The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Somza Jeed, 2022-09-11 00:41:55

หลักสูตรสถานศึกษา2563

หลักสูตรสถานศึกษา2563

๑๙๘

ผลการเรียนรู้
๑. เหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนทว่ั โลกช่วยกาํ หนดงานวรรณกรรม
๒. คนที่ใชภ้ าษาแตกตา่ งกนั สามารถทาํ งานร่วมกนั ได้
๓. การทกั ทายบง่ บอกถึงสมั พนั ธภาพ

๑๙๙

รายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน
คาํ อธบิ ายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖
รหสั วิชา อ๑๖๑๐๑ เวลาเรียน ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง
ปฏิบตั ิตามประโยคคาํ สั่ง คาํ ขอร้อง คาํ แนะนาํ ในการเลน่ เกม การวาดภาพ การทาํ อาหาร เคร่ืองดื่ม และ
การประดิษฐ์ บทสนทนา ขอ้ ความ นิทาน บทกลอนส้ัน ๆ เหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนทว่ั โลกช่วยกาํ หนดงาน
วรรณกรรม การบอกใจความสาํ คญั และตอบคาํ ถาม ระบุประโยค ขอ้ ความส้ัน ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ แผนผงั
แผนภมู ิ เครื่องหมายตรงตามความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาว่าง
นนั ทนาการ สุขภาพ สวสั ดิการ การซ้ือ -ขาย และลมฟ้าอากาศ โดยใชท้ กั ษะการฟังและการอ่านท่ีถกู ตอ้ งตาม
หลกั การอา่ นเพ่ือใชส้ ่ือสารในสถานการณ์ตา่ งๆท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา มีทกั ษะการพดู และการเขยี น
โตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล การแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ การตอบรับ และปฏิเสธการใหค้ วาม

ช่วยเหลือ การขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั คนที่ใชภ้ าษาแตกต่างกนั สามารถ

ทาํ งานร่วมกนั ได้ แสดงความรู้สึกของตนเองพร้อมท้งั ให้เหตุผลส้นั ๆ การตอบคาํ ถามบอกความสาํ คญั ของเทศกาล
วนั สาํ คญั งานฉลองและชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของเจา้ ของภาษา บอกความเหมือนหรือความแตกต่างระหวา่ งการ

ออกเสียงประโยค การทกั ทายบง่ บอกถึงสัมพนั ธภาพ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาํ ดบั ตามโครงสร้าง

ประโยคโดยใชป้ ระโยคเดี่ยวและประโยคผสม ส่ือความหมายใหเ้ หมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ ของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย การเปรียบเทียบความเหมือนหรือความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและ

ประเพณีของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

โดยใชก้ ระบวนการทกั ษะทางภาษาในการสืบคน้ คน้ ควา้ และรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ หส้ ามารถนาํ เสนอขอ้ มูลที่

เรียนรู้ มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาองั กฤษเห็นคุณคา่ ของการใชภ้ าษาองั กฤษมีนิสยั รักการอา่ น และสามารถนาํ ความรู้ไปใช้

ในชีวติ ประจาํ วนั และเป็นพ้ืนฐานในการเรียนระดบั สูงข้ึน
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ ส่ือสาร เห็นคุณคา่ นาํ ความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์

ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม

ตวั ชี้วัด
ต ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ต ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ต ๑.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ต ๓.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๑ ป.๖/๑

๒๐๐

ต ๔.๒ ป.๖/๑
รวม ๒๐ ตัวชี้วดั
ผลการเรียนรู้

๑. เหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนทว่ั โลกช่วยกาํ หนดงานวรรณกรรม
๒. คนท่ีใชภ้ าษาแตกต่างกนั สามารถทาํ งานร่วมกนั ได้
๓. การทกั ทายบ่งบอกถึงสมั พนั ธภาพ

๒๐๑

ระดบั มธั ยมศึกษา
รายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน
คาํ อธบิ ายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า อ๒๑๑๐๑ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๑
ภาคเรียนท่ี ๑ จาํ นวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน

ปฏิบตั ิตามคาํ ส่งั คาํ ขอร้องคาํ แนะนาํ และคาํ ช้ีแจงต่าง ๆ อา่ นออกเสียงขอ้ ความไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
อา่ นนิทานและร้อยกรองส้นั ๆ เลือกระบุประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธก์ บั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรียง จบั ใจความสาํ คญั
จากเร่ืองท่ีฟังและอ่าน สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรมและสถานการณ์ต่าง ๆ พูดและเขยี นแสดง

ความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธกิจกรรมตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สรุป วเิ คราะห์ เร่ืองท่ีอยู่
ในความสนใจของสงั คม บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง และกริยา
ทา่ ทางตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม หรือจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
เก่ียวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั ชีวติ ความเป็นอยู่ ประเพณีของเจา้ ของภาษา บอกความเหมือนและความแตกตา่ งเรื่องการ
ออกเสียง ประโยคชนิดต่าง ๆ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน
การลาํ ดบั คาํ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยและเปรียบเทียบเทศกาลวนั สาํ คญั และชีวิต
ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย คน้ ควา้ รวบรวมสรุปขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้
อื่น จากแหล่งเรียนรู้และนาํ เสนอดว้ ยการพดู การเขยี น ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์จาํ ลอง
ที่เกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การสื่อสาร การสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การฝึกปฏิบตั ิ
ตามสถานการณ์ต่าง ๆ

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ สื่อสาร เห็นคุณค่า นาํ ความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์
ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

ตัวชี้วดั
ต ๑.๑ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒ ,ม.๑/๓ ,ม.๑/๔
ต ๑.๒ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒ ,ม.๑/๓ ,ม.๑/๔ ,ม.๑/๕
ต ๑/๓ ม.๑/๑

รวม ๑๐ ตวั ชี้วดั
ผลการเรียนรู้

๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์

๒๐๒

รายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน
คาํ อธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า อ๒๑๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๑
ภาคเรียนท่ี ๒ จํานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน

ปฏิบตั ิตามคาํ ส่งั คาํ ขอร้องคาํ แนะนาํ และคาํ ช้ีแจงต่าง ๆ อา่ นออกเสียงขอ้ ความไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
อ่านนิทานและร้อยกรองส้นั ๆ เลือกระบุประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธ์กบั ส่ือที่ไม่ใช่ความเรียง จบั ใจความสาํ คญั
จากเรื่องท่ีฟังและอ่าน สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรมและสถานการณ์ตา่ ง ๆ พูดและเขียน
แสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธกิจกรรมต่าง ๆ ใกลต้ วั สรุป วิเคราะห์ เร่ืองท่ีอยู่

ในความสนใจของสงั คม บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง และกริยา
ท่าทางตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม หรือจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
เกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั ชีวติ ความเป็นอยู่ ประเพณีของ
เจา้ ของภาษา บอกความเหมือนและความแตกตา่ งเรื่องการออกเสียง ประโยคชนิดต่าง ๆ การใชเ้ ครื่องหมาย
วรรคตอน การลาํ ดบั คาํ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยและเปรียบเทียบเทศกาลวนั สาํ คญั
และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย คน้ ควา้ รวบรวมสรุปขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ ง กบั
กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรียนรู้และนาํ เสนอดว้ ยการพูด การเขยี น ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง
สถานการณ์จาํ ลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การสื่อสาร การสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู การฝึกปฏิบตั ิ

ตามสถานการณ์ต่าง ๆ
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ สื่อสาร เห็นคณุ คา่ นาํ ความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์

ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม

ตัวชี้วัด
ต ๑/๓ ม.๑/๒ ,ม.๑/๓
ต ๒.๑ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒ ,ม.๑/๓
ต ๒.๒ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒
ต ๓.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๑ ม.๑/๑
ต ๔.๒ ม.๑/๑

รวม ๑๐ ตวั ชี้วดั
ผลการเรียนรู้

๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบุคคลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์

๒๐๓

รายวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
คาํ อธบิ ายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ๒๒๑๐๑ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒
ภาคเรียนท่ี ๑ จํานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน

ปฏิบตั ิตามคาํ ขอร้อง คาํ แนะนาํ คาํ ช้ีแจงและคาํ อธิบายงา่ ย ๆ อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และ
บทร้อยกรองส้นั ๆ และถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ระบุเขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั เร่ืองที่ไม่ใช่ความเรียง
จบั ใจความสาํ คญั และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่าน สนทนาและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม
และสถานการณ์ต่าง ๆ พูด เขียน บรรยาย อธิบายแสดงความตอ้ งการเสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับ และ

ปฏิเสธกิจกรรมต่าง ๆ และประสบการณ์ ขา่ ว เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม บนั ทึกความทรงจาํ ของบุคคล
เป็นขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง และกริยาท่าทางตามมารยาทของสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา เขา้ ร่วมหรือจดั กิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรมเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั ชีวติ ความเป็นอยปู่ ระเพณีของ
เจา้ ของภาษา เปรียบเทียบ บอกความหมายและอธิบาย ความเหมือนและความแตกต่างเรื่องของการออกเสียง
ประโยคชนิดต่าง ๆ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย คน้ ควา้ รวบรวมสรุปขอ้ มูล ขอ้ เท็จจริงท่ี
เกี่ยวกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้และนาํ เสนอดว้ ยการเขยี น ใชภ้ าษาสื่อสารเผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์
ในสถานการณ์จริง สถานการณ์จาํ ลองท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษาและชุมชน

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การส่ือสารและการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การฝึกปฏิบตั ิ
ตามสถานการณ์ต่าง ๆ

เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ สื่อสาร เห็นคณุ คา่ นาํ ความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์
มีคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม แมว้ า่ เทคโนโลยจี ะช่วยอาํ นวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปลี่ยนใน
อาเซียน แต่ยงั มีการแยกใชก้ ารสื่อสารดิจิตอลเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแตล่ ะชาติเช่นเดียวกนั ที่ใชส้ ่ือสารระหว่าง
กนั

ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒ ,ม.๒/๓ ,ม.๒/๔
ต ๑.๒ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒ ,ม.๒/๓ ,ม.๒/๔ ,ม.๒/๕
ต ๑/๓ ม.๒/๑

รวม ๑๐ ตวั ชีว้ ดั
ผลการเรียนรู้

๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบุคคลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์
๒. แมว้ า่ เทคโนโลยจี ะช่วยอาํ นวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปลี่ยนในอาเซียน แตย่ งั มีการแยกใชก้ าร
สื่อสารดิจิตอลเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติเช่นเดียวกนั ที่ใชส้ ื่อสารระหวา่ งกนั

๒๐๔

รายวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
คาํ อธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า อ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒
ภาคเรียนท่ี ๒ จํานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน

ปฏิบตั ิตามคาํ ขอร้อง คาํ แนะนาํ คาํ ช้ีแจงและคาํ อธิบายงา่ ย ๆ อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศและบท
ร้อยกรองส้นั ๆ และถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ระบุเขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธ์กบั เรื่องท่ีไมใ่ ช่ความเรียง
จบั ใจความสาํ คญั และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่าน สนทนาและแลกเปล่ียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม
และสถานการณ์ต่าง ๆ พดู เขียน บรรยาย อธิบายแสดงความตอ้ งการเสนอและใหค้ วามช่วยเหลือ ตอบรับ และ

ปฏิเสธกิจกรรมตา่ ง ๆ และประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คล
เป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง และกริยาทา่ ทางตามมารยาทของสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา เขา้ ร่วมหรือจดั กิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรมเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั ชีวติ ความเป็นอยปู่ ระเพณีของ
เจา้ ของภาษา เปรียบเทียบ บอกความหมายและอธิบาย ความเหมือนและความแตกต่างเรื่องของการออกเสียง
ประโยคชนิดต่าง ๆ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย คน้ ควา้ รวบรวมสรุปขอ้ มลู ขอ้ เท็จจริงที่
เก่ียวกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้และนาํ เสนอดว้ ยการเขยี น ใชภ้ าษาส่ือสารเผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์
ในสถานการณ์จริง สถานการณ์จาํ ลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษาและชุมชน

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การสื่อสารและการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู การฝึกปฏิบตั ิ
ตามสถานการณ์ตา่ ง ๆ

เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ สื่อสาร เห็นคณุ คา่ นาํ ความรู้ ไปใช้
ประโยชน์ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม แมว้ า่ เทคโนโลยจี ะช่วยอาํ นวยความสะดวกในการสื่อสาร
แลกเปลี่ยนในอาเซียน แต่ยงั มีการแยกใชก้ ารสื่อสารดิจิตอลเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติเช่นเดียวกนั ที่ใช้
ส่ือสารระหวา่ งกนั

ตวั ชี้วดั
ต ๑/๓ ม.๒/๒ ,ม.๒/๓
ต ๒.๑ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒ ,ม.๒/๓
ต ๒.๒ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒
ต ๓.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๑ ม.๒/๑
ต ๔.๒ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒

รวม ๑๑ ตัวชีว้ ัด

๒๐๕

ผลการเรียนรู้
๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์
๒. แมว้ า่ เทคโนโลยจี ะช่วยอาํ นวยความสะดวกในการส่ือสารแลกเปล่ียนในอาเซียน แตย่ งั มีการแยกใชก้ าร

ส่ือสารดิจิตอลเฉพาะภายในประเทศสมาชิกแต่ละชาติเช่นเดียวกนั ท่ีใชส้ ื่อสารระหวา่ งกนั

๒๐๖

รายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน
คาํ อธิบายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ๒๓๑๐๑ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓
ภาคเรียนท่ี ๑ จํานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน
ปฏิบตั ิตามคาํ ขอร้อง คาํ แนะนาํ คาํ ช้ีแจงและคาํ อธิบายงา่ ย ๆ อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา
และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน ระบเุ ขียนประโยค ขอ้ ความใหส้ มั พนั ธ์กบั ส่ือท่ีไมใ่ ช่ความเรียง
จบั ใจความสาํ คญั รายละเอียด สนบั สนุน แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังและอา่ น สนทนาสื่อสาร แลกเปลี่ยน

ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม สถานการณ์ตา่ ง ๆ พูด เขียน บรรยาย อธิบายแสดงความตอ้ งการ เสนอให้

ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ การขอและใหข้ อ้ มูล เปรียบเทียบ สรุป วิเคราะห์ เหตกุ ารณ์ ขา่ ว ท่ีอยใู่ นความ

สนใจของสังคม บนั ทึกความทรงจาํ ของบุคคลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง ท่าทาง กริยามารยาท
ทางสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา การติดตอ่ ส่ือสารและการทาํ งานร่วมกนั โดยไมม่ ีอุปสรรคดา้ นภาษาสามารถ

ส่งเสริมความคลอ่ งตวั ของประเทศน้นั ๆ เขา้ ร่วมหรือจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมเก่ียวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั
ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษา เปรียบเทียบบอกความเหมือนและความแตกต่างเรื่องการ

ออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การเผยแพร่ความคิดเห็นทางวรรณกรรมช่วยเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทางวฒั นธรรมของ

ประเทศและภมู ิภาค การลาํ ดบั คาํ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย คน้ ควา้ รวบรวม สรุปขอ้ มูล

ขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหลง่ เรียนรู้ และนาํ เสนอดว้ ยการพดู การเขยี น ใชภ้ าษาสื่อสาร

เผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์ในสถานการณ์จริง สถานการณ์จาํ ลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษาและชุมชน
ประเทศสามารถส่งเสริมใหท้ ุกคนสื่อสารและทาํ งานร่วมกนั โดยไม่มีอุปสรรคทางดา้ นภาษา

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การส่ือสารและการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การฝึกปฏิบตั ิ

ตามสถานการณ์ตา่ ง ๆ

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสน ส่ือสาร เห็นคณุ ค่า นาํ ความรู้ ไปใชป้ ระโยชนใ์ น

การศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม
ตวั ชี้วัด
ต ๑.๑ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ,ม.๓/๔
ต ๑.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ,ม.๓/๔ ,ม.๓/๕
ต ๑/๓ ม.๓/๑
รวม ๑๐ ตัวชีว้ ดั
ผลการเรียนรู้
๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์

๒. การติดต่อสื่อสารและการทาํ งานร่วมกนั โดยไมม่ ีอปุ สรรคดา้ นภาษา สามารถส่งเสริมความคลอ่ งตวั ของประเทศน้นั ๆ
๓. การเผยแพร่ความคดิ เห็นทางวรรณกรรมช่วยเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทางวฒั นธรรมของประเทศและภมู ิภาค

๔. ประเทศสามารถส่งเสริมใหท้ กุ คนส่ือสารและทาํ งานร่วมกนั โดยไม่มีอุปสรรคทางดา้ นภาษา

๒๐๗

รายวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
คาํ อธบิ ายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ๒๓๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓
ภาคเรียนที่ ๒ จาํ นวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน

ปฏิบตั ิตามคาํ ขอร้อง คาํ แนะนาํ คาํ ช้ีแจงและคาํ อธิบายงา่ ย ๆ อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา
และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ระบเุ ขยี นประโยค ขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั ส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียง
จบั ใจความสาํ คญั รายละเอียด สนบั สนุน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ น สนทนาสื่อสาร แลกเปลี่ยน
ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม สถานการณ์ตา่ ง ๆ พูด เขียน บรรยาย อธิบายแสดงความตอ้ งการ เสนอให้
ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ การขอและใหข้ อ้ มูล เปรียบเทียบ สรุป วิเคราะห์ เหตกุ ารณ์ ขา่ ว ที่อยใู่ น

ความสนใจของสงั คม บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์ ใชภ้ าษา น้าํ เสียง ท่าทาง กริยา
มารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา การติดต่อสื่อสารและการทาํ งานร่วมกนั โดยไม่มีอปุ สรรคดา้ นภาษา
สามารถส่งเสริมความคลอ่ งตวั ของประเทศน้นั ๆ เขา้ ร่วมหรือจดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมเกี่ยวกบั เทศกาล วนั
สาํ คญั ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษา เปรียบเทียบบอกความเหมือนและความแตกตา่ ง
เร่ืองการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ การเผยแพร่ความคิดเห็นทางวรรณกรรมช่วยเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทาง
วฒั นธรรมของประเทศและภูมิภาค การลาํ ดบั คาํ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย คน้ ควา้
รวบรวม สรุปขอ้ มูล ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรียนรู้และนาํ เสนอดว้ ยการพูด การ
เขยี น ใชภ้ าษาส่ือสาร เผยแพร่ และประชาสัมพนั ธใ์ นสถานการณ์จริง สถานการณ์จาํ ลองที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศึกษาและชุมชน ประเทศสามารถส่งเสริมใหท้ กุ คนสื่อสารและทาํ งานร่วมกนั โดยไมม่ ีอุปสรรคทางดา้ นภาษา

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การสื่อสารและการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การฝึกปฏิบตั ิ

ตามสถานการณ์ต่าง ๆ
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาํ เสนอ ส่ือสาร เห็นคุณคา่ นาํ ความรู้ ไปใช้

ประโยชน์ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

ตัวชีว้ ดั
ต ๑/๓ ม.๓/๒ ,ม.๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑ ,ม.๓/๑ ,ม.๓/๓
ต ๒.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒

รวม ๑๑ ตัวชีว้ ดั

๒๐๘

ผลการเรียนรู้
๑. บนั ทึกความทรงจาํ ของบคุ คลเป็นขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์
๒. การติดต่อสื่อสารและการทาํ งานร่วมกนั โดยไม่มีอุปสรรคดา้ นภาษา สามารถส่งเสริมความคล่องตวั ของ

ประเทศน้นั ๆ
๓. การเผยแพร่ความคิดเห็นทางวรรณกรรมช่วยเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ทางวฒั นธรรมของประเทศและ

ภมู ิภาค
๔. ประเทศสามารถส่งเสริมใหท้ กุ คนสื่อสารและทาํ งานร่วมกนั โดยไมม่ ีอุปสรรคทางดา้ นภาษา

๒๐๙

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ในระดบั ช้ันประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลห้วยกระเจา พุทธศักราช ๒๕๖๓

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

อ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๑

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๑ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ใช้คาํ ส่ังที่ใชใ้ นห้องเรียน ตวั อกั ษร เสียงตวั อกั ษร สระ การสะกดคาํ ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง ประโยคบอก
ความตอ้ งการเกี่ยวกบั ตนเอง ประโยค ให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง คาํ สั่งที่ใช้ในห้องเรียน ขอ้ ความท่ีใช้ในการพูดให้
ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง และเรื่องใกลต้ วั คาํ ท่ีมีความหมายสัมพนั ธ์กบั สิ่งต่างๆใกลต้ วั อาหาร เครื่องด่ืม วฒั นธรรม
เจา้ ของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาํ ตนเอง การใชภ้ าษาในการฟัง พูด อ่านในสถานการณ์ท่ี
เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูลและมีทกั ษะทางสงั คม มีวถิ ีของระบอบประชาธิปไตย
ซื่อสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวิตประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ สัง่ คาํ ขอร้องท่ีฟัง
๒. อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คาํ กลมุ่ คาํ ประโยคง่ายๆ และ บทพดู เขา้ จงั หวะงา่ ยๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
๓. บอกความหมายของคาํ และกลมุ่ คาํ ท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยคบท

สนทนาหรือนิทานง่าย ๆ

รวม ๓ ผลการเรียนรู้

๒๑๐

อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ๒

รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี

ใช้คาํ ส่ังท่ีใช้ในห้องเรียน ตวั อกั ษร เสียงตวั อกั ษร สระ การสะกดคาํ การอ่านออกเสียง คาํ กลุ่มคาํ บทอ่าน
บทสนทนา ประโยค ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเองคาํ ประโยคบทอ่าน บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
ขอ้ ความที่ใชใ้ นการพูดใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง และเรื่องใกลต้ วั คาํ ท่ีมีความหมายสัมพนั ธ์กบั ส่ิงต่างๆใกลต้ วั อาหาร
เครื่องด่ืม วฒั นธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาํ ตนเอง กิจกรรมทางภาษา การร้อง
เพลง การใชภ้ าษาในการฟัง พูด อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู และมีทกั ษะทางสังคม มีวถิ ีของระบอบประชาธิปไตย
ซ่ือสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ สัง่ คาํ ขอร้องท่ีฟัง
๒. อา่ นออกเสียงตวั อกั ษร คาํ กลมุ่ คาํ ประโยคง่ายๆ และ บทพูดเขา้ จงั หวะง่ายๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
๓. บอกความหมายของคาํ และกลุม่ คาํ ที่ฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค

บทสนทนาหรือนิทานงา่ ยๆ
๔. พูดโตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ันๆ ง่ายๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบท่ีฟัง ใชค้ าํ ส่ังและคาํ ขอร้องง่าย ๆ บอก

ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ง่ า ย ๆ ข อ ง ต น เอ ง พู ด ข อ แ ล ะ ใ ห้ ข้ อ มู ล เกี่ ย ว กั บ ต น เอ ง แ ล ะ เพื่ อ น
บอกความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั ส่ิงตา่ ง ๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบท่ีฟัง
๕. พดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั จดั หมวดหมู่คาํ ตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และสิ่งของตามที่
ฟังหรืออ่าน
๖. พดู และทาํ ทา่ ประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกช่ือและคาํ ศพั ทง์ ่ายๆ เกี่ยวกบั
เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั

รวม ๖ ผลการเรียนรู้

๒๑๑

อ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๓

รายวิชาเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ใชค้ าํ ส่ังที่ใชใ้ นห้องเรียน ตวั อกั ษร เสียงตวั อกั ษร สระ การสะกดคาํ การอ่านออกเสียง คาํ กลุ่มคาํ บทอ่าน
พูดเขา้ จงั หวะ บทสนทนา ประโยค ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองคาํ เลือกระบุภาพ ตรงความหมาย บทสนทนา ให้ขอ้ มูล
เก่ียวกบั ตนเอง ประโยคบอกความตอ้ งการเกี่ยวกบั ตนเองคาํ คาํ สั่งที่ใชใ้ นหอ้ งเรียน ขอ้ ความท่ีใชใ้ นการพูดให้ขอ้ มูล
ความรู้สึกเกี่ยวกบั ตนเอง และเร่ืองใกลต้ วั วฒั นธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาํ
ตนเอง การใชภ้ าษาในการฟัง พูด อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู และมีทกั ษะทางสังคม มีวถิ ีของระบอบประชาธิปไตย
ซ่ือสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ สง่ั คาํ ขอร้องท่ีฟัง
๒. บอกความหมายของคาํ และกลุ่มคาํ ท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค

บทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ
๓. พดู โตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหวา่ งบุคคลตามแบบท่ีฟัง ใชค้ าํ สง่ั และคาํ ขอร้องง่ายๆ
๔. บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง พูดขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเพ่ือน บอกความรู้สึกของตนเอง

เก่ียวกบั สิ่งต่างๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟัง
๕. พูดใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั จดั หมวดหมูค่ าํ ตามประเภทของบุคคล สัตว์ และส่ิงของตามท่ี

ฟังหรืออา่ น
๖. พูดและทาํ ท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
๗. บอกช่ือและคาํ ศพั ทง์ า่ ยๆ เกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา

เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
๘. บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คาํ กลมุ่ คาํ และประโยคง่ายๆ ของภาษาองั กฤษและภาษาไทย
๙. ฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๒๑๒

อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๔

รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ปฏิบตั ิตามคาํ สั่ง คาํ แนะนาํ คาํ ขอร้องที่ใชใ้ นหอ้ งเรียน พูดเขา้ จงั หวะ บทสนทนา ประโยค ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั
ตนเองคาํ เลือกระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ตรงความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา พูด เขียน
ให้ขอ้ มูลโต้ตอบเกี่ยวกบั ตนเอง สื่อสารระหว่างบุคคล ประโยคบอกความตอ้ งการเกี่ยวกับตนเองคาํ คาํ ส่ังท่ีใช้ใน
ห้องเรียน ขอ้ ความที่ใชใ้ นการพูด เขียน แสดงความตอ้ งการของตนเอง ให้ขอ้ มูลความรู้สึกเกี่ยวกบั ตนเอง และเรื่อง
ใกลต้ วั วฒั นธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาํ ตนเอง คาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั เทศกาลเจา้ ของ
ภาษา กิจกรรมทางภาษา การร้องเพลง ศึกษา การใชภ้ าษาในการฟัง พูดทาํ ท่าประกอบอย่างสุภาพ เขา้ ร่วมกิจกรรม
ทางภาษา อา่ น พูด ในสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูลและมีทกั ษะทางสังคม มีวิถีของระบอบประชาธิปไตย
ซ่ือสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ สัง่ คาํ ขอร้องที่ฟัง
๒. อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คาํ กลุ่มคาํ ประโยคงา่ ยๆ และ บทพูดเขา้ จงั หวะง่ายๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
๓. บอกความหมายของคาํ และกลุ่มคาํ ท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค

บทสนทนาหรือนิทานงา่ ยๆ
๔. พดู โตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ันๆ ง่ายๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบที่ฟัง ใชค้ าํ ส่งั และคาํ ขอร้องง่ายๆ

บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง
๕. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเพอื่ น บอกความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั ส่ิงตา่ งๆ ใกลต้ วั หรือ

กิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบที่ฟัง
๖. พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั จดั หมวดหมคู่ าํ ตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และส่ิงของตามท่ี

ฟังหรืออ่าน
๗. พดู และทาํ ท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชื่อและคาํ ศพั ทง์ ่ายๆ เก่ียวกบั
เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
๘. บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คาํ กล่มุ คาํ และประโยคง่ายๆ ของภาษาภาษาองั กฤษและภาษาไทย
๙. ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๒๑๓

อ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๕

รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๕ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี

ปฏิบัติตามคาํ ส่ัง คาํ แนะนํา คาํ ขอร้อง คาํ แนะนําง่าย ๆ ท่ีใช้ในห้องเรียน การสะกดคาํ การอ่านออกเสียง
บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองคาํ เลือกระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ตรงความหมายของประโยค

ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา นิทานง่ายๆ ประโยค พูด เขียนให้ขอ้ มูลโตต้ อบเกี่ยวกบั ตนเอง แสดง
ความรู้สึก ส่ือสารระหวา่ งบุคคล ใชถ้ อ้ ยคาํ น้าํ เสียง และกิริยา ประโยคบอกความตอ้ งการเกี่ยวกบั ตนเองคาํ คาํ สั่งที่
ใชใ้ นห้องเรียน ขอ้ ความท่ีใชใ้ นการพูด เขียน แสดงความตอ้ งการของตนเอง ให้ขอ้ มูลความรู้สึกเกี่ยวกบั ตนเอง และ
เร่ืองใกลต้ วั บอกความเหมือน ความแตกต่าง ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ แสดงความคดิ เห็นง่ายๆโดยใช้
คาํ ศพั ท์เหมาะสมกับวยั การใช้ภาษาในการฟัง พูดทาํ ท่าประกอบอย่างสุภาพ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา อ่าน พูด
ในสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู และมีทกั ษะทางสังคม มีวิถีของระบอบประชาธิปไตย
ซื่อสตั ย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ ส่งั คาํ ขอร้องท่ีฟัง
๒. อา่ นออกเสียงตวั อกั ษร คาํ กลมุ่ คาํ ประโยคงา่ ยๆ และ บทพูดเขา้ จงั หวะงา่ ยๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
๓. บอกความหมายของคาํ และกลมุ่ คาํ ท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บท

สนทนาหรือนิทานงา่ ยๆ
๔. พูดโตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบท่ีฟัง ใชค้ าํ สง่ั และคาํ ขอร้องง่ายๆ บอก

ความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง
๕. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเพอื่ น
๖. บอกความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั ส่ิงตา่ งๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟัง
๗. พดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั จดั หมวดหมูค่ าํ ตามประเภทของบุคคล สัตว์ และส่ิงของตามที่

ฟังหรืออา่ น
๘. พดู และทาํ ท่าประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
๙. บอกชื่อและคาํ ศพั ทง์ ่ายๆ เก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เขา้

ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
๑๐. บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อกั ษร คาํ กลมุ่ คาํ และประโยคง่ายๆ ของภาษาองั กฤษและภาษาไทย

๒๑๔

๑๑. ฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
๑๒. ใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื รวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งใกลต้ วั
๑๓. มีทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษ (เนน้ การฟัง-พดู ) สื่อสารตามหวั เร่ืองเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน

สิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั อาหาร เคร่ืองดื่ม และเวลาวา่ งและนันทนาการ ภายในวงคาํ ศพั ทป์ ระมาณ ๓๐๐-
๔๕๐ คาํ (คาํ ศพั ทท์ ่ีเป็นรูปธรรม)
๑๔.ใชป้ ระโยคคาํ เดียว (One Word Sentence) ประโยคเด่ียว (Simple Sentence) ในการสนทนาโตต้ อบตาม
สถานการณ์ในชีวิตประจาํ วนั

รวม ๑๔ ผลการเรียนรู้

๒๑๕

อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๖

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ปฏิบัติตามคาํ สั่ง คาํ แนะนํา คาํ ขอร้อง คาํ แนะนําง่ายๆ ท่ีใช้ในห้องเรียน การสะกดคาํ การอ่านออกเสียง
คาํ กลุ่มคาํ บทอ่าน บทกลอนส้ันๆ บท สนทนา ประโยคถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองคาํ เลือก
ระบุภาพ หรือสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงความหมายของประโยค ขอ้ ความส้ันๆ ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่าน
บทสนทนา พูด เขียนให้ขอ้ มูลโตต้ อบเกี่ยวกบั ตนเอง แสดงความรู้สึก สื่อสารระหวา่ งบุคคล เขียนภาพ แผนผงั และ
แผนภูมิ ตารางแสดงขอ้ มูลตา่ งๆ ใชถ้ อ้ ยคาํ น้าํ เสียง และกิริยา ประโยคบอกความตอ้ งการเก่ียวกบั ตนเองคาํ คาํ สง่ั ที่ใช้
ในห้องเรียน ขอ้ ความที่ใชใ้ นการพูด เขยี น แสดงความตอ้ งการของตนเอง ให้ขอ้ มลู ความรู้สึกเก่ียวกบั ตนเอง และเร่ือง
ใกลต้ วั ใชค้ าํ สง่ั คาํ ขอร้อง และใหค้ าํ แนะนาํ บอกความเหมือน ความแตกต่าง ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ
กิจกรรมทางภาษา การร้องเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง พูด วาดภาพแสดงความสัมพนั ธ์ของส่ิงต่างๆ แสดง
ความคิดเห็นง่ายๆโดยใช้คาํ ศพั ทเ์ หมาะสมกบั วยั การใช้ภาษาในการฟัง พูดทาํ ท่าประกอบ และนาํ เสนอดว้ ยการพูด
เขียนอยา่ งสุภาพ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา อา่ น พดู ในสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน และสถานศึกษา

โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูลและมีทกั ษะทางสังคม มีวิถีของระบอบประชาธิปไตย
ซื่อสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และ นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาํ วนั

ผลการเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิตามคาํ ส่งั คาํ ขอร้องท่ีฟัง
๒. อา่ นออกเสียงตวั อกั ษร คาํ กลุม่ คาํ ประโยคงา่ ยๆ และ บทพูดเขา้ จงั หวะงา่ ยๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
๓. บอกความหมายของคาํ และกลุ่มคาํ ท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออา่ นประโยค บท

สนทนาหรือนิทานง่ายๆ
๔. พดู โตต้ อบดว้ ยคาํ ส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบที่ฟัง ใชค้ าํ ส่งั และคาํ ขอร้องง่ายๆ บอก

ความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง
๕. พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเพื่อน
๖.บอกความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั ส่ิงต่างๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ีฟัง
๗. พูดใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั จดั หมวดหมูค่ าํ ตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และส่ิงของตามท่ี

ฟังหรืออ่าน

๒๑๖

๘. พูดและทาํ ทา่ ประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
๙.บอกช่ือและคาํ ศพั ทง์ ่ายๆ เก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาํ คญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เขา้
ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
๑๐.บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คาํ กล่มุ คาํ และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาองั กฤษและภาษาไทย
๑๑. ฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
๑๒. ใชภ้ าษาองั กฤษ เพื่อรวบรวมคาํ ศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งใกลต้ วั
๑๓. มีทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษ (เนน้ การฟัง-พูด) สื่อสารตามหวั เรื่องเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
สิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั อาหาร เคร่ืองด่ืม และเวลาว่างและนนั ทนาการ ภายในวงคาํ ศพั ทป์ ระมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คาํ
(คาํ ศพั ทท์ ี่เป็นรูปธรรม)
๑๔.ใช้ประโยคคาํ เดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการสนทนาโตต้ อบตาม
สถานการณ์ในชีวิตประจาํ วนั

