กรอบการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ
หน่วยที่ 4 เรื่อง การจัดซ้อื
พอประมาณ
1. ผ้เู รียนจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏิบัตติ าม
ใบงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. ผเู้ รยี นรูจ้ กั ใช้และจัดการวัสดุอุปกรณ์
ต่าง ๆ อยา่ งประหยัดและคุ้มค่า
3. ผูเ้ รยี นปฏิบตั ติ นเป็นผู้นำและผตู้ ามท่ีดี
4. ผู้เรียนเปน็ สมาชิกท่ดี ีของกลุ่มเพ่ือน
มภี มู คิ มุ้ กนั ทีด่ ี
ความมเี หตุผล 1. มีการเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นและการ
ปฏิบตั ิงาน
1. กลา้ แสดงความคดิ อย่างมเี หตผุ ล
2. กลา้ ทักท้วงในสิ่งท่ีไมถ่ ูกต้องอย่างถกู กาลเทศะ 2. กล้าซักถามปญั หาหรอื ข้อสงสยั ต่าง ๆ อย่างถกู
3. กล้ายอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อนื่ กาลเทศะ
4. ไมม่ ีเรอ่ื งทะเลาะวิวาทกับผอู้ น่ื
3. แก้ปญั หาเฉพาะหนา้ ได้ดว้ ยตนเองอย่างเปน็
เหตเุ ปน็ ผล
ความรู้ + ทกั ษะ 4. คควุณบคธรมุ รอมารมณ์ของตนเองได้
1. ใชว้ ัสดุอยา่ งประหยดั และค้มุ ค่า 1. ปฏิบัติงานทไ่ี ดร้ ับ5ม.คอวบบหคมุมากยิรเสยิ รา็จอตากามารกใำนหสนถดานการณต์ ่าง ๆ ได้
2. ปฏิบตั งิ านด้วยความละเอยี ดรอบคอบ 2. ใมชคี ้ววัสาดมุอเพปุ ียกรรพณย์อายเยป่าาง็นมคอแ้มุ ยลค่าะ่างกดรีปะรตะือหรยือัดรน้ ในการเรียนและ
3. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ 3.
พอเพยี ง การปฏิบตั ิงาน
4. ให้ความรว่ มมอื กับการทำกจิ กรรมของสว่ นรวม อาสา
นำไปสู่ ช่วยเหลืองานครแู ละผ้อู ่นื
สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สง่ิ แวดล้อม
สงั คม ชุมชนมคี ุณภาพชวี ิต สภาพเศรษฐกจิ มีความ มีการปลูกฝงั กจิ นิสัยการ ใช้สิ่งของอย่างรู้คุณค่า
ที่ดขี ้นึ คลอ่ งตวั มรี ายไดแ้ ละมี ประหยดั อดออม ใชว้ สั ดธุ รรมชาติ ไม่ทำลาย
การใช้จา่ ยในระบบเศรษฐกจิ สง่ิ แวดลอ้ ม
แผนการจัดการเรียนรรู้ ายหนว่ ย
หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธรุ กิจ
รหสั วิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซพั พลายเชน
หน่วยที่ 4 ช่ือหน่วย การจัดซ้อื จำนวน...6….ชัว่ โมง
หวั ขอ้ เร่อื ง
1. ความหมายและความสำคัญของการจดั ซ้ือ
2. หนา้ ท่แี ละคุณสมบัติของฝา่ ยจัดซอ้ื
3. กระบวนการเจรจาตอ่ รอง
4. กลยุทธ์การเจรจาต่อรอง
5. Value Chain กับการจดั ซ้ือ
6. ซัพพลายเชนกบั การจัดซ้อื
7. วธิ ีการลดต้นทนุ และการจัดซื้อกลยุทธ์
สาระสำคัญ
ในปัจจุบันความสำเร็จของธุรกิจหลายๆ ธุรกิจ มาจากกระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในการ
จดั ซื้อกระบวนการเจรจาต่อรอง กลยทุ ธ์การเจรจาต่อรอง และกระบวนการส่งมอบ เป็นส่วนสนับสนุนสำคัญใน
การวางแผนให้กับฝ่ายจัดซ้ือขององค์กร ก่อให้เกิดการเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ ในตลาดโลกมีการแข่งขันสูงทุก
อุตสาหกรรม ต้องเน้นประสิทธิภาพ นักจัดซื้อยุคใหม่ต้องตื่นตัว ต้องตามกระแสการเปล่ียนแปลงให้ทันโดยใช้
กลยทุ ธ์ต่างๆ ในการแขง่ ขันเพ่อื ใหธ้ รุ กิจประสบความสำเร็จ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงคท์ ่วั ไป
1. เพือ่ ให้มคี วามรูแ้ ละความเข้าใจแสดงความร้เู ก่ยี วกบั หลกั การและกระบวนการโลจสิ ติกส์และ
ซพั พลายเชน
2. เพ่อื ใหม้ ีกิจนสิ ัย ในการทางานท่ดี ี ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความละเอียดรอบคอบ รับผดิ ชอบ มีวนิ ัย ตรงตาม
เวลา และตระหนกั ถงึ ความปลอดภัยในการทำงาน
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. บอกความหมายและความสำคัญของการจดั ซอ้ื ได้
2. ระบหุ นา้ ท่แี ละคณุ สมบตั ิของฝ่ายจัดซอ้ื ได้
3. อธบิ ายกระบวนการเจรจาตอ่ รองได้
4. ระบกุ ลยทุ ธ์การเจรจาตอ่ รองได้
5. อธิบาย Value Chain กับการจัดซื้อได้
6. อธิบายซพั พลายเชนกับการจัดซื้อได้
7. บอกวิธกี ารลดต้นทุนและการจัดซื้อกลยุทธ์ได้
กิจกรรมการการจดั การเรียนรู้
เวลา (X นาที) 60 120 180
1,2,3,4,5,6,7 หลังเรยี น
หมายเลขวัตถปุ ระสงค์
ก่อนเรียน
ขัน้ สนใจปญั หา(.....10.... นาที)
ขั้นใหข้ ้อมลู บรรยาย
(..120 นาที) ถามตอบ
สาธิต
ข้นั พยายาม (........30....นาที)
ขั้นสำเร็จผล (.........20...นาที)
กระดานดำ
Power point
แผ่นใส
ของจริง
อปุ กรณช์ ่วยสอน ใบเน้อื หา
ใบงาน
เฉลยใบงาน
ใบสงั่ งาน
ใบประเมนิ ผล
Pre test (10 นาที)
Post test (10นาที)
ใบทดสอบ
ใบเน้อื หาท่ี 4 ส่ือ Power point ชุดที่ 4 ใบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรียน หนว่ ยท่ี 4
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ข้ันตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ของครู กจิ กรรมการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น
1. ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรียน ขั้นสนใจปญั หา (10 นาที
และทดสอบ 10 นาที) ผเู้ รยี นร่วมคดิ และตอบคำถามและทำแบบทดสอบ
ครผู ู้สอนนำเข้าส่บู ทเรยี น เล่าถงึ ความสำเรจ็ ของ กอ่ นเรยี น
ธุรกิจหลายๆ ธุรกิจ มาจากกระบวนการโลจิสติกส์
และซัพพลายเชนในการจัดซ้ือกระบวนการเจรจา
ต่อรอง กลยทุ ธก์ ารเจรจาต่อรอง และกระบวนการส่ง
มอบ เป็นส่วนสนับสนุนสำคัญในการวางแผนให้กับ
ฝ่ายจัดซ้ือขององค์กร ก่อให้เกิดการเพิ่มคุณค่าให้กับ
ธุรกิจ ในตลาดโลกมีการแข่งขันสูงทุกอุตสาหกรรม
ต้องเน้นประสิทธิภาพ นักจัดซื้อยุคใหม่ต้องต่ืนตัว
ตอ้ งตามกระแสการเปลี่ยนแปลงให้ทนั โดยใช้ กลยทุ ธ์
ตา่ งๆ ในการแขง่ ขันเพ่อื ใหธ้ รุ กจิ ประสบความสำเร็จ
2. ข้ันสอน (120 นาท)ี
สอนโดยการบรรยาย เกี่ยวกับความหมายและ ผู้เรียนฟังการบรรยาย และศึกษาเอกสารประกอบ
ความสำคัญของการจัดซื้อ หน้าที่และคุณสมบัติของ การเรียนตาม และร่วมตอบคำถามถึง ความหมาย
ฝ่ายจัดซ้ือ กระบวนการเจรจาต่อรอง กลยุทธ์การ และความสำคัญของการจัดซ้ือ หน้าที่และคุณสมบัติ
เจรจาต่อรอง Value Chain กับการจัดซื้อ ซัพพลาย ของฝ่ายจัดซื้อ กระบวนการเจรจาต่อรอง กลยุทธ์
เชนกับการจัดซื้อ ซัพพลายเชนกับการจัดซื้อ วิธกี าร การเจรจาต่อ รอ ง Value Chain กับก ารจัดซื้อ
ลดต้นทนุ และการจัดซื้อกลยุทธ์ ซพั พลายเชนกับการจัดซอ้ื ซัพพลายเชนกับการจัดซ้ือ
วิธีการลดต้นทนุ และการจดั ซ้อื กลยทุ ธ์
3. ข้ันพยายาม (60 นาที) แบ่งกล่มุ ผเู้ รยี นเปน็ กล่มุ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สรปุ สาระสำคญั
ครูผู้สอนผู้เรียนมีส่วนร่วม (แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน ของแตเ่ ร่ืองตามจุดประสงค์ ผ้เู รียน ศึกษาแลว้ แบ่ง
กลุ่ม) วเิ คราะห์เก่ียวกบั กรณีศกึ ษา และมอบหมายให้ หนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบในการร่วมปฏบิ ัติกิจกรรมร่วมกัน
ผู้เรยี นนำกรณศี ึกษามานำเสนอในชนั้ เรียน
4. ขน้ั สรปุ (30 นาที และทดสอบ 10 นาท)ี
และผู้สอนสรปุ แตล่ ะเร่อื งใหผ้ ู้เรียนฟังจนเขา้ ใจ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาสรุปเพ่ือนฟังหน้าช้ัน
มอบหมายให้ผ้เู รยี นกลบั ไปศกึ ษาเน้ือหาเรือ่ งการ เรยี น
จัดการคลงั สินค้า
สือ่ สารเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้
สื่อสง่ิ พิมพ์
1. ใบเนอ้ื หา
2. แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรยี น
3. ใบมอบหมายงาน
4. หนงั สือโลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน ของ อาจารย์กอ่ เกียรติ วิรยิ ะกจิ พฒั นา
5. หนังสอื โลจสิ ติกสแ์ ละโซอ่ ุปทาน ของ อาจารยไ์ ตรเลศิ ครฑุ เวโชและมนสั ชยั กรี ติผจญ
สอื่ โสตทศั น์ (ถ้าม)ี
1. ใชส้ อ่ื Power point
แหล่งเรียนรูเ้ พิ่มเตมิ
1. แหล่งขอ้ มลู จากระบบสารสนเทศ Internet
2. เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=UDmAC-6Tebs
3. เวบ็ ไซต์ https://www.scribd.com/doc/289633892/
การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กับวิชาอน่ื
1. บูรณาการกบั วิชาการบริหารการจัดซื้อ
2. บรู ณาการกับวิชาภาษาองั กฤษธุรกจิ
3. บรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ด้านความขยันหมน่ั เพยี ร ประหยดั อดออม
การวดั และประเมินผล
การประเมนิ ผล
ก่อนเรยี น
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น
ขณะเรียน
1. แบบประเมินพฤตกิ รรมรายกลุ่ม
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะพึงประสงค์
หลังเรยี น
4.แบบทดสอบหลงั เรียน
เกณฑใ์ นการวดั และประเมนิ ผล
การวดั (ใชเ้ ครือ่ งมือ) การประเมนิ ผล (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปล
ความหมาย)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (ไวเ้ ปรยี บเทียบกับคะแนนสอบหลังเรียน)
2. แบบสังเกตการทำงานกลมุ่ และการ เกณฑ์ผ่าน 60 %
นำเสนอผลงานกลุ่ม
3. แบบฝกึ หัดในหน่วย เกณฑ์ผา่ น 50 %
4. แบบทดสอบหลังเรียน เกณฑผ์ ่าน 50 %
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เกณฑ์ผา่ น 60 %
ตามสภาพจรงิ
บันทึกหลังสอน
1. ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนร้ขู องนักเรยี น นกั ศึกษา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนรู้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แบบฝกึ หดั บทที่ 4 การจัดซือ้
จงเติมคำตอบลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง
1. จงอธบิ ายความหมายการจดั ซื้อ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
2. การจัดซอื้ มคี วามสำคญั อย่างไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
3. ฝ่ายจัดซ้อื มีหนา้ ท่อี ยา่ งไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
4. ผูบ้ ริหารฝ่ายจัดซือ้ มคี ุณลกั ษณะอย่างไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
