The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kotchamon191, 2022-05-10 05:08:41

แผนการสอนวิชาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

แผนการสอนวิชาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

ใบทดสอบหลังเรียน แผ่นท่ี....3..

หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธุรกจิ

รหสั วิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซัพพลายเชน

หนว่ ยท่ี 6 ชือ่ หน่วย การบริหารสินค้าคงคลัง จำนวน.....6....ช่ัวโมง

ช่อื ผเู้ รียน................................ระดับชนั้ ................................

เร่ือง....การบริหารสนิ ค้าคงคลงั ...............เวลา.............10.................นาที

7. ขอ้ ใดถูกตอ้ งเก่ียวกับประโยชน์ของการจัดการสินค้าคงคลัง
ก. ช่วยใหร้ ะดับการผลติ ของธรุ กจิ เพม่ิ ขน้ึ ในอตั ราเพ่มิ ข้ึนตลอดเวลา เปน็ การลดตน้ ทนุ
ข. สามารถสนองตอบความตอ้ งการของลูกค้าเฉพาะในฤดกู าลเท่านน้ั
ค. ทำใหธ้ รุ กิจไดร้ บั สว่ นลดการค้า แม้เป็นการเพิม่ คา่ ใช้จ่ายในการขนส่งเนือ่ งจากการส่งั ซอื้ บ่อยครงั้ ก็ตาม
ง. สามารถขับเคล่ือนกระบวนการผลติ ให้เปน็ ไปอย่างตอ่ เนอ่ื งในภาวะเศรษฐกจิ ตกต่ำ

8. ขอ้ ใดถกู ต้องเก่ียวกบั ปรมิ าณการสง่ั ซื้อท่ีประหยดั ทสี่ ดุ (EOQ)
ก. ตน้ ทนุ ในการเกบ็ รักษาเท่ากับต้นทุนในการส่ังซอ้ื
ข. ตน้ ทุนรวมต่ำสุดอยู่ที่ต้นทุนในการเก็บรักษาสงู กว่าตน้ ทนุ ในการสัง่ ซ้อื
ค. ต้นทนุ รวมต่ำสดุ อยู่ทต่ี น้ ทุนในการเก็บรักษาสูงกวา่ ตน้ ทุนเงินทุนหมุนเวยี น
ง. ต้นทนุ รวมตำ่ สดุ อยู่ท่ีตน้ ทนุ ในการเก็บรักษาเทา่ กบั ต้นทุนเงนิ ทนุ หมุนเวียน

9. ขอ้ ใดคือสมมติฐานทถ่ี กู ตอ้ งของตัวแบบปริมาณการส่งั ซ้ือที่ประหยัดทส่ี ุด (EOQ)
ก. เวลานำ (Lead Time) ในการส่ังซอ้ื ไม่คงที่
ข. ไมม่ ีสนิ ค้าระหว่างทางและไมม่ ีสนิ คา้ ขาดสตอ็ ก
ค. ต้องมีการสั่งซอื้ สินคา้ ในแต่ละครงั้ ไม่ตำ่ กว่า 2 ชนดิ
ง. ราคาสนิ ค้าที่สง่ั ซ้อื จะเปลย่ี นแปลงตามปริมาณการสัง่ ซื้อ

ใบทดสอบหลังเรียน แผ่นที่....4..

หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บริหารธุรกิจ

รหัสวิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซัพพลายเชน

หนว่ ยท่ี 6 ชอ่ื หนว่ ย การบริหารสนิ ค้าคงคลัง จำนวน.....6....ช่ัวโมง

ชือ่ ผู้เรียน................................ระดบั ชัน้ ................................

เรอ่ื ง....การบรหิ ารสนิ ค้าคงคลัง...............เวลา.............10.................นาที

10. ตน้ ทุนในขอ้ ใดทีแ่ ปรผกผันกับปริมาณสนิ ค้าคงคลงั ข. ตน้ ทุนในการเก็บรักษา
ก. ต้นทนุ ในการสัง่ ซ้อื ง. ต้นทุนความเสยี่ งในตัวสินค้าทีจ่ ดั เก็บ
ค. ต้นทุนในการจัดหาเงินทุนหมุนเวียน

เฉลย
1. ค 2.ค 3.ง 4. ง 5. ข 6.ข 7. ง 8. ก 9. ข 10. ก

แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล

ใบงานที่ 6 เร่ือง การบรหิ ารสนิ ค้าคงคลัง
กลมุ่ ท่ี ...................

ท่ี คะแนน การรบั ฟงั การเสนอ การยอมรับ การสร้าง รวม ระดบั การ
ความคดิ ความคิด คนอนื่ บรรยากาศ คะแนน มี
ชอ่ื สกุล
1 เห็น เหน็ ในกลมุ่ 20 สว่ นรวม
2
3 5 55 5
4
5
6
7
8
9
10

ระดบั ของคะแนน

5 = มากทีส่ ุด 4 = ค่อนขา้ งมาก
3 = ปานกลาง 2 = คอ่ นขา้ งออ่ น
1 = น้อยท่ีสุด

เกณฑก์ ารประเมนิ 15-20 = มาก
8-14 = ปานกลาง
1-7 = นอ้ ย

ลงชอ่ื ...........................................ผปู้ ระเมนิ

การบริหารสนิ คา้ คงคลัง

คะแนน การนำเสนอผลงาน การบันทกึ ผลงาน รวม
คะแนน ระดบั คุณภาพ
กลุ่มท่ี ขัน้ นำ ขนั้ สอน ข้นั สรปุ ถูกตอ้ ง เรยี บร้อย 50 ของผลงาน
10 10 10 10 10
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ระดบั ของคะแนน 8 - 10 = ดมี าก 7 - 8 = ดี
5 – 6 = พอใช้ 0 – 4 = ควรปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมนิ 35 - 50 = ดี
17 - 34 = ปานกลาง
1 - 16 = ควรปรบั ปรงุ

ลงชอื่ ...........................................ผปู้ ระเมนิ

แบบประเมินพฤตกิ รรมทางดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม
วันท.ี่ .....เดอื น....................พ.ศ. ....................

ชื่อ...............................................นามสกุล.......................................ระดับชั้น.................เลขท.่ี .......
แผนก..................................................................คณะ......................................................................

ลำดบั พฤติกรรมที่ประเมิน ระดบั คะแนน หมายเหตุ

1 ความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทแี่ ละงานทไ่ี ด้รบั 3 2 1 ความหมายของระดบั คะแนน
มอบหมาย 3= ปฏิบัตอิ ย่างสม่ำเสมอโดยไม่
ตอ้ งมกี ารช้นี ำหรือตักเตอื น
2 กลา้ คิด กล้าทำ และกลา้ ตัดสนิ ใจดว้ ยเหตุผล 2= ปฏิบตั บิ ้างในบางคร้งั
3 มมี นษุ ยสัมพนั ธ์ท่ดี ตี ่อเพื่อนๆ จากการเชญิ ชวนหรือช้ีนำ
4 เอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่เสียสละเพือ่ สว่ นรวม 1= ตอ้ งส่ังบงั คบั ว่ากล่าวหรือ
5 มีวินัยซอ่ื สัตยแ์ ละประหยดั ตกั เตือนจงึ จะปฏิบัติ หรอื มกั จะ
6 รูจ้ ักการใหโ้ อกาส ให้อภัย ปฏิบตั ใิ นทางท่ีผิดเสมอ
7 การยอมรับการปฏบิ ัติตอ่ มตขิ องกลมุ่
8 ไมเ่ อาเปรยี บเพื่อนผูเ้ รยี นดว้ ยกนั เกณฑก์ ารประเมนิ
9 แสดงกริ ยิ าวาจาสภุ าพต่อทุกคน 26-30 คะแนน= ดมี าก
10 แสดงความมนี ้ำใจต่อครู/อาจารย์ 21-25 คะแนน= ดี
16-20 คะแนน= พอใช้
รวม (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) 0-15 คะแนน= ควรปรับปรงุ

บันทกึ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
........................

ลงชือ่ ...........................................ผปู้ ระเมนิ



การวิเคราะห์หัวขอ้

หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สงู พทุ ธศกั ราช 2563 ปร
รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลา
ทฤษฎี.....3.......ช่วั โมง/สปั ดาห์ ปฏบิ ัติ............-.....ชว่ั โมง/สปั ด

หน่วยท/ี่ ชื่อหนว่ ย รายการความรู้

7. การขนส่ง 1. ความหมายของการขนส่ง 1. บอกคว

2. ความสำคญั ของการขนส่ง 2. บอกคว

3. ประโยชนข์ องการขนสง่ 3. อธบิ าย

4. อรรถประโยชนข์ องการขนส่ง 4. บอกอร

5. รูปแบบวิธกี ารขนสง่ 5. เปรียบ

6. ปจั จยั ทมี่ อี ิทธพิ ลต่อการขนส่ง 6. อธิบาย

7. การคำนวณต้นทุนการขนสง่ 7. คำนวณ

หมายเหตุ ISL= ระดับความรู้ความสามารถทางสตปิ ัญญา (Intellectual skill Level) PSL=

R:การฟน้ื ความรู้ (Recalled Knowledge) I
A:การประยุกต์ความรู้ (Applied Knowledge) C
T:การส่งถ่ายความรู้ (Transferred Knowledge) A

อการสอนและจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

ระเภทวชิ า บริหารธุรกจิ

ายเชน

ดาห์ จำนวน…3…หน่วยกติ

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ISL PSL
RATI CA

วามหมายของการขนส่ง ได้ /

วามสำคัญของการขนส่งได้ /

ยประโยชนข์ องการขนส่งได้ /

รรถประโยชนข์ องการขนส่งได้

บเทียบรปู แบบวิธีการขนสง่ ได้ /

ยปจั จยั ทม่ี ีอทิ ธิพลต่อการขนส่งได้ /

ณตน้ ทุนการขนสง่ ได้ /

=ระดับความสามารถในการใช้กล้ามเน้อื ทำงาน(Physical skill Level)

: ทำไดต้ ามแบบ (Imitation is needed)
C : ทำได้ดว้ ยความถกู ตอ้ ง (Control is needed)
A : ทำด้วยความชำนาญ (Automation is needed)

กรอบการจดั การเรยี นร้แู บบบรู ณาการ

หนว่ ยที่ 7 เรือ่ ง การขนส่ง

พอประมาณ

1. ผู้เรยี นจัดสรรเวลาในการฝึกปฏบิ ัตติ าม
ใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. ผู้เรยี นรจู้ ักใชแ้ ละจดั การวัสดุอุปกรณ์
ต่าง ๆ อย่างประหยัดและคุ้มค่า
3. ผู้เรียนปฏบิ ตั ิตนเป็นผนู้ ำและผตู้ ามที่ดี
4. ผู้เรียนเปน็ สมาชิกทด่ี ีของกลุ่มเพอ่ื น

มีภูมิคมุ้ กันที่ดี

ความมีเหตุผล 1. มกี ารเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นและการ
ปฏิบัติงาน
1. กลา้ แสดงความคิดอยา่ งมเี หตผุ ล
2. กล้าทกั ทว้ งในส่ิงท่ไี ม่ถูกต้องอยา่ งถูกกาลเทศะ 2. กล้าซักถามปญั หาหรอื ข้อสงสยั ต่าง ๆ อยา่ งถูก
3. กล้ายอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื กาลเทศะ
4. ไมม่ ีเรื่องทะเลาะววิ าทกบั ผ้อู ืน่
3. แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเองอย่างเป็น
เหตเุ ป็นผล

4. ควบคมุ อารมณข์ องตนเองได้

ความรู้ + ทักษะ 5.ควบคุมกคริณุ ยิ ธารอรามการในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้
1. ใชว้ สั ดุอย่างประหยดั และคุม้ คา่ 1. ปฏิบตั งิ านทเ่ไีปดน็ ้รอบั ยม่าองบดหี มายเสร็จตามกำหนด
2. ปฏิบตั ิงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ 2. ใช้วัสดอุ ุปกรณ์อย่างคุ้มคา่ ประหยดั
3. มคี วามร้คู วามเข้าใจเกยี่ วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ 3. มคี วามเพียรพยายามและกระตือรอื ร้นในการเรยี นและ
พอเพียง การปฏิบัติงาน
4. ให้ความรว่ มมอื กบั การทำกจิ กรรมของส่วนรวม อาสา
ช่วยเหลืองานครแู ละผู้อนื่

สงั คม นำไปสู่ วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม
สงั คม ชุมชนมคี ุณภาพชวี ิต เศรษฐกิจ ใช้ส่ิงของอย่างรู้คุณค่า
ที่ดขี ึ้น ใช้วสั ดุธรรมชาติ ไม่ทำลาย
สภาพเศรษฐกจิ มีความ มีการปลูกฝังกจิ นิสัยการ สง่ิ แวดลอ้ ม

คลอ่ งตัว มรี ายได้และมี ประหยัด อดออม

การใชจ้ ่ายในระบบเศรษฐกจิ

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายหนว่ ย

หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธรุ กิจ

รหสั วิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซพั พลายเชน

หน่วยท่ี 7 ช่อื หน่วย การขนสง่ จำนวน...6….ชวั่ โมง

หัวข้อเร่ือง
1. ความหมายของการขนส่ง
2. ความสำคัญของการขนสง่
3. ประโยชน์ของการขนส่ง
4. อรรถประโยชน์ของการขนสง
5. รูปแบบวิธีการขนสง่
6. ปจั จยั ทีม่ อี ทิ ธิพลตอ่ การขนสง่
7. การคำนวณตน้ ทนุ การขนส่ง

สาระสำคัญ
การขนส่งเป็นวิชาแขนงหน่ึงในการจัดการโลจิสติกส์ มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการ

ดำเนนิ ธุรกจิ เพราะการขนส่งเขา้ ไม่เก่ียวข้องและสัมพันธ์กับอตุ สาหกรรมทกุ ประเภท ซึ่งค่าขนส่งจะถูกนำไปรวม
ในราคาสนิ ค้าและบริการ โดยถูกรวมไปเป็นทอด ๆ เริ่มตงั้ แต่จากแหลง่ วัตถุดบิ ไปแหลง่ ผลิต จากแหล่งผลิตไปยัง
พอ่ ค้าคนกลาง จากพ่อค้าคนกลางไปยังพอ่ ค้าปลกี และจากพ่อคา้ ปลีกไปยังผูบ้ ริโภคในทส่ี ุด ซ่งึ แต่ละทอดของการ
เคล่อื นยา้ ยสินคา้ และบรกิ าร ได้มีการรวมค่าขนส่งเป็นต้นทุนของสนิ คา้ ทกุ ทอด ทำให้เกิดต้นทุนทางธรุ กิจสูงมาก
จะเหน็ ไดว้ า่ การขนสง่ เปน็ กจิ กรรมทส่ี ำคัญมาก ควรมกี ารศึกษาและทำความเขา้ ใจในกิจกรรมประเภทน้ี
จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. เพือ่ ใหม้ ีความรูแ้ ละความเข้าใจแสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการและกระบวนการโลจสิ ตกิ ส์และซพั

พลายเชน

2. เพ่ือใหม้ ีกิจนิสัย ในการทางานทดี่ ี ปฏิบตั ิงานด้วยความละเอียดรอบคอบ รับผิดชอบ มีวนิ ยั ตรงตาม
เวลา และตระหนักถึงความปลอดภยั ในการทำงาน

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. บอกความหมายของการขนสง่ ได้

2. บอกความสำคญั ของการขนส่งได้
3. อธบิ ายประโยชนข์ องการขนส่งได้
4. บอกอรรถประโยชน์ของการขนสง่ ได้
5. เปรยี บเทยี บรปู แบบวิธกี ารขนสง่ ได้
6. อธบิ ายปัจจยั ที่มีอิทธพิ ลต่อการขนส่งได้
7. คำนวณต้นทนุ การขนสง่ ได้

กจิ กรรมการการจัดการเรียนรู้

เวลา (X นาที) 60 120 180
1,2,3,4,5,6,7 หลงั เรยี น
หมายเลขวตั ถุประสงค์
กอ่ นเรียน
ขนั้ สนใจปญั หา(.....10.... นาที)

ขัน้ ให้ข้อมลู บรรยาย
(..120 นาที) ถามตอบ
สาธิต

ขัน้ พยายาม (........30....นาที)

ขัน้ สำเรจ็ ผล (.........20...นาที)

กระดานดำ

Power point

แผน่ ใส

ของจรงิ

อปุ กรณช์ ว่ ยสอน ใบเนื้อหา

ใบงาน

เฉลยใบงาน

ใบสัง่ งาน

ใบประเมินผล

Pre test (10 นาที)

Post test (10นาที)

ใบทดสอบ

ใบเน้อื หาที่ 7 ส่อื Power point ชุดที่ 7 ใบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น หนว่ ยที่ 7

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขั้นตอนการจัดกจิ กรรมการเรียนรขู้ องครู กจิ กรรมการเรียนรขู้ องนกั เรยี น

1. ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน ขั้นสนใจปญั หา (10 นาที

และทดสอบ 10 นาที) ผ้เู รยี นรว่ มคิดและตอบคำถามและทำแบบทดสอบ

ครูผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียน เล่าถึงการ ก่อนเรยี น

ขนส่ง มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการ

ดำเนินธุรกิจ ซึ่งค่าขนส่งจะถูกนำไปรวมในราคา

สนิ คา้ และบริการ โดยถูกรวมไปเปน็ ทอด ๆ เรม่ิ ต้ังแต่

จากแหล่งวัตถุดิบไปแหล่งผลิต จากแหล่งผลิตไปยัง

พ่อค้าคนกลาง จากพ่อค้าคนกลางไปยังพ่อค้าปลีก

และจากพ่อค้าปลีกไปยังผู้บริโภคในท่ีสุด ซึ่งแต่ละ

ทอดของการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ ได้มีการ

รวมค่าขนส่งเป็นต้นทุนของสินค้าทุกทอด ทำให้เกิด

ต้นทุนทางธุรกิจสูงมาก จะเห็นได้ว่า การขนส่งเป็น

กิจกรรมที่สำคัญมาก ควรมีการศึกษาและทำความ

เขา้ ใจในกิจกรรมประเภทน้ี

2. ขั้นสอน (120 นาท)ี

ส อ น โด ย ก า ร บ ร ร ย า ย เก่ี ย ว กั บ ผู้เรียนฟังการบรรยาย และศึกษาเอกสารประกอบ

ความหมายของการขนส่ง ความสำคัญของการขนส่ง การเรียนตาม และร่วมตอบคำถามถึง ความหมาย

ประโยชน์ของการขนส่ง อรรถประโยชน์ของการ ของการขนส่ง ความสำคัญของการขนส่ง ประโยชน์

ขนส่ง รูปแบบวิธีการขนส่ง ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการ ของการขนส่ง อรรถประโยชน์ของการขนส่ง รปู แบบ

ขนสง่ การคำนวณต้นทนุ การขนส่ง วิธีการขนส่ง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการขนส่ง การ

คำนวณต้นทนุ การขนส่ง

3. ข้ันพยายาม (60 นาท)ี แบ่งกลุ่มผเู้ รยี นเปน็ กลุ่มใหแ้ ต่ละกล่มุ สรุปสาระสำคัญ

ครูผู้สอนผู้เรียนมีส่วนร่วม (แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน ของแตเ่ รือ่ งตามจุดประสงค์ ผ้เู รยี น ศึกษาแล้วแบ่ง

กลมุ่ ) วิเคราะห์เก่ียวกับกรณีศกึ ษา และมอบหมายให้ หน้าทรี่ ับผดิ ชอบในการร่วมปฏิบัติกิจกรรมร่วมกนั

ผูเ้ รยี นนำกรณีศกึ ษามานำเสนอในชั้นเรียน

4. ขั้นสรปุ (30 นาที และทดสอบ 10 นาท)ี
และผู้สอนสรปุ แต่ละเรื่องใหผ้ ู้เรยี นฟงั จนเขา้ ใจ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาสรุปเพื่อนฟังหน้าชั้น

มอบหมายให้ผู้เรียนกลับไปศกึ ษาเนอื้ หาเรอ่ื งระบบ เรยี น
สารสนเทศเพ่ือการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละซพั พลาย
เชน

ส่ือสารเรยี นรู้และแหล่งการเรยี นรู้
ส่ือสิ่งพมิ พ์

1. ใบเนือ้ หา
2. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี น
3. ใบมอบหมายงาน
4. หนังสอื โลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชน ของ อาจารย์กอ่ เกียรติ วิรยิ ะกจิ พัฒนา
5. หนังสือโลจิสติกสแ์ ละโซอ่ ุปทาน ของ อาจารย์ไตรเลศิ ครฑุ เวโชและมนัสชัย กีรตผิ จญ

สื่อโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี
1. ใชส้ อื่ Power point

แหลง่ เรียนรู้เพิม่ เติม
1. ห้องสมุดวิทยาลยั
2. แหล่งขอ้ มลู จากระบบสารสนเทศ Internet

การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ บั วิชาอ่นื
1. บรู ณาการกับวชิ าหลักการจัดการการกระจายสนิ คา้
2. บูรณาการกับวชิ าภาษาองั กฤษธรุ กจิ
3. บูรณาการกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ด้านความขยันหมั่นเพยี ร ประหยดั อดออม

การวดั และประเมินผล
การประเมนิ ผล
ก่อนเรียน
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
ขณะเรียน
1. แบบประเมินพฤตกิ รรมรายกลมุ่

2. แบบสังเกตพฤติกรรม
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะพงึ ประสงค์
หลงั เรยี น
6.แบบทดสอบหลังเรียน

เกณฑใ์ นการวัดและประเมนิ ผล การประเมนิ ผล (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปล
การวดั (ใชเ้ คร่ืองมือ) ความหมาย)

1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลังเรียน)
2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และการ เกณฑผ์ ่าน 60 %
นำเสนอผลงานกลุ่ม
3. แบบฝึกหัดในหน่วย เกณฑ์ผา่ น 50 %
4. แบบทดสอบหลงั เรียน เกณฑผ์ ่าน 50 %
5. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เกณฑผ์ า่ น 60 %
ตามสภาพจรงิ

บันทึกหลงั สอน
1. ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้

............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

2. ผลการเรยี นรู้ของนกั เรยี น นกั ศกึ ษา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

3. แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรยี นรู้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แบบฝึกหัดบทที่ 7 การขนส่ง
ตอนท่ี 1 จงเติมคำตอบลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง
1. จงอธบิ ายความหมายของคำวา่ “การขนส่ง”
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
2. การขนส่งมคี วามสำคัญต่อการพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งไร
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
3. การขนสง่ มีประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง อธิบายมาพอสังเขป
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
4. จงอธบิ ายความหมายของอรรถประโยชน์เกี่ยวกับสถานท่ี
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
5. จงอธบิ ายความหมายและเปรียบเทียบการขนส่งทั้ง 5 รปู แบบ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
6. การวเิ คราะห์ SWOT การขนส่งโดยรถบรรทกุ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
7. สินค้าที่ขนส่งทางทะเลแบง่ เป็น 2 ประเภท ได้แกอ่ ะไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8. ปัจจยั อะไรบ้างทม่ี ีอิทธิพลตอ่ การขนสง่
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
9. เทคนิคอะไรบา้ งท่ีใช้ในการบริหารต้นทุนเพอ่ื เพม่ิ ประสิทธภิ าพการขนส่ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

10. เคร่ืองมืออะไรบา้ งทใ่ี ชค้ ำนวณหาตน้ ทุนที่ใช้ในการขนส่ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2

คำชแ้ี จง : จงคำนวณหาผลลัพธจ์ ากโจทย์ทีก่ ำหนดให้

จดุ ประสงค์ - บอกประเภทต้นทนุ การขนส่ง

- คำนวณตน้ ทนุ การขนส่ง

1. บรษิ ทั A จำกดั มรี ถบรรทกุ 10 ล้อ จำนวน 5 คนั มีต้นทุนตา่ ง ๆ ดงั น้ี

- ค่าบรหิ ารจัดการ เดอื นละ 100,000 บาท
บาท
- ค่าประกันตอ่ คนั เดือนละ 4,000 บาท
บาท
- ค่าเสื่อมราคาตอ่ คนั เดอื น 50,000 บาท
บาท
- ค่าน้ำมนั เชื้อเพลิง กิโลเมตรละ 8
กโิ ลเมตร
- ค่าทางพเิ ศษ เทย่ี วละ 200 เที่ยว

- ค่ายางรถยนต์ กโิ ลเมตรละ 0.80

หากใน 1 ปี มกี ารขนสง่ ดังตอ่ ไปน้ี

- ระยะทางที่ขนสง่ 300,000

- จำนวนเที่ยวในการขนสง่ 10,000

จงคำนวณหา

1) ตน้ ทนุ คงท่ที ง้ั หมดในหน่ึงปี

2) ต้นทุนผันแปรทั้งหมดในหนงึ่ ปี

3) ตน้ ทุนรวมทัง้ หมดในหนึ่งปี

4) ตน้ ทุนต่อกิโลเมตร

5) ต้นทนุ ต่อเทยี่ วการขนส่ง

2. ข้อมูลการขนสง่ ทางเรอื กบั การขนสง่ ทางเครื่องบนิ เป็นดงั น้ี

ขอ้ มลู การขนสง่ ทางเรอื การขนส่งทางเครือ่ งบิน
2 วนั
A ระยะเวลาการขนส่ง 20 วนั
55 บาท/หน่วย
B ราคาค่าขนสง่ 15 บาท/หน่วย 450 บาท/หน่วย/ปี

C ตน้ ทุนเงินจมในสินค้าคงคลัง 450 บาท/หน่วย/ปี 4 ครงั้ /เดือน
5,000 หน่วย
D ความถี่ในการขนส่ง 1 ครั้ง/เดือน

E ปริมาณการขนส่งต่อครง้ั 20,000 หน่วย

จากตาราง หากนักศึกษาจะใช้บรกิ ารขนสง่ นกั ศึกษาจะเลือกรปู แบบใด เพราะเหตุใด
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

เฉลยแบบฝึกหดั บทท่ี 7 การขนสง่
ตอนท่ี 1 จงเติมคำตอบลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง
1. จงอธบิ ายความหมายของคำว่า “การขนส่ง”
ตอบ การขนส่ง หมายถงึ การเคลื่อนย้ายคน สัตว์ สิง่ ของต่าง ๆ จากสถานท่แี หง่ หนึ่งไปยังอกี แห่งหนึ่งดว้ ย
เครื่องมอื และอปุ กรณ์การขนส่ง กอ่ ใหเ้ กิดอรรถประโยชน์ (Utility) ตามความต้องการของผ้ทู ที่ ำการขนสง่
2. การขนสง่ มีความสำคญั ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างไร
ตอบ 1. การขนสง่ ทำใหป้ ระสิทธภิ าพการผลิตเพม่ิ ข้นึ