รวม ๑๔ ผลการเรียนรู้

๒๑๗

ว๑๔๒๐๑ สมุนไพรรอบตวั

รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษา วเิ คราะหเ์ ก่ียวกบั ความหมายของพชื สมุนไพร ลกั ษณะพชื สมนุ ไพร การเรียกช่ือพชื สมุนไพร เช่น
ช่ือสามญั ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชื่อพอ้ ง และชื่ออื่นๆ การเก็บพืชสมนุ ไพรการแปรสภาพพืชสมนุ ไพร การเกบ็ รักษาพืช
สมุนไพร ประโยชน์ของพชื สมุนไพร ขอ้ เสนอแนะการใชพ้ ืชสมุนไพร พืชสมนุ ไพรในทอ้ งถิ่น

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มลู การ
อภิปราย

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจเห็นคุณคา่
ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายของพืชสมนุ ไพร
๒. อธิบายลกั ษณะของพืชสมนุ ไพร
๓. เรียกช่ือสมุนไพรไดถ้ ูกตอ้ ง
๔. อธิบายการแปรสภาพของพชื สมุนไพร
๕. อธิบายการเกบ็ รักษาพชื สมุนไพร
๖. บอกประโยชน์ของพชื สมนุ ไพร
๗. สาํ รวจพชื สมนุ ไพรในทอ้ งถิ่น พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งและเรียกช่ือไดถ้ กู ตอ้ ง
รวม ๗ ผลการเรียนรู้

๒๑๘

ว๑๕๒๐๑ พืชดอกในท้องถ่นิ

รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษา วิเคราะหเ์ กี่ยวกบั วิวฒั นาการของพืชดอก ความหมายของพืชดอก ประเภทของพืชดอก ลกั ษณะหนา้ ที่
และโครงสร้างของพืชดอก การสืบพนั ธุ์ของพชื ดอก ประโยชนข์ องพชื ดอก วฏั จกั รชีวิตของพชื ดอก การเรียกชื่อของ
พชื ดอก เช่ือ ช่ือสามญั ช่ือวิทยาศาสตร์ ชื่อพอ้ ง และช่ืออ่ืนๆ ความหลากหลายของพชื ดอกในทอ้ งถ่ิน

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล การ
อภิปราย

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจเห็นคุณค่า
ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายววิ ฒั นาการของพชื ดอก
๒. อธิบายความหมายของพืชดอก
๓. จาํ แนกประเภทของพืชดอก
๔. อธิบายลกั ษณะหนา้ ท่ีและโครงสร้างของพืชดอก
๕. อธิบายการสืบพนั ธข์ องพืชดอก
๖. อธิบายวฏั จกั รชีวิตของพืชดอก
๗. บอกประโยชนข์ องพชื ดอก
๘. เรียกช่ือของพืชดอกไดถ้ ูกตอ้ ง
๙. สาํ รวจและระบคุ วามหลากหลายของพืชดอกในทอ้ งถิ่น
รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๒๑๙

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ว๑๖๒๐๑ พืชไร้ดอกในท้องถิ่น
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

\ ศึกษา วเิ คราะห์เกี่ยวกบั วิวฒั นาการของพืชไร้ดอก ความหมายของไร้พชื ดอก ประเภทของพืชไร้ดอก ลกั ษณะ
หนา้ ที่ และโครงสร้างของพืชไร้ดอก การสืบพนั ธุ์ของพืชไร้ดอก ประโยชนข์ องพืชไร้ดอก วฏั จกั รชีวิตของพืชไร้ดอก
การเรียกช่ือของพชื ไร้ดอก เชื่อ ชื่อสามญั ช่ือวิทยาศาสตร์ ชื่อพอ้ ง และชื่ออ่ืนๆ ความหลากหลายของพืชไร้ดอกใน
ทอ้ งถิ่น

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล การ
อภิปราย

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจเห็นคณุ คา่
ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายววิ ฒั นาการของพชื ไร้ดอก
๒. อธิบายความหมายของพชื ไร้ดอก
๓. จาํ แนกประเภทของพชื ไร้ดอก
๔. อธิบายลกั ษณะหนา้ ท่ีและโครงสร้างของพืชไร้ดอก
๕. อธิบายการสืบพนั ธข์ องพชื ไร้ดอก
๖. อธิบายวฏั จกั รชีวิตของพืชไร้ดอก
๗. บอกประโยชน์ของพชื ไร้ดอก
๘. เรียกชื่อของพืชไร้ดอกไดถ้ ูกตอ้ ง
๙. สาํ รวจและระบุความหลากหลายของพชื ไร้ดอกในทอ้ งถ่ิน
รวมท้งั หมด ๙ ผลการเรียนรู้

๒๒๐

รายวิชาเพมิ่ เตมิ ในระดับช้ันมัธยมศึกษา

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลห้วยกระเจา พุทธศักราช ๒๕๖๓

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

ท๒๐๒๐๑ การเขยี นการสร้างสรรค์ ๑

รายวชิ าเพม่ิ เติม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะในการเขียน ความคดิ สร้างสรรค์ โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอนและทกั ษะยอ่ ยของกระบวนการเขียน
กระบวนการคดิ

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะฟัง การคดิ

เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ การเขียน อยา่ งสร้างสรรค์ เห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาํ วนั มี
เจตคติที่ดีต่อภาษาไทย รักการเรียนรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการสามารถเขียนไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
๒. เขยี นสรุปใจความสาํ คญั โดยผา่ นกระบวนการเขยี น
๓. ถา่ ยทอดความคดิ เป็นตวั อกั ษร
๔. ใชภ้ าษาเขียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและสร้างสรรค์
๕. รักและมีเจตคติท่ีดีต่อวชิ าภาษาไทย
รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๒๒๑

ท๒๐๒๐๒ การเขยี นการสร้างสรรค์ ๒

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษา จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะในการเขยี น ความคดิ สร้างสรรค์ โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอนและทกั ษะยอ่ ยของกระบวนการเขียน
กระบวนการคดิ

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะฟัง การคิด

เพ่อื ใหเ้ กิดทกั ษะ การเขยี นอยา่ งสร้างสรรค์ เห็นคณุ คา่ ของการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาํ วนั มี
เจตคติที่ดีต่อภาษาไทย รักการเรียนรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พงึ ประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการสามารถเขียนไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
๒. เขียนสรุปใจความสาํ คญั โดยผา่ นกระบวนการเขียน
๓. ถ่ายทอดความคดิ เป็นตวั อกั ษร
๔. ใชภ้ าษาเขยี นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและสร้างสรรค์
๕. รักและมีเจตคติท่ีดีตอ่ วิชาภาษาไทย

รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๒๒๒

ท๒๐๒๐๓ การเล่านทิ าน ๑

รายวชิ าเพม่ิ เติม เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะในการพดู อารมณ์ ความรู้สึก ความคดิ สร้างสรรค์ โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอน และทกั ษะการเล่า
นิทาน

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะพดู การคดิ

เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ การแสดงออกในรูปแบบการเล่านิทานที่สร้างสรรคเ์ ห็นคุณคา่ การนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ในชีวิตประจาํ วนั มีเจตคติที่ดีต่อภาษาไทย รักการเรียนรู้ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการเล่านิทาน
๒. กลา้ แสดงออกท่ีถกู ตอ้ งอยา่ งสร้างสรรค์
๓. ถ่ายทอด คาํ พดู อารมณ์ ความรู้สึก ออกมาในรูปการแสดง
๔. รักและมีเจตคติที่ดีต่อวชิ าภาษาไทย
รวม ๔ ผลการเรียนรู้

๒๒๓

ท๒๐๒๐๔ การเล่านทิ าน ๒

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะในการพดู อารมณ์ ความรู้สึก ความคดิ สร้างสรรค์ โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอน และทกั ษะการเล่า
นิทาน

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะพดู การคดิ

เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ การแสดงออกในรูปแบบการเล่านิทานที่สร้างสรรคเ์ ห็นคณุ คา่ การนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ในชีวิตประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาไทย รักการเรียนรู้ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการเล่านิทาน
๒. กลา้ แสดงออกท่ีถกู ตอ้ งอยา่ งสร้างสรรค์
๓. ถา่ ยทอด คาํ พดู อารมณ์ ความรู้สึก ออกมาในรูปการแสดง
๔. รักและมีเจตคติที่ดีต่อวชิ าภาษาไทย
รวม ๔ ผลการเรียนรู้

๒๒๔

ค๒๐๒๐๑ คณิตในชีวิตประจําวัน ๑

รายวชิ าเพมิ่ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษา จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเรื่อง รูปเราขาคณิต จาํ นวนนบั ร้อยละในชีวิตประจาํ วนั ปัญหาชวนคิดระบบตวั เลขโรมนั ระบบตวั เลข
ฐานต่างๆ การเปล่ียนฐานวน ระบบตวั เลข การคิดคาํ นวณจาํ นวนเตม็ และเลขยกกาํ ลงั โจทยป์ ัญหาของจาํ นวนเตม็ และ
เลขยกกาํ ลงั การแบ่งส่วนของเสน้ ตรง การสร้างมมุ ขนาดต่างๆ สร้างรูปสามเหล่ียม ปละรูปส่ีเหลี่ยมดา้ นขนาน

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วธิ ีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล ประกอบการ
ตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพือ่ ใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผล เห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. ใชค้ วามรู้และทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ัญหาต่างๆ โดยตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของ
คาํ ตอบ

๒. อ่านและเขยี นตวั เลขโรมนั
๓. บอกคา่ เลขโดดในตวั เลขฐานตา่ งๆที่กาํ หนดให้
๔. เขียนตวั เลขที่กาํ หนดให้เป็นเลขฐานต่างๆ
๕. ใชค้ วามรู้เก่ียวกบั จาํ นวนเตม็ และเลขยกกาํ ลงั ในการแกป้ ัญหา โดยตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของ

คาํ ตอบ
๖. ใชก้ ารสร้างพ้นื ฐานในการสร้างรูปแบบท่ีซบั ซอ้ น
รวม ๖ ผลการเรียนรู้

๒๒๕

ค๒๐๒๐๒ คณติ ในชีวิตประจําวัน ๒

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษา จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเร่ือง ขอ้ ความคาดการณ์ ประโยคเง่ือนไข บทกลบั ของประโยคเง่ือนไขการใหเ้ หตผุ ล เอกนาม การบวก
การลบเอกนาม พนุนาม การบวกและการลบพหุนาม การคณู พหุนาม การหารพหุนาม แบบรูปของจาํ นวน ขา่ ยงาน
การประยกุ ตข์ องเศษส่วนและทศนิยม

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วิธีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล ประกอบการ
ตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผล เห็นคุณค่าของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีตอ่ คณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. สังเกต สร้างขอ้ ความคาดการณ์ ปละใหเ้ หตุผลทางคณิตศาสตร์อยา่ งงา่ ย
๒. หาผลบวกและผลลบของเอกนามและพหุนาม
๓. หาผลคณู และผลหารของเอกนามและพหุนมอยา่ งง่าย
๔. ใชค้ วามรู้และทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แกป้ ัญหาตา่ งๆ โดยตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของ

คาํ ตอบ
รวม ๔ ผลการเรียนรู้

๒๒๖

ค๒๐๒๐๓ กระบวนการคดิ ทางคณิต ๑

รายวชิ าเพมิ่ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเรื่อง สมบตั ิของเลขยกกาํ ลงั การดาํ เนินการเลขยกกาํ ลงั สมบตั ิอื่นๆ ของเลขยกกาํ ลงั ทบทวนพหุนาม
การคูณพหุนาม การหารพหุนาม การคูณและการหารเศษส่วนของพหุนาม การบวกและการลบเศษส่วนพหุนาม การ

บวกและการลบเศษส่วนพหุนาม อตั ราส่วน ร้อยละ การประยกุ ตเ์ ก่ียวกบั อตั ราส่วนและร้อยละ การประยกุ ตข์ องการ
แปลงทางเรขาคณิต