5. จงอธิบายกระบวนการเจรจาตอ่ รอง มาใหเ้ ขา้ ใจ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
6. จงอธิบายกลยทุ ธก์ ารเจรจาต่อรอง มาให้เข้าใจ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
7. จงอธบิ าย Value Chain กับงานจดั ซ้อื มาให้เข้าใจ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8. จงบอกผลท่ีได้จากการทำ Value Chain มา 5 ขอ้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
9. การประยุกต์ซพั พลายเชนกบั การจัดซื้อมีแนวทางอยา่ งไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
10. การลดต้นทุนมวี ิธีการอย่างไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
เฉลยแบบฝึกหัดบทท่ี 4 การจดั ซ้ือ
จงเตมิ คำตอบลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง
1. จงอธบิ ายความหมายการจดั ซือ้
ตอบ กิจกรรมของผู้จัดซ้ือโดยยึดหลัก 5 R’s พิจารณาเลือกซ้ือสินค้าให้ได้คุณสมบัติที่ถูกต้อง (Right
Quality) จำนวนที่ถูกต้อง (Right Quantity) เลือกซื้อจากแหล่งทถี่ ูกต้อง (Right Source) ในราคาที่ถกู ต้อง
(Right Price) และตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากท่ีสุด (Right Want) โดยสามารถนำออกขายแล้วมี
กำไร
2. การจดั ซ้ือมคี วามสำคัญอยา่ งไรบา้ ง
ตอบ การบริหารการจัดซ้อื มีความสำคัญตอ่ การเพ่ิมกำไรใหก้ บั ธุรกจิ ได้เช่นเดยี วกันกับการขาย เพราะการ
จัดซื้ออย่างมีประสทิ ธิภาพและคุ้มคา่ จะช่วยให้สามารถลดต้นทนุ ลงได้ ทำให้ธรุ กจิ มกี ำไรเพิ่มข้ึน
3. ฝ่ายจัดซ้ือมหี น้าที่อย่างไรบ้าง
ตอบ 1. การจดั ซ้อื สินค้าและบริการ
2. การเจรจาตอ่ รอง
3. การเปน็ ตัวแทนของบรษิ ัท
4. การตดิ ตามงาน
5. การบริหารภายใน
6. กลยทุ ธก์ ารจดั ซือ้
4. ผบู้ ริหารฝา่ ยจดั ซอ้ื มีคุณลักษณะอย่างไรบา้ ง
ตอบ 1. มองภาพรวมในกระบวนการทำงานในเชงิ บูรณาการมากข้ึน
2. ผลักดนั การลดตน้ ทุนรวม
3. บริหารความเส่ียงทีอ่ าจเกิดจากผผู้ ลิตหรอื ผู้จัดหา
4. ให้ความสำคญั กบั การบริหารคา่ ใช้จา่ ยหมวดตา่ ง ๆ
5. ทำการเอาท์ซอสงานท่ีไมใ่ ช่จดุ แขง่ ขององค์กรออกไป
6. พัฒนาความสามารถในการตดั สินใจ
7. วัดผล วัดผล และวัดผล
8. คดิ เหมอื กับเป็นเจ้าของกจิ การ
9. ต้องมคี วามคิดเชิงกลยุทธ์และพัฒนาตัวเองอยตู่ ลอดเวลา
10. สรา้ งความสัมพันธท์ ีด่ ี
11. ตอ้ งเป็น Supply Manager
12. ต้องต่นื ตวั อยู่ตลอดเวลา
5. จงอธิบายกระบวนการเจรจาต่อรอง มาใหเ้ ข้าใจ
ตอบ การเจรจาต่อรอง หมายถึง การสนทนาเพ่ือแลกเปลีย่ นความคิดเห็น การแสดงเหตุผลเพ่อื หวังผล
โดยใชศ้ ิลปะการชกั จูงใจใหผ้ สู้ นทนาเห็นคล้อยตามดว้ ยความเต็มใจ
การเจรจาต่อรอง หมายถึง ความต้องการที่จะเร้าความพอใจให้เกิดขึ้นในการติดต่อ ไม่ว่าจะเพ่ือ
วัตถุประสงค์ทางด้านธุรกิจการค้าหรือด้านอ่ืน ๆ ตราบใดก็ตามท่ีมีการแลกเปลี่ยน ข้อคิดเห็นเพื่อสร้าง
สมั พันธภาพหรือกระชบั สัมพนั ธภาพโดยอ้างข้อตกลงถือวา่ เปน็ การเจรจาต่อรอง
6. จงอธิบายกลยทุ ธ์การเจรจาต่อรอง มาให้เข้าใจ
ตอบ กลยุทธ์ในการเจรจาต่อรอง เปน็ ขนั้ ตอนท่ียากในการกำหนดและควบคมุ เวลาเพราะขึ้นอยู่กบั เนื้อหา
และความต้องการของคู่เจรจา ข้ันตอนน้ีถือว่าเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติหรือเป็นงานสนาม หลังจากท่ีได้
ไตร่ตรองและเตรียมตัวอย่างดีแล้ว ความสำเร็จจะเกิดขึ้นหรือไม่อยู่ที่ข้ันตอนนี้ การเจรจาต่อรองทางธุรกิจ
หลังจากวางแผนและเตรียมตัวอยา่ งดแี ลว้ จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังต่อไปน้ี
1. การหยัง่ เชงิ
2. การแลกเปล่ียน
3. การชกั จูง
4. การยินยอม
7. จงอธิบาย Value Chain กบั งานจดั ซื้อ มาให้เขา้ ใจ
ตอบ ห่วงโซ่แห่งคุณค่า ซึ่งหมายถึงการสร้างกระแสและความสัมพันธ์ของงานเพื่อเพ่ิมคุณค่าในแต่ละ
ขน้ั ตอน โดยคณุ ค่าท่ีดที ี่สุดต้องเกิดจากทุกกระบวนการท่ีผลิตสินค้านั้น ๆ แต่สงิ่ ท่ีพิเศษทส่ี ุดจากทฤษฎีน้ี คือ
คณุ ค่าที่ดีที่สดุ น้ันไมไ่ ดเ้ กิดจากบรษิ ัทของเราเท่าน้ัน แต่ตอ้ งเกิดจากห่วงโซ่ท้ังหมดซึ่งต้องรวมไปถึงบรรดาซัพ
พลายเออร์ของเราดว้ ย เพราะฉะนนั้ Value Chain จึงมุ่งเน้นให้ผู้ทอี่ ยู่ในกระบวนการผลติ สนิ ค้าไมว่ า่ จะเป็น
ใครกต็ ามต้องเห็นคุณค่ารว่ มกัน และทำงานรว่ มกันผลิตสินค้าที่มีคุณค่าสูงสุดใหแ้ ก่ลกู คา้ โดยใหล้ ดความเป็น
อาณาเขตของตนเอง ไม่มฝี ่ายขาย ไม่มีฝา่ ยผลิต ไม่มีซัพพลายเออร์แต่มีอยู่องค์กรเดียวเพื่อตอบสนองความ
ตอ้ งการของลกู คา้
8. จงบอกผลทีไ่ ดจ้ ากการทำ Value Chain มา 5 ข้อ
ตอบ ผลทีไ่ ดจ้ ากการทำ Value Chain เชน่
- การเพิ่มกำไรให้กบั บริษทั มากข้ึน
- มตี ้นทุนที่ถูกลงเพราะไดส้ นิ ค้าท่ีมีคุณคา่ สงู ข้นึ แม้ราคาไม่ไดต้ ำ่ ลงแตเ่ ราได้สนิ ค้าทมี่ คี ณุ คา่ มากขึน้
- มีระบบตรวจสอบวัดผลงานในแต่ละข้ันตอนท่ีเด่นชัดข้ึนหรือที่เรียกว่า ตัวบ่งช้ีประสิทธิภาพการ
ทำงาน (KPI)
- มีศักยภาพทางการแขง่ ขนั เหนอื ค่แู ขง่ และยากตอ่ การเลียนแบบของคแู่ ข่งขัน
- เพมิ่ ลกู คา้ ใหม่ ๆ ใหแ้ กบ่ รษิ ัท
9. การประยกุ ต์ซัพพลายเชนกับการจดั ซือ้ มแี นวทางอย่างไรบ้าง
ตอบ การประยกุ ตโ์ ซอ่ ปุ ทานกับการจดั ซ้ือมีแนวทาง ดังนี้
1. ลดการทำงานที่ซำ้ ซ้อนในกระบวนการซพั พลายเชน
2. มอบงานทสี่ ำคญั ใหก้ บั ซัพพลายเออรท์ ่มี ปี ระสิทธิภาพสงู สดุ
3. รวบอำนาจการจัดซื้อ
10. การลดตน้ ทนุ มีวิธกี ารอยา่ งไรบ้าง
ตอบ วธิ ีลดต้นทนุ ท่ีดที ส่ี ดุ สำหรับเราก็คือ การมองหาวิธกี ารใหม่ ๆ ในการลดต้นทุนซ่ึงพอสรปุ ได้ ดงั นี้
1. คุณภาพ หมายถึงการซ้ือวตั ถุดิบทมี่ ีคุณภาพสงู เข้ามาเพราะหากไดส้ ินคา้ ท่ีมี คุณภาพก็ย่อมทำให้มี
ของเสียน้อย ทำใหต้ ้นทุนจากการมีของเสยี ตำ่
2. ทำการวิเคราะห์คณุ คา่ (Value Analysis) หมายถงึ การวเิ คราะหถ์ ึงเรือ่ งคุณภาพและราคา
3. การทำ Sourcing
4. ตดั รายการที่ไม่จำเป็น
5. การเจรจาต่อรองราคาสนิ คา้
6. ลดสนิ คา้ คงคลัง
7 .เปดิ ประมลู
8. การขนสง่
9. เป็นผนู้ ำเรือ่ งต้นทนุ การผลติ สนิ คา้
10. การรวมกิจการหรือการรวมองค์กร
11. การดำเนินธุรกิจที่ยึดม่ันกฎเกณฑ์ทางสงั คมและส่งิ แวดล้อม
12. ยกเคร่ืองปรับปรงุ การผลติ และบรกิ าร
ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผ่นท่ี....1..
หลกั สูตร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสงู พทุ ธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธุรกิจ
รหสั วชิ า 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกสแ์ ละซัพพลายเชน
หนว่ ยที่ 4 ชอื่ หน่วย การจัดซื้อ จำนวน.....6....ช่ัวโมง
ช่ือผู้เรียน................................ระดับชั้น................................
เร่ือง....การจดั ซ้อื ...............เวลา.............10.................นาที
คำสง่ั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท (x) ลงหนา้ ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ ง
1. กระบวนการของกิจกรรมตา่ ง ๆ เพอ่ื รับผดิ ชอบในการจัดหาวัตถุดิบ อปุ กรณใ์ หม้ ีความรับผิดชอบพร้อมอยู่เสมอ
มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
ก. การต่อรองราคา ข. การจัดซอื้
ค. การประมูล ง. การเสนอราคา
2. ขอ้ ใดไม่ใช่วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ซ้ือ
ก. การซื้อสินค้าท่ีมคี ุณภาพ ข. ราคาและความยุติธรรม
ค. การซือ้ สินคา้ จากหนภี าษี ง. การใหบ้ ริการด้วยความเตม็ ใจ
3. ข้อใดคืออำนาจหนา้ ที่ของฝ่ายจัดซอื้
ก. การตดิ ตามงาน ข. การเจรจาต่อรอง
ค. การเป็นตัวแทนของบริษัท ง. การจัดซ้อื สนิ คา้ และบรกิ าร
4. ข้อใดท่ีช่วยให้การปฏิบตั งิ านของฝ่ายจดั ซ้อื มรี ะบบขอ้ มูลอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ก. ระบบขอ้ มลู ของสนิ คา้ ข. ระบบการทำงานเปน็ ทีมงาน
ค. ระบบการประสานงาน ง. ระบบ IT
ใบทดสอบกอ่ นเรียน แผ่นที่....2..
หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชนั้ สูง พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวชิ า บรหิ ารธรุ กจิ
รหัสวชิ า 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซพั พลายเชน
หนว่ ยท่ี 4 ช่อื หน่วย การจดั ซื้อ จำนวน.....6....ช่ัวโมง
ชอ่ื ผู้เรยี น................................ระดับชั้น................................
เรอื่ ง....การจดั ซือ้ ...............เวลา.............10.................นาที
5. การบริหารความเส่ียงทีอ่ าจเกดิ จากผู้ผลิต/ผู้จดั หา มีความหมายสอดคลอ้ งกับข้อใด
ก. การพจิ ารณาความสมดุลของตน้ ทนุ กับผลประโยชน์
ข. การลดตน้ ทนุ การผลติ
ค. การปรับปรุงกระบวนการปฏบิ ตั งิ าน
ง. การศกึ ษาวจิ ยั กระบวนการผลิต
6. แนวโน้มอะไรทผี่ บู้ ริหารจดั ซ้ือจะประสบความสำเร็จ
ก. การพิจารณาเอาทซ์ อสทไี่ ม่ใช่งานหลักของบริษัทออกไป
ข. การพิจารณาบรษิ ัททป่ี รกึ ษา
ค. จัดหาผเู้ ชยี่ วชาญมาเป็นทปี่ รึกษา
ง. การจัดต้ังบริษัทลกู ในการจัดซอื้
7. ข้อใดไมใ่ ชว่ ิธีการจัดการในการจดั ซือ้ เชงิ กลยทุ ธ์
ก. การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ รวม ข. การวจิ ยั และพัฒนาตลาด
ค. การเพ่ิมอำนาจการต่อรอง ง. การวเิ คราะห์อุตสาหกรรมของสนิ ค้า
ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผน่ ท่ี....3..
หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู พทุ ธศักราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธุรกจิ
รหัสวิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสตกิ ส์และซัพพลายเชน
หน่วยท่ี 4 ชือ่ หนว่ ย การจดั ซื้อ จำนวน.....6....ชว่ั โมง
ชื่อผเู้ รียน................................ระดับชน้ั ................................