2. การขนสง่ ชว่ ยให้เกิดการกระจายความเจริญเติบโต
3. ทำให้เกดิ การเปลีย่ นแปลงทางด้านสงั คม
4. ชว่ ยให้มาตรฐานการศึกษาดีขึ้น
5. ทำให้ประชาชนมมี าตรฐานการครองชีพดีข้ึน
6. เพ่ิมความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศ
7. ความสำคญั ด้านอื่น ๆ เช่น เพ่ิมความสะดวกในการติดต่อส่ือสาร เพ่ิมความมั่นคงให้กับประเทศ
และช่วยในด้านการป้องกนั ประเทศ
3. การขนส่งมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง อธิบายมาพอสงั เขป
ตอบ 1. การขนส่งกอ่ ใหเ้ กดิ ตลาดสินค้าและบรกิ าร ในการประกอบธรุ กิจอุตสาหกรรมตา่ ง ๆ
2. การขนส่งก่อให้เกิดมูลค่า เม่ือมีการขนส่งเกิดข้ึนจะทำให้เกิดอรรถประโยชน์ด้านเวลาหรื อ
อรรถประโยชนด์ ้านสถานท่ีตามมา ซึง่ อรรถประโยชน์จะมากหรอื นอ้ ยแค่ไหนขนึ้ อยู่กับอิทธพิ ลของ การขนส่ง
3. การขนส่งก่อให้เกิดปัจจัยสี่ ในการอุปโภค บริโภคปัจจัยส่ี เราต้องอาศัยการขนส่งลักษณะต่าง ๆ
เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ วัสดุอปุ กรณ์ ทีน่ ำมาใช้ในการผลิตปัจจัยส่ีในรปู ของสินคา้ สำเร็จรูป เพราะเรา
ไมส่ ามารถผลติ สง่ิ ต่าง ๆ เหลา่ นีไ้ ด้ จำเป็นตอ้ งมกี ารขนย้ายสิ่งเหล่านม้ี าจากแหล่งอ่ืน ๆ
4. การขนส่งทำให้เกิดชุมชนใหม่ ไม่วา่ จะเป็นการขนส่งในลักษณะใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างย่ิงการ
ขนสง่ ทางบกทเ่ี ป็นทางรถยนต์ ยิ่งทำให้เกดิ ชุมชนกระจายมากเปน็ ทวีคูณหรือแมก้ ระท่ัง การขนส่งทาง
รถไฟ ก็ทำให้เกิดชมุ ชนใหม่ ๆ ข้ึนแทบทัง้ ส้ิน
5. การขนสง่ ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศ การขนส่งจะนำความเจรญิ ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ กอ่ ให้เกิดการ
พัฒนาภายประเทศ ความเป็นอยู่ดีขน้ึ เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยประเทศ ทำให้มกี ารพัฒนาประเทศ
ด้านเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง การปกครอง
4. จงอธบิ ายความหมายของอรรถประโยชน์เกีย่ วกบั สถานท่ี
1) อรรถประโยชนเ์ กยี่ วกบั สถานที่
ตอบ อรรถประโยชน์เกี่ยวกับสถานท่ี เป็นอรรถประโยชน์ท่ีเกิดจากการเปล่ียนแปลง ย้าย เคลื่อนท่ี
หรือเปล่ยี นสถานทีจ่ ากทแี่ ห่งหนึ่งไปยังอกี แห่งหน่ึง ซ่ึงทำใหม้ มี ูลคา่ หรือราคาเปลย่ี นแปลงไป

2) อรรถประโยชน์เกีย่ วกับเวลา

5. จงอธบิ ายความหมายและเปรียบเทียบการขนส่งทงั้ 5 รูปแบบ

ตอบ 1. การขนส่งทางน้ำ หมายถึง การขนส่งทางแม่นำ้ และทางทะเล โดยทั่วไปการขนสง่ ทางน้ำจะใช้

เรอื สินค้าขนาดใหญ่ สามารถขนสง่ สินคา้ ได้คราวละมาก ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการขนส่งทางทะเลสำหรบั การ

ขนสง่ ทางนำ้ ต้องมีโครงสรา้ งพืน้ ฐานที่สำคัญคอื ทา่ เรอื

2. การขนส่งทางรถไฟ จะมโี ครงสร้างพื้นฐานท่ีสำคญั คอื สถานีรถไฟและรางรถไฟ โดยรางรถไฟจะ

เป็นโครงสร้างที่ไปกำหนดเส้นทางตายตัว ดังนั้นเส้นทางรถไฟหนึ่ง ๆ จึงเกิด การคุ้มค่าจากการ

สร้างเพราะมีปริมาณการใชส้ ูง

3. การขนส่งทางถนน เป็นรูปแบบการขนส่งท่ีสะดวกท่ีสุด เพราะเป็นการขนส่งที่สามารถเข้าถึงต้น

ทางและปลายทางได้ (ตามเท่าท่ีถนนจะมี) ไม่ตอ้ งมกี ารขนถ่ายสินค้าจากการเปลย่ี นยานพาหนะ เรามักเรยี กการ

ขนสง่ ทางถนนว่า Door-to-Door โดยมโี ครงสร้างพนื้ ฐานหลกั คอื ถนน

4. การขนส่งทางอากาศ เป็นวิธีการขนส่งทีร่ วดเรว็ ท่ีสุด และมีราคาแพงทีส่ ุด การขนสง่ ทางอากาศ

มโี ครงสร้างพื้นฐานท่ีสำคัญคอื ท่าอากาศยาน และเนื่องจากข้อจำกัดของขนาดของอากาศยาน การขนส่ง

ในรูปแบบน้จี ึงมักจำกดั ในรปู แบบของหีบหอ่

5. การขนส่งทางท่อ เป็นรูปแบบการขนส่งที่นิยมใช้กับสินค้าเฉพาะอย่างเท่าน้ัน เช่น ก๊าซ น้ำมัน

โดยการขนสง่ ทางทอ่ ตอ้ งอาศัยโครงสรา้ งพ้ืนฐานคอื ทอ่ ขนส่ง

6. การวิเคราะห์ SWOT การขนส่งโดยรถบรรทุกประกอบด้วยอะไรบ้าง

ตอบ จดุ แข็ง (S)

1. การขนส่งสนิ ค้าด้วยรถบรรทุกจะสามารถส่งสินค้าจำนวนมาก

2. การบรกิ ารที่ครอบคลมุ พื้นทที่ ั่วประเทศ

3. ให้บริการลูกค้าไดต้ ลอดเวลาตามท่ีลกู ค้าตอ้ งการ

จดุ อ่อน (W)

1. ตน้ ทนุ ในการดำเนนิ งานมแี นวโนม้ สงู ขึน้

2. การบริหารกิจการไม่ไดม้ กี ารพฒั นาใหท้ ันสมยั ข้นึ เพราะใชร้ ะบบครอบครัว

7. สินค้าท่ีขนส่งทางทะเลแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง

ตอบ 1. สินค้าเทกอง หรอื รวมกอง (Bulk Cargo)

2. สินค้าหบี ห่อ (Break - Bulk Cargo)

8 ปัจจัยอะไรบ้างทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการขนส่ง
ตอบ 1. ความหนาแนน่ (Density)

2. ความรับผดิ ชอบ (Liability)
3. ความสามารถในการจดั เรยี งสนิ ค้าบนพาหนะ (Stow ability)

4. ความสะดวกในการขนถ่าย (Fast of Handling)

9. เทคนิคอะไรบา้ งทใี่ ชใ้ นการบรหิ ารตน้ ทุนเพ่อื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการขนส่ง
ตอบ 1. ข้อมูลทางเทคนิคทค่ี วบคุมได้

2. การบำรงุ รกั ษาเครอื่ งยนต์
3. สภาวะแวดลอ้ มภายนอก
4. วธิ ีการขบั ขี่
5. ราคานำ้ มันเชื้อเพลงิ
6. ความรคู้ วามเข้าใจเร่ืองความพงึ พอใจของลูกคา้
7. การบรหิ ารจดั การ

10. เครอื่ งมืออะไรบา้ งท่ใี ชค้ ำนวณหาตน้ ทุนท่ใี ชใ้ นการขนสง่

ตอบ เครอ่ื งมือทใี่ ชค้ ำนวณหาต้นทุนในการขนส่งและเสน้ ทางการขนส่ง มีดงั นี้

1. วธิ ีซิมเพล็กซ์ เปน็ วิธีท่ีคอ่ นข้างยุง่ ยากและใชเ้ วลามากจงึ ไมน่ ยิ มใช้

2. วิธีเส้นตรง เปน็ วธิ ที ่งี ่ายกวา่ และสะดวกในการคำนวณ โดยแบง่ ไดด้ ังนี้

2.1 วธิ ีเทคนิค Northwest Corner (กำหนดเส้นทางการขนส่ง)

ข้อดี เปน็ วิธีทง่ี า่ ยสะดวกและรวดเรว็

ข้อเสยี ไม่คำนงึ ถึงค่าขนสง่

2.2 วิธีเทคนิค Stepping - Stone การกำหนดเส้นทางขนส่งโดยวิธี Stepping-Stone เป็นการหา

เส้นทางการขนส่งทดี่ ีที่สดุ โดยการนำเส้นทางเบอ้ื งต้น คอื วิธีที่ 1 มาทดสอบว่า ถ้าเปลี่ยนไปใช้เส้นทางการ

ขนสง่ ทีไ่ ม่ได้ใช้เพือ่ ส่งสนิ คา้ 1 หน่วย จะทำให้ตน้ ทุนคา่ ขนสง่ รวมต่ำลงหรือไม่ หากว่าต้นทุนตำ่ ลงกจ็ ะทำการ

ปรับเส้นทางการขนส่ง

2.3 วธิ ีเทคนิค Vogel’s Approximation Method (VAM) เปน็ การกำหนดเสน้ ทาง

ตอนท่ี 2

1. จงคำนวณหา

1) ต้นทุนคงทีท่ ้ังหมดใน : คา่ บริการจดั การ 100,000 บาท

ค่าประกนั ตอ่ คนั ต่อเดือน 4,000 บาท

ค่าเส่อื มราคาต่อคนั ตอ่ เดือน 50,000 บาท

ฉะนนั้ ตน้ ทุนคงท่ีหมดต่อปี = [100,000 x 12] + [(4,000 + 50,000) x 5 x 12)]

= 4,440,000 บาท

2) ต้นทนุ ผันแปรทง้ั หมดในหน่งึ ปี : ค่าน้ำมันเช้ือเพลิงกโิ ลเมตรละ 8 บาท

ค่าทางพิเศษเทย่ี วละ 200 บาท

ค่ายางรถยนต์ กิโลเมตรละ 0.80 บาท

ฉะนั้น ต้นทนุ ผันแปรทง้ั หมดในหนง่ึ ปี = [(8 + 0.80) x 300,000] + [200 x 10,000]

= 4,640,000 บาท

3) ตน้ ทุนรวมท้งั หมดในหน่ึงปี = ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร

= 4,440,000 + 4,640,000

= 9,080,000

4) ตน้ ทุนตอ่ กิโลเมตร = 9,080,000/300,000 = 30.27 บาท

5) ต้นทุนต่อเทย่ี วการขนสง่ = 9,080,000/10,000 = 908 บาท

2.

ต้นทุนต่อปี การขนส่งทางเรือ การขนส่งทางเคร่ืองบิน

การขนสง่ 20,000 x 1 x 12 x 15 5,000 x 4 x 12 x55

E x D x 12 x B 3,600,000 13,200,000

สินคา้ คงคลงั ระหวา่ งการขนส่ง 20,000 x 1 x 12 x 20 x 5,000 x 4 x 12 x 2 x

E x D x 12 x A x (C/365) (450/365) (450/365)

สินค้าคงคลงั ที่จุดรบั สินค้า 5,917,808 591,780

[C x (E/2)] 450 x (20,000/2) 450 x (5,000/2)

4,500,000 1,125,000

ตน้ ทนุ รวม 14,017,808 14,916,780

ควรเลือกการขนสง่ ทางเรือ เพราะต้นทุนรวมถกู กว่าการขนสง่ ทางเครื่องบิน
จำนวน 14,916,780 – 14,017,808 = 898,972 บาท

ใบทดสอบกอ่ นเรียน แผ่นที่....1..

หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สงู พทุ ธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธุรกจิ

รหสั วชิ า 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกส์และซพั พลายเชน

หนว่ ยท่ี 7 ชอื่ หนว่ ย การขนส่ง จำนวน.....6....ชว่ั โมง

ชอื่ ผเู้ รียน................................ระดบั ชนั้ ................................

เร่ือง....การขนส่ง...............เวลา.............10.................นาที

คำสง่ั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท (x) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถูกต้อง

1. การเคล่ือนย้ายสินค้า/บริการจากแหล่งผลิตไปยังสถานที่ท่ีบริโภคสินค้า/บริการด้วยความรวดเร็วและสม่ำเสมอ
หมายถึงขอ้ ใด

ก. การเพม่ิ มลู ค่าสนิ ค้า ข. การขนสง่

ค. อรรถประโยชน์ด้านสถานท่ี ง. ความรวดเร็ว

2. ปลาทูสดอยู่ทีจ่ งั หวดั สมุทรสาครราคากโิ ลกรัมละ 10 บาท พอสง่ ไปจงั หวดั พระนครศรีอยุธยาราคากโิ ลกรมั ละ
45 บาท เปน็ อรรถประโยชนท์ ่เี กิดจากการขนส่งข้อใด

ก. อรรถประโยชนเ์ กย่ี วกับสถานที่ ข. อรรถประโยชน์เก่ียวกบั เวลา

ค. อรรถประโยชน์เกยี่ วกับรูปแบบ ง. อรรถประโยชน์เกยี่ วกับการโอนกรรมสทิ ธ์ิ

3. วธิ กี ารขนส่งใด มคี วามคล่องตวั ในการขนถา่ ยสินค้าจำนวนมากไดด้ ว้ ยต้นทุนต่ำไม่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ ไม่จำกดั
เวลา ขนส่งไดต้ ลอด 24 ช่ัวโมง

ก. การขนสง่ ทางน้ำ ข. การขนสง่ ทางรถไฟ

ค. การขนส่งทางถนน ง. การขนสง่ ทางทอ่

4. วิธีการขนสง่ ใดสามารถขนส่งสินคา้ ขนาดใหญ่ ปริมาณมาก น้ำหนักมากได้มีระวางความจสุ ูง เหมาะกบั การ
ขนส่งระยะทางไกล

ก. การขนส่งทางน้ำ ข. การขนส่งทางรถไฟ

ค. การขนสง่ ทางถนน ง. การขนสง่ ทางทอ่

ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผ่นที่....2..

หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธรุ กิจ

รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ ส์และซัพพลายเชน

หนว่ ยท่ี 7 ชื่อหน่วย การขนส่ง จำนวน.....6....ช่วั โมง

ชอื่ ผเู้ รียน................................ระดบั ชนั้ ................................

เรอื่ ง....การขนส่ง...............เวลา.............10.................นาที

5. วิธีการขนส่งเรียกอกี อย่างหนง่ึ ว่า Door-to-Door

ก. การขนสง่ ทางนำ้ ข. การขนสง่ ทางรถไฟ

ค. การขนสง่ ทางถนน ง. การขนส่งทางท่อ

6. ข้อใดเปน็ ตน้ ทุนคงทขี่ องการขนสง่ ทัง้ หมด

ก. คา่ เบ้ียประกนั ภัย คา่ เส่อื มราคา

ข. คา่ ลว่ งเวลาของพนักงาน คา่ เสอ่ื มราคา

ค. คา่ น้ำมันยานพาหนะ คา่ บรหิ ารจดั การ

ง. ค่าจา้ งพนกั งานรายเดือน ค่าอะไหล่

7. ตน้ ทุนของการขนส่งดว้ ยตนเอง ประกอบดว้ ยตน้ ทุนกปี่ ระเภท อะไรบ้าง

ก. 1 ต้นทุน คอื ตน้ ทนุ คงท่ี เพราะตอ้ งลงทุนซื้อยานพาหนะ

ข. 2 ตน้ ทุน คือ ต้นทนุ คงที่และต้นทนุ ผนั แปร

ค. 3 ตน้ ทนุ คือ ต้นทุนคงท่ี ต้นทนุ ผนั แปรและต้นทุนผสม

ง. 3 ต้นทุน คอื ตน้ ทุนคงท่ี ต้นทนุ ผันแปรและตน้ ทนุ จม

ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผน่ ท่ี....3..

หลกั สตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสงู พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวชิ า บริหารธรุ กิจ

รหสั วิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน

หน่วยที่ 7 ชอื่ หนว่ ย การขนสง่ จำนวน.....6....ชว่ั โมง

ช่ือผเู้ รยี น................................ระดบั ช้นั ................................

เรอื่ ง....การขนสง่ ...............เวลา.............10.................นาที

8. ใชบ้ รรทุกผักและผลไมส้ ดท่ไี มจ่ ำเป็นต้องใช้บรรทุกในตแู้ บบหอ้ งเย็นหมายถึงข้อใด

ก. ต้รู ะบายอากาศ ข. ตู้หอ้ งเยน็

ค. ตู้ฉนวน ง. ตู้พิเศษ

9. ขอ้ ใดคอื ผลเสียของการลงทนุ การขนส่งทางทอ่

ก. การลงทุนสูง ข. การให้บรกิ ารจำเพาะ

ค. ผู้ขนสง่ เปน็ ผลู้ งทนุ เอง ง. ปรมิ าณแก๊ส/นำ้ มนั มีจำนวนจำกัด

10. การขนสง่ ระบบใดทีส่ นบั สนนุ ระบบโลจสิ ติกส์ได้อย่างสมบรู ณ์

ก. ตู้ไม้ ข. ต้คู อนเทนเนอร์

ค. กระสอบ ง. พลาสตกิ

เฉลย
1. ข 2.ก 3.ง 4. ก 5. ค 6.ก 7. ข 8. ก 9. ก 10. ข

ใบเนอ้ื หา/ใบความรู้
หนว่ ยท่ี...7..เรือ่ ง การขนสง่

1.ความหมายของการขนสง่ (Definition of Transportation)

ความหมายของการขนสง่ ตามพจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

คำว่า “ขน” หมายถึง การเอาสิ่งของจำนวนมาก บรรทุกหรือหาบหามด้วยอาการ ใด ๆ ก็

ตามจากแห่งหนง่ึ ไปยังอีกแหง่ หน่งึ

คำวา่ “สง่ ” หมายถงึ การยนื่ ให้ ยนื่ ให้ถงึ มอื พาไปใหถ้ งึ ท่ี

คำวา่ “ขนสง่ ” หมายถงึ ธุรกจิ ทเ่ี กี่ยวด้วยการขนและส่ง

ความหมายของการขนส่ง ตามสารานุกรมไทย

คำวา่ “การขนสง่ ” หมายถึง การเคลื่อนท่ีของมนุษย์ สตั ว์ สิ่งของ จากท่ีแห่งหน่ึงไปยังอีกแหง่ หนึ่ง

ตามความประสงค์ของมนุษย์

ความหมายของการขนสง่ ตามพระราชบญั ญัติการขนส่ง พ.ศ. 2522

นิยามศัพท์ในมาตรา 4 ว่าด้วยการขนส่ง หมายความว่า “การลำเลียงหรือเคล่ือนย้ายบุคคลหรือ

สง่ิ ของด้วยเครอ่ื งอุปกรณ์ขนส่ง”

เคร่ืองอุปกรณ์ขนส่ง หมายถึง ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง รวมทั้งเครื่องทุ่นแรงด้วยและใน

พระราชบัญญตั ิฉบบั นี้ไดแ้ บ่งลกั ษณะของการประกอบการขนส่งออกเปน็

“การขนส่งสาธารณะ” หมายความวา่ การขนส่งเพ่ือสนิ จ้างโดยไม่จำกัดเส้นทาง

“การขนส่งประจำทาง” หมายความว่า การขนสง่ ตามสินจ้างตามเสน้ ทางที่กำหนด

“การขนส่งส่วนบคุ คล” หมายความว่า การขนส่งเพอื่ กจิ การค้าของตนเอง

“การรับจัดขนส่ง” หมายความว่า การรับจ้างรวบรวมบุคคลหรือสิ่งของและจัดให้บุคคลอ่ืนทำการ

ขนสง่ จากท่แี ห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหน่ึงในความรบั ผดิ ชอบของผจู้ ดั ขนส่ง

จากความหมายต่าง ๆ ข้างตน้ สามารถสรปุ ความหมายของ “การขนสง่ ” ดงั นี้

การขนสง่ หมายถึง การเคลื่อนยา้ ยคน สตั ว์ ส่ิงของต่าง ๆ จากสถานทแี่ ห่งหน่ึงไป ยังอกี แห่งหน่ึง

ดว้ ยเคร่ืองมือและอุปกรณ์การขนส่ง ก่อให้เกิดอรรถประโยชน์ (Utility) ตาม ความตอ้ งการของผู้ที่

ทำการขนสง่ ดงั นั้นการขนสง่ จะต้องประกอบด้วยลกั ษณะต่าง ๆ ดังนี้

1. เป็นกจิ กรรมเคล่อื นย้ายคน สัตว์ สง่ิ ของจากสถานทีแ่ ห่งหน่ึงไปยังอีกแห่งหนงึ่

2. เปน็ การเคลอ่ื นยา้ ยดว้ ยเคร่ืองมือและอปุ กรณ์การขนส่ง

3. เกิดอรรถประโยชน์ตามความต้องการและวตั ถปุ ระสงคข์ องผ้ทู ำการขนส่ง

2. ความสำคัญของการขนส่ง

การขนส่งจัดเป็นโครงสร้างพ้ืนฐาน (Infrastructure) ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและมี

ความสำคญั ตอ่ การพัฒนาประเทศหลายประการดังนี้

1. การขนส่งทำให้ประสิทธิภาพการผลิตเพ่ิมข้ึน การผลิตในอดีตเป็นการผลิตแบบดั้งเดิมต้อง

พึ่งตนเอง การขนส่งไม่สะดวก ทำให้การผลิตไม่มีความชำนาญเฉพาะอย่าง เมื่อการขนส่งมีการพัฒนาขึ้น

ประชาชนสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนกัน ซื้อขายสินค้ากันได้ ปริมาณความต้องการสินค้าเพิ่มข้ึน ทำให้มีการ

แบง่ งานกันทำตามความถนดั ของแต่ละคน ก่อให้เกดิ ความเช่ียวชาญชำนาญในสิ่งทต่ี นถนัด แลว้ นำมาซื้อขาย

แลกเปลยี่ นกัน ดังนั้นการผลิตจะมปี ระสทิ ธิภาพเพิ่มขึ้นเพราะเกิดความชำนาญเฉพาะด้าน (Specialization)

ตน้ ทุนการผลิตต่อหนว่ ยลดลง

2. การขนส่งช่วยให้เกิดการกระจายความเจริญเติบโต การขนส่งทำให้เกิดการติดต่อระหว่างกัน

สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ประชาชนสามารถต้ังรกรากถิ่นฐานกระจายออกไป ก่อให้เกิดชุมชนใหม่ เกิดการ

ขยายตัวของเมืองออกไปในทางธุรกิจ การขนส่งจะช่วยให้มีการนำสินค้าไปขาย สามารถกระจายสินค้าและ

บรกิ ารไปตามแหลง่ ตา่ ง ๆ มกี ารขนส่งเข้าถงึ ได้ทุกหนทุกแห่ง

3. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม การขนส่งทำให้มีการเลียนแบบ การเอาอย่างกันทาง

สงั คม เนือ่ งจากการขนสง่ ทำให้เกดิ การรับรปู้ ระเพณี วัฒนธรรมจากสังคมอนื่ และทำให้ผู้คนมสี ายตากวา้ งไกล

4. ชว่ ยให้มาตรฐานการศกึ ษาดีข้นึ การขนส่งทำให้การศึกษากระจายกว้างขวางไปในท้องท่ีต่าง ๆ

เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการจะศึกษา สามารถเดินทางไปศึกษายังท้องที่ ต่างถิ่นท่ีมี

สถานศึกษาตั้งอยู่ได้

5. ทำให้ประชาชนมีมาตรฐานการครองชีพดขี ้ึน การขนส่งทำใหป้ ระชาชนสามารถซ้ือหาสินคา้ และ

บริการมาสนองความต้องการของตนเองได้ แม้ว่าสนิ ค้าและบริการเหล่าน้ัน ไม่สามารถผลิตได้ใน

ท้องถิ่นของตน รวมท้ังสามารถผลิตสินค้าตามความถนัดแล้วนำไปจำหน่ายในท้องถ่ินอ่ืน ก่อให้เกิดรายได้

ประชาชนมีความกินดีอยดู่ ี มาตรฐานการครองชีพสงู ขนึ้

6. เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การขนส่งก่อให้เกิดการติดต่อ การแลกเปลี่ยนกันระหว่าง

ประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคมและด้านอ่ืน ๆ ซ่ึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

ระหวา่ งประเทศ

7. ความสำคัญด้านอื่น ๆ เช่น เพ่ิมความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันโลกดู

เหมอื นจะแคบลง เพราะผู้คนสามารถส่งข่าวสารขอ้ มูลและสามารถเดนิ ทางถึงกันได้เกือบทั่วโลก ทำให้เกิด

ความเข้าใจอันดีต่อกัน เกิดความสามัคคีของคนในชาติ เป็นการเพ่ิมความมั่นคงให้กับประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้การขนส่งยังช่วยในด้านการป้องกันประเทศเพราะกิจกรรมทางการทหาร การเคลื่อนย้ายอาวุธ

ยทุ โธปกรณ์ กำลังทหาร จำเป็นต้องอาศัยการขนส่งเป็นหลกั ท้ังสิ้น

3. ประโยชนข์ องการขนส่ง

ดังท่ีได้กล่าวมาข้างตน้ ถงึ ความสำคัญของการขนส่งในด้านต่าง ๆ แลว้ การขนสง่ เป็นสงิ่ สำคญั และ

จำเป็นอย่างย่ิงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ เพราะการขนส่งเข้ามามีส่วนเก่ียวข้องในชีวิตประจำวันท้ัง

ทางตรงและทางออ้ ม กล่าวคือ การเดินทางไปมาหากนั ไม่ว่าจะเพื่อวตั ถปุ ระสงค์ใดก็ตาม การขนส่งจะเข้ามา

เกี่ยวข้องโดยตรง สว่ นการอุปโภค บริโภคสินค้าและบริการต่าง ๆ ถือว่าเป็นส่วนเกี่ยวข้องโดยอ้อม ดังน้ัน

สามารถกล่าวถงึ ประโยชน์ของการขนส่งไดด้ งั นี้

1. การขนส่งก่อให้เกิดตลาดสินค้าและบริการ ในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะต้องมี

การผลิตสนิ ค้าและบริการเพ่ือกระจายหรอื จำหน่ายไปในที่ต่าง ๆใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ซงึ่ ตอ้ งอาศยั การขนส่ง

เข้ามาช่วยในการกระจายสนิ ค้าและบริการเหลา่ นั้นไปส่ตู ลาด ไปถึงมอื ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ทำใหเ้ กิดตลาด

สนิ คา้ และบริการขน้ึ อยา่ งงา่ ยและสะดวก

2. การขนส่งกอ่ ให้เกดิ มูลคา่ เม่ือมกี ารขนส่งเกิดขน้ึ จะทำใหเ้ กดิ อรรถประโยชน์ตามมา อาจจะเป็น

อรรถประโยชน์ด้านเวลาหรือด้านสถานท่ี ซึ่งอรรถประโยชน์เหล่าน้ีจะเกิดมากหรือน้อยแค่ไหนข้ึนอยู่กับ

อทิ ธพิ ลของการขนส่งด้วย

3. การขนส่งก่อให้เกิดปัจจัยสี่ ปัจจัยสน่ี ับว่าเปน็ สิง่ จำเป็นในการดำรงชวี ิตของมนุษยซ์ ึ่งจะขาดเสีย

ไม่ได้ ดังน้ันในการอุปโภค บริโภคปัจจัยสี่ของประชาชนทั่วไปจึงต้องอาศัยการขนส่งลักษณะต่าง ๆ เข้ามา

ชว่ ยในการเคลื่อนย้าย ไมว่ ่าจะเป็นวัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์ท่ีนำมาใช้ในการผลิตปัจจัยสี่ หรือปัจจัยสใี่ นรปู ของ

