พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ

������� update 01/02/60.indd 1 6/13/17 11:23 AM

������� update 01/02/60.indd 2-3

Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. (November 27, 1898 - April 20, 1984) Founder and Chief Executive Officer (CEO) of Pierra Maternity and Child Welfare Foundation (1938 - 1984) and The initiator of child and maternity welfare and founder of Pracha-Uthit Children’s Home, “Pierra Maternity & Child Welfare Foundation” under the Royal Patronage of HRH the Princess Mother แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล (27 พฤศจิกายน 2441 - 20 เมษายน 2527) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารพีระยานุเคราะห์ (พ.ศ. 2481 - 2527) ผู้ริเริ่มงานด้านสงเคราะห์เด็กและสตรี และผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์เด็ก “บ้านประชาอุทิศ” ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ” ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 6/13/17 11:23 AM

������� update 01/02/60.indd 4-5

Prof. Dr.Ukrit Mongkolnavin Former President of the Senate and Former President of the National Assembly (1984 - 1989, 1991 and 1992) Chief Executive Officer (CEO) of Pierra Maternity & Child Welfare Foundation (1984 - present) The Initiator and Founder of Pierra Navin Nurseries for the purpose of helping poor families with the principle of kindness and sharing happiness. ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานวุฒิสภาและประธานรัฐสภา (พ.ศ. 2527 - 2532 และ พ.ศ. 2535) ประธานกรรมการบริหารพีระยานุเคราะห์มูลนิธิ (พ.ศ. 2527 - ปัจจุบัน) ผู้ริเริ่มและก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัยและโรงเรียนพีระยา นาวิน เพื่อช่วยเหลือเด็กจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยโดยหลักเมตตาธรรมและหลักเฉลี่ยความสุข 6/13/17 11:23 AM

������� update 01/02/60.indd 6-7

แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. 6/13/17 11:23 AM

8 แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. ������� update 01/02/60.indd 8-9

9 6/13/17 11:23 AM

10 ก�ำเนิด แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล นามสกุลเดิม “ฮุนตระกูล” เกิดที่ ต�ำบลสบตุ๋ย จังหวัด ล�ำปาง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2441 เป็นบุตรนายตรงกิจ และนางพันธ์ ฮุนตระกูล คหบดี ผู้มีความมั่งคั่งสมบูรณ์ที่ตั้งรกรากอยู่ในจังหวัดนั้น มีพี่น้องหลายคน แต่ที่เกิดกับนางพันธ์ มี 2 คน โดยเป็นคนสุดท้อง การศึกษาขั้นต้น เมื่อยังอยู่ในเยาว์วัย มรณกรรมได้มาพรากพี่ของท่านไป ยังความวิปโยคมาสู่ครอบครัว มารดาจึงได้น�ำท่านไปฝากคุณยายเลี้ยงไว้ พออายุ 7 ขวบเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เข้าศึกษาที่ โรงเรียนเสาวภา และผ่านชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ เมื่อปีพ.ศ. 2468 เมื่อจบชั้นมัธยมแล้วท่านได้สมัครเข้าเรียนแพทย์ที่โรงเรียนราชแพทยาลัย ณ ศิริราช พยาบาล แต่ทางการไม่ยินยอมรับเข้าศึกษาเพราะเห็นว่าเป็นสตรี ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่ปรากฏว่า มีสตรีเป็นแพทย์ อาชีพครั้งแรก จากนั้น แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล จึงได้ไปสมัครสอบเป็นครูและสอนที่โรงเรียน อัสสัมชัญคอนแวนต์ และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์เป็นเวลาประมาณ 2 ปี ในบรรดาศิษย์ ที่ท่านเคยสอน รายหนึ่งที่ส�ำคัญ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงมยุรฉัตร และอนุชา คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระก�ำแพงเพชรอัครโยธิน ประวัติ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ������� update 01/02/60.indd 10-11

11 ศึกษาต่อต่างประเทศ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ได้เดินทางไปศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ที่โรงเรียน เซนต์ปอลคอนแวนต์ในไซ่ง่อน เป็นเวลา 1 ปี โดยได้รับความช่วยเหลือจากนางชีคาทอลิก แล้วจึงเดินทาง ไปยุโรป เพื่อศึกษาต่อจนจบชั้นมัธยม 8 ที่โรงเรียนลีเชบูมาเฟมองต์ ในฝรั่งเศส การเดินทางครั้ง นั้นอาศัยโดยตามเสด็จพระองค์เจ้าหญิงประภาวสิต พระชายาเสด็จในกรมพระก�ำแพงเพชร อัครโยธิน ชีวิตการศึกษาในต่างประเทศ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ได้เรียนด้วยความ เพียร ฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย บางครั้งเรียนไปเมื่อทุนหมด ก็ออกท�ำงานและเรียนต่อเมื่อมีเงินพอ เมื่อมีทุนการศึกษา ได้พยายามเข้าชิงทุน ได้รับทุนต่างๆ เช่น ทุนของสมเด็จพระนางเจ้า ร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี และท้ายสุดได้ทุนมหิดล เมื่อส�ำเร็จการศึกษารวมเวลาทั้งสิ้น 15 ปี ศึกษาวิชาแพทย์ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ได้เข้าเรียนที่กรุงปารีส แล้วต่อเตรียมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และโรงเรียนแพทย์ ได้รับปริญญาทางการแพทย์ จบในปี พ.ศ. 2476 ดังนี้ - M.B. University of Paris, Faculty of Medicine - M.D. Faculty of Medicine, University of Paris ได้รับเหรียญเงินเป็นเกียรติในเรื่อง ซึ่งเป็นงานวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการยกย่องในหมู่นักศึกษาและคณาจารย์ยิ่งนัก (Contribution a l’ etude de l’ Hormonologie en Gynecelogie) Mention : Tres hornorable - Diploma of Hygiene, University of Paris - Certificate V.D. Faculty of Medicine, University of Paris - Diploma of Sociologic, University of Paris เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาวิชาแพทย์นั้น ท่านได้ขวนขวายต่อสู้กับชีวิตด้วยตนเองจนตลอด รอดฝั่ง ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ มีเจ้านายในพระราชวงศ์องค์หนึ่งซึ่งทรงมีส่วนให้การอุปการะ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ โดยยกย่องให้เป็น พระสหายสนิทของท่าน แต่ท่านก็ยังบากบั่น อุตสาหะ พยายามต่อไป จนเป็นเอกลักษณ์ของท่านเอง โดยเฉพาะ 6/13/17 11:23 AM