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล ประกอบการ
ตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพ่อื ใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผล เห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. คูณและหารจาํ นวนท่ีเขยี นอย่ใู นรูปเลขยกกาํ ลงั ที่มีเลขช้ีกาํ ลงั เป็นจาํ นวนเตม็ โดยใช่บทนิยามและสมบตั ิ
ของเลขยกกาํ ลงั และนาํ ไปใชแ้ กป้ ัญหา

๒. คาํ นวณและใชเ้ ลขยกกาํ ลงั นารเขียนแสดงจาํ นวนที่มีคา่ นอ้ ยๆหรือมากๆ ในรูปสญั ลกั ษณ์วทิ ยาศาสตร์
พร้อมท้งั ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาํ ตอบ

๓. บวก ลบ คณู และหาร พหุนาม
๔. บวก ลบ คูณ และหารเศษส่วนของพหุนามอยา่ งง่าย
๕. ใชค้ วามรู้เกี่ยวกบั อตั ราส่วน สัดส่วนและร้อยละแกป้ ัญหา หรือสถานการณ์ตา่ งๆ พร้อมท้งั ตระหนกั ถึง

ความสมเหตุสมผลของคาํ ตอบท่ี
๖. ใชค้ วามรู้เกี่ยวกบั การประยกุ ตข์ องการเปล่ียนแปลงทางเรขาคณิต
รวม ๖ ผลการเรียนรู้

๒๒๗

ค๒๐๒๐๔ กระบวนการคิดทางคณิต ๒

รายวิชาเพม่ิ เตมิ เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเรื่อง การแยกตวั ประกอบของพหุนามโดยใชส้ มบตั ิการแจกแจง การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรี
สองตวั แปรเดียว การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองท่ีเป็นกาํ ลงั สองท่ีเป็นกาํ ลงั สองสมบรู ณ์ การแยกตวั ประอบ

ของพหุนามดีกรีสองที่เป็นผลต่างของกาํ ลงั สอง-สมการกาํ ลงั สองตวั แปรเดียว โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั สมการกาํ ลงั สองตวั
แปรเดียว หารแปรผนั ตรง การแปรผกผนั การแปรผนั เก่ียวเน่ือง

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล ประกอบการ
ตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพ่ือใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผล เห็นคุณค่าของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. แยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองตวั แปรเดียว ที่มีสัมประสิทธ์ิของแตล่ ะพจน์เป็นจาํ นวนเตม็ และมี
สัมประสิทธ์ิของแตล่ ะพจน์ในพหุนามตวั ประกอบ เป็นจาํ นวนเตม็

๒. แกส้ มการกาํ ลงั สองตวั แปรเดียว โดยใชก้ ารแยกตวั ประกอบ
๓. แกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั กาํ ลงั สองตวั แปรเดียวโดยใชก้ ารแยกตวั ประกอบ และตะหนกั ถึงความ

สมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ
๔. เขยี นสมการแสดงการแปรผนั ระหวา่ งปริมาณสองปริมาณใดๆ ท่ีแปรผนั ต่อกนั
๕. แกป้ ัญหาหรือสถานการณ์ที่กาํ หนดให้ โดยใชค้ วามรู้เกี่ยวกบั การแปรผนั พร้อมท้งั ตระหนกั ถึงความ

สมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ
รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๒๒๘

ค๒๐๒๐๕ คณิตคิดสร้างสรรค์ ๑

รายวชิ าเพม่ิ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเรื่อง สมบตั ิของ เมื่อ การดาํ เนินการของจาํ นวนจริง ซ่ึงเกี่ยวกบั กรณฑท์ ี่สอง และการ
นาํ ไปใช้ การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสอง ท่ีเป็นผลตา่ งของกาํ ลงั สอง การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรี
สอง โดยวิธีทาํ เปนกาํ ลงั สองสมบูรณ์ การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสูงกวา่ สอง ที่มีสมั ประสิทธ์ิเป็นจาํ นวนเตม็
การแยกตวั ประกอบของพหุนมท่ีมีสัมประสิทธ์ิเป็นจาํ นวนเตม็

โดยใชท้ ฤษฎีบทเศษเหลือ ทบทวนสมการกาํ ลงั สอง การแกส้ มการกาํ ลงั สอง โดยวธิ ีทาํ เป็นกาํ ลงั สองสมบูรณ์

โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั สมการกาํ ลงั สอง สมการของพาราโบลา พาราโบลาท่ีกาํ หนดดว้ ยสมการ เมื่อ

พาราโบลาที่กาํ หนดดว้ ยสมการ เมื่อ พาราโบลาท่ีกาํ หนดดว้ ยสมการ

เม่ือ พาราโบลาท่ีกาํ หนดดว้ ยสมการ เมื่อ พ้ืนที่ของผิวพรี ามิด กรวย ทรงกลม

และการนาํ ไปใช้ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล

ประกอบการตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเชื่อมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพื่อใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผลเห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. สามารถใชส้ มบตั ิของ เม่ือ
๒. บวก ลบ คณู และหารจาํ นวนจริง ซ่ึงเก่ียวกบั กรณฑท์ ี่สองท่ีกาํ หนดให้
๓. นาํ ความรู้เกี่ยวกบั กรณฑท์ ี่สองไปใชแ้ กป้ ัญหา
๔. แยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยวิธีทาํ เป็นกาํ ลงั สองสมบูรณ์
๕. แยกตวั ประกอบพหุนามดีกรีสูงกวา่ สอง ท่ีมีสมั ประสิทธ์ิของแต่ละพจน์เป็นจาํ นวนเตม็ และไดต้ วั

ประกอบท่ีมีสัมประสิทธ์ิของแตล่ ะพจนเ์ ป็นจาํ นวนเตม็ โดยอาศยั วธิ ีทาํ เป็นกาํ ลงั สองสมบูรณ์ หรือใช้
ทฤษฎีเศษเหลือ
๖. แกส้ มการกาํ ลงั สองตวั แปรเดียว
๗. แกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั สมการกาํ ลงั สองตวั แปรเดียว โดยตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาํ ตอบ

๒๒๙

๘. เขียนกราฟพาราโบลาที่กาํ หนดให้
๙. บอกลกั ษณะของกราฟพาราโบลาท่ีกาํ หนดให้
๑๐. หาพ้นื ท่ีผวิ ของพีระมิด ทรงกรวย ทรงกลมได้
๑๑. แกป้ ัญหาหรือสถานการณ์ท่ีกาํ หนดให้ โดยใชค้ วามรู้เก่ียวกบั พ้ืนที่ผิวและปริมาตรโดยตระหนกั ถึงความ

สมเหตุสมผลของคาํ ตอบ
รวม ๑๑ ผลการเรียนรู้

๒๓๐

ค๒๐๒๐๖ คณิตคดิ สร้างสรรค์ ๒

รายวชิ าเพม่ิ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษา จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาเร่ือง ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกบั การใหเ้ หตุผลทางเรขาคณิต ทฤษฎีเก่ียวกบั รูปสามเหล่ียม และรูปส่ีเหล่ียม
การสร้างระบบสมการท่ีประกอบดว้ ยสมการเชิงเส้น และสมการดีกรีสอง ระบบสมการที่ประกอบดว้ ยสมการสมการ
ดีกรีสองท้งั สองสมการ วงกลม มุมจุดที่ศนู ยก์ ลางและมมุ ในส่วนโคง้ ของวงกลม คอร์ด เสน้ สมั ผสั วงกลม การ
ดาํ เนินการของเศษส่วนของพหุนามการแกส้ มการเศษส่วนของพหุนาม โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เศษส่วนของพหุนาม

โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ วธิ ีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล ประกอบการ
ตดั สินใจและสรุปผล การใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยงความรู้ การฝึกทกั ษะ

เพื่อใหเ้ กิดทกั ษะ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจและ
สรุปผลเห็นคณุ คา่ ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั มีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ รักการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ผลการเรียนรู้

๑. ใชส้ มบตั ิเกี่ยวกบั รูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหล่ียม ในการใหเ้ หตุผล
๒. สร้างและใหเ้ หตุผลเก่ียวกบั การสร้างท่ีกาํ หนดให้
๓. แกร้ ะบบสมการสองตวั แปรท่ีสมการมีดีกรีไม่เกินสองงที่กาํ หนดให้
๔. แกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ระบบสมการสองตวั แปรท่ีสมการมรดีกรีไมเ่ กินสองที่กาํ หนดให้
๕. ใชส้ มบตั ิเก่ียวกบั วงกลมในการใหเ้ หตุผล และแกป้ ัญหาท่ีกาํ หนดให้
๖. บวก ลบ คูณและหารเศษส่วนของพหุนามที่กาํ หนดให้
๗. แกส้ มการเศษส่วนของพหุนาม
๘. แกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เศษส่วนของพหุนาม
๙. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ
รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๒๓๑

ว๒๐๒๐๑ การทําโครงงานวิทยาศาสตร์

รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันมัธยมศึกษา เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ เก่ียวกบั ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์

กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการจดั ทาํ โครงงาน ลาํ ดบั ข้นั ตอนในการทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์ วิธีคดิ เร่ืองที่จะทาํ

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ การวิเคราะห์โครงงานวทิ ยาศาสตร์ การเลือกเรื่องที่จะทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์ การต้งั ช่ือ

โครงงานและการกาํ หนดวตั ถุประสงค์ การวางแผนและการออกแบบการทดลอง เคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตร์

การลงมือทาํ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ และการนาํ เสนอผลงานโครงงาน

วทิ ยาศาสตร์

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มลู การ

อภิปราย

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคณุ คา่

ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายโครงงานวิทยาศาสตร์

๒. อธิบายถึงประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

๓. อธิบายกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการจดั ทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์

๔. อธิบายลาํ ดบั ข้นั ตอนในการทาํ โครงงานวทิ ยาศาสตร์

๕. มีวธิ ีคิดเรื่องที่จะทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์

๖. วิเคราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์

๗. อธิบายการต้งั ชื่อโครงงานและการกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค์

๘. วางแผนและการออกแบบการทดลอง

๙. เขยี นอธิบายเคา้ โครงของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

๑๐. ลงมือทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์

๑๑. เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

๑๒.นาํ เสนอผลงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์

รวม ๑๒ ผลการเรียนรู้

๒๓๒

ว๒๐๒๐๒ พนั ธุกรรม

รายวิชาเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษา
เวลา ๒๐ ชั่วโมง จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกบั ความหมายของพนั ธุกรรม การคน้ พบของเมนเดล กระบวนการถ่ายทอดลกั ษณะทาง
พนั ธุกรรม ลกั ษณะที่ถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม กฎการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม และไมโอซีส สารพนั ธุกรรม
การกลายพนั ธุ์ ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม โรคทางพนั ธุกรรม และ ประโยชน์ทางพนั ธุกรรม

โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล การ
อภิปราย

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่า
ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายความหมายพนั ธุกรรม
๒. อธิบายถึงกระบวนการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
๓. อธิบายกฏการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม และไมโอซีส
๔. อธิบายการกลายพนั ธุ์ ความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม
๕. อธิบายโรคทางพนั ธุกรรม
๖. บอกถึงประโยชนท์ างพนั ธุกรรม
๗. อธิบายการต้งั ช่ือโครงงานและกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค์
รวม ๗ ผลการเรียนรู้

๒๓๓

ว๒๐๒๐๓ การจดั ทาํ หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์

รายวิชาเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันมัธยมศึกษา เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาเก่ียวกบั ความรู้โปรแกรม Flip Album ในการจดั ทาํ หนังสืออิเล็กทอรอนิกส์ เพื่อเป็ นสื่ออิเล็กทรอนิกส์
หรือสื่อดิจิทลั หลายรูปแบบ ท่ีเรียกขานช่ือเป็น e-Book หรือ Electronics Book ดว้ ยพฒั นาการของเทคโนโลยีมลั ติมีเดีย