เรือ่ ง....การจดั ซอื้ ...............เวลา.............10.................นาที
8. ระบบแบบทนั เวลา มีความหมายสอดคล้องกับขอ้ ใด
ก. Just –in-Time ข. Just –in-Money
ค. Just –in-Sure ง. B Just –in-Bonus
9. ข้อใดคือบุคลิกทส่ี ำคัญของผบู้ ริหารฝ่ายจดั ซื้อ
ก. สร้างความสมั พันธ์ที่ดีกับซพั พลาย ข. มคี วามซ่อื สตั ย์
ค. มีความร้เู กย่ี วกบั บรกิ ารจัดซื้อ ง. ประสานงานกับฝ่ายโลจสิ ตกิ ส์
10. “การกระตุ้นและบคุ ลิกภาพ” เปน็ ทฤษฎีของนักจติ วทิ ยาท่านใด
ก. Nicrenbery ข. Maslow
ค. Deming ง. Kano
เฉลย
1. ข 2.ค 3.ข 4. ง 5. ก 6.ก 7. ข 8. ก 9. ก 10. ข
ใบเน้ือหา/ใบความรู้
หน่วยที่...4..เรอ่ื ง การจดั ซือ้
1. ความหมาย “การจดั ซื้อ”คอื กจิ กรรมของผู้จดั ซอื้ โดยยดึ หลกั 5 R’s พจิ ารณาเลอื กซอื้ สินคา้ ใหไ้ ด้
คุณสมบัติที่ถูกต้อง (Right Quality) จำนวนท่ีถูกต้อง (Right Quantity) ซื้อจากแหล่งที่ถูกต้อง (Right
Source) ในราคาทีถ่ ูกต้อง (Right Price) และตรงตอ่ ความต้องการของลกู คา้ มากท่ีสุด (Right Want) โดยนำ
ออกขายแลว้ มกี ำไร
2. วัตถุประสงค์ “การจดั ซอ้ื ”
1. เพือ่ ใหไ้ ด้สนิ ค้าทม่ี คี ุณภาพเหมาะสมกับผู้ซือ้ และผ้ใู ช้
2. เพือ่ ใหไ้ ด้สินค้าตามจำนวนไม่ขาดตอน และการลงทนุ ในสต๊อคต่ำสุดสอดคลอ้ งกับจำนวน
สงั่ ซอื้ ทป่ี ระหยัด และสภาวะความต้องการของตลาด
3. เพ่ือให้ได้สินค้าในราคาต่ำสุด เม่ือเปรียบเทียบกับคุณภาพบริการ และคุณสมบัติของ
สินค้า
4. เพอ่ื ให้กจิ การมกี ำไร อยใู่ นสภาวะการแขง่ ขันได้เปน็ อยา่ งดี
5. เพอ่ื หลีกเลี่ยงปัญหาการซ้ือสนิ คา้ ซ้ำซ้อน สินคา้ ชำรุด เสยี หาย และลา้ สมยั
6. เพื่อตอบสนองความต้องการของฝ่ายต่าง ๆ ในองค์การ และสอดคล้องกับนโยบายของ
องค์การ
3. หนา้ ทข่ี องการจดั ซื้อ
จดั ซอ้ื สนิ คา้ และบริการ- ตดิ ตอ่ ประสานงาน ทำสญั ญา
การเจรจาตอ่ รอง – ราคา ปรมิ าณ การสง่ มอบ สเปค การชำระเงิน
เปน็ ตัวแทนบริษัท – ในการตอ่ รองกบั ซพั พลายเออร์
การติดตามงาน – ตรวจเยีย่ มโรงงาน ตดิ ตามการส่งงานตามกำหนด
การบริหารภายใน – เกบ็ ขอ้ มลู ซพั พลายเออร์ ขอ้ มลู สนิ คา้ ราคา ฯ
4. คุณสมบตั ิของพนกั งานจัดซื้อ
▪ 1.มคี วามสามารถเข้าคณุ คา่ โดยรวมของซพั พลายเชนและกฎเกณฑท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งอย่างลกึ ซ้ึง
▪ 2.ความร้ทู างดา้ นเทคนคิ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต
▪ 3.ความสามารถในการวเิ คราะห์ กค็ อื สามารถวิเคราะหข์ อ้ มูลตา่ ง ๆ
▪ 4.ความสามารถในการทำงานกบั เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะอนิ เตอร์เนต็
▪ 5.มุมมองระดับโลก
▪ 6.ทกั ษะเฉพาะตวั
▪ 7.ความซ่ือสัตย์
▪ 8.ความขยันและอดทนและ
▪ 9.การใฝศ่ ึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ
5. การเจรจาตอ่ รอง
การเจรจาต่อรอง คือ การสนทนาเพื่อแลกเปล่ียนความคิดเห็น การแสดงเหตุผลเพื่อหวังผล โดยใชศ้ ิลปะการ
ชกั จูงใจใหผ้ สู้ นทนาเหน็ คล้อยตามด้วยความเต็มใจ
หลักเกณฑ์พ้ืนฐานของการเจรจาต่อรอง คือ คู่เจรจามีความต้องการบางส่ิงบางอย่าง และพิจารณาความ
ตอ้ งการอยา่ งรอบคอบ
เทคนิคการเจรจาต่อรองบนพ้ืนฐานของความต้องการ กระบวนการเจรจาต่อรองประกอบด้วย การ
วางแผนและการเตรยี มตวั การต่อรอง ผลเม่ือสิ้นสุดการเจรจา การเจรจาเรื่องการจัดซ้ือสินค้าหรือวัตถุดบิ 5
เรื่อง
1. การเจรจาเงือ่ นไข ราคา โดยใชว้ ธิ ีประกวดราคา หรอื การประมลู การซื้อแบบวิธพี เิ ศษ
2. การเจรจาเร่อื งเง่ือนไขการชำระเงนิ สว่ นลดทางการค้า ส่วนลดเงินสด ระยะเวลาของการใหส้ นิ เชื่อ
3. การเจรจากำหนดระยะเวลาการจัดส่งสินค้าหรือวัตถุดิบ สามารถวางแผนการจัดส่งตรงตาม
กำหนดเวลา
4. การเจรจาเร่อื งสถานท่จี ัดส่งหรอื สถานทร่ี บั สินคา้
5. การเจรจาการปรับปรุงคณุ ภาพ
กลยุทธ์การเจรจาต่อรอง ไดแ้ ก่ การหยัง่ เชิง การแลกเปลย่ี น การชกั จงู การยนิ ยอม
6. Value Chain กับการจัดซื้อ
ห่วงโซแ่ หง่ คุณภาพ การสร้างความสัมพนั ธ์ของงานเพื่อเพิม่ คณุ คา่ ทด่ี จี ากทุกกระบวนการ ตอ้ งทำงานร่วมกัน
กบั ซัพพลายเออร์ เชน่
- การเพมิ่ กำไรให้กบั บริษัทมากข้ึน
- มีตน้ ทุนทถ่ี ูกลงเพราะไดส้ ินคา้ ที่มีคุณคา่ สูงขึ้น
- มีระบบตรวจสอบวัดผลงานในแต่ละข้ันตอนที่เด่นชัดข้ึน หรือมีตัวบ่งชี้ระสิทธิภาพการทำงาน
(KPI)
- มศี ักยภาพทางการแขง่ ขนั เหนือคู่แขง่ และเลียนแบบยาก
- เพิ่มลูกคา้ ใหม่ ๆ ให้แก่บรษิ ัท
- พฒั นาความสมั พนั ธ์ระหว่างลูกคา้ และซพั พลายเออร์ให้ดีขน้ึ
- มีการสร้างนวตั กรรมใหม่ ๆ ของสินค้าให้ออกมาสตู่ ลาดไดเ้ รว็ ขึ้น
- มีสถานะทางการเงินท่ีเข้มแข็งข้ึน ไม่ต้องลงทุนในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าต่อเป้าหมายของ
กระบวนการ Value Chain
ข้อเสยี ของการทำ Value Chain
- อาจต้องสูญเสยี ส่วนแบ่งทางการตลาด ถ้าเปิดเผยขอ้ มูลของบริษัทมากเกินไป
- ไม่อาจตัดสนิ ใจได้รวดเรว็ เพราะมคี นเข้ามาเกีย่ วข้องกับกระบวนการตัดสินใจ
- อาจตอ้ งสูญเสียความยืดหยุ่นและความเปน็ อสิ ระ
- ต้องใช้เวลานานมาก รวมถงึ เงนิ จำนวนมาก หากต้องการให้กระบวนการ Value Chain ประสบ
ความสำเร็จ
7. ซัพพลายเชนกบั การจัดซื้อ ลดการทำงานท่ซี ำ้ ซ้อนในกระบวนการซัพพลายเชน มอบงานท่สี ำคัญให้กับซัพ
พลายเออร์ทมี่ ปี ระสิทธิภาพสงู สดุ
การจดั ซื้อเชงิ กลยุทธ์
1.การวิเคราะห์อุตสาหกรรมของสินค้า – แนวโน้มอุปสงค์ อุปทาน สภาวะการแข่งขันทั้ง
อุตสาหกรรม อำนาจตอ่ รอง ความหลากหลายในคุณภาพ บริการ ราคา
2.การเพิ่มอำนาจการต่อรอง – โดยรวมปรมิ าณ หรือรวมระยะเวลาของสญั ญา
3.การวิเคราะห์ต้นทุนโดยรวมของการเป็นเจ้าของ – รวมค่าใช้จ่ายในการจัดหา ติดต้ัง ปฏิบัติการ
ผลติ บำรงุ รักษา จัดเก็บ
ระบบ Just in Time ระบบการจดั ซื้อแบบทันเวลา
- คณุ ภาพ – มรี ะบบควบคมุ คณุ ภาพอย่างเข้มงวด
- ผู้ขายตอ้ งมคี วามสามารถจดั ส่งสนิ คา้ ได้บ่อยคร้ังมากข้ึนและเชือ่ ถือได้
- ทำเลที่ต้งั ใกลก้ ับลูกคา้ สามารถสง่ สินคา้ ไดท้ นั ทีท่ลี กู คา้ ตอ้ งการ
- ระบบการติดต่อสอื่ สาร ระบบ Just – in – Time
- ความตอ้ งการสินค้าทช่ี ดั เจน
- พยายามซ้ือสนิ ค้าจากแหล่งเดยี ว
เทคโนโลยกี ารจดั ซอ้ื
เทคโนโลยีการจัดซื้อทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Purchasing) ลดต้นทุน ลดเวลา เพ่ิมประสิทธิภาพ โดย
ทำ Re-Engineering - ทำซัพพลายเชน รว่ มมือมือกับซัพพลายเออร์ ปรับปรุงกระบวนการทำงานทุกอย่าง
เทคโนโลยีพื้นฐาน 4 ส่วน 1. การเปล่ียนแปลงกระบวนการทำงาน 2. การใช้เครือ่ งมืออิเล็กทรอนิกส์เข้ามา
ทำงานในการจัดซ้อื 3. ความเข้ากันได้ของระบบ 4. ผสมผสานการทำงานระหว่างองคก์ รและการใชก้ ลยุทธ์
การจัดซ้ือ E – Procurement
E – Procurement ระบบจัดซื้อจัดจ้างออนไลน์ มีขั้นตอนในระบบ ต้ังแต่การคัดเลือกผู้ผลิต/ผู้
จำหน่าย ติดต่อขอใบเสนอราคา ขออนุมัติในการสั่งซื้อ ออกใบสั่งซ้ือให้ผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย ระบุจำนวนและ
กำหนดระยะเวลาส่งมอบ จัดสง่ สินค้า ออกใบเรียกเก็บเงนิ ชำระค่าสินคา้ และบริการ
ประโยชนข์ อง E – Procurement
1. ช่วยให้การประสานงานกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จากการรับ-ส่งในรูปแบบ
อเิ ล็กทรอนิกส์ ต้ังแต่การเสนอราคา การเลือกสินคา้ การสงั่ ของ
2. ชว่ ยใหผ้ ู้ซ้ือได้สรรหาผ้ขู ายไดห้ ลากหลายมากข้ึน เนื่องจากรายชื่อผู้ขายท่ีเหมาะสมจะถูกระบชุ ่ือไว้ในระบบ
เมื่อมีการคน้ หา
3. ช่วยลดการใช้จ่ายที่ไม่ได้อยูใ่ นสัญญาการซ้ือระยะยาว ระบบจะชว่ ยป้องกันไม่ให้ผู้ขอสง่ั ซื้อสั่งซื้อจากผขู้ าย
ท่ีไมไ่ ด้มีการต่อรองราคา
ใบมอบหมายงานที่ 4
ชื่อวิชา โลจิสติกสแ์ ละซัพพลายเชน
หน่วยที่ 4 ช่อื หนว่ ย การจดั ซือ้ เวลา 3 ชัว่ โมง
ชอื่ เร่ือง การจดั ซือ้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความหมายและความสำคัญของการจัดซอื้ ได้
2. ระบุหนา้ ทแี่ ละคณุ สมบัติของฝา่ ยจดั ซื้อได้
3. อธิบายกระบวนการเจรจาตอ่ รองได้
4. ระบกุ ลยทุ ธ์การเจรจาตอ่ รองได้
5. อธิบาย Value Chain กับการจัดซื้อได้
6. อธบิ ายซพั พลายเชนกับการจัดซื้อได้
7. บอกวิธกี ารลดต้นทนุ และการจดั ซื้อกลยุทธ์ได้
แนวทางการปฏิบตั ิงาน
1. แบง่ นักศึกษาออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเท่าๆ กัน ตามความสมคั รใจ
2 มอบหมายงานตามลำดับกลมุ่ ให้สอดคล้องจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3. ใหน้ กั ศกึ ษาแตล่ ะกล่มุ ไปศึกษา ค้นคว้าหาขอ้ มูล และร่วมกันจดั ทำเปน็ บอร์ดวชิ าการเผยแพร่
ความรูแ้ ละนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน
4. ครู นกั ศึกษาเยีย่ มชมบอร์ดวชิ าการ
5. ครเู สนอแนะเพิม่ เติมและบรรยายสรปุ
กำหนดระยะเวลาท่ีส่งงาน ภายหลังการนำเสนอ
การประเมินผล
1. พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
2. การนำเสนอ
3. ชิ้นงาน
4. การตอบข้อซกั ถาม
5. การตรงต่อเวลา
แหลง่ คน้ ควา้ เพม่ิ เติม
1. ก่อเกยี รติ วิริยะกจิ พัฒนา โลจสิ ติกสแ์ ละซัพพลายเชน. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท วังอกั ษร จำกดั , 2563
ใบทดสอบหลงั เรยี น แผน่ ท่ี....1..
หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชน้ั สูง พทุ ธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บรหิ ารธุรกิจ
รหัสวิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกส์และซัพพลายเชน
หน่วยที่ 4 ช่อื หน่วย การจัดซื้อ จำนวน.....6....ชวั่ โมง
ช่ือผ้เู รียน................................ระดับช้ัน................................