12 อาชีพและต�ำแหน่งงานที่เคยท�ำในอดีต - พ.ศ. 2480 นายแพทย์โท กรมสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย - พ.ศ. 2484 นายแพทย์โท แผนกกามโรค กองแพทย์สังคม กระทรวง สาธารณสุข - พ.ศ. 2485 - 2492 หัวหน้าแผนกโรคติดต่อเรื้อรัง กองโรคติดต่อ - พ.ศ. 2493 - 2495 หัวหน้าแพทย์โทประจ�ำกรม (บางรัก) - พ.ศ. 2496 - 2497 นายแพทย์โท แผนกป้องกันและบ�ำบัดกามโรค กองกามโรค - พ.ศ. 2499 - 2500 นายแพทย์โท รักษาการแทนผู้อ�ำนวยการ กองควบคุมกามโรค และคุดทะราด - พ.ศ. 2501 - 2505 นายแพทย์เอก ประจ�ำกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด ������� update 01/02/60.indd 12-13

13 ข้าราชการโรงพยาบาลทหารเรือ Bang Rak Hospital Officials 1941 6/13/17 11:23 AM

14 ������� update 01/02/60.indd 14-15

15 6/13/17 11:23 AM

16 รางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับ 1. ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ LA LÉGION D’HONNEUR ชั้น CHEVALIER เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2501 2. เป็นสตรีเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัล Spirit of Achievement ประจ�ำปี 2506 จาก มหาวิทยาลัยแพทย์อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ แห่งเยชิวาในนครนิวยอร์ก ในฐานะที่ได้รับ การเลือกให้เป็นสตรีนานาชาติที่ได้บ�ำเพ็ญประโยชน์เพื่อมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2506 3. ได้รับประกาศนียบัตรรางวัลเพื่อมนุษยชาติ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มหาวิทยาลัย Ehwa Womans University of Seoul ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2509 4. เหรียญทอง “Woman of the World” จากสมาคมสตรีระหว่างประเทศ 5. เหรียญตติยจุลจอมเกล้า ปี 2497 6. เหรียญกาชาดสรรเสริญ ปี 2497 7. เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้น 1 8. เหรียญทุติยจุลจอมเกล้า 9. รับพระราชทานปริญญาสังคมวิทยาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจ�ำปีการศึกษา 2523 จากสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีคุณธรรม โดย บ�ำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ยิ่งต่อสังคม โดยส่วนรวมเป็นอเนกประการ และได้ก่อ ให้เกิดความส�ำนึกถึงความเป็นมนุษยชาติร่วมกันในส่วนรวม เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 ������� update 01/02/60.indd 16-17

17 รับพระราชทานปริญญาสังคมวิทยาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจ�ำปีการศึกษา 2523 จากสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีคุณธรรม โดยบ�ำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ยิ่งต่อสังคม โดยส่วนรวมเป็นอเนกประการ และได้ก่อให้เกิดความส�ำนึกถึง ความเป็นมนุษยชาติร่วมกันในส่วนรวม เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 Dr. Pierra received an Honorary Doctorate Degree in Sociology, Academic Year 1980, approved by Chulalongkorn University Council, as an expert with high moral who acts for the benefits of general people and who generates an awareness of humanity for public, on July 9, 1981. 6/13/17 11:23 AM

18 ������� update 01/02/60.indd 18-19

19การเดินทางไปต่างประเทศ - พ.ศ. 2483 ญี่ปุ่น ดูงานกามโรคโสเภณี 6 เดือน - พ.ศ. 2489 ประชุมการบริบาลเด็ก ที่อินเดีย ขององค์การอนามัยโลก 14 วัน - พ.ศ. 2490 ประชุมแพทย์หญิงสากลที่ฟิลาเดลเฟีย ดูงานกามโรค สหรัฐอเมริกา 3 เดือน - พ.ศ. 2493 ประชุมการท� ำคลอดที่โรม อิตาลี 1 เดือน - พ.ศ. 2495 ไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา 6 เดือน - พ.ศ. 2496 ประชุมบริบาลเด็กนานาชาติที่ซาเกรบ ยูโกสลาเวีย 1 เดือน และประชุม แพทย์หญิงนานาชาติที่คาร์เดน อิตาลี - พ.ศ. 2497 ประชุมแพทย์หญิงภูมิภาคเอเชียที่มนิลา ฟิลิปปินส์ 15 วัน - พ.ศ. 2498 ประชุมสมาคมวางแผนครอบครัวที่โตเกียว ญี่ปุ่น 1 สัปดาห์ - พ.ศ. 2499 ประชุมสมาคมวางแผนครอบครัวที่สหรัฐอเมริกา - พ.ศ. 2500 ประชุมประชากรศึกษาที่สตอกโฮล์ม สวีเดน 1 เดือน - พ.ศ. 2503 ประชุมไวท์เฮาส์ วอชิงตัน - พ.ศ. 2505 ประชุมสหพันธ์ การสงเคราะห์เด็กที่อิสตันบูล ตรุกี - พ.ศ. 2506 ประชุมการแก้ปัญหาซิฟิลิส สหรัฐอเมริกา - พ.ศ. 2507 ประชุมกามโรคสากลที่อินเดีย - พ.ศ. 2513 ดูงานโสเภณี สหรัฐอเมริกา 1 เดือน ฯลฯ ง านนิพนธ์ - บรรณาธิการนิตยสารแม่และเด็ก - เพศศึกษา - กามโรค - คุมก� ำเนิด - บทความลงหนังสือพิมพ์นิตยสาร วิทยุกระจายเสียงเป็นประจ� ำ คว ามช�ำน าญพิเศษ 1. กามโรค 2. โรคเฉพาะสตรี 3. โรคเด็ก 4. สังคมวิทยา 6/13/17 11:23 AM

20 ประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นและเยี่ยมชมการพัฒนาและปกป้องสิทธิสตรี ณ ประเทศญี่ปุ่น A study visit on women’s right and sharing opinions in Japan ������� update 01/02/60.indd 20-21

21 6/13/17 11:23 AM

22 ถ่ายภาพร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร (กรรมการมูลนิธิ) Photo taken with donators and Prince Prem’s wife, Lady Ngarmchit Purachatra, the Foundation Committee Member ถ่ายภาพร่วมกับนางงามจักรวาล อาภัสรา หงสกุล และคุณจีรนันท์ เศวตนันท์ Photo taken with Thailand’s first Miss Universe Apasra Hongsakula and Miss Thailand 1966 and 2nd runner-up Miss Universe 1966 Jiranan Sawettanan ������� update 01/02/60.indd 22-23

23 งานวิชาการ บรรยายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยครู โรงเรียน นายร้อยต�ำรวจ โรงเรียนสืบสวน โรงเรียนสังคมสงเคราะห์ วิทยาลัยพยาบาล ของกระทรวง สาธารณสุข ของมหาวิทยาลัยมหิดล ศิริราช วชิรพยาบาล พยาบาลจ่านายสิบทหาร โรงพยาบาลหญิง โรงเรียนอาชีวศึกษาหญิง ฯลฯ 6/13/17 11:23 AM