ทาํ ให้ e-Book ไดร้ ับการพฒั นาใหน้ าํ เสนอไดท้ ้งั ขอ้ ความ ภาพน่ิง ภาพเคลื่อนไหว วีดิทศั น์ และเสียงเป็น Multimedia e-
book ในการเรียนการศึกษา การออกแบบหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ การกาํ หนดรูปแบบการนาํ เสนอขอ้ มูล การกาํ หนด
หน้ากระดาษ การกาํ หนดรูปแบบตวั อกั ษร การกาํ หนดสีอกั ษร การแทรกเลขหนา้ กระดาษ การแทรกสัญลกั ษณ์ การ
แทรกรูปภาพ การจดั เก็บขอ้ มูล การพิมพข์ อ้ มูล การทาํ รายงานดว้ ยการนาํ เสนอขอ้ มูล การสร้างหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์
ตกแตง่ นาํ เสนอ และเผยแพร่ ดว้ ยใชโ้ ปรแกรม Flip Album

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการลงมือปฏิบตั ิ ทกั ษะการแสวงหาความรู้
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ เห็นคุณค่าในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั
มีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคม์ ีความซื่อสตั ยส์ ุจริต ใฝ่เรียนรู้
ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายการใชโ้ ปรแกรม Flip Album เพือ่ จดั ทาํ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์

๒. ติดต้งั การใชง้ านโปรแกรม Flip Album

๓. การออกแบบหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์โดยใชโ้ ปรแกรม Flip Album

๔. กาํ หนดกราฟฟิ ค และเทคโนโลยสี ่ือผสมดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๕. กาํ หนดหนา้ กระดาษดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๖. กาํ หนดรูปแบบตวั อกั ษร กาํ หนดเสน้ ขอบและแรเงา สีอกั ษรดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๗. แทรกเลขหนา้ กระดาษ แทรกสัญลกั ษณ์ และแทรกรูปภาพดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๘. ตกแตง่ Multimedia e-book ดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๙. นาํ เสนอ Multimedia e-book ดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๑๐. จดั เกบ็ ขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรม Flip Album

๑๑. บอกประโยชน์ของโปรแกรม Flip Album

๑๒.ผลิตหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เพ่ือใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั

๑๓.ผลิตเผยแพร่ผลงานดว้ ย Multimedia e-book

รวม ๑๓ ผลการเรียนรู้

๒๓๔

ว๒๐๒๐๔ โครงงานคอมพวิ เตอร์

รายวิชาเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษา เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้เกี่ยวกับการทําโครงงาน การออกแบบการทําโครงงานคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของ
โครงงานคอมพิวเตอร์ ข้นั ตอนการทาํ โครงงาน การเลือกใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในการทาํ โครงงาน การทาํ ปฏิทินจาก
คอมพิวเตอร์ การผลิตใบความรู้การใช้โปรแกรมต่าง ๆ การประดิษฐ์ของเล่นของใช้จากวสั ดุคอมพิวเตอร์ รถของเล่น
จาก เมาส์ชาํ รุด การวาดภาพบนแผน CD การทาํ โมบายจากแผ่น CD ประโยชน์ของการทาํ โครงงานคอมพิวเตอร์ การ
เลือกทาํ โครงงานท่ีตนเองสนใจ การนาํ เสนอโครงงาน การเผยแพร่ และการนาํ เสนอโครงงานเป็นนิทรรศการวิชาการ

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการลงมือปฏิบตั ิ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถ
ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ได้

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ได้ เห็นคุณค่าในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ น
ชีวิตประจาํ วนั มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต ใฝ่เรียนรู้

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายการทาํ โครงงานคอมพิวเตอร์
๒. ออกแบบการโครงงานคอมพิวเตอร์
๓. บอกประโยชน์ของการทาํ โครงงานคอมพวิ เตอร์
๔. บอกข้นั ตอนการทาํ โครงงานคอมพิวเตอร์
๕. เลือกใชโ้ ปรแกรมตา่ ง ๆ ในการทาํ โครงงาน
๖. ลงมือทาํ ปฏิทินจากคอมพวิ เตอร์
๗. ผลิตใบความรู้การใชโ้ ปรแกรมต่าง ๆ
๘. ประดิษฐ์ของเล่นของใชจ้ ากเศษวสั ดุคอมพิวเตอร์
๙. ทาํ รถของเล่นจากเมาส์ที่ชาํ รุด
๑๐. วาดภาพบนแผ่น CD
๑๑. ทาํ โมบายจากแผน่ CD
๑๒. เลือกทาํ โครงงานที่ตนเองสนใจ
๑๓. นาํ เสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
๑๔. เผยแพร่ การทาํ โครงงานโดยจดั นิทรรศการวิชาการ

รวม ๑๔ ผลการเรียนรู้

๒๓๕

ว๒๐๒๐๕ การใช้โปรแกรม Microsoft Power Point

รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษา
เวลา ๔๐ ชั่วโมง จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาและอธิบายประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Power Point เพือ่ การนาํ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยกรฟฟิ ก และ
เทคโนโลยสี ื่อประสม การกาํ หนดรูปแบบการนาํ เสนอขอ้ มลู การกาํ หนด การต้งั คา่ หนา้ กระดาษ การกาํ หนดรูปแบบ
ตวั อกั ษร กาํ หนดเสน้ ขอบและแรเงา การกาํ หนดสีอกั ษร การลบขอ้ มลู การแทรกเลขหนา้ กระดาษ การแทรกสญั ลกั ษณ์
การแทรกรูปภาพ การสร้างตาราง การจดั เกบ็ ขอ้ มูล การพิมพข์ อ้ มูล การทาํ รายงานดว้ ยการนาํ เสนอขอ้ มลู โดยใช้
โปรแกรม Microsoft Power Point

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการลงมือปฏิบตั ิ ทกั ษะการแสวงหาความรู้

เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้เห็นคณุ คา่ ในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั มี
ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต ใฝ่ เรียนรู้
ผลการเรียนรู้

๑. กาํ หนดรูปแบบการนาํ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๒. กาํ หนดกราฟฟิ ก และเทคโนโลยสี ื่อผสมดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๓. ต้งั คา่ หนา้ กระดาษดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๔. กาํ หนดรูปแบบตวั อกั ษร เสน้ ขอบและแรเงา สีอกั ษรดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๕. ลบขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๖. แทรกเลขหนา้ กระดาษ แทรกสญั ลกั ษณ์ แทรกรูปภาพดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๗. สร้างตารางดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๘. เช่ือมต่อขอ้ มูลอยา่ งเป็นระบบดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๙. สามารถจดั เกบ็ ขอ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๑๐. พมิ พข์ อ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๑๑. รายงานนาํ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
๑๒.บอกประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Power Point
๑๓. ผลิตชิ้นงานเพ่ือใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Power Point
รวม ๑๓ ผลการเรียนรู้

๒๓๖

ส๒๐๒๐๑ ประวัติศาสตร์การต้งั ถิน่ ฐานในไทย

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันมัธยมศึกษา
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา คน้ ควา้ วิเคราะห์ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทย หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ การแบง่ ยคุ
ประวตั ิศาสตร์ ปัจจยั กาต้งั ถิ่นฐานของมนุษย์ การต้งั ถ่ินฐานของมนุษยใ์ นดินแดนประเทศไทย สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์
สมยั ประวตั ิศาสตร์ การก่อร่างสร้างตวั ของชนชาติไทย อาณาจกั รน่านจา้ อาณาจกั รหริภุญชยั อาณาจกั รพะเยา
อาณาจกั รลา้ นนา

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกลมุ่ กระบวนการสืบคน้ การสาํ รวจ การสืบเสาะหาความรู้ข้นั ตอนวธิ ีการทาง
ประวตั ิศาสตร์

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ ตระหนกั ในคุณคา่ ความสาํ คญั ของการนาํ
ความรู้ไปปรับใชใ้ นการดาํ เนินชีวิตประจาํ วนั เป็นผใู้ ฝ่ รู้ใฝ่เรียน มีความคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ เกิดความรัก ความ
ภาคภมู ิใจในประเทศไทย และเหนความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งร่วมมือกนั ธาํ รงไวซ้ ่ึงความเป็นชาติไทย

ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย
๒. ระบหุ ลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
๓. อธิบายการแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
๔. ระบุปัจจยั กาต้งั ถิ่นฐานของมนุษยใ์ นดินแดนประเทศไทย
๕. วิเคราะหป์ ระวตั ิความเป็นมา การเมือง การปกครอง ของอาณาจกั รน่านจา้
๖. วิเคราะหป์ ระวตั ิความเป็นมา การเมือง การปกครอง ของอาณาจกั รหริภุญชยั
๗. วเิ คราะห์ประวตั ิความเป็นมา การเมือง การปกครอง ของอาณาจกั รพะเยา
๘. วเิ คราะห์ประวตั ิความเป็นมา การเมือง การปกครอง ของอาณาจกั รลา้ นนา
๙. ตระหนกั ในคุณค่าความสาํ คญั ของการเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์
๑๐. ใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ในการสืบคน้ ความรู้
รวม ๑๐ ผลการเรียนรู้

๒๓๗

ส๒๐๒๐๒ กาญจนบุรี

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันมัธยมศึกษา
เวลา ๒๐ ชั่วโมง จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา คน้ ควา้ สืบคน้ วิเคราะห์ บูรณาการสภาพปัญหาชีวิตของชุมชน ทอ้ งถ่ิน ในเรื่องประวตั ิความเป็นมาของ
จงั หวดั กาญจนบุรี สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ สมยั สงครามโลกคร้ังที่ ๒ ขอ้ มลู ดา้ นอาณาเขต ขนบธรรมเนียม ประเพณี
วฒั นธรรม บุคคลสาํ คญั ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น อาชีพ สถานท่ีทอ่ งเท่ียว สถานที่สาํ คญั ในประวตั ิศาสตร์

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการสืบคน้ การทศั นศึกษา การเชิญวิทยากร การสาํ รวจ การสืบเสาะ
หาความรู้ ข้นั ตอนวิธีการทางประวตั ิศาสตร์

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาํ ความรู้ไปปรับใชใ้ นการดาํ เนินชีวิต ตระหนกั ในคุณค่า
ความสาํ คญั ของจงั หวดั กาญจนบรุ ี ใฝ่รู้ใฝ่ เรียน มีความรับผิดชอบ เกิดความรัก ความภาคภมู ิใจในทอ้ งถ่ินตน
ผลการเรียนรู้

๑. บอกประวตั ิความเป็นมาของจงั หวดั กาญจนบุรีสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ สมยั สงครามโลกคร้ังที่ ๒
๒. สืบคน้ ขอ้ มูลดา้ นอาณาเขต ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม บคุ คลสาํ คญั ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
๓. สาํ รวจอาชีพต่างๆในจงั หวดั กาญจนบุรี
๔. แสดงออกถึงความรัก ภาคภูมิใจ บคุ คลสาํ คญั ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น
๕. สาํ รวจสถานท่ีทอ่ งเท่ียว สถานที่สาํ คญั ในประวตั ิศาสตร์ ของจงั หวดั กาญจนบรุ ี
๖. พดู แนะนาํ เก่ียวกบั สถานท่ีท่องเที่ยว สถานที่สาํ คญั ในประวตั ิศาสตร์ของจงั หวดั กาญจนบรุ ี
๗. บอกวธิ ีการรอนุรักษส์ ถานท่ีสาํ คญั ทางประวตั ิศาสตร์ของจงั หวดั กาญจนบุรี
๘. นาํ วิธีการทางประวศิ าสตร์ มาใชศ้ ึกษาเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์ของจงั หวดั กาญจนบรุ ี
รวม ๘ ผลการเรียนรู้