เรือ่ ง....การจดั ซือ้ ...............เวลา.............10.................นาที
คำสั่ง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท (x) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถกู ตอ้ ง
1. ข้อใดคืออำนาจหน้าท่ีของฝ่ายจดั ซ้ือ
ก. การตดิ ตามงาน ข. การเจรจาต่อรอง
ค. การเปน็ ตวั แทนของบริษัท ง. การจัดซอ้ื สินคา้ และบริการ
2. กระบวนการของกจิ กรรมตา่ ง ๆ เพอ่ื รบั ผิดชอบในการจัดหาวัตถุดิบ อุปกรณ์ให้มีความรับผิดชอบพรอ้ มอยู่เสมอ
มคี วามหมายสอดคลอ้ งกับขอ้ ใด
ก. การตอ่ รองราคา ข. การจัดซื้อ
ค. การประมลู ง. การเสนอราคา
3. ข้อใดไม่ใช่วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ซ้อื
ก. การซื้อสนิ คา้ ที่มคี ุณภาพ ข. ราคาและความยุตธิ รรม
ค. การซอ้ื สนิ คา้ จากหนภี าษี ง. การใหบ้ ริการด้วยความเต็มใจ
4. ขอ้ ใดที่ชว่ ยใหก้ ารปฏิบตั ิงานของฝ่ายจดั ซื้อมีระบบข้อมลู อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ก. ระบบข้อมลู ของสินค้า ข. ระบบการทำงานเป็นทมี งาน
ค. ระบบการประสานงาน ง. ระบบ IT
ใบทดสอบหลงั เรียน แผ่นท่ี....2..
หลักสตู ร ประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บริหารธุรกิจ
รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกส์และซัพพลายเชน
หน่วยท่ี 4 ชอ่ื หน่วย การจดั ซ้อื จำนวน.....6....ชัว่ โมง
ช่ือผู้เรียน................................ระดบั ชนั้ ................................
เรอ่ื ง....การจดั ซือ้ ...............เวลา.............10.................นาที
5. แนวโน้มอะไรท่ผี ูบ้ ริหารจัดซ้ือจะประสบความสำเร็จ
ก. การพิจารณาเอาท์ซอสทีไ่ ม่ใช่งานหลกั ของบริษทั ออกไป
ข. การพิจารณาบรษิ ัทท่ปี รึกษา
ค. จดั หาผู้เช่ียวชาญมาเป็นทปี่ รึกษา
ง. การจดั ตัง้ บริษัทลูกในการจัดซ้ือ
6. ขอ้ ใดไมใ่ ชว่ ธิ ีการจัดการในการจดั ซ้อื เชงิ กลยุทธ์
ก. การวเิ คราะห์ต้นทุนรวม ข. การวิจัยและพฒั นาตลาด
ค. การเพม่ิ อำนาจการตอ่ รอง ง. การวิเคราะหอ์ ุตสาหกรรมของสินคา้
7. ระบบแบบทนั เวลา มีความหมายสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด
ก. Just –in-Time ข. Just –in-Money
ค. Just –in-Sure ง. B Just –in-Bonus
ใบทดสอบหลงั เรียน แผ่นที่....3..
หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้นั สงู พุทธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บรหิ ารธุรกจิ
รหสั วชิ า 30214-2001 รายวิชา โลจิสติกสแ์ ละซัพพลายเชน
หน่วยท่ี 4 ช่ือหนว่ ย การจดั ซือ้ จำนวน.....6....ชว่ั โมง
ชอื่ ผู้เรียน................................ระดบั ชั้น................................
เร่อื ง....การจดั ซอ้ื ...............เวลา.............10.................นาที
8. การบรหิ ารความเสยี่ งทีอ่ าจเกดิ จากผู้ผลิต/ผู้จดั หา มคี วามหมายสอดคล้องกับข้อใด
ก. การพิจารณาความสมดุลของต้นทุนกบั ผลประโยชน์
ข. การลดตน้ ทุนการผลิต
ค. การปรับปรุงกระบวนการปฏิบัตงิ าน
ง. การศกึ ษาวจิ ยั กระบวนการผลิต
9. “การกระตนุ้ และบุคลิกภาพ” เปน็ ทฤษฎีของนักจิตวิทยาท่านใด
ก. Nicrenbery ข. Maslow
ค. Deming ง. Kano
10. ข้อใดคอื บคุ ลกิ ท่สี ำคญั ของผบู้ รหิ ารฝ่ายจดั ซ้ือ
ก. สร้างความสัมพันธ์ทีด่ กี บั ซพั พลาย ข. มีความซ่อื สตั ย์
ค. มคี วามรู้เก่ียวกับบริการจัดซ้อื ง. ประสานงานกับฝ่ายโลจิสตกิ ส์
เฉลย
1. ข 2ข 3.ค 4. ง 5. ก 6.ข 7. ก 8. ก 9. ข 10. ก
แบบประเมนิ ผลพฤติกรรมรายบุคคล
ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง การจัดซือ้
กลุ่มท่ี ...................
ท่ี คะแนน การรับฟัง การเสนอ การยอมรับ การสรา้ ง รวม ระดับการ
ความคดิ ความคิด คนอน่ื บรรยากาศ คะแนน มี
ชอ่ื สกุล
1 เห็น เห็น ในกลุ่ม 20 ส่วนรวม
2
3 5 55 5
4
5
6
7
8
9
10
ระดับของคะแนน
5 = มากทีส่ ุด 4 = ค่อนขา้ งมาก
3 = ปานกลาง 2 = ค่อนข้างอ่อน
1 = น้อยที่สดุ
เกณฑก์ ารประเมิน 15-20 = มาก
8-14 = ปานกลาง
1-7 = น้อย
ลงชอ่ื ...........................................ผู้ประเมนิ
การจดั ซื้อ
คะแนน การนำเสนอผลงาน การบันทกึ ผลงาน รวม
คะแนน ระดับคณุ ภาพ
กล่มุ ที่ ขนั้ นำ ขั้นสอน ขนั้ สรุป ถูกต้อง เรยี บรอ้ ย 50 ของผลงาน
10 10 10 10 10
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ระดับของคะแนน 8 - 10 = ดมี าก 7 - 8 = ดี
5 – 6 = พอใช้ 0 – 4 = ควรปรบั ปรงุ
เกณฑ์การประเมนิ 35 - 50 = ดี
17 - 34 = ปานกลาง
1 - 16 = ควรปรบั ปรุง
ลงชอื่ ...........................................ผู้ประเมนิ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมทางด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
วันท่ี......เดือน....................พ.ศ. ....................
ชื่อ...............................................นามสกุล.......................................ระดับชั้น.................เลขที่........
แผนก..................................................................คณะ......................................................................
ลำดับ พฤติกรรมที่ประเมนิ ระดบั คะแนน หมายเหตุ
1 ความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทแี่ ละงานทีไ่ ด้รับ 3 2 1 ความหมายของระดับคะแนน
มอบหมาย 3= ปฏบิ ัติอยา่ งสมำ่ เสมอโดยไม่
ตอ้ งมกี ารชีน้ ำหรือตักเตอื น
2 กลา้ คิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจดว้ ยเหตุผล 2= ปฏบิ ตั บิ า้ งในบางครงั้
3 มมี นษุ ยสัมพันธท์ ด่ี ตี อ่ เพ่ือนๆ จากการเชิญชวนหรือชน้ี ำ
4 เอ้อื เฟอื้ เผื่อแผ่เสียสละเพื่อส่วนรวม 1= ตอ้ งสงั่ บงั คับว่ากล่าวหรือ
5 มวี ินัยซื่อสตั ยแ์ ละประหยัด ตกั เตอื นจึงจะปฏิบตั ิ หรอื มักจะ
6 รู้จักการใหโ้ อกาส ให้อภยั ปฏิบตั ิในทางที่ผิดเสมอ
7 การยอมรับการปฏิบัตติ ่อมติของกลุ่ม
8 ไม่เอาเปรียบเพือ่ นผูเ้ รียนด้วยกนั เกณฑ์การประเมิน
9 แสดงกริ ยิ าวาจาสภุ าพตอ่ ทกุ คน 26-30 คะแนน= ดมี าก
10 แสดงความมีนำ้ ใจตอ่ ครู/อาจารย์ 21-25 คะแนน= ดี
16-20 คะแนน= พอใช้
รวม (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) 0-15 คะแนน= ควรปรบั ปรงุ
บนั ทกึ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ...........................................ผปู้ ระเมนิ
การวเิ คราะหห์ ัวข้อ
หลักสตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้นั สูง พุทธศกั ราช 2563 ปร
รหัสวิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ สแ์ ละซพั พลา
ทฤษฎี.....3.......ชัว่ โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ัติ............-.....ชว่ั โมง/สัปด
หนว่ ยท/่ี ชอ่ื หนว่ ย รายการความรู้
5. การจดั การคลังสนิ ค้า 1. ความหมายของคลังสนิ ค้า 1. บอกคว
2. วัตถปุ ระสงค์ของคลงั สินคา้ 2. บอกวัต
3. ประโยชน์ของคลงั สนิ คา้ 3. อธบิ าย
4. ประเภทของคลงั สนิ คา้ 4. จำแนก
5. กจิ กรรมหลักของคลงั สินคา้ 5. อธิบาย
6. วิธีการเลอื กทำเลทต่ี ้ังคลังสนิ คา้ 6. วเิ คราะ
7. ระบบโลจิสติกสใ์ นคลังสินคา้ 7. อธบิ าย
หมายเหตุ ISL= ระดบั ความรู้ความสามารถทางสตปิ ัญญา (Intellectual skill Level) PSL=
R:การฟ้ืนความรู้ (Recalled Knowledge) I
A:การประยกุ ต์ความรู้ (Applied Knowledge) C
T:การสง่ ถ่ายความรู้ (Transferred Knowledge) A
อการสอนและจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
ระเภทวชิ า บรหิ ารธุรกจิ
ายเชน
ดาห์ จำนวน…3…หนว่ ยกติ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ISL PSL
RATI CA
วามหมายของคลงั สนิ คา้ ได้ /
ตถปุ ระสงคข์ องคลงั สนิ ค้าได้ /
ยประโยชน์ของคลงั สินคา้ ได้ /
กประเภทของคลงั สินค้าได้ /
ยกิจกรรมหลักของคลังสินคา้ ได้ /
ะห์วธิ กี ารเลอื กทำเลท่ตี ้งั คลังสินคา้ ได้ /
ยระบบโลจิสตกิ สใ์ นคลังสนิ ค้าได้ /
=ระดับความสามารถในการใชก้ ล้ามเนื้อทำงาน(Physical skill Level)
: ทำได้ตามแบบ (Imitation is needed)
C : ทำไดด้ ว้ ยความถูกต้อง (Control is needed)
A : ทำด้วยความชำนาญ (Automation is needed)
กรอบการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ
หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง การจดั การคลังสนิ ค้า
พอประมาณ
1. ผ้เู รยี นจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏิบัติตาม
ใบงานไดอ้ ย่างเหมาะสม
2. ผู้เรยี นรู้จักใช้และจดั การวัสดุอปุ กรณ์
ต่าง ๆ อย่างประหยดั และคุ้มคา่
3. ผ้เู รียนปฏบิ ัตติ นเป็นผู้นำและผู้ตามท่ีดี
4. ผู้เรียนเป็นสมาชิกท่ดี ีของกลุ่มเพอ่ื น
มีภูมคิ ้มุ กันท่ดี ี
ความมีเหตผุ ล 1. มกี ารเตรียมความพร้อมในการเรียนและการ
ปฏิบตั ิงาน
1. กล้าแสดงความคดิ อย่างมีเหตุผล
2. กล้าทกั ท้วงในสิ่งทไี่ ม่ถูกต้องอยา่ งถกู กาลเทศะ 2. กล้าซักถามปญั หาหรือข้อสงสยั ตา่ ง ๆ อยา่ งถูก
3. กล้ายอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น กาลเทศะ
4. ไมม่ ีเร่ืองทะเลาะววิ าทกบั ผู้อ่ืน
3. แกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้ด้วยตนเองอย่างเปน็
เหตุเป็นผล
4. ควบคุมอารมณข์ องตนเองได้
ความรู้ + ทกั ษะ 5.ควบคมุ กคิรุณยิ ธารอรามการในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้
1. ใช้วัสดอุ ยา่ งประหยัดและค้มุ คา่ 1. ปฏิบัตงิ านทเ่ไีปดน็ ร้ อับยม่าองบดหี มายเสรจ็ ตามกำหนด
2. ปฏบิ ตั งิ านด้วยความละเอียดรอบคอบ 2. ใชว้ ัสดุอปุ กรณ์อย่างคุม้ ค่า ประหยัด
3. มคี วามร้คู วามเข้าใจเกย่ี วกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ 3. มคี วามเพียรพยายามและกระตอื รอื รน้ ในการเรียนและ
พอเพยี ง การปฏิบตั ิงาน
4. ให้ความรว่ มมอื กับการทำกิจกรรมของส่วนรวม อาสา
ช่วยเหลอื งานครแู ละผ้อู ่นื