24 งานสังคม - พ.ศ. 2478 - 2479 นายกสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศส - พ.ศ. 2479 นายกสมาคมนักเรียนไทยในภาคพื้นยุโรป - พ.ศ. 2481 ก่อตั้งมูลนิธิพีระยานุเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือสตรี เด็ก และสตรี นอกสมรส ให้การอบรมแม่ในการดูแลเด็ก เด็กนอกสมรสใช้ นามสกุล “ฮุนตระกูล” ทางญาติขอให้ใช้สกุลอื่น จอมพลแปลก พิบูลสงคราม จึงให้นามสกุล “เวชบุล” จนถึงปัจจุบันผู้ใช้สกุล “เวชบุล” มีถึง 4,000 คน ต่างได้รับการศึกษาอบรมดีทุกคนจน มูลนิธิพีระยานุเคราะห์เป็นมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมายเมื่อ พ.ศ. 2492 เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ประธานผู้ก่อตั้งบ้าน เกร็ดตระการดูแลให้การสงเคราะห์โสเภณี เป็นกรรมการ สมาคมนักเรียนเก่าภาคพื้นยุโรป - พ.ศ. 2482 เป็นกรรมการโรงเรียนสอนคนตาบอด - พ.ศ. 2490 ผู้ก่อตั้งและนายกคนแรก สมาคมนักเรียนเก่าเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ และเป็นเลขาธิการสมาคมแพทย์สตรีนานาชาติ - พ.ศ. 2491 ผู้ก่อตั้งและนายกคนแรก สมาคมนักเรียนเก่าอัสสัมชัญ คอนแวนต์ - ประธานมูลนิธิสุขภาพสังคม - กรรมการสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญคอนแวนต์ - กรรมการสมาคมศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ - กรรมการสภากาชาด แผนกหารายได้ กองอาสากาชาด - กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการสหพันธ์นานาชาติต่อต้านกามโรค - ประธานกรรมการสหพันธ์นานาชาติต่อต้านกามโรคภาคพื้น เอเชียแปซิฟิก - กรรมการสมาคมแพทย์สตรีฝรั่งเศส - กรรมการระหว่างประเทศสภาการแนะน� ำการสมรสนานาชาติ - กรรมการระหว่างประเทศสมาคมพันธุกรรม - กรรมการสหพันธ์การท� ำคลอดนานาชาติ - กรรมการสาขาสังคมวิทยา สภาวิจัยแห่งชาติ - ที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพสตรี สภาสังคม สงเคราะห์ฯ - ประธานอนุกรรมการวิจัยเรื่องโสเภณี - กรรมการสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ - กรรมการสภาสงเคราะห์แห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ - ประธานกรรมการโครงการสวัสดิภาพครอบครัวและเด็ก - กรรมการประสานงานเกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์สตรี บางประเภท ของส� ำนักนายกรัฐมนตรี ������� update 01/02/60.indd 24-25

25 แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. 6/13/17 11:23 AM

26 แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล แม่พระ ช่วงชีวิตการต่อสู้ของ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ระยะยาวนานเกือบ 80 ปี ย่อมจารึกอยู่ในความทรงจ�ำมิอาจลืมเลือนได้ ในขณะที่วันหนึ่งมีบุตรสาวของผู้มีอันจะกิน รายหนึ่งมาปรึกษาขอท�ำแท้ง เนื่องจากผิดพลาดในความรัก “แม่พระ” เห็นว่าการท�ำแท้งเป็นบาป จึงให้เด็กสาวผู้นั้นกลับไปปรึกษากับมารดาเพื่อที่จะเอาเด็กไว้ แต่การณ์กลับเป็นว่าเด็กสาวคนนั้น ถูกมารดาดุด่า จึงตัดสินใจลาโลกโดยดื่มยาพิษ “แม่พระ” รู้เรื่องเข้าจึงไปรับเด็กส่งโรงพยาบาล และเด็กสาวคนนั้นก็ได้ตายในอ้อมกอดของแม่พระ ความทรงจ�ำอันเย็นเยือกไม่อาจลบเลือนไปได้ “แม่พระ” ได้ไตร่ตรองโดยรอบคอบ จึงอุทิศความผิดพลาดในครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ซึ่งมีประวัติศาสตร์ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าเหมือนเด็กสาวคนนั้น จึงเป็นปฐมเหตุของการรับบริบาลแม่และ เด็ก เพื่อสตรีมีบุตรเพราะมิได้สมรส ท่านก็จะรับเลี้ยงดูแล ให้นามสกุล เวชบุล โดย “แม่พระ” เป็นมารดา และ พลโท ปุ่น วงศ์วิเศษ เป็นบิดา หลายร้อยชีวิตที่ผ่านไปเติบโตแกร่งกล้าออกมา สู้โลก บางคนได้ร�่ำเรียนที่ต่างประเทศ บางคนได้แต่งงานมีครอบครัวเป็นปึกแผ่น บางราย ประกอบธุรกิจส่วนตัวเป็นใหญ่เป็นโต ชีวิตของเขาและเธอเหล่านั้นถูกฟูมฟักอย่างอบอุ่นสามารถ องอาจอยู่บนล�ำแข้งของตนเองได้ “แม่พระ” สอนให้เป็นคนสู้โลก สู้ด้วยคุณธรรม เนื่องจากผิดพลาดในความรัก “แม่พระ” เห็นว่าการท�ำแท้งเป็นบาป จึงให้เด็กสาวผู้นั้นกลับไปปรึกษากับมารดาเพื่อที่จะเอาเด็กไว้ แต่การณ์กลับเป็นว่าเด็กสาวคนนั้นถูกมารดาดุด่า จึงตัดสินใจลาโลกโดยดื่มยาพิษ “แม่พระ” รู้เรื่องเข้าจึงไปรับเด็กส่งโรงพยาบาล และเด็กสาวคนนั้นก็ได้ตายในอ้อมกอดของแม่พระ ������� update 01/02/60.indd 26-27