สินค้าสำเรจ็ รูป เพราะเราไม่สามารถผลิตส่ิงต่าง ๆ เหล่าน้ีได้ จำเป็นต้องมกี ารขนย้ายสิ่งเหลา่ น้ีมาจากแหล่ง

อืน่ ๆ ดงั น้ันการขนส่งจึงก่อใหเ้ กิดปัจจยั ส่ีได้ตามความต้องการพ้นื ฐานท่ัว ๆ ไป

4. การขนส่งทำให้เกิดชุมชนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งในลักษณะใดก็ตาม เช่น การขนส่งทางน้ำ

ทางรถยนต์ หากเขา้ ไปถึง ณ ที่ใด ก็จะเกิดชุมชน ณ ที่นัน่ เสมอ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การขนส่งทางบกที่เปน็ ทาง

รถยนต์ ย่ิงทำใหเ้ กิดชุมชนกระจายมากเป็นทวคี ณู หรอื แม้กระทง่ั การขนสง่ ทางรถไฟ ก็ทำให้เกดิ ชมุ ชนใหม่ ๆ

ขึน้ แทบทงั้ ส้ิน

5. การขนส่งทำให้เกดิ การพฒั นาประเทศ เมือ่ การขนสง่ ก่อใหเ้ กิดชุมชนแล้ว การขนส่ง

ยังนำความเจริญไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ก่อให้เกิดการพัฒนาภายในประเทศ ความเป็นอยู่ดีข้ึน เจริญก้าวหน้า

ทดั เทียมกบั อารยประเทศ ทำใหม้ กี ารพฒั นาประเทศดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง

นอกจากน้ี การขนส่งยังก่อให้เกิดประโยชน์อีกมากมาย เช่น ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ มีการ

แบ่งงานกันทำ เกิดการขยายงานไปยังท้องถ่ินต่าง ๆ อีกมากมาย ฉะน้ัน สามารถสรุปได้ว่า การขนส่ง

กอ่ ให้เกิดประโยชน์มากมายตอ่ มนุษยชาติทง้ั ทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งมสี ่วนสัมพันธ์กับชีวติ ความเป็นอยู่

ของมนษุ ย์อยู่ตลอดเวลา

4.อรรถประโยชนท์ เี่ กิดจากการขนส่ง

ดงั ท่ีได้กล่าวมาแล้วเกี่ยวกับเร่ืองประโยชนข์ องการขนส่ง ในส่วนนีจ้ ะพิจารณา การขนส่ง

ซง่ึ ก่อใหเ้ กิดอรรถประโยชนแ์ ละมูลค่า

อรรถประโยชน์ (Utility) เป็นความสามารถของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ที่บำบัดความต้องการของ

บุคคลในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งจะมีค่ามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับความต้องการของบุคคลนั้นในเวลานั้น ๆ

ดว้ ย อรรถประโยชน์แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 4 ประการคือ

1. อรรถประโยชน์เก่ียวกับสถานท่ี เป็นอรรถประโยชน์ท่ีเกิดจากการเปลี่ยนแปลง ย้าย เคล่ือนท่ี

หรือเปล่ียนสถานที่จากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหน่ึง ซ่ึงทำให้มีมูลค่าหรือราคาเปล่ียนแปลงไป เช่น สินค้า

ประเภทหน่ึง เม่ืออยู่ท่ีนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี จะมีราคาเพียง 300 บาทต่อชิ้น พอจัดส่ง

ช้นิ สว่ นดังกล่าวถงึ บริษัทมิตซูบิชิ ตำบลแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพือ่ นำไปประกอบรถยนต์

มิตซบู ชิ ริ าคาอาจเพิ่มเป็น 350 บาทต่อชน้ิ ซ่ึงถือว่าเปน็ อรรถประโยชนท์ ี่เก่ยี วกบั สถานท่ี

2. อรรถประโยชน์เกย่ี วกับเวลา เป็นอรรถประโยชนท์ เ่ี กิดจากการนำสนิ คา้ และบริการไปยงั สถานที่

ต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ทันตามเวลา สินค้านั้นไม่แปรเปล่ียนสภาพไม่ล้าสมัย

เชน่ ผกั ผลไม้สด อาหารสด หนังสือพมิ พ์รายวัน แฟชนั่ ตา่ งๆ เปน็ ตน้

3. อรรถประโยชน์เก่ียวกับรปู แบบ เป็นอรรถประโยชน์ท่ีเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงหรอื แปรสภาพ

ของสินค้าและบริการจากวัตถุดิบให้เป็นสินค้าหรือบริการท่ีสำเร็จรูป เช่น การแปรสภาพจากไม้เป็น

เฟอร์นิเจอร์ การแปรสภาพเพชร พลอย เป็นสินค้าพร้อมที่จะขายได้ เป็นอรรถประโยชน์ที่เป็นการ

เปลย่ี นแปลงรปู ร่างลกั ษณะของสินคา้ และบริการ

4. อรรถประโยชนเ์ กี่ยวกับการครอบครองกรรมสิทธิ์ เป็นอรรถประโยชนท์ ่ีเกดิ จากการเปล่ยี นแปลง

กรรมสิทธใิ์ นการครอบครองสินค้าและบรกิ าร เป็นการเปล่ียนมือผ้เู ป็นเจ้าของ เช่น รถยนต์โตโยต้า เดมิ ผลิต

ที่โรงงานโตโยต้า ตำบลสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ กรรมสิทธ์ิเป็นของผู้ประกอบการ เมื่อประกอบเสร็จ

ส่งไปขายท่ีจังหวัดเชียงใหม่ นายศิริซ้ือรถคันนี้ไปก็จะเป็นกรรมสิทธ์ิของนายศิริทันทีเม่ือโอนรถเสร็จ ดังน้ี

ปัจจยั สำคญั ที่ทำให้กรรมสิทธิ์ในสินค้าเปลี่ยนแปลงไปตามความตอ้ งการเกดิ จากอรรถประโยชนข์ องการขนส่ง

เปน็ ต้น

5. รูปแบบการขนส่ง

รปู แบบการขนส่งท่เี หมาะสมหากแบ่งตามลักษณะเส้นทางหรืออปุ กรณ์การขนส่งแลว้ ปัจจัยสำคัญ
อย่างหน่ึงของผู้ประกอบการที่สนใจเก่ียวกับการประกอบกจิ การด้านการขนส่ง คือต้องเข้าใจถึงคุณลกั ษณะ
ของการขนส่งแต่ละรูปแบบ ซ่ึงรูปแบบการขนส่งในประเทศไทยปัจจุบันได้แบ่งเป็น 5 รูปแบบ โดยมี
คุณลักษณะหลกั ๆ ดงั นี้

1. การขนสง่ ทางน้ำ (Water Transportation)

การขนส่งทางนำ้ หมายถึง การขนสง่ ทางแมน่ ำ้ ลำคลองและทางทะเล โดยทั่วไปการขนสง่ ทางน้ำจะ
ใชเ้ รือสินค้าขนาดใหญ่ สามารถขนส่งสนิ ค้าได้คราวละมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการขนส่งทางทะเล สำหรับ
การขนส่งทางน้ำต้องมีโครงสร้างพื้นฐานท่ีสำคญั คือ ทา่ เรอื ในส่วนของการขนส่งตามแม่น้ำ ลำคลอง ปัจจบุ ัน
ประเทศไทยมบี ทบาทดา้ นการขนสง่ สนิ คา้ นอ้ ยลงเน่ืองจากความตืน้ เขนิ ของลำน้ำ

ขอ้ ดี
1. ขนสง่ สนิ ค้าขนาดใหญ่ ปริมาณน้ำหนกั มาก มีระวางความจุสงู สามารถรองรับสินคา้ ได้
เกือบทุกชนิด เหมาะกับการขนส่งระยะไกล
2. ต้นทนุ ต่อหน่วยของสนิ ค้าตำ่ มักใช้กับสินค้าทีม่ รี าคาต่อหนว่ ยต่ำ เพราะเรอื มีขนาดใหญ่ใชพ้ ลัง
ขบั เคลื่อนตอ่ นำ้ หนักตำ่
ขอ้ เสยี
1. ใช้เวลานาน คอ่ นข้างล่าช้า
2. มีเสน้ ทางการขนสง่ จำกัด ตอ้ งเป็นคลอง แมน่ ้ำ ทะเลเทา่ นัน้
3. ตอ้ งมีปริมาณมากเพยี งพอ หากขนสง่ คราวละน้อย ๆ ไม่คมุ้ กบั คา่ ใชจ้ ่าย
4. ต้องมกี ารขนถ่ายซำ้ เพราะโดยทวั่ ไปการขนส่งทางเรือไมส่ ามารถเข้าถึงจุดรับสง่ สนิ ค้าได้ และอาจเกดิ
ความเสียหายจาการขนถ่ายสนิ คา้

กรณตี ัวอย่างการขนสง่ ทางแม่นำ้ ลำคลอง และเลียบชายฝง่ั ทะเล ในประเทศไทย
- ปัจจุบนั มีการขนสง่ ปนู ซเี มนต์จากสระบุรีไปลงเรอื ที่ จังหวดั อยุธยา เพ่ือส่งสินค้าไปยงั ท่าเรือแหลม

ฉบงั หรอื การขนสง่ เม็ดพลาสตกิ จากเขตอุตสาหกรรมตำบลมาบตาพดุ ไปยงั ทา่ เรอื จังหวดั สุราษฎรธ์ านี และ
จงั หวัดสงขลา หรอื แม้แตใ่ ชเ้ รอื เลยี บชายฝั่งไปส่งสนิ คา้ ทีป่ ระเทศกมั พชู าแทนการใช้รถบรรทกุ

- มีการให้บริการเรือจากแหลมฉบังไปยงั ท่าเรอื สงขลา โดยนำรถบรรทกุ ที่บรรทุกสนิ คา้ ลงเรือไปเลย
โดยไมต่ ้องขนถ่ายสินค้า

2. การขนส่งทางรถไฟ (Railroad Transportation)
การขนสง่ ทางรถไฟ จะมีโครงสร้างพ้นื ฐานที่สำคญั คือ สถานรี ถไฟและรางรถไฟ โดยรางรถไฟจะเปน็
โครงสร้างทไ่ี ปกำหนดเสน้ ทางตายตัว ดังนั้นเสน้ ทางรถไฟหนง่ึ ๆ จึงเกิดการคุ้มค่าจากการสร้างเพราะมี
ปรมิ าณการใช้สงู
ขอ้ ดี
1. ประหยดั ค่าขนสง่ เหมาะสำหรบั การขนสง่ สนิ คา้ จำนวนมาก ๆ ระยะทางไกล ๆ
2. มรี ะดับความปลอดภัยสงู มาก
3. บรรทุกนำ้ หนักได้มาก
ขอ้ เสยี

1. ใช้เวลานาน ถึงท่ีหมายช้า และมีความน่าเชอ่ื ถือต่ำ
2. ต้นทนุ การบรรจุภณั ฑส์ งู เพราะระวางสินคา้ ต้องแขง็ แรง สามารถทนทานแรงกระแทกสงู
3. ตอ้ งมีการขนถา่ ยซำ้ เพราะตอ้ งมกี ารขนส่งจากสถานีไปยังปลายทาง
4. ขอ้ จำกัดด้านรางรถไฟ มจี ำกัด และมักจะให้ความสำคญั กบั การโดยสารก่อน

กรณตี ัวอยา่ งการพฒั นาระบบการขนสง่ ทางราง

- ประเทศไทยและจีนไดด้ ำเนนิ ขอ้ ตกลงในการเชื่อมตอ่ เสน้ ทางรถไฟ เพื่อให้สินค้าจากจนี ตอนใต้ เช่น

มณฑลยนู านขนส่งมาทีท่ า่ เรอื แหลมฉบงั หรือท่าเรอื ระนองได้

- สำหรับการขนส่งทางรถไฟในประเทศ เมอื่ เปรยี บเทียบกบั การขนสง่ ทางถนนแล้ว มีเพียงสนิ คา้

บางชนิด และจากบางตำแหน่งที่ต้ังเท่านั้นท่ีค่าขนสง่ ทางรถไฟถกู กวา่ ทางถนน ดังนนั้ ปรมิ าณการขนสง่ ทาง

รถไฟในประเทศไทยจึงมนี ้อยมาก

3. การขนส่งทางถนน (Truck Transportation) เปน็ รปู แบบการขนส่งทีส่ ะดวกท่ีสุด เพราะเปน็ การ

ขนสง่ ทีส่ ามารถเขา้ ถึงต้นทางและปลายทางได้ (ตามเท่าที่ถนนจะมี) ไมต่ อ้ งมกี ารขนถ่ายสินคา้ จากการเปลี่ยน

ยานพาหนะ เรามกั เรยี กการขนสง่ ทางถนนวา่ Door-to-Door โดยมโี ครงสรา้ งพ้ืนฐานหลกั คือ ถนน

ข้อดี

1. ให้บรกิ ารได้อยา่ งรวดเรว็ สะดวกและไมต่ ้องมกี ารขนถ่ายซ้ำ

2. สามารถขนส่งสนิ ค้าไดห้ ลากหลายประเภทตง้ั แตป่ ริมาณนอ้ ยไปจนถึงปรมิ าณมาก

3. จำนวนเที่ยวของการขนส่งมบี อ่ ยครัง้ ตามทีต่ ้องการ ควบคุมเวลาได้ดี ครอบคลมุ พ้นื ทีก่ ารบรกิ ารขนสง่ ได้

กวา้ งไกลกวา่

4. สามารถรักษาต้นทนุ บรรจภุ ณั ฑใ์ ห้ตำ่ ได้ เพราะระวางสนิ คา้ ไม่จำเปน็ ตอ้ งทนแรงกระแทกสูง

ขอ้ เสยี
1. ถา้ ปริมาณสนิ ค้ามากหรอื ระยะทางไกลจะมีตน้ ทุนการขนสง่ ค่อนขา้ งสูง
2. ข้อจำกดั ด้านถนน ไปไดเ้ ท่าทถ่ี นนจะไปถึง ไม่สามารถข้ามทวีปได้

กรณีตวั อย่าง
3. มกี ารทดลองรถพว่ งสองตอน (B-Double) เพื่อใหส้ ามารถบรรทกุ ต่อเท่ยี วเพ่ิมขนึ้ แตย่ ังประสบ

ปญั หาเร่อื งความพร้อมของสภาพถนนยังไมเ่ หมาะสม
4. รถบรรทุกพ่วงซง่ึ บรรทุกสนิ ค้าหนัก มีการปรับจากรถพ่วงสองเพลาเปน็ สามเพลา โดยเพลาท่ี

เพิม่ ขนึ้ จะช่วยให้สามารถบรรทกุ สนิ คา้ ไดน้ ้ำหนักมากขน้ึ ตามกฎหมาย

5. ผู้ประกอบการขนส่ง ได้ติดตงั้ ระบบเช้ือเพลงิ NGV โดยเฉพาะในรถหัวลาก เพื่อลดตน้ ทุน
นำ้ มนั เชอื้ เพลิง แตย่ ังประสบปญั หาเร่ืองปริมาณก๊าซท่ีบรรจุได้สามารถวิง่ ได้ระยะทางไม่มากนัก และสถานี
บรรจุก๊าซยังมไี มเ่ พียงพอ

4. การขนส่งทางอากาศ (Air Transport) เปน็ วิธกี ารขนสง่ ทรี่ วดเร็วทส่ี ดุ และมีค่าใชจ้ ่ายใน
การขนส่งท่มี รี าคาแพงทส่ี ุด โครงสรา้ งพื้นฐานที่สำคัญของการขนสง่ ประเภทน้คี ือ ท่าอากาศยาน ความ
หนาแนน่ ของเส้นทาง และตารางการบิน จากข้อจำกดั ดังกล่าว การขนสง่ ในรูปแบบนจ้ี ึงมักจำกดั ในรปู แบบ
ของหีบห่อและประเภทของสินค้าที่จะใช้ในการขนส่ง อีกท้ังตน้ ทนุ ต่อหนว่ ยของน้ำหนักที่คอ่ นขา้ งสูง สนิ ค้าจึง
ต้องมนี ้ำหนักเบา และปริมาตรไมใ่ หญ่
ขอ้ ดี

1. มคี วามรวดเรว็ และกำหนดเวลาที่ชดั เจนได้ โดยเฉพาะกบั การขนสง่ สนิ ค้าทมี่ ีขอ้ จำกัดดา้ นเวลา
2. สามารถรักษาต้นทุนบรรจุภณั ฑใ์ ห้ตำ่ ได้ เพราะระวางสนิ คา้ ไม่จำเปน็ ต้องทนแรงกระแทกสงู
ขอ้ เสีย
1. คา่ ขนสง่ มรี าคาแพง จนไม่สามารถนำมาใชก้ ับสินคา้ ท่มี ีต้นทุนตำ่ ได้
2. ข้อจำกัดของขนาดสินคา้ ขนาดบรรจขุ องเครื่องบินเม่ือเทียบกับเรือ
3. การขนสง่ ทางอากาศจะมงี านด้านเอกสารมากข้ึน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย
4. ตอ้ งมีการขนถ่ายซ้ำ เพราะตอ้ งมีการขนสง่ จากสนามบินไปยงั ปลายทาง
5. การขนสง่ ทางท่อ (Pipeline) เป็นรปู แบบการขนส่งท่นี ยิ มใช้กับสินคา้ เฉพาะอยา่ งเท่าน้นั เช่น กา๊ ซ นำ้ มนั
โดยการขนส่งทางทอ่ ต้องอาศัยโครงสรา้ งพืน้ ฐานคือ ทอ่ ขนสง่

ข้อดี
1. มีความคล่องตวั ในการขนถา่ ยสินค้าจำนวนมากไดด้ ว้ ยต้นทนุ ท่ีต่ำ ไม่ต้องมีบรรจุภณั ฑ์
2. สามารถขนสง่ ได้ถงึ สถานที่ทีต่ ้องการและไม่จำกดั เวลาขนส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. การบำรุงรักษาท่อขนส่งและการดำเนินงานรวมไปถงึ คา่ แรงงาน สำหรบั การขนส่งทางท่อ เสีย
ค่าใช้จ่ายค่อนขา้ งต่ำ
ข้อเสยี
1. ขนส่งได้จำกัดเฉพาะกา๊ ซและของเหลว
2. อาจมีการขนถา่ ยซ้ำ เช่น การขนสง่ นำ้ มันจากปลายทอ่ ไปยงั สถานีนำ้ มันต่าง ๆ โดยใช้รถไฟ หรือ
รถบรรทกุ
3. ตน้ ทุนในการลงทุนวางท่อในครัง้ แรกสงู และไมส่ ามารถสับเปลยี่ นประเภทสนิ คา้ ที่ขนสง่
ได้ ท่อขนส่งหน่ึง ๆ มกั จะรองรับผลติ ภัณฑไ์ ดป้ ระเภทเดียว
ปจั จัยทีม่ อี ิทธิพลต่อต้นทนุ ค่าขนส่ง
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกบั สินคา้ และมีอทิ ธิพลต่อต้นทุนค่าขนสง่ และการกำหนดราคามีดังน้ี

1. ความหนาแนน่ (Density) คอื อัตราส่วนของนำ้ หนกั ต่อปรมิ าตรสนิ ค้า โดยทวั่ ไปต้นทุนคา่ ขนส่ง
และการกำหนดราคาจะพจิ ารณาจากความหนาแนน่ ของสินคา้ สนิ ค้าใดท่ีมีความหนาแน่นต่ำจะมีความ
เปน็ ไปได้ทจ่ี ะเสยี ค่าใช้จ่ายในการขนสง่ ตอ่ นำ้ หนกั สูงกวา่ สนิ ค้าทมี่ ีความหนาแนน่ สูง เชน่ สนิ ค้าประเภท
เหล็กจะมีความหนาแน่นสูงกวา่ สินค้าอิเลก็ ทรอนิกส์ เปน็ ตน้

2. ความรบั ผิดชอบ (Liability) ตอ่ สินค้าท่มี มี ลู ค่าสูง เช่น อัญมณี คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ ซ่งึ สินค้า
เหล่านีจ้ ะมคี วามเส่ยี งต่อการสญู หาย การเสียหายในอตั ราทส่ี ูง ผู้ขนสง่ ต้องมภี าระในการรับผิดชอบ
ควบคุมดแู ลการขนส่งสงู กวา่ การขนสง่ สินคา้ ปกติทั่ว ๆ ไป จงึ เป็นผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสูง

3. ความสามารถในการจัดเรียงสินคา้ บนยานพาหนะ (Stow ability) ตน้ ทนุ คา่ ขนสง่ ตอ่ หนว่ ย
สำหรบั สินค้าแต่ละประเภทจะมคี วามแตกต่างกันตามความสามารถในการจัดเรียง เนื่องจากสนิ ค้าบาง
ประเภทมลี ักษณะเป็นหนว่ ยย่อย มีขนาดเลก็ สามารถจัดเรียงได้ทกุ พ้นื ทบี่ นพาหนะ เช่น ผลิตภณั ฑ์
ปโิ ตรเลียม เมล็ดข้าว เมลด็ ถั่ว เปน็ ตน้ สว่ นสนิ คา้ บางประเภทมลี ักษณะโครงสรา้ งจำกดั ไมส่ ามารถแบง่ แยก
ออกเปน็ หนว่ ยย่อย ไม่ยดื หยุ่นตามรูปทรงของพืน้ ท่ยี านพาหนะหรอื เครอ่ื งมอื ท่ีทำการขนส่ง เชน่ เฟอรน์ เิ จอร์
ตน้ ไม้ ไม่สามารถจดั เรยี งใหเ้ ต็มพ้ืนท่บี นยานพาหนะได้ กอ่ ใหเ้ กดิ การสญู เสยี พืน้ ที่บางสว่ นที่ไมอ่ าจนำสินคา้ ใด
มาจดั เรียงเพิ่มเติมได้

4. ความสะดวกในการขนถ่าย (Fast of Handling) สินค้าบางประเภทท่ีมีบรรจุภัณฑม์ คี วาม
แข็งแรง ทนทาน สามารถขนถ่าย ขนยา้ ยได้สะดวก รวดเรว็ เช่น สนิ คา้ ที่มีบรรจภุ ัณฑเ์ ป็นกลอ่ ง เป็นลัง จะทำ
ใหต้ ้นทุนการขนสง่ ต่ำ ปัจจบุ นั จึงได้มีการพฒั นารปู แบบบรรจภุ ณั ฑ์ใหม้ ีความเหมาะสม สอดคลอ้ งกับประเภท
และลกั ษณะของการขนส่งเพือ่ ให้เกิดความสะดวกในการขนถ่าย อันจะสง่ ผลตอ่ เวลา และตน้ ทนุ ในการ
ดำเนนิ งานท่ีลดลง
ต้นทุนในการขนสง่ และคำนวณตน้ ทนุ การขนส่ง

ในการดำเนินธรุ กจิ สิง่ ที่สำคัญคือ ตน้ ทนุ และต้นทนุ ท่ีสำคญั ในการปฏิบัติการโลจิสตกิ ส์ กค็ อื
ตน้ ทนุ การขนส่ง สำหรับต้นทุนการขนส่งในที่นี้จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

กรณีท่ี 1 การขนสง่ ด้วยตัวเอง (Private Carrier)
ในการดำเนนิ การขนสง่ ดว้ ยตนเองผู้ดำเนนิ การขนสง่ จะมีต้นทนุ ท่สี ำคญั ประกอบดว้ ย

1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) เปน็ ต้นทุนทีเ่ กิดจากการมยี านพาหนะ แมว้ ่าจะมี
การขนส่งหรือไม่มกี ารขนส่งเกิดข้นึ กต็ ามก็จะมตี ้นทุนน้ีเกดิ ขน้ึ ตัวอยา่ งเชน่ คา่ เสือ่ มราคา คา่ บรหิ ารจดั การ ค่า
พนักงานรายเดือน

2. ต้นทนุ ผันแปร (Variable Costs) เปน็ ตน้ ทุนทีผ่ ันแปรไปตามการขนส่ง หากไม่
มกี ารขนส่งเกิดขน้ึ จะไมม่ ตี ้นทนุ นเี้ กดิ ข้ึนเช่นกนั โดยสว่ นใหญ่มกั จะเปน็ ต้นทุนที่เกิดข้นึ เมือ่ มีการขนส่งยิ่งมี
การขนส่งในระยะทางไกลมากเทา่ ใดตน้ ทนุ น้ีจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ในการจดั การต้นทุนน้ีผูป้ ระกอบการเกี่ยวกับการ
ขนส่งมกั ต้องการทราบตน้ ทุนต่อหน่วยในการขนสง่ ไม่ว่าจะเปน็ ตน้ ทุน

ต่อหนว่ ยระยะทาง ต้นทนุ ต่อเที่ยวรถ ตน้ ทนุ ตอ่ หนว่ ยสนิ ค้า โดยตวั อย่างดังต่อไปนี้ แสดงถงึ ตน้ ทนุ ของการ
ขนส่ง ประกอบด้วยต้นทุนคงที่ และตน้ ทนุ ผันแปร และแสดงการคำนวณต้นทุนการขนส่งตอ่ หน่วย

ตัวอย่าง มรี ถขนสง่ ประเภทบรรทกุ 10 ลอ้ จำนวน 15 คัน โดยมีต้นทุนคงท่ีและต้นทุนผนั แปรดงั น้ี

ต้นทุนคงที่

ตน้ ทุนคงทีต่ อ่ ทงั้ Fleet หนว่ ย

คา่ จา้ งพนักงานขับรถรายเดอื น บาทต่อเดือน

150,000

ค่าบรหิ ารจัดการ บาทตอ่ เดือน

120,000

ต้นทุนคงทตี่ ่อคัน หน่วย

คา่ เสื่อมราคาของรถ บาท/คัน/เดอื น

75,000

คา่ เสื่อมราคาของอปุ กรณ์ บาท/คัน/เดือน

6,000

ค่าประกัน บาท/คนั /เดือน 4,500

ค่าทะเบยี นและใบอนญุ าต บาท/คัน/เดอื น 3,000

ตน้ ทนุ ผนั แปร หนว่ ย
ตน้ ทนุ ผันแปรตอ่ ระยะทาง บาท/กโิ ลเมตร
ค่าน้ำมนั เช้อื เพลิง
6.00 บาท/กิโลเมตร
ค่าบำรุงรักษา
2.00 บาท/กโิ ลเมตร
คา่ ยางรถยนต์
0.60 บาท/กิโลเมตร
คา่ แรงพนกั งาน
0.50 หน่วย
ตน้ ทนุ ผนั แปรตอ่ เที่ยววิ่ง บาท/เท่ียว
คา่ ทางพิเศษ
150 บาท/เทย่ี ว
ค่าแรงพนกั งาน
80

หากใน 1 ปี มกี ารขนสง่ ดงั ตอ่ ไปน้ี

- ระยะทางท่ีขนสง่ : 600,000 กิโลเมตร
20,000 เท่ียว
- จำนวนเที่ยวในการขนสง่ :

ต้นทนุ ในการขนส่งท้ังปี สามารถคำนวณไดด้ ังนี้
ตน้ ทนุ คงที่ : [(150,000+120,000) x12] + [(75,000+6,000+4,500+3,000) x15x12] = 19,170,000 บาท
ตน้ ทุนผันแปร:[(6+2+0.6+0.5) x 600,000] + [(150+80) x 20,000] = 10,060,000 บาท

ต้นทุนต่อหน่วย 19,170,000+10,060,000 =
ตน้ ทนุ ตอ่ ปี 29,230,000/600,000 =
29,230,000 บาท 29,230,000/20,000 =
ตน้ ทนุ ตอ่ กโิ ลเมตร
48.72 บาท
ต้นทุนต่อเทยี่ วขนส่ง
1,461.50 บาท