สงั คม นำไปสู่ วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม
สงั คม ชมุ ชนมคี ณุ ภาพชวี ิต เศรษฐกิจ ใช้ส่ิงของอย่างรคู้ ณุ คา่
ทด่ี ีข้นึ ใชว้ ัสดุธรรมชาติ ไมท่ ำลาย
สภาพเศรษฐกจิ มีความ มีการปลกู ฝังกจิ นิสัยการ ส่งิ แวดลอ้ ม
คล่องตวั มรี ายไดแ้ ละมี ประหยัด อดออม
การใชจ้ า่ ยในระบบเศรษฐกิจ
แผนการจดั การเรียนรรู้ ายหน่วย
หลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสงู พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธุรกิจ
รหสั วิชา 30214-2001 รายวิชา โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน
หนว่ ยท่ี 5 ชอ่ื หนว่ ย การจัดการคลังสนิ คา้ จำนวน...6….ชั่วโมง
หัวขอ้ เร่อื ง
1. ความหมายของคลังสินคา้
2. วัตถุประสงค์ของคลงั สินค้า
3. ประโยชน์ของคลงั สนิ ค้า
4. ประเภทของคลงั สินคา้
5. กจิ กรรมหลักของคลังสินค้า
6. การวเิ คราะหท์ ำเลทีต่ ้ังคลงั สนิ ค้า
7. ระบบโลจสิ ตกิ สใ์ นคลงั สินค้า
สาระสำคญั
คลังสินค้ามวี ิวัฒนาการท่ียาวนาน จดุ เร่ิมต้นเกิดจากการเกบ็ รักษาอาหาร วัตถุดิบทใี่ ช้ในการปรุงอาหาร
ของคนในสมัยโบราณท่ียังไม่มีที่เก็บสินค้าเพ่ือถนอมรักษาอาหาร เหมือนยุคปัจจุบันนอกจากนี้ยังรวมถึงการ
จัดเกบ็ รักษาทรัพย์สินต่าง ๆ ท่ีจำเป็นไว้ใช้ในการดำรงชีวิต จนมีพัฒนาการมาสู่ระบบของการผลิต และการค้า
เรื่อยมาในแต่ละยุคแต่ละสมัย คลังสินค้าจึง กลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการ
ดำเนินธุรกิจการผลิตในด้านการจัดเก็บรักษาวัตถดุ ิบเพื่อรอการผลิต จนถงึ สินค้าสำเร็จรปู ท่ีรอการจำหน่าย ถึง
แม้ว่าจะมีระบบของการจัดการด้านโลจิสติกส์เข้ามาเพื่อลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ ก็ตาม ในส่วนหน่ึงของต้นทุน
คลังสินค้ายังถือเป็นต้นทุนสำคัญที่ผู้ผลิตพยายามที่จะหาทางลดต้นทุนให้มากที่สุด ด้วยการจัดเก็บวัตถุดิบและ
สินค้าให้มีปริมาณท่ีเหมาะสม ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป เม่ือคลังสินค้ามีบทบาทสำคัญเช่นนี้จึงจำเป็นท่ี
ตอ้ งมีการพฒั นาดว้ ยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตา่ ง ๆ เข้ามาจดั การเพือ่ เพ่ิมประสิทธิภาพของการจดั การ
ในคลงั สินค้าให้เกดิ ประสทิ ธิผลสูงสดุ ในด้านต้นทนุ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. เพื่อใหม้ ีความรู้และความเข้าใจแสดงความร้เู ก่ียวกับหลักการและกระบวนการโลจิสตกิ สแ์ ละซพั
พลายเชน
2. เพ่ือใหม้ ีกจิ นสิ ยั ในการทางานที่ดี ปฏบิ ตั ิงานด้วยความละเอียดรอบคอบ รบั ผิดชอบ มีวินยั ตรงตาม
เวลา และตระหนักถงึ ความปลอดภยั ในการทำงาน
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. บอกความหมายของคลงั สินค้าได้
2. บอกวัตถุประสงค์ของคลังสินค้าได้
3. อธิบายประโยชน์ของคลังสินค้าได้
4. จำแนกประเภทของคลงั สนิ ค้าได้
5. อธบิ ายกจิ กรรมหลกั ของคลังสินค้าได้
6. วิเคราะหว์ ธิ ีการเลอื กทำเลท่ีตัง้ คลงั สนิ คา้ ได้
7. อธบิ ายระบบโลจิสตกิ ส์ในคลงั สนิ ค้าได้
กจิ กรรมการการจัดการเรียนรู้
เวลา (X นาที) 60 120 180
1,2,3,4,5,6,7 หลงั เรยี น
หมายเลขวตั ถปุ ระสงค์
กอ่ นเรยี น
ขน้ั สนใจปญั หา(.....10.... นาที)
ขน้ั ใหข้ อ้ มูล บรรยาย
(..120 นาที) ถามตอบ
สาธิต
ขั้นพยายาม (........30....นาที)
ขั้นสำเร็จผล (.........20...นาที)
กระดานดำ
Power point
แผ่นใส
ของจริง
อปุ กรณช์ ว่ ยสอน ใบเนอ้ื หา
ใบงาน
เฉลยใบงาน
ใบสัง่ งาน
ใบประเมนิ ผล
Pre test (10 นาที)
Post test (10นาที)
ใบทดสอบ
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู้ องครู กจิ กรรมการเรียนรูข้ องนักเรียน
1. ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน ขัน้ สนใจปัญหา (10 นาที
และทดสอบ 10 นาที) ผู้เรียนร่วมคิดและตอบคำถามและทำแบบทดสอบ
ครูผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียน เล่าถึงจุดเริ่มต้นเกิด ก่อนเรียน
จากการเก็บรักษาอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง
อาหารของคนในสมยั โบราณท่ียังไม่มีท่ีเก็บสินค้าเพื่อ
ถนอมรักษาอาหาร เหมือนยุคปัจจุบันนอกจากน้ียัง
รวมถึงการจัดเก็บรักษาทรัพย์สินต่าง ๆ ท่ีจำเป็นไวใ้ ช้
ในการดำรงชีวิต จนมีพัฒนาการมาสู่ระบบของการ
ผลิต จนถึงสินค้าสำเร็จรูปที่รอการจำหน่าย และ
การนำระบบของการจัดการด้านโลจิสตกิ สเ์ ข้ามาเพ่ือ
ลดต้นทนุ ในด้านตา่ ง ๆ
2. ข้นั สอน (120 นาที)
ส อ น โด ย ก า ร บ ร ร ย า ย เก่ี ย ว กั บ ผู้เรียนฟังการบรรยาย และศึกษาเอกสารประกอบ
ความหมายของคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า การเรียนตาม และร่วมตอบคำถามถึง ความหมาย
วัตถุประสงค์ของคลังสินค้า ประโยชน์ของคลังสินค้า ของคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า วัตถุประสงค์
ประเภทของคลังสินค้า กิจกรรมหลักของคลังสินค้า ของคลงั สนิ ค้า ประโยชน์ของคลงั สนิ ค้า ประเภทของ
วิธีการเลือกทำเลท่ีตั้งคลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ใน คลังสินค้า กิจกรรมหลักของคลังสินค้า วิธีการเลือก
คลงั สินคา้ ทำเลที่ตั้งคลงั สนิ ค้า ระบบโลจิสติกส์ในคลังสินคา้
3. ขัน้ พยายาม (60 นาที) แบง่ กลมุ่ ผู้เรยี นเปน็ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ สรุปสาระสำคญั
ครูผู้สอนผู้เรียนมีส่วนร่วม (แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน ของแตเ่ รื่องตามจุดประสงค์ ผูเ้ รียน ศึกษาแล้วแบ่ง
กลมุ่ ) วิเคราะห์เก่ียวกับกรณีศกึ ษา และมอบหมายให้ หนา้ ท่รี ับผิดชอบในการร่วมปฏิบัตกิ ิจกรรมร่วมกัน
ผ้เู รียนนำกรณีศกึ ษามานำเสนอในชัน้ เรยี น
4. ขน้ั สรปุ (30 นาที และทดสอบ 10 นาท)ี
และผสู้ อนสรปุ แตล่ ะเรอ่ื งให้ผู้เรยี นฟังจนเขา้ ใจ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาสรุปเพ่ือนฟังหน้าช้ัน
มอบหมายให้ผูเ้ รียนกลบั ไปศึกษาเนอื้ หาเร่ืองการ เรยี น
บรหิ ารสนิ ค้าคลงั สนิ คา้
ส่ือสารเรียนรู้และแหล่งการเรยี นรู้
สือ่ สง่ิ พมิ พ์
1. ใบเน้ือหา
2. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี น
3. ใบมอบหมายงาน
4. หนงั สือโลจิสติกส์และซพั พลายเชน ของ อาจารย์ก่อเกียรติ วิริยะกจิ พัฒนา
5. หนงั สอื โลจสิ ตกิ สแ์ ละโซ่อปุ ทาน ของ อาจารยไ์ ตรเลิศ ครุฑเวโชและมนสั ชัย กีรติผจญ
สอื่ โสตทัศน์ (ถ้าม)ี
1. ใช้สอื่ Power point
แหล่งเรยี นรูเ้ พิม่ เติม
1. หอ้ งสมดุ วิทยาลยั
2. แหล่งขอ้ มูลจากระบบสารสนเทศ Internet
การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอื่น
1. บูรณาการกบั วิชาหลักการจัดการการกระจายสินคา้
2. บูรณาการกบั วชิ าภาษาอังกฤษธรุ กิจ
3. บูรณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดา้ นความขยนั หมน่ั เพยี ร ประหยดั อดออม
การวดั และประเมินผล
การประเมนิ ผล
กอ่ นเรยี น
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ขณะเรยี น
1. แบบประเมินพฤตกิ รรมรายกลุม่
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรม
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคุณลักษณะพึงประสงค์
หลงั เรียน
5.แบบทดสอบหลงั เรียน
เกณฑ์ในการวดั และประเมนิ ผล การประเมนิ ผล (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปล
การวดั (ใชเ้ ครอ่ื งมอื ) ความหมาย)
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (ไวเ้ ปรียบเทียบกบั คะแนนสอบหลังเรยี น)
2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และการ เกณฑผ์ ่าน 60 %
นำเสนอผลงานกลมุ่
3. แบบฝึกหัดในหนว่ ย เกณฑ์ผ่าน 50 %
4. แบบทดสอบหลังเรียน เกณฑ์ผา่ น 50 %
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เกณฑ์ผ่าน 60 %
ตามสภาพจริง
บนั ทึกหลังสอน
1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนรูข้ องนกั เรยี น นักศกึ ษา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แบบฝกึ หดั บทท่ี 5 การจัดการคลงั สนิ ค้า
จงเตมิ คำตอบลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง
1. จงอธิบายความหมายคลงั สินค้า
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
2. การจดั การคลังสนิ คา้ มอี งค์ประกอบอะไรบ้าง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
.......
3. ในคลังสินค้าประกอบดว้ ยกิจกรรมหลักอะไรบ้าง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
4. คลงั สนิ คา้ มีบทบาทความสำคญั อย่างไรบ้าง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
5. คลังสินค้ามีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
6. จงอธิบายชนิด/ประเภทของคลงั สินคา้
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
7. จงอธบิ ายการวิเคราะหท์ ำเลท่ีตงั้ คลงั สนิ ค้า
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8. การจดั เกบ็ สนิ ค้าในคลงั สนิ คา้ แบง่ เป็น 2 ประเภท ได้แกอ่ ะไรบ้าง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
9. หลกั การเคลื่อนย้ายสินค้ามวี ธิ กี ารอย่างไรบา้ ง
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
10. จงอธบิ ายระบบโลจิสตกิ ส์ในคลังสินค้า
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
เฉลยแบบฝึกหดั บทท่ี 5 การจัดการคลังสินค้า
จงเตมิ คำตอบลงในช่องวา่ งให้ถูกต้อง
1. จงอธิบายความหมายคลังสินค้า
ตอบ 1. คือ สถานที่ท่ีใช้เก็บสำรองสินค้าที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาใช้ หรือเป็นจุดพักสินค้าระหว่างผู้ผลิต
และผู้คา้ สง่ (Wholesale) หรือผคู้ ้าปลีก (Retail Outlets)
2. เป็นส่วนงานของระบบโลจิสติกส์ท่ีทำหน้าท่ีในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ (ได้แก่ วัตถุดิบ, ช้ินส่วน,
ผลติ ภัณฑ์ระหว่างผลิต, และผลิตภัณฑส์ ำเร็จรูป) ท่ีอยู่ระหว่างจดุ เริ่มตน้ ของการผลิตและจดุ สดุ ท้ายของการ
บรโิ ภค หรอื ระหวา่ งต้นทางกับปลายทาง