27 แหล่งพ�ำนักอาศัย เริ่มต้นจากที่พลับพลาไชย “แม่พระ” ได้ตั้งมาตาภาวนาสถาน เมื่อปี 2481 แล้วย้ายมาอยู่ที่ถนนสาทร ปี 2490 ข้างโรงพยาบาลบางรัก พระบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพิทยาลงกรณ์ ได้ประทานนามเป็น พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ และบ้าน หลังนี้เมื่อปี 2507 สร้างความสะเทือนใจให้คนทั้งประเทศจนเป็นที่มาของค�ำว่า ประชาอุทิศ เพราะธนาคารออมสินเจ้าหนี้ร้องต่อศาลให้บังคับคดี เรียกเงิน 3 ล้านกว่าบาท ชดใช้หนี้สินที่ขอกู้ มา ทางจังหวัดก็จะให้ล้มเลิกมูลนิธิ เดือดร้อนประชาชนผู้เห็นว่า “แม่พระ” ซึ่งอุทิศตนแก่เด็กก�ำพร้า ร้อยกว่าชีวิต จะสิ้นเนื้อประดาตัว จึงช่วยกันบริจาคเงินจนสามารถใช้หนี้ธนาคารออมสินได้ส�ำเร็จ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่เข้าถึงคณะรัฐมนตรีให้ช่วยพิจารณาเรื่องให้ พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ จึงเป็นรวงรังของประชาชนทุกคนที่เห็นประโยชน์แก่เด็ก ก�ำพร้า ดังนั้น “แม่” ผู้ตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจและอยู่ในวัยศึกษาจ�ำเป็นต้องพ�ำนักอยู่ที่นี่ชั่วคราว รอจนคลอดบุตรแล้วยกบุตรให้แม่พระเป็นผู้ดูแล ตนเองก็กลับไปศึกษาต่อ การสร้างรอยจารึก แห่งคุณธรรมค�้ำจุนโลก เป็นความเมตตาของคนไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะพึงหาได้ 4,000 ชีวิตเป็นอย่างน้อยใช้นามสกุล “เวชบุล” ปัจจุบันอยู่ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ซาอุดีอาระเบีย เป็นทั้งครู พยาบาล ช่างภาพข่าวหนังสือพิมพ์ พ่อครัว นักบัญชี เรียนจบจากต่างประเทศ 5 คน ได้ช่วยงานมูลนิธิ ผู้จบต่างประเทศมีกว่า 20 คน อยู่ต่างประเทศ โดยมีผู้ขอไปเลี้ยง 34 คน พ่อแม่ของเด็กรับไปเลี้ยงเอง 151 คน ปัจจุบันอยู่ในบ้านประชาอุทิศ 65 คน และแม่พระเคยช่วยโสเภณีให้ไปอยู่บ้านเกร็ดตระการกว่า 2,000 คน มรดกที่เป็นทรัพย์สิน คงมีบ้านที่ดินประชาอุทิศ ที่ดินว่างที่บางเขน บ้านทุ่งมหาเมฆ และคลินิกเช่าอยู่หน้าสวนลุมพินี แม่พระถึงกับลงทุนปลอมตัวเข้าไปในซ่องโสเภณี บาร์ไนท์คลับ เพื่อจะตามไปฉีดยา เพื่อรักษาและป้องกัน กามโรค เคยถูกจับโยนออกมา แม้จะหัดยูโดก็ไม่วายถูกผู้คุมสถานค้าประเวณีข่มเหง 6/13/17 11:23 AM

28 นักบุญสตรี 10 ทิศ แม่พระ ไม่ใช่จะเก่งกาจเฉพาะเรื่องการดูแลเด็กเท่านั้น ชื่อของท่านยังโด่งดังในฐานะ ผู้รักษากามโรค การแก้ปัญหาโสเภณี ตามปูมประวัติกล่าวกันว่า แม่พระถึงกับลงทุนปลอมตัว เข้าไปในซ่องโสเภณี บาร์ไนท์คลับ เพื่อจะตามไปฉีดยา เพื่อรักษาและป้องกัน กามโรค เคยถูกจับโยนออกมาแม้จะหัดยูโดก็ไม่วายถูกผู้คุมสถานค้าประเวณีข่มเหง แม้แต่ไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา ก็ยังเคยถูกเข้าใจผิดว่าท่านเป็นนางบังเงา เพราะการ ชอบศึกษาให้ถึงต้นตอนี่เอง แม่พระได้แก้ปัญหาโสเภณี โดยช่วยต่อสู้เรื่องสิทธิการจด ทะเบียน การแก้ปัญหาในเรื่องของโสเภณี เป็นเรื่องที่ไม่อาจผลักดันในช่วงชีวิตของ ท่านได้ เพราะโสเภณีเป็นอาชีพเก่าแก่คู่กับโลกมาตั้งแต่โบราณ นโยบายที่แน่นอนของ รัฐบาลเท่านั้นที่จะควบคุมได้ กามโรคเป็นของคู่กับโสเภณีได้ก่อปัญหาทางสุขภาพกาย และจิตใจ ยิ่งความเจริญทางการแพทย์มีสูงเท่าใดเชื้อโรคก็ดื้อยาขึ้นเท่านั้น แม่พระถึงกับเอ่ย ปากว่า “ผู้หญิงไทยเซ็กส์จัดที่สุดในโลก” เพราะเป็นบ่อเกิดกามโรคเนื่องจากไม่รักษาและป้องกัน นี่เป็นปัญหาสังคมไทยที่ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ������� update 01/02/60.indd 28-29

29 เมื่อมีการปราบปรามโสเภณี แม่พระก็ได้จัดให้เกิดระบบการควบคุมรักษาและให้ อาชีพ จึงเป็นที่มาของบ้านเกร็ดตระการ ของกรมประชาสงเคราะห์ เด็กก�ำพร้าบางส่วนจึงอยู่ ที่บ้านศรีสังวาลย์ ซึ่งมาจากผลพวงของสิ่งเหล่านี้ การเมือง เรื่องยุ่งๆ คงจ�ำกันได้ว่า เมื่อปี 2512 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่านถูกชี้น�ำชักชวนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคสหประชาไทย แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ แม่พระได้หมายเลข 17 มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาของประชาชนในเรื่องการสังคมสงเคราะห์ การสู้ กับโรคภัยไข้เจ็บ ตอนนั้นบรรดาหมอนวด พาร์ตเนอร์ โสเภณีต่างสนับสนุนท่านอย่างยิ่ง แต่ความ ฝันของท่านสลายเพราะการเมืองไม่ยอมรับท่านเป็นผู้แทนราษฎร มิฉะนั้นแล้วเราก็คงจะเห็นการ ต่อสู้เพื่ออนามัยและการสงเคราะห์อีกทิศทางหนึ่ง ดารา แม่พระ ได้ชื่อว่าดาราคนหนึ่งคือ เป็นดาราของเด็กก�ำพร้า โสเภณี บรรดาผู้ชาย ชอบเที่ยวซุกซน ผลงานของแม่พระเป็นที่โด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนฮอลลีวู้ดมาขอ ชีวประวัติไปท�ำเป็นภาพยนตร์ ให้ชื่อว่า “ผู้หญิงมหัศจรรย์” นิตยสาร “รีดเดอร์ ไดเจส” น�ำเรื่องราว ของท่านไปตีพิมพ์โด่งดังไปทั่วโลก ในวงการการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์ถือว่าท่านเป็นดารา ที่จะมีนิสิต นักศึกษามาสัมภาษณ์หรือน�ำชื่อไปอ้างอิงบ่อยครั้งในรายงานหรือวิทยานิพนธ์ 6/13/17 11:23 AM

