาคม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีลักษณะเป็นการฝึกอบรม มีเนื้อหาเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อพัฒนา ทักษะชีวิต กิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมและ ชุมชน การส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง และการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ มีเจตคติ และ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน โดยมีโครงการ และหลักสูตรที่มีช่วงระยะเวลาจัด ที่แน่นอน ผู้เรียนกลุ่มละ 15 คนขึ้นไป หลักสูตร 1-3 วัน 4. รูปแบบการเรียนรู้รายบุคคล เป็นการเรียนรู้ของผู้เรียนบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ ต้องการจะเรียนรู้ในหลักสูตร การศึกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาหรือภาคีเครือข่าย การจัดการศึกษาต่อเนื่องของสำนักงาน กศน. มี 3 ลักษณะ 1. สถานศึกษาเป็นผู้จัด 2. สถานศึกษาร่วมจัดกับเครือข่าย 3. ภาคีเครือข่ายเป็นผู้จัด โดยสถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุนให้เครือข่ายเป็นผู้จัด ทั้งนี้เครือข่ายและ ผู้เรียนต้องมีการทำข้อตกลงร่วมกันในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนจบหลักสูตร
19 การจัดการศึกษาต่อเนื่อง รูปแบบกลุ่มสนใจ การจัดการศึกษาต่อเนื่อง ประกอบไปด้วยกิจกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านพัฒนาอาชีพ พัฒนา ทักษะชีวิต พัฒนาสังคมและชุมชน และด้านอื่น ๆ ซึ่งมีวิธีการจัด 4 รูปแบบ คือ รูปแบบกลุ่มสนใจ รูปแบบชั้น เรียนวิชาชีพ รูปแบบการจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน และ รูปแบบเรียนรู้รายบุคคล โดยสถานศึกษามีขั้นตอน การดำเนินงาน โดยรูปแบบกลุ่มสนใจมี 2 ลักษณะ คือ 1. การจัดตามความสนใจของผู้เรียนที่รวมกลุ่มตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป 2. การจัดโดยผู้เรียนสมัครเรียน ณ สถานที่จัด ซึ่งในแต่ละลักษณะมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้ การจัดการศึกษาต่อเนื่องรูปแบบการฝึกอบรมประชาชน การจัดการศึกษาต่อเนื่อง รูปแบบการฝึกอบรมประชาชน มี 2 ภารกิจ คือ 1. การดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ 2. การดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งในแต่ละภารกิจจะมีขั้นตอนการดำเนินการตาม แผนผังและขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้ การจัดการศึกษาต่อเนื่องรูปแบบการจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน การจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชน เป็นกระบวนการที่จะทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมี ความรู้ มีทักษะ และเจตคติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ดังนั้นการจัดกิจกรรมฝึกอบรมประชาชนจึงเป็นหนึ่งใน การจัดการศึกษาต่อเนื่อง ที่สถานศึกษาดำเนินการให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประชาชนทั่วไป โดยมี รูปแบบการจัดฝึกอบรมประชาชน ซึ่งดำเนินการได้ 2 ภารกิจ คือ ดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ ของสถานศึกษา และดำเนินการตามนโยบาย หรือภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานภาครัฐที่เป็นเรื่องเร่งด่วน การจัดการศึกษาต่อเนื่อง รูปแบบการเรียนรู้รายบุคคล การเรียนรู้รายบุคคล เป็นการเรียนรู้ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่ต้องการจะเรียนรู้ใน เนื้อหาใดเนื้อหาหนึ่ง ซึ่งเป็นความสนใจเฉพาะตัว ตามหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาหรือ เครือข่าย โดยผู้เรียนและ วิทยากรร่วมกันวางแผน ออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการของ ผู้เรียนแต่ละบุคคล สถานศึกษา สามารถจัดหรือประสาน โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1.2.6 แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา เครือข่าย ในอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยดำเนินการสำรวจ ในพื้นที่ตำบลเกาะช้างและตำบลเกาะช้างใต้ดังนี้ ตารางที่ 12 ข้อมูลด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ที่อยู่ 1. นางสาวลาวัลย์ สุวรรณหงษ์ การแปรรูปผลไม้ เลขที่ 20 ม.3 ต.เกาะช้างใต้ 2. นางสาวมลฑกรานต์ ผลพฤกษา เศรษฐกิจพอเพียง เลขที่ 27 /29 ม.8 ต.ฉมัน 3. นางสาวพนอรัตน์ อินทษร การแปรรูปอาหาร เลขที่ 7/4 ม.4 ต.เกาะช้างใต้ 4. นางพัชรินทร์ ผลกาจ การคัดแยกขยะ เลขที่ 8/5 ม.4 ต.เกาะช้างใต้ 5. นายประกิต กล่อมวงษ์ สมุนไพร เลขที่ 76/9 ม.5 ต.เกาะช้างใต้
20 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความสามารถและประสบการณ์ ที่อยู่ 6. นายราชันย์ ภู่ทนิน ธนาคารปู เลขที่ 92 ม.5 ต.เกาะช้างใต้ 7. นางจินตนา ศรีบุญจิตร การทำสบู่สมุนไพร เลขที่ 5/1 ม.3 ต.เกาะช้างใต้ 8. นายสุเมธ สิทธิถาวร แผงโซล่าเซลล์/ไฟฟ้า เลขที่ 122 ม.2 ต.เกาะข้างใต้ 9. นายชัยกมล เอมโอช การจับจีบผ้า เลขที่ 9/4 ม.4 ต.เกาะช้างใต้ 10. นางสาวพัชรินทร์ เสี่ยงเคราะห์ สิ่งประดิษฐ์ (ใบเตย/ใบมะพร้าว) เลขที่ 7/5 ม.4 ต.เกาะช้างใต้ 11. นางสาวจิรวัส สนนิวาส ภาษาอังกฤษ เลขที่ 12/1 ม.3 ต.เกาะช้าง 12. นางสุณี แข็งขัน สิ่งประดิษฐ์ (เศษวัสดุเหลือใช้) เลขที่ 20 ม.3 ต.เกาะช้างใต้ 13. นางน้ำค้าง กุศลจิตร สิ่งประดิษฐ์ (กะลามะพร้าว) เลขที่ 76/5 ม.5ต.เกาะช้างใต้ 14. นางธัญวรัตม์ เกษกุล น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น/ร้อน เลขที่ 76/13 ม.5 ต.เกาะช้างใต้ 15. นางมะยม สิทธิถาวร การแปรรูป (กล้วย) เลขที่ 76/4 ม.5 ต.เกาะช้างใต้ 16. นางสุนันทา บูชาสุข การแปรรูป (กะปิ) เลขที่ 42/3 ม.2 ต.เกาะช้างใต้ 17. นางยุพาณี กุศลจิตร การจักสาร เลขที่ 67/1 ม.5 ต.เกาะช้างใต้ 18. นางสาวอรปภา สระทองคำ นวดแผนไทย เลขที่ 26/6 ม.3 ต.เกาะช้าง 19. นางอำพา ขนรกุล การทำขนมไทย เลขที่ 15/1 ม.2 ต.เกาะช้าง 20. นางสาวภิรมย์ นพวรรณ การทำขนมมัดใต้ เลขที่ 1/1 ม.2 ต.เกาะช้าง 21. นางพิมพ์ใจ เจริญผล การทำขนมพื้นบ้าน เลขที่ 33/9/1 ม.3 ต.เกาะช้าง 22. นางสาววิภาทิพย์ กาญจนาศิริพงษ์ ตัดผมชาย เลขที่ 3/3 ม.3 ต.เกาะช้าง 23. นางสมบูรณ์ วิรัญทนา การทำมะพร้าวคั่ว เลขที่ 98/3 ม.3 ต.เกาะช้าง 24. นางมาลัย อานามพงษ์ อาหารคาวพื้นบ้านไทย เลขที่ 21 ม.3 ต.เกาะช้าง 25. นางเยาวลักษณ์ ขนรกุล การสานกระเป๋าจากซองกาแฟ เลขที่ 14/1 ม.2 ต.เกาะช้าง 26. นายวัชระ มันทวิล การแปรรูปกะปิ เลขที่ 13/7 ม.3 ต.เกาะช้าง 27. นางวัชรี ผลกาจ การแปรรูปทุเรียน เลขที่ 1/1 ม.2 ต.เกาะช้าง 28. นายสมชาย อานามพงษ์ ประมงเรือเล็ก เลขที่ 21 ม.3 ต.เกาะช้าง 29. นายสมโภชน์ ทัศมากร การเกษตรผสมผสาน เลขที่ 49/24 ม.2 ต.เกาะช้าง 30.นายอธิวัฒน์ อุปเวช นาฎศิลป์พื้นฐาน เลขที่ 1/1 ม.1 ต.เกาะช้าง 31. นายดนัย จันทษี การแปรรูปอาหารทะเล เลขที่ 104 ม.3 ต.เกาะช้าง 32. นางสาวณีรนุช อธิอุดมผล การปักคลอสติกด้วยมือ เลขที่ 48/4 ม.3 ต.เกาะช้าง 33. นายชัชวาล ขนรกุล การเลี้ยงปลาในกระชัง เลขที่ 14/1 ม.2 ต.เกาะช้าง