3. ในบางสภาพเราอาจเรยี กคลังสินคา้ ว่าเป็นศูนยก์ ระจายสนิ ค้า (Distribution Center = DC)
2. การจัดการคลงั สนิ คา้ มอี งค์ประกอบอะไรบา้ ง
ตอบ 1. องค์ประกอบทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ ระบบคลงั สินค้า
2. องคป์ ระกอบทเี่ ก่ยี วข้องกบั การดำเนนิ ธรุ กจิ คลังสินคา้
3. องค์ประกอบของงานคลังสนิ คา้
3. ในคลงั สินคา้ ประกอบด้วยกจิ กรรมหลกั อะไรบา้ ง
ตอบ 1. การรับของ (Receiving)
2. การจดั เก็บ (Storing)
3. การเบกิ จา่ ยหรอื การเลอื กหยิบ (Picking)
4. การจัดส่ง (Shipping)
4. คลังสินค้ามีบทบาทความสำคญั อย่างไรบ้าง
ตอบ 1. พจิ ารณาจากสว่ นท่ีเปน็ ตวั จักรสำคัญในระบบโลจิสติกสแ์ ละการบรกิ ารลกู คา้
2. พจิ ารณาจากมูลคา่ สินค้าในความรบั ผดิ ชอบ
3. พิจารณาจากคา่ ใชจ้ ่ายรวมขององค์กร
4. พิจารณาจากวตั ถุประสงค์หลกั ของกจิ กรรมวา่ คลงั สินคา้ นนั้ ๆ ม่งุ เพ่อื กจิ กรรรมทางด้านไหน
5. คลังสนิ ค้ามีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง
ตอบ 1. เพ่ือดำรงไว้ซ่งึ แหลง่ สนองสินคา้ (สำหรบั โรงงานกค็ อื วตั ถดุ บิ และช้ินสว่ น)
2. เพื่อให้การสนบั สนุนการทำงานแบบ Just – in – Time ของผู้สนองวตั ถุดิบ ผู้ผลิตและผู้บริโภค
การสำรองวัตถดุ ิบเพยี งพอย่อมจะทำใหร้ อบการผลิตเสียเวลาน้อยท่ีสุด
3. เพื่อแก้ปัญหาความแตกต่างในเร่อื งเวลาและสถานที่ระหว่างการผลิตกบั การบริโภค การผลิตนั้น
จะตอ้ งทำตลอดปี แต่การขายน้นั ข้นึ อยกู่ ับพฤตกิ รรมลกู ค้าและปจั จัยอ่นื ๆ
4. เพอ่ื ความประหยัดในการผลติ
5. เพื่อเตรียมรับมือสภาพตลาดที่เปล่ียนแปลง (ตัวอย่างเช่น ฤดูกาล, ความไม่แน่นอนของความ
ตอ้ งการของตลาด การแขง่ ขนั เปน็ ตน้ )
6. เพอ่ื ความประหยัดในการขนสง่
7. เพอื่ ความได้เปรยี บในการสัง่ ซือ้ จำนวนมาก และการสัง่ ซื้อล่วงหน้า
8. เพื่อให้มคี ่าใชจ้ า่ ยในด้านโลจิสตกิ สต์ ่ำท่สี ุดในการใหบ้ รกิ ารลูกค้าท่ีดที ่ีสุด
6. จงอธิบายชนดิ /ประเภทของคลงั สนิ คา้
ตอบ คลังสนิ ค้าสามารถจำแนกไดเ้ ปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ตามชนดิ ของสต๊อก ดังน้ี
- คลงั วัตถุดบิ (Raw Materials Store)
- คลังเกบ็ ผลิตภณั ฑร์ ะหว่างผลิต (Work in Process Store)
- คลงั เก็บสนิ คา้ สำเร็จรูปของโรงงาน (In Plant Warehouse)
- ศูนยก์ ระจายสินคา้ (Distribution Center)
การจำแนกชนิดของคลงั สินคา้ สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยต่าง ๆ คอื
1. ชนดิ ของตวั สนิ คา้ หรือวสั ดทุ ี่เก็บ
2 .แหล่งทม่ี าและวถิ กี ารไหลเวยี นของสงิ่ ของที่จัดเก็บ
3. กจิ กรรมท่ีเกดิ ข้ึนภายในคลัง
4. จุดหมายสุดท้ายของเสน้ ทาง
ประเภทของคลังสินคา้ แบ่งตามลกั ษณะความเปน็ เจา้ ของหรือตามลักษณะของการครอบครอง
1. คลงั สนิ คา้ เอกชน (Private Warehouse)
2. คลงั สนิ ค้าสาธารณะ (Public Warehouse)
ประเภทของคลงั สินค้าแบ่งตามวัตถปุ ระสงค์หลักของกิจกรรมคลังสนิ ค้า สามารถแบ่งได้ดงั นี้
1. คลงั สินค้าแบบผสม (Mixing Warehouse)
2. คลงั สินค้าแบบแบ่งแยกสนิ ค้า (Breakbulk Warehouse)
3. คลงั สินค้าแบบรวบรวมสนิ ค้า (Consolidation Warehouse)
7. จงอธิบายการวิเคราะห์ทำเลท่ีตงั้ คลังสนิ คา้
ตอบ การเลือกทำเลท่ีตั้งของคลังสินค้าสามารถใช้ได้ทั้งแนวทางมหภาค (Macro Approaches) และ
แนวทางจุลภาค (Micro Approaches) ซ่ึงแนวทางมหภาคเป็นการวิเคราะห์เพ่ือเลือกทำเลหรือพื้นท่ีขนาด
ใหญ่ เช่น ประเทศต่าง ๆ ภาคต่าง ๆ ฯลฯ ส่วนแนวทางจุลภาคเป็นการเลือกทำเลท่ีตั้งแบบเฉพาะเจาะจง
จากพน้ื ทีห่ รือประเทศที่ไดเ้ ลอื กไวแ้ ล้วจากแนวทางมหภาค
8. การจดั เก็บสนิ ค้าในคลงั สนิ ค้าแบง่ เปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
ตอบ 1. การจดั เก็บแบบสมุ่ (Randomized Storage)
2. การจัดเกบ็ ตามท่ีกำหนดไว้ (Dedicated Storage)
9. หลกั การเคลอื่ นยา้ ยสินค้ามวี ธิ ีการอย่างไรบา้ ง
ตอบ หลกั ทั่วไปในการหยิบและเคลอื่ นยา้ ยของภายในคลงั สนิ คา้ มดี ังนี้
1. Orientation Principle ทำการศึกษาความสัมพันธ์ของระบบจากแผนท่ีกำลังใช้อยู่เพื่อที่จะ
สามารถทราบถึงวธิ กี ารจดั การและปัญหาทีเ่ ป็นอยู่
2. Planning Principle เร่มิ วางแผนโดยรวมความต้องการพนื้ ฐาน
3. Systems Principle นำกจิ กรรมดา้ นงานดแู ลและการเก็บสนิ ค้าเข้าไปในระบบ
4. Unit Load Principle จดั การสนิ คา้ ใหเ้ ปน็ หนว่ ยใหญ่ท่ีสุดเทา่ ท่จี ะเปน็ ไปได้
5. Space Utilization Principle บริหารพื้นทใ่ี ห้เกิดประโยชน์มากทีส่ ุด
6. Standardization Principle กำหนดวธิ ีการดูแลสนิ คา้ และอุปกรณ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกที่
ที่ เปน็ ไปได้
7. Ergonomic Principle ต้องทราบถงึ สมรรถนะขีดความสามารถและขอ้ จำกัดดา้ นสรีระของมนุษย์
8. Energy Principle รวมข้อมูลการใช้พลังงานของระบบดูแลวัสดุและกระบวนการดแู ลวสั ดุทุกครั้ง
เมือ่ มกี ารเปรียบเทยี บหรอื เตรียมการปรับปรงุ ให้เกิดประโยชนค์ ุ้มค่ามากท่สี ดุ
9. Ecology Principle ทำใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมน้อยทส่ี ดุ
10. Mechanization Principle นำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในกระบวนการ เม่ือพิจารณาแล้วว่าเกิด
ประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับเงินทเี่ สยี ไป
11. Flexibility Principle ใช้วิธกี ารและอุปกรณ์ที่สามารถนำไปใช้กับงานหลาย ๆ งานภายใต้สภาพ
หรือเง่อื นไขที่หลากหลายได้
12. Simplification Principle ทำการเก็บรกั ษาดแู ลใหง้ า่ ย ๆ เขา้ ไว้
13. Gravity Principle ใช้ประโยชนข์ องแรงดงึ ดูดโลกทุกเวลาเท่าทเี่ ป็นไปได้
14. Safety Principle จัดหาอุปกรณ์ดูแลวัสดุและวิธีการซ่ึงเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความ
ปลอดภยั
15. Computerization Principle พจิ ารณาการนำระบบคอมพวิ เตอร์มาใช้กบั การเก็บและดแู ลวสั ดุ
16. System Flow Principle รวมการไหลเวียนข้อมูลเข้ากับการไหลของวสั ดุในการดูแลและเก็บท่ี
เกดิ ขึ้นจรงิ
17. Layout Principle เตรียมข้ันตอนการปฏิบัติงานและการจัดตำแหน่งอุปกรณ์ในทุกทางเลือกท่ี
คิดว่าสามารถแกป้ ญั หาได้
18. Cost Principle เปรยี บเทียบความคุม้ ด้านการเศรษฐศาสตรข์ องทางเลอื กอุปกรณแ์ ละวธิ ีการ
19. Maintenance Principle เตรียมแผนการป้องกันและตารางการซอ่ มแซมอปุ กรณท์ ุกชน้ิ
20. Obsolescence Principle เตรียมแผนระยะยาวเมื่อจำเป็นต้องทดแทนอุปกรณ์ท่ีล้าสมัยและ
โดยพิจารณาค่าใช้จ่ายหลังรอบการเสยี ภาษีแล้ว
10. จงอธบิ ายระบบโลจสิ ตกิ ส์ในคลังสินค้า
ตอบ 1. การหาแหล่งทำเลท่ตี ้ังคลงั สินค้า
2. การออกแบบคลังสินค้า
3. การวางแผนผงั กำหนดกจิ กรรมขาเขา้ – ขาออก
4. การจัดเกบ็ สินคา้ ตามรหัสควบคุม
5. การขนถ่ายการเคล่ือนย้ายสินค้าภายในคลังสนิ ค้า
6. เครือ่ งมือและอุปกรณ์ในคลงั สินค้า
ใบทดสอบกอ่ นเรียน แผน่ ท่ี....1..
หลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชัน้ สูง พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บรหิ ารธรุ กิจ
รหัสวิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสติกสแ์ ละซพั พลายเชน
หน่วยท่ี 5 ช่ือหน่วย การจดั การคลงั สินคา้ จำนวน.....6....ชั่วโมง
ชอ่ื ผู้เรยี น................................ระดับชน้ั ................................
เรอ่ื ง....การจดั การคลงั สนิ ค้า...............เวลา.............10.................นาที
คำส่ัง จงทำเครื่องหมายกากบาท (x) ลงหนา้ ข้อที่ถกู ต้อง
1. คลงั สนิ ค้าในกระบวนการของโลจิสติกส์เกี่ยวขอ้ งกับเรือ่ งอะไร
ก. การบำรงุ รกั ษาสินคา้ คงคลังและการเคล่อื นยา้ ย
ข. การกำหนดงบประมาณ
ค. การลดต้นทนุ ในการบริการจดั การ
ง. การวางแผนผงั กำหนดกจิ กรรมขาเข้า – ออก
2. ขั้นตอนใดเปน็ ช่วงที่ใช้เวลาสว่ นใหญ่ของการทำงานในคลงั สนิ ค้า
ก. การเบกิ จ่าย/เลือกหยิบ ข. การรับของ
ค. การจัดส่ง ง. การจดั เก็บ
3. การไหลเวยี นของระบบข้อมูลข่าวสารจะควบคู่ขนานไปกบั กจิ กรรมอะไร
ก. คลังสนิ คา้ ข. การเคลอ่ื นย้ายสนิ ค้า
ค. การควบคมุ ง. การวางแผน
4. ลำดับการหยิบสินค้ามีความหมายสอดคลอ้ งกับข้อใด
ก. FIFO ข. In Transit
ค. Whale ง. FOFI
ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผน่ ที่....2..
หลักสูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชน้ั สงู พทุ ธศกั ราช 2563 ประเภทวชิ า บรหิ ารธุรกจิ
รหสั วิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ ส์และซัพพลายเชน
หน่วยท่ี 5 ชื่อหนว่ ย การจัดการคลงั สนิ คา้ จำนวน.....6....ชว่ั โมง
ชื่อผเู้ รียน................................ระดับช้ัน................................
เรอื่ ง....การจดั การคลังสินค้า...............เวลา.............10.................นาที
5. ข้อใดเปน็ งานหลักท่ชี ่วยสนบั สนุนการดำเนินงานขององค์กรใหเ้ กิดประสทิ ธิผล
ก. งานกระจายสินค้า
ข. งานบำรงุ รักษาสินค้า
ค. งานจดั วางสนิ คา้
ง. งานสินคา้ คงคลงั
6. ข้อใดไม่ใช่ที่เกบ็ สินค้าตามลักษณะการใช้
ก. ท่ีเกบ็ เพ่อื การหยิบสินคา้
ข. ทีเ่ ก็บสินคา้ อย่างถาวร
ค. ที่เกบ็ สำรองสนิ คา้
ง. ท่ีเก็บสำรองระหวา่ งการดำเนนิ งาน
7. หนว่ ยซื้อ/จดั เก็บ/จดั หยบิ เรียกกันท่ัวไปว่าอะไร
ก. กล่อง ข. พาลเลท
ค. คอนเทนเนอร์ ง. คาร์ตัน
ใบทดสอบกอ่ นเรยี น แผน่ ท่ี....3..
หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้นั สงู พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวิชา บริหารธุรกจิ
รหัสวิชา 30214-2001 รายวชิ า โลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน
หนว่ ยที่ 5 ช่อื หนว่ ย การจดั การคลังสนิ ค้า จำนวน.....6....ช่วั โมง
ชื่อผเู้ รียน................................ระดับช้นั ................................