30 มกราคม 2512 ถ่ายภาพผู้แทนพระนครร่วมกับหัวหน้าพรรค In January 1969, photo taken with the representatives and leader of the United Civil Party of Thailand เมื่อปี 2512 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่านได้รับการชี้น�ำชักชวนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคสหประชาไทย แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ แม่พระ ได้หมายเลข 17 For the 1969 congressional election, she was persuaded to represent the United Civil Party of Thailand, against the Democrat Party. Her candidate number in that election was 17. ������� update 01/02/60.indd 30-31

31 ในงานเลี้ยงของสมาคมเซนต์โยเซฟ (ขณะด�ำรงต�ำแหน่งนายกสมาคม) In a grand banquet held by the St.Joseph Alumnae Association of Thailand (as the President) 6/13/17 11:23 AM

32 ������� update 01/02/60.indd 32-33

33 อานิสงส์ แห่งการท�ำดีช่วงระยะกว่า 80 ปีของชีวิตไม่เคยได้พักเลย ชีวิตจะว่า ไปแล้วไม่มีใครที่จะปูด้วยกลีบกุหลาบ จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ เกิดที่ล�ำปาง เกิดจากภรรยาคน ที่ 3 พ่อซึ่งมี 3 บ้าน ตัวเองมีพี่ชายคนเดียวก็มาด่วนจากไปเสียก่อน ว้าเหว่และเงียบเหงา ต้อง ลงมาเรียนที่กรุงเทพฯ เพราะความใกล้ชิดกับบัณฑิตทั้งหลายจึงใฝ่ฝันจะไปเรียนเมืองนอก บิดา ไม่เห็นด้วย จนกระทั่งแอบหนีไปเรียนที่ไซ่ง่อนกับแม่ชี ครั้นกลับมาก็อยากจะเรียนหมอ ซึ่ง สมัยนั้น ศิริราชพยาบาลไม่ยอมรับอิสตรีเพศ ต้องติดสอยห้อยตามเจ้านายไปเรียนที่ฝรั่งเศส และ ชีวิตความเป็นอยู่ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวและเด็ดขาด เป็นที่ยอมรับนับถือของบรรดาคนไทย ที่นั่น ชีวิตของแม่พระดูจะอาภัพในเรื่องความรัก มีคนรักก็ไปเสียชีวิตที่ฮ่องกงระหว่างเดินทาง กลับประเทศไทย นามสกุล “ฮุนตระกูล” ก็ถูกญาติพี่น้องไม่เห็นด้วยจะให้ใช้ เพราะไปท�ำงาน สังคมสงเคราะห์รับเด็กก�ำพร้าไว้ในอ้อมอกจนกระทั่งได้รับพระราชทานนามสกุล “เวชบุล” จาก สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ชีวิตท่านต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็น ความแกร่ง กล้าหาญ จนเป็นสตรีมหัศจรรย์ก็ สมควรแล้วกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งเสียสละชีวิตและวิญญาณเพื่อมนุษยชาติ รางวัลใดๆ ที่ ได้รับไม่ว่าจะเป็นเหรียญตราของฝรั่งเศส ของไอน์สไตน์ ปริญญากิตติมศักดิ์ ค�ำเยินยอของ มาดามรูสเวลท์ ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม และ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ สหายสนิทของ ท่านก็ยังไม่เท่ากับค�ำว่า “แม่พระ” ผู้เจริญรอยตามมาดามคูรี่ อัจฉริยภาพแห่งการช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ การจากไปของท่านยากที่จะหาผู้ใดตามรอยเท้าได้ทัน แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะสานต่อ อย่างน้อยที่สุดก็ให้ได้ 1 ใน 100 ของท่าน เพราะไปท�ำงานสังคมสงเคราะห์ รับเด็กก�ำพร้าไว้ในอ้อมอก จนกระทั่งได้รับพระราชทานนามสกุล “เวชบุล” จาก สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ 6/13/17 11:23 AM

34 ������� update 01/02/60.indd 34-35

35 Early Life Doctor Pierra Vejabul, Ph.D., former last name ‘Hoontrakul,’ was born in Sop Tui Subdistrict, Lampang Province, on November 27, 1898, as a daughter of Trongkij Hoontrakul and Phant Hoontrakul, a well-to-do merchant settled in that province. She had several siblings, but only two from the same mother named Pun, of whom she was the youngest. Primary Education Dr. Vejabul’s biological brother passed away when she was still young. This caused immense distress to the family. As a result of this, her mother decided to send her to her grandmother’s where she was raised up. At the age of 7, she moved to Bangkok. She studied at Saovabha School, and completed Grade 12 at Saint Joseph Convent School in 1925. After graduating from secondary school, Dr. Vejabul applied to the medical school at Siriraj Hospital. Being a woman, she was not accepted, however. This is because there were still no women physicians at that time. The Beginning of Her Career After that, Dr. Vejabul decided to apply for a job as a teacher at Assumption Convent School and Saint Joseph Convent School where she taught for about 2 years. Among some of her students were important royal family members such as Princess Mayurachatra and her younger brother Prince Prem Purachatra, a daughter and a son of Prince Kamphaengphet Akrayothin. Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. 6/13/17 11:23 AM

36 Study Abroad Dr. Vejabul studied French with the help of Catholic nuns at Saint Paul Convent School in Saigon for 1 year. After that, she traveled to Europe and finished her high school education in France. That trip was made possible for her as she accompanied Princess Prabhavasidhi, wife of Prince Kamphaengphet Akrayothin. During her study abroad, Dr. Vejabul studied very hard and struggled through many obstacles. Sometimes she needed to work when her funds ran out, and she resumed her studies later when she had enough money. If there were scholarships, she always tried to apply for them. She won various scholarships such as the Queen Rambhaibarni Scholarship, and later, the Prince Mahidol Scholarship. Altogether she spent 15 years studying abroad. Study for a Medical Degree Dr. Vejabul studied in Paris, attending premedical school and medical school until obtaining the medical degree in 1933. She graduated with the following degrees: - M.B. University of Paris Faculty of Medicine - M.D. University of Paris Faculty of Medicine – was awarded a silver medal for her acclaimed thesis (Contribution a l’étude de l’Hormonologie en Gynecologie Mention : Trés honorable) - Diplôme de Hygiène, Université de Paris - Certificate in Venereal Diseases (V.D.) from the Faculty of Medicine, University of Paris - Diplôme de Sociologie, Université de Paris When she was a medical student, Dr. Vejabul struggled by herself and never gave up despite all the obstacles. One of the Royal Family members who gave her financial support was His Royal Highness Prince Chula Chakrabongse. His Royal Highness also regarded her as one of his close friends. Despite this fact and her privilege, Dr. Vejabul kept on struggling to overcome obstacles by herself until she became known for this distinct characteristic. ������� update 01/02/60.indd 36-37