21 ตารางที่ 13 ข้อมูลแหล่งเรียนรู้อื่น ชื่อแหล่งเรียนรู้ ประเภทแหล่งเรียนรู้ ที่ตั้ง 1. อุทยานแห่งชาติเกาะช้าง ด้านการท่องเที่ยว และการศึกษา ธรรมชาติ บ้านสลักเพชร ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้างจังหวัดตราด 2. สวนสมุนไพร ยาแผนโบราณ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 3. ศูนย์แปรรูปอาหารเพื่อการจำหน่าย ส่งเสริมอาชีพ หมู่ที่ 5 ตำบลเก่าช้างใต้ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ส่งเสริมอาชีพ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 5. วัดสลักคอก ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะช้างใต้ 6.วัดสลักเพชร ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 7. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านตำบลเกาะช้างใต้ ประวัติศาสตร์/โบราณวัตถุ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะช้างใต้ 8. อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง ประวัติศาสตร์ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะช้างใต้ 9. วัดบางเบ้า ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้างใต้ 10.พายเรือมาด ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะช้างใต้ 11.ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะช้าง 12.ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะช้าง 13.น้ำตกธารมะยม ด้านการท่องเที่ยว และการศึกษา ธรรมชาติ บ้านธารมะยม ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้างจังหวัดตราด 14.ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประวัติศาสตร์ หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะช้าง 15.ธนาคารปู ระบบนิเวศและการอนุรักษ์ บ้านคลองสน ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้างจังหวัดตราด 16.ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ด้านการท่องเที่ยว และการศึกษา ธรรมชาติ สวนลุงต๊ะบ้านด่านเก่า ตำบล เกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด 17.ป่าชายเลนบ้านคลองพร้าว ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม หมู่ 4 บ้านคลองพร้าว 18.กลุ่มผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ส่งเสริมอาชีพ หมู่ 2 รร.อนุบาลเกาะช้าง 19.อุทยาแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ระบบนิเวศและการอนุรักษ์ หมู่ 1 ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้างจังหวัดตราด 20.วัดคลองนนทรี ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะช้างใต้ 21.วัดคลองสน ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะช้างใต้ 22.วัดคลองพร้าว ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะช้างใต้
22 ตารางที่ 14 ข้อมูลด้านภาคีเครือข่าย ภาคีเครือข่าย (กลุ่ม องค์กร และหน่วยงาน) ด้าน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ 1. ที่ว่าการอำเภอเกาะช้าง สถานที่/วิทยากร บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง 039-586100 2. เทศบาลตำบลเกาะช้าง สถานที่/วิทยากร บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง 039-586199 3. เทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ สถานที่/วิทยากร บ้านสลักเพชรเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 039-553059 4. สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเกาะช้าง การจัดทำโครงการ/ องค์ความรู้ บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง 039-581114 5 สาธารณสุขอำเภอเกาะช้าง วิทยากร บ้านด่านใหม่ หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะช้าง 039-586143 6. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง สถานที่/วิทยากร บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง 039-510928 7. วัดคลองพร้าว สถานที่/วิทยากร บ้านคลองพร้าว หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะช้าง - 8. วัดสลักเพชร สถานที่/วิทยากร บ้านสลักเพชรเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ - 9. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบล เกาะช้างใต้ บ้านเจ๊กแบ้ สถานที่/วิทยากร ตำบลเกาะช้าง 039-617041 10. ผู้นำชุมชน สถานที่/วิทยากร/ องค์ความรู้ ทุกหมู่บ้านในตำบลเกาะช้าง และตำบลเกาะช้างใต้ - 11. กลุ่มแม่บ้านแปรรูปอาหาร สถานที่/วิทยากร/ องค์ความรู้ บ้านสลักเพชรเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 084-8726407 12. กลุ่มกะลามะพร้าว สถานที่/วิทยากร/ องค์ความรู้ บ้านสลักเพชรเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ 096-8072731 13. กลุ่มผู้สูงอายุตำบลเกาะช้างใต้ สถานที่ ศูนย์เอื้ออาทรผู้สูงอายุ หมู่ 5 ตำบลเกาะช้างใต้ - 14. กลุ่มผู้สูงอายุตำบลเกาะช้าง สถานที่/วิทยากร วัดคลองสน ตำบลเกาะช้าง - 15. วัดคลองนนทรี สถานที่/วิทยากร บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง - 16. วัดคลองสน สถานที่/วิทยากร หมู่ 3 ตำบลเกาะช้าง - 17. กลุ่มกะปิเกาะช้าง สถานที่/วิทยากร บ้านคลองสน หมู่ 3 ตำบล เกาะช้าง 081-7612361 18. โรงพยาบาลเกาะช้าง วิทยากร หมู่ 3 ตำบลเกาะช้าง 039-586131
23 ภาคีเครือข่าย (กลุ่ม องค์กร และหน่วยงาน) ด้าน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ 19. เกษตรอำเภอ วิทยากร บ้านคลองนนทรี หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะช้าง 094-4256135 081-8725396 20. โรงเรียนเกาะช้างวิทยาคม สถานที่/วิทยากร/ พิธีกร บ้านคลองสน ม.3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด 039-510591 21. โรงเรียนอนุบาลเกาะช้าง สถานที่/วิทยากร บ้านคลองนนทรี ม.2 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด 039-510352 22. โรงเรียนวัดสลักเพชร สถานที่ บ้านวัดสลักเพชร ม.5 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะ ช้าง จ.ตราด 096-9651659 23. บิ๊กซี มาร์เก็ต สาขาเกาะช้าง การจัดทำโครงการ/ องค์ความรู้ บ้านไชยเชษฐ์ ม.4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด 039-551310
24 ส่วนที่2 ทิศทางการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2.1 นโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 1.1 พัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติโดยปลูกฝังและสร้างความ ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคน ไทยและชาติไทย น้อมนำและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดำริต่าง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มีความเป็นพลเมืองดี ยอมรับ และเคารพความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามใน รูปแบบใหม่ ทั้งยาเสพติด การค้ามนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การ พัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขต พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ และพื้นที่ชายแดนอื่น ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อน บ้าน ยอมรับและเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ใน ลักษณะพหุสังคมที่อยู่ร่วมกัน 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะด้านอาชีพของ ประชาชนให้เป็นอาชีพที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S –curve และ New S – curve) โดยบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนาและเสริมทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนาพิเศษตามภูมิภาค ต่างๆ ของประเทศสำหรับพื้นที่ปกติให้พัฒนาอาชีพที่เน้นการต่อยอดศักยภาพและตามบริบทของพื้นที่ 2.2 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบ การศึกษาอย่างน้อยการศึกษาภาคบังคับ สามารถนำคุณวุฒิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนา ทักษะในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของ สังคมและชุมชน รวมทั้งรองรับการพัฒนาเขตพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและส่งเสริมประชาชนเพื่อต่อยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ออนไลน์