กรณีที่ 2 การว่าจา้ งผู้ใหบ้ รกิ ารขนสง่ (Contract Carrier)
การว่าจ้างบริษัทภายนอกให้บริการขนส่งน้ัน จะมีลักษณะต้นทุนหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับ

ขอ้ ตกลงกันระหวา่ งผู้ว่าจา้ งและผู้ใหบ้ รกิ ารขนส่ง
- บาทตอ่ เที่ยวเป็นการขนสง่ ต่อเทีย่ ว
- บาทต่อหนว่ ยสินค้า เชน่ บาทต่อกลอ่ ง บาทตอ่ พาเลท
- บาทต่อเที่ยว บวกกบั บาทต่อระยะทาง
- อ่นื ๆ

ตน้ ทนุ ทต่ี กลงกบั ผใู้ หบ้ ริการขนส่งในแต่ละรปู แบบก็จะมีข้อดีท่แี ตกตา่ งกันออกไป เช่น บาทต่อ
หน่วยสินค้า จะทำใหบ้ รษิ ัทมีปริมาณการขนสง่ ทเี่ พิ่มขึ้น

ในการว่าจ้างผใู้ ห้บริการขนส่ง โดยทั่วไปเรามักจะคำนึงถึงตน้ ทุนการขนส่งเป็นหลัก เพราะเป็น
ต้นทุนทเ่ี ห็นได้ชัดเจน แตห่ ากเราคำนึงถึงแต่ตน้ ทุนการขนส่ง เราอาจจะตอ้ งมีต้นทนุ สินค้าคงคลงั สูงตามไปดว้ ย
ดังนั้นเพื่อให้การจัดการโลจิสติกส์เกิดประสิทธิภาพ นอกจากจะพิจารณาต้นทุนการขนส่งแล้ว เราจำเป็นต้อง
พิจารณาตน้ ทนุ สนิ ค้าคงคลังดว้ ย ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้

ตัวอย่าง การเลือกรูปแบบการขนส่งจากการว่าจ้างผู้ให้บริการขนส่ง โดยพิจารณาจากต้นทุนการขนส่งและ
ต้นทุนสินคา้ คงคลัง

ขอ้ มลู ขนสง่ ทางเคร่ืองบนิ ขนสง่
15 วัน
ทางเรอื 2 วัน 10 บาท/หนว่ ย
72 บาท/หนว่ ย 949 บาท/หน่วย/ปี
ระยะเวลาการขนสง่ (A) 949 บาท/หนว่ ย/ปี 1 ครั้ง/
16,000 หนว่ ย
ราคาคา่ ขนสง่ (B) 4 ครง้ั /เดือน
ขนสง่ ทาง
ต้นทุนเงินจมของสนิ ค้าคงคลัง (C) 4,000 หนว่ ย 16,000x1x12x10

ความถี่ในการขนส่ง (D) =

เดอื น =
949 x
ปริมาณการขนสง่ ต่อครง้ั (E)
=
การคำนวณตน้ ทุนรวมของการขนสง่ ทางเคร่ืองบินและการขนสง่ ทางเรอื = 17,000,000

ต้นทุนต่อปี ขนส่งทางเครื่องบิน

เรอื

การขนสง่ 4,000x4x12x72

[E x D x 12 x B] = 13,824,000

1,920,000

สินคา้ คงคลงั ระหวา่ งการขนสง่ 4,000x4x12x2x(949/365)

16,000x1x12x15x(949/365)

[E x D x 12 x A x (C/365)] = 998,400

7,488,000

สินคา้ คงคลงั ที่จดุ รบั สนิ คา้ 949 x (4,000/2)

(16,000/2)

[C x (E/2)] = 1,898,000

7,592,000

ต้นทุนรวม = 16,720,400

จากตัวอย่างข้างต้นหากพิจารณาต้นทุนรวมทั้งต้นทุนการขนส่งและต้นทุนสินค้าคงคลังจะเห็น
ได้ว่า ต้นทุนรวมของการขนส่งทางเรือจะสูงกว่าการขนส่งทางเคร่ืองบิน ดังน้ัน เราควรเลือกการขนส่งทาง
เครื่องบนิ แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากจะพิจารณาต้นทุนดังกล่าวแล้ว ผู้ใชบ้ ริการขนส่งจะต้องพิจารณาถึงต้นทุน
อนื่ ๆ ประกอบดว้ ย เช่น ต้นทุนท่ีเก่ียวข้องกับการประกนั ภัย หรือต้องพิจารณาแง่มุมอื่น ๆ ท่ีควรพิจารณา เช่น
ความพงึ พอใจ และความคล่องตวั ในการจัดการ

ใบมอบหมายงานท่ี 7
ช่อื วชิ า โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน
หน่วยท่ี 7 ชื่อหนว่ ย การขนส่ง เวลา 3 ชว่ั โมง

ชื่อเร่ือง การขนสง่
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. บอกความหมายของการขนสง่ ได้
2. บอกความสำคญั ของการขนสง่ ได้
3. อธิบายประโยชนข์ องการขนสง่ ได้
4. บอกอรรถประโยชน์ของการขนส่งได้
5. เปรยี บเทียบรปู แบบวธิ กี ารขนสง่ ได้
6. อธบิ ายปจั จยั ทม่ี ีอทิ ธิพลต่อการขนสง่ ได้
7. คำนวณต้นทุนการขนสง่ ได้
แนวทางการปฏบิ ัติงาน
1. แบง่ นกั ศกึ ษาออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละเท่าๆ กนั ตามความสมัครใจ
2 มอบหมายงานตามลำดับกลุ่มให้สอดคล้องจุดประสงค์การเรยี นรู้
3. ให้นักศกึ ษาแต่ละกลุ่มไปศกึ ษา ค้นควา้ หาข้อมูล และรว่ มกันจัดทำเปน็ บอร์ดวิชาการเผยแพร่
ความรู้และนำเสนอหน้าช้นั เรียน
4. ครู นักศึกษาเยย่ี มชมบอรด์ วชิ าการ
5. ครูเสนอแนะเพม่ิ เติมและบรรยายสรปุ
กำหนดระยะเวลาท่สี ง่ งาน ภายหลังการนำเสนอ

การประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมการทำงานกลุม่
2. การนำเสนอ
3. ช้นิ งาน
4. การตอบขอ้ ซกั ถาม
5. การตรงต่อเวลา

แหล่งคน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ
1. กอ่ เกยี รติ วริ ยิ ะกิจพัฒนา โลจสิ ติกส์และซัพพลายเชน. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท วังอกั ษร จำกดั , 2563

ใบทดสอบหลังเรียน แผน่ ท่ี....1..

หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชัน้ สงู พุทธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บริหารธุรกจิ

รหัสวชิ า 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกสแ์ ละซัพพลายเชน

หนว่ ยที่ 7 ชอื่ หน่วย การขนส่ง จำนวน.....6....ชั่วโมง

ช่อื ผู้เรยี น................................ระดบั ช้ัน................................

เรือ่ ง....การขนสง่ ...............เวลา.............10.................นาที

คำสง่ั จงทำเครือ่ งหมายกากบาท (x) ลงหนา้ ขอ้ ทถ่ี ูกต้อง

1. วิธีการขนส่งใด มีความคล่องตัวในการขนถ่ายสินค้าจำนวนมากได้ด้วยต้นทุนต่ำไม่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ ไม่จำกัด
เวลา ขนส่งได้ตลอด 24 ชว่ั โมง

ก. การขนส่งทางนำ้ ข. การขนสง่ ทางรถไฟ

ค. การขนสง่ ทางถนน ง. การขนส่งทางทอ่

2. ปลาทูสดอยู่ทจ่ี งั หวดั สมุทรสาครราคากิโลกรมั ละ 10 บาท พอสง่ ไปจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยาราคากิโลกรัมละ
45 บาท เปน็ อรรถประโยชนท์ ีเ่ กดิ จากการขนสง่ ขอ้ ใด

ก. อรรถประโยชนเ์ ก่ียวกบั สถานที่ ข. อรรถประโยชน์เกย่ี วกบั เวลา

ค. อรรถประโยชนเ์ กยี่ วกบั รูปแบบ ง. อรรถประโยชนเ์ กยี่ วกับการโอนกรรมสทิ ธ์ิ

3. การเคลอ่ื นย้ายสนิ คา้ /บริการจากแหลง่ ผลิตไปยงั สถานท่ที ีบ่ ริโภคสนิ ค้า/บรกิ ารดว้ ยความรวดเร็วและสม่ำเสมอ
หมายถึงขอ้ ใด

ก. การเพ่ิมมลู คา่ สินคา้ ข. การขนส่ง

ค. อรรถประโยชน์ดา้ นสถานที่ ง. ความรวดเรว็

4. วธิ ีการขนส่งใดสามารถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ปริมาณมาก น้ำหนกั มากไดม้ ีระวางความจุสูง เหมาะกับการ
ขนสง่ ระยะทางไกล

ก. การขนส่งทางน้ำ ข. การขนส่งทางรถไฟ

ค. การขนสง่ ทางถนน ง. การขนสง่ ทางท่อ

ใบทดสอบหลังเรยี น แผน่ ท่ี....2..

หลักสูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู พทุ ธศกั ราช 2563 ประเภทวชิ า บรหิ ารธรุ กิจ

รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ สแ์ ละซพั พลายเชน

หนว่ ยที่ 7 ชอ่ื หนว่ ย การขนสง่ จำนวน.....6....ชวั่ โมง

ชอ่ื ผู้เรียน................................ระดบั ชัน้ ................................

เร่ือง....การขนส่ง...............เวลา.............10.................นาที

5. วธิ กี ารขนสง่ เรยี กอีกอย่างหนงึ่ ว่า Door-to-Door

ก. การขนส่งทางนำ้ ข. การขนส่งทางรถไฟ

ค. การขนสง่ ทางถนน ง. การขนส่งทางท่อ

6. ต้นทุนของการขนส่งด้วยตนเอง ประกอบด้วยตน้ ทุนก่ปี ระเภท อะไรบ้าง

ก. 1 ตน้ ทุน คอื ต้นทนุ คงที่ เพราะต้องลงทุนซ้ือยานพาหนะ

ข. 2 ต้นทุน คอื ตน้ ทุนคงท่แี ละต้นทนุ ผนั แปร

ค. 3 ต้นทนุ คือ ตน้ ทนุ คงที่ ตน้ ทุนผันแปรและตน้ ทุนผสม

ง. 3 ตน้ ทุน คือ ตน้ ทุนคงท่ี ตน้ ทุนผันแปรและตน้ ทนุ จม

7. ข้อใดเปน็ ตน้ ทนุ คงที่ของการขนส่งทัง้ หมด

ก. คา่ เบ้ียประกันภัย ค่าเส่ือมราคา

ข. คา่ ลว่ งเวลาของพนกั งาน ค่าเสือ่ มราคา

ค. ค่านำ้ มนั ยานพาหนะ คา่ บรหิ ารจดั การ

ง. ค่าจ้างพนกั งานรายเดือน คา่ อะไหล่

ใบทดสอบหลงั เรยี น แผน่ ท่ี....3..

หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สงู พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธุรกิจ

รหัสวิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน

หนว่ ยที่ 7 ชอ่ื หน่วย การขนส่ง จำนวน.....6....ชวั่ โมง

ชื่อผเู้ รียน................................ระดบั ชัน้ ................................

เรือ่ ง....การขนสง่ ...............เวลา.............10.................นาที

8. ข้อใดคอื ผลเสียของการลงทุนการขนสง่ ทางท่อ

ก. การลงทนุ สูง ข. การให้บรกิ ารจำเพาะ

ค. ผขู้ นส่งเปน็ ผู้ลงทุนเอง ง. ปริมาณแก๊ส/นำ้ มนั มจี ำนวนจำกัด

9. ใช้บรรทุกผกั และผลไมส้ ดทไี่ ม่จำเป็นตอ้ งใช้บรรทกุ ในตแู้ บบหอ้ งเยน็ หมายถงึ ขอ้ ใด

ก. ตูร้ ะบายอากาศ ข. ตู้ห้องเยน็

ค. ตู้ฉนวน ง. ตพู้ เิ ศษ

10. การขนส่งระบบใดท่ีสนับสนนุ ระบบโลจสิ ติกส์ได้อย่างสมบรู ณ์

ก. ตู้ไม้ ข. ตู้คอนเทนเนอร์

ค. กระสอบ ง. พลาสติก

เฉลย
1. ง 2.ก 3.ข 4. ก 5. ค 6.ข 7. ก 8. ก 9. ก 10. ข

แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล

ใบงานท่ี 7 เร่ือง การขนส่ง
กลมุ่ ที่ ...................

ท่ี คะแนน การรบั ฟัง การเสนอ การยอมรบั การสร้าง รวม ระดับการ
ความคดิ ความคดิ คนอ่ืน บรรยากาศ คะแนน มี
ช่ือสกลุ
1 เหน็ เห็น ในกลุ่ม 20 ส่วนรวม
2
3 5 55 5
4
5
6
7
8
9
10

ระดับของคะแนน

5 = มากท่ีสุด 4 = ค่อนข้างมาก
3 = ปานกลาง 2 = คอ่ นขา้ งอ่อน
1 = นอ้ ยที่สดุ

เกณฑก์ ารประเมิน 15-20 = มาก
8-14 = ปานกลาง
1-7 = นอ้ ย

ลงชอ่ื ...........................................ผปู้ ระเมนิ

การขนส่ง

คะแนน การนำเสนอผลงาน การบันทกึ ผลงาน รวม
คะแนน ระดับคณุ ภาพ
กล่มุ ท่ี ขนั้ นำ ขน้ั สอน ขั้นสรปุ ถูกต้อง เรียบร้อย 50 ของผลงาน
10 10 10 10 10
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ระดบั ของคะแนน 8 - 10 = ดมี าก 7 - 8 = ดี
5 – 6 = พอใช้ 0 – 4 = ควรปรับปรงุ

เกณฑก์ ารประเมิน 35 - 50 = ดี
17 - 34 = ปานกลาง
1 - 16 = ควรปรบั ปรงุ

ลงชื่อ...........................................ผู้ประเมนิ

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม
วนั ท่ี......เดือน....................พ.ศ. ....................