เร่ือง....การจดั การคลงั สินคา้ ...............เวลา.............10.................นาที
8. ใชอ้ ุปกรณ์รถยกประเภทต่าง ๆ ในการขนย้าย นำเข้าไปจดั เก็บตามชัน้ ตา่ ง ๆ ให้ถกู ตอ้ งตาม Location
หมายถึงขอ้ ใด
ก. Picking ข. Storing
ค. Shipping ง. Receiving
9. สนิ ค้าแต่ละชนดิ ประกอบด้วยรายละเอียดเฉพาะตวั หมายถงึ ข้อใด
ก. องค์กรทีเ่ ป็นเจ้าของสินค้า ข. รหัสสนิ คา้ ช่ือสินคา้ บาร์โค้ท
ค. รายละเอยี ดของบรรจุหีบหอ่ ง. ถกู ทุกขอ้
10. “ศนู ย์กระจายสนิ ค้า” มคี วามหมายสอดคลอ้ งกับข้อใด
ก. Receive and Ship ข. Retail Outlets
ค. Distribution Center ง. Warehouse
เฉลย
1. ง 2.ก 3.ข 4. ก 5. ง 6.ข 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค
ใบเนื้อหา/ใบความรู้
หน่วยที่...5..เรือ่ ง การจดั การคลังสินค้า
1. ความหมาย “คลังสินค้า” คือ สถานที่เก็บสำรองสินค้าที่ยังไม่ถึงเวลาใช้ หรือจุดพักสินค้า
ระหว่างผู้ผลิตและผคู้ ้าส่ง หรอื ผคู้ า้ ปลกี เรียกวา่ “ศนู ย์กระจายสนิ ค้า”
หน้าทข่ี องคลงั สนิ ค้า (WAREHOUSE) คืออะไร
หน้าท่ขี องคลงั สินค้า (WAREHOUSE) มีหลายบทบาท เราสามารถแบ่งเป็น
หน้าที่ในการรับสินค้า (Receiving) ซ่ึงประกอบด้วย การตรวจสอบจำนวน คุณลักษณะในการที่จะแยกแยะ
จัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ โดยการจัดการท่ีมีระบบการตรวจสอบและตรวจนับความถูกต้องท่ีเก่ียวข้องกับ
ปริมาณ, จำนวน, สภาพ และคุณภาพ เป็นต้น คลังสินค้าทุกประเภทจะมีสิทธิในความเป็นเจ้าของสินค้า
ชั่วคราว หมายถึง ความรับผิดชอบท่ีมีต่อตัวสินค้าในคลังให้เหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภท รวมถึงการใช้
ระบบและการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Automated Robot System (ระบบ
หุน่ ยนต์), ระบบ Bar Code หรอื RFID เพ่ือดูแลสนิ ค้า
หน้าท่ีในการควบคุมสินค้า ได้แก่การคัดแยกสนิ คา้ , การบรรจุ, การแบ่งบรรจุ, การคัดเลอื ก, การติดปา้ ย และ
ท่สี ำคัญและเป็นหัวใจของคลงั สินคา้ คือ การควบคุมด้านเอกสาร ท้ังที่เก่ียวกับรายงานการเคล่อื นไหว การรับ
และการเบิก-จา่ ย และการควบคุมทางบญั ชี
หน้าที่ของคลังสนิ ค้าในการส่งมอบสินค้า เป็นการส่งมอบสินค้าให้กับฝ่ายผลิตหรอื ลูกค้า หรอื ผู้ท่ีมาเบิกหรือ
ตามคำสง่ั ของผฝู้ ากสินค้าซึ่งจะต้องสง่ มอบสนิ ค้าใหต้ รงกับความตอ้ งการของผรู้ ับ ทั้งจำนวน, สภาพ, สถานท่ี
และเวลาซ่งึ จะตอ้ งมีกระบวนการคัดเลอื กสินคา้ และระบบการจดั สง่ ใหก้ บั ลูกค้า
ดังน้ันสามารถแยกประเภทคลังสินค้าออกตามลักษณะความรับผิดชอบ ได้แก่ คลังสินค้าเพ่ือการ
จัดเก็บ (Storage Warehouse) ,คลังสินค้าสำหรับจำหน่าย , ศูนย์ขนส่งสินค้า , คลังสินค้าทัณฑ์บน
(Bonded) , ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า (Cross Dock Warehouse) และศูนย์กระจายสินค้า (Distribution
Center) เปน็ ต้น
หนา้ ทห่ี ลักของคลังสนิ คา้ 4 ขนั้ ตอน รับ เก็บ สง่ และนำไปใช้
หน้าที่หลักของศูนย์กระจายสินคา้ 2 ขั้นตอน รบั สง่
องค์ประกอบการจดั การคลงั สินค้า
มอี ทิ ธพิ ลตอ่ ระบบคลังสินคา้
1. เวลา ต้องออกแบบให้ลดเวลามากท่ีสดุ
2. คุณภาพ ตรงตอ่ เวลาได้คุณภาพ
3. ประโยชนข์ องลติ ภณั ฑ์ ลดต้นทุน นำกลับมาใช้ใหมไ่ ด้
4. ใช้กำลงั คนทมี่ ใี หเ้ ปน็ ประโยชนม์ ากทีส่ ุด คนงาน ต้องทำงานได้หลายอย่าง
เก่ียวกบั การดำเนินธรุ กจิ คลงั สินคา้
1. โครงสร้างงวศิ วกรรมของอาคาร แสงสว่าง ความแข็งแรงของพืน้
2. อุปกรณท์ ีจ่ ำเป็น ชนั้ วางของ ถงั บรรจุสินคา้ และอุปกรณข์ นลาก
3. บคุ ลากรในสำนกั งาน และคนงาน
4. การขนส่งสนิ ค้า
5. ระบบการส่งต่อเอกสารและการบนั ทกึ บญั ชีประจำวัน
องคป์ ระกอบของงานคลงั สนิ คา้
1. โครงสร้างของคลังสินค้า คลังสนิ ค้า ท่ีเกบ็ สินค้า ประเภทของที่เก็บสินค้า
2. เจ้าของสินค้า และผ้รู ับสนิ คา้ พืน้ ทวี่ างของแตล่ ะเจ้าของ เสน้ ทางส่งสนิ ค้า
3. สนิ คา้ (Product) กลมุ่ ย่อยของสินค้า หนว่ ยนับ
2. วตั ถปุ ระสงคข์ องคลังสินคา้
เพื่อทำหน้าที่รักษาระดับสินค้าคงคลังเพื่อสนับสนุนการผลิต (Manufacturing support) เพ่ือทำ
หน้าท่ีผสมสินค้า (Product-mixing) เพ่ือทำหน้าท่ีรวบรวมสินค้าก่อนจัดส่ง (Consolidation) เพ่ือทำหน้าที่
แยกหบี หอ่ (Break-bulk) หรือทำหนา้ ทเี่ ป็นศูนยก์ ระจายสินค้า (Cross dock)
- เพอื่ ใหป้ ระหยดั ในการขนส่ง
- เพือ่ ใหป้ ระหยดั ในการผลติ
- เพ่ือข้อได้เปรียบในการส่ังซือ้ จำนวนมากๆ และการส่ังซ้อื ล่วงหน้า
- เพื่อคงไวซ้ ่ึงแหลง่ ทีม่ าของสินค้า
- เพ่อื เปน็ การสนับสนนุ นโยบายการใหบ้ ริการกบั ลูกค้า
3. ประโยชน์ของคลงั สนิ ค้า
- เกบ็ วตั ถุดิบ ชิ้นสว่ น
- สนับสนุนการทำงานของโลจิสตกิ สแ์ ละซพั พลายเชน
- ลดต้นทุน รองรับสภาพตลาดท่เี ปลี่ยนไป
- ทำใหต้ น้ ทนุ ของสินคา้ ลดลง
- เปน็ การปอ้ งกนั การขาดมือของสินค้าที่จะขาย
- ช่วยลดปญั หาอันจะเกดิ ขนึ้ เนือ่ งจากการขนส่ง
- สามารถผลติ ไดใ้ นปริมาณเกินกวา่ ความต้องการตามฤดูกาล
- ชว่ ยใหไ้ ด้ใช้สนิ ค้านั้นๆ ไดท้ นั เวลาตามตอ้ งการ
- ตอบสนองความตอ้ งการของผ้บู รโิ ภค
- ช่วยใหก้ ารผลติ ดำเนินไปได้โดยปกติ
4. ประเภทของคลังสนิ ค้า
คลงั สนิ ค้าสามารถจำแนกได้เปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ตามชนิดของสต็อค ดังน้ี
- คลงั วตั ถุดบิ (Raw Materials Store)
- คลงั เกบ็ ผลติ ภัณฑร์ ะหว่างผลติ (Work in Process Store)
- คลงั เกบ็ สนิ ค้าสำเรจ็ รปู ของโรงงาน (In Plant Warehouse)
- ศูนยก์ ระจายสินค้า (Distribution Center)
ประเภทของคลงั สินค้าแบ่งตามลกั ษณะความเปน็ เจ้าของหรือตามลกั ษณะของการครอบครอง
1. คลงั สินค้าสาธารณะ (Public warehouse) เช่น องคก์ ารคลังสินคา้ คลังสินค้าทัณฑ์บน เปิดให้บริการเช่า
โดยทำสญั ญาเชา่ มีหลายชนิด เชน่
1.1 คลงั สินคา้ สำหรบั สนิ ค้าทัว่ ไป (General merchandise warehouse)
1.2 คลังสนิ คา้ พิเศษ (Special commodity warehouse) เชน่ คลงั สนิ ค้าผลไม้ ลิ้นจ่ี ลำไย เปน็ ต้น
1.3 คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded warehouse) คลังสินค้านำเข้าจากต่างประเทศของศุลกากร จะ
ไม่เสียภาษนี ำเข้า จนกว่าจะนำออกจากคลัง
2. คลงั สนิ คา้ เอกชน (Private warehouse)
คลังสนิ ค้าที่เอกชนหรือธุรกิจต่าง ๆ สรา้ งข้ึนมาเพ่ือใชเ้ กบ็ รักษาสินค้าของตนโดยเฉพาะ เพื่อรอการ
จัดจำหน่ายและการกระจายสินค้า ซึ่งคลังสินค้าประเภทนี้จะควบคุมการดำเนินงานและรับผิดชอบด้านการ
บริหารคลงั สินคา้ ที่มไิ ด้แสวงหาประโยชนจ์ ากการรบั ฝากสินค้าจากบุคคลภายนอก
3. คลังสนิ ค้าเพอ่ื กจิ กรรมพเิ ศษ (Special warehouse)
คลังสินค้าที่ใช้สำหรับเก็บรักษาผลผลิตทางการเกษตรกรรม เช่น คลังสินค้าผลไม้ ลิ้นจี่ ลำไย เป็น
ต้นประเภทของคลงั สนิ ค้า ตามลกั ษณะการครอบครอง
คลังสินค้าเอกชน Private Warehouse เป็นทรัพย์สินขององค์กรเจ้าของสินค้า Owner ซึ่งบริหาร
และการดำเนนิ การเองทั้งหมด เก็บเฉพาะสนิ คา้ ท่ตี อ้ งการ
คลังสินค้าสาธารณะ Public Warehouse เป็นคลังสินค้าท่ีผู้ประกอบการทำธุรกิจรับดำเนินการ
ติดตั้งระบบการ คลงั สินค้าให้กบั หลายองคก์ รมาใช้บรกิ าร
5. กจิ กรรมในคลังสนิ ค้า
- การรับของ จากรถขนส่งเข้าคลัง จำแนก คัดแยก ตรวจนับ การคืนของและให้รหัส กำหนด
ตำแหน่งทีเ่ กบ็
- การจัดเก็บ (Storing) ใช้อุปกรณ์รถยก ขนย้าย เก็บตามช้ันวาง ให้ถูกต้อง ตามแผนการจัดเก็บ
เพ่ือใหก้ ารเบิกจ่ายทำได้รวดเร็ว แม่นยำ
- การเบิกจ่ายหรือการเลือกหยิบ (Picking) ข้ึนอยู่กับระบบจัดเก็บ จำนวนรายการ จำนวนออร์เดอร์
ในการเบิกจ่ายต่อวัน ความถี่และปรมิ าณการเบิกจ่ายมากน้อยแค่ไหน ควรใช้อุปกรณ์แบบอัตโนมัติท่ีควบคุม
ดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ ประสทิ ธภิ าพโดยรวมของคลังสินค้า
- การจัดส่ง ขั้นนำสินค้าที่เบิกจ่ายแล้วมากองรวมเพ่ือเตรียมจัดส่ง มีการตรวจนับ เช็คยอดกับ
เอกสาร จุดพัก เรียงกองสินคา้ สำหรบั แตล่ ะเที่ยวรถ การขึ้นของบนรถหรือตคู้ อนเทนเนอร์ และปล่อยรถไป
ตามเสน้ ทางท่ไี ด้มีการวางแผนกำหนดไว้
6. การวเิ คราะห์ทำเลท่ตี ้ังคลังสนิ คา้
- กลยุทธท์ ำเลใกล้ตลาด -ใกล้กับลูกคา้ คนสุดท้ายใหม้ ากท่ีสดุ เพ่ือสนองความต้องการในการบริการ
ลกู ค้า
- กลยุทธ์ทำเลใกล้แหล่งผลิต แหล่งวัตถุดิบ โรงงาน – แยกสินค้าเป็นของเน่าเสียง่าย หรือเป็น
ส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์
- กลยุทธ์ทำเลระหว่างกลาง – ระหวา่ งแหลง่ ผลิตและตลาด เหมาะกบั การต้องการบริการลูกคา้ ให้ดี
และมโี รงงานหลายแหง่
การพิจารณาเลือกทำเลท่ีตั้งคลังสินค้าต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของธุรกิจ อันจะ
ก่อให้เกิดยอดขาย และกำไร โดยมีค่าใช้จ่ายท่ีต่ำ คลังสินค้าจัดเป็นธุรกิจหน่ึงท่ีมีการแข่งขันสูง มีความ
หลากหลายในด้านรูปแบบ วิธีการ รวมทั้งอาจมีลูกค้า ผู้ใช้บรกิ าร หรือผู้เก่ียวข้องกับคลังสินค้ามีจำนวนมาก
เพอ่ื ใหส้ ามารถบรกิ ารแก่องค์กรต่าง ๆ ไดอ้ ย่างท่วั ถงึ และมปี ระสทิ ธิภาพให้สามารถตอบสนองการดำเนินการ
ของแต่ละองคก์ รท่เี กีย่ วขอ้ งไดจ้ ะมปี จั จัยสำคัญในการเลอื กทำเลท่ตี ้ัง 3 ประการ คือ
1. ปจั จยั พจิ ารณาในเชงิ คณุ ภาพ
ปจั จัยพิจารณาในเชิงคุณภาพในการเลอื กทำเลท่ีตั้งคลงั สินค้าหมายถงึ ปัจจัยที่ไม่อาจวัดออกมาในรูป
ของประมาณเป็นตัวเลขไดอ้ ย่างชัดเจน เป็นปัจจัยท่ีไม่มีตัวตน แต่ก็มีอิทธพิ ลอย่างสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับ
ภาครายไดข้ องกิจการ ปัจจัยพิจารณาในเชงิ คณุ ภาพมีความสำคัญต่อการเปรียบเทยี บทำเลท่ีต้งั หลาย ๆ แห่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาปจั จัยเหล่านีแ้ ล้วก็อาจช่วยในการตดั สนิ ใจเลือกทำเลท่ีต้ังที่เหมาะสมในข้นั ตน้ แม้
จะเปน็ สิ่งท่ีวัดไดย้ ากและการเปรียบเทียบกระทำไดไ้ มค่ ่อยชัดเจนนักกต็ าม
2. ปจั จยั พิจารณาในเชงิ ปรมิ าณ
ปัจจัยพิจารณาในเชงิ ปริมาณ หมายถึงปจั จัยเกีย่ วกับทำเลทต่ี ัง้ ที่สามารถวัดไดเ้ ป็นตวั เลข ซ่งึ มักแสดง
ในรปู ของตัวเงินท่ีเรียกวา่ ตน้ ทุนเป็นปจั จยั ทางเศรษฐกจิ น่ันก็หมายถงึ การวิเคราะห์ต้นทุนเปรียบเทียบระหวา่ ง
ทำเลท่ีตั้งแต่ละแห่งเพ่ือหาทำเลท่ีต้ังซึ่งมีต้นทุนต่ำที่สุด แล้วนำเอาการวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพท่ีกล่าว
มาแล้วเขา้ มาเป็นส่วนประกอบเพ่ือการเลือกทำเลที่ต้ังคลังสนิ ค้าท่ีอำนวยประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจมาก
ทส่ี ุด
3. การเลือกทำเลที่ตัง้ ในกระแสโลกาภวิ ัตน์
การขนส่งและการติดต่อสื่อสารเกิดข้ึนได้อยา่ งรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้โลกมีขอบเขตแคบลง
และสามารถรับรู้ข่าวสารกันได้ง่ายดายย่ิงขึ้น ประกอบกับนโยบายค้าระหว่างประเทศท่ีเปิดเสรีปราศจาก
กำแพงภาษีนำเข้าซ่ึงใช้กีดกันทางการค้า ทำให้การเลือกทำเลที่ต้ังกว้างไกลไป สู่ระดับนานาชาติ การเลือก
ทำเลท่ีตั้งในตา่ งประเทศนำมาซึง่ ประโยชนห์ ลายประการ เช่นลดตน้ ทุนการผลติ เน่อื งจากคา่ แรงทีต่ ำ่ กวา่ เพิ่ม
ความรูส้ ึกยอมรบั ผลติ ภัณฑข์ องประเทศลกู คา้ ถ้าใช้ฐานการผลติ ในประเทศนน้ั
4. การเลือกทำเลทตี่ ้งั ในระดับสากล
ในกรณีทีต่ อ้ งขยายการลงทนุ ไปยังประเทศอื่น ซึง่ มีความเส่ียงสูง ถา้ ไมไ่ ด้ทำการศึกษาปัจจัยทุกอย่าง
ให้ถถี่ ว้ น การลงทุนอาจสูญเปล่า ปัจจยั ที่สำคัญมดี ังน้ี
4.1 ภาครฐั บาล ระบบเศรษฐกจิ และการเมอื ง
4.2 กฎหมาย และระเบียบขอ้ บงั คับ
4.3 สภาพแวดลอ้ มและชมุ ชน
4.4 การสง่ เสริมการลงทนุ
4.5 ผขู้ ายปัจจยั การผลติ และลูกค้า
4.6 สาธารณปู โภค การขนสง่ และการกระจายสินค้า
7. ระบบโลจสิ ตกิ สใ์ นคลังสินค้า
ในการกำหนดโลจิสติกส์คลังสินค้าเราต้องเข้าใจความหมายของโลจิสติกส์ก่อน ในแง่ท่ีง่ายท่ีสุดท่ี
เป็นไปไดโ้ ลจิสติกสอ์ าจถูกกำหนดเป็นรายละเอียดการวางแผนองคก์ รการจัดการและการดำเนินงานที่ซับซอ้ น
ในหลายอตุ สาหกรรมรวมถึงคลังสินค้าโลจิสติกส์ยังขยายไปถงึ การไหลเวียนของสนิ ค้าและข้อมูลทางกายภาพ
โลจิสติกส์ของคลังสินค้าจึงครอบคลุมทุกปัจจัยท่ีซับซ้อนและหลากหลายไม่ว่าจะเป็นองค์กรกา ร
เคล่ือนไหวและการจัดการที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้า ซ่ึงรวมถึงการไหล (การจัดส่งและการรับ) ของสินค้าคง
คลังทางกายภาพรวมถึงสินค้าที่เปน็ นามธรรมมากขน้ึ รวมถึงข้อมลู และเวลา
โลจิสติกส์คลังสินค้าอาจขยายไปถึงอะไรก็ได้ต้ังแต่การควบคุมอุปสรรคไปจนถึงการจัดการสินค้าที่
เสียหายนโยบายความปลอดภัยการจัดการทรัพยากรมนุษย์การส่งคืนลูกค้า กล่าวอีกนัยหน่ึงโลจิสติกส์
คลังสินค้าเก่ียวข้องกับนโยบายขั้นตอนและเครื่องมอื ขององค์กรทั้งหมดที่จำเป็นต่อการดำเนินงานคลงั สนิ ค้า
ของคณุ ให้ราบร่นื
โลจิสติกส์ของคลังสินค้าจึงครอบคลุมทุกปัจจัยที่ซับซ้อนและหลากหลายไม่ว่าจะเป็นองค์กรการ
เคล่ือนไหวและการจัดการท่ีเกี่ยวข้องกับคลังสินค้า ซึ่งรวมถึงการไหล (การจัดส่งและการรับ) ของสินค้าคง
คลงั ทางกายภาพรวมถึงสินค้าทีเ่ ปน็ นามธรรมมากขน้ึ รวมถงึ ข้อมลู และเวลา
ดงั น้นั ในระบบโลจิสตกิ สใ์ นคลังสนิ ค้าหรอื คลังสินค้าในกระบวนการของโลจสิ ตกิ ส์จงึ เก่ียวข้องกบั
1. การหาแหล่งทำเลท่ีตั้งคลงั สินค้า
2. การออกแบบคลังสนิ คา้
3. การวางแผนผังกำหนดกิจกรรมขาเข้า – ขาออก
4. การจดั เก็บสนิ ค้าตามรหัสควบคุม
5. การขนถ่ายการเคลื่อนยา้ ยสนิ คา้ ภายในคลังสนิ คา้
6. เครอ่ื งมือและอปุ กรณใ์ นคลงั สนิ ค้า
วิธกี ารปรับปรุง Warehouse Logistics
เป็นเร่ืองที่เถยี งไมไ่ ด้ผู้จดั การคลงั สินคา้ มีจำนวนมากบนจานของพวกเขา โชคดีท่ีคุณยังมเี คร่ืองมอื ท่ีมี
ประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากขนึ้ เพ่ือช่วยให้คณุ ตอบสนองความต้องการของคลังสินค้าความตอ้ งการของ
พนักงานของคณุ และความคาดหวงั ของลกู คา้ ของคณุ พิจารณาจากการ รบั สร้างโกดงั
ระบบการจัดการคลังสินค้าขั้นสูง (WMS) ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ในคลังสินค้าของคุณและ
จัดหาคุณ – และพนักงานของคุณ – ด้วยเครื่องมือท่ีจำเป็นในการจัดการคลังสินค้าของคุณอย่างมี
ประสิทธภิ าพประสทิ ธิผลและเป็นประโยชน์
อันที่จริง WMS ไม่เพียง แต่เป็นวิธีที่แน่นอนในการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์คลังสินค้า แต่ยังเป็น
สงิ่ จำเป็นในการจัดการคลังสนิ คา้ ในปัจจุบัน มากกว่าระบบควบคุมสินค้าคงคลงั ระบบการจดั การคลังสินคา้ จะ
ควบคุมการขนสง่ ของคลังสินค้าท้ังหมดต้งั แต่การควบคุมและการจัดการสินค้าคงคลงั ไปจนถึงการปฏิบัติตาม
คำส่ังซ้ือ WMS จำนวนมากในปัจจุบันได้รวมเครอ่ื งมือพกพาไว้ดังน้ันผู้จดั การคลังสนิ ค้าและพนักงานของคุณ
สามารถปรกึ ษาระบบได้ทุกที่ผา่ นสมาร์ทโฟน
WMS ที่ครอบคลุมยังรวมเครื่องมือการจัดการแบบดั้งเดิมเขา้ กับระบบควบคุมคลังสนิ ค้า (WCS) เพ่ือ
สร้างการทำงานร่วมกันของคลังสินค้าท้ังหมดเพื่อปรับปรุงการขนส่งโดยรวมของคุณตั้งแต่การรับสินค้าไป
จนถึงการจัดสง่
ประโยชน์ของ Warehouse Logistics
ประโยชนข์ องการควบคมุ คลังสินค้าโลจิสติกส์น้ันงา่ ย – เพิม่ รายได้
คิดอย่างนี้: เม่ือการดำเนินการคลังสินค้าของคุณดำเนินไปอย่างราบรืน่ สินค้าคงคลงั ถูกนำมาใช้อย่าง
เหมาะสมรายการท่ีถูกตอ้ งจะถูกส่งในเวลาท่ีเหมาะสมมกี ารเติมสต็อกเมื่อจำเป็นเกิดข้อผิดพลาดในการหยิบ
น้อยลงและคนกระบวนการและระบบท้ังหมดตก เข้าท่ีอย่างท่ีควรคลังสินค้าของคุณทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากข้ึน มีข้อผิดพลาดน้อยลงและมีปัญหาน้อยลงนั่นหมายถึงรายได้สูงสุด ตามโครงสร้าง รับ
สร้างโกดัง
เมือ่ คณุ ใช้ WMS ท่มี ่ันคงเพื่อควบคุมโลจสิ ติกสค์ ลังสนิ คา้ :
ตรวจสอบจำนวนสินค้าคงคลังทีถ่ กู ต้องแม่นยำแบบเรียลไทม์: รู้วา่ คุณมีสินคา้ คงคลังมากนอ้ ยเพยี งใด
และท่ตี ัง้ เฉพาะภายในคลังสินค้าของคณุ การออกแบบขน้ึ อยู่กบั การ รับสร้างโกดงั ของผู้รบั เหมา
ผลตอบแทนลดลง: การดูคลังโฆษณาของคุณอย่างถูกตอ้ งหมายถึงการส่งรายการที่ถูกตอ้ งเป็นครงั้ แรก
เตมิ สินค้าอัตโนมัต:ิ อย่ารอจนกว่าคุณจะหมดสต๊อก (หรอื เกือบหมด) เพ่ือสั่งซอื้ เพิ่ม ปล่อยให้ WMS ของคุณ
เติมสินค้าคงคลังอตั โนมตั ิเมือ่ ระดับสตอ็ กลดตำ่ ลง
เพิ่มพ้ืนที่คลังสินค้าใหใ้ หญ่ที่สดุ : WMS บางระบบจะทำกิจวัตรคลังสินค้าโดยอตั โนมตั ิ (เช่นการหมุน
และการหยบิ สินค้า) ซ่งึ หมายความว่าคุณจะต้องใช้พื้นที่สำหรบั พนักงานน้อยลงซ่งึ หมายความวา่ จะเพิม่ พ้ืนท่ี
คลังสินคา้ ใหม้ ากท่สี ดุ เพอ่ื เกบ็ สนิ ค้าคงคลังมากข้นึ
ผลประโยชน์ WMS อื่น ๆ ขยายไปสู่การวางแผนความต้องการท่ีดีข้ึนการมองเห็นท่ีดีขึ้นและความ
โปรง่ ใสการตรวจสอบย้อนกลับของสต็อกข้อผดิ พลาดในการเลอื กน้อยลงกระบวนการทีเ่ หมาะสมการจัดสรร
แรงงานทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและการบรกิ ารลูกค้าทีด่ ีขึน้
ข้อควรพิจารณาเกย่ี วกับ Warehouse Logistics
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า WMS ที่มีความสามารถน้ันสามารถเปลี่ยนการปฏิบัติงานของคุณและเพ่ิม
ประสิทธิภาพการขนส่งได้ แต่เครื่องมือซอฟต์แวร์ไม่ว่าจะมีประสิทธิภาพเพียงใดก็สามารถไปได้ไกลถึง
ข้อผิดพลาดของมนษุ ย์ ในการตั้งค่าในชวี ิตจริงการพจิ ารณาคลังสินค้าจะมีอทิ ธิพลอย่างมากต่อการขนสง่ ของ
คุณ
ผู้จัดการคลังสินค้าของคุณและในระดับหนึ่งพนักงานท่ีเก่ียวข้องท้ังหมดจะต้องได้รับการฝึกอบรม
อย่างดีในการใชอ้ ุปกรณ์และ WMS ของคุณ การขนส่ง 3PL และผ้รู ับเหมาและซัพพลายเออร์ที่เกย่ี วข้องต้อง
ประสานงานกบั ความพยายามดา้ นโลจิสตกิ ส์ของคุณ การเปลีย่ นแปลงใด ๆ ท่ีเกิดขึ้นกับคลงั สินค้าของคุณ –
การจดั ชัน้ วางใหมก่ ารปรบั ปรุงองค์กร ฯลฯ – จะต้องนำมาพจิ ารณาในระบบมฉิ ะนน้ั ปญั หาจะปรากฏข้ึนอย่าง
รวดเร็ว
ใบมอบหมายงานที่ 5
ชอื่ วิชา โลจสิ ตกิ สแ์ ละซัพพลายเชน
หนว่ ยที่ 5 ช่อื หนว่ ย การจดั การคลังสนิ ค้า เวลา 3 ชว่ั โมง
ชื่อเร่ือง การจัดการคลงั สินค้า
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายของคลังสนิ คา้ และศนู ย์กระจายสินค้าได้
2. บอกวตั ถปุ ระสงคข์ องคลังสนิ ค้าได้
3. อธบิ ายประโยชนข์ องคลังสินค้าได้
4. จำแนกประเภทของคลงั สนิ ค้าได้
5. อธิบายกิจกรรมของคลงั สนิ ค้าได้
6. วเิ คราะหว์ ิธีการเลอื กทำเลท่ีต้งั คลังสนิ คา้ ได้
7. อธบิ ายระบบโลจิสติกส์ในคลงั สินค้าได้
แนวทางการปฏิบัติงาน
1. แบง่ นกั ศึกษาออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละเท่าๆ กนั ตามความสมคั รใจ
2 มอบหมายงานตามลำดับกลุ่มให้สอดคลอ้ งจุดประสงค์การเรยี นรู้
3. ใหน้ ักศกึ ษาแต่ละกลมุ่ ไปศึกษา ค้นควา้ หาขอ้ มลู และรว่ มกันจดั ทำเปน็ บอร์ดวชิ าการเผยแพร่
ความรแู้ ละนำเสนอหน้าชนั้ เรียน
4. ครู นักศึกษาเย่ียมชมบอรด์ วิชาการ
5. ครูเสนอแนะเพมิ่ เตมิ และบรรยายสรปุ
กำหนดระยะเวลาทส่ี ง่ งาน ภายหลังการนำเสนอ
การประเมินผล
1. พฤติกรรมการทำงานกลมุ่
2. การนำเสนอ
3. ช้ินงาน
4. การตอบขอ้ ซกั ถาม
5. การตรงตอ่ เวลา
แหล่งคน้ คว้าเพ่มิ เติม
1. ก่อเกียรติ วริ ยิ ะกิจพัฒนา โลจิสติกสแ์ ละซพั พลายเชน. กรงุ เทพฯ : บริษัท วังอกั ษร จำกัด, 2563