25 1) เร่งจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของ สินค้าและผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการที่ครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจำหน่าย) รวมทั้งส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแพร่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสาน ความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันในการเป็นช่องทางการจำหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน. ให้ กว้างขวางขึ้น 3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เชื่อมโยง ความรู้กับผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความจำเป็น “ครูมืออาชีพ” มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการ เปลี่ยนแปลงของสังคมและเป็น “ผู้อำนวยการการเรียนรู้” ที่สามารถบริหารจัดการความรู้ กิจกรรม และการ เรียนรู้ที่ดี 1) เพิ่มอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแห่ง โดยเร่งดำเนินการเรื่องการหาอัตรา ตำแหน่งการสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ข้าราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครูในรูปแบบครบวงจร ตามหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตำบล ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเรื่องการพัฒนา ทักษะการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทักษะภาษาต่างประเทศ ทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ 4) พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน. ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล และภาษาต่างประเทศที่จำเป็น 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อม ในการให้บริการกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มี บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นคาเฟ่พื้นที่การเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่งอำนวยความสะดวก มี บรรยากาศสวยงามมีชีวิต ที่ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตำบลนำร่อง 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรี เมื่ยม ที่ประกอบด้วย ครูดี สถานที่ดี (ตามบริบทของพื้นที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีมี ประโยชน์ 2) จัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. เพื่อยกระดับการเรียนรู้ใน 6 ภูมิภาพ เป็นพื้นที่การ เรียนรู้ (Co-Learning Space) ที่ทันสมัยสำหรับทุกศน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พื้นที่สำหรับ การทำงาน/การเรียนรู้ พื้นที่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทำงานร่วมกับห้องสมุด ประชาชนในการให้บริการในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเตอร์เน็ต สื่อมัลติมีเดีย เพื่อรองรับการเรียนรู้แบบ Active Learning
26 3) พัฒนาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ให้เป็น Digital Library โดยให้มีบริการหนังสือ ในรูปแบบ e-book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมทั้ง Free Wifi เพื่อการสืบค้นข้อมูล 3.3 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับทุกศน สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีกิจกรรมที่หลากหลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนา ศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในชุมชนไปสู่การจัดการความรู้ของชุมชนอย่างยั่งยืน 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ ความ รับผิดชอบต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิด อาสา ตลอดจนสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับบุคลากรในองค์กร 2) จัดให้มีหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยให้สำนักงาน กศน. จังหวัดทุกแห่ง/กทม. จัดตั้งกอง ลูกเสือที่ลูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อส่งเสริม ลูกเสือจิตอาสาพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด 3.4 เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทั้ง ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของ ชุมชนเพื่อสร้างความเข้า และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 1) เร่งจัดทำทำเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละตำบล เพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นใน การสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่าง ยั่งยืน 2) ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การจัดการเรียนรู้ชุมชน 3) ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการขยายและพัฒนาการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อส ม. 3.5 พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย 1) พัฒนาการจัดการศึกษาออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของการศึกษาขั้นพื้นฐาน การพัฒนา ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ 2) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) ส่งเสริมให้มีการใช้การวิจัยอย่างง่ายเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนา รูปแบบการจัดการเรียนการสอน
27 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเป็น ธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพื่ออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนาสื่อการเรียน การสอนเพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารและการพัฒนาอาชีพ 3.8 เตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเตรียมพร้อมเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจในพัฒนาการของช่วงวัย รวมทั้งเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดูแล รับผิดชอบผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับประชาชนในการเตรียมความพร้อมเข้า สู่วัยสูงอายุที่เหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาทักษะชีวิต ให้สามารถดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตและ รู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญา ของผู้สูงอายุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่าง ๆ ในชุมชน เช่นด้านอาชีพ กีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ 3.9 การส่งเสริมวิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 1) จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนใน ชุมชนทั้งวิทยาศาสตร์ในวิถีชีวิต และวิยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน 2) พัฒนาสื่อนิทรรศการและรูปแบบการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ให้มีความทันสมัย 3.10 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขต พื้นที่สูง ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ 4. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1 จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถ ให้บริการประชาชนได้ทุกศน ทุกช่วงวัย ที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละ วัยและเป็นศูนย์บริการความรู้ ศูนย์การจัดกิจกรรมที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เพื่อให้มีพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสม และมีความสุขกับการเรียนรู้ตามความสนใจ 1) เร่งประสานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลโรงเรียนที่ ถูกยุบรวม หรือคาดว่าน่าจะถูกยุบรวม
28 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดที่มีโรงเรียนที่ถูกยุบรวม ประสานขอใช้พื้นที่ เพื่อจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย กศน. 4.2 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 1) จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษาตาม อัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ให้สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทำความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ จังหวัด ในการใช้สถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจำการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษ อื่นๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ให้จบการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชน ในการรับมือและปรับตัวเพื่อลดความเสียหาย จากภัยธรรมชาติและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับ ประชาชนเกี่ยวกับการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง การกำจัดขยะ และการนำกลับมาใช้ซ้ำ เพื่อลดปริมาณและต้นทุนใน การจัดการขยะของเมือง และสามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย รวมทั้งการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการ ใช้ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รณรงค์เรื่องการลดการใช้ถุงพลาสติก การประหยัดไฟฟ้า เป็นต้น 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์มีความโปร่งใส 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนา งาน สามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ที่ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการและ ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทันที ทุกที่ทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตำแหน่ง ให้ตรงกับสายงาน ความชำนาญ และความต้องการของบุคลากร ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการจัดการศึกษา ของ กระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564 และปีงบประมาณ