37 Job Titles and Responsibilities - 1937 Secondary Doctor, Department of Public Health, Ministry of Interior - 1941 Venereal Diseases Section, Division of Social Doctors, Ministry of Public Heath - 1942 - 1949 Head of Chronic Infectious Diseases Section, Division of Infectious Diseases - 1950 - 1952 Supervisor of the department’ secondary doctors of the department (Bang Rak) - 1953 - 1954 Secondary doctor, Venereal Diseases Prevention and Treatment Section, Division of Venereal Diseases - 1956 - 1957 Secondary doctor, act in place of the director of the Division of Venereal Diseases and Yaws Control - 1958 - 1962 Primary doctor of the Division of Venereal Diseases and Yaws Control Awards and Honors 1. L’ordre national de la Légion d’honneur: Chevalier de la Légion d’honneur given by the French government on June 24, 1958 2. The Spirit of Achievement Award 1963; she was the first Asian woman who received this award from Albert Einstein College of Medicine of Yeshiva University in New York on April 1, 1963 for being a non-native American woman performing humanitarian activities. 3. A Certificate for Humanity, an Honorary Doctorate Degree, from Ehwa Womans University, University of Seoul, South Korea, in 1966 4. A Gold Medal for ‘Woman of the World’ from the International Women’s Association 5. A Companion (Third Class, Lower Grade) of the Most Illustrious Order of Chula Chom Klao, in 1954 6. The Red Cross Commendation Medal, in 1954 7. The Red Cross Awards Medal (First Class) 8. A Knight Commander (Second Class, Lower Grade) of the Most Illustrious Order of Chula Chom Klao 6/13/17 11:23 AM

38 9. An Honorary Doctorate Degree in Sociology, Academic Year 1980, from Chulalongkorn University Council, as an expert with high moral who acts for the benefits of general people and who generates an awareness of humanity in public, on 9 July, 1981. Trips Abroad - 1940 Japan: Studied about the management of venereal diseases in prostitutes for 6 months - 1946 Attended a WHO conference on child care in India for 14 days - 1947 Attended the International Women Physician Conference in Philadelphia and Studied about the management of venereal disease in the USA for 3 months - 1950 Attended a conference on childbirth in Rome, Italy, for 1 month - 1952 Visited the USA for 6 months - 1953 Attended the International Child Care Conference in Zagreb, Yugoslavia for 1 month and attended the International Women Physician Conference in Italy - 1954 Attended the Asian Women Physician Conference in Manila, the Philippines, for 15 days - 1955 Attended the Family Planning Association Conference in Tokyo, Japan, for 1 week - 1956 Attended the Family Planning Association Conference in the USA - 1957 Attended the Population Study conference in Stockholm, Sweden, for 1 month - 1960 Attended the White House Conference in Washington - 1962 Attended the Child Care Federation Conference in Istanbul, Turkey - 1963 Attended the World Forum on syphilis and its solutions in the USA - 1964 Attended the International Venereal Diseases Conference in India - 1970 Visited the USA to study about the issues of prostitution for 1 month Etc. ������� update 01/02/60.indd 38-39

39 Written Works - Editor of ‘M&C Mae Lae Dek’ (Mother and Child Magazine) - Sex Education - Venereal Diseases - Birth Control - Articles published in newspaper and magazines, and broadcasted on radio Expertise 1. Venereal Diseases 2. Women’s Diseases 3. Children’s Diseases 4. Sociology Academic Works Dr. Pierra gave lecture at Thammasat University, Kasetsart University, Teacher’s Colleges (Rajabhat Universities), the Royal Police Cadet Academy, an Investigation School (of Royal Thai Police), School of Social Work, College of Nursing of Ministry of Public Health, College of Nursing of Mahidol University, Siriraj Hospital, Vajira Hospital, Nursing School of an Army Non Commissioned Officer School, Women’s Hospital, and Girl’s Vocational School, etc. Social Work - 1935 - 1936 President of Association des Etudiants Thailandais en France - 1936 President of the Association of Old Continental Europe Students - 1938 Founder of Pierra Maternity and Child Welfare Foundation with the aim to assist women, children, and women who get pregnant without being 6/13/17 11:23 AM

40 married, as well as to educate mothers on how to raise children. These babies born out of wedlock at first used the last name ‘Hoontrakul.’ Later, the Hoontrakul families did not give permission to do so. Therefore, Field Marshal Plaek Pibulsonggram gave the last name ‘Vejabul.’ Until today, about 4,000 people have used the last name ‘Vejabul’ and every one of them has been well-educated. Dr. Vejabul was not only an honorary CEO or president of Pierra Maternity and Child Welfare Foundation which was legalized in 1949, but also a founder president of Bann Kredtakarn which is a home assisting prostitutes, as well as a member of the committee of the Association of Old Continental Europe Students. - 1939 Committee member of the Bangkok School for the Blind - 1947 Founder and the first president of the Saint Joseph Convent School Alumnae Association and a secretary of the Medical Women’s International Association (MWIA) - 1948 Founder and the first president of the Assumption Convent School Alumnae Association - President of the Social Health Foundation - Committee member of the Assumption Convent School Alumni Association - Committee member of the Saint Joseph Convent School Alumnae Association - Committee member of the Red Cross Society, Fund Raising Section,Thai Red Cross Division - Committee member and deputy secretary of the International Union against Sexually Transmitted Infections (IUSTI) - President of the International Union against Sexually Transmitted Infections (IUSTI) Regions: Asia-Pacific - Committee member of the French Medical Women’s Association - International committee member of the International Marriage Council - International committee member of the Genetic Society - Committee member of the International Childbirth Federation - Committee member in the field of sociology, the National Research Council of Thailand (NRCT) ������� update 01/02/60.indd 40-41