ชื่อ...............................................นามสกุล.......................................ระดับชั้น.................เลขที่........
แผนก..................................................................คณะ......................................................................

ลำดับ พฤตกิ รรมทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน หมายเหตุ

1 ความรับผดิ ชอบต่อหน้าทแ่ี ละงานที่ได้รับ 3 2 1 ความหมายของระดบั คะแนน
มอบหมาย 3= ปฏิบตั อิ ยา่ งสมำ่ เสมอโดยไม่
ตอ้ งมกี ารชนี้ ำหรือตักเตอื น
2 กลา้ คิด กลา้ ทำ และกล้าตัดสนิ ใจดว้ ยเหตุผล 2= ปฏบิ ตั ิบ้างในบางครง้ั
3 มมี นุษยสัมพนั ธ์ทดี่ ตี อ่ เพ่อื นๆ จากการเชญิ ชวนหรือช้ีนำ
4 เอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่เสียสละเพื่อส่วนรวม 1= ตอ้ งสัง่ บงั คบั วา่ กล่าวหรือ
5 มีวินัยซือ่ สัตย์และประหยัด ตกั เตอื นจึงจะปฏิบตั ิ หรอื มกั จะ
6 รจู้ ักการใหโ้ อกาส ใหอ้ ภัย ปฏิบตั ิในทางท่ีผดิ เสมอ
7 การยอมรับการปฏบิ ัติต่อมตขิ องกลุ่ม
8 ไมเ่ อาเปรยี บเพ่ือนผเู้ รียนด้วยกนั เกณฑ์การประเมนิ
9 แสดงกริ ิยาวาจาสภุ าพตอ่ ทกุ คน 26-30 คะแนน= ดมี าก
10 แสดงความมนี ำ้ ใจต่อครู/อาจารย์ 21-25 คะแนน= ดี
16-20 คะแนน= พอใช้
รวม (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) 0-15 คะแนน= ควรปรับปรงุ

บนั ทกึ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
........................

ลงชือ่ ...........................................ผปู้ ระเมนิ





การวเิ คราะห์หัวข้อ

หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง พทุ ธศักราช 2563 ปร
รหสั วชิ า 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกส์และซพั พลา
ทฤษฎี.....3.......ชั่วโมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ............-.....ชั่วโมง/สปั ด

หน่วยท/่ี ช่อื หนว่ ย รายการความรู้

8. ระบบสารสนเทศเพื่อการ 1. บทบาทของการแขง่ ขันในระบบซพั พลายเชน 1. บอกบท
จัดการโลจิสติกส์และซัพ 2. ระบบสารสนเทศ 2. อธิบาย
พลายเชน

3. การพาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ 3. บอกกา

4. ระบบดงึ และระบบผลกั 4. บอกระ

5. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื เพิม่ ประสิทธิภาพในระบบซัพ 5. อธิบาย

พลายเชน พลายเชน

6. ความรู้เก่ียวกบั การแลกเปลีย่ นข้อมูลทาง 6. บอกคว

อิเล็กทรอนกิ ส์

หมายเหตุ ISL= ระดบั ความรู้ความสามารถทางสตปิ ัญญา (Intellectual skill Level) PSL=ระดบั ความสาม

R:การฟื้นความรู้ (Recalled Knowledge) I
A:การประยุกตค์ วามรู้ (Applied Knowledge) C
T:การส่งถา่ ยความรู้ (Transferred Knowledge) A

อการสอนและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

ระเภทวชิ า บริหารธรุ กจิ
ายเชน
ดาห์ จำนวน.3.หน่วยกิต

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ISL PSL
RATI CA
ทบาทของการแขง่ ขันในระบบซัพพลายเชนได้
/

ยระบบสารสนเทศได้ /

ารพาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ได้ / /
/
ะบบดึง และระบบผลักได้
/
ยการใช้เทคโนโลยเี พอ่ื เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในระบบซัพ
นได้
วามรู้เก่ยี วกับการแลกเปลีย่ นข้อมลู ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ได้

มารถในการใชก้ ลา้ มเนอื้ ทำงาน(Physical skill Level)

: ทำได้ตามแบบ (Imitation is needed)
C : ทำไดด้ ว้ ยความถกู ต้อง (Control is needed)
A : ทำด้วยความชำนาญ (Automation is needed)

กรอบการจัดการเรยี นรู้แบบบรู ณาการ

หน่วยท่ี 8 ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการโลจิสติกส์และซพั พลายเชน

พอประมาณ

1. ผู้เรียนจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏบิ ัติตาม
ใบงานได้อยา่ งเหมาะสม
2. ผเู้ รียนรู้จักใช้และจดั การวสั ดุอปุ กรณ์
ตา่ ง ๆ อยา่ งประหยดั และค้มุ คา่
3. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิตนเป็นผนู้ ำและผู้ตามที่ดี
4. ผู้เรียนเป็นสมาชิกทดี่ ีของกลุ่มเพือ่ น

มีภมู คิ ุ้มกันท่ดี ี

ความมเี หตผุ ล 1. มกี ารเตรียมความพร้อมในการเรียนและการ
ปฏบิ ตั ิงาน
1. กลา้ แสดงความคดิ อย่างมเี หตุผล
2. กล้าทกั ท้วงในสิ่งท่ีไมถ่ กู ต้องอย่างถูกกาลเทศะ 2. กลา้ ซักถามปัญหาหรอื ข้อสงสยั ต่าง ๆ อยา่ งถกู
3. กลา้ ยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ กาลเทศะ
4. ไมม่ ีเรอ่ื งทะเลาะววิ าทกับผอู้ ่ืน
3. แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเองอย่างเป็น
เหตุเปน็ ผล

ความรู้ + ทกั ษะ 4. ควบคณุคมุ ธอรารรมมณ์ของตนเองได้
1. ใช้วสั ดอุ ย่างประหยดั และคมุ้ คา่ 1. ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จตามกำหนด
2. ปฏิบตั ิงานด้วยความละเอียดรอบคอบ 2. ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ5อ์ .ยคา่ วงบคคุม้ ุมคกา่ ริ ิยปารอะาหกยารดั ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้
3. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ 3. มีความเพียรพยเปาย็นาอมยแ่าลงดะกี ระตือรอื รน้ ในการเรียนและ
พอเพียง
การปฏิบตั งิ าน

4. ให้ความรว่ มมอื กบั การทำกิจกรรมของสว่ นรวม อาสา
ชว่ ยเหลืองานครแู ละผู้อน่ื

สังคม เศรษฐกิจ นำไปสู่ วฒั นธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม
สงั คม ชุมชนมีคุณภาพชีวิต ใชส้ ง่ิ ของอยา่ งรูค้ ุณค่า
ทดี่ ขี ้นึ สภาพเศรษฐกจิ มีความ มีการปลูกฝังกจิ นิสยั การ ใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ทำลาย
ส่งิ แวดลอ้ ม
คลอ่ งตวั มรี ายไดแ้ ละมี ประหยดั อดออม

การใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ

แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายหน่วย

หลักสตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสงู พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธรุ กิจ
รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกส์และซัพพลายเชน
หน่วยที่ 8 ชอื่ หนว่ ย สารสนเทศในระบบโซอ่ ุปทาน จำนวน.....6....ชว่ั โมง

หวั ข้อเร่ือง
1. บทบาทของการแข่งขนั ในระบบซัพพลายเชน
2. ระบบสารสนเทศ
3. การพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกส์
4. ระบบดงึ และระบบผลัก
5. การใชเ้ ทคโนโลยเี พ่อื เพม่ิ ประสิทธภิ าพในระบบซพั พลายเชน
6. ความรูเ้ ก่ยี วกับการแลกเปลย่ี นข้อมลู ทางอิเล็กทรอนกิ ส์

สาระสำคญั
ในปัจจุบันเป็นยุคของสารสนเทศท่ีมีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซ่งึ มีผลทำให้รูปแบบของ

การแข่งขันในธรุ กิจเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผูบ้ รโิ ภคไดท้ ราบขา่ วสารอย่างทั่วถึง และธรุ กิจต้องแข่งขันมากข้ึน เพื่อ
รักษาส่วนแบ่งของตลาด และความอยู่รอดของธรุ กจิ ในอนาคต ดงั น้ันธุรกจิ ต่างๆ จึงได้มีการพัฒนา โดยนำระบบ
การบริหาร และการจัดจำหนา่ ยที่ทันสมัยมาใช้ เพอ่ื ลดต้นทนุ การดำเนนิ งาน การพัฒนาระบบซพั พลายเชน โดย
ใช้ซอฟแวร์ มาพัฒนาและประยุกต์ใช้งาน เป็นระบบศูนย์กลางขององค์กรท้ังหมด ทำหน้าท่ีประสานงานในด้าน
ตา่ งๆ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. เพอ่ื ให้มีความรูแ้ ละความเข้าใจแสดงความรู้เกี่ยวกบั หลักการและกระบวนการโลจิสติกส์และซัพ

พลายเชน
2. เพ่อื ใหม้ กี ิจนสิ ยั ในการทางานทด่ี ี ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ รบั ผิดชอบ มีวินยั
ตรงตามเวลา และตระหนกั ถึงความปลอดภยั ในการทำงาน

จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. บอกบทบาทของการแข่งขันในระบบซพั พลายเชนได้

2. อธบิ ายระบบสารสนเทศได้
3. บอกการพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ได้
4. บอกระบบดึง และระบบผลักได้
5. อธิบายการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพมิ่ ประสิทธภิ าพในระบบซพั พลายเชนได้
6. บอกความร้เู กี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอเิ ล็กทรอนิกส์ได้

กิจกรรมการการจดั การเรียนรู้

เวลา (X นาที) 60 120 180
1,2,3,4,5 หลังเรยี น
หมายเลขวตั ถปุ ระสงค์
ก่อนเรยี น
ขน้ั สนใจปญั หา(.10 นาที)

ขนั้ ใหข้ อ้ มูล บรรยาย
(..120 นาที) ถามตอบ
สาธติ

ขัน้ พยายาม (........30....นาที)

ขั้นสำเรจ็ ผล (.........20...นาที)

กระดานดำ

Power point

แผ่นใส

ของจริง

อปุ กรณ์ชว่ ยสอน ใบเนอ้ื หา

ใบงาน

เฉลยใบงาน

ใบสง่ั งาน

ใบประเมินผล

Pre test (10 นาที)

Post test (10นาที)

ใบทดสอบ

ใบเนอ้ื หาที่ 8 สือ่ Power point ชดุ ที่ 8 ใบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น หนว่ ยที่ 8

กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขั้นตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรขู้ องครู กจิ กรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน

1. ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น ขนั้ สนใจปัญหา (10 นาที

และทดสอบ 10 นาที) ผ้เู รียนร่วมคดิ และตอบคำถามและทำแบบทดสอบ

ครูผู้ สอ น น ำเข้าสู่บ ท เรีย น ก ล่ า ว ถึ งคว าม กอ่ นเรยี น

เจริญกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบการ

สอ่ื สารซึ่งได้นำมาประยุกตใ์ ห้เขา้ กบั การดำเนินธุรกจิ ท่ีมี

การแขง่ ขนั สงู และเน้นประสิทธภิ าพการดำเนินงานและ

การบริหารเวลาในทุกกระบวน การผลิตจนถึงมือ

ผู้บริโภค การจัดการซัพพลายเชนมีกระบวนการเร่ิม

ต้ังแต่ การจัดซื้อ การผลิต การจัดเก็บ เทคโนโลยี

สารสนเทศ การจัดจำหน่าย และการขนส่ง ซ่ึงจะทำให้

ระบบให้ประสานกันอย่างคล่องตัว และจะสร้าง

ความสัมพั น ธ์เชื่อ มต่อกั บ องค์ก รอื่น ๆ อ ย่างมี

ประสิทธภิ าพ

2. ขน้ั สอน (120 นาท)ี

สอนโดยการบรรยาย เกี่ยวกับบทบาทของการ ผ้เู รียนฟังการบรรยาย และศึกษาเอกสารประกอบ

แข่งขันในระบบซัพพลายเชน ระบบสารสนเทศ การ การเรียนตาม และร่วมตอบคำถามถงึ บทบาทของ
พาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ ระบบดึง และระบบผลัก การใช้ การแข่งขนั ในระบบซพั พลายเชน ระบบสารสนเทศ
เทคโนโลยีเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในระบบซัพพลายเชน การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบดึง และระบบ
ความรู้เกย่ี วกับการแลกเปลย่ี นข้อมลู ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ผลัก การใช้เทคโนโลยีเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพใน

ระบบซัพพลายเชนความรู้เก่ียวกับการแลกเปลี่ยน

ข้อมูลทางอิเลก็ ทรอนิกส์

3. ขน้ั พยายาม (60 นาท)ี แบง่ กลมุ่ ผเู้ รียนเป็นกลุ่มให้แตล่ ะกลมุ่ สรุป

ครูผู้สอนผู้เรียนมีส่วนร่วม (แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน สาระสำคัญของแตเ่ รื่องตามจุดประสงค์ ผู้เรยี น

กลุ่ม) วิเคราะห์เก่ียวกับกรณีศึกษาบริษัทที่มีระบบ ศกึ ษาแลว้ แบง่ หน้าท่ีรับผดิ ชอบในการร่วมปฏิบตั ิ

สารสนเทศมาใช้ในการจัดการซัพพลายเชนและ กิจกรรมรว่ มกัน

มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นนำกรณีศกึ ษามานำเสนอในชั้นเรยี น


Click to View FlipBook Version