29 พ.ศ. 2567 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ไปแล้ว นั้น เนื่องจาก ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ซี่งทำให้ ทุกศนต้องปรับเปลี่ยนชีวิตไห้เข้ากับวิถีขีวิตใหม่ หรือ New Normal จีงมี ความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ การดำเนินการให้มีความปลอดภัยทั้งต่อผู้เรียน ข้าราขการครู และบุคลากร ทางการศึกษาให้เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่ง พระราขบัญญัติระเบียบ บริหารราขการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึง ประกาศนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้ หลักการตาม นโยบาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นดำเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ขาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผน ย่อยที, 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนา ศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียมคนไทยสู,ศตวรรษที่ 21 และพหุปีญญาของ มนุษย์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยงสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง ร่าง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งขาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนลมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 รวมทั้งนโยบายและแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียน ทุกช่วงวัยจะได้รับการพัฒนา ในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความปลอดภัย และมีสมรรถนะทีสำคัญจำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู'ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ดังนั้น ในการ เร่งรัดการทำงานภาพรวมกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับสังคมและผลักดัน ให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดหลักการสำคัญในการ ประกาศนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไว้ดังนี้ 1. สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนและประขาซน โดยให้ ทุกหน่วยงาน นำรูปแบบการทำงานโดยบูรณาการการทำงานร่วมกัน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ความ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกศนดำเนินการตามภารกิจด้วยความรับผิดชอบต่อตนเอง องค์กร ประชาชนและประเทศชาติ โดยให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผ่านกลไกการรับฟ้ง ความคิดเห็นมาประกอบการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา 3. ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ประกาศและแถลงนโยบายไว้แล้ว เมื่อวันที 25 มิถุนายนพ.ศ.2564เพื่อมุ่งเน้นผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงของภาคการศึกษาที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อผู้เรียน และประขาขนอย่างมีนัยสำคัญ
30 2.2 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 13 2.2.1 หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา แห่ง อนาคต เป้าหมายที่ 2) การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ โดยคนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงสอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลิตเป้าหมาย สามารถสร้างงานอนาคต และสร้างผู้ประกอบการอัจฉริยะที่มีความสามารถในการสร้างและใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้ง เป้าหมายที่ 3) การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอด ชีวิต ทั้งการพัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ไม่ สามารถเรียนในระบบการศึกษาปกติ 2.2.2 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติใน 3 ด้าน ได้แก่ - ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในประเด็นเป้าหมาย ประเทศไทย มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น - ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ในประเด็นเป้าหมาย คนไทยเป็นคนดี คนเก่งมีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และสังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและ สนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอด ช่วงชีวิต - ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ในประเด็นเป้าหมาย การ สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และการกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ และ สังคม เพิ่มโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นก าลังของการพัฒนาประเทศในทุกระดับ 2.2.3 เป้าหมายและผลลัพธ์ของการพัฒนาระดับหมุดหมาย เป้าหมายที่ 1 คนไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในทุกช่วงวัย มีสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับ โลก ยุคใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกัน ต่อการเปลี่ยนแปลง อย่างพลิกโฉมฉับพลันของโลก สามารถดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม ได้อย่างสงบสุข ตัวชี้วัดที่ 1.1 ดัชนีพัฒนาการเด็กสมวัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 88 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 1.2 ร้อยละของนักเรียนที่มีสมรรถนะจากการประเมินโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียน มาตรฐานสากลไม่ถึงระดับพื้นฐานของทั้ง 3 วิชาในแต่ละกลุ่มโรงเรียน ลดลงร้อยละ 8 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 1.3 ทุนชีวิตเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 1.4 จำนวนนักศึกษาที่เข้าร่วมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบัณฑิตฐานสมรรถนะเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ตัวชี้วัดที่ 1.5 ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 ต่อปี ตัวชี้วัดที่ 1.6 จำนวนผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความยากจนหลายมิติลดลงร้อยละ 20 ต่อปี124 เป้าหมายที่ 2 กำลังคนมีสมรรถนะสูง สอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลิตเป้าหมาย และ สามารถ สร้างงานอนาคต
31 ตัวชี้วัดที่ 2.1 ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของสภาเศรษฐกิจโลกด้านทักษะ คะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อสิ้นสุดแผน ตัวชี้วัดที่ 2.2 การจัดอันดับในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถของสถาบันการจัดการนานาชาติ มีคะแนน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3 ต่อปี ตัวชี้วัดที่ 2.3 จำนวนและมูลค่าของธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น เป้าหมายที่ 3 ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตัวชี้วัดที่ 3.1 การประเมินสมรรถนะผู้ใหญ่ในระดับนานาชาติของคนไทยในทุกด้านไม่ต่ ากว่าค่าเฉลี่ย ของประเทศที่เข้ารับการประเมิน ตัวชี้วัดที่ 3.2 กลุ่มประชากรอายุ 15-24 ปี ที่ไม่ได้เรียน ไม่ได้ท างาน หรือไม่ได้ฝึกอบรม ไม่เกินร้อยละ 5 เมื่อสิ้นสุดแผน 2.3 BCG (BIO:เศรษฐกิจชีวภาพ Circular:เศรษฐกิจหมุนเวียน Green:เศรษฐกิจสีเขียว) การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยให้ความสำคัญกับ การประยุกต์ใช้ องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากฐาน ทรัพยากรธรรมชาติและความ หลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การให้บริการ และการบริโภคเพื่อลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม โมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นกลไกเร่งให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้ Thailand 4.0 ที่ ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจจากการใช้ความได้เปรียบด้านทรัพยากรและ แรงงานไปสู่ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นด้วยการระดมทรัพยากรและ ความสามารถของ ทุกภาคส่วนในการมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดล เศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2570 เป็นการพัฒนาภายใต้ 4 + 1 สาขายุทธศาสตร์คือ เกษตรและ อาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์และ เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งมีศักยภาพ จะเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านบาท จาก ฐานความหลากหลายของทรัพยากร ชีวภาพ (Nature) วัฒนธรรม (Culture) และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ (Nurture) ภายใต้กลไกจตุภาคีซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันวิจัย/ สถาบันการศึกษา และภาคประชาชน 2.2.1 การเกษตรและอาหาร การปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรทั้งระบบจะทำให้มีศักยภาพใน การเพิ่ม GDP ของภาค เกษตรจาก 1.3 ล้านล้านบาท เป็น 1.6 ล้านล้านบาท ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของ ผลผลิตทาง การเกษตร มีระบบสนับสนุนการตัดสินใจจากเทคโนโลยี การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค ก่อให้เกิดการ ผลิตแม่นยำสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ลดของเหลือทิ้ง ตรวจสอบและติดตามผลผลิตได้ แบบ เรียลไทม์ ลดการบุกรุกผืนป่า เนื่องจากมีการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกตามความเหมาะสมของพื้นที่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีระบบการผลิตและเครื่องจักรกลที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความยั่งยืน การ
32 ยกระดับสินค้าเกษตรสู่สินค้าปลอดภัย การสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ การสร้างความแตกต่าง ให้กับ ผลิตภัณฑ์การมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ และการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรให้ที่เป็นที่ยอมรับใน ระดับสากล ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่า GDP จาก 0.6 ล้านล้านบาท เป็น 0.9 ล้านล้านบาท ด้วย การพัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการยกระดับคุณภาพ สร้างมาตรฐานและ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ยกระดับสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว การสร้างผลิตภัณฑ์ ใหม่โดยเฉพาะในกลุ่ม อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสำหรับแต่ละช่วงวัย หรือการพัฒนาเป็นสารประกอบมูลค่าสูง (Functional Ingredient) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดเติบโตอย่างมาก 2.2.2 สุขภาพและการแพทย์ปัจจุบันมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและการแพทย์โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ ที่ผลิตได้ภายในประเทศมีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากขาดการ พัฒนาอุตสาหกรรม รวมถึง การสร้างบุคลากรด้านนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ความเข้มแข็งของบุคลากรวิจัย ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการแพทย์ของประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงต้นน้ำของห่วงโซ่อุตสาหกรรม การแพทย์ ประเทศไทยจึง ขาดศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ยา และเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล ประเทศไทยต้องเร่งรัดการพัฒนาขีดความสามารถด้านการสร้าง นวัตกรรม ยา วัคซีน ยาชีววัตถุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการวิจัยทางคลินิกและการบริหารจัดการข้อมูล วิทยาศาสตร์การแพทย์รองรับการ ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ เพื่อลดการนำเข้า ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิด ปัญหาสุขภาพ (Preventive medicine) มากกว่าการรักษา การขยายบริการด้านสุขภาพไปสู่การให้บริการทาง การแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized medicine) ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลพันธุกรรม รวมถึงการสร้าง แพลตฟอร์มการวิจัยทาง คลินิกของประเทศ ด้วยแนวทางดังกล่าว รัฐจะสามารถเพิ่มมูลค่า GDP ในหมวดนี้เป็น 9 หมื่นล้านบาท 2.2.3 พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ มูลค่า GDP ของสาขาพลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ รวมกัน ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท เป็นกลุ่ม ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง จากนโยบายภาครัฐที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการ ใช้พลังงานทดแทนเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ในปี พ.ศ. 2580 ในส่วนของพลังงาน มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วย การพัฒนานวัตกรรมการผลิต พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถรองรับของเสียที่หลากหลายทั้งชนิดและ คุณสมบัติ เช่น ขยะจาก อุตสาหกรรม ครัวเรือน รวมถึงพืช ผลผลิต และวัสดุเหลือใช้สิ่งเหล่านี้เป็นทรัพยากรที่ สามารถนำกลับมาใช้ ใหม่ในรูปของแหล่งพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทดแทน เช่น การผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ ก๊าซชีวภาพ การสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนที่มีแหล่งพลังงานทดแทนในพื้นที่ เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ ชีวมวล (รวมขยะ) ที่ เพียงพอ โรงไฟฟ้าชุมชนสามารถสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าผ่านการเชื่อมต่อระบบด้วย Smart microgrid และใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นแพลตฟอร์มในการบริหารจัดการ ทั้งนี้ จำเป็นต้องมีการพัฒนา เทคโนโลยีที่ เกี่ยวข้องกับระบบการจัดเก็บพลังงาน สร้างโอกาสทางการตลาดผลิตภัณฑ์ชีวภาพอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจาก มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทน ในส่วนของวัสดุและเคมีชีวภาพ มี ศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรและวัสดุเหลือใช้ เป็นสารประกอบหรือผลิตภัณฑ์เคมีและ
33 วัสดุชีวภาพที่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ พลาสติกชีวภาพ ไฟเบอร์ เภสัชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โอลิโอเคมิคอล มี ศักยภาพที่จะเพิ่มมูลค่า GDP ในหมวดนี้เป็น 2.6 แสนล้านบาท 2.2.4 การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ก่อนสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้าง GDP รวมกันมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ในช่วงโควิดรายได้ลดลงไปมากกว่าสองในสาม อย่างไรก็ดีด้วยจุดแข็ง ของประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเพิ่ม มูลค่า GDP ในหมวดนี้เป็น 1.2 ล้านล้านบาท ด้วยการกระจายแหล่ง ท่องเที่ยวสู่เมืองรอง โดยการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม ระบบดิจิทัล สินค้าและบริการซึ ่งดำเนินการ ด้วยชุมชนท้องถิ่น เน้นตลาด คุณภาพ สร้างมาตรฐาน ความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ร่วมกับการชูอัตลักษณ์ของ แต่ละพื้นที่ โดยการนำ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้บริหารจัดการ และดูแลระบบนิเวศ รวมถึงการพัฒนาสู่แบบ แผนการท่องเที่ยวที่ ยั่งยืนด้วยการจัดทำระบบมาตรฐานการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน การจัดทำ National Guideline ด้านขีด ความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยว จัดทำระบบบัญชีต้นทุนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในเขต พัฒนาการท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมถึงการปรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว การฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งเสื่อมโทรม ทางธรรมชาติเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการเพื่อลด ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์บน พื้นฐานของการสร้าง การใช้องค์ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงกับทุนทางปัญญา และความ หลากหลายทางวัฒนธรรมเพื่อรังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการรูปแบบ ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สามารถตอบสนอง ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การพัฒนาใน 3 สาขายุทธศาสตร์ข้างต้น สามารถเชื่อมโยงกับการ ท่องเที่ยวผ่านระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ อาทิ การให้ ประสบการณ์กับนักท่องเที่ยวผ่านการท่องเที่ยวเชิง อาหารไทย การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับการแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิง ศิลปะและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาเพื่อส่งออกสินค้าและบริการเหล่านี้ ผ่าน ของขวัญ ของฝากที่สร้างสรรค์อย่างมีอัตลักษณ์ การจัดการด้านระบบและมาตรฐานที่กำกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั่ว โลก เช่นเดียวกับการมีสมาพันธ์ทางด้านกีฬา การจัดมหกรรมกีฬาระดับโลก เป็นต้น ส่งเสริมและร่วมมือกับภาค ธุรกิจการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการ ในการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลรองรับการเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุที่จะส่งผลกระทบโดยตรงกับการท่องเที่ยวในอีก 5-10 ปีข้างหน้า การดำเนินการในช่วงแรก ให้ความสำคัญกับการเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาสร้างรายได้ให้ประเทศเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 2.2.5 เศรษฐกิจหมุนเวียน ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยตระหนักว่าเศรษฐกิจ หมุนเวียนเป็นระบบเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่าและทำให้มนุษย์อยู่กับธรรมชาติได้อย่าง สมดุล สนับสนุนการบรรลุ ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และที่ สำคัญเป็นโอกาสสำหรับ การสร้างเศรษฐกิจใหม่ สร้างรายได้และเพิ ่มการจ้างงาน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2570 เศรษฐกิจ หมุนเวียนจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของมูลค่า GDP
34 2.4 SDG4 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนใน ประเทศไทย (การศึกษาที่มีคุณภาพ) เป้าหมายที่ 4 : สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และ สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Ensure inclusive and equitable quality education and promote lifelong learning opportunities for all) โดยมีตัวชี้วัดตามเป้าหมายดังนี้ 4.1 สร้างหลักประกันว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ที่มีคุณภาพเท่าเทียมและ ไม่มีค่าใช้จ่ายนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเรียนที่มีประสิทธิผลภายในปี 2573 4.2 สร้างหลักประกันว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนเข้าถึงการพัฒนา การดูแล และการจัดการศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ ภายในปี 2573 เพื่อให้เด็กเหล่านั้นมีความพร้อมสำหรับ การศึกษาระดับประถมศึกษา 4.3 ให้ชายและหญิงทุกคนเข้าถึงการศึกษาวิชาเทคนิค อาชีวศึกษา อุดมศึกษา รวมถึงมหาวิทยาลัยที่มี ราคาที่สามารถจ่ายได้และมีคุณภาพ ภายในปี 2573 4.4 เพิ่มจำนวนเยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีทักษะที่จำเป็นรวมถึงทักษะทางเทคนิคและอาชีพสำหรับการจ้าง งาน การมีงานที่ดีและการเป็นผู้ประกอบการภายในปี 2573 4.5 ขจัดความเหลื่อมล้ำทางเพศในการศึกษาและสร้างหลักประกันว่ากลุ่มที่เปราะบางซึ่งรวมถึงผู้พิการ ชนพื้นเมือง และเด็กเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอาชีพทุกระดับอย่างเท่าเทียม ภายในปี 2573 4.6 สร้างหลักประกันว่าเยาวชนทุกคนและผู้ใหญ่ในสัดส่วนสูงทั้งชายและหญิงสามารถอ่านออกเขียนได้ และคำนวณได้ภายในปี 2573 4.7 สร้างหลักประกันว่าผู้เรียนทุกคนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับส่งเสริมการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน รวมไปถึงการศึกษาสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน สิทธมนุษยชน ความเสมอภาค ระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและไม่ใช้ความรุนแรง การเป็นพลเมืองของโลกและความ นิยมในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและในส่วนร่วมของวัฒนะธรรมต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี2573 4.a สร้างและยกระดับอุปกรณ์และเครื่องมือทางการศึกษาที่อ่อนไหวต่อเด็ก ผู้พิการและเพศ ภาวะ และให้มีสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่ปลอดภัยปราศจากความรุนแรงครอบคลุมและ มีประสิทธิผล สำหรับทุกคน 4.b ขยายจำนวนทุนการศึกษาในทั่วโลกที่ให้ สำหรับประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะประเทศ พัฒนาน้อยที่สุด รัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็กและประเทศในแอฟริกาในการสมัครเข้าศึกษาต่อใน ระดับอุดมศึกษา รวมถึงการฝึกอาชีพและโปรแกรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้านเทคนิค วิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆภายในปี 2563 4.c เพิ่มจำนวนครูที่มีคุณภาพรวมถึงการดำเนินการผ่านทางความร่วมมือระหว่างประเทศใน การฝึกอบรมครูในประเทศกำลังพัฒนาเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะ ขนาดเล็ก ภายในปี 2573
35 2.5 นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย 1.1 สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันภัยคุกคามในชีวิตทุก รูปแบบ โดยมีการดำเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากร ในรูปแบบ ต่าง ๆ อย่างเข้มข้น 1.2 ปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์และไซเบอร์ อย่างสร้างสรรค์ 1.3 ส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 1.4 พัฒนาบทบาทและภารกิจด้านความปลอดภัยของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดย บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน 2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดการเรียนรู้สู่สมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่ จำเป็นในโลกยุคใหม่ให้กับผู้เรียน 2.2 จัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมพหุปัญญาให้กับผู้เรียน โดยเน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ในรูปแบบ Active Learning, STEM Education, Coding ฯลฯ และกระบวนการส่งต่อในระดับที่สูงขึ้น 2.3 พัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวัดผล ประเมินผลฐานสมรรถนะ เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นแห่งอนาคต 2.4 ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อพัฒนาทักษะและสมรรถนะด้าน Soft Power ให้กับผู้เรียน 2.5 ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้เรียนรู้ตามความสนใจผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 2.6 ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) 2.7 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรมให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยและบริบทของพื้นที่ 2.8 ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน โดย บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2.9 ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้นำผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติไปใช้ในการวางแผน การ พัฒนาการจัดการเรียนการสอนและยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา 2.10 พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน
36 3. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย 3.1 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตามและส่ง ต่อไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาเด็กตกหล่นและออกกลางคัน 3.2 ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อรับการ พัฒนาอย่างรอบด้าน มีคุณภาพ ตามศักยภาพ ตามวัย ต่อเนื่องอย่างเป็นระบบและเป็นไปตามมาตรฐาน โดย บูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.3 พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การทำงาน หรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment or Training : NEETs) 3.4 พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว (Home School) และการเรียนรู้ที่ บ้านเป็นหลัก (Home–based Learning) รวมทั้งการศึกษาทางเลือกอื่น ๆ 3.5 พัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ในหน่วยงานที่จัดการศึกษาและให้มีหน่วยงานกลาง ในการขับเคลื่อนระบบธนาคารหน่วยกิตในภาพรวม และการเชื่อมโยงทั้งระหว่างรูปแบบ ประเภท และระดับ การศึกษา 4. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 4.1 พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น แบบโมดูล (Modular System) มีการบูร ณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการอาชีวศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและ ระบบทวิภาคี รวมทั้งการจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้นเพื่อการมีงานทำ 4.2 ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับสมรรถนะกำลังคน ตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการผลิตกำลังคนที่ตอบโจทย์การ พัฒนาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพในรูปแบบหลากหลายให้ ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาระบบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตาม สมรรถนะที่จำเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการนำผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าทำงาน ศึกษาต่อ ขอรับ ประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตรสมรรถนะภาษาอังกฤษ (English Competency) 4.5 จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ (ศูนย์ Start Up) ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพและการเป็น ผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการด้าน
37 อาชีพทั้งผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเชื่อมโยงกับ กศน. และสถานประกอบการทั้งภาครัฐและ เอกชนที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ 4.6 เพิ่มบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและกำลังแรงงานในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ที่ สามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ 4.7 พัฒนาหลักสูตรอาชีพสำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชนที่สอดคล้อง มาตรฐานอาชีพเพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะ และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ 5. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากร 5.1 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการประเมินวิทยฐานะ โดยใช้ระบบการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (Digital Performance Appraisal : DPA) 5.2 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการ พัฒนาสมรรถนะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลตามกรอบ ระดับ สมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ระดับอาชีวศึกษา 5.3 พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบอาชีพ และการดำเนิน ชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล 5.4 ส่งเสริมสนับสนุนการวัดสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผล เพื่อนำผลไปใช้ในการยกระดับการ เรียนการสอน การวัดผลและประเมินผลในชั้นเรียน 5.5 พัฒนาขีดความสามารถของครู และบุคลากรให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการ เปลี่ยนแปลงของสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต 5.6 ส่งเสริมสนับสนุนการทดสอบสมรรถนะครู และบุคลากรด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการ ทำงาน 5.7 เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทั้งระบบ ควบคู่กับการให้ความรู้ด้านการ วางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม 6. การพัฒนาระบบราชการและการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล 6.1 ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ ด้วยนวัตกรรม และการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาเป็นกลไกหลักใน การดำเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data) การส่งเสริมความร่วมมือ บูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก 6.2 พัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้งานเครือข่ายสื่อสารข้อมูล เชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.3 พัฒนาระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยึดหลักความจำเป็นและใช้ พื้นที่เป็นฐาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ
38 6.4 เสริมสร้างคุณธรรม มาตรฐานทางจริยธรรมและปลุกจิตสำนึกต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล 7. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติ ดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อรองรับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ควบคู่กับการสร้าง การรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง 2.6 จุดเน้นการดำเนินงาน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 1. สรางโอกาสในการเขาถึงการเรียนรูอยางทั่วถึงและเทาเทียม 1.1 จัดทำระบบหรือแพลตฟอรมการเรียนรู(Digital Learning Platform) รวมทั้ง แอปพลิเคชั่น หรือ สื่อดิจิทัลที่มีคุณภาพครบวงจรเพื่อการเรียนรูในชองทางเรียนรูรูปแบบตาง ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air ประชาชนสามารถเขาถึงไดทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) 1.2 พัฒนาระบบสะสมหนวยการเรียนรูในธนาคารหนวยกิต (Credit Bank System) ที่สามารถเชื่อมโยงการศึกษาและการเรียนรูในทุกระดับและประเภท สรางความคลองตัวและเปดทางเลือก ใหกับ ผูเรียนทุกระดับ เพื่อประโยชนในการรับรองคุณวุฒิ หรือการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตอไป 1.3 พัฒนาระบบเทียบระดับการศึกษา เทียบเคียงหรือเทียบโอนผลการเรียน ทักษะ ความรู ประสบกา รณ และสมรรถนะ ใหมีมาตรฐาน เชื่อมโยงกับการศึกษาและการเรียนรูทุกรูปแบบ เพื่อใชประโยชน ในการเข าศึกษา การสะสมความรูหรือการรับรองคุณวุฒระดับการศึกษาตางสถานศึกษาหรือตางระบบได 2. ยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู 2.1 พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร โปรแกรมการเรียนรูสื่อการเรียนรูและวิธีการจัดกระบวน การเรียนรูที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เหมาะสมและเปนไปตามสภาพ ความตองการ และความถนัด สอดคลอง กับสภาวการณของประเทศและทันตอการเปลี่ยนแปลงโลก โดยมุงพัฒนาประชาชนทุกชวงวัยใหมีทักษะที่ เหมาะสมและจำเปนตอการดำรงชีวิต จบแลวมีงานทำสอดคลองกับความตองการของตลาดแรงงาน 2.2 จัด สงเสริม และสนับสนุนการเรียนรูแบบ STEM Education (วิทยาศาสตร เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร และคณิตศาสตร) ใหครอบคลุมมากยิ่งขึ้น มุงเนนใหผูเรียนไดเรียนรูจากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) ทั้งในสถานศึกษาและแหลงเรียนรูตาง ๆ 2.3 จัดใหมีระบบแนะแนวทางสำหรับผูเรียน (Coaching) และวางแผนทางเลือกทางการศึกษา และการ เรียนรูที่หลากหลายใหกับผูเรียนกลุมเปาหมายพิเศษ และกลุมเปราะบาง ในการเขาถึงการศึกษา การเรียนรูและ การฝกอาชีพอยางเทาเทียม เพื่อใหผูเรียนไดคนพบแนวทางการเรียนและเปาหมายชีวิตที่ตนเองชอบ รวมทั้ง การ ดูแล เฝาระวัง และแกไขปญหาสุขภาวะทางจิตของผูเรียน เพื่อใหสามารถอยูในสถานศึกษาไดอยางมีความสุข 3. สงเสริมและสนับสนุนการสรางสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต 3.1 พัฒนากระบวนการสงเสริมใหประชาชนมีนิสัยรักการเรียนรูมีกระบวนการทางสังคม