41 - Advisor of the Women’s Welfare Committee, the National Council on Social Welfare of Thailand - Chair of a research subcommittee on prostitution - Committee member of the National Council of Women of Thailand under the Royal Patronage of Her Majesty the Queen (NCWT) - Committee member of the National Council on Social Welfare of Thailand under the Royal Patronage of His Majesty the King - President of the Family and Children Welfare Project - Coordinating committee member for assisting certain types of women under supervision of the Prime Minister’s Office Doctor Pierra Vejabul, Ph.D. A Mother of Mankind ‘Mae Phra’ Mae Phra or Mae Phra Pierra - The 80 year life story of kind-hearted Dr. Vejabul has been in people’s memories. One day, a daughter of a well-to-do family came to see Dr. Vejabul and asked for an abortion as a result of the failure of her relationship. Dr. Vejabul thought that an abortion was a sin and thus advised the girl to go back home and convince her own mother in order to keep the baby. It turned out, however, that the girl was reprimanded harshly by her mother and, as a result, she decided to commit suicide by taking poison. When Mae Phra Pierra learnt about this, she hurriedly took the girl to the hospital but it was to no avail. The girl died in her arms. This cold memory could not be erased. After considering carefully, she decided to regard this incident as a lesson and learn from it in order to prevent this kind of incident from happening over and over again to other girls. This was the beginning of her care for women and children. When women were pregnant without being married, Mae Phra Pierra would take care of their children and bestowed them with the last name ‘Vejabul,’ registered with the mother’s name Dr. Pierra Vejabul and the father’s name Lieutenant General Poon Wongwiset. This was to save hundreds of children from abortion, and then they could live and would be raised as they should. Some of them had a chance to study abroad, some successfully married, and some became prosperous business owners. These children were brought up warmly and this enabled them to live and stand on their own two feet. All in all, Mae Phra Pierra had taught them to fight in this world with integrity and morality. 6/13/17 11:23 AM

42 The home for these children known as Matapaowanasathan (mata meaning mother, paowana meaning pray, and sathan meaning a place) was originally established at Phlapphla Chai Subdistrict by Dr.Vejabul in 1938. Later, in 1947, it was relocated to a house on Sathorn Road, next to Bang Rak Hospital, and its name Pierra Maternity and Child Welfare Foundation was given by Prince Bidyalongkorn. In 1964, the story of this house wholeheartedly hurt the feelings of many people in the country to take action in assisting Mae Phra Pierra, and this had become the origin of the term ‘Pracha Uthit.’ It happened when the Government Savings Bank, which was a creditor, had filed a petition to the court to order the Foundation to repay the debt of more than 3 million baht caused by the loan. However, the people could not let Mae Phra Pierra who had dedicated herself to help hundreds of children become bankrupt, and the foundation to be terminated. As a result, they helped donate and raised money until it was enough to repay the debt to the Government Savings Bank. This seemed to be the only case that was presented to the Cabinet. Consequently, Pierra Maternity and Child Welfare Foundation has become a center for all who care for orphans. Mothers who got pregnant unintentionally and were still in their teens could stay there until after the babies were delivered. Then the babies would be adopted by Mae Phra Pierra and the mothers could resume their study. This mark of high morality reflects a generosity so great that not many people in this world would be capable of it. At least 4,000 people have used the last name of ‘Vejabul.’ At present, they are living in almost every part of the world including Australia, Switzerland, the Netherlands, the USA, and Saudi Arabia. They work as teachers, nurses, newspaper photographers, chefs, and accountants. Five of them graduated from schools abroad and are now working with the Foundation. More than 20 of them have completed their education and lived abroad. Thirty-four of the children have been adopted by other couples with 151 children adopted by their own parents. Today 65 children are residing in Pracha Uthit Children’s Home. Moreover, Mae Phra Pierra helped more than 2,000 prostitutes and let them reside at Kredtrakarn Home. Her asset inherited today includes a house and land in Pracha Uthit, land in Ban Tung Mahamek Subdistrict of Bang Khen District, and a rented clinic in front of Lumpini Park. ������� update 01/02/60.indd 42-43

43 Like a Saint, Mae Phra Pierra was not only good at caring for and supervision of children, she was also reputed as a doctor who tried to cure venereal diseases and solve the problems of prostitution. According to her life story, Mae Phra Pierra disguised herself and sneaked into brothels, bars, and nightclubs in order to deliver an injection to prevent and cure venereal diseases for people there. She used to be thrown out of these places and was almost harmed. When she went for a business trip to the USA, she was even misunderstood as being a prostitute. Nevertheless, because of her determination of solving a problem at its root, Mae Phra Pierra was able to help address the prostitution problems as well as fight for prostitutes’ rights to be registered. \However, the prostitution problem was not an issue that could be solved during her time as prostitution has existed for a long time. Only firm regulation by the government can help in controlling the problem. Venereal diseases have been an entailment of prostitution and have caused both physical and psychological problems to people. The more advanced medical technology is, the more resistant to drugs the diseases are. Mae Phra Pierra even said, “Thai women have the highest sexual desire in the world.” The cause of venereal diseases was also because they refused to cure and protect themselves. This is an important social problem in Thailand that needs to be confronted directly in order to find the solutions. When prostitution was suppressed, Mae Phra Pierra helped to manage the treatment and prevention of venereal disease as well as the promotion for prostitutes’ future careers, which led to the founding of Kredtrakarn Home, under supervision of Department of Public Welfare. Some of the orphans were raised at Srisangwan Home as a result of this. Political Turmoil ---- Some people might be able to remember that there was an election in 1969. Mae Phra Pierra was persuaded to be one of the candidates, number 17 in that election, representing the United Civil Party of Thailand, against the Democrat Party. She was determined to solve the problems related to the social welfare of the public as well as to fight against diseases. At that time, many masseuses, hostesses, and prostitutes eagerly supported her. Her dream was halted, however, because she failed in the congressional election. Otherwise, we would have seen a fight for better sanitation and public welfare. 6/13/17 11:23 AM

44 Celebrity ---- Mae Phra Pierra was considered a celebrity among orphans, prostitutes, and frequenters of brothels and nightclubs. Her work was so famous both nationally and internationally that Hollywood asked for permission to turn her biography into a film entitled ‘Wonder Woman.’ Reader’s Digest Magazine which was also published and became internationally famous. In the academic field of public welfare, she was also like a star who was interviewed or cited by university students as a topic for their reports or theses. The consequence of her 80 years of incessant good deeds ---- Nobody’s life is la vie en rose. Dating back to childhood, she was just a little girl from Lampang, a province in the north of Thailand, born to a third wife, and had only brother who died young. She herself traveled to Bangkok to study. Being close to many graduates, she dreamt of studying abroad. Her father did not agree with this, however. As a result, she ran away to Saigon to be educated with assistance from the nuns there. When she returned to Thailand, she wanted to be a doctor but was rejected by Siriraj Hospital as there was no precedence of a female doctor at that time. She then decided to accompany a member of the Royal Family to France for an opportunity to learn. During her stay there, she had to struggle so hard by herself that she became admired by Thai people there. She seemed to be unlucky in love as her boyfriend died in Hong Kong while traveling to Thailand. As for her ‘Hoontrakul’ last name, her relatives would not consent for her to use it because she helped and adopted many orphans. Fortunately, later she was endowed with the last name ‘Vejabul’ from Princess Mother Srinagarindra during the premiership of Field Marshal Plaek Pibulsonggram. Her life was that of enduring hardship. Because of her strength and bravery, she deserves the title of a wonder women, being a small woman who sacrificed her life and soul for fellow humans. Any awards or prizes gained, no matter whether they were from France or Albert Einstein School of Medicine, honorary doctorate degrees, or praises from Madame Roosevelt, Lady La-iad Pibulsonggram, or His Royal Highness Prince Chula Chakrabongse, would not be able to be compared with the term “Mae Phra” who follows in the footstep of Marie Curie, the winner of Nobel Prizes in Physics, in 1903 and in Chemistry in 1911, whose pioneering research works have helped save mankind. After her death, it would be very hard for anyone to be able to do what she has done. ������� update 01/02/60.indd 44-45