๒๓๘

ส๒๐๒๐๓ วิถสี หกรณ์พอเพยี ง

รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันมธั ยมศึกษา
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา คน้ ควา้ ข้นั ตอนและประโยชนข์ องการรวมกลุ่ม ความหมาย ประโยชน์ หลกั การของสหกรณ์ ๗ ขอ้
ข้นั ตอน การจดั ต้งั สหกรณ์ การจดั ต้งั กิจกรรมสหกรณ์นกั เรียน ประเภทลกั ษณะสาํ คญั ของสหกรณ์ โครงสร้างสหกรณ์
บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิก การจดั ทาํ บนั ทึกรายรับรายจ่าย ของแตล่ ะกิจกรรมสหกรณ์ การบนั ทึกรายรับรายจ่ายใน
ชีวิตประจาํ วนั ลาํ ดบั ข้นั ตอน การดาํ เนินงาน สหกรณ์ การแสดงความคดิ เห็น

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทาํ งานร่วมกนั ทกั ษะการแสวงหาความรู้ การระดมสมองการเรียนแบบร่วมมือ การ
เรียนรู้นอกสถานที่

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจสามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ เห็นคณุ คา่ ของการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั
ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีความสามคั คี อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง รู้จกั ตนเอง พ่งึ ตนเอง มีนิสยั ในการเป็นผผู้ ลิตที่ดี มีความพอใจในการ
บริโภค มีความรับผิดชอบ เคารพสิทธิของผอู้ ื่นและเห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวม

ผลการเรียนรู้

๑. ระบขุ ้นั ตอนและประโยชน์ของการรวมกล่มุ สหกรณ์
๒. บอกความหมายและประโยชน์ของการรวมกลมุ่ สหกรณ์
๓. อธิบายหลกั การของสหกรณ์ ๗ ขอ้
๔. ระบขุ ้นั ตอน การจดั ต้งั สหกรณ์
๕. ระบปุ ระเภทของสหกรณ์ ท้งั ๗ ประเภท
๖. อธิบายลกั ษณะสาํ คญั ของสหกรณ์แต่ละประเภท
๗. อธิบายบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกสหกรณ์
๘. ดาํ เนินงานการประชุมสหกรณ์ตามลาํ ดบั ข้นั ตอน
๙. จดั ทาํ บญั ชี บนั ทึกรายรับรายจ่ายประจาํ วนั
๑๐. เห็นคุณค่าความสาํ คญั ของการจดั ทาํ บญั ชีรายรับรายจ่าย
รวม ๑๐ ผลการเรียนรู้

๒๓๙

ส๒๐๒๐๔ กรุงรัตนโกสินทร์

รายวชิ าเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันมธั ยมศึกษา
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา คน้ ควา้ วเิ คราะห์ เหตุการณ์สาํ คญั โดยใชว้ ธิ ีทางประวตั ิศาสตร์ ในสมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ต้งั แตก่ าร
สถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี บทบาทของพระมหากษตั ริยไ์ ทยในราชวงศจ์ กั รี ในการสรางสรรคค์ วามเจริญ
และความมน่ั คงของชาติ สภาพทางดา้ นการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกลมุ่ กระบวนการสืบคน้ การสาํ รวจ การสืบเสาะหาความรู้ ข้นั ตอนวิธีการทาง
ประวตั ิศาสตร์

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ ตระหนกั ในคุณค่าความสาํ คญั ของการนาํ
ความรู้ไปปรับใชใ้ นการดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั เป็นผใู้ ฝ่เรียนใฝ่รู้ มีคามคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ เกิดความรัก ความ
ภาคภมู ิใจในประเทศไทย และเห็นความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งร่วมมือกนั ดาํ รงไวซ้ ่ึงความเป็นชาติไทย
ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายข้นั ตอนวธิ ีทางประวตั ิศาสตร์
๒. สืบคน้ ขอ้ มูล การสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี ดว้ ยวิธีการทางประวตั ิศาสตร์
๓. สืบคน้ บทบาทของพระมหากษตั ริยไ์ ทยในราชวงศจ์ กั รี ในการสรางสรรคค์ วามเจริญและความมน่ั คงของ

ชาติ สภาพทางดา้ นการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สงั คม ดว้ ยวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์
๔. แสดงลาํ ดบั ข้นั ตอนในการนาํ เสนอความรู้อยา่ งครบถว้ น สมบูรณ์
๕. ตระหนกั ในคุณค่าความสาํ คญั ของการเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์
๖. แสดงออกถึงคณุ ลกั ษณะความเป็นใฝ่รู้ใฝ่ เรียน มีคามคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ เกิดความรัก ความภาคภูมิใจ

ในประเทศไทย และเห็นความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งร่วมมือกนั ดาํ รงไวซ้ ่ึงความเป็นชาติไทย
รวม ๖ ผลการเรียนรู้

๒๔๐

ส๒๐๒๐๕ โครงงานสังคมศึกษา

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันมัธยมศึกษา
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จาํ นวน ๐.๕ หน่วยกติ

สาํ รวจ ศึกษา วเิ คราะห์ ระดมความคิด การสงั เกตสาํ รวจสภาพปัจจุบนั ปัญหาในโรงเรียน สภาพแวดลอ้ มใน
ชุมชน อนั จะนาํ ไปสู่การระบุเร่ืองปัญหาในการจดั ทาํ โครงงาน ศึกษาคน้ ควา้ เอกสารที่เก่ียวขอ้ ง ท้งั ทางดา้ นทฤษฎี
หลกั การ แนวคดิ ตา่ ง ๆ เทคนิค ปฏิบตั ิการที่เกี่ยวขอ้ งกบั การทาํ โครงงาน รวบรวมขอ้ มูล ออกแบบ สร้างนวตั กรรม
ดาํ เนินงาน เขียนเคา้ โครงโครงงานและเขยี นรายงานโครงงาน ๕ บท และการจดั นิทรรศการนาํ เสนอโครงงาน

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เง่ือนไขคณุ ธรรมและเง่ือนไขความรู้
กระบวนการแกป้ ัญหาในการจดั ทาํ โครงงาน

เพอื่ ใหเ้ กิดการร่วมคดิ ร่วมกนั ทาํ ดีอยา่ งมีปัญญา สามารถนาํ ความรู้ไปใชใ้ นการแสวงหาความรู้ใหม่ และ
แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง เห็นคณุ ค่าในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ตระหนกั ในความ
รับผดิ ชอบ มีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ มีสติรู้เทา่ ทนั มีจิตสาธารณะตอ่ การทาํ งานอยา่ งมีคณุ คา่ ต่อชีวติ ตนเอง และสงั คม
โดยส่วนรวม
ผลการเรียนรู้

๑. อธิบายโครงสร้างองคป์ ระกอบสาํ คญั ของโครงงาน
๒. สาํ รวจ วเิ คราะห์ สภาพปัญหาในโรงเรียน สภาพแวดลอ้ มในชุมชน
๓. ศึกษา คน้ ควา้ เอกสารเรื่องที่เก่ียวขอ้ งกบั การทาํ โครงงาน
๔. ลงมือปฏิบตั ิการจดั ทาํ โครงงาน
๕. นาํ เสนอเอกสารรายงานโครงงาน ๕ บท
๖. นาํ เสนอนิทรรศการโครงงาน
๗. ตระหนกั ในคุณคา่ และความสาํ คญั ในการเรียนรู้ และปลกู ฝังคุณธรรมความดีงาม ตามแนวปรัชญา

เศรษฐกิจพอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรียนรู้

๒๔๑

ศ๒๐๒๐๑ พื้นฐานการร่ายรํา

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ช้ันมธั ยมศึกษา จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนงั สือ และอินเทอร์เน็ต วดิ ิทศั น์ จากหอ้ งสมดุ และแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและ
นอกโรงเรียน รวมท้งั ปราชญช์ าวบา้ น และฝึกปฏิบตั ิการแสดงแหลง่ เรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน รวมท้งั
ปราชญช์ าวบา้ น และฝึกปฏิบตั ิการแสดงท่าทางตามนาฏยศพั ท์ ไดแ้ ก่ การจีบ การต้งั วง การกระดกเทา้ การยกเทา้ การ
กา้ วเทา้ การถดั เทา้ ทา่ จรดเทา้ สะดุดเทา้ การวางส้นเทา้ แสดงทา่ ทางนาฏศิลป์ ไดแ้ ก่ ฉนั เรา รัก ชื่นชม ห่มผา้ คดิ ถึง
เสียใจ ไม่สบาย ร้องไห้ เรียกเขา้ มาหา้ ม ปฏิเสธ แสดงท่าทางเลียนแบบกิริยาของสตั ว์ ไดแ้ ก่ ท่านกบิน ท่าไก่ ท่าปลา ทา่
ควบมา้ ทา่ กวาง รํานาฏศิลป์ พ้นื ฐาน สร้างสรรคผ์ ลงานการแสดงโดยอิสระ

โดยใชท้ กั ษะการฝึกแสดงจากครู วทิ ยากร ปราชญช์ าวบา้ น ส่ือวดิ ิทศั น์ และทศั นศึกษาแหล่งเรียนรู้ตรง

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ เห็นคุณคา่ ในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั
เห็นคณุ คา่ ศิลปวฒั นธรรมไทย รักและภาคภมู ิใจในความเป็นชาติไทย

ผลการเรียนรู้

๑. มีความรู้และเขา้ ใจภาษาทา่ ทางตามนาฏยศพั ทแ์ ละภาษาทา่ ทางนาฏศิลป์
๒. แสดงทา่ ทางตามนาฏยศพั ท์ ไดแ้ ก่ การจีบ การต้งั วง การกระดกเทา้ การยกเทา้ การกา้ วเทา้ การถดั เทา้ ทา่

จรดเทา้ สะดุดเทา้ การวางสน้ เทา้
๓. แสดงทา่ ทางนาฏศิลป์ ไดแ้ ก่ เรา รัก ช่ืนชม ห่มผา้ คิดถึง เสียใจ ไม่สบาย ร้องไห้ เรียกเขา้ มาหา้ ม ปฏิเสธ
๔. แสดงท่าทางเลียนแบบกิริยาของสัตว์ ไดแ้ ก่ ทา่ นกบิน ทา่ ไก่ ทา่ ปลา ท่าควบมา้ ทา่ กวาง
๕. ราํ นาฏศิลป์ พ้นื ฐาน
๖. รักและภาคภมู ิใจในศิลปวฒั นธรรมไทย
รวม ๗ ผลการเรียนรู้

๒๔๒

ง๒๐๒๐๑ ห้องสมุดและเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษาค้นคว้า

รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ

ช้ันมัธยมศึกษา เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนังสือ และส่ืออ่ืน ๆ จากห้องสมุดและแหล่งการเรียนรู้ในโรงเรียนและนอก
โรงเรียน รู้จกั ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นเครื่องมือเพื่อสืบค้นขอ้ มูลสารสนเทศ สามารถเลือกใช้ส่ือสารสนเทศ

ประเภทต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ตามความสนใจความสามารถ และความถนัดของตน มีจิตสํานําที่ดี มีมารยาทและ
คุณธรรมในการใชห้ ้องสมุด ส่ืออิเล็กทรอนิกส์และแหล่งการเรียนรู้ เห็นความสําคญั ของการอ่าน การเขียนบนั ทึกการ
อ่าน และนาํ เสนอขอ้ มูลดว้ ยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเขียนรายงาน และการใช้เทคโนโลยนี ําเสนอขอ้ มูล รักการคน้ ควา้
ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนื่องไปตลอดชีวติ มีความกระตือรือร้น ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และมีวิธีการเรียนรู้

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ท้งั ในห้องเรียนและนอกหอ้ งเรียน
ทกั ษะการเขียนรายงาน ทกั ษะการนาํ เสนอ

เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ เห็นคณุ ค่าในการนาํ ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั
มีจิตสาํ นึกที่ดี มีมารยาท ตระหนกั ในความสาํ คญั ของการอา่ น การเขยี นบนั ทึกการอ่าน และนาํ เสนอขอ้ มูล รักการ
คน้ ควา้ มีความกระตือรือร้น ใฝ่รู้ใฝ่เรียน

ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายเกี่ยวกบั หอ้ งสมดุ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารสถานบริการ แหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ
๒. ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ในหอ้ งสมุดไดด้ ว้ ยตนเอง
๓. ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ และมีนิสัยรักการอา่ น ใฝ่เรียนใฝ่รู้
๔. ปฏิบตั ิตนตามระเบียบและมีมารยาท คณุ ธรรมในการใชห้ ้องสมดุ และแหลง่ การเรียนรู้อ่ืนไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ
๕. อธิบายเก่ียวกบั วสั ดุสารนิเทศท้งั ท่ีเป็นวสั ดุตีพมิ พ์ วสั ดุไมต่ ีพิมพ์ และวสั ดุอิเลก็ ทรอนิกส์
๖. อธิบายการจดั เก็บวสั ดุสารนิเทศท้งั ที่เป็นวสั ดุตีพมิ พ์ วสั ดุไมต่ ีพมิ พ์ และวสั ดุอิเลก็ ทรอนิกส์
๗. อธิบายบรรณนิทศั น์ การบนั ทึกขอ้ มูลจากการอ่าน สรุปเน้ือหาสาระของหนงั สือ และจุดมุ่งหมายของ
หนงั สือที่อ่านโดยสงั เขป
๘. สืบคน้ ขอ้ มูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อทาํ รายงาน
๙. เขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง

รวม ๙ ผลการเรียนรู้

๒๔๓

ง๒๐๒๐๒ งานประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้

รายวิชาเพม่ิ เตมิ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ช้ันมัธยมศึกษา จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

ความหมายของการประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้ แหล่งที่มาของวสั ดุเหลือใช้ การพิจารณาวสั ดุเหลือใช้ท่ีนํามา
ประดิษฐ์ ประโยชน์ที่ไดจ้ ากการประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้ ประโยชน์ของการประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้ หลกั สําคญั ในการ
ประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้ ประเภทของการประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้ ประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่ง ของเล่น และของชาํ ร่วย
เลือกใชแ้ ละการดูแลรักษาวสั ดุอุปกรณ์ในงานประดิษฐ์ จดั ทาํ บญั ชีรายรับรายจ่าย คดิ คาํ นวณตน้ ทนุ กาํ ไร กาํ หนดราคา
ขาย ใช้ทรัพยากรที่มีในทอ้ งถ่ินไดอ้ ย่างประหยดั มีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

โดยใช้กระบวนการทาํ งาน และการจดั การ การทาํ งานกลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาในการ
ทาํ งาน รักการทาํ งาน และมีเจตคติที่ดีต่องาน

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ เห็นคุณค่า มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ประหยดั มี
ทักษะ มีจิตสํานึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมในการทาํ งาน เพ่ือการดาํ รงชีวิตและครอบครัวที่
เกี่ยวขอ้ งกบั การทาํ งาน
ผลการเรียนรู้

๑. บอกความหมายของการประดิษฐว์ สั ดุเหลือใช้
๒. บอกแหล่งท่ีมาของวสั ดุเหลือใช้
๓. พจิ ารณาวสั ดุเหลือใชน้ าํ มาประดิษฐ์
๔. บอกประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการประดิษฐว์ สั ดุเหลือใช้
๕. บอกและเห็นคณุ ค่าของประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากงานประดิษฐ์วสั ดุเหลือใช้
๖. บอกหลกั การสาํ คญั ในการประดิษฐว์ สั ดุเหลือใช้
๗. ยกตวั อยา่ งประเภทของการประดิษฐว์ สั ดุเหลือใช้

๘. เลือกใชแ้ ละการดูแลรักษาวสั ดุอปุ กรณ์ในงานประดิษฐ์
๙. ประดิษฐข์ องใชข้ องตกแต่ง ของเล่น และของชาํ ร่วยไดอ้ ยา่ งนอ้ ย ๓ อยา่ ง
๑๐. จดั ทาํ บญั ชีรายรับ รายจ่าย คิดคาํ นวณตน้ ทุน กาํ ไร กาํ หนดราคาขาย
๑๑. รณรงคใ์ นการลดภาวะโลกร้อน
๑๒.ใชท้ รัพยากรท่ีมีในทอ้ งถิ่นไดอ้ ยา่ งประหยดั
๑๓. ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการนาํ เศษวสั ดุเหลือใชก้ ลบั มาใชใ้ หม่
รวม ๑๓ ผลการเรียนรู้

๒๔๔

ง๒๐๒๐๓ งานเย็บปักถกั ร้อย

รายวิชาเพม่ิ เติม เวลา ๔๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ช้ันมธั ยมศึกษา จาํ นวน ๑.๐ หน่วยกติ

หลกั สําคญั ความหมายของงานเยบ็ ปักถกั ร้อย แหล่งท่ีมางานวสั ดุเยบ็ ปักถกั ร้อย การพิจารณาวสั ดุงานเยบ็ ปัก
ถกั ร้อย ประเภทของงานเยบ็ ปักถกั ร้อย ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการเยบ็ ปักถกั ร้อย เลือกใชแ้ ละการดูแลรักษาวสั ดุอุปกรณ์ใน
การทาํ งานเยบ็ ปักถกั ร้อย จดั ทาํ บญั ชีรายรับรายจ่าย คิดคาํ นวณตน้ ทุน กาํ ไร กาํ หนดราคาขาย ใช้ทรัพยากรท่ีมีใน
ทอ้ งถิ่นไดอ้ ยา่ งประหยดั โดยยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โดยใชก้ ระบวนการทาํ งาน และการจดั การ การทาํ งานกลุ่ม การแสวงหาความรู้

เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ เห็นคณุ ค่า มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ประหยดั คิด
แกป้ ัญหาในการทาํ งาน รักการทาํ งาน และมีเจตคติที่ดีต่องาน มีจิตสาํ นึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และ
ส่ิงแวดลอ้ มในการทาํ งาน เพื่อการดาํ รงชีวิตและครอบครัวท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การทาํ งาน

ผลการเรียนรู้

๑. บอกความหมายของงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๒. บอกประเภทของงานเยบ็ ปักถกั ร้อย

๓. ออกแบบงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๔. บอกประโยชน์ที่ไดจ้ ากงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๕. บอกและเห็นคุณคา่ ของประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๖. บอกหลกั การสาํ คญั ของงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๗. เลือกใชแ้ ละการดูรักษาวสั ดุอุปกรณ์ในงานเยบ็ ปักถกั ร้อย
๘. ปฏิบตั ิชิ้นงานเยบ็ ปักถกั ร้อยได้ อยา่ งนอ้ ย ๒ อยา่ ง
๙. จดั ทาํ บญั ชีรายรับ รายจ่าย คิดคาํ นวณตน้ ทนุ กาํ ไร กาํ หนดราคาขาย
๑๐. ใชท้ รัพยากรที่มีในทอ้ งถ่ินไดอ้ ยา่ งประหยดั
๑๑. ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการใชท้ รัพยากรท่ีมีในทอ้ งถ่ินไดอ้ ยา่ งประหยดั
รวม ๑๑ ผลการเรียนรู้

๒๔๕

อ๒๐๒๐๑ การฟัง พูด ภาษาองั กฤษ ๑

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะการฟังและการพูด โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอนและทกั ษะยอ่ ยของกระบวนการฟัง กระบวนการพูด
ใชภ้ าษาส่ือสาร รับและส่งสารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณ์ท่ีหลากหลาย

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะฟัง-พูด

เพือ่ ใหเ้ กิดทกั ษะ การฟัง การพดู สามารถตีความ และสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมกบั สถานการณ์
เห็นคุณคา่ ของการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติที่ดีต่อภาษาองั กฤษ รักการเรียนรู้ มีคณุ ธรรม
จริยธรรมและค่านิยมท่ีพึงประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการในการฟังโดยสามารถตีความงา่ ย ๆ
๒. สามารถฟังและปฏิบตั ิตามข้นั ตอนที่ฟัง
๓. สามารถถา่ ยทอดคาํ พูดจากเร่ืองท่ีฟัง
๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่ือสารสนทนาและสร้างความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลจากสิ่งที่ฟังไดถ้ ูกตอ้ ง

เหมาะสมกบั สถานการณ์และมารยาททางสังคม
๕. มีความเช่ือมน่ั ในการใชภ้ าษาองั กฤษกบั ชาวต่างชาติ
รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๒๔๖

อ๒๐๒๐๒ การฟัง พดู ภาษาองั กฤษ ๒

รายวชิ าเพม่ิ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

พฒั นาทกั ษะการฟังและการพูด โดยฝึกปฏิบตั ิตามข้นั ตอนและทกั ษะย่อยของกระบวนการฟัง กระบวนการพูด
ใชภ้ าษาสื่อสาร รับและส่งสารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณ์ที่หลากหลาย

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา การฝึกทกั ษะฟัง-พูด เพื่อใหเ้ กิดทกั ษะ การฟัง การพูด สามารถตีความ
และสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั สถานการณ์

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ เห็นคุณค่าของการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ น
ชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาองั กฤษ รักการเรียนรู้ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีพึงประสงค์

ผลการเรียนรู้

๑. มีทกั ษะกระบวนการในการฟังโดยสามารถตีความงา่ ย ๆ
๒. สามารถฟังและปฏิบตั ิตามข้นั ตอนที่ฟัง
๓. สามารถถา่ ยทอดคาํ พดู จากเร่ืองที่ฟัง
๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการสื่อสารสนทนาและสร้างความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลจากส่ิงที่ฟังไดถ้ กู ตอ้ ง

เหมาะสมกบั สถานการณ์และมารยาททางสงั คม
๕. มีความเชื่อมน่ั ในการใชภ้ าษาองั กฤษกบั ชาวตา่ งชาติ
รวม ๕ ผลการเรียนรู้

๒๔๗

อ๒๐๒๐๓ ภาษาองั กฤษในการท่องเทีย่ ว ๑

รายวิชาเพม่ิ เตมิ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันมธั ยมศึกษา จํานวน ๐.๕ หน่วยกติ

อธิบายและบรรยายเกี่ยวกบั ประวตั ิความเป็นมา ประเพณีและวฒั นธรรมในทอ้ งถ่ิน เรื่องราวสถานที่สําคญั ใน
ชุมชนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมดว้ ยภาษาที่ง่าย ๆ

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษา ในการส่ือสาร สามารถอธิบายขอ้ มลู ท่ีง่าย ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและ
เหมาะสมกบั สถานการณ์

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ เห็นคณุ ค่าของการนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ น
ชีวติ ประจาํ วนั มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาองั กฤษ รักการเรียนรู้ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ รักทอ้ งถิ่นท่ี
ตนเองอาศยั และภมู ิใจในทอ้ งถ่ิน

ผลการเรียนรู้

๑. มีความรู้ความเขา้ ใจ ในประวตั ิความเป็นมา ความสาํ คญั ของวฒั นธรรมประเพณี สถานท่ีสาํ คญั ของ
ทอ้ งถิ่น

๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจธรรมชาติ ประเพณี มารยาทในสังคมของเจา้ ของภาษา
๓. ใชภ้ าษาในการบรรยาย แนะนาํ ชกั ชวน ใหบ้ ริการต่อรอง ในบริบทและสถานการณ์ท่ีหลากหลายและ

เหมาะสมตามมารยาททางสงั คม
๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการแสดงความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
๕. มีความรู้ ความเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ท่ีของการเป็นมคั คุเทศก์ มีจิตสาธารณะและการอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
รวม ๕ ผลการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version