39 ที่สงเสริมใหบุคคล กลุมบุคคล และชุมชนเกิดการเรียนรูและพัฒนาอยางตอเนื่อง สงเสริมการสรางสภาพแวดลอม ของชุมชน ทองถิ่น สังคม ที่เอื้อตอการเรียนรูและสนับสนุนการสรางกลไกการขับเคลื่อนชุมชนในการปลูกฝงและ พัฒนาทักษะการเรียนรูของประชาชน 3.2 สงเสริมการจัดการเรียนรูเพื่อเสริมสรางความมั่นคง การสรางความเขาใจที่ถูกตอง ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย การเรียนรูที่ปลูกฝงคุณธรรมจริยธรรม สรางวินัย จิตสาธารณะ อุดมการณ ความยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ การเรียนรูประวัติศาสตรของชาติและทองถิ่น เสริมสรางวิถีชีวิตของความเป นพลเมืองและมีศีลธรรมที่เขมแข็ง รวมถึงการมีจิตอาสา โดยผานกิจกรรมตาง ๆ ที่เปนการเพิ่มทักษะที่จำเปน ต อการดำรงชีวิต 3.3 พัฒนารูปแบบการดำเนินงานสงเสริมการอานใหกับประชาชน พัฒนาแหลงการเรียนรู ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดลอมที่เอื้อตอการอาน และพัฒนาศักยภาพการเรียนรูใหเกิดขึ้นอยางกวางขวาง และ ทั่วถึง อาทิ การพัฒนาความพรอมของบุคลากรและการใหบริการของหนวยจัดการเรียนรูหองสมุดประชาชนมี การบริการที่ทันสมัย สงเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสงเสริมการอาน การสรางเครือขายสงเสริมการอาน พรอม ทั้งพัฒนาสื่อและจัดกิจกรรมสงเสริมการอานและการเรียนรูที่หลากหลายใหบริการกับประชาชนในพื้นที่ตาง ๆ อยางทั่วถึง 3.4 จัดใหมีการฝกอบรมอาชีพในชุมชน เพื่อเปนการเสริมสรางทักษะใหม (New Skill) เพิ่มสมรรถนะ (Upskill) หรือทบทวนทักษะ (Reskill) ใหแกประชาชน อาทิ อาชีพเกษตรกร อาชีพคาขาย อาชีพบริการชุมชน อาชีพหัตถกรรม อาชีพอุตสาหกรรม ชางกอสราง ชางไฟฟา ชางประปา ชางแอร ฯลฯ เพื่อเปนเครื่องมือในการ ยกระดับทักษะความรูชวยประชาชนลดรายจายในครัวเรือน สามารถประกอบอาชีพหลัก หรือเปนอาชีพเสริมให แกครอบครัวได 3.5 สงเสริม สนับสนุนสรางโอกาสใหเกิด Soft Power เพื่อเปดโอกาสในการตอยอดสรางมูลคาและสร างรายได รวมทั้งการอนุรักษ ฟนฟู และพัฒนาตอยอดศิลปะ วัฒนธรรม ภาษา และสงเสริมภูมิปญญาทองถิ่น ให เปนที่รูจักทั้งในประเทศและตางประเทศ อาทิ ดานการทองเที่ยว/งานเทศกาล/ประเพณีไทย ดานดนตรีและ ศิลปะ ดานวรรณกรรม/หนังสือ ดานสินคาและบริการ (อาหารไทย ผาไทย เครื่องหอมและสมุนไพรไทย ฯลฯ) รวมทั้ง การใชพื้นที่เปนสถานที่เรียนรูวัฒนธรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร 3.6 พัฒนาทักษะฝมือ พัฒนาการทางรางกายและจิตใจกลุมผูสูงอายุ ใหสามารถพึ่งพาตนเองไดสามารถ ดำเนินชีวิตไดเต็มตามศักยภาพ 4. พัฒนาระบบการบริหารจัดการ และการบริการภาครัฐ 4.1 ทบทวน ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวของกับการดำเนินงาน ภายใตพระราชบัญญัติสงเสริมการเรียนรูพ.ศ. 2566 เพื่อใหการบริหารจัดการในการจัด สงเสริม และสนับสนุน การเรียนรูเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ 4.2 จัดทำระบบขอมูลสารสนเทศของผูเรียนเปนรายบุคคล โดยการสำรวจขอมูลครัวเรือน
40 (ปกหมุด) เกี่ยวกับสถานภาพการศึกษาและความตองการในการเรียนรูและจัดเก็บขอมูลเพื่อใชในการแกปญหา เด็กตกหลนและออกกลางคัน ติดตามและสงตอไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งเปนขอมูลใชประกอบ ใน การสงเสริมการเรียนรูใหกับกลุมเปาหมาย 4.3 พัฒนาความพรอมในการสงเสริมการจัดการเรียนรูอาทิ การสนับสนุนงบประมาณ ในการลงทุนดา นเทคโนโลยี บูรณาการความรวมมือกับภาคเอกชนในการสรางความพรอมดานเทคโนโลยี และการสื่อสารของหน วยจัดการเรียนรูใหครอบคลุมพื้นที่การใหบริการประชาชน รวมทั้งสนับสนุนความรวมมือ ในการสรางมาตรการส งเสริมภาคเอกชนเพื่อการลงทุนดานการศึกษาและการเรียนรู 5. สงเสริมและสนับสนุนดานบุคลากร 5.1 แกไขปญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา และสงเสริมใหความรูดานการเงิน และการออม (Financial Literacy) การวางแผนและสรางวินัยทางการเงินใหกับบุคลากร โดยบูรณาการการ ทำงาน รวมกับหนวยงานที่เก่ียวของ อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคาร สหกรณ และสถาบันการเงินตาง ๆ 5.2 พัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาใหมีความพรอมดานวิชาการและทักษะ การจัดการเรียนรูการใชเทคโนโลยีและนวัตกรรมผานแพลตฟอรมออนไลนตาง ๆ รวมทั้งใหคำปรึกษาเสนทาง การเรียนรูการประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตของผูเรียนไดตามความสนใจและความถนัดของแตละบุคคล 5.3 พัฒนาขีดความสามารถของขาราชการพลเรือนในสังกัด ใหมีสมรรถนะที่สอดคลองและเหมาะสม ตามสายงาน ประเภท ระดับและมาตรฐานตำแหนง ขอสั่งการและแนวทางการปฏิบัติของรัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ) 1. ใหนำนโยบายดานการศึกษาของคณะรัฐมนตรีที่แถลงตอรัฐสภา และนโยบายของรัฐมนตรีวาการ กระทรวงศึกษาธิการ ไปดำเนินการอยางเปนรูปธรรม (Action Plan) 2. ดำเนินการปองกันและปราบปรามการทุจริต เชน การบรรจุ แตงตั้ง โยกยาย (หามซื้อ-ขายตำแหน่ง) หามทุจริตการจัดซื้อจัดจางวัสดุ ครุภัณฑ ชุดนักเรียน อาหารกลางวัน ฯลฯ และตองจัดซื้อจัดจางวัสดุครุภัณฑ ที่มี คุณภาพ 3. นอมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสูการปฏิบัติ 4. ใหรวมกันรักษาสิ่งแวดลอมและมุงสูการใชพลังงานสะอาด 5. สงเสริมการอานอยางเปนกระบวนการ โดยครูตองเปนตนแบบในการรักการอาน 6. การลงพื้นที่ตรวจราชการหรือตรวจเยี่ยม ใหเฉพาะผูที่มีหนาที่เกี่ยวของมารวมรับการตรวจราชการ หรือตรวจเยี่ยม โดยใหมีการดำเนินการอยางเรียบงายและประหยัด เชน ไมตองติดปายตอนรับ ไมมีของที่ระลึก หรือของฝาก
41 2.7 ภารกิจต่อเนื่อง 1. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดำเนินการ ให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าจัดการเรียนการ สอนอย่างทั่วถึงและเพียงพอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาด โอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการเรียน ผ่าน การเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัดการศึกษาทางไกล 3) จัดให้มีการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ที่มี ความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้มีมาตรฐานตามที่กำหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีคุณภาพที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีกิจกรรมเกี่ยวกับการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารีและยุวกาชาด กิจกรรมจิตอาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนากิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอกหลักสูตร มา ใช้เพิ่มชั่วโมงกิจกรรมให้ผู้เรียนจบตามหลักสูตรได้ 1.2 การส่งเสริมการรู้หนังสือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบเดียวกันทั้ง ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 2) พัฒนาหลักสูตร สื่อ แบบเรียน เครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดำเนินงานการส่งเสริมการรู้หนังสือที่ สอดคล้องกับสภาพแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 3) พัฒนาครูกศน. และภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัดการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะการจัด กระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้หนังสือใน พื้นที่ที่มีความต้องการจำเป็นเป็นพิเศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือการ พัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของ ประชาชน 1.3 การศึกษาต่อเนื่อง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการ มีงานทำในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการบริการ ที่