45 Nevertheless, as her children of next generations, we should do our best to accomplish at least a small amount of her tremendous work she did before. 6/13/17 11:23 AM

������� update 01/02/60.indd 46-47

การจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัย พีระยา นาวิน เมื่อ พ.ศ. 2533 The Establishment of Pierra Navin Nursery In 1990 6/13/17 11:24 AM

48 ประวัติความเป็นมา พีระยา นาวิน เป็นชื่อของศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยอายุ 2 - 6 ปี อยู่ในอุปถัมภ์ของ พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่มาของชื่อ “พีระยา นาวิน” มาจากชื่อนามสกุลของกรรมการบริหารพีระยานุเคราะห์มูลนิธิฯ 2 ท่าน “พีระยา” มาจากชื่อผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกิตติมศักดิ์ แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล (พ.ศ. 2527 - ปัจจุบัน) “นาวิน” มาจากสองพยางค์สุดท้ายของนามสกุลของ ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการบริหารพีระยานุเคราะห์มูลนิธิฯ (พ.ศ. 2527 - ปัจจุบัน) สถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัย พีระยา นาวิน ได้เปิดท�ำการรับเลี้ยงดูและพัฒนาเด็ก อายุ 2 - 6 ปี จากครอบครัวที่มีรายได้น้อย เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยตั้งอยู่ตามแหล่งชุมชนที่ผ่านการส�ำรวจ และคัดเลือกตามกฎเกณฑ์ของพีระยานุเคราะห์มูลนิธิฯ ได้แก่ เด็กจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความส�ำคัญกับเด็ก และผู้น�ำชุมชนให้ความร่วมมือและสนับสนุน ������� update 01/02/60.indd 48-49

49 History of the Nursery Pierra Navin is the name of the nursery established for 2 - 6 years old children. It is operated is under the Royal Patronage of HRH the Princess Mother. The Name “Pierra Navin” comes from the name and the surname of two of the foundation’s executives. “Pierra” “Pierra” comes from the name of the founder and the Honorary CEO, Dr. Pierra Vejabul, Ph.D. (1937 - 1984). “Navin” “Navin” comes from the last two syllables of the name of Professor Dr. Ukrit Mongkolnavin, CEO of Pierra Maternity & Child Welfare Foundation (1984 - present). Pierra Navin nurseries first opened in 1990 for child care and development for children aged 2 - 6 years from low-income families. Locations of the nurseries were communities inspected and selected according to the foundation’s criteria; the children must be from low-income families, born to the parents seeing importance of their children, and the community leaders being supportive to the foundation. 6/13/17 11:24 AM

50 การจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัยพีระยา นาวิน ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ได้พิจารณาเห็นว่าสถานะทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมปัจจุบันท�ำให้ พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย หรือผู้ปกครองเด็ก ต้องละทิ้งครอบครัวไป ท�ำมาหากินหรือด�ำรงชีวิตในถิ่นฐานอื่น เพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เป็นตัวการส�ำคัญประการหนึ่งในการท�ำลายเด็กโดยไม่รู้ตัว ได้แก่ ภาวะที่พ่อแม่ต้องออกไปท�ำงานโดยทิ้งเด็กอยู่บ้านตามล�ำพัง หรือภาวะที่ต้องน�ำเด็ก ไปยังสถานที่ท�ำงาน เช่น ตามสถานที่ก่อสร้าง ตลอดจนการตระเวนขายของด้วยรถเข็น โดยมี เด็กนอนอยู่ใต้รถเข็นนั้น ซึ่งเป็นปัญหาครอบครัว ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกของตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ครอบครัวที่มีรายได้น้อย หรือครอบครัวที่ลูกมี “พ่อ” หรือ “แม่” เพียงคนเดียวจากครอบครัว ที่แตกแยก หรือไม่มีทั้งพ่อและแม่ที่จะให้การอบรมเลี้ยงดู ท�ำให้เด็กกลายเป็น “เด็กมีปัญหา” กระทบต่อความสงบสุข และความปลอดภัยของสังคม ในทางการแพทย์และทางจิตวิทยา พัฒนาการของเด็กทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การเรียนรู้ การพัฒนาบุคลิกภาพ และพฤติกรรม ต้องได้รับการปลูกฝังอย่างถูกต้องในช่วงวัยของเด็กก่อน วัยเรียน อายุระหว่าง 2 - 6 ปี ดังนั้นในปี พ.ศ. 2533 มูลนิธิฯ จึงได้ริเริ่มโครงการรับเลี้ยงเด็กปฐมวัย อายุ 2 - 6 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้น้อย (อาจบริจาคให้มูลนิธิฯ จ�ำนวนเล็กน้อยตามความสมัครใจ เพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วม แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ของมีราคาสูงขึ้น จึงขอรับบริจาคจากผู้ปกครอง โดยให้มีส่วนร่วม แต่ถ้าครอบครัวที่เดือดร้อนจริงๆ ก็ไม่ต้องบริจาค โดยศูนย์ฯ ในกรุงเทพมหานคร บริจาคเป็นรายวัน วันละไม่เกิน 30 บาท ส่วนต่างจังหวัด วันละ 10 - 20 บาท หรือน�ำข้าวสาร ผลไม้ มาให้ศูนย์ฯ ตามก�ำลัง) แต่ยังคงยึดหลักการ “ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” การเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน ของสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัย “พีระยา นาวิน” จึงเกิด ขึ้นตามแนวทางของประธานกรรมการบริหารฯ โดยให้หลักการว่าเด็กต้องได้รับการเอาใจใส่ ด้วยความรัก ด้วยความเข้าใจ และด้วยความเมตตา และได้วางกฎเกณฑ์ ห้ามครูท�ำโทษเด็ก ด้วยการเฆี่ยนตีโดยเด็ดขาด ������� update 01/02/60.indd